>>644 ลง ดด นั่นแหละโอกาสเยอะสุดแล้ว ช่วงนี้ก็เป็นนิยายรักจีนหรือไทยยังมีโอกาสอยู่ แต่ต้องลงต่อเนื่อง มีวินัย คนดูเขาก็ดูว่าคนเขียนน่าจะเขียนจบไหม ลงตามใจนานๆ ลงที เขาก็อาจไม่พิมพ์ให้หรอกกลัวเขียนไม่จบ แต่ถ้าต้นฉบับเยอะระดับหนึ่งแล้วก็ไม่แน่
ทั้งนี้เรื่องต้องโอเคระดับหนึ่งและมีชื่อติดท็อปนานพอสมควร ถ้าเรื่องมันได้เดี๋ยวมีคนติดต่อไปเอง
>>646 กูพูดมุกจากหนัง Black Panther มันเหี้ยตรงไหน?
เริ่มออกทะเล แถมมีแจกพิซซ่าด้วย มีอะไรก็ระมัดระวังหน่อยเหอะ
กูรำคาญอิพวกเหี้ยในบอร์ดพวกนี้มากเลย เห็นมาสักพักล่ะ
https://www.dek-d.com/board/view/3830802/
แทงใจดำสำหรับเด็กมันหมายความว่าอะไร คือเราก็ว่าเราเขียนวิจารณ์ไม่ได้แรงมากแล้วนะแต่โดนตอบกลับว่า แทงใจดำ ซะแล้วเหอๆ รู้บ้างไหมว่าไอ้แทงใจดำนี่หมายถึงการที่คนพูดพูดสิ่งหนึ่งได้ตรงกับความในใจของผู้ฟังน่ะ?
นิยายที่กูแต่ง คนอื่นแต่งง่ายทำไมกูแต่งยาก 1000 คำยังไม่ถึงเลย
>>662 ไม่เกี่ยวกับหนัง มึงไปคุยหมวดนั้นเลย รู้จักหาที่อาศัยบ้างเหอะโตๆกันแล้ว
https://fanboi.ch/movie/
พวกมึงเบลอมันเหอะ แจ้งแบนแล้วจบๆไปจะได้ไม่เสียบรรยากาศ คนอย่างมันก็แค่อย่าไปสนใจ
นี่อาจจะเป็นโพสสุดท้ายที่ผมจะได้โพสเองในเพจนี้
จริงๆ ผมอยากจะพูดถึงเรื่องนี้มาสักพัก ว่าจะเขียนถึงเรื่องนี้หรือไม่ ผมไม่อยากให้มันดูเป็นการตำหนิการตัดสินใจของผู้อื่น จึงลังเลไม่รู้จะเขียนอย่างไร
สุดท้ายเมื่อเวลานี้มาถึง จึงตัดสินใจว่าเขียนถึงมันไว้ก่อนที่จะไม่มีโอกาสดีกว่า
เช้าที่จะถึงนี้ผมจะต้องไปศาลทหาร จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ของ ในนัดนี้เป็นไปได้ว่าอัยการอาจจะเสนอยกเลิกการประกันตัว
ถึงแม้จะมีความเป็นไปได้น้อยนิดมาก แต่อะไรก็อาจจะเกิดขึ้นได้
พูดตามตรง คนจำนวนมาก ถามผมในคำถามซ้ำๆว่า "คิดจะหนีหรือเปล่า?"
นานมาแล้ว ผมได้ยินเรื่องของนายทหารอังกฤษในสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ที่ถูกจับเป็นเชลยในเยอรมัน
สงครามโลกครั้งที่หนึ่งไม่เหมือนครั้งที่สอง ยังยอมให้เชลยติดต่อกับที่บ้านด้วยจดหมาย นายทหารคนที่ว่าพบว่าแม่ของตัวเองป่วยใกล้จะตาย เขาจึงเขียนจดหมายไปยังพระเจ้าไกเซอร์กษัตริย์ของเยอรมัน เพื่อขอกลับบ้านไปเยี่ยมแม่ และสัญญาว่าหลังจากนั้นจะกลับมาเป็นเชลยตามเดิม
ไม่มีใครคิดว่าจะมีคนทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ แต่พระเจ้าไกเซอร์กลับยอมให้นายทหารอังกฤษกลับบ้านไปเยี่ยมแม่
เมื่อทหารคนดังกล่าวได้รับอนุญาต ก็รีบเดินทางกลับไปอังกฤษ
ทุกคนคิดว่าเขาคงจะไม่กลับมาแล้ว แต่หลังจากเขาไปดูใจแม่ตามสัญญาแล้ว เขากลับเดินทางกลับมายังเยอรมันเพื่อไปเป็นเชลยตามเดิม
ผมคิดเรื่องนี้อยู่หลายรอบ ว่าทหารผู้นั้นคิดอะไรอยู่ และไกเซอร์ทรงคิดอะไร
.
.
.
จะว่าไปแล้ว คนแรกที่ถามผมว่า "จะหนีหรือเปล่า" คือศาล
ตอนที่ผมถูกฝากขังอยู่ในเรือนจำ ไม่มีใครเลยเชื่อว่าจะประกันตัวได้
แม้แต่ทนายของผมเอง ยังเตือนว่าการทำแบบนี้ไม่มีประโยชน์ มีแต่จะทำให้คดีช้ำ
สิ่งเดียวที่ทำให้ผมยังยื่นขอประกันตัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า มีแค่เรื่องหญิงที่เคาะประตูบ้านของผู้พิพากษาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่ออ้อนวอนขอความยุติธรรม และคำว่า "และความหวัง จะไม่ทำให้ผิดหวัง" ในพระคำภีร์ (ผมคิดไม่ออกเลยว่าตอนนั้นจะใช้ชีวิตอยู่ได้ยังไงถ้าไม่นั่งอ่านโรมบทที่ 5 ซ้ำไปมาทุกวัน)
ในเวลาที่ทุกคนบอกว่าไม่มีทาง มีแค่พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่บอกว่ามีความหวัง
เวลาที่ทุกคนบอกว่าเราเป็นคนบ้า มีแค่พระผู้เป็นเจ้าที่บอกว่าเมื่อหวังแล้วเราจะไม่ผิดหวัง
ผมยื่นประกันไปหกเจ็ดครั้ง ไม่มีใครเขาทำกัน
ตอนนั้นผมขึ้นแถลงต่อศาลซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ศาลก็ถามผมซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า "ถ้าออกไปได้ ไม่คิดจะหนีจริงๆเหรอ"
ผมตอบย้ำแล้ว ย้ำอีก ว่า "ไม่มีทาง ผมจะไม่หนีเด็ดขาด"
.
.
.
เวลานั้น ในเรือนจำ ผมอธิษฐานซ้ำแล้วซ้ำอีก
ตอนแรกผมต่อรอง บนบาน
จากนั้นผมอ้อนวอน
ท้ายที่สุด ผมก็บอกว่า "เอาเถอะ ผมรู้แล้วว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้า ไม่ว่าพระองค์จะให้ทำอย่างไร ผมก็จะทำตามนั้น"
.
.
.
มีต่อ
>>665 ต่อนะ จะเอา 666
ในเรื่องของทหารอังกฤษกับพระเจ้าไกเซอร์ เป็นคำสัญญาที่ให้กับชาติศัตรู แต่เรื่องของผมเป็นคำสัญญาที่ให้กับระบบศาลของประเทศตัวเอง
ผมเชื่อว่าผู้ที่ตัดสินใจให้ประกันตัวเองก็ต้องผ่านการคิด และต่อสู้อย่างหนักในตัวเองเช่นกัน
ผมลองคิดกลับกันว่า ถ้าตัวเองเป็นศาล ผมจะไว้ใจคนอื่นให้ประกันตัวเช่นนี้หรือไม่?
ผมอยากให้ ผู้ที่ตัดสินใจเช่นนี้ไปแล้ว รู้สึกว่าการตัดสินใจของตัวเองเป็นหนึ่งในสิ่งที่ถูกต้องที่สุดของชีวิต
ผมอยากให้วันหนึ่ง เมื่อเขานึกย้อนกลับมา เขาจะภูมิใจ และบอกคนอื่นๆว่า คิดถูกจริงๆ ทีวันนั้นเรากล้าตัดสินใจแบบนั้น
ดีแล้ว ที่ได้ทำให้ทุกสิ่งถูกต้องตามกระบวนการ ดีจริงๆที่วันนั้นตัดสินใจไปแบบนั้น
เพื่อที่ต่อจากนั้น เขา รุ่นน้องของเขา จะได้รู้สึกว่าการทำตามกระบวนการที่ถูกต้องนั้นเป็นสิ่งที่มีเกียรติ
แต่เมื่อลองคิดอีกฟากหนึ่ง ถ้าหากผมหนีไป ผู้ที่ตัดสินใจให้ผมประกันตัวจะคิดอย่างไร?
เขาคงจะคิดว่าตัวเองนี้โง่บัดซบ ที่หลงเชื่อคำลอยๆ
ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ เขาคงจะเสียใจ และโกรธตัวเองที่ปล่อยผมออกมา
จากนี้ไป ก็คงจะไม่มีใครเชื่อถือ และยอมให้ผู้ถูกกล่าวหาคดีเช่นนั้นประกันตัวอีกต่อไป
หลังจากนั้นคงจะไม่มีใครที่ต้องคดีเดียวกันนี้ได้ประกันตัวอีกเลย
ตรงจุดนั้นผมคิดถึงแต่ความอับอาย ต่อตัวเอง
จะใช้ชีวิตอยู่ต่อไป โดยที่รู้ว่าชีวิตที่กำลังเป็นอยู่ของเราเกิดจากทำให้คนรู้สึกเสียใจที่ทำสิ่งที่ถูกต้องลงไปได้อย่างไร?
.
.
.
มากไปกว่านั้น
ในตอนที่ผมถูกฝากขังอยู่ ผมอธิษฐานต่อพระผู้เป็นเจ้าซ้ำแล้วซ้ำอีก
คำอธิษฐานทั้งหมดเป็นแค่ความคิดลอยๆ แค่เพื่อให้ตัวเองได้ออกมาเหรอ?
ผมคิดว่าถ้าผมหนีไปจะเป็นอย่างไร
ความน่าเชื่อถือของตัวผม ในฐานะตัวผม ไม่ใช่สิ่งที่ควรค่าแกการรักษาอะไร
แต่ถ้าผมหนีไป เขาคงบอกว่า "พวกคริสเตียนเชื่อถือไม่ได้ เป็นพวกดีแต่พูด"
แล้วถ้าลูกเป็นแบบนี้ ใครจะเชื่อพระบิดาของเรา
พระผู้เป็นเจ้านำผมออกมาจากเรือนจำ เพื่อให้พระนามของพระคริสต์ถูกตำหนิด่าเหรอ?
คำอธิษฐานที่บอกว่า "ไม่ว่าพระองค์จะให้ทำอย่างไร ผมก็จะทำตามนั้น" เป็นแค่คำลอยๆเหรอ?
ให้เขาคิดว่าคริสเตียนเป็นพวกโง่เพราะเห็นแก่เกียรติของพระเจ้า - ดีกว่าให้เขาคิดว่าตัวเองโง่ที่โดนคริสเตียนหลอก
.
.
.
ดังนั้นการตัดสินใจส่วนตัวของผมจึงเลือกทางนี้
จริงๆผมไม่ได้กังวลอะไร
เพราะถ้าเราเชื่อว่าสถานการณ์ทุกสิ่งมาจากพระผู้เป็นเจ้า เราก็วางใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราก็ย่อมดีเสมอ
ในเรือนจำก็ดี ข้างนอกเรือนจำก็ดี ที่ไหนก็มีงานให้ทำ
ต่อให้ถูกส่งไปไหนพระเจ้าก็อยู่ในทุกๆที่
ถ้าพระองค์มอบหมายงานใด ผมก็ทำให้ดีที่สุดก็เท่านั้นเอง
ลงชื่อ เซฮุน
กูแจ้งแบนสองโพสต์บนที่ห้อง Meta ล่ะนะ รำคาญแม่ง
กุสงสารบางคนว่ะ อย่าว่าแต่แฟนเลย ชีวิตจริงหาเพื่อนแท้สักคนได้ป่ะวะ ต้องมาคลั่งการเมืองเรียกร้องความสนใจในบอร์ดนิยาย
ทำไมไอ้เซฮุนมันวอนอยากโดนแบนจังวะ ขนาดโดนไปหลายรอบละนะ
มึงว่าไอ้เซฮุนมันควรปรับตัวเปล่าวะ
ลงชื่อ เซฮุน กูอยากรู้จริงๆ
T_T! ไอ้เหี้ยเซฮุนโดนแบนทีไร กูก็พาลเล่นไม่ได้ด้วยทุกที
มันต้องใช้มือถือค่ายเดียวกับกูแน่ๆ อิเวน
ขออนุญาตเทสหน่อยว่าโดนแบนไปด้วยไหม
ถามในนี้ได้มะ ไอ้จอยลดานี่คือแต่งเป็นบทสนทนาอย่างเดียวเหรอวะ กูไม่ชอบนะแต่อยากลองเกาะกระแสดูว่ะ พูดตรงๆ อินดี้แล้วเหงาชิบหาย 555
สรุปว่ากูโดนแบน
>>675 งงกับสำนักพิมพ์ตรงนี้ เหมือนจะเลือกแต่เรื่องดังมาตีพิมพ์ ไม่สนคุณภาพ
กูคือโม่งที่มาถามนะ ความจริงอยากเขียนพวกแฟนตาซีผจญภัยที่อยุ่บนโลกนี้นี่แหละ แต่แม่งซ้ำเกินแล้วกลัวไม่สมจริงไง อิพวกความขัดแย้งในเรื่องเลยอยากแทรกอะไรให้มันสมจริง ความรักไม่ค่อยชอบว่ะ อยากเน้นพวกความสัมพันธ์แบบเพื่อน ครู พ่อแม่ ไรงี้มากกว่า
ขอนั่งเศร้าแป๊บ...
กูหยุดเขียนมานาน พอกลับมาเขียนอีกทีเขียนไม่ออกเลยว่ะ Orz
ความสามารถถดถอย? หรือว่าเสื่อมสมรรถภาพวะ?
ky เมื่อไรฝั่งจีนจะหมดยุคซะทีวะสาสสสส
>>685 ใครบอกออนไลน์ร่วง? แม่งแค่ปรับตัวไปเป็นต่างโลก+เกมออนไลน์ต่างหาก และไอ้พวกที่เป็นนิยายแนวเพียวเกมออนไลน์ก็ยังมีกลุ่มลูกค้าอยู่มาก
สำหรับแนวจีน กูว่ามันไม่ตายง่ายๆ หรอกว่ะ และสิ่งสำคัญเนี่ยมันไม่ใช่แค่ "แนวจีน" แต่เป็น "แนวพระเอกซูเหี้ยๆ ผจญภัยฟาร์มของไร้แก่นสารและสะสมฮาเร็ม" ต่างหาก ถ้าจะให้ประมาณการอายุของพลอตแนวนี้ กูให้ที่ 10 ปีเป็นอย่างน้อยนะ เพราะงั้นถ้าใครคิดจะลองเขียนก็ยังถือว่าทัน ยังไม่ตกรถนะจ๊ะ
กูเห็นคนเขียนแนวเกมออนไลน์เยอะนะมึง กูก็พึ่งลงไป (คิดเรื่องคราวๆตั้งแต่ตอนจบไว้แล้ว แต่กว่าจะถึงตอนจบกูคิดไม่ออกสักอย่าง เผลอลงไปล่ะจะลบออกก็เสียดาย)
>>690 มึงสนใจพล็อตแบบนี้มั้ยล่ะ กูเบื่อ MMORPG หน้าตาเดิมๆ
เกมชวนเพื่อนล่าท้าผี https://www.blognone.com/node/100185
เกมศึกแฮกเกอร์ 2 ขั่วเปลี่ยนโลก
เก่า แต่เกริ่นเรื่องดี https://www.blognone.com/node/40126
ใหม่ยกเครื่อง https://www.blognone.com/node/97865
>>682 ส่วนใหญ่นิยายที่ถูกตีพิมพ์มันมีจุดร่วมที่คนอ่านแล้วรู้สึกว่ามันสนุก ส่วนคุณภาพอะไรที่พูดๆ กันนี่ที่ไม่ได้ตีพิมพ๋ส่วนใหญ่ก็มีจุดร่วมตรงที่คนอ่านแล้วไม่ค่อยรู้สึกว่ามันสนุก ถ้ามันคุณภาพแล้วสนุกด้วยโอกาสได้ตีพิมพ์มันก็จะสูง ส่วนแนวที่อยากเขียนก็เขียนไปเถอะ หลายเรื่องที่ได้ตีพิมพ์ก็ใช่ว่าเป็นพล็อตหลักที่เป็นกระแสในยุคนั้นๆ แต่ตอนนี้แฟนตาซีโอกาสตีพิมพ์ยาก
ถามหน่อยสิพอดีอาทิตย์ก่อนเว็บฟิคชั่นล๊อกส่งข้อความมาชวนลงแต่ตอนสมัครไปอ่านเจอกฏข้อนี้
"อย่างไรก็ตาม การส่งเนื้อหาของผู้ใช้ให้แก่ Fictionlog หมาย ถึงคุณได้ให้สิทธิที่สามารถใช้อ้างได้ทั่วโลก โดยไม่จำกัด ปราศจากลิขสิทธิ์ สามารถอนุญาตช่วงได้ แต่เพียงผู้เดียว ในการใช้ ทำซ้ำ จำหน่าย จ่ายโอน จัด และแสดงเนื้อหาอันเกี่ยวข้องให้กับเว็บไซต์ Fictionlog ด้วย"
คือมันส่งผลกับสัญญาตีพิมพ์ของสนพ.ไหม
กูรอแนวนางร้ายข้ามภพหายไปอยู่ คิดว่ามันจะขายกินได้อีกกี่ปีวะ
มู้นี้ไปเร็วนะ
ตั้งวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ตอนนี้ 700 ละ
แต่นิยายกว่าครึ่งของทั้งหมด ดอง
วันมาฆาบูจะทำอะไรดี
มีคนจะทำหนังด้วยเว้ยเฮ้ย https://www.dek-d.com/board/view/3831312/
ถ้ากูจะเซ็ตโลกแบบที่มีวัฒนธรรมหลายๆที่ที่อิงมาจากความจริง แต่มีเวทย์มนต์ กำลังภายในประกอบ มีศาสตร์ลับนู้นนั้น เนื้อเรื่องไม่มีพระเอกชัดเจนมีแต่ตัวเด่นของแต่ละพวกแต่ละฝั่งมาให้ยึดตามมีความต้องการ มีความฝันที่แยกเป็นเอกเทศกันแต่มาพัวพันกัน มีความแฟนตาซีนิดๆ ที่จริงก็ไม่นิดอะเยอะเลย ยกตัวอย่างง่ายก็เช่น กูเอาตำนานกษัตริย์อาเธอร์แต่แต่งนิดปรับหน่อย มาเป็นรุ่นเหลนหรือรุ่นที่ไกลออกไปแทน มาเจอกับแบล็คเบรียดหัวล้าน โจรสลัดที่ใช้เรือแล่นบนท้องฟ้าแทน(แบบสตรีมพังค์->เครื่องจักรไอน้ำ ไฟฟ้า แฟนตาซีนิดๆ) แนวๆนี้ กูจะเกรื่นนิยายออกมาแบบไหนดีวะ
คือไอเดียอะมันมีแหละแต่กูเกริ่มนิยายไม่ได้วะ ทางมันมีนะแต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนยังดี แนะนำหน่อยสิ
ปล.นิยายกูยังร่างบนกระดาษโน๊ตอยู่เลย
Ky กูไปเจอนิยายแนวเกิดใหม่ มีนักอ่านบ่นว่าพระเอกแม่งกากระลึกชาติได้แล้วทำไมไม่โหดร้ายขึ้นวะ แต่นิยายนี่กูอ่านแล้วเหมือนจะปูมาให้พระเอกค่อยๆเทพว่ะ ซึ่งดูแล้วน่าจะอีกนานเลย แต่ไหงนักอ่านมันใจร้อนกันจังซะ ไม่กะให้ตัวละครมีพัฒนาการบ้างเรอะ
ไอ้พวกนั้นมันจะเสพติดความโหดอะไรกันนักหนา
ตลาดนิยายเด็กดีใช้กับตลาดเมืองนอกไม่ได้หรอก
เอ้า ฝากแปะ เพจนักเขียนเด็กดี
ปกติในเพจเฟซบุคแม่งจะชอบมีคอมเมนต์ตลกๆ แบบหาไม่ได้ในบอร์ดนักเขียน ถ้าว่างก็มาช่วยกันดูว่าจะมีใครหลุดมาโชว์ความคิดเห็นเบียวๆ บ้างไหม
>>722
ผู้เขียน LOTR ตีพิมพ์ก่อนมีการสร้างคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและเครื่องเกมคอนโซลเครื่องแรกของโลก
ผู้เขียน Harry Potter ไม่ได้มีความรู้การเขียนเกม
ผู้เขียน GOT ไม่ได้เซ็ตโลกให้มีระบบสเตตัสแม้แต่ภาคเดียว
ผู้เขียน Tom Clancy ไม่ได้มีส่วนร่วมพัฒนาเกม หลัง Ubisoft ซื้อลิขสิทธิ์ไป
ผู้เขียนฉบับนิยาย Assassin's Creed ออกหลังเกมวางจำหน่าย แต่ยืมเนื้อเรื่องมาเขียนให้ละเอียดกว่าในเกม ไม่ได้พูดถึงเกมเพลย์
ผู้เขียนสตีเฟ่น คิงส์ประสบความสำเร็จในการขายนิยายโดยไม่ต้องพึ่งบารมีระบบสเตตัส
ผู้เขียนไอแซค อสิมอฟ เสียชีวิตก่อนยุคเกมออนไลน์
เด็กดี นิยายรับกระแสจากต่างประเทศ
ยุคแฮรรี่ ก็โรงเรียนเวท
ยุคนี้ ก็มาจากเกิดใหม่ของญี่ปุ่น หรือไม่ก็แนวเซียนของจีนที่มีขั้นพลัง
มองในแง่การตลาด แนวนิยม มันก็ไม่เห็นแปลกอะไร
เพราะต้นแบบ มาจากแนวนี้ทั้งนั้น
สปอย เรื่องking of god .
.
.
.
.
ดำน้ำจนถึงตอนปัจจุบัน 1586
สรุปเนื้อเรื่องทั้งหมดคือความฝันของดวงตาซ้ายของเจ้าเฟิง
ตาซ้ายของเจ้าเฟิงคือผู้ปกครองโลกทั้งหมดที่เจ้าเฟิงอยู่ตาซ้ายของเจ้าเฟิงสามารถทำให้โลกทั้งใบหายไปหรือสร้างขึ้นใหม่ก็ได้โลกทั้งใบคือร่างกายของดวงตาซ้ายเจ้าคล้ายๆภาพมายาหรืเรื่องสมมุติที่ตาซ้ายของเจ้าเฟิงสร้างขึ้นนั่นเอง
ถถถถถถถถถถ ทางลงของนิยายจีนนี่แม่งตลกจริงๆ
คิดเหมือนกูมั้ย นิยายของไทยกับญี่ปุ่นไม่ใช่ 2 ชาติแรกในโลกที่มีความเป็นจูนิเบียวสูง จีนก็จูนิเบียวเต็มขั้นไม่แพ้กัน
จะว่าไปมีใคร (ทน) อ่านพวกนิยายจีนนับพันตอนจบบ้างวะ?
ช่วยสปอย์แบ่งปันกันบ้างสิ กูอยากรู้ว่าตอนจบของเรื่องที่จบๆ ไปแล้วมันเป็นยังไงกันมั่ง
กูสงสารคนจ่ายเหรียญซื้อชิบหาย จบได้ส้นตีนมาก
ถ้ากูให้พจนานุกรมภาษาไทยเป็นของขวัญให้เพื่อนที่เขียนผิดโคตรเยอะแต่ไม่ยอมรับ คิดว่ามันจะโกรธกูมั้ยวะ
พี่เครื่องหายไปไหนวะ กูไม่เห็นหลายวันแล้ว
ปกติเจอกระทู้ ปญอ. แบบนี้ พี่เค้าไม่น่าพลาด
https://www.dek-d.com/board/view/3831677/
Practice what you preach.
ประหลาดแท้ วันนี้ไม่มีใครโพสต์อะไรเลย งั้นกูเปิดประเด็นละกัน คือเราพูดถึงตลาดแฟนตาซีมาเยอะละ ใครพอมีความรู้สายนิยายรักก็ช่วยแชร์หน่อยว่าตลาดเป็นไง จะแจ่มใสหรืออิโรติกก็ได้
เช่น การวาง Margin 50% (margin account) ในบัญชีเพื่อเป็นหลักในการตลาดอนุพันธ์ บริบทนี้คำว่าส่วนต่างจะเป็น ทุนกับเงินประกันวางไว้
แต่ถ้าพูดว่า หุ้นนี้ margin สูง เป็นภาษาเฉพาะว่าใช้ทุนต่ำกำไรงาม
ยังมี margin call; margin cost อีก
การเทรดก็จะมีอย่าง Margin of safety ในการเลือกlong, short เช่นกัน
กูเริ่มเข้าใจละทำไมคนด่านิยายท็อปเขียนผิดแต่ติดท็อปมันสนุกมึง
แต่คำผิดขัดตาชิบหาย แม่งเอ้ย
บ่นถูกมู้ป่ะเนี่ย๕๕๕
ภรรยาย
สถานการ์ณ
กำไรใส่แขน
wtf
คนเขียนเรียนป.โทด้วย แก่กว่ากูอีกแท้ๆ แม่งเอ้ยยย ขัดใจ
กิดกันงี้ น่ะคะ นะค่ะ
ว้ากกกก
พวกมึงผิดหมด Margin นิยายวายคือ คนอ่านมันจ้องจะมาจิ้น มันเลยจะมีมาจิ้นสูง
ลงชื่อ เซฮุน อย่าอวดฉลาดนักถ้าโง่มาก
https://writer.dek-d.com/titima1057/story/view.php?id=1741632 - I will the God of this world
แค่ชื่อเรื่องก็กินขาดแล้ว
เหมือนเรื่อง King of North ลืมใส่ the
มึงกำลังอ้างอิงนี่ใช่มั้ย https://www.dek-d.com/board/view/3831992/
>>781 มองแบบมโนๆ หน่อยก็อาจคิดได้ว่า North เนี่ยเป็นชื่อเฉพาะ ประมาณ King of Thailand ไรงี้ ไม่ผิด ถถถถ
>>785 เออ จขกท แม่งสวะชิบหาย ทำมาเป็นด่าว่าทำไมนิยายเดี๋ยวนี้มีแต่แนวย้อนเวลาเดิมๆ โชว์ภูมิราวกับอ่านตอลสตอย ออร์เวล โทลคีน ทั้งที่นิยายแต่ละเรื่องที่แม่งยกมาอวยน่ะโคตรเหี้ย คือนิยายจีนเดินเก็บฮาเร็มลากตอนยาวๆ ตัดจบปาหมอน ต้นแบบของไอ้นิยายที่มันด่านั่นแหละ ถถถถถถ หัวควยสัส
ไม่โดนแบนไปจนกลับมาทำตัวแบบเดิมแล้วเหรอ
เห็นยังไงบ้างกับข้อความข้างล่าง:
เท่าที่สังเกต การใช้ไม้ยมก ไม่ว่าจะเป็นเอกสารทางการ (พวกงบการเงิน บทความวิชาการ) เขาจะไม่วรรคหน้ากันแล้ว แต่จะวรรคเฉพาะหลัง
จึงกล่าวได้ว่า การใช้ "ที่ถูกต้องจริงๆ" คือการวรรคเฉพาะหลัง แต่ไม่ต้องวรรคหน้า
"หลักเกณฑ์" ที่อ้างโดยส่วนกลางต่างหากที่ผิด ที่ไม่ปรับปรุงไปตามยุคสมัย
อย่าเข้าใจผิด มนุษย์ (ในที่นี้คือ คนไทย) คือ เจ้าของภาษา ถือเป็นนายของภาษา ไม่ใช่ภาษาเป็นนายเรา ดังนั้น หลักไวยากรณ์และการใช้ภาษาที่ถูกต้องคือ หลักอะไรก็ตามที่คนในสังคมอันเป็นเจ้าของภาษา เขายอมรับใช้กันโดยทั่วไป
โดยตรรกะเดียวกัน ถ้าต่อไปสังคมส่วนใหญ่ยอมรับการใช้ "นะค่ะ" มันก็กลายเป็นการใช้ที่ถูกต้องนั่นเอง (แต่ตอนนี้มันยังไม่เป็นที่ยอมรับขนาดนั้น เลยถือว่าผิด)
(และควรสังเกตด้วยว่า การใช้ "ค่ะ" (รวมถึงคำว่า "น่ะ") ว่ากันตามตัวอักษรเป๊ะๆ มันก็ผิด เพราะในการใช้จริงๆ เราจะอ่านว่า "ขะ" ซึ่งเป็นเสียงเอก แต่พยัญชนะเสียงต่ำมันไม่มีเสียงเอก ดังนั้น ถ้าไม่ใช่ออกเสียงผิด ก็ต้องสะกดผิด (ว่ากันตามหลักอะนะ) แต่ที่มันมีข้อยกเว้นว่ามันถูก ก็เพราะคนเจ้าของภาษาอย่างเรายอมรับว่ามันถูก ดังนั้น ถ้าต่อไปการใช้ "นะค่ะ" มันกลายเป็นสิ่งที่ถูก จะไปแปลกอะไร)
เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
>>792 เท่าที่สังเกต การใช้ไม้ยมก ไม่ว่าจะเป็นเอกสารทางการ (พวกงบการเงิน บทความวิชาการ) เขาจะไม่วรรคหน้ากันแล้ว แต่จะวรรคเฉพาะหลัง
จึงกล่าวได้ว่า การใช้ "ที่ถูกต้องจริงๆ" คือการวรรคเฉพาะหลัง แต่ไม่ต้องวรรคหน้า
ปัญญาอ่อนไหมล่ะ สรุปได้โมเมฉิบหาย ถ้ามึงบอกแค่ว่าไม้ยมกไม่วรรคหน้าได้รับความนิยมมากนี่โอเค แต่มันกลายมาเป็นเรื่องถูกต้องได้ยังไงวะ จับแพะชนแกะนี่หว่า
เม้นที่ 67 สุดยอดของการแบทเทิลระหว่าง นักเขียนติสต์ vs นักอ่านอินดี้ (หรือฮิปเตอร์ดีวะ) เพื่ออรรถรสที่ดียิ่งขึ้น มึงลองย้อนไปอ่านคห.เก่า ๆ เดะ
https://writer.dek-d.com/dekd/writer/viewlongc.php?id=1523638&chapter=28
สำหรับกูนะ นี่ก็นิยายเกาะกระแสตัวร้ายทั่วไปที่มีดีแค่คำผิดน้อยและไม่ใช่เกมจีบหนุ่มแหละว่ะ เนื้อหาดาด ๆ ไว้อ่านเล่นได้เท่านั้นแหละ
ของกูติดแบบใช้วรรคหน้าหลังไปแล้วแหง ๆ เลยว่ะ
KY หน่อย คิดอย่างไรกับคำว่าร่างบางกันบ้าง
สำหรับเรานะ มันทำให้นึกถึงกระดาษ A4 อ่ะ บาง ๆ ไม่มีน้ำหนัก หักงอฉีกขาดง่าย เราก็ไม่รู้ว่าเด็กดีไปคิดว่าเป็นร่างเล็กน่ารักได้อย่างไรเหมือนกัน
หรือว่าเด็กดีเขา fetish กระดาษวะ (ฮา)
>>792 ความเห็นกุ คือ มั่วนิ่มสิ้นดี จับแพะชนแกะไม่มีหลักเกณฑ์ เอาเถอะ ดูจากรูปประโยคที่เขียนแล้วคอนเฟิร์มได้ว่าไทยแท้โคตรโบราณจริง ๆ ไม่รู้มาอวดรู้ทำตัวเป็นกูรูแสนรู้ทั้งที่ไม่มีอะไรมาซัพพอร์ตเลย คุณไสยชัด ๆ
ไม้ยมกที่เขียนตามกันมาน่ะ ดูก็รู้ว่าเขียนแบบผิด ๆ มาแต่แรก พวกที่เขียนตาม ๆ กันมานั่นก็พาลเข้าไปผิดกันไปเองอีก หรืออีกกรณี คือ เวลาพิมพ์ในแอพ document บางครั้งไม้ยมกที่ท้ายบรรทัดมันชอบตกไปอยู่บรรทัดใหม่ เขาเลยแก้กันแบบชุย ๆ ด้วยการลบ space ออกซะเลย ทั้งที่มันมีวิธีแก้ด้วยการใส่อักชระพิเศษลงไป (กด ctrl+spacebar)
"ในเอกสารราชการเขาไม่ใช่กันแล้ว" ???? เหออออออ กุเป็น outsource เวลาส่งรายงานให้ราชการ พิมพ์ไม้ยมกผิดเขายังตีกลับมาให้กุแก้เลยมึง
มนุษย์เป็นเจ้าของภาษา หลักถูกต้อง คือ เขาใช้อะไรก็ใช้ตามเขา? ห่านนนนนนน เป็ดดดดด แบบนี้มั่วตายหองกันพอดี หมายความว่าภาษาแชททั้งหลายนี่ก็ต้องยอมรับกันด้วยป่ะ ช่วยคิดอะไรไปไกลกว่าปลายตีนตัวเองได้มั้ย เคยได้ยินประโยคที่ว่า ภาษาสะท้อนกระบวนการคิดและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาป่ะ นี่ไงชัดเจน สะท้อนความเอาแต่ได้สักแต่จะเถียงแต่ไม่มีหลักการอะไรสนับสนุนมาเลย ลำพังภาษาไทยนี่ก็แทบไม่มีหลักอะไรตายตัวอยู่แล้ว มึงยังคิดจะทำให้ไร้หลักเกณฑ์อีกหรอวะ ลำพังแค่นี้ก็ก็รู้สึกว่าอ่านนิยายไม่รู้เรื่องแล้ว
การปฏิเสธหลักเกณฑ์ส่วนกลาง ถ้าอยู่ในกรอบอ้างอิงวิชาการ หรือเอาหลักเหตุผลมาดีเบทดีเฟนด์มันทำได้แน่นอน แต่การตั้งป้อมปฏิเสธโดยบอกแค่ว่ามันผิด มันไม่ดี มันนู่นนี่นั่นแบบอ้างขึ้นมาลอย ๆ มึงมาทางไหนมึงก็กลับไปทางนั้นเลยนะ กว่าเขาจะออกหลักเกณฑ์แต่ละอย่างมาก็ผ่านการวิเคราะห์สังเคราะห์จาก 'ผู้เชี่ยวชาญ' มาในระดับหนึ่งแล้ว มึงเป็นใครเนี่ยอยู่ ๆ ก็ทะลึ่งคายอ้วกออกมาแล้วบอกให้คนอื่นกินต่อวะ อยากเถียงก็ไปหาข้อมูลจะวิจัยจะสอบถาม (แต่ต้องเป็นไปตามหลักวิชาการนะ) ก็เอามาสิ ไม่ใช่อยากพูดอะไรก็สักแต่พูดแบบนี้
------
ยาวไปมาก ขออภัย เจอความเห็นแบบนี้ทีไรหัวร้อนทุกที ||OTL
แต่ราชการเขายังให้เว้นหนึ่งเคาะเวลาใช้ไม้ยมกอยู่นะ
ถ้าเอกสารหรือจดหมายราชการพิมพ์เป็นภาษาแชททั้งดุ้น จะมีคนยอมรับจริงเรอะ
ในบอร์ดเด็กดวก จขม.ไม่พอใจนิยายแฟนตาซีขณะนี้ แต่เสือกตามโลกไม่ทันเอง พวกนิยายที่แม่งด่าก็ลอกมาจากนิยายที่แม่งชอบต่างหาก คำตอบอยู่คห.11
กูเห็นพากันหยิบนู่นมาด่า หยิบนั่นมาแซะ กระทู้ไร้สาระในบอร์ด ดด ก็ยังหยิบมาโยงไปเรื่อย
คือพวกมึงที่ทำตัวเหมือนเข้าใจทุกสรรพสิ่งในวงการวรรณกรรมนวนิยาย เมื่อไรจะแสดงให้เห็นแนวทางที่แท้จริงให้เด็กมันดูวะ หรือพวกมึงเองก็ไม่รู้จะสร้างเรื่อง หต อะไรมากลบกระแสนิยายเบียวใช่ปะ? ถ้าคิดว่าแนวอื่นมันสุดยอด ตัวเอกค่อย ๆ พัฒนาเป็นขั้นตอนมันน่าติดตามกว่า หรือเหี้ยไรก็แล้วแต่ที่พวกมึงคิดว่ามันดี ก็ลงมือเปิดกระแสใหม่ให้นิยายที่พวกมึงยกกันมาบ่นแถด ๆ ในมู้นี้หายไปสักที
แต่กูคิดว่าฝีมือพวกมึงแม่งยังไก่กาอาราเล่ว่ะ คงไม่สามารถพอจะสร้างเรื่องที่ไม่เบียวให้มันดูน่าติดตามได้ เลยเลือกมาลงกับนิยายเบียวแม่งเลยใช่ปะ? ยิ่งเรื่องไหนกาก ๆ เบียวเหี้ย ๆ นี่ชอบใจพวกมึงน่าดูเลย จากอาการแล้ว ฝีมือเขียนกะโหลกกะลาหมูหมาแต่เสือกอยากจะแต่งนิยายเจ๋ง ๆ
สมเพชไอเหี้ย
บ่นแม่งได้ทุกวันกับเรื่องเดิม ๆ ไม่ก้าวผ่านแม่งไปสักทีไอ้พวกลูซเซอร์กระโปก
อ่อ อย่าลืมเปลี่ยนชื่อมู้ใหม่ด้วยนะคราวหน้า กูแนะนำเป็น รวมพวกขี้ปากไปวัน ๆ บ่นทุกอย่างยกเว้นเลือกนิยายมาสับไอสัส จะครบ 1000 แล้วมีแต่เห่าหอนกัดไปทั่ว ที่เป็นงี้เพราะพิษสุนัขบ้ากลับมาระบาดแล้วไงไอ้ควาย
กูว่าจขม.คงเล่นโม่งว่ะดูแล้ว 555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
อย่าไปด่าไอ้ >>816 กันนะทุกคน แม่งมาล่อเป้าเฉยๆ
แต่ถ้าเผื่อมึงไม่ได้ล่อเป้าอะนะ ก็อยากจะบอกว่ากลุ่มตลาดมันเป็นงี้จะให้ทำยังไง ถ้ามึงเขียนไม่ตรงกับกลุ่มตลาด มึงก็ไม่ได้เกิดอยู่ดี ต่อให้ไอ้พวกนักอ่านกากๆ แม่งเผลอเปิดเข้ามาเจอ ท้ายที่สุดแม่งก็ปิดอยู่ดี เพราะพระเอกไม่ได้ออกมาฆ่าๆๆๆๆๆ เทพสาดๆๆๆๆ ตั้งแต่บทแรกๆ เหมือนมึงซื้อ ps4 ไปให้ลิงอะ มึงว่ามันอยากจะเล่นมอนสเตอร์ฮันเตอร์ หรืออยากจะแดกกล้วยมากกว่ากันล่ะ
มันมีข้อบังคับตรงไหนว่าต้องสับนิยายอย่างเดียววะ กูสงสัยมานานแล้ว
แต่เฮ้เดี๋ยวก่อน มู้นี้มีไปตั้ง 2 เรื่องแล้วนะ ส่วนตัวว่ามันก็เยอะอยู่นะ //me งับเหยื่อ
>>821 ไม่มี อ้างเอาจาก >>1 ก็ได้ว่า
วิพากษ์วิจารณ์งานเขียนบนเว็บเด็กดี.คอม ทั้งจบแล้วและยังไม่จบ ตีพิมพ์แล้วและยังไม่มีใครเหลียวแล รวมไปถึงพูดคุยเกี่ยวกับวงการนิยายเว็บ (เด็กดี) เพื่อความหวังของวรรณกรรมไทยในอนาคต ทั้งนี้ ไม่สนับสนุนให้นำเรื่องส่วนตัวของนักเขียนแต่ละคนออกมาตีแผ่ ควรเน้นเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานเขียนเท่านั้น
สรุปก็คือพูดคุยเกี่ยวกับนิยายเว็บเด็กดีอะนะ ซึ่งเท่าที่อ่านๆ มาก็พูดกันได้ตรงประเด็นดี ไม่มีใครโยกเข้าไปขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวของนักเขียนคนไหน ส่วนพวกที่เรียกร้องให้สับเนี่ยแม่งประหลาดคน คือพอมีคนมาสับแม่งเสือกหายหัว ไม่มาหือมาอืออะไรเลย จนกูเริ่มจะคล้อยตามโม่งคนนึงที่มาบอกว่า คนที่มาบ่นให้สับนิยายกันสักทีนี่คือพวกที่มีชื่ออยู่ในลิสต์รอสับ แต่ไม่มีใครเหลียวแลสักที
กูไม่อยู่ 3 วันกระทู้ไหลเร็วดี แต่ไม่มีสาระเลย เจอ จขกท. ในเด็กดวกดักควายแล้วพวกมึง
ดูให้ลึก ๆ มึงจะรู้ว่ามันไม่ได้แซะพวกคนแต่ง แต่อยากรู้ว่าใครจะมาด่าต่างหาก
มีแต่กูหรือเปล่าที่ชิวๆ แนวตลาดนอกตลาดอะไรก็ได้ ขอแต่งสนุกพออ่านแล้วกูเข้าใจได้ ไม่เวิ่นเว้อน้ำเต็มทุ่ง กูอ่านได้หมดทุกแนวตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ เห็นแซะกันทุกแนวในบอร์ดเด็กดี แม่งเอ้ย
https://www.dek-d.com/writer/48449/
นิยายเรื่องนี้ปะที่มีโม่งบน ๆ เคยฉะเรื่องชื่อผิด ตอนนี้เขาแก้แล้วนาจา เว็บมาสอวยว่าเทียบ GOT กับมหากาพย์แหวนข้าเลยทีเดียว
ขออีกเรื่องก่อนหมดมู้
เรื่อง เกิดใหม่ทั้งที ขออยู่อย่างสงบหน่อยเถอะ
ลิงค์ https://writer.dek-d.com/Zerojager/story/view.php?id=1762066
จำนวนตอน 16 ตอน (4 มีนาคม 2561)
ก่อนเริ่มขอพูดไรอย่าง เราปิดเทอมแล้ว สัญญาว่าถ้าไม่โดนแบนสักรอบจะรีวิวในช่วงปิดเทอมให้ได้ 2 เรื่องโดยการสุ่ม เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของช่วงปิดเทอม เหมือนเดิมอ่านสิบตอนแรกแล้วให้คะแนน โดยดูจากความสมเหตุสมผล คำผิด ส่วนภาษา การเลียนเสียง อาจจะออกความเห็นว่าเราชอบหรือไม่ชอบ พร้อมเหตุผล แต่จะไม่มีผลต่อการให้คะแนน
สำหรับหน้าแรกเรื่องนี้ เหมือนกับสองเรื่องที่แล้ว มีขั้นระดับ อิมเมจตัวละคร บลา ๆ ๆ ๆ ๆ ซึ่งถามว่าความเห็นเราเป็นอย่างไร ก็ไปดูที่รีวิวอันก่อนหน้า
ตอนที่หนึ่ง
ตอนนี้ไม่มีอะไรมาก สูตรสำเร็จ ตัวเอกหลับแล้วเจอพระเจ้าปลุก แล้วซัดกันเพราะพระเจ้าไปปลุกมัน (มันก็จะงงหน่อย แต่บอกเลยตอนหน้างงกว่านี้) คือ แบบตัวเอกสวะชิบหาย ไปต่อยคนแก่ทั้งที่ยังไม่รู้จักกันเพราะเขามาขัดเวลานอน โอ้ God has left the sever. โลกนี้มันเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย อ้อ พระเจ้าในเรื่องบอกเป็นโอตาคุ แต่ความรู้สึกเรา พระเจ้านี่ Weeb มากกว่า ก่อนส่งไปด้วยการเตะด้วยรองเท้าเบอร์ 43 ตัวเอกขอพรจากพระเจ้าไปห้าข้อ ทั้งที่เมื่อกี้ยังซัดกันอยู่เลย คือ
1. ทนต่อการโจมตี
2. เรียนรู้ได้อย่างไว
3. ไม่ต้องฝึกก็เก่งขึ้นได้
4. ไม่เกิดเป็นมนุษย์
5. ขออยู่อย่างสงบ
แต่พระเจ้าให้คำสาปแถมไปด้วยแต่ยังไม่มีการบอก
ขอบ่นเรื่องหนึ่งคือ เรื่องนี้มีการใช้เสียง ตุบตั้บ ห่าอะไรไม่รู้โดยไม่บอกว่ามันเป็นเสียงอะไร คือเรารับได้นะ ถ้ามันใส่เสียง แล้วบรรยายว่าเสียงนั้นมาจากอะไร หลายคนอาจสงสัยว่าการอธิบายเสียงแบบเรื่องนี้มันแย่อย่างไรเหรอ ดูตอนต่อไป
ตอนที่สอง
ตอนนี้อยากไปให้โม่งอ่านกันเอาเอง เราอ่านแล้วสรุปมาไม่ได้ซักเท่าไหร่ เพราะมันไม่มีบทบรรยายห่าอะไรเลย หรือมีแต่เราเข้าไม่ถึงก็ไม่รู้ มันอาจเป็นวรรณกรรมแห่งยุคเลยทีเดียว (เราประชด) ที่เข้าใจคือตัวเอกมันไปเกิดเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้ที่ละเมออยู่ก็จัดการศัตรูได้หมด จนเวลอัพห่าเหวอะไรก็ไม่รู้ เรางงจริง ๆ เราทำได้แค่นี้แหละ ขอโทษจริง ๆ
คือมีแต่บอกว่าเลเวลอัพอะไรก็ไม่รู้ คนพูดบลา ๆ การเลียนเสียงเสียงที่ผสมวิธีการอธิบายของนักเขียนแล้ว ทำให้ทุกอย่างในตอนนี้เลวร้ายกว่าในตอนแรกมาก
ตอนนี้ไม่มีการบรรยายฉากหรืออะไรที่ทำให้เรารู้เรื่องอะไรได้เลย งงมาก ถ้ามันเป็นอย่างนี้ทั้งเรื่อง อาจเป็นเรื่องแรกที่ได้ 0/10 เพราะเราไม่สามารถรู้อะไรได้เลยจริง ๆ ไม่มีคะแนนสมเหตุสมผล เพราะ ไม่มีอะไรที่จะทำให้เรารู้เรื่องของโลกนั้นได้เลยนอกจากเสียงตูมตาม อ๊าก โครม คำผิดก็มีอีกต่างหาก ทั้งพิมพ์ตก พิมพ์เกิน และเขียนผิด
ลงชื่อ โม่งมือใหม่หัดเล่น
อาจมาต่อวันพรุ่งนี้ถ้าไม่ขี้เกียจ (ฮา)
>>831 แค่เห็นคนเข้ามาเม้นอวยก็อย่างถล่มทลาย กูก็อยากจะบ้าตายแล้วไอ้สัส ถถถถถถ เอาตามตรง กูอ่านเข้าใจนะ สรุปได้ว่าพระเอกมันเกิดใหม่เป็นตัวอ่อนมังกร แล้วตอนหลับก็ละเมอฆ่าคนไปเรื่อยๆ พอตื่นขึ้นมาอีกทีก็สะสมพลังจนกลายเป็นมังกรยักษ์เทพสัสๆ ได้เลย
อ่านแค่สองตอนก็สรุปได้แล้วว่าเรื่องนี้ไม่มีทางเขียนจบแน่นอน เพราะยังไงๆ ก็หาทางลงไม่ได้ เว้นแต่จะปาหมอนแบบให้พระเอกตื่นขึ้นจากความฝันเป็นโดจินโดราเอมอนแบบนั้นไปเลย
แม่งกว่ากูจะเลื่อนหาตอนแรกเจอ สัส
ต่างโลกคนไทยแต่งนี่มันมีคนเขียนจบสักเรื่องมั้ยวะ
พวกมึงว่า บุพเพสันนิวาส มันจะช่วยทำให้กระแสนิยายจีนย้อนเวลาซาได้บ้างป่าววะ แต่กูอยากให้มันทำได้นะ ทุกวันนี้กูเบื่อแนวนี้มาก
>>846 ขนาดแนวจีน คนเขียนส่วนใหญ่ไม่ได้ศึกษาข้อมูลมาก่อน มั่วเอาจากนิยายจีนที่คนจีนแท้เขียน ต่อด้วยมั่วเอาจากนิยายจีนที่คนไทยไปเอามาจากนิยายจีนที่คนจีนแท้เขียน ต่อด้วยมั่วเอาจากนิยายจีนที่คนไทยไปเอามาจากนิยายจีนที่คนจีนแท้เขียน ............................... ประการฉะนี้แล
กูชอบตอนนิยายตะวันตกบูมมากกว่าว่ะ ดูมันไม่ค่อยเบียวเหมือนฝั่งจีนฝั่งยุ่นไงก็ไม่รู้
แฟนกูติดบุพเพสันนิวาสมาก
ลงชื่อ เซฮุน ตอนนี้กูรู้เรื่องย่อละ สลับร่างงงพอสมควย
ลองเปิด ๆ ไปเจอเรื่องนี้ https://my.dek-d.com/muemean/writer/view.php?id=1306521
ยอดวิวสูงใช้ได้ แต่ตอนแรกคิดว่าจะเนื้อเรื่องเบียว ๆ ภาษากาก ๆ แต่ที่ไหนได้ ภาษาเขียนใช้ได้อยู่นะ ถึงแม้กูไม่ชอบแนวเกมออนไลน์ แต่ด้วยความที่ไม่เจอคำผิดแบบห่วย ๆ มาสะดุด เลยนับว่าเป็นอีกเรื่องที่พออ่านได้
ป.ล. ให้รู้ว่าถึงจะเป็นโม่งแต่ก็ไม่ได้ด่าอย่างเดียวนะเว้ย เจออันไหนดี ๆ ก็มาชม
ต่อ
ตอนที่สาม
ยังคงเชี่ยทั้งตอนเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ไม่มีอะไรมากเปิดอ่านสถานะแล้วตั้งชื่อเป็นชื่อจีนว่า หลงมี่เค่อ (เรียกบักมี่ละกัน) ตอนนี้มีการเล่นมุขตอนตรวจสถานะแต่เรามองว่าเล่นมุขควายมากกว่า แล้วบักมี่จะไปสำรวจทวีป พอจะบินปุ๊บ ก็ตกเพราะบินไม่เป็น เฮ้อ ไม่รู้ว่าจะพยายามตลกหรือเปล่านะ แต่คะแนนความตลกนี่ติดลบอ่ะ ดูหนังพจน์ อาโนลด์ ยังตลกกว่า
คำผิดกระจุยกระจาย แล้วเรื่องอายุหลักแสนปี (สงสัยหลับยาวไปหน่อย) นี่ดูตลกนะ แสดงว่าไอ้เรื่องก่อนหน้านี้ที่เกิดขึ้นคือเป็นเวลาแสนปีเลยเหรอ เขร้ แล้วจนถึงตอนนี้เรื่องยังคงไม่มีเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเพราะไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องใช้เหตุผลเลยเหมือนเดิม (จริง ๆ น่าจะเรียกว่าโลกมันว่างเปล่า โลจิคอะไรที่ยังไม่เห็นซักอย่างเพราะเหมือนจะเน้นมุขตลกฝืด ๆ )
ตอนที่สี่
บักมี่ฝึกบินสามปี แล้วบักมี่ก็บินไปทั่วทวีปมีการบอกขนาดและภูมิประเทศด้วยซึ่งไม่จำ จำไม่ได้ มีการเล่นมุขควายเหมือนเดิม สรุปนี่นิยายแฟนตาซีหรือนิยายรวมมุขควาย
บักมี่บอกมีแต่สัตว์กับสัตว์อสูรไม่มีมนุษย์เลย แต่มีกระดูกอยู่ข้าง ๆ จุดที่มันนอนตอนแรกแทน มีการขโมยของจากแหวนมิติของศพ ในที่สุดก็เริ่มมีอะไรแล้ว โลกนี้มีการใช้แหวนมิติแทนช่องเก็บของ มีหลายแบบด้วยนะ
ตอนนี้บักมี่ได้อุปกรณ์แปลงร่างมาจากพระเจ้าเพิ่ม มันสามารถแปลงร่างเป็นคนได้ก่อนไปเอาชุดที่ได้จากในแหวนมิติมาใส่ อ้าว ตอนแรกไม่ได้อยากเป็นคนหรอกเหรอ แล้วไหงกลับลำงี้ล่ะ หลังจากบักมี่ได้ร่างคน มันก็ฝึกลมปราณอะไรไม่รู้ พอมันตรวจสถานะ ค่าที่ได้ก็ยังเป็นมุขควายอยู่ ก่อนไปสร้างบ้าน ตัดไม้พร้อมกับพลังโคตรเทพ
สำหรับเรานะมันงงมาก คือเหมือนเรื่องนี้มันยังไม่มีอะไรให้ขบคิดเลยนะ อย่าเรื่องก่อนนี่มันเริ่มมีจุดประสงค์ของตัวละครแล้วนะ (ไอ้เรื่องจอมมารนั่นน่ะตัวเอกมันต้องการชนะสงครามเพื่อเจ้าหญิงใช่ไหมล่ะ) แต่นี้ไม่เลยอ่ะ Slow life ก็ไม่น่าใช่ คือถ้าเป็นแนวนี้นะ เราว่าเรื่องนี้สอบตกมาก กับอีแค่จุดประสงค์ตัวละครนี่มา 4 ตอนแล้ว ยังไม่เห็นอะไรเป็นรูปเป็นร่างเลย
ลงชื่อ โม่งมือใหม่หัดเล่น
ขอขอบคุณ โม่งหมายเลข >>837 ที่ทำให้เราเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนที่สอง ขอบคุณจากใจจริง
เดี๋ยวมาต่อวันพรุ่งนี้ ขอพักสมองด้วยการเล่นเกมแป๊บ นิยายเรื่องนี้ทำร้ายสมองเราหนักมาก (จริง ๆ ต้องเรียกว่าอู้ไปเล่นเกมมากกว่า แต่จะมาต่อพรุ่งนี้ไม่ก็ดึกนี้แน่นอน)
มึงหนีไม่พ้นหรอก นอกจากเข้าร่วมเบียวแบบกูซะ จะเบียวไปจนแปดสิบแม่ง
เซฮุน
เซฮุน
เซฮุน
อุลตร้ามังเซฮุน
ต่อ
ตอนที่ห้า
ตอนนี้บักมี่เริ่มสร้างบ้านแล้วก็ได้สกิลบลา ๆ (ไม่ใช่ไรเราเริ่มขี้เกียจละ เจอนิยายแบบนี้ในเด็กดี แย่มากเลยครับ) แต่เรากลับฉุกคิดได้ว่า เอ๊ะ มันก็น่าจะได้สกิลจากพรพระเจ้าแล้วไม่ใช่เหรอ ไอ้ไม่ต้องฝึกก็เก่งได้อะไรนั่นน่ะ แล้วไหงบักมี่มันยังไม่ได้สกิลขั้นต่ำวะ
ใช้เวลาสร้างบ้านหกเดือนแล้วสกิลก็อัพเกรด บลา ๆ มีการบอกความสามารถสกิล บลา ๆ คุณสมบัติไม้ที่ตัดมาสร้างบ้าน คุณสมบัติของบ้าน มีการใช้ตัวเลข เปอร์เซ็นต์ ทำให้เราสงสัยว่า ต้องรู้ด้วยเหรอ ไอ้เรื่องพรรค์นี้ ไร้สาระสิ้นดี (แต่เอ๊ะ ถึงตอนนี้เรื่องนี้มีสาระด้วยเหรอ แค่จุดประสงค์ตัวละครยังไม่มีเลย) แล้วเราก็อยากรู้นะว่าพวกค่าต่าง ๆ คนเขียนเอาไปคำนวณไรด้วยเหรอ มีทำไมกันนะ
มีการใช้รูปแสดงรูปบ้าน เขร้ มิติใหม่ของนิยายเบย อย่างไอ้เรื่องก่อนหน้านี่ใช้แค่อิมเมจตัวละคร แต่นี่เล่นยันสภาพแวดล้อม เอ่อ คุณนักเขียน เราอยากรู้คำจำกัดความของคำว่า “นิยาย” ของคุณจริง ๆ อธิบายหน่อยว่าคุณเข้าใจมันอย่างไร (ถ้าคุณมาอ่านล่ะนะ)
มีการสร้างเรือนกระจกเพาะปลูก แล้วเตรียมปลูกพืชบ้าบอคอแตก
สรุปแล้วนิยายเรื่องนี้ จุดประสงค์คืออะไรวะ
ตอนที่หก
ก่อนเริ่มเข้าเนื้อหา เราว่าถ้าจนถึงตอนที่แปดแล้วเรายังหาจุดประสงค์เรื่องไม่ได้ เราจะหยุดแล้วสรุปเลย ไม่ไหวอ่ะ เจอแบบนี้เข้าไปนี่มันทรมานมาก คิดจนหัวจะแตกก็ไม่รู้อะไรเลยนอกจากว่าบักมี่ทำอะไรบ้างในแต่ละตอน
เริ่มมาบักมี่ออกกำลังห่าอะไรไม่รู้ตั้งกี่ยก แล้วก็ไปทำอาหารด้วยมีดจากหินบ้าบอคอแตกพร้อมข้อมูลคุณสมบัติที่มาทำไมก็ไม่รู้ ทำคอกสัตว์ แล้วไปหาสัตว์มาเลี้ยง ตอนไปหามันไปเจอฝูงจิ้งจอกที่เจอคิเมร่าไล่อยู่ เหยดโลกของนักเขียนนี่เราเริ่มเข้าไม่ถึงละ กี่บ้องแล้วครับ กัญชาน่ะกี่บ้อง
ในช่วงนี้นิยายได้เปลี่ยนไปเป็นมุมมองบุคคลที่หนึ่งของหัวหน้าฝูงจิ้งจอกโดยไม่บอกอะไรก่อนเลยว่าย้ายมุมมองแล้ว เราตอนแรกนี่เงิบเลย อ้าวบักมี่กลายเป็นหมาตอนไหนวะ อ้อ เปลี่ยนมุมมอง
หัวหน้าฝูงเป็นเพศเมียไม่มีคู่เพราะในฝูงไม่มีตัวที่ระดับเท่ากัน เหยด มาแล้ว ไอ้พวกที่บอกว่าค่าพลังหน้าแรกไม่มีประโยชน์น่ะ มึงคิดถูกแล้ว เดี๋ยวจะบอกว่าทำไม
หัวหน้าฝูงบอกว่าคิเมร่ามีระกับสูงกว่ามันมาก มันเลยถามว่าจะมาโจมตีฝูงทำไมเพราะพวกจิ้งจอกก็เป็นเหมือนพวกที่เทียบกับคิเมร่าไม่ติดอยู่แล้ว ให้เดาสาเหตุที่คิเมร่ามาตีกัน
คำตอบคือ มันจะมาผสมพันธุ์กับหัวหน้าฝูง
อ้าว แล้วในฝูงผสมไม่ได้เพราะระดับต่างกันเกิน แต่อันนี้ระดับสูงกว่า แถมต่างสายพันธุ์อีกเสือกได้ เออ สุดยอด หนังสือชีววิทยาและเรื่อง RIMS ที่เราเรียนมาในหัวเรามันสลายไปหมด
หัวหน้าฝูงไม่ยอมเลยสู้กัน ใครแพ้ก็คงเดาได้ แล้วบักมี่ที่เติมทรูก็มาช่วย
F*ck
รับประกันเจ๊หัวหน้าฝูงจิ้งจอกนี่นางเอกแน่ ๆ แล้วมันจะผสมพันธุ์กับบักมี่ที่เป็นขั้นอะไรก็ไม่รู้และสายพันธุ์ไคจูได้หรือไม่ เราก็ขอไม่ตามต่อละกัน สมงสมองไม่เหลือละ
คิดดูกับแค่โลจิกที่มาใหม่ในตอนก็ขัดกันเองในตอนแล้ว (เราเขียนงงไปไหม) แล้วนิยายจะรอดไหมเนี่ย อาจให้ 1/10 สำหรับค่าไฟกับค่ากัญชาของคนเขียน แต่ไม่แน่ มันอาจจะดีขึ้นก็ได้ในตอนต่อไป เรายังหวังอยู่นะ
แต่จนถึงตอนนี้ เราขอมอบวิดีโอตัวหนึ่งกับคนเขียนก่อนมาต่อในวันพรุ่งนี้ครับ 5555+
https://www.youtube.com/watch?v=wWU9Jacd1Bg
ลงชื่อ โม่งมือใหม่หัดเล่น
ว่าแต่ไปวิจารณ์นิยายเขานี่จะทำให้วงการนิยายไทยตกต่ำป่าววะ
>>869 คาเงโร่ มาจากนิยายชื่อ Kagerou Daze เป็นนิยายที่ห่วยบรมจนชาวโม่งให้นิยามดังนี้
"ที่สุดของนิยาย ควรอ่านก่อนตายให้ได้ เนื้อเรื่องอดีตเข้มข้น เนื้อเรื่องปัจุบันกลวงโบ๋ (←แม่งกลวงตั้งแต่ต้นจนจบ ) / มีเล่ม 1 อ่านจบแล้วต้องการแจกฟรี มีไว้ก็เป็นเสนียดบ้าน สนใจติดต่อที่บอร์ดโม่ง"
นอกจากนั้นยังถูกจัดอยู่ในหมวด "ขยะวรรณกรรม" ซึ่งมียุคนึงที่ทั้งชาวโม่ง และชาวพันทิพย์เคยให้คะแนนนิยายเรื่องอื่น โดยอิงเรื่องนี้มาเป็นเกณฑ์การนับคะแนนแทนกันเลย
ว่าแต่ไปวิจารณ์นิยายเขานี่ดีต่อวงการนิยายไทยังไงวะ
ต่อ
ก่อนเริ่มเราคิดใหม่ว่าเราจะรีวิว 10 ตอนละกัน เพื่อความแฟร์ โดยไม่สนว่าภายในตอนที่แปดมันจะเริ่มมีจุดประสงค์ของเรื่องแล้วหรือยัง และไม่มีการให้คะแนนค่าไฟด้วย (ฮา) ตอนนี้อารมณ์ดีเพราะไปกินข้าวมาแล้ว แต่จะทนกับนิยายเรื่องนี้ได้หรือเปล่า ยังไม่รู้
ตอนที่เจ็ด
เป็นเวลาสามเดือนมาแล้วที่หัวหน้าจิ้งจอกในร่างมนุษย์มาเป็นคนใช้บักมี่ (ดูจากคำพูดอ่ะนะ) มันมีชื่อว่า ฉูเยว่ฉาน (อ่านไงบอกเราด้วยเราไม่เก่งชื่อจีน เราอ่าน ฉู-เย่-ฉาน ในที่นี้ขอเรียกเจ๊ฉู) เจ๊ฉูบอกประมาณว่าบักมี่ไม่สนใจมันเลย วัน ๆ บักมี่เอาแต่อ่านหนังสือมาตลอด ซึ่งเรารู้สึกว่ามันไม่น่าจะเป็นคนใช้แล้วมั้ง ฮาเร็มมากกว่า นิสัยนี่โคตรอ่อย THOT DETECTED. บักมี่เริ่มรำคาญเลยบอกว่าจะพาไปเที่ยวที่ทางแถบเหนือ
หลังจากนี้เป็นการเล่าว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากบักมี่ชนะคิเมร่า เรื่องมีอยู่ว่า บักมี่ต่อยคิเมร่าจนตายทำลายห่าเหวอะไรไปบ้างซึ่งมันดูแรงมากนะ แต่เราสงสัยว่าแล้วเจ๊ฉูที่อยู่ใกล้ ๆ นี่ไม่ตายเหรอ ขอยกตัวอย่างเป็นการยิงปืนละกัน เคยได้ยินกันอยู่ล่ะมั้งว่าการยิงปืนบางครั้งแค่เฉี่ยว ๆ ก็เจ็บได้ เพราะแรงที่เกิดจากการแหวกอากาศของกระสุนมากระทบกับเรา แล้วมันเกี่ยวยังไงล่ะ คำตอบคือ ในเรื่องนี้มันต่อยคิเมร่าจนกระเด็นไปแบบทะลุนู่นนี่นั่นโน่น ก็คิดความเร็วในการลอยไปของคิเมร่าสิและคิเมร่าคงตัวไม่น่าจะเล็กกว่ากระสุนหรอกมั้ง แล้วเจ๊ฉูไม่กระดูกหัก ตัวหัก ร่างสลายไปเลยรึไงเพราะดูจากตอนที่แล้วมันบอกว่าคิเมร่าใกล้มาก (ถึงจะไม่บอกกี่เมตรก็เหอะ) แถมเจ๊ฉูก็สะบักสะบอมจากการสู้คิเมร่ามาอีก ถ้าตามจริงน่าจะตายนะ จะบอกปีศาจตายไม่ได้ แล้วทำไมคิเมร่าตาย ?
แล้วไงต่อเจ๊ฉูก็ชอบบักมี่เลย แล้วก็เป็นข้ารับใช้ บักมี่ก็ให้ชื่อไป ตอนแรกมีการจะไม่เอาเจ๊ฉูเลยจะฆ่าตัวตาย แหมมุขเหี้ยจริง ๆ ไม่อิน ไม่ซึ้ง ไม่อะไรเลย ตลกด้วยซ้ำ 555+ (แต่ไม่ให้คะแนนนะเพราะคิดว่าฉากนี้คนเขียนคงไม่ตั้งใจให้มันตลกหรอก) แล้วทีนี้เจ๊ฉูก็กลายร่างเป็นคนแล้ว บักมี่ก็รักษาให้ลูกฝูงที่บาดเจ็บ
ตัดมาปัจจุบัน ตอนนี้ทั้งบักมี่และเจ๊ฉูมาถึงตอนเหนือแล้ว และการบรรยายฉากนิดเดียวที่มาพร้อมกับภาพ
This, this is not okay. You need to stop now. (ทำเสียง filthy frank)
คือเราจะบ้าตาย เฮ้ยนิยายเว้ย จะบอกว่าภาพประกอบท้ายตอนแบบไลท์โนเวลก็ไม่ใช่ เหมือนคนเขียนขี้เกียจบรรยายอ่ะเลยเอารูปมาใส่แทน (เรายอมรับนะว่า เราตอนแต่งก็ขี้เกียจเขียนบทบรรยายแต่เราก็ไม่ใส่รูปแบบนี้แน่นอน มันน่าเกลียด)
หลังจากมาก็พร้อมกับบทพูดอันแสนบ้าบอคอแตก แล้วไปล่าสัตว์กันจนเย็น แล้วบักมี่เผลอหลับไปมีการใช้ “ZZZ” ด้วยนะ สมกับนิยายคุณภาพที่เด็กอวยกันจริง ๆ
แล้วในช่วงนี้ก็กลับไปเป็นมุมมองบุคคลที่หนึ่งของเจ๊ฉูแบบจะมาก็มา เราก็งง เฮ้ยบักมี่หลับไปแล้วมันมาพินิจพิจารณาอะไรได้ไง
แล้วทีนี้เจ๊ฉูก็เริ่มเล่าประมาณว่าบักมี่เหมือนเป็นรักแรกพบที่เราว่าน้ำเน่าสิ้นดี เจ๊ฉูบอกว่าระดับขั้นของบักมี่ต่ำมาก อ้าวแล้วเป็นรักแรกพบได้ไงในเมื่อลำดับขั้นมันไม่เท่ากัน (กลับไปดูตอนก่อนหน้า) แล้วยังไงวะเนี่ย ตกลงระดับขั้นเกี่ยวกับการขยายพันธุ์หรือเปล่าเนี่ยหรือเจ๊ฉูเรื่องมากเอง อ้อ เจ๊ฉูเคยเห็นร่างจริงของบักมี่แล้วด้วย
ในตอนนี้บักมี่ละเมอว่าสู้กับพระเจ้าในตอนแรกอยู่เลยเกือบซัดเจ๊ฉูด้วย ห้า ห้า ห้า ห่า มุขปัญญาอ่อน
มีต่อ มันเกิน
ตอนที่แปด
ในตอนนี้เริ่มมาใช้มุมมองบุคคลที่หนึ่งของเจ๊ฉู มันบอกว่าต้องหลบลูกหลงจากการละเมอของบักมี่ตลอด เลยไปหลบหลังต้นไม้ เออ ค่อยได้เรื่องหน่อย เพราะความสามารถของบักมี่คือไม่ต้องทำฝึกก็เก่งใช่ไหม มันเลยละเมอซัดอะไรไปทั่ว แต่เอ๊ะ เจ๊ฉูอยู่กับบักมี่มาตั้งสามเดือนแล้วยังไม่รู้อะไรเลยเหรอ ถ้าเป็นคำสาปหรือพรมันต้องทำงานตลอดไม่ใช่เหรอ แบบมือทองของไมดาสในตำนานกรีกที่ทำงานตลอดจนต้องเอาออก (ยังไงเราจำไม่ได้ ใครรู้บอกด้วย) แล้วเจ๊ฉูไม่รู้เรื่องความสามารถของบักมี่ได้ไง เพราะตลอดสามเดือนบักมี่ก็ต้องหลับบ้างก็ต้องละเมอซัดอะไรไปบ้างซิ ยังไม่มีอะไรสมเหตุสมผลเลยนะเนี่ย จะได้ 0/10 เรื่องแรกรึเปล่านะ
แอบหาคะแนนให้นะจ๊ะ แต่มันหาไม่ได้เลย (ไม่ตลกหรอกเรารู้ เราไม่ใช่คนตลก)
เจ๊ฉูเลยโกหกไปว่ามันกลัวว่าจะถ่วงบักมี่เลยไปอยู่ไกล ๆ บักมี่เลยจะสอนวิชาป้องกันตัวให้ บักมี่กับเจ๊ฉูเลยกลับบ้าน เช้าวันต่อมาค่อยเริ่ม อ้อ เจ๊ฉูขอให้บักมี่สอนอ่านหนังสือเพราะอยากรู้ว่ามันสนุกอย่างไร (พฤติกรรมเลียนแบบเหรอ ถ้านำเสนอจุดนี้เราว่าน่าสนใจนะ)
หลังจากฝึกเสร็จ บักมี่ก็สอนการอ่านหนังสือให้ ตกดึกเจ๊ฉูนอนแล้ว บักมี่เลยไปหาหนังสือมาอ่าน มีการให้เราลุ้นว่าหนังสือมันเกี่ยวกับอะไรด้วยนะก่อนตัดจบตอน มันจะเป็นอะไรก็ช่าง เราไม่รู้สึกถึงความน่าลุ้นหรืออะไรเลย กับอีแค่หนังสือมันเกี่ยวกับอะไรนี่ต้องทำให้ลุ้นด้วยเหรอ
เฮ้อ อารมณ์ดีเลยมีกำลังใจมาต่อ ถามว่าทนอ่านได้ไง จริง ๆ คือ อ่านหนึ่งตอนแล้วไปเล่นเกมสักพักใหญ่ ๆ แล้วมาต่อ อ่านแล้วเครียดไม่สบายเลย ไม่ใช่เครียดเพราะนิยายมันบรรยากาศกดดันนะ แต่มัน.... (รู้กันอยู่) ชนิดที่ว่าให้เราไปลงแรงค์กับมนุษย์ Toxic ยังรู้สึกดีกว่า
เหลืออีกสองตอน แล้วจะสรุป ไม่บอกวันละเพราะบอกว่าจะลงพรุ่งนี้แต่สุดท้ายก็ลงวันนี้ 5555
ลงชื่อ โม่งมือใหม่หัดเล่น
มันต้องปัญญาอ่อนก่อนมั้ยถึงจะอ่านเกิน 10 ตอน อ่านกลศาสตร์ควอนตัมยังปวดหัวน้อยกว่าแม่งเลย
กลับมาต่อในช่วงโค้งสุดท้ายในโควตาก่อนสรุป
ตอนที่เก้า
เฉลยว่าหนังสือที่ว่านั่นคือ หนังสือจีบสาว บักมี่เลยเอาไปเก็บเพราะเป็นคนชอบหนังสือ เป็นเราเราทิ้งนะ เจ๊ฉูรู้ทีนี่หมดศรัทธาเลยนะ แล้วบักมี่ก็ไปเอาหนังสือเรื่องเกี่ยวกับภาษา มีการแบ่งระดับขั้นบ้าบอคอแตก แล้วไอ้สีรุ้งทองนี่เป็นยังไงวะ ใครรู้บอกด้วย มีการแนะนำกิมมิคเกี่ยวกับอักขระว่าใช้แทนลมปราณได้ ดีแย่ขึ้นอยู่กับความเข้าใจและความไวในการเขียนอักขระ เอ่อ ระบบไรฟะเนี่ย
บักมี่เลยคิดจะเอาอักขระไปใช้กับการดูแลฝูงของเจ๊ฉูกับทำสวน นี่ไงจุดประสงค์แรกของเรื่องมาแล้ว เรียนอักขระเพื่อนำไปช่วยเจ๊ฉูกับทำสวน เยี่ยมจริง ๆ ๆ ๆ (ค่ายลูกเสือ)
เช้าวันต่อมาเจ๊ฉูก็ฝึกเหมือนเมื่อวาน ส่วนบักมี่ก็อ่านหนังสืออักขระจนหมด ระบบอักขระยังมีกิมมิคเล็กน้อยอีก คือ มันจะขึ้นอยู่กับเจตจำนงผู้เขียนอีก เออ เราจะลองดูดิว่าภายในตอนที่เหลือ มันจะได้ใช้ไหม ถ้าไม่หรือใช้แล้วไม่สมเหตุสมผลตามที่บอก เรื่องนี้อาจได้ 0 เพราะภายในสิบตอนไม่โชว์อะไรที่สมเหตุสมผลเลย
วันต่อมา บักมี่เริ่มสอยวิธีใช้ปราณโดยบักมี่ให้อาวุธที่หนักโคตร (ในเรื่องบอก 15000 ชั่ง เราไปหามามันบอกว่า 1 ชั่ง เท่ากับ 1.2 กิโลกรัมเป็นหน่วยไทย แต่ไหงชื่อจีน ? ส่วนหนักเท่าไหร่ เราหามาให้แล้วได้18000กิโลกรัม)
เจ๊ฉูเหมือนเป็นนักเวทแล้วมาฝึกกำลัง ก็ไม่ไหวดิ ระหว่างนั้นบักมี่ก็ฝึกเขียนอักขระแบบโคตรเทพ
หลังจากฝึกเสร็จเจ๊ฉูไปอาบน้ำส่วนบักมี่ก็ฝึกเขียนต่อ แล้วรู้ไหมมันไปเขียนอะไรเข้า
คำตอบคืออักขระถ้ำมอง มุขอุบาทว์มาก เราโคตรแอนตี้มุขแบบนี้มาก
แล้วทีนี้ไอ้คนเขียนหนังสือจีบสาวตอนแรกก็ส่งข้อความมา บอกประมาณว่ามันนี่แหละคนสร้างอักขระตัวนี้ขึ้น ถ้าอยากรู้มากกว่านี้ให้ไปดูในหนังสือเล่มที่มันเขียนเพิ่ม บักมี่เลยไปเอาหนังสือในตอนแรกไปเผาทิ้งหมด จบตอน
เอาจริง ๆ มุขมันเกินไปหน่อยนะ คือถ้าเป็นมนตร์แบบอื่นแล้วบักมี่ไม่ชอบเลยเอาไปเผา นี่เราจะฮาแล้วให้คะแนนนะ แต่นี่ไม่โอเค เล่นมุขอย่างนี้เราว่าไม่เหมาะอ่ะ ไม่สนุกด้วย
อ๋อ ลืมไปในตอนนี้มีคำพูดหนึ่งของบักมี่ที่เรางงนะ ใครรู้ตีความให้ด้วย คือ ในตอนฝึกยกดาบ มันมีตอนหนึ่งความว่า ประมาณว่าสามชั่วโมงผ่านไป เจ๊ฉูวางดาบเพราะไม่ไหวแล้ว แล้วบักมี่ก็กล่าวประมาณว่า “หนึ่งชั่วยามยกขึ้นจากพื้นได้ 30 เซนติเมตร” คำถามคือเจ๊ฉูยก 30 เซนฯ ภายในสามชั่วโมง หรือ 30 เซนฯ ตลอดสามชั่วโมง ถ้าเป็นแบบแรก เราสามารถคำนวณกำลังเจ๊ฉูออกมาได้ว่า (0.3*18000*10)/(60*60*3) ได้คำตอบเป็น 5 วัตต์ หมายความว่าเจ๊ฉูมีแรงเท่ากับเครื่องจักรที่สามารถยกของมีน้ำหนัก 1 นิวตัน ขึ้นสูงได้ 5 เมตร ภายใน 1 วินาที คิดว่าน้อยหรือมากดีล่ะ (เหตุผลที่เอามาเพราะเรื่องนี้ตอนบอกคุณสมบัติมีการใช้เปอร์เซ็นต์ เผื่อว่าภายในตอนต่อไปถ้ามีการใช้งานของเพิ่มพลัง จะได้รู้ว่าว่าไอ้เปอร์เซ็นต์พวกนั้น นักเขียนเอามาคิดจริงรึเปล่า หรือแปะไว้ดูเท่ ๆ)
มีต่อ
ตอนที่สิบ
อ่า ช่วงเวลาอันทรมานจะจบลงแล้ว
เปิดตอนมาด้วยปึกปัก ย้า ห่าอะไรไม่รู้ แล้วเจ๊ฉูก็ขอพัก ในตอนนี้เป็นเวลาสองเดือนแล้วหลังเริ่มการฝึก ในตอนนี้มีกิมมิคของแหวนมิติหน่อย ๆ คือภายในแหวนเวลาจะหยุดลง หมายความว่าของในแหวนจะไม่เน่าเสีย
บักมี่ก็ไปในเรือนกระจก พืชในเรือนกระจกก็โตไวขึ้นจากอักขระ มีการโม้ว่าพืชในนั้นระดับห่าอะไรด้วย แล้วมากินข้าวกับกลุ่มของเจ๊ฉู
ตัดมาตอนเย็น บักมี่เอาของในแหวนที่ยังไม่ได้ตรวจออกมาดู เป็นผลึกอะไรบางอย่างแล้วเจ๊ฉูมาพอดีแล้วเผลอทำแตก แล้วพาบักมี่ไปที่ไหนไม่รู้ แล้วไปเจอตัวละครใหม่ ตอนแรกพบนี่ไปคร่อมเขาด้วยนะ (มันเขียนว่าคร่อมจริง ๆ แล้วมีมากกว่านั้นด้วย แต่ไม่เอามาเดี๋ยวโดนแบน) คือแบบคนเขียนหยุดเถอะ มุขแบบนี้ มันไม่จรรโลงใจเลยนะ แบบโดนวาร์ปแล้วไปคร่อมตัวเขา หรือเผลอใช้อักขระถ้ำมอง มันน่าเกลียดมาก
เดี๋ยวมาสรุป พักแป๊บ
ลงชื่อ โม่งมือใหม่หัดเล่น
บทสรุปแห่งความทรมานของเรา
ก่อนเริ่มสรุป ขอบอกก่อนว่าในสามเรื่องที่รีวิวมา เรื่องนี้เราทรมานมากที่สุดแล้ว อย่างเรื่องอัญเชิญไปเป็นจอมมารเราก็บ่นหนักนะ ในตอนนั้นเราหาข้อดีให้เรื่องนั้นไม่ได้เลย แต่พอเราอ่านเรื่องนี้ปุ๊บ เราหาข้อดีให้มันได้เลย หนึ่งในนั้นคือ เรื่องจอมมารจรรโลงใจกว่าเรื่องนี้มาก เรื่องจอมมารเราอ่านยาว ๆ แล้วมารีวิวได้ แต่เรื่องนี้ เราอ่านได้แค่หนึ่งตอนต้องหยุด แล้วไปทำอะไรแก้เซ็งแล้วค่อยมาต่อ ความสนุกไม่มี มุขตลกก็ตลกลามก ความสมเหตุสมผลที่หาไม่ได้เพราะไม่แสดงให้เราต้องคิดเลยแถมขัดกันเองในตอนอีก (คิเมร่าสยบจิ้งจอก) ค่าที่ให้มาก็เหมือนมางั้น ๆ
คำผิดมากมาย เรียกว่ามีทั้งพิมพ์ตก พิมพ์เกิน พิมพ์ผิด อย่างใดอย่างหนึ่งทุกตอนทั้งที่ตอนก็ไม่ยาวมาก ส่วนความสมเหตุสมผลก็อย่างที่บอกไปข้างต้น มันยังไม่มีอะไรเลย เหมือนเป็นการติดตามชีวิตเทพทรูไปวัน ๆ คิดดูกับอีแค่จุดประสงค์ของตัวละครเรายังไม่รู้เลย จะบอกให้ดูจากชื่อเรื่องหรือพรจากพระเจ้า มันก็ไม่ใช่ พรจากพระเจ้าเหมือนกับเป็นของที่บักมี่ต้องการเพื่อให้ชีวิตอยู่ง่ายขึ้นแค่นั้นเอง แล้วไอ้ตอนแรกไม่อยากเป็นคน แล้วทำไมหลังจากได้ร่างคน เรายังไม่เห็นแปลงร่างกลับเลยนอกจากที่เจ๊ฉูบอก คือ WHAT ?
ยัง ยังไม่พอ ไหนจะการใส่รูปแทนการอธิบาย หรือใส่เสียงมาโดยไม่บอกว่าเสียงนั้นมันคืออะไร เรื่องเสียงนี่ถ้าใส่เสียงมาแล้วมีอะไรบอกบ้างเช่น (เราไม่เก่งนะ อย่าว่าเราเลย) (ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่รีวิว คือคิดสดเองตอนพิมพ์เลย)
บึ้ม
เสียงระเบิดที่ดังกึกก้องไปทั่วอาณาบริเวณในยามราตรีได้ดึงเมย์ให้ออกจากภวังค์พร้อมความตกใจสุดขีด
อะไรประมาณนี้ คือถ้ามีเสียงแล้วมีบทบรรยายตามมา เรารับได้นะ แต่ในเรื่องนี้มันเป็นอย่างไรก็รู้ ๆ กันอยู่ แล้วเรื่องรูปเนี่ย อย่าใส่เลย พยายามอธิบายดีกว่า เราก็ไม่เก่งเหมือนคนเขียนนั่นแหละ แต่เราก็ไม่ใช้รูปนะ เพราะถ้าใช้มันเหมือนไม่ใช่นิยายแล้วอ่ะ
สรุปคะแนน 1/10 จริง ๆ อยากให้ 0 แต่ถ้าสมมติมีเรื่องแย่กว่านี้ เรื่องนั้นจะไม่ติดลบไปเลยเหรอ ถ้ามีแย่กว่านี้จะเราจะให้คะแนนว่า (สมมตินะ) 9/10 มาตรฐานบักมี่ หมายความว่าถ้าบักมี่ได้ 10/10 เรื่องนี้ได้ 9/10 ประมาณนี้
ลงชื่อ โม่งมือใหม่หัดเล่น
My suffering has come to the end.
เขียนตั้งสามเรื่องห่วยขนาดนี้ กูว่าเทพทรูเป็นอาถรรพ์หรือคำสาปใส่ตัวเองมากกว่า
>>884 กูตื้นตันใจมากที่มึงสามารถอ่านเรื่องนี้แล้วเอามาสับได้จนจบ เพื่อเป็นเกียรติแก่มึง กูขอมอบรางวัล
ลูกโม่งสีรุ้งทอง สาขา นักสับนิยายยอดเยี่ยม ประเภท ความอดทนสูง ประจำมู้ นิยายเด็กดี บทที่ 16 (DDN XVI) ภาคชาวโม่งกินเด็กดีจัมโบ้รสนิยายสับพร้อมซุป"นายคะ อย่ามากาก"เข้มข้น เด็กดีเลือกกินของเทพทรูเบียวซูเอจจี้จนจะเป็นโรคไต Y เรื้อรัง นิยายดีมีสุขภาพขายไม่ออกเฟ้ย
ให้กับมึงเลย...ว่าแต่มู้นี้มีแค่ โม่งมือใหม่หัดเล่น คนเดียวใช่ไหมวะที่สับ กูจำไม่ได้
ไอ้ระดับพลังสีรุ้งทองเนี่ย สงสัยจะเป็นชายเหนือชาย ไปรู้จากตุรกีล่มสลาย
My suffering has come to an end.
My suffering has reached the end.
My suffering has ended.
ไม่ใช่ว่าจะนึกไม่ออกซะทีเดียวนะ อารมณ์ประมาณพื้นทองที่มีสีเหลือบมุก
แต่กูไม่คิดว่าคนแต่งมันจะบรรเจิดอะไรขนาดนั้นหรอก
ถามความเห็นพวกมึงหน่อย แรงบันดาลใจแบบไหนน่าเกลียดกว่ากันวะ คือน่าเกลียดทั้งคู่แหละ แต่กูอยากรู้ว่า พวกมึงยี้แบบไหนมากกว่ากัน
ระหว่างมิกซ์แฟนฟิค (เลียนแบบตัวละคร) กูพูดถึงแค่ตัวละครของมันนะ vs เลียนแบบพล็อต ลามไปยันฉากสำคัญต่าง ๆ ในเรื่อง
อ่ะ กูแปะลิ้งค์ล่ะ ไม่เรียกว่าสับนะ เรียกว่าเฉาะพอ จบในเมนต์นี้ล่ะ
https://writer.dek-d.com/Wanwan19/story/view.php?id=1647628
กูคิดว่า นิยายเรื่องนี้คงได้แรงบันดาลใจมาจากซีรีส์ญี่ปุ่น เรื่อง จิน หมอทะลุมิติ มา ถ้าใครไม่รู้จักกูจะย่อให้ (อันนี้ของต้นฉบับนะ)
พระเอกเป็นศัลยแพทย์(หมอผ่าตัด)แล้วหลงยุคไปญี่ปุ่นสมัยโบราณ พอดีกระเป๋าแพทย์ติดไปด้วย เลยได้ใช้วิชาผ่าตัดนี่แหละ ช่วยชีวิตคน
ส่วนเรื่องคนไทยแต่งที่กูกำลังพูดถึงก็คือ นางเอกเป็นศัลยแพทย์(เหมือนกัน)หลงไปยุคโบราณสมัยร.1 มีเป้อุปกรณ์แพทย์ติดไปด้วย และไปช่วยรักษาพวกทหารที่รบกับพม่า
ถ้าเจอแค่นี้กูคงไม่คิดมาก เพราะพล็อตมันก็เหมือนกันได้ แต่อีเรื่องนี้ แม่งมีฉากสำคัญเหมือนต้นฉบับเขาเกือบครบ
เช่น ย้อนยุคมาถึง ของต้นฉบับพระเอกเจอซามูไรสู้กัน แล้วมีคนนึงช่วยมันไว้ จนโดนฟันเข้าที่หัว พระเอกเลยช่วยเย็บแผลให้ (ผ่าเอาเลือดคั่งออก)
ส่วนนิยายไทยที่กูเจอ นางเอกโผล่ไปกลางสนามรบ กำลังสู้กันเหมือนกัน แล้วก็มีคนได้แผล มันก็ไปช่วยเขาเย็บแผล (แต่ไม่ได้ผ่าตัด)
อ่ะ! กูขี้จับผิดไปใช่ป่ะ แค่นี้ไม่เห็นเหมือนเลย งั้นมาดูที่ฉากต่อไป
ต้นฉบับ โชกุน(มั้ง)จำไม่ได้ล่ะ แต่เป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น เกิดปวดท้องขึ้นมา ปรากฏเป็นไส้ติ่ง พระเอกผ่าให้ ก่อนผ่าพวกคนรับใช้จะไม่ยอม เพราะสำหรับซามูไรแล้ว การผ่าท้องมันอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ
ส่วนนิยายไทยที่กูเจอ พระเจ้าอะไรนี่แหละกูจำชื่อไม่ได้ บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ไทยเรานี่แหละ เกิดปวดท้องขึ้นมา ไส้ติ่งเหมือนกัน นางเอกจะผ่าให้ มีปัญหาสิคราวนี้ เหมือนกันเลย
ยัง ๆ กูยังเจออีก ฉากนี้นี่เลียนแบบอย่างเห็นได้ชัด เพราะพี่ไทยเราไม่หาข้อมูลขนาดนี้แน่
ต้นฉบับ พระเอกพยายามทำยาฆ่าเชื้อ(เพนิซิลิน) โดยการเพาะเชื้อ เพราะพระเอกเคยทำวิทยานิพนธ์ค้นคว้าเรื่องนี้จึงข้อมูลแน่น
ส่วนนิยายไทยที่กูเจอ นางเอกพยายามทำยาฆ่าเชื้อเหมือนกัน วิธีการเดียวกันเป๊ะ แต่ทำสำเร็จง่ายกว่าของต้นฉบับเขาเยอะ (นางเอกไทยโคตรเทพ)
ยังมีอีกนะ ในเรื่องต้นฉบับ พระเอกไปช่วยชาวบ้านที่ติดโรคระบาด พระเอกรักษาด้วยการ ละลายเกลือกับน้ำตาลต้มให้คนป่วยกิน เพื่อทดแทนน้ำที่ร่างกายเสียไป แต่คนจำนวนมากพระเอกทำคนเดียวไม่ไหว นางเอก กับตัวประกอบนิดนึงจึงมาช่วย สุดท้ายพระเอกติดโรค แต่ก็หาย
ส่วนนิยายไทยที่กูเจอ เหมือนกันทุกประการ ยกเว้นนางเอกไม่ได้ติดโรคเหมือนพระเอกฝั่งยุ่น (กูบอกแล้วคนไทยแข็งแกร่ง)
แล้วมันจะมีฉากแบบที่กูรู้สึกว่า น่าจะได้แรงบันดาลใจจากเขามาอยู่อีกนะ แต่มันเล็ก ๆ กูก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ เพราะไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ต้นฉบับเรื่องนี้ซะด้วย ส่วนที่เหลือซึ่งเป็นความคิดของคนเขียนเองก็คือ ความโคตรโง่เง่าของนางเอกในช่วงต้นเรื่อง ที่ขนาดเย็บแผลให้เขาตั้งไม่รู้กี่คน เห็นชุดทหาร เห็นการต่อสู้ จนเข้าไปในค่าย แล้วแม่งยังคิดว่าถ่ายหนัง??? จนตอนที่สิบกว่าแม่งเพิ่งมารู้ตัว
แล้วก็ความรักที่ไม่ได้ทำให้กูอินสักเท่าไหร่ กับการตัดฉากไปมาที่ไม่ได้เรื่องในช่วงท้าย เดาว่าคนเขียนคงคิดว่าเป็นเทคนิคที่ดี แต่กูบอกเลย พังมาก! เว้นวรรคก็ไม่ดี ติดกันเป็นพรืด อิงประวัติศาสตร์ก็จริง แต่บรรยายเหมือนทำรายงาน เหมือนก๊อปมาแปะ แล้วก็จะมี Info dump แบบนี้แทรกเข้ามาเรื่อย ๆ บวกกับนางเอกพึมพำกับตัวเองบ่อยเหลือเกิน จึงน่าจะเป็นสาเหตุให้ตอนมันเยอะ
สรุป เอาคะแนนไป 3/10 ที่กูให้นั้นเป็นคะแนนความขยันเขียน ขยันหาข้อมูลมาแปะวาง และที่มันเข็นเอาจนจบได้ แม้ฉากโชว์วิชาแพทย์ของนางเอก ซึ่งเป็นฉากสำคัญที่ต้องทำให้ว้าว จะเป็นการลอก เอ้ย! มีหมอจินเป็นแรงบันดาลใจก็ตาม แต่กูก็ยังให้คะแนน (เป็นไงกูใจดีป่ะ)
จัดว่าเป็นนิยายที่ต้องใช้ความอดทนเรื่องหนึ่ง เพราะช่วงแรกพระ-นาง โดยเฉพาะนางเอกซึ่งเป็นตัวหลักจะน่ารำคาญมากก จนกูนอยด์หยุดอ่านไปพักนึง แต่ด้วยความอยากจับผิดจึงอ่านต่อ
กลับไปที่คำถามตอนแรกของกู เลียนแบบตัวละครแบบมิกซ์แฟนฟิค vs ได้แรงบันดาลใจมากมายหลายฉากอย่างเรื่องนี้ อันไหนน่าเกลียดกว่ากัน สำหรับเพื่อนโม่ง
กูเห็นโม่งมือใหม่หัดสับออกมาสับนิยาย จึงมีไฟขึ้นมาหลังจากหายหัวไปพักใหญ่ สับต่อไปนะโม่ง กูรออ่านเสมอ
ว่าแต่มีใครไปแย้งมั่งยังวะ
>>896 ไอ้ที่ผ่าตัดไส้ติ่งแล้วซามูไรห้ามเขาไว้ เพราะคิดว่าจินกำลังบังคับฮาราคิริแบบผิดธรรมเนียม เพราะต้องคว้านท้องตัวเองเฉพาะเสียเกียรติเท่านั้น ในมุมมองซามูไร โชกุนไม่ได้ทำเรื่องอับอาย จู่ๆถูกบังคับคว้านท้องทำไม
แต่ไทยไม่มีประเพณีคว้านท้องซะหน่อย มีแต่ไม้เรียวตีตูดไม่ตาย
>>898 กูคนเฉาะนะ เห็นมีคนไปเมนต์นะว่าเหมือนหมอจิน แต่มันก็ไม่ได้พูดไรมากกว่านั้น
>>902 เออใช่ๆ ฮาราคีรีไรนี่แหละ ส่วนฟากพี่ไทย รู้สึกว่า เหตุผลที่พวกข้ารับใช้จะไม่ให้นางเอกผ่าไส้ติ่งเพราะสมัยนั้นยังไม่มีการผ่าตัด พวกโบราณมันเลยกลัว ประมาณนี้นะ อาจเขียนงงๆไปบ้างขออภัย รีบไปหน่อย
สำหรับตัวนักเขียน เท่าที่กูอ่านเมนต์ที่โต้ตอบกับนักอ่าน กูคิดว่า อีโก้มั่นหน้าพอสมควร ใครแย้งอะไรแม่งไม่สน เป็นสาเหตุที่กูไม่อวตารไปติง แล้วอีกอย่างถ้ามันต้องแก้ฉากที่ใช้หมอจินเป็นแรงบันดาลใจอย่างชัดเจน เกรงว่ามันต้องแก้กว่าครึ่งค่อนเรื่อง 555 เพราะงั้นมันคงไม่แก้หรอก
แต่กูนับถือในความมั่นหน้าของมันเลยนะ ที่เลียนแบบ เอ้ย! ใช้เขาเป็นแรงบันดาลใจขนาดนี้ เพราะจิน หมอทะลุมิติ คนรู้จักเยอะพอสมควรเลย อีกอย่าง พล็อตหมอย้อนยุคนี่มันก็ชวนให้นึกถึงเรื่องนี้อยู่แล้ว แม่งยังจะกล้าอีก
เกินไป๊ ถ้ากล้าออกเป็นเล่มกับ สนพ ก็มีคนกล้าแฉในพันทิป เพจ สนพ ล่ะวะ
กูอ่านที่มึงย่อนะ ไม่ได้อ่านต้นฉบับ แต่เค้าโครงเรื่องนี่มันใช่ ยืมเค้ามาจริงๆ ว่าแต่เระเอกเป็นใครเนี่ย?
ปล.ย้อนเวลาไทยกูอยากอ่านของคนหนึ่ง แต่เขาไม่มาต่อซะที เป็นเรื่องย้อนไปสมัย ร.5 เห็นโปรยว่านางเอกไม่อยากอยู่ เล่นกับความไม่รู้ประวัติศาสตร์ของนางเอก แต่เรื่องนี้พระเอกเป็นหมอแผนปัจจุบันในสมัยนั้น นางเอกเป็นหมอฟันในสมัยนี้ กูรอดูอยู่ว่าเรื่องมันจะเป็นไงต่อ แต่นักเขียนดันดองซะนี่
มีใครสนใจสับอีเรื่องนี้มั้ย ค่อนข้างใส่ไฟ
https://www.dek-d.com/board/view/3832725/
KY มนต์กฤษณะกาลี ในเรื่อง บุพเพสันนิวาสนี่คิดเองขึ้นมาใช่ไหมวะ?
คุยเล่น ๆ ก่อนหมดมู้ คิิดว่าชาตินี้เราจะได้เห็นนิยายเด็กดีที่มาแนวคล้ายของ Tom clancy หรือแบบนิยายที่มันเรียล ๆ หน่อย ไม่ขายฝัน เทพทรูตามชื่อกระทู้ไหม
ขอระบายสักนิด กูไม่ไหวละกับนิยายท็อปแฟนตาซี ตัวพระเอกมันเป็นเหรี้ยไรวะ ทำไรก็ดีไปหมด ไม่เคยพลาด ต่อยนักเลงไม่เคยแพ้ ไม่เคยพลาด ไม่เคยโดนต่อย เหมือนกดสูตรอมตะ ไอเหรี้ยมึงจะไม่ให้กูตื่นเต้นบ้างเลยเหรอ ถึงบททำอาหารก็อร่อยชิบหายจนคนกินเคลิบเคลิ้มทั้งที่ไอ้พระเอกไม่เคยมีประวัติเกี่ยวข้องเชี้ยไรกับอาหารเลย มาถึงทำอร่อยยิ่งกว่าเชพมืออาชีพอีกไอ้เด็กเหรี้ยยยย บัดซบ ตัวละครประกอบในเรื่องก็อวยแมร่งเหลือเกิน
ยังไม่พอ เสือกมีสาวมาชอบ แล้วดูโปรไฟล์ตัวละครหญิงไม่น่ามาชอบพระเอกได้เลย พระเอกนิสัยเด็กชิบหาย คำพูดก็น่าเบื่อ จืดๆ เหมือนเป็นภาพสะท้อนบุคลิคคนเขียน ไม่มีเชี่ยไรน่าสนใจน่าดึงดูด เหมือนเด็กน้อยวัยเรียนคนหนึ่ง แต่นางเอกในเรื่องเสือกเคลิ้มราวกับมันเป็นเทพบุตรผู้มีคารมล้นเหลือ กูอ่านยังไงก็หาความมีเสน่ห์ไม่เจอ ไอเหี้ยยยย ยิ่งอ่านยิ่งหงุดหงิด ยิ่งตอนมันบรรยายสภาพนางเอกตอนเคลิ้มให้กับคารมกากๆจืดๆของพระเอกนะมึงเอ้ย หงุดหงิดดดด แล้วเสือกติด top ด้วยนะไอควาย เชี้ย มาเป็นนักเขียนได้ไง เห็บหมา ไม่มีทักษะการเขียนนิยายสักอย่าง เขียนมั่วๆๆ
อะไรของมันวะ พระเอกไม่เคยพลาด คนเหรอวะ ได้เหรอวะ เรียนก็เก่งระดับประเทศ ดนตรีก็เก่งยิ่งกว่านักดนตรีมืออาชีพ กีฬาก็เก่ง ยิ่งเรื่องชกต่อยนะมึงเอ้ย พระเอกตูนญี่ปุ่นยังอาย เอาชนะกลุ่มติดอาวุธด้วยตัวคนเดียว ไม่มีเพลี่ยงพล้ำ สโลว์ไลฟ์ชิบหาย ชีวิตประจำวันวนลูป แล้วเสือกไม่มีเป้าหมายเชี่ยไรสักอย่าง พระเอกเชี่ยไรไม่มีเป้าหมาย? แต่ละตอนเล่าชีวิตประจำวันแสนน่าเบื่อของพระเอก แต่มันติดท็อปปปปปปปปป ควยยยย ไอ้เด็กเอี้ย kuy!!!
บอกพระเอกดียังดียังงี้ แต่นั่นมึงบอกกูไง มึงบอกกูว่าพระเอกมันเจ๋ง แต่ที่กูอ่านดูมันไม่เจ๋งไง มึงไม่แสดงออกด้วยการกระทำ แค่มึงบอกว่าพระเอกเทพไม่ได้ทำให้มันเทพนะโว้ย การกระทำมันต้องดูเทพให้กูรู้สึกได้ด้วย อ่านยังไงก็เด็กทั่วไป เหมือนคนเขียนไม่มีเสน่ห์ภายใน จะไปเขียนตัวเอกที่มีเสน่ห์ก็คงยาก
พอเริ่มตันเริ่มคิดไรไม่ออก ก็ใส่ไรเข้ามาไม่รู้ ใส่ในสิ่งที่ไม่เคยปูทางมาก่อน เช่นอยู่ดีๆ ญาติพระเอกในเรื่องก็เกิดมีพรสวรรค์ด้านโน้นนี้ขึ้นมา หรือเสือกมีอดีตที่คาดไม่ถึง ทั้งที่ก่อนหน้านี้แม่งก็แค่ตัวละครบ้านๆ ไอเหี้ยคนเขียน มึงแถนี่หว่า ส้นตรีน โชว์ถึงความมั่วของมึง
อีกเดี๋ยวแม่งก็คงถึง 100 ตอน เนื้อหาไปไม่ถึงไหน ไม่มีจุดพีค ไม่มีศตรูสมน้ำสมเนื้อ ไม่มีช่วงตื่นเต้น มีแต่โชว์เทพ โชว์ตบคน มีสาวมาหลงโงหัวไม่ขึ้น คนอ่านอวยให้ได้กัน บางเรื่องก็ด่านางเอกบ้างไรบ้าง ควย ควย ควย สัส พวกนี้แม่งนักเขียนเหรอวะ นักเขียนได้ไงวะ? สัสหมา หงุดหงิดดดด
ที่ว่ามา คนอ่านเสือกชอบโว้ย คนอ่านอวยโว้ย ไอเหรี้ย KUY ได้เหรอวะ ได้เหรอวะะะะะะะ!!!!!
919 มันจวกซะกูกลัวเลยนะนั่น
กำลังลองแต่งแฟนตาซีอยู่ (ได้ราวๆ 10 ตอนแต่ยังไม่แปะ) ถึงผ่านไปราวๆ 5 ตอนจะเริ่มเปื่อยเพราะปูนิสัยตัวเอก+ใส่เซ็ตติ้ง แต่ตอนนี้ก็พยายามลากกลับเข้าปมหลักอยู่อ่ะนะ
ไว้เขียนได้เยอะๆแล้วโพสเมื่อไหร่จะลองเอามาให้สับดู
>>919 คนอ่านมันชอบแบบนั้นไง แต่เอาจริง ๆ นะ มึงอย่าใส่ใจท็อปของเด็กดวกมากนักเลย คนที่มาอ่านส่วนใหญ่ก็พวกกลุ่มเบียวตามกระแส อ่านเอามันส์กันเท่านั้น นิยายที่ภาษาสวย ให้แง่คิด หรืออ่านให้รู้สึกเพิ่มพูนปัญญานั้นต่อให้มึงเขียนเด็กส่วนใหญ่มันก็ไม่อ่าน นี่แหละอนาคตของชาติ
KY
ถามอะไรหน่อยครับ คือถ้าแต่งนิยายแล้วในเรื่องมีการใช้หลักวิทยาศาสตร์ เราควรอธิบายลงไปในนิยายไหม ถ้าควร ควรใส่จังหวะไหน
ถึงเคยบอกไงว่าจะโทดคนเขียนอย่างเดียวแม่งพูดยากว่ะ ก็พอเขียนดีๆแล้วพวกแม่งไม่อ่านกันแถมยังมีมาด่าอีก กูเห็นแล้วกูสงสารคนเขียนแทน
>>929 การใส่อะไรหรือไม่ใส่อะไรมันเป็นจังหวะของเรื่องมันไม่มีอะไรตายตัวเลยบอกไม่ได้ ใส่แล้วกลมกลืนไปกับเนื้อเรื่องก็ดี ใส่แล้วคนอ่านสะดุดก็หาจังหวะใส่ใหม่ ถ้าใส่ทื่อๆ บางทีก็ทำให้เรื่องน่าเบื่อ ถ้าจะหาเรื่องที่อ้างอิงก็ลองไปอ่าน release that which ดู เรื่องนี้มีหลักวิทยาศาสตร์เยอะมากแต่เรื่องสนุกเพราะวิธีการเอามาใช้ อันไหนอ่านแล้วไม่ขัดก็พิจารณาดูเอาว่าเขาใส่มายังไง อันไหนอ่านแล้วรู้สึกขัดก็อย่าไปทำตาม
>>936 ช่วยเสริมด้วย เป็นทริกกูเอง พยายามอย่าใส่เยอะหรือดูเฉพาะทางไป เกลี่ย ๆ ให้เนียน ถ้ายกมาทั้งย่อหน้ายังกะก็อปวิกิมา คนอ่านจะเมินเสียส่วนใหญ่เลื่อนผ่านหมด แล้วแม่งจะไม่รู้เรือง พยายามหยอดเหมือนแทรกมุกอะ เล่นแค่ครั้งสองครั้งยังขำได้ สี่ห้าครั้งขึ้นไปเริ่มแป๊ก
กูก็เขียนแนวนี้อยู่ (กึ่งแฟนตาซีผสมไซไฟ) ลองผิดลองถูกมาหลายทาง กว่าจะเจอวิธีลงตัว ลองเอาไปปรับใช้เพิ่มดู สู้ ๆ นะโม่ง
แล้วนิยายเว็บอื่นในไทยมันห่วยเหมือนนิยายเว็บเด็กดีป่าววะ
กูว่าไอ้แนวพระเอกเทพฟ้าประทานมันก็คือตัวตนที่คนแต่งอยากเป็นนั้นแหละ ไม่มีอะไรหรอก
ทำไมพวกมึงอคติกันจังวะ งงฉิบหาย เฮ้อ...
>>945 ให้คนอื่นถกด้วยได้ไหม คือเราก็อยากรู้จริง ๆ นะ ว่ามันต่างกันอย่างไร
ตามความเข้าใจเรา คือ Mary sue คือตัวละครที่โหดจนทำลายสมดุลเรื่อง ส่วน self insert คือ คนเขียนเอาตัวเองไปใส่ในนิยาย ซึ่งตามปกติคนก็ไม่อยากแพ้อยู่แล้ว ทำให้ตัวละคร self insert มันจะ mary sue ตามไปด้วย
เราเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า ขออภัยล่วงหน้า
อ่ะ กูช่วย Ulysses เป็น Gary ตัวพ่อนะ... อ่อ พวกมึงกาก ไม่เคยอ่าน ว้ายยยย
ถามว่าผิดไหม เราว่ามันไม่ผิดนะถ้ามัันไม่ทำลายความสนุกหรือสมดุลของเรื่องและมันไม่อยู่เหนือกฎเกณฑ์ที่เรื่องกำหนดไว้
แต่ทันทีที่มันทำลายความสนุกเมื่อไหร่หรืออยู่เหนือกฎเกณฑ์ของเรื่อง เมื่อนั้นเเหละที่เรามองว่ามันผิด
การสร้างตัวละครแนว แมรี่ / แกรี่ มันไม่ผิดเว้ย แต่ที่จะผิดก็ต่อเมื่อหยิบมาใช้แล้วดันไม่เข้ากับเซ็ตติ้งของเรื่อง
อะยกตัวอย่าง ...สมมุติมึงสร้างเซ็ตติ้งเอาไว้ในโลกที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ มีโรงเรียนเวทมนตร์ มีการเรียนเวทมนตร์งี้ มึงต้องเข้าเรียน 7 ปีเพื่อให้ได้รับสิทธิ์ในการใช้เวทมนตร์ แล้วหลังจากเรียนจบก็ต้องใช้เวลาอีกค่อนชีวิตในการศึกษาและพัฒนาเวทมนตร์ ถึงจะได้เรียกว่าเป็นผู้ใช้เวทมนตร์เต็มตัว
นาย A ตัวละครหลักที่ 1 เข้าเรียน 7 ปี และหลังจบก็พยายามอย่างหนักที่จะสอบเข้าทำงาน ในที่สุดนาย A ก็ได้ทำงานกับกระทรวงเวทมนตร์สังกัดมือปราบมา 33 ปี แม้จะอายุมากแล้วแต่ก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมือปราบระดับพระกาฬ ทุกอย่างสร้างขึ้นมาด้วยความพยายามไต่เต้าล้วนๆ ปกติจะทำงานร่วมกับคู่หูที่อายุน้อยกว่า แต่วันนึงบังเอิญเพื่อนร่วมงานที่เป็นคู่หูคนเดิมโดนฆ่าตาย ทางการจึงต้องส่งคู่หูคนใหม่มา ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์หลังจากนี้
นาย B ตัวละครหลักที่ 2 เป็นเด็กเห่อหมอยคนหนึ่งที่แม้แต่เรียนในสถาบันเวทมนตร์ยังไม่จบ ทำตัวเกเรเสเพลตีหม้อ ตีหรี่ไปวันๆ ไม่เคยฝึกการใช้เวทมนตร์ ไม่เคยมีการวิจัย เรียกได้ว่าเป็นเด็กไม่เอาอ่าวอย่างแท้จริง แต่อยู่มาวันหนึ่งในระหว่างเจ้าตัวไปกดเงินก็ดันถูกโจรปล้นธนาคารจับเป็นตัวประกันซะงั้น ...นาย B โดนขู่จะฆ่าแต่ยังทำเป็นหน้านิ่ง ก่อนจะไปแหกปากร้อง "ว๊ากกก!!" แล้วเกิดเหตุระเบิด "อะฟ้าว! ตูม! บรึ้ม! กุดุส! กุดุส!" ขึ้น คนที่อยู่รอบๆ ตายหมด มีแต่นาย B คนเดียวที่รอดมาโดยไม่มีบาดแผล แถมยังยิ้มเชิดใส่กล้องก่อนจะกระโดดหายแว่บไปบนหลังคาตึก
หลังจากนั้นนาย B ก็โดนตามตัวเจอ แล้วทาบถามโดยกองปราบแล้วอวยยศให้สูงกว่านาย A แถมยังถูกส่งมาให้เป็นคู่หูอีกต่างหากด้วย ระหว่างการทำงานก็ใช้แผนของนาย B ที่มักเน้นการบุกเข้าไปซึ่งๆ หน้า จนกลายเป็นว่าประสบการณ์ทำงานอันยาวนานของนาย A กลายเป็นแค่เครื่องประดับ แถมยังโดนกดหัวจนแทบกลายเป็นหมอวัตสันอีกต่างหากด้วย
สังเกตได้ว่าเซ็ตติ้งโลกที่กูพูดมานี่คือ ทุกคนเขาพยายามผลักดันตัวเอง พยายามดิ้นรนให้ตัวเองสูงขึ้นเว้ย แต่จู่ๆ วันหนึ่งกลับมีตัวโจ๊กเกอร์อย่างนาย B โผล่มา ทำเอาเซ็ตติ้งทั้งหมดนั้นถึงกับพังทลาย สมดุลด้านตัวละครเองก็หาย กลายเป็นว่านาย B ขึ้นเป็น The Chosen One ที่อยู่นอกเหนือกฎและเซ็ตติ้งของเรื่อง ส่วนนาย A ก็โดนกดหัวจนเป็นไม่ได้แม้กระทั่ง Sidekicker ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจจะเซ็ตให้เป็นตัวเอกทั้งคู่แต่แรกแล้วแท้ๆ
ที่ยกตัวอย่างมานี่คือการใช้ตัว แมรี่ / แกรี่ แบบผิดๆ ซึ่งจะส่งผลทำให้เรื่องมันพังด้วย
>>961 แมรี่ซู เป็นตัวละครที่มาจาก Fanfic StarTrek นั่นล่ะ
จำไม่ได้ว่ารายละเอียดว่ายังไง แต่คร่าวๆ คือ ในยาน Star Trek นั้นมันจะมีการแบ่งหน้าที่การงานเป็นฝ่าย Operator , Medic , Engineer , Science อะไรทำนองนี้ ซึ่งแต่ละคนจะได้ผ่านการเรียนอย่างหนักจากคณะของตัวเองมาก่อนทั้งนั้น ก่อนจะได้รับเลือกขึ้นมาปฏิบัติการในยานอวกาศ
แต่นาง แมรี่ ซู นี่สิมาแปล เป็นเด็กใหม่ที่ขึ้นยานมา จำไม่ได้ว่าจบจากคณะอะไร แต่เจ๊แกสามารถทำงานได้ทุกตำแหน่ง แถมยังสามารถทได้ดีกว่าเจ้าหน้าที่เดิมที่เป็น Specialist อีกต่างหากด้วย เรียกได้ว่าเป็นตัวละครที่เทพมาก เทพแบบไม่มีเหตุผลอีกต่างหากด้วย
หลังจากนั้นเป็นต้นมา แมรี่ ซู ก็กลายเป็นชื่อเรียกของตัวละครจำพวกนี้
ส่วนอันนี้ไม่เกี่ยว แต่กูเห็นว่าฮาดี
เรื่องราวของร้อยตรี ซู กับจักรวาล Alternate reality (ยุคปัจจุบัน)
http://www.interrobangstudios.com/comics-display.php?strip_id=989
>>963 อะ กูไปขุดมาให้
https://www.dek-d.com/writer/34128/
อาทิตย์หน้าขึ้นบทใหม่
https://www.dek-d.com/board/view/3833314/
ผู้กอบกู้และค้ำจุนวงการนิยายไทย
การะเกด ในเรื่องบุพเพสันนิวาส ก็เป็นแมรี่ซูนะ
>>973 ยิ่งเปรียบกะไตรภาคแรกแม่งยิ่งต่าง กว่าอิลุคมันจะเก่งได้ ทำครูตาย ป้าตายลุงตาย มือด้วน กว่าทั่นโยดาจะรับเป็นศิษย์ ก็ต้องใช้เวลา กูถึงทำใจชอบอิเรย์เกิดแต่ตมแต่ใช้เมพไม่ได้จริงๆ
อิเบนโซโล่กูว่ายังมีมิติมากกว่าอีก มีปมเด็กอีโมเบียวพ่อแม่เมิน กูดูแล้วสงสารอะ เด่นกว่าอิเรย์อีก
แมรี่ซูมันผู้หญิง มีคนหนึ่งในประเทศไทยที่เป็น แกรี่สตู นะ
ลงชื่อ เซฮุน
https://www.dek-d.com/board/view/3833423/
พอมู้แบบนี้ ไอ้แวมแม่งโผล่เลย
เดี๋ยวกูเตรียมไปช่วยน้องซอก่อน
>>975 กูบ้าผู้ แต่กูบ้าฮานว่ะเพื่อน กูชอบตัวละครtypeแบบนั้นอยุ่แล้ว แจ็ค สแปโรว์ ที่คล้ายๆฮานกูก็ชอบ ดังนั้นกูไม่มีวันชอบเบน โซโล่ ได้เพราะสิ่งที่มันทำกะฮานในท้ายภาค7 T T แต่กูคิดว่าอิเบนมันยังสมจริงมากกว่า เรย์ตรงที่ มันก็ได้รับการฝึกจากลุคตั้งแต่เด็กไง ลุคกุก็อุส่าอธิบายไปแล้วว่าภาค5มันยังกากๆอยู่เลยยยยย ไม่ใช่โผล่มาแบบอิเรย์ภาค7 กูขับยานได้ กูใช้ไลท์เซเบอร์ได้ขั้นเทพ นิสัยอย่างอื่นของเรย์นี่กูโอเคด้วยซ้ำ เพราะว่ามันเป็นตัวละครหญิงที่ไม่งี่เง่าดี เหมือนที่กูชอบเลอาอ่ะ
มาตรฐาน NC ของเด็กดีแม่งคลุมเครือเกิน
กุดุส กุดุส
แจ้งข่าว วงกลมสยองขวัญกลับมาหมวดแฟนตาซีแล้วนะพวกมึง
ก่อนขึ้นกระทู้ใหม่ เอาทริกการอ่านของดอกปอปไปทัศนาจรกันหน่อยนะเพื่อนโม่ง มีประโยชน์ม๊ากมากสำหรับโม่งนักสับ
https://www.dek-d.com/writer/41930/
เม้นที่โดนลบรัวๆนั่นคือโม่งออกไปแสดงความเห็นปะวะ เว็บมาสแม่งลบถี่ยิบเลยว่ะ555
ขึ้นบทใหม่ได้แล้ว
จะหมดมู้แว้ว
คิดชื่อมู้ใหม่ยัง
จอง 999 ต่อติดตาย
ปิดมู้
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.