เรา >>56 ไม่รู้ทำไมครั้งที่แล้วโดนแบน สงสัยหยาบไป คราวนี้เลยขอปรับให้คำหยาบน้อยลงละกัน
คำที่เปลี่ยน เปลี่ยนไอ้ชิ เป็น บักชิ เปลี่ยนสรรพนาม
ก่อนเริ่มขอพูดนิดหนึ่งก่อนเข้าเนื้อเรื่อง เราเองไม่รู้นะว่าคนเขียนเขาแป้นพิมพ์มีปัญหารึเปล่านะ ชอบพิมพ์ตก บางจังหวะดันเบิ้ลอักษรไป แต่ไม่มีวรรณยุกต์หรือใช้ผิดนี่น่าจะผิดจริง ๆ แหละ ที่ยกมาพูดตรงนี้เพราะเรื่องแบบนี้มันมีทุกตอนเลย พูดบ่อย ๆ เดี๋ยวเบื่อกันพอดีจึงขอยกมาไว้ตรงนี้เลยละกัน
เข้าเรื่องเลย หลังจากมีปากเสียงกันไปแล้ว คนใช้ก็พาบักชิไปคุยกัน มันแนะนำตัวว่าชื่อวิเวียน (หลังจากนี้เราขอเรียกว่าเจ๊เวียนละกัน) บักชิมันก็ขำนิดหน่อยเพราะความหมายของเจ๊เวียนกับตัวจริงมันตรงกันข้ามเลย ทีนี้บักชิก็แนะนำตัวบ้าง เจ๊เวียนก็ขำ บักชิก็เดาว่าเพราะมันใส่ชุดสีดำมั้งไม่เข้ากับชื่อแต่มันบอกว่าผมมันสีขาวจากแต่ก่อนที่เป็นสีดำ มันก็น่าจะเข้ากับชื่อสิ (ตรงสีผมอยากให้จำเพราะมันมีข้อขัดแย้งที่เราสงสัยอยู่ในตอนต่อไป) หลังจากรู้จักกันแล้ว บักชิรับปากว่าจะช่วยเจ๊เวียน เจ๊เวียนเลยบอกว่าแต่ก่อนเมืองนี้ถูกปกครองโดยจอมมารชื่ออัลโดมาเลียส (ขอเรียกบักอัล) ซึ่งบักอัลใช้บประมาณไปกับเรื่องส่วนตัวจนเมืองเริ่มจะวอดวาย สุดท้ายบักอัลโดนสังหารไป ทำให้เมืองไม่มีผู้ปกครอง
บักชิจับทางได้ว่าคนที่ฆ่าบักอัลเป็นเจ๊เวียนแน่เพราะบักชิฟังจากน้ำเสียงตอนเล่า นี่ฉลาดขนาดนี้เลยหรอ เป็นผู้กล้าจบเอกจิตวิทยาแน่นวล
ทีนี้บักชิก็ถามไปว่าจะให้มาทำเมืองให้ดีขึ้นหรอ อยู่ดี ๆ เจ๊เวียนก็บอกว่าไม่ นั่นเป็นปัญหาเล็ก ๆ เท่านั้น ไม่มีค่าพอให้ฆ่าหรอก เดี๋ยวนะคนเขียน คือคุณจะมาทำแบบนี้ไม่ได้ นึกสภาพมีคนขอให้คุณมาช่วยงานหน่อย เพราะคนที่แล้วทำไม่ดีเลยฆ่าทิ้ง แต่ยังดีนะที่บักชิยังกลัว ๆ หน่อยแล้วประชดในใจว่าไม่ไปเป็นจอมมารแทนไปเลยล่ะประมาณนี้ แต่เป็นเรา เราหนีแล้วนะ “ถอยดีกว่า ไม่เอาดีกว่า”
เจ๊เวียนบอกว่าบักอัลไปประกาศสงครามกับจอมมารอีกคนชื่อวิเน่ (ขอเรียกว่าบักเน่) ซึ่งสงครามจะเริ่มอีกสามปี กติกาคือคนชนะได้ทุกอย่างของผู้แพ้ บักชิก็สงสัยว่าทำไมบักเน่ถึงรับคำท้าทั้งที่เมืองนี้ก็ดูธรรมดา แล้วทีนี้ ประตูก็เปิดขึ้นพร้อมกับ “ร่างบาง” ร่างหนึ่งค่อย ๆ เดินเข้ามา บักชิอ้าปากค้าง ร่างบางครัช ร่างบาง Everything is ร่างบาง (เรารับประกันเลย อ้ายร่างบางนี่นางเอกแน่นวล)
ตอนที่สี่
ในจอนนี้เป็นมุมมองของเจ๊เวียน เจ๊บอกว่าตอนอัญเชิญหวังว่าจะเป็นคนที่สมเป็นจอมมารหน่อยแต่พอเจอบักชิไปก็เงิบเพราะความเป็นจอมมารเลย คราวนี้มันบอกว่าบักชิผมดำ ตรงนี้เป็นจุดที่ทำให้เรางงมากถึงมากที่สุด ไม่ใช่ว่าบักชิมันแก่จนผมขาวเรอะ หรือบอกว่าบักชิมันคิดไปเอง ก็ไม่น่าใช่ เพราะประโยคในตอนแรกมันมีอยู่ประโยคนึง ความว่า
“ชายชราทิ้งจอยเกมส์ในมือ” ในตรงนี้เราว่ามันเป็นมุมมองบุคคลที่สาม ทั้งที่ก่อนหน้านี้เป็นมุมมองบุคคลที่หนึ่ง คือมันเปลี่ยนแบบเปลี่ยนไวมาก ไม่มีสัญญาณอะไรเลย (ตรงนี้ลืมติไปในคอมเม้นต์แรก เพิ่มไปด้วยละกัน) แบบนี้คำว่าชายชราตกลงมันอยู่ในมุมมองพระเจ้าว่าเห็นชายชราหรือมุมมองของบักชิที่มันคิดว่าเป็นชายชราแล้ว (แต่ก็ไม่น่าใช่เพราะถ้าเป็นเราคงเปลี่ยนคำว่า ชายชรา เป็น ผม กระผม อะไรประมาณนี้นะ) ในจุดนี้อยากให้โม่งคนอื่นช่วยเราหน่อย ว่าในจุดนี้นิยายผิดจริงหรือเรางงไปเอง นิยายไม่ผิด ถ้าเราพิมพ์งงไปหน่อยก็ไปลองพิสูจน์กันเองได้นะ เราก็สื่อสารไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ ขอโทษจริง ๆ
เข้าเรื่องต่อเนื้อเรื่องก็ยังเหมือนเดิมแค่เปลี่ยนมุมมองไปเป็นเจ๊เวียนเฉย ๆ ซึ่งถ้าดูจากแนวคิดแล้ว ดูท่าน่าจะเป็นตัวละครเย็นชาแล้วน่าจะไม่ชอบบักชิเลยล่ะ ดูจากตอนที่บักชิขำชื่อเจ๊เวียน แต่เรารับประกันเลย สไตล์เด็กดี มันรักษามาดนี้ให้ตัวละครไม่ได้หรอก เห็นมาเยอะแล้ว เพราะไม่ทันไรก็จะกลั้นขำกับชื่อของบักชิไม่ได้แล้ว นี่ขนาดแค่ในตอนนะ แล้วตอนต่อไปจะขนาดไหน
ในตอนท้ายเฉลยว่าร่างบางที่เปิดประตูเข้ามาในตอนที่แล้วน่ะเป็นเจ้าหญิงของเมืองนี้ (ถ้าเดาเก่งขนาดนี้ ทำไมเราไม่ถูกหวยกันนะ)
เดี๋ยวมาต่อ วันอังคารว่างหน่อยแต่ก็ไม่แน่ อาจเคลียร์งานค้างที่มากมาย ถ้าเราไม่มาก็น่าจะวันเสาร์ อาทิตย์เลย ขอโทษที่หายไปนาน
ลงชื่อ โม่งมือใหม่หัดเล่น