Fanboi Channel

นิยายเด็กดี บทที่ 3

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:qpAq8S7Rx

กระทู้สำหรับพูดคุยนิยายที่ลงอยู่ในเว็บเด็กดี จะด่า จะวิจารณ์ จะอวยก็สามารถทำได้

คลังกระทู้เก่า
นิยายเด็กดี บทที่ 1 -- https://fanboi.ch/webnovel/2403/
นิยายเด็กดี บทที่ 2 -- https://fanboi.ch/webnovel/2703/

กุตั้งรอไว้ให้ เห็นว่ากระทู้เก่ามันจะเต็มแล้ว

2 Nameless Fanboi Posted ID:Tp+mW/uXL

เจิมมมมม

3 Nameless Fanboi Posted ID:2XjNYX2hs

เราจะเริ่มที่อะไรกันดี

4 Nameless Fanboi Posted ID:hyEqwKQB1

ขอนิยายดีดี๊สักเรื่องให้ติดตามอ่านให้พูดถึงได้บ้างสิวะ มีบ้างมั้ยตอนนี้

5 Nameless Fanboi Posted ID:YOEqb/TE.

เรื่องนี้จบแล้วรีวิวด้วยนาจา

http://writer.dek-d.com/MarisolTK/story/view.php?id=1324706

6 Nameless Fanboi Posted ID:V0KvJbDEb

ศิษย์ข้าฯตอนล่าสุดกูเกือบสำลักน้ำตายตอนโฆษกประกาศเรียกนักกีฬาเข้าสนาม อยากหาคนแชร์ด้วย 5555555555

7 Nameless Fanboi Posted ID:UH0pYqBZE

ม้า

8 Nameless Fanboi Posted ID:g2ANX+EFT

>>5 กระทู้นี้สินายจ๋า

http://www.dek-d.com/board/view/3673637/

9 Nameless Fanboi Posted ID:81SdJjC9h

>>6 ศิษย์ข้าฯนี่สนุกใช่มั้ย เข้าไปอ่านบทนำกับแอบเปิดอ่านบางบทไว้ละ เหมือนจะออกแนวฮา ๆ ถ้าสนุกจะหาเวลาอ่าน ไม่มีดราม่าใช่มั้ยเรื่องนี้

10 Nameless Fanboi Posted ID:aJK8wl6eu

>>9 สนุก หนักไปทางตลก ดราม่าน้อย แต่มันก็มีอารมณ์เศร้าๆสลดๆมั่งแหละ ไปอ่านนนส

11 Nameless Fanboi Posted ID:gXKHYn3fs

>>9 หนุกโคตร มีแซะพวกไปต่างโลก ฮาเร็ม ที่พวกนิยายไปต่างโลกมักมีกัน นางเอกเหมือนจะเทพแต่ก็ไม่เทพ แต่ก็ไม่กากสลัดหรือมีโชคช่วยเยอะไป ดวงชะตาเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย

12 Nameless Fanboi Posted ID:g2ANX+EFT

นิยายแปลนี่โม่งวิจารณ์แล้วไปถึงนักเขียนมั้ยวะ

13 Nameless Fanboi Posted ID:tg2GqgEWM

เพิ่งเห็นปกเรื่องแฮกเกอร์ของรสิตา โม่งช่วยวิจารณ์หน่อยสิ นิยายแนวนี้กูไม่ถนัดว่ะ แต่เรื่องโรงเรียนของนักเขียนกูลองอ่านละ รู้สึกว่ามันขาดๆ เกินๆ ไงไม่รู้ว่ะ

14 Nameless Fanboi Posted ID:e2jE7Z+ua

>>13 ไหนวะ ของใครอะไรยังไง มีลิ้งค์ป่าว

15 Nameless Fanboi Posted ID:81SdJjC9h

>>10 >>11 ขอบคุณมาก เรื่องศิษย์ข้านี่แค่เห็นชื่อก็ขำแล้ว เลยคิดว่าจะอ่าน หวังว่าจะไม่มีเศร้าตอนท้าย

16 Nameless Fanboi Posted ID:S5o1M5BvU

>>15 ซือฝุจะรอเจ้า

17 Nameless Fanboi Posted ID:81SdJjC9h

>>16 ซือฝูเป็นหนุ่มใช่มั้ย ไม่ใช่แก่กินเด็กใช่มะ

18 Nameless Fanboi Posted ID:iyB.7mdHL

>>14 http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=631465 เรื่องนี้

19 Nameless Fanboi Posted ID:eAviKPD4h

>>17 ซือฝุอายุหมื่นกว่าปี แต่เชื่อกูว่าไม่แก่กินเด็ก เพราะซือฝุโง่เรื่องทางโลกมาก มึงต้องลองไปอ่านจริงๆ ซือฝุรอเจ้าอยู่

20 Nameless Fanboi Posted ID:9xpY7goqy

>>19 ไม่เรียกว่าโง่นะมึง แค่ไร้สามัญสำนึกพื้นฐานแบบคนทั่วไป เพราะถูกจับขึ้นเขาตั้งแต่สามขวบและเก็บตัวไม่เคยออกนอกเขาเลย จนกระทั่งมาเจอซูเหยาที่มีปัญหาเรื่อยๆ เลยได้ออกไปท่องโลกกว้างบ้าง แต่ช่วงหลังๆ ตอนบรรลุขึ้นสวรรค์ดูจะเริ่มเจนโลกขึ้นบ้างละ

21 Nameless Fanboi Posted ID:D4VJXTFJx

>>19 ขอบใจมาก กะอ่านแน่แหละ เพราะชอบหนังจีนตลก ๆ กับนิยายจีนแบบตลก ๆ ตอนนี้รอเคลียร์งานเสร็จ จะได้อ่านรวดเดียวเลย ไม่มีอะไรติดขัด ถ้ามีแนะนำแบบนี้อีกก็บอกมาได้นะ จะได้เก็บลงลิสต์ เอาแบบขำ ๆ ไม่เศร้า ไม่ดราม่า ไม่ฮาเร็ม

22 Nameless Fanboi Posted ID:/O8ojzgWX

ซูเหยา นี่อ่านแล้วรอว่าเมื่อไร เจ้ จะได้เอาคืน realm spirit สักที
เพราะแต่ละรอบ realm spirit จัดตัวเลือกได้โคตรกวน แถมบังคับเลือกให้ตลอด

23 Nameless Fanboi Posted ID:4MVD77Y6v

>>22 กูขำตัวเลือกเจ๊เหยาทุกรอบ แม่งก็ยังอุตส่าห์หามุกมาไม่ให้ซ้ำได้นะ ตอนนี้คาใจอัตลักษณ์สองเพศ คือระ เจ๊จะเป็นชายก็ได้ หญิงก็ได้เรอะ

24 Nameless Fanboi Posted ID:mAvQ83Z0C

http://my.dek-d.com/greamon/writer/view.php?id=1451821

25 Nameless Fanboi Posted ID:D4VJXTFJx

ไปอ่านซูเหยามายี่สิบกว่าตอน ว่าจะรองานเสร็จ ทนไม่ไหว อ่านก่อน โคตรขำ ดีว่าระงับใจไว้ได้ไม่อ่านต่อ ไม่งั้นงานการคั่งค้าง ชอบนิยายแบบเนี้ย มุกไม่ต้องลึกล้ำอะไร เอาง่าย ๆ แต่ฮาแตก นี่ถ้าคนแปลแปลดีกว่านี้ จะขำกว่านี้อีกมากเลยนะ คนแปลยังเรียงคำไม่ดีพอ แต่ก็ขอบน้ำใจเขาละที่แปลให้อ่าน ช่างมีความมุมานะและใจดียิ่งนัก ไปโวตมาให้หนึ่งดอก

26 Nameless Fanboi Posted ID:x1vyj5A/X

>>24 เลิกเอานิยายมาโฆษณาได้แล้วยู

27 Nameless Fanboi Posted ID:ItcYwa2/a

>>24 มันฮาตรงไหนวะ รึว่ากูเส้นลึกเกินไป

คลินิกนักเขียนเดือนกันยาเปนอีราชานกฮูกว่ะ มันมีอะไรมาสอนด้วยหรอกูขำหนัก

28 Nameless Fanboi Posted ID:QnkI4QXJ8

>>27 กูอ่านแล้วขำนะ ขำแบบแหะๆ ขำแบบเจื่อนในความแป้ก เนื้อเรื่องมีความ...ความอะไรดีละ เบียว? คุ? มีความวอนนาบีแบบยัดทุกอย่างให้ขำ แต่มันล้นอ่า

29 Nameless Fanboi Posted ID:D4VJXTFJx

>>27 >>28 คงเป็นเด็กเขียน เราว่าไม่แย่นะ แต่ไม่ขำอย่างที่คนเขียนคิดจะให้ขำเท่านั้นเอง ใครเป็นคนเขียนก็พยายามต่อปายละกัน ลองอ่านงานเขียนที่คนอื่นเขาว่าขำเยอะ ๆ จะได้เห็นว่าคนเขียนงานขำเขาแทรกมุกยังไงจ้า

30 Nameless Fanboi Posted ID:j5JFw+Utz

>>27 ไอ้ฮูกมันเป็นนักเขียนอาชีพแล้วนะมึง มันคงเอาประสบการณ์มาแนะนำแหละ ไม่เก่งจริงไม่ได้ตีพิมพ์นะ

31 Nameless Fanboi Posted ID:aokcqCL7z

การที่มีคนเอางานไปตีพิมพ์ ไม่ได้หมายความว่าเก่งป่ะวะ แต่หมายความว่ามีคนสนใจจะลงทุนกับงานเขียนของใครสักคน เพราะ มัน น่า จะ ขาย ได้

32 Nameless Fanboi Posted ID:iWbDXsAuN

นักเขียนคนไหนจากเด็กดีที่สามารถเรียกได้ว่าเก่งวะ

33 Nameless Fanboi Posted ID:9x7PkcArW

>>30 มันได้ตีพิมพ์เพราะติดท็อปเลยมีฐานคนอ่านเยอะสนพ.ก็กล้าเสี่ยง ลองไม่ติดท็อปมียอดแฟนคลับแค่พันกว่าหรือไม่ถึงพันสิมึง กูว่าเมจิกมันไม่แลหรอก ถ้าถามว่าเก่งไหม? กูว่าก็อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง คือมันก็ดีกว่าพวกติดท็อปส่วนใหญ่ที่มีคำผิดเพียบและสำนวนการเขียนแม่งยังกะชีวิตนี้ไม่เคยเขียนเรียงความ แต่ยังไม่ดีถึงขั้นที่จะเรียกได้ว่าเป็นสุดยอดนิยายแฟนตาซี เพราะที่ขึ้นท็อปได้ก็เพราะช่วงนี้กระแสต่างโลกมาแรงคนอ่านเลยสนใจเยอะเท่านั้นแหละ และมีสำนวนการเขียนที่ดีพอจะไม่ทำให้กดปิดในห้าบทแรก ตามความเห็นกูนะ นิยายของท้องฟ้ายังดูมีระดับกว่านกฮูก แต่ไม่ค่อยดังเท่าเพราะมันเป็นแนวเกมออนไลน์ที่กระแสเริ่มซาลงแล้ว แต่อีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับการปรุงยาก็ดีพอกันแหละ ที่คนอ่านไม่มากเท่าของนกฮูกคงเพราะมันเป็นนิยายนอกกระแส

ปล.ออกตัวไว้ก่อน กูไม่ใช่ติ่งท้องฟ้าหรือแอนตี้ฮูก ถึงจะไม่ค่อยชอบพวกแก๊งทะเล้นนี่เพราะกิ่งน้าและดราม่าการประกวด ที่บอกไปนี่คือตามเนื้อผ้าที่กูมองอย่างเป็นกลางแล้วในสายตากู

34 Nameless Fanboi Posted ID:ItcYwa2/a

กูคือ>>27 ที่เอาเรื่องนกฮูกมาปล่อย กูไม่ได้สนใจดราม่าชั้นเลวของมันนะ แต่กูอ่านแล้วนิยายมันห่วยไม่โอว่ะ อ่านรู้เรื่องแต่งั้นๆต่างจากนิยายแฟนตาซีที่เคยพิมพ์ก่อนหน้านี้ ฝีมือไม่ถึงขั้นว่างั้นแหละอาศัยแค่เกาะกระแส ส่วนได้ตีพิมพ์แล้วบอกว่าเก่งก็แล้วแต่คิดนะโม่ง กูอ่านเองเป็นคิดเองได้นิยายมันต่ำกว่ามาตราฐานสำหรับกู นิยายของท้องฟ้าดีกว่าเยอะกูให้ผ่านแต่กูก็ไม่ได้ตามอ่านอยู่ดี หันไปอ่านนิยายย้อนอดีตจีนแล้วว่ะตอนนี้

35 Nameless Fanboi Posted ID:D4VJXTFJx

เป็นนักเขียนอาชีพสมัยนี้ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นคนเก่งแล้ว ก็ดูสภาพสำนักพิมพ์กับบรรณาธิการแต่ละแห่งสิ เห็นแล้วโตะใจโหมะเลย

36 Nameless Fanboi Posted ID:ol9xfrU+X

ทำไมจู่ๆกูนึกถึงอีเด็มซ่าวะ 555 งานก็งั้นๆแต่ถึงขั้นมีเอาไปทำเป็นละครด้วยแม่ง...

37 Nameless Fanboi Posted ID:JobiKAnn4

>>36 มึงดูละครไทยส่วนใหญ่สิ อีเด็มซ่าก็ทำนองเดียวกัน ตรรกะวิบัติความสมเหตุสมผลไม่มี แค่มีฉากจิ้นๆ ฟินๆ ของคู่เอกเยอะๆ ให้ติ่งตามติดก็ขายได้หมดแหละ จะพระเอกข่มขืนนางเอกแล้วรอดคุก นางร้ายที่กลายเป็นบ้าหรือตายตอนจบ แค่คนดูมันฟินน้ำแตกเรตติ้งพุ่งกระฉูดก็จะมีละครทำนองนี้โผล่ออกมาเรื่อยๆ ไอ้ที่ดีมีสาระสมเหตุสมผลไม่ค่อยจะสนกัน ย่อยยากไปไม่สนุกด้วย

38 Nameless Fanboi Posted ID:Fqo9moQrU

>>27 บรรทัดที่ 2 ของมึงกูให้เหรียญทองโอลิมปิกเลย

>>33-34 ในแง่หนึ่งมันเก่งเรื่องตามกระแสนะ ตอนแรกก็เขียนแนวออนไลน์แล้วติดท็อป นับว่าดีกว่าคนอื่นตอนนั้นพอควร คำผิดกับภาษาก็อย่างว่าละ มันไม่เคยพัฒนาอะไรเลย ยิ่งเขียนยาวๆ เนื้อเรื่องก็ยิ่งดิ่งเหว รู้สึกถึงแรงบันดาลใจเยอะพอตัว แต่ที่ทำให้กูเกลียดมันคือแคปเอาคนที่วิจารณ์มันมาให้สาวกรุมด่า สวะมาก

ส่วนท้องฟ้าเขียนดีกว่าจริง แต่ยิ่งมายิ่งประดิษฐ์ประดอยยืดยาด เขียนมาเป็น 10 หน้าแต่เนื้อเรื่องกระจึ๋งเดียว แทนที่จะมันแต่สนใจความไหลลื่นสวยงามของภาษาและสิ่งรอบข้าง มันควรเน้น what when who why how ให้ใหลเร็วกว่าเน็ต TOT มากกว่านี้หน่อย ดีที่มันใช้ time skip บ่อย ไม่งั้นเนื้อเรื่องของมันอีก 500 ตอนก็ไม่จบ อีกอย่าง ตอนนี้เวลาอ่านแล้วไม่รู้สึกเหมือนอ่าน summary เหมือนเรื่อง ALL แล้ว แต่ตัดน้ำไปหน่อยก็ดี โดยเฉพาะช่วงอาหารที่เลียนแบบการเขียน LN ของญี่ปุ่นมากไป

39 Nameless Fanboi Posted ID:vOQWWX2Mk

มึงกูอยากเขียนนิยายที่เซตติ้งมั่วๆ เนื้อเรื่องมั่วๆ แบบโลกแฟนตาซีชื่อฝรั่งจ๋าแต่ไปแดกหมูกระทะ พาดพิงหนังละครแบบมั่วๆซั่วๆ เอาฮาเนี่ย จะโดนด่าป่ะวะ

40 Nameless Fanboi Posted ID:fP.n1HDj2

>>39 เขียนไปมึงอยากเขียนไรก็ทำไป มันจะไม่มีใครด่ามึงก็ต่อเมื่อไม่มีใครอ่าน ถ้ามีคนอ่านมึงเขียนดียังไงก็ต้องมีคนด่า จะมีคนด่ามากถ้ามึงเขียนเหี้ยแต่ติดท็อปแล้วเรื่องมาถึงโม่ง จะมีคนด่าวายป่วงถ้ามึงเสือกเอาเรื่องห่วยๆไปโฆษณาในบอร์ดนักเขียน มึงเขียนแล้วอยู่กับลูกหาบของมึงดีที่สุดนาจา

41 Nameless Fanboi Posted ID:XJpYubiSl

>>39
เขียนไป อยากเขียนก็เขียนไป จะไม่มีใครด่าเลยก็ต่อเมื่อไม่มีใครอ่านสักคน

ถ้ามีคนอ่านล่ะก็นะ เขียนดียังไงก็ต้องมีคนด่า แต่จะมีคนด่ามาก ถ้าเขียนแย่แล้วติดท็อปและเรื่องจะมาถึงโม่งแน่

อีกอย่าง จะมีคนด่าฉิบหายถ้าดันเอาเรื่องห่วยๆไปโฆษณาในบอร์ดนักเขียน

เขียนแล้วอยู่กับลูกหาบตัวเองดีที่สุดนะจ้ะ

โม่งแตกไหม?

42 Nameless Fanboi Posted ID:YaOwfqqPU

>>40 มีความมาเฟีย
>>41 เขาเป็นใครใบ้โหน่ย

43 Nameless Fanboi Posted ID:I4hk5pSeT

http://writer.dek-d.com/thewayyoulie/story/view.php?id=1400433

กุจะทำไงให้มันหยุดปั้มวะไอสัส เยดแหม่ ขยันขึ้นหน้า1ชิบหาย มี 19.10%ด้วยไอสัส

กุลงถูกบอร์ดปะวะ

44 Nameless Fanboi Posted ID:900jbWIot

โหวตต่ำไปสิ กูทำกับทุกเรื่องที่กูรำคาญ

45 Nameless Fanboi Posted ID:UMYWoQTiu

>>39 หนูพริมเรอะ?

46 Nameless Fanboi Posted ID:UMYWoQTiu

เออ เพิ่งเห็นคลินิกนักเขียนเดือนนี้ นกฮูกเป็นหมอแนะนำฉากคอมเมดี้ว่ะ กูไม่ค่อยมีเวลาไปไล่อ่านนิยายมัน(และทุกเรื่องในตอนนี้ เพราะเวลาว่างกูไม่พอ;w;) อยากรู้ว่านิยายมันฮาจริงดิ เห็น WM รีวิวซะหรูเลย โม่งไหนเคยอ่านช่วยวิจารณ์ให้ฟังหน่อยสิ

47 Nameless Fanboi Posted ID:JV1oGSp9h

>>46 เรื่องขำไม่ขำเนี่ยมันเป็นเซนส์ของแต่ละคนมั้ง บางคนก็ชอบตลกเจ็บตัว บางคนชอบแบบมุกหน้าตาย จิกกัด เรื่องแบบนี้มันพูดกันยาก

48 Nameless Fanboi Posted ID:oWAqpdmnp

กูโม่งอารีนะ อยากลองเขียนวิจารณ์นิยายอีกสักครั้งว่ะ ใครว่างๆช่วยหานิยายมาแปะให้ลองวิจารณ์ดูหน่อยนะ

แต่กูเบื่อหมวดแฟนตาซีแล้วอะ ขอตั้งกติกาหน่อยแล้วกันว่าไม่เอาหมวดแฟนตาซี และที่เหมือนเดิมคือกูไม่ถนัดนิยายรัก นิยายสืบสวน นิยายผี ที่เหลือใครมีเรื่องไหนอยากลองให้วิจารณ์ก็ลองแปะมาได้เลย จะเนียนเอานิยายตัวเองมาก็ได้ไม่ว่ากัน

อ้อ ต้องใส่กติกาอีกข้อนึง นิยายที่เอามาแปะอยากจะได้แบบลับแลๆแต่ดูมีทรงหน่อยๆ ก็ขอกำหนดไว้เลยแล้วกันว่านิยายเรื่องนั้นจะมีกี่ตอนก็ได้ แต่จำนวนคอมเมนต์ต้องน้อยกว่าจำนวนตอนที่นิยายเรื่องนั้นมี โอเคไหมคะ

49 Nameless Fanboi Posted ID:Qg/NLK50W

เอ๊ะ นิยายแปลเรื่องเมียอ๋องสุดที่รักกับเรื่ององค์ชายจินคลั่งรักนี่มันเนื้อหาคล้ายๆกันเลยป่ะวะ ปมนางเอกเป็นลูกสาวที่กากแต่จริงๆนางเทพพก็ใช่ พ่อไม่รักก็ใช่ พี่สาวอิจฉาก็ใช่ คู่หมั้นเดียดฉันท์ก็ใช่ เส้นเรื่องแม่งยังเขียนตามไทม์ไลน์เดียวกันเลย

50 Nameless Fanboi Posted ID:RgNY7v.0c

>>48 เม้นกับตอนเท่ากันรับป่ะ

http://writer.dek-d.com/love_samoyed/story/view.php?id=1422748 เม้น5 ตอน5

http://writer.dek-d.com/ct11359/story/view.php?id=1471775 เม้น0 ตอน7

http://writer.dek-d.com/nukrob/story/view.php?id=1308156 เม้น4 ตอน47

http://writer.dek-d.com/nopanopaa/story/view.php?id=1304222 เม้น14 ตอน31

http://writer.dek-d.com/Zyzar/story/view.php?id=1493877 เม้น1 ตอน6

http://writer.dek-d.com/askingkiller/story/view.php?id=1457988 เม้น7 ตอน15

กูโม่งMystery99ที่เคยคุยกับมึงกับโม่งฮิในแชทเมื่อครั้งกระโน้นเอง เรื่องพวกนี้กูสุ่มมาจากอัพล่าสุด มึงลองดูละกันนะอารี

51 Nameless Fanboi Posted ID:GoGlC.vNa

>>50 เรื่องแรกขอข้ามนาจา เพราะไม่เข้าเงื่อนไขอะ แอบเสียดายอยู่เหมือนกันเพราะลองเปิดไปดูแล้วก็น่ารักดี

เรื่อง : Desiderium Foro - ตลาดปรารถนา
link : http://writer.dek-d.com/ct11359/story/view.php?id=1471775
จำนวน : 7 ตอน (รวมบทนำ)
สถานะ : ยังไม่จบ

คำนิยามสั้นๆ สำหรับนิยายเรื่องนี้ "เนื้อเรื่อง(เหมือนจะ)ดี แต่ปัญหา(สำคัญ)อยู่ที่การเล่าเรื่อง"

ต้องสารภาพก่อนว่าห่างหายไปจากการอ่านนิยายเด็กดีค่อนข้างนานเหมือนกัน ในตอนแรกที่เข้ามาสัมผัสเรื่องนี้ก็คิดได้ว่า เออ มันก็เข้าท่าเหมือนกันนะ ดูมีความเป็นแฟนตาซี ดูมีการเซ็ตธีมที่กลมกล่อม แต่พอเข้ามาเจอการบรรยายเท่านั้นล่ะ อื้อหือ สารภาพว่าอ่านไม่จบจ้า

7 ตอน 0 คอมเมนต์ไม่ได้มาเล่นๆนะพี่จะบอกให้ เหตุที่มันเป็นแบบนี้เพราะว่าคนอ่าน(ส่วนใหญ่เป็นเด็กๆ) มันอ่านไม่รู้เรื่องไง การใช้คำซ้อนคำมีมาก พยายามประดิษฐ์ภาษาจนคนอ่านงงได้ แทนที่จะได้รับคำชมว่าภาษาสวยกลับกลายเป็นโดนด่าว่ามึงเขียนเหี้ยอะไรเนี่ยกูอ่านไม่รู้เรื่องแทน เพื่อทดสอบว่ากูคิดไปเองรึเปล่า เราจะขอคัดบางส่วนของเนื้อหามาให้อ่านกัน

"ท้องฟ้าราตรีอันแสนสงัดประดับประดาด้วยเหล่าดวงดาวฉายชัดโดดเด่นในสายตาของเด็กสาวผู้หนึ่งซึ่งกำลังเอนกายพักพิงริมราวสะพานอยู่ ดวงตาสีฟ้าครามงามอ่อนจางเบื้องขวาทอดมองผ่านสายธารารินผ่านพลางเอนตัวก้มลงจ้องมองเข้าใกล้ จนมองเห็นเงาสะท้อนผ่านของตนอย่างเด่นชัด"

wtf

บทบรรยายดังกล่าวเป็นบทบรรยายแรกในบทนำของเรื่อง สารภาพตรงๆว่าถ้ากูไม่ได้ต้องการที่จะเอามันมาวิจารณ์ล่ะก็ กูก็คงปิดแม่งไปตั้งแต่ยังอ่านประโยคนี้ไม่จบแล้ว และจากการที่ฝืนอ่านต่อไปก็ปรากฎว่าแม่งใช้การบรรยายเวิ่นเว้อแบบนี้ตลอดจนกูเข้าใจแล้วว่าไอ้พวกนักอ่านที่บอกว่าเห็นคนเขียนภาษาสวยแล้วปวดหัวเนี่ยมันเป็นยังไง

สำหรับเนื้อเรื่องเท่าที่อ่าน(และเท่าที่ความสามารถในการแปลไทยเป็นไทยของกูจะมี)นั้น สามารถสรุปได้ดังนี้ (อ่านได้แค่ 2 บท บทนำและบทแรก)

มีโลกอยู่ใบหนึ่ง ซึ่งคิดว่าไม่ใช่โลกใบเดียวกับที่เราอยู่นี่ เซ็ตธีมออกมาประมาณยุคไหนนี่ตอบยาก ตอนแรกที่อ่านรู้สึกเหมือนว่าจะเป็น belle epoque แต่คิดดูดีๆแล้วก็ไม่น่าจะใช่อีก เอาเป็นว่าอย่าไปสนใจแม่งเลย ในโลกใบนี้ก็มีคนอยู่หลายเผ่าพันธุ์ และมีตลาดแห่งหนึ่งซึ่งลึกลับมาก ใบ้ๆมาว่าเป็นตลาดที่มีทุกอย่างที่ต้องการ ใครๆก็อยากจะมาที่นี่ เรียกที่แห่งนี้ว่า ตลาดปรารถนา

เรื่องเปิดขึ้นมาก็อีตรงที่มีผู้หญิงคนนึงนั่งพิงราวสะพานอยู่นั่นล่ะ แล้วก็มีผู้หญิงอีกคนโผล่มาคุยกัน (ชื่อฟาเลนเซียกับเอนโต้เหี้ยไรสักอย่าง จำยากสัส ช่างแม่ง) ผู้หญิงคนที่มาทีหลังเนี่ยก็บ่นว่า "เกท" (กูมองว่าน่าจะประมาณจุดวาร์ป) ส่งเขามาผิดที่อีกแล้ว มันต้องมีปัญหาอะไรแน่ๆ คนมาใหม่ก็เลยถามผู้หญิงพิงสะพานว่าวันนี้ใครแม่งทำหน้าที่คุมเกทวะสัส ผญ.พิงสะพานก็เลยบอกว่าฮาเดรียนมั้ง

ฉากก็ตัดไปที่ไอ้ฮาเดรียนที่ทำงานหนักมาก กองเอกสารพะเนินท่วมหัว ทำงานไปทำงานมาก็วูบน็อคหล่นลงไปกองกับพื้น ฟื้นขึ้นมาก็ทำงานต่อ บ่นๆว่าเนี่ยไอ้สัส เกทแม่งเสียเนี่ยกูยังไม่ได้แก้เลย บลาๆ จากนั้นก็มีคนสองคนบุกเข้ามาในห้องทำงาน เป็นคนรู้จักของฮาเดรียนเอง ผู้บุกรุกก็บอกว่าเนี่ยไอ้สัสจะเช้าละ ตลาดแม่งจะเปิดอยู่ละมึงทำเหี้ยไรอยู่ทำไมเกทยังซ่อมไม่เสร็จ

แล้วก็เริ่มบทที่หนึ่ง เล่าถึงตลาดปารถนาว่าใครๆก็อยากมา ต้องต่อคิวขึ้นเรือกันไป เรื่องก็เปิดตัวคนสามคน คนนึงเป็นวิญญาณชื่อรินหฟกสดเ่าฟสหทดหก่กฟ เหี้ยอะไรสักอย่าง ยาวสัส แต่ในเรื่องเรียกแค่ว่าริน แล้วก็ยังมีสาวผมทองคนนึงชื่ออะไรจำไม่ได้ แล้วก็อีกคนนึงเป็นใบ้(รึเปล่า?) เป็นนักช่างภาพที่ชอบถ่ายรูป และไม่พูดอะไรเลย ได้แต่เขียนเป็นตัวหนังสือให้คนอื่นอ่าน เรื่องก็ตัดฉากไปที่คนอีกคนหนึ่งที่ประมาณเป็นคนใหญ่คนโต แต่กฎของตลาดก็คือคนเท่าเทียมกันหมด แม่งก็เลยต้องมาต่อคิวเหมือนกับคนอื่น แม่งก็พล่ามไปว่าน่ารำคาญสัส ทำไมกูต้องมารอคิวกับไอ้คนพวกนี้ด้วย แล้วก็เล่าไปว่าอีตาคนใหญ่คนโตคนนี้เนี่ยต้องการไปหาซื้ออะไรสักอย่างในตลาดเพื่อให้ความปรารถนาของตัวเองสำเร็จ

ต่อไปเป็นการให้คะแนน

52 Nameless Fanboi Posted ID:GoGlC.vNa

ต่อจาก >>51 ให้คะแนนเรื่อง Desiderium Foro - ตลาดปรารถนา

คำผิด : แทบไม่พบ คือดีย์ ดีย์จีจี แต่ก็ยังพอเห็นการพิมพ์ตกหล่น พิมพ์เกินมาบ้างบางครั้ง สำหรับคะแนนในส่วนนี้ขอใจดีให้ไปก่อนเลย 8/10

การบรรยาย : อันนี้คิดหนักมากๆว่าจะให้คะแนนยังไงดี จากการอ่านงานของคนเขียนคนนี้เนี่ยพอจะอนุมานได้ว่าเขา(หรือเธอ) เป็นคนที่อ่านหนังสือมาเยอะ (คลังคำศัพท์ถึงได้เยอะ) แถมยังมีความสามารถในการผูกและเขียนเรื่องด้วย แต่บางทีอาจเป็นเพราะไม่ค่อยมีใครคอยตรวจแก้งานให้ก็เลยออกมาในรูปแบบที่ดูสวย แต่มึนๆงงๆอ่านแทบไม่รู้เรื่องชวนปิดเช่นนี้ กูให้ 3 คะแนนสำหรับการใช้ศัพท์แสงที่น่าสนใจ 1 คะแนนสำหรับการบรรยายฉากและตัวละคร แถมอีก 1 คะแนนในฐานะที่เป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน รวมในส่วนนี้ 5/10 คะแนน

ตัวละคร : อ่านไปได้แค่นิดเดียวเลยยังไม่สามารถมองเห็นได้ถึงการพัฒนาและมิติของตัวละครเท่าไหร่ แต่ก็ยังได้กลิ่นอายของความเป็นอนิเมะญี่ปุ่นอยู่บ้าง การที่ตัวละครแต่ละตัวมีคาแร็กเตอร์ที่ชัดก็ถือว่าทำได้ดี ถึงแม้ว่าตัวละครจะมีเยอะแต่ๆละตัวก็มีลักษณะเฉพาะที่ทำให้คนอ่านจำได้ว่าใครเป็นใคร ถึงแม้บทบรรยายและชื่อที่สุดแสนจะพิสดารจะคอยทำลายมันอยู่เนืองๆก็ตาม ให้ 6/10 ค่ะ

เนื้อเรื่อง : อ่านแทบไม่รู้เรื่อง เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากจริงๆสำหรับนิยายเรื่องนี้ เพราะถ้าแก้เรื่องการบรรยายแล้วคิดว่าน่าจะทำให้อ่านไหลลื่นขึ้นและเข้าถึงเนื้อเรื่องได้มากกว่านี้ ถ้าถามว่าอ่านไม่รู้เรื่องแล้วจะมาบอกว่าเนื้อเรื่องดีได้ยังไงก็คงต้องเปรียบเทียบประมาณว่า กูก็ฟังเพลงภาษาสเปนไม่ออกหรอก แต่จังหวะแม่งก็ตื๊ดๆโดนใจดี ถ้ามีซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษให้สักหน่อยก็น่าจะเข้าใจเนื้อหาของเพลงได้ดี เผลอๆอาจติดบิลบอร์ดก็เป็นได้ ให้ 4/10 คะแนน

สรุปผล 23/40 ก็ถือว่าผ่านเกณฑ์นาจา ปรบมือๆ อยากจะให้คนเขียนพัฒนางานเขียนให้ดียิ่งๆขึ้นไปอีก เซ็ตธีมได้โอเคแล้ว ปัญหาคือการบรรยายที่จะต้องลดความเยอะลงบ้าง หันไปเน้นถึงความกระชับ+ความสวยงามทางภาษา เท่านี้ก็โอละจ้า

53 Nameless Fanboi Posted ID:rXX33ePFR

อา... กูแอบคิดถึงตัวเองสมัยก่อนชอบกล เมื่อก่อนกูว่ากูเขียนลื่นจนแทบยืดเยื้อคล้ายๆแบบนี้เลยแหละ แต่โตขึ้นก็ชักห่างๆงานเขียนไปนาน กลับมาเขียนอีกทีก็เขียนแทบไม่ค่อยออก บรรยายเวิ่นเว้อแบบนั้นไม่ไหวแล้วว่ะ 555 /เข้าเรื่อง กูอ่านบทนำแค่ไม่กี่บรรทัดก็ไม่ไหวแล้วว่ะ อ่านเรื่องย่อนี่น่าสนใจนะแต่แค่บรรยายเด็กสาวปิดตาข้างเดียวกำลังยืนพิงสะพาน แล้วชะโงกหน้าพยายามเอามือจุ่มน้ำ กูก็เหนื่อยแล้วว่ะ

54 Nameless Fanboi Posted ID:8fHET16Ui

มาลุกขึ้นยืนปรบมือให้โม่งอารี ท่านช่างมีความกล้าหาญและอารีสมชื่อ เราเคยคิดจะอ่านงานในเด็กดีแบบสุ่ม ๆ เอา อ่านทั้งที่มันไม่ดี แต่อ่านเพื่อให้รู้ว่าคนเขียนอยากบอกอะไร แต่ทนไม่ไหวจีย์จีย์ ทั้งคำผิด ทั้งบรรยายไม่รู้เรื่อง ทั้งศัพท์แสงที่พยายามใส่ให้สวยงาม เข้าใจนะว่าเด็กเขียน หรือถ้าไม่เด็กก็มือใหม่มาก ๆ แต่มีความอารีไม่พอที่จะอ่าน ต้องรามือไป รออ่านโม่งอารีรีวิวเอาดีกว่า 555

55 Nameless Fanboi Posted ID:qXaQd6wig

>>51 กูปิดไปตั้งแต่ย่อหน้าแรกเขียนได้เลิศหรูอลังแต่ดันอ่านไม่รู้เรื่อง กูอุตสาชอบธีมเรื่อง น่าสนใจดีแต่บรรยายแบบนี้กูขอบายว่ะอดทนไม่พอ

56 Nameless Fanboi Posted ID:GoGlC.vNa

เรื่อง : เมืองแนวตั้งโครงสร้างประหลาด ผู้คนไม่มีวันตาย กับเด็กชาย
link : http://writer.dek-d.com/Zyzar/story/view.php?id=1493877
จำนวน : 6 ตอน (รวมบทนำ)
สถานะ : ยังไม่จบ

มีความประทับใจ รู้สึกปลาบปลื้มมากที่ได้อ่าน คิดว่าเป็นไข่มุกเม็ดงามใต้ท้องทะเลทีเดียว (ว่าไปนั่น)

ทีแรกคิดว่าจะอ่านเรียงตามเรื่องที่ >>50 แนะนำ แต่เผอิญว่า 2 เรื่องก่อนหน้ามันเป็นเรื่องยาว(มาก) ก็เลยคิดว่าเอาไว้อ่านทีหลังแล้วกัน ขออ่านเรื่องสั้นๆก่อน อื้ม ไม่ผิดหวังนะ

เรื่องนี้เซ็ตธีมเป็นโลกในยุคอนาคต หลังจากที่โลกเกิดภัยพิบัติอะไรบางอย่าง ทำให้แผ่นดินแยกออกจากกันกลายเป็นทวีปเล็กๆ 100 ทวีป คนที่เหลือรอดก็เลยต้องสร้างอารยธรรมใหม่โดยใช้พื้นที่ๆมีอยู่อย่างจำกัด ก็เลยกลายเป็นเมืองที่มีแต่ตึกสูงระฟ้าเต็มไปหมด แถมอารยธรรมเก่าที่เคยมีอยู่ก็ไม่ได้หายไปเฉยๆ ยังคงเหลือองค์ความรูไว้ให้คนยุคหลังได้ต่อยอดจนสามารถคิดค้นยาอายุวัฒนะขึ้นมาได้ ทำให้คนเราไม่ป่วยไม่แก่ไม่ตายอีกต่อไปแล้ว

แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะได้รับสิทธิ์นั้น การอยู่บนเมืองสูงระฟ้า มีชีวิตที่เป็นอมตะนั้นถูกจำกัดให้เป็นสิทธิพิเศษเฉพาะคนรวยและชนชั้นนำเท่านั้น คนชนชั้นล่างก็ยังคงเจ็บตายได้ตามปกติ และพวกคนจนก็ไม่มีสิทธิที่จะได้อาศัยอยู่ในตึกสูง แต่ต้องอยู่ในเมืองข้างล่างที่ถูกตึกบดบังแสงอาทิตย์ไปจนหมด เรียกที่นั่นว่า "สลัมนคร" อันอึมครึมน่าหม่นหมอง

เรื่องเปิดตัวมาได้น่าสนใจ เป็นฉากของชายคนหนึ่งที่กำลังกระโดดปีนป่ายไปตามตึกสูง เข้าไปในท่อแห่งหนึ่งซึ่งเชื่อมเข้าไปสูงบ้านลอยฟ้าหลังหนึ่งซึ่งอยู่บนยอดตึกที่สูงที่สุดของเมือง ชายนักกระโดดคนนั้นเป็นคนแก่(แต่หน้าเด็กเพราะยาอายุวัฒนะ) ชื่ออะไรลืมไปแล้ว เรียกว่าไอ้หงอกก็แล้วกัน บ้านที่ไอ้หงอกเข้ามานี่เป็นบ้านของอัจฉริยะนักประดิษฐ์ผู้มีประวัติอันน่าขมขื่นคนหนึ่ง นักประดิษฐ์อายุ 18 ปีคนนั้นชื่อว่า "ซา" ตอนอายุ 5 ขวบ พ่อแม่ปู่ย่ารวมทั้งคนในครอบครัวของซา (ที่รวยมากๆ) ถูกฆ่าอย่างเป็นปริศนา (ตายได้ยังไงในเมื่อกินยาอายุวัฒนะแล้ว) ทำให้ซากลายเป็นเด็กที่กลัวโลกภายนอก เลยเรียนหนังสือด้วยตัวเองอยู่ในบ้าน และประดิษฐ์ของล้ำๆใช้เองอยู่เสมอ โดยมีอีตาหัวหงอกนี่มาแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ครอบครัวของเขาถูกฆ่าตาย

ซามีน้องสาวบุญธรรมอยู่คนหนึ่งชื่อ "เฟย์" เฟย์เป็นเด็กกำพร้า โตขึ้นมาในสลัม และไม่ได้รับยาอายุวัฒนะ(ยาตัวนี้ต้องรีบให้ตั้งแต่แรกเกิด ไม่งั้นก็ไม่ได้ผล) ซารับเฟย์มาเลี้ยงตอนเฟย์อายุ 5 ขวบ (ตอนนั้นซาอายุ 8 ขวบ ไอ้เหี้ย เอามาเลี้ยงได้ไงวะ) เรื่องเริ่มต้นขึ้นจากการที่จู่ๆ เฟย์ในวัย 16 ปีก็มาบอกพี่ชายว่าจะแต่งงาน แต่กลับไม่บอกอะไรซาเกี่ยวกับผู้ชายที่จะแต่งงานด้วยเลย บอกแค่ว่าเดี๋ยววันรุ่งขึ้นจะพาว่าที่สามีมาให้รู้จัก

ปรากฎว่าเช้าวันรุ่งขึ้นนั่นเองที่ซากับไอ้หงอกมาพบว่าเฟย์หายตัวไปอย่างปริศนา ไม่สามารถติดต่อได้ อุปกรณ์ตามตัวที่ซาแอบเอาไปติดไว้ก็ถูกถอดทิ้ง ซาไม่มีทางเลือกจึงจำต้องประดิษฐ์แมลงกลขึ้นฝูงหนึ่ง โดยที่แมลงกลพวกนี้ได้รับตัวอย่างดีเอ็นเอของเฟย์(จากเส้นผมที่หล่นอยู่ในห้อง) ซาได้ปล่อยแมลงพวกนี้ไปทั่วเมือง หากแมลงเจอเฟย์ มันก็จะส่งสัญญาณมาให้ทราบ ซึ่งการกระทำแบบนี้ของซาผิดกฎหมาย เพราะสิ่งประดิษฐ์ทุกชนิดจำเป็นที่จะต้องนำไปจดทะเบียนก่อนจึงจะสามารถใช้งานได้ (แต่ก็ไม่มีทางเลือก เพราะขั้นตอนการจดทะเบียนต้องใช้เวลาร่วมสัปดาห์)

ปรากฎว่าแมลงหาเฟย์ไม่เจอ ไอ้หงอกก็ช่วยลงไปตามหาถึงในสลัมนครแล้วก็ไม่พบ เลยตั้งสมมติฐานว่าเฟย์ต้องไม่ได้อยู่ในเมืองนี้แล้วแน่ๆ ขณะที่คนทั้งสองกำลังงงกันอยู่นั้น ซาก็ได้รับหมายเรียกจากทางตำรวจให้ไปรายงานตัวเนื่องจากทำผิดกฎหมาย ไอ้หงอกพยายามเตือนซาว่าไม่ควรไป แต่ซาก็บอกว่ามันไม่มีทางเลือก จะให้ทำไงล่ะไอ้สัส ก็แม่งเรียกกูอะ เมื่อซาออกจากบ้าน ตำรวจก็เข้ามาเชิญตัวซาทันที แล้วก็แจ้งข้อกล่าวหาว่าทำการโจรกรรมข้อมูลของรัฐ ซางงแตกเพราะนึกว่าโดนจับเรื่องสิ่งประดิษฐ์ ซาโดนจับขังอย่างไม่เป็นธรรม (ไม่มีทนาย ไม่ให้แก้ตัว) ติดคุกอยู่พักหนึ่งไอ้หงอกก็ปลอมตัวเข้ามาช่วย กลับไปเตรียมข้าวของที่บ้านเพื่อหลบหนี ตำรวจตามมาถึงบ้านแต่สองคนนั้นก็ไหวตัวทัน ปิดระบบทั้งหมดของบ้าน เซฟข้อมูลที่สำคัญ แล้วหนีลงไปยังสลัมนครเบื้องล่าง

จบทั้ง 6 ตอน ต่อไปเป็นการให้คะแนน

57 Nameless Fanboi Posted ID:GoGlC.vNa

>>56 ให้คะแนนเรื่อง เมืองแนวตั้งโครงสร้างประหลาด ผู้คนไม่มีวันตาย กับเด็กชาย

คำผิด : ไม่พบคำผิดแบบจังๆ หรืออาจเขียนได้ลื่นจนเผลอมองข้ามไป การพิมพ์ตกหล่นแทบไม่มี ถ้าจะให้จับผิดแบบจริงจังเพราะไม่อยากให้ใครได้คะแนนเต็มล่ะก็คงต้องไปจับผิดเรื่องการใช้เสียงอุทาน "อือ อึม อื้ม" อะไรแบบนี้ ซึ่งเห็นว่าไร้สาระมากที่จะต้องจับผิด แต่กูไม่อยากให้เต็มอะใครจะทำไม เอาไป 9/10

การบรรยาย : เรียบๆ รวบรัด ได้ใจความ เข้าถึงความงามของภาษา มีลูกเล่นบ้างพองาม อ่านรวดเดียวเข้าใจ มองเห็นสภาพแวดล้อมของโลกที่เซ็ตขึ้นมาใหม่ได้อย่างชัดเจน ขอชื่นชมมากๆในส่วนนี้ ถ้าจะให้ตินิดหน่อยก็คงเป็นเรื่องของการตัดประโยคที่มากจนเกินควร ทำให้ทั้งเรื่องมีแต่บทบรรยายสั้นๆขาดออกจากกัน ทั้งๆที่สามารถนำเรื่องเหล่านั้นมาร้อยเรียงให้อยู่ในย่อหน้าเดียวกันได้ แต่ยังไงก็คือดีย์ ให้ 8.5/10

ตัวละคร : ตัวละครมีความชัดเจนในบทบาทของตัวเอง และยังมีการพัฒนาบุคลิกไปตามอารมณ์และสถานการณ์ เราจะเห็นซาที่รักน้องสาว ทั้งๆที่ตัวเองไม่ชอบออกมาเจอผู้คนข้างนอกเพราะมีความหลังฝังในอดีต แต่ซาก็ยังอุตสาห์ออกมาจากตึกเพื่อตามหาเพื่อนๆของเฟย์เพื่อสอบถาม และดูเหมือนว่าจะมีการพัฒนาไปเรื่อยๆ อย่างเช่นตัวละครไอ้หงอกที่จู่ๆก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ตอนที่ครอบครัวซาถูกฆ่า ไอ้ตัวละครนี้ก็น่าจะกลายมาเป็นคีย์แมนที่กุมความลับสำคัญที่จะถูกเปิดเผยในอนาคตแน่ๆ ให้ 8.5/10 หักคะแนนส่วนที่ตั้งชื่อคนออกมาไม่เป็นภาษาคนแล้วกัน ขัดใจ

เนื้อเรื่อง : ไม่ใช่ความใหม่ อ่านดูก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของการยำอะไรหลายๆอย่างเข้ามาไว้ในโลกแห่งนี้ แต่ก็น่าสนใจทีเดียวสำหรับการออกเดินทางผจญภัยเพื่อตามหาน้องสาวบุญธรรมในโลกที่ทวีปถูกแยกออกจากกันด้วยมหาสมุทร และเมืองถูกแยกออกจากกันด้วยชนชั้นทางสังคม สิ่งที่ตงิดๆใจมีอยู่ด้วยกัน 3 เรื่องใหญ่ๆ 1.ตอนครอบครัวของซาตาย ทำไมซาแม่งอยู่ตัวคนเดียวได้ ไม่มีคนมารับเลี้ยง ส่งไปอยู่บ้านเด็กกำพร้า มีผู้แทนโดยธรรมมาดูแลมรดกอะไรสักหน่อยเหรอ 2. ตอนซารับเฟย์มาเลี้ยง ซาอายุแค่ 8 ขวบ wtf มึงไปจดทะเบียนรับเลี้ยงกันมาได้ยังไงวะ เตี้ยอุ้มค่อมเรอะ 3. ซาพูดทำนองว่ากฎหมายของเมืองศักดิ์สิทธิ์และเข้มแข็งมาก แต่แม่งเสือกจับคนมั่วซั่ว จับมั่วซั่วไม่พอ อาจเนียนว่ามีคนบงการก็ได้ แต่ระบบยุติธรรมโลกไหนที่ให้จำเลยไปหาข้อหักล้างมาด้วยตัวเองวะ ทั้งๆที่แม่งดูยังไงก็เป็นการใส่ความ (ข้อมูลมึงโดนขโมยเมื่อ 20 ปีก่อน แต่ไอ้ซาแม่งอายุ 18 นะเฮ้ย) แถมทนายก็ไม่มี โดนขังเดี่ยวไม่มีกำหนดเวลาขึ้นศาลด้วย wtf อีกละ ให้ 7/10

สรุปคะแนน 35/40 ยอดเยี่ยมมากนาจา จะรอติดตามตอนต่อไป หวังว่าจะสามารถรักษามาตรฐานแบบนี้ได้เรื่อยๆนะคะ

58 Nameless Fanboi Posted ID:LXFOAbsPx

>>49 ใช่ โครงเดียวกันเลย แม้แต่ลำดับเหตุการณ์ยังคล้ายกัน

59 Nameless Fanboi Posted ID:8fHET16Ui

>>57 ขอบพระคุณมาก เด๋วจะรีบตามไปอ่านโดยพลัน

60 Nameless Fanboi Posted ID:C+eSo5R2t

>>57 อือ อืม ไม่ดียังไงอะ กูใช้ในบทสนทนาประจำเลย

61 Nameless Fanboi Posted ID:GoGlC.vNa

>>60 ไม่ได้ไม่ดี แต่ในเรื่องบางส่วนมันใช้ขัดกันไปหน่อย กูพยายามจับผิดหาเรื่องตัดคะแนนน่ะ

62 Nameless Fanboi Posted ID:T8kEzriwl

>>60 การมีเสียงพวกนี้ มันเป็นคาแรคเตอร์ของตัวละครป่ะ ถถถ

63 Nameless Fanboi Posted ID:C+eSo5R2t

>>61 อ่อ ปกติกูใช้ในบทพูดแบบ "อืม งั้นเหรอ" "เดี๋ยวนะ อืม อย่างนี้เอง" "อือ ก็คงงั้นละ"

>>62 กูว่ามันเป็นภาษาพูดและกิริยาทั่วไปนะ แปลกเหรอ

64 Nameless Fanboi Posted ID:T8kEzriwl

>>63 เรา 62 นะ

ไม่แปลกไง แต่จังหวะการพูด การออกแอคติ้งหรือทำเสียงอะไรแบบนี้ตอนพูดจา มันนับเป็นคาแรคเตอร์ของตัวละครอย่างนึงเหมือนกัน

65 Nameless Fanboi Posted ID:Kxx8efRgo

เรื่อง : Zero Man : บุรุษท้องนภา
link : http://writer.dek-d.com/askingkiller/story/view.php?id=1457988
จำนวน : 15 ตอน
สถานะ : ยังไม่จบ

ปกติไม่ค่อยได้อ่านนิยายสงครามเท่าใดนัก และก็ไม่ได้ชื่นชอบอะไรในวัฒนธรรมญี่ปุ่นเป็นพิเศษ ยังดีที่พอจะมีความรู้เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 อยู่บ้าง ไม่เช่นนั้นคงทนอ่านจนจบไม่ได้เป็นแน่

โลกในนิยายเรื่องนี้คือโลกจริงของเราใน ค.ศ. 2060 ประเทศญี่ปุ่น มีชายคนหนึ่งชื่อฮารุกิ เขาไม่ใช่คนธรรมดาแต่เป็นคนที่มีอายุยืนยาวมากว่า 800 ปีแล้ว ด้วยพลังห่าอะไรสักอย่างที่เรื่องยังไม่บอกหรือกูอ่านไม่เข้าใจเองก็ไม่ทราบ นายฮารุกิคนนี้เป็นซุปเปอร์ฮีโร่ คือนอกจากจะไม่มีวันตายแล้วยังสามารถแปลงร่างเป็นเครื่องบินรบซีโร่ได้อีกด้วย ฮารุกิใช้พลังของตัวเองกำจัดคนพาลอภิบาลคนดีจนชาวญี่ปุ่นแซ่ซ้องเขาว่าเป็น "ซีโร่แมน"

เรื่องของฮารุกิก็เป็นการเล่าสลับกันระหว่างโลกปัจจุบันกับโลกในอดีตแต่ละช่วง คือนายฮารุกิคนนี้เดิมเป็นซามูไรเก่าตั้งแต่สมัยปี 1200 คนเขียนแม่งก็ยัดข้อมูลประวัติศาสตร์เข้ามาตลอดๆ ก็เล่าประมาณว่าญี่ปุ่นนี่เลวร้าย ทำเพื่อนบ้านเอาไว้มากตั้งแต่ยุคก่อนโน้น จนมาถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 ไอ้ฮารุกิก็ไปรบที่นานกิง แต่เป็นคนดี เลยทำให้มีปัญหากับพวกนายทหารคนอื่น จากนั้นก็เลยย้ายไปเป็นทหารเรือ เลยได้วิชาแปลงเป็นซีโร่มา(ยังไงวะ?)

ปูเรื่องมาจนถึงตอนนี้ก็ย้อนกลับไปในโลกปัจจุบัน กลายเป็นว่าการปรากฎตัวออกมาของซีโร่แมนแม่งทำให้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีนและเกาหลีมันเดือด เหมือนย้ำเตือนถึงแผลเก่าสมัยสงครามโลก มีการออกมาประท้วง จนสุดท้ายแม่งก็ลุกลามกลายมาเป็นกลุ่มที่ชื่อว่า พีชอเวคเค่น (peace awaken) เป็นกลุ่มเกลียดญี่ปุ่นอย่างสุดโต่ง ซึ่งมีเป้าหมายที่จะทำลายญี่ปุ่น และใครก็ตามที่เป็นมิตรกับญี่ปุ่น หรือเป็นมิตรกับซีโร่แมน

คือเรื่องก็กลับกลายเป็นว่า แทนที่ไอ้กลุ่มพีชอเวคเค่นแม่งจะแค่มีปัญหากับญี่ปุ่น แม่งเสือกพาลไปมีปัญหากับทุกคนที่ไม่ใช่พวกตัวเอง คือมีปัญหากับคนจีน คนเกาหลีที่ไม่ได้ออกมาต่อต้านซีโร่แมนด้วย ญี่ปุ่น จีน เกาหลีเลยจับมือกัน ร่วมกับความช่วยเหลือของอเมริกาเพื่อต่อสู้กับพวกพีชอเวคเค่น และฮารุกิหรือซีโร่แมนก็เข้ามาช่วยในการต่อสู้ด้วย

จบเนื้อหาเท่าที่มี ต่อไปเป็นการให้คะแนน

66 Nameless Fanboi Posted ID:Kxx8efRgo

>>65 ให้คะแนนเรื่อง Zero Man : บุรุษท้องนภา

คำผิด : มีคำผิดอยู่พอสมควร เป็นทั้งการพิมพ์ตกและการสะกดคำผิด ไม่รู้จะยกตัวอย่างยังไงดี เอาเป็นว่าพิมพ์ผิดพิมพ์ตกหล่นเหมือนๆกับนิยายเด็กดีที่พบได้ทั่วไป ให้ 6/10 แล้วกัน

การบรรยาย : สิ่งที่แย่ไม่ใช่การบรรยาย แต่มันคือการที่แม่งเขียนติดกันเป็นพรืดโดยแทบไม่เคาะย่อหน้า คนเขียนเรื่องนี้มันคือขั้วตรงข้ามของคนที่เขียนเรื่องเมืองแนวตั้งที่เพิ่งรีวิวไปโดยแท้ ไอ้ห่า ดีนะที่มันยังพิมพ์พอเป็นภาษาคนเลยอ่านรู้เรื่อง ไม่งั้นกูปิดแม่งไปแล้ว ให้ 6/10 และกัน ใจดี

ตัวละคร : ขาดความสมจริงอย่างถึงที่สุด คือเท่าที่อ่านยังจับใจความไม่ได้เลยว่าทำไมไอ้ฮารุกิแม่งถึงเป็นอมตะ แล้วต่อให้แม่งเป็นอมตะ ทำไมมันถึงแปลงร่างเป็นเครื่องบินซีโร่ได้ แล้วถ้ามันแปลงเป็นเครื่องบินซีโร่ได้ มันจะสามารถแปลงเป็นโบอิ่ง 747 แอร์บัส A380 อะไรแบบนี้ได้รึเปล่าวะ คือกูรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าไอ้คนเขียนแม่งเป็นติ่งเครื่องบินรบ เลยทู่ซี้ให้พระเอกแปลงร่างเป็นซีโร่ได้ ตัวละครอื่นก็ดูจืดชืดเบาบาง ตัวที่เหมือนจะปั้นมาให้เป็นนางเอกก็โครตแบน(มิตินะ ไม่ใช่นม) ตัวโกงแม่งก็มีแต่กูเกลียดมึงซีโร่ กูเกลียดญี่ปุ่น กูจะทำลายคนใกล้ตัวมึงให้หมด คือเหมือนกับว่าเรื่องนี้แม่งปูมาให้ไอ้ซีโร่แมนโชว์เทพอย่างเดียวอะ ไอ้พวกพีชอเวคเค่นแม่งก็รู้ว่าซีโร่แมนเป็นอมตะ ทำไมมันไม่คิดหาวิธีอื่นในการจัดการ แทนที่จะมามัวเสียเวลายิงใส่กันตู้มต้ามให้ชาวบ้านชาวช่องเขาต้องเดือดร้อนไปด้วยวะ ให้ 5/10

เนื้อเรื่อง : ก็ตามที่ได้เขียนๆไปแล้วข้างบน คือไอ้พระเอกแม่งเทพเกินเหตุเรื่องนึงละ พอแม่งเทพแบบนี้ก็ไม่ต้องลุ้นอะไรแล้ว แม่งอาจพลาดแพ้สักทีนึงเหมือนการ์ตูนญี่ปุ่น แต่สุดท้ายแม่งก็ต้องกลับมาชนะได้อยู่ดี อีกเรื่องนึงก็คือตัวโกงแม่งช่างดูไม่มีเหตุผลเหี้ยอะไรเอาซะเลย คือกูก็เข้าใจนะว่าไอ้คนจีน คนเกาหลีที่แม่งคลั่งๆเกลียดญี่ปุ่นน่ะมีจริง แต่มันจะมีเหตุแบบนี้ก็เฉพาะตอนที่ญี่ปุ่นแม่งออกมาทำอะไรแบบ ไปไหว้ศาลเจ้าทหาร หรือพูดจาปฏิเสธความรับผิดชอบ แต่ไอ้ซีโร่แมนนี่มันคนดีสัสๆ ไม่ได้ไปยั่วยุอะไรพวกมึงเลย อารมณ์ขึ้นง่ายจังวะเป็นเมนส์อ่อ? ให้ 5/10

สรุป 22/40 นะจ๊ะ อยากให้ผู้เขียนพัฒนางานของตัวเองต่อไป คืออย่างน้อยๆมึงก็หัดย่อหน้าบ้านเถอะสัส อ่านยากชิบหายเลย

เหลืออีก 2 เรื่อง ยาวๆทั้งนั้นเลย ไว้ค่อยมาต่อวันหลังนาจา

67 Nameless Fanboi Posted ID:TmiirPbIw

แค่ใช้ชื่อญี่ปุ่นกูก็พร้อมจะติดลบแล้วละ ค่าพลังเบียว over 9,000

68 Nameless Fanboi Posted ID:U+KcrCv3I

แนวแฟนตาซีต่างโลกในเด็กดีมันเยอะหรือเปล่าว่ะ
พอดีกูเห็นกระทู้ในห้องสมุดของพันทิพ
+++คนที่เสพสื่อเยอะๆเช่น อ่านวนิยาย มังงะ แอนิเมะ ดูหนัง ซีรี่ ฟังเพลง เคยคิดจะผลิตสื่อเองบ้างไหมครับ?+++
กูเห็นคนเขียนแนวนี้ในเด็กดีตอบอยู่
เลยสนใจอะไรบ้างอย่างและส่งข้อความถามเค้าเรื่องเขียนนิยายและการส่งเรื่องตีพิม
กูแปลกใจที่เค้าบอกว่าพอเขียนแนวต่างโลกจบแล้ว
คงจะหันไปเขียนแนวรักคอมมาดี้ทั่วไปดูบ้างเพื่อลองเปลี่ยนแนวดู
ทำให้กูสงสัยเขียนแนวนี้มันถึงจุดอิ่มตัวแล้วมั้ง ทั้งๆที่เห็นพี่เค้าก้ได้ตีพิมเล่มใหม่ในงานหนังสืออยู่

69 Nameless Fanboi Posted ID:G+mVewJOg

เรื่อง : the Earthquest : หากข้ามิใช่มนุษย์
link : http://my.dek-d.com/nopanopaa/writer/view.php?id=1304222
จำนวน : 31 ตอน (รวมบทนำ)
สถานะ : ยังไม่จบ

ตอนที่เห็นว่านิยายเรื่องนี้มันมีตั้งสามสิบกว่าตอนนี่กูก็เซ็งละ ถ้าพวกมึงไม่รีเควสท์มากูก็คงไม่อ่านอะ เอาเป็นว่านี่เป็นนิยายที่มีจำนวนตอนเยอะที่สุดเท่าที่กูเคยเขียนวิจารณ์ก็แล้วกัน ก่อนอื่นก็ต้องชมว่าการผูกเรื่องของคนเขียนคนนี้ทำได้ดีใช้ได้นะ มีทั้งปมเล็กปมน้อยระหว่างทางที่กูลืมๆไปและ จู่ๆแม่งก็พลิกกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องหลักเฉย ทำให้การสรุปเนื้อเรื่องก็อาจต้องย่อบ้างอะไรบ้าง คัดเอาแต่ส่วนที่กูคิดว่าสำคัญ เพราะแม่งค่อนข้างซับซ้อนจนกูไม่แน่ใจว่าจะสรุปยังไงให้เข้าใจได้ง่ายๆ

ธีมของเรื่องเป็นประมาณโลกในเกมออนไลน์ เรียกแผ่นดินแห่งนี้ว่าฮาร์ทแลนด์ ผู้ปกครองสูงสุดของฮาร์ทแลนด์คือจักรพรรดิ จักรพรรดิอาศัยอยู่ในเมืองจักรพรรดิตรงกลางของทวีป โดยแบ่งการปกครองออกเป็น 4 แคว้น ชื่อเหี้ยอะไรบ้างจำไม่ได้ จำได้แค่แคว้นทาม ซึ่งเป็นแคว้นของพระเอก

ครับ พระเอกของเรื่องนี้แม่งเป็นตัวละครในเกมออนไลน์ ซึ่งกูก็คิดว่าแปลกอยู่นะ ปกติก็เคยเห็นตัวเอกเป็นมอนสเตอร์อะไรแบบนี้มาบ้างล่ะ แต่ไอ้ที่เป็นคนแบบมีสังคมเนื้อเรื่องปูมาจริงจังแบบนี้กูยอมรับว่ายังไม่เคยเห็นนะ (กูอาจไม่ค่อยได้อ่านแนวนี้เท่าไหร่) เรื่องก็มีอยู่ประมาณว่า พระเอกของเราเนี่ยชื่อเฟรดริก (ขอด่าก่อน กูอ่านชื่อแม่งไม่ออกว่าสรุปมันชื่อ เฟ-ดิก หรือ เฟ็ด-ดิก) อายุเท่าไหร่กูไม่ค่อยชัวร์แต่ยังหนุ่มๆ เป็นนายกองของหน่วยทหารองครักษ์ของเจ้าแคว้นทาม ที่มันยังหนุ่มแต่ได้เป็นนายกองเนี่ยก็เพราะพ่อมันเคยเป็นหัวหน้าหน่วยองครักษ์ แต่ออกไปตายในหน้าที่ เพื่อนสนิทของพ่อมันก็เลยได้เป็นหัวหน้าแทนแล้วก็อุปถัมภ์เลี้ยงดูกันมา เรียกง่ายๆว่าไอ้เหี้ยนี่แม่งเป็นเด็กเส้นนั่นเอง หัวหน้าองครักษ์คนปัจจุบัน(เพื่อนพ่อพระเอก) มีลูกสาวอยู่คนนึงชื่อไดแอน ไดแอนแม่งก็โตมากับพระเอก สองคนนี้ก็เลยเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก

เรื่องมันก็มีอยู่ว่า อยู่มาวันหนึ่งก็มีกองเรือประหลาดมาโผล่ที่อ่าวแคว้นทาม ในเรือแม่งมีคนแปลกๆ เรียกตัวเองว่าผู้เล่นอยู่เพียบ พวกผู้เล่นแม่งก็มาขึ้นฝั่งท่ามกลางความงงของชาวทาม ให้กูอธิบายแบบรวบรัดแม่งก็ประมาณว่า คนในเกมแม่งไม่เคยรู้มาก่อนว่าจริงๆแล้วแม่งเป็นตัวละครในเกม พวกที่มาใหม่แม่งก็คือคนจริงๆจากโลกจริงที่เข้ามาเล่นเกม อะไรทำนองนี้ และประเด็นที่สำคัญของเรื่องก็คือ พวกตัวละครในเกมนี่ตายแล้วตายจริง แต่ผู้เล่น ตายแล้วก็กลายไปเป็นควัน กลับไปสู่โลกความจริง รอจนครบเวลาก็กลับเข้ามาใหม่ได้ เวลาผ่านไปสักพัก พวกผู้เล่นแม่งก็ร่วมมือกันตั้งเป็นกองกำลังขึ้นมาแล้วบุกยึดแคว้นทาม เจ้าแคว้นคิดว่ายังไงๆก็สู้ไม่ได้แน่ เลยสั่งให้ทหารองครักษ์ส่วนหนึ่ง(รวมถึงพระเอก) พาครอบครัวของขุนนางหนีไปยังเมืองจักรพรรดิ

70 Nameless Fanboi Posted ID:G+mVewJOg

ต่อจาก >>69

เอาล่ะ มึงคิดว่าที่กูพิมพ์ไปทั้งหมดเนี่ยผ่านมากี่ตอนละ เฉลยคือแม่งไม่ใช่สักตอนเลยไอ้สัส ที่กูพิมพ์ไปทั้งหมดคือการที่กูจดชอร์ตโน้ตฉาก flashback ในแต่ละบทแล้วเอามาสรุปรวมกันให้เข้าใจได้ง่ายๆ ยังดีนะที่คนเขียนแม่งยังใช้สำนวนได้ดี อ่านลื่นๆเพลินๆเข้าใจง่าย ไม่งั้นกูก็คงบ้าตายก่อนจะได้มาวิจารณ์นิยายให้แม่งละ

บทนำเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่แคว้นทามแตกไปแล้ว ฉากเปิดอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง เฟรดริกกับไดแอนแยกจากขบวนหลบหนี ออกมาตามหาหินแสงจันทร์(คนที่ถือจะล่องหนได้เวลามีแสงจันทร์ส่องมากระทบตัว) เฟรดริกเจอหินแสงจันทร์ในถ้ำ ระหว่างที่พวกเขากำลังเดินทางกลับไปยังขบวนนั้นก็มีกลุ่มผู้เล่นกลุ่มหนึ่งเดินทางผ่านมา ตอนแรกพวกพระเอกก็แค่จะซ่อนตัวอยู่เฉยๆ แต่บังเอิญว่าไอ้กลุ่มผู้เล่นนั่นแม่งเสือกมาหยุดพักอยู่ใต้ต้นไม้ที่เฟรดริกปีนขึ้นไปหลบอยู่พอดี ปรากฎว่าไอ้กลุ่มผู้เล่นนั่นมันเป็นกลุ่มพ่อค้าทาสที่จะเอาผู้หญิง(ตัวละครในเกม) ไปขาย สุดท้ายก็เลยเกิดการต่อสู้กันขึ้น เฟรดริกกับไดแอนก็ช่วยกันสู้จนชนะ แล้วก็ช่วยผู้หญิงคนนั้นเอาไว้ได้ จบบทนำ

ต่อมาก็เป็นตอนกลางคืนของวันนั้นที่ค่ายพักของขบวนหลบหนี พระเอกเอาหินแสงจันทร์ไปให้หัวหน้าองครักษ์(พ่อของไดแอน) ดูที่กระโจม จู่ๆลูกชายเจ้าของแคว้นที่เป็นผู้นำขบวนก็มาขอเข้าพบ เสนอความคิดว่า ถ้าพวกเขายังอยู่กันหลายร้อยคนแบบนี้ ขบวนก็คงไม่มีทางไปถึงเมืองจักรพรรดิแน่ ลูกชายเจ้าของแคว้นเลยเสนอว่าพวกเขาควรที่จะแบ่งขบวนออกเป็น 2 ขบวน ขบวนแรกก็เอาแต่ขุนนางคนสำคัญๆกับทหารส่วนหนึ่งรีบเดินทางไปหาจักรพรรดิ ส่วนอีกขบวนหนึ่งก็ให้ไปตั้งรอที่เมืองๆหนึ่งก่อน เมื่อขบวนแรกเดินทางไปถึงแล้ว ค่อยให้จักรพรรดิส่งคนมารับขบวนหลัง พ่อของไดแอนไม่เห็นด้วย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายแล้วก็เลยต้องแยกขบวน

พอแยกขบวนก็ปรากฎว่าเฟรดริกกับไดแอนก็ต้องแยกกัน โดยเฟรดริกมีหน้าที่ที่จะต้องดูแลขบวนที่ 2 ให้ไปถึงเมืองชายทะเลสปินดอนเพื่อรอคนของจักรพรรดิมารับ เฟรดริกมีลูกน้องคนสนิทอยู่ด้วยกัน 3 คน คาแร็คเตอร์ค่อนข้างจำง่าย โอลิเวอร์ ผมทอง ร่างกายกำยำ แต่โง่ๆเซ่อๆ เจค ผมแดง ดูฉลาดแกมโกง ใจร้อน คนสุดท้ายชื่อเธียร์ ผมดำ ผอมบางดูเคะๆ ฉลาด คืนหนึ่งระหว่างที่ตั้งค่ายพักขบวนก็มีทหารคนนึงซมซานมาถึงค่าย พวกพระเอกจำได้ว่าเป็นทหารที่แยกไปกันอีกขบวนนึง ทหารคนนั้นเล่าให้ฟังว่าขบวนถูกโจมตี เฟรดริกเป็นห่วงขบวน(หรือเป็นห่วงไดแอน?) ก็เลยโซโล่เดี่ยวย้อนกลับไปช่วย เขาจับเชลยมาได้คนนึง เป็นผู้เล่นที่ชื่อว่าเพชร(กูลืมไอ้เหี้ยนี่ไปละจนแม่งเฉลยว่าสำคัญ) เหมือนเพชรจะถูกชะตากับพระเอกก็เลยช่วยให้ลอบเข้าไปในค่ายของพวกผู้เล่นได้ ค่ายนั้นเป็นค่ายของพ่อค้าทาสที่ชื่อว่าสนธยา ปรากฎว่าพ่อของไดแอนถูกฆ่าตาย ลูกชายเจ้าแคว้นกับพวกขุนนางขี้ขลาดเลยขอยอมแพ้ ส่วนไดแอนดื้อเลยถูกจับเตรียมส่งไปขายไปทาส เฟรดริกพยายามเข้าไปช่วยไดแอนแต่ก็ถูกสนธยาจับได้ เขาถูกจับมัดไว้แต่เพชรก็เข้ามาช่วย เล่นละครกันว่าเฟรดริกฆ่าเพชรตายแล้วหนีออกไป เฟรดริกพยายามจะไปช่วยไดแอนแต่เจอเข้ากับลูกชายเจ้าแคว้น ทั้งสองไม่ลงรอยกันพระเอกโมโหเลยเผลอฟันไอ้ห่านั่นมือขาด สุดท้ายพระเอกก็ถูกพวกค้าทาสล้อมไว้ แต่สนธยาท้าให้สู้กับเขาตัวต่อตัว(แต่สนธยาแม่งแอบขี้โกงหน่อยๆ) สุดท้ายเฟรดริกชนะ และช่วยไดแอนออกไปได้

71 Nameless Fanboi Posted ID:G+mVewJOg

ต่อจาก >>70

ไดแอนแค้นสนธยามากที่ฆ่าพ่อ เฟรดริกก็แค้นเหมือนกัน พวกเขาก็เลยเดินทางเพื่อที่จะกลับไปยังเมืองทาม (เมืองหลวงก็ชื่อทาม ชื่อเดียวกับเเคว้น) ระหว่างทางพวกเขาก็ไปเจอกับพวกนักท่องเที่ยว (ไม่ได้มีแค่ผู้เล่นที่เข้ามาเพื่อสู้กันอย่างเดียว แม่งเหมือนเข้ามาใช้โลกของเกมทำธุรกิจกันมากกว่า แบบมีบริษัททัวร์จัดกรุ๊ปทัวร์พาคนไปเที่ยวตามที่ต่างๆในเกม มีพวกร้านพิซซ่ามาเปิดสาขาในนี้อะไรแบบเนี้ย) มีนักท่องเที่ยวคนนึงชื่อประจักษ์มาขอถ่ายรูปกับพระเอก ซึ่งไอ้รูปถ่ายที่กูแทบจะอ่านข้ามเนี่ยแม่งก็เสือกไปคลายปมของเรื่องอีกทอดนึงในตอนหลังด้วย

พวกพระเอกก็เดินทางไปจนถึงเมืองชื่อคาแนลรี่ ในเมืองนี้พวกเขาก็ได้เจอกับคนรู้จักคนนึงชื่อปีเตอร์ เป็นช่างตีเหล็กในวังของเจ้าแคว้นทาม ปีเตอร์ดีใจมากที่ได้เจอคนทั้งสอง เขาก็เล่าเรื่องของเขาว่าโดนสนธยาจับมาขายให้กับร้านตีเหล็กในเมืองนี้ เฟรดริกกับไดแอนเดินทางต่อไปยังลานค้าทาสของเมือง ก็เจอกับกลุ่มนักสิทธิมนุษยชนอะไรทำนองนี้ พวกนักสิทธิ์ฯ ก็ประมาณว่าต่อต้านการค้าทาส ให้มองว่าตัวละครในเกมก็เป็นคนเหมือนๆกัน

เฟรดริกกับไดแอนหาเงินขึ้นเรือเดินทางไปยังเมืองทามด้วยการขายม้าให้กับร้านตีเหล็กที่ปีเตอร์ทำงานอยู่ บนเรือพวกเขาก็ได้เจอกับนริศที่เป็นแม่ทัพคนหนึ่งของกองกำลังดาบเคียงดาว ซึ่งไอ้กองกำลังห่านี่แม่งก็คือกองกำลังที่ตีเมืองทามแตก ฆ่าเจ้าแคว้นของแม่งนั่นแหละ เฟรดริกไม่ค่อยอยากจะยุ่งกับคนพวกนี้แต่ไดแอนอยากรู้ข่าว เลยเข้าไปกินข้าวด้วยกัน นริศก็เลยเล่าให้ฟังว่าที่พวกเขาต้องไปตีเมืองจักรพรรดิก็เพราะมันเหมือนเป็นเควสต์ของเกม ถ้าสามารถยึดเมืองจักรพรรดิได้ก็จะสามารถทำอะไรก็ได้ (ประมาณว่ากลายเป็น admin ของเซิฟ) นริศก็บอกว่าถ้ากิลด์ของแม่งสามารถชนะเกมนี้ เขาก็จะชุบชีวิตของคนที่ตายทั้งหมดขึ้นมาใหม่

ถึงเมืองทาม พวกพระเอกก็ไปกินพิซซ่า สนธยาตามมาเจอก็เลยทำมาตีสนิทขอนั่งร่วมโต๊ะด้วย ยื่นข้อเสนอขอให้คืนดีกันแต่ไดแอนปฏิเสธ(ก็มึงฆ่าพ่อเขาอะอีสัส) สนธยาก็เลยขู่ว่าถ้างั้นมึงกับกูก็ต้องเป็นศัตรูกันแล้วล่ะ จากนั้นเฟรดริกกับไดแอนก็ไปเข้าพักที่โรงแรมของคนรู้จัก ตาแก่เจ้าของโรงแรมดีใจมากที่ได้เจอคนทั้งสองอีกก็เลยจัดห้องให้พักผ่อน เฟรดริกมานั่งจิบชาคุยกับเจ้าของโรงแรมระหว่างที่ไดแอนกำลังนอนกลางวัน จู่ๆก็มีเสียงเอะอะดังขึ้นหน้าโรงแรม เฟรดริกเลยออกไปดูก็พบว่าเป็นแผนลวงให้เขาไปติดกับ เขาถูกคนตีจนสลบแล้วลักพาตัวไปซ้อม ร้อนถึงไดแอนที่จะต้องไปตามหา เธอคิดว่านี่จะต้องเป็นฝีมือของสนธยาแน่ๆเลยไปขอความช่วยเหลือจากนริศ แต่สนธยาก็บอกว่านี่แม่งไม่ใช่ฝีมือของเขา และโชว์ความบริสุทธิ์ใจด้วยการส่งคนไปช่วยออกตามหา ผลปรากฎว่าคนที่ทำก็คือกองกำลังเงาอินทรีที่เป็นคู่อริกับดาบเคียงดาว (มันเห็นเฟรดริกคุยกับนริศบนเรือก็เลยคิดว่าเป็นพวกเดียวกัน)

72 Nameless Fanboi Posted ID:G+mVewJOg

ต่อจาก >>71

หลังจากที่เฟรดริกรักษาอาการบาดเจ็บจนหายดีแล้วเขากับไดแอนก็เดินทางไปยังเมืองชายทะเลที่นัดหมายกันไว้ แต่พอไปถึงเมืองนั่นก็หาขบวนของเขาไม่เจอ เฟรดริกก็เลยอีโมแตก ประมาณว่านี่เป็นความผิดของกูใช่ไหม แต่สุดท้ายพวกเขาก็เจอเจค เจคบอกว่าในเมืองนี้มันมีผู้เล่นมากเกินไป ก็เลยไปหลบกันอยู่ที่หมู่บ้านชาวประมงแถวนี้ เจคนำทางไปจนถึงหมู่บ้านชาวประมง คนในขบวนก็ยังอยู่ดีกินดี พวกพระเอกก็เลยร่วมมือกันวางแผนสู้กับผู้เป็นอมตะ แผนก็คือการเข้าไปทำลายพวกไร่ข้าวโพด ไร่ฝ้าย แล้วปลดปล่อยคนที่ถูกจับเป็นทาสออกมา แผนเหมือนจะไปได้สวยแต่ก็ถูกสนธยาตลบหลัง เขาให้ผู้เล่นปลอมตัวเป็นทาสแฝงมากับขบวนสร้างความวุ่นวายภายใน จากนั้นสนธยาก็นำคนของเขามาบดขยี้ซ้ำ และฆ่าไดแอนตาย

พอไดแอนตายพระเอกแม่งก็อีโมแตกอีก เอาศพไปฝังไว้ที่ใต้ต้นแอปเปิ้ลแห่งหนึ่งแล้วจึงออกเดินทางไปหาพวกนริศ ขอเข้าร่วมกองกำลังด้วยโดยจะช่วยเหลือทุกอย่างเพื่อให้ยึดเมืองจักรพรรดิได้ พอยึดเมืองจักรพรรดิได้ก็ยังไม่จบเกม เพราะว่าจักรพรรดินั้นอาศัยอยู่ในวังกลางทะเลสาบที่มีมังกร(หรือตัวเหี้ยอะไรสักอย่าง)อาศัยอยู่

พวกดาบเคียงดาวกับกองกำลังอื่นๆก็ช่วยกันสู้กับมังกรน้ำ แต่มังกรแม่งเทพเกินไป เรือที่พระเอกนั่งอยู่โดนหางฟาดแตก เขาคิดว่าตัวเองจะไม่รอดอยู่แล้วแต่มังกรเสือกปล่อยให้เขาว่ายน้ำข้ามไปจนถึงวังกลางน้ำได้เฉย เฟรดริกเจอไดแอนที่วังจักรพรรดิ จักรพรรดิก็บอกว่าเออกูชุบเองล่ะ กูมีใบ แล้วกูก็ยังช่วยพวกมึงมาตลอดอีกด้วย จักรพรรดิเป็นคนส่งเพชรให้ไปช่วยพระเอก(จำได้ไหม ไอ้คนที่เล่นละครแกล้งให้เฟรดริกฆ่า) จากนั้นจักรพรรดิแม่งก็ท้าพระเอกสู้ บอกว่าถ้ามึงฆ่ากูได้ก็เป็นจักรพรรดิเองไปเลย แต่พระเอกแพ้(เพราะจักรพรรดิแม่งโกง อ่านใจได้ว่าพระเอกจะสู้ยังไง) แล้วเฟรดริกก็โดนฆ่าตาย

แล้วแม่งก็หักมุม ไอ้เหี้ย คือไม่ใช่ว่ากูไม่เคยเห็นเรื่องที่มันหักมุมแบบนี้หรอกนะ แต่แค่อ่านมายาวๆเพลินๆเป็นยี่สิบตอน จู่ๆแม่งก็มาหักเอาเฉยๆว่าพระเอกตื่นขึ้นในห้องทดลองแห่งหนึ่งหลังจากเข้ารับการทดลองมาได้เดือนกว่าๆ พระเอกคนนี้ชื่อว่าชานนท์ เขามีปัญหาไม่สามารถเข้าไปเล่นไอ้เกมโลกเสมือนนั่นได้เพราะมีปัญหาคลื่นสมองอะไรสักอย่าง เลยสมัครเข้ามาเป็นหนูทดลองของบริษัทเกม หลังจากตื่นก็เข้าไปตรวจร่างกายกับหมอ ระหว่างที่กำลังถ่ายโอนข้อมูลอะไรอยู่ หมอแม่งก็ทะเลาะกับแฟนทางโทรศัพท์เลยออกไปคุยมือถือข้างนอกห้องตรวจ พอดีกับที่คอมพิวเตอร์แม่งร้องเตือนว่ากำลังจะลบข้อมูลทั้งหมด ชานนท์แม่งก็ไม่เห็นหมอมาสักทีเลยกดยกเลิกการลบข้อมูล พอหมอกลับมาแม่งก็นึกว่าเสร็จแล้ว เลยปล่อยพระเอกไป

ต่อมาพระเอกก็กลับบ้าน ทะเลาะกับพ่อนิดหน่อยตรงที่พ่ออยากจะให้เขาเป็นครู แต่พระเอกไม่อยากเป็น มันก็เลยหนีเข้าไปเล่นในเกมโลกเสมือน แต่ไม่สามารถสร้างตัวละครได้เพราะผิดพลาดอะไรสักอย่าง จู่ๆ ตัวละครของชานนท์ก็เปลี่ยนหน้าตากลายมาเป็นเฟรดริก แล้วก็เข้าเกมไปทั้งอย่างนั้น

73 Nameless Fanboi Posted ID:G+mVewJOg

ต่อจาก >>72

เข้าใจมะ คือไอ้ชานนท์กับเฟรดริกเนี่ยมันหน้าตาไม่เหมือนกันนะ แต่ตัวละครในเกมของชานนท์เนี่ยกลับหน้าตาเหมือนเฟรดริกเป๊ะ(ฟันธงเลยว่าเพราะแม่งเสือกไปกดยกเลิกการลบข้อมูล) พอชานนท์เข้ามาก็เสือกจมน้ำอีก ขึ้นฝั่งมาเดินมึนๆงงๆอยู่ในเมืองคาแนลรี่ก็ปรากฏว่าเจอม้าพยศ ซึ่งไอ้ม้าที่พยศตัวนั้นแม่งก็คือม้าที่เฟรดริกขายให้กับร้านตีเหล็กไป ม้ามันเห็นชานนท์แล้วก็จำหน้าได้เลยหายพยศทันที ผู้หญิงที่ขี่ม้าเป็นเจ้าของร้านตีเหล็กที่ปีเตอร์ทำงานอยู่ชื่อโบตั๋น โบตั๋นก็เลยตอบแทนบุญคุณของชานนท์ด้วยการพาไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ร้าน ปีเตอร์ก็เลยเจอชานนท์(ในคราบของเฟรดริก) แต่ชานนท์จำเหี้ยอะไรไม่ได้เลย เขาก็เลยคิดว่าปีเตอร์แค่จำคนผิด แต่ต่อมาก็เริ่มมีคนจำเขาผิดเป็นเฟรดริกอยู่เรื่อยๆ ร้ายที่สุดก็คือเจอคนของกองกำลังเงาอินทรีที่เป็นศัตรูของเฟรดริกรุมฆ่า (ชานนท์แม่งกากมาก ไม่ได้มีอะไรเหมือนเฟรดริกเลยนอกจากหน้าตา)

ชานนท์ตายกลับขึ้นมาในโลกความจริง แม่งก็ลงไปกินข้าวตามปกติ พ่อของมันรู้ว่ามันเข้าไปเล่นเกมมาก็เลยเอาอัลบั้มรูปมาให้ดู เล่าเรื่องว่าตอนที่พระเอกไปเข้าร่วมการทดลองอยู่น่ะ พ่อได้แอบเอาเครื่องเล่นเกมของมันไปซื้อแพ็คเกจทัวร์ด้วย ชานนท์ก็นั่งดูรูปไปเรื่อยๆจนมาเจอว่ามีรูปของเฟรดริกติดมาในนั้นด้วย (จำได้ไหมที่เฟรดริกถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยว นั่นล่ะพ่อของชานนท์) ชานนท์ก็เลยเชื่อแล้วว่าตัวละครในเกมของตัวเองเนี่ยหน้าไปเหมือนกับเฟรดริกจริงๆ แล้วก็สงสัยว่ามันจะต้องมีความเชื่อมโยงอะไรกับการที่เขาไปเข้าร่วมการทดลองแน่ๆ พอเข้าเกมอีกครั้งก็ไปพูดคุยกับปีเตอร์ หาข้อมูลเพิ่มเติม ก็พบว่าในเสื้อผ้าเปียกของตัวเองน่ะมีแผนที่ลายแทงอยู่แผ่นนึง ชานนท์ก็ตัดสินใจไปตามแผนที่แต่ก็ได้ขอร้องให้ปีเตอร์ช่วยฝึกดาบให้เขาก่อน

ชานนท์กับปีเตอร์ออกเดินทางไปตามแผนที่ ระหว่างทางก็เจอคนของเงาอินทรีล้อมไว้อีกครั้ง แต่คราวนี้ชานนท์เก่งขึ้นบ้างแล้วเลยสู้ได้ ระหว่างที่สู้อยู่ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาช่วยพวกเขาเอาไว้ ผู้หญิงคนนั้นชื่อว่าไอซ์ ไอซ์รู้จักกับเฟรดริกและสนใจที่จะเข้าร่วมไขปริศนาด้วย พวกเขาก็เลยเดินทางกันต่อตามแผนที่ไปจนถึงต้นแอปเปิ้ลกลางทุ่งหญ้าแห่งหนึ่ง พวกเขาเจอหลุมฝังศพของไดแอน ชานนท์พยายามขุดหลุมขึ้นมาเพื่อดูศพ แต่สิ่งที่เจอกลับเป็นสร้อยเส้นหนึ่ง พอชานนท์หยิบสร้อยนั่นขึ้นมาดูก็มีแสงสีขาวสว่างวาบทำให้เขาหมดสติไป และเรื่องทั้ง 31 ตอนก็มาสิ้นสุดลงตรงนี้ ไอ้สัส นี่กูนั่งพิมพ์ไปกี่ชั่วโมงวะ ต่อไปจะเป็นการให้คะแนนนะคะ

74 Nameless Fanboi Posted ID:LSiUPMLLu

มึงถึกมากโม่งอารี มึงสปอยล์หยังงี้เด๋วกูไปอ่านต่อตอนที่32ได้เลย เดาว่าคนเขียนจะเอาให้ชานมไปกอบกู้โลกเกมแทนอีเฟดเด็กซสินะ

75 Nameless Fanboi Posted ID:WkJGpIsL.

>>48 เสียดายว่ะเพื่อนโม่ง กูว่าจะแอบเอาแฟนตาซีที่เขียนมาให้มึงวิจารณ์ซะหน่อย5555

76 Nameless Fanboi Posted ID:G+mVewJOg

>>69 ให้คะแนนเรื่อง the Earthquest : หากข้ามิใช่มนุษย์

ตอนแรกที่เขียนสรุปเนี่ยไม่เคยคิดเลยนะว่าแม่งจะยาวได้ขนาดนี้ นี่กูว่ากูพยายามสรุปเท่าที่สำคัญๆมาแล้วนะ ยังมีปมย่อยห่าเหวที่กูตัดออกไปอีกเพียบเลย ลำบากใจกับการให้คะแนนจังว่ะ แต่ยังไงๆก็ต้องให้ใช่มะ มันจะได้ครบสูตร

คำผิด : เท่าที่อ่านมา ทั้งการอ่านรอบแรกและอ่านย้ำบางส่วนเพื่อจดชอร์ตโน้ตเอามาเขียนสรุป สิ่งที่อยากชื่นชมนิยายเรื่องนี้ก็คือเป็นนิยายที่มีการใช้คำได้สละสลวยอย่างที่ไม่ค่อยได้พบเห็นในนิยายเด็กดีเท่าไหร่ ผู้เขียนมีคลังศัพท์ค่อนข้างมาก คำที่คนมักเขียนผิดอย่าง สังสรร - สังสรรค์ ก็เขียนถูก ถือว่ามีการทำการบ้านมาเป็นอย่างดี แต่สิ่งที่น่าด่านั่นก็คือการพิมพ์ตก เช่น คำว่า "ที่" ก็มักตกสระอะกลายเป็น "ที" หรือบางคำที่จิ้มแป้นพิมพ์ผิดอย่าง "ไปด้วยกัน" เป็น "ไปด้วยกัย" "ก็เข้าใจว่าบางทีเวลาพิมพ์เร็วๆ คีย์บอร์ดมันอาจมีปัญหาบ้าง (กูก็เป็น) แต่เป็นนักเขียนก็ควรที่จะต้องตรวจทานแก้ไขผลงานของตนให้สมบูรณ์ที่สุดนะ ในส่วนนี้ให้ 7.5/10 คะแนน

การบรรยาย : ทำได้ดี อันนี้ขอชื่นชมจากใจจริง คือผู้เขียนมีความสามารถในการเขียนบทบรรยายให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจน ทำให้กูสามารถนั่งอ่านไปได้เรื่อยๆ ทั้งๆที่มันยาวมากขนาดนี้ มีการหลีกเลี่ยงคำซ้ำ เป็นผลมาจากการมีคลังคำศัพท์เยอะอย่างที่ได้บอกไปเมื่อข้อที่แล้ว แต่บางครั้งบางทีก็ยังมีการใช้คำฟุ่มเฟือยอยู่บ้าง ให้ 9/10 ก็แล้วกัน

ตัวละคร : อันนี้น้ำตาแทบไหล สิ่งที่จะชมก็คือในที่สุดกูก็หานิยายที่แม่งตั้งชื่อคนให้เป็นภาษาคนได้สักที(โว้ย) ถึงแม้จะยังไม่แน่ใจว่าเฟรดริกแม่งอ่านว่าอะไร แต่อย่างน้อยๆแม่งก็ฟังดูเป็นภาษาคนแน่ๆ ที่ชอบเกี่ยวกับชื่ออีกเรื่องหนึ่งก็คือ ตัวละครในเรื่องนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 พวกหลักๆ ก็คือตัวละครในเกม กับคนในโลกจริง ซึ่งชื่อนั้นเป็นตัวแบ่งแยกคนสองกลุ่มได้ดีมากๆ อย่างตัวละครในเกมก็จะมีชื่อเป็นฝรั่ง อย่าง ปีเตอร์ เจค ไดแอน ส่วนตัวละครที่เป็นคนในโลกจริงก็จะมีชื่อเป็นภาษาไทย เช่น ชานนท์ นริศ สนธยา หรือชื่อเล่นที่พบได้ทั่วไปจริงๆอย่างไอซ์ หรือโบตั๋น หรือแม้แต่บทพูดของตัวละครก็แยกออกมาได้ชัดเจนเป็น 2 กลุ่มเหมือนกัน อย่างตัวละครในเกมก็จะพูด "ข้า" "เจ้า" และใช้สำนวนแบบละครจักรๆวงศ์ๆหน่อย ส่วนคนจริงก็จะพูดด้วยภาษาไทยแบบสมัยใหม่ผสม slang ตัวละครแต่ละตัวก็มีลักษณะท่าทางที่เป็นซิกเนเจอร์ของตัวเอง อย่างไดแอนที่จะชอบเชิดจมูกเวลาไม่พอใจ ให้พูดรวมๆก็คือกูชอบก็แล้วกัน เอาไป 9/10 เลย

เนื้อเรื่อง : สิ่งที่ชอบที่สุดในส่วนของเนื้อเรื่องก็คือการที่นักเขียนพยายามสร้าง hint เล็กๆในแต่ละบทของเรื่องเพื่อนำมาเฉลยปมต่างๆ คือยอมรับว่าเดาทางไม่ถูกเลยว่าไอ้เรื่องอย่างการไปถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวมันจะมีผลต่อเนื้อเรื่องได้ยังไง การปูเรื่องส่งบทกันได้ค่อนข้างดี ทำให้เห็นมุมมองของคนแต่ละกลุ่มได้อย่างชัดเจนขึ้น มีการเล่าเรื่องแบบ flashback ที่น่าสนใจ ทำให้เราที่เป็นผู้อ่านสามารถรับรู้เรื่องราวต่างๆได้โดยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องรอให้ตัวละครเล่าออกมา การหักมุมก็ถือว่าแสบใช้ได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จู่ๆตัวละครจะตื่นขึ้นจากฝันหรืออะไรทำนองนี้ แต่ต้องเข้าใจว่ากูกำลังอ่านเรื่องของเฟรดริกอยู่เพลินๆ ตัดฉากมา อ้าวไอ้สัส เล่นงี้เลยหรอ แหม่ กูให้ 8/10 คะแนน

สรุปคะแนน 33.5/40 ถือว่าเป็นนิยายที่น่าอ่านเรื่องนึงทีเดียว สำหรับกูอะนะ ต่อไปก็เหลือเรื่องสุดท้าย 42 ตอน WTF ตอนแรกกูกะว่าจะวิจารณ์ให้จบๆไปเลยในวันนี้แต่คงไม่ไหวละ ไว้โอกาสหน้าละกัน บะบุย

77 Nameless Fanboi Posted ID:hBuEZ3PU6

โม่งอารี จ่ายค่ายาแก้ปวดหัวไปเท่าไหร่ เดี๋ยวสมทบทุนให้ 555 ไม่เคยเห็นใครถึกและอารีเช่นนี้มาก่อนเร้ยย

78 Nameless Fanboi Posted ID:tcY6gsHj3

http://www.dek-d.com/board/view/3675747/

มีใครเคยเห็นผลงานของคนนี้บ้างมั้ยโม่ง กูอยากลองอ่านดู

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.