Fanboi Channel

นิยายเด็กดี บทที่ 14 (DDN XIV) ภาคกุ๊ยแก่เดนตาย ไม่ทราบได้ว่าจะอยู่รึไป แต่ห้องนี้มีไว้สับนิยาย อยากนินทาเชิญไปเน็ตวอชนะ

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:b3eAa8zxy

วิพากษ์วิจารณ์งานเขียนบนเว็บเด็กดี.คอม ทั้งจบแล้วและยังไม่จบ ตีพิมพ์แล้วและยังไม่มีใครเหลียวแล รวมไปถึงพูดคุยเกี่ยวกับวงการนิยายเว็บ (เด็กดี) เพื่อความหวังของวรรณกรรมไทยในอนาคต ทั้งนี้ ไม่สนับสนุนให้นำเรื่องส่วนตัวของนักเขียนแต่ละคนออกมาตีแผ่ ควรเน้นเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานเขียนเท่านั้น

<<คลังกระทู้เก่า>>

นิยายเด็กดี บทที่ 1 -- https://fanboi.ch/webnovel/2403/
นิยายเด็กดี บทที่ 2 -- https://fanboi.ch/webnovel/2703/
นิยายเด็กดี บทที่ 3 -- https://fanboi.ch/webnovel/2907/
นิยายเด็กดี บทที่ 4 -- https://fanboi.ch/webnovel/3066/
นิยายเด็กดี บทที่ 5 -- https://fanboi.ch/webnovel/3187/
นิยายเด็กดี บทที่ 6 -- https://fanboi.ch/webnovel/3229/
นิยายเด็กดี บทที่ 7 -- https://fanboi.ch/webnovel/3388/
นิยายเด็กดี บทที่ 8 -- https://fanboi.ch/webnovel/3594/
นิยายเด็กดี บทที่ 9 -- https://fanboi.ch/webnovel/3852/
นิยายเด็กดี บทที่ 10 (แต่คนตั้งมู้นั้นแม่งเสือกเขียนว่า 9) -- https://fanboi.ch/webnovel/4106/
นิยายเด็กดี บทที่ 11 -- https://fanboi.ch/webnovel/4265/
นิยายเด็กดี บทที่ 12 -- https://fanboi.ch/webnovel/4393/
นิยายเด็กดี บทที่ 13 -- https://fanboi.ch/webnovel/4626/

2 Nameless Fanboi Posted ID:z9kV30LfF

>>1 บทที่ 10 มึงไม่ต้องวงเล็บได้มะ กูสะเทือนใจ ห่า อ่านทีไรเหมือนเจอตบเกรียนทุกที ส่วนชื่อกระทู้ล่าสุดนี่ ตราบใดไม่มีคนไปตั้งห้องนินทาใน Netwatch รับรองเดี๋ยวก็คุยที่นี่เหมือนเดิม

3 Nameless Fanboi Posted ID:IxCrHdJEb

สวัสดีวันอาทิตย์ จากคอมมิวนิสต์เป็นทุนนิยม

4 Nameless Fanboi Posted ID:RSkIKiSsM

เอาdocที่รวมสับนิยายมาแปะด้วยมะ เวลาหาจะได้หาง่ายๆ

5 Nameless Fanboi Posted ID:tjRAop/L+

แปะจองสับ

https://writer.dek-d.com/topduck/writer/view.php?id=785523 (สาวใช้พันธุ์ดุ Maid-at-Arms ... ชื่อเรื่องเพราะดี)

https://writer.dek-d.com/linklight/story/view.php?id=1559849 (จอมราชันย์หลงยุค... ข้าขอคำชี้แนะ เตรียมรับมือ)

https://writer.dek-d.com/BlackMonSterX/writer/view.php?id=1602272 (Evolve ฟองเบียร์)

ลงชื่อ เซฮุน คนละก้าว

6 Nameless Fanboi Posted ID:65L6dSv94

>>5 มึงจะเนียนโฆษณาอีกนานมั้ย

7 Nameless Fanboi Posted ID:tjRAop/L+

>>6 เพิ่งสามมู้เองมึง

8 Nameless Fanboi Posted ID:c+Q3nC1fw

>>7 ก็ไปแย่งงานสิ มันไม่มีปัญญาสับหรอก

9 Nameless Fanboi Posted ID:tjRAop/L+

>>8 แย่งเรื่องไหนบอกด้วยมึง กูจะได้กระชับพื้นที่ถูก

ลงชื่อ เซฮุน กูน่าจะตอบเป็นภาษาเขมร คนจะได้เอือม

10 Nameless Fanboi Posted ID:dkkkSGCro

อ้าว เดี๋ยวนี้เขาไม่มีรายชื่อรอสับแล้วเหรอ 555
ว่ารอเสนอใหม่? หรือให้สุ่มๆมาสับเอาเอง?(ถ้าอันหลังนี่มีเรื่องในดวงใจละหนึ่ง ยังข้องใจกับมันไม่หาย 555)

11 Nameless Fanboi Posted ID:/HDhRureU

>>10 อยากสับอะไรสับเลย รออ่าน

12 Nameless Fanboi Posted ID:bDaiNwwdi

https://docs.google.com/document/d/1ouFhwS9WeoBzEgYHVNYWkeUAbhQ2YkCg4ozpTpx1-94/edit
อ่ะ ดอครวมนิยายที่สับแล้ว

13 Nameless Fanboi Posted ID:7X1rpD3LA

เรื่องนี้ดีไหมว่ะ อ่านคอมเม้นแล้ว
https://writer.dek-d.com/e-nungOn/story/view.php?id=1482558
ไม่ค่อยกล้าอ่านเลย ใครก็ได้รีวิวที

กำลังหนีความจริงช่วงใกล้สอบ อ่านได้ทุกอย่างยกเว้นหนังสือเรียน TT

14 Nameless Fanboi Posted ID:rIllRzn39

>>13 นี่โม่งนอยด์นะ
กูอ่านแล้ว ดีนะมีหักมุม มีความพีคตลอดเรื่อง แถมดราม่าให้ปวดตับเป็นระยะ นางเอกจะมีความฮาและกวนตีนหน่อย ๆ กูอ่านของเขามาสองเรื่องคือเรื่องนี้กับปัจจุบันที่เขากำลังเขียนอยู่ กูคิดว่าสไตล์เขาจะคล้าย ๆ อี8ปีกบ้าผู้ชายที่กูเคยสับไปแต่จะสนุกกว่า สมเหตุสมผลกว่า นักเขียนคงประสบการณ์มากกว่า
แต่กูดันอ่านของเขาไม่จบแม่งสักเรื่องเลยว่ะ เพราะรำคาญความฮาเร็มเกินไป มันก็ตามสูตรฮาเร็มน่ะนะที่ไม่ว่าผู้ตนไหนเจอนางเอกก็ต้องหลงรักหมด ขนาดช่วงแรกนางเอกมันโกนผม หัวล้านเต้งเหม่ง สักไว้ที่หัว แถมยังฟันหลอก็เลยต้องใส่ฟันทอง แม่งยังมีแต่ผู้มารักเลย แต่ถ้าชอบกระโดดลงเรือที่พร้อมล่มได้ทุกเมื่อ เพราะไม่รู้ใครเป็นพระเอกก็คงสนุกสนานแน่นอน เนื้อเรื่องก็ไม่ได้ขี้เหร่นะ มีต่อสู้ มีปริศนาให้เดา ไม่ง่อยเหมือนอี8ปีกแน่นอน

15 Nameless Fanboi Posted ID:gLqbohB4E

พวกมึง กูเพิ่งได้อ่านหัวขโมยนิยายชื่อดัง แล้วกูเหมือนอ่านร่างอวตารนิยายยำหยำฉ่าเลยว่ะ
คิล นักฆ่าแม่งทำไมเหมือนก๊อปคิรัวในhxhมาเลยวะ
เฟิร์นแม่งเหมือนเอารันม่า ผสมเจ้าหญิงในเชร้คมาอีกงี้
บรรยากาศในเรื่องคล้ายแฮรรี่ แต่เล่าฉากต่อสู้สำนวนนิยายจีนกำลังภายใน
ส่วนพระเอกคาๆอะไรนั่น แทบก๊อปปี้พระเอกลีๆของนักเขียนอีกคนมาเลย
นี่กูไม่ได้วิจารณ์์หรือสับอะไรเลยนะ กูแค่อยากคุยด้วย เพราะกำลังอ่านอยู่ มันเหมือนกูอ่านแฟนฟิคอะไอ้เหี้ยยยยยย (ไอ้เหี้ย คือคำสร้อย อย่าตกใจกูไม่ได้ด่า)

16 Nameless Fanboi Posted ID:21wyGnOJG

>>15 เขาค้นพบและคุยกันจบไปน่าจะ 7-8 ปี แล้วน่ะเพื่อน เจ้าของเรื่องเขาก็ออกมายอมรับเองด้วยว่ามีแรงบันดาลใจมาจากไหนบ้าง ช่วยไม่ได้ สมัยก่อนคนไม่ได้เข้าถึงอินเตอร์เน็ตกันง่ายแบบตอนนี้ ไม่งั้นจะมีคนเทิดทูนไวท์โร้ดว่าเป็นสุดยอดแฟนตาซีน้อยกว่าที่เคยเป็น เพราะรู้ว่าลอกมายำจากเรื่องไหนบ้าง กูโคตรเกลียดเลย เอา FF8 ของกูมารวมกับสตรีทไฟเตอร์ใส่ความจูนิเบียวเข้าไปอีก ยิ่งคิดยิ่งเกลียดดอกปอบ

17 Nameless Fanboi Posted ID:sQmMkbziC

>>16 รายได้แม่ใหญ่ด้วยแหละ เลยได้ขนาดนั้น

18 Nameless Fanboi Posted ID:GK.4Cozga

>>15 ความจริงเรื่องนี่นักเขียนตั้งใจเขียนให้เป็นแฟนฟิคจากนิยายหลายๆ เรื่องที่เขาได้รับมาเป็นแรงบันดาลใจมึง แต่ปรากฏว่าดังพลุแตกขึ้นมา #กูติ่งนักเขียนนะ 55555

19 Nameless Fanboi Posted ID:bEf0jQfiU

>>18 ทุกวันนี้ยังมีนักเขียนไทยที่ตีพิมพ์แล้วทำแบบนี้ปะวะ นิยายยำหยำฉ่าแฟนฟิคแบบนี้
>>16 กูขอโทษกูเพิ่งเคยอ่านเด็กรุ่นน้องมาอวยจัด กูเลยจัดแม่ง

20 Nameless Fanboi Posted ID:jflre89UF

>>19 มีสิ มิกซ์แฟนฟิคเลยละ ชื่อโรเซเนีย

21 Nameless Fanboi Posted ID:Gs1Oqppjm

>>15 เฟ-ริน ไม่ใช่เฟิร์น 555

22 Nameless Fanboi Posted ID:zjETuEQer

>>21 กูเคยอ่านเป็นควบกล้ำ โคตรระทม

23 Nameless Fanboi Posted ID:sk94OpfX1

>>15 โม่งห้องแฟนตาซีเพิ่งขุดมารุมยำไปเมื่อเดือนก่อนนี้เองมึง ถถถ

24 Nameless Fanboi Posted ID:H.3p+KRS5

แล้วนิยายเด็กดวกยึดแนวทางของอีดอกปอบกับคนไม่กี่คนด้วย ยุคนิยายคุณภาพเลยหมดยุคไป ตอนนี้กลายเป็นยุคนิยายคุณตะพาบ

25 Nameless Fanboi Posted ID:ZZY7LK8Sm

>>23 กูขอลิงก์หน่อย

26 Nameless Fanboi Posted ID:HacySTshW

>>14 ทำไมคนเขียนแม่งใจร้ายจังว่ะ จะให้นางเอกมีผมหน่อยไม่ได้หรอว่ะ TAT)

27 Nameless Fanboi Posted ID:g45SvgC.u

>>25 นี่จขพ.>>23 นะ ท่าทาง ip กุจะโดนแบนทั้งโดเมน เป็ด เอานี่ลิงค์ >>>literature/4046/
อยู่ช่วงต้นๆ เริ่มประมาณโพสที่ 50 ได้มั้ง. แต่ไม่ค่อยต่อเนื่องนะ ลากนข.นู่นนี่มาคุยด้วยพอสมควร. แล้วก็ข้ามยาวๆ ได้เลยเพราะคุยแต่ลวิตร์ ถถถ

28 Nameless Fanboi Posted ID:g45SvgC.u

>>>/literature/4046/ โทษที พิมพ์ในมือถือแล้วลบเกินมันเลยไม่ลิงค์ให้

29 Nameless Fanboi Posted ID:tFbgAxjTJ

>>26 มันไม่ได้หัวล้าน แต่มันโกนเพราะสีผมมันเป็นสีต้องห้าม แต่ขนาดหัวล้านยังมีผู้มาชอบได้ ขออย่ากังวล
อ่านไปสักพักเดี๋ยวมันก็จะมีผม มาพรึ่บเดียวยาวสลวยสวยเก๋เลย ถ้าชอบฮาเร็มและรับความดราม่าปวดตับได้ แนะนำ

30 Nameless Fanboi Posted ID:tFbgAxjTJ

>>29 พิมพ์ตกไป กูจะบอกว่ามันไม่ได้หัวล้านกรรมพันธุ์

31 Nameless Fanboi Posted ID:0V9gAKL8a

>>28 ใจมากจ้า จุฟ ๆ

32 Nameless Fanboi Posted ID:5LTbqPAps

ยุคนี้เขาชอบผู้หญิงผมสั้นใช่ไหมวะ

ลงชื่อ เซฮุน เที่ยงนี้จะกินพิซซ่า

33 Nameless Fanboi Posted ID:H.3p+KRS5

อือหือ ความรู้ใหม่ https://www.dek-d.com/board/view/3808977/

34 Nameless Fanboi Posted ID:Gs1Oqppjm

>>33 โม่งตั้งปะวะ ชื่อพี่ถุยเนี่ย ว่าแต่ว่างจังนะ...

35 Nameless Fanboi Posted ID:tuhm7e2Ux

>>33 >>34 ล่อเป้าแบบนี้ถ้าอีถุยมันไม่ไปโชว์ออฟตอบเป็นภาษาอังกฤษ กูจะเลิกเล่นโม่งเลย

ลงชื่อ เซฮุน กษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ

36 Nameless Fanboi Posted ID:PEz/63/JB

>>35 กูไม่เชื่อ

37 Nameless Fanboi Posted ID:3EdA1JX7/

กูไปขลุกอยู่ในกลุ่มนิยายจีนแปลมา บอกตรงๆ ว่าเหี้ยมากๆๆๆๆๆๆๆๆ คือคนส่วนใหญ่ในกลุ่มแม่งเป็น ผช โว้ย แล้วแม่งก็อวยกันแต่นิยายเหี้ยๆ แบบพระเอกแกรี่สตู เก่งเทพชิบหาย ใครกล้ามาแหยมกับพระเอกก็เจอตีนตายห่าหมด ไอ้เหี้ย กูอ่านแล้วอัดอั้นมาก แถมแม่งอ่าน pdf หรือไม่ก็แปล unofficial กันด้วยนะ ถถถถ ควรนับว่าเป็นเรื่องดีรึเปล่าวะ คือถ้าไอ้พวกนี้มันยอมควักตังซื้อ สนพ. แม่งก็คงจะไปแปลมาขาย เพิ่มความต่ำตมให้วงการหนังสืออีก

38 Nameless Fanboi Posted ID:kAeYbpU+u

>>37 ไม่ดีอย่างแรง

39 Nameless Fanboi Posted ID:H.3p+KRS5

>>37 เหี้ยที่แปลผิดหรือเหี้ยที่การเล่าเรื่องวะ

40 Nameless Fanboi Posted ID:.n.WTeN+0

>>37 เออ กุก็เคยแว่บเข้าไปเห็นมันคุยกัน
พระเอกต้องเก่งตลอดห้ามกาก กากเมื่อไรโดนคนอ่านด่าเละ แพ้เมื่อไรพระเอกจะโดนด่าว่ากากทันที
ต่อให้ปูเรื่องมาพระเอกกากขนาดไหน สุดท้ายก็ต้องกลายเป็นเทพ

41 Nameless Fanboi Posted ID:H.3p+KRS5

>>40 แล้วต้นฉบับเขียนจบรึเปล่า

42 Nameless Fanboi Posted ID:.n.WTeN+0

>>41 กุไม่ได้ตามอ่านถึงขนาดนั้นว่ะ
จำนวนตอนเยอะโคตร + พระเอกเทพ กุไม่ไหวจะตาม

43 Nameless Fanboi Posted ID:f9VRxzGJ1

เม้นเครื่องบินแม่งจี๊ดว่ะ
https://www.dek-d.com/board/view/3808977/

44 Nameless Fanboi Posted ID:QHF6XKF5Y

แนวพระเอกเทพแบบนั้นส่วนใหญ่จะจบไม่ลง ต้องหาอะไรใหม่ๆมาให้พระเอกโชว์เทพ และ เทพกว่าศัตรูตัวเก่าด้วย จะออกทะเลไปเรื่อยๆจนคนเขียนแถต่อไม่ได้แล้วตัดจบดื้อๆ แฟนๆส่วนหนึ่งอาจจะรับไม่ได้แล้วด่าว่า กุไม่น่าตามเลยสัส

45 Nameless Fanboi Posted ID:McQ3ZqGn1

>>42 สิ้นหวังเหี้ยๆ กูย้ายเว็บลงนิยายดีกว่า แม่งมีแต่เด็กคลั่งนิยายแกรี่ขยะสัสๆ

46 Nameless Fanboi Posted ID:QHF6XKF5Y

>>45 เว็บไรวะ เด็กดอย หรือ ฟิคชั่นโลกุ

47 Nameless Fanboi Posted ID:McQ3ZqGn1

>>46 ย้ายจากเด็กดอยไปที่อื่น

48 Nameless Fanboi Posted ID:QHF6XKF5Y

>>47 มันคลั่งแต่ก็ไม่ค่อยควักตังจ่ายกันนะ

49 Nameless Fanboi Posted ID:.oeNoa4dN

มู้ใหม่แล้วมีริยายเรื่องไหนจะสับกันบ้าง

50 Nameless Fanboi Posted ID:ZZY7LK8Sm

>>49 กูจองเรื่องนี้อยู่ แต่แม่งยาวเหลือเกิน

https://writer.dek-d.com/yoyotanya/story/view.php?id=1253967

51 Nameless Fanboi Posted ID:Jb6NyWS.9

กุขอพื้นที่บ่นยาวหน่อย (อาจไม่หน่อย อาจจะยาวมากๆ) ช่วงนี้กุเบื่อ อ่านนิยายไม่ค่อยสนุกเหมือนเมื่อก่อนเลยลองเปลี่ยนแนว ปกติอ่าน LN กับตามนข.ไทยอยู่บ้างรายสองราย อ่านออนไลน์จะหมกตัวอยู่แต่แฟนตาซี (แต่หลังๆสองสามปีมานี้ไม่ค่อยอ่านละ) มีเปลี่ยนอารมณ์ไปอ่านออนไลน์บ้าง เลยอยากลองของแก้เบื่อไปส่องหมวดรักแฟนตาซีดู แล้วอื้อหือ... มึงยังคิดว่าวงการน้ำหมึกไทยยังมีความหวังกันอยู่หรอวะ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอีโก้สูงเสียดฟ้าทะลุไปถึงกาแล็คซี่อันโดรเมด้า เอาแค่สำนวนพล็อตเรื่อง (กลับไปเกิดเป็นนางร้ายในโอโตเมะเกม) และคาแร็คเตอร์แล้วกัน

1. คนเขียนนี่เคยเล่นโอโตเมะบ้างมั้ยว่ะ ถึงกุไม่เคยเล่นแต่ก็เล่นพวก vn เรื่องสองเรื่องอยู่บ้าง แต่ว่า..ส่วนใหญ่โอโตเมะนี่ทั้ง 2D 3D มันก็เป็นคาแร็คเตอร์ลายเส้นแบบยุ่นไม่ใช่หรอว่ะ อะไรคือกลับไปเกิดในเกมแล้วจำหน้าได้บ้าง คุ้นหน้าบ้าง? ไม่เคยดูพวกคอสเพลย์หรือเลเยอร์บ้างเรอะ ถึงจะเป็นเลเยอร์ที่แต่งได้คล้ายมากแต่ไม่เหมือนเลยซะทีเดียวนะเฮ้ย ที่รู้ว่าคอสเป็นใครบ้างก็เพราะคุ้นเสื้อผ้าหน้าผม บางครั้งต้องเพ่งด้วยซ้ำว่าเขาคอสเป็นอะไร หรือมันส่งกลับไปเกิดในโลก 2D? แล้วก็เรื่อง Bad end Good end คือคิดว่าเกมจำพวกนี้เส้นเรื่องเป็นเส้นตรงแน่วหรอว่ะ ยังไม่นับ secret route อีกนะที่ไป True end ได้อีกนะ กุได้ยินเพื่อนกุที่เล่นบ่นกันฉิบหายวายวอดชนิดกุถามคนสร้างหรือคนเล่นที่โรคจิตกว่ากันก็ตอบเป็นเสียงเดียวว่าคนคนสร้าง

2. เข้าใจ 'ความเป็นชนชั้นสูง' ผิดกันไปเปล่าวะเนี่ย กุนึกว่ากำลังตามดู live ชีวิตอันตพาล/สก็อยผู้ถ่อยเถื่อนอย่างยิ่ง อะไรคือเป็นเจ้าหญิงลูกราชา/ดยุคแต่มีความประพฤติต่ำกว่ากุ๊ย กุไม่เห็นสง่าราศีความเป็นชนชั้นสูงสักนิด บอกมีแต่ความกักขฬะไร้มารยาทก็ไม่ผิด นี่มันนิยายวอนนาบีที่เอาตัวอย่างจากหัวหน้าแก็งตัวเองมาเขียนรึเปล่าเนี่ย หรือติดภาพนางร้ายหวีดว้ายกระตู้วู้ในละครน้ำเน่ามา? แล้วก็สร้างฮาเร็มบอกผู้ในฮาเร็มเกิดความสนใจเพราะความไม่เหมือนใครของนาง...โคตรดูถูกคนชิบหาย คาแร็คเตอร์แบบนั้นมีเสน่ห์ตรงไหน?

3. บทพูดรัวๆ ไม่มีหรอกมาบรรยายบรรยากาศสภาพแวดล้อม อย่างมากก็บอกกลับบ้านโดยรถม้า ซิ่งสปอร์ตเป็นสก็อยในสนามแข่ง อยู่โรงเรียนราชวังในสวนหลังบ้าน ในเมืองมีตลาด เที่ยวชมป่าล่ามอน เออ... ไม่มีอย่างอื่นที่จะเขียนแล้วใช่มั้ย? เป็นกลุ่มที่นิยายไม่มีอะไรเลยนอกจากมองหน้าผู้ ปักธง ชอบ หิ้วกลับบ้านจบปิ๊ง หรือตาย ไถพรจากพระเจ้า ต้องสวย พลังมาเต็มขั้น แต่ต๊อกต๋อยเรื่องทักษะใช้ชีวิตชิบหาย อะไรว่ะเนี่ย...

4. รู้จักระบบฟิวดัลเปล่าว่ะเนี่ย อะไรคือมีดยุคนู่นนี่นั่นเยอะเยอะไปหมด แต่บารอน ไวส์เคาท์ เคาท์/เอิร์ล (จะใช้อะไรก็เลือกสักอย่าง) มาร์เกรฟ/มาควิส (จะใช้อะไรก็เลือกสักอย่าง) มีตำแหน่งละคน WTF!! เด็กเล่นขายของเรอะ? พระราชาในระบบนี้ไม่เก่งจริงก็โดนล้มไปนานแล้ว แล้วข้าติดที่ดินละ? อัศวินล่ะ? เดี๋ยวๆ ชาวนา/เกษตรกรไปไหนหมด มึงเสกของกินขึ้นมาเองเรอะ? มีนายพราน? ทั้งเรื่องมีแต่นายพราน... อาชีพพื้นฐานของชาวบ้านไปไหนหมดว่ะ..... ไหนจะเรื่องข้ารับใช้ของพวกระดับดยุค/ราชา เอาตาสีตาสามาเป็นได้ที่ไหน......

สิ้นหวังแล้ว เห็นตอนแรกกุคิดว่าจะได้เจอคาแร็คเตอร์สาวแกร่งคูลลลลลล อืม.. เจอแต่สาวสก็อยกุ๊ยถ่อยระยำแทน

52 Nameless Fanboi Posted ID:Gs1Oqppjm

>>51 อาจไม่เกี่ยว แต่เกมโอโตเมะเดี๋ยวนี้ก็ไม่ใช่แค่ตอบคำถามให้ตรงใจหนุ่มแล้วนะเว้ย บางทีมีมินิเกม ปริศนา ลูกเล่นใหม่ๆใส่เข้ามาตั้งหลายแบบ แต่จะหวังอะไรมาก ส่วนใหญ่ก็ตามกระแสอ่ะนะ

53 Nameless Fanboi Posted ID:ZPlCwTWNq

>>51 เรื่องชนชั้นสูงเถื่อนสถุนมีจริงนะ แต่จะเป็นลูกคนที่ 2 3 4 เป็นต้นไป พวกที่คิดว่าชีวิตนี้คงไม่ได้นั่งบัลลังก์อะ อีกอย่างนะ ใน ข้อ 4 เรื่องมันก็ไม่ได้โฟกัสไปหาชาวบ้านอยู่แล้วหนิ เท่าที่เคยอ่านมา?

54 Nameless Fanboi Posted ID:9VaflfJA/

>>51 เป็นอะไรที่ตรงกับใจมาก กูลงนิยายอยู่ในหมวดรักแฟนตาซี แน่นอนว่าไม่ใช่นางร้าย เพราะเป็นแนวแบบที่กูเกลียดแสนเกลียด นิยายกูก็พอมีคนอ่านอยู่ในระดับหนึ่ง ถึงพล็อตจะไม่ได้แหวกแนว แต่กูว่าการวางโครงเรื่อง ภาษา ความสมเหตุสมผลกูมีมากกว่าอีพวกแนวนางร้ายแน่นอน เห็นพวกแม่งติดท๊อปกูก็โคตรไม่พอใจ(อิจฉา) แต่นานไปกูก็ชักชิน เพราะมันก็มีแต่เรื่องเดิม ๆ นางร้ายหน้าเดิม แต่สิ่งที่ทำให้กูเฟลมากก็คือ นิยายที่เพิ่งเปิดเรื่องใหม่ได้ไม่นาน(แน่นอนว่านางร้าย)แป๊ปเดียวขึ้นไปติดอยู่บนท๊อป20 ซึ่งภาษาแม่งก็ไม่ได้ดีเลย คำผิดเยอะจนน่าหงุดหงิด แถมตอนนึงก็สั้นมาก แล้วที่ขยี้ใจกูได้มากกว่าการขึ้นไปติดท๊อป คือแป๊ปเดียวแม่งมีแฟนคลับหกเจ็ดร้อย ตัดภาพกลับมาที่กูเขียนมาห้าเดือนแฟนคลับยังไม่ได้ครึ่งของพวกมัน...

55 Nameless Fanboi Posted ID:rfkbICnHE

>>51 //ตบบ่า
กูเข้าใจที่มึงบ่นมาว่ะ
หมวดรักแฟนตาซีแนวนางร้ายนี่ส่วนใหญ่ไปอ่านนิยายแปลของยุ่นมาจากนั้นก็ไปมโนกันเองส่วนใหญ่จะยัดๆคาแรคเตอร์ตอแหลดอกๆให้นางเอกเกมจากนั้นก็ออกแบบให้นางร้ายก่อนเข้ามาสิงเป็นพวกวีนแตกวี้ดว้ายน่ารำคาญ แต่งพระเอกเกมเป็นพวกโง่หลับหูหลับตาเชื่อนางเอกเกมแบบไม่ต้องใช้สมองไต่ตรอง เหมือนเป็นสูตรสำเร็จไปแล้วว่ะ พอตัวเอกมาเข้าสิงร่างนางร้ายก็เน้นด่าสะใจอ่านแล้วหาสาระไม่ได้เหตุผลอะไรไม่มี
เวลาบรรยายสถานที่หรือเสื้อผ้านะพวกพี่ท่านเล่นเอารูปมาแปะปังลงมากลางนิยายไม่ต้องพิมพ์บรรยายให้เมื่อยนิ้ว
เรื่องดยุคอะไรนี่บางเรื่องบรรยายว่าใหญ่กว่าราชา ราชายังต้องเกรงใจก้มหัวให้ มึงงงแล้วแม่งจะมีราชาไปเพื่ออะไรวะยกบันลังก์ให้ดยุกนั่นไปจบเรื่องจบราว
แล้วมีอย่างที่ไหนว่าราชาราชินีรักนางร้ายมากจนเหมือนจะเป็นลูกอีกคนต่อว่าเจ้าชายที่เป็นลูกต่อหน้าคนอื่นกลางงานเลี้ยง
ถ้าจะบ่นแนวนี้จริงๆยังมีอีกหลายเรื่องให้บ่นอีกเยอะว่ะ

56 Nameless Fanboi Posted ID:ZPlCwTWNq

ที่ดยุคมีอำนาจกว่ากษัตริย์ก็เพราะว่าฝ่ายดยุคมี เงิน/ทรัพยากร/ทหาร มากกว่าฝ่ายกษัตริย์ แถมกษัตริย์ยัง อ่อนแอ/ป่วย/ไม่ทันคน/ไม่เด็ดขาด เลยทำให้เป็นเหมือนกษัตริย์ในนาม/หุ่นเชิด ของดยุค ที่ขุนนางคนอื่นๆ ไม่ต่อต้านน่ะ ก็เพราะว่าฝ่ายดยุคใช้ เงิน/ทหาร จัดการไปเสียส่วนใหญ่ เลยทำให้ฝ่ายที่ภักดีต่อกษัตริย์มีน้อย ไม่สู้ฝ่ายดยุค และดยุคเป็นคนมองการณ์ไกลเลยไม่ยึดอำนาจทันที แต่เลือกใช้วิธีแต่งงานเพื่อให้ลูกหลานได้เป็นกษัตริย์ แล้วค่อยๆ กลืนราวงศ์ เพื่อเลี่ยงปัญหาสงครามกลางเมืองระหว่างขุนนาง หรือ การจลาจลของพวก Smallfolk .... ถ้ากูเป็นคนแต่งเรื่องที่ดยุคมีอำนาจเหนือราชา กูคงอ้างราวๆ นี้...ใช้ได้เปล่าวะ ?

57 Nameless Fanboi Posted ID:Jb6NyWS.9

>>55 เรื่องราชาด้อยอิทธิพลกว่านี่ ในระบบฟิวดัลไม่ใช่เรื่องแปลกน่ะมึง อำนาจการปกครองมันถูกกระจายออกไปให้พวกขุนนาง กษัตริย์จะกลายเป็นแค่หุ่นเชิดนี่ไม่ใช่เรื่องแปลก ส่วนเรื่องคาแร็คเตอร์นางร้าย เอาจริงๆ นะนอกบ้านเรานี่นางร้ายไม่ได้ร้ายด้วยท่าทางนะมึง มาร้องวี้ดว้ายและชะนีหาผู้นี่ไม่มีอ่ะ กุก็เห็นแต่ร้ายด้วยคำพูดและการกระทำแบบน้ำนิ่งไหลลึกอ่ะ กุรู้สึกว่าเป็นการร้ายแบบฉลาดที่จะร้าย ไม่ได้แสดงความโง่ออกมาแบบนั้น
>>54 ตั้งใจเขียนให้ดีที่สุดก็พอมึง แคร์นักอ่านมึงก็พอ
>>53 อืม กุเข้าใจ แต่นี่คนสถุนคือนางร้าย (นางเอกของนิยาย) นะมึง ลูกชาย 2-3-4 จะมีนิสัยสถุนบ้างอะไรบ้างก็ไม่ค่อยติดใจ สังคมโบราณต่อให้เป็นฝั่งยุโรปก็ยังเน้นที่ผู้ชายอยู่ดี อย่างน้อยก็ยังรู้จักคำว่าสุภาพบุรุษนะ แต่นี่...ตัวเอกแม่งกุ๊ยทั้งหมด หลักสุภาพสตรีสุภาพบุรุษห่านอ่ะไรไม่รู้จักกกก ส่วนเรื่องข้อสี่ อันนั้นในกรณีที่พูดถึงไง
>>52 แต่หลักของโอโตเมะยังไงก็หนีไม่พ้นเนื้อเรื่องมั้ยอ่ะมึง ส่วนประกอบมินิเกม พัสเซิลเกมอะไรพวกนั้นก็แค่พยายามยัดความแปลกใหม่เพื่อแข่งกันตามกลไลตลาดเท่านั้นเอง แต่เพิ่งรู้นะว่าโอโตเมะเขาเล่นถามตอบให้ตรงใจหนุ่ม กุเล่น vn มีแต่ตอบเพื่อเลือกรูทเนื้อเรื่องซึ่งหลายครั้งมันคือทางเลือกของเราว่าจะให้เรื่องดำเนินไปทางไหน ไม่เกี่ยวกับใครอ่ะ

58 Nameless Fanboi Posted ID:Jb6NyWS.9

เพิ่มเติม ตำแหน่งดยุคนี่หลายคนไม่พอ เกือบทั้งหมดนั้นยังเป็นแค่สามัญชนไม่ใช่เชื้อพระวงศ์อีก เป็ด
ถ้ามึงจะเขียนแบบนี้ก็แตกให้มันเป็นราชาปกครองที่ดินตัวเองไปเถอะ ไม่ต้องเอามาหรอกลำดับชั้นขุนนางเนี่ย

59 Nameless Fanboi Posted ID:McQ3ZqGn1

อมก บ่นแบบมีสาระด้วย ชื่นชมเลยจากใจกู

60 Nameless Fanboi Posted ID:H.3p+KRS5

>>51 ให้กูโพสกระทู้เด็กดวกแทนมึงดีมั้ย อยากรู้พวกเด็กดวกคิดยังไง

61 Nameless Fanboi Posted ID:M0LxI+0uT

>>60 ขอบคุณมาก แต่อย่าเลย สีซอให้ควายฟัง แถมควายอาจจะเรียกพวกกลับมาไล่ขวิดอีก เสียสุขภาพจิตเปล่าๆ
อีกอย่างกุว่ากุพอจะเดาได้ว่าจะได้คำตอบแบบไหน 'มันก็เป็นไปตามยุคสมัย', 'ไม่ชอบก็อย่าอ่าน', 'อยากอ่านก็เขียนเอง', 'ปุ่มปิดหน้านิยายอยู่มุมบนขวา', 'นิยายตลาดก็งี้แหละ', 'ไปเลือกอ่านเรื่องอื่นสิ' บลาๆ
แต่ถ้าอยากลองของจริงๆ ตามแต่ศรัทธาเลยมึง วางระเบิดไปแล้วเตรียมใส่เกียร์หมาเผ่นให้ไวด้วย กุเป็นห่วง

62 Nameless Fanboi Posted ID:caa2BdWzJ

>>61 ไม่ต้องห่วงกู กูนิยม Anonymous

63 Nameless Fanboi Posted ID:caa2BdWzJ

อันนี้ไม่ใช่กู https://www.dek-d.com/board/view/3809174/

64 Nameless Fanboi Posted ID:C8YhTOmgX

>>57 ก็มีเลือกรูทแหละ แต่ก็ต้องทำค่าความรักให้ถึงกำหนดด้วยดิ ไม่งั้นจะจีบติดได้ไง 555 แต่ในนิยายนี่กูไม่แน่ใจ ไม่ชอบอ่านแนวนี้เลยไม่เคยอ่าน ไม่รู้ว่าจะสมจริงแค่ไหน แต่ก็ไม่หวังอะไรอยู่แล้ว

65 Nameless Fanboi Posted ID:RJFar9NTz

>>51 แต่ถ้าเขียนเป๊ะ มันจะกลายเป็นไม่มีคนอ่านเนี่ยล่ะ
กุรู้ดี กุลองแล้ว orz

66 Nameless Fanboi Posted ID:P5BuKeKem

>>65 กูก็เห็นด้วย พอเขียนแบบเรียลมาก ๆ เด็กมันก็รับไม่ได้ อยากให้เป็นแมรี่ ซู ซะงั้น

67 Nameless Fanboi Posted ID:5Br/bSPAU

>>51 กูเคยอ่านอยู่สองสามเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่ติด top อันดับ 1 มีคนเอามาปล่อยในกลุ่มเฟสบอกว่าดีมาก งู้นงี้ เคลมว่านางร้ายโคตรผู้ดี ผู้ดีมากมึง เล่นพูดจาขึ้น 'กู มึง' นี่ผู้ดีตรงไหนวะ

68 Nameless Fanboi Posted ID:mG7TESbYK

กูเคยอ่านเรื่องนึง เอลล่า อินทู เอล อ่ะ คิดว่าภาษาพอใช้นะ อย่างน้อยก็ไม่ได้แย่อะไรมาก คิดว่าโอเคสุดในหมู่ข้ามมิติละ (ถึงแม้นางร้ายจะไม่ได้เซตติ้งเกมจีบหนุ่มก็เหอะ)

69 Nameless Fanboi Posted ID:Ac/pgLCCx

อ่านแล้วแอบสะดุ้งเบาๆ แม้จะไม่ได้เกิดใหม่ในเกมจีบหนุ่ม แต่ตัวเอกก็ร้ายเหมือนกัน
ตัวร้ายหวี๊ดๆมีมั้ย...มี
ฮาเร็มมีมั้ย...มี
ตัวเอกเทพมั้ย...อาจไม่ได้ไปไถพรจากใครแต่ก็เทพ(จนซู)
สิ่งเดียวที่คิดว่าน่าจะดีกว่านิยายกระแสล็กน้อยคงเป็นที่นางเอกไม่ได้ง้องแง้ง เถื่อน แต่ก็ไม่ใช่อารมณ์นักเลง มีฮาเร็ม แต่ฉากปักธงนั้น ลงมาสี่สิบกว่าตอนก็ยังมีปักแน่ๆไปแค่คนเดียว...
แต่อย่างน้อยน้องก็มีหน้าที่ชัด้จน แถมทำด้วยความตั้งใจ(?)นะเอ้อ
พยายามขุดหาข้อแตกต่าง แต่ดูเหมือนจะมีแค่ไม่ใช่เกมแฮะ
เหมือนเราเมาๆ โทษที เราเหงา 555

70 Nameless Fanboi Posted ID:FG.zGptv/

>>69 สำนวนการเหงาเหมือนเหมียวนนท์ ติดที่มันไม่ได้เขียนแนวนี้เท่านั้นแหละ

71 Nameless Fanboi Posted ID:Ac/pgLCCx

>>70 เหมียวนนท์?
https://writer.dek-d.com/LASTLY_SMILE/writer/viewlongc.php?id=1673215&chapter=2
นิยายที่ยังตราตรึง(ในด้านลบ)อยู่ในใจ คาเว่าคงได้สับวันนี้(มั้ง)

72 Nameless Fanboi Posted ID:CD44U6lPm

>>71 Meawnon

73 Nameless Fanboi Posted ID:I0PAlh4BO

หลายเรื่องชอบพูดว่าเรื่องนี้ตัวเอกไม่ง้องแง้ง ไม่น่ารำคาญ แต่พออ่านจริงๆแม่งก็ง้องแง้งนี่หว่าแต่คนเขียนอวยนิยายตัวเองไง

74 Nameless Fanboi Posted ID:caa2BdWzJ

>>73 กูเห็นด้วย แสดงให้เห็นถึงเด็กดวกถนัด Tell Don't Show ต่างหาก

75 Nameless Fanboi Posted ID:K0mH7v/Yz

>>73 รู้สึกเจ็บเบาๆ แต่มันเป็นความจริง เราก็รู้สึกอวยนิยายตัวเองจริงๆนั่นแหละ 555
ส่วนอันนี้ในความคิดเรานะ อาจจะเพราะระดับความง้องแง้งที่คนเราทนได้ไม่เท่ากันด้วยรึเปล่า? อาจจะแบบ คนเขียนเห็นว่าระดับนี้สำหรับเขาคือไม่ง้องแง้ง สำหรับนักอ่านบางพวกก็ถือว่าไม่ง้องแง้ง แต่สำหรับอีกกลุ่มหนึ่ง อาจกลายเป็นว่าแค่นี้ยังไม่พอที่จะออกมาจากโซนนางเอกง้องแง้ง
อย่างเรา เราชอบนางเอกที่ดูมีระดับความเป็นผู้หญิงค่อนข้างต่ำ ไม่ใช่แบบพวกสาวหล่อนะ หมายถึงแบบพวกที่ไม่หวาน ไม่ต้องให้ความรู้สึกว่าเป็นผู้หญิงจ๋ามาก(งงมั้ย? 555) ยืนด้วยลำแข้งตัวเองได้ ไม่หวังพึ่งการปกป้องการผู้คนไหน(ข้อนี้สำคัญมาก ยิ่งถ้าเป็นพวกที่เปรยไว้เทพมาก แต่ก็ยังต้องพึ่งผู้ชายนี่เราจะรู้สึกเคืองแปลกๆ เป็นความอคติส่วนตัวล้วนๆ) อ่อนไหวได้ ใจดีได้ แต่อย่ามากจนเข้าขั้นโลกสวย
ซึ่งก็มีหลายเรื่องนะที่ชอบมีเปรยไว้ว่านางเอกสายเท่ นางเอกคูล นางเก่งโน่นนี่ พออ่านจริง...
ถามว่าเก่งไหม ก็เก่งนะ ถามว่าเท่ไหม ก็แค่ในระดับหนึ่ง คือมันยังไม่ถึงขั้นที่เราหวังอ่ะ สุดท้ายเราก็ยังไม่เจอนางเอกเรื่องไหนตอบโจทย์ได้สักคน
บ่นจบแล้วก็ขอถามเสียหน่อย มีเรื่องไหนแนวแฟนตาซีที่นางเอกเข้าข่ายที่เราว่ามาแนะนำไหมเพื่อนโม่ง แนวกระแส นอกกระแสได้หมด ช่วงนี้ไม่มีอะไรอ่านเลยจริงๆ 555

76 Nameless Fanboi Posted ID:I0PAlh4BO

>>75 สำหรับกู ไม่ง้องแง้ง คือระดับดูแลตัวเองได้ก็พอว่ะ จะขี้โวยวายน่ารำคาญก็ได้ แต่เวลาใช้งานหรือมีบทบาทคือไม่ดันทุรังแบบ ฉันทำได้ๆ สุดท้ายแม่งพึ่งบารมีผู้ในเรื่อง ไม่ก็เป็นตัวถ่วงให้พระเอกมาช่วยซะเอง คือมันมีพลาดหรือหลงตัวเองกันได้ แต่ก็น่าลำไยอยู่ดี กูชอบแบบถึงพลาดท่าก็ยังพอถูไถเอาตัวรอดได้อยู่ โชว์กึ๋นของนางหน่อย ไหนๆคนเขียนก็ปูมาว่านางฉลาดไอคิวสูง สุดเท่สุดคูลแล้ว อย่าเถียงนะโว้ยว่านางโง่เฉพาะกับพระเอกแบบที่คนเขียนเคยเถียงกูมา แม่งไม่ตลกว่ะ
อย่าว่าแต่นางเอกเลย พระเอกปูมาว่าเย็นชา เลือดเย็น สุดท้ายแม่งคือบทพูดน้อย ฆ่าคนแบบผักปลา สรุปคือการกระทำไม่ใช่ว่ะ ใจร้อน ดีแต่ใช้พลังไปเรื่อย ไทป์แบบนี้เรียกเย็นชาได้เหรอวะ นี่กูยังไมไ่ด้พูดถึงนิยายที่อวยว่าดาร์กแฟนตาซี สุดท้ายก็จบแค่ฆ่าแกงกัน เน้นโหดเข้าว่าอีกนะเว้ย หลอกลวงผู้บริโภค กูจะฟ้องใครได้บ้างวะ

77 Nameless Fanboi Posted ID:K0mH7v/Yz

>>76 พูดถูกใจมากเพื่อนโม่งTwT เราก็ไม่ชอบนะพวกนางเอกที่ออกแนวปากพูดได้ แต่ทำไม่ได้อ่ะ มันดูอวดเก่งแบบโง่ๆชอบกล 555
กำลังสับนิยายเรื่องที่จองไว้ ไหงมันดูเหมือนเราเอาเรื่องเขามาบ่นมากกว่าพูดถึงเนื้อเรื่องก็ไม่รู้ คือ...ไอ้เรื่องนี้มันแลดูทำลายความหวังของเราทิ้งหมดเลยอ่ะ 5555555
นางเอกงี้ การบรรยายงี้ ยมทูตที่โผล่ออกมางี้ บทนำที่ไม่มีสาระงี้ โอ๊ย ความดีอยู่ไหน 555

78 Nameless Fanboi Posted ID:ewGg9.Awh

นิยายกุ พระเอกไม่ง้องแง้ง แต่โดนคนอ่านว่าขี้ขลาดซะงั้น...
Play safe ทำอะไรประเมินกำลังตัวเองก่อนมันเรียกว่าขี้ขลาดหรอวะเนี่ย Orz

79 Nameless Fanboi Posted ID:K0mH7v/Yz

>>78 โอ๋นะเพื่อนโม่ง นักอ่านสมัยนี้คงชอบอะไรที่มันแบบ พระเอกต้องไม่มีใครต้านได้ แม้จะไม่เตรียมตัวอะไรแบบนี้ล่ะมั้ง(?)
เรื่อง : Doctor is villain จากหมอเป็นนางร้าย!
หมวด : รักแฟนตาซี
แนว : เกิดใหม่เป็นนางร้ายนั่นแหละ
ลิงก์ : https://writer.dek-d.com/LASTLY_SMILE/writer/viewlongc.php?id=1673215&chapter=2
ตอน : 19 ตอน อัพเดตล่าสุด 12 พ.ย. 60
บทนำ
อย่างที่เราบอกว่าเรื่องนี้เป็นนิยายที่ยังคงตราตรึงอยู่ในใจ หลังจากการกดสุ่มเข้ามาดูด้วยความอิจฉาวันนั้น จนบัดนี้มันก็ยังตามหลอกหลอนอยู่ในหัวเราไม่หาย
อย่างที่เราเคยบ่นไส้เมื่อครั้งกะโน้นโดยไม่เอ่ยชื่อเรื่อง ว่าเรื่องนี้มีการบรรยายที่แปลกมาก มันดูเหมือนตัวประโยคถูกตัดคำออกไปในบางจุด พออ่านมันเลยแปลกมากสำหรับเรา เช่นย่อหน้าแรก
‘เสียงเรียกบางอย่างพร้อมกับแรงสะกิดตรงบริเวณไหล่ทำให้ลืมตาเสียไม่ได้ ใบหน้าง่วงงุนมองมาทางชายหนุ่มร่างบางที่สวมด้วยหน้ากากอีกาสีดำ พร้อมกับหมวกทรงสูงสีดำนั่นอีก ทำให้อดพูดไม่ได้ว่า’
...คิดเห็นอย่างไรก็...เนอะ 555
ตอนแรกพูดถึงเกี่ยวกับนางเอกโดนยมทูตที่แต่งตัวเหมือนหน้ากากอีกาดำมาปลุก แล้วมาแจ้งว่านางไหลตาย แล้วก็คุยไร้สาระกันทั้งตอน เหมือนอยากให้หัวเราะแต่เรากริบ นางเอกได้ลัคกี้บ็อกซ์ติดตัวไปด้วย แล้วจบลงด้วยการส่งนางเอกไปเกิดด้วยพาไปยืนบนวงเวท(แต่คนเขียนบอกว่าเป็นวงกลมรอบอักขระ เราเลยเดาว่าน่าจะเป็นวงเวท)
ความรู้สึกหลังอ่านตอนนี้จบคือ...มีแต่ความเรื่อยเปื่อยอะ 555 มีการเล่นมุกร่วมสมัยอย่างหน้ากากทุเรียน กับหน้ากากอีกาดำ แล้วก็ดีจี ซึ่งเราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ตอนใกล้จบยมฑูติ(คนเขียนเขียนงี้อ่ะ-0-)หยอกนางเอกว่าหึงเหรอ? แล้วนางเอกก็หน้าแดง...
บอกตรงๆ เราเกลียดฉากแบบนี้มาก แบบนางเอกไหวหวั่นกับผู้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นอ่ะ หมดกัน รูปที่อุตส่าห์ไปเอามาจากเกมpersona5 คือในรูป นางเอกดูน่าจะคูลกว่านี้ ไม่ได้เป็นนางเอ๊กนางเอกนิยายแจ่มใสทั่วไปแบบนี้อ่ะ
โห ขนาดตอนแรกยังบ่นได้ขนาดนี้ ต้องใช้เวลากี่โพสต์เนี่ย 555

บทที่1
เรายังคงยืนยันคำเดิมว่าการบรรยายของเขาแปลกมากสำหรับเรา 555
เปิดตอนมาด้วยการบรรยายขาดๆเกินๆเช่นเดิม ตัวผู้หญิงคนนี้ชื่อชารอน เธอหมดสติไปสามวัน แตะเพราะมีเสียงดังเลยฟื้นขึ้น แล้วก็ตามมาด้วยคำพูดของผู้ชายสองคนที่มาพร้อมสีผม(แน่นอนว่าเราไม่จำ 555)
ตอนแรกว่าจะไม่บ่นเรื่องการบรรยายแล้วนะ ขออีกสักนิดเถอะ รู้สึกว่าคนเขียนจะใช้บุคคลที่สามกับหนึ่งปนๆกันไป เดี๋ยวบรรยายด้วยร่างบาง เดี๋ยวมาบรรยายความรู้สึก เราปรับตัวตามไม่ทันแล้วค่ะ...
(มีอีกครึ่งหนึ่ง)

80 Nameless Fanboi Posted ID:K0mH7v/Yz

มีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังปรามคำพูดของชายสองคนแรกว่าจะให้ชารอนพักผ่อน นางเอกบอกว่าอีกฝ่ายให้ความรู้สึกกระแดะชอบกล ก่อนตัวละครใหม่ที่เป็นลุงจะโผล่เข้ามาร่วมฉาก มาถึงก็กอดนางเอก หอมแก้มอย่างรักใคร่ นางเอกบอกว่าจำลุงไม่ได้ อีกฝ่ายจึงเริ่มร้องไห้ฟูมฟาย
ถึงฉากตรงนี้ คนเขียนเปลี่ยนมาเขียนบรรยายด้วยฉันแล้วจ้า โอ๊ย 555
ลุงพานางเอกมาที่ห้อง ในห้องของนางเอกที่โปสเตอร์หนุ่มๆประดับอยู่ นางเอกสำรวจเจอรูปๆหนึ่ง ซึ่งคนเขียนไม่ได้บรรยาย แต่ทำการแปะรูปโต้งๆ ไงล่ะ ไม่ต้องมานั่งจินตนาการให้เหนื่อย มาให้ดูเป็นภาพสีเลยทีเดียว
นางเอกได้ความทรงจำคืนว่าเจ้าของร่างชอบเจ้าชายมาแต่เด็ก หันไปเห็นกล่องใบหนึ่งเลยเดินไปให้ลุงดู แต่ลุงเอ็ดว่าให้เรียกว่าพี่ แล้วก็ไม่ได้พูดถึงกล่องเลย เหมือนไปหาลุงเพื่อให้นางเอกเพ้อถึงผู้อ่ะ เสียดายภาพลักซ์สาวที่ดูเท่ๆคนนั้นจัง โคตรชอบรูปอิมเมจ แต่ไม่ชอบผู้หญิงบ้าคนหล่อแบบเน้!TwT
พอเอากล่องไปเปิดก็ได้รับลูกเสือมาหนึ่งอัตรา แล้วนางเอกก็ไปโรงเรียนหลังจากหยุดมาหลายวัน มีคนซุบซิบตลอดทาง พอถึงห้องก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาขอโทษพร้อมเกาะแกะ ด้วยความรู้สึกเกลียดที่ไหลบ่า นางเอกเราเลยสะบัดนางออกทันที อีกฝ่ายก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาทันใด
ซึ่งเหตุการณ์พูด เข้ามาเกาะแขน รู้สึกเกลียด สะบัดออก แล้วแม่นั่นร้องไห้จบลงด้วยย่อหน้าเดียว
อืม...ว่าไงดีล่ะ 555
คนโดนสะบัดออกก็เริ่มขอโทษขอโพย แล้วก็มีผู้ชายคนหนึ่งโผล่มาร่วมชาก กระชากแขนนางเอกพร้อมตะคอกใส่
พอละ สองบทพอ รู้สึกยิ่งอ่านยิ่งหงุดหงิด อ่านไปใจก็แช่งให้โลกนั้นเกิดภัยพิบัติไป 555

สรุป
ภาษา สำหรับคือไม่โอเคอ่ะ ดูเผินๆก็ดูบรรยายเยอะกว่าพูดนะ แต่นอกจากจะแปร่ง ขาดๆเกินๆ ชวนสับสนแล้ว ยังใช้บุคคลสลับกันได้ทุกย่อหน้าอีกต่างหาก สำหรับเรา ไม่ผ่านจ้าTwT
ตัวละคร เราเพิ่งอ่านแค่สองตอน พูดอะไรไม่ได้มาก แต่เราว่ามันไม่ค่อยโอเค(อีกแล้ว)อ่ะ ตัวลุงที่เห็นนางเอกจำตัวเองไม่ได้ก็ร้องไห้อยู่ประมาณสองย่อหน้า แล้วก็ไม่อะไรอีก รับได้เรียบร้อย ตัวนางเอกก็นิสัยรู้สึกไม่เหมาะจะเป็นคนที่ทำงานแล้วอ่ะ เราว่ามันดูเด็กเกิ๊น ได้ลูกเสือ จับกอดเลยจ้า ลังเลหน่อยก็ได้ มันอาจกัดไม่เจ็บแต่อาจติดเชื้อ หรือตัวมันมีสิ่งสกปรกก็ได้นะเออ
เรื่องพล็อต แน่นอนว่าอ่านไปสองตอนคงพูดอะไรไม่ได้ แต่แค่นี้เราก็รับรู้ได้ถึงความสูตรสำเร็จ นางเอกที่กลายเป็นนางร้ายแอ๊บใสทันทีที่ตัวเอกมาอยู่ในร่างตัวโกง เจ้าชายสักองค์ที่ต้องโง่ไปเลิฟกับนางเอกแอ๊บใส บรรดาหนุ่มที่ยกโขยงมากันเต็มเรื่อง แต่ข้อหลังนี่ว่าไม่ได้ ฮาเร็มเราก็มีเยอะเป็นโหลเหมือนกัน 55
สำหรับเรา ไม่ผ่านทั้งตัวละครที่โผล่ๆมา ทั้งการบรรยาย โดยเฉพาะตัวนางเอกเนี่ย ไม่โอเคมากกก ตอนแรกเห็นว่ามีอาชีพเป็นหมอ รูปประกอบก็เป็นสาวคูล คงได้ตัวละครสาวเจ๋งๆสักคน ที่แท้ก็นางเอกทั่วไปที่เพิ่มระดับความหยาบขึ้นมาเล็กน้อย
ด่าเจ้าชายที่มาช่วยนางแอ๊บใสว่าเสือก ขนาดเราว่าเราเขียนนางเอกเป็นคนหยาบคายแล้วนะ เรายังไม่กล้าใช้คำนี้เลย มากสุดคงสะเออะไม่เข้าเรื่องอ่ะ 555
เป็นนางเอกสูตรสำเร็จนิยายต่างโลกไทยสมัยนี้รึเปล่าไม่แน่ใจ แต่เราเจอบ่อยมาก คือบ้าผู้ เห็นคนหล่อเป็นละลาย ปากเสีย บ้าๆบอๆ บางทีก็ขี้วีน เปรยไว้ว่าเทพมาก แต่สุดท้ายก็ต้องมีผู้คอยปกป้อง
ซึ่งนางเอกเรื่องนี้เราว่าโดนไปเกือบทุกข้อ...
เราว่าเราไม่ได้มาสับอ่ะ เรามาบ่น 555
ปล.สงสัยเพราะเป็นวันธรรมดา ถึงได้เงียบเหงาขนาดนี้ รึเงียอย่างนี้อยู่แล้ว?

81 Nameless Fanboi Posted ID:ca5zO5.oX

โม่งตัวไหนเอาไปตั้งมู้ https://www.dek-d.com/board/view/3809273/

82 Nameless Fanboi Posted ID:HMGpJs7y6

ตามลิ้งค์นิยายเข้าไปดู แหม่ ใช้รูปหมอทาเคมิซะด้วย ในเกมนางออกจะคูลแต่พออ่านที่มึงเล่านี่อะไรเนี่ย ใช่หมอจริงๆเรอะ ปล. คำว่ารูปลักซ์นี่มุกหรือจงใจวะ 555

83 Nameless Fanboi Posted ID:HMGpJs7y6

>>81 เออ ส่วนอันนี้ก็นะ ขอหน่อยเถอะแต่ชื่อคนตั้งมู้น่ะผิด ต้องฉัวๆกุดุสๆต่างหาก ไม่ใช่ฉัวะๆด้วยซ้ำ

84 Nameless Fanboi Posted ID:caa2BdWzJ

>>75 หญิงง้องแง้งที่มึงพูดมา เรียกว่าสาวเอ๊าะเดือดร้อน Damsel in Distress
https://th.wikipedia.org/wiki/สาวเอ๊าะเดือดร้อน

แล้วอย่าคิดว่า ผู้หญิงทุกคนที่มีความเป็นหญิงสูงจะเป็นพวก Damsel in Distress ที่มึงเห็นมาก็เกิดจากการยัดเยียดทางเพศในสังคมว่า ผู้ชายเป็นผู้นำและห้ามอ่อนแอ ส่วนผู้หญิงต้องอ่อนแอน่าปกป้อง เป็นทัศนคติของคนโบราณเท่านั้น

85 Nameless Fanboi Posted ID:K0mH7v/Yz

>>82 เห็นคนเขียนเขาเขียน 'ยมฑูติ' แบบนี้ก็อยากใส่เสียง z ให้รูปลักษณ์บ้างอะไรบ้าง 555
เขียนยมฑูตยังพอเคยเห็นนะ แต่ยมฑูตินี่เพิ่งเคยเห็นที่นี่แหละ
อ่านครั้งแรกก็นึกว่าชื่อแฟนตาซีๆ 55

86 Nameless Fanboi Posted ID:RJ0p7K..D

คิอกูสงสัยตรรกะคนในโลกเกมจีบหนุ่มที่พวกเขียนแนวนางร้ายขึ้นมาเฉยๆว่ะ
เวลาใส่ประวัติมันมักจะบอกว่าบ้าผู้ชาย
คือนางร้ายมันตามคู่หมั้นคนเดียวไม่ใช่หรอวะตามเอาใจคู่หมั้นนี่เรียกว่าบ้าผู้ชายได้เหรอเหมือนตามเอาใจแฟนอ่ะ
อีกอย่างไม่รู้พวกนี้ต้องการใส่ธีมเรื่องเเป็นยุคไหนกันแน่มีกล้องถ่ายภาพด้วย

87 Nameless Fanboi Posted ID:M0LxI+0uT

>>60 เอื้ออออ มึงก็อบไปทั้งดุ้นเลยหรอ กุเขียนในบริบทของโม่ง เอาไปแปะกระทู้เด็กดวกแบบนั้นกุว่าไม่เหมาะม้าง เดี๋ยวก็โดนหาว่าป่วนหรอก ฮ่าๆๆๆ

88 Nameless Fanboi Posted ID:ENTU6K5lG

เรื่อง : The Story Quest of DOREDIA ATHENS
link : https://writer.dek-d.com/ArisaChuchu/writer/view.php?id=1670244
จำนวน : 18 ตอน (รวมทุกอย่างแล้ว)
สถานะ : ยังไม่จบ

เอาล่ะ ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ตั้งแต่ต้นเดือนนะ ในกระทู้ก่อน คห. ที่ 400 กว่าๆ นั่นแหละ จำไม่ได้ละว่า คห. ไหน ช่างแม่งเหอะ
ก่อนอื่นต้องบอกว่า เออ สนุกมาก สนุกจริงๆ ควรค่าแก่การเสียเวลาอ่าน ผู้เขียนใช้ภาษาไทยได้อย่างดีเยี่ยม แถมมีการตรวจทานคำผิดก่อนลง จึงแทบไม่เห็นคำผิดในเรื่องเลย

เรื่องก็มีอยู่ว่า พี่ชายของพระเอกขับรถไปชนสิบล้อ อาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน หมอก็บอกว่าทำใจนะลูก อย่ารั้งเขาไว้ให้ทรมานเปล่าๆ เลย ความจริงไอ้พระเอกก็ปลงและ แต่แม่งก็ยังดื้อหน่อยๆ เลยเชื่อมต่อร่างของพี่มันกับตัวมันเองเข้าไปในเกมออนไลน์ชื่อ DA (ตามชื่อเรื่อง) ประมาณว่าคิดจะเล่นเกมกับพี่เป็นครั้งสุดท้าย เผื่อมีปาฏิหาริย์

ตอนแรกพระเอกเข้าเกมมา แทนที่จะเลือกตัวละครหลักที่แม่งปั้นจนเทพแล้ว แม่งกลับไปเลือกเอาตัวละครผู้หญิงอาชีพนักฆ่าเลเวล 2 กากๆ มาเล่นแทน (จำไม่ได้และว่ามีเหตุผลไร ช่างแม่ง) พอเข้าเกมมาปุ๊บพระเอกก็นอยด์แดกละ ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง (เสียงพี่กบ) พี่ชายมันแม่งไม่ได้เข้าเกมมาด้วย ในขณะที่พระเอก(ในร่างสาวนมโต) กำลังนอยด์แดกอยู่นั้น ปรากฏว่าเกิดเหตุอาเพศขึ้นเสมือนท้องฟ้าวิปริตแปรปรวนทันใด ผู้เล่นในเมืองเกิดเป็นบ้าอะไรขึ้นก็ไม่รู้ ไล่ฆ่ากันเองใหญ่ มิหนำซ้ำยังไปไล่ฆ่า npc ซึ่งปกติฆ่าไม่ได้ตายกันเป็นเบือด้วย ตอนนี้ก็เป็นช่วงให้พระเอกได้โชว์เทพหลบหนีการไล่ล่าของมือสไนเปอร์ ต่อมาพระเอกก็หนีความวุ่นวายเข้าไปหลบในกระท่อม เสือกมีจอมขมังเวทเข้ามาสำรวจอีก พระเอกก็เลยต่อสู้ แต่สู้ไม่ได้ เพราะจอมขมังเวทแม่งเปย์ทูวิน แถมเวลเยอะสัสๆ ยังโชคดีที่ปรากฏว่าไอ้จอมขมังเวทนั่นแม่งไม่ได้ถูกควบคุม คือต่างคนต่างก็คิดว่าอีกฝ่ายถูกควบคุมไง แม่งเลยสู้กัน พอรู้ความจริงปุ๊บแม่งก็ดีกันราวกับพระเอกนางเอกละครไทย เข้ามาร่วมปาร์ตี้กันสืบหาความจริง

รายละเอียดปลีกย่อยมีเยอะมาก กูจะอธิบายข้ามๆ นะ เอาเป็นว่าไอ้จอมขมังเวทนั่นแม่งมีสัตว์เลี้ยงเทพตัวนึงไว้คอยปรึกษา แต่ไอ้สัตว์เทพนั่นแม่งก็กวนส้นตีนไปเรื่อย ไรงี้ จนท้ายที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่า ในโลกเกมเนี่ย แม่งมีฝ่ายพระเจ้า กับฝ่ายปีศาจ (บาป 7 ประการตามคติคริสต์เลย) นำโดยลูซิเฟอร์ ไอ้ลูซิเฟอร์และพรรคพวกเนี่ยเป็นตัวการที่ทำให้ผู้เล่นฆ่ากันเอง เออ ลืมเล่าไป ในตอนนั้นพี่ชายของพระเอกที่ควรจะนอนเป็นผักอยู่แม่งออนไลน์เข้ามาในเกมได้แล้วนะ แต่เสือกโดนพวกปีศาจครอบงำ กลายไปเป็นพวกมันฉิบ

ไอ้ลูซิเฟอร์และพรรคพวกก็พยายามทำลายไฟร์วอล เพื่อเจาะระบบเข้าไปหาพระเจ้า เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ไปในทางที่มันต้องการ (คติคือ ลูซิเฟอร์บอกว่าพระเจ้าหลอกลวง npc ทุกคนให้เอาชีวิตไปผูกติดอยู่กับเรื่องจอมปลอม มีหน้าที่แจกเควสต์ให้ผู้เล่นไปวันๆ - ถ้ากำจัดผู้เล่นจนหมดไปได้ npc ก็ไม่ต้องแจกเควสต์ และก็จะมี free will ที่จะทำอะไรก็ได้ตามที่ใจปรารถนา

ก็สู้ๆ กันอะ ไอ้จอมขมังเวทแม่งก็เก่ง สู้กับพวก 7 บาปพอฟัดพอเหวี่ยงอยู่ ส่วนไอ้พระเอกก็ชิงตัดหน้าลูซิเฟอร์ เข้าไปในระบบส่วนในได้ ไปเจอเกทคีพเปอร์ (ผู้รักษาทวาร-รูตูด) ของพระเจ้า ซึ่งจริงๆ แล้วแม่งก็คือร่างแยกของพระเจ้านั่นแหละ ระหว่างที่อีเกทคีพเปอร์แม่งพูดจากวนตีนพระเอกอยู่ ไอ้ลูซิเฟอร์แม่งก็หาทางฝ่าไฟร์วอลเข้ามาในระบบส่วนในได้ แล้วแม่งก็ฝังไวรัสลงไปในระบบ กลายเป็นผู้ควบคุมเกม

แต่ระหว่างที่อยู่ในระบบส่วนใน เวทมนต์ต่างๆ จะใช้การไม่ได้ ดังนั้นพระเอกเลยใช้จังหวะนี้ในการต่อสู้ด้วยมือเปล่ากับไอ้ลูซิเฟอร์ ก็แลกเลือดกันได้อยู่ แต่ถ้าชนะเรื่องแม่งจะจบไวไปไง ไอ้ลูซิเฟอร์ก็สามารถเอาตัวรอดมาได้แบบเจ็บนิดหน่อย ส่วนพระเอกก็โดนแทงตาขวาบอดไปข้างนึง

จากนั้นก็กลับลงมาสู้กันต่อในโลกข้างล่าง อีเกทคีฟเปอร์ตามลงมาช่วยพระเอกสู้ ไอ้จอมขมังเวทถูกฆ่าตาย พระเอกก็เกือบจะตายห่าเหมือนกัน เพราะไอ้ลูซิเฟอร์แม่งใช้อัลติระเบิดแผ่นดินแยกจนมองลงไปเห็นนรก อะไรประมาณนี้ แต่ท้ายที่สุดอีเกทคีฟเปอร์ (ร่างแยกพระเจ้า) ก็ใช้สกิลเทพ สละชีวิตตัวเองเพื่อรีเซ็ตระบบ ส่งพวกปีศาจ (รวมไอ้ลูซิเฟอร์) กลับไปยังที่ๆ มันควรอยู่ได้

89 Nameless Fanboi Posted ID:ENTU6K5lG

ลืมเล่าไป พระเอกนี่คือติดอยู่ในเกมแล้วนะ ล็อกเอ้าท์ไม่ได้ แถมความทรงจำข้างนอกก็ยังขาดๆ หายๆ ไปบางส่วนด้วย ระหว่างที่พระเอกกำลังง่อยแดกจะตายเพราะแผ่นดินแยกอยู่นั้น ก็มีหนูน้อยหมวกแดงคนนึงมาช่วยเอาไว้ พาไปรักษาตัวที่บ้าน ในตอนนั้นพวก npc ก็เริ่มเกลียดผู้เล่นละ พากันออกมากวาดล้างไล่ฆ่าผู้เล่นเป็นผักปลา พระเอกเลยต้องซ่อนตัวอยู่ในกระท่อม พอคิดว่าหายดีแล้วเลยออกไปซ้อมฝีมือที่ด้านนอก ลองวิชาดูว่าทำห่าอะไรได้บ้างตอนนี้ (กฎของเกมถูกเปลี่ยนไปบางส่วน) จากนั้นพระเอกแม่งก็เข้าป่าไปจะล่าสัตว์ เสือกไปเจอหมีแพนด้า (ครับ หมีแพนด้า) แต่ไอ้หมีแพนด้าเนี่ยไม่ใช่สัตว์ แต่เป็นผู้เล่นเหมือนกัน (อาชีพซัมมอนเนอร์) หลังจากที่ฟัดๆ ทักทายกันนิดหน่อย ก็รู้ความจริงขึ้นมาว่าไอ้พระเอกแม่งได้รับตราประทับปีศาจมา ทำให้ปีศาจรับใช้ของบอส (มินิบอส) จะปรากฏตัวขึ้นมาไล่ฆ่า พระเอกกับแพนด้าและสัตว์เทพ (ของไอ้จอมขมังเวทที่ตายห่าไปแล้ว) ก็ช่วยกันสู้จนชนะแบบหืดขึ้นคอ ไอ้แพนด้าต้องเสียสละแขนไปข้างนึงเพื่ออัญเชิญเทพออกมา

แล้วเรื่องก็เล่าขนานกันไปถึงผู้ชายอีกคนนึง ที่กำลังมาสำรวจความผิดปกติในเมืองที่พระเอกอยู่ ตรงนี้ไม่มีอะไรจะพูดถึงมากมาย แค่ไอ้ห่านี่เป็นเสนาธิการคนนึงในกิลด์ที่พี่ชายพระเอกเป็นหัวหน้า โอเค แม่งจบเท่านี้ล่ะ 18 ตอน เดี๋ยวกูแดกข้าวก่อนแล้วค่อยมาให้คะแนนนะ

90 Nameless Fanboi Posted ID:caa2BdWzJ

>>88 ง่ายเนอะ สกิลอัลติของเกทคีปเปอร์เป็นท่าโรลแบค System Restore ถ้าใช้ระบบทันสมัยเทียบเท่า Windows 10 ท่าอันติแม่งคงจะเป็น Reset Factory

91 Nameless Fanboi Posted ID:W6bxdD.Jl

>>88 ลูซิเฟอร์ในเรื่องนี้มีอะไรเกี่ยวกับแสงไหมวะ?

ลงชื่อ เซฮุน กูสงสัยจริงๆนะ

92 Nameless Fanboi Posted ID:MrczBxFeC

>>89 แดกข้าวถึงไหนเนี่ย รอดูคะแนนอยู่

93 Nameless Fanboi Posted ID:caa2BdWzJ

>>92 กินเนื้อย่างบุฟเฟ่ต์แน่ๆ

94 Nameless Fanboi Posted ID:ENTU6K5lG

>>88 >>89 มาให้คะแนนละ จริงๆ แดกเสร็จตั้งแต่ทุ่มนึง แต่มีงานอื่นต้องทำเลยปล่อยๆ ไว้ก่อนจ้ะ

คำผิด: สำหรับคำผิดนี่ต้องชื่นชม เพราะเท่าที่อ่านมาเนี่ยเห็นได้ว่าคนอ่านใส่ใจกับเรื่องนี้จริงๆ คือนอกจากจะไม่มีคำสะกดผิดแล้ว คำที่พิมพ์ตกพิมพ์หล่นก็ไม่มีด้วย แปลว่ากว่าจะเอามาลงได้คงต้องทำการตรวจทานอยู่หลายรอบ ตอนนึงก็ไม่ใช่สั้นๆ ด้วย น่าสนใจมากว่าทำได้ยังไง อ้อ แต่ถึงจะไม่มีคำผิด ก็ยังมีคำใช้ผิดความหมายอยู่บ้าง (รึเปล่า?) อันนี้ตามความเข้าใจของกูนะ ในเรื่องมันมีการใช้คำว่า "พิธีการ" ตอนที่ลูซิเฟอร์ทำพิธีระเบิดไฟร์วอลหรือห่าอะไรนั่น คือจริงๆ มันควรจะเป็นคำว่า "พิธีกรรม" ใช่ปะ กูให้ 9/10 ละกัน อิอิ
การบรรยาย: ก็ดีนะ คืออ่านเข้าใจง่าย (ยังมีงงอยู่บ้างตรงบทสนทนา เพราะหลายๆ ช่วงใส่บทสนทนาออกมาโดดๆ โดยไม่บอกว่าใครพูด ต้องอ่านทบทวนดูสักหน่อยถึงจะเข้าใจ) บทบรรยายกับบทสนทนาแยกออกจากกันด้วยสี (บทบรรยายสีน้ำตาล default ส่วนบทสนทนาใช้สีดำ) คือมันก็เข้าใจอะนะ แต่ถ้าเราลองมามองดูว่า (สมมติ) พอเป็นเล่มแล้ว ตัวหนังสือทุกตัวเป็นสีดำหมด ไอ้เรื่องแบ่งสีแบ่งฝ่ายเนี่ยก็คงไม่มีความหมาย

ที่จะติอีกหน่อยก็คือเรื่องบทบรรยายที่แกว่ง คือมันเป็นเหมือนบรุษที่ 3 แต่บางทีก็ดันมีภาษาพูดหลุดๆ ออกมาคล้ายว่าตัวละครตัวนั้นเป็นตัวเล่าเรื่อง อีกจุดที่ต้องติคือการใส่วงเล็บ การบรรยายในเรื่องนี้มีแทรกความรู้เกี่ยวกับการเล่นเกมให้คนที่ไม่เชี่ยวได้พอเข้าใจ ซึ่งก็ถือว่าใส่มาได้กำลังดีนะ ไอ้ตรงนั้นไม่ติ แต่ที่ติคือมีบางช่วง ผู้เขียนเอาความคิดของตัวละครมา (วงเล็บ) ใส่ไว้หลังบทบรรยาย คือมึงไม่ใช่นิยายแจ่มใส ไม่ต้องทำนาจา เอาไป 8/10

ตัวละคร: ก็ดี (ก็ดีอีกแล้ว) น่าสนใจตรงที่พระเอกเป็นผู้ชาย แต่มาอยู่ในร่างของตัวละครหญิง แต่ต้องบอกว่าอ่านๆ ไปแล้ว รู้สึกว่าพระเอกมันจะเป็นทอมบอยมากกว่าเป็นผู้ชายแท้นะ คงเป็นเพราะผู้เขียนเป็น ผญ. ด้วยมั้ง เลยอาจสื่อ mindset แบบกระแสหลักของผู้ชายได้ไม่ค่อยกลมกล่อมเท่าไหร่ คือจริจจะก้านมันไม่ใช่อะ หรือต้องการนำเสนอความเป็นชายทางเลือกก็ไม่รู้สิ

ด้านตัวละครอื่นก็ไม่แบนเกินไปนัก ถือว่าทำได้ดี ตัวละครแต่ละตัวถึงจะยอมร่วมมือกันกอบกู้โลกโดยไม่คิดเห็นแก่ตัวแบบหนังซุปเปอร์ฮีโร่ไปหน่อย แต่ก็เข้าใจได้ว่ามันเข้าตาจนแล้ว ไม่ช่วยกันแล้วจะไปช่วยใคร อีกเรื่องนึงคือชอบตรงที่ไม่ห่วงสวยห่วงหล่อ บทจะตาบอดก็ตาบอด บทจะแขนขาดก็ปล่อยให้มันขาดไป ไม่มีงอกขึ้นมาขำๆ เอาเป็นว่าให้ 9/10 จะรอดูการพัฒนาของตัวละครแล้วกัน

เนื้อเรื่อง: ก็ตามที่เล่าไป เปิดมาเหมือนจะคลิเช่หน่อยๆ อะนะ ประมาณว่าพี่ชายจะตายห่าเลยเอาเข้าเชื่อมต่อกับโลกเกมเพื่อเข้าไปเจอกัน (แต่หมอแม่งยอมด้วยนี่คือไรวะ wtf) แต่ที่รู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย คือการที่เรื่องนี้แม่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับผู้เล่นและ npc อีกแล้ว (เรียกว่าเดจาวูได้รึเปล่า?) เหมือนเรื่องที่เมื่อก่อนกูเคยสับไปอะ หากข้าไม่ใช่มนุษย์อะไรนั่น เพียงแต่มุมมองของเรื่องนี้มันโฟกัสที่ตัวผู้เล่น และผู้เล่นก็ตายห่าได้เหมือน SAO เออ พูดถึงก็นึกได้ จำได้ว่าในเรื่องแม่งไม่ได้มีบอกนะว่าถ้าผู้เล่นตายแล้วจะไปไหน (หรือบอกแต่กูไม่เห็น?) ไม่แน่ว่าตายแล้วอาจออกจากเกมก็ได้นะ ให้ 8/10

สรุป 34/40 ทำดีมากข่าาา

95 Nameless Fanboi Posted ID:caa2BdWzJ

>>94 ออกจากเกมไม่ได้ พ่อแม่ข้างนอกไม่ห่วงตายเหรอ เสียพี่(?)ไปแล้ว น้องชายไม่ออกจากเกม

96 Nameless Fanboi Posted ID:pWv.vJ7EZ

>>95 กูว่าพ่อแม่ตานหมดแล้วด้วยมั้ง จะได้ตัดปัญหาไปอย่างนึง

97 Nameless Fanboi Posted ID:GnSc9DDgt

>>94 34/40 นี่คือ 8.5/10 เลยนะ นี่คือสุดยอดนิยายใช่ไหมวะ

98 Nameless Fanboi Posted ID:tgYWB/vZT

>>94 ร่างจริงพระเอกไม่หิวตายเหรอ

99 Nameless Fanboi Posted ID:NAlHNc/2h

มันคือเรื่องนี้นี่ ดูคห.10 ก็ดูมีข้อติเยอะอยู่นะ (แล้วดูอีโก้นักเขียนตอนตอบ) https://www.dek-d.com/board/view/3803013/
เอาจริงๆมันดีขนาดนั้นเลยเหรอวะ สิงโม่งมาพักใหญ่ เท่าที่เห็นเรื่องนี้คือโดนสับแล้วได้คะแนนเยอะสุดล่ะ (แทบไม่มีข้อเสียเลยด้วย)
ได้แต่คิดเเล้วก็สงสัย~

100 Nameless Fanboi Posted ID:re8vA.Jay

>>99 กูให้คะแนนง่ายอยู่ละ งานเก่าๆ ก็เคยให้ประมาณนี้อยู่บ้าง นิยายหลายๆเรื่องที่รีวิวมาห่วยสัสๆ ยังได้ 20 กว่าคะแนนเลยมึง ถ้าไม่เชื่อมั่นก็ไม่ว่านะ นานาจิตตัง แต่อยากให้ลองไปเปิดดูผ่านๆหน่อย

คือกูเขียนแยก criteria ไว้ละนะ อย่างคำผิดนี่คือไม่มี (มีคำเดียว) ได้ 9 ก็ไม่น่าเกลียดนะ

101 Nameless Fanboi Posted ID:ZBmFwsxxZ

เมื่อไหร่จะมีคนสับนิยายกุสักทีเนี่ย

102 Nameless Fanboi Posted ID:NFDEyRFRe

>>99 กูอดสงสัยไม่ได้ว่า คนที่ติดอยู่ในเกม ร่างจริงกะเพาะปัสสาวะไม่อัดแน่นจนเยี่ยวแตกเลอะกางเกงเลยเรอะ แถมอสุจิกักตุนได้ประมาณ 40 วัน แม่งฝันเปียกแน่ ถึงจะไม่ได้ดูหนังโป๊ก็เถอะ

103 Nameless Fanboi Posted ID:NFDEyRFRe

>>101 ถามยังงี้ก็จะไปรู้เรอะว่านิยายมึงเรื่องอะไร มีเป็นล้านเรื่อง

104 Nameless Fanboi Posted ID:OCA/gDLA/

>>100 เรื่องนี้กูว่ามันภาษาดี แต่เนื้อเรื่องไม่ค่อยสนุกว่ะ กูเฉย ๆ กับความคลิเช่ ออนไลน์เทือกนี้ไปแล้ว

ถ้าคนชอบ มันก็ให้ขนาดสูง ๆ ได้อยู่แล้ว เพราะมันไม่ได้ขี้เหร่อะไร กูไม่สงสัยหรอก แต่ถ้ากูสับเอง ได้น้อยกว่านี้แน่

105 Nameless Fanboi Posted ID:RD4QLNVSf

>>100 กูไม่ค่อยชอบเรื่องนี้เท่าไหร่นะ บทนำมาเหมือนโดดไฟลวกแล้วเอา ice bucket สาด แม่งเปิดเรื่องด้วยความตายพี่ พอกลางๆ ถึงท้ายบทเสือกว่าเรื่องเกม กูว่าตรงจุดนี้เยอะเกินไปสำหรับเนื้อหาเกม มันน่าจะโฟกัสกับความหน่วงของเรื่องพี่ตาย แล้วเกริ่นเรื่องเกมนิดหน่อยพอกล้อมแกล้ม บทต่อไปก็ไปสานต่อเกมเอา
ส่วนเรื่องภาษาก็พอได้ อ่านลื่นระดับนึงแต่นักเขียนต้องไปเรียนรู้คำศัพท์อีกเยอะ ใช้คำไม่ถูกความบ่อย เช่น บทที่ 1 "ร่างกะทัดรัด" มันควรเป็น สันทัดมากกว่าปะวะ ถึงจะสื่อความว่าเตี้ยพอดี

106 Nameless Fanboi Posted ID:Gy.bgm2k.

>>102 ระบบถ่ายเป็นระบบอัตโนมัติ ต่อให้ไม่มีสติถ้าถึงจุดหนึ่งร่างกายจะถ่ายออกมาเอง ดูผู้ป่วยนอนเป็นผักก็ได้ ต้องใส่แพมเพิสไว้ตลอด

107 Nameless Fanboi Posted ID:OCA/gDLA/

>>105 สันทัด กับ กะทัดรัด กูว่าใช้ได้ทั้งคู่นะ แล้วมันก็ไม่ได้หมายความว่าเตี้ย คือมันปานกลาง ไม่สูงไม่เตี้ย พอเหมาะ พอดี

108 Nameless Fanboi Posted ID:NFDEyRFRe

>>107 กูไม่เคยได้ยินร่างกะทัดรัดมาก่อน

109 Nameless Fanboi Posted ID:.hRE1.5V8

ยิ่งที่ไฟลวกโดนน้ำแข็งจะแย่กว่าเดิมไม่ใช่เหรอ? หรือจะบอกถึงอย่างอื่น

110 Nameless Fanboi Posted ID:bOfYQdvIS

>>107 ร่างกะทัดรัดกูเคยเห็นแร่งเป็นแบบพวกพิกซี่อ่ะมึง กระทัดรัดพอดีมือ

111 Nameless Fanboi Posted ID:.qkNT3bqo

>>107 กะทัดรัดเขาเอาไว้ใช้กับสิ่งของเวลาเทียบขนาดไม่ใช่เหรอโม่ง กูไม่เคยเจอนักเขียนใช้กับขนาดอวัยวะส่วนไหนเลย

112 Nameless Fanboi Posted ID:npW8mXIlR

>>111 เปรียบกับส่วนนั้น แค่กๆ

113 Nameless Fanboi Posted ID:OCA/gDLA/

อะ กูยืนยันว่ากะทัดรัดใช้กับรูปร่างคนได้
http://www.royin.go.th/?knowledges=กะทัดรัด-๒๙-กรกฎาคม-๒๕๕๐

114 Nameless Fanboi Posted ID:nsXEimZH6

เพื่อนโม่งคิดว่าไงกันบ้าง
https://www.dek-d.com/board/view/3808798/

115 Nameless Fanboi Posted ID:nsXEimZH6

เรื่องความสมจริงในนิยาย //พิมตก

116 Nameless Fanboi Posted ID:U+1.CxV6j

>>114 สำหรับกูคือปัญหาใหญ่เลยล่ะ ยิ่งโตยิ่งแต่งอะไรเบียวๆ ไร้เหตุผลไม่ไหว แต่จะให้สมเหตุผลก็เครียด คิดหนักจนเขียนแทบไม่ออกอีก 555

117 Nameless Fanboi Posted ID:v2iZIftow

>>99 เห็นคนเขียนตอบกูชะงักที่จะไปอ่านนิยายเขาว่ะ ไม่รู้นะ แต่เวลาคนวิจารณ์แล้วคนเขียนตอบกลับฉอดๆกูรู้สึกไม่โอเคอยู่แล้ว ยิ่งคนติเรื่องทำนองเดียวกันหลายคนมันน่าจะคิดได้แล้วว่าคือปัญหา

118 Nameless Fanboi Posted ID:RD4QLNVSf

>>113 แปลกตาดี เพราะในนิยายกูยังไม่เคยเห็นใช้นะเท่าที่อ่านมา ถือเป็นความรู้ใหม่ ขอบใจเพื่อนโม่ง
>>109 กูจะหมายถึงโดนตัดอารมณ์อ่ะ แบบกำลังเศร้า เสือกปล่อยมุกตลกประมาณนั้น

119 Nameless Fanboi Posted ID:OCA/gDLA/

>>118 กูรู้ว่าใช้ได้นะ แต่กูไม่ใช้ในนิยายอะ มันไม่คุ้นตา

กูเจอบางคนใช้ แซ็ว ตามราชบัณฑิตละกูยังทำใจไม่ได้เลย

120 Nameless Fanboi Posted ID:nfAhW0ery

เพลงพอป
แซ็ว
วสันต์ คือใบไม้ผลิ ไม่ใช่ฝน
รีโมต ไม่ได้แปลว่าเครื่องควบคุมทีวี ต้องมีคอนโทรลด้วย
ฟิตเนส ไม่ได้แปลว่าโรงยิมออกกำลังกาย ที่ถูก ต้องมีคำว่ายิมตามหลังด้วย

121 Nameless Fanboi Posted ID:ByO4Rl.jm

>>120 ดร.พอป

122 Nameless Fanboi Posted ID:SfmcPJzYO

ไม่เข้าใจว่าเปลี่ยนเป็นแซ็วทำไม กูว่ากูออกเสียงยาวนะ แต่มันก็ต่างจากเสียงสั้นนิดเดียวเอง

123 Nameless Fanboi Posted ID:MOavIoQbY

>>122 มันออกเสียงขึ้นจมูกมั้ง ถ้าแซว แบบ แซวววว เสียงจะไม่ขึ้นจมูกสูงแบบนั้น

124 Nameless Fanboi Posted ID:DO5N1EvBM

>>117 คนวิจารณ์นั่นจัดว่าสุภาพเลยนะ เจอโม่งสับสงสัยช็อคตาย

125 Nameless Fanboi Posted ID:NFDEyRFRe

เรื่องแรกช่วยได้จริงรึเปล่า แล้วทำให้เด็กดวกเก่งขึ้นมั้ย
https://www.dek-d.com/board/view/3809444/

126 Nameless Fanboi Posted ID:2hC2kaWV2

>>113 กุเคยใช้ครั้งนึง ซึ่งใช้บรรยายถึงขนาดนมนางเอก

127 Nameless Fanboi Posted ID:NG43KP7L9

>>117 กูเฉยๆว่ะ กูคิดว่าคนเขียนตอบกลับมันเป็นเรื่องปกติ บางทีคนอ่านกับคนเขียนอาจเข้าใจไม่ตรงกันในเรื่องของเนื้อหา หรืออ่านไม่แตก กูว่าตรงนี้คนเขียนมีสิทธิ์ตอบ อธิบายนะ

แต่ถ้าเถียงข้างๆ คูๆ โดยที่ไม่ได้คิดอะไรไว้ อันนี้ก็อีกเรื่อง

128 Nameless Fanboi Posted ID:NFDEyRFRe

>>126 นมกะทัดรัด? นมเล็กหรือนมใหญ่?

129 Nameless Fanboi Posted ID:WKbmwi4ym

>>128 เหมาะมือ

130 Nameless Fanboi Posted ID:2hC2kaWV2

>>128 ประมาณฝ่ามือสามารถปิดได้พอดี
ซึ่งนั่นหมายถึง คัพ A (แบน) นั่นเอง

131 Nameless Fanboi Posted ID:bOfYQdvIS

>>130 b ก็ยังปิดได้นะเว้ย ลองมาแล้ว

132 Nameless Fanboi Posted ID:e07pD+C0C

>>130 กะทัดรัด เหมาะมือควรเป็นคัพ B ถ้าแบนจนืำได้แค่ทาบ มันจะกะทัดรัดเหมาะมือได้ไง? คิดสิคิด

133 Nameless Fanboi Posted ID:e07pD+C0C

>>131 มือกูบีบกำ ปิดได้ถึงคัพ C แต่คัพ D กูทำไม่ได้

134 Nameless Fanboi Posted ID:RD4QLNVSf

>>133 นี่มือหรือใบบัว5555

135 Nameless Fanboi Posted ID:78yvzS7W/

>>134 แต่ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิดนะ

136 Nameless Fanboi Posted ID:78yvzS7W/

>>134 เราเป็นคนนิ้วยาว

137 Nameless Fanboi Posted ID:Xh8rjFj6h

ไม่มีนมให้เทส เซ็งเลย

138 Nameless Fanboi Posted ID:DO5N1EvBM

พี่เครืื่องแม่งคนจริงว่ะ
https://www.dek-d.com/board/view/3809472/
กูนี่ได้แต่นินทา รำคาญอยู่เบื้องหลัง (คนที่ชอบโพสแฮรี่กับดิสนีย์อ่ะ) แต่กูไม่กล้าทำเหมือนพี่เขาว่ะ

139 Nameless Fanboi Posted ID:oAwEMZofH

>>138 พี่เครื่องท้าชนคนผิดทุกกรณี
เอาจริงกุไม่อะไรกับลงผิดบอร์ดนะก็แจ้งลบๆไป แต่กุงงสตาฟมากมึงแชร์เชี่ยไรเนี่ย สาระไม่มีขำก็ไม่ขำ จะบ้าตายเดกดวก ทีมงานคุณตะพาบชิบหอย

140 Nameless Fanboi Posted ID:RD4QLNVSf

>>139 อาจจะเป็นมือใหม่มั้ง

141 Nameless Fanboi Posted ID:U+1.CxV6j

>>138 กูเห็นฝรั่งเขาแชร์กันมาตั้งนานละ คนไทยเพิ่งเคยเห็นกันเหรอวะ หลายครั้งเลยที่กูเห็นพวกฝรั่งเขาแชร์ภาพแชร์มุขอะไรพวกนี้มากันตั้งนานแล้ว จู่ๆวันดีคืนดีมีคนแชร์ในไทยบ้าง ตื่นเต้นกันใหญ่ 555

142 Nameless Fanboi Posted ID:vnj/x5V3k

ส่วนพี่ถุยกูแม่งเก่งแต่กะเด็กคนชราและหญิงมีครรภ์ว่ะ สันดานมาเฟียจริงๆ
https://www.dek-d.com/board/view/3809463/

143 Nameless Fanboi Posted ID:NFDEyRFRe

>>138 ทำไมไอ้เครื่องไม่ไปสมัครงานเข้าทีมงานเด็กดวกบ้างฟ่ะ พนักงานจะได้ฟังขี้ปากมึงบ้าง

144 Nameless Fanboi Posted ID:vnj/x5V3k

>>143 มึงมีปัญหาอะไรกับพี่เครื่องกูนักวะไอ้สัด

ลงชื่อ เซฮุน มึงไม่รักพี่เครื่อง มึงก็ออกจากบ้านพี่เครื่องไป!

145 Nameless Fanboi Posted ID:OCA/gDLA/

กูไปสมัครเป็นสตาฟเด็กดี แล้วสับนิยายสำนวนโม่งสัก 10 เรื่องก่อนแม่งจะไล่กูออก จะดีไหมวะ

146 Nameless Fanboi Posted ID:qRT2zKEbE

>>145 ไอ้เหี้ย ใจมึงมันได้ เอาเลยกูสนับสนุน

147 Nameless Fanboi Posted ID:80+6RydVF

มาดูจุดอ่อนของนิยายเด็กดวกกันเถอะ https://www.dek-d.com/board/view/3809480/

148 Nameless Fanboi Posted ID:T7pinT2Zp

สิ้นหวังจริงๆนะกับหมวดรักแฟนตาซี ดูที่1ของหมวดที่ค้างอยู่บนท๊อปตลอด https://writer.dek-d.com/palmpykimuchi/story/view.php?id=1725426
แม่งมีคำผิดตั้งแต่แนะนะเรื่องแบบย่อ แถมพ่วงคำว่า ตอแหล ด้วยนะเออ
นี่กูยังไม่ได้เปิดอ่านข้างในนะ แต่เดาว่าคงมาสั้นๆแต่อัพทุกวัน มีเรื้อหาตอนล่ะหน่อย กับคำผิดบานแหง อืม...ครบทุกองค์ประกอบนิยายที่ดี

149 Nameless Fanboi Posted ID:ooiG1Quq/

>>148 มันอยู่ที่จำนวนคู่แข่งด้วยว่ะ กูว่า อย่างถ้าเป็นแนวสืบสวนไม่ค่อยมีใครแต่ง แค่ลงตอนใหม่ก็ขึ้น top ประจำหมวดแล้ว

150 Nameless Fanboi Posted ID:u58/NxMlg

>>148 คู่หมั่น หน้ากลัว เอ่อ แค่เรื่องย่อกูก็ไม่อยากเปิดอ่านเนื้อหาละสัส คำผิดแบบนี้ไม่น่าใช่แค่พิมพ์พลาดละ แม่งเขียนเหมือนกันทุกคำเลย แล้วนักอ่านไม่ท้วงกันหน่อยเรอะ

151 Nameless Fanboi Posted ID:178eImIQe

>>148 เนื้อไม่สั้นนะ เท่าที่กดดูตอนแรกผ่านๆ ภาษาถือว่า ว่าไงดี รู้จักการบรรยายนะ แต่ก็นั่นแหละ เนื้อเรื่องดูเบียวชอบกล เปิดมาก็เจอการทะเลาะระหว่างสองนาง แม่นางเอกก็โกรธเกรี้ยวเหลือเกิน มีแต่ด่านางร้ายงั้นงี้ 555

152 Nameless Fanboi Posted ID:T7pinT2Zp

>>151 นางเอกหมวดนี้ ทำตัวเหมือนกับนางร้ายที่พวกแม่งว่าไว้เองเลย
เอะอะกรี๊ด แหกปาก
ถ้อยคำก่นด่าสารพัด จัดมาครบ
สถุน
บ้าผู้ชาย
เป็นนางร้ายสายถ่อยที่แท้ทรู

153 Nameless Fanboi Posted ID:jBj5xJN9B

>>148

กูอ่านได้แค่ย่อหน้าแรกจริง ๆ ว่ะ หมดคำจะพูด

154 Nameless Fanboi Posted ID:80+6RydVF

>>148 แปะรูปเท่ๆ แต่การใช้ภาษาไม่เข้ากัน

155 Nameless Fanboi Posted ID:M8qYK9aAd

>>148 บางตอนสั้นเหมือนแผ่นเดียวแต่คอมเม้นต์มากกว่านิยายทั้งเรื่องอีกว่ะ

156 Nameless Fanboi Posted ID:QS1pZ9XCI

>>148 กูเคยอ่านผ่านๆก็สนุกดีนะ พวกมึงเป็นไรมากไหมเนี่ย?

157 Nameless Fanboi Posted ID:80+6RydVF

>>156 รอโม่งสักคนสับดิ จะได้รู้กัน ยกเว้นคนสับมีเรื่องอื่นต้องสับ

158 Nameless Fanboi Posted ID:QS1pZ9XCI

>>157 จะเชื่อคนสับหนึ่งคนหรือคนติดตามอ่านสามสี่พันคนดีล่ะ

159 Nameless Fanboi Posted ID:M8qYK9aAd

เถียงกันเพื่อ รสนิยมใครรสนิยมมันสิวะ นิยายที่คนอ่านเยอะอาจจะไม่ใช่นิยายคุณภาพจ๋าขนาดนั้นป่าววะ อ่านในเน็ต ปล่อยไปเหอะ

160 Nameless Fanboi Posted ID:80+6RydVF

>>158 เก็บทั้งคู่แล้วพิจารณาเองดีกว่า นักอ่านมีสิทธิ์ที่จะอ่าน นักเขียนไม่ใช่พระเจ้าสักหน่อย ทั้งหมดทั้งมวยเป็นแค่มุมมองส่วนบุคคลทางฝั่งคนอ่าน ตัวคนเขียนไม่รู้หรอกว่าคนอ่านคิดยังไงกับนิยายตัวเอง ยิ่งเด็กดวกมีประชากรเด็กเยอะกว่าผู้ใหญ่ด้วย

161 Nameless Fanboi Posted ID:QS1pZ9XCI

>>160 ก็แค่อยากให้สับนิยายดีๆที่ไม่มีคนอ่านมากกว่า สับนิยายติดท็อปค้างฟ้าคนอ่านเยอะแล้วมันได้อะไรขึ้นมา?

162 Nameless Fanboi Posted ID:nlWJH1Vud

>>156 >>158 มาตรฐานของคนอ่านสามสี่พันคนนั้นไม่เหมือนโม่งค่ะน้อง แต่พี่คิดว่านิยายเขาก็คงสนุกด้วยส่วนหนึ่งแหละค่ะถึงได้มีผู้ติดตามเยอะขนาดนั้น แต่พวกพี่โม่งหมายความถึงคุณภาพของเขาค่ะ ถึงเนื้อเรื่องจะเบียวเบี้ยวยังไงก็อีกส่วน แต่อย่างน้อยควรตรวจสอบการสะกดคำบ้าง เขียนผิดตั้งแต่แนะนำเรื่องแบบย่อกับโปรย มันก็แสดงให้เห็นอะไรหลาย ๆ อย่างนะคะ อย่างน้อยก็ความใส่ใจ พี่แอบไปเสือก เอ้ย! ส่อง คอมเมนต์มาแล้ว ก็มีคนทักเรื่องคำผิดเขานะคะ ก็ไม่เห็นเขาจะปรับปรุงแต่อย่างใด เพราะถ้าเขาคิดจะแก้จริง คำว่า 'คู่หมั่น' คงยังไม่โชว์หราอยู่แบบนั้น
ความชอบแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่นิยายที่เขียนผิดตั้งแต่โปรยแบบนี้ไม่ถูกจริตพี่ค่ะ

163 Nameless Fanboi Posted ID:Cc+RB9zzs

>>156 >>158 ทำไมอ่านแล้วรู้สึกเหมือนเจ้าของเรื่องที่พูดถึงอยู่??

>>162 ใช่ เขียนผิดแม้แต่คำง่าย ๆ แล้วไม่คิดปรับปรุง

164 Nameless Fanboi Posted ID:QS1pZ9XCI

>>162 สงสัยมากๆ ทำไมไม่หาข้อดี แล้วเอามาเทียบข้อเสียดู

165 Nameless Fanboi Posted ID:178eImIQe

>>156 ก็สนุกมั้ง ถ้าไม่ใช้สมองในการอ่านอะไรมากนัก ขอโทษถ้าพูดแรงไปแต่คิดคำอื่นไม่ออกว่ะ อ่านเอามันน่ะได้ แต่พอเห็นคำผิดกับส่วนที่เบียวๆ ไร้เหตุผลขึ้นมาเมื่อไหร่มันก็จะชะงักแปลกๆไงล่ะ

166 Nameless Fanboi Posted ID:nlWJH1Vud

>>164 น้องบอกข้อดีมาก็ได้ค่ะ เพราะพี่ก็หานิยายอ่านอยู่ ถ้าดีน่าสนใจพี่ก็จะตามไปอ่านเหมือนกัน เพราะพี่ยังไม่ได้เข้าไปอ่านของเขาเลย พี่เป็นพวกอ่านแล้วมีเสียงดังขึ้นมาในสมองค่ะ ประมาณผู้หญิงเสียงนี้ พระเอกเสียงนี้ นางร้ายเสียงนี้ แล้วทีนี้พอเจอคำผิดปุ๊ป เสียงในสมองพี่มันก็เพี้ยนทันที พอหลาย ๆ คำเข้าพี่ก็เลยเฟดตัวเองออกมาน่ะค่ะ แต่ว่าถ้ามีข้อดีพอจะลบข้อเสียนี้ได้พี่ก็โอเคนะ

167 Nameless Fanboi Posted ID:178eImIQe

>>166 พูดตรงๆนะ กูนั่งคิดมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วอ่ะ แต่คิดออกแค่ อ่านเอามันกับสำนวนไม่แย่จนทุเรศอ่ะ 555

168 Nameless Fanboi Posted ID:v+emSrT1f

พวกมึงจะทะเลาะเอาไรกันวะ อีโก้?

169 Nameless Fanboi Posted ID:7W0dMWvXo

หึหึ เพราะแบบนี้ไง โม่งถึงได้...
//หย่อนบอมบ์

170 Nameless Fanboi Posted ID:nlWJH1Vud

>>167 เท่าที่ดูก็น่าจะเป็นงั้น เห็นด้วยนะ
>>163 คิดแบบนั้นเหมือนกัน

171 Nameless Fanboi Posted ID:ueLS5wZqe

ปัญหาโลกแตก ฝั่งนึงบอกสนุกก็พอ ความถูกต้องช่างแม่ง เข้าข้างนักเขียน อีกฝั่งก็ไม่ถูกใจนิยายคุณภาพแบบนี้ เขียนคำผิด ตรรกะเพี้ยน หรือใช้ ... !!! เยอะก็อ่านไม่ไหว

คือกูเห็นด้วยกับโม่งคนนึงในนี้นะ ว่างานที่ติดท็อปเนี่ย ถึงจะมีแฟนคลับเยอะจนอาจมี สนพ. เลือกไปพิมพ์ แต่เอาเข้าจริงคนที่เปย์จริงซื้อเล่มจริงๆ น้อยสัส มันชอบงานแต่อาจชอบแค่ขออ่านฟรี ส่วนงานดีก็ไม่ค่อยมีคนสนใจ โอกาสเกิดน้อย กว่าจะรวมยอดจองทำมือไปทำ Print on demand ได้ทีก็เลือดตาแทบกระเด็น

ถ้าคิดว่าจะอ่านแบบบถอดสมอง วางหลักการ แล้วอ่านเอาสนุกเว็บเด็กดวกก็ยังพอมีอะไรให้อ่าน แต่ถ้าจะเอานิยายมาตรฐานสูงถูกใจ คงต้องคุ้ยนานหน่อยล่ะวะ

172 Nameless Fanboi Posted ID:v+emSrT1f

กูขอวางคุณภาพไว้ก่อน

คนเขียนสนุก เขียนได้เรื่อยๆ ok?
มีคนอ่านสนุก อ่านได้เรื่อยๆ ok?
คราวนี้มันจะไม่ ok จะหนักหัวกูก็ต่อเมื่อกูไปอ่าน ไปเจอมันติดท็อป หรือมีคนยกมาบ่นในนี้

ลงชื่อ เซฮุน ถ้ากูสับกูก็ด่า ถ้ากูไม่สับกูก็ไม่ด่า ง่ายๆชีวิตกู

173 Nameless Fanboi Posted ID:VcY5u8NOV

ถ้าส่วนตัวกูนะ กูดูทั้งตัวนิยาย และตัวคนเขียนด้วย

นิยายห่วย แต่ นักเขียนน่ารัก = กูด่าและช่วยชี้ข้อบกพร่อง ตั้งใจอ่านให้แถมเมนต์

นิยายดี แต่ นักเขียนเหี้ย = อ่านอย่างเดียว ไม่หือไม่อือ ศึกษามัน

นิยายเกือบดี เห็นแวว แต่ นักเขียนเหี้ย = อ่านผ่าน ๆ แนะนำไปแม่งก็ไม่สนใจ ปล่อยให้มันได้ใจไป

174 Nameless Fanboi Posted ID:H3FMiyWro

คือสำหรับกูนะพวกนิยายที่เขียนเอามันส์ อ่านสนุก แต่ตรรกะเพี้ยนเน้นสะใจ ต้องถอดสมองวางทิ้งไว้ก่อน
สำหรับกูถ้าอ่านเรื่องพวกนี้ฟรีนะจะติดตาม ชอบไหมก็ชอบอยู่แต่มันแค่ผิวเผินอ่ะไม่ดีดดิ้นลงไปกองกับพื้นชนิดที่ว่าอยากจะอ่านให้ได้ ไม่มากพอให้ควักกระเป๋ายอมเปย์ยอมจ่าย

คือสำหรับกูเหตุผลหลักที่จะซื้อคือ
1. สนุก ถ้ากูอ่านแล้วไม่สนุกต่อให้เขียนดียกเหตุผลมาเท่าไหร่กูก็ไม่จ่าย
2. ภาษาอ่านรู้เรื่องอ่านแล้วเข้าใจ การบรรยายต้องบรรยายให้เห็นภาพไม่ใช่สักแต่จะโยนรูปโครมลงมาแล้วบอกหน้าตาแบบในรูป
3. พกเหตุผลมาด้วยเขียนให้มันมีเบื้องลึกเบื้องหลังหน่อยไม่ใช่ว่าเอามันส์อย่างเดียวเปิดปมแล้วต้องแก้

ถ้าข้อสามไม่ได้อย่างน้อยๆข้อหนึ่งกับข้อสองต้องมี

175 Nameless Fanboi Posted ID:MegnzfS/8

แต่บางที ความสนุก อรรถรส มันก็ถูกลดทอนด้วยองค์ประกอบอื่น ๆ ที่เป๋ ๆ ป้ะวะ เหมือนมึงดูหนังสักเรื่อง แม่งดีแต่จะสร้างฉากเท่ ๆ พยายามยัดคำพูดคม ๆ แสบ ๆ คิดฉากที่คิดว่าแม่งต้องโคตรสนุก แต่พล็อตมึงอย่างเอ๋อ บทมึงอย่างป่วย มุมกล้องโคตรจะควย แถม score กับ audio ยังเหี้ยอีก ต่อให้การแสดงของนักแสดงมึงแม่งเด่นจ๋า มันก็พยุงหนังไม่อยู่หรอก ฉากสนุกหัวควยที่คิดมาเยอะแยะ แม่งดูยังไงก็บิลด์ให้สนุกตามไม่ไหว

176 Nameless Fanboi Posted ID:H3FMiyWro

>>175 กูถึงไม่เปย์ไงเว้นแต่เรื่องที่มันทำให้กูรู้สึกสนุกจนยอมมองข้ามฉากเหี้ยๆได้ชนิดที่กูลงไปแดดิ้นนั่นแหละถึงจะยอมเปย์ซึ่งแม่งมีน้อยมากจนถึงแทบจะไม่มี

177 Nameless Fanboi Posted ID:M8qYK9aAd

ทำเอากูคิดถึงตัวเอง กูตามอ่านนิยายเรื่องนึงทางเน็ตอยู่ ด่านางเอกตั้งแต่ต้นจนจบ บ่นว่าพลอตเชี่ยมาก ไม่สมเหตุสมผลสักอย่าง แต่เฮ้ย อ่านจนจบเลยว่ะ แบบนี้เพราะนิยายเขาเขียนสนุกจนกูอินใช่มั้ย

178 Nameless Fanboi Posted ID:Gg4qMGAD0

>>177 นิยายแต่ละเรื่องมีเสน่ห์ของมัน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะมันไม่ดองนิยายมึงเลยตามอ่านได้ โดยมีแรงดึงดูดประหลาดที่กูบอกตอนแรกเป็นตัวเชื่อมจนถึงตอนจบ

179 Nameless Fanboi Posted ID:80+6RydVF

>>178 บางคนตามอ่านจนจบไม่เปย์ก็มี มันคุณค่าทวนอ่านรอบสองอีกทีหลังอ่านจบรอบแรกมั้ยล่ะ

180 Nameless Fanboi Posted ID:Gg4qMGAD0

>>179 นั่นสินะ... สมัยนี้หานิยายที่อ่านแล้วตรึงใจ นึกถึงเมื่อไหร่ก็อยากอ่านอีกได้น้อยจริงๆ

181 Nameless Fanboi Posted ID:z6d6vpaOg

มีใครจำเรื่อง Into the Light - มุ่งสู่แสงสว่าง ภาค สงครามปลายบูรพาทิศ ที่ถูกสับไปเมื่อมู้ที่แล้วได้มะ ตอนนี้คนเขียนเขามาเห็นที่โม่งสับแล้วไปแก้บทนำโดยการใส่ฉากต่อสู้ไปเป็นตัวเปิดก่อนจะตัดเข้าบทนำตัวเดิม
(https://writer.dek-d.com/dekd/writer/viewlongc.php?id=1722107&chapter=1)

182 Nameless Fanboi Posted ID:9lBg8oDJ1

คุณโม่งครับ ผมอยากได้คนช่วยวิจารณ์นิยายที่พิ่งจะเขียนจบ จะเป็นเกียรติช่วยผมได้ไหมครับ ถ้าได้เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะเอาลิ้งค์มาลงให้ ขอบคุณครับนี่เป็นครั้งแรกที่ได้พูดคุยที่นี้ แต่ผมตามอ่านตลอดนะครับ

183 Nameless Fanboi Posted ID:Gg4qMGAD0

>>182 ใจถึงก็แปะได้ แต่ทำใจไว้หน่อยนะ ในโม่งมันที่อโคจร ไม่มีการออมมือ ชมน้อยกว่าด่า ถ้ารับไหวก็แปะมา จะต้องมีโม่งสับสักคนช่วยเหลือแน่

184 Nameless Fanboi Posted ID:9lBg8oDJ1

ขอบคุณครับเดี๋ยวพรุ่งนี้จะ มาขอรบกวนครับ เต็มที่ได้เลยเพราะผมอยากพัฒนาในฐานะนักเขียน ถ้าไม่ได้นอกเรื่องผมพร้อมรับคำติเสมอครับ

185 Nameless Fanboi Posted ID:hGBPEoRkD

>>184 ไอ้สัดถุย มึงนี่ลีลาชิบหาย

186 Nameless Fanboi Posted ID:7Hyf.7Urd

อิกุ๊ยแกกลับมาตั้ง-ตอบกระทู้แล้วนาจา พอกระทู้มาเฟียหายจากท็อปนางผงาดทันทีถถถถ

187 Nameless Fanboi Posted ID:rHLhA/Gwf

ขอโทษที่ลีลาครับฝากรบกวนด้วยนะครับ
https://my.dek-d.com/nakarin0o/control/writer3/?p=story_manage&story_id=1566978

188 Nameless Fanboi Posted ID:rHLhA/Gwf

ขอโทษครับลงผิด
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1566978

189 Nameless Fanboi Posted ID:Wf3wnzOGr

>>188 ยาวโคตร ลองสุ่มอ่านดูแล้วเจออะไรแปลกๆ เยอะ แน่ใจนะว่าอยากให้ด่าน่ะ

190 Nameless Fanboi Posted ID:LJtdJnM53

>>185 บางทีก็ไม่ต้องหยาบมากก็ได้นะ เขาก็พูดจาดีๆ

191 Nameless Fanboi Posted ID:rHLhA/Gwf

ได้เต็มที่ครับ ผมเองอยากได้คำแนะนำเพื่อมาปรับปรุง ผมรู้ว่านิยายตอนนี้ของผมมันยังมีคำผิดและจุดที่ต้องปรับปรุงอยู่ แต่ก็อยากจะรู้จากมุมมองของคนอื่นๆ บ้างนะครับ

192 Nameless Fanboi Posted ID:hGBPEoRkD

>>191 หัดเขียนให้รู้เรื่องก่อนนะถุย

193 Nameless Fanboi Posted ID:qPXr3Nu8E

>>192 มึงนี่จะอะไรมากวะ อยากข่มให้เขากลัวรึไง

194 Nameless Fanboi Posted ID:9DbAYaPax

>>181 เชี่ย กุรู้สึกผิดเลยที่ดองสับนิยายเรื่องนี้อยู่

195 Nameless Fanboi Posted ID:r42hOYRNF

>>181 เออ อย่างนี้สิถึงน่าสนับสนุน

196 Nameless Fanboi Posted ID:y961jxUMB

คราวนี้ใครจะเป็นคนสับ โม่งเงี่ยนหรือโม่งนอยด์

197 Nameless Fanboi Posted ID:Wf3JmzMFH

นี่โม่งนอยด์นะ หมายถึงเรื่องที่เค้าเพิ่งเอามาแปะป่ะ
>>188
รู้สึกพี่โม่งเงี่ยนจะติด doombringerอยู่ เดี๋ยวดูให้ก็ได้ แต่มันยาวมาก ไม่รับปากว่าจะอ่านไหวไหม

198 Nameless Fanboi Posted ID:Wf3JmzMFH

>>197 แต่ถ้าจะมีใครดู ดูเลยนะ เอาเลย ช่วยกัน

199 Nameless Fanboi Posted ID:rHLhA/Gwf

>>197 >>198 แค่ช่วยเหลือกันก็ขอบคุณมากแล้วครับ

200 Nameless Fanboi Posted ID:vSnqLxtma

แปะจองสับ

https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1566978 (Into the Light คนเขียน Request)

https://writer.dek-d.com/topduck/writer/view.php?id=785523 (สาวใช้พันธุ์ดุ Maid-at-Arms ... ชื่อเรื่องเพราะดี)

https://writer.dek-d.com/linklight/story/view.php?id=1559849 (จอมราชันย์หลงยุค... ข้าขอคำชี้แนะ เตรียมรับมือ)

https://writer.dek-d.com/BlackMonSterX/writer/view.php?id=1602272 (Evolve ฟองเบียร์)

ลงชื่อ เซฮุน นักสับที่ได้รับการยอมรับจากโม่ง

201 Nameless Fanboi Posted ID:vSnqLxtma

สัดผิดๆ แปะจองสับ

https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1566978 (Parallel world}ย้อนเวลาสู่โลกคู่ขนาน)

https://writer.dek-d.com/topduck/writer/view.php?id=785523 (สาวใช้พันธุ์ดุ Maid-at-Arms ... ชื่อเรื่องเพราะดี)

https://writer.dek-d.com/linklight/story/view.php?id=1559849 (จอมราชันย์หลงยุค... ข้าขอคำชี้แนะ เตรียมรับมือ)

https://writer.dek-d.com/BlackMonSterX/writer/view.php?id=1602272 (Evolve ฟองเบียร์)

ลงชื่อ เซฮุน นักสับที่ได้รับการยอมรับจากโม่ง

202 Nameless Fanboi Posted ID:vSnqLxtma

ไอ้สัด... คำแรกในเรื่องก็พิมพ์ตกละ... มึงอะไรของมึงวะ เสียความตั้งใจกูมากๆ

203 Nameless Fanboi Posted ID:3/Tlo.8jJ

>>201 ขอบใจนะเซฮุน

204 Nameless Fanboi Posted ID:vSnqLxtma

>>203 กูอ่านจบแล้วตอนนึง นิยายมึงน่าสนใจนะ

แต่กูขอบอกก่อนว่า อย่าให้สิ่งที่กูกำลังจะทักไปมันไปทำลายแรงใจในการเขียนมึงล่ะ

ลงชื่อ เซฮุน เดี๋ยวกูชำแหละให้ก่อนหนึ่งตอน

205 Nameless Fanboi Posted ID:vSnqLxtma

หวัดดีนี่เซฮุนเอง ไม่ได้หายไปไหน วันนี้มาสับแล้วจร้าาาา ลัดคิวกินตับ แอ๊บแอ่ กุดุส กุดุส

สไตล์กูไม่ทักคำผิดเพราะกะหรี่ที่ไหนก็ทำได้ กูทักอย่างละกัน

สับเรื่อง ย้อนเวลาสู่โลกคู่ขนาน (Parallel World)
เขียนโดย: nakarin0o (เจ้าตัวขอเอง หรือใครมาคอส กูก็ไม่รู้)

https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1566978&chapter=1

ตอนที่ 1: มุ่งสู่อดีต

เปิดตอนมาวิลสัน กำลังอัดเสียงตัวเอง (เทป?) บอกว่าข้าประดิษฐ์เครื่องย้อนเวลาได้นะจ้ะ (แต่อัดเทป ไม่ว่ากันๆ ทักเฉยๆ)

พออัดไปจบก็นึกขึ้นได้ ไอ๊หย่า...

'นี่ผมพูดอะไรออกไปนี่' (วิลสุภาพมาก พูดกับตัวเองว่าผม แค่ทักเฉยๆ ไม่ว่ากันๆ)

แล้วก็เปิดผ้าโชว์เครื่อง อ่ะบรรยายไทม์แมชีนนิสนุง ประวัติศาสตร์จารึกผมแน่ครับ จับนาฬิกาสั่งเครื่องทำงาน แต่ๆๆ...

จู่ๆมีตัวละครโผล่มา

“นี่ขอโทษที่มาช้านะฉันอโรร่าเอง พอดีฉันทำกุญแจ…หาย วิลนายหายไปไหน!?” (ดีว่ะ มาถึงแนะนำตัวเอง บอกว่าไปทำอะไรมา แล้วก็บอกว่าพี่วิลใช้พี่เครื่องหายไปแล้ว... ทำได้ไงวะ ไม่ว่ากันๆ ทักเฉยๆ)

มาดูการบรรยายน้องอโรร่าบ้าง...

หญิงสาวผมยาวสีส้ม ดวงตาสีน้ำเงินตะโกนออกมาอย่างตกใจเมื่อได้เห็นวิลเพื่อนร่วมงานของตนหายไปต่อหน้าต่อตาพร้อมกับการทำงานของเครื่องข้ามเวลา เธอรีบวิ่งตรงเข้าไปปิดเครื่องนั้นทันทีแต่ทว่ามันก็ไร้ผลเธอไม่สามารถปิดมันได้

“ตาบ้าวิลสันทำไมถึงได้ทำแบบนี้นะ” อโรร่าพูดจบเธอก็ได้ลงนั่งบนเก้าอี้พร้อมกับเริ่มลงมือประกอบอะไรบางอย่างทันที (แหม่อะไรบางอย่าง...)

ฉากตัดละนะแต่จู่ๆไปเลย

“นี่ ผมทำสำเร็จไหม”

เข้ามาเป็นฉาก Action ยุคกลาง มีอัศวินกำลังสู้มังกรอสูรมอนเตอร์ (ตรงนี้จุดขายของเรื่อง กูชอบละกัน เดี๋ยวจะหาว่าไม่มีอะไรดี) ตรงนี้เจอตัวละครอีกสอง ไอซีส(หลังๆบอกไอรีส...) กับมารีน่า เปิดเรื่องง่ายๆน่าสนใจ (ง่ายเกิน ง่ายไป แล้วแต่คนมอง)

จะจบตอนน้องออโรร่า ติดต่อมาทาง นาฬิกาโผล่เป็นฮอโลแกรม มารีน่าที่เป็นอัศวินก็ตื่นเต้นใหญ่ (ยกตัวอย่างมาเลยละกัน)

“โอ้! เจ้ามีศิลาสื่อสารด้วยงั้นหรอ”

“ศิลาสื่อสาร?”

วิลพูดออกไปอย่างุนงงก่อนที่มารีน่าจะอธิบายเพิ่มว่ามันคือหินที่เอาไว้ใช้สร้างภาพในการสื่อสารที่เหลืออยู่จำนวนน้อยมากในยุคของเธอ แต่ในขณะนั้นเองอโรร่าก็ได้พูดข่าวร้ายส่วนขึ้นมาว่า

“วิลสัน ฉันมีข่าวร้ายจะบอกนายเนื่องจากเครื่องข้ามเวลาที่นายใช้ยังไม่เสร็จดีเลยทำให้ไม่สามารถกลับมาได้…”

“ว่าไงนะ นี่ฉันจะต้องติดอยู่ที่อดีตและถูกมังกรกินงั้นหรอ” วิลตะโกนออกมาด้วยหน้าตาที่แตกตื่นจนโดนมารีน่าที่ยืนอยู่ตบหัวเข้าให้เนื่องจากปากเสียพูดถึงมังกร

อโรร่าพูดจบก็ตัดสายทิ้งทันทีโดยไม่ใยดีวิลสันผู้น่าสงสาร เขานั้งทำตาปริบๆก่อนที่จะโดนมารีน่าลากตัวต่อไปอย่างช่วยไม่ได้

อะไรประมาณนี้ก็จบตอน

ในเรื่องอธิบายกฎโอเค ว่าอะไรเป็นอะไรใครอ่านก็เข้าใจ

สรุปว่า กูยังไม่รู้ว่าต้องสับกี่ตอน

ลงชื่อ เซฮุน เดี๋ยวมาอ่านต่อ

206 Nameless Fanboi Posted ID:3/Tlo.8jJ

>>205 ยาวไปเซฮุน กูเชียร์อยู่

207 Nameless Fanboi Posted ID:vSnqLxtma

กูอ่านลวกๆละ เนื้อหาไม่เปลืองพลังงานกูมาก เดี๋ยวจัดให้ 15 ตอนละกัน

ลงชื่อ เซฮุน เหลืออีก 14 ตอน

208 Nameless Fanboi Posted ID:MJArdo3nz

https://writer.dek-d.com/P-Ployli/story/view.php?id=1729308
มีใครสับ/จองสับเรื่องนี้หรือยัง? ถ้าไม่มีกูขอนะ อ่านแล้วมันคันไม้คันมือ

209 Nameless Fanboi Posted ID:Y.T9XLHVV

>>207 >>208 นี่โม่งนอยด์นะ สู้ๆทั้งสองคน ทั้งเซฮุนและนักสับคนใหม่
รออ่าน

210 Nameless Fanboi Posted ID:uL9ROMO/V

>>205 ดีมาก กูรอมึงมานาน

211 Nameless Fanboi Posted ID:vSnqLxtma

หวัดดีนี่เซฮุนเอง

สับต่อตอน 2 เรื่อง ย้อนเวลาสู่โลกคู่ขนาน

https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1566978&chapter=2

ชื่อตอน: วิธีกลับอันแสนโหดร้าย

เท้าควยนิด พระเอก 'วิลสัน' เรียกสั้นๆ 'วิล' ประดิษฐ์ไทม์แมชีนได้ เครื่องก็พลาดพามาโลกแฟนตาซี โชคดีมีนาฬิกาติดต่อกับเพื่อนชื่อออโรร่าที่ยุคเดิมได้ มาที่นี่ก็เจออัศวินสาวชื่อมารีน่านะจ้ะ

เปิดตอนมา พี่วิลมานั่งบ่นกับช่างตีเหล็กชื่อ 'กาซิก' ว่าผมมาทำอะไรที่นี่ คนแก่ก็ปลอบใจ (เริ่มตอนแปลกดี)

คุยๆไปพี่วิลเห็นลุงโยนอัญมณีขาวลงเตาก็ถาม เออลุงทำไรวะ? ลุงก็บอก

“ดาบ ข้าเตรียมจะสร้างดาบที่จะจบสงครามนี้ยังไงล่ะ”

สิ้นสุดคำพูดของกาซิก วิลก็ยังคงโยนถ่านหินที่มีจำนวนมากใส่เตาหลอมไปเรื่อยๆพร้อมกับนั้งคิดหาแหล่งพลังงานที่จะพอส่งเขากลับบ้านได้ไปพลางๆจนกระทั้งหลับไป (แม่งหลับได้หน้าเตาหลอม...)

จู่ๆกาซิกปลุก “เฮ้ย! น้องชายไปพักได้แล้วมีคนมาทำงานแทนแล้วล่ะ รีบไปพักผ่อนแล้วกลับมาทำงานอีกครั้งตอนเสียงระฆังดังนะ” (อ่อเปลี่ยนกะงานสินะ...)

พี่วิลก็งัวเงียไปข้างนอก ด้วยความเป็นนักวิทยาศาสตร์(หรือเปล่า?) ก็สังเกตเห็นว่า เออเมืองมันสว่างได้ไงวะ? สักพักก็เจอมารีน่า (อัศวินสาวที่ตอนย้อนวิลเจอคนแรก) มารีน่าทักทายบลาๆเห็นวิลเหนื่อยก็ถาม (กูยกมาละกัน)

“นี่วิลเจ้าหิวแล้วใช่ไหม”

มารีน่ามองด้วยสายตาที่เป็นห่วงพร้อมกับเอามือออกมาจากด้านหลังเผยให้เห็นถุงผ้าที่มัดอยู่ เธอส่งมันให้กับวิลซึ่งเขาก็ไม่ลังเลที่จะเปิดมันออกจนพบเข้ากับขนมปังก้อนโตกับน่องไก่ที่ย่างจนสุกพอดี วิลกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะลงมือกินทุกอย่างตรงหน้าทันทีโดยที่มารีน่าทียืนดูอยู่ก็ได้แต่แอบหัวเราะเบาๆ เมื่อวิลเสร็จจากการกินอาหารของเขามารีน่าก็ได้พาเขาเดินไปตามทางเดินเล็กๆนอกปราสาทเพื่อจะพาวิลไปยังบ้านพัก

อ่านจบย่อหน้านั้นกูคิดว่าพี่วิลต้องได้แน่ๆ...

ระหว่างทางกลับบ้านพี่วิลเลยถามเรื่อง เออทำไมเมืองนี้มันสว่างได้ล่ะ? มารีน่าก็ใส่ข้อมูลสำคัญมา สรุปได้อย่างนี้ (กูยกใจสำคัญมาละกัน)

สิ่งที่เรียกว่า "ทาซู" คือแกนพลังงานที่ทำให้ทั้งเมืองเกิดแสงสว่างได้ มันก็น่าจะมีพลังงานพอที่จะส่งเขากลับบ้านได้โดยสิ่งที่เขาต้องทำก็เพียงแค่เข้าไปเอามันออกมาก็แค่นั้น ในระหว่างที่วิลกำลังครุ่นคิดอยู่นั้นมารีน่าก็ได้พาเขามาจนถึงบ้านไม้หลังหนึ่ง

อ่านถึงตรงนี้กูคิดนำเลยพี่วิลกูสบายแล้ว แต่น้องมารีน่าจู่ๆก็พูดอะไรไม่รู้ขึ้นมา

“นี่วิล เจ้ารู้ไหมข้าเป็นคนเชื่อใจคนง่ายดังนั้นแล้วอย่าทำให้ข้าผิดหวังไม่งั้นต่อให้เจ้าจะหนีไปอยู่ไหนข้าก็จะตามไปฆ่าเจ้า”

วิลได้ฟังก็ยิ่งอยากกลับบ้านเลยทีนี้... (เออว่ะจู่ๆขู่ฆ่าแบบนี้มันอะไรวะเนี่ย? เดินคุยมาดีๆตลอดทางให้แดกข้าวด้วย ตรงนี้กูมองว่าน้องมารีน่ามีสเน่ห์ กูชอบผญเล่นตัว)

พี่วิลกลัวจัด ถึงเตียงก็รีบติดต่อออโรร่า(เพื่อนที่ยุคปัจจุบัน) ก็คุยกัยบลาๆ วิลมึงก็สร้างจานดูดพลัง "ทาซู" มาส่งมึงกลับบ้านดิ วิลก็โอเค...

พักผ่อน ระฆังเรียก วิลก็ไปหากาซิก แม่งก็เริ่มเลย...

“เฮ้ น้องชายเจ้ากำลังทำอะไรนะ” กาซิกถามออกไปด้วยสีหน้าสงสัย

“คงจะเป็นโล่ที่สามารถดูดซับพลังงานได้ล่ะมั่งครับ”

“งั้นหรอความคิดของเจ้าน่าสนใจ ของข้าร่วมด้วยก็แล้วกัน” (อ้าว กาซิกมึงไม่ทำดาบแล้วหรือไง?)

สองคนช่วยกันดิบดีมีพิมพ์เขียว ทำเสร็จพี่วิลจะต้องทดลองใช้ จู่ๆก็มีใครมาไถไอเท็ม

“โล่นั้นสวยดีนี้เจ้าเตี้ย ข้าขอมันก็แล้วกัน” (สัดมาจากไหนวะ?)

คำพูดนั้นได้สร้างความโกรธขึ้นมาในใจของวิลแต่ทว่าเขาก็ไม่พูดตอบโต้อะไรกับไป (พี่วิลกูนิ่งมาก)

“เงียบงั้นหรอ งั้นข้าถือว่าเจ้าตกลงก็แล้วกัน” (ไอ้สัดมาเฟียเหี้ยๆ)

ชายผมดำคนนั้นเดินเข้ามาคว้าขอบโล่ของวิลทันทีซึ่งตัววิลเองก็ไม่ยอมให้เขาไปเด็ดขาดเพราะสิ่งๆนั้นคือทางกลับบ้าน คือผลงานที่ได้สร้างขึ้นร่วมกับคุณกาซิก ในขณะนั้นด้วยความพลังมือวิลได้พลักโล่ออกไปจนกระแทกเข้ากับชายหนุ่มจนกระเด็น (นี่คือเด็กแย่งของกันปะวะ ขยี้ตาแป๊ป อ่านอีกรอบ)

“แย่แล้วไง วิลนี่เจ้าทำอะไรลงไปนี้” (บทลิเกสัดๆ)

มารีน่าที่แอบอยู่ได้พูดขึ้นะร้อมกับวิ่งเข้ามาพยุ่งตัวของชายหนุ่มขึ้น (มาได้ยังไง?) ในตอนนั้นเขาได้มองวิลด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจอย่างรุนแรงก่อนที่จะตะโกนออกมาว่า

(มีต่อ)

212 Nameless Fanboi Posted ID:vSnqLxtma

>>211 ต่อนะ

“ข้า ‘กาวีเรส’ในนามของอัศวินแห่งแสงของประกาศท้าประลองเจ้าโดยที่ผู้แพ้จะต้องถูกไล่ออกไปจากดินแดนแห่งนี้” ชายหนุ่มพูดขึ้นพร้อมกับชี้หน้าของวิลและเดินจากไปโดยที่มารีน่ายังเดินตามไปพูดให้เขาใจเย็นๆ (มาเฟียแนะนำตัว พูดลิเกท้าต่อย)

“เจ้าซวยแล้วล่ะน้องชาย ดูจากสภาพเจ้าคงแพ้และในที่สุดก็คงถูกมังกรที่อยู่ด้านนอกกินเป็นแน่แท้” (กาซิกมึงบั่นทอนจิตใจพี่วิลกู!)

กาซิกพูดวิลก็มีหน้าตาที่ไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ เขาเงียบไม่ยอมพูดอะไรพร้อมกับวิ่งออกไปทันที (อ้าวสัดหนีซะงั้น!!!) ในขณะเดียวกันทางด้านมารีน่ากับกาวีเรสพวกเขาพูดคุยกันด้วยท่าทีที่ไม่พอใจกันเท่าไหร่นัก

“นี่เจ้าเมื่อไหร่จะเลิกทำตัวเป็นเด็กๆ ถึงเจ้าจะเป็นเชื่อสายราชาแต่ก็ไม่ควรเอาชีวิตมาเดิมพันแบบนี้นะ” มารีน่าพูดออกไปด้วยสีหน้าจริงจังในขณะที่ทั้งสองคนกำลังขึ้นไปยื่นอยู่บนลิฟท์ระดับน้ำ (อธิบายประวัติกาวีเรสซะละเอียดยิบเลยน้องมารีน่ากู)

“ท่านมารีน่าอย่าบอกกับข้านะว่าท่านเป็นห่วงเจ้าชั้นต่ำนั้น อย่าลืมซิว่าท่านคือผู้ต้องแบกรับความหวังตามคำทำนายนะ ท่านนะมีค่าเกินไปที่จะให้มันได้มองด้วยซ้ำ” (ฮั่นแน่ะ... ตัวร้ายละครช่องเจ็ดสัดๆ)

กาวีเรสพูดจบเขาก็เดินออกจากลิฟท์ระดับน้ำโดยที่มุ่งตรงไปที่ลานกว้างใจกลางเมืองเพื่อจะไปตีระฆังประลอง(แม่งรีบด้วย) มารีน่าก็ได้เดินตามมาพร้อมกับพยายามพูดกับเขาอย่างสุดกำลังเพื่อให้เปลี่ยนใจแต่ทว่ามันก็ไม่ได้ผลเลยแม่แต่น้อย(โถน้องมารีน่า) ในชั่ววินาทีก่อนที่กาวีเรสจะเริ่มตีระฆังไม่รู้ว่าจะเรียกว่าโชคช่วยหรือนรกถามหา เมื่อจู่ๆท้องฟ้าที่มีดวงตะวันของเมืองด้านบนก็ได้ถูกปลกคลุมด้วยหมอกควันสีดำอย่างรวดเร็วจนทุกอย่างแทบจะมืดมิดในพริบตา (นี่ใช่ไหมที่เขาเรียกว่า Dues Ex เซ็นทรัลบางนา)

“แค่กๆ หมอกนี้มันอะไรกัน ทำไมแสงจากทาซูถึงได้หายไป”

“ข้าก็ไม่รู้ แต่ระวังตัวไว้ด้วยท่านมารีน่า”

ทั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมกับหันหลังชนกันแล้วชักดาบออกมา ท่ามกลางความมืดและเสียงกรีดร้องของผู้คนที่เกิดจากความกลัวมารีน่าก็ได้ใช้ดาบฟันลงไปบนอะไรบ้างอย่าง ในพริบตานั้นเสียงกรีดร้องที่เธอได้ยินจนคุ้นเคยก็ได้ดังขึ้น ในพริยตานี้มังกรได้บุกเข้ามาแล้วเมื่อแสงสว่างหายไปปีศาจและความมืดก็จะกลับมา (ซะ... อย่าง... นั้น...)

“บ้าเอ๋ยๆ ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ ถ้าแบบนี้และก็ยังไงก็ต้องเอาพลังงานไปให้ได้มากที่สุดล่ะนะ”

วิลพูดกับตัวเองพร้อมกับวิ่งไปตามทางเดินยาวของปราสาท เขาได้วิ่งตรงมายังห้องของไอซิสที่เป็นห้องที่เขาคิดว่ามีพลังงานมากพอ (พี่วิลกรูช่วยบอกที ไอ้สัดนี่ชื่อไอซิสหรือไอรีส?)

“ในที่สุดก็มาแล้วซินะครับ ท่านวิลสัน สิ่งที่คุณต้องการนั้นอยู่ใต้ห้องนี้หวังว่าคุณจะรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่คุณต้องทำ”

ไอซิสพูดจบเขาก็เขาไม้เท้าเคาะเบาๆที่พื้นพร้อมกับทำให้เกิดช่องว่างขึ้นมาตรงหน้าของวิล ในจังหวะนั้นวิลสันได้เก้าเดินลงไปโดยไม่ลังเลโดยที่ไม่รู้ว่ากำลังมีอะไรรอเขาอยู่ด้านใน

จบตอนแบบ Cliffhanger เดี๋ยวกูมาอ่านต่อ

ลงชื่อ เซฮุน กำลังลุ้นพี่วิลกูจะกลับบ้าน (กูลุ้นจริงๆนะมึง ตื่นเต้นเหี้ยๆ)

213 Nameless Fanboi Posted ID:rHLhA/Gwf

>>211 ผมเจ้าของเรื่องเองนะครับ ขอบคุณคุณเซฮุนมาก ที่สับนิยายผมให้ผมอ่านแล้วเห็นอะไรหลายๆ อย่างและตลกมากกับคำในวงเล็บหลายๆ อย่างที่มันจริงเกินคาด

214 Nameless Fanboi Posted ID:TbdIA44Z0

>>213 ลองแวบๆไปอ่านมา แล้วรู้สึกอยากแสดงความคิดเห็นสักเล็กน้อย
เราไม่ได้จะมาแย่งเซฮุนสับนะ เมื่อกี้เราลองอ่านบทนำไปสองย่อหน้าแล้วรู้สึกอยากพูดอะไรสักอย่าง นอกจากความรู้สึกส่วนตัวแล้ว สาระใดๆไม่มีทั้งนั้น ฮา
ทำไมรู้สึกช่วงนี้ตัวเองพูดไม่รู้เรื่อง 555

215 Nameless Fanboi Posted ID:LC7rXOQo2

>>214 มึงมีอะไรก็ว่าไปสิ

ลงชื่อ เซฮุน ขอให้บอกเรานะ ว่าให้เราปรับตัวอะไรบ้าง

216 Nameless Fanboi Posted ID:TbdIA44Z0

>>215 เช ขอเราอัพนิยายกับไปอ่านแปป

217 Nameless Fanboi Posted ID:MJArdo3nz

[ฉันคือ'นางร้าย'ที่'โครตร้าย'!]
[เขียนโดย : b'black_berry]
[ 8 ตอน ไม่นับพวกแนะนำเกมฉากหลัง + ตัวละครและยังไม่จบ]
เนื่องด้วยว่า เออ วันนี้กูไปแข่งวิชาการเว๊ย ไปลงทะเบียนตอน 8 โมง แต่กูได้แข่งตอนบ่ายสอง ด้วยความว่าง กูเลยสมัครเน็ตหานิยายอ่าน แล้วกูอยากลองของหมวดรักแฟนตาซี แล้วไปสะดุดตากับเรื่องนี้ที่ติด Top 10 เอาละ เริ่มเลย

มาที่ข้อมูลเบื้องต้นกันก่อน กูรู้ว่าสไตล์ใครสไตล์มัน แต่ว่าเฮ้? บางทีมันก็เยอะและยาวเหยียดเกินไปนะ กว่าจะเลื่อนลงมาได้มันไม่ใช่ง่ายๆ เลย แถมไม่มีสาระสำคัญอะไรเลยด้วย
กูชอบที่คนแต่งเขาแยกตอนสำหรับพวกที่ไม่เกี่ยวข้องเนื้อเรื่องหลักออกอย่างแนะนำตัวละคร กูเลยข้ามไปอ่านตอนแรกจริงๆ ได้แต่ถ้าจะสับส่วนแนะนำตัวละคร กูก็ไม่รู้จะสับอะไรนอกจากคำผิดที่พบเห็นประปราย รูปไร้เครดิต ชื่อคนแฟนตาซีที่บางครั้งก็เกินไปกับ...ฝรั่งเศษพ่อมึงสิอีกล้วยไข่ ฝรั่งเศสโว๊ยฝรั่งเศส ไม่ใช่ฝรั่งเศษโว๊ยยยย...อะแฮ่ม
เรื่องราวมันเริ่มต้นจากนางเอก อลิส คาริส สาวลูกครึ่ง ไทย-อเมริกัน ที่มีประวัติโชกโชน ไม่ว่าจะเคยเป็นหัวหน้าแก็งมาเฟีย นักฆ่า ฉายา unknow จนท.หน่วยพิเศษประจำกรมตำรวจแห่งประเทศ[ไม่ระบุว่าประเทศอะไร] นักธุรกิจ และอื่นๆ ซึ่งเมื่อผ่านไปอีกตอน อลิสจะบอกผู้อ่านว่าตัวเองเคยทำมาแล้วทุกอาชีพ แต่ปัจจุบันเป็น นักร้อง นักแสดง [กูว่าแมร่งๆ แล้วนะ] ที่โด่งดังไปทั่วเอเชียและอาจจะทั่วโลกด้วย มีนิสัยเย็นชา โหดร้าย หยิ่งๆ
ซึ่งขอเรียกจากนี้ว่าเจ๊ลิสแล้วกัน
เจ๊ลิสเป็นเด็กที่พ่อ-แม่ตายตั้งแต่เด็ก อยู่กับน้องชายเพียง 2 คน รักกันมาก แต่ก่อนเจ๊ลิสตายดันทะเลาะอะไรไม่รู้ แต่หนักมากจนน้องเจ๊ลิสหนีออกจากบ้านทิ้งเจ๊ลิสไว้เพียงลำพัง
เจ๊ลิสตายเพราะเส้นเลือดในสมองแตกและได้ไปพบกับนางฟ้าชื่อ เมลล์ ที่ถูกบรรยายนมใหญ่หัวชมพู เมลล์บอกกับเจ๊ลิสว่าเส้นโชคชะตาของเจ๊ลิสยังไม่หมดนะ [แต่เสือกมาตายด้วยโรคที่น้อยคนจะเป็น] เมลล์ยังบอกอีกว่าให้เจ๊ลิสเลือกโลกที่อยากจะไป + พร 9 ข้อ...เน้นย้ำ 9 ข้อ...
เจ๊ลิสของพวกเราเลยเลือกไปโลกเกมจีบหนุ่มชื่อมายปริ้นส์ เพราะเจ๊ลิสแกชอบนางร้ายที่ทั้งสวย รวย รักเดียวใจเดียว + ดีกรีลูกดยุค ดังนั้นเจ๊แกเลยเลือกเป็นประทับร่างของ ฟานาเซีย คาเรียอัส วัย 15 ปี + ชื่อเล่น ฟาร์
ก่อนไปเจ๊แกก็ได้เลือกพรไว้ดังนี้
1.ใช้เวทได้ทุกธาตุและทุกธาตุมันต้องบริสุทธิ์ด้วยนะ
2. คุยกะสัตว์กับควบคุมธรรมชาติได้
3. เสกอาวุธกับเกราะตามธาตุ เปลี่ยนสีตากับผมด้วยนะมึง
4. ขอให้เจอกับเมลล์ทุกครั้งที่ต้องการ [เมลล์คงคิดในใจ "ไม่ถงไม่ถามความสะดวกกูซ๊ากคำ"]
5. ขอให้ตาเปลี่ยนตามอารมณ์ + option เปิด-ปิดได้ตามใจ
6. ขอให้ความรู้สึกของคนรอบข้างเปลี่ยนไปตามอารมณ์ เช่น เจ๊ลิสดีใจ คนรอบข้างต้องผ่อนคลาย
7. อ่านใจคนอื่นได้
ข้อ 8 กับ 9 เจ๊ลิสบอกว่าไว้เจอกันครั้งหน้าค่อยขอแล้วกัน เมลล์นมใหญ่ก็บอก "ได้สิ" ... จากนั้นเจ๊ลิสก็คุยกับเมลล์ว่า เออ กูเนี่ยเป็นคนพูดน้อยนะ เมลล์ก็ตอบแล้วให้ความรู้สึกเอือมๆ ชอบกลว่า "เราก็เหมือนกัน" แล้วบอกให้หลับตา ก่อนที่จะมีตัวผู้ปริศนาเอาสร้อยไปสวมให้เจ๊ลิสแก เมลล์บอกว่า มึงห้ามถอดสร้อยนี้เด็ดขาด ก่อนจะส่งเจ๊ลิสไปประทับร่างของฟานาเซีย จบตอนที่ 1

โดยรวมแล้วมีคำผิดไม่ค่อยมี มีก็เล็กๆ น้อยๆ อย่าง นะ-น่ะ กับ คะ-ค่ะ ที่ยังผิดอยู่บางจุด
ถ้ามึงสังเกตจะรู้เลยว่าในเราหาความสมเหตุสมผลแทบไม่ได้เลย ตั้งแต่ที่นางเป็นนักฆ่า + หัวหน้าแก๊งมาเฟียแล้วได้เป็นหน่วยรบพิเศษของกรมตำรวจของประเทศแล้ว ยิ่งถ้ามึงได้อ่านตัวบทบรรยาย First Person ของเจ๊ลิสแล้ว มึงจะเกิดคำถามในใจว่า เจ๊ลิสแกเป็นคนเย็นชาตรงไหนวะ? ดีด๊าชิบหาย

เดี๋ยวมีต่ออยู่นะ

ลงนาม โม่งมารี ที่เอาชื่อนางเอกนิยายตัวเองมาเป็นชื่อในโม่ง

218 Nameless Fanboi Posted ID:Boj.3cFdC

>>217 กลิ่นเบียวและซูหึ่งตั้งแต่ตอนแรก และเดาว่าต่อไปคงซูขั้นสุด
ปล.โม่งมารีไปแข่งวิชาการ แต่สมัครเน็ตหานิยายอ่าน5555 สัมผัสได้ถึงความตั้งใจเลย

219 Nameless Fanboi Posted ID:T0rieRGX5

>>217 มึงบอกกูหน่อยถ้าหากว่ากูอยากเป็นแบบเจ้ลิสบ้างนี่กูควรแบ่งเวลาชีวิตยังไงให้ไปเก็บแต้มอาชีพพวกนั้นได้หมดวะ

220 Nameless Fanboi Posted ID:bVt9DnUWV

>>217 ขัดแย้งเพียบโดยเฉพาะเป็นมาเฟียแล้วกลายหน่วยรบพิเศษเนี่ยคิดได้ไงวะถามจริง

ปล.ฮาฝรั่งเศษ 55555

221 Nameless Fanboi Posted ID:TbdIA44Z0

เรากลับมาแล้ว พร้อมกับการอ่านได้ถึง...
1 บท
พออ่านแล้วก็รู้สึกตงิดๆอะไรหลายอย่างแฮะ ไม่ว่าจะส่วนบรรยายหรือบทสนทนา อย่างสามย่อหน้าแรก เราว่าใช้เว้นวรรคน้อยไปหน่อย พออ่านแล้วทำให้เรารู้สึกเหมือนว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นปุบปับเหมือนเร่งความเร็วไงไม่รู้ แถมเหนื่อยอีกต่างหากเวลาอ่าน 555
คำผิดพบเห็นบ้างประปราย
มีย่อหน้าหนึ่งยาว 6 บรรทัด ซึ่งเต็มไปด้วยคำซ้ำ ที่เราเห็นเยอะที่สุดคงเป็นดินกับหิน
การบรรยายตลอดทั้งบทให้ความรู้สึกรีบเร่งและชวนให้เหนื่อยเวลาอ่านตลอด น่าจะเคาะเว้นวรรคเพิ่ม ให้เวลาคนอ่านพักบ้าง แม้จะไม่ได้อ่านออกเสียง แต่ก็เหนื่อยนะเออถ้าต้องอ่านอะไรยาวๆ 555
เราอ่านไปแค่ตอนเดียว พูดถึงเนื้อเรื่องอะไรไม่ได้ ไม่มีอะไรจะพูดนอกจากคำเดิมๆว่าภาษาต้องปรับปรุงทั้งการบรรยายและบทสนทนา เลี่ยงคำซ้ำ ลดการพิมพ์ผิด(ที่ส่วนใหญ่เกิดจากการสะกดผิดมากกว่ากดพลาด) เคาะเว้นวรรคให้เยอะขึ้น
------
"สวัสดี ผมวิลสัน ผมได้คิดค้นเครื่องย้อนเวลาขึ้นมา และเป็นคนแรกที่คิดค้นมัน แต่เรื่องนั้นน่ะช่างเถอะ" เขาหยุดลงไปชั่วอึดใจ แล้วเริ่มพูดอีกครั้ง "หากคุณได้ฟังเทปนี้ คุณจะรู้ว่าผมน่ะ คือคนแรกที่ได้เดินทางข้ามเวลา"
'...นี่ฉันพูดอะไรออกไปเนี่ย?'
วิลสันว่าขึ้นในใจพร้อมกดหยุดเครื่องบันทึกเสียง ก่อนโยนมันไปไว้ในลิ้นชักดังเดิม...(ขี้เกียจต่อละ 555)
------
อันนี้เราลองพิมพ์แก้เล่นๆ มีดัดตรงโน้นตรงนี้ไปเล็กน้อย ภาษามันก็จะห่วยๆหน่อย 555

222 Nameless Fanboi Posted ID:rHLhA/Gwf

>>221 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ จะนำไปปรับปรุงในตอนรีไรท์นะครับ

223 Nameless Fanboi Posted ID:.54WkeWBD

>>217 กูอ่านแล้วสิ้นหวังกับเว็บเด็กดีขึ้นมาทันทีเลยว่ะ ยิ่งเรื่องนี้ติดท๊อปหมวดด้วยนะมึง

224 Nameless Fanboi Posted ID:MJArdo3nz

>>217 กูลืมใส่ลิงค์นิยาย ขอโทษด้วยนะ [https://writer.dek-d.com/P-Ployli/story/view.php?id=1729308]
ตอนที่ 2 เริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนมุมมองเป็น Third Person บอกว่าร่างบางนอนฟูกครางเบาๆ ก่อนจะมีสาวใช้นมใหญ่มาปลุก ร่างบางตื่น ชะงัก บอกให้สาวใช้ออกไปก่อน แล้วก็ตัดมาเป็นบทบรรยาย First Person โดยเจ๊ลิสในร่างของฟานาเซีย หรือ ฟาร์ เจ๊แกบอกว่าร่างของฟาร์สวยกว่าที่คิด มีหน้าอกคัพซีด้วย พอชมร่างใหม่ไปได้หน่อยๆ เจ๊ลิสจึงมองรอบๆ ห้องแล้ว "แทบเป็นลม ห้องสีฟ้า-ชมพูพาสเทลงุ้งงิ้งนี่มันอะไรก๊าน" [เขาเขียนไว้อย่างนี้จริงๆ นะ เอาเป็น ประโยคไหนที่อยู่ใน "___" คือประโยคของจริงที่ปรากฏในต้นฉบับนะ]
แถมยังมีองค์ชายติดเต็มผนังด้วยนะมึง
แต่เจ๊ลิสบอก ช่างมัน เดี๋ยวออกไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ แต่ก่อนไป เจ๊ลิสไปอาบน้ำ 3 นาที แต่งตัว 3 นาที แล้วบอกว่าไว้เหมือนเดอะแฟลต เพราะเจ๊ลิสแกตื่นไปถ่ายหนังสายบ่อยๆ เลยมักจะอาบน้ำเหมือนไม่ได้อาบเป็นเรื่องปรกติ "ไม่ได้ขี้เกียจเลยนะ จริ๊งจริงงง#เสียงสูง"
คราวนี้เจ๊ลิสแต่งตัว เจ๊ลิสตกใจ เห็นชุดกระโปรงโลลิเต็มไปหมด แล้วบ่นว่า ฟาร์ แก 16 [แนะนำตัวละครบอก 15] แล้วนะ "ทำไมยังแต่งตัวแบบนี้อีก(ว่ะ)ค่ะ" [ถ้าฟาร์ได้ยินคงอุทานเบาๆ ว่า : มึงเ-ือกไร รสนิยมกู กูชอบแบบนี้]
สุดท้ายเจ๊แกเลยเลือก "เดรสลายสีลูกไม้สีครีมอ่อนยาวคลุมเข่า" เจ๊ใช้เวลาหาชุดนี้ตั้ง 4 นาทีแหนะ ก่อนลงไปทานข้าวก็ไม่ลืมจะรวบผมเป็นหางม้าไว้ข้างหลัง
06.28 น.
เจ๊ลิสแกลงมาก่อน 2 นาที แต่ไม่บอกว่าก่อนอะไร แต่ลงไปก็เจอพี่ชายคิวรอส aka สไตล์กู พี่คิว กับ น้องสาวบุญธรรมชื่อ ชาแนลล์ หรือที่เจ๊ลิสเรียงว่า แชลล์ ซึ่งฟาร์เป็นคนขอร้องให้ท่านพ่อรับแชลล์เข้ามา คราวนี้ เจ๊ลิสไม่รู้ว่าจะนั่งตรงไหน ต่อให้ไม่ใช่เจ๊ลิสก็รู้อยู่แล้วว่าหัวโต๊ะมันของท่านพ่อแน่ๆ เจ๊ลิสเลยไปตรงที่ว่างที่ไม่ใช่หัวโต๊ะ แค่นั้นล่ะ พอเจ๊ลิสคิดได้แล้ว น้องแชลล์เหมือน animation พึ่งเริ่มทำงาน ยิ้มแก้มปริ พุ่งจากที่นั่งมาเกาะแขนเจ๊ลิสไว้ ถามเจ๊ลิสว่า เป็นไร ดูเศร้าๆ เจ๊ลิสก็ตอบว่าไม่มีอะไร แค่ปวดหัว ก่อนจะบอกให้ไปนั่ง แล้วไม่ถึง 10 วิ พ่อก็เข้ามา
พ่อของฟาร์หรือเจ๊ลิสเนี่ยเป็นดยุกนะ เป็นขุนนางใหญ่นะจะบอกให้
กินข้าวเสร็จ เจ๊ลิสมี plan จะไปคุยกะพ่อส่วนตัว แต่ก่อนไปจะไปหา ก็พาคนใช้ไปเปลี่ยนโทนห้องเป็น ขาว - ดำ - เทา ส่วนรูปองค์ชายให้กระชากออก ไม่ต้องถนุถนอม คนใช้ไม่กล้า เจ๊ลิสเลยกระชากออกเป็นตัวอย่าง [ฟาร์มาเห็นคงว่า : โถ่อีผี! ห้องของกู ของๆ กู...] คนใช้เห็นเลยไม่เกรงใจ กระชากอย่างเต็มกำลังดังบทบรรยาย "เก็บกดมาจากไหนถึงได้กระชากอย่างเมามันขนาดนั้น -_- แต่ช่างเถอะ"
จากเจ๊ลิสก็บรรยายว่า "ในความทรงจำของฉัน" ดยุกวินเซนท์เป็นพวกเห่อลูกสาว แต่ที่เมื่อเช้าไม่คุยกันเพราะ "เมื่อวานฉันงอนที่ท่านพ่อ" บอกให้ถอนหมั้นกับเจ้าชาย...เจ๊ลิสในร่างฟาร์เลยไปขอโทษท่านพ่อ มีดราม่าว่าพ่อแม่เจ๊ลิสตายตอนเจ๊ลิสอายุ 11 เพราะเครื่องบินตก พอมาในเกมต้องตอบแทนพ่อคนนี้เพราะไม่มีโอกาสได้ทำในร่างอลิส
ตัดมาห้องทำงานของท่านพ่อ
เจ๊ลิสมาก๊อกๆ เขาไปขอโทษท่านพ่อ บอกว่าเห็นด้วยที่จะถอนหมั้นกับเจ้าชาย ก่อนจะบอกว่าจะไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ พ่อได้ยินเลยให้บัตรเครดิตรูดได้ไม่จำกัด เจ๊ลิสบอกว่าจะใช้เงินอันน้อยนิดของฟาร์ก่อน แต่แอบดีใจที่ได้บัตรของตระกูลมา
"มันเป็นห้างที่ใหญ่มาก(ก.ไก่ล้านตัว) ใหญ่กว่าบิ๊กซี โลตัส โรบินสัน พารากอนของไทยซะอีก" เจ๊ลิสได้คิดไว้กล่าวไว้ แต่บอก เจ๊ไม่สน [แล้วมึงจะไก่ล้านตัวทำเพื่อ?] เพราะเจ๊แกจะมาซื้อแค่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ และอื่นๆ โดยมีนักฆ่า [?] คอยตามคุ้มกัน 3 คนเพราะเจ๊ลิสอยากเดินคนเดียว ไม่ต้องมีคนคุ้มกัน เจ๊ลิสเลยบ่นๆ ว่าไม่ต้องมาก็ได้ เพราะเจ๊เก่งเจ๊เคยเป็นนักฆ่ามาก่อน
"ฉันพอใจกับห้องนอนใหม่มาก(ก.ไก่ล้านตัว)" เจ๊ลิสชอบห้องใหม่และชุดใหม่ของเจ๊แกมาก เช้าๆ ก็ฝึกศิลปการต่อสู้แบบนักฆ่าที่เคยเป็นก่อนตาย พอเที่ยงก็ไปจิบชาบ้าง พี่คิวก็สนิทกับเจ๊ลิสแกมากขึ้นเรื่อยๆ บ่ายๆ เจ๊ลิสไปอ่านหนังสือ/ไปเล่น+ฝึกธาตุ เรียกศาสตราวุธกับเมลล์ในมิติ เย็นๆ ก่อนกินข้าวก็วิ่งอ้อมบ้าน 2 รอบ
จากนั้นเจ๊ลิสก็จะบอกว่า ฟาร์จ้างครูมาสอนที่บ้านในช่วง 3 ปี [3 ปีไหนอีกวะ แถมย่อหน้านี้สับสนระหว่างเจ๊ลิสกับฟาร์ชิบหาย] จากนั้นก็ตามสไตล์ นางร้ายตบนางเอก โดนเกลียด จ้างครูมาสอนที่บ้าน ไปตบนางเอกที่โรงเรียบบ้างเป็นครั้งคราว แต่เจ๊ลิสแกไม่ใช่คนแบบนั้น เจ๊ลิสจะไปเรียนที่โรงเรียน แต่บอกว่าจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับตัวเอกเพื่อไม่ให้ "ตายอย่างนาถ" และใช้ชีวิตสงบๆ ไม่ไปร้ายกะใคร ถ้าไม่มาร้ายใส่เจ๊ลิสก่อน แถมทิ้งท้ายด้วยนะ เจ๊ไม่ร้ายธรรมดา แต่โครตร้าย

จบตอนที่ 2 คำผิดมีน้อย แต่มันก็เด่นนะ แถมความย้อนแย้งนี่มันอะไรกัน...ตอนที่ 3 ขอเป็นวันพรุ่งนี้แล้วกัน
ลงนาม โม่งมารี

225 Nameless Fanboi Posted ID:f6RiD1q7v

>>224 เราตะลุยอ่านถึงบทล่าสุดแล้วนะโม่งมารี บอกเลยว่ามีอะไรที่โคตรน่าหงุดหงิดหลายจุด เล่นคำผิดง่ายๆ อย่างสันดาร=สันดาน การใช้นะค่ะ น่ะคะ และความพยายามยัดความตอแหลให้นางเอกเกม มีความพยายามเขียนฉากเรทด้วย อ้อ ได้กลิ่นแรงบันดาลใจจากนิยายแปลเรื่องลูกดยุกที่นางเอกชื่อไอริส อยากจะชี้เป้าแต่เดี๋ยวสปอย รอสับเสร็จแล้วจะช่วยคอมเมนต์นะ

226 Nameless Fanboi Posted ID:abYVTyZR4

>>224 กูลองอ่านแล้ว ถึงกับต้องเอามือทาบอก แม่งจะซูไปไหนวะ อีพรเก้าข้อเนี่ย
แถมยังสำนวนแจ่มใส มีอีโมติค่อนอีก แม่งเข้าเงื่อนไขชวนกดปิดของกูหมดเลย

227 Nameless Fanboi Posted ID:Oz7n8URXQ

>>217 กุไม่เข้าใจคนเขียนว่ะ ในเมื่อมีพรข้อสามที่เปลี่ยนสีตาได้อยู่แล้ว จะขอพรข้อห้าให้นัยน์ตาเปลี่ยนสีตามอารมณ์ด้วยทำไมวะ เบียวสัสๆ อ่ะ

228 Nameless Fanboi Posted ID:btBCIgs2C

>>227 แมรี่ซูไปใหญ่แล้ว ถ้าจะเจ๋ง เทพ โดดเด่นขนาดนั้น ก็เป็นได้แค่นิยายขายฝันคนอ่านอายุน้อยนั่นล่ะ

229 Nameless Fanboi Posted ID:0+Y3CR3Hu

>>224 รูปนาแชลล์นี่โทโมโยะจากการ์ดแคปเตอร์ป่ะ ส่วนเมลล์ก็เมโรโกะจากฟูลมูนของ อ. อารินะ ทาเนมูระอ่ะ

230 Nameless Fanboi Posted ID:UxSfPQeLI

หวัดดีนี่เซฮุนเอง สับต่อเรื่อง ย้อนเวลาสู่โลกคู่ขนาน (Parallel World)

ย้ำว่าสไตล์การสับของกูจะเหมือนผู้กำกับหรือผู้บริหารให้ความเห็น กูไม่ใช่ครูที่จะมาให้ความรู้ใคร ไม่ใช่เจ้าชีวิตมาจิกให้ใครทำอะไร คำผิดคำถูกมันพื้นฐาน มีแน่ๆแต่มึงแก้เอง จ้างกะหรี่ปั๊ปกะหรั่ปรู๊ปได้ สำนวนกูอ่านออกคิดภาพตามได้ก็พอ จังหวะในเรื่องเร็วช้านั่นปัญหามึง...

อันนี้นี้กูจะรวบยอดตอน 3-6 เพราะกูดูแล้วมันเป็นเนื้อเดียวกันได้

https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1566978&chapter=3

https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1566978&chapter=4

https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1566978&chapter=5

https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1566978&chapter=6

ตอน 3: หินทาซู
ตอน 4: ดาบแห่งแสง
ตอน 5: การต้อนรับของผู้แปลกหน้า
ตอน 6: หอบันทึกแห่งอีสมาราล

เท้าควยนิด พระเอก 'วิลสัน' เรียกสั้นๆ 'วิล' ประดิษฐ์ไทม์แมชีนได้ เครื่องก็พลาดพามาโลกแฟนตาซี โชคดีมีนาฬิกาติดต่อกับเพื่อนชื่อออโรร่าที่ยุคเดิมได้ มาที่นี่ก็เจออัศวินสาวชื่อมารีน่านะจ้ะ

ล่าสุดพี่วิลสร้างโล่กับช่างตีเหล็กชื่อ 'กาซิก' กะจะใช้โล่ดูดพลังซัมติงจาก 'หินทาซู' เพื่อส่งพี่วิลกลับบ้าน พอดีเจอราชนิกุลมาเฟียชื่อว่า 'กาวีเรส' มากวนจะแย่งไอเท็มโล่เพราะมันสวยดี(ง่ายสัด) อัศวินสาวน้องมารีน่า(น่าจะนางเอก) ก็มาช่วยห้ามไว้ แต่มอนส์เตอร์ประจวบเหมาะเจาะมาบุกพอดี (ดุจดั่งเอ็กซ์แมชีนน่า)

เริ่มตอน 3 ด้วยเสียงมารีน่าที่กำลังสู้มอนเตอร์ แต่พี่วิลกูได้ยินเสียงด้วย คือน้องมารีน่ากำลังสิ้นหวัง แต่เชื่อในความหวัง บลาๆ เป็นซีนอารมณ์(น่าจะใช่นะ)

พี่วิลกูตอนนี้อยู่กับไอ้ไอซิสซึ่งตอนนี้กลับมาชื่อไอริสอีกแล้ว (กูต้องทำใจสินะ)

กูขอแทรกวิเคราะห์: ตรงนี้บังเอิญไปตรงกับสูตรวิธีเขียน Hero's Journey (การเดินทางของผู้กล้า) พอดี (หรือคนเขียนมันตั้งใจ? แต่กูว่าไม่นะ) คือไอซิสไอริสรับหน้าที่ตัวการ์เดี้ยน ที่จะมาเรียกฮีโร่(พี่วิล) ข้ามความเหนือธรรมชาติตามพล็อต (กูยังยืนยันว่าบังเอิญ แต่ใครจะอ่านเพิ่มไปตามนี้ http://www.movieoutline.com/articles/the-hero-journey-mythic-structure-of-joseph-campbell-monomyth.html)

เอาล่ะสรุปงี้ พี่วิลกูจะกลับบ้านต้องดูดทาซูเข้าโล่จะได้ใช้พลังงานข้ามมิติกลับบ้าน แต่นะ... มีประโยคเด็ดพี่วิลกู ไม่คมมากแต่กูเห็นการเปลี่ยนแปลงของพี่วิลได้

“ผมตัดสินใจได้แล้ว มันจะอยากอะไรล่ะถ้าปราบมังกรได้แล้วกับแค่แหล่งพลังงานจะหาเมื่อไหร่ก็ได้” (มันจะยากอะไรล่ะ)

คือพี่วิลกูไม่เห็นแก่ตัวที่จะใช้พลังงานหนีกลับบ้าน เลือกที่จะอยู่ต่อแบบรัฐบาลบิ๊กตู่เพื่อปราบความชั่วช่วยมารีน่า

ตอน 3 นี่บังเอิญตามสูตรการเดินทางของผู้กล้า ถึงเขียนไม่ดีเท่าไหร่แต่ตรงตามจิตใต้สำนึกของสูตร พระเอกยึกยัก มีคนชักชวน มีเรื่องเหนือธรรมชาติ พระเอกเปลี่ยนใจกลับมาผจญภัย

จบตอน 3 แต่ตอน 4-6 ดิ่งลงเหว

(มีต่อ)

231 Nameless Fanboi Posted ID:fQ.0xaSMO

>>230 มีต่อ ก็ต่อดิ

232 Nameless Fanboi Posted ID:iHfNuRL6O

>>230 ต่อนะ เริ่มตอน 4 (กูยกเลยละกัน)

ร่างกายที่เคยเต็มไปด้วยแสงสว่างบัดนี้ มันได่ค่อยๆจางหายลงอย่างช้าๆ มารีน่าได้ล้มลงนั้งกับพื่นด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยเลือด (กูต้องทักคำผิดไหม?)

“ข้า….ยังยอมแพ้ไม่ได้ ยังไม่ได้เด็ดขาด” มารีนาพูดจบก็ได้ล้มลงไปกับพื้นท่ามกลางความมืดอันแสนว่างเปล่าที่อยู่รอบตัวเธอ (ไงล่ะนางเอกกูใจสู้)

“น่าทึ่ง น้องชายเอามันมาได้จริงๆ” (อ้าว?ตัดฉากเร็วสัดๆ)

กาซิกได้พูดขึ้นมาในขณะที่นำคีมหนีบหินทาซูวางไปบนดาบสีทองพร้อมกับใช้ค้อนเหล็กฟาดลงไปจนเกิดประกายแสงกระจายไปทั่ว (กลับมาทำดาบละนะมึง) ในขณะนั้นวิลก็ได้นั้งพันแผลที่แขนขวาพร้อมกับมองไปรอบที่พวกทหารและอัศวินทุกคนกำลังเตรียมอาวุธและคบเพลิง

“เกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกคนถึงดูวุ่นวายกันจัง” วิลถามออกไปพร้อมกับลุกขึ้นเดินมาหากาวีเรส

“นี่เจ้าไม่รู้จริงๆงั้นหรอ ในตอนนี้ท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยราตรีและตอนนี้ความหวังของเรามีเพียงแค่หินก้อนนี้เท่านั้น”

เค... ราชนิกุลกาวีเรสที่ตอนแรกจะต่อยกะพี่วิลกู ตอนนี้ต้องร่วมมือกันเพราะมอนบุก (กูยกต่อละกัน)

“เอาล่ะเจ้าเตี้ยรีบไปกันเถอะ(กาวีเรสเรียกพี่วิลเจ้าเตี้ยนะ) ไปสร้างความหวังด้วยตัวของพวกเรากัน” กาวีเรสพูดจบวิลก็พยักหน้าพร้อมกับวิ่งไปรวมกลุ่มกับพวกอัศวินเพื่อจะออกไปด้านนอกกำแพง

“นี่ข้ายังไม่ตายงั้นหรอ” (ตัดฉากอีกละ ไวสัด)

มารีน่าพูดขึ้นพร้อมกับลุกนั้ง เธอคว้าดาบของเธอที่แตกหักไปเกือบครึ่งขึ้นมาจากพื้น เธอพยายามมองไปรอบๆที่มีแต่ความมืดจนกระทั้งเธอพบบางอย่าง ดวงตาขนาดใหญ่สีแดงที่เคลื่อนไหวผ่านเงามืด มันจ้องมองมายังมารีน่า (น้องมารีน่ากูเจอไรวะ?)

“น่าสนใจ อุทิศตนเองเพื่อจะรับพลังจากทาซูอย่างงั้นหรอ แต่แค่นี้ยังไม่พอ…ไม่พอหรอกที่จะฆ่าข้าได้”

เสียงหนึ่งดังขึ้นมารีน่าไม่แนใจนักว่าเสียงนั้นคืออะไร แต่เธอแน่ใจว่าสิ่งนั้นไม่ใช่คนอย่างแน่นอน (คนอ่านก็งงไปด้วย มันคืออะไรไม่พอ แม่งจู่ๆก็มา)

“แกเป็นตัวอะไร” มารีน่าพูดออกไปพร้อมกับจับดาบในมือแน่น

“ข้าคือผู้กลืนกินแสงสว่างและเจ้าก็จะเป็นคนต่อไป”
(อ่อ... Light Sucker)

(มีต่อ)

233 Nameless Fanboi Posted ID:iHfNuRL6O

>>232 (ต่อนะ)

สิ้นเสียงของเจ้าสิ่งนั้นมันก็ได้ปรากฏตัวขึ้น คมเขียวสีขาวขนาดใหญ่พุ่งเข้าถากชุดเกราะของหญิงสาวจนขาดหลุยราวกับผ้า(โฆษณาแฝงปะวะมียี่ห้อหลุย) ร่างสีดำขนาดใหญ่กว่าสี่สิบเมตรได้ปรากฏตรงหน้าเธอ ในพริบตานั้นความกลัวได้เข้าปกคลุมร่างกายของเธอจนทำให้เธอไม่สามารถขยับไปไหนได้ราวกับโดนสะกด (เค... น้องมารีน่ากูโดนแน่ๆ)

“เมื่อแสงสุดท้ายหายไปความมืดก็จะกลืนกินทุกสิ่ง” เจ้ามังกรยักษ์พูดจบมันก็ได้พุ่งตรงเข้าขย่ำร่างของมารีน่าทันที (เหยดๆๆ ลุ้น)

“ตื่นตัวกันไว้ไม่งั้นพวกเราได้ตายแน่”

กาวีเรสพูดจบก็ได้กำหอกด้วยสองมืออย่างแน่น ทหารนับสิบได้เดินไปตามความมืดโดยมีวิลเดินอยู่ตรงกลาง (อ้าว!!! ไอ้สัดตัดฉากมากาวีเรสละ?)

“อ๊ากกกกกกก” (ใครร้องวะ!!!?)

“!?” (กูก็งงด้วย)

เสียงกรีดร้องได้ดังขึ้นพร้อมกับการเปิดฉากโจมตีของเหล่ามังกรที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด วิลได้กางโล่ออกพร้อมกับออกวิ่ง ในตอนนั้นได้มีมังกรตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาทางด้านหน้าของเขา วิลได้ใช้โล่ปิดด้านหน้าของตนพร้อมกับใช้มันกระแทกมังกรจนปลิวซึ่งมันน่าทึ่งมากสำหรับโล่ที่มีน้ำหนักเบาและใช้โดยคนที่แรงน้อยอย่างเขา ท่ามกลางความวุ่นวายกาวีเรสได้พุ่งเข้ามาโดยมีร่างของมังกรติดมากับปลายหอกของเขาด้วย (กูขออ่านอีกสักสามรอบ จะพยายามนึกภาพตาม)

“เจ้ารีบตามข้ามาเร็ว!” กาวีเรสพูดออกไปด้วยสีหน้าจริงจังพร้อมกับชักดาบออกมา

“แล้วพวกเขาล่ะ” วิลถามถึงทหารที่เหลือที่กำลังสู้อยู่กับพวกมังกรอยู่ (นั่นแน่ มีห่วงคนอื่น)

“ทิ้งเอาไว้นี้ล่ะ เพื่อชัยชนะจำเป็นต้องมีการเสียสละ” (สัดพูดแบบนี้มึงควรมาเป็นนายก)

กาวีเรสพูดจบวิลก็วิ่งตามเขาไปทันทีโดยที่ไม่หันกลับไปมองพวกเขา พวกเราสองคนได้วิ่งตามรอยเลือดที่เป็นรูปเท้าซึ่งน่าจะเป็นมารีน่าไม่ผิดแน่นอน

“เจ้าเห็นอะไรนั้นไหม” กาวีเรสพูดขึ้นพร้อมกับหรี่ตามองอะไรบ้างอย่าง

“ไม่ครับคุณเห็นอะไร” (แล้วกูล่ะ... กูก็อยากรู้นะมึง!)

วิลถามออกไปในขณะที่ตาก็พยายามมองไปทางเดียวกับเขา แต่ทว่าเขาก็ไม่ได้ตอบอะไรพร้อมกับเร่งความเร็ววิ่งหายไป วิลที่วิ่งตามมาที่หลังก็ได้มาพบกับกาวีเรสที่กำลังก้มลงไปค่อยๆประคองร่างที่แน่นิ่งของมารีน่าขึ้นมาจากพื้น

“เธอตายแล้วงั้นหรอ!” (เดี๋ยวๆพี่วิล มึงนักวิทยาศาสตร์นะ ถามงี้ได้ไง?)

วิลพูดออกไปด้วยความตกใจพร้อมกับแสดงใบหน้าที่สิ้นหวังออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว แต่ในขณะนั้นท้องฟ้าก็ได้มีแสงสว่างปรากฏขึ้นอีกครั้งเส้นแสงจำนวนมากได้มากได้มารวมตัวกันพร้อมกับไอริซที่ปรากฏตัวมานั้งลงตรงข้างๆของมารีน่า (สรุปมันชื่อไอริซนะ) เขาเอื่อมมือไปจับมือของหญิงสาวเบาๆพร้อมกับร่างกายของเธอได้เรืองแสงออกมา บาดแผลค่อยสมานตัวอย่างรวดเร็วจนหายสนิท

“คุณทำมันได้ยังไง” วิลได้ถามมันออกไปโดยที่ไม่สนใจสถานการณ์รอบๆ (พี่วิลกูยังพยายามตกใจอยู่)

“ข้าทำมันได้เพราะศาสตร์ที่ตัวข้าได้เรียนมานั้นเหนือกว่าพวกท่านผู้คนในปัจจุบันนั้นได้ขาดการส่งต่ออะไรหลายๆอย่างจากยุคก่อนจนทำให้อนาตคจะมีแต่การถดถอย พอใจสำหรับคำตอบที่ท่านต้องการหรือยัง?” (ไอ้ไอริซพี่วิลกูเป็นนักวิทยาศาสตร์นะมึง)

ไอริซพูดจบเขาก็ได้สลายหายไปเป็นแสงอีกครั้งพร้อมกับมารีน่าที่ค่อยๆลุกขึ้นมา (อ้าวไปซะละ)

“พวกเราจะทำยังไงต่อดี ข้าเอาชนะปีศาจแบบนั้นไม่ได้หรอก”

มารีน่าพูดออกมาด้วยสีหน้าตาที่สิ้นหวังจนทำให้ทุกคนดูสิ้นหวังตาม (กูเริ่มสิ้นหวังด้วยละกัน) แต่ท่ามกลางความสิ้นหวังนั้นวิลก็ได้หยิบยื่นโอกาสครั้งใหม่ให้กับเธอ ดาบยาวที่อยู่ในฝักดาบที่มีลวดลายเป็นแผงวงจรสีน้ำเงิน

“ดาบนี้อย่าบอกกับข้านะว่า…”

“ใช่..แล้วเธอควรที่จะรีบใช้มันด้วย”

วิลพูดจบสายตาของมารีน่าก็ได้ถูกเติมเต็มด้วยความหวังอีกครั้ง เธอรับดาบจากวิลพร้อมกับลุกขึ้นยื่นอีกครั้ง (เค นางเอกกูสู้โว้ย!)

“เอาล่ะ พวกเราไปนำแสงสว่างกลับมากันเถอะ”

มารีน่าพูดจบเธอก็ได้ชักดาบสีทองออกมาจากฝักของมัน แสงสว่างได้กลับมาอีกครั้งมันได้กระจายออกมาจนทำให้พื่นที่รอบๆทั้งสามคนสว่างราวกับอยู่ทามกลางดวงตะวัน

สู้กันวุ่นวายปราบศัตรูได้ มารีน่าจะส่งพี่วิลกลับบ้าน

จบตอน 4 ละยังพอไหว แต่ตอน 5-6 เริ่มไม่รู้เรื่องละ (มีต่อ)

234 Nameless Fanboi Posted ID:e1xuta1QO

เคเมื่อกี้จบตอน 4 ดาบแห่งแสง (นางเอกกูปราบตัวดูดแสงได้ กำลังจะส่งพี่วิลกลับบ้านนะ)

ตอน 5: การต้อนรับของผู้แปลกหน้า
ตอน 6: หอบันทึกแห่งอีสมาราล

กูจะรวบจริงๆละนะมึง

ตอนที่ห้ามีคนอ่านหลายคนบอกว่าไม่รู้เรื่อง แต่ตามที่กูเดานะ พี่วิลกูกะน้องมารีน่าหลุดมาอีกยุค (หรือมิติวะ?) เป็นตะวันออกกลางละทีนี้ (กูพยายามไม่งงนะ) แต่มีตัวละครใหม่มาอีกละ เชื่อมต่อแค่ว่า... อ่อนั่นดาบจากยุคมืดนี่นา

กูแนะนำพี่วิล นาฬิกามึงควรบอกยุคบอกมิติบอกสมัยว่ะ แล้วก็โทรหาออโรร่าไวหน่อยก็ดี (นี่แม่งโทรไปตอนที่ 6 คุยเรื่องแอบแดกคุ้กกี้... กูจะบ้าตาย) อธิบายคนอ่านหน่อย หรืออะไรก็ได้พี่วิลกูก็นักวิทยาศาสตร์สร้างไทม์แมชีนนะมึง

ตอนห้ากะหกไม่มีอะไรมากเปลี่ยนเซ็ตติ้ง พระเอกนางเอกโดนจับ มีตัวละครชื่อ จาราล แล้วก็ ซาลาฟีม ปราการชื่อยูเมซาล ตามชื่อตอน หอบันทึกอีสมาราล บลาๆ

สรุปพี่วิลกูต้องรวบรวมพลังงานต่อไปเพื่อเปลี่ยนยุค

จบตอน 6

ลงชื่อเซฮุน เนื้อหาเริ่มงงละ เหลืออีก 9 ตอน

235 Nameless Fanboi Posted ID:K1OfMA02v

>>234 เปลี่ยนมิติ กูนี้นึกถึงสึบาสะเลย(ของแคลมป์)

236 Nameless Fanboi Posted ID:2aWKWqTbm

ตกลงชื่อไอริส ไอซิส หรือไอริซ

237 Nameless Fanboi Posted ID:wKc8k+vV+

>>236 อ่านไปนานๆ อาจเจอไอสัส

238 Nameless Fanboi Posted ID:IjFb75CAQ

https://writer.dek-d.com/mintomin/writer/view.php?id=1608885
เรื่องนี้มีใครเคยอ่านมั้ย สนุกหรือเปล่า
เห็นแนวเรื่องมันน่าสนใจดีเสียแต่ว่าเปิดให้ทดลองอ่านนิดเดียวเองเลยกลัวว่าซื้อแล้วจะผิดหวัง

239 Nameless Fanboi Posted ID:GxOK+3.DC

>>235 กัปตันสึบาสะ?

240 Nameless Fanboi Posted ID:sWhZ40w04

>>239 สึบาสะ สงครามเทพข้ามมิติ นำตัวละครทุกเรื่องของแคลมป์มารวมไว้ในเรื่องเดียวกัน

241 Nameless Fanboi Posted ID:GxOK+3.DC

>>240 เออ ลืมไป กูดองตั้งแต่ซีซั่น 1 ตอน 7 วะ เดินเรื่อยเปื่อยมาก

242 Nameless Fanboi Posted ID:qkqqsHkli

หวัดดีเซฮุนเอง มาต่อ ตอน 7

https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1566978&chapter=7

ชื่อตอน: มีดพรากชีวิต

อ่านเท้าควยด้วยเดี๋ยวจะงง

พระเอก 'วิลสัน' เรียกสั้นๆ 'วิล' ประดิษฐ์ไทม์แมชีนได้นะ เครื่องมันก็พลาดพามาโลกแฟนตาซี โชคดีมีนาฬิกาติดต่อกับเพื่อนชื่อออโรร่าที่ยุคเดิมได้ มาที่นี่ก็เจออัศวินสาวชื่อมารีน่านะจ้ะ

ล่าสุดปราบตัวดูดแสงได้ วิลกะมารีน่า ทั้งคู่หลุดมายุคตะวันออกกลาง เจอตัวละครชื่อ จาราล (แล้วน้องมารีน่าน้องเขาจะเป็นอัศวินแห่งแสงละนะมึง ได้มาไอเท็มคือดาบ)

ถ้ากูเข้าใจไม่ผิดที่นี่กำลังมีสงครามระหว่างความเชื่อ จากตอนที่หกชื่อ หอบันทึกแห่งอีสมาราล คือพี่วิลกูแยกกะมารีน่าไปที่หอนั่นกะจาราล (ไปอ่านหนังสือแล้วก็พูดภาษาบ้านเขาได้ด้วย พี่วิลกูแกรี่สตูให้ดูนะจ้ะ)

จะเริ่มสับ ณ บัดนี้

ลงชื่อ เซฮุน กูหวังว่าแม่งจะได้อะไรจากการสับของกูบ้างนะ

243 Nameless Fanboi Posted ID:2aWKWqTbm

>>241 ตั้งแต่ตอนที่เท่าไหร่ไม่รู้ของซี2เป็นต้นไปคือฟิลเลอร์ ไม่ต้องดูก็ได้ อ่านมังงะจะละเอียดก่าแต่ก็งงกว่า ซับซ้อนกว่าเช่นกัน จากใสๆ กลายเป็นดราม่าเฉ้ย 555

244 Nameless Fanboi Posted ID:tDxN4YuyR

>>242 เริ่มตอน 7 กูยกทั้งตอนเลยนะ กูจะ Show don't Tell

ท่ามกลางความเงียบอันแสนยาวนานวิลยังคงเปิดอ่านหนังสือเล่มแล้วเล่มเล่า แต่ทว่ายังมีหนังสือหลายเล่มที่เขาอ่านและไม่สามารถทำความเข้าใจกับมันได้ วิลได้วางหนังสือเล่มที่อ่านลงพร้อมกับหันไปคุยกับจาราลที่นอนอยู่ข้างๆ (นี่ให้จิ้นวายใช่ไหม?)

“นี่คุณจาราลคุณมีความฝันที่อยากจะทำไหม” วิลพูดจบจาราลก็ค่อยลืมตาขึ้นมาก่อนจะตอบคำถามนั้น (ชายสองคนนอนข้างกันถามเรื่องความฝัน... เสร็จพี่วิลกู ต้องได้แน่ๆ)

“ข้าไม่มีสิ่งแบบนั้นหรอก ตัวข้านั้นถูกเลี้ยงดูและเติบโตมาในภาคีที่คอยสอนข้าแค่การต่อสู้ พวกเขาได้แต่ปลูกฝังความเชื่อที่ว่ามนุษย์เป็นต้นกำเนิดมิใช้พระเจ้า ดังนั้นตัวข้าที่เกิดมาเพื่อต่อสู้ไม่มีทางได้มีความฝันแบบเจ้าหรอก” (อ้าวพี่จามียัดข้อมูลเบาๆ)

จาราลพูดจบก็ได้มีสีหน้าที่เคร่งเครียดพร้อมกับหลับตาลง ในตอนนี้ตัวเขามีคำถามเกิดขึ้นเหตุผลของสงครามคือความเชื่อที่ขัดแย้ง แล้วมันจะจบลงไหมถ้าหากเรารู้ว่าพระเจ้าหรือมนุษย์ที่สร้างโลก(ทำไมกูเครียดๆ)

“นี่วิลข้าอาจจะไม่มีความฝัน แต่ข้าก็มีความปราถนาที่อยากจะรู้บางสิ่ง ถ้าเจ้ามาเดินทางข้ามเวลาได้จริงคงช่วยข้าได้แน่” (เอาแล้วๆ ช่วยอะไรมึง?)

วิลได้ฝังที่จาราลพูดเขาก็รู้ได้ทันทีถึงความต้องการนั้น ทั้งคู่ได้ล้มตัวลงนอนไปพร้อมกับตบมือเพื่อดับไฟในห้อง (เฮ้ย!!!! พี่วิล!!!)

“ข้าไม่ได้เห็นราตรีแบบนี้มานานเท่าไรแล้วนะ”

มารีน่าพูดขึ้นในขณะที่นั้งอยู่บนริมกำแพง (อ้าวไอ้สัดตัดฉากเฉยเลย มานี่ได้ไง!!!!!) เธอมองท้องฟ้ายามคำคืนท่เต็มไปด้วยดวงดาวด้วยใบหน้าที่เศร้ามอง ในตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกเหงาและเปล่าเปลี่ยว สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ที่ๆเธอควรจะอยู่

“วิล ข้าควรจะตามหาเจ้าแล้วซินะ” (ดีนะน้องเขาคุยกะตัวเองกูก็พลอยเข้าใจไปด้วย)

หญิงสาวพูดจบเธอก็กระโดดลงมามาจากกำแพงและเดินตรงไปหาซาลาฟีมเพื่อจะไปบอกเขาว่าจะออกเดินทาง (รีบด้วย) แต่เมื่อมารีน่าเดินลงมาถึงลานกว้างเธอก็ได้พบซาลาฟีมกำลังพูดคุยกับหญิงสาวผมสีบรอนด์เงิน ดวงตาสีแดง สวมชุดเกราะหนักสีดำ ในระหว่างที่มารีน่ากำลังมองพวกเขาอยู่นั้นหญิงสาวในเกราะสีดำก็ได้หันมาทางเธอ (อ้าวใครวะ?)

“จับหล่อนเอาไว้” (เฮ้ย!? ขุ่นพระ! ตกใจ!)

ทันทีที่หญิงสาวคนนั้นพูดจบมารีน่าก็วิ่งไปตามริมกำแพงเพื่อจะไปยังประตู แต่ทว่าหญิงสาวคนนั้นก็ได้วิ่งตามเธอมาด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ (แสดงว่าเร็วมาก) มารีน่าหันกลับไปมองก็ได้พบว่าผู้หญิงคนนั้นใส่รองเท้าโลหะที่สามารถเปลี่ยนลมรอบเป็นแรงดันที่ทำให้เธอสามารถวิ่งไปได้เร็วขึ้น (เชี่ย... มองปุ๊ปรู้ปั๊ป)

“เอาล่ะท่านอัศวินแห่งแสง อย่าทำให้ข้าผิดหวังล่ะ” (แน่ะมีบอกใบ้)

เมื่อหล่อนพูดจบเธอก็ตีลังกาพร้อมกับใช้ท้าวถีบมารีน่าจนกรเด็นทะลุประตูของกำแพงปราการไป (อ้าวใช้ท้าวถีบน้องมารีน่ากูแรงด้วย)

“แค่กๆ เจ้ามาโจมตีข้าทำไม” (กูก็สงสัย...)

มารีน่าพูดออกไปพร้อมกับลุกขึ้นมามองไปทางหญิงสาวในชุดเกราะที่เดินออกมาพร้อมกับหอกยาวสีดำในมือ มารีน่าไม่รอช้าเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีอาวุธเธอจึงชักดาบออกมาพร้อมกับตั่งท่าเตรียมสู้ (ควรชักนานแล้วนะ... อัศวินจริงปะเนี่ย?)

“งั้นข้าก็ไม่เกรงใจแล้วล่ะนะ” (โอ๊ยน้องมารีน่า มึงจะเกรงใจเพื่อ!? เขาถีบมึงกระเด็นขนาดนี้!)

“น่าผิดหวัง ข้าไม่น่าหลงไหลในตำนานของท่านเลย น่าผิดหวังจริงๆ” (นั่นแหน่ะ มีหยอด แสดงว่าย้อนยุค มีตำนานมารีน่าอะไรงี้ใช่ไหม แต่มึงเล่นแทรกให้สงสัยขึ้นไปอีกจากที่กูกำลังงงฉากวายพี่วิล มาตรงนี้จู่ๆมึงโผล่ แล้วมาบอกใบ้อีก มึนสัดๆ)

(มีต่อ)

245 Nameless Fanboi Posted ID:tDxN4YuyR

>>244 ต่อนะ

หญิงสาวพูดขึ้นด้วยใบหน้าผิดหวัง เมื่อจองมองไปที่มารีน่าที่กำลังใช้มือกดแผลที่ท้องพร้อมกับแสดงสีหน้าที่ดูไม่ค่อยสู้ดี (อ้าว มีแผลหรอ... แล้วทำมีมารยาทจะไม่เกรงใจเมื่อกี้...)

“ถ้าเจ้าทำได้จริง ข้าก็ยินดีที่จะเสี่ยง” (หะ?)

“ผมทำได้แน่ ถ้าคุณพาผมออกไปจากที่นี้ได้” (เดี๋ยวๆ มึงตัดมาพี่วิลเฉยเลย? เฮ้ยสัด แปรปรวนเหี้ยๆ)

จาราลพูดกับวิลโดยที่ทั้งสองคนก็ได้วิ่งออกมาจากทางเชื่อมหอบันทึกฮีลมาราลเข้าสู่ห้องโถงของตัวปราการโดยที่เป้าหมายของพวกเขาคือการหลบหนีออกจากสถานที่แห่งนี้ ทันทีที่พวกเขาเข้าสู่ห้องโถงนักรบของภาคีนับสิบก็ได้ปรากฏตัวออกมาราวกับพวกเขารอทั้งคู่อยู่แล้ว จาราลคว้าเอามีดพกออกมาแล้วพุ่งเข้าสู้กับคนพวกนั้น การต่อสู้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วคมมีดปะทะกันเพียงไม่กี่ครั้งพร้อมกับร่างนับสิบที่ลงไปนอนแน่นิ่งจมกองเลือดกับพื้น จาราลได้ต่อสู้กับคนพวกนั้นจนถูกบีบให้วิลและจาราลเขาไปในห้องๆหนึ่ง (นี่คือได้กับพี่วิลแล้วคึก ไรงี้ปะ? พี่จากูโชว์ของ)

“บ้าเอ้ยๆ เป็นแบบนี้คงไม่ได้ไปไหนแน่” (พี่วิลบ่น)

“ใจเย็นๆ วิลห้องนี้เป็นคลังสมบัติพวกนั้นเข้ามาไม่ได้ง่ายๆหรอก” (อ๋อ... แล้วก็ไม่บอก)

จาราลพูดจบทั้งสองคนก็ออกจากประตูกลสีทองตรงหน้าและเริ่มมองหาสึ่งที่สามารถช่วยพวกเขาได้ ภายในห้องนี้มีเครื่องประดับที่ทำจากทองคำและอัญมณีจำนวนมาก แต่ที่ถูกวางเด่นจนอดมองไม่ได้ก็คงจะเป็นมีดเล่มหนึ่งที่ปอกประดับไปด้วยอัญมณีสีมรกต

“นี่มันมีดมาสด่า มีดในตำนานที่ว่ามันสามารถสลายได้ทุกสิ่ง” จาราลพูดขึ้นพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ๆมัน เขากำลังจะเอื่อมมือไปจับมันที่วางอยู่บนแท่น (อธิบายข้อมูลปุ๊ปจะหยิบปั๊ป)

“พอแค่นั้นแหละครับถ้ายังไม่อยากให้เขาตาย”

เสียงของใครบางคนดังขึ้นมาจากด้านหลังของจาราลและเมื่อเขาหันกลับไปก็ได้พบกับชายผมสีทอง ดวงตาสีฟ้าเข้ม สวมชุดคลุมและผ้าปิดปากสีขาวกำลังยืนอยู่ข้างหลังวิลพร้อมกับเอามีดจ่อไปที่คอของเขา (ใครโผล่มาอีกละ!!! ไหนบอกห้องห้องสมบัติเข้ามาไม่ได้ไง?)

“เจ้าเป็นใคร ทำไมถึงแอบเข้ามาในปราการแห่งนี้ได้” จาราลพูดออกไปด้วยความสงสัยเพราะปราการแห่งนี้เข้าออกทางเดียวและมีคนจับตามองตลอดเวลา (เชี่ยอธิบายละเอียดยิบ)

“ผมเข้ามายังไงไม่สำคัญ แต่พวกคุณกับเขาจะไม่มีทางได้ไปไหนเด็ดขาด” (โอยยย มึงมาทำให้กูงงเพิ่มสินะ ฝั่งน้องมารีน่ากูก็งง ตรงนี้ก็งง)

ชายหนุ่มคนนั้นพูดจบเขาก็ผลักตัววิลออกแล้วปามีดที่ถือในมือออกไปใส่จาราล แต่ทว่ามีดเล่มนั้นก็ถูกคว้าเอาไว้ได้ (เหยดพี่จากูเก่งว่ะ)

“มีดนี้มันอะไร ทำไมมันถึงได้บอบบางแบบนี้” (มึงถามใคร? กูว่ามันไม่ตอบนะ...)

จาราลพูดจบวิลก็ได้โยนพลอยเม็ดหนึ่งไปใส่หัวเขาเมื่อเห็นว่าชายคนนั้นคว้าเอาอาวุธบางอย่างที่ไม่น่าจะมีในยุคนี้ออกมา เสียงของปืนพกสีดำได้ดังขึ้นพร้อมกับกระสุนที่วิ่งออกไปด้วยความเร็วสูงได้พุ่งเข้าหาจาราล แต่ทว่าเขาก็ได้เอียวตัวหลบแล้วคว้ามีดมาสด่ามาแล้ววิ่งตรงหาชายคนนั้นทันที เสียงปืนได้ดังอย่างต่อเนื่อง แต่กระสุนก็ได้พลาดเกือบทั้งหมด จาราลได้วิ่งหลบพร้อมกับคว้าเอาสายลวดที่มีปลายเหมือนลูกศรออกมาแล้วปามันออกไปปักบนเพดานเพื่อทำให้เขาสามารถเคลื่อนไหวในแนวนอนและระนาบอื่นๆของพื้นได้ (ขยี้ตาแป๊ป... แอ็คชั่นเพียบ... ขออ่านแล้วนึกภาพตามก่อน)

“ไม่เลวครับงั้นทางนี้คงต้องเอาจริงบางแล้ว” (เชี่ยมีออมมือ??)

ชายปริศนาพูดจบเขาก็ได้หมุนที่แหวนสีน้ำเงินทีนิ้วพร้อมกับทำให้มีดาบยาวสีเงินปรากฏออกมา จาราลที่พุ่งเข้ามาจากด้านบนก็ได้ถูกดาบเล่มนั้นฟันจนมีดในมือแตกออก ในช่วงวินาทีนั้นจาราลมีแค่ทางเลือกเดียวคือการดึงมีดมาสด่าออกมา แต่ทันทีที่เขาดึงออกมาก็เท่ากับเขาได้ทรยศภาคีนี้แล้ว จาราลหลับตาลงพร้อมกับดึงมีดสั้นเล่มนั้นออกมา แสงสีฟ้าพร้อมกับอักษรแปลกตาจำนวนมากได้ปรากฏออกมารอบๆมีดและเมื่อมันได้สัมผัสกับดาบของชายปริศนาดาบของเขาก็สลายไปกลายเป็นตัวอักษร (หะ?)

“บ้าเอ๋ยๆ ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ได้” (กูก็อยากรู้!!!)

ชายปริศนาพูดจบเขาก็ได้กดลงไปที่แหวนในมือขวาและก็หายไปในอากาศทันทีโดยทึ้งไว้แต่แสงสีฟ้า (อ้าวไปซะละ)

“นั้นไม่จริงใช่ไหม แสงนั้นมาจากเครื่องข้ามเวลาไม่ผิดแน่”

วิลที่นอนดูอยู่ได้พูดออกไปด้วยความตกใจเมื่อเห็นแสงนั้น ในตอนนี้ในหัวของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยและความกังวลมากมาย (อ่อ... มีพวกย้อนมาได้เหมือนวิล... พี่วิลมึงไม่ต้องงงนะ กูงงกว่ามึงอี๊กกกก)

ลงชื่อ เซฮุน กูขอพักแป๊ป

246 Nameless Fanboi Posted ID:tDxN4YuyR

>>245 ตอน 8,9,10,11 กูจะรวบละนะ

247 Nameless Fanboi Posted ID:GxOK+3.DC

มึงชิบหาย ยังกะเขียนบทภาพยนตร์

248 Nameless Fanboi Posted ID:tDxN4YuyR

>>246 ต่อ ตอน 8 ชื่อตอน หลบหนี

ฉากเริ่มที่มารีน่ายังสู้กะผญผมบลอนด์ไม่จบ น้องเขาบอกจะไปหาพี่วิลให้ได้อย่ามาขวาง แล้วก็ตัดไปหาพี่วิลกับพี่จาแบบงงๆ (อีกแล้ว) สรุปว่าพี่วิลกะพี่จาหนีออกมาได้(ตามชื่อตอน) ตัดมามารีน่าแบบงงๆ สรุปได้ว่า น้องผมบลอนด์ถูกสั่งมาให้จับมารีน่าไม่อยากขัดคำสั่ง มารีน่าเลยซัดให้ บอกว่ามึงไม่ได้ขัดคำสั่งนะแต่มึงจับกูไม่ได้เอง ซัดสลบง่ายๆ

ตื่นมาแนะนำตัวกัน ฉันคือลาวีน่านะ จากปราการเทโลนาติน ยิ้มให้กันจับมือกัน แล้วมารีน่าก็สลบซะงั้น (รู้สึกจะเป็นเพื่อนกันละว่ะ)

จบตอน 8

ลงชื่อ เซฮุน กูเหลืออีก 7 ตอน

249 Nameless Fanboi Posted ID:T0Ld1S.wI

มึงดีดมากไอ้สัส ต้องจับแม่งตรวจเยี่ยวสักหน่อย

/me ปรบมือช้า ๆ

by โม่งเงี่ยน

250 Nameless Fanboi Posted ID:tDxN4YuyR

>>248 กูรวบละ

ตอน 9 อาลีซาจา พายุแห่งการหวนคืน: เล่าปมลาวีน่า แล้วก็พี่จา ว่าเป็นเจ้าชายลูกราชามาห์มุส รู้สึกดาบทองของมารีน่าจะสำคัญด้วย

ตอน10 การพบเจอกันของทั้งสอง: มีตัวละครใหม่ชื่อ หวางไฮมารักษามารีน่า (แต่เดี๋ยวคงทิ้ง) ตอนท้ายตอนมารีน่าเจอพี่วิลสักที ตอนเจอก็ซึนๆขำๆกันไป

ตอน 11 จุดจบของสงคราม: จะจบช่วงตะวันออกกลางละ สงครามความเชื่อ มีแซะความเชื่อกันนิดๆ แล้วก็จะข้ามมิติกันอีกละนะ (รอบนี้เพิ่ม จาราล พี่จาของกูมาด้วย) อธิบายเพิ่มอีกนิด เพราะแม่งซับซ้อน ถ้ากูเข้าใจไม่ผิดนะ ไอ้ชุดขาวลึกลับที่ย้อนเวลาได้มาแนะให้ย้อนไปอีก ใช้ดาบทองเติมพลังนาฬิกา ย้อนเวลาเก่าไปอีก มาตะโกนโล่มาร์สแล้วก็หนีไปได้แบบงงๆ

กูพลิกไปส่องตอนที่ 12 มาเซ็ตติ้งใหม่อีก ตัวละครใหม่มาอีก มันจะเชื่อมกับสงครามความเชื่ออะไรในยุคตะวันออกกลางไหมกูไม่แน่ใจ เดี๋ยวกูค่อยทำความเข้าใจ แต่ที่แน่ๆ

ลงชื่อ เซฮุน กูเหลืออีก 4 ตอน

251 Nameless Fanboi Posted ID:rcLwHItc6

เหมือนอ่านแล้วก็มาสรุปเรื่องย่อๆให้อ่าน นี่คือวิจารณ์​เหรอ?

252 Nameless Fanboi Posted ID:tDxN4YuyR

>>251 เออ... นี่วิธีของกูเอง... เฮ้อ... สัด กูขี้เกียจอธิบายตัวเองว่ะ เอาง่ายๆนะ

คือมีเหี้ยตัวไหนอ่าน 15 ตอนแล้ววิจารณ์ให้คะแนนได้ มันเป็นไปไม่ได้ เหมือนมึงอ่านแฮรี่เล่มแรกครึ่งเล่มแล้วมึงรีวิว มันก็ไม่ถูกใช่ไหมล่ะ? มันควรครบทุกอย่าง (นิยายเรื่องนี้มี 283 ตอน นะทั้งหมด ซึ่งกูไม่อ่านหมดอยู่แล้ว)

คือเดี๋ยวกูอ่านครบ 15 ตอน กูจะให้คะแนน นี่คือกูอยู่ในกระบวนการ ทำความเข้าใจเนื้อหา กับคนเขียนอยู่ กูไปส่องตอนท้ายๆมาว่าอะไรเป็นอะไรประกอบไป

อีกอย่างคนเขียนมันมาอ่านแล้วไม่เห็นทักเหี้ยอะไรกูนะ แต่คือมึงสงสัยก็ไม่ผิดหรอก เพราะกูยังไม่ได้วิจารณ์เหี้ยอะไรเลย กูให้คะแนนแล้วก็ยังนี่

ลงชื่อ เซฮุน กูพยายามจะไม่เป็นแบบมือไม่พายจะเอาส้นตีนราน้ำนะจ้ะ

253 Nameless Fanboi Posted ID:tDxN4YuyR

>>251 อ่อลืมไป คือกูสรุปได้ก็คือกูเข้าใจเนื้อหานะ เดี๋ยวกูรู้ว่ามันเหี้ยตรงไหน ดีตรงไหน กูจะบอกทีเดียวตอนจบ (ช่วงให้คะแนน)

ลงชื่อ เซฮุน บัวแม่งมีสี่เหล่าจริงๆ

254 Nameless Fanboi Posted ID:tDxN4YuyR

>>251 อ่อลืมอีกอย่าง คำถามมึงแม่งโง่มากมาย ตวายถึก ultimate level 20

"เหมือนอ่านแล้วก็มาสรุปเรื่องย่อๆให้อ่าน นี่คือวิจารณ์​เหรอ?"

ก็ไม่ใช่ไง กูยังไม่ให้คะแนน กูแค่อ่านทำตวามเข้าใจ ย่อสรุป บลาๆ

ลงชื่อ เซฮุน ไม่มีคำถามใดคือคำถามโง่ๆ ท่องไว้ๆ

255 Nameless Fanboi Posted ID:tDxN4YuyR

>>251 อ่อเหี้ยเอ๊ย! ลืมบอกไปอีกอย่าง กูแค่ขี้เกียจอธิบายตัวเองนะ ไม่ได้โกรธอะไรกะที่มึงถาม

ลงชื่อ เซฮุน ถามมาได้โง่ๆ

256 Nameless Fanboi Posted ID:tDxN4YuyR

>>251 อ้าว เย็ดแม่ ลืมไปอีกอย่าง ไอ้เจ้าของเรื่องมันหายไปไหนวะ

ลงชื่อ เซฮุน สงสัยกูจะดีดจริงๆ

257 Nameless Fanboi Posted ID:/9IEAG.Oa

>>256 ผมเจ้าของนิยายเองนะครับ ตามอ่านอยู่ครับคุณเซฮุน ผมไม่มีปัญหาอะไรกับการสับนิยายของคุณเลยครับและพอรู้คราวๆ แล้วว่าตัวเองมีปัญหาในการตัดฉากเร็ว จะรออ่านตอนต่อไปนะครับ

258 Nameless Fanboi Posted ID:tDxN4YuyR

>>257 เค

ลงชื่อ เซฮุน กูพักแป๊ป

259 Nameless Fanboi Posted ID:GxOK+3.DC

อ่านสองร้อนยกว่าตอน สงสัยต้องใช้เว่าอ่าน 6 เดือน

260 Nameless Fanboi Posted ID:2PKy.ajNy

>>224
ตอนที่ 3
สองเดือนต่อมา เจ๊ลิสจะต้องไปสอบเลื่อนเป็นปีสอง ส่วนน้องแชลล์ สอบเข้าปีหนึ่ง ตอนนี้กูก็เริ่มงงๆ กับอายุและระบบชั้นเรียนในโลกนี้แล้วหว่ะ คราวนี้เจ๊ลิสก็เค้นความจำของฟาร์ออกมา ห้องเรียนมี 5 ห้อง sabc เหมือนทั่วๆ ไปแต่....แม่เย็ดห้อง S คือห้องรวมหัวกระทิ 40 คน ! เรียงตามผลคะแนนสอบตั้งแต่ 1 ถึง 40 แล้วแม่งต่างจากห้อง A ปกติตรงไหนวะ คือตามความเข้าใจของกู หัวกระทิคือคนฉลาดและมีอะไรที่พิเศษกว่าคนฉลาดธรรมดา แต่นี่มัน...
เอาล่ะๆ ก่อนเจ๊ลิสจะไปสอบ เจ๊ลิสก็บรรยายว่าพวกคนใช้ประหลาดใจที่ฟาร์หรือเจ๊ลิสเปลี่ยนไป ไม่หัวร้อนง่ายเหมือนเดิม เจ๊ลิสก็หัวเสียนิดหน่อยว่าตัวเองคืออลิส ไม่ใช่ ฟาร์ จะเหมือนกันได้ไง แต่ก็ไม่ได้พูดไปนะ เดี๋ยวจะโดนจับไปหาหมอผี แต่ตรงนี้แหละ
"ขืนพูดออกไปโดนจับส่งหมอผีเป็นแน่ (อลิสจ๊ะ โลกนี้ไม่มีหมอผีหรอกน่ะ//ไรท์)"
ครับ...คนเขียนมาออกความเห็นตัวเองกลางอากาศ ซึ่งกูไม่ชอบเลยนะเอาตรงๆ แถมตรงนี้ที่ไรท์มันบอก โลกเกมของเจ๊ลิสเนี่ยไม่มีเนโครแมนเซอร์ ผู้ใช้คนตาย/วิญญาณ
จบที่ไรท์ออกความเห็น เจ๊ลิสก็ยอตัวเองว่าพูดน้อยและเย็นชามาก ซึ่งกูว่ามึงไม่เย็นชาแล้ว มึงมันแค่พูดน้อยคิดเยอะเฉยๆ ไม่ใช่เย็นชา ไม่พอ ยังบรรยายต่อว่า พี่คิวของพวกเราหวงเจ๊ลิสมากกว่าแต่ก่อนอีก....แต่พี่คิวโครตน่าสงสาร ผ่านมาจนตอน 3 ก็มีค่าแค่ในบทบรรยาย บทพูดก็ไม่มีแม้แต่บรรทัดเดียว...
แต่ที่สำคัญสุดคือ เจ๊ลิสถอนหมั้นกับเจ้าชายแล้ว เย้! เลยกลายเป็น Talk of the town เจ๊ลิสดีใจจนวิ่งไปกรี๊ดกร๊าดเบาๆในห้องตัวเอง [โครตเย็นชาเลยมึง] คราวนี้ พอราชา + เจ้าชายจะขอพบ ก็ปฏิเสธ แล้วบอกใครจะไปอยากเจอ อ่านหนังสือดีกว่า ... 1 กระทงแล้วนะ ไม่รู้ว่าปฏิเสธคำร้องขอของกษัตริย์ถือเป็นหมิ่นเบื้องสูงด้วยไหม แต่ที่แน่ๆ ถ้าเป็นยุคกลาง ตระกูลเจ๊ลิสคงโดนราชา + กองทัพล้างบางทั้งตระกูลตั้งแต่ยกเลิกการหมั้นแล้วมั้ง...
วันต่อมา เจ๊ลิสไปสอบเลื่อนชั้น ส่วนน้องแชลล์สอบเข้าเรียน ทั้งสองคนขึ้น "รถซีลีมูน" ไปสอบ เจ๊ลิสโดนน้องแชลล์งอนที่เจ๊ลิสตื่นสายแต่เสือกบอกน้องแชลล์ว่าอย่าตื่นสาย แต่ที่ประหลาดคือ...ชุด
ไปสอบทั้งที เจ๊ลิสเต็มที่ เสื้อครอปเอวลอย เกงยีนส์ขาสั้น มัดผมลวกๆ ใส่ที่คาดผมลายจุดดำ มีภาพประกอบด้วย... คือ เอ่อ...บอกกูทีว่าเจ๊ลิสไปสอบโรงเรียนขุนนางใช่ไหม ขนาดเด็ก กศน.ไปสอบยังไม่แต่งขาสั้นเอวลอยไปเลยนะ....
จากบ้านเจ๊ลิสถึงโรงเรียนใช้เวลา 20 นาทีโดยประมาณ ไปถึงก็เห็นป้ายโรงเรียนเขียนด้วยตัวอังกฤษใหญ่ๆ แล้วเจ๊ลิสก็บอกว่า ที่โลกนี้เขาใช้ภาษาไทย [แม่เจ้าโว๊ย] กัน เพราะเกมดังเลยมีหลายภาษา
พอเจ๊ลิสลงจากรถ คุณหนูคุณชายก็หยุดแล้วมาคุยเรื่องเจ๊ลิส แล้วเจ๊ลิสบอกว่า เข้าใจความรู้สึกของดาราเวลาอยู่ในที่สาธารณะ แต่เจ๊ครับ เจ๊ก็เป็นดารามาก่อนไม่ใช่เหรอครับ? บรรทัดสุดท้ายของย่อหน้านี้ เจ๊ลิสแกเรียกพวกคุณหนูว่าชะนีละนะ
จากนั้นเป็นบทนินทาที่เจ๊ลิสได้ยิน ไม่สำคัญอะไรนอกจากที่เหล่าคุณชายพูด กู มึง
เจ๊ลิสบอกไม่สนใจ เจ๊ลิส"ดอนท์แคร์" แต่จากนี้แหละ ของจริง

261 Nameless Fanboi Posted ID:2PKy.ajNy

>>260

"อ๊ะ คุณฟาร์สวัสดีค่ะ" นางเอกเกมเป็นฝ่ายเข้ามาทักทายก่อน คอมม้อนเซ้นต์ทั่วไป คงทักทายกลับไป แต่เจ๊ลิสไม่ เจ๊ลิสบอกน้ำเสียงนางเอกมันน่ากระโดดถีบ แล้วนักเขียนก็บอกว่ามีแต่เจ๊ลิสที่คิดแบบนั้น แต่ก็ เอ๊ย บอกตัวเองก็ด้วย และบอกว่ากูหรือคนอ่านอาจจะรู้สึกเหมือนกัน เจ๊ลิสเลยเงียบแล้วมองหน้านางเอกกับคนจีบได้ข้างๆ
คราวนี้ พอเจ๊ลิสเงียบ นางเอกก็เริ่มจะร้องไห้ เป็นกู กูก็แย่นะเว๊ย อุตสาห์ไปทักทายก่อนอย่างเป็นมิตร แต่อีสัส มึงเงียบแล้วมองกูกับหนุ่มๆ ของกู แถมมึงมีประวัติเคยไล่ตบกูด้วย เป็นกู กูน้ำตาคลอเพราะกลัวได้เหมือนกันละวะ พอนางเอกร้อง หนุ่มๆ ก็ช่วยปลอบ อันนี้ปรกติ
เจ๊ลิสถามว่า อะไร แบบหน้านิ่ง นางเอกก็บอกว่าแค่มาทักทาย แต่เจ๊ลิสก็บอกสวนกลับว่า มึงมีสิทธิ์อะไรมาเรียกชื่อกู [ย้อนไปอ่านบรรทัดท้ายๆ ตอน 2 แล้วมึงจะรู้ว่ามันแหม่งๆ] แผ่แรงกดดัน แต่เสือกบอกว่ามองนางเอกด้วยสายตาว่างเปล่า ? กอดอกด้วยนะมึง
นางเอกก็งงดิว่าอะไรเป็นเป็นอะไร เจ๊ลิสเลยบอก ...สามัญชนเยี่ยงเจ้ามีสิทธิกระไรมาเอื้อนเอ่ยนามของเราเช่นนั้น? อันตัวเราหาได้อนุญาตเจ้าไม่...
นางเอกเลยหน้ากระตุก แล้วมีแต่เจ๊ลิสคนเดียวเห็น เจ้าชายเลยเข้ามาแทรกเมื่อเห็นว่าเจ๊ลิสออกลายฟาร์ แต่เจ๊ลิสแกสวนเจ้าชายว่า มีคนสอนมารยาทมึงไหม ว่าไม่ให้ขัดระหว่างคนคุยกัน แล้วชมความปากหมาของตัวเอง ... นับตั้งแต่หักหน้าราชวงศ์ด้วยการถอนหมั้น ก็มาด่าว่าองค์ชายผู้สืบบัลลังก์ต่อหน้าปวงชน...
เจ๊ลิสเลยย้ำเตือนให้นางเอกรู้ว่าควรเรียกตัวเองว่าอะไร นางเอกก็ตอบ ค่ะ ท่านหญิง... ตอนนี้ไรท์พยายามบรรยายยัดเยียดความต่อแหลให้นางเอกนะ แต่กูว่านางไม่ได้ตอแหลอะ คือ บังคับให้กูเรียกมึงว่าท่านหญิง เป็นกู กูก็โกรธนะมึง + กับเรื่องก่อนหน้าด้วย ไม่แปลกที่จะเศร้าด้วย
" อ้อ อีกอย่าเหตุใดเธอจึงเรียกฉันว่าฟาร์กัน" เจ๊ลิสพูดแบบนี้ แล้วพูดต่อว่า เราสนิทกันหรือ นางเอกเงียบ แล้วเจ๊ลิสใส่บทบรรยายให้นางเอกดูตอแหล
[ซึ่งถ้ากูเป็นนางเอก กูคงตอบว่า เมื่อไม่กี่เดือนก่อนเห็นท่านหญิงมาไล่ตบดิฉัน ดิฉันจึงคิดว่าเรานั้นสนิทกัน ]
จากนั้นก็มีเส้นคั่น แล้วเจ๊ลิสคนงามก็ออกมาอธิบายว่า "การเรียนในเกมส์นี้ี้ไม่เหมือนโลกนี้" 10 ปีมีพลังเวท เริ่มเรียนตอนอายุ 12 เป็นเวลา 3 ปี เหมือนเรียน ม.ต้น หลังจากนั้นก็จะเรียนต่อปีที่ 4 ง่ายๆ ก็ขึ้น ม.ปลาย แต่แค่เรียน 4 ปี เฉยๆ พวกเรียนถึงปีที่ 4 จะถูกเรียกว่าปี 1 แล้วเจ๊ลิสกำลังจะขึ้นปีสอง =
พลังตื่น 10 ปี 12 ปีเรียน + 3 ปี= 15 ปีเจ๊ลิสขึ้นปี 2 แสดงว่าเจ๊ลิสอายุ 17 ปี แต่ในบทแนะนำตัวละครมึงเขียน 15 มึงจะเอายังไงกันแน่วะไรท์!!?

ตอน 3 จบแค่นี้แหละ ตอนนี้กูเริ่มคิดแล้วว่าจะจบการสับไว้ที่ตอนที่เท่าไหร่ดี หรือกูควรจะเอาถึงตอนที่ 9 ที่พึ่งอัพเมื่อวานเลยดีวะ
ลงนาม โม่งมารี

262 Nameless Fanboi Posted ID:T0Ld1S.wI

>>261 อ่านไปถึง 9 เลยก็ได้นะ รออ่าน ๆ

263 Nameless Fanboi Posted ID:jSmlEHxVz

>>261 555โครตถูกใจกู หลายเรื่องเลย ทำงั้นผู้ดันเสือกสนใจด้วยนะ เหมือนนิยายแนวนี้แม่งมีแต่พระเอกสายm

264 Nameless Fanboi Posted ID:2aWKWqTbm

กูก็ว่านางเอกไม่เห็นติแหลเลย ไม่สิ ถ้าคอแหลจริงก็น่าจะมีเหตุหรือกากระทำอะไรที่บ่งชี้มากกว่านี้อ่ะ ไม่ใช่ให้อีลิสมาคิดปาวๆว่าตอแหลงั้นงี้ กูว่าตัวนางเองนั่นแหละที่ตอแหลที่สุดด้วยซ้ำ 555

265 Nameless Fanboi Posted ID:9F0kIf2ys

>>261 เคยกดเข้าไปดูด้วยความอิจฉาอยู่เหมือนกัน คิดเหมือนกับหลายคนนั่นแหละว่านางเอกไม่ตอแหล

266 Nameless Fanboi Posted ID:x+7dzTwyO

เดี๋ยวกูซ้อมหนีไฟกับที่ตึกแป๊ปสักบ่ายๆจะลง 4 ตอนที่เหลือกับตอนหลังๆที่กูสุ่มมา แล้วก็ "วิจารณ์" กับให้คะแนน และเหตุผลที่ลัดคิวสับเรื่องนี้

ลงชื่อ เซฮุน มาซ้อมควยแม่งอะไรกันวันอาทิตย์วะ

267 Nameless Fanboi Posted ID:Vv2N9IN62

หวัดดีนี่เซฮุนเอง มาสับต่อเรื่อง ย้อนเวลาโลกคู่ขนาน (Parallel World)

https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1566978

เท้าควยเนื้อหา

พระเอก 'วิลสัน' เรียกสั้นๆ 'วิล' ประดิษฐ์ไทม์แมชีนได้ เครื่องมันก็พลาดพามายุคโลกแฟนตาซี โชคดีมีนาฬิกาติดต่อกับเพื่อนชื่อออโรร่าที่ยุคเดิมได้ มาที่นี่ก็เจออัศวินสาวชื่อมารีน่านะจ้ะ

ผ่านมาสองยุคแล้ว วิลกะมารีน่า ได้เพื่อนเพิ่มชื่อ จาราล กำลังไปยุคสามละนะ (เก่าแก่ลงไปอีกนะมึง ตัวละครใหม่เพียบ มึนสิคราวนี้)

ระบบเรื่องที่กูพอจับใจควยได้คือ มารีน่าเป็นอัศวินแห่งแสงมีดาบแสงเติมพลังงานนาฬิกาพี่วิลกูให้ย้อนเวลาได้นะ ส่วนจาราลเพื่อนใหม่ (ลูกชายราชายุคสอง ไม่รู้ว่าได้กะพี่วิลกูยัง) ก็มีไอเท็มจากห้องสมบัติ เห็นว่าฟันแล้วเป็นอักษรอะไรนี่แหละ

ปาร์ตี้มีเพิ่มเพื่อนเป็นสามละนะ

ลงชื่อ เซฮุน กูจะยกตอน 12 มาเลยละกัน

268 Nameless Fanboi Posted ID:G6mh9+c6q

>>266 คุณเซฮุนขอแทรกนิดนะครับ เรื่องของผมแบ่งออกเป็นสองภาคและใช้คนและตัวละครดำเนินเรื่องกัน ถ้าจะสุ่มดูตอนหลังแนะนำตอนที่จบของ ss 1 หน้าจะเป็นตอนที่ 98 นะครับ เพราะมันจะจบเรื่องหลักของวิลกับมารีน่าพอดี ขอบคุณครับ

269 Nameless Fanboi Posted ID:Vv2N9IN62

>>267 ตอน 12: พาเทน่า แม่มดแห่งป่าหมอก

ความต้องการนั้นคือสิ่งที่พื้นฐานของมนุษย์ พวกเขาแย่งชิงกันเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนต้องการโดยไม่สนใจว่าจะต้องสูญเสียสิ่งใดไปบางเพื่อให้ได้สิ่งที่พวกเขาต้องการ (เปิดมาปรัชญา... กูอึ้งแป๊ป)

หญิงสาวในชุดคลุมได้สั่งให้วิลกับจาราลจับตัวของมารีน่าเอาไว้ก่อนที่เธอจะเอาคทาแตะลงไปบนตัวของมารีน่า รอยแตกเรืองแสงที่อยู่บนร่างของมารีน่าค่อยๆยุบตัวลงจนกลับมาอยู่ที่แขนดังเดิม หญิงสาวในชุดคลุมมีสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก เธอหายใจแรงและมีเหงื่อออกมาก (อืม... ผู้ชายสองคนจับผญ
แล้วผญอีกคนเอาท่อนไม้แตะตัว มีรอยแตก แล้วเหนื่อยหอบ... กูเข้าใจละ)

“พลังงานนี้มันอะไรกัน ข้าไม่เคยรู้จักมันมาก่อนพวกเจ้าเป็นอะไรกันแน่” (ทุกตอนแม่งมีแต่คำถาม!!! แต่กูได้คำตอบน้อยมาก!!!)

หญิงสาวพูดออกมาพร้อมกับถอดผ้าคลุมหัวออกเผยให้เห็นผมยาวสีม่วงและดวงตาสีน้ำตาลเข้ม วิลค่อยลุกขึ้นอย่างช้าๆก่อนที่จะเริ่มอธิบายเรื่องต่างที่เกิดขึ้นให้กับหญิงสาว เธอตั้งใจฟังวิลเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นและทำความเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว เธอรู้ว่าพวกเขามาจากอนาคตโดยอาศัยพลังงานมหาศาลที่เธอพิ่งจะเอาออกจากตัวหญิงสาวคนนั้น (นี่สินะ Tell don't tell แต่รวดเร็วดีไม่เสียเวลา)

“ตกลงข้าเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว ข้าขอแนะนำตัวก่อนก็แล้วกันข้าคือพาเทน่าแล้วพวกเจ้าล่ะ” (อ่า ชื่อเหมือนชื่อตอนเลยว่ะ)

พาเทน่าได้นำทางพวกเขามายังบ้านหลังหนึ่งรูปทรงสีเหลี่ยมพื่นผ้าที่สร้างด้วยปูนซีเมนต์ หญิงสาวได้เปิดประตูและได้ให้จาราลพามารีน่าขึ้นไปนอนบนเตียงที่อยู่ด้านในก่อนที่เธอจะนั้งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งและหันไปเปิดอ่านหนังสือเล่มหนึ่งบนโต๊ะที่มีขวดแก้วหลายสิบใบที่มีของเหลวหลากสีและตะเกียงที่มีแสงสว่างสีฟ้าอยู่บนโต๊ะ (นึกภาพตามแผ๊ป... บ้านปูนซีเมนต์ด้วย มาถึงเปิดหนังสือ ในห้องมีขวด)

“ถ้าข้าเข้าใจไม่ผิดพวกเจ้าต้องการพลังงานจำนวนมากเพื่อจะกลับไปยุคของตนใช่ไหม” (เออฉลาดดี กว่ากูจะเข้าใจได้แม่ง 12 ตอนละมึง) พาเทน่าพูดจบวิลก็พยักหน้ารับ หญิงสาวเผยยิ้มอย่างมีเงือนง่ำก่อนจะพูดออกมาว่า

“งั้นข้าพอจะช่วยพวกเจ้าได้ ในตอนนี้อาณาจักรใหญ่สองอาณาจักรกำลังสู้รบกันเพื่อ เมเรเดอารู แอ็ปเปิ้ลทองคำที่นำมาซึ่งความอ่อนเยาว์ มันมีพลังงานที่มีมากพอที่จะส่งพวกเจ้ากลับสู่ยุคของพวกเจ้าก็ได้นะ” (ประโยคเดียวบอกสถานการณ์ บอกคีย์ไอเท็ม บอกเป้าหมาย... เป็นไงมึงน้อวพาเทน่ากู)

พาเทน่าพูดจบเธอก็หันไปเปิดอ่านหนังสือบนโต๊ะต่อ (รักการอ่านทันที) วิลหันไปเพื่อจะปรึกษากับจาราลที่กำลังยืนหมุนมีดอยู่ด้วยสีหน้าที่ดูแปลกใจเมื่อเขาทำมีดหลุดมืออยู่หลายครั้ง (ตรงนี้ต้องฮาหรืออะไร ยังไง?)

“คุณจาราล พวกเราควรจะเชื่อเธอดีไหม” วิลหันไปพูดเบาๆกับจาราล แต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะได้พูดอะไรมารีน่าก็ลุกขึ้นมาพร้อมกับพูดว่า

“ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ แต่ทว่าพวกข้าคงไปพาตัวเองกระโดดลงไปกลางสงครามเพื่อสิ่งแค่นั้นหรอก” (เดี๋ยวๆน้องมารีร่ากูตื่นมาตัดสินใจแทนเลย แม่งรักษาบทบาทความเป็นสาวโหดจริงๆ)

มารีน่าพูดจบหญิงสาว(พาเทน่าใช่ปะ)ก็มีสีหน้าไม่พอใจพร้อมกับปิดหนังสือที่อ่านอยู่ลง(ดังปัง?) วิลส่งเกราะเหล็กและดาบคืนให้กับมารีน่าหญิงสาวสวมชุดเกราะและเตรียมจะเดินออกจากบ้าน แต่พาเทน่าก็ได้พูดบางอย่างขึ้นมา

“งั้นข้าก็ขอให้พวกเจ้าโชคดีก็แล้วกัน” (อ้าว?)

สิ้นเสียงของหญิงสาวเธอก็ยิ้มออกมาและนั้นก็ทำให้ทั้งสามคนรู้สึกไม่สบายใจ (มึงแค่ไม่สบายใจ กูนี่งงเลยล่ะ) วิลเดินตรงออกมาพร้อมกับเริ่มติดต่อกับออโรร่า แต่ก็ไร้ซึ่งการตอบสนองพวกเขาทั้งสามคนติดอยู่ท่ามกลางป่าที่เต็มไปด้วยหมอกหนา (ออโรร่าแม่งคงแดกคุ้กกี้อยู่)

“ป่านี้มันอะไรกัน มันไม่มีทางออก” (กูก็งง พวกมึงงงเป็นเพื่อนกูสินะ...)

(มีต่อ)

270 Nameless Fanboi Posted ID:Vv2N9IN62

>>269 (ต่อนะ)

มารีน่าพูดขึ้นด้วยสีหน้าตกใจ เธอมองไปรอบด้วยสายตาที่คุ้นเคยกับความมืดอย่างดี (อ๋อ... มาจากยุคมืด เป็นอัศวินแห่งแสง) แต่ทว่าเธอก็ยังมองไม่เห็นอะไรนอกจากทะเลหมอก (อ่อ... แล้วมึงจะบอกเพื่อ?) ในตอนนั้นจาราลก็ได้ล่องหลหายไปจากกลุ่มและออกไปสำรวจบริเวณโดยรอบเพียงตัวคนเดียว (เอ๊า? จู่ๆก็ไป?)

“พอกันที ป่าบ้าๆนี้ข้าจะเป่ามันให้หายไปจากแผนที่เดียวนี้ล่ะ” (เป่า? อย่าบอกนะว่าจะ...)

มารีน่าพูดจบหญิงสาวก็ชักดาบสีทองออกมาจากฝักแต่ทว่าหญิงสาวไม่สามารถเหวี่ยงมันได้ดังใจและนั้นทำให้เธอรู้สึกไปอีกว่าดาบและเกราะของเธอมีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น (นี่มันลีลามากไปปะวะ)

“คงจะไม่ใช่อย่างที่ข้าคิดจริงนะ” (มึงคิดไร รีบบอกกูด้วย!!!)

จาราลเดินกลับมาพร้อมกับพูดขึ้น เขาเพิ่งเดินไปสำรวจบริเวณรอบๆและพบกับม่านสีใส่บางอย่างคลุมป่านี้เอาไว้ จาราลได้บอกสิ่งที่เขาพบให้กับทั้งสองคนและยังบอกเรื่องที่เขารู้สึกว่าโลหะในตัวมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น (เดี๋ยว!!! มึงพบอะไร? เหล็กหนักแบ้วอะไร!!! พวกมึงคุยไรกัน!)

“ดูเหมือนพวกเจ้ากำลังสนุกกันอยู่เลยนะ มีอะไรให้ข้าช่วยไหม”

พาเทน่าพูดขึ้นมาพร้อมกับปรากฏตัวขึ้นมาด้านหลังของพวกเขาทั้งสามคน (ไหนบอกโชคดี ตามมาอีกละ!) เธอเดินเขามาด้วยสีหน้าจริงจังก่อนจะพูดบางสึ่งขึ้นมาอีกครั้ง

“อยากออกจากที่นี้ไหม ข้ามีวิธีให้พวกเจ้าแลกเปลี่ยนกับการคุ้มกันข้าจนไปถึงเมืองทาเลวิตา เป็นไงสนใจไหม” (สงสัยว่าต้องตกลงสินะ)

(มีต่อ)

271 Nameless Fanboi Posted ID:Vv2N9IN62

>>270 ต่อนะ

หญิงสาวเผยรอยยิ้มและยื่นรอคำตอบจากข้อเสนอนั้น วิลสันก็คิดว่ามันเป็นข้อเสนอที่ไม่เลวก็แค่พาเธอไปส่งแค่นั้นเอง แต่ทว่ามารีน่ากับยกดาบสีทองขึ้นและชี้ไปทางเธอ (อ้าวๆ น้องมารีน่าเล่นมหญ่อีกละ!!)

“อย่ามาเล่นตลกร้ายหน่อยเลยนางแม่มดก็ป่าแห่งนี้มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อกักขังและคนที่ว่าก็คือเจ้ามิใช่หรือไง” (อ้าว... ว่างี้หรอ?)

อัศวินสาวพูดจบรอยยิ้มของหญิงสาวก็ได้หายไป เธอเริ่มแกว่งคทาในมือไปมาเบาๆพร้อมกับเดินวนไปทางขวาของมารีน่า จาราลกับวิลรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไปดังนั้นจาราลจึงได้สั่งให้วิลมาหลบด้านหลังเขาโดยที่ในมือของเขาก็จับมีดมาสด่าเตรียมพร้อมเอาไว้ (กูจำชื่อไอเท็มพี่จาได้ละ เหมือนยี่ห้อรถ มาสด้า แต่เป็นมาสด่า)

“ถ้าพูดกันดีๆไม่ยอมฟังก็คงต้องใช้กำลังซินะ”

“แน่จริงก็เอาเลย นางแม่มด” (ดนตรีโหมโรงสิมึง คนจะตบกันแล้วนะ...)

สิ้นสุดการปะทะคารมพาเทน่าก็ได้ยกคทาขึ้นเหวี่ยงวาดลวดลายบนอากาศจนเกิดแสงสีม่วงวิ่งตามหัวคทานั้น ลวดลายถูกสร้างขึ้นเป็นแบบรูปร่างของแผงวงจรทรงกลม (แผงวงจรทรงกลม? กูนึกไปสตาร์วอร์สผิดไหม?)

“เพเพียร์ เมโน เอร่า” (สั่งอะไรวะ!!! สินค้าหมดนะครับลูกค้า รับอะไรเพิ่มไหมครับ?)

หญิงสาวกระแทกคทาลงบนวงจรสีม่วงบนอากาศตรงหน้าเธอพร้อมกับมีเสียงกระดึ่งดังขึ้น วงจรได้สลายหายไปพร้อมกับเกิดแรงอัดอากาศตรงใส่ร่างของมารีน่าจนกระเด็นไถลไปกับพื้นหลายเมตร วิลกางโล่ออกแล้วรีบวิ่งเข้าไปดูมารีน่าทันทีโดยที่จาราลได้เข้าไปสู้แทน วิลที่มาถึงก็พบว่าอัศวินสาวบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยแค่นั้นแต่ทว่าสิ่งที่ทำให้เขากังวลอยู่คือสิ่งที่หญิงสาวคนนั้นทำเมื่อสักครู่ ศาสตร์วงจรพลังงานที่เขาเคยอ่านเจอจากในหอบันทึกสึ่งๆนั้นเป็นศาสตร์ที่คนธรรมดาสู้ด้วยไม่ได้อย่างแน่นอน (เหยดดดด ไม่มีพี่วิลนี่กูจะไม่เข้าใจความโหดสินะ)

“น่าสนใจ ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีสาวงามที่รับการโจมตีของข้าได้” จาราลพูดแล้วก็ลอยตัวขึ้น ปามีดใส่พาเทน่า

“นี่ข้าได้ยินไม่ผิดใช่ไหมที่นักรบอย่างเจ้าเอ่ยชมแม่มดอย่างข้า” (กูก็ไม่แน่ใจ แต่เห็นชมว่าสวยนะ)

“ใช่ ข้าชมเจ้าอิสตรีผู้งดงาม” (พี่จามึง!!!)

จาราลพูดจบเขาก็กระโดดขึ้นไปบนอากาศทำให้หญิงสาวหันกลับไปมองด้านหลังของเธอด้วยสัญชาตญาณ อัศวินสาวได้พุ่งเข้ามาพร้อมกับดาบสีทองที่เปล่งแสงสว่างจ้า เธอพุ่งมาพร้อมกับเหวี่ยงดาบออกไปหมายจะตัดหัวหญิงสาวในครั้งเดียว แต่ทว่าหญิงสาวกลับทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดเธอถอยหลังและลอยขึ้นไปบนฟ้าหลบการฟันสุดแรงที่ตัดต้นไม้นับสิบลงได้เพียงเสียววินาที (สรุปแม่งซาดิสม์กันว่ะ)

“เธอลอยได้…ไง”

วิลพูดออกไปด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจ (พี่วิลมึงคือความหวังเดียวของกู มึงอย่าถามให้กูงงสิ!) แต่ทว่าเขาก็รีบดึงสติกลับมาพร้อมกับบอกให้มารีน่าหลบการของพาเทน่าที่ยิงลงมา หญิงสาวที่ลอยอยู่กางอากาศอาศัยความได้เปรียบนั้นสร้างวงจรพลังงานขนาดใหญ่ขึ้นมาบนท้องฟ้า (วงจรมาอีกล้าวววว กลัวล้าวววว)

“เอาล่ะถ้าพวกเจ้ายังไม่ยอมใช้พลังทั้งหมดล่ะก็พวกเจ้าได้ไปนรกแน่”

(มีต่อ)

272 Nameless Fanboi Posted ID:Vv2N9IN62

>>271 ต่อนะ

สิ้นสุดเสียงพูดมารีน่าก็เตรียมจะรวมพลังงานจากดาบอีกครั้ง (ดาบแสงน้องมารีน่ากูเทพนะมึง) แต่แล้วจาราลก็ได้วิ่งไปเหยี่ยบโล่ของวิลและใช้มันเป็นฐานขึ้นไปหาหญิงสาว (เอ๊า แย่งซีน!!!)

“โทษทีอัศวิน งานนี้ข้าขอ” (ไอ้จามึงจะอะไรวะ?)

ชายหนุ่มชักมีดมาสด่าออกแลหมุนตัวกลางอากาศเพื่อเสริมแรงแล้วใช้มีดที่มีออร่าสีฟ้าแทงลงไปที่วงจรซึ่งมันเป็นเวลาเดียวกันกับที่หญิงสาวเหวี่ยงคทาลงไป เสียงกระดึ่งดังขึ้นพร้อมกับการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง พื่นที่โดยรอบป่าหมอกสลายกลายเป็นตัวอักษรจำนวนมากหายเข้าไปในมีดรวมถึงวัตถุสีใสทีปลุกคลุมป่าแห่งนี้อยู่ด้วย ท่ามกลางฝากฟ้าหญิงสาวตกลงมาในสภาพที่ไม่สามารถขยับตัวได้ เธอหลับตาลงโดยความรู้สึกผิดและพร้อมที่จะตาย แต่แล้วชายหนุ่มก็ได้คว้าตัวหญิงสาวเอาไว้พร้อมกับปาลวดที่ปลายเป็นลูกศรออกไปเกี่ยวกับต้นไม้เพื่อลดแรงกระแทกตอนลงถึงพื่น พวกเขาทั้งสองลงถึงพื่นอย่างปลอดภัยโดยที่จาราลยืนอุ้มพาเทน่าไว้ในวงแขนทั้งสองของเขา (เหี้ย... แอ็คชั่นแบบนี้ ขนี้ตาแป๊ป สรุปคืออุ้มน้องพาเทน่านะ)

“ไม่เป็นอะไรนะ” (กูว่าไม่หรอก...)

ชายหนุ่มเอื่อนเอ่ยออกไป พลันหญิงสาวก็หน้าแดงก่อนจะรีบผลักตัวออกมาจากเขา เธอยื่นนิ่งก้มหน้าก้มตาก่อนจะพูดอะไรบางอย่างกับชายหนุ่ม (ละครช่องเจ็ดมาอีกละ)

“ขอบคุณเจ้ามากนะ” (นั่นแหน่ะ)

หญิงสาวพูดออกไปเบาๆ ในตอนนี้บรรยากาศของหนุ่มสาวทำให้วิลกับมารีน่าที่ยืนดูอยู่รู้สึกได้เลยว่าพวกเขาทั้งสองคนอยู่คนล่ะโลกกันแล้ว (กูก็อยู่คนละโลกนะมึง งงอยู่)

“คนมีความรักนี้น่าอิจฉาจริงๆเลยว่าไหมคุณมารีน่า”

วิลพูดขึ้นพร้อมกับหันไปมองอัศวินสาวที่หลบหน้าหนีสองคนนั้นโดยเธอมีใบหน้าที่ดูเศร้าหมองเล็กน้อย แต่ก่อนที่วิลจะได้ถามอะไรมารีน่าก็ได้หันไปด้านหลังและตั้งดาบขึ้นอีกครั้งโดยคนที่เธอหันดาบใส่คือชายหนุ่มผมสั้นสีน้ำเงิน ดวงตาสีเขียวมรกต สวมชุดรัดรูปสีดำ เกราะหนังสีน้ำตาลและรองเท้าสีเงินที่ดูเด่นสะดุดตา (ใครวะ?) เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าทุกคนก่อนที่จะพูดขึ้นมาว่า

“ข้าเบื่อกับปัญหาที่เจ้าก่อแล้วนะพาเทน่า”

ชายหนุ่มพูดจบหญิงสาวในชุดคลุมก็ได้สีหน้าที่หวาดกลัวออกมาเล็กน้อย (เดี๋ยวๆ ไอ้เหี้ยตัวละครใหม่มาอีกแล้วใช่ไหม!!!)

ลงชื่อ เซฮุน กูขอพักแป๊ป

273 Nameless Fanboi Posted ID:Vv2N9IN62

>>268 อะไรมึง กูไปส่องภาคสองมาแล้ว มีตอนวิลกับมารีน่าจบสวยๆอยู่ เห็นว่าจำกันไม่ได้บลาๆ กูตั้งใจจะเลือกตอนนั้น

ส่วนตอนของมึงที่แนะนำมาเดียวกูดูอีกที

ลงชื่อ เซฮุน พักแป๊ป

274 Nameless Fanboi Posted ID:0rgJTPpy/

แหม กูก็ตงิดตั้งนานว่ามีดนี่ชื่อเหมือนรถมาสด้าแต่ชื่อมาสด่าใช่ไหม ปล.คำผิดนี่คือยกมาเลยใช่ป่ะ ตอนนี้จะปล่อยไปก่อนก็ได้เพราะจะดูเนื้อเรื่อง แต่ถ้าให้บี้ล่ะมีแน่ 555

275 Nameless Fanboi Posted ID:Vv2N9IN62

ยกมาเลยนะ ตอน 13: บุรุษผู้เป็นอมตะ

https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1566978&chapter=13

“อมารุส ข้าไม่คิดที่จะสร้างปัญหาให้เจ้านะ ข้าแค่อยากจะออกไปช่วยเจ้าแค่นั้นเอง” (ตัวละครใหม่ชื่อ อมารุสนะ... มีเกริ่มปมนิดหน่อย)

พาเทน่าพูดจบก็เธอก็ก้มหน้าด้วยความสำนึกผิด ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไรก่อนจะหันไปมองมารีน่ากับวิลที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาสังเกตเห็นถึงดาบและชุดเกราะที่ทำมาจากเหล็กกล้า (มองแล้วว่าไงมึง?)

“พวกเจ้าเป็นคนต่างถิ่นงั้นซินะ ถึงไม่รู้ว่าดินแดนแห่งนี้เต็มไปด้วยสนามแม่เหล็กที่ทำให้น้ำหนักของโลหะเพิ่มขึ้นนะ แต่ก็เอาเถอะเพราะข้าคงต้องจับกุมพวกเจ้าไปล่ะนะ” (เหยด... อธิบายจนกูเข้าใจได้แล้วว่ะ... เคก็จับสิ)

ชายหนุ่มพูดจบมารีน่าก็เหวี่ยงดาบลงบนหัวไหล่ของชายหนุ่ม (มารีน่า!!! รีบอีกแล้ว) แต่ทว่าดาบสีทองกับกระทบวัตถุบางอย่างที่คลุมบนตัวชายหนุ่มและทำให้ดาบของอัศวินสาวฟันเขาไม่เข้า (อ่อ... มีบาเรีย?) ชายหนุ่มยิ้มออกมาก่อนจะตรงเข้าไปคว้าคอของมารีน่าพร้อมกับเหวี่ยงเธอเข้ากระแทกกับต้นไม้จาราลกับวิลที่ได้เห็นดังนั้นพวกเขาก็เตรียมต่อสู้ (มึงไม่ต้องเตรียมนะครับ มีงช่วยสู้เลยได้ไหม?) แต่ก่อนที่วิลจะได้กางโล่ออกชายหนุ่มก็ได้วิ่งมาด้วยความเร็วจนวิลมองตามแทบไม่ทันและต่อยเข้าไปที่ท้องของวิลจนลงไปนอน (พี่วิลกูร่วงละ) ส่วนจาราลนั้นได้กระโจนมาทางด้านหลังพร้อมกับใช้มีดปักลงบนหลังของชายหนุ่ม แต่ทว่ามีดของจาราลก็กระเด็นออกเมื่อมันได้ปะทะเข้ากับเกราะพลังงานที่คลุมอยู่รอบตัวชายหนุ่ม (เหยดฟันแทงไม่เข้า)

“รู้ไหมว่าข้านะคือบรุษผู้เป็นอมตะ” (กูรู้เพราะมึงบอกกูเนี่ยแหละสัด...)

(มีต่อ)

276 Nameless Fanboi Posted ID:Vv2N9IN62

>>275 ต่อนะ

อมารุสพูดจบเขาก็หันไปใช้แขนฟาดใส่จาราลด้วยแรงอันมหาศาลจนเขาสลบไปในครั้งเดียว ท่ามกลางสติอันเลือนลางอัศวินสาวได้ถูกน้ำเย็นสาดใส่เพื่อเรียกสติของเธอกับคืนมา มารีน่าลืมตาตื่นมาก็ได้พบว่าตัวเองถูกลามโซ่อยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งที่มืดสนิท เธอจ้องมองเข้าไปในความมืดพร้อมกับพูดขึ้น (เค... จาราลสลบ แล้วตัดฉากเลยนะมึง)

“เจ้าคืออมารุสวีรชนแห่งสงครามแมกนีตีส ชายผู้ไร้ซึ่งบาดแผลจากสงครามซินะ”

มารีน่าพูดขึ้นกับชายหนุ่มที่กำลังนั่งหยิบดาบของมารีน่ามาดู (น้องกูบอกสรรพคุณหมดเลยอย่างกับท่องมา) เขาวางมันลงก่อนที่จะเดินเข้ามาหามารีน่า

“ข้าพอได้ฟังเรื่องของพวกเจ้ามาจากพาเทน่าแล้ว กลุ่มคนผู้มาจากอนาคตข้าอยากรู้จริงว่านางแค่เล่าเรื่องตลกหรือว่ามันจะเป็นเรื่องจริงช่วยไปพิสูจน์ให้ข้าเห็นที่ได้ไหม” (อมารุสมึงก็ลีลาจริงๆ)

สิ้นสุดคำพูดของชายหนุ่มเสียงกลไกของอะไรบางอย่างก็ได้เริ่มทำงานพร้อมกับพื่นไม้ที่ขยับขึ้นไปด้านบน มารีน่าพบว่าเธออยู่บนเรือไม้ขนาดใหญ่ บนด้านฟ้าเรือที่เธอกำลังนั่งอยู่ได้มีเหล่านักรบในชุดเกราะหนังนับร้อยยื่นล้อมบริเวณที่เธอกับชายหนุ่มกำลังอยู่ราวกับรอดูงานประลอง อมารุสได้โยนดาบสีของมารีน่าคืนให้กับเธอก่อนที่จะสั่งให้ทหารปลดโซ่ตรวนที่ล็อกเธอเอาไว้ออก อัศวินสาวเดินไปคว้าดาบขึ้นมาโดยไม่ลังเล เธอชักดาบสีทองออกมาจากฝักดาบและตั่งดาบให้อยู่ในระดับไหล่ทันที (เหี้ย!!! อะไรวะ มาประลองเฉย เออชอบๆ)

“เอาล่ะ ถ้าเจ้าชนะพวกเจ้าก็จะได้รับอิสระภาพ งั้นก็มาเริ่มกันเถอะ” (อะไรก็ได้ละสัด เริ่มก็เริ่ม)

(มีต่อ)

277 Nameless Fanboi Posted ID:Vv2N9IN62

>>276 ต่อนะ

ฉากแอ็คชั่นหนึ่งย่อหน้าแต่ยาวเหยียดดดดดด กูขี้เกียจพิมพ์

“เป็นเพลงดาบที่เชื่องช้าซะจริง ลองถอดเกราะที่เจ้าสวมอยู่เป็นไงมันอาจจะช่วยให้เจ้าเร็วขึ้นก็ได้นะ”

อมารุสพูดจบมารีน่าก็ได้ลุกขึ้นมาอีกครั้งด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความไม่พอใจอย่างรุนแรงก่อนที่จะเป็นฝ่ายพุ่งเข้าหาในคราวนี้

“ทำไมนางถึงไม่ยอมถอดเกราะถึงไปล่ะ ในเมื่อมันก็ไม่มีประโยช์นอันใดแถมยังเป็นภาระอีกต่างหาก”

พาเทน่าได้พูดกับวิลและจาราลที่นั่งอยู่กับพวกทหารรอบ (กูก็ไม่รู้!!! ช่วยบอกกูที) โดยที่มือของพวกเขาทั้งสามคนก็ได้ถูกล่ามโซ่เหล็กเอาไว้ วิลได้มองดูสีหน้าที่โกรธของมารีน่าก่อนจะหันไปตอบคำถามของพาเทน่าตามความเข้าใจของตน (ว่าไง?พี่วิล)

"ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าคุณมารีน่าเขาคิดยังไง แต่สำหรับผมคิดว่าเกราะนั่นเป็นของสำคัญสำหรับเธอ มันเคยช่วยเธอมาหลายครั้งในสงคราม และถ้ามีคนมาบอกให้คุณทิ้งของสำคัญคุณจะคิดไงครับคุณพาเทน่า?" (พี่วิลกูนานๆทีจะหล่อ)

วิลพูดจบหญิงสาวก็เงียบไปเธอพอจะเข้าใจสิ่งที่วิลจะสื่อให้เธอฟังแล้ว (เคนะ) ในขณะเดียวกันมารีน่าที่ไล่เหวี่ยงดาบใส่อมารุสก็ได้ชะงักเพราะอาการบาดเจ็บทำให้นักรบหนุ่มมีโอกาสโจมตีกลับโดยการถีบเธอจนไถลไปกับด่านฟ้าของเรือ อัศวินสาวยังคงยืนขึ้น เธอยังคงสู้ต่อในเมื่อมีสิ่งที่เธอต้องปกป้องอีกครั้ง การต่อสู้ครั้งนี้คือการต่อสู้เพื่อเหล่าพวกพ้องที่เธอนั้นทำมาตลอด (อธิบายซะกูต้องเชียร์เลยทีนี้)

“ความหวังนั้นซินะ ข้ากับดาบเล่มนี้คือตัวแทนของความหวัง” (น้องกูเพ้อละ)

อัศวินสาวพูดจบเธอก็ตั้งดาบขึ้นพร้อมกับสองมือที่จับดาบมั่น ดาบสีทองเริ่มเปล่งแสงสว่างสีขาวขึ้นมาพร้อมกับสายลมที่เริ่มหมุนวนรอบตัวเธอและดาบ พื่นน้ำเริ่มเกิดการสั่นไหวพร้อมกับความตื่นตระหนกของเหล่าทหารคนอื่น (กูตระหนกด้วยยยย)

“เอาล่ะวีรชนอมารุสจงรับเอาความหวังของพวกข้าไปซะ” (เหยด...)

อัศวินสาวพูดจบนักรบหนุ่มก็ไม่ได้มีที่ท่าหวาดกลัวแม้แต่น้อย (อ้าว?มึงนี่...) เขาหลับตาลงพร้อมกับเอามือไปสัมผัสหินสีดำที่สร้อยคอ ม่านพลังสีฟ้าได้คลุมตัวเขาเอาไว้บางๆทันทีหลังจากเขาสัมผัสมัน

“เอาล่ะเข้ามาเลย สาวน้อย” (สัด ลิเกเหี้ยๆ)

อมารุสพูดท้าทายออกไปซึ่งอัศวินสาวก็จัดให้ตามคำขอ (จัดไป!) เธอเหวี่ยงดาบลงแต่ทว่าก่อนที่ดาบสีทองจะถูกเหวี่ยงลงจนสุดก็ได้มีปลายหอกสีเงินมาหยุดดาบเอาไว้ (ใครอะไรมาอีกละ โอ๊ยยย)

“พวกเจ้าทั้งสองคิดจะฆ่าคนทั้งเรือหรือไง” (กูไม่รู้!!! มึงเป็นใครก็ว่ามาเลยดีกว่า?)

หญิงสาวผมยาวสีบลอนด์ทอง ดวงตาสีน้ำเงิน สวมเสื้อคอกลมและกระโปรงสีขาวโดยที่มีชุดเกราะหนังสวมทับอยู่ด้านนอก เธอมีส่วนสูงที่ค่อนข้างสูงกว่าผู้ชายหลายคนและมีพลังกายมากพอที่จะหยุดการฟันสุดแรงของมารีน่าได้อย่างง่ายดาย มารีน่าที่ถูกหยุดเอาไว้ก็ได้คลายพลังงานที่สะสมเอาไว้ออกก่อนที่จะเอาดาบลงพร้อมกับมองไปที่หญิงสาวที่กำลังเดินเข้าไปต่อว่าอมารุสอยู่ (เก่งด้วยมึง!!!)

"ให้ตายเถอะข้าสอนเจ้าไม่เคยจะจำ ถึงเจ้าจะมีเกราะพิเศษนี้แต่คนอื่นไม่ได้มีเหมือนเจ้านะ ถ้าเมื่อกี้นางเอาจริงล่ะก็ กองเรือเจ้าได้หายไปในพริบตาแน่" (เข้าใจเลยกู) หญิงสาวพูดจบ อมารุสก็มีสีหน้สำนึกผิด พาเทน่าที่แอบปลดล็อคได้ก็มาโดดกอด (อ่าวง่ายจริง)

“คาริน ข้าคิดถึงท่านมากเลยรู้ไหม” (คาริน!!! มีคนคิดถึงนะ!!!)

“ข้าเองก็คิดถึงเจ้าเช่นกันพาเทน่า” (โอเค!!!)

ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่วิลก็เข้ามาดูอาการมารีน่า เขาเห็นว่าสีหน้าของเธอดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ทว่าเธอก็ยังคงฝืนทำว่ายังไว้ตลอดเวลา

“คุณมารีน่า เป็นอะไรไหมครับพักซักหน่อยเถอะ”

วิลพูดจบอัศวินสาวก็บอกปฏิเสธด้วยสีหน้าที่แสดงอาการที่ไม่ค่อยสู้ดีก่อนที่จะเดินแยกออกไปยืนอยู่คนเดียว (มารีน่าเป็นไรล่ะนั่น?) แต่ในขณะที่พวกเขากำลังยืนคุยกันอยู่นั้นกองเรือรบของอมารุสก็ได้ลองมาตามแม่น้ำจนมาถึงกำแพงเมืองที่สร้างขึ้นจากหินสีแดงขนาดใหญ่ขวางทางแม่น้ำอยู่

“เอาล่ะ ทหารหาญทุกคนได้เวลาบุกเมืองทาเลวิตากันแล้ว เอาให้สนุกกันไปเลย” (อ้าว? นี่จะไปตีเมือง)

อมารุสตะโกนลั่นพร้อมกับทหารนับพันที่ส่งเสียงร้องอึกกระทึกในตอนนี้สงครามครั้งแรกที่พวกวิลสันจะได้เจอกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว (เชี่ย... กระอักเลือดแป๊ป)

ลงชื่อ เซฮุน เช็ดเลือด

278 Nameless Fanboi Posted ID:wlBnJabr9

ตอนที่ 14: เหล่าผู้อยู่เบื้องหลัง

กูรวบละ อมารุสโชว์เทพยึดเมืองได้ แต่วิลกับมารีน่าอึนๆ กูเดาว่ามีตัวละครเดินหมากคุมเหตุการณ์นี้อยู่ (ตัวละครเพิ่มอีกละมึง) ดีนน่า เทพแห่งปัญญา (มั้ง) คุยกับอเลซี เทพแห่งความงาม...

แล้วพี่จากูก็หม้อหญิงคุยกะน้องพาเทน่าบลาๆ ใจความสำคัญของยุคนี้ก็มาละ (กูยกแป๊ป)

วิลที่กำลังติดต่อไปหาออโรร่า ในตอนนี้เขากำลังนั่งรอโดยที่ได้แต่หวังว่าเธอจะไม่ทำอะไรกับข้าวของของเขาอีก (สัด...หวงของด้วย)

“ว่าไงตายยากจังว่าจะติดต่อไปอยู่พอดี” ออโรร่าได้เริ่มการสนทนาด้วยคำพูดที่ไม่ค่อยเป็นมงคลซักเท่าไรนักก่อนที่เธอจะเริ่มเข้าประเด็นทันที (กว่ามึงจะโทรมา กูมึนไปหลายรอบ)

“ฉันมีข้อมูลที่จะมาบอกนายวิล จากที่ฉันทำการคำนวณด้วยบันทึกจากในหอบันทึกและตัวเลขจากเครื่องย้อนเวลาทำให้สรุปได้ว่า นายได้เดินทางไปแล้วสามช่วงเวลานั้นก็คือยุคของแม่อัศวินสาวซึ่งน่าจะเป็นศตวรรษที่6 (โอ้โหเพิ่งมาบอก) ตามเวลาในโลกของพวกเรา ครั้งที่สองนายก็ไปในอนาคตที่น่าจะเป็นเป็นศตวรรษที่11(อ่อ... ยุคตะวันออกกลางนั่น) และในตอนนี้นายน่าจะอยู่ในช่วง1200ปีก่อนคริสตกาล ใครจะไปรู้ว่านายจะได้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ในฐานะศพๆหนึ่งก็ได้นะ” (เหยดข้อมูลมาละ)

ออโรร่าพูดจบก็ยิ้มออกมา วิลที่ได้ฟังคำพูดสุดท้ายของเธอก็รู้ได้ทันทีว่ายัยตัวแสบได้แอบฟังเทปที่เขาบันทึกเสียงเก็บเอาไว้แล้ว (พี่วิลกูรู้ทันว่างั้น)

“หน่อย…ยัยตัวแสบ แต่ก็ช่างมันเถอะขอบคุณนะสำหรับความช่วยเหลือ”

วิลพูดออกไปด้วยใบหน้าที่แสนจะอบอุ่น เขาขอบใจสำหรับทุกสึ่งที่หญิงสาวคอยทำเพื่อเขาถึงแม้มันจะไม่ใช่เรื่องของเธอเลยก็ตามซึ่งมันทำให้ออโรร่าทำอะไรต่อไม่ถูกและตัดสายทึ้งไป (เชี่ยไรเนี่ย... ต่อก็ยากตัดสายทิ้งเพราะเขิน?) วิลที่จบการพูดคุยกับออโรร่าก็ได้หันไปหามารีน่าที่นั่งอยู่ข้างๆเพื่อจะขอคำปรึกษา (ก็ดีนะ) แต่ทว่าเมื่อเขาหันไปก็พบว่าอัศวินสาวนั่งนิ่งไม่ไหวติงและบาดแผลที่มีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก (เชี่ยน้องมารีน่าเจ็บ!!!) วิลตกใจกับสิางที่เกิดขึ้นมาแต่เขาก็พยายามตั้งสติและร้องเรียกขอความช่วยเหลือซึ่งเป็นโชคดีของอัศวินสาวที่คารินยังอยู่แถวนั้น คารินได้รีบเข้ามาอุ้มร่างที่แน่นิ่งของมารีน่าออกจาเรือและพาเข้าไปในที่ในตัววังของเมืองเพื่อให้หมอรักษาในทันที (ไปโรงบาลละ) ในขณะที่วิลจะวิ่งตามไปนั้นก็ได้ถูกพาเทน่าห้ามเอาไว้ (อ้าว??) โดยเธอได้เอาคทาขวางตัวของเขาเอาไว้เบาๆก่อนที่จะพูดขึ้นมาว่า

“เจ้าไปด้วยก็ไม่ได้ช่วยให้นางดีอาการดีขึ้นหรอกและอีกอย่างสิ่งที่พวกเขาจะทำต่อไปนี้คนต่างถึ่นอย่างเจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะได้เห็นมันหรอก” (เชี่ยยยย ปริศนาอะไรมากมายนัก!!!!)

(มีต่อ)

279 Nameless Fanboi Posted ID:wlBnJabr9

>>278 ต่อนะ ยกนะ

ในขณะเดียวกัน ณ สถานที่แห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยม่านหมอก ชายปริศนาในชุดคลุมสีขาว (ไอ้ที่มันย้อนเวลาได้ใช่ปะ) ได้เดินออกมาจากป่าทึบและพบกับบันไดสีขาวสว่างที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นทางขึ้นสู่ยอดเขาแห่งหนึ่ง ชายคนนั้นยื่นรออยู่ได้สักพักก็ได้เห็นเงาคนเดินลงมาจากบันไดที่สูงลิบตานั้น หญิงสาวผมยาวสีบรอนด์ทองผู้เป็นเทพีแห่งความรู้ (ชื่อดีนน่าปะคุ้นๆ)นางเดินมาหยุดอยู่ตรงขั้นบันไดในระดับที่สูงกว่าชายหนุ่มก่อนที่จะพูดว่า

“เจ้าคือชายผู้เดินทางข้ามเวลาซินะ มีธุระอันใดถึงได้บังอาจมาถึงที่นี้เพื่อพบข้า” (ปัญญาจริงปะวะ แน่จริงมึงรู้เลยดิ)

ดีนน่าพูดจบเธอก็มองชายหนุ่มด้วยสีหน้าที่เบื่อหน่าย เธอรู้ว่าชายตรงหน้าต้องการความรู้จากเธอเพื่อเอาไปใช้ประโยชน์อย่างแน่นอน (อ่อ... รู้แต่ไม่บอก)

“ผมรู้ว่าท่านกำลังคิดอะไรอยู่เทพีดีนน่า (มึงก็รู้เขาด้วย?) แต่ผมไม่ได้ต้องการความรู้จากท่านแต่จะมายื่นขอเสนอให้ต่างหาก (ว่าไป) ข้อเสนอที่จะช่วยให้ท่านได้แอปเปิ้ลทองคำมาได้อย่างแน่นอน พอจะสนใจบ้างไหม (กูจำชื่อแอ็ปเปิ้ลไม่ได้ แต่คุ้นๆว่ามีพลัง)”

ชายหนุ่มพูดจบดีนน่าก็มีสีหน้าทีเปลี่ยนไป เธอสนใจเล็กน้อยกับข้อเสนอที่ชายหนุ่มได้หยิบยื่นให้กับเธอ เมื่อได้ตัวหมากมาเพิ่มเทพีก็ไม่รอช้าที่จะฟังข้อเสนอนั้นในทันที (หมากเยอะสัด...)

จบตอน 14

ลงชื่อ เซฮุน เหลืออีกตอนเดียว พักแป๊ป

280 Nameless Fanboi Posted ID:wlBnJabr9

ตอน 15: เป้าหมายใหม่ของอัศวินสาว (คือน้องมารีน่ากูสินะ

ยกมาบางส่วนละกันตอนสุดท้ายที่กูจะอ่านละ

รอยยิ้มได้ปรากฏบนหน้าเทพีสาวเมื่อเธอได้ฟังขอเสนอของชายหนุ่ม เทพีสาวตอบตกลงข้อเสนอของชายหนุ่มในชุดคลุมสีขาวก่อนจะเดินกลับขึ้นไปตามบันไดสีขาวก่อนที่เธอและบันไดจะหายไป

“ให้ตายเถอะ เธอเจ้าเล่ห์ชะมัดเลย” (สัด... เปิดตอนมา คุยจบแล้ว ตัวมึงปริศนา เสือกตัดมาเลย กูไม่รู้เรื่องอะไรเลย สัด!!!)

ชายหนุ่มพูดออกมาก่อนจะเดินหายเข้าไปในป่าทึบทันที (ไปเถอะสัด! ไม่ช่วยอะไรกูเลย หมากอะไร) ในช่วงเวลาเดียวกันวิลได้ออกมาเดินเล่นในเมืองเพื่อสงบใจ (ชิลจังพี่วิลกู) ตัวเขายังคงเป็นห่วงเรื่องอาการบาดเจ็บของมารีน่า แต่ทว่ามัวแต่นั่งกลุ้มใจไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร (นั่นสิ) ในระหว่างที่วิลกำลังเดินเล่นอยู่นั้นเขาก็ได้ไปสะดุดตาเข้ากับอะไรบางอย่าง วิลได้พบกับชายสูงอายุผมยาวสีน้ำตาล ดวงตาสีดำ สวมชุดคลุมยาวสีขาวนั่งอยู่ตรงริมบ่อน้ำพุ (มองคนแก่...) ชายชราได้เอานิ้วชี้วนไปมาในน้ำและทำให้มันใสราวกับกระจก ด้วยความสนใจวิลจึงได้เข้าไปดู ชายชราที่ได้เห็นแบบนั้นจึงได้เริ่มแนะนำตัวกับวิลในทันที

“สวัสดีหนุ่มน้อยเจ้าสนใจในวิธีทำให้น้ำนิ่งอย่างนั้นหรอ ข้าคอสโม่ยินดีที่ได้รู้จัก” (ตัวละครใหม่อีกละ กูขอคาราวะ!)

แล้วแม่งก็คุยบลาๆ

“วิลเจ้ารู้จักต้นกำเนิดของโลกดีแค่ไหน โลกในยุคแรกนั้นเต็มไปด้วยศาสตร์และวิทยาการทางด้านเวทต์มนต์และเทคโนโลยีในระดับสูง การที่เจ้าจะสนใจมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก ชายผู้เดินทางข้ามเวลา” (รู้อีกสัด... มีกูเนี่ยงงอยู่)

วิลตกใจเล็กน้อยกับคำพูดของชายชรา เขารู้ว่าชายหนุ่มเป็นคนที่สามารถเดินทางข้ามกาลเวลาได้ วิลที่ได้รู้แบบนี้ก็ยิ่งอยากที่จะรู้ว่าชายชราคนนี้คือใครกันแน่ (นั่นดิ) ในขณะเดียวกันอัศวินสาวก็ได้รับการรักษาจนบาดแผลของเธอหายดีก็ได้มาอาบน้ำกับคารินอยู่ในโรงอาบน้ำของวังที่ถูกสร้างขึ้นด้วยทองเหลืองอย่างดี (ตัดฉากละ กูยังไม่เข้าใจตรงนั้นเลย!!!) หญิงสาวทั้งสองได้ลงไปในอ่างทองเหลืองที่มีน้ำที่มีการผสมน้ำมันหอมระเหยและกลีบของดอกไม้ต่างๆ มารีน่าเริ่มใช้น้ำลูบไปตามส่วนต่างๆของร่างกายอย่างช้าๆ บนผิวสีขาวของเธอนั้นเต็มไปด้วยบาดแผลจำนวนมากที่เธอไม่อยากให้ใครได้มาเห็น (ไม่เป็นไรฉากหวิวๆ ให้อภัยๆ) คารินที่นั้งอยู่ข้างๆก็ได้เริ่มเอาน้ำลูบตัวเช่นกัน (เหยด) เธอยังคงมองเห็นถึงความกังวลบนใบหน้าของอัศวินสาวอยู่

“เจ้ายังกังวลถึงสิ่งใดกันมารีน่า” คารินถามออกไปด้วยความสงสัย (กูชินละ แม่งสงสัยทั้งเรื่อง ถึงรํก็พูดปริศนาให้กูงง)

“แล้วทำไมเจ้าไม่ลองใฝ่ฝันถึงความสุขเพื่อตนเองบางล่ะ ความสุขที่ได้หัวเราะ ควมสุขที่ได้ต่อสู้หรือความสุขที่ได้รักใครสักคนด้วยใจจริง ถ้าในตอนนี้เจ้ายังไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อข้าก็ยินดีที่จะสอนวิชาหอกให้กับเจ้านะ” (นั่น... จะสอนวิชาด้วย)

แล้วก็ตัดไปอมารุสดูจาราลลับมีด...

“นี่เจ้าตั่งใจจะทำให้ข้าดูงั้นหรอ” จาราลหันไปพูดกับอมารุส

“แล้วแต่เจ้าจะคิดก็แล้วกัน” (กูกลับไผฉากอาบน้ำได้ไหม มึงอะไรกันเนี่ย?)

อมารุสพูดจบทั้งสองคนก็นั้งลับมีดและดาบของตนอย่างตั้งใจ (สัด...) วิลสันกับคอสโม่ที่กำลังสนทนากันอยู่ก็ได้รู้ตัวแล้วว่าในตอนนี้ราตรีได้มาเยือนแล้ว คอสโม่ได้เล่าถึงเรื่องสงครามในครั้งนี้ให้กับวิลสันฟัง (ตัดมานี่อีกละ) สงครามที่เกิดขึ้นมาจากความต้องการในความเยาว์วัยของเทพีทั้งสอง พวกนางได้ใช้สิ่งต่างๆล่อหลอกให้กองทัพทั้งสองต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงแอปเปิ้ลทองคำมาให้กับพวกนาง (เค เทพีปัญญากะะความงามอ่ะนะ?)

“เอาล่ะวิลข้าคงต้องกลับแล้ว เจ้าช่วยรับของเหล่านี้เอาไว้ในโอกาสที่เราได้รู้จักกันทีนะ” (เอามาดิ)

คอสโม่พูดจบเขาก็ได้แบบมือขวาออกเผยให้เห็นอัญมณีสีแดง เขามอบมันให้กับวิลโดยทันทีที่เขารับมันมามันก็ได้หายเข้าไปในมือขวาของเขา (เหยด)

“มันคืออะไรกัน!?” วิลพูดออกไปด้วยความตกใจ (กูไม่รู้!!!!)

“เดียวเจ้าจะรู้เองเมื่อถึงเวลาต้องใช้มัน” (เชี่ย!!! อะไรกันนักหนาวะ!!!)

ชายชราพูดจบเขาก็หายไปอย่างช้าๆราวกับการเทเลพอต์ทที่วิลเคยเห็นในงานแสดงวิทยาการตอนที่เขาเคยอยู่ในโลกของเขา (ขุ่นพระ!) แต่ทว่านั้นก็ไม่ได้สร้างความสงสัยให้กับวิลสันมากกว่าอัญมณีเขาได้รับมามากกว่า (กูงงสามชั้น) วิลเก็บความสงสัยนั้นเอาไว้และเดินกับไปที่เรือทันทีเพื่อจะไปถามถึงอาการของมารีน่า (เคครับพี่วิล)

(มีต่อ)

281 Nameless Fanboi Posted ID:wlBnJabr9

>>280 ต่อนะ

ท่ามกลางเช้าของวันใหม่ในเมืองทาเลวิตา มารีน่าได้ลุกขึ้นมาจากเตียงไม้ในห้องแห่งหนึ่งในวัง อัศวินสาวเดินออกมาวังเพื่อจะกลับมาหาวิล แต่ในระหว่างทางเธอก็ได้มาหยุดที่ลานกว้างหน้าวัง อัศวินสาวได้จ้องมองหญิงสาวผมสีบลอนด์ทองกำลังเหวี่ยงหอกสีเงินไปมารอบตัวของเธอราวกับการร่ายรำ คารินได้ปักหอกลงกับพื้นหินก่อนจะหันไปทางอัศวินสาวพร้อมกับส่งยิ้มให้กับเธอ (เค...)

“อรุณสวัสดิ์ ดีใจที่เจอเจ้านะมารีน่า สนใจจะมาเป็นคู่มือให้ข้าหน่อยได้ไหม” (จะสอนก็บอก)

คารินพูดจบเธอคว้าไม้ที่ความยาวเท่ากับหอกของเธอและโยนไม้อีกอันที่มีความยาวเท่ากับดาบของมารีน่าให้กับอัศวินสาว ทั้งสองคนเริ่มตั้งท่าโดยที่มารีน่าได้ยกดาบไม้ขึ้นมาอยูในระดับบ่าก่อนที่จะพุ่งเข้าหาคารินด้วยความเร็วสูงพร้อมกับฟาดดาบไม้ไปทางขวาของลำตัวหญิงสาว แต่ทว่าดาบไม้ก็ถูกดีดออกด้วยการฟาดกับของไม้ในมือคาริน เธอหลับตาฟาดมันพร้อมกับสวนกลับด้วยปลายของไม้ยาวอีกด้านใส่หน้าของอัศวินสาวจนเธอเสียหลักถอยออกไป มารีน่าถอยออกมาเริ่มตั้งหลักใหม่ด้วยความใจเย็นเธอเริ่มกำหนดจังหวะลมหายใจเข้าออกใหม่ สายตาจดจ่ดกับการเครื่อนไหวของร่างกายแทนที่จะเป็นอาวุธ อัศวินสาวยกดาบขึ้นระดับบ่าอีกครั้งด้วยสายตาที่คมกริบราวกับนักล่า มาริน่าพุ่งเข้ากับไปอีกครั้งพร้อมกับเหวี่ยงดาบไม้ราบไปตามพื้นโดยปลายของดาบห่างจากพื้นเพียงไม่กี่นิ้ว แต่แค่เพียงเสียงลมก็มากพอที่จะทำให้หญิงสาวที่ยืนหลับตาอยู่รู้ถึงตำแหน่งของดาบไม้ เธอเหวี่ยงไม้ในมือเข้าไปสกัดดาบไม้ของอัศวินสาวพร้อมกับเหวี่ยงมันออกไปด้านตรงข้ามเพื่อจะซัดใส่ร่างของเธอ แต่เพียงชั่วพริบตามารีน่าก็ถอยออกมาเพื่อหลบปลายไม้ที่ถูกเหวี่ยงมาก่อนที่เธอจะพุ่งกลับเข้าไปด้วยระยะที่ประชิดมากกว่าเดิม พร้อมกับยกดาบขึ้นหมายจะฟันเธอ แต่แล้วจู่ๆร่างของอัศวินสาวก็ลอยขึ้นสู่อากาศก่อนที่จะลงไปนอนกับพื้นโดยที่เธอแทบไม่รู้สึกตัวว่าได้โดนแทงใส่มาด้วยไม้ยาวโดยที่หญิงสาวได้ถอยออกไปเพียงแค่ก้าวเดียวและปล่อยให้ไม้แนบไปจนถึงส่วนหัวของมันและใช้มันพุ่งแทงเข้ามาใส่เธอในทีเดียว มารีน่าที่ล้มลงไปก็พยายามลุกขึ้นมาอีกครั้งโดยที่คารินก็ได้มองพยามลุกขึ้นมาวสู้ต่อด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น (กูลุกเดินไปละ แอ็คชั่นโหดสัดๆ)

“นี่ มารีน่าข้าขอถามเจ้าหน่อยเถอะ ‘ทำไมเจ้าถึงลุกขึ้นมา?’ นี้เป็นเพียงแค่การฝึก มิใช่สงครามหรือการประลองแต่อย่างใด แต่เพราะอะไรเจ้าถึงยังคงมีสีหน้าแบบนั้น?” (ถามผิดคนละมึง)

คารินพูดจบก็ได้จ้องมองไปยังมารีน่า เธอมองตรงมาที่หญิงสาวด้วยใบหน้าและสายตาที่บอกว่ายังไม่ยอมแพ้

“เพราะว่าข้าอยากชนะยังไงล่ะ…ตลอดเวลาข้าต้องการเป็นแค่ส่วนหนึ่งของชัยชนะ แต่ทว่าไม่…ไม่อีกต่อไปแล้วตัวข้าอยากจะชนะเพื่อตัวเอง เพื่อสิ่งที่ข้าต้องการ” (น้องกูตอบได้เพ้อมาก แต่พูดได้ดี!)

เมื่อคารินได้ยินสิ่งที่อัศวินสาวพูดเธอก็ยิ้มออกมาก่อนที่จะโยนไม้ทึ้งไปและไปคว้าหอกสีเงินที่ปักอยู่กับพื้นขึ้นมา มารีน่าเองก็ได้ปล่อยดาบไม้ทึ้งไปเช่นกัน หญิงสาวที่ถือหอกเงินได้หันมาทางมารีน่าและกล่าวบางอย่างกับเธอคำบางคำที่เธอจะไม่มีวันลืม

“ความมั่นใจนั้นนะจงเก็บรักษามันเอาไว้ให้ดีนะ” (เค... กูก็ไม่ลืมด้วยละกัน)

คารินพูดจบเธอก็เดินมุ่งหน้าไปยังท่าเรือ อัศวินสาวหลับตาลงพร้อมกับกุมมือทั้งสองไว้ที่อก ในตอนนี้เธอได้รับสิ่งที่เรียกว่าเป้าหมายมาอีกครั้ง การต่อสู้เพื่อตนเอง (ชื่อตอนสินะ) ปกป้องในสิ่งที่ตนต้องการ สู้เพื่อตนเองและพวกพ้อง มิใช่ตัวเองในอดีตที่เป็นแค่คนที่สู้เพื่อปกป้องคนอื่นเพียงอย่างเดียว อัศวินสาวได้เผยยิ้มออกก่อนจะก้าวเดินต่อไปในชีวิตที่มีเป้าหมายของเธออีกครั้ง

จบตอนที่ 15

ลงชื่อ เซฮุน กูพักแป๊ป เดี๋ยวมาวิจารณ์

282 Nameless Fanboi Posted ID:i/rZSaLBr

ยอมใจมึงเลย ขยันชิบ มึงสับได้กูก็อ่านได้วะ

283 Nameless Fanboi Posted ID:G6mh9+c6q

>>281 ขอบคุณครับ คุณเซฮุนผมจะรอคำวิจารณ์ครับ

284 Nameless Fanboi Posted ID:TeyJ+h5Ih

หวัดดีนี่เซฮุนเอง วิจารณ์ละ เรื่อง Parallel World (เดี๋ยวกูแนะนำทีหลัง เอาคะแนนไปก่อน แล้วกูก็ไปอ่านตอน 98 กะ 270 มาละ)

https://my.dek-d.com/nakarin0o/writer/view.php?id=1566978

ตารางคะแนน (แต่ละข้อเต็ม 4) Key Performance Indicator (KPI)

1. สไตล์ 2

2. ฝีมือ 2

3. มุมมอง+บรรยาย 2

4. ตัวละครแบน/กลม 2

5. ความแคร์ของคนอ่านต่อตัวละคร 2

6. เกลียด/ชอบ ตัวเอก 2

7. บทสนทนา 2

8. เซ็ตติ้ง 3

9. ความสมจริง 2

10. ความตื้นลึกหน้าบาง 3

11. สร้างความอินแค่ไหน 2

12. ระดับตีแตกอารมณ์ ตลก ซึ้ง ดราม่า ลุ้นระทึก 2

13. การสร้างแรงบันดาลใจ 2

14. ความดั้งเดิม เป็นตัวของตัวเอง 1

15. สาระความรู้ 1

16. คุณค่าทางวรรณกรรม 2

17. ความตั้งใจคนเขียน 4

18. อุปสรรคสำเร็จล้มเหลว 3

19. ประโยชน์ทางภาษา 2

20. อ่านแล้วเปลี่ยนชีวิตไหม? 1

21. การเข้าถึงคนอ่าน 1

22. มีใครให้รางวัลอะไรยัง 0

23. ค่าประเมินทางประสบการณ์ 2

24. ตัวเรื่องจะอยู่นานแค่ไหน ไปถึงคนรุ่นต่อไปไหม? 3

25. อ่านแล้วชอบ 3

รวม 49/100 (บวกผิดปะวะ เช็คดิ?)

ลงชื่อ เซฮุน เดี๋ยวกูมาแนะนำ

285 Nameless Fanboi Posted ID:G6mh9+c6q

>>284 ขอบคุณครับพิ่งลงนิยายเลยได้จะมาอ่านขอบคุณสำหรับคะแนนและคำแนะนำนะครับคุณเซฮุน ผมจะนำไปปรับปรุงให้นิยายดีขึ้นให้มากที่สุดครับ

286 Nameless Fanboi Posted ID:CBuH1vFWq

>>261 มาต่อตอนที่ 4 เลยนะ
เปิดมาด้วยเจ๊ลิสดีใจที่ได้ตอกหน้านางเอกกับเจ้าชาย พร้อมหัวเราะแบบนางร้ายในใจ [วงเล็บบอกด้วยนะว่าหัวเราะในใจ] จากนั้นก็พาน้องแชลล์ไปส่งห้องสอบ ส่วนเจ๊ลิสไปสอบที่หอประชุม สอบรวมทั้งระดับชั้น
มันเหลือเวลา 5 นาทีก่อนสอบ เจ๊ลิสเลยเคาะโต๊ะเล่นเบาๆ กับมองชาวบ้านเขาอ่านหนังสือทบทวนเนื้อหา แต่เพราะเจ๊ลิสของพวกเราฉลาด เจ๊ลิสไม่ต้องทบทวนเนื้อหาก็สอบได้ จากนั้นเจ๊ลิสก็บอกว่าไม่เข้าใจความคิดของพวกตัวเอกที่ไปนั่งข้างหน้า [เจ๊ลิสนั่งมุมขวาสุด สงสัยทางโรงเรียนให้เลือกที่นั่งตามใจชอบ] เจ๊ลิสถามตัวเองว่า ฉันโง่เกินไป แล้วตอบเองว่าไม่ใช่ แต่ในความคิดกู กูว่าเจ๊ลิสโง่จริงที่ไม่เข้าใจพวกนั้นว่ะ หัวคิดของวัยรุ่นทั่วไปจะไม่ออกหน้าเพราะกลัวเด่น คนที่จะออกไปข้างหน้าคือคนมีความเป็นผู้นำ/กล้าหาญพอ พวกนั้นมันระดับเจ้าชายผู้สืบบัลลังก์ ต่อให้เป็นแค่ในโรงเรียน การสร้างภาพให้คนอื่นเชื่อและศรัทธาว่าตัวเองคือผู้นำจริงๆ ก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะเมื่อคนแถวหลังโตไปก็จะติดภาพนั้นแล้วยอมอยู่ใต้อาณัติโดยแก่พวกเจ้าชายง่าย
พอถึงเวลาสอบ ข้อสอบที่นี่ทำบนโฮโลแกรมสัมผัสได้ แล้วเหมือนคนเขียนจะขี้เกียจพิมพ์คำว่าอลิส เลยให้เจ๊ลิสเรียกตัวเองว่า 'ลิส' แทนหลังจากผ่านถึงตอนที่ 4 ที่เหลือก็ไม่มีอะไรมาก แค่บอกว่าข้อสอบยากแต่ไม่ใช่สำหรับเจ๊ลิส แค่นั้นแหละ
เจ๊ลิสทำข้อสอบเสร็จในเวลา 50 นาทีจาก 3 ชั่วโมง เจ๊ลิสเลยกดส่งแล้วออกจากหอประชุม แล้วอธิบายสิ่งที่เหมือนจะลืมว่า คนที่ได้เต็มในวิชาอะไรก็ตาม จะมีสิทธิ์ได้เรียนตัวต่อตัวกับเจ้าของวิชา แต่อย่างเจ๊ลิสแกไม่สนหรอก เจ๊แกสนแค่ห้องพักในหอ S เท่านั้น ซึ่งกูก็ไม่รู้ว่าทำไม บ้านก็อยู่ห่างโรงเรียนไปแค่ 20 นาที + - รถติดเอง
คราวนี้ พอสอบเสร็จ เจ๊ลิสก็ว่าง รอน้องแชลล์ด้วย เลยเสียบหูฟัง ฟังเพลงไปได้ชั่วโมงเดียว เบื่อ เลยเอากีตาร์ของฟาร์ในกำไลมิติอะไรไม่รู้มาเล่น แล้วมึงคงเดากันได้นะ?
ใช่ เจ๊ลิสเล่นเก่งจนครู-นักเรียนหลายคนต้องหยุดฟัง แค่นั้นแหละ
พอรู้ตัวว่าเป็นจุดเด่น เจ๊ลิสก็ OMG เล่นในสวนเงียบๆ "ฉไนใยจึงมีนักเรียนและอาจารย์มายืนมอง" เจ๊ลิสเลยคลั่งในใจ อยากกรีดร้อง ชีวิตอันแสนสงบสุขของเจ๊?...กูว่าชีวิตเจ๊คงไม่มีความสงบสุขตั้งแต่หักหน้าราชวงศ์กับด่าว่าเจ้าชายต่อหน้าปวงชนแล้วนะ...
จากนั้นเจ๊ลิสก็เก๊กหน้านิ่งเก็บกีตาร์ไปหาน้องแชลล์ ก่อนจะพากันไปดูคะแนนสอบ...กูว่าพวกมึงตรวจข้อสอบเร็วไปนะ
พอผลออกมาก็เหมือนที่คิดไว้นั่นแหละ เจ๊ลิสได้เต็มกระทั่งวิชาการปกครอง ทั้งๆ ที่ไม่น่าได้เต็มตั้งแต่ที่ไม่เข้าใจพวกตัวเอกไปนั่งหน้าแล้ว ถ้าให้เดาอีก คงเพราะว่ามีแต่ข้อกาไม่มีข้อเขียนละมั้ง พวกตัวเอกก็ได้ลดหลั่นกันไป โดยมีเจ้าชายได้ที่ 2 ส่วนนางเอกได้ที่ 38 ซึ่งกูว่ามันก็ไม่ได้น่าเกลียดนะสำหรับสามัญชนในสังคมฟิวดัลน่ะ
แล้วอะไรต่อน่ะเหรอ? เจ๊ลิสก็เยาะเย้ยนางเอกในใจน่ะสิ พอนางเอกเดินมาแสดงความยินดีด้วยก็บอกว่านางเอกหน้าด้าน เจ๊ลิสก็ตอบสั้นๆ ว่า อือ + ยิ้มสะใจอยู่ในใจ
2ndเจ้าชาย ก็หวังว่าเจ๊ลิสจะทำเอง ไม่ยัดเงิน ผอ. แล้ว ผอ.ที่มึงมาตอนไหนวะ ก็โผล่ขึ้นมาบอกว่าเจ๊ลิสทำเอง และ บอกว่าตัวเองเป็นผู้ตรวจโดยตรง ? ... เหมือนหน่วยงานบางหน่วยที่ตัวเองตรวจสอบตัวเองแล้วออกมาบอกประชาชนว่าสุจริต...ไม่เอาๆ เดี๋ยวติดคุก
คราวนี้แม่งก็ตกใจกันหมด ผอ. ก็ให้คีย์การ์ดห้อง S ของหอ S กับเจ๊ลิส เจ๊ลิสมอง ผอ. แล้วคิดว่าหล่อ ไม่พอ ผอ. ยังให้หนังสือเป็นของขวัญด้วยนะ มาริอัส แต่กูจะเรียกเขา มาริ ตัวผู้จีบได้ที่เป็นลูกชายของขุนนางชั้นสูง ตามความคิดของกู มาริ กับ เจ๊ลิส มีศักดิ์เสมอกันในฐานะลูกหลานขุนนางชั้นสูง
มารินี่สงสัยเลยถามว่าเมื่อก่อนเจ๊ลิส (ฟาร์) ไม่ได้เป็นอย่างนี้ เจ๊ลิสเลยบอกว่านี่แหละคือนิสัยจริงๆ ของเจ๊
พอเจอแบบนี้ก็แดกจุดกัน เจ๊ลิสเลยหัวร้อน [โครตเย็นชาเลยสัส] ก่อนจะพาน้องแชลล์ออกไปจากวงสนทนาโดยไม่ลืมไปกระซิบข้างหูนางเอกแบบให้ได้ยินแค่สองคนว่า
"ฉันคนนี้ไม่ได้ 'โง่' นะจ๊ะ คุณนางเอก!"
แล้วก็จบตอน...
ครับ...คนอื่นเป็นไงไม่รู้ แต่การใส่ ! มันหมายถึงการขึ้นเสียงให้ดัง...แล้วเจ๊ลิสกระซิบข้างหูให้ได้ยินแค่สองคน แต่มี ! ต่อท้าย...เอิ่ม สงสัยผมคงตามโลกไม่ทันแล้วมั้ง...

ลงนาม โม่งมารี เดี๋ยวพรุ่งนี้มาใหม่ ลงวันละตอนแล้วจิตแจ่มใสดีนะ

287 Nameless Fanboi Posted ID:zxWE0Spds

>>284 คำแนะนำ

ที่รู้อยู่แล้วอย่าง คำผิดตัวสะกด ตัดฉากเร็วไม่ขีดเว้นแบ่งอะไรพวกนั้นจะไม่พูดซ้ำ (กูไม่แคร์ขนาดนั้น)

พล็อตหลักคืออะไร (กูอ่านมา 15 ตอนก็ไม่ชัด กอบกู้ช่วยโลก? หยุดสงคราม? ฆ่าตัวร้ายตัวไหน?) เข้าใจว่าสงครามข้ามยุคมันจะเชื่อมๆกัน กูว่าไม่ต้องซ่อน เอาเป้าหมายให้คนอ่านเก็ทก่อน

(1) ระวังอย่าให้คนอ่านจำอะไรเยอะไป ตัวละครตัดได้ตัด ถ้ามันไม่สำคัญกับพล็อตหลักตัดเลย (เอาให้ลึกซึ้งก่อนจะขยาย)

(2) ถ้าจะเปิดปมเล็กย่อยต้องรีบเฉลย บางทีมันไม่ลุ้นถ้ามันมีหลายปม คลายอันนี้ได้แต่อันนั้นก็คาใจมันหนักไป (ตัวกูพอไหว แต่คนอื่นมันไม่ไหวหรอก เห็นคนอื่นอ่านแล้วงง)

(3) จะสร้างตึกต้องปักเสาเข็ม เน้นตัวเอกให้สำคัญที่สุดก่อนใคร เช่น พี่วิล เอาไงกะชีวิต? จะกลับบ้าน? หรือจะรักนางเอก? จะหยุดสงคราม? พี่เขาเก่งสร้าง
ก็สร้างเยอะๆ เอาตัวเอกให้แข็งก่อนไปขยายเน้นคนอื่น

(4) ลดปริศนาคำบอกใบ้ลง เลือกเอาอันที่คิดว่าเฉลยแล้วเฮ้ย!ที่สุด มาสัก 2-3 อย่างพอ เล่นไพ่ไม่ต้องบลัฟทุกตา (เหมือนข้อ 2)

(5) อุปสรรคขัดขวางตัวละครหลักต้องมีตั้งแต่ต้น ลองทำให้ตัวเอกลำบากมากๆ อย่าให้มันสบายกันนัก

(6)ไปฝึกเพิ่มการเล่าให้คนอื่นเห็นภาพ ทำไงดี? ลองใช้สตอรี่บอร์ด จัดมุมกล้อง ต้องทำให้คนอ่านนึกภาพได้เหมือนนั่งดูหนัง

กูแนะนำได้แค่นี้แหละ เท่าที่อ่านๆมามึงก็ตั้งใจดีและเป็นคนฉลาดพอดู ก็พัฒนาต่อไป

ลงชื่อ เซฮุน อ่อ ตอนที่ 98 ก็ซึ้งดี แต่ตอนที่ 270 กูงี้น้ำตาตลอ... กูไปละ

288 Nameless Fanboi Posted ID:G6mh9+c6q

>>287 ขอบคุณนะครับ ผมจะนำคำแนะนำไปพัฒนาไปปรับปรุงครับ

289 Nameless Fanboi Posted ID:13JF+/khU

>>288 ดูจำนวนตอน กว่ารีไรท์ทุกตอนอาจจะใช้เวลา 4 ปี

290 Nameless Fanboi Posted ID:khRXli5OD

>>289 เอาตัวเองตั้ง แล้วก็เดา

291 Nameless Fanboi Posted ID:HxmAruzEq

ขอความคิดเห็นเพื่อนโม่งหน่อย พอดีเพิ่งแต่งนิยายจบ เป็นนิยายรักวัยทำงาน (ซึ้งๆ ดราม่าหน่อยๆ)
ว่าจะลองส่ง สนพ.ดูสักหน่อย แต่ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะส่งไหนดี
ไม่รู้ที่ไหนเปิดโอกาสให้นักเขียนหน้าใหม่ได้เกิดบ้าง

292 Nameless Fanboi Posted ID:K2U9t9Spq

>>291 มีที่เล็งไว้แล้วหรือยัง?

293 Nameless Fanboi Posted ID:miLaZ+hhB

>>291 นึกไม่ออก สมัยนี้อาจจะไม่มีแล้วก็ได้ เทคโนโลยีเปลี่ยน คนอ่านเปลี่ยน ตลาดเปลี่ยน สมัยนี้สำนักพิมพ์ทำตลาดกันแบบให้คนอยากอ่านก่อนมากกว่าจะไปเสี่ยงดวงซื้อหน้าร้าน ถ้าหน้าใหม่ไม่เคยเผยแพร่ที่ไหนมาก่อนกูว่ายาก ตอนนี้เน้นกับนักเขียนที่มีคนตามอยู่แล้วหรือพิสูจน์มาแล้วส่วนหนึ่งว่ามีคนติดตามหรือชอบผลงาน แถมบางงานต้องตามเทรนตลาดอีกส่วนหนึ่ง บอกตามตรงนะกูคิดว่าการส่งต้นฉบับมันค่อนข้างเสียเวลา บางทีก็เป็นเรื่องดวง สำนักพิมพ์บางช่วงมีงานล้นพิมพ์งานเพิ่มไม่ได้เขาก็อาจจะไม่เอาก็ได้ ถ้าอยากพิมพ์กับสำนักพิมพ์จริงๆ มึงก็เขียนให้ติดท็อปนานๆ แล้วงานก็ต้องดี เดี๋ยวมีคงขอไปพิจารณาเอง ถ้ามึงคิดว่างานมึงอินดี้หน่อยๆ อาจจะไม่ถูกใจตลาดส่วนใหญ่ มึงไม่ต้องหวังว่างานมึงผ่านให้ทำมือเลย สำนักพิมพ์ทำธุรกิจต้องเอาตัวรอดกูไม่อยากให้มองโลกแง่ดีมากถ้างานมึงน่าจะขายได้น้อยเขาก็ไม่ได้อยากพิมพ์หรอก
สรุปนะ เขียนบนเว็บนั้นแหละแล้วก็ติดท็อป เป็นโอกาสให้มึงเกิดมากสุดแล้ว

294 Nameless Fanboi Posted ID:CyRADEMXj

>>293 แย้งนิดหนึ่ง เคยตามอ่านเรื่องหนึ่งในเด็กดีเนี่ยแหละ ยอดเฟบไม่ถึงร้อยแต่ส่งสนพ. ติดนะ อันนี้ก็ว่าแล้วแต่เนื้อเรื่องแล้วล่ะว่ามันน่าสนใจไหม
>>291 อยากส่งที่ไหนก็ส่งเลย ไม่ลองส่งแล้วจะรู้ได้ไงว่าเขาเอาไม่เอา ถ้ามันตรงกับแนวที่สนพ. เขารับน่ะนะ

295 Nameless Fanboi Posted ID:kcy2aIXLn

โม่งเงี่ยนๆ Doombringer นี่มันโอป่ะ
พอดีตามไปอ่านบ้าง กำลังคิดว่าใช้ได้ แต่เจอตอน3 ศัพท์เกมออนไลน์มาเต็มเลยพาลไม่อยากอ่านต่อ

296 Nameless Fanboi Posted ID:hOKeGTBQM

>>295 กูว่าโอนะ นั่งอ่านเรื่อย ๆ อยู่
กูก็ขัดใจกับการสาดสกิลในตอนนั้นเหมือนกัน กูชอบตรงมันมีองค์ประกอบของแฟนตาซีที่เป็นออนไลน์ แต่ไม่ใช่นิยายเกมออนไลน์ (มันให้ความรู้สึกเหมือนตอนกูเล่นแร็คใหม่ ๆ สมัย thief ยืนแท๊งบาโฟได้)
แม้ว่าแม่งจะสาดสกิลกันเยอะไปหน่อย
แต่คนเขียนมันก็ให้เหตุผล(กันเบียว) ว่าที่ต้องพูดชื่อสกิลเพราะให้ทีมเดียวกันรู้ตัวว่าแต่ละคนกำลังจะทำอะไร ถ้าอยู่คนเดียวมึงไม่ต้องพูดชื่อสกิลออกมาก็ได้ ซึ่งกูจะรอดูว่าตอนหลัง ๆ แม่งจะเป็นอย่างที่อีคนเขียนมันบอกมั้ย

ตอนหลัง ๆ มันเน้นชิงไหวชิงพริบอยู่นะ เท่าที่อ่านผ่าน ๆ มา กูชอบ

297 Nameless Fanboi Posted ID:kcy2aIXLn

>>296 โอเค งั้นเห็นสาดสกิลก็จะทนอ่านผ่านๆไปก่อน แว่บแรกก็นึกถึงแร็คขึ้นมาเหมือนกัน

298 Nameless Fanboi Posted ID:K2U9t9Spq

ไม่มีท่า Social Movement หรอวะ บัฟดีมากนะมึง

299 Nameless Fanboi Posted ID:hOKeGTBQM

>>298 ท่านี้(ตอบ)ยาก

300 Nameless Fanboi Posted ID:aLpYUf/GK

>>298 ถ้าจะ ky เรื่องนางงาม กูบอกเลยว่า จะอีก 10 หรืออีก 1000 ปี ก็ไม่มีทางได้มง ถ้าประเทศเราแม่งยังพูดบางเรื่องไม่ได้อยู่ จะสวยแค่ไหนแม่งก็มาตกม้าตายรอบตอบคำถามอยู่ดี

กูเชื่อนะว่าถ้านางงามไทยตอบคำตามแบบโหดสัสๆ ไปเลย มีโอกาสสูงมากที่จะชนะประกวด แต่จะกลับบ้านได้หรือเปล่านี่ก็เป็นอีกเรื่องนึงนะ

อย่างว่าแหละ เวลาแค่ 30 วิ แม่งน้อยไปสำหรับการตัดสินใจว่าจะเลือกมงกุฏหรือเลือกบ้านอะ

301 Nameless Fanboi Posted ID:vhsQPTcLN

ไม่เกี่ยวกับกลับบ้านได้ไม่ได้นะ... นางตอบเป็นคนที่ 3 คนแรกคือแอฟริกาใต้ตอบเรื่องสิทธิสตรีเรื่องรายได้ค่าจ้าง นางก็ยืนฟังอยู่

เวทีมันเวทีผู้หญิง ถ้าโดนถามว่า Social Movement ไหนเทพสุด ก็ตอบไปว่า Feminist สิ

เวทีนี้ของผู้หญิงอยู่แล้ว ตอบโง่ๆยังไงก็ได้ ผู้หญิงต้องเท่าเทียม เป็น เอมม่า วัตสัน เป็นโจลี่ เป็นฮิลารี่ คลินตั้นไปสิ

นี่คือนางเหมือนไม่รู้ว่า Social Movement คืออะไร ตอบมาได้ไงตอนนี้ สังคมผู้สูงอายุ วัยรุ่นคืออนาคตแม่งมั่วไปหมด ไม่เกี่ยวกับ Social Movement เลยสักนิด

นี่คือนางไม่มีจุดยืน ไม่มีความคิดที่จะเปลี่ยนสังคมเลย คำถามแบบนี้นางงามทุกประเทศเขาพร้อมรองับอยู่แล้วว่ะ

302 Nameless Fanboi Posted ID:4yIElCnrA

>>301 +1 นางไม่เข้าใจคำถาม เลยกลายเป็นถามอย่างตอบอีกอย่าง ถ้าจะผิดก็ผิดตรงไม่ได้เก็งข้อสอบแนวนี้มาก่อน

กุเข้าห้องผิดป่ะวะ แมร่งไม่เกี่ยวกับนิยายสักกะติ๊ด

303 Nameless Fanboi Posted ID:vhsQPTcLN

>>302 งานวรรณกรรมถือเป็น social movement อย่างหนึ่ง สิทธิสตรี ความรุนแรงผู้ชาย การยอมรับเพศที่สาม นิยายวายยูริ สภาพสังคม

แถมวิเคราะห์นางก็ได้ความรู้ไปสร้างตัวละคร

304 Nameless Fanboi Posted ID:B093zuexk

>>301 กูว่านางทำดีแล้วนะ คำถามค่อนข้างยากและเสรีในการตอบ มึงอย่าลืมว่าเค้ามีเวลาคิดคำตอบแค่ 30 วิ ต่อหน้ากรรมการ ต่อหน้าคนทั้งฮอลล์ คำตอบนางไม่ได้แย่แค่ไม่โดนใจกรรมการเว้ย ละกูคิดว่าวัยรุ่นก็เป็นส่วนหนึ่งของ social movement นะ

305 Nameless Fanboi Posted ID:CtTX+bHS0

>>300 มึงไม่รู้เหรอว่าไทยเคยได้มง

ส่วนคำถาม ลองไปอ่านที่บาโฟเขียนก็ดี ก่อนจะเพ้อมากกว่านี้

306 Nameless Fanboi Posted ID:yxg9NcVLr

ไม่รู้ใช่ดอกปอบรึเปล่า เห็นยกตัวอย่างคุ้นๆ https://www.dek-d.com/board/view/3810549/

307 Nameless Fanboi Posted ID:kXCB2cX3i

>>305 ไทยได้มงนี่รู้สิวะแหม แต่เทรนด์ตอนนั้นกับตอนนี้มันเหมือนกันที่ไหน

ลองนึกถึงปีก่อนสิ น้ำตาลๆ อะไรนั่นอะ เจอคำถามง่ายๆ แบบนั้นเข้าไปยังตาย ปีนี้ก็มาตกเรื่องตอบคำถามอีก กูเชื่อนะว่าถ้าเขากล้าพูดเรื่องการเคลื่อนไหวทางสังคมในบริบทของประเทศไทย ผลน่าจะออกมาดีกว่านี้ เพราะการตอบคำถามมันไม่ควรเป็นการพูดถึงในภาพรวมแบบ general ปะ มันควรที่จะโฟกัสลงไปที่เรื่องจำเพาะ ยิ่งถ้าสามารถยกตัวอย่างโยงเข้ากับประเทศของตัวเองได้ ยังไงมันก็น่าสนใจกว่า

308 Nameless Fanboi Posted ID:KIATL9yUS

>>307 มันก็ไม่ได้อยู่แค่เรื่องตอบคำถามป้ะ มันยังมีเรื่องผลประโยชน์ ธุรกิจ การเมืองอะไรนั่นอีก ต่อให้ตอบดีจริง แต่เรื่องผลประโยชน์มันไม่เอื้อ กูว่าเราก็ยังได้มงยากอยู่ดี

309 Nameless Fanboi Posted ID:M9vNl5tAm

อย่าไปซีเรียสมากเลยว่ะ การเมืองโลกทั้งนั้น คราวก่อนประกวดไรสักอย่างนี่แหละ นางงามฟิลิปปินส์พูดอยากเป็นเมืองขึ้นเมกา ได้รางวัลเลย 5555

310 Nameless Fanboi Posted ID:y1kkeNr7Z

>>304 คำถามคือ Social Movement ไหนสำคัญที่สุดใน your generation (รุ่นมึง) and why?

มึงเลือกมาตอบสิ มันไม่มีนะ Youth movement กับ Aging Population movement

https://en.m.wikipedia.org/wiki/List_of_social_movements

ตอบคำถามเป็นคนที่สาม คนแรกก็พูดเรื่องสิทธิสตรีไปแล้ว นางก็ยืนฟังอยู่

จะตอบ LGBT สีผิว สิทธิกะหรี่หีควยอะไรก็ตอบไปสิ

นี่แม่งรู้หรือเปล่าว่า Social Movement คือเหี้ยอะไร ต้องโง่แค่ไหนถึงจะไม่เข้าใจคำว่า Social Movement พวกมึงเองก็เพิ่งรู้จักหรือไงกัน

เขาเลือกนางงามไปเปลี่ยนสังคมโว้ยยย ถ้ามึงจะไปประกวดแค่สวยสุด ใส่ชุดงามสุด มึงกลับมาเถอะ พกสมองบ้าง คำถามไม่ได้ยากเหี้ยอะไรเลย อ่านหนังสือพิมพ์ทุกวันก็เจอทุกวัน พี่เลี้ยงไม่บรีฟบ้างหรือไง

>>305 มึงไม่ต้องยกบาโฟมาหรอก มึงก็รู้บาโฟมีจุดหมายเดียว ตัวเขาก็หัวเรือ Social Movement คนที่เขาอยากเปลี่ยนแปลงสังคม เจอคำถามนี้เขาตอบได้เลยโว้ย นางงามทุกคนต้องซ้อมตอบถาม

เรื่องสิทธิสตรีแม่งพื้นฐาน เสือกโง่เชื่อมอะไรไม่ได้เอง วัยรุ่นคืออนาคตเหี้ยไรสังคมสูงวัยเหี้ยไร นอกเรื่อง กลับบ้านๆ อายเขา

311 Nameless Fanboi Posted ID:8qKteSTCd

>>310 เสียดายชิบหายที่มึงไม่ได้ไปประกวด ไม่งั้นมีได้มงไปแล้ว

กูเพิ่งรู้ว่าประเทศกูมีคนเก่งเยอะขนาดนี้ ทำไมแม่งไม่พัฒนาสักทีว้า

312 Nameless Fanboi Posted ID:bnjgI/YB.

>>311 เพราะใกล้เจริญทีไร มีกลุ่มมนุษย์ลิงถืออาวุธเข้ามาดาวน์เกรดประเทศทู้กกกกที

313 Nameless Fanboi Posted ID:nS80CRdV7

>>311 เก่งไป ถ้าเปิดเผยตัวก็หัวขาดอะ

314 Nameless Fanboi Posted ID:szYuJNQlq

แบบเอกยุทธโดนปูเก็บป่ะ5555

315 Nameless Fanboi Posted ID:fE5MFSFkG

>>314 แบบเก่งดำเก็บคนคิดต่างสมัยพ่อปรีดีด้วย

316 Nameless Fanboi Posted ID:9.5hHTQ+y

>>311 KY เซฮุน KY บีบครีมใส่นิ้ว

นี่คือตรรกะแบบไหนวะ กูงงมากๆ จะเรียกประชดแดกดันแม่งก็ไม่เจ็บ เสือกไปชมเขาอีกว่าเก่ง แถมลากไปแซะประเทศตัวเองว่าไม่เจริญสักที

กูว่าพวกมึงเลิกทะเลาะกันแล้วสับนิยายเถอะนะ กูมาห้าม

ลงชื่อ เซฮุน อ่อ... เวลาคุยเหี้ยไรกันก็จับประเด็นดีๆหน่อยนะ มั่วไปมั่วมาเสียนิสัย

317 Nameless Fanboi Posted ID:rUPGAAZJ/

>>315 พูดกันตามตรงนะ ปรีดีไม่ได้เก่งอย่างที่เชิดชูในสมัยหลังหรอก ที่พอดูได้ก็มีแค่แผนทางสังคมกับเสรีไทย ส่วนแผนด้านเศรษฐกิจนะหลุดโลกไปมาก ชนิดที่สตาลินกับพอลพตมาเห็นยังต้องยกนิ้วให้ ถ้าเอามาทำจริงคนไทยคงตายไปเป็นล้านเหมือนช่วง Great Leap Forward ของจีนนั่นละ

ถ้ามึงอ่านข้อมูลสมัยนั้นจะเห็นเลยว่าประชาชนหรือแม้แต่พวกเดียวกันเองก็ไม่ได้ชื่นชมปรีดีนักหรอก เรื่องบางเรื่องปรีดีก็เอาหน้ามากไป อย่างเรื่องยอมแพ้ญี่ปุ่น บันทึกครม.ระบุชัดเจนว่าถึงแม้เสียงจะแตก แต่ทุกคนรวมถึงปรีดีเห็นพ้องให้ยอมแพ้ แต่ในความทรงจำของคนสมัยหลัง ปรีดีเป็นผู้ต่อต้านอย่างแข็งขัน

บันทึกช่วงสงครามโลกนี่สนุกเป็นพิเศษ ถ้ามึงอ่านบันทึกชั้นต้นดีๆ จะพอเห็นลางๆ ว่าทุกฝ่าย "แอบ" ต่อต้านญี่ปุ่นหมด และ "รู้กัน" ว่าใครต่อต้านญี่ปุ่นบ้าง ฝ่ายปรีดีก็มีบันทึกว่าจอมพลป.เคยหลับหูหลับตาเรื่องปรีดี ปรีดีเองไม่ได้ซื่ออะไร เพราะสุดท้ายคน "ชนะสงคราม" ก็คือปรีดีคนเดียวอยู่ดี

318 Nameless Fanboi Posted ID:szYuJNQlq

>>316 ยอมใจจริงๆ ลากเข้าประเด็นแบบไม่ลงชื่อ แล้วรีเซ็ทโมเดมมาพูดหล่อๆให้ทุกคนหยุด

319 Nameless Fanboi Posted ID:9w9aCcH+T

>>314 ใครเชื่อว่าเอกยุทธโดนปูเก็บนี่ควายเรียกพี่เลยนะ คือแค่มึงไปดูประวัติมันแบบไม่ใช้อคติ ก็น่าจะรู้ได้ว่ามันโดนเก็บเพราะอะไร

320 Nameless Fanboi Posted ID:RDE2vDSRS

กุเตือนพวกมึงนะ ไปเล่นที่อื่น อย่าหาเรื่องให้ห้องนี้โดนปิด

321 Nameless Fanboi Posted ID:OGyz1SPSw

>>318 มึงจะต่อไหมล่ะ? กูก็คันไม้คันมือ เอาเรื่องอื่นก็ได้นะ กูได้หมด

ลงชื่อ เซฮุน ผู้มีบาตรแจกันและแสงลูซิเฟอร์ในหัวใจ

322 Nameless Fanboi Posted ID:bnjgI/YB.

ถ้าด่าอิปูก็ต่อได้ยาวๆนะแจ๊ะ แต่ห้ามวกไปหาลุงยุดด ไม่งั้นนักเลงขี้ฟ้องขู่ปิดห้องทุกที 5555

323 Nameless Fanboi Posted ID:S/VWI8O74

ทำไมรู้สึกเหมือนแมร่งคุยอยู่คนเดียวว่ะ เปิดปิดโมเด็มรัวเลยนะมึงสัส

324 Nameless Fanboi Posted ID:FSgvnt/Yk

>>323 กูแวะเข้ามา อ๋อออ

ลงชื่อ เซฮุน กูเพิ่งเก็ท อ๋อ... โมเด็ม อ๋อ รีเซ็ตเร้าเตอร์ อ๋อเปลี่ยนไอพี.... ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โอ้ยฮา

325 Nameless Fanboi Posted ID:FSgvnt/Yk

>>323 เชี่ยกูคุยกะคนโง่มากก็จะโง่ตามไปด้วยหรอวะ กูน่าจะเก็ทตั้งนาน

ลงชื่อ เซฮุน เชี่ยขำ

326 Nameless Fanboi Posted ID:3cwLMwz8y

โด่เอ้ย อุตส่าห์เข้ามาอ่าน ดันมาทะเลาะเรื่องที่ไม่เกี่ยวอะไรกับมู้เลย แล้วก็ต้องมีเซฮุนร่วมด้วยเหมือนเดิม เบื่อว่ะ..

327 Nameless Fanboi Posted ID:Dq/GnPlsd

ky ถามหน่อย พวกมึงคิดว่านิยายแบบไหนมันขายได้แบบยั่งยืนวะ
1. เขียนแนวกระแส(จีนรักแฟนตาซี)
2. เขียนแบบที่กูชอบ(ไซไฟแฟนตาซี)
3. เขียนวาย เน้นเย็ดดุ ๆ
4. เขียนรัก เน้นเย็ดสวยงาม

กูร้อนเงินว่ะ หรือกูควรไปทำงานพิเศษอย่างอื่นแทนวะ

328 Nameless Fanboi Posted ID:RDE2vDSRS

>>327 เรียงตามตลาด 3 4 1 2 อีกอย่างอยู่ที่จะขายแบบไหนด้วย หนังสือทำมือ ebook หรือcoin ได้เงินต่างกันนะมึง เร็วช้าก็ต่าง ถ้าร้อนเงินไปทำงานพิเศษดีกว่า แล้วค่อยๆเขียนงานเก็บไว้ขายได้อ่ะมึง

329 Nameless Fanboi Posted ID:NtF7Utbl4

>>326 กูเข้ามาห้าม... ไม่ได้เข้ามาร่วม อ่านปากของฉันนะว่า

ลูก

อี

สัด

ลงชื่อ เซฮุน อ่านปากของฉันนะว่า... ลูก อี สัด

330 Nameless Fanboi Posted ID:Dq/GnPlsd

>>328 ขอบใจมึงมาก ๆ

331 Nameless Fanboi Posted ID:9kuX2/U2e

เดี๋ยวนี้ต้องมีอะไรกันหนักๆ บวกวายถึงจะขายได้แล้วเหรอ

332 Nameless Fanboi Posted ID:.xqwVGHah

>>331 ทำใจ ฟุมันเยอะ

333 Nameless Fanboi Posted ID:7wPR98ef7

>>327 แนวไหนก็ได้ที่เด็กแม่งอ่าน พวกนี้เวลาซื้อไม่ค่อยคิดเยอะ ถูกใจแม่งซื้อ ไม่เหมือนผู้ใหญ่วัยทำงานหาแดกเอง
จากตัวเลือกของมึง กูคิดว่า3 ยุคนี้สาววายครองเมือง จนกูที่เป็น ญ ไม่วาย กลายเป็นชนกลุ่มน้อย

334 Nameless Fanboi Posted ID:bnjgI/YB.

วาย+nc+ S&M

335 Nameless Fanboi Posted ID:yxg9NcVLr

เว็บเด็กดวกมันจะกลายเป็นแหล่งนิยายขายเกย์ก็เพราะคนชอบวายเยอะเป็นพิเศษ อยากจะเปลี่ยนโดเมนเป็น dek-y.com วะ

336 Nameless Fanboi Posted ID:9w9aCcH+T

อยากรู้ว่าสาวฟุเนี่ยอยากโดนเยตูดบ้างรึเปล่าครับ ทำไมชอบจิ้นให้ผชเยกันเองจังเลย

337 Nameless Fanboi Posted ID:9pl9uE4wg

>>286 เมื่อวานนี้กูเพลียๆ เลยไม่ได้เปิดโม่ง
ตอนที่ 5
เจ๊ลิสพาน้องแชลล์ไปกินข้าวที่ห้างที่เจ๊ลิสเคยมาซื้อของ เจ๊ลิสพาน้องแชลล์ไปกินที่ร้านอาหารอังกฤษ ซึ่งกูรู้สึกแปลกๆ นะ โลกเกมแฟนตาซีจีบหนุ่มมีประเทศอังกฤษด้วยเหรอวะ? แน่นอนว่าเจ๊ลิสก็เป็นฝ่ายเลี้ยง รูดบัตรด้วยตัวเอง แต่ใช้บัตรรูดไม่จำกัดของพ่อนะ กินเสร็จก็ช็อปปิ้งซื้อเสื้อผ้า ขากลับ เจ๊ลิสบอกให้คนขับรถไปส่งที่โชว์รูม แล้วบอกให้ไปส่งน้องแชลล์ก่อน เพราะเจ๊ลิสจะซื้อรถ เจ๊ลิสก็บอก สมัยก่อนเจ๊ลิสมี BMW i8 แต่เจ๊แกอยากได้จริงๆ คือ Ferrari 812 Superfast แล้วยังพอว่าเคยเป็นนักแข่งรถมาก่อนสมัยเป็น นศ.
คราวนี้เจ๊ลิสบอกว่าแอบไปทำใบขับขี่มาแล้ว โดยการแอบปีนหน้าต่างออกโดยอ้างว่าอยู่ในห้องอ่านหนังสือ ตรงนี้แหละที่กูคาใจ คือ นี่มันบ้านของ Duke อันดับต้นๆ ที่หักหน้าราชวงศ์ได้แล้วยังอยู่ดีมีสุข ลูกแอบหนีไปไม่มีใครรู้ ขึ้นทะเบียนทำใบขับขี่ก็ไม่มีใครรู้...WTF
ต่อมาเจ๊ลิสจะซื้อรถของตัวเอง ก็จะเอา Ferrari 812 Superfast นั่นแหละ กูก็คิดว่าคงเป็นแค่ของคล้ายๆ กัน เป็ฯของต่างชื่อ อะไรประมาณนี้แต่...
เย็ดแม่! เจ๊ลิสบอกชื่อ Ferrari 812 Superfast กับพนักงานไปโต้งๆ แล้วแม่งเสือกมีขายจริงด้วยนะเว๊ย!!? เหยดดด นี่มันเกมจีบหนุ่มแน่เหรอวะ กูว่าค่าลิขสิทธิ์ Ferrari ยิ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดตามที่เจ๊ลิสบอกด้วย กูว่าแม่งไม่ใช่ถูกๆ แน่ๆ อะ ...
จากนั้นก็แค่บอกว่า ผลิตกันมาแค่ 5 คันเป็น Limited Edition ต่างสี แล้วเจ๊ลิสเป็นคนแรกที่ซื้อรุ่นนี้ แน่นอนเจ๊ลิสก็เลือกสีดำ หลังจากได้รถแล้ว เจ๊ลิสไปทดลองขับในสนามฝึก แน่นอนว่าเจ๊ลิสโชว์เทพ ขับด้วยความเร็วสูงสุดและเลี้ยวอย่างงดงามโดยแค่ผ่อนความเร็วและไม่ได้แตะเบรคเลย ทดลองจนหนำใจ ก็บอกให้พนักงานเปลี่ยนล้อเป็นแบบที่ตัวเองชอบ แล้วจะไปสนามแข่งรถ
จบตอนที่ 5
เริ่มตอนที่ 6
เจ๊ลิสที่ว่าจะไปสนามแข่งนั้นกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเสื้อครอปเอวลอย+ยีนส์เอวสูงขาสั้นโชว์ขาสวย....เจ๊แต่งตัวไม่ได้ต่างจากสก๊อยที่ผมเคยเห็นเลยนะ...
แต่งเสร็จไปหาพ่อ บอกพ่อว่าไปเที่ยวคนเดียว พ่อก็อนุญาตแล้วบอกอย่ากลับดึก...
ไปสนามแข่ง พนง.ก็ถามว่าเจ๊มาดูหรือมาแข่ง เจ๊บอกมาดูแล้วถามพนง.กลับว่า ที่นี่ใครเจ๋งสุด พนง.บอกไปดูที่ตารางคะแนน เจ๊ลิสแวะกินกระดกโค๊กก่อนจะไป แต่กระดกเสร็จก็เปลี่ยนใจไปบอก พนง. ว่าจะลงแข็ง พนง.ก็ถาม แข่งสนามเรียบ/วิบาก เจ๊ลิสก็ถาม คนเจ๋งสุดที่นี่แข่งสนามไหน คำตอบคือสนามเรียบ จากนั้นเจ๊ลิสก็ลงทะเบียนแล้วบอก โลกนี้ไม่มีรถแข่ง เขาแข่งโดยใช้รถสปอร์ต...
ลงทะเบียนแข่งเสร็จก็ไปดูตารางคะแนน คนเจ๋งสุดที่นี่ชื่อ เซเบอร์ ครูส ลูกของดยุกที่ไม่ถูกกับพ่อเจ๊ลิสมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ มีการกดด้วยนะว่าตระกูลครูสเป็นรองตระกูลเจ๊แกมาตลอด เจ๊แกเลยฮึกเฮิ้ม อยากรู้ว่าใครจะเจ๋งกว่ากัน ไม่ต้องอ่านต่อ กูก็รู้ว่าเจ๊ลิสชนะแน่ๆ อะ แล้วแม่งเหมือนคนเขียนจะรู้ จบตอน 6
เริ่มตอน 7
อีเหี้ย ไรท์แม่งตัดฉากแข่งรถไปเลยโว๊ย ตัดไปแบบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยอีชิบหาย ไปเป็นฉากที่เจ๊ลิสเจอนางเอกเกมควงผู้ชาย 2 คนเข้าโรงแรม เจ๊ลิสเลยแอบตามแล้วถ่ายวิดิโอ เจ๊ลิสแกอยากเสือกเลยยกเลิกการแข่ง แล้วมึงจะใส่ตอนที่ 6 มาทำมะเขีอไรวะ!? จากนั้นก็ยัดฉากเรทผ่านมุมมองบุคคลที่ 3
จบตอน 7
เริ่มตอน 8
กูเริ่มเบื่อๆ บวกเกลียดเรื่องนี้ไปทุกทีแล้วนะ สรุปสั้นๆ คือย้ายเข้าหอ S อธิบาย+ยัดรูปเครื่องแต่งกายกลัวคนอ่านโง่ แล้วจบตอนด้วยการเอาวิดิโอที่ถ่ายการร่วมรักของนางเอกกับ 2 หนุ่มปริศนาเนี่ยขึ้นจอกลางหอประชุมต่อหน้านักเรียนที่เข้าร่วมกันปฐมนิเทศทั้งหมด

ในความรู้สึกของกู สิ่งที่เจ๊ลิสทำเหมือนกเป็นการ 'ฆ่า' คน 3 คนเป็นอย่างต่ำให้ตายทั้งเป็นเลยนะนั่น ที่กูอ่านมายันเรื่องที่เขียนไว้ในรายละเอียดเกมของตอนแยก กูว่านางเอกเกมก็ไม่ได้ทำอะไรเจ๊ลิสแกเลยนะ มีแต่เจ๊ลิสเนี่ยที่เป็นฝ่ายรุกเหมือนแค้นกันตั้งแต่ชาติปางก่อนเลย ตรงนี้กูไม่ OK อย่างรุนแรง เหตุผลมันไม่มากพอว่ะเอาตรงๆ
จบตอน 8

ลงนาม โม่งมารี ชั่วช้ากว่าเจ๊ลิสก็คนอ่านที่เชียร์เจ๊นั่นแหละ...นี่เป็น 1 ในไม่กี่เรื่องที่ทำให้กูโมโหว่ะ...

338 Nameless Fanboi Posted ID:fiWeni1Mx

>>337 เหนื่อยแล้วก็พักเถอะ กูลองอ่านเรื่องนี้ไม่กี่ตอนแทบจะทำธาตุไฟเข้าแทรกเลย

จริง ๆ กูก็ไม่ค่อยอยากจะวิจารณ์หรือดูถูกรสนิยมคนอ่านหรอกนะ เข้าใจว่าแต่ละคนมีความชอบ/รสนิยมไม่เหมือนกัน แต่กับเรื่องนี้... อ่านกันเข้าไปได้ไงวะ

339 Nameless Fanboi Posted ID:87.P7.A1+

>>337 มึงสับดีมากเลยว่ะ กูอ่านแล้วกูชอบมาก เขียนได้ดี เขียนได้ถูกต้อง

ลงชื่อ เซฮุน ตัวแทนแห่งแจกันลูซิเฟอร์

340 Nameless Fanboi Posted ID:3cwLMwz8y

ตั้งแต่ที่อ่านที่มึงเล่ามา นางเอกร้ายยังไงวะ มีแต่เจ๊นี่ร้ายเอาๆ เสียดายอิมเมจหมอทาเคมิโว้ยยยย

341 Nameless Fanboi Posted ID:/eNMPZsYh

>>336 หยาบคาย...

เราสาววายนะ แต่หลังๆ มานี่เริ่มเอียนแล้ว แต่สมัยวายแรกเริ่ม เราจิ้นชายชายเพราะเขามีโมเมนต์กัน แต่ก็ไม่ได้จิ้นถึงขนาดอยากให้เขาพากันไปขุดเหมืองทอง มันก็เหมือนเห็นดาราสองคนเคมีเข้ากันน่ารักดี เลยอยากให้เป็นแฟนกันนั่นแหละ

สำหรับเรา เราคิดงี้นะ แต่ของสาววายคนอื่นไม่รู้

342 Nameless Fanboi Posted ID:+7djbMJu5

https://www.dek-d.com/board/view/3810923/ น่าสงสารเขานะครับ...

343 Nameless Fanboi Posted ID:4J9Ai4OoT

>>337 สิ้นหวังจริงๆกับหมวดรักแฟนตาซี ตั้งแต่อันดับ1 ที่ "คู่หมั่น" ตั้งแต่โปรย ส่วนเรื่องนี้ก็ เห้อ...
>>342 กูตั้งน้ำรอ

344 Nameless Fanboi Posted ID:cv35+BbGy

>>343 กูพึ่งไปดูอันดับมา โอ...ไอ้เรื่องที่เป็นอันดับ 1 ในหมวดก็เรื่องนี้ที่กูกำลังสับนี่แหละ

ลงนาม โม่งมารี

345 Nameless Fanboi Posted ID:Ovch4NV4c

>>344 เรื่องที่มึงสับไปอันดับ1แล้วเรอะ!!!? อนิจจา...
อันคู่หมั่นที่กูหมายถึงคือเรื่อง ฉันจะสร้างประเทศของฉันเอง!!! เห็นวันก่อนมันอยู่1 วันนี้ร่วงแล้วสินะ โทดทีกูไม่ได้อัพเดต

346 Nameless Fanboi Posted ID:tR6BRCpKr

>>344 กูมั่นใจว่า คนเขียนด้นสดสลัด
>>342 มันอยากดัง ก็แค่อยากได้อันดับ 1 แห่งบอร์ดนักเขียนเท่านั้นเอง

347 Nameless Fanboi Posted ID:/knFj8.Yt

>>342 นางคิดว่าตัวเองเป็นนางเอกผู้น่าสงสาร แล้วโดนตัวอิจฉารวมหัวกันกลั่นแกล้งหรือยังไง

348 Nameless Fanboi Posted ID:4/+T+Pazs

>>342 พี่เครื่องทิ้งบอมก่อนเพื่อนเลยวุ้ย

349 Nameless Fanboi Posted ID:w4UFivL4D

>>347 she is a lukedok

350 Nameless Fanboi Posted ID:+7djbMJu5

>>347 ล่าสุดที่ตอบก็ไม่ได้น่าสงสารแล้วมั้ง

351 Nameless Fanboi Posted ID:4/+T+Pazs

เว็บมาสมาสรุป นางยังเหวี่ยงใส่ บางทีก็อดสงสัยไม่ได้ว่านางเป็นนางพญามาจากไหน ทำไมต้องให้ใครๆยอมสยบ

352 Nameless Fanboi Posted ID:/knFj8.Yt

>>351 นั่นน่ะสิ นางเคยมองเห็นความผิดของตัวเองบ้างไหม
เห็นแต่กล่าวหาคนอื่น โยนความผิดให้คนอื่น โดยไม่หันมามองดูตัวเองเลย

353 Nameless Fanboi Posted ID:RBxD69s/R

>>351 พี่เว็บมาสสรุปได้ตรงประเด็นมาก สาแก่ใจอิช้อยยิ่งนัก

354 Nameless Fanboi Posted ID:+7djbMJu5

พี่เครื่องเริ่มวอร์แล้วว่ะ คือกุยนี่ไม่รู้สึกว่าตัวเองผิดเลยเรอะ

355 Nameless Fanboi Posted ID:vyZYSbEDt

>>348 เครื่องบินทิ้งระเบิดสินะ

356 Nameless Fanboi Posted ID:rV+9YAaR5

กุไม่ได้เข้าโม่งมาหลายวัน วันนี้กลับมาประเด็นอีกุยอีกแล้วเรอะ!?

357 Nameless Fanboi Posted ID:4/+T+Pazs

>>355 พี่เครื่องรุกหนักบินวนกระหน่ำทิ้งระเบิด บอมหมดกลับฐานไปเติม กะเอาอีกุ๊ยให้ไม่เหลือซาก
>>356 นางเปิดประเด็นใหม่เอง คราวนี้จะบังคับเว็บให้สิทธิพิเศษกับนาง กุไม่ผิด เอ้ยกุผิดแต่ขอปลดแบนแก้หน่อยดิว้า

358 Nameless Fanboi Posted ID:Os4fYe6ys

>>357 อิกุ๊ยก็เหมือนอุดมการณ์ แพ้ย่อยยับยังไงก็ไม่ตาย อิเหี้ย ลุกใหม่ได้เรื่อยๆ

359 Nameless Fanboi Posted ID:mKLthgqft

>>358 แมลงสาบชัดๆ

360 Nameless Fanboi Posted ID:Os4fYe6ys

เกียรติ จากกระทู้ที่แล้วก็มาคลุกวงด้วย

361 Nameless Fanboi Posted ID:4/+T+Pazs

เหยด กุชอบอันนี้ โควทของคุณผีกุ๊ย มั่นหน้าโคตรๆ
https://www.dek-d.com/board/view/3810923/1/?comment=20_1

362 Nameless Fanboi Posted ID:B9mQo+0Av

ไม่ใช่เรื่องของกูหรอกนะ แต่กูจะบอกอะไรเพื่อพวกมึงลืมไป... จะไล่หมาก็อย่าเอาให้จนตรอกนะ ศิลปะในการทำให้คนสำนึกกับกลั่นแกล้งเพื่อสาแก่ใจมันต่างกันนะมึง

นักเขียนโดนแบนนี่เหมือนมึงไปพรากลูกจากแม่นะ อีกอย่างเวลาคนบ้ามันทำอะไรก็ได้... กฎหมายมันไม่ได้มีไว้คุ้มครองหรือรักษาความยุติธรรมนะมึง ให้ถูกผิดยังไง ขึ้นโรงขึ้นศาลมันน่ารำคาญ

ลงชื่อ เซฮุน เรื่องนี้เซฮุนจะไม่ยุ่ง

363 Nameless Fanboi Posted ID:B9mQo+0Av

>>362 สัดผิมพ์ผิด "เผื่อพวกมึงลืมไป"

364 Nameless Fanboi Posted ID:xHNUPmI2x

>>362 กับคนแบบนี้คงยากมั้งมึง ไม่มีท่าทีสำนึกผิดเลย

365 Nameless Fanboi Posted ID:YUhJfKfuL

>>362 มึงก็ต้องมองกลับไปว่าทำทำผิดจริงหรือเปล่า กฎข้อบังคับของที่นั้นๆ เป็นยังไง ไม่ใช่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล อยากได้ต้องได้ อยากทำอะไรก็ทำ ถ้าในเมื่อมันไม่เคารพกฎก่อน ก็สมควรได้รับบทลงโทษที่มีไว้ ไม่งั้นจะตั้งกฎมาทำกะลามะพร้าวไรวะ

366 Nameless Fanboi Posted ID:8puf74h5e

>>362 กูเห็นด้วยกับมึง

367 Nameless Fanboi Posted ID:bdWmdJv9h

>>365 กูไม่ได้ว่าเรื่องถูกผิด กูพูดถึงตามเช็ดตามขยี้ ไล่หมาอย่าจนตรอก

มึงอ่านที่กูเขียนไม่เข้าใจตรงไหน กูไม่ได้ว่าถ้ามึงจะเผามันประหารมันถ้ามันผิด บทลงโทษคืออะไรก็ให้สาสม

กูแค่บอกว่าแต่อย่าไปเยี่ยวรดหลุมศพ ไปถุยน้ำลาย ไปเอาเลือดหัวมาล้างตีน... จบศึกเขาให้ฝ่ายตรงข้ามมาเก็บศพ ทุกคนทิ้งดาบหยุดยิง

ลงชื่อ เซฮุน ทำไมต้องให้กูอธิบายซ้ำวะ

368 Nameless Fanboi Posted ID:tR6BRCpKr

>>367 วางถุงกาวก่อนเถอะ เคสอีกุ๊ยบ่นในมู้ไม่มีความจำเป็นพึ่งศาล แค่เฮียเว็บจัดการพอ

369 Nameless Fanboi Posted ID:YUhJfKfuL

>>367 โอเค กูน่าจะเข้าใจความที่มึงสื่อผิดเอง
ขอโทษมึงด้วยนะ

370 Nameless Fanboi Posted ID:bdWmdJv9h

>>368 >>368 เหี้ยไรอี๊กกกกก? ถุงกาวพ่อง!!!

กูแค่ยกตัวอย่างว่าคนบ้าทำอะไรก็ได้... นี่พวกมึงอ่านที่กูเขียนแล้วจะหยิบตรงไหนก็หยิบหรือไงลูกอีสัด?

คนเตือนเหี้ยไรก็ฟังบ้าง อย่ามั่นใจมากนัก พลาดมามันลำบาก

กูไม่ได้ปกป้องแม่งเลยสักนิดอีฉิบหาย กูไม่ได้ตรัสรู้หรอกมันจะทำอะไรน่ะ แบนนิยายมันได้ก็หัวเราะเงียบๆกันไปสิ เป็นเหี้ยไรมากไหม? นี่แม่งตามไปสะใจถึงในกระทู้... ตามสบายนะพวกมึง

ลงชื่อ เซฮุน กูไม่เตือนละ พอๆ

371 Nameless Fanboi Posted ID:bdWmdJv9h

>>369 กูอยากให้ฆ่ากันอย่างมีศิลปะน่ะมึง สังเวยเทพแจกันลูซิเฟอร์กู

ลงชื่อ เซฮุน หัวหน้าลัทธิบูชาลูซิเฟอร์ในแจกัน

372 Nameless Fanboi Posted ID:z8qe6t5Oq

เผื่อโม่งใหม่ไม่รู้ ในนี้ไม่สนับสนุนวอนนาบีซัมวันนะครับ กรุณาเคารพในความเป็น anonymous ด้วยครับ

ถ้าเจอใครทำตัวผิดแผกแตกต่าง ก็พยายามอย่าไปใส่ใจ ต่อความยาวสาวความยืดเลยครับ

373 Nameless Fanboi Posted ID:bdWmdJv9h

>>372 มีกฎให้กูต้องเคารพความ นิรนาม anonymous ด้วยเหรอวะไอ้วิดสวะ? หรือนี่คือไอ้เหี้ยถุย?

ลงชื่อ เซฮุน ดีใจเหี้ยๆ กูกำลังจะได้ด่าควาย

374 Nameless Fanboi Posted ID:NeS2mkvv.

KY สงสัยว่ะ ถ้ากูตั้งชื่อ นัดเย็บต่างโลก
พลอตประมาณพระเอกเป็นหมอศัลยกรรม ถูกอัญเชิญไปรักษาที่ต่างโลก

เอาแค่ชื่อเรื่องแม่งจะโดนแบนป่าววะ คือกูตั้งใจให้มันล่อแหลมอะ

375 Nameless Fanboi Posted ID:4/+T+Pazs

>>372 +1 สนับสนุนแบนวอนนาบีในโม่ง

376 Nameless Fanboi Posted ID:GbJtZjR3b

>>372 +1
>>374 ก็ไม่น่าเป็นไรนี่ ก็ชื่อมันสื่อถึงความเป็นหมออยู่นะ แต่ถ้าไม่อยากวุ่นวายก็ชื่ออื่น ถ้าอยากตั้งให้ได้ก็เชิญ

377 Nameless Fanboi Posted ID:4/+T+Pazs

>>374 แค่ชื่อไม่น่าโดนว่ะ คนตรวจแม่งคงไม่โง่ กดดูนิยายหน่อยก็รู้แล้วว่ามุก

378 Nameless Fanboi Posted ID:bdWmdJv9h

>>375 เคนะ

กูเลิกสับนิยายไปพัก เพราะพวกมึงนี่แหละนี่มันมู้สับนิยาย

กูมาสับนิยาย ถ้าพวกมึงไม่ให้กูติดชื่อ กูสับแล้วใครจะรผุ้ว่ากูสับ คนอื่นมันก็ตั้งชื่อกัน ไม่ได้มีแค่กู

ตั้งกฎขึ้นมาเองทำพ่อง? วันๆมีแต่คนควยนินทากัน ผิดประเด็นมู้แต่เสือกไล่กู

เหี้ยกันเข้าไป

ลงชื่อ เซฮุน นี่กูเข้ามาเตือน เสือกเปลี่ยนประเด็น ไอ้วิดสวะ ไอ้เหี้ยถุย ไอ้พวกเหี้ย

379 Nameless Fanboi Posted ID:bdWmdJv9h

คือพวกมึงแค่หาวิธีมานะ ว่าทำยังไงก็ได้ เวลากูจองสับหรือจะสับนิยายแล้วไม่ต้องลงชื่อทำไง

นี่แม่งก็กลับไปที่เดิม พวกไม่ทำส้นตีน มานั่ง +1 +1 ไล่คนสับ

กูฟังเหตุผลนะ ไม่ใช่เหี้ยอะไรมาตั้งกฎส่งเดชแบบวิดสวะสถาบันคนโง่คิดว่าตัวฉลาด

ลงชื่อ เซฮุน มึงคิดว่ากูชอบเหรอชื่อเกาหลีแบบนี้

380 Nameless Fanboi Posted ID:EBCjbsYu2

>>378 >>379

Quit whining, dude. Haters are gonna hate. It's how the world works. Just keep doing what's right. Keep your head up, man.

Louis Forest

381 Nameless Fanboi Posted ID:YUhJfKfuL

>>380 It's better if you talk in Thai. Everyone doesn't skillfully like you.

ภาษาไทยก็ได้มั้งคนับ เห็นละขัดว่ะ

382 Nameless Fanboi Posted ID:QMgm+Mm59

>>381 No, it's better this way. Nobody seems to understand when I write in my Thai too often, way too often.

I used to come here and explain myself in your language. But that didn't work out at all... so here we are.

I'm gonna communicate with you people in English from now on.

383 Nameless Fanboi Posted ID:tR6BRCpKr

>>379 มึงร้อนตัวนี่หว่า อยากมีเมียแบบอีกุยในมู้ก็บอกมาเหอะ

384 Nameless Fanboi Posted ID:GbJtZjR3b

>>382 Ok Ok Mr. High-education. Whatever.

385 Nameless Fanboi Posted ID:2KqY+lhlE

>>384 Is that a compliment or you are just being snarky.

Yes, I'm educated, so that will make you a lack thereof? Whatever back at ya.

386 Nameless Fanboi Posted ID:GbJtZjR3b

>>385 You need to ask? Really?

387 Nameless Fanboi Posted ID:Na7wYY+Ff

>>386 I didn't place a question mark. Was it a question? Could you call it that? I did not call you a dim-witted, did I? So whatnif I did?

Whatever ever? Never ever ever? Forever and ever? Amen?

388 Nameless Fanboi Posted ID:GbJtZjR3b

>>387 เออ เรื่องของมึง

389 Nameless Fanboi Posted ID:GbJtZjR3b

กูแค่ว่างๆเบื่อๆ ก็หาอะไรทำ แต่หายเบื่อละ 555

390 Nameless Fanboi Posted ID:Na7wYY+Ff

>>389 I'm glad I can help.

391 Nameless Fanboi Posted ID:yInpoNb.R

>>372 ปกติกูเกลียดไอเซฮุนนะ แต่นี่พวกมึงเป็นฟิวดัลล่าแม่มดหรือคอมมี่กันแล้ววะ 🤔🤔🤔
>>387 WTF HAPPEN HERE? EVEN BRUTE OR TROLLER CAN USE ENGLISH LMAO 🙄🙄🙄🙄

392 Nameless Fanboi Posted ID:p2Yz.S.8H

ที่เซฮุนทำ เซฮุนเป็นอะ กูรับได้ มันไม่มีสาระสำคัญอะไรที่ขัดอารมณ์กูอะ
แต่ไอ้ห่าที่พิมพ์เนี่ยโครตขัดเลยสัส

393 Nameless Fanboi Posted ID:p2Yz.S.8H

>>392 *แต่ไอ้ห่าที่พิมพ์อังกฤษเนี่ยโครตขัดอารมณ์กูเลย [โทษทีมันง่วงๆ ]

394 Nameless Fanboi Posted ID:8UwNb7hNx

ทำไมกูรู้สึกว่า >>384 เก่งอังกฤษกว่าไอ้ตัวอวดอิ๊งอย่างหลุยวะ คือกูเข้าใจสารที่เขาสื่อ แต่ >>385 >>387 เนี่ย แม่งค่อนข้างชัดว่าไม่เข้าใจที่ >>384 พูดเลย ตอบเหี้ยอะไรไม่รู้มั่ว ๆ เหมือนนางงามไทยตอบ social movement เป็น social change ซะงั้น
มึงบอกว่าพูดไทยคนไม่เข้าใจเลยพูดอังกฤษ กูว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ภาษาแต่อยู่ที่ระบบความคิดมึงแล้วล่ะ

395 Nameless Fanboi Posted ID:yKMD+Ciy1

>>384 ถามจริงเถอะ เขียนประโยคคำถามแต้ไม่ใส่? แล้วมาบอกทีหลังว่าเนี่ย ไม่เห็นใส่เลย มันแบบนี้ก็ได้เหรอวะ ตามกฏภาษาอิ้ง ยังไงมันก็คือคำถามป่ะวะ 555

396 Nameless Fanboi Posted ID:yKMD+Ciy1

เอ๊ย เพิ่งเห็นว่าชี้ผิด ต้อง>>385สิ แต่ก็นั่นแหละ เห็นโพล่งพิมพ์อิ้งอยู่นั่น โคตรรกลูกตาเลย ทำอวดอยู่ได้แต่เนื้อหาที่พิมพ์นี่งงชิบ โทรลสุดๆ

397 Nameless Fanboi Posted ID:dS6MBXsL3

>>395 ใช่แม่งแถจนถลอกหมดแล้ว แถมดูจะไม่รู้ว่า whatever หมายถึงอะไรด้วยนะ (นอกจากแกล้งโง่)

398 Nameless Fanboi Posted ID:c/Al9jDkQ

กูสังเกตมาหลายรอบละ ห้องนี้มีกิจกรรมหลากหลายดีเนอะ
1. สับนิยาย (เรียกว่าอ่านแล้วเอาเรื่องย่อมาแปะดีกว่า)
2. นินทานักเขียนเด็กดวก
3. นินทาอีกุย (เวลามันเหวี่ยง)
4. นินทาอีถุย (เวลามันทำตัวน่าหมันไส้)
5. ทะเลาะกันเอง (ส่วนมากมักมีเซฮุนเป็นแกนกลาง)
6. โชว์สกิลภาษาอังกฤษอย่างไร้จุดหมาย (ทำไมพวกมึงไม่ไปเขียนนิยายภาษาอังกฤษขายแม่งเลยวะ?)

399 Nameless Fanboi Posted ID:U4../UOXd

>>398 2-3-4 รวมเป็นนินทาเด็กดวกได้นะมึง สำหรับกุ1-2 โอเครเม้าท์คนเขียนกับพฤติกรรมก็หนุกดี ส่วน5ไร้สาระ 6ไร้สาระที่สุด

400 Nameless Fanboi Posted ID:XDy1f6B1s

>>398 6. ก็ลองเขียนอยู่ล่ะ แต่ยังไม่เอาลง
ปล. คนละคนกับคนที่เพิ่งเถียงกับพี่ถุยนะ พอดีเป็นคนก่อนหน้านั้น

402 Nameless Fanboi Posted ID:yKMD+Ciy1

ขอให้จริงเถอะ...

404 Nameless Fanboi Posted ID:tK2HQRG2G

>>>/meta/4675/147/

วันหลังมาแล้วกูแจ้งทันทีดีกว่า ยังไงมันก็ไม่เปลี่ยน ให้โอกาศไปก็เท่านั้น

405 Nameless Fanboi Posted ID:U4../UOXd

>>404 +1 ฝากมึงด้วย ถ้ามันหายไปจริงกุจะได้กลับมาสับนิยาย

406 Nameless Fanboi Posted ID:QHbMXzRMc

>>404 ปูเสื่อรอ เบื่อ EQ ต่ำ

407 Nameless Fanboi Posted ID:OK/Am38gQ

>>404 โอกาสสะกดงี้ กูมาแก้ให้ก่อน เดี๋ยวไอ้เหี้ยนั่นจะมาถล่ม (ขอไม่เอ่ยชื่อ เพราะไม่มีใครสมควรมีชื่อ ถือว่ารู้กันนะ)

เอาตามตรง แม้แต่สับนิยายก็ไม่ควรพ่วงชื่อไว้นะ แต่อันนั้นยังพออนุโลมให้ได้ว่าเออ เขียนมาตั้งยาว ก็คงอยากจะได้เครดิตบ้างอะไรบ้าง หยวนๆ ทำเป็นหลับตาข้างนึงให้ก็ได้ แต่มันก็ยังวอนนาบีซัมวันอยู่ดี

408 Nameless Fanboi Posted ID:OK/Am38gQ

ขอเสริมนิดนึง เมื่อกี้กดเร็วไป เดี๋ยวจะมีคนมาบอกว่า อ้าว ถ้าห้ามแบบนั้นคนสับคงหายหมด เอาจริงๆ ก็นานาจิตตังนะ แต่วิธีที่กูว่าน่าสนใจคือการใส่ "ลายเซ็น" ไว้ในข้อความ ไอ้ลายเซ็นนี่ไม่ใช่การลงชื่อตรงๆ ว่าโม่งนั้นโม่งนี้นะ แต่หมายความว่า เป็นสำนวน หรือเป็นแพทเทิร์นการสับแบบที่คนมาอ่านจะจำได้เองว่า อ๋อ รูปแบบการเขียนอย่างนี้ ต้องเป็นไอ้คนที่เคยสับเรื่องนั้นแน่ๆ เป็นต้น

409 Nameless Fanboi Posted ID:U4../UOXd

กุสับไปสี่เรื่องไม่เคยลงชื่อ ไม่รู้จะใส่ไปทำไมไม่ได้อยากให้ใครสรรเสริญ แต่ก็ไม่คิดมากถ้าใครจะใส่ กุชอบโม่งเงี่ยนกับโม่งอารี ส่วนไอ้เหี้ยที่รู้ว่าใคร แม่งวิจารณ์ไม่ต่างจากเอาเรื่องมาย่อเฉย ไม่ได้ช่วยให้กุมีความรู้อะไรเพิ่มขึ้นเลยสัส

410 Nameless Fanboi Posted ID:4jVx0Pp8n

>>337 เหมือนจะถึงเวลาลงแล้วละมั้ง เห็น War กำลังเดือดเลยไม่กล้าลง
ตอนที่ 9
เปิดตอนด้วยเจ๊ลิสอธิบายสาเหตุที่ทำเรื่องเมื่อตอน 8 ซึ่งถ้าถามความเห็นกูแล้วนะ กูว่าไรท์พยายามยัดเยียดบทตอแหลให้นางเอกเกมแบบรวบรัดเกินไปว่ะ กูไม่อินตามเลยว่ะ แต่กูแปลกใจที่คนอื่นเขาอิน แต่สรุปง่ายๆ คือเจ๊ลิสบอกนางเองชอบวุ่นวายกับฟาร์ พอฟาร์ไล่ก็โดนหนุ่มๆ ปลอบจนฟาร์เป็นนางร้าย แล้วอีกข้อที่เจ๊ลิสทำแบบนี้เพื่อต้องการทำให้นางเอกหายไป ชีวิตจากนี้จะได้ไม่วุ่นวาย...แต่พวกมึงรู้สึกแบบกูไหม? ถ้าไม่จะย้อนให้
....ย้อนไปเมื่อตอนแรกๆ เจ๊ลิสของพวกเราถอนหมั้นกับเจ้าชาย สำหรับขุนนางหรือชนชั้นสูง มันก็เหมือนการลากไปตบกลาง 4 แยกไฟแดงอะ แล้วนี่ยังเป็นราชวงศ์ผู้ครองประเทศด้วยนะ---ต่อมาคือการที่เจ๊ลิสหยามเกียรติของเจ้าชายต่อหน้าผู้คน นอกจากตบหน้ากลาง 4 แยกแล้วยังเหมือนเอาถาดมาตบอีกหัวอีกรอบด้วยนะ นี่ยังไม่รวมกับที่ไม่ทำตามคำร้องขอของกษัตริย์อีก....
เอาล่ะ สาระก็มีแค่นี้ ที่มีฉากบรรยายก็บรรยายเรื่องจับกลุ่มนินทานางเอกเกมกับพวกจีบได้มันเข่าอ่อน แค่นั้นแหละ
จบตอน 9
เริ่มตอน 10
ง่ายๆ คือนางเอกเกมโดนเนรเทศจากอาณาจักร จบ
จบตอน 10
เริ่มตอน 11
นางเอกเกมไปใช้ชีวิตนอกอาณาจักร 2 ชายที่นางควบไปก็ถูกประหาร และทุกคนล้มเลิกความตั้งใจในการหาว่าใครที่แฮกระบบปล่อยวิดิโอของนางเอกเกมไป [พวกมึงเลิกกันง่ายมากสัส ผ่านไปแค่อาทิตย์เดียวแม่งเลิกสืบแล้ว กูจะไม่แปลกใจที่ประเทศนี้จะโดนรุกรานทางไซเบอร์]
แต่มีอะไรน่าสนใจอยู่นะมึง --- เจ๊ลิสบอกว่าฟาร์เป็นคนเดียวที่แต่งชุดนอกเครื่องแบบไปเรียน แต่โรงเรียนไม่ต่อว่าอะไรเพราะเงินบริจาคของพ่อนาง---คิดเหมือนกูไหม?
เจ๊ลิสไปเรียน ขับ Ferrari ไปด้วยนะเหมือนอวดรวย
ฉากในห้องก็ไม่มีสาระสำคัญอะไรนอกจาก พวกจีบได้มันมาออ แล้วเจ้าชาย 1 ก็ขอโทษเจ๊ลิส แต่เจ๊ลิสแกก็บอกให้เจ้าชายเรียกชื่อตัวเอกว่า ฟานาเซีย และบอกว่าอย่าเอาหน้าของตัวเองมาโชว์ต่อหน้าเจ๊ลิส บทจริงมันใช้ภาษาทางการแหละ แต่ถ้าแปลมาจริงๆ ก็แบบที่กูเขียน...ย้อนไปอ่านสาเหตุที่ต้องให้นางเอกหายไปนะ
จบตอน 11
เริ่มตอนที่ 12 เป็นมุมมองของเจ้าชาย
เรื่องราวเดิมๆ แต่กูมีความรู้สึกแปลกอย่างนึง...หลังจากเหตุการณ์ที่นางเอกเกมโดนประจานเรื่อง Sex video แล้ว กูรู้สึกเหมือนเจ้าชายมันโดนสะกดจิตให้กลับไปชอบฟาร์หรือเจ๊ลิสนั่นแหละ
จบตอนที่ 12

เดี๋ยวจะสรุปให้ทีหลังนะ แต่ตอนนี้ขอไปพักหน่อย ช่วงแรกยังพอได้ แต่ช่วงหลังๆ กูอ่านแล้วเพลียกับมันจริงๆ นะ
ลงนาม โม่งมารี

411 Nameless Fanboi Posted ID:71/7ODBvv

>>401 ทำไมมึงพิซซ่าจังวะ สองรอบละเนี่ย 🤔🤔🤔
>>408 ห้ามไปแม่งก็ไม่ฟังหรอก อยู่ที่ personal responsibility
because : nothing is true, everything is permitted

แต่กูชอบเล่น persona นะ

412 Nameless Fanboi Posted ID:vr4XIOQq/

>>410 สู้ๆนะโม่งมารี กูรออยู่

413 Nameless Fanboi Posted ID:QHbMXzRMc

>>410 ประเทศจี้กวงชัดๆ

414 Nameless Fanboi Posted ID:kM7kT78M1

>>404 สาระเหี้ยๆ ไม่คิดว่าพวกมึงไม่เหตุผลหรือไงวะ

ลงชื่อ เซฮุน

415 Nameless Fanboi Posted ID:9Wx8eOy3v

กูหยุดสับนิยายไปก็เพราะพวกมึงทำตัวอย่างนี้นี่แหละ มู้นี้มันมู้สับนิยาย กูมานี่เพื่อสับนิยาย พวกมึงนั่นแหละมาสุมหัวนินทากัน

พวกมึงรุมด่า รุมรีพอร์ต เอานิสัยมาเฟียเด็กดวกมาในนี้ มาป้ายสีคนลงแรงอย่างกู มันถูกแล้วหรอวะ?

อะไรคือไม่ได้อะไรจากกูสับ มึงช่วยเลิกกล่าวหากูเถอะว่ะ คือด่ากู ด่ามารยาทกูแม่งพอฟังได้ แต่ด่าความตั้งใจกูมันทุเรศไหมวะ?

โม่งเงี่ยน โม่งมารี มันสับงี้ ไม่เห็นใครอะไร มันต่างจากกูสับตรงไหน?

กูเคลียร์ไปหมดแล้วนะเรื่องลงชื่อ สไตล์สับนิยาย การให้คะแนน

ช่างแม่งเหอะ มันต้องมีคนเห็นความดีในคนปากหมาอย่างกูมั่งแหละ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

ลงชื่อ เซฮุน เกลียดจริงๆไอ้พวกงูพิษผิดมู้

416 Nameless Fanboi Posted ID:5Px6IPet7

กูเห็นทู้วิ่งไวนึกว่าจะมีอะไรมีสาระ....

สรุปแม่งก็ไร้สาระกันเหมือนเดิม พอกันหมดนั่นแหละไอ้สัสไม่ต้องเถียงกัน จากที่กูรำคาญไอ้เซฮุน ตอนนี้กูก็เริ่มจะรำคาญไอ้พวกกวนตีนไอ้เซฮุนล่ะวะ เก็บกดขนาดนี้พวกมึงรวมตัวไปตั้งกระทู้ด่าไอ้เซฮุนแยกมาโดยเฉพาะไปเลยไป๊! เวร

417 Nameless Fanboi Posted ID:5Px6IPet7

เออถ้าเกิดใครอยากด่าป้ากุยก็ไปตั้งมู้นินทาป้ากุยแยกด้วยก็ดีนะ กูจะได้ไปรวมเมาท์ด้วยถนัดๆหน่อย ปล่อยห้องนี้ให้พูดเรื่องนิยายอย่างเดียวพอ กูมีเรื่องเมาท์เยอะเนื่องจากเป็นเพื่อนป้าแกในเฟซ แกเป็นเพื่อนซี้อีจ่าด้วย ชอบมั่นหน้าในเฟซว่าตัวเองนมใหญ่และสวยกว่าน้องเน็ตไอดอลม.ก. กรั่กๆ

418 Nameless Fanboi Posted ID:TD0LdupJG

>>416 เคยมี แต่แอดมินเห็นว่าตั้งมาโทรล ผิดหมวด เลยล็อคไปแล้ว

>>>/webnovel/4435/

ตอนแรกทุกคนตกลงกันแล้วว่าจะไม่พูดถึงมันอีก ปล่อยให้มันพูดอะไรก็พูดไป ไม่ต้องไปคุย

ปัญหาคือโม่งใหม่ๆ มาแล้วก็เข้าไปคุยกับมัน เรื่องเลยไม่จบ คนเก่าที่ไม่อยากคุยก็ค่อยๆ หายไป

แต่ถ้าแค่นั้นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่มันหิวพิซซ่าบ่อย ที่โดนไป 2 รอบเพราะอยากแดกเอง

ไม่ให้ลบให้แบน มึงกล้าไปกินพิซซ่ากับมันป่าวละ

419 Nameless Fanboi Posted ID:.B0zuZIId

>>418 ไอ้ปอดแหก

420 Nameless Fanboi Posted ID:TD0LdupJG

>>419 ปอดไม่แหกก็เอาเลยสิ ไม่มีใครห้าม

421 Nameless Fanboi Posted ID:qwCI4MMeg

>>417 เฟซของป้าแก่อันไหนวะ กูอยากไปส่อง

422 Nameless Fanboi Posted ID:hsP2T/Ll8

เดี่ยวแบนทั้งห้องนี้มั้ยล่ะ เอามั้ย ตามสับเรื่องไหนไปตามบอร์ดอื่นแทน ง่ายดี

423 Nameless Fanboi Posted ID:D2BzlT1F9

กูไม่มีปัญหากับการพูดเรื่องสถาบันหรอกนะ แต่มันควรจะดูไหมอะว่าหัวเรื่องมันคืออะไร คือพูดเรื่องนิยาย พูดเรื่องนักเขียน จู่ๆ โยงไปเฉยๆ แบบไม่ได้เกี่ยวหีแตดอะไรเลย คือมึงคิดว่าตลกเหรอ? ไม่นะ ดูเสร่อ เสล่อ สะเหล่อ สะเหร่อ เสฬ่อ สเหฬ่อ มากๆ อะ แถมพานทำคนอื่นเขาวงแตกกันไปด้วย

424 Nameless Fanboi Posted ID:94KfJ3MVM

>>422 มึงสับสนอะไร ไม่มีใครแบนเรื่องสับนิยายซักหน่อย

คนที่มีปัญหามาก่อกวนบ่อยก็มีแค่เซฮุนนะ คนอื่นอย่างหลุยส์อย่างมากก็มาแค่พ่นภาษาอังกฤษอวดฉลาด ไม่ได้มาระรานใครหรือกินพิซซ่าแบบเซฮุน แล้วไม่ใช่ครั้งแรกด้วยไง มันหลายครั้งแล้ว โดนแบนไปก็ไม่สำนึก ทำตัวแบบเดิมตลอด โดนไปก็สมแล้ว หาเรื่องเอง

425 Nameless Fanboi Posted ID:/rcRVZNcY

แบนมันไปเหอะ เหี้ยตัวเดียวทำให้วินาศทั้งห้อง ไม่คุยถึงมันด้วยจะดีมาก มันไม่มีค่าอะไรให้โม่งสนใจหรอกวอนนาบีสะเหล่อๆ

428 Nameless Fanboi Posted ID:94KfJ3MVM

>>>/meta/4675/149

429 Nameless Fanboi Posted ID:hsP2T/Ll8

>>424 ถ้าไม่อยากโดนแบนห้องก็แบนเป็นรายบุคคลไปเลย หาคนรับผิดชอบด้วย

430 Nameless Fanboi Posted ID:/rcRVZNcY

>>428 +1 อย่าเสียเวลาต่อความยาวสาวความยืด

432 Nameless Fanboi Posted ID:MTmC/j4MV

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม จนแล้วจนรอดก็ยังไม่รู้ตัว ตีโพยตีพายว่าตัวเองโดนรังแก

435 Nameless Fanboi Posted ID:RwrWakxMU

>>434 มึงรับเสียงส่วนใหญ่ไม่ได้หรอวะ โครตสลิ่ม หัวโบราณ

438 Nameless Fanboi Posted ID:94KfJ3MVM

>>>/meta/4675/150

การปิดกั้นฯ มีระยะเวลาขั้นต่ำ 7 วัน และจะเพิ่มระยะเวลาขึ้นเรื่อยๆ ในกรณีเคยถูกปิดกั้นมาก่อน สูงสุดที่ 90 วัน

446 Nameless Fanboi Posted ID:HRCYBdJ9Y

บายน้า ชาวโม่ง เข้ามาได้สักพัก ทีแรกก็คิดว่าที่นี่จะปากร้าย แต่ก็ยังมีสาระบ้าง แต่ตอนนี้รู้สึกเสียเวลาชีวิตมากเลย

448 Nameless Fanboi Posted ID:94KfJ3MVM

>>446 เดี๋ยวมันก็โดนแบนแล้ว คราวนี้คงโดนแบนนาน น่าสงสารคนอยู่แถวรพ.หัวเฉียว ใช้ห้องนี้ไม่ได้ตามไปด้วย

449 Nameless Fanboi Posted ID:7y6zntPDk

>>448 กูก็โดนแบนไปด้วย รอบที่แล้วกูก็โพสอะไรไม่ได้ไปพักนึง

450 Nameless Fanboi Posted ID:.lsoSSQnQ

กูขอลิสต์นิยายในโม่งหน่อยได้มั้ย อยากเลือกมาสับสักเรื่อง เอาเป็นลิงค์ก็ได้กูไล่หาไม่เจอว่ะมึง

451 Nameless Fanboi Posted ID:hsP2T/Ll8

>>450 จัดไป
https://writer.dek-d.com/topduck/writer/view.php?id=785523

https://writer.dek-d.com/linklight/story/view.php?id=1559849

https://writer.dek-d.com/BlackMonSterX/writer/view.php?id=1602272

452 Nameless Fanboi Posted ID:3DknhWexY

>>449 ไม่บ้านก็ที่ทำงานมันอยู่แถวนี้ ดักตบมันเองละกัน

https://www.google.co.th/maps/place/13°45'00.0"N+100°31'00.1"E/@13.7500052,100.5145113,17z/data=!3m1!4b1!4m5!3m4!1s0x0:0x0!8m2!3d13.75!4d100.5167?hl=th

453 Nameless Fanboi Posted ID:3DknhWexY

>>452 ตำแหน่งมันขึ้นผิด เพราะ url มันเว้นไม่ได้ เอานี่ไปลง google map นะ มันจะขึ้นตำแหน่งจริง

13°45'00.0"N 100°31'00.1"E

454 Nameless Fanboi Posted ID:.lsoSSQnQ

>>451 ขอบใจนะมึง ขอโทษที่เค้าจะบอกว่าทั้งหมดไม่ใช่แนวเลยอ่ะ ไปค้นมาละในลิสต์มู้ 12 ขอจองสับเรื่องนี้นะ มีความน่าอ่านระดับนึง ภาษาเท่าที่อ่านผ่านๆ ถือว่าใช้ได้เลย
ชื่อเรื่อง: Voice of a Rebel สดับเสียงสงัด
ลิงค์: https://writer.dek-d.com/lonoline/story/view.php?id=1532866

ปล. ช่วงนี้กูยังติดงานอยู่ เดี๋ยวจะรีบมาเคลียร์นะคนับ ขอจองไว้ก่อน อาจใช้เวลาเป็นเดือนได้
ปล.2 ขอใช้ชื่อสับเฉพาะกิจเป็น โม่งงง ขอบคุณมา ณ ที่นี้นะคนับ

455 Nameless Fanboi Posted ID:/rcRVZNcY

>>454 กุจะรอมึงเพื่องโม่งงง เรื่องนี้กุอ่านแล้ว เขียนดีมีเวิ่นไปนิดกับงงในบางที แต่ก็ระดับสูงในเด็กดี

456 Nameless Fanboi Posted ID:P0xCjMLSn

>>452 ชี้มั่วซั่วฉิบหาย อย่าพยายามโชว์พาวเลย เดี๋ยวเป็นคดีความขึ้นมามึงจะซวย

457 Nameless Fanboi Posted ID:Nvq5pb2zv

>>456 เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด

458 Nameless Fanboi Posted ID:P0xCjMLSn

เซฮุนมันมาป่วน พวกมึงแจ้งม๊อดแบน ip ก็พอไม่ต้องไปฟีดมันหรอก มู้เละหมดแล้ว

459 Nameless Fanboi Posted ID:hsP2T/Ll8

>>456 กูเคยเป็น อยู่นครราชสีมา แต่ไอพีกูชี้พิกัดจุดเสือกเป็นโรงแรมแถวเพชรบุรี บ้านกูไม่ได้อยู่แถวนั้น

460 Nameless Fanboi Posted ID:Nvq5pb2zv

เงียบไปแล้วคงโดนแบนแล้วล่ะ

ลงชื่อ โท กย็อง-ซู (ดีโอ)

461 Nameless Fanboi Posted ID:3DknhWexY

>>456 คดีความยังไง แค่ชี้ที่อยู่ตาม IP เนี่ยนะ

ตอนแรกกูก็ไม่มั่นใจนะ แต่ IP 3 อัน >>>/meta/4675/147/ ที่โดนแบนอยู่ที่เดียวกันหมด จะว่าบังเอิญคงไม่ใช่แล้วละ

462 Nameless Fanboi Posted ID:3DknhWexY

>>461 ผิดๆ ต้องเป็นอันนี้ >>>/meta/3733/855/ IP 3 อันอยู่ที่เดียวกันหมด

>>460 อืม ก็คงงั้นละ

>>>/meta/4675/155/

463 Nameless Fanboi Posted ID:Nvq5pb2zv

>>462 พักผ่อนบ้างนะ เป็นห่วง

ลงชื่อ โท กย็อง-ซู (ดีโอ)

464 Nameless Fanboi Posted ID:P0xCjMLSn

>>462 กุเห็นจุดที่มึงพลาดแล้วล่ะ แต่จะทำไรก็เรื่องของมึงเหอะเห็นหมกหมุ่นขนาดนี้แล้วสยอง

465 Nameless Fanboi Posted ID:3DknhWexY

>>464 พลาดยังไง ลองบอกหน่อยสิ

466 Nameless Fanboi Posted ID:Nvq5pb2zv

ไม่มีใครสับนิยายแล้วหรอ?

ลงชื่อ โท กย็อง-ซู (ดีโอ)

467 Nameless Fanboi Posted ID:QoDOzxOS4

หวังว่ามู้จะกลับมาปกติ

468 Nameless Fanboi Posted ID:P0xCjMLSn

เน่าจนกู่ไม่กลับแล้วล่ะ กุว่าย้ายไปห้องอื่นแล้วปล่อยให้โทรลกับคนบ้ากัดกันไป ง่ายกว่า

469 Nameless Fanboi Posted ID:n0bKuZADm

ชี้จาก IP มันไม่ตรง มันแค่ชี้ไปที่ผู้ให้บริการไม่ใช่บ้านของผู้ใช้บริการ หวังว่ามึงจะเข้าใจ

470 Nameless Fanboi Posted ID:n0bKuZADm

ต่อจาก >>469 กูลองเอา IP กูไปใส่ แม่งยังชี้ไปข้างโรงพยาบาลหัวเฉียวเลย 13°45'00.0"N 100°31'00.0"E

471 Nameless Fanboi Posted ID:QoDOzxOS4

กุว่าพวกมึงเลิกบ้าขนาดไปตาม ip เหอะ เป็นคนบ้าอย่าบ้าตามมัน

472 Nameless Fanboi Posted ID:n0bKuZADm

>>471 แค่อยากจะบอกเว้ยว่าเอา IP ไปใส่ในเว็บหาว่าคนนี้อยู่ที่ไหนมันไม่ได้ที่อยู่จริง ๆ ออกมาเว้ย

ไม่เชื่อลอง
203.147.51.230
180.183.120.74
103.26.22.216
182.232.66.229
184.22.224.29

แม่งไปโผล่ที่เดียวกันหมดเลย

473 Nameless Fanboi Posted ID:qsgaazm2/

>>471 +1 ไล่หมาอยาจนตรอก

474 Nameless Fanboi Posted ID:P0xCjMLSn

>>472 ต่อให้ไปค้นที่ตัว ISP ก็มีโอกาสพลาดได้ถ้าไม่ดูอย่างอื่นประกอบด้วย ปล่อยคนมั่นเขาไปเถอะ

475 Nameless Fanboi Posted ID:n0bKuZADm

อยากจะบอกแค่นั้นละเห็นแล้วมันขัดใจ ว่าแต่เรื่องนี้สนุกไหมว่ะ มันเป็นแฟนตาซีแต่วาย - https://my.dek-d.com/ri-ne/writer/view.php?id=1376803

476 Nameless Fanboi Posted ID:NEphmv.77

>>475 วายแล้วทำไมล่ะ? อ่านไม่ได้หรอ?

477 Nameless Fanboi Posted ID:3DknhWexY

>>472 กูก็ไม่ได้บอกว่าบ้านมันนิ กูบอกว่าไม่บ้านก็ที่ทำงานมันอยุ่ "แถว" รพ.หัวเฉียว

ระบบการแบนของโม่งก็แบนใน grid นั่นละ เวลาแบนทีคนถึงซวยกันเยอะ

กูจบแล้วนะ เพราะยังไงกูก็แจ้งแบนไปแล้ว รอแอดมินแบนทีเดียวนั่นละ ถ้ามาใหม่ค่อยแจ้งแบนอีก

478 Nameless Fanboi Posted ID:2wvva0FHk

>>477 เออรู้แล้ว จะอธิบายทำไมหลายรอบ ติดนิสัยมันหรือไง?

ลงชื่อ เซฮุน

479 Nameless Fanboi Posted ID:2wvva0FHk

แป๊ปนะขอลองอะไรนิดนึง

Hi, this is me Louis Forest.

ลงชื่อ เซฮุน โอเค ขอโทษนะไอ้ถุย

480 Nameless Fanboi Posted ID:KiOjC/Ot2

บางทีกูก็สงสัย โทรลที่มาปั่นนี่คือโม่งสายเกรียนหรือนักเขียนที่หมั่นไส้โม่ง ถ้าโม่งเกรียนคงเป็นพวกว่างจัดไม่มีไรทำ ถ้านักเขียนหมั่นคงเป็นพวกถูกสับแล้วรับไม่ได้

481 Nameless Fanboi Posted ID:aDhMaXllH

>>480 น่าจะอย่างหลังนะ คือรับคำวิจารณ์ไม่ได้

482 Nameless Fanboi Posted ID:WbsnYA8+q

จะปั่นจะป่วน จะเหี้ยอะไรก็ไม่สำคัญหรอก ถ้าพวกมึงไม่เฮโลไปต่อความยาวกับไอ้เหี้ยนั่นเองไม่มีใครสนใจมันเฉย
ๆ ไปซะ เดี๋ยวมันก็เน่าในอกแตกตายห่าไปเองแหละ

483 Nameless Fanboi Posted ID:.65BfEdiu

>>482 +1

ลงชื่อ เซฮุน

484 Nameless Fanboi Posted ID:D2BzlT1F9

ขอความกรุณา ทุกท่านที่อ่านข้อความนี้ โปรดหยุดตอบ หยุดกล่าวถึง หยุดแสดงอาการวอนนาบีนะครับ วิธีแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดเมื่อเจอพวกป่วนคือให้เปิดประเด็นสนทนาขึ้นมาเลยครับ แล้วพวกเราก็ช่วยกันคุยเรื่องนั้น โดยไม่ต้องสนใจว่าใครมันจะด่าพ่อล่อแม่ ใครมันจะอ้างนั่นอ้างนี่ ปล่อยให้มันเน่าตายไปเถอะครับ

485 Nameless Fanboi Posted ID:EfX8zB01U

>>484 +1

486 Nameless Fanboi Posted ID:C263qoXZy

>>484 +1จ้า

487 Nameless Fanboi Posted ID:mR4s8t4+Z

>>>/meta/4675/157/

สุดท้ายก็โดนไป 14 วัน โม่งคงสงบไปพักนึงละ

488 Nameless Fanboi Posted ID:DgV+3gclU

เขียนไปเขียนมาดันไปคล้ายกับการ์ตูนดังเรื่องนึงกุควรแก้ดีไหมวะ

489 Nameless Fanboi Posted ID:0VmLHe+h1

>>488 คล้ายแค่ไหน คล้ายที่พลอตเฉยๆ หรือแม้แต่ตัวละครก็มีลักษณะคล้ายกันด้วย

490 Nameless Fanboi Posted ID:DgV+3gclU

>>489 อาวุธของพระเอก สัญลักษณ์ของพวกตัวร้าย ชื่อตำแหน่ง กับปมบางอย่างที่กุเดาว่าน่าจะลงเอยแบบเดียวกับกุ ปล. การ์ตูนชื่อ black clover

491 Nameless Fanboi Posted ID:vO2a+kNzw

กูเขียนนิยายแฟนตาซีที่มีเบสมาจากวิทย์เว้ย พวกดีเอ็นเอไรงี้ แต่เขียนไปเขียนมาเริ่มออกไปทางแฟนตาแล้ว กูหาทางยัดดีเอ็นเอไม่เข้าอะ มีวิธีไหนจะลากกลับเข้าวิทย์ได้เนียนๆ ไม่ยัดเยียดบ้างวะ

492 Nameless Fanboi Posted ID:mR4s8t4+Z

>>491 ตอนแรก DNA มันเกี่ยวยังไงละ ลองบอกมาหน่อย กูจะได้หาทางตบให้เข้าที่ได้

493 Nameless Fanboi Posted ID:+Lzpw8kNA

>>487 ชูมือขึ้นฟ้า รอมาเงียบๆซักพักละ
>>490 ถ้าเหมือนเยอะก็ระวังว่าจะโดนด่าไว้ด้วยละกัน ถ้าไม่อยากเสี่ยงก็แก้เถอะ

494 Nameless Fanboi Posted ID:/kf6K/7GF

>>492 แบบ พลังที่สูญหายไปนานมาโผล่เอารุ่นนางเอกเพราะแบบยีนด้อยสองตัวมาชนกันไรงี้
แบบมีย้อนความหลังว่าตัวดีตัวร้ายเมื่อพันปีก่อน จริงๆ เป็นผัวเมียกัน แล้วลูกหลานก็แตกสายออกไป จนถึงรุ่นพ่อแม่นางเอกที่เป็นลูกหลานของสองคนนั้นทั้งคู่แต่เชื้อสายเจือจางมาแต่งงานกัน ยีนด้อยเจอยีนด้อย นางเอกเลยออกมามีพลัง

495 Nameless Fanboi Posted ID:/kf6K/7GF

>>494 พิมพ์ไม่จบ 555
มีเรื่องปลูกถ่ายอวัยวะกับกรุ๊ปเลือดด้วยอะ แล้วก็มีเคมีแฝงๆ อยู่นิดหน่อยด้วย กูอยากใส่มาตั้งแต่หลายตอนก่อนละ แต่หาที่ลงไม่ได้

496 Nameless Fanboi Posted ID:gUZn2TRP1

>>487 รอบที่แล้วกรุโดนหางเลขไปด้วย รอบนี่โชคดีหน่อย ยังโพสต์ได้อยู่

497 Nameless Fanboi Posted ID:EfX8zB01U

ท่าเดิมๆ ใช้กับเซนต์ไม่ได้เป็นครั้งที่สองหรอก

ลงชื่อ เซฮุน

498 Nameless Fanboi Posted ID:LMiyLNfid

>>495 เฮ้ย พล็อตแบบนี้เจ๋งกว่าพวกที่ถูกเลือกอีกนะกูว่า มีเหตุผลดีว่ะ ได้พลังเพราะดีเอ็นเอ ไม่ใช่ถูกเลือกจากของเทพๆ

499 Nameless Fanboi Posted ID:mR4s8t4+Z

>>498 กูว่ามันก็แบบเดียวกันนั่นละ เพราะผู้ถูกเลือกก็คือโชคชะตา/เทพเจ้ากำหนด ไอ้นี่ก็กำหนดตั้งแต่เกิด เปลี่ยนไม่ได้เหมือนกัน

>>494 DNA มันมีข้อมูลตั้งแต่ต้นกำเนิดของชีวิต ย้อนกลับไปได้มากสุดก็ Cambrian Explosion ที่อยู่ๆ ชีวิตก็ขยายตัวอย่างกระทันหัน DNA เป็นคลังความรู้ที่ถูกฝังอยู่ในเลือดทุกหยด และเป็นสิ่งที่กำหนดรูปแบบของชีวิตที่เราเห็นอยู่

ถ้าจะเอาตามทฤษฏี Panspermia ที่กล่าวว่าชีวิตบนโลกเริ่มต้นจาก "วัตถุ" ต่างดาวที่มีจุลชีพตกลงมาบนโลก เป็นต้นกำเนิดของชีวิต มึงเล่นได้เลยว่าต้นกำเนิดพลังของมึงมาจากเอเลี่ยน บรรพชนของมึงจริงๆ เป็นเอเลี่ยน ใน DNA มีกุญแจใขพลังเอเลี่ยน DNA และเชิญชวนให้เดินทางไปหา "ผู้สร้าง"

มุกนี้ใช้กันเกร่อเหมือนกัน แต่เล่นดีๆ ก็เล่นได้

500 Nameless Fanboi Posted ID:EfX8zB01U

ปูเสื่อรอ... หาป๊อปคอร์น

501 Nameless Fanboi Posted ID:p0jPJ6MMQ

กุสิ... คิดพล็อตตั้งนาน แต่กลายเป็นว่าไปซ้ำกับอนิเมะชื่อดังซะงั้น (กุเล่าเลยละกันเพราะคงไม่ได้ใช้แล้ว)
แนวดิสโทเปีย ยุคที่กฎหมายรุนแรงและมีการควบคุมการก่อการร้ายแบบเข้มข้น พระเอกกุเป็นโจรกระจอก แต่อยู่มาวันนึงระหว่างทำงานเสือกเจอสาวสวยแล้วเข้าไปช่วยเอาไว้ ก่อนจะโดนตามล่าโดยทางการเพราะอีสาวนั่นเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย
โดนต้นจนมุม อีสาวนั้นเลยไม่มีทางเลือกจึงต้องมอบของบางอย่างให้พระเอก ทำให้พระเอกมีพลังพิเศษก่อนจะจัดการพวกทางการแล้วหนีไปพร้อมโดนชวนให้ร่วมกับพวกผู้ก่อการร้ายที่รัฐบาลกำลังต้องการตัว

กุอุตส่าห์คิดพล็อตแบบนี้ตั้งนาน พอลองนึกย้อนดู ...อ้าวสัด นี่มัน Guilty Crown นี่หว่า!? เฟลชิบหาย กุเลยโล๊ะทิ้งไม่เขียนแม่ง

502 Nameless Fanboi Posted ID:EfX8zB01U

>>501 คิดมากไปนะ

503 Nameless Fanboi Posted ID:mShJF76Mv

>>494 พ่อแม่มียีนด้อย ปกติลูกก็มียีนด้อยตามไม่ใช่เหรอ

สมมุติว่ายีนที่มีพลังคือ A ดังนั้นด้อยก็ต้อง a
แล้วทีนี้พ่อแม่ก็ดันมียีนด้อยก็ต้องเป็น aa
และตามอะไรสักอย่างที่จับยีนมาไขว้กันก็จะได้

พ่อ/แม่ | a a
a | aa aa
a | aa aa

ไม่ว่ายังไงลูกก็ต้องได้ aa ที่เป็นยีนด้อยไม่ใช่เหรอ? หรือมันยังเป็นเรื่องที่เรายังเรียนไม่ถึง?

504 Nameless Fanboi Posted ID:+Lzpw8kNA

>>501 จะว่าซ้ำมั้ย มันก็ต้องมีซ้ำบ้างแหละ ไม่ใช่แค่อนิเมเรื่องนั้นหรอก พลอตธรรมดาจะตาย แต่ถ้ารายละเอียดปลีกย่อยไม่เหมือนกันก็ไม่เป็นไรหรอก

505 Nameless Fanboi Posted ID:/kf6K/7GF

>>503 พ่อแม่เป็น Aa ทั้งคู่ไง แล้วลูกก็กลายเป็น aa

506 Nameless Fanboi Posted ID:mShJF76Mv

>>505 งั้นพลังนั่นก็เป็นยีนด้อยน่ะสิ

507 Nameless Fanboi Posted ID:mShJF76Mv

>>505 เก็ทละๆ ขอบคุณ

508 Nameless Fanboi Posted ID:EfX8zB01U

>>506 ด้อยไม่ได้หมายความว่าไม่ดี มันหมายถึงด้อยโอกาส ออกมาน้อย

509 Nameless Fanboi Posted ID:mR4s8t4+Z

ยีนด้อยมันหมายถึงถ้าเจอยีนเด่นจะหลบ ไม่แสดงออก อย่างผมแดงเป็นยีนด้อย ถ้าเจอผมดำจะถูกกลบทันที ยีนบางอย่างถ่ายทอดทางแม่ผ่านลูกสาวอย่างเดียวก็มี

510 Nameless Fanboi Posted ID:0Dy5n8N1F

คนดำกับคนขาวมีลูกกัน โอกาสที่ลูกจะขาวก็มีแต่น้อยมาก

511 Nameless Fanboi Posted ID:zUq3gpMUr

เออ จะว่าไปกูก็สงสัยมานานแล้วนะ ยีนของพ่อจะเด่นกว่ายีนของแม่หรือเปล่า เพราะเท่าที่กูเห็นและสังเกตมา คนส่วนใหญ่จะหน้าเหมือนพ่อมากกว่าแม่อะ

512 Nameless Fanboi Posted ID:0Dy5n8N1F

>>511 ลองอ่านดูนะ ในนี้มีคำตอบ

https://www.scientificamerican.com/article/babies-paternal-resemblance/

513 Nameless Fanboi Posted ID:DkF5AaNdF

มีใครกำลังสับนิยายบ้าง?

514 Nameless Fanboi Posted ID:tn1WFHqmI

เพื่อนโม่งคือกูไปอ่านนิยายเรื่องนึงมา คือมันก็ไม่ได้แย่ไม่มีดีมาก ตามสไตล์เด็กดีนั่นแหล่ะ แต่คนเขียนแม่งแบบเขียนเหมือนให้กูดูละคร มีเสียงบรื้นก่อนบรรยายว่ารถขับ มีเสียงเอี๊ยดละบรรยายว่ารถหยุด ฉากในห้อง ตัวละครใหม่เข้าห้องก็ต้องมีเสียงครืดของประตู คือกูแบบ ว้อททท เนื้อหาก็ไม่ค่อยมีอะไร พระเอกร้ายแบดบอยมีปัญหาทางบ้านกับนางเอกใสๆ พล็อตคลาสสิกธรรมดาๆ แต่คือตอนแรกกูก็เม้นแบบให้กำลังใจถนอมน้ำใจเขาแบบเปลี่ยนก็ดีนะ งี้ เพราะคิดว่าเป็นแค่ตอนเดียว ที่ไหนได้ อ่านอีกสองสามตอน แม่ง คือกูเทแน่นอน แต่ชั่งใจอยู่ว่ากูจะเม้นชี้เรื่องพวกนี้ให้เขาอีกรอบดีมั้ยเพราะกูจะไม่อ่านแล้วแต่นี่เหมือนจะเป็นเรื่องแรกของเขา? กูก็ไม่อยากเม้นแรงๆจนเขาเลิกเขียนไป แต่กูนึกคำที่ซอฟต์ๆไม่ออกแล้วอะ ช่วยด้วยยย

515 Nameless Fanboi Posted ID:HMc5XKp7M

>>514 ลองเม้นไปว่านิยายไม่ค่อยมีการใส่เสียงเพื่อบรรยายดูสิ

516 Nameless Fanboi Posted ID:xwVqBZ7B/

https://www.dek-d.com/board/view/3811672/
เห้ย ยังไม่มีผู้รู้จริงไปตอบเลย พวกเด็กดวกหาข้อสรุปไม่ได้ว่ะ

517 Nameless Fanboi Posted ID:WMzWLg35B

>>516 กุว่าไม่น่าซีเรียสขนาดนั้นว่ะ ใช้ได้ทั้งคู่แหละ สำหรับกุอ่านรู้เรื่อง ไม่ผิดเกินจนน่าเกลียดก็ดีล่ะ ไม่ได้ขนาดต้องใช้ลึกขนาดพวกนักอักษรศาสตร์ตีความกัน

518 Nameless Fanboi Posted ID:s8ntFy6uZ

>>516 สองคำนี้น่าจะเป็นภาษาพูดมากกว่า

519 Nameless Fanboi Posted ID:EfX8zB01U

>>518 +1

520 Nameless Fanboi Posted ID:akDPsYIND

ช่วยแนะนำนิยายหน่อยจิ
ถ้าแนวรักก็แบบ อยากได้ที่อบอุ่นนิดๆ ไม่เกี่ยงเรื่องดราม่า แต่อยากให้แบบค่อยเป็นค่อยไปอะ ในเว็บเจอแต่เยๆ
ส่วนแฟนตา อยากได้แบบ... ถ้าไม่ใช่แนววรรณกรรมเยาวชนก็แนวรักอุ่นๆ ไปเลยอะ กูเจอแต่พวกเบียว
หาจนท้อแล้วมึง เฮ้อ

521 Nameless Fanboi Posted ID:J4UiLK/1v

>>520 ถ้าพอนึกออก
แฟนตาซี: the corolla song
รัก:หาอบอุ่นไม่ค่อยเจอเท่าไร(ยกเว้นพวกแฟนฟิคเจออยู่) บางเรื่องที่ใช้ได้มันก็ไม่น่าเข้าเกณฑ์มึง
ไม่ค่อยช่วยไรเลย นึกไม่ออก

522 Nameless Fanboi Posted ID:fhLHYJ5le

>>521 ถถถ แฟนตาซีเรื่องนั้นอุ่นเกินไปมั้ยมึง

523 Nameless Fanboi Posted ID:J4UiLK/1v

>>522 อย่างน้อยกูก็ยังรู้สึกถึงความอบอุ่นนะ555

524 Nameless Fanboi Posted ID:AlcsRWQt7

>>520 ลองดูเรื่อง Farnese Chronicle
สไตล์แฟนตาซีโบราณหน่อย มีรักนิดหน่อย+เบียวพอประมาณตามปกติของพระเอกแฟนตาซี
แต่เรื่องนี้อยู่ในไหมานานแล้วนะ ไหแตกล่าสุด 3 ปีได้มาตอนนึง
https://my.dek-d.com/cidius/writer/view.php?id=591537

525 Nameless Fanboi Posted ID:6YtsD7Bfl

>>524 อวย?

526 Nameless Fanboi Posted ID:6YtsD7Bfl

>>524 โทดนะ กดเอ็นเท่อเรวไป นี่อวยนิยายใช่ไหม?

527 Nameless Fanboi Posted ID:8Kkw28ofQ

>>524 เรื่องนี้รอจนลืมเรื่องไปละ คนแต่งบอกจะจบภาคนี้ให้ได้ภายในสองปี แล้วอัพเพิ่มแค่2ตอน นี่เหลือเวลาอีกแค่ปีเดียวจะจบจริงเหรอวะ...

>>526 ไม่ใช่524 แต่ว่าก็ 520 เขาขอให้แนะนำนิยาย เขาก็แนะนำ ไม่ถูกต้องหรอ?

528 Nameless Fanboi Posted ID:U6UyOWAuK

>>524 ตามอ่านแรกๆ และอ่านต่อเนื่องก็สนุกอยู่หรอก แต่พอห่างๆ และกลับมาอ่านอีกรอบความรู้สึกมันไม่เหมือนเดิมแล้ว

529 Nameless Fanboi Posted ID:McXD7.aSJ

ปกติสับนิยายเนี้ย ติตามความเห็นส่วนตัวเหรอเปล่า พอดีช่วงนี้หานิยายอ่าน จะลองมาสับบ้าง

530 Nameless Fanboi Posted ID:1pkTAsvDG

>>529 ใช่ ตามความเห็นส่วนตัวเลย แต่พยายามอยู่บนหลักเหตุผลเข้าไว้เป็นพอ

531 Nameless Fanboi Posted ID:50ugE7T+d

เพื่อนโม่งในนี้ไม่มีใครพูดถึงข่าวใหญ่นักเขียนเลยเหรอวะ ที่มีนักเขียนในเด็กดวกไล่นักอ่านที่วิจารณ์งานตัวเองให้ไปฆ่าตัวตายอ่ะ แบบแนะนำการฆ่าตัวตายเสร็จสรรพ โหดสัสคือคนเขียนเป็นอาจารย์ แต่วุฒิภาวะไม่มีเลย >> https://writer.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=1107548&chapter=294

เห็นแบบนี้ล่ะนึกถึงเพือนโม่งในบอร์ด นี่ถ้อีป้าเจอเพื่อนโม่งวิจารณ์นิยายเข้าไปไม่ช็อกตายคาคอมเลยเหรอวะ

532 Nameless Fanboi Posted ID:TVA8y9q/c

>>531 ตอนแรกนึกว่าเด็ก ว่าแต่มีใครมีลิ้วค์มู้พันทิปป่ะ กูจะค้นอากู๋ก็ไม่แน่ใจว่าใช้คำว่าอะไรดีแฮะ

533 Nameless Fanboi Posted ID:2CSHlKp2z

>>532 ตามนี้เลยเพื่อนโม่ง https://pantip.com/topic/37150211

ไม่ใช่เด็กแต่เป็นมนุษย์ป้าพันธุ์แท้เลย ไหนเพื่อนโม่งนักวิจารณ์ลองวิจารณ์นิยายของมนุษย์ป้าคนนี้บ้างสิ

534 Nameless Fanboi Posted ID:fhLHYJ5le

>>533 แล้วเอาเม้นไปแปะหน้านิยายด้วยนะมึง ไม่แน่คนเขียนจะแปะบทสวดแผ่เมตตาท่องอโสิกรรมให้เลย

535 Nameless Fanboi Posted ID:TVA8y9q/c

>>533 แต้งกิ้ว เดี๋ยวจอตัวไปอ่านก่อน

536 Nameless Fanboi Posted ID:wCO1qS1GG

นักเขียนแม่งสมควรไปหาจิตแพทย์ได้แล้ว โตแต่ตัว แต่จิตใจยังเด็ก

537 Nameless Fanboi Posted ID:N5WvPqFSL

คห.1969 นี่มาจากโม่งแหงๆ มีเอาไปโยงกับเรื่องร้านชุดโลลิต้าที่มีปัญหาในห้องเน็ตวอชด้วย 555

538 Nameless Fanboi Posted ID:6+sCzEsYU

https://www.dek-d.com/board/view/3811967/

เงินบวกตรรกะเพี้ยนอีกแล้ว ตอนนี้เขามีปัญหากับนิสัยและพฤติกรรมคนเขียน ไม่ใช่ประเด็นว่านิยายดีหรือไม่ดีเลย ทำมาเขียนประหนึ่งว่าเขากำลังวิจารณ์นิยาย ขอถ่มน้ำลายรดหน้ามึงหนึ่งที

539 Nameless Fanboi Posted ID:roVj51TnE

>>538 เงินบวกแม่งประสาทแดกสัสๆ กูรู้โว้ยว่าไม่ควรเอานิสัยของผู้เขียนไปตีค่านิยายของมัน แต่อันนี้คือกำลังด่าที่นิสัยไง ไม่ใช่ด่านิยาย นิยายแม่งสนุกหรือไม่สนุกเนี่ยไม่เกี่ยวกับประเด็นนี้เลย ที่เขาด่ากันคือความเหี้ยที่แสดงออกมาล้วนๆ

เดี๋ยวไปเม้นด่านิยายอีห่านี่หน่อยดีกว่า

540 Nameless Fanboi Posted ID:roVj51TnE

แม่ง เม้นไม่ได้ เสือกไหวตัวทันปิดไม่ให้นอนเม็มเม้น อีสัส กูเก่งแต่หลังคีย์บอร์ดซะด้วย ทำไงดีวะ บิบิ

541 Nameless Fanboi Posted ID:N5WvPqFSL

เอาคอมเม้นจากอีกตอนก่อนหน้ามาให้อ่าน แรงน้อยกว่าหน่อยแต่ก็นั่นแหละ หึๆ
https://writer.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=1107548&chapter=279

542 Nameless Fanboi Posted ID:fyV/.ZVXe

>>540 สมัครไอดีใหม่ดิเพื่อนโม่ง เด็กดวกสมัครง่ายจะตาย

543 Nameless Fanboi Posted ID:/nwILqIwr

กุรู้สึกติดใจเรื่องนึงมากช่วงนี้ คือเนื้อเรื่องก็ไม่แย่ ติดบรรยายเยอะ แต่อ่านไปอ่านมากุก็รู้สึกว่าไม่ได้เลวร้ายไร แล้วนขเรื่องนี้โดนดราม่าว่าไปลอกเรื่องอื่นมา แต่กุเฉยๆ ขี้เกียจตามดราม่าถ้าอัพต่อก็อ่านไม่อัพก็เสียดาย จนสรุปนขเปลี่ยนชื่อเรื่องนิยายแล้วเปิดเป็นนิยายใหม่แต่ก็เรื่องเดิมนี่แหละ

ประเด็นคือไม่เกี่ยวกับข้างบนที่ว่ามาเลย ที่กุคาใจคือนขเล่นล็อคนิยายตอนเก่าๆแล้วบอกว่าจะเปิดล็อกทุกวันบลาๆ (ถ้าจำไม่ผิดสามวันต่ออาทิตย์) แถมบอกจะเปิดไล่ตอนไปเรื่อยๆ(คือวันละ1ตอน?) แทนที่จะเปิดทุกตอนงี้ คือกุไม่เข้าใจนขคนนี้เลยวะ ทำแบบนี้เพื่อไรวะ ต้องการคำอธิบายเคลียร์ๆ แต่กลับเห็นข้อความประมาณ แบ่งเวลาอ่านนิยายกับเรียนนสด้วยนะ คือกุงง นี่จุดประสงค์นขที่ปิดตอนใช่ไหมวะ55555

544 Nameless Fanboi Posted ID:jmDTTA/78

>>538 >>539 อันนี้ผิดจุดประสงค์มู้นะ
>>541 อันนี้ด้วย

545 Nameless Fanboi Posted ID:jmDTTA/78

จุดประสงค์มู้คือพูดถึงนิยายนะ ไม่ใช่ตัวบุคคล

546 Nameless Fanboi Posted ID:QQl0r6C5/

ซึ่งหวังว่าจะควบรวมไปถึงเทคนิคกับคำแนะนำนะ พวกมึง กูพยายามเขียนตัวละครที่ฉลาดแต่ปากมาก กับ ตัวละครที่มีอำนาจบารมีที่สุดในเรื่อง กูเลยลองเขียนลง word ก่อน พออ่านเองแล้วมันให้ความรู้สึกเหมือนพวก wannabe เลยว่ะ หรืออาจจะเพราะว่าตัวละครทั้ง 2 ตัว กูได้แรงบันดาลใจจาก GoT เลยทำให้มีข้อเปรียบเทียบ พอมือไม่ถึงเลยกลายเป็นพวก wannabe ไปก็ไม่รู้...

547 Nameless Fanboi Posted ID:h+1PYsCt3

>>546 มึงลองศึกษาพวกนิสัยแบบนี้จากเรื่องอื่นด้วยก็ได้เผื่อมึงจะรู้แนวคิดพวกนี้เพิ่ม อ๋อพวกปากมากแม่งขี้สงสัย พวกมีอำนาจแม่งเก็บความคิดงี้ อาจจะบรรยายคนรอบข้างว่าแสดงอาการกับคนพวกนี้ยังไงด้วยก็ได้ พวกมีอำนาจคนก็จะไม่อยากเข้าใกล้ พวกปากมากคนจะหมั้นไส้ ตัวอย่างประมาณนี้

548 Nameless Fanboi Posted ID:LXu3t39fd

>>526 ว่ากูอวยก็ได้ กูชอบเรื่องนี้ แล้วตามโจทย์ที่เค้าถามมากูก็นึกออกแค่เรื่องนี้
>>527 กูว่าไม่ อย่างมากถ้าคนเขียนยังเช็กยอดวิวตัวเองอยู่แล้วเห็นมีคนอ่านก็คงออกมาได้อีกตอนสองตอน
>>528 กูก็เป็น อัพตอนใหม่ทีกูก็ไล่อ่านใหม่ที อ่านตอนใหม่อย่างเดียวแล้วไม่อิน จำเรื่องก่อนหน้านั้นไม่ได้

549 Nameless Fanboi Posted ID:YyOyVIqYx

พวกมึงเห็นด้วยมั้ย นิสัยเสียของนักเขียนทำให้นิยายห่วยลง

550 Nameless Fanboi Posted ID:6HEHcTA/j

>>549 แล้วแต่ ถ้าคนเขียนปากเสียนิสัยห่วยแค่ไหน แต่อัพนิยายสม่ำเสมอ พยายามเขียนให้ดี เปิดเรื่องมาแล้วปิดได้ กูไม่ด่านิยายเขาเด็ดขาด
กลับกันคนดีๆเขียนตรรกะห่วยสิกูด่าของจริง กูอ่านนิยายเขา ไม่ได้อ่านประวัติชีวิตเขาสักหน่อย

551 Nameless Fanboi Posted ID:qNQdWsc7j

กูไม่ได้อยากนินทาบุคคลหรืออะไรนะ แต่จากมู้นักเขียนนั่น อีดอกขาวบอกมันเป็นเรื่องส่วนบุคคล เราไม่ควรเข้าไปยุ่ง พวกมึงคิดว่าไงวะ

552 Nameless Fanboi Posted ID:+IZt3bgfP

>>551 มึงก็ว่างเกิ๊น กูข้ามความคิดเห็นมันตลอดเลย

553 Nameless Fanboi Posted ID:qNQdWsc7j

>>552 ก็ว่างน่ะสิ จะว่าจริงมั้ยมันก็จริงแต่ก็มองข้ามไม่ได้ กูคิดไม่ออกว่าถ้าให้แย้งจะแย้งไงดีอละมันกวนใจกูมาก 555

554 Nameless Fanboi Posted ID:efGATSZ/m

>>549 เราต้องแยกตัวผู้เขียน กับงานเขียนออกจากกัน เวลาวิจารณ์นิยายก็ควรจะคิดซะว่าคนเขียนแม่งตายไปแล้ว ให้โฟกัสที่ตัวผลงานอย่างเดียว

แต่อันนั้นคือกรณีวิจารณ์งานเขียนไง ส่วนเรื่องนี้คือเขากำลังด่าความเหี้ยของนักเขียนล้วนๆ คืองานแม่งจะดีเลิศหรือระยำแค่ไหน ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ที่เขาด่ากันคือการแสดงอารมณ์เหี้ยๆ ของคนเขียน

อย่างแฮร์รี่ พอตเตอร์ เวลาวิจารณ์ก็สมควรพูดถึงแต่ตัวนิยายใช่ไหม ดีไม่ดีอย่างไร การบรรยายเป็นยังไง plot armor เหี้ยไหม โดยที่เราจะไม่ไปแตะตัวผู้เขียน แต่ในกรณีที่คนเขียน (jk) มีประเด็นเรื่อง sjw ที่อวยเฮอร์ไมโอนี่คนดำตอนนั้น เราก็สามารถด่าที่ตัวนักเขียนได้ เพราะในหนังสือ ป้าแกเขียนค่อนข้างชัดนะ ว่าเฮอร์ไมโอนี่เป็นคนขาว

สรุป เราต้องตั้งธงก่อนว่า จะด่านิยาย หรือจะด่าคนเขียน ถ้าจะด่านิยาย ก็พูดถึงแต่เรื่องนิยาย แต่ถ้าจะด่าคนเขียน ก็พูดถึงแต่คนเขียน

555 Nameless Fanboi Posted ID:O4ojxqwvP

>>551 อันนี้กูคิดว่านักเขียนล้ำสิทธิ์นักอ่านด้วยถ้อยคำที่รุนแรงเกินว่ะ สมควรเข้าไปตักเตือนนะไม่ใช่เสียบประจาน ยิ่งไล่นักอ่านไปตายพร้อมวิธีการนี่กูว่าเหี้ยเกิน

556 Nameless Fanboi Posted ID:cWfN8rROR

กุเพิ่งอ่านมาม่า เจอเม้นเงินบวกเข้าไปงงเลย มันตอบกระทู้เดียวกับคนอื่นป่ะวะพยายามตอบให้ดูหล่อแต่มันคนละเรื่องเลยว่ะพี่ ส่วนดอกขาวก็ขาประจำ คนส่วนมากเห็นยังไงนางต้องรีบสวนกระแส ทำตัวขวางโลกจะได้มีที่ยืนในสังคม กุว่าตัวคนเขียนแม่งคงหนีไปแล้วหล่ะ ดูไม่น่าจะออกมาขอโทษ

557 Nameless Fanboi Posted ID:h2o0WT7Qa

>>555 กูเห็นด้วยกับมึง สมควรไปตักเตือน แต่ไม่ใช่เสียบประจาน

558 Nameless Fanboi Posted ID:6HEHcTA/j

มีใครสับเรื่องนี้ไหม https://writer.dek-d.com/Bahtdeaw/writer/view.php?id=1719177
ถ้าไม่มีกูจองสับนะ

559 Nameless Fanboi Posted ID:NCS1M9JyG

>>558 นี่มันนิยายจีนนะ

560 Nameless Fanboi Posted ID:fHVjan58S

>>559 มึงเด็กใหม่ป่าว กูว่าที่นี่สับหมดทุกแนวนะ หรือมึงหมายความอย่างอื่น?

561 Nameless Fanboi Posted ID:6HEHcTA/j

>>559 งั้นกูเอานิยายวายก็ได้ เดี๋ยวมาลง ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้

562 Nameless Fanboi Posted ID:zQM/AZpJf

>>560 คงหมายถึงเป็นนิยายแปลจีนล่ะมั้ง

563 Nameless Fanboi Posted ID:e1uZiAvH1

>>560 จริงๆ มันควรสับเฉพาะนิยายคนไทยแต่งนะ อันนี้มันเป็นนิยายแปล สับไปจะผิดกระทู้ด้วย มันต้องไปนิยายเว็ปหรือตำหนักจีนมากกว่า

564 Nameless Fanboi Posted ID:qNQdWsc7j

>>561 ถ้านิยายวาย กูว่าจะเฉพาะทางไปป่ะวะ ถ้าจะเอาแนวนี้จริงๆ ส่วนใหญ่เขาจะไปห้องฟุเลยน่ะ แต่ก็ไม่รู้สิ ยังไม่เคยมีใครสับนิยายวายในนี้ซักคน

565 Nameless Fanboi Posted ID:6HEHcTA/j

>>564 ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูหาใหม่แล้วกัน สุ่มๆมาจากนิยายติดอันดับนี้แหละ

566 Nameless Fanboi Posted ID:fHVjan58S

>>562,563 โอเค ๆ กูเข้าใจเพื่อนโม่งผิดไป
กูสนับสนุนสับนิยายไทยที่เขียนกันเองนั่นแหละ แนวไหนก็ได้

567 Nameless Fanboi Posted ID:YyOyVIqYx

ตอนนี้คนสับยังอยู่รึเปล่าวะ

568 Nameless Fanboi Posted ID:NCS1M9JyG

>>560 กุเดาไม่ผิดเลยว่าต้องมีคนเข้าใจผิด
ที่จริงกุเขียนไม่ชัดเองแหละว่ามันคือนิยาย "แปล" จีน

569 Nameless Fanboi Posted ID:6HEHcTA/j

กูหานิยายสับอยู่แล้วไปเจอเรื่องนี้ https://writer.dek-d.com/Doswagcat/story/view.php?id=1730562
เกี่ยวกับบันทึกคนเป็นโรคซึมเศร้า แต่กูรู้สึกเหมือนบันทึกโรคป่วยม.2 คนซึมเศร้าที่กูเจอไม่ได้ทำตัวก้าวร้าวไม่สนโลกแบบนี้ แต่จะชอบคิดในแง่ลบมากกว่า แต่กูไม่มั้นใจว่ามีเคสแบบตัวหลักในเรื่องไหม

570 Nameless Fanboi Posted ID:QQl0r6C5/

>>567 ยังอยู่ แต่ก่อนหน้านี้มันกำลังดราม่ากันเลยไม่กล้าเคลื่อนไหว
ปล. ถ้าจำกันไม่ได้ กูโม่งมารีเองนะ

571 Nameless Fanboi Posted ID:QQl0r6C5/

>>569 อาจจะมีก็ได้ แต่เฉพาะตัวกูเองก็ไม่เคยเจอคนเป็นโรคซึมเศร้าแล้วนิสัยก้าวร้าวนะ ที่กูเห็นคือจะเงียบๆ ทำตัวเหมือนไร้ตัวตน ถ้าเผลอไปนิดเดียวอาจจะฆ่าตัวตาย/ทำร้ายตัวเองได้ แต่ไม่เคยเจอที่ทำร้ายคนอื่นนะ

572 Nameless Fanboi Posted ID:YyOyVIqYx

ถ้ารู้จักโรคซึมเศร้าแค่ผิวเผิน เขียนไปไม่สมกับคนโรคซึมเศร้าอยู่ดี ยกเว้นคนเขียนเป็นโรคซึมเศร้าซะเอง

573 Nameless Fanboi Posted ID:O4ojxqwvP

>>569 >>571 อันนี้กูเอามาฝากนะ เป็นประสบการณ์กูเอง กูเป็นซึมเศร้าอ่อนๆ กำลังจะไปปรึกษาแพทย์เพื่อรักษา อย่างที่มึงบอกอ่ะ (คนอื่นไม่รู้เป็นเหมือนกูรึเปล่านะ) ตัวกูเป็นเริ่มแรกเลยคือเก็บกด คิดมาก มีอะไรก็ไม่ค่อยบอกใครจนบางทีกูต้องมาร้องไห้คนเดียวระบายอารมณ์ แล้วร้องทีนี่เป็นชั่วโมง ในหัวคิดแต่เรื่องไม่ดีทั้งนั้ย
ที่จริงกูอยากพูดระบายให้คนอื่นฟังนะ แต่พอเจอหน้าคนอื่นก็รู้สึกว่าทำไมต้องเอาความทุกข์เราไปให้เค้าด้วยวะ กูเป็นคนงี้จริงๆ555555
แล้วพอเก็บไปเรื่อยๆ เข้าแม่งก็กลายเป็นคนเงียบๆ นิ่งๆ ไม่ชอบเล่าเรื่องทุกข์ให้ใครฟัง แต่บางโมเม้นต์นี่ถ้าเจอเรื่องน้อยใจ (ที่ไม่ควรน้อยใจ) หรือแบบโดนด่าไม่ดีใส่ แว่บนึงนี่คิดขึ้นมาแล้วนะเว้ยว่าตัวเองยังมีค่าเชี่ยไรอยู่วะ บางครั้งถึงขั้นทำร้ายตัวเองก็มี (ทำร้ายตัวเองตอนนั้นกูไม่ต้องการเรียกร้องความสนใจนะ มันเหมือนระบายสิ่งที่อัดอั้นอ่ะมึง) จนครั้งนึงกูเกือบเผลอฆ่าตัวตาย แต่รั้งสติเอาไว้ได้ก่อน หลังๆ มานี่กูเริ่มคิดแบบนี้บ่อยเข้า กูคิดว่าปล่อยเอาไว้ไม่ได้แล้วอ่ะ ต้องรักษาตัวก่อนไม่งั้นขาดสติแน่ๆ
ถ้าเพื่อนโม่งมีไรถาม ถามได้นะ ถึงกูจะซึมเศร้าแต่ก็ยังคุมสติได้ เรายินดีแบ่งปันประสบการณ์

574 Nameless Fanboi Posted ID:fHVjan58S

>>573 มึงมีกิจกรรมยามว่างอะไรบ้างเปล่า อย่าปล่อยให้ว่างนะ

เพื่อนกูก็เป็น มันไปหาหมอแล้วก็ดีขึ้นเยอะนะ เดี๋ยวนี้ชอบชวนกูไปตีกะหรี่เป็นเพื่อนบ่อย ๆ จะขัดก็กลัวโรคซึมเศร้าเพื่อนมันกำเริบ

575 Nameless Fanboi Posted ID:idSigrDeR

>>573 ขอถามเรื่องการพบหมอหน่อยดิ ถ้ากูอยากไปหาหมอที่โรงบาลรัฐจะมีปะวะ คือกูพอรู้ตัวละว่าเป็น ทำแบบสอบถามของหน่วยงานก็ใช่ แต่อยากไปหาหมอให้แน่ชัด ซึ่งแถวบ้านกูไม่มีคลีนิกเกี่ยวไรกับพวกนี้เลย ที่โรงบาลรัฐพอจะมีปะวะ

576 Nameless Fanboi Posted ID:QJWOAde.S

>>575 เสิร์ชหาคำว่าแผนกจิตเวช กับโรงพยาบาลในอากู๋ได้เลย

577 Nameless Fanboi Posted ID:WLmlSC6h.

ตอนนี้มันหมดยุคนิยายตะวันตกแล้วเหรอวะ หลังจากที่เด็กดีโดนยุ่นตีตลาดมาอย่างยาวนาน ตอนนี้ก็เหมือนกับว่านิยายจีนจะมาแทน แถมดูทรงแล้วกระแสไม่น่าซาง่ายๆ แถมนิยายจีนพวกนั้นแม่งก็เหี้ยฉิบหาย แกรี่สตูสุดๆ คนอ่านแม่งก็ติดแต่ไอ้เรื่องพระเอกเทพทรูที่ดูทรงแล้วไม่รู้ว่าจะจบยังไง เห็นว่าบางเรื่องแม่งเป็นแบบโปเกม่อน คือหลังจากที่พระเอกเคลียร์โลกนี้เสร็จ แม่งก็ไปเคลียร์โลกต่อไปต่อ (และดีกรีความเก่งจากโลกก่อนก็จะหายไปบางส่วน ต้องเก็บพลังไปสู้กับตัวโกงตัวใหม่อีก) แม่งวนลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆ อะ

แถมแต่ละตอนแม่งก็โคตรสั้น บางเรื่องมีเป็น 1000 ตอน แต่ถ้าเอามาจัดเป็นพ็อคเก็ตบุ้คขนาดมาตรฐาน คงได้แค่ประมาณเล่มครึ่ง

578 Nameless Fanboi Posted ID:QyMwtxz4L

>>410 ขอปิดงานที่ค้างคาเลยแล้วกัน
ในภาพรวมแล้ว ถ้าอยากจะอ่านนิยายเรื่องนี้ให้สนุกและได้เรื่อยๆ สิ่งที่ควรทำคือการถอดสมอง กลับไปเชื่อว่าโลกแบน ก่อนจะอ่าน
ถ้าทำไม่ได้ นิยายเรื่องนี้แทบจะเป็นฝันร้ายเลยก็ว่าได้ เพราะตลอดทั้งเรื่องจะเต็มไปด้วยความไม่สมเหตุสมผลและขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ไปที่ละด้านนะ

ด้านตัวละคร

ประวัติชีวิตนางเอกนิยาย หรือ เจ๊ลิสที่รู้จักกันดี มันเหมือนเป็นการยัดเยียดทุกๆ สิ่งที่คนเขียนคิดได้โดยไม่สนหลักเหตุผลและความเป็นจริงๆ ใดๆ ยัดเข้าไปแล้วเอาป้ายโง่ๆ ที่เรียกว่าพรสวรรค์มาแปะให้คนถอดสมองได้เชื่อ/คล้อยตาม
ซ้ำยังมีตัวละครน้องชายเจ๊ลิสที่เหมือนจะมีบทสำคัญ แต่สุดท้ายก็เหมือนออกซิเจนในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง โผล่มาแค่บทบรรยายแล้วหายเข้ากลีบเมฆ
ตัวละครในเกมก็เหมือนกัน คนเขียนใส่ไปเยอะและเหมือนไม่รู้จะอธิบายไงไหว เลยเอาแค่น้องแชลล์กับท่านพ่อ ท่านพี่คิวรอสกูจนแล้วจนรอด แค่บทพูดยังไม่มีกับเขาเลย มีแต่บทบอกว่าหวงเจ๊ลิสมากกว่าเดิม แต่ไม่อธิบายว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? ถ้าให้เปรียบเทียบกันกับนิยายแนวนางร้ายแต่เป็นของญี่ปุ่น อย่าง นอบน้อมและหนักแน่น กับ บากะรีน่า อย่างน้อยที่สุด เรื่องพวกนี้ก็มีอธิบายว่า "ทำไมทุกคนถึงรักนางร้าย" แบบเป็น "การกระทำ" ผิดกับเรื่องนี้ที่ฉากเพิ่มสัมพันธ์ไม่มี ผ่านไปแปปๆ เจ๊ลิสก็มาบรรยายพี่หวงฉัน ทุกคนชอบ/รักฉัน แต่สุดท้ายก็แค่ผ่านบทบรรยายในใจของเจ๊ลิส นอกนั้นก็ไม่มีคุณค่าอย่างอื่นเลย
และเหมือนคนเขียนคงจะลืมตัวไปว่า นี่มันโลกเกมจีบหนุ่มและอ่านพวกนางร้ายตลาดมาเยอะ เลยยัดบทนางตอแหล หรือ ผู้หญิงสำส่อนให้นางเอกเกมแบบไม่สนโลกเลย จู่ๆ ก็ยัดลงไปเลยและให้มันแสดงผ่าน "บทบรรยาย" ของเจ๊ลิสเท่านั้น ไม่มี Show ที่เห็นเป็นกิจลักษณะ หรือค่อยๆ เผยทีละน้อยให้ได้ลุ้นหรือขมวดปมสงสัยว่าแหลจริงไม่จริง แต่ไม่ คนเขียนอยากได้คนตอแหล เลยโยนหน้าที่ให้นางเอกเกมไปแล้วค่อยมาให้เจ๊ลิสบอกกริยาที่มีแต่เจ๊ลิสเห็นคนเดียว พอช่วงขึ้นท็อปละมั้ง เลยรวบรัด ตัดไปให้เจ๊ลิสเห็น นางเอกเกมพาสองหน่อที่เป็นใครจากไหนไม่รู้ เข้าโรงแรม สิ่งที่แลกมาเพื่อให้ได้ฉากนี้คือ การตัดฉากแข่งรถที่บิ๊วมาตั้งแต่ 2 ตอนก่อนหน้าไปดื้อๆ เลยเพื่อเอาใจคนอ่าน
และแน่นอนตามสูตรสำเร็จของมัน ขาดไม่ได้เลยคือตัวละครจีบได้ที่จะต้องโง่โดนนางเอกเกมสวมเขา แล้วทีนี้คิดว่าแปลกไหมที่ 4 หนุ่มฉลาดรูปหล่อพ่อรวยเป็นยอดฝีมือเชิงดาบและเวทมนตร์ ดันมองการแสดงของหญิงสามัญชนลูกคนธรรมดาไม่ออก? กูว่ามันแปลก กูไม่เชื่อหรอกว่านางเอกเกมจะแสดงได้สมบูรณ์แบบ เพราะถ้าเจ๊ลิสยังดูออกและอธิบายได้เป็นฉากๆ ทำไมไอ้ 4 หน่อถึงจะดูไม่ออก? อย่างเจ้าชาย 1 นี่ ถ้าดูตอนคะแนนสอบออก มันก็อยู่ในระดับเดียวกับเจ๊ลิส มันก็ควรจะดูออก จริงไหม? ยิ่งเป็นเจ้าชายที่ต้องคุ้นชินกับการประจบสอพอของพวกขุนนางด้วย จริงไหม?
พวกตัวประกอบอื่นๆ ก็เป็นแค่ตัวประกอบให้มาอึ้งความสามารถเจ๊ลิสเฉยๆ ไม่มีค่าเป็นอย่างอื่นเลย

ฉากหลัง

พูดได้คำเดียวว่า...เละเทะ...คนเขียนอยากจะได้ฉากโลกเกมจีบหนุ่มที่มีเจ้าชาย เจ้าหญิง ดยุก ขุนนาง นั่นนี่ แต่ไม่อยากทิ้งไลฟ์สไตล์แบบตัวเอง พอคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไร เลยจบลงที่การ 'เอามายำ' กันแบบหลวมๆ อยากมีราชา เจ้าชาย ขุนนาง ได้ แต่เสียดายเทคโนโลยีจัง เลยเซตให้เป็นเหมือนโลกของเรา แต่อยากให้แฟนตาซี เลยมีเวทมนตร์ที่จนตอนล่าสุด มึงจะมีทำเหี้ยไร ใช้ประโยชน์ห่าเหวอะไรไม่ได้เลย แต่ก็อยากได้อะไร Advance Advance ด้วย เลยมีโต๊ะเรียนกับปากกาแบบดิจิตอลเขียนอากาศหรือโฮโลแกรม
เหมือนนิทานนกน้อยกับสีใน Black Rock Shooter ถ้าไม่เคยดู มันคือนกที่บินไปที่ไหนจะเก็บสีที่นั่นมาไว้ที่ตัว เก็บมากๆ เข้าสีเลยปนกันมั่วและกลายเป็นสีดำ
ฉากหลังในนิยายเรื่องนี้เองก็เช่นกัน เพราะคนเขียนที่เหมือนคนโลภมากเลยจับทุกอย่างที่อยากได้มาใส่จนมันเละ จะระบบขุนนางเอย รถราเอย เวทมนตร์เอย โต๊ะกับปากกาไฮเทคเอย Ferrari รุ่นล่าสุดที่อยู่ในเกมจีบหนุ่มได้ไงก็ไม่รู้เอย

เนื้อเรื่อง

คิดได้อย่างเดียวคือคนเขียนด้นสด ตลอดทั้งเรื่องนั้นไม่มีประเด็นให้จับ ทุกอย่างมันเป็นเส้นตรงไร้จุดหมาย ความคิดของเจ๊ลิสมันย้อนแย้งกันไปหมด อยากจะมีชีวิตสงบ แต่เลือกไประรานชาวบ้านเขาก่อน บอกว่าไม่อยากยุ่งกับใครแต่ไประรานชาวบ้านเขาก่อน บอกไม่อยากที่จะมีตอนจบแบบ Bad End แต่หลายอย่างที่ทำมันส่อไปทางนั้น แต่เพราะโลกนี้หมุนตามเจ๊ลิสโดยไม่สนเหตุผล เจ๊ลิสเลยยังลอยหน้าลอยตาอยู่

579 Nameless Fanboi Posted ID:QyMwtxz4L

>>578
สรุป

คะแนนโดยรวมกูให้ 1.5/10
1 สำหรับความสนุกของนิยายทั้งเรื่อง
0.5 เพราะกูอ่านฟรีเลยเป็นคะแนนพิเศษ
แต่ยังก็ไม่ผ่านเกณฑ์ของกู ของคนอื่นอาจจะชอบก็ได้ ใครจะรู้ แต่ที่กูรู้แน่ๆ เลยคือ กูไม่ชอบ และคงไม่มีวันชอบมันด้วย
ถ้ายังให้แยกย่อยลงไปอีก
ตัวละคร 1/10
-นอกจากเจ๊ลิสแล้วตัวละครอื่นเรียกได้ว่า ไร้คุณค่าเลย
เนื้อเรื่อง 0/10
-ไร้จุดหมาย ไร้เป้าหมายและไม่สมเหตุสมผลด้วยประการทั้งปวง
ฉากหลัง 0.5/10
-ผสมปนเปจนเละเทะ แต่เพราะกูเป็นพวก Royalist เลยให้ 0.5 ที่มีระบอบกษัตริย์ภายในเรื่อง ถึงแม้จะเป็นกษัตริย์ไร้ค่าก็ตามที

สับเป็นเรื่องแรก ไม่รู้นะว่ามันถูกผิดมากน้อยแค่ไหน ถ้าอยากจะเพิ่มเติมตรงไหนก็แนะนำมาเลย
และใช่ ที่เขียนมาทั้งหมดคือความคิดเห็นของกูคนเดียว เป็นความชอบส่วนตัวและกูไม่ว่าที่จะมีใครเห็นต่าง
ลิ้งนิยายเพื่อมีคนอยากลองไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง https://writer.dek-d.com/P-Ployli/story/view.php?id=1729308

ลงนาม โม่งมารี

580 Nameless Fanboi Posted ID:Nz9vVM9jx

>>577 อันนี้จริงอย่างที่มึงว่า นิยายจีนนี่กุแทบทนอ่านไม่ได้เพราะความแกรี่ของตัวละครนี่ล่ะ
ส่วนสาเหตุที่ทำให้คนสมัยนี้อ่านกันก็เป็นเพราะทางจีน (แผ่นดินใหญ่) มันมีนโยบายส่งออกนิยายออกนอกประเทศน่ะ แถมนิยายจีนพวกนี้ก็ได้แปลเป็นภาษาอังกฤษกันเป็นถึงระดับองค์กรเลย ยกตัวอย่างเช่น Qidian International เนี่ย กุลองเข้าเว็ปมันแล้วขอบอกเลยว่าอย่างกับ สนพ. เอามาปล่อยเอง (หรือว่าใช่วะ?) หนำซ้ำจำนวนตอนก็เยอะ ถูกใจพวกเด็กยุคนี้ที่ไม่มีความอดทน เพราะงั้นจึงไม่น่าแปลกเลยที่คนเราในยุคนี้จะเข้าถึงนิยายจีนได้ง่ายยังไงล่ะ

581 Nameless Fanboi Posted ID:fMYeCvnGE

>>574 ว่างๆ กูเที่ยวบ้าง อ่านหนังสือ ดูหนัง ดูเมะ
แต่หนังนี่พยายามเลี่ยงเรื่องที่มันดิ่งอารมณ์อะ หลังๆ มาก็เขียนนิยายบ้างคนับ แต่เรื่องตีหรี่ขัดเพื่อนมึงบ้างก็ได้นะ ถ้าช่วยชาติอย่าลืมขอใบกำกับภาษีด้วย55555 (แซวๆ นะมึง)

>>575 มีๆ ตามที่ >>576 บอกอ่ะ อย่ากลัวที่ต้องไปเว้ยถ้าปล่อยไว้นานเดี๋ยวอาการหนัก หรือถ้ายังไงไปปรึกษาสายด่วยสุขภาพจิตก็ดีนะ กูเคยโทรไปครั้งนึง รู้สึกโอเคเยอะเลยอะ

582 Nameless Fanboi Posted ID:IaVlSzy9B

>>579 เข้าไปอ่านแล้วหัวร้อน แค่ควบสองบนเตียงเล่นเนรเทศเลยเหรอ
ป.ล. ถึงเราจะเป็นลิสเราก็จะไม่ปล่อยคลิป แต่จะเอาคลิปมาแบล็กเมล์

583 Nameless Fanboi Posted ID:idSigrDeR

>>576 >>581 ขอบใจมาก

584 Nameless Fanboi Posted ID:T/XDLG4.f

>>582 ส่วนผู้ชายที่คั่วนางเอกเกมโดนประหารเลยนะ

585 Nameless Fanboi Posted ID:7cpmOH1/u

จุดที่กูเกลียดที่สุดในเรื่องคือการยัดเยียดป่านเจ๊ลิสเนี่ยแหละ เขาตอแหลยังงั้นยังงี้ ฉันเก่ง ฉันเจ๋งยังงั้นยังงี้ โคตรน่าหมั่นไส้ 555

586 Nameless Fanboi Posted ID:aOaIIxYkF

>>585 เป็นตัวอย่างที่ดีในวิชา ออกแบบตัวละครยังไงให้คนเกลียด, หมั่นไส้ 101

587 Nameless Fanboi Posted ID:7cpmOH1/u

>>586 มันก็ต้องมีแยกอีกป่ะว่าหมั่นไส้แบบสมเหตุสมผลกับหมั่นไส้แบบอะไรของมึง 555

588 Nameless Fanboi Posted ID:aOaIIxYkF

>>587 อันนั้นวิชาเลือก ค่อยไปลงทะเบียนแยกอีกทีต้นเทอม 1

589 Nameless Fanboi Posted ID:aWeeYz7Ym

>>580 qidian มาเปิดเองแหละ แล้วก็ไปไล่ดีลสัญญากับพวกนักแปล Eng เก่าๆให้เอางานแปลมาลง โมเดลเหมือนกับที่มาจอยกับ fictionlog ในไทย

590 Nameless Fanboi Posted ID:aOaIIxYkF

หมายถึงอีกหน่อยอาจโดนกลืนใช่มั้ย

591 Nameless Fanboi Posted ID:g35eNZ2VV

https://writer.dek-d.com/luckyman111/story/view.php?id=1547387 แปะ

592 Nameless Fanboi Posted ID:fm3XEZ84B

>>591 Let me do this.

593 Nameless Fanboi Posted ID:IIqgjnmax

>>591 กู 592 สรุปกูจองนะ ยังไม่ได้คิดชื่อในการสับ เอาเป็นว่า ใครก็มารู้มาจองสับละกัน

594 Nameless Fanboi Posted ID:NQ5uRuPjO

>>593 สับไปแบบไม่ต้องวอนนาบีได้ไหม

595 Nameless Fanboi Posted ID:u.N7+cbY.

>>591 ทำไมวิวโคตรเยอะ แต่เฟบโคตรน้อยอย่างนั้น

596 Nameless Fanboi Posted ID:7cpmOH1/u

>>593 สับๆไปเถอะ แต่ไม่ต้องลงชื่อนะ ขอเลย กูขี้เกียจต้องมาเสี่ยงเจอตัวป่วนเอาเรื่องนี้มาเล่นอีก

597 Nameless Fanboi Posted ID:J6SQwokbH

>>594 เล่นเว็บเหี้ยนี่แบบไม่ต้องพยายามแดกดันมากได้มั้ยวะ วอนนาบีชห

598 Nameless Fanboi Posted ID:fMYeCvnGE

>>596 กูว่าลงชื่อก็ดีนะ เวลามาอ่านย้อนหลังจะได้ง่ายหน่อย

599 Nameless Fanboi Posted ID:bWk1M3SZ9

>>591 ชอบตรงที่เวทมนต์ไม่ได้ใช้ได้ง่าย ๆ เนี่ยละ นี่เขี่ย ๆ อยู่เรื่องหนึ่งพยายามจะเล่าประมาณว่าเวทมนต์เป็นเหมือนชนชั้น รัฐบาลเลยพยายามให้ทุกคนมีเสทมนต์เพื่อที่จะได้ลดความไม่พอใจในตัวคนที่มีเวทมนต์ของผู้ไม่มีเวทมนต์ที่มีจำนวนเยอะกว่า แบบมาทำให้ทุกคนใช้เวทมนต์ได้กันเถอะ!

ส่วนที่เหลือยังไม่อ่าน ขก

600 Nameless Fanboi Posted ID:LzBWj.egw

กูไปอ่านนิยายวาย feel good เรื่องนึงมา กูชอบการบรรยายมากเลย รู้สึกดีตามแนวเรื่องทั้งๆที่ก็ไม่ได้บรรยายโดดเด่นอะไร รู้สึกดีจังวะ โอย กูตาย อินสุด

601 Nameless Fanboi Posted ID:hlA4Fsg/b

>>597 เล่นโม่งไม่ต้องย้อนแย้งตัวเองบ้างก็ดีนะ

602 Nameless Fanboi Posted ID:.43VvtX62

กูสงสัยเรื่องตัวตนในโม่ง ชื่อที่ตั้งในโม่งมันก็ไม่ได้มีความหมายเหี้ยอะไรอยู่แล้ว แลกข้าวแดกก็ไม่ได้ กูรู้สึกเหมือนพวกมึงไม่สนับสนุนให้ตั้งชื่อ เพราะไอ้เหี้ยเซฮุนคนเดียวเนี่ยนะ?

การมีชื่อมันดูวันนาบีมากขนาดเลยเหรอวะ ไม่ได้หัวร้อนนะ กูแค่ฉงนนิดหน่อย

นี่กูจะลงสับเลยเบรกไว้ก่อนเลย ว่าจะลงชื่อดีไหม ตอนแรกว่าจะไม่แคร์พวกมึง แต่กูถือว่ากูอยู่ในสังคมของพวกมึงเลยอยากฟังความเห็นก่อน ถึงแม้แม่งจะไม่มีกฎ(ของเว็บไซต์)ห้ามตั้งชื่อในนี้ก็เหอะ

603 Nameless Fanboi Posted ID:.43VvtX62

<<602 กูเน้นเฉพาะลงชื่อจองสับ และลงชื่อตอนสับนะ

604 Nameless Fanboi Posted ID:KJlu6vjxo

>>602 กูไม่ได้อะไรหรอก ถ้าไอ้นั่นมันไม่เอาเรื่องชื่อมาล้อ มาเกรียนอยู่นั่นน่ะ น่ารำคาญ

605 Nameless Fanboi Posted ID:YLC3x.N8h

>>602 มึงจะลงชื่อก็ทำไปใครจะห้ามมึงได้ โม่งคือทุกคนทุกคนคือโม่ง อยากมีตัวตนมากไปเล่นเดกดวก เว็บโม่งมีเพื่อลดอัตตาของคน มีชื่อแล้วเป็นไงดูไอ้เหี้ยที่มึงก็รู้ว่าใครดิน่ารำคาญชิบหาย แล้วลงชื่อจองหรือลงตอนสับก็ไม่มีประโยชน์อะไร โอเครจะได้มีเครดิท แต่มึงจะอ้างกับใครไว้อ้างในโม่งที่ไม่รู้ใครเป็นใครนี่นะ ส่วนลงชื่อเผื่ออ่านย้อนหลังนี่ก็ไม่ใช่เหตุผลว่ะ มึงอยากอ่านสับนิยายเรื่องอะไรก็หาชื่อนิยาย จะค้นชื่อคนสับเพื่อ?

606 Nameless Fanboi Posted ID:YtkBOCADK

https://fanboi.ch/pages/guidelines/

สนใจในเนื้อหามากกว่าผู้โพส
เว็บไซต์ฯ ไม่ให้ลงชื่อเพื่อให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่โพสมากกว่าผู้โพส ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องตามหาตัวตนว่าผู้โพสข้อความหนึ่งๆ นั้นเป็นใคร ไม่จำกัดว่าเป็นตัวตนในเว็บไซต์ฯ หรือนอกเว็บไซต์ฯ เลือกที่จะโต้ตอบกับสิ่งที่โพสมากกว่าว่าใครเป็นผู้โพส

607 Nameless Fanboi Posted ID:SRcHKYXSd

>>602 อ่าน guidelines สิว่าทำไมเล่นโม่งถึงไม่ควรมีชื่อ

https://fanboi.ch/pages/guidelines/

608 Nameless Fanboi Posted ID:.43VvtX62

>>604 ok
>>605 เว็บโม่งมันมีไว้ลดอัตตาเหรอวะ ความรู้ใหม่กูเลย ขอบใจมาก กูนึกว่ามันมีไว้ให้มึงแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระภายใต้กฎของเว็บเสียอีก

ที่กูลงชื่อตอนสับนี่ก็แค่อยากให้โม่งมาอ้างถึงในนี้ได้ หรือด่ากูก็ได้ มันลำบากเวลาเรียกโม่งที่สับเรื่อง A,เรื่อง B เกิดมึงอยากถามความเห็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับนิยาย ที่คนสับอาจไม่ได้ลงไว้ด้วย

แต่มึงก็ถูกที่ว่าคนอ่านเค้าสนใจแค่เรื่องที่ถูกสับมากกว่าคนสับ กูก็เห็นด้วย
ขอบใจสำหรับความคิดเห็นนะ

ปล. ตัวตนที่เด็กดวกกูก็มีเป็นปกติอยู่แล้วนะ แต่กูชอบลงความเห็นที่นี่มากกว่า แค่นั้นเอง

609 Nameless Fanboi Posted ID:.43VvtX62

>>607 ขอบใจมาก กูเก็ตละ ไอ้ห่า กูแม่งอ่านแต่ policy ไม่ได้อ่าน guide line

610 Nameless Fanboi Posted ID:j3e0VDJnQ

คิดว่า Nameless Fanboi มีไว้ทำไม น่าจะรู้กัน

611 Nameless Fanboi Posted ID:hGj5c8Lbr

พวกเมิงทะเลาะกันเองรายวันแบบนี้ จะเอาเครดิตที่ไหนไปสับนิยายชาวบ้านวะ

612 Nameless Fanboi Posted ID:.43VvtX62

กูโอเคนะ ก็ดูพูดกันมีเหตุผลดี
เรื่องตัวตนกูเข้าใจผิด(ไม่อ่าน guide line)เอง ก็ต้องขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วย

กูเข้าใจคำว่า nameless fanboi ที่แท้ทรูละ ขอบใจทุกคนอีกครั้งครับ จะตั้งใจสับนิยายต่อไป

613 Nameless Fanboi Posted ID:tqbEbGdFQ

กูเข้ามาในโม่งเพื่อแว่บมาดูว่าเมื่อไรนิยายกูจะโดนเขาสับบ้าง แต่เจอแบบนี้ทุกวันชักหมดศรัทธาวุ้ย
ทะเลาะกันเองแทบทุกวัน เทียบไม่ได้กับห้อง Karma ที่สามัคคีกันชิบหาย

614 Nameless Fanboi Posted ID:JYFM55LtX

>>613 เรื่องเย็ดเป็นเรื่องสวยงาม ยากยิ่งที่เราจะทะเลาะกันเองได้

615 Nameless Fanboi Posted ID:3alTTatQF

>>613 เบื่อนะ ไม่ได้เบื่อทะเลาะกัน แต่เบื่อพวกที่ชอบมาบอกว่า "นิยายกูอยู่ในลิสต์ เมื่อไหร่จะโดนสับเนี่ย" "ทะเลาะกันอยู่ได้ แล้วเมื่อไหร่จะได้สับนิยายกูสักที" หรือ "รอพวกมึงสับนิยายกูอยู่นะ"

คือคนอื่นเขาจะตรัสรู้ไหมว่านิยายมึงคือเรื่องไหน เขาก็คว้าๆ เรื่องที่มันไม่ยาวมากมา หรือพอดีโผล่มาเห็นเรื่องไหนก็สับเรื่องนั้น ถ้าอยากให้สับจริงๆ ก็กล้าๆ หน่อย แปะนิยายลงมาตรงๆ เลย ถ้ากล้าขอ ก็มีคนกล้าสับให้เองนั่นแหละ

616 Nameless Fanboi Posted ID:YLC3x.N8h

>>615 +1 โม่งแรนด้อมชาตินี้จะไม่ลงที่นิยายมึงเลยก็ได้ไอ้ >>613 ใจถึงๆหน่อยก็แปะมาเลย

617 Nameless Fanboi Posted ID:JYFM55LtX

>>613 เดี๋ยวกูลัดคิวสับให้ อ่าน 6 ตอนพอ โอเคมั้ย

618 Nameless Fanboi Posted ID:.43VvtX62

>>613 กูรอนะ

619 Nameless Fanboi Posted ID:mQ5LzsAMX

>>613 มึงเซฮุนมาปั่นกระแสใช่ไหม?

620 Nameless Fanboi Posted ID:T68CvgYmv

มา ๆ เดี๋ยวกูจะสับเรื่องนี้
https://writer.dek-d.com/astrum/story/view.php?id=1702623
ลำนำรักภูตราตรี จำนวน 33 ตอนจบ แต่เปิดให้อ่านฟรีแค่15 ตอนนี้กูอ่านถึง11ล่ะ พรุ่งนี้น่าจะอ่านจบเดี๋ยวมาสับ
กูเคยสะดุดใจกับความเห็นเพื่อนโม่งคนนึงประมาณว่า "มึงจะไปยกมาสับทำไมวะ นิยายดัง ๆ นิยายติดท๊อป สู้สับนิยายมีแววดีที่ไม่ดัง ไม่มีคนเห็นไม่ดีกว่าเรอะ" เออ มึงพูดถูก จริง ๆ กูก็เห็นด้วยนะ แต่ยังหาเรื่องมีแววที่ถูกใจไม่ได้เลย กูจะชอบอ่านหน่อยก็แนวรักแฟนตาซี กูขอสับเรื่องนี้ไปพลางก่อนละกัน

ตกลงกูลงชื่อตอนสับได้ไหมเนี่ย พอดีไม่ค่อยตามอ่าน

621 Nameless Fanboi Posted ID:T68CvgYmv

>>620 กูลืมบอก คนแต่งเดียวกะตุ๊ดทะลุมิติ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่แนวจีน

622 Nameless Fanboi Posted ID:TV3DpXo2N

อยากสับก็สับ จะจองทำหอยดองอะไรนักหนาวะ ยากตรงไหน จะสับซ้ำ10-20รอบใครจะว่ามึง ไอ้ห่า

623 Nameless Fanboi Posted ID:OzJbUgvR4

>>622 เค้าถามดีๆ ปะวะ จำเป็นต้องด่ากันมั้ย
>>620 แล้วแต่มึงเลย อยากลงก็ลงกูไม่ซีอะไร

624 Nameless Fanboi Posted ID:T68CvgYmv

>>623 นี่620ขอบใจมากนะ น่าจะพรุ่งนี้ไม่ก็มะรืนเริ่มสับ เดี๋ยวขอลงชื่อทิ้งไว้เหมือนเดิม

625 Nameless Fanboi Posted ID:p+DWsoYom

>>623 กูรำคาญ จะสับก็สับลงสักที ไม่ต้องรอท่าเรียกเรตติ้ง จะสับยังไงก็สับไป ทำไมต้องถามใครว่าจะทำอะไร คิดว่าดีก็ทำไปสิวะ ยึกๆยักๆ
เมื่อก่อนเห็นทำได้ไม่ต้องมีจองเป็นเอกสิทธิ์ของใครโดยเฉพาะ ไอ้ห่า

626 Nameless Fanboi Posted ID:eoby3SZ00

>>625 เห้อ กูว่าจะไม่อะไรแล้วนะ แต่ขออธิบายหน่อย
ไม่ได้จะเรียกเรตติ้งนะ เพราะไม่รู้จะเรียกไปทำไม นิยายของกูเองก็ไม่ใช่ ชื่อก็ยังไม่ได้ลงตอนถาม กูจะเรียกเรตติ้งไปให้เสาไฟฟ้าต้นไหนวะ?
ทีต้องถามเรื่องลงชื่อได้ไหมนี่คือกูน่ารำคาญเหรอวะ กูก็แค่อยากรักษาบรรยายกาศของห้อง เกิดพวกมึงตกลงกันไว้ว่า ต่อไปนี้พวกสับห้ามลงชื่อ แล้วกูมาลงนี่กูไม่สะเหล่อแย่เหรอวะ ที่ผ่าน ๆ มากูไม่ได้อ่านละเอียดไงว่าพวกมึงคุยไรกันบ้าง เพราะไรรู้ป่ะ? เพราะมีคนแบบมึงนี่แหละ กัดคนนู้น แซะคนนี้ กูเลยลากผ่านไปซะเยอะ
ขอโทษที่ทำให้เสียบรรยากาศ กูอดไม่ได้จริง ๆ จะมาสับนิยายแม่งยังโดนแขวะ เห้อ...
กูจะไม่สนมันล่ะ ขอแค่เมนต์นี้อันเดียว

627 Nameless Fanboi Posted ID:JHgC9wcyT

>>625 คนอย่างมึงนี่น่ารำคาญนะ ว่างก็มาช่วยกันสับไหม

628 Nameless Fanboi Posted ID:vqmnAZfjt

มีไอปัญญาอ่อนไปแจ้ง Meta

>>>/meta/4675/170/

629 Nameless Fanboi Posted ID:JHgC9wcyT

>>628 อื้อหือ แม่งเหี้ยจริง ๆ ตั้งใจกวนตีนโม่งสับเห็น ๆ

630 Nameless Fanboi Posted ID:5uarIB8wF

อ่ะกูมาละ เรปนี้จะแจงเรื่องให้ฟังคร่าว ๆ แล้วจะสับกับให้คะแนนเรปหน้า ๆ ๆ (อันนี้ก็แอบสับนิดหน่อย)

สับนิยาย
นิยายเรื่อง : Colourless ผู้ใช้มนตราในโลกาไร้สี
แนว : แฟนตาซี (ส่วนตัวกูคอนซิเดอร์ว่ามันเป็น low fantasy)
ลิงก์ : https://writer.dek-d.com/luckyman111/story/viewlongc.php?id=1547387&chapter=1

กูอ่านไปสองตอน คิดว่าน่าจะอ่านอีก แล้วเอามาวิจารณ์อีกนะ แต่ทีนี้ขออธิบายก่อน

นิยายเรื่องนี้เขียนแบบแบ่งเป็นเรื่องสั้นหลาย ๆ เรื่อง ที่เซ็ตอยู่บนโลกเดียวกัน โดยไม่ได้เรียงตาม Chronological order โดยเรื่องสั้นแต่ละเรื่องมักจบภายในสองตอน คือแบ่งเป็นบทเริ่มกับบทจบ เมื่อจบเรื่องสั้นหนึ่ง ก็ขึ้นเรื่องใหม่ โดยมีตัวละครเอกเป็นตัวใหม่ และมีความเกี่ยวโยงกัน ส่วนตัวกจากที่กูเพิ่งอ่านจบไปเรื่องนึง กูคิดว่าน่าจะมีพล็อตหลักจาง ๆ ร้อยเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้ด้วยกัน กูเลยรู้สึกว่า เออ แบบนี้ก็ดีนะ สับเป็นรายตอนได้เลย เพราะเหมือนเราก็อ่านสิ่งที่เรื่องสั้นนั้น ๆ ต้องการนำเสนอจบ แล้วเดี๋ยวโครงใหญ่ก็ดูกันไปเรื่อย ๆ เหนื่อยตอนไหนก็พักเอา

อ่ะ กูอ่านไปสองตอน คือจบเรื่องสั้นหนึ่งเรื่องพอดี นั่นคือเรื่อง 'เกาะ'

กูสปอยล์หมดนะ ขี้เกียจเลี่ยง

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใช้เปิดจักรวาลของ Colourless เพราะงั้นในบทแรกก็ต้องพบกันการเล่า Background ของโลกในนิยายเรื่อง Colourless ผู้เขียนใช้โลกจริง ๆ ของเราเป็นฉากหลัง โดยเล่าว่า ในโลกเราเหนี่ย มีผู้มีเวทมนตร์ หรือ จอมเวท แฝงตัวอยู่กันมานานมากแล้ว และมีหน่วยงานที่คอยดูแลคนพวกนี้คือ The Palace

มึงไม่ต้องกลัวว่ามันจะ Dump ข้อมูลใส่มึง มันเขียนค่อนข้างน้อย แล้วก็กระชับ (แต่เสือกเป็นปัญหาสำหรับกู เดี๋ยวกูจะมาพูดถึง) ผู้เขียนให้ข้อมูลคร่าว ๆ ที่มึงควรรู้เกี่ยวกับจอมเวทมาประมาณ 3 ย่อหน้าสั้น ๆ จากนั้นก็แจง Background ของ Scene ในเรื่อง 'เกาะ' มาให้ ซึ่งนั่นก็คือ เกาะเวสเตอร์ ตรงนี้สี่ย่อหน้า กูว่าถ้าสมองมึงไม่เป็นขี้เลื่อย มึงน่าจะอ่านไหวนะ

เรื่องเกาะมีตัวละครนำสี่ตัวด้วยกัน คือ 1. ชาลี 2. การันต์ บันนิชา 3. บาทหลวงไซมอน 4. จอมเวทจาก The Palace ชื่อรหัสว่า วอลุม (Volume) โดยเรื่องย่อ ๆ ของตอนนี้ก็คือ ไอ้วอลุม เป็นจอมเวทจากเดอะพาเลซ อยากได้ชีวิตอมตะ เลยแอบมาทดลองหาวิธีได้ชีวิตอมตะอย่างลับ ๆ บนเกาะที่โคตรจะบ้านนอกอย่างเกาะเวสเตอร์ โดยไอ้เหี้ยนี้เอาวิธีที่คิดได้มาทดลองกับคน

เปิดบทมามึงจะสรุปได้ทันที ว่าในเรื่องเกาะ ใครจะเป็นตัวร้ายของเรื่อง ก็คือไอ้วอลุม

เรื่องเกาะเล่าเรื่องผ่านตัวละครเด็กชื่อชาลี ชาลีเกิดและใช้ชีวิตอยู่บนเกาะเวสเตอร์เหมือนพ่อและคนอื่น ๆ ที่ต่างออกไปคือชาลีเป็นตัวแทนของเจตจำนงมนุษย์ เป็นความทะเยอทะยานที่คนบนเกาะไม่มี

ขอเล่าก่อนว่าประชากรบนเกาะเวสเตอร์ทุกคนถูกใส่ความเป็นฮอบบิทลงไป และเวสเตอร์ก็เปรียบได้กับ Shire ของพวกมัน ชีวิตอยู่ไปวัน ๆ ไม่ได้สนโลกภายนอก แล้วโลกภายนอกก็ไม่ได้สนมัน

ส่วนชาลีก็คือบิลโบ แบกกินส์ คือเอเรน เยเกอร์ในกำแพง

ผู้เขียนแนะนำบาทหลวงไซมอนให้ผู้อ่านรู้จัก พร้อม ๆ กับที่เราได้รู้จักชาลีและเกาะเวสเตอร์ เรื่องเล่าแค่ว่ามันมาจากข้างนอกเมื่อ 15 ปีก่อน มาพักอยู่ในโบสถ์บนเขาที่ห่างไกลผู้คน แล้วด้วยความเป็นนักบวช คนบนเกาะเลยให้ความเคารพมัน เป็นตัวละครที่โคตรจะตัวประกอบ แต่แม่งเสือกมีชื่อ เมื่อเทียบกับตัวประกอบอื่น ๆ ที่ไม่มีชื่อ มึงก็จะรู้ได้ทันที ว่าไอ้เหี้ยนี่ key character

เอ้อ เรื่องเกาะ เล่าสลับสอง perspective สลับระหว่างชาลี (บุคคลที่สามนะ) กับมุมผู้บรรยายที่คอยมาเล่าเรื่องไอ้วอลุม โดยมักจะสลับเอาวอลุมขึ้นมาเพื่อขยี้ประเด็นบางประเด็น เพื่อให้ข้อมูลสำคัญ แล้วก็เพื่อใบ้บางอย่าง ครั้งแรกที่ยกวอลุมขึ้นมาเล่าก็ว่าไปถึงชีวิตนิรันดร์ ว่ามีคนอยากได้ อยากไขว่คว้ามากมาย แล้ววอลุมก็เป็นหนึ่งในผู้ที่พยายามจะคว้าชีวิตที่ว่าเอาไว้

มีต่อ

631 Nameless Fanboi Posted ID:5Tx+I.OH7

>>630 รอ ๆ

632 Nameless Fanboi Posted ID:5uarIB8wF

>>630 มันก็ว่าต่อไปว่าวอลุมหนีจากเดอะพาเลซ เพื่อหาที่กบดานทดลองเงียบ ๆ แล้วนั่นก็คือเกาะเวสเตอร์ พร้อม ๆ กับเล่าว่า มีนักท่องเที่ยวกำลังจะมาเที่ยวที่เกาะ

ต่อมาก็มาย้ำประเด็นเรื่องความเฉื่อยชาของทุกอย่างบนเกาะ (แม่งเฉื่อยจนกูคิดว่า ถ้าทุกคนยังเป็นชาวเกาะอุก้า ๆ อยู่ก็คงไม่แปลก) ด้วยการเสนอตัวละคร พ่อ ของชาลี ขึ้นมาพร้อม ๆ กับนักท่องเที่ยวจากต่างแดนชื่อ การันต์ บันนิชา

ฮั่นแน่ เล่าไอ้เหี้ยวอลุมเสร็จก็มาเล่าไอ้การันต์ต่อ มึงคิดว่าจะหลอกกูได้อ่ะดิ

การมาเยือนของการันต์บ่งบอกได้เป็นอย่างดี ว่าคนบนเกาะหวาดกลัวโลกโพ้นน้ำทะเลขนาดไหน และก็เป็นเครื่องขับเคลื่อนให้ตัวละครของชาลีทำงานด้วย

ชาลีใฝ่ฝันถึงโลกภายนอกมากกว่าชีวิตเรียบง่ายที่นี่ ไอ้นี่เลยคอยไปตามเกาะตูดการันต์อยู่เรื่อย (ขนาดว่ามันไปกางเต็นท์นอนในป่า ไอ้ชาลีก็ตามไป) ให้การันต์เล่านู่นนั่นนี่ให้ฟัง

จากนั้นแม่งก็สลับเอาไอ้วอลุมมาขยี้ ว่าไอ้วอลุมมาถึงเกาะแล้วโดยเดอะพาเลซแม่งจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน แล้วไอ้วอลุมก็ต้องหาที่อยู่ที่ห่างไกลจากผู้คน (แล้วเมื่อกี้เพิ่งเล่าว่าไอ้การันต์พักแรมในป่านอกหมู่บ้าน คือมึงกะปั่นรัว ๆ)
การันต์เล่าให้ชาลีฟังหลายอย่างเกี่ยวกับโลกข้างนอก ว่าตัวเองทำอาชีพอะไร มันบอกว่ามันเป็นหน่วยกู้ภัย คอยช่วยชีวิตคน คอยรั้งชีวิต คอยคว้าเอาไว้ (อ่ะ แม่งขยี้อีกรอบ) คนเขียน hint ให้นิดหน่อยตอนการันต์พูดถึงชีวิตที่พยายามไขว่คว้ากันมา สุดท้ายก็เท่านั้น วันดีคืนดี มันอาจสลายไปในเสี้ยววินาทีก็ได้ คือคนเขียนแม่งเสนอตัวละครสองตัว คือวอลุมกับการันต์ โดยที่ function ของสองคนนี้เป็นคู่ตรงข้ามกัน แต่พยายามขยี้ให้คนเข้าใจว่าตัวละครสองตัวนี้คือตัวเดียวกัน ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ลืมใบ้นิดใบ้หน่อย ให้พอเดาได้ (ซึ่งจริง ๆ แม่งเดาง่ายสัส 555555) พาร์ทนี้ก็สนุกดี

แล้วก็มีคนตาย กูลืมเล่า มีไอ้เฒ่าชื่อโปโซ (บางทีก็ชื่อโปเซ กูอยากจะเล่นมุกว่าแม่งชื่อโปโซเซ ก็แป้กเกินไป) เป็นคนพาการันต์ทัวร์ เพราะมาถึงปุ๊บ ไอ้การันต์ก็จะไปโบสถ์ไซมอนก่อนเลย หลังจากนั้นแปปนึง จนเรื่องที่การันต์กับชาลีคุยกัน ไอ้โปโซก็ตายแล้วก็ตัดสลับมาเล่าด้วยวอลุม ว่าแม่งสาปไอ้โปโซจนตายห่า (แม่งก็ยังพยายามขยี้ไอ้เหี้ยการันต์อยู่ แต่กูเดาออกว่าไอ้เหี้ยวอลุมเป็นใครตั้งแต่ครั้งแรกที่แม่งตัดมาเล่าเรื่องไอ้วอลุม)

ชาลีแม่งก็ยังไปตามติดการันต์เหมือนเดิม ทีนี้มีพ่อห้ามมา ช็อตนี้เอามาขยี้แนวคิดที่ว่า "คนบนเกาะหวาดกลัวโลกโพ้นทะเล" แล้วต่อด้วยคำพูดเท่ ๆ ของการันต์ว่า "เพราะไม่เข้าใจจึงหวาดกลัว"

แล้วเรื่องก็กำลังจะถ่ายเข้าไปช่วงองก์สาม ไอ้ชาลีกลับบ้านเพราะฝนตก โดยที่การันต์แม่งแบบ พยายามเกลี้ยกล่อมจนเด็กเหี้ยนี่แบกตูดกลับไปได้ แต่ก็ไม่วาย ไปเจอซอมบี้โปโซกำลังหม่ำกระต่ายอย่างอเร็ดอร่อย แล้วก็ด้วยความเป็นตัวเอกของเรื่อง มันเลยรอดมาได้ แล้ววิ่งขึ้นไปเคาะประตูโบสถ์ไอ้ไซม่อน ไอ้ไซม่อนกลับมาก็พามันเข้าไปพักในโบสถ์ ถามไปถามมา ไอ้ชาลีบอกว่าเจอซอมบี้มา เชี่ยไซม่อนแม่งก็เปิดเผยตัวเอาดื้อ ๆ ว่าตัวเองคือวอลุม จับเอาตัวไอ้เหี้ยชาลีไว้ได้ กะฆ่าทิ้งละสร้างซอมบี้อีกตัว

ไอสัส ทีนี้ยังกะหนังคนละม้วน ไอ้การันต์มาเคาะโบสถ์ แล้วก็เผยตัวว่าตัวเองเป็นนักฆ่าที่เดอะพาเลซส่งมา function ของไอ้เหี้ยนี่คือการทำให้ชีวิตที่ทุก ๆ คนเห็นว่าสุดแสนจะมีคุณค่า หายไปได้ในเสี้ยววินาที

เปิดมาแม่งก็ยิงกันกระหน่ำ สาดพลังกันยับ กลิ่นนิยายสารคดีลึกลับเมื่อกี้ดับไปหมด ไอ้เชี่ย นี่มัน What Happened to Monday ชัด ๆ

คนสู้กับจอมเวท แต่ไอ้เหี้ย ปืนของเหี้ยการันต์แม่งเทพเกิน ยิงกันไปยิงกันมาก็สู้ชนะในที่สุด จบลงที่เอาสไนเปอร์มาสอยหัวไอ้วอลุมกระจุย

ไอ้ชาลีก็ตื่นมาทันเห็นเหตุการณ์ การันต์แม่งก็ด้วยความเป็นพระเอก ถึงจะมีพยานรู้เห็นแต่ก็ไม่ปิดปากทิ้ง อันที่จริงก็เพราะแม่งก็คิดว่า คนบนเกาะนี้คงไม่ได้สนห่าเหวอะไรเท่าไร

การันต์หิ้วศพวอลุมออกจากเกาะไป พร้อมเอาเอกสารการวิจัยของไอ้เหี้ยวอลุมไปส่งให้เดอะพาเลซ (ถูกเผาทำลายไปหลายส่วน เพราะวอลุมแม่งเผาโบสถ์) ทำงานจบก็ได้รับตังค์สองกระเป๋า (รวยเลยสัส) มีตัวละครใหม่โผล่มาห้าตัว มึงดูชื่อมันนะ เซนติ มิลลิ ออนซ์ เควิน เอเคอร์ ไอ้เชี่ย ถ้าชื่อรหัสมึงจะตั้งเป็นธีมขนาดนี้ 555555

มีต่อ

633 Nameless Fanboi Posted ID:5uarIB8wF

>>632 พาร์ท์นี้ไม่มีเหี้ยอะไร คิดว่าน่าจะปูไปเรื่องอื่นต่อ แล้วไอ้เอเคอร์ก็ถามตรวจดู ว่าบนเกาะมีใครรู้เรื่องมั้ย แน่นอนว่าการันต์มันโกหกให้ชาลี ตรงนี้กูสรุปได้ว่า ถึงอาชีพของไอ้นี่จะเป็นมือปืน แต่แม่งก็พยายามป้องกันไม่ให้เกิดการฆ่าฟันที่ไม่จำเป็น แม่งก็ให้ค่าชีวิตไม่ต่างจากวอลุม แต่เป็นในอีกรูปแบบนึง

ขอแตกความหน่อย คือสองตัวละครนี้ วอลุม กับการันต์แม่งมี function ที่ต่างกันแบบคนละขั้ว คนนึงคว้าเอาชีวิต อยากอยู่เป็นนิรันดร์ อีกคนคร่าเอาชีวิตแลกกันเงิน ไอ้วอลุมที่ให้ค่าชีวิตมาก อยากอยู่ไปตลอด แม่งสำคัญแต่ชีวิตตัวเองจนสามารถไปเอาชีวิตคนอื่นอีกตั้งสี่ห้าคน และอาจมากกว่านั้น มาแลกด้วย ไอ้การันต์ทำงานที่เอาชีวิตไปทิ้งเมื่อไรก็ได้ แถมงานแม่งยังเป็นการไปพรากชีวิตคนอื่นเขาด้วย แต่แม่งยัง values ชีวิตคนอื่น (อย่างน้อย ๆ ก็ชาลี) เป็น สองตัวนี้แม่งมี contradiction ที่มีเสน่ห์นะ (แต่เอาจริง ๆ การันต์กูไม่อยากพูดมาก แม่งเพิ่งโผล่มา และคิดว่าน่าจะโผล่มาอีก แถมยังแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย แต่ไอ้วอลุมที่ตายห่าไปแล้วนี่มึงแบนได้ใจเหี้ย ๆ น่าจะขยายอีกหน่อย)

อ้อ แล้วก็มีพาร์ทสรุปของชาลี สรุปก่อนที่ไอ้การันต์จะไปเจอจอมเวทจากเดอะพาเลซ มันยกประเด็นเรื่อง เพราะไม่เข้าใจจึงหวาดกลัว มาสรุปอีกรอบ พ่อถามชาลีถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ละไอ้เด็กเหี้ยนี่ก็ซุยไป แต่พ่อเสือกเชื่อ เพียงเพราะอยากเชื่ออย่างงั้น

คือเกาะนี้แม่งขาดคุณค่าความเป็นมนุษย์ที่สำคัญสัส ๆ ไป คือความกระตือรือร้นขี้สงสัย แม่งเป็นฮอบบิทโดยแท้จริง

ชาลีแม่งก็เลยฉุกคิดถึงคำไอ้การันต์ได้ ว่าจริง ๆ แล้วแม่งไม่ใช่ว่าเพราะไม่เข้าใจถึงได้กลัวหรอก แต่เพราะคนที่นี่แม่งกลัว เบยไม่เข้าใจสักที กลัวความเปบี่ยนแปลง กลัวอะไรใหม่ ๆ กลัวความวุ่นวาย The world is too big for them. (ดุ่ม ดุมม)

คนมีคุณค่าอย่างไอ้ชาลีเลยรู้ตัว ว่าต้องออกจากเกาะไปเอเรบอร์ สู้กับสม็อก แล้วก็ช่วยธอรินชนะพิษไข้มังกร

จบส่วนเนื้แหาละ เรปต่อไปสับนะ น่าจะต้องแบ่งเป็นสองเรป

634 Nameless Fanboi Posted ID:5uarIB8wF

>>633 พาร์ทวิจารณ์เรื่อง Colourless ตอนเกาะ

กูขอคุยเรื่องภาษากับการบรรยายก่อนเลย แม่งเป็นปัญหาสำหรับกูมาก ๆ หลาย ๆ คนในที่นี้คงชอบอ่านอะไรกระชับ ๆ ส่วนตัวกูอ่านค่อนข้างเวิ่น แต่กูว่ากระชับกูก็อ่านได้นะ แต่เรื่องเหี้ยนี่แม่งกระชับจนกูรู้สึกว่า มันขาดความงามแล้วก็เสน่ห์ไป จนบางทีเหมือนเป็นประโยคเขียนกำกับนักแสดงในแต่ละฉาก ๆ ของละครของหนัง

มันสั้น ห้วน จนแม่งขาด personal level ไป เหมือนกูอ่านไปก็เออ ใครทำอะไรที่ไหนอย่างไร แล้วก็แค่นั้น กูไม่อิน คือกูรู้สึกว่า มึงน่าจะบรรยายเลี้ยง ๆ ช่วงแบ็คกราวด์ แล้วก็เกาะ perspective ของตัวละครมากกว่านี้ น่าจะเหมาะกับแนวเรื่องมึง

เหมือนจริง ๆ สมมติเรื่องนี้เป็นหนัง แม่งก็ควรจะอัด noise เยอะ ๆ ภาพดิบ ๆ ถือกล้องแบบแฮนด์เฮลด์ สร้างมูฟเมนต์ให้ภาพมึง ลองเทคบ้าง แพนตามบ้าง

เอาง่าย ๆ คือเรื่องนี้ถ้าเป็นหนัง การถ่ายทอดภาพควรออกมาแบบ Dawn of Justice แต่มึงเสือกถ่ายแบบ Justice League ตั้งกล้องนิ่ง ๆ สลับไปสลับมาระหว่างคนพูดแต่ละคน เอาให้ดูพอรู้เรื่อง แล้วก็จบซีน แม่งขาดเสน่ห์ที่แม่งควรจะมีสัส ๆ

แต่พูดถึงแม่งก็พอจะอ่านได้ กูพยายามจะคิดว่าที่กูไม่โอเคขนาดนี้มันเป็นเพร่ะกูชอบอ่านอะไรเวิ่น ๆ เพราะงั้น อย่างเป็นกลาง บรรยายเต็ม 2 กูให้มึง 1

มึงปีปัญหาเรื่องการเว้นวรรคประโยคนิดหน่อย ทำให้อ่านแล้วสะดุด ๆ โดยเฉพาะทุกครั้งที่มึงเขียนว่า &apos;จอมเวทจากวังโค้ดเนมวอลุม&apos; สัส อ่านเจอทีไรนี่สะดุดทุกที

คำผิดมีบ้าง ไม่ได้เยอะมาก เขียนตกเขียนตู่ อ้อ แล้วก็โปโซเซ (กูยังพยายาม) แม่งโผล่มาเรื่อย

ตรงนี้สำหรับกูไม่เลวร้าย เอาไป 1.5 เต็ม 2

ต่อมาขอพูดถึงเซ็ตติ้งกับตัวละครก่อนแล้วกัน ส่วนตัวกูค่อนข้างชอบโลกที่มึงนำเสนอ เกี่ยวกับจอมเวทเกี่ยวกับอะไร พูดถึงมันก็เดิม ๆ นั่นแหละ แค่ว่า มันอ่านได้ไม่เบื่อ

แต่ immersion มึงยังขาด ๆ ไปตอนที่มึงสร้างเกาะเวสเตอร์ คือมันก็เรื่องยิบย่อยแหละ กูชอบสิ่งที่มึงมุ่งเสนอนะ ว่าเกาะนี้แม่งคือ Shire และมี Hobbit อาศัยอยู่ ไม่ทุกข์ร้อน ไม่แคร์โลก แต่ในใจกูอ่านไปก็คิดนะ ว่าเกาะมึงเติบโตมาขนาดนี้ได้ยังไง กูว่าเศรษฐกิจกับวิถีชีวิตชาวเกาะเวสเตอร์แม่งยังดู beyond แนวติดของการไม่สนเหี้ยอะไรไปนิดหน่อย แต่ตรงนี้กูไม่ถือสานะ อ่านแบบไม่คิดไรมากก็ชิล ๆ

ส่วนตัวละครที่มึงสร้างมา กูว่า ก็นั่นแหละ มึงให้เนื้อที่ background น้อยมาก ทำให้ตัวละครทุกตัวแบนราบ ถ้าไม่นับตัวที่ยังพูดอะไรไม่ได้อย่างการันต์ ถึงแม้แต่ละตัวแม่งจะคอนเทนเอเลเมนท์ที่น่าสนใจเอาไว้ อย่าง function แล้วก็ contradiction ในตัวของวอลุม หรือ progression ของชาลี แต่มึงไม่เล่าที่มาที่ไป เอาแต่ขยี้ ๆ ขยี้จนเห็นภาพ แต่แม่งไม่โน้มน้าวเท่าไรว่ะ

ส่วนนี้กูให้ 1.5 เต็ม 2 นะ เซ็ตติ้ง 1 กับตัวละครอีก 0.5

635 Nameless Fanboi Posted ID:5uarIB8wF

>>634 ส่วนต่อมา content ตรงนี้เต็มสี่คะแนนนะ

กูว่า content มึงมีองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างที่ดี ขาดความสดใหม่ก็จริง แต่กูก็ไม่ได้มองหาความสดใหม่อะไร intention มึงก็ดี แต่เหมือนกับพาร์ทตัวละครอ่ะ กูว่า execution มึงแม่งไม่ถึงว่ะ

สิ่งที่เรื่องเกาะมุ่งเสนอ กูเห็นอยู่สองประเด็นหลัก ๆ คือหนึ่ง เรื่องคุณค่าของชีวิต ตรงนี้กูมองว่าเป็นเมน เป็นพาร์ทที่ใช้เล่าเรื่องของจอมเวท เดอะพาเลซ และการันต์ ส่วนอีกพาร์นึงคือส่วนของเกาะเวสเตอร์ พูดถึงความหวาดกลัว comfort zone แล้วก็แสดงให้เห็นได้เป็นอย่างดี เกี่ยวกับการขาดคุณค่าความเป็นมนุษย์ไป โดยเรื่องราวพวกนี้ถูกวางอยู่บนฉากหลัง คือการสืบหาความจริงว่าใครคือวอลุม และกำจัดทิ้ง

แต่ที่ประเด็นแรกแม่งดันไม่สุด ก็เป็นผลพวงมาจากความแบนของวอลุม กูโอเคกับความลึกลับของการันต์นะ แล้วมึงก็ให้เวลารู้จักกับตัวละคร รู้จักกับสถานที่ แล้วก็ใช้เวลาน้อยไปหน่อยกับการปั่นหัวคนอ่าน คือนิยายมึงมีเวลาเล่าน้อยอ่ะ แล้วไอ้ข้อเสียข้อนี้ก็พ่วงกันหมด

ประเด็นที่สองก็ถูกฉุดไว้ด้วยเหตุผลเดียวกันส่วนนึง มึงคิดถูกแล้วที่เสนอเรื่องผ่านชาลี แต่ก็ไม่ยอมเอา perspective ลงมาเกาะมันแน่น ๆ มันเลยดูลอย ๆ และรู้สึกว่าชาลีไม่ค่อยมีตื้นลึกหนาบางให้ค้นหา เกิดแต่คำถามว่า เอ้า แล้วทำไมมันต้องอย่างงั้นอย่างงี้วะ ตอนท้ายสุดที่เกิด progression ก็เกิดแบบงงๆ ไม่โน้มน้าวว่ะ

เนื้อเรื่องมึงก็เดาง่ายมาก ไม่พอมึงยังเฉลยไอ้วอลุมในจังหวะที่กูแบบ เดี๋ยว มึงเอาตอนนี้จริงเหรอ แม่งคือ WTF moment อีกอันนึงที่ฟัคสัส ๆ ก็คือ ไอ้เหี้ยไซมอนมึงจะร้อนตัวทำมะเขือแมวอะไร แล้วมึงอยู่นี่มา 15 ปี ไม่ได้ฆ่าใครตายแบบโจ่งแจ้งจริง ๆ สักคน เพื่อหลบให้พ้นสายตาเดอะพาเลซ แต่จู่ ๆ มึงก็คิดจะฆ่าไอ้เหี้ยชาลีปิดปากเนี่ยนะ omg

ที่ทั้งรู้สึกดี และรู้สึกแย่คือบทสนทนาในเรื่อง มีหลาย ๆ คำ หลาย ๆ อย่างที่กูชอบ แต่บทสนทนามึงแข็งทื่อและปลอมมาก มันอ่านแล้วรู้สึกไม่จริง คนจริงไม่พูดกันแบบนี้ ดูแล้วรู้ว่ามึงยังใหม่ กูเองก็ยังไม่ได้กดไปดูตอนหลัง ๆ ว่าพัฒนามั้ย แต่แม่งเป็นส่วนที่น่าเสียดายมาก ถ้ามึงบรรยายไม่ดี เล่าเรื่องไม่ดี อย่างน้อย ๆ สำหรับกู บทสนทนาแม่งก็เป็นอะไรที่น่าฝากความหวังว่าจะช่วยยกระดับนิยายขึ้นมาได้ แต่ตรงนี้ก็มาได้แค่ครึ่งทางเหมือนเดิม

พาร์ทนี้ 2 จาก 4 แล้วกัน

เอาเป็นว่าเรื่องนี้ (Colourless เรื่อง เกาะ) ได้ 6 จากทั้งหมด 10 คะแนนแล้วกัน อันที่จริงส่วนตัวกูรู้สึกดีกับเรื่องนี้จนอยากให้ 7 นะ แต่ก็ว่ากันไปตามคะแนน นิยายเรื่องนี้แม่งมีองค์ประกอบที่พร้อมจะดีหลายอย่าง แต่ดันไม่สุดสักทาง แม่งโคตรน่าเศร้า แต่เป็นกำลังใจให้นะ อาจจะได้วิจารณ์ตอนต่อไป

"6/10 กลับไม่ได้ ไปไม่ถึง ไม่สดใหม่ แต่ค่อนข้างชอบ"

ตามนี้แหละ เดี๋ยวกูอ่านต่อ ขอผ่านไฟนอลนี้ก่อน 55555

636 Nameless Fanboi Posted ID:+aWTRUi6w

>>635 มึงให้ซะ 6/10 แต่ทำไมกูรู้สึกว่าที่มึงร่ายยาวมาเนี่ย มันมีข้อเสียมากกว่าข้อดีวะ 555

637 Nameless Fanboi Posted ID:JHgC9wcyT

>>635 ทำดีมากมึง เยี่ยม ๆ

638 Nameless Fanboi Posted ID:mqOo4P0.p

>>636 กูว่ากูก็หักเท่าที่ควรหักอ่ะ กูก็แจงคะแนนให้ หัวข้อนึวดต็มสองคะแนน ยกเว้น content ที่เต็ม 4 บรรยายเต็ม 2 กูก็หัก 1 เหตุผลก็บอกไปแล้ว เรื่องภาษา พวกความถูกต้อง กูหัก 0.5 เพร่ะมีคำผิด คำตู่ คำตก แต่ไม่ได้เยอะจนอับปรีย์ เซ็ตติ้งกูชอบ กูก็ให้ 1 ตัวละครแม่งแบน ๆ แต่ก็มีข้อดี กูก็ให้ 0.5 รวมกันได้ 1.5 เต็ม 2 ส่วน content แม่งก็แบบ มึงพร้อมจะดี แต่มึงก็เก้ ๆ กัง ๆ กูก็ให้ครึ่งเดียว ได้ 2 เต็ม 4 รวมกันได้ 6/10 นี่มันแปลกเหรอวะ คือกูไม่อยากกดโดยใช่เหตุอ่ะ จะตัด จะอะไรก็ตามเหตุตามผล

639 Nameless Fanboi Posted ID:7mtYORdRN

สงสัย นิยายไม่สุดสักทางคือการจับฉ่ายใช่มั้ย ถ้านิยายที่ดีต้องเด่นสุดสักอย่างใช่มั้ย

640 Nameless Fanboi Posted ID:6hFiSstIq

>>639 ไม่เกี่ยว ตอบสั้นๆแค่นี้

641 Nameless Fanboi Posted ID:PXBrvIPip

>>639 นิยามของจับฉ่ายก็คือแบบนั้นล่ะ
แต่สำหรับนิยายกุว่าน่าจะเรียกว่า "หลากรส" มากกว่า
เหมือนมึงเข้าร้านก๋วยเตี๋ยว แล้วจานแรกเขาเสิร์ฟชิ้นเนื้อน้ำใส จานสองส่งน้ำตกหมู จานสามเป็นเย็นตาโฟอะไรทำนองนี้
แต่บางทีถ้ายัดรวมกันมาในคราวเดียวมันจะกลายเป็น ยามินาเบะ

642 Nameless Fanboi Posted ID:D/LzkfJ+9

กูคนเดียวเปล่าวะที่อ่านไปแล้วเห็นภาพไอ้การันต์เป็นคิริซึงุ

643 Nameless Fanboi Posted ID:7mtYORdRN

>>641 แล้วที่คนสับบอกว่าไปไม่สุดทางสักอย่าง เป็นข้อด้อยของนิยายรึเปล่า

644 Nameless Fanboi Posted ID:dctsPPNVn

>>643 มันอยู่ที่ว่าจะผสมลงตัวแค่ไหน คิดซะว่าเป็นการทำอาหารละกัน เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด มันมีรสเด่น รสเสริม รสลับ ถ้าทำดีๆ ต่อให้ไม่สุดซักทางก็อร่อยได้ แต่ปรกติเขาจะชูราหนึ่งให้เด่นที่สุด แล้วให้รสที่เหลือคอยเสริม

ตัวอย่างนะ นิยายรัก ความรักต้องเด่น เรื่องอื่นมีหน้าที่ทำให้ความรักเด่นขึ้นมา นิยาย Sci-Fi แนวคิดต้องเด่น คำถามต้องคม ต่อให้มีเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ก็เป็นเพียงส่วนเดินเรื่อง ไม่ใช่ประเด็นหลัก

ประมาณนี้ละ

645 Nameless Fanboi Posted ID:rB8IB1ByO

>>643 กูคนสับเอง กูบอกว่า 'มันทำไม่ถึง' ในเรื่องที่มันเสนอขึ้นมาต่างหาก แต่ถ้าถามว่าไปไสุดสักทางเป็นข้อเสียมั้ย กูว่าไม่นะ มันอยู่ที่ความลงตัว ความกลมกล่อม ความเป็นเอกภาพของเนื้อหามากกว่ามั้ง ถ้าสุดแล้วมันลงล็อคก็ออกมาดี ถ้าสุดแล้วมันแปลก ๆ ก็ออกมาไม่ดี ถ้าไม่สุดแล้วลงล็อค ก็ออกมาดี ถ้าไม่สุดแล้วยังโหวง ๆ เหวง ๆ ก็ออกไม่ดี

646 Nameless Fanboi Posted ID:7mtYORdRN

>>644 >>645 เริ่มเข้าใจล่ะ

647 Nameless Fanboi Posted ID:zkYf5gDo2

มาสับล่ะตามสัญญา เรื่อง ลำนำรักภูตราตรี
https://writer.dek-d.com/astrum/story/view.php?id=1702623
จำนวนตอน32 เปิดให้อ่านฟรี15 ซึ่งกูจะสับถึงแค่นั้น
แนวรักแฟนตาซี
เกริ่นนำกันสักนิด นางเอกคือมือสังหาร ที่ถูกเรียกว่าภูตราตรี เป้าหมายคือแก้แค้นให้พ่อที่ถูกพวกขุนนางชั่วรุมใส่ร้ายและฆ่ายกครัว แต่นางเอก
รอดมาได้ มีแค่นี้แหละ
เปิดมาที่บทนำ ภูตราตรีก็ฆ่าคนเลย บั่นคอขุนนางชั่วด้วยดาบจันทร์เสี้ยวทีเดียวขาดกระเด็น ก่อนฆ่าก็มีบทสนทนาเล็กน้อยที่ทำให้กูรู้สึกว่านางเอก
แม่งเท่ดี เสร็จแล้วก็หายลับไปพร้อมพายุทรายที่เกิดขึ้นกลางห้องสำหรับกูแล้ว ถือว่าเปิดเรื่องได้ดีเลยตื่นเต้น ส่วนตัวกูชอบนางเอกสไตล์นี้นะ
ถ้าไม่รวมนิยายรักหวานแหววทั่วไปที่กูไม่อ่าน หลัก ๆ แล้วกูจะอ่านสองแนวคือรักแฟนตาซี กับแฟนตาซี ก็กูจะเจอคาแร็กเตอร์นางเอกประมาณนี้
(กูพูดถึงกรณีนักเขียนเป็นผู้หญิงนะ) นางเอกจะบ้า ๆ บอ ๆ ติงต๊อง บางเรื่องก็เกินพอดีจนใกล้เคียงปัญญาอ่อน หรือไม่ก็ ตลกโปกฮา ไม่ค่อยดูสถานการณ์ รั่ว ๆ(ไม่)หน่อย จะมีน้อยนะที่ออกแนวขรึม ลึกลับ น่าค้นหา หรือนางเอกที่อมทุกข์ ซึ่งประเภทหลังนี้กูแทบไม่พบ
พอมาเจอเรื่องนี้ อื้มม...นางเอกถูกใจกูว่ะ บวกกับนักเขียนแม่งก็ดังพอตัว (แก๊งค์เดียวกับคนแต่งตุ๊ดทะลุมิติ แต่กูไม่แน่ใจว่า ใช่คนเดียวกันไหม
เพราะนามปากกาแม่งเหมือนมีหลายคน) กูเลยค่อนข้างคาดหวังว่า นิยายเรื่องนี้จะตอบสนองกูได้ ในช่วงที่กูขาดแคลนนิยายอ่านเข้าขั้นหนัก
เพราะทั้งหมวดเต็มไปด้วยนางร้าย ซึ่งกูไม่ชอบอ่านเท่าไหร่ (โดยเฉพาะเรื่องที่น้องโม่งมารีสับ (ขอเรียกน้อง กูแก่กว่าเยอะแน่นอน) แนวนั้นแหละ
ที่กูอยากหลีกหนี)
อ่ะ ๆ กลับมาที่นิยายกูก็เปิดอ่านบทต่อไป ตอนนี้จะเปิดมาด้วยInfo dump แบบเบา ๆ ว่าด้วยเรื่องอณาจักรโทมาฮัต บลา ๆ ห้าย่อหน้า เสร็จแล้ว
ก็จะตบเข้าด้วยเรื่องจอมเวท มีการแบ่งลำดับขั้นเล็กน้อยแบบที่เหมือนในนิยายแฟนตาซี เสร็จแล้วก็จะเปิดตัวตัวละครใหม่ชื่อ 'ฟาเซล'
(กูจะขอเรียกมันว่า 'เฟล' เพราะมันทำกูเฟล ทั้งเรื่องกูขัดใจอีนี่สุดล่ะ ยังไงเดี๋ยวมาดู) อีเฟลเป็นศิษย์เอกและเป็นหลานรักของจอมเวทบาดีนผู้ก่อตั้งสำนักฝึกหัดจอมเวทของเมือง แต่ไม่ใช่หลานแท้ ๆ เป็นเด็กที่ได้รับอุปการะมา ซึ่งอีเฟลกำลังฝึกใช้เวทขั้นสูงที่ชายป่าหลังวิหารศักดิ์สิทธิ์ คืออีนี่มันจะมีปัญหากับเวทธาตุ พวกดินน้ำลมไฟ เพราะมันคือเวทขั้นสูง เรียกทีไรไม่พลาดก็ได้ของแถมตลอด แล้วก็มีการเปิดตัวละครอีกตัวก็คือนักบวชชื่อเลฟิน ไอ้นี่มันจับกระแสพลังเวทรุนแรงได้ ก็รู้เลยว่าอีเฟลมันกำลังร่ายเวท พอไปก็ได้เจอของแถมอีเฟลฝึกเวทวายุแต่ได้ของแถมเป็นฝน ไอ้นี่ก็เปียกไม่ตามระเบียบ แต่ก็ไม่โกรธหรอกเพื่อนกัน ไอ้นักบวชมันก็นึกเป็นห่วงอีเฟลว่าเป็นมีพลังเวทสูง แต่ควบคุมไม่ได้ โดยเฉพาะธาตุทั้งสี่ เรียกไฟได้สายฟ้า เรียกพายุแถมฝน เรียกฝนได้แผ่นดินไหว (แต่มันเป็นศิษย์เอกของจอมเวทบาดีนนะ) อ่ะ...แต่ตรงนี้คำว่าศิษย์เอก ยังไม่ทำให้กูรู้สึกย้อนแย้งเท่าไหร่ เดี๋ยวค่อยมาดูต่อไป จบตอนไปที่ไอ้นักบวชนี่ไปส่งอีเฟลกลับคฤหาสน์ของจอมเวทบาดีนซึ่งเป็นที่ซุกหัวนอน ระหว่างทางได้ยินพวกชาว
บ้านพูดถึงภูตราตรี อีเฟลมันก็เดินเร็ว ๆ ไม่อยากฟัง สรุปมันสามคน ภูตราตรี อีเฟล และไอ้นักบวชแม่งรู้จักกัน
(มีต่อ)

648 Nameless Fanboi Posted ID:zkYf5gDo2

>>647 เปิดตอนต่อไปมาที่ภูตราตรีมาหาอีเฟล สรุปมันเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน หน้าตาเหมือนกันเปี๊ยบไม่แตกต่างกระทั่งสีผมสีตา ตรงนี้จะได้รู้แล้วว่าภูต
ราตรี(นางเอก)ชื่อเฟเนส ตัดภาพมาที่เปิดตัวละครตัวใหม่ เป็นพระราชาของโทมาฮัต ชื่อ'ฮาซาเรล อาเรส' ด้วยการอวยหูดับตับไหม้ (เรื่องนี้สำหรับ
กูมีข้อเสียอยู่ที่การอวยตัวละครมากจนเกินไป เรื่องอวยหน้าตานี่กูไม่นับนะ กูมองว่าเป็นปกติของนิยายโดยเฉพาะนิยายรัก ที่เน้นหญิงสวยชาย
หล่อ แต่เรื่องนี้มันเยอะมาก จนแมรี่ซูเป็นบางตัว บางจุดก็หลับหูหลับตาอวย ค้านเหตุผล อ่ะเดี๋ยวกูค่อยยกตัวอย่าง) ซึ่งองค์ฮาซาเรล อาเรส
(กูจะเรียกมันว่า ฮา ละกัน ชื่อแม่งยาวฉิบหาย)ก็โคตรจะแกรี่สตู ที่ครบเครื่องทั้งหน้าตาหล่อเหลา มีพระปรีชาสามารถ ปกครองทั้งอาณาจักรให้
สงบเรียบร้อย ทั้งที่ครองราชย์มาได้แค่เก้าปี มีไหวพริบสติปัญญาเป็นเลิศ "เรียกได้ว่าหาคุณสมบัติมาสรรเสริญเยินยอได้เป็นวัน ๆ ทีเดียว" ตรง
เครื่องหมายคำพูดนี่คือกูยกประโยคที่นักเขียนเขียนไว้มาเลย จบจากการอวยสุดพลังก็เป็นมุมมองของพระพี่เลี้ยงซึ่งเป็นผู้ชาย ถึงมันจะเป็นตัว
ประกอบที่ไม่รู้กระทั่งอายุเท่าไหร่แต่กูชอบมันว่ะ ไอ้นี่แม่งฮา ซึ่งไอ้นี่ก็ต้องคอยปวดหัวเพราะไอ้ฮาแม่งชอบหนีเที่ยว เป็นกษัตริย์ที่เก่งเรื่องหนี
เที่ยวเป็นที่สุด ชนิดที่ว่าวางเวรยามไว้แน่นหนาแค่ไหนก็หลุดรอดออกไปได้ เพราะไอ้ฮามันสามารถพาตัวเองไปไหนมาได้ตามใจนึก ไร้ร่องรอย
(ตรงนี้กูรอลุ้นอยู่ว่าความสามารถแม่งคืออะไร) สรุปแหวนที่มือขวาของมัน มีพรายปีศาจอาศัยอยู่ ชื่อว่า ออร์ปิคิว สามารถพาไปที่ไหนก็ได้ตามคำ
สั่งพอกับประตูวิเศษของโดเรม่อน แล้วไอ้ฮานี่มันอ่านฎีกาก็เลยรู้ว่าา ภูตราตรีออกอาละวาด ฆ่าไป7ศพแล้ว เลยเกิดนึกสนุกขึ้นมา อย่างออกไป
จับภูตราตรีด้วยตัวเอง

ตอนที่3 เปิดมาที่เรียกราชองค์รักษ์คนสนิทชื่อไคมอสให้เข้าเฝ้า(ไอ้นี่ก็เป็นตลค.หลัก) แล้วชวนให้ออกไปล่าโจรป่าที่กำลังออกอาละวาดด้วยกัน (ไม่ใช่ภูตราตรีนะ) ไอ้ฮาก็เรียก
พรายในแหวนออกมา แล้วบอกจุดหมายว่าไปหุบเขาทางใต้ แล้วไอ้พรายนี่แม่งก็โคตรจะรู้ดี พริบตาเดียวส่งไปอยู่แม่งกลางวงล้อมของกลุ่มโจร
ไอ้ฮากับองค์รักษ์ก็ไม่หยี่ระ จัดการโจรครึ่งร้อยด้วยดาบคนละเล่ม แล้วก็มีการอวยแบบเบา ๆ อีกว่า เหงื่อโทรมกาย แต่ก็น่านับถือมากที่ว่า เลือด
สักหยดก็ไม่กระเด็นถูกฉลองพระองค์ของไอ้ฮา (กูบอกแล้วมันเก่งครบเครื่อง เอาจริง ๆ แล้วกูก็รำคาญไอ้นี่พอกับอีเฟลเลย) ในขณะที่ราชองค์รักษ์
มันถอดเสื้อคลุมตัวนอกทิ้ง เพราะเลือดกระเด็นไปเปื้อน สรุปไอ้ฮามันเก่งกว่าราชองค์รักษ์? (ก่อนหน้านี้ก็มีการอวยไปแล้วว่า เวรยามหน้าห้องไอ้
ฮาซึ่งเป็นราชานี่หละหลวมมาก เพราะไม่มีใครกล้าคิดก่อการกบฏ ประมาณว่าเกรงกลัวฝีมือ(อื้อหือ)) เสร็จแล้วไอ้ฮามันก็เรียกพรายออกมาอีก
ชวนพรายไปแดรกเหล้า พรายแม่งก็พามาส่งหน้าร้านเหล้าร้านโปรด (มีไอ้พรายนี่แม่งโคตรสะดวก) ซึ่งกูก็จับตาดูนะ ว่าไอ้พรายนี่มันจะทำอะไร
ได้มาก ถ้ามันเป็นประตูวิเศษไปไหนก็ได้อย่างเดียว กูก็โอเคนะพอรับได้ แต่ถ้าแม่งครบเครื่องพอกับไอ้ฮาอีก ก็เพลียไปตามระเบียบ) แดกเหล้า
อยู่สักพัก คนแม่งก็โวยวายว่าภูตราตรีซัดเหยื่อคนที่8ไปแล้ว ไอ้ฮากับไคมอสก็ไปดู ก็เจอแต่ศพ แล้วไอ้ฮาแม่งก็สังเกตเห็นเส้นผมสีดำ หนึ่งเส้นติด
อยู่ที่ศพ เป็นเส้นผมลงอาคม ที่นักฆ่าจะใช้ติดไว้ที่เหยื่อ แล้วผมกับอาวุธของนักฆ่าจะส่งสัญญาณหากัน พอหลับตาทำสมาธิจะคว้างอาวุธมาโดน
เป้าหมายได้ไม่มีพลาด ซึ่งไอ้ฮามันก็โชว์เทพบอกไคมอสว่า ภูตราตรีต้องเป็นผู้หญิง เพราะผมเส้นนี้ยาวแถมดำขลับ แถมมีกลิ่นดอกไม้หอมกรุ่น ๆ
(ผมเส้นเดียวที่ติดอยู่กับศพ?) แล้วไอ้ฮามันก็ชวนไคมอสกลับวังบอกคืนนี้หมดสนุกแล้ว มันจับภูตราตรีไม่ได้ พอคล้อยหลังไอ้สองคนนี้ ภาพก็
ตัดมาที่นางเอก ซึ่งยืนมองความตายของคนชั่วที่ตัวเองส่งไปลงนรกด้วยความพอใจ
(มีต่อ)

649 Nameless Fanboi Posted ID:zkYf5gDo2

>>648 ตัดภาพมาที่อีกวัน ไอ้ฮาต้องไปทำพิธีสักการะเทพเจ้าที่วิหาร ซึ่งมันก็แอบแว่บไปนอนที่ชายป่าหลังวิหารให้ข้าราชบริพารตามหากันให้วุ่น อา...
เลือกที่นอนได้ดี มันเลยเจอสายฟ้าผ่าลงมาเฉียดจากจุดที่มันนอนอยู่แค่นิดเดียว พวกมึงเดาออกใช่ไหมใคร เป็นการพบกันของไอ้ฮากับอีเฟล ซึ่ง
ตอนแรกไอ้ฮามันนึกโมโหเพราะคิดว่ามีใครส่งจอมเวทมาลอบปลงพระชนม์ แต่พอเจออีเฟล ความโกรธมลายหายไปพลัน เพราะความสวยนั่นเอง
เขาก็บรรยายไปว่า ในสายตาไอ้ฮา อีเฟลคือโฉมงามชวนตะลึงที่สุดตั้งแต่ที่เคยพบ ซึ่งในฐานะที่กูชอบอ่านนิยายรัก กูไม่ค่อยประทับใจกับตัวละคร
ที่ปิ๊งกันแบบนี้เท่าไหร่ ไม่ใช่ไม่อินกับรักแรกพบนะ แต่คือก่อนหน้านี้นักเขียนบรรยายไว้ว่า ไอ้ฮามันเบื่อผู้หญิง อายุป่านนี้(22)ยังไม่มีกระทั่งสนม
หรือนางเล็ก ๆ ไว้ปรนนิบัติพัดวี เพราะเห็นท่านพ่อมีสนมเยอะ ซึ่งผู้หญิงพวกนั้นก็ไม่มีใครรักท่านพ่อของมันด้วยใจ มีแต่หวังสบายทั้งนั้น มันก็เลย
ไม่หวั่นไหวกับผู้หญิง พี่เลี้ยงมันก็พยายามสรรหาภาพวาดหญิงงาม พวกเจ้าหญิงมาให้มันเลือกดู มันก็ไม่สน โยนทิ้งหมด (แล้วไอ้ตัวละครแบบนี้
แม่งดันมาตกหลุมรักง่าย ๆ เพราะความสวย โอเคแหละอีเฟลมันสวยมากชวนตะลึงก็จริง แต่มึงก็โปรยไว้ซะเหมือนหัวใจแม่งปิดตายแบบนั้น กูเลยไม่อินกับอะไรแบบนี้) กลับมาต่อนะ แล้วไอ้ฮากับอีเฟลมันก็เลยได้ทำความรู้จักกัน แต่ตามฟอร์มไอ้ฮามันต้องไม่เปิดเผยตัวว่ามันคือราชา มันก็นึกชื่นชมความสวยและเก่งของอีเฟลว่า ถึงแม้จะร่ายเวทผิดพลาด แต่เป็นผู้หญิงแถมยังอายุแค่นี้แล้วใช้เวทได้ นับว่าไม่ธรรมดา สุดท้ายไอ้นักบวชเพื่อนอีเฟลก็เดินมาสมทบกำลังจะถวายบังคับ ไอ้ฮามันก็รีบหยุดไว้ เพราะอยากปกปิดสถานะ แล้วตรงนี้ไอ้นักบวชมันก็คิดว่า อีเฟลมันช่างไม่รู้อะไรเอาซะเลยว่าคนที่คุยด้วยคือราชา ไอ้ฮามันแนะนำตัวเองว่าชื่ออาเรส ซึ่งเป็นนามสกุลมัน ใคร ๆ ก็รู้ว่ากษัตริย์นามสกุลอะไร (แต่อีเฟลไม่รู้?) แถมยังแต่งกายแบบกษัตริย์อีกต่างหาก (แต่อีเฟลมันก็ยังไม่รู้อีก??) กูก็เลยคิดต่อจากไอ้นักบวชให้ว่า อีเฟลนี่แม่งโง่ชิบหาย กูเข้าใจคาแร็กเตอร์อีเฟลมันนะว่ามันจะออกแนว สวยใส(ไร้สมอง)โก๊ะ ๆแล้วก็จะซื่อ ๆ (กูขอเติมบื้อให้มึงด้วย) ซึ่งกูก็จะดูนะว่า มันจะโง่ไปถึงเมื่อไหร่ จริง ๆ สาเหตุที่กูเฟลกับตัวละครตัวนี้ เพราะมันมีจุดย้อนแย้งและไม่มีเหตุผล ซึ่งตอนแรกกูก็ยังไม่นึกรำคาญอีนี่เท่าไหร่นะ กูรำคาญไอ้ฮามากกว่า แล้วพออ่านมาถึงตรงนี้ กูก็คิดได้เลยว่า อีเฟล
กับไอ้ฮามันคงต้องคู่กัน (โอ้ววว ล้น ๆ เว่อร์ ๆ ทั้งคู่ ดูสิมันจะออกมารูปไหน) เท่ากับว่าไอ้ฮาซึ่งโคตรแกรี่สตู หลุดจากการเป็นพระเอกไปแล้ว(รึเปล่า)

เดี๋ยวมาต่อพรุ่งนี้นะ กูง่วงล่ะ จะมีใครว่ากูเรียกเรตติ้งอีกไหมเนี่ย กูยิ่งขี้นอยด์ ขี้น้อยใจอยู่

650 Nameless Fanboi Posted ID:LHifYWBbd

>>649 ภูติราตรีคือนางเอก แต่เฟลของมึงเหมือนจะเป็นนางเอกเลยว่ะ รักสามเศร้า?

651 Nameless Fanboi Posted ID:uZr2JqO/a

>>650 อีเฟลนี่คือมันเด่นมาก ถ้ากูไม่เห็นชื่อเรื่องกูก็คงคิดว่ามันคือนางเอก
จะรักสามเศร้าไหม เดี๋ยวมาดู

652 Nameless Fanboi Posted ID:h.w+NEpxU

ผมเส้นเดียวแล้วดมกลิ่นได้ไงวะ ท่าทางคงแรงมาก 555

653 Nameless Fanboi Posted ID:b462NxnXx

กูลองอ่านภูติราตรีแล้วดูท่าจะโอเคนะ แต่เสียดายกูรู้สึกว่าบรรยายเป็นสำนวนจีน แต่ธีมมันเป็นแฟนตาซียุคกลาง กูรู้สึกว่ามันไม่เข้ากันว่ะ

654 Nameless Fanboi Posted ID:D+Ip/O.sq

กูขอแวะมาบ่นอีกรอบ เห็นในกรุ๊ปหานิยายอ่านแม่งร่ำร้องจะเอาพระเอกโกงๆ ชอบพระเอกเก่งๆ โกงๆ กันท่าเดียว มีคนมาด่านิยายหลายๆ เรื่องอยู่ประปรายว่าอย่าไปอ่าน เพราะกว่าพระเอกจะเก่งก็ฝึกวิชาไปครึ่งเรื่อง หรือไม่ก็บอกว่าพระเอกใจดี ช่วยเหลือคนอื่นอยู่นั่น

อีเหี้ย กูอ่านแล้วโคตรปวดใจ ไอ้นักอ่านพวกนี้แม่งอายุกี่ขวบกันวะ คือใจคอมึงจะให้พระเอกโผล่มาตอนแรกก็เก่งเลย แถมเก่งแล้วยังต้องเหี้ย ยังต้องเป็นคนฉลาดแกมโกง เป็นคนซาดิสม์ ฆ่าคนอย่างไม่ปรานี ใครขวางทางเจริญพ่อฆ่าหมด อีเหี้ยยยยยยยยยยยยย

ขออภัยที่นอกเรื่องนะ

655 Nameless Fanboi Posted ID:ZJPx2ga/a

>>654 พระเอกจีนสมัยนี้ไง มาแนวนี้ซะเยอะ Edgy Lord จนตลก

แต่จริงๆ พวกนี้ส่วนใหญ๋เป็นพระเอกนิยายเกรด B นะ พวกนิยายเกรด A จะเป็นอีกแบบ อย่างน้อยก็มีความเป็นมนุษย์มากกว่า

656 Nameless Fanboi Posted ID:ppcHcAxtf

>>654 ถ้าได้ทำเป็นหนังเข้าฉายเมืองไทย แม่งคนดูน้อยแหง

657 Nameless Fanboi Posted ID:Pf4K2qmdR

>>654 วัยเห่อหมอ* อายุน้อย ชอบอ่านนิยายวอนนาบีดาร์ค ไม่ว่าจะห่วยขนาดไหนก็ตาม แบบเรื่องกาน เจเนซิล ในตำนาน เหี้ยมากๆ (ชม)

658 Nameless Fanboi Posted ID:h2mhzHtOm

>>653 กูคนสับนะ จริง ๆ เรื่องนี้ดีเลย สนุก แต่เห็นด้วยเรื่องสำนวนจีนที่หลุดมาเป็นระยะ ทำให้ไม่เข้ากับเรื่อง ทีแรกกูก็จะไม่สับแม่งหรอก ไม่รู้จะสับอะไรมันดี แต่ความไม่ค่อยสมเหตุสมผล เบียว ๆ เบี้ยว ของตลค.ก็ทำให้กูคันไม้คันมือขึ้นมา
>>652 ติดอยู่กับศพด้วยนะ แทนที่จะเหม็น เสือกหอม
>>654 กูคนนึงไม่ชอบ ตลค. ที่แม่งเพอร์เฟคเว่อร์ ๆ เกินไป เจอพวกร่ำร้องหาพระเอกแบบที่มึงว่านี่ก็คงรู้สึก เห้อ...
เดี๋ยวจะรีบมาต่อให้นะ ชีวิตพนักงานออฟฟิตอย่างกู ก่อนวันหยุดต่อเนื่องนี่งานถล่มทับเลยทีเดียว (หลบเจ้านายมาพิมพ์)

659 Nameless Fanboi Posted ID:qivMtrXKb

>>654 พวกเด็ก Gen Z ก็งี้ล่ะ โตมากับความสะดวกสบาย เกิดมามีไอแพดไอโฟนใช้ มันเลยไม่รู้จักว่ากว่าจะได้อะไรมาซักอย่างต้องลำบากขนาดไหน

660 Nameless Fanboi Posted ID:4XJiR40OO

เด็กชอบอ่านแต่ใช่ว่าพวกมันจะซื้อนะ ตั้งขายทีด่ากันใหญ่ แล้วก็ไปหาเรื่องอื่นแนวเดียวกันอ่านแทน

661 Nameless Fanboi Posted ID:Lp.+dSW/a

>>659 คงอารมณ์เดียวกับลูกหลานชนชั้นขุนนางที่ไม่รู้ว่า กว่าจะได้ชีวิตหรูหราสะดวกสบายตั้งแต่เกิด บรรพบุรุษตัวเองเคยลำบากลำบนแค่ไหน

662 Nameless Fanboi Posted ID:h2mhzHtOm

>>649 มาต่อ ๆ
เปิดมาที่ตอนต่อไป ตัดภาพมาที่ในวัง ไอ้ฮากำลังจะไปประชุมกับพวกขุนนาง มันเดินผ่านสวนแล้วก็เห็นอีเฟลวิ่งเล่นไล่จับกับผีเสื้อ ทีแรกมันไม่กล้าทักเพราะนึกว่าฝัน จนอีเฟลหันมาเห็นมันเลยเดินมาหาจากนั้นก็ตะครุบกบโชว์ โก๊ะได้ใจ พอคุยกันก็เลยได้รู้ว่า อีเฟลมันอยากเป็นจอมเวทประจำราชสำนัก สักพักองค์รักษ์ไคมอสก็เดินเข้ามาไอ้ฮาก็รีบหันไปสั่งว่าห้ามเปิดเผยตัวตนมันเด็ดขาด หันกลับมาอีกทีอีเฟลชิ่งไปแล้ว เพราะนางเอกซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องสาวฝาแฝดของมันเคยสั่งไว้ว่า ห้ามให้ไคมอสเห็นหน้าเด็ดขาด จนกว่าภูตราตรีจะแก้แค้นสำเร็จ มันเลยให้ฝากคนบอกอาจารย์ว่ามันขอตัวกลับก่อน ซึ่งจอมเวทบาดีนก็คงไม่ว่าอะไรเพราะหน้าที่มันไม่ได้สำคัญอยู่แล้ว แค่ตามมาส่งเข้าประชุมแล้วนั่งกินขนมรอ ซึ่งมันค้านกับข้อมูลก่อนหน้าที่ว่า ที่ผ่าน ๆ มาอาจารย์อีเฟลไม่ค่อยปล่อยให้มันไปข้างนอก เพราะมันหน้าเหมือนนางเอก เลยกลัวพวกคนชั่วจะรู้ว่านางเอกยังมีชีวิตอยู่ (แล้วหนีบมันมาด้วยเพื่อ?? เข้าวังนี่โอกาสเจอพวกขุนนางเพียบเลยนะ หน้าที่ก็ไม่ได้สำคัญอะไรเลย คนเขียนจะหาเหตุให้มันมาเจอกัน ก็ช่วยอย่าให้มันขัด ๆ งี้ดิวะ)
ตัดกลับมาที่สำนักเวท เด็ก ๆ ที่เป็นนักเวทฝึกหัดกำลังเตรียมลูกโป่งสำหรับงานเทศกาลที่จะมาถึงอยู่ ซึ่งตรงนี้อีเฟลก็ได้โชว์เทพด้วยการบรรยายกระจึ๋งนึงว่า พวกเด็ก ๆ ร่ายมนต์ใส่ลูกโป่งได้ทีละลูก แต่อีเฟลได้ทีเดียวพันลูก ไม่ถึงห้านาทีงานก็เสร็จ (อื้อหือ ค่อยสมเป็นศิษย์เอกจอมเวทบาดีนขึ้นมาหน่อยล่ะ) แล้วภาพก็ตัดมาที่นักบวชเพื่อนอีเฟล ไอ้นี่ก็เป็นตัวละครหลักนะ แต่บทมันยังจืดจางอยู่ ตรงนี้มีการเปิดเผยว่า จริง ๆ แล้วไอ้นักบวชเลฟินนี่มันคือปีศาจ มันจะกลายเป็นปีศาจปีละครั้ง ในคืนจันทร์เต็มตอนช่วงเทศกาล ซึ่งมันก็กังวลมากว่าตัวมันที่ขาดสติจะไปทำร้ายใครเข้า ที่จริงมันตาสีเหลืองซึ่งเป็นสีของปีศาจแต่คนอื่นจะมองสีตาของมันเป็นสีเทา เพราะอาจารย์มันช่วยใช้มนต์พรางตาไว้ ซึ่งอีเฟลมองเห็นสีตาที่แท้จริงของมันได้ แต่ก็ไม่ได้เหี้ยอะไรมากไปกว่านั้นเลย ทั้งที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ในขณะที่นางเอก ซึ่งมาอยู่ที่นี่ด้วยกันแค่5ปีกลับรู้ (กูลืมบอกไปว่านางเอกกับอีเฟลมันเป็นแฝดกันก็จริง แต่มันไม่รู้ตัวมาก่อนว่ามีพี่น้อง นางเอกอยู่กับครอบครัว จนโดนฆ่าตายยกบ้าน ส่วนอีเฟลอยู่กับจอมเวทบาดีนตั้งแต่ทารก มันมาเจอกันเอาก็ตอน8ขวบ เพราะจอมเวทนี่รับนางเอกมาเลี้ยงด้วย แล้วพอ13ขวบนางเอกมันก็แยกออกไปฝึกวิชานักฆ่า เพื่อล้างแค้น)
ตอนต่อไป
มหาอำมาตย์ฟิกมอสมาเข้าเฝ้าไอ้ฮากลางดึก มาขอร้องไอ้ฮาว่าให้ช่วยอภัยโทษให้ภูตราตรี ไอ้ฮามันก็งงดิ ก็เลยถามว่าทำไม ไอ้อำมาตย์นี่ก็เลยเล่าให้ฟังว่า ภูตราตรีมีศักดิ์เป็นหลานสาวของมัน แต่จริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่หลานสาวแท้ ๆ เป็นเด็กที่น้องสาวมันเอามาเลี้ยง (ตรงนี้ก็เป็นปมให้คิดต่อไปว่า ที่จริงพ่อแม่นางเอกมันเป็นใคร แล้วทำไมมันกับอีเฟลที่เป็นแฝดถึงแยกกันอยู่) แล้วอำมาตย์นี่มันก็บอกไอ้ฮาว่า พ่อนางเอกคือคนดี แต่ถูกใส่ร้ายโดยพวกขุนนางชั่ว โดยอาศัยช่องโหว่ของกฎที่ว่า หากมีขุนนางระดับสูงลงนามร่วมกันสิบห้าคน จะทำการตัดสินโทษได้เลย ก่อนกราบทูลราชา (กฎเหี้ยอะไรวะ?) สรุปว่าภูตราตรีไล่ฆ่าขุนนางตามลำดับรายชื่อ หนึ่งถึงสิบห้า ซึ่งตอนนี้โดนไปแปดแล้ว ไอ้ฮามันก็นึกขอบใจภูตราตรีที่ช่วยเก็บกวาดขุนนางชั่วให้ เพราะถ้าจะอาศัยกระบวนการทางกฎหมายเล่นงานคนพวกนี้ก็ยากเนื่องจากมีเส้นสาย กว่าจะฟ้องร้องหาหลักฐานได้ก็กินเวลานาน เพราะเหตุงี้สินะกรมเมืองจึงไม่จริงจังกับการตามจับภูตราตรีนัก (ซะงั้น) แล้วอำมาตย์ก็ขอร้องไอ้ฮาว่า นอกจากอภัยโทษแล้ว ช่วยคุ้มครองภูตราตรีที ช่วยหยุดอย่าให้ไปทำร้ายผู้บริสุทธิ์ เพราะตั้งแต่รายชื่อที่10ลงไปยกเว้น11กับ13 คือขุนนางดีที่ถูกบังคับ แต่ไอ้ฮาปฏิเสธบอกเรื่องอะไรต้องออกหน้าช่วยภูตราตรีขนาดนั้น (ซึ่งตรงนี้กูค่อยใจชื้นหน่อย คิดอยู่เหมือนกันว่าถ้ามันยอมตอบรับง่าย ๆ กูเลิกอ่านแม่มล่ะ555) แล้วอำมาตย์นี่ก็บอกว่าไอ้ฮาไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ มันก็เลยกระซิบบางอย่างให้ไอ้ฮาฟัง ไอ้ฮาฟังแล้วก็เลยยอมตอบตกลงช่วย แต่ออกหน้ามากก็ไม่ได้ เลยจะให้ไคมอส(องค์รักษ์)ไปจัดการเรื่องนี้แทน ซึ่งไคมอสก็เป็นลูกไอ้อำมาตย์นี่แหละ เลยเท่ากับว่า ไคมอสกับภูตราตรีเป็นญาติกัน (แต่ไม่แท้นะ) โดยก่อนจบตอน สติปัญญาที่เฉียบคมของไอ้ฮา ก็ถามอำมาตย์ทีเล่นทีจริงว่า ไม่ใช่เสด็จพ่อของมันจับมันหมั้นหมายไว้กับภูตราตรีรึ ซึ่งไอ้อำมาตย์นี่แม่งก็ตอบว่าใช่ (ตรงนี้กูก็เลยเดาว่า ชาติกำเนิดที่แท้จริงของภูตราตรีกับอีเฟลคงไม่แคล้วเจ้าหญิงเมืองใดเมืองหนึ่ง และแม่งต้องเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่มากด้วย)
จบไปก่อนกับตอนนี้ แต่สังเกตอะไรกันไหมพวกมึง? คนที่บทจืดจางยิ่งกว่านักบวชเลฟินซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวละครหลัก คือภูตราตรีนางเอกของเรื่อง แม่งเพิ่งออกมาแค่ไม่กี่ฉากเอง
มีต่อ

663 Nameless Fanboi Posted ID:Lp.+dSW/a

ตกลงใครเป็นนางเอกตัวจริง งงชิบ

664 Nameless Fanboi Posted ID:lwdIhLyr+

กูสงสัยว่านางเอกกับอีเฟลนี่คนเดียวกันรึเปล่าวะ เจอมาเยอะแล้วนะแบบแกล้งเอ๋อแต่ที่จริงแม่งแอบร้าย ขอให้กูเดาผิดทีเหอะ

665 Nameless Fanboi Posted ID:YH8DAQCr9

>>663 >>664 เฟเนส (ภูตราตรี) คือนางเอก คนละคนกัน แต่ที่กูเขียนแบบนั้นคือว่าแดกในความจืดจางของบทแม่ง และความโดดเด่นโคตร ๆ ของอีเฟล โทษทีเพื่อนโม่งที่ทำให้สับสน
มา ๆ ต่อ ๆ
เปิดมาที่บทนี้ ที่ทำให้กูรู้สึกหงุดหงิดมากที่สุด พูดถึงจอมเวทบาดีนที่ยุ่งอยู่กับการกางข่ายเวทชั้นสูงป้องกันอาณาจักรไม่ให้คนลักลอบเข้ามา (สิ่งที่จะได้อ่านต่อไปนี้ พวกมึงว่ามันแปลกๆไหม) นักเขียนบรรยายว่าคนนอกห้ามเข้า คนในก็ออกไม่ได้ จึงเหมือนการขังตัวเองไว้ แน่นอนว่าอาณาจักรอื่นไม่กล้าทำเพราะกลัวข้าศึกแฝงกายเข้ามา (มันจะแฝงยังไงอีก?) ทว่าโทมาฮัต(ชื่ออาณาจักรนี้)ต่างออกไป เพราะโทมาฮัตแห่งนี้ตั้งอยู่ในดินแดนต้องสาป หากใครเหยียบย่างเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต(จากใครวะ?) หรือคิดร้ายต่อบ้านเมือง จะถูกคำสาปปลิดชีวิตในทันที (เดี๋ยวนะ...ถ้าเป็นแบบนี้อยู่แล้วมึงจะยุ่งกางข่ายเวทกันเผื่อ?) แล้วก็บรรยายปิดท้ายว่า เพราะแบบนี้สิ่งที่โทมาฮัตต้องเผชิญมาตลอดหลายพันปีคือศึกใน คือศึกนอก สบม. เพราะอาณาจักรมึงโคตรวิเศษ มันเป็นการบอกเลยสินะว่า นิยายเรื่องนี้จะไม่มีการต่อสู้ระหว่างอาณาจักร ตอนที่อ่านมาถึงตรงนี้ทีแรกกูก็คิดนะว่า อำนาจเวทมนตร์ของนิยายเรื่องมันไร้ขอบเขต ไร้กฎเกณฑ์ยังไงไม่รู้
แล้วมันก็มีจุดที่ทำให้กูสงสัยอีก คือ เช้าก่อนสันเทศกาล ไอ้ฮาเขาส่งเสื้อผ้าเครื่องประดับมาให้อีเฟล ซึ่งอีนี่ก็ไม่อยากรับไว้เพราะราคาแพง เลยร่ายเวทใส่สิ่งของให้มันกลับไปหาคนส่ง อ่ะ...ระดับอีเฟลศิษย์เอกจอมเวทบาดีนทั้งคนพวกมึงคงเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นอกจากเสื้อผ้าไม่กลับไปแล้ว มันยังกระโจนใส่อีเฟลเหมือนซอมบี้มีชีวิต รุมทึ้งอีเฟลเผื่อให้อีเฟลใส่พวกมัน คนใช้เลยร้องให้คนช่วย ไอ้ฮาที่มาหาอีเฟลพอดีเลยเข้าไปช่วย ฟันขาดรุ่งริ่งไปหมด แต่เสื้อผ้าแม่งก็ยังแผลงฤทธิ์อยู่อีเฟลโมโหเลยกะจะเผาแมร่ม แล้วพวกมึงว่าสำเร็จไหม? คาแร็คเตอร์โก๊ะ ๆ แบบนี้จะพลาดได้ไง แม่งร่านคาถาเวทไฟอย่างดี ตู้ม! สายน้ำก็หลั่งไหลมา (เอาจริง ๆ นะพอมาถึงตรงนี้กูเริ่มคิดถึงขนาดว่ากูอาจตีความผิด ศิษย์เอกของเรื่องนี้แม่งอาจหมายถึงศิษย์รักก็ได้ แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นสิวะ...เดี๋ยวค่อยมาต่อประเด็นนี้) แล้วสุดท้ายไอ้ฮาก็เรียกพรายในแหวนมันออกมา เพื่อคลายมนต์ที่อีเฟลร่ายใส่เสื้อผ้า (ทำไมมึงไม่ทำงี้แต่แรกวะ) แล้วก็กูเลยได้รู้ว่า นอกจากไอ้พรายจะเป็นประตูวิเศษไปไหนก็ได้ แม่งยังเก่งกล้าสามารถพอที่จะคลายมนต์ของจอมเวทอย่างอีเฟลได้ โดยที่ตัวผู้ร่ายเองแม่งยังคิดไม่ได้เลยว่าควรคลายมนต์เอง เจริญ! อ่อ...กูขอเล่าย้อนนิดนึงว่า ก่อนหน้าที่อีเฟลมันจะร่ายมนต์ใส่เสื้อผ้า มันก็พยายามใช้ความคิดว่าไอ้ฮาคือใครกันแน่ ทำไมถึงแต่งตัวหรูหราเข้านอกออกในวังได้สบาย แถมยังเป็นแขกของหัวหน้านักบวชประจำวิหาร มันเลยคิดว่าไอ้ฮานี่น่าจะเป็นเชื้อพระวงค์ ซึ่งตรงนี้กูเกือบนึกชมมันว่าไอคิวกระเตื้องขึ้นบ้าง แต่คนเขียนแม่งเสือกขยี้ว่า อีเฟลมันลืมนึกไปว่าดวงตาสีทองอร่ามของไอ้ฮาคือคำตอบ เพราะสีทองคือสีของกษัตริย์ มีเพียงราชาที่แท้จริงเท่านั้นจึงจะมีตาสีนี้ ณ.จุด ๆ นี้กูถอยกลับไปยืนที่เดิม และขอด่าว่า อีเฟลมึงนี่แม่งโคตรโง่
(ยังมีต่อ) พิมพ์ตอนนั่งรถเมล์เวียนหัวฉิบหาย

666 Nameless Fanboi Posted ID:cqxu061Zo

>>665 เปิดตอนมาที่ไอ้ฮามันหนีเที่ยว ทีแรกมันตั้งใจจะไปหาอีเฟล แต่พรายแม่งแกล้ง พาวาร์ปไปหน้าร้านเหล้าแทน ไอ้ฮาก็ยุขึ้นแดกแม่งจนเมา แล้วก็มีเรื่องชกต่อย ซึ่งขนาดเมาแม่งเทพ คว่ำเขาหมดได้ทุกคน จนกระทั่งอีเฟลซึ่งเป็นเวรยามคอยเดินตรวจตราในเมืองคืนที่มีงานเทศกาลมาเจอเข้าเลยสลายวงด้วยการจับไอ้ฮาทุ่มทีเดียวจอด หงายลงนอนแช่น้ำพุในบ่อ (เอาจริง ๆ นะอีเฟล ไอ้ฮามันจัดการกับนักเลงเกือบทั้งกลุ่มได้แต่มาแพ้มึง กูแนะนำให้มึงเลิกฝึกเวทแล้วไปเรียนต่อสู้) เสร็จแล้วแม่งก็ไม่สนใจทิ้งไอ้ฮาไว้แบบนั้น สองชั่วโมงผ่านไปเดินวนกลับมาไอ้ฮาแม่งก็ยังอยู่ที่เดิม สุดท้ายพรายในแหวนมันนั่นแหละ ก็ไม่ต้องรอให้ใครสั่ง พาไอ้ฮาวาร์ปกลับวัง จังหวะนั้นองค์รักษ์ไคมอสมาพอดีอีเฟลมันก็เลยต้องรีบหลบ แล้วมันก็ไปเจอเด็กหลงกับแม่ยืนร้องไห้อยู่ มันนึกว่าน่าจะหนีไคมอสพ้นแล้วก็เลยแวะช่วยเด็ก ปรากฏหนีไม่พ้นไคมอสตามได้ มันก็เลยเลี่ยงไม่ได้ต้องช่วยกันตามหาแม่เด็ก เด็กแม่งก็ร้องไห้จะเอาตุ๊กตาซึ่งเป็นรางวัลจากร้านปาดาบ อีเฟลก็เลยได้โชว์เทพ ตรงนี้คนเขียนบรรยายว่า(กูลอกมาเลยนะ) 'ด้วยความสามารถอันเป็นเลิศของจอมเวทลำดับต้น ๆ แห่งราชอาณาจักร มีดสั้นทั้งห้าเล่มกระจัดกระจายไปอยู่บนช่องชนิดไม่ซ้ำสี ซึ่งบังเอิญว่าเป็นรางวัลพิเศษที่ค่ามากกว่าตุ๊กตาหลายเท่า' เจอตรงนี้เข้าไปช็อคแดรกเลยกู ตกลงแล้วอีเฟลนี่มันไม่ได้เป็นแค่ศิษย์เอกของจอมเวทบาดีนนะเว้ยเห้ย มันมีดีกรีเป็นถึงจอมเวทลำดับต้น ๆ แห่งอาณาจักร (ลองนึกย้อนผลงานที่ผ่านมาของมันดู) แถมแม่งยังปาดาบอย่างแม่น สรุปนี่มันจะเป็นแมรี่ซู คู่กับไอ้ฮาแกรี่สตูรึ!? แล้วไอ้เด็กเหี้ยที่หลงกับแม่ แม่งก็ไม่เอาตุ๊กตาที่อีเฟลได้ มันจะเอาอีกตัวซึ่งเป็นรองของรางวัลใหญ่ (เรื่องมากจริงไอ้เด็กเปรต เจอนางงามอย่างกูนี่ถูกตบหัวทิ่ม) แต่คราวนี้สกิลนางเอก(?)แม่งไม่ทำงานแล้วว่ะ เลยถึงคราวผู้ได้โชว์เทพบ้าง ไคมอสปาทีเดียวได้รางวัลเลย จบข่าว (ไอ้นี่ก็เป็นอีกตัวละครหลักนะ แต่ยังจืดจางอยู่) เสร็จแล้วก็เจอแม่เด็กเลยจบสักทีกับพาร์ทเด็กเปรต อีเฟลเลยคิดว่า เด็กก็ไปแล้วได้โอกาสชิ่ง เพราะไม่อยากอยู่นานให้อีกฝ่ายนึกระแคะระคายเรื่องหน้าตามันที่ไปคล้ายกับนางเอกได้ แต่แทนที่มันจะรีบไปเลย เสือกยกตุ๊กตาตัวเบิ้มในมือ(ตัวที่เด็กเปรตมันไม่เอา)ให้ไอ้ไคมอส (อ้าวอีนี่ สายอ้อยนี่หว่า) คือมึงทำแบบนี้แทนที่เขาจะไม่จดจำมึง กลายเป็นเขายิ่งจำใส่ใจเลยป่ะ แล้วถ้าเหตุผลที่มึงให้คือถือไปก็เกะกะ มึงก็แวะให้เด็กให้เล็กกลางทางก็ได้ จำเป็นต้องให้ผู้? เสร็จแล้วก็ได้เลยเหมือนกัน ไอ้ไคมอสก็รับไว้ ถึงจะรู้สึกอายที่ต้องเดินแบกตุ๊กตายักษ์กลับไปแต่มันก็ทิ้งไม่ลง แล้วไอ้ไคมอสมันก็คิดว่าอีเฟลหน้าเหมือนนางเอกมาก เพราะมันกับนางเอกตอนเด็กสนิทกัน แล้วแม่มันก็เคยซื้อกระจกอนาคตกาลมาส่องดูหน้าตาของมันกับนางเอกในอีกสิบปีต่อมา ซึ่งมันก็หน้าตาเหมือนตอนนี้เด๊ะ มันเลยคิดว่านางเอกก็ต้องเหมือนที่เคยเห็นในกระจก ซึ่งอีเฟลก็เหมือนนางเอกมาก มันเลยอดคิดไม่ได้ว่า อีเฟลกับนางเอกอาจเป็นคนเดียวกัน หรือต้องมีความเกี่ยวข้องกันแน่ (เป็นไงล่ะอีเฟลงามหน้าเลยไหมมึง อ้อยจนได้เรื่อง)
จบตอนไปที่งานอ้อยของอีเฟล ตอนหน้านางเอกกูมีบทล่ะ เย้ ๆ ๆ

667 Nameless Fanboi Posted ID:cqxu061Zo

>>666 เปิดตอนมาที่ไอ้ฮาไม่สบายเพราะแม่งไปเมานอนแช่น้ำ แล้วก็ละเมอเพ้อหาแม่ แค่นั้นแหละ ภาพก็ตัดมาที่หลังวิหาร ตอนนี้ไอ้นักบวชที่ชื่อเลฟินมันกลายร่างเป็นปีศาจ วินาทีที่มันกำลังจะฆ่าลูกกวางน้อยตัวนึง มันก็ดึงสติกลับมาได้ และรีบตะโกนให้กวางน้อยหนีไป แล้วมันก็นึกแปลกใจที่ตัวเองกลายร่างแล้วทั้ง ๆ ที่ยังไม่ถึงวันจันทร์เต็มดวง มันเริ่มวิตกว่าตัวมันจะสูญเสียความเป็นคน กลายเป็นปีศาจขาดสติทำร้ายคนเข้าสักวัน พอมันกลับมาโบสถ์ก็มาเจอกับนางเอกที่รออยู่ (นางเอกกูออกแล้ว ดีใจฉิบหาย) นางเอกแม่งก็เอายามาทำแผลให้ไอ้นักบวช เพราะรู้ว่าพอคืนร่างแล้วมักจะได้แผล ไอ้นักบวชก็เลยแนะนางเอกว่า เทศกาลทั้งทีออกไปเที่ยวกับอีเฟลสิ ใส่หน้ากากไปก็ได้ (ทำไมกูต้องสาธยายกระทั่งประโยคสนทนา เดี๋ยวมึงดูคำตอบนางเอกแล้วจำไว้นะ) นางเอกแม่งก็ปฏิเสธ แล้วบอกว่าตัวมันตายไปนานแล้ว ที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้คือปีศาจที่สิงร่างเฟเนส(ชื่อตัวนางเอกเอง)อยู่ แล้วจบประโยคไปแบบคูล ๆ ว่า ‘ปีศาจไม่เที่ยวเล่นหรอก’ (ถึงกูจะรู้สึกว่ามันพยายามให้ดูเท่ไปสักหน่อย แต่กูก็ยังโอเคอยู่นะ อย่างที่บอกกูเบื่อนางเอกปัญญาอ่อนกับตลกคาเฟ่แล้ว แนวอื่นมายังไงกูก็ชอบหมดแหละ) แล้วตรงนี้นักเขียนก็บรรยายความในใจว่า จริง ๆ แล้วไอ้เลฟินเนี่ยมันชอบนางเอก เพราะนางเอกเป็นคนใจดีอ่อนโยน นางเอกจะมาหามันทุกครั้งก่อนจะลงมือฆ่าคน เหมือนเอาความอ่อนแอมาฝากไว้ ก่อนจะกลายเป็นนักฆ่าไร้ความปรานี แล้วก็ตบท้ายด้วยการอวยซึ่งค้านกับความรู้สึกกูอย่างแรงว่า 'ใครจะรู้ว่าหัวใจของนักฆ่านางนี้บริสุทธิ์ยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก' (เดี๋ยว ๆ เดี๋ยวนะเลฟิน เดี๋ยวนะคนเขียน มึงจะอวยเหี้ยไรขนาดนั้น คนที่ตัดสินใจฆ่าคนได้ถึงจะล้างแค้นก็เหอะ หัวใจแม่งยังบริสุทธิ์กว่าสิ่งใดในโลกอีกเหรอวะ งั้นอย่างกูตบเด็ก เตะหมา นินทาเพื่อนนี่ไม่เป็นแองเจิ้ลเลยรึ?) แล้วความมาม่าก็เริ่มส่อเค้า ด้วยการเปิดเผยว่า เลฟินรักนางเอก แต่มันก็เจียมเนื้อเจียมตัวแหละ เพราะเป็นไปไม่ได้ แต่นางเอกรักไอ้ไคมอส! เอาล่ะเว้ยเห้ย พอกูอ่านถึงตรงนี้ก็บ๊ายบายไอ้ฮาแกรี่สตู มึงคงเป็นพระรองที่แท้ทรูแล้วล่ะ ก็คู่กะอีเฟลแมรี่ซูไปนะ ตอนนี้คนที่คาดว่าน่าจะเป็นพระเอกเลยกลายเป็นองค์รักษ์ไคมอส กับนักบวชเลฟิน

668 Nameless Fanboi Posted ID:cqxu061Zo

>>667 ตอนต่อไป
นางเอกกูยังมีบทอย่างต่อเนื่อง วันนี้ภูตราตรีเตรียมไปล่าเหยื่อรายที่เก้า แล้วมันก็ทำสำเร็จ ไอ้ขุนนางชั่วนี่มันก็คุกเข่าร้องขอชีวิตนางเอก แต่ความปรานีเดียวที่นางเอกให้ได้คือ ฟันทีเดียวคอขาด จะได้ไม่ทรมาน (โอ้ว ต้องงี้สิวะ) ฆ่าเสร็จก็เตรียมกลับ แต่เดินไปได้แค่ก้าวเดียวก็ถูกรั้งไว้ นางเอกหันมาปุ๊ปสบตาปิ๊งจำได้ทันที พี่ไคมอสนี่เอง นางเอกก็เล่นลิ้นนิดหน่อย บทสนทนายังคงความคูล ไอ้ไคมอสเลยบอกว่าได้รับพระบัญชาให้มาหยุดนางเอก แล้วมันก็พิจารณาว่านางเอกจะใช่คนน้องสาว(ไม่แท้)ของมันจริงไหม เพราะนางเอกปิดหน้าไว้ครึ่งนึง เห็นแค่ตา สุดท้ายนางเอกก็ใช้ผงฝุ่นหนีรอดไปได้
แล้วก็มาถึงคืนวันที่สี่ของงานเทศกาล ที่วัยรุ่นหนุ่มสาวรอคอย คืองานเต้นรำใต้แสงจันทร์ แล้วคืนนี้อีเฟลมันก็ไม่ออกไปไหนก็เลยนั่งเล่นอยู่ในห้อง แล้วนางเอกก็ชะแว้บมาหา มาคุยกันนิดหน่อยแล้วบอกว่ามีเรื่องจะมาขอร้องอีเฟล มันถามอีเฟลก่อนนะว่าออกไปไหนไหม (กูอ่านมาถึงตรงนี้ชักรู้สึกแปร่ง ๆ) อีเฟลบอกไม่ไปนางเอกเลยบอกขอเปลี่ยนตัวกัน ขอเป็นอีเฟลสักคืน อีเฟลก็ตกลง ไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว และก็อยากไถ่โทษที่ตัวเองถูกไอ้ไคมอสเห็นหน้า นางเอกบอกไม่เป็นไร อีเฟลมันรู้ทันว่านางเอกจะไปงานเต้นรำใช่ไหมนางเอกบอกใช่ มันก็เลยจับนางเอกแต่งตัวแต่งหน้าให้สวย ๆ เผื่อนางเอกจะเปลี่ยนใจอยากกลับมาใช้ชีวิตแบบผู้หญิงธรรมดาบ้าง (อ้าว...อีนางเอก ไหนมึงบอกว่าปีศาจไม่เที่ยวเล่น แล้วมึงอย่าบอกนะ ว่าไปงานเต้นรำเพราะผู้ชาย!) ภาพตัดมาที่ไอ้ไคมอส ได้รับจดหมายจากภูตราตรีว่านัดให้มาเจอกันคืนนี้ที่ลานจัตุรัสกลางเมือง (นั่นปะไรกูว่าแล้ว! เห้ย แต่ก็ก็ยังมีความหวังว่านางเอกสุดคูลของกูอาจมีแผน) พอมาถึงเจอกัน นางเอกที่แสนขรึมของกูก็อ้อยเขาด้วยการเริ่มต้นทักก่อน จากนั้นบทสนทนาแบบอ้อย ๆ ก็ดำเนินต่อไป นางเอกกูก็พูดไปยิ้มไป จนไอ้ไคมอสมันยังคิดว่า วันนี้อีเฟลทำไมสวยกว่าทุกวัน ทำมันใจเต้นแรง (ไอ้นี่นึกว่าเป็นอีเฟลไง) สุดท้ายด้วยสกิลการอ้อยที่คงมีอยู่ในสายเลือดนางเอกก็พูดแซ็วให้คนหน้าตายอย่างไอ้ไคมอสมันยิ้ม แล้วไอ้ไคมอสก็ขอนางเอกเต้นรำ (อ้าวเห้ย ไอ้ราชองค์รักษ์ผู้ภักดี มึงก็รู้ว่าราชาของมึงเล็งอีนี่อยู่ มึงก็ยังไปขอเขาเต้นรำอีกเนี่ยนะ) ระหว่างเต้นรำอีนางเอกก็เร้าให้ไอ้นี่ยิ้มอีก อ้อยสุด ๆ ๆ ณ.จุด ๆ นี้ ภาพพจน์นางเอกสุดคูลในใจกูพังทลายหมดแล้ว สบตากับผู้ไปปิ๊งเดียว จากที่ไม่ได้เจอกันมาเป็นสิบปีสปาร์คติดอย่างง่ายดาย
ตัดภาพมาที่ไอ้ฮา เรียกพรายในแหวนออกมาแล้วระบุเลย บอกพรายในแหวนว่า ให้พาไปหาอีเฟล ซึ่งพรายแม่งก็จัดให้ วาร์ปไปในห้องอีเฟลกันเลยทีเดียว (กูบอกแล้ว เวทมนตร์เรื่องนี้แม่งเว่อร์โคตร ๆ กูโอเคนะถ้าพรายของมึงจะสามารถพามึงไปไหนก็ได้ในส่วนของการระบุสถานที่ แต่นี่มึงระบุชื่อคน แล้วพรายมึงก็แว๊บพาไปได้ในบัดดล แล้วแบบนี้มึงสั่งองค์รักษ์มึงไปตามจับภูตราตรีทำไมวะ มึงทำเองพริบตาเดียวก็จบแระ จริงป่ะ?) แล้วมันก็พากันไปนั่งชมจันทร์ หยอกล้อกันกระหนุงกระหนิง อีเฟลก็แลบลิ้น (แลบลิ้นจริง ๆ นะมึง) ปลิ้นตาหลอกไอ้นี่ ทำตัวเหมือนเด็กอนุบางสไตล์มัน (กูลืมบอก มันกับอีนางเอกจะอายุ18แล้ว) เป็นอันจบตอนเหอะ จบตอน ณ.จุด ๆ นี้กูเพลียมาก
และกูขอจบการสับไว้ที่พาร์ทนี้แระกัน กูเจอนางเอกเปลี่ยนเป็นแบบนี้เพลียไปเลย อุตส่าห์รอบทแม่งตั้งนาน จุดที่กูคิดว่าขัดแย้ง ขัดใจกูมันก็มีอยู่เท่านี้ ณ.ตอนนี้มันจบไปที่ บทที่9 เทศกาลนูอาร์ใต้แสงจันทร์ ถ้าใครอยากอ่านต่อให้ถึงตอน15ก็ไปอ่านเอานะ
ต่อไปเป็นพาร์ทสุดท้ายล่ะ พาร์ทสรุป

669 Nameless Fanboi Posted ID:cqxu061Zo

>>668 สรุปเถอะ
เนื้อเรื่องดีนะ กระชับในแต่ละตอน การบรรยายดีมาก ไม่มีคำผิด ไม่เวิ่นเว้อ แต่ที่ทำให้รู้สึกสะดุดก็คือสำนวนจีนที่มีหลงเข้ามาเป็นพัก ๆ ขัดกับแนวเรื่องซึ่งน่าจะอยู่ในช่วงยุคกลาง แบบที่โม่งด้านบนบอกเลย แล้วที่กูชอบเลยและถือเป็นเสน่ห์สำหรับเรื่องนี้ก็คือ มุขตลก เห้ย มันตลกดีนะ ไม่แป้กด้วย จังหวะการยิงมุขก็ดี โดยเฉพาะไอ้พี่เลี้ยงของไอ้ฮา ไอ้เหี้ยนี่แม่งทำกูขำมาก ในส่วนนี้มึงได้คะแนนจากกูไปเยอะสุดล่ะ กูให้ 8.5/10 หักจากสำนวนของมึง ที่ทำให้กูแปร่งหูมโหฬารมหาศาล และข้อเสียที่เรื่องของมึงปมแม่งไม่ได้น่าลุ้นอะไรเลย เท่าที่ดูก็แทบไม่มีเหี้ยไรเลยนะ
อยู่หมวดรักแฟนตาซีใช่มะ เรื่องนี้กูสรุปได้ว่า เน้นไปที่ความรัก จากที่อ่านกูสับมา พวกมึงยังไม่รู้เลยใช่ป่ะตกลงใครเป็นพระเอก เออ กูอ่านจนจบที่ฟรีก็ยังไม่รู้เหมือนกัน แต่เดาว่าเป็นไอ้ไคมอส (แต่ภาพปกมันเป็นรูปนางเอกกับไอ้นักบวชเลฟินนะ แต่ก็ไม่อยากเชื่อแม่งหรอกภาพปก กูเข็ดตอนโดนเรื่องอี8ปีกทำเขวมาแล้ว) ในแง่ความรักกูขอให้สัก 7/10 ละกัน หักไปเยอะก็คู่รองอย่างไอ้ฮากับอีเฟล เอาจริง ๆ คู่นี้ก็ยังอ้อยกันไปมาได้ยันตอนสุดท้ายที่เปิดอ่านฟรี กูหักไปเยอะเลย เรื่องสาเหตุที่ไอ้ฮามันตกหลุมรักอีเฟล อย่างที่บอกว่า คนเขียนโปรยมาอย่างดีว่า ไอ้ฮามันไม่เปิดใจ แต่แม่งเสือกชอบอีเฟลโคตรง่ายแค่เพราะความสวย ถ้ามึงพัฒนาความสัมพันธ์สักตอนสองตอน ให้มันได้เห็นข้อดีของอีเฟลแล้วค่อยตกหลุมรัก กูจะอินกว่านี้นะ ส่วนคู่นางเอกกูยังไม่สามารถสรุปเหี้ยอะไรให้ได้ เพราะยังไม่รู้แม่งคู่ใคร แต่เดี๋ยวมันจะมีตลค.ใหม่คือน้องสาวไอ้ฮา มาตามจีบไอ้นักบวช กูเลยเดาว่า นางเอกคงคู่กะไคมอส ซึ่งแม่งก็ยังไม่ได้พัฒนากันไปไกล กูก็ลงคะแนนให้ไม่ได้อีก งั้นเอาไปแค่นั้นพอ
ในแง่ความแฟนตาซี กูให้ 4/10 กูว่าเซ็ตติ้งโลกมึงแปลก ๆ อาณาจักรต้องสาปของมึงนี่ก็เบียว ๆ แล้วกูก็รู้สึกว่า โลกของมึงนี่เป็นการผสมผสานวัฒนธรรมกันระหว่างจีนกับยุคกลาง สำนวนทำให้คิดด้วยส่วนหนึ่ง แต่เท่าที่เห็นในเรื่องมึงคือมีจอมเวท วิหาร และชื่อตัวละครทุกตัวที่มึงทำให้กูรู้สึกว่ามันคือตะวักตก แต่ตำแหน่ง อำมาตย์ ขุนนาง พระพี่เลี้ยง นางสนม วังหลวง เขตพระราชฐานชั้นใน วังหลัง องค์รักษ์ ด้านจันทร์เสี้ยง โรงเหล้า สำนักจอมเวท (โฟกัสที่คำว่าสำนัก) มันให้กูรู้สึกถึงความเป็นนิยายจีน มโนภาพในสมองเม็ดถั่วเขียวของกูเลยตีกันมั่วไปหมด แถมกฎเกณฑ์เรื่องเวทมนตร์ของมึงนี่แม่งก็มั่วซั่วพิกล แล้วไหนจะภูตพรายอีก เท่าที่กูอ่านนี่รู้สึกพวกภูตพรายนี่จะเจ๋งกว่ามีเวทมนตร์สินะ ดูจากพรายโคตรเทพของไอ้ฮาที่คลายมนต์อีเฟลได้ แล้วก็พรายสังหารในอาวุธนางเอกอีก ก็ไม่รู้จะสรุปยังไงว่ะ
สุดท้ายตัวละคร กูให้แค่ 4.5/10นะ สังเกตที่กูยกมาสับจะเป็นเรื่องความไม่สมเหตุสมผลของตัวละครเกือบหมด กูสรุปต่ออีกนิดว่า จากนี้ก็จะมีอวยอีเฟลอีกย้ำเรื่องที่ว่ามันเป็นจอมเวทมือดี เกือบเป็นอับดับหนึ่งของอาณาจักรประมาณนี้อีกสองสามครั้ง แน่นอนว่ามันก็ยังไม่ได้แสดงความเก่งกาจอะไรให้สมกับคำอวย จึงเป็นเหตุที่ทำให้กูขัดใจแม่งมาก แล้วก็จะมีตอนนางเอกไปล่าเหยื่อรายที่10อีก ซึ่งรายนี้เป็นขุนนางดีแต่ถูกบังคับให้ลงนาม ซึ่งมันก็ยอมรอรับความตายแต่โดยดี แต่วินาทีที่นางเอกจะบั่นคอมัน ลูกเมียแม่งก็ออกมาห้าม ร้องขอชีวิต ซึ่งกูก็สงสัยว่า มันมาได้ไงวะ ปกตินางเอกจะทำให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องหลับหมด เพื่อป้องกันการโดยลูกหลง แล้วแม่งก็มีเฉลยแบบเบา ๆ ว่า ในอาวุธของนางเอกมีพรายสังหารสิงอยู่ ประมาณว่าได้พลังจากพรายนี่แหละทำให้สังหารเหยื่อได้ง่าย (อ้าว...สรุปนี่มึงไม่ได้เก่งด้วยฝีมือตัวเองเหรอ)
ตลค.ที่น่าสนใจสุดสำหรับกูคือ เลฟิน (นักบวชปีศาจ)ที่น่าจะเป็นตัวก่อดราม่าให้เรื่องได้ ถ้ายังรักษาคาแร็กเตอร์แบบนี้เอาไว้ได้ ไอ้นี่แหละอมทุกข์ของจริง อีนางเอกสายอ้อยหลบไป
สรุปภาพรวมของเรื่อง กูให้สัก 7.5/10 คะแนนละกัน ถือว่าเยอะนะ จริง ๆ งานเขาดีแหละ ส่วนใหญ่เลยคือขาดความสมเหตุสมผล ที่ต้องอ่านแบบจับผิดหรือขี้นอยด์แบบกูแล้วจะสะดุด กูแนะนำเลยสำหรับใครที่ชอบรักแฟนตาซีไม่น่าจะผิดหวัง อ่านแก้เบื่อได้
ขอจบการสับไว้ที่ตรงนี้ อาจยาวไปบ้าง แต่กูอยากเล่าให้พวกมึงเห็นภาพ กูวิเคราะห์อะไรเป็นหลักเป็นการไม่เก่งนะ กฎเกณฑ์อะไรมาอิงให้คะแนนก็ไม่มี ก็จะสับได้ประมาณนี้แหละ
ขอลงชื่อนะ เห็นถามแล้วบอกได้ โดย โม่งนอยด์

670 Nameless Fanboi Posted ID:EeyFRRGtz

>>669 แสดงว่าเป็นเรื่องที่อ่านได้เพลินๆ เรื่อยๆ ถ้าไม่จับผิดมาก ไม่มีจุดชวนหัวร้อนเหมือนไอ้นางร้ายนั่นสินะครับ...
ปล. ผมโม่งมารี และใช่ ผมอายุน้อยกว่าจริงๆ ยังไม่แตะ 19 เลย
ปล2 ตั้งแต่หันมาหาอ่านนิยายในเว็บและในบอร์ดโม่งดูแล้ว เหมือนจะใช้ผิดกันเป็นล่ำเป็นสันเลย ไอ้ "มุขตลก" เนี่ย เขียนให้ถูกต้อง เป็น "มุกตลก" ครับ

671 Nameless Fanboi Posted ID:cqxu061Zo

>>670 อ้าวเหรอ ขอบใจมากไอ้น้อง คำนี้ผิดโดยไม่เฉลียวใจเลยสักนิด
เรื่องนี้ดีกว่าเจ้ลิสเยอะเลยนะ เอาจริง ๆ อ่านทีแรกก็ไม่ได้คิดจะสับอะไรหรอก มาสะดุดทีความอวยตัวละครไม่ลืมหูลืมตา กับเหตุผลที่แปร่ง ๆ ค้าน ๆ นิดหน่อย แต่พอกลับมารอบ2แล้วมันก็ผุดขึ้นมาพอสมควร หลังจากเก็บงานแล้วก็เลยคันไม้คันมือสับแม่งสักหน่อย 555
ขออธิบายเพิ่มตกคะแนนภาพรวมนิดนึง มันเหมือนจะตกคณิตศาสตร์ไปไกลโข ถ้าอิงตามคะแนนที่ให้แต่ละหัวข้อคือ 8.5+7+4+4.5 หาร 4 จะเฉลี่ยเท่ากับ6ใช่ป่ะ แต่ทีนี้ในความรู้สึกมันค้าน ๆ แลจะน้อยไปหน่อย ก็เลยออกมาเป็น 7.5 ตามที่เห็นนะ (พิสูจน์แล้วว่า กูนี่เอาความพอใจเป็นที่ตั้งล้วน ๆ)

672 Nameless Fanboi Posted ID:o3Rdo5br.

กูรู้สึกว่าตัวละครเขียนยากกว่าเนื้อเรื่อง

673 Nameless Fanboi Posted ID:SHsjGRsDd

>>670 กูคนหนึ่งละที่รู้ว่าราชบัณฑิตกำหนดให้ใช้คำว่า "มุกตลก" แต่กูไม่เห็นด้วยกับเหตุผลที่ราชบัณฑิตยกมาอ้างแบบฝืนๆ มั่วๆ กูจึงจงใจเก็บคำว่า "มุขตลก" ไว้เป็นเครื่องหมายแห่งการต่อต้านว่ะ ชาตินี้กูไม่มีวันเขียนคำว่า "แซว" เป็น "แซ็ว" เด็ดขาด

674 Nameless Fanboi Posted ID:tLDomHgaM

>>672 เห็นด้วยว่ะ ตัวกูเองก็มีปัญหาเรื่องตัวละคร พล็อต เนื้อเรื่อง กูสามารถวางความสมเหตุสมผลได้ในระดับหนึ่ง แต่ตัวละครกูนี่จ้องแต่จะแหกกรอบ ฉีกทุกกฎเกณฑ์ที่มีว่ะ 555
>>673 ตชอดชีวิตกูเขียนแซวเหมือนกัน พอรู้ว่าแซ็วถูก กูแม่งก็ยังเปลี่ยนไม่ได้ว่ะ จับมือๆ

675 Nameless Fanboi Posted ID:o3Rdo5br.

ไม่ขอนินทา แต่เด็กสมัยนี้รู้จักเกมพวกนี้ด้วยเรอะ
https://www.dek-d.com/board/view/3813279/

676 Nameless Fanboi Posted ID:7RpYHNkl.

>>675 ผมรู้จักแค่ชื่อนะ Dungeons & Dragons อ่ะ แต่รายละเอียดไม่รู้เลย

677 Nameless Fanboi Posted ID:o3Rdo5br.

>>676 เห็นว่าเป็นเกมกระดาน RPG ไม่ใช่วีดีโอเกม กูรู้จักเกมตอนหาข้อมูลนิยายแฟนตาซี

678 Nameless Fanboi Posted ID:9IziK3rnM

>>675 กูไม่รู้จักอะ แต่อยากรู้ว่ามันเล่นไง

679 Nameless Fanboi Posted ID:PQg7Eg2Sm

ดราม่านักเขียนอีกละ คราวนี้ใครผิดถูกซะ กูอ่านไปอ่านมาละงง ขึ้นต้นที่นักเขียนโดยละเมิดลิขสิทธิ์ เหมือนจะจบที่นักอ่าน(คนละเมิด)โดนคุกคาม
https://www.dek-d.com/board/view/3813256/

680 Nameless Fanboi Posted ID:YQ5+2/4Y+

>>675 เคยเล่นแบบ Online อยู่นะเกมนี้

681 Nameless Fanboi Posted ID:mr1DXcnKN

>>679 มากูสรุปนะ
1. น้อง ชบ. เอานิยาย บ. (ซึ่งเป็นนักเขียน) ไปแจกจ่าย (ความจริงน้อง ชบ. แจกไปแค่เพื่อน 2-3 คน // อันนี้ความผิดน้อง ชบ. ที่ทำการละเมิดลิขสิทธิ์)
2. บ. รู้เข้าเลยจะเอาเรื่องน้อง ชบ. บอกให้มาขอโทษแล้วจะจบ หลังจากนั้นน้อง ชบ. เลยมาขอโทษและปิดแอคทวิตไปละ

แต่.....ระหว่างที่ บ. รอให้น้อง ชบ. มาขอโทษนั้นเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันคือ
1. บ. เอาอีกแอคนึงไปหลอกถามชื่อที่อยู่คนอื่นเพื่อจะแจกหนังสือ ละมาเฉลยทีหลังว่าตัวเองคือนักเขียนนะ แล้ว...ทำการแบล็คเมล์ ให้คนที่ส่งชื่อที่อยู่นั่น (ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคนละเมิดลิขสิทธิ์เลยยยยย) ไปตามล่าหาน้อง ชบ. รวมทั้งคนที่ด่านางเสียหาย ไม่งั้น บ. จะฟ้องว่าคนที่ตัวเองจะแบล็คเมล์เนี่ยละเมิดลิขสิทธิ์นาง (อันนี้เข้าข่ายข่มขู่ คุกคามและละเมิดสิทธิส่วนบุคคล)
2. บ. โทรเข้าไปโรงเรียนน้อง ชบ. แล้วแจ้งจารย์ห้องธุรการว่าจะเอาเรื่องนี้ ชบ. ในฐานละเมิดลิขสิทธิ์
3. หลังจากนั้นชาวทวิตก็ (ไม่เชิง) bully บ. จนต้องออกแถลงการณ์มา

เอาจริงๆ นะ เรื่องนี้กูคิดว่าเด็กทะเลาะกัน แต่ไหงกลายเป็นนักเขียน (ที่กูเพิ่งรู้ว่าอายุ 20 กว่าๆ) โมโหจนขาดสติกับเด็กม.4 อันนี้พวกมึงอาจเห็นว่ากูเข้าข้างน้องม.4 นะ แต่น้องอาจไม่รู้ไงว่าทำแบบนี้มันผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ ตักเตือน ต่อว่า ว่ากล่าวให้น้องเค้าเข้าใจอันนี้กูว่าพอรับได้ (ถ้าน้องมันดื้อมึน รู้ว่าผิดแต่ก็ทำ อันนี้ก็ปล่อยไปตามกฎหมายที่นักเขียนจะดำเนินคดีไป) ไม่ใช่ล่ากันจนรู้ที่อยู่เบอร์โทร แถมยังตามไปข่มขู่น้องถึงโรงเรียน อันนี้มันเกินไป
และในทวิตหลายๆ อันที่ bully นักเขียนกูว่าก็เกินไปอีกเช่นกัน ตักเตือนกันให้พอได้สติก็พอ

682 Nameless Fanboi Posted ID:P.DkE6P/K

>>677 D&D เป็นเกมกระดานแบบทอยเต๋า ซึ่งจะแบ่งเป็นฝั่งผู้เล่น กับ Dungeon master หรือ Game Master

ผู้เล่นจะต้องสร้างตัวละครขึ้นมา เผ่าพันธุ์ และลักษณะนิสัยที่เรียกว่า Alignment เพื่อทำการ Role-play (สวมบทบาท) เป็นตัวละครนั้นๆ ส่วน GM จะทำการสร้าง Event ให้ผู้เล่นประสบ ซึ่งเมื่อประสบกับ Event แล้วผู้เล่นจะทำการทอยเต๋าเพื่อระบุว่าจะเกิดอะไรขึ้นใน Event นั้นๆ

ยกตัวอย่าง มึงเดินออกนอกเมืองไปเจอมังกรและต้องการโจมตีใส่มัน GM ก็จะกำหนดว่าหากทอยได้ต่ำกว่า 50 (เกมนี้ใช้เต๋า 10 หน้า 2 ลูก ลูกนึงมีค่าหลักหน่วย ลูกนึงมีค่าหลักสิบ) จะเท่ากับฟันวืด ถ้าทอยได้สูงกว่า 80 จะโจมตีติด Critical ซึ่งขณะเดียวกันหากมังกรเป็นฝ่ายโจมตี ผู้เล่นก็จะทอยเต๋าอีกครั้งเพื่อป้องกันการโจมตีของมังกร

เกม D&D อะสนุกมาก แต่ข้อเสียคือ GM ต้องเก่ง คิด Event เก่งๆ ไม่งั้นมันจะน่าเบื่อ

ปัจจุบันเกม D&D มีข้อมูล Data เยอะมาก และนิยายแฟนตาซียุคกลางแทบจะทุกก็ใช้ Data ของเกม D&D นี่ล่ะมาเป็น Base ฉะนั้นกูกล้าพูดเลยว่า ถ้าหากศึกษาเกม D&D ได้จนถึงระดับหนึ่ง การหาข้อมูลเพื่อนำมาเขียนนิยายแฟนตาซีธีมยุคกลางนั้นจะเป็นอะไรที่ง่ายมาก

683 Nameless Fanboi Posted ID:P.DkE6P/K

>>682 เพิ่มเติม แต่หลักๆ แล้วที่คนนิยมหยิบมาใช้มากที่สุดก็คือระบบ Alignment System

Alignment System คือการออกแบบอุปลักษณะนิสัยของตัวละคร ซึ่งเป็นการแบ่งว่าตัวละครนั้นมีลักษณะนิสัยยังไง ชั่ว ดี หรือว่ากลางๆ (Good , Neutral , Evil) ทำตามกฎหรือไม่ (Lawful , Neutral , Chaotic) ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 9 แบบดังนี้ก็คือ

Lawful Good, Neutral Good, Chaotic Good

Lawful Neutral, True Neutral, Chaotic Neutral

Lawful Evil, Neutral Evil, Chaotic Evil

การแบ่งนิสัยแบบนี้ จะทำให้ง่ายต่อการสร้างตัวละครมาซักตัวนึง ซึ่งสำหรับนักเขียนแล้วกูก็แนะนำให้ลองศึกษาระบบนี้ดู เพราะมันมีประโยชน์มาก

684 Nameless Fanboi Posted ID:Hnk9LUc3/

>>682 >>683 Alignment System กูว่าเข้าใจง่ายสุดล่ะ แต่ที่เหลือไม่รู้จะเอาอะไรไปให้นิยาย นอกจากเพื่อนที่ชอบเล่นแนวนี้

685 Nameless Fanboi Posted ID:8sXUZ09XM

นิยายเรื่องวงกลมอันเหลือเชื่อ อัพหลอก เรียกเม้นต์ เขียนคำนิยมอวยตัวเอง สร้างแฟนคลับหลอกมาอวยตัวเอง ยังเหลืออะไรที่นางไม่ได้ทำอีกวะ เนียนอัพเข้าหมวดวายก็ทำมาแล้ว

686 Nameless Fanboi Posted ID:Hnk9LUc3/

>>685 แฟนฟิคหลอกคนทั้งโลกว่านิยาย

687 Nameless Fanboi Posted ID:kLxWT8WcY

>>681 กูข้องใจตรงที่จะแจกนิยายฟรี 5 เล่ม คือ...เพื่อไรวะ? เอารางวัลมาล่อแบบนี้ความเชื่อลดลงเลย

688 Nameless Fanboi Posted ID:Hob/r2V/E

>>687 เห็นคุณเธอบอกว่าให้เพราะถือเป็นน้ำใจที่อุตส่าห์ช่วย

689 Nameless Fanboi Posted ID:GbmCq50Mm

>>685 โทษนะ แต่ใครก็ได้ช่วยบอกหน่อยว่า “นิยายวงกลมอันเหลือเชื่อ” คืออะไร ขอบคุณล่วงหน้า (หรือจะหมายถึงที่บอกว่าอัพหลอก เรียกเมนต์อะไรพวกนั้น)

690 Nameless Fanboi Posted ID:u0H0c/kUM

>>689 เป็นชื่อแปลไทยของนิยายเรื่องนึงในเว็บเด็กดวกนั่นล่ะ แต่ไม่วางลิ้งค์ให้นะ เพราะเดี๋ยวไปเพิ่มยอดวิวให้มันอีก เนื้อเรื่องไม่เดินมาเป็นชาติ อัพหลอกเอาวิวอย่างเดียว

691 Nameless Fanboi Posted ID:U/T/dlx8+

มีแต่กุเปล่าที่สะใจ สมน้ำหน้าอีเด็กนั่น

692 Nameless Fanboi Posted ID:Hob/r2V/E

>>690 อ้าว เรื่องมันไม่เดินเลย? นึกว่าเอามาแปะทีคืออัพตอนใหม่แล้วซะอีก

693 Nameless Fanboi Posted ID:kLxWT8WcY

>>689 ชื่อไทยคือจักรพรรดิดวงดาว อังกฤษก็ Incredible Sphere

694 Nameless Fanboi Posted ID:Hnk9LUc3/

>>692 มันอยากดัง คนเขียนเลยไม่มีการพัฒนาตัวเอง

695 Nameless Fanboi Posted ID:vK8C8901q

ไม่ใช่คิดว่าตัวเองดังแล้วเรอะ แล้วใครก๊อปข้อความกูไปแปะกระทู้มัน ผัวไม่รักเหรอมึง กากจนคิดเองไม่เป็น

696 Nameless Fanboi Posted ID:FkdedEh/K

วงกลมเหลื่อเชื่อยังอัพหลอกได้อยู่หรอวะ มันทำไงไม่โดนแบน

697 Nameless Fanboi Posted ID:5GLsf4VxK

ไอที่สร้างคนเฟบหลอกคืออะไรเหรอ

698 Nameless Fanboi Posted ID:LcncBMV8d

อีคนนี้มันเป็นไรมากเปล่าวะ กูเห็นมันตั้งกระทู้คล้าย ๆ จะอวยตัวเอง ตบท้ายด้วยการโปรโมทมาสองทีแล้ว
https://www.dek-d.com/board/view/3813478/1/

699 Nameless Fanboi Posted ID:kLxWT8WcY

>>696 ลบตอนไงมึง ลบแล้วอัพใหม่

700 Nameless Fanboi Posted ID:e54LBaWbs

>>699 ไม่ๆ อันนั้นถ้าจำนวนคำไม่เพิ่มมากกว่าที่กำหนดก็ไม่แจ้งอยู่ดี ต่อให้ลบตอนก็ตาม

701 Nameless Fanboi Posted ID:tJoac.qON

อัพหลอกยังมีวิธีอยู่ แต่ไม่ชี้โพรงให้กระรอก อยากอยู่ในลิสนิยายเหี้ยก็หาวิธีเอา
>>697 สมัครไอดีใหม่แล้วมาอวยตัวเอง เรื่องวงกลมอันเหลือเชื่อมีคนเขียนคำนิยมซึ่งกูว่ามันแปลกมากที่แม่งจะวิจารณ์ไปในทางเดียวกันว่ะ เช่นไม่ลอกพลอตแบบติดท๊อปหมวดบางเรื่อง มีธีมแปลกๆ พลอตแปลกใหม่ซึ่งตรงกับที่คนเขียนชอบอวยตัวเองบ่อยๆ(แล้วยกมาแขวะเรื่องอื่นบ่อย) อีกข้อคือบางเรื่องคนอ่านเยอะกว่ามันยังไม่มีคำนิยมที่อวยชิบหายมากเบอร์นี้

702 Nameless Fanboi Posted ID:cVRybhz8W

>>701 อ๋อ แต๊งมากเพื่อนโม่ง

703 Nameless Fanboi Posted ID:OlBlODWms

>>701 แล้วไม่ผิดกฎเรอะ ที่สร้างไอดีใหม่อวยนิยายตัวเองไปเรื่อยๆ

704 Nameless Fanboi Posted ID:U2VaQMMpg

>>703 เขาคงไม่ตรวจสอบขนาดนั้นมั้ง

705 Nameless Fanboi Posted ID:wn68My2/I

กูกำลังเขียนนิยายเรื่องนึง เป็นเมืองที่มันมีแต่เรื่องผิดกฎหมาย เช่นยาเสพติด อั้งยี่ซ่องโจร อาชญากรรม ฆ่ากันได้แบบไม่ผิดกฎหมาย เพราะมันไม่มีกฎหมายบังคับใช้ อารมณ์เหมือนเขตปกครองพิเศษ ตั้งใจให้เหี้ยสุด ๆ ไปเลย มันมีสิทธิ์โดนแบนที่เด็กดีปะวะ ไม่งั้นจะได้ไปลงที่อื่น

กูไม่แน่ใจว่าจะผิดกฎป่าว

706 Nameless Fanboi Posted ID:OlBlODWms

>>705 ลงที่อื่นเถอะ ถึงเด็กดวกให้ความคุ้มครองนิยายขึ้นเตียง 18+ ก็เหอะ เด็กดวกแม่งสองมาตรฐานเรื่อง 18+ อยู่แล้ว

707 Nameless Fanboi Posted ID:AVLr.uPJV

>>705 กูว่ามันขึ้นกับรูปแบบการนำเสนอนะ เหมือนนิยาย 18+ อะ ถ้าไม่ได้บรรยายซะโจ๋งครึ่ง เห็นหมดทุกรูขุมขน แต่ใบ้ๆ แค่พอให้จินตนาการภาพตาม มันก็อาจพออะลุ้มอะหล่วยได้ ทีนี้ก็ขึ้นกับความสสามารถในการบรรยายแล้ว ว่าทำยังไงถึงจะสื่อในสิ่งที่ต้องการจะบอก โดยไม่ใช้คำที่ตรงเกินไป

708 Nameless Fanboi Posted ID:hKC73lFBN

>>706 >>707 แต๊งกิ้ว
จริง ๆ กูเขียนไม่เน้นเย็ดเลยนะ

709 Nameless Fanboi Posted ID:AhTcw0MIB

>>705 กุว่าขึ้นอยู่กับการเขียนวะ
ประมาณเขียนให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ไม่ลงรายละเอียดมาก ไม่น่ามีปัญหาอะไรมั้ง

710 Nameless Fanboi Posted ID:hKC73lFBN

>>709 อืม กูก็เห็นด้วยนะ วรรณคดีของไทยเรา ก็เขียนเรื่องเย็ด ๆ ให้ดูงดงามได้

711 Nameless Fanboi Posted ID:TRCaZJyjs

มันมีนิยายแนวจีนในวังที่ฮ่องเต้ง่อยมั้งไหมว่ะ เห็นมีแต่ฮ่องเต้เก่ง ๆ เต็มไปหมด เอาจริง ๆ ฮ่องเต้อ่อนแอ ๆ เต็มไปหมดในประวัติศาสตร์จีน
ใครมีแนะนำหน่อย

712 Nameless Fanboi Posted ID:x2cdTkXh7

กูว่าหายากนะ ส่วนใหญ่ในเด็กดีจะมีแต่ฮ่องเต้ฟ้าประทานเพราะพระเอกมักเป็นญาติหรือไม่ก็เป็นฮ่องเต้ซะเอง มันเลยมีแต่พวกฟ้าประทาน ไม่มีฮ่องเต้เด็กน้อยที่เป็นหุ่นเชิดของเหล่าขันทีหรือผู้มีอำนาจเลยนะ

713 Nameless Fanboi Posted ID:gUxz1n557

นั่นดิ กุได้อ่านมังงะเรื่องคิงดอมแล้วรู้สึกติดใจการหักเหลี่ยมเฉือนคมในราชสำนักระหว่างอ๋องกับเสนาบดีใหญ่ เลยอยากลองหานิยายที่คล้ายๆกันบ้าง

714 Nameless Fanboi Posted ID:OlBlODWms

ชาวเด็กดวกจะมีสักกี่คนที่รู้เข้าใจประวัติศาสตร์จีนเกี่ยวกับฮ่องเต้ เจอนิยายเสิ่นเจิ้นเยอะ

715 Nameless Fanboi Posted ID:w/Djd9G8+

อยากอ่านแนวของแท้ไปอ่านประวัติศาสตร์จริงเด้ะมึงไม่ต้องมาอ่านนิยาย
ปล.ไอ้ที่รวบรวมปัจจุบันกุคิดว่าไม่ได้ตรงซะหมด มันอยู่ที่มุมมองว่าใครเขียน
สรุปไม่มีใครเข้าใจประวัติศาสตร์จริงหรอก ขนาดเรื่องไม่กี่ปีที่ผ่านมายังไม่มีใครเข้าใจเลย

716 Nameless Fanboi Posted ID:x2cdTkXh7

[อะไรจะแย่ไปกว่าการเข้าร่างนางเอกในนิยายแนวอวยนางร้ายอีกล่ะคะ]
[https://writer.dek-d.com/pandacar/story/view.php?id=1736608]
[ผู้แต่ง : QwQ QwQ]
[4 ตอน ไม่นับแนะนำตัวละคร]

ด้วยความที่ว่ากูมีมหาลัยเรียนแล้วเลยขี้เกียจทำการบ้าน ว่างๆ เลยมาหานิยายในหมวดรักแฟนตาซีอ่าน ซึ่งมีแต่นางร้าย/วาย เต็มไปหมด แต่พอเปิดไปหลายๆ หน้าก็เจอกับเรื่องนี้เข้า กูชอบในแนวคิดของมันนะเอาตรงๆ แต่เพราะคนเขียนอายุยังน้อย [11 ปี] และเหมือนจะไม่มีเวลาเขียนยาวๆ แต่เป็นตอนสั้นๆ แทน [ราวๆ 1 หน้า A4 ละมั้ง] มันเลยกลายเป็นเรื่องที่ไม่ดีในเกณฑ์มาตราฐาน แต่ก็พออลุ่มอล่วยได้อยู่

ตอนที่ 1
เรื่องเปิดมาที่จู่ๆ ก็โยนนางเอกไปอยู่ในเหตุการณ์ที่โดนนางร้ายหาเรื่อง ตรงนี้บรรยายว่านางร้ายสวยระดับประกวดนางจักรวาล นางร้ายถามว่า
"ฉันถามว่าเธอมีสิทธิ์อะไรมาเรียกชื่อฉันตรงๆ ยัยตอแหล"
จากการคาดเดาของกู นางเอกเกมคงไปทักทายนางร้ายด้วยความเป็นมิตร แต่หลังจากนั้นจู๋ๆ นางเอกของเราก็เข้าร่าง โดยมีแต่ความทรงจำชาติก่อนเพียวๆ ไม่มีของตัวนางเอกเกมเลย แต่นางเอกของเราก็ดูจะเป็นพวกชอบเสี่ยงหน่อยๆ นะ เพราะว่าหลังจากที่นางร้ายถาม นางเอกของเราก็คิดว่า "เจ๋ง อยากเจอคนที่ถอนหมั้นเจ้าชายแล้วไม่ถูกตัดคอมานานแล้ว" แต่เพราะด้วย Common sense ละมั้ง นางเอกเลยถามว่านางร้ายชื่อไร แต่ก็โดนด่ากลับด้วยคำแรงๆ ที่เห็นได้ในนิยายนางร้าย
พอรู้ว่าถามไปไร้ประโยชน์ นางเอกของเราเลยสุ่มชื่อนางร้ายจากนิยายที่เคยอ่าน แล้วดันสุ่มขึ้นมาถูก นางร้ายชื่อ ซอล
พอนางเอกพูดไป ซอลก็โพล่งขึ้นมาเลยว่า
"เธอเป็นสามัญชน มีสิทธิอะไรมาเรียกฉันแบบนั้น ! "
"ฮะ?"
"เราสนิทกันหรือเธอจึงมีสิทธิมาเรียกฉันตรง ๆ อย่างนี้ ! "
"ฉันเห็นว่าคุณซอลชอบไล่ตบฉัน ฉันจึงคิดว่าเราสนิทกัน" [ทำไมกูคุ้นๆ เหมือนกูเคยเขียนไว้ตอนสับฉันคือ'นางร้าย'ที่'โครตร้าย'! วะ ไม่ใช่เป๊ะ แต่มันอยู่ในรูปแบบเดียวกันนะประโยคนี้ ]
ว่าจบนางเอกก็รีบใส่เกียร์หมาหนีไปก่อนที่ซอลจะระเบิดลง...

จบตอนที่ 1
เริ่มตอนที่ 2
สลับไปที่ฝั่งนางร้ายของเรื่องหรือซอลนั่นเอง โดยใช้มุมมองบุคคลที่ 3 ซอลหรือชื่อเต็มซอลเรเรียก็งงว่าปรกตินางเอกจะต้องร้องไห้ใช้มารยารอเจ้าชายมาช่วย แต่กลับกล้าพูดจาแบบนั้นกับตัวเอง แต่ก็ตัดบทด้วยการบรรยายอวดความอัจฉริยะ เก่ง มีอาชีพหลากหลายตั้งแต่หมอ วิศวะ บลาๆ มาเฟียแล้วยังเสือกเป็นตำรวจด้วย พออวดเสร็จก็จะเดินไป แต่เจ้าชายก็เข้ามาขวางแล้วถามหานางเอก นางเอกชื่อเพียร์
แต่ซอลไม่ตอบ ทำหน้าหยิ่งๆ ใส่ด้วย เลยมีบรรยายว่าเจ้าชายองค์นี้ไม่ใจร้อนหรือจริงจังกับเรื่องพวกนี้ แต่ถ้าเป็นเจ้าชายคนอื่น ซอลคงไม่พ้นโทษแน่
แต่นอกจากซอลของพวกเราจะหยิ่งๆ ไม่ตอบ พอตอบก็ไม่ตรงประเด็น จู่ๆ ประกาศถอนหมั้นดื้อๆ กลางฝูงชนเลย
เจ้าชายก็อึ้ง ไม่ได้ปวดใจอะไรนะ แต่อึ้งที่อีซอลมันกล้าทำแบบนี้โดยไม่เกรงกลัวอาญาแผ่นดินเลย เจ้าชายไม่ทันหายอึ้ง ซอลก็ด่าเจ้าชายว่าโง่ หลงมารยาหญิงแยกถูกผิดไม่ได้ อาณาจักรล่มจมแน่ ก่อนจะเดินไปด้วยท่าสวยๆ
เจ้าชายก็รู้สึกไม่พอใจที่โดนว่า เพราะ...เจ้าชายแม่งเป็นพวกรักร่วมเพศ[เกย์] ไม่ได้สนใจผู้หญิง ส่วนนางเอกหรืออีเพียร์แม่งมีหน้าที่เป็นแมงดาหาผู้ชายหล่อๆ มาให้เจ้าชายโว๊ย..

จบตอนที่ 2
เริ่มตอนที่ 3
ตัดกลับมาที่นางเอกของหมู่เฮา ที่นั่งเอ๋ออยู่ในห้องวัดพลังธาตุและรู้ว่าคาบต่อไปคือการโชว์เทพของแม่นางซอล+ยัดบทขี้อิจฉาให้สหายเพียร์น้อยของเรา ตรงนี้ก็เปิดเผยชื่อในชาติที่แล้วของนางเองว่าชื่อ พีช
พีชบรรยายว่านางร้ายจะมีธาตุเยอะแยะจนต้องใช้ ฯลฯ ส่วนเพียร์มีธาตุแสงกับพฤกษา ซึ่งธาตุพฤกษาแม่งหายากจนน้องเพียร์เราได้ทุนเข้าเรียนโรงเรียนขุนนางเพราะมีธาตุนี้ทังๆ ที่เป็นแค่สามัญชน [จริงๆ เจ้าชายก็บอกในตอน 2 แต่กูสับข้ามมา โทษที]
พอคนเริ่มเข้ามา เพียร์ก็คิดว่าจะนั่งห่างๆ กับพวกเจ้าชายเพราะอย่างจะลดความอึดอัด เลยไปนั่งกับโลลิลูกขุนนางชั้นผู้น้อยไม่ถือตัว พอซอลเข้ามา ซอลก็ไปนั่งหลังสุดตามสูตรว่า อัจฉริยะที่ไม่อยากมีเรื่อง
สักพัก อาจารย์ก็เข้ามา ไม่พูดพร่ำทำเพลงเรียกชื่อไปทดสอบพลังธาตุ เพียร์ก็งงแดกว่าเนื้อเรื่องเดินเร็วแบบไม่มีบทบรรยาย เจ้าชายออกไปเป็นคนแรก ได้ธาตุไฟตามสมัยนิยม จากนั้นก็ตามด้วยบรรดาคนจีบได้ แต่เพียร์ฟังแบบหูซ้ายทะลุขวา เลยไม่มีบทบรรยาย [ขนาดเจ้าชายที่เป็นพระเอกยังเป็นได้แค่เจ้าชายที่เป็นพระเอก]
พอถึงคราวของเพียร์ แม่นางก็ออกไปได้ธาตุ "พฤกษากับแสง ประเภทรัติกาล" เป็นสาย Heal คนก็ฮือฮากันเพราะตระกูลที่ครอบครองธาตุพฤกษาแม่งล่มสลายไปแล้ว ไม่มีทางที่จะมีธาตุพฤกษาเกิดขึ้นมาได้อีก เพียร์ก็บ่นๆ ว่าตัวเองแมรี่ ซูเหมือนกันถ้าไม่ถูกนางร้ายหรือ แม่นางซอล เปล่งแสงกลบ

จบตอนที่ 3

717 Nameless Fanboi Posted ID:x2cdTkXh7

>>716
เริ่มตอนที่ 4
โลลิที่เพียร์ไปนั่งด้วยชื่อ ลินดา แต่กูจะเรียก หนูลิน หนูลินมีพลังธาตุไฟ+น้ำ ธาตุทั้ง 2 แม่งตีกันเองจนร่างกายอ่อนแอ+ใช้พลังของทั้งสองธาตุได้ไม่เต็มที่ หนูลินถามเพียร์ว่ามึงเป็นเด็กกำพร้าใช่ไหม เพียร์ก็ตอบว่าใช่ และย้อนดูว่าทรงจำว่าเพียร์ถูกเลี้ยงโดยบาทหลวงที่ตอนนี้ไปนอนคุยเล่นๆ กับรากมะม่วงแล้ว แต่เพราะธาตุพฤกษา ทางโรงเรียนเลยให้มานอนหอ + มีทุนการศึกษาให้
พอได้ยินคำตอบ หนูก็คิดแล้วพูดว่า ธาตุพฤกษาแม่งหายาก เพียร์ก็ตอบว่าใช่ เพราะตระกูลที่ครอบครองแม่งไปคุยเล่นกับรากมะม่วงกันหมดแล้ว หนูลินเลยเปิดเผยว่า พ่อของหนูลินเป็นที่ปรึกษาให้ตระกูลพฤกษา ตอนตระกูลนี้ล่มสลายด้วยเหตุบางอย่าง พ่อของหนูลินก็ตายในวันถัดมาแบบเดียวกับที่คนในตระกูลนั้นตาย แต่ไม่บอกว่าตายแบบไหน และในบันทึกของพ่อหนูลินนั้นบอกว่า ลูกสาวคนเล็กพร้อมสามีหนีรอดไปได้
หนูลินเลยสงสัยว่าเพียร์เป็นทายาทที่ยังหลงเหลืออยู่ เพียร์ก็อึ้งแล้วบอกว่าบังเอิญมากกว่า หนูลินเลยว่า "อือ แค่เดาเฉย ๆ "
จากนั้นหนูลินก็ไม่ได้พูดอะไรแนวนี้อีก บอกว่าต่อไปเรียนวิชาอะไรแล้วขอแยกตัวไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งให้เพียร์ยืนงง
ที่เรียนอยู่สนาม แต่เพียร์เลือกเดินไปตามห้องเรียนเพราะไม่อยากทนสายตากดดันของนางร้าย

จบตอนที่ 4
สรุป
อยากที่เคยว่าไปตรงหัวเรื่อง นิยายเรื่องนี้มีแนวคิดดีนะ ว่าด้วยการที่กลายเป็นนางเอกในนิยายอวยนางร้าย กูชอบนะ แหวกแนวดีเหมือนกัน แถมยังมีปมให้สงสัยอย่างเรื่องตระกูลธาตุพฤกษาด้วยว่า ล่มไปได้ไงแล้วทำไมพ่อหนูลินถึงตายแบบเดียวกับที่คนตระกูลพฤกษาตาย มันต้องมีเงี่ยนงำ แต่ว่ามันก็น่าเสียดายเหมือนกัน เพราะนิยายเรื่องนี้สนองนี้ดคนเขียนที่เก็บกดจากพวกนิยายนางร้ายแล้วเอามาระบายในนิยายเรื่องนี้ 1 ตอนเลยสั้นมากและบทบรรยายขาดๆ เกินๆ ไม่ละเอียด คำผิดถือว่าน้อยนะ แต่ก็มีให้เห็นบ้าง ถ้าตรวจทานอีกรอบคงจะไม่เหลือให้เห็น แต่อย่างที่พูด เรื่องนี้มันสนองนี้ด มันเลยมีการตรวจทานน้อย
ตัวละคร
นอกจากตัวนางเอกหรือเพียร์แล้ว ทุกตัวคือแบนราบ ไม่มีอะไรเลย
ฉากหลัง
เป็นแฟนตาซีดาดๆ ราชา เจ้าชาย ดยุก สามัญชน ดาบ เวทมนตร์ ธาตุ ไม่มีอะไรพิเศษ เป็นของธรรมดา
เนื้อเรื่อง
พล็อตมันดีนะ แต่การนำเสนอถือว่าสอบตก คิดว่าน่าจะด้นสดด้วยเพราะคนเขียนบอกเองเลยว่าสนองนี้ด มันมีประเด็นน่าสนใจเด่นๆ ในเรื่องคือ การล่มสลายของตระกูลธาตุพฤกษา และ หนูลินที่ให้ความรู้สึกไม่น่าไว้ใจ ถ้าคนเขียนเขาตั้งใจหน่อย คงเล่นประเด็นนี้ได้สนุกกว่านางเอกในนิยายอวยนางร้าย แต่คงคาดหวังมากไม่ได้เพราะมันแค่นิยายสนองนี้ด

สรุป

คะแนนโดยรวมให้ 3.5/10
3 สำหรับนิยายทั้งเรื่อง
0.5 เพราะกูอ่านฟรี
อันนีัคือเอาตามความชอบของกู ยังไม่ผ่านแต่ก็ไม่แย่ชวนหัวร้อนแบบเจ๊ลิส มันไม่แย่แต่ก็ไม่ผ่านและนี่คือความเห็นของกู คนอื่นจะยังไงก็ไม่รู้แล้วเขาละกัน
แยกย่อยลงไปอีก
ตัวละคร 1.5/10
-นอกจากเพียร์กับหนูลิน ตัวละครอื่นก็แบนราบและไม่มีประเด็นให้สนใจ โดยเฉพาะนางร้าย...แม่งโครต parody
เนื้อเรื่อง 2/10
-อย่างน้อยที่สุด ประเด็นเรื่องตระกูลใช้ธาตุพฤกษากับการเป็นนางเอกในนิยายอวยนางร้ายก็พอดึงความสนใจกูได้บ้าง
ฉากหลัง 1.5/10
- เหมือนกับเจ๊ลิส เพราะมีกษัตริย์และกูเป็นรอยัลลิสเลยให้ 0.5 แต่เพราะเรื่องนี้ฉากหลังไม่เละเทะแบบเจ๊ลิส แต่มันก็เป็นแค่ของธรรมดาๆ เลยได้แค่ 1 รวมกันเป็น 1.5

และใช่ ที่เขียนมาทั้งหมดคือความคิดเห็นของกูคนเดียว เป็นความชอบส่วนตัวและกูไม่ว่าที่จะมีใครเห็นต่าง
ลิ้งนิยายเพื่อมีคนอยากลองไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง https://writer.dek-d.com/pandacar/story/view.php?id=1736608

718 Nameless Fanboi Posted ID:DnMRTp+39

>>717 ถถถ พาโรดี้ขนาดนี้ถ้าคนเขียนมีชั้นเชิงในการเล่าอีกหน่อยคงเป็นที่นิยมแน่ เอ๊ะ? หรือที่เขียนสั้นง่ายแบบนี้ก็พาโรดี้วิธีเขียนของพวกนิยายนางร้ายด้วยว่ะ อ๊ะ! หรือนี่จะเป็นนิยายโม่งแต่ง กูชักสับสน

719 Nameless Fanboi Posted ID:HFwrOE4bR

>>711 กูว่าส่วนใหญ่ก็ง่อยนะ สายเปย์ติดสมองขนาดนั้น ประเทศไม่ล่มนี่โคตรแปลก

720 Nameless Fanboi Posted ID:gCVrHtRYr

>>716 อ่านช่วงแรกๆกูตกใจ นี่นิยายฝั่งตรงข้ามของเรื่องเจ๊ลิสเหรอ 555

721 Nameless Fanboi Posted ID:OG1TQ.kVc

สวัสดีชาวโม่งที่รัก
ตามที่เคยจองไว้ วันนี้ถึงคิวของ

ชื่อเรื่อง: Doombringer the 5th (อ่านว่าดูมบริงเงอร์นะ ไม่ใช่ดูมบริงเกอร์)

ลิงก์: https://writer.dek-d.com/yoyotanya/story/view.php?id=1253967

สถานะ: ยังอัพเรื่อย ๆ ขยันมาก อยากได้เมียแบบเนร้จริง ๆ

เนื่องจากเรื่องนี้อยู่ในขั้นดี (แต่กูยังคงชอบยามกลีบฯมากกว่า) อาจจะเห็นกูเลียคนเขียนจนหีชุ่มได้ แต่กูไม่ลำเอียง ตรงไหนไม่ดี กูก็บ่นไปตามประสาอยู่แล้ว

บทนำ: โลกที่มีอายุสามร้อยปี

มันเป็นบทนำที่กูเพลิดเพลินมาก เหมือนอยู่ในสปาที่มีกลิ่นดอกไม้หอมอ่อน ๆ ได้ยินเพลงสมูธแจ๊สเปิดคลอเบา ๆ มีหมอนวดสาวคอยคลึงเคล้นไข่ให้อย่างเบามือตลอดเวลา หัวนมถูกดูดดุนด้วยหมอนวดอีกคน แต่น้ำยังไม่แตก แค่ปริ่ม ๆ

โลกในเรื่องนี้เนี่ย มันไม่ใช่โลกจริง ๆ มันถูกสร้างขึ้นมาใหม่หลังจากสงครามของพระเจ้าและซาตาน ซึ่งก่อนหน้านี้พระเจ้ากับซาตานท้าพนันกัน(ซาตานเป็นคนท้า) พนันว่าถ้าพวกเราสองคนไม่ไปเสือกกับพวกมนุษย์เนี่ย พวกมันจะเป็นไง จะตีกันตาย หรือจะช่วยกันทำมาหาแดกให้โลกเจริญรุ่งเรือง ซึ่งก็เป็นตามคาด ถ้าไม่มีใครไปเสือก มนุษย์แม่งก็เสื่อมลงได้เองอยู่แล้ว

พอมนุษย์แม่งตีกันจนโลกเกือบล่มสลาย (ดุจโดนเมก้าครีปแล้ว) ซาตานแม่งใจร้อน อยากวินเต็มแก่ เลยส่งปีศาจเข้าไปบุกโลก เพื่อเร่งสปีดความชิบหายให้ไวขึ้น แต่อีฝั่งพระเจ้าแม่งเติมตังมาเยอะ ถึงมีน้อยกว่า แต่แม่งเก่ง ตบเกรียนพวกปีศาจและซาตานกลับนรกได้หมด

พระเจ้าก็เห็นว่าผลจากสงครามก็ทำให้โลกนี่มันชิบหายลงกว่าเดิม ก็คงต้องสร้างโลกใหม่ให้มนุษย์อพยพไปอยู่ ก็คือโลกในเรื่องนี้แหละ โดยอนุญาตให้มนุษย์ใช้เวทมนต์ได้ด้วย เพื่อเอาไว้รับมือกับพวกปีศาจ และพระเจ้ามันยังเนิร์ฟฝั่งนรกลงอีกด้วย (ไม่รู้เนิร์ฟยังไง) ทำให้พวกปีศาจขึ้นมาบุกโลกลำบาก มันเลยต้องมีทริกนิดหน่อย คือพวกปีศาจมันจะชักจูงมนุษย์ให้เป็นดาวน์ไลน์ในการทำลายโลก โดยการแอบเปิดประตูนรกให้พวกปีศาจขึ้นมาบุกโลก ซึ่งจะเรียกมนุษย์ดาวน์ไลน์นี้ว่า "ดูมบริงเงอร์"

หลังจากเก็บรุ่นที่สามของดูมบริงเงอร์เสร็จ มนุษย์ก็ประชุมว่า เราควรจะตั้งองค์กรขึ้นมาจัดการพวกดาวน์ไลน์นี่ให้สิ้นซาก องค์กรชื่อว่า "พีซคีปเปอร์" โดยทำงานเป็นเชิงรุกด้วย คือเห็นเมืองไหนจะตีกัน พีซคีปเปอร์จะเข้าไปเสือกก่อน ให้พวกมันเลิกตีกัน ถ้าปล่อยไว้ เดี๋ยวแม่งไปสมัครเป็นดาวน์ไลน์ให้ฝั่งนรกแน่ ๆ

ซึ่งแม่งก็ได้ผลดีเยี่ยม ดาวน์ไลน์รุ่นสี่ ไม่ทันได้เกิด ก็โดนพีซคีปเปอร์แก๊งค์ตายตั้งแต่ต้นเกม

แล้วโลกก็เข้าสู่ยุคสมัยแห่งเกียรติยศอันแสนเจริญรุ่งเรือง ความชั่วร้ายต่าง ๆ ถูกกำจัดจนหมด จะกลายเป็นยูโทเปียอยู่แล้ว (กูชอบมาก เด็ก ๆ อาบน้ำให้สะอาดดี)

จบตอน

เนื่องจากคนเขียนเนี่ยแม่งอยู่ในเจนเดียวกับกู กูอ่านตอนนี้แล้วก็พอนึกออกเลยว่า มันได้กลิ่น Diablo อยู่จาง ๆ น่ารัก ๆ

มีต่อนะคะที่รัก

722 Nameless Fanboi Posted ID:OG1TQ.kVc

>>721
ต่อจ้ะ

ตอนที่ 1: เด็กผู้อยากเป็นซัมมอนเนอร์

ขอบ่นหน่อย ตอนนึงแม่งยาวเกิน กูคิดว่าคงอ่านแล้วทรมาน แต่เอาเข้าจริง มันก็ไหลลื่นเพลิน ๆ นะ เนื้อเรื่องตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมาก มีประเด็นสำคัญ ๆ ตามนี้
1. พระเอกชื่อซาล เป็นลูกของดูมบริงเงอร์คนที่สี่ ที่โดนพีซคีปเปอร์รุมแก๊งค์ได้ในวันเดียว ซึ่งตามชื่อเรื่องแล้ว มีโอกาสที่พระเอกจะกลายเป็นดูมบริงเงอร์คนที่ห้าตามรอยพ่อ พระเอกอยากเป็นนักเวทสายซัมม่อน
2. มีเพื่อนชื่อโลเฟ่น หนุ่มน้อยขี้เล่น อยากเป็นนักเวท
3. ทาลิส สาวน้อย อยากเป็น cleric สายซับ
4. อลัน หนุ่มแว่น อยากเป็นนักดาบ

เริ่มเรื่องด้วยการซัมม่อนมังกรตัวอ้วนของพระเอกตัวน้อยของเรา ซึ่งกูอ่านไปก็อมยิ้มไป การหยอกล้อระหว่างโลเฟ่นกับซาล มันให้ความรู้สึกเหมือนเด็กคุยกันจริง ๆ ไม่แก่แดดเหมือนนิยายส่วนใหญ่ที่เคยเจอ แม่งเลยโอเคอยู่สำหรับกู

และเวทมนต์ในเรื่องนี้มันก็มีลิมิตให้เห็น โดยดูได้จากแถบพลังบนสายรัดข้อมือ มีการวาดวงเวท คือกูอ่านถึงตรงนี้ ก็คิดว่าคนเขียนมันก็มีความรัดกุมอยู่พอควร ซึ่งกูก็เคยบ่นน้องเบลล์ไปว่า เวทมนต์ มันควรจะมีเงื่อนไขการใช้ หรือขอบเขตพลังให้เห็นชัดเจนบ้าง ได้แต่ภาวนาให้อีคนเขียนมันรักษามาตรฐานไว้ให้ได้ตลอดรอดฝั่ง นี่กูตั้งใจเลียแคมมึงมากบอกเลย ชุ่มฉ่ำไหมล่ะนาย

พวกพระเอกเรียนอยู่ที่โรงเรียนเวทมนต์ชื่ออีจิส ซึ่งโรงเรียนมีวงเวทครอบเอาไว้อยู่เหมือนไฟนอล 15 พวกมึงทดไว้ในใจนะ
อาจารย์ชื่อแกริส(น่าจะเป็น ผอ) มันออกข้อสอบให้นักเรียนสร้างห้องมิติที่สามารถเอาไว้เก็บของได้อย่างสะดวกสบายชิบหาย แล้วมันก็ให้สร้างห้องขนาดใหญ่อยู่ ซ่อนไซด์ไลน์ได้หลายคน แต่ไอ้พระเอกเสือกใช้พลังเวท(เกือบ)หมดไปกับการเรียกไอ้มังกรอ้วนออกมาตอนแรก พออลันเห็นสายรัดข้อมือของพระเอกว่ามีพลังเวทเหลือน้อย ไม่น่าสร้างห้องมิติได้ ก็เลยจ่ายมานาโพชันขนาดเท่าแคปซูลให้พระเอกแดก แล้วการสอบสร้างมิติเก็บไซด์ไลน์ของฝั่งพระเอกก็ผ่านฉลุย กูแอบรู้สึกถึงความเป็นแกนนำในตัวอลันนิด ๆ

สอบเสร็จก็พากันไปแดกข้าว แล้วก็เจอแบรนด์ เด็กกวนตีน ที่ล้อว่าพระเอกเป็นลูกของดูมบริงเงอร์ที่กากสัส ๆ แต่พระเอกแม่งก็น่ารัก ไม่เหวี่ยง ไม่โกรธ แต่เพื่อนพระเอกแม่งขึ้น เกือบจะมีเรื่อง แม่งง้างรอกันแล้ว แต่สุดท้ายก็มีคนมาช่วยแยกกัน

ตอนท้ายมีฉากที่อาจารย์แกริสคุยกับเจ้าหน้าที่ ที่คอยมอนิเตอร์เหล่านักเรียน ซึ่งกูรู้สึกว่า เหมือนกำลังจับตามองพระเอกอยู่ คิดว่าแม่งคงกลัวพระเอกเจริญรอยตามพ่อ

จบ

ตอนนี้ไม่มีอะไรให้บ่นมาก คือภาษามันดี ไม่เวิ่นเว้อ ไม่ประดิษฐ์ประดอย อ่านเข้าใจง่าย ใครกี่คนพูดประโยคไหนก็ไม่ทำให้กูงง สงสัยแม่งรู้กูโง่ เลยไม่ท้าทายสติปัญญากูมาก แต่มันเป็นการเปิดเรื่องที่เนิบนาบ ไม่น่าตื่นเต้น แต่มันก็น่ารักน่าหยิก ละมุนไปเรื่อย ๆ ตัวละครกลุ่มพระเอกออกมาแค่ตอนเดียว แต่กูสามารถจำได้ทันทีว่าใครนิสัยย้งไง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกูชอบเลยอวย หรือว่าคนเขียนมันเขียนดีก็ไม่รู้ แต่คิดว่าเป็นอย่างหลัง

ส่วนข้อติมันก็มีปัญหาอยู่แหละสำหรับนิยายเรื่องนี้ ไว้กูสรุปตอนท้ายทีเดียว

สรุปเปิดตัวงั้น ๆ แต่ก็พออ่านต่อได้ ไม่เครียดอะไร (ไอ้จินกวงเปิดตัวแซบกว่าเยอะ ไอ้ห่าเอ๊ย สงสัยกูแม่งเริ่มเสพติดความปัญญาอ่อนละ)

มีต่อครับ

723 Nameless Fanboi Posted ID:OG1TQ.kVc

>>722
ต่อนะที่รัก

ตอนที่ 2 การทดสอบภาคสนาม

หลังจากการสอบสร้างมิติเก็บไซด์ไลน์เสร็จแล้ว เหล่าพวกพ้องของ ซาลารัส หรือ ซาล พระเอกผู้บ้องแบ๊วของเราก็ต้องไปสอบภาคสนามต่อ คือ กูเข้าใจว่าพวกมันสอบไปเพื่อจะเป็นนักผจญภัยรุ่นเยาว์ เพื่อยกระดับตัวเองไปเรียนรู้เชิงลึกในสายอาชีพต่าง ๆ ได้ เช่น นักดาบ นักเวท นักเย็ด ฯลฯ

พวกพระเอกเดินทางไปสนามสอบโดยรถม้าโดยไอ้คนขับรถมาจะมีบททีหลัง แล้วช่วงนี้มันก็จะแนะนำอุปกรณ์เวทมนอีกชิ้น คือ แหวนสื่อสาร ซึ่งแกริสก็ติดต่อมาทางแหวนและแนะนำภารกิจคร่าว ๆ ซึ่งแม่งก็อีซี่เหลือเกิน คือ ไปเคลียร์สัตว์ประหลาดในพื้นที่ที่กำหนดให้หมด

แล้วพวกมึงจะได้เห็นการสาดสกิลของพวกพ้องพระเอกกันอย่างหนักหน่วง ราวกับมึงกำลังอยู่ในเกมออนไลน์ ใครภูมิต้านทานต่ำมึงจะอ่านข้ามไปเลยก็ได้ แต่กูขอบอกไว้ก่อนว่า จริง ๆ มันไม่ต้องบอกชื่อสกิลเวลาใช้ก็ได้ แต่ที่มันตะโกนเรียกชื่อสกิลกันอะ มันเป็นการบอกให้ทีมรู้ตัวว่าแต่ละคนกำลังจะทำอะไร ตี้จะได้วางตำแหน่งตัวเองถูกต้อง ซึ่งกูก็เข้าใจว่าคนเขียนมันออกตัวแรงกันเบียวไว้ก่อน ก็ฟังขึ้นอยู่นะ แต่อย่าให้กูเห็นมึงหลุดเวลาตัวละครคนเดียวแล้วเสือกเรียกชื่อสกิลขึ้นมานะสัส โดนกูบราซิลเลี่ยนแว๊กซ์ให้แน่

พอปราบสัตว์ประหลาดได้หมดแล้ว แม่งก็ยังไม่เคลียร์สักที สุดท้ายต้องเข้าไปในดันเจี้ยน ซึ่งดันมันมีสองแบบ
1. แบบปกติเกิดขึ้นตามธรรมชาติ
2. แบบพิเศษคือมันเป็นดันต่างมิติ ที่มีหินเวทมนต์เป็นแกนกลาง ถ้ามึงตี หรือดึงหินเวทมนต์ออกจากแกนของดัน พวกมึงจะถูกวาร์ปกลับออกมาสวย ๆ แถมหินเวทมนต์ยังขายได้ราคา เอาไปเปย์กระหรี่แอ่นลงหม้อสุกี้ได้หลายรอบอยู่ แต่ดันต่างมิติก็จะถูกทำลายลงไปด้วย

ซึ่งดันนี้ก็เป็นดันต่างมิติ ทุกคนตกลงว่าจะแยกกันตามหาหินเวทมนต์เพื่อจะออกจากดันเจี้ยน พอแยกกัน พระเอกก็ได้เจอกับคนรู้จักของพ่อพระเอก ชื่อแซนโดร ชวนพระเอกให้ตามมันไป แต่คือหน้าตาแม่งเหมือนลุงหัวกะโหลกในเรื่องเบอร์เซิร์ก เลยมีแต่ควายแค่นั้นแหละที่จะเชื่อแล้วตามมึงกลับบ้านไปด้วย ลุงเค้าก็บอกอีกว่า โรงเรียนที่มึงอยู่อะ มันไม่ได้ดีอย่างที่เห็นนะ มาอยู่กับกูเถอะ

พระเอกแม่งฉลาดไม่ยอมไปด้วยหรอก แม่งก็พยายามสู้ แต่ก็รู้ว่าสู้ไม่ได้ ก็พยายามหาทางหนีทีไล่ ให้สมุนหมาที่มันเสกขึ้นมาถ่วงเวลาลุงกะโหลกไว้ จนมันเจอกิ่งไม้ที่รองรับหินเวทมนต์อยู่ ตัดกิ่งไม้ปุ๊บ ดันก็ปิดปั๊บ ทุกคนออกมากันหมด ยกเว้นลุงหัวกะโหลก

พระเอกมันก็ไม่กล้าบอกใครว่าเจอเพื่อนพ่อ เดี๋ยวจะโดนเพ่งเล็ง

จบตอน

เข้าใจว่าตอนนี้ตั้งใจจะให้ฉากต่อสู้มาช่วยเพิ่มรสชาติ แต่กูก็ไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่ มันก็งั้น ๆ อะ ไม่ลุ้นอะไร เพราะพวกมันดูเป็นงานกันอยู่แล้ว มีแต่ไอ้โลเฟ่นที่แม่งบวกไม่ดูตาม้าตาเรืออยู่คนเดียวเนี่ยแหละ

น่าสนใจตรงเจอลุงหัวกะโหลกเนี่ยแหละ ทำให้อยากรู้ว่าโรงเรียนแม่งตกลงมีอะไรในกอไผ่ แล้วลุงเค้าอยากพาพระเอกไปทำไม ทิ้งปมแล้วปิดตอนแบบนี้ กูว่าดีนะ ทำให้อยากเสือกต่อ

มีต่อครับ

724 Nameless Fanboi Posted ID:owOxRitUL

>>723

ตอนสุดท้ายที่กูจะสับละ

ตอนที่ 3 ปราสาททราย

พาร์ทแรกจะเป็นการยัดข้อมูลของซัมมอนเนอร์ คลาสที่พระเอกอยากเป็นหนักหนาเนี่ยแหละ กูว่าถึงข้อมูลเยอะ แต่อีคนเขียนก็ทำได้โอเคนะ อ่านเพลินดี แต่สำหรับใครที่ยี้การ tell don't show อาจจะหงุดหงิดได้ กูคิดว่าเรื่องนี้ tell แบบน่าอ่าน กูไม่มีปัญหานะ

สรุปคือ คลาสซัมมอนเนอร์ห่านี้ คนส่วนใหญ่แม่งหวงวิชากัน พอไม่แชร์ ไอ้คนที่เรียนทีหลังก็ลำบาก ก็ทำให้มันไม่เกิดการถกเถียง ปรึกษา ปรับปรุงและพัฒนาให้ดีขึ้นเหมือนคลาสชาวบ้านเค้า

ความลำบากอีกอย่างคือมึงจู่ ๆ จะเรียกใครมาสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ เกิดแม่งติ้วหีอย่างเมามันอยู่เงี้ย มันก็ไม่สะดวกใช่มั้ยล่ะ แต่มันก็มีวิธีอื่นอีก คือเชิญร่างเสมือนแทน แต่มันก็ต้องทำพันธะสัญญากัน ซึ่งแม่งก็มีข้อเสียคือ ใช้พลังเวทมาก แถมร่างปลอมยังเหมือนตัวจริงเด๊ะ ๆ เกิดคนเรียกเอาไปก่ออาชญากรรม ไอ้คนถูกเรียกแม่งก็ซวย หรือมึงเงี่ยน เรียกตัวปลอมมาลวนลามเล่น มันก็จะดูไม่งามอีก คนที่จะมาทำพันธะสัญญาด้วยก็ต้องเชื่อใจไอ้คนเรียกมากพอควรเลยแหละ

(และมันมีจุดที่น่าสนใจอยู่คือซาลมันไม่สามารถทำพันธะสัญญากับเพื่อน ๆ ได้ พวกมึงทดไว้ในใจนะ)

แต่จริง ๆ พระเอกอยากอัญเชิญพวกสัตว์ประหลาด หมาป่า ฯลฯ เพื่อสร้างกองทัพเองอะไรเทือกนี้มากกว่า ซึ่งกูก็เห็นด้วย แม่งดูน่าจะมีปัญหาน้อยการกว่าการเชิญคน แต่ยังไงก็กูชอบการเชิญร่างเสมือนของคนมากกว่า จ้างแม่งทำพันธสัญญาทีเดียว เรียกร่างปลอมมาเย็ดได้ยาว ๆ คุ้มค่าสัส ๆ คิดละฟิน

แล้วพระเอกมันก็ไปจอยกับเดอะแก๊ง อลัน ทาลิส โลเฟ่น (กูชอบมาก ตัวละครพวกนี้แม่งจำง่ายดี ไม่ได้อ่านมาอาทิตย์นึง กล้บมาอ่านใหม่ยังจำได้ ว่าลักษณะท่าทางของแต่ละคนมันเป็นยังไง) ตรงนี้กูก็เห็นความฉลาดในการพูด การเปลี่ยนบรรยากาศของอลัน และความฉลาดช่างคิดของพระเอกในการหลอกถามและ กูรู้สึกว่าคนเขียนทำได้ดีนะ แต่ไม่ชอบตรงแม่งบรรบายว่าอลันหลักแหลมตรง ๆ เนี่ยแหละ กำลังจะดีอยู่แล้ว กูอ่านกูเข้าใจแล้วว่าช่วยเปลี่ยนเรื่องให้พระเอกไม่ถูกทาลิสงอน

พวกพระเอกก็ชวนกันไปทำเควสเพื่อเลื่อนระดับกัน แต่พระเอกมันไม่อยากไปด้วย เพราะกลัวเรื่องลุงหัวกะโหลกที่มันเจอในดันตอนที่แล้ว กลัวเพื่อนจะเกิดอันตรายไปด้วย แล้วมันก็ไปสืบมาอีกว่าลุงหัวกะโหลกเป็น Lich ก็อารมณ์เหมือนร่างปลดปล่อยสวัสดิกะคลาสสูงสุดของพวก Necromancer คือเปลี่ยนตัวเองเป็นกระดูก กันการโจมตี physical และ magical ได้ดี โกงสัส ๆ แถมเสกกองทัพลิ่วล้อมาได้เยอะแยะเหมือน Necromancer ใน Diablo 2 อะ เกิดทันไหมพวกมึง

พาร์ทต่อมา อีลุงกะโหลกแซนโดรแม่งมาบุกโรงเรียนเลย จุดประสงค์ก็คือจะเอาตัวพระเอกไปเนี่ยแหละ ซึ่งอีลุงผอแกริสโรงเรียนแม่งรู้อยู่แล้วว่ามันต้องการตัวพระเอก (พระเอกรู้โดยส่งลูกกระจ๊อกไปส่องดูที่หน้าโรงเรียน) ซึ่งลุงหัวกะโหลกแม่งเข้มมาก ลูกกระจ๊อกเค้าแข็งแกร่ง แถมเสกมาได้รัว ๆ ไม่จักหมดจักสิ้น ทางอาจารย์เริ่มต้านไม่ไหว ลุงผอแกริสเลยสั่งให้ลูกน้องอพยพนักเรียนโดยเฉพาะอีพวกพระเอกไปที่อื่น พระเอกมันก็สงสัยแหละ ว่าพวกมึงรู้ได้ไงว่าอีลุงกะโหลกจะมาจับตัวกูวะ แสดงว่าพวกมึงมีฮิดเด้นอะเจนด้าซ่อนอยู่แน่ ๆ ไอ้สัส

ลูกน้องของแกริสพาพวกพระเอกอพยพไปที่หอประชุม ลูกน้องคนนี้ที่ว่าชื่อพาราเวน เป็นคนที่พาพวกพระเอกไปสอบภาคสนามตอนที่แล้วแล้วนั่นแล ซึ่งพาราเวนก็เก่งพอตัวอยู่นะ สู้กับลูกกระจ๊อกของลุงหัวกะโหลกได้อย่างสบาย แต่พอเจอลุงหัวกะโหลกมาเอง แม่งก็ง่อยแดก ความเข้มของลุงหัวกะโหลกมันไร้เทียมทานอยู่แล้ว

พอพาราเวนเสียท่า โลเฟ่นกับอลันก็เข้ามาขวางลุงหัวกะโหลกไว้ ประมาณว่าข้ามศพพวกกูไปก่อนถึงจะเอาตัวพระเอกไปได้ แต่พระเอกแม่งก็ประเมินสถานการณ์ออกว่าลุงคงไม่ทำไรมันหรอก ถ้าทำ ก็ทำไปนานแล้ว เลยบอกให้เพื่อนถอยไป กูจะตามไอ้ลุงไป พวกมึงจะไม่เจ็บตัว แล้วสุดท้าย ทาลิสก็มาจับมือพระเอกไว้ อารมณ์ไม่อยากให้ไป ไอ้ลุงกะโหลกเห็นพระเอกยังอาลัยอาวรอีชะนีน้อยนี่อยู่ เลยบอกพระเอกว่า มึงตื่นได้แล้วสัส กูจะทำให้มึงตาสว่างเอง

แล้วแม่งก็ร่ายเวทเหี้ยไรไม่รู้ระเบิดวงเวทที่คลุมโรงเรียนไว้จนกระจุย แล้วพวกนักเรียนแม่งก็หายวับไปหมด แล้วมันก็เฉลยว่าพวกนักเรียนคือร่างอัญเชิญเสมือนทั้งหมด โดยมาจากวงเวทที่คลุมโรงเรียนอยู่เนี่ยแหละ นี่เป็นสาเหตุที่พระเอกทำพันธะสัญญากับเพื่อนไม่ได้ ไอ้สัสแม่งพีกมากตอนนี้ รู้สึกเหมือนที่ผ่านมาแม่งหลอกกูมาตลอดสามตอน กูขนลุกยันหมอยจริง ๆ นะ ชอบมาก ๆ

พระเอกแม่งช็อก กูก็เหมือนกัน ไอ้ห่าเอ๊ย

จบตอน (กูเข้าใจชื่อตอนนี้เลย)
และกูขอจบการสับ(สั้นๆ)ไว้แค่นี้แหละ

มีต่อ สรุปละ

725 Nameless Fanboi Posted ID:owOxRitUL

>>724
(ip เปลี่ยน เพราะกูรีเนตมิอถือใหม่มะกี้นะ)

กูขอจบการสับ(สั้นๆ)ไว้แค่นี้แหละ กูคิดว่าเรื่องนี้มันคุณค่าพอให้ติดตามเรื่อย ๆ นะ นาน ๆ จะเจอนิยายที่ทำให้กูรู้สึกสนุกสนานได้แบบนี้ ปลื้มใจจริง ๆ

แต่พวกมึงจงหลีกเลี่ยงถ้าไม่ชอบสิ่งเหล่านี้
1. มี tell not show ให้เห็นบ่อย
2. info dump เรื่องสกิล อธิบายหมดว่าสกิลนี้ ๆ แม่งทำงานยังไง รวมไปถึงการเรียกชื่อสกิลเวลาใช้งานอีก มันก็จะเบียว ๆ หน่อย ๆ
3. ไม่ชอบ RPG element

แต่ถ้าพวกมึงชอบ
1. ภาษาอ่านง่าย ไม่ประดิษฐ์ประดอย
2. เนื้อเรื่องซับซ้อน น่าติดตาม มีที่มาที่ไป
3. ชอบ RPG element แบบไม่ใช่นิยายออนไลน์จ๋า
4. คนเขียนสม่ำเสมอ
ก็จงกด Favorite โดยพลัน ที่ลิงก์ข้างล่างนี้

https://writer.dek-d.com/yoyotanya/story/view.php?id=1253967

สุดท้ายนี้ขอฝากคติธรรมเตือนใจให้เพื่อน ๆ ที่รักในห้องนี้ไว้ว่า

"โกรธคือโง่ โมโหคือเงี่ยน
ตั้งใจเรียน เวลาเงี่ยนจะได้ไม่โง่"

726 Nameless Fanboi Posted ID:7St3MDk3G

เงียบเลยวันนี้

727 Nameless Fanboi Posted ID:+/YQf3D5V

พอคุยกันนอกเรื่องก็คุยกันยาวจนร้องหาคนสับนิยาย พอมีคนมาสับนิยายก็เงียบเป็นเป่าสาก

728 Nameless Fanboi Posted ID:1L0lRnusa

เรื่องนี้กูอ่านนานมากแล้วไง ตั้งแต่อยู่ห้อง Subculture แนะ เลยปล่อยผ่านไป

729 Nameless Fanboi Posted ID:7KWYJe5K4

>>725 ขอเพิ่มอีกเรื่อง เรื่อง Doombringer นี้ บทจะปล่อยมุก มันก็ฮาอยู่นะ เช่นฉากเสกหมาตกตึกอะ ตอน 3 อะ

ส่วนตอนจบของตอนที่ 4 แม่งก็หักมุมกูอีก กูแม่งก็คิดว่าไอ้ลุงกะโหลกแม่งร่างคนเป็นตาลุงจริง ๆ ที่ไหนได้...

พวกมึงคนไหนใจถึงก็เอานิยายมาลงไว้ได้นะ กูพร้อมช่วยสับ แต่ขออ่านประมาณหกตอนพอ กูอยากฟังฟีดแบ๊กคนเขียนบ้าง รู้สึกเริ่มชอบแบบนี้ตั้งแต่ตอนได้แลกเปลี่ยนกับน้องเบลล์ละ

730 Nameless Fanboi Posted ID:k97LouPLD

>>729 แค่สามตอนก่อนได้ไหม? พอดีรีไรท์ได้แค่นั้น

731 Nameless Fanboi Posted ID:7KWYJe5K4

>>730 ได้ ๆ จัดมา

732 Nameless Fanboi Posted ID:k97LouPLD

>>731
https://my.dek-d.com/gift4869/writer/view.php?id=1616926
ขอบคุณล่วงหน้านะ
ของเราคือเคยเอามาแปะแล้วแต่เหมือนจะโดนเมินไปน่ะ (ฮา)

733 Nameless Fanboi Posted ID:7KWYJe5K4

>>732 จะสับให้ ไม่เกินสัปดาห์นี้นะจ๊ะ
ว่าแต่จิตแข็งพอนะ?

734 Nameless Fanboi Posted ID:.BGy1yd/4

ky ถ้าจิตใจแข็ง ควยต้องแข็งด้วยรึเปล่า
ปล.ไม่ได้มากวนตีน สงสัยเฉยๆ

735 Nameless Fanboi Posted ID:/i4.FHddk

>>734 แข็งได้ แต่อย่ามาสอยตูดกูเป็นพอ

736 Nameless Fanboi Posted ID:Ozn7qU2HU

>>733 เอามาเถอะๆ เราขออย่างเดียวคืออย่าหยาบเยอะก็พอ
คือถ้าไม่สับเละจริงๆ เราก็ไม่รู้หรอกว่าพลาดตรงไหน ส่วนใหญ่ที่เคยให้วิจารณ์มา พวกเขาก็บอกแค่ว่าเนื้อเรื่องกับการบรรยายดี แต่เรารู้สึกเหมือนมันไปได้มากกว่านี้ แค่ไม่รู้ว่าควรแก้ตรงไหนอะไรยังไงก่อนน่ะ

737 Nameless Fanboi Posted ID:Ow4hi9q9+

>>736 คห.เก่าที่คนอ่านบางส่วนทักมาแก้หมดยัง

738 Nameless Fanboi Posted ID:Ozn7qU2HU

>>737 ตรงนั้นแก้แล้ว และอันที่ให้อ่านคืออันที่แก้สามตอนแรกแล้ว

739 Nameless Fanboi Posted ID:DxV/T0wTz

>>736 ไม่หยาบแน่นอนจ้ะ ไม่ต้องห่วง

740 Nameless Fanboi Posted ID:uoalax1df

>>736 เห้ย กูชอบมึงว่ะ กูเคยเห็นหลายคนแม่งได้รับคำวิจารณ์ มันก็จะหลงอยู่ในคำชมเป็นพิธีที่ว่าภาษาและการบรรยายดี แล้วแม่งก็ตะคิดเข้าข้างตัวเองอยู่แบบนั้น เมินที่เขาติ ไม่พัฒนา อย่างมึงนี่คือโอเคเลย

741 Nameless Fanboi Posted ID:rfZ5GofFB

ky น้องเบลล์นี่คือใครวะ ดูเพื่อนโม่งให้ความสำคัญพูดถึงกันบ่อยๆ หรือกูตกข่าวไรไป

742 Nameless Fanboi Posted ID:2.4INLRrp

>>741 ตอนกู(โม่งเงี่ยน)สับน้องเค้าเละ แล้วมีโม่งไปเชิญน้องมาอ่าน ตอนแรกกูก็กลัวน้องเค้าเป็นลมตอนเห็นกูสับ แต่เค้าก็เข้ามารับฟังและชี้แจงดี ๆ คือดูมีอีคิวสูงอะ ไม่มีอีโก้ ตอบได้น่ารัก ฉลาด ส่วนนิยายเค้าก็ยังมีข้อบกพร่องอยู่เยอะแหละ กูแทบจะไม่ได้ชมเลยมั้ง

743 Nameless Fanboi Posted ID:356X3vuVU

>>739 ขอบคุณนะ
>>740 ส่วนตัวคิดว่าต้องมีข้อบกพร่องอยู่แล้วล่ะ ต่อให้คนอื่นมาชมว่างานดีขนาดไหนก็ต้องมีจุดอยู่ติสักที่นั่นแหละ ไม่มีอะไรในโลกที่สมบูรณ์แบบ แค่ต้องหาข้อบกพร่องให้เจอเอง (ซึ่งเราไม่ได้ตรงจุดนี่ ให้เพื่อนอ่านก็บอกโอเคๆ และเออออตามหมด ไม่ติไม่ติงอะไรเลย)

744 Nameless Fanboi Posted ID:Ow4hi9q9+

มีใครได้อ่านงานที่ได้ออกกับสนพ.อาเธน่ามั้ย หลายเรื่องเห็นออกมาเงียบๆ นักเขียนก็ไม่โปรโมตอะไรเลยว่ะ มันดีป่าววะ

745 Nameless Fanboi Posted ID:sa1u+PmkD

>>744 กูเห็นโลกเวทมนตร์ของคาออสได้ตีพิมพ์ กูก็ไม่คิดซื้องาน สนพ.นี้อ่านเลยว่ะ ไม่รู้มันเอาไปรีไรต์แล้วดีขึ้นรึเปล่านะ กูไม่ได้สนใจ

746 Nameless Fanboi Posted ID:dMCvDtqav

>>745 ถามจริงๆนะ รีไรต์กันไหวเรอะนั่น 555

747 Nameless Fanboi Posted ID:Ow4hi9q9+

>>745 มีคนซื้อคนนึงบอกว่าไม่ได้รีไรท์เลยว่ะ สงสัยแค่แก้คำผิดมั้ง

748 Nameless Fanboi Posted ID:sa1u+PmkD

>>747 เจริญ! งั้นขอให้มันขายดิบขายดี

749 Nameless Fanboi Posted ID:VD1v/6IKE

>>745 เรื่องวีอัลน่าก็ด้วย นั่นเคยมีโม่งสับแหลกอยู่ ถึงรีไรต์แลเวก็ไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ด้วย

750 Nameless Fanboi Posted ID:sa1u+PmkD

>>749 ไม่รู้จักอ่ะ มีชื่อเรื่องไหม จะไปเสิร์ชดู ว่าแย่แค่ไหน

751 Nameless Fanboi Posted ID:XyGrOq/iM

>>745 มันเป็นเรื่องยังไงวะ คาร์ออสอะไรเนี่ย กูเคยเห็นเขาขายๆ ผ่านเฟส กูก็สงสัยอยู่

752 Nameless Fanboi Posted ID:rfZ5GofFB

>>742 อ๋อ โอเค ขอบคุณมึงมาก ถ้านิสัยดีแบบนี้กูก็อยากสับให้นะ

753 Nameless Fanboi Posted ID:MkYIRle+A

>>752 น้องเบลล์ เขาคือไอดอลของโม่งห้องเด็กดวก

754 Nameless Fanboi Posted ID:.BGy1yd/4

ที่น้องเบลล์ดัง เพราะไม่ทำตัวอีโก้สูงเหมือนใครบางคน ไม่หยิ่งบ้าหยิ่งบอ คุยภาษาคนรู้เรื่อง

755 Nameless Fanboi Posted ID:rfZ5GofFB

>>753 >>754 มิน่าว่าเพื่อนโม่งถึงชอบกัน ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมนะ

756 Nameless Fanboi Posted ID:dMCvDtqav

>>751 ถ้าไม่ได้รีไรท์อะไรเลยก็ลองหาในเด็กดีดู น่าจะมีให้อ่านเป็นตัวอย่างบ้างแหละ

757 Nameless Fanboi Posted ID:dMCvDtqav

>>750 เอาคำว่าวีอัลน่าไปเสิร์จก็เจออันแรกแล้วเว้ย อ่ะแปะให้
https://my.dek-d.com/dreammychar/writer/view.php?id=502363

758 Nameless Fanboi Posted ID:z90KX7RRz

>>757 อยากอ่านที่สับอะ หาในนี้แล้วไม่เจอ https://docs.google.com/document/d/1ouFhwS9WeoBzEgYHVNYWkeUAbhQ2YkCg4ozpTpx1-94/edit

759 Nameless Fanboi Posted ID:dMCvDtqav

>>758 อ่อ ถ้าอันนั้นกูก็อยากอ่าน แต่กูลองอ่านบทแรกไม่จบว่ะ จะว่าภาษาโอเคมั้ยก็โอนะ แต่ใช้สรรพนามซ้ำๆติดๆกันแล้วมันค่อนข้างสะดุดอ่ะ

760 Nameless Fanboi Posted ID:Ow4hi9q9+

>>759 >>758 วีอัลน่ากูเคยอ่านก่อนรีไรท์ อยากจะพูดว่าแม่งแก้เหี้ยนเลยว่ะ แล้วเสือกชนกับพล๊อตหลังๆอีก คาดว่าได้แก้กันบานเลย บิบิ ที่แน่ๆกูเกลียดนางเอกเรื่องนี้เหี้ยๆ คนเขียนอวยว่าน่าสงสารเหี้ยๆแต่กูมองว่าแม่งเหี้ยจากภายในสู่ภายนอกเลยว่ะ ถือว่าเก่งที่ทำให้กูเกลียดตัวละครสักคนได้ขนาดนี้

761 Nameless Fanboi Posted ID:jN6T6N80+

>>758 กูไปคุ้ยมาให้ อยู่มู้สองแนะ
https://fanboi.ch/webnovel/2703/898-/

762 Nameless Fanboi Posted ID:9HJF.xEF7

>>757 ขอบใจ เดี๋ยวจะเข้าไปเบิ่ง

763 Nameless Fanboi Posted ID:jN6T6N80+

>>760 แต่ฉวัวะ กับการใช้เน้นหนา ยังไม่แก่นะมึง เปลี่ยนสนพ.แล้วบก.ไม่แก้ให้หน่อยเหรอวะ

764 Nameless Fanboi Posted ID:Ow4hi9q9+

>>763 คิดว่าไม่มีปัญหามั้งเลยไม่แก้ กูล่ะกลัวใจการโปรโมทสนพ.นี้มากกว่าอีกมึง นักเขียนไม่ขายงานเลย ปกติกูเห็นนักเขียนสแปมรัวๆอะไรรัวๆ นี่เงียบกริ๊บ

765 Nameless Fanboi Posted ID:HFgrU7AE.

>>764 แต่ค่อนข้างลงทุนปกน่าดูเลยนะ งามๆทั้งนั้น สนพ นี้

766 Nameless Fanboi Posted ID:z90KX7RRz

>>761 ใจมาก

767 Nameless Fanboi Posted ID:z90KX7RRz

คือกูเปิดอ่านได้สองบทก็เลิกอะ กูเลยอยากรู้ว่าคนที่เค้าว่ามันสนุก หรือไม่สนุกมันเป็นยังไง

768 Nameless Fanboi Posted ID:wd.uyJNKx

>>698 อีนี่อีกล่ะ เนียนโปรโมต นี่รอบที่สามล่ะ มันเป็นไรมากเปล่าไม่รู้นะ แต่ที่รู้คือกูเป็นมากล่ะ (หมั่นไส้อยู่หลังคีย์บอร์ด)
https://www.dek-d.com/board/view/3814155/

769 Nameless Fanboi Posted ID:JcT48IPWy

>>768 ช่างมันเหอะ ไม่ต้องสนใจหรอก

770 Nameless Fanboi Posted ID:30lWyY/1Q

มึงช่วยด่าให้กูมีแรงเขียนนิยายทีดิวะ คือกูร้างลามาหลายปีเพราะเรื่องเรียนตอนนี้อยากกลับมาต่อแต่กูไม่รู้จะต่ออารมณ์ยังไงเว้ย คือเหมือนกูไม่มั่นใจในตัวเองว่ะแต่ในใจกูก็อยากจะเขียนต่อนะแบบรีทั้งหมดเลยอ่ะ พอกูกลับมาอ่านคอมเม้นต์มันก็ฮึดเป็นพักๆนะเพราะกูร้างไปหลายปีมากก็ยังอุตส่ามาถามถึงอยู่ แต่อีกใจกูก็ไม่มั่นใจว่ะเพราะพี่กูแท้ๆมันเคยบอกว่านิิยายกูเหี้ยมาก แต่กูก็คิดว่ามันพัฒนากันได้แค่ฟังคำติแล้วแก้ไขแต่พี่กูอ่านไปครั้งเดียวก็ไม่ให้โอกาสกูเลยแล้วตอนกูเขียนก็แค่เด็กประถมป่่าววะตอนนี้กูจะจบมหาลัยอยู่แล้วให้โอกาสกูไม่ได้รึไงวะ กูแค่อยากได้คำแนะนำที่หลากหลายที่ผ่านมาใครสับนิยายกูไม่เคยโกรธเลยกูบูชาด้วยซ้ำเพราะกูอยากพัฒนา แต่ตอนนี้กูล้าว่ะช่วยด่าดึงสติิให้กูฮึดที

771 Nameless Fanboi Posted ID:JcT48IPWy

>>770 เขียนไปเหอะ ขอให้มึงใส่จิตวิญญาณในเรื่อง แล้วคิดว่าถ้ามึงเป็นตัวละครโลดแล่นในโลกของมึง มึงจะทำยังไง ถ้ามึงไม่กังวลว่าต้องได้ยอดแฟนคลับ หรือ คนอ่านเร็วพรวดพราดล่ะก็นะ สำคัญที่สุดคือมึงมีความสุขตอนเขียนเปล่า อย่ากังวลเรื่องว่ากุต้องดังเร็ว บ้าโปรโมต จนลืมโลกในนิยายของตัวเอง

772 Nameless Fanboi Posted ID:3PE0ot/CW

>>770 ถ้ามึงยังจัดการกับกระบวนการความคิดและอารมณ์มึงไม่ได้ มึงก็อย่าเขียนเลยว่ะ ไปหาอย่างอื่นทำเถอะ ไปเล่นเกม ไปดูทีวีดูหนังดูการ์ตูนเถอะ

773 Nameless Fanboi Posted ID:cO.WNLh8k

>>770 ลองหาเรื่องใหม่เขียนดู บางทีเพราะเรื่องเก่ามึงทิ้งมานาน ความรู้สึกอะไรก็ไม่เหมือนเดิม ถึงจะรู้สึกว่ายังผูกพันกับเรื่องเก่า แต่ถ้าฝืนเขียนออกมาแม่งก็แค่ภาระอย่างนึงนะ

774 Nameless Fanboi Posted ID:9e8.vmopW

>>770 เอามาให้กูช่วยดูมั้ย กูช่วยแนะนำได้นะ อย่าท้อเลย

นิยายเรื่องแรกของกูนี่อาจจะเหี้ยกว่าของมึงอีกนะ 555 ขนาดกูเขียนตอนอยู่ ปี 4 นะ

775 Nameless Fanboi Posted ID:DcbSSQ2qF

พวกมึงยังดี กูร้างราไปเกือบๆ 10 ปี ก่อนจะกลับมาเขียนหลังจบมหาลัยฯ
ปัจจุบันกุต้องเผชิญกับความจริงและหยุดเขียนเพราะงานมันล้นมือ orz

776 Nameless Fanboi Posted ID:rYs5qk8DQ

พวกมึงยังดี กูจดๆพล็อตไว้ในมือถือกะว่าว่างๆจะเขียน ทุกวันนี้ยังไม่ได้เขียนสักเรื่อง มีแต่พล็อต ชื่อตัวละคร ประวัติคร่าวๆ

777 Nameless Fanboi Posted ID:KmiER+nMR

ขอบคุณเหล่าโม่งที่แนะนำ>>772 ใช่เพราะยังจัดการความคิิดไม่ได้กูเลยยังไม่เขียนนี่แหละ>>774 เอาไว้กูเริ่มเขียนจะมาให้พวกมึงสับแน่นอนถึงเวลานั้นก็สับเต็มที่เลยอย่าเมินกูพอ มึงก็ถ่อมตัวเกินเอาฝีมือตอนปี4มาเทียบกับตอนกูเด็กแล้วบอกว่าอาจเหี้ยกว่า555 คิดไปได้ ผลงานกูไม่ได้ครึ่งของมึงหรอก
ขอบคุณอีกครั้งที่ช่วยกันแนะนำ

778 Nameless Fanboi Posted ID:oidb22tbs

กูมีเรื่องที่คาใจ ทำไมพวกนิยายนางร้ายถึงต้องมีหน้าแนะนำตัวละครวะ?

779 Nameless Fanboi Posted ID:NMudQ94A2

>>778 แม่งเป็นสไตล์ของพวกที่ไม่มีปัญญาบรรยายให้คนอ่านวาดภาพตัวละครในหัวได้ คล้ายพวกนิยายแฟนตาซี ที่หน้าแรกแม่งต้องสาธยายระดับขั้นพลัง ลามไปยันชื่ออาณาจักร

780 Nameless Fanboi Posted ID:BnO5S0/bi

จริงๆ กูว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องผิดนะ มันก็เป็นแนวทางนึง โอเคละว่ามันอาจจะไม่ใช่วรรณกรรมชั้นสูง แต่ถ้าใช้ดีๆ ก็ช่วยดันเรื่องได้เหมือนกัน

781 Nameless Fanboi Posted ID:q23oDZLDX

ในนี้ไม่สับนิยายรักกันเหรอวะ ช่วงนี้กูเห็นขึ้นท็อปพรึบพรับ

782 Nameless Fanboi Posted ID:Ef+ShzFQA

>>779 มึงก็คิดในแง่ร้ายไป กุก็ทำไม่เห็นเป็นแบบมึงว่า ไม่ใช่ไรกูกันตัวเองลืมตัวละคร ไม่คนอ่านก็ลืมว่าอีนี่ใครวะ อ่านนิยายบางเรื่องแม่งไม่มีและตังละครเพิ่มมึงรุ้มั้ยลำบากแรมในหัวกูแค่ไหน

783 Nameless Fanboi Posted ID:zffd7Mm+6

>>781 กูเห็นมีโม่งหญิงอยู่คนนึงนี่ ที่ชอบสับนิยายรัก

784 Nameless Fanboi Posted ID:ZwjgvjcmN

มือใหม่ก็งี้แหละ แปะหน้าตัวละคร ระดับพลัง อาณาจักร ชนชั้น อาชีพ ฯลฯ ไว้บนหน้านิยาย ยังไม่พอ ยังแปะ infodump ในตอนทำเหี้นไร

785 Nameless Fanboi Posted ID:7pdv7OcgZ

>>784 เขาเขียนบทเฉลยเกมภาษาปะมึง

786 Nameless Fanboi Posted ID:.xqKPr6iv

บทแนะนำตัวละคร , อาณาจักร กูพอเข้าใจ เพราะบางทีคนเขียนมันอาจจะอยากให้ดูเหมือน LN บรรยายง่ายๆ ให้แล้วคนอ่านไปจินตนาการตามภาพเอา
แต่ระดับพลังงี้ กูเองก็งงว่ามึงจะเขียนมาทำซากอะไรในเมื่อพวกมึงไม่ได้ใช้!? กูเห็นเรื่องไหนเขียนระดับพลังเอาไว้ สุดท้ายแม่งก็ใช้เกินระดับที่กำหนดเอาไว้ทุกทีล่ะ

787 Nameless Fanboi Posted ID:T4kcbkinT

ค่าพลังไม่มีประโยชน์หรอก ยังไงโลกก็หมุนรอบตัวพระเอกอยู่แล้ว มีเพียงพลังเมพของพระเอกและลูกกระจ๊อกไว้ให้เตะกระเด็นเท่านั้น

788 Nameless Fanboi Posted ID:VO5jrT+Gs

แปะไว้เรียกนักอ่านเหมือนแมวกวัก แล้วมันก็ได้ผลจริงๆนะ 555

789 Nameless Fanboi Posted ID:ZwjgvjcmN

>>785 ไม่ เว็บเด็กดวกนี่แหละ เรื้อรังตั้งแต่ยุคเกมออนไลน์ บางเรื่องเขียนมายังกะเขียนเกม

790 Nameless Fanboi Posted ID:oi6CT6lbC

ถ้าป้าเจเคเขียนค่าพลัง มันจะออกมาดป็นไงบ้างวะ

791 Nameless Fanboi Posted ID:cH0vs8BvG

>>791 คิดว่าจะมาเป็นกราฟพารามิเตอร์บอกว่าใครถนัดด้านไหน
ความอึด-พละกำลัง-พลังเวท-สติปัญญา-คุณธรรมนำใจ
แฮร์รี่จะมีทุกค่าอยู่กึ่งกลางยกเว้นคุณธรรมที่สูงลิ่ว ส่วนท่านลอร์ดจะมีทุกค่าพุ่งทะลุกราฟ ยกเว้นคุณธรรมที่ต่ำจนย้อนกลับเป็นสีดำ

792 Nameless Fanboi Posted ID:oi6CT6lbC

>>791 ตอบ >>791

793 Nameless Fanboi Posted ID:ZwjgvjcmN

>>791 >>792 INCEPTION

794 Nameless Fanboi Posted ID:ZwjgvjcmN

ป้าเจเคแย่งความดีความชอบ จนเด็กติดเกมสามารถเขียนนิยายเหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว SAO กับ The King's Avatar เป็นลูกเมียน้อย

795 Nameless Fanboi Posted ID:PS5pP+nXJ

เพื่อนโม่งๆ กูเห็นหน้าเพจเด็กดีแชร์นิยายเรื่อง "เกมต้องมนต์" กูเลยลองกดดู เห็นเขียนแนะนำเรื่องไว้อย่างกับแนวลึกลับ กูลองอ่านตอนแรกดู จากป้าช้าน้ำมันพรายกลายเป็นตัวละครเกม มีเลเวล สเตตัส มีช่องเก็บไอเท็ม กูนี่เลิกอ่านเลย แม่งเอ้ย นิยายแนะนำนี่ทำกูผิดหวังต่อเนื่องเป็นคอมโบรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้แล้ว คงเป็นกูที่ผิดเองดันหวังมากไปหน่อยว่านิยายแนะนำจะต้องมีอะไรดีสักอย่าง สรุปคือปิดตอนขายคอยน์แล้วขายดีเลยได้แชร์เท่านั้นเอง

/me กุมขมับนอกโม่ง

796 Nameless Fanboi Posted ID:ZwjgvjcmN

>>795 ถ้ากูเป็นทีมงาน กูตกอยู่สภาพกลืนน้ำลายไม่เข้าคายไม่ออกล่ะ นิยายเด็กดวกยุคนี้คุณตะพาบจริงๆ

797 Nameless Fanboi Posted ID:UAe9/Y7dd

>>794 ป้าแกเด่นเรื่องสร้าง "โลกเล็กๆ = เกาะอังกฤษ" ของแกนะ แต่พอสเกลขยายมาเป็นทั้งโลกนี่ดิ่งลงเหวเลย

798 Nameless Fanboi Posted ID:ZwjgvjcmN

>>797 พูดถึง กูนึกสมัยเด็กว่าเคยมีบางเรื่องสร้างโลกสเกลใหญ่เว่อร์แค่ใช้แค่ขี้เล็บว่ะ เช่น มีคนบอกตัวเอกว่าต้องตามไปรวบรวมของทั้งหมด มิฉะนั้น โลกจะถึงกาลอวสาน แต่ทั้งเรื่องวนเวียนอยู่แค่พื้นที่อำเภอเดียวจบ ไอ้เหี้ย คนบอกแม่งขี้โม้ทั้งเพ่

799 Nameless Fanboi Posted ID:cH0vs8BvG

>>792 ขอโทษที กูกดแท็กไม่ได้เลยพิมพ์เอาแล้วลืมเช็ค ลองมาหลายรอบละ
>>795 คิดงั้นเหมือนกันแหละ อย่างน้อยก็ถึงเวลารีไรท์แก้คำผิดและเช็ครูปประโยคสักรอบได้แล้วมั้ง เด็กห้าขวบสมัยนี้พูดข้ากันแล้วเหรอ

800 Nameless Fanboi Posted ID:d4cB5hYH1

พวกมึงว่าเด็กดวกจะมีนิยายคุณภาพโผล่มาอีกมั้ย แล้วเรื่องอะไรที่มึงมองว่าเป็นนิยายคุณภาพของเด็กดวกขอสาเหตุด้วยนะกูแค่อยากรู้ว่าในสายตาพวกมึงต้องประมาณไหนกูได้ตามไปอ่านด้วย

801 Nameless Fanboi Posted ID:UtQp5zXr6

>>800 https://writer.dek-d.com/nanaalice555/story/view.php?id=1551362 เรื่องนี้ พอเทียบกับนางร้ายเรื่องอื่นๆ ในหมวดรักแฟนตาซี กูว่าอันนี้ถือว่าคุณภาพแล้ว อย่างน้อยสุดก็ในมาตราฐานของกูเอง

802 Nameless Fanboi Posted ID:Vx3Cze6pj

>>801 แต่มึงสะกดมาตรฐานผิดนะ...

803 Nameless Fanboi Posted ID:T4kcbkinT

>>799 กุเคยเห็นเด็กอนุบาลสมัยนี้พูด กุ มึง ... มีด่าควย ไอ้เหี้ยด้วย

804 Nameless Fanboi Posted ID:UtQp5zXr6

>>802 แค่สระ า ตัวเดียวเอง

805 Nameless Fanboi Posted ID:UtQp5zXr6

อีกอย่าง กูเห็นในนี้ก็พิมพ์เกิน พิมพ์ผิด พิมพ์ตก ตั้งหลายคน จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ดี แต่ทำไมต้องเป็นกูที่โดนจับผิดวะ?

806 Nameless Fanboi Posted ID:gYuy9GlYv

>>805 มาแล้วไงตรรกะกุผิดคนอื่นก้อต้องผิดด้วย มึงโง่จริงหรือโง่จังวะ มันทักเพราะมึงผิดทิ่มลูกตามันไง คนอื่นผิดแต่มันไม่เห็นจะให้ย้อนกลับไปด่ารึไง คิดดิคิดสัส อย่าเกรียนแถวนี้ ยอมรับก้อจบ ไม่รับก้อเงียบปาก ลากคนอื่นลงเหวกับมึง มึงก้อไม่ถูกขึ้นมาหรอกโม่งง่าว

807 Nameless Fanboi Posted ID:UtQp5zXr6

>>806 ได้ มึงพิมพ์ ก็ ให้มันถูกด้วยนะ มันผิดจนทิ่มลูกตาทะลุถึงตาคนข้างหลังเลย

808 Nameless Fanboi Posted ID:H2dECouH2

สัส ชักเริ่มออกนอกประเด็นละ แยกย้าย เลิก เดี๋ยวมู้กลายพันธุ์อีก
>>799 ถ้าเป็นยุคสมัยก่อนแบบโบราณไฟฟ้าไม่มีนี่ยังมีใช้อยู่แหละ สมัยก่อนสรรพนามไม่หลากหลายแบบตอนนี้ไง มีแค่ท่าน ข้า เจ้า ไม่แปลกหรอกถ้าเด็กห้าขวบจะพูดแบบนี้ พอโลกเริ่มพัฒนาขึ้นหน่อยถึงเริ่มมีสรรพนามมากขึ้น แต่นิยายนี่มันก็ขึ้นกับว่าเซ็ตติ้งโลกยุคไหนแนวไหนนั่นแหละ โลกมีเทคโนโลยีเลิศล้ำขี่สกูตเตอร์ลอยฟ้าได้ เด็กสิบขวบมาเรียกว่าข้านี่น่าถีบ หยาบคาย เว้นแต่จะใส่เหตุผลมาส่าเป็นคนแก่แอ๊บเด็กอายุเฉียดพันแต่ใช้ร่างเด็กน้อย

809 Nameless Fanboi Posted ID:gYuy9GlYv

>>807 กุยอมรับกุขี้เกียจกดชิฟเองมีไรป่ะวะ กุไม่งอแงลากใครมาผิดด้วยอยุ่แล้วว่ะ

810 Nameless Fanboi Posted ID:UtQp5zXr6

>>808 จะว่าไปแล้ว ประเทศไทยเราเลิกใช้ ข้า เจ้า ตอนไหน ตอนยุคจอมพล ป. หรือเปล่า? หรือตอนเข้ายุครัตนโกสินทร์

811 Nameless Fanboi Posted ID:n5OcGnroZ

>>810 ข้ากูยังเห็นใช้เรื่อยๆนะ แบบ ข้ากับเอ็งอะไรงี้อ่ะ รุ่นพ่อกูก็ยังเห็นใช้คุยกับเพื่อนอยู่เลย

812 Nameless Fanboi Posted ID:NfDtmxbTa

>>809 เวลาแซะ ด่าคนอื่นโง่ ทำงานชุ่ย ขาดจิตสำนึกนักเขียนหรืออะไรทำนองนี้ในขณะที่ตัวเองพิมพ์ผิดมันแปลกไง ถ้าไม่ไปแซะเขาว่าเขาก่อนก็ไม่แปลกหรอก ถ้าจะติติงก็ควรพิมพ์ให้ถูก ยิ่งผิดแบบตั้งใจผิดอยู่แล้วคนโดนแซะแต่แรกก็ต้องอารมณ์ขึ้นเป็นธรรมดา กูเห็นเป็นกันหลายห้อง คนอื่นผิดกูด่าได้ แต่กูผิดแล้วกูก็รู้ด้วยว่าที่ทำอยู่มันผิดแต่กูตั้งใจ พวกมึงมีปัญหาอะไรกับกูหรือเปล่า กูคิดว่ามันแปลกนะ มึงไม่คิดว่ามันแปลกหรือ
>>805 มึงก็ใจแคบไปนิดหน่อย คนติงเขาก็ไม่รู้ว่ามึงเป็นใคร กูเห็นหลายคนเขียนผิดเพราะเข้าใจผิดมานาน เข้าใจว่าที่เคยเขียนไว้ถูกแล้ว บางทีก็ไม่ใช่คำยาก เขาอาจจะหวังดี หรือจริงๆ มึงอาจจะพิมพ์เกินก็ได้ >>802 ก็ไม่ได้เปิดมาด่ามึงเลยแต่แรก กูคิดว่าถ้าคนเราทำผิดก็บอกกล่าวสักคำ ขอโทษทีนะ กูพิมพ์เกินเอง ขอบใจมาก หรืออะไรทำนองนี้ โดนติงถ้าทบทวนดูแล้วเป็นเหตุเป็นผลก็ไม่ควรใช้อารมณ์โต้ตอบ ไม่อย่างนั้นคราวหน้าก็ไม่มีใครอยากติงมึงอีก แบบนี้มึงก็จะไม่รู้ข้อผิดพลาดของตัวเอง แต่ถ้าด่ามึงก่อนเลยนี่อารมณ์ขึ้นกูก็ไม่แปลกใจหรอก ถึงจะใช้เหตุผลตามหลังแต่พิมพ์มาชวนวิวาทแต่แรกกูเองก็ไม่ค่อยอยากคุยดีตอบ

813 Nameless Fanboi Posted ID:UtQp5zXr6

>>812 กู 805 นะ กูเข้าใจแล้วล่ะ ช่วงนี้รู้สึกหัวเสียง่าย
กูขอโทษ 802 ด้วยนะถ้ายังอยู่ กูผิดเองแหละที่พิมพ์เกิน+หัวร้อนใส่มึงอะ

814 Nameless Fanboi Posted ID:RT+g4bly6

กูแค่อ่านแล้วมองบนอย่างเดียว

815 Nameless Fanboi Posted ID:d4cB5hYH1

มึงกูแค่มาถามหานิยายคุณภาพในสายตาพวกโม่งไม่ได้มาเป็นสาเหตุให้พวกมึงตีกัน กูคห.ที่>>800 แล้วมีใครจะแนะนำอีกมั้ยเรื่องที่คุณภาพอ่ะ

816 Nameless Fanboi Posted ID:XnXMIDaIs

ไม่เข้ามาดูแป้บเดียว ทำไมด่ากันเฉยเลยวะ

817 Nameless Fanboi Posted ID:sva1H4ie0

ไม่ได้จะนินทานะ แต่สงสัยว่า บทนำคืออะไร?

https://www.dek-d.com/board/view/3814416/

818 Nameless Fanboi Posted ID:36+FmIdjJ

>>817 บทเปิดเรื่อง First impression ที่จะทำให้คนมาสนใจ เป็นได้ทั้งเรื่องย่อ Lore หรือดักควาย

819 Nameless Fanboi Posted ID:xx9cRJdwj

>>817 อ่านไม่รู้เรื่อง

820 Nameless Fanboi Posted ID:zkDmxl.Wv

บทนำนี่ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ใช่ป่ะ

821 Nameless Fanboi Posted ID:xx9cRJdwj

>>820 บางร้านอาหารไม่มีออร์เดิฟ บางร้านสั่งเมนูหลักจานเดียวทานได้เลย

822 Nameless Fanboi Posted ID:Mg6wG.q22

บทนำไม่ใช่เนื้อเรื่องจริง

823 Nameless Fanboi Posted ID:3HG7nBRcO

>>822 อธิบายเพิ่มหน่อยได้ไหม

824 Nameless Fanboi Posted ID:jMaoHBOzN

>>823 ส่วนใหญ่บทนำ (แต่ไม่จำเป็นต้องแบบนี้ก็ได้นะ) คือมักจะเขียนก่อนเนื้อเรื่องจริงๆ ตัวละครส่วนใหญ่ไม่มีบทในเนื้อเรื่องหลัก ถึงมีก็อาจมาหลังๆเลย หรือ กล่าวถึงเฉยๆ

825 Nameless Fanboi Posted ID:Odn7n2lKA

ถ้าแนวเกิดใหม่ไปต่างโลกมักจะไม่มีบทนำ เพราะตัวเอกจะต้องไม่รู้เหี้ยอะไรเลยในอีกโลก
ถ้ามีบทนำส่วนใหญ่ก็แค่เปรยว่าชาติก่อนเป็นใคร ทำอะไร ทำไมถึงตาย แค่นั้นล่ะ

826 Nameless Fanboi Posted ID:bY9K3UWyT

>>825 อันนี้กูถามหน่อยนะ แนวต่างโลกมันมีเรื่องไหนที่บทนำเอาจุดพีคของเรื่องมาปล่อยของมะ เห็นแต่มีบทนำแบบน่าเบื่อๆ อ่านไปเลยไม่ค่อยอินเท่าไหร่

827 Nameless Fanboi Posted ID:Mg6wG.q22

>>823 เพิ่งกลับบ้าน โทษที แต่ >>824 ตอบไปแล้ว
>>825 ถ้าตัดประเด็นชาติก่อนออกไปทำเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นเลยจะดีมาก แม่งเขียนไม่ต่างจากหนีความจริงวะ
>>826 เฉพาะนิยาย ไม่มีว่ะ ถ้านอกเหนือจากนิยายละก็มังงะ Final Fantasy Lost Stranger เข้าท่าสุด ขนาดกูไม่ใช่แฟนบอยเกม ถ้าทนอ่านตอนชาติก่อนไปได้ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง เป็นเรื่องเดียวที่กูเลิกอคติประเด็นชาติก่อนเลย นิยายเด็กดวกเกิดใหม่ต่างโลกต้องหลบชิดซ้าย

828 Nameless Fanboi Posted ID:S+Mftn.sc

คิดไปคิดมา เขียนบทนำให้น่าสนใจมันยากกว่าการเขียนเนื้อเรื่องหลักสินะ

829 Nameless Fanboi Posted ID:Odn7n2lKA

>>826 นิยายกูที่กำลังเขียนเอาจุดพีคมาปล่อยก่อนเลย
แต่ดูเหมือนต้องแก้อีกยาว เพราะพล็อตมันยาวเกินไป

830 Nameless Fanboi Posted ID:bY9K3UWyT

>>827 เดี๋ยวไปหาอ่านมั่ง ท่าจะน่าอ่านว่ะ
>>829 ขออ่านได้มั้ย55555 กูกำลังอยากอ่านอนวนี้อ่ะ

831 Nameless Fanboi Posted ID:PuhkfEpWJ

>>829 เหมือนกันเลย กำลังกลุ้มอยู่เนี้ย มีพล็อตในหัวแต่กลัวสื่อออกมาไม่ดี ยิ่งปมเยอะกลัวคลายปมเนื้อเรื่องไม่สอดคล้องกันอีก

832 Nameless Fanboi Posted ID:Mg6wG.q22

เงิบ แฟนฟิคแฮรี่พ่องตาย https://www.blognone.com/node/98342

833 Nameless Fanboi Posted ID:8KdI1rrvx

>>832 กุรู้สึกไม่ดาร์คว่ะ มันตลกมากกว่า 555 เหมือนเป็นพาโรดี้กุโระอ่ะ สำหรับกุแค่ใส่ฉากเลือดสาด ไม่ได้หมายความว่ามันดาร์คทันที ซูโทเปียไม่จำเป็นต้องหลั่งเลือด แต่สภาพสังคมในหนังก็ทำให้มันดูดาร์คได้

834 Nameless Fanboi Posted ID:ytyiQITo6

>>829 เหมียนกัน ตอนนี้เลยแก้ยาว แม่มเอ้ย กุไม่น่าเฉลยตั้งแต่บทนำเลย

835 Nameless Fanboi Posted ID:TdG1pymIP

>>830 >>831 >>834 นี่กู >>829 นะ คือตอนนี้กูกังวลว่าควรจะเอายังไงดี ระหว่างควรเขียนต่อหรือว่ารื้อเขียนใหม่หมดเลยดี

ตอนแรกวางเอาไว้ว่าจะเขียนราวๆ 300 หน้าจบภาค (ประมาณ 40 ตอน) แต่ตอนนี้เขียนได้แค่ 2/3 เท่านั้นก็ปาไป 400 หน้าแล้ว (เกือบๆ 60 ตอน) ถ้าขืนเขียนต่อจนจบเล่มนี่คงตกที่ราวๆ 600 หน้า (น่าจะ 80 ตอนได้) ซึ่งไม่รู้ว่าเยอะเกินไปรึเปล่า

ดันใช้ Show เยอะเกินไป แถมกูมีนิสัยเสียชอบบรรยายยาวด้วย ตอนนี้เลยยังไม่กล้าอัพลงเว็ปอะ เขียนเองกลุ้มเอง ให้ตายสิ

836 Nameless Fanboi Posted ID:FeacTOesH

>>835 ลองตัดฉากที่คิดว่าไม่ได้ใช้หรือจำเป็นในอนาคตออกยัง?

837 Nameless Fanboi Posted ID:FeacTOesH

>>835 แล้วก็การบรรยายบางอย่างก็ไม่ต้องใช้ Show ทั้งหมดก็ได้ แบบประมาณไม่ต้องบรรยายความง่วงตอนตื่นมาอะไรอย่างนั้นน่ะ

838 Nameless Fanboi Posted ID:i14obU99V

>>833 ซูโทเปีย what!!

839 Nameless Fanboi Posted ID:XtAtHOmxi

>>838 ซูโทเปีย ถ้าวิเคราะห์ดีๆ อะ แม่งโครตดาร์คเลยนะเว๊ย

840 Nameless Fanboi Posted ID:Qscfv4iTq

>>838 มันแฝงการ Racist ในสังคมเว้ย แล้วมีด้านการใช้สื่อสร้างความกลัวเพื่อเป็นฐานอำนาจอีก (แผนการนางแกะตอนท้ายอ่ะ) มีอีกนะ กุยกแค่เด่นๆมา

841 Nameless Fanboi Posted ID:TdG1pymIP

>>837 นั่นล่ะสาเหตุที่ต้องเขียนใหม่ - - เพราะดัน show เรียบตามสไตล์หนังสือแปลของฝรั่งเลย

>>838 ซูโทเปีย ก็ไม่เชิงดาร์กนะแต่มันเสียดสีสังคมน่ะ เหมือนที่ >>840 บอกมันแฝง Racist เยอะมาก ถ้าสมมุติให้พวกกินเนื้อเป็นคนดำ แล้วอยู่มาวันนึงเกิดมีประธานาธิบดีที่มีนโยบายเกลียดคนดำขึ้นมาคอยเป่าหูว่าคนดำไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้ จนสังคมที่อยู่เกิดกลัวคนดำขึ้นมาล่ะจะทำยังไง

842 Nameless Fanboi Posted ID:TUdroTRvo

กูเคยเขียนวิเคราะห์zootopia ส่งอาจารย์ ประเด็นเยอะกว่าเรื่องracismมากมาย ถึงขั้นที่ว่าracismเป็นแค่หนึ่งในกระบวนการของมันเลยนะ ได้เป็นเล่ม

843 Nameless Fanboi Posted ID:lt6MYeneT

อะไรคือ racism อ่ะไม่เข้าใจ

844 Nameless Fanboi Posted ID:zj+5piQRj

>>843 การเหยียด

845 Nameless Fanboi Posted ID:7gp7/gMIG

>>843 การเหยียดผิว เหยียดเพศ เหยียดชาติพันธุ์ เหยียดศาสนา เหยียดส่วนบุคคล เหยียดรสนิยม เหยียดสัตว์ เหยียดเด็ก เหยียดอาวุโส .................. เหยียด Nameless Fanboi

846 Nameless Fanboi Posted ID:6EmoItlCI

แต่ก็นั่นแหละ กุรู้สึกว่าบางคนคิดว่ายัดฉากฆ่าๆ โหดแล้วจะดูดาร์คเลย สำหรับกุมันดูตลก ประมาณ happy tree friend มากกว่า

847 Nameless Fanboi Posted ID:6Ki+/fvDV

ตกลงคำว่า dark เขียนยังไง ดาร์กหรือดาร์ค

848 Nameless Fanboi Posted ID:aXueonG.T

>>847 อย่าเขียนว่า ดาก แบบเด็กในบอร์ดก็พอ

849 Nameless Fanboi Posted ID:biNnJzvk9

Ky กูไม่รู้ว่าถามถูกห้องหรือเปล่านะ
แต่กูสงสัยอะ แฟนฟิคนี่มันสามารถลอกบทบรรยายของต้นฉบับ มาใส่ในฟิคของตัวเองได้ทั้งดุ้นเลยปะวะ?

พอดีกูไปเจอฟิคเรื่องนึง เขาลอกบทบรรยายจากตัวต้นฉบับมาใส่ในฟิคตัวเองทั้งพารากราฟเลย กูก็เลยสงสัย

850 Nameless Fanboi Posted ID:FciIezyW7

>>849 สำหรับกูฟิคนี่น่าจะเป็นการนำตัวละครในเรื่องนั้นมาเขียนใหม่ในแบบที่อยากให้เป็นนะ ไม่น่าจะใช่แระ การลอกบทบรรยายอ่ะ (รอโม่งคนอื่นมาตอบนะ ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน)

851 Nameless Fanboi Posted ID:SyZHLWLLb

>>849 ถ้าเอามาทั้งดุ้นแบบไม่เปลี่ยนอะไรเลยก็ไม่น่าจะได้มั้ง ผิดลิขสิทธิ์ด้วย

852 Nameless Fanboi Posted ID:7gp7/gMIG

บางคนเล่าเรื่องไม่เป็น ถึงกับลอกประโยคของคนอื่นมาแปะ

853 Nameless Fanboi Posted ID:biNnJzvk9

>>850 >>851 จับมือเลยเพื่อนโม่ง กูก็เข้าใจแบบนี้ ว่าลอกมาทั้งดุ้นมันไม่น่าได้อะ 55555555

>>852 ที่กูอ่านเจอมา บางทีเขาลอกกระทั่งบทสนทนาอะมึงงงง ไม่พอ ลอกบทบรรยายมาจากวรรณกรรมเรื่องอื่นไปด้วยอี๊ก

854 Nameless Fanboi Posted ID:7gp7/gMIG

>>853 ลอกขนาดนี้ สำนักพิมพ์ที่รับพิจารณาจะให้ผ่านจริงๆเรอะ

855 Nameless Fanboi Posted ID:Yyv2N+1pS

>>854 พวกแฟนฟิคมันตีพิมพ์ไม่ได้อยู่แล้วหนิ

856 Nameless Fanboi Posted ID:kbJXxRUEK

>>855 แต่มิกซ์แฟนฟิคได้ตีพิมพ์นะ

857 Nameless Fanboi Posted ID:hI658Qdjz

>>855 shade of grey 555 แฟนฟิคเอามาเปลี่ยนชื่อตัวละคร

858 Nameless Fanboi Posted ID:MbQoUvzdL

>>855 เคยเห็นผ่านๆอยู่ครั้งหนึ่งแฟนฟิคบารามอสได้ตีพิมพ์นะ สนพ.ไหนไม่รู้มันนานมากแล้วจำไม่ได้ เรื่องมันดาร์กๆหน่อย

859 Nameless Fanboi Posted ID:xfT8LAH60

แฟนฟิคแท้ ๆ ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนไอที่ลอกมาทั้งดุ้นน่ะ มันก็คือ “การลอก” ไม่เกี่ยวว่าต้องเป็นแฟนฟิค คือแฟนฟิคมันมีหลายแบบ อันนี้ขอยกตัวอย่างที่มาจากหนัง อนิเมะ การ์ตูน หรือพวกที่ไม่มีชีวิตละกัน เอาเท่าที่รู้นะ (ใครมีอะไรแย้งหรือเสริมก็เต็มที่)
1. เขียนฟิคแบบเดินเรื่องต่อจากตอนอวสานของเรื่องนั้น ๆ อันนี้จะใช้ทั้งนิสัย หน้าตา ช่ือ รวมไปถึงทุกอย่างของตัวละครต้นฉบับ (เช่น พลังพิเศษ) แล้วก็แต่งต่อเหมือนเป็นภาคพิเศษของเรื่องนั้น
2. เขียนฟิคแบบเอาแค่ชื่อและหน้าตามา แล้วเอามาเปลี่ยนนิสัย เปลี่ยนโลก เช่น พวกตัวละครมีพลังทำลายล้าง อาจจะกลายมาเป็นคนธรรมดาในฟิคก็ได้
3. พวกครอสโอเวอร์ (crossover) พวกนี้จะจิ้นข้ามเรื่อง ให้ตัวละครจากสองเรื่องที่แตกต่างกัน(หรืออาจคล้ายกัน)มาเจอกันในฟิคตัวเอง ซึ่งอาจจะกล่าวถึง 1 ใน 2 โลกของทั้งสองเรื่อง หรือจะสร้างโลกใหม่ก็ได้ (บางเรื่องก็ครอส 4-5 เรื่องจนงงก็มี)

พวกนี้มักจะแต่งเพราะมีความสุขเป็นตัวขับเคลื่อน เช่น อยากเห็นตัวละครโปรดเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่สำหรับพวกที่มิกซ์แฟนฟิคแล้วเปลี่ยนชื่อจนได้ตีพิมพ์ เขาคงจะผสมแรงบันดาลใจของเขาเนียนได้อยู่ล่ะมั้ง

860 Nameless Fanboi Posted ID:XI10dVwI1

จริงๆ แฟนฟิคมันผิดกฏหมาย แต่มีน้อยมากที่เจ้าของ ลขส. จะดำเนินคดีอย่างจริงจัง ด้วยเหตุผล 2 ข้อ ข้อแรกคือมันเสียเวลาที่จะต้องฟ้องร้องไม่ว่าจะในหรือต่างประเทศ ค่าเสียหายที่ได้รับก็น้อยจนไม่คุ้มค่าดำเนินการ ถ้าคู่กรณีเป็นเด็กหัวโปกมันก็ไม่มีปัญญาจ่ายอยู่แล้ว ข้อหลังคือมันเป็นส่วนนึงที่ทำให้เรื่องหลักได้รับความสนใจอย่างอ้อมๆ (คนอาจเอาชื่อเรื่องไปค้นในกูเกิ้ลแล้วดูเรื่องหลักว่าเป็นยังไง) ได้อย่างเสียอย่างแหล่ะเรื่องนี้

ถ้าจำไม่ผิดเคสที่ดังๆ เรื่องแฟนฟิคโดนฟ้องนี่ คงเป็นตอนจบของโดราเอม่อน ขนาดตัวอาจารย์ฟูจิโอะเองก็ยังไม่ได้คิดจะเขียนตอนจบไว้ อันที่ออกมาคือคนนอกกลุ่มแฟนคลับมโนขึ้นมาเองว่าเป็นเนื้อหาที่อาจารย์แกเขียนไว้ก่อนตาย ส่วนในไทยก็อย่างที่ข้างบนบอก โดยเฉพาะโรเซเนี* ต่างประเทศก็ 50 เทา

861 Nameless Fanboi Posted ID:qjzlpXm3p

ฮือออ กูคือคนที่มาบ่นเรื่องแฟนคลับนิยายจีน แกรี่สตู บ่อยๆ นะ คือมันสุดที่จะทานทนแล้วอะมึง ตอนนี้กูกดออกจากกรุ๊ปนักอ่านส้นตีนนั่นหมดเลย ถึงแม้ชื่อกลุ่มแม่งจะไม่มีคำว่าจีน เป็นแบบ แบ่งปัน แนะนำนิยายน่าอ่าน แต่แม่งก็มีแต่จีนๆ ไอ้เหี้ย และที่เหี้ยที่สุดคือนักอ่านแม่งถามหาแต่ความแกรี่ ขอแบบเก่งเทพ เย็ดสาวไปเรื่อย ขอแบบเก่งเทพ รักเดียวใจเดียว ขอแบบเก่งเทพ แต่ซ่อนคมเอาไว้ คือทุกเรื่องต้องเก่งเทพเป็นแกนไว้ก่อนอะ

แล้วที่เหี้ยกว่าคือคนที่มาแนะนำนิยายเนี่ยล่ะ แม่งมาแนะนำแต่ละเรื่องนี่ทำกูอยากกุมกบาลมากๆ คือกูก็เคยอ่านนิยายแกรี่มาเหมือนกันไง อย่างเช่นที่มีคนถามว่า อยากได้พระเอกเก่งเทพ ที่ไม่แสดงออก แม่งมีคนมาตอบว่าเรื่องพยัคฆ์ราชซ่อนเล็บของไอ้เยี่ยกวน กูก็แบบ เหี้ยยยยย ไอ้ห่าเซี่ยสินนั่นแม่งไม่แสดงออกตรงไหนวะสัส ไอ้เหี้ยที่แนะนำเรื่องนี้มึงมีปัญหาทางสมองรึเปล่า ถ้ามึงคิดว่าไอ้พระเอกเหี้ยนั่นไม่แสดงออก แล้วเรื่องที่พระเอกโชว์เทพแบบเปิดเผยในความคิดมึงมันจะขนาดไหนวะ

แถมไอ้เรื่องเหี้ยนั่นแม่งโคตรมั่วเลย ตอนท้ายๆ พระเอกแม่งมีไปเข้ารีตเป็นอิสลามด้วย สัส

862 Nameless Fanboi Posted ID:XI10dVwI1

>>861 อ่านบรรทัดสุดท้ายกูขำหายง่วงเลย 55555

พูดถึงเก่งเมพเนี่ย มันเป็นความชอบของเด็กเกรียนยุคนี้ ไม่ชอบรอ ไม่อยากอ่านตอนฝึกวิชา ไม่ต้องมีพัฒนาการตัวละคร... ไม่ดิ ชอบดูแบบที่พระเอกโชว์เทพแล้วได้รางวัลได้ยศ จน OP ขึ้นเรื่อยๆ จากตอนแรกเก่งอย่างเดียวกลายเป็นแม่ทัพ คู่หมั้นเจ้าหญิง ฮีโร่ไปในตอนท้าย แล้วรู้สึกว่าเฮ้ยโคตรเท่ ตบหญิงเข้าฮาเร็มรัวๆ ทำดีนิด ปักธงหน่อย ก็ได้มี event เย็*เมียหลวง เมียน้อย สลับๆ กันไป เหมือนอนิเมะเรื่องสมาร์ทโฟนต่างโลก ที่แม่งดังได้ไงวะ ขยะโคตรๆ เนื้อเรื่องก็ง่ายดายราบรื่น หาความประทับใจไม่ได้เลยแม่ง...

863 Nameless Fanboi Posted ID:B0fXkrSa0

ขอ ky อีกนิดให้โลกนี้สดใส
เฮ้ยมึง กูต้องการจะเขียนฉากปักธงสาวที่สมเหตุสมผล แต่กูไม่รู้ต้องเขียนยังไงให้มันสมเหตุสมผล มีใครแนะนำได้บ้าง?

864 Nameless Fanboi Posted ID:l6Dl7kM1y

>>863 มึงเป็นผู้หญิงป่ะ ถ้าเป็นมึงก็คิดถึงตัวเองอ่ะ ถ้ามีผู้ชายมีผัวเพื่อนมาทำดีด้วย ต้องดีแค่ไหนมึงถึงเปิดใจ
มึงวางปมอะไรให้สาวๆล่ะ

865 Nameless Fanboi Posted ID:dXvoaW8y0

>>860 ของโดเรม่อนโดนเพราะทำเงินได้เยอะไปด้วย ขายได้เป็นล้านเยอะแนะ ตอนนั้นถือว่าเยอะมาก แต่ที่บอกว่าทำให้คนเข้าใจผิดก็ส่วนหนึ่ง ถึงมันจะไม่ได้บอกว่าคนแต่งแต่งไว้ก่อนตายก็เถอะ คนอ่านเข้าใจไปเอง เพราะโดเรม่อนมีตอนจบจริงๆ ตั้งนานแล้ว

>>861 เซี่ยสินมันเข้ารีตหลอกๆ ทำเพื่อดึงมวลชนเข้าหาตัวเอง มันไม่ได้มีอะไรที่เป็นอิสลามซักนิด ถ้าดูดีๆ ในเรื่องและในประวัติศาสตร์ ซำปอกงหรือเจิ้งเหอเป็นมุสลิม เป็นพุทธ และก็ถือเต๋าตามคนจีนทั่วไปด้วย ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรในสมัยนั้น

ตอนแรกกูชอบงานของเยี่ยกวนนะ แต่นานๆ เข้าเริ่มเบื่อวะ 2 เรื่องมาแนวเดียวกันเลย แถมเรื่องอ๋องนี่ผู้หญิงเป็นกระหรี่ทัชสกรีนมากๆ แค่พระเอกโดนตัวทีก็อยากถวายหีให้ทุกคน มโนหาควยความยาวเฉลี่ย 4 นิ้วไม่หยุด แม้แต่องค์หญิงกับเมียคนอื่นแล้วก็ไม่เว้น เหี้ยจริงๆ

866 Nameless Fanboi Posted ID:yLTmJ+BWb

>>865 เข้ารีตหลอกๆแล้วต้องขลิบควยปะวะ

867 Nameless Fanboi Posted ID:Md4IxL8x0

>>866 ไม่ ปรกติถ้าเข้ารีตตอนโตนี่ไม่ต้องขลิบนะ

868 Nameless Fanboi Posted ID:yLTmJ+BWb

>>867 บากะน่า กูมีเพื่อน-คนรู้จักชายที่แต่งเข้าอิสลาม แม่งบอกว่าต้องขลิบทุกคน

869 Nameless Fanboi Posted ID:Md4IxL8x0

>>868 ทำใมเพื่อนกูแต่งเข้าไม่ขลิบวะ หรือมันไม่เคร่ง ทุกวันนี้แม่งก็แดกหมูอยู่เลย

870 Nameless Fanboi Posted ID:CXKKXyo3U

>>869 เพื่อนกุก็เพิ่งแต่งเข้า มันก็ได้ชื่ออิสลามมา แต่มันขลิบตั้งแต่เกิดอยู่แล้วนะ
ส่วนแดกหมูนี่ แล้วแต่วะ ไปกับบ้านเมีย หรือ เมียมาก็ไม่แดก อยู่กับเพื่อนก็แดกตามปรกติ

871 Nameless Fanboi Posted ID:W20XDwEVA

ของกูมันเปิดหนังได้อยู่แล้ว ถ้าแต่งเข้ากูยังต้องขลิบอยู่มั้ยวะ

872 Nameless Fanboi Posted ID:nZ7JtvIBX

กระทู้มีสาระดีนะ

873 Nameless Fanboi Posted ID:qcxk1uAvv

I see some misconceptions. But hey...

874 Nameless Fanboi Posted ID:ZbD8peDH2

>>864 กู 863 นะ ไปโรงเรียนพึ่งกลับ
กูเป็นผู้ชาย ม.6 เวอร์จิ้น ไม่มีประสบการณ์จีบผู้หญิงเลยแม้แต่ครั้งเดียว
นิยายของกูเป็นโลกแฟนตาซียุคกลาง พระเอกเป็นลูกเคานต์ นางเอกเป็นลูกดยุก
ที่กูวางไว้ คือ นางเอกมีปมเรื่องคู่หมั้นที่เป็นเจ้าชาย เพราะนางเอกไม่ได้รักเจ้าชาย แต่ต้องหมั้นและแต่งงานตามหน้าที่ที่ได้รับในฐานะตัวเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างตระกูล เพราะในโลกนี้มีธรรมเนียมว่า 'ตระกูลสองตระกูลจะเป็นพันธมิตรกันตราบเท่าที่คู่แต่งงานระหว่างตระกูลยังอยู่' ตระกูลนางเอกกับราชวงศ์เป็นพันธมิตรที่ขาดกันไม่ได้ เพราะมีความโดดเด่นคนละด้าน ราชวงศ์มีกองทัพเรือที่แข็งแกร่งคอยจัดการโจรสลัดในทะเลเปิด ทำให้การค้าของตระกูลดยุกรุ่งเรือง แต่ไม่มีกำลังทรัพย์กับทัพบกที่มีประสิทธิภาพพอ ส่วนฝ่ายดยุกร่ำรวยด้วยเหมืองทอง เพชรและอื่นๆ + การค้าขายทางทะเลกับประเทศอื่น ทำมีกองทัพบกที่แข็งแกร่งด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ แต่ทัพเรือสู้โจรสลัดในทะเลเปิดไม่ได้ เลยคอยทำหน้าที่ปราบกบฎหรือขุนนางบนบกที่แข็งข้อต่อฝ่ายราชวงศ์ ระหว่างที่ฝ่ายราชวงศ์คอยทำลายพวกโจรสลัดในทะเลเพื่อให้เรือสินค้าของดยุกเดินทางปลอดภัย
[ในประเทศนี้แบ่งเป็น 10 เขตปกครอง 1 เขต มี 1 ดยุกและมีเคานต์หรือขุนนางเล็กๆ ซอยย่อยลงไปอีกที พระเอกเป็นแค่ลูกของเคานต์ เขตที่พระเอกอยู่มีจุดแข็งที่คนในเขตมีแรงเยอะ เก่งต่อสู้และเชี่ยวชาญในรบทางบกที่สุดใน 10 เขต แต่มีจุดด้อยคือ ยากจนและมีคนน้อย [ตระกูลนางเอกตระกูลเดียวไม่นับตระกูลรับใช้ เรียกระดมคนได้ 10,000 คนใน 1 วันส่วนตระกูลพระเอกได้แค่ 2,000 ใน 1 วัน]]
กูวางปมไว้แบบนี้ แล้วกูคิดไม่ออกว่าจะแก้ปมของตัวเองยังไงให้สมเหตุสมผล แบบที่ไม่ต้องตัดปมกอร์เดียน

875 Nameless Fanboi Posted ID:1ogapaxA3

>>874 ที่มึงอธิบายมาไม่ได้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของตัวพระนางจริงๆเลยนะ รู้แต่ว่าถูกคลุมถุงชนเฉยๆ

876 Nameless Fanboi Posted ID:ZbD8peDH2

>>875 ขอโทษ กูนึกว่าปมที่ว่าคือปัญหาใหญ่สุดที่ต้องเจอ
ถ้าเอาเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างพระ-นาง ตอนนี้คือ 'เพื่อน' พระเอกเคยช่วยนางเอกกับน้องนางเอกจากการหลงป่าแถวๆ บ้านตัวเอง จากนั้นนางเอกก็จะมาเยี่ยมมาหาพระเอกแค่เดือนละครั้งหรือสองครั้ง มีเท่านี้แหละ

877 Nameless Fanboi Posted ID:6MKgY0ZnZ

>>876 ก็ค่อยๆ พัฒนาจากเพื่อนเป็นเพื่อนสนิทแล้วค่อยเป็นคนรักไง?

878 Nameless Fanboi Posted ID:KTu9YTEsd

>>877 แต่คำถามสำคัญคือ' พัฒนา ' ยังไงดีอะ กูว่าแค่แวะมาบ้านแล้วคุยกันเฉยๆ มันไม่น่าช่วยพัฒนาได้แบบนั้น ถึงกูจะไม่มีประสบการณ์จีบหญิงเลยก็เถอะ

879 Nameless Fanboi Posted ID:Hox/totIk

>>874 ทำ Stockholm syndrome โลด
/me อย่างตีกู กูแค่มาเผือก!

880 Nameless Fanboi Posted ID:ZCucoAQSr

>>878 อันนี้กรูขอลองมโนพล็อตเล่น ๆ ดูนะ เผื่อจะเป็นไอเดียได้

จริง ๆ แค่แวะมาบ้านแล้วคุยกันเฉย ๆ ก็พัฒนาได้นะ ลองสร้างพล็อตประมาณว่า นางเอกตอนอยู่บ้านตัวเองโดนหน้าที่และตำแหน่งคอยค้ำหัว ไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้ ที่บ้านเย็นชา พ่อแม่ไม่ค่อยสนใจ เห็นเป็นเครื่องมือสำหรับไว้ผูกญาติกับราชวงศ์ แต่พอเวลามาเยี่ยมบ้านพระเอกแล้วรู้สึกสงบ มีความสุข รู้สึกเป็นตัวของตัวเอง กลายเป็นครอบครัว เป็นบ้านที่แท้จริง อะไรก็ว่าไป ส่วนพระเอกพออยู่ด้วยกันเรื่อย ๆ ได้คุยกันเรื่อย ๆ ก็เริ่มรู้สึกผูกพัน อะไรเงี้ย... จริง ๆ แล้วอาจจะให้สองคนนี้ติดต่อทางจดหมายด้วยก็ได้ ถ้าจะให้รู้สึกว่าทั้งสองติดต่อกันถี่ขึ้นอ่ะ

881 Nameless Fanboi Posted ID:YI10l27AE

>>878 กุว่าความรักเป็นอะไรที่ใช้เหตุผลจำกัดยากมากเลยว่ะ บางทีเป็นเพื่อนกันตั้งนาน แต่พอมีคนที่สามเข้ามาจีบเพื่อนของเรา บางทีเราอาจจะพึ่งรู้ตัวว่าเราคิดกับคนๆนั้นมากกว่าเพื่อน บางทีพูดคุยถูกคอเข้ากันได้ เป็นที่พึ่งให้อบอุ่นใจ ก็อาจจะรักกันได้(โชคร้ายก็โดนยัดเฟรนโซน) บางทีความแตกต่างที่ฝั่งนึงมีก็อาจทำให้มีอะไรลึกลับน่าค้นหา จนพัฒนาเป็นความชอบพอกันได้ มีอีกเยอะว่ะ 55

882 Nameless Fanboi Posted ID:25eZ.81kb

นี่ถามหน่อย ประเด็นความรักที่ไม่ใช่แฟนหรือคนรัก จะถือว่านิยายรักรึเปล่า

883 Nameless Fanboi Posted ID:7iHZYpCwJ

>>882 กลายเป็นนิยายรักสีขาว

884 Nameless Fanboi Posted ID:JvnBENCIT

มีโม่งคนไหนเคยเป็นไหม
https://www.dek-d.com/board/view/3815187/

885 Nameless Fanboi Posted ID:mjjvlsP3c

>>884 ไอ้อ่านแล้วอินเนี่ยเป็นบ่อย เพราะ 1. เราไม่รู้ว่าเรื่องจะไปทางไหนต่อ 2. เราเลยเอาใจช่วยตัวละครที่เราชอบ เพราะเราทำอะไรมากไปกว่านั้นไม่ได้

ส่วนที่เขียนเอง ตอบเลยว่าไม่ เพราะกูไม่เคยเอาความเป็นตัวกูใส่ไปเป็นตัวเอกเลย คือเวลาปั้นตัวละครเนี่ยกูก็สร้างขึ้นมาใหม่หมดนะ พยายามให้มันเป็นมนุษย์โดยอาจเอาจุดดีจุดด้อยของคนใกล้ๆ ตัวมาใส่ แล้วสร้างภูมิหลังของตัวละครเพื่อสนับสนุนลักษณะนิสัยนั้นน่ะ เพราะงั้นตอนแรกกูจะสนุกมากกับการปั้นตัวละคร สร้างสถานการณ์ต่างๆ แต่พอมาถึงช่วงท้าย แม่งจะทื่อๆ ละ เพราะกูต้องเดินเกมไปตามเรื่องราวที่วางไว้ตั้งแต่ตอนแรก และต้องขมวดปมให้จบ เดินไปสู่จุดหมายที่วางเอาไว้

เพราะงั้นกูจะไม่ค่อยอินไปกับเรื่อง (เพราะรู้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นยังไง) คือก็เขียนไปตามที่วางแผนเอาไว้โดยไม่มีการด้นสดอีกต่อไปแล้วอะ ก็เลยไม่มีห่าอะไรให้ลุ้นเลย (คนอ่านลุ้น กูไม่) ถามว่าสนุกกับการเขียนไหม ก็สนุกอยู่ แต่ไม่ได้อิน ไม่ได้เขียนแบบบ้าพลังเหมือนตอนเปิดเรื่องหรอก

886 Nameless Fanboi Posted ID:JvnBENCIT

>>885 เห้ย มึงนี่คิดตรงกับกูเลยว่ะ เหมือนเอาสิ่งที่อยู่ในใจกูมาพิมพ์ กูเขียนเองก็ไม่อินนะ เพราะกูรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป อ่านน่ะอินอยู่ เหมือนกันเลย

แต่เวลากูปั้นตัวละคร(ตรงนี้กูไม่เหมือนมึงล่ะ) จะมีเอาตัวเองใส่ลงไปบ้างเล็กน้อย (เล็กน้อยจริง ๆ เพราะตัวกูแม่งไม่มีเหี้ยอะไรน่าสนใจเลย) หยิบเอานิสัยชาวบ้านชาวช่องไปใส่ไปบ้างนิดหน่อย เพราะกูปั้นตัวละครไม่ค่อยเก่ง คิดเองหมด แม่งเป๋ ๆ ทุกที

เห็นด้วยนะ ที่ว่ายิ่งเขียนไปเรื่อย ๆ ความสนุกจะค่อย ๆ ลดลง เพราะมันแอบกดดันนิดนึงว่ะ555 อย่างที่มึงบอกเลยว่าต้องหาทางคลายปม หาที่ลงให้เนื้อเรื่อง มันจะไม่ได้สนุกเหมือนตอนแรก ๆ ที่เขียนล่ะ

887 Nameless Fanboi Posted ID:cddzGfPNV

>>884 กูเคยหลงเข้าไปอ่านนิยายเจ้าของมู้นี้ เพราะเห็นมีบทวิจารณ์ตั้ง4 ดีๆทั้งนั้น ข้อติแทบไม่มี กูเลยคิดว่าแม่งต้องดีมากแน่ มีคำนิยมอีก2ด้วยนะมึง
ตั้งแต่เล่นโม่ง กูเลยติดนิสัย ชอบอ่านวิจารณ์ก่อนตัวนิยาย
แต่พออ่านเรื่องแม่งไปได้สักพัก เห้อ...

888 Nameless Fanboi Posted ID:cUhp2K5FN

>>884 ถ้าอ่านของชาวบ้านเป็นแต่เขียนเองไม่เป็นอาจเพราะรู้อยู่แล้วว่าเรื่องของเราจะไปในทางไหนมันไม่ได้ลุ้นอะไร

889 Nameless Fanboi Posted ID:7SgHqjfF2

>>887 ดูอ่านบรรยายเขาแล้วเหนื่อย คนเขียนคำชมนี่เพื่อนเขารึเปล่ามึง

890 Nameless Fanboi Posted ID:cddzGfPNV

>>889 ชัวร์ สังเกตจากยอดFav.236 แต่เมนต์มีตั้ง328 กูเลยขอเสือกด้วยการไปส่องเมนต์ เอ้า! หน้าเดิมๆทั้งนั้น แต่ละคนก็เหมือนทำไปงั้น รักษามารยาท มาสั้นๆ อารมณ์ไม่รู้จะเมนต์อะไร

891 Nameless Fanboi Posted ID:cddzGfPNV

>>889 >>890 เสริมๆ กูลืม 1ในคนที่เขียนคำนิยม คือตามเมนต์ให้ตลอด แบบนี้ไม่ต้องสงสัย เพื่อนกันชัวร์

892 Nameless Fanboi Posted ID:Mrk82HGmr

>>887 กูลองเข้าไปอ่านบทแรกดู ก็วิจารณ์อะไรไม่เป็นหรอกนะ แต่ว่าไงดี มันจืดมันชืด เรื่อยๆจนแอบน่าเบื่ออ่ะ แถมจบตอนแบบดื้อๆซะงั้น นางเอกเดินเข้ารร. เดินชนแฝด เดินไปห้องประชุมด้วยกัน จบตอนแรก /เอิ่ม กูว่ามันห้วนไปนะ

893 Nameless Fanboi Posted ID:vPqTwE1ZY

>>891 ไม่จำเป็นน่าาา บางคนเขาอาจชอบมากก็ได้ เลยตามมาเป็นแฟนพันธ์ุแท้ กูก็เคยมีนักอ่านแบบนี้

894 Nameless Fanboi Posted ID:OIAqwZtXI

ปกติเม้นน้อยกว่าคนติดตามหรอ

895 Nameless Fanboi Posted ID:cddzGfPNV

>>894 กู>>890 เองนะ พอมึงทักมาแบบนี้ กูเลยมาคิดดูอีกที มันก็ไม่จำเป็นเสมอหรอก แต่เรื่องนี้กูดูจากจำนวนตอนกับยอดfav.แล้ว สรุปใหม่ว่า fav.น้อยไปนิด ถ้าดูจากจำนวนตอนและบทสิจารณ์อันดีงาม

896 Nameless Fanboi Posted ID:zyUSLPcNn

จะว่าไป กูเคยเห็นมีคนเคยบอกว่าจะไล่สับนิยายพวกในบอร์ด ไม่เห็นมีใครสับเลยวะ

897 Nameless Fanboi Posted ID:cddzGfPNV

>>896 งั้นถ้าใครจะเริ่ม เริ่มจากคนที่กำลังพูดถึงนี่ก่อนเลยนะ กูอยากรู้มันจะเจ๋งสมบทวิจารณ์ไหม
แต่ดูจากที่>>892 บอก คิดว่าน่าจะไม่เท่าไหร่

898 Nameless Fanboi Posted ID:OIAqwZtXI

ขอถามหน่อย คือถ้าเราเขียนเปิดแบบนี้มันจะดูห้วนไปไหม?

ร่างของเด็กชายผมแดงพุ่งออกมาจากความว่างเปล่า กลิ้งล้มจนหลังไปกระแทกกับอิฐสีแดงส้มเสียงดังตึง

แล้วบรรทัดต่อมาก็เจอกับนางเอกเลย

899 Nameless Fanboi Posted ID:Mrk82HGmr

>>898 คหสต. กูว่ามันก็ห้วนๆอยู่นะ อาจจะมีเกริ่นนำซักย่อสองย่อหน่อยก็ดี

900 Nameless Fanboi Posted ID:rvh4f9/pq

>>898 ผมสีแดงฟุ้งกระจายเหมือนเส้นไหมในพายุ ใบหน้าตื่นตระหนกของเด็กชายพุ่งออกมาจากความว่างเปล่า ร่างปวกเปียกล้มกลิ้งไป เกิดเสียงดังตึง เขาสลบอยู่ข้างหน้าผนังอิฐสีส้มแดง

ลงชื่อ เซฮุน มาไว้อาลัย จงฮยอน

901 Nameless Fanboi Posted ID:T7xef.kzP

เฮ้อ... กูอยากทิ้งไอ้นิยายที่เขียนอยู่ตอนนี้แล้วไปเปิดเรื่องใหม่ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมทำใจทิ้งมันไม่ได้ซะที
ลบทิ้งให้หมดเลยมันจะช่วยอะไรมั้ยวะเนี่ย

902 Nameless Fanboi Posted ID:zyUSLPcNn

>>901 อย่าลบ ไม่งั้นจะเสียใจภายหลังแบบกู แนะนำให้มึงเขียนตรงแนะนำเรื่องว่า อยู่ในสถานะหยุดแต่งอย่างไม่มีกำหนด แล้วไล่ปิดตอนไม่ก็เปิดตอนใหม่ว่าจะหยุดเขียนเรื่องนี้แล้วไปเขียนเรื่อง(ใส่ลิงก์เรื่องใหม่ลงไปด้วยจะได้ตามถูก)

ตอนนี้มึงอาจไม่พอใจ แต่ถ้าเว้นไปนานๆ แล้วกลับมาอ่านใหม่ อย่างน้อยมึงยังรีไรท์ได้ แต่ถ้าลบเรื่องออก มึงจะไม่เหลืออะไรเลย แล้วถ้าคอมเม้นท์/แฟนคลับรวมของมึงมีน้อยกว่าเรื่องนี้ สถิติในมายไอดีจะติดลบจนเป็นที่น่าอับอาย เช่น เรื่องแรกมีแฟนคลับ 10 คน มีเม้น 20 เม้น แล้วเรื่องที่มึงลบดันมีแฟนคลับ 25 กับ 100 เม้น เลขที่จะโชว์ในมายไอดีส่วน Writer จะขึ้นว่า -15 กับ -80 เห็นแล้วมึงจะอยากสร้างไอดีใหม่เลยล่ะ

903 Nameless Fanboi Posted ID:k9fJk.FVx

เห็นบนๆ พูดเรื่องคนเม้นเยอะกว่าคนติดตาม กูถามหน่อยสิ วิวเยอะกว่าผู้ติดตามแบบนี้นี่ถือว่าผิดปรกติไหมวะ
ไม่ใช่ตอนต้นๆ ด้วยนะ คนติดตามมีแค่ 38 คน แต่ยอดวิวตอนที่ 6 7 8 เป็น 114 107 103 ???

904 Nameless Fanboi Posted ID:T7xef.kzP

>>902 กูยังไม่ได้ลงเว็ปน่ะ ตอนนี้ยังอยู่ใน Word
แต่นี่คือกูพักมา 3 เดือนแล้วไง ไอเดียเขียนมันตีกันมั่วไปหมดเลย

905 Nameless Fanboi Posted ID:vPqTwE1ZY

>>903 ไม่แปลก เพราะเป็นตอนต้น ตอนต้นๆ ยอดวิวสมควรเยอะกว่ายอดเฟ้บอยู่แล้ว

แต่มันจะมีจุดนึงที่จู่ๆ ยอดวิวจะตกลงมาต่ำกว่ายอดเฟบ ลองหาดูแล้วกัน แล้วหลังจากนั้นมันก็จะค่อยๆ ต่ำลงมาเรื่อยๆ จนมาถึงจุดคงที่ นั่นแหละปริมาณแฟนคลับจริงๆ ของนิยายมึง

906 Nameless Fanboi Posted ID:OIAqwZtXI

>>904 ยังไงก็ห้ามลบเด็ดขาด ถ้าอยากเขียนเรื่องใหม่จริงๆ ก็หันไปให้ความสนใจเรื่องที่อยากแต่งก่อน เรื่องเก่าเดี๋ยวค่อยกลับมาแก้เอาก็ได้

907 Nameless Fanboi Posted ID:5NQ0BNeRk

มู้อัลไลวะ https://www.dek-d.com/board/view/3815114/

908 Nameless Fanboi Posted ID:TmMyuvUF9

>>907 เลอะเทอะสัสๆ

909 Nameless Fanboi Posted ID:.H4yqHjd+

>>907 แล้วจะไปฟีดโทรลกันทำไม ไม่เข้าใจ

910 Nameless Fanboi Posted ID:k9fJk.FVx

พึ่งสังเกตว่าขึ้น 900 แล้วนี่ คนสับหาโอกาสลงมู้ต่อไปหรือเปล่า ช่วงนี้เลยไม่ค่อยเห็น?

911 Nameless Fanboi Posted ID:TgUGV.cfx

The Power of Christ compels you.

912 Nameless Fanboi Posted ID:frar9uYtM

>>910 มีช่วงนึงสับกันรัวๆมากนี่

913 Nameless Fanboi Posted ID:/xXcFRhP.

อยากอ่านที่โม่งสับของเบลล์อ่ะ หาไม่เจอ อยู่ในมู้นี้ปะ

914 Nameless Fanboi Posted ID:k9fJk.FVx

>>913 น่าจะมู้ที่แล้วนะ

915 Nameless Fanboi Posted ID:j8SROyhQ5

ตั้งชื่อมู้กันยัง? รอบนี้ไม่ค่อยมีประเด็นอะไรให้ยกมาตั้งเลยวุ้ย

916 Nameless Fanboi Posted ID:vPqTwE1ZY

>>915 ไม่ต้องรีบ เหลืออีก 80 กว่าเม้น ช่วงท้ายๆ เนี่ยแหละตัวพีค ถ้าแม่งจะไม่มีอะไรจริงๆ ก็ตั้งชื่อทื่อๆไปก็ได้ แบบ บทที่ aaa จบ

917 Nameless Fanboi Posted ID:k9fJk.FVx

>>915 ถ้าจะตั้ง กูขอให้มีคำว่า นางร้าย ไม่ก็ เจ๊ลิส ในชื่อนะนะนะ

918 Nameless Fanboi Posted ID:5iJewn6ar

ขอ ky หน่อย ไอ้คำว่า edgy นี่คือไรวะ เห็นบ่อยในบอร์ดฝรั่ง

เราพึ่งเล่นครั้งแรกมีอะไรผิดพลาด ขออภัย

919 Nameless Fanboi Posted ID:hQydWNppN

>>918 พยายามทำตัวเท่ๆ เก๊กๆ แต่ออกมาดูตลกมากกว่า ประมาณเล่นdmcเยอะแล้วอยากทำเท่แบบดันเต้ เวอจิ้ว แต่กลายเป็นตัวตลกแทน

920 Nameless Fanboi Posted ID:5iJewn6ar

ขอบคุณมากครับ ชาวโม่ง กระจ่างเลย

921 Nameless Fanboi Posted ID:Mrk82HGmr

>>919 ขอล่ะ อดไม่ได้ว่ะแต่เวอร์จิลเว้ย เวอจิลยังพอหยวนๆแต่เวอจิ้วนี่มันไม่ไหวจริงๆว่ะ555

922 Nameless Fanboi Posted ID:5GLYkwXKl

>>917 มึงโม่งมารีใช่ไหม ว่างป่ะ ถ้าว่างเอาไอ้ที่พวกมันพูดเมื่อเช้าไปสับทีดิ๊ ที่ว่าคนวิจารณ์ดีๆเยอะๆน่ะ กูไปส่องมาแว๊บๆเห็นอยู่หมวดเดียวกับพวกนางร้ายเลยนึกถึงมึงเลย เรื่องนี้อ่ะ >>887

923 Nameless Fanboi Posted ID:8HL/RuDWH

>>913 อันนี้ที่ไปแปะหน้านิยายน้อง อยู่ท้ายๆ มู้อ่ะ เสิร์ชชื่อโม่งเงี่ยนเอาน่าจะเร็ว
https://fanboi.ch/webnovel/4393

924 Nameless Fanboi Posted ID:8HL/RuDWH

>>923 ถอนคำพูด5555 เพิ่งไปลองเสิร์ชมาโม่งเงี่ยนสับนิยายมู้นั้นเยอะชิบ พิมพ์หาชื่อนิยายง่ายกว่า

925 Nameless Fanboi Posted ID:TmMyuvUF9

>>918 "เอจจี้" (หรือที่ในโม่งชอบเรียกว่าเอกกี้) : ลักษณะตัวละครที่เก๊ก เคร่งขรึม ชอบเครียด แยกตัวจากผู้อื่น ดูลึกลับ พูดน้อย และมักมีอดีตมืดมน เทียบตามสีก็เทาเข้มค่อนไปเกือบจะดำ จุดเด่นอื่นๆ ที่สร้างขึ้นเป็นตัวละครสไตล์เอกกี้มักพ่วงมาด้วยความบ้าคลั่ง อารมณ์รุนแรง มีศักยภาพความสามารถในการต่อสู้สูง ไม่ทำงานร่วมกับใคร แต่เป็นที่น่าแปลกใจว่ามักจะมีตัวละครกลุ่ม Heroine มาแอบชอบกันมากหน้าหลายตา ซึ่งจะกลายเป็นรักสามเส้า (หรือหลายเส้า) ก่อนจบลงด้วยการเฟดตัวออกมาเองของตัวละครนั้นอย่างโคตรจะเอจจี้

"วอนนาบีเอกกี้" : ตัวอย่างของความพยายามสร้างตัวละครเอจจี้ขึ้นมาแบบผิดๆ จากข้อมูลที่บอกไปข้างบน มีนักเขียนอายุน้อยจำนวนมาก ชอบตัวละครสไตล์เอจจี้ เพราะคิดว่ามันดูเท่ คิดว่าหากนำไปใช้ในนิยายของตัวเอง จะได้รับความดิบ ความโหดอย่างสะใจ จากตัวละครพระเอก สุดท้ายก็ยัดทุกอย่างใส่ตัวละครเอกแบบเกินความเหมาะสม ขาดที่มาที่ไป ขาดภูมิหลังและแรงผลักดันก่อนจะมาเป็นตัวตนนี้ มีแต่ความโหดร้ายฆ่าคนได้โดยไม่รู้สึกอะไร ปากเสีย ไร้มารยาทในทุกสถานการณ์ ถ้าเป็นเด็กๆ และผู้อ่านเลเวลน้อย (ไม่เคยอ่านนิยายดีๆ เรียลๆ มาก่อน) ก็จะชื่นชอบ ส่วนนักอ่านที่อยู่ในระดับกลางขึ้นไปจะต้องร้องเหยดแถมบ่นต่อด้วยประโยคจำพวก "ไอ้เหี้ย นิยายวอนนาบีดาร์คชั้นสวะ"

ตัวอย่างตัวละครเอจจี้และกึ่งเอจจี้ : ตัวละครฝรั่งที่เป็น Anti hero ทั้งหลายแหล่ (แบทแมน, วูฟเวอร์รีน) กัซจากมังงะเบอร์เซิค (ก่อนที่อาจารย์จะเปลี่ยนมาเขียนแนว สนวม. จนเสียความดาร์ค) ลีไว อัคเคอร์มันจากแอคแทคออนไททัน (เฮย์โจวเตี้ยสุดโหด) โทงุโร่คนน้องจากยูยูวฮาคุโช และ Goblin Slayer จากมังงะชื่อเดียวกัน

926 Nameless Fanboi Posted ID:QCaRXwikd

ขอบคุณ 925 มากๆ เรา 918 เองนะ

927 Nameless Fanboi Posted ID:wlcBvt.u.

แปปเดียวใกล้จะได้เวลาวิ่งควายอีกละ

กุโม่งหัวหมู กุวอนนาบีอยากมีชื่อบ้าง อิอิ

928 Nameless Fanboi Posted ID:Xx08hjpEr

เราก็อยากมีชื่อบ้าง ชอใช้ชื่อนักร้องเกาหลีคนโปรดก็แล้วกัน เรียกเราโม่งเซฮุนนะทุกคน

ลงชื่อ เซฮุน ไอดอลวอนนาบี

929 Nameless Fanboi Posted ID:rAtJkMOPN

>>922 https://my.dek-d.com/kkyochan/writer/view.php?id=1590076 เรื่องนี้ใช่ไหม? ช่วงนี้ยังไม่ค่อยว่างเท่าไหร่ จะสิ้นปีแล้ว อาจารย์ก็สั่งแต่งานใหญ่ๆ คิดว่าน่าจะว่างช่วง เสาร์-อาทิตย์ นี้นี่แหละ

930 Nameless Fanboi Posted ID:1Oqz3Ak9L

>>929 เออ กุรอชมด้วยคน

931 Nameless Fanboi Posted ID:/sswvx+S3

>>887 เห้อ คือไร?

932 Nameless Fanboi Posted ID:Weyj8vY6b

>>931 ผิดหวังไง

933 Nameless Fanboi Posted ID:YRss1sPk4

>>932 ก็น่าจะบอกหน่อยว่าผิดหวังอะไร

934 Nameless Fanboi Posted ID:kJSFx+Of7

ขอโทษนะ ขอนอกเรื่องหน่อย ช่วยแนะนำไซไฟในเด็กดีมาให้อ่านสักสองสามเรื่องสิ จะพล็ตเกร่อ
ซ้ำก็ได้ แต่อ่านแล้วโอเคก็พอไม่เอาแบบ top 1 นะ ไม่ต้องติดอันดับก็ได้ ขอบคุณมาก ๆ

935 Nameless Fanboi Posted ID:Crur51QJX

>>934 P2 เจ้าชายสองโลก พลอตดีอยู่นะ

936 Nameless Fanboi Posted ID:mwaKT3Pu0

>>935 เอาตรงๆแบบนี้เลยก็ดีนะ

937 Nameless Fanboi Posted ID:KUiBviniK

โม่งสับคนไหนว่างจัดให้ >>935 หน่อย กูซุ่มอ่านในบอร์ดมานานนมเห็นเจ้าของเรื่องบ่นมาหลายรอบละว่านิยายของน้องแกไม่โดนสับสักที

จากใจกูคนที่นิยายหายจาก list รอสับเฉยเลยแม่ง

938 Nameless Fanboi Posted ID:mwaKT3Pu0

>>937 เราสับให้ได้นะ แต่ให้เราอยากเรียกตัวเองว่าเซฮุนได้หรือเปล่า?

ลงชื่อ เซฮุน แต่ถ้าไม่สบายใจ เราจะไม่ใช้ชื่อนี้ก็ได้นะ เราเข้าใจ

939 Nameless Fanboi Posted ID:/Hx9mGJX0

>>933 กูคือคนที่ เห้อ ใน>>887 นะ ที่กูเห้อคือ ผิดหวัง เหมือนที่ >>932 ช่วยบอกให้นั่นแหละ ผิดหวังในที่นี้ก็คือ กูเห็นคนวิจารณ์ไว้ว่าดีงั้น ดีงี้ แถมมีคำนิยมอีก กูก็เลยค่อนข้างคาดหวังว่า แม่งต้องปัง เพราะกูไปแหวกดง เพื่อหานิยายอย่างอื่นที่ไม่ใช่นางร้ายอ่าน แต่พอกูอ่านไปได้สักพัก กูก็ต้องบอกตัวเองว่าพอ มันเป็นแนวแฟนตาซีโรงเรียนเวทมนตร์ที่น่าเบื่อมากที่สุดเท่าที่กูเคยอ่าน มันไม่มีเสน่ห์อ่ะ ตัวละครก็งั้นๆ นางเอกแม่งก็แปลกๆ กูอุตส่าห์ดีใจ ที่มันไม่เติมทรูมาเหมือนพวกนางร้าย แต่มันก็ไม่ทำให้กูรู้สึกสงสาร หรืออยากเอาใจช่วยเท่าไหร่ ยิ่งเพื่อนอีกสามคน ยิ่งไม่ต้องพูดถึง มันแบนๆอ่ะ ก็เหมือนพวกเพื่อนนางเอกทั่วไป ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น สรุปให้ละกัน มันน่าเบื่อ อ่ะ ถ้ากูเป็นคนเขียนคงท้อน่าดู แม่ง60+ตอน มีคนติดตามแค่200ต้น ๆ

940 Nameless Fanboi Posted ID:H8Ny+OKjt

>>938 จะแทนตัวเองหรือไม่แทนอันนั้นเรื่องรอง ที่สำคัญคือจะสับหรือไม่สับต่างหาก ถ้าจะสับก็สับแล้วเขียนลงมาเลย มีคนรออ่านอยู่ทั้งเจ้าของและสมาชิกนั่นแหล่ะ

ลงชื่อ โม่งเอจจี้ที่ >>925

941 Nameless Fanboi Posted ID:GCi7.ArCK

>>939 สงสัยว่าทำไมคนเขียนต้องท้อด้วย ได้คนตามเพิ่มตอนละสามสี่คนคือไม่เยอะแล้วเหรอ หรือมาตรฐานเราต่ำเองเลยรู้สึกว่าเยอะ?

942 Nameless Fanboi Posted ID:J1dqfYZ0D

>>941 กูคิดแทนเขาอ่ะ สงสารเขาไง เหลือบไปมองพวกนางร้ายหรือนิยายที่มันกากๆ แม่งคนติดตามเพียบ นิยายเขาถึงจะไม่ดี แต่ก็ไม่แย่มาก อย่างน้อยก็ยังสะกดคำถูก แต่ถ้าจะให้ปัง กูว่าต้องปรับอีกเยอะ แต่อย่าถามกูนะว่าต้องปรับตรงไหน กูไม่รู มันมาจากความรู้สึกล้วนๆ

943 Nameless Fanboi Posted ID:oKTUGxqlc

มึงคิดยังไงกับมู้นี้ https://www.dek-d.com/board/view/3815399/

944 Nameless Fanboi Posted ID:678qkv11T

>>943 ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่จำเป็นมั้ย ปัญหามันอยู่ที่ไอ้คนแนะนำแต่ละตัวแนะนำเหี้ยทั้งนั้นต่างหาก

945 Nameless Fanboi Posted ID:J1dqfYZ0D

>>941 กูลืม กู>>942 เอง มึงไม่ได้มาตรฐานต่ำหรอก ความจริงคนติดตามเพิ่มตอนละ 2-3คนก็ดีนะ ถ้า...ถ้านะ ถ้าทุกคนมันตามอ่านหมด คนติดตาม200กว่า อ่านจริงจะถึงครึ่งป่าวไม่รู้ จริงป่ะ

946 Nameless Fanboi Posted ID:mwaKT3Pu0

>>940 งั้นช่วยแปะลิ้งค์ได้ไหม เราจะได้พิจารณาดูว่าจะสับสักกี่ตอนดี พอดีเราเพิ่งมา รบกวนด้วยนะ

947 Nameless Fanboi Posted ID:rzm+.coiE

กุบอกตามตรงคนไทยมันอคติเรียบร้อยไปแล้วว่านิยายไทยไม่แนวรักข่มขืน ก็ก๊อบการ์ตูนแจปแนวเลิฟคอมเมดี้มาแถมห่วยกว่าต้นฉบับด้วย ถ้าอยากจุดกระแสมาใหม่ล่ะก็ต้องอดทนกันนะเว้ย ค่อยๆสร้างตัว แฟนคลับไปเพิ่มปุบปับแน่นอน

948 Nameless Fanboi Posted ID:H8Ny+OKjt

>>946 เรื่อง P2 ก็นิยายของ Octory ในบอร์ดไง

949 Nameless Fanboi Posted ID:/saF0LHTM

>>948 เราหาแล้วไม่เจอ ยังไงช่วยแปะลิงค์ให้หน่อยนะ

950 Nameless Fanboi Posted ID:H8Ny+OKjt

>>949 มึงนี่แปลกๆ นะ วางแผนอะไรอยู่ป่าววะ
https://writer.dek-d.com/Octory/story/view.php?id=1466532

ลองดูสถิติแล้ววิวเยอะกว่านิยายกูเองอีก มาๆ สับให้ จขร. มันได้สมใจอยาก แล้วไม่ต้องมาด่ากูนะ มึงบ่นในบอร์ดเองว่าไม่มีคนสับให้

951 Nameless Fanboi Posted ID:/saF0LHTM

>>950 ขอบคุณมาก เดี๋ยวเราสับให้จนจบหนึ่งเล่ม นะ ขออนุญาตใช้ชื่อว่าเซฮุน ไม่มีใครว่าอะไรใช่ไหม? ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวเราสับเงียบๆก็ได้ ขอบใจนะ

952 Nameless Fanboi Posted ID:/saF0LHTM

แปะจองสับ

ลัดคิว https://writer.dek-d.com/Octory/story/view.php?id=1466532 (นิยายชื่อ P2 คนเขียนชื่อ Octory ลองดูสถิติแล้ววิวเยอะกว่านิยายกูเองอีก มาๆ สับให้ จขร. มันได้สมใจอยาก แล้วไม่ต้องมาด่ากูนะ มึงบ่นในบอร์ดเองว่าไม่มีคนสับให้)

https://writer.dek-d.com/topduck/writer/view.php?id=785523 (สาวใช้พันธุ์ดุ Maid-at-Arms ... ชื่อเรื่องเพราะดี)

https://writer.dek-d.com/linklight/story/view.php?id=1559849 (จอมราชันย์หลงยุค... ข้าขอคำชี้แนะ เตรียมรับมือ)

https://writer.dek-d.com/BlackMonSterX/writer/view.php?id=1602272 (Evolve ฟองเบียร์)

ลงชื่อ เซฮุน คนละก้าว

953 Nameless Fanboi Posted ID:mdjFgP6nH

>>>/meta/4675/205

พ้นกำหนด 14 วันมาแล้ว คงจะตัวจริง

954 Nameless Fanboi Posted ID:/saF0LHTM

>>953 ตัวจริงอะไรกัน เราไม่มีตัวตนนะ เราแค่จะมาสับ เรากลัวแล้ว ปล่อยเราไปเถอะ เราขอร้อง อย่าข่มเหงเราอีกเลยนะ เมตตาเราด้วย

955 Nameless Fanboi Posted ID:/saF0LHTM

นี่จะมาสับ ก็จะแบน มันมีความยุติธรรมอะไรตรงไหน?

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.