จะบ่นเรื่องแนวนิยายไปทำไม ในเมื่อก็รู้ๆกันดีอยู่ว่าตอนนี้ไม่ว่าใครก็มุ่งเป้าไปที่คำว่า "นักอ่านเลือกหนังสือ"
คือเพราะมันมีมายาคติว่านักอ่านเป็นฝ่ายเลือกนิยาย นักเขียนมันก็ต้องพากันเขียนแนวที่มันขายได้ อะไรที่เป็นประเด็นร้อนประเด็นดังก็หยิบเอามาเขียน ดูอย่างไอ้นกฮูกสิที่ตอนนี้หันไปจับแนววาย ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้ชื่นชอบแนวนี้มาแต่แรก จะว่าสมเพชก็สมเพช แต่ยังไงก็เข้าใจ ในเมื่อวงการมันเป็นแบบนี้ ถึงจะเขียนดีแทบตาย ถ้าไม่ถูกใจตลาดก็ไม่ได้ตีพิมพ์ แถมยังถูกเด็กเห่อหมอยเอาไปเปรียบเทียบกับนักเขียนเบียวๆ ไร้ราคาคนอื่นอีก
ไอ้นักอ่านเลือกหนังสือน่ะมันก็ถูก แต่อย่าลืมไปว่า "หนังสือ(มันก็)เลือกคนอ่าน" ด้วยเหมือนกัน
ถามจริงๆ พวกมึงที่กำลังอ่านข้อความนี้อยู่ เคยอ่านหนังสือรางวัลกันคนละกี่เล่ม ไม่ว่าจะโนเบล ซีไรท์ หรือพวกนายอินทร์อวอร์ด กูเชื่อเลยว่าหลายๆคนแม่งต้องไม่เคยอ่าน แล้วอ้างว่าไอ้คนพวกนั้นเขียนเหี้ยอะไรไม่รู้ อ่านยังไงก็ไม่สนุก หรืออาจมีมุกตลกหลอกด่าไปอีกว่า หนังสือที่ได้รางวัล คือหนังสือที่ไม่มีคนอ่าน
ก็อาจจริงที่คนอ่านมันอาจน้อยกว่าแนวตลาด ไม่ใช่เพราะมันไม่ดี แต่เป็นเพราะมัน "เลือกคนอ่าน" ยังไงล่ะ พูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือพวกมึงๆ หลายๆ คนไม่มีปัญญาอ่านงานพวกนี้เข้าใจหรอก อาจเป็นเพราะเนื้อหาที่เข้มข้น หรือภาษาที่ใช้ไม่ได้กุ๊กกิ๊กอย่างนิยายที่เขียนให้เด็กอ่าน ลองคิดดูสิว่า ถ้านิยายพวกนี้มันอ่านแล้วจะหลับ ไม่สนุก ไม่มีห่าอะไรเลย มันจะได้รางวัลได้ยังไง?
ไอ้เรื่องผลประโยชน์ที่ได้จากการเป็นหนังสือรางวัลมันก็มี ไอ้เรื่องล็อบบี้เลือกเรื่องที่จะชนะก็เคยได้ยินอยู่ แต่อย่างน้อยๆ หนังสือมันก็ต้องดีในระดับหนึ่งล่ะ ไม่อย่างนั้นจะหลุดรอดมาให้กรรมการตัดสินในรอบสุดท้ายได้ยังไง
สรุป การที่พวกมึงมัวแต่มานั่งจับผิดว่าอะไรอิน อะไรเอ้าท์ มันไม่มีประโยชน์ นิยายตลาดก็คือนิยายตลาด จะอินจะเอ้าท์มันก็คือนิยายตลาด มีอะไรที่เป็นกระแสมันก็เขียนแนวนั้นวนไปมาไม่รู้จบ ถ้ามึงอยากจะอยู่เหนือสังสารวัฏ มึงต้องหัดอ่านนิยายดีๆ