สถาเคยสนเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ เมื่อก่อนแค่วิวเยอะต่อให้ขยะแค่ไหนก็เอาไปขาย เทพกระบี่หมื่นล้านยังโดนทาบทามเลย
Last posted
Total of 1000 posts
สถาเคยสนเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ เมื่อก่อนแค่วิวเยอะต่อให้ขยะแค่ไหนก็เอาไปขาย เทพกระบี่หมื่นล้านยังโดนทาบทามเลย
โม่งอารี โมโม่(จั)ง โม่งไหนก็ได้ สนใจสับเรื่องนี้ป่ะ กูไปเจอมาแล้วเฟลแรง นิยายแบบนี้ยอดวิวคอมเม้นเฟ็บเยอะกว่านิยายหลายเรื่องที่กูชอบอีก ฮือออ http://writer.dek-d.com/rffgdshd/story/view.php?id=1459782
>>948 กูโมโม่(จั)ง ทนอ่านถึงบทที่ 5 และกระโดดข้ามไปที่บทนรกตอนที่ 6 ขอยอมแพ้ว่ะ สับเลยละกัน
ไอ้คนเขียนมึงรู้จักนิยายไหมหา! ที่มึงเขียนนี่จะเรียกว่าบทละครท่องจำกูยังกระดากปากเลย บทบรรยายสั้นหวนมีเหมือนไม่มี การจัดเว้นวรรคย่อหน้าติดลบ บทสนบทนาและความคิดมึงอัดมาอยู่ในบรรทัดเดียวกันทำไมวะ เดินเรื่องในมุมบุคคลที่หนึ่งหรือสามก็เอาให้แน่ๆ ดิ คิดว่าใส่เครื่องหมายคำพูดกับ ' ' ก็แยกบทสนทนากับความคิดออกได้โดยไม่ต้องเว้นวรรคจัดย่อหน้าใหม่เรอะ ลองกระโดดข้ามไปอ่านนรกตอนที่ 6 เผื่อว่าอาจจะมีพัฒนาการดีขึ้นแต่ระหว่างนั้นกูอาจทนไม่ได้ แต่ก็ยังห่วยเหมือนเดิม ฟัก!
ส่วนเนื้อเรื่องนี่กูขอนิยามว่าดอกปอปหมายเลขสอง มีความเป็นขยะวรรณกรรมมากพอกัน พระเอกเป็นหนุ่มน้อยวัยเรียนที่มีฉากหลังเป็นฆาตรกรฆ่าชิงทรัพย์ จู่ๆ ก็ถูกวาร์ปมาต่างโลกอย่างงงๆ เห็นระบบเกม RPG ก็ทำเป็นมึนนิดหน่อย จากนั้นก็นั่งคิดเองเออเองแล้วก็เข้าใจทุกอย่างในพริบตาโดยไม่ต้องมีคนสอน ฉลาดมากกก! ต่อไปก็เจอมังกรแก่ในถ้ำที่ถูกผนึก คุยกันเรื่องถ้าพระเอกไม่เชื่อใจมังกรกก็จะฆ่า ถ้าเชื่อใจก็จะไม่ คุยกันสลับกับการต่อสู้โดยมีมังกรโจมตีฝ่ายเดียว สุดท้ายพระเอกก็ปลดผนึกให้มังกร ซึ่งมังกรก็สัญญาว่าถ้าพระเอกช่วยปล่อยจะมอบพลังให้ แล้วพอกันหนีออกไปจากเกาะลอยฟ้าที่ขัวมังกร พอถึงพื้นดินมังกรก็กลับลำไม่ยอมทำตามสัญญาและจะชิ่งหนีไปดื้อๆ แต่ถูกพระเอกลอบเชือดปีกรีดเลือดไปนานแล้ว เดินไม่กี่ก้าวก็ล้มครืน พระเอกผู้แสนฉลาดและเก่งมากกก ก็เฉลยว่าตอนเข้าไปในถ้ำมีเควสฆ่ามังกรโผล่มาให้เห็น เลยวางแผนฆ่าตั้งแรกแล้ว(ทำไมมึงไม่เกริ่นให้คนอ่านรู้หน่อยวะว่าจะมีเควสโผล่ขึ้นมา ถ้าอยากอุบไว้เป็นปริศนามึงไม่ต้องบอกเนื้อเรื่องก็ได้ แค่บรรยายว่ามีความผิดปกติบางอย่างที่พระเอกมองเห็น เช่น มีจอภาพแสดงตัวอักษรมากมายปรากฏขึ้นบนพื้นถ้ำ)
พอฆ่ามังกรสำเร็จตามเควสเวลก็พุ่งยิ่งกว่าเติมทรู จากสิบหกกระโดดไปถึงสามร้อยกว่า ได้สกิลใหม่มาก็ลองกดใช้รัวๆ เป็นเรียกอุกกาบาตออกมาห่าใหญ่แล้วเสือกทำให้พระเจ้าของโลกนี้ตายซะงั้น เลยทำให้พระเอกได้ฉายาผู้ฆ่าพระเจ้า พร้อมกันนั้นเวลก็อัพไปถึงห้าร้อยกว่า แหม...แค่บทเดียวเวลมึงก็เกือบตันแล้วเนอะ เร็วจัง
ต่อนะ หลังจากนั้นพระเอกก็ใช้อีกสกิลหนึ่งเป็น "เนตรพันลี้" มองได้กว้างมากและไกลโคตร เห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังถูกโจรสามคนรุมยำ ด้วยความเลวในสันดานพระเอกจึงเมินเฉยและจะเดินจากไป ทว่าทันใดนั้นพระเอกก็ฉุดคิดได้ช่วยไว้ดีกว่า เพื่อประโยชน์ในวันนี้และวันหน้า จากนั้นพระเอกก็วิ่งไปช่วยแล้วโชว์สกิล "โคตรอภิมหาเทพทรู" ตบโจรกระจอกเวลสิบกว่าๆ ตายในพริบตา จากนั้นก็เนียนตีซี้กับผู้หญิงที่เป็นถึงจอมเวทของกองทัพเวลสิบแปด(สูงกว่าโจรแล้วมึงแพ้ได้ไงวะ คิดจะยัดบทพระเอกโชว์เทพเก็บฮาเร็มก็หาบทที่ดีกว่านี้ไม่ได้เรอะ เช่นมอนสเตอร์รุม แต่นี่...คนเวลสิบกว่าๆ)
แล้วผู้หญิงคนนั้นก็เกิดความซาบซึ้งบุญคุณของพระเอกผู้แสนดี จึงเล่าเรื่องโลกนี้ให้พระเอกฟังคร่าวๆ และบอกว่าจะตอบแทนบุญคุณในภายหน้าตามที่พระเอกต้องการ จากนั้นก็แยกกันที่หน้าเมือง พระเอกปลอมประวัติจากเทพทรูเวลห้าร้อยเป็นหนุ่มน้อยสามัญเวลสิบหก ซ่อนฉายาแล้วไปทำบัตรผ่านเมือง และด้วยสกิลพิเศษที่ทำให้แสกนเห็นเลเวลข้อมูลส่วนตัวของคนอื่นทำให้พระเอกรู้ว่าเจ้าหน้าที่หญิงคนนี้อายุมากกว่าที่ตาเห็น บลาๆ ทิ้งท้ายบทว่าพระเอกจะออกไปหาที่ซุกหัวนอน ซึ่งกูขอหยุดเพียงเท่านี้เพราะทนความเบียวที่เอ่อล้นและความแกรี่ที่ฟุ้งมากเกินไปไม่ไหววะ ที่มีคนสนใจเยอะคงเพราะมันพล็อตนิยมไปต่างโลกเจอระบบเกม RPG+พระเอกเก่งเทพ+ฮาเร็ม ซึ่งตัวเอกที่เหมือนคนเขียนจะสร้างให้เป็นพวกแบดบอยหน้าซื่อ ซึ่งกูก็พยายามคิดนะว่าที่เลวคงเพราะมีปม หรือเลวตั้งแต่ต้นแต่ถ้าผ่านไปก็จะเริ่มทำตัวดีเอง แต่พอกูลองกระโดดอ่านไปนรกตอนที่ 6 พระเอกเลวสุดขั้วชั่วสุดยอดละ หาได้มีพัฒนาการอันใดไม่
สรุปคะแนน หาข้อดีไม่เจอ กูให้ -10 พร้อมคำนิยาม "เศษเดนนิยาย"
/กูยังคงเป็นพวกมองโลกในแง่ดีอยู่นะ เห็นว่าน่าจะเป็นเรื่องแรกที่คนเขียนแต่งเลยนิยามเพียงเท่านี้เพราะคงไร้ประสบการณ์เลยสร้างผลงานแบบนี้ออกมา ถ้าเขียนมาหลายเรื้องแล้วยังห่วยไม่เปลี่ยนแปลง กูจะนิยามว่า "สวะวรรณกรรม" เพราะมันไม่น่าจะเรียกว่านิยายได้ด้วยซ้ำ นิทานยังสูงกว่าเลย
>>960 กูโม่งอารี กูไปอ่านต่อมาให้มึงถึงบทที่ 11 ละ คือหลังจากที่ไอ้พระเอกเนี่ยมันไปช่วยผู้หญิงคนที่มึงว่าแล้วน่ะ ก็ไปหาที่ซุกหัวนอนเป็นโรงแรมของหญิงม่ายที่ผู้หญิงคนนั้นแนะนำ พระเอกก็คิดว่าผู้หญิงคนนี้หน้าเหมือนแม่ของมันมาก มีอยู่วันนึงมีพวกกักขฬะมาที่ร้าน มาลวนลามผู้หญิงเนี่ยแหละ ประมาณว่าผัวมึงติดเงินกูเอาไว้ มึงต้องเอาตัวมาใช้หนี้แทนอะไรงี้ พระเอกก็เลยโชว์เทพข่มไอ้พวกนั้นเอาไว้ แล้วเปย์เงินให้ผู้หญิงม่าย (ชื่อเฮเลนน่า) ไป
จากนั้นพระเอกก็ไปทำภารกิจล่าจระเข้อะไรสักอย่าง แล้วได้ไปเจอคู่แข่งที่เป็นหัวขโมย (ชื่อไรเนอร์มั้ง จำไม่ได้) พระเอกสู้ชนะ หัวขโมยหนีไปได้ พระเอกก็จัดการจระเข้แล้วเจอหีบสมบัติ ข้างในนั้นมีแหวนที่ใส่แล้วจะทำให้ล่องหนได้ แล้วทีนี้พระเอกก็กลับมาที่ที่พัก เฮเลนน่าก็บอกประมาณว่ากูรับเงินของมึงไม่ได้จริงๆนะ พระเอกก็บอกว่าเอาไปเถอะสัส บลาๆ สุดท้ายก็ยอมรับเงิน ทีแรกกูก็นึกว่าแม่งจะมาสายฮาเร็มแล้ว แต่จู่ๆแม่งก็เกิดอีเว้นท์ที่ไอ้พวกกักขฬะที่ตามก้อร่อก้อติกผู้หญิงม่ายคนนี้มาจับตัวเธอไป บอกว่าเฮเลนน่าเป็นแม่มด (เฉลยว่าไอ้คนพวกนั้นนับถือลัทธิบูชามังกร ไอ้อ้วนตัวหัวหน้าเป็นสังฆราช) พระเอกก็เดือดมากเลยใส่แหวนล่องหนลอบเร้นเข้าไปในที่ของพวกลัทธินั่น แล้วฆ่าพวกมันทิ้งทั้งหมด ไอ้อ้วนสังฆราชก็จับตัวเฮเลนน่าเป็นตัวประกัน แต่พระเอกแม่งเลือดขึ้นหน้าแล้ว เลยฆ่าแม่งทั้งสองคนเลย (อ้าว แล้วมึงจะมาช่วยทำไมวะอีสัส) พอฆ่าคนทั้งหมดตายแล้วพระเอกก็ผันตัวไปเป็นฆาตกรโดยสมบูรณ์ เดินทางไปตามหาตัวหัวขโมยไรเนอร์ แล้วบอกให้มันมาช่วยสร้างสงครามโลก เหตุผลคือเพราะพระเอกอยากทำ (?) ไรเนอร์ก็อิดออดนิดหน่อยแต่ก็ตกลง แต่มีข้อแลกเปลี่ยน 2 ข้อคือ 1. จะต้องไปขอความเห็นชอบจากเพื่อนของมันก่อน และ 2. พระเอกต้องไปช่วยหาของบางอย่างให้ไรเนอร์
อ่ะ อ่านถึงเท่านี้ ขอให้คะแนนแบบหยาบๆเลยแล้วกัน
คำผิด : ไม่ค่อยเห็นการสะกดคำผิด ไม่เห็นการพิมพ์ตก แต่ส่วนใหญ่เป็นคำง่ายๆ กูให้เยอะหน่อย 7.5/10 ไปเลย
การบรรยาย : ต่ำตมชิบหาย แบบนี้เรียกนิยายเหรอวะ ตัวหนังสือติดกันเป็นพรืด ขาดการเว้นวรรค ฉากก็ไม่บรรยาย อะไรก็ไม่บรรยาย บทสนทนากับความคิดตีกันยุ่งเหยิงไปหมด กูให้คะแนนในฐานะที่ยังพออ่านรู้เรื่องที่ 2/10 คะแนน
ตัวละคร : เบียว แกรี่ แมรี่ โกง เวอร์ เทพแบบไร้เหตุผล เลือดเย็นแบบงงๆ เหมือนคนเป็นโรคประสาท ตอนแรกบอกว่าฆ่าคนเพื่อเอาเงินไปใช้ซื้อปัจจัยสี่ แล้วมึงจะตัดหัวตัดแขนตัดขาแม่งทำไม เหี้ยเอ๊ย กูให้คะแนนความเป็นคนแม่ง 2/10 คะแนน
เนื้อเรื่อง : อันนี้อ่านยังไม่จบ (ไม่ถึงตอนล่าสุด) เลยไม่ขอให้คะแนน เพราะไม่แน่ว่าอาจมีอะไรดีๆซ่อนอยู่ ซึ่งเท่าที่อ่านมานี้ก็มองเห็นว่ามีเส้นเรื่องให้เดินอยู่นะ ไม่ได้ออกทะเลไปไหนไกล เห็นเป็นสเต็ปตั้งแต่ พระเอกมาถึงต่างโลก เดินทางเข้าเมือง ตามหาของ มีอีเวนท์ เดินทาง มีอีเวนท์ใหม่ ซึ่งก็ถือว่าพอใช้ได้ (ถ้าไม่นับความสมเหตุสมผลอะไรอื่น)
สรุป 11.5 / 30 ไม่ผ่านว่ะ
>>966 อืมมมมมม พูดก็พูดเถอะ กูให้คะแนนเรื่องนี้ (ฆาตกร) มากกว่าเรื่องแคตตาล็อกนั่นนะ 1. คำผิดน้อยกว่า 2. เนื้อเรื่องดูมีไลน์ของการดำนเนินเรื่องชัดกว่า
ในเรื่องของการบรรยาย แคตตาล็อกพระเจ้าทำได้ดีกว่านิดหน่อย แต่มาเสียตรงที่คำผิดบานเบอะ อ่านแล้วโคตรสะดุด ส่วนตัวละคร แคตตาล็อกเบียวแบบเด็กๆเขียน เหมือนจับนู่นมายัดใส่นี่ให้มันเทพๆ แต่เรื่องฆาตกรนีคือจงใจให้มันเก่งเทพอยู่แล้ว มาถึงก็จับยัดจัดเต็มเลย เนื้อเรื่องแคตตาล็อกก็ดูมั่วๆ ไม่เหมือนกับฆาตกรที่ดูชัดเจนมากกว่าว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร
สรุป แย่พอกัน แต่แคตตาล็อกแย่กว่าหน่อยว่ะ
เพื่อนโม่งกูขอถกประเด็นเรื่องอัพถี่ๆบ่อยๆแล้วจะติดท็อปเอง มันจริงแค่ไหนวะ
เห็นพวกมาบ่นเรื่องนิยายกากขึ้นท็อป แล้วทำไมแม่งไม่อัพถี่ๆดูบ้าง แต่งเก็บไว้ก่อนแล้วค่อยมาอัพทุกวันเอายอดวิวดิวะ
จากที่กูเดาเอาเอง นอกจากอัพบ่อยแล้วเรื่องมันต้องโดนเด็กๆด้วย แต่คนแต่งหลายๆคนทำไม่ได้เพราะคิดแบบที่เด็กชอบไม่เป็น ถึงอัพทุกวันก็ไม่ติดท็อป
กูอยากรู้ว่ามีใครลองแต่งโดยหวังติดท็อปป่าววะ ใครอัพทุกวันแล้วติดท็อปหรือวิวเยอะบ้างมึงไม่ต้องบอกชื่อนิยายตัวเองก็ได้
>>971 บางทีมันก็ต้องเลือกระหว่างการผลิตงานเขียนที่ดี กับการผลิตงานเขียนที่ติดท็อปอะว่ะ
คือไม่ใช่ว่างานเขียนที่ติดท็อปไม่ดีนะ แต่เท่าที่เห็นก็แบบ......... มันเกาะตลาดได้ไง ตลาดของเด็กดีก็คือนักอ่านวัยรุ่นที่ไม่มีความเข้าใจความงามด้านภาษามากนัก กูเคยอ่านบางคอมเมนต์ แม่งบอกว่าถ้าเห็นเรื่องไหนพยายามบรรยายสวยๆนี่จะปิดไปเลย อ่านยาก ชอบแบบเรียบๆมากกว่า กูแทบร้องไห้
คือบางทีก็ต้องยอมรับว่าการพยายามฝืนบรรยายเยอะๆทั้งที่สกิลตัวเองยังไม่ถึงเนี่ยมันอาจกลายเป็นเวิ่นเว้อจนคนอ่านงงได้ แต่มันก็เป็นสิ่งที่นักเขียนพึงมีปะวะ คือพยายามบรรยายไปก่อน อันไหนงงก็ปรับแก้ ค่อยๆเกลาภาษาตัวเองไป ดีกว่าที่จะเขียนทื่อๆแบบ โจเดินไปในตลาดเจอผู้หญิงผมทองหน้าตาสวยคนหนึ่ง (วิ๊ดวิ่ว //ผู้เขียน) "สวัสดี" โจเข้าไปทัก "ชื่ออะไรครับ" (แหมหน้าม่อนะโจ //ผู้เขียน) ปะวะ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จะงงหรือไม่มันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับทักษะของคนเขียนอย่างเดียว มันต้องเอาทักษะของนักอ่านเข้ามาคิดร่วมด้วย มันก็มีงานบางชิ้นที่กูเห็นว่าเขียนด้วยภาษาที่ค่อนข้างดี บรรยายลื่นๆสวยๆไม่งง แต่คนอ่านน้อยฉิบหาย ตัวกูเองชอบอ่านงานที่ใช้ศัพท์แปลกๆนะ เช่น โอภาปราศรัย ประดักประเดิด อากัปกิริยา ฯลฯ แต่คำพวกนี้ก็ใช่ว่านักอ่านในเว็บจะเข้าใจทุกคน กูเชื่อว่าบางคนแม่งก็คงเอาไปบ่นนั่นล่ะว่าเขียนเหี้ยอะไรงงชิบหาย
อัพถี่ๆอาจทำให้ขึ้นท็อปได้จริง แต่คนทั่วไปที่ไม่ได้ว่างนั่งเกาไข่อยู่ที่บ้านทุกวันไม่มีทางเขียนงานดีๆ อัพลงเว็บได้ทุกวัน (แบบไม่ซอยตอน) ได้แน่ๆ และกูก็ยืนยันว่ากูยอมให้งานที่กูลงทุนลงแรงเขียนไม่เป็นที่รู้จัก ดีกว่ารีบๆปั่นให้ติดท็อปแต่เนื้อในกลวงโบ๋จนคนที่เขามีความรู้มาค่อนแคะเอาได้ว่างานแบบนี้ติดท็อปมาได้ยังไง
>>971 กูกะทำงี้อยู่ กูติดนิสัยชอบเขียนไปแก้ไป บางทีขึ้นตอนใหม่ได้ 3 ย่อหน้าก็กลับไปรีไรท์ตอนเก่าให้สอกคล้องกับตอนใหม่
กูคิดว่าถ้าอัพทีละตอนเนื้อหาจะไม่สอดคล้องกันคนอ่านจะงง กูเลยกะจะแต่งให้จบก่อนแล้วค่อยลงทีเดียว น่าจ 100 ตอนกว่าได้
นิยายกูข้อเสียอย่างคือเปิดเรื่องช้า กูกะปูพื้นไป 10+ ตอนแล้วหักมุมเปิดเรื่อง แต่สไตล์นี้คนไม่นิยมวะ บางคนด่าว่ากากด้วย
พวกวิจารณ์นิยายชอบบอกว่าต้องดึงดูดตั้งแต่ตอนแรกๆ อ่าน 3 ตอนแล้วยังไม่ไปไหนคือนิยายไม่ดี ไม่มีคนอยากอ่าน
แต่กูลองดูที่วางพล็อตทั้งหมดที่วางไว้แล้ว ถ้าเปิดเรื่องเลยมันจะขาดบางอย่างที่กูอยากให้คนเห็นในตัวพระเอก กูเลยลังเลว่าจะยังไงดี
>>979 ลองดูก็ได้นะ ไม่เสียหายหรอก แค่อาจเสียเวลาไปบ้าง
เน้นพิมพ์บทสนทนาเยอะ บรรยายไม่ต้องมี เอาเป็นเรื่องประมาณว่าพระเอกเป็นนักเลงในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่บังเอิญเดินสะดุดท่อหัวฟาดพื้นตาย พระเจ้าสงสารเลยส่งไปเกิดในโลกใหม่ แต่พระเอกโกงพระเจ้าด้วยการขโมยคฑาพระเจ้าไป จะเสกอะไรก็ได้ตามใจปรารถนา แล้วก็โชว์พาวล่าฮาเร็มไปเรื่อยๆ เจอปัญหาอะไรแล้วตันก็ใช้มุกแอบได้ยินตัวโกงคุยกัน
เอาเป็นชื่อ the god's wand : เกรียนตะลุยต่างโลกกับคฑาแห่งพระเจ้า เขียนแม่งตอนสั้นๆ ตอนละฉาก สัก 2-3 หน้า อัพแม่งวันละสามสี่ตอน ไม่ดังให้เหยียบ
ขอขัดจังหวะแป๊บ กระทู้จะเต็มแล้ว ใครตั้งกระทู้เป็นก็เตรียมตั้งได้แล้วมั้งกูว่า เพราะกูตั้งไม่เป็น ; A ;
>>981 กูเขียนโดยยึดมุมมองบุคคลที่ 1 แบบเรื่อง maginal operation เป็นพื้นฐานนะ ดังนั้นมันจะไม่ค่อยมีเรื่องการพรรณณาอะไรมากนัก น่าจะไหวอยู่
แต่กูกังวลเรื่องการเปิดเรื่องวะ แรกๆ มันช้ามาก แต่ก็จำเป็นต้องให้ข้อมูลว่าพระเอกเป็นยังไง เพราะนิสัยนี้เป็นจุดสำคัญมากที่ทำให้เกิดเรื่องทุกอย่าง
คือพระเอกก็เป็นแบบนี้แต่แรก แต่มันปิดทุกอย่างไว้ไม่ให้ใครรู้ พอทุกอย่างเปิดเผยถึงได้ทำตัวแบบนี้ แต่นิสัย 2 หน้าก็เป็นของจริงเช่นกัน
ถ้าไม่มีบทก่อน turning point ประเด็นที่กูวางไว้จะอ่อนไป แถมเรื่องนี้เป็นปมที่จะใช้ตอนจบด้วยสิ ไม่อยากเร่งเลย
จะแต่งนิยายโม่งสมคบคิดเรอะ 555
>>987 ใช่มั้ยล่ะ การอัพยังงั้นแม่งโคตรยากเลย
ช่วงนี้กูชอบติดเล่นๆว่ะว่าไหนๆก็แต่งไม่ค่อยเก่งอยู่แล้ว งานคงออกมาไม่ดีมากแต่ก็คงไม่ห่วยทุเรศอะไรขนาดนั้น กูเลยอยากลองปลดปล่อยความเบียวว่ะ แบบแต่งเหมือนไอ้แคตตาล็อกพระเจ้าหรือพ่อฆาตรกรต่างโลก เอาให้ซูให้ไร้เหคุผลสุดๆ ประชดตัวเองไปเลยแม่ง คงผ่อนคลายความเครียดดี 555
>>995 คือให้เขียนแบบสั้นๆ ตู้มเดียวไม่ต้องปรู๊ฟคำผิดอ่านทวนเลยก็ทำได้นะ แต่รู้สึกแย่กับตัวเองว่ะ ...แต่ระยะนี้คิดแบบมึงเหมือนกัน อยากปลดปล่อยความเบียว ถ้าเบียวแล้วมันนิยมมันก็ควรเบียวเพื่อสร้างฐานแฟนคลับก่อนเปล่าวะ แล้วค่อยกลับมาเป็นคน (แต่ก็ไม่มีอะไรยืนยันได้อยู่ดีว่าแฟนคลับกลุ่มนั้นจะตามมาเรื่องใหม่ด้วย เพราะอาจจะอ่านแค่เบียวอย่างเดียว)
ปิดมู้จ้า
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.