Fanboi Channel

นิยายเด็กดี บทที่ 19 (DDN XIX) ภาคสิ้นหวังแล้วเดกดวก ตั้งใจเขียนแล้วไม่มีคนอ่าน หนีไปเขียนกากๆ อัพถี่ๆ เกาะกระแสแล้วติดท็อปกันดีกว่า

Last posted

Total of 1000 posts

407 Nameless Fanboi Posted ID:TdOhfge//1

ทำไมตอนกัซโดนอัดถั่วดำไม่มีดราม่าแบบนี้บ้างวะ

408 Nameless Fanboi Posted ID:I6kmf9XMpe

>>407 พวกที่ดราม่ามันเกิดไม่ทันดูละมั้ง

409 Nameless Fanboi Posted ID:TdOhfge//1

https://i.redditmedia.com/84Q5-M8MhDX2ulNmosD2I6QlkJtbL3ESKW4KXMlVURE.jpg?w=320&s=e3628ad0f6c0cfe30f488183495ddaca

410 Nameless Fanboi Posted ID:I6kmf9XMpe

>>400 อ่าาาาาา นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้อ่านนิยาย
ชื่อตัวละคร : บทพูด

411 Nameless Fanboi Posted ID:PNFzZkoJ+1

>>410 คำพูดคำจาวันพีซสัด

412 Nameless Fanboi Posted ID:s+5bsBi8UB

>>407 อินเตอร์เน็ตยังไม่เข้าถึงง่ายแบบสมัยนี้

413 Nameless Fanboi Posted ID:wRhORucC/e

Berserk มันดีทุกอย่างยกเว้นตำนานการดองและเนื้อหาโลกสวยขึ้นนี่แหละ

414 Nameless Fanboi Posted ID:qk7eqYaUVc

โหลๆ มีนิยายแนะนำไหม หาอ่านเรื่องใหม่อยู่ สนใจแนวแฟนตาซี-ยุคกลางเป็นพิเศษ ถ้ามีเรื่องไหนแนะนำก็แปะมาหน่อย

415 Nameless Fanboi Posted ID:zdPAwRGXra

ตอนนี้ยังหาไม่เจอ จีนเสิ่นเจิ้นเต็มไปหมด

416 Nameless Fanboi Posted ID:o+Lq9Y93mq

ทางนี้เขียนอยู่นะ แต่แปะไปเดี๋ยวหาว่าม้า ก่อนหน้านี้โดนโม่งเหน็บไปทีด้วย

417 Nameless Fanboi Posted ID:+MZRFWQw6U

>>416 เฮ้ยยยยยยย แปะนิยายตัวเอง ก็เป็นม้าเหรอวะ?

418 Nameless Fanboi Posted ID:F6ilqgUr5f

ถ้าไม่ได้แปะเพื่อด่าก็ม้าหมดอะ
ไม่ดิ บางทีแปะเพื่อด่ายังโดนหาว่าม้าเลย แกล้งด่าเพื่อโปรโมท
สรุปคือ กูก็ไม่รู้ว่ามันจะให้เราคุยอะไรกันในกระทู้นี้

419 Nameless Fanboi Posted ID:+MZRFWQw6U

ใครเริ่มต้นมุกม้ากูก็ไม่อาจรู้ได้ แต่ไอ้คนที่ต่อยอดมุกม้าจนมู้ตกต่ำนี่มัน...

420 Nameless Fanboi Posted ID:UMBVBJYXrO

กูมีเน็ตโทรศัพท์ที่สามารถเล่น Pubg mobile หรือ Fate go ได้ไม่มีสดุด แต่กูไม่สามารถโหลดหน้าค้นหานิยายของแอพเด็กดวกได้ บัดซบชิบหาย

421 Nameless Fanboi Posted ID:ErEvy1XzyK

คือไม่ว่าจะแปะนิยายหรือแม้แต่แค่พูดถึง ไม่ว่าด้วยเหตุผลแะไรขึ้นมา จะมีคนเล่นมุขม้าแล้วก็ต่อยาวๆ จนน่ารำคาญทุกที

422 Nameless Fanboi Posted ID:+MZRFWQw6U

>>421 มุกม้า หรือ มุขม้า

423 Nameless Fanboi Posted ID:rdx6EQuQyg

ใครขยันเล่นมุกม้า แจ้งแบนแถวนี้ดู https://fanboi.ch/meta/

424 Nameless Fanboi Posted ID:NHbGEyz++F

อะไรๆ ก็ม้า มุกม้าแม่งกระจายไปทุกมู้ ฮรี้กุบกับๆ

425 Nameless Fanboi Posted ID:2PGQyFhxUY

>>424 ใครก็ได้แจ้งแบนมันที

426 Nameless Fanboi Posted ID:OcujHzocdN

เห็นมั้ยล่ะ ขนาดแค่พูดถึงเฉยๆ ก็มา...

427 Nameless Fanboi Posted ID:BjrBPwkSDh

พอพูดถึงมุกม้า กูเลยนึกถึงชื่อมู้เก่า พอนึกถึงชื่อมู้เก่าเลยนึกถึงชื่อมู้นี้"สิ้นหวังแล้วเด็กดวก..." พอนึกถึงชื่อมู้นี้เลยนึกขึ้นได้ว่าไอ้พวกที่บอกจะแข่งกันเขียนนิยายให้ติดท๊อป พิสูจน์ว่าติดท๊อปง่ายๆ นี่มันไปถึงไหนแล้ววะ ล้มหายตายจากกันไปหมดแล้วหรือมีผงาดขึ้นมาใกล้จะท๊อปบ้างรึยัง หรือรู้ตัวว่าสิ้นหวังแล้วก็เลยทำเป็นลืมไปเฉยๆ

428 Nameless Fanboi Posted ID:eDYTtJsD5J

ถึงพวกท็อปมันจะมาจากกระแส ก็ใช่ว่าเขียนตามกระแส แล้วจะขึ้นกันได้ง่ายๆ นะเว้ย มันต้องลงในเวลาที่พอเหมาะ +ต้องมีดวง ไม่ก็พวกฐานแฟนคลับด้วย แบบเรื่องใหม่แตมรี่นี่ก็ใช่มั้ง เขามีฐานแฟนคลับ

429 Nameless Fanboi Posted ID:ErEvy1XzyK

เอาจริงๆ แตมรี่นี่กูว่าอาศัยแฟนคลับล้วนๆแล้วล่ะ งานแบบเดิมๆ พลอตเดิมๆ ภาษาเดิมๆ ตลอด ไม่เห็นจะพัฒนาหรือเปลี่ยนแนวอะไรเลย อย่างฮิเดโกะนี่ กูยังเห็นเขาย้ายไปเขียนแนวผู้ใหญ่ เขียนวายบ้าง หรือเจ้าปลาน้อยก็ภาษาโอเค ตอนนี้ไปเขียนยูริจนรุ่งกว่าแล้วมั้ง แตมรี่ล่ะ มีอะไรเปลี่ยนบ้าง

430 Nameless Fanboi Posted ID:QN3/O2z2bX

>>429 แตมรี่ถนัดเขียนให้คนโง่หลงซื้อไง พออ่านเยอะจนหายโง่ก็จับทางอีแตมรี่ได้ จึงย้ายไปอ่านเรื่องอื่น ส่วนคนที่ยังไม่หายโง่ก็ตามอ่านแตมรี่ต่อไป

431 Nameless Fanboi Posted ID:mfaVMjxOdR

ถ้าไม่อยากให้คิดว่าม้า ก็เหลือแค่ 2 ทางล่ะวะ

1.ย้อนกลับไปเอานิยายที่ยังไม่ได้สับใน list มู้เก่ามาจัดให้หมด
2.กระทู้ฝากนิยายใน DD ชอบอันไหนมึงก็แจงที่มาเลย จากกระทู้นี้ คห. ที่เท่าไหร่ก็ว่าไป

จะได้ไม่ต้องเขินเพราะแม่งก็แปะกันทั้งกระทู้อะ ไม่ต้องโดนข้อหาม้าออกหน้าออกตา
เพราะมึงเอาม้ไปปล่อยในคอกม้าที่มีเป็นสิบๆ ตัว ส่วนเรื่องของมึงจะโดนสับมั้ยก็แล้วแต่ดวง

432 Nameless Fanboi Posted ID:k8G8Vy8wsi

youtube ล่มเอ๋อวะ?

433 Nameless Fanboi Posted ID:mfaVMjxOdR

>>432 ล่มทั่วโลก กูก็เป็น

434 Nameless Fanboi Posted ID:mfaVMjxOdR

>>432 หายละ

435 Nameless Fanboi Posted ID:YfPytP5eYS

>>432 โครตตกใจ กูไม่คิดว่าตัวมันเองจะเป็นฝ่ายล่ม นึกว่าเน็ตกูนี่แหละที่ล่ม พอเปิดเว็บได้ปกติเท่านั้นแหละ youtube ล่มเองเลยว่ะ ถถถถถถ

436 Nameless Fanboi Posted ID:fpc32GJqsG

https://www.dek-d.com/board/view/3883939/
ชวนมาบ่น...

437 Nameless Fanboi Posted ID:nP9lK88ccw

https://www.dek-d.com/board/view/3883980/
ขอบคุณที่รักกัน...

438 Nameless Fanboi Posted ID:mfaVMjxOdR

บอร์ดนักเขียนสมัยนี้ตกต่ำลงเยอะเลยนะ ใช้พื้นที่กระทู้ลงเรื่องที่ไม่ค่อยเกี่ยวกับงานเขียนเท่าไหร่
ถ้าเป็นสมัยก่อนนี่ เจอพวกมาเฟียบอร์ดจัดหนักไปแล้ว

439 Nameless Fanboi Posted ID:YfPytP5eYS

ถ้าไม่มีนอกเรื่องบ้างมันก็เหมือนจะเงียบๆ อะนะ

440 Nameless Fanboi Posted ID:rN6/LlTv97

ช่วงนี้มีเว็บอื่นมาถามด้วยนะ จอยลดาเอย ฟิคชั่นล็อกเอย

441 Nameless Fanboi Posted ID:2iUZLrTMaw

>>438 จริง ปกติกูส่องบอร์ดวันละหลายรอบ แต่เดี๋ยวนี้หลายๆ วันส่องที

>>437 ไอ้มู้นี้กูก็งงนะ คือถ้าจะมาขอบคุณเรื่องยอดวิว แล้วทำไมต้องมาทำในที่ที่มีแต่นักเขียนเป็นส่วนมาก คนในบอร์ดจะมีอ่านนิยายมันอยู่สักกี่คนกันวะ เจตนาชัดเจนเลยนะ แล้วก็กูสังเกตมาหลายทีละ เวลามีพวกงั่งๆ มาตั้งมู้ถามว่าได้ยอดวิวยอดเฟฟกันเท่าไหร่ ในขณะที่คนอื่นเขาตอบกันหลักสิบ หลักร้อย ถ้ามีหลักพัน หลักหมื่น โผล่มา มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นเสิ่นเจิ้น80% ถามว่ามันผิดไหม ไม่ผิดนะเพราะมันก็ได้เท่าที่มันอวดจริง แต่ก็นะบางคนแม่งดูโคตรพราวด์
โอเค มึงเจ๋งมากเสิ่นเจิ้น ตอนนี้เป็นยุคของมึง กูปรบมือ

442 Nameless Fanboi Posted ID:k8G8Vy8wsi

>>438 มาเฟียบอร์ดคืออะไรวะ

443 Nameless Fanboi Posted ID:fpc32GJqsG

>>442 ดู>>436 >>437ขาใหญ่นึกจะตั้งมู้อะไรก็ตั้ง

444 Nameless Fanboi Posted ID:mfaVMjxOdR

>>442 อ่านกระทู้เก่าๆ ดู

สมัยก่อนถ้ามีกระทู้ไร้สาระแบบนี้ออกมา จขกท. แม่งจะโดนขาประจำเขียนประมาณว่า กระทู้อวดหรือกระทู้โพสรูปไม่เกี่ยวกับนิยายแบบนี้มันรกบอร์ด

445 Nameless Fanboi Posted ID:HqrDt67Dgd

>>442 ตรงตัวนั่นแหละ อารมณ์ผู้คุมบอร์ด(ใครตั้งไม่รู้ แค่คนรู้จักเยอะ มีชื่อในบอร์ดก็เป็นได้แล้ว) มีอำนาจพอๆกับเว็บมาสเตอร์เลยด้วยมั้ง

446 Nameless Fanboi Posted ID:qTKbFEQ27b

ทำไมเรียกว่าอีเครื่องวะ

447 Nameless Fanboi Posted ID:h1JDDDI8nw

แม้แต่นางร้ายที่ว่าแน่ก็ไม่สามารถต่อกรพลังวายได้

448 Nameless Fanboi Posted ID:41Hwg.aC9J

มาเฟียบอร์ดเหรอ ฟังแล้วขำว่ะ เคยมีคนทำตัวแบบนั้นด้วยเหรอวะเนี่ย เสียดายกูมาไม่ทัน

ลงชื่อ เจ โฮป

449 Nameless Fanboi Posted ID:57.Bphnid9

>>446 เมื่อก่อนแม่งใช้โปรรูปเครื่องบิน

450 Nameless Fanboi Posted ID:9Hxw4fJPau

>>449 แค่โปรรูปเครื่องบิน กูใช้โปรที่โทรฟรี 300 นาที กับเน็ตไม่จำกัดว่ะ

451 Nameless Fanboi Posted ID:QN3/O2z2bX

>>440 จอยลดาคือไรวะ สงสัยตั้งนาน ยังไม่เก็ท

452 Nameless Fanboi Posted ID:HqrDt67Dgd

>>451 เว็บลงนิยายแนวแชท หาในอากู๋ก็เจอ ดังนะเว้ย
>>448 ใช่สิ มึงมาไม่ทัน พวกนี้คือจุดเริ่มต้นของมู้รวมนินทาเด็กดวกเลยด้วยซ้ำ ตอนตั้งใหม่ๆนะไหลเร็วมาก คนก็น่าจะเนียนย้ายฝั่งมากันเยอะด้วย 555

453 Nameless Fanboi Posted ID:mETVHF3miy

มาเฟียผ่านไป ม้าเฟียก็มาแทนที่

454 Nameless Fanboi Posted ID:ZdKUJBei9S

นี่มันพยายามให้ดูเป็นยุโรป แต่ทำไมยิ่งอ่านยิ่งจีนวะ T____T)
https://writer.dek-d.com/InaeO/story/view.php?id=1807171

455 Nameless Fanboi Posted ID:qTKbFEQ27b

>>454 ลองดูผ่านรู้สึกมันจะ succ แปลก ๆ ว่ะ คือดูไปตอนแรกเหมือนเซ็ตติ้งจะยุโรปป แต่ภาษาพูดมันดูเหมือนพวกกำลังภายในยังไงก็ไม่รู้

ปล. กูอ่านไม่จบ

456 Nameless Fanboi Posted ID:qTKbFEQ27b

https://www.dek-d.com/board/view/3883129/

เห็นมันฝากนิยายกัน เผื่อใครจะทำตาม>>431

457 Nameless Fanboi Posted ID:h1JDDDI8nw

>>453 มันเล่นมุกม้า แบนมัน

458 Nameless Fanboi Posted ID:fCBN/xB1+T

>>456 กูเห็นขยันโปรโมตฟิค Witch's Heart แต่กูดูคนแคสเกมตัวหลัก นอกจากตัวละครหน้าตาดี ที่เหลือไม่เห็นน่าติดตามเลย ยังกะดู Pandora Hearts

459 Nameless Fanboi Posted ID:mOjUf9tvIp

>>454 ตาม >>455
อันนี้เสริม คำว่า "เซียน" กับ "องค์ชาย" นี่แหละแม่งทำให้นึกถึงหนังจีน

460 Nameless Fanboi Posted ID:fCBN/xB1+T

>>459 ยุโรปรู้จักองค์ชาย แต่ไม่ได้รู้จักเซียน

461 Nameless Fanboi Posted ID:mOjUf9tvIp

>>460 มันใช้ได้ไง ส่วนตัวแค่ว่าพอมี องค์ชายแปด โผล่มากูก็แอบนึกถึงหนังจีน แต่จะใช้องค์ชายหรือเจ้าชายก็เหมือนกันแหละ(ยกเว้นในศักดินาไทยอะนะ)

คำว่าเซียนน่าจะค่อนข้างเฉพาะเลยแหละว่าจีน เปลี่ยนไปเทียบกับอย่างอื่นดีกว่า เทพไรงี้ก็ได้

462 Nameless Fanboi Posted ID:rsH2PWBRxt

เวลากูเขียนให้มันยุโรป กูจะไม่ใช้องค์ชายนะ กูใช้เป็นเจ้าชายไปเลย พวกเก่งๆ เทพๆ ก็เรียกไปตามอาชีพ ยศ กับชื่อจริงของตัวละคร ท่านอัศวินผู้เก่งกาจ ท่านกษัตริย์อาเธอร์ อะไรแบบนี้ // ว่าแต่เซียนนี่แปลว่าไรวะ เอาแบบความหมายตรงตัว

463 Nameless Fanboi Posted ID:N/o+RaPj7G

>>462 คนที่กลายเป็นเทพ

https://th.wikipedia.org/wiki/เซียน

464 Nameless Fanboi Posted ID:xSuhdkAx7r

>>461 องค์ชายแปด = องค์ชายลำดับที่แปด
ใช่ไหมวะ

465 Nameless Fanboi Posted ID:QUd71jhAhy

>>464 เขียนคล้ายกันแต่ความหมายมันไม่เหมือนกันหรอกนะ จีนกับยุโรปเนี่ย

466 Nameless Fanboi Posted ID:8ugxgn2oj7

>>465 แล้วต่างกันยังไง >>464 ก็ความหมายเดียวกันนิ

467 Nameless Fanboi Posted ID:QtMl3S5Bdr

มันไม่ได้มีแค่นั้น ลองอ่าน ๆ ดูนอกจากชื่อตัวละครกับประเทศ/ภูมิรัฐศาสตร์แล้ว นอกนั้นแม่งไม่มีอะไรดูยุโรปเลย ยิ่งแบบฟาดฟันกันเพื่อชิงบัลลังก์งี้ถ้าเป็นยุโรปก็คงเป็นยุคชนเผ่าก่อนแม่งจะใช่กฎลูกคนโตได้ทุกอย่างป่ะ
แต่งเมียเยอะออกหน้าอีก คือถ้าฝั่งยุโรปมันควรจะมีเมียเอก 1 แล้วจะมีสนมลับอีกนับสิบก็ว่าไป คือสรุปแม่งดูจีน ๆ อะ

468 Nameless Fanboi Posted ID:QtMl3S5Bdr

อีกอย่างฝั่งยุโรปมันจะไม่แทนกันด้วยตัวเลขไหม ก็องค์ชาย + ชื่อตัว ไปเลย หรือไม่ก็เจ้าชาย + ชื่อ + ลำดับที่

469 Nameless Fanboi Posted ID:CJ6kPiB707

>>468 องค์ชายโม่งแซะ โ่มงแซะ แซะโม่งตะลุ่มตุมโม่งที่ 8

470 Nameless Fanboi Posted ID:3KfL8TBH0w

ฝากไปบอกมันว่าทางยุโรปคนเป็นเทพเขาใช้ เซนต์ (Saint)

ลงชื่อ เซย่า ชิริว เฮียวกะ ชุน อิคคิ

471 Nameless Fanboi Posted ID:8ugxgn2oj7

>>468 มีนะ คำว่า xxx prince ก็มีใช้ทั่วไป แต่พวกฝนั่งลูกไม่เยอะเท่าจีน เลยไม่ได้มีเลขเยอะแบบนั้น และบางทีก็เป็นตำแหน่งมากกว่า ลองหาคำว่า 1st prince สิ

472 Nameless Fanboi Posted ID:9EJZRduMyc

กูเห็นฝั่งยุโรปมักลงท้ายชื่อเมืองหรือดินแดนมากมาย เช่น เจ้าชายทอมมี่แห่งสโลเนีย เจ้าชายโรมันแห่งสก๊อต อะไรแบบนี้มากกว่า
ช่วงนี้กูอิ่มแนวจีนนิดๆ เริ่มวนไปหันไปหาแนวยุคกลางฝรั่งกับแนวเอาชีวิตรอด

473 Nameless Fanboi Posted ID:xSuhdkAx7r

>>472 พูดถึงแนวเอาชีวิตรอด กูคิดถึงการ์ตูนของนานมีบุ๊คว่ะ

474 Nameless Fanboi Posted ID:iq+5PlfVsP

>>466 >>464 ยุโรปทุกราชวงศ์ไปยันราชวงศ์ฝั่งเอเชียอย่างรัซเซียไม่ได้ให้ความสำคัญกับการนับลำดับพี่น้องเกิดก่อนหลังขนาดนั้น วัฒนธรรมพี่น้องเขาไม่เหมือนคนเอเชีย
คำว่าที่123456ต่อท้ายชื่อคือชื่อมันซ้ำกับพ่อ ปู่ ทวด ญาติโกโหติกามันเลยต้องใช้ลำดับที่ เพราะมันตั้งชื่อตามตระกูล กึ่งๆ จะเป็นนามสกุล เป็นชื่อประจำราชวงศ์นั้นๆ อย่างชื่อโรเบิร์ตที่หก หมายถึงราชวงศ์นี้แม่งมีโรเบิร์ตมาก่อนแล้วหกคน ไม่เกี่ยวห่าอะไรกับเป็นพี่น้องคนที่หกเลย
>>471 ไม่อยากขัดแต่ 1st prince หมายถึงรัชทายาทลำดับที่หนึ่งที่จะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ทันทีที่กษัตริย์คนก่อนหน้าสละบัลลังค์ก็จริง แต่มันก็มีแค่ 1st นี่แหละที่เป็นเหมือนตำแหน่ง แถมไม่ได้วัดว่าเป็นเจ้าชายองค์โตด้วยเพราะมันคือตำแหน่งรัชทายาท จะเป็นคนสุดท้องก็ได้
แล้วไอ้ 2nd prince, 3rd prince นี่ไม่มีนะมึง มีแต่เป็นชื่อเขตเลือกตั้งของแคนาดา

475 Nameless Fanboi Posted ID:F/zkc6nPbl

ถ้าจำไม่ผิดฝั่งยุโรปจะมีแค่รัชทายาทเท่านั้นที่จะได้ขึ้นครองบัลลังค์ ส่วนคนอื่นๆ ถ้ารัชทายาทยังไม่มีทายาทก็ยังสามารถมีสิทธิ์ขึ้นครองได้ในฐานะตัวสำรองหากรัชทายาทเกิดตายไป แต่ถ้ารัชทายาทเกิดมีทายาทสืบบัลลังค์แล้วญาติคนอื่นก็จะหมดสิทธิ์ทันที

ซึ่งหลังหมดสิทธิ์ในบัลลังค์แล้วก็มี 2 กรณีคือ หากยังญาติดีกับทางราชวงศ์อยู่ก็จะสามารถแยกตัวออกไปตั้งเป็นตระกูลของตัวเองได้ โดยดำรงตำแหน่ง ดยุคไม่ก็ดัชเชส ในฐานะญาติของกษัตริย์ หรือไม่ก็แต่งเข้าตระกูลอื่นเพื่อใช้เป็นเชื่อมสัมพันธ์

อันนี้กูจำมาจากตอนเล่น Crusader King อะ

476 Nameless Fanboi Posted ID:CJ6kPiB707

กูขอถามสงสัย อย่างองค์ชายแปดคือลูกคนที่ 8 ใช่มั้ย ถ้าไม่เกี่ยวกับการเรียงลำดับเลขของยุโรป ฮ่องเต้ต้องบะบ่ะจนมีลูกถึง 8 องค์ใช่รึเปล่า

477 Nameless Fanboi Posted ID:fCBN/xB1+T

>>475 ไอ้สืบทอดให้รัชทายาทกับลูกหลานเนี่ย มีส่วนเกิดสงครามแย่งชิงบัลลังก์ เช่น สงครามกุหลาบ เป็นต้น
https://www.youtube.com/watch?v=CWu8ETLml64

478 Nameless Fanboi Posted ID:jmNPmgJA3E

>>474 จริงๆ มันก็มีลำดับอยู่นะ แต่เป็นลำดับการสืบบัลลังก์ ปกติจะไม่แสดง แต่ถือว่ามีอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็นับตามลำดับพี่น้องนั่นละ

>>476 ลูกชายคนที่ 8

479 Nameless Fanboi Posted ID:sykY1FRlQk

>>476 ให้ชัดเจนขึ้นคือเป็น "ลูกชาย"คนที่8 ถ้ามีลูกสาวไม่เลขรวมกัน

480 Nameless Fanboi Posted ID:CJ6kPiB707

>>478 >>479 เข้าใจแล้ว

481 Nameless Fanboi Posted ID:0H0T1l2F.5

>>474 เสริม โรเบิร์ต ที่ 6 นี่คือราชวงศ์นี้มี”กษัตริย์”ชื่อโรเบิร์ตมาแล้ว 6 องค์ คือถ้าเป็นเจ้าชายโรเบิร์ตเฉย ๆ แต่ไม่ได้ขึ้นครองราชย์ก็แค่โรเบิร์ตอะ

482 Nameless Fanboi Posted ID:0H0T1l2F.5

หรืออาจจะเจ้าชายลำดับที่ 17 แห่งจักรวรรดิบริทาเนีย อะไรงี้
เช่น ลู—- เจ้าชายลำดับที่ 17 แห่งจักรวรรดิบริทาเนีย ลูกชายคนโตแห่งพระนางมารีแอนผู้ล่วงลับ บลา ๆ ๆ ๆ ๆ

483 Nameless Fanboi Posted ID:uTiQfdeeNu

ลูลูช วี บริทาเนียขอกัญชา ให้พวกเจ้าทุกคน จงอัพนิยายทุกวันซะ! #ไร้สาระแปป

484 Nameless Fanboi Posted ID:CJ6kPiB707

แล้วมีการตั้งชื่อเล่นให้กษัตริย์หรือพระโอรสรึเปล่า กรณีชื่อจริงยาวมาก

485 Nameless Fanboi Posted ID:3KfL8TBH0w

>>484 ถามแบบนี้มึงคนไทยหรือเปล่าวะ

486 Nameless Fanboi Posted ID:0H0T1l2F.5

>>484 มี อย่างควีนอลิซาเบธที่2 มีชื่อเรียกกันในครอบครัวว่า ลิลิเบธ

487 Nameless Fanboi Posted ID:0H0T1l2F.5

หรือเติมสมญานามเข้าไปหลังชื่อเช่น วิลเลี่ยมผู้พิชิต(เกาะอังกฤษ) แมรี่บ้าเลือด

488 Nameless Fanboi Posted ID:0H0T1l2F.5

คือมันกลิ่นอายจีนชัดขนาดนี้จะเปลี่ยนชื่อตัวละคร/สถานที่/ประเทศ เป็นยุโรปทำไม ก็จีนไปเลยสิ
มันไม่ใช่แค่องค์ชายแปดนะ พออ่าน ๆ ไปกลาง ๆ เรื่องแม่งโครตหนังจีนอะ…

489 Nameless Fanboi Posted ID:xSuhdkAx7r

>>487 ถ้าจำไม่ผิด ที่มีการตั้งสมญานามเพราะสมัยนั้นชื่อมันซ้ำกันเยอะใช่มะ

490 Nameless Fanboi Posted ID:fCBN/xB1+T

>>489 ใช่ ไม่เพียงแค่ชื่อกษัตริย์ ชาวบ้านตั้งชื่อซ้ำเยอะกว่าคนไทย อย่างเอ็ดเวิร์ด คนไหนเอ็ดเวิร์ดกันแน่ คนจึงนิยมเรียกนามสกุลแทนชื่อไปเลย

491 Nameless Fanboi Posted ID:9q19NwC1Nx

เอ้าๆ ปรบมือ ความรู้จากยุโรปมาเต็ม

492 Nameless Fanboi Posted ID:Ay5LPUxAGR

ถ้าเรียกชื่อผู้หญิงชั้นสูงต้องเรียกแบบไหนหรือ
ตัวอย่าง:แมรี่ ป๊อปปิ้นส์
1) เลดี้แมรี่
2) มิสป๊อปปิ้นส์
3) ใช้ได้ทั้งคู่
กูเคยเห็นใช้แบบนี้ในหนังกับซีรี่ย์ แต่ไม่ค่อยมั่นใจว่าใช้ยังไง

493 Nameless Fanboi Posted ID:0THEC3i6OR

>>492 3.) ใข้ได้ทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับบริบทล้วนๆ
อย่าง Lady นี้ถ้าใช้นำหน้าชื่อแบบในนิยายอะไรแบบนี้ แบบ Lady Poppin คือออกแนวไปในทาง "เคารพให้เกียรติ" มากกว่า
แต่ถ้าแบบ Lady เฉยๆ แบบใช้กันประจำวันนี่คนละเรื่องเลยนะ ถ้ากูจะ Lady ใส่ใครนี่คือแม่งต้องมีเหตุการณ์อะไรซักอย่างอ่ะ ประมาณว่ามีคนมาแซงแถวกู กูก็ Excuse me Lady! เอาแบบไทยๆ ก็ ขุ่นน้องคะ!
ส่วน Miss นี่คือเหมือนเป็นคำสุภาพใช้เรียกผู้หญิงที่มึงไม่รู้จัก ไม่รู้ว่าเขาแต่งงานรึยังก็ Miss ไปก่อนเลย ใช้ได้แม่งทุกสถานการณ์

494 Nameless Fanboi Posted ID:N/o+RaPj7G

>>493 แต่ถ้ามีตำแหน่งเป็น Lady ก็ต้องใช้ Lady นะ ไปใช้ Miss มันจะถือว่าไม่ให้เกียรติ

495 Nameless Fanboi Posted ID:Ly5i2gziky

>>493 แล้วถ้าเป็นคำว่ามาดามล่ะมึง ใช้ในสถานการณ์ไหน

496 Nameless Fanboi Posted ID:QtMl3S5Bdr

>>495 ผู้หญิงที่ผัวตาย

497 Nameless Fanboi Posted ID:N/o+RaPj7G

>>495 มาดามเป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่าผู้หญิงสูงอายุ ถ้าจะใช้ก็ระดับคนรุ่นแม่คนพูดหรือใช้ให้เกียรติแบบ Lady ก็ได้ แต่ต้องมีอายุด้วยนะ ใช้เรียกเด็กหมอยยังไม่ขึ้นไม่ได้

498 Nameless Fanboi Posted ID:oNMF7M073X

กูเองก็เคยมีปัญหาเรื่องนี้อยู่ในตอนแรกๆ ที่เริ่มเขียนแนวขุนนางแฟนตาซี กูเลยตัดปัญหาด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์ในโลกของกูไปเลยว่า ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว และคนที่แต่งด้วยเป็นขุนนางให้เรียกว่า ท่านหญิง นอกนั้นให้เรียกว่า คุณ แต่พวกอายุน้อยกว่า 20 ให้เรียกว่า คุณหนู สามัญชนเรียกชื่อตรงๆ ห้วนๆ ไปเลย
รู้แหละว่ามันอาจไม่ถูกหลักความเป็นจริง แต่มันง่ายกว่าเวลาเขียน นักอ่านก็ไม่ท้วงอะไรก็เลยใช้มาเรื่อยๆ

499 Nameless Fanboi Posted ID:Ay5LPUxAGR

>>493 >>494 แต็งมากๆ

500 Nameless Fanboi Posted ID:qvO8VT4Js.

สงสัย พวกดยุกที่มีอำนาจมากๆในนิยาย แบบมากจนกษัตริย์ต้องเกรงใจ อำนาจพวกนี้มาจากไหน ไม่ใช่ว่าดยุกมีแค่ที่ดินกับเงินเยอะอะไรแบบนี้เหรอ

501 Nameless Fanboi Posted ID:TYbOX5WkEJ

พ่อแม่ซินเดอเรลล่า (เอลล่า) นี่เป็นดยุกหรือเปล่าวะ ในการ์ตูนบ้านนางใหญ่โตมาก เหมือนถอดแบบมาจากปราสาท

502 Nameless Fanboi Posted ID:TYbOX5WkEJ

เอ๊ย พ่อเฉยๆ

503 Nameless Fanboi Posted ID:Aj5rmoQuIA

>>501 ในเนื้อเรื่องบอกเป็นแค่เศรษฐีผู้มั่งมี คิดว่าไม่น่าใช่ขุนนาง น่าจะเป็นพวกพ่อค้ามากกว่า

504 Nameless Fanboi Posted ID:Aj5rmoQuIA

>>500 ชีวิตจริง ยุคฟิวดัล ขุนนางน้อยใหญ่มันมีทหารเป็นของตัวเอง เพราะยังไม่เป็นรัฐชาติแบบปัจจุบันที่ทหารรับใช้ชาติ ยุคนั้นทหารรับใช้ขุนนางที่ตัวเองสังกัด ดยุกมีที่ดินกับเงินเยอะ = ทหารในสังกัดตัวเองก็เยอะตาม ตัวอย่างก็ วิลเลี่ยมผู้พิชิต เป็นแค่ดยุกแห่งนอร์มังดี แต่มีทหารกับทุนมากพอจนพิชิตเกาะอังกฤษ (ถึงส่วนหนึ่งจะเป็นเพราะอังกฤษเพิ่งสู้กับนอร์เวย์เสร็จมาหมาดๆ ก็เถอะ) กษัตริย์จะเกรงใจ เอาใจ บ้างก็ไม่แปลก
แต่สำหรับนิยายเท่าที่อ่านมา...แค่รวยเฉยๆ ว่ะ ไม่เห็นเหี้ยไรอื่นเลย

505 Nameless Fanboi Posted ID:qvO8VT4Js.

>>504 โอเค กูอยากรู้ว่าชีวิตจริงๆเป็นยังไงนี้แหละ กูพยายามหาข้อมูลแนวนี้อยู่ แต่หนังสือพวกประวัติยุโรปแม่งมาเล่มหนาปึก ตัวหนังสือบรรยายเรียบๆน่าง่วงมาก อ่านที่พวกแกถกยังเข้าใจมากกว่า

506 Nameless Fanboi Posted ID:x957OITB4y

>>500 ชาวบ้านขึ้นตรงกับขุนนาง ขุนนางขึ้นตรงกับดยุก เเล้วดยุกขึ้นตรงกับกษัตริย์ ทีนี้จะเห็นว่าอำนาจจะไปรวมที่ดยุกก่อนถึงกษัตริย์ เท่ากับไม่มีใครที่ขึ้นตรงกับกษัตริย์ กษัตริย์ยุคนั้นถึงชอบสงครามครูเสดมากๆ เพราะพวกขุนนางมันไปตายกันเยอะดี

507 Nameless Fanboi Posted ID:qvO8VT4Js.

>>506 ดยุกเนี้ยไม่ใช่ขุนนางเหรอ กูเข้าใจว่าเป็นแบบ ชาวบ้าน<ทหาร<ขุนนาง(ดยุก มาควิส บารอน)<กษัตริย์ ซะอีก

508 Nameless Fanboi Posted ID:lIwT+kbAP9

>>507 ดยุคคือขุนนางที่มีเชื้อพระวงศ์ อาจเป็นทายาทกษัตริย์องค์ก่อนหรืออะไรก็ตาม แต่ปกติต้องมีเชื้อสายกษัตริย์ถึงเป็นได้

509 Nameless Fanboi Posted ID:F.3VFeTkQq

เห็นพูดถึงเรื่อง saint อยากถามหน่อยว่าที่ฝรั่งเรียกกันว่า Sword saint นี่ภาษาไทยเขาเรียกว่าอะไรกันนะ

510 Nameless Fanboi Posted ID:Aj5rmoQuIA

>>508 ถ้ากูจำไม่ผิด มันก็มีดยุกที่ไม่มีเชื้อสายกษัตริย์อยู่นะ

511 Nameless Fanboi Posted ID:x957OITB4y

ลำดับชั้นขุนนางมันเยอะขี้เกียจพิมพ์ ไปหาในกูเกี้ลไป มันจะรับใช้กับเป็นทอดๆไปเรื่อยๆ

512 Nameless Fanboi Posted ID:Aj5rmoQuIA

ถ้าไม่ใช่นิยายเจาะลึก ใช้แค่ ราชา > ดยุก > เคานต์ > บารอน > เซอร์ > สามัญชน > ทาส
ก็น่าจะพอนะ อยากได้เยอะกว่านี้ค่อยไปดูแล้วเทียบว่าอันไหนใหญ่กว่าอันไหน

513 Nameless Fanboi Posted ID:MInmxhb2N.

โม่งเปล่าวะเนี่ย เพิ่งคุยเรื่องนี้กันไปเมื่อไม่กี่วันก่อน วันนี้กระทู้โผล่เลย
https://www.dek-d.com/board/view/3884448/

514 Nameless Fanboi Posted ID:oBWL5eTgNZ

ดยุกคือขุนนางชนิดหนึ่งแหละ แต่พอดีมีอำนาจรองมาจากกษัตริย์เท่านั้น แถมคนที่เป็นดยุกส่วนใหญ่ก็ดันเป็นเชื้อราชวงศ์
ส่วนเรื่องดยุกที่ไม่ได้เป็นเชื้อราชวงศ์ อันนี้ก็มีแหละ แต่มีน้อยส่วนใหญ่แล้วไม่ว่ายังไงก็ต้องมีเชื้อสายเกี่ยวกับกษัตริย์ทั้งนั้น

ยกตัวอย่าง วิลเลี่ยม ผู้พิชิต (William the conqueror) มีตำแหน่งเป็น Duke of Normandy แต่ต้นตระกูลของวิลเลี่ยมนั้นเป็นทหารรับจ้างชาวไวกิ้ง ที่ถูกจ้างโดยพระเจ้าชาร์ลที่ 3 ของฝรั่งเศส แต่เพราะพระเจ้าชาร์ลยกลูกสาวให้เป็นของกำนัลเพื่อไม่ให้พวกไวกิ้งมารุกรานเท่านั้น ตระกูลนี้ก็กลายเป็นตระกูลที่มีความใกล้ชิดกษัตริย์ และอาศัยความใกล้ชิด + ความภักดีสร้างผลงานจนกลายเป็นตระกูลดยุกในที่สุด

515 Nameless Fanboi Posted ID:a9aH/KrWVk

>>513 ผิดหมวดนะ มู้นี้เกี่ยวกับนิยายเด็กดี แต่ไม่นินทาบุคคลในบอร์ดเด็กดี

516 Nameless Fanboi Posted ID:CuGJXCFu6X

>>513 กระทู้คุณตะพาบ พวกมึงตั้งคุยนอกเรื่องกุด่ากูลบ แต่พวกกุตั้งเหี้ยอะไรที่ไม่เกี่ยวก็ได้เพราะคุยสัพเพเหระเว้ย

517 Nameless Fanboi Posted ID:lIwT+kbAP9

>>510 มี แต่น้อย

>>512 แต่ละประเทศมียศไม่ครบตามนี้หรอก อย่างอังกฤษ เซอร์ไม่นับเป็นบรรดาศักดิ์ ตามหลักมีแค่ duke marquess earl viscount baron ที่อื่นก็ว่ากันไป แต่ส่วนใหญ่จะเอามาปนกันซะมากกว่า

518 Nameless Fanboi Posted ID:rVZ1bCJxDy

ลำดับชนชั้น​เรียงสูงสุดไปล่างสุด
-กษัตริย์​
-แกรนด์​ดยุค, อาร์ชดยุค (ใช้ในบางประเทศ​เท่านั้น​ ส่วนใหญ​่ก็คือพวกเจ้าชายเจ้าหญิง)​
-ดยุค
-มาร์ควิส
-ไวท์​เคานท์
-เคานท์(เฉพาะเกาะอังกฤษ​เรียก เอิร์ล)​
-บารอน
-อัศวิน​
-ชาวบ้าน
-ทาส

519 Nameless Fanboi Posted ID:J2.XcXZxkO

>>510 ที่น่าตลก สำหรับไลท์โนเวลยุ่นกับนิยายไทย ดยุคส่วนใหญ่ไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดราชวงศ์เลย เขียนให้เท่เฉยๆ

520 Nameless Fanboi Posted ID:.Q/25UAK7h

เพราะเป็นรองแค่คิงไง เลยคิดว่าเป็นแล้วดูเท่ ให้ราชาแต่งตั้งให้มั่วๆ เฉยเลยก็มี บ้าบอ

521 Nameless Fanboi Posted ID:oBWL5eTgNZ

ไหนๆ มาถึงนี่แล้วจะลากยาวไปเรื่องจักรวรรดิ์ด้วยมั้ย?

522 Nameless Fanboi Posted ID:TbdCQGjb/N

มาด้วยก็ดี กูอ่านแล้วเพลินว่ะ

523 Nameless Fanboi Posted ID:x70UOUcyhP

กูก็รออ่านนะ มีใครใจดีเล่าให้ฟังบ้าง มาเก็บเอาไปเป็นข้อมูลเขียนนิยาย

524 Nameless Fanboi Posted ID:oBWL5eTgNZ

โอเคงั้นเพิ่มเรื่องจักรวรรดิให้นิดหน่อยละกัน

ก่อนอื่นเลยก็คือนิยามของจักรวรรดิ ฟังดูเหมือนจะยิ่งใหญ่นะแต่ในความเป็นจริงแล้วจักรวรรดิ์มันก็แค่ระบอบการปกครองที่มีหลายๆ ประเทศมารวมตัวกันโดยที่มีตัวจักรวรรดิเป็นศูนย์กลางก็เท่านั้นล่ะ ซึ่งไอ้เจ้าประเทศทั้งหลายนี่ส่วนใหญ่แล้วก็ยังมีระบบการปกครองเป็นของตัวเองอยู่ และนั่นก็หมายถึงอาจจะมีกษัตริย์และขุนนางเป็นของตัวเองอยู่ด้วย แต่การปกครองประเทศหลายๆ แห่งให้มาร่วมมือกันเป็นหนึ่งนั้น นั้นก็จำเป็นต้องมีผู้นำที่เป็นศูนย์กลางซึ่งในที่นี้ก็คือ องค์จักรพรรดิ นั่นเอง

ยกตัวอย่างจักรวรรดิที่สังเกตง่ายๆ ก็คือ จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Holy Roman empire) ซึ่งเจ้าจักรวรรดินี้ก็มีสมาชิกหลักๆ อยู่ด้วยกันก็คือ เยอรมัน , โบฮีเมีย (ปัจจุบันคือสาธารณรัฐเช็กเกียและสโลวาเกีย) , อิตาลีเหนือ (มิลานไปถึงกรุงโรม) และบางส่วนของฝรั่งเศสและโปแลนด์ ซึ่งการรวมหลายประเทศเข้ามาอยู่ภายใต้การปกครองเดียวกันแบบนี้นี่ล่ะ ถึงเรียกว่าระบบจักรวรรดิ

ส่วนการตั้งเป็นจักรวรรดินั้นก็ไม่จำเป็นต้องมีหลายประเทศรวมกันก็ได้ บางทีแค่ 2-3 ประเทศรวมกันก็เป็นจักรวรรดิได้แล้ว ยกตัวอย่างก็คือจักรวรรดิญี่ปุ่นในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นเอง ตอนน้ันญี่ปุ่นมีพื้นที่ปกครองหลักๆ ก็คือตัวญี่ปุ่นบนเกาะ , ไต้หวัน , แมนจูเรีย และเกาหลี ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นตรงกับการปกครองส่วนกลางและกลายเป็นจักรวรรดินั่นเอง

เรื่องเขตแดนนั้นไม่ยากสำหรับจักรวรรดิ แต่เรื่องที่ปวดหัวที่สุดก็คือเรื่องระบอบการปกครองในจักรวรรดิและการเลือกจักรพรรดินั่นล่ะ

ที่บอกว่าปวดหัวเพราะบางจักรวรรดินั้นมีการเลือกไม่เหมือนกัน บางแห่งก็เลือกใช้วิธีสืบทายาทโดยที่จักรพรรดิจะส่งต่อตำแหน่งให้กับรัชทายาท แต่บางแห่งก็จะใช้ระบบการโหวตของสภาขุนนางเลือกว่าจะให้ตัวแทนของประเทศไหนขึ้นมาเป็นจักรพรรดิ และบางแห่งจักรพรรดิก็มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนเลยก็ยังมี ซึ่งอันนี้ขอพูดแค่คร่าวๆ ละกัน รายละเอียดเบื้องลึกนี่คงต้องไปหาอ่านกันเอง

นี่กูพูดถึงเรื่องนี้แล้ว อีกหน่อยกูต้องพูดถึงเรื่อง Galactic federation ด้วยมั้ย?

525 Nameless Fanboi Posted ID:GLJgHK3jpH

ตามความเข้าใจของกู ภายในประเทศ จักรวรรดิมียศสูงกว่าราชอาณาจักร จักรพรรดิมียศสูงกว่าราชา (HRE) แต่ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จักรพรรดิและราชามีศีลเสมอกัน จักรวรรดิจะต้องเป็นมหาอำนาจ (มหาอำนาจกลาง WW1) มีการขยับขยายดินแดน (จักรวรรดิ Roman) และปกครองด้วยระบอบกษัตริย์ แต่ไม่จำเป็นต้องเรียกตัวเองเป็นจักรวรรดิหรือจักรพรรดิ (จักรวรรดิสเปน ที่กษัตริย์เป็น King ไม่ใช่ Emperor ) ที่สำคัญสุดเลย จักรวรรดิมันฟังดูชั่วและโครต Cool กว่าราชอาณาจักร
ผิดตรงไหนแก้ให้ด้วย

526 Nameless Fanboi Posted ID:x70UOUcyhP

>>524 แต๊งกิ้ว แล้วข้อดีของการปกครองแบบจักรวรรดิเป็นยังไง ทำไมราชาของประเทศต่าง ๆ ถึงได้ยอมเป็นรองราชาคนใดคนหนึ่ง แล้วถ้าสมมติว่าจักรวรรดิมีความเห็นว่าแบบนี้ แต่ราชาของประเทศในจักรวรรดิไม่เห็นด้วย จะเกิดสงครามหรือการแยกประเทศกันไหมวะ?

527 Nameless Fanboi Posted ID:WxnMHoNJez

ก็เอาระบบฟิวดัลมาเทียบก็ได้ แค่เพิ่มตำแหน่งจักรพรรดิไปอยู่บนสุดแค่นั้น ในเกมที่เล่น กุก็ชอบตั้งราชามาปกครองดินแดนใหญ่ๆแทนจะมาเสียเวลาเอาใจเหล่าลอร์ดทั้งหลาย

528 Nameless Fanboi Posted ID:f7D48CPT2P

Ky กูเห็นเพจเกม identity v จองไทย เขาโพสชื่อทีมกัน หนึ่งในนั้นมีชื่อที่เตะตากูมาก
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=437418963450711&id=433877867138154
โม่งใช่มั้ย นั่นใช่โม่งรึเปล่า~

529 Nameless Fanboi Posted ID:ANfDvbni0r

>>528 กูว่าใช่

530 Nameless Fanboi Posted ID:VSVfeALS42

>>529 ไม่ก็เด็กดวกนี่แหละที่มาเหมือนขอตั้งชื่อพระเอกนางเอก แต่เสือกเจอของดีโดยบังเอิญ ตั้งชื่อกลุ่มแม่งเลย

531 Nameless Fanboi Posted ID:+aas6U3SRG

>>526 ที่กูคิด ถ้าแม่งไม่ยอมเป็นรอง สงครามแม่งเกิดแน่ๆ และดูท่าฝ่ายตัวเองแม่งต้องแพ้ยับแน่นอน

532 Nameless Fanboi Posted ID:GLJgHK3jpH

>>531 ไม่ก็ยับแม่งทั้งคู่ เหมือนสงคราม 30 ปีอ่ะ...

533 Nameless Fanboi Posted ID:NSNw8tlGxC

ky กูกำลังเขียนตลคที่เป็นเด็กอยู่ เป็นเด็กผู้หญิงที่มีมารยาท วางตัวดี เป็นลูกคุณหนู แล้วกูไม่รู้จะแบ่งสัดส่วนระหว่างนิสัยเด็กกับการวางให้ยังไงดี เพื่อนโม่งว่ากูทำไงดี หรือกูต้องหาแนวโลลิอ่าน

534 Nameless Fanboi Posted ID:1YdWX7vye2

>>533 มารยาทกับการวางตัวดีก็แบบเดียวกันนะ มึงจะแยกทำใม

535 Nameless Fanboi Posted ID:Tm5BbPalK3

>>526 การเมืองไง ง่ายๆ สมมุติว่ามึงมีประเทศของตัวเองเป็นประเทศเล็กๆ พอจะปกป้องตัวเองได้บ้างแหละ แต่ชายแดนมึงอีกประเทศที่การทหารแม่งเหนือกว่ามึง แถมผู้นำบ้าๆ บอๆ จะยกคนมาตีบ้านมึงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ บางทีการยอมไปอยู่ใต้ร่มเงาของจักวรรดิที่ยิ่งใหญ่กว่าก็เป็นกันชนได้อย่างดี แถมผลประโยชน์อีกนับไม่ถ้วน แลกกับเงือนไขอะไรก็แล้วแต่จักวรรดิจะขอมา คุ้มไม่คุ้มไม่รู้แต่ดีกว่าแยกตัวเองแล้วโดนรุมยำเละแน่ๆ อะ
สมัยนั้นแม่งล่าดินแดนกันป่าเถื่อนไร้เหตุผลสัสๆ ถ้าตัวเองไม่แข็งจริงก็ไปขออยู่ ขอเป็นพวกเดียวกับคนที่เขาแข็งกว่าเหอะ

536 Nameless Fanboi Posted ID:vR4+pRr.V1

แล้วพอรอบข้างมันเริ่มอ่อน + ตัวเองเริ่มแข็งก็จะคิดแยกตัวออกจากจักรวรรดิเอง ปรัสเซีย เป็นต้น

537 Nameless Fanboi Posted ID:LGXEUdEQjJ

จักรวรรดิก็แค่คำคำหนึ่ง อย่างช่วงก่อนสงครามโลกเกาหลียังอัพเกรดตัวเองขึ้นมาเป็นจักรวรรดิเกาหลีเลยทั้ง ๆ ที่ก็มีอยู่ประเทศเดียว ชนชาติเดียว

จักรวรรดิเดิมมันใช้เรียกประเทศที่ปกครองหลาย ๆ ชนชาติพร้อม ๆ กันเช่นรัสเซียที่ขยายอำนาจลงไปทางใต้ กับตะวันออกกลาง
อังกฤษที่มีอนานิคมทั่วโลก
ส่วนหลัง ๆ มันใช้ผิดความหมายกันไปเรื่อยแต่ก็ไม่มีใครซีเรียสอะไรก็แค่ชื่อ
เหมือนญี่ปุ่น ชื่อประเทศคือ State of Japan แต่มีตำแหน่งจักรพรรดิเฉย
หรืออย่างควีนวิคตอเรียเป็นพระราชินีของสหราชอาณาจักร พร้อม ๆ กับเป็นจักรพรรดินีแห่งอินเดีย

538 Nameless Fanboi Posted ID:LGXEUdEQjJ

>>536 ปรัสเซียอยากแยกตัวจากHRE? ถ้าจำไม่ผิดปรัสเซียนี่เป็นหนึ่งในรัฐผู้คัดเลือก ที่สามารถโหวตเลือกจักรพรรดิของจักรวรรดิได้นะ มีอำนาจขนาดนี้ยังจะอยากออกจากจักรวรรดิ?
อีกอย่างที่จักรวรรดิล่มก็เพราะแพ้สงครามนโปเลียนนะ

539 Nameless Fanboi Posted ID:KpAOWd+rTo

>>538 เสริมด้วยคนว่าปรัสเซียมันไม่น่าจะคิดแยก ตอนนั้นจักรพรรดิไร้นํ้ายาจะตายห่า โดน nerf หลังสงครามจนอำนาจในจักรวรรดิแทบไม่เหลือ ถ้าเป็นเจ้าผู้ปกครองใน HRE ตอนนั้น กิจการเกือบทั้งหมดสามารถดูแลได้เองโดยไม่โดนแทรกแซง แล้วจะแยกไปให้มีปัญหาเพื่อ

540 Nameless Fanboi Posted ID:xst28Q1MtN

ky ยศดยุค มาควิส บารอนอะไรพวกนี้แต่ละคนได้ตอนไหนนะ เกิดมาแล้วได้เลยเหรอ แล้วมันมีกรณีที่สามารถเลื่อนขั้นได้ไหม อย่าเช่น เลื่อนจากมาควิสเป็นดยุคงี้
ปล.พวกเกร็ดยิบย่อยพวกนี้โม่งหาข้อมูลจากไหนบ้าง กูอยากหาอ่านบ้างนะ แต่งนิยายแล้วรู้สึกข้อมูลไม่แน่น

541 Nameless Fanboi Posted ID:T1YpjyY.C1

>>538 >>539 โทษๆ กูอินกับ Prussian Space Marine ใน EU4 มากไปหน่อย

542 Nameless Fanboi Posted ID:L2SDOm2ypH

ตามความเข้าใจกุนะ ปรัสเซียน่าจะอยากขึ้นเป็นผู้นำในHRE มากกว่าแยกตัว แต่ HRE ล่มไปก่อนหลังจากนั้นก็เลยเป็นเกมแผ่อิทธิพลชิงอำนาจเหนือดินแดนHREเดิม โดยมีคู่แข่งคือออสเตรีย

543 Nameless Fanboi Posted ID:VOUh5RjtDz

>>540 ถ้าสั้นๆ ก็นับแต่ช่วงยุคกลางมาจนถึงปัจจุบันจะเป็นเกิดมาแล้วได้เลย ยศมันสืบผ่านสายเลือด
.
ให้อธิบายจริงจังยาวๆ ก็ระบบสืบราชสมบัติของยุโรปมันผูกกับศาสนาคริสต์ ถ้ากูอธิบายก็จะบอกว่ามันเริ่มจากการที่เชื่อว่า pope ได้อำนาจจากพระเจ้าซึ่งเป็นเจ้าของโลกทั้งใบ และ pope ก็ส่งอำนาจในการปกครองให้เจ้าผู้ปกครอง ส่วนใหญ่เป็นกษัตริย์ แต่ก็มีบางครั้งที่เป็นดยุก ผ่านการสวมมงกุฎ (พิธีราชาภิเษกนั้นเอง) หากพูดแบบรูปธรรมมันเป็นการฮั้วกันระหว่าง pope กับกษัตริย์ที่เป็นคนเถื่อน pope จะได้รับการคุ้มกะลาหัวโดยกษัตริย์จากภัยอย่างพวกโรมันที่อยู่คอนสแตนติโนเปิล ส่วนพวกคนเถื่อนจะได้ความชอบธรรมจากการปกครองโดยการให้อำนาจผ่าน pope ตามหลักการที่กูเข้าใจเมื่อกษัตริย์ได้ที่ดินจาก pope ก็เอาที่ดินไปแจกต่อให้กับพวกลูกน้องตัวเองเป็นตำแหน่งต่างๆ และเมื่อพวกนี้ออกลูกออกหลานตำแหน่งก็จะตกถึงท้องต่อไปเรื่อยๆ แต่ที่สำคัญของยุโรปมันคือ มันใช้ระบบสืบราชสมบัติแบบลูกคนโตได้หมด กรณีไอคนที่ถือครองตำแหน่งไม่มีทายาท มันจะใช้วิธีการสืบค้นสายที่ใกล้ที่สุด แล้วคนที่ใกล้สุดนั้นแหละจะได้ไปทั้งหมด ถ้ามีตำแหน่งอยู่แล้วก็ได้ตำแหน่งควบไปเลย ทำให้เราเห็นบ่อยที่กษัตริย์ยุโรปมันมียศตามติดยาวเป็นพรืดอย่างอังกฤษช่วงหนึ่งนี้ยาวโคตรพ่อโคตรแม่ยาว

544 Nameless Fanboi Posted ID:vR4+pRr.V1

>>543 ยุโรปช่วงต้นมันสืบทอดแบบ Gravelkind แบ่งให้ลูกทุกคนจากคนโตสุดไปหาเล็กสุดไม่ใช่เหรอ

545 Nameless Fanboi Posted ID:o+tzYCYxVK

>>543 ต่อ เจ้าของยุโรปถ้าสืบสายจริงๆ ส่วนใหญ่เลยมักจะสืบกลับไปถึงพวกยุคกลางได้ทั้งนั้น เพราะวิธีสืบราชสมบัติแบบนี้ อย่างของอังกฤษก็เชื่อกันว่าสามารถสืบย้อนกลับไปถึงวิลเลี่ยมผู้พิชิตได้ หรือของฝรั่งเศสเห็นมันมีหลายราชวงศ์ แต่ถ้าสืบไปจะเริ่มที่ราชวงศ์กาแปทั้งนั้น (ยกเว้นพวกโบนาปาร์ตไว้ในฐานที่เข้าใจ) ส่วนที่ >>540 ถามว่าเลื่อนขั้นได้ไหม ถ้ายุคใหม่หน่อยเหมือนจะมีเปลี่ยนชื่อตำแหน่งเอาดื้อๆ อย่างออสเตรียก็เปลี่ยนชื่อจากอาร์คดยุคเป็นจักรพรรดิ แต่ถ้ายุคกลางทำแบบนี้มันยากโคตร ส่วนใหญ่วิธีเลื่อนขั้นที่กูเข้าใจน่าจะเป็นการแต่งกับตระกูลที่ยศสูงๆ คอยแช่งให้ตายโดยไม่มีทายาท แล้วค่อยกินตำแหน่งหลังจากนั้น

546 Nameless Fanboi Posted ID:o+tzYCYxVK

>>544 อธิบายแบบนั้นแม่งยาวกว่าเดิมอีกว่ะ เพราะต้องมาบ่นถึงปัญหาที่มันเจอ กูเลยข้ามมาเป็น Primogeniture เลย

547 Nameless Fanboi Posted ID:o+tzYCYxVK

>>544 แถมเอาเข้าจริงภาพจำส่วนใหญ่ของคนปกติยุคกลางมันเป็น high middle age อะมึง มีครูเสด มีอาณาจักรใหญ่ๆ ใช้ Primogeniture เลยคิดว่าอธิบายแบบนี้เข้าใจง่ายกว่าด้วย

548 Nameless Fanboi Posted ID:h0.kmjOlTz

>>538 >>539 HRE คืออะไร รู้จักแต่ HRK

549 Nameless Fanboi Posted ID:T1YpjyY.C1

>>548 Holy Roman Empire ที่ neither Holy nor Roman nor Empire

550 Nameless Fanboi Posted ID:L2SDOm2ypH

>>549 เออแม่งเหมือนสหพันธรัฐมากกว่า

551 Nameless Fanboi Posted ID:xst28Q1MtN

>>543 >>545-547 กูเข้าใจแหละ แต็งมาก

552 Nameless Fanboi Posted ID:ZRdWA7.Yvu

>>549 กูรู้ว่ามันแซะ ณ ศ.18 แต่ในสมัยชาเลอมาญ ยกเว้นข้อ Roman ที่เหลือมันก็เป็นหมดนะ

553 Nameless Fanboi Posted ID:uj8f7o0D.L

>>552 ความเป็นโรมันไปกระจุกตัวที่ไบแซนไทน์ แต่มาแตกตัวตอนพวกออตโตมันตีเมืองสำเร็จ พวกที่อ้างเป็นชาวโรมันไปกระจายตัวแถวยุโรป

554 Nameless Fanboi Posted ID:WuPEcDszsz

>>553 เอาจริงๆ พวกโรมก็ไม่นับว่าไบเซ็นไทน์เป็นคนโรมันหรอก ไม่งั้นจักรวรรดิคงไม่แตกเป็นตะวันออกตะวันตก

555 Nameless Fanboi Posted ID:fHNl1b5r/w

>>554 ไบแซนไทน์ไม่มีจริง เป็นคำเรียกของคนยุคหลังมากกว่าคนยุคนั้นก็เรียกตัวเองว่าเป็นจักรวรรดิโรมัน หรือจักรวรรดิโรมันตะวันออกก็ว่าไป ไบแซนไทน์นี่เป็นคำที่เพิ่งมีในยุคหลัง

ส่วนที่ในจักรวรรดิมีรัฐที่ทรงอำนาจสองรัฐคือ ออสเตรีย กับปรัสเซียกูว่า เพราะแม่งอยู่ริม ๆ จักรวรรดิไง เลยสามารถแผ่ขยายดินแดนออกไปนอกจักรวรรดิได้ อย่างปรัสเซียไปตีเอาดินแดนของโปแลนด์มา ส่วนออสเตรียก็ในโชคร้ายมีโชคดีได้ฮังการีมาหลังออคโตมันยำให้แล้ว ส่วนที่อยู่ติดริม ๆ ฝั่งแม่น้ำไรน์ติดฝรั่งเศสที่เป็นรัฐที่แข็งแกร่งมากอีกรัฐหนึ่งจะให้ไปตีกินฝรั่งเศสคงยาก

ส่วนตอนรวมชาติที่ทุกแคว้นหันไปรวมกับปรัสเซียเห็นว่าเป็นเพราะเกมส์การทูตของบิสมาร์ก น่าเสียดายลุงแกอุส่าทำเอาไว้ดีไกเซอร์พลาดทีจบเลย

อีกเรื่องที่น่าสนใจคือการแต่งงานครอสกันไปมาของราชวงศ์ในยุโรปยิ่งยุคควีนวิคตอเรียนี่ไขว้กันไปมาจนแบบ คิงอังกฤษ กับซาร์รัสเซียแม่งหน้าคล้ายกันยังกับฝาแฝด

556 Nameless Fanboi Posted ID:fHNl1b5r/w

>>554 เสริมอีกนิดเพิ่งนึกได้ว่าที่ย้ายเมืองหลวงเพราะก่อนหน้านี้มันมะรุมมะตุ้มแย่งอำนาจกันจนกรุงโรมเละเป็นโจ๊กไปแล้ว อีกอย่างทางฝั่งตะวันออกก็เป็นฐานอำนาจของคอนสแตนตินด้วย แล้วเรื่องแบ่งจักรวรรดินี่คือทำมาก่อนหน้านี้แล้วแบ่งเป็น 4 ส่วนด้วยซ้ำเพราะยุคก่อนการสื่อสารมันยังไม่ดีจักรวรรดิใหญ่ขนาดนั้นมีศูนย์กลางอยู่ที่เดียวเกิดเรื่องทีกว่าเรื่องจะมาถึงกว่าจะตัดสินใจกว่าจะส่งกลับไปไม่ทันกันพอดี

557 Nameless Fanboi Posted ID:kVcc6hAZns

จากลำดับชั้นขุนนาง มาเป็นเรื่องจักรวรรดิ กุว่าพอก่อนดีกว่ามั้ยเดี๋ยวจะออกทะเลไปไกลกว่านี้

558 Nameless Fanboi Posted ID:dPWrwRIZXT

>>557 อย่าเพิ่ง กูกำลังสนุก

559 Nameless Fanboi Posted ID:uj8f7o0D.L

>>557 ควบสองไปเลยดิ ไหนๆกูเบื่อจีนเสิ่นเจิ้นอยู่แล้ว

560 Nameless Fanboi Posted ID:kVcc6hAZns

>>558 >>559 งั้นก็แล้วแต่ละกัน ถ้ามีประโยชน์แล้วเอาไปใช้ในนิยายได้

561 Nameless Fanboi Posted ID:1jX1BUgzR8

โอ้โห ยุโรป-ยุคกลางพรึ่บๆ เลย จู่ๆ มู้ก็มีสาระ หลังจากบ่นกันเรื่องม้า

562 Nameless Fanboi Posted ID:uj8f7o0D.L

ไหนๆแล้ว ขอถามหน่อยดีกว่า ยุคกลางมาสิ้นสุดกันตอนไหน อาณาจักรไบแซนไทน์โดนพวกออตโตมันยึดรึเปล่า หรือยังไง

563 Nameless Fanboi Posted ID:4paoI5uFCL

>>562 หนังสือเรียนของกูให้จบที่ออตโตมานตีกรุงคอนแตนตินโนเปิลแตก แล้วตัดเข้าเรอเนซองเลย

564 Nameless Fanboi Posted ID:4paoI5uFCL

อันนี้กูสงสัยส่วนตัว ทำไมไม่ค่อยมีคนแต่ง Gunpower Fantasy วะ

565 Nameless Fanboi Posted ID:WuPEcDszsz

>>562 แล้วแต่คนจะนับ โดยทั่วไปถือว่าสิ้นสุดในยุคต้นฟื้นฟูศิลปะวิทยาในศ. 15 เพราะกระแสการเปลี่ยนแปลงแต่ละที่ไม่เท่ากัน เลยเหมารวมทั้งศตวรรษไปเลย

566 Nameless Fanboi Posted ID:jVAKCXFSaB

>>564 ประมาณไหนวะ 55555

567 Nameless Fanboi Posted ID:uj8f7o0D.L

>>563 เออ ลืมคอนสแตนติโนเปิลสนิท เดี่ยวต้องกลับไปดูสารคดีใหม่แล้ว
>>565 นั้นสินะ

>>564 งั้นต้อง Steampunk เป็นได้ทั้งไซไฟกับแฟนตาซี เริ่มมีการอัพเกรดดินปืนเป็นปลอกกระสุน โดนน้ำไม่เป็นไร อาจจะมีการคิดค้นซองแมกกาซีน ออกแบบตัวปืนหรู ส่วนดาบกลายเป็นอาวุธรอง แต่ถ้าพูดเฉพาะเด็กดีหรือนิยายไทยเนี่ย ที่คนไม่ค่อยแต่งกัน เพราะคนไม่ค่อยดูกันมากกว่า ยุควิตอเรียนมีความใกล้เคียงสุด

568 Nameless Fanboi Posted ID:MOh+39csXg

แหล่งสับชั้นดีย์---------------- https://www.dek-d.com/board/view/3884937/

569 Nameless Fanboi Posted ID:kVcc6hAZns

>>564 หมายถึงแนวเดียวกับ gun ota รึเปล่า ที่เอาปืนไปยิงในโลกยุคกลางแฟนตาซีน่ะ

570 Nameless Fanboi Posted ID:nET68VR10U

อันนี้สงสัยมานานล่ะ ทำไมปืนเเม่งถึงไปopในยุคเเฟนตาซีได้วะ ลูกตะกั่วเเม่งไม่น่าเเรงไปกว่าเวทเเน่ๆอะ

571 Nameless Fanboi Posted ID:rSCtNpDbIR

>>570 เร็วและง่าย ข้อดีของปืนที่ทำให้อาวุธยุคเก่าตกยุค อัศวินฝึก 10 ปี ปืนฝึก 1 วัน จะเอาไรไปสู้

ถ้าในโลกแฟนตาซี ความเร็วของปืนทั่วไปคือเหนือเสียง คนธรรมดาหลบไม่พ้นหรอก ไม่เกี่ยวกับว่าแรงไม่แรง แต่มันทำไรไม่ทัน กว่าจะร่ายเวทย์ เจอปืนแกร๊กเดียวตายละ

572 Nameless Fanboi Posted ID:UXsbnLtht9

ปืนยุคแรกจริงๆ อะมันไม่เท่าไหร่หรอก โหลดช้า ความแม่นหาไม่เจอ แถมระยะยิงโครตสั้น แต่พวกต่างโลกมีปืน เสือกใช้ปืนในยุคที่แม่งเริ่ม OP แล้ว...และปืน ใครๆ ก็ใช้ได้ แต่จะใช้ให้มีประสิทธิภาพมันยากนะ ถามพวก รด. ก็ได้ ยิ่งปืนคาบศิลานี่ ใครๆ ก็ยิงได้จริง แค่เหนี่ยวไก แต่กว่าจะบรรจุ กว่าจะยิงให้โดน นี่มันไม่ง่ายเลย นี่ยังไม่ทันได้พูดถึงการจัดกระบวนทัพ บลาๆ แต่มันใช้เวลาฝึกน้อยกว่าดาบและไม่เปลืองแรงแบบธนู ติดดาบปลายปืนทีก็ใช้แทนหอกได้

573 Nameless Fanboi Posted ID:UXsbnLtht9

>>569 Gunpowder Fantasy ในความหมายของกูคือ โลกที่ใช้ปืนคาบศิลาเป็นหลักแล้วอ่ะ

574 Nameless Fanboi Posted ID:Go+Y9yYHDc

>>570 ถ้าคนเขียนอวยเวทมนตร์ จะเขียนให้ปืนกากลง แต่ถ้าคนเขียนอวยปืน เวทมนตร์มีพลังเป่ากาแลคซีพริบตาย่อมมีหนทางหยุดยั้งอยู่ดี

575 Nameless Fanboi Posted ID:Go+Y9yYHDc

ถ้ามีปืนคาบศิลา น่าจะมีปืนพกติดตัวบ้าง ปืนพกมีวิวัฒนาการมาตั้งแต่ปี 1500 แล้ว
https://www.youtube.com/watch?v=wrtWWY5-ZaA

576 Nameless Fanboi Posted ID:TS+5Qmd33j

>>575 F to respect
ขอขอบคุณจ่าอาร์ ลี เออร์มี่ สำหรับสารคดีดีๆ ที่ผ่านมา

577 Nameless Fanboi Posted ID:Lh+DG2V3vK

แนว Steam Punk บ้านเราคงหายากหน่อย เพราะวัฒนธรรมบ้านเรามันไม่มีอะไรแบบนั้น
ส่วนแนว Gunpowder เท่าที่เห็นมีแต่แนวที่เขียนให้อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่าง ยุคกลาง > เรเนซองค์ ซึ่งเป็นยุคที่คนเริ่มเอาปืนคาบศิลามาใช้

ส่วนความ OP ของปืนในยุคแฟนตาซีส่วนใหญ่ที่กูเจอมักใช้มุกประมาณ Surprise Attack ว่ะ พอลองคิดว่าทำไมถึงทำงั้นก็ได้คำตอบว่า มันเป็นยุคที่คนยังไม่รู้จักปืนกัน ถึงรู้จักก็รู้น้อย พอโดนพวกตัวเองหยิบมาใช้ปุ๊บ พวกตัวร้ายก็จะตกใจร้อน Nani!? ก่อนโดนเก็บแล้วลงไปนอนร้อง Baka ...na นั่นเอง

ซึ่งถ้าอิงตามความจริงแล้วปืนในยุคนั้นมันไม่ได้น่ากลัวเท่าไรเลยถ้ารู้ว่ามันทำงานยังไง ยกตัวอย่างก็สงครามยุคเซ็นโกคุ ระหว่างโอดะ กับ ทาเคดะ นั่นอะ ฝั่งโอดะใช้ปืนคาบศิลามายิงสู้เอาชัยมาตลอด แต่ฝั่งทาเคดะรู้ว่าปืนเป็นยังไงมีจุดอ่อนยังไง ก็เลยเอาทหารม้าวิ่งชาร์จจนเละไปเลยน่ะ

578 Nameless Fanboi Posted ID:tjr26x9Pfe

OP คือ over power ?

579 Nameless Fanboi Posted ID:.nFPF3Dzxw

>>578 ใช่แล้ว

580 Nameless Fanboi Posted ID:JjkX6d7AH0

>>577 ทาเคดะเละไม่ใช่เหรอ ตอนปะทะซึ่งหน้านะ

581 Nameless Fanboi Posted ID:Go+Y9yYHDc

>>577 ปืนสมัยก่อนมีจุดอ่อน 4 ข้อ
1.ดินปืนไม่ทนความชื้น เจอน้ำเมื่อไร ปืนจะกากลง
2.รีโหลดช้ามาก ใช้เวลาบรรจุกระสุนนานกว่าเล็งเป้าหมาย เห็นว่ารีโหลดนาน 50-60 วิแล้วแต่ความชำนาญ
3.การทำความสะอาดปืนสมัยก่อนลำบากกว่า เพราะยิงแล้วเขม่าดำจนคุณภาพลดลง
4.ก่อนมีปืนลูกโม่ ยิงได้ทีละนัด ยิงรัวไม่ได้

582 Nameless Fanboi Posted ID:W6jrzlaPhQ

Ky กูลองไปหาข้อมูลเล่นๆ เกี่ยวอาวุธยุคกลางของพวกฝรั่งกลุ่ม HEMA มา เหมือนว่าเขาจะยกให้ หอก เป็นเจ้าสนามรบยุคกลางเพราะ
1. ใช้งานง่ายที่สุดในบรรดาอาวุธทั้งหมดในยุคนั้น เพราะไม่ต้องใช้สมองหรือไหวพริบมาก แค่ยื่นหอกแทงไปข้างหน้าก็พอ
2. ระยะที่ยาว เพิ่มโอกาสรอดให้ผู้ใช้
3. ผลิตง่ายและราคาถูก

583 Nameless Fanboi Posted ID:.NWLcVBTBg

ทหารม้าเกราะฟูลเพลทที่เห็นๆกันก็ไว้ใช้บู๊กับพวกพลปืนนี่แหละ แต่ปืนมันพัฒนาขึ้นเรื่อยๆส่วนเกราะทำให้หนาไปคนใส่ไม่ไหวเลยเลิก

584 Nameless Fanboi Posted ID:JjkX6d7AH0

>>583 ทหารม้าฟูลเพลทมีมานานก่อนปืน แต่จบลงที่ยุคปืน

>>582 ถ้าเป็นจีนคือง้าวต่อต้านทหารม้าของงักฮุย แต่มันเก่งกับทหารม้าทั่วไป เจอทหารม้าพลธนูแบบมองโกลก็เสร็จหมด

585 Nameless Fanboi Posted ID:Go+Y9yYHDc

>>582 ค่อนข้างเห็นด้วย แต่ไม่รู้ทำไมนิยายส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับดาบมากกว่าหอก รู้แต่ถ้าพลหอกเรียงแถวสามารถกันกองทหารม้าดี ไม่เสียบทหารก็เสียบม้าแทน
>>583 >>584 เพิ่มเติม เกราะฟูลเพลทนอกจากสวมใส่ยากร้อนชิบหาย ปวดเยี่ยวปวดดากก็ถ่ายเลอะกางเกง ท้องร่วงไม่ต้องสืบ

586 Nameless Fanboi Posted ID:hKtA8rQYsF

เดกดวกมีมาเควี่ยตัวใหม่แล้วหรอวะ คอยเม้นแขวะแดกดันบูลลี่พวกที่มึนงงๆเข้าบอร์ดมาถาม เบ่งกร่างอวดตัวว่าเก่งโง้นงี้ลูกหาบตามเลียแพลบๆ มึงไม่ชอบไม่ต้องตอบเค้าก็ได้จะทำตัวเป็นเจ้าที่แรงทำไมวะ เดกดวกสังคมคุณตะพาบขริงๆ กูบ่นแล้วก็จากไป

587 Nameless Fanboi Posted ID:WX7iSO99b5

>>586 กูงง มู้ไหนวะ?

588 Nameless Fanboi Posted ID:Go+Y9yYHDc

>>587 คาดว่า >>586 ลืมทานยา

589 Nameless Fanboi Posted ID:./reNIb9Rm

>>586 ไม่ต้องไล่กูไปเน็ตวอทช์นะ กูแค่อยากเดา M...nL..h หรือเปล่า พักหลังดูกร่างๆ

590 Nameless Fanboi Posted ID:ukKXYZRMRj

>>586 มึงพิมพ์เหมือนเดิมกับคราวที่แล้วเลย

591 Nameless Fanboi Posted ID:ybQxXxb.pX

>>589 +1 อิจฉาคนอะไรว๊างว่างนั่งรีเฟรซทุกสามนาทีบิบิ

592 Nameless Fanboi Posted ID:W6jrzlaPhQ

KY ขอความช่วยเหลือหน่อย
ตอนนี้ ด้วยความไม่ตั้งใจ พระเอกของกูกลายเป็นพวก ผลประโยชน์ > ความรู้สึกในสายตาคนอ่านไปละ
นางเอกของกูเป็นคนซื่อ แต่ไม่ได้ไร้เดียงสา และยังไม่รู้ว่าโดนพระเอกเก็บโกยผลประโยชน์จากตัวเองอยู่
เซตติ้ง แฟนตาซียุกลางที่กำลังจะข้ามไปยุคถัดไป มีเกมการเมืองระหว่างตัวละครหลัก
แต่...กูไม่ได้เขียนนิยายดาร์ก หรือธีมมืดมน พระเอกชั่ว หรือตัวละครตายรัวๆ นะอย่างน้อยก็ยังติด tag รัก อยู่ กูอยากให้ 2 ตัวนี้มันมารักกัน แต่กูต้องทำยังไงดีวะ กูคิดไม่ออก ที่คิดออกแม่งก็ไม่ใช่ความรัก มันออกแนวชาวนากับวัวอ่ะ

593 Nameless Fanboi Posted ID:N1qez/StQ3

มิติใหม่แห่งการขายตรง ขา่ยกันข้ามค่าย แถมขายยังไงให้ขึ้นท๊อปบอร์ดวะ ถ้ากูจะไม่ชอบมันเป็นการส่วนตัวกูจะผิดมั้ยเพราะกูไม่ชอบแม่งจริงๆ นะเนี่ย
https://www.dek-d.com/board/view/3885163/

594 Nameless Fanboi Posted ID:B22Srtw6uc

>>592 จริงๆมันก็ไม่ยากนะ(หรือเปล่า) อันดับแรก ตลค. ต้องมีเหตุได้เจอกันบ่อยๆก่อน จริงๆแบบชาวนากับวัวอย่างที่มึงว่าก็โอเคนะ เจอกันมันก็ไม่จำเป็นต้องมีฝ่ายหนึ่งรักอีกฝ่ายหนึ่งทันทีนะ ส่วนใหญ่ที่กูเห็นถ้าคล้ายๆมึงก็ พระเอกตั้งใจมาหลอกนางเอก ส่วนนางเอกใสสื่อไม่รู้ แต่พอเวลาผ่านไป ฝ่าฟันอุปสรรค ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รู้ตัวอีกทีอีพระเอกที่สนใจแต่ผลประโยชน์กลับเผลอชอบนางเอกไปแล้ว ส่วนที่พลาดไม่ได้(ไม่ได้บอกให้มึงทำนะ อันนี้คือที่กูเห็นประจำ) พอจะรักกัน นางเอกรู้ความจริงว่าทีแรกพระเอกตั้งใจมาหลอก ดราม่าไปอีก

สรุปก็คือ ให้ตัวละครมีเหตุให้ต้องมาเจอกัน ให้มันมีเวลาพัฒนาความสัมพันธ์ จะเริ่มต้นแบบไหนไม่สำคัญหรอกว่ะ ถ้านักเขียนอยากให้มันได้กันมันต้องได้สิน่า

ถ้าตอบไม่ตรงประเด็น ซอรี่

595 Nameless Fanboi Posted ID:WX7iSO99b5

>>593 กูไม่ชอบเลย คือนี่บอร์ด ดด. มะวะ จอยก็อีกตัว สองเว็บนี้มันไม่มีบอร์ดเป็นของตัวเองเรอะ

596 Nameless Fanboi Posted ID:ybQxXxb.pX

>>593 มีอีกกระทู้ที่บอกวาดปกใหม่ นั่นก็แปะถี่ โฆษณาในเฟสตัวเองสิวะแปะข้ามเว็บมันได้เหรอ

597 Nameless Fanboi Posted ID:Go+Y9yYHDc

>>593 กลัวจะตกรอบสินะๆ

598 Nameless Fanboi Posted ID:j1nUlSdPoT

เห็นเว็บเด็กดวกเป็นอะไรกันวะเนี่ย

599 Nameless Fanboi Posted ID:Wxfr1nWRci

โม่งที่จะมานินทาบุคคลหรือคุยเรื่องในบอร์ดในนี้มันผิดหมวดนะ มู้นี้ตอนนี้เขาถกเรื่องนิยายกันดีแล้ว ได้ความรู้และสาระมากมาย แต่โม่งบางพวกก็ลากเข้าเรื่องบอร์ดซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกับนิยายอะไรเลย Toxicity มากมาก แถมมู้นินทาก็มีอยู่แล้วด้วย Netwatch เด็กดวกไง ทำไมไม่ไปเล่นที่นั่นกัน? เราขอความร่วมมือนะ เคารพผู้อื่นหน่อย อย่าก่อกวนเลย คุณใช้ Fanboi ผิดที่ผิดทางอยู่นะ

600 Nameless Fanboi Posted ID:hhBlRx2VRV

>>585 เผื่อคุยเรื่องแฟนตาซียุคกลางต่อ
>>594 เผื่อใครมีไอเดียช่วย >>592

601 Nameless Fanboi Posted ID:AOBX+iMK8G

>>585 เสียบไปคนนึงไอ้ทหารม้าคนอื่นก็โถมตามมาทั้งที กันได้ไม่นานหรอก เเล้วก็พอทหารม้าทำขบวนเเตกที่เหลือก็บุกไปรบประชิดโดยใช้ดาบ

602 Nameless Fanboi Posted ID:ZXdQBE5r2V

เบื่อประวัติศาสตร์เบื่อพวกบ้าสงคราม เอานิยายมาสับเถอะขอร้อง จะม้าก็ช่าง

603 Nameless Fanboi Posted ID:Qkwa5posy.

กระทู้นินทาใน netwatch แม่งก็จมไปไหนต่อไหนแล้วมั้ง
เอาเป็นว่าจะคุยต่อก็ไปขุดเอาแล้วกัน หรือใครอยากเปิดหน้าบวกในบอร์ดก็ไปเลย เดี๋ยวกูตาม

604 Nameless Fanboi Posted ID:hhBlRx2VRV

>>601 ไม่ใช่ว่าพอทหารม้าแถวหน้าสุดมันหยุด ตัวหลังๆ มันก็ชะงักเสียจนเสียแรงชาจเหรอ

605 Nameless Fanboi Posted ID:7nZhJqkG4J

>>604 ใช่ แต่มันกันได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับจำนวน ถ้ามากกว่าจริงๆ ก็ถมชนะด้วยจำนวนได้ แต่ไม่ค่อยนิยมหรอก ม้ามันแพง ทหารม้ายิ่งหายาก เวลาเจอหอกมันถึงกลัวกันไง ของรัสเซียยิ่งโหดกว่า ทำกำแพงเคลื่อนที่มาสู้เลย

606 Nameless Fanboi Posted ID:FBYMQeJx+x

>>429 https://www.dek-d.com/writer/50551/ นี่ไงนิยายล่าสุดของแตมรี่ ยังคงความล้ำของชื่อนางเอกไม่เปลี่ยน เธอมีชื่อว่า เส้นด้าย

607 Nameless Fanboi Posted ID:R4IQkr5PCp

>>606 ทำไมอ่านแล้วได้กลิ่นกาววะ

608 Nameless Fanboi Posted ID:tumXGwUC9n

>>606 อยากหนีปัญหาหัวใจ เลยมาทำงานกับหนุ่มหล่อ

Genius

609 Nameless Fanboi Posted ID:oIgnT.w0B1

>>606 เรื่องล่าสุดคือนางเอกชื่อยูแอล ในเซ็ต 7'x นะ กูตามนางอยู่ แต่ก็อ่านๆ ไปงั้น ไม่รู้จะอ่านอะไร เลิกซื้อมาสักพักแล้ว ยิ่งอ่านยิ่งรับนิสัยนางเอกบางเล่มไม่ได้ ล่าสุดกูรู้สึกเสียใจ แถมเสียดายเงินมากกก อ่านไปอ่านมา กลางเรื่องนางเอกแม่งยอมผู้ชายไปหมด ส่วนกูที่เป็นคนอ่าน นี่แทบจะอยากเอาตรีนเหยียบหน้าพระเอก #ไม่ได้จะเหยียบหนังสือนะ แค่รำคาญไอ้พระเอกเฉยๆ กูก็มโนว่าเหยียบไปงั้นแหละ Sorry +กราบ ตอนนี้โยนหนังสือเข้าคลังมืดไปละ จะพยายามกลับมาอ่านในสักวัน

610 Nameless Fanboi Posted ID:FBYMQeJx+x

>>609 ล้ำกว่าอีเส้นด้าย ก็อียูแอลนี่เอง แต่ล้ำกว่าอียูแอล ต้องนักเขียนยูเอ็น เชี่ย พอละ เดี๋ยวกูโดนไล่ไปเน็ตว็อทช์

611 Nameless Fanboi Posted ID:FBYMQeJx+x

>>608 กูลืม+ จีเนียสสัดๆ 555 >>607 แตมรี่อาจดมกาวระหว่างเขียนเรื่องนี้

612 Nameless Fanboi Posted ID:eaZnNJPMVJ

แหล่งสับ https://www.dek-d.com/board/view/3885282/

613 Nameless Fanboi Posted ID:eojDfMLqfW

มา กูช่วย
https://www.dek-d.com/board/view/3885307

614 Nameless Fanboi Posted ID:ifg4N+QC5g

>>612 นิยายในทู้นี้ทั้งหมดยังไม่เคยโดนสับใช่ไหม ถ้าใช่เดี๋ยวจะเลือกมาสับดู

615 Nameless Fanboi Posted ID:ynZZOb5OOe

เส้นด้าย กูนึกถึงพยาธิ

616 Nameless Fanboi Posted ID:QeILogSUYo

ทำไมวันนี้มันเงียบๆ วะ ก่อนหน้านี้ไหลยังกะน้ำลงท่อ

617 Nameless Fanboi Posted ID:h.E/vzFuok

กูว่าชื่อเส้นด้ายยังธรรมดานะ แต่จำได้ว่าเจ้าตัวเคยพูดไว้มั้งว่าตั้งชื่อแปลกๆ คนจะได้จำได้ เอ้า จำได้แค่ชื่ออ่ะดิ แต่ตัวละครมาแบบเดียวกันหมด เหมือนเอาตัวเก่ามาเปลี่ยนชื่อ 555

618 Nameless Fanboi Posted ID:l.xG7EHB.N

ข้างบนกูจิ้มอ่านแล้วมีแต่เรื่องน่าเบื่อว่ะ บางเรื่องเขียนพออ่านได้ก็จริงแต่มันไม่สนุกสำหรับกูเลยไม่รู้จะทนอ่านทำไมซอรี่ด้วย ไปเข้าบอร์ดหาประเด็นหนุกๆแม่งก็มีแต่กระทู้ถามเรื่องซ้ำซากกับกระทู้ไร้สาระเยอะจังวะ

619 Nameless Fanboi Posted ID:KOKvKe1jQ5

>>618 ทำใจเถอะ จะหยิบนิยายฟชล. ธวล. ออร. มอบ. เดี่ยวโดนไล่ไปตั้งมู้ใหม่อยู่ดี บอร์ดปิดเทอมนึกว่ามีอะไรน่าสนุก ปรากฎว่าน่าเบื่อกว่าช่วงเปิดเทอม

620 Nameless Fanboi Posted ID:XvCxsUEkcO

กู 614 จะมาสับนะ แจ้งไว้ก่อน กูอ่านเท่าที่อยากอ่าน แต่จะแจกแจงส่วนที่กูรู้สึกแหม่งๆ กูอาจเขียนผิดบ้างเพราะพิมพ์ในมือถือ
https://my.dek-d.com/Lavenderblues/writer/view.php?id=1874240
Rosemary(สถานะ : ยังไม่จบ และกูก็อ่านไม่จบ)
เซ็ตติ้งยุโรป กูอ่านไปถึงตอน 5 ซึ่งน่าจะอยู่ในช่วงปูพื้นอยู่เลย เส้นเรื่องก็เลยยังไม่รู้ แต่เท่าที่อ่านในหน้าแรกน่าจะเกี่ยวกับตัวเอกที่ไปทำโน้นทำนี้กับตลค.อื่นประมาณนั้น ถ้าถามว่าทำไมกูไม่อ่านให้หมด ขอบอกตามด้านบนกูอยากหยุดเมื่อไรก็หยุด
ตอนที่ 1
เล่าเรื่องของครอบครัวตัวเอกชื่อโรสแมรี่ โดยปูพื้นจากพ่อไปพบรักแม่ยันมีลูก(โรสนี้แหละ) ซึ่งกูคิดว่ามันเขียนเกินจำเป็นไปบ้าง การบรรยายก็เหมือนเขียนเรียงความ กูไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมเท่าไร ต่อ คือวันนี้เป็นวันเกิดหนูโรส(มันบรรยายว่าเธออายุได้ 5 ขวบแล้ว และวันที่ 14 มีนา เป็นวันเกิดหนูโรส กูเลยงงๆว่า 5 ขวบหรือ 6 ขวบกันแน่) ต่อ แม่เล่านิทานให้โรสฟังก็แบบ เออ แม่เลือกนิทานโหดดีเนอะ(นิทานอารมณ์โรมิโอจูเลียต ตัวเอกตายตอนจบ) โรส 5-6 ขวบ ก็พูดเลย หนูจะไม่มีคู่ครองค่ะแม่ (ตรงนี้ส่วนตัวกูว่าใช้คำว่าคนรัก แต่งงาน อะไรแบบนี้ดีกว่า คู่ครองมันอารมณ์เจ้าหญิงไงไม่รู้) แล้วเรื่องก็บรรยายว่ามีคนปริศนาเข้ามา(กูนี้เลิกคิ้ว เล่นงี้เลย?) คนที่เขามาเป็นแม่นม เข้ามาก็ทำนู้นทำนี้ จบ
เป็นบทนำที่ยังไม่เห็นจุดประสงค์ของตัวโรสแม้แต่น้อย แต่พอได้ ที่ดีคือชื่อยังเป็นชื่อที่มนุษย์ใช้กัน ไม่ใช่ยูเรีย เรเดี่ยน หรือชื่อแตมรี่สไตล์ ส่วนสองแม้บรรยายจะบรรยายแข็งๆ แต่ก็ยังพอเข้าใจ มีจุดงงบ้างประปราย ดังนั้นไปต่อ
ตอน 2
งานวันเกิดผ่านพ้นไป มีบรรยายแม่เข้ามาหาโรสที่ห้องนอน ก๊อก ก๊อก โรสหันไปต้นเสียง(กูจั๊กจี้ มีความนิทานภาพเบาๆ) โรสถามว่าพ่อไปไหน แม่บอกไปรบ(เออ พูดตรงๆเลยเหรอ ไม่มีแบบพ่อไปทำธุระ ยุ่งนิดหน่อยไรงี้ บอกตรงๆเลย? ไม่เป็นไร แม่อาจเป็นคนตรงๆ) ต่อ โรสขอให้แม่ร้องเพลง แม่ก็ร้องแล้วก็ขึ้นเนื้อเพลงมาด้วย(กูไม่แน่ใจว่าคนเขียนแต่งเองเปล่านะ) จบ
บทนี้ไม่ค่อยมีอะไร
ตอน 3 เดี๋ยวมาต่อ...

621 Nameless Fanboi Posted ID:cGGOsaLkDR

>>620 กูว่าถ้านิยายเรื่องนี้เป็นแนวคอมเมดี้ ถ้าพ่อนางเอกตาย แม่มันคงบอกว่า "โรส พ่อมึงตายแล้ววว" จากนั้นก็กรีดร้องแบบ Scary Movie

622 Nameless Fanboi Posted ID:8VKSd.6ZfK

เดี๋ยวนะ อีนางเอกชื่อยูเรียกูคุ้นมากเลย เรื่องไรวะ

623 Nameless Fanboi Posted ID:m7niisoXDM

>>620 ได้ฤกษ์มาต่อ
โรสแมรี่ ตอนที่ 3
กูลืมเล่าจุดหนึ่งของตอนที่สอง คือตอนท้ายโรสเดินลงมาเจอแม่ร้องไห้ พอตอนสามก็เฉลย พ่อนางตายแล้วจ้า โรสก็น้ำตาไหล แล้วก็ตัดไปหลายวีนต่อไป จัดงานศพพ่อแล้ว บรรยายว่ามีงานศพอย่างสมเกียรติ(พวกคนตวต.จัดงานศพสมเกียรติด้วยหรือ ไม่ใช่ว่าเข้าโบถส์ ฝัง คนมาร่วมไว้อาลัยแค่นั้น?) ต่อ ตอนนี้ค่อนข้างมีสำนวนไทยๆเข้ามา โรสปลอบแม่ที่ร้องไห้คิดว่าเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา(หนูลูก เด็ก 5 ขวบ บ้านแฮปปี้ รู้จักคำนี้แล้วหรือ คือเด็กอาจจะฉลาด แต่กูคิดว่าอารมณ์เด็กอะ มันยังบริสุทธิ์ ยังไม่น่าเข้าใจการเศร้าจากความตาย กูแนะนำว่าเป็นอารมณ์ไม่ซับซ้อน หนูจะไม่ได้เจอพ่อแล้วหรือ แง แบบนี้มากกว่า) ต่อ แล้วโรสก็นึกถึงพ่อที่นั่งศาลาด้วยกัน(ตวต.มีศาลา?) นึกถึงคำสัญญาต่างๆนานาของพ่อ แม่ก็เข้ามากอด โรสบอกว่าพ่อผิดสัญญากับหนู ประมาณว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไปอะนะ
โรส : พ่อผิดสัญญาหนู(ได้ข่าวว่าตอนพูดกับแม่ตอนแรกแทนตัวเองว่า'ข้า' เด็กลำเอียงงงง)
แม่ : แล้วหนูให้อภัยพ่อไหมจ้ะ
โรส : หนูให้อภัยค่ะ
(...แล้วพูดขึ้นมาเพื่อ ก็นึกว่าแกจะโกรธ)
แม่ก็บอกดีมากจ้ะ แล้วก็บอกว่าพ่อไม่ได้ไปไหน พ่อเขายังอยู่ในนี้~ ชี้ไปที่อกข้างซ้าย(ควรเอาคุณแม่ไปโรงพยาบาลด่วน เสียใจจนสติหลุดแล้ว)
ต่อตอน 4 เลยนะ เพราะเนื้อเรื่องมันเชื่อมกัน(กูไม่รู้ว่าเขาจะซอยตอนทำไม)
แม่ลูกก็ซึ้งๆกัน แล้วก็ตัดไป 11 ปี ตอนโรสโตเป็นสาวสวย(อายุ 16-17 กูยังไม่แน่ใจ) พวกนางเล่นเปียโนกัน ร้องเพลงเดิมกับที่แม่เคยร้องให้ตอนเด็ก(จะมีปมไรเปล่าวะ) แม่นมมา โรสเข้าไปกอด แม่นมชมว่าโตแล้วสวย(แม่นมดูจะไม่ค่อยอยู่บ้าน)
แล้วคำว่า'บุคคลปริศนา'ก็โผล่มาอีกแล้ว คร่าวนี้เป็นหมอ หนูโรสเห็นหมอแล้วตกใจสุดขีด(อะไร หนูโรสมีอดีตฝังใจกับหมอหรือ) โรสบอกว่าเธอกลัว แล้วหมอก็บอกว่า แม่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย อยู่ได้อีก 2 สัปดาห์(ว๊อท เดอะ... โรสแม่งอ่านใจคนได้ พีคในพีค พีคยิ่งกว่า ถ้าลองกลับไปอ่านคำโปรยมันมีทั้งคำว่าเจ้าชาย แม่มด คือยุคแนวนั้นมันมีคำว่ามะเร็งด้วย?แถมหมอเก่งขนาดบอกเวลาตายแน่นอนได้เหมือนหมอปัจจุบัน เก่งตั้งแต่ยุคนั้นคงไม่มีกาฬโรคระบาด อหิวา ลักปิดลักเปิด) ต่อๆจากนั้นแม่ก็คิดว่าถึงโรสจะโตแล้วแต่ในสายตายังเป็นแค่เด็กอายุ 6 ขวบ(เลี้ยงฉลอง กูรู้อายุนางแล้ว) จากนั้นกูตามเสต็ปแม่ก็ตาย
สรุป ความรู้สึกอยากอ่านของกูหยุดแค่ตรงนี้(ตั้งแต่รู้อายุหนูโรส ผิดๆ) แต่ก็ลองไปเปิดตอนหน้าๆคร่าวๆบ้าง เขียนขอเสียเป็นข้อๆดังนี้
-บทนำไม่ทำให้รู้ว่าตัวเอกกำลังทำอะไร และเรื่องกำลังดำเนินไปทางไหน ที่จริงมันก็สามารถเล่าไปเรื่อยๆได้แต่การเขียนแบบนั้นต้องมีการบรรยายที่มีแรงดึงดูด แนะนำให้ไปหาเรื่องสั้น นิยายลึกลับ นิยายslice of life อย่างเรื่องสั้นของสรจักร อันนั้นเล่าจากหนึ่งไปสิบได้น่าติดตามมาก
-การนำเสนอไม่ค่อยกระชับ มีน้ำด้วย แต่ที่กูอยากบอกคือให้เอาการบรรยายบ้างส่วนไปใส่ไว้ช่วงอื่นๆ เช่น อย่างในเรื่อง ถ้าเล่ามาว่าพ่อแม่มารักกัน หลังจากมีโรสปุ๊ปกูจะตัดเขาประเด็นหลักเลย อาจจะไปบ้านญาติ ไปเจอผีผู้หญิงก็ว่าไป แต่ช่วงนั้นกูก็จะบรรยายไปว่าพ่อแม่ตายยังไง โรสเสียใจแบบไหน คนอ่านจะได้เห็นแกนหลักของเรื่อง กูมั่นใจว่าเรื่องพ่อแม่ตายนักเขียนไม่ได้อยากเอามาเป็ประเด็นหลักหรอก แค่อยากให้ตัวเอกของตัวเองมีปมเฉย พ่อแม่เป็นแค่ตัวประกอบ การใช้ตัวประกอบที่ดีก็คือหยอดมาทีละนิดนานๆครั้ง ไม่ใช้แล้วทิ้ง
-ภาษาไม่คงที่ บางคำไม่เข้ากับเซ็ตติ้งนิยาย ซึ่งส่วนนี้ถ้ามันชัดเจนมากๆ(อย่างศาลา)ค่อนข้างกระทบกับความอยากอ่าน
-ตัวละครอารมณ์กลับไปกลับมา อย่างหนูโรสจากตอนแรกที่คิดว่าเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดาในตอน 6 ขวบ กลับมากลัวหน้าหมอของแม่(แบบวิตกจริต)ในวัย 17 ปี
-ตัวละครเด็กเป็นตัวละครที่ต้องใส่ใจกับความคิดหน่อย เพราะเด็กไม่เหมือนผู้ใหญ่ ควรศึกษาพฤติกรรมเด็กดีๆ(ตรงนี้กูอาจบอกอะไรไม่ได้มากเพราะกูก็ศึกษาอยู่)
-ใช้ภาษาแข็ง หลายครั้งอ่านแล้วสดุด
-ทำไมต้องบรรยายว่าเอามือแตะอกข้างซ้ายบ่อยๆ แล้วเป็นหลายตัวละครไม่ใช้ความเคยชินของตัวละครเดียว
ข้อดี
-ชื่อไม่น่าปวดเฮด
-นอกจากโรส คาร์แม่กับแม่นมค่อนข้างคงเส้นคงวา
-เขียนค่อนข้างรู้เรื่อง มีไม่ชัดเจนในบ้างจุดเท่านั้น
-ไม่มีบรรยายสีผมสีตาพรำเพรื่อ (แต่ตอนบรรยายพวกสีผมสีตาใช้ภาษาแข็งไปหน่อย)
-(คิดไม่ออกแหละ)
งั้นจบแต่เพียงเท่านี้ ว่างๆจะมาสับเรื่องอื่นเพิ่ม บาย

624 Nameless Fanboi Posted ID:3qjsA0xWYM

มันเงียบเหงา นี่ปิดเทอมหรือเปิดเทอมจ๊ะ น่าจะเอามุกสูบบุหรี่จากมู้ที่แล้วมาเล่นอีกรอบ แม่ง มู้เดินเพราะไอ้สูบบี่หรี่นี่แหละ

625 Nameless Fanboi Posted ID:h2AFxDgseK

>>624 มุกไรอะ ชี้ทางหน่อยจะกลับไปเสพ

626 Nameless Fanboi Posted ID:m7niisoXDM

>>622 จำไม่ได้แล้ว คุ้นๆว่ามาจากโม่ง

627 Nameless Fanboi Posted ID:0.cUqTFArH

เคนชิโร่ไง ยูเรีย

628 Nameless Fanboi Posted ID:Q6c4Fk2R/I

ช่วงนี้เนือยๆจริงว่ะไม่มีนิยายสนุกๆให้สับ กระทู้โง่ๆโผล่เต็มบอร์ดหาสาระไม่ได้ ดราม่ามันๆก็ไม่มีให้เผือก ว่าไปไอ้แข่งเขียนนิยายติดท็อปไปถึงไหนแล้ววะ

629 Nameless Fanboi Posted ID:yC2nXOa5H/

>>625 มาจากมู้เก่า มีคนสับนิยายซักเรื่องนี่แหละ แล้วแปลงฉากสูบบุหรี่พ่นควันกันสนุกสนาน เหมือนแม่งยัดกัญชาแล้วเมาควันหลงกันทั้งมู้

630 Nameless Fanboi Posted ID:9GnH1tPvdc

อยากอ่านแนวสืบสวนหรือทริลเลอร์มีแนะนำบ้างป่ะในเด็กดีอ่ะ

631 Nameless Fanboi Posted ID:h2AFxDgseK

>>630 มีแต่กูไม่อยากแนะนำเลย แต่ละเรื่องกากๆ ทั้งนั้น เดาทางง่าย เลียนแบบทริคที่เคยมีมาก่อนแล้วยืมมาโต้งๆ ฝีมือไม่ถึงขั้น ถ้าอยากอ่านจริงๆ แนะนำไปนาโร่ยังจะดีกว่า

632 Nameless Fanboi Posted ID:KOKvKe1jQ5

>>628 ไม่กี่วันก่อน มีคนตั้งกระทู้ถามรัวชิบหายเลย น่าจับมาอยู่โม่งมากกว่า จะได้หายเหงา

633 Nameless Fanboi Posted ID:CgtWEqKsov

>>632 เออ อยู่โม่งหายเหงาจริง จับมา 55

634 Nameless Fanboi Posted ID:h2AFxDgseK

>>632 ไอ้กาแฟไทยป่ะ ตั้งกระทู้จนติดอัน 1 คะแนนบอร์ด กูละเชื่อเลย

635 Nameless Fanboi Posted ID:DQUQiBVSoe

อาทิตย์หน้าจะเปิดเทอมแล้ว กูจะมีเวลาว่าสับรึเปล่าวะ

636 Nameless Fanboi Posted ID:v09r/qukSw

>>634 มันตั้งซะกูนึกว่าเป็นอีเหมียว 2

637 Nameless Fanboi Posted ID:yU/8syurfz

พี่ถุยฝากสับ 2 ตอนงับเพื่อนโม่ง

https://www.dek-d.com/board/view/3886325/

638 Nameless Fanboi Posted ID:tq5Dx3Jzcz

>>637 ยังคงไม่ทิ้งเรื่องการโพสรูปวาด นี่มันซิกเนเจอร์ของพี่แกจริงๆ

639 Nameless Fanboi Posted ID:Czwr.XDVzb

>>637 เลิกเขียนไซไฟแล้วสินะพี่ถุย

640 Nameless Fanboi Posted ID:BZqvivGnwa

>>637 ภาพสวยดีนะ ลงสีแล้วอารมณ์นิยายแปลโอดสคูลนิดๆ น่าจะเอาดีด้านนี้

641 Nameless Fanboi Posted ID:xKSDMka8fy

>>640 มึงคิดงี้จริงหรือประชดวะ มึงไปเสพปกนิยายแปลงามๆบ้างนะ

642 Nameless Fanboi Posted ID:QkVCPO2w9g

>>640 expression กับ anatomy ยังดูแปลกๆง่ะ แต่ถ้ามองให้เป็นงานแบบ abstract ก็พอได้นะ

643 Nameless Fanboi Posted ID:gU6CaFYtcj

>>637 กูว่ากูชอบรายละเอียดในรูป องค์ประกอบต่างๆ ในรูป อนาโตมี่ยังดูแปลก แต่มันคือดีเว้ย วาดออกมาได้น่ามอง ถ้าปรับเรื่องอนาโตมี่อีกหน่อยก็เป็นงานดีๆ งานนึงเลยนะ ฝึกลงสีแสงเงาก็สวยแล้ว

644 Nameless Fanboi Posted ID:sMbUNHPAq3

>>637 ตอนแรกต้นๆ คำฟุ่มเฟือยยังเยอะอยู่ เวลาบรรยายแบบตั้งใจเป็นทางการนิดมันไม่กระชับไม่ทันใจนักอ่านสมัยใหม่แล้ว ช่วงหลังก็ดูไหลลื่นขึ้น แต่เนื้อเรื่องยังไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรมาก ยังไม่ถึงกับน่าติดตาม ใช้บทสนทนาโต้เถียงไร้สาระกันเยอะไปหน่อย เนื้อเรื่องเอาจริงๆ ยังจับไม่ถูกว่าต้องการสื่ออะไร นักอ่านปกติเขาเปิดมาไม่ได้ตั้งใจอ่านมากหรอก ต้องมีจุดที่ทำให้คนอ่านโฟกัสให้มาก เท่าที่อ่านจำได้แค่หีบทอง ทรยศ ไพ่ แค่นั้นแต่ในความรู้สึกมันเป็นอะไรที่โดดออกมาไม่เชื่อมต่อกับเนื้อเรื่อง ควรจะเขียนให้อ่านง่ายขึ้น การจะส่งข้อมูลอะไรให้นักอ่านไม่ควรรีบร้อนอัดเข้าไป ค่อยๆ ป้อน ทีละเล็กทีละน้อยให้นักอ่านจำได้ ถ้าอัดเร็วไปนักอ่านจำไม่ได้เขาก็จะเชื่อมโยงเนื้อเรื่องหรือความต้องการของคนเขียนไม่ได้ จุดไหนจะเชื่อมกับเนื้อเรื่องต่อก็ย้ำไว้ ทำให้เด่นไว้ ทำให้หาง่าย พอเนื้อเรื่องใหม่มาถึงนักอ่านจะได้ร้อง อ้อ อย่างนี้เอง ถ้าอ่านอันแรกไม่รู้เรื่อง อ่านอันหลังก็จะไม่รู้เรื่องตามไปด้วย

สำนวนไม่ถึงกับแย่นะ มันก็พอไปได้ แต่การเล่าเรื่องต้องปรับปรุงสักหน่อยให้อ่านง่ายเข้าใจง่ายขึ้นกว่านี้ หรือจริงๆ มันยังไม่มีอะไร สู้กันกับอธิบายระบบเฉยๆ แต่ถ้าเป็นแบบนั้นก็ปูนานเกินไป อาจจะมีความพยายามสร้างจุดพีคเล็กๆ ในตอนด้วยบทสนทนา แต่รู้สึกว่ายังฝืดอยู่หน่อยแล้วมันกลบเรื่องระบบหรืออะไรที่อยากอธิบายในตอนนั้นๆ พวกการเล่าเรื่องนี้มันยืดหยุ่นไม่ตายตัวหรอก เล่าแบบที่เป็นอยู่นี้ก็ได้แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงจุดที่รู้สึกว่า ว้าว สนุกจัง แต่ก็ต้องมองจุดประสงค์การแต่งด้วยแหละนะว่าต้องการให้ไปถึงไหน บางคนอยากแต่ง บางคนอยากได้รับการยอมรับ บางคนอยากตีพิมพ์ บางคนอยากขายออก งานสามอย่างหลังมีจุดร่วมเหมือนกันอย่างคือต้องให้คนอ่านสนุกไปกับงานด้วย ดังนั้นมุมมองคนอ่านกับคนเขียนอาจจะไม่เหมือนกัน ถ้ายังไม่ได้มีงานออกเป็นชิ้นเป็นอัน เวลาคนเขียนคิดว่านี่มันโอเคแล้ว แปลว่า มันกลางๆ ดาดๆ ไม่ได้มีดีอะไร ต้องเขียนจนรู้สึกว่า นี่มันเจ๋งไปเลย มันอาจจะเข้าขั้นดีขึ้นหน่อย ถ้าอยากวัดระดับจริงๆ ก็วัดกับงานที่ออกเล่มแล้วขายดีนั่นแหละ ถ้ามีความรู้สึกว่างานเราสู้ได้ ตอนนั้นงานน่าจะโอเคระดับหนึ่งแล้ว (ถ้าไม่อคตินะ) แต่ถ้าเห็นแต่ข้อเสียนั่นนี่เต็มไปหมด ทำไมเขาได้พิมพ์เล่มแล้วขายดีวะ แบบนั้นไม่ต้องคิดแล้ว กลับไปเขียนตามใจตัวเองดีกว่า ถ้าปรับทัศนคติไม่ได้มันยากจะเข้าใจมุมของคนอ่านทั่วๆ ไป

645 Nameless Fanboi Posted ID:kTGusauXyC

>>644 โม่งคนอื่นช่วยสรุปอันนี้สั้น ๆ ได้ไหม คำพูดคำจาเหมือนป้าที่ชอบสอนในบอร์ด

646 Nameless Fanboi Posted ID:sMbUNHPAq3

>>645 ถ้าขี้เกียจอ่านก็ข้ามไปก็ได้ เห็นเจ้าของเรื่องแวะมาเล่นบ้างก็เขียนความเห็นไว้ให้เจ้าของเรื่องอ่าน คนเราถ้าอยากให้คำวิจารณ์ก็ต้องบอกรายละเอียดของปัญหาเขาบ้าง จะให้สรุปสั้นๆ ว่า สำนวนพอได้แต่เขียนยังไม่ดี จบแค่นี้ก็ได้แต่คนเขียนจะเห็นปัญหาหรือเปล่า วันๆ นึกแต่ว่าโม่งคนนั้นคนนี้เป็นใคร คนนี้ม้าไหม ไม่เกิดประโยชน์กับตัวเองหรอก หรือว่าถ้าได้คิดได้เดาแล้วมีความสุขก็ทำไปก็ได้นะ จะพยายามเข้าใจแล้วกัน

647 Nameless Fanboi Posted ID:f7egX1no39

>>645 +1 ใช่ป้าคนเดียวกับที่กูคิดรึป่าวบิบิ >>646 มึงไม่ต้องนอยด์ สำนวนมึงเวิ่นจริงๆนะกูหวังดีเลยอยากบอก กูวิจารณ์ที่มึงวิจารณ์บ้างไม่ได้รึไง ถ้าใครมาต่ออีกคน ก็จะเป็นมันวิจารณ์กูที่วิจารณ์มึงที่วิจารณ์พี่ถุย เครป่ะ

648 Nameless Fanboi Posted ID:sMbUNHPAq3

>>647 -2 ได้ แต่ป้าอะไรนี่ไม่ใช่หรอก ไม่เคยแสดงความเห็นในบอร์ด วันๆ ข่มกันไปข่มกันมา จ้องแต่จะจับผิดคนอื่นบางทีก็ไม่ทำความเข้าใจในสิ่งที่เขาจะสื่อ เห็นแล้วรู้สึกว่าไปตอบในนั้นจะเปลืองตัวเลยมาตอบในโม่งแทน

649 Nameless Fanboi Posted ID:tiSYD4UQF6

กุอ่านแล้วรู้สึกว่ามีประโยชน์ดี ขอรับไปใช้กับนิยายของตัวเองแล้วกัน แต้งส์

650 Nameless Fanboi Posted ID:S5Z+6OCS9I

>>647 กูว่าไม่ใช่ เชื่อกูเถอะว่าไม่ใช่

ส่วน >>644 เวิ่นไม่เวิ่นกูไม่รู้ แต่กูตาลาย ตัวหนังสือติดกัน อ่านจนถึงกลางๆ บรรทัดก็ขอปัดผ่านอะ มึนๆ งงๆ

651 Nameless Fanboi Posted ID:O8i+Aonzf6

>>644

เรียนผู้วิจารณ์ที่เคารพ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตามแต่

อย่างแรกขอขอบคุณมากครับ ผมคือ Louis Forest เองนะครับ เบื้องต้นผมเห็นปัญหาตามที่แนะนำมาแล้วครับ แต่ก็สบายใจครับ เพราะจากที่คะเนดูทุกอย่างดูแล้วไม่ใช่ปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ ผมจะเอาไปปรับแก้แน่นอนครับ อธิบายเล็กน้อย ตัวผมเขียนนิยายมาสามปี ก็แล้วจากคนที่เป็นเด็กนอกวาดรูปลงบอร์ดแล้ว มีมาม่าก็หลายชาม แต่ผมสรุปได้ว่านี่น่าจะเป็นสำนวนที่ผมจะใช้จากนี้ไปครับ มันจะศัพท์ฟุ้งและคำสิ้นเปลืองหน่อย แต่ว่าผมคิดว่ามันมีพลวัตและเป็นกิจจะลักษณะดีครับ คงไม่เหมาะกับคนยุคดิจิตัลเท่าไหร่ แต่ผมคิดว่า 'voice' มันเป็น Louis Forest ดีครับ พอดีผมเป็นคนยุค 90s
ก็เลยมีอะไรถ่ายทอดออกมาตามประสบการณ์ จะไปปรับหาเด็กยุคใหม่ มันก็จะเหมือนขนุนออกผลย่อกิ่งให้ลิงเก็บเสียมากกว่า แถมมีคนทักบอกว่าผมเขียนเหมือน Season Cloud ผมไม่รุ้จักแฮะ ก็เพิ่งเข้ามาที่นี่สามปี ก็กะว่าจะไปค้นดูสักหน่อยว่าเป็นใครและเขียนยังไง หรือป่าพนาจะเทียมเท่าเมฆเมฆาได้แล้ว?

>>646 ผมก็แวะมาอ่านบ้างจริงจริงนั่นแหละครับ ผมเองเป็นคนหนึ่งที่ไม่ชอบมุกม้านะ พอดีเป็นคนชอบปล่อยมุกควาย

652 Nameless Fanboi Posted ID:xOJuLc7fy+

>>644 กูทักว่าเป็นป้าหลอกไปก่อนโว้ยมึง มีคนตามน้ำก็คืองับเหยื่อกูละ ขอตัดตัวเลือกทิ้งไป
คิดว่าสำนวนทอมแบบนี้ มีอยู่สองคนในหัวกูละ ไม่ L ก็ Q

ลงชื่อ เซฮุน ผู้ปราบม้าและวิดสวะ

653 Nameless Fanboi Posted ID:f7egX1no39

กูสงสัย นักเขียนเข้ามาตอบโม่งนี่โอกาสมีมากน้อยแค่ไหน แบบถูกพูดถึงปุบก็โผล่มาทันที ต้องส่องทุกวันหรือมีใครส่งข้อความไปบอกหรอ ม้ามั้ย?

654 Nameless Fanboi Posted ID:+7Um6n+RBP

กูเองก็เป็นขาประจำบอร์ดคนหนึ่งเหมือนกัน แต่กูมาที่นี่บ่อยกว่าไม่รู้ทำไม 555555

655 Nameless Fanboi Posted ID:O8i+Aonzf6

>>653 ผมให้ข้อมูลผมได้ครับ เมื่อวานคืนวันศุกร์ผมตั้งกระทู้ วันนี้บ่ายวันเสาร์ผมแวะมาดูโม่งครับ ไม่มีใครส่งข้อความครับ

656 Nameless Fanboi Posted ID:ahONNAkfSv

เขียนแฟนตาซีเว็บแต่จะไม่รู้จัก Season clound ซักหน่อยเลยจริงดิ ถ้าพูดถึงนักเขียนแฟนตาซีที่ดังขึ้นมาจาก ดด แล้วยังมีผลงานออกมาต่อเนื่องนี่มันมีไม่กี่คนเองนะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะรุ่นเดียวกับมาซารันแต่มาหลังกัลฐิดา สามคนนี้นี่สถาพรแทบจะเลียไข่ให้ออกหนังสือ เขียนห่าอะไรก็ขายได้หมด

657 Nameless Fanboi Posted ID:xOJuLc7fy+

>>656 ถุยมันเขียนนิยายได้สามปี ครึ่งหนึ่งของระยะเวลานั้นก็ป่วนบอร์ดกับวาดรูปเป็นส่วนใหญ่
ให้กูเดามันคงรู้จักแค่คนในบอร์ดนั่นแหละ

อีกอย่างเปรียบสำนวนกับของ Season Cloud ความเห็นของกูนะ แสดงว่าไม่ได้ดีอะไรหรอก เพราะ SC พึ่ง บก เยอะ มันไม่ใช่นักเขียนที่มาจากการเป็นคนอ่าน ออกจะเป็นพ่อค้าขายพล็อตมากกว่า

658 Nameless Fanboi Posted ID:Tr/+3hlU5g

ห๊ะ กูป้าเอง กูไม่ได้เข้าเด็กดีมาสองปีละนะ ในโม่งก็ไม่ได้มากแสดงความคิดเห็นอะไร จู่ๆโดนพาดพิง งงเลยกูกูไม่ได้ใช้ชื่อป้านานจนลืมไปแล้วเนี่ยว่าสำนวนการพิมพ์เป็นยังไง คือถ้ากูจะด่ากูไม่ยาวเยิ่นเย้อนะ กูด่าตรงๆเลย ในนี้ที่กูสับไว้ก็มี ถถถถ

659 Nameless Fanboi Posted ID:hMENvQxx+/

>>656 กูไม่ได้เข้าเด็กดีบ่อยๆ ไม่เคยอ่านงานเขาด้วย กูยังรู้จักเลย ดังพอตัวนะนั่น เคยออกงานกับสถา ส่วนตอนนี้ย้ายออกมาทำเองในนามของแฟนตาเซียที่ร่วมกับอดีตนักเขียนสถาคนอื่นๆอย่างกัลฐิดาหรือวีรอนเดลแล้วนะ

660 Nameless Fanboi Posted ID:3FjXN/YG/R

>>659
ม้าไม่ม้ากูไม่รู้ แต่ออกตัว
1. กูไม่ได้เข้าเด็กดีบ่อยๆ
2. ไม่เคยอ่านงานเขาด้วย
3. และอวยว่า: กูยังรู้จักเลย ดังพอตัวนะนั่น
4. แล้วรู้จักชีวิตความเป็นมาเขาด้วย: เคยออกงานกับสถา ส่วนตอนนี้ย้ายออกมาทำเองในนามของแฟนตาเซียที่ร่วมกับอดีตนักเขียนสถาคนอื่นๆอย่างกัลฐิดาหรือวีรอนเดลแล้วนะ

ตรวจฉี่ก็พบสีม่วงเมิง

661 Nameless Fanboi Posted ID:tiSYD4UQF6

กุจำได้แต่ เซวีน่า บารามอส ไวท์โร้ด

662 Nameless Fanboi Posted ID:hMENvQxx+/

>>660 เอ้า กูแค่พูดส่วนของกูเฉยๆ ม้าก็ม้าวะ ถึงกูจะไม่เคยอ่านงานเขาจริงๆก็เถอะ กูไม่มีชื่อนิยายมันในหัวซักเรื่อง บางอย่างก็รู้อย่างแฟนตาเซียเพราะในโม่งก็มีพูดถึงบ่อย พูดง่ายๆ กูรู้จักเรื่องส่วนใหญ่จากโม่งนั่นแหละ แต่เอาเถอะ ตามแต่มึงจะสบายจา~ย 555

663 Nameless Fanboi Posted ID:lLOczOelAC

>>661 เซวีน่ามันก็กัลฐิดามั้ยล่ะ บารามอสก็แรบบิทเลิกแต่งนิยายไปเป็นสิบปีได้แล้วมั้ง ส่วนไวท์โร้ดก็เป็นอันรู้กันหรือมึงตกข่าวไม่ได้อ่านว่าแม่งได้รับคำสรรเสริญชื่มชมขนาดไหน
ที่มึงยกมานี่ ดด รุ่นโคตรเก่ามาก ใจคอจะอ่านแต่นิยายยุคนั้นอย่างเดียว ไม่ไปเดินงานหนังสือ เข้าร้านหนังสือยุคปัจจุบันหน่อยเลยรึ

สมัยนี้เด็กดีอ่านในมือถือได้ด้วยนะแก รู้ยัง เก๋ไก๋อ่ะ ไอโฟนออกมาสิบรุ่นแล้วด้วยแต่สตีฟจ๊อปอยู่ไม่ทันเห็นอ่ะ เขาเสียแล้วนะเผื่อแกยัังไม่รู้...

664 Nameless Fanboi Posted ID:+7Um6n+RBP

ดะไวท์โร้ดนี่เป็นจุดด่างพร้อยในชีวิตวัยเด็กของกูเลยนะ พอโตขึ้นมาหน่อยเป็นวัยรุ่นแล้วสำนึกได้ว่านิยายนี้โคตรเหี้ย กูต้องแอบเอาไปทิ้งที่ห้องสมุดประชาชนหมู่บ้านข้างๆ เลยทีเดียว

665 Nameless Fanboi Posted ID:E5/tScjj/h

>>664 กูสงสารคนหมู่บ้านข้างๆ

666 Nameless Fanboi Posted ID:UF1UwvR7Fm

>>664 เหี้ยขนาดนั้นเลยเหรอวะ

667 Nameless Fanboi Posted ID:tiSYD4UQF6

>>663 สมัยนั้น เดอะลอร์ด กับ แฮรี่ดังเลยสนใจหาอ่านนิยายจนเจอกับเว็บเด็กดีเลยรู้จักสามเรื่องที่ว่า ก็แต่งนิยายพักนึงก่อนจะเบื่อเลยเฟดไปเสพพวกมังงะญี่ปุ่นอยู่หลายปี หลังๆอ่านไลท์โนเวลด้วยเลยกลับมาหานิยายเด็กดีอีกครั้ง

668 Nameless Fanboi Posted ID:ahONNAkfSv

>>666 จริงๆ ถ้าเอาไปเทียบกับนิยายเว็บเด็กเขียนสมัยนี้ก็พอๆกันแหละ แต่สิ่งที่เหี้ยคือแม่งก๊อปฉากต่างๆ สถานการณ์ในเรื่องมาจากพวกเมะ พวกมังงะแบบแทบจะตัดแปะเกือบทั้งเรื่อง แล้วที่เหี้ยกว่าคือเสือกเป็นลูกคนรวยมีคอนเนคชั่นไง ออกหนังสือมาผู้หลักผู้ใหญ่ นักเขียนรุ่นเก่าชมกันเกลียวว่าไอ้เด็กนี้แม่งอัจฉริยะ คิดฉาก คิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้นมาได้ (เพราะไม่เคยอ่านการ์ตูน) แต่แม่งก๊อปตัดแป๊ะมาอย่างกะแฟนฟิค!! กูถือว่าเป็นหนึ่งในความระยำขั้นสุดครั้งหนึ่งของวงการหนังสือเลย แต่คนแทบจะลืมไปหมดแล้ว จริงๆ ห้องเน็ตวอชก็เคยพูดถึงนะด๊อกปอบเนี่ย

669 Nameless Fanboi Posted ID:tiSYD4UQF6

>>663 จะว่าไปมึงพูดถึงขนาดนี้แล้วไม่แนะนำแฟนตาซีไทยยุคปัจจุบันเด็ดๆให้กุสักหน่อยเหรอ ถ้าเป็นเล่มด้วยก็ดี

670 Nameless Fanboi Posted ID:ddsspoyKl3

>>669 แปะไม่ได้ กลัวกลายเป็นม้า

671 Nameless Fanboi Posted ID:vx2X.CF49q

เดี๋ยวแม่งก็ม้าโฟเบียกันอีกรอบหรอก

672 Nameless Fanboi Posted ID:kMqckFq9+o

>>669 ไม่ม้า แต่เป็นแฟนขับเดนตาย ฮรือ ฮรือ ฮรือ
https://my.dek-d.com/ri-ne/writer/view.php?id=1376803
https://my.dek-d.com/ri-ne/writer/view.php?id=979871
https://jamshop.jamsai.com/product/3572-curse-of-lost-heaven-สาป-ล่า-สวรรค์-1
https://jamshop.jamsai.com/product/2419--who--call-for-hero---ช่วย--กลับไป--ที-คุณฮีโร่--

673 Nameless Fanboi Posted ID:kMqckFq9+o

แถม ๆ ของคนนี้ก็ชอบมาก งานเขียนเค้าเอกลักษณ์จริง ๆ
https://my.dek-d.com/lawit/writer/view.php?id=1346435
https://my.dek-d.com/lawit/writer/view.php?id=1699927

674 Nameless Fanboi Posted ID:pgvFMGvbX4

>>663 แอพเด็กดีแม่งกากหมามาก ขอระบายหน่อย กูมีเน็ตที่เล่นได้ทั้ง pubg , fate go อ่าน webtoon หรือท่องเว็บเล่นแอพอื่นๆ ได้ลื่น ไม่มีสะดุด แต่เปิดแอพเด็กดีกูต้องลุ้นแล้วลุ้นอีกว่ามันจะโหลดหน้าอ่านนิยายให้กูไหม ซึ่ง 8 ใน 10 แม่งจะโหลดไม่ขึ้นเหมือนเน็ตกูหมด ทั้งที่กูใช้เน็ตไม่จำกัดอีเหี้ยเอ๊ย

675 Nameless Fanboi Posted ID:E7ipcI9PyP

มึงว่านิยายเด็กดวดยุคนี้มีอะไรน่าจดจำอีกมั้ย นอกจากงานเขียนพวกคนเก่าเนี่ย

676 Nameless Fanboi Posted ID:J0iqaQ6dRh

>>673 ลวิตร์เนี่ยกูอ่าน แต่งานคนข้างต้น กูแบนเป็นการส่วนตัว ได้ข่าวว่ากลิ่นแรงบันดาลใจเข้มข้น

677 Nameless Fanboi Posted ID:uLxs.QoScQ

>>669 เออ นั่นสิ
คือแบบพอยกตัวอย่างในกระทู้นี้ กูเห็นแต่ชื่อนักเขียนที่เขียนมาตั้งแต่ 5-10 ปีก่อนกันทั้งนั้นเลย หน้าใหม่นี่นึกไม่ออก

678 Nameless Fanboi Posted ID:OBgTiWvHj7

>>642 abstract มันเป็นแบบนี้เหรอวะ กูเพิ่งรู้นะเนี่ย

679 Nameless Fanboi Posted ID:.VSqq0Ddae

>>678 ไม่ใช่ อย่าไปเชื่อมัน Abtract กับ Surreal แม่งไม่ใช่อย่างเดียวกัน และ Surreal กับวาดผิดสัดส่วนก็ต่างกันโข

680 Nameless Fanboi Posted ID:1q.QYjGpP2

>>679 คือกูแค่จะทักเรื่อง abstract ว่ะ เพราะกูเข้าใจอีกแบบ มึงจะสื่ออะไรเหรอ กูงง

681 Nameless Fanboi Posted ID:OBgTiWvHj7

เรื่องอีถุยน่ะ ปล่อยเบลอมันบ้างเถอะ สับนิยายก็พอไม่ต้องไปสับภาพวาดมันอีกหรอก

682 Nameless Fanboi Posted ID:1q.QYjGpP2

>>681 กูถึงพูดเรื่อง abstract ไม่ได้พูดถึงอีถุยหรือภาพมัน

683 Nameless Fanboi Posted ID:AEMHVeWu2z

>>682 กูสรุปให้ มันไม่abstract โม่งตัวที่บอกว่าใช่ มันแค่อวยิถุยหรือไม่รู้หรอกว่าabstractจริงๆเป็นไง

684 Nameless Fanboi Posted ID:E7ipcI9PyP

>>683 เอาเป็นว่าไอ้ถุยอินดี้เกินกว่ามนุษย์ปกติจะเข้าใจ

685 Nameless Fanboi Posted ID:ms8FJPTGdX

Dear fanbois,

I skipped those comments. My purpose of posting was all about my narrative choice, not my drawing, that's all I care. Although I understood what those two, or three, tried to convey earlier. I knew that It's not about abstract art, surreal art, or even figure proportion (anatomy). It's about me. Sadly, I know what is poisonous and what is venomous. Because, both poison and venom are considered toxins. Simply put: toxin is a biologically produced chemical that alters the normal function of another organism. Having said that I know what is a forum toxicity and what is a constructive criticis.

Please keep your rice to youself, giving them to me doesn't make them mine, get it? And it's good to be Louis Forest, I don't if it sux to be you or not. Peace.

Sincerely,

Louis Forest

686 Nameless Fanboi Posted ID:ms8FJPTGdX

Typo: Constructive Criticism**

687 Nameless Fanboi Posted ID:7dPYETe3By

เจ้าตัวมาแล้ว อินดี้ไม่สนโลกขนาดไหนมึงก็ลองคิดดูเอาเอง ล่อตอบมาเป็น Eng ในเว็บไทย ที่มีแต่คนไทยแถมใช้ภาษาไทยสื่อสาร กูไม่เข้าใจพอยต์นการใช้อังกฤษของมึงจริงๆ กูเข้าไม่ถึงว่ะ เอาเป็นว่าจะกูทำเป็นมองข้ามเรื่องที่บอกว่ามึงไม่แคร์แต่อธิบายกูซะเป็นเรียงความสามพารากราฟไปละกัน โอเคๆ แยกย้ายๆ
ปล.Reply นี้ก็ Toxic ข้ามไปๆ อย่าแคร์ ให้เหามันอยู่บนหัวกูนี่่แหละอย่าเก็บใส่หัวตัวเองมันจะคันเนาะ ถถถถถ

688 Nameless Fanboi Posted ID:NCc1XW1OSr

ย้อนกลับมาเรื่องนิยายดด. ถ้านักเขียนหน้าใหม่นี่อย่างปราปต์(คนเขียนกาหลฯ) นี่นับเปล่าวะ

689 Nameless Fanboi Posted ID:7dPYETe3By

เออกูลืมคนนี้ไปได้ไง แตปราปต์ไม่ใหม่นะ เป็นรุ่นแรกๆ ของ ดด เลยด้วยซ้ำ เคยเขียนมาตั้งแต่สมัย ดด เพิ่งจะเปิดเว็บอ่ะมึงแต่ตอนนั้นเขียนนิยายรักใส มาพีคจริงๆ ก็ตอนเปลี่ยนมาเขียนแนวจริงจังแบบกาหลฯ กับนิราศมหรรณพนี่แหละ โดยเฉพาะเรื่องหลังส่งซีไรต์แต่กูไม่แน่ใจว่าเข้าถึงรอบไหน

690 Nameless Fanboi Posted ID:wnFlQk4YB5

>>685 hmm.. kinda cheesy stuff *smh*

691 Nameless Fanboi Posted ID:UtiLWJ27Vb

>>685 เขียน essay ส่งอาจารย์ตั้งใจขนาดนี้ป่ะคะ? ทำไมต้องโชว์เทพ โชว์เหนือภาษาปะกิดด้วยอ่า? ไม่เอาผลสอบ ielts มาแปะด้วยเลยอ่ะคะ? จะได้รู้เรื่องกันไป กิกิ

692 Nameless Fanboi Posted ID:hf9Yl6+hTi

พวกในบอร์ดที่วาดรูปไม่ได้ดีเด่หรือห่วยกว่าถุยมันก็มีอยู่เยอะนะ แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้มั่นหน้ามั่นโหนกแบบถุยเลยไม่โดนว่ากัน

693 Nameless Fanboi Posted ID:7aQn/W3fO.

>>692 เห็นพวกที่แปะรูปเดิมซ้ำๆบ่อยๆทุกกระทู้แล้วกูมองบน

694 Nameless Fanboi Posted ID:E7ipcI9PyP

พรุ่งนี้เปิดเทอมแล้วสินะๆ

695 Nameless Fanboi Posted ID:4E7s/pJD3h

5555 โคตรจูนิเบียว พิมตอบเป็นอังกฤษ
รู้รึเปล่าว่า คนที่เก่งจริงกับคนที่อวดเก่งน่ะต่างกันยังไง?
คนที่เก่งจริงน่ะเขาสามารถนำเสนอประเด็นที่ตัวเองต้องการจะสื่อให้ทุกคนเข้าใจได้ โดยไม่เกี่ยงว่าอีกฝ่ายมีความรู้ในเรื่องที่นำเสนอหรือไม่
ส่วนพวกที่อวดเก่งน่ะ มักจะใช้ภาษาเฉพาะทางสละสลวย ดูมีภูมิ แต่ในความเป็นจริงเหมือนคุยกับตัวเองเพราะไม่สนว่าใครจะเข้าใจบ้าง
เหมือนถ้ามึงจะอธิบายหลักการทางฟิสิกส์ให้คนๆหนึ่งฟัง
คนเก่งจริงเขาจะรู้ว่าควรใช้ภาษา ควรใช้วิธีการนำเสนออย่างไร ให้คนที่ไม่มีความรู้เรื่องฟิสิกส์สามารถเข้าใจหลักการของมันได้
ส่วนพวกที่อวดเก่งก็จะยัดแต่ภาษาเฉพาะทางของมันให้คนอื่นฟัง จะเข้าใจไม่เข้าใจไม่รู้ กูดูมีภูมิเป็นพอ
มึงว่าคนไหนฉลาดจริง คนไหนฉลาดวอนนาบีกันล่ะ?

696 Nameless Fanboi Posted ID:QPWIW7sypx

>>683 กูว่าไอ้นั่นประชด ว่าเป็นภาพ abstract (นามธรรม) เหมือนจะสื่อว่าภาพมันใช้ตาดูไม่ได้ ต้องใช้จิตตนาการตีความเอา

697 Nameless Fanboi Posted ID:IwLQl7cuwJ

>>695 คนอวดเก่งอีกนัยคือ ทำทุกอย่างเพื่อข่มคนทั้งโลกสติปัญญาต่ำกว่าตน โดยไม่รู้ว่าตัวเองกาวเอง

698 Nameless Fanboi Posted ID:h9q7pNCmfE

>>695 I'm not going to talk about myself. How about... Let's talk about your damn logic. First of all, I'm not here to debate you about who I am or what I am capable of, ok? I have said it already, I only care about my new narrative choice. I guess that you haven't read any of my stuff, my comment , my novel, my shit, wow what a piece of shit. Hey... without collecting the truth, and you started judging, is it fair? Is it fucking fair? Don't put words in my mouth anymore, don't be an idiot, please? Here goes.

Why do you establish a claim here anyway? You hope that an act of denigration will tarnish my gloomy reputation further? What a moron. Don't you realize that your definition of "คนที่เก่งจริง" and "คนที่อวดเก่ง" are debatable. If you didn't have a clue and talking about this subject only make you a pure imbecile, sir! For Example: คนที่เก่งจริงน่ะเขาสามารถนำเสนอประเด็นที่ตัวเองต้องการจะสื่อให้ทุกคนเข้าใจได้ โดยไม่เกี่ยงว่าอีกฝ่ายมีความรู้ในเรื่องที่นำเสนอหรือไม่. Dear sir, Are you fucking stupid? Have you heard of Dunning Kruger Effect? Go read it and tattoo some knowledge to your brain now!

My comment , myself ,and my new novel has nothing to do with what this guy said. If you can't see a hint of truth from this statement, all I can say is: the hell with you.

>>696 I knew that since kindergarten.

>>697 If you were a male, you'll need to get a bf and a job quick. Don't see a doctor.

I'm not here to fight, but I can do this all day people. Winning or losing, if bitches ain't thinking of stopping, I will make them. It's only Monday.

699 Nameless Fanboi Posted ID:V0XJkcwX5A

เขวี้ย กูอ่านไม่ออก

700 Nameless Fanboi Posted ID:cehyqJ1EeS

Dear>>698
I'm not >>695 and with much respect, claiming dunning kruger effect in that argument won't help anything better and it's also not related too. Please consider some better ways of arguing.
Just a passing through fanboi.

701 Nameless Fanboi Posted ID:Lpx.q8sjxC

พอเถอะ กลับเข้าประเด็นสักที เดี๋ยวเราอาสาสับสักเรื่องให้ ถ้าว่างมากพอ

702 Nameless Fanboi Posted ID:cehyqJ1EeS

>>701 ไม่ได้เว้ย เห็นคนตกcritical thinkingแล้วกรูทนไม่ได้

703 Nameless Fanboi Posted ID:LK7.OTVPj4

>>698 Dear sir.

I never really participated in gossiping about you and your works or even read your novels; however, if you want to debate with fanboi, I really would like to suggest you that you should type in Thai. Arguing in English, might seem fancy to you and the passerby but aside from showing your superior in second language (which I kinda impressed and really think that you are cool.) do not get you any further to the point.

Nevertheless, fanboi is like any gossping website and you should be glad they are talking about you. Shitty stuffs or not, they DO interested in you and your works which put you into the pro position. You should be glad, I, as a author, would freaking love critics to stirred up my stuffs so people might taking some interests and visit my page.

You might think it’s not fair that fanboi talking shit about you, they HAVE liberty to do that and do you really think anyone could exist without being gossiped at? Go improved your novels and arts, it’s not that bad and you shouldn’t spend your time arguing here. Prove them wrong by making your work better. But if you sir still likes to has a chit-chat, you might as well type in Thai, I think you are capable of doing that.

704 Nameless Fanboi Posted ID:h9q7pNCmfE

Dear >>700 ,
I am >>698 Please allow me to explain my claim further. There are two sides of Dunning Kruger Effect. One which an unskilled usually think of oneself as skilled. I guess you understand it only one side since you claim that my claim is not related. Leave out the question of whether or not I am skilled or unskilled. Let me show you the other side of it: the skilled is usually be uncertain of himself, and always explaining things with what he familiar hoping that everyone is as the same level as him. Therefore, under>>695 , his claim
shows that I I fall into the number 2 category. I explain shit in words that I understand and familiar with, I only expect people to know as much as me.

To retort my claim, you can say that I am unskilled and thinking of myself as a skilled individual. Prove that. Because I believe that I am under the second category in Dunning Kruger Effect.

Is it related now sir?

Sincerely,

Louis Forest.

705 Nameless Fanboi Posted ID:h9q7pNCmfE

>>703 I don't mind they talking about me. I just think it's unfair to judge a person, any person without understanding him or her. It is not right. Talking about anyone's work and anyone's drawing is fine, mine included. But to put claims into my facts without knowing me is rather shameful, like >>695 . His logic/definition of acting superior, arrogant, condescending are unacceptable. It attacked me on my communication skill. I merely explain it that I am fucking trying my best to communicate with everyone. But are you trying as hard as me to understand what I say?

Lastly, I communicate in English when I am under an influence of a morning coffee. It's just me being me.

Sincerely,

Louis Forest

706 Nameless Fanboi Posted ID:f9KBom8JeA

เอาความขยันตอบของมึงไปเขียนนิยายหรือฝึกวาดรูปให้งานมันดีขึ้นเหอะ ถุยเอ้ย

707 Nameless Fanboi Posted ID:h9q7pNCmfE

>>706 I don't think I do this everyday. Thanks for your kind suggestion anyway.

708 Nameless Fanboi Posted ID:cehyqJ1EeS

>>704
Since this matter is quite complicated, it take me quite too much time
Even with that side, I still see it unrelated that much. Let me explain that >>695 said "the expert use the words that people will understand easily but boast one will use the word that's technically right but didn't care whoever will understand it" and from your word about that side of dunning kruger "the skilled is usually be uncertain of himself, and always explaining things with what he familiar hoping that everyone is as the same level as him." The matter >>695 said is about 'how different type of people communicated' not ‘how different type of people react with thing’. Even it’s indirectly related to how people get thing done, It’s surely doesn’t related to whether category you’re in dunning kruger effect.
I think a bit of example should work? “John is able to teach basic physics to kids but Bob isn’t.”. This example doesn’t care whether John and Bob is in which category of dunning kruger since it’s about how they communicated to kids and make them know basic physics. It’s extractly as >>695 word and condition. But what about your own word? Now, will you still claimed that it’s related to dunning kruger effect?

709 Nameless Fanboi Posted ID:cehyqJ1EeS

>>705 also let me remind me one thing that you've been using english since yesterday's evening.

710 Nameless Fanboi Posted ID:MsOjEb8AT/

ดิ้นพลาดๆ เป็นหมาโดนน้ำร้อนละ นี่คือคนบอกว่าไม่แคร์นะ แต่เข้ามาอ่านมาตอบตลอดเวลา หัวร้อนฟลัดกระทู้อีกต่างหาก 55555 น่าสมเพชชิบหาย

711 Nameless Fanboi Posted ID:jJqafad0/E

>>708 ปรบมือสิครับเพื่อนโม่ง รออะไรกัน ชนด้วยข้อมูลล้วนๆ ไม่ไล่ให้ไปตีความเรื่อง Dunning–Kruger effect เองด้วย ยกมาอธิบายแม่งเลย แถมไม่หลุดหยาบคาย ไม่มี Logic งงๆ
กูไม่ได้ศึกษาเรื่อง DK effect อะไรขนาดนั้นนะแค่เคยอ่าน แต่ยิ่งอ่านเรปบนๆ กูยิ่งรู้สึกเหมือนพี่ถุยยก DK effect มาแล้วเข้าตัวยังไงก็ไม่รู้

712 Nameless Fanboi Posted ID:cehyqJ1EeS

>>711 อย่าชมกรู กรูเขินนนนนนนนนนน

713 Nameless Fanboi Posted ID:h9q7pNCmfE

>>708 I see where you are coming from,"how different type of people communicated' not ‘how different type of people react with thing’. It seems you have studied about this effect quite a bit. But the question is how many source have you been through?

Please note that I believe wholeheartedly that I am a fool. I know nothing I create nothing but simply copy other people ideas and paraphrasing. Here goes.

I can easily agree with you on this nuance of the interpretation. And I will? No I won't. Do keep in mind that you only drew a "fresh" conclusion from a single source or two. So you came up with that notion, one that I have been through. A quick research often do that to everyone. Let me entertain you with some of my notes from my hard-drive.

A Lack of Metacognition

1- The Dunning-Kruger effect is also related to difficulties with metacognition, or the ability to step back and look at one's own behavior and abilities from outside of oneself. People are often only able to evaluate themselves from their own limited and highly subjective point of view. From this limited perspective they seem highly skilled, knowledgeable, and superior to others. Because of this, people sometimes struggle to have a more realistic view of their own abilities.

2- The Dunning–Kruger effect is a cognitive bias in which low-ability individuals suffer from illusory superiority, mistakenly assessing their ability as much higher than it really is. Dunning and Kruger attributed this bias to a metacognitive incapacity, on the part of those with low ability, to recognize their ineptitude and evaluate their competence accurately. (Source: https://medium.com/@johnhawks/excellent-comment-with-many-great-suggestions-6f64c6b872e2)

That statement implied:

Senior scientists are low-ability science communicators who think they are great a scientific communication. There is an assertion, and many do disagree. Most scientists are painfully aware of how hard it is to communicate their science properly, this including myself. And many do not want to communicate with non-expert people in fear of being misunderstood, or their words being taken out of context.

Most part scientists would be much happier if there is a scientific literate journalist who discusses with them about their research before he gets it to the public. Science communication/outreach coming directly from scientists is rare, precisely because proper communication is not something you can do with little practice. I agree that the communications skills of scientists should be at least so good that they can communicate with a scientific literate person/journalist, but anymore than that is asking the scientists to become journalists.

I do not think the solution to bad science coverage is to shift all responsibility on the scientists, because after all, they have to think about the problems in science, and not about the problems of how to reach people or sell it.

I did get you. But you got what I am saying now?

>>710 Don't compare me to your parents like that kiddo.

>>711 Bitch please. Did you even read? You wanna place a bet? How much do you have on you right now? Yo, It's never about winning or losing for me, kid. I do it because it's fucking fun to slap bitches with facts.

>>709 Doing this two days straight doesn't make it everyday, are you retarded?

714 Nameless Fanboi Posted ID:h9q7pNCmfE

Like Captain America. I can do this all day.

715 Nameless Fanboi Posted ID:h9q7pNCmfE

Seriously man. You think I started this shit? Bitches started this. Acting like you all are all that and walk away with shit? Is this Brazil? Oh shit! It's Thailand! You people started shit . And what do a man like me do? Ignore and runaway? Nigger please. Grab an antidote my rhymes and facts will intoxicate your innate sheep-like brain.

716 Nameless Fanboi Posted ID:Lpx.q8sjxC

>>714 Excuse me but don’t you have anything better to do? I mean I’ve seen you answer pretty frequency and all.

717 Nameless Fanboi Posted ID:h9q7pNCmfE

Remember that I do this shit alone since day one. I never give a fuck of how many you have. Pick you poison, facts or lies. Pick your places, on the main forum or in here. Come at it. Conventional or unconventional, I'll accept all challenge. Cocksuckers.

718 Nameless Fanboi Posted ID:h9q7pNCmfE

>>716 I'm in my office. My colleagues (a.k.a cohorts ) are reading this. It's fun to laugh at dumb ideas around here. People getting paid today, and I'm scratching my balls talking to you fags.

719 Nameless Fanboi Posted ID:h9q7pNCmfE

>>716 Let see. I would keep fixing your grammar like a nazi but I won't. I encourage people to communicate in universal language. I believe that people, especially in this 3rd world country, need practices. See? it's a win-win situation here.

720 Nameless Fanboi Posted ID:h9q7pNCmfE

I'm still waiting on the Dunning-Kruger effect debate (>>713) . I have more notes to show. (>>711) Do you wanna join in? I'm not telling anyone to go and read shit anymore.

721 Nameless Fanboi Posted ID:h9q7pNCmfE

Oh... Please enlighten me, sir. I would like to understand more on this subject. Oh I'm so lacking of profound understanding on this matter. How shameful of me. I should go cry in a corner. Please show me the light. Please show me the way. Please show me the truth.

722 Nameless Fanboi Posted ID:Lpx.q8sjxC

>>719 Correct me if I’m wrong. I don’t mind.

723 Nameless Fanboi Posted ID:h9q7pNCmfE

>>722 Did you not read? I said I won't. And you are doing fine. Keep up good work.

724 Nameless Fanboi Posted ID:h9q7pNCmfE

Come to think of it, there is a quote from Einstein saying "If you can't explain it simply, you don't understand it well enough." - Albert Einstein.

If this statement helps. You can use it. But is it only a claim? Yes. Well, It's from Einstein... so it's must be true. Well, really?

725 Nameless Fanboi Posted ID:vpLPgj82S/

This is a book.

726 Nameless Fanboi Posted ID:1slRlOl90d

เออ มึงจะว่าง จะไล่ตอบเป็นอิ้งทั้งวันก็เรื่องของมึง แต่กูไม่อ่านละ รำคาญ ไปทะเลาะกันเองละกัน ไว้มึงไปเมื่อไหร่ค่อยกลับมามู้อีกที

727 Nameless Fanboi Posted ID:h9q7pNCmfE

>>726 Another one bite the dust.

728 Nameless Fanboi Posted ID:h9q7pNCmfE

>>725 Very old joke. How old are you?

729 Nameless Fanboi Posted ID:RUCWXTWezC

Dear Louis Forest

I'm not sure what did they talking about your work and illustrations. But I think when someone had commented your works you should read it carefully and use it to improve yours not being childish like this.

By the way, if some feedback on fanboi.ch were too rude to you, just pass over it as you say on your first reply that you don't care. You said that but look what you did.. what did we called? Overtly agree but coertly oppose? LMFAO

P.S I actually got C in English classes when I was grade 12. I really don't mind if no one read my message because I trying to be like Louis Forest! You are my idol! YAY!! Louis YOLO! YAYAYAYAYAYA!!!

XOXO
Your love

730 Nameless Fanboi Posted ID:vpLPgj82S/

Your mom did it nicely. I gave her 5-stars on Yelp.

731 Nameless Fanboi Posted ID:MsOjEb8AT/

>>730 555555555555555

732 Nameless Fanboi Posted ID:h9q7pNCmfE

>>729 Make this clear. It is not about my work and my illustrations. No... I'm talking about Dunning Krugger Effect and my way of communication. But I get you. Because from the context, anyone could misunderstand this mess since it is somewhat related to my previous novel, the sci-fi one, but I can assure you this is not about my current one that I asked in Dek-d's board. It's a whole day apart, it is a different work, different style of writing. I wanna know if my improvement going as I hope. One could call this a confirmation bias. The way that I keep asking around, to find someone to confirm of what I have in mind. I did not react to those comments and suggestions at all. I even answered them in Thai, politely.

I cherish all of those comments and whoever sacrifice their valuable time to read my novel. I don't see them as adversaries.

A day later. >> 695 This person still have this notion of me writing complex and dense novel. Started to judge me right way. It just got me thinking, wow this dude didn't even care and attack me. How awesome of him.

733 Nameless Fanboi Posted ID:h9q7pNCmfE

>>730

Yo mamma is so dumb, she had a test and failed. It was a blood test.
Yo mamma is so fat when she turned around it was her next birthday.
Yo mamma is so ugly when she tried to join an ugly contest they said, "Sorry, no professionals."

734 Nameless Fanboi Posted ID:v5/PSFyywQ

เห็นคุยอิ้งกันกูรู้เลยเจ้าไหนมาประทับที่มู้

735 Nameless Fanboi Posted ID:IwLQl7cuwJ

เฮ้ย เข้าเรื่องแล้วยัง กูสนใจนิยาย ไม่ใช่ภาพวาด

736 Nameless Fanboi Posted ID:h9q7pNCmfE

>>735 Fine. Nobody is talking about that anyway.

If nothing to talk about further on Dunning Kruger effect. I'm going to leave now.

737 Nameless Fanboi Posted ID:h9q7pNCmfE

Shit. typo: If there is nothing to discuss further on Dunning Kruger effect***

738 Nameless Fanboi Posted ID:cehyqJ1EeS

So, what to do again? At first, I only come to imply that your statement is not logically right and with your additional claiming, it still doesn’t right since both of your additional statement doesn’t related to >>695statement because at first, the two group example is only ‘who can explained it simply’ and ‘who explained it technically right but don’t care whoever will get it’ but you argue that they claimed you to be in either ‘expert who underestimated themself’ and ‘low-abillity people who overestimated themself’. And then, you claimed that to be subset of those above.

Ah, yes.
I totally lost a word.
Who said that it’s okay to talk about sub topic while talking about main topic!
It’s not like that I don’t understand you, but instead, I feel lost a word like I’ve said.
You’re technically right but that’s logically wrong in debating.
Well, Your claiming about scientist is right. But that’s 2 sub topic needed to be explained.
1st, they’re a great scientific communicator. This one is right since they’re expert in this field.
2nd, they’re low-abillity communicator. This one is both right and wrong since scientific word is specific word used in specific field. In case that’s right, If they’re easy to understand in several time, how can it be specific word? And in case that’s wrong, it’s because different level of language Whether they’re going to communicate with non-expert or not is their own choice.
And from 1st sub topic, is it not common to talk with someone who’s in same field? If it’s me, I also sure prefer talking with someone who’s in same field since they’ll also know scientific word so there’s no need to adjust the word again( I’m sure it’s also waste of time if It’s me and I need to adjust the word so common people understand it easier and I would also rather leave the adjustment to others). But if it’s talking with non-expert, I sure that it’s better to talk with other about how to get through it smoothly.
I think it’s better to describe this as ‘common people use language level 1’ ‘officer use language level 2(-X)’ and ‘expert use level 3-X’ (level is how specific the word is and X is shown for which field the world is specific for). People usually use the word they’re simillar with. (As you said in above but this is still not related to the matter because the two group example didn’t care how highly your skill are but instead it care whether you can made communicate with target successful or not, leading to decide whether you’re in which group of two example group )
I sorry for taking too much time rearrange it to make smoothly but it’s not bad to have my time do critical thinking here

739 Nameless Fanboi Posted ID:cehyqJ1EeS

Ah forget to edit headline, sorry for leaving it like that

740 Nameless Fanboi Posted ID:cehyqJ1EeS

Ah I forget to add that "it's not like they're low-abillity communicator because they're expert but instead it's because they're maniac who interested and dedicated themselves to their field and then acknowledge something that can only be also talking with other who're also the same."

741 Nameless Fanboi Posted ID:zEODJkKP6d

>>738 Ok... for the main topic: erm... here is the thing. First, I have adjusted in my new novel but it's >>695, who didn't seem to care about my novel or my new narrative choice, instead he attacked and made a false claim right there, mentioning physics and scientific stuff and all, claiming that I'm still doing that same just like my past. If I did not try to fix my way of communication, I would gladly accept that claim. He drew physics and science into this mess, suggesting that I'm still with the narrative that dense and complex. Hence, in the past, it was either the first or the second side of Dunning Kruger Effect. Am I dumb and thinking that I am smart, or I'm capable but struggling to communicate with what I know.

You said Dunning Kruger Effect has nothing to do with this argument. The curse that I am having. Look how I communicate to people. Is it a problem? Yes! Am I trying to fix it? Yes! I am no Richard Feynman. I'm not a great explainer. I'm just Louis Forest. And look how I communicate. Look how I tried to fix shit.

Just ignore the sub topic, the hell with it. My strategy is not trying to confuse you with sub topics. I just answered and further explained the second side of Dunning Kruger Effect. It seems to be pointless to go deeper into it now, i think. Sub topic or not, it's about communication. The one that I'm having the same problem just any other specialist.

The point here should be: I have a problem, I'm trying my best to fix it. Did it improve? Or you want to talk about the past.

Am I making it clear now? Mr. Lost of Words. Oh dear...

742 Nameless Fanboi Posted ID:zEODJkKP6d

>>740 There is a thin line between insanity and genius. Evidently, I'm neither. I just can't communicate to people, and so they claim.

743 Nameless Fanboi Posted ID:5PIH+zQnsf

เยอะกว่าที่กูคิดอีก

744 Nameless Fanboi Posted ID:zEODJkKP6d

Noted: if you needed to go into sub topics I can come back and explain some more.

And if you lost of words again I can bring a dictionary. There are plenty of words there.

745 Nameless Fanboi Posted ID:e+xC44Px+P

ไปเปิดมู้ใหม่เลยมะ Talking with P' Tui (English only) หรืออะไรก็ว่าไป กูเข้ามาดูหวังเจออะไรน่าสนใจ เจอแต่มานั่งเถียงกัน...

746 Nameless Fanboi Posted ID:xN+ceix6pO

>>745 กุหมันใจว่าคนจะอ่านว่า พี่ตุ้ย หรือ พี่ทุย

747 Nameless Fanboi Posted ID:fLTPsdOoaI

มึงเถียงกันภาษาเกาหลีได้มะ กูจะได้เข้าใจด้วย

ลงชื่อ จองกุก แห่งบังทัน

748 Nameless Fanboi Posted ID:IwLQl7cuwJ

>>746 กูอ่านเป็น พี่ตุ๋ย คำนี้ https://th.wikipedia.org/wiki/ตุ๋ย

749 Nameless Fanboi Posted ID:RUCWXTWezC

>>745 >>746 กูคนนึงล่ะ ที่อ่านว่าพี่ตุ้ย

750 Nameless Fanboi Posted ID:vpLPgj82S/

>>733 your mom is so poor, she can't even pay attention to what her son is doing.

751 Nameless Fanboi Posted ID:04x5QFnruI

อีถุยมึงควรไปหาหมอ กะอีแค่โม่งด่ามึงส่งเดชแล้วเสือกเอามาใส่ใจมันไม่ดีกับสุขภาพจิตมึงเลย กูยืนยันว่าไม่ดี แต่กูไม่ได้เป็นห่วงมึงนะ กูสะใจ นี่ก็ทำตัวไม่ต่างอะไรกับไอ้วิดสวะที่กูตบเลยสักนิด สวะพอๆกับแจกันลูซิเฟอร์ ไม่รู้จะเถียงไปทำห่าอะไร กูนึกว่ามึงจะสตรองกว่านี้หน่อย คือมึงกะจะให้เขาม้านิยายมึงหรือไงวะ ถึงมึงไม่แปะเอง แต่มึงทำเหี้ยอะไรก็มีแต่คนด่านะ จะโดนแบนในดวกอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ คนในนี้เขาไม่ฮรี่ๆกุบๆกับๆหรอก มันทุเรศ ให้บรรดาลูกหาบของมึงเข้าใจมึงเถอะ

ตอนแรกกูตั้งใจจะสับนิยายให้มึงนะ แต่มาเจอแบบนี้กูเปลี่ยนใจละ มึงควรเป็นมิตรกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันมากกว่านี้ แล้วอย่าไปหวังว่าสักวันหนึ่งจะเปลี่ยนใจโม่งให้กลับมารักมึงได้ ที่นี่มันเป็นด้านมืดของพวกกลายพันธุ์อย่างกู

มึงมันแค่บ้านะถุย แต่กูโรคจิต ระดับความคูลมันต่างกัน

ลงชื่อ จองกุก แห่งวงบังทัน

752 Nameless Fanboi Posted ID:R6KvyeDzi7

>>751 erm thx? Are you that person but calling yourself something else now? Who was it? Another kpop name. Oh well. The damage is done. I can't turn back time, man.

753 Nameless Fanboi Posted ID:uG7JZWggbl

ดีจริงที่วันนี้ส่องโม่ง เหมือนได้ฝึกภาษา

754 Nameless Fanboi Posted ID:44rnMS+4rc

พี่ตุ้ยยังไม่เลิกหายคึกจากแฟตอนเช้าอีกหรอคะ คุยภาษาไทยกันเถอะค่ะ

755 Nameless Fanboi Posted ID:R6KvyeDzi7

>>754 I don't know. Can I start with how Netflix (เน็ตฟลิกซ์) becoming เหน็ตฟลิกซ์? I can't get this out of my head.

756 Nameless Fanboi Posted ID:oxeAZAhIDO

Ky พวกมึงมีวิธีเขียนสิ่งที่มึงไม่เคยสัมผัสในชีวิตจริงยังไงให้เนียนวะ อย่างการใช้อาวุธ ฯลฯ

757 Nameless Fanboi Posted ID:5zTHpuAgrp

>>756 หาข้อมูลสิ ถามได้

758 Nameless Fanboi Posted ID:rQs3vvKCsh

>>756 อ่านงานชาวบ้านเอา ดูว่าเขาบรรยายประมาณไหน

759 Nameless Fanboi Posted ID:g8hx8tdHB6

>>756 อย่าให้คนที่รู้จริงอ่าน พูดจริงๆ นะ คนไม่เคยเจอของจริงเขียนยังไงก็ไม่จริง ที่มึงทำได้ก็แค่เขียน infodump ให้คนอ่านเข้าใจว่ามึงรู้จริงก็พอ พวกอาวุธนี่ง่ายมาก มึงแค่บรรยายความกว้างยาวสูงหนักรูปร่างก็พอ

อย่างเรื่องขบวนการหมาป่าของสยาม เรื่องนี้ใครๆ ก็รู้ว่าคนเขียนไม่เคยไปอยู่กับกองทหารรับจ้างหรือเคยจับอาวุธพวกนี้หรอก แต่คนเขียนยัด infodump เรื่องอาวุธมาทั้งย่อหน้าได้ คนก็เชื่อแล้วว่าอาวุธนี้เป็นอย่างนี้

พูดอีกอย่าง คือเขียนให้คนอ่าน "พอเข้าใจ" แต่ "ไม่รู้อะไรเลย" นั่นละ มึงอธิบายเข้าท่าคนอ่านก็เอออห่อหมกไป แต่อย่าให้มีจุดขัดกันมากก็พอ คนอ่านส่วนใหญ่พร้อมจะมองข้ามอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่สำคัญได้เสมอ แต่ถ้ามันใหญ่และสำคัญ คนจะเอามาด่ามึงยันเขียนเรื่องใหม่เลยละ

760 Nameless Fanboi Posted ID:32dIc/ui6X

>>756 พอถามแบบนี้ทำให้กูนึกได้ว่า ทำไมนักเขียนส่วนใหญ่ถึงอวยเวทมนตร์กันนักกันหนา เพราะคลังความรู้ตัวเองไม่ถึง จึงหยิบประเด็นเวทมนตร์เป็นข้ออ้าง คนเขียนใส่พระเครื่องกี่ชิ้นเปิดอัลติไม่ได้อยู่ดี

761 Nameless Fanboi Posted ID:TMtJK5bp0l

ลงตอนใหม่ ไม่ได้คนติดตามเพิ่มแถมหายไปอีก 2 คน..เฮ้อ....

762 Nameless Fanboi Posted ID:pevwJ9QEbU

สอบถามหน่อย พอดีว่าแต่งไลท์โนเวลไว้ แล้วอยากได้คนมาวาดภาพประกอบให้ ควรจะไปติดต่อที่ไหนดี งานขาวดำมี ref ให้ว่าอยากได้ท่าประมาณนี้ๆ พร้อมพูดคุยบรีฟงานก่อนเริ่มวาด มีแนะนำมั้ยว่าเพจไหนอะไรยังไงดี

763 Nameless Fanboi Posted ID:/ReY3yADA6

>>762 มึงชอบนักวาดคนไหนก็ลองติดต่ออินบ็อกดู หาตามเพจวาดภาพได้เลย ถ้าตีพิมพ์กับสนพ.ก็ให้สนพ.ช่วยหาให้ได้

764 Nameless Fanboi Posted ID:0wpmgzjbyI

ไลท์โนเวลต่างกับนิยายยังไง

765 Nameless Fanboi Posted ID:pevwJ9QEbU

>>764 มันไม่มีนิยามตายตัวอะ อย่างที่กูแต่งแล้วมาหาคนวาดรูปให้ก็เป็นความต่างอย่างนึงแล้ว เพราะนิยายปกติจะไม่มีภาพประกอบคั่นตามบทต่างๆ อย่างมากก็เห็นเป็นภาพเล็กๆ ข้างใต้ชื่อตอนแบบแฮร์รี่พอตเตอร์

ความแตกต่างอย่างอื่นจากที่กูเขียนอยู่ก็มี

-ใช้ภาษาง่ายไม่เวิ่นเว้อ อธิบายแต่ไม่ลงลึก ชอบอ่านแบบย่อยง่ายกูก็จัดให้
-มีไวฟุให้อวย หัวดำ หัวทอง เอลฟ์โลลิ ออคซึน เจ้าหญิงขาสวย พี่สาวอ้ปไป ใครจะวอร์กันก็เอาเลย
-มีเพื่อนชายในกลุ่มตัวละครหลัก ไม่ได้แต่งให้ดูดปากเด้าตูด แต่สนิทกันจนพอใช้เป็นยาโอยแมททีเรียลอ้อมๆ ได้
-เซอร์วิสมีบ้างนานๆ ที มีโมเมนต์ชวนจิ้นให้ทำคะแนนทั้งสาวๆ และพระรอง (ใครสายโอจิ กุมีน้องชายของอาจารย์ให้ด้วย)
-พระเอกกินเนื้อแต่ไม่ถึงขั้นเย มีเหตุผลบางอย่างทำให้พระเอกเสียตัวไม่ได้ มากสุดคือใช้นิ้วเฉยๆ
-องค์ประกอบอื่นๆ ที่คนอ่านจะเซลฟ์อินเสิรท์ได้ จิ้นได้ เอาไปจูนิเบียวก็ได้

เป็นไลท์โนเวลสายพลีชีพ เขียนแบบไม่กลัวคนหาว่าขยะ (ก็จงใจให้เป็นงี้) ใครตามหาเจอ ก็อย่าว่ากูเป็นม้านะ

766 Nameless Fanboi Posted ID:EafFMictMw

>>762 ได้หมดถ้าเงินมี งานขาวดำสวยๆมันต้องพวกนักเขียนการ์ตูน เพจการ์ตูนไทยสตูดิโอเลยโม่ง ว่าแต่จ้างวาดมันกำไรหดเพิ่มต้นทุนน้า

767 Nameless Fanboi Posted ID:pevwJ9QEbU

>>766 เงินกูอะมีเพราะทำงานแล้ว นิยายก็ไม่ได้แต่งกะตีพิมพ์ด้วย แต่งออกมาแบบนิยายแดกด่วนไม่ตามขนบเท่าไหร่ กูเลยไม่สนเรื่องยอดขายหรือกำไรหรอก (บ่องตง ขนาดภาพปกยังไม่มีเลย 55555)

คุณภาพงานเอาเป็นแบบ รัฟ-สเก็ตช์ ก็ได้ ถมดำไม่ต้องเนี๊ยบฉากปกติมีแสงเงานิด ฉากบู้มีเส้นสปีดหน่อย ไม่ได้วอนเอางานระดับไฮเอนด์

768 Nameless Fanboi Posted ID:0wpmgzjbyI

>>767 ไปหาเอาในกลุ่มคอมมิชชั่นในเฟสดูดิ คนวาดเก่งๆ มีเยอะอยู่นะ

769 Nameless Fanboi Posted ID:S8UFiPGj+7

กูขอถามหน่อย ไม่ว่าเกมดัง การ์ตูน และนิยายออกใหม่แล้วดังพูดปากต่อปาก อย่างล่าสุด ก็อบลินสเลเยอร์ เรดเดดรีเด็มชั่นสอง เกิดใหม่สร้างประเทศของคนไทยที่พระเอกดันหน้าสวยกว่านางเอก มีผลต่อกระแสนิยายเด็กดีแค่ไหน อยากรู้จริงๆ

770 Nameless Fanboi Posted ID:A8lEbLZ4th

>>769 กระแสน้ำไม่ว่าจะไหลไปในทิศทางใด ย่อมมีผลต่อปลาที่ว่ายอยู่ ปัจจัยรวมไปถึงอุณหภูมิตามฤดูกาล และความสมบูรณ์ของอาหาร ปลาที่ว่ายทวนกระแสก็มีอยู่ เช่น แซลมอน

771 Nameless Fanboi Posted ID:MHLaDrJ1Zu

>>769 มีผลไม่มากเท่าไหร่หรอก เพราะนิยายในเด็กดวกมันตามกระแสเป็นหลัก กอบสเลมันเป็นเว็บโนก่อนจะมาเป็นไลท์โน เรดรีเด็มนี่กุไม่รู้เหมือนกัน แต่แทร็ปสร้างชาตินี่ มันเป็นไลท์โนเวลที่ไม่ใช่ยุ่นเสินเจิ้น เขียนด้วยเซตติ้งไทยก่อนข้ามโลกไป มันเลยดูแตกต่างจากนิยายที่เด็กๆ พยายามแต่งให้ดูญี่ปุ่นแต่ทำได้ปลอมเปลือกมาก ชอบอ่านไลท์โน ชอบดูมังงะ แล้วพยายามเอามาแต่งให้เหมือนนิยายของชาวยุ่น ดูยังไงก็ดูออกว่าคนไทยแต่ง มันก็มีอยู่เหมือนกันนะที่แต่งแล้วญี่ปุ๊นญี่ปุ่นจนเกือบดูไม่ออก แต่ก็จำนวนน้อยอะ

ตอนนี้ไลท์โนยุ่นที่กำลังแทรกเข้ามาแบบเงียบๆ คือแนวแก้แค้น แต่มันไม่เหมือนแก้แค้นของจีนที่ต้องโดนดูถูกก่อน ของยุ่นมันมักจะบัดซบแล้วก็ดาร์คแบบยัดเยียด พอมาแก้แค้นก็เอาคืนแบบเถื่อนมาก ปัญหาคือกูคิดว่ามันคงไม่ได้แก้แค้นไปทั้งเรื่องหรอก เหมือนผู้กล้าโล่ที่ตอนแรกต้องสู้ชีวิตชิบหาย กลางเรื่องพลิกกลับมาได้รับการยอมรับ แล้วจบแบบมหาเทพ กูรอดูอยู่ว่าจะมีเรื่องไหนบ้างที่เอาคืนอีกฝ่ายจนถึงตอนจบบ้าง เพราะมันไม่ง่ายที่จะผูกเนื้อเรื่องอยู่กับการแก้แค้นได้จนจบ

772 Nameless Fanboi Posted ID:w29OwrGwOK

How to แก้แค้น
"เย็ดมันซะสิ"
ผู้กล้าฮีลจากนิยายยุ่นเรื่องหนึ่งไม่ได้กล่าวไว้ แต่ตรรกะ+การกระทำของมัน ตีความได้แบบนี้

773 Nameless Fanboi Posted ID:tnqjvzHVgl

>>771 >>771 แก้แค้นนี้มันไม่ควรจะใช้เป็นประเด็นหลักของนิยายยาวๆ แบบ LN เลยนะ ขนาดนิยายจบในเล่มยังมีน้อยเรื่องที่เอาไปเป็นสาระสำคัญของเรื่อง มันควรเป็นแค่ส่วนย่อยๆ ของเรื่อง มากกว่า เพราะถ้าใช้การล้างแค้นมาเป็นแกนหลักเลยคือล้างแค้นเสร็จเมื่อไหร่ โทนเรื่องพังทันที แถมจะเลี้ยงอารมณ์ระหว่างพยายามล้างแค้นไปเรื่อยๆ แม่งก็จะโดนคนอ่านด่าอีกว่ายืด
ส่วนตัวกูว่าผู้กล้าโล่เป็นตัวอย่างที่ดีว่าพอล้างแค้นเสร็จแล้วโทนเรื่องพังเป็นยังไง แถมกูว่าแม่งแก้ปมได้จังไรมาก คือมึงสู้ชีวิตด้วยเองมาอย่างนาน แต่พอบทจะแก้ปมก็เสือกโยนราชินีเข้ามาแก้ให้ซะเฉยๆ ง่ายๆ แถมความ่ justice แบบโคตรเรียบแบนของราชินีแม่งทำกูเลิกตามต่ออีกเลย กูเลยไม่รู้ว่าตอนจบแบบมหาเทพที่มึงว่าเป็นยังไง ต้องขอโทษจริงๆ

774 Nameless Fanboi Posted ID:MIqqLFducJ

ของจีนนี่อย่าเรียกเเก้เเค้นเลย ทุกเรื่องอะ เเรกๆโดยดูถูกก็พอเข้าใจ อยากจะขิงจะล้างเเค้นไรก็ทำไป เเต่หลังๆมานิสัยพวกเเม่มจะส้นตีนขึ้นเรื่อยๆ ทำตัวกวนตีนหาเรื่องเขาไปทั่ว ชนะก็เหยียดเขาเเบบที่ตัวเองเคยโดน เเพ้ก็ร้องไห้โทษฟ้าดินเเล้วบอกจะล้างเเค้น ถุยเถอะ
ตัวอย่างชัดๆก็อสูรพลิกฟ้าอะ พระเอกส้นตีนอันดับหนึ่งในใจเลย

775 Nameless Fanboi Posted ID:DwsUENpx9M

>>774 55555

776 Nameless Fanboi Posted ID:MHLaDrJ1Zu

>>774 ไม่ใช่แค่เรื่องเดียว ส่วนใหญ่เลยแหล่ะ สุดท้ายแม่งกร่างซะเอง บางเรื่องคิดว่าตัวร้ายเหี้ยแล้วหลังๆ พระเอกเหี้ยกว่าเยอะ เย็ดแล้วทิ้ง พอได้เค้าแล้วตัวหญิงนั่นก็ไม่มีบทเหมือนโดนรีมูฟออกไปจากเรื่อง ขึ้นช่วงใหม่หาเรื่องชาวบ้านก่อนไข่แล้วหนีวนลูปเป็น 1,000 ตอน ให้คนอ่านด่าเล่น

777 Nameless Fanboi Posted ID:MIqqLFducJ

ทุกวันนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าชาวเด็กดวกชอบกันไปได้อย่างไร ถถถ

778 Nameless Fanboi Posted ID:zj9088fOu7

แก้แค้นเป็นแกนหลัก กูว่าทำเป็นเกมเป็นหนังจะเหมาะกว่านิยายวะ จอนวิคงี้ coj gunslinger งี้

779 Nameless Fanboi Posted ID:BcL1pmTxe1

คุยถึงพล็องล้างแค้นแล้วยอยากเขียนบ้างว่ะ ท่าจะมันส์

780 Nameless Fanboi Posted ID:JEowqBaAgR

แก้แค้น... ต้องดื่มน้ำ

ลงชื่อ ไผ่ พงศธร

781 Nameless Fanboi Posted ID:wHIQD4.RH9

ky คือกูกำลังแต่งนิยายแนวๆ spin-offs อยู่ กูอยากรู้ว่าคำว่า spin-offs มันควรอยู่หน้าหรือหลังชื่อเรื่องอะ แบบว่า [(ชื่อเรื่อง) spin-offs] งี้หรอ?

782 Nameless Fanboi Posted ID:GZjPO5UL+T

>>781 เคยเห็นแต่เขียนต่อหลังชื่อ

783 Nameless Fanboi Posted ID:zMtTY1u3g3

ก็เห็นด้วยว่าพระเอกนิยายจีนแม่งเหี้ยขึ้นหลังจากได้เอาคืนครั้งแรก ไม่รู้คนแต่งถูกล้างสมองจากผลพวงของการปฏิวัติทางวัฒนธรรมของเหมาเจ๋อตุงรึเปล่า มันถึงมีความคิดเอาตัวเองอยู่ศูนย์กลางจักรวาลให้พระเอกเนี่ย

784 Nameless Fanboi Posted ID:d+oFZI0zAv

พี่เจียงกำลังร่ำไห้

785 Nameless Fanboi Posted ID:Ap4E7b5/R2

>>784 เจียงลูกชิ้นปลา?

786 Nameless Fanboi Posted ID:xUAO+z2c5o

>>785 Father of TRUE china ต่างหาก

787 Nameless Fanboi Posted ID:yylt2RofgZ

ไม่ใช่ซุนหรอกเหรอ

788 Nameless Fanboi Posted ID:2MV6Mpxmid

God of war แก้แค้นมาสามภาค เพิ่งจะมาคิดได้ตอนภาคสี่ แล้วพระเอกนิยายจีนจะคิดได้ตอนไหนวะ แนวคิดแม่งอย่างกับจอมมารกลับชาติมาเกิด

789 Nameless Fanboi Posted ID:CXqgEExkqq

เท่าที่อ่านมาก็นิสัยงั้นไปจนตายนั่นเเหล่ะ

790 Nameless Fanboi Posted ID:zMtTY1u3g3

>>788 เฮียแกเป็นสปาตันโดยสายเลือด ยังไงมีึความแค้นอาฆาตเยอะกว่าคนทั่วไป ต่างจากพวกคนจีนที่ไม่ได้ถูกเข้าเรียนโซตัสดิบเถื่อนตั้งแต่อายุ 6 ขวบเหมือนสปาตัน ต่อให้เป็นลูกแม่ทัพหรือขุนนางจีนก็เถอะ

791 Nameless Fanboi Posted ID:ucIGOJWG3t

>>788 พระเอกนิยายจีนแม่งแค่โดน Bully กูให้มากสุดก็พ่อแม่โดนฆ่าอ่ะ แต่ลุงโล้นแม่งโดนล้างสมองให้ฆ่าล้างโคตรครอบครัวตัวเอง แถมวาง Symbolic เตือนใจไว้ตั้งแต่แรกว่าเนื้อหาจะอยู่แค่กับการล้างแค้น แบนๆ ตรงๆ ไปเลย
ที่บอกว่าเพิ่งมาคิดได้ภาค 4 นั่นกูว่าไม่ได้คิดหรอก แต่มันล้างแค้นเสร็จไปแล้วตอนภาค 3 ไง อีกอย่างถ้าจะขายตัวละครแบนๆ ฆ่าแม่งอย่างเดียวแบบ123เกมมันจะกร่อยน่ะ สมัยนี้เกมเนื้อเรื่องมันแข่งกันโหด ถ้ามีเนื้อเรื่องแต่เสือกแบนราบเหมือนเมื่อก่อนก็บอกลา game award ได้เลย

792 Nameless Fanboi Posted ID:BF97KpfvK.

กูว่าภาคสี่ทำมาโคตรดีย์
not be like me, you must be better โคตรคมอะคุล

793 Nameless Fanboi Posted ID:/Lelk6cIl6

>>792 copy ไปใช้แปบ
เออ กูได้ทำรายงานเรื่องราชวงศ์โรมานอฟมา พอทำเสร็จ กูก็เข้าใจเลยว่า ถ้ามีกษัตริย์เก่งๆ โผล่ขึ้นมา ยุคต่อไปมันต้องมีอะไรเหี้ยๆ เกิดขึ้นแน่นอน
ปล.ซารีน่าแคเธอรีนที่ 1 นี่แม่งนางเอกในนิยายอวยนางร้ายชัดๆ

794 Nameless Fanboi Posted ID:2rpHNbeAvU

เห็นพวกมึงบ่นกัน แล้วอยากเขียนจังวะ ทำไมกูเป็นคนแบบนี้ ก๊ากๆ

795 Nameless Fanboi Posted ID:MCaJcSBHco

>>771 เอาจริงๆแนวแก้แค้นนี่ทำเป็นเนื้อเรื่องหลักได้นะ แต่ตัวที่จะแก้แค้นแม่งต้องเป็นบอสใหญ่ ตีเสร็จพร้อมปิดเรื่องไม่ใช่ยืดต่อ
>>773 กรูไม่ทันอ่านสามเล่มแรก(กรูอ่านมังงะถึงจุดนึงแล้วย้ายไปอ่านwnเอา) แต่กรูเห็นด้วยส่วนนึงนะ คือ แม่งพอเคลียร์ปัญหาเสร็จแล้วจะให้แค้นต่อนี่มันก็ไม่ใช่นั่นแหล่ะ เลยต้องเปลี่ยนโทน ยังดีที่แม่งต่อพล็อตได้ยันจบ

796 Nameless Fanboi Posted ID:s6yTiaG86A

กูจะหาแรงบันดาลใจจากไหนได้บ้างวะ นอกจากเมะเกมละก็นิยาย

797 Nameless Fanboi Posted ID:fvf52injq1

>>796 ดูหนัง ฟังเพลง ขึ้นเขาลงห้วย ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆเดี๋ยวเเรงบันดาลใจก็มาเอง

798 Nameless Fanboi Posted ID:xgIJW3MooI

นิยายจีนแบบ wtf แม่งมีหลายเรื่องมาก เขียนกันแบบเหี้ยสัสๆ แต่เสือกดัง เช่นไอ้เรื่องที่ทะลุมิติเข้าไปในจักรวาลมาร์เวล ไอ้เหี้ย โคตร edgy แถมเอามาติดเหรียญขายได้แบบไม่กลัวโดนฟ้องด้วย

799 Nameless Fanboi Posted ID:fapd9/hz.3

>>795 ขอ ky นิดนึง เกี่ยวกับโทนเรื่อง ไม่เกี่ยวกับการล้างแค้น
SAO คืออีกเรื่องที่ยืดจนเพี้ยน หลังได้ฆ่าตัวการและล็อคเอ้าท์เกม จากนี้จะไม่ใช่การเอาตัวรอดแล้ว พอช่วยเมียตัวเองและตบเกรียน GM หัวหมอ NTR แล้วสร้าง SAO บนโลก AFO ซึ่งประมาณเล่ม 4 หรือจบซีซั่น 1 หลังจากนี้เป็นต้นไปโทนเพี้ยนไปเรื่อยกู่ไม่กลับ จากเกมออนไลน์เอาชีวิตรอดมาสู่การเก็บสาวเข้ากิลด์เหมือนหนังคนละม้วน Alicization แม่งยังกะเขียนเรื่องใหม่เอาชื่อ SAO หากินอีก

800 Nameless Fanboi Posted ID:TrqHG.qNzQ

>>799 แต่มันยืดแล้วสนุกนะ ช่วงggoนี้อาจแผ่ว แต่พอขึ้น mother Rosario นี้สนุกยาวจนปัจจุบันเลย

801 Nameless Fanboi Posted ID:kG6SjqeUcv

ก็นั่นแหละฮะทั่นผู้ชม คือถ้าเป็นคนที่ติดตามตัวละครมากกว่าเนื้อเรื่องก็คงโอมั้ง ที่มันจะยืดเรื่องไป ขอแค่อ่านเพลินๆ
แต่ในขณะเดียวกันก็คิดว่ามันควรจะเปลี่ยนชื่อเรื่องไปเลยนะตอนขึ้นภาคใหม่ เพราะตัวเกมที่ชื่่อ Sword Art Online มันจบไปตั้งแต่ภาคแรกแล้ว
แนวเรื่อง อารมณ์ของเรื่องก็ไม่มีอะไรเหมือนเดิมเลย เสือกแปะหัวว่า SAO มันทุกภาค เหมือนกลัวคนจำไม่ได้

802 Nameless Fanboi Posted ID:kG6SjqeUcv

กูจะยกตัวอย่าง City Hunter กับ Angel Heart ละกัน คือใช้ตัวละครเดิม แต่โทนเรื่องคนละขั้วเลย นิสิัยตัวละครก็ต่างกันในหลายๆแง่ด้วย คือมันเป็นคนละเรื่องไปแล้วล่ะ ก็เปลี่ยนชื่อ ไม่ใช้ City Hunter ต่อให้ระคายเคืองผู้อ่านเก่า แบบนี้อะถูกต้อง

803 Nameless Fanboi Posted ID:t/.giTNTGF

>>799 นี่>>795 saoนี่กรูก็ว่าโทนมันเพี้ยนเหมือนกัน แต่ประกาศเป็นarcใหม่ส่วนตัวเลยไม่ได้มีปัญหามาก saoคิดว่าเป็นชื่อละครใหญ่ก็ได้แหล่ะ

804 Nameless Fanboi Posted ID:50fM5uWHmT

>>802 City Hunter กับ Angel Heart นี่มันคนละจักรวาลกันนี่ เหมือนกับจักรวาลมาลเวลนั่นล่ะ
ส่วนเรื่องชื่อ SAO กูว่ามันเป็นแฟนไชร์ไปแล้วอะ

805 Nameless Fanboi Posted ID:UR5/Iho2YM

>>804 นักล่าเมืองกับหัวใจเทวดานี่เรื่องมันต่อกันไม่ใช่เหรอวะ รึกูจำผิดเอง

806 Nameless Fanboi Posted ID:K6AvzIpvJB

>>805 "เหมือน"จะต่อกัน แต่จริงๆเป็นโลกคู่ขนานมากกว่า
คือถ้าดูการเชืื่อมโยงเพียวๆ อาจนึกว่ามันเป็นเนืื้อเรื่องต่อจาก City Hunter ซึ่งก็เหมือนจะใช่
แต่ถ้ามึงไปดูตัวละคร จะพบว่า มีตัวละครหายสาปสูญไปเยอะมาก ไม่เอ่ยถึงเลย และทำเหมือนไม่เคยมีตัวตน
เช่นฟอลคอน เมียหาย ซาเอโกะมีน้องสาวอยู่สี่คน ไม่พูดถึง (เล่มหลัังๆพูดถึงบ้างมั้ยไม่แน่ใจ) และตัวละครขาจรขาประจำอีกมากมายที่เคยมีในภาค City Hunter ก็ถูกตัดออกไปหมด จนกูรู้สึกว่ามันเป็นโลกคู่ขนานมากกว่า

807 Nameless Fanboi Posted ID:6MCo7y+c+T

>>806 กูชอบ City Hunter มากกว่า เพราะเฮียโล้นผีทะเล

808 Nameless Fanboi Posted ID:tK4jCTUPLf

อยากลองเขียนนิยาย ราชาปกครองประเทศเป็นแกนหลัก ดูบ้าง มีนิยายแนวๆ นี่แนะนำมะ จะดูเป็นตัวอย่างหน่อย
ปล. เอาประวัติศาสตร์มา mock up ได้ปะวะ

809 Nameless Fanboi Posted ID:F.9O/kbjy6

>>808 Game of thrones กิกิ

810 Nameless Fanboi Posted ID:3N6tjW42OU

>>808 เน้นการเมืองการปกครองลองอ่านไตรภาคสุยถังดู นิยายไทยไม่ค่อยมีหรอก แทรปเกิดใหม่กูไม่ได้อ่าน แต่น่าจะพอไหว

เอาจริงเรื่องการปกครองมันยากนะ เขียนให้สนุกนี่ยากยิ่งกว่า หาหนังสือปวศ.อ่านง่ายกว่าเยอะ ถ้าอยากได้มุมมองด้านตัวบุคคลและนโยบายเชิงเปรียบเทียบ กูแนะนำหนังสือของมติชนเรื่อง ราชสำนักจีนหันซ้าย โลกหันขวา สนุกสุดๆ

811 Nameless Fanboi Posted ID:I71.9QJUKY

โหลๆ คือกูกำลังหาเว็บอธิบายรายละเอียดของชุดผู้ชายอะ คือมันจะเป็นแบบอธิบาย ว่าชุดนั้นชุดนี้เรียกว่าอะไร ที่กูกำลังหามันเป็นชุดแนวแฟนตาซีหน่อยๆ ด้วย มียศ มีอะไรประดับแบบหรูๆ หน่อย ทีนี้กูควรจะหายังไงดี ไม่รู้จะเสิร์ซว่ายังไง โม่งช่วยแนะนำหน่อยนะ อยากได้จริงๆ กูค่อนข้างโง่เรื่องแฟชั่น

812 Nameless Fanboi Posted ID:MxKwPszmpD

>>811 ราชปะแตน

813 Nameless Fanboi Posted ID:73KkOdkvP3

ราชปะแตน มาจาก ราช แพตเทิร์น... Raj Pattern
ไปรเวท... มาจาก ไพรเวต... Private

814 Nameless Fanboi Posted ID:xyQeon1rxV

>>811 จำกัดก่อนว่าเป็น​ชุดยุคไหน, ชาติไหน แล้วค่อยค้นหาเจาะลึกลงไป

815 Nameless Fanboi Posted ID:I71.9QJUKY

-ยุคกลาง ออกแนวแฟนตาซี มีความทันสมัยหน่อยก็ได้ พวกชุดของผู้ชาย เกราะอัศวิน ชุดเครื่องแบบประดับยศ
-ชาติก็ ยุโรป-อังกฤษ ประมาณนี้แหละ

816 Nameless Fanboi Posted ID:I71.9QJUKY

ไม่รู้จะหารูปจากไหน จากเกมละกัน ก็น่าจะประมาณนี้ https://pin.it/6hhpylpjwbmijh
https://pin.it/j4g7vz6xullpsa

817 Nameless Fanboi Posted ID:I71.9QJUKY

>>812 >>813 ขอบคุณ แต่ลองเสิร์ซ ปรากฎว่าคนละทวีปกันเลย 😂

818 Nameless Fanboi Posted ID:/9ljuRGCyy

พูดถึงแล้วก็แอบติดปัญหาเรื่องนี้หน่อยๆ เหมือนกัน
นิยายที่กูแต่งมันเป็นแฟนตาซีแต่อิงเซ็ตติ้งวัฒนธรรมให้คล้ายกับประเทศที่มีในโลก (ตัวอย่างเช่นแทนที่ประเทศอังกฤษว่าอาณาจักรA) ทีนี้มันมีตัวละครที่แต่งตัวด้วยชุดประจำถิ่นอย่างยูคาตะหรือชุดมิโกะอยู่ แต่เพราะโลกในเรื่องมันไม่มีประเทศญี่ปุ่นอยู่ก็เลยไม่รู้ว่าควรจะเขียนยังไงดี จะบรรยายเลี่ยงๆ ก็อาจนึกภาพไม่ออกด้วย

819 Nameless Fanboi Posted ID:En6jz9TohW

>>815 ต้องดูของศตวรรษที่ 14 เพราะยุคกลางตอนปลายคือเจริญที่สุดแล้ว และกำลังจะเปลี่ยนผ่านสู่ยุคเรเนซองส์ ชาติที่เจริญล้ำหน้ากว่าอังกฤษน่าจะเป็นอิตาลี ซึ่งช่วงนั้นถูกปกครองโดยจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (คนละอาณาจักรกับโรมันโบราณ)

820 Nameless Fanboi Posted ID:En6jz9TohW

>>818 ประเทศฮอกไกโดก็ได้ เหมือนประเทศสารขัณฑ์ล้อบางประเทศนี่แหละ เพราะฮอกไกโดมีชนพื้นเมืองไอนุ สืบเชื้อสายผสมญี่ปุ่นกับรัสเซียตะวันออกไกลหน่อย

821 Nameless Fanboi Posted ID:ln+NHh6s9D

>>820 ไม่ๆ กูหมายถึงการแต่งกายเด่ะ
คือในเรื่องที่กูเขียนมันมีประเทศญี่ปุ่นที่สมมติชื่ออยู่แล้ว แต่ด้วยการที่มันไม่ใช่ญี่ปุ่นแบบในโลกของเราจริงๆ ชื่อสิ่งของที่เป็นชื่อเฉพาะอย่างยูคาตะก็เลยต้องไม่มีด้วย และปัญหาที่ตามมาคือกูจะบรรยายลักษณะของยูคาตะยังไงให้คนรู้ว่าเป็นยูคาตะ โดยไม่ใช้คำว่ายูคาตะตรงๆ

เขียนมาแบบนี้กูก็นึกเพิ่มได้อีกอย่าง พวกหน่วยวัดสมัยใหม่ที่กำหนดโดยมนุษย์ (กรัม เมตร) ในโลกแฟนตาซีมันก็ไม่ควรมีนะ กูอ่านเรื่องนึงเจอโลกเวทมนตร์ใช้หน่วยไมล์วัดระยะทางแล้วรู้สึกแหม่งๆ ขึ้นมาทันที

822 Nameless Fanboi Posted ID:Ru4y0AhMhX

>>821 บางทีมันพูดยากนะ ถ้าแฟนตาซีจริง ๆ หลา นิ้ว เอเคอร์ ก็ต้องห้าม แต่จะให้เรียนทั้งหมดใหม่เลยนี่ลำบากมาก เช่นถ้าจะแสดงให้คนอ่านเห็นว่าไกลเท่าไหร่ แล้วต้องใช้หน่วยใหม่นี่ลำบากคนอ่านอีก

เช่น มังกรกัลลิวัลล์หนัก 22 รานัต เดินทางได้ 250 นาลีต่อคาเด ดำน้ำลึกได้ 750 พาเซ คนอ่านคงแบบ แล้วกูจะรู้กับมึงไหม ต้องทำตารางเทียบให้ทั้งหมดเหรอ อีกอย่างเรื่องเวลาก็เหมือนกัน อันนี้รุนแรงกว่า ถ้าเป็นดาวคนละดาว วันต่อปี ฤดูกาล ชั่วโมงต่อวัน ไม่เท่ากับโลก ถ้าต้องอธิบายใหม่หมด ทุกหน่วยวัด กูว่าคนอ่านหนีอ่ะ คือบางอันก็เปลี่ยนได้ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดว่ะ

823 Nameless Fanboi Posted ID:KzwdW8mBmK

>>822 แต่บางเรื่องก็เล่าใหม่หมดได้แบบไม่สะดุด กูว่าเค้าเก่งวะที่ทำได้ขนาดนั้น

824 Nameless Fanboi Posted ID:UKFRUd3Bfo

ระยะทางหรือน้ำหนักกูใช้วิธีเปรียบเปรยแบบอื่นเอาอ่ะ อย่างพระเอกโดนตัวร้ายถีบจนกระเด็นไปหลายสิบก้าว ดาบที่มีความยาวใบมีดประมาณสองช่วงแขน
จริงๆ ถ้าพูดแบบนี้ การนิยามจำนวนตัวเลขในโลกแฟนตาซีมันก็ต้องเปลี่ยนใหม่หมดตั้งแต่การนับ 1-10 เลย แต่พอดีกว่าเดี๋ยวยาว

825 Nameless Fanboi Posted ID:mvqr8swyKd

ถ้ามึงแต่งแฟนตาซียุโรปก็ใช้มาตรฐานยุโรปไปเลยก็ได้ แต่ถ้าต่างโลกแบบเพียวๆ แล้วอยากสร้างมาตรวัดใหม่ก็ไม่เป็นไร

826 Nameless Fanboi Posted ID:JuzaylonSc

>>823 มึงยกตัวอย่างเรื่องที่ใช้หน่วยวัดต่างๆ เป็นภาษาของตัวเองแล้วเขียนจนจบได้ให้กูซักเรื่องสิ แล้วเดี๋ยวกูจะอธิบายให้ฟังว่าทำไมเรื่องนั้นทำได้แต่พวกมึงทำไม่ได้

827 Nameless Fanboi Posted ID:kxm95LGSjO

>>821 กูไม่มีปัญหานะถ้าจะใช้คำพวกนั้น ประเด็นไม่น่าใช่เซตติเงแต่น่าจะเป็นยุคมากกว่า คือต่อให้เป็นแฟนตาซีมันก็ต้องมียุคสมัยของมัน ถูกมะ ถ้ามันเป็นแฟนตาซีที่ติดกลิ่นโบราณๆ ก็เลือกใช้คำที่เฉพาะกับยุคหน่อย แต่ถ้าเป็นแฟนตาซีโลกอนาคต กูก็ไม่ติดใจที่จะใช้คำที่มีอยู่แล้วนะ ในฐานะคนอ่าน กูรู้สึกว่าถ้ากูต้องมาจำคำเรียกใหม่หมด บางทีมันก็น่ารำคาญเหมือนกัน ยิ่งอีพวกมาเป็นตารางๆ คือกูโบกมือลาก่อนเลย ไม่ใช่ทุกคนที่อยากมานั่งท่องตารางคำศัพท์ใหม่ว่ะ

828 Nameless Fanboi Posted ID:3+eMMCD6pu

มันก็ไม่ต่างกับชื่อตำแหน่ง หรือลำดับชั้นหรอก กุว่า

829 Nameless Fanboi Posted ID:En6jz9TohW

เอางี้มั้ย หน่วยมาตราอะไรก็ตาม
100 เมล็ด = 1 โกโก้
100 โกโก้ = 1 ช็อคโกแล็ต
100 ช็อคโกแล็ต = 1 มอคค่า
4 มอคค่า = 1 ลาเต้
4 ลาเต้ = 1 คาปูชิโน่
4 คาปูชิโน่ = 1 อเมริกาโน่
4 อเมริกาโน่ = 1 เอสเพรซโซ่

830 Nameless Fanboi Posted ID:QO0zVT3M5G

ตำนานราสปูตินมีใครเอามาเขียนนิยายหรือยัง?

831 Nameless Fanboi Posted ID:HXUhB4nvkL

>>830 กูเขียนละ แต่ไม่ใช่สายสว่างนะ ลองแต่งดูได้ ผลตอบรับดี

832 Nameless Fanboi Posted ID:gw9FTNedRX

>>830 อ่านประวัติดิบๆยังนึกว่านิยายเลย

833 Nameless Fanboi Posted ID:WBnCa1SV70

กุเพิ่งรู้ว่าหมวดบู๊แอคชั่นแม่งเงียบขนาดนี้ ลงไปไม่กี่ตอนขึ้นท็อป

834 Nameless Fanboi Posted ID:9H+U/dCfY/

>>816 กำลังอยากรู้อยู่พอดีว่าชุดแบบลิงก์ที่สองเรียกว่าอะไร โม่งคนไหนรู้บ้าง

835 Nameless Fanboi Posted ID:A8F3pFkGWH

>>833 ก็เด็กดวกทำระบบจัดหมวดพิลึกขนาดนี้ แค่เขียนแฟนตาซีบู๊ล้างผลาญยังไม่มีใครลงหมวดแอคชั่น ทั้งที่แฟนตาซีไม่จำเป็นต้องเขียนฉากต่อสู้ห่าเหวเลย การจัดหมวดของมังงะสแกนทำการบ้านดีกว่าเยอะ

836 Nameless Fanboi Posted ID:A8F3pFkGWH

>>835 ถ้าจะเห็นภาพง่ายๆ ระบบหมวดหมู่จะเหมือนดังนี้
ของเด็กดวก = Internet Explorer 6
ของมังงะสแกน = Chrome, Firefox, Opera

837 Nameless Fanboi Posted ID:zzZ7HyWIo/

เว็บเด็กดวกชอบตั้งหมวดใหม่ให้หมวดที่คนเขียนเยอะจนดันเเนวอื่นที่ใกล้เคียงตกหมดน่ะ

838 Nameless Fanboi Posted ID:tt1g88wWq3

หมวดร้างมันก็ร้างจริงๆ นั่นล่ะ
ข้อดีอย่างนึงคือนิยายจมยาก ลงนิยายผ่านไป 2-3 วันยังคาอยู่หน้าแรกของหมวดอยู่เลย

839 Nameless Fanboi Posted ID:AZCHZiq3U4

>>838 นิยายขึ้นเด่นหราไม่จม แต่วิวน้อยนิ่งสนิทกว่านิยายที่โดนดันจมในห้านาทีกูว่ามันก็ไม่ใช่นะ

840 Nameless Fanboi Posted ID:PYo/1N5cTx

>>839 ไม่เป็นไร ไม่มีนักเขียนที่ไหนเขียนเอายอดวิวหรอกกกกกกก

841 Nameless Fanboi Posted ID:rFP4o3p66m

>>840 แต่บางคนกังวลหน้ามือตามัวกับยอดเม้นยอดวิวยอดแฟน

842 Nameless Fanboi Posted ID:602vNGFFsM

>>840 มีนะ นักเขียนหวังยอดวิว เฟบ

843 Nameless Fanboi Posted ID:Y1ujmzhuRm

>>840 ยอดวิวคือผลการวัดความนิยมไง
ถ้าเขียนไปจะจบเรื่องแล้ว ยอดยังไม่ได้ 100 หรือ 1000 นี่ควรพิจารณาวิธีเขียนใหม่ได้แล้ว เพราะโอกาสรุ่งหรือไปขายทำมือเอง โครตยาก

844 Nameless Fanboi Posted ID:.UBNnCBFjn

>>843 ยกเว้น ยอดวิวเกินครึ่งไม่ยอมอ่านนิยาย แวะเข้ามาเป็นม้า ไม่ก็พวกหลงทาง

845 Nameless Fanboi Posted ID:/Zv2NF6+au

วิวหลักพันเนี่ย ถ้านิยายไม่ห่วยจริงๆ และจำนวนตอนเยอะพอ เขียนยังไงมันก็น่าจะถึงมั้ง

846 Nameless Fanboi Posted ID:qffz1/WFTL

ลงหมวดแฟตาซียังไงก็ถึงพัน

847 Nameless Fanboi Posted ID:Xm+ZaSzNJJ

ยอดวิวนิยายที่กูเขียนจบไปแล้วนี่ 40k แต่ไม่รู้สึกเลยว่าประสบความสำเร็จว่ะ
เพราะคนแม่งอ่านกันแค่ 10 กว่าตอนแรก ยอดอ่านตอนละ 3000+ แต่พอมาตอนหลังๆ ยอดอ่านลดเหลือตอนละ 200-300 คนเอง

848 Nameless Fanboi Posted ID:Hv2oTZdgMk

>>847 กูจบภาคแรกไปที่ 30k ก็รู้สึกไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ (กูไม่ได้ลงหมวด ฟตซ. นะ) แต่ของกูก็พอขายอีบุ๊คได้นะ กูแบ่งเป็นสองเล่ม เดือนนึงรวมก็ 30+ เล่ม อาจไม่เยอะสำหรับคนที่เขาประสบความสำเร็จ แต่สำหรับกูมันคือรายได้เสริมที่โอเคและมีความสุข
ของกูเหมือนมึงอ่ะ ตอนแรกๆ 3-4 พัน+ ปัจจุบันภาคสอง เหลือ 200ต้น ๆ กว่าจะจบคงลดลงกว่านี้อีก แต่พอขายได้แบบนี้เรื่อยๆกูก็พอใจในระดับหนึ่ง

849 Nameless Fanboi Posted ID:IilOGH/0aH

กูทำมือฝากในร้านขายการ์ตูนแถวบ้านขายได้สิบเล่มละ

850 Nameless Fanboi Posted ID:4bzp5OdR58

ว่าไปก็อยากรู้ว่าบางคนเริ่มแต่งเรื่องแรกยอดวิวไม่ได้เยอะมาก แต่เสนอ สนพ ผ่านแล้วได้พิมพ์นี่ มันใช้วิธีเสนอยังไง

851 Nameless Fanboi Posted ID:lk7o251RFj

>>850 บางคนพอผ่านค่อยเอานิยายลงเน็ตเพื่อโปรโมต บางเรื่องเขียนจนจบแล้วส่งถูกจังหวะ สำนวนดีพลอตโอเคบก.ชอบก็ได้รับโอกาสแล้วเพื่อน นักเขียนบางคนถึงพูดไงว่ายอดวิวไม่ได้เป็นตัววัดว่าจะได้ตีพิมพ์เสมอไป แต่เรื่องขายออกรึไม่ออกขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ เพราะบางเรื่องไม่เอาลงเน็ต ขายแค่ตัวเล่ม คนซื้อก็น้อยเพราะเขาไม่อยากลงทุนกับนักขียนใหม่แล้ว นิยายกากเยอะ ถ้ามีฐานมาก่อนนักอ่านที่เขาชอบเห็นชื่อก็จัดเลยก็มี
สำหรับกูเอาลงเน็ตเพราะอยากให้คนมาอ่านแล้วแสดงความคิดเห็น บางทีอาจได้ข้อเสนอแนะที่กูพลาดไปด้วย เหมือนหาเพื่อนคุยกลายๆ เขียนเงียบๆไม่เอาลงเน็ตเลยกูทำได้ แต่กูเหงา บิบิ

852 Nameless Fanboi Posted ID:.UBNnCBFjn

ebook ต้นทุนน้อยกว่าเล่มรึเปล่า

853 Nameless Fanboi Posted ID:Rm8FzrG2Wz

>>848 กูไม่เคยคิดทำ ebook เลยแฮะ สอบถามเรื่องรายได้หน่อยดิ เผื่อเรื่องใหม่จะหันไปลง ebbol มั่ง

854 Nameless Fanboi Posted ID:Hwu5O.mLsI

>>852 น้อยกว่าเล่มแน่นอน แค่ลงทุนจ้างวาดหน้าปกงามๆ อาจเสียค่าโปรโมตเพจในเฟซสักนิด ไม่ต้องเสียค่ากระดาษค่าพิมพ์ บลาๆ
>>853 ทำเถอะ โอกาสขาดทุนต่ำมาก ถ้ามีเรื่องที่เคยเขียนจบแล้วก็เอามารีไรต์แล้วทำซะ ไม่ยากเลย ส่วนตัวกูจ้างวาดปก ปกละ 2500 สองปกก็ 5000 ทีแรกกูก็เสียวๆ อยู่นะว่าจะไม่ได้ทุนคืน แต่คือแป๊บเดียว แป๊บเดียวจริงๆก็ได้แล้ว (กูไม่ใช่แนวกระแสนะ) แล้วเปิดเติมเหรียญตามเว็บไซต์ที่ลงด้วย รายได้เข้าหลายทาง ลงทุนครั้งเดียว กินได้เรื่อยๆ ควรลองทำนะ สู้ๆ

855 Nameless Fanboi Posted ID:khMMv6AJLY

>>854 แปลว่านอกจากจ้างนักวาด มันก็ไม่เสียอะไรแล้วใช่ปะ ถ้ากูวาดรูปได้ แล้วทำปกเอง แบบนี้ก็ไม่เสียอะไรเลยอะดิ

856 Nameless Fanboi Posted ID:Hwu5O.mLsI

>>855 ใช่แล้ว แต่แนะนำนะ ถ้าฝีมือยังไม่ถึงขั้นจริงๆ อย่าวาดเองเลย ปกสวยปกดี มีโอกาสขายออกมากกว่า ยิ่งนิยายแฟนตาซีควรจ้างนะ กว่าจะขายได้มันต้องผ่านหลายชั้น
สมมตินักอ่านเห็นอีบุ๊คเราจาก meb
เริ่มจากประทับใจแรกพบ คือปกและชื่อเรื่อง แล้วเขาก็จะเลื่อนมาอ่านโปรย ถ้าโปรยเข้าท่าอ่ะโหลดตัวอย่าง เฮ้ยตัวอย่างดีงาม จะซื้อ โอ้พิจารณาราคา (บางคนอาจดูราคาตั้งแต่แรก) เห็นป่ะ ผ่านตั้งหลายชั้น ถ้าด่านแรก(ปก) ไม่เวิร์ค ต่อให้อย่างอื่นดี ก็ไม่มีประโยชน์

857 Nameless Fanboi Posted ID:Rm8FzrG2Wz

>>856 โอ้ขอบใจมากสำหรับการชี้แนะ เคยคุยกับมืออาชีพเขาก็บอกเขียนขายก็พอได้เงินเป็นค่าขนม แบบนี้น่าจะลองดู

858 Nameless Fanboi Posted ID:Hwu5O.mLsI

>>857 พยายามเข้า ไม่ลองไม่รู้

859 Nameless Fanboi Posted ID:z/Oo20Mn5B

Test net ais

860 Nameless Fanboi Posted ID:0SN33S30tf

ถามหน่อย นิยายพระเอกเทพเเบบชนะโดยไม่มีอะไรต้องลุ้น เนี่ย มันสนุกตรงไหนอะ เห็นคนชอบเยอะ ส่วนตัวอ่านเเล้วบอกเลยว่าโคตรน่าเบื่อทุกเรื่องเลย

861 Nameless Fanboi Posted ID:GX7NuCDbwv

>>860 สนองนี้ดคนอ่านใน ในชีวิตจริงแม่งเป็นลูสเซอร์ ไม่เคยประสบความสำเร็จอะไรแบบเป็นชิ้นเป็นอัน พอได้อ่านเรื่องตัวเอกเทพๆ ก็อิน มโนไปว่าตัวเองเป็นพระเอก

862 Nameless Fanboi Posted ID:uTL0vysXWx

เพื่อนในเฟซกูที่ชอบแนวนี้ให้เหตุผลว่าเพราะมันไม่เครียดนั่นแหละ แบบเจออะไรในชีวิตจริงมาเหนื่อยๆ จะมานั่งอ่านอะไรซีเรียสหรือหดหู่อีกก็ใช่ที่
แต่ถ้าถามกู กูก็ไม่ชอบหรอกนะ

863 Nameless Fanboi Posted ID:fPK8BksV+o

ถ้าเป็นพวกเมพเเบบทุกอย่างเป็นไปตามเเผนนี่ชอบนะ เเต่เทพเเบบเอาพลังเทพเข้าว่านี่รับไม่ได้อะ ไปอ่านเรื่องนึงในนมสวยมา เชี้ยมพวกเเม่งเสกสกิลเองได้ เละเทะฉิบหาย

864 Nameless Fanboi Posted ID:EsRb9jlS1v

ประเด็นนี้ นึกถึงนักดาบแกรี่คนแรกเลย คนเขียนช่วยเยอะเกิน

865 Nameless Fanboi Posted ID:vj8FiXi9aY

>>860 มันคือพระเอกสาย easy mode ไง
>>863 นมสวยเรื่องไหน บอกด้วย

866 Nameless Fanboi Posted ID:UXV0qaQ02b

Ky กูถามไรหน่อย
พวกมึงเคยเข้าไปคอมเม้นแซะนักเขียนที่ชอบกันมั๊ยวะ
คือกูมีนักเขียนที่ตามอ่านมาตั้งแต่สมัยม.ต้นจนตอนนี้จะจบมหาลัยแล้วคนนึง
ชาตินึงจะอัพที อัพทีกูน้ำตาแทบไหล มาแบบผลุบๆ โผล่ๆ นักอ่านคนอื่นเม้นขอร้องอ้อนวอนดีๆไม่ตอบ
กูเลยเข้าไปคอมเม้นแซะ แซะให้นักเขียนกระเตื้องActiveขึ้นหน่อย ปรากฎว่ามีปฏิกิริยากับเม้นกูเฉย
แซะแบบnegative อ่ะ แซะเสร็จอัพเลย พวกมึงว่ากูควรแซะต่อไปมั๊ยหรือกลับไปเป็นนักอ่านน่ารักเด็กน้อยดี
แซะมากๆ ก็กลัวนักเขียนนอยด์หายไปเป็นชาติอีก

867 Nameless Fanboi Posted ID:IkZrqL.cNp

>>866 ตบหัวแล้วลูบหลัง แซะก่อนแล้วชมทีหลังให้มันพอมีกำลังใจเขียน

868 Nameless Fanboi Posted ID:Ck9GG7misE

หมวดสืบสวนมีไรน่าอ่านบ้างอะ แนะนำหน่อย

869 Nameless Fanboi Posted ID:X4mRpShWeD

ใครสับนิยายกูที่ไม่ต้องเกรงใจด่าอะไรรับได้
https://my.dek-d.com/kate-matc5/writer/view.php?id=1843046
ปล.แม่งนิยายตอนโครตสั่นวะ บรรยายห่าไรไม่รู้

870 Nameless Fanboi Posted ID:vj8FiXi9aY

>>866 เช้าชามเย็นชามก็งี้แหละ

871 Nameless Fanboi Posted ID:X4mRpShWeD

>>869 กูที(เบลอไปหน่อย)

872 Nameless Fanboi Posted ID:WY+vrHloQr

>>865 http://www.niceoppai.net/Makikomarete-Isekai-Teni-suru-Yatsu-wa-Taitei-Cheat/1/ เรื่องนี้เเหล่ะ

873 Nameless Fanboi Posted ID:WY+vrHloQr

ใครเเม่มส่องคำถามในนี้เเล้วไปตั้งทู้ในบอร์ดฟะ5555
https://www.dek-d.com/board/view/3889743/

874 Nameless Fanboi Posted ID:Hn3FZJ7tK+

>>872 เรื่องนี้แม่งแต่งเอาใจนักหลวมสัสๆ พระเอกแกรี่ชิบหาย ทำเองได้ แก้ปัญหาได้เองหมดทุกอย่างเหมือนเรื่องเดทมาร์ชกับรี:มอนสเตอร์ แล้วตัวมังงะก็ขายนม ขายกางเกงในเกินไป อ่านแล้วไม่เกิดอารมณ์เลย อยากจะอ้วกแทน

875 Nameless Fanboi Posted ID:U1e.+OewMf

>>874 พูดได้ดี อยากจะกดถูกใจซักร้อยที555

876 Nameless Fanboi Posted ID:vj8FiXi9aY

>>874 พูดแล้วนึกถึง AIKA ที่แม่งโชว์แต่กกน. แต่ก็อย่างว่าแหละ ต่างโลกฮาเร็มชักจะเยอะเกินไปแล้ว

877 Nameless Fanboi Posted ID:IkZrqL.cNp

Ky มีนักอ่านคนนึงบอกว่าไม่อยากได้นางเอกคนปัจจุบัน...แต่ทั้งเรื่อง 50 กว่าตอนกูปูให้คนนี้เต็มที่ ถ้าไม่เอาคนนี้จะให้เอาคนไหนแฟะ...

878 Nameless Fanboi Posted ID:PsI+8ttUH2

>>877 เขียนต่อไปเพื่อนโม่ง อย่าไปเขวกับรสนิยมนักอ่าน นักเขียนไม่ได้มีหน้าที่เขียนตามสิ่งที่เขาชอบ เขาต่างหากที่ต้องเป็นคนเลือก ถ้าไม่ชอบจริงๆ แค่หาเรื่องใหม่ที่รสนิยมตรงกัน มันก็แค่นั้น

879 Nameless Fanboi Posted ID:vj8FiXi9aY

>>877 เดี่ยวนะ มีคนรังเกียจตัวละครจากยุคปัจจุบันด้วยเหรอ กูเคยเจอกระทู้ถามว่าทำไมไม่มีนิยายจีนยุคปัจจุบัน คนตอบว่าจีนปัจจุบันคือไร้ศิลปะ สงสัยคนชอบตัวละครหัวโบราณปรับตัวเข้ายุคสมัยไม่เก่ง ไม่ชอบตัวละครคนหัวก้าวหน้า

880 Nameless Fanboi Posted ID:YOZ0ZYwjjx

>>877 เขียนให้เเม่มหวานกันสุดๆประชดเลย

881 Nameless Fanboi Posted ID:IkZrqL.cNp

>>879 ขอโทษ กูใช้คำกำกวมไปหน่อย นางเอกคนปัจจุบัน คือ คนที่ได้ตำแหน่งนางเอก ณ ตอนนี้

882 Nameless Fanboi Posted ID:RYULcjEUhX

>>872 จะด่าก็ไม่เต็มปากว่ะเรื่องนี้ เพราะหลังๆ แม่งเขียนมาเป็น Comedy แบบเวอร์ๆ ใส่เต็มขั้นอ่ะ ช่วงตอนแรกๆ มันดูเหมือนจะมีพอยต์โง่ๆ เหมือน Isekai ดาษๆ ทั่วไปก็จริง แต่กูอ่านดูแล้วคือมันเป็น Comedy ล้วนๆ แบบไม่มีจุดมุ่งหมายของเรื่องเลยมากกว่า

883 Nameless Fanboi Posted ID:mxnb1v.lzI

>>879 อารมณ์เดียวกับที่ไม่ค่อยมีคนกล้าเขียนข้ามเวลาไปอนาคต หรือย้อนเวลามายุคปจบเพราะมันเขียนยากนั่งเทียนมึน ๆ เขียนเอาไม่ได้

884 Nameless Fanboi Posted ID:UCdU7Lzc.3

>>883 แปลว่าคนเขียนบางคนไม่เคยเจอคนหัวโบราณตัวเป็นๆ เพราะถ้าได้อยู่กับคนแบบนี้จะต้องรู้ปฏิกิริยาต่อสิ่งทันสมัยกว่า พออนุมานว่าคนจากยุคกลางเห็นมอเตอร์ไซค์เป็นตัวอะไร

885 Nameless Fanboi Posted ID:fHw0FFiXoD

กูกำลังเขียนนิยายผจญภัยแฟนตาซีเล็ก ๆ (
เล็กจริง ๆ นะ)
แต่พอกูไปดูจำนวนคนอ่านในหมวดผจญภัย พบว่าน้อยยิ่งกว่าหมอยแมว

ถ้ากูเอาไปลงหมวดแฟนตาซีจะมีคนมาด่ากูไหมวะ

886 Nameless Fanboi Posted ID:PUq0S42mBN

ได้แหละ แต่ถ้าแต่งเรื่องอื่นแล้วมีแฟนคลับมาก่อน ก็น่าจะมีฐานเสียงอยู่บ้างนะ

ลงแฟนตาซีนี่เสี่ยงทั้งดวงทั้งการแข่งขัน ดวงไม่ดีพอนิยายมึงจะจมหน้า 3+ ภายในหนึ่งชั่วโมงโดยที่คนอ่านขาจรยังไม่ทันเห็นด่วยซ้ำ

887 Nameless Fanboi Posted ID:DRV.+5omkC

>>885 มึงเข้าใจก่อนว่าการแบ่งหมวดเด็กดวกแม่งล้าหลังบัดซบมาก
ที่จริงระบบ Tags นี่ควรพัฒนาแล้วเลิกแบ่งหมวดได้แล้วว๊อย!!

888 Nameless Fanboi Posted ID:bq5y.tazuV

กูเป็นคนเดียวเหรอวะ ที่ชอบระบบหมวดหมู่ แต่เปลี่ยนก็ดีเหมือนกัน ฮ่าฮ่า

889 Nameless Fanboi Posted ID:DRV.+5omkC

>>888 ไม่หรอก ระบบแบ่งหมวดหมู่ก็ดี แต่ของเด็กดวกมักห่วย
มึงคิดดูนะ คำว่านิยายแฟนตาซีแม่งเป็นอะไรที่โคตรจะกว้างเลย สามารถแบ่งยิบย่อยได้หลากหลาย ทั้งแฟนตาซีแนว Sword & Magic แนว Resurrection แนว Isekai แนว Game Online ไหนยังมีแนว Love Fantasy กับแฟนตาซีสืบสวนอีก ซึ่งทั้งหมดมันเป็น Sub-set ของแนวแฟนตาซีทั้งสิ้น

แต่เด็กดวกแม่งดันแยกไอ้ Sub-set ทั้งหลายนี่ออกมาเป็นหมวดใหม่ไง แทนที่จะให้คนอ่านไปกระจุกรวมอยู่ในหมวดแฟนตาซี เพื่อให้กลุ่มผู้อ่านทั้งชาย - หญิง เด็ก - ผู้ใหญ่ มาอยู่หมวดเดียวกันแล้วแยกหาตาม Tags ที่ตัวเองชอบ แทนที่จะกระจายไปอยู่หมวดโน้นที หมวดโน้นที

อย่างปัจจุบันเนี่ยแม่งแยกชัดเจนมาก หมวดแฟนตาซี เป็นกลุ่มผู้อ่านวัยรุ่ย หมวดรักแฟนตาซี และอดีต - ปัจจุบัน - อนาคต เป็นกลุ่มผู้อ่านหญิง และหมวดเกมออนไลน์เป็นกลุ่มผู้อ่านเด็ก แถมยังแยกกันแบบเด็ดขาดอีกต่างหาก ทำให้การลงนิยายทีต้องคิดหนักเลยว่าจะเล็งกลุ่มผู้อ่านกลุ่มไหน ทั้งที่บางทีนิยายแม่งอ่านได้ทุกเพศทุกวัยไง

890 Nameless Fanboi Posted ID:TOvquBAliY

>>888 เด็กดวกทำระบบหมวดหมู่ยังกะ Internet Explorer 6 โดยระบบการจัดหมวดหมู่เว็บอื่นไปถึงไหนกันแล้ว ดูเว็บมังงะสแกนเป็นตัวอย่างก็ได้

การจัดหมวดฟชล.หลังอัพเดตใหม่ ระบบหมวดแม่งเริ่มพิลึกตามรอยเด็กดวกแล้ววะ

891 Nameless Fanboi Posted ID:5DzuIIAOR7

>>889 จริงว่ะ มึงนี่พูดได้ตรงใจดูเลย ทุกวันนี้กูอยู่ในเด็กดวกยากมาก นิยายกูเป็นรักชายหญิงที่มีความแฟนตาซี กูจึงลงรักแฟนตาซี แต่พระนางกูเป็นวัยที่ค่อนข้างโต ซึ่งรักแฟนตาซีมีแต่ 'เด็ก' ผู้หญิง อายุผู้อ่านกูเหมาะกับหมวดซึ้งกินใจ แต่หมวดนั้นก็จะนิยมนิยายที่มันไม่แฟนตาซีอีก เฮ้อ กูช่างอยู่ยากแท้หนอ
แต่พอไปลง ฟชล. คนอ่านเยอะแบบผิดกัน คือดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ อ่ะคิดดูนี่มันเพราะอะไร

892 Nameless Fanboi Posted ID:A8o0sufN4m

ปัญหาของระบบ Tag คือคนไทยใช้ tag มั่วชิบหายเลย หาดูตามเฟสหรือเด็กดวกบางเรื่องได้

893 Nameless Fanboi Posted ID:j.PWZ4fUQV

กูเห็นหลายเรื่อง เน้นจำนวน Tag เข้าว่า นอกนั้นไม่สนห่าไรเลย

894 Nameless Fanboi Posted ID:53wmPnl.98

>>893 เวลาคนค้นtagจะได้เจอเยอะๆไง

895 Nameless Fanboi Posted ID:qAI2bNpbWM

ระบบ tags มันควรมี tags ที่ทางเว็ปจัดให้เว้ย ดูอย่าง pantip ดิ มีการจัดหมวดไม่พอยังมีจัดแยก tags เพื่อหาแนวที่เราชอบอีกต่างหาก

แต่ถ้าถามว่ากูชอบระบบ tags ไหนที่สุดนะ กูขอตอบว่าแบบ Novelupdate อะ เข้าใจง่ายดี

896 Nameless Fanboi Posted ID:53wmPnl.98

นิยายภาษาอังกฤษล้วนในเด็กดี คนเขียนแม่งเดือดมาจากไหนวะเนี่ย

897 Nameless Fanboi Posted ID:yqVHqHilIU

>>896 ใช่อีตาคนที่มารัวความอัจฉริยะทางภาษาอังกฤษในโม่งป่าววะ

898 Nameless Fanboi Posted ID:JGivqPjEmn

>>897 อย่าเอ่ยชื่อเชียวนะ เปรียบเหมือนกันซัมมอน ยิ่งเฮี้ยนๆ อยู่

899 Nameless Fanboi Posted ID:53wmPnl.98

เหมือนจะคนละคนกันว่ะ คิดว่านะ

900 Nameless Fanboi Posted ID:yqVHqHilIU

>>898 ถถถถ

901 Nameless Fanboi Posted ID:yqVHqHilIU

>>899 ดีไป555

902 Nameless Fanboi Posted ID:Z+KIUf2Xme

กูว่าเขาไม่ได้อินดี้ ถึงขนาดเขียนนิยายให้เป็นภาษาอังกฤษขนาดนั้น ถึงจะรัวอังกฤษกับอะไรที่ไม่ใช่นิยายก็เหอะ 55

903 Nameless Fanboi Posted ID:TOvquBAliY

มันก็แค่อยากอวดสติปัญญาตัวเองให้คนอื่นเห็น แต่เสือกไม่ทำให้คนอื่นรู้เรื่อง ผลก็เลยแม่งควรไปพบจิตแพทย์

904 Nameless Fanboi Posted ID:XIcP8GGDcw

และประเด็นคือคนที่ก็รู้ว่าใครนี่แกรมม่าผิดกระจุย 55555

905 Nameless Fanboi Posted ID:Os7NM0g/mL

https://writer.dek-d.com/pleumfortune/story/view.php?id=1886284 ก็พอใช้ได้อยู่นะ

906 Nameless Fanboi Posted ID:HANwk+h0D/

>>904 เด็กนอกเลยนะ

907 Nameless Fanboi Posted ID:jd.LxAGXqa

การเเก้ปัญหาสร้างสรรค์ดีวุ้ย เขียนบรรยายไทยเเย่ก็เขียนเป็นอังกฤษเเม่มเลย555
//ใช่เหรอวะ....เอาเหอะ

908 Nameless Fanboi Posted ID:R2O++pEMEK

แต่งนิยายอีงกฤษต้องใช้ past tense บรรยายมั้ย

909 Nameless Fanboi Posted ID:vYfq6t+IrV

>>908 ตามหลักก็คงใช้แหล่ะ นั่นเลยทำให้แต่งอิ๊งลำบากกว่าแต่งไทยด้วยส่วนนึง เพราะต้องควบคุมไม่ให้ตัวเองหลง Tense ด้วย

910 Nameless Fanboi Posted ID:DvvvAstUci

ใช่เล่นนะนั่น รูปประกอบอีกเรื่องก็ฝีมือพอตัว

แต่เห็นยอดวิวแล้วก็แอบสงสาร ว่าเรื่องแบบนี้ดันแพ้อีพวกนิยายตามกระแสโง่ๆ ไม่เห็นฝุ่นเลย

911 Nameless Fanboi Posted ID:XUOk.F5BiF

กูไม่รู้ว่าหมายถึงใครง่ะ แต่ถ้าหมายถึงคนที่กูไม่อยากเอ่ยชื่อรายนั้นไม่เขียนนิยายภาษาอังกฤษ แต่ถ้าหมายถึง 905 กูว่าไม่นะ เข้าไปลองอ่านเรื่องหลักที่เป็นภาษาไทยมานิดหน่อยละ ถ้าจะให้สับก็สับได้ มีเรื่องให้สับเยอะแหละ แต่งานแม่งจัดว่าชั้นดีเลย เสือกไปหลบอยู่ในซอก

912 Nameless Fanboi Posted ID:T.JkhR9yaJ

His rugged voice uttered the words in urgent as they sounded so confusing, while outside... Outside uttered only the voice of chaos and that 'war technology', "The age of magic is bad, but this... Catapult? This is far worse. The Castle of Red Hills never fell in the times of Cordelia. I can't believe I have to go farther south".

เขียนได้ดีเขียนได้ถูกต้อง เราอ่านแล้วเราชอบมาก

913 Nameless Fanboi Posted ID:xbxbfYDKTs

>>908 ที่จริงบางเรื่องก็ไม่ใช้นะ มันเขียนได้สองแบบ คือ past กับ present เท่าที่อ่านเจอมานะ ตอนนั้นอ่านนิทานเด็ก ก็ present ทั้งเรื่องยกเว้นกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดก่อนหน้าตอนที่เรื่องดำเนิน แต่เหมือน past จะนิยมกว่า

914 Nameless Fanboi Posted ID:xbxbfYDKTs

>>911 อีกเรื่องแม่งเคยโดนโม่งสับไปละ ถ้าจำไม่ผิดนะ นานโคตร

915 Nameless Fanboi Posted ID:DtfnjYcwCA

กูเขียนนิยายแล้วจะหลบอยู่ในหลืบ คำโปรยอะไรไม่ใส่ แต่แม่งสบายใจดี

916 Nameless Fanboi Posted ID:pxjCNdfVjk

>>864 พูดถึงนักดาบแกรี่ แต่กูนึกถึงนักดาบ Edgy คนนึงวะ...Wortenia Senki กูบอกเลยกูอ่านได้แค่ 2 ตอนเพราะกูรับความ eDgY ของมันไม่ได้จริงๆ

917 Nameless Fanboi Posted ID:qoDUy0/CpN

>>916 หลังบทที่ 11 เป็นต้นไปกลายเป็นนิยายการเมืองกูเลยดรอปไปแล้ว ออกทะเลไม่พอพยายามซิวเจ้าหญิงเข้าฮาเร็มเรื่อยๆ อีก นิสัยเอจจี้ ขี้เก๊ก กวนตีน น่ารำคาญ ลาก่อย

918 Nameless Fanboi Posted ID:R2O++pEMEK

>>916 กูอ่านมาแล้ว เอะอะฆ่าก่อนคุยทีหลัง พระเอกแม่งใช้สมองก่อนเป็นบ้างมั้ยเนี่ย

919 Nameless Fanboi Posted ID:tfsdhFpC3d

>>916 ตอนเเรกกูก็บายเเล้ว~

920 Nameless Fanboi Posted ID:tfsdhFpC3d

ว่าเเต่เอจจี้นี่เเปลว่าอัลไลวะ

921 Nameless Fanboi Posted ID:Ptxgys7Tev

>>920 ไม่สมเหตุสมผล อ่านแล้วจิตหงุดเงี้ยว ต้องเบ้ปากถอดถอนใจ = Edgy

922 Nameless Fanboi Posted ID:jd.LxAGXqa

>>921 ขอบใจหลายๆ

923 Nameless Fanboi Posted ID:mwGuTBI3QU

>>920 ที่จริงมันแปลว่าพวกที่พยายามทำให้ดูเท่ ทั้งที่ความจริงแล้วมันดูตลกน่ะ
ยกตัวอย่างพวกเด็ก Emo แต่งชุดดำทำผมตั้ง แต่ในนิยาย/การ์ตูน มักใช้กับพวกตัวเอกที่เด่นกว่าคนรอบข้าง จนชาวบ้านนั้นเป็นคนโง่น่ะ

924 Nameless Fanboi Posted ID:qoDUy0/CpN

>>920 รู้จักซาสึเกะจากเรื่องนารุโตะปะล่ะ ไอ้นี่แหล่ะตัวอย่างที่ดีของความเอจจี้ มีครบทุกอย่างเลย ถ้าเอาเก่าๆ หน่อยก็ เบจิต้าของดราก้อนบอล ไม่ก็ฮิเอของยูยูฮาคุโช

925 Nameless Fanboi Posted ID:xTgh7X20eN

โอเค พอจะนึกภาพออกละ555

926 Nameless Fanboi Posted ID:jHg8VyXRGw

นิยายซอมบี้ควรไปหมวดไหน?

927 Nameless Fanboi Posted ID:RnFVZyBhSL

ซาสึเกะเอจจี้เหรอวะ ไม่รู้สึกตัว 55

928 Nameless Fanboi Posted ID:LahJF1JRJB

>>927 ซาสึเกะนี่ edgy นิดหน่อย แต่ emo หนัก

929 Nameless Fanboi Posted ID:cWzSnnqAP1

พระเอกละครไทยก็ edgy เหมือนกัน แต่เสือกหูเบาเกินมนุษย์

930 Nameless Fanboi Posted ID:usmaUevCdt

อยากศึกษาเรื่องความ edgy ไปดูไอน์ซามะในโอเว่อร์หลวมเลย edgy lord เหี้ยๆ

931 Nameless Fanboi Posted ID:0Hup5OZe6B

>>930 กูว่ามึงแค่อคติตามกระแสแบบพวกขี้เรื้อนในห้องเมะมังงะ edgy lord ที่ควรศึกษาคือนิยายมี tag ล้างแค้น+แอนตี้ฮีโร่ ตัวอย่างก็พระเอก Nidome no Yuusha ,Kaifuku jutsushi no yarinaoshi, Dungeon seeker เผลอๆ รวม ผู้กล้าโล่ กับ กัซ Berserk เข้าไปด้วยก็ยังได้

932 Nameless Fanboi Posted ID:fAIaQQDUjL

ซีนี้ก็ก็อบสเลนั่นไง

933 Nameless Fanboi Posted ID:RtHet0q4xy

บากิ edgy ไหมวะ?

934 Nameless Fanboi Posted ID:m.HvqOoYFY

>>931 lol แฟนบอยไอน์ซามะลามมาถึงนี่เลย ไอน์ซามะแม่ง edgy กว่าเริ่องที่มคงนกมาอีก

935 Nameless Fanboi Posted ID:cWzSnnqAP1

ตกลง antihero แม่ง edgy ทุกตัวเลยเรอะ งั้นใครเป็น hero ไม่ต้องเป็น edgy ล่ะสิ

936 Nameless Fanboi Posted ID:wyIbcUdw6y

>>934 lol ถ้าพวกเรื้อนไม่ลงมานี่กูก็ไม่ลงมาหรอก

937 Nameless Fanboi Posted ID:wyIbcUdw6y

>>935 จากที่กูเคยอ่านมา Anti-hero มักออกออร่า edgy ชัดเจนมากกว่า Hero ปรกติ สงสัยเพราะธีมที่มักออกมาโทนหม่นๆ ค่อนทางดาร์ก เวลาพวกนี้โผล่เลยมักจะยืนเก๊กกอดอกแล้วมองอยู่มุมนอก บางคนก็หลับตาด้วยนะ แต่ถามว่า Hero มันมีที่เป็น edgy ไหม ก็ขอตอบเลยว่า มี เพราะเคยเห็นอยู่ในเด็กดีซึ่งกูมักจำชื่อเรื่องไม่ได้อ่ะนะเพราะอ่าน 3 ตอนเลิก

938 Nameless Fanboi Posted ID:RoVDT6ZVie

ฮีโร่เอจจี้น่ะเรอะ ไรเดอร์คาบูโตะไง

939 Nameless Fanboi Posted ID:bHjPY.9kBs

เรื่อง edgy อย่าลืมโคนัน

>>935 ผิดหลักตรรกะ สมมติว่า antihero ทุกตัว = edgy มันจะสรุปว่า hero ทุกตัว ไม่ edgy ได้ยังไงวะ

940 Nameless Fanboi Posted ID:6Ab4aDHbhw

มีอะไรไม่เอจจี้บ้างวะ 55555

941 Nameless Fanboi Posted ID:wyIbcUdw6y

>>940 มันมีแหละ แต่หายากหน่อยสำหรับสมัยนี้ ต้องยอมรับว่าพวกเอจจี้มันถูกใจวัยเด็ก-วัยรุ่น หรือวัยทำงานที่อยากหาอะไรอ่าน/ดูเพื่อผ่อนคลาย

942 Nameless Fanboi Posted ID:99mTXTKI.6

>>936 ใครบอกว่าไอน์ซามะ edgy คือพวกเรื้อน ตรรกะแฟนบอยจริงๆ

943 Nameless Fanboi Posted ID:wyIbcUdw6y

>>942 เรื้อนไม่เรื้อน กูยังจำวีรกรรมที่พวกมึงป่วนมู้ของก็อบสเลจนเขาคุยกันไม่ได้ พอมีคนอธิบายก็ด่าว่าเบียวแล้วไม่ฟังกัน ไม่ให้เรียกเรื้อนแล้วจะให้เรียกไรวะ?

944 Nameless Fanboi Posted ID:99mTXTKI.6

>>943 กูไม่ได้ไปป่วนมู้นั้น ไม่ดูเลยด้วยซ้ำ แต่มึงถามใครก็ได้ว่าไอน์ซามะ edgy มั้ย ใครๆ ก็บอกว่า edgy วะ ยิ่งเทียบกับเรื่องที่มึงยกมายิ่งชัดว่า มีแค่ DS ที่พอเทียบได้ แต่แย่กว่าหน่อยที่แม่งก็อปอาชีพกระจอกมาที

945 Nameless Fanboi Posted ID:wyIbcUdw6y

>>944 edgy แต่ไม่ถึงขั้น lord ว่ะ edgy lord ตัวจริงคือ Rorschach ต่างหาก!

946 Nameless Fanboi Posted ID:cWzSnnqAP1

>>939 งั้นช่วยยกตัวอย่างหน่อยสิ ในสายตามึง antihero ตัวไหนไม่ edgy แล้วไอ้ hero ตัวไหนไม่ edgy กูอยากรู้

947 Nameless Fanboi Posted ID:8a/d6BAN46

>>945 เทียบกับที่มึงยกมายีงไงไอน์ซามะก็เป็น edgy lord อยู่ดี เบียวได้ cringe ที่สุดแล้ว

948 Nameless Fanboi Posted ID:wyIbcUdw6y

อวด Edgy กันเข้าไป เอาให้หมดมู้เลยจะได้ตั้งมู้ใหม่

949 Nameless Fanboi Posted ID:XtTMtgzQ51

ใกล้จะขึ้นภาคใหม่แล้ว มีใครโหวตชื่อกระทู้รึยัง เอาภาคเด็กดวกสายดาร์คหนุ่มแกรี่มืดมนคนเอจจี้ ไปเลยดีมั้ยเห็นพูดถึงกันดีนัก

950 Nameless Fanboi Posted ID:cWzSnnqAP1

นิยายเด็กดี บทที่ 20 (DDN XX) ภาคนิยายสมัยนี้ พระเอกต้อง EDGY เบียวซู ทำอะไรไม่เคยผิด ใครไม่ได้เป็นพระเอก สมควรตายห่าซะ

951 Nameless Fanboi Posted ID:HQdTXYqtD3

นิยายเด็กดี ตอนที่20 ภาค เเม้สิ่งที่มันคิดกับสิ่งที่มันทำจะคนละเรื่อง ราวกับระยะทางเเข่งวิ่งมาราธอน50กิโล เเต่มันเป็นพระเอกอ่ะ จะทำไม

952 Nameless Fanboi Posted ID:jCM56oOIVq

นิยายเด็กดี บทที่ 20 ภาคนักหลวมแห่งเด็กดวก เจ้าหนุ่มแกรี่กับชายฉกรรจ์ EDGY และเหล่าตัวละครที่มีแต่ความเบียว แม่รี่ซู แต่ทำไมยังมีคนอ่าน

953 Nameless Fanboi Posted ID:gPTTKNB1Oy

ก่อนปิดมู้ กูขอสรุปประเด็นของหัวมู้นี้ก่อน เพราะวันนี้ครบรอบสองเดือนของ "กิจกรรมแข่งกันติดท๊อป" พอดี กูจะขอสรุปให้เข้าใจง่ายที่สุดเลยนะ
คือ เจ๊งไม่เป็นท่าจ้า ไม่มีใครซักคนเดียว แม้แต่อีคนต้นเรื่องที่เอื้อมไปแตะท๊อปหมวดได้ ตอนนี้กลายเป็นบุคคลสาบสูญ ตั้งกระทู้สุดท้ายทิ้งทวนรับสับนิยายเมื่อเดือนที่แล้วแล้วไม่โผล่หน้าเข้ามาในบอร์ดอีกเลย
ขึ้นท๊อปมันจะยากซะแค่ไหนกันเชียวมั้ยล่ะมึง ถถถถ

954 Nameless Fanboi Posted ID:NY/VxA1/8i

>>953 กูก็พอจะเดาได้อยู่แล้ว ว่ามันจะจบแบบนี้ ถึงได้ไม่ร่วมตั้งแต่แรกไง

955 Nameless Fanboi Posted ID:O.0VGcRYQb

>>953 กูลืมไปแล้วนะเนี่ย พวกปากเก่งทำตัวใหญ่คับบอร์ดแม่งเยอะแต่ฝีมือเขียนเท่าเห็บหมา

956 Nameless Fanboi Posted ID:AAQ/JaAM0U

กูเคยเป็นขาประจำบอร์ดคนหนึ่ง ปัจจุบันส่องเฉยๆ แล้วว่ะ เพราะตอบบอร์ดไปแม่งคนอ่านก็ไม่เห็น กูเลยเอาเวลาไปแต่งนิยายแทนให้มันมีความคืบหน้าบ้าง ดีกว่ามาฝอยแต่ไม่เคยมีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน Mil**** ไรนี่ก็เหมือนกัน บอกดองมา 10 ปีแล้ว ก็เอาเวลาไปแต่งต่อดิวะ มามัวโม้ทำไมในบอร์ดที่มีแต่เด็กขอชื่อตัวละคร ขอพล็อต บ่นนิยายกระแสเนี่ย

957 Nameless Fanboi Posted ID:FRToOOCJdR

>>956 ดองสิบปีกูว่าเลิกเขียนเหอะป่านนี้เรื่องคงหมดอายุขัยไปแล้ว บอร์ดเดกดวกตอนนี้เหมือนที่ให้อีผู้ใหญ่จิตงุ่นง่านคอยตบเด็กเพื่อระบายอารมณ์

958 Nameless Fanboi Posted ID:fNjScXqZv3

กิจกรรมนั่นทำจริงจังกันด้วยหรอวะ กูนึกว่าตั้งกระทู้เล่นๆ เฉยๆ ซะอีก
กูอยู่ในบอร์ดตอบกระทู้เรื่อยๆ นะ แต่กูแอบไม่เข้าใจว่าทำไมมีกระทู้ชวนคุยทุกวัน เยอะสัสๆ

959 Nameless Fanboi Posted ID:NY/VxA1/8i

เดี๋ยวนี้นิยมนินทาในนี้แล้วเหรอวะ หรือมู้นินทาเด็กดวกร้างจนไม่ไป

960 Nameless Fanboi Posted ID:AAQ/JaAM0U

>>959 มันตกไปถึงไหนต่อไหนแล้วมึง ก็เลยใช้มู้นี้แบบผสม 2 in 1 ไปเลย เพราะไงก็ไม่ค่อยคุยไรกันเยอะอยู่แล้ว

961 Nameless Fanboi Posted ID:NUHTRzSRCk

ก็ไม่ตกขนาดนั้น แต่มันเริ่มร้าง https://fanboi.ch/netwatch/5647/recent/#reply

962 Nameless Fanboi Posted ID:SX/QVMUeN0

>>959 มาเฟียบอร์ดเด็กดวกเจี๊ยวหดเกือบหมดแล้ว ที่ยังอยู่เห็นจะเป็นเงินบวกที่ยังเลียไข่แผล่บๆเก็บเกี่ยว like ตามประสา

963 Nameless Fanboi Posted ID:w2vpp//Cp3

>>962 อายุมากขึ้นจะให้มาเล่นบอร์ดเหมือนแต่ก่อนมันก็ยังไงๆ อยู่วะ
ก็มีชีวิตทำงานทำการ ออกไปมีกิจกรรมนอกบ้าน ไม่ได้นังเฝ้าหน้าจอ
เหมือนนีทติดเกมนี่หว่า ดูหนัง เที่ยวห้าง เล่นกีฬาอะไรก็ว่าไป

บางคนก็มีธุรกิจเป็นของตัวเองต้องไปบริหารค้าคงค้าขาย หรือแต่งงาน
มีลูกแล้วต้องดูแล ถ้าไม่ได้แต่งนิยายเป็นอาชีพหลักก็คงต้องมีห่างๆ ไป
ไม่เหมือนยุคนิยายโรงเรียนเวทมนตร์ที่คนอายุ 35+ ก็ยังแต่งเพราะกระแส
มันแรงนะเว้ย

964 Nameless Fanboi Posted ID:pNvC.B8V3I

มาเฟียคืออะไร ใช่พวกที่มีอิทธิพลป่ะหรือพวกที่ทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจป่ะ กูเห็นคนที่ตั้งกระทู้คุยเล่นกับขอบคุณนักอ่านรัวๆรกฉิบเข้าข่ายมั้ย แล้วที่แปะลิ้งค์ไปหน้านิยายตัวเองทุกกระทู้เป็นมาเฟียมั้ย ออกตัวก่อนกูไม่เข้าใจจริงๆเพิ่งเล่นเด็กดี

965 Nameless Fanboi Posted ID:w2vpp//Cp3

>>964 เรื่องมันยาวมากเด็กใหม่

มาเฟียบอร์ดเป็นชื่อใช้เรียกขาประจำยุคโบราณมากหลายๆ คน ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะเริ่มมา
จากเมมเบอร์ชื่อ "เคเซย์" ยุคนั้นถ้าใครตั้งกระทู้ไร้สาระ เกรียน หรือขอให้ช่วยทำการบ้าน
จะมีขาประจำเข้าไปด่า แขวะ หรือจงใจพูดข่มเพียบ บางทีพวกกระทู้ที่ดราม่ามันก็สมควร
โดนจริงๆ เช่น แนะนำนิยาย NC หรือจงใจใช้ภาษาวิบัติในบอร์ดนักเขียน แยกร่างอวยนิยาย
ตัวเองออกสื่อ ฯลฯ

ความมาเฟียมันมาหนักขึ้นตอนที่จู่ๆ เคเซย์ก็พูดเหมือนว่าอยากจะตั้งกลุ่มผู้คุมกฏในบอร์ด
ขึ้นมาเอง(จำไม่ได้ว่าไปคุยกับเว็บมาสด้วยรึเปล่า) ตอนนั้นกระแสต่อต้านมีเยอะมาก บางที
ก็มีนอนเมมมาตั้งกระทู้โจมตีมาเฟียเหมือนกัน อย่างวัฒนธรรมที่ชอบเรียกกันด้วยคำนำหน้า
ว่า "ท่าน" (-sama) แทนการเรียกชื่อเมมปกติ

ปัจจุบันที่เห็นขาประจำพวกนี้ บอกได้เลยว่าขี้ตีนมาก เหมือนเป็นแค่คนที่โผล่หัวในบอร์ดถี่
แล้วคุยกันไปมากับเมมที่รู้จักกันเฉยๆ ไม่ถึงกับมาเฟียหรอก เพราะยังไม่ได้มีการโหวตลบ
กระทู้ที่ไม่เข้าตา เข้าไปด่าคนที่ใช้ภาษาไทยผิด หรือบังคับให้สมาชิกหน้าใหม่ต้องเคารพ
สมาชิกหน้าเก่า (ถึงขั้นมีการตั้งกระทู้ให้หน้าใหม่มารายงานตัวเลยนะมึง)

ยุคมาเฟียนี่เด็กใหม่อยู่ยาก ตั้งกระทู้อะไรทีถ้ารกบอร์ดก็จะเจอเข้าไปบอกเลยว่ากระทู้แบบนี้
รกบอร์ด อย่าตั้งแบบนี้อีก หรือใครโฆษณานิยายตัวเองบ่อยเกินจะเจอดีถึงหน้า My iD เวลา
จะขอชื่อตัวละคร ขอให้ช่วยแต่งชื่อเรื่อง จะไม่มีคนเข้ามาแนะนำ แต่เจอด่าว่าคิดเองไม่ได้?

ถ้าเป็นเมมเก่าแต่ช่วยเด็กใหม่ พูดดีๆ ด้วย ก็ไปหาว่าเขาโลกสวย พูดอะไรสวยหรูปลุกใจทั้งๆ
ที่นิยายตัวเองก็ไม่จบ โอ้ยสารพัดสารเพเป็นยุคเกือบมืดเลย ปัจจุบันนี้ Easy mode มากๆ
ไม่มีการกดดันเด็กใหม่ ถึงจะมีขาประจำชวนรำคาญอยู่บ้าง แต่มันไม่หนักขนาดเมื่อก่อน
ยิ่งตอนมีเมมเบอร์เกรียนๆ จงใจเปิดวอร์นี่นะมึง ดราม่ากัน 4-5 วันไม่หลับไม่นอนก็มี ดูตอนนี้ดิ
โคตรสงบสุข

เรื่องคำว่ามาเฟียเนี่ย อย่าไปคิดอะไรมาก กูให้คำนิยามพวกในบอร์ดได้แค่ อวดภูมิ โชว์พาว แต่ไม่เคยเห็นผลงาน พวกที่มีผลงานจริงๆ เขาไม่พูดเยอะหรอก แต่งจบเอาไปขายกี่เรื่องไม่รู้แล้ว

966 Nameless Fanboi Posted ID:hP3Kep0OMT

>>965 กูชอบเรียกคนอื่นว่าท่านว่ะ กูผิดเหรอ ;w;

967 Nameless Fanboi Posted ID:A/PhOuVlnR

>>965 ขอบคุณพี่โม่งมากที่พิมพ์ยาว แค่พวกคุยไร้สาระกับอวดภูมิง่อยๆตอนนี้เรายังรำคาญเลยโชคดีจริงๆที่ไม่ทันยุคมาเฟีย เคเซย์คนเดียวกับที่เขียนทิปสำหรับนักเขียนปะ เห็นเว็บปักเป็นกระทู้แนะนำท่าทางใหญ่ไม่เบา

968 Nameless Fanboi Posted ID:bmIWkXDlfZ

>>965 บางทีกูก็อยากทันยุคมาเฟียว่ะ น่าตื่นตาตื่นใจดี ปล.กูก็ใช้คำว่า "ท่าน" นะ

969 Nameless Fanboi Posted ID:f9bqc8g+.3

>>966 กูให้มึงเลือก อยากโดนด่าว่าสะเหล่อ หรือ edgy

970 Nameless Fanboi Posted ID:IKdgi1..SS

>>965 กูทันยุคนั้น แต่ไม่ค่อยเข้าบอร์ดเท่าไหร่ เคเซย์นี่ เคยเขียนนิยายออกกับสนพ.ฟิสิกส์เซ็นเตอร์ด้วยใช่ป่ะ จะยิ่งกร่างก็คงไม่แปลกเพราะแบบตัวเองมีผลงานแล้วไง กูยังจำได้ว่าเพื่อนร่วมชั้นมัธยมของกูก็ท่าทางเคยเป็นหนึ่งในมาเฟียด้วยมั้ง ไม่รู้ดิ เห็นนางเป็นคนดังเหลือเกินในบอร์ด แต่สุดท้ายก็หายไปตามกาลเวลาซะละ 555

971 Nameless Fanboi Posted ID:w2vpp//Cp3

>>968 จูนิเบียว

972 Nameless Fanboi Posted ID:hP3Kep0OMT

>>969 ถ้าถูกคนแปลกว่ามองว่าสะเหล่อ กูเรียกคนอื่นว่าท่านต่อไปดีกว่า เสือกจริงนะมึง 5555555555

973 Nameless Fanboi Posted ID:ZT7NgLWjdB

>>971 กูจะใช้ท่านไม่ได้แปลว่ากูเป็นจูนิเบียวว่ะ ไม่งั้นจะมีไว้ทำไมวะ กูก็แค่ใช้เรียกแบบนับถือ หรือชีวิตนี้มึงแทบจะไม่เคยใช้ พอเห็นคนใช้เลยเหมารวมว่าเบียวซะหมด ว่าแต่กู มึงทำไม่เคยเบียวเหรอวะ

974 Nameless Fanboi Posted ID:NE3p+FVtuV

เคย์เซย์เนี่ยเป็นหนักมาก ไม่ใช่แค่ในเด็กดี แต่ในบอร์ดอื่นที่นางอยู่ด้วย กูเคยอยู่บอร์ดวายเดียวกับนาง ภาษาวิบัติ พิมพ์ผิด จะโดนจับผิดตลอดเวลา เหมือนนางเคยทำงานพวกพิสูจน์อักษรอ่ะ

แล้วนางก็เรื่องมากสุด ปีนึงบอร์ดมีกิจกรรมให้แต่งเรื่องสั้น/นิยาย ธีมนายโลม ตอนแรกมีนักวาดคนหนึ่งที่รู้เรื่องจีนเยอะเป็นแม่งาน แล้วนางมาเป็นด้วย ตอนแรกกิจกรรมคนสนใจเยอะมาก แต่พอประกาศออกมา คซ เล่นวางกฎละเอียดแบบห้ามแหก ห้ามนั่นห้ามนี่ จะต้องตามขนบธรรมเนียมประเพณีที่วางเอาไว้ สรุปถึงเวลาจริงมีคนร่วมแค่ 3-4 คน กิจกรรมร้างสุด นี่ยังไม่นับความเบียวในแชทบอร์ด เหมือนช่วงนั้นนางก็สถาปนาตัวเป็นขาใหญ่เด็กดีเช่นกัน แต่เรื่องหลายปีละ 6-7 ปีได้มั้ง

975 Nameless Fanboi Posted ID:JzAPexjCX0

ไอ้หมอนี่รึเปล่า เคเซย์
https://my.dek-d.com/keisei/
https://my.dek-d.com/keisei/writer/

976 Nameless Fanboi Posted ID:IKdgi1..SS

>>975 เคย์เซย์เป็นผู้หญิงไม่ใช่เรอะ

977 Nameless Fanboi Posted ID:w2vpp//Cp3

>>976 หญิงแอ๊บชาย

ส่วนใครที่อยากเห็นรูปเชิญไปคุ้ยในกระทู้ร่วมนินทาเด็กดวกภาคเก่าๆ ในห้อง netwatch

978 Nameless Fanboi Posted ID:IKdgi1..SS

>>977 ก็ว่าแล้ว นึกว่าจำผิดซะอีก 555

979 Nameless Fanboi Posted ID:f9bqc8g+.3

>>975 เคย์เซย์ยอมลาบอร์ดแบบลาขาดก็เพราะเจอโม่งเล่นงานเนี่ยแหละ

980 Nameless Fanboi Posted ID:w2vpp//Cp3

>>979 ตอนนั้นโม่งก็คนในบอร์ดนั่นแหล่ะ เห็นว่าสาวถึงตัวไม่ได้หน่อยนี่ เจาะยางกันเองสนุกเลย อัดอั้นมานาน

981 Nameless Fanboi Posted ID:JzAPexjCX0

>>980 ถึงว่าพวกขาโจ๋หายเกือบหมด เหลือเครื่องบิน เงินบวก กับไอ้นั่น

982 Nameless Fanboi Posted ID:IoUCZ+REzk

มู้ใกล้เต็มแล้วนะเว้ย ชื่ออะ ติดสินใจกันยัง

983 Nameless Fanboi Posted ID:HqWmBVA7Gl

ย้อนวันวานกันเหรอ ท่านโม่ง

คิดถึงช่วงที่ห้องในเน็ตวอชยังอยู่นะ ปสดดี เหมือนถูกสังคมบุลลี่ เครียด หดหู่ไปหลายวัน เป็นประสบการณ์ที่รว้าย ๆ แต่ทำไมคิดถึงก็ไม่รู้ นึกย้อนไปแล้วก็ตลกดีอะ 555555

จะขึ้นมู้ใหม่ละเหรอ ยินดีด่วยนาจา

984 Nameless Fanboi Posted ID:nSLK+mFv01

>>983 ช่วงนั้นโม่งซามะทั้งหลาย เจาะยางพวกเดียวกันเอง จนสุดท้ายเงิบรับประทาน เฟดตัวหายไปกันทีละคนสองคน พูดถึงแล้วก็คิดถึงตอนนั้นจริงๆ ถอดหน้ากากจัดหนักกันยิ่งกว่า The mask singer

985 Nameless Fanboi Posted ID:dTEv3UJNTC

ใช้ท่านยังพอทน แต่ซามะนี่มึงจงใจเบียวแน่ๆ

986 Nameless Fanboi Posted ID:pcOAuwYECP

คนมีงานมีการทำเขาไม่เรียกใครท่านเล่นๆหรอกนะ ส่วนใหญ่ที่ใช่ท่านทั่วๆไปที่เห็น มันไม่ได้มีความท่านอยู่จริงเลย เวลาจะเรียกใคร ท่านครับ ท่านคะ คุณท่าน ไม่เคยต้องมีชื่อตามนะออเจ้า

ท่านเครื่องบิน ท่านเคเซย์ ท่านเดธ ท่านโนวัน เบียวเกินเยียวยาทุกตัว

987 Nameless Fanboi Posted ID:WKm8kqCTIR

>>986 กูเรียกชื่อตามอยู่นะ ท่านประธาน รุ่นพี่กูชื่อประธาน ในออฟฟิคเรียกเจ้านายว่าท่านสัน เขาเรียกกันก่อนกูเข้าทำงานว่ะ ตอนแรกกูเรียกคุณสันติแม่งมองกันทั้งบริษัท เออเรียกท่านสันก็ได้

988 Nameless Fanboi Posted ID:yCCViBSzE0

กูว่าคนที่ชอบเรียกท่านๆๆๆๆ ในชีวิตจริงไม่น่าจะเรียกท่านหรอก โลกไซเบอร์คือสังคมหน้ากาก อยากเล่นจูนิเบียวก็เรื่องของเขา ใครจะไปรู้ว่าชีวิตจริงจะมีนิสัยเบียวเหมือนในบอร์ดกับเกมรึเปล่า เพราะไม่มีทางจับได้ว่าตัวจริงเป็นคนยังไง

989 Nameless Fanboi Posted ID:pcOAuwYECP

>>987 คุณสันเป็นทางการกว่า ท่านสันมันเป็นการเรียกเล่นๆ เฉพาะกลุ่ม ออกไปข้างนอกบริษัทเขาก็เรียกคุณสัน

990 Nameless Fanboi Posted ID:P5/gzkDeyH

ท่านกูก็ใช้เรียกเล่นๆ เบียวๆนั่นแหละ แต่คงไม่เอาไปใช้ในชีวิตจริงถ้าไม่จำเป็นจริงๆ 555

991 Nameless Fanboi Posted ID:CTwp0VkgR+

นับถอยหลังสู่ความเอจจี้ใน 9...

992 Nameless Fanboi Posted ID:CTwp0VkgR+

8....

993 Nameless Fanboi Posted ID:JwSxHixVwc

7...

994 Nameless Fanboi Posted ID:42FkM+e6g2

6....

995 Nameless Fanboi Posted ID:M..DVqNgkm

5....

996 Nameless Fanboi Posted ID:NHke48JCFF

4....

997 Nameless Fanboi Posted ID:ReTKfrziUa

3.....

998 Nameless Fanboi Posted ID:Qr3qOzV+dy

2.....

999 Nameless Fanboi Posted ID:wy100Sd7Y+

1.....

1000 Nameless Fanboi Posted ID:.gMBSzvF43

เพื่อ?

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.