>>731 กูว่าถ้าเป็นนักเขียนที่มีฐานนักอ่านเยอะพิมพ์เองรายได้ก็พอๆกับค่าลิขสิทธิ์สนพ.
แต่ก่อนพิมพ์กับสนพ.SataXได้ค่าลิขสิทธิ์10%จากราคาปก
สมมติ ราคาหนังสือ200พิมพ์3,000เล่ม ค่าลิขสิทธิ์10% = 60,000หักภาษี3% =58,200
บางสนพ.จ่ายค่าลิขสิทธิ์เหมารวบยอด 20,000บาท แถมติดสัญญา3ปี หรือXปีแล้วแต่ข้อตกลง กรรมสิทธิ์ผูกติดกับสนพ.นักเขียนทำไรไม่ได้
เจอสนพ.แบบนี้เสียเปรียบสุดๆ นักเขียนยอมไม่พิมพ์ยังดีกว่า
บางสนพ.จ่ายค่าลิขสิทธิ์10%ตามยอดขาย จ่ายเป็นงวดกลายเป็นเบี้ยหัวแตกอีก ตรวจสอบไรก็ไม่ค่อยได้
บางสนพ.กดค่าลิขสิทธิ์นักเขียนหน้าใหม่ให้ค่าลิขสิทธิ์7%
กรณีนักเขียนอินดี้ พิมพ์เอง 300เล่มเปิดพรีออเดอร์(ในกรณีมีฐานนักอ่านมากและขายหมดตามจำนวน) ต้นทุน150บาท ราคาขายหนังสือ350บาท
ราคาหนังสือหลังหักต้นทุน200x300=60,000บาท (ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด ค่าจัดส่ง ฯลฯ)
อันนี้กูลองคำนวนคร่าวๆ ข้อมูลอาจมีการคลาดเคลื่อน
กูว่ากำลังซื้อของสาววายเยอะจริงตามที่>>731 มึงว่า
นักเขียนอินดี้ฐานนักอ่านเยอะ พิมพ์เองขายเองกำไร ไม่ง้อสนพ.
แถมโรงพิมพ์เดี๋ยวนี้ขั้นต่ำแค่20เล่มก็พิมพ์แล้ว
ถ้ากูเป็นนักเขียนแล้วมีนักอ่านเยอะพร้อมเปย์ กูก็พิมพ์เองขายเองไม่ง้อสนพ.ว่ะ
ไม่เจอคนในสนพ.เรื่องมากมาจู้จี้จุกจิกด้วย บางสนพ.ทำสัญญาโครตเอาเปรียบนักเขียน บางสนพ.จะลอยแพนักเขียนเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ บางสนพ.ปั้นนักเขียนให้ดังแล้วบังคับให้เขียนแนวโน้นนี้ตามคำสั่ง เอานักเขียนในสังกัดมารวมกันเขียนซีรี่ย์โครงการตามที่เบื้องบนสั่ง โปรโมทเต็มที่สุดท้ายขายไม่ออก ออกบูทลด50% เหมือนขายของเรหลัง
นักเขียนอินดี้ พิมพ์เองขายเอง ได้เงินพอๆกันบางทีมากกว่า สบายใจ ไม่มีใครมาวุ่นวายบงการชีวิต กรรมสิทธิ์อยู่ติดกับเราเปิดพรีหนังสืออีกเมื่อไหร่ก็ได้
ปล.กูแค่เปรยๆตัวอย่างไม่ได้พาดพิงสนพ.ไหนเลย แค่ผ่านมาแล้วผ่านไป จอบอ