>>213 เรื่อแม่ผัวลูกสะใภ้ ผู้หญิงปลอมตัวเป็นผู้ชาย ชิงรักหักสวาทจีนมันก็มีอยู่นะ แต่รายละเอียดปลีกย่อยมันอาจต่างไปบ้าง
>>212 ถ้าจะใช้ความอีโมในตัวนักอ่านเป็นตัวตัดสิน แล้วจะมีการวิจารณ์นิยายไปทำไม จะมีการให้รางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมไปทำไม ในเมื่อนิยายทุกเรื่อง "มีของ" หรือ "ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน" ลองคิดถึงความทุเรศของสถานการณ์นี้สิ คนสองคนเถียงกันว่าระหว่างนิยาย A กับนิยาย B เรื่องไหนดีกว่า โดยคนแรกบอกว่านิยาย A ดีกว่า เพราะเขาชอบนิยาย A มากกว่า ส่วนคนที่สองก็แย้งว่า ที่นิยาย B ดีกว่า เพราะเขาชอบนิยาย B มากกว่า
คือการตัดสินว่านิยายเรื่องไหนดีกว่ากันเนี่ย มันต้องมีเกณฑ์บางอย่างที่ใช้วัดนอกเหนือจากความฟินส่วนตัวของนักอ่าน นิยายไม่ควรจะเป็นแค่การเล่าเรื่องจากจุด A ไปจบที่จุด B ไม่ใช่แค่การบอกคนอ่านให้รู้ว่า "ใคร" "ทำอะไร" "ที่ไหน" "อย่างไร" สำหรับกู นิยายที่ดีไม่จำเป็นต้องได้รางวัล ไม่ต้องเลิศเลอเพอร์เฟคอ่านแล้วน้ำตาจะไหล แต่ขอให้มี 2 อย่างนี้
1. นิยายที่ดีควรมีการสื่อความหมาย อธิบายง่ายๆ คือ นิยายที่ดีเนี่ย ควรเกิดขึ้นบนพื้นฐานของบางสิ่งบางอย่างที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อ และเมื่ออ่านจนจบเรื่องนั้น ผู้อ่านจะเข้าใจนัยที่แฝงอยู่ภายในเรื่อง ตัวอย่างง่ายๆ กูขอยกตัวอย่างเรื่องแนวผู้กล้าเดินทางปราบจอมมาร เอาล่ะ ถ้าเป็นเรื่องผู้กล้าเดินทางปราบจอมมาร มันจะแฝงอะไรลงไปได้บ้าง?
ที่ง่ายที่สุด และเบสิคโคตรๆ ของแนวนี้คือ "พลังแห่งมิตรภาพ" กับ "ธรรมะชนะอธรรม" หรือถ้าเอามุมมองร่วมสมัยหน่อย ตัวเอกอาจเป็นจอมมารแทนที่จะเป็นผู้กล้า และมีนัยแฝงที่ว่า "ไม่มีใครเป็นสีขาวหรือสีดำ ทุกคนล้วนเป็นสีเทา" เป็นต้น
กูขอยกตัวอย่างย้อนกลับด้วยนิยายที่ทุกคนน่าจะรู้จักดี (และกูคิดว่าห่วย) คือเรื่องยุทธภพ ออนไลน์
เผื่อใครไม่เคยอ่าน หรือไม่เคยได้ยินชื่อนิยายเรื่องนี้ มันเป็นนิยายเรื่องแรกของเว็บเด็กดีที่เขียนทะลุ 1000 ตอน (น่าจะเรื่องแรกนะ ถ้าผิดขออภัย) เนื้อเรื่องของมันก็คือ กุมภา เดชาชาญ เป็นคนอภิมหาโคตรเพอร์เฟคเทพสาดดดดดดด พูดได้ 9 ภาษา จบวิศวะคอม ทำงานให้กับองค์กรลับฝ่ายธรรมะของประเทศไทย พ่อแม่เป็นนักธุรกิจร่ำรวย นี่ยังไม่รวมไปถึงหน้าตาที่หล่อขั้นเทพและมีนิสัยติดกวนตีน ถูกใจแม่ยกทั้งหลาย ซึ่งต่อมาได้เข้าเล่นเกมยุทธภพ ออนไลน์ โดยตั้งชื่อตัวละครว่าฉางฟง (ขอทีเถอะไอ้เรื่องชื่อเนี่ย มึงชื่อกุมภา กูก็ว่าพ่อแม่มึงไม่รักแล้วนะ แล้วเสือกตั้งชื่อตัวเองว่าฉางฟง มันแปลว่าอะไรวะสัส ยังไงๆ ก็ได้ "แรงบันดาลใจ" มาจากพี่เฉินเฟิง แห่งราชาแห่งราชันย์ แน่ๆ) เอาล่ะ พอเข้าเกมไปก็ตามท้องเรื่อง ได้ของวิเศษ ได้ภูติ ได้สาวๆ (มาตามอาฆาต) ซึ่งสาวๆ พวกนั้นแท้ที่จริงแล้วก็เป็นลูกคุณหนู คนใกล้ชิดในแวดวงธุรกิจของพ่อแม่มัน เรื่องก็ดำเนินไปแบบโอละพ่อโอละแม่ มีผจญภัย มีบทรักกุ๊กกิ๊ก มีชิงไหวชิงพริบทั้งในโลกจริงและโลกเกมออนไลน์
ถ้าถามกูว่าเรื่องนี้สนุกไหม กูขอตอบเลยว่าในช่วงประมาณ 1,000 ตอนแรก "สนุก" (ส่วนหลังจากนั้นไม่ได้ตามต่อแล้ว เลยไม่รู้ว่าสนุกไหม) ลองไปถามใครๆ ก็น่าจะตอบได้ว่าสนุก ถึงจะไม่ชอบคนเขียน ไม่ชอบนิยายเรื่องนี้ คงไม่มีใครกล้าพูดออกมาห้วนๆ ว่า "ไม่สนุก" หรอก
แต่ถ้ามีใครถามกูว่า นิยายเรื่องนี้ "ดี" ไหม กูก็จะตอบเขาไปตรงๆ เลยว่า "ไม่" ตามเกณฑ์ในข้อ 1 ที่กูเพิ่งบอกไป นิยายเรื่องนี้แม้จะผ่านมาพันตอนแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถมองเห็นนัยแฝง หรือห่าเหวอะไรก็ตามที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อได้เลย ออกจะเป็นแนวเขียนเอามันส์ เขียนเอาสะใจเสียมากกว่า เว้นแต่มึงจะนับเรื่อง "คนหน้าตาดีทำ(เหี้ย)อะไรก็ไม่ผิด แถมยังน่าเอ็นดู๊น่าเอ็นดู" ว่าเป็นนัยแฝงของนิยาย และอีกสาเหตุหนึ่งที่กูมองว่านิยายเรื่องนี้ไม่ใช่นิยายที่ดี คือเกณฑ์ในข้อ 2 (ซึ่งจะยกยอดไปเขียนใน คห. ถัดไป เพราะยาวเกิน รอแม่งคูลดาวน์แปปนึง)