Fanboi Channel

นิยายเด็กดี บทที่ 14 (DDN XIV) ภาคกุ๊ยแก่เดนตาย ไม่ทราบได้ว่าจะอยู่รึไป แต่ห้องนี้มีไว้สับนิยาย อยากนินทาเชิญไปเน็ตวอชนะ

Last posted

Total of 1000 posts

582 Nameless Fanboi Posted ID:IaVlSzy9B

>>579 เข้าไปอ่านแล้วหัวร้อน แค่ควบสองบนเตียงเล่นเนรเทศเลยเหรอ
ป.ล. ถึงเราจะเป็นลิสเราก็จะไม่ปล่อยคลิป แต่จะเอาคลิปมาแบล็กเมล์

583 Nameless Fanboi Posted ID:idSigrDeR

>>576 >>581 ขอบใจมาก

584 Nameless Fanboi Posted ID:T/XDLG4.f

>>582 ส่วนผู้ชายที่คั่วนางเอกเกมโดนประหารเลยนะ

585 Nameless Fanboi Posted ID:7cpmOH1/u

จุดที่กูเกลียดที่สุดในเรื่องคือการยัดเยียดป่านเจ๊ลิสเนี่ยแหละ เขาตอแหลยังงั้นยังงี้ ฉันเก่ง ฉันเจ๋งยังงั้นยังงี้ โคตรน่าหมั่นไส้ 555

586 Nameless Fanboi Posted ID:aOaIIxYkF

>>585 เป็นตัวอย่างที่ดีในวิชา ออกแบบตัวละครยังไงให้คนเกลียด, หมั่นไส้ 101

587 Nameless Fanboi Posted ID:7cpmOH1/u

>>586 มันก็ต้องมีแยกอีกป่ะว่าหมั่นไส้แบบสมเหตุสมผลกับหมั่นไส้แบบอะไรของมึง 555

588 Nameless Fanboi Posted ID:aOaIIxYkF

>>587 อันนั้นวิชาเลือก ค่อยไปลงทะเบียนแยกอีกทีต้นเทอม 1

589 Nameless Fanboi Posted ID:aWeeYz7Ym

>>580 qidian มาเปิดเองแหละ แล้วก็ไปไล่ดีลสัญญากับพวกนักแปล Eng เก่าๆให้เอางานแปลมาลง โมเดลเหมือนกับที่มาจอยกับ fictionlog ในไทย

590 Nameless Fanboi Posted ID:aOaIIxYkF

หมายถึงอีกหน่อยอาจโดนกลืนใช่มั้ย

591 Nameless Fanboi Posted ID:g35eNZ2VV

https://writer.dek-d.com/luckyman111/story/view.php?id=1547387 แปะ

592 Nameless Fanboi Posted ID:fm3XEZ84B

>>591 Let me do this.

593 Nameless Fanboi Posted ID:IIqgjnmax

>>591 กู 592 สรุปกูจองนะ ยังไม่ได้คิดชื่อในการสับ เอาเป็นว่า ใครก็มารู้มาจองสับละกัน

594 Nameless Fanboi Posted ID:NQ5uRuPjO

>>593 สับไปแบบไม่ต้องวอนนาบีได้ไหม

595 Nameless Fanboi Posted ID:u.N7+cbY.

>>591 ทำไมวิวโคตรเยอะ แต่เฟบโคตรน้อยอย่างนั้น

596 Nameless Fanboi Posted ID:7cpmOH1/u

>>593 สับๆไปเถอะ แต่ไม่ต้องลงชื่อนะ ขอเลย กูขี้เกียจต้องมาเสี่ยงเจอตัวป่วนเอาเรื่องนี้มาเล่นอีก

597 Nameless Fanboi Posted ID:J6SQwokbH

>>594 เล่นเว็บเหี้ยนี่แบบไม่ต้องพยายามแดกดันมากได้มั้ยวะ วอนนาบีชห

598 Nameless Fanboi Posted ID:fMYeCvnGE

>>596 กูว่าลงชื่อก็ดีนะ เวลามาอ่านย้อนหลังจะได้ง่ายหน่อย

599 Nameless Fanboi Posted ID:bWk1M3SZ9

>>591 ชอบตรงที่เวทมนต์ไม่ได้ใช้ได้ง่าย ๆ เนี่ยละ นี่เขี่ย ๆ อยู่เรื่องหนึ่งพยายามจะเล่าประมาณว่าเวทมนต์เป็นเหมือนชนชั้น รัฐบาลเลยพยายามให้ทุกคนมีเสทมนต์เพื่อที่จะได้ลดความไม่พอใจในตัวคนที่มีเวทมนต์ของผู้ไม่มีเวทมนต์ที่มีจำนวนเยอะกว่า แบบมาทำให้ทุกคนใช้เวทมนต์ได้กันเถอะ!

ส่วนที่เหลือยังไม่อ่าน ขก

600 Nameless Fanboi Posted ID:LzBWj.egw

กูไปอ่านนิยายวาย feel good เรื่องนึงมา กูชอบการบรรยายมากเลย รู้สึกดีตามแนวเรื่องทั้งๆที่ก็ไม่ได้บรรยายโดดเด่นอะไร รู้สึกดีจังวะ โอย กูตาย อินสุด

601 Nameless Fanboi Posted ID:hlA4Fsg/b

>>597 เล่นโม่งไม่ต้องย้อนแย้งตัวเองบ้างก็ดีนะ

602 Nameless Fanboi Posted ID:.43VvtX62

กูสงสัยเรื่องตัวตนในโม่ง ชื่อที่ตั้งในโม่งมันก็ไม่ได้มีความหมายเหี้ยอะไรอยู่แล้ว แลกข้าวแดกก็ไม่ได้ กูรู้สึกเหมือนพวกมึงไม่สนับสนุนให้ตั้งชื่อ เพราะไอ้เหี้ยเซฮุนคนเดียวเนี่ยนะ?

การมีชื่อมันดูวันนาบีมากขนาดเลยเหรอวะ ไม่ได้หัวร้อนนะ กูแค่ฉงนนิดหน่อย

นี่กูจะลงสับเลยเบรกไว้ก่อนเลย ว่าจะลงชื่อดีไหม ตอนแรกว่าจะไม่แคร์พวกมึง แต่กูถือว่ากูอยู่ในสังคมของพวกมึงเลยอยากฟังความเห็นก่อน ถึงแม้แม่งจะไม่มีกฎ(ของเว็บไซต์)ห้ามตั้งชื่อในนี้ก็เหอะ

603 Nameless Fanboi Posted ID:.43VvtX62

<<602 กูเน้นเฉพาะลงชื่อจองสับ และลงชื่อตอนสับนะ

604 Nameless Fanboi Posted ID:KJlu6vjxo

>>602 กูไม่ได้อะไรหรอก ถ้าไอ้นั่นมันไม่เอาเรื่องชื่อมาล้อ มาเกรียนอยู่นั่นน่ะ น่ารำคาญ

605 Nameless Fanboi Posted ID:YLC3x.N8h

>>602 มึงจะลงชื่อก็ทำไปใครจะห้ามมึงได้ โม่งคือทุกคนทุกคนคือโม่ง อยากมีตัวตนมากไปเล่นเดกดวก เว็บโม่งมีเพื่อลดอัตตาของคน มีชื่อแล้วเป็นไงดูไอ้เหี้ยที่มึงก็รู้ว่าใครดิน่ารำคาญชิบหาย แล้วลงชื่อจองหรือลงตอนสับก็ไม่มีประโยชน์อะไร โอเครจะได้มีเครดิท แต่มึงจะอ้างกับใครไว้อ้างในโม่งที่ไม่รู้ใครเป็นใครนี่นะ ส่วนลงชื่อเผื่ออ่านย้อนหลังนี่ก็ไม่ใช่เหตุผลว่ะ มึงอยากอ่านสับนิยายเรื่องอะไรก็หาชื่อนิยาย จะค้นชื่อคนสับเพื่อ?

606 Nameless Fanboi Posted ID:YtkBOCADK

https://fanboi.ch/pages/guidelines/

สนใจในเนื้อหามากกว่าผู้โพส
เว็บไซต์ฯ ไม่ให้ลงชื่อเพื่อให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่โพสมากกว่าผู้โพส ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องตามหาตัวตนว่าผู้โพสข้อความหนึ่งๆ นั้นเป็นใคร ไม่จำกัดว่าเป็นตัวตนในเว็บไซต์ฯ หรือนอกเว็บไซต์ฯ เลือกที่จะโต้ตอบกับสิ่งที่โพสมากกว่าว่าใครเป็นผู้โพส

607 Nameless Fanboi Posted ID:SRcHKYXSd

>>602 อ่าน guidelines สิว่าทำไมเล่นโม่งถึงไม่ควรมีชื่อ

https://fanboi.ch/pages/guidelines/

608 Nameless Fanboi Posted ID:.43VvtX62

>>604 ok
>>605 เว็บโม่งมันมีไว้ลดอัตตาเหรอวะ ความรู้ใหม่กูเลย ขอบใจมาก กูนึกว่ามันมีไว้ให้มึงแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระภายใต้กฎของเว็บเสียอีก

ที่กูลงชื่อตอนสับนี่ก็แค่อยากให้โม่งมาอ้างถึงในนี้ได้ หรือด่ากูก็ได้ มันลำบากเวลาเรียกโม่งที่สับเรื่อง A,เรื่อง B เกิดมึงอยากถามความเห็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับนิยาย ที่คนสับอาจไม่ได้ลงไว้ด้วย

แต่มึงก็ถูกที่ว่าคนอ่านเค้าสนใจแค่เรื่องที่ถูกสับมากกว่าคนสับ กูก็เห็นด้วย
ขอบใจสำหรับความคิดเห็นนะ

ปล. ตัวตนที่เด็กดวกกูก็มีเป็นปกติอยู่แล้วนะ แต่กูชอบลงความเห็นที่นี่มากกว่า แค่นั้นเอง

609 Nameless Fanboi Posted ID:.43VvtX62

>>607 ขอบใจมาก กูเก็ตละ ไอ้ห่า กูแม่งอ่านแต่ policy ไม่ได้อ่าน guide line

610 Nameless Fanboi Posted ID:j3e0VDJnQ

คิดว่า Nameless Fanboi มีไว้ทำไม น่าจะรู้กัน

611 Nameless Fanboi Posted ID:hGj5c8Lbr

พวกเมิงทะเลาะกันเองรายวันแบบนี้ จะเอาเครดิตที่ไหนไปสับนิยายชาวบ้านวะ

612 Nameless Fanboi Posted ID:.43VvtX62

กูโอเคนะ ก็ดูพูดกันมีเหตุผลดี
เรื่องตัวตนกูเข้าใจผิด(ไม่อ่าน guide line)เอง ก็ต้องขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วย

กูเข้าใจคำว่า nameless fanboi ที่แท้ทรูละ ขอบใจทุกคนอีกครั้งครับ จะตั้งใจสับนิยายต่อไป

613 Nameless Fanboi Posted ID:tqbEbGdFQ

กูเข้ามาในโม่งเพื่อแว่บมาดูว่าเมื่อไรนิยายกูจะโดนเขาสับบ้าง แต่เจอแบบนี้ทุกวันชักหมดศรัทธาวุ้ย
ทะเลาะกันเองแทบทุกวัน เทียบไม่ได้กับห้อง Karma ที่สามัคคีกันชิบหาย

614 Nameless Fanboi Posted ID:JYFM55LtX

>>613 เรื่องเย็ดเป็นเรื่องสวยงาม ยากยิ่งที่เราจะทะเลาะกันเองได้

615 Nameless Fanboi Posted ID:3alTTatQF

>>613 เบื่อนะ ไม่ได้เบื่อทะเลาะกัน แต่เบื่อพวกที่ชอบมาบอกว่า "นิยายกูอยู่ในลิสต์ เมื่อไหร่จะโดนสับเนี่ย" "ทะเลาะกันอยู่ได้ แล้วเมื่อไหร่จะได้สับนิยายกูสักที" หรือ "รอพวกมึงสับนิยายกูอยู่นะ"

คือคนอื่นเขาจะตรัสรู้ไหมว่านิยายมึงคือเรื่องไหน เขาก็คว้าๆ เรื่องที่มันไม่ยาวมากมา หรือพอดีโผล่มาเห็นเรื่องไหนก็สับเรื่องนั้น ถ้าอยากให้สับจริงๆ ก็กล้าๆ หน่อย แปะนิยายลงมาตรงๆ เลย ถ้ากล้าขอ ก็มีคนกล้าสับให้เองนั่นแหละ

616 Nameless Fanboi Posted ID:YLC3x.N8h

>>615 +1 โม่งแรนด้อมชาตินี้จะไม่ลงที่นิยายมึงเลยก็ได้ไอ้ >>613 ใจถึงๆหน่อยก็แปะมาเลย

617 Nameless Fanboi Posted ID:JYFM55LtX

>>613 เดี๋ยวกูลัดคิวสับให้ อ่าน 6 ตอนพอ โอเคมั้ย

618 Nameless Fanboi Posted ID:.43VvtX62

>>613 กูรอนะ

619 Nameless Fanboi Posted ID:mQ5LzsAMX

>>613 มึงเซฮุนมาปั่นกระแสใช่ไหม?

620 Nameless Fanboi Posted ID:T68CvgYmv

มา ๆ เดี๋ยวกูจะสับเรื่องนี้
https://writer.dek-d.com/astrum/story/view.php?id=1702623
ลำนำรักภูตราตรี จำนวน 33 ตอนจบ แต่เปิดให้อ่านฟรีแค่15 ตอนนี้กูอ่านถึง11ล่ะ พรุ่งนี้น่าจะอ่านจบเดี๋ยวมาสับ
กูเคยสะดุดใจกับความเห็นเพื่อนโม่งคนนึงประมาณว่า "มึงจะไปยกมาสับทำไมวะ นิยายดัง ๆ นิยายติดท๊อป สู้สับนิยายมีแววดีที่ไม่ดัง ไม่มีคนเห็นไม่ดีกว่าเรอะ" เออ มึงพูดถูก จริง ๆ กูก็เห็นด้วยนะ แต่ยังหาเรื่องมีแววที่ถูกใจไม่ได้เลย กูจะชอบอ่านหน่อยก็แนวรักแฟนตาซี กูขอสับเรื่องนี้ไปพลางก่อนละกัน

ตกลงกูลงชื่อตอนสับได้ไหมเนี่ย พอดีไม่ค่อยตามอ่าน

621 Nameless Fanboi Posted ID:T68CvgYmv

>>620 กูลืมบอก คนแต่งเดียวกะตุ๊ดทะลุมิติ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่แนวจีน

622 Nameless Fanboi Posted ID:TV3DpXo2N

อยากสับก็สับ จะจองทำหอยดองอะไรนักหนาวะ ยากตรงไหน จะสับซ้ำ10-20รอบใครจะว่ามึง ไอ้ห่า

623 Nameless Fanboi Posted ID:OzJbUgvR4

>>622 เค้าถามดีๆ ปะวะ จำเป็นต้องด่ากันมั้ย
>>620 แล้วแต่มึงเลย อยากลงก็ลงกูไม่ซีอะไร

624 Nameless Fanboi Posted ID:T68CvgYmv

>>623 นี่620ขอบใจมากนะ น่าจะพรุ่งนี้ไม่ก็มะรืนเริ่มสับ เดี๋ยวขอลงชื่อทิ้งไว้เหมือนเดิม

625 Nameless Fanboi Posted ID:p+DWsoYom

>>623 กูรำคาญ จะสับก็สับลงสักที ไม่ต้องรอท่าเรียกเรตติ้ง จะสับยังไงก็สับไป ทำไมต้องถามใครว่าจะทำอะไร คิดว่าดีก็ทำไปสิวะ ยึกๆยักๆ
เมื่อก่อนเห็นทำได้ไม่ต้องมีจองเป็นเอกสิทธิ์ของใครโดยเฉพาะ ไอ้ห่า

626 Nameless Fanboi Posted ID:eoby3SZ00

>>625 เห้อ กูว่าจะไม่อะไรแล้วนะ แต่ขออธิบายหน่อย
ไม่ได้จะเรียกเรตติ้งนะ เพราะไม่รู้จะเรียกไปทำไม นิยายของกูเองก็ไม่ใช่ ชื่อก็ยังไม่ได้ลงตอนถาม กูจะเรียกเรตติ้งไปให้เสาไฟฟ้าต้นไหนวะ?
ทีต้องถามเรื่องลงชื่อได้ไหมนี่คือกูน่ารำคาญเหรอวะ กูก็แค่อยากรักษาบรรยายกาศของห้อง เกิดพวกมึงตกลงกันไว้ว่า ต่อไปนี้พวกสับห้ามลงชื่อ แล้วกูมาลงนี่กูไม่สะเหล่อแย่เหรอวะ ที่ผ่าน ๆ มากูไม่ได้อ่านละเอียดไงว่าพวกมึงคุยไรกันบ้าง เพราะไรรู้ป่ะ? เพราะมีคนแบบมึงนี่แหละ กัดคนนู้น แซะคนนี้ กูเลยลากผ่านไปซะเยอะ
ขอโทษที่ทำให้เสียบรรยากาศ กูอดไม่ได้จริง ๆ จะมาสับนิยายแม่งยังโดนแขวะ เห้อ...
กูจะไม่สนมันล่ะ ขอแค่เมนต์นี้อันเดียว

627 Nameless Fanboi Posted ID:JHgC9wcyT

>>625 คนอย่างมึงนี่น่ารำคาญนะ ว่างก็มาช่วยกันสับไหม

628 Nameless Fanboi Posted ID:vqmnAZfjt

มีไอปัญญาอ่อนไปแจ้ง Meta

>>>/meta/4675/170/

629 Nameless Fanboi Posted ID:JHgC9wcyT

>>628 อื้อหือ แม่งเหี้ยจริง ๆ ตั้งใจกวนตีนโม่งสับเห็น ๆ

630 Nameless Fanboi Posted ID:5uarIB8wF

อ่ะกูมาละ เรปนี้จะแจงเรื่องให้ฟังคร่าว ๆ แล้วจะสับกับให้คะแนนเรปหน้า ๆ ๆ (อันนี้ก็แอบสับนิดหน่อย)

สับนิยาย
นิยายเรื่อง : Colourless ผู้ใช้มนตราในโลกาไร้สี
แนว : แฟนตาซี (ส่วนตัวกูคอนซิเดอร์ว่ามันเป็น low fantasy)
ลิงก์ : https://writer.dek-d.com/luckyman111/story/viewlongc.php?id=1547387&chapter=1

กูอ่านไปสองตอน คิดว่าน่าจะอ่านอีก แล้วเอามาวิจารณ์อีกนะ แต่ทีนี้ขออธิบายก่อน

นิยายเรื่องนี้เขียนแบบแบ่งเป็นเรื่องสั้นหลาย ๆ เรื่อง ที่เซ็ตอยู่บนโลกเดียวกัน โดยไม่ได้เรียงตาม Chronological order โดยเรื่องสั้นแต่ละเรื่องมักจบภายในสองตอน คือแบ่งเป็นบทเริ่มกับบทจบ เมื่อจบเรื่องสั้นหนึ่ง ก็ขึ้นเรื่องใหม่ โดยมีตัวละครเอกเป็นตัวใหม่ และมีความเกี่ยวโยงกัน ส่วนตัวกจากที่กูเพิ่งอ่านจบไปเรื่องนึง กูคิดว่าน่าจะมีพล็อตหลักจาง ๆ ร้อยเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้ด้วยกัน กูเลยรู้สึกว่า เออ แบบนี้ก็ดีนะ สับเป็นรายตอนได้เลย เพราะเหมือนเราก็อ่านสิ่งที่เรื่องสั้นนั้น ๆ ต้องการนำเสนอจบ แล้วเดี๋ยวโครงใหญ่ก็ดูกันไปเรื่อย ๆ เหนื่อยตอนไหนก็พักเอา

อ่ะ กูอ่านไปสองตอน คือจบเรื่องสั้นหนึ่งเรื่องพอดี นั่นคือเรื่อง 'เกาะ'

กูสปอยล์หมดนะ ขี้เกียจเลี่ยง

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใช้เปิดจักรวาลของ Colourless เพราะงั้นในบทแรกก็ต้องพบกันการเล่า Background ของโลกในนิยายเรื่อง Colourless ผู้เขียนใช้โลกจริง ๆ ของเราเป็นฉากหลัง โดยเล่าว่า ในโลกเราเหนี่ย มีผู้มีเวทมนตร์ หรือ จอมเวท แฝงตัวอยู่กันมานานมากแล้ว และมีหน่วยงานที่คอยดูแลคนพวกนี้คือ The Palace

มึงไม่ต้องกลัวว่ามันจะ Dump ข้อมูลใส่มึง มันเขียนค่อนข้างน้อย แล้วก็กระชับ (แต่เสือกเป็นปัญหาสำหรับกู เดี๋ยวกูจะมาพูดถึง) ผู้เขียนให้ข้อมูลคร่าว ๆ ที่มึงควรรู้เกี่ยวกับจอมเวทมาประมาณ 3 ย่อหน้าสั้น ๆ จากนั้นก็แจง Background ของ Scene ในเรื่อง 'เกาะ' มาให้ ซึ่งนั่นก็คือ เกาะเวสเตอร์ ตรงนี้สี่ย่อหน้า กูว่าถ้าสมองมึงไม่เป็นขี้เลื่อย มึงน่าจะอ่านไหวนะ

เรื่องเกาะมีตัวละครนำสี่ตัวด้วยกัน คือ 1. ชาลี 2. การันต์ บันนิชา 3. บาทหลวงไซมอน 4. จอมเวทจาก The Palace ชื่อรหัสว่า วอลุม (Volume) โดยเรื่องย่อ ๆ ของตอนนี้ก็คือ ไอ้วอลุม เป็นจอมเวทจากเดอะพาเลซ อยากได้ชีวิตอมตะ เลยแอบมาทดลองหาวิธีได้ชีวิตอมตะอย่างลับ ๆ บนเกาะที่โคตรจะบ้านนอกอย่างเกาะเวสเตอร์ โดยไอ้เหี้ยนี้เอาวิธีที่คิดได้มาทดลองกับคน

เปิดบทมามึงจะสรุปได้ทันที ว่าในเรื่องเกาะ ใครจะเป็นตัวร้ายของเรื่อง ก็คือไอ้วอลุม

เรื่องเกาะเล่าเรื่องผ่านตัวละครเด็กชื่อชาลี ชาลีเกิดและใช้ชีวิตอยู่บนเกาะเวสเตอร์เหมือนพ่อและคนอื่น ๆ ที่ต่างออกไปคือชาลีเป็นตัวแทนของเจตจำนงมนุษย์ เป็นความทะเยอทะยานที่คนบนเกาะไม่มี

ขอเล่าก่อนว่าประชากรบนเกาะเวสเตอร์ทุกคนถูกใส่ความเป็นฮอบบิทลงไป และเวสเตอร์ก็เปรียบได้กับ Shire ของพวกมัน ชีวิตอยู่ไปวัน ๆ ไม่ได้สนโลกภายนอก แล้วโลกภายนอกก็ไม่ได้สนมัน

ส่วนชาลีก็คือบิลโบ แบกกินส์ คือเอเรน เยเกอร์ในกำแพง

ผู้เขียนแนะนำบาทหลวงไซมอนให้ผู้อ่านรู้จัก พร้อม ๆ กับที่เราได้รู้จักชาลีและเกาะเวสเตอร์ เรื่องเล่าแค่ว่ามันมาจากข้างนอกเมื่อ 15 ปีก่อน มาพักอยู่ในโบสถ์บนเขาที่ห่างไกลผู้คน แล้วด้วยความเป็นนักบวช คนบนเกาะเลยให้ความเคารพมัน เป็นตัวละครที่โคตรจะตัวประกอบ แต่แม่งเสือกมีชื่อ เมื่อเทียบกับตัวประกอบอื่น ๆ ที่ไม่มีชื่อ มึงก็จะรู้ได้ทันที ว่าไอ้เหี้ยนี่ key character

เอ้อ เรื่องเกาะ เล่าสลับสอง perspective สลับระหว่างชาลี (บุคคลที่สามนะ) กับมุมผู้บรรยายที่คอยมาเล่าเรื่องไอ้วอลุม โดยมักจะสลับเอาวอลุมขึ้นมาเพื่อขยี้ประเด็นบางประเด็น เพื่อให้ข้อมูลสำคัญ แล้วก็เพื่อใบ้บางอย่าง ครั้งแรกที่ยกวอลุมขึ้นมาเล่าก็ว่าไปถึงชีวิตนิรันดร์ ว่ามีคนอยากได้ อยากไขว่คว้ามากมาย แล้ววอลุมก็เป็นหนึ่งในผู้ที่พยายามจะคว้าชีวิตที่ว่าเอาไว้

มีต่อ

631 Nameless Fanboi Posted ID:5Tx+I.OH7

>>630 รอ ๆ

632 Nameless Fanboi Posted ID:5uarIB8wF

>>630 มันก็ว่าต่อไปว่าวอลุมหนีจากเดอะพาเลซ เพื่อหาที่กบดานทดลองเงียบ ๆ แล้วนั่นก็คือเกาะเวสเตอร์ พร้อม ๆ กับเล่าว่า มีนักท่องเที่ยวกำลังจะมาเที่ยวที่เกาะ

ต่อมาก็มาย้ำประเด็นเรื่องความเฉื่อยชาของทุกอย่างบนเกาะ (แม่งเฉื่อยจนกูคิดว่า ถ้าทุกคนยังเป็นชาวเกาะอุก้า ๆ อยู่ก็คงไม่แปลก) ด้วยการเสนอตัวละคร พ่อ ของชาลี ขึ้นมาพร้อม ๆ กับนักท่องเที่ยวจากต่างแดนชื่อ การันต์ บันนิชา

ฮั่นแน่ เล่าไอ้เหี้ยวอลุมเสร็จก็มาเล่าไอ้การันต์ต่อ มึงคิดว่าจะหลอกกูได้อ่ะดิ

การมาเยือนของการันต์บ่งบอกได้เป็นอย่างดี ว่าคนบนเกาะหวาดกลัวโลกโพ้นน้ำทะเลขนาดไหน และก็เป็นเครื่องขับเคลื่อนให้ตัวละครของชาลีทำงานด้วย

ชาลีใฝ่ฝันถึงโลกภายนอกมากกว่าชีวิตเรียบง่ายที่นี่ ไอ้นี่เลยคอยไปตามเกาะตูดการันต์อยู่เรื่อย (ขนาดว่ามันไปกางเต็นท์นอนในป่า ไอ้ชาลีก็ตามไป) ให้การันต์เล่านู่นนั่นนี่ให้ฟัง

จากนั้นแม่งก็สลับเอาไอ้วอลุมมาขยี้ ว่าไอ้วอลุมมาถึงเกาะแล้วโดยเดอะพาเลซแม่งจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน แล้วไอ้วอลุมก็ต้องหาที่อยู่ที่ห่างไกลจากผู้คน (แล้วเมื่อกี้เพิ่งเล่าว่าไอ้การันต์พักแรมในป่านอกหมู่บ้าน คือมึงกะปั่นรัว ๆ)
การันต์เล่าให้ชาลีฟังหลายอย่างเกี่ยวกับโลกข้างนอก ว่าตัวเองทำอาชีพอะไร มันบอกว่ามันเป็นหน่วยกู้ภัย คอยช่วยชีวิตคน คอยรั้งชีวิต คอยคว้าเอาไว้ (อ่ะ แม่งขยี้อีกรอบ) คนเขียน hint ให้นิดหน่อยตอนการันต์พูดถึงชีวิตที่พยายามไขว่คว้ากันมา สุดท้ายก็เท่านั้น วันดีคืนดี มันอาจสลายไปในเสี้ยววินาทีก็ได้ คือคนเขียนแม่งเสนอตัวละครสองตัว คือวอลุมกับการันต์ โดยที่ function ของสองคนนี้เป็นคู่ตรงข้ามกัน แต่พยายามขยี้ให้คนเข้าใจว่าตัวละครสองตัวนี้คือตัวเดียวกัน ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ลืมใบ้นิดใบ้หน่อย ให้พอเดาได้ (ซึ่งจริง ๆ แม่งเดาง่ายสัส 555555) พาร์ทนี้ก็สนุกดี

แล้วก็มีคนตาย กูลืมเล่า มีไอ้เฒ่าชื่อโปโซ (บางทีก็ชื่อโปเซ กูอยากจะเล่นมุกว่าแม่งชื่อโปโซเซ ก็แป้กเกินไป) เป็นคนพาการันต์ทัวร์ เพราะมาถึงปุ๊บ ไอ้การันต์ก็จะไปโบสถ์ไซมอนก่อนเลย หลังจากนั้นแปปนึง จนเรื่องที่การันต์กับชาลีคุยกัน ไอ้โปโซก็ตายแล้วก็ตัดสลับมาเล่าด้วยวอลุม ว่าแม่งสาปไอ้โปโซจนตายห่า (แม่งก็ยังพยายามขยี้ไอ้เหี้ยการันต์อยู่ แต่กูเดาออกว่าไอ้เหี้ยวอลุมเป็นใครตั้งแต่ครั้งแรกที่แม่งตัดมาเล่าเรื่องไอ้วอลุม)

ชาลีแม่งก็ยังไปตามติดการันต์เหมือนเดิม ทีนี้มีพ่อห้ามมา ช็อตนี้เอามาขยี้แนวคิดที่ว่า "คนบนเกาะหวาดกลัวโลกโพ้นทะเล" แล้วต่อด้วยคำพูดเท่ ๆ ของการันต์ว่า "เพราะไม่เข้าใจจึงหวาดกลัว"

แล้วเรื่องก็กำลังจะถ่ายเข้าไปช่วงองก์สาม ไอ้ชาลีกลับบ้านเพราะฝนตก โดยที่การันต์แม่งแบบ พยายามเกลี้ยกล่อมจนเด็กเหี้ยนี่แบกตูดกลับไปได้ แต่ก็ไม่วาย ไปเจอซอมบี้โปโซกำลังหม่ำกระต่ายอย่างอเร็ดอร่อย แล้วก็ด้วยความเป็นตัวเอกของเรื่อง มันเลยรอดมาได้ แล้ววิ่งขึ้นไปเคาะประตูโบสถ์ไอ้ไซม่อน ไอ้ไซม่อนกลับมาก็พามันเข้าไปพักในโบสถ์ ถามไปถามมา ไอ้ชาลีบอกว่าเจอซอมบี้มา เชี่ยไซม่อนแม่งก็เปิดเผยตัวเอาดื้อ ๆ ว่าตัวเองคือวอลุม จับเอาตัวไอ้เหี้ยชาลีไว้ได้ กะฆ่าทิ้งละสร้างซอมบี้อีกตัว

ไอสัส ทีนี้ยังกะหนังคนละม้วน ไอ้การันต์มาเคาะโบสถ์ แล้วก็เผยตัวว่าตัวเองเป็นนักฆ่าที่เดอะพาเลซส่งมา function ของไอ้เหี้ยนี่คือการทำให้ชีวิตที่ทุก ๆ คนเห็นว่าสุดแสนจะมีคุณค่า หายไปได้ในเสี้ยววินาที

เปิดมาแม่งก็ยิงกันกระหน่ำ สาดพลังกันยับ กลิ่นนิยายสารคดีลึกลับเมื่อกี้ดับไปหมด ไอ้เชี่ย นี่มัน What Happened to Monday ชัด ๆ

คนสู้กับจอมเวท แต่ไอ้เหี้ย ปืนของเหี้ยการันต์แม่งเทพเกิน ยิงกันไปยิงกันมาก็สู้ชนะในที่สุด จบลงที่เอาสไนเปอร์มาสอยหัวไอ้วอลุมกระจุย

ไอ้ชาลีก็ตื่นมาทันเห็นเหตุการณ์ การันต์แม่งก็ด้วยความเป็นพระเอก ถึงจะมีพยานรู้เห็นแต่ก็ไม่ปิดปากทิ้ง อันที่จริงก็เพราะแม่งก็คิดว่า คนบนเกาะนี้คงไม่ได้สนห่าเหวอะไรเท่าไร

การันต์หิ้วศพวอลุมออกจากเกาะไป พร้อมเอาเอกสารการวิจัยของไอ้เหี้ยวอลุมไปส่งให้เดอะพาเลซ (ถูกเผาทำลายไปหลายส่วน เพราะวอลุมแม่งเผาโบสถ์) ทำงานจบก็ได้รับตังค์สองกระเป๋า (รวยเลยสัส) มีตัวละครใหม่โผล่มาห้าตัว มึงดูชื่อมันนะ เซนติ มิลลิ ออนซ์ เควิน เอเคอร์ ไอ้เชี่ย ถ้าชื่อรหัสมึงจะตั้งเป็นธีมขนาดนี้ 555555

มีต่อ

633 Nameless Fanboi Posted ID:5uarIB8wF

>>632 พาร์ท์นี้ไม่มีเหี้ยอะไร คิดว่าน่าจะปูไปเรื่องอื่นต่อ แล้วไอ้เอเคอร์ก็ถามตรวจดู ว่าบนเกาะมีใครรู้เรื่องมั้ย แน่นอนว่าการันต์มันโกหกให้ชาลี ตรงนี้กูสรุปได้ว่า ถึงอาชีพของไอ้นี่จะเป็นมือปืน แต่แม่งก็พยายามป้องกันไม่ให้เกิดการฆ่าฟันที่ไม่จำเป็น แม่งก็ให้ค่าชีวิตไม่ต่างจากวอลุม แต่เป็นในอีกรูปแบบนึง

ขอแตกความหน่อย คือสองตัวละครนี้ วอลุม กับการันต์แม่งมี function ที่ต่างกันแบบคนละขั้ว คนนึงคว้าเอาชีวิต อยากอยู่เป็นนิรันดร์ อีกคนคร่าเอาชีวิตแลกกันเงิน ไอ้วอลุมที่ให้ค่าชีวิตมาก อยากอยู่ไปตลอด แม่งสำคัญแต่ชีวิตตัวเองจนสามารถไปเอาชีวิตคนอื่นอีกตั้งสี่ห้าคน และอาจมากกว่านั้น มาแลกด้วย ไอ้การันต์ทำงานที่เอาชีวิตไปทิ้งเมื่อไรก็ได้ แถมงานแม่งยังเป็นการไปพรากชีวิตคนอื่นเขาด้วย แต่แม่งยัง values ชีวิตคนอื่น (อย่างน้อย ๆ ก็ชาลี) เป็น สองตัวนี้แม่งมี contradiction ที่มีเสน่ห์นะ (แต่เอาจริง ๆ การันต์กูไม่อยากพูดมาก แม่งเพิ่งโผล่มา และคิดว่าน่าจะโผล่มาอีก แถมยังแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย แต่ไอ้วอลุมที่ตายห่าไปแล้วนี่มึงแบนได้ใจเหี้ย ๆ น่าจะขยายอีกหน่อย)

อ้อ แล้วก็มีพาร์ทสรุปของชาลี สรุปก่อนที่ไอ้การันต์จะไปเจอจอมเวทจากเดอะพาเลซ มันยกประเด็นเรื่อง เพราะไม่เข้าใจจึงหวาดกลัว มาสรุปอีกรอบ พ่อถามชาลีถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ละไอ้เด็กเหี้ยนี่ก็ซุยไป แต่พ่อเสือกเชื่อ เพียงเพราะอยากเชื่ออย่างงั้น

คือเกาะนี้แม่งขาดคุณค่าความเป็นมนุษย์ที่สำคัญสัส ๆ ไป คือความกระตือรือร้นขี้สงสัย แม่งเป็นฮอบบิทโดยแท้จริง

ชาลีแม่งก็เลยฉุกคิดถึงคำไอ้การันต์ได้ ว่าจริง ๆ แล้วแม่งไม่ใช่ว่าเพราะไม่เข้าใจถึงได้กลัวหรอก แต่เพราะคนที่นี่แม่งกลัว เบยไม่เข้าใจสักที กลัวความเปบี่ยนแปลง กลัวอะไรใหม่ ๆ กลัวความวุ่นวาย The world is too big for them. (ดุ่ม ดุมม)

คนมีคุณค่าอย่างไอ้ชาลีเลยรู้ตัว ว่าต้องออกจากเกาะไปเอเรบอร์ สู้กับสม็อก แล้วก็ช่วยธอรินชนะพิษไข้มังกร

จบส่วนเนื้แหาละ เรปต่อไปสับนะ น่าจะต้องแบ่งเป็นสองเรป

634 Nameless Fanboi Posted ID:5uarIB8wF

>>633 พาร์ทวิจารณ์เรื่อง Colourless ตอนเกาะ

กูขอคุยเรื่องภาษากับการบรรยายก่อนเลย แม่งเป็นปัญหาสำหรับกูมาก ๆ หลาย ๆ คนในที่นี้คงชอบอ่านอะไรกระชับ ๆ ส่วนตัวกูอ่านค่อนข้างเวิ่น แต่กูว่ากระชับกูก็อ่านได้นะ แต่เรื่องเหี้ยนี่แม่งกระชับจนกูรู้สึกว่า มันขาดความงามแล้วก็เสน่ห์ไป จนบางทีเหมือนเป็นประโยคเขียนกำกับนักแสดงในแต่ละฉาก ๆ ของละครของหนัง

มันสั้น ห้วน จนแม่งขาด personal level ไป เหมือนกูอ่านไปก็เออ ใครทำอะไรที่ไหนอย่างไร แล้วก็แค่นั้น กูไม่อิน คือกูรู้สึกว่า มึงน่าจะบรรยายเลี้ยง ๆ ช่วงแบ็คกราวด์ แล้วก็เกาะ perspective ของตัวละครมากกว่านี้ น่าจะเหมาะกับแนวเรื่องมึง

เหมือนจริง ๆ สมมติเรื่องนี้เป็นหนัง แม่งก็ควรจะอัด noise เยอะ ๆ ภาพดิบ ๆ ถือกล้องแบบแฮนด์เฮลด์ สร้างมูฟเมนต์ให้ภาพมึง ลองเทคบ้าง แพนตามบ้าง

เอาง่าย ๆ คือเรื่องนี้ถ้าเป็นหนัง การถ่ายทอดภาพควรออกมาแบบ Dawn of Justice แต่มึงเสือกถ่ายแบบ Justice League ตั้งกล้องนิ่ง ๆ สลับไปสลับมาระหว่างคนพูดแต่ละคน เอาให้ดูพอรู้เรื่อง แล้วก็จบซีน แม่งขาดเสน่ห์ที่แม่งควรจะมีสัส ๆ

แต่พูดถึงแม่งก็พอจะอ่านได้ กูพยายามจะคิดว่าที่กูไม่โอเคขนาดนี้มันเป็นเพร่ะกูชอบอ่านอะไรเวิ่น ๆ เพราะงั้น อย่างเป็นกลาง บรรยายเต็ม 2 กูให้มึง 1

มึงปีปัญหาเรื่องการเว้นวรรคประโยคนิดหน่อย ทำให้อ่านแล้วสะดุด ๆ โดยเฉพาะทุกครั้งที่มึงเขียนว่า &apos;จอมเวทจากวังโค้ดเนมวอลุม&apos; สัส อ่านเจอทีไรนี่สะดุดทุกที

คำผิดมีบ้าง ไม่ได้เยอะมาก เขียนตกเขียนตู่ อ้อ แล้วก็โปโซเซ (กูยังพยายาม) แม่งโผล่มาเรื่อย

ตรงนี้สำหรับกูไม่เลวร้าย เอาไป 1.5 เต็ม 2

ต่อมาขอพูดถึงเซ็ตติ้งกับตัวละครก่อนแล้วกัน ส่วนตัวกูค่อนข้างชอบโลกที่มึงนำเสนอ เกี่ยวกับจอมเวทเกี่ยวกับอะไร พูดถึงมันก็เดิม ๆ นั่นแหละ แค่ว่า มันอ่านได้ไม่เบื่อ

แต่ immersion มึงยังขาด ๆ ไปตอนที่มึงสร้างเกาะเวสเตอร์ คือมันก็เรื่องยิบย่อยแหละ กูชอบสิ่งที่มึงมุ่งเสนอนะ ว่าเกาะนี้แม่งคือ Shire และมี Hobbit อาศัยอยู่ ไม่ทุกข์ร้อน ไม่แคร์โลก แต่ในใจกูอ่านไปก็คิดนะ ว่าเกาะมึงเติบโตมาขนาดนี้ได้ยังไง กูว่าเศรษฐกิจกับวิถีชีวิตชาวเกาะเวสเตอร์แม่งยังดู beyond แนวติดของการไม่สนเหี้ยอะไรไปนิดหน่อย แต่ตรงนี้กูไม่ถือสานะ อ่านแบบไม่คิดไรมากก็ชิล ๆ

ส่วนตัวละครที่มึงสร้างมา กูว่า ก็นั่นแหละ มึงให้เนื้อที่ background น้อยมาก ทำให้ตัวละครทุกตัวแบนราบ ถ้าไม่นับตัวที่ยังพูดอะไรไม่ได้อย่างการันต์ ถึงแม้แต่ละตัวแม่งจะคอนเทนเอเลเมนท์ที่น่าสนใจเอาไว้ อย่าง function แล้วก็ contradiction ในตัวของวอลุม หรือ progression ของชาลี แต่มึงไม่เล่าที่มาที่ไป เอาแต่ขยี้ ๆ ขยี้จนเห็นภาพ แต่แม่งไม่โน้มน้าวเท่าไรว่ะ

ส่วนนี้กูให้ 1.5 เต็ม 2 นะ เซ็ตติ้ง 1 กับตัวละครอีก 0.5

635 Nameless Fanboi Posted ID:5uarIB8wF

>>634 ส่วนต่อมา content ตรงนี้เต็มสี่คะแนนนะ

กูว่า content มึงมีองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างที่ดี ขาดความสดใหม่ก็จริง แต่กูก็ไม่ได้มองหาความสดใหม่อะไร intention มึงก็ดี แต่เหมือนกับพาร์ทตัวละครอ่ะ กูว่า execution มึงแม่งไม่ถึงว่ะ

สิ่งที่เรื่องเกาะมุ่งเสนอ กูเห็นอยู่สองประเด็นหลัก ๆ คือหนึ่ง เรื่องคุณค่าของชีวิต ตรงนี้กูมองว่าเป็นเมน เป็นพาร์ทที่ใช้เล่าเรื่องของจอมเวท เดอะพาเลซ และการันต์ ส่วนอีกพาร์นึงคือส่วนของเกาะเวสเตอร์ พูดถึงความหวาดกลัว comfort zone แล้วก็แสดงให้เห็นได้เป็นอย่างดี เกี่ยวกับการขาดคุณค่าความเป็นมนุษย์ไป โดยเรื่องราวพวกนี้ถูกวางอยู่บนฉากหลัง คือการสืบหาความจริงว่าใครคือวอลุม และกำจัดทิ้ง

แต่ที่ประเด็นแรกแม่งดันไม่สุด ก็เป็นผลพวงมาจากความแบนของวอลุม กูโอเคกับความลึกลับของการันต์นะ แล้วมึงก็ให้เวลารู้จักกับตัวละคร รู้จักกับสถานที่ แล้วก็ใช้เวลาน้อยไปหน่อยกับการปั่นหัวคนอ่าน คือนิยายมึงมีเวลาเล่าน้อยอ่ะ แล้วไอ้ข้อเสียข้อนี้ก็พ่วงกันหมด

ประเด็นที่สองก็ถูกฉุดไว้ด้วยเหตุผลเดียวกันส่วนนึง มึงคิดถูกแล้วที่เสนอเรื่องผ่านชาลี แต่ก็ไม่ยอมเอา perspective ลงมาเกาะมันแน่น ๆ มันเลยดูลอย ๆ และรู้สึกว่าชาลีไม่ค่อยมีตื้นลึกหนาบางให้ค้นหา เกิดแต่คำถามว่า เอ้า แล้วทำไมมันต้องอย่างงั้นอย่างงี้วะ ตอนท้ายสุดที่เกิด progression ก็เกิดแบบงงๆ ไม่โน้มน้าวว่ะ

เนื้อเรื่องมึงก็เดาง่ายมาก ไม่พอมึงยังเฉลยไอ้วอลุมในจังหวะที่กูแบบ เดี๋ยว มึงเอาตอนนี้จริงเหรอ แม่งคือ WTF moment อีกอันนึงที่ฟัคสัส ๆ ก็คือ ไอ้เหี้ยไซมอนมึงจะร้อนตัวทำมะเขือแมวอะไร แล้วมึงอยู่นี่มา 15 ปี ไม่ได้ฆ่าใครตายแบบโจ่งแจ้งจริง ๆ สักคน เพื่อหลบให้พ้นสายตาเดอะพาเลซ แต่จู่ ๆ มึงก็คิดจะฆ่าไอ้เหี้ยชาลีปิดปากเนี่ยนะ omg

ที่ทั้งรู้สึกดี และรู้สึกแย่คือบทสนทนาในเรื่อง มีหลาย ๆ คำ หลาย ๆ อย่างที่กูชอบ แต่บทสนทนามึงแข็งทื่อและปลอมมาก มันอ่านแล้วรู้สึกไม่จริง คนจริงไม่พูดกันแบบนี้ ดูแล้วรู้ว่ามึงยังใหม่ กูเองก็ยังไม่ได้กดไปดูตอนหลัง ๆ ว่าพัฒนามั้ย แต่แม่งเป็นส่วนที่น่าเสียดายมาก ถ้ามึงบรรยายไม่ดี เล่าเรื่องไม่ดี อย่างน้อย ๆ สำหรับกู บทสนทนาแม่งก็เป็นอะไรที่น่าฝากความหวังว่าจะช่วยยกระดับนิยายขึ้นมาได้ แต่ตรงนี้ก็มาได้แค่ครึ่งทางเหมือนเดิม

พาร์ทนี้ 2 จาก 4 แล้วกัน

เอาเป็นว่าเรื่องนี้ (Colourless เรื่อง เกาะ) ได้ 6 จากทั้งหมด 10 คะแนนแล้วกัน อันที่จริงส่วนตัวกูรู้สึกดีกับเรื่องนี้จนอยากให้ 7 นะ แต่ก็ว่ากันไปตามคะแนน นิยายเรื่องนี้แม่งมีองค์ประกอบที่พร้อมจะดีหลายอย่าง แต่ดันไม่สุดสักทาง แม่งโคตรน่าเศร้า แต่เป็นกำลังใจให้นะ อาจจะได้วิจารณ์ตอนต่อไป

"6/10 กลับไม่ได้ ไปไม่ถึง ไม่สดใหม่ แต่ค่อนข้างชอบ"

ตามนี้แหละ เดี๋ยวกูอ่านต่อ ขอผ่านไฟนอลนี้ก่อน 55555

636 Nameless Fanboi Posted ID:+aWTRUi6w

>>635 มึงให้ซะ 6/10 แต่ทำไมกูรู้สึกว่าที่มึงร่ายยาวมาเนี่ย มันมีข้อเสียมากกว่าข้อดีวะ 555

637 Nameless Fanboi Posted ID:JHgC9wcyT

>>635 ทำดีมากมึง เยี่ยม ๆ

638 Nameless Fanboi Posted ID:mqOo4P0.p

>>636 กูว่ากูก็หักเท่าที่ควรหักอ่ะ กูก็แจงคะแนนให้ หัวข้อนึวดต็มสองคะแนน ยกเว้น content ที่เต็ม 4 บรรยายเต็ม 2 กูก็หัก 1 เหตุผลก็บอกไปแล้ว เรื่องภาษา พวกความถูกต้อง กูหัก 0.5 เพร่ะมีคำผิด คำตู่ คำตก แต่ไม่ได้เยอะจนอับปรีย์ เซ็ตติ้งกูชอบ กูก็ให้ 1 ตัวละครแม่งแบน ๆ แต่ก็มีข้อดี กูก็ให้ 0.5 รวมกันได้ 1.5 เต็ม 2 ส่วน content แม่งก็แบบ มึงพร้อมจะดี แต่มึงก็เก้ ๆ กัง ๆ กูก็ให้ครึ่งเดียว ได้ 2 เต็ม 4 รวมกันได้ 6/10 นี่มันแปลกเหรอวะ คือกูไม่อยากกดโดยใช่เหตุอ่ะ จะตัด จะอะไรก็ตามเหตุตามผล

639 Nameless Fanboi Posted ID:7mtYORdRN

สงสัย นิยายไม่สุดสักทางคือการจับฉ่ายใช่มั้ย ถ้านิยายที่ดีต้องเด่นสุดสักอย่างใช่มั้ย

640 Nameless Fanboi Posted ID:6hFiSstIq

>>639 ไม่เกี่ยว ตอบสั้นๆแค่นี้

641 Nameless Fanboi Posted ID:PXBrvIPip

>>639 นิยามของจับฉ่ายก็คือแบบนั้นล่ะ
แต่สำหรับนิยายกุว่าน่าจะเรียกว่า "หลากรส" มากกว่า
เหมือนมึงเข้าร้านก๋วยเตี๋ยว แล้วจานแรกเขาเสิร์ฟชิ้นเนื้อน้ำใส จานสองส่งน้ำตกหมู จานสามเป็นเย็นตาโฟอะไรทำนองนี้
แต่บางทีถ้ายัดรวมกันมาในคราวเดียวมันจะกลายเป็น ยามินาเบะ

642 Nameless Fanboi Posted ID:D/LzkfJ+9

กูคนเดียวเปล่าวะที่อ่านไปแล้วเห็นภาพไอ้การันต์เป็นคิริซึงุ

643 Nameless Fanboi Posted ID:7mtYORdRN

>>641 แล้วที่คนสับบอกว่าไปไม่สุดทางสักอย่าง เป็นข้อด้อยของนิยายรึเปล่า

644 Nameless Fanboi Posted ID:dctsPPNVn

>>643 มันอยู่ที่ว่าจะผสมลงตัวแค่ไหน คิดซะว่าเป็นการทำอาหารละกัน เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด มันมีรสเด่น รสเสริม รสลับ ถ้าทำดีๆ ต่อให้ไม่สุดซักทางก็อร่อยได้ แต่ปรกติเขาจะชูราหนึ่งให้เด่นที่สุด แล้วให้รสที่เหลือคอยเสริม

ตัวอย่างนะ นิยายรัก ความรักต้องเด่น เรื่องอื่นมีหน้าที่ทำให้ความรักเด่นขึ้นมา นิยาย Sci-Fi แนวคิดต้องเด่น คำถามต้องคม ต่อให้มีเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ก็เป็นเพียงส่วนเดินเรื่อง ไม่ใช่ประเด็นหลัก

ประมาณนี้ละ

645 Nameless Fanboi Posted ID:rB8IB1ByO

>>643 กูคนสับเอง กูบอกว่า 'มันทำไม่ถึง' ในเรื่องที่มันเสนอขึ้นมาต่างหาก แต่ถ้าถามว่าไปไสุดสักทางเป็นข้อเสียมั้ย กูว่าไม่นะ มันอยู่ที่ความลงตัว ความกลมกล่อม ความเป็นเอกภาพของเนื้อหามากกว่ามั้ง ถ้าสุดแล้วมันลงล็อคก็ออกมาดี ถ้าสุดแล้วมันแปลก ๆ ก็ออกมาไม่ดี ถ้าไม่สุดแล้วลงล็อค ก็ออกมาดี ถ้าไม่สุดแล้วยังโหวง ๆ เหวง ๆ ก็ออกไม่ดี

646 Nameless Fanboi Posted ID:7mtYORdRN

>>644 >>645 เริ่มเข้าใจล่ะ

647 Nameless Fanboi Posted ID:zkYf5gDo2

มาสับล่ะตามสัญญา เรื่อง ลำนำรักภูตราตรี
https://writer.dek-d.com/astrum/story/view.php?id=1702623
จำนวนตอน32 เปิดให้อ่านฟรี15 ซึ่งกูจะสับถึงแค่นั้น
แนวรักแฟนตาซี
เกริ่นนำกันสักนิด นางเอกคือมือสังหาร ที่ถูกเรียกว่าภูตราตรี เป้าหมายคือแก้แค้นให้พ่อที่ถูกพวกขุนนางชั่วรุมใส่ร้ายและฆ่ายกครัว แต่นางเอก
รอดมาได้ มีแค่นี้แหละ
เปิดมาที่บทนำ ภูตราตรีก็ฆ่าคนเลย บั่นคอขุนนางชั่วด้วยดาบจันทร์เสี้ยวทีเดียวขาดกระเด็น ก่อนฆ่าก็มีบทสนทนาเล็กน้อยที่ทำให้กูรู้สึกว่านางเอก
แม่งเท่ดี เสร็จแล้วก็หายลับไปพร้อมพายุทรายที่เกิดขึ้นกลางห้องสำหรับกูแล้ว ถือว่าเปิดเรื่องได้ดีเลยตื่นเต้น ส่วนตัวกูชอบนางเอกสไตล์นี้นะ
ถ้าไม่รวมนิยายรักหวานแหววทั่วไปที่กูไม่อ่าน หลัก ๆ แล้วกูจะอ่านสองแนวคือรักแฟนตาซี กับแฟนตาซี ก็กูจะเจอคาแร็กเตอร์นางเอกประมาณนี้
(กูพูดถึงกรณีนักเขียนเป็นผู้หญิงนะ) นางเอกจะบ้า ๆ บอ ๆ ติงต๊อง บางเรื่องก็เกินพอดีจนใกล้เคียงปัญญาอ่อน หรือไม่ก็ ตลกโปกฮา ไม่ค่อยดูสถานการณ์ รั่ว ๆ(ไม่)หน่อย จะมีน้อยนะที่ออกแนวขรึม ลึกลับ น่าค้นหา หรือนางเอกที่อมทุกข์ ซึ่งประเภทหลังนี้กูแทบไม่พบ
พอมาเจอเรื่องนี้ อื้มม...นางเอกถูกใจกูว่ะ บวกกับนักเขียนแม่งก็ดังพอตัว (แก๊งค์เดียวกับคนแต่งตุ๊ดทะลุมิติ แต่กูไม่แน่ใจว่า ใช่คนเดียวกันไหม
เพราะนามปากกาแม่งเหมือนมีหลายคน) กูเลยค่อนข้างคาดหวังว่า นิยายเรื่องนี้จะตอบสนองกูได้ ในช่วงที่กูขาดแคลนนิยายอ่านเข้าขั้นหนัก
เพราะทั้งหมวดเต็มไปด้วยนางร้าย ซึ่งกูไม่ชอบอ่านเท่าไหร่ (โดยเฉพาะเรื่องที่น้องโม่งมารีสับ (ขอเรียกน้อง กูแก่กว่าเยอะแน่นอน) แนวนั้นแหละ
ที่กูอยากหลีกหนี)
อ่ะ ๆ กลับมาที่นิยายกูก็เปิดอ่านบทต่อไป ตอนนี้จะเปิดมาด้วยInfo dump แบบเบา ๆ ว่าด้วยเรื่องอณาจักรโทมาฮัต บลา ๆ ห้าย่อหน้า เสร็จแล้ว
ก็จะตบเข้าด้วยเรื่องจอมเวท มีการแบ่งลำดับขั้นเล็กน้อยแบบที่เหมือนในนิยายแฟนตาซี เสร็จแล้วก็จะเปิดตัวตัวละครใหม่ชื่อ 'ฟาเซล'
(กูจะขอเรียกมันว่า 'เฟล' เพราะมันทำกูเฟล ทั้งเรื่องกูขัดใจอีนี่สุดล่ะ ยังไงเดี๋ยวมาดู) อีเฟลเป็นศิษย์เอกและเป็นหลานรักของจอมเวทบาดีนผู้ก่อตั้งสำนักฝึกหัดจอมเวทของเมือง แต่ไม่ใช่หลานแท้ ๆ เป็นเด็กที่ได้รับอุปการะมา ซึ่งอีเฟลกำลังฝึกใช้เวทขั้นสูงที่ชายป่าหลังวิหารศักดิ์สิทธิ์ คืออีนี่มันจะมีปัญหากับเวทธาตุ พวกดินน้ำลมไฟ เพราะมันคือเวทขั้นสูง เรียกทีไรไม่พลาดก็ได้ของแถมตลอด แล้วก็มีการเปิดตัวละครอีกตัวก็คือนักบวชชื่อเลฟิน ไอ้นี่มันจับกระแสพลังเวทรุนแรงได้ ก็รู้เลยว่าอีเฟลมันกำลังร่ายเวท พอไปก็ได้เจอของแถมอีเฟลฝึกเวทวายุแต่ได้ของแถมเป็นฝน ไอ้นี่ก็เปียกไม่ตามระเบียบ แต่ก็ไม่โกรธหรอกเพื่อนกัน ไอ้นักบวชมันก็นึกเป็นห่วงอีเฟลว่าเป็นมีพลังเวทสูง แต่ควบคุมไม่ได้ โดยเฉพาะธาตุทั้งสี่ เรียกไฟได้สายฟ้า เรียกพายุแถมฝน เรียกฝนได้แผ่นดินไหว (แต่มันเป็นศิษย์เอกของจอมเวทบาดีนนะ) อ่ะ...แต่ตรงนี้คำว่าศิษย์เอก ยังไม่ทำให้กูรู้สึกย้อนแย้งเท่าไหร่ เดี๋ยวค่อยมาดูต่อไป จบตอนไปที่ไอ้นักบวชนี่ไปส่งอีเฟลกลับคฤหาสน์ของจอมเวทบาดีนซึ่งเป็นที่ซุกหัวนอน ระหว่างทางได้ยินพวกชาว
บ้านพูดถึงภูตราตรี อีเฟลมันก็เดินเร็ว ๆ ไม่อยากฟัง สรุปมันสามคน ภูตราตรี อีเฟล และไอ้นักบวชแม่งรู้จักกัน
(มีต่อ)

648 Nameless Fanboi Posted ID:zkYf5gDo2

>>647 เปิดตอนต่อไปมาที่ภูตราตรีมาหาอีเฟล สรุปมันเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน หน้าตาเหมือนกันเปี๊ยบไม่แตกต่างกระทั่งสีผมสีตา ตรงนี้จะได้รู้แล้วว่าภูต
ราตรี(นางเอก)ชื่อเฟเนส ตัดภาพมาที่เปิดตัวละครตัวใหม่ เป็นพระราชาของโทมาฮัต ชื่อ'ฮาซาเรล อาเรส' ด้วยการอวยหูดับตับไหม้ (เรื่องนี้สำหรับ
กูมีข้อเสียอยู่ที่การอวยตัวละครมากจนเกินไป เรื่องอวยหน้าตานี่กูไม่นับนะ กูมองว่าเป็นปกติของนิยายโดยเฉพาะนิยายรัก ที่เน้นหญิงสวยชาย
หล่อ แต่เรื่องนี้มันเยอะมาก จนแมรี่ซูเป็นบางตัว บางจุดก็หลับหูหลับตาอวย ค้านเหตุผล อ่ะเดี๋ยวกูค่อยยกตัวอย่าง) ซึ่งองค์ฮาซาเรล อาเรส
(กูจะเรียกมันว่า ฮา ละกัน ชื่อแม่งยาวฉิบหาย)ก็โคตรจะแกรี่สตู ที่ครบเครื่องทั้งหน้าตาหล่อเหลา มีพระปรีชาสามารถ ปกครองทั้งอาณาจักรให้
สงบเรียบร้อย ทั้งที่ครองราชย์มาได้แค่เก้าปี มีไหวพริบสติปัญญาเป็นเลิศ "เรียกได้ว่าหาคุณสมบัติมาสรรเสริญเยินยอได้เป็นวัน ๆ ทีเดียว" ตรง
เครื่องหมายคำพูดนี่คือกูยกประโยคที่นักเขียนเขียนไว้มาเลย จบจากการอวยสุดพลังก็เป็นมุมมองของพระพี่เลี้ยงซึ่งเป็นผู้ชาย ถึงมันจะเป็นตัว
ประกอบที่ไม่รู้กระทั่งอายุเท่าไหร่แต่กูชอบมันว่ะ ไอ้นี่แม่งฮา ซึ่งไอ้นี่ก็ต้องคอยปวดหัวเพราะไอ้ฮาแม่งชอบหนีเที่ยว เป็นกษัตริย์ที่เก่งเรื่องหนี
เที่ยวเป็นที่สุด ชนิดที่ว่าวางเวรยามไว้แน่นหนาแค่ไหนก็หลุดรอดออกไปได้ เพราะไอ้ฮามันสามารถพาตัวเองไปไหนมาได้ตามใจนึก ไร้ร่องรอย
(ตรงนี้กูรอลุ้นอยู่ว่าความสามารถแม่งคืออะไร) สรุปแหวนที่มือขวาของมัน มีพรายปีศาจอาศัยอยู่ ชื่อว่า ออร์ปิคิว สามารถพาไปที่ไหนก็ได้ตามคำ
สั่งพอกับประตูวิเศษของโดเรม่อน แล้วไอ้ฮานี่มันอ่านฎีกาก็เลยรู้ว่าา ภูตราตรีออกอาละวาด ฆ่าไป7ศพแล้ว เลยเกิดนึกสนุกขึ้นมา อย่างออกไป
จับภูตราตรีด้วยตัวเอง

ตอนที่3 เปิดมาที่เรียกราชองค์รักษ์คนสนิทชื่อไคมอสให้เข้าเฝ้า(ไอ้นี่ก็เป็นตลค.หลัก) แล้วชวนให้ออกไปล่าโจรป่าที่กำลังออกอาละวาดด้วยกัน (ไม่ใช่ภูตราตรีนะ) ไอ้ฮาก็เรียก
พรายในแหวนออกมา แล้วบอกจุดหมายว่าไปหุบเขาทางใต้ แล้วไอ้พรายนี่แม่งก็โคตรจะรู้ดี พริบตาเดียวส่งไปอยู่แม่งกลางวงล้อมของกลุ่มโจร
ไอ้ฮากับองค์รักษ์ก็ไม่หยี่ระ จัดการโจรครึ่งร้อยด้วยดาบคนละเล่ม แล้วก็มีการอวยแบบเบา ๆ อีกว่า เหงื่อโทรมกาย แต่ก็น่านับถือมากที่ว่า เลือด
สักหยดก็ไม่กระเด็นถูกฉลองพระองค์ของไอ้ฮา (กูบอกแล้วมันเก่งครบเครื่อง เอาจริง ๆ แล้วกูก็รำคาญไอ้นี่พอกับอีเฟลเลย) ในขณะที่ราชองค์รักษ์
มันถอดเสื้อคลุมตัวนอกทิ้ง เพราะเลือดกระเด็นไปเปื้อน สรุปไอ้ฮามันเก่งกว่าราชองค์รักษ์? (ก่อนหน้านี้ก็มีการอวยไปแล้วว่า เวรยามหน้าห้องไอ้
ฮาซึ่งเป็นราชานี่หละหลวมมาก เพราะไม่มีใครกล้าคิดก่อการกบฏ ประมาณว่าเกรงกลัวฝีมือ(อื้อหือ)) เสร็จแล้วไอ้ฮามันก็เรียกพรายออกมาอีก
ชวนพรายไปแดรกเหล้า พรายแม่งก็พามาส่งหน้าร้านเหล้าร้านโปรด (มีไอ้พรายนี่แม่งโคตรสะดวก) ซึ่งกูก็จับตาดูนะ ว่าไอ้พรายนี่มันจะทำอะไร
ได้มาก ถ้ามันเป็นประตูวิเศษไปไหนก็ได้อย่างเดียว กูก็โอเคนะพอรับได้ แต่ถ้าแม่งครบเครื่องพอกับไอ้ฮาอีก ก็เพลียไปตามระเบียบ) แดกเหล้า
อยู่สักพัก คนแม่งก็โวยวายว่าภูตราตรีซัดเหยื่อคนที่8ไปแล้ว ไอ้ฮากับไคมอสก็ไปดู ก็เจอแต่ศพ แล้วไอ้ฮาแม่งก็สังเกตเห็นเส้นผมสีดำ หนึ่งเส้นติด
อยู่ที่ศพ เป็นเส้นผมลงอาคม ที่นักฆ่าจะใช้ติดไว้ที่เหยื่อ แล้วผมกับอาวุธของนักฆ่าจะส่งสัญญาณหากัน พอหลับตาทำสมาธิจะคว้างอาวุธมาโดน
เป้าหมายได้ไม่มีพลาด ซึ่งไอ้ฮามันก็โชว์เทพบอกไคมอสว่า ภูตราตรีต้องเป็นผู้หญิง เพราะผมเส้นนี้ยาวแถมดำขลับ แถมมีกลิ่นดอกไม้หอมกรุ่น ๆ
(ผมเส้นเดียวที่ติดอยู่กับศพ?) แล้วไอ้ฮามันก็ชวนไคมอสกลับวังบอกคืนนี้หมดสนุกแล้ว มันจับภูตราตรีไม่ได้ พอคล้อยหลังไอ้สองคนนี้ ภาพก็
ตัดมาที่นางเอก ซึ่งยืนมองความตายของคนชั่วที่ตัวเองส่งไปลงนรกด้วยความพอใจ
(มีต่อ)

649 Nameless Fanboi Posted ID:zkYf5gDo2

>>648 ตัดภาพมาที่อีกวัน ไอ้ฮาต้องไปทำพิธีสักการะเทพเจ้าที่วิหาร ซึ่งมันก็แอบแว่บไปนอนที่ชายป่าหลังวิหารให้ข้าราชบริพารตามหากันให้วุ่น อา...
เลือกที่นอนได้ดี มันเลยเจอสายฟ้าผ่าลงมาเฉียดจากจุดที่มันนอนอยู่แค่นิดเดียว พวกมึงเดาออกใช่ไหมใคร เป็นการพบกันของไอ้ฮากับอีเฟล ซึ่ง
ตอนแรกไอ้ฮามันนึกโมโหเพราะคิดว่ามีใครส่งจอมเวทมาลอบปลงพระชนม์ แต่พอเจออีเฟล ความโกรธมลายหายไปพลัน เพราะความสวยนั่นเอง
เขาก็บรรยายไปว่า ในสายตาไอ้ฮา อีเฟลคือโฉมงามชวนตะลึงที่สุดตั้งแต่ที่เคยพบ ซึ่งในฐานะที่กูชอบอ่านนิยายรัก กูไม่ค่อยประทับใจกับตัวละคร
ที่ปิ๊งกันแบบนี้เท่าไหร่ ไม่ใช่ไม่อินกับรักแรกพบนะ แต่คือก่อนหน้านี้นักเขียนบรรยายไว้ว่า ไอ้ฮามันเบื่อผู้หญิง อายุป่านนี้(22)ยังไม่มีกระทั่งสนม
หรือนางเล็ก ๆ ไว้ปรนนิบัติพัดวี เพราะเห็นท่านพ่อมีสนมเยอะ ซึ่งผู้หญิงพวกนั้นก็ไม่มีใครรักท่านพ่อของมันด้วยใจ มีแต่หวังสบายทั้งนั้น มันก็เลย
ไม่หวั่นไหวกับผู้หญิง พี่เลี้ยงมันก็พยายามสรรหาภาพวาดหญิงงาม พวกเจ้าหญิงมาให้มันเลือกดู มันก็ไม่สน โยนทิ้งหมด (แล้วไอ้ตัวละครแบบนี้
แม่งดันมาตกหลุมรักง่าย ๆ เพราะความสวย โอเคแหละอีเฟลมันสวยมากชวนตะลึงก็จริง แต่มึงก็โปรยไว้ซะเหมือนหัวใจแม่งปิดตายแบบนั้น กูเลยไม่อินกับอะไรแบบนี้) กลับมาต่อนะ แล้วไอ้ฮากับอีเฟลมันก็เลยได้ทำความรู้จักกัน แต่ตามฟอร์มไอ้ฮามันต้องไม่เปิดเผยตัวว่ามันคือราชา มันก็นึกชื่นชมความสวยและเก่งของอีเฟลว่า ถึงแม้จะร่ายเวทผิดพลาด แต่เป็นผู้หญิงแถมยังอายุแค่นี้แล้วใช้เวทได้ นับว่าไม่ธรรมดา สุดท้ายไอ้นักบวชเพื่อนอีเฟลก็เดินมาสมทบกำลังจะถวายบังคับ ไอ้ฮามันก็รีบหยุดไว้ เพราะอยากปกปิดสถานะ แล้วตรงนี้ไอ้นักบวชมันก็คิดว่า อีเฟลมันช่างไม่รู้อะไรเอาซะเลยว่าคนที่คุยด้วยคือราชา ไอ้ฮามันแนะนำตัวเองว่าชื่ออาเรส ซึ่งเป็นนามสกุลมัน ใคร ๆ ก็รู้ว่ากษัตริย์นามสกุลอะไร (แต่อีเฟลไม่รู้?) แถมยังแต่งกายแบบกษัตริย์อีกต่างหาก (แต่อีเฟลมันก็ยังไม่รู้อีก??) กูก็เลยคิดต่อจากไอ้นักบวชให้ว่า อีเฟลนี่แม่งโง่ชิบหาย กูเข้าใจคาแร็กเตอร์อีเฟลมันนะว่ามันจะออกแนว สวยใส(ไร้สมอง)โก๊ะ ๆแล้วก็จะซื่อ ๆ (กูขอเติมบื้อให้มึงด้วย) ซึ่งกูก็จะดูนะว่า มันจะโง่ไปถึงเมื่อไหร่ จริง ๆ สาเหตุที่กูเฟลกับตัวละครตัวนี้ เพราะมันมีจุดย้อนแย้งและไม่มีเหตุผล ซึ่งตอนแรกกูก็ยังไม่นึกรำคาญอีนี่เท่าไหร่นะ กูรำคาญไอ้ฮามากกว่า แล้วพออ่านมาถึงตรงนี้ กูก็คิดได้เลยว่า อีเฟล
กับไอ้ฮามันคงต้องคู่กัน (โอ้ววว ล้น ๆ เว่อร์ ๆ ทั้งคู่ ดูสิมันจะออกมารูปไหน) เท่ากับว่าไอ้ฮาซึ่งโคตรแกรี่สตู หลุดจากการเป็นพระเอกไปแล้ว(รึเปล่า)

เดี๋ยวมาต่อพรุ่งนี้นะ กูง่วงล่ะ จะมีใครว่ากูเรียกเรตติ้งอีกไหมเนี่ย กูยิ่งขี้นอยด์ ขี้น้อยใจอยู่

650 Nameless Fanboi Posted ID:LHifYWBbd

>>649 ภูติราตรีคือนางเอก แต่เฟลของมึงเหมือนจะเป็นนางเอกเลยว่ะ รักสามเศร้า?

651 Nameless Fanboi Posted ID:uZr2JqO/a

>>650 อีเฟลนี่คือมันเด่นมาก ถ้ากูไม่เห็นชื่อเรื่องกูก็คงคิดว่ามันคือนางเอก
จะรักสามเศร้าไหม เดี๋ยวมาดู

652 Nameless Fanboi Posted ID:h.w+NEpxU

ผมเส้นเดียวแล้วดมกลิ่นได้ไงวะ ท่าทางคงแรงมาก 555

653 Nameless Fanboi Posted ID:b462NxnXx

กูลองอ่านภูติราตรีแล้วดูท่าจะโอเคนะ แต่เสียดายกูรู้สึกว่าบรรยายเป็นสำนวนจีน แต่ธีมมันเป็นแฟนตาซียุคกลาง กูรู้สึกว่ามันไม่เข้ากันว่ะ

654 Nameless Fanboi Posted ID:D+Ip/O.sq

กูขอแวะมาบ่นอีกรอบ เห็นในกรุ๊ปหานิยายอ่านแม่งร่ำร้องจะเอาพระเอกโกงๆ ชอบพระเอกเก่งๆ โกงๆ กันท่าเดียว มีคนมาด่านิยายหลายๆ เรื่องอยู่ประปรายว่าอย่าไปอ่าน เพราะกว่าพระเอกจะเก่งก็ฝึกวิชาไปครึ่งเรื่อง หรือไม่ก็บอกว่าพระเอกใจดี ช่วยเหลือคนอื่นอยู่นั่น

อีเหี้ย กูอ่านแล้วโคตรปวดใจ ไอ้นักอ่านพวกนี้แม่งอายุกี่ขวบกันวะ คือใจคอมึงจะให้พระเอกโผล่มาตอนแรกก็เก่งเลย แถมเก่งแล้วยังต้องเหี้ย ยังต้องเป็นคนฉลาดแกมโกง เป็นคนซาดิสม์ ฆ่าคนอย่างไม่ปรานี ใครขวางทางเจริญพ่อฆ่าหมด อีเหี้ยยยยยยยยยยยยย

ขออภัยที่นอกเรื่องนะ

655 Nameless Fanboi Posted ID:ZJPx2ga/a

>>654 พระเอกจีนสมัยนี้ไง มาแนวนี้ซะเยอะ Edgy Lord จนตลก

แต่จริงๆ พวกนี้ส่วนใหญ๋เป็นพระเอกนิยายเกรด B นะ พวกนิยายเกรด A จะเป็นอีกแบบ อย่างน้อยก็มีความเป็นมนุษย์มากกว่า

656 Nameless Fanboi Posted ID:ppcHcAxtf

>>654 ถ้าได้ทำเป็นหนังเข้าฉายเมืองไทย แม่งคนดูน้อยแหง

657 Nameless Fanboi Posted ID:Pf4K2qmdR

>>654 วัยเห่อหมอ* อายุน้อย ชอบอ่านนิยายวอนนาบีดาร์ค ไม่ว่าจะห่วยขนาดไหนก็ตาม แบบเรื่องกาน เจเนซิล ในตำนาน เหี้ยมากๆ (ชม)

658 Nameless Fanboi Posted ID:h2mhzHtOm

>>653 กูคนสับนะ จริง ๆ เรื่องนี้ดีเลย สนุก แต่เห็นด้วยเรื่องสำนวนจีนที่หลุดมาเป็นระยะ ทำให้ไม่เข้ากับเรื่อง ทีแรกกูก็จะไม่สับแม่งหรอก ไม่รู้จะสับอะไรมันดี แต่ความไม่ค่อยสมเหตุสมผล เบียว ๆ เบี้ยว ของตลค.ก็ทำให้กูคันไม้คันมือขึ้นมา
>>652 ติดอยู่กับศพด้วยนะ แทนที่จะเหม็น เสือกหอม
>>654 กูคนนึงไม่ชอบ ตลค. ที่แม่งเพอร์เฟคเว่อร์ ๆ เกินไป เจอพวกร่ำร้องหาพระเอกแบบที่มึงว่านี่ก็คงรู้สึก เห้อ...
เดี๋ยวจะรีบมาต่อให้นะ ชีวิตพนักงานออฟฟิตอย่างกู ก่อนวันหยุดต่อเนื่องนี่งานถล่มทับเลยทีเดียว (หลบเจ้านายมาพิมพ์)

659 Nameless Fanboi Posted ID:qivMtrXKb

>>654 พวกเด็ก Gen Z ก็งี้ล่ะ โตมากับความสะดวกสบาย เกิดมามีไอแพดไอโฟนใช้ มันเลยไม่รู้จักว่ากว่าจะได้อะไรมาซักอย่างต้องลำบากขนาดไหน

660 Nameless Fanboi Posted ID:4XJiR40OO

เด็กชอบอ่านแต่ใช่ว่าพวกมันจะซื้อนะ ตั้งขายทีด่ากันใหญ่ แล้วก็ไปหาเรื่องอื่นแนวเดียวกันอ่านแทน

661 Nameless Fanboi Posted ID:Lp.+dSW/a

>>659 คงอารมณ์เดียวกับลูกหลานชนชั้นขุนนางที่ไม่รู้ว่า กว่าจะได้ชีวิตหรูหราสะดวกสบายตั้งแต่เกิด บรรพบุรุษตัวเองเคยลำบากลำบนแค่ไหน

662 Nameless Fanboi Posted ID:h2mhzHtOm

>>649 มาต่อ ๆ
เปิดมาที่ตอนต่อไป ตัดภาพมาที่ในวัง ไอ้ฮากำลังจะไปประชุมกับพวกขุนนาง มันเดินผ่านสวนแล้วก็เห็นอีเฟลวิ่งเล่นไล่จับกับผีเสื้อ ทีแรกมันไม่กล้าทักเพราะนึกว่าฝัน จนอีเฟลหันมาเห็นมันเลยเดินมาหาจากนั้นก็ตะครุบกบโชว์ โก๊ะได้ใจ พอคุยกันก็เลยได้รู้ว่า อีเฟลมันอยากเป็นจอมเวทประจำราชสำนัก สักพักองค์รักษ์ไคมอสก็เดินเข้ามาไอ้ฮาก็รีบหันไปสั่งว่าห้ามเปิดเผยตัวตนมันเด็ดขาด หันกลับมาอีกทีอีเฟลชิ่งไปแล้ว เพราะนางเอกซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องสาวฝาแฝดของมันเคยสั่งไว้ว่า ห้ามให้ไคมอสเห็นหน้าเด็ดขาด จนกว่าภูตราตรีจะแก้แค้นสำเร็จ มันเลยให้ฝากคนบอกอาจารย์ว่ามันขอตัวกลับก่อน ซึ่งจอมเวทบาดีนก็คงไม่ว่าอะไรเพราะหน้าที่มันไม่ได้สำคัญอยู่แล้ว แค่ตามมาส่งเข้าประชุมแล้วนั่งกินขนมรอ ซึ่งมันค้านกับข้อมูลก่อนหน้าที่ว่า ที่ผ่าน ๆ มาอาจารย์อีเฟลไม่ค่อยปล่อยให้มันไปข้างนอก เพราะมันหน้าเหมือนนางเอก เลยกลัวพวกคนชั่วจะรู้ว่านางเอกยังมีชีวิตอยู่ (แล้วหนีบมันมาด้วยเพื่อ?? เข้าวังนี่โอกาสเจอพวกขุนนางเพียบเลยนะ หน้าที่ก็ไม่ได้สำคัญอะไรเลย คนเขียนจะหาเหตุให้มันมาเจอกัน ก็ช่วยอย่าให้มันขัด ๆ งี้ดิวะ)
ตัดกลับมาที่สำนักเวท เด็ก ๆ ที่เป็นนักเวทฝึกหัดกำลังเตรียมลูกโป่งสำหรับงานเทศกาลที่จะมาถึงอยู่ ซึ่งตรงนี้อีเฟลก็ได้โชว์เทพด้วยการบรรยายกระจึ๋งนึงว่า พวกเด็ก ๆ ร่ายมนต์ใส่ลูกโป่งได้ทีละลูก แต่อีเฟลได้ทีเดียวพันลูก ไม่ถึงห้านาทีงานก็เสร็จ (อื้อหือ ค่อยสมเป็นศิษย์เอกจอมเวทบาดีนขึ้นมาหน่อยล่ะ) แล้วภาพก็ตัดมาที่นักบวชเพื่อนอีเฟล ไอ้นี่ก็เป็นตัวละครหลักนะ แต่บทมันยังจืดจางอยู่ ตรงนี้มีการเปิดเผยว่า จริง ๆ แล้วไอ้นักบวชเลฟินนี่มันคือปีศาจ มันจะกลายเป็นปีศาจปีละครั้ง ในคืนจันทร์เต็มตอนช่วงเทศกาล ซึ่งมันก็กังวลมากว่าตัวมันที่ขาดสติจะไปทำร้ายใครเข้า ที่จริงมันตาสีเหลืองซึ่งเป็นสีของปีศาจแต่คนอื่นจะมองสีตาของมันเป็นสีเทา เพราะอาจารย์มันช่วยใช้มนต์พรางตาไว้ ซึ่งอีเฟลมองเห็นสีตาที่แท้จริงของมันได้ แต่ก็ไม่ได้เหี้ยอะไรมากไปกว่านั้นเลย ทั้งที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ในขณะที่นางเอก ซึ่งมาอยู่ที่นี่ด้วยกันแค่5ปีกลับรู้ (กูลืมบอกไปว่านางเอกกับอีเฟลมันเป็นแฝดกันก็จริง แต่มันไม่รู้ตัวมาก่อนว่ามีพี่น้อง นางเอกอยู่กับครอบครัว จนโดนฆ่าตายยกบ้าน ส่วนอีเฟลอยู่กับจอมเวทบาดีนตั้งแต่ทารก มันมาเจอกันเอาก็ตอน8ขวบ เพราะจอมเวทนี่รับนางเอกมาเลี้ยงด้วย แล้วพอ13ขวบนางเอกมันก็แยกออกไปฝึกวิชานักฆ่า เพื่อล้างแค้น)
ตอนต่อไป
มหาอำมาตย์ฟิกมอสมาเข้าเฝ้าไอ้ฮากลางดึก มาขอร้องไอ้ฮาว่าให้ช่วยอภัยโทษให้ภูตราตรี ไอ้ฮามันก็งงดิ ก็เลยถามว่าทำไม ไอ้อำมาตย์นี่ก็เลยเล่าให้ฟังว่า ภูตราตรีมีศักดิ์เป็นหลานสาวของมัน แต่จริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่หลานสาวแท้ ๆ เป็นเด็กที่น้องสาวมันเอามาเลี้ยง (ตรงนี้ก็เป็นปมให้คิดต่อไปว่า ที่จริงพ่อแม่นางเอกมันเป็นใคร แล้วทำไมมันกับอีเฟลที่เป็นแฝดถึงแยกกันอยู่) แล้วอำมาตย์นี่มันก็บอกไอ้ฮาว่า พ่อนางเอกคือคนดี แต่ถูกใส่ร้ายโดยพวกขุนนางชั่ว โดยอาศัยช่องโหว่ของกฎที่ว่า หากมีขุนนางระดับสูงลงนามร่วมกันสิบห้าคน จะทำการตัดสินโทษได้เลย ก่อนกราบทูลราชา (กฎเหี้ยอะไรวะ?) สรุปว่าภูตราตรีไล่ฆ่าขุนนางตามลำดับรายชื่อ หนึ่งถึงสิบห้า ซึ่งตอนนี้โดนไปแปดแล้ว ไอ้ฮามันก็นึกขอบใจภูตราตรีที่ช่วยเก็บกวาดขุนนางชั่วให้ เพราะถ้าจะอาศัยกระบวนการทางกฎหมายเล่นงานคนพวกนี้ก็ยากเนื่องจากมีเส้นสาย กว่าจะฟ้องร้องหาหลักฐานได้ก็กินเวลานาน เพราะเหตุงี้สินะกรมเมืองจึงไม่จริงจังกับการตามจับภูตราตรีนัก (ซะงั้น) แล้วอำมาตย์ก็ขอร้องไอ้ฮาว่า นอกจากอภัยโทษแล้ว ช่วยคุ้มครองภูตราตรีที ช่วยหยุดอย่าให้ไปทำร้ายผู้บริสุทธิ์ เพราะตั้งแต่รายชื่อที่10ลงไปยกเว้น11กับ13 คือขุนนางดีที่ถูกบังคับ แต่ไอ้ฮาปฏิเสธบอกเรื่องอะไรต้องออกหน้าช่วยภูตราตรีขนาดนั้น (ซึ่งตรงนี้กูค่อยใจชื้นหน่อย คิดอยู่เหมือนกันว่าถ้ามันยอมตอบรับง่าย ๆ กูเลิกอ่านแม่มล่ะ555) แล้วอำมาตย์นี่ก็บอกว่าไอ้ฮาไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ มันก็เลยกระซิบบางอย่างให้ไอ้ฮาฟัง ไอ้ฮาฟังแล้วก็เลยยอมตอบตกลงช่วย แต่ออกหน้ามากก็ไม่ได้ เลยจะให้ไคมอส(องค์รักษ์)ไปจัดการเรื่องนี้แทน ซึ่งไคมอสก็เป็นลูกไอ้อำมาตย์นี่แหละ เลยเท่ากับว่า ไคมอสกับภูตราตรีเป็นญาติกัน (แต่ไม่แท้นะ) โดยก่อนจบตอน สติปัญญาที่เฉียบคมของไอ้ฮา ก็ถามอำมาตย์ทีเล่นทีจริงว่า ไม่ใช่เสด็จพ่อของมันจับมันหมั้นหมายไว้กับภูตราตรีรึ ซึ่งไอ้อำมาตย์นี่แม่งก็ตอบว่าใช่ (ตรงนี้กูก็เลยเดาว่า ชาติกำเนิดที่แท้จริงของภูตราตรีกับอีเฟลคงไม่แคล้วเจ้าหญิงเมืองใดเมืองหนึ่ง และแม่งต้องเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่มากด้วย)
จบไปก่อนกับตอนนี้ แต่สังเกตอะไรกันไหมพวกมึง? คนที่บทจืดจางยิ่งกว่านักบวชเลฟินซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวละครหลัก คือภูตราตรีนางเอกของเรื่อง แม่งเพิ่งออกมาแค่ไม่กี่ฉากเอง
มีต่อ

663 Nameless Fanboi Posted ID:Lp.+dSW/a

ตกลงใครเป็นนางเอกตัวจริง งงชิบ

664 Nameless Fanboi Posted ID:lwdIhLyr+

กูสงสัยว่านางเอกกับอีเฟลนี่คนเดียวกันรึเปล่าวะ เจอมาเยอะแล้วนะแบบแกล้งเอ๋อแต่ที่จริงแม่งแอบร้าย ขอให้กูเดาผิดทีเหอะ

665 Nameless Fanboi Posted ID:YH8DAQCr9

>>663 >>664 เฟเนส (ภูตราตรี) คือนางเอก คนละคนกัน แต่ที่กูเขียนแบบนั้นคือว่าแดกในความจืดจางของบทแม่ง และความโดดเด่นโคตร ๆ ของอีเฟล โทษทีเพื่อนโม่งที่ทำให้สับสน
มา ๆ ต่อ ๆ
เปิดมาที่บทนี้ ที่ทำให้กูรู้สึกหงุดหงิดมากที่สุด พูดถึงจอมเวทบาดีนที่ยุ่งอยู่กับการกางข่ายเวทชั้นสูงป้องกันอาณาจักรไม่ให้คนลักลอบเข้ามา (สิ่งที่จะได้อ่านต่อไปนี้ พวกมึงว่ามันแปลกๆไหม) นักเขียนบรรยายว่าคนนอกห้ามเข้า คนในก็ออกไม่ได้ จึงเหมือนการขังตัวเองไว้ แน่นอนว่าอาณาจักรอื่นไม่กล้าทำเพราะกลัวข้าศึกแฝงกายเข้ามา (มันจะแฝงยังไงอีก?) ทว่าโทมาฮัต(ชื่ออาณาจักรนี้)ต่างออกไป เพราะโทมาฮัตแห่งนี้ตั้งอยู่ในดินแดนต้องสาป หากใครเหยียบย่างเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต(จากใครวะ?) หรือคิดร้ายต่อบ้านเมือง จะถูกคำสาปปลิดชีวิตในทันที (เดี๋ยวนะ...ถ้าเป็นแบบนี้อยู่แล้วมึงจะยุ่งกางข่ายเวทกันเผื่อ?) แล้วก็บรรยายปิดท้ายว่า เพราะแบบนี้สิ่งที่โทมาฮัตต้องเผชิญมาตลอดหลายพันปีคือศึกใน คือศึกนอก สบม. เพราะอาณาจักรมึงโคตรวิเศษ มันเป็นการบอกเลยสินะว่า นิยายเรื่องนี้จะไม่มีการต่อสู้ระหว่างอาณาจักร ตอนที่อ่านมาถึงตรงนี้ทีแรกกูก็คิดนะว่า อำนาจเวทมนตร์ของนิยายเรื่องมันไร้ขอบเขต ไร้กฎเกณฑ์ยังไงไม่รู้
แล้วมันก็มีจุดที่ทำให้กูสงสัยอีก คือ เช้าก่อนสันเทศกาล ไอ้ฮาเขาส่งเสื้อผ้าเครื่องประดับมาให้อีเฟล ซึ่งอีนี่ก็ไม่อยากรับไว้เพราะราคาแพง เลยร่ายเวทใส่สิ่งของให้มันกลับไปหาคนส่ง อ่ะ...ระดับอีเฟลศิษย์เอกจอมเวทบาดีนทั้งคนพวกมึงคงเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นอกจากเสื้อผ้าไม่กลับไปแล้ว มันยังกระโจนใส่อีเฟลเหมือนซอมบี้มีชีวิต รุมทึ้งอีเฟลเผื่อให้อีเฟลใส่พวกมัน คนใช้เลยร้องให้คนช่วย ไอ้ฮาที่มาหาอีเฟลพอดีเลยเข้าไปช่วย ฟันขาดรุ่งริ่งไปหมด แต่เสื้อผ้าแม่งก็ยังแผลงฤทธิ์อยู่อีเฟลโมโหเลยกะจะเผาแมร่ม แล้วพวกมึงว่าสำเร็จไหม? คาแร็คเตอร์โก๊ะ ๆ แบบนี้จะพลาดได้ไง แม่งร่านคาถาเวทไฟอย่างดี ตู้ม! สายน้ำก็หลั่งไหลมา (เอาจริง ๆ นะพอมาถึงตรงนี้กูเริ่มคิดถึงขนาดว่ากูอาจตีความผิด ศิษย์เอกของเรื่องนี้แม่งอาจหมายถึงศิษย์รักก็ได้ แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นสิวะ...เดี๋ยวค่อยมาต่อประเด็นนี้) แล้วสุดท้ายไอ้ฮาก็เรียกพรายในแหวนมันออกมา เพื่อคลายมนต์ที่อีเฟลร่ายใส่เสื้อผ้า (ทำไมมึงไม่ทำงี้แต่แรกวะ) แล้วก็กูเลยได้รู้ว่า นอกจากไอ้พรายจะเป็นประตูวิเศษไปไหนก็ได้ แม่งยังเก่งกล้าสามารถพอที่จะคลายมนต์ของจอมเวทอย่างอีเฟลได้ โดยที่ตัวผู้ร่ายเองแม่งยังคิดไม่ได้เลยว่าควรคลายมนต์เอง เจริญ! อ่อ...กูขอเล่าย้อนนิดนึงว่า ก่อนหน้าที่อีเฟลมันจะร่ายมนต์ใส่เสื้อผ้า มันก็พยายามใช้ความคิดว่าไอ้ฮาคือใครกันแน่ ทำไมถึงแต่งตัวหรูหราเข้านอกออกในวังได้สบาย แถมยังเป็นแขกของหัวหน้านักบวชประจำวิหาร มันเลยคิดว่าไอ้ฮานี่น่าจะเป็นเชื้อพระวงค์ ซึ่งตรงนี้กูเกือบนึกชมมันว่าไอคิวกระเตื้องขึ้นบ้าง แต่คนเขียนแม่งเสือกขยี้ว่า อีเฟลมันลืมนึกไปว่าดวงตาสีทองอร่ามของไอ้ฮาคือคำตอบ เพราะสีทองคือสีของกษัตริย์ มีเพียงราชาที่แท้จริงเท่านั้นจึงจะมีตาสีนี้ ณ.จุด ๆ นี้กูถอยกลับไปยืนที่เดิม และขอด่าว่า อีเฟลมึงนี่แม่งโคตรโง่
(ยังมีต่อ) พิมพ์ตอนนั่งรถเมล์เวียนหัวฉิบหาย

666 Nameless Fanboi Posted ID:cqxu061Zo

>>665 เปิดตอนมาที่ไอ้ฮามันหนีเที่ยว ทีแรกมันตั้งใจจะไปหาอีเฟล แต่พรายแม่งแกล้ง พาวาร์ปไปหน้าร้านเหล้าแทน ไอ้ฮาก็ยุขึ้นแดกแม่งจนเมา แล้วก็มีเรื่องชกต่อย ซึ่งขนาดเมาแม่งเทพ คว่ำเขาหมดได้ทุกคน จนกระทั่งอีเฟลซึ่งเป็นเวรยามคอยเดินตรวจตราในเมืองคืนที่มีงานเทศกาลมาเจอเข้าเลยสลายวงด้วยการจับไอ้ฮาทุ่มทีเดียวจอด หงายลงนอนแช่น้ำพุในบ่อ (เอาจริง ๆ นะอีเฟล ไอ้ฮามันจัดการกับนักเลงเกือบทั้งกลุ่มได้แต่มาแพ้มึง กูแนะนำให้มึงเลิกฝึกเวทแล้วไปเรียนต่อสู้) เสร็จแล้วแม่งก็ไม่สนใจทิ้งไอ้ฮาไว้แบบนั้น สองชั่วโมงผ่านไปเดินวนกลับมาไอ้ฮาแม่งก็ยังอยู่ที่เดิม สุดท้ายพรายในแหวนมันนั่นแหละ ก็ไม่ต้องรอให้ใครสั่ง พาไอ้ฮาวาร์ปกลับวัง จังหวะนั้นองค์รักษ์ไคมอสมาพอดีอีเฟลมันก็เลยต้องรีบหลบ แล้วมันก็ไปเจอเด็กหลงกับแม่ยืนร้องไห้อยู่ มันนึกว่าน่าจะหนีไคมอสพ้นแล้วก็เลยแวะช่วยเด็ก ปรากฏหนีไม่พ้นไคมอสตามได้ มันก็เลยเลี่ยงไม่ได้ต้องช่วยกันตามหาแม่เด็ก เด็กแม่งก็ร้องไห้จะเอาตุ๊กตาซึ่งเป็นรางวัลจากร้านปาดาบ อีเฟลก็เลยได้โชว์เทพ ตรงนี้คนเขียนบรรยายว่า(กูลอกมาเลยนะ) 'ด้วยความสามารถอันเป็นเลิศของจอมเวทลำดับต้น ๆ แห่งราชอาณาจักร มีดสั้นทั้งห้าเล่มกระจัดกระจายไปอยู่บนช่องชนิดไม่ซ้ำสี ซึ่งบังเอิญว่าเป็นรางวัลพิเศษที่ค่ามากกว่าตุ๊กตาหลายเท่า' เจอตรงนี้เข้าไปช็อคแดรกเลยกู ตกลงแล้วอีเฟลนี่มันไม่ได้เป็นแค่ศิษย์เอกของจอมเวทบาดีนนะเว้ยเห้ย มันมีดีกรีเป็นถึงจอมเวทลำดับต้น ๆ แห่งอาณาจักร (ลองนึกย้อนผลงานที่ผ่านมาของมันดู) แถมแม่งยังปาดาบอย่างแม่น สรุปนี่มันจะเป็นแมรี่ซู คู่กับไอ้ฮาแกรี่สตูรึ!? แล้วไอ้เด็กเหี้ยที่หลงกับแม่ แม่งก็ไม่เอาตุ๊กตาที่อีเฟลได้ มันจะเอาอีกตัวซึ่งเป็นรองของรางวัลใหญ่ (เรื่องมากจริงไอ้เด็กเปรต เจอนางงามอย่างกูนี่ถูกตบหัวทิ่ม) แต่คราวนี้สกิลนางเอก(?)แม่งไม่ทำงานแล้วว่ะ เลยถึงคราวผู้ได้โชว์เทพบ้าง ไคมอสปาทีเดียวได้รางวัลเลย จบข่าว (ไอ้นี่ก็เป็นอีกตัวละครหลักนะ แต่ยังจืดจางอยู่) เสร็จแล้วก็เจอแม่เด็กเลยจบสักทีกับพาร์ทเด็กเปรต อีเฟลเลยคิดว่า เด็กก็ไปแล้วได้โอกาสชิ่ง เพราะไม่อยากอยู่นานให้อีกฝ่ายนึกระแคะระคายเรื่องหน้าตามันที่ไปคล้ายกับนางเอกได้ แต่แทนที่มันจะรีบไปเลย เสือกยกตุ๊กตาตัวเบิ้มในมือ(ตัวที่เด็กเปรตมันไม่เอา)ให้ไอ้ไคมอส (อ้าวอีนี่ สายอ้อยนี่หว่า) คือมึงทำแบบนี้แทนที่เขาจะไม่จดจำมึง กลายเป็นเขายิ่งจำใส่ใจเลยป่ะ แล้วถ้าเหตุผลที่มึงให้คือถือไปก็เกะกะ มึงก็แวะให้เด็กให้เล็กกลางทางก็ได้ จำเป็นต้องให้ผู้? เสร็จแล้วก็ได้เลยเหมือนกัน ไอ้ไคมอสก็รับไว้ ถึงจะรู้สึกอายที่ต้องเดินแบกตุ๊กตายักษ์กลับไปแต่มันก็ทิ้งไม่ลง แล้วไอ้ไคมอสมันก็คิดว่าอีเฟลหน้าเหมือนนางเอกมาก เพราะมันกับนางเอกตอนเด็กสนิทกัน แล้วแม่มันก็เคยซื้อกระจกอนาคตกาลมาส่องดูหน้าตาของมันกับนางเอกในอีกสิบปีต่อมา ซึ่งมันก็หน้าตาเหมือนตอนนี้เด๊ะ มันเลยคิดว่านางเอกก็ต้องเหมือนที่เคยเห็นในกระจก ซึ่งอีเฟลก็เหมือนนางเอกมาก มันเลยอดคิดไม่ได้ว่า อีเฟลกับนางเอกอาจเป็นคนเดียวกัน หรือต้องมีความเกี่ยวข้องกันแน่ (เป็นไงล่ะอีเฟลงามหน้าเลยไหมมึง อ้อยจนได้เรื่อง)
จบตอนไปที่งานอ้อยของอีเฟล ตอนหน้านางเอกกูมีบทล่ะ เย้ ๆ ๆ

667 Nameless Fanboi Posted ID:cqxu061Zo

>>666 เปิดตอนมาที่ไอ้ฮาไม่สบายเพราะแม่งไปเมานอนแช่น้ำ แล้วก็ละเมอเพ้อหาแม่ แค่นั้นแหละ ภาพก็ตัดมาที่หลังวิหาร ตอนนี้ไอ้นักบวชที่ชื่อเลฟินมันกลายร่างเป็นปีศาจ วินาทีที่มันกำลังจะฆ่าลูกกวางน้อยตัวนึง มันก็ดึงสติกลับมาได้ และรีบตะโกนให้กวางน้อยหนีไป แล้วมันก็นึกแปลกใจที่ตัวเองกลายร่างแล้วทั้ง ๆ ที่ยังไม่ถึงวันจันทร์เต็มดวง มันเริ่มวิตกว่าตัวมันจะสูญเสียความเป็นคน กลายเป็นปีศาจขาดสติทำร้ายคนเข้าสักวัน พอมันกลับมาโบสถ์ก็มาเจอกับนางเอกที่รออยู่ (นางเอกกูออกแล้ว ดีใจฉิบหาย) นางเอกแม่งก็เอายามาทำแผลให้ไอ้นักบวช เพราะรู้ว่าพอคืนร่างแล้วมักจะได้แผล ไอ้นักบวชก็เลยแนะนางเอกว่า เทศกาลทั้งทีออกไปเที่ยวกับอีเฟลสิ ใส่หน้ากากไปก็ได้ (ทำไมกูต้องสาธยายกระทั่งประโยคสนทนา เดี๋ยวมึงดูคำตอบนางเอกแล้วจำไว้นะ) นางเอกแม่งก็ปฏิเสธ แล้วบอกว่าตัวมันตายไปนานแล้ว ที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้คือปีศาจที่สิงร่างเฟเนส(ชื่อตัวนางเอกเอง)อยู่ แล้วจบประโยคไปแบบคูล ๆ ว่า ‘ปีศาจไม่เที่ยวเล่นหรอก’ (ถึงกูจะรู้สึกว่ามันพยายามให้ดูเท่ไปสักหน่อย แต่กูก็ยังโอเคอยู่นะ อย่างที่บอกกูเบื่อนางเอกปัญญาอ่อนกับตลกคาเฟ่แล้ว แนวอื่นมายังไงกูก็ชอบหมดแหละ) แล้วตรงนี้นักเขียนก็บรรยายความในใจว่า จริง ๆ แล้วไอ้เลฟินเนี่ยมันชอบนางเอก เพราะนางเอกเป็นคนใจดีอ่อนโยน นางเอกจะมาหามันทุกครั้งก่อนจะลงมือฆ่าคน เหมือนเอาความอ่อนแอมาฝากไว้ ก่อนจะกลายเป็นนักฆ่าไร้ความปรานี แล้วก็ตบท้ายด้วยการอวยซึ่งค้านกับความรู้สึกกูอย่างแรงว่า 'ใครจะรู้ว่าหัวใจของนักฆ่านางนี้บริสุทธิ์ยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก' (เดี๋ยว ๆ เดี๋ยวนะเลฟิน เดี๋ยวนะคนเขียน มึงจะอวยเหี้ยไรขนาดนั้น คนที่ตัดสินใจฆ่าคนได้ถึงจะล้างแค้นก็เหอะ หัวใจแม่งยังบริสุทธิ์กว่าสิ่งใดในโลกอีกเหรอวะ งั้นอย่างกูตบเด็ก เตะหมา นินทาเพื่อนนี่ไม่เป็นแองเจิ้ลเลยรึ?) แล้วความมาม่าก็เริ่มส่อเค้า ด้วยการเปิดเผยว่า เลฟินรักนางเอก แต่มันก็เจียมเนื้อเจียมตัวแหละ เพราะเป็นไปไม่ได้ แต่นางเอกรักไอ้ไคมอส! เอาล่ะเว้ยเห้ย พอกูอ่านถึงตรงนี้ก็บ๊ายบายไอ้ฮาแกรี่สตู มึงคงเป็นพระรองที่แท้ทรูแล้วล่ะ ก็คู่กะอีเฟลแมรี่ซูไปนะ ตอนนี้คนที่คาดว่าน่าจะเป็นพระเอกเลยกลายเป็นองค์รักษ์ไคมอส กับนักบวชเลฟิน

668 Nameless Fanboi Posted ID:cqxu061Zo

>>667 ตอนต่อไป
นางเอกกูยังมีบทอย่างต่อเนื่อง วันนี้ภูตราตรีเตรียมไปล่าเหยื่อรายที่เก้า แล้วมันก็ทำสำเร็จ ไอ้ขุนนางชั่วนี่มันก็คุกเข่าร้องขอชีวิตนางเอก แต่ความปรานีเดียวที่นางเอกให้ได้คือ ฟันทีเดียวคอขาด จะได้ไม่ทรมาน (โอ้ว ต้องงี้สิวะ) ฆ่าเสร็จก็เตรียมกลับ แต่เดินไปได้แค่ก้าวเดียวก็ถูกรั้งไว้ นางเอกหันมาปุ๊ปสบตาปิ๊งจำได้ทันที พี่ไคมอสนี่เอง นางเอกก็เล่นลิ้นนิดหน่อย บทสนทนายังคงความคูล ไอ้ไคมอสเลยบอกว่าได้รับพระบัญชาให้มาหยุดนางเอก แล้วมันก็พิจารณาว่านางเอกจะใช่คนน้องสาว(ไม่แท้)ของมันจริงไหม เพราะนางเอกปิดหน้าไว้ครึ่งนึง เห็นแค่ตา สุดท้ายนางเอกก็ใช้ผงฝุ่นหนีรอดไปได้
แล้วก็มาถึงคืนวันที่สี่ของงานเทศกาล ที่วัยรุ่นหนุ่มสาวรอคอย คืองานเต้นรำใต้แสงจันทร์ แล้วคืนนี้อีเฟลมันก็ไม่ออกไปไหนก็เลยนั่งเล่นอยู่ในห้อง แล้วนางเอกก็ชะแว้บมาหา มาคุยกันนิดหน่อยแล้วบอกว่ามีเรื่องจะมาขอร้องอีเฟล มันถามอีเฟลก่อนนะว่าออกไปไหนไหม (กูอ่านมาถึงตรงนี้ชักรู้สึกแปร่ง ๆ) อีเฟลบอกไม่ไปนางเอกเลยบอกขอเปลี่ยนตัวกัน ขอเป็นอีเฟลสักคืน อีเฟลก็ตกลง ไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว และก็อยากไถ่โทษที่ตัวเองถูกไอ้ไคมอสเห็นหน้า นางเอกบอกไม่เป็นไร อีเฟลมันรู้ทันว่านางเอกจะไปงานเต้นรำใช่ไหมนางเอกบอกใช่ มันก็เลยจับนางเอกแต่งตัวแต่งหน้าให้สวย ๆ เผื่อนางเอกจะเปลี่ยนใจอยากกลับมาใช้ชีวิตแบบผู้หญิงธรรมดาบ้าง (อ้าว...อีนางเอก ไหนมึงบอกว่าปีศาจไม่เที่ยวเล่น แล้วมึงอย่าบอกนะ ว่าไปงานเต้นรำเพราะผู้ชาย!) ภาพตัดมาที่ไอ้ไคมอส ได้รับจดหมายจากภูตราตรีว่านัดให้มาเจอกันคืนนี้ที่ลานจัตุรัสกลางเมือง (นั่นปะไรกูว่าแล้ว! เห้ย แต่ก็ก็ยังมีความหวังว่านางเอกสุดคูลของกูอาจมีแผน) พอมาถึงเจอกัน นางเอกที่แสนขรึมของกูก็อ้อยเขาด้วยการเริ่มต้นทักก่อน จากนั้นบทสนทนาแบบอ้อย ๆ ก็ดำเนินต่อไป นางเอกกูก็พูดไปยิ้มไป จนไอ้ไคมอสมันยังคิดว่า วันนี้อีเฟลทำไมสวยกว่าทุกวัน ทำมันใจเต้นแรง (ไอ้นี่นึกว่าเป็นอีเฟลไง) สุดท้ายด้วยสกิลการอ้อยที่คงมีอยู่ในสายเลือดนางเอกก็พูดแซ็วให้คนหน้าตายอย่างไอ้ไคมอสมันยิ้ม แล้วไอ้ไคมอสก็ขอนางเอกเต้นรำ (อ้าวเห้ย ไอ้ราชองค์รักษ์ผู้ภักดี มึงก็รู้ว่าราชาของมึงเล็งอีนี่อยู่ มึงก็ยังไปขอเขาเต้นรำอีกเนี่ยนะ) ระหว่างเต้นรำอีนางเอกก็เร้าให้ไอ้นี่ยิ้มอีก อ้อยสุด ๆ ๆ ณ.จุด ๆ นี้ ภาพพจน์นางเอกสุดคูลในใจกูพังทลายหมดแล้ว สบตากับผู้ไปปิ๊งเดียว จากที่ไม่ได้เจอกันมาเป็นสิบปีสปาร์คติดอย่างง่ายดาย
ตัดภาพมาที่ไอ้ฮา เรียกพรายในแหวนออกมาแล้วระบุเลย บอกพรายในแหวนว่า ให้พาไปหาอีเฟล ซึ่งพรายแม่งก็จัดให้ วาร์ปไปในห้องอีเฟลกันเลยทีเดียว (กูบอกแล้ว เวทมนตร์เรื่องนี้แม่งเว่อร์โคตร ๆ กูโอเคนะถ้าพรายของมึงจะสามารถพามึงไปไหนก็ได้ในส่วนของการระบุสถานที่ แต่นี่มึงระบุชื่อคน แล้วพรายมึงก็แว๊บพาไปได้ในบัดดล แล้วแบบนี้มึงสั่งองค์รักษ์มึงไปตามจับภูตราตรีทำไมวะ มึงทำเองพริบตาเดียวก็จบแระ จริงป่ะ?) แล้วมันก็พากันไปนั่งชมจันทร์ หยอกล้อกันกระหนุงกระหนิง อีเฟลก็แลบลิ้น (แลบลิ้นจริง ๆ นะมึง) ปลิ้นตาหลอกไอ้นี่ ทำตัวเหมือนเด็กอนุบางสไตล์มัน (กูลืมบอก มันกับอีนางเอกจะอายุ18แล้ว) เป็นอันจบตอนเหอะ จบตอน ณ.จุด ๆ นี้กูเพลียมาก
และกูขอจบการสับไว้ที่พาร์ทนี้แระกัน กูเจอนางเอกเปลี่ยนเป็นแบบนี้เพลียไปเลย อุตส่าห์รอบทแม่งตั้งนาน จุดที่กูคิดว่าขัดแย้ง ขัดใจกูมันก็มีอยู่เท่านี้ ณ.ตอนนี้มันจบไปที่ บทที่9 เทศกาลนูอาร์ใต้แสงจันทร์ ถ้าใครอยากอ่านต่อให้ถึงตอน15ก็ไปอ่านเอานะ
ต่อไปเป็นพาร์ทสุดท้ายล่ะ พาร์ทสรุป

669 Nameless Fanboi Posted ID:cqxu061Zo

>>668 สรุปเถอะ
เนื้อเรื่องดีนะ กระชับในแต่ละตอน การบรรยายดีมาก ไม่มีคำผิด ไม่เวิ่นเว้อ แต่ที่ทำให้รู้สึกสะดุดก็คือสำนวนจีนที่มีหลงเข้ามาเป็นพัก ๆ ขัดกับแนวเรื่องซึ่งน่าจะอยู่ในช่วงยุคกลาง แบบที่โม่งด้านบนบอกเลย แล้วที่กูชอบเลยและถือเป็นเสน่ห์สำหรับเรื่องนี้ก็คือ มุขตลก เห้ย มันตลกดีนะ ไม่แป้กด้วย จังหวะการยิงมุขก็ดี โดยเฉพาะไอ้พี่เลี้ยงของไอ้ฮา ไอ้เหี้ยนี่แม่งทำกูขำมาก ในส่วนนี้มึงได้คะแนนจากกูไปเยอะสุดล่ะ กูให้ 8.5/10 หักจากสำนวนของมึง ที่ทำให้กูแปร่งหูมโหฬารมหาศาล และข้อเสียที่เรื่องของมึงปมแม่งไม่ได้น่าลุ้นอะไรเลย เท่าที่ดูก็แทบไม่มีเหี้ยไรเลยนะ
อยู่หมวดรักแฟนตาซีใช่มะ เรื่องนี้กูสรุปได้ว่า เน้นไปที่ความรัก จากที่อ่านกูสับมา พวกมึงยังไม่รู้เลยใช่ป่ะตกลงใครเป็นพระเอก เออ กูอ่านจนจบที่ฟรีก็ยังไม่รู้เหมือนกัน แต่เดาว่าเป็นไอ้ไคมอส (แต่ภาพปกมันเป็นรูปนางเอกกับไอ้นักบวชเลฟินนะ แต่ก็ไม่อยากเชื่อแม่งหรอกภาพปก กูเข็ดตอนโดนเรื่องอี8ปีกทำเขวมาแล้ว) ในแง่ความรักกูขอให้สัก 7/10 ละกัน หักไปเยอะก็คู่รองอย่างไอ้ฮากับอีเฟล เอาจริง ๆ คู่นี้ก็ยังอ้อยกันไปมาได้ยันตอนสุดท้ายที่เปิดอ่านฟรี กูหักไปเยอะเลย เรื่องสาเหตุที่ไอ้ฮามันตกหลุมรักอีเฟล อย่างที่บอกว่า คนเขียนโปรยมาอย่างดีว่า ไอ้ฮามันไม่เปิดใจ แต่แม่งเสือกชอบอีเฟลโคตรง่ายแค่เพราะความสวย ถ้ามึงพัฒนาความสัมพันธ์สักตอนสองตอน ให้มันได้เห็นข้อดีของอีเฟลแล้วค่อยตกหลุมรัก กูจะอินกว่านี้นะ ส่วนคู่นางเอกกูยังไม่สามารถสรุปเหี้ยอะไรให้ได้ เพราะยังไม่รู้แม่งคู่ใคร แต่เดี๋ยวมันจะมีตลค.ใหม่คือน้องสาวไอ้ฮา มาตามจีบไอ้นักบวช กูเลยเดาว่า นางเอกคงคู่กะไคมอส ซึ่งแม่งก็ยังไม่ได้พัฒนากันไปไกล กูก็ลงคะแนนให้ไม่ได้อีก งั้นเอาไปแค่นั้นพอ
ในแง่ความแฟนตาซี กูให้ 4/10 กูว่าเซ็ตติ้งโลกมึงแปลก ๆ อาณาจักรต้องสาปของมึงนี่ก็เบียว ๆ แล้วกูก็รู้สึกว่า โลกของมึงนี่เป็นการผสมผสานวัฒนธรรมกันระหว่างจีนกับยุคกลาง สำนวนทำให้คิดด้วยส่วนหนึ่ง แต่เท่าที่เห็นในเรื่องมึงคือมีจอมเวท วิหาร และชื่อตัวละครทุกตัวที่มึงทำให้กูรู้สึกว่ามันคือตะวักตก แต่ตำแหน่ง อำมาตย์ ขุนนาง พระพี่เลี้ยง นางสนม วังหลวง เขตพระราชฐานชั้นใน วังหลัง องค์รักษ์ ด้านจันทร์เสี้ยง โรงเหล้า สำนักจอมเวท (โฟกัสที่คำว่าสำนัก) มันให้กูรู้สึกถึงความเป็นนิยายจีน มโนภาพในสมองเม็ดถั่วเขียวของกูเลยตีกันมั่วไปหมด แถมกฎเกณฑ์เรื่องเวทมนตร์ของมึงนี่แม่งก็มั่วซั่วพิกล แล้วไหนจะภูตพรายอีก เท่าที่กูอ่านนี่รู้สึกพวกภูตพรายนี่จะเจ๋งกว่ามีเวทมนตร์สินะ ดูจากพรายโคตรเทพของไอ้ฮาที่คลายมนต์อีเฟลได้ แล้วก็พรายสังหารในอาวุธนางเอกอีก ก็ไม่รู้จะสรุปยังไงว่ะ
สุดท้ายตัวละคร กูให้แค่ 4.5/10นะ สังเกตที่กูยกมาสับจะเป็นเรื่องความไม่สมเหตุสมผลของตัวละครเกือบหมด กูสรุปต่ออีกนิดว่า จากนี้ก็จะมีอวยอีเฟลอีกย้ำเรื่องที่ว่ามันเป็นจอมเวทมือดี เกือบเป็นอับดับหนึ่งของอาณาจักรประมาณนี้อีกสองสามครั้ง แน่นอนว่ามันก็ยังไม่ได้แสดงความเก่งกาจอะไรให้สมกับคำอวย จึงเป็นเหตุที่ทำให้กูขัดใจแม่งมาก แล้วก็จะมีตอนนางเอกไปล่าเหยื่อรายที่10อีก ซึ่งรายนี้เป็นขุนนางดีแต่ถูกบังคับให้ลงนาม ซึ่งมันก็ยอมรอรับความตายแต่โดยดี แต่วินาทีที่นางเอกจะบั่นคอมัน ลูกเมียแม่งก็ออกมาห้าม ร้องขอชีวิต ซึ่งกูก็สงสัยว่า มันมาได้ไงวะ ปกตินางเอกจะทำให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องหลับหมด เพื่อป้องกันการโดยลูกหลง แล้วแม่งก็มีเฉลยแบบเบา ๆ ว่า ในอาวุธของนางเอกมีพรายสังหารสิงอยู่ ประมาณว่าได้พลังจากพรายนี่แหละทำให้สังหารเหยื่อได้ง่าย (อ้าว...สรุปนี่มึงไม่ได้เก่งด้วยฝีมือตัวเองเหรอ)
ตลค.ที่น่าสนใจสุดสำหรับกูคือ เลฟิน (นักบวชปีศาจ)ที่น่าจะเป็นตัวก่อดราม่าให้เรื่องได้ ถ้ายังรักษาคาแร็กเตอร์แบบนี้เอาไว้ได้ ไอ้นี่แหละอมทุกข์ของจริง อีนางเอกสายอ้อยหลบไป
สรุปภาพรวมของเรื่อง กูให้สัก 7.5/10 คะแนนละกัน ถือว่าเยอะนะ จริง ๆ งานเขาดีแหละ ส่วนใหญ่เลยคือขาดความสมเหตุสมผล ที่ต้องอ่านแบบจับผิดหรือขี้นอยด์แบบกูแล้วจะสะดุด กูแนะนำเลยสำหรับใครที่ชอบรักแฟนตาซีไม่น่าจะผิดหวัง อ่านแก้เบื่อได้
ขอจบการสับไว้ที่ตรงนี้ อาจยาวไปบ้าง แต่กูอยากเล่าให้พวกมึงเห็นภาพ กูวิเคราะห์อะไรเป็นหลักเป็นการไม่เก่งนะ กฎเกณฑ์อะไรมาอิงให้คะแนนก็ไม่มี ก็จะสับได้ประมาณนี้แหละ
ขอลงชื่อนะ เห็นถามแล้วบอกได้ โดย โม่งนอยด์

670 Nameless Fanboi Posted ID:EeyFRRGtz

>>669 แสดงว่าเป็นเรื่องที่อ่านได้เพลินๆ เรื่อยๆ ถ้าไม่จับผิดมาก ไม่มีจุดชวนหัวร้อนเหมือนไอ้นางร้ายนั่นสินะครับ...
ปล. ผมโม่งมารี และใช่ ผมอายุน้อยกว่าจริงๆ ยังไม่แตะ 19 เลย
ปล2 ตั้งแต่หันมาหาอ่านนิยายในเว็บและในบอร์ดโม่งดูแล้ว เหมือนจะใช้ผิดกันเป็นล่ำเป็นสันเลย ไอ้ "มุขตลก" เนี่ย เขียนให้ถูกต้อง เป็น "มุกตลก" ครับ

671 Nameless Fanboi Posted ID:cqxu061Zo

>>670 อ้าวเหรอ ขอบใจมากไอ้น้อง คำนี้ผิดโดยไม่เฉลียวใจเลยสักนิด
เรื่องนี้ดีกว่าเจ้ลิสเยอะเลยนะ เอาจริง ๆ อ่านทีแรกก็ไม่ได้คิดจะสับอะไรหรอก มาสะดุดทีความอวยตัวละครไม่ลืมหูลืมตา กับเหตุผลที่แปร่ง ๆ ค้าน ๆ นิดหน่อย แต่พอกลับมารอบ2แล้วมันก็ผุดขึ้นมาพอสมควร หลังจากเก็บงานแล้วก็เลยคันไม้คันมือสับแม่งสักหน่อย 555
ขออธิบายเพิ่มตกคะแนนภาพรวมนิดนึง มันเหมือนจะตกคณิตศาสตร์ไปไกลโข ถ้าอิงตามคะแนนที่ให้แต่ละหัวข้อคือ 8.5+7+4+4.5 หาร 4 จะเฉลี่ยเท่ากับ6ใช่ป่ะ แต่ทีนี้ในความรู้สึกมันค้าน ๆ แลจะน้อยไปหน่อย ก็เลยออกมาเป็น 7.5 ตามที่เห็นนะ (พิสูจน์แล้วว่า กูนี่เอาความพอใจเป็นที่ตั้งล้วน ๆ)

672 Nameless Fanboi Posted ID:o3Rdo5br.

กูรู้สึกว่าตัวละครเขียนยากกว่าเนื้อเรื่อง

673 Nameless Fanboi Posted ID:SHsjGRsDd

>>670 กูคนหนึ่งละที่รู้ว่าราชบัณฑิตกำหนดให้ใช้คำว่า "มุกตลก" แต่กูไม่เห็นด้วยกับเหตุผลที่ราชบัณฑิตยกมาอ้างแบบฝืนๆ มั่วๆ กูจึงจงใจเก็บคำว่า "มุขตลก" ไว้เป็นเครื่องหมายแห่งการต่อต้านว่ะ ชาตินี้กูไม่มีวันเขียนคำว่า "แซว" เป็น "แซ็ว" เด็ดขาด

674 Nameless Fanboi Posted ID:tLDomHgaM

>>672 เห็นด้วยว่ะ ตัวกูเองก็มีปัญหาเรื่องตัวละคร พล็อต เนื้อเรื่อง กูสามารถวางความสมเหตุสมผลได้ในระดับหนึ่ง แต่ตัวละครกูนี่จ้องแต่จะแหกกรอบ ฉีกทุกกฎเกณฑ์ที่มีว่ะ 555
>>673 ตชอดชีวิตกูเขียนแซวเหมือนกัน พอรู้ว่าแซ็วถูก กูแม่งก็ยังเปลี่ยนไม่ได้ว่ะ จับมือๆ

675 Nameless Fanboi Posted ID:o3Rdo5br.

ไม่ขอนินทา แต่เด็กสมัยนี้รู้จักเกมพวกนี้ด้วยเรอะ
https://www.dek-d.com/board/view/3813279/

676 Nameless Fanboi Posted ID:7RpYHNkl.

>>675 ผมรู้จักแค่ชื่อนะ Dungeons & Dragons อ่ะ แต่รายละเอียดไม่รู้เลย

677 Nameless Fanboi Posted ID:o3Rdo5br.

>>676 เห็นว่าเป็นเกมกระดาน RPG ไม่ใช่วีดีโอเกม กูรู้จักเกมตอนหาข้อมูลนิยายแฟนตาซี

678 Nameless Fanboi Posted ID:9IziK3rnM

>>675 กูไม่รู้จักอะ แต่อยากรู้ว่ามันเล่นไง

679 Nameless Fanboi Posted ID:PQg7Eg2Sm

ดราม่านักเขียนอีกละ คราวนี้ใครผิดถูกซะ กูอ่านไปอ่านมาละงง ขึ้นต้นที่นักเขียนโดยละเมิดลิขสิทธิ์ เหมือนจะจบที่นักอ่าน(คนละเมิด)โดนคุกคาม
https://www.dek-d.com/board/view/3813256/

680 Nameless Fanboi Posted ID:YQ5+2/4Y+

>>675 เคยเล่นแบบ Online อยู่นะเกมนี้

681 Nameless Fanboi Posted ID:mr1DXcnKN

>>679 มากูสรุปนะ
1. น้อง ชบ. เอานิยาย บ. (ซึ่งเป็นนักเขียน) ไปแจกจ่าย (ความจริงน้อง ชบ. แจกไปแค่เพื่อน 2-3 คน // อันนี้ความผิดน้อง ชบ. ที่ทำการละเมิดลิขสิทธิ์)
2. บ. รู้เข้าเลยจะเอาเรื่องน้อง ชบ. บอกให้มาขอโทษแล้วจะจบ หลังจากนั้นน้อง ชบ. เลยมาขอโทษและปิดแอคทวิตไปละ

แต่.....ระหว่างที่ บ. รอให้น้อง ชบ. มาขอโทษนั้นเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันคือ
1. บ. เอาอีกแอคนึงไปหลอกถามชื่อที่อยู่คนอื่นเพื่อจะแจกหนังสือ ละมาเฉลยทีหลังว่าตัวเองคือนักเขียนนะ แล้ว...ทำการแบล็คเมล์ ให้คนที่ส่งชื่อที่อยู่นั่น (ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคนละเมิดลิขสิทธิ์เลยยยยย) ไปตามล่าหาน้อง ชบ. รวมทั้งคนที่ด่านางเสียหาย ไม่งั้น บ. จะฟ้องว่าคนที่ตัวเองจะแบล็คเมล์เนี่ยละเมิดลิขสิทธิ์นาง (อันนี้เข้าข่ายข่มขู่ คุกคามและละเมิดสิทธิส่วนบุคคล)
2. บ. โทรเข้าไปโรงเรียนน้อง ชบ. แล้วแจ้งจารย์ห้องธุรการว่าจะเอาเรื่องนี้ ชบ. ในฐานละเมิดลิขสิทธิ์
3. หลังจากนั้นชาวทวิตก็ (ไม่เชิง) bully บ. จนต้องออกแถลงการณ์มา

เอาจริงๆ นะ เรื่องนี้กูคิดว่าเด็กทะเลาะกัน แต่ไหงกลายเป็นนักเขียน (ที่กูเพิ่งรู้ว่าอายุ 20 กว่าๆ) โมโหจนขาดสติกับเด็กม.4 อันนี้พวกมึงอาจเห็นว่ากูเข้าข้างน้องม.4 นะ แต่น้องอาจไม่รู้ไงว่าทำแบบนี้มันผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ ตักเตือน ต่อว่า ว่ากล่าวให้น้องเค้าเข้าใจอันนี้กูว่าพอรับได้ (ถ้าน้องมันดื้อมึน รู้ว่าผิดแต่ก็ทำ อันนี้ก็ปล่อยไปตามกฎหมายที่นักเขียนจะดำเนินคดีไป) ไม่ใช่ล่ากันจนรู้ที่อยู่เบอร์โทร แถมยังตามไปข่มขู่น้องถึงโรงเรียน อันนี้มันเกินไป
และในทวิตหลายๆ อันที่ bully นักเขียนกูว่าก็เกินไปอีกเช่นกัน ตักเตือนกันให้พอได้สติก็พอ

682 Nameless Fanboi Posted ID:P.DkE6P/K

>>677 D&D เป็นเกมกระดานแบบทอยเต๋า ซึ่งจะแบ่งเป็นฝั่งผู้เล่น กับ Dungeon master หรือ Game Master

ผู้เล่นจะต้องสร้างตัวละครขึ้นมา เผ่าพันธุ์ และลักษณะนิสัยที่เรียกว่า Alignment เพื่อทำการ Role-play (สวมบทบาท) เป็นตัวละครนั้นๆ ส่วน GM จะทำการสร้าง Event ให้ผู้เล่นประสบ ซึ่งเมื่อประสบกับ Event แล้วผู้เล่นจะทำการทอยเต๋าเพื่อระบุว่าจะเกิดอะไรขึ้นใน Event นั้นๆ

ยกตัวอย่าง มึงเดินออกนอกเมืองไปเจอมังกรและต้องการโจมตีใส่มัน GM ก็จะกำหนดว่าหากทอยได้ต่ำกว่า 50 (เกมนี้ใช้เต๋า 10 หน้า 2 ลูก ลูกนึงมีค่าหลักหน่วย ลูกนึงมีค่าหลักสิบ) จะเท่ากับฟันวืด ถ้าทอยได้สูงกว่า 80 จะโจมตีติด Critical ซึ่งขณะเดียวกันหากมังกรเป็นฝ่ายโจมตี ผู้เล่นก็จะทอยเต๋าอีกครั้งเพื่อป้องกันการโจมตีของมังกร

เกม D&D อะสนุกมาก แต่ข้อเสียคือ GM ต้องเก่ง คิด Event เก่งๆ ไม่งั้นมันจะน่าเบื่อ

ปัจจุบันเกม D&D มีข้อมูล Data เยอะมาก และนิยายแฟนตาซียุคกลางแทบจะทุกก็ใช้ Data ของเกม D&D นี่ล่ะมาเป็น Base ฉะนั้นกูกล้าพูดเลยว่า ถ้าหากศึกษาเกม D&D ได้จนถึงระดับหนึ่ง การหาข้อมูลเพื่อนำมาเขียนนิยายแฟนตาซีธีมยุคกลางนั้นจะเป็นอะไรที่ง่ายมาก

683 Nameless Fanboi Posted ID:P.DkE6P/K

>>682 เพิ่มเติม แต่หลักๆ แล้วที่คนนิยมหยิบมาใช้มากที่สุดก็คือระบบ Alignment System

Alignment System คือการออกแบบอุปลักษณะนิสัยของตัวละคร ซึ่งเป็นการแบ่งว่าตัวละครนั้นมีลักษณะนิสัยยังไง ชั่ว ดี หรือว่ากลางๆ (Good , Neutral , Evil) ทำตามกฎหรือไม่ (Lawful , Neutral , Chaotic) ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 9 แบบดังนี้ก็คือ

Lawful Good, Neutral Good, Chaotic Good

Lawful Neutral, True Neutral, Chaotic Neutral

Lawful Evil, Neutral Evil, Chaotic Evil

การแบ่งนิสัยแบบนี้ จะทำให้ง่ายต่อการสร้างตัวละครมาซักตัวนึง ซึ่งสำหรับนักเขียนแล้วกูก็แนะนำให้ลองศึกษาระบบนี้ดู เพราะมันมีประโยชน์มาก

684 Nameless Fanboi Posted ID:Hnk9LUc3/

>>682 >>683 Alignment System กูว่าเข้าใจง่ายสุดล่ะ แต่ที่เหลือไม่รู้จะเอาอะไรไปให้นิยาย นอกจากเพื่อนที่ชอบเล่นแนวนี้

685 Nameless Fanboi Posted ID:8sXUZ09XM

นิยายเรื่องวงกลมอันเหลือเชื่อ อัพหลอก เรียกเม้นต์ เขียนคำนิยมอวยตัวเอง สร้างแฟนคลับหลอกมาอวยตัวเอง ยังเหลืออะไรที่นางไม่ได้ทำอีกวะ เนียนอัพเข้าหมวดวายก็ทำมาแล้ว

686 Nameless Fanboi Posted ID:Hnk9LUc3/

>>685 แฟนฟิคหลอกคนทั้งโลกว่านิยาย

687 Nameless Fanboi Posted ID:kLxWT8WcY

>>681 กูข้องใจตรงที่จะแจกนิยายฟรี 5 เล่ม คือ...เพื่อไรวะ? เอารางวัลมาล่อแบบนี้ความเชื่อลดลงเลย

688 Nameless Fanboi Posted ID:Hob/r2V/E

>>687 เห็นคุณเธอบอกว่าให้เพราะถือเป็นน้ำใจที่อุตส่าห์ช่วย

689 Nameless Fanboi Posted ID:GbmCq50Mm

>>685 โทษนะ แต่ใครก็ได้ช่วยบอกหน่อยว่า “นิยายวงกลมอันเหลือเชื่อ” คืออะไร ขอบคุณล่วงหน้า (หรือจะหมายถึงที่บอกว่าอัพหลอก เรียกเมนต์อะไรพวกนั้น)

690 Nameless Fanboi Posted ID:u0H0c/kUM

>>689 เป็นชื่อแปลไทยของนิยายเรื่องนึงในเว็บเด็กดวกนั่นล่ะ แต่ไม่วางลิ้งค์ให้นะ เพราะเดี๋ยวไปเพิ่มยอดวิวให้มันอีก เนื้อเรื่องไม่เดินมาเป็นชาติ อัพหลอกเอาวิวอย่างเดียว

691 Nameless Fanboi Posted ID:U/T/dlx8+

มีแต่กุเปล่าที่สะใจ สมน้ำหน้าอีเด็กนั่น

692 Nameless Fanboi Posted ID:Hob/r2V/E

>>690 อ้าว เรื่องมันไม่เดินเลย? นึกว่าเอามาแปะทีคืออัพตอนใหม่แล้วซะอีก

693 Nameless Fanboi Posted ID:kLxWT8WcY

>>689 ชื่อไทยคือจักรพรรดิดวงดาว อังกฤษก็ Incredible Sphere

694 Nameless Fanboi Posted ID:Hnk9LUc3/

>>692 มันอยากดัง คนเขียนเลยไม่มีการพัฒนาตัวเอง

695 Nameless Fanboi Posted ID:vK8C8901q

ไม่ใช่คิดว่าตัวเองดังแล้วเรอะ แล้วใครก๊อปข้อความกูไปแปะกระทู้มัน ผัวไม่รักเหรอมึง กากจนคิดเองไม่เป็น

696 Nameless Fanboi Posted ID:FkdedEh/K

วงกลมเหลื่อเชื่อยังอัพหลอกได้อยู่หรอวะ มันทำไงไม่โดนแบน

697 Nameless Fanboi Posted ID:5GLsf4VxK

ไอที่สร้างคนเฟบหลอกคืออะไรเหรอ

698 Nameless Fanboi Posted ID:LcncBMV8d

อีคนนี้มันเป็นไรมากเปล่าวะ กูเห็นมันตั้งกระทู้คล้าย ๆ จะอวยตัวเอง ตบท้ายด้วยการโปรโมทมาสองทีแล้ว
https://www.dek-d.com/board/view/3813478/1/

699 Nameless Fanboi Posted ID:kLxWT8WcY

>>696 ลบตอนไงมึง ลบแล้วอัพใหม่

700 Nameless Fanboi Posted ID:e54LBaWbs

>>699 ไม่ๆ อันนั้นถ้าจำนวนคำไม่เพิ่มมากกว่าที่กำหนดก็ไม่แจ้งอยู่ดี ต่อให้ลบตอนก็ตาม

701 Nameless Fanboi Posted ID:tJoac.qON

อัพหลอกยังมีวิธีอยู่ แต่ไม่ชี้โพรงให้กระรอก อยากอยู่ในลิสนิยายเหี้ยก็หาวิธีเอา
>>697 สมัครไอดีใหม่แล้วมาอวยตัวเอง เรื่องวงกลมอันเหลือเชื่อมีคนเขียนคำนิยมซึ่งกูว่ามันแปลกมากที่แม่งจะวิจารณ์ไปในทางเดียวกันว่ะ เช่นไม่ลอกพลอตแบบติดท๊อปหมวดบางเรื่อง มีธีมแปลกๆ พลอตแปลกใหม่ซึ่งตรงกับที่คนเขียนชอบอวยตัวเองบ่อยๆ(แล้วยกมาแขวะเรื่องอื่นบ่อย) อีกข้อคือบางเรื่องคนอ่านเยอะกว่ามันยังไม่มีคำนิยมที่อวยชิบหายมากเบอร์นี้

702 Nameless Fanboi Posted ID:cVRybhz8W

>>701 อ๋อ แต๊งมากเพื่อนโม่ง

703 Nameless Fanboi Posted ID:OlBlODWms

>>701 แล้วไม่ผิดกฎเรอะ ที่สร้างไอดีใหม่อวยนิยายตัวเองไปเรื่อยๆ

704 Nameless Fanboi Posted ID:U2VaQMMpg

>>703 เขาคงไม่ตรวจสอบขนาดนั้นมั้ง

705 Nameless Fanboi Posted ID:wn68My2/I

กูกำลังเขียนนิยายเรื่องนึง เป็นเมืองที่มันมีแต่เรื่องผิดกฎหมาย เช่นยาเสพติด อั้งยี่ซ่องโจร อาชญากรรม ฆ่ากันได้แบบไม่ผิดกฎหมาย เพราะมันไม่มีกฎหมายบังคับใช้ อารมณ์เหมือนเขตปกครองพิเศษ ตั้งใจให้เหี้ยสุด ๆ ไปเลย มันมีสิทธิ์โดนแบนที่เด็กดีปะวะ ไม่งั้นจะได้ไปลงที่อื่น

กูไม่แน่ใจว่าจะผิดกฎป่าว

706 Nameless Fanboi Posted ID:OlBlODWms

>>705 ลงที่อื่นเถอะ ถึงเด็กดวกให้ความคุ้มครองนิยายขึ้นเตียง 18+ ก็เหอะ เด็กดวกแม่งสองมาตรฐานเรื่อง 18+ อยู่แล้ว

707 Nameless Fanboi Posted ID:AVLr.uPJV

>>705 กูว่ามันขึ้นกับรูปแบบการนำเสนอนะ เหมือนนิยาย 18+ อะ ถ้าไม่ได้บรรยายซะโจ๋งครึ่ง เห็นหมดทุกรูขุมขน แต่ใบ้ๆ แค่พอให้จินตนาการภาพตาม มันก็อาจพออะลุ้มอะหล่วยได้ ทีนี้ก็ขึ้นกับความสสามารถในการบรรยายแล้ว ว่าทำยังไงถึงจะสื่อในสิ่งที่ต้องการจะบอก โดยไม่ใช้คำที่ตรงเกินไป

708 Nameless Fanboi Posted ID:hKC73lFBN

>>706 >>707 แต๊งกิ้ว
จริง ๆ กูเขียนไม่เน้นเย็ดเลยนะ

709 Nameless Fanboi Posted ID:AhTcw0MIB

>>705 กุว่าขึ้นอยู่กับการเขียนวะ
ประมาณเขียนให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ไม่ลงรายละเอียดมาก ไม่น่ามีปัญหาอะไรมั้ง

710 Nameless Fanboi Posted ID:hKC73lFBN

>>709 อืม กูก็เห็นด้วยนะ วรรณคดีของไทยเรา ก็เขียนเรื่องเย็ด ๆ ให้ดูงดงามได้

711 Nameless Fanboi Posted ID:TRCaZJyjs

มันมีนิยายแนวจีนในวังที่ฮ่องเต้ง่อยมั้งไหมว่ะ เห็นมีแต่ฮ่องเต้เก่ง ๆ เต็มไปหมด เอาจริง ๆ ฮ่องเต้อ่อนแอ ๆ เต็มไปหมดในประวัติศาสตร์จีน
ใครมีแนะนำหน่อย

712 Nameless Fanboi Posted ID:x2cdTkXh7

กูว่าหายากนะ ส่วนใหญ่ในเด็กดีจะมีแต่ฮ่องเต้ฟ้าประทานเพราะพระเอกมักเป็นญาติหรือไม่ก็เป็นฮ่องเต้ซะเอง มันเลยมีแต่พวกฟ้าประทาน ไม่มีฮ่องเต้เด็กน้อยที่เป็นหุ่นเชิดของเหล่าขันทีหรือผู้มีอำนาจเลยนะ

713 Nameless Fanboi Posted ID:gUxz1n557

นั่นดิ กุได้อ่านมังงะเรื่องคิงดอมแล้วรู้สึกติดใจการหักเหลี่ยมเฉือนคมในราชสำนักระหว่างอ๋องกับเสนาบดีใหญ่ เลยอยากลองหานิยายที่คล้ายๆกันบ้าง

714 Nameless Fanboi Posted ID:OlBlODWms

ชาวเด็กดวกจะมีสักกี่คนที่รู้เข้าใจประวัติศาสตร์จีนเกี่ยวกับฮ่องเต้ เจอนิยายเสิ่นเจิ้นเยอะ

715 Nameless Fanboi Posted ID:w/Djd9G8+

อยากอ่านแนวของแท้ไปอ่านประวัติศาสตร์จริงเด้ะมึงไม่ต้องมาอ่านนิยาย
ปล.ไอ้ที่รวบรวมปัจจุบันกุคิดว่าไม่ได้ตรงซะหมด มันอยู่ที่มุมมองว่าใครเขียน
สรุปไม่มีใครเข้าใจประวัติศาสตร์จริงหรอก ขนาดเรื่องไม่กี่ปีที่ผ่านมายังไม่มีใครเข้าใจเลย

716 Nameless Fanboi Posted ID:x2cdTkXh7

[อะไรจะแย่ไปกว่าการเข้าร่างนางเอกในนิยายแนวอวยนางร้ายอีกล่ะคะ]
[https://writer.dek-d.com/pandacar/story/view.php?id=1736608]
[ผู้แต่ง : QwQ QwQ]
[4 ตอน ไม่นับแนะนำตัวละคร]

ด้วยความที่ว่ากูมีมหาลัยเรียนแล้วเลยขี้เกียจทำการบ้าน ว่างๆ เลยมาหานิยายในหมวดรักแฟนตาซีอ่าน ซึ่งมีแต่นางร้าย/วาย เต็มไปหมด แต่พอเปิดไปหลายๆ หน้าก็เจอกับเรื่องนี้เข้า กูชอบในแนวคิดของมันนะเอาตรงๆ แต่เพราะคนเขียนอายุยังน้อย [11 ปี] และเหมือนจะไม่มีเวลาเขียนยาวๆ แต่เป็นตอนสั้นๆ แทน [ราวๆ 1 หน้า A4 ละมั้ง] มันเลยกลายเป็นเรื่องที่ไม่ดีในเกณฑ์มาตราฐาน แต่ก็พออลุ่มอล่วยได้อยู่

ตอนที่ 1
เรื่องเปิดมาที่จู่ๆ ก็โยนนางเอกไปอยู่ในเหตุการณ์ที่โดนนางร้ายหาเรื่อง ตรงนี้บรรยายว่านางร้ายสวยระดับประกวดนางจักรวาล นางร้ายถามว่า
"ฉันถามว่าเธอมีสิทธิ์อะไรมาเรียกชื่อฉันตรงๆ ยัยตอแหล"
จากการคาดเดาของกู นางเอกเกมคงไปทักทายนางร้ายด้วยความเป็นมิตร แต่หลังจากนั้นจู๋ๆ นางเอกของเราก็เข้าร่าง โดยมีแต่ความทรงจำชาติก่อนเพียวๆ ไม่มีของตัวนางเอกเกมเลย แต่นางเอกของเราก็ดูจะเป็นพวกชอบเสี่ยงหน่อยๆ นะ เพราะว่าหลังจากที่นางร้ายถาม นางเอกของเราก็คิดว่า "เจ๋ง อยากเจอคนที่ถอนหมั้นเจ้าชายแล้วไม่ถูกตัดคอมานานแล้ว" แต่เพราะด้วย Common sense ละมั้ง นางเอกเลยถามว่านางร้ายชื่อไร แต่ก็โดนด่ากลับด้วยคำแรงๆ ที่เห็นได้ในนิยายนางร้าย
พอรู้ว่าถามไปไร้ประโยชน์ นางเอกของเราเลยสุ่มชื่อนางร้ายจากนิยายที่เคยอ่าน แล้วดันสุ่มขึ้นมาถูก นางร้ายชื่อ ซอล
พอนางเอกพูดไป ซอลก็โพล่งขึ้นมาเลยว่า
"เธอเป็นสามัญชน มีสิทธิอะไรมาเรียกฉันแบบนั้น ! "
"ฮะ?"
"เราสนิทกันหรือเธอจึงมีสิทธิมาเรียกฉันตรง ๆ อย่างนี้ ! "
"ฉันเห็นว่าคุณซอลชอบไล่ตบฉัน ฉันจึงคิดว่าเราสนิทกัน" [ทำไมกูคุ้นๆ เหมือนกูเคยเขียนไว้ตอนสับฉันคือ'นางร้าย'ที่'โครตร้าย'! วะ ไม่ใช่เป๊ะ แต่มันอยู่ในรูปแบบเดียวกันนะประโยคนี้ ]
ว่าจบนางเอกก็รีบใส่เกียร์หมาหนีไปก่อนที่ซอลจะระเบิดลง...

จบตอนที่ 1
เริ่มตอนที่ 2
สลับไปที่ฝั่งนางร้ายของเรื่องหรือซอลนั่นเอง โดยใช้มุมมองบุคคลที่ 3 ซอลหรือชื่อเต็มซอลเรเรียก็งงว่าปรกตินางเอกจะต้องร้องไห้ใช้มารยารอเจ้าชายมาช่วย แต่กลับกล้าพูดจาแบบนั้นกับตัวเอง แต่ก็ตัดบทด้วยการบรรยายอวดความอัจฉริยะ เก่ง มีอาชีพหลากหลายตั้งแต่หมอ วิศวะ บลาๆ มาเฟียแล้วยังเสือกเป็นตำรวจด้วย พออวดเสร็จก็จะเดินไป แต่เจ้าชายก็เข้ามาขวางแล้วถามหานางเอก นางเอกชื่อเพียร์
แต่ซอลไม่ตอบ ทำหน้าหยิ่งๆ ใส่ด้วย เลยมีบรรยายว่าเจ้าชายองค์นี้ไม่ใจร้อนหรือจริงจังกับเรื่องพวกนี้ แต่ถ้าเป็นเจ้าชายคนอื่น ซอลคงไม่พ้นโทษแน่
แต่นอกจากซอลของพวกเราจะหยิ่งๆ ไม่ตอบ พอตอบก็ไม่ตรงประเด็น จู่ๆ ประกาศถอนหมั้นดื้อๆ กลางฝูงชนเลย
เจ้าชายก็อึ้ง ไม่ได้ปวดใจอะไรนะ แต่อึ้งที่อีซอลมันกล้าทำแบบนี้โดยไม่เกรงกลัวอาญาแผ่นดินเลย เจ้าชายไม่ทันหายอึ้ง ซอลก็ด่าเจ้าชายว่าโง่ หลงมารยาหญิงแยกถูกผิดไม่ได้ อาณาจักรล่มจมแน่ ก่อนจะเดินไปด้วยท่าสวยๆ
เจ้าชายก็รู้สึกไม่พอใจที่โดนว่า เพราะ...เจ้าชายแม่งเป็นพวกรักร่วมเพศ[เกย์] ไม่ได้สนใจผู้หญิง ส่วนนางเอกหรืออีเพียร์แม่งมีหน้าที่เป็นแมงดาหาผู้ชายหล่อๆ มาให้เจ้าชายโว๊ย..

จบตอนที่ 2
เริ่มตอนที่ 3
ตัดกลับมาที่นางเอกของหมู่เฮา ที่นั่งเอ๋ออยู่ในห้องวัดพลังธาตุและรู้ว่าคาบต่อไปคือการโชว์เทพของแม่นางซอล+ยัดบทขี้อิจฉาให้สหายเพียร์น้อยของเรา ตรงนี้ก็เปิดเผยชื่อในชาติที่แล้วของนางเองว่าชื่อ พีช
พีชบรรยายว่านางร้ายจะมีธาตุเยอะแยะจนต้องใช้ ฯลฯ ส่วนเพียร์มีธาตุแสงกับพฤกษา ซึ่งธาตุพฤกษาแม่งหายากจนน้องเพียร์เราได้ทุนเข้าเรียนโรงเรียนขุนนางเพราะมีธาตุนี้ทังๆ ที่เป็นแค่สามัญชน [จริงๆ เจ้าชายก็บอกในตอน 2 แต่กูสับข้ามมา โทษที]
พอคนเริ่มเข้ามา เพียร์ก็คิดว่าจะนั่งห่างๆ กับพวกเจ้าชายเพราะอย่างจะลดความอึดอัด เลยไปนั่งกับโลลิลูกขุนนางชั้นผู้น้อยไม่ถือตัว พอซอลเข้ามา ซอลก็ไปนั่งหลังสุดตามสูตรว่า อัจฉริยะที่ไม่อยากมีเรื่อง
สักพัก อาจารย์ก็เข้ามา ไม่พูดพร่ำทำเพลงเรียกชื่อไปทดสอบพลังธาตุ เพียร์ก็งงแดกว่าเนื้อเรื่องเดินเร็วแบบไม่มีบทบรรยาย เจ้าชายออกไปเป็นคนแรก ได้ธาตุไฟตามสมัยนิยม จากนั้นก็ตามด้วยบรรดาคนจีบได้ แต่เพียร์ฟังแบบหูซ้ายทะลุขวา เลยไม่มีบทบรรยาย [ขนาดเจ้าชายที่เป็นพระเอกยังเป็นได้แค่เจ้าชายที่เป็นพระเอก]
พอถึงคราวของเพียร์ แม่นางก็ออกไปได้ธาตุ "พฤกษากับแสง ประเภทรัติกาล" เป็นสาย Heal คนก็ฮือฮากันเพราะตระกูลที่ครอบครองธาตุพฤกษาแม่งล่มสลายไปแล้ว ไม่มีทางที่จะมีธาตุพฤกษาเกิดขึ้นมาได้อีก เพียร์ก็บ่นๆ ว่าตัวเองแมรี่ ซูเหมือนกันถ้าไม่ถูกนางร้ายหรือ แม่นางซอล เปล่งแสงกลบ

จบตอนที่ 3

717 Nameless Fanboi Posted ID:x2cdTkXh7

>>716
เริ่มตอนที่ 4
โลลิที่เพียร์ไปนั่งด้วยชื่อ ลินดา แต่กูจะเรียก หนูลิน หนูลินมีพลังธาตุไฟ+น้ำ ธาตุทั้ง 2 แม่งตีกันเองจนร่างกายอ่อนแอ+ใช้พลังของทั้งสองธาตุได้ไม่เต็มที่ หนูลินถามเพียร์ว่ามึงเป็นเด็กกำพร้าใช่ไหม เพียร์ก็ตอบว่าใช่ และย้อนดูว่าทรงจำว่าเพียร์ถูกเลี้ยงโดยบาทหลวงที่ตอนนี้ไปนอนคุยเล่นๆ กับรากมะม่วงแล้ว แต่เพราะธาตุพฤกษา ทางโรงเรียนเลยให้มานอนหอ + มีทุนการศึกษาให้
พอได้ยินคำตอบ หนูก็คิดแล้วพูดว่า ธาตุพฤกษาแม่งหายาก เพียร์ก็ตอบว่าใช่ เพราะตระกูลที่ครอบครองแม่งไปคุยเล่นกับรากมะม่วงกันหมดแล้ว หนูลินเลยเปิดเผยว่า พ่อของหนูลินเป็นที่ปรึกษาให้ตระกูลพฤกษา ตอนตระกูลนี้ล่มสลายด้วยเหตุบางอย่าง พ่อของหนูลินก็ตายในวันถัดมาแบบเดียวกับที่คนในตระกูลนั้นตาย แต่ไม่บอกว่าตายแบบไหน และในบันทึกของพ่อหนูลินนั้นบอกว่า ลูกสาวคนเล็กพร้อมสามีหนีรอดไปได้
หนูลินเลยสงสัยว่าเพียร์เป็นทายาทที่ยังหลงเหลืออยู่ เพียร์ก็อึ้งแล้วบอกว่าบังเอิญมากกว่า หนูลินเลยว่า "อือ แค่เดาเฉย ๆ "
จากนั้นหนูลินก็ไม่ได้พูดอะไรแนวนี้อีก บอกว่าต่อไปเรียนวิชาอะไรแล้วขอแยกตัวไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งให้เพียร์ยืนงง
ที่เรียนอยู่สนาม แต่เพียร์เลือกเดินไปตามห้องเรียนเพราะไม่อยากทนสายตากดดันของนางร้าย

จบตอนที่ 4
สรุป
อยากที่เคยว่าไปตรงหัวเรื่อง นิยายเรื่องนี้มีแนวคิดดีนะ ว่าด้วยการที่กลายเป็นนางเอกในนิยายอวยนางร้าย กูชอบนะ แหวกแนวดีเหมือนกัน แถมยังมีปมให้สงสัยอย่างเรื่องตระกูลธาตุพฤกษาด้วยว่า ล่มไปได้ไงแล้วทำไมพ่อหนูลินถึงตายแบบเดียวกับที่คนตระกูลพฤกษาตาย มันต้องมีเงี่ยนงำ แต่ว่ามันก็น่าเสียดายเหมือนกัน เพราะนิยายเรื่องนี้สนองนี้ดคนเขียนที่เก็บกดจากพวกนิยายนางร้ายแล้วเอามาระบายในนิยายเรื่องนี้ 1 ตอนเลยสั้นมากและบทบรรยายขาดๆ เกินๆ ไม่ละเอียด คำผิดถือว่าน้อยนะ แต่ก็มีให้เห็นบ้าง ถ้าตรวจทานอีกรอบคงจะไม่เหลือให้เห็น แต่อย่างที่พูด เรื่องนี้มันสนองนี้ด มันเลยมีการตรวจทานน้อย
ตัวละคร
นอกจากตัวนางเอกหรือเพียร์แล้ว ทุกตัวคือแบนราบ ไม่มีอะไรเลย
ฉากหลัง
เป็นแฟนตาซีดาดๆ ราชา เจ้าชาย ดยุก สามัญชน ดาบ เวทมนตร์ ธาตุ ไม่มีอะไรพิเศษ เป็นของธรรมดา
เนื้อเรื่อง
พล็อตมันดีนะ แต่การนำเสนอถือว่าสอบตก คิดว่าน่าจะด้นสดด้วยเพราะคนเขียนบอกเองเลยว่าสนองนี้ด มันมีประเด็นน่าสนใจเด่นๆ ในเรื่องคือ การล่มสลายของตระกูลธาตุพฤกษา และ หนูลินที่ให้ความรู้สึกไม่น่าไว้ใจ ถ้าคนเขียนเขาตั้งใจหน่อย คงเล่นประเด็นนี้ได้สนุกกว่านางเอกในนิยายอวยนางร้าย แต่คงคาดหวังมากไม่ได้เพราะมันแค่นิยายสนองนี้ด

สรุป

คะแนนโดยรวมให้ 3.5/10
3 สำหรับนิยายทั้งเรื่อง
0.5 เพราะกูอ่านฟรี
อันนีัคือเอาตามความชอบของกู ยังไม่ผ่านแต่ก็ไม่แย่ชวนหัวร้อนแบบเจ๊ลิส มันไม่แย่แต่ก็ไม่ผ่านและนี่คือความเห็นของกู คนอื่นจะยังไงก็ไม่รู้แล้วเขาละกัน
แยกย่อยลงไปอีก
ตัวละคร 1.5/10
-นอกจากเพียร์กับหนูลิน ตัวละครอื่นก็แบนราบและไม่มีประเด็นให้สนใจ โดยเฉพาะนางร้าย...แม่งโครต parody
เนื้อเรื่อง 2/10
-อย่างน้อยที่สุด ประเด็นเรื่องตระกูลใช้ธาตุพฤกษากับการเป็นนางเอกในนิยายอวยนางร้ายก็พอดึงความสนใจกูได้บ้าง
ฉากหลัง 1.5/10
- เหมือนกับเจ๊ลิส เพราะมีกษัตริย์และกูเป็นรอยัลลิสเลยให้ 0.5 แต่เพราะเรื่องนี้ฉากหลังไม่เละเทะแบบเจ๊ลิส แต่มันก็เป็นแค่ของธรรมดาๆ เลยได้แค่ 1 รวมกันเป็น 1.5

และใช่ ที่เขียนมาทั้งหมดคือความคิดเห็นของกูคนเดียว เป็นความชอบส่วนตัวและกูไม่ว่าที่จะมีใครเห็นต่าง
ลิ้งนิยายเพื่อมีคนอยากลองไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง https://writer.dek-d.com/pandacar/story/view.php?id=1736608

718 Nameless Fanboi Posted ID:DnMRTp+39

>>717 ถถถ พาโรดี้ขนาดนี้ถ้าคนเขียนมีชั้นเชิงในการเล่าอีกหน่อยคงเป็นที่นิยมแน่ เอ๊ะ? หรือที่เขียนสั้นง่ายแบบนี้ก็พาโรดี้วิธีเขียนของพวกนิยายนางร้ายด้วยว่ะ อ๊ะ! หรือนี่จะเป็นนิยายโม่งแต่ง กูชักสับสน

719 Nameless Fanboi Posted ID:HFwrOE4bR

>>711 กูว่าส่วนใหญ่ก็ง่อยนะ สายเปย์ติดสมองขนาดนั้น ประเทศไม่ล่มนี่โคตรแปลก

720 Nameless Fanboi Posted ID:gCVrHtRYr

>>716 อ่านช่วงแรกๆกูตกใจ นี่นิยายฝั่งตรงข้ามของเรื่องเจ๊ลิสเหรอ 555

721 Nameless Fanboi Posted ID:OG1TQ.kVc

สวัสดีชาวโม่งที่รัก
ตามที่เคยจองไว้ วันนี้ถึงคิวของ

ชื่อเรื่อง: Doombringer the 5th (อ่านว่าดูมบริงเงอร์นะ ไม่ใช่ดูมบริงเกอร์)

ลิงก์: https://writer.dek-d.com/yoyotanya/story/view.php?id=1253967

สถานะ: ยังอัพเรื่อย ๆ ขยันมาก อยากได้เมียแบบเนร้จริง ๆ

เนื่องจากเรื่องนี้อยู่ในขั้นดี (แต่กูยังคงชอบยามกลีบฯมากกว่า) อาจจะเห็นกูเลียคนเขียนจนหีชุ่มได้ แต่กูไม่ลำเอียง ตรงไหนไม่ดี กูก็บ่นไปตามประสาอยู่แล้ว

บทนำ: โลกที่มีอายุสามร้อยปี

มันเป็นบทนำที่กูเพลิดเพลินมาก เหมือนอยู่ในสปาที่มีกลิ่นดอกไม้หอมอ่อน ๆ ได้ยินเพลงสมูธแจ๊สเปิดคลอเบา ๆ มีหมอนวดสาวคอยคลึงเคล้นไข่ให้อย่างเบามือตลอดเวลา หัวนมถูกดูดดุนด้วยหมอนวดอีกคน แต่น้ำยังไม่แตก แค่ปริ่ม ๆ

โลกในเรื่องนี้เนี่ย มันไม่ใช่โลกจริง ๆ มันถูกสร้างขึ้นมาใหม่หลังจากสงครามของพระเจ้าและซาตาน ซึ่งก่อนหน้านี้พระเจ้ากับซาตานท้าพนันกัน(ซาตานเป็นคนท้า) พนันว่าถ้าพวกเราสองคนไม่ไปเสือกกับพวกมนุษย์เนี่ย พวกมันจะเป็นไง จะตีกันตาย หรือจะช่วยกันทำมาหาแดกให้โลกเจริญรุ่งเรือง ซึ่งก็เป็นตามคาด ถ้าไม่มีใครไปเสือก มนุษย์แม่งก็เสื่อมลงได้เองอยู่แล้ว

พอมนุษย์แม่งตีกันจนโลกเกือบล่มสลาย (ดุจโดนเมก้าครีปแล้ว) ซาตานแม่งใจร้อน อยากวินเต็มแก่ เลยส่งปีศาจเข้าไปบุกโลก เพื่อเร่งสปีดความชิบหายให้ไวขึ้น แต่อีฝั่งพระเจ้าแม่งเติมตังมาเยอะ ถึงมีน้อยกว่า แต่แม่งเก่ง ตบเกรียนพวกปีศาจและซาตานกลับนรกได้หมด

พระเจ้าก็เห็นว่าผลจากสงครามก็ทำให้โลกนี่มันชิบหายลงกว่าเดิม ก็คงต้องสร้างโลกใหม่ให้มนุษย์อพยพไปอยู่ ก็คือโลกในเรื่องนี้แหละ โดยอนุญาตให้มนุษย์ใช้เวทมนต์ได้ด้วย เพื่อเอาไว้รับมือกับพวกปีศาจ และพระเจ้ามันยังเนิร์ฟฝั่งนรกลงอีกด้วย (ไม่รู้เนิร์ฟยังไง) ทำให้พวกปีศาจขึ้นมาบุกโลกลำบาก มันเลยต้องมีทริกนิดหน่อย คือพวกปีศาจมันจะชักจูงมนุษย์ให้เป็นดาวน์ไลน์ในการทำลายโลก โดยการแอบเปิดประตูนรกให้พวกปีศาจขึ้นมาบุกโลก ซึ่งจะเรียกมนุษย์ดาวน์ไลน์นี้ว่า "ดูมบริงเงอร์"

หลังจากเก็บรุ่นที่สามของดูมบริงเงอร์เสร็จ มนุษย์ก็ประชุมว่า เราควรจะตั้งองค์กรขึ้นมาจัดการพวกดาวน์ไลน์นี่ให้สิ้นซาก องค์กรชื่อว่า "พีซคีปเปอร์" โดยทำงานเป็นเชิงรุกด้วย คือเห็นเมืองไหนจะตีกัน พีซคีปเปอร์จะเข้าไปเสือกก่อน ให้พวกมันเลิกตีกัน ถ้าปล่อยไว้ เดี๋ยวแม่งไปสมัครเป็นดาวน์ไลน์ให้ฝั่งนรกแน่ ๆ

ซึ่งแม่งก็ได้ผลดีเยี่ยม ดาวน์ไลน์รุ่นสี่ ไม่ทันได้เกิด ก็โดนพีซคีปเปอร์แก๊งค์ตายตั้งแต่ต้นเกม

แล้วโลกก็เข้าสู่ยุคสมัยแห่งเกียรติยศอันแสนเจริญรุ่งเรือง ความชั่วร้ายต่าง ๆ ถูกกำจัดจนหมด จะกลายเป็นยูโทเปียอยู่แล้ว (กูชอบมาก เด็ก ๆ อาบน้ำให้สะอาดดี)

จบตอน

เนื่องจากคนเขียนเนี่ยแม่งอยู่ในเจนเดียวกับกู กูอ่านตอนนี้แล้วก็พอนึกออกเลยว่า มันได้กลิ่น Diablo อยู่จาง ๆ น่ารัก ๆ

มีต่อนะคะที่รัก

722 Nameless Fanboi Posted ID:OG1TQ.kVc

>>721
ต่อจ้ะ

ตอนที่ 1: เด็กผู้อยากเป็นซัมมอนเนอร์

ขอบ่นหน่อย ตอนนึงแม่งยาวเกิน กูคิดว่าคงอ่านแล้วทรมาน แต่เอาเข้าจริง มันก็ไหลลื่นเพลิน ๆ นะ เนื้อเรื่องตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมาก มีประเด็นสำคัญ ๆ ตามนี้
1. พระเอกชื่อซาล เป็นลูกของดูมบริงเงอร์คนที่สี่ ที่โดนพีซคีปเปอร์รุมแก๊งค์ได้ในวันเดียว ซึ่งตามชื่อเรื่องแล้ว มีโอกาสที่พระเอกจะกลายเป็นดูมบริงเงอร์คนที่ห้าตามรอยพ่อ พระเอกอยากเป็นนักเวทสายซัมม่อน
2. มีเพื่อนชื่อโลเฟ่น หนุ่มน้อยขี้เล่น อยากเป็นนักเวท
3. ทาลิส สาวน้อย อยากเป็น cleric สายซับ
4. อลัน หนุ่มแว่น อยากเป็นนักดาบ

เริ่มเรื่องด้วยการซัมม่อนมังกรตัวอ้วนของพระเอกตัวน้อยของเรา ซึ่งกูอ่านไปก็อมยิ้มไป การหยอกล้อระหว่างโลเฟ่นกับซาล มันให้ความรู้สึกเหมือนเด็กคุยกันจริง ๆ ไม่แก่แดดเหมือนนิยายส่วนใหญ่ที่เคยเจอ แม่งเลยโอเคอยู่สำหรับกู

และเวทมนต์ในเรื่องนี้มันก็มีลิมิตให้เห็น โดยดูได้จากแถบพลังบนสายรัดข้อมือ มีการวาดวงเวท คือกูอ่านถึงตรงนี้ ก็คิดว่าคนเขียนมันก็มีความรัดกุมอยู่พอควร ซึ่งกูก็เคยบ่นน้องเบลล์ไปว่า เวทมนต์ มันควรจะมีเงื่อนไขการใช้ หรือขอบเขตพลังให้เห็นชัดเจนบ้าง ได้แต่ภาวนาให้อีคนเขียนมันรักษามาตรฐานไว้ให้ได้ตลอดรอดฝั่ง นี่กูตั้งใจเลียแคมมึงมากบอกเลย ชุ่มฉ่ำไหมล่ะนาย

พวกพระเอกเรียนอยู่ที่โรงเรียนเวทมนต์ชื่ออีจิส ซึ่งโรงเรียนมีวงเวทครอบเอาไว้อยู่เหมือนไฟนอล 15 พวกมึงทดไว้ในใจนะ
อาจารย์ชื่อแกริส(น่าจะเป็น ผอ) มันออกข้อสอบให้นักเรียนสร้างห้องมิติที่สามารถเอาไว้เก็บของได้อย่างสะดวกสบายชิบหาย แล้วมันก็ให้สร้างห้องขนาดใหญ่อยู่ ซ่อนไซด์ไลน์ได้หลายคน แต่ไอ้พระเอกเสือกใช้พลังเวท(เกือบ)หมดไปกับการเรียกไอ้มังกรอ้วนออกมาตอนแรก พออลันเห็นสายรัดข้อมือของพระเอกว่ามีพลังเวทเหลือน้อย ไม่น่าสร้างห้องมิติได้ ก็เลยจ่ายมานาโพชันขนาดเท่าแคปซูลให้พระเอกแดก แล้วการสอบสร้างมิติเก็บไซด์ไลน์ของฝั่งพระเอกก็ผ่านฉลุย กูแอบรู้สึกถึงความเป็นแกนนำในตัวอลันนิด ๆ

สอบเสร็จก็พากันไปแดกข้าว แล้วก็เจอแบรนด์ เด็กกวนตีน ที่ล้อว่าพระเอกเป็นลูกของดูมบริงเงอร์ที่กากสัส ๆ แต่พระเอกแม่งก็น่ารัก ไม่เหวี่ยง ไม่โกรธ แต่เพื่อนพระเอกแม่งขึ้น เกือบจะมีเรื่อง แม่งง้างรอกันแล้ว แต่สุดท้ายก็มีคนมาช่วยแยกกัน

ตอนท้ายมีฉากที่อาจารย์แกริสคุยกับเจ้าหน้าที่ ที่คอยมอนิเตอร์เหล่านักเรียน ซึ่งกูรู้สึกว่า เหมือนกำลังจับตามองพระเอกอยู่ คิดว่าแม่งคงกลัวพระเอกเจริญรอยตามพ่อ

จบ

ตอนนี้ไม่มีอะไรให้บ่นมาก คือภาษามันดี ไม่เวิ่นเว้อ ไม่ประดิษฐ์ประดอย อ่านเข้าใจง่าย ใครกี่คนพูดประโยคไหนก็ไม่ทำให้กูงง สงสัยแม่งรู้กูโง่ เลยไม่ท้าทายสติปัญญากูมาก แต่มันเป็นการเปิดเรื่องที่เนิบนาบ ไม่น่าตื่นเต้น แต่มันก็น่ารักน่าหยิก ละมุนไปเรื่อย ๆ ตัวละครกลุ่มพระเอกออกมาแค่ตอนเดียว แต่กูสามารถจำได้ทันทีว่าใครนิสัยย้งไง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกูชอบเลยอวย หรือว่าคนเขียนมันเขียนดีก็ไม่รู้ แต่คิดว่าเป็นอย่างหลัง

ส่วนข้อติมันก็มีปัญหาอยู่แหละสำหรับนิยายเรื่องนี้ ไว้กูสรุปตอนท้ายทีเดียว

สรุปเปิดตัวงั้น ๆ แต่ก็พออ่านต่อได้ ไม่เครียดอะไร (ไอ้จินกวงเปิดตัวแซบกว่าเยอะ ไอ้ห่าเอ๊ย สงสัยกูแม่งเริ่มเสพติดความปัญญาอ่อนละ)

มีต่อครับ

723 Nameless Fanboi Posted ID:OG1TQ.kVc

>>722
ต่อนะที่รัก

ตอนที่ 2 การทดสอบภาคสนาม

หลังจากการสอบสร้างมิติเก็บไซด์ไลน์เสร็จแล้ว เหล่าพวกพ้องของ ซาลารัส หรือ ซาล พระเอกผู้บ้องแบ๊วของเราก็ต้องไปสอบภาคสนามต่อ คือ กูเข้าใจว่าพวกมันสอบไปเพื่อจะเป็นนักผจญภัยรุ่นเยาว์ เพื่อยกระดับตัวเองไปเรียนรู้เชิงลึกในสายอาชีพต่าง ๆ ได้ เช่น นักดาบ นักเวท นักเย็ด ฯลฯ

พวกพระเอกเดินทางไปสนามสอบโดยรถม้าโดยไอ้คนขับรถมาจะมีบททีหลัง แล้วช่วงนี้มันก็จะแนะนำอุปกรณ์เวทมนอีกชิ้น คือ แหวนสื่อสาร ซึ่งแกริสก็ติดต่อมาทางแหวนและแนะนำภารกิจคร่าว ๆ ซึ่งแม่งก็อีซี่เหลือเกิน คือ ไปเคลียร์สัตว์ประหลาดในพื้นที่ที่กำหนดให้หมด

แล้วพวกมึงจะได้เห็นการสาดสกิลของพวกพ้องพระเอกกันอย่างหนักหน่วง ราวกับมึงกำลังอยู่ในเกมออนไลน์ ใครภูมิต้านทานต่ำมึงจะอ่านข้ามไปเลยก็ได้ แต่กูขอบอกไว้ก่อนว่า จริง ๆ มันไม่ต้องบอกชื่อสกิลเวลาใช้ก็ได้ แต่ที่มันตะโกนเรียกชื่อสกิลกันอะ มันเป็นการบอกให้ทีมรู้ตัวว่าแต่ละคนกำลังจะทำอะไร ตี้จะได้วางตำแหน่งตัวเองถูกต้อง ซึ่งกูก็เข้าใจว่าคนเขียนมันออกตัวแรงกันเบียวไว้ก่อน ก็ฟังขึ้นอยู่นะ แต่อย่าให้กูเห็นมึงหลุดเวลาตัวละครคนเดียวแล้วเสือกเรียกชื่อสกิลขึ้นมานะสัส โดนกูบราซิลเลี่ยนแว๊กซ์ให้แน่

พอปราบสัตว์ประหลาดได้หมดแล้ว แม่งก็ยังไม่เคลียร์สักที สุดท้ายต้องเข้าไปในดันเจี้ยน ซึ่งดันมันมีสองแบบ
1. แบบปกติเกิดขึ้นตามธรรมชาติ
2. แบบพิเศษคือมันเป็นดันต่างมิติ ที่มีหินเวทมนต์เป็นแกนกลาง ถ้ามึงตี หรือดึงหินเวทมนต์ออกจากแกนของดัน พวกมึงจะถูกวาร์ปกลับออกมาสวย ๆ แถมหินเวทมนต์ยังขายได้ราคา เอาไปเปย์กระหรี่แอ่นลงหม้อสุกี้ได้หลายรอบอยู่ แต่ดันต่างมิติก็จะถูกทำลายลงไปด้วย

ซึ่งดันนี้ก็เป็นดันต่างมิติ ทุกคนตกลงว่าจะแยกกันตามหาหินเวทมนต์เพื่อจะออกจากดันเจี้ยน พอแยกกัน พระเอกก็ได้เจอกับคนรู้จักของพ่อพระเอก ชื่อแซนโดร ชวนพระเอกให้ตามมันไป แต่คือหน้าตาแม่งเหมือนลุงหัวกะโหลกในเรื่องเบอร์เซิร์ก เลยมีแต่ควายแค่นั้นแหละที่จะเชื่อแล้วตามมึงกลับบ้านไปด้วย ลุงเค้าก็บอกอีกว่า โรงเรียนที่มึงอยู่อะ มันไม่ได้ดีอย่างที่เห็นนะ มาอยู่กับกูเถอะ

พระเอกแม่งฉลาดไม่ยอมไปด้วยหรอก แม่งก็พยายามสู้ แต่ก็รู้ว่าสู้ไม่ได้ ก็พยายามหาทางหนีทีไล่ ให้สมุนหมาที่มันเสกขึ้นมาถ่วงเวลาลุงกะโหลกไว้ จนมันเจอกิ่งไม้ที่รองรับหินเวทมนต์อยู่ ตัดกิ่งไม้ปุ๊บ ดันก็ปิดปั๊บ ทุกคนออกมากันหมด ยกเว้นลุงหัวกะโหลก

พระเอกมันก็ไม่กล้าบอกใครว่าเจอเพื่อนพ่อ เดี๋ยวจะโดนเพ่งเล็ง

จบตอน

เข้าใจว่าตอนนี้ตั้งใจจะให้ฉากต่อสู้มาช่วยเพิ่มรสชาติ แต่กูก็ไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่ มันก็งั้น ๆ อะ ไม่ลุ้นอะไร เพราะพวกมันดูเป็นงานกันอยู่แล้ว มีแต่ไอ้โลเฟ่นที่แม่งบวกไม่ดูตาม้าตาเรืออยู่คนเดียวเนี่ยแหละ

น่าสนใจตรงเจอลุงหัวกะโหลกเนี่ยแหละ ทำให้อยากรู้ว่าโรงเรียนแม่งตกลงมีอะไรในกอไผ่ แล้วลุงเค้าอยากพาพระเอกไปทำไม ทิ้งปมแล้วปิดตอนแบบนี้ กูว่าดีนะ ทำให้อยากเสือกต่อ

มีต่อครับ

724 Nameless Fanboi Posted ID:owOxRitUL

>>723

ตอนสุดท้ายที่กูจะสับละ

ตอนที่ 3 ปราสาททราย

พาร์ทแรกจะเป็นการยัดข้อมูลของซัมมอนเนอร์ คลาสที่พระเอกอยากเป็นหนักหนาเนี่ยแหละ กูว่าถึงข้อมูลเยอะ แต่อีคนเขียนก็ทำได้โอเคนะ อ่านเพลินดี แต่สำหรับใครที่ยี้การ tell don't show อาจจะหงุดหงิดได้ กูคิดว่าเรื่องนี้ tell แบบน่าอ่าน กูไม่มีปัญหานะ

สรุปคือ คลาสซัมมอนเนอร์ห่านี้ คนส่วนใหญ่แม่งหวงวิชากัน พอไม่แชร์ ไอ้คนที่เรียนทีหลังก็ลำบาก ก็ทำให้มันไม่เกิดการถกเถียง ปรึกษา ปรับปรุงและพัฒนาให้ดีขึ้นเหมือนคลาสชาวบ้านเค้า

ความลำบากอีกอย่างคือมึงจู่ ๆ จะเรียกใครมาสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ เกิดแม่งติ้วหีอย่างเมามันอยู่เงี้ย มันก็ไม่สะดวกใช่มั้ยล่ะ แต่มันก็มีวิธีอื่นอีก คือเชิญร่างเสมือนแทน แต่มันก็ต้องทำพันธะสัญญากัน ซึ่งแม่งก็มีข้อเสียคือ ใช้พลังเวทมาก แถมร่างปลอมยังเหมือนตัวจริงเด๊ะ ๆ เกิดคนเรียกเอาไปก่ออาชญากรรม ไอ้คนถูกเรียกแม่งก็ซวย หรือมึงเงี่ยน เรียกตัวปลอมมาลวนลามเล่น มันก็จะดูไม่งามอีก คนที่จะมาทำพันธะสัญญาด้วยก็ต้องเชื่อใจไอ้คนเรียกมากพอควรเลยแหละ

(และมันมีจุดที่น่าสนใจอยู่คือซาลมันไม่สามารถทำพันธะสัญญากับเพื่อน ๆ ได้ พวกมึงทดไว้ในใจนะ)

แต่จริง ๆ พระเอกอยากอัญเชิญพวกสัตว์ประหลาด หมาป่า ฯลฯ เพื่อสร้างกองทัพเองอะไรเทือกนี้มากกว่า ซึ่งกูก็เห็นด้วย แม่งดูน่าจะมีปัญหาน้อยการกว่าการเชิญคน แต่ยังไงก็กูชอบการเชิญร่างเสมือนของคนมากกว่า จ้างแม่งทำพันธสัญญาทีเดียว เรียกร่างปลอมมาเย็ดได้ยาว ๆ คุ้มค่าสัส ๆ คิดละฟิน

แล้วพระเอกมันก็ไปจอยกับเดอะแก๊ง อลัน ทาลิส โลเฟ่น (กูชอบมาก ตัวละครพวกนี้แม่งจำง่ายดี ไม่ได้อ่านมาอาทิตย์นึง กล้บมาอ่านใหม่ยังจำได้ ว่าลักษณะท่าทางของแต่ละคนมันเป็นยังไง) ตรงนี้กูก็เห็นความฉลาดในการพูด การเปลี่ยนบรรยากาศของอลัน และความฉลาดช่างคิดของพระเอกในการหลอกถามและ กูรู้สึกว่าคนเขียนทำได้ดีนะ แต่ไม่ชอบตรงแม่งบรรบายว่าอลันหลักแหลมตรง ๆ เนี่ยแหละ กำลังจะดีอยู่แล้ว กูอ่านกูเข้าใจแล้วว่าช่วยเปลี่ยนเรื่องให้พระเอกไม่ถูกทาลิสงอน

พวกพระเอกก็ชวนกันไปทำเควสเพื่อเลื่อนระดับกัน แต่พระเอกมันไม่อยากไปด้วย เพราะกลัวเรื่องลุงหัวกะโหลกที่มันเจอในดันตอนที่แล้ว กลัวเพื่อนจะเกิดอันตรายไปด้วย แล้วมันก็ไปสืบมาอีกว่าลุงหัวกะโหลกเป็น Lich ก็อารมณ์เหมือนร่างปลดปล่อยสวัสดิกะคลาสสูงสุดของพวก Necromancer คือเปลี่ยนตัวเองเป็นกระดูก กันการโจมตี physical และ magical ได้ดี โกงสัส ๆ แถมเสกกองทัพลิ่วล้อมาได้เยอะแยะเหมือน Necromancer ใน Diablo 2 อะ เกิดทันไหมพวกมึง

พาร์ทต่อมา อีลุงกะโหลกแซนโดรแม่งมาบุกโรงเรียนเลย จุดประสงค์ก็คือจะเอาตัวพระเอกไปเนี่ยแหละ ซึ่งอีลุงผอแกริสโรงเรียนแม่งรู้อยู่แล้วว่ามันต้องการตัวพระเอก (พระเอกรู้โดยส่งลูกกระจ๊อกไปส่องดูที่หน้าโรงเรียน) ซึ่งลุงหัวกะโหลกแม่งเข้มมาก ลูกกระจ๊อกเค้าแข็งแกร่ง แถมเสกมาได้รัว ๆ ไม่จักหมดจักสิ้น ทางอาจารย์เริ่มต้านไม่ไหว ลุงผอแกริสเลยสั่งให้ลูกน้องอพยพนักเรียนโดยเฉพาะอีพวกพระเอกไปที่อื่น พระเอกมันก็สงสัยแหละ ว่าพวกมึงรู้ได้ไงว่าอีลุงกะโหลกจะมาจับตัวกูวะ แสดงว่าพวกมึงมีฮิดเด้นอะเจนด้าซ่อนอยู่แน่ ๆ ไอ้สัส

ลูกน้องของแกริสพาพวกพระเอกอพยพไปที่หอประชุม ลูกน้องคนนี้ที่ว่าชื่อพาราเวน เป็นคนที่พาพวกพระเอกไปสอบภาคสนามตอนที่แล้วแล้วนั่นแล ซึ่งพาราเวนก็เก่งพอตัวอยู่นะ สู้กับลูกกระจ๊อกของลุงหัวกะโหลกได้อย่างสบาย แต่พอเจอลุงหัวกะโหลกมาเอง แม่งก็ง่อยแดก ความเข้มของลุงหัวกะโหลกมันไร้เทียมทานอยู่แล้ว

พอพาราเวนเสียท่า โลเฟ่นกับอลันก็เข้ามาขวางลุงหัวกะโหลกไว้ ประมาณว่าข้ามศพพวกกูไปก่อนถึงจะเอาตัวพระเอกไปได้ แต่พระเอกแม่งก็ประเมินสถานการณ์ออกว่าลุงคงไม่ทำไรมันหรอก ถ้าทำ ก็ทำไปนานแล้ว เลยบอกให้เพื่อนถอยไป กูจะตามไอ้ลุงไป พวกมึงจะไม่เจ็บตัว แล้วสุดท้าย ทาลิสก็มาจับมือพระเอกไว้ อารมณ์ไม่อยากให้ไป ไอ้ลุงกะโหลกเห็นพระเอกยังอาลัยอาวรอีชะนีน้อยนี่อยู่ เลยบอกพระเอกว่า มึงตื่นได้แล้วสัส กูจะทำให้มึงตาสว่างเอง

แล้วแม่งก็ร่ายเวทเหี้ยไรไม่รู้ระเบิดวงเวทที่คลุมโรงเรียนไว้จนกระจุย แล้วพวกนักเรียนแม่งก็หายวับไปหมด แล้วมันก็เฉลยว่าพวกนักเรียนคือร่างอัญเชิญเสมือนทั้งหมด โดยมาจากวงเวทที่คลุมโรงเรียนอยู่เนี่ยแหละ นี่เป็นสาเหตุที่พระเอกทำพันธะสัญญากับเพื่อนไม่ได้ ไอ้สัสแม่งพีกมากตอนนี้ รู้สึกเหมือนที่ผ่านมาแม่งหลอกกูมาตลอดสามตอน กูขนลุกยันหมอยจริง ๆ นะ ชอบมาก ๆ

พระเอกแม่งช็อก กูก็เหมือนกัน ไอ้ห่าเอ๊ย

จบตอน (กูเข้าใจชื่อตอนนี้เลย)
และกูขอจบการสับ(สั้นๆ)ไว้แค่นี้แหละ

มีต่อ สรุปละ

725 Nameless Fanboi Posted ID:owOxRitUL

>>724
(ip เปลี่ยน เพราะกูรีเนตมิอถือใหม่มะกี้นะ)

กูขอจบการสับ(สั้นๆ)ไว้แค่นี้แหละ กูคิดว่าเรื่องนี้มันคุณค่าพอให้ติดตามเรื่อย ๆ นะ นาน ๆ จะเจอนิยายที่ทำให้กูรู้สึกสนุกสนานได้แบบนี้ ปลื้มใจจริง ๆ

แต่พวกมึงจงหลีกเลี่ยงถ้าไม่ชอบสิ่งเหล่านี้
1. มี tell not show ให้เห็นบ่อย
2. info dump เรื่องสกิล อธิบายหมดว่าสกิลนี้ ๆ แม่งทำงานยังไง รวมไปถึงการเรียกชื่อสกิลเวลาใช้งานอีก มันก็จะเบียว ๆ หน่อย ๆ
3. ไม่ชอบ RPG element

แต่ถ้าพวกมึงชอบ
1. ภาษาอ่านง่าย ไม่ประดิษฐ์ประดอย
2. เนื้อเรื่องซับซ้อน น่าติดตาม มีที่มาที่ไป
3. ชอบ RPG element แบบไม่ใช่นิยายออนไลน์จ๋า
4. คนเขียนสม่ำเสมอ
ก็จงกด Favorite โดยพลัน ที่ลิงก์ข้างล่างนี้

https://writer.dek-d.com/yoyotanya/story/view.php?id=1253967

สุดท้ายนี้ขอฝากคติธรรมเตือนใจให้เพื่อน ๆ ที่รักในห้องนี้ไว้ว่า

"โกรธคือโง่ โมโหคือเงี่ยน
ตั้งใจเรียน เวลาเงี่ยนจะได้ไม่โง่"

726 Nameless Fanboi Posted ID:7St3MDk3G

เงียบเลยวันนี้

727 Nameless Fanboi Posted ID:+/YQf3D5V

พอคุยกันนอกเรื่องก็คุยกันยาวจนร้องหาคนสับนิยาย พอมีคนมาสับนิยายก็เงียบเป็นเป่าสาก

728 Nameless Fanboi Posted ID:1L0lRnusa

เรื่องนี้กูอ่านนานมากแล้วไง ตั้งแต่อยู่ห้อง Subculture แนะ เลยปล่อยผ่านไป

729 Nameless Fanboi Posted ID:7KWYJe5K4

>>725 ขอเพิ่มอีกเรื่อง เรื่อง Doombringer นี้ บทจะปล่อยมุก มันก็ฮาอยู่นะ เช่นฉากเสกหมาตกตึกอะ ตอน 3 อะ

ส่วนตอนจบของตอนที่ 4 แม่งก็หักมุมกูอีก กูแม่งก็คิดว่าไอ้ลุงกะโหลกแม่งร่างคนเป็นตาลุงจริง ๆ ที่ไหนได้...

พวกมึงคนไหนใจถึงก็เอานิยายมาลงไว้ได้นะ กูพร้อมช่วยสับ แต่ขออ่านประมาณหกตอนพอ กูอยากฟังฟีดแบ๊กคนเขียนบ้าง รู้สึกเริ่มชอบแบบนี้ตั้งแต่ตอนได้แลกเปลี่ยนกับน้องเบลล์ละ

730 Nameless Fanboi Posted ID:k97LouPLD

>>729 แค่สามตอนก่อนได้ไหม? พอดีรีไรท์ได้แค่นั้น

731 Nameless Fanboi Posted ID:7KWYJe5K4

>>730 ได้ ๆ จัดมา

732 Nameless Fanboi Posted ID:k97LouPLD

>>731
https://my.dek-d.com/gift4869/writer/view.php?id=1616926
ขอบคุณล่วงหน้านะ
ของเราคือเคยเอามาแปะแล้วแต่เหมือนจะโดนเมินไปน่ะ (ฮา)

733 Nameless Fanboi Posted ID:7KWYJe5K4

>>732 จะสับให้ ไม่เกินสัปดาห์นี้นะจ๊ะ
ว่าแต่จิตแข็งพอนะ?

734 Nameless Fanboi Posted ID:.BGy1yd/4

ky ถ้าจิตใจแข็ง ควยต้องแข็งด้วยรึเปล่า
ปล.ไม่ได้มากวนตีน สงสัยเฉยๆ

735 Nameless Fanboi Posted ID:/i4.FHddk

>>734 แข็งได้ แต่อย่ามาสอยตูดกูเป็นพอ

736 Nameless Fanboi Posted ID:Ozn7qU2HU

>>733 เอามาเถอะๆ เราขออย่างเดียวคืออย่าหยาบเยอะก็พอ
คือถ้าไม่สับเละจริงๆ เราก็ไม่รู้หรอกว่าพลาดตรงไหน ส่วนใหญ่ที่เคยให้วิจารณ์มา พวกเขาก็บอกแค่ว่าเนื้อเรื่องกับการบรรยายดี แต่เรารู้สึกเหมือนมันไปได้มากกว่านี้ แค่ไม่รู้ว่าควรแก้ตรงไหนอะไรยังไงก่อนน่ะ

737 Nameless Fanboi Posted ID:Ow4hi9q9+

>>736 คห.เก่าที่คนอ่านบางส่วนทักมาแก้หมดยัง

738 Nameless Fanboi Posted ID:Ozn7qU2HU

>>737 ตรงนั้นแก้แล้ว และอันที่ให้อ่านคืออันที่แก้สามตอนแรกแล้ว

739 Nameless Fanboi Posted ID:DxV/T0wTz

>>736 ไม่หยาบแน่นอนจ้ะ ไม่ต้องห่วง

740 Nameless Fanboi Posted ID:uoalax1df

>>736 เห้ย กูชอบมึงว่ะ กูเคยเห็นหลายคนแม่งได้รับคำวิจารณ์ มันก็จะหลงอยู่ในคำชมเป็นพิธีที่ว่าภาษาและการบรรยายดี แล้วแม่งก็ตะคิดเข้าข้างตัวเองอยู่แบบนั้น เมินที่เขาติ ไม่พัฒนา อย่างมึงนี่คือโอเคเลย

741 Nameless Fanboi Posted ID:rfZ5GofFB

ky น้องเบลล์นี่คือใครวะ ดูเพื่อนโม่งให้ความสำคัญพูดถึงกันบ่อยๆ หรือกูตกข่าวไรไป

742 Nameless Fanboi Posted ID:2.4INLRrp

>>741 ตอนกู(โม่งเงี่ยน)สับน้องเค้าเละ แล้วมีโม่งไปเชิญน้องมาอ่าน ตอนแรกกูก็กลัวน้องเค้าเป็นลมตอนเห็นกูสับ แต่เค้าก็เข้ามารับฟังและชี้แจงดี ๆ คือดูมีอีคิวสูงอะ ไม่มีอีโก้ ตอบได้น่ารัก ฉลาด ส่วนนิยายเค้าก็ยังมีข้อบกพร่องอยู่เยอะแหละ กูแทบจะไม่ได้ชมเลยมั้ง

743 Nameless Fanboi Posted ID:356X3vuVU

>>739 ขอบคุณนะ
>>740 ส่วนตัวคิดว่าต้องมีข้อบกพร่องอยู่แล้วล่ะ ต่อให้คนอื่นมาชมว่างานดีขนาดไหนก็ต้องมีจุดอยู่ติสักที่นั่นแหละ ไม่มีอะไรในโลกที่สมบูรณ์แบบ แค่ต้องหาข้อบกพร่องให้เจอเอง (ซึ่งเราไม่ได้ตรงจุดนี่ ให้เพื่อนอ่านก็บอกโอเคๆ และเออออตามหมด ไม่ติไม่ติงอะไรเลย)

744 Nameless Fanboi Posted ID:Ow4hi9q9+

มีใครได้อ่านงานที่ได้ออกกับสนพ.อาเธน่ามั้ย หลายเรื่องเห็นออกมาเงียบๆ นักเขียนก็ไม่โปรโมตอะไรเลยว่ะ มันดีป่าววะ

745 Nameless Fanboi Posted ID:sa1u+PmkD

>>744 กูเห็นโลกเวทมนตร์ของคาออสได้ตีพิมพ์ กูก็ไม่คิดซื้องาน สนพ.นี้อ่านเลยว่ะ ไม่รู้มันเอาไปรีไรต์แล้วดีขึ้นรึเปล่านะ กูไม่ได้สนใจ

746 Nameless Fanboi Posted ID:dMCvDtqav

>>745 ถามจริงๆนะ รีไรต์กันไหวเรอะนั่น 555

747 Nameless Fanboi Posted ID:Ow4hi9q9+

>>745 มีคนซื้อคนนึงบอกว่าไม่ได้รีไรท์เลยว่ะ สงสัยแค่แก้คำผิดมั้ง

748 Nameless Fanboi Posted ID:sa1u+PmkD

>>747 เจริญ! งั้นขอให้มันขายดิบขายดี

749 Nameless Fanboi Posted ID:VD1v/6IKE

>>745 เรื่องวีอัลน่าก็ด้วย นั่นเคยมีโม่งสับแหลกอยู่ ถึงรีไรต์แลเวก็ไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ด้วย

750 Nameless Fanboi Posted ID:sa1u+PmkD

>>749 ไม่รู้จักอ่ะ มีชื่อเรื่องไหม จะไปเสิร์ชดู ว่าแย่แค่ไหน

751 Nameless Fanboi Posted ID:XyGrOq/iM

>>745 มันเป็นเรื่องยังไงวะ คาร์ออสอะไรเนี่ย กูเคยเห็นเขาขายๆ ผ่านเฟส กูก็สงสัยอยู่

752 Nameless Fanboi Posted ID:rfZ5GofFB

>>742 อ๋อ โอเค ขอบคุณมึงมาก ถ้านิสัยดีแบบนี้กูก็อยากสับให้นะ

753 Nameless Fanboi Posted ID:MkYIRle+A

>>752 น้องเบลล์ เขาคือไอดอลของโม่งห้องเด็กดวก

754 Nameless Fanboi Posted ID:.BGy1yd/4

ที่น้องเบลล์ดัง เพราะไม่ทำตัวอีโก้สูงเหมือนใครบางคน ไม่หยิ่งบ้าหยิ่งบอ คุยภาษาคนรู้เรื่อง

755 Nameless Fanboi Posted ID:rfZ5GofFB

>>753 >>754 มิน่าว่าเพื่อนโม่งถึงชอบกัน ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมนะ

756 Nameless Fanboi Posted ID:dMCvDtqav

>>751 ถ้าไม่ได้รีไรท์อะไรเลยก็ลองหาในเด็กดีดู น่าจะมีให้อ่านเป็นตัวอย่างบ้างแหละ

757 Nameless Fanboi Posted ID:dMCvDtqav

>>750 เอาคำว่าวีอัลน่าไปเสิร์จก็เจออันแรกแล้วเว้ย อ่ะแปะให้
https://my.dek-d.com/dreammychar/writer/view.php?id=502363

758 Nameless Fanboi Posted ID:z90KX7RRz

>>757 อยากอ่านที่สับอะ หาในนี้แล้วไม่เจอ https://docs.google.com/document/d/1ouFhwS9WeoBzEgYHVNYWkeUAbhQ2YkCg4ozpTpx1-94/edit

759 Nameless Fanboi Posted ID:dMCvDtqav

>>758 อ่อ ถ้าอันนั้นกูก็อยากอ่าน แต่กูลองอ่านบทแรกไม่จบว่ะ จะว่าภาษาโอเคมั้ยก็โอนะ แต่ใช้สรรพนามซ้ำๆติดๆกันแล้วมันค่อนข้างสะดุดอ่ะ

760 Nameless Fanboi Posted ID:Ow4hi9q9+

>>759 >>758 วีอัลน่ากูเคยอ่านก่อนรีไรท์ อยากจะพูดว่าแม่งแก้เหี้ยนเลยว่ะ แล้วเสือกชนกับพล๊อตหลังๆอีก คาดว่าได้แก้กันบานเลย บิบิ ที่แน่ๆกูเกลียดนางเอกเรื่องนี้เหี้ยๆ คนเขียนอวยว่าน่าสงสารเหี้ยๆแต่กูมองว่าแม่งเหี้ยจากภายในสู่ภายนอกเลยว่ะ ถือว่าเก่งที่ทำให้กูเกลียดตัวละครสักคนได้ขนาดนี้

761 Nameless Fanboi Posted ID:jN6T6N80+

>>758 กูไปคุ้ยมาให้ อยู่มู้สองแนะ
https://fanboi.ch/webnovel/2703/898-/

762 Nameless Fanboi Posted ID:9HJF.xEF7

>>757 ขอบใจ เดี๋ยวจะเข้าไปเบิ่ง

763 Nameless Fanboi Posted ID:jN6T6N80+

>>760 แต่ฉวัวะ กับการใช้เน้นหนา ยังไม่แก่นะมึง เปลี่ยนสนพ.แล้วบก.ไม่แก้ให้หน่อยเหรอวะ

764 Nameless Fanboi Posted ID:Ow4hi9q9+

>>763 คิดว่าไม่มีปัญหามั้งเลยไม่แก้ กูล่ะกลัวใจการโปรโมทสนพ.นี้มากกว่าอีกมึง นักเขียนไม่ขายงานเลย ปกติกูเห็นนักเขียนสแปมรัวๆอะไรรัวๆ นี่เงียบกริ๊บ

765 Nameless Fanboi Posted ID:HFgrU7AE.

>>764 แต่ค่อนข้างลงทุนปกน่าดูเลยนะ งามๆทั้งนั้น สนพ นี้

766 Nameless Fanboi Posted ID:z90KX7RRz

>>761 ใจมาก

767 Nameless Fanboi Posted ID:z90KX7RRz

คือกูเปิดอ่านได้สองบทก็เลิกอะ กูเลยอยากรู้ว่าคนที่เค้าว่ามันสนุก หรือไม่สนุกมันเป็นยังไง

768 Nameless Fanboi Posted ID:wd.uyJNKx

>>698 อีนี่อีกล่ะ เนียนโปรโมต นี่รอบที่สามล่ะ มันเป็นไรมากเปล่าไม่รู้นะ แต่ที่รู้คือกูเป็นมากล่ะ (หมั่นไส้อยู่หลังคีย์บอร์ด)
https://www.dek-d.com/board/view/3814155/

769 Nameless Fanboi Posted ID:JcT48IPWy

>>768 ช่างมันเหอะ ไม่ต้องสนใจหรอก

770 Nameless Fanboi Posted ID:30lWyY/1Q

มึงช่วยด่าให้กูมีแรงเขียนนิยายทีดิวะ คือกูร้างลามาหลายปีเพราะเรื่องเรียนตอนนี้อยากกลับมาต่อแต่กูไม่รู้จะต่ออารมณ์ยังไงเว้ย คือเหมือนกูไม่มั่นใจในตัวเองว่ะแต่ในใจกูก็อยากจะเขียนต่อนะแบบรีทั้งหมดเลยอ่ะ พอกูกลับมาอ่านคอมเม้นต์มันก็ฮึดเป็นพักๆนะเพราะกูร้างไปหลายปีมากก็ยังอุตส่ามาถามถึงอยู่ แต่อีกใจกูก็ไม่มั่นใจว่ะเพราะพี่กูแท้ๆมันเคยบอกว่านิิยายกูเหี้ยมาก แต่กูก็คิดว่ามันพัฒนากันได้แค่ฟังคำติแล้วแก้ไขแต่พี่กูอ่านไปครั้งเดียวก็ไม่ให้โอกาสกูเลยแล้วตอนกูเขียนก็แค่เด็กประถมป่่าววะตอนนี้กูจะจบมหาลัยอยู่แล้วให้โอกาสกูไม่ได้รึไงวะ กูแค่อยากได้คำแนะนำที่หลากหลายที่ผ่านมาใครสับนิยายกูไม่เคยโกรธเลยกูบูชาด้วยซ้ำเพราะกูอยากพัฒนา แต่ตอนนี้กูล้าว่ะช่วยด่าดึงสติิให้กูฮึดที

771 Nameless Fanboi Posted ID:JcT48IPWy

>>770 เขียนไปเหอะ ขอให้มึงใส่จิตวิญญาณในเรื่อง แล้วคิดว่าถ้ามึงเป็นตัวละครโลดแล่นในโลกของมึง มึงจะทำยังไง ถ้ามึงไม่กังวลว่าต้องได้ยอดแฟนคลับ หรือ คนอ่านเร็วพรวดพราดล่ะก็นะ สำคัญที่สุดคือมึงมีความสุขตอนเขียนเปล่า อย่ากังวลเรื่องว่ากุต้องดังเร็ว บ้าโปรโมต จนลืมโลกในนิยายของตัวเอง

772 Nameless Fanboi Posted ID:3PE0ot/CW

>>770 ถ้ามึงยังจัดการกับกระบวนการความคิดและอารมณ์มึงไม่ได้ มึงก็อย่าเขียนเลยว่ะ ไปหาอย่างอื่นทำเถอะ ไปเล่นเกม ไปดูทีวีดูหนังดูการ์ตูนเถอะ

773 Nameless Fanboi Posted ID:cO.WNLh8k

>>770 ลองหาเรื่องใหม่เขียนดู บางทีเพราะเรื่องเก่ามึงทิ้งมานาน ความรู้สึกอะไรก็ไม่เหมือนเดิม ถึงจะรู้สึกว่ายังผูกพันกับเรื่องเก่า แต่ถ้าฝืนเขียนออกมาแม่งก็แค่ภาระอย่างนึงนะ

774 Nameless Fanboi Posted ID:9e8.vmopW

>>770 เอามาให้กูช่วยดูมั้ย กูช่วยแนะนำได้นะ อย่าท้อเลย

นิยายเรื่องแรกของกูนี่อาจจะเหี้ยกว่าของมึงอีกนะ 555 ขนาดกูเขียนตอนอยู่ ปี 4 นะ

775 Nameless Fanboi Posted ID:DcbSSQ2qF

พวกมึงยังดี กูร้างราไปเกือบๆ 10 ปี ก่อนจะกลับมาเขียนหลังจบมหาลัยฯ
ปัจจุบันกุต้องเผชิญกับความจริงและหยุดเขียนเพราะงานมันล้นมือ orz

776 Nameless Fanboi Posted ID:rYs5qk8DQ

พวกมึงยังดี กูจดๆพล็อตไว้ในมือถือกะว่าว่างๆจะเขียน ทุกวันนี้ยังไม่ได้เขียนสักเรื่อง มีแต่พล็อต ชื่อตัวละคร ประวัติคร่าวๆ

777 Nameless Fanboi Posted ID:KmiER+nMR

ขอบคุณเหล่าโม่งที่แนะนำ>>772 ใช่เพราะยังจัดการความคิิดไม่ได้กูเลยยังไม่เขียนนี่แหละ>>774 เอาไว้กูเริ่มเขียนจะมาให้พวกมึงสับแน่นอนถึงเวลานั้นก็สับเต็มที่เลยอย่าเมินกูพอ มึงก็ถ่อมตัวเกินเอาฝีมือตอนปี4มาเทียบกับตอนกูเด็กแล้วบอกว่าอาจเหี้ยกว่า555 คิดไปได้ ผลงานกูไม่ได้ครึ่งของมึงหรอก
ขอบคุณอีกครั้งที่ช่วยกันแนะนำ

778 Nameless Fanboi Posted ID:oidb22tbs

กูมีเรื่องที่คาใจ ทำไมพวกนิยายนางร้ายถึงต้องมีหน้าแนะนำตัวละครวะ?

779 Nameless Fanboi Posted ID:NMudQ94A2

>>778 แม่งเป็นสไตล์ของพวกที่ไม่มีปัญญาบรรยายให้คนอ่านวาดภาพตัวละครในหัวได้ คล้ายพวกนิยายแฟนตาซี ที่หน้าแรกแม่งต้องสาธยายระดับขั้นพลัง ลามไปยันชื่ออาณาจักร

780 Nameless Fanboi Posted ID:BnO5S0/bi

จริงๆ กูว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องผิดนะ มันก็เป็นแนวทางนึง โอเคละว่ามันอาจจะไม่ใช่วรรณกรรมชั้นสูง แต่ถ้าใช้ดีๆ ก็ช่วยดันเรื่องได้เหมือนกัน

781 Nameless Fanboi Posted ID:q23oDZLDX

ในนี้ไม่สับนิยายรักกันเหรอวะ ช่วงนี้กูเห็นขึ้นท็อปพรึบพรับ

782 Nameless Fanboi Posted ID:Ef+ShzFQA

>>779 มึงก็คิดในแง่ร้ายไป กุก็ทำไม่เห็นเป็นแบบมึงว่า ไม่ใช่ไรกูกันตัวเองลืมตัวละคร ไม่คนอ่านก็ลืมว่าอีนี่ใครวะ อ่านนิยายบางเรื่องแม่งไม่มีและตังละครเพิ่มมึงรุ้มั้ยลำบากแรมในหัวกูแค่ไหน

783 Nameless Fanboi Posted ID:zffd7Mm+6

>>781 กูเห็นมีโม่งหญิงอยู่คนนึงนี่ ที่ชอบสับนิยายรัก

784 Nameless Fanboi Posted ID:ZwjgvjcmN

มือใหม่ก็งี้แหละ แปะหน้าตัวละคร ระดับพลัง อาณาจักร ชนชั้น อาชีพ ฯลฯ ไว้บนหน้านิยาย ยังไม่พอ ยังแปะ infodump ในตอนทำเหี้นไร

785 Nameless Fanboi Posted ID:7pdv7OcgZ

>>784 เขาเขียนบทเฉลยเกมภาษาปะมึง

786 Nameless Fanboi Posted ID:.xqKPr6iv

บทแนะนำตัวละคร , อาณาจักร กูพอเข้าใจ เพราะบางทีคนเขียนมันอาจจะอยากให้ดูเหมือน LN บรรยายง่ายๆ ให้แล้วคนอ่านไปจินตนาการตามภาพเอา
แต่ระดับพลังงี้ กูเองก็งงว่ามึงจะเขียนมาทำซากอะไรในเมื่อพวกมึงไม่ได้ใช้!? กูเห็นเรื่องไหนเขียนระดับพลังเอาไว้ สุดท้ายแม่งก็ใช้เกินระดับที่กำหนดเอาไว้ทุกทีล่ะ

787 Nameless Fanboi Posted ID:T4kcbkinT

ค่าพลังไม่มีประโยชน์หรอก ยังไงโลกก็หมุนรอบตัวพระเอกอยู่แล้ว มีเพียงพลังเมพของพระเอกและลูกกระจ๊อกไว้ให้เตะกระเด็นเท่านั้น

788 Nameless Fanboi Posted ID:VO5jrT+Gs

แปะไว้เรียกนักอ่านเหมือนแมวกวัก แล้วมันก็ได้ผลจริงๆนะ 555

789 Nameless Fanboi Posted ID:ZwjgvjcmN

>>785 ไม่ เว็บเด็กดวกนี่แหละ เรื้อรังตั้งแต่ยุคเกมออนไลน์ บางเรื่องเขียนมายังกะเขียนเกม

790 Nameless Fanboi Posted ID:oi6CT6lbC

ถ้าป้าเจเคเขียนค่าพลัง มันจะออกมาดป็นไงบ้างวะ

791 Nameless Fanboi Posted ID:cH0vs8BvG

>>791 คิดว่าจะมาเป็นกราฟพารามิเตอร์บอกว่าใครถนัดด้านไหน
ความอึด-พละกำลัง-พลังเวท-สติปัญญา-คุณธรรมนำใจ
แฮร์รี่จะมีทุกค่าอยู่กึ่งกลางยกเว้นคุณธรรมที่สูงลิ่ว ส่วนท่านลอร์ดจะมีทุกค่าพุ่งทะลุกราฟ ยกเว้นคุณธรรมที่ต่ำจนย้อนกลับเป็นสีดำ

792 Nameless Fanboi Posted ID:oi6CT6lbC

>>791 ตอบ >>791

793 Nameless Fanboi Posted ID:ZwjgvjcmN

>>791 >>792 INCEPTION

794 Nameless Fanboi Posted ID:ZwjgvjcmN

ป้าเจเคแย่งความดีความชอบ จนเด็กติดเกมสามารถเขียนนิยายเหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว SAO กับ The King's Avatar เป็นลูกเมียน้อย

795 Nameless Fanboi Posted ID:PS5pP+nXJ

เพื่อนโม่งๆ กูเห็นหน้าเพจเด็กดีแชร์นิยายเรื่อง "เกมต้องมนต์" กูเลยลองกดดู เห็นเขียนแนะนำเรื่องไว้อย่างกับแนวลึกลับ กูลองอ่านตอนแรกดู จากป้าช้าน้ำมันพรายกลายเป็นตัวละครเกม มีเลเวล สเตตัส มีช่องเก็บไอเท็ม กูนี่เลิกอ่านเลย แม่งเอ้ย นิยายแนะนำนี่ทำกูผิดหวังต่อเนื่องเป็นคอมโบรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้แล้ว คงเป็นกูที่ผิดเองดันหวังมากไปหน่อยว่านิยายแนะนำจะต้องมีอะไรดีสักอย่าง สรุปคือปิดตอนขายคอยน์แล้วขายดีเลยได้แชร์เท่านั้นเอง

/me กุมขมับนอกโม่ง

796 Nameless Fanboi Posted ID:ZwjgvjcmN

>>795 ถ้ากูเป็นทีมงาน กูตกอยู่สภาพกลืนน้ำลายไม่เข้าคายไม่ออกล่ะ นิยายเด็กดวกยุคนี้คุณตะพาบจริงๆ

797 Nameless Fanboi Posted ID:UAe9/Y7dd

>>794 ป้าแกเด่นเรื่องสร้าง "โลกเล็กๆ = เกาะอังกฤษ" ของแกนะ แต่พอสเกลขยายมาเป็นทั้งโลกนี่ดิ่งลงเหวเลย

798 Nameless Fanboi Posted ID:ZwjgvjcmN

>>797 พูดถึง กูนึกสมัยเด็กว่าเคยมีบางเรื่องสร้างโลกสเกลใหญ่เว่อร์แค่ใช้แค่ขี้เล็บว่ะ เช่น มีคนบอกตัวเอกว่าต้องตามไปรวบรวมของทั้งหมด มิฉะนั้น โลกจะถึงกาลอวสาน แต่ทั้งเรื่องวนเวียนอยู่แค่พื้นที่อำเภอเดียวจบ ไอ้เหี้ย คนบอกแม่งขี้โม้ทั้งเพ่

799 Nameless Fanboi Posted ID:cH0vs8BvG

>>792 ขอโทษที กูกดแท็กไม่ได้เลยพิมพ์เอาแล้วลืมเช็ค ลองมาหลายรอบละ
>>795 คิดงั้นเหมือนกันแหละ อย่างน้อยก็ถึงเวลารีไรท์แก้คำผิดและเช็ครูปประโยคสักรอบได้แล้วมั้ง เด็กห้าขวบสมัยนี้พูดข้ากันแล้วเหรอ

800 Nameless Fanboi Posted ID:d4cB5hYH1

พวกมึงว่าเด็กดวกจะมีนิยายคุณภาพโผล่มาอีกมั้ย แล้วเรื่องอะไรที่มึงมองว่าเป็นนิยายคุณภาพของเด็กดวกขอสาเหตุด้วยนะกูแค่อยากรู้ว่าในสายตาพวกมึงต้องประมาณไหนกูได้ตามไปอ่านด้วย

801 Nameless Fanboi Posted ID:UtQp5zXr6

>>800 https://writer.dek-d.com/nanaalice555/story/view.php?id=1551362 เรื่องนี้ พอเทียบกับนางร้ายเรื่องอื่นๆ ในหมวดรักแฟนตาซี กูว่าอันนี้ถือว่าคุณภาพแล้ว อย่างน้อยสุดก็ในมาตราฐานของกูเอง

802 Nameless Fanboi Posted ID:Vx3Cze6pj

>>801 แต่มึงสะกดมาตรฐานผิดนะ...

803 Nameless Fanboi Posted ID:T4kcbkinT

>>799 กุเคยเห็นเด็กอนุบาลสมัยนี้พูด กุ มึง ... มีด่าควย ไอ้เหี้ยด้วย

804 Nameless Fanboi Posted ID:UtQp5zXr6

>>802 แค่สระ า ตัวเดียวเอง

805 Nameless Fanboi Posted ID:UtQp5zXr6

อีกอย่าง กูเห็นในนี้ก็พิมพ์เกิน พิมพ์ผิด พิมพ์ตก ตั้งหลายคน จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ดี แต่ทำไมต้องเป็นกูที่โดนจับผิดวะ?

806 Nameless Fanboi Posted ID:gYuy9GlYv

>>805 มาแล้วไงตรรกะกุผิดคนอื่นก้อต้องผิดด้วย มึงโง่จริงหรือโง่จังวะ มันทักเพราะมึงผิดทิ่มลูกตามันไง คนอื่นผิดแต่มันไม่เห็นจะให้ย้อนกลับไปด่ารึไง คิดดิคิดสัส อย่าเกรียนแถวนี้ ยอมรับก้อจบ ไม่รับก้อเงียบปาก ลากคนอื่นลงเหวกับมึง มึงก้อไม่ถูกขึ้นมาหรอกโม่งง่าว

807 Nameless Fanboi Posted ID:UtQp5zXr6

>>806 ได้ มึงพิมพ์ ก็ ให้มันถูกด้วยนะ มันผิดจนทิ่มลูกตาทะลุถึงตาคนข้างหลังเลย

808 Nameless Fanboi Posted ID:H2dECouH2

สัส ชักเริ่มออกนอกประเด็นละ แยกย้าย เลิก เดี๋ยวมู้กลายพันธุ์อีก
>>799 ถ้าเป็นยุคสมัยก่อนแบบโบราณไฟฟ้าไม่มีนี่ยังมีใช้อยู่แหละ สมัยก่อนสรรพนามไม่หลากหลายแบบตอนนี้ไง มีแค่ท่าน ข้า เจ้า ไม่แปลกหรอกถ้าเด็กห้าขวบจะพูดแบบนี้ พอโลกเริ่มพัฒนาขึ้นหน่อยถึงเริ่มมีสรรพนามมากขึ้น แต่นิยายนี่มันก็ขึ้นกับว่าเซ็ตติ้งโลกยุคไหนแนวไหนนั่นแหละ โลกมีเทคโนโลยีเลิศล้ำขี่สกูตเตอร์ลอยฟ้าได้ เด็กสิบขวบมาเรียกว่าข้านี่น่าถีบ หยาบคาย เว้นแต่จะใส่เหตุผลมาส่าเป็นคนแก่แอ๊บเด็กอายุเฉียดพันแต่ใช้ร่างเด็กน้อย

809 Nameless Fanboi Posted ID:gYuy9GlYv

>>807 กุยอมรับกุขี้เกียจกดชิฟเองมีไรป่ะวะ กุไม่งอแงลากใครมาผิดด้วยอยุ่แล้วว่ะ

810 Nameless Fanboi Posted ID:UtQp5zXr6

>>808 จะว่าไปแล้ว ประเทศไทยเราเลิกใช้ ข้า เจ้า ตอนไหน ตอนยุคจอมพล ป. หรือเปล่า? หรือตอนเข้ายุครัตนโกสินทร์

811 Nameless Fanboi Posted ID:n5OcGnroZ

>>810 ข้ากูยังเห็นใช้เรื่อยๆนะ แบบ ข้ากับเอ็งอะไรงี้อ่ะ รุ่นพ่อกูก็ยังเห็นใช้คุยกับเพื่อนอยู่เลย

812 Nameless Fanboi Posted ID:NfDtmxbTa

>>809 เวลาแซะ ด่าคนอื่นโง่ ทำงานชุ่ย ขาดจิตสำนึกนักเขียนหรืออะไรทำนองนี้ในขณะที่ตัวเองพิมพ์ผิดมันแปลกไง ถ้าไม่ไปแซะเขาว่าเขาก่อนก็ไม่แปลกหรอก ถ้าจะติติงก็ควรพิมพ์ให้ถูก ยิ่งผิดแบบตั้งใจผิดอยู่แล้วคนโดนแซะแต่แรกก็ต้องอารมณ์ขึ้นเป็นธรรมดา กูเห็นเป็นกันหลายห้อง คนอื่นผิดกูด่าได้ แต่กูผิดแล้วกูก็รู้ด้วยว่าที่ทำอยู่มันผิดแต่กูตั้งใจ พวกมึงมีปัญหาอะไรกับกูหรือเปล่า กูคิดว่ามันแปลกนะ มึงไม่คิดว่ามันแปลกหรือ
>>805 มึงก็ใจแคบไปนิดหน่อย คนติงเขาก็ไม่รู้ว่ามึงเป็นใคร กูเห็นหลายคนเขียนผิดเพราะเข้าใจผิดมานาน เข้าใจว่าที่เคยเขียนไว้ถูกแล้ว บางทีก็ไม่ใช่คำยาก เขาอาจจะหวังดี หรือจริงๆ มึงอาจจะพิมพ์เกินก็ได้ >>802 ก็ไม่ได้เปิดมาด่ามึงเลยแต่แรก กูคิดว่าถ้าคนเราทำผิดก็บอกกล่าวสักคำ ขอโทษทีนะ กูพิมพ์เกินเอง ขอบใจมาก หรืออะไรทำนองนี้ โดนติงถ้าทบทวนดูแล้วเป็นเหตุเป็นผลก็ไม่ควรใช้อารมณ์โต้ตอบ ไม่อย่างนั้นคราวหน้าก็ไม่มีใครอยากติงมึงอีก แบบนี้มึงก็จะไม่รู้ข้อผิดพลาดของตัวเอง แต่ถ้าด่ามึงก่อนเลยนี่อารมณ์ขึ้นกูก็ไม่แปลกใจหรอก ถึงจะใช้เหตุผลตามหลังแต่พิมพ์มาชวนวิวาทแต่แรกกูเองก็ไม่ค่อยอยากคุยดีตอบ

813 Nameless Fanboi Posted ID:UtQp5zXr6

>>812 กู 805 นะ กูเข้าใจแล้วล่ะ ช่วงนี้รู้สึกหัวเสียง่าย
กูขอโทษ 802 ด้วยนะถ้ายังอยู่ กูผิดเองแหละที่พิมพ์เกิน+หัวร้อนใส่มึงอะ

814 Nameless Fanboi Posted ID:RT+g4bly6

กูแค่อ่านแล้วมองบนอย่างเดียว

815 Nameless Fanboi Posted ID:d4cB5hYH1

มึงกูแค่มาถามหานิยายคุณภาพในสายตาพวกโม่งไม่ได้มาเป็นสาเหตุให้พวกมึงตีกัน กูคห.ที่>>800 แล้วมีใครจะแนะนำอีกมั้ยเรื่องที่คุณภาพอ่ะ

816 Nameless Fanboi Posted ID:XnXMIDaIs

ไม่เข้ามาดูแป้บเดียว ทำไมด่ากันเฉยเลยวะ

817 Nameless Fanboi Posted ID:sva1H4ie0

ไม่ได้จะนินทานะ แต่สงสัยว่า บทนำคืออะไร?

https://www.dek-d.com/board/view/3814416/

818 Nameless Fanboi Posted ID:36+FmIdjJ

>>817 บทเปิดเรื่อง First impression ที่จะทำให้คนมาสนใจ เป็นได้ทั้งเรื่องย่อ Lore หรือดักควาย

819 Nameless Fanboi Posted ID:xx9cRJdwj

>>817 อ่านไม่รู้เรื่อง

820 Nameless Fanboi Posted ID:zkDmxl.Wv

บทนำนี่ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ใช่ป่ะ

821 Nameless Fanboi Posted ID:xx9cRJdwj

>>820 บางร้านอาหารไม่มีออร์เดิฟ บางร้านสั่งเมนูหลักจานเดียวทานได้เลย

822 Nameless Fanboi Posted ID:Mg6wG.q22

บทนำไม่ใช่เนื้อเรื่องจริง

823 Nameless Fanboi Posted ID:3HG7nBRcO

>>822 อธิบายเพิ่มหน่อยได้ไหม

824 Nameless Fanboi Posted ID:jMaoHBOzN

>>823 ส่วนใหญ่บทนำ (แต่ไม่จำเป็นต้องแบบนี้ก็ได้นะ) คือมักจะเขียนก่อนเนื้อเรื่องจริงๆ ตัวละครส่วนใหญ่ไม่มีบทในเนื้อเรื่องหลัก ถึงมีก็อาจมาหลังๆเลย หรือ กล่าวถึงเฉยๆ

825 Nameless Fanboi Posted ID:Odn7n2lKA

ถ้าแนวเกิดใหม่ไปต่างโลกมักจะไม่มีบทนำ เพราะตัวเอกจะต้องไม่รู้เหี้ยอะไรเลยในอีกโลก
ถ้ามีบทนำส่วนใหญ่ก็แค่เปรยว่าชาติก่อนเป็นใคร ทำอะไร ทำไมถึงตาย แค่นั้นล่ะ

826 Nameless Fanboi Posted ID:bY9K3UWyT

>>825 อันนี้กูถามหน่อยนะ แนวต่างโลกมันมีเรื่องไหนที่บทนำเอาจุดพีคของเรื่องมาปล่อยของมะ เห็นแต่มีบทนำแบบน่าเบื่อๆ อ่านไปเลยไม่ค่อยอินเท่าไหร่

827 Nameless Fanboi Posted ID:Mg6wG.q22

>>823 เพิ่งกลับบ้าน โทษที แต่ >>824 ตอบไปแล้ว
>>825 ถ้าตัดประเด็นชาติก่อนออกไปทำเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นเลยจะดีมาก แม่งเขียนไม่ต่างจากหนีความจริงวะ
>>826 เฉพาะนิยาย ไม่มีว่ะ ถ้านอกเหนือจากนิยายละก็มังงะ Final Fantasy Lost Stranger เข้าท่าสุด ขนาดกูไม่ใช่แฟนบอยเกม ถ้าทนอ่านตอนชาติก่อนไปได้ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง เป็นเรื่องเดียวที่กูเลิกอคติประเด็นชาติก่อนเลย นิยายเด็กดวกเกิดใหม่ต่างโลกต้องหลบชิดซ้าย

828 Nameless Fanboi Posted ID:S+Mftn.sc

คิดไปคิดมา เขียนบทนำให้น่าสนใจมันยากกว่าการเขียนเนื้อเรื่องหลักสินะ

829 Nameless Fanboi Posted ID:Odn7n2lKA

>>826 นิยายกูที่กำลังเขียนเอาจุดพีคมาปล่อยก่อนเลย
แต่ดูเหมือนต้องแก้อีกยาว เพราะพล็อตมันยาวเกินไป

830 Nameless Fanboi Posted ID:bY9K3UWyT

>>827 เดี๋ยวไปหาอ่านมั่ง ท่าจะน่าอ่านว่ะ
>>829 ขออ่านได้มั้ย55555 กูกำลังอยากอ่านอนวนี้อ่ะ

831 Nameless Fanboi Posted ID:PuhkfEpWJ

>>829 เหมือนกันเลย กำลังกลุ้มอยู่เนี้ย มีพล็อตในหัวแต่กลัวสื่อออกมาไม่ดี ยิ่งปมเยอะกลัวคลายปมเนื้อเรื่องไม่สอดคล้องกันอีก

832 Nameless Fanboi Posted ID:Mg6wG.q22

เงิบ แฟนฟิคแฮรี่พ่องตาย https://www.blognone.com/node/98342

833 Nameless Fanboi Posted ID:8KdI1rrvx

>>832 กุรู้สึกไม่ดาร์คว่ะ มันตลกมากกว่า 555 เหมือนเป็นพาโรดี้กุโระอ่ะ สำหรับกุแค่ใส่ฉากเลือดสาด ไม่ได้หมายความว่ามันดาร์คทันที ซูโทเปียไม่จำเป็นต้องหลั่งเลือด แต่สภาพสังคมในหนังก็ทำให้มันดูดาร์คได้

834 Nameless Fanboi Posted ID:ytyiQITo6

>>829 เหมียนกัน ตอนนี้เลยแก้ยาว แม่มเอ้ย กุไม่น่าเฉลยตั้งแต่บทนำเลย

835 Nameless Fanboi Posted ID:TdG1pymIP

>>830 >>831 >>834 นี่กู >>829 นะ คือตอนนี้กูกังวลว่าควรจะเอายังไงดี ระหว่างควรเขียนต่อหรือว่ารื้อเขียนใหม่หมดเลยดี

ตอนแรกวางเอาไว้ว่าจะเขียนราวๆ 300 หน้าจบภาค (ประมาณ 40 ตอน) แต่ตอนนี้เขียนได้แค่ 2/3 เท่านั้นก็ปาไป 400 หน้าแล้ว (เกือบๆ 60 ตอน) ถ้าขืนเขียนต่อจนจบเล่มนี่คงตกที่ราวๆ 600 หน้า (น่าจะ 80 ตอนได้) ซึ่งไม่รู้ว่าเยอะเกินไปรึเปล่า

ดันใช้ Show เยอะเกินไป แถมกูมีนิสัยเสียชอบบรรยายยาวด้วย ตอนนี้เลยยังไม่กล้าอัพลงเว็ปอะ เขียนเองกลุ้มเอง ให้ตายสิ

836 Nameless Fanboi Posted ID:FeacTOesH

>>835 ลองตัดฉากที่คิดว่าไม่ได้ใช้หรือจำเป็นในอนาคตออกยัง?

837 Nameless Fanboi Posted ID:FeacTOesH

>>835 แล้วก็การบรรยายบางอย่างก็ไม่ต้องใช้ Show ทั้งหมดก็ได้ แบบประมาณไม่ต้องบรรยายความง่วงตอนตื่นมาอะไรอย่างนั้นน่ะ

838 Nameless Fanboi Posted ID:i14obU99V

>>833 ซูโทเปีย what!!

839 Nameless Fanboi Posted ID:XtAtHOmxi

>>838 ซูโทเปีย ถ้าวิเคราะห์ดีๆ อะ แม่งโครตดาร์คเลยนะเว๊ย

840 Nameless Fanboi Posted ID:Qscfv4iTq

>>838 มันแฝงการ Racist ในสังคมเว้ย แล้วมีด้านการใช้สื่อสร้างความกลัวเพื่อเป็นฐานอำนาจอีก (แผนการนางแกะตอนท้ายอ่ะ) มีอีกนะ กุยกแค่เด่นๆมา

841 Nameless Fanboi Posted ID:TdG1pymIP

>>837 นั่นล่ะสาเหตุที่ต้องเขียนใหม่ - - เพราะดัน show เรียบตามสไตล์หนังสือแปลของฝรั่งเลย

>>838 ซูโทเปีย ก็ไม่เชิงดาร์กนะแต่มันเสียดสีสังคมน่ะ เหมือนที่ >>840 บอกมันแฝง Racist เยอะมาก ถ้าสมมุติให้พวกกินเนื้อเป็นคนดำ แล้วอยู่มาวันนึงเกิดมีประธานาธิบดีที่มีนโยบายเกลียดคนดำขึ้นมาคอยเป่าหูว่าคนดำไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้ จนสังคมที่อยู่เกิดกลัวคนดำขึ้นมาล่ะจะทำยังไง

842 Nameless Fanboi Posted ID:TUdroTRvo

กูเคยเขียนวิเคราะห์zootopia ส่งอาจารย์ ประเด็นเยอะกว่าเรื่องracismมากมาย ถึงขั้นที่ว่าracismเป็นแค่หนึ่งในกระบวนการของมันเลยนะ ได้เป็นเล่ม

843 Nameless Fanboi Posted ID:lt6MYeneT

อะไรคือ racism อ่ะไม่เข้าใจ

844 Nameless Fanboi Posted ID:zj+5piQRj

>>843 การเหยียด

845 Nameless Fanboi Posted ID:7gp7/gMIG

>>843 การเหยียดผิว เหยียดเพศ เหยียดชาติพันธุ์ เหยียดศาสนา เหยียดส่วนบุคคล เหยียดรสนิยม เหยียดสัตว์ เหยียดเด็ก เหยียดอาวุโส .................. เหยียด Nameless Fanboi

846 Nameless Fanboi Posted ID:6EmoItlCI

แต่ก็นั่นแหละ กุรู้สึกว่าบางคนคิดว่ายัดฉากฆ่าๆ โหดแล้วจะดูดาร์คเลย สำหรับกุมันดูตลก ประมาณ happy tree friend มากกว่า

847 Nameless Fanboi Posted ID:6Ki+/fvDV

ตกลงคำว่า dark เขียนยังไง ดาร์กหรือดาร์ค

848 Nameless Fanboi Posted ID:aXueonG.T

>>847 อย่าเขียนว่า ดาก แบบเด็กในบอร์ดก็พอ

849 Nameless Fanboi Posted ID:biNnJzvk9

Ky กูไม่รู้ว่าถามถูกห้องหรือเปล่านะ
แต่กูสงสัยอะ แฟนฟิคนี่มันสามารถลอกบทบรรยายของต้นฉบับ มาใส่ในฟิคของตัวเองได้ทั้งดุ้นเลยปะวะ?

พอดีกูไปเจอฟิคเรื่องนึง เขาลอกบทบรรยายจากตัวต้นฉบับมาใส่ในฟิคตัวเองทั้งพารากราฟเลย กูก็เลยสงสัย

850 Nameless Fanboi Posted ID:FciIezyW7

>>849 สำหรับกูฟิคนี่น่าจะเป็นการนำตัวละครในเรื่องนั้นมาเขียนใหม่ในแบบที่อยากให้เป็นนะ ไม่น่าจะใช่แระ การลอกบทบรรยายอ่ะ (รอโม่งคนอื่นมาตอบนะ ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน)

851 Nameless Fanboi Posted ID:SyZHLWLLb

>>849 ถ้าเอามาทั้งดุ้นแบบไม่เปลี่ยนอะไรเลยก็ไม่น่าจะได้มั้ง ผิดลิขสิทธิ์ด้วย

852 Nameless Fanboi Posted ID:7gp7/gMIG

บางคนเล่าเรื่องไม่เป็น ถึงกับลอกประโยคของคนอื่นมาแปะ

853 Nameless Fanboi Posted ID:biNnJzvk9

>>850 >>851 จับมือเลยเพื่อนโม่ง กูก็เข้าใจแบบนี้ ว่าลอกมาทั้งดุ้นมันไม่น่าได้อะ 55555555

>>852 ที่กูอ่านเจอมา บางทีเขาลอกกระทั่งบทสนทนาอะมึงงงง ไม่พอ ลอกบทบรรยายมาจากวรรณกรรมเรื่องอื่นไปด้วยอี๊ก

854 Nameless Fanboi Posted ID:7gp7/gMIG

>>853 ลอกขนาดนี้ สำนักพิมพ์ที่รับพิจารณาจะให้ผ่านจริงๆเรอะ

855 Nameless Fanboi Posted ID:Yyv2N+1pS

>>854 พวกแฟนฟิคมันตีพิมพ์ไม่ได้อยู่แล้วหนิ

856 Nameless Fanboi Posted ID:kbJXxRUEK

>>855 แต่มิกซ์แฟนฟิคได้ตีพิมพ์นะ

857 Nameless Fanboi Posted ID:hI658Qdjz

>>855 shade of grey 555 แฟนฟิคเอามาเปลี่ยนชื่อตัวละคร

858 Nameless Fanboi Posted ID:MbQoUvzdL

>>855 เคยเห็นผ่านๆอยู่ครั้งหนึ่งแฟนฟิคบารามอสได้ตีพิมพ์นะ สนพ.ไหนไม่รู้มันนานมากแล้วจำไม่ได้ เรื่องมันดาร์กๆหน่อย

859 Nameless Fanboi Posted ID:xfT8LAH60

แฟนฟิคแท้ ๆ ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนไอที่ลอกมาทั้งดุ้นน่ะ มันก็คือ “การลอก” ไม่เกี่ยวว่าต้องเป็นแฟนฟิค คือแฟนฟิคมันมีหลายแบบ อันนี้ขอยกตัวอย่างที่มาจากหนัง อนิเมะ การ์ตูน หรือพวกที่ไม่มีชีวิตละกัน เอาเท่าที่รู้นะ (ใครมีอะไรแย้งหรือเสริมก็เต็มที่)
1. เขียนฟิคแบบเดินเรื่องต่อจากตอนอวสานของเรื่องนั้น ๆ อันนี้จะใช้ทั้งนิสัย หน้าตา ช่ือ รวมไปถึงทุกอย่างของตัวละครต้นฉบับ (เช่น พลังพิเศษ) แล้วก็แต่งต่อเหมือนเป็นภาคพิเศษของเรื่องนั้น
2. เขียนฟิคแบบเอาแค่ชื่อและหน้าตามา แล้วเอามาเปลี่ยนนิสัย เปลี่ยนโลก เช่น พวกตัวละครมีพลังทำลายล้าง อาจจะกลายมาเป็นคนธรรมดาในฟิคก็ได้
3. พวกครอสโอเวอร์ (crossover) พวกนี้จะจิ้นข้ามเรื่อง ให้ตัวละครจากสองเรื่องที่แตกต่างกัน(หรืออาจคล้ายกัน)มาเจอกันในฟิคตัวเอง ซึ่งอาจจะกล่าวถึง 1 ใน 2 โลกของทั้งสองเรื่อง หรือจะสร้างโลกใหม่ก็ได้ (บางเรื่องก็ครอส 4-5 เรื่องจนงงก็มี)

พวกนี้มักจะแต่งเพราะมีความสุขเป็นตัวขับเคลื่อน เช่น อยากเห็นตัวละครโปรดเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่สำหรับพวกที่มิกซ์แฟนฟิคแล้วเปลี่ยนชื่อจนได้ตีพิมพ์ เขาคงจะผสมแรงบันดาลใจของเขาเนียนได้อยู่ล่ะมั้ง

860 Nameless Fanboi Posted ID:XI10dVwI1

จริงๆ แฟนฟิคมันผิดกฏหมาย แต่มีน้อยมากที่เจ้าของ ลขส. จะดำเนินคดีอย่างจริงจัง ด้วยเหตุผล 2 ข้อ ข้อแรกคือมันเสียเวลาที่จะต้องฟ้องร้องไม่ว่าจะในหรือต่างประเทศ ค่าเสียหายที่ได้รับก็น้อยจนไม่คุ้มค่าดำเนินการ ถ้าคู่กรณีเป็นเด็กหัวโปกมันก็ไม่มีปัญญาจ่ายอยู่แล้ว ข้อหลังคือมันเป็นส่วนนึงที่ทำให้เรื่องหลักได้รับความสนใจอย่างอ้อมๆ (คนอาจเอาชื่อเรื่องไปค้นในกูเกิ้ลแล้วดูเรื่องหลักว่าเป็นยังไง) ได้อย่างเสียอย่างแหล่ะเรื่องนี้

ถ้าจำไม่ผิดเคสที่ดังๆ เรื่องแฟนฟิคโดนฟ้องนี่ คงเป็นตอนจบของโดราเอม่อน ขนาดตัวอาจารย์ฟูจิโอะเองก็ยังไม่ได้คิดจะเขียนตอนจบไว้ อันที่ออกมาคือคนนอกกลุ่มแฟนคลับมโนขึ้นมาเองว่าเป็นเนื้อหาที่อาจารย์แกเขียนไว้ก่อนตาย ส่วนในไทยก็อย่างที่ข้างบนบอก โดยเฉพาะโรเซเนี* ต่างประเทศก็ 50 เทา

861 Nameless Fanboi Posted ID:qjzlpXm3p

ฮือออ กูคือคนที่มาบ่นเรื่องแฟนคลับนิยายจีน แกรี่สตู บ่อยๆ นะ คือมันสุดที่จะทานทนแล้วอะมึง ตอนนี้กูกดออกจากกรุ๊ปนักอ่านส้นตีนนั่นหมดเลย ถึงแม้ชื่อกลุ่มแม่งจะไม่มีคำว่าจีน เป็นแบบ แบ่งปัน แนะนำนิยายน่าอ่าน แต่แม่งก็มีแต่จีนๆ ไอ้เหี้ย และที่เหี้ยที่สุดคือนักอ่านแม่งถามหาแต่ความแกรี่ ขอแบบเก่งเทพ เย็ดสาวไปเรื่อย ขอแบบเก่งเทพ รักเดียวใจเดียว ขอแบบเก่งเทพ แต่ซ่อนคมเอาไว้ คือทุกเรื่องต้องเก่งเทพเป็นแกนไว้ก่อนอะ

แล้วที่เหี้ยกว่าคือคนที่มาแนะนำนิยายเนี่ยล่ะ แม่งมาแนะนำแต่ละเรื่องนี่ทำกูอยากกุมกบาลมากๆ คือกูก็เคยอ่านนิยายแกรี่มาเหมือนกันไง อย่างเช่นที่มีคนถามว่า อยากได้พระเอกเก่งเทพ ที่ไม่แสดงออก แม่งมีคนมาตอบว่าเรื่องพยัคฆ์ราชซ่อนเล็บของไอ้เยี่ยกวน กูก็แบบ เหี้ยยยยย ไอ้ห่าเซี่ยสินนั่นแม่งไม่แสดงออกตรงไหนวะสัส ไอ้เหี้ยที่แนะนำเรื่องนี้มึงมีปัญหาทางสมองรึเปล่า ถ้ามึงคิดว่าไอ้พระเอกเหี้ยนั่นไม่แสดงออก แล้วเรื่องที่พระเอกโชว์เทพแบบเปิดเผยในความคิดมึงมันจะขนาดไหนวะ

แถมไอ้เรื่องเหี้ยนั่นแม่งโคตรมั่วเลย ตอนท้ายๆ พระเอกแม่งมีไปเข้ารีตเป็นอิสลามด้วย สัส

862 Nameless Fanboi Posted ID:XI10dVwI1

>>861 อ่านบรรทัดสุดท้ายกูขำหายง่วงเลย 55555

พูดถึงเก่งเมพเนี่ย มันเป็นความชอบของเด็กเกรียนยุคนี้ ไม่ชอบรอ ไม่อยากอ่านตอนฝึกวิชา ไม่ต้องมีพัฒนาการตัวละคร... ไม่ดิ ชอบดูแบบที่พระเอกโชว์เทพแล้วได้รางวัลได้ยศ จน OP ขึ้นเรื่อยๆ จากตอนแรกเก่งอย่างเดียวกลายเป็นแม่ทัพ คู่หมั้นเจ้าหญิง ฮีโร่ไปในตอนท้าย แล้วรู้สึกว่าเฮ้ยโคตรเท่ ตบหญิงเข้าฮาเร็มรัวๆ ทำดีนิด ปักธงหน่อย ก็ได้มี event เย็*เมียหลวง เมียน้อย สลับๆ กันไป เหมือนอนิเมะเรื่องสมาร์ทโฟนต่างโลก ที่แม่งดังได้ไงวะ ขยะโคตรๆ เนื้อเรื่องก็ง่ายดายราบรื่น หาความประทับใจไม่ได้เลยแม่ง...

863 Nameless Fanboi Posted ID:B0fXkrSa0

ขอ ky อีกนิดให้โลกนี้สดใส
เฮ้ยมึง กูต้องการจะเขียนฉากปักธงสาวที่สมเหตุสมผล แต่กูไม่รู้ต้องเขียนยังไงให้มันสมเหตุสมผล มีใครแนะนำได้บ้าง?

864 Nameless Fanboi Posted ID:l6Dl7kM1y

>>863 มึงเป็นผู้หญิงป่ะ ถ้าเป็นมึงก็คิดถึงตัวเองอ่ะ ถ้ามีผู้ชายมีผัวเพื่อนมาทำดีด้วย ต้องดีแค่ไหนมึงถึงเปิดใจ
มึงวางปมอะไรให้สาวๆล่ะ

865 Nameless Fanboi Posted ID:dXvoaW8y0

>>860 ของโดเรม่อนโดนเพราะทำเงินได้เยอะไปด้วย ขายได้เป็นล้านเยอะแนะ ตอนนั้นถือว่าเยอะมาก แต่ที่บอกว่าทำให้คนเข้าใจผิดก็ส่วนหนึ่ง ถึงมันจะไม่ได้บอกว่าคนแต่งแต่งไว้ก่อนตายก็เถอะ คนอ่านเข้าใจไปเอง เพราะโดเรม่อนมีตอนจบจริงๆ ตั้งนานแล้ว

>>861 เซี่ยสินมันเข้ารีตหลอกๆ ทำเพื่อดึงมวลชนเข้าหาตัวเอง มันไม่ได้มีอะไรที่เป็นอิสลามซักนิด ถ้าดูดีๆ ในเรื่องและในประวัติศาสตร์ ซำปอกงหรือเจิ้งเหอเป็นมุสลิม เป็นพุทธ และก็ถือเต๋าตามคนจีนทั่วไปด้วย ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรในสมัยนั้น

ตอนแรกกูชอบงานของเยี่ยกวนนะ แต่นานๆ เข้าเริ่มเบื่อวะ 2 เรื่องมาแนวเดียวกันเลย แถมเรื่องอ๋องนี่ผู้หญิงเป็นกระหรี่ทัชสกรีนมากๆ แค่พระเอกโดนตัวทีก็อยากถวายหีให้ทุกคน มโนหาควยความยาวเฉลี่ย 4 นิ้วไม่หยุด แม้แต่องค์หญิงกับเมียคนอื่นแล้วก็ไม่เว้น เหี้ยจริงๆ

866 Nameless Fanboi Posted ID:yLTmJ+BWb

>>865 เข้ารีตหลอกๆแล้วต้องขลิบควยปะวะ

867 Nameless Fanboi Posted ID:Md4IxL8x0

>>866 ไม่ ปรกติถ้าเข้ารีตตอนโตนี่ไม่ต้องขลิบนะ

868 Nameless Fanboi Posted ID:yLTmJ+BWb

>>867 บากะน่า กูมีเพื่อน-คนรู้จักชายที่แต่งเข้าอิสลาม แม่งบอกว่าต้องขลิบทุกคน

869 Nameless Fanboi Posted ID:Md4IxL8x0

>>868 ทำใมเพื่อนกูแต่งเข้าไม่ขลิบวะ หรือมันไม่เคร่ง ทุกวันนี้แม่งก็แดกหมูอยู่เลย

870 Nameless Fanboi Posted ID:CXKKXyo3U

>>869 เพื่อนกุก็เพิ่งแต่งเข้า มันก็ได้ชื่ออิสลามมา แต่มันขลิบตั้งแต่เกิดอยู่แล้วนะ
ส่วนแดกหมูนี่ แล้วแต่วะ ไปกับบ้านเมีย หรือ เมียมาก็ไม่แดก อยู่กับเพื่อนก็แดกตามปรกติ

871 Nameless Fanboi Posted ID:W20XDwEVA

ของกูมันเปิดหนังได้อยู่แล้ว ถ้าแต่งเข้ากูยังต้องขลิบอยู่มั้ยวะ

872 Nameless Fanboi Posted ID:nZ7JtvIBX

กระทู้มีสาระดีนะ

873 Nameless Fanboi Posted ID:qcxk1uAvv

I see some misconceptions. But hey...

874 Nameless Fanboi Posted ID:ZbD8peDH2

>>864 กู 863 นะ ไปโรงเรียนพึ่งกลับ
กูเป็นผู้ชาย ม.6 เวอร์จิ้น ไม่มีประสบการณ์จีบผู้หญิงเลยแม้แต่ครั้งเดียว
นิยายของกูเป็นโลกแฟนตาซียุคกลาง พระเอกเป็นลูกเคานต์ นางเอกเป็นลูกดยุก
ที่กูวางไว้ คือ นางเอกมีปมเรื่องคู่หมั้นที่เป็นเจ้าชาย เพราะนางเอกไม่ได้รักเจ้าชาย แต่ต้องหมั้นและแต่งงานตามหน้าที่ที่ได้รับในฐานะตัวเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างตระกูล เพราะในโลกนี้มีธรรมเนียมว่า 'ตระกูลสองตระกูลจะเป็นพันธมิตรกันตราบเท่าที่คู่แต่งงานระหว่างตระกูลยังอยู่' ตระกูลนางเอกกับราชวงศ์เป็นพันธมิตรที่ขาดกันไม่ได้ เพราะมีความโดดเด่นคนละด้าน ราชวงศ์มีกองทัพเรือที่แข็งแกร่งคอยจัดการโจรสลัดในทะเลเปิด ทำให้การค้าของตระกูลดยุกรุ่งเรือง แต่ไม่มีกำลังทรัพย์กับทัพบกที่มีประสิทธิภาพพอ ส่วนฝ่ายดยุกร่ำรวยด้วยเหมืองทอง เพชรและอื่นๆ + การค้าขายทางทะเลกับประเทศอื่น ทำมีกองทัพบกที่แข็งแกร่งด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ แต่ทัพเรือสู้โจรสลัดในทะเลเปิดไม่ได้ เลยคอยทำหน้าที่ปราบกบฎหรือขุนนางบนบกที่แข็งข้อต่อฝ่ายราชวงศ์ ระหว่างที่ฝ่ายราชวงศ์คอยทำลายพวกโจรสลัดในทะเลเพื่อให้เรือสินค้าของดยุกเดินทางปลอดภัย
[ในประเทศนี้แบ่งเป็น 10 เขตปกครอง 1 เขต มี 1 ดยุกและมีเคานต์หรือขุนนางเล็กๆ ซอยย่อยลงไปอีกที พระเอกเป็นแค่ลูกของเคานต์ เขตที่พระเอกอยู่มีจุดแข็งที่คนในเขตมีแรงเยอะ เก่งต่อสู้และเชี่ยวชาญในรบทางบกที่สุดใน 10 เขต แต่มีจุดด้อยคือ ยากจนและมีคนน้อย [ตระกูลนางเอกตระกูลเดียวไม่นับตระกูลรับใช้ เรียกระดมคนได้ 10,000 คนใน 1 วันส่วนตระกูลพระเอกได้แค่ 2,000 ใน 1 วัน]]
กูวางปมไว้แบบนี้ แล้วกูคิดไม่ออกว่าจะแก้ปมของตัวเองยังไงให้สมเหตุสมผล แบบที่ไม่ต้องตัดปมกอร์เดียน

875 Nameless Fanboi Posted ID:1ogapaxA3

>>874 ที่มึงอธิบายมาไม่ได้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของตัวพระนางจริงๆเลยนะ รู้แต่ว่าถูกคลุมถุงชนเฉยๆ

876 Nameless Fanboi Posted ID:ZbD8peDH2

>>875 ขอโทษ กูนึกว่าปมที่ว่าคือปัญหาใหญ่สุดที่ต้องเจอ
ถ้าเอาเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างพระ-นาง ตอนนี้คือ 'เพื่อน' พระเอกเคยช่วยนางเอกกับน้องนางเอกจากการหลงป่าแถวๆ บ้านตัวเอง จากนั้นนางเอกก็จะมาเยี่ยมมาหาพระเอกแค่เดือนละครั้งหรือสองครั้ง มีเท่านี้แหละ

877 Nameless Fanboi Posted ID:6MKgY0ZnZ

>>876 ก็ค่อยๆ พัฒนาจากเพื่อนเป็นเพื่อนสนิทแล้วค่อยเป็นคนรักไง?

878 Nameless Fanboi Posted ID:KTu9YTEsd

>>877 แต่คำถามสำคัญคือ' พัฒนา ' ยังไงดีอะ กูว่าแค่แวะมาบ้านแล้วคุยกันเฉยๆ มันไม่น่าช่วยพัฒนาได้แบบนั้น ถึงกูจะไม่มีประสบการณ์จีบหญิงเลยก็เถอะ

879 Nameless Fanboi Posted ID:Hox/totIk

>>874 ทำ Stockholm syndrome โลด
/me อย่างตีกู กูแค่มาเผือก!

880 Nameless Fanboi Posted ID:ZCucoAQSr

>>878 อันนี้กรูขอลองมโนพล็อตเล่น ๆ ดูนะ เผื่อจะเป็นไอเดียได้

จริง ๆ แค่แวะมาบ้านแล้วคุยกันเฉย ๆ ก็พัฒนาได้นะ ลองสร้างพล็อตประมาณว่า นางเอกตอนอยู่บ้านตัวเองโดนหน้าที่และตำแหน่งคอยค้ำหัว ไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้ ที่บ้านเย็นชา พ่อแม่ไม่ค่อยสนใจ เห็นเป็นเครื่องมือสำหรับไว้ผูกญาติกับราชวงศ์ แต่พอเวลามาเยี่ยมบ้านพระเอกแล้วรู้สึกสงบ มีความสุข รู้สึกเป็นตัวของตัวเอง กลายเป็นครอบครัว เป็นบ้านที่แท้จริง อะไรก็ว่าไป ส่วนพระเอกพออยู่ด้วยกันเรื่อย ๆ ได้คุยกันเรื่อย ๆ ก็เริ่มรู้สึกผูกพัน อะไรเงี้ย... จริง ๆ แล้วอาจจะให้สองคนนี้ติดต่อทางจดหมายด้วยก็ได้ ถ้าจะให้รู้สึกว่าทั้งสองติดต่อกันถี่ขึ้นอ่ะ

881 Nameless Fanboi Posted ID:YI10l27AE

>>878 กุว่าความรักเป็นอะไรที่ใช้เหตุผลจำกัดยากมากเลยว่ะ บางทีเป็นเพื่อนกันตั้งนาน แต่พอมีคนที่สามเข้ามาจีบเพื่อนของเรา บางทีเราอาจจะพึ่งรู้ตัวว่าเราคิดกับคนๆนั้นมากกว่าเพื่อน บางทีพูดคุยถูกคอเข้ากันได้ เป็นที่พึ่งให้อบอุ่นใจ ก็อาจจะรักกันได้(โชคร้ายก็โดนยัดเฟรนโซน) บางทีความแตกต่างที่ฝั่งนึงมีก็อาจทำให้มีอะไรลึกลับน่าค้นหา จนพัฒนาเป็นความชอบพอกันได้ มีอีกเยอะว่ะ 55

882 Nameless Fanboi Posted ID:25eZ.81kb

นี่ถามหน่อย ประเด็นความรักที่ไม่ใช่แฟนหรือคนรัก จะถือว่านิยายรักรึเปล่า

883 Nameless Fanboi Posted ID:7iHZYpCwJ

>>882 กลายเป็นนิยายรักสีขาว

884 Nameless Fanboi Posted ID:JvnBENCIT

มีโม่งคนไหนเคยเป็นไหม
https://www.dek-d.com/board/view/3815187/

885 Nameless Fanboi Posted ID:mjjvlsP3c

>>884 ไอ้อ่านแล้วอินเนี่ยเป็นบ่อย เพราะ 1. เราไม่รู้ว่าเรื่องจะไปทางไหนต่อ 2. เราเลยเอาใจช่วยตัวละครที่เราชอบ เพราะเราทำอะไรมากไปกว่านั้นไม่ได้

ส่วนที่เขียนเอง ตอบเลยว่าไม่ เพราะกูไม่เคยเอาความเป็นตัวกูใส่ไปเป็นตัวเอกเลย คือเวลาปั้นตัวละครเนี่ยกูก็สร้างขึ้นมาใหม่หมดนะ พยายามให้มันเป็นมนุษย์โดยอาจเอาจุดดีจุดด้อยของคนใกล้ๆ ตัวมาใส่ แล้วสร้างภูมิหลังของตัวละครเพื่อสนับสนุนลักษณะนิสัยนั้นน่ะ เพราะงั้นตอนแรกกูจะสนุกมากกับการปั้นตัวละคร สร้างสถานการณ์ต่างๆ แต่พอมาถึงช่วงท้าย แม่งจะทื่อๆ ละ เพราะกูต้องเดินเกมไปตามเรื่องราวที่วางไว้ตั้งแต่ตอนแรก และต้องขมวดปมให้จบ เดินไปสู่จุดหมายที่วางเอาไว้

เพราะงั้นกูจะไม่ค่อยอินไปกับเรื่อง (เพราะรู้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นยังไง) คือก็เขียนไปตามที่วางแผนเอาไว้โดยไม่มีการด้นสดอีกต่อไปแล้วอะ ก็เลยไม่มีห่าอะไรให้ลุ้นเลย (คนอ่านลุ้น กูไม่) ถามว่าสนุกกับการเขียนไหม ก็สนุกอยู่ แต่ไม่ได้อิน ไม่ได้เขียนแบบบ้าพลังเหมือนตอนเปิดเรื่องหรอก

886 Nameless Fanboi Posted ID:JvnBENCIT

>>885 เห้ย มึงนี่คิดตรงกับกูเลยว่ะ เหมือนเอาสิ่งที่อยู่ในใจกูมาพิมพ์ กูเขียนเองก็ไม่อินนะ เพราะกูรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป อ่านน่ะอินอยู่ เหมือนกันเลย

แต่เวลากูปั้นตัวละคร(ตรงนี้กูไม่เหมือนมึงล่ะ) จะมีเอาตัวเองใส่ลงไปบ้างเล็กน้อย (เล็กน้อยจริง ๆ เพราะตัวกูแม่งไม่มีเหี้ยอะไรน่าสนใจเลย) หยิบเอานิสัยชาวบ้านชาวช่องไปใส่ไปบ้างนิดหน่อย เพราะกูปั้นตัวละครไม่ค่อยเก่ง คิดเองหมด แม่งเป๋ ๆ ทุกที

เห็นด้วยนะ ที่ว่ายิ่งเขียนไปเรื่อย ๆ ความสนุกจะค่อย ๆ ลดลง เพราะมันแอบกดดันนิดนึงว่ะ555 อย่างที่มึงบอกเลยว่าต้องหาทางคลายปม หาที่ลงให้เนื้อเรื่อง มันจะไม่ได้สนุกเหมือนตอนแรก ๆ ที่เขียนล่ะ

887 Nameless Fanboi Posted ID:cddzGfPNV

>>884 กูเคยหลงเข้าไปอ่านนิยายเจ้าของมู้นี้ เพราะเห็นมีบทวิจารณ์ตั้ง4 ดีๆทั้งนั้น ข้อติแทบไม่มี กูเลยคิดว่าแม่งต้องดีมากแน่ มีคำนิยมอีก2ด้วยนะมึง
ตั้งแต่เล่นโม่ง กูเลยติดนิสัย ชอบอ่านวิจารณ์ก่อนตัวนิยาย
แต่พออ่านเรื่องแม่งไปได้สักพัก เห้อ...

888 Nameless Fanboi Posted ID:cUhp2K5FN

>>884 ถ้าอ่านของชาวบ้านเป็นแต่เขียนเองไม่เป็นอาจเพราะรู้อยู่แล้วว่าเรื่องของเราจะไปในทางไหนมันไม่ได้ลุ้นอะไร

889 Nameless Fanboi Posted ID:7SgHqjfF2

>>887 ดูอ่านบรรยายเขาแล้วเหนื่อย คนเขียนคำชมนี่เพื่อนเขารึเปล่ามึง

890 Nameless Fanboi Posted ID:cddzGfPNV

>>889 ชัวร์ สังเกตจากยอดFav.236 แต่เมนต์มีตั้ง328 กูเลยขอเสือกด้วยการไปส่องเมนต์ เอ้า! หน้าเดิมๆทั้งนั้น แต่ละคนก็เหมือนทำไปงั้น รักษามารยาท มาสั้นๆ อารมณ์ไม่รู้จะเมนต์อะไร

891 Nameless Fanboi Posted ID:cddzGfPNV

>>889 >>890 เสริมๆ กูลืม 1ในคนที่เขียนคำนิยม คือตามเมนต์ให้ตลอด แบบนี้ไม่ต้องสงสัย เพื่อนกันชัวร์

892 Nameless Fanboi Posted ID:Mrk82HGmr

>>887 กูลองเข้าไปอ่านบทแรกดู ก็วิจารณ์อะไรไม่เป็นหรอกนะ แต่ว่าไงดี มันจืดมันชืด เรื่อยๆจนแอบน่าเบื่ออ่ะ แถมจบตอนแบบดื้อๆซะงั้น นางเอกเดินเข้ารร. เดินชนแฝด เดินไปห้องประชุมด้วยกัน จบตอนแรก /เอิ่ม กูว่ามันห้วนไปนะ

893 Nameless Fanboi Posted ID:vPqTwE1ZY

>>891 ไม่จำเป็นน่าาา บางคนเขาอาจชอบมากก็ได้ เลยตามมาเป็นแฟนพันธ์ุแท้ กูก็เคยมีนักอ่านแบบนี้

894 Nameless Fanboi Posted ID:OIAqwZtXI

ปกติเม้นน้อยกว่าคนติดตามหรอ

895 Nameless Fanboi Posted ID:cddzGfPNV

>>894 กู>>890 เองนะ พอมึงทักมาแบบนี้ กูเลยมาคิดดูอีกที มันก็ไม่จำเป็นเสมอหรอก แต่เรื่องนี้กูดูจากจำนวนตอนกับยอดfav.แล้ว สรุปใหม่ว่า fav.น้อยไปนิด ถ้าดูจากจำนวนตอนและบทสิจารณ์อันดีงาม

896 Nameless Fanboi Posted ID:zyUSLPcNn

จะว่าไป กูเคยเห็นมีคนเคยบอกว่าจะไล่สับนิยายพวกในบอร์ด ไม่เห็นมีใครสับเลยวะ

897 Nameless Fanboi Posted ID:cddzGfPNV

>>896 งั้นถ้าใครจะเริ่ม เริ่มจากคนที่กำลังพูดถึงนี่ก่อนเลยนะ กูอยากรู้มันจะเจ๋งสมบทวิจารณ์ไหม
แต่ดูจากที่>>892 บอก คิดว่าน่าจะไม่เท่าไหร่

898 Nameless Fanboi Posted ID:OIAqwZtXI

ขอถามหน่อย คือถ้าเราเขียนเปิดแบบนี้มันจะดูห้วนไปไหม?

ร่างของเด็กชายผมแดงพุ่งออกมาจากความว่างเปล่า กลิ้งล้มจนหลังไปกระแทกกับอิฐสีแดงส้มเสียงดังตึง

แล้วบรรทัดต่อมาก็เจอกับนางเอกเลย

899 Nameless Fanboi Posted ID:Mrk82HGmr

>>898 คหสต. กูว่ามันก็ห้วนๆอยู่นะ อาจจะมีเกริ่นนำซักย่อสองย่อหน่อยก็ดี

900 Nameless Fanboi Posted ID:rvh4f9/pq

>>898 ผมสีแดงฟุ้งกระจายเหมือนเส้นไหมในพายุ ใบหน้าตื่นตระหนกของเด็กชายพุ่งออกมาจากความว่างเปล่า ร่างปวกเปียกล้มกลิ้งไป เกิดเสียงดังตึง เขาสลบอยู่ข้างหน้าผนังอิฐสีส้มแดง

ลงชื่อ เซฮุน มาไว้อาลัย จงฮยอน

901 Nameless Fanboi Posted ID:T7xef.kzP

เฮ้อ... กูอยากทิ้งไอ้นิยายที่เขียนอยู่ตอนนี้แล้วไปเปิดเรื่องใหม่ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมทำใจทิ้งมันไม่ได้ซะที
ลบทิ้งให้หมดเลยมันจะช่วยอะไรมั้ยวะเนี่ย

902 Nameless Fanboi Posted ID:zyUSLPcNn

>>901 อย่าลบ ไม่งั้นจะเสียใจภายหลังแบบกู แนะนำให้มึงเขียนตรงแนะนำเรื่องว่า อยู่ในสถานะหยุดแต่งอย่างไม่มีกำหนด แล้วไล่ปิดตอนไม่ก็เปิดตอนใหม่ว่าจะหยุดเขียนเรื่องนี้แล้วไปเขียนเรื่อง(ใส่ลิงก์เรื่องใหม่ลงไปด้วยจะได้ตามถูก)

ตอนนี้มึงอาจไม่พอใจ แต่ถ้าเว้นไปนานๆ แล้วกลับมาอ่านใหม่ อย่างน้อยมึงยังรีไรท์ได้ แต่ถ้าลบเรื่องออก มึงจะไม่เหลืออะไรเลย แล้วถ้าคอมเม้นท์/แฟนคลับรวมของมึงมีน้อยกว่าเรื่องนี้ สถิติในมายไอดีจะติดลบจนเป็นที่น่าอับอาย เช่น เรื่องแรกมีแฟนคลับ 10 คน มีเม้น 20 เม้น แล้วเรื่องที่มึงลบดันมีแฟนคลับ 25 กับ 100 เม้น เลขที่จะโชว์ในมายไอดีส่วน Writer จะขึ้นว่า -15 กับ -80 เห็นแล้วมึงจะอยากสร้างไอดีใหม่เลยล่ะ

903 Nameless Fanboi Posted ID:k9fJk.FVx

เห็นบนๆ พูดเรื่องคนเม้นเยอะกว่าคนติดตาม กูถามหน่อยสิ วิวเยอะกว่าผู้ติดตามแบบนี้นี่ถือว่าผิดปรกติไหมวะ
ไม่ใช่ตอนต้นๆ ด้วยนะ คนติดตามมีแค่ 38 คน แต่ยอดวิวตอนที่ 6 7 8 เป็น 114 107 103 ???

904 Nameless Fanboi Posted ID:T7xef.kzP

>>902 กูยังไม่ได้ลงเว็ปน่ะ ตอนนี้ยังอยู่ใน Word
แต่นี่คือกูพักมา 3 เดือนแล้วไง ไอเดียเขียนมันตีกันมั่วไปหมดเลย

905 Nameless Fanboi Posted ID:vPqTwE1ZY

>>903 ไม่แปลก เพราะเป็นตอนต้น ตอนต้นๆ ยอดวิวสมควรเยอะกว่ายอดเฟ้บอยู่แล้ว

แต่มันจะมีจุดนึงที่จู่ๆ ยอดวิวจะตกลงมาต่ำกว่ายอดเฟบ ลองหาดูแล้วกัน แล้วหลังจากนั้นมันก็จะค่อยๆ ต่ำลงมาเรื่อยๆ จนมาถึงจุดคงที่ นั่นแหละปริมาณแฟนคลับจริงๆ ของนิยายมึง

906 Nameless Fanboi Posted ID:OIAqwZtXI

>>904 ยังไงก็ห้ามลบเด็ดขาด ถ้าอยากเขียนเรื่องใหม่จริงๆ ก็หันไปให้ความสนใจเรื่องที่อยากแต่งก่อน เรื่องเก่าเดี๋ยวค่อยกลับมาแก้เอาก็ได้

907 Nameless Fanboi Posted ID:5NQ0BNeRk

มู้อัลไลวะ https://www.dek-d.com/board/view/3815114/

908 Nameless Fanboi Posted ID:TmMyuvUF9

>>907 เลอะเทอะสัสๆ

909 Nameless Fanboi Posted ID:.H4yqHjd+

>>907 แล้วจะไปฟีดโทรลกันทำไม ไม่เข้าใจ

910 Nameless Fanboi Posted ID:k9fJk.FVx

พึ่งสังเกตว่าขึ้น 900 แล้วนี่ คนสับหาโอกาสลงมู้ต่อไปหรือเปล่า ช่วงนี้เลยไม่ค่อยเห็น?

911 Nameless Fanboi Posted ID:TgUGV.cfx

The Power of Christ compels you.

912 Nameless Fanboi Posted ID:frar9uYtM

>>910 มีช่วงนึงสับกันรัวๆมากนี่

913 Nameless Fanboi Posted ID:/xXcFRhP.

อยากอ่านที่โม่งสับของเบลล์อ่ะ หาไม่เจอ อยู่ในมู้นี้ปะ

914 Nameless Fanboi Posted ID:k9fJk.FVx

>>913 น่าจะมู้ที่แล้วนะ

915 Nameless Fanboi Posted ID:j8SROyhQ5

ตั้งชื่อมู้กันยัง? รอบนี้ไม่ค่อยมีประเด็นอะไรให้ยกมาตั้งเลยวุ้ย

916 Nameless Fanboi Posted ID:vPqTwE1ZY

>>915 ไม่ต้องรีบ เหลืออีก 80 กว่าเม้น ช่วงท้ายๆ เนี่ยแหละตัวพีค ถ้าแม่งจะไม่มีอะไรจริงๆ ก็ตั้งชื่อทื่อๆไปก็ได้ แบบ บทที่ aaa จบ

917 Nameless Fanboi Posted ID:k9fJk.FVx

>>915 ถ้าจะตั้ง กูขอให้มีคำว่า นางร้าย ไม่ก็ เจ๊ลิส ในชื่อนะนะนะ

918 Nameless Fanboi Posted ID:5iJewn6ar

ขอ ky หน่อย ไอ้คำว่า edgy นี่คือไรวะ เห็นบ่อยในบอร์ดฝรั่ง

เราพึ่งเล่นครั้งแรกมีอะไรผิดพลาด ขออภัย

919 Nameless Fanboi Posted ID:hQydWNppN

>>918 พยายามทำตัวเท่ๆ เก๊กๆ แต่ออกมาดูตลกมากกว่า ประมาณเล่นdmcเยอะแล้วอยากทำเท่แบบดันเต้ เวอจิ้ว แต่กลายเป็นตัวตลกแทน

920 Nameless Fanboi Posted ID:5iJewn6ar

ขอบคุณมากครับ ชาวโม่ง กระจ่างเลย

921 Nameless Fanboi Posted ID:Mrk82HGmr

>>919 ขอล่ะ อดไม่ได้ว่ะแต่เวอร์จิลเว้ย เวอจิลยังพอหยวนๆแต่เวอจิ้วนี่มันไม่ไหวจริงๆว่ะ555

922 Nameless Fanboi Posted ID:5GLYkwXKl

>>917 มึงโม่งมารีใช่ไหม ว่างป่ะ ถ้าว่างเอาไอ้ที่พวกมันพูดเมื่อเช้าไปสับทีดิ๊ ที่ว่าคนวิจารณ์ดีๆเยอะๆน่ะ กูไปส่องมาแว๊บๆเห็นอยู่หมวดเดียวกับพวกนางร้ายเลยนึกถึงมึงเลย เรื่องนี้อ่ะ >>887

923 Nameless Fanboi Posted ID:8HL/RuDWH

>>913 อันนี้ที่ไปแปะหน้านิยายน้อง อยู่ท้ายๆ มู้อ่ะ เสิร์ชชื่อโม่งเงี่ยนเอาน่าจะเร็ว
https://fanboi.ch/webnovel/4393

924 Nameless Fanboi Posted ID:8HL/RuDWH

>>923 ถอนคำพูด5555 เพิ่งไปลองเสิร์ชมาโม่งเงี่ยนสับนิยายมู้นั้นเยอะชิบ พิมพ์หาชื่อนิยายง่ายกว่า

925 Nameless Fanboi Posted ID:TmMyuvUF9

>>918 "เอจจี้" (หรือที่ในโม่งชอบเรียกว่าเอกกี้) : ลักษณะตัวละครที่เก๊ก เคร่งขรึม ชอบเครียด แยกตัวจากผู้อื่น ดูลึกลับ พูดน้อย และมักมีอดีตมืดมน เทียบตามสีก็เทาเข้มค่อนไปเกือบจะดำ จุดเด่นอื่นๆ ที่สร้างขึ้นเป็นตัวละครสไตล์เอกกี้มักพ่วงมาด้วยความบ้าคลั่ง อารมณ์รุนแรง มีศักยภาพความสามารถในการต่อสู้สูง ไม่ทำงานร่วมกับใคร แต่เป็นที่น่าแปลกใจว่ามักจะมีตัวละครกลุ่ม Heroine มาแอบชอบกันมากหน้าหลายตา ซึ่งจะกลายเป็นรักสามเส้า (หรือหลายเส้า) ก่อนจบลงด้วยการเฟดตัวออกมาเองของตัวละครนั้นอย่างโคตรจะเอจจี้

"วอนนาบีเอกกี้" : ตัวอย่างของความพยายามสร้างตัวละครเอจจี้ขึ้นมาแบบผิดๆ จากข้อมูลที่บอกไปข้างบน มีนักเขียนอายุน้อยจำนวนมาก ชอบตัวละครสไตล์เอจจี้ เพราะคิดว่ามันดูเท่ คิดว่าหากนำไปใช้ในนิยายของตัวเอง จะได้รับความดิบ ความโหดอย่างสะใจ จากตัวละครพระเอก สุดท้ายก็ยัดทุกอย่างใส่ตัวละครเอกแบบเกินความเหมาะสม ขาดที่มาที่ไป ขาดภูมิหลังและแรงผลักดันก่อนจะมาเป็นตัวตนนี้ มีแต่ความโหดร้ายฆ่าคนได้โดยไม่รู้สึกอะไร ปากเสีย ไร้มารยาทในทุกสถานการณ์ ถ้าเป็นเด็กๆ และผู้อ่านเลเวลน้อย (ไม่เคยอ่านนิยายดีๆ เรียลๆ มาก่อน) ก็จะชื่นชอบ ส่วนนักอ่านที่อยู่ในระดับกลางขึ้นไปจะต้องร้องเหยดแถมบ่นต่อด้วยประโยคจำพวก "ไอ้เหี้ย นิยายวอนนาบีดาร์คชั้นสวะ"

ตัวอย่างตัวละครเอจจี้และกึ่งเอจจี้ : ตัวละครฝรั่งที่เป็น Anti hero ทั้งหลายแหล่ (แบทแมน, วูฟเวอร์รีน) กัซจากมังงะเบอร์เซิค (ก่อนที่อาจารย์จะเปลี่ยนมาเขียนแนว สนวม. จนเสียความดาร์ค) ลีไว อัคเคอร์มันจากแอคแทคออนไททัน (เฮย์โจวเตี้ยสุดโหด) โทงุโร่คนน้องจากยูยูวฮาคุโช และ Goblin Slayer จากมังงะชื่อเดียวกัน

926 Nameless Fanboi Posted ID:QCaRXwikd

ขอบคุณ 925 มากๆ เรา 918 เองนะ

927 Nameless Fanboi Posted ID:wlcBvt.u.

แปปเดียวใกล้จะได้เวลาวิ่งควายอีกละ

กุโม่งหัวหมู กุวอนนาบีอยากมีชื่อบ้าง อิอิ

928 Nameless Fanboi Posted ID:Xx08hjpEr

เราก็อยากมีชื่อบ้าง ชอใช้ชื่อนักร้องเกาหลีคนโปรดก็แล้วกัน เรียกเราโม่งเซฮุนนะทุกคน

ลงชื่อ เซฮุน ไอดอลวอนนาบี

929 Nameless Fanboi Posted ID:rAtJkMOPN

>>922 https://my.dek-d.com/kkyochan/writer/view.php?id=1590076 เรื่องนี้ใช่ไหม? ช่วงนี้ยังไม่ค่อยว่างเท่าไหร่ จะสิ้นปีแล้ว อาจารย์ก็สั่งแต่งานใหญ่ๆ คิดว่าน่าจะว่างช่วง เสาร์-อาทิตย์ นี้นี่แหละ

930 Nameless Fanboi Posted ID:1Oqz3Ak9L

>>929 เออ กุรอชมด้วยคน

931 Nameless Fanboi Posted ID:/sswvx+S3

>>887 เห้อ คือไร?

932 Nameless Fanboi Posted ID:Weyj8vY6b

>>931 ผิดหวังไง

933 Nameless Fanboi Posted ID:YRss1sPk4

>>932 ก็น่าจะบอกหน่อยว่าผิดหวังอะไร

934 Nameless Fanboi Posted ID:kJSFx+Of7

ขอโทษนะ ขอนอกเรื่องหน่อย ช่วยแนะนำไซไฟในเด็กดีมาให้อ่านสักสองสามเรื่องสิ จะพล็ตเกร่อ
ซ้ำก็ได้ แต่อ่านแล้วโอเคก็พอไม่เอาแบบ top 1 นะ ไม่ต้องติดอันดับก็ได้ ขอบคุณมาก ๆ

935 Nameless Fanboi Posted ID:Crur51QJX

>>934 P2 เจ้าชายสองโลก พลอตดีอยู่นะ

936 Nameless Fanboi Posted ID:mwaKT3Pu0

>>935 เอาตรงๆแบบนี้เลยก็ดีนะ

937 Nameless Fanboi Posted ID:KUiBviniK

โม่งสับคนไหนว่างจัดให้ >>935 หน่อย กูซุ่มอ่านในบอร์ดมานานนมเห็นเจ้าของเรื่องบ่นมาหลายรอบละว่านิยายของน้องแกไม่โดนสับสักที

จากใจกูคนที่นิยายหายจาก list รอสับเฉยเลยแม่ง

938 Nameless Fanboi Posted ID:mwaKT3Pu0

>>937 เราสับให้ได้นะ แต่ให้เราอยากเรียกตัวเองว่าเซฮุนได้หรือเปล่า?

ลงชื่อ เซฮุน แต่ถ้าไม่สบายใจ เราจะไม่ใช้ชื่อนี้ก็ได้นะ เราเข้าใจ

939 Nameless Fanboi Posted ID:/Hx9mGJX0

>>933 กูคือคนที่ เห้อ ใน>>887 นะ ที่กูเห้อคือ ผิดหวัง เหมือนที่ >>932 ช่วยบอกให้นั่นแหละ ผิดหวังในที่นี้ก็คือ กูเห็นคนวิจารณ์ไว้ว่าดีงั้น ดีงี้ แถมมีคำนิยมอีก กูก็เลยค่อนข้างคาดหวังว่า แม่งต้องปัง เพราะกูไปแหวกดง เพื่อหานิยายอย่างอื่นที่ไม่ใช่นางร้ายอ่าน แต่พอกูอ่านไปได้สักพัก กูก็ต้องบอกตัวเองว่าพอ มันเป็นแนวแฟนตาซีโรงเรียนเวทมนตร์ที่น่าเบื่อมากที่สุดเท่าที่กูเคยอ่าน มันไม่มีเสน่ห์อ่ะ ตัวละครก็งั้นๆ นางเอกแม่งก็แปลกๆ กูอุตส่าห์ดีใจ ที่มันไม่เติมทรูมาเหมือนพวกนางร้าย แต่มันก็ไม่ทำให้กูรู้สึกสงสาร หรืออยากเอาใจช่วยเท่าไหร่ ยิ่งเพื่อนอีกสามคน ยิ่งไม่ต้องพูดถึง มันแบนๆอ่ะ ก็เหมือนพวกเพื่อนนางเอกทั่วไป ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น สรุปให้ละกัน มันน่าเบื่อ อ่ะ ถ้ากูเป็นคนเขียนคงท้อน่าดู แม่ง60+ตอน มีคนติดตามแค่200ต้น ๆ

940 Nameless Fanboi Posted ID:H8Ny+OKjt

>>938 จะแทนตัวเองหรือไม่แทนอันนั้นเรื่องรอง ที่สำคัญคือจะสับหรือไม่สับต่างหาก ถ้าจะสับก็สับแล้วเขียนลงมาเลย มีคนรออ่านอยู่ทั้งเจ้าของและสมาชิกนั่นแหล่ะ

ลงชื่อ โม่งเอจจี้ที่ >>925

941 Nameless Fanboi Posted ID:GCi7.ArCK

>>939 สงสัยว่าทำไมคนเขียนต้องท้อด้วย ได้คนตามเพิ่มตอนละสามสี่คนคือไม่เยอะแล้วเหรอ หรือมาตรฐานเราต่ำเองเลยรู้สึกว่าเยอะ?

942 Nameless Fanboi Posted ID:J1dqfYZ0D

>>941 กูคิดแทนเขาอ่ะ สงสารเขาไง เหลือบไปมองพวกนางร้ายหรือนิยายที่มันกากๆ แม่งคนติดตามเพียบ นิยายเขาถึงจะไม่ดี แต่ก็ไม่แย่มาก อย่างน้อยก็ยังสะกดคำถูก แต่ถ้าจะให้ปัง กูว่าต้องปรับอีกเยอะ แต่อย่าถามกูนะว่าต้องปรับตรงไหน กูไม่รู มันมาจากความรู้สึกล้วนๆ

943 Nameless Fanboi Posted ID:oKTUGxqlc

มึงคิดยังไงกับมู้นี้ https://www.dek-d.com/board/view/3815399/

944 Nameless Fanboi Posted ID:678qkv11T

>>943 ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่จำเป็นมั้ย ปัญหามันอยู่ที่ไอ้คนแนะนำแต่ละตัวแนะนำเหี้ยทั้งนั้นต่างหาก

945 Nameless Fanboi Posted ID:J1dqfYZ0D

>>941 กูลืม กู>>942 เอง มึงไม่ได้มาตรฐานต่ำหรอก ความจริงคนติดตามเพิ่มตอนละ 2-3คนก็ดีนะ ถ้า...ถ้านะ ถ้าทุกคนมันตามอ่านหมด คนติดตาม200กว่า อ่านจริงจะถึงครึ่งป่าวไม่รู้ จริงป่ะ

946 Nameless Fanboi Posted ID:mwaKT3Pu0

>>940 งั้นช่วยแปะลิ้งค์ได้ไหม เราจะได้พิจารณาดูว่าจะสับสักกี่ตอนดี พอดีเราเพิ่งมา รบกวนด้วยนะ

947 Nameless Fanboi Posted ID:rzm+.coiE

กุบอกตามตรงคนไทยมันอคติเรียบร้อยไปแล้วว่านิยายไทยไม่แนวรักข่มขืน ก็ก๊อบการ์ตูนแจปแนวเลิฟคอมเมดี้มาแถมห่วยกว่าต้นฉบับด้วย ถ้าอยากจุดกระแสมาใหม่ล่ะก็ต้องอดทนกันนะเว้ย ค่อยๆสร้างตัว แฟนคลับไปเพิ่มปุบปับแน่นอน

948 Nameless Fanboi Posted ID:H8Ny+OKjt

>>946 เรื่อง P2 ก็นิยายของ Octory ในบอร์ดไง

949 Nameless Fanboi Posted ID:/saF0LHTM

>>948 เราหาแล้วไม่เจอ ยังไงช่วยแปะลิงค์ให้หน่อยนะ

950 Nameless Fanboi Posted ID:H8Ny+OKjt

>>949 มึงนี่แปลกๆ นะ วางแผนอะไรอยู่ป่าววะ
https://writer.dek-d.com/Octory/story/view.php?id=1466532

ลองดูสถิติแล้ววิวเยอะกว่านิยายกูเองอีก มาๆ สับให้ จขร. มันได้สมใจอยาก แล้วไม่ต้องมาด่ากูนะ มึงบ่นในบอร์ดเองว่าไม่มีคนสับให้

951 Nameless Fanboi Posted ID:/saF0LHTM

>>950 ขอบคุณมาก เดี๋ยวเราสับให้จนจบหนึ่งเล่ม นะ ขออนุญาตใช้ชื่อว่าเซฮุน ไม่มีใครว่าอะไรใช่ไหม? ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวเราสับเงียบๆก็ได้ ขอบใจนะ

952 Nameless Fanboi Posted ID:/saF0LHTM

แปะจองสับ

ลัดคิว https://writer.dek-d.com/Octory/story/view.php?id=1466532 (นิยายชื่อ P2 คนเขียนชื่อ Octory ลองดูสถิติแล้ววิวเยอะกว่านิยายกูเองอีก มาๆ สับให้ จขร. มันได้สมใจอยาก แล้วไม่ต้องมาด่ากูนะ มึงบ่นในบอร์ดเองว่าไม่มีคนสับให้)

https://writer.dek-d.com/topduck/writer/view.php?id=785523 (สาวใช้พันธุ์ดุ Maid-at-Arms ... ชื่อเรื่องเพราะดี)

https://writer.dek-d.com/linklight/story/view.php?id=1559849 (จอมราชันย์หลงยุค... ข้าขอคำชี้แนะ เตรียมรับมือ)

https://writer.dek-d.com/BlackMonSterX/writer/view.php?id=1602272 (Evolve ฟองเบียร์)

ลงชื่อ เซฮุน คนละก้าว

953 Nameless Fanboi Posted ID:mdjFgP6nH

>>>/meta/4675/205

พ้นกำหนด 14 วันมาแล้ว คงจะตัวจริง

954 Nameless Fanboi Posted ID:/saF0LHTM

>>953 ตัวจริงอะไรกัน เราไม่มีตัวตนนะ เราแค่จะมาสับ เรากลัวแล้ว ปล่อยเราไปเถอะ เราขอร้อง อย่าข่มเหงเราอีกเลยนะ เมตตาเราด้วย

955 Nameless Fanboi Posted ID:/saF0LHTM

นี่จะมาสับ ก็จะแบน มันมีความยุติธรรมอะไรตรงไหน?

956 Nameless Fanboi Posted ID:H8Ny+OKjt

ก็ว่าทำไมพูดเพราะจัง กูอ่านแล้วขนข้อตีนลุกยันท้ายทอย ที่จริงก็ดีไปอีกแบบ บรรยากาศแบบนี้กูเองก็ชักอยากจะสับบ้างแล้วเหมือนกันนะเนี่ย

957 Nameless Fanboi Posted ID:/saF0LHTM

>>956 เราแค่จะสับนิยายเท่านั้นแหละ เหลือพื้นที่ให้เรายืนบ้างเถอะ

958 Nameless Fanboi Posted ID:kQa3RP4D0

ทำตัวเองแท้ๆ รอบก่อนพอคนไปแจ้งยังกร่างอยู่เลยนิ โดนของจริงแล้วร้องเลย

ข้ามๆ มันไปเถอะ คุยเรื่องอื่นมากเดี๋ยวเสียบรรยากาศ

959 Nameless Fanboi Posted ID:kJSFx+Of7

เรา >>934 เอง ตกใจเรื่องเจ้าชายสองโลก มาอยู่ในเด็กดีได้ไง เคยอ่านเป็นเล่มเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แล้วในลิ้งมีเล่มสาม คืออะไร เรารอเป็นเล่มมาหลายปีไม่ออก มาออกในเด็กดีคืออะไร

960 Nameless Fanboi Posted ID:E0Uo1cop7

แบนในมือกูสั่น กวนตีนเมื่อไหร่ส่งเรื่องที่ meta

961 Nameless Fanboi Posted ID:H8Ny+OKjt

>>960 ไม่เอาหน่ามึง เหลือที่ให้มันบ้าง ไม่เห็นแก่มันก็เห็นแก่กูก็ได้ อุตส่าห์เป็นไปในทางที่ดีแล้วเราก็ใช้บอร์ดโม่งอย่างมีอารยะกันเหอะ

962 Nameless Fanboi Posted ID:/saF0LHTM

>>960 เรากลัวแล้ว คุยกับเราดีๆนะ

963 Nameless Fanboi Posted ID:H8Ny+OKjt

อ่านตรงแนะนำเรื่องของ P2 เห็นพูดถึง Angle boy ด้วย โลกแม่งกลมดีจริงเว้ย ถ้าเป็นคนเขียนเดียวกันจริงแปลว่ามึงกับกูเคยคุยกันแล้ว แต่ตอนนั้นกูยังเขียนเอโระฟิคชั่นอยู่ในเว็บใต้ดิน นึกถึงเรื่องเสียวของมึงทีไรกูขำทุกที จากเจ้าพ่อกลายเป็นโชตะสุดเคะ แทนที่จะซี้ดกลายเป็นฮาเพราะกูไม่ใช่สายโลลิด้วย มีความคิดถึงจากคนแต่งเรื่องรัก-ยม แล้วก็คุณ Buta โลลิต้าแมนชั่น ฝากถึงมึงด้วยนะ (อนึ่งถ้ามึงไม่ใช่คนๆ นั้น กูซอรี่ด้วยถือว่ากูไม่เคยพูดก็แล้วกัน)

964 Nameless Fanboi Posted ID:/saF0LHTM

เราอ่าน P2 คร่าวๆละ เราว่านิยายของเขาสนุกมากเลยนะ ไม่รู้ว่าเราจะ "มือถึง" หรือเปล่านะที่จะไปงานของเขาน่ะ เรารู้สึกกังวลมากๆเลย แต่เราจะพยายามนะ ฮึบ ฮึบ

965 Nameless Fanboi Posted ID:oKTUGxqlc

พรุ่งนี้จะเปิดบทใหม่ป่าว
นิยายเด็กดี บทที่ 15 (DDN XV) ภาค______________

966 Nameless Fanboi Posted ID:ynuCeBEaV

ภาคเจ๊ลิสกับความแมรี่ซูที่ชักจะไปกันใหญ่?

967 Nameless Fanboi Posted ID:qCEw2aCS3

>>965 ภาคมู้สุดท้ายของปี 2560/2017

968 Nameless Fanboi Posted ID:EA5ZNZ0Ac

ภาค : สวัสดีปีใหม่มีอะไรให้นินทาบ้าง(นิยายจีนกับอนิเมะจีนจะครองโลกแล้วสาดดด)

969 Nameless Fanboi Posted ID:3KLls0cOG

ภาค เจ๊ลิสปะทะกุดุสกุดุส

970 Nameless Fanboi Posted ID:VXtRwD4zq

ดูที่เจ้าของกระทู้มันตอบดิวะ ถ้ามันอยากจะให้อยู่หมวดแฟนตาซีอยู่แล้ว มันจะมาตั้งกระทู้โหวตเพื่อ
https://www.dek-d.com/board/view/3815539/

971 Nameless Fanboi Posted ID:GCi7.ArCK

ขอบ่นหน่อย
คือเรามีรุ่นน้องเป็นเพื่อนชะ แล้วรุ่นน้องคนนี้นางก็เขียนนิยายเหมือนกัน เราก็แบบเป็นเพื่อนเป็นรุ่นพี่ที่ดีนะ ไปดูงานเขาให้หน่อยหนึ่ง ก็ปรากฏว่านิยายนางคนตามเยอะพอควรอยู่แหละนะ ประมาณเกือบสองร้อยได้มั้งจากสี่สิบห้าสิบตอน (ที่ตอนนี้นางรวบตอนจนเหลือยี่สิบกว่า เข้าสู่การหมักดองแล้วด้วย) ซึ่งเราก็ไม่ได้อะไรมากหรอกนะ แบบหมวดเกมน่ะคนตามน่าจะเยอะกว่าแฟนตาซีอยู่แล้ว แต่ที่น่าตกใจคือ เฮ้ยยย เขียนผิดเยอะชิบ แค่คำง่ายๆ ยังสะกดผิดเลยเว้ยย
ที่เจอก็มี อาวุดงี้ สนิดงี้ พนังบ้าน งี้ประเทษงี้ อนุญาติงี้ สถานการงี้ ปรากฎงี้ กฏงี้ วิญาณงี้ ถึงกระนั่นงี้ กระพริบตางี้ ทรมาณงี้ วงตระกูลงี้
คือ เฮ้อยาวๆ ไป แค่เพื่อกับเผื่อก็แยกไม่ออก มั้งกับมั่งก็มี ล่ะกับละด้วย ใช้สลับกันหมด คนล่ะเมืองบ้าง ฉันละบ้าง เดี๋ยวก็เป็นเดียว พัฒนามาหน่อยหนึ่งก็เดี่ยว ยังไม่พอนะ นี่เป็นนี้ นั่นเป็นนั้น นู่นเป็นนู้น แล้วคืออออ นางเขียนเพิ่งยอมแก้คำว่า นั่นแหละ (กว่าจะยอมแก้นะ) แล้วก็เวทย์กับเวท อันนี้เห็นคนอื่นผิดเยอะก็เลยปล่อยๆ ไปบ้างเพราะเราก็เคยผิดเหมือนกัน เคยผิด ค่ะ คะ ด้วยแหละ (นางก็ผิด)
ที่น่าตกใจคือคำว่า น่าตา น่าตา! อันนี้นางบอกลืม คือ แบบ ลืม ห๊ะ ลืม! จะลืมได้ไงวะ แถมพวงมากับคำว่ารังเกลียดกับขี้เกลียดด้วยเฮ้ย! (ยังดีนางแก้แล้ว แค่-คำเดียว-จากทั้งหมดหลายสิบคำ ไม่พวงคำว่าน่าเกลียดมาด้วยก็ดีแล้ว) แล้วก็เมื่อกี่ กี่ว่ะ กี่่่่่ เมื่อกี้ต้องเป็นไม้โทจ่ะ แล้วๆ อาจาร-ย์-จ่ะ ไม่ใช่ อาจา-ร์-ย
คือเราจะปวดหัวกับคำว่า witch เว้ย นางใช้แทนทั้งหญิงและชายเลยเว้ยยย witch เป็นของเพศหญิง wizard ของผู้ชาย เราก็เตือนนางไปแล้วนะแต่นางไม่เปลี่ยน แต่ประเด็นคือมันอยู่หน้าแรกไง... ระวังคำผิดหน่อยเถอะน้องรัก
คือทั้งนี้ทั้งนั้น นางแก้แค่สามคำ คำว่า นั่นแหละ กับขี้เกียจ/รังเกียจ และก็ประเทศ
อ่า คำผิดหมดแล้ว ต่อไปก็เรื่องที่นางจะเขียนในบทต่อไปนะ คือนางอยากยัดฉากแบบไม่มีเนื้อใส่เพื่อเพิ่มความยาวเว้ย เพื่อยืดให้นิยายนางดูยาวขึ้นเท่านั้น ไม่มีผลต่อเนื้อเรื่องห่าเหวอะไรทั้งนั้นแค่อยากใส่ไป (แถมบอกว่าขี้เกียจเขียนด้วย) เราถามไปก็ตอบกลับว่าอะไรรู้ไหม? ‘นั่นแหละๆ’ คือ เอิ่ม จ่ะ โอเค ตามที่สบายใจนะ มีช่องโหว่ของพล็อตด้วยแหละแต่เราจะไม่ก้าวก่ายเรื่องเนื้อเรื่องนาง แค่ถ้าเกิดเราถามอะไรไปและนางมีคำตอบรองรับ เราก็โอเค
TL;DR เรามาบ่นเรื่องคำผิดที่มากมายและผิดได้ซ้ำซากกับเรื่องที่นางใส่น้ำลงไปจนเกือบกลายเป็นซุป
จบ
เกือบลืม
คำว่า review เว้ย คือนางเขียนไทยว่ารีไรท์แต่พอมาเป็นอังกฤษดันเขียน review พี่ล่ะยอมใจน้องจริงๆ
ถ้าน้องหรือรู้ตัวว่าเป็นเพื่อนของนางมาอ่าน ก็ขอบอกตรงนี้เลยว่า พี่หวังดีล้วนๆ

972 Nameless Fanboi Posted ID:GCi7.ArCK

>>971 เพิ่งรู้ตัวว่าเขียนยาวขนาดนี้ ถถถ ไม่บ่นหน่อยแล้วก็ได้ บ่นมากเลยแหละ

973 Nameless Fanboi Posted ID:sA2JTvDL8

>>943 ของแบบนี้มันสอนกันได้เหรอวะ กูว่ามันไม่มีอะไรผิดอะไรถูกนะ (นอกจากการใช้ภาษา ซึ่งนักเขียนแต่ละคนก็ควรได้สกิลนี้มาจากชั้นเรียน+การอ่าน แล้ว)

>>971 มึงเป็น ญ น้องเป็น ช?

974 Nameless Fanboi Posted ID:GCi7.ArCK

>>973 หญิงทั้งคู่

975 Nameless Fanboi Posted ID:Zp8bWlZUq

>>974 สวยป่าวขอเฟซหน่อย

976 Nameless Fanboi Posted ID:U7fFvgRcE

>>971 อันอื่นกูด่าด้วย แต่witchผู้ชายก็มีนะมึง และเช่นเดียวกันwizardผู้หญิงมันก็มี//ถ้ามันใช้ถูกความหมายอ่ะนะ

977 Nameless Fanboi Posted ID:Wcc8GpsXq

>>976 Witch แปลว่าผู้หญิงที่มีเวทมนตร์ แล้ว Wizard เนี่ยคือใช้ได้ทั้งชายและหญิง (ตามที่เจอในพจนานุกรมอ่ะนะ) แต่คือนางใช้คำว่า witch เขียนชื่ออาชีพให้ผู้ชายน่ะ

978 Nameless Fanboi Posted ID:P1b/F/KaI

>>970 เพิ่มยอดวิว

979 Nameless Fanboi Posted ID:fuFrZ3F4o

>>978 เออจริง

980 Nameless Fanboi Posted ID:WoTt2D6l4

>>978 ยังดีกว่ารายที่เนียนอวดว่าติด top พร้อมกัน 2 เรื่องนะ อันนั้นน่าเกลียด

981 Nameless Fanboi Posted ID:+uLiOX6PW

>>977 แล้ว Witch Doctor ล่ะ อ่อแล้ว Wizard ต่างจาก Mage กับ Sorcerer ยังไงบ้าง

982 Nameless Fanboi Posted ID:pEiFY2t59

>>935 >>948 ขอบคุณครับ ที่ช่วยแนะนำให้ >>951 >>952 ขอบคุณเซฮุนที่ช่วยแปะ link เป็นเกียรติมากครับ >>959 หมดสัญญากับสำนักพิมพ์แล้ว เลยเอาเล่มสามที่แต่งต่อมาแปะในเด็กดีครับ >>963 ผม octory เป็นนักแต่งร่วมเรื่อง p2 ครับ (เรื่องนี้แต่งกันสองคน) คนที่คุยกับคุณคือบอล คนแต่ง angel boy ครับ ผมแคปข้อความของคุณส่งให้บอลอ่านแล้วน้า >>964 เต็มที่เลยครับ ด่าได้เลย เอาให้สุด ถ้ามัวมานั่งโอ๋นั่งดีเฟนงานตัวเอง เมื่อไหร่ผมจะพัฒนา แค่อ่านให้ ผมก็ดีใจมากแล้ว แถมจะสับให้ด้วย มันมีค่ามากกว่าจะมานั่งนอยน้า ดังนั้น จัดเต็มได้เลยครับ ผมไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาแสดงความขอบคุณที่แสดงถึงความจริงใจ ที่แปะเรื่องของผมให้ในนี้ เอาเป็นว่าผมขอบคุณมาก ๆ ครับ ขอโทษที่เอ่ยชื่อหลายคนเลย

983 Nameless Fanboi Posted ID:P1b/F/KaI

>>981 Witch Doctor เนี่ยไม่รู้ ขอเดาว่าอาจหมายถือแม่หมอ
Wizard ได้พลังเวทด้วยการอ่าน การขยัน ไม่ได้มีมาตั้งแต่กำเนิด อาจถือคู่กับหนังสือเวทบ้าง มีรากฐานศัพท์มาจาก wise (ฉลาด, รอบรู้)
Mage ก็แบบเป็นญาติกับ wizard เป็นผู้ที่รู้เกี่ยวกับเวทมนตร์มาก และปกติจะถือไม้คทายาวๆ คู่กับหนังสือเวทด้วย
Sorcerer เนี่ย เกิดมาก็มีเวทมนตร์เลย ไม่ต้องเรียนไม่ต้องเสียเวลาเป็นปีๆ เหมือน wizard หรือ mage
แถม Warlock ให้อ่ะ Warlock คือผู้ที่ได้รับพลังมาจากสัตว์วิเศษ ได้พลังมาจากผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่าแบบปีศาจให้มางี้ (ไม่ใช่ปีศาจเสมอไป แค่นึกตัวอย่างอื่นไม่ออก)

984 Nameless Fanboi Posted ID:P1b/F/KaI

>>983 ลืมเขียนของแม่หมอ/พ่อหมอ อันนั้นอาจหมายถึง fortune teller นักทำนายดวง อาจมีลูกแก้วกลมๆ ตั้งอยู่บนโต๊ะ

985 Nameless Fanboi Posted ID:fuFrZ3F4o

>>980 จริง กูโคตรรำคาญแม่งอ่ะ ล่าสุดเห็นว่ามีคนไปเมนต์ตินิยายมัน แม่งแค๊ปความเห็นนั้นไปแปะเปิดตอนใหม่ว่า เสียใจ อ้อนแฟนคลับ ลูกหาบออกมาปกป้องเพียบตามสูตร

986 Nameless Fanboi Posted ID:P1b/F/KaI

>>985 ขอลิ้งค์หน่อยๆ

987 Nameless Fanboi Posted ID:fuFrZ3F4o

>>986 นักเขียนมันกดปิดการเข้าถึงตอนนั้นไปแล้วนะ แต่เป็นโม่งในตำหนักเสิ่นเจิ้นนั่นแหละไปเมนต์ แต่มันเมนต์ดี สุภาพเลย มึงไปอ่านเอาละกัน เจ้าตัวมันก๊อปไว้
https://fanboi.ch/literature/4668/868/

988 Nameless Fanboi Posted ID:Wcc8GpsXq

>>987 นักเขียนคงคิดว่านิยายตัวเองดีมากจนไม่มีที่ติถึงได้ติด Top สินะ เออๆ อีโก้ดูสูงดี

989 Nameless Fanboi Posted ID:BmbRfS+jG

>>982 ไม่ต้องห่วงนะ เราจะวิจารณ์งานคุณให้ดีที่สุด เราจะพยายามอย่างเต็มที่เลย ขอบคุณที่อุตส่าห์ตอบนะ แต่ไม่ต้องเรียกเราเซฮุนก็ได้นะ เราไม่มีตัวตนแล้วล่ะ

990 Nameless Fanboi Posted ID:F6gbkeWO3

อีก 10 เรป เตรียมย้ายมู้เลย

991 Nameless Fanboi Posted ID:BBw7anYfe

>>>/meta/4675/209/

สรุปคือรอให้เรื้อนอีกรอบ >>989 อย่าทำให้กูผิดหวังละ

992 Nameless Fanboi Posted ID:VPIFB0dFu

เปิดเรื่องเล่ม 1 คิดว่าควรปังตั้งแต่บทนำหรือ ล่อให้อยากก่อนค่อยปังปิดท้ายดี

993 Nameless Fanboi Posted ID:BmbRfS+jG

>>991 ไม่ต้องห่วงนะ เราจะทำให้ดีที่สุดเลย รับรองได้เลยล่ะ ขอบใจที่ให้โอกาสเรานะ ขอบใจจริงๆ

994 Nameless Fanboi Posted ID:VhmdSjzVr

>>992 เปิดเรื่องต้องปังสิวะ จบก็ต้องปังด้วย

995 Nameless Fanboi Posted ID:pS+YzjpZg

>>970 เด็กเห่อหมอยเรียกร้องความสนใจไง

996 Nameless Fanboi Posted ID:F6gbkeWO3

>>995 เจอ anonymous กับอี just monika แก้ต่าง จขกท.เถียงไม่ออกเลย

997 Nameless Fanboi Posted ID:n+Rt.IC6s

นิยายเด็กดี บทที่ 14 (DDN XIV) ภาคกุ๊ยแก่เดนตาย ไม่ทราบได้ว่าจะอยู่รึไป แต่ห้องนี้มีไว้สับนิยาย อยากนินทาเชิญไปเน็ตวอชนะ

998 Nameless Fanboi Posted ID:y6CouTN/j

อีก 3 คห. ได้ฤกษ์วิ่งควายแล้วยัง?

999 Nameless Fanboi Posted ID:u7k8AqclR

ควายตัวที่ 1

1000 Nameless Fanboi Posted ID:DcHQYlDjN

ปิดจ๊อบบบบบ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.