Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำชา​ยาม​บ่าย​ของโม่งซุยรัน [ซาลอนที่ 2]

Last posted

Total of 1000 posts

664 Nameless Fanboi Posted ID:KtMZRNe+a

พาท คิโชวอิน ทาคาเครุ

เป็นครั้งแรกที่ผมทำพลาดอย่างไม่อาจแก้ไข

ทั้งที่รู้ตัวดี ว่าหมอนั่นที่เข้าหาเรย์กะมีบางอย่างไม่ปกติ แต่พอเห็นรอยยิ้มของน้อง ความไม่สบายใจของน้องตอนที่ผมแสดงท่าทีไม่ชอบหมอนั่น ผมกลับปล่อยให้ทุกอย่างมันผ่านไป เพราะผมอยากเห็นน้องมีความสุข

จนสุดท้ายเป็นผมเองที่ไม่หยุดน้อง ละเลยเกินไป จนทุกอย่างกลายเป็นแบบนี้

พ่อถูกตัดสินจำคุกและล้มละลาย พวกเราถูกยึดทรัพย์ ส่วนผมรอดเพราะพ่อรับผิดแทนผมทุกอย่าง

ตอนที่ผมออกมา แม่เดินมารับผม แม่ที่แสนหยิ่งทระนงตอนนี้กลับร้องไห้ไม่หยุดไม่หลงเหลือความสง่างามอย่างเก่า กอดผมไว้ ผมกอดแม่ตอบ และตอนนั้นผมก็เห็นน้องสาว

เธอไม่ได้ร้องไห้ แต่แววตาบนหน้าตาเหมือนตุ๊กตาของเธอนั้นว่างเปล่า จนผมกลัวว่าเธอจะกลายเป็นตุ๊กตาไปจริงๆ

ทางพ่อเหมือนจะขอพวกตำรวจมาบอกหาครอบครัวเป็นกรณีพิเศษ ถึงแม้เราจะล้มละลายแล้ว แต่อำนาจที่ฝังรากลึกยังพอมีอยู่ พ่อเดินไปหาเรย์กะ เธอพูดแต่คำซ้ำๆว่า ขอโทษค่ะ

พ่อกอดเธอ “ไม่ใช่ความผิดของเรย์กะจัง” พ่อพูดแบบนั้น ซ้ำแล้วซ้ำอีก

แต่เหมือนน้องสาวจะไม่รับรู้ จนกระทั่งพ่อไปแล้วเธอยังไม่หยุดพูดขอโทษ

แม่ร้องไห้หนักยิ่งขึ้น พยายามเรียกเรย์กะ แต่เธอไม่ตอบสนอง พูดแต่คำเดิมๆซ้ำๆ

ผมกลัว กลัวที่จะสูญเสียอะไรไปอีก ผมเรียกเธอ ทั้งตะโกนเขย่า แต่เรย์กะก็ไม่ตอบสนอง พูดแต่คำเดิมๆซ้ำไปซ้ำมา

นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมอยากอ้อนวอนต่อใครสักคน ใครก็ได้ ได้โปรดช่วยผมด้วย ช่วยน้องสาวผมด้วย

ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่ผมร้องไห้ แต่น้องสาวก็ยังไม่ตอบสนอง

ทันใดนั้นอิมาริที่เพิ่งมาถึงก็วิ่งเข้ามา โอบกอดผมและน้องไว้ ผมกระซิบข้างหูผมปลอบประโลมผม

“ทาคาเครุ ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร นายอย่าเป็นแบบนี้ ถ้านายล้มไปอีกคนแม่กับน้องสาวนายจะทำยังไง นายอย่าเป็นแบบนี้ มันไม่สมกับเป็นนายเลย” เสียงของเขาสั่นเครือ ผมถึงพยายามตั้งสติแต่ก็หยุดน้ำตาไม่ได้ มือของผมที่ถูกตัวเองจิกจนห้อเลือดนั้นอิมาริได้คลายมันแล้วกุมไว้ พร้อมแขนอีกข้างที่โอบกอดผมกับเรย์กะ

“ขอบคุณ” ผมกระซิบเสียงเบา

ผมจะล้มตอนนี้ไม่ได้ ผมยังมีแม่กับน้องสาวให้ปกป้องอยู่!

แล้วผมก็ได้ยินเสียงผู้คนเดินมา จึงหันไปมอง

“คุณคิโชวอิน” ชื่อนามสกุลถูกเรียกออกมาโดยไม่ระบุว่าเป็นคนไหน แต่สายตาที่มองมาที่น้องสาวของผมตลอดทำให้ผมรู้ดีว่าชื่อที่เรียกนั้นหมายถึงใคร

คนที่มาคือพวกเอ็นโจว ชูสุเกะ และคาบุรากิ มาซายะ

นี่เรียกว่าความหวังแห่งการล้างแค้นใช่ไหม

665 Nameless Fanboi Posted ID:KtMZRNe+a

พาท หัวหน้าห้อง

พวกเราตัวแทนศิษย์เก่าซุยรันกำลังเดินทางมาหาคุณคิโชวอิน

หลังจากที่ข่าวอันน่าตื่นตะลึงนี้ถูกแพร่ออกไป กลุ่มของซุยรันแทบลุกเป็นไฟ

ทุกคนต่างเชื่อมั่นในตระกูลคิโชวอินของท่านเรย์กะ และสาปแช่งคนที่ทำการให้ร้าย

พลังอำนาจของซุยรันเริ่มเคลื่อนไหวเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์

ผู้นำครั้งนี้เป็นถึงองค์ชายเอ็นโจวแห่งและจักพรรดิคาบุรากิ ตำนานแห่งซุยรัน

ตลอดเวลาที่เรียนมาด้วยกัน ผมเคยเห็นจักรพรดิพิโรธเพราะความรำคาญเป็นบางครั้ง แต่ครั้งนี้กลับแตกต่าง ออร่าแห่งการฆ่าฟันคละคลุ้งจนพวกเดียวกันอย่างพวกเรายังต้องกลั้นหายใจ

และที่น่ากลัวที่สุด

คือเอ็นโจว ชูสุเกะที่มีรอยยิ้มเสมอ

แต่ตอนนี้กลับไม่มีอีกแล้ว …

เจ้าชายกลายร่างเป็นราชันย์ สีหน้าของเขาเหลือเพียงแต่ความเย็นเยียบ

หากเป็นเมื่อก่อนผมคงจะกลัว และพยายามหนี แต่ตอนนี้ไม่ใช่

เพราะ ‘พวกเรา’ เองก็ไม่ต่างกัน

คุณทาคามิจิที่ยิ้มแย้มเสมอก็ไม่เหลือรอยยิ้ม กลุ่มคุณเซริกะที่เป็นเพื่อสนิทของคุณคิโชวอินเองก็มีรังสีดำมืดไม่แพ้กัน
ผมที่แสนขี้ขลาดเองก็โกรธจนกักเก็บไม่ไหว ท่านพ่อและท่านแม่ผมบอกให้ออกห่างจากตระกูลคิโชวอินซะ แต่เรื่องแบบนั้นใครจะทำ

เพราะคุณคิโชวอินเป็นเพื่อนของผม

เป็นหัวใจของพวกเราศิษย์เก่าซุยรัน

คนอื่นๆเองก็คิดไม่ต่างกัน คุณฮอนดะเองก็ร้องไห้เมื่อรู้ข่าว ทุกคนต่างเจ็บปวดไปพร้อมกับคุณคิโชวอิน แม้พ่อแม่ของพวกเราจะสั่งห้ามไปยุ่งเกี่ยว แต่พวกเราไม่อาจทนอยู่เฉยๆได้

พวกผมรวมกลุ่มกันไปหาคุณคิโชวอิน ครั้งนี้ยังรวบรวมไปได้ไม่กี่คนเพราะทุกคนยังมีภาระ แต่ก็ช่วยสนับสนุนและส่งข้อความให้กำลังใจกันเต็มที่

ผมที่เดินตามเจ้าชายเอ็นโจวไปได้ยินเขาคุยโทรศัพท์กับอดีตประธาน Pivoine เพราะอยู่ใกล้เลยพลอยได้ยินเสียงในโทรศัพท์ไปด้วย

“ทางเราจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ค่ะ”

“ขอบคุณ”

“ไม่ต้องขอบคุณค่ะ คุณเรย์กะเป็นสมาชิกที่สำคัญของ Pivoine และเป็นรุ่นน้องที่ฉันภูมิใจอย่างไรก็ต้องช่วยเหลือค่ะ”

กระทั่งคุณ มิซึซากิ อาริมะ ที่เคยเป็นประธานนักเรียนซึ่งเป็นเพื่อนของคุณคิโชวอินและคุณทาคามิจิก็ติดต่อกับเครือข่ายสภานักเรียนทั้งยุคใหม่และศิษย์เก่า

กองกำลังที่ยิ่งใหญ่ของซุยรันกำลังเคลื่อนกำลังอย่างเงียบเชียบเหมือนคลื่นใต้น้ำ

พร้อมจะบดขยี้ คนที่มาทำร้ายจักรพรรดินีของพวกเรา

แถม
อิมาริพาท

เรย์กะจังหลับไปแล้ว พวกผมจึงพาเธอมาพักผ่อนที่เตียง ส่วนทาคาเครุที่สภาพอิดโรยไม่แพ้กันกลับไม่ยอมพักจนผมอ่อนใจ
“นายไปนอนพักได้แล้วนะ” ผมบอกเขาแต่เขายังไม่สนใจ มองน้องสาวตัวเองต่อไปเงียบๆ
“นี่ ทาคาเค…”

“ฉันยังอยากมองน้องสาวของฉันอีกหน่อย” หมอนั่นพูดแบบนั้น ผมจึงใจอ่อน ครอบครัวคิโชวอินเจอศึกหนักมามากแล้ว ผมไม่อยากขัดขวางความสุขของเขา ทาคาเครุทำท่าจะยืนดูต่อไปเรื่อยๆไม่เหน็ดเหนื่อย จะเอาเก้าอี้ให้เขานั่งหลับตรงนี้ก็ไม่ดี ช่วงนี้เริ่มเข้าหน้าหนาวแล้วอากาศเย็นขึ้นเรื่อยๆ หากให้เขานอนในที่ไม่อุ่นพอด้วยสภาพร่างกายและจิตใจแบบนี้เขาจะไม่สบายเอา

ผมจึงตัดสินใจลากเก้าอี้มานั้งลงแล้วดึงทาคาเครุมานั่งบนตักของผม

ตอนแรกเขาดูตกใจ ดิ้นสักพัก ผมเลยบอกเขาไปว่า ให้เขานั่งตรงนี้แล้วมองน้องจนหลับไปได้เลย ผมจะอยู่เคียงข้างเขา

ตอนแรกเขาทำหน้าไม่เห็นด้วย แต่ผมตีหน้ามึนกลับ หมอนั่นจึงถอนหายใจแล้วด่าผมว่า นายมันบ้า

กลายเป็นเจ้าทาคาเครุคนเดิมแล้ว

ผมยิ้ม เราสองคนยิ้มให้กันท่ามกลางอากาศที่เย็นขึ้น ผมกระชับเขาในอ้อมกอดให้เขานั่งสบายขึ้น ทาคาเครุยังคงมองเรย์กะจัง มอง มอง และมองจนสุดท้ายตัวเองก็หลับไปอีกคน

ผมกอดเขาแน่นขึ้นหน้าซุกลงบนผมสีดำนุ่มของเขา แววตาที่อ่อนโยนเมื่อครู่ของผมแปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว

มันทำร้ายทาคาเครุของเขา…

มันทำร้ายเรย์กะจังน้องสาวที่น่ารักของเขา

ภาพทาคาเครุที่ร้องไห้มันยังติดตาเขาอยู่ ...

ตอนนี้เข้าสู่ช่วงกลางคืนแล้วแสงสว่างที่เคยมีเริ่มหายไป ในห้องเหลือเสียงลมหายใจของคนสามคน

สองคนหลับไปแล้ว

ส่วนอีกคนนั้นเต็มไปด้วยความแค้น ที่พร้อมจะลากคนที่ตนเองแค้นมางทัณฑ์ทุกเมื่อ…

--------------
จบจ๊ะ ว่าจะแต่งสั้นๆยาวเฉยยยยย

กูไว้อาลัยแด่อดีตคนรักของท่านเรย์กะที่ไร้ชื่อแปป ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

แถมนี่คือเลือดวายในตัวกูล้วนๆค่ะ สาดกาววายยยย

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.