คือมีปัญหาที่สมองแต่ตัวก็น่าจะโตตามปกติป่าววะ ยิ่งบ้านรวยอุดมสมบูรณ์ดีขนาดนั้น มันไม่น่าแคระเกร็นขนาดนั้นอ่ะ
Last posted
Total of 1000 posts
คือมีปัญหาที่สมองแต่ตัวก็น่าจะโตตามปกติป่าววะ ยิ่งบ้านรวยอุดมสมบูรณ์ดีขนาดนั้น มันไม่น่าแคระเกร็นขนาดนั้นอ่ะ
>>90 คือชีพยายามยัดเยียดความเป็นเคะน้อยน่ากอดไง อุตส่าห์หาข้อมูลเรื่องจิตเภทมา แต่ยังไม่สมจริงก็ตรงบอกว่าตัวเอกอายุเกือบสิบห้าแต่บรรยายซะกูนึกว่าร่างกายเป็นเด็กน้อยอายุไม่เกินสิบขวบ ตัวเล็กร่างน้อย บลาๆ ถ้ากินยาขับลูกหวังให้แท้งแต่เด็กออกมามีปัญหาทางสมองกลายเป็นบ้า ร่างกายอย่างอื่นมันก็ต้องเติบโตตามปกติสิ ไม่มีหรอกที่เด็กได้รับผลกระทบจากยาแล้วทำให้มีปัญหาทั้งร่างกายและสมองพร้อมกันได้ ส่วนมากมักเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง
มีนิยายแฟนตาซีเรื่องไหนแนะนำมั่งมั้ยวะ ขอหนุกๆหน่อย ไม่เอาเรื่อง soul กูลองอ่านแล้วรู้สึกกาก
ไม่ได้แวะมานานมาก เพิ่งเห็นว่ามีการแยกหมวด
>>86 ของงี้ถ้าจะทำจริงๆยังไงก็ทำได้ว่ะ และหลายๆเรื่องที่ติด top กูว่าก็อาศัยกำลังภายในช่วยกันทั้งนั้น
คือถ้าติดตามนิยายบนเว็บนี้มานานจะรู้ธรรมชาติในการเพิ่มของจำนวนวิวอย่างนึง คือยิ่งมีตอนเยอะ วิวจะยิ่งเยอะ ตอนน้อยวิวก็น้อยตาม
คิดง่ายๆว่าคนอ่านหน้าใหม่ 1 คน อ่านสองเรื่อง เรื่องนึงมี 10 ตอน มันก็ได้ 10 วิวปะ แต่อีกเรื่องมี 100 ตอน ก็ได้ 100 วิว จากนักอ่านหน้าใหม่ 1 คนเท่ากัน (อันนี้สมมุติกินยาบ้ามาอ่านรวดเดียวหมด)
ดังนั้นพวกนิยายที่จำนวนตอนน้อยๆจะเสียเปรียบนิยายที่มีจำนวนตอนเยอะๆโดยธรรมชาติ นิยายติด top เมื่อก่อนเลยเป็นพวกนิยายที่ออกมาระยะนึงแล้ว มีจำนวนตอนพอสมควร ไอ้พวกเรื่องที่มีตอนแค่หยิบมือน่ะไม่ได้ขึ้น top กะเขาหรอก (เว้นแต่เป็นนักเขียนเก่าแตกไลน์มาเขียนเรื่องใหม่)
อีกอย่างคือถ้าใครเคยเขียนนิยายลงเด็กดีจะรู้ดีว่าการที่นิยายโนเนมจากนักเขียนโนเนมจะขึ้นไปติด top ได้ในเวลาแค่ 2-3 เดือนมันเป็นไปได้ยากแค่ไหน
คือนิยายเรื่องใหม่ คนรู้จักน้อย คนอ่านก็น้อย มันก็ต้องโดนเรื่องที่วิวเยอะๆ ถมจนไปอยู่หน้าหลังๆอยู่แล้ว โอกาสที่คนจะมาเจอยิ่งลดลงอีก
เมื่อก่อนถึงมีการอัพหลอก เพื่อดันให้นิยายตัวเองไปขึ้นหน้าแรกของนิยายอัพเดท เพราะมันเป็นทางเดียวที่นิยายใหม่จะได้ลืมตาอ้าปากบ้าง (เห็นทางเว็บบอกปรับระบบเพื่อแก้เรื่องนี้แล้ว ไม่รู้แก้ได้จริงรึเปล่า)
สรุปคือนิยายใหม่มักติดในซอกหลืบที่คนไม่คุ้ยลงไปดู จริงว่ามีคนที่ขุดลึกๆอยู่บ้าง แต่จะติด top ได้ คนอ่านต่อวันต้องหลักพันขึ้นไป แค่นักขุดจำนวนหยิบมือฉุดนิยายพวกนี้ขึ้นมาหน้าแรกไม่ได้หรอก
แต่มันก็มีว่ะ นิยายโนเนม ของนักเขียนโนเนม จำนวนตอนน้อย แต่ขึ้นมาอยู่ top ได้ ซึ่งมันขัดกับหลักการทั้งหมดทั้งมวลที่กูกล่าวมาเลย
ทำให้กูคิดว่ามันต้องมีพลังงานบางอย่างที่หนุนส่งนิยายพวกนี้ขึ้นมาได้ อันนี้ไม่ได้พูดถึงคุณภาพของตัวนิยาย แต่ให้ของดีแค่ไหนมันก็ไม่สามารถทำให้คนรับรู้ได้หรอกถ้าไม่มีการโปรโมทหรือนำออกไปวางแสดงในที่ๆทุกคนเห็น และไอ้วิธีการที่นำของดี(?)ที่ไม่มีใครรู้จักออกไปวางในจุดแสดงที่คนเขาเบียดเสียดแย่งชิงกันอย่างหนักหน่วงได้สำเร็จนี่แหละที่น่าตั้งข้อสังเกต
ตอนนี้ท็อปยังขึ้นอยู่กับยอดวิว ต่อเดือนอยู่รึเปล่า
>>97 ของหน้าแรกไม่รู้ แต่ในหน้าจัดอันดับ Top 20 จะจัดอันดับด้วยวิวรายวัน
ที่น่าสนใจคืออันดับต้นๆกับอันดับปลายๆยอดวิวห่างกันมา(อันนี้กูไปเสือกมา+แอบนับวิวของนิยายท็อป)
ที่เท่าที่คุยกับหลายๆคน ถ้าวิวเกินหนึ่งพันภายในวันเดียวก็มีสิทธิ์ติด top 15-20 ละ ถ้าวิวเยอะกว่านั้นอันดับก็ขยับๆขึ้นไป
สำหรับ Top 7-10 นี่น่าจะประมาณสองพันอัพ ส่วนพวก Top ห้า ต้องเป็นระดับ 3-4 พัน และอันดับหนึ่งคือวิว 6-7 พัน
จริงๆนี่ก็เพิ่งต้นเดือน (ผ่านมาสิบวัน) ลองเอาจำนวนวันไปหารยอดวิวของเดือนนี้แบบหยาบๆก็ได้ว่าเฉลี่ยแล้วได้วิวกันวันละเท่าไหร่ (แต่จริงๆยอดวิวในวันพีคน่ะมันสูงกว่านั้นเยอะ)
แนวแฟนตาซีบางเรื่องเทมเพลตจ๋าเลย ต่างโลก ตัวเอกเทพ ฮาเร็ม การบรรยายก็งั้นๆ แต่วิวพุ่งหลายพัน คิดว่าคนมันเข้ามาอ่านตามกระแสหรือเปล่าวะ
ไม่ใช่ว่าการติด Top คือการการันตีว่านิยายเขียนดีในระดับนึง จนมีคนตามอ่านเยอะหรอ
มันจับกลุ่มคนอ่านส่วนใหญ่ในเว็บได้ด้วยล่ะ หมวดแฟนตาซีน่ะเห็นชัดเลย ฮาเร็มต่างโลก พลอตไม่ซับซ้อน อ่านง่าย ตอนไม่ต้องยาวมาก อัพบ่อยๆเข้าไว้ คนแม่งก็แห่กันเข้ามาอ่านแล้ว พวกนิยายที่แม่งเขียนละเอียด พลอตดีๆ ทำให้ลงบ่อยๆไม่ได้ แม่งก็ไม่ได้ผุดได้เกิดอยู่ในหลืบนั้นแหละ
ต้องพูดกันตรงๆว่ากลุ่มนักอ่านส่วนใหญ่ของเด็กดีมันไม่มีคุณภาพแหละ (ทั้งที่เงาและไม่เงา)
ส่วนใหญ่ก็เป็นเด็กอะนะ อ่านแต่นิยายตามกระแส ย่อยง่ายๆ ไม่ต้องมีอะไรมาก
ระบบจัดอันดับมันก็แค่ดูว่าคนอ่านกลุ่มไหนเยอะสุด ซึ่งกลุ่มนี้เยอะกว่า นิยายพวกนี้ก็เลยขึ้น top ง่าย
ไม่ใช่ว่าจะไม่มีนิยายดีๆได้ขึ้น top กับเขาเลย แต่มันเบียดเสียงส่วนใหญ่ขึ้นมายาก
อยากหานิยายคุณภาพจริงๆ กูแนะนำให้ไปดูการเรียงยอดวิวรายเดือน
ดูแถวๆหน้า 2-3 ขึ้นไป แล้วกดดูนิยายที่เขียนมานานแล้ว อัพไม่บ่อยแต่มีวิวพอให้อยู่หน้าต้นๆได้
พวกนี้หลายๆเรื่องเป็นงานคุณภาพเลยมีฐานคนอ่านที่เหนียวแน่นจริง ถึงอัพน้อยก็เลยไม่หลุดอันดับไปไกลนัก
ปล. แต่กูยังคิดว่ามีคนปั่นวิวหรือแฮควิวได้อยู่จริงๆนะ top ตอนนี้ก็มีเรื่องม้ามืดผุดขึ้นมาติด top ได้แบบเฉยๆเลยหลายเรื่องทีเดียว
คือไม่ใช่นักเขียนเก่า ไม่มีฐานแฟนคลับเดิม เรื่องก็เพิ่งจะเริ่มเขียน มีไม่กี่สิบตอน ไม่เชิงจะเป็นแนวตลาด และเริ่มเขียนมาแค่เดือนเศษๆ
ตามประสบการณ์แล้วกูว่ามันต้องมีพลังงานอะไรบางอย่างอะ ไม่งั้นมันไม่มีทางเด้งขึ้น top ได้เร็วขนาดนี้
>>108 กุก็คิดงั้นว่ะ มีเรื่องนึงตอนมีนาวิวประมาณพันต้น แต่พอขึ้นเดือนเมษาไม่กี่วันยอดวิวใหม่ขึ้นไปแปดพันถึงวันนี้ก็ขึ้นสองหมื่นละ แค่อัพตอนใหม่รัวๆมันทำให้วิวเด้งขนาดนี้เลยหรอวะ จริงๆกุก็สงสัยอีกเรื่องที่วิวขึ้นพรวดๆนะ แต่มันแต่งพลอตจากเกมทำฟาร์มที่เป็นกระแสตอนนี้อยู่คนเลยแห่เข้ามาอ่านหรือเปล่า
เรื่องแฮกวิวนี่ขั้นหนักเคยมีดราม่าเป็นกระทู้นะ กุจำชื่อกระทู้ไม้ได้แล้วว่ะ พวกมึงลองไปส่องกันเอง
>>103 กุอ่านเรื่องนี้อยู่นะ ถ้าถามถึงหมวดสงคราม กุว่าโอเคเลย แต่ชื่อเรื่องแม่งมุ้งมิ้งหลอกคนอ่านสัส http://writer.dek-d.com/nusikan/story/view.php?id=1165064
>>109 ประเด็นคือ นิยายแต่งใหม่ มันต้องเริ่มจากวิวน้อยๆ
พอวิวน้อยมันก็อยู่หน้าหลังๆ (10+) ซึ่งนักอ่านส่วนใหญ่ไม่ค่อยขุดลงไปหากันหรอก
การจะขึ้นมาติด top 20 ได้ ยอดวิวต่อวันต้องมากกว่าพัน ซึ่งนิยายใหม่ที่อยู่ใต้ตมไม่น่าจะทำได้
มันเลยเป็นปริษนาว่าทำไมนิยายพวกนี้ถึงเด้งขึ้นมา top ได้โดยไม่ต้องสะสมฐานคนอ่านเป็นเวลาหลายเดือนเหมือนเรื่องทั่วๆไป ต่อให้เป็นเรื่องกระแส มันก็ควรจะอยู่ในซอกหลืบที่คนไม่ค่อยลงไปดูอยูดีน่ะ
กูไม่ชอบนิยายแฟนตาซีเดี๋ยวนี้เลย
ฝั่งออนไลน์หรือต่างโลกดอกเห็ดก็บรรยายไม่โอ แม้กูชอบแนวนี้ แต่กูไม่อิน
นี่กูไม่เหมานะ กูหมายถึงส่วนใหญ่ที่แต่งตามกระแส คนเขียนยังต้องเรียนรู้อีก
ฝั่งแฟนตาซีสายเวท กูไม่ชอบวิธีบรรยายถึงแสงสว่าง แสงจันทร์ แมกไม้ สายลมแล้วค่อยตัดไปที่ร่างบาง มือเรียวว่ะ
เพราะกูไม่ถนัดนึกภาพตาม แต่กูถนัดฟังบทบรรยายเหมือนฟังเสียงพากย์หนังมากกว่า กูเลยได้ยินแต่ อะไรแสงๆ ร่างสูง ร่างบาง เหี้ยไรก็เป็นประกาย คิดแล้วเซ็งสัส กูเลยข้ามไปอ่านแต่บทสนทนา
ระบบป้องกันการปั่นวิวมันก็น่าจะดีขึ้นเยอะแล้วล่ะ แต่ของงี้ถ้าจะหาช่องโหว่ ยังไงก็ทำได้น่ะ
ยิ่งเห็นนิยาย top ที่พุ่งจากซอกหลืบขึ้นมาอยู่ข้างบนแบบผิดธรรมชาติแล้วกูยิ่งคิดว่ามันมีวิธีใหม่ที่เว็บกันไม่ได้อยู่
>>103 เห็นด้วย จับมือๆ เหมือนกูเลย กูเคยอ่านเรื่อง Dead for dead ปฏิบัติการพิฆาตทรชนอะไรซักอย่าง คืออ่านไปตอนแรก กลิ่นการ์ตูนลอยมาเลย พระเอกแม่งฮีโร่ชิบหาย (อาจเป็นเพราะกูเป็นพวกแอนตี้ฮีโร่) เด็กอายุสิบเจ็ดกลายเป็นตำนานของการปกป้องประเทศจากเหล่าร้าย มีฝ่ายดีฝ่ายเลวชัดเจน ฝ่ายดีก็ฝ่ายพระเอก มีคุณธรรม กล้าหาญ บลาๆ ส่วนฝ่ายตัวร้ายก็เลวเหี้ยๆ และทำไมก็ไม่รู้ว่ะ เห็นหลายๆคนชอบอ่านยังงี้
>>119 กูดูรูปดาราเกาหลีที่มันแปะแทนตัวน้องเอย ดูยังไงก็ไม่ตรงกับที่บรรยายว่ะ นี่หมอก็ใส่เสื้อลายหมีเท็ดดี้แบร์กับยีนส์สกินนี่ขาดๆด้วยนา ถึงจะเป็นหมอเด็กแต่แต่งตัวสบายเกินไปก็ไม่ใช่ป้ะ แถมเจอตรั้งแรกมีวิ่งเข้าไปหอมแก้มด้วยนะมึง เอาเข้าไป 555 หรือมารักษาตอนนี้เพราะจะได้เยกันสะดวกๆ ไม่ต้องถูกหาว่าเอาเปรียบคนป่วยมั้ง ก๊าก
>>120 หมอแต่งตัวนี่กูยังพอถูไถว่าหมอคงอยากสร้างความคุ้นเคยกับเด็กเลยไม่แต่งเต็มยศมา เพราะเด็กกลัวหมอ แต่วิ่งมาหอมแก้มนี่เข้าข่ายลวมลามเปล่าวะ เพิ่งเจอกันครั้งแรกนะมึง ถ้าเด็มซ่ามันลดอายุน้องเอยเป็นเด็ก 7-9 ขวบ ก็ไม่มีอะไรให้ติมากหรอกว่ะ แต่นี่วัยรุ่นจะสิบห้าแล้วมันเลยมีจุดให้ติโผล่มาพรึ่บ โอเค คนป่วยจิตเภทจะทำตัวเหมือนเด็กๆ เพราะสมองไม่โตตามวัยก็ถูก แต่มึงบรรยายซะกูนึกว่าร่างกายก็แคระผิดปกติไปด้วย ผู้หญิงผลักล้มได้สบาย นั่งตักผู้ชายเล่นชิงช้าแกว่งไปมา บลาๆ สมมุติว่าน้องเอยสูงประมาณ 130-150 ซึ่งถ้าสมองผิดปกติจนกลายเป็นจิตเภทแต่ร่างกายก็น่าจะสูงได้ประมาณนี้ว่ะ ยิ่งมีพี่เป็นนักธุรกิจกินดีอยู่ดีอาจจะสูงมากกว่านี้ก็ได้ ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นไปได้เลยที่จะถูกผู้หญิงผลักล้มได้ง่ายๆ (อายุจะสิบห้าก็วัยรุ่นแล้วนะ เด็กผู้ชายมันก็มีแรงเยอะนะว้อย) และต่อให้ไปนั่งตักผู้ชายที่สูงกว่าแต่ก็ไม่น่าแกว่งชิงช้าไปมาได้เสมือนเป็นเด็กประถมต้น เว้นแต่มึงจะไปนั่งม้านั่งแบบโยกได้ที่มีพื้นที่กว้างกว่าหน่อย แต่นี่ชิงช้าทั่วไปในสนามเด็กเล่นที่เป็นแผ่นเล็กไม่กี่คืบ ผู้ชายสองคนจะนั่งซ้อนกันมันน่าจะหักตั้งแต่ตอนขยับเท้ายันพื้นแล้วล่ะ จะหาฉากโรแมนติกก็ดูสภาพแวดล้อมและวัตถุรอบตัวไปด้วยสิโว้ย
สับเยอะไปเปล่าวะ? นิยายเด็มซ่าเรื่องนี้กูรู้จักเพราะโม่งมาแปะและกูหยุดอ่านบทที่สามเพราะรู้สึกว่ามันมีอะไรหลายอย่างที่ง่อยมาก แต่พอเห็นพวกมึงกลับมาคุยอีกครั้งเลยกลับไปอ่านถึงตอนล่าสุด เห็นถึงความวิบัติหลายอย่างเลยว่ะ
มึงๆ เรื่องลอสของกัลสนุกป่าววะกูถามหน่อยกูไม่เคยอ่านเห็นรีวิวในเด็กดวกว่าดี แต่กูยังเข็ดกับเซวีอยู่เลยไม่กล้าซื้อ ใครใจดีรีวิวให้กูหน่อย
>>124 เรื่องลอสกูอ่านแค่บทแรกบทเดียว(ในเน็ต) ก็จบเลย ตัดฉากไปมาได้น่าปวดกบาลมาก แล้วไม่สมเหตุสมผลในหลายๆ เรื่อง เท่าที่อ่านรีวิวจากหลายๆ เจ้า นางเอกเป็นเด็กกำพร้า แต่เก่งฉลาดถึงขนาดเล่นฟิสิกแปรธาตุแยกสารได้ แต่แค่ถูกใส่ความว่าโกงข้อสอบเลยต้องเป็นเด็กแยกขยะเรียนต่อไม่ได้ คืออายุแค่สิบหกแต่เก่งขนาดนั้นมันจะไม่ได้ดีอย่างอื่นเลยเหรอวะ ความรู้ท่วมหัวแต่ทำได้แค่แยกขยะเก็บเงินรอวันออกจากเมืองไป หืม? แค่คนทำผิดจริงคือลูกเศรษฐีเจ้าของโรงงานและบ้านเด็กกำพร้าเลยไม่มีสิทธิหาทางเลือกให้ชีวิตตัวเองดีขึ้นในรูปแบบอื่นรึไง ถ้าไม่รู้ว่าคนเขียนคือกัลฐิดา กูจะนึกว่าผลงานเด็กมัธยมหัดเขียน
>>131 เออว่ะ ส่วนใหญ่จะพูดแต่เซวีน่ากับบารามอส เสนานี่แทบไม่มีใครพูดถึง กูจำทู้อยากให้นิยายเรื่องไหนเป็นหนังในเด็กดีได้ โอเค บารามอสกับเซวีน่าติดกูก็ไม่อะไร แต่ไอ้เสนา มึงโผล่มาจากไหนวะ ก็ไม่เห็นจะเป็นนิยายที่ต่างจากสองเริ่องแรกตรงไหน จะว่าไปนี่มันรร.เวททั้งสามเรื่องเลยด้วยนี่หว่า
ห่วยกว่าบารามอสกับเซวีน่าก้เสนาธิการ กุเสียดายเงินที่ซื้อตอนเด็กชิบหาย ขนาดตอนนั้นกุเบียวน้ะ กุจำได้เลยไอ้สัสเล่มแรก ที่แม่งคัดเลือกเข้าบ้านเข้าหอซักอย่าง ก๊วนเพื่อนนางเอกแม่งได้บ้านเดียวกันติดทุกคน กุเหวอเลย เวลาต้องไปสืบ สู้กับตัวร้าย แม่งต้องขนก๊วนไปด้วย ตัวละครแม่งมีคู่หมด กุแยกนิสัยไม่ออกว่าใครเป็นใคร นางเอกมามุกปลอมเป็นชาย แปปเดียวพระเอกรุ้ พระเอกเย็นชาน่าเบื่อสัส ภาษาไม่ต้องพูดถึง น้ำเยอะ ไม่สวย แย่
ขอบใจที่รีวิวให้กูได้เข้าใจว่าไม่พัฒนาจากเซวีน่าเลย ส่วนตัวกูนะบารามอสสนุกดีเนื้อเรื่องกับคาแรคเตอร์ใช้ได้(แต่ก็ก็อปคาแรคเตอร์เขามาเยอะเหมือนกัน)ชอบการสอดแทรกข้อคิดของบารามอสดีแต่ก็ยอมรับว่ายังไม่ดีที่สุด เซวีน่ากูไม่มีไรจะชมนอกจากบรรยายละเอียดดี นอกนั้นก็เหี้ยมากทั้งคาแรคเตอร์ ความแมรี่ซู เนื้อเรื่อง คือทุกอย่างเลวหมดจนกูเสียใจที่กวาดที่เดียวสามเล่มตอนมันออกใหม่ๆแม่งอ่านไม่ถึงเล่มสามกูก็ไม่มีใจจะอ่านแล้ว กูเห็นในเด็กดวกมันพูดเหมือนลอสสูงส่งมากไงเลยมาถาม ส่วนเสนาธิการอะไรนั่นบอกตรงๆว่าไม่ได้อ่านกูเห็นมันแปลงจากหญิงเป็นชายก็รู้แล้วว่าไม่น่าสนุก แต่กูก้พลาดอีกรอบโดยการวื้อคิลเลอร์ปริ๊นเซส 555
>>135 บารามอส กูว่ายัดคำคมข้อคิดเยอะไปว่ะ อ่านเล่มหลังๆแล้วแอบรำคาญแต่ก็ยังโอเคอยู่
เซวีน่า กูอ่านเล่มแรกไม่จบซักที ดีที่ยืมเขามา กูว่าบรรยายละเอียดเกินไปว่ะ 555
เสนาธิการ ได้อ่านเล่มแรกฟรีในห้องสมุดมหาลัย ไม่ประทับใจอะไรเลย ยิ่งเคยอ่านสองเรื่องแรกยิ่งงั้นๆว่ะ พออ่านฆ่าเวลาได้แต่ไม่อ่านก็ไม่เห็นเป็นไร
กูกลับชอบเสนาธิการว่ะ เป็นเรื่องที่กูไม่เกลียดนางเอกมั้ง นิสัยไม่น่ารำคาญ กูเลยชอบ อ่านซ้ำหลายรอบมาก บารามอสตอนเด็กๆคือที่หนึ่ง ส่วนเซวีน่า...กูเพิ่งรู้ว่าคำจำกัดความของตัวละครในเรื่องนี้คือแมรี่ซู ถึงว่าขัดใจกูสัดๆ นางเอกจะเทพไปไหนวะเนี่ย
>>136 สำหรับกูเซวีน่าไม่น่าเรียกว่าตำนานได้บารามอสกูยังไม่เรียกตำนานเลยกูจัดแค่หนังสือดี เซวีน่านี่ไม่มีเหี้ยอะไรเลยตัวละครแบนเนื้อเรื่องแบน กูรำคาญพวกแฟนคลับที่เวลากูวิจารณ์เสือกออกมาดิ้นกัน กูก็แค่พูดไปตามน้ำเอง คำว่าตำนานมันต้องระดับแฮรี่ เดอะลอร์ด นิยายไทยถ้าระดับตำนานกูว่ารุ่นเก๋าๆอ่ะรุ่นใหม่กูยังไม่เจอ
>>137 ถ้าสนุกเดี๋ยวกูลองหามาอ่านเสนาธิการอ่ะ กูเกลียดเฟมีลเหี้ยๆดูก็รู้ว่าพยายามก็อปคาแรคเตอร์เฟรินมาอีลีโอก็คาโลมาเลย แต่ที่น่าเสียใจคือคาแรคเตอร์เหี้ยกว่าแรบบิทมากจนเกินไป ถ้าบอกว่ากูอวยบารามอสมากกว่าเซวีน่ากูก็ยอมรับเพราะเซวีน่ากากมากสำหรับกูแต่ที่กากกว่าเซวีน่าคือคิลเลอร์ปริ๊นเซส
บารามอสกูเคยตามอ่านอยู่นะ หนุกดีช่วงแรกๆ แต่เล่มสุดท้ายกูมึนชิบหาย เนื้อเรื่องแม่งวนเวียนไปมาหรือสมองกูไม่ถึงก็ไม่แน่ใจ บางครั้งตัวละครแม่งพูดกันเอง4-5คนไม่บอกกูเลยว่าใครพูด กูนี่ต้องใช้สมองชิบหายกับการคัดกรองว่าใครพูดประโยคไหน จากเมื่อก่อนติดๆเรื่องนี้ กูเจอเล่มสุดท้ายกูยอมเลย หลังจากนั้นก็ไปอ่านแมรี่ซูแก้เครียด ใช้สมองเยอะเกิน
ไม่ชอบการแบ่งหมวดนิยายในเด็กดีว่ะมึง กูว่านิยายเรื่องนึงมันมีหลายมิติปะวะ จะมาติดป้ายมันว่า สอบสวน แฟนตาซี อะไรงี้แม่งตลกอะ
อย่าง star wars งี้ แม่งไม่ใช่ไซไฟแน่ๆ เอาให้ใกล้เคียงที่สุดคือแฟนตาซีไซไฟ แล้วมันควรจะไปอยู่ไหน
กูว่ามันควรยกเลิกหมวดนิยายแล้วไปเน้นพัฒนาระบบ tag เอา ใครอยากติด tag อะไรติดไปตามนั้นเลย
>>139 นางเอกเป็นเจ้าหญิง พอเชื้อพระวงศ์ถูกลอบฆ่านางเลยต้องหนีไปอยู่กับพ่อทูนหัว ปลอมตัวเป็นนักฆ่าฝึกฝีมือ ต่อมาได้งานต้องไปเป็นองค์รักษ์พิทักษ์เจ้าชายในโรงเรียนโดยใส่แหวนเวทปลอมตัวเป็นผู้ชาย แล้วเจอความเรื่องขีดสายเลือด บลาๆ โดยรวมเหมือนได้ 'แรงบันดาลใจ' จากเรื่องบารามอสผสมกับนารูโตะว่ะ(ฮา) มีสองเล่มจบนะ
ระบบติด tag มันไม่ค่อยมีคนใช้ป่ะ ?
บางเรื่องก็ไม่ได้ใส่ tag อะไรเลย
>>138 กู 137 นะ อยากให้มึงลองเปิดใจดู อ่านแค่เล่มแรกก็ได้ ไม่ชอบไม่เป็นไร แต่กูโอเคกับเสนาฯมากกว่าเซวีน่าล้านเท่า เสนาฯนางเอกเก่งก็จริงแต่นิสัยไม่รำคาญ มีทำอะไรพลาดตั้งหลายอย่าง แต่ก็สู้ไม่ถอย ชอบเพราะแบบนี้มั้ง ไงถ้าลองแล้วคิดยังไงมาบอกกันบ้างนะ ส่วนที่มึงพูดถึงเซวีน่านั้นกูเห็นด้วยทุกประการ เจ็บปวดว่ะ นิยายที่เคยชอบ กลับมาอ่านตอนโตแล้วรู้สึกเหี้ยมาก
>>152 มันไม่เห็นแปลกเลย มันไม่ได้แต่งนิยายกันเพราะมีไอเดียบรรเจิดหรือพล็อตล้ำ ๆ อะไรหรอก แค่แต่งตามกระแสนิยายดัง ๆ ฉะนั้นมึงอย่าไปหวังอะไรกับพวกนี้มากเลย
พออ่านนิยายพวกยุ่นเยอะ ๆ แล้วกูรู้สึกว่าสุนทรภู่นี่แม่งอย่างล้ำเลยนะ แต่งนิยายโลกแฟนตาซีสาวมอนแถมฮาเร็มตั้งแต่สมัยนู้นเลย
เดี๋ยวนี้นิยายเด็กดีแบบดีๆหายากมากก บางเรื่องดีแต่ไม่ดัง บางเรื่องไม่ดีแต่เจือกดัง กูเจอเรื่องตรงแนวกูทีนี่แทบจะปิดซอยเลี้ยง แม่งหายากชิบ นิยายติดท็อปแม่งตัวดีเลย นักเขียนซ้ำๆ ดูไม่มีพัฒนาการเลยว่ะ ได้แต่บ่นอยู่ตรงซอกหลืบ กูบ่นเดี๋ยวติ่งเห่อหมอยแม่งเล่นกูอีก กลัวแล้วความหน้ามืดตามัวนี้
กูไปลองอ่าน Monster Soul มา สำหรับกูภาค1มันสนุกดีนะ คนอื่นว่าไงมั่ง
ตอนนี้เห็นนิยายหมวดแฟนตาซีมีแนวเกิดใหม่ต่างโลกเยอะมากๆ เยอะจนแบบกูไม่รู้จะอ่านเรื่องไหนอ่ะเพื่อนโม่ง คือกูยังไม่เคยอ่านสักเรื่องเลยนะ แต่พอคิดจะลองมันไม่รู้จะเริ่มตรงไหนไง แถมกูไม่อ่านแนวเกมออนไลน์ด้วย ถ้าเพื่อนโม่งคนไหนมีเรื่องแนวเกิดใหม่ต่างโลกที่เจ๋งจริงอยากบอกต่อ ก็ลองแนะนำมาได้นะ อยากลอง อยากเลิกอคติ แต่เลือกไม่ถูกจริงๆ ละลานตาเกิ๊น
ปล.กูคือ 137 และ 151 แหละ
>>160 กูยังไม่อ่านเหมือนกันแนวออนไลน์ แนวต่างโลก แนวจีนอะไรนี่กูก็ยังไม่ได้อ่าน สรุปคือกูไม่ค่อยได้ตามเลยนิยายกระแสของไทย ช่วงนี้ไปดูของนอกด้วยความเบื่อ แฟนคลับน่ารำคาญแล้วนักเขียนที่ไม่ฟังความเห็นคนอ่านเลยน่ารำคาญกว่าขั้นสุด
>>156 กูมองว่าถ้านักเขียนไม่นำก่อนแฟนคลับไม่ค่อยออกตัวแรงนะพวกแฟนคลับดุๆคือนักเขียนมันดิ้นก่อนลูกหาบเลยตามมาติดๆ กูเกลียดตรรกะทำให้ได้อย่างเขาก่อน ไม่ก็ อิจฉาล่ะสิ คืออีเหี้ยกูไม่ได้ด่าเอามันส์นะกูวิจารณ์เรื่องไหนกูก็บอกออกจะละเอียด บางทีกูก็อยากจะถามว่า บก.เก่งๆก็ไม่ได้เขียนหนังสือได้ดีกว่านักเขียนที่เขาดูต้นฉบับป่าววะ คือความถนัดใครความถนัดมันพวกมึงจะอะไรนักหนาวะ กูเคยเปิดร้านวิจารณ์อยู่ช่วงหนึ่งแล้วใช้ไอดีอื่นเปิดมีนักเขียนนางหนึ่งมาขอให้วิจารณ์ตามปกติกูก็ว่าไปตามน้ำปรากฎว่ากูนี่โดนยับเลย 555 หนักๆเข้าแฟนคลับแม่งบอกตรรกะทำให้ได้อย่างเขาก่อนทำเอากูขึ้นเลย แปะนิยายอัดหน้าแม่งเงียบกริบไม่มีอะไรจะด่ากูเลย แฟนคลับแม่งแค่ไม่เท่าไหร่เสือกวอนนาบี มาขอกูแท้ๆเวร กูแค้นไม่มีอะไรเลยมาบ่น รู้สึกแม่งโดนหยาม
หลายเรื่องเดี๋ยวนี้ได้กลิ่น destruction flag otome จ๋าเลย
>>164 กูเจอสองเรื่องเลยล่ะ คนเขียนย่อยแรงบันดาลใจไม่หมดรึเปล่าวะถึงกลิ่นโชยขนาดนั้น แต่กูว่าอีกหน่อยมันคงเป็นกระแสแน่ๆ จากเกิดใหม่ไปต่างโลกสร้างฮาเร็มสาว กลายเป็นเกิดใหม่เป็นตัวร้ายในเกมสร้างฮาเร็มหนุ่มและสาว มันคือการรวมกันของแนวเกมออนไลน์กับไปเกิดใหม่ในต่างโลกรึเปล่าวะ
>>167 เป็นแนวตัวเอกกลายไปเป็นตัวร้ายในโลกเกมจีบหนุ่ม คือตัวเอกแม่งไม่ได้ไปปักธงกับใครหรอก คนที่ได้รับบทเป็นนางเอกในเกมแม่งไปปักหมดแล้ว ดีที่ว่ายังมีตัวละครฉลาดๆ(น่าจะ)ไปคู่กับตัวเอกกูอยู่ เป็นแนวเสียดสีเกมจีบหนุ่มอะมึง แบบตัวละครที่โดนปักธงจากที่เคยฉลาดชิบหายก็จะความรักบังตา สมองฝ่อทันที
>>162 ตุ๊ดกูเคยตามอ่านตั้งแต่ก่อนออกเล่ม สนุกชิบหาย สนุกสัสๆ สนุกแบบกูยอมตายขายบ้านซื้อ
แต่พออ่านรอบสองมันไม่เหมือนเดิมว่ะ กูเลยสรุปได้ว่า ตุ๊ดฯ มันพล็อตดี แต่ลีลาไม่เด่น เหมาะสำหรับการตามอ่านไม่ตามซื้อ(กูอ่ะนะ)
ตอนหลังๆ เล่มสามกูตามอ่านไม่ทัน เลยไม่ได้อ่านอีกเลย แต่กูชอบองค์ชายแพนด้านะ น่ารักสัส 555
>>162 ทรราชฯ กูก็อ่านอยู่ คันปากมานานละ กูไม่แน่ใจว่าเพราะแปลจากอิ๊งรึเปล่า แต่ภาษาปวดตับชิบหาย บางอันถอดความมาทั้งดุ้นแบบรูปประโยคอิ๊งชัดๆ กูอยากบอกคนแปลมากว่ามึงช่วยเกลาสำนวนให้ค่อนจีนหรือค่อนไทยไปเลยได้ไหม พวกหนังสือแปลฝรั่งยังไม่ขนาดนี้เบย เกลียดสุดคือ ตาสีออบซีเดียน 5555 อีเหี้ย นี่กูอ่านแฟนตาซีตะวันตกอยุ่เหรอวะ ถ้ามึงจะแปลขนาดนี้
โดยตัวเรื่องก็ซูสัดๆ นางเอกเก่งเว่อวังมาก พระเอกก็หลงนางหัวปักหัวปำ ทำเหี้ยอะไรถูกเสมอ สนับสนุนทุกอย่าง หลงเมียยิ่งกว่าเซียวเสา ตกหลุมรักง่ายมาก ตัวร้ายก็ดูกากๆ โง่ๆ ผจญภัยไปเรื่อยๆ อะไรแม่งก็เข้าทางพระนางหมด นางเอกไหนบอกเป็นนักฆ่า กูเหมือนอ่านนิยายแจ่มใสมากกว่า
แต่ก็ช่างเถอะ ถ้าอ่านเอามันสะใจก็พอได้อยู่ ทีสำคัญคืออัพเร็ว กูไม่มีอะไรอ่านยังไปอ่านทรราชได้
บ่นไปบ่นมากูก็อ่านอยู่ดี รีบแปลต่อนะจุ้บๆ กูรออ่าน 555
แนวจีนกูชอบสุดคือ เม่ยกงชิง ความเรียลมากสุดในบรรดาเรื่องแปลในเด็กดีที่กูอ่านอยู่ นางเอกกว่าจะขึ้นจากชาติกำเนิดต่ำต้อยได้คือลำบากจริงจัง ไม่ใช่เจอ ผ. ดี แล้วดึงง่ายๆ นางใช้ความฉลาดค่อยๆ เผยคนอื่นว่ากูฉลาดนะ 5555 แล้วจนยัดดนี้กูบังเดาไม่ออกว่าใครพระเอก ลังเลระหว่างหวังหงกับซุนเยี่ยน กูชอบซุนเยี่ยนมากแต่ดูเหมือนนักเขียนดันหวังหงว่ะ
ติดแค่สำนวนแปลอีกนั่นแหละ บางอันก็งง แต่เรื่องสนุกกูให้อภัย
กูไม่สามารถคุยอะไรกับพวกมึงได้เลยเนื่อจากกูไม่อ่านทั้งแนวต่างโลกและจีน ปาดน้ำตาแปปกูไม่รู้เรื่อง
ถ้ามู้คึกคักขึ้นจะมีหิ้งโม่งแบบห้องLNมั้ย
>>162 มึงกูชอบ Duke's Daughter มากเหมือนกัน กูอ่านอิ้งถึงตอนล่าสุดแล้วชอบนางเอกมากๆเลย แต่กูไม่ชอบทรราชตื๊อรักเลยว่ะ คิดเหมือน >>172 เลย เห็นตาสีออบซีเดียนแล้ว...มองบน กูอ่านไปได้ไม่กี่ตอนก็ขอบายต้นฉบับหกพันกว่าตอนแล้วหนิ ดูท่าทางกูว่าออกทะเลแหงๆ หกพันกว่าตอนยังไม่จบด้วยกูลาล่ะตามอ่านเรื่องอื่นดีกว่า
>>177 กู 162 นะ ดีใจที่หาคนติ่งได้เหมือนกัน กูชอบนางเอกมาก เรื่องนี้มีสิ่งเดียวที่กูไม่อ่านคือข้อมูลเกี่ยวกับบัญชี... สมองน้อยๆกูทำงานหนักเกินไปเลยต้องหาทางผ่อนคลายโดยการเอาเวลาไปแซะยูริ ส่วนทรราชตื๊อรักนี่แม่งหกพันเลยหรอวะ มึงไม่ได้อำกูแน่นะอะไรคนเขียนแม่งจะฟิตขนาดนั้น
ว่างๆ กูมารีวิวนิยายในเด็กดีแบบสั้นดีกว่า
กู180เองนะ กูอ่านเยอะมากในเด็กดี เดี๋ยวกูโพสต์
มาล่ะ
บอกข้อเสียเยอะหน่อยล่ะกัน
แนวเกมออนไลน์
Monster soul online แนวพระเอกเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่พ่ายแพ้พระเอกอีกคน(ต้นเรื่องเป็นคู่แข่ง) เข้ามาเล่นเกมเพื่อชนะสงครามในเกมเพื่อพิสูจน์ฝีมือ ประมาณแข่งเป็นผู้นำสมาพันธ์โดยตัดสินจากสงคราม เรื่องนี้สนุก มีหลายคนการันตี เเนวเรื่องดี กระจายบทก็โอ ข้อเสียคือภาคสองดันเอาบทของเนโรขึ้นก่อน ส่วนมากนักอ่านมักยึดกับตัวละครเอกภาคแรก แต่เขียนบทของเนโรสนุกดีแต่มีคนข้ามเยอะเพราะไม่ใช่ศิลาซะงั้น
Element online เรื่องประมาณ พระเอกมีเหตุให้ต้องเลิกเล่นเกม แล้วผ่านไปสักพักก็กลับมาเล่นเกมแล้วพบว่าตำนานที่สร้างไว้กับเพื่อนๆสมัยก่อนมีคนมาสวมรอยอ้างชื่อ. ดำเนินเรื่องใช้ได้อยู่ แต่พระเอกแม่งเก่งเว่อไปบทปูมาฝ่ายพระเอกเยอะไป ลดความเก่งพระเอกเยอะๆเถอะ แนวแมรี่ซู แถมแต่ละเรื่องที่คนเขียนคนนี้แต่งทุกพระเอกเก่งสัสๆ เปลี่ยนไสตล์บ้าง เหมาะสำหรับผู้ที่อ่านแนวแมรี่ซู
How to be game idol แนวเรื่องแปลกน่าสนใจ เกี่ยวกับตัวละครในเกมค่างเกมมาเจอกันมาเเข่งกัน พระเอกเป็นตัวละครจากเกมพิกเซล ปะทะกับเกมรุ่นปัจจุบัน. แต่พล๊อตโหว่สิ้นดี ให้เหตุผลว่าเกี่ยวกับทำไมยังไงกับเกมไอดอลและเกมอะคาเดมี่ไม่ดีพอ ไม่เข้าเลย เอาแต่เซอวิสสายวายมากไป สำหรับผู้อ่านสายไม่คิดอะไรมากกับสายจิ้นวาย
แนวแฟนตาซี
ดุจตะวันกับซาตาน. นางเอกไปโลกปีศาจไปเรียนหนังสือแต่บังเอิญไปช่วยซาตาน เรื่องนี้อวยนางเอกมากสัสๆ. จะโชว์ความฉลาดก็ให้ดูฉลาดมีชั้นเชิงหน่อยดิ. เรื่องค่อนข้างเรียบๆแต่ก็น่าอ่าน(อย่าเผลอไปซื้อแล้วไม่จ่ายคนเขียนทวงแบบหน้าเงิน) เหมาะสำหรับผู้ที่อ่านแมรี่ซู กับอ่านแบบไม่คิดอะไรมาก ไม่ต้องอ่านก็ได้
I am ex demon king พระเอกคือจอมมารกลับมาเกิดแล้วติดคำสาปทำให้อ่อนแอ ไม่เก่ง ไม่ฉลาดซวยทุกวัน ประสบอุบัติเหตุทุกครา เรื่องนี้สนุกครบรส แต่งบทของรัสเซลล์จากธรรมดามาเป็นเอ็นดู ความนิยมพุ่งในบทลูกมากกว่าบทครู เล่าความรักของตัวเอกได้ผูกพันและลึกซึ้ง ลูกน้องก็ใช่ว่าพอเป็นพระเอกของเรื่องก็เขียนบทจงรักภักดีน่ามืดตามัว แต่เขียนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความซื่อสัตย์. ข้อเสีย โดนตัดเล่ม ทำให้บางปริศนาของตัวละครเล่าแบบรัดๆ บางอันถูกยกไปไว้ในช่วงพิเศษที่คนเขียนไม่ได้ลง จนภาคต่อมาเล่าแบบรวบๆ
War มหาลัยการสงคราม. แนวพระเอกเข้าไปเรียนมหาลัยวอร์ ที่สอนเกี่ยวกับสงคราม เอาเทพนิยายปนกันไปทั้งนอร์ส กรีก ญี่ปุ่น คริสต์ อียิปต์ เวทมนต์ พลังจิต ปีศาจ เทพ กับ เทคโนโลยี เครื่องบินรบอะไรเทือกนี้. เรื่องนี้บริหารจัดการฮาเร็มได้เยี่ยม ใช่อยู่ดีๆจะมีสาวมาหลงตัวเอก แต่ละคนล้วนมีเหคุการณ์ผูกพันกับพระเอกจนก่อเกิดความรัก และใช่ว่าจะรักหลงไปเลย อย่างตอนที่เหล่าสาวๆรู้ว่าพระเอกมีอาเธน่าเป็นไอดอล และปลื้ม พวกนางไม่พอใจ จนไปเชือดพระเอกแล้วบอกความรู้สึกราวๆ ก็รู้ว่าฮาเร็มคงไม่หยุดที่จำนวนแค่นี้ อุส่าห์เตรียมใจไว้ แต่ก็ใช่ว่าจะพอใจที่ผู้ชายที่ตัวเองรักไปหลงคนอื่น จนพระเอกต้องไปง้อ ต้องไปขอโทษ เหมาะสำหรับสายฮาเร็ม สายต่อสู้
Doombringer 5th พระเอกเป็นลูกผู้สร้างหายนะ เเล้งจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้ตัวเอกคับแค้นใจแล้วเลือกเส้นทางผู้สร้างหายนะเรื่องนี้ก็ใช้ได้ แต่สกิลการค้างไม่มากเท่าไหร่ เนื้อเรื่องไม่ดึงดูด ดูธรรมดาไป เหมาะสำหรับผู้ที่อยากอ่านพระเอกจะเป็นตัวร้าย แล้ววางแผนเพื่อเป็นผู้สร้างหายนะ
อวาลอน พระเอกคิดว่าตัวเองเป็นมนุษย์แล้วถูกจับโยนเข้าโรงเรียนปีศาจ ไปๆมาๆก็เป็นครึ่งปีศาจครึ่งเทพ ข้อเสีย กระจายบทสาวๆไม่ดีพอควร สกิลก่อสงครามกองอวยต้องพัฒนาให้มากกว่านี้ เนื้อเรื่องกำลังเข้าบทแมรี่ซู ไม่ต้องคิดอะไรมากถ้าจะอ่านเรื่องนี้
กูพิมพ์ยาวสัสๆ ทั้งที่บอกว่าสั้นแท้ๆ ผิดตรงไหนแก้ด้วยเน้อ
เท่าที่อ่านเหมือนI am ex demon kingนี่จะข้อเสียน้อยสุดนะแหม่ ต้องบอกว่านั่นนับเป็นข้อเสียด้วยเหรอ 555
กูเคยอ่านแค่ I am ex demon king แต่อ่านได้แค่ 20+ ตอนนะ จำได้ว่าตอนแรกชอบมากเพราะปูบทมาดีทุกตัว แต่อ่านไปถึงยี่สิบกว่าตอนนั้นก็ยังแค่ปูบท แล้วพระนางก็หวานจนขนลุก รักกันตามกันมาเป็นชาติ กูหยุดอ่านไปเพราะทนความเลี่ยนของนางเอกไม่ไหว มึงจะรักอะไรกันนักหนา แดกกันเลยซิแดก! อาจจะเพราะแสดงความผูกพันก่อนที่กูจะซาบซึ้งกว่าก่อนหน้านั้นพวกมึงผ่านอะไรกันมาก่อน กูเลยขนลุก ถ้าชอบแนวรักแฟนตาซีมันก็โอเคนะ แต่กูมันสายแฟนตาซีมากกว่ารักเลยไปไม่รอด หมั่นไส้พระเอกด้วยไม่รุ้จะง่อยไปไหน เข้าใจว่าต้องค่อยๆ โตชะ แต่บางทีก็ง่อยไป แต่เรื่องนี้ลูกหาบเค้าเยอะนะ น่าเสียดายสถาพรไม่น่าตัดเล่มจบ มันน่าจะขายได้ในความเห็นกู
ดุจตะวัน คนเขียนชอบอวยนางเอกมาก ขำมาก เสนออะไรง่อยๆ ง่ายๆ ทุกคนก็หันไปมองแล้วชมในใจว่าฉลาด เก่ง บลาๆ สัส ขำมาก
สำหรับกู เรื่องนี้คือฟิคคิวบิกชัดๆ จอมมารหลินหลานเซ่อ กับหนูนาคภาคยั่วยวน
สำนวนธรรมดาค่อนแย่ เรื่องนี้กูจัดให้ low grade สุดในบรรดาท็อปแล้วว่ะ
มีใครเคยอ่าน Agricola ไปทำฟาร์มที่ต่างโลก บ้างไหม
เดี๋ยวจะหาว่ากูเอาแต่ด่า 5555+ มาๆ กูอวยบ้าง
สลับรักพรรคมารอลเวง ผ่านพิจารณากับ สนพ. อรุณแล้ว แต่ไม่รู้จะได้ออกชาติไหน กูรอมาก็นานแล้วนะเนี่ย!
แนวจีนโบราณ นางเอกเป็นคุณหนูคู่หมั้นรัชทายาท ถูกถอนหมั้นอับอายเลยไปโดดน้ำตาย ปรากฎว่าวิญญาณหลุดไปเจอหญิงสาวอีกคนพอดี ต่างคนต่างมีทุกข์ แล้วก็ตกลงสลับร่างกัน มารู้อีกทีคือหญิงอีกคนนั้นเป็นนางมารอันดับหนึ่งในยุทธภพ นางเอกมีร่างกายพื้นฐานวรยุทธแต่เสือกใช้ไม่เป็น กระทั่งกลับไปที่พรรคเจอกำแพงยังกระโดดข้ามไม่ได้(คนในพรรคขั้นต่ำสุดยังข้ามได้) ลูกพรรคก็ไม่ธรรมดา ตัวละครฮาสัสๆ ตั้งแต่ทูตซ้ายคลั่งประมุข คุณชายไป๋พรรคธรรมะที่ซื่อบื้อมาก ไปจนถึงหมอเทวดาขี้บ่น 555 เดินเรื่องดี สำนวนดี ตลกดี เรื่องนี้กูอวยสุดใจ
>>178 >>179 กู177เอง ไปเช็คมาเมื่อกี๊ อิ้ง สี่ร้อยสิบสองตอน ต้นฉบับเว็บจีนหกพันเจ็ดร้อยสิบตอน
ด้วยความที่ตอนนึงมันสั้น? กูอ่านไปหน่อยเดียวเอง ก่อนอ่านไปเช็คมาว่ามันจบยังพอเห็นจำนวนตอนก็ลาก่อนนะ เรื่องนี้ทำให้กูนึกถึงชายาสะท้านแผ่นดินที่กูอ่านจบไปเล่มเดียวจากสิบกว่าเล่ม...
179 กูเชียร์ไอริส ให้ช่วยกู้ประเทศไม่ก็สร้างประเทศใหม่เลย ส่วนยูริถ้าแกล้งโง่จริงๆจะน่ากลัวมาก กูกำลังรอพระเอกประกาศตัวอยู่ ถึงตอนนี้จะคิดว่ารู้ว่าเป็นใครแล้ว คู่กับนางเอกไปช่วยกันสับเอ็ดกับยูริ 555
>>190 มึงกูก็อวยเรื่องนี้มากฮาจริงๆ พยายามอ่านช้าๆไม่ให้ทันตอนล่าสุดอยู่ ออกเป็นเล่มเมื่อไหร่จะรีบสอยเลยชอบมาก รู้สึกคนที่ปกติที่สุดในเรื่องจะเป็นหมอเทวดานะ
ขอถามเพื่อนโม่งหน่อย
เดี๋ยวนี้กระแสนิยายเปลี่ยนไปรึป่าว แทนที่จะมุ่งตีพิมพ์ สนพ.ก็ออกหนังสือใหม่น้อย กลายเป็นเขียนออนไลน์ให้ตรงใจนักอ่าน แล้วขายแบบเด็กดีหรือEbook พอกระแสดีหน่อยก็ค่อยพิมพ์มือเอง นิยายเลยคุณภาพไม่ต้องมาก ขอแค่โดนนักอ่าน
คือกูดูจากยอดขายในเด็กดี เรื่องของนกฮูกกับเมริวค่อนข้างธรรมดาถึงแย่ นิยายรักของเนตรภัคตรานี่ไม่ไหวเลยแย่มาก คุณภาพต่ำแต่คนซื้ออ่านเพียบ
สมมติกูจะเขียนนิยายเพื่อเล็งเป้าลูกค้าออนไลน์ต้องทำไงดีอ่ะ กูส่องมาพักนึงล่ะบางเรื่องเขียนดีขายไม่ออก เรื่องห่วยๆแต่ขายดี กูควรจับจุดไหนยังไงดี ข้าน้อยขอคำแนะนำด้วยเถอะ
>>195 ค่าตอบแทนต่างกันเยอะนะเพื่อนโม่ง สนพ.ได้เงินก้อน พอหมดสัญญา 5 ปี ก็เอามาลงขายออนไลน์ หรือตีพิมพ์เองได้อีก ขณะที่สายออนไลน์มันขายเรื่อยๆ ยกเว้นว่าแฟนคลับเยอะสัสๆ ของนกฮูกกับเมริวกูไม่รุ้นะ แต่เคยแวะไปดูงานเนตรภัคตรา นางไม่ได้มีแฟนคลับมาก่อนแบบนกฮูก และงานนางแย่มากถึงมากที่สุด แต่ที่ขายได้กูคิดว่า นางโปรโมทหนัก หนักมาก แชร์ลงเฟซบุ๊กตามกรุ๊ปต่างๆ แล้วแคปชั่นก็ดึงจุดขายหลายจุด เช่น ฉากเรท บทคำพูดที่พระเอกขอมีเซ็กซ์กับสาวบริสุทธิ์(คือนางเอก) ส่วนนี้ดึงป้าๆ อยากอ่านเรทมาได้ ไม่รู้มีจริงมั้ยแต่เรียกว่าขุดบ่อล่อปลา และอีกส่วนนางก็บอกกลายๆ ว่าเป็นแฟนฟิคกระทู้พันทิป ตุ๊ดไปเกณฑ์ทหาร ทำให้ดึงแฟนคลับจากพวกนั้นมาได้ กูเองก็ตามเข้าไปอ่านเพราะกูชอบพี่ตุ๊ดภัทรว่ะ
กูว่าเรื่องพวกนี้มันอยู่ที่เทคนิคการขายมากกว่าจะเป็นเรื่องเขียนดีเขียนไม่ดี ถ้าเขียนดีแต่โปรโมทไม่ดีมันก็ดับ
เสียดาย Dragon heart ได้ยินว่าดี แต่ปกเหี้ยกูซื้อไม่ลง รอสถาพรลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลก่อนดีกว่า สนพ.พวกนี้แม่งหักหลังกูดีนัก กูไม่ซื้อแม่งละ
>>196 ขอบใจโม่ง งานเนตรภัคตรากูถึงขั้นกุมขมับดันมีคนซื้ออ่านด้วยนะ กูเข้าใจเรื่องค่าตอบแทน แต่ดูเหมือนสนพ.ซบเซาไม่ค่อยอยากเปิดเรื่องใหม่ ไม่มีคนลงทุนนักเขียนใหม่ก็เลือกทำเอง ได้น้อยหน่อยแต่ยังมีโอกาส
Dragon heart กูได้อ่านก่อนตีพิมพ์ สำนวนดีแต่ไม่ใช่แนว มันไม่ไปทางใดทางนึงสำหรับกู ปกก็สวยดีทำเป็นลายกระจกโบสถ์ ก็แล้วแต่คนชอบนะ
>>197 มีคนพูดกันว่าเศรษฐกิจซบเซาคนซื้อน้อยลง กูไม่คอ่ยเห็นด้วยว่ะ เพราะพวกทำมืองี้แม่งก็จองกันปกติ ที่มันดูซบเซาเพราะ สนพ. หักหลังลูกค้าบ่อยเกินรึเปล่าวะ เหมือนพอมันลดราคากระหน่ำ กูก็รอตอนมันลดก่อน ราคาปกติไม่ซื้อ รอไปสิ ตอนนี้ทุกที่ลดหมดเลย พวกสนพ. ห้องสมุด ที่เปิดจองแม่งก็ไปได้ดีอยู่ แต่รอดูว่าลูกค้าจะโวยเรื่องมันหักหลังเรื่อง box จนไม่ซื้ออีกป่าว
ปล. กูไม่ชอบลายเส้นงี้ มีคนอวยจนกูพร้อมซื้อแล้ว เจอลายเส้นนี้กูจอด เสียใจว่ะ
>>198 หนังสือเขาค้างสต็อกอยากปล่อย กลายเป็นคนรู้แกวรอซื้อลดราคา เปิดหนังสือใหม่เลยไม่ปังจนไม่กล้าลงทุนมาก มันผิดที่นโยบาย ลดกระหน่ำขนาดนี้เป็นใครก็เฟลจะรีบซื้อให้ช้ำใจทำไม กูก็ชอบของลดพวกเล่มใหม่ถ้าอยากอ่านมากจะไปหยิบชาวบ้านก่อน
สรุป อยากจับลูกค้าออนไลน์ต้องมั่นโฆษณาโปรโมทให้เยอะสินะ จับตลาดแล้วล่อหลอกให้ได้
มันซบเซาเพราะ สนพ. จับกลุ่มลูกค้าไม่ตรงจุดเว้ย กูไม่รู้ว่าเขาเรียนการตลาดหรือศึกษาการตลาดกันมาบ้างรึเปล่า
อย่างแรกคือนิยายแฟนตาซีไทยเนี่ยมันมีสินค้าทดแทนกันได้(แถมดีกว่าด้วย) คือ LN แปล
นิยายแฟนตาซีไทย เอาจริงๆคุณภาพไม่ได้ดีกว่า LN แปล ของญี่ปุ่นเลย (มีดีกว่าห่วยกว่าคละๆกันไป แต่เรื่องแปลดังๆส่วนใหญ่จะดีกว่า)
กลุ่มผู้อ่าน ส่วนใหญ่ก็เป็นนักเรียนนักศึกษา ซึ่งไม่ได้มีเงินถุงเงินถังที่ไหน ให้เป็นคนวัยทำงานก็ใช้ว่าจะจ่ายได้ไม่อั้น
พวก LN ขายอยู่เล่มละ 120-160 (ยกเว้นของ DEX ที่ทำเล่มใหญ่) ซึ่งเป็นราคาในระดับที่เหมาะสมกับคุณภาพและกำลังซื้อของผู้อ่าน
แต่นิยายไทยกูเห็น สนพ. ไหนๆแม่งก็ทำออกมาเล่มละ 300++ คือนิยาย DEX ยังไม่แพงขนาดนี้เลย
แล้วคุณภาพมันก็ไม่ได้ดีกว่าเรื่องดังๆของญี่ปุ่นด้วยนะ กลายเป็นว่าคุณภาพก็ต่ำกว่า แถมราคาแพงกว่า
ต่อให้คุณภาพเท่า หรือดีกว่านิดหน่อย แต่ราคาแบบนี้ ฐานลูกค้าซึ่งเป็นกลุ่มเยาวชนก็ซื้อลำบากว่ะ
แปลว่านิยายแฟนตาซีไทยเนี่ยด้อยกว่า LN แปลที่เป็นคู่แข่งทั้งด้านคุณภาพและราคา
เมื่อแพ้คู่แข่งทุกประตูแบบนี้ ยอดขายมันก็ต้องห่วยแหละ
คือวงการนิยายหรือ LN น่ะไม่ได้ซบเซา แต่นิยายไทยน่ะซบเซา เพราะ สนพ. ไม่ยอมปรับตัว
กูก็ไม่รู้ว่าเขายึดติดอะไรกันอยู่นะ ถึงต้องทำนิยายเล่มละ 300+ เท่านั้นมาขาย
แต่ถ้าไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างก็ไม่มีทางแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก LN แปลได้หรอก
>>201 กูว่ามันเป็นเรื่องนึงที่ควรพิจารณานะ
คืออย่างที่บอกว่า LN แปลคือคู่แข่งตัวสำคัญของนิยายแฟนตาซีไทย
หนังสือสองอย่างนี้ใช้ฐานลูกค้าร่วมกันอยู่ ก็ต้องแย่งส่วนแบ่งตลาดกัน
ในเรื่องเนื้อหา กุว่านิยายไทยหลายเรื่องพอสู้เขาได้
แต่เรื่องการโปรโมท ไม่ต้องพูดถึง เพราะ LN แปลได้มังกะได้อนิเม หรือกระแสแฟนอวยดั้งเดิมมาช่วยหนุน
ส่วนของไทยนี่แค่ดังในเว็บหรือในกลุ่มซอกหลืบ เทียบกันไม่ได้เลย
แล้วลงมาถึงราคา 300 กับ 150 อันไหนคิดว่าเด็กและเยาวชนจะตัดสินใจซื้อง่ายกว่าล่ะ
ส่วนตัวกูคิดว่านิยายไทยโดยเฉพาะหมวดแฟนตาซีควรออกเป็น LN เล่มเล็กมาแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก LN ญี่ปุ่น
เอาจริงๆควรพยายามดั๊มพ์ราคาให้ต่ำกว่าเขาด้วยซ้ำ
ไม่ใช่พยายามคงระดับความหรูอยู่ที่ 300+ ไว้ขายเทพยดา แล้วก็มาบ่นว่าตลาดซบเซาขายไม่ออก
กำลังซื้อมันยังมีอยู่ ยอดขายงานหนังสือรอบที่ผ่านมาก็ยืนยันได้ แค่ต้องตีโจทย์ให้แตกว่าทำยังไงลูกค้ากลุ่มนี้ถึงจะหันมาซื้อเท่านั้นเอง
>>204 ลองอ่านดูจิ อิอิ
>>202 กูไม่ได้ว่าอะไรนะ แต่กำลังคิดเหมือนกัน บางทีช่วงนึงที่เอนเธอร์ขายได้เยอะเพราะราคาเล่มบางๆ ประมาณเล่มละ 140 เอง เดี๋ยวนี้เอนเธอร์ก็ออกแบบนั้น ขณะที่สถาพรยังออกเล่ม 200+ เหมือนเดิม แบบนี้ใช้ได้ในแง่ สนพ. แต่กูกำลังคิดถึงกรณีที่ออกทำมือเองด้วยว่าจะเล่มเล็กหรือใหญ่ดี ส่วนตัวคิดว่านักอ่านหลายคนชอบหนาๆ ไปเลยว่ะ ในเมื่อทำมือต้องจับลูกค้ากลุ่มที่ซื้อแน่นอนไม่ใช่ลูกค้าทดลองอ่าน พวกมึงว่าไงบ้างอ่ะ
กูไม่คิดเลยว่าจะมี สนพ. พิจารณานิยายแบบนั้น
>>214 นิยายนางเน้นเบาสมองรักกุ๊กกิ๊ก หลายจุดเลยไม่ค่อยสมจริงอ่านแล้วไม่มีความรู้สึกอิน แต่ยอมรับว่านางมั่นจนได้ดี ขยันในเรื่องทำฐานลูกค้า ตอนนี้อยากรู้มากสนพ.ไหนที่กล้าลงทุนกับนิยายนาง เป็นรูปเล่มไม่มีภาพประกอบที่หาจากในเน็ตช่วยด้วยนะ ต้องแก้ทั้งเรื่องเหมือนเขียนใหม่แน่ๆ
>>218 อ่ะ เอาไปเรื่องนึงเป็นตัวอย่าง
http://my.dek-d.com/chinchang22/writer/view.php?id=1336538
>>220 บทแรกๆ ก็ปกติดีนะ แต่พอเข้าบทสองเจอร่างบางร่างหนา คิ้วโก่งจมูกโด่งและบรรยายความคิดหมาอีก กูนี่ปิดเลย
แต่เรื่องนี้กูว่าหนักกว่า ใช้มุมมองที่ 1 กับ 3 สลับกันมั่วไปหมด แถมยังมีบรรยายซ้ำซ้อนอีกด้วย
http://writer.dek-d.com/thekorn12345/story/view.php?id=1414484
>>222 เรื่องนี้เคยเปิดอ่านเมื่อนานแล้ว รู้เลยว่าลอกพลอตไลท์โนเวลทีมีคนแปลลงในเว็บ สงสัยโดนคนท้วงไปเยอะเลยเพิ่งมาเขียน ปล. ว่าได้แรงบันดาลใจอะนะ
แต่กุสงสัยจริงๆ ว่าทำไมไอ้นิยายแนวพระเอกเทพเว่อ ฮาเร็ม ตบเทพ ทั้งที่ออกมาจนเกร่อขนาดนี้แล้วยังมีคนแห่เข้าไปอ่านอยู่ได้
เนตรอะไรนั่นทำการตลาดยังไงวะ สอนกูทีเผื่อกูทำมั่ง
ใครเคยอ่าน เอริกะ บ้างวะ ที่ออกกับ สนพ.อรุณ รีวิวหน่อย
ว่าแต่เอริกะนี่คนไทยเขียนธีมยุ่นเหรอ ผ่านมั้ยวะ
ฮัลโหล พวกมึงไม่มีไรให้เสือกแล้วเหรอ
กูอยากถกเรื่องพลังงานบางอย่างที่ทำให้เรื่องง่อยๆขึ้นท็อป กูไม่ได้อะไรกะนิยายติดท็อปนะ แต่มันน่าสงสัยอย่างที่บอกใน>>96
แล้วก็ไม่ได้คิดว่าเจ้าของนิยายแม่งทำ บางเรื่องคนเขียนเกรียนสัสแทบไม่ได้สนอันดับ กูเลยคิดว่ายอดวิวเด็กดีมีปัญหารึป่าว
ไอ้นิยายกากขึ้นท็อป ส่วนนึงมันคนอ่านเยอะจริงๆแต่ระบบรวนด้วยรึป่าว แบบเข้าเยอะจนยอดวิวพัง เลขแม่งเลยขึ้นเว่อร์วังมาก
กูแค่ตั้งข้อสันนิษฐาน มันจะกลายเป็นว่าเขียนนิยายต้องรีบปั่นยอดให้ได้แล้วถึงติดลมบน นิยายเรื่องอื่นก็อย่าหวังได้ผุดได้เกิด
ของงี้มันไม่น่าเกิดจากปัญหาหรอก แต่เกิดจากความจงใจมากกว่า
เรื่องง่อยไม่ง่อยมันก็เรื่องนึง แต่นิยายเขียนใหม่ จากคนเขียนโนเนม ไม่มีแฟนคลับเดิม จู่ๆพุ่งขึ้น top ได้ มันไม่ใช่ว่ะ
แต่กลุ่มนักอ่านเงาซึ่งเป็นผู้อ่านส่วนใหญ่ของเว็บก็ชอบนิยายตลาดง่อยๆแบบนั้นจริงๆ พอมีแรงส่งขึ้นไปแล้วมันถึงติดลมบนไงล่ะ
อย่างเรื่องนี้ http://writer.dek-d.com/chan3021/story/view.php?id=1450815
ยอดวิวดีดจากหลักร้อยเด้งไปพันห้า http://blogrank.truehits.net/graph.php?id=d0006264.chan3021&blog=http://my.dek-d.com/chan3021&ck=aded86e5588d3f4bc79f1e0267ded61f จนตอนนี้ติดลมบนไปแล้ว
>>241 ที่กูจะบอกคือ มันต้องเป็นแนวตลาดที่นักอ่านเงาชื่นชอบ
แล้วมี "มือลึกลับ" ช่วยดึงขึ้นไปโผล่ top
ซึ่งมันก็ไม่ใช่การถูกหวยอะนะ แต่เป็นการสมคบคิดแหละ
>>>242 เหยด มีการเช็คแบบนี้ได้ด้วย เห็นแบบนี้ยิ่งชัดมากว่ะ
คือการที่คนอ่านต่ำมาตลอด มันก็ต้องอยู่หน้าหลังดิวะ จู่ๆมีคนอ่านเป็นพันในวันเดียว มันเป็นไปไม่ได้หรอกว่ะ
มันต้องมีพลังงานบางอย่างอย่างแน่นอน
อ่อ เขียนห่วยนะไม่ว่าหรอกนะ คนมันไม่อัจฉริยะ แต่มึงมาบอกก็พอใจจะเขียนงี้อ่ะ อยากวิจารณ์ก็ทำไป ไม่ฟังหรอกนี่มันน่าถีบชิบหาย 555
>>242 ยอดวิวแสดงแบบนี้แม่งผิดปรกติจริมๆ จาก 402 อีกวันพุ่งเกือบ 1600 ทั้งที่ก่อนหน้ายอดวิวขึ้นเต็มที่ก็วันละร้อยวิว ยอดแชร์ก็แค่21 แล้วคนมันเห็นจากตรงไหนวะ ถ้าไม่โชคดีหนึ่งในแชร์เป็นเพจดังก็ไม่มีทางแน่ๆ ยอดเด้งพันกว่าโคตรแฟนตาสติก กูสงสัยชิบ
>>251 ไม่ได้พิมพ์หรอกโม่ง เรื่องแม่งเกือบจะเป็นแฟนฟิคแล้ว หยิบความสามารถเรื่องอื่นมาทั้งดุ้น
กูว่านิยายแนวไปเกิดใหม่เป็นตัวร้ายในเกมจีบหนุ่มเริ่มมาแรงแล้วว่ะ แต่ก็เห็นเรื่องหนึ่งเป็นเกมจีบสาว แต่แนวไปเกิดเป็นตัวร้ายเหมือนกัน ไม่ก็ไปเกิดเป็นพี่สาวนางร้าย แต่ก็เริ่มต้นเหมือนๆ กัน นี่คือกระแสนิยายใหม่ในอนาคตอันใกล้รึเปล่าวะ แล้วมันเริ่มมาจากเรื่องบากะรีน่าใช่ปะ /เรื่องพี่สาวกูคุ้นๆ ว่ามาจากนิยายแปลเหมือนกัน แต่นั้นจุดจบครอบครัวล่มจม ที่กูไปเห็นคือน้องสาวตายอนาจไม่ก็บ้า
>>257 http://www.nekopost.net/novel/3302
เอาจริงกูชอบเรื่องนี้ในฐานะฮาเร็มของสาวที่รวบทั้งชายหญิงนะ เป็นจุดที่ตรงสเปกกูเหี้ยๆจนไม่สนอย่างอื่นเลย
แต่ตอนนี้มันมีบากะซัวเถา โผล่มาเป็นสิบๆเรื่องอ่ะดิ 555 เริ่มจากรร.เวท ต่อด้วยเกมออนไลน์ ตอนนี้ก็เป็นตัวร้ายต่างโลกสินะ
โม่งขอถามเป็นวิทยาทานแนวใหม่ที่ว่าเป็นไง เกิดใหม่ตัวร้ายฮาเร็มหญิงชายคืออะไร กูไม่ได้อ่านนิยายแปลช่วยอธิบายรูปแบบมันได้มั้ยเพื่อน มันคือ?
>>262 ขอบใจโม่ง กูเคยเล่นเกมจีบๆเมื่อชาติที่แล้ว ตัวร้ายมันจบบัดซบด้วยหรอวะนึกว่าแค่แห้ว แล้วแนวใหม่เนี่ยเป็นเกมใช่ป่ะ มีค่าสเตตัสพารามิเตอร์จีบสาว/หนุ่มด้วยมั้ย คือกูไม่รู้เรื่องจริงๆ โม่งอ่านแล้วความสนุกแนวนี้มันอยู่ตรงไหนอ่ะ กลับบทบาทเอาตัวร้ายมาเป็นตัวเอกแค่นั้นหรอ?
กูอยากรู้ว่าเรื่องนี้ดีมั้ย เห็นให้สัมภาษณ์ว่าเคยมีคนด่าว่างานขยะ ขึ้นท็อปได้ไงเลยสงสัยน่ะ
http://www.dek-d.com/writer/40523/
ถามหน่อยเพื่อนโม่ง มันมีนิยายสร้างฮาเร็มแบบบากะริน่ามั้ย ที่สาวรวบทั้งหญิงชายอะ
พูดถึงนิยายเกมออนไลน์แล้วกูสงสัยอย่างนึง Zhan Long เนี่ย ถ้าตัดเรื่องที่ว่ามันแปลมาจากจีน แม่งแทบไม่ต่างจากนิยายที่เด็กเห่อหมอยในเด็กดีเขียนเลยว่ะ ทำไมคนอ่านเยอะจังวะ
เออกูสงสัย สรุปว่าไอ้นิยายต่างโลกกับนิยายออนไลน์นี่แม่งใจคอจะต่างกันแค่อันนึงนอนเข้าไปเล่นในเกมที่เป็นโลกจำลอง อีกอันนึงตายไปโลกอื่น นอกนั้นเกรียนเทพเหมือนกันเหรอวะ
กูจำได้ว่าเมื่อสักปีสองีก่อนในบอร์ดแม่งเคยมีดราม่าเรื่องนิยายออนไลน์แต่ไม่ใช่ออนไลน์อะไรนั่นปะ แล้วสรุปอะไรแม่งคือนิยามของคำว่าออนไลน์วะ ถ้าเล่นเกม = ออนไลน์ ถ้ามาถึงแล้วตาย = เกิดใหม่???
>>272 สำหรับกูนะ นิยายออนไลน์คือนิยายที่พระเอกเล่นเกม ผจญภัยในโลกเกม ส่วนต่างโลกก็ตามนั้นเลย ไปผจญภัยในอีกโลกนึง
พอมึงพูดถึงกระทู้นั้นก็ทำให้กูนึกขึ้นมาได้ถึงไอ้นิยายเรื่องนั้นล่ะ คือ จขกท แม่งพยายามบอกว่านิยายมันเป็นแฟนตาซี ไม่ใช่ออนไลน์ คือกูลองไปอ่านดูก็พอเข้าใจแม่งนะ คือก็ก้ำกึ่งๆอะ จะว่าใช่ก็ได้ไม่ใช่ก็ได้ กูอ่านไปได้แค่ 4-5 ตอนเองมั้งเลยไม่รู้ว่าเป็นไงต่อ แต่มันก็เขียนสำนวนดีใช้ได้อะ คือบรรยายสวยกว่าไอ้นิยายออนไลน์ทั่วๆไปเยอะเลย
>>276 เอาใหม่ เมื่อกี้แม่งลั่น กูหมายถึงว่ามันสวยกว่าไงมึง สวยกว่าไอ้งานกากเดนเหมือนเด็กตกภาษาไทยเขียนพวกนั้น ดีกว่าไอ้พวกนิยายออนไลน์ที่ได้พิมพ์หลายเรื่องแน่ๆเท่าที่กูจำได้ แต่พอมึงพูดแบบนี้แล้วเดี๋ยวกูลองกลับไปตั้งใจอ่านแม่งดีกว่า คุ้ยๆดูกระทู้เก่าๆน่าจะเจอนะ
เรื่องไรวะ
โม่งที่บอกว่าจะไล่อ่าน top 100 นิยายเด็กดีมารีวิวอ่านจบไปกี่เรื่องแล้ว 55555555
>>268 เอิ่ม พระเอกเพิ่งเล่นเกมครั้งแรกเลเวลหนึ่งก็เคลียร์ดันเจี้ยนได้เพราะมาตามทางลัดที่พวก GM มันสร้างไว้ ไปยืนอยู่หน้าลาสบอสก็ผ่าน... คือพวก GM มันจะตรวจสอบพลาดได้จริงดิ คนนอนสลบอยู่โคตรใกล้กว่าพวกตีมอนแถมมีแค่คนเดียวมึงไม่รู้จริงดิ นี่มันแย่กว่าพระเอกได้อาชีพหรือสกิลลับหรือของวิเศษในเกมที่คนอื่นเล่นมาเป็นชาติยังไม่เจอ ไอ้นี่เดินมั่วซั่วแป๊ปเดียวเจอ แต่นี่หลงทางมาตามทางลัดแล้วไปเจอลาสบอสก็ผ่าน เอิ่ม...สมควรโดนด่าว่านิยายขยะว่ะ แต่มีดีอย่างตรงสำนวนเขียนมันดีกว่านิยายเกมออนไลน์ส่วนใหญ่หน่อยนึง ที่ขึ้นท็อปได้คงฮาเร็มเก่งเทพดวงดีตามสูตรนั่นแหละ และพระเอกเป็นพวกหน้ามึนไม่รู้สี่รู้แปดอันใดก็ทำให้เรื่องมันฮาๆ ไป
เพื่อนโม่งใครเคยอ่าน soul switch อลวลรักสลับวิญญาณ บ้างรีวิวกันหน่อย
อ่ะเคร นิยายสลับวิญญาณของpie2 บลาๆ อะไรนั้นชะ มันเป็นนิยายวายและกูก็เล็งไว้นานละไม่ได้ซื้อ กูเลยบินไปงานหนังสือแล้วก็ซื้อเล่มนี้ แล้วกูก็อ่าน ไอเชี่ยพีคมากไอ่สัส กูหลงนึกว่าคนที่อยู่หน้าปกคือพระเอกแต่แม่งไม่ใช่ กูโง่เองที่ตัดสินนิยายจากหน้าปก แต่ถ้าไม่นับเนื้อนิยายเรื่องนี้กูให้รีวิวติดลบหว่ะ ผิดหวัง เขียนได้---มาก
สำหรับกูๆคิดว่า เขียนแข็งเหมือนบทละครวะ ส่วนตัวกูไม่ชอบเรื่องการเขียนนะ เนื้อเรื่องก็แย่มากเรียงลำดับเหตุการไม่ค่อยดีด้วยแถมจบแบบอวยๆ ยังกะfanfic
มีใครในนี้ซักคนไปเม้นคห.ล่าสุดในหน้านิยายนางป่ะวะ คห.27น่ะ 555
>>295 {อิพระรองเชี่ย f*ck!!!! เสียใจและเสียตัง น่าจิไปอ่านรีวิวก่อน} ตอนอ่านจบกูคิดแบบนี้นะ พอไปอ่านรีวิวในเว็บเด็กส้มแม่ม
{แวะมาเม้น เรื่องนี้หนุกมากกก อ่านแล้ว พอดีเห็นหน้าปกสวยด้วย เรื่องย่อน่าติดตามด้วยตัดสินใจซื้อที่งานหนังสือเลยพออ่านแล้ว คิดว่า...ดีแล้วที่ซื้อมันมาสนุกสุดๆ}..............
เอ่อ นี่กูควายอยู่คนเดียวสินะ "don't judge the book by its cover"
กูอยากบอกว่านิยายพายอ่ะ5555 มึงไปอ่านเรื่องที่เขาแต่งล่าสุดดิ อี Inncoent รักร้ายเดียงสาอะไรนั่นอ่ะ นั่นเด็กอายุ 14 นะคะ มึง 555555555555
>>304 ไม่มีอะไรมากตุ๊ดเด็กอายุ 14 แอบหลงรักพี่ชายตั้งแต่ตัวเองยังเด็ก แต่โดนพ่อมานอนด้วยเป็นประจำ ติดพ่อมากกว่าแม่ หลัง ๆ ก็แบบรักพ่อกระหนุงกระหนิงกัน มีอะไรกันงู้นงี้งั้น แต่ตัวเองก็มีแฟนนะ 55555 แล้วเหมือนเลิกกันก็ไปยุ่งกับหนุ่มคนใหม่ แต่เรื่องนี้ไม่ได้บอกพ่อนะ 5555555 พี่กลับมาเรียนต่อจากนอก แล้วรู้เรื่องพ่อกับนาง พี่ก็เข้าใจว่านางโดนพ่อบังคับ เปล่าจ้า นางเต็มใจ แล้วล่าสุดนางก็โดนพี่ตัวเองกด นางก็บ่นว่าทำไมไม่เห็นอ่อนโยนแบบพ่อเลยกับตัวเอง
เหมือนพ่อนางไม่ใช่พ่อแท้ ๆ มั้งเป็นเพื่อนแม่ที่แต่งงานกัน และตัดสินใจให้แม่ทำกิ๊ฟท์เด็ก? ราว ๆ นี้
แล้วฝั่งแฟนตาซีล่ะ เป็นไงมั่ง
โอเคพายเราจบกันนะคะ ไอสัสกูเอานิยายของพายส่งคืนสำนักพิมพ์ได้มั้ยหนิแค้นแรง เสียไตเสียตังและเสียตับ So sad guy
ไม่รู้ทำไมแต่กูติดใจประโยคนึงในบทแรกของอีเรื่องสลับวิญญานนี่จัง 555
ตอนไปซื้อน้ำในโรงอาหารนี่แหละ ทำไมต้องกำหนดว่าแม่ค้าชาวมุสลิม คือเป็นตัวประกอบใช้แล้วทิ้งนี่ แค่บอกว่าแม่ค้าก็พอป้ะ หรืออิงจากคนจริงจากมหาลัยที่ตัวเองเรียนอยู่ ก๊าก แล้วรูปประโยคก็เรียงแปลกๆในความคิดกู
"แม่ค้าชาวมุสลิมวางแก้วกาแฟเย็นลงตรงหน้าผมพร้อมกับน้ำเปล่าอีกสองขวด"
สำหรับกูแค่ "แม่ค้าวางแก้วกาแฟเย็นและน้ำเปล่าอีกสองขวดลงตรงหน้าผม" ก็พอมั้ย อึ้ย ขัดใจ 555
พายนี่นามปากกาไรวะ กูจะไปส่องหน่อย หาไม่เจอ
>>314 Pie2Na
https://www.facebook.com/pie2na/?ref=br_rs บิบิ
สารภาพนะ กูไม่คิดว่าเขาจะเบี่ยงมาแต่งนิยายวายได้ขนาดนี้ทั้งที่ตอนแรกออกจะยี้ 5555555
ก็ไม่อะไรมาก เพื่อนกูแนะนำเขาให้กูรุ้จักไงตอนแรกก็คุยกันปกติอ่ะ แต่กูก็บอกว่าเป็นสาววายนะตามประสาเด็กเห่อหมอยโคตร ๆ 55555 เขาก็ดูจะเลี่ยงคุยเรื่องนี้อ่ะ กูก็โอเคไม่อะไรไม่ได้สนิทมาก จนวันหนึ่งเขาก็มาเล่าว่าเออเนี่ย เขามีเพื่อนที่เป็นเกย์ในชีวิตจริงนะเป็นทหารเรือ(ทำไมต้องระบุกูก็ไม่รู้เหมือนกัน)แล้วก็เล่าว่าเวลาทำกับแฟนทำแบบนี้ แบบนั้น บลา บลา บลา ตอนนั้นกูเปิดกูก็เงิบอ่ะ... คือแบบ แง จะดีเหรอวะมาเล่าให้ฟังแบบนี้+คุยกับคนอื่นอยู่ด้วยเลยไม่ได้ต่อความอะไรเขายาวมาก รู้แค่ว่าหลังจากนั้นกูกับเขาคุยกันน้อยลง 55555
จนโผล่มาอีกทีแบบ อ้าว แต่งวายแล้วเหรอ//มองอ่อน
คิดว่าหนังสือเล่มไหนที่ควรซื้อมาอ่านเด็ดขาด. จะทำลิสต์ไปซื้อ
ทุกเรื่องของมาซาลัน ทุกเรื่องของดอกป็อป ทุกเรื่องของกัลธิดา ยุทธภพออนไลน์
กูไปอ่านเรื่อง กับดักหัวใจ พ่าย...ตะวัน? ประมาณนี้ที่ติดท็อปอยู่ ไม่รู้เพราะกูไม่ค่อยได้อ่านแนวนี้ด้วยรึเปล่า แต่พระเอกแดกหญ้าแทนอาหารแน่ๆ ช่วงแรกด่านางเอกแรงมากเพราะชีตามระราน ตบอีหนูพระเอก ซึ่งก็ควรเกลียดว่ะนางทำตัวห่ารากมากจริงๆ แต่วันนึงนางตามไปไล่ตบกิ๊กพระเอกในผับ แล้วพระเอกเสือกโดนวางยา พระเอกก็คิดว่านางเอกแม่งวางยามันแน่ๆ (ทั้งที่มันนั่งแดกกะหญิงอีกนาง?) ก็เลยพานางเอกกลับบ้าน(เพื่อ?)ไปข่มขืน นางเอกก็ยอม เช้ามาพ่อแม่มาดูหนังหน้า ปรากฎว่าเป็นนางเอกที่สนิทกับพ่อพระเอกอยู่แล้วนี่เอง
มันตกลงแต่งงานกันเพราะกลัวนางเอกท้อง ให้เวลาหนึ่งปี กูนี่ปวดหัวเลยคนเขียนแม่งไม่รู้จักยาคุมฉุกเฉินเหรอวะ ไปใส่ห่วงมันก็ไม่ท้องแล้วเว้ยดวก พระเอกแม่งก็เอาด้วยทั้งที่บ่นเกลียดจะเป็นจะตาย ต่อมาอยู่ด้วยกันไม่ทันไรพระเอกก็เมาแล้วเงี่ยนกลับบ้านมาเพื่อจับนางเอกเย็ดอีก เย็ดเสร็จก็โทษว่าอินี่อ่อยกูแน่ๆ กูย้ายหนีดีกว่า นางเอกก็ย้ายตาม -*- พ่อง คนแต่งก็ชมจังว่านางเอกอัจฉริยะ ฉลาดๆๆ ฉลาดพ่อมึงไม่รู้ว่าพระเอกจับเย็ดเสร็จถามรอบเดือนนางทำไม (แต่ต่อมานางก็รู้นะว่าปล่อยท้องไม่ได้เลยแดกยาคุมประจำ เอ้ากูงง)
คาแรกเตอร์เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา นางเอกเดี๋ยวบอบบางเหมือนเป็นโปลิโอ เดี๋ยวเป็นยัยบ้าไล่จิกหัวตบคน พระเอกเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเวียนหัวสัสๆ
ติดท็อปกูพอเข้าใจว่ามันลงตอนเยอะ ลงถี่
แต่กูไม่เข้าใจก็ตรงที่ได้ตีพิมกับชูการ์บีท เมื่อก่อนมันดีกว่านี้ไม่ใช่เหรอ ชูการบีท หนึ่งในเครือสถาพ่อง ไม่น่าจะเหลวแหลกเละเทะแบบนี้นะ
เรื่องนี้? เอามาแปะให้
http://writer.dek-d.com/mali07/story/view.php?id=1435286
ขอถามนิดนะโม่ง
นิยายเกิดใหม่ต่างโลกเนี่ย มีเรื่องไหนจบแล้วบ้าง แล้วมันจบไงอ่ะ กลับโลก ครองโลกใหม่หรือบลาๆ กูลองอ่านนิยายต่างโลกหลายเรื่องเหมือนมันไม่มีธีม แค่ผจญภัยไปเรื่อยๆไร้ทิศทาง บางเรื่องอาจมีเป้าหมายแต่กว่าจะวนกลับเข้าฝั่งก็ออกทะเลไปไกล กูเลยงงว่ามันจบกันยังไง
ในเด็กดีเนี่ย ยังไม่มีเรื่องไหนจบเลยมั้ง แต่ก็คงไม่จบแบบกลับไปโลกเดิมหรอก
ว่าแต่ระบบ top มันรวนรึไงวะ ทำไมนิยายที่มีวิวสามร้อยกว่าถึงติด top 20 ได้ ดูไม่ค่อยถูก
กูไม่เคยอ่านแนวเกิดใหม่ในต่างโลกเลยว่ะ
อ้อ...นับรวมแนวจีนป่ะ 555 แนวจีนก็มีเยอะนะพวกมึง
อย่างซีรีส์เพชรของห้องสมุดก็มีตัวเอกสองตัวหลุดไปจีนโบราณ แล้วก็ได้สะมีที่นั่น อยู่ยาวๆอ่ะ
พวกแนวอยู่ๆหลุดไปต่างโลกอย่างไม่มีที่มาที่ไปส่วนใหญ่ก็จบด้วยมิชชันในโลกนั้นๆว่ะ แต่งผัว ได้บัลลังก์ อะไรก็ว่าไป แฮปปี้มีความสุขแก่ตาย
ที่กูอ่านจบมีแตกต่างหน่อยคือแนวจีน มีเรื่องนึงจบแบบแต่งผัวแฮปปี้แล้วนางเอกก็ตื่น ที่ผ่านมาโลกจีนโบราณนั่นเป็นเกมคลื่นสมองจำลอง นางต้องเล่นเกมจับผัวอีกครั้งในโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งบรรดาผัวคือคนที่โดนจำลองไปไว้ในเกมซึ่งนางเคยตกได้มาแล้ว
ไม่รู้นะ แต่กูเกลียดแนวตื่นจากฝันตอนจบมาก
ที่ผ่านมาคือไร มึงฝันไปแล้วกูอ่านอยู่ชาตินึงเนี่ยนะ
พูดถึงนิยายแนวต่างโลกนี่ สมัยก่อนก็ไปกันแทบจะทุกเรื่องเลยนะโดยเฉพาะนิยายในเด็กดี 5555555555 เอาแบบดังๆ ก็ เซวีน่า นอกนั้นก็ประปรายหาได้ทั่วไป แต่ส่วนมากประเด็นเรื่องต่างโลกจะไม่ค่อยชูเท่าไหร่แต่จะชูเรื่องโรงเรียนเวทมนตร์แทน กูคิดว่าทำได้ดีกว่าสมัยปัจจุบันที่เอะอะก็เอาแต่บอกว่าอยู่ต่างโลก จะทำตัวเหี้ยไร้มารยาท เลวทรามได้แค่ไหนก็ได้ บลา บลา บลา บลา อีกเรื่องที่กูคิดว่าดีก็ซาเทียร่าอ่ะ ที่เคยตีพิมพ์กับอะไรวะ 5555 แล้วเขามีเรื่องกันจนคนแต่งมาพิมพ์เอง
>>356 กูคิดว่าเพราะทุกคนเอาแต่มองว่าเป็นต่างโลกจนลืมมองเรื่ององค์ประกอบอื่น ว่ากันตามตรงมันก็เหมือนธีมนิยายสมัยเก่าฮิตขึ้นมาอีกรอบแต่แค่เปลี่ยนชื่อเรียก กุชอบโรงเรียนเวทมนตร์มากกว่าอีกนะ 55555 ดำเนินเรื่องในโรงเรียนก๊องแก๊งตลกไปวัน ๆ แต่พวกสภาพประวัติความเป็นไปโลกแน่นกว่าพวกที่มาต่างโลกแล้วเดินทางไปทุกเมืองอีก *ตบปาก* อ้อ มีเนื้อเรื่องมากกว่าด้วย
แต่เรื่องไร้มารยาทกุไม่ค่อยชอบว่ะ เหมือนคนแต่งแสดงความต้องการออกมาผ่านงานเลยอ่ะบางที
บังเอิญดีว่ะ นิยายเรื่องใหม่ของเนตรภัค แม่งเล่นเรื่องNarcolepsyหรือโรคลมหลับ กูเพิ่งอ่านมู้ที่แชร์มาจากเฟสในวันที่1
http://www.dek-d.com/board/view/3639757/
นางเอาไปแต่งเป็นเรื่อง ลมรักหลับ นางนี่หยิบอะไรที่ผ่านตามาเขียนรึป่าววะ แต่ยังไงนิยายก็แย่ชิบ เขียนตั้งเยอะไม่พัฒนาขึ้นเลย
http://my.dek-d.com/prince_primnara/writer/view.php?id=1448108 เอานะวันนี้เรามาสับนิยายมาเฟียกันหน่อย วันนี้กูเลือกเรื่องนี้ของอิพริมณาราแล้วกันนะโม่ง บอกก่อนนะว่ากูไม่ได้เป็นม้าแต่อย่างใด ตกลงเลือกเรื่องจากตรงนี้ https://fanboi.ch/netwatch/2614/recent/ เคนะ เดี๋ยวกูขอเวลาอ่านก่อนแปปหนึ่ง
เอาที่สำนวนก่อน เป็นสำนวนพื้นๆ ไม่หวือหวาไม่มีคำอลังการอะไรมาก โดยส่วนตัวกูชอบภาษาที่ไม่ประดิษฐ์มากไปแบบนี้แหละ การใช้รูปประโยคยังทำได้ไม่ดี สังเกตได้จากการใช้คำเชื่อมในประโยคติดๆ โดยเฉพาะคำว่า "ที่" มีติดๆ กันเลยทำให้อ่านแล้วเกิดอาการสะดุดตลอดทาง
คำซ้ำซ้อนมีให้เห็นเป็นระยะ นี่ก็เป็นอีกข้อที่อ่านแล้วสะดุด สังเกตได้จากคำว่า "ปรภพ" ตรงบทนำ ในหนึ่งย่อหน้าใช้ซ้ำบ่อยมาก
การลำดับประโยคไม่ดี วางวลีหรือประโยคขยายไกลจากคำที่ต้องการขยายมากเกินไป เช่น ท่านเจ้าออกปากถามเลขคนสนิทซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าอย่างปลดปลงที่ลูกสาวเพียงคนเดียวนั้นได้หายไปอีกแล้ว >>> "ปลดปลง" จริงๆ ใช้ขยายคำว่า "ถาม" แต่วางไกลมากไกลจนข้ามนามอีกตัว พออ่านแล้วทำให้เกิดความกำกวมว่าจริงๆ ใครกันแน่ที่ปลดปลง ท่านเจ้าหรือเลขา
ลองแก้ดู >>> ท่านเจ้าออกปากถามอย่างปลดปลงกับเลขาคนสนิท เมื่อรู้ว่าลูกสาวเพียงคนเดียวหายออกจากบ้านไปอีกแล้ว
ประมาณนี้
สำหรับกูขี้เกียจอ่านต่อว่ะ ฝีมือมันยังไม่ดีพอให้กูอ่านบทต่อไป ฝีมือมันยังอ่อนหัดมากในสายตากู
โม่งคนอื่นเชิญสับต่อได้
กุกำลังอ่านอยู่ เดะมารีวิวเนื้อเรื่องให้ กุชอบสับเนื้อเรื่องนิยายอยู่แล้ว
//บ่นนิด ทำไมแม่งมีแต่บรรยายว่าคนนู้นหล่ออย่างงู้นอย่างงี้ คนนี้สวยอย่างงู้นอย่างงั้นวะ กุอ่านนิยาย กุเสพเนื้อเรื่องไม่ได้เสพคนหล่อนะว้อย
กู>>368 เด๋วจะหาว่าด่าก่อนอ่าน บทนำก็ตามที่ >>365 บอกแหละ ใช้คำเปลืองหลายจุดพอเขียนไม่ดีก็ยิ่งไม่น่าอ่าน สำนวนไม่สวยไม่ชวนอ่าน
- ความจริงแล้วยมทูตนั้นจะกินหรือไม่กินก็ได้เพราะยมทูตจัดว่าเป็นภูติ คือวิญญาณในรูปแบบหนึ่งไม่จำเป็นต้องกินอะไร หรือตามภาษามนุษย์คืออิ่มทิพย์นั่นเอง และที่กินอยู่นี่คือเพราะอยากกินล้วนๆ -
ประโยคที่โคตรยาวนี้ มีใจความเพียง -ยมทูตอิ่มทิพย์แต่กำลังกินเพราะความอยากส่วนตัว- แล้วมึงจะเวิ่นยาวชิบทำมายยยย
คือถ้ามีฝีมือ มีชั้นเชิงดี สำนวนเจ๋ง มึงต้องเขียนประโยคยาวเหี้ยเนี่ยแล้วน่าอ่าน มีมุกมีลูกล่อลูกชน ไม่ใช่น่าเบื่อเปลืองคำโดยใช่เหตุแบบนี้
กูงงกับคนเขียนว่าทำไมเหมือนพยายามจับคู่จิ้นวาย กูอคติกับนิยายรักนอมอลที่มีอะไรแบบนี้ว่ะ หน้าเพจโพสว่าวายเถอะแต่บอกคนอ่านว่าไม่วายแน่นอน เพื่อ?
>>376 จริงๆกูอยากเขียนไปทำนองขายจิ้นวายนะ นี่ยังเขียนไม่ถึงฉากที่กูจะขายความจิ้นเลย เริ่มมีขาจิ้นโผล่แล้ว
กูเริ่มสงสัยความแตกต่างระหว่างนิยายแฟนตาซีที่วาย กับนิยายแฟนตาซีที่ขายจิ้นวายจริงๆจังๆแล้ว กูไม่อยากเขียนวายแบบวายเลยอ่ะ อยากแค่ให้จิ้นกันก็พอ ไม่อยากเขียนฉากความรักห่าเหวไรทั้งสิ้น ให้แม่งไปคิดกันเอาเอง ถ้ากูออกตัวว่าไม่วายอย่างเป็นทางการ พอจิ้นได้ แบบนี้ก็ถือว่ากูขายจิ้นวายแล้วช่ะ?
>>377 กูก็ไม่อยากพูดมากว่ะ เพราะกูก็เขียนแฟนตาซีจิ้นวาย (เข้าตัวกูด้วย) คิดแบบเด็กๆ ถ้ามึงกำลังอ่านนิยายแจ่มใส หวังแต่ความรักชายหญิงเพราะมึงไม่ชอบแนววายเลย เสือกเจอโมเม้นต์ชายหล่อทำท่าจะได้กันเองทั้งเรื่องมึงจะคิดไงวะ
แฟนตาซีจิ้นวายในสายตากู คือไม่มีแม้แต่โมเม้นต์คุยกัน พวกสบตากันกูก็จิ้นแล้ว แต่ถ้าจู่ๆคนเขียนชงให้มีมองตากัน ความรู้สึกลึกซึ้งเสน่ห์หาซึ่งไม่ได้สำคัญห่าอะไรเลย กูว่ากำลังอ่านแนววายที่ไม่มีเรทว่ะ ถามว่ากูชอบมั้ย ชอบนะ แต่มันจะเลี่ยนแล้วจะแหวะแปลกๆ ก็กูไม่ได้คิดจะอ่านแนววายในเรื่องนี้นี่หว่า
กูไม่ค่อยชอบภาษาสไตล์นี้เท่าไหร่ มันเป็นกึ่งๆเกินไป กึ่งของกูคือจะบรรยายแบบวัยรุ่นก็ไม่เชิงแบบสละสลวยก็ไม่ใช่ แล้วบทนำก็ใช้การบรรยายแบบสรรพนามบุรุษที่ 1 กับ 2 ผสมๆกันไปอีกต่างหาก นอกนั้นกูเห็นด้วยกับ>>365 ทุกประการ
มาถึงตอนแรก บอกตรงๆว่าไม่มีอะไรจะคอมเม้นเพราะเดี๋ยวหาว่ากูลำเอียงเพราะกูไม่ชอบสำนวนแบบนี้ เอาง่ายๆสำหรับกูคือไม่น่าตีพิมพ์นะ กูเกลียดอี()แบบแทรกความคิดนักเขียนมากๆด้วย ยังกับนิยายแจ่มใส่เวอร์ชั่นแฟนตาซี
*นิยายตอนสั้นไปนะ
>>379 จิ้นกรุบกริบไม่น่าเกลียดไปก็ได้อยู่นะมึง
ขอมุงด้วยคนสิ คือแต่งแนวจิ้นวายเหมือนกัน แต่มันไม่
>>380-382 โอเค ขอบคุณพวกมึงมาก กูแค่เหนื่อยกับการพยายามอธิบายคนอ่านว่านิยายกูไม่ได้วายแบบวายยยยยขนาดนั้น บางทีกูก็สงสัยว่าจิ้นกันตรงไหนวะ ตัวละครโผล่มาตอนหนึ่งมีบทพูด 1 ประโยค มึงยังจิ้นกันได้....
สุดท้ายแล้วกูก็คงเขียนของกูไปเรื่อยๆกรุบกริบๆ ไม่ถึงขั้นวายแบบสบตาปิ๊งๆ เขียนตามที่กูสบายใจนี่แหละ
อันนี้แค่บ่นแล้วกัน ตอนยังเด็ก กูเคยพยายามปรับนิยายแฟนตาซีตัวเองให้เป็นแนวแอคชั่นตามคำแนะนำคนอ่าน คนหวังดี รุ่นพี่ ห่าเหวอะไรก็ตาม สรุปเหลว พัง เพิ่งมาตรัสรู้ได้ว่านิยายแฟนตาซีแม่งไม่จำเป็นต้องบู๊ล้างผลาญก็ได้ หึ สมเพชตัวเองชิบหาย
>>380 ต่อนะ กูพูดในฐานะคนอ่าน แต่ในฐานะคนเขียน กูรู้ว่ะว่าตัวเองกำลังทำอะไร บางทีกูเขียนให้สนิทในฐานะเพื่อน คนอ่านก็เอาไปชงว่าเป็นผัวเมียกันแล้ว ถ้ามึงไม่สนใจนักอ่าน ก็เลือกเลยและทำใจว่ามึงเอาใจทุกฝ่ายไม่ได้หรอก มึงเขียนจิ้นแบบชงหนักๆมา มีนางเอกสาววายบางคนเซ้นซิทีฟเลิกอ่านก็มี หรือถ้ามึงมีนางเอกเพื่อสกัดพวกนักอ่านวาย ก็อาจจะได้ฐานคนอ่านนอมอลมา แต่นักอ่านวายจะไม่มี แล้วคนอ่านนอมอล แน่นอนว่าเขาไม่อ่านวาย จิ้นวายถ้าชงหนักไปเขาก็ไม่ชอบ
ส่วนอีกทางคือสายกลาง คือมิตรภาพไปเรื่อยๆ สนิทแบบเพื่อน อย่าสร้างโมเม้นต์เกินกว่าคำว่าเพื่อนสนิทมากๆ อยากให้มีนางเอกก็ต้องทำให้คนอ่านยอมรับนางให้ได้หมด สาววายเอาใจง่าย ขอให้นางเอกไม่ใช่แนวนิยายแจ่มใสมึงก็ลอยตัวแล้ว
>>386 นิยายกูมีนางเอกนะ แต่สาววายก็มีอ่านเหมือนกันน่าจะเพราะนิยายกูตัวละครชายเยอะ มันจะแบ่งเป็น 2 พวก คือพวกจิ้นฮาเร็มนางเอก ซึ่งอันนี้กูงงๆเพราะกูไม่เคยอวยว่าพวกตัวละครชายชอบนางเอกกัน กับอีกพวกคืออ่านเพราะมันมีมิตรภาพลูกผู้ชายเบาๆค่อนข้างเยอะ กูไม่ใช่สาววายนะแต่กูแค่ชอบเขียนตัวละครชายมากกว่าหญิงเท่านั้นเอง
มึงเอ๋ยถ้าคนมันจะคิดต่อให้เราเขียนแบบไม่อวยแม่งก็คิดกันได้กูประสบพบเจอมาแล้ว
อีกอย่างที่กูชอบทำคือดูซีรี่ส์ที่เป็นตอนๆ กูชอบดูการเปิดเรื่อง เพราะแต่ละตอนมันจะไม่เหมือนกัน กูก็จะเก็บพวกนั้นแหละมาเป็นวัตถุในงานเขียน จริงเรื่องยาวกูยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่(ยังไม่เคยตีพิมพ์) แต่เรื่องสั้นกูตีพิมพ์ไปพอสมควรแล้วล่ะ กูก็หาวัตถุจากหนังจากซีรี่ส์นี่แหละ
>>393 https://docs.google.com/document/d/1d88hH0v60dV2ym1cTfyq1wWbHlff0iKLL98QY2uQv0k/edit?usp=sharing
เข้าไปเลย กูตั้งไว้แล้ว มึงก็พิมพ์ไป
>>391 หรือกูคือเพื่อนมึง 555 กูว่ากูไม่เคยบ่นเรื่องนี้กับใครนะ กูไม่เชิงบ่นนะ กูขำๆมากกว่า สำหรับกูก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรที่แฟนคลับจะอวยก็คิดว่าน่ารักดี แต่ไม่ไหลตามนะมึงปล่อยให้คนอ่านพูดกันไปกูมีหน้าที่เขียนอย่างเดียว
ถ้าเพื่อนมึงไม่สบายใจเรื่องนี้มึงก็เอาที่กูพิมพ์ไปให้เพื่อนมึงดูสิเพื่อนมึงจะได้รู้ว่ามีคนเจอปัญหาเดียวกัน กูเข้าใจถูกใช่มั้ย
เรื่องที่กูกำลังเขียนตอนนี้จะมีตลค.ชายคนนึงชอบพระเอก แต่พระเอกจะไม่รู้เรื่องนี้นะ ทั้งเรื่องกูกะให้มีคนรู้ 3-4 คน นางเอกก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่นางเอกไม่ว่าอะไรเพราะมีความเข้าใจร่วมกัน และทั้งเรื่องก็จะไม่มีการบอกอะไรทั้งสิ้นว่าเขาชอบพระเอกเลย แล้วจะเฉลยตอนก่อนพระเอกตายว่าเขาชอบพระเอกนะ
กูควรเขียนยังไงให้คนอ่านไม่รู้ดี ยกเว้นพวกจิ้นนะ อันนั้นห้ามไม่ได้ แต่คือให้คนทั่วไปอ่านยังไงก็ไม่รู้ว่าชอบ แต่มีhintให้พอเฉลยแล้วคนคิดว่าจริงวะ มันไบ้มาก่อนแล้ว
>>397 ลองให้มีการกระทำบางอย่างที่ไม่ต้องชัดเจนเกิน เช่น เวลาพระเอกจูบกับนางเอก อันนี้สมมตินะ แล้วตัวละครชายตัวนั้นผ่านมาเห็น ถ้ามันชอบแบบชัดเจน การกระทำคงเป็นการมองภาพนั้นอย่างเจ็บปวด แล้วเดินหนี หรืออะไรก็ตามที่สื่อว่ามันเจ็บ ซึ่งอันนี้คนอ่านจะรู้เลยว่าตัวละครชายตัวนั้นต้องคิดอะไรแน่ๆ
แต่ถ้าไม่อยากให้ชัด ก็ลองให้กลางดึกคืนนั้น ตัวละครชายตัวนั้นอาจจะนอนไม่หลับ กระสับกระส่าย แล้วสุดท้ายก็นอนหงาย เอาแขนพาดหน้าผาก << ซึ่งท่านี้จะบอกเป็นนัยๆ ว่ากำลังกังวล , ไม่สบายใจ สุดท้ายก็หลับไปทั้งที่ขมวดคิ้ว หรืออะไรแบบนั้น คนอ่านอาจไม่ทันเอะใจอะไรมาก แค่คิดนิดๆ หน่อยๆ
ที่สำคัญคือต้องคุมให้ดีว่าอย่าแสดงอะไรชัดเกินไป ลองใช้ภาษากายบางอย่างแทนการบรรยายอารมณ์หรือการกระทำที่ชัดเจนอื่นๆ ภาษากายที่บอกว่าไม่สบายใจ เสียใจ เช่น หันหน้าไปมองทางอื่นหรือหันไปคุยกับคนอื่นอย่างเนียนๆ ในขณะที่พระเอกนางเอกกำลังจู๋จี๋กัน
พอปูมาแบบนี้ได้บ้างแล้ว สุดท้ายก็ค่อยเฉลย อธิบายความรู้สึกเป็นเชิงว่า ทุกครั้งที่เห็นพระ-นางมีความสุข ตัวละครนี้จะเจ็บปวดเสมอ ต้องหันหน้าหนีภาพที่เห็น ต้องดื่มเหล้าย้อมใจ บางครั้งก็หลับแทบไม่ลง ความรู้สึกนี้มันกัดกินอยู่เสมอ ฯลฯ ก็เล่าไปทำนองนี้ให้คนอ่านย้อนระลึกไปถึงเหตุการณ์ที่ปูมาก่อนหน้านั่นแหละ
พรุ่งนี้อยากสับนิยายเรื่องไหนกันเพื่อนโม่ง เผื่อกูจะแวะมาช่วยผสมโรง
สับแฟนฟิคได้ป่าววะ
กุอ่านถึงตอนที่ห้า (บทที่สี่)
เริ่มมาบทนำ ท่านเจ้าจิบกาแฟแล้วถามเลขาว่าเอเลนน่าหรือลูกสาวไปไหน จากนั้นบทต่อไปๆ ไปเรื่องของน.ส.อารียา แช่มชื่น อายุ17ที่ถูกยมทูตรับตัวไปด้วยข้อผิดพลาดทำให้ต้องอยู่ที่ปรโลกหรือเมืองจารานีเป็นเวลาชั่วคราวเพียงสามเดือน
กุขัดใจบทนำมาก เพราะมันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับบทต่อๆ ไป (อาจมีแต่กุอ่านไม่ถึง) ไม่มีการเกริ่นธีมหรือโทนของเรื่องให้ผู้อ่านรู้ ดังนั้นจึงถือว่ามันไร้ประโยชน์ แถมใจความก็สั้นนิดเดียวแต่นักเขียนพยายามยัดข้อมูลใส่มาเพื่อให้ยาวขึ้นอย่างเช่น ท่านเจ้าปรโลกเป็นวิญญาณจึงอิ่มทิพย์ แดกเพราะอยากแถมหล่อมาก ยมทูตไปสวรรค์ไม่ได้แต่เอเลนน่าเป็นลูกครึ่งนางฟ้าจึงไปมาระหว่างปรโลกกับสวรรค์ได้ ลูกๆ ของเอเลนน่าก็เช่นกัน (แล้วท่านเจ้าไปมีลูกกับนางฟ้าได้ไงวะ) ซึ่งคนอ่านยังไม่ต้องรู้ ไม่คิดจะใส่ใจด้วยซ้ำ ทำไมไม่ให้คนอ่านเรียนรู้ไปพร้อมๆ กับนางเอกที่เพิ่งเข้าปรโลกครั้งแรกล่ะ
ต่อมา บทที่หนึ่ง อาริน นางเอกเป็นนักเรียนที่เขียนนิยายเป็นงานอดิเรก เกือบครึ่งบทใช้ในการบ่นว่าสิ่งต่างๆ ที่โรงเรียนสอนไร้ประโยชน์ ทำไมเราต้องเรียนเพื่อสอบ ทำไมเราถึงให้การสอบมากำหนดชีวิต บลาๆ อารินอยากเข้าไปอยู่ในโลกนิยายที่ไร้ขีดจำกัดที่ไม่ต้องเจอเรื่องพวกนี้ อีอารินก็บ่นในใจยาวจนเกือบโดนรถชนตายห่าแต่ก็กลับบ้านอย่างปลอดภัย พอกลับบ้านไม่เจอแม่ อารินก็ช่างแม่งแล้วไปบรรยายว่าชอบแต่งนิยายตรงระเบียง พอวันนี้ออกไปเจอผู้ชายท่าทางน่าสงสัยอยู่ข้างนอก นางก็เลยกลับเข้ามานอน พอเช้ามาก็เล่าให้เพื่อนฟังว่ามีคนแอบตามมาก่อนจะโดนรถชนตายห่า
อีกครั้งน่ะแหละ บทนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากอารินเห็นเงาๆ แปลกตามมา(ซึ่งโดนการบรรยายไร้สาระกลบหมดจนกุลืมไปเลย)และอารินตายห่า ที่เอ่ยถึงการศึกษาไทย เข้าใจว่าอยากปูพื้นตัวละครแต่การที่มาถึงแล้วบ่นแบบนี้ไม่ทำให้กุรู้จักตัวละครมากขึ้นเลย มึงลองนึกภาพเจอคนแปลกหน้าแล้วแม่งบ่นเรื่องการศึกษาไทยให้ฟังเลย มึงอยากคุยกับแม่งต่อหรอ
ขึ้นบทสอง อารินตื่นมาในโถงที่เต็มไปด้วยหนุ่มหล่อติดอาวุธรายล้อม กลัวก็กลัวแต่หนุ่มหล่อนี่ซู่ซ่ามาก ทั้งบทมีแต่บรรยายว่าคนนู้นหล่อ คนนี้สวย กุจะบ้า ตรงหน้าอารินคือบัลลังก์ของท่านเจ้าปรโลกแล้วก็คุยไปคุยมา สรุปได้ว่า อารินมีบาปกับบุญเท่ากันเลยมีตัวเลือกว่าจะไปเกิดใหม่แล้วใช้กรรมทีหลังหรือเป็นยมทูต ระหว่างนั้นเอเลน่าก็เปิดประตูเข้ามาแล้วแจ้งยมทูตเอามาผิดตัวเพราะมีอารียา แช่มชื่นอยู่สองคนบนโลก แทนที่จะเอาไปคืนตอนตายใหม่ๆ ท่านเจ้าเสือกบอกว่าขอประชุมก่อนและให้อารินอยู่ที่นี่ก่อนเป็นเวลาสามเดือน ไม่ต้องกังวลว่าจะโดนเผาหรือเน่าไม่ก่อนเพราะหนึ่งวันในปรโลกยามนานแทบจะเป็นหนึ่งเดือนมนุษย์ เอเลนน่าเสนอว่าในเมื่อนางเอกบ่นว่าความรู้ในโรงเรียนใช้ไม่ได้เลยเอามาสอนให้เป็นยมทูตดีฆ่าเวลาไปดีกว่า ท่านเจ้าเห็นด้วน เอเลนจึงหิ้วอารียากลับบ้าน
//ตัวอย่างการบรรยาย
เหล่าบรรดาหนุ่มๆทั้งหลายมองฉันด้วยสายตาดุดันทำให้ฉันรู้สึกกลัวไปหมด หล่อก็หล่อนะ แต่อย่ามองด้วยสายตาเหมือนจะฆ่ากันแบบนั้นสิกลัว
ฉันคุกเข่าพร้อมกับเงยหน้ามองผู้ชายที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ ฉันแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ทำไมถึงได้หล่อกระชากใจแบบนี้ ฉันแทบจะตาถลนออกมาจากเบ้า แม้จะน่ากลัวแต่ก็หล่อมากจนอยากจะกรี๊ดให้รู้แล้วรู้รอด
สิ่งที่ฉันเห็นคือหญิงสาวคนหนึ่งในชุดโกธิคลอลิต้าสีดำกระโปรงสั้นฟูฟ่อง รองเท้าบูตส้นสูง ที่เอวของเธอนั้นเหน็บคาตานะอยู่ ฉันได้แต่มองอย่างอึ้งกับความสวยของเธอไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนสวยขนาดนี้ในปรภพด้วย และสิ่งที่เธอบอกราวกับเสียงสวรรค์ แต่เดี๋ยวนะ นี่นางฟ้ามาปรภพได้ด้วยเหรอ เมื่อผู้หญิงคนนี้มีปีกแถมปีกเป็นสีขาวด้วย ใบหน้าเธอสวยราวกับเทพธิดา ดวงตาสีแดงเพลิง ผมสีขาวยาวเป็นลอน ผิวเธอนี่ขาวกลูต้าชัดๆ ขาวจนแทบแสบตา
//
>>401 ต่อนะ
บทสาม เอเลน่าพาอารินมาเมืองราจานีหรือปรโลก บทนี้ต่างหากที่คนแต่งควรใส่รายละเอียดว่ากลางวันกลางคืนมืดเหมือนกันและบรรยายให้คนแต่งเห็นภาพว่าพวกยมทูตอยู่กันอย่างไร ราจานีมีบ้านหลากหลายมากและก็มีสถานพยาบาลด้วย อารินได้เข้าไปอยู่ในวังกับเอเลน่าที่พูดจาภาษาแปลกๆ “ข้า เจ้า จัก ฤา” ทั้งๆ ที่แต่งตัวทันสมัย
อารินได้อยู่ในห้องแบบพระราชวังอังกฤษและลงอ่างจากุชชี่ก่อนจะออกมาเปิดตู้เสื้อผ้าเจอชุดคอสเพลย์หลากหลาย นางจึงเลือกชุดโกธิคโลลิต้ามาใส่นอนเล่น เอเลน่าเดินเข้ามาบอกจะติวสอบยมทูตให้ จากนั้นก็เรียนทฤษฎีซึ่งคนแต่งไม่ยอมบอกว่าทฤษฎีอะไรเอาแต่ด่าว่าวิชาที่โรงเรียนใช้กับปรโลกไม่ได้เลย ปรโลกใช้ภาษาโบราณแบบรูนกับเฮโรกราฟฟิก แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับนางเอกของเราหรอกเพราะที่นี่มีสมุนไพรที่แดกแล้วฟังพูดทุกภาษาได้หมด และทั้งสองก็ฝึกดาบกัน เอเลนน่าบอกว่าเห็นอารินเหมือนลูกสาวคนหนึ่ง เธอเคยมีลูกชายชื่อเอเลนแต่ตอนนี้มันกลายเป็นคนเลวไปแล้ว
ครบสามวันในการติว อารินต้องไปสอบเป็นยมทูต
คั่นสักครู่ สิ่งที่กุสงสัยคือ ทำไมอารินต้องสอบเป็นยมทูต หนึ่งคืออารินมันถูกเอาตัวมาผิด ถ้ามันสอบไม่ผ่านจะให้มันไปไหนวะ เรื่องนี้มันทำใคนอ่านอย่างน้อยๆ ก็กุสรุปได้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอารินก็สอบผ่าน แล้วความน่าติดตามมันหายไปว่ะ อ่านมาสามตัวกุยังไม่เห็นปมของเรื่องเลย สองคืองี้ตอนกลับโลกมนุษย์ อารินไม่ไปบอกคนอื่นหมดหรือวะว่าปรโลกมีงู้นงี้ท่านเจ้าหล่อลากไส้ หรือไม่ตอนไปเก็บวิญญาณ มั่นใจได้ไงว่าอารินจะไม่แวะไปหาแม่แล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
อ่อ แล้วอีกอย่าง ยมทูตจะพกอาวุธไว้ทำไม อย่างน้อยน่าจะอธิบายระบบหน่อยว่ายมทูตทำงานอย่างไร เกริ่นๆ ไว้ตอนติวหนังสือกันก็ได้
เอ้าต่อบทที่สี่ อารินไปสอบ แล้วการสอบเป็นการเข้าไปในเครื่องจำลองสถานการณ์ ส่วนแรกเป็นการทดสอบความรู้ ให้ตอบคำถามให้ได้มากที่สุดในเวลาสิบนาที คำถามเกี่ยวเกี่ยวกับศาสนา ภูมิศาสตร์ ซึ่งแม้แต่ตัวอารินเองก็ดูแปลกใจว่าทำไมสอบเรื่องนี้ทั้งๆ ที่นั่งติวกับเอเลนน่ามาสามวันสามคืน แล้วอ้าวไหนมึงบอกว่าสิ่งที่สอบไม่มีในโรงเรียนไงวะ โรงเรียนมึงไม่สอนสังคมหรือสาส อารินทำไป120ข้อ ผิดเพียง20ข้อเท่านั้น เก่งสาสทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าจะสอบเรื่องนี้แท้ๆ
ต่อไปคือแบบทดสอบความซื่อสัตย์ ฉากหลังเปลี่ยนไปเป็นสนามรบ เอเลนน่าในชุดเกราะเดินมายื่นเด็กทารกให้พร้อมกำชับให้นำราชบุตรเขยไปซ่อนในที่ปลอดภัย พอรับมาแล้วอารินก็ไปโกดังเก็บอาวุธที่ไม่รู้ทำไมตั้งอยู่กลางสนามรบ พบว่ามีอาวุธหลายแบบมา นางเลยเลือกคาตานะ มีดพก หน้าไม้กับลูกดอกห้าร้อยดอกไป
จบบทสี่
เดะตอนเย็นกุมาต่อบทห้าเพราะเปิดดูคร่าวๆ แล้วแม่งต้องใช้สมาธิในการอ่านมากกกก
กุคนสับเองนะ กุลืมเคาะย่อหน้า เว้นบรรทัดให้อ่านง่ายๆ ขอโทษที ;A;
กูจำได้ว่าเคยมีโม่งสักคนบอกว่าจะรีวิวนิยายออนไลน์ๆอะไรนั่น ทำไมจู่ๆก็เงียบไปวะ
เรื่องปรกติของนิยายสมัยนี้ ทุกคนต้องหน้าตาดีระดับนายแบบvogue mensทุกคน แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดมากนัก เพราะแถได้ว่ายมฑูตหน้าตาดีทุกคนก็ได้ มันผิดที่ตรงบรรยายย้ำคิดย้ำทำว่าหล่อสวยนั่นละ แต่งานอย่างแวมไพร์กลิตเตอร์ยังขายได้ แค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก
ที่กุไม่โอกับตัวละครสวยหล่อนางเพราะ
คนส่วนมากเวลามันพรรณนาว่าตัวละครสวย เขาจะบอกว่าจมูกโด่งรั้น คิ้วโก่งดังคันศร บลาๆ
แต่อีอารนแม่งมา กี๊ด เขาหล่อมากๆๆๆ มดลูกกระพือแล้วคร่า
คงเพราะคนเขียนใช้มุมมองบุคคลที่หนึ่งด้วยมั้ง มันเลยแปร่งๆ ต่อให้เจอคนแปลกหน้าหล่อแค่ไหน มึงก็กลัวป่ะวะ
กูอ่านแค่บทนำก็ไม่ไหวละ อ่านที่โม่งวิจารณ์รู้สึกดีที่ไม่ได้อ่านต่อ โคตรเกลียดนิยายที่เชิดชูคนหล่อสวย โอเคมึงปูว่ายมทูตต้องหน้าตาดี แต่อีนางเอกแม่งก็ย้ำคิดย้ำทำจังวะ บรรยายซ้ำซาก จะให้คนอ่านอินต้องให้เนียนกว่านี้ บอกความหล่อจากการกระทำบางดิวะ ไม่ใช่ยืนเฉยก็หล่อสัสๆ
แล้วเนื้อเรื่องแม่งก็แมรี่ซูแบบง่อยๆ ไม่ซูมากแต่โคตรไม่สมจริง พยายามอวยนางเอกเก่งรับมือสถานการณ์ได้แต่มันต้องมีเหตุผล การสอบก็นึกว่าไดเวอร์เจน ฉากคุ้มครองรัชทายาทนึกว่าจูล่งไปรับอาเต๊าเลยสัส สรุปเรื่องเหี้ยเนี่ยมีอะไรนอกจากตัวละครหล่อสาสสส
มีคำถามว่านางไม่เสียใจที่ตัวเองตายบ้างเหรอ.....
ตอนนี้กูว่างละ มีใครอยากเสนอนิยายมาให้สับอีกไหม
กูอ่านถึงบทที่ 1 คนเขียนเว้นวรรคได้ผิดหลายจุดมาก เช่น
"อีกไม่นานฉันก็ต้องสอบ แก็ทแพทแล้วไม่รู้ว่าคะแนนมันจะออกมาห่วยรึเปล่า" มันต้องเป็น "อีกไม่นานฉันก็ต้องสอบแก็ทแพทแล้ว ไม่รู้ว่าคะแนนมันจะออกมาห่วยรึเปล่า" กูอ่านแค่บทแรกแทบจะปิดทิ้งในทันที เว้นวรรคผิดช่วงเยอะมาก ใช้คำฟุ่มเฟือย ย่อหน้าเดียวมีคำว่าฉันเป็นสิบ แต่ก็เห็นมีคนไปติเยอะแล้วนะตรงนี้ หวังว่าบทต่อไปคงมีพัฒนาการขึ้นนะ
งั้นนิยายของพริมณารากูสรุปให้แล้วกัน
1. สำนวนภาษา 4/10 ยังไม่ผ่านสำหรับกู ถึงกูจะชอบภาษาที่ไม่ประดิษฐ์ก็เถอะ แต่เสียคะแนนไปเยอะเพราะรูปประโยคและคำซ้ำ รวมถึงการใช้ภาษาพูดในบทบรรยายด้วย
2. การเล่า 4/10 เนื่องว่าใช้มุมมองการเล่าเยอะไป เดี๋ยวมุม 3 เดี๋ยวมุม 1 จริงๆ การใช้หลายๆ มุมมองเล่าไม่ผิดนะ แต่ผู้เขียนทำได้ไม่ดีกูเลยให้แค่นั้นพอ
3. เนื้อเรื่อง 5/10 ไม่มีอะไรชวนให้กูรู้สึกอึ้งหรือทึ่งเลย อ่านไปแล้วได้ความรู้สึกว่า อ่อเหรอ งั้นเองสินะ ดีจังเลยนะ ประมาณนี้
รวมคะแนนได้ 13/30 ไม่ผ่านจ้า
อีหลุยมั้ยมึง เผื่อมึงจะมีความอดทนและสามารถสรุปให้กูเข้าใจได้บ้าง กูอ่านนิยายมันได้ 5 ตอนแม่งถอยทัพแทบไม่ทัน ยังไม่รู้เรื่องชัดเลยว่าปมเรื่องคือไร
กำ จบเรื่องอีพริมแล้วหรอ
เพื่อนกุแม่งบอกว่าตอนที่19 นางเอกเจอกุหลาบหิมาลายา ขึ้นที่มิติเนโกะเนโกะเท่านั้น...
แรดฤทัยมังกรของลูเซีย
สำนวนภาษาเป็นงานเขียนออกแนวกำลังภายใน ซึ่งจะมีความเฉพาะสำหรับแนวนี้อยู่แล้ว สำหรับกูอยู่ในระดับดีเลย แต่มีข้อเสียตรงชอบใช้คำเชื่อมคำเดิมในประโยคติดกัน เช่นคำว่า "ที่" เป็นต้น วิธีแก้คือเปลี่ยนเป็นคำว่า "ซึ่ง" สลับกันไปจะลื่นขึ้น และอีกหนึ่งจุดที่ควรแก้ไขคือการเรียกตัวละครใช้คำเดิมจนเฝือเลย เช่น ตัวละครหญิงก็เรียกแต่ นาง นาง นาง อยู่นั่นแหละ ใช้เป็น หญิงสาว ผู้พูด อีกฝ่าย สตรีผู้นั้น แทนลงไปบ้างงานจะสมูธขึ้นเยอะ
รูปประโยคทำได้ดียังไม่เจอข้อผิดพลาด กูให้ผ่าน
เนื้อเรื่องน่าสนใจ จุดขายน่าจะอยู่ที่เรื่องทางการแพทย์เป็นงานเฉพาะทางซึ่งกูเองก็ไม่มีความรู้ทางด้านนี้ เลยไม่มีจุดไหนที่กูแย้งได้ ถือว่าเลือกจุดขายได้ดี เป็นงานที่น่าเชียร์เรื่องหนึ่ง กูเชียร์เรื่องนี้แล้วกัน
กูเข้าไปดูนิยายเดธมา โอโห ความดุ
https://imgur.com/a/OrY6L
>>426 นักเขียนแต่ละคนมีอีโก้ของตัวเองมากน้อยต่างกัน ว่ากันไม่ได้หรอกเรื่องนั้น ส่วนงานไอ้เดธถ้ามันยังเขียนหรือมั่นใจอยู่แบบนี้มันไม่มีโอกาสได้ตีพิมพ์กับเขาหรอก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่มีใครไปแนะนำมันด้วย มันเลยไม่รู้ว่างานมันมีจุดอ่อนอะไรตรงไหน กูคงไม่ต้องบอกสาเหตุนะว่าทำไมถึงไม่มีใครอยากแนะนำมัน
ขอรบกวนถามอะไรหน่อยนะคะ เราแต่งนิยายแนวแฟนตาซีคือจะถามเรื่องบทนำเราควรเกริ่นเรื่องโลกของเราไปตรงๆ เช่น "โลกของเรามีประเทศอะไรแต่ละประเทศเป็นยังไง" แบบคล่าวๆในบทนำ หรือว่าจะค่อยๆแทรกไปในเนื้อหาทีละนิดๆดี เรากลัวว่าคนขี้เกียจอ่านถ้าเจอบทนำแบบแรกรึเปล่าแต่อีกใจก็อยากใส่นะเพราะเรื่องของเรามีลายละเอียดค่อนข้างมาก แล้วก็เรื่องของคาแรคเตอร์ใกล้ตัวของตัวเอกควรมั้ยที่จะบอกโต้งๆเลย เช่น "พ่อมีนิสัยแบบนี้ๆ" หรือว่าแค่เขียนคาแรคเตอร์ไปตามบทก็พอแล้ว ขอความช่วยเหลือหน่อยค่ะ แหะๆ
บทนำก็เหมือนtrailer มันมีหน้าที่ยั่วน้ำลายให้คนอยากอ่าน ดังนั้นใส่ข้อมูลให้น้อย ใส่ปริศนาให้มาก
การแนะนำตลค.ทำได้ทั้ง2แบบละ ถ้ามั่นใจว่าคึมคาร์อยู่ก็ไม่ต้องบอก ถ้าคิดว่าคุมไม่อยู่หรืออยากชี้นำอะไรก็ใส่ไปเถอะ อย่างคนทั้งเรื่องบอกว่าเสนปเป็นคนเลว แต่สุดท้ายเป็นไงละ ประโยคเดียวล้างความผิดได้หมดเลย
>>431 เรื่องคาแรคเตอร์คิดว่าคุมอยู่นะคะ เท่าที่มีคนวิจารณ์กับคนอ่านค่อนข้างชอบอยู่ แต่มีคนท้วงมาคนนึงทำให้เราก็มานั่งตรองดูเหมือนกันค่ะ คือเขาบอกว่าชอบคาแรคเตอร์นะแต่เขาไม่อินเพราะอยู่ๆตัวละครโผล่มา(เป็นคนสนิทตัวเอก)พูดคุยเลยทั้งที่ไม่รู้คาแรคเตอร์ตัวนี้เท่าไหร่อยากให้เราบอกลายละเอียดหน่อย ส่วนคาแรคเตอร์ตัวเอกที่เขาอ่านเขาก็ชมนะแต่เขาบอกว่าบางทีมันไม่อินเพราะเหตุผลเดิมคือรู้สึกว่าเราแนะนำตัวละครตอนเริ่มเรื่องน้อยไป อยากให้เราแนะนำตัวละครรอบๆตัวเอกให้มากกว่านี้ อยู่ๆโชว์คาแรคเตอร์เลยมันไม่เข้าถึง คิดว่ายังไงคะ
ส่วนบทนำ อันนี้เราตันจริงจังมาก เราไปนั่งรื้อๆนิยายมาดูจะมีแบบที่บอกลายละเอียดไปเลยในบทนำกับพวกแทรกๆไปเรื่อยๆ ซึ่งเราไม่รู้ว่าแบบไหนคนจะชอบมากกว่ากัน แล้วเราก็ชอบทั้งสองแบบก็เลยไม่รู้จะตัดสินใจยังไงดี
>>432 เลี่ยงแบบบรรยายว่าโลกเป็นยังไงได้ก็ควรเลี่ยงนะ นักอ่านหลายคนพอเปิดบทนำไปเจอแบบนั้นก็กลอกตาเหมือนกัน เอาจริงๆ ต่อให้อ่านไป ก็ไม่ได้ช่วยให้จำหรือซึมซับได้มากหรอก เพราะคนเขียนคงปล่อยรายละเอียดมาเยอะจนจำไม่ทัน
ปล่อยออกมาพร้อมเนื้อเรื่องทีละนิดดีกว่า เช่น ถ้าพระเอกมาจากอาณาจักรนี้ๆ ก็เล่าไปว่าอาณาจักรนี้เป็นหนึ่งในสามสิบอาณาจักรของโลกนี้ มีการแบ่งเขต บลาๆ อาณาจักรนี้เป็นอาณาจักรที่มี บลาๆ พอหอมปากหอมคอ ปล่อยออกมาทีละนิดทีละหน่อยดีกว่าปล่อยมาตู้มเดียวในบทนำแรก
เรื่องตัวละครก็ค่อยๆ ปล่อยออกมาจะดีกว่า การกระทำ, พฤติกรรมจะบอกคาแรกเตอร์ของตัวละครเอง เช่น เวลาขัดใจ บางตัวละครจะโมโหจนควบคุมไม่อยู่ ทำลายข้าวของ บางตัวละครจะเงียบ บางตัวละครจะทำหน้าเครียดๆ อย่างนี้ คือค่อยๆ ปล่อยออกไป แรกๆ คนอ่านก็ไม่ชินกับตัวละครทั้งนั้นแหละ เราเป็นผู้เขียน เราต้องกำหนดเองให้ได้ว่าจะให้คนอ่านเข้าใจไปทางไหนผ่านการเขียนของเรา ไม่ใช่การบอกออกไปตรงๆ ว่า ตัวละคร A เป็นคนใจร้อน แต่การกระทำกลับดูเหมือนคนใจเย็น มันก็ไม่ใช่
>>432 ในบางครั้ง เราต้องมองว่าตัวละครของเราก็เป็นมนุษย์คนนึง ซึ่งมันมีความหลากหลายทางอารมณ์มาก เพราะฉะนั้นแค่คำบรรยายไม่กี่บรรทัดคงไม่สามารถอธิบายถึงตัวละครหนึ่งๆได้ครอบคลุมทั้งหมด
อย่างที่ คห. บนบอก เอาเป็นการค่อยๆเปิดตัวให้รู้ไปทีละอารมณ์ ปกติทำตัวแบบนี้แต่ถ้าเครียดจะคิ้วขมวด เครียดมากๆจะชอบเดินงุ่นง่านแล้วก็ตัดสินใจอะไรโง่ๆกว่าที่เคยเป็น หรือปกติเป็นคนกล้าหาญ แสดงให้รู้ด้วยการรับอาสาอะไรที่มันยากๆอันตรายเสมอๆ แต่ก็อาจมีความเห็นแก่ตัวเจืออยู่ บลาๆ
เห็นด้วยว่าค่อย ๆ ปล่อยมาทีละนิดดีกว่า แล้วก็ไม่จำเป็นต้องปล่อยรายละเอียดทั้งหมดก็ได้ ปล่อยแค่ส่วนที่จำเป็นต่อการดำเนินเนื้อเรื่องก็พอ
พวกมึงวิจารณ์ดีไปเม้นที่นิยายพวกมันเลยดิวะ แปะลงโม่งแม่งก็ไม่ได้อ่านกัน
กูไม่ค่อยอะไรกะนิยายพวกแม่ง มันก็เห่อหมอยกันหมดเขียนตามใจกากๆ แต่กับพวกอยากตีพิมพ์ตั้งเป้าไว้ที่ส่งสนพ.ค่อยน่าช่วยวิจารณ์
พวกที่หัดเขียนต้องให้แม่งลองผิดถูกไปก่อน ถ้าแม่งเอาจริงก็ฝึกเขียนเพิ่มชม.บิน พวกที่เห่อหมอยแป๊บเดียวแม่งก็เลิก กูเลยไม่ค่อยอยากเสียเวลากับเรื่องที่ไม่บอกจะตีพิมพ์ให้ได้ แต่ทำมือก็อีกเรื่อง แม่งฟินเองพิมพ์เองห่วยยังไงก็ได้
>>439 จริงๆ กูเล็งไว้คนหนึ่งนะ เห็นว่าพึ่งอกหักจาก สนพ มา กูว่ามันเขียนดีว่ะกูเพิ่งอ่านงานมันเสร็จเมื่อตอนเที่ยงนี่เอง เขียนดีกว่าไอ้พวกมาเฟียเหี้ยไรนี่จมเลย กูหลังไมค์ไปบอกมันให้ลองส่งที่อื่นดู กูว่าไอ้ห่านี่คงดวงซวยส่งไป สนพ ที่เขาไม่รับงานแนวมันแน่ๆ เลยว่ะ เอาใจช่วยมันอยู่
แนวน้ำเน่าไม่พอ สำนวนอีกล่ะ 555
พวกมึงวิจารณ์กันได้ประโยชน์ดีนะ ถ้านิยายกูมีคนมาวิจารณ์แบบนี้มั่งคงดี แต่คงไม่โง่แปะนิยายตัวเองในบอร์ดแน่ ถถถถ
พวกมึงเขียนนิยายเรื่องยาวโอกาสตีพิมพ์แม่งเร็ว กูนิเขียนแต่เรื่องสั้น กว่าจะผ่านนิตยสารกว่าเขาจะตีพิมพ์ให้ กว่าจะได้ถึงสิบเรื่องให้มันพอรวมเล่มได้ก็หลายปีเลย(ตอนนี้กูส่งไปสี่เรื่องพึ่งผ่านสอง) อยากเขียนเรื่องยาวเหมือนกันว่ะแต่สมาธิไม่พอ ก็ดองแม่งไว้นั่น ฮา
เอาจริงๆ กูไม่สนเรื่องสำนวนสละสลวยนะ กูชอบอ่านหนังสือพวก non - fiction มากกว่า ดังนั้นมาตรฐานกูคือเขียนให้รู้เรื่อง ภาษาไม่ขัดกันเอง ใช้คำให้ถูกต้องเหมาะสมกับตัวละครและบริบท ส่วนคำสร้อยเสริมพรรณาจะมีหรือไม่กูไม่สนใจ บางครั้งไม่อ่านด้วยซ้ำ ยิ่งพวกกลอนพวกนี้กูยิ่งข้าม
กูเป็นนักอ่านที่แปลก กูสนแก่นอย่าง what when who how why มากกว่า ดังนั้นหนังสือประวัติศาสตร์ที่ info dump เยอะๆ คือนิยายที่ดีที่สุดสำหรับกู กูต้องการเนื้อเยอะๆ รายละเอียดเน้นๆ แต่ถ้าด้อย่างเดอะลอร์ดหรือเกมออฟโทรนนี่ดีมาก มีข้อมูลแน่นเอียด มีอะรเสริมเต็มไปหมด กูชอบมาก
แต่นิยายพวกนี้หายากมาก อย่างน้อยในเด็กดีก็ไม่มี และอาจจะไม่มีวันมีถ้ายังมีคนวิจารณ์ทุกครั้งว่านิยายที่อ่านง่ายคือนิยายที่ดี ถ้าไม่เขียนให้ง่านขนาดเด็ก 3 เดือนเข้าใจได้คือนิยายที่แย่ จนบางครั้งกูสงสัยว่าคนวิจารณ์โง่เกินไปเองหรือคนแต่งเขียนยากเกินไปกันแน่
กูเคยชอบนิยายสำนวนเวิ่นเว้อนะมึง กระทั่งอ่านนิยายแปลสำนวนง่ายสัสๆ แต่พอถึงจุดพีค มันทำกูร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังตอนอ่านจบ กูเลยตรัสรู้ว่านิยายที่ดี ไม่จำเป็นต้องเขียนเยอะเพื่อบิ้วมากนักก็ได้ แค่ใช้ศัพท์เรียบเรียงจนมันรู้สึกได้ก็พอ แต่ไม่ได้หมายความว่านิยายเวิ้นเว้อจะแย่หรอก มันแล้วแต่สกิลคนเขียนและการรับรู้สารของคนอ่านด้วย เขาถึงบอกไงว่านิยายทุกเรื่องคัดคนอ่าน
เฮ้ยโม่ง กูเห็นในหมวดรักแฟนตาซีนิยายแนวนางเอกไปเกิดใหม่เป็นนางร้ายในเกมจีบหนุ่มมันเริ่มจะเยอะขึ้นแล้วว่ะ กระแสใหม่เหรอวะ? แล้วมันเริ่มมาจากเรื่องอะไร
แนวไปเกิดใหม่ในเกม มันน่าหนุกตรงไหนวะ เหมือนพวกแนวเกมออนไลน์เสมือนจริงใช่ป่ะแต่เป็นออฟไลน์ สำหรับกูมันเล็กมาก แค่มึงได้ฟินกับเกมที่อวย
หรือมันมีอะไรมากกว่านี้ ยิ่งใหญ่ในโลกของเกมแล้วชีวิตจริงดี้ดีป่าววะ
ก็แนวออนไลน์สเกลมันเล็กไง จะทำให้ใหญ่คนก็มองว่าเว่อไป ยังกับการ์ตูนของเล่นหลอกเด็กถล่มโลกได้ แต่พอไปเกิดใหม่มันก็ดูร้ายแรงขึ้นไง ตายจริงเจ็บจริงนะ
ตายจริงเจ็บจริงก็ไม่เห็นจะส่งผลร้ายแรงอะไรเลย ตัดส่วนเกิดใหม่ไปก็ดำเนินเรื่องเหมือนนิยายแฟนตาซีทั่วไปน่ะแหละ
>>477 กุก็หาเหตุผลได้แค่ 1.ไปเกิดใหม่ในเกมจีบหนุ่มเพราะเป็นพื้นที่ที่ยังไม่ได้สำรวจในวงการงานเขียนเท่าไหร่ แปลกใหม่มั้ง
1.1 ซื้อโอโตเมะเกมส์เล่นเองลำบากเกินไป
1.2 ไปเกิดใหม่เป็นตัวร้ายซะเยอะ ดูแปลก เข้ากับกระแสคนเริ่มเบื่อนางเอกกินหญ้า แต่ลองอ่านจริงๆจะเห็นว่าซ้ำเหมือนเรื่องอื่น ร้ายก้ร้ายไม่จริง เปลี่ยนไปเกิดใหม่เป็นบทนางเอกก็เหมือนเดิม ไม่ได้สำรวจแง่มุมของตัวร้ายเลย กุมองประเภทนี้แค่ตัวเอกเห็นอนาคตว่าเรื่องจะเป็นอย่างไงแค่นั้น ไม่ทำตามรูทก้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ได้ผัวอีก
2.ไปเกิดใหม่ในเกมทั่วไป อันนี้กุว่าแค่เกาะกระแสเกิดใหม่+เกมส์ออนไลน์ว่ะ คิดว่าเด็กจะเลือกอ่านเรื่องที่ตัวเอกทำไร่ทำนาจีบสาวเฉยๆหรือตัวเอกไปเกิดใหม่ในเกมปลูกผักแล้วทำไร่ทำนาจีบสาวล่ะ
>>478 ขอบใจโม่งเบิกเนตรกูได้เยอะเลย งั้นต้องตัดเรื่องเหตุผลออกไปสินะ เกิดใหม่ในเกมแม่งโคตรไม่มีเหตุผลอะไรอธิบายได้เลย
ตามที่มึงบอก ก็เข้าใจเลยนะยังไงแม่งก็เป็นนางเอกที่สวมหัวโขนตัวร้ายในเกม มันเลยไม่ร้ายจริง
ไอ้เรื่องเกิดใหม่ไปปลูกผักคนก็อ่านเยอะดีนะ สำหรับกูเกิดใหม่ในเกมแนวไหนก็นอนเซ้นส์อยู่ดีว่ะ ยิ่งกว่าไปเกิดต่างโลกอีก ได้ยินครั้งแรกกูยังเบะปาก
กูเริ่มเบื่อเกิดใหม่เป็นฮาเร็มแล้วว่ะ บางทีชอบง่ายเกิ๊นจนกูสงสัยว่าชาติก่อนหน้าตาตัวเอกเหี้ยแค่ไหนคนถึงไม่เอามัน
เห็นแนวนี้เริ่มเยอะกูเกิดไอเดียอยากแต่งประชดขึ้นมาเลยมึง เกิดใหม่เป็นลาสบอสในเกมเซอไวเวิลแนวเฮอเร่อหรือฮาร์ดคอร์ดีไหมวะ ถ้าไม่ร้ายเอ็งก็ตาย ต้องชิงหาวิธีตบพวกตัวเอกก่อนที่มันจะบุกรังคิลจบเกม รีบฟาร์มเหล่าลูกกระจ๊อกมินิบอสให้แกร่งกล้าแล้วพาไปเชือดตัวเอกก่อนมันจะเก็บเวลตั้งปาร์ตี้
>>485 overlord
บอสวุ้นยังไม่จบ
ลองอ่านเรื่อง Tsuyokute New Saga ดู น่าจะใช้เป็นแนวทางได้ พระเอกเป็นผู้กล้าปราบจอมมารได้แล้วเจอไอเทมของจอมมารที่ใช้ย้อนเวลา สุดท้ายพระเอกย้อนกลับไปก่อนจอมมารเปิดสงคราม พระเอกเลยตั้งใจที่จะหยุดสงครามก่อนมันเกิด ประเด็นของเรื่องคือพระเอกพอย้อนอดีตมาได้รับบทเรียนจากชาติที่แล้ว ชาตินี้เลยกลายเป็นคนทำทุกอย่างโดยไม่สนวิธีการ บางคนอาจจะว่านิสัยเหี้ย แต่กูโคตรชอบพระเอกแบบนี้เลย
กูมาแก้ความเข้าใจผิดนึดนึง แนวเกิดใหม่เป็นตัวร้ายไม่ใช่เข้าไปในเกมนะมึง มันเหมือนแนวต่างโลกที่ "บังเอิญ" มีเซตติ้งเหมือนเกมที่เคยเล่นในชาติก่อนต่างหาก
จุดขายมันจะอยู่ที่การดิ้นรนจากโชคชะตา (ที่ตัวร้ายจะแบดเอน) ยังไง
ส่วนใหญ่กูเห็นเลือกทำตัวดีๆ ไม่ไปรังแกนางเอก อนาคตจะได้ไม่เจอผลกรรมตามสนอง พอทำตัวดีหนุ่มๆก็เลยมาหลงแทน ประมาณนี้
ที่จริงกูสนใจแนวนี้มากนะ โคตรคาดหวังว่ากูจะเจอรักแท้ แต่ไม่มี... กูเสียใจ
พวกตัวร้ายโอโตเมะจะมาแนวคุณหนูหยิ่งๆ เชิดๆ เอาแต่ใจ ชอบเหยียดรังแกนางเอกใช่มะ
กูต้องการไทป์นี้ยยยยย ไอ้ห่า กูอกหัก ที่แต่งกันอยู่ถ้าไม่คนดีจ๋านอบน้อมถ่อมตนอ่อนโยนก็จะเป็นร่าเริงเปิ่นๆสวยใสไร้เดียงสา
....คุณหนูผู้หยิ่งทระนงของกูล่ะ มึงแต่งกันอย่างนี้มึงไปเกิดเป็นนางเอกก็ได้นะ กูหลบมุมไปซับน้ำตาก่อน
>>487 ไม่ใช่แนวไปเกิดใหม่ในโลกเซตติ้งเกมหรอกนะ
แต่คุณหนูหน้าตัวร้าย เก่ง เริ่ด เชิด หยิ่งที่พอจะนึกออกก็เรื่องนี้
http://ncode.syosetu.com/n6169bb/
นี่ก็ยังอ่านไม่จบหรอก มาอ่านเป็นเพื่อนกูไหม
กูขอเปิดประเด็น แนวเกิดใหม่ที่ไม่เหี้ยในความคิดเพื่อนโม่งคิดเป็นยังไง
สำหรับกูไงก็ได้ขอให้มีเหตุผลรองรับบ้าง เกิดใหม่ในโลกเกมหรือโลกบังเอิญคล้ายเกมมันไม่เมคเซ้นส์ว่ะ ถ้าโม่งอ่านเรื่องไหนแล้วมีเหตุผลช่วยบอกกูด้วย
กูลองอ่านนิยายแปลจีนเกิดใหม่ในโลกเกม แม่งก็เกรียนโคตรไร้สาระ ไม่รู้ทำไมมันฮิตกันจังวะ
>>491 แค่เกิดใหม่ในต่างโลกแม่งก็ไม่เมคเซนส์ละห่า
เอาเป็นว่าขอให้การตาย(ก่อนไปเกิดใหม่) ของมันดูตายแบบจริงจังหน่อย ไม่ใช่ทะเล่อทะล่าไปโดนรถชน ล้มหัวฟาดพื้น และก็ไอ้พระเจ้าที่ส่งไปเกิดเนี่ยก็ขอแบบมีเหตุผลนิดนึง ไม่ใช่ว่ากูเกรียน กูสุ่มได้มึงเป็นผู้โชคดีไปเกรียนในต่างโลกแล้วกัน ไอ้เหี้ย แบบนี้แม่งก็ไม่ได้ต่างอะไรกับเกมออนไลน์ที่พระเอกจับกาชาปองได้เครื่องเล่นเกมเทพเลยนี่หว่า
เอาแบบพระเอกเกิดมาไม่สมประกอบแต่เด็ก พิการ โปลิโอ ประสบอุบัติเหตุหรือป่วยเป็นโรคร้ายรักษาไม่หายต้องนอนโรงพยาบาลนานๆ ไม่มีเพื่อนมีฝูง พอตายไปพระเจ้าสงสารเลยส่งให้ไปเกิดเป็นฮีโร่ ถ้าแต่เดิมไม่มีขาไม่มีตาอะไรงี้ก็แบบต้องเข้าไปฝึกในโลกใหม่ แบบ ว๊าว กูเดินได้ กูมองเห็น แบบนี้อะ
>>492 เฮ้ยถ้าเกิดใหม่ไม่ใช่โลกเกมกูรับได้นะ แม่งก็เหมือนเมะเก่าๆที่ผู้กล้าไปกู้โลกต่างโลก
ส่วนที่มึงบอกเรื่องตายปญอ.กับพระเจ้าเกรียนกว่าเด็กประถมกูเห็นด้วยสัสๆ
เรื่องให้ตัวเอกพิการแล้วได้ไปเกิดใหม่ก็โอ ถือว่ามีเหตุผลรองรับ แต่ถ้าเขียนง่อยๆก็เหมือนยัดเยียดเหตุผลให้ดูดีไปงั้น คนเขียนแม่งต้องตีประเด็นเรื่องอดีตที่บัดซบของตัวเอกด้วย ดราม่าติ๊ดๆ
ใจวะเพื่อนโม่งที่ช่วยกูถกประเด็น
กุนึกต่างโลกดีๆไม่ออกเลยว่ะ กุเกลียดพวกมาบรรทัดแรกก็ตายห่าละ แล้วชีวิตเก่าก็ถูกลืมไปเลย เห็นแล้วรังเกียจความมักง่ายในการเกาะกระแสชิบหาย ประเภทมีสเตตัสมีสกิลเหมือนเกมส์ออนไลน์ด้วย มันเข้ากันมั้ยโลกแฟนตาซีถือดาบแต่มีระบบล้ำสมัยน่ะ ไม่อธิบายที่มาด้วย ที่กุโอเคด้วยคงเป็นเรื่องที่การเกิดใหม่มีสาเหตุจริงๆ โลกเก่าโลกใหม่สอดคล้องกัน มาเกิดใหม่เพื่อเอาความรู้โลกเก่ามาช่วย ฯลฯ ไม่ใช่แค่เป็นผู้ถูกเลือกไม่มีที่มา ไม่ใช่ฮาเร็มหรือตบผู้ร้ายไปวันๆ คิโม่ย
มีนิยายจีนเรื่องนึง กูว่าไปเกิดใหม่ค่อนข้างเมคเซ้น
นางเอกเป็นโปรแกรมเมอร์ คอยแก้บัคให้บริษัทเกม ทีนี้นางจะมีเพื่อนทางเน็ตคนนึงคอยช่วยนางเสมอ ช่วยทดสอบเกม ชี้จุดบัคอะไรพวกนี้
วันนึงเพื่อนคนนี้ก็ออกปากบ่นว่าดินแดนของนางมีปัญหา นางเอกก็เข้าใจ(ไปเอง)ว่าทางนั้นสร้างเกมแล้วติดบัค ก็เอ้อ เธอช่วยฉันมาเยอะแล้ว รอบนี้จะช่วยเธอบ้างแล้วกัน! แล้วก็โดนวาปไปเกิดใหม่เลย
ในเรื่องจะมีไอ้หล่อฮาเร็มโชคช่วยอยู่คน ผู้หญิงที่ไหนมีชะตาได้มาเฉียดใกล้ต้องรักต้องหลง (แม่งแซะนิยายฮาเร็ม) มีแค่นางเอกที่มองหน้าหล่อๆของมันแล้วเห็นคำว่า BUG ตัวโตๆ จนขวางหูขวางตา
นางเอกเคยฝันนิมิตครั้งหนึ่ง เห็นไอ้หล่อฮาเร็มโชคช่วยรวบรวมฮาเร็มและใต้หล้าในกำมือ สร้างตำนานสะท้านฟ้าสะเทือนดินจนตอนจบพาฮาเร็ม(ที่ใหญ่ขึ้นตลอดเรื่อง)เหาะสู่สวรรค์แฮปปี้ ทิ้งความพินาศไว้เบื้องหลัง
นางเอกก็เข้าใจแล้วว่าต้องหาทางขัดขวางนายบัคนี่เพื่อแก้ไขเรื่องราวนั่นเอง
กูชอบนะเรื่องนี้ เป็นการมาเกิดที่มีสตอรี่รองรับ
>>494 นั่นเลยเข้าโลกเกมมีทุกอย่างเหมือนเกม ก็เขียนเป็นแนวออนไลน์เสมือนจริงก็ได้นี่หว่า เกิดใหม่ในโลกเกมเพื่อว้อท
>>495 หมายความนางไม่ได้ตายไม่ได้เกิดใหม่ แต่วาร์ปเข้าเกมที่สร้างเลยหรอวะ แต่มึงบอกว่าเกิดใหม่กูแอบงง แล้วมีเหตุผลมั้ยทำไมนางเข้าโลกเกมได้
เรื่องนี้น่าสนใจ เพื่อนโม่งมีลิงค์นิยายให้กูมั้ย อยากอ่านว่ะเผื่อกูจะเข้าใจแนวนี้มากขึ้น
>>496 เพื่อขยายสเกล การตายดูเป็นเรื่องคอขาดบาดตายจริงๆ และให้ทุกสิ่งไม่ดูจอมปลอมภายใต้คำว่า มันก็แค่เกม << กู้เข้าใจนะ แต่ไม่เมคเซ้นเลย
ส่วนเรื่องนิยายจีนนั่นกูกำลังสับสนอยู่ แต่แม่งไม่เหมือนเกมอ่ะมึง กูตีความว่าเป็นโลกต่างมิตินะ มึงลองอ่านดู
เรื่อง ศิษย์ข้า เจ้าตายอีกแล้ว อยู่ในเด็กดีเนี่ยแหละ
แวบมาบอก กูวางพล็อตรวมนิยายประชดแนวเกิดใหม่ในเกมจีบหนุ่มได้ละ คร่าวๆ ก็คือ
-ตัวเอกวิญญาณหลุดไปโลกอื่นติดอยู่ในร่างจอมมารของมิติปีศาจ(โลกนี้มนุษย์กับปีศาจอยู่คนละมิติ) ซึ่งซักพักหนึ่งตัวเอกก็จะเริ่มรู้ว่าไอ้จอมมารที่ตรูเป็นอยู่เนี่ยเหมือนลาสบอสในเกมแอ็กชั่นอาร์พีจีแนวฮาร์ดคอร์ที่เคยเล่นนี่หว่า แน่นอนว่าจุดจบคือถูกผู้กล้ามาปราบ เลยต้องรีบหาหนทางตัดความเจริญของผู้กล้าด้วยการลุยดันเจี้ยนชิงอาวุธในตำนาน เชือดอาจารย์ที่จะสอนเพิ่มเลเวลให้ ฉกเพื่อนร่วมปาร์ตี้มาอยู่กับตัวเอง กวาดสมุนไพรหรือไอเท็มที่จะช่วยอัพเลเวลให้ บลาๆ คือมันไม่ใช่โลกในเกมนะ เป็นโลกที่มีเนื้อเรื่องบางอย่างคล้ายเกมน่ะ แต่รายละเอียดไม่เหมือนกัน เช่น ในเกมดันเจี้ยนอยู่ในป่าเอลฟ์มิติมนุษย์ แต่โลกนี้อยู่ในมิติดาร์กเอลฟ์ที่อยู่คั่นกลางระหว่างมิติปีศาจกับมนุษย์
ได้โม่งช่วยแนะนำพล็อตกูลงตัวละ ขอบใจว่ะ แต่ยังไม่เขียนหรอก เดี๋ยวต้องวางพล็อตพื้นฐานโลกและตัวละครต่อ นิยายเรื่องปัจจุบันกูก็แต่งใกล้จบละ เขียนเมื่อไหร่จะมาบอกอีกที
อยากอ่านรีวิวนิยายดอกขาว มีใครเสนอตัวมะ
ดอกขาวนะ ไม่ใช่ลั่นทมขาว
http://my.dek-d.com/risait444/writer/view.php?id=1361915
เออกูงงเอง ดอกขาวของมึงคืออีพี่ริ ดอกขาวกูคืออีลั่นทม โทดๆ
นิยายอีพี่ริกูเคยอ่านตั้งแต่เอามาแปะแรกๆไม่รู้ตอนนี้พัฒนาขึ้นมั้ย แต่ตอนที่กูอ่านเมื่อหลายเดือนมาแล้ว ห่วยสัส
นิยายพี่ริอะไรนั่นอ่านไปแค่บทเดียวก็รู้สึกไม่ค่อยโอ บรรยายไม่สวยเท่าไหร่(ให้คะแนนความตั้งใจนะ) ตัวเอกพล่ามมากแปลกๆ เรื่องโดยรวมดูยัดๆข้อมูลและไม่ไหลลื่น สำหรับตอนแรกนี่กูให้ 5/10 แล้วกัน
>>506 มึงพูดซะกูกังวลเลย กูเขียนแบบบุคคลที่ 1 แล้วแสดงความคิดของตัวเอกตลอด
บางตอนก็ใช้บทบรรยายไป แต่บางอันก็จะแสดงว่าคิดอะไรอยู่เลย
ตัวเอกเป็นพวกคิดมากแถมเยอะด้วย กูอยากให้คนรู้ความคิดในหัวแล้วมองเรื่องผ่านมุมมองของตัวเอกนะ
มึงพูดมากูกลัวเลยว่าคนอ่านจะไม่ชอบตัวเอกคิดมากแบบนี้
>>507 มึงคิดมาก กูว่าการที่ตัวเองคิดเยอะ คิดมาก บ่นนั่นนี่ มันก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งถ้าเขียนดีๆ ส่วนตัวกูก็ชอบเขียนแบบบุรุษที่ 1 แล้วแทรกให้ตัวเองบ่นนะ เหมือนตบมุกอะไรแบบนี้น่ะ แต่แบบกูต้องระวังเรื่องเล่นเยอะเกิน คิดเยอะเกินจนเรื่องไม่คืบ ต้องตบๆ ความคิดกลับมาบ้างไรงี้
>>501 ไม่มีเวลโว้ย กูแค่เปรียบเทียบ ที่ไม่ครองโลกไปเลยกูว่ามันก็เข้าข่ายตัวเอกเก่งเทพเกินไปดิถ้าครองโลกเป็นพระเจ้าน่ะ เลยสร้างโลกที่ต้องมีมิติแยกเป็นส่วนๆ เหมือนหมู่เกาะน่ะมึง ส่วนผู้กล้าก็รู้จากหน้าตาชื่อเสียงเรียงนามนั่นแหละ ถอดแบบมาจากเกมแค่ประวัติอาจมีอะไรไม่เหมือนกัน แต่ฆ่าไม่ได้เพราะเป็นหนึ่งในคนที่จะทำให้มิติมนุษย์ไม่ล่มสลาย เพราะถ้ามิติหนึ่งหายไปที่เหลือก็พังหมด(ส่วนนี้ไม่มีในเกมนะ แค่กูเอาไอเดียพวกบอสที่มีสกิลระเบิดตัวเองพาตายหมู่มาดัดแปลงนิดหน่อย)
ประเด็นคือกูจะเขียนล้อประชดพวกแนวเกิดใหม่ในเกมจีบหนุ่มไง ถ้าฆ่าผู้กล้าได้ง่ายๆ กูก็แต่งจบห้าเอสี่แล้วน่ะสิ เลยใส่เงื่อนไขให้มันยืดไปอีกหน่อย จะได้เห็นตัวร้ายร้ายชัดๆ ไปเลยไม่ใช่กลายพันธุ์เป็นตัวเอก เลวสุดขั้วชั่วสุดยอดให้สมกับเป็นตัวร้ายไปเลย แต่ไม่ถึงกับฆ่าล้างบางเป็นฮิตเลอร์หมายเลขสองหรอกนะ
กุเคยด่าว่านิยายพริมแย่ที่สุดในเด็กดีแล้ว มาเจอเรื่องนี้กุซีดเลย
กุอ่านห้าตอน เนื้อเรื่องเท่าทีกุจับใจความได้ คือ แรร์เน็สเป็นเจ้าชายผู้ได้รับมอบหมายให้ปกป้องผู้อ่านคาถาแต่เมื่อพบผู้ปกป้องคาถาเข้าจริงๆ แรร์เน็สกับประกาศว่าจะฆ่าทิ้งซะ ปรากฏว่าผู้อ่านคาถาเป็นผู้หญิงปลอมตัวมา และเป็นคนมีเมตตามาก แรร์เน็สจึงลังเลว่าฆ่าดีไหม
เริ่มจากข้อมูลนิยายเบื้องต้น สำหรับกุมันเหมือนปกหลังของหนังสือ ควรบอกปมหลักของเรื่องเพื่อเร้าให้คนอยากอ่านข้างใน แต่คนเขียนบอกเบื้องลึกเบื้องหลังพระเอกมาเต็มแถมสำนวนติดๆ ขัดๆ มีการใช้คำซ้ำเยอะมาก เช่น ย่อหน้าแรกมีคำว่าดาบตั้งห้าครั้ง อ่านแล้วลายตาเกินไป จริงๆ กุว่าใส่ย่อหน้าที่สองมาอย่างเดียวจะน่าอ่านกว่า เอาเป็นว่ากุอ่านแล้วงง ถ้าไม่ติดว่าจะสับให้โม่งกุคงปิดทิ้ง
เริ่มบทที่หนึ่ง เปิดมาแรร์เน็สนั่งพูดคนเดียวเกี่ยวกับคำทำนาย บอกว่าฝนตกติดกันเจ็ดวันเจ็ดคืนแล้วถ้าพรุ่งนี้มีสายรุ้งซ้อนกันแสดงว่าผู้อ่านคาถาจะมา เช้ามาก็เกิดอย่างว่าจริงๆ พระเอกจึงออกไปดักรอผู้อ่านคาถาแล้วพบกับชายในชุดเทาจึงตะโกนถามว่า มึงใช่ผู้อ่านรึเปล่า ถ้าใช่กุต้องฆ่ามึงนะ บลาๆๆๆ แต่คนชุดเทาเมิน กลับไปสนใจลูกนกที่ตกลงมา ชุดเทาปีนต้นไม้ไปคืนลูกนกแต่กิ่งหักตกลงมาโดนตะขาบ ตะขาบเลยจะแดกหัวแม่ง พระเอกทั้งที่เพิ่งตะโกนป่าวๆ ว่าจะฆ่าก็เข้าไปช่วยซะงั้น ซึ่งพระเอกก็ไม่เข้าใจตัวเอง กุก็ไม่เข้าใจพระเอกเหมือนกัน คนชุดเทาตะโกนห้ามว่าอย่าฆ่าน้า ไม่ได้น้า อย่าฆ่ากันอีกเลยทว่าพูดคนละภาษา แรร์เน็สก็ฟังไม่รู้เรื่องหรอกแต่ครั้นคนชุดเทารั้งมือไว้ เขาก็สัมผัสได้ถึงกระแสเมตตา(???)จึงไม่ฆ่าแล้วอุ้มชุดเทาไปที่ริมแม่น้ำ ยัดหญ้าถอนพิษเข้าปากแล้วดูดพิษให้ แต่ตอนดูดเสือกลืมแดกหญ้าซะเองเลยสลบไป
อย่างแรกที่จะบ่นนะ พระเอกพูดมากโคตรแต่เสือกบรรยายคาแรกเตอร์ตอนแรกว่าเย็นชา เย็นชาห่าไร กุเห็นคิดเหี้ยไรก็พ่นออกมาหมด ถ้าอยากแสดงให้เห็นความคิดพระเอกควรใส่ในบทบบรรยายไม่ใช่คำพูด เช่น คำทำนายที่ว่าผู้อ่านคาถาจะมาเมื่อไร แทนที่จะให้พระเอกพ่น ทำไมไม่บรรยายว่า “ฝนตกมาได้เวลาเจ็ดวันเจ็ดคืน แรร์เน็สจ้องมองกองไฟพลางคิด ถ้าพรุ่งนี้เกิดรุ้งกินน้ำคงหมายถึงการมาของผู้อ่านคาถา” อะไรก็ว่าไป แล้วบางอย่างให้คนอ่านคิดเอง ไม่ต้องอธิบายมาหมด ไม่งั้นคนอ่านจะรำคาญ
สอง ในตัวนิยายจริงๆ ไม่มีข้อมูลให้เลยว่า พระเอกเป็นใคร ทำไมถึงต้องปกป้องผู้อ่านคาถา ผู้อ่านคาถาคืออะไร มีไว้ทำไม เหมือนคนแต่งคิดว่าคนอ่านรู้มาจากข้อมูลเบื้องต้นแล้ว ซึ่งแย่มาก กุไม่รู้จะพูดยังไงดี เอาเป็นว่า olo
สาม ใช้อัศเจรีย์เยอะไป ชอบใช้รูปประโยคแบบ “อย่า....!!!” แล้วแม่งมีประโยคแบบนี้ติดกันเป็นพืด เห็นแล้วขัดตา ใช้ “อย่า!” เขาร้อง หรือไม่ก็ “อย่า” เขาร้อง ไปเลย จะเว้นหาพ่อง
เริ่มบทสอง เปิดมาเป็นเรื่องของเจ้าหญิง ที่เห็นพ่อแม่ตายต่อหน้า ส่วนนางก็ถูกองครักษ์พาหนีไปแต่องครักษ์บาดเจ็บหนัก หลังหนีพ้นมาถึงป่า เจ้าหญิงก็ประคองทหารไปดูแลในถ้ำ ขณะนั้นก็บรรยายว่าเนี่ย ทหารคนนี้เป็นใคร ดีกับเธอแค่ไหน ร่ายจบอีทหารก็ตายห่า มึงบอกกุมาทำไม
ตัดมาเฉลยว่าเจ้าหญิงก็คือไอ้หนุ่มชุดเทานี่เอง เหมือนจะทำให้เป็นปริศนาแต่กุกลับเดาได้ตั้งแต่นางเอกมันแผ่กระแสเมตตาได้แล้ว
เจ้าหญิงตื่นมาพบตัวเองอยู่ในอ้อมแขนป้อชายก็ตกใจมาก นึกได้ว่าเขาช่วยไว้จึงคอยดูแล แรร์เน็สตื่นมาแล้วเจอเจ้าหญิงก็ไล่ให้ออกไปห่างๆ ตะโกนโหวกเหวกโวยวายตามภาษาพระเอกละครไทย ฉับพลันรอบตัวแรร์เน็สแม่งมีไอเย็นแผ่ออกมาจนเจ้าหญิงเข้าใกล้ไม่ได้ ระหว่างนั้นเขาก็มองหน้าเจ้าหญิงแล้วรู้สึกว่าสวยจัง “ถ้าเป็นชายต้องหล่อเหลาราวเทพบุตร ถ้าเป็นหญิงต้องงดงามดั่งนางฟ้าบนสรวงสวรรค์” แต่หลังจากนั้นก็กลับไปบ่นว่าจะฆ่าทิ้งๆๆๆๆ เจ้าหญิงแนะนำตัวว่าเฟรนลี่ หลังจากนั้นก็เกิดไรขึ้นไม่รู้ ยุงจะกัดแรร์เน็ส พอมันจะตบ เฟรนลี่ก็ห้าม ยุงเลยไปกัดเฟรนลี่ จากนั้นมดก็กัดเฟรนลี่ด้วย เฟรนลี่จึงหยิบมดไปปล่อยที่ริมแม่น้ำ (แล้วมดไม่ตายหรอวะ) พอกลับมาพระเอกโดนมดกัดเลยบี้ทิ้งก่อนที่ร่างมดจะรวมกัน ขยายเป็นมดยักษ์ จบปิ้ง
บทนี้...แย่มาก... กุพูดไม่ออก
ฉากพ่อแม่นางเอกตายต่อหน้าสั้นมาก กุไม่มีความรู้สึกร่วม หืม พ่องตายหรอ แล้วไง พอมาเจอทหารก็ยังเฉยๆ รู้สึกว่าตายไปแล้วไงวะเดี๋ยวแม่งก็ไปอยู่กับพระเอกอยู่ดี แนะนำว่าทำให้กุผูกพันกับตัวละครให้ได้มากๆ แล้วค่อยเปิดแฟลชแบคกระชากอารมณ์กุ
อีกนิด ถ้าตัวละครจะตายก็อย่าใส่ข้อมูลมา หนึ่งเปลืองหน้ากระดาษ สองรกสมองคนอ่าน
แล้วฉากตบยุงนี่กุอยากทุบหัวลงโต๊ะ ถ้าอยากให้คนอ่านรู้ว่านางเอกมีเมตตามากก็แสดงตอนการเดินทาง ให้นางเอกช่วยคนตกทุกข์ ให้ทาน บลาๆ จะมานั่งจ้องหน้ากันแล้วเทศน์เรื่องการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตทำไม
นอกจากนี้ แค่สองบทแต่คลิเช่เต็มเรื่อง “นางเอกปลอมตัวเป็นชายแต่พระเอกก็ไม่รู้” “พระเอกเป็นคนโหดร้าย” “นางเอกเป็นคนดีมีเมตตา” “นางเอกสอนให้พระเอกอ่อนโยน” นี่แม่งละครไทยชัดๆ
>>512 ตอนแรกกุจะสับถึงบทห้า แต่พอต้องมานั่งอ่านละเอียดๆ แล้วไม่ไหวว่ะ กุยอม
บทสาม ฉากบูี อ่านไม่รู้เรื่อง ขอบ่นอย่างเดียวตรงที่เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้นางเอกยังง่องแง่ง ม่ายยย อย่าบี้มดน้าาา อยู่ได้ หลังสู้กับมดเสร็จพระเอกนางเอกตกน้ำ พระเอกจึงอุ้มนางเอกที่สลบไปกระท่อมที่บังเอิ๊ญอยู่ใกล้ๆ กัน ขอยกย่อหน้าท้ายบทมาให้ละกัน
แล้วปลดกระดุมที่คอเสื้อนั้นให้คลายออก ขยับให้คอเสื้อเปิดกว้างเพื่อให้การหายใจสะดวก
ดวงตาสีสนิมเหล็กเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ หดมือกลับมาอย่างเร็วที่สุด เมื่อมองเห็นผิวขาวเนียนใต้ผ้าสีเทานั้น แล้วรีบปิดคอเสื้อไว้ เปิดไว้เพียงเล็กน้อย
ขึ้นบทสี่จ้า
'เจ้าเป็นหญิงหรือชายกันแน่?' เจ้าชายแรร์เน็สจ้องหน้าคนชุดเทาที่นอนนิ่งอยู่เบื้องหน้า ก่อนตัดสินใจพิสูจน์หาความจริง ค่อยๆ เอื้อมมือหนาๆ คลำหาบางสิ่งบางอย่างที่ควรมี
บุรุษหนุ่มชะงัก!! แล้วถอนมือกลับทันที
"เจ้า! เป็นหญิง!" เมื่อคลำไม่พบลูกกระเดือกบริเวณลำคอของร่างที่หมดสติ
โอ้ย อีผี กุเพิ่งเคยเห็นคนแยกหญิงชายที่ลูกกระเดือก แล้วคำว่าชะงัก ผงะ มึงจะใส่อัศเจรีย์มาทำไม
หลังจากนั้นพระเอกกลับมาสับสนในตัวเองอีกครั้ง ด่าตัวเองว่าจะสนใจนางเอกทำไม ควรฆ่าทิ้งสิ แต่พอนึกถึงความเมตตาของนางเอกก็ชะงักมือ แล้วย้ำกับตัวเองอีกรอบว่าต้องฆ่าทิ้ง สับสนในตัวเองไปเรื่อยๆ จนนางเอกฟื้นแล้วฆ่าไม่ลง จากนั้นแรร์เน็สก็สลบล้มทับเฟรนลี่ไป
นี่ครึ่งบทสามมั้ง กุไม่ไหวแล้ว ต้องขออภัยด้วยจริงๆ เนื้อเรื่องไม่เดินหน้า มีแค่พระเอกนั่งบ่นว่าจะฆ่านางเอกๆๆๆๆ ส่วนนางเอกก็ร้องว่าเมตตาๆๆๆๆ แค่นี้แหละทั้งเรื่อง ปมเปิ่มห่าไรหามีไม่
คนแต่งอายุเท่าไรวะ กุส่องมาเห็นเขาก็แต่งนิยาย/เรื่องสั้นตั้งเยอะ ทำไมฝีมือได้แค่นี้
กูบอกแล้วนิยายอีพี่ริเหี้ยสัสหมา
เขียนเรื่อยเปื่อย ส่วนที่คนอ่านอยากรู้เสือกไม่เขียน บทบาทตัวละครโคตรอ่อน แถมแม่งยัดเยียดให้คนอ่านเชื่อ แทนที่จะพยายามให้คนอ่านซึมซับเอง ก่อนอ่านกูเห็นอีพี่ริโชว์ตรรกะสวยในบอร์ดนึกว่าจะเขียนดีระดับนึงไม่ก็พออ่านได้ แต่คิดผิด360องศา เด็กอมมือบางคนยังเขียนดีกว่า อีพี่ริสมควรไปศึกษาวิธีการเขียนนิยายให้เป็น เขียนให้อ่านรู้เรื่อง ไม่ใช่ฟินน้ำหมากคนเดียวสัส
ปล.กูเห็นนางมีติ่งด้วยนะมึง ติ่งแม่งก็เก่งสัส ทนตามอ่านนิยายอีพี่ริได้ไงวะ แม่งโคตรคนจริมๆ
เห็นภาพที่พี่ริวาดเองแล้วกูคิดถึงชุดในเซ้นเซย่า หรืออะไรสักเรื่องของป้าแคลมป์
555+ กูเข้ามาลั่น
อิพี่ริของพวกมึง อย่าว่าแต่เขียนนิยายเลย แค่ตอบมู้ยังเรียบเรียงประเด็นสำคัญมาตอบไม่ได้เลย น้ำท่วมทุ่งชิบหาย 555+
ที่ว่าเหี้ยก็เกินไป มันก็เป็นแค่นิยายดาดๆเรื่องหนึ่งในเว็บนั่นล่ะ กูยังให้คะแนนความตั้งใจกับนักเขียนทุกคนเสมอ อ่านดูแล้วไม่ถูกใจแต่ก็เห็นได้ถึงความพยายาม กูไม่เรียกงานมันว่าเหี้ยหรอกนะ จะสนุกไม่สนุกก็ว่ากันไป แต่จะมาบอกว่าไอ้นี่เหี้ยไอ้นั่นเหี้ยนี่ ถามจริง มึงระดับโทลคีนเหรอวะ แหม
>>518 กูให้เหี้ยเพราะมันเหี้ย มึงจะว่าดาดๆก็ตามใจ เหี้ยคืออ่านไม่รู้เรื่องแย่ทุกๆอย่าง นิยายนู๋พริมกูก็ให้ดาดๆด่าพองามเพราะแม่งยังเด็กเพิ่งหัดมโน แต่อีพี่ริไม่ใช่ แมร่งเขียนนิยายก่อนนู๋พริมปฏิสนธิเลยมั้ง คือถ้ามันไม่โง่ยังมีความอยากพัฒนาตัวเอง มันคงเอาเวลาสิบปีไปหาวิธีการเขียนนิยายบ้างแล้วละมึง
>>518 กุไม่แน่ใจว่ามึงด่ากุรึเปล่านะ เพราะกุดูที่กุสับมา ยังไม่ได้ว่าเรื่องเหี้ยตรงไหน แค่บอกว่าแม่งแย่เกินกว่าที่กุจะรีวิวครบห้าตอน
สำหรับกุนิยายดาดๆ คืออ่านได้เรื่อยๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น พอวิเคราะห์ได้ว่าสนุกไม่สนุก อ่านจบแล้วไม่รู้สึก ว้าว อยากอ่านเก็บประเด็นที่พลาดไปจัง
นิยายเหี้ยคือกุไม่สามารถวิเคราะห์อะไรในเรื่องได้เลย ตรรกะในเรื่องย้อนแย้งกันไปมา การบรรยายติดขัดจนต้องอ่านผ่านๆ จนสุดท้ายไม่รู้เรื่องอะไรเลย ทั้งที่ทั้งนั้นคงเพราะสำนวนไม่ใช่แนวกุ
ลางเนื้อชอบลางยา ถ้ามึงว่าดี กุก็ไม่ว่าอะไร
มีเรื่องไหนให้สับอีกไหมโม่ง ว่าง
>>520 มันด่ากู โม่งไม่ต้องร้อนตัว มึงวิจารณ์ดีกูเห็นด้วยเต็มที่ คือถ้ามันบอกนิยายอีพี่ริดาดๆ กูก็อยากถามว่ามันจะเลือกอ่านมั้ย ดาดๆมันคืออ่านได้เรื่อยๆไม่แย่จนต้องรีบปิด กูให้คะแนนความพยายามของอีพี่ริก็ได้ แต่มันไม่ใช่ข้ออ้างว่ะ
กูขอนิยายของเจ๊มูรา เพื่อนโม่งช่วยรีวิวหน่อย กูเคยบอกแล้วอยากช่วยวิจารณ์คนที่ตั้งใจตีพิมพ์ ใครที่เขียนเล่นๆกูไม่อยากเสียเวลาอ่าน
>>520 เรื่องสิมึง แค่ 14 ตอนแฟนคลับสองร้อยกว่าแต่ติดท็อปยี่สิบได้แบบงงๆ
http://writer.dek-d.com/dohrock12/story/view.php?id=1466046
ว่างๆเลยเข้าไปอ่านเล่น บทแรกก็เบ้ปากแล้ว บทหลังๆ นี่ก็เลื่อนไปอ่านคอมเม้นท์อย่างเดียว ว่าแต่ลูกครึ่งไทย-อิ้ง แต่ทำไมชื่อเรย์จิ นามสกุลดิคัสโซ่ก็ดูไม่อิ้งวะ 555
>>528 กูอ่านถึงบทที่เก้ายังไม่รู้เรื่องเหมือนกันว่ะ พระเอกเทพสร้างนั่นนี่ได้ ตีมอนได้ตัง เอาตังสร้างปราสาทสร้างทหารเป็นแสน ระบบเกมออนไลน์ในต่างโลก? มันเป็นอะไรที่ย้อนแย้งมากมาย จะเอาต่างโลกหรือเกมออนไลน์ก็สักอย่างสิวะ ยำรวมกันได้เหี้ยมาก ทำให้นิยายอีริดูมีคลาสขึ้นมาเลย(โลว์คลาสนะ) ไม่รู้ว่าระบบรวนหรือคนเขียนมันปั่นยอดวิว หรือมาตฐานคนอ่านมันตกต่ำลงวะ
กู >>518 ไม่ได้ตั้งใจด่า แค่จะบอกว่านิยายพี่ริแม่งก็เป็นนิยายดาดๆ ที่คุณภาพก็แย่พอๆกับไอ้พวกที่เกลื่อนกลาดเว็บอยู่ตอนนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามึงจะชี้หน้าด่าไอ้นิยายทุกเรื่องได้ว่าเหี้ยไงมึง คือแค่เขียนไม่ดี ฝีมือไม่ถึง = เหี้ย มันก็ออกจะเกินไปหน่อยไหม ถ้าคิดจะวิจารณ์ก็ควรที่จะมีคำพูดที่ดีกว่านี้
ที่กูให้คะแนนความพยายามอีพี่รินี่ไม่ใช่ข้ออ้าง แต่เป็นเพราะกูไล่อ่านคอมเมนต์นิยายมัน ก็เห็นมีคนท้วงมีคนเตือนอะไรบ้าง กูก็ลองไปนั่งดูว่าเออ แม่งก็แก้หลายจุดนะ ทั้งคำผิด ทั้งสำนวนแปร่งๆ(ตอนแรกแย่กว่านี้) ก็เลยถือว่ามันมีความใส่ใจกับสิ่งที่มันเขียน ไม่ใช่พอมีคนมาเตือนก็โวยวาย กูไม่เคยได้เกรดสี่ภาษาไทยเลยแบบไอ้ปากกาแดงดำ
>>531 มึงไม่แยกแยะเรื่องคุณภาพงานกับการแก้ไขงานหรอวะ สมมติกูเขียนกากกว่าอีพี่ริ แต่กูแก้ตามที่มึงบอกนิดๆหน่อยๆ มึงก็โอใช่มั้ย
แต่กูไม่ว่ะ ถ้ากูเขียนกากมีคนแนะนำให้แก้ตลอดชาติ กูไม่ให้เขาต้องนั่งจี้บอกแม่งทุกอย่าง บอกระดับนึงก็สำเนียกปรับปรุงยกใหญ่แล้ว
ตราบใดที่มึงไม่แยกเรื่องคุณภาพมาวิจารณ์อย่างเดียว มึงก็วิจารณ์ไม่เป็นกลางแล้ว ถ้ามึงไม่ชอบคำว่าเหี้ยกูก็ไม่รู้เรียกว่าอะไร กูอ่านแล้วเหี้ยไม่ใช่ดาดๆ
ตามกระทู้แนะนำนิยายมีเรื่องไหนที่มึงว่าพออ่านได้มั่งวะ
>>532 การแก้ที่ดีไม่จำเป็นต้องแก้ตามที่ทุกคนบอก แต่ความพยายามที่กูพูดถึงคือความพยายามในการใส่ใจสิ่งที่ตัวเองเขียนออกมา ไม่ใช่เขียนเสร็จแล้วกูสะบัดตูดนะ และแน่นอนที่มึงบอกว่ากูวิจารณ์ไม่เป็นกลาง กูยอมรับว่ากูวิจารณ์ไม่เป็นกลางจริงเพราะพยายามดูบริบทต่างๆที่ผู้เขียนรังสรรค์ผลงานออกมา ซึ่งทำให้การวิจารณ์ของกูไม่เป็นกลางจริงเหมือนการวิจารณ์ของมึงนั่นล่ะ
ลองสับเรื่องนี้ปะมึง นิยายเด็กดีเรื่องแรกที่มีแต่บรรยายไม่มีบทสนทนา เพราะตัวละครไม่ใช่ชาวไทยบทสนทนาจึงไม่ใช่ภาษาไทย(หืม?)
http://my.dek-d.com/mckinley850/writer/view.php?id=842255
กูนึกว่ามีแต่เรื่องไส้เดือนตาบอดนะเนี่ยที่มีแต่บรรยายเวิ่นๆ ไม่มีบทสนทนา แต่พอเจอเรื่องนี้ เอิ่ม...หวังว่าคงไม่มีเรื่องที่สามโผล่มาอีกนะ นิยายใบ้แบบนี้เนี่ย
จริงๆ กูเคยอ่านทั้งอิพี่ริทั้งของไอ้เดธนะ ตามความเห็นกูมันมีปัญหาที่ตรงข้ามกัน อิพี่ริเนี่ยมันเป็นคนที่เขียนน้ำท่วมทุ่ง ประโยคเดียวป้าแกใส่วลีขยายแม่งเพียบ มันฟุ่มเฟือยเกินจำเป็น ซึ่งจริงๆ การเขียนนิยายมันคือการจินตนาการร่วมกันของผู้อ่านกับผู้เขียน ไม่ใช่บังคับผู้อ่านไม่ให้มีส่วนร่วมในการจินตนาการเลย ส่วนไอ้เดธนี่เอาแต่ประเด็นมาเขียนไม่มีขยายอะไรเลย พูดง่ายๆ มันให้คนอ่านมาน้อย เวลามันเขียนจบหนึ่งประโยคมันจะขึ้นประโยคใหม่เลย มันขาดความต่อเนื่องและกระตุกอย่างที่โม่งได้อ่านกันนั่นแหละ
ส่วนประเด็นเรื่องงานเหี้ยไม่เหี้ย จริงๆ มันก็เป็นคำที่แรงนะ ใช้คำว่าห่วยน่าจะตรงเป้าหมายกว่า เพราะถ้างานเหี้ยสำหรับกู กูให้น้ำหนักไปที่เนื้อหามากกว่า เช่น ชี้นำให้คนไม่กลัวบาป หรือทำเลวอะไรเทือกนั้น
ส่วนความพยายามของอิพี่ริ กูเห็นด้วยว่ามันพยายามจริง สังเกตจากการที่มันปรับแก้งานอยู่ตลอด คือคนมันไม่เก่งอ่ะกูก็ไม่รู้จะว่าไง ความจริงถ้าเป็นคนอื่นอาจจะถอดใจเลิกเขียนไปนานแล้ว มันก็คงอยากเขียนของมันจริงๆ นั่นแหละ เราถึงยังได้เห็นงานมันออกมาเรื่อยๆ
>>534 งั้นแล้วแต่มึง กูวิจารณ์แรงตรงๆก็บอกว่าไม่เป็นกลาง แค่กูยังหาคำอะไรไม่ได้นอกจากเหี้ย จะบอกว่ามือไม่ถึงก็ไม่ใช่ อีพี่ริไม่เคยปรับปรุงเป็นสิบปี
กูอ่านนิยายมาเยอะ เห็นความพยายามของคนมาก็มาก แต่อีพี่ริไม่ทำให้กูรู้สึกถึงความพยายาม มึงชอบมันกูไม่ด่ามันก็ได้พอใจมั้ย มึงทำกูเสียเวลา
โม่งคนไหนใจดี รีวิวนิยายแฟนตาซีโรงเรียนในเด็กดวกให้กูหน่อยสิ เอาอันดีๆนะมึง
วิจารณ์เจ๊มุ
ขอโทษที่ให้รอนานหน่อย พอดีกุไม่ชอบอ่านแนวบรรยายเวิ่นๆ อ่านอะไรรายละเอียดเยอะๆ แล้วหลุดตลอด เพราะงั้นกุจะมึนๆ และบ่นเรื่องการบรรยายเยอะ ขออภัยล่วงหน้า
บทนำ เปิดมาด้วยเสียงระฆังและตัดไปที่ราชวัง มีการเซ็นสัญญาว่าจะไม่รุกรานกันโดยมีข้อตกลงว่าเจ้าเมืองอารีน่าจะเป็นลูกของพระเอกกับนางเอก หลังจบพิธีสงบศึกก็เริ่มงานแต่งของพระนาง นางเอกทำทีท่าเหมือนถูกหลอก คิดว่าที่บอกต้องมีลูกด้วยกันไม่อยู่ในแผนนี่ ก่อนจะตัดไปเป็นอภิมหาข้อมูลประวัติศาสตร์ ครั้นร่ายจบ คนแต่งพาเราย้อนเวลากลับไปตอนที่นางเอก ซิลเวียยังไม่แต่งงาน
เวลานั้นยังมีสงคราม ซิลเวียก็ไปช่วยอยู่ที่สถานพยาบาล ระหว่างซักผ้าเปื้อนเลือด ศัตรูก็เดินมาขอให้ช่วยแก้พิษให้เพื่อยเพราะนึกว่าเธอเป็นสาวปรุงยา ซิลเวียก็ไปช่วย ระหว่างเดิน ทหารก็มองว่า เอออีนี่เดินสวย ผมสวย ผิวสวย เป็นเทพธิดารึเปล่า เลยถามไป นางเอกก็ อุ้ย อะไรกัน นอกจากพ่อ นางกำนัล ไม่เคยมีคนชมเลยยยย
พอเข้าไปในค่าย ซิลเวียก็พลางตัว เอาผ้าคลุมมาปิดหน้าปิดตาก่อนจะไปดูคนป่วย พบว่าพิษนี้ไม่ใช่ของเมืองนาง ทหารจึงตะโกนว่ารู้ไหมว่าคนตายไปตั้งเท่าไร (ก็ไม่ใช่ของเมืองแม่ง มึงจะให้มันทำไงวะ) ยังไม่ทันต่อความไร พระเอก ชายหนุ่มผู้มีออร่าทมิฬแผ่มา ทหารทุกคนคุกเข่า หัวแนบพื้น เดินมากล่าวหาว่าทหารเป็นสายลับกับเมืองนางเอก ซิลเวียพยายามแก้ต่างแต่เขาจะเอาความอยู่ดี เธอเลยตะคอกใส่หน้าแม่ง ทหารเตือนให้ระวังมารยาท นางเอกของขึ้น คิดว่า กุไม่เคยต้องมีมารยาทกับใคร จึงถอดผ้าคลุมปิดหน้ากับผม (เพื่ออะไรก็ไม่รู้) แล้วท้าว่าถ้ารักษาคนป่วยได้ต้องยกโทษให้คนพวกนี้
กุก็นึกว่านางเอกจะโชว์สกิลเทพ เห็นตอนวิเคราะห์อาการป่วยดูเก่งยาดี แต่นางควักน้ำยาพิเศษมากรอกปากคนป่วยแล้วแม่งหายเลย พระเอกบอกว่ายกโทษให้ทหารแต่ไม่ให้เจ้า! แล้วลากนางเอกไปเค้นว่าเป็นใครกันแน่ด้วยการบีบคอนางเอก
ที่จะติอย่างแรกคือโคตรอภิมหาข้อมูลในตอนแรก เข้าใจว่าคนแต่งอยากเล่าเหตุที่เกิดสงคราม แต่กว่าจะมาพูดถึงสงครามปัจจุบันจริงๆ ได้ กุจิตหลุดไปแล้วสามรอบ บอกมาเลยสิว่าเขาแย่งดินแดนกัน ไม่ต้องมาร่ายยาวตั้งแต่มนุษย์เกิดมาอย่างไร ตัดมาฉากนางเอกซักผ้า ณ สถานพยาบาลเลยก็ได้ ถึงฉากนั้นจะบอกว่าเพราะเกิดสงครามแย่งดินแดน กุก็ไม่รู้สึกว่ายัดหรอก
ข้อมูลวัฒนธรรมภูมิประเทศของแต่ละเมือง กุคิดว่าค่อยๆ ให้คนซึมซับไปจะดี คราวนางเอกเดินทางไปเมืองใต้ จึงมีฉากชมทิวทัศน์ ให้เรารู้สภาพแผ่นดินของเมือง พอยัดเยียดมาแบบนี้เหมือนให้กุอ่านหนังสือภูมิศาสตร์
ถ้าคนเขียนจะอ้างว่า ถ้าไม่บอกข้อมูลต่างๆ ขอเมืองมา พวกแกก็ไม่รู้สิยะว่าฉากแต่งงานตอนแรก เขาพูดถึงอะไรกัน เมืองการีน่าคืออะไร เขาเซ็นสัญญาแล้วทั้งปางดีใจเพราะอะไร ทวว่า กุอ่านพวกนี้จบแล้วไม่ช่วยให้เข้าใจอะไรขึ้นมาเลย ไม่เกิดอิมแพ็คที่ทำให้รู้สึกว่างานแต่งนี้มันสำคัญด้วย เพราะกุยังไม่เห็นความน่ากลัวของสงคราม ไม่รู้อะไรเลย
ตัดตอนแรกแล้วเป็นตอนซักผ้าเลยยังจะดีกว่า สาเหตุเพราะ การเปิดฉากด้วยการสงบศึกแล้วย้อนมาตอนสงครามลดความน่าติดตาม กุแค่คิดว่าเออ แล้วไง เดี๋ยวทุกอย่างก็สงบ พระเอกได้นางเอกอีก ไม่มีอะไรน่าห่วง กลับกันถ้าเปิดฉากด้วยเวลาในสงคราม กุจะลุ้นว่า เหยด แล้วพระเอกจะตายห่าไหม นางเอกจะโดนลูกหลงรึเปล่า สองคนนี้ ทั้งๆ ที่เป็นกษัตริย์ต่างเมืองกันจะรักกันได้จริงๆ หรอ ยังไงวะ
ต่อมาการบรรยาย เยอะเกินไป บางอย่างไม่จำเป็นต้องบรรยาย เช่นสถานพยาบาลตอนแรก บรรยายมาแม่งหมดว่าสร้างขึ้นมาอย่างไร ทำจากอิฐที่ก่ออย่างไร บอกกุเพื่ออะไร อีกอย่างที่เห็นได้ชัด ความสวยของนางเอก ย้ำจริงๆ รู้แล้วว่าตามรกตสวย ผมลอนทองงาม ขาก็เรียวสวย บรรยายมารอบเดียวกุก็ได้ภาพแล้วว่านางสวย กุไม่ได้บอกว่าห้ามบรรยายหน้าตาตัวละครมากกว่าหนึ่งครั้งนะ บรรยายได้แต่ต้องมีจังหวะให้กุไม่กลอกตา พึมพำว่า อีกแล้วหรอวะ เช่น จังหวะที่ซิลเวียถอดผ้าออกแล้วทุกคนอึ้งเนี่ย กุว่าจังหวะนี้ใช้บรรยายได้ โอเคเลย เป็นการบิ้วคนอ่านให้อึ้งไปด้วย
วิธีดูว่ามึงควรบรรยายอะไรก็ง่ายๆ เลย มึงดูว่าเจ้าสิ่งนี่มันจำเป็นในการเดินเรื่องรึเปล่า ถ้าไม่มีมันเลย คนอ่านจะไปต่อได้ไหม ถ้าไปต่อได้ มึงก็อย่าบรรยายลงไป
>>543 ต่อๆ
ขอบ่นนางเอก นางเอกเป็นเจ้าหญิงแต่ดูไร้มารยาทและโง่เกินไป ที่กุว่าโง่เพราะเป็นถึงเจ้าหญิงแต่เดินเข้าค่ายศัตรูไปแบบว่าง่าย ถ้าทั้งหมดเป็นแผนหลอกล่ะ แถมตอนที่พระเอกเข้ามาแล้วทุกคนก้มหัวให้หมด น่าจะพอสะกิดใจหน่อยรึเปล่าว่าคนนี้เป็นคนสำคัญ ไม่ควรพูดอะไรแย่ด้วยไม่งั้นโดนจับไปซ้อมหรือฆ่าข้อหาสามหาว อีกนิดคือนางเอกเปิดหน้าทำไม ยิ่งสวยๆ อยู่ไม่กลัวรักษาเสร็จแล้วโดนพระเอกหรือทหารคนอื่นๆ ดักปล้ำหรอ หรือไม่ก็เห็นผิวสวยๆ ผมงามๆ แบบนี้แล้วเอะใจได้ว่านางเอกเป็นเจ้าหญิงจึงได้รับการดูแลอย่างดี จับเป็นตัวประกันแม่ง อะไรแบบนี้หรอ
อีกนิด เรื่องพระเอก เป็นนักรบกลางทะเลทราบทำไมผิวขาวเยี่ยงอิสตรีวะ
วดฟ เพิ่งจบบทนำหรอวะ กุจะบ้าตาย
นิยายเจ้มุกูอ่านสองบท(บทนำกับบทที่หนึ่ง)ก็หมดสิ้นความอดทนในการอ่าน คืออุปมาอุปไมยใช้คำได้สวยดีนะ แต่บรรยายเวิ่นมากกก ซึ่งกูก็เคยสับไปแล้วในมู้นินทา และหลังจากนั้นไม่นาน ชุดน้ำชาก็ลงมาชุดใหญ่จัดเต็ม...
กูรอคนสับนิยายลุงอยู่นะ เผื่อกูจะไม่ใช่คนเดียวที่มองว่านิยายมันอ่านยาก
http://writer.dek-d.com/grayScaleAroma/story/view.php?id=1459885
http://writer.dek-d.com/atitep123/story/view.php?id=1469774
http://writer.dek-d.com/krtestarossa/story/view.php?id=1442244
http://writer.dek-d.com/knight16254/story/view.php?id=1448555
http://writer.dek-d.com/neru-aklta/story/view.php?id=1344727
http://writer.dek-d.com/joi100/story/view.php?id=1446179
กุโม่งใหม่ ส่องคุยกันมานานแล้ว วิจารณ์นิยายพวกนี้หน่อย คิดว่ามันโอเคอยู่ ขอแบบไม่ด่ามากมาย เดะกุไปโพสต์แปะพวกมันให้เลย
เฮ้ยเพื่อนโม่งทั้งหลาย ชาวบ้านเค้าเชื่อมั่นในฝีมือการสับนิยายของพวกเราว่ะ บอร์ดนี้กำลังจะกลายเป็นบอร์ดมีสาระไปซะแล้วเพื่อนโม่ง กูลั่นมากบอกตง
เอาล่ะ กู >>556 ทำตามคำพูดของตัวเองแล้ว โดยการไปส่องหน้านิยายอัพเดต เลือกเรื่องนี้มาได้
เรื่อง : Guardian of Life
link : http://writer.dek-d.com/se-se-a/story/view.php?id=1467293
จำนวน : 6 ตอน (รวมบทนำ และบทที่คนเขียนใช้แจ้งข่าวสาร)
สถานะ : ยังไม่จบ
ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าผิดหวัง คือผิดหวังในคำพูดของตัวเองด้วยที่บอกว่านิยายสักเรื่องมันต้องมีข้อดีเป็นของตัวเองบ้างล่ะน่า เพราะเท่าที่อ่านมาเรื่องนี้ไม่ได้มีข้อดีเป็นชิ้นเป็นอันอะไรให้ชื่นชมได้เลย กล่าวได้ว่า สิ่งที่รู้สึกดีสิ่งเดียวที่ได้จากนิยายเรื่องนี้คือการที่มันมีแค่ 6 ตอน เพราะคงทนอ่านเยอะกว่านี้ไม่ไหวแน่
จากการที่อ่านตั้งแต่ต้นจนจบโดยไม่ข้ามเนื้อหาใดเลย สามารถสรุปเรื่องย่อได้ดังนี้
จักรวาลของเรื่องนี้คือจักรวาลจริงๆ เป็นเอกภพอันกว้างใหญ่ที่คนอยู่ในดาวต่างๆ มีการไปมาหาสู่กันด้วยยานอวกาศ แต่มียานอวกาศที่แปลกกว่าใครเพื่อนอยู่ลำหนึ่ง เป็นยานที่ไม่มีหน้ากากคลุม (อ่านดูแล้วคล้ายๆจานข้าวบินได้) ในยานนั้นมีคนใส่เครื่องแบบเหมือนกันบังคับ เรียกยานนั้นว่าการ์เดี้ยน ทีนี้เรื่องก็เริ่มขึ้นที่ว่าไอ้ยานการ์เดี้ยนเนี่ยมันได้รับสัญญาณอะไรสักอย่าง ว่าเกิดปัญหาที่เขต 6 คนบนยานก็พล่ามๆว่าเนี่ยเขต 6 แม่งกว้างสัสๆ จะตามหาปัญหาเจอไหมเนี่ย ก็เลยส่งคนไปตามหา จนในที่สุดก็เจอเป้าหมาย เป็นดาวเคราะห์ดวงนึงชื่อวานิวเล่ จบบทนำ
เริ่มบทที่หนึ่งก็พล่ามถึงลักษณะของดาว ว่ามีทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีและเวทมนตร์ พ่อมดมีน้อยก็จริงแต่มีวัตถุบางอย่างที่เรียกว่าคอร์ขายอยู่ทั่วไป คอร์ก็คือตัวสื่อเวทอะไรสักอย่างที่ทำให้คนธรรมดาใช้เวทมนต์ได้ คอร์ยิ่งมีอานุภาพดีก็ยิ่งแพง ประมาณนั้น ก็พล่ามไปเรื่อยๆว่าที่เมืองแห่งนึง ชื่อวานิวเล่เหมือนดาวเนี่ยแหละ ปกครองด้วยเจ้าเมืองคนนึง ซึ่งต่อมาก็มีงานเลี้ยงวันเกิดเจ้าเมือง คนที่จะมางานนี้ได้ก็ต้องเป็นคนที่ได้รับบัตรเชิญเท่านั้น
พระเอกชื่อรินเฟย์ คนเขียนบรรยายว่าผมสีขาวหม่น (ซึ่งกูก็ไม่รู้ว่าขาวหม่นแม่งคืออะไร รู้จักแต่เทาหม่น ก็เดาๆว่าสีผมมันน่าจะเหมือนขนหมาสีขาวที่ไปคลุกดินมาก็แล้วกัน) ไอ้รินเฟย์เนี่ยมีเพื่อนเป็นผู้หญิงคนนึงชื่อคุโระ ซึ่งสวยหยาดเยิ้มมากตามฟอร์ม คนทั้งงานอิจฉาพระเอกที่ได้ใกล้ชิดสาวสวย คุโระมีบอดี้การ์ดคนนึงเป็นผู้ใช้เวท แต่รินเฟย์ไม่มี บทบรรยายก็ประมาณว่าไอ้พระเอกนี่เก่งเทพมาก ต่อให้คนทั้งงานจะมารุมกระทืบแม่ง แม่งก็เอาชนะได้ง่ายๆอยู่แล้ว ต่อมาก็เปิดตัวเจ้าเมืองชื่อแฟร๊ง (ตอนแรกกูนึกว่ามันชื่อเฟ-รัง แต่อ่านดีๆไอ้สัสแฟรงค์นี่หว่า) แฟร๊งเป็นชายแก่อายุห้าสิบกว่าแต่หน้าเด็ก จินตนาการว่าเป็นพี่เบิร์ดก็แล้วกัน เจ้าเมืองแอบเดินเข้ามาหาพระเอกแล้วก็ส่งจดหมายฉบับนึงให้ สักพักพระเอกก็โดนที่บ้านโทรตามกลับบ้านก็เลยกลับ คุโระก็เลยบ่นๆกับบอดี้การ์ดว่า เนี่ย น่าสงสารพระเอกเนอะ ที่บ้านเป็นห่วงมาก (ในความคิดกูคือ อีเหี้ย ไหนว่ามึงเก่งไง)
ระหว่างทางเดินกลับบ้านฟ้าก็มึดแล้ว เลยสี่ทุ่มไปเจ้าเมืองแม่งก็สั่งให้บ้านแต่ละหลังดับไฟอีกเพราะอยากประหยัดพลังงาน (กูนี่เอามือก่ายหน้าผากเลย) เหลือแต่ไฟถนน แล้วพระเอกก็ใช้สกิลเทพบอกว่า ฮั่นแน่ กูรู้นะ มีคนตามกูมาชิมิล่า ไอ้พวกห่านั่นก็เผยตัวออกมาสิบคน ปามีดใส่พระเอก บอกว่ากูจะฆ่ามึง กูจะเอาหัวมึงไปดูดความทรงจำห่าอะไรสักอย่าง พระเอกก็สู้ๆ แม่งบอกว่าตัวเองแน่เเต่เสือกโดนอีกฝ่ายจิ้มไปมีดนึง แม่งเลยควักระเบิดออกมาปาใส่ ตัวโกงตายหมด แต่มีดของผู้ร้ายเสือกอาบยาพิษ แม่งก็ล้มลง แล้วก็มีคนผมเงินปริศนาพาไปส่งที่บ้าน
พระเอกกลับบ้านไปก็มึนๆงงๆ แดกข้าวต้มเครื่องได้แค่สามช้อน ทั้งที่ปกติชอบกินมาก ถามพี่ชาย(น่าจะเทพ) ว่าใครพากูมาส่งวะ ไม่คุ้นหน้าแม่งเลย พี่ชายก็บอกว่าเป็นคนที่ผ่านมาแถวนี้น่ะ พระเอกก็ทำเป็นเชื่อแล้วเข้านอน แต่พอพี่ชายเผลอก็แอบออกไปสืบว่าใครอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ลอบทำร้าย ก็ไปเจอหลักฐานเป็นขนนกกลุ่มนึง พระเอกคิดว่าเป็นปีก แต่ก็หัวเราะประมาณว่า คนจะมีปีกได้ที่ไหน (แต่เชื่อกูเถอะ แม่งมีแน่)
แล้วเรื่องก็เดินต่อไป พระเอกไปอยู่ในกระท่อมกลางป่าคนเดียว (ไหนมึงว่าที่บ้านห่วง) พวกคุโระกับผู้ติดตามก็มาพล่ามๆ ต่อมาพระเอกก็กลับบ้าน ไปเจอคนของสมาคมดาราศาสตร์ห่าอะไรสักอย่างที่อยากให้พระเอกร่วมมือตามหาอะไรสักอย่าง เพราะพระเอกมีความสามารถในการมองเห็นเหนือธรรมดา(ในที่นี้น่าจะประมาณ อยากรู้ว่าอะไรอยู่ที่ไหนก็มองเห็น) แต่พระเอกไม่ยอมร่วมมือ บอกว่าหน้าที่ของเขาคือการเก็บความลับในสิ่งที่ตัวเองเห็นต่างหาก
จบเนื้อเรื่องทั้ง 6 ตอน ต่อมาเป็นการพูดถึงองค์ประกอบอื่นๆ และการให้คะแนน
ตัวอักษรเกินละ ต่อด้านล่าง
>>568 ต่อนะ
คำผิด : เยอะฉิบหาย เยอะมากแบบมึงไม่ตรวจทานอ่านทวนบ้างเลยเหรอ ทั้งแบบที่พิมพ์ตก ผันวรรณยุกต์ผิดในคำง่ายๆ รวมไปถึงการสะกดคำผิดอีกด้วย กูให้ 3/10
การบรรยาย : มองเห็นถึงความพยายาม เน้นการใช้การบรรยายเพื่ออธิบายเรื่องราวแทนที่จะใช้บทสนทนา ถือว่ามีความตั้งใจดี แต่ยังห่วยมากจนแทบอ่านไม่รู้เรื่อง การใช้คำวิเศษณ์ซ้ำซ้อนเยิ่นเย้อ ลากประโยคให้ยาวๆพยายามให้ดูสวย แต่จริงๆมันทำให้งงมากเพราะฝีมือยังไม่ถึงขั้นที่จะทำเช่นนั้นได้ แถมใช้คำซ้ำในย่อหน้าเดียวกันมากเกินไป กูให้คะแนนจริงๆ ที่ 4/10 แต่ถูกใจการที่ฝึกใช้บทบรรยายอธิบายเรื่องแทนบทสนทนา เพราะงั้นบวกให้อีก 1 เป็น 5/10 (ส่วนคะแนนความพยายามของกูเองในการทนอ่านแม่งให้จบ กูให้ตัวเองเต็ม)
ตัวละคร : เบียวมาก รู้สึกได้ถึงความแกรี่แถมย้อนแย้งของพระเอก มีการยัดเยียดอะไรเข้ามามากมาย(อิทธิพลเมะญี่ปุ่น) อันนี้ไม่ค่อยถูกใจเลย ให้ 3/10 แล้วกัน
เนื้อเรื่อง : งงฉิบหาย เพราะบทบรรยายที่ทำได้ไม่ดี ทำให้อ่านแล้วต้องชอร์ตโน้ตตาม ไม่งั้นเอามาสรุปให้พวกมึงฟังไม่ได้แน่ ถ้าคิดจะอ่านเพื่อความบันเทิงก็ข้ามเรื่องนี้ไปได้เลย แต่ในความแย่นั้นก็ยังสามารถจับใจความได้(ถ้าตั้งใจอ่านมากๆ) มองเห็นถึงสภาพโดยรวมของจักรวาลในเรื่อง รวมไปถึงสโคปที่เล็กลงในดาวที่กูจำชื่อไม่ได้แล้วและจะไม่เสียเวลาเลื่อนไปดูชื่อที่เขียนทิ้งไว้ข้างบน การเดาทางเนื้อเรื่องทำได้ค่อนข้างง่ายทีเดียว แต่ก็จะไม่ขอเดาอะไรมาก เพราะนี่ยังเพิ่งเป็นช่วงต้นเรื่องเท่านั้น ต่อไปอาจมีการหักมุม ให้คะแนนส่วนนี้ 5/10
สรุปคะแนน 16/40 สอบตกนะครับ (มาตรฐานกูต่ำมากแล้ว ได้แค่นี้ไม่น่าพอใจ) แต่ถึงอย่างไรก็อยากให้ผู้เขียนพัฒนาฝีมือต่อไป ดูแนวทางการเขียนแล้วฝึกต่ออีกสักหน่อยก็คงจะเป็นภาษาคนมากขึ้น สู้ๆจ้า
จะมีกี่เรื่องหนอที่สอบผ่านโม่ง 5555
กูว่ามันต้องมีบ้างแหละ แต่นิยายดีก็เหมือนผู้ชายในคณะอักษร คิดว่าคงจะมี แต่ยังหาไม่เจอ
ชอบคำวิจารณ์ของโม่งนะ เห็นละอยากเนียนแปะนิยายตัวเอง แต่ก็กลัวโม่งแตก
ชอบที่พวกมึงวิจารณ์จัง รออ่านเรื่องอื่นๆนะ ว่าแค่ขอถามหน่อยสิเพื่อนโม่ง กูจะเอานิยายลงเด็กดีแต่เลือกหมวดไม่ถูกอ่ะ นิยายกูวายนะ แต่ไม่เน้นความรัก เน้นแฟนตาซี ผจญภัย ออกสืบสวนอีก เลยอยากขอความเห็นว่าไปลงหมวดไหนดี รักแฟนตาซี? แฟนตาซี? นิยายวาย?
>>574 สายตาคนนอกมองว่าควรอยู่นิยายวายว่ะ แต่ถ้ามึงคิดว่าตัวเองไม่เหมาะ แค่มีตัวละครได้กันเองเป็นส่วนประกอบจะไปหมวดสืบสวนก็ยังได้ เพราะกูก็เคยสอบถามคนอ่าน เขาบอกว่าหมวดวายมีแต่วายรักๆใคร่ๆ แต่คุ้ยแฟนตาซีวายยากมาก หาในหมวดรักแฟนตาซีกับแฟนตาซีจะง่ายกว่า ฐานคนอ่านคนละแบบไปแล้ว เหมือนบางคนอ่านนิยายรักแต่ไม่อ่านแฟนตาซีทั่วไป
ถามหน่อย กูอยากรู้ว่าการเขียนนิยายว่าตัวละครหน้าตาดีเวอร์นี่มันเริ่มมาจากไหนวะ เมือก่อนกูเห็นเจ้าชายหล่อ เจ้าหญิงสวยกูก็ว่ามันแปลกพอสมควรละ เพราะตำแหน่งพวกนี้แม่งมาจากสายเลือดไม่ใช่หน้าตา หลัง ๆ นี่หนักเลยแม่งหน้าตาดีกันยันตัวประกอบ
>>578 เจ้าหญิงเจ้าชายหน้าตาดีก็ไม่แปลกนะ 1.แม่งไม่ต้องทำงานหนัก เลยไม่โทรม 2.ส่งผลมาจากข้อ 1 ทำให้แก่ช้า 40-50 ยังแจ๋ว 3.มีการอบรมสั่งสอนเป็นแบบแผน ถึงหน้าจะไม่ดีมากแต่มาดดี ฝีมือดี สมองดีก็ทำให้หล่อ/สวยได้ และ 4. เป็นถึงผู้ครองเมือง ต่อให้ถูกคลุมถุงชนแต่งงาน ยังไงก็คงไม่ได้ถูกจับให้แต่งกับหญิงอัปลักษณ์หรอก ยังไงก็ยังได้ผัวได้เมียที่พอจะหน้าตาดีบ้าง ลูกหลานก็เลยหน้าไม่ได้แย่ตามไปด้วย
>>578 กุว่าพวกมังงะ อนิเมะ มีผลต่อนิยายเด็กดีเยอะอยู่ ในอนิเมะไม่ว่าตัวละครตัวไหนก็หน้าตาโอเค เฉยๆ ไปจนถึงสวยสาส
พอไปอ่านหรือดูพวกนี้มาแล้วแต่งนิยาย คนก็จะติดว่าตัวละครต้องสวยไปทุกตัวด้วย
แต่ส่วนตัวกุ นิยายที่มีแต่ตัวละครหน้าตาดีไม่ได้แย่นิยายกุก็ตัวละครหล่อสวยเยอะ แค่เลิกบรรยายย้ำกุสักที กุหน้าเหี้ย กุหมั่นไส้
นิยายเรื่องใหม่ เปลี่ยนชื่อทุกเดือน
http://my.dek-d.com/alastor4/writer/view.php?id=1438822
>>578 คิดซะว่าเป็นอาหารตาน่า คนเราชอบอะไรสวยๆ งามๆ กันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ส่วนพวกรสนิยมแปลกๆ จะไม่พูดถึงละกัน
แล้วก็ เจ้าหญิงเจ้าชายในนิยายกูก็หน้าตาดีนะ แบบว่าเป็นถึงผู้นำทั้งทีขอให้หน้าตาดีหน่อยน่า ประชาชนจะได้ไม่เสื่อมศรัทธา 5555 อีกอย่างก็ตามที่โม่ง >>580 บอกนั่นล่ะ ถ้าจะแต่งงานกันคนไม่มีใครอยากแต่งกับคนอัปลักษณ์หรอก สมัยนี้คนยิ่งมองกันที่ภายนอกอยู่ด้วย
แต่ก็นะ... พวกที่ย้ำบ่อยๆ ว่าตัวละครตัวเองสวย - หล่อ นี่ก็รำคาญเหมือนกัน ไม่ต้องย้ำก็ด้ายยยย รู้แล้วว่าหน้าตาดี จะใส่มาให้เปลืองบรรทัดทำไม!
ติดไว้สัก2วันนะ ตอนนี้ยุ่ง
เอาล่ะ กูได้ทำการสุ่มนิยายอัพเดตล่าสุดอีกเรื่องมาวิจารณ์ กูขอตั้งชื่อตัวเองว่าโม่งใจอารี เพราะกูจะพยายามวิจารณ์ด้วยการมองโลกในแง่ดีที่สุดและให้คะแนนอย่างน่ารักและส่งเสริมกำลังใจ เต็ม 40 ถ้าได้ต่ำกว่า 20 นี่ถือว่ากากเดนมากนะจ๊ะ และก็ไม่ต้องแปลกใจว่าถ้าต่อไปนี้มีเรื่องไหนได้คะแนนถึง 30 เพราะ 30 เป็นคะแนนมาตรฐานว่าพออ่านได้เท่านั้นจ๊ะ
เรื่อง : Ability High School
link : http://writer.dek-d.com/earn150443/story/view.php?id=1467888
จำนวน : 13 ตอน (รวมบทนำ และบทที่คนเขียนใช้แนะนำตัวละคร)
สถานะ : ยังไม่จบ
เอาล่ะ หลังจากที่อ่านมาทั้งหมด 13 ตอน ค่อยใจชื้นขึ้นหน่อยว่าเรื่องนี้พอไปวัดไปวาได้ ยังไงผู้มีจิตใจบริสุทธิ์เบิกบานอย่างกูก็คงให้ผ่านครึ่งอยู่แล้วล่ะ ขอเริ่มต้นที่การเล่าถึงเนื้อเรื่องคร่าวๆก็แล้วกัน
เรื่องเริ่มต้นด้วยการแฟลชแบ็คไปตอนที่นางเอกเป็นเด็ก ย้อนความไปว่ามนุษย์ในโลกใบนี้แต่ละคนต่างก็มีพลังวิเศษเป็นของตัวเอง 1 อย่าง แต่นางเอกกลับเป็นเด็กที่ผิดปกติ คือไม่มีพลังวิเศษอะไรเลย(เป็นคนธรรมดาสามัญ) ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร เพราะ 7% ของคนบนโลกก็ไม่ได้มีพลังวิเศษใดๆเหมือนกัน แต่ก็นั่นล่ะ ตามประสาเด็กๆก็คือว่านางเอกจะถูกล้อถูกแกล้งหน่อย เพราะว่าแปลกประหลาดไปกว่าชาวบ้านเขา
เริ่มเรื่องจริงๆคือนางเอกเข้าเรียน ม.4 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง นางเอกไม่ค่อยมีเพื่อนเพราะถูกล้อว่าเป็นตัวประหลาด แถมความซวยยังไม่มีแค่นั้น เพื่อนของนางเอกที่มีด้วยกันอยู่แค่ 2 คนก็เสือกอยู่คนละห้องกับนางเอกซะด้วย นางเอกก็ต้องหงอยเหงาไปเรียนตัวคนเดียว แล้วก็ได้เจอเพื่อนใหม่ซึ่งเป็นเด็กใหม่เหมือนกัน ไอ้หน้าหล่อนี่ชื่อทีโอ (คือพูดก็พูดเถอะ คนเขียนเรื่องนี้สะกดคำได้ค่อนข้างแย่ ไม่ได้พิมพ์ตกหล่นนะแต่เป็นปัญหาเรื่องของการสะกดคำให้ถูกต้อง เช่น พันธ์ : พันธุ์ ถลอก :ทะลอก ยิ่งชื่อเนี่ยยิ่งแย่ คือถ้าบอกว่าชื่อทีโอ กูก็จะคิดไปว่ามันชื่อ TO แบบคนดำ CJ ใน gat sa ตามความคิดของกู มันควรจะชื่อ ธีโอ Theo แบบนี้มากกว่า) นางเอกก็โดนเพื่อนในห้องแหย่ตามเคยว่าไม่มีพลังวิเศษ แต่นางเอกก็ชินแล้วเลยชิลๆผ่านไป
ต่อมาก็มีกิจกรรมรับน้อง อันนี้แม่งอารมณ์เมะญี่ปุ่นสัสๆ คือนัดรับน้องที่โรงเรียนตอนกลางคืน เป็นเกมประมาณว่าจับคู่บัดดี้แล้วเข้าไปหากุญแจในโรงเรียน มีบัดดี้ 6 คู้แต่กุญแจ 5 ดอก ใครที่หากุญแจไม่เจอต้องนอนโรงเรียนจนเช้า นางเอกคู่กับทีโอ แต่กติกาคือบัดดี้ต้องแยกกัน แล้วเข้าไปหากันข้างในอีกที นางเอกกากมากเพราะไม่มีพลัง โดนคนที่มีพลังแย่งตัดหน้าไปตลอด แล้วก็มีใครไม่รู้แกล้งหลอกนางเอกว่าเจอกุญแจอยู่ในห้องๆนึง นางเอกก็โง่เข้าไปดู ปรากฏว่ามีเชือกปริศนาเข้ามารัดข้อเท้านางเอกไว้แล้วลากเข้าไปในความมืด นางเอกก็ตะโกนให้คนช่วย ทีโอใช้กระแสจิตจับได้ว่านางเอกอยู่ในอันตราย ก็เลยไปช่วยได้ทัน แล้วก็ได้กุญแจออกมา ทีโอพานางเอกไปรักษา แต่ก็ยังไม่หายดีเท่าไหร่ เลยให้นางเอกขี่คอแล้วพาไปส่งบ้าน ก็มุ้งมิ้งกระหนุงกระหนิงกันไป
วันต่อๆมาทีโอก็ไปรับไปส่งนางเอกที่บ้านตลอด คนเขียนพยายามใส่ความมุ้งมิ้งให้เห็นว่าทีโอ(ผู้เย็นชา)ชอบนางเอก(ผู้พูดมาก) ทีโอลงความเห็นว่าไอ้คนที่ทำร้ายนางเอกเนี่ยไม่ได้จะแกล้งเล่นๆแน่ แม่งกะเอาตายแน่นอน นางเอกก็บอกไม่จริงม้างงง ต่อมาเป็นวิชาพลังวิเศษ ซึ่งนางเอกไม่ชอบเลยเพราะตัวเองไม่มี ทำได้แต่นั่งดูคนอื่นโชว์พาว นางเอกเลยแอบโดด ก็ไปเจอแสงประหลาดส่องออกมาจากห้องเก็บของ นางเอกแม่งก็โง่เข้าไปดู ปรากฎว่าจู่ๆประตูก็ปิด ขังนางเอกไว้ข้างใน แต่ไม่นานก็มีคนมาช่วยนางเอกไว้ได้ ชื่อมิริน เป็นเด็กที่อยู่อีกห้องหนึ่ง(เพื่อนของเพื่อนนางเอกอีกที)
หลังจากนั้นนางเอกก็เดินกลับบ้าน ระหว่างทางก็เจอสวนแล้วก็เพ้อถึงพ่อ ประมาณว่าพ่อนางเอกหายสาบสูญไปจากเหตุการณ์รถตกน้ำเมื่อ 11 ปีก่อน (เรื่องปูมาประมาณว่า พ่อนางเอกทำงานกับองค์กรลึกลับอะไรสักอย่าง แล้วถูกฆ่าทิ้ง) จู่ๆนางเอกก็เจอแสงประหลาดนั่นอีก ตามแสงไปก็เจอคนที่หน้าตาเหมือนพ่ออยู่อีกฝั่งถนน นางเอกรีบข้ามถนนจนโดนรถชนไปฟื้นที่โรงพยาบาล หลับไป 1 สัปดาห์ก่อนที่จะฟื้นขึ้นมา หมอแปลกใจมากที่นางเอกดูไม่เจ็บหนักเท่าไหร่ บอกว่าปกติโดนแบบนี้เข้าไปนี่ตายแล้ว (อาจเป็นพลังบางอย่างของนางเอก?)
จบ 13 ตอน ต่อไปเป็นการให้คะแนน
ต่อจาก >>589 เข้าสู่ขั้นตอนการให้คะแนน
คำผิด : อย่างที่ได้เกริ่นไปข้างบน คำที่พิมพ์ตกหล่นมีน้อย แต่ที่พบมากคือไอ้การสะกดคำผิด ทะลอก : ถลอก เพื่อ : เผื่อ ประมาณนี้ ซึ่งมีเยอะพอสมควร แต่ก็ไม่ได้ทำให้เสียอรรถรสจนเกินไปนัก ให้ 6/10
การบรรยาย : บรรยายแบบบุรุษที่ 1 คือให้ความคิดของนางเอกเป็นตัวเล่าเรื่อง บทบรรยายฉากจึงมีน้อยมาก เราสามารถรับรู้เรื่องราวต่างๆได้จากความคิดของนางเอกที่พล่ามออกมาเหมือนไม่มีวันหมด สำนวนต่างๆดูไม่สละสลวยเท่าไหร่ ทั้งการตัดประโยคเป็นบรรทัดย่อยๆหลายบรรทัดทำให้ขาดความต่อเนื่องของเนื้อหา แต่ก็ถือว่าทำได้ดีพอใจ อย่างน้อยๆกูก็อ่านได้เรื่อยๆลื่นๆจนจบโดยไม่ต้องฝืนใจอ่านมากนัก เอาไป 6.5/10
ตัวละคร : มันคือเมะญี่ปุ่น พระเอกเย็นชา แต่มาชาแตกเพราะนางเอก ส่วนนางเอกก็โง่ๆเปิ่นๆสไตล์แจ่มใส ไม่ได้เลวร้ายอะไรเท่าไหร่นัก มีความเวอร์วังแต่ก็ไม่ได้แมรี่แกรี่ขนาดนั้น คาแร็กเตอร์ชัดสุดโต่งไปกว่าที่จะเป็นคนจริงๆ ให้ 6/10 แล้วกัน
เนื้อเรื่อง : ก็โอเค อ่านรู้เรื่อง นางเอกเป็นคนไม่มีพลังวิเศษที่อยู่ในโรงเรียนที่มีแต่คนมีพลังวิเศษ แถมดูเหมือนว่าต่อไปพลังวิเศษของนางเอกก็น่าจะปรากฎออกมาด้วย ใช้ความง่อยในการเดินเรื่องและก็มีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วย สร้างปมเรื่องพ่อของนางเอก ทำให้อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อ 11 ปีก่อน และใครกันที่ต้องการทำร้ายนางเอก ถึงแม้ว่าจะพอเดาทางได้แต่ก็ยังถือว่าไม่เสียดายเวลานั่งอ่านเท่าไหร่ อ่านพอเพลินๆได้นะ ให้ 7/10
สรุป 25.5/40 สอบผ่าน แต่ถ้าอยากจะให้ดีขึ้นก็คงต้องเป็นเรื่องการบรรยายที่ต้องปรับปรุง แต่ที่เร่งด่วนกว่าคือการสะกดคำ อย่าให้มันผิดบ่อยนักเพราะการสะกดคำเป็นสิ่งแรกเลยที่กูจะดู พิมพ์ตกพิมพ์หล่นไปบ้างพอรับได้ แต่การสะกดคำผิดนอกจากจะทำให้อารมณ์สะดุดแล้ว ยังอาจทำให้คนอ่านเข้าใจถึงความหมายที่ต้องการสื่อผิดเพี้ยนไปอีกด้วย
>>589 เรื่องนี้กูเคยส่อง ไม่คิดอะไรมาก็อ่านได้ กูชอบเนื้อเรื่องแล้วปกติกูไม่ชอบตัวละครจะออกแบบปญอ.อวยยังไงก็ทำไป แต่ที่กดปิดเพราะอารมณ์เมะหรือไลท์โนเวลที่ไม่ค่อยดีมาเต็มๆ แล้วจะแปะรูปเมะคั่นนิยายมั้ยวะ ไอ้555ด้วยบ่อยจนกูเพลีย แม่งหัวเราะเหมือนกันทุกตัวอีก กูให้ดาดๆอ่านได้แต่กูขอผ่าน
มึงอยากให้เรียกโม่งใจดีใช่มั้ย งั้นมึงก็เอาคำวิจารณ์ไปแปะหน้านิยายเลย ช่วยแล้วก็ต้องให้เกิดประโยชน์ดิวะ พี่โม่งใจดี
>>595 กูหมายถึงที่เวลามันมีคนมาตั้งมู้หานิยายในบอร์ดเด็กดีแล้วมีคนเอานิยายตัวเองมาฝากขาย เห็นสัปดาห์ละมู้เป็นอย่างต่ำ
วันนี้ก็มีมู้นี้
http://www.dek-d.com/board/view/3642959/
>>575 โลกแฟนตาซีอ่ะ ในโลกเสมือนจริง มีเทพมีปิศาจ
>>576 ฉากแสดงความรักระหว่างตัวละครมันเป็นเหมือนส่วนประกอบเฉยๆอ่ะเพื่อนโม่ง เนื้อเรื่องเทหนักไปที่การผจญภัยสืบหาความจริง แล้วก็แก้ปัญหาระดับอาณาจักรมากกว่า (แต่ว่าก็ว่าเถอะ ถ้าสมมติเอาไปลงหมวดแฟนตาซีแล้วจั่วตรงชื่อเรื่องว่าเป็นยาโอย มันจะทำให้คนที่หานิยายอ่านเสียอารมณ์รึเปล่านะ กูเองก็เคยเห็นมีคนเอานิยายแฟนฟิควายเกาหลีธีมแฟนตาซีมาลงหมวดแฟนตาซีเหมือนกัน เห็นแล้วหงิดๆว่าทำไมไม่ไปลงที่หมวดแฟนฟิค...)
>>577 ถ้ากูเอาไปลงหมวดแฟนตาซีแล้วจั่วบอกตรงชื่อเรื่องว่าเป็น Yaoi เพื่อแจ้งให้คนอ่านทราบล่วงหน้าเลย มึงว่าจะช่วยแก้ปัญหากันคนไม่อยากเจอเรื่องวายได้มั้ยอ่ะ? หรือว่าแค่เห็นมีวายหลุดมาในแฟนตาซีก็หงิดกันแล้ว...
ปล.ถ้ากูพิมพ์มึนๆ งงๆ ก็ขอโทษด้วยนะ เพิ่งตื่น OTL
>>600 ด้านลบแต่ก็เป็นกลางนะโม่ง พวกมึงวิจารณ์ดีกว่าที่แม่งเปิดรับกันซะอีก ปัญหาอยู่ที่คำหยาบเด็กดีไม่ปลื้มก็ลบออกไป ส่วนจะดราม่ามั้ยกูว่ายังบอกไม่ได้ พวกมึงไม่ได้สักแต่ด่าเอามันนี่นา ถ้าแม่งดาหน้ารับไม่ได้กันก็ค่อยปล่อยให้พวกมันวิ่งในทุ่งลาเวนเดอร์ต่อไป แต่กูเดาว่าน้อยว่ะที่จะออกตัวแรงด่าโม่ง ครั้งนี้เราทำดีเว้ยเพื่อน พี่โม่งใจดี๊ดี
>>602 กูว่าเอางี้ เราก็สับอยู่ที่นี่อย่างที่เราสับนี่แหละ การได้อ่านรีวิวหรือคำวิจารณ์มันจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนโม่งอยู่แล้วกูไม่อยากให้หยุด แต่ไม่ต้องไปสับในกระทู้เขา ถ้าใครอยากให้เจ้าของเรื่องมันรู้หรือได้อ่าน ก็ไปแอบกระซิบมันให้มาดูที่นี่ ดีกว่าไหมเพื่อนโม่ง
สับอยู่ที่นี่ล่ะโม่ง กูก็ไม่ได้เก่งกาจอะไร เอาไปลงก็ขายขี้หน้าเขาเปล่าๆ แค่หาอะไรอ่านแล้วลองวิจารณ์ดูธรรมดาๆ อย่าให้มันไปวุ่นวายกับใครเลย
ตั้งมู้รวมงานวิจารณ์ไปเลยก็ดี จะได้หาอ่านง่ายๆหน่อย
>>599 กูไม่ขัดใจเท่าแฟนฟิคบลาๆเข้ามาอยู่ในหมวดแฟนตาซีหรือพวกหมวดนิยายออริว่ะ แต่นิยายวายมันกว้างมาก แค่ตัวละครรักเพศเดียวกันป่าววะ มันคือเรื่องของรสนิยมทางเพศ แต่แฟนฟิคบางทีมันเป็นหมวดนิยายซึ่งคนเขียนไม่ได้คิดขึ้นเอง กูว่าหลายคนมีปัญหาแยกแยะไม่ได้ ถ้ามียาโอยคู่เดียวแต่ นอกนั้นเป็นนอมอลหมดคือกูควรย้ายไปหมวดวายไหม
>>609 กูเห็นด้วยกับแฟนมึง นี่ขุดแทบทุกหมวดยกเว้นแฟนฟิค แต่เจอแฟนฟิคเยอะมาก เยอะในระดับที่แบบย้ายไปหมวดแฟนฟิคคงโล่งขึ้นเยอะ กูสงสัยเหี้ยๆว่าแยกกันไม่ออกเหรอว่าอะไรคือออริจินัลอะไรคือแฟนฟิค บางมีแม่ฝแม่งแบบ มาร์คแบม เต๋าชา จั่วหัวแพรริ่งไว้กับชื่อเรื่อง แต่อยู่หมวดที่ไม่ใช่แฟนฟิคค่า
บางทีเขียนตรงคำบรรยายด้วยว่าเป็นแฟนฟิค แต่ทำไมมึงไม่ย้ายหมวด....
>>609 กู 599 เองนะ สรุปว่ามึงไม่ขัดใจเท่าแฟนฟิคหลงหมวดสินะ(ค่อยโล่งใจนิดนึง) สำหรับกู แฟนฟิคอ่ะต่อให้ธีมจะเป็นรักธรรมดาหรือแฟนตาซีกลายเป็นแวมพงแวมไพร์ แต่มันก็เป็นแฟนฟิคอยู่ดี ไม่ใช่เรื่องที่คิดขึ้นเอง ในเมื่อเด็กดีเขาสร้างหมวดมาให้แฟนฟิคโดยเฉพาะแล้ว ไม่ว่ายังไงก็ควรเอาไปลงที่นั่นว่ะ ไม่ใช่มาปนในหมวดอื่น ส่วนวายออริ ก็ดูที่ธีมหลักเรื่องป่ะว่ามันธีมไหน สมมติในเรื่องมีการแสดงความรักระหว่างตัวละครเพศเดียวกันจริงๆ แต่ไม่ได้โฟกัสตรงนั้น คนเขียนก็ควรมีสิทธิลงในหมวดที่ตรงกับจุดที่โฟกัสป่ะ(แต่ควรมีจั่วหัวที่ชื่อเรื่องหรือคำอธิบายเรื่องว่ามีเนื้อหาบางส่วนวาย กันพวกไม่ชอบอะไรแบบนี้) อันนี้คือความคิดกูนะ ถึงได้มาถามโม่งไงว่ากูควรลงนิยายตัวเองหมวดไหน ;___;
>>610 เห็นด้วย เจอแฟนฟิคแทรกมาเยอะมาก ถ้าย้ายแล้วหมวดนั้นโล่งไปเยอะอย่างที่มึงบอก ; - ;
>>611 งั้นถ้านิยายกูมีคู่วายแต่พล็อต/ธีมหลักคือสืบสวนไขความลับ ตามแก้ปัญหาของอาณาจักรอะไรแบบนี้ มึงจะไม่ว่าที่กูจะเอาไปลงหมวดแฟนตาซีใช่มั้ย ; - ; (ตัวละครไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาเลยแฟนตาซีน่ะ)
เรื่องหมวดนิยาย กูได้ทำการค้นคว้ามาแล้ว เฉพาะในส่วนของฟรีสไตล์ สามารถแบ่งหยาบๆได้เป็น หมวด คือ
1.นิยายรัก ประกอบไปด้วย รักหวานแหวว ซึ้งกินใจ รักดราม่า รักคอมเมดี้ รักแฟนตาซี นิยายวาย และนิยายรักสีเทา (สรุปให้เลยก็คือ นิยายวายที่จะอยู่ในหมวด "นิยายวาย" คือนิยายรักวายเท่านั้น สังเกตได้จากการที่มันเอานิยายวายมาแทรกระหว่างรักแฟนตาซีและรักสีเทา หมายความว่าต้องการจัดหมวดหมู่ในประเภทเดียวกัน)
2. นิยายที่ไม่ใช่นิยายรัก (ไม่ได้ชูความรักเป็นประเด็นหลัก) ประกอบไปด้วย นิยายแฟนตาซี นิยายเกมออนไลน์ นิยายวิทยาศาสตร์ นิยายระทึกขวัญ นิยายสืบสวน นิยายกำลังภายใน นิยายสงคราม นิยายผจญภัย นิยายอดีต ปัจจุบัน อนาคต นิยายบู๊ แอ๊คชั่น (ถ้ามึงเขียนให้ตัวเอกชอบผู้ชาย แต่การดำเนินเรื่องเป็นการผจญภัยตามหาไข่มังกรสายรุ้ง มึงก็เลือกเอาว่าจะเป็นแฟนตาซีหรือผจญภัย)
3. แฟนฟิค ประกอบด้วย หมวดที่ชื่อขึ้นต้นว่าแฟนฟิคทั้งหมด (ถ้ามึงเขียนนิยายวายรักๆใคร่ๆที่ใช้อิมเมจดาราเกาหลีเย็ดตูดกัน ให้เอามาใส่หมวดนี้จ๊ะ)
4. งานเขียนที่ไม่ใช่นิยายหรือไม่ใช่บันเทิงคดีหรือว่ามึงอยากติดท๊อปก็มาที่นี่ คือ นิทาน กลอน สังคม จิตวิทยา ตลก-ขบขัน(????) นิยายหักมุม (คืออีเหี้ย นิทาน กลอน ตลก นี่พอเข้าใจว่าเป็นงานประเภทไหน ไอ้สังคมกับจิตวิทยาก็พอกล้อมแกล้ม แต่ไอ้นิยายหักมุมนี่คือเหี้ยอะไร ประมาณเรื่องสั้นของสรจักรเหรอวะ? นิยายแม่งก็ต้องหักมุมกันทั้งนั้นล่ะ จะให้ผู้กล้าเดินทางฆ่าลูกกระจ๊อกไปเรื่อยๆแล้วเอาดาบแทงอกจอมมารตาย เย่ โลกสงบสุขแล้ว แค่นี้รึไง)
5. อื่นๆ(อะไรอื่นอีกล่ะวะ แม่งมีห่าอะไรให้อื่นๆด้วยเหรอ)
คือจริงๆกูว่าเด็กดีแม่งแบ่งหมวดยิบย่อยฉิบหาย คือสมมติกูเขียนนิยายเรื่องนึงที่พระเอกหลุดไปต่างโลกธีมกำลังภายใน แล้วต้องออกต่อสู้ตามหาไข่มังกรหิมะที่หายสาบสูญไป ปรากฎว่ามังกรหิมะแปลงร่างเป็นผู้ชายสวยคนนึงที่อยู่ในเมืองของศัตรู พระเอกเลยต้องทำสงครามแย่งชิงตัวมังกรหิมะมา แล้วพอรบชนะก็เกิดพิศวาสเย็ดตูดกัน แล้วเรื่องก็มาหักมุมว่าจริงๆพระเอกไม่ได้ไปต่างโลก แต่นี่เป็นเกมออนไลน์เสมือนจริงเกมหนึ่ง ที่มีบริษัทลึกลับบริษัทหนึ่งผลิตขึ้นมาด้วยเหตุผลบางอย่าง พระเอกจึงต้องเข้าไปสืบหาความจริงว่าเกมนี้คืออะไรกันแน่ แต่คนใกล้ตัวของพระเอกก็ตายไปทีละคนๆเพราะมีนักฆ่าปริศนาคอยตามรังควาญอยู่ แต่สุดท้ายด้วยความร่วมมือของวิญญาณที่มีความแค้นกับบริษัทนั้นก็ช่วยพระเอกเปิดโปงเป้าหมายที่แท้จริงของบริษัทได้
มึงว่าเรื่องนี้เอาใส่หมวดไหนดีล่ะ??
แต่กูก็คิดเหมือนกันว่าเด็กดีแม่งน่าจะใช้ระบบแท็กแบบพวกเกมในสตีมมากกว่า เพราะเอาเข้าจริง กำลังภายในแม่งก็คือแฟนตาซีนั่นแหละ
>>615 อ้าว ถ้าแฟนฟิควายก็ต้องไปหมวดวายด้วยเหรอครัช กูเพิ่งรู้นะเนี่ย
มึงต้องดูประเด็นของเรื่องด้วยสิวะว่ามันจะสื่ออะไร ออกเดินทางผจญภัยก็เป็นผจญภัย มึงจะเอาแค่รสนิยมทางเพศของตัวเอกมาตัดสินได้เหรอ จริงๆเว็บมันก็แบ่งช่วงหมวดไว้ตามที่กูแบ่งให้มึงดู 5 อันนี้เลยล่ะ มึงลองไปเลื่อนดูสิ แม่งเรียงกันมาเป็นเซ็ตๆแบบที่กูพิมพ์ไปเป๊ะเลย
>>618 กูเข้าใจว่ามึงหมายถึงในกรณีทั่วไปไงล่ะ อ่านที่มึงเขียนแล้วไม่ยักรู้ว่ามึงพูดถึงที่กูยกตัวอย่าง
และที่มึงยกตัวอย่างมาก็ห่วยสิ้นดี บอกว่าใช้มาตรฐานเดียวกับโม่ง ถามจริงๆว่าถ้ากูไปเล่นห้องนินทาเด็กดวกแล้วบอกว่ามาเฟียบอร์ดสองคนเป็นเกย์แอบสุยตูดกันอยู่ มึงจะให้กูคุยต่อในมู้นินทา หรือไล่ให้กูไปกระทู้ฟุล่ะ
ส่วนเรื่องมู้นินทากูเห็นว่าควรอยู่มู้นินทาเหมือนเดิม เพราะมู้ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อคุยเรื่องสองคนนั้นเป็นหลัก ง่าย ๆ คือมุมมองกูถ้านิยายมึงมีตัวประกอบเย็ดตูดกันอยู่มุมฉากกูก็ไม่มองว่าวายเพราะมันไม่ใช่ตัวหลักที่ใช้เดินเรื่อง
>>620 มึงโลกแคบหรือกูมึนเอง นิยายวายมันแค่ส่วนประกอบทางเพศเหมือนนิยายรักนอมอล ทีนิยายรักยังมีรักแฟนตาซีได้ ทำไมวายจะมีแฟนตาซีบ้างไม่ได้วะ ถ้านับตามที่มึงบอกงั้นนิยายฮาเร็มมันควรอยู่นิยายรัก เพราะแม่งจ้องจะงาบตัวเอกอยู่คนเดียวทั้งเรื่อง แฟนตาซีที่มีพระเอกนางเอกรักกันมึงจะอยู่แฟนตาซีทำไม ไปหมวดนิยายรักดิ
>>622 ถ้าฮาเร็มที่มึงว่ามันใช้เรื่องรักเป็นส่วนนึงในการเดินเรื่องกูก็เห็นควรว่าสมควรไปอยู่รักแฟนตาซีเหมือนกัน กูไม่ได้เห็นด้วยเรื่องที่นิยายต้องมีหมวดหมู่หมวดเดียว แต่ในเมื่อมันอยู่ได้แค่หมวดเดียวมึงควรเลือกให้มันตรงกลุ่ม คนอ่านวายแม่งจะได้ไม่ต้องไปงมหาในหมวดอื่น
กูแต่งนิยายกูลงจากประเด็นหลักของเรื่องนะ แบบที่โม่ง >>614 ว่า นิยายกูมีคู่รักทั้งชายหญิง ชายชาย หญิงหญิง แต่มันไม่ได้เน้นไปทางใดทางหนึ่งหรือเรื่องรักเท่าไหร่ ที่เน้นมากคือแฟนตาซีกูก็เอาไปลงแฟนตาซีนะ เพราะเนื้อเรื่องหลักมันคือหมวดนี้ ส่วนเรื่องรัก วายไม่วายมันเป็นเรื่องรองเฉย ๆ
กูคิดว่า Dek-d มีปัญหาเรื่องการที่แบ่งหมวดแบบหยิบย่อยเกินไปโดยไม่ดูว่าอะไรเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมไหม เหมือนสักแต่แบ่งเอาไว้ก่อน กูเห็นหมวดหักมุม แล้วได้แต่คิดว่ากูแต่งใครมันจะไปลงวะ รู้หมดว่าแม่งหักมุม
กูเห็นด้วยกับโม่งที่บอกว่าเด็นกดีควรเปลี่ยนหมวดนิยายไปเป็นแท็กแทนนะ เหมือนในสตรีมหรือพันทิปก็ได้ เผื่อกูอยากหา นิยายแฟนตาซี วาย ที่สืบสวนสอบสวน แม่งอาจจะมีที่ตรงแท็กแบบนี้ก็ได้
>>626 +ล้าน กูเบื่อฮาเร็มพระเอกเทพมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เดี๋ยวกูจะเขียนนิยายให้พระเอกโรคจิต ไล่ฆ่าคนที่จะเข้าฮาเร็มตัวเองรายตัว เพราะไม่อยากมีความรัก อีห่าน
เห็นด้วยกับระบบ tag นะ จะได้หาง่ายๆกันไปเลย อยากอ่านฮาเร็มก็เลือกฮาเร็ม อยากอ่านไม่ฮาเร็มก็ไม่ต้องเลือก ชอบ y ไม่ชอบ y ก็เลือกกันไปตามนั้น
ไม่ใช่ว่าเด็กดีก็มีระบบ Tag อยู่แล้วเหรอวะ? แค่คนไม่นิยมติดกัน + ติด Tag แต่ละทีชอบใส่คำประหลาดลงไปจนจัดเป็นหมู่ไม่ได้
มึง กูว่างเลยเปิดหน้าค้นหานิยายดูเล่นๆ เจอเรื่องนี้
http://writer.dek-d.com/llotter/story/viewlongc.php?id=1164870&chapter=2
ทำไมมันเหมือนเรื่องเจ้าชายริกซัสของคุณวูล์ฟจัง กูคงไม่ได้คิดไปเองใช่มั้ย._.
>>635 http://writer.dek-d.com/llotter/story/view.php?id=1164870 ผิดลิ้งค์ กูควรลงหน้าบทความไม่ใช่บทแรก ขออภัย
>>637 เจ้าชายสายพันธุ์นรกอ่ะ http://writer.dek-d.com/a/story/view.php?id=659225
เรื่อง : เกิดใหม่ที่ต่างโลกกับหนังสือแห่งพระเจ้า
link : http://writer.dek-d.com/rimama11/story/view.php?id=1439988
จำนวน : 6 ตอน
สถานะ : ยังไม่จบ
ใช้การเขียนแบบง่ายๆเหมือนพูด ทำให้อ่านเข้าใจและรู้เรื่องว่าตัวละครคือใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร แต่ความงามในเชิงวรรณกรรมนั้นต่ำติดดิน อืม พูดแรงไปหน่อย เอาเป็นว่าถ้าใครต้องการศึกษาวิธีการเขียนนิยาย การอ่านนิยายเรื่องนี้นั้นคงไม่ใช้สิ่งที่กูจะแนะนำให้มึงทำ
ฉากเปิดตัวเริ่มขึ้นที่โรงเรียนแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยนักเลง(wtf) พระเอกมาเรียนวันแรกก้าวเข้าไปในโรงเรียนก็ไปเดินชนขาใหญ่ประจำโรงเรียน มีปากเสียงกันแล้วขาใหญ่ก็สั่งลูกน้องเป็นสิบคนให้ไปกระทืบพระเอก แต่พระเอกก็โชว์เทพไล่อัดไอ้สิบคนนั้นง่อยแดกหมด แต่สุดท้ายก็ถูกลูกพี่ขาใหญ่แทงตาย ตายแล้วก็ไปเจอพระเจ้า พระเจ้าบอกว่าจะให้ไปเกิดใหม่ต่างโลกโดยเป็นเด็กทารกและรีเซ็ตความทรงจำใหม่หมด แต่จะให้ของขวัญเป็นอะไรก็ได้ติดตัวไปในต่างโลกด้วย 1 ชิ้นโดยให้เลือกเอาจากหนังสือแห่งพระเจ้า (ฟังดูคล้ายๆแคตตาล็อกของพวกโลตัส บิ๊กซี) แต่พระเอกเกรียนเลยบอกว่ากูขอหนังสือนี่แม่งทั้งเล่มล่ะ 1 ชิ้นพอดี พระเจ้าก็พยายามปฏิเสธแต่ไม่สำเร็จ (อีเหี้ย มึงเป็นพระเจ้านะสัส) พระเจ้าก็เลยต้องไปกับพระเอกด้วย เพราะพระเจ้าก็เป็นของชิ้นนึงในหนังสือเล่มนั้นเหมือนกัน
ตอนพระเอกเกิดใหม่ก็เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ มีคนในหมู่บ้านไปดูก็พบเด็กทารก(พระเอก) นอนอยู่ใจกลางจุดที่เกิดระเบิด ชายคนที่พบบังเอิญไม่มีลูกพอดี เลยเอาพระเอกกลับบ้านไปให้เมียดู แล้วก็ตกลงรับเลี้ยงไว้เป็นลูก แต่ความพีคคือ พระเอกไม่ได้ลืมเรื่องในโลกก่อนแบบที่พระเจ้าบอก แม่งจำได้ทุกอย่าง และสามีภรรยาคู่นั้นก็ตั้งชื่อพระเอกว่าเท็นมะ (พ่องงงงงง ผัวชื่อซัน เมียชื่ออริซ -- อลิซโว้ยยยยยย -- ลูกมึงเสือกชื่อเท็นมะ สัส)
เวลาผ่านไป 3 ปี ก็ปูเรื่องว่าโลกนี้แม่งคือเกมออนไลน์ชัดๆ มีการแบ่งเกรดนักผจญภัยออกเป็นระดับๆ มีการจัดอันดับมอนสเตอร์ มีท่าไม้ตาย บลาๆ มีงานแข่งขันอะไรสักอย่างตอนไอ้พระเอกอายุได้ 3 ขวบ พ่อ(บุญธรรม)ของพระเอกต่อสู้เก่งมาก และพาพระเอกออกไปล่าสัตว์ (กระต่าย) และพยายามฝึกวิชาให้กับพระเอก แต่ก็ถูกเมียด่าเพราะว่าลูกมึงยังเล็กเกินไป (ก็เออสิวะ)
จบเท่านี้ ต่อไปเป็นการให้คะแนน
คำผิด : พิมพ์ผิดไม่ค่อยมี แต่สะกดคำผิดเยอะมาก และเป็นคำที่ไม่ค่อยน่าให้อภัย เช่น หน้ารัก : น่ารัก รวมไปถึงการผันวรรณยุกต์ที่ผิดมากมาย กูให้ 5/10
การบรรยาย : อย่างที่บอกไปแต่แรก เหมือนคนเขียนออกมาพล่ามๆให้คนอื่นฟัง แทบไม่มีความสวยงามของภาษาแสดงให้เห็นว่าคนเขียนไม่ได้ศึกษางานเขียนดีๆก่อนมาเขียนนิยายเรื่องนี้เลย ใช้คำซ้ำในย่อหน้าเดียวกันเยอะแต่อย่างน้อยมันก็ยังพออ่านรู้เรื่อง ไหลๆไปได้จนจบ กูให้ 3.5/10
ตัวละคร : อภิมหาแกรี่แมรี่เก่งเทพเวอร์สาด เซ็ตติ้งก็ดูไม่จริง โรงเรียนแม่งมีแต่นักเลง ผอ. ทำเหี้ยไรอยู่วะ แทงกันตายคาโรงเรียนด้วย พระเอกนี่เก่งฉิบหาย เวอร์วังอลังการมาก คนในเรื่องก็มีแต่พวกหน้าเด็กสวยหล่อ อายุ 50 หน้าเหมือน 35 อีเหี้ย กูนึกถึงพี่เบิร์ดอีกละ เอาไป 3.5/10 พอ
เนื้อเรื่อง : กูไม่ค่อยได้อ่านแนวต่างโลกเท่าไหร่ แต่นี่มันคือต่างโลกผสมแนวเกมออนไลน์ เมื่อมาบวกกับพระเอกเก่งเทพและพระเจ้าง่อยสัสหมาแล้วมันก็ไม่ได้ทำให้กูอยากติดตามสักเท่าไหร่ เพราะเดาได้ว่าเดี๋ยวแม่งก็เก่งเทพ เอาของเทพออกมาจากในหนังสือ เดินทางเป็นยอดคนแล้วก็มีฮาเร็ม ซึ่งถ้าให้กูเดาเพิ่มอีกเผลอๆพ่อแม่บุญธรรมแม่งจะถูกฆ่าตายด้วย ทำให้พระเอกมีความแค้นที่ต้องชำระอะไรประมาณนั้น กูให้ 4/10
สรุป 16/40 ไม่ผ่านเกณฑ์ ได้เท่ากับเรื่องแรกที่กูวิจารณ์จ๊ะ
ก็อปอีอควอมาตรงๆ เลยนี่หว่า เรื่องนั้นพระเอกขอนางฟ้าที่บอกพระเอกว่าต้องไปเป็นผู้กล้าที่ต่างโลกเป็นรางวัล แต่อีอควอแม่งเป็นเรื่องตลกโปกฮาปัญญาอ่อนคุโรมาตี้ เรื่องนี้มันก็อปเกรด z ชัดๆ
http://my.dek-d.com/xceellolita/writer/view.php?id=1448373
เรื่องนี้จัดว่าดีทีเดียว ทั้งภาษาและการบรรยาย
http://my.dek-d.com/blackbank/writer/view.php?id=1442437
ส่วนอันนี้ใช้การใช้ภาษาค่อนข้างแกว่งอยู่ แต่กุชอบตรงมุกตลกที่สอดแทรกมานะ
http://my.dek-d.com/domemanager13233/writer/view.php?id=1220326
ภาษาสวย แต่กุอ่านแล้วรู้สึกบรรยายเวินเว่อไปหน่อย เหมือนอ่านการ์ตูนตาหวานอะ
กุแนะนำแต่เรื่องที่ไม่ค่อยดังนะ เดี๋ยวจะเอามาอีก
>>652 เรื่องแรกใช้ภาษาดี ถือว่าดีมากถ้าเทียบกับนิยายในเด็กดีทั่วไป การบรรยายไหลลื่นแต่กูอ่านได้แค่บทแรกบทเดียว 1.คือตอนนี้ไม่ค่อยว่างแล้วและ 2.ไม่ชอบนิยายฉีกๆหัวคนเท่าไหร่ แต่สำหรับใครที่ชอบนิยายดิบเถื่อนก็ขอแนะนำแล้วกัน ตอนแรกก็เปิดมาประมาณว่าพระเอก(???)ฆ่าหญิงคนรัก แล้วก็ตัดไปที่เมืองๆนึงที่มีคนกลายพันธุ์เป็นปีศาจ มีองค์กรนึงพยายามที่จะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับปีศาจนี่ก็เลยส่งคนลงพื้นที่ไป แต่พอได้ข้อมูลแล้วก็ปล่อยไอ้ห่านั่นทิ้งไว้ให้โดนปีศาจฆ่าตาย แต่ไม่ตายเพราะพระเอก(???) เข้ามาช่วยไว้
ถ้าจะให้กูติ ก็ไม่มีอะไรจะติ แต่ถ้าจะยัดเยียดให้กูหาเรื่องติมันจริงๆ ก็คงเป็นเรื่องของบทสนทนาที่ออกจะแข็งๆไปหน่อย(แต่อ่านไปแค่ตอนเดียว ตอนหลังอาจดีขึ้น) แล้วก็ตอนที่ไอ้หน่วยสำรวจจะถูกทิ้งเนี่ย กูเดาได้ตั้งแต่แวบแรกแล้วว่ามันจะต้องโดนทิ้ง แต่ก็ไม่ได้แย่อะไรหรอก ถือเป็นนิยายที่ดีเรื่องนึงเลยนะ
>>652 เรื่องที่สอง ใช้ภาษาได้ดีถ้าเทียบกับมาตรฐานเด็กดี อ่านได้ลื่นกว่าเรื่องแรกเพราะการบรรยายไม่ได้เร่งเร้ากดดันมากนัก เรื่องนี้อ่านไปสามบท แต่ความยาวน่าจะเทียบได้กับเรื่องแรกสัก1บทเศษ
ชั้นเชิงการบรรยายของคนเขียนเรื่องนี้สู้ของคนเขียนเรื่องแรกไม่ได้ แต่มันทำให้กูรู้สึกถึงอารมณ์ที่กระตุ้นให้อยากรู้ว่าเรื่องจะเดินต่อไปยังไง ผิดกับเรื่องแรกที่เปิดหัวออกมาแบบ perfect story ทำให้เดาได้ง่ายว่าจะปูเรื่องไปทิศทางไหน แต่มั่นใจว่าพอเข้าถึงไคล์แม็กซ์แล้ว เรื่องแรกจะสนุกตื่นเต้นกว่ามาก เพราะมีข้อมูลที่น่าสนใจจากบทเปิด
เนื้อเรื่องช่วงต้นก็ประมาณว่า มีผู้หญิงคนนึงเป็นบรรณารักษ์ เธอให้ความช่วยเหลือกลุ่มกบฏจึงถูกจับและถูกทรมานจนตาย พระเอกสนิทกับเธอก็เลยถูกจับมาด้วยและจะถูกทางการเอาไปโยนทิ้งหน้าผา แต่พระเอกเป็นพวกมีพลังเรียกปีศาจ ก็เรียกปีศาจที่อยู่แถวนั้นเข้ามาจัดการทหาร จัดการทหารได้จริงแต่ปีศาจพวกนั้นก็ควบคุมไม่ได้ พระเอกเองก็เลยต้องหนีด้วย สุดท้ายพระเอกก็ใช้พลังที่แท้จริงของตัวเองเรียกผู้ช่วย(อัศวินหญิงสวย)ออกมาจัดการปีศาจ จนหนีรอดได้สำเร็จ แล้วเรื่องก็แฟลชแบ็คไปว่า แม่พระเอกถูกคนของทางการฆ่าตายเพราะเป็นพวกนอกรีต(อารมณ์ประมาณล่าแม่มดในยุคกลาง)
ก็ดี พออ่านได้ชิลๆ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบอะไรที่มันกดดันมากนัก
>>652 เรื่องสุดท้าย กูเปิดอ่านในมือถือไม่ได้ เน็ตมือถือกากด้วยและแม่งตกแต่งบทความได้รกฉิบหาย อ่านได้แต่อะไรก็ไม่รู้ยืดยาวที่หน้าแรก สรุปได้ว่า เจ้าชายกับเจ้าหญิงจะแต่งงานกัน แต่เกิดเหตุการณ์สยองเลือดสาดขึ้น มีพ่อมดร้ายมาสาปเจ้าหญิงให้หลับ และมีเพียงเซนต์รุ่นแรกเท่านั้นที่สามารถจะต่อกรกับพ่อมดคนนี้ได้ เจ้าชายเลยขออาสาสมัครไปตามเซนต์คนนี้กลับมา แล้วก็มีคนอาสาไป (อ่านข้ามๆได้ประมาณนี้ ออีเหี้ย กูเกลียดพื้นหลังดำตัวหนังสือขาว ดาร์คแฟนตาซีน่ะดาร์คแค่เนื้อหาพอ มึงไม่ต้องให้มันดาร์คไปทั้งหน้าบทความแบบนี้หรอกห่า)
จากเท่าที่อ่านยังตอบอะไรมากไม่ได้ แต่ที่ตอบได้ก็คือเกลียดจริตอีเจ้าชายมาก ตอนหาคนอาสาไปตามเซนต์แล้วมีคนอาสา อีคนเขียนบรรยายว่าเจ้าชายนี่ถึงกับตกตะลึงในความหล่อของไอ้ห่านั่นจนชะงักไป ดอก เมียมึงนอนง่อยอยู่แป๊ปเดียวก็จริตออกละนะยะหล่อน
กูไล่อ่านโพสต์ผ่านๆ รู้สึกซึ้งใจมากที่มีคนคิดแบบเดียวกับกูอยู่บ้าง นิยายติดท็อปหลายเรื่องทำกูปวดจิต หลายเรื่องปูเรื่องได้โคตรจำเจ ไม่น่าดึงดูด ภาษาก็แย่ กูไม่อะไรกับแกนเรื่องหลักๆอย่างไปต่างโลกอะไรนี้นะ แต่ควรมีเหตุผลที่ดีมารองรับ บางเรื่องพระเจ้าให้พรตัวเอกซะเวอร์ ซึ่งสำหรับกู ไม่เข้าใจจริงๆว่าจะให้พรทำไม ตั้งใจให้พระเอกเมพแต่ต้นเรื่องแต่กลายเป็นว่ายิ่งอ่านยิ่งเบื่อ ขอแทรกหมวดวาย หลายเรื่องยัดเยียดให้นายเอกโดนข่มขืนเป็นว่าเล่น มีนักเขียนคนนึงนี่ยัดเยียดแม่งเกือบทุกตอน ไม่ได้สนใจเกลาตัวเรื่องเลย เหมือนอยากเขียนแต่ฉากเยมากกว่า ปวดจิตจริงๆ
โอ๊ะ แต่ในบรรดาเรื่องที่พวกมึงเคยแนะมา กูค่อนข้างชอบเด็กตีเหล็กนั่นอยู่นะ เนื้อเรื่องแปลก วางโครงดี แต่ละตัวละครมีคาแรคเตอร์ชัดเจน ภาษาที่ใช้ก็ดี อยากรู้ว่าพวกมึงคิดว่าไง
มานั่งอ่านการวิจารณ์ในนี้บรรเทิงมาก ชอบจนอยากให้ดูนิยายให้แต่ไม่กล้าค่ะ 555
http://writer.dek-d.com/Hestia/story/view.php?id=1400651 เจอเรื่องนี้มาแต่ตอนยาวกูอ่านแสกนเองไม่ไหว เพื่อนโม่งคนไหนอยากช่วยเป็นแนวหน้าให้กูไหม แล้วไปดูงานเขียนเรื่องอื่นพบว่าแม่งยาวกว่านี้อีก ถ้ากูจะอ่านหรือโม่งคนไหนจะอ่านคงต้องคิดให้ดี
มึงๆ เกิดดราม่าเหี้ยไร ทำไมคนแปล duke's daughter เลิกแปล กูมาไม่ทัน
>>666 ถ้าเป็นการโฆษณาเสียใจด้วยเพราะไม่ดึงดูดกูอะ รู้สึกว่าบรรยายไม่ได้ยอดเยี่ยมอะไร ธรรมดาๆตามมาตรฐานเด็กดี สามเรื่องข้างบนดูดีกว่ามาก ส่วนเนื้อเรื่องไม่รู้เพราะไม่ถูกใจสำนวน และส่วนตัวไม่ค่อยชอบนิยายเซ็ตติ้งญี่ปุ่น ดูอนิเมะยังไงก็ไม่รู้ แปลกๆ
เรื่องเซ็ตติ้งกูคงไม่ไปเสือกความชอบของเขา แต่สำนวนนี่คือ บทสนทนาก็ควรเป็นการสนทนา ไอ้การหัวเราะภายใต้เครื่องหมายฟันหนูน่ะไม่โอเคเลย "งั้นเหรอ ฮ่าๆๆๆ" ไม่สวย ควรเป็น "งั้นเหรอ" เขาหัวเราะ เป็นต้น
>>666 อ่านไปตอน1กับตอน2ครึ่งตอนแล้วรำคาญ ข้อมูลในเรื่องแม่งพร่ำเพรื่อ รู้สึกเหมือนอยากบรรยายอะไรก็บรรยาย อีเคทติดกิ๊บสีอะไรกูจำเป็นต้องรู้มั้ย หรือบทนำจะบรรยายความสวยหล่อของอีคิซากิกับคู่หูมันเพื่ออะไร ถามว่าทำให้เข้าใจพื้นหลังของโลกมันมั้ย ก็ไม่ อธิบายข้อมูลอะไรไม่รู้เต็มไปหมด มึงใจเย็ดๆ เอาทีละเรื่อง
การกำหนดชื่อไม่มีเอกภาพเหี้ยใดๆทั้งสิ้น เรียกปีศาจว่ามาราม แต่อีกฝ่ายเรียกมนุษย์ครึ่งฝัน?? พยายามอธิบายมาตั้งแต่ตอนแรก แม่งก็ยังงงๆ บ้านอีเคทก็เหมือนกัน พี่มึงชื่อชิอัน คิซากิ น้องคนเล็กชื่อแคทเทอรีน แล้วองค์กรมึงจะมีกี่ชื่อ ชื่อเต็ม ชื่อตัวย่อ อลิซ สีแดง?? เอาสักอันได้มั้ย????
รำคาญคาร์แรกเตอร์นางเอกแบบสเตอริโอไทป์นางเอกอนิเมะสาวน้อยมาก ตะแง้วๆ มันหมดยุคแล้วมั้ย
สรุป กูอ่านได้แค่นี้ รำคาญ จบ บาย
ชาวโม่งเป็นคนตลก?
ไรวะ บอร์ดเงียบเหงาชิบหาย หนีมาคุยกันงุ้งงิ้งกันที่โม่งเฉยเลย
>>676 ตลกมาก
กูมีเรื่องอยากคุยแต่ไม่รู้ว่าคุยในนี้ได้ไหม แต่คิดว่าน่าจะได้ล่ะ(?) พวกมึงคิดว่าคำโปรยหน้าก่อนเข้าตัวนิยาย กูไม่รู้แม่งเรียกอะไร แบบไหนที่พวกมึงไม่ชอบบ้างวะ? ของกูนี่ไม่ชอบพวกที่จั่วว่า มือใหม่หัดแต่ง ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย/ถ้าอยากรู้ก็ลองคลิกเข้ามาอ่านสิ แล้วตามด้วยเสียงหัวเราะแบบเบียวๆ ไม่ก็นิยายเรื่องนี้ดาร์คน๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาา กูเจอแบบนี้แล้วได้แต่คิดว่าไม่ใช่หน้าที่มึงเหรอที่ต้องเขียนว่าเนื้อเรื่องคืออะไร ไม่ใช่ให้กูกดเข้าไปอ่านเอง orz
>>678 กูไม่ชอบแบบที่ติดป้ายไล่นักอ่านเงาว่ะ แบบใครไม่เม้นแช่ง คนแต่งใช้ความพยายามตั้งนานเห็นใจกันบ้างมั้ย อย่าทำตัวเป็นนักอ่านเงาบลาๆ แบบนี้กูปิดเลย ปัญญาอ่อนว่ะ ถ้าอยากเม้นกูเม้นเอง แต่ถ้าพวกที่ติดว่ายินดีต้อนรับนักอ่านเงา ไม่เม้นไม่ว่าแค่ตามอ่านก็พอแล้ว พวกนี้ยังดูน่ารักกว่าอีก
>>678 กูสามารถยกตัวอย่างได้ดังกระทู้นี้
http://www.dek-d.com/board/view/3422001/
ตอนนี้เพิ่มแพทฟอร์ม 'เมื่อนาย A ตาย พระเจ้าได้ส่งไปเกิดใหม่ที่ต่างโลก แถมพรติดตัวไปอีกด้วย' เข้าไปอีกอย่าง พอๆกับอิเพื่อนดาวไลน์เกมออนไลน์ พระเจ้าแม่งเป็นอาชีพระบายสต็อกพรวิเศษมากๆ
>>679 อันนี้ก็ถูกไม่จำเป็นต้องเขียนคำแนะนำก็ได้ แต่คนแต่งบางคนก็อยากให้คนเข้าอ่านแหละ แค่ลงท้ายด้วยการเขียนคำแบบที่พิมพ์ไปแล้วกับพวก >>680 แบบนี้เข้ามา มันเลยนอกจากจะไม่น่ากดเข้าอ่านแล้วยังแบบอะไรเนี่ยอีก
>>681 คนไล่นักอ่านเงานี่บางทีเจอแบบด่าสาดเสียมาก ด่าเหมือนไปฆ่าพ่อแม่อ่ะ ซึ่งเจอแบบนี้ก็กดปิดทันที
>>684 เราชอบเลี่ยงจุดที่เราไม่ถนัด 555 ถ้าเขียนคำโปรยไม่เก่งก็จะเลี่ยงๆ ถามว่าอยากให้งานออกมาเพอเฟ็คมั้ยก็อยากนะ แต่คือขอเวลาซึมซับรูปแบบที่น่าสนใจแล้วเอามาใช้ในรูปแบบของตัวเองก่อนดีกว่า ถ้ายังไม่ได้ก็ไม่อยากจะฝืนอยากให้ออกมาดีในรูปแบบของตัวเองให้ได้มากที่สุด // หรือคิดมากไปหว่า
>>687 ขอบคุณมากเพื่อนโม่ง 555 คือบางทีก็รู้สึกไงว่าเรายังด้อยมากๆในการเขียน ดูจากยอดคนอ่าน คอมเมนต์แล้วก็แฟนคลับกับจำนวนตอนที่เราอัพอ่านะ คือก็ไม่ได้นอยคนอ่านหรอกนอยตัวเองมากกว่าที่ไร้ความสามารถขนาดกลับไปนั่งรื้อนิยายจากชั้นมานั่งอ่านยังไม่ช่วย 555 อัพตอนนึงคนกดติดตามทีละประมาณ 7-8 คนเองเดี๋ยวนี้ T-T
อย่าไปใส่ใจยอดแฟนคลับไรเลย จริงๆกูอยากเรียกว่ายอดคนกดบันทึกเผื่อไว้อ่านทีหลังมากกว่า คอมเมนต์สำคัญกว่า555
>>690 มันเห็นคนอื่นที่ยอดเขาพุ่งรัวๆแล้วหันมาดูตัวเองที่อัพทุกวัน... บางคนชาตินึงอัพทียังดีกว่าเราอีก 555
>>691 ยอดเราน้อยกว่านะเพื่อนโม่ง เมนต์เราถ้าไม่นับของเก่าที่เคยมีคนเมนต์ไว้ คือเราเพิ่งกลับมาเขียนหลังจากพักมาหลายปี ตอนนี้ 16 ตอนคอมเมนต์ 12 แฟนคลับใหม่ 70 ลงมาได้ 6 วัน T^T ที่จริงที่หวังไว้เพราะอยากรู้เกี่ยวกับนิยายอยู่เรื่องนึงที่ติดทอปเขามีบางส่วนของเนื้อเรื่องคล้ายนิยายเรา ตอนนี้เลยเร่งให้ตัวเองติดทอปจะได้ลองดูปฏิกิริยาของแฟนคลับฝั่งเรากับฝั่งเขาว่าจะมีใครทักมั้ย แต่ยังไต่ไม่ถึงสักทีเหนื่อย
แค่อยากมาระบายไม่มีอะไร มันอดสงสัยไม่ได้จริงๆแต่เรามันก็แค่นักเขียนที่หยุดอัพไปหลายปียอดคนอ่านก็ห่างหายจะให้สู้กับนิยายที่เขาลงติดต่อมานานคงยาก
กุไปดูเรื่อง เกิดใหม่ที่ต่างโลกกับหนังสือแห่งพระเจ้า รู้สึกนอยด์ชิบหาย กับการบรรยายและภาษาแบบนั้น คำผิดอีกตรึม แต่ลงแค่สามวันวิวเป็นพัน แฟนคลับเป็นร้อย เม้นอีกสามสิบ กว่ากุจะได้ขนาดนั้นใช่เวลาตั้งเป็นเดือนแน่ะ #นี่คือพลังของการอัพตอนใหม่รัวๆ กับยี่ห้อกระแสหลักแนวตายห่าไปเกิดใหม่เป็นเทพทรูในต่างโลกใช่ไหม T T
ลูบๆนะเพื่อนโม่ง แต่กูเขียนนิยายนอกกระแสอยู่ก็ติดท๊อปนะมึง ถึงจะเป็นหมวดรักแฟนตาซีก็เถอะ กูว่าหมวดแฟนตาซีธรรมดาจำเจแข่งกับหมวดรักไปแล้วว่ะ
ตายแล้วเกิดใหม่ในต่างโลกกำลังมาแรง แนวที่ไม่ค่อยมีคนแต่งอย่างเราคงไฝว้กับเขาไม่ได้ ;w;
>>694 อืม มึงทำให้กูคิดถึงตัวเองนะ กูก็เป็นคนหนึ่งที่หยุดเขียนนิยายดื้อๆไปหลายปี แต่ตอนกูกลับมา กูเริ่มใหม่เลย เพราะถ้าไปเริ่มจากเดิมจะเป็นแบบมึงนี่ล่ะ จะน้อยใจว่าทำไมไม่มีคนมาอ่านนิยายเราเหมือนเมื่อก่อน
ยุคสมัยมันก็เปลี่ยนนะมึง มึงจะมาคาดหวังว่าคนอาจจะรอมึง คาดหวังว่านิยายมึงดีมาก เขียนดีกว่านิยายที่ติดท็อป แล้วคนจะเข้ามาอ่าน นิยายมึงจะดัง มึงคิดว่าทุกอย่างจะเป็นตามที่มึงวาดฝันไว้เหรอวะ ตื่นมามองความเป็นจริงหน่อย ในเมื่อหายไปนาน พอมึงกลับมา มึงก็ไม่ได้ยืนอยู่ตรงจุดเดิมแล้ว ต่อให้มึงอยู่ในจุดที่แย่กว่าเดิม มึงจะมาเสียเวลาคร่ำครวญร่ำร้องทำเหี้ยอะไร มึงพยายามไปต่อดีกว่าป่ะวะ
>>703 จะอธิบายยังไงดีเอาตรงๆละกัน
คือเรื่องของเรื่องนะ
เราเจอนิยายติดทอปเรื่องนึงที่เนื้อหาคล้ายนิยายเราที่เราลงๆแล้วหยุดอัพไปหลายปี ดีเทลมันคล้ายมาก คือทีแรกก็แค่โดนคนอ่านขอร้องให้มาเขียนต่อเราก็ไม่ได้ตั้งใจอะไรแค่เห็นความพยายามของคนตามทำให้ตัดสินใจมาอัพดู คราวนี้พอเจอเรื่องนั้นเข้าแล้วคุยกับคนที่รู้จักกันก็เลยคิดว่าจะอัพแข่งมั้ยแล้วดูปฏิกิริยาเอาว่าคนของทางเค้ากับทางเราจะว่ายังไง คือมันไม่ได้เหมือนทั้งดุ้นแต่มันมีจุดที่แบบอ่านแล้วจี้ดอ่ะเข้าใจมั้ย พอเจอแบบนี้เลย เอออกลับมาอัพจริงจังแล้วนะเพราะอยากรู้ คือของใครๆก็รักถึงจะไม่อัพแล้วก็เถอะ คราวนี้ที่นอยเพราะมันไต่ยากไงใจร้อนเองอยากพิสูจน์เร็วๆ เคนะ
จะหาว่ากูองุ่นเปรี้ยวก็ได้ แต่การติดท็อปไม่ได้หมายความว่างานมันดีสักหน่อย
คือติดท็อปนี่หมายถึง มียอดเข้าชมในแต่ละเดือนสูงเป็นอันดับต้นๆของหมวด แต่ประชากรที่เข้าชมเว็บเด็กดีเนี่ยส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น ซึ่งไม่ได้เข้าถึงความงามของวรรณกรรมเท่าไหร่นัก แค่เดินเรื่องถูกใจก็ตามอ่านแล้ว จะลอกใครมาก็ไม่สน อ่านเอามันเป็นพอ
เหมือนเอาจานใส่ลูกอมมาวางข้างๆจานใส่ผัดผัก แล้วให้เด็ก 100 คนเลือกกินอะ เรื่องคุณค่าทางสารอาหารผัดผักชนะขาดอยู่แล้ว แต่มึงว่าเด็กจะเลือกแดกอะไรล่ะ
กูกะแต่งเรื่องให้ไปต่างโลกแต่ไม่มีพลังเวทมนต์เลย แบบนี้จะนับเป็นแฟนตาซีป่าววะ คือพระเอกนะมีพลังพิเศษจากโลกเก่า ประมาณคิดได้หลายอย่างพร้อมกันนะ และพระเอกจะร่างกายอ่อนแอมาก เพราะคิดว่าตัวเองไม่เหมาะกับการต่อสู้
กูกะแต่งให้เป็นนิยายสงครามแบบพยัคฆราชซ่อนเล็บกับจอมทัพพลิกแผ่นดิน มีการสู้รบชิงดินแดน บริหารแผ่นดิน คนในเรื่องนี้จะไม่มีพลังพิเศษเลย แต่จะชอบคิดว่ามีเวทมนต์แบบคนในสมัยนี้นะ
ยกเว้นบางครั้งจะมีคนจากต่างโลกข้ามมาหาพระเอก พวกนี้เป็นผู้มีพลังพิเศษของแท้ บางคนเป็นเทพเจ้าที่พาพระเอกมาต่างโลก เป็นจุดเดียวที่มีแฟนตาซีมาเกี่ยวข้อง และจะมีน้อยมาก ทั้งเรื่องกะจะมีแค่ 5 ครั้งเท่านั้นที่พวกนี้ออกมา
แล้วแบบนี้กูควรเอาไปอยู่หมวดไหนดีอะ ส่วนตัวอยากให้แฟนตาซีเพราะคนอ่านเยอะ แต่ตามหลักควรไปนิยายสงครามมากกว่าปะ
คิดว่าที่เด็กดีแบ่งหมวดเยอะๆ เพื่อจะได้ให้นิยายแนวอื่นๆมีโอกาสติด Top ของหมวดตัวเองได้ง่ายขึ้นป่ะ ?
ความจริงถ้าใช้ระบบติด Tag แบบนิยายเว็บญี่ปุ่น ก็น่าจะดี
>>666 เชี่ย กุมาช้าไป เพื่อนกุเคยติ่งซีรีย์นี่ (จริงๆ ก็ยังติ่งอยู่) เลยพล่ามแม่งทั้งวัน กุเลยต้องอ่านเพื่อชวนมันคุย
แม่งมีคนแต่งสองคน เฮสเทีย กับ เซคุ เซคุแต่งฝั่งราชาสีดำหรือพระเอก เฮสเทียแต่งราชินีสีแดงหรือนายเอก นายเอกแม่งเปลี่ยนเพศไปมาได้
ตอนจบอีนายเอกตายเลยเปลี่ยนร่างเป็นหญิงแล้วพระเอกก็เอาไปเด้าจนมีลูกมาอีกสองคน เพื่อนกุก็ชื่นชมว่าโรแมนติก รักตลอดกาล
นายเอกร่างหญิงก็ซูมากกก สวยจนคนเห็นแล้วหยุดหายใจ (มึงเป็นบุษบาในอิเหนาหรอสัส) เก่งการรบ การต่อสู้ เป็นคนดี มีคติว่า "ฉันจะเอาชนะเธอด้วยความรักและเมตตา" ก็อย่างว่า จะทำสงครามก็จะสันติๆ ไม่อยากสู้กันๆ นอกจากนี้ยังรักสัตว์มาก สามารถทำให้สัตว์ทุกชนิดเชื่องได้ เพราะรักสัตว์จึงแดกมังแต่เสือกทำอาหารที่ใส่เนื้อสัตว์ได้อร่อยมากโดยไม่ต้องชิม
แล้วถ้าอ่านเรื่องนี้มึงไม่ต้องเสียใจเวลาตัวละครตายนะ เพราะพอขึ้นภาคใหม่ คนแต่งชุบขึ้นมาให้หมดเลยข่าาา
ที่กุหงุดหงิดมากคือ น้องสาวฝาแฝดพระเอกแม่งฟื้นขึ้นมาแต่ถูกขังในร่างนายเอก พอฟื้นก็เปลี่ยนร่างด้วย พระเอกที่บอกว่ารักนายเอกมากๆๆ รักคนเดียวรักที่สุดพอเห็นน้องสาวก็คิดในใจว่า น่ากินจังแล้วจีบแม่ง นายเอกเลยบังคับให้ผัวมันแต่งงานกับน้องสาวด้วยจะได้สามพี(?)กันอย่างมีความสุขตลอดไป วดฟ
แล้วนางมีตัวร้ายเป็นเจ้าชายนิสัยประมาณจอฟฟรีย์ เกมออฟโทรน วันหนึ่งพี่สาวแม่งไปหลงรักศัตรูและผัวตาย วันต่อมาแม่งกลายเป็นคนดี อยากปรับปรุงประเทศ ร่วมมือกับคู่พระนางซะงั้น (อันนี้ภาคพ่อแม่พระเอกนายเอก)
เรื่องนี้กุบ่นได้ทั้งวัน เอาอีกไหมล่ะเพื่อน
>>711 กูอ่านที่มึงเขียนแล้วก็ว่าทำไมมันคุ้นๆ กูเคยอ่านเรื่องอื่นของคนเขียนคนนี้แล้วกูคุ้นตรงฝ่ายสีดำแดงเนี่ยแหละ (ไม่แดงน้ำเงินแล้วขึ้นชกบนเวทีเลยล่ะ) ทุกเรื่องคนเขียนแม่งมีฝ่ายดำแดงแถมยาวมาก ตัวละครเยอะทุกเรื่องกูงงอ่านไม่กี่ตอนแล้วไม่ไหว ไอ้เรื่องตายแล้วมีลูกได้นี่ไม่รู้คนเขียนใช้มุกนี้ซ้ำหรือไงกูคุ้นๆไม่งั้นกูอ่านเจอคนไปกรี๊ดในเฟสคนเขียนว่าฟินมาก /มองบน/ มึงบ่นได้เลยกูรออ่านอยู่อยากรู้ว่ามันจะหลุดโลกขนาดไหน
>>711 อีหี 55555555 กูอยากถามมึงว่ามึงเคยอ่านฉบับก่อนรีไรท์มั้ย? ต้องการเช็คอายุมึงมาก เผื่อกูกับมึงจะเคยเจอกันในหน้านิยาย 55555555 อันนี้เป็นโซนบ่นกู จะบ่นเรื่องนี้ให้ฟัง
มึงต้องเข้าใจก่อนเว้ยว่ามันคือนิยายจับ-คู่ ในเรื่องจะแบ่งเป็นแดง-ดำ ขาว-น้ำเงินอยู่กันคนละฝั่ง ไม่รู้เป็นอะไรที่อัศวินของทุกรุ่นในตำแหน่งเดิมจะจับคู่รักกันอิ๊ อร๊าง มีลูกเหมือน Fix ตำแหน่งมาโดยเฉพาะ พวกมึงนึกภาพตามออกใช่มั้ย :D? แล้วมันไม่ใช่แค่จับ-คู่รักกันเว้ย บางทีอี A B รักกัน ซักพักคนหนึ่งจะเปลี่ยนเพศ ทั้งที่ตอนเป็นผู้ชายบอกว่ามึงแมนมาก แต่พอเปลี่ยนเป็นผู้หญิงจะ.... ไหนมึงแมน ทีนี้มันมีปัญหาเรื่องตัวละครมากแบบที่ >>711 ว่าไป กูจะมาเสิรมประเด็นอื่น คือตัวละครในเรื่องเป็นพวกตรรกะบิดเบี้ยว อย่างนายเอกเรื่องอลิสเนี่ยกูจำได้ว่าเคยอ่านเจอฉากที่ควักเงินให้ขอทานทั้งหมดเลย แล้วก็พูดประมาณว่า ฉันให้เพราะอยากให้ กูเอามือทาบอกแล้วได้แต่บอกว่าอีดอกกกกกกกกกก ควรรู้มั้ยว่าไม่ควรให้เงินขอทาน แต่ในเรื่องจะชูว่าฉลาดมาก อัจฉริยะฝุดๆ แต่ตามเกมตัวร้ายไม่เคยทัน และการกระจายบทตัวละครค่อนข้างแย่ เพราะตัวละครแม่งเยอะมาก กูพึ่งกดเข้าไปดูเรื่องของ >>666 มา เหมือนอันนี้เป็นตัวละครรับสมัครจากคนอ่าน หี เยอะมากจริง ๆ กลับเข้าเรื่องเดิมต่อ บางทีตัวละครจะชอบขึ้น Quote แบบที่มนุษย์เขาไม่พูดกัน เหมือนนึกจะยัดก็ยัด การอ่านไม่ได้ช่วยทำให้มึงมีอารมณ์กับเรื่องนี้เท่าไหร่หรอก เพราะไม่ว่าตัวละครจะตายกี่รอบเดี๋ยวแม่งก็ฟื้นขึ้นมาอยู่ดี ถึงกระนั้นเลยแฟนคลับก็ยังพิมพ์ว่า หนูร้องไห้ตอนตัวละครตัวนี้ตาย ไม่รู้พิมพ์เล่นหรือพิมพ์หลอก แต่กูอ่านด้วยความอาดูรทุกคร้งเหมือนกัน ตัวละครที่ว่าคือตัวละครที่มีบทเป็นของตัวเองแค่ 4 ตอน.... ตาย มึงคิดว่าใครมันจะอิน....
อันนี้เป็นเรื่องของก่อนรีไรท์
ถึงจะเป็นจูนิเบียวแฟนตาซีโรงเรียนเวทมนตร์ แต่กูชอบมากกว่าฉบับปัจจุบันนี้นะ ตัวละครไม่ได้ออกมาเยอะแยะมากเท่าปัจจุบัน ทุกคนมีคาร์แน่นอน//ปัจจุบันนี่สังเกตให้ดีจะพบว่าคาร์มีลักษณะ Copy+Paste เยอะมาก แล้วไม่ได้เล่นแบบสวิทซ์เพศเยอะขนาดนี้ พระเอกคือพระเอก น้องสาวพระเอกก็คือน้องสาวพระเอก แต่ที่โกรธมากสุดคงเป็นพอรีไรท์ใหม่แล้วทำนิสัยคาร์ที่กูชอบเปลี่ยนแบบดิ่งลงเหว ไม่รู้จะด่าไงดี
>>716 อีหีเลยหรอคะเพื่อน กุตกใจ 555 ไม่ กุอ่านตอนที่ตัวละครล้นเรื่องนี่แหละ กุเคยคุยกับคนแต่ง เห็นนางบอกจะรีไรท์ดูอีกทีด้วย ตอนนี้ไม่รู้เป็นไงบ้าง
กุไม่เข้าใจทำไมคนกรี๊ดนายเอกชิบหาย กุว่าแม่งไบโพลาร์สัส ร้องจะเมตตาๆ ใครทำไรอย่าโกรธ พอตัวร้ายปลอมตัวเป็นน้องสาวมาหลอกแม่งโกรธเป็นฝืนเป็นไฟ
แล้วบอกฉลาดมากกก กุจำได้แม่งมีตอนหนึ่งส่งจดหมายไปถ้าพระเอกว่ามนุษย์มีลูกยังไงหรอ ขอเถอะ กุเกลียดมากไอ้ตัวละครอายุเป็นร้อนเป็นพันแต่ใสซื่อเรื่องเย็ดเนี่ย
เพื่อนกุบอกว่า คนแต่งประกาศตัวไม่อ่านนิยายไทย กุก็ไปดูเฟสนาง แหม่ อ่าน Divine Comedy Alice in Wonderland นอกจากนั้นยังประกาศว่าต่อให้สนพ.มาขอยังไงก็ไม่มีวันตีพิมพ์
กุพูดเยอะไปรึเปล่า เดี๋ยวโม่งแตก 555
>>718 ขอโทษเพื่อนโม่งผิดไปแล้ว ตกใจไม่คิดว่าจะเจอคนมาสับที่นี่ 555 กูอยากได้ชื่อย่อเพื่อนมึง กูว่ากูจะต้องรู้จัก เขาวางให้มันเป็นตระกูลที่สูงส่งเหมือนฑูติสวรรค์เว้ย ก็เลยใสซื่อเรื่องความรัก เรื่องยงเรื่องเย็ดไม่รู้จักหรอก ที่ไม่อ่านนิยายไทยนี่เฉพาะแฟนตาซีไทยหรือเปล่า? กูจำได้ว่าเขาอ่านแจ่มใสนะ ส่วนเรื่อง สนพ. นี่กูไม่รู้เรื่อง เล่ามั้ย 55555
ว่าไปกูก็สงสารเขานะดูท่าจะโดนเด็กจูนิเบียวลอกนิยายบ่อย
>>719 เขาบอกเพื่อนกุแล้วเพื่อนกุมาเล่า โอดครวญว่าอยากเก็บเล่มนิยายเขา
เรื่องลอกนี่มึงพูดได้ทิ่มแทงกุมาก กุเคยโดนหาว่าลอกเขา อยากเม้ามาก โม่งแตกก็ช่างแม่งละ ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์กุดองนิยายมาปีกว่าละ ตอนนี้รีไรท์อยู่ กะจะเปิดบทความใหม่ด้วย
คือเขามาหาว่ากุลอกโลกความฝันโลกความตายเขาเว้ย แต่จริงๆ กุอ้างอิงมาจากตำนานกรีก แถมเรื่องโลกความตาย กุก็เป็นคนเล่าตำนานเกี่ยวกับยมทูตให้เขาฟัง
กุก็ลิ้งตำนานกรีกที่ว่ามายืนยัน เอากระบวนการคิดตัวละครกุมาด้วยว่าไมมันออกเป็นแบบนี้ กุแทบจะเขียนเป็นเรียงความสามหน้าหัวข้อนิยายของนู๋ แม่งก็ไม่ยอมฟัง ไม่รู้ว่าอ่านรึเปล่าเหอะ บอกว่าแล้วไง ถ้ามาทีหลังก็คือลอก แล้วก็ส่งรูปแจกันมาให้ดูแล้วบอกว่า เนี่ย การลอกของน้องก็เหมือนแจกัน ถึงน้องเอามาเปลี่ยนลายยังไงก็เป็นแจกัน เข้าใจไหมคะ กุก็บอกไม่เข้าใจแล้วนางก็เอาแต่บ่นว่ากุเข้าใจยาก สุดท้ายนางก็ยอมบอกว่าจะทำไรก็ทำไปแต่รู้ไว้นะว่า "พี่ไม่พอใจนะคะ"
>>717 เออว่ะมีน้ำเงินขาวด้วยกูจำได้ตัวละครเยอะมากแล้วต้องจับคู่กันด้วย >>716 กูจะบอกว่ากูอาจจะเคยอ่านก่อนรีไรท์นะเรื่องไหนซักเรื่องในบรรดามหากาพย์ซีรี่ส์หาคู่(ดาร์ก?)แฟนตาซีของคนแต่งเมื่อนานหลายปีมาแล้วแต่ก็ทนตัวละครหลักไม่ได้กูเลยไม่ได้เข้าไปดูอีกนานมาก ลืมไปแล้วว่ะว่าเรื่องเป็นยังไงจำได้แต่ดำแดงคือกูว่ามันเป็นเอกลักษณ์ของคนแต่งปะทุกเรื่องจะเป็นแนวนี้ กูว่ามันไม่ค่อยมีเหตุผลว่ะที่ทุกรุ่นในตำแหน่งเดิมจะต้องรักกันเป็นคู่กันมึงจะไปรักคนอื่นไม่ได้เหรอหรือไม่รักใครเลยชาตินี้อยากมีอำนาจอยากเป็นคนที่รวยที่สุดอะไรงี้ กูเห็นด้วยกับ >>671 กูรำคาญนางเอกมากจริงๆ กูสงสัยว่าในเด็กดีมันจะมีนิยายแฟนตาซีดีๆบ้างไหม กูขี้เกียจขุดแล้ว
นิยายบางเรื่องกูก็ว่าสนุกดีนะ ไม่ทันคิดอะไร แต่พอโม่งสับเท่านั้นแหละ กูสัมผัสได้ถึงความเบียวและช่องโหว่ของนิยายเรื่องนั้นขึ้นมาทุกทีเลยว่ะ
สหายโม่ง พวกมึงคือยอดนักสับเบียว
>>720 กูเอ็นดูมึง 5555555 มาให้กูกอดทีมา กูรู้สึกว่าเขาค่อนข้างจะหวงเซ็ตติ้งโลกความฝันเขา มันก็ไม่แปลกเท่าไหร่ที่จะหวง แต่กูกำลังงงเรื่องที่เขาบอกว่าเขารู้ลิมิตว่าอะไรคือลอกอะไรคือไม่ลอก แต่ถ้ามึงพูดมางี้ทำไมเขาถึงไม่ยอมเรื่องมึงวะ? ทั้งที่มันก็น่าจะต่างจากของเขา แต่เป็นโลกความฝันเหมือนกัน ส่วนเรื่องโลกความตายนี่ 5555555 เซคุแทบไม่แต่งนิยายก็แต่งไปเหอะ แจกันมันเอามาเปรียบกันไม่ได้อยู่ดีหรือเปล่า ยังไงส่วนมากทรงมันเป็น Mass Product นี่
>>721 เรื่องที่เป็น 13 years old sorcerer หรือเปล่ามึง?
>>724 กู721นะ กูเคยอ่านแต่มหากาพย์ World of Apocalypse แค่บางเรื่องว่ะแต่ไม่เคยอ่านจบและอ่านไม่ถึงไหนด้วย บางทีไปอ่านเจอสปอยในเม้นไม่ก็ในเฟสเค้า คือหน้านิยายเปิดมาเจอรูปตัวละครโคตรเยอะแถมแปะในรูปว่าตายแล้วด้วยเลยไม่อ่านเลยมันน่าจะเป็นภาคต่อ ขนาดภาคแรกๆกูยังอ่านไม่รอดเลยมึง 13 years old sorcerer นี่กูถึงกับต้องถามอากู๋ เข้าไปเจอเป็นเรื่องสั้น? อ่านแล้วลั่นตั้งแต่ย่อหน้าแรก " มองขึ้นไปบนหลังคาสูงมีร่างสีดำหนึ่งยืนเงยหน้ามองท้องฟ้าอย่างโดดเดี่ยว แม้จะเป็นสีดำแต่กลับเด่นอยู่ในความมืดอย่างน่าประหลาด ลงตัวกับคฤหาสน์หลังนี้อย่างไร้ที่ติ" ถ้าคฤหาสน์มันเป็นสีดำ มีคนใส่ชุดดำอยู่ในความมืดแล้วมันจะเด่นได้ไงวะ ในความมืดด้วยนะดำหมดแถมมืดยังจะเด่นได้ ถ้าอยากเด่นใส่ชุดขาวไปเลยสิวะ >>725 ไว้กูว่างแล้วเดี๋ยวลองอ่านดูนะมึงขอบคุณ แต่ปกติกูชอบหาเรื่องที่จบแล้วอ่านว่ะ ไม่งั้นถ้าสนุกจริงกูจะลงแดงตาย มีบางเรื่องกูตามนานมากแล้วสามปีกว่าช่วงหลังคนเขียนนานๆอัพที แบบนานจริงๆจนกูจะลืมหมดแล้ว
มึงๆ สมองเอ๋อแต่เกิดมันรักษาหายได้ด้วยเหรอวะ ไม่ใช่บรรเทาอาการให้น้อยที่สุดเหรอ อีเดมนี่เก่งนะ ตอนแรกน้องเอยป่วยอยู่ดีๆ สามปีต่อมาเสือกดูเหมือนว่าจะหายดี?ละ 5555
พวกมึงงงงง เกิดอะไรขึ้นกับ duke's daughter กูเข้ามาทำไมเหลือแค่ชี้แจงของคนเขียนแล้วแงงงงงงงงง
มันเสียหายระดับพันธุกรรม ยกเว้นมึงจะเปลี่ยนdnaได้ มึงก็รักษาไม่ได้กรอก
>>727 กูเห็นด้วยกูเกลียดพื้นดำตัวหนังสือขาวแดงเหมือนกัน ดีแล้วที่มึงไม่อ่านต่อเมื่อกี๊กูลองอ่านภาคแรกตอนที่ 18 กูขำก๊ากเลยตอนเจอวิธีทดสอบว่าเป็นเจ้าหญิง"ที่แท้จริง"รึเปล่าด้วยการเอาเม็ดถั่วสามเม็ดใส่ไว้ใต้ที่นอนแล้วเอา"ที่นอนยี่สิบผืนกับผ้านวมขนเป็ดอีกยี่สิบชิ้น"ทับไว้ มึงลองคิดดูว่ามันจะหนาขนาดไหนวะผ้านวมขนเป็ดด้วยขุ่นพระ แล้วนางเอกเสือกนอนไม่สบายบอกเหมือนมีอะไรแข็งๆ ตื่นมาหลังช้ำ กูลั่นมาก หลังช้ำเลยนะเว้ย กร๊าก "เจ้าหญิงที่แท้จริงเท่านั้นถึงจะมีสัมผัสรับรู้ที่ละเอียดอ่อน"
กูคิดเอาขำๆถ้านางเอกออกไปเดินเล่นแล้วเหยียบก้อนกรวดเท้าไม่ช้ำเหรอวะรองเท้าน่าจะบางมากนะ กูนึกถึงเจ้าหญิงที่ใส่ชุดลูกไม้ที่ลายมันหยาบไปแล้วทนไม่ไหวหลังโดนลูกไม้ข่วนถลอกหมด...โอ้น้องผู้น่ารักของพี่การเป็นเจ้าหญิงผู้แสนละเอียดอ่อนนั้นพี่ต้องทนใส่ชุดฟูฟ่องทำเอาหลังพี่ลายไปหมดแล้ว ยังไม่เท่ากับการที่พี่ต้องใส่รองเท้าส้นสูงที่เดินแล้วติดตามพื้นปราสาททำเอาขาพี่บวมช้ำไปหมด...น้องรักพี่ไม่ไหวแล้วมาอุ้มพี่ไปทีพี่เจ็บเท้าไปหมดแล้ว แต่น้องอย่างลืมใส่เสื้อขนเป็ด 20 ชั้นด้วยนะไม่งั้นแขนของน้องจะโดนแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยรอยแผลของพี่ พอดีกว่าเดี๋ยวกลายเป็นกูนั่งแต่งนิยายพาโรดี้ของเรื่องนี้ไป
>>737 >>738 เออจริงกูไปค้นมาแล้ว The Princess and the Pea เห็นรูปแล้วยิ่งขำเข้าไปใหญ่ 555 เอาเป็นว่ากูอ่านเจอในนิยายแล้วขำมากละกัน ไม่ไหวๆ
>>734 น้องเอยต้องหายสิเห็นเค้าว่ามันตัดไปสามปีถัดมานายเอกโตพอดี พระเอกจะได้ไม่โดนข้อหาเป็นpedophileด้วยไง แล้วถ้ามันหายเป็นปกติแล้วพระเอกจะได้ไม่ดูโรคจิตด้วย จะได้รักกันความรักชนะทุกสิ่งรักษาได้ทุกโรค แฮปปี้เอ็นดิ้งรักกันมุ้งมิ้งแฟนคลับฟินไม่ต้องมีลอจิก
จริงๆกูก็รู้แหละว่านิยายเดมมันเป็นไง 555 ว่าแต่อีเอยนี่ก่อนหน้านี้มันเรียนด้วยเหรอวะ รักษาหายได้ไงไม่รู้ แถมหายเสร็จก็มหาลัยเลย หรือสอบเทียบแต่แม่งอัจฉริยะเกินไปแล้ววววว นี่ไม่มีใครท้วงเลยเหรอวะ ถามจริง
>>740 กูสติหลุดไปแล้วว่ะ เจอนิยายหลายเรื่องเข้าไป 5555 ต้องการเวลาเก็บรวบรวมสติด้วยการเลิกอ่านนิยายซักพักใหญ่
>>741 กูว่าน้องเอยอยู่กับพี่หมอบ่อยๆเลยทำให้ได้ความรู้จากพี่หมอไง แบบ osmosis มาเลย แล้วได้ความความรักจากพี่หมอแล้วหายไม่พอยังได้ความรู้ด้วยเลยเข้ามหาลัยได้พอดีเลยไง ฉลาด+หายเป็นปรกติแล้วด้วยไปเดินเล่นควงแขนออกเดทได้อย่างฟิน บอกแล้วว่าเรื่องนี้จะ#จบแฮปปี้แบบไม่มีลอจิก จริงๆแล้วน้องเอยอาจจะมีปมว่าตัวจริงเป็นเอเลี่ยนและด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้ไม่สบายสมองมีปัญหา พอได้รับความรักเข้าไปถึงจุดๆหนึ่งก็ได้พลังพิเศษกลับคืนมาทำให้หายเป็นปรกติ กูว่าจริงๆแล้วเรื่องนี้มันมี sub-plot เป็นนิยายไซไฟ/แฟนตาซี
กูไปไปตั้งสติก่อน นิยายนี่ทำสติกูหายไป
มึงไม่รู้จักนิทานเรื่องเจ้าหญิงกับเมล็ดถั่วกันจริงๆเหรอวะ คือกูเห็นมึงด่าจิกกัดแล้วสมเพชมากๆอะ คือนิยายแม่งกากก็จริง แต่มึงเสือกปล่อยไก่มาแบบนี้เสียหมาฉิบหาย
วันนี้สับนิยายกันปะมึง กูขอเสนอเรื่องนี้
http://my.dek-d.com/FuNu/writer/view.php?id=911056
อ่านไปสิบกว่าบทกูให้สองคำ "โคตร ซู"
ไม่ไหวว่ะ ลองอ่านต่อตอนเริ่มสร้สงตัวละครแล้วนางฟ้าเอ็นพีซีมากรี๊ดว่ามันน่ารักก็ไม่ไหวละ ว่าแต่นเขียนไม่น่าเด็กแล้วนะเนี่ย เห็นมีทำ "วิทยานิพจน์"ด้วย 555 ตอนแรกนึกว่าเขียนผิดแต่พอใช้ซ้ำๆกันก็ชักไม่แน่ใจ
http://my.dek-d.com/FuNu/writer/viewlongc.php?id=911056&chapter=115
มีนิยายออนไลน์หรือโลกจำลองหรือต่างโลกอะไรที่เขียนสำนวนดีๆ มีการวางโครงให้เนื้อเรื่องดูไม่ออกทะเลบ้างไหมวะ แนะนำหน่อย
>>749 อยากแนะนำMSOนะ แต่อันนี้ออกยุทธภพแทนวะ
MWOตอนแรกวางระบบเกมดี แต่พอพระเอกมาเล่นทุกอย่างก็เหลวหมด แถมมีให้คนคลาส1ชนะคนคลาส7ได้ บริษัทเกมก็ช่วยพระเอกโกงเกม มีผู้เล่นบนว่าคนเก่งคนเดียวสู้ผู้เล่นนับพันคนไม่ได้จะเลิกเล่นเกมเพราะเกมมันแย่ อืม ร่ายยาวได้อีกเยอะเลยแฮะ ในด้านความสมจริงของระบบเกมนี่กูให้ผ่านครึ่งเดียว แต่ก็ถือว่าดีกว่าเรื่องอื่นอะนะ
ที่เหลือนี่จะว่าไงดีละ แค่วางระบบเกมยังแย่ ที่เหลือไม่ต้องพูดถึงแล้ว
จะมีนิยายเกี่ยวกับเกมออนไลน์เรื่องนึงที่กูคิดว่าดีที่สุดแล้วก็คือBoss จินตนาการพิศดาร เรื่องนี้ดีจริงๆ เป็นเกมออนไลน์ที่ใช้คอมสมัยปัจจุบันเล่น อีกเรื่องก็the king avatar คนเขียนเดียวกัน กูชอบมากเลย อ่านแล้วคิดถึงL2กับGW2เลย
ว่าแต่คนเขียน MWO หายไปไหนหว่า ไม่อัพเดทนานละ
อ้าวอ่านอีกที กูขอโทษ นึกว่าพูดถึง MSO ตัวอักษรเปลี่ยนตัวเดียว ชีวิตเปลี่ยนเลย *กราบ*
http://www.dek-d.com/board/view/3644557/ กระทู้พลีชีพ
>>760 ขอเถียงไอ้เหี้ยเดธ เขียนดีแค่ไหนก็อาจไม่มีคนอ่านได้ถ้าไม่รู้จักทำการตลาด อย่างน้อยก็ต้องโปรโมทบ้างไม่ใช่ตะบี้ตะบันเขียนอย่างเดียว ยิ่งพวกที่อัพแม่งเดือนละตอนนี่อย่าให้พูดเลย เขียนดีให้ตายก็ดังยากกว่านิยายซูๆที่อัพทุกวัน
ว่าแต่มึงผิดมู้นะ ไปนินทาเด็กดวกสิ
>>762 ต้องแบบนี้อ่ะป่าวเพื่อนโม่ง
http://www.dek-d.com/board/view/3644671/
เปลี่ยนชื่อเรื่องทุกเดือน แปะลงทุกมู้ที่ใครขอนิยาย ตั้งมู้เองทุกครั้งเมื่อมีตอนใหม่ อันล่าสุดนี้ก็ล่อให้เข้าเยอะๆ การตลาดโอมั้ย
"ส่วนมากนักอ่านทั่วไปจะไม่สนใจเรื่องคำผิดครับ
ถ้าในฐานะ คนอ่านออนไลน์ ผมจะเฉยชากับคำผิด
ขอให้มาอัพ และสนุกน่าติดตามก็เพียงพอแล้วครับ"
"ภาษามันคือภาษาที่เรียกว่าไรดีอะช่างมันเถอะ เนื้อเรื่องสนุก เลยมองข้ามจุผิดไปได้"
จ้า เอาที่สบายใจเลยจ้า
กุเห็นคนเม้นแล้วในนั้นแล้วก็ดูเรื่องนี้เทียบ http://writer.dek-d.com/rimama11/story/view.php?id=1439988 ก็เข้าใจแล้วล่ะว่าฐานคนอ่านส่วนใหญ่ในเด็กดีเป็นไง อัพรัวๆ ภายในสามสี่วัน วิวขึ้นห้าพันแล้ว เชิญชมคุณภาพกันเองนะครับ
มาจากอีกกระทู้ ถามหน่อย
ในเด็กดีมีแนว TS (เปลี่ยนเพศ) ดีๆ ไหม อ่านของญี่ปุ่นเยอะแล้วเกิดอยากลองอ่านของไทยบ้าง
http://writer.dek-d.com/minikikaboo/story/view.php?id=1304540 เคยผ่านตากุ ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่านะ ลองเบิ่งดูเอา
ใครก็ได้บอกให้พี่เว็บทำหมวดนิยายต่างโลกที กูไม่ไหวแล้ว ไม่สามารถทนแสกนแนวต่างโลกได้อีกแล้ว อีเหี้ย แนวอื่นหายไปไหนหมด
เมื่อกี้กูพูดถึงการโฆษณานิยาย นึกขึ้นมาได้ว่ามันมีเพจ official ของเด็กดีที่ชื่อนิยายเด็กดีนี่หว่า คนตามเป็นหมื่นคน อยากรู้ว่าถ้ากูอยากจะโฆษณานิยายตัวเอง สามารถซื้อโฆษณากับแอดมินเพจได้ไหมวะ แล้วราคาเท่าไหร่
แทนที่จะแยก แค่แม่งพัฒนาระบบแท็กก็จบละ แฮปปี้กันทุกฝ่าย
>>770 ของไทยแนวนี้หาคนแต่งยาก ยิ่งเรื่องที่แต่งแล้วอ่านสนุกยิ่งหายาก
แต่ถ้าอยากลองอ่านดู ขอแนะนำเรื่องพวกนี้
http://my.dek-d.com/kningbank/writer/view.php?id=919487 เกมออนไลน์ ทีแรกอ่านเพราะเป็นแนวสลับเพศ แต่ตัวเรื่องก็ทำให้อ่านสนุกอยู่
http://my.dek-d.com/fulkza10088/writer/view.php?id=831612 นางเอกน่ารักดี เรื่องออกแนวจูนิ
http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=265318 สนุก แต่ภาษาที่ตัวละครพูดในเรื่องอ่านแล้วเข้าใจยาก
http://writer.dek-d.com/nanazero/writer/view.php?id=685041 อลิซน่ารักกกกกกกก
http://writer.dek-d.com/twinntwinn/story/view.php?id=1273665 มีตัวละครในเรื่องบางตัวสลับเพศ ค่อนข้างสนุก ตัวที่สลับเพศบทไม่เยอะ
http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1381142 พล็อตคุ้นๆ เหมือนกับเอาพล็อตมาจากนิยายเว็บญี่ปุ่นที่เป็นแนว TS
http://writer.dek-d.com/aishiteruze/story/view.php?id=283852 นางเอกคล้ายๆฮารุฮิ ? แถมยังมีตัวละครที่นิสัยคล้ายๆนางาโตะ ยูกิ อีก !?
http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=339539 ไร้คำบรรยาย... แต่ละบทค่อนข้างยาว
บารามอสทำกูเปิดโลก TS เลยนะเออ
เดี๋ยวนี้อ่านแต่ของยุ่น ของไทยหาเรื่องดีๆยาก
กูอยากให้เฟรินเป็นชายมากกว่าวะ สนุกกว่าเยอะ เป็นสาวแล้วก็สาวแตกเลย
http://writer.dek-d.com/lightwars/story/viewlongc.php?id=904796&chapter=38 รูปแบบการแต่งนิยายแบบนี้ก็น่าสนนะเพื่อนโม่ง แค่ก แค่ก
>>785 เหมือนเคยเห็นโม่งนินทาเด็กดีด่าอยู่เหมือนกัน กูเคยอ่านตอนแรกๆอยู่นิดนึง แต่ปิดไปเพราะรู้สึกว่าคนเขียนแม่งแค่ยกว่าอีนางเอกเป็นคนแก่มาก่อน แต่ไม่สามารถดำเนินเรื่องได้ตามที่กำหนดเลยแม้แต่น้อย คงเพราะอายุน้อยด้วยมั้ง จะไปเข้าใจความคิดคนแก่อายุเหยียบ 80 ได้ยังไง คืออีนางเอกแม่งไม่เหมือนคน 80 ที่ผ่านโลกผ่านเรื่องราวมาเยอะอ่ะ แถมยังเป็นคนแก่ที่จบดร.จิตวิทยา เป็นอาจารย์ด้วยนะ คือกูอ่านแล้วนึกว่านางเอกเป็นสก๊อยสาววัย 18 ที่ตายห่านมาเกิดใหม่เสียอีก
สรุปเสียเวลาอ่าน
>>787 มักง่ายเข้าไว้ก่อนไง ต่อให้เขียนนิยายแฟนตาซีมันก็ควรจะมีตรรกะหรืออะไรที่สมเหตุสมผลบ้างป่ะวะ หรือถ้าไม่สมเหตุสมผล ก็ต้องหาวิธีมาอธิบาย แถๆไถๆให้คนอ่านเชื่อให้ได้ แต่ลืมไปว่านี่มันเด็กดี จะเอางานดีเลอเลิศก็คงจะฝันเกินไปหน่อย
เดี๋ยวมีเวลาจะมารีวิวนิยายในเด็กดีเล่นๆบ้าง แต่อาจไม่ดีงามเท่าที่โม่งคนอื่นๆรีวิวนะ กูคงมีเกณฑ์แค่ อ่านแล้วติด อ่านเพลินๆ พออ่านได้ ต้องฝืนอ่่าน เสียเวลาอ่าน รำคาญ อะไรทำนองนี้
พวกนิยายแฟนตาซีพล๊อตโหลวิวเยอะๆในเด็กดีนี่มันสนุกๆจริงหรอวะ กุไปอ่านกระทู้หนึ่งมันบอกว่า ต่อให้ภาษาห่วย สำนวนเน่าแค่ไหน แต่ถ้ามันสนุกคนก็อ่านเยอะ แต่จากที่กุเคยไปลองอ่านมาดูนะ มันมีแต่พวกนิยายมักง่าย ลอกพล๊อตนิยายแปล ไลท์โนเวล มาลงแบบทื่อๆ เดินเรื่องแบบเดียวกันเป็นสิบๆเรื่อง กุอ่านแล้วไม่มีความสนุกเลยสักนิด
ปล. นี่คือสูตรเรียกวิวง่ายๆของนิยายแฟนตาซีเด็กดี (แนวต่างโลก+พระเอกเทพทรู+ฮาเร็มยิ่งเยอะยิ่งดี+อัพรัวๆ) ยิ่งอัพวันละ4-5ตอน แปปๆก็ขึ้นหลักพันแล้ว
>>789 กูก็ไม่แน่ว่ะว่านิยายที่พล็อตโหลๆ บรรยายกากๆ มันแย่กว่านิยายที่พล็อตแตกต่างบรรยายเยอะๆ ภาษาค่อนข้างดีหรือเปล่า เพราะเท่าที่กูไปอ่านนิยายเคย์เซย์ที่ลูกหาบอวยนักอวยหนาว่าดีว่าเจ๋ง กูกลับรู้สึกว่ามันน่าเบื่อว่ะ มันน่าเบื่อยังไงรู้ไหมมันเดินเรื่องช้า เพราะมัวแต่บรรยายสีตาสีผมวิวทิวทัศน์แต่ละดอกหมดไปทีเกือบสิบบรรทัด พูดง่ายๆ คือเรื่องมันไม่เดิน แต่พวกนิยายกากเดนทั้งหลายเรื่องมันจะเดินเร็วกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะส่วนใหญ่มีแต่บทสนทนา มันจับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่าว่ะกูว่า เพราะนักอ่านส่วนใหญ่เป็นเด็ก นั่นล่ะมั้งถึงจะเป็นคำตอบที่ถูกจริงๆ
>>789 อ่านของดอกป๊อปได้ก็อ่านพวกนี้สนุกได้
>>790 พวกนี้ติดกับดักนิยายชั้นสูง คิดว่าต้องทำแบบนี้แบบโน้นถึงจะเป็นนิยายที่ดี แต่นิยายที่ดีจริงๆ ประกอบด้วยแก่นเรื่องที่แน่น ภาษาเป็นสิ่งที่ทำให้เรื่องสมบูรณ์ พวกนี้เข้าใจกลับหัวกลับหาง คิดว่าภาษาที่ดีจะทำให้กลายเป็นเรื่องที่ดี มันควรไปด้วยกันก็จริง แต่นิยายคือร้อยแก้ว ความงามทางภาษาเป็นหาง ไม่ใช่ตัว ถึงภาษาของพวกนั้นมันจะกากเดนจริงๆ ก็เถอะ
นิยายป้าๆ ก็เหมือนกัน กูเคยอ่านอยู่เรื่องหนึ่ง นางเอกนี่แม่งคิดโคตรเยอะคิดทีหมดเป็นสิบบรรทัดเหมือนกัน ไม่รู้มันคิดอะไรนักหนา ทำสีหน้าก็อีก หนึ่งหน้ากระดาษนี่นางชักสีหน้าไปประมาณเกือบสิบครั้ง เดี๋ยวก็กัดริมฝีปากบาง เดี๋ยวก็เม้มเรียวปาก เดี๋ยวก็โกรธตาโต เดี๋ยวก็ขมวดคิ้ว และไอ้กิริยาแบบนี้ก็จะทำเฉพาะต่อหน้าพระเอกด้วยนะ ใครไม่รำคาญก็ช่างเถอะ กูนี่รำคาญจนอ่านต่อไม่ไหว
>>790 ไอ้คำว่าเดินเรื่องช้าเนี่ยมันต้องดูแก่นเรื่องด้วย ซึ่งคนอ่านไม่มีทางรู้ดีไปกว่าคนเขียนหรอก เช่นว่าวางเรื่องไว้ 100 ตอน มึงจะวกไปวนมาฉากละ 2-3 ตอนก็ไม่ได้ถือว่าเดินเรื่องช้าอะไร จะวนอยู่กับฉากที่เป็นช่วงสำคัญของเรื่องสัก 20 ตอนก็ยังไหว แต่ถ้านิยายมึงวางไว้แค่ 20 ตอน วางปมย่อยไม่จบใน 1-2 ตอนก็อาจช้าไปแล้ว
แต่แม่งก็มีนิยายบางเรื่องที่ใช้ภาษาเปลือยๆเดินเรื่องฉับๆ แต่เสือกมีเป็นพันตอนก็ไม่เห็นทีท่าว่าจะจบสักที แบบนี้กูว่าคนเขียนกากนะ แต่ก็นับถือใจมันที่เขียนได้ยาวขนาดนี้
ส่วนเรื่องสำนวนน่ะเอาให้อ่านรู้เรื่องไว้ก่อนน่ะดี แต่ยังไงถ้าจะให้กูอวยว่าเทพแม่งก็ต้องมีการเล่นกับภาษาโชว์สกิลให้เห็นบ้าง ไม่จำเป็นต้องพร่ำพรรณาเยิ่นเย้อตลอดแต่ก็ต้องมีการใส่ลูกเล่นบ้างเป็นบางจังหวะ ถ้ายังมา เฟี้ยวฟ้าว วี๊ด บึ๊ม ตู้ม โครม เพล้ง กูก็จัดให้แม่งเป็นได้แค่ไลท์โนเวลอะ
>>794 พูดถูกใจกูมาก นิยายมันมีสไตล์ของมัน นิยายของเคย์เซย์กูอ่านแล้วก็ชอบแต่ไม่ถึงกับตึ่ง ภาษาสวยเดินเรื่องช้าจริงแต่แม่งก็เป็นแบบมัน ไม่ถูกจริตก็ปิดไป นิยายสมัยใหม่ที่เด็กๆแต่งแม่งก็มีดีเรื่องดำเนินเร็วตรงประเด็น แต่สำนวนภาษาง่อย ถ้ามึงไม่คิดมากบางเรื่องที่ไม่ห่วยสัสก็อ่านสนุกได้
กูก็เขียนนิยายแบบเอื่อยๆแอบดำเนินเรื่องช้านะมึง กูรู้สึกว่านิยายกูไม่ใช่เร่งๆเพื่อให้พระเอกเก่ง แต่มันค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์กันไป เจอคนมาบอกว่านิยายช้า ไม่น่าตื่นเต้น ให้เพิ่มฉากหวือหวาหน่อย..กูก็ไม่รู้ว่าจะว่าไงดี อยากบอกว่ามันเป็นสไตล์อ่ะ
เรื่องดำเนินเรื่องเอื่อยนี่ไม่รู้จะพูดยังไงนอกจากคำว่ามันแล้วแต่พล็อตและแก่นเหมือนที่>>794บอก นิยายเรากว่าจะเข้าเรื่องจริงๆไกลมากแต่ทุกตอนจะมีการปูทางของมันเอาไว้ ทั้งปมเรื่องแล้วก็การเติบโตของตัวละครรวมถึงความสัมพันธ์กับตัวละครตัวอื่นๆในเรื่อง//ไม่ใช่ฮาเร็มนะหมายถึงแบบเพื่อนๆ บางเรื่องที่โชว์จุดพีคเลยแล้วแป้กก็เยอะไป
แต่ก็ไม่ได้แปลว่าทุกเรื่องต้องยืด มันขึ้นอยู่กับสไตล์มากกว่า งานเขียนมันก็เหมือนงานวาดแหละทุกคนมีลายเส้นเป็นของตัวเอง อาจจะเริ่มจากการวาดตามนักวาดที่เราชอบแต่สุดท้ายแล้วมันก็ต้องมีลายเส้นของตัวเองอยู่ดีไม่มีใครเลียนแบบใครได้ตลอดอยู่แล้ว
แต่ก็ไม่ได้แปลว่า>>790 จะพูดผิดทั้งหมดเพราะบางเรื่องมันดำเนินเรื่องช้าแถมในตอนยังไม่มีจุดพีคอีกมันเลยรู้สึกเหมือนอ่านตอนนั้นไปแล้วไม่มีอะไรพัฒนาในตัวเรื่องเลย
มีนิยายเรื่องไหนที่พวกมึงคิดว่าเก็บไว้เป็นความทรงจำสมัยเด็กดีกว่ากลับมาอ่านใหม่อีกรอบตอนโตบ้าง?
>>798 ไพรด์ออนไลน์
สมัยยังไม่ตีพิมพ์ กูอ่านในเด็กดีรู้สึกสนุกมากกก ตอนนี้มาอ่านแล้วแบบ... ไม่น่าเลยกู น่าจะเก็บไว้เป็นความทรงจำดีๆ ต่อไป Orz
กูยกชื่อมาเพราะเรื่องนี้กูเพิ่งหยิบมาอ่านอาทิตย์ที่แล้ว สึด จบภาคแรกก็กัดฟันละ ไปไม่ถึงภาคสุดท้าย
ยังมีบารามอส กับเรื่องแนวโรงเรียนเวทมนตร์ เจ้าหญิงเจ้าชายนักฆ่าอะไรเทือกๆนี้ ล้วนเป็นเรื่องที่กูอ่านสมัยยังเบียวทั้งสิ้น นิยายสถาพรยุคนั้นเกือบทั้งหมดกูอ่านแล้วชอบ
ไม่นับเซวีน่ากับเสนาธิการ สองเรื่องนี้สำหรับเบียววัยกะเตาะอย่างกูอ่านแล้วรู้สึกน่ารำคาญมาก คำบรรยายเยอะไป เยิ่นเย้อ โตมากูว่าจะไปหามาลองอ่านอีกทีเปรีบเทียบความรู้สึก แต่เสือกขายทิ้งไปแล้วนี่สิ
ไหนๆ พูดถึงความต่างของนิยายที่อ่านตอนเด็กกับตอนโตกูขอยกมาอีกอันคือพิภพพญามังกร สมัยนั้นรู้สึกโคตรล้ำลึก คำขยายซ้อนคำขยายเทียบคำเปรียบเปรยเชื่อมคำราชาศัพท์ เหี้ยยยย เกินไอคิวกูมาก ต้องมาอ่านตอนโตถึงรู้เรื่อง
http://www.dek-d.com/board/view/3645177
คห.6 เอาใจกูไปเลย! บางเรื่องสร้างให้ตัวเอกหล่อลากดินจนสาวกรี้ดวิ่งไล่ตามยังกะติดสัด
>>806 แต่มันก็เป็นรีแอ็คในชีวิตจริงนี่หว่า คือไม่ต้องกะเทยก็ได้ ผช.บางคนแค่มีผญ.เข้ามาทำท่าอี๋อ๋อใส่ก็ขยับหนีเหมือนกันนะ
คือถ้าจะห้ามพระเอกหลบกะเทยนี่เดี๋ยวมึงก็ต้องห้ามพระเอกทรมานสัตว์ ห้ามพระเอกให้เงินขอทาน ห้ามพระเอกตะคอกใส่ผู้หญิงด้วยไหม ส่งงานเข้าประกวด UN equal เลย คือมึงจะห้ามไม่ให้พระเอกมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อเพศที่สามเหรอวะ มึงเป็นอุปฑูต LGBT เหรอดอก
>>809 ประเด็นมันคือการนำเสนอกลุ่ม LGBT มาในรูปแบบของตัวตลก บ้าผู้ชาย วิ่งล่าผู้ชาย แล้วให้พระเอกขยะแขยงหรือเปล่า แล้วทำไมนิยายแม่งต้องตอกย้ำวาทกรรมความเกลียดกลัว LGBT ที่กดทับเขาด้วยวะ มันสื่อให้เห็นหรือเปล่าว่ามีอคติทางเพศ ถ้าเขียนให้มันไม่มีอคติทางเพศได้มันก็ดีป่ะ กูล่ะขำ บางคนแม่งเขียนนิยายวาย แต่ยังเสือกนำเสนอกลุ่มรักเพศเดียวกันออกมาในเชิงเสียดสี ล้อเลียนเพื่อขบขันเหมือนเดิม แต่ลืมไป นี่มันเด็กดี แต่งเอาฟินเฉย ๆ อยู่แล้ว
ไอ้การปลูกฝังเรื่องความเท่าเทียมมอง LGBT มองว่าเป็นมนุษย์ คนทั่วไป ไม่ใช่เหมารวมกว่าต้องเป็นแบบใดแบบหนึ่ง มันไม่ใช่จะมานั่งสอน นั่งป่าวประกาศแล้วคนเราเข้าใจนะคะ ขนาดมึงเองยังเห็นประเด็นแค่ผิวเผินเลย ไม่อยากจะด่าปัจเจกบุคคล เข้าใจว่าโครงสร้างสังคมและวัฒนธรรมแม่งทำให้มึงคิดแบบนี้ เอาเป็นว่าต่อให้มันแค่เรื่องเล็ก ๆ ในนิยาย มันก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยในการการสร้างชุดความคิดใหม่ให้คนในสังคม
>>809 มันคงอยู่ในจุดที่ทำซ้ำ ทำบ่อยในนิยาย และเอามาใส่เป็นมุขตลกอย่างไร้ความหมายละมั่ง ไม่ได้อยู่ในจุดสื่อว่าตัวละครแม่งเป็นยังไงแบบถ้าใส่ฉากพระเอกทรมารสัตว์ก็เป็นจุดที่สื่อว่าอีพระเอกแม่งโรคจิตชอบทรมารสัตว์หรือไม่ก็เก็บกดเลยไปทรมารสัตว์ระบาย คือคงไม่มีใช้มั้ยว่าใส่ฉากนี้เพื่อเป็นมุขตลกผ่านมาผ่านไปไร้ความสำคัญ
>>809 มึงโยงมั่วละ เหยียดเพศเกี่ยวอะไรกับตัวอย่างที่มึงยกมาวะ ถึงในชีวิตจริงจะมีแบบนั้น แต่ก็ไม่ถึงกระโดดหนี ถอยห่าง หรืออะไรทำนองนี้ อาจมีแค่เขยิบห่างพอประมาณหรือลุกหนีเดินจากไปเฉยๆ แต่ก็ไม่ถึงขั้นแสดงอาการ "รังเกียจและเหยียดเพศ" แบบที่พวกนิยายกับละครทั้งหลายชอบยัดใส่นั่นแหละ เจอกระเทยวี้ดว้ายใส่ทำเป็นสะดุ้งอย่างกับเจอหมาขี้เรื้อน หอก! มึงหัดออกมาดูโลกความเป็นจริงมั่งนะ ไม่ใช่หมกตัวอยู่ในห้องเกรียนคีย์บอร์ดไปวันๆ กระเทยไม่ได้ทำตัววี้ดว้ายตลกคาเฟ่ทุกคนนะมึง ที่เงียบๆ ไม่แสดงออกก็มี ที่กล้าแสดงออกก็เยอะแต่ไม่ถึงขั้นเร่เข้าไปหาผู้ชายแล้วร้องวี้ดว้ายจะจับทำผัว (เว้นตอนเมาที่อาจสติหลุด) ส่วนผู้ชายแท้ที่เจอกระเทยจีบก็ไม่แสดงอาการ "ถอยห่างหรือกระโดดหนี" แค่บอกปัดหรือแสดงให้รู้ว่ากูชายแท้ไม่สนมึงนะ ไม่ก็บอกตรงๆ ว่ากูแมนว่ะแล้วเดินหนีไปเลย
น้องชายเรา (ชายแท้) เคยโดนกะเทยจีบ แต่มันก็ไม่กระโดดหนีหรือทำท่ารังเกียจเหมือนเจอแมลงสาบอะไรขนาดนั้นนะ แค่ยิ้มๆ ดึงมือออก แล้วเดินต่อไป
>>810 >>811 >>812 พวกมึงไม่เคยเจอคนแบบนั้นก็อย่าคิดว่ามันจะไม่มี กูเองเป็นคนที่ไม่ได้คิดมากอะไรกับพวกกะเทย เล่นๆได้แต่จริงจังไม่เอา
แต่กูรู้จักคนที่เกลียดแรงๆ แบบสะบัดมือหนี จ้องหน้า มีเพื่อนกูคนนึงก็เป็นแบบนี้ มันเคยโดนกะเทยตีตูดทีนึงก็สะบัดศอกอัดลิ้นปี่แม่งเลย หรือมีเพื่อนที่เคยเรียนวิชานึงในมหาลัยด้วยกันที่โดนอาจารย์เกย์แซว แม่งก็ลุกขึ้นบอกไปตรงๆว่าไม่ชอบ ด้วยน้ำเสียงจริงจังแบบเอาเรื่อง ทั้งๆที่อาจารย์แม่งก็เหมือนพูดเล่นๆ
ซึ่งไอ้คนพวกนี้หลายคนก็เป็นคนอารมณ์รุนแรง แต่หลายคนก็เป็นคนน่ารัก มีน้ำใจ เฮฮาปาร์ตี้เหมือนคนปกติ ไม่ได้หมายความว่าคนที่ไม่ชอบกะเทยจะต้องเลวร้าย หรือเป็นพระเอกไม่ได้ ก็ถามว่าด้วยเหตุผลอะไร ทำไมพระเอกถึงต้องมองเพศที่สามเท่าเทียม มึงไม่ได้เขียนนิยายส่งประกวด LGBT อวอร์ดสักหน่อย และยิ่งกว่านั้น ไอ้คนที่ควรจะโดนประนามมันคือกะเทยที่เข้ามาลวนลามพระเอกไม่ใช่เหรอวะ คือมึงหมายความว่าไง พระเอกต้องยอมรับการลวนลาม หรือไม่ก็ดึงมือออกมาอย่างแช่มช้าพร้อมส่งรอยยิ้มหวานอย่างนั้นสิ อีเหี้ย แม่งถูกคุกคามทางเพศนะเว้ย
>>815 มึงพูดถูก ทุกคนกำลังหลงประเด็น ไม่ใช่กะเทยหรอวะที่กระทำก่อน จากนั้นก็มีปฎิกิริยาตอบโต้จากผู้ถูกกระทำมากน้อยแล้วแต่ ก็แค่เรื่องธรรมดา
กูบอกเลยเรื่องมันเริ่มจากอีคนตั้งกระทู้มันเป็นเกย์ แล้วแสลงใจที่โดนรังเกียจก็เท่านั้น ทั้งที่นักเขียนไม่ได้ด่ามันซะหน่อย แม่งร้อนตัวฉิบ ปล่อยเบลอไปสิวะ
กูว่ามึงหลงประเด็นแล้ว อะไรคือการบอกว่าไม่เจอคนแบบนั้นคิดว่ามันจะไม่มี กูว่ากูก็เขียนไม่ได้อ่านยากนะ ให้กูลิสต์ทีละข้อเลยมั้ย
ต้นตอ => คนมีอคติทางเพศว่า LBGT ต้องตลก บ้าผู้ชาย กรี๊ดกร๊าด คุกคามคนอื่น => ตอกย้ำอคติด้วยการนำไปเขียนในงานเขียน => พระเอกเกลียด ขยะแขยงกะเทย
มันไม่ใช่ว่าพระเอกต้องมองเพศที่สามเท่าเทียมนะคะไอ้สัส ไม่ใช่ว่าพระเอกต้องยอมรับการถูกคุกคามทางเพศ แต่อีคนเขียนมึงควรจะเขียนให้เพศที่สามมีความเท่าเทียมในฐานะมนุษย์ มีศักด์ศรีความเป็นนุษย์ค่ะ ไม่ใช่เหมารวมว่าเป็น LGBT แล้วต้องเป็นตัวตลก
>>817 แล้วหมายความว่า LGBT จะต้องไม่ตลก ไม่บ้าผู้ชาย ไม่กรี๊ดกร๊าด ไม่คุกคามคนอื่นเหรอวะ?????? คืออะไร ต้องเขียนให้ LGBT เป็นกลุ่มคนที่สงบเงียบน่าสงสารและเป็นจำเลยของสังคมเท่านั้นเรอะ ส่วนชายจริงหญิงแท้นี่จะเขียนยังไงก็ได้ ให้เป็นตัวตลกก็ได้ ทำตัวเปิ่นๆฮาๆจนไปถึงหื่นๆก็ได้??
หรือถ้ามึงจะบอกว่าห้ามเขียนให้กระทบทุกเพศเลย คือไม่ต้องมีตัวฮา ไม่ต้องเล่นมุกส่อเสียดใต้สะดืออะไร แบบนี้มึงจะไม่ไปก้าวก่ายงานของคนอื่นไปหน่อยเหรอวะ มึงคิดว่าตัวเองดีมาจากไหนถึงได้ทำตัวเป็นตำรวจศีลธรรม?
งั้นกูเล่นเดอร์ตี้โจ๊กบ้าง
A : รู้ไหมว่าทำไมเราถึงเตะผ่าหมากผู้หญิงไม่ได้
B : ทำไมวะ?
A : เพราะมันผ่าอยู่แล้ว
แบบนี้จะลากกูไปฆ่าไหม?
>>817 มึงสั่งใครเขียนไม่ได้ ถ้าอีคนเขียนแม่งเกลียดLGBTจิงมึงก็เปลี่ยนมันไม่ได้จริงมั้ย เพศที่สามมันผิดปกติ สังคมยังรับไม่ได้ทั้งหมดยังอคติอยู่จริงมั้ย
กูจะบอกว่าเรียกร้องโดยไม่ดูบริบทจะทำให้หายนะ คนที่ไม่สนใจแม่งก็ยิ่งงงทำไมพวกLGBTเรื่องเยอะ นิยายเกรียนๆไม่ได้เจตนาด่าล่อแค่ขำๆแม่งยังโวยวาย
มึงกลัวค่านิยมผิดๆมันก็ผิดมาชาตินึงแล้ว มึงอยากขอสิทธิ มึงก็ช่วยไปประณามนิยายที่แม่งเจตนาด่าชัดๆ มึงแจ้งพี่เว็บแจ้งตำรวจก็ยังได้ถ้ามึงไม่ชอบ
มึงต้องเข้าใจว่าคนมีเหี้ยทุกเพศแหละ ชายหญิงธรรมดาก็มีเหี้ยเกลียดเพศที่สาม เพศที่สามก็มีเหี้ยทำตัวน่ารังเกียจสมควรโดนด่าไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
มึงคุมใครไม่ได้ แถมมึงบังคับให้คนอื่นเห็นตามมึงก็ไม่ได้ ไม่งั้นมึงแหละที่ทำตัวคุกคามคนอื่น กูไม่ได้เกลียดLGBT แค่อยากเตือนสติ ออกตัวแรงน่ะไม่เคยช่วยให้มีอะไรดีขึ้น
มันก็ยังดีที่ตั้งกระทู้นะกูว่า ตอนนี้คนเขียนนิยายส่วนใหญ่ที่อ่านกระทู้ก็จะมีความคิดประมาณว่า "เออจริงว่ะ ต้องระวังเรื่องเพศละ" บ้างล่ะ แต่ในมุมมองของคนอ่านอาจจะมีบางคนไม่พอใจประมาณว่าเรื่องเยอะอย่างมึงบอกนั่นแหละ
ส่วนตัวกูเห็นค้าน เพราะมันปิดกั้นอิสระของนักเขียน ถ้าไม่เขียนผิดกฎหมายอะไรที่ตั้งไว้ก็เขียนได้ทั้งนั้นแหละ ในประเด็นนี้พวกมึงพูดถึง ปฏิกิริยาของตัวเอกที่โดนกระเทยกระทำ แม่งจะทำอะไรก็เรื่องของมันดิ มันอาจจะทำเกินเลยบ้างเพราะมันเป็นนิยายป่ะวะ ยังไงก็ถือว่าอยู่ในขั้นป้องกันตัวเอง มันไม่ได้เขียนอย่างเฉพาะเจาะจงให้ผู้อื่นรู้สึกรังเกียจสักหน่อย มันก็แค่สองสามบรรทัดในนิยายเท่านั้นแหละ แล้วการค้านตัวอย่างที่พวกมึงยกๆ กันมาแม่งก็บ้าเกินไป มึงบอกว่าไม่มีใครกระโดดหนีหรืออะไรแบบนั้นหรอก ไม่จริงว่ะ มึงจะไปตรัสรู้ได้ไง มันก็แค่คุยกันในวงแคบๆ แค่นี้แหละ
กุมาจากแชท อยากเสือกบ้าง
ทำไมจะเขียนนิยายแล้วเอากระเทยมาเป็นตัวตลกไม่ได้วะ ถ้ายึดตรรกะนั้นนักเขียนก็ไม่สามารถเขียนเพศหญิงเพศชายเป็นตัวตลกได้เช่นกันสิ อย่างนี้มันไม่ได้เรียกร้องความเสมอภาคทางเพศแล้วนะมึง แบบนี้มันเรียกร้องให้เพศตัวเองเหนือกว่าเพศอื่นแล้วนะ แล้วที่สำคัญกูคิดว่าตัวเอกมันก็มีสิทธิ์จะเกลียดใครก็ได้ไม่ว่าตัวละครอีกตัวจะดีหรือไม่ดี ในชีวิตจริงคนที่ถูกเกลียดไม่จำเป็นต้องเป็นคนเลวเสมอไปนะเว้ย เกลียดเพราะแม่งดีเกินก็มี เกลียดเพราะแม่งสวยเกินก็มี กูเพลียกับการเรียกร้องแบบนี้ว่ะ
กูกำลังคิดว่าถ้าพวกมึงมองว่าการเขียนให้ LGBT เป็นตัวตลกแบบนี้ แล้วถ้าสมมติเปลี่ยนไปเขียนให้ชาย-หญิงกลายมาเป็นแบบนี้ มึงจะเรียกร้องไหม? หรือจะบอกว่ามันอยู่กันคนละบริบท แล้วมันจะนำไปสู่การแสดงออกความเหนือกว่าของเพศสภาพ การได้รับสิทธิพิเศษ ซึ่งไอ้การกระทำแบบนี้มันไม่ใช่เป็นการเรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศว่ะ กูคิดว่าถ้ามึงเห็นว่ามันเล่นแรงกันเกินไปจะแจ้งพี่เว็บแบนไปเลยก็ได้ แจงเหตุผลให้ จะไปคุยกับตัวคนเขียนเลยก็ได้นะถ้ามึงเห็นว่าคุยได้ กูเข้าใจว่าสื่อมันมีส่วนช่วยในการผลิตซ้ำความคิดเดิม ๆ แต่จะปิดกั้นไม่ให้ทำทุกอย่างเลยก็ไม่ได้เหมือนกัน
ก็ใช่ว่าไม่ได้ แต่ที่เห็นส่วนใหญ่มัน stereo type ในเชิงเหยียด เพื่อให้ยึกภาพออกง่ายๆ ถ้ามึงเคยอ่านนิยายของดอกป๊อปจะรู้ดีว่ามันเหยียดเพศหญิงแค่ไหน กระดิกตีนก็เข้ามาเลียใข่ท่านเปกาซัสแล้ว ลองปรับเป็นกระเทยมึงก็จะเห็นภาพ
นิยายนะมันจะเขียนอะไรก็ได้ แต่มันก็สะท้อนตัวตนของคนเขียนด้วย ในบริบทนี้ไม่ได้หมายถึงการทำให้กระเทยเป็นตัวตลก แต่เป็นการสร้าง stereo type ว่ากระเทยเป็นแบบนั้นหมด และเป็นการเหยียด
ประเด็นสำคัญคือการใส่มานั้นจำเป็นกับเนื้อเรื่องหรือไม่ กูจะพูดในองค์รวมนะ อย่างเช่นฉาก 18+ อย่างการข่มขืน โอเคเรารู้ว่ามันไม่ดี เวลาเขียนคนส่วนใหญ่จึงละรายละเอียดไป แต่ถ้ามันจำเป็นต่อเนื้อเรื่องบางอย่าง การบรรยายฉากข่มขืนก็ทำได้
การเหยียดแบบนี้ก็เช่นกัน ถ้ามันจำเป็นต่อเนื่อเรื่องจะใส่มามันก็รับได้ แต่การใส่มาเพื่อเหยียดหยามเป็นสิ่งที่เกินความจำเป็น เหมือนตัวอย่างที่กูยกไปด้านบน ลองเปลี่ยนกระเทยเป็นผู้หญิงแล้วให้ทำอะไรต่ำๆ ดูสิ ใครๆ ก็มองว่าเหยียดเพศ ไม่เฉพาะกับกระเทยหรอก
ถ้าอยากรู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นผิดหรือไม่ผิด การเปลี่ยนตลค.ดูจะทำให้เห็นภาพได้เยอะ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับบริบทและเนื้อเรื่องด้วย แต่อย่างที่พวกมึงทุกคนคงจะรู้ดี พวกที่เอามาล้อส่วนใหญ่มันไม่คิดถึงขั้นนั้นหรอกว่าสำคัญต่อเนื้อเรื่องหรือไม่
ขอถามแทรก ถ้ากุแต่งให้ตัวละครเอกฝ่ายหญิง ขี้อ่อย ทำตัวร่านเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ หรือบางทีก็เพราะความคัน แบบนี้ถือว่าเหยียดเพศหญิงรึเปล่า
>>826 ถามแบบนั้นยังไม่พีค เพราะไอ้ประเด็นหญิงกะเทยนี่แม่งเล่นกันจนปรุแล้ว เล่นกันจนกูสงสัยว่ามันจะโอเวอร์อะไรขนาดนั้น
เอาเป็นว่าแบบนี้ดีกว่า ให้ตัวละครผู้ชายเป็นพวกหื่น ไล่ปี้ผู้หญิงไปทั่ว พอท้องก็ไล่ให้ไปเอาเด็กออก อยู่ให้แม่หม้ายรวยๆเลี้ยง ทำตัวเป็นแมงดาปีกทองไปวันๆ
คือไอ้ตัวละครแบบนี้คนแม่งจะชอบด่าว่าเหี้ย แต่จริงๆแล้วการเขียนแบบนี้แม่งเป็นการเหยียดเพศชายปะวะ มันอาจไม่ได้เหี้ย แค่มีแรงดึงดูดทางเพศสูงผสมกับความต้องการสืบพันธุ์ที่สูงตามก็ได้
ไม่สับนิยายกันแล้วเหรอเพื่อนโม่งงงง
ทำยังไงให้คนอ่านมันมาเม๊นนิยายกันเยอะๆ บ้างว่ะ เม๊นชม หรือเม๊นด่าก็ยังดี
>>830 อะ กูชี้เป้าให้
http://writer.dek-d.com/lasantra/writer/view.php?id=1284326
เรื่องนี้ดิ ผ่านพิจารณากับสถาพรละ เคยติดท็อปด้วย
http://writer.dek-d.com/minikikaboo/writer/view.php?id=1304540
>>836 เรื่องนี้กูชอบนะ แต่เวลาอ่านต้องดึงสติมากๆ เพราะตัวละครเยอะและพล็อตแลดูมหากาพท์(กูเขียนคำว่ามหากาพท์ถูกป่ะนิ) อ่านได้เรื่อยๆ เพลินๆ ดี บางทีก็อยากตบหัวนางเอก บางก็อยากกอดปลอบ 55555 ถ้าออกเป็นเล่มจริงแล้วเกลาอะไรๆ ให้สละสลวยกว่านี้ก็อาจจะอุดหนุน ...แต่ว่ามันมีหลายภาคจุง T v T
>>847 ก็ขอให้เป็นงั้น แต่กุรู้สึกว่าคนที่เข้ามาอ่านเรื่องกุนี่ค่อนข้างหวงเม้นมากกก กุถามลองถามหรือพูดคุยท้ายนิยายก็เงียบ ลองใส่คำผิดในชื่อตอนหรือต้นเรื่องก็ไม่มีคนแก้ให้ = = แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่มีคนเข้ามาอ่านละมั้ง
ปล ดราม่า อันดับ5 หมวดแฟนตาซี สำหรับคนอยากเผือก http://writer.dek-d.com/rimama11/story/viewlongc.php?id=1439988&chapter=34
ไม่ใช่ว่าตอนจบโรเซนเนียจะเหมือน cheecky angel ที่ตอนจบนางเอกคิดไปเองว่าตัวเองโดนสาปให้เป็นผู้ชายนะเว้ย
ส่วนตัวกูไม่ค่อยชอบการใช้ภาษาในการเล่าเรื่องของเรื่องนี้ แบบที่มันสั้นๆ บรรยายครึ่งบรรทัดหลายๆย่อหน้า มันแบ่งเป็นท่อนๆส่วนๆ เหมือนยังบรรยายไม่ค่อยเก่ง ค่อนข้างน่ารำคาญ แต่มันก็อ่านง่าย เด็กน่าจะชอบอ่านนะ
>>851 กูทนอ่านจนถึงตอนล่าสุดแล้ว เฉลยประมาณนั้นแหละแต่ซับซ้อนกว่านั้นหน่อย
ถ้าวางสมองทิ้งไว้ถือว่าเป็นเรื่องที่พออ่านได้ เนื้อเรื่องแม่งมั่วชิบหายไร้เหตุผลไร้ logic มากอารมณ์แบบคนเขียนแม่งยัดทุกอย่างลงไปมั่วๆตามใจตัวเอง
ยิ่งอ่านที่คนเขียนบ่นๆในแต่ละตอนบอกเลยว่าคนเขียนคนนี้เยอะจริงๆ
กูขี้เกียจอ่านต่อแล้วว่ะ ไม่ไหวๆ
อ้อ ไร้ความสมจริงของเนื้อเรื่องด้วย ตัวละครในเรื่องแม่งเปลี่ยนนิสัย/การกระทำจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ตลอดเวลา กูอ่านแล้วหงุดหงิดชิบหาย
>>836 กูตะลุยอ่านถึงบทที่ 76 ขอสับหน่อยว่ะ
ช่วงแรกกลิ่นแรงบันดาลใจมันฟุ้งมาก ซึ่งกูจะพยายามไม่คิดมากเพราะนิยายส่วนใหญ่ที่ได้แรงบันดาลใจมักจะย่อยไม่หมดเนื้อหาเลย "คล้ายๆ" มากไปหน้อย แต่พอกูอ่านต่อไปเรื่อยๆ ก็เห็นพัฒนาการดีขึ้นนะ กลิ่นแรงบันดาลใจลดลงไปเยอะ เริ่มมีความเป็นออริมากขึ้น ซึ่งกูจะสับตอนนี้แหละ
หอก! เจ้าชายเย็นชาห่าอะไรวะ เป็นน้ำแข็งได้ไม่ถึงสิบบทก็หลุดคาร์กลายเป็นพวกหน้านิ่งไม่ค่อยพูด หลุดแบบไม่มีเหตุผล เก็บอารมณ์เก่งตรงไหนวะ ก็ยิ้มได้หัวเราะเป็นพูดยาวๆ ก็ได้ จะเอามาดเจ้าชายน้ำแข็งหรือแอบซาดิสต์หรือผู้ชายเงียบๆ เป็นพ่อบ้านทำอาหารเก่งบ้าถ้วยชาก็เลือกซักอย่างหนึ่งสิ มาปนกันมั่วแบบนี้ทำเอากูนึกว่าเป็นพวกสามบุคลิก แล้วตอนจะแก้คำสาปให้แม่จะประกาศให้คนรู้ทั้งประเทศเพื่อ? ต้นไม้หายากเลี้ยงด้วยเลือดตัวเองไม่ใช่ของส่วนรวม มีพลังวิเศษที่ศัตรูอยากได้เลยต้องคอยระวังไว้ แล้วตอนใช้มึงจะประกาศให้คนอื่นรู้ทำไมวะ แอบทำเงียบๆ ก็ทำไปดิ จะหามุกให้ศัตรูบุกมาชิงของก็หาวิธีอื่นที่มันเนียนกว่านี้หน่อยสิ เช่นข้อมูลรั่วไหลจากคนสนิท แต่นี่ประกาศให้คนทั้งประเทศรู้ เอิ่ม... เป็นเจ้าชายที่โง่มากว่ะ หรือคนเขียนวะที่โง่ แล้วตอนแม่ฟื้นก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องการต้นรับกลับมาเลย ราชินีหลับไปสิบกว่าปีมึงจะไม่จัดงานเฉลิมฉลองอะไรหน่อยเหรอ? ทำอย่างกับว่าราชินีไปเที่ยวต่างประเทศเดือนเดียวแล้วเพิ่งกลับมา อืม....
>>860 เห็นด้วยว่ะ หรือโลกในนิยายนั้นพระจันทร์เต็มดวงทุกสามคืน?
สับต่อนะ เนื้อเรื่องก็เดินเร็วไป ข้อดีก็คือมันไม่ยืดเยื้อ ไม่มีเวิ่นเว้อ แทรกอดีตได้ดีไม่ชวนงง และนี่คือข้อเสียอีกอย่าง ไร้ความงามทางภาษา บทบรรยายสั้นหวน ช่วงความคิดมาเขียนผสมกับบทบรรยายได้มั่วซั่วจนกูต้องย้อนอ่านหลายรอบว่านี่ใครคิดวะ
อยากบอกว่าช่วงหลังๆหนักกว่านี้อีกว่ะ
โม่งนักสับทั้งหลายกูอยากให้พวกมึงลองสมัครเป็น freelance แจ่มว่ะ ที่เค้าประกาศอยู่อ่ะ แต่หาเรื่องที่น่าตีพิมพ์ท่าจะยากว่ะอ่านกันตาแฉะไม่ค่อยมีแววเท่าไหร่ แต่ถ้ามึงหาได้ก็ได้ค่าขนม? เรื่องละ5000
>>866 กูเจอนิยายเสียวแบบที่ตัดฉากไปธัญวลัย อยากรู้ว่ามันจะไปไกลได้แค่ไหน อ่านไปพอๆ 50 ตอน นอกจากเนื้อเรื่องเหี้ยๆ ตรรกะวิบัติ โคตรไม่สมเหตุสมผล นิยายมันระหว่างตอน 10-50 เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนึ่งวัน พระเอกล่อนางเอกไปแล้วอย่างต่ำ 4 รอบ แต่ยังไม่แตก เลยมีฉากล่อไปเรื่อยๆสลับกับการดำเนินเรื่อง กูอึ้ง เพิ่งเคยเจอแบบนี้ //open my eyes to the new world
สงสัยนิยายมันจะดำเนินเรื่องจบได้ภายใน 3 วันในนิยาย
ใครพูดเรื่องตัวละครเย็นชาไม่จริงวะ กูเห็นหลายเรื่องล่ะ ยัยตัวร้าย ยัยจอมหยิ่ง นายจอมโหด นี่ตัวร้ายหรือมันปัญญาอ่อนวะ นิสัยหยิ่งๆ พออ่านเนื้อในคือมันหยิ่งแค่ 5ตอนแรก เจอนางเอกแล้วหงอเป็นหมาเลยนะมึง ยิ่งเย็นชาปนกันมั่ว พูดมากชิบหาย ชื่อเรื่องไม่เมคเซ้นกับตัวละครอย่างแรง ไม่นับเรื่องซาตาน ปีศาจอะไรของแม่งอีกนะ
กู >>873 กูเหมารวมหลายเรื่องนะ ไม่ทันได้คิดถึงกิ่งน้า 5555555555 แต่กูขอบ่นหน่อย มึงงงง มึงเขียนนิยายคิดชื่อเรื่อง กรุณาให้ตัวะครมึงเมคเซ้นกะชื่อเรื่องด้วย ไม่ก็เจอหน้าแว่บแรกอย่าให้ตัวเอกรีบตีโพยตีพายว่าหมอนี่มันหยิ่ง เย็นชา จริงๆแล้วมันอาจจะแค่พวกสันดานเสียหรือขี้เก๊กเฉยๆ นี่มาถึง เจอหน้าไม่พูดด้วย ...เย็นชาจัง นิสัยไม่ดี โว๊ะ เจอหน้าครั้งแรกถ้าไม่เฟรนลี่มึงจะให้จับจูบตรงนั้นเลยป่ะวะ
อย่าจุดธูปเรียกนางมา
มีนิยายเรื่องไหนที่เขียนออกมาแล้วพระเอกดูหยิ่ง เย็นชาจริงๆมั่งป่ะ? อยากได้ตัวอย่างศึกษาแฮะ แล้วถ้าเย็นชาจริงๆมันจะรักกับนางเอกยังไงหว่า หรืออยู่ที่นิสัยนางเอกด้วย?
กูเคยเชื่อว่าคาโลนี่เย็นชาแล้วนะมึง 5555555555555555
กูว่าพระเอกเย็นชาแบบเย็นชาจริงๆแม่งไม่มีอยู่จริงว่ะ ครือนางเอกต้องสามารถทลายเกราะ กำแพงน้ำแข็ง อะไรของพระเอกจนได้ แล้วพระเอกสุดยอดเย็นชาก็จะกลายเป็นคนโรแมนติก มุ้งมิ้งเหี้ยๆ มองนางเอกตาเชื่อม รักจริงหวังแต่ง หึงแรงมาก อะไรแบบนี้อ่ะมึง
อยากลองเขียนพระเอกเย็นชาบ้าง กูไม่เคยเขียนอ่ะ ขอลองเล่นหน่อยได้มั้ย
ร่างสูงตวัดสายตามองเด็กสาวที่ตัวสั่นระริกอยู่บนพื้น เรียวคิ้วกระตุกเข้าหากันก่อนจะคลายออกในชั่ววินาที ดวงหน้าคมกลับมาเรียบเฉยดุจรูปปั้นหินสลัก ริมฝีบางขยับขึ้นพร้อมกับน้ำเสียงทุ้มต่ำไม่บ่งบอกอารมณ์ที่ดังออกมา
"เจ้า...น้ำลายหยดแล้ว" ยังไม่ทันที่เด็กสาวจะได้ขยับตัว เขาก็หมุนตัวเดินจากไป ทิ้งไว้เพียงชายผ้าคลุมสีน้ำเงินเข้มอันสะบัดตามการเคลื่อนไหว
อร๊าง... สายตาของเจ้ามันช่างบาดลึกลงกลางใจเหลือเกิน มองข้าอีกสิ...มองอีก เลิฟมีไลค์ยูดูน่ะ เคยได้ยินไหม?
แม่งกลายเป็นนิยายตลก 555555555
เย็นชามึงคือซึนเดเระฉบับตัวผู้ใช่ไหม
เย็นชากับเงียบเหมือนกันมั้ยวะ
>>896 ไม่น่าเหมือนว่ะ เงียบคืออาจจะเป็นคนดี อ่อนโยน อบอุ่น บลาๆ แค่พูดน้อยจนแทบไม่พูดป่ะ กูคิดเอาเองนะ ถ้าเย็นชานี่ต้องดูที่การกระทำกับความคิดหรือลักษณะนิสัยมากกว่ามั้ง
กูว่าคาโลนี่ไม่เย็นชานะเอาจริงๆ มันเป็นเด็กมีปมป่ะเลยทำให้นิสัยมันเป็นงั้น ห่า ยิ่งหลังๆรักกับเฟรินนี่มาดเย็นชากูหายไปไหนโม้ดดดด #เจ้าชายเย็นชานั้นไซร้ไม่มีจริง ตัวละครสไตล์นี้จะเรียกว่าซึนเดเระอย่างที่ >>895 ว่าก็น่าจะเข้าข่ายมั้ง /แวะมาเสือกแล้วก็ถือเผือกจากไป
คูลเดเระนี่เย็นชามั้ย?
กูมีเพื่อนคนนึงที่พอจะเข้าเค้าคำว่าเย็นชา คิดว่าน่าจะประมาณนี้
1. ไม่ค่อยพูด แต่ถ้าพูดจะโผงผาง ไม่รักษาน้ำใจคนฟัง
2. เวลาอยู่ในกลุ่มจะนั่งนิ่ง ไม่พูดคุยมากนัก เวลาสนใจฟังสิ่งที่คนในกลุ่มคุยกันจะมีรัศมีบางอย่างที่ทำให้คนอื่นรู้สึกอึดอัด
3. ค่อนข้างเอาแต่ใจตัวเอง (แต่มีเหตุผล) ถ้าไม่ได้ดั่งใจจะบ่นแรงๆ แบบไม่รักษาน้ำใจคน คนฟังก็หน้าชา (เพราะมันจริง - เช่น ออกทริปแล้วต้องรอคนที่ไม่รักษาเวลา ก็จะสบถออกมาตรงๆ "ทำไมต้องรอ มันเสียเวลา")
4. ถ้ามั่นใจในเหตุผลของตัวเอง จะแย้งอีกฝ่ายแบบไม่สนใจว่าจะหักหน้าอีกฝ่ายหรือเปล่า
5. มีปมบางอย่าง ที่ถ้ามีใครกระตุ้นจะรู้สึกโมโหและของขึ้นทันที
6. ด้วยเหตุผลเหล่านี้เองที่ทำให้ใครหลายๆคนไม่ชอบ แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปแหยมตรงๆอยู่ดี
7. แต่เจ้าชายเย็นชาก็ไม่สนใจด้วย พวกมึงไม่ได้สำคัญอะไรกับชีวิตกูขนาดนั้น
กูอ่านเรื่องโรเซเนียจนถึงตอนล่าสุด สับต่อนะ
กลิ่นแรงบันดาลใจโชยหึ่งเลยโว้ยยย! ตอนแรกกูนึกว่าคงจะมีแค่ช่วงแรกๆ แต่ผ่านมาร้อยกว่าตอนมาทั้งดุ้นเลย ลอกบุคลิกยังไม่พอ ยังเอาประวัติมาก็อป แค่ก! ดัดแปลงซะครบทีม แรกๆ ก็มังงะ(ที่กลายเป็นอนิเม)และหนึ่งนิยายแฟนตาซีไทยในตำนาน ตอนนี้มีเกมจีบหนุ่มแวมไพร์(ที่กลายเป็นอนิเมเช่นกัน) ด้วยว่ะ เรื่องบุคลิกกูยังพอถูไถว่ามันใช้กันเกลื่อนเพราะเป็นที่นิยม แต่ถึงขั้นเอาอดีตมาด้วยนี่คืออะไร? กูนึกว่าจะพัฒนาดีขึ้นนะเรื่องแรงบันดาลใจเนี่ย ซึ่งมันก็พัฒนาขึ้นจริงๆ ด้วยว่ะ แต่พัฒนาเอาเกมจีบหนุ่มมาใช้นะ... ต่อไปจะเอาไลท์โนเวลมาด้วยปะวะ?
และลำดับการตัดฉากก็มั่วมาก ความคิดผสมกับบทบรรยายยังชวนมึนไม่พอเรอะ ถึงเอาการตัดฉากคั่นแทรกสลับกันทุกสามย่อหน้า ถ้าอยู่ในที่เดียวกันยังพอว่า นี่อยู่คนละซีกโลกยังตัดมารวมคั่นกลางได้อย่างไร? มาทีสั้นๆ ไม่ถึงห้าบรรทัดแล้วย้อนกลับมาเนื้อเรื่องหลักคือเก่า คือถ้าใส่ช่วงแรกหรือช่วงท้ายของบทมันจะพอใช้ได้ อารมณ์เหมือนฟังเพลงฝรั่งแนวคันทรี่ดังคลอเบาๆ จู่ๆ ก็มีเพลงร็อคแนวเมทัลดังขึ้นให้ตกใจเล่นสักสามวิแล้วเงียบไป จากนั้นมันก็ดังขึ้นแล้วเงียบอีก เสียบรรรยากาศมากกก แล้วลักษณะตัวละครจะอุปมาเหมือนอะไรก็เอาให้แน่นอนหน่อยสิวะ แรกๆ ตาสีแดงดั่งโกเมน ต่อมากลายเป็นสีเพลิงเฉยเลย มันแดงคนละเฉดเลยนะเว้ย! ถ้าเป็นสีเลือดหรือสีกุหลาบก็พอถูไถ แต่นี่สีเพลิง? เอิ่ม...แล้วยังเรื่องตัวละครที่แข่งกันรูปงามหรือหล่อมากกก คนแรกว่าหล่อโคตรคนที่สองหล่อกว่า แต่ก็ยังสู้คนที่สามไม่ได้ แต่ไอ้คนที่สี่นั้นหล่อล่มเมือง คนที่ห้าหล่อจนชายแท้ยังหลง ส่วนคนที่หกหล่อกว่าไอ้ห้าคนที่ผ่านมารวมกัน ทว่าคนที่เจ็ดนั้นหล่อจนเวลาเหมือนหยุดนิ่งไปเลย บลาๆ แหม...เป็นสร้างฮาเร็มที่น่าอิจฉาจริงๆ
ข้อดีที่กูพอเห็นได้ คือการเดินเรื่องที่ไม่ยืดยาดเอื่อยเฉื่อย มุกตลกก็พอไหว แสดงด้านมืดในสังคมมาเปรียบเทียบได้ดี แต่พอหักลบกับ "แรงบันดาลใจ" ถึงสามเรื่อง(ที่กูพอรู้นะ อาจมีมากกว่านั้นแต่ก็ไม่รู้จัก) คาร์แร็กเตอร์ตัวละครที่ไม่คงที่ การบรรยายความคิดกับสภาพแวดล้อมปนกันมั่ว การลำดับฉากที่ตัดแทรกได้ชวนเสียบรรยากาศ กูขอให้คะแนนเรื่องนี้ 6/10
>>902 เปล่า กูเคยสิงอยู่ห้องนินทาสับเรื่องของกิ่งน้ากับเจ้มุรา พึ่งย้ายมาห้องนี้ก็สับเรื่องนังหนูพริมกับเรื่องนี้แหละ คือกูถ้าจะวิจารณ์ก็จะพยายามอ่านให้ถึงตอนล่าสุดแล้วสับ เพราะถ้ารีบสับตั้งแต่เนิ่นๆ อาจไม่ได้เห็นพัฒนาการที่(อาจ)ดีขึ้น เว้นแต่มันจะเหี้ยมากจนกูทนอ่านไม่ไหว เช่น เรื่องของเจ้มุราที่กูยอมแพ้ในสองบทแรก
ช่วยแปะนิยายที่บรรยายแบบบุคคลที่ 1 ดีๆ ให้หน่อย อยากได้เป็นแนวทาง
กูอ่านนิยายของหนูพริมจบแล้วนะ สั้นๆเลยคือ...ความเมคเซ้นคืออะไรเอ่ย?
>>907 กูก็เพิ่งอ่านจบ กูไม่รู้สึกเลยว่าพระเอกมันเย็นชาหรือหยิ่ง คาร์แม่งเปลี่ยนไปภายในสามบท ไวกว่าโรเซเนียอีก แล้วนางเอกที่ฝึกมาดีใยกลายเป็นตัวถ่วงให้พระเอกต้องช่วยตลอดล่ะเหวย จะสร้างสถานการณ์ให้พระเอกโชว์หล่อมึงไม่จำเป็นต้องให้นางเอกเป็นตัวถ่วงก็ได้ กลัวความสูง ไม่ยอมหนีเพราะจะอยู่คู่พระเอกเพื่อเป็นพลังคอยช่วยเหลือ (ทั้งที่มึงกำลังถูกจับเป็นตัวประกันใช้ข่มขู่เนี่ยนะ?) สรุปคือนิยายเรื่องนี้มุ่งจะจบแบบแฮปปี้ให้ตัวเอกรักกันสมหวังในตอนจบ แต่ระหว่างนั้นก็ต้องมีบทให้รู้ว่าตัวเอกนั้นรักมั่นกันเพียงใด สายใยผูกพันกันเพราะอะไร ซึ่งบทที่ว่ากูอ่านแล้วถึงกับกรอกตามองบน ถึงกระนั้นมันยังมีข้อดีตรงที่บรรยายได้กระชับไม่ชวนงงหรือเวิ่น (ซึ่งมันเป็นข้อดีข้อเดียวที่กูหาเจอ) ข้อเสียคือตรรกะตัวละครแม่งประหลาด สร้างสถานการณ์ได้วิบัติโคตรๆ ใส่ปมปริศนามาเรื่อยๆ ทั้งที่ของเก่ายังแก้ไม่หมด(เข้าใจนะว่าจะโยงไปถึงเรื่องอื่นในซีรี่ส์ แต่มึงช่วยใบ้ให้หน่อยก็ได้ ใส่มาปมละบทนี่คืออะไร?) ตัดสลับมุมมองบุคคลที่หนึ่งภายในบทเดียวกัน (ทำไมไม่แยกเป็นคนละบทไปล่ะเหวย) สรุปกูให้คะแนน 4/10 แต่เพิ่มพิเศษให้อีก .5 เพราะกลิ่นแรงบันดาลใจไม่ค่อยมี รวม 4.5/10
>>908 แก้ๆ กลอกตานะไม่ใช่กรอกตา และเรื่องอื่นในซีรี่ส์กูกำลังคิดว่าจะเสียสละเวลาว่างอันมีค่าไปอ่านดีไหม? รอโม่งคนอื่นมาเปิดก่อนละกัน
ปล.กูขอตั้งชื่อตัวเองว่า โมโม่(จั)ง /ตัด "จั" กลายเป็นโมโม่ง ลบวงเล็บมันจะกลายเป็นโมโม่จัง ตั้งแบบนี้เพราะอยากเพิ่มความน่ารักให้โม่งว่ะ(?)
>>908 ตอนจบพีคสุดคืออีพระเอก มึงรอจนน้องมึงโตจนอายุเกือบ7ปีเลยเหรอวะ แทนที่จะรีบมาหานางเอก นางเอกอยู่บนโลกมนุษย์สามเดือน แต่โลกมึงเกือบ7ปี เชี่ยมาก เป็นกูกูต่อยทีนึง แต่โดยสรุปที่กูอ่านมา มันเป็นกลิ่นตายแล้วข้ามโลกไปต่างมิติที่มีคนเรียกตัวเองว่าเป็นยมทูต ไม่ได้มีธีมของโลกหลังความตายอย่างที่คนเขียนบอกชัดเจนขนาดนั้น ยกเว้นช่วงพิพากษาความดีกับเลวตอนแรก บิบิ
เราแต่งนิยายเกี่ยวกับยมทูต เห็นหนูพริมแต่งยมทูตออกมาแบบนี้แล้วเรารับไม่ได้อ่ะโม่งๆ
พีคสุดของพริมคือพระเอกจะตายแต่มาร้อง save and sound
คนจะตายยังมาร้องเพลงมันใช่เรื่องป่ะ?
สำคัญสุดเลยคือเพลงนี้ไม่ได้มีเนื้อหาชวนฝัน ถ้าจะเอาเพลงมายัดให้ได้ช่วยเข้าใจความหมายที่แท้จริงของเพลงด้วย เลือกให้มันถูกๆหน่อยมันขัดใจ
>>917 บทสัมพาทย์สิมึง 555 ว่าแต่ที่มันบอกเอาคาร์แรคเตอร์มาจากคนจริงรอบตัว ถ้ามีใครมาลอกก็ไม่ยอม โอเค อันนี้ปกติ แต่ไอ้ประโยคถัดมานี่สิ "และจะไม่ยอมด้วยถ้ามีคนมาขอซื้อลิขสิทธิ์ ไม่ยอมขายต่อให้ตั้งราคาสูงแค่ไหนก็ตาม" คือไรวะ ไม่อยากให้สนพ.เอาไปพิมพ์เหรอ ไม่น่านะ ส่วนใหญ่ใครก็ต้องอยากให้สนพ.มาติดต่อไม่ใช่เหรอ แล้วการเอาชีวิตจริงมาดัดแปลงเขียนนิยายแฟนซี มันต้องปกป้องขนาดนั้นเลยเหรอวะ
>>919 กูอุตส่าห์ไม่พิมพ์แล้วหอยหลอด 555555555 ตอนกูอ่านเจอคำว่า สัมพาทย์ คิ้วกูกระตุกเลย นั่งมองอยู่นานว่าแม่งผิดตรงไหน อ่อ ผิดตรงนี้นี่เอง อ่านแล้วกูก็สะดุดตรงนั้นเหมือนมึงอ่ะ เอาคาร์มาจากคนรอบตัวไม่แปลก แต่แปลกที่บอกว่าให้ราคาสูงแค่ไหนก็ไม่ขายให้ ไม่มีทางขายเด็ดขาด.... ห๊วงขนาดนี้เก็บไว้อ่านเองมั้ย
>>918 ผิดเรื่องละมึง โรเซเนียนะไม่ใช่ยมทูต มังงะคือเรื่อง Cheeky Angel (อันนี้คนเขียนก็บอกโต้งๆ ไว้ท้ายบท) ส่วนอีกสองก็ถูกตามที่มึงว่า แรกๆ กูก็ไม่รู้นะว่าสี่ขุนพลนี่ "ได้แรงบันดาลใจ" จากเกมจีบหนุ่ม แค่รู้สึกว่าบุคลิกทำไมมันคุ้นๆ จัง พออ่านถึงโหมดย้อนอดีตกูนี่นึกได้เลย แม่งเอาทั้งดุ้นตั้งแต่บุคลิกยันประวัติ ถ้าได้ตีพิมพ์เมื่อไหร่แล้วมีคนรู้จักมากขึ้น พวกสาวกแฟนเกมจะออกมาแฉไหมวะว่านิยายเรื่องนี้ "ได้แรงบันดาลใจ" มาจากเกมจีบหนุ่มชนิดที่ว่ามึงเอามาแปลไทยแล้วเรียบเรียงเป็นนิยายกลายเป็นแฟนฟิค หาใช่ออริจินอลที่ผสม "แรงบันดาลใจ"
>>908 กูชอบที่มึงสับมากมันทำให้กูไม่ต้องนั่งอ่านด้วยเพราะกูอ่านต่อไม่ไหว คนเขียนหลายชอบเขียนให้นางเอกเป็น Damsel in Distress แต่เธอเก่งนะแต่... /มองบน >>927 แรงบัลดาลใจ + ยำเรื่องอื่นๆรวมกันกับเกมจีมหนุ่มนี่กูไม่โอเคว่ะ เหมือนเขียนแฟนฟิค crossover มังงะxอนิเมะ ถ้ากูซื้อโรเซเนียมาอ่านกูคงเศร้าดีนะช่วงหลังกูไม่ได้อ่านแนวนี้อีกเลย
อยากรู้ว่าเหมือนกันยังไง ให้มึงลองอ่านเปรียบเทียบดู
เกมจีบหนุ่มที่ว่า มีสปอยประวัติตัวละครทั้งสี่แบบย่อๆ
http://my.dek-d.com/dekdee/story/viewlongc.php?id=1063436&chapter=5
โรเซเนีย บทที่ทำให้กูรู้ว่าลอก- แค่ก! ได้แรงบันดาลใจมา แค่สลับบุคลิกนิดหน่อยแต่ประวัติเกินครึ่งก็ใช่ละ
http://my.dek-d.com/minikikaboo/writer/viewlongc.php?id=1304540&chapter=140
ห่าราก! เกริ่นมาซะดีจนกูนึกชมว่ามีพัฒนาการดีขึ้นนะ พอได้กลิ่นแรงบันดาลใจกูนี่อึ้งเลย หนักกว่าช่วงแรกอีก อ่านไปเรื่อยๆ ซักบทสองบทยิ่งชัด
แรงบันดาลใจแรงกล้าขนาดนี้สถาพรก็ยังให้พิมพ์หรอวะ เขียนนิยายสมัยนี้แม่งง่ายดีจัง ควานหาพล็อตกับตัวละครในเมะมายำๆกันก็ได้แล้ว
ปล.แอบสงสารโม่งที่เอาโรเซนเนียมาแนะนำนะ เหมือนเอามาฆ่าให้ตายยังไงไม่รู้
กูจำได้ว่าคนเขียนเขาบอกว่า อย่าด่วนตัดสินนิยายเขา อะไรทำนองนี้ไม่ใช่เหรอวะ? ที่บอกว่าช่วงแรกได้แรงบันดาลใจมานะ แต่ช่วงหลังไม่เหมือน?
ปรากฏว่าช่วงหลังนั้นไซร้...
ผ่านการพิจารณาแล้วด้วยสิ ถ้าเรื่องมันแดงขึ้นมาจะมีผลอะไรมั้ยวะ โดนยกเลิก? หรือต้องรอให้พิมพ์ออกมาแล้วมีคนแย้งถึงจะสนใจกัน พอถึงตอนนั้นก็คงจะมีแบบก็พิมพ์แล้วนี่ แก้อะไรไม่ได้แล้วนี่แหงๆ
แย้งให้เป็นรูปธรรมไปเลยดีกว่าป่ะวะ อยากรู้ว่าสนพ.จะทำไง
>>936 กูว่าสถาพรไม่รู้มากกว่าว่ะ คือบารามอสนี่ยังพอถูไถว่าเป็นนิยายไทย(ที่ได้แรงบันดาลใจเยอะเหมือนกัน)ที่เป็นตัวอย่างให้คนรุ่นหลัง แต่เรื่อง Cheeky Angel นี่อย่างเก่า กูก็เพิ่งรู้จักตอนที่คนเขียนมันบอกนี่แหละ ส่วน Diabolic lover นี่ถึงจะมีอนิเมแต่มันก็รู้จักในวงแคบๆ ของพวกแฟนเกม
เฮ้ย แรงบันดาลใจห่าอะไรเยอะแยะงี้วะ คือปกติแรงบันดาลใจแม่งต้องแบบ กูไปอ่านลอร์ดออฟเดอะริงมากแล้วสนุกจุงเบย กูเขียนนิยายแฟนตาซีที่มีการเดินทางเพื่อปกป้องโลกควบคู่ไปกับสงครามดีกว่า หรือไม่ก็ กูอ่านแฮร์รี่แล้วสนุกจุงเบย กูเขียนนิยายเกี่ยวกับโรงเรียนเวทมนต์ที่มีหอสี่หอแล้วให้ตัวเองค้นหาความลับและก็ผจญภัยในโรงเรียนดีกว่า
ไอ้ที่แบบ เริ่มเรื่องนี่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องนี้ ตัวโกงได้แรงบันดาลใจมาจากคาร์ตัวนี้ ฉากนี้เอาแรงบันดาลใจมาจากเรื่องนั้น ปมนี้เอาแรงบันดาลใจมาจากอีกเรื่องนึง บทสนทนานี้ชอบมาก เป็นแรงบันดาลใจจากตอนที่ a พูดกับ b ในเรื่อง xxx
นี่แม่งไม่ใช่นิยายแล้วมันสัส นี่แม่งยำสามกรอบ ห่า
>>942 อย่าเรียกนิยายเช่นนี้ว่ายำสามกรอบ ต้องเรียกให้ทันสมัยหน่อยว่า "มิกซ์แฟนฟิค"
พูดถึงเรื่องแรงบันดาลใจ กูว่าส่วนมากที่ออกมาแบบนี้มีสองสาเหตุหลัก 1.ย่อยแรงบันดาลใจไม่หมด เผลอติดมา 2.ประทับใจหรือชอบมาก อยากต่อยอดในแบบของตนเอง เลยสร้างโลกใหม่ขึ้นมาแล้วดัดนิดแปลงหน่อยยัดเนื้อเรื่องส่วนที่ "เป็นแรงบันดาลใจ" เข้าไปในตัวละครที่สร้าง
นิยายที่ได้แรงบันดาลใจแบบแท้จริงคือเขียนออกมาแล้วไม่ค่อยรู้สึกถึงแรงบันดาลใจที่ว่า รู้สึกคล้ายๆ ว่าจะใช่แต่ไม่เหมือน
คือนิยายเด็กดีมันมักง่ายเขียนขี้เกียจแปลงอะไรเยอะ อ่านไปนิภาพไลท์โนเวล หรือนิยายแปลเด้งขึ้นหัวหลายเรื่องเลย
สถาเคยสนเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ เมื่อก่อนแค่วิวเยอะต่อให้ขยะแค่ไหนก็เอาไปขาย เทพกระบี่หมื่นล้านยังโดนทาบทามเลย
โม่งอารี โมโม่(จั)ง โม่งไหนก็ได้ สนใจสับเรื่องนี้ป่ะ กูไปเจอมาแล้วเฟลแรง นิยายแบบนี้ยอดวิวคอมเม้นเฟ็บเยอะกว่านิยายหลายเรื่องที่กูชอบอีก ฮือออ http://writer.dek-d.com/rffgdshd/story/view.php?id=1459782
>>948 กูโมโม่(จั)ง ทนอ่านถึงบทที่ 5 และกระโดดข้ามไปที่บทนรกตอนที่ 6 ขอยอมแพ้ว่ะ สับเลยละกัน
ไอ้คนเขียนมึงรู้จักนิยายไหมหา! ที่มึงเขียนนี่จะเรียกว่าบทละครท่องจำกูยังกระดากปากเลย บทบรรยายสั้นหวนมีเหมือนไม่มี การจัดเว้นวรรคย่อหน้าติดลบ บทสนบทนาและความคิดมึงอัดมาอยู่ในบรรทัดเดียวกันทำไมวะ เดินเรื่องในมุมบุคคลที่หนึ่งหรือสามก็เอาให้แน่ๆ ดิ คิดว่าใส่เครื่องหมายคำพูดกับ ' ' ก็แยกบทสนทนากับความคิดออกได้โดยไม่ต้องเว้นวรรคจัดย่อหน้าใหม่เรอะ ลองกระโดดข้ามไปอ่านนรกตอนที่ 6 เผื่อว่าอาจจะมีพัฒนาการดีขึ้นแต่ระหว่างนั้นกูอาจทนไม่ได้ แต่ก็ยังห่วยเหมือนเดิม ฟัก!
ส่วนเนื้อเรื่องนี่กูขอนิยามว่าดอกปอปหมายเลขสอง มีความเป็นขยะวรรณกรรมมากพอกัน พระเอกเป็นหนุ่มน้อยวัยเรียนที่มีฉากหลังเป็นฆาตรกรฆ่าชิงทรัพย์ จู่ๆ ก็ถูกวาร์ปมาต่างโลกอย่างงงๆ เห็นระบบเกม RPG ก็ทำเป็นมึนนิดหน่อย จากนั้นก็นั่งคิดเองเออเองแล้วก็เข้าใจทุกอย่างในพริบตาโดยไม่ต้องมีคนสอน ฉลาดมากกก! ต่อไปก็เจอมังกรแก่ในถ้ำที่ถูกผนึก คุยกันเรื่องถ้าพระเอกไม่เชื่อใจมังกรกก็จะฆ่า ถ้าเชื่อใจก็จะไม่ คุยกันสลับกับการต่อสู้โดยมีมังกรโจมตีฝ่ายเดียว สุดท้ายพระเอกก็ปลดผนึกให้มังกร ซึ่งมังกรก็สัญญาว่าถ้าพระเอกช่วยปล่อยจะมอบพลังให้ แล้วพอกันหนีออกไปจากเกาะลอยฟ้าที่ขัวมังกร พอถึงพื้นดินมังกรก็กลับลำไม่ยอมทำตามสัญญาและจะชิ่งหนีไปดื้อๆ แต่ถูกพระเอกลอบเชือดปีกรีดเลือดไปนานแล้ว เดินไม่กี่ก้าวก็ล้มครืน พระเอกผู้แสนฉลาดและเก่งมากกก ก็เฉลยว่าตอนเข้าไปในถ้ำมีเควสฆ่ามังกรโผล่มาให้เห็น เลยวางแผนฆ่าตั้งแรกแล้ว(ทำไมมึงไม่เกริ่นให้คนอ่านรู้หน่อยวะว่าจะมีเควสโผล่ขึ้นมา ถ้าอยากอุบไว้เป็นปริศนามึงไม่ต้องบอกเนื้อเรื่องก็ได้ แค่บรรยายว่ามีความผิดปกติบางอย่างที่พระเอกมองเห็น เช่น มีจอภาพแสดงตัวอักษรมากมายปรากฏขึ้นบนพื้นถ้ำ)
พอฆ่ามังกรสำเร็จตามเควสเวลก็พุ่งยิ่งกว่าเติมทรู จากสิบหกกระโดดไปถึงสามร้อยกว่า ได้สกิลใหม่มาก็ลองกดใช้รัวๆ เป็นเรียกอุกกาบาตออกมาห่าใหญ่แล้วเสือกทำให้พระเจ้าของโลกนี้ตายซะงั้น เลยทำให้พระเอกได้ฉายาผู้ฆ่าพระเจ้า พร้อมกันนั้นเวลก็อัพไปถึงห้าร้อยกว่า แหม...แค่บทเดียวเวลมึงก็เกือบตันแล้วเนอะ เร็วจัง
ต่อนะ หลังจากนั้นพระเอกก็ใช้อีกสกิลหนึ่งเป็น "เนตรพันลี้" มองได้กว้างมากและไกลโคตร เห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังถูกโจรสามคนรุมยำ ด้วยความเลวในสันดานพระเอกจึงเมินเฉยและจะเดินจากไป ทว่าทันใดนั้นพระเอกก็ฉุดคิดได้ช่วยไว้ดีกว่า เพื่อประโยชน์ในวันนี้และวันหน้า จากนั้นพระเอกก็วิ่งไปช่วยแล้วโชว์สกิล "โคตรอภิมหาเทพทรู" ตบโจรกระจอกเวลสิบกว่าๆ ตายในพริบตา จากนั้นก็เนียนตีซี้กับผู้หญิงที่เป็นถึงจอมเวทของกองทัพเวลสิบแปด(สูงกว่าโจรแล้วมึงแพ้ได้ไงวะ คิดจะยัดบทพระเอกโชว์เทพเก็บฮาเร็มก็หาบทที่ดีกว่านี้ไม่ได้เรอะ เช่นมอนสเตอร์รุม แต่นี่...คนเวลสิบกว่าๆ)
แล้วผู้หญิงคนนั้นก็เกิดความซาบซึ้งบุญคุณของพระเอกผู้แสนดี จึงเล่าเรื่องโลกนี้ให้พระเอกฟังคร่าวๆ และบอกว่าจะตอบแทนบุญคุณในภายหน้าตามที่พระเอกต้องการ จากนั้นก็แยกกันที่หน้าเมือง พระเอกปลอมประวัติจากเทพทรูเวลห้าร้อยเป็นหนุ่มน้อยสามัญเวลสิบหก ซ่อนฉายาแล้วไปทำบัตรผ่านเมือง และด้วยสกิลพิเศษที่ทำให้แสกนเห็นเลเวลข้อมูลส่วนตัวของคนอื่นทำให้พระเอกรู้ว่าเจ้าหน้าที่หญิงคนนี้อายุมากกว่าที่ตาเห็น บลาๆ ทิ้งท้ายบทว่าพระเอกจะออกไปหาที่ซุกหัวนอน ซึ่งกูขอหยุดเพียงเท่านี้เพราะทนความเบียวที่เอ่อล้นและความแกรี่ที่ฟุ้งมากเกินไปไม่ไหววะ ที่มีคนสนใจเยอะคงเพราะมันพล็อตนิยมไปต่างโลกเจอระบบเกม RPG+พระเอกเก่งเทพ+ฮาเร็ม ซึ่งตัวเอกที่เหมือนคนเขียนจะสร้างให้เป็นพวกแบดบอยหน้าซื่อ ซึ่งกูก็พยายามคิดนะว่าที่เลวคงเพราะมีปม หรือเลวตั้งแต่ต้นแต่ถ้าผ่านไปก็จะเริ่มทำตัวดีเอง แต่พอกูลองกระโดดอ่านไปนรกตอนที่ 6 พระเอกเลวสุดขั้วชั่วสุดยอดละ หาได้มีพัฒนาการอันใดไม่
สรุปคะแนน หาข้อดีไม่เจอ กูให้ -10 พร้อมคำนิยาม "เศษเดนนิยาย"
/กูยังคงเป็นพวกมองโลกในแง่ดีอยู่นะ เห็นว่าน่าจะเป็นเรื่องแรกที่คนเขียนแต่งเลยนิยามเพียงเท่านี้เพราะคงไร้ประสบการณ์เลยสร้างผลงานแบบนี้ออกมา ถ้าเขียนมาหลายเรื้องแล้วยังห่วยไม่เปลี่ยนแปลง กูจะนิยามว่า "สวะวรรณกรรม" เพราะมันไม่น่าจะเรียกว่านิยายได้ด้วยซ้ำ นิทานยังสูงกว่าเลย
>>960 กูโม่งอารี กูไปอ่านต่อมาให้มึงถึงบทที่ 11 ละ คือหลังจากที่ไอ้พระเอกเนี่ยมันไปช่วยผู้หญิงคนที่มึงว่าแล้วน่ะ ก็ไปหาที่ซุกหัวนอนเป็นโรงแรมของหญิงม่ายที่ผู้หญิงคนนั้นแนะนำ พระเอกก็คิดว่าผู้หญิงคนนี้หน้าเหมือนแม่ของมันมาก มีอยู่วันนึงมีพวกกักขฬะมาที่ร้าน มาลวนลามผู้หญิงเนี่ยแหละ ประมาณว่าผัวมึงติดเงินกูเอาไว้ มึงต้องเอาตัวมาใช้หนี้แทนอะไรงี้ พระเอกก็เลยโชว์เทพข่มไอ้พวกนั้นเอาไว้ แล้วเปย์เงินให้ผู้หญิงม่าย (ชื่อเฮเลนน่า) ไป
จากนั้นพระเอกก็ไปทำภารกิจล่าจระเข้อะไรสักอย่าง แล้วได้ไปเจอคู่แข่งที่เป็นหัวขโมย (ชื่อไรเนอร์มั้ง จำไม่ได้) พระเอกสู้ชนะ หัวขโมยหนีไปได้ พระเอกก็จัดการจระเข้แล้วเจอหีบสมบัติ ข้างในนั้นมีแหวนที่ใส่แล้วจะทำให้ล่องหนได้ แล้วทีนี้พระเอกก็กลับมาที่ที่พัก เฮเลนน่าก็บอกประมาณว่ากูรับเงินของมึงไม่ได้จริงๆนะ พระเอกก็บอกว่าเอาไปเถอะสัส บลาๆ สุดท้ายก็ยอมรับเงิน ทีแรกกูก็นึกว่าแม่งจะมาสายฮาเร็มแล้ว แต่จู่ๆแม่งก็เกิดอีเว้นท์ที่ไอ้พวกกักขฬะที่ตามก้อร่อก้อติกผู้หญิงม่ายคนนี้มาจับตัวเธอไป บอกว่าเฮเลนน่าเป็นแม่มด (เฉลยว่าไอ้คนพวกนั้นนับถือลัทธิบูชามังกร ไอ้อ้วนตัวหัวหน้าเป็นสังฆราช) พระเอกก็เดือดมากเลยใส่แหวนล่องหนลอบเร้นเข้าไปในที่ของพวกลัทธินั่น แล้วฆ่าพวกมันทิ้งทั้งหมด ไอ้อ้วนสังฆราชก็จับตัวเฮเลนน่าเป็นตัวประกัน แต่พระเอกแม่งเลือดขึ้นหน้าแล้ว เลยฆ่าแม่งทั้งสองคนเลย (อ้าว แล้วมึงจะมาช่วยทำไมวะอีสัส) พอฆ่าคนทั้งหมดตายแล้วพระเอกก็ผันตัวไปเป็นฆาตกรโดยสมบูรณ์ เดินทางไปตามหาตัวหัวขโมยไรเนอร์ แล้วบอกให้มันมาช่วยสร้างสงครามโลก เหตุผลคือเพราะพระเอกอยากทำ (?) ไรเนอร์ก็อิดออดนิดหน่อยแต่ก็ตกลง แต่มีข้อแลกเปลี่ยน 2 ข้อคือ 1. จะต้องไปขอความเห็นชอบจากเพื่อนของมันก่อน และ 2. พระเอกต้องไปช่วยหาของบางอย่างให้ไรเนอร์
อ่ะ อ่านถึงเท่านี้ ขอให้คะแนนแบบหยาบๆเลยแล้วกัน
คำผิด : ไม่ค่อยเห็นการสะกดคำผิด ไม่เห็นการพิมพ์ตก แต่ส่วนใหญ่เป็นคำง่ายๆ กูให้เยอะหน่อย 7.5/10 ไปเลย
การบรรยาย : ต่ำตมชิบหาย แบบนี้เรียกนิยายเหรอวะ ตัวหนังสือติดกันเป็นพรืด ขาดการเว้นวรรค ฉากก็ไม่บรรยาย อะไรก็ไม่บรรยาย บทสนทนากับความคิดตีกันยุ่งเหยิงไปหมด กูให้คะแนนในฐานะที่ยังพออ่านรู้เรื่องที่ 2/10 คะแนน
ตัวละคร : เบียว แกรี่ แมรี่ โกง เวอร์ เทพแบบไร้เหตุผล เลือดเย็นแบบงงๆ เหมือนคนเป็นโรคประสาท ตอนแรกบอกว่าฆ่าคนเพื่อเอาเงินไปใช้ซื้อปัจจัยสี่ แล้วมึงจะตัดหัวตัดแขนตัดขาแม่งทำไม เหี้ยเอ๊ย กูให้คะแนนความเป็นคนแม่ง 2/10 คะแนน
เนื้อเรื่อง : อันนี้อ่านยังไม่จบ (ไม่ถึงตอนล่าสุด) เลยไม่ขอให้คะแนน เพราะไม่แน่ว่าอาจมีอะไรดีๆซ่อนอยู่ ซึ่งเท่าที่อ่านมานี้ก็มองเห็นว่ามีเส้นเรื่องให้เดินอยู่นะ ไม่ได้ออกทะเลไปไหนไกล เห็นเป็นสเต็ปตั้งแต่ พระเอกมาถึงต่างโลก เดินทางเข้าเมือง ตามหาของ มีอีเวนท์ เดินทาง มีอีเวนท์ใหม่ ซึ่งก็ถือว่าพอใช้ได้ (ถ้าไม่นับความสมเหตุสมผลอะไรอื่น)
สรุป 11.5 / 30 ไม่ผ่านว่ะ
>>966 อืมมมมมม พูดก็พูดเถอะ กูให้คะแนนเรื่องนี้ (ฆาตกร) มากกว่าเรื่องแคตตาล็อกนั่นนะ 1. คำผิดน้อยกว่า 2. เนื้อเรื่องดูมีไลน์ของการดำนเนินเรื่องชัดกว่า
ในเรื่องของการบรรยาย แคตตาล็อกพระเจ้าทำได้ดีกว่านิดหน่อย แต่มาเสียตรงที่คำผิดบานเบอะ อ่านแล้วโคตรสะดุด ส่วนตัวละคร แคตตาล็อกเบียวแบบเด็กๆเขียน เหมือนจับนู่นมายัดใส่นี่ให้มันเทพๆ แต่เรื่องฆาตกรนีคือจงใจให้มันเก่งเทพอยู่แล้ว มาถึงก็จับยัดจัดเต็มเลย เนื้อเรื่องแคตตาล็อกก็ดูมั่วๆ ไม่เหมือนกับฆาตกรที่ดูชัดเจนมากกว่าว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร
สรุป แย่พอกัน แต่แคตตาล็อกแย่กว่าหน่อยว่ะ
เพื่อนโม่งกูขอถกประเด็นเรื่องอัพถี่ๆบ่อยๆแล้วจะติดท็อปเอง มันจริงแค่ไหนวะ
เห็นพวกมาบ่นเรื่องนิยายกากขึ้นท็อป แล้วทำไมแม่งไม่อัพถี่ๆดูบ้าง แต่งเก็บไว้ก่อนแล้วค่อยมาอัพทุกวันเอายอดวิวดิวะ
จากที่กูเดาเอาเอง นอกจากอัพบ่อยแล้วเรื่องมันต้องโดนเด็กๆด้วย แต่คนแต่งหลายๆคนทำไม่ได้เพราะคิดแบบที่เด็กชอบไม่เป็น ถึงอัพทุกวันก็ไม่ติดท็อป
กูอยากรู้ว่ามีใครลองแต่งโดยหวังติดท็อปป่าววะ ใครอัพทุกวันแล้วติดท็อปหรือวิวเยอะบ้างมึงไม่ต้องบอกชื่อนิยายตัวเองก็ได้
>>971 บางทีมันก็ต้องเลือกระหว่างการผลิตงานเขียนที่ดี กับการผลิตงานเขียนที่ติดท็อปอะว่ะ
คือไม่ใช่ว่างานเขียนที่ติดท็อปไม่ดีนะ แต่เท่าที่เห็นก็แบบ......... มันเกาะตลาดได้ไง ตลาดของเด็กดีก็คือนักอ่านวัยรุ่นที่ไม่มีความเข้าใจความงามด้านภาษามากนัก กูเคยอ่านบางคอมเมนต์ แม่งบอกว่าถ้าเห็นเรื่องไหนพยายามบรรยายสวยๆนี่จะปิดไปเลย อ่านยาก ชอบแบบเรียบๆมากกว่า กูแทบร้องไห้
คือบางทีก็ต้องยอมรับว่าการพยายามฝืนบรรยายเยอะๆทั้งที่สกิลตัวเองยังไม่ถึงเนี่ยมันอาจกลายเป็นเวิ่นเว้อจนคนอ่านงงได้ แต่มันก็เป็นสิ่งที่นักเขียนพึงมีปะวะ คือพยายามบรรยายไปก่อน อันไหนงงก็ปรับแก้ ค่อยๆเกลาภาษาตัวเองไป ดีกว่าที่จะเขียนทื่อๆแบบ โจเดินไปในตลาดเจอผู้หญิงผมทองหน้าตาสวยคนหนึ่ง (วิ๊ดวิ่ว //ผู้เขียน) "สวัสดี" โจเข้าไปทัก "ชื่ออะไรครับ" (แหมหน้าม่อนะโจ //ผู้เขียน) ปะวะ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จะงงหรือไม่มันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับทักษะของคนเขียนอย่างเดียว มันต้องเอาทักษะของนักอ่านเข้ามาคิดร่วมด้วย มันก็มีงานบางชิ้นที่กูเห็นว่าเขียนด้วยภาษาที่ค่อนข้างดี บรรยายลื่นๆสวยๆไม่งง แต่คนอ่านน้อยฉิบหาย ตัวกูเองชอบอ่านงานที่ใช้ศัพท์แปลกๆนะ เช่น โอภาปราศรัย ประดักประเดิด อากัปกิริยา ฯลฯ แต่คำพวกนี้ก็ใช่ว่านักอ่านในเว็บจะเข้าใจทุกคน กูเชื่อว่าบางคนแม่งก็คงเอาไปบ่นนั่นล่ะว่าเขียนเหี้ยอะไรงงชิบหาย
อัพถี่ๆอาจทำให้ขึ้นท็อปได้จริง แต่คนทั่วไปที่ไม่ได้ว่างนั่งเกาไข่อยู่ที่บ้านทุกวันไม่มีทางเขียนงานดีๆ อัพลงเว็บได้ทุกวัน (แบบไม่ซอยตอน) ได้แน่ๆ และกูก็ยืนยันว่ากูยอมให้งานที่กูลงทุนลงแรงเขียนไม่เป็นที่รู้จัก ดีกว่ารีบๆปั่นให้ติดท็อปแต่เนื้อในกลวงโบ๋จนคนที่เขามีความรู้มาค่อนแคะเอาได้ว่างานแบบนี้ติดท็อปมาได้ยังไง
>>971 กูกะทำงี้อยู่ กูติดนิสัยชอบเขียนไปแก้ไป บางทีขึ้นตอนใหม่ได้ 3 ย่อหน้าก็กลับไปรีไรท์ตอนเก่าให้สอกคล้องกับตอนใหม่
กูคิดว่าถ้าอัพทีละตอนเนื้อหาจะไม่สอดคล้องกันคนอ่านจะงง กูเลยกะจะแต่งให้จบก่อนแล้วค่อยลงทีเดียว น่าจ 100 ตอนกว่าได้
นิยายกูข้อเสียอย่างคือเปิดเรื่องช้า กูกะปูพื้นไป 10+ ตอนแล้วหักมุมเปิดเรื่อง แต่สไตล์นี้คนไม่นิยมวะ บางคนด่าว่ากากด้วย
พวกวิจารณ์นิยายชอบบอกว่าต้องดึงดูดตั้งแต่ตอนแรกๆ อ่าน 3 ตอนแล้วยังไม่ไปไหนคือนิยายไม่ดี ไม่มีคนอยากอ่าน
แต่กูลองดูที่วางพล็อตทั้งหมดที่วางไว้แล้ว ถ้าเปิดเรื่องเลยมันจะขาดบางอย่างที่กูอยากให้คนเห็นในตัวพระเอก กูเลยลังเลว่าจะยังไงดี
>>979 ลองดูก็ได้นะ ไม่เสียหายหรอก แค่อาจเสียเวลาไปบ้าง
เน้นพิมพ์บทสนทนาเยอะ บรรยายไม่ต้องมี เอาเป็นเรื่องประมาณว่าพระเอกเป็นนักเลงในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่บังเอิญเดินสะดุดท่อหัวฟาดพื้นตาย พระเจ้าสงสารเลยส่งไปเกิดในโลกใหม่ แต่พระเอกโกงพระเจ้าด้วยการขโมยคฑาพระเจ้าไป จะเสกอะไรก็ได้ตามใจปรารถนา แล้วก็โชว์พาวล่าฮาเร็มไปเรื่อยๆ เจอปัญหาอะไรแล้วตันก็ใช้มุกแอบได้ยินตัวโกงคุยกัน
เอาเป็นชื่อ the god's wand : เกรียนตะลุยต่างโลกกับคฑาแห่งพระเจ้า เขียนแม่งตอนสั้นๆ ตอนละฉาก สัก 2-3 หน้า อัพแม่งวันละสามสี่ตอน ไม่ดังให้เหยียบ
ขอขัดจังหวะแป๊บ กระทู้จะเต็มแล้ว ใครตั้งกระทู้เป็นก็เตรียมตั้งได้แล้วมั้งกูว่า เพราะกูตั้งไม่เป็น ; A ;
>>981 กูเขียนโดยยึดมุมมองบุคคลที่ 1 แบบเรื่อง maginal operation เป็นพื้นฐานนะ ดังนั้นมันจะไม่ค่อยมีเรื่องการพรรณณาอะไรมากนัก น่าจะไหวอยู่
แต่กูกังวลเรื่องการเปิดเรื่องวะ แรกๆ มันช้ามาก แต่ก็จำเป็นต้องให้ข้อมูลว่าพระเอกเป็นยังไง เพราะนิสัยนี้เป็นจุดสำคัญมากที่ทำให้เกิดเรื่องทุกอย่าง
คือพระเอกก็เป็นแบบนี้แต่แรก แต่มันปิดทุกอย่างไว้ไม่ให้ใครรู้ พอทุกอย่างเปิดเผยถึงได้ทำตัวแบบนี้ แต่นิสัย 2 หน้าก็เป็นของจริงเช่นกัน
ถ้าไม่มีบทก่อน turning point ประเด็นที่กูวางไว้จะอ่อนไป แถมเรื่องนี้เป็นปมที่จะใช้ตอนจบด้วยสิ ไม่อยากเร่งเลย
จะแต่งนิยายโม่งสมคบคิดเรอะ 555
>>987 ใช่มั้ยล่ะ การอัพยังงั้นแม่งโคตรยากเลย
ช่วงนี้กูชอบติดเล่นๆว่ะว่าไหนๆก็แต่งไม่ค่อยเก่งอยู่แล้ว งานคงออกมาไม่ดีมากแต่ก็คงไม่ห่วยทุเรศอะไรขนาดนั้น กูเลยอยากลองปลดปล่อยความเบียวว่ะ แบบแต่งเหมือนไอ้แคตตาล็อกพระเจ้าหรือพ่อฆาตรกรต่างโลก เอาให้ซูให้ไร้เหคุผลสุดๆ ประชดตัวเองไปเลยแม่ง คงผ่อนคลายความเครียดดี 555
>>995 คือให้เขียนแบบสั้นๆ ตู้มเดียวไม่ต้องปรู๊ฟคำผิดอ่านทวนเลยก็ทำได้นะ แต่รู้สึกแย่กับตัวเองว่ะ ...แต่ระยะนี้คิดแบบมึงเหมือนกัน อยากปลดปล่อยความเบียว ถ้าเบียวแล้วมันนิยมมันก็ควรเบียวเพื่อสร้างฐานแฟนคลับก่อนเปล่าวะ แล้วค่อยกลับมาเป็นคน (แต่ก็ไม่มีอะไรยืนยันได้อยู่ดีว่าแฟนคลับกลุ่มนั้นจะตามมาเรื่องใหม่ด้วย เพราะอาจจะอ่านแค่เบียวอย่างเดียว)
ปิดมู้จ้า
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.