>>669 มันเกินสิบบท แต่ไม่เป็นไร หน้านิยายเพลงเพราะถูกจริต อ่านก็ได้ แต่จะอ่านแค่สิบบทนะ ถ้าสนุกถึงจะอ่านต่อ
ขออ่านไปเมาธ์ไปเหมือนเดิมนะ
3
2
1
ตอนแรกที่จิ้มเข้ามาเจอบรรยายเรื่องความรัก ชะงักไปนิดนึงเลยอะเธอ กูถึงขั้นต้องเลื่อนขึ้นไปดูว่านิยายเรื่องนี้มันหมวดอะไร พอเจอคำว่าออนไลน์ กูนี่ร้องหือในใจเลยนะ เออ เปิดแปลกดี
ท็อปเขียนแบบนี้นะคะ ไม่ได้เขียนว่า ท๋อป
นิศัย ต้องเขียนว่า นิสัย
แล้วอินี่อีก โถงถางมันมีความหมายด้วยเหรอคะซิส อันนี้ถามให้คิส
อิดอก(คำสร้อย) สามคำนี้อยู่ในย่อหน้าเดียวนะคะ แต่ไม่เป็นไรมึง วันนี้กูอารมณ์ดี ไม่ว่ากัน คนเราผิดพลาดกันได้นะคะ
วิธีการบรรยายลักษณะตัวละครที่ใช้ จะว่าครีเอทก็ครีเอทละมั้ง แต่จะว่าแปลกก็แปลก แวบแรกตอนอ่านเจอผมสีดำรกรุงรังนี่นึกถึงลิงอุรังอุตัง แล้วก็นี่นะ 170 มันเป็นความสูงมาตรฐานของเด็กอายุ 16 เหรอวะ กูรู้สึกแปลกๆ กับการที่มาเขียนบรรยายในน้ำเสียงบ่นๆ ว่า "ตัวก็ไม่สูงถึง 170 ด้วยซ้ำ" อะมึง
อิดอก เดี๋ยวนะ กูขอกดปุ่ม stop แป๊บ
อิเหี้ย กูจิบกาแฟหนึ่งทีแล้วยังรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่พูดไม่ได้ มึง มึงเอ้ยยยย เวลาเขียนนิยาย ไม่จำเป็นต้องพยายามเล่าเรื่องราวตัวละครมากขนาดนี้ก็ได้ อิห่า กูอ่านมาตั้งหลายย่อหน้าอินโทรชีวิตพระเอกที่เล่าด้วย voice เอื่อยๆ เหมือนบทบรรยายในโฆษณาประกันชีวิตก็ยังไม่จบสักที ทำไมคนอ่านอย่างกูต้องมานั่งอดทนอ่านประวัติชีวิตไอ้เหี้ยที่ไหนที่กูยังไม่ได้มีความประทับใจใดๆ ให้อยากรู้จักเลยสักนิดด้วยวะ ใจเย็นๆ มึง ค่อยๆ เขียนเล่าประวัติความเป็นมาพระเอกแนบสนิทไปกับเนื้อเรื่องก็ได้ ไม่จำเป็นต้องพล่ามยาวเหยียดตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่แบบนี้ มันน่าเบื่อ คำแนะนำพิเศษนะ เวลาเขียนนิยายอะ บทนำมันสำคัญมากๆ เลยมึง เพราะมันเป็นตัววัดว่าคนอ่านจะอยากอ่านเรื่องของมึงต่อไหม เหมือนมึงดูทีวีอะมึง มึงนึกภาพตามกูสิคะ เวลาเจอหนังเรื่องไหนลอยขึ้นมา ถ้าหนังเรื่องนั้นเล่าแบบบรรยายเสียงเอื่อยๆ ไปเรื่อยๆ โดยไม่มีเหตุการณ์อะไรน่าสนใจ ดูไปห้านาทีก็ยังเหมือนเดิม มึงอยากเปลี่ยนช่องไหม? นั่นแหละ การเขียนนิยายก็เหมือนกัน มึงต้องจับคนอ่านให้อยู่หมัดอะมึง
ไม่ต้องยัดเยียดข้อมูลพระเอกหรอก เขียนเรื่องให้มันน่าติดตามให้ได้ก่อน ถ้ากูอยากติดตามแล้ว กูก็จะอยากรู้จักอีพระเอกของเรื่องเองแหละ
กูทนอ่านไม่ไหวจริงๆ ขอข้ามไปหาเนื้อหาส่วนที่เนื้อเรื่องเริ่มเดินไปข้างหน้าแล้วนะมึง กูสรุปเผื่อเพื่อนโม่งที่มาอ่านเล่นนะคะ เอาเป็นว่าสรุปสั้นๆ ว่า อิพระเอกเรื่องนี้มันอกหักค่ะมันเลยเปลี่ยนไป เท่ขึ้น อิดอก แค่นี้ก็ต้องอินโทรซะยาว เปลืองกาแฟกูมากๆ
คำแนะนำพิเศษนะ บทนำนี้อะ ตัดข้ามมาเปิดเรื่องที่ตอนอิพระเอกเปิดประตูเข้าห้องมาสบตายูนะแบบเท่ๆ เลยก็ได้ แล้วอาจจะให้ทุกคนกรี้ดว่าอิพระเอกนี่เปลี่ยนไปโดยอาจจะดูหล่อขึ้นเพิ่มภาษีให้อิพระเอกไปอีก ตานี้พอทุกคนกรี้ดยูนะก็กรี้ดเลยทำให้แฟนยูนะไม่พอใจ เกิดเรื่องราวอะไรก็ว่าไป จบเรื่องวุ่นๆ มึงค่อยมาเล่าอดีตแบบสรุปๆ ที่มาของพระเอกก็ได้ กูว่าแบบนี้มันจะน่าสนใจกว่า
อ่านต่อนะคะ
หือ หือ หือ อิด๊อกกก มาอีกแล้วเว้ย ซาวด์เอฟเฟค!
"ชิ!! ไอ้นี่หน้ากวนประสาทชะมัด!!!" ชายอีกคนที่อยู่ด้านข้างกำหมัดแน่และชกมาที่หน้ากันต์ ยูนะเห็นงั้นก็รีบร้องห้าม
"หยุดนะ!!!ปึกกกก!!!!" ทั้งห้องเงียบไปชั่วครู่เพราะอึ้งอยู่
อิดอก กูเองก็อึ้ง
นี่มึงเอาอะไรมาให้กูอ่าน กูเกือบพ่นกาแฟใส่จอ กาแฟกูแพงนะคะ
เครื่องหมายพวกนี้อะมึง ! นี่อะ ใส่ตัวเดียวก็พอ หรือถ้าอยากใส่เยอะก็ไม่ควรเกินสามตัว (เขียนแบบนี้ !!! ) ไม่ใช่อยากใส่กี่ตัวก็ใส่ อิดอก ที่กูพูดมานี่มาตรฐานสำนักพิมพ์นะ มึงลองค้นกูเกิลคำว่า การจัดต้นฉบับ อาจจะยังพอเจอที่เขาสอนวิธีใช้เครื่องหมายพวกนี้ในต้นฉบับนิยาย ปึกกกก ก็เหมือนกัน จะลากตัวอักษรยาวๆ ก็ไม่ควรเกินสามตัว แต่ถ้าถามกูนะ ปึก! ก็พอแล้ว
นอกจากเรื่องเครื่องหมายและการใส่ตัวละกดเพื่อลากเสียง กูอยากขอติงเรื่องการใส่ซาวด์เอฟเฟคนิดนึง
มึง กูงงอะ หยุดนี่คำพูดยูนะสินะ แล้วปึกคืออะไร เสียงยูนะโดนส้นตีนใครลอยมากระทบปากฟันร่วงเหรอสัส ถ้ามันเป็นซาวด์เอฟเฟคที่ไม่ใช่คำพูดจากปากตัวละคร มึงไม่ได้ต้องเอามายัดไว้ในเครื่องหมายคำพูดเดียวกับคำพูดตัวละครเว้ยยยย สับสนเหี้ย
กูเริ่มเส้นเลือดขมับเต้นตุบๆ ละ กูปิดเพลงแป๊บอิห่า เพลงเดียวเล่นวนซ้ำทำนองเอื่อยๆ แม้จะเพราะแต่ฟังแล้วสะกดจิตชิบหาย
เดี๋ยวจะยาวไป พักแป๊บนะคะ ขอนวดขมับสักครู่ เดี๋ยวมาอ่านต่อ