Fanboi Channel

นิยายเด็กดี บทที่ 12 (DDN XII) ภาคย้อนเวลาไปเป็นเมียฮ่องเต้ เน้นโปรโมทไม่เน้นฝีมือ เพราะการตลาดมันสำคัญยังไงล่ะ!

Last posted

Total of 1000 posts

917 Nameless Fanboi Posted ID:16Ypo+k5l

หวัดดี กูสับพี่ตูนมา

เซฮุน: คิดยังไงกับเสียงวิจารณ์
พี่ตูน: การวิพากษ์วิจารณ์เป็นสิทธิส่วนบุคคล เราบังคับให้ใครเห็นด้วยทั้งหมดไม่ได้ แต่อยากบอกว่า ที่ออกมาวิ่ง เราแค่อยากเป็นส่วนเล็กๆ ที่ได้ช่วยเหลือตามกำลังของเรา อยากใช้โอกาสนี้ในการสื่อสารในสิ่งทีเราเห็นมา

เซฮุน: ได้อ่านคำวิจารณ์บ้างไหม
พี่ตูน: มีคนส่งให้อ่านบ้าง ผมเคารพหมด คำวิจารณ์บางครั้งก็เป็นประโยชน์ ผมรับฟังนะครับ ทุกอย่างเป็นเรื่องดี ผมน้อมรับคำติคำวิจารณ์

เซฮุน: ท้อไหม บั่นทอนกำลังใจไหม
พี่ตูน: ไม่เลย คิดว่าเป็นอีกหนึ่งกระบวนการ ไม่ว่าทำอะไรก็ตามก็ต้องเจอปัญหาในงานอยู่แล้ว ต้องก้าวข้ามหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ต้องเจอและจัดการ แม้กระทั่งจัดการกับอารมณ์ตัวเองก็ต้องทำให้ได้ สุดท้ายผมใช้ปลายทางที่เราทำประโยชน์มากกว่า ไม่รู้มากน้อย แต่ขอให้มีประโยชน์สักหน่อย มันอาจจะมีหลายๆชีวิตได้รับการรักษา หลายชีวิตในโรงพยาบาลสบายขึ้น ผมเอาตรงนี้เป็นเป้าหมาย ต้องย้อนกลับไปคิดว่าวันแรก เหตุที่เราออกมาทำนั้นเพื่ออะไร เพราะจริงๆ ผมอยู่เฉยๆ ก็ได้ มีความสุขดี ไม่ต้องออกมาทำอะไรแบบนี้

เซฮุน: ถ้ามีโอกาสได้พูดกับคนที่วิจารณ์ อยากสื่อสารอะไร
พี่ตูน: ไม่มีครับ ผมชอบทำมากกว่าพูดครับ

ลงชื่อ เซฮุน พวกมึงควรเอากูเป็นตัวอย่าง

918 Nameless Fanboi Posted ID:Fy8yOIC8n

>>917 มึงไปเล่นที่อื่น

919 Nameless Fanboi Posted ID:U943+QHGv

>>916 สำหรับตอนเปิดเรื่อง กูมักจะยึดองค์ประกอบตามนี้นะ
1. เป็นฉากมีตัวละครสำคัญ
2. intense หน่อย (อารมณ์เจ้มจ้น บีบคั้น) ex โดนตามฆ่า/ไล่ล่า หรือตัวเองไปไล่ล่าเอง หรือฉากเอาชีวิตรอด ฉากอารมณ์ตึงเครียดที่ต้องตัดสินใจ
3. เกี่ยวกับพลอตเรื่องหลัก ว่ามีฉากนี้ไปทำไม เกี่ยวมากเกี่ยวน้อยก็แล้วแต่ (ส่วนใหญ่กูจะเขียนให้มันเกี่ยวไม่ค่อยมาก แต่เลือกเอาฉากเท่ ๆ มาเปิด)
4. มีเซอร์ไพรซ์ จะมีไม่มีก็ได้นะ แล้วแต่ใจเธอ
5. มีอิมแพ็คต่ออารมณ์ ต่อเนื่องจาก 2. แหละ แต่ข้อนี้ยากเหี้ย ๆ
6. promise ให้กับคนอ่าน ว่ามึงเปิดเรื่องโทนแบบนี้ คนอ่านก็จะได้เสพโทนนี้เป็นหลักในเรื่องมึง
ไม่ใช่เปิดตัวโหดสัส แต่สักพักมุ้งมิ้ง
อันนี้ถือเป็น optional แล้วแต่มึง แต่ส่วนตัวกูชอบข้อนี้ และยึดเป็นองค์ประกอบหลักเสมอ

ที่เหลือก็แล้วแต่ใจมึง

920 Nameless Fanboi Posted ID:YsymyhZLJ

>>917 ทำให้ได้ขี้ตีนเขาก่อนเถอะ ค่อยมาพูดหล่อๆแบบนี้

921 Nameless Fanboi Posted ID:6EUsqkSwS

>>919 ชอบข้อ 6 เรื่องสมัยนี้ขาด promise ในบทแรก ใครเขียนได้คือเจ๋ง มันบ่งบอกว่านักเขียนได้มอบสัญญากับผู้อ่าน ว่าเขาจะดำเนินเรื่องไปในแนวนี้นะ มึงโอเคไหม ถ้าโอเคก็ตามอ่านเลย กูเห็นนักเขียนส่วนใหญ่จะไปเน้นบรรยายประวัติห่าเหวนืดนาว มันไม่จำเป็นหรอก ไปใส่ทีหลังก็ได้

922 Nameless Fanboi Posted ID:Z9UQKtU4.

ไมวันนี้แม่งเงียบๆ วะ..

923 Nameless Fanboi Posted ID:v38cL1Y/3

>>921กูเผลออ่านเป็น premise วะ แปลว่าหลักฐาน
>>922 รอคนสับอยู่ หมด 1000 ขึ้นมู้ใหม่ คนสับหลงทาง

924 Nameless Fanboi Posted ID:I0MnaNMqn

นวนิยาย-วรรณกรรมเยาวชน แบบไหนที่สำนักพิมพ์จะสนใจ
• เรื่องที่อ่านสนุก วางไม่ลง น่าติดตามตลอดทั้งเล่ม
• มีเนื้อหาแปลกใหม่ น่าสนใจ แตกต่างจากเล่มอื่นๆ ในท้องตลาด
• ไม่ใช่เรื่องที่ลอกเลียน ดัดแปลง หรือมีเนื้อหาใกล้เคียงกับเรื่องของคนอื่นมาก
• เจาะกลุ่มเป้าหมายชัดเจน มองเห็นได้ง่ายว่าจะขายให้ใครอ่าน
• เขียนด้วยภาษาที่สละสลวย อ่านสบาย ไม่ติดขัด
• เป็นงานเขียนที่มีคุณค่าทางวรรณกรรม จรรโลงใจผู้อ่าน ไม่ทำร้ายสังคม
• เป็นเรื่องที่เห็นแนวโน้มว่าจะพัฒนา แก้ไข ปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นได้

เรื่องที่จะไม่ผ่านการพิจารณา
• เรื่องที่ลอกเลียน หรือดัดแปลง หรือแปลมา
• เรื่องที่ไม่สนุก ไม่สมจริง
• อ่านไม่รู้เรื่อง ภาษาไทยแย่มาก
• เรื่องที่ไม่รู้จะให้ใครอ่าน มีเนื้อเรื่องและภาษาที่ไม่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย
• มีเนื้อหาซ้ำซาก ไม่ต่างจากของคนอื่น มองไม่เห็นโอกาสที่จะโดนใจลูกค้า
• เรื่องที่เฉพาะกลุ่มเกินไป เช่น มีแต่คนเขียนและครอบครัวเท่านั้นที่จะอ่านสนุก
• เรื่องที่ล้าสมัยไปแล้ว หรือมีเนื้อหาล้าสมัยได้ง่าย
• เรื่องที่สุดจะเยียวยา เกินความสามารถของบ.ก.จะช่วยเหลือได้

925 Nameless Fanboi Posted ID:8In349zgG

>>924 จากสนพ.ไหนวะนั่น

926 Nameless Fanboi Posted ID:I0MnaNMqn

>>925 นานมีบุ๊คส์ เป็นเกณฑ์ที่เขียนไว้ตอน ปี 53 ปัจจุบันก็ยังค้างอยู่ในเว็บ แต่ไม่แน่ใจว่ายังรับงานของนักเขียนไทยหน้าใหม่อยู่ไหม ไม่เห็นมาหลายปีละนะ

927 Nameless Fanboi Posted ID:Uq5c3aLDZ

>>901
มาต่อละ

ต่อจากย่อหน้าที่แล้ว

อีเลนกับไอ้เร็กซ์กำลังจะเข้าไปที่งาน(น่าจะไอ้ส่งบัตรเชิญไปนั่นแหละ)ประกาศผู้เข้าร่วมทดสอบว่าพวกมึงจะได้เป็นผู้นำตระกูลมั้ย แต่ก่อนจะถึงงาน ก็มีคนลึกลับเดินชนอีเลน ไอ้เร็กซ์ที่เป็นองครักษ์ส่วนตัวแม่งทำงานไม่ได้เรื่องเล๊ย กูไม่อยากจะด่า แค่นี้แม่งปกป้องไม่ได้ มึงก็รู้ว่าอีเลนแม่งซื้อบื่อแค่ไหน โดนชนนิดเดียว เลือดแม่งออก จริง ๆ อีเลนโดนฉกเลือดไป ฉกไปทำไม ใครฉก เดี๋ยวรู้ มึงไม่ต้องรอนาน

นิดนึงนะ เวลาตัวละครมันมีแค่สองตัวเนี่ย มันก็พออ่านได้ลื่นไหล ไม่น่าหงุดหงิดเท่าไหร่ คือถ้าอีน้องเบลสามารถทำให้กูงงในขณะที่มีตัวละครแค่สองตัวในฉากได้ล่ะก็ มึงคงต้องมีพลังแฝงอะไรสักอย่างในตัวแน่ ๆ

กูตัดไปที่กลางงานเลยนะ ไอเร็กซ์พาอีเลนวาร์ปมากลางงานเพื่อไปพิสูจน์ตัวตน และหาพี่ชายอีเลนด้วย (สรุปฟอคิวบัสไม่ใช่พี่ชายอีเลนนะ มันเป็นคนเลี้ยงอีเลน และเป็นพ่อบุญธรรมไอ้เร็กซ์) แล้วบิ๊วอีเลนว่า มึงต้องประท้วงนะ ตอนแม่งประกาศชื่อผู้สืบเชื้อสายฟาโรทีส มึงอย่าเสือกไปยอมอีดอกชาเชียว ให้มันรู้กันไปว่ามึงเป็นเจ้าหญิงแห่งฟาโรทีสตัวจริง อีเลนแม่งก็กล้า ๆ กลัว ๆ ตามประสาเจ้าหญิงผู้น่ารำคาญ

คนในงานมีตามนี้นะ
1. แกรนิส ขี้ข้าวัยดึก (ที่เตือนอีนายหญิงในตอนเกริ่นว่าให้ถอนตัว) รับหน้าที่เป็นพิธีกร
2. คารอส สรุปมันเป็นรัชทายาทตระกูลเซ็คเซ็นดาร์ ตระกูลรุ่นใหญ่ อู้ฟู้ ๆ
3. อีเลน เจ้าหญิงแห่งฟาโรทีส
4. ไอ้เร็กซ์ เพื่อนอีชา แต่ตอนนี้รับบทเป็นองครักษ์ของรัชทายาทแห่งฟาโรทีส (ซึ่งเป็นอีชาหรืออีเลนก็ได้ กูว่า) และเป็นเพื่อนยูรีเอล พี่อีเลน
5. ลอ พี่ชายฝาแฝดหนุ่มแว่น
6. เนโลเน่ จาก เดอ เฟนทอล
7. อีชา นางเอก
8. หนุ่มแว่น เป็นองครักษ์อีเลนโดยตรง
9. ยูรีเอล พี่ชายอีเลน

จบตอนด้วยอีชาประกาศชื่อตัวเองและทำความเคารพผู้คนในงาน แหม มีมารยาทนะมึง อีดอก

มึงเห็นมั้ยว่าฉากนี้ตัวละครแม่งเยอะแค่ไหน แต่กูตอนต่อไปกลับไม่ค่อยงงเท่าไหร่(หรืองงน้อยกว่าย่อหน้าหายนะ)
เพราะอะไรเดี๋ยวไปดู

กูขอคอมโบต่อด้วย

Curse spell 3
โลหิตสาบาน
ตอนนี้น้องเบลบอกดุเดือดเจ้มจ้น
พออีชาประกาศตัว อีเลนก็สวนทันควันว่า อีชา มึงมันตอแหล มึงมันไม่ใช่เชื้อสายฟาโรทีส บลา ๆ ๆ อีชากระตุกยิ้มเย็น แล้วสวนกลับว่า แล้วทำไมสร้อยคอประจำตระกูลถึงอยู่กับกู บัตรเชิญก็เขียนชื่อกูไม่ใช่ชื่อมึง อีเลนเงิบแดก อ้ำอึ้ง ๆ ได้แต่คิดว่าอีชามันต้องใช้ทริกอะไรแน่ ๆ (เวทมนต์ไม่สามารถเปลี่ยนชื่อในบัตรเชิญได้)
เมื่อเห็นอีเลนเสียเปรียบ พี่ชายอีเลนก็ช่วยซับว่า ก็มึงไม่ใช่เหรอที่ขโมยสร้อยกับบัตรเชิญจากน้องสาวกูไป (คือ...กูจำได้ว่าอีชาขโมยแค่บัตรเชิญนะ แต่เอาเหอะ ช่างมัน ๆ) แล้วพี่ชายอีเลนก็หยิบจดหมายขึ้นมาเป็นการยืนยัน (ตรงนี้มึงยืนยันเหี้ยอะไรวะ กูงงมาก แต่อ่านไปอีกนิดก็อ๋อ แม่งคิดว่ามันถือจดหมายเชิญของอีเลนที่เป็นของจริงอยู่) แล้วยังบอกอีกว่า ไม่เชื่อก็ลองถามหนุ่มแว่นกับไอ้เร็กซ์ดู ซึ่งไอ้สองคนนี้ก็พยักหน้ายืนยันหงึกหงัก หนุ่มแว่นเล่าว่าอีชาขโมยจริง ลุงแกรนิสเดอะขี้ข้าฟังแล้วก็หันไปหาไอ้เร็กซ์ เป็นเชิงว่ามึงเล่าบ้างอย่ากินแรงเพื่อน แต่ก่อนที่ไอ้เร็กซ์จะเล่า อีชาก็ขอเสือกถามบ้าง ว่าเนี่ย ไอ้จดหมายเชิญเนี่ย แม่ง immune เวทหีแตดทุกชนิดดุจมึงใส่แมงทอง ไม่เชื่อพวกมึงลองดู อีกข้อ ไอ้ที่พี่อีเลนถืออยู่ มันจะใช่จดหมายเชิญของจริงเร้อ ระหว่างทางก่อนจะถึงมือมึง อาจจะมีคนมือบอนไปแก้ไขเนื้อหาให้เข้าข้างพวกมึงเองก็ได้ (พิสูจน์ง่ายมาก มึงยิงเวทใส่จดหมายทั้งคู่ก็รู้แล้วอันไหนของจริง) เพราะถ้ามันสำคัญขนาดนั้น ทำไมจดหมายถึงถูกชิงมาง่าย ๆ ทั้ง ๆ ที่มีองครักษ์ตั้งสองคน(หนุ่มแว่นแอ่นไอ้เร็กซ์)

แล้วน้องเบลก็ชมอีชาว่า ฉลาด!
แต่กูว่า...อืม ก็ฉลาดมั้ง ไม่อยากขัดใจน้องเบล เห็นหีละใจอ่อนทุกที

เดี๋ยวมีอีกพาร์ท

by โม่งเงี่ยน

928 Nameless Fanboi Posted ID:Uq5c3aLDZ

>>927
แล้วอีชาก็ชูจดหมายขึ้นมา แล้วก็บอกว่า ทำไมกูถึงส่งจดหมายหาพี่อีเลนได้ ทั้งที่กูติดต่อกับมันตลอดเวลา แต่ในวันนั้น จดหมายของกูถูกตีกลับออกมา อันนี้กูงงมาก อุตส่าห์หายงงตอนก่อนหน้านี้แล้ว อีชามึงติดต่อกับอีพี่ชายอีเลนด้วยเหรอ สรุปอีพี่ชายอีเลนมันรู้จักมึงด้วยงั้นสิ หรือพี่ชายแม่งโง่เหมือนน้องสาวที่ไว้ลายความโง่ในสองตอนที่แล้ว

อีเลนถึงกับลมจับ ไอ้เร็กซ์ประคองเซฟไว้ได้ ไอ้ลอกับคารอสก็แค้นแทน แล้วแม่งก็โพล่งออกมาว่า
พิธีหลั่งโลหิตสาบาน!
เอาแล้ว ๆ กูได้เห็นเด็กสาวถูกเบิร์นทั้งเป็นแล้ว

ลุงแกรนิสเดอะขี้ข้าเสกไฟร์พิลล่าร์ แล้วก็บอกให้อีชาหลั่งเลือดในวงเวทด้านนอก แล้วเดินเข้าไปในไฟร์พิลล่าร์ อีชายิ้มมุมปาก กูฉกเลือดโง่ ๆ จากอีเลนมาแล้ว กูก็แค่ทำทีเป็นเอามีด(ที่มีเลือดอีเลน)ปาดมือตัวเอง แต่อีดอกชาก็แอบเยาะเย้ยอีเลน โดยการจับที่ต้นแขนตัวเอง อีเลนจับต้นแขนตาม แต่ต้นแขนมันมีรอยถูกฟัน (ตอนที่มีคนลึกลับชนก่อนเข้างาน) แล้วอีชาก็เดินเข้าไปกลางไฟร์พิลล่าร์แบบเท่ ๆ

แต่พิธีหลั่งโลหิตสาบานตนนั้น แม่งมีปฏิกิริยารุนแรงมาก ทำให้มีสะเก็ดไฟแตกกระจายไปทั่ว และแม่งทำท่าจะระเบิด พวกผู้คนก็กางบาเรียกันจ้าละหวั่น สุดท้ายก็ระเบิดออกเป็นไฟวงกว้าง แล้วเปลวไฟก็ถูกพลังใครสักคนแช่แข็ง และก็ถูกพลังอัดเป็นผุยผง สรุปอีชารอดแบบชิว ๆ หมอยไม่หงิก หนังหีไม่มีริ้วรอย
คือกูว่าอีชาแม่งมีเชื้อสายฟาโรทีสจริง ๆ ไม่เกี่ยวกับเลือดอีเลนหรอก

สรุปพวกสภากลาง(คนจัดงาน) ก็เห็นพ้องว่ายกเลิกงานก่อนดีกว่า
อีเลนก็ยังคิดว่าอีชาเล่นตุกติกอยู่ พี่อีเลนก็บอกว่ากูจะทวงสิทธิ์ของน้องกูคืน อีชายักไหล่ แล้วเดินหลังจากไป แต่...ไอ้ลอกับพี่ชายอีเลนก็ใช้ดาบฟันข้างหลังอีชาซะงั้น แมนชิบหาย แต่มีหรือนางเอกอย่างอีชาจะยอมโดนฟันข้างหลังง่าย ๆ แม่ง parry ออกทันควัน แล้วเหน็บเล็กน้อย ว่าอาจารย์มึงสั่งสอนให้แทงข้างหลังชาวบ้านที่ไม่ได้คิดสู้แบบนี้เหรอ ก่อนจะบอกว่า ไว้อีดอกเลนยึดตำแหน่งคืนจากกูได้เมื่อไหร่ กูจะบอกว่ากูแอบอ้างเป็นเจ้าหญิงไปทำเพื่อ
จบตอน

คือตอนนี้ที่อ่านง่ายเพราะมีบอกชื่อตรง ๆ เลยรู้ว่าใครพูดไดอะล็อกไหน แล้วหลังไดอะล็อกก็ตามด้วยคนพูด ซึ่งเห็นเยอะขึ้น แต่ก็ยังมีหลายไดอะล็อกยังบัดซบไม่เปลี่ยนแปลง

เมนต์ต่อไปกูจะสรุป/วิเคราะห์ละนะ ขอเวลานิด ไม่เกินสัปดาห์นี้แหละ จะขออ่านหลาย ๆ ตอนหน่อย
นอนละ

ปล. และต้องขอโทษที่คราวนี้กูเวิ่นเว้อไปเยอะ กูหงุดหงิดและสับสนกับการบรรยายน้องเบลมากไปหน่อย เลยต้องพยายามอ่านให้ละเอียด และเขียนทดลงบ่อย ๆ แม่งทำกูเป๋เลย อีห่า

by โม่งเงี่ยน

929 Nameless Fanboi Posted ID:8La+s6/sY

>>924 ใครก็ได้แก้ไขให้เป็นปัจจุบันหน่อยสิ

930 Nameless Fanboi Posted ID:I0MnaNMqn

>>929 จริงๆ กูว่าบทความนี้เขียนได้ดีมากเลยนะ คือบอกชัดๆ เลยว่า มันต้องอ่านสนุก และที่สำคัญคือมันต้องมีฐานคนอ่านด้วย ไม่งั้นก็ไม่รู้ว่าจะพิมพ์ไปขายใคร จริงไหม

แต่ที่มัน out of date ไป คือยุคนี้มันมี e-novel อะไรพวกนี้เข้ามา สนพ. ก็อาจจะต้องเข้มขึ้นในเรื่องของการเลือกนิยายตีพิมพ์ คือต้องเน้นว่ามันจะต้องขายได้แน่ๆ ไว้ก่อน ไม่งั้นก็รอวันเจ๊งได้ ประมาณนี้

931 Nameless Fanboi Posted ID:awJw2Gg4x

กุเห็นนิยายพิมพ์ขาย เขียนผิดเขียนถูก เอาเรื่องดังประเทศอื่น(จีน)มายำๆ จะเหลือสักกี่สนพ ที่มาตรฐานดีขนาดนั้นวะ

932 Nameless Fanboi Posted ID:LS/Pz44ZS

>>930 จริงๆมันควรเรียกว่า ยุคแห่ง copy & paste novel online
ถ้าแฮรี่พ่องตายไม่ถูกเขียน เด็กดวกจะเขียนโรงเรียนเวทกินนอนในหอยังไง
ถ้าไม่มี sao กับราชาแห่งราชันย์ เด็กดวกจะเขียนนิยายเกมออนไลน์ยังไง
ถ้าไม่มีเกิดใหม่ต่างโลกคิโม่ย เด็กดวกจะเขียนการเกิดใหม่ช่วงแรกยังไง
ถ้าไม่มีการนำนิยายแปลจีนย้อนไปหาจีนโบราณ เด็กดวกยังจะคิดแต่จีนโบราณอีกเรอะ

933 Nameless Fanboi Posted ID:G+/k+b/fP

>>930 กุลองวิจัยตลาดดูพบว่าปัจจุบันผู้ซื้อชายลดลง แต่ผู้ซื้อหญิงมีแต่เพิ่มขึ้น
ส่วนสาเหตุหลักๆ คือผู้หญิงเขาเลือกซื้อแบบไม่สนใจ Quality เลย ประมาณถูกใจก็เปย์ทันที ซึ่งต่างจากผู้ชายที่ต้องมี Quality สูงระดับหนึ่งถึงจะมีเหตุผลให้ตัดสินใจซื้อได้

ซึ่งเจ้านิยายบ้านเราในยุคปัจจุบันเนี่ย Quality มันไม่ถึงขั้นเมื่อเทียบกับนิยายแปลจากต่างประเทศ ผู้ซื้อชายทั้งหลายจึงหันไปเสพนิยายแปลที่มีคุณภาพมากกว่า แทนที่จะซื้อนิยายในไทยที่หาดีได้ค่อนข้างยาก ฉะนั้นเองตลาดนิยายแปลบ้านเราจึงค่อนข้างบูมมากใครบอกซบเซานี่กุไม่เชื่ออะ ขนาดคุเห่อหมอยยังเปย์งานหนังสือหมดกันหลักหมื่น แล้วไอ้พวกอ่านนิยายจริงๆ เก็บสะสมวรรณกรรมนี่จะเปย์หนักกว่ากี่เท่า

ปัญหาหลักคือ Quality ที่สูงเพราะต้องแข่งขันกับตลาดต่างประเทศนั่นล่ะ ทำให้นิยายไทยแนวแฟนตาซีเกิดยากกว่านิยายของผู้หญิงเขา

934 Nameless Fanboi Posted ID:o28DMPNk1

>>933 เราเป็นผู้หญิง แต่เราใส่ใจกับคุณภาพมากนะ ไม่ได้มาตรฐานเรา เราก็ไม่ควักเงินจ่าย

935 Nameless Fanboi Posted ID:LhwX03HDW

>>934 งงว่ะ

เราเป็นผู้หญิง แต่เราใส่ใจกับคุณภาพมากนะ คือปกติผู้หญิงไม่ใส่ใจหรอ?

936 Nameless Fanboi Posted ID:v62/mw3yG

>>933 มึงวิจัยหรือมึงคิดเอาเองเนี่ย มีตรรกะวิบัติแบบที่ว่าผชมีเหตุผล ผญไม่มีเหตุผลมาเป็นพื้นฐานความคิดด้วย ถ้าเรียนสายสังคมศาสตร์มาน่าจะรู้นะว่าตั้งbiasที่ไม่มีเหตุผลรองรับมาทำวิจัยนี่ยังไงก็ผิด เหยียดเพศเหี้ย ๆ

937 Nameless Fanboi Posted ID:v62/mw3yG

>>933 ส่วนที่ว่าผชดูqualityเนี่ย มึงไปดูพวกเด็กเห่อหมอยในเด็กดวกซื้อนิยายเบียว ๆ สำนวนเหี้ย ๆ ได้ มีเยอะถมไป ตื่นได้แล้ว

938 Nameless Fanboi Posted ID:CmYx0fOjz

>>933 อี๋ โคตรเหยียดเพศ

939 Nameless Fanboi Posted ID:23Bj/OOKq

>>933 กูเห็นผู้ชายก็แม่งซื้อหนังสือกันเยอะแยะ งานหนังสือนี้วิ่งกรูแย่งกันต่อแถว ที่จริงกูว่าปัจจัยมันอยู่ที่กำลังทรัพย์มากกว่า หนังสือจะเรียกว่าแพงก็แพง การ์ตูนเล่มหนึ่งซื้อก๋วยเตี๋ยวชามได้ คือมันไม่ได้เป็นของในชีวิตประจำวันที่คนต้องกินต้องใช้ คนที่มีกำลังทรัพย์น้อยก็เลือกของกินสิ เรื่องเพศกูว่ามันเกี่ยวข้องกับคนผลิต พวกธุรกิจมากกว่า ว่าจะเจาะตลาดกลุ่มไหน อะไรแบบนั้น

940 Nameless Fanboi Posted ID:L5ETbQqLR

มันแล้วแต่คนมากกว่านะมึง

941 Nameless Fanboi Posted ID:L5ETbQqLR

>>927 >>928 เอ่อ...อันนี้กูขอใช้เวิร์บทูเดานะ กูคิดว่าจดหมายที่บอกมีสองอันคือ
1. จดหมายเชิญในบทแรก (บัตรเชิญ)
2. จดหมายเวทมนตร์

ถ้าเป็นแบบนี้มันจะ make sense กว่าปะวะ (กูคิดว่าอาจไม่เหมือนกันว่ะ แบบจดหมายเวทนั่นแม่งเหมือนใช้ติดต่อสื่อสาร แต่น้องเบลมึงเขียนให้นักอ่านเข้าใจหน่อยดิ กูก็อ่านไปงงไป55555) ถ้าเป็นอย่างข้างบนกูว่าจดหมายที่อีชามันเอามาคือจดหมายเวทมนตร์

ปล.กูขอเดาอีกรอบ อีชาต้องสร้างหลักฐานปลอมแน่ๆ อีดอก (เดาจากที่แม่งชกเลือดอีเลนไป กะมั่นหน้าว่ามึงต้องได้ตำแหน่งนี้แน่)

หวังว่านักเขียนมึงไม่หักบทแบบ อีสองคนนี้คือคนเดียวกันแต่โดนแยกร่างนะสลัด

942 Nameless Fanboi Posted ID:LS/Pz44ZS

>>941 กูเริ่มไม่ชอบงานเขียนเบลก็ตรงที่ตัวละคร ปรับให้นางเอกเป็นคนฉลาดโดยการกดทุกคนโง่ลงนี่แหละ

ถ้าเปลี่ยนให้อีเลนเป็นนางเอกน่าลุ้นกว่า ไม่ใช่เพราะกูชอบคนโง่ แต่เบลกำลังมีปัญหาติดกับดักแมรี่ซูต่างหาก เหมือนจงใจวางบทให้อีชาชนะตลอด ดูจากคนที่ถูกกระทำก็ได้ ถูกชิงจดหมายก็แหม่งๆล่ะ ไม่รู้ว่าเบลเป็นเบียวคิดว่าตัวเองเป็นอีชารึเปล่า

943 Nameless Fanboi Posted ID:LS/Pz44ZS

>>942 เสริม ถ้ากูเปลีายนเรื่องได้ กูขอตั้งชื่อ princess of chuunibyou เหมาะสมกว่า เบลอยากเป็นอีชา เพราะเก่งกว่าไอ้เร็ก ไอ้ลอ อีเลน ตัวอื่นๆ ในทุกๆเรื่อง

944 Nameless Fanboi Posted ID:7g5/j/Vws

>>934 >>935 >>936 >>937 >>938 >>939
ไม่เห็นด้วยก็แล้วแต่พวกมึง พวกมึงอาจจะเป็นแค่ส่วนน้อยที่ตกสำรวจไปแต่ข้อมูลที่บริษัทกุเก็บมา ผู้บริโภคส่วนใหญ่เป็นแบบนั้นจริงๆ

945 Nameless Fanboi Posted ID:L5ETbQqLR

>>942 ถ้าฉลาดแบบมีเหตุผลกูโอเคนะ แต่ที่กูอ่านๆ ถึงตอนที่มันรีไรต์ล่าสุด เหมือนอีเด็กชาแม่งต้องมีปมอ่ะ ถ่ายบทให้ดูน่าสงสารตัลล๊อดดดดด (กูให้คะแนนความน่าสงสารเพิ่มหน่อยก็ได้)
ไม่แน่น้องเบลแม่งอาจหักมุมคนอ่านก็ได้ เดี๋ยวกูลองอ่านต่ออีกหน่อย

ปล. ยังไงกูก็รอเพื่อนโม่งเงี่ยนมาสับต่ออีกที ละกูจะเสริมตามความเห็นกูอีกหน่อย ตอนนี้กูอยู่ในขั้นตอนตัดสอนใจว่าควรอ่านเรื่องนี้จริงจังรึเปล่า

946 Nameless Fanboi Posted ID:xeUw9qLeg

>>941 ตอนแรกก็เข้าใจแบบนั้นนะ เรื่องจดหมาย แต่ตอนนี้กูไม่แน่ใจจริง ๆ ว่ะ

แต่เรื่องอีชา กูว่ามันอาจจะมีสายเลือดฟาโรทีสจริง ๆ ก็ได้นะ แต่ที่ทำทุกอย่างเพื่อยั่วประสาทอีเลน เพราะอยากให้อีเลนมันฮึดสู้เฉย ๆ ลึก ๆ มันก็หวังดีแหละนะกูว่า

>>942 กูจะด่าในหน้าสรุปอย่างที่มึงว่านั่นแหละ แม่งปล่อยให้นางเอกฉลาดคนเดียว กูไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่หวังว่าหลัง ๆ จะมีคนที่มันฉลาด ๆ อีกเยอะ ๆ นะ สาธุ

947 Nameless Fanboi Posted ID:xeUw9qLeg

>>945 โอเค มึงช่วยเสริมด้วย อยากฟังความเห็นคนที่อ่านเรื่องนี้ไปไกลกว่ากูเหมือนกันนะ

ส่วนตัวกูคิดว่าน้องเบลมีแววพัฒนาได้ดี นี่กูอยากชวนแม่งมาแดกหมูกะทะแล้วนั่งสับให้ฟังสด ๆ เลยนะเนี่ย อย่างน้อยน้องก็น่าจะไม่อีโก้จัดจนเกินไป จากที่ดูข้อความในเมนต์เค้าอะนะ

เอ่อ ไอ้คนที่จะสับ the corola song(ยามกลีบฯ)อะ กูรอมึงอยู่นะ นิยายเรื่องโปรดกูเลย

948 Nameless Fanboi Posted ID:L5ETbQqLR

>>947 ไม่อยากบอกมึงเลยว่ากูแอบอวยเรื่องนี้ 555555 กูชอบที่น้องเค้าตอบเม้นต์ว่ะ นางดูแคร์คนอ่านและพยายามปรับปรุงรับฟังความเห็นคนอื่น ต่างจากนักเขียนหลายๆ คนในเด็กดวกที่แม่งตั้งตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล

949 Nameless Fanboi Posted ID:xeUw9qLeg

>>948 จริง ๆ มันก็เป็นเหตุผลที่กูพยายามสับเรื่องนี้เป็นพิเศษด้วย ไม่เคยตั้งใจขนาดนี้เลยนะ อยากให้น้องมาอ่านเหมือนกัน แต่ติดตรงกลัวแม่งมาอ่านแล้วเป็นลมจริง ๆ

950 Nameless Fanboi Posted ID:LS/Pz44ZS

>>949 ถ้าเป็นพวกนักเขียนอีโก้สุดโต่งจะเมินวิจารณ์ แต่ไม่คิดจะปรับปรุงนิยายของตัวเอง

951 Nameless Fanboi Posted ID:L5ETbQqLR

>>948 กูลองแวบไปทักๆ ดีมั้ยว่าเออ มีคนตั้งใจสับให้ กูว่าน้องเค้าน่าจะรับฟังอยู่นะ
>>950 กูคิดนะ ถ้านักเขียนเมินคำวิจารณ์แม่งก็ไม่มีวันพัฒนาว่ะ

952 Nameless Fanboi Posted ID:xeUw9qLeg

>>951 ก็ลองดู แต่บอกให้น้องเบลอคำหยาบของกูด้วยนะ 555 อีเหี้ย แม่งมี sexual harassment word ด้วย อย่าถือสาคนจังไรเลยนะน้องเบล

953 Nameless Fanboi Posted ID:LS/Pz44ZS

>>952 เว็บเด็กดวกมีระบบกรองภาษาเหี้ยๆอยู่ แค่คำว่า"มึง"โดนตัดออกไปแล้ว คุยไม่รู้เรื่องกันแล้ว

954 Nameless Fanboi Posted ID:4Lp7f9Xxe

>>947 ไม่เกินสามวัน กูจะมาสับให้ ช่วงนี้งานกูเยอะมากกก
ปล. กูอ่านคร่าว ๆ แล้วค่อนข้างน่าสนใจ

955 Nameless Fanboi Posted ID:L5ETbQqLR

>>952 บอกละๆ เดะรอดูปฏิกิริยานาง5555
>>953 ก็พูดภาษาดอกไม้หน่อย มันก็ไม่เซ็นแล้วมึง55555

956 Nameless Fanboi Posted ID:LS/Pz44ZS

>>955 อีดอกทองถือเป็นภาษาดอกไม้รึป่าว ไม่ได้กวนตีน กูสงสัย

957 Nameless Fanboi Posted ID:LS/Pz44ZS

เดี่ยว โม่วป่าววะ https://www.dek-d.com/board/view/3801027/

958 Nameless Fanboi Posted ID:L5ETbQqLR

>>956 ทุกวันนี้มันใช้เป็นคำด่านะมึง

959 Nameless Fanboi Posted ID:4AdzNeWj0

นิยายดีคือนิยายที่...

960 Nameless Fanboi Posted ID:2EU1cG4ru

>>959 ...เน้นปริมาณ

961 Nameless Fanboi Posted ID:l77C77Wqs

>>959 ...เน้นความถี่

962 Nameless Fanboi Posted ID:fujoDP2vn

>>959 เน้นเบียว

963 Nameless Fanboi Posted ID:OJi13UDbE

...เน้นเสียว

964 Nameless Fanboi Posted ID:LeQZIhMdm

กูตอบจริงจังนะ

1. อ่านง่าย
2. เนื้อเรื่องดำเนินไว ไม่ยืดเยื้อ
3. มีความรัก15%-30%
4. มีหักมุม
5. มีอิมแพคกับอารมณ์

965 Nameless Fanboi Posted ID:GhS917tC+

>>964 พูดตามตรงนะ ความหมายของคำว่าอ่านง่ายสมัยนี้มันเหมือนว่าเขียนให้ไม่ต้องใช้สมองอ่านวะ ไม่ใช่แค่ใช้ภาษาง่ายๆ แต่ง่ายไปหมดทุกอย่าง ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น ผ่านสมองก็ลืมได้เลย

966 Nameless Fanboi Posted ID:fPph3.0Pp

จริงที่ผู้ชายซื้อหนังสือน้อยกว่าผู้หญิง แต่อย่าพูดเลยว่าเพราะผู้ชายเลือกแต่งานคุณภาพ ที่ผู้ชายไม่ซื้อเพราะมันมีเรื่องอื่นที่มันต้องใช้ตังมากกว่าไง เลี้ยงสาว ซื้อเกม เติมเกม แถมเวลาอ่านหนังสือผู้ชายมักอ่านแค่เอาเนื้อเรื่อง เอารู้เรื่อง อย่างการ์ตูนถ้าไม่ใช่ผู้ชายวันทาำงานหรือมาฐานะหน่อย แม่งก็ไม่ซื้อ เพราะกูอ่านแล้ว รออ่านไปเรื่อย มันไม่เหมือนผู้หญิงที่กลุ่มผู้หญิงเขามีความประดับใจบางอย่างกับเรื่องที่เขาซื้อ หรือบางเรื่องเขาเห็นว่าน่าสนใจเลยซื้อ มันเหมือนกับเขาเลือกซื้อเสื้อผ้านั่นแหละมึง ซื้อมาสวยก็ดีใจ ซื้อมาไม่สวยก็ไม่ค่อยใส่ ส่วนผู้ชาย มึงลองดู ว่าซื้อของพวกนี้น้อยแค่ไหน บางคนทั้งปีไม่ซื้อเสื้อผ้าใหม่เลย ซึ่งถามว่าเสื้อผ้าสำคัญไหม ไอ้ห่า แม่งปัจจัยสี่เลยนะมึง มันต้องสำคัญ แต่ก็ไม่ได้ซื้อไงเพราะใส่เก่าๆได้ ดังนั้นอย่าสรุปว่าผู้ชายมีคุณภาพ มึงควรสรุปว่าชายหญิงมีความชอบต่างกันสิ
ปล.กูเป็นผู้ชาย

967 Nameless Fanboi Posted ID:LeQZIhMdm

>>965 ขยายความนิด คำว่าอ่านง่ายของกูคือกูอ่านรอบเดียวรู้เรื่อง(ไม่นับพวกปริศนาในเรื่อง) เข้าใจว่าจะสื่ออะไรในแต่ละย่อหน้า ภาษาก็ไม่ต้องเวิ่นเว้อจนกูต้อง search google หาความหมาย

กูเคยอ่านนิยายภาษาอังกฤษที่แม่งใช้ศัพท์สูง ๆ แล้วต้องมานั่งเปิด dict หาความหมายทุกคำ กูรู้สึกว่าทรมาน แม่งไม่ใช่ พอการอ่านมันสะดุด กูก็หมดสนุกละ

กูก็ยังมีข้อพิจารณาอื่นอีกนะ ถ้าอ่านง่ายแต่เนื้อเรื่องไม่มีห่าอะไร มันก็ผ่านสมองไปนั่นแหละ แต่ถ้ามันมีองค์ประกอบอื่น เช่นหักมุม หรือมีอิมแพคกับอารมณ์ด้วย กูก็พอใจละนะ ไม่ว่าจะแนวไหนก็เหอะ

968 Nameless Fanboi Posted ID:AmMK4eFrq

กุขอถามมั่ง ตอนนี้กุตั้งใจจะเขียนแนวสโลว์ไลฟ์...
แต่จุดเด่นของแนวนี้มันอยู่ตรงไหนวะ นอกจากเรื่อยเปื่อยไปวันๆ !?

969 Nameless Fanboi Posted ID:2EU1cG4ru

>>968 ดูแถวนี้ก็ได้ ไปหาเอง ร้อยแปดพันเก้าวะ
http://goboiano.com/slice-of-life-anime-to-relax/

970 Nameless Fanboi Posted ID:JEDETxeO6

>>968 เรืออวย

971 Nameless Fanboi Posted ID:BbdGN9wc1

>>968 กูว่า มันน่าจะคู่กับความฮา

972 Nameless Fanboi Posted ID:AmMK4eFrq

>>969 Slowlife นี่หมายถึงแนว Slice-of-life หรอกเหรอวะ? กุเพิ่งรู้เนี่ยล่ะ
>>970 สร้างสงครามกองอวยสินะ
>>971 แต่ปัญหา... สไตล์กุนี่มันจะเขียนเอาฮาได้รึเปล่าวะเนี่ย!?

973 Nameless Fanboi Posted ID:2EU1cG4ru

>>972 slow life ตามความหมายในเว็บ เลยใกล้เคียงกับ Slice of Life
https://health.kapook.com/view121714.html

974 Nameless Fanboi Posted ID:HL2qcvIQn

>>968 พวกอบอุ่นหัวใจ หรือปนดราม่าก็ได้มึง แนวตูน kimi to boku,honey and cloverไรงี้

975 Nameless Fanboi Posted ID:2EU1cG4ru

มึงคิดยังไงกับนิยายวิทย์ https://www.dek-d.com/board/view/3801161/

976 Nameless Fanboi Posted ID:l77C77Wqs

>>975 คิดว่าอิถุยสะเหล่อ

977 Nameless Fanboi Posted ID:ekXLlmYiU

>>975 คิดว่าถ้าจะแต่งแนะนำสร้างโลกเอง หรือในธีมอนาคต อวกาศ จะดีกว่า อย่างน้อยบางอย่างมึงก็ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลมากมาย อย่างเช่น ตัวละครสามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เพียงแค่กดจิ้มหน้าจอสามมิติ มึงก็แค่บอกว่ามันคือวิทยาการในอนาคตที่สามารถเปลี่ยนสิ่งของเป็นข้อมูลและข้อมูลเป็นสิ่งของได้ จบ!

978 Nameless Fanboi Posted ID:3hi.OtqyH

กุ... >>972 เอง
กุตั้งใจจะเขียน slowlife นะ แต่ว่า... เมื่อกี้นี้ระหว่างอาบน้ำ จู่ๆ พล็อตดราม่าพอๆ กับท่านเอลิซ่า ก็ผุดขึ้นมาในหัวแทนซะงั้น!?
กุว่ากุคงไม่เหมาะกับ slowlife แหงๆ

979 Nameless Fanboi Posted ID:a51olRBT6

>>976 ทั้งมึงทั้งมันตอบไม่ตรงคำถาม

980 Nameless Fanboi Posted ID:M1Nv9d2ay

>>975 ดูไอ้ถุยพูดสิ

คห.12
นี่กระทู้ดักอะไรผมหรือเปล่าครับ?

ผมกำลังดู NBA เปิดฤดูกาลอยู่ Gordon Hayward กระดูกหักเจ็บไปแล้วหนึ่ง ต้องใช้วิทยาศาสตร์การแพทย์ วิทยาศาสตร์การกีฬาด้วยล่ะครับ

คห.24
ไม่นึกว่ากระทู้นี้จะจริงจัง... ขอแก้เขินหน่อย

ผมว่านิยายวิทยาศาสตร์เขียนง่ายนะ สำหรับผม คือของมันมีอยู่แล้ว... เช่นนิยายผมเวลายิงกันในอวกาศ ผมบอกตลอดว่า ไม่มีเสียง เงียบยิ่งกว่าป่าช้า... นิยายผมนับเป็นวิทยาศาสตร์ไหมครับ? ปิ้วๆ เฟี้ยวๆ ไม่มีนะ เงียบกริบขมิบปากเลยล่ะ

บางทีวงเล็บ

(1 parsec = 3.26 light years; 1 light year = 9.4 trillion km; 1 parsec = 30.8 trillion km แสงเดินทางจากดวงอาทิตย์มายังโลก 8นาที 19วินาที— ผู้แต่ง)

ผมว่านะ

ใครจะเขียนอะไร ก็เขียนๆไปเถอะครับ มันเป็นเรื่องโกหกหลอกชาวบ้านทั้งหมดนั่นแหละ ผมยังไม่รู้เลยว่าตัวเลขที่ผมใช้มันจริงแค่ไหน หรือมันแค่นักวิทยาศาสตร์ยอมรับกันเฉยๆตอนนี้หรือเปล่า ข้อมูลมันเปลี่ยนตลอด... เบื่อนะโว้ย!

ดาวพลูโตเป็นแค่ดาวเคราะห์น้อย... อ่อ ตอนแรกเป็น ตอนนี้ไม่เป็น เพราะนักวิทยาศาสตร์ลงความเห็นตรงกัน... อ้าวมันเป็นประชาธิปไตยไปตั้งแต่เมื่อไหร่... ผันผวนอย่างกับราคาตลาดหุ้น

เหยียบดวงจันทร์ หลุมดำชนกัน บลาๆ วิทยาศาสตร์หรอ? ไสยศาสตร์ความเชื่อทั้งนั้น ใครอ้างข้อมูลอะไรก็ช่วยอ่านเยอะๆ อ่านลึกๆหน่อยนะครับ อย่าฟังความข้างเดียวเนอะ อ่านทุกด้านเนอะ ดีกว่า (ผมอ่านได้ภาษาอังกฤษงูๆปลาๆ ผมก็เลยไม่กล้าซ่ามาก เดี๋ยวคนจะเรียกว่าโง่ได้น่ะครับ ผมอ่อนไหวเสียด้วยสิ)

ปล ยุคนี้สำคัญที่สุดคือหน้าตาครับ เหตุผลคือคนเขียนไซไฟส่วนใหญ่จะไม่สวยไม่หล่อครับมันเลยไม่บูม... ประสบการณ์ส่วนตัว

981 Nameless Fanboi Posted ID:t12MrJw1y

สงสัยไอ้ Louis Forest เพ้อวิทย์ จนเป็นสัตว์ประหลาดไปแล้ว 1 คน ตาม คห.21

982 Nameless Fanboi Posted ID:95db/am8F

>>980 นิยายมันเป็นไงบ้างวะ?

983 Nameless Fanboi Posted ID:M1Nv9d2ay

>>982 https://my.dek-d.com/koothecool/writer/view.php?id=1363741

984 Nameless Fanboi Posted ID:95db/am8F

>>983 เขียนวิทย์ อยู่หมวดแฟนตาซีได้หรอวะ?

985 Nameless Fanboi Posted ID:R/q0BMn+S

>>984 กุว่านิยายเข้าช่าย sci fi fan

986 Nameless Fanboi Posted ID:knVQr+krF

เห้ย ๆ น้องเบลอ่านแล้วช็อคไปแล้วมั้งเงียบเลย น้องเขาคงต้องการเวลาสักพัก

987 Nameless Fanboi Posted ID:CzBMWr.2E

>>983 จอมใจจักรยาน? เซ้นส์การตั้งชื่อเรื่องของกูว่าแย่แล้ว เจอของอิถุยยังต้องหลบชิดซ้าย

988 Nameless Fanboi Posted ID:eFxQqz0Mn

>>986 สวัสดีค่ะ พี่ๆ โม่งนะคะ เบลล์เป็นนักเขียนเรื่อง Princess of curse นะคะ ก่อนอื่นต้องขอบคุณสำหรับคำวิจารณ์ค่ะ เบลล์ว่าจะรอให้พี่โม่งเงี่ยนวิจารณ์ให้เสร็จก่อนแล้วมาตอบทีเดียวนะคะ

ปล. เบลล์ไม่ช็อคกับคำวิจารณ์นะ แต่ขอรอเป็นตอบทีเดียวนะคะ ^ ^

989 Nameless Fanboi Posted ID:Xx7wD1CKM

>>988 ขอบคุณมากครับน้องเบล พี่โม่งเงี่ยนเองนะ ถ้าน้องมาเองแบบนี้ พี่ก็อยากอ่านให้จบนะ แต่พี่งานยุ่งชิบหายเลยอะ กลัวน้องรอนาน จะอ่านให้ได้มากที่สุดแล้วสรุปให้นะครับ (อาจจะไม่ทันมู้นี้)

ปล. น้องน่ารักมาก เดี๋ยวขอตามอ่าน(ตามสับ)อีกเรื่องด้วยครับ ขอให้เจริญ ๆ นะแม่คุณ ^___^

990 Nameless Fanboi Posted ID:eFxQqz0Mn

>>989 เบลล์เพิ่งรีไรต์ถึงบท 17 เองค่ะ
อ่านเท่าที่พี่โม่งไหวก็ได้นะคะ สู้ๆ เรื่องงานนะคะ

ที่จริงเบลล์กลัวว่าจะสปอยเนื้อเรื่อง เลยว่าจะมาเม้นต์ทีเดียว (น่าจะมีสปอยเนื้อเรื่องด้วยแหละค่ะ55555)

991 Nameless Fanboi Posted ID:Xx7wD1CKM

>>990 งั้นพี่อ่าน 17 บทนะครับ ขอบใจมากจ้า อย่าเพิ่งสปอล์ยนะจ๊ะ

992 Nameless Fanboi Posted ID:eFxQqz0Mn

>>991 ได้ค่า

993 Nameless Fanboi Posted ID:M1Nv9d2ay

จะครบ 1000 แล้ว เตรียมย้ายมู้ใหม่เลย
นิยายเด็กดี บทที่ 13 (DDN XIII) ภาคเบื่อเมียฮ่องเต้แล้ว เหล่าโม่งฝากชะตากรรมให้กับน้องเบลและโม่งเงี่ยน

994 Nameless Fanboi Posted ID:r.caISRdE

อย่าลืม กุดุสๆ ในชื่อมู้ใหม่ด้วยนะ

995 Nameless Fanboi Posted ID:bbFiGx3lm

คุยกันหวานเชียววววว อิจฉา ๆๆๆๆ

996 Nameless Fanboi Posted ID:mOtu8nrfq

แวะมาถมๆให้เต็ม

997 Nameless Fanboi Posted ID:Cp5LLZ.di

วิ่งๆๆๆๆๆๆๆ

998 Nameless Fanboi Posted ID:r.caISRdE

เปิดกระทู้ใหม่ คงมีมาสับกันเพิ่มขึ้นอีกนะ

999 Nameless Fanboi Posted ID:LmkkB5QQd

ขอเลขสวย

1000 Nameless Fanboi Posted ID:r.caISRdE

ปิดมู้

Remember gudus gudus

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.