Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการหายตัวไปอย่างปริศนาของฟิคกาวในห้องซาลอนปิดตาย [คานที่กำลังก่อตัวชั้นที่11]

Last posted

Total of 1000 posts

756 Nameless Fanboi Posted ID:TTkgC/0se

ช่วงคืนความสุขให้ปชช.(?)
พิมพ์ไว้ตั้งแต่ก่อนโม่งแปลประกาศวันมหาวิปโยค ฟื้นตัวกันแล้วกูขอลงประเดิมเลยแล้วกัน _(:3JL)_

ต่อจาก >>141
----------------

หลายวันผ่านมานับแต่ที่ฉันฟื้นขึ้นมา

ดูเหมือนว่าฉันจะหลับไปนานหลายเดือนทีเดียว
แต่ถึงอย่างงั้น...
ร่างกายกลับไม่ได้ผอมลงไปจากที่จำได้เลยแฮะ

ทำไมกันล่ะคะ!?

ในการ์ตูนที่เคยอ่านยังมีเรื่องที่นางเอกอกหักร้องไห้อดอาหารไปสัปดาห์เดียว ก็กลายเป็นสาวสวยผอมเพียวป๊อปปูล่าได้เลยไม่ใช่เหรอ!?
แล้วนี่ฉันนอนหยอดน้ำเกลืออย่างเดียว ไม่ได้กินอะไรตั้งหลายเดือนเลยนะ! หลายเดือนเชียวนะ!! ทำไมไม่ผอมลงเลยล่ะ!?
หรือว่าจะเป็นกรรมพันธุ์มาจากพ่อ?
...บ้าเอ๊ย สิงโตทะเลแย่ที่สุดเลย!

ฉันคิดขณะที่ยัดขนมของเยี่ยมไข้เข้าปากด้วยความแค้นใจ

แม้ว่าคุณหมอจะบอกว่าฉันไม่เป็นอะไรแล้ว แต่ก็ยังคงต้องอยู่เฝ้าดูอาการและทำกายภาพบำบัดซะก่อน ลงท้ายเลยยังคงอยู่ในห้องพยาบาลแห่งนี้
เป็นห้องเดี่ยวแบบนี้น่าจะแพงมากเลยไม่ใช่เหรอ?

พอฉันถามกับยูกะไป เธอก็ยิ้มกลับว่ามาไม่เป็นไรหรอก

"พ่อก็ขยันทำงานมากขึ้น แม่ก็เอาพวกของสะสมในบ้านไปขายบ้างน่ะ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าพวกของเก่าในบ้านเราขายราคาดีแบบนี้น่ะ! ฉันเองเวลาว่างๆเบื่อๆก็ไปทำงานพิเศษบ้างนะ สนุกมากเลยล่ะ ไม่เป็นไรหรอก~"

ฟังแล้วไม่เห็นจะไม่เป็นไรสักนิด

"นอกจากนั้นนะ อืม... อย่าโกรธนะ แต่พวกของในห้องพี่...บางอย่างก็เอาไปขายบ้างแล้วอะ..."
"เอ๋!?"
"พวกของสะสม หนังสือการ์ตูน ฟิกเกอร์เงี้ย... ก็นะ แม่บอกว่าถือโอกาสที่พี่เผลอเคลียร์ห้องไปซะเลยดีกว่าน่ะ จะเอาไปขายร้านขายของเก่างี้ แต่นั่นคงไม่ไหวแหงๆ ห้ามก็ไม่ฟัง ฉันเลยเสนอเอาไปประมูลในเน็ตแทน... บางอย่างเขาว่าเป็นของแรร์ได้ราคาสูงมากจนน่าเหลือเชื่อเลยล่ะ!..."

ยูกะก้มหน้าพูดอ้ำๆอึ้งๆในลำคอ ทำตัวหดเล็กลงท่าทางรู้สึกผิด ทั้งที่ปกติก็ตัวเล็กกว่าฉันตั้งเยอะอยู่แล้ว

"งั้นเหรอ..." ฉันถอนหายใจ
"...ไม่โกรธเหรอ?"
"อื้อ ก็นะ..."

ถ้าเป็นปกติแล้วฉันคงจะต้องโกรธมากแน่ๆ อย่างที่เคยทะเลาะกับแม่ที่เข้ามารื้อของฉันไปทิ้งจนบ้านแทบแตก หรือทะเลาะกับยูกะที่เอาของของฉันไปใช้โดยพลการจนถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน แต่...อืม คราวนี้กับไม่รู้สึกอะไรแบบนั้น รู้สึกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาเลยแฮะ คงเป็นเพราะว่าพวกเขาทำเพื่อฉันล่ะนะ... กลับรู้สึกผิดมากขึ้นด้วยซ้ำไปที่ทำให้ทุกคนลำบากแบบนี้ แย่จัง

แต่พวกการ์ตูนอย่างงั้นเหรอ ฉันเป็นพวกบ้าสะสมการ์ตูนมาก เลยมีมากมายจนล้นทะลักตู้มากองกับพื้นหลายกอง มักจะโดนแม่ดุบ่อยๆเลยล่ะ

หนึ่งในนั้นก็มีเรื่องที่ชอบมากที่สุดอยู่นะ ถึงขั้นว่าห้ามแตะต้องเรื่องนี้เชียวนะอะไรแบบนั้น

เรื่องนั้นทั้งฮิตและโด่งดังเป็นพลุแตก จนได้เอาไปทำเป็นละครซีรีส์ที่นำแสดงโดยนักแสดงและไอดอลชื่อดังหลังจากหนังสือเขียนจบเลยล่ะ แถมหนังสือการ์ตูนที่ฉันมีก็เป็นแบบตีพิมพ์ครั้งแรกเกือบทั้งเซ็ต ถ้าไปประมูลล่ะก็คงจะได้ราคาสูงมากๆเลยล่ะ

เรื่องที่ฉันรักมากที่สุดเรื่องนั้น...

"... เอ๋?"
"เป็นอะไรเหรอ?"
"... เปล่า ไม่มีอะไรหรอก"

ฉันส่ายหัวพร้อมกับหยิบขนมเซมเบ้ชิ้นสุดท้ายเข้าปาก ยูกะก็รีบลุกขึ้นไปเทน้ำมาให้ เป็นเด็กเอาการเอางานไม่เปลี่ยนเลยน้า

"ขอบใจนะ ยูกะ~"
"อะไรล่ะนั่น อย่าทำให้ขนลุกซิ!"

มาขนลงขนลุกอะไรกันล่ะ เสียมารยาทจริง ฉันอุตส่าห์ขอบคุณอย่างซาบซึ้งใจในความน่ารักของน้องสาวแท้ๆ

ฉันดื่มน้ำ ขณะที่ในหัวก็พยายามนึกชื่อของการ์ตูนที่ฉันเคยคลั่งไคล้มากเรื่องนั้น

แต่ฉันกลับนึกไม่ออก

++++

"ขอบคุณค่ะ โอกาสหน้าเชิญใหม่ค่ะ"

ถึงจะนอนติดเตียงมาหลายเดือน แต่การทรงตัวเคลื่อนไหวร่างกายของฉันกลับฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว การอยู่ในห้องทั้งวันทั้งคืนนี่มันน่าเบื่อสุดๆไปเลย หลังจากรอให้ทุกคนกลับกันไปแล้ว ฉันก็เลยแอบออกมาเข้าร้านสะดวกซื้อในโรงพยาบาลแก้เบื่อ

ฟ้าข้างนอกมืดครึ้มท่าทางว่าพายุไต้ฝุ่นกำลังจะเข้ามาแล้ว

แบบนี้อาการหอบจะกำเริบอีกรึเปล่านะ
เป็นแค่เด็กประถมแท้ๆแต่ต้องเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยๆเนี่ย
น่าสงสารจัง...

...
หืม? ...ฉันหมายถึงใครกันนะ? อยู่ๆมันก็เป็นความคิดผุดขึ้นมาในหัว
แต่คนที่ฉันรู้จักไม่มีใครที่ยังเป็นแค่เด็กประถมอยู่เลยนี่นา...

ตั้งแต่ที่ฟื้นมาฉันก็มักจะรู้สึกแปลกๆอย่างงี้อยู่บ่อยๆ บางทีก็มีความคิดแปลกประหลาดผุดขึ้นมา บางทีก็เหมือนอะไรบางอย่างในหัวมันกลวงเปล่า อะไรบางอย่างที่เคยมีอยู่มันจางหายไป อะไรบางอย่างที่ฉันลืมมันไปสนิทใจ...

คงจะเพราะยังเบลอและสับสนจากการที่นอนหลับไปนานล่ะมั้ง คุณหมอก็บอกแบบนั้น

ดังนั้น ช่างมันเถอะ

757 Nameless Fanboi Posted ID:TTkgC/0se

ฉันหิ้วถุงขนมถุงโตพะรุงพะรังที่ซื้อมารีบเดินเข้าตึกในโรงพยาบาลก่อนที่ฝนจะตก มันเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ตกแต่งภายในได้สวยหรูสุดๆอย่างกับโรงแรม ไม่รู้ว่าทำไมพ่อกับแม่ถึงส่งฉันมารักษาที่โรงพยาบาลนี้กันนะ... ต้องแพงมากแหงๆเลยอะ

ฉันเดินไปเรื่อยๆตรงไปยังลิฟท์ ประตูลิฟท์ตัวหนึ่งกำลังจะปิดเพื่อเลื่อนขึ้นพอดี ฉันรีบหอบหิ้วร่างหนาของตัวเองพุ่งทะยานออกไป

"รอด้วยค่ะ!"

คนข้างในลิฟท์ได้ยินเสียงฉันก็ช่วยกดเปิดประตูให้ ประตูลิฟท์เปิดออกกว้าง บุคคลคนนั้น ทำให้รู้สึกหัวใจกระตุกไปหนึ่งวูบ ฝีเท้าของฉันชะงักค้าง...

ก่อนที่จะมีกลุ่มเด็กวิ่งออกมาจากลิฟท์อีกตัว ชนเข้าใส่ฉันอย่างจังจนฉันเซถลาก้นจ้ำเบ้ากับพื้น

"โอ๊ย!"
เด็กที่ชนใส่ฉันก็ล้มลงไปอีกทาง พอลุกขึ้นมาได้ก็รีบวิ่งตรงรี่ไปยังกลุ่มเพื่อน ไม่ขอโทษสักคำ แถมหนึ่งในกลุ่มนั้นก็พูดออกมาว่า "หวาา ชนช้างล่ะ!" แล้วส่งเสียงหัวเราะกันลั่น

... กะ กะ กะ กรี๊ดดดดดดดด!!!!
เจ้าพวกเด็กเ*รต! เด็เ*ร! เจ้าเด็กไร้มารยาท! นิสัยเสีย! ไอ้เด็กพ่อแม่ไม่สั่งสอน!

ฉันหันหน้าแทบจะตะโกนตามไป แต่พวกนั้นก็วิ่งหนีหัวเราะจากกันไปเสียงก่อน
อุ บอบช้ำใจจริงๆเลยค่ะ ทำไมฉันต้องมาโดนเด็กนิสัยเสียที่ไม่รู้จักกันพวกนี้ว่ากันด้วยนะ ทำไมถึงต้องโดนล้อแบบนี้มาตลอดด้วยนะ แง้

"เป็นอะไรรึเปล่าครับ?"
เสียงหนึ่งพูดขึ้นข้างๆฉันที่ก้มหน้าตัวสั่นเทิ้มอยู่กับพื้น
เสียงนั้นอ่อนโยนนุ่มนวลและคุ้นเคย เยียวยาความขุ่นมัวในใจฉันให้จางหายไป

ฉันหันไปทางเสียงนั้น และพบกับเขา

เขาเป็นคนที่อยู่ข้างในลิฟท์เมื่อสักครู่นี้ เป็นเขาเองที่ทำให้ฉันชะงักค้างตะกี้นี้ แต่ตอนนี้เขาออกมาปรากฏตัวและย่อตัวนั่งอยู่ข้างหน้าฉัน

อยู่ๆในหัวของฉันมันก็ว่างเปล่า

"... ท่านพี่..."
"หือ?"
"เอ๊ะ?..."

นี่ฉันหลุดปากพูดอะไรออกไปเนี่ย!?
ท่านพี่เนี่ยนะ? อะไรกันน่ะห๊ะ!? คำพูดน่าอายแบบนั้น อีกอย่างฉันน่ะมีพี่ซะที่ไหนกันเล่า! น่าอายจริงๆเลย อยู่ๆก็ไปพูดนับญาติกับผู้ชายแปลกหน้าแบบนี้น่ะ!?

เขาเป็นหนุ่มหล่อร่างโปร่งสูงดูดีสุดๆในชุดสูท ถึงใต้ตาจะดูล้าๆไปบ้างแต่นั่นก็ไม่ได้เปลี่ยนออร่ามาดคุณชายของเขาไปสักนิด บนโลกนี้มีคนที่ดูเพอร์เฟ็คขนาดนี้อยู่ด้วยงั้นเหรอ!?

แต่ว่าแม้ว่าเขาจะดูดีมากขนาดไหน ใจฉันกลับไม่ได้รู้สึกตึกตักเขินอายอย่างที่ควรจะเป็นสักนิด ไม่ซิ ปกติแล้วกับพวกผู้ชายแล้วฉันแทบจะเผ่นหนีไปให้ไกลเพื่อไม่ให้โดนแกล้งหรือโดนล้อว่าขาหัวไชเท้าซะด้วยซ้ำไป แต่กับคนๆนี้แล้ว...

"เจ็บตรงไหนรึเปล่าน่ะครับ?"
เขาท่าทางตกใจเล็กน้อย

น้ำเสียงอ่อนโยนนั้น...ราวกับเคยรู้จักมาก่อน

"เห ทาคาเทรุ นายทำสาวน้อยร้องไห้งั้นเหรอเนี่ย~"
"ฉันเปล่านะ!"

อีกเสียงหนึ่งดังมาจากข้างหลังเขา นั่นทำให้ฉันเพิ่งรู้สึกตัวว่าน้ำตากำลังไหลออกมาอาบแก้มทั้งสองข้าง
ฉันร้องไห้งั้นเหรอ? ทำไมกันล่ะ?...

"ไม่เป็นไรนะครับคุณผู้หญิง ผมต้องขออภัยแทนเพื่อนของผมด้วยนะครับที่ทำให้คุณต้องเสียน้ำตาแบบนี้"
"ก็บอกว่าเปล่าไงเล่า"

คนที่เดินเข้ามาก็เป็นหนุ่มหน้าตาดีไม่ต่างกัน ออกจะให้ความรู้สึกว่าเป็นพวกหนุ่มโฮสต์อันตรายนิดๆด้วยซ้ำ แต่เขาก็ให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยกันเองขึ้นมาอย่างประหลาด เขาย่อตัวลงมาพร้อมกับยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ฉัน

"ซับน้ำตาเถอะครับ หญิงสาวไม่เหมาะกับน้ำตาแห่งความเศร้าหรอก ควรจะเป็นน้ำตาแห่งความปิติยินดีซิ ถึงจะเหมาะสมกับสาวน้อยน่ารักอย่างคุณน่ะ"

เขาพูดพร้อมกับยิ้มแย้มให้ฉัน ถ้าเป็นปกติแล้วฉันโดนพูดแบบนี้เข้าใส่ คงจะรู้สึกหัวใจวายเขินอายจนทำอะไรไม่ถูก หรือไม่ก็ต้องคิดว่าโดนแกล้งแหงๆ แต่ตอนนี้ฉันกลับรู้สึกใจเต้นเพียงเล็กน้อย รับมือกับมันได้อย่างง่ายดายราวกับมีภูมิต้านทานมาก่อน

"ขอบคุณค่ะ..."

ฉันรับผ้าเช็ดหน้าของเขาขึ้นซับน้ำตา แต่นั่นกลับยิ่งทำให้น้ำตาไหลออกมาหนักกว่าเดิม น้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาจนพร่ามัวไม่เห็นอะไรข้างหน้า ความรู้สึกแปลกๆที่อัดอั้นผลักดันให้ฉันร้องโฮออกมาก้มตัวร้องไห้กับพื้น สองคนนั้นส่งเสียงตกใจ ผ่านไปสักพักก่อนที่ฉันจะรู้สึกถึงฝ่ามือที่ตบปลอบเบาๆบนหลัง ความอบอุ่นของฝ่ามือทั้งสองที่แผ่ซ่านทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดใจจนสะท้าน ขณะเดียวกันก็ดีใจและโหยหามันเหลือเกิน

ความรู้สึกชวนให้สับสนเหล่านี้มันอะไรกันนะ?

กระทั่งฉันเองก็ไม่สามารถตอบกับตัวเองได้

________
ยังไม่ได้นึกเรื่องต่อเลยแฮะ...
¯\_( ´∀`)_/¯

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.