Fanboi Channel

นิทานเด็กดีบทที่ 41 (DDN XLI) จักรวาลโม่งที่หยุดหมุน เกานิ่งตั้งตรงตามต้นกก แสงเหลืองเรื่องจากปลายก้น ผลุดหนีหลุดจากร่าง ลอยเรียดลู่ลมบนผิวน้ำ ไหลไถลดิ่งจม หายไปตลอดกาล

Last posted

Total of 477 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:KDItH9nGNN

นิทานเด็กดีบทที่ 40 (DDN XL) ภาคโม่งกำลังตายทั้งเป็น แต่พระครูบัวเตือนสติทันเวลาพอดี จึงกลับไปฝึกวิชานาฏยุทธ์ จึงกลายเป็นโม่งบาก 3

วิพากษ์วิจารณ์งานเขียนบนเว็บเด็กดีดอทคอม ทั้งจบแล้วและยังไม่จบ ตีพิมพ์แล้วและยังไม่มีใครเหลียวแล รวมไปถึงพูดคุยเกี่ยวกับวงการนิยายเว็บเด็กดี เพื่อความหวังของเว็บโนเวลไทยในอนาคต ทั้งนี้ ไม่สนับสนุนให้นำเรื่องส่วนตัวของนักเขียนแต่ละคนออกมาตีแผ่ ควรเน้นเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานเขียนเท่านั้น

<<คลังกระทู้เก่า>>

นิยายเด็กดี บทที่ 1 -- https://fanboi.ch/webnovel/2403/
นิยายเด็กดี บทที่ 2 -- https://fanboi.ch/webnovel/2703/
นิยายเด็กดี บทที่ 3 -- https://fanboi.ch/webnovel/2907/
นิยายเด็กดี บทที่ 4 -- https://fanboi.ch/webnovel/3066/
นิยายเด็กดี บทที่ 5 -- https://fanboi.ch/webnovel/3187/
นิยายเด็กดี บทที่ 6 -- https://fanboi.ch/webnovel/3229/
นิยายเด็กดี บทที่ 7 -- https://fanboi.ch/webnovel/3388/
นิยายเด็กดี บทที่ 8 -- https://fanboi.ch/webnovel/3594/
นิยายเด็กดี บทที่ 9 -- https://fanboi.ch/webnovel/3852/
นิยายเด็กดี บทที่ 10 -- https://fanboi.ch/webnovel/4106/
นิยายเด็กดี บทที่ 11 -- https://fanboi.ch/webnovel/4265/
นิยายเด็กดี บทที่ 12 -- https://fanboi.ch/webnovel/4393/
นิยายเด็กดี บทที่ 13 -- https://fanboi.ch/webnovel/4626/
นิยายเด็กดี บทที่ 14 -- https://fanboi.ch/webnovel/4810/
นิยายเด็กดี บทที่ 15 -- https://fanboi.ch/webnovel/5006/
นิยายเด็กดี บทที่ 16 -- https://fanboi.ch/webnovel/5346/
นิยายเด็กดี บทที่ 17 -- https://fanboi.ch/webnovel/5535/
นิยายเด็กดี บทที่ 18 -- https://fanboi.ch/webnovel/5769/
นิยายเด็กดี บทที่ 19 -- https://fanboi.ch/webnovel/6022/
นิยายเด็กดี บทที่ 20 -- https://fanboi.ch/webnovel/6295/
นิยายเด็กดี บทที่ 21 -- https://fanboi.ch/webnovel/6506/
นิยายเด็กดี บทที่ 22 -- https://fanboi.ch/webnovel/6868/
นิยายเด็กดี บทที่ 23 -- https://fanboi.ch/webnovel/7834/
นิยายเด็กดี บทที่ 24 -- https://fanboi.ch/webnovel/8477/
นิยายเด็กดี บทที่ 25 -- https://fanboi.ch/webnovel/8614/
นิยายเด็กดี บทที่ 26 -- https://fanboi.ch/webnovel/8685/
นิยายเด็กดี บทที่ 27 -- https://fanboi.ch/webnovel/8795/
นิยายเด็กดี บทที่ 28 -- https://fanboi.ch/webnovel/8876/
นิยายเด็กดี บทที่ 29 -- https://fanboi.ch/webnovel/9247/
นิยายเด็กดี บทที่ 30 -- https://fanboi.ch/webnovel/9744/
นิยายเด็กดี บทที่ 31 -- https://fanboi.ch/webnovel/10135/
นิยายเด็กดี บทที่ 32 -- https://fanboi.ch/webnovel/10275/
นิยายเด็กดี บทที่ 33 -- https://fanboi.ch/webnovel/10680/
นิยายเด็กดี บทที่ 34 -- https://fanboi.ch/webnovel/10887/
นิยายเด็กดี บทที่ 35 -- https://fanboi.ch/webnovel/11174/
นิยายเด็กดี บทที่ 36 -- https://fanboi.ch/webnovel/11834/
นิยายเด็กดี บทที่ 37 -- https://fanboi.ch/webnovel/12989/
นิยายเด็กดี บทที่ 38 -- https://fanboi.ch/webnovel/13803/
นิยายเด็กดี บทที่ 39 -- https://fanboi.ch/webnovel/15451/
นิยายเด็กดี บทที่ 40 -- https://fanboi.ch/webnovel/16797/

รายชื่อนิยายโดนสับไปแล้ว https://docs.google.com/document/d/1ouFhwS9WeoBzEgYHVNYWkeUAbhQ2YkCg4ozpTpx1-94/edit

2 Nameless Fanboi Posted ID:xG4EQuj+KU

เจิมรอตัวอย่างแนวออกจากปาร์ตี้เรื่องสุดท้าย หายไปเป็นเดือนเลย ไข่แล้วทิ้งนะมึง

ปล.มกราคมมันยุ่งกูพอเข้าใจ

3 Nameless Fanboi Posted ID6:3cpy0TJqAA

มีใครจะทำ

Topic Highlight ประจำมู้ที่ 40 :: ไหม

เช่นไอ้ ที่เขียนยาวๆ แนวขับไล่นั่นะ อะ

มันทำไงหง่า

4 Nameless Fanboi Posted ID6:Oid1YUuC00

เท่าที่กูจำได้คือดราม่าลิขสิทธิ์ AI กับแนวล้างแค้นแบบไหนถึงจะดูดี

5 Nameless Fanboi Posted ID6:1u97Nh1zhE

ถ้าชื่อนิยายยาวแบบนี้ มันจะทำให้ดูน่าสนใจขึ้น หรือไล่นักอ่าน

https://dekd.co/w/n/2318461

6 Nameless Fanboi Posted ID:2ZrYZ546v2

>>5 แปะชื่อเลยได้ปะ ลิ้งที่มึงวางมากดแล้วมันให้โหลดแอพก่อน

7 Nameless Fanboi Posted ID6:1u97Nh1zhE

>>6 เกิดใหม่ต่างโลกด้วยสกิลพื้นฐานทุกแขนงพ่วงด้วยตำแหน่งสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่สวมชุดไม่ได้เพราะมันมีไว้สำหรับพวกอกโตเท่านั้นแถมยังต้องลำบากทำงานให้ทางศาสนะจักรที่ทางนักผจญภัยร้องขอเป็นว่าเล่นเลยออกไปอยู่ป่า

8 Nameless Fanboi Posted ID6:upgz6KKmMg

>>7 ชื่อยาวหรือสั้นไม่น่ามีผลอะไรมากนะแค่สปอยล์เรื่อง ยาวไปเดี๋ยวก็อ่านข้ามเองแหละ เนื้อเรื่องต่างหากเป็นตัวไล่นักอ่าน แต่แมร่งเขียนศาสนจักรผิดกูเริ่มไม่ไว้ใจถถถ

9 Nameless Fanboi Posted ID6:HinKiCI4j7

ใครจะไปจำชื่อไหวว่ะ ชื่อยาวแล้วแม่งไม่น่าจดจำอีก จะตั้งชื่อย่อเหมือน LN ญี่ปุ่นก็ยากอยู่แล้ว

10 Nameless Fanboi Posted ID:WPACQt39EP

>>3 เห็นแล้วสงสาร มามะ เดี๋ยวกูช่วยสอน

>>5-7 อย่างที่ >>9 ว่าเลย มันเลียนแบบมาจากชื่อ LN นั่นแหล่ะ รูปแบบทั่วไปก็คือ ชื่อเรื่อง=เรื่องย่อ ทำอย่างกับเป็นการคัดคนอ่านว่าชอบแนวนี้มั้ย ถ้าชอบมึงก็กดเข้ามา แต่พูดตามตรงนะ เรื่องดังๆ หลายเรื่องที่ได้ทำเป็นมังงะหรืออนิเมะหลังจากติดอันดับ กว่าครึ่งเนี่ยใช้ชื่อสั้นๆ แต่เนื้อเรื่องเขาสนุกจริงวะ

กลับมาที่มึงไอ้ >>3 ได้เวลาเรียนรู้วิชา "การทำทางลัดในโม่ง 101" แล้ว

1) การชี้ความเห็นในกระทู้เดียวกัน ใช้ >>ตามด้วยเลขที่ความเห็น (หรือกดบนเลขเลยก็ได้มันจะชี้ให้อัตโนมัติ) ถ้าจะชี้ต่อเนื่องกันให้เติม - แล้วตามด้วยเลขที่ความเห็นสุดท้ายที่มึงอยากชี้เหมือนที่กูทำไปข้างบนคือชี้ 5 ถึง 7

2) การชี้ความเห็นที่อยู่ในกระทู้อื่น ใช้ >>>/หมวด/เลขที่กระทู้/เลขที่ความเห็น/ เช่น >>>/webnovel/15451/58-61/ จะเท่ากับ หมวดนิยายเว็บ กระทู้หมายเลขที่ 15451 (กระทู้ภาค 39) ความเห็นที่ 58 ถึง 61

หรือก็คือถ้ามึงจะทำไฮไลท์ ก็ต้องเปิดกระทู้เดิมไว้ Tab นึงก่อนแล้วใส่ >>> รอไว้ จากนั้นพอมึงได้อันที่อยาก recap ก็ก๊อปที่อยู่ข้างบนมาเช่นกระทู้นี้ก็จะเป็น /webnovel/18245/ เอามาต่อไอ้ >>> ที่เตรียมไว้แล้วไล่ดูว่าคุยกันตั้งแต่ความเห็นไหนถึงความเห็นไหน ถ้าจะเอาตั้งแต่ความเห็นที่ 3 จนถึงอันนี้ก็จะต้องเป็น >>>/webnovel/18245/3-10 ระบบบอร์ดโม่งจะเด้งความเห็นที่มึงต้องการขึ้นมาเวลาเอาเม้าส์ไปวาง หรือลัดไปที่ความเห็นนั้นให้ทันทีถ้ามึงกดคลิ้กซ้าย

โอเคนะ รอบนี้เดี๋ยวกูทำให้ก่อน แล้วกระทู้หน้ามึงค่อยลองทำเอง

11 Nameless Fanboi Posted ID:WPACQt39EP

:: Topic Highlight ประจำมู้ที่ 39 ::

สับนิยาย: Tales Of New World จบ!!! >>>/webnovel/16797/35-36/
สับนิยาย: Top Up Now 2 ภาคบุรุษหมื่นเหรียญ >>>/webnovel/16797/39-41/
สับนิยาย: ถ้าพ่อค้าจะครองโลก(เสมือน) >>>/webnovel/16797/42-44/
สับนิยาย(?): "บทบาทผมมันเทพ" >>>/webnovel/16797/47-51/
สับนิยาย: พระเจ้าส่งผมไปรบ (INTO THE BATTLEFIELD) >>>/webnovel/16797/77-82/
สับนิยาย: เกิดใหม่เป็นเสือสมิงตัวอ้วนกลมละ โฮกปิ๊บ! >>>/webnovel/16797/196/
สับนิยาย: นักมิกซ์มอนสเตอร์สุดโกง >>>/webnovel/16797/471-475/
โม่งสงสัย: ทำไมต้องอิเซไค >>>/webnovel/16797/861-863/
โม่งอยากแซว: แซวความจำเจของแนวไล่ออกจากตี้ >>>/webnovel/16797/867-868/
โม่งสาระ: กิลด์หรือสมาคมนักผจญภัย >>>/webnovel/16797/877-909/
โม่งสาระ: แนวถูกไล่ออกจากปาร์ตี้และแนวล้างแค้น >>>/webnovel/16797/910-951/ (เรื่องสุดท้ายเดี๋ยวจะลงในมู้นี้แทน)
โม่งตีกัน: ถกเถียงเรื่อง AI (รอบที่ล้าน) >>>/webnovel/16797/966-991/

มู้อย่างร้างกว่าจะเต็มใช้เวลานานโคตร กูว่าเด็กดวกมันไปหากินกับนิยายแปลแทนแล้วมั้ง เท่าที่เห็นนักเขียนไทยที่เหลือแม่งมีแต่แนวจีนย้อนเวลาบ้าง ทะลุมิติบ้าง บางเรื่องพ่วงระบบเข้าไปด้วย จะเขียนตามใจฉันแล้วหวังจะแจ้งเกิดได้นี่โคตรยาก (กูเองถ้าไม่มีบุญเก่าที่เคยสะสมมาก็เล่นเอาเกือบตายเหมือนกัน) ไม่รู้จะแนะนำยังไงดี เพราะเด็กๆ แม่งมันติดมือถือกันหนัก วันๆ เล่นแต่ ROV ไม่ก็ FREE FIRE เว็บมังงะเถื่อนกับโดจินโป๊ก็เพียบ ช่องทางดูอนิเมะทั้งถูกและผิดกฏหมายก็ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด มันอย่างว่าอะเนอะ ดูสตรีมเกมมันสบายกว่านั่งอ่านตัวอักษรแล้วนึกภาพตามนี่หว่า เสพง่ายสนุกด้วย ขนาดกูเองยังต้องตามกระแสเพื่อความอยู่รอดเลย

เดี๋ยวเอาไว้จบตัวอย่างเรื่องสุดท้ายแล้ว ค่อยแวะมาคุยเป็นพักๆ แล้วกัน เพราะกูเองก็คงต้องแต่งเรื่องใหม่ให้จบแล้วค่อยตั้งขาย (หมดช่วง hiatus ที่อ้างกับนักอ่านไว้แล้วด้วย) เดี๋ยวนี้ต้องระวังตัวแจ เขียนไปขายไปไม่ได้ เกิดตันกลางทางขึ้นมาพวกที่ซื้อครึ่งแรกไปแล้วชอบด่ามันจะเสียเครดิตนามปากกาเอา

12 Nameless Fanboi Posted ID6:Mu0+AXh93R

สำหรับโม่งเนื้อเรื่องที่ไม่สนุกคือแบบไหน

13 Nameless Fanboi Posted ID6:QpgupnMPxn

>>12 สำหรับผมนะครับ
1. พล็อตเดาง่าย
2. ตัวเอกไม่เคยผิดพลาด ไม่เคยแพ้ กูเก่ง เก่งแบบไม่ต้องพยายาม (ชอบเห็นตอนตัวเอกโดนยำ แล้วคัมแบ็ก)
3. ขาดทักษะในการบรรยายให้สละสลวย (คลังคำ การเลือกใช้คำ เหมือนปรุงสเต็ก แต่เลือกใส่เครื่องปรุงไม่ค่อยโอเค ทำให้รสชาติไม่กลมกล่อม)
4. ขาดทักษะในการบบรรยายให้สนุก เห็นภาพ ผมชอบอ่านบรรยายความรู้สึกที่ตัวละคร A มีต่อตัวละคร B , หรือการที่ตัวละคร A แพร่มพื้นหลังชีวิตเปรียบเทียบกับสิ่งที่เจอตอนนั้น อย่างประมาณสักสองย่อหน้า ถ้าคิดอะไม่ออกก็จะเพิ่มสองอย่างนี้เข้าไปในบทบรรยาย
5. ตัวละครขาดสเน่ห์และความน่าประทับใจ ลองจินตนาการดูว่าตัวละครที่ไม่มีลักษณะเด่นทางกายภาพหรือนิสัยมาอยู่กองรวมกัน ในนิยายเรื่องเดียวกัน มันจะน่าเบื่อแค่ไหน

ของผมหลัก ๆ เท่านี้ครับ

ปล. ปกติผมอ่านและเขียนแต่แนวแฟนตาซี ไซไฟ
ตอนนี้ชอบอ่านนืยายรักเย็บ ๆ 18+ ที่เมียชอบซื้อมาอ่าน
เพื่อศึกษาฉากเย็บ และการบรรยาย กาใช้คำ การวางเนื้อเรื่องที่ก็เดาได้ แต่มันก็จะมีอะไรบางอย่างที่ทำให้น่าติดตาม สเน่ห์ของตัวละคร

14 Nameless Fanboi Posted ID6:U1hZav6iRa

กูขอเสริมต่อจากไอ้ >>13 ดีกว่า

6. เขียนเหมือนกลัวคนอ่านจะคิดเองไม่ได้ ก็เลย tell แม่งเลย ถ้าเจออีก กูขอดูคลิปสปอยดีกว่า ไม่มี show ห่าไร
7. ยัดข้อมูลอะไรไม่รู้ที่ไม่ได้ช่วยให้กูหายโง่ เช่น แมงมุมต่างโลก the anime
8. P0rn without Plot เหอๆๆ กูดูคลิปโป๊ดีกว่า ดูไม่ต่ำกว่า 100 คลิปกว่าแม่งเขียนเสร็จสมบูรณ์
9. ลอกยังกะถ่ายเอกสาร แต่อ้างบอกแรงบันดาลใจ เขาเรียกว่าเสร่อ เดาง่ายเกินไปเพราะการกระทำนี้แหละ
10. ตัวละครกลวงโบ๋วทั้งที่แม่งอยากจะให้มีบทบาทสำคัญ มันเป็นใครไม่สำคัญ มันมีเรื่องราวจริงๆรึเปล่า ไอ้ paper character

15 Nameless Fanboi Posted ID:x14eOWXNnh

>>12 ไม่เล่าเรื่องราว และ ไม่มี progression

16 Nameless Fanboi Posted ID:P3A0y4xCC.

https://www.youtube.com/watch?v=epNF3hzrUSI กริชอินดี้ ลิงกับป้า และงานเก็บขยะอวกาศเกมบริษัทมรณะ
https://i.imgur.com/N4pWdD6.jpeg

17 Nameless Fanboi Posted ID:P3A0y4xCC.

>>16 โทดทีเพื่อนฝูงเที่ยวหลายห้องส่งผิดที่ค่าบ

18 Nameless Fanboi Posted ID6:cqEpwzahrz

สมัยนี้ติดtop 100 นิยายแฟนตาซี ถือว่าน่าเก่งไหม หรือว่าธรรมดาในยุคนี้
https://www.dek-d.com/board/writer/4104523/

19 Nameless Fanboi Posted ID:1KPWGLu2XL

>>18 วัดผลอะไรไม่ได้เพราะกลุ่มตัวอย่างกว้างเกินไป นิยายแฟนตาซีในเด็กดวกมีเยอะจนนับไม่ไหว อีกอย่างคือการติดท้อปในช่วง 15 วันแรกเป็นเรื่องไม่แน่นอน หลังจาก reset สถิติต่างๆ ตอนสิ้นเดือนไม่ว่าใครก็มีโอกาสขึ้นมาติดในหน้า top 100 ได้ทั้งนั้นถ้าขยันหรือมีเนื้อหาสำรองไว้เพียงพอ

ถ้าอยากได้การวัดผลที่ชัดเจนจริงๆ ให้ไปดูท้อปแบบหมวดรวมดีกว่า ถ้าติด 100 อันดับหมวดรวมได้ถือว่าใช้ได้เพราะการแข่งขันมันโหดมาก นักเขียนต้องขับเคี่ยวกับพวกที่ครองหัวตารางจากหมวดต่างๆ ซึ่งมีฐานแฟนจำนวนมากพร้อมช่วยเพิ่มตัวเลขให้

อย่างสุดท้ายคือไปดูในส่วนของการขายนิยาย ถ้าแต่งมาเปิดขายแล้วมีคนซื้อสม่ำเสมอนั่นแหล่ะถึงค่อยอวดได้ว่าประสบความสำเร็จจริงๆ คนดูเป็นล้านแต่ขายไม่ออกมันก็เท่านั้น (ยกเว้นแต่เจ้าของเรื่องไม่ได้คาดหวังเรื่องรายได้)

20 Nameless Fanboi Posted ID6:xSOE/E7T8J

ไอ้ที่พวกคอมเม้นในเด็กดีชอบพูดทำนองว่าแนวอะไรก็เขียนไปเถอะ ถ้ามันสนุกคนอ่านก็เยอะเอง

คิดว่ามันเป็นจริงไหมหนือจริงแค่ไหนสมัยนี้

21 Nameless Fanboi Posted ID6:g3V0s6HZYY

>>20 จริง ถ้ามันสนุก+ตรงกลุ่มคนอ่าน วิวพุ่งแน่นอน ถ้ามึงมาเขียนไซไฟแบบ bladerunner ต่อให้สนุกแต่ไม่รู้ใครจะมาอ่านกับมึง

22 Nameless Fanboi Posted ID6:2rJsb1J+WK

>>21 แต่คนตอบบางคนพูดขอไปทีนี่สิคือปัญหา เพราะตัวคนพูดไม่คิดจะอ่านอยู่แล้ว สนแต่ว่าตัวเองต้องเอาตัวรอดก็พอ

23 Nameless Fanboi Posted ID:mfs1T8HGJT

>>20 ให้มองว่าการที่คนจะมาอ่านมันมีสาเหตุ เมิงอาจจะเลือกการอยู่ใต้แสงสปอตไลต์คือคำตอบของยอดวิว แต่การรักษาคนอ่านได้เรื่องเมิงต้องสนุก น่าสนใจ น่าติดตาม และถ้ามันดีพอแสดงสปอตไลต์ก็จะส่องมาทางเมิง
ทีนี้ก็อยู่ที่เมิงเลือกจะเป็นนักเขียนแบบไหน เอาที่ชอบเลย

24 Nameless Fanboi Posted ID6:5X.qKwPp5b

กึ่งแฟนฟิค คืออะไร

https://writer.dek-d.com/Kiruima/writer/view.php?id=2542067

25 Nameless Fanboi Posted ID6:RgL6URQLxB

>>24 มันก็แค่คำปลอบใจตัวเองว่าตัวเองไม่ได้เขียนแฟนฟิคนะ แต่สองจิตใจว่าจะเอาไงกันแน่

26 Nameless Fanboi Posted ID:WU7IWQT.DV

>>25 สมัยก่อนเคยมีกรณีแต่งแฟนฟิคแล้วดังคนอ่านเยอะมาก นักเขียนแม่งเปลี่ยนชื่อตัวละครที่ยืมมาแปลงร่างเป็นนิยายออริของตัวเองหน้าตาเฉยก็มีมาแล้ว บางทีเจ้าตัวอาจแทงกั๊กไว้เผื่อแบบนั้นมัเง

27 Nameless Fanboi Posted ID6:RgL6URQLxB

>>26 กรณีเดียวกับ Resident Evil 2 Fanmade กลายเป็น Daymare 1998 เหรอ

28 Nameless Fanboi Posted ID:PzDAe8nDal

>>27 อาจจะ แต่กูไม่รู้กฏหมายฝั่งดิจิทัลแฮะ น่าจะยุ่งๆ กว่าพวกนิยายไปอีก เพราะมันมีการอ้างถึง trademark ที่เป็นชื่อเกม หรือข่าวมันเป็นยังไงไปแล้ว เล่าให้ฟังได้นะ

29 Nameless Fanboi Posted ID6:Xwo30pFho7

>>28 เรื่องเกมนั้นเรอะ ได้ยินมาว่า แคปหมูบอกระงับการพัฒนาแฟนเมด เพราะมีแผนจะทำ RE2 Remake แต่เขาใจดีแนะนำให้ทีมแฟนเมดลองทำออริจินอลดู จึงได้ Daymare 1998 แทน แต่ไอ้นิยาย กูไม่รู้ว่ะ ไม่มีตัวอย่างให้เห็น เพราะเจ้าของลิขสิทธิ์ในวงการนิยายไม่ได้ใจดีกุศลขนาดนั้น

30 Nameless Fanboi Posted ID:Yc6SF5VZag

เงียบจังเลยโม่ง

31 Nameless Fanboi Posted ID6:4/YMge46vO

นิยายจีนแปล ลงไม่กี่ตอน มีดองยาว แปลกากๆ คนยังอ่านเยอะกว่านิยายคนไทยเขียนเเลยทำไม

32 Nameless Fanboi Posted ID:MqNM8IZ1MH

>>31 คนไทยเขียนห่วยหรือเปล่า เขาก็ต้องอ่านอันที่ทำให้เขารู้สึกสนุก อาหารจัดจานดีกว่าแต่แดกไม่ได้ เมิงจะกินไหมล่ะ?

33 Nameless Fanboi Posted ID6:ZnC91fO1qY

>>31 ตอนแปลมันเล่นง่ายกว่าเขียนเอง เพราะไม่ต้องคิดทั้งเนื้อเรื่องกับตัวละคร อีกอย่าง คนไทยไมไม่ได้มีหัวคิดชาตินิยมเท่าคนจีนแท้

35 Nameless Fanboi Posted ID6:/rGK7YTp3D

>>31 ของที่ผลิตในไทยกับ "ของนำเข้า" มึงว่าคำไหนฟังดูหรูกว่ากันล่ะ จีนเอาแค่นิยายเกรดกลางๆ บ้านมันยังอ่านสนุกกว่านิยายติดท็อปบ้านเราอีก

36 Nameless Fanboi Posted ID:FEOpVspovd

พอมีสอบปลายภาค มู้ไม่ขึ้นเบย

37 Nameless Fanboi Posted ID6:n/fPzz4NCg

>>36 มิน่ามู้เงียบชิบ ทุกกระทู้

38 Nameless Fanboi Posted ID6:1sBGpn1Y+C

ทำไมนิยายบางเรื่องลงเป็นร้อยตอน สำนวนการเขียนใช้ได้ ลงประจำทุกวัน มีแท็คหลายๆแท็ค ตอนนึงไม่สั้น อ่านง่าย แนวตลาดแม้อาจไม่ใช่ตลาดหลัก
แต่ทำไมคนอ่านไม่ค่อยเยอะเลย เทียบกับบางเรื่อง สำนวนเขียนค่อนข้างแย่ ตอนนึงก็สั้น ไม่ใช่แนวตบาดหลักเช่นกัย แท็คก็มีน้อยกว่า ตอนลงไม่ต่อเนื่อง ลงน้อยกว่าแต่ก็ยังมีคนอ่านเยอะกว่า ทำไมกันเนอะ?

(อันนี้เรื่องที่ว่าคนอ่านไม่เยอะ)
https://writer.dek-d.com/koosakul/writer/view.php?id=2498052

39 Nameless Fanboi Posted ID:gIcRw6bah0

>>38 แนวเรื่องก็ไม่น่าอ่านแล้ว ตัวละครเอกไม่ได้แสดงคาริสม่าขาดเสน่ห์ขาดความน่าน่าติดตามเอาใจช่วย ค่อนข้างเฉพาะแนวไป เลยทำให้คนอ่านน้อย

40 Nameless Fanboi Posted ID:wg+/VDoCVq

>>38 เวลาเอานิยายมาลงโม่งต้องทำใจอย่างนึงว่าหากโม่งจะติก็จะหาทางติจนได้ คนอื่นไม่รู้แต่กูคิดว่าเพราะตัวเอกเป็นผู้หญิงแต่ดันเป็นแนวต่างโลกนักฆ่า เกรียนผู้ชายจะข้าม นักอ่านผู้หญิงก็ไม่อิน (ส่วนมากต้องไปเวย์ทะลุมิติจีนเอาถ้าอยากเกิดทางนี้)

ปล.รูปนี่มันดูดมาหรือใช้ AI เจนเอาวะน่ะ

41 Nameless Fanboi Posted ID:tA1V52e7V7

https://www.facebook.com/share/p/v2A3oxkDQ7BugdBy/?mibextid=TrneLp กูว่าแล้ว... ก็ว่าทำไมผู้อ่านที่กูมีในมือถึงอายุ 30+ เป็นส่วนใหญ่

42 Nameless Fanboi Posted ID6:s.+cNN0dWz

>>41 เปิดไม่ได้อะ โม่งเหลาให้ฟังทีมันคืออะไร

43 Nameless Fanboi Posted ID6:s.+cNN0dWz

เรื่องนี้แนวแฟนตาซีคนอ่านเยอะเชียว แถมไม่ใช่แนวปลูกผัก จีนโบ ด้วย เขียนมาได้สองเดือนคนอ่านไปหลายหมื่น โม่งว่าทำไมคนอ่านเยอะจัง กูอยากทำได้แบบเขาบ้าง

อ่าน "ระบบร้านค้าขั้นเทพ" ในนิยาย Dek-D หรือยัง

http://writer.dek-d.com/hi /writer/view.php?id=2533286

44 Nameless Fanboi Posted ID6:s.+cNN0dWz

>>43
ลิ้งผิด

http://writer.dek-d.com/hi/writer/view.php?id=2533286

45 Nameless Fanboi Posted ID:KOK4K1PkmV

>>42 เยาวชนและวัยทำงานในไทย 64.7% มี Reading Literacy (ภาวะการรู้หนังสือ) ต่ำกว่าเกณฑ์ จนไม่สามารถทำตามคำอธิบายสั้นๆ ได้ เช่น วิธีใช้ข้างขวดยา ฉลากบนซองอาหาร, ขวดเครื่องปรุง

ถ้าสั้นๆ แบบนี้ยังไม่รอด นิยายเป็นตอนๆ ก็คงไม่เหลือ

>>43 >>44 แค่มีคำว่า "ระบบ" ในชื่อกูก็ไม่อยากพูดต่อแล้วเพราะมันกำลังอยู่ในเทรนด์ เขียนดีพออ่านรู้เรื่องและสนุกใช้ได้ก็ปังเลย แล้วนิยายย้อนยุคปลูกผักจีนโบฯ หลายๆ เรื่องก็มีระบบแทรกในเนื้อหาเหมือนกัน ดังนั้นมึงจะลองทำตามก็ได้ไม่เสียหายนะ

46 Nameless Fanboi Posted ID6:2TvLf6QKls

ถ้าแนวระบบมันขายได้จริง ทำไมบางเรื่องคนมันน้อยจัง

เช่น

อ่าน "ระบบพรานตกอับแห่งยุคอวกาศ ขอผงาดล่าท้าสัตว์ต่างมิติ [มี e-book]" ในนิยาย Dek-D หรือยัง

http://writer.dek-d.com/fatpanda/writer/view.php?id=2536436

47 Nameless Fanboi Posted ID:enSAIhyufl

เว็บไหนยังเหลือที่ยืนให้กับแนวแฟนตาซีบ้าง

48 Nameless Fanboi Posted ID:+ku+/3KG8e

>>47 แฟนตาซีสมัยไวทโรดดังน่ะเหรอ เมิงต้องมองใหม่ว่ากูคือบูลโอเชียน ไม่มีคู่แข่งต่างหาก ชอบเหรอเขียนตาม ๆ กันแล้วมาโอดครวนว่าคู่แข่งเยอะ คนอื่นเขียนดังกุเขียนไม่มีคนอ่านทั้งที่ภาษาดีกว่า
ท่องไว้เถอะ คนอ่านไม่ทนอ่านนิยายไม่สนุก

49 Nameless Fanboi Posted ID6:uYFoSa/HO+

>>47 ทำไมแนว แอคชั่น แฟนตาซี คนไม่นิยมตัวเอกที่เป็นโลลิ ที่ไม่ได้สลับเพศ

สายหมีอย่างตู หาที่อยู่ยากชะมัด

50 Nameless Fanboi Posted ID:qO8qU7hcDc

>>49 การผจญภัยของเทมเมอร์มือใหม่กับสไลม์สุดด๋อย ยอดคนดูระดับท๊อปเทียในเวบอนิวัน เมิงเขียนห่วยเองหรือเปล่า

51 Nameless Fanboi Posted ID6:n2VNQbztCQ

>>48 จะว่าไปนิยายแฟนตาซีที่ไม่ใช่ทะลุมิติ ระบบ ต่างโลกเก็บเวล กำลังภายใน ไรงี้มันไม่ค่อยมีอันที่ดังๆแล้วเหรอ top นี่อันใหม่ๆไม่เห็นเลยนะ

52 Nameless Fanboi Posted ID6:hsNeequg15

>>51 สู้นิยายแปลไม่ได้ แถมนิยายแปลส่วนใหญ่คือรับประกันได้ว่าจบแน่นอน นิยายไทยเสี่ยงดอง บางทีก็มาไม่เป็นเวลา เขียนแนวเดียวกับนิยายแปลยังไงก็แพ้

53 Nameless Fanboi Posted ID6:KrJhd5W5Eu

สรุป คือปัญหานิยายไทยไม่ค่อยมีคนอ่านตอนนี่คือไอ้นิยายแปลที่มีมากขึ้นสินะ

นี่สินะความโหดร้ายของโลกการค้าเสรี ถ้าไม่ทำอะไรบ้างนิยายแฟนตาซีไทยคงสูญพันธุ์

54 Nameless Fanboi Posted ID6:DEoeZ2SxEx

ต้องแข่งกับตลาดนอกไม่พอ ดลุ่มตลาดปัจจุบันก็เหมือนสมองจะโดนเนิฟลงด้วยอีก
เหมือนไม่กี่วันก่อนที่บนดินโพสกันเรื่องว่าไม่รู้จักคำนี้ๆ แล้วบ่นคนเขียนว่ามึงเขียนผิดรึเปล่า ไม่ก็บ่นว่าไม่ควรใช้เพราะภาษาหรูไป แล้วคิดว่าไอ้พวกห่านี่มันจะมีปัญญาอ่านแฟนตาซีหนักๆ ที่ต้องปูเวิร์ลบิวดิ้งปูศัพท์เฉพาะไหวเรอะ แม่งก็เลยจบที่อ่านแต่พล็อตเดิมๆ เซ็ตติ้งย่อยง่ายๆ แบบแนวระบบห่าเหวอะไรนั่นไง ไม่ต้องคิดต้องเหี้ยไรหรอกรอหน้าต่างเด้งมาแล้วก็ทำตามนั้น จบ

55 Nameless Fanboi Posted ID6:ItomHfxVFa

>>54 กูขอเสริม ปัญหาวงการนักเขียนนิยายไทยคือ แม่งไม่รับสารห่าอะไรนอกจากนิยายเท่านั้น เคยเจอคนชอบพูดว่า จีนตีตลาดไทยเป็นหลายทศวรรษ แล้วทำไมคนไทยถึงมาฮิตเขียนนิยายจีนโบราณเมื่อ 5-6 ปีก่อนละว่ะ

56 Nameless Fanboi Posted ID6:Aa1eRen5kD

ร้อนจริงๆโว้ย ไม่มีแอร์กูอ่านนิยายไม่ได้เลย สัส

57 Nameless Fanboi Posted ID6:0aJRVv0mAG

>>56 ยังไม่เมษาเลยโม่ง ปีนี้เดือดจริง

58 Nameless Fanboi Posted ID6:7+pSP1FV9r

>>54 มึงจะไปเสียเวลาสร้างโลก เวิลเซ็ตติ้งส้นตีนอะไร ในเมื่อโลกที่มึงสร้างก็ไปก็อปจากโลกที่เคยมีในนิยายเรื่องอื่น มันเหมือนกับมึงบรรยายว่า "มังกรคืออะไร" ทั้งๆ ที่คนอ่านมันก็รู้อยู่แล้วอะ

นิยายจีนเดี๋ยวนี้มันไปไหนถึงไหนแล้ว อะไรที่คนอ่านรู้จักอยู่แล้วมันจะข้ามไปเลย รีบเข้าประเด็นสำคัญที่มันเป็นจุดขาย จะมาเสียเวลาปูทำเหี้ยอะไรล่ะ คนอ่านถึงได้ติด ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าไง

คนแบบมึง ถ้าจะเขียนนิยายออกมาแล้วไม่มีคนอ่าน โดนด่าว่าน่าเบื่อสัส ก็สมควรแล้ว มึงไม่ต้องไปโทษคนอ่านหรอก โทษความกากของตัวเองเถอะ

59 Nameless Fanboi Posted ID6:QT1iNh9uz1

เออ สมควรละที่โดนด่าว่าสมองโดนเนิร์ฟ ขนาดยกตัวอย่างมายังมีจุดง่าวๆ ให้แย้งได้เลย

อธิบายว่า 'มังกรคืออะไร' เนี่ย ถ้ามึงไม่อธิบายลักษณะอะไรของแม่งเลยเนี่ยใครมันจะไปรู้วะว่าลักษณะมันเป็นไงในเมื่อมันเป็นสัตว์สมมติ เพราะโลกฟิคชั่นแม่งมีทั้งมังกรสี่ขามีปีกบนหลัง ไวเวิร์นที่โครงสร้างคล้ายนก มังกรจีนตัวยาวเป็นงูไม่มีปีกแต่มีสี่ขา หนักเลยก็ไฮดร้าหลายหัว แล้วมึงไม่บรรยายเนี่ยหมาตัวไหนจะไปรู้กับมึงโดยเฉพาะแนวตะวันตกที่มังกรมันโคตรจะมีหลายสาย (แต่ถ้าแนวจีนแล้วมึงพิมพ์ว่ามังกร อันนี้โอเคยังนึกภาพได้) แถมเผลอๆ ดัดลักษณะให้แตกต่างจากปกติอีก (อย่างมังกรปกติอาจจะเขาตั้ง แต่ของมึงอธิบายว่าเขาโค้งลงเหมือนควายงี้)
ต่อให้เป็นสัตว์ทั่วไปแบบหมาแมวมึงก็ยังต้องอธิบายสายพันธ์ุของมันเลยมั้ยวะ ไม่งั้นเขียนแค่ 'นางเอกเลี้ยงหมา' เนี่ย กูจะไปตรัสรู้กับมึงมั้ยว่าหมามึงตัวสั้นตัวยาว ขนฟูขนอะไรมั้ยถ้ามึงไม่ได้บอกมันว่ามันเป็นพุดเดิ้ล คอร์กี้

แล้วพอไม่เสียเวลาสร้างเซ็ตติ้งโลกมาแม่งก็เลยได้แต่ขยะแนวซ้ำๆ ไม่มีเอกลักษณ์เหี้ยอะไรเลยไง ไอ้นิยายจีนแมสๆ เหี้ยอะไรเนี่ยกูก็เห็นมีแต่สวะประจำตระกูลล้างแค้นคนมาดูถูกตัวเอง สนมไต่เต้าชิงอำนาจ หลอมยาหลอมโอสถ deus ex machina แล้วประเด็นที่จุดขายแม่งจะมีอะไรให่เล่านักเชียวเหอะในเมื่อพล็อตมึงยังซ้ำกันตั้งแต่ต้นเนี่ย ไอ้เขียนคาร์ให้มีเสน่ห์จนคนติดตามนี่ก็ไม่มีทางในเมื่ออย่างอื่นมึงยังเขียนตามๆ เขามาเลย

60 Nameless Fanboi Posted ID6:QT1iNh9uz1

ไอ้เรื่องปูบิลดิ้งปูศัพท์เฉพาะนี่ก็เหมือนกัน เพราะของพวกนี้มันเป็นสิ่งแสดงให้เห็นว่าเรื่องของมึงมันต่างจากเรื่องอื่นยังไงด้วย

ยกตัวอย่างแบบไอ้แฮรี่ที่คนก็รู้ว่ามันเป็นพ่อมด ก็ยังมีอะไรในเรื่องแบบบ้าน 4 บ้านชื่อแฟนตาซีนู่นนี่ที่ก็อธิบายความต่างว่าแต่ละบ้านมีเอกลักษณ์ยังไง (ถึงก็ดูจะไม่ค่อยได้ใช้ก็เหอะ เด่นๆ กันอยู่แค่สองบ้าน) สตาร์วอร์เองก็มีอะไรแบบเจได ซิธ ที่ก็ต้องมานั่งแยกเซ็ตติ้งให้พวกมันอีกว่าวิทยายุทธ์สองกลุ่มนี้ต่างกันยังไง ทั้งที่ถ้าดูเฉยๆ มันก็แค่ไอ้ลิเกควงดาบเลเซอร์กันทั้งคู่แค่อยู่คนละฝ่าย หรือแบบวอร์แฮมเมอร์อะไรงี้ที่มันยกชื่อบางเผ่าเขามาจากแฟนตาซีทั่วๆ ไปแต่ก็บิดลักษณะทางชีววิทยาให้แตกต่าง หรือองค์กรตัวร้ายที่ขายวิญญาณให้ปีศาจเองก็ยังมีอยู่หลายกลุ่มขึ้นกับปีศาจที่ขายวิญญาณให้มัน แล้วลักษณะเด่นก็ต่างกันด้วย
ซึ่งไอ้พวกนี้คนเขาก็จดจำกันได้และเป็นที่นิยมก็เพราะการปูพื้นฐานให้มันแน่นๆ ไม่ใช่แบบไอ้กลวงๆ สวะล้างแค้นที่พอได้พลังแล้วก็กร่างเหยียบตีนกูกูฆ่าล้างบ้านแล้วก็ยืดเป็นพันๆ ตอนไม่จบสักที ขนาดจีนเองมันก็ยังมีอะไรแบบเกมเกนชินที่ดังทั้งบ้านเกิดมันและดังทั้งโลก เพราะมันปูพื้นฐานโลกมาแน่นทั้งการใช้พลังวิเศษและเงื่อนไขการใช้พลังในเรื่อง ลอร์ที่แฝงในไทม์ไลน์จุดต่างๆ จนต่างประเทศโดนวัฒนธรรมบ้านมันที่ยัดเข้ามาในเกมฝังหัวเป็นผลพลอยได้อีก

แต่ก็นะ บางทีก็อาจจะเป็นกูที่ผิดเองก็ได้ ที่ไปคาดหวังอะไรระดับนั้นจากนิยายเว็บสมองไหลที่คนแต่งบางคนอายุมันยังไม่บรรลุนิติภาวะเนี่ย

61 Nameless Fanboi Posted ID6:sJ2EktzHqz

>>59 ขนาดแย้งมึงยังแย้งโง่ ๆ เลย ตอนที่มึงบรรยายเรื่องมังกร 3-4 บรรทัด เด็กยุคนี้มันก็ปิดนิยายของมึงไปอ่านเรื่องอื่นแล้ว มึงคิดว่าคนยุคนี้อยากมาอ่านไอเดียในการสร้างโลกของมึงเหรอ ขนาดงานที่มึงยกมาเป็นตัวอย่างก็เป็นงานยุคโบราณ คนอ่านยุคนั้นจะชอบก็ไม่แปลกเพราะมันใหม่ในตอนนั้น

แต่คนยุคนี้มันเห็นจากนิยาย หนัง เกม เมะ จนเบื่อแล้ว กูไม่เชื่อหรอกว่าคนอย่างมึงจะมีปัญญาสร้างอะไรที่มันแตกต่างจากที่เคยมีอยู่ ได้แต่เอามาปรับเล็ก ๆ น้อย ๆ เปลี่ยนสี เปลี่ยนคาแรกเตอร์ แล้วก็คิดไปเองว่ากำลังสร้างสิ่งใหม่ ไม่งั้นมึงแม่งรวย งายยุ่งสัส ๆ ไม่เสียเวลามาพล่ามเป็นไอ้ขี้แพ้ในโม่งหรอก

62 Nameless Fanboi Posted ID6:QT1iNh9uz1

กูถึงบ่นว่าคนอ่านอะไรแบบนี้ในสมัยนี้สมองมันโดนเนิร์ฟไง ถ้ามึงไม่ใช่คนจำพวกที่กูว่าก็ไม่จำเป็นต้องเดือดร้อนอะไรนิ? (ว่าแต่กูยกเกนชินมาด้วยนี่คือเก่าแล้วเหรอวะ เกมมันเพิ่งจะเปิดมา 3 ปีเองสาด)
เอาเป็นว่าถ้าสนุกกับอะไรกลวงๆ ที่อ่านจบปุ๊บก็ไม่มีค่าอะไรให้จดจำหลงเหลือได้ก็ยินดีกับมึงด้วยแล้วกัน แต่พวกเหี้ยนี่มันคงไม่ใช่ทางของกูจริงนั่นแหละ จะลำบากก็อีตรงมันทำให้กูหาอ่านแฟนตาซีดีๆ ในยุคนี้ลำบากชิบหาย ต้องไปเสพสื่อฝั่งอื่นที่ไม่ใช่นิยายแทน

63 Nameless Fanboi Posted ID6:FOxu2ALnzk

>>62 แฟนตาซีดีๆที่โม่งว่า goblin slayer ฟรีเรน ไรงี้เข้าข่ายไหม

64 Nameless Fanboi Posted ID6:FhQcZelMoR

ขนาดเพชรพระอุมากูขี้เกียจอ่านแล้ว ไม่ต้องพูดถึง worldbuilding ของเรื่องนั้นแล้ว แล้วไอ้นิยายจีนของคนไทยกับ isekai สมัยนี้ก็แค่อยากขายตัวละครต่างหาก เพราะคนเขียนรู้อยู่แก่ใจว่า จะแต่งเรื่องใหม่ๆใช้เวลานานเท่าใด กว่า worldbuilding จะพร้อมใช้งานจริง มึงอยากเขียนนิยายจีน 10 เรื่องมีจุดขายต่างกันสิ้งเชิง มึงจะเสียเวลาหาข้อมูล 10 รอบมาจะสร้าง worldbuilding จีนถึง 10 รอบ เพื่อคนอ่านไม่รู้สึกโดนหลอกอ่านนิยายของมึงซ้ำ 9 ครั้ง (รอบแรกนับเป็นการโดนหลอกครั้งที่ 0) ที่จับได้ว่าแค่เปลี่ยนชื่อตัวละครกับสถานที่

คิดว่า เขียนเนื้อเรื่องกับสร้าง worldbuilding อันไหนเสียดายชีวิตมึงมากกว่ากัน

65 Nameless Fanboi Posted ID6:2wvtcgCNTu

worldbuilding มันทำให้เรื่องสนุกขึ่นยังไง เพราะมันไม่ใช่ส่วนเนื้อเรื่องโดยตรง เหมือนเล่นบอร์ดเกมDnD ที่มีแต่setting มี lore แต่ไม่มีstory

66 Nameless Fanboi Posted ID6:hp5qMWE5v/

ถ้าเรื่องมันเขียนสนุก worldbuild ที่มีเอกลักษณ์จะทำให้คนมันอินได้มากขึ้น แต่ถ้าตายห่าตั้งแต่เขียนเรื่องให้สนุกไม่ได้สร้างโลกดีๆ ไปก็เท่านั้น

67 Nameless Fanboi Posted ID6:aIjDG/lzO0

>>65 งั้นมึงอย่าเป็น GM ดีกว่า (เกม DnD เรียกว่า DM/Dungeon Master) เพราะต้องเล่า story, setting, genre, worldbuilding ให้เพื่อนๆฟังรู้เรื่อง และต้องคุมมอนสเตอร์กับบอสทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว อย่าบอกนะว่า มึงไม่เคยเล่นเป็น Player ว่ะ ดูแค่ชาวบ้านเล่นกัน?

68 Nameless Fanboi Posted ID6:0F2jOEzGKn

เราไม่เคยเห็นแนวเกิดใหม่ ทะลุมิติ คลาส ระบบ ที่ตัวเอกเป็นโจรภูเขาเลยไรงี้ มีแต่โจรสลัด

ถ้าเราเขียนแนวที่ โลลิได้อาชีพเป็นโจรภูเขา แล้วเก็บเวลพัฒนาไปเป็นราชาแห่งโจรภูเขาไรงี้มันจะน่าสนใจไหม เอาอะไรที่ไม่มีคนเขียนมาผสมกับตัวละครอีกขั้ว (loli)

ถ้าโม่งเห็น โม่งว่าอยากจะลองกดเข้าไปอ่านไหม

69 Nameless Fanboi Posted ID:w2CeJuiA6P

>>68 อยากเขียนไรก็เขียนไปเหอะ ถ้ามั่นใจว่าเอาอยู่แล้วเขียนจนจบได้อะ อันที่ประหลาดกว่านี้ในโม่งก็เจอมาแล้ว เสือกมีคนอ่านเยอะด้วยนะ

70 Nameless Fanboi Posted ID:SgrWsOyvjv

>>68 ตั้งคำถามแล้วพยายามตอบมันด้วยสิ มันน่าสนใจเพราะหนึ่งสองสามสี่เมิงก็ลองเขียนออกมาดู กินอยู่อย่างไร? หาวิธีแก้ปัญหาสามสี่วิธี แก้ปัญหาแบบไหนถึงจะออกมาน่าสนใจที่สุด แล้วเอามาผูกเป็นเรื่อง เมิงถามลอย ๆ คนฟังก็ไม่รู้จะตอบยังไงว่ะ

71 Nameless Fanboi Posted ID6:uhkrKTDe.T

>>70 ปัญหานักเขียนส่วนใหญ่ คิดพล็อตดีๆ ได้ แต่ไม่มีปัญญาเอามาโยงให้สมบูรณ์ ถ้ามันง่ายขนาดนั้น วงการหนังสือบ้านเราไม่ง่อยแบบนี้แน่ๆ

72 Nameless Fanboi Posted ID6:s4GF5IqUAf

>>71 มันไม่มีบก. หรือคนให้คำปรึกษา แบบบ.ใหญ่ตปท เช่น คาโด ไรงี้ พอเขียนพล็อตขยายนานๆมันก็จะคิดไม่ออก

73 Nameless Fanboi Posted ID6:mPOX2QTUMb

>>68 กุก็ไม่เคยที่เป็นนักบินอวกาศ ช่างแอร์ คนเย็บผ้า พระ แฮกเกอร์ นักฟิสิกส์ เหมือนกัน

ถ้ามีเวลาตั้งคำถามโง่ๆ เอาเวลาไปคิดดีกว่าว่ามึงจะให้โลลิมึงมีอะไรในเนื้อเรื่องบ้าง โจรภูเขาแล้วมีคู่แข่งไหม? จะให้มีเจ้าชายมาหลงป่าว หรือจะเบี่ยงไปเป็นเบี้ยนเจ้าหญิงแทน ถ้าเป็นโจรมีชื่อแล้วมันจะโดนทหารมาไล่ปิดเขาฆ่าทิ้งป่าว ถ้าเสือกรอดจากกองทหารคราวนี้จะโดนอะไรต่อ มีไอ้ที่มึงควรจะถามอีกเยอะแยะ ที่กุเขียนลอยๆ นี่ยังสนุกและน่าคิดกว่าคำถามและนิยายที่มึงมโนจะเขียนอีก

74 Nameless Fanboi Posted ID:ckNGsQP6EC

>>73 เปิดหัวย่อหน้า 2 มาซะแรงจนกูสงสารคนถามเลย ดับฝันเด็กมันขนาดนี้เดี๋ยวแม่งเสียใจเลิกเป็นนักเขียนกันพอดี

75 Nameless Fanboi Posted ID6:bYb2g9Zm6u

>>72 เห็นด้วยกับมึง การันตาความสำเร็จแง่คุณภาพและการตลาดมักจะเกิดจาก บก. ท้้งสิ้น จะได้ บก. ดีๆหรือ บก. กากๆก็ว่าไปอย่าง แต่ว่าเว็บเขียนนิยายทั่วโลกไม่เคยมี บก. คอยดูแลใกล้ชิด มักจะไปอยู่กับสำนักพิมพ์ต่างหาก

หมายความว่า นักเขียนนิยายเด็กหรือเว็บไหนก็ตามต้องรับผิดชอบต่อการตรวจสอบและคุมคุณภาพทั้งหมด ถ้าได้สำนักพิมพ์ติดต่อมาก็จะได้ บก. แลกกับแยกเวอร์ชั่นตีพิมพ์ (แบบเล่มหรืออีบุ๊ค) ออกจากเวอร์ชั่นนิยายเว็บ มันเลยกลายเป็นว่า นิยายเว็บคือเวอร์ชั่นปราศจาก บก. ส่วนเวอร์ชั่นขัดเกลาเจียระไนดีขึ้นล้วนเกิดจากให้การช่วยเหลือของ บก. ตัวแทนจากสำนักพิมพ์

76 Nameless Fanboi Posted ID6:mVYXkuc8om

ปิดเทอมแล้ว มู้เด็กดียังไม่มีอะไรให้เล่าเลยเหรอ หมายถึงบอรืดนู้น ไม่ใช่บอร์ด fanboi

77 Nameless Fanboi Posted ID6:C.t4Eh4uck

สาเหตุที่แนวย้อนเวลามายุค 80 90 กำลังบูมตอนนี้ เพราะเริ่มรู้แล้วว่ายุคปีจจุบันมันห่วยแตก อยู่ลำบาก เลยโหยหาอยากกลับไปยุคสมัยก่อนหน้า ใช่มะ

78 Nameless Fanboi Posted ID:hG3EeauG6W

>>77 ส่วนหนึ่งก็ใช่ แต่ที่เหลือคือมีคนทำมาก่อนแล้วมันเวิร์ค ขายดี มีตัวอย่างให้ลอก เอ๊ย ให้ยืมแรงบันดาลใจเยอะ

คนเรามันเป็นแบบนี้แหล่ะ พอเห็นอะไรที่กำลังเป็นที่นิยมก็แห่กันไปทำตามบ้าง ซึ่งก็ไม่ผิดอะไรนะ น้ำขึ้นให้รีบตักก็ถูกแล้ว (ในมุมมองคนส่วนใหญ่)

79 Nameless Fanboi Posted ID6:8IJWJ5c8w2

>>77 เพราะการอยู่กับยุคปัจจุบันมันเจอง่ายจนเบื่อ เลยอยากจะเสพเรื่องไกลตัวบ้าง ยิ่งไม่รู้จักมัน ยิ่งน่าสนใจ

80 Nameless Fanboi Posted ID6:QXPK838Sch

ไอ้ที่ตลกคือพอตามๆ กันมาแล้วเริ่มอยากข่มว่ากูเหนือกว่า นานเข้าก็เลยเริ่มย้อนไปไกลกว่าเดิมเป็น 70 60 50 เนี่ยแหละ
พวกแปะเรทอายุนี่ก็ใช่ เรท 18+ 20+ มันเยอะแล้วใครๆ ก็ทำ กูจัดแม่งเลยเรท 30+ 50+ ดีพดาร์คกว่าพวกมึงเยอะ

81 Nameless Fanboi Posted ID6:SjtrtjFVB8

ทำไมแนวแฟนตาซีกลับมสมีคนอ่าน มากกว่าแนวจีนโบ ขยับขึ้นเป็นอันดับ3 ในเว็บ

82 Nameless Fanboi Posted ID6:MqnS61o+Wd

>>81 อะไรล้นตลาดมากไปคนมันก็เบื่อนั่นแหละมั้ง
แถมที่นั่นเดิมทีมันก็เป็นแหล่งขายแฟนตาซีมาแต่ไหนแต่ไรแล้วด้วย

83 Nameless Fanboi Posted ID6:x19TEIliZA

สรุปง่ายๆ พวกกูอ่านนิยายเยอะเกินไปไง ยิ่งอ่านมาก ยิ่งเห็นปัญหา ยิ่งเบื่อง่ายขึ้น
รู้สึกว่าพวกที่บอกอ่านแล้วสนุกกับความซ้ำซาก มักจะเป็นมือใหม่หัดอ่านนิยายว่ะ

84 Nameless Fanboi Posted ID:.V+GuR52v.

>>83 อยากเถียงแต่ก็เถียงไม่ออกเพราะแม่งเรื่องจริง งั้นกู +1 ให้แทนละกัน (เพราะในนี้มันไม่มีกดไลค์)

85 Nameless Fanboi Posted ID6:.PcdbYumC+

แนวไลฟ์สด ถ่ายทอดสด ระบบถ่ายทอดสด แล้วมีreaction นี่กำลังเป็นแนวฮิตแบบใหม่มาแรงในนิยายเน็ตหรอ
เห็นห้องเมะบอกที่ยุ่นแนวนี้กำลังมา

ส่วนที่ไทย เห็น แท็คกับคำค้น ถ่ายทอดสด reaction ก็ติดอันดับยอดนิยมเช่นกัน แต่ไปดูแล้วยังมีแนวนี้ไม่เยอะเลยแหะ มีไม่ถึงร้อยในเว็บ

มันจะมาฮิตแทน ทะลุมิติ ย้อนเวลายุค80 90 ไรพวกนี้ไหมในอนาคต

86 Nameless Fanboi Posted ID:oru7eQ+pKA

>>85 อาจจะใช่หรือไม่ก็ได้ แต่ถ้าดูจากความนิยมของการชอบดูไลฟ์สตรีมเล่นเกมช่วงนี้นี่ อาจพอเป็นไปได้ เพราะมันเห็นภาพง่าย (เคยดูสตรีมเกมกันอยู่แล้ว) ต่างกันแค่จะเล่าเรื่องแบบไหน

เป็นธรรมดาหรืออีสปอร์ต

เป็นโลกเราแบบ SAO : gun gale หรือโลกแฟนตาซีแบบเรื่อง Live dungeon

เป็นเรื่องเน้นเล่าระบบเกมหรือเล่าเกี่ยวกับตัวละครที่เล่น

ฯลฯ

87 Nameless Fanboi Posted ID6:8VwVYF31Lo

>>85 ขอตัวอย่างได้มั้ย กูเจอแต่ไลฟ์สด youtube ไม่รู้ว่านิยายแนวไลฟ์สดถ่ายทอดสดหน้าตาเป็นไง

88 Nameless Fanboi Posted ID6:Bt0lrEsikn

>>87 หาจากแท็คในเว็บเลย ถ่ายทอดสด

89 Nameless Fanboi Posted ID6:90nkoSy23R

ไม่รู้มาถูกห้องมั๊ย ไปเจอดราม่า นข.เขียนฟิคไม่จบ แล้วเอามาทำเล่มขายแบบไม่บอกคนซื้อก่อนว่ามันยังไม่จบ คนเขียนน่าเกลียดมาก เขียนกั๊กว่าถ้ากระแสดีก็จะเขียนเล่มต่อแต่ตอนขายไม่บอกรายละเอียดอะไรเลย แต่คนซื้อก็วีนฉ่ำเกิน ด่าเขานิยายกาก จองเวรเขาไม่เลิก
คหสต. งานนี้สมน้ำหน้าคนเขียนมากว่าเพราะชีชอบก่อดราม่า เที่ยว ป.ส.ด.ใส่คนอื่นไปทั่ว เจอคน ป.ส.ด.เองซะบ้าง สมควร

90 Nameless Fanboi Posted ID:svnu9ZL/N5

>>89 ดราม่าที่นี่อะได้ (เพราะห้องดราม่าโดนปิดไปแล้วเลยต้องใช้ผสมกันที่นี่) ถ้าเกี่ยวข้องกับเว็บเด็กดอกอะนะ แต่ถ้าไม่ใช่ อาจต้องหากระทู้ที่เป็นของเว็บนั้นๆ

91 Nameless Fanboi Posted ID6:VA6rS5c87z

แนวตะลุยดันที่เกิดบนโลกจริง มีระบบ โชว์เทพ มีระดับเวล แบบsolo นี่ มันยังฮิตหรือเปล่า

92 Nameless Fanboi Posted ID:BcXr58fBPM

>>91 มังฮวาก็ยังมีโผล่มาเรื่อยๆ นะ ฝั่งญี่ปุ่นตอนนี้มีมังงะเรื่องเลเวล 10000 แนวนี้อยู่เหมือนกัน

93 Nameless Fanboi Posted ID6:VA6rS5c87z

>>92 ถ้าในเด็กดีละ เหมือนแนวๆนี้มันปนๆไปกับไอ้พวกแนวเกมออนไลน์กับกำลังภายในจีน ยังไงก็ไม่รู้เลาเจอในเว็บ

94 Nameless Fanboi Posted ID:DKsLMfEnTN

>>93 ก็มีเจอเรื่อยๆ นะ เด็กโปกมันแต่งตาม Solo leveling กันเยอะ

95 Nameless Fanboi Posted ID6:fFPwLxjTc7

เค้ากลับมาแว้ววว

96 Nameless Fanboi Posted ID:kp39J1AGy0

>>95 ปิดเทอมแล้วอ่อ

97 Nameless Fanboi Posted ID6:fFPwLxjTc7

>>96 เค้าจะสามสิบแย้ว

98 Nameless Fanboi Posted ID6:Ioo8tmg+dt

เงียบโคตรเลย ไม่มีอะไรจะเล่าเหรอ

99 Nameless Fanboi Posted ID:Q8G5TbDvXg

>>98 อยากสับนิยายแต่ยังไม่ว่าง

100 Nameless Fanboi Posted ID6:3RlgZQ/1AN

>>99 เราจะรอ

101 Nameless Fanboi Posted ID6:keXf99kBuu

มีอะไรจะเล่า ปลุกพวกกูด้วย

102 Nameless Fanboi Posted ID6:mcanIekcdb

ถามโม่งที่เคยเขียนเรื่องไล่ออกจากตี้ กับพวกระบบกิล ยาวๆ ไรงี้หน่อย

ตรรกะและระบบกิล ใสแนวแฟนตาซียุคกลางนี่ มันใช้ได้กับแนว กิลลงดัน ยุคปัจจุบัน แบบไอ้solo leveling ไรงี้ได้ด้วยไหม

103 Nameless Fanboi Posted ID:6P6mH8xr0X

>>102 มันค่อนข้างต่างกันอยู่แฮะ

ถ้าพูดถึงสมาคมใน solo leveling ตัวเซตติ้งของเรื่องมันกำหนดให้แต่ละคนถูกจัด Rank ตามความสามารถ ถ้ากูจำไม่ผิดคือมันไม่มีการสอบ พวกที่เก่งก็เป็น Rank S ไปเลย พวกอื่นๆ ก็ลดลงมาตามระดับความสามารถ แต่ด้วยความที่เป็นพระเอก พี่จินอูคนเคยกากของเราเลยเลเวลอัพได้หลังรอดจากดับเบิ้ลดันเจี้ยน (ตามชื่อเรื่องเดิมที่ชื่อว่า Only I, level up)

ทำให้ระบบการสอบหรือทำคะแนนเพื่อเลื่อน Rank โดนตัดออก เหลือแค่ระบบชื่อเสียง การได้รับสปอนเซอร์จากผู้สนับสนุน กับค่าตัวที่ถูก-แพงเวลามีคนมาจ้างให้ไปเคลียร์ดันเจี้ยน

ทีนี้ส่วนที่คล้ายกันกับแนวดันเจี้ยนโผล่ยุคปัจจุบันมันก็มีแหล่ะ แต่มีในเรื่องอื่นที่ไม่ใช่ Solo leveling เฉยๆ โดยเฉพาะแนวที่คนซึ่งได้รับการปลุกพลังกลายเป็นฮันเตอร์จะได้รับสกิลมาด้วยแบบสุ่ม สกิลก็กลายเป็นตัวตัดสินชะตาหรรมแบบเดียวกับแนวสมาคมนักผจญภัยแฟนตาซีอะ

มันเป็นการแลกเปลี่ยนและหยิบยืมไอเดียกันไปมา แต่ว่ามีความโดดเด่นเฉพาะตัวต่างกัน อย่างแบบ

ญี่ปุ่น - เกิดใหม่ต่างโลก - พระเอกไม่เอาไหน
จีน - เทพเซียน/บ่มเพาะพลัง - พระเอกเหี้ย
เกาหลี - ระบบ/ย้อนเวลา - พระเอกหงอแล้วค่อยเอจจี้

ถ้าให้พูดจริงจัง เรื่องนี้แม่งยาว แล้วกูก็ไม่ว่างด้วยต้องแต่งนิยายตัวเอง ขนาดจะต่อแนวออกจากตี้เรื่องสุดท้ายตอนสงกรานต์ยังแวะมาไม่ได้เลย เอาไปแค่นี้ก่อน

ถ้ามึงจะแต่งด้วยระบบกิลด์นักผจญภัยในเซตติ้งดันเจี้ยนผุดในโลกปัจจุบัน มันก็ทำได้แหล่ะ เหมือนเรื่อง

Kyuuseishu ≪MESHIA≫~Isekai wo sukutta moto yuusha ga mamono no afureru genjitsu sekai wo musou suru~

กับเรื่อง

The Strongest and Fastest Unlimited Level Up - With the Skills [1000x Experience] and [Level Free], I Broke the Upper Level Limit and Rose to the Top!

ซึ่งถ้าแต่งได้แบบเรื่องแรกก็โอเค แต่ถ้าแต่งแบบไอ้เรื่องที่ 2 ก็จะโดนหาว่าเป็นแนวลอกโซโล่มาใช้แบบกากๆ

104 Nameless Fanboi Posted ID:6P6mH8xr0X

>>103 เขียนชะตากรรมเป็นชะตาหรรมเฉยเลยกู ซอรี่

105 Nameless Fanboi Posted ID6:2CaioowY7g

>>103 ขอบใจที่เสียสละเวลามาตอบดีๆ ขอให้นิยายโม่งคนอ่านเยอะๆ

106 Nameless Fanboi Posted ID6:61EtwGVaV6

>>103
ญี่ปุ่น - เกิดใหม่ต่างโลก - พระเอกไม่เอาไหน
จีน - เทพเซียน/บ่มเพาะพลัง - พระเอกเหี้ย
เกาหลี - ระบบ/ย้อนเวลา - พระเอกหงอแล้วค่อยเอจจี้

แล้วไทยล่ะ

107 Nameless Fanboi Posted ID:Hv4FEWQzY9

>>106

ไทย - อะไรดังช่วงนั้นก็เขียนตาม - พระเอกไบโพล่าร์

108 Nameless Fanboi Posted ID6:5lnkQivm.E

>>106 เกมส์ออนไลฟ์ ถึงเดียวนี่ไม่ค่อยจะมีแล้วก็เถอะ

109 Nameless Fanboi Posted ID:uUyfT2LkMT

>>107 หมอนี่มัน...เลาชัดๆ ยูริพลิบานจงเจริญ~

110 Nameless Fanboi Posted ID6:5cX+Bl1LKy

ทำไมแนวแฟนตาซี rpg สู้มอน ลงดัน ยุคนี้มันต้องมีระบบสเตตัส ค่าสเตตัส มันสะทุกเรื่อง จะมายุคกลาง ยุคปัจจุบันก็เถอะ หน้าต่างสเตตัสกับเลเวล และการอัพสกิลแบบเกม แถมด้วยช่องเก็บของต่างมิติ คือสิ่งที่ไม่อาจเลี่ยงได้ อ้อแถมด้วยนะว่าถ้าเวลอัพแล้วระบบมันต้องเตือนด้วย 555

111 Nameless Fanboi Posted ID6:bikbrpHS2I

ใส่มาแล้วคนอ่านที่เด็กโปกมันเข้าใจง่ายไง เพราะพวกนี้มันก็เล่นเกมกันทั้งนั้น
แถมสะดวกคนแต่งด้วย ไม่ต้องมานั่งคิดว่าจะทำยังไงให้แม่งเก่ง เวลอัพปุ๊บก็ยัดสกิลสุดเทพเข้ามือมันได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาเขียนฉากฝึก

112 Nameless Fanboi Posted ID6:SRKyF2iqLx

ทีนี้เราสงสัยมานานแล้วว่าไอ้ค่าสเตตัส ที่มีเลขยั้วเยี้ยไปหมดเนี่ย พวกนักแต่งแนวนี้มันใช้สูตรอะไรมาคำนวณ หรือเอาอะไรมาเป็นฐาน หรือใช้โปรแกรมอะไรเหรอ

อย่าบอกนะว่ามันใส่เองหมดเลย

113 Nameless Fanboi Posted ID:3fkB+mHNw6

>>112 ถ้าเป็นคนเคยเล่นเกมก็จะอิงจากเกมที่ตัวเองเคยเล่นมา แต่ถ้าไม่ใช่เกมเมอร์ก็คือมั่วเอาจนสเกลพลังในเรื่องเพี้ยนหมด

114 Nameless Fanboi Posted ID6:L1fj.SDB4I

ถ้าเลขน้อยๆ แล้วเดินเรื่องไปนานๆ ก็ยังไม่เฟ้อแสดงว่าอาจจะพอดูมีหลักการอยู่บ้าง
ก็ให้นึกถึงไอ้พวกนิยายที่มาถึงแม่งต้องอธิบายระดับพลัง 7-10 ขั้นโน่นอ่ะ 99% คือมั่วไปงั้นๆ ไม่ได้ใช้จริงหรอก เพราะตัวเอกเริ่มต้นด้วยขั้นที่ 11 หรือ 99 แทน

115 Nameless Fanboi Posted ID6:qUfqkEsz6B

>>112 ซุยเอาล้วนๆ ไม่รู้ว่ามึงเป็นนักแต่งประเภทไหน แต่นักเขียนนิยายประเภทนี้มันไม่ได้สนใจค่าสเตตัสหรือความสมดุลหรอก และกุคิดว่าสิ่งที่นักเขียนนิยายต้องทำคือการเขียนนิยายให้ออกมาสนุก คือสมจริงได้ก็ดีแต่นั่นมันเรื่องรอง นิยายวิทย์หลายเรื่องก็โม้ทั้งนั้น หยิบทฤษฎีโน่นมาโยงเข้ากับนี่ทำให้คนอ่านมันคล้อยตามได้ก็พอละ ไม่ต้องพูดถึงนิยายยุคกลางหรือนิยายตัวเอกเป็นคนต่างประเทศ 8 ใน 10 ซุยเอาเองทั้งนั้น นิยายเว็บอ่านเน้นอารมณ์ก็พอ อย่าไปคิดเยอะ

116 Nameless Fanboi Posted ID6:IEEjs/34SR

ลงนิยายใหม่ในเด็กดวกตอนนี้ แม่งต้องบังคับลงทะเบียนนักเขียนด้วยบัตรกับบัญชีธนาคารด้วยเหรอวะ
คือบางคนแม่งก็ยังไม่ทันคิดถึงเรื่องรายได้เรื่องไรงี้เลยป่ะมึงจะทำให้ยุ่งยากเพื่อ เว็บอื่นแบบรี้ดแม่งก็ลงเฉยๆ ได้ จะติดเหรียญจะขายค่อยใส่

117 Nameless Fanboi Posted ID:IBSNo+Nd5/

>>116 ชักจะยัดเยียดเกินไปหน่อยละ สงสารเด็กใหม่ที่ยังโก๊ะๆ มึนๆ แต่ก็ดีเหมือนกัน จะได้ช่วยกรองคนด้วย

118 Nameless Fanboi Posted ID6:HWGJyDaQEF

>>116 เพราะมันมีระบบบริจาคเงินให้ปะ เลยต้องมีบัญชีละทุกคน

119 Nameless Fanboi Posted ID:kGBA8Yv+9Z

เคยเจอแบบยัยผมทองเหมือนกัน แต่เสริมหน่อยว่าดีกว่า(แบบแปลกๆแตกต่าง)ตรง..ผมมีเอกลักษณ์กว่าที่ค่อนข้างมืดมน

.

ผมสมัยเรียนปีแรกๆมองโลกแง่ร้าย ยิ้มบ่อยแต่เหมือนเสเเสร้งปนเหยียดและประชดเรียกว่าวอนตีนล้วนๆ แต่แปลกดีที่ไม่มีคนเกลียด การใช้บวกปรับสายตา(การขยัยกล้ามเนื้อรูปหนังตากับคิ้ว)เพื่อแสดงออกนี่ถ้าดูจากกระจกยังอึกเองเลยว่าตัวเองกำลังคิดไรอยู่ก็ไม่รู้ แถมทั้งหมดถูกจดจำมีแต่คนเป็นมิตรมาอยู่รอบตัวซึ่งทำสงสัยตัวเองมีดีอะไรนะถึงมีแต่คนคอยพยุงตลอดเวลา ตัวผมจะต่าง(กับตัวละครข้างบน)ที่ตรงไม่ค่อยเจอสายตื้อที่อยากเป็นเพื่อนแบบยันทอมในเรื่องแหะ ...

.
อ๊ะ!ใช่ว่าจะไม่เคยเจอนะ ผมเจอแค่ครั้งเดียวตอนปีหนึ่งเป็นหนุ่มหล่อขี้สงสัยจากคณะครุศาสตร์(ที่จ้วงหัวว่าแม่งตื้นเขินน่ารำคาญชะมัดแต่ก็ไม่เกลียด) และดูเหมือนผมจะถูกตีตัวออกห่างเองในหนึ่งวันแห่งความพยายามของเจ้าหมอนั่นซึ่งวันนั้นฝนตกซะด้วย ผมก็ไม่เห็นเจ้านั้นอยู่หลายปี.... ตื้นชะมัดเลยนะ ทั้งที่ทางนี้อุตสาห์เปิดหัวข้ออภิปรัชญา เช่น ความหมดศรัทธาว่ามนุษย์เป็นสัตว์ผู้มีเหตุผลหลังผ่านยุคโพสโมเดิร์น กับแนะนำหนังสือโลกของโซฟี่และนักปรัชญารุ่นเดอะ ต่างๆแท้ๆ การเมืองนู่นนี่ ความเป็นจริงและสิ่งที่ต้องจ่ายแม้จะทำตัวเมินเฉยในนาม "เป็นกลาง" ที่อ้างๆ กันของคนกลุ่มหนึ่งว่าตามจริงการอยู่เฉยก็มีราคาที่ต้องจ่ายเช่นเดียวกัน ....... ผมพูดแต่เรื่องเครียดรึไงไอ้บ้านั้นเลยหนี เฮ้อ น่าขยะแขยงชะมัด

120 Nameless Fanboi Posted ID6:qoz1R1RB1U

>>119 มึงเขียนพล๊อตเองเหรอ แอบงงงวย

121 Nameless Fanboi Posted ID6:K0B1Q3.jaZ

วงการนิยายสมัยนี้หมกมุ่นกับยอยวิวกับเสียงตอบรับมากเกินไปรึเปล่า https://www.dek-d.com/board/writer/4110183/

122 Nameless Fanboi Posted ID:bXTo0d5YUN

>>121 ไม่ใช่แค่สมัยนี้ มันก็เป็นมาตลอดแหล่ะ ทำยังไงได้ ก็มันเป็นการวัดผลพื้นฐานที่ชัดเจนและเข้าใจง่ายดีนี่หว่า

123 Nameless Fanboi Posted ID6:BrgZm1+ZTw

เด็กดวกตอนนี้แม่งตายแล้วจริงๆ อะ โดยเฉพาะหมวดแฟนตาซี
ขนาดกูลงเรื่องใหม่ไปปัจจุบันคนอ่านยังตอนละหลักหน่วย ปัญหาไม่น่าใช่แค่เนื้อหาดีไม่ดีละ แต่น่าเป็นที่ยอดคนใช้งานเลย

124 Nameless Fanboi Posted ID6:4Fb1MozGdO

>>123 ลงเรื่องอะไรไปเดี๋ยวจะไปช่วยดูว่ามันมีปัญหาอะไร

125 Nameless Fanboi Posted ID6:rdkW4gusGe

>>123 ระบบหมวดหมู่ของเด็กดีมันล้าหลังเป็นชาติล่ะ อย่าว่าแต่หมวดที่ไม่เป็นแมส นิยายจีนโบราณกับนิยายแฟนตาซีดันแยกคนละหมวดกัน ใส่ tag ตามใจนักเขียนไม่ได้ช่วยส่งเสริมให้ระบบหมวดหมู่มีประสิทธิภาพพอ คนต้องการความเป็นจีนโบราณผสมแฟนตาซี คนไม่ไปหมวดแฟนตาซีกัน แต่จะเข้าหมวดจีนโบราณแทน เพราะมีหมวดจีนโบราณแยกไว้อยู่ "จีนโบราณไม่ควรอยู่ในหมวดแฟนตาซี" จึงกลายเป็นภาพจำของคนไทยส่วนใหญ่ ทั้งที่อยู่แก่ใจว่านิยายแฟนตาซีจีนโบราณน่าจะลงทั้งคู่ แต่เด็กดีทำระบบแบ่งแยกไม่ต่างจากจีน-ใต้หวัน

ถามว่าทำไมระบบหมวดหมู่ของเด็กดีล้าหลัง คือเว็บนอกไม่แบ่งแยกโหดๆหรอก นิยายสมัยใหม่เค้าชอบใส่ genre ผสมกัน จึงจัดหมวดกับ tag เป็นเรื่องเดียวกันไปเลย และอีกปัญหานำมาซึ่งซ้ำเติมระบบล้าหลังเข้าไปอีกคือ การจัดอันดับประจำหมวดนิยาย คนเขียนอยากดังอยากได้ชื่อเสียงมาก เชื่อว่าผลงานตัวเองได้ติดอันดับสูงๆแล้ว คนจะแห่เข้ามาอ่านเยอะกว่าพวกอันดับปลายแถว ช่วงนี้คือนิยายจีนโบราณเป็นใหญ่ แฟนตาซีเป็นเรื่องรอง หมวดนิยายจีนคือยังไงก็ได้ ขอแค่ setting เป็นจีนโบราณ แต่แฟนตาซีนอกจีนกลับนิยมน้อยลง ส่วนหนึ่งก็มาจาก isekai มุกแป๊กบ่อยจนผู้คนเอื้อมระอาแล้ว

126 Nameless Fanboi Posted ID6:lX9gEyfGFV

ช่วงเฟลๆ นี่แอบไปศึกษาตลาดมาอีกรอบพบว่าแนวแฟนตาซีมันก็ยังอยู่นั่นล่ะ แต่คือมันไม่ได้อัพลงกันอยู่ในหมวดแฟนตาซีกันแล้ว ส่วนใหญ่คือเลี่ยงไปอยู่หมวดอื่นหมดเลย
อย่างหมวดจีนโบราณงี้ มีส่วนหนึ่งที่เป็นแนวแฟนตาซีปลูกผัก ไม่ก็ทะลุมิติ/สิงร่างไปพร้อมกับพลังโกงๆ หรือระบบ ย้ายไปอยู่กัน
หมวด Boy love เองก็เช่นกัน พวกแนวระบุ แนวจุติ แนวเทพเซียน ปรุงยา แม่งย้ายไปหมวดนี้กันหมด เขียน Y Bait เอาไว้นิดหน่อย น่าขำสุดคือลองกด Tag แฟนตาซี พบว่าแม่งมาอยู่หมวดนี้กันเกือบหมดเลย

นี่กูนั่งคิดละเนี่ยว่าจะดรอปเรื่องที่เขียนทิ้ง แล้วหันมาเอาดีด้านนี้บ้างดีมั้ย ถถถถถ

127 Nameless Fanboi Posted ID6:xlyJrTvkXb

>>126 ด้านรีวิวนิยายเหรอ

128 Nameless Fanboi Posted ID6:f0PEE+IaoI

ทำไมคนถึงชอบแนวพระเอกเก็บงำพลัง ทำตัวอ่อนแอๆให้คนอื่นดูถูก แล้วค่อยโชว์พลัง

129 Nameless Fanboi Posted ID6:RTw7QrGS/T

>>128 พล็อตละครคุณธรรมไง พวกเก่งๆ ต้องเงียบๆ ไว้รอตอกหน้าพวกอธรรมที่อวดเก่ง สะใจดี

130 Nameless Fanboi Posted ID6:IOyecCk1Ws

มีหมดตั้งแต่พวกแอ๊บกากยันโชว์หราว่ากูเทพเชือดแม่งไม่เลี้ยงอะนะ หลักๆ เลยคือเอาสะใจอย่างข้างบนว่า
ไอ้ประเภทค่อยๆ เก่งแบบการ์ตูนโชเน็นหรือเน้นความร่วมมือของตี้คือแม่งยี้เลย ถ้าเปิดมากากตอนแรกก็ต้องรีบหาวิธียัดพลังใส่มือมันในตอนสองตอนแบบพวกเกิดใหม่หรือไล่ออกตี้

131 Nameless Fanboi Posted ID6:D24Ma59PWo

>>130 กูสงสัยตั้งนานว่ะ ถ้าไม่ออกจากปาร์ตี้หรือกิลด์ พวกตัวเอกจะไม่มีวันเทพเลยเหรอ

132 Nameless Fanboi Posted ID:xkBvgG6kGW

>>131 ตอนอยู่ในตี้เก่าตัวเอกมันมักถูกภาวะบางอย่างจำกัดความสามารถไว้ เป็นความคลิเช่อย่างหนึ่งของเรื่องแนวนี้อะ มันมีหลากหลายแบบ บางเรื่องก็อธิบายไว้ดีอ่านแล้วคล้อยตามจนพอเข้าใจได้ บางเรื่องก็อ้างแบบส่งๆ ไปเหมือนดูถูกคนอ่าน

เป้าหมายหลักๆ ก็คืออย่างที่ >>129 บอก คืออยากขายความสะใจ ขายความเทพที่ตัวเอกได้มาหลังปลดแอกตัวเองจากการถูก abuse จากคนอื่น

ไอ้แนว exiled มันเน้นอะไรแบบนี้เป็นแกนเรื่องหลักอยู่แล้วด้วย ก็เลยชอบปูเรื่องแบบที่ตัวเอกโดนกดมาก่อนแล้วค่อยเทพซ่าทีหลัง บางเรื่องโดนกดทางจิตใจ ถูกทำให้เชื่อว่าความสามารถที่มีเหมาะสมกับการเป็นแนวหลัง เป็นได้แค่คนรับใช้ทำงานจิปาถะให้คนในตี้ บางเรื่องโดนแบล็คเมลล์ไม่ให้ใช้ความสามารถเพื่อตัวเอง เช่น โดนจับแม่เป็นตัวประกันเลยต้องใช้สกิลเสริมความสามารถทำให้หัวตี้เทพอยู่คนเดียว วันดีคืนดีญาติไอ้หัวตี้ดันพลั้งมือฆ่าแม่ตัวเอกตาย ตัวเอกเราที่อดทนมานานไม่มีเหตุผลให้ต้องทนต่อ ทีนี้ก็ว้าวุ่นเลย

ส่วนอันที่กูเคยอ่านเจอข้ออ้างโง่ๆ นะ ตัวเอกมีพรสวรรค์เสกของจำพวก "เครื่องกระสุน" แบบต่างๆ ได้ไม่จำกัด (ลูกธนู, หินกลม, เหล็กแหลม) แต่หัวตี้เป็นเอลฟ์นักธนู เลยบังคับให้ตัวเอกฝึกใช้แค่อาวุธประชิดกับทำหน้าที่เสกลูกธนูให้ คือถ้าตัวเอกมันฉลาดหรือมีสามัญสำนึกขั้นฐานก็คงหาทางฝึกใช้อาวุธยิงบ้าง เพราะมันเข้ากันได้กับความสามารถที่ตัวเองมี เรื่องนี้นะพอถึงตอนออกจากตี้ไปแล้ว ตัวเอกก็ยังไม่ยอมฝึกใช้อาวุธที่ใช้คู่กับกระสุนสักที จนกูหมดความอดทนเลิกอ่านเสียเองหลังจากลองข้ามไปอ่านตอนท้ายๆ แล้วเจอว่า ตัวเอกเสกกระสุนต่างๆ มาขายแทนที่จะเอาไปเก็บเลเวล แล้วเฉลยว่าอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ไม่ยอมใช้ธนูเป็นเพราะสาวที่ตัวเองแอบชอบบอกว่าคนที่ใช้อาวุธระยะไกลมันไม่เท่(ห๊ะ!) ใช้ชีวิตแบบเก็บเลเวลลำบากเพราะไม่ยอมใช้ประโยชน์จากสกิลตัวเอง พอเลเวลน้อยก็เลยผลิตกระสุนเทพๆ ขั้นที่ดีกว่าไม่ได้ กูเองก็รอไม่ไหวเพราะตรงนี้มันตอนที่ 144 แล้วเลยว่าแม่งเลิกอ่านเลยละกัน

133 Nameless Fanboi Posted ID6:zl5TYVUq0S

>>132 เรื่องโง่ๆแบบนี้มันเขียนมาถึง144ตอนได้ไงก่อน ตรรกะบ้งมาก

134 Nameless Fanboi Posted ID:58hkU0.aT0

>>133 ก่อนปิดกูเลื่อนดูมันเขียนไปถึงตอน 200 กว่าๆ แล้วนะ นักเขียนก็คงจะเริ่มให้ตัวเอกคิดได้ทีหลังมั้งว่ายังมีอะไรอีกหลายอย่างที่สำคัญกว่าหี แล้วก็น่าจะเข้าสู่ช่วงทั้งรวยทั้งเทพ บังเอิญว่ากูทนอ่านไปถึงตอนนั้นไม่ไหวเฉยๆ เพราะมันเดินเรื่องช้าไม่กระชับอย่างที่แนวออกตี้ส่วนใหญ่ทำกัน เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ไม่ดีสำหรับการลากช่วงปูทางยาวเกินไปจนคนอ่านหนีหมด

135 Nameless Fanboi Posted ID:ikVC802Scu

Natthawat Chalingsu คงต้องรอนิยายหรือไม่เดอะมูฟวี่หรือไม่ก็ภาคเสริมแหละ เพราะสำหรับเราที่เป็นชาวยูริแล้วค่อนข้างไม่สิต้องบอกเลยว่า แม่ง ไม่อร่อยเลย ปมต่างๆ มันรู้สึกไม่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่งเลย และตอนเหมือนจำนวนน้อยมากๆ แล้วรู้สึกมันไม่ได้อ่ะ

136 Nameless Fanboi Posted ID6:2541C.rA4O

เมื่อไหร่จะมีแนวตัวเอกที่เป็นหัวตี้ โดนลูกตี้รุมยึดอำนาจแล้ว โดนไล่ออกจากตี้สะเอง

หลังจากนั้นก็เดี่ยวเองก็พบว่าเทพเร็วกว่าเพราะไม่มีตัวถ่วง

137 Nameless Fanboi Posted ID6:hVcB.kz+V.

>>136 นิยายจีนไง เคยเห็นอยู่

138 Nameless Fanboi Posted ID:ltQymd9uyx

>>136 แนวโดนคนในตี้ปลิงเกาะแดกมีเยอะนะมึง โดยเฉพาะนิยายจีนอย่างที่ >>137 บอก เพราะมันเป็นเหตุผลที่ใช้อ้างได้ง่ายดีเวลาจะกลับมาตบเกรียนทีหลัง

139 Nameless Fanboi Posted ID6:2541C.rA4O

แปลกดีที่แนวนี่ของยุ่นไม่เห็น

140 Nameless Fanboi Posted ID6:hVcB.kz+V.

ถ้าอยากจะอ่านแนวเอารัดเอาเปรียบกันเองไม่สนหน้าเห้ นิยายจีนตอบโจทย์ดีกว่านิยายญี่ปุ่น

141 Nameless Fanboi Posted ID6:C6h/nxYyJQ

>>140 จีนกับเกา นีมีปมกับเรื่องแบบนี้สินะ

142 Nameless Fanboi Posted ID6:RKW37/SH.k

เห็นวนห้อง lit บอกว่าคนไทยไม่อ่านแฟนตาซีไทย แต่ย้ายไปอ่านนิยายจีนหมดนี่ท่าจะจริงสินะ

กูลงนิยายไปจะจบเล่มละ คนอ่านยังไม่ถึงพันเลยหมวดแฟนตาซีเนี่ย

143 Nameless Fanboi Posted ID:mjdSZjMXtX

>>142 ก็มันเขียนด้วยคุณภาพแบบส่งๆ ให้จบไป ไม่มีปม ไม่มีหักมุม ไม่มีการวางพลอตวางแผนก่อนเขียนกันมานานเกิน สุดท้ายคนเลยเลิกอ่าน

144 Nameless Fanboi Posted ID6:C6h/nxYyJQ

>>142 นิยายโม่งคือเรื่องไหน จะได้เข้าไปอ่าน ดูปัญหาได้ ว่ามันมีอะไรทำไมยอดวิวน้อย

145 Nameless Fanboi Posted ID6:qV0GVAXySx

>>144 กูใบ้แค่ว่ากูอัพอยู่ในหมวดแฟนตาซี เพิ่งอัพตอนปลายเดือนที่แล้ว และช่วงนี้อัพถี่หน่อยวันละ 2-3 ตอน
หาไม่ยากหรอก เดี๋ยวซัก 6 โมงก็เด้งขึ้นมาละ

146 Nameless Fanboi Posted ID6:/hYXgl3upd

กูว่ากูเห็นละ ถ้าจะให้ปลอบอะไรคือยอดวิวมึงก็ยังเยอะกว่าเรื่องของกูแหละมั้ง...

147 Nameless Fanboi Posted ID6:U/V./NqEBI

>>145 กูเข้าไปดูแล้ว ดูจากข้างนอกและหน้าปก กูว่าเรื่องโม่งดูแล้วไม่น่าสนใจ ไม่มีจุดขายที่แตกต่างจากที่มีอยู่ตอนนี้เท่าไหร่
tagsที่ใช้ไม่ค่อยมีtag ยอดนิยมเลย
ชื่อเรื่องกับภาพก็ไม่ดึงจุดขาย ไม่ทำให้รู้สึก เอะ

และแนวปลูกผักที่นิยมเนี่ยมันต้องแนวจีนโบ ถึงขายดี

148 Nameless Fanboi Posted ID6:8czyaorZt2

>>147 อันนี้ไม่รู้แล้วแฮะว่าจะต้องทำยังไง ทางนี้ตัวผู้เขียนก็ไม่ถนัดด้านการโปรโมตเป็นทุนเดิมด้วย

อันนี้คือลิสต์ข้อเสียหลักที่พอจะนึกออกก็คือ ชื่อเรื่องภาษาไทยกูก็คิดไม่ออก ปกนี่ก็ลอกๆ คอมโพสต์มาจากเรื่องอื่นแนวเดียวกัน เนื้อหากูก็เป็นแบบ Slow pace ที่ต้องเอาหลายๆ ตอนมาต่อกัน แถมยังไม่ใช่ธีมจีนโบราณ ซึ่งทั้งหมดนี่ก็มีแค่ชื่อเรื่องนี่ล่ะที่พอจะแก้ได้

ตอนนี้คิดได้แค่ว่า ปลง แล้วเขียนต่อไป โดยไม่ต้องหวังอะไร
ไม่ก็วนลูปกลับไปเลิกเขียน เอาเวลาไปหาอย่างอื่นทำ (แล้วสุดท้ายก็กลับมาเขียนต่อในอีกหลายปีต่อมา)

149 Nameless Fanboi Posted ID6:4oDSOlQjPl

กูควรตอบมันยังไงดีว่ะ https://www.dek-d.com/board/writer/4112448/

150 Nameless Fanboi Posted ID:bRoKaVidCg

>>149 ถามกว้างเกินไป ถ้าจะตอบคงต้องตอบแบบยาวเหยียด แนะนำให้หลีกเลี่ยงถ้ามึงมีเวลาว่างไม่มากพอ

151 Nameless Fanboi Posted ID:bRoKaVidCg

https://www.facebook.com/share/p/DLTkghWFVtr1e8UL/?mibextid=TrneLp

ฉัวๆๆ กุดุสๆ วิงวอคๆๆๆ เวอร์ชั่นต้นตำหรับจากญี่ปุ่น

152 Nameless Fanboi Posted ID6:9NWTFIe0fp

>>151 ว ด ฟ ช ห ล ท ด (วอตเดอะฟัคชิบหายเลยทีเดียว)

153 Nameless Fanboi Posted ID6:lyKugdss.d

พอเปิดเทอม ที่นี่กลายเป็นป่าช้า เว็บบอร์ดเด็กดีมีแต่อะไรก็ไม่รู้

154 Nameless Fanboi Posted ID6:e4WjnNz72p

นิยายแฟนตาซีในไทยยุคนี้มีอะไรเจ๋งๆ ป่ะ กุเลิกอ่านไปนานอยากให้โม่งแนะนำหน่อย

155 Nameless Fanboi Posted ID6:wJBbNDZ6WS

>>154 แฟนตาซีในไทย นี่คือยังไง แฟนตาซีไทย? หรือว่าแนวแฟนตาซีที่คนไทยเขียน?

156 Nameless Fanboi Posted ID6:op+Olo/8aU

เพื่อนโม่ง มีใครเคยอ่านนิยายนี้มั้ย หาไม่เจอ TT พล็อตแบบนางเอกเป็นดารา ทะลุมิติเข้าไปในโลกนิยายไทยที่ตัวเองแสดงอยู่ พล็อตแต่ละฉากก็จะแบบน้ำเน่าๆ ตามฉบับนิยายพีเรียด แบบคลุมถุงชน ลูกสาวกำนันกับขโมย นอก็จะแบบเพื่อนหญิงพลังหญิง สอนนางร้ายให้ร้ายจริงๆ หาแฟนให้นางร้ายงี้ ส่วนพระเอกเป็นคุณชายอะไรซักอย่างที่เป็นคู่หมั้น ฉลาด รู้ทันนางเอก นอเรียกว่าพี่ชายทัศน์ ทรรศมั้ง

157 Nameless Fanboi Posted ID:tfqNMh2J3K

>>154 ถ้าแฟนตาซีแท้ๆ แทบไม่เหลือแล้ว มีแต่ของใหม่ๆ ที่ผสมแนวระบบเข้ามาด้วย พวกที่เขียนเพียวแฟนไม่ดองก็อาจตายไปแล้ว

158 Nameless Fanboi Posted ID6:s/erMV54Dj

อันนี้กูไม่เข้าใจอย่างนึงแฮะ ทำไมคนไทยเราทนอ่านนิยายจีนที่มีแต่น้ำเป็นพันๆ ตอนได้
แต่พอเป็นนิยายคนไทย เดินเรื่องช้านิดหน่อยก็บ่นเบื่อกันแล้ว

159 Nameless Fanboi Posted ID6:U01U/hP1n9

>>155 คำถามน่าคิดเลย นิยายจีนมีความหมายยังไงกัน นิยายที่เซ็ตติ้งโลกเป็นจีนไม่เกี่ยวกับสัญชาติของนักเขียน หรือนิยายที่ชาวจีนแท้เป็นคนเขียนแต่เซ็ตติ้งจีนไม่จำกัดที่ประเทศจีนกันแน่

160 Nameless Fanboi Posted ID6:s/erMV54Dj

>>159 เดาว่าน่าจะความหมายง่ายๆ นี่ล่ะ แค่อยากจะถามหานิยายแฟนตาซีคนไทยเขียนทั่วไปนี่ล่ะ
ถ้าเอานิยายคนไทยเขียนแต่เซ็ตติ้งจีน โม่งก็เรียกจีนเซินเจิ้น ไม่ก็ธีมจีนกัน ฉะนั้นถ้าพูดถึงนิยายจีน = นิยายคนจีนเขียนนั่นล่ะ

161 Nameless Fanboi Posted ID6:3MvDwPZab8

ยากตรงไหนวะ นิยายไทยก็นิยายที่คนไทยเขียนไง จะเซิ่นเจิ้นเจ่ก เบียวญี่ปุ่น กระแดะวิคตอเรียนถ้าแต่งโดยคนไทยก็นิยายไทยทั้งนั้นอ่ะ

162 Nameless Fanboi Posted ID6:pdMy4Fj1n3

แนวสลับเพศ ชายธรรมดาๆโหลๆกลายเป็นหญิงสาวน่ารักหรือโลลิ นี่ถือเป้นแนวสนองนี้ด ไหมสำหรับยุคนี้ เห็นแนวนี้แอบมีเยอะอยู่นะทั้งไทยและเทศ

163 Nameless Fanboi Posted ID:5sO47W7wKK

>>162 ก็เป็นนะ ขนาดในโดจินโป๊ยังมี Tag แบบ TS หรือ Gender change เลย แต่จำนวนคนดูมันอาจไม่ได้เยอะขนาดนั้นเพราะมันเป็นแนวที่ค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม

164 Nameless Fanboi Posted ID6:idKls6f7Ls

>>163 TS? นักรบครึ่งสลึง?

165 Nameless Fanboi Posted ID:+0v2VMnjh.

>>164 Tag ในโดจินโป๊ที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนเพศชายเป็นหญิงแบบฉับพลัน

166 Nameless Fanboi Posted ID6:arEOewnmXy

รีไรท์กี่รอบว่ะ https://www.dek-d.com/board/writer/4114251/

167 Nameless Fanboi Posted ID6:PWvCXbmMJF

นิยายแนวถ่ายทอดสดกับreaction ของยุ่น ที่อาจกำลังกลายเป็นแนวฮิตในอนาคต

https://www.facebook.com/share/p/KG7bYG7xS7vNpStA/?mibextid=oFDknk

168 Nameless Fanboi Posted ID6:R6ZowfbYv.

ชิบหายแล้วโม่ง นแนวแฟนตาซีตกไปอันดับ5 แล้ว ในแนวยอดนิยม

จีนโบ ไปอันดับ2 เลย ส่วน วายเป็นอันดับ3 แทน

169 Nameless Fanboi Posted ID6:BsSSTGGY+6

>>168 ก็อย่างที่กูบ่นไปอะ ปัจจุบันนี้แนวแฟนตาซีอื่นๆ แม่งต้องแอบหนีไปอยู่หมวดจีนโบราณไม่ก็หมวดวายแล้ว

170 Nameless Fanboi Posted ID:R0VY0naaoK

>>167 มันนับเป็นแนวสตรีมเมอร์ป่ะ ถ้านับกุว่าตอนนี้ก็ฮิตอยู่น้า.. แต่เป็นฝั่งจีนกับเกา

171 Nameless Fanboi Posted ID6:R6ZowfbYv.

>>170 น่าจะใช่แหละ เคยเห็นในเว็บตูนก็เริ่มมีแนวนี้มาเรื่อยๆละ หลักๆคือต้องมีคอมเม้นของผู้ชมฮาๆ กับพูดกันในเว็บบอด

172 Nameless Fanboi Posted ID6:b3MtBzThLJ

แนวถ่ายทอดสดเหรอ กูว่าเหมาะจะทำเว็บตูนมากกว่านิยาย เพราะมีภาพให้เห็นทุกช็อต

173 Nameless Fanboi Posted ID6:fyB4gnAqa0

สงสัยอย่าง ไอ้พวกแนว เกิดใหม่หรือทะลุมิติแล้วต้องไปกอบกู้บ้านเมืองจากที่ใกล้ล่มสลายให้กลับมารุ่งเรืองพวกนี้ ถ้าตัวเอกมันไม่มีระบบคอยช่วยมันจะมีปัญญากอบกู้เมืองไหมหว่า เพราะแนวๆนี้ส่วนใหญ่มีระบบทั้งนั้น อารมณ์แค่ความรู้จากโลกเก่ามันไม่พอใช้งานแล้ว

174 Nameless Fanboi Posted ID:tIOnLms6PK

>>173 มีนะ อย่างเรื่องพาลาดินแดนไกลของเกาะก็ไม่ได้มีระบบช่วย ตัวเอกก็ยังช่วยคนช่วยเมืองให้ไปรอดได้เหมือนกัน แต่ของไทยกูยังไม่เจอใครแต่งแนวกอบกู้เมืองเลยไม่รู้อะ..

175 Nameless Fanboi Posted ID6:fyB4gnAqa0

>>174 เราไม่เคลียเอง กอบกู้เมืองคือประมาณบริหารบ้านเมืองให้กลับมารุ่งเรือง ไม่ใช่แค่สู้กับตัวร้าย

แต่พวกคนเขียนส่วนใหญ่มันเป็นเด็กไม่ก็โอตะคุ บริหารเมืองไรนี้ถ้าไม่มีระบบช่วย มันจะมีปัญญาเขียนยังไงให้ตัวเอกกอบกู้ได้สำเร็จ

176 Nameless Fanboi Posted ID:rGTFHgVtLq

>>175 ก็ต้องมีระบบนั่นแหล่ะ ไม่งั้นก็ล่มจมอะ

177 Nameless Fanboi Posted ID:/dPhsVB0Iz

>>175 กูเคยอยากเขียนนิยายอิงจากช่วงหลังกรุงแตกรอบ2 แต่กูงงกับชื่อสารพัดพระยาเลยเลิกเขียนแม่ง

178 Nameless Fanboi Posted ID6:BOTWRnlrZV

ไอ้พวกชอบเขียนให้มีระบบ ก็แค่ติดใจเกมที่ตัวนักเขียนเล่นเองนี่แหละ ไม่ได้มีความรู้ทางด้านวิศวกรรมโยธาซะนิดดดดดดดดดดดด

179 Nameless Fanboi Posted ID6:NTZrqvm0Fh

>>178 คนอ่านส่วนใหญ่ก็ไม่แคร์ด้วยไงมึง นิยายออนไลน์แนวนี้เห็นเน้นเอามัน ขอคำง่ายๆ สั้นๆ กระชับๆ เข้าว่า ขนาดภาษายังไม่อยากละเลียดเลย ใส่ความรู้ด้านวิศวกรรมโยธา การเมืองการปกครองลงไป คิดว่ามันจะอ่านกันเหรอ เดี๋ยวก็บอกว่านักเขียนเวิ่นเว้น เพ้อเจ้อ ใช้ภาษาลิเกเพราะพูดถึงพวกระบบการปกครอง แล้วแป๊บๆก็จะบอกว่าสำนวนมันทื่อๆเพราะตัวเองอ่านไม่รู้เรื่อง วรรณศิลป์เป็นยังไงไม่รู้ล่ะ รู้แต่ตัวเองไม่ชอบ = ทื่อ ตัวเองอ่านไม่รู้เรื่อง = ลิเก

แล้วนักเขียนที่ไหนจะไปเค้นสมองเขียนอะไรดีๆให้คนพวกนี้อ่าน ถ้ามีก็ยากยิ่งกว่างมเข็มในกองเข็ม ส่วนคนอ่านที่เขาอยากเสพวรรณศิลป์หน่อยเขาก็หนีไปอ่านพวกนิยายแปลที่ตีพิมพ์เป็นเล่มกันหมด

180 Nameless Fanboi Posted ID6:MIFdUVSSpD

>>179 ไม่นะ กูเห็นบางคนอ่านนิยายเล่มแล้วบ่นว่าไม่ชิน ออนไลน์ไงๆมันก็ดีกว่า เวลาคนเขียนเข้าใจอะไรผิดก็ไปแก้ให้ได้ง่าย ไม่อีโก้จัดเหมือนพวกพิมพ์เล่ม บางทีมันจำเป็นต้องเปิดศึกปะทะนักเขียนนักแปลเพื่อให้ได้ศัพท์ที่ดีกว่า พวกนักเขียนที่โทษนักอ่านมันอีโก้สูงเองรึเปล่า นักอ่านเดี๋ยวนี้ไม่โง่นะ

181 Nameless Fanboi Posted ID6:aRW5eL0Vba

เด็กดวกมีดราม่าอะไรกัน
https://www.dek-d.com/board/writer/4114905/

182 Nameless Fanboi Posted ID:ifUXZz0ThC

>>181 ชื่อเพจมีคำว่า "รถแห่" กูก็ไม่กดไปดูให้เสียเวลาชีวิตแล้ว

183 Nameless Fanboi Posted ID:9bGOkQmmPb

>>181 เป็นแค่ขามุง อ่านแล้วยังปวดตา
>>182 กว่าจะเจอลิงก์เพจก็ยาวอยู่นะ มึงก็ยังอุตส่าห์ทนอ่านไปจนถึงตรงนั้นอีก

184 Nameless Fanboi Posted ID6:DqEvpcq7/S

โม่งว่านิยายเว็บแบบเด็กดีนี่ ถ้าอยากเขียนแนวแอคชั่น หรือ power fantasy มีตัวเอกเก่งๆ มีลูกน้องบริวาร อิทธิพล คนรักเยอะๆ เริ่มต้นแบบไหนดีกว่ากัน ข้อดี-ข้อเสีย

1. เริ่มต้นจากกาก หรือเป้นคนปกติก่อนแล้วก็มีพลัง แล้วค่อยๆมีลูกน้อง คนรัก อิทธิพล พัฒนาการไปเรื่อยๆ ตามสูตร เล่าเรื่องจาก 1ไป 10 ตรงไปตรงมา ไม่เน้นflash back ให้อารมณ์เหมือนเล่นเกมแล้วตัวละครเทพขึ้นเรื่อยๆ

หรือ

2. เปิดมาเก่ง เทพ มีอิทธิพล บริวารระดับหนึ่งแล้วก่อน แล้วให้โชว์พาวให้คนอ่านดูตั้งแต่ตอนแรกๆ แล้งค่อยเราเรื่องสลับไปมาถึงที่มาของพลังตัวเอก ปม แรงขับเคลื่อน เป้าหมาย รวมถึง พื้นเพและเหตุผลของตัวละครอื่นๆที่เป็นบริวาร คนรักตัวเอก ด้วย ตอนไหนตัวประกอบคนไหนมีบทเด่นก็ค่อยเล่าถึงปุมหลังเสริมไปทำไมถึงมาติดตามตัวเอก มีปม ไรงี้ ฯลฯ อารมณ์เหมทอนพวกแนวแนวนักฆ่า ล้างแค้น โชว์พาวก่อน แนะนำตัวละครทีหลัง

185 Nameless Fanboi Posted ID:MlJA2pmDML

>>184 คร่าวๆ คือได้ทั้ง 2 แบบถ้าเดินเรื่องได้ดีนะ คือมันขายได้แน่แต่มีข้อแม้ว่าตัวละครพวกลูกน้องหรือบริวารมึงต้องออกแบบได้ดีด้วย ถ้าเป็นนักเขียนที่เกลี่ยบทไม่เก่ง หรือเปิดตัวละครมาแล้วใช้ไม่คุ้ม/หายไปจากเรื่อง จะเขียนแนวนี้ลำบากมาก

ถ้ามึงอยากได้ตัวอย่างของทั้ง 2 แบบที่ชัดเจนและหาดูง่ายในช่วงนี้นะ

แบบแรก : เกิดใหม่เป็นสไลม์, จันทรานำพาสู่ต่างโลก, แมงมุมแล้วไงฯ

แบบ 2 : โอเวอร์ลอร์ด, เลเวล 2 ผัวเฟนริล, ตรากากเกิดใหม่ไปเลือกปราชญ์

ข้อดี : ขายง่าย เดินเรื่องไปเรื่อยๆ ได้ ไม่ต้องผูกปมมาก เน้นเจอศัตรูเก่งขึ้นแต่ตัวเอกก็เก่งตามเอา

ข้อเสีย : ขายพวกชอบแนวล้างแค้นแบบตัวเอกกากก่อนไม่ได้ เพราะแนวนึงไม่ได้จะแก้แค้นแต่เน้นเติบโต อีกแนวคือเทพแล้วเลยไม่ทันได้ดูตอนตัวเอกโดนกดขี่

อยากเขียนอะไรก็เขียนไปเหอะ แต่อย่าให้เละเป็นขี้แบบ Re:Monster ก็แล้วกัน แม่ง... ตัวเอกเติบโตเร็วสัส วันๆ ก็วนอยู่กับการปักธงเยสาวสลับเก็บเวลอยู่นั่น

ส่วนตัวกูชอบแนวนี้แต่เป็นตัวเอกอยู่เบิ้องหลังมากกว่า อย่างพวกเรื่อง จอมดาบชั้นเซียนมาตบเกรียนถึงเมืองกรุง หรือไอ้เรื่องพ่อเลี้ยงลูกสามก็ดี เพราะกูชอบดูรีแอคชั่นตัวประกอบ

186 Nameless Fanboi Posted ID6:bm9bmEVUlQ

>>185 โอเค ขอบใจมาก

187 Nameless Fanboi Posted ID6:bm9bmEVUlQ

มีใครที่ไม่ชอบแนวระบบ แต่ยอมเขียนแนวระบบเพื่อให้ได้ยอดวิวไหม

188 Nameless Fanboi Posted ID:zXoNiNM+kc

>>187 กู

189 Nameless Fanboi Posted ID6:bm9bmEVUlQ

>>188 แล้วผลลัพท์เป้นไงบ้างโม่ง ยอดวิวเยอะไหม หรือไม่ช่วย

190 Nameless Fanboi Posted ID:zXoNiNM+kc

>>189 ไม่ค่อยเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะกูกากเองด้วย ปกติไม่ได้เขียนแนวนี้วะ คงต้องศึกษาไปอีกพักใหญ่ถึงจะพอเข้าที่เข้าทาง

191 Nameless Fanboi Posted ID6:G9hRpv6eoC

เห็นเพจเด็กดีเอามาลงเองเลย

สงสัยว่าไอ้แนวทะลุมิตินี่มันต้องมาพร้อมกับระบบเสมอไปเลยเหรอเนี่ย ถึงจะเป็นแนวที่ขายได้ยอดนิยม

https://www.facebook.com/share/p/5SbkEg1iF3KenJfL/?mibextid=oFDknk

192 Nameless Fanboi Posted ID:LRNgp3ujT6

>>191 สำหรับตอนนี้คือใช่

193 Nameless Fanboi Posted ID6:NBRFHLl5Cj

>>191 และถ้าจะเขียนเรื่องระบบ ก็ต้องชูเรื่องระบบขึ้นมาให้เด่นด้วยนะ
ของกูนี่เขียนแนวไปอาศัยอยู่ต่างโลก มีระบบแหละแต่ไม่ใช่แบบหน้าต่างสเตตัสเด้งๆ แต่เปลี่ยนให้ระบบเป็น AI แทน กลายเป็นตัวละครตัวหนึ่งคอยสนับสนุนตัวเอกอยู่ตลอด ซึ่งผลที่ได้ก็คือยอดอ่านน้อยจนน่าใจหายซะงั้น

194 Nameless Fanboi Posted ID6:4QS2vrVk/A

สายเบียว + ตัวเอกเทพ ตอนนี้กำลังชอบพวกตัวเอกที่มีอาชีพ เนโครแมนเซอร์ เหรอ เห็นมาสักพักละ ทั้งเว็บตูน ทั้งนิยายเว็บ เมื่อก่อนเห้นมีคนแต่งแนวนี้ยอดวิวขึ้นพอใช้ได้เหมือนกัน

กระแสมาจากไหนหว่า

195 Nameless Fanboi Posted ID:7QiEQY1qRh

>>194 ก็เวลาเสกลูกน้องมาเก็บเวลโชว์เทพมันทำได้ง่าย แค่ต้องมีศพให้เสกก่อนเฉยๆ มันมาบูมจริงๆ ช่วง Solo Leveling มังงะดังเพราะพี่จินวูได้อาชีพคล้ายๆ กัน (Shadowmancer) เงื่อนไขเดียวกันคือต้องปราบก่อน แล้วเสกเงามาเป็นลูกน้องจากซากศพน่ะ

196 Nameless Fanboi Posted ID6:4MWqBc0ypZ

เฮ้ย เพื่อนยาก เด็กดีมี webtoon ด้วย
ถ้าจะถกเรื่อง webtoon ต้องแยกมู้ใหม่เลยมั้ย
https://webtoon.dek-d.com/search/?textMode=title

197 Nameless Fanboi Posted ID:7QiEQY1qRh

>>196 น่าจะต้องตั้งใหม่ แต่ไม่ใช่ในหมวดนี้มั้ง

198 Nameless Fanboi Posted ID6:uzwatHgwsS

>>196 มันก็หมวดเดียวกับwebtoon ที่มีแล้วละ

199 Nameless Fanboi Posted ID6:Py5iqDT.dZ

>>194 กูมีพล็อตเรื่องเก่าทำนองนี้อยู่ สามารถปัดฝุ่นมาเขียนใหม่ได้ ว่าจะลองมาดัดแปลงเขียนเป็นให้อยู่ยุคปัจจุบันแทน
แต่พอกูลองจินตนาการถึงยุคที่มีเทคโนโลยี มีมือถือแล้ว กูไม่อินกับการใช้ศาสตร์พวกนี้เลยว่ะ
ว่าง่ายๆ คือกูเบียวไม่พอที่จะเขียนพวกนี้ละ แต่ถ้าเป็นเซ็ตติ้งยุคกลาง ยุคแฟนตาซียังพอเขียนได้อยู่

200 Nameless Fanboi Posted ID6:ubin/I.+W6

>>199 ยุคไหนก็ได้ขอแค่ตัวเอกเป้น เนโครแมนเซอร์ ปลุกผี เก็บเวล เทพๆ ได้

201 Nameless Fanboi Posted ID6:gneKCT0IvV

tag ยอดฮิต ของเด็กดี เหลือแค่2แท็ก คือ สลับเพศ กับ oc เกิดไรขึ้น คนอ่านมันไม่ใช่แท็คหานิยายแล้วหรอ

202 Nameless Fanboi Posted ID:gVh4nNUeX1

>>199 ไม่งั้นมึงลองอ่านเดดเมานท์ เดธเพลย์ดูไหม น่าจะพอเป็นไกด์แนวที่มึงอยากเขียนได้

203 Nameless Fanboi Posted ID6:npAFRpE3qw

>>199 มึงลองคิดภาพตามสิ เรื่องเก่าฝุ่นเขรอะของมึงคือ genshin หรือ WuWa เรื่องใหม่จะกลายเป็นรางดาวหรือ Tower of Fantasy ทั้งที่ทุกเกมเป็นเกมกาชาเหมือนกันหมด

204 Nameless Fanboi Posted ID6:uhnOyynGcu

ยังอยู่บ้างป่าว

205 Nameless Fanboi Posted ID:GYFwz.8kRT

>>204 อยู่ แต่ไม่ว่าง แวะมาส่องเฉยๆ

206 Nameless Fanboi Posted ID6:3CIaZqadhO

เหยดดดด แนวแฟนตาซีกลับมาที่สามยอดคนดู แล้ว

ส่วนจีนโบ ตกไปอันดับห้า

207 Nameless Fanboi Posted ID:.zjhkYwY61

สามเดือนกดเข้าเด็กดีทีแต่เข้าไปกี่ครั้งอันดับนิยายก็มีแต่แนวเดิมๆจีนเต็มไปหมด​ เขียนดีว่าไปอย่างหัวจะปวดนอกจากMSOกับเทพแสงกุก็ไม่รู้จะอ่านอะไรเลย

208 Nameless Fanboi Posted ID:p.r0c2U19W

ระหว่างลงเว็บที่ได้ยอดวิวเยอะ แต่นอ แทบไม่เม้น กับ เว็บที่ยอดวิวน้อยกว่าแต่นอชอบเม้น

โม่งว่าแบบไหนดีกว่ากัน โม่งชอบแบบไหน

209 Nameless Fanboi Posted ID:xHSmuWrZij

>>208 กูชอบแบบหลังวะ แบบแรกแม่งป้าช้าเกินไม่ไหว อีกอย่างคือยอดมันเฟ้อได้แต่คอมเม้นมันต้องใช้คนจริงมาพิมพ์

210 Nameless Fanboi Posted ID6:8kt0dKFuZl

มู้เด็กดวกแปลกไปมั้ย ถามอะไรแล้วมีคนเข้ามาตอบ จขกท.ตอบกลับไปว่า ขอบคุณ เจอมาหลายรอบแล้ว มันหาข้อมูลหรือหาเพื่อนว่ะ

211 Nameless Fanboi Posted ID:P0UEghGM8a

>>210 ปรกตินี่ แปลกตรงไหนวะ

213 Nameless Fanboi Posted ID6:p40UGgcUXJ

ดัน ให้มู้ขึ้น เฉยๆ

214 Nameless Fanboi Posted ID6:6LzZatcNFv

>>208 กูก็ขอแบบหลังแฮะ
ปัจจุบันเรื่องที่กูเขียนยอดคนน้อยไม่พอ ยอดคนเม้นท์ยังไม่มีด้วย แต่จำนวนคนอ่านก็สม่ำเสมอตลอดนะ

215 Nameless Fanboi Posted ID6:32vfCA+/Fm

ทำยังไงให้คนมาเม้นเยอะๆ ให้นิยานมันคึกคลื้น

216 Nameless Fanboi Posted ID:WthOR.m2vV

>>215 ถ้าตอบแบบกวนตีนก็คือหัดเขียนคำสุดท้ายให้ถูกก่อน ถ้าตอบแบบจริงจังก็เขียนตามกระแสแต่มึงต้องเก่งด้วยนะ ถ้ามึงกากเองก็ไม่เกิด

217 Nameless Fanboi Posted ID:pNblzOxocn

9.06K ตัวอักษร ตอนละ 4 บาท ถือว่า แพงไหมวะ
กุอยากอ่าน 453 ตอน = 1,812 บาท เลยนะ
700-800 บาทก็พอไหมวะ

218 Nameless Fanboi Posted ID:X5eGAkQNMf

>>217 ถ้าถูกใจไม่มีคำว่าแพง แต่เรททั่วไปกลางๆ กูเจอ 10k = 2,3 บาท บ่อยๆ มันก็แล้วแต่มึงอะ ถ้าอ่านแล้วสนุกก็จ่ายอ่านต่อ

219 Nameless Fanboi Posted ID6:3QuIntmEXb

แนวจีนโบ ตกไปอยู่อันดับ5 แล้ว ไม่ค่อยนิยมแล้วตอนนี้?

https://novel.dek-d.com/writer/

220 Nameless Fanboi Posted ID6:uikCrQ02/Y

>>219 แอบสงสัยว่า พวกนิยายจีนบางเรื่องยังอยู่ใน 3 มื้อ (อดีต ปัจจุบัน อนาคต ไม่มีคำเรียกสั้นๆบ้างรึไงวะ เด็กดวก) อีกเรอะ

221 Nameless Fanboi Posted ID6:Kf2vNd3qPE

>>220 เอาจริงหมวดนั้นมันกลายเป็นหมวดแฟนตาซีผู้หญิงไปซะด้วยซ้ำ
ไหนจะย้อนเวลา ไหนจะเกิดใหม่ ไหนจะสิงร่าง ไหนจะทะลุมิติ ที่เปลี่ยนมีแค่ตัวละครหลักเป็นผู้หญิงเข้าไปทำเควส ส่วนที่เหลือคือไม่ต่างอะไรจากแฟนตาซีชายเลย

222 Nameless Fanboi Posted ID6:LMfTQN93C1

บอร์ดเด็กดีกลายเป็นบอร์ด pramool หมายเลข 2 แล้วล่ะ เรื้อนเยอะน่ะ กลางปีนี้

223 Nameless Fanboi Posted ID:0MRh3X.hDX

>>222 ตอนเปิดเทอมอยู่ยังขนาดนี้ ไม่อยากคิดเลยว่าตอนปิดเทอมจะขนาดไหน

224 Nameless Fanboi Posted ID6:yRiJHCszfB

>>223 ทำไมช่วงนี้มีคนแบบนี้เยอะจัง ทั้งในโม่ง ทั้งเด็กดี หรือพวกขี้แพ้ในสังคมมันเริ่มเยอะขึ้นแบบก้าวกระโดด

225 Nameless Fanboi Posted ID:pXmFuYox.X

>>224 เข้าถึงอินเตอร์เน็ตง่ายขึ้น มือถือราคาถูกลง โปรเน็ตไม่แพงพอซื้อกันไหวได้ ชาวเน็ตยุคเก่ายังพอมีภูมิคุ้มกันและรู้จักวางตัว(หลังจากเคยเรื้อนในอดีตจนเข้าใจถึงข้อเสีย) แต่ชาวเน็ตรุ่นใหม่เลเวล 0 นี่ อยากพ่นอะไรก็พ่นออกมาตามใจปากเลย เนื่องจากยังอยู่ในช่วงที่เรียกกันว่าช่วง "เห่อxมอย" สถานะที่ว่านี้ใช้ได้กับทุกเพศทุกวัยเลยนะที่กำลังเล่นเน็ตเป็นใหม่ๆ ไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้กับแค่เกรียนหรือติ่งทั้งหลาย เพราะคนแก่หลายๆ คนแม่งก็ยิ่งร้ายเพราะมีทั้งความเห่อxมอยและความมนุษย์ป้า/มนุษย์ลุงรวมกันอยู่แบบสองประสาน นำไปสู่ความเรื้อนขั้นพิเศษที่เหี้ยกว่าปกติ

226 Nameless Fanboi Posted ID6:Zf5HpvaBww

อยากให้บอร์ดโม่งกลับมาคึกคักบ้าง บอร์ดเด็กดีเรื้อนจนไม่มีอะไรน่าสนใจแล้ว

227 Nameless Fanboi Posted ID:+WKNA5VDLn

>>226 มันมีค่าเท่ากันเพราะตอนนี้ทั้งโม่งทั้งบนดินมันก็เรื้อนทั้งคู่ แค่พวกที่เจ๋งจริงมันมาอยู่ในโม่งกับพวกที่ไลฟ์โค้ชขายฝันมันอยู่ในบอร์ดเฉยๆ ซึ่งที่โม่งร้างก็ไม่ใช่อะไร เพราะคนที่เขียนงานจริงจังเขาไม่ค่อยมีเวลาหรอก พวกดังๆ ที่ขายงานออกเรื่อยๆ ยังแวะไปเล่นบอร์ดแค่นานๆ ทีเลย

228 Nameless Fanboi Posted ID6:CG8khOJbwf

>>227 "เจ๋งจริงอยู่ในโม่ง"
555555555555555555555555555

229 Nameless Fanboi Posted ID:jnchuHj1BB

>>228 ที่มึงขำเพราะคิดว่าโม่งมันก็สวะกากๆ ทำเป็นอวดภูมิโชว์รู้มากรู้จริงใช่มั้ย งั้นลองเอามาเทียบกันดูก็ได้ว่าอ่านคำแนะนำจากในบอร์ดกับอ่านจากในนี้อะไรมันเอาไปใช้งานจริงได้มากกว่ากัน

ถ้าพูดกันตรงๆ คนเก่าๆ ในบอร์ดกับคนที่นี่มันก็เป็นพวกเดียวกันนั่นแหล่ะ เพียงแต่ในโม่งมันไม่มีหน้ากาก ไม่มีหัวโขน ไม่มีมาดหรือภาพพจน์ที่ต้องรักษาไว้ให้ดูดี ก็เลยให้ความเห็นกันแบบดิบเถื่อนกว่า แล้วพวกที่เจ๋งจริงก็ไม่ค่อยคุยอะไรในบอร์ดนักเขียนจากสาเหตุที่ว่ารำคาญพวกไลฟ์โค้ชอีกทีไง นั่งอ่านกูรูคีย์บอร์ดขายฝันเด็กหัดใหม่มันสนุกกว่า ไม่ต้องเสียเวลาไปตอบเองด้วย

230 Nameless Fanboi Posted ID6:bu.5qKCMz4

>>229 กูขำมึงยกหางเลียไข่ตัวเองมากกว่า เจ๋งจริงไม่ต้องทำอีโก้สูงนั่งหัวเราะคนอื่นเหมือนคนมีปมหรอกจ้า

231 Nameless Fanboi Posted ID:.jL0KqnuZL

มึงไอ้โม่ง >>226 มึงดูไว้นะ >>227-230 นี่แหล่ะสาเหตุที่ทำให้โม่งร้าง ตัวนึงขี้โม้ ตัวนึงขี้แซะ มันก็พอกันทั้งคู่นั่นล่ะ

232 Nameless Fanboi Posted ID:D0dTn3zSxN

พวกเมิงกุถามหน่อย นิยายในแอปเด็กดี จาก 4 บาท ลดเหลือ 3 บาท มันลดถึงวันไหนวะ
กุว่าแม่งก็ยังแพงอยู่ดีวะ 425 ตอน ก็ 1,200 บาท เลย

233 Nameless Fanboi Posted ID:D0dTn3zSxN

บอร์ดเด็กดี อะไรวะ เดียวนี้มี soccersuck pantip มันยังมีคนอ่านบอร์ดเด็กดี ด้วยหรอ หลักๆกุอ่านโม่งfanboi
และสร้างcontentชีวิตจริง เอามาเรียบเรียงใหม่ ให้คนเข้าใจง่ายกระชับ ชีวิตจริงมันสนุกกว่า เขียนนิยายวะ

แต่ส่วนตัวกุไม่เคยอ่านนิยายคนไทยเขียนนะ อ่านนิยายแปลจีนมากกว่า เพราะรู้สึกว่าปัญญาสมองคนไทย เขียนสู้คนจีนไม่ได้ world setting ความสะใจ เหี้ยมหาญ ดุดัน ไม่มี
จะบอกว่ากุดูถูกคนไทยทั้งหมดนั่นละ เป็นทาสคนจีนดีกว่า

234 Nameless Fanboi Posted ID6:rGubn99f+W

>>233 ดี งั้นเดี๋ยวรอบหน้ากูจะใช้ไอดีที่เป้นชื่อจีน เนียนๆทำเป้นนิยายแปล เอามาลงให้โม่งอ่าน ใส่สำนวนจีนไปหน่อยเพื่อเพิ่มความเนียน
ส่วนต้นฉบับไทยก็เอาเข้าอากู๋ขากสเลด แล้วเอาไปลงเว็บจีนต้นทางอีกทีให้เนียน ลงให้มันมีตอนมากกว่าที่ลงในไทยหน่อย

ทีนี้ก็ได้นิยายจีนแปลไทยเรื่องหนึ่งให้โม่งอ่านแล้ว

235 Nameless Fanboi Posted ID:SUMuR7Btvo

มีนิยายแฟนตาซีน่าอ่านบ้างมั้ยวะ​ กดเลื่อนไปก็เจอแต่นางเอกจีนแดง70​ 80​ 90​ ท่านอ๋องทะลุมิติชายาฮองเฮาไรไม่รู้​ คนแต่งหญิงดาวก็หายไปเลยสามชาติสามภพโดนลอยแพ​ นิยายแนวเกมที่คุณท้องฟ้าแต่งก็ไม่คลิกกูเลยแต่อ่านแก้เซ็งได้

236 Nameless Fanboi Posted ID6:CwLAUNwP+8

>>235 กูอยากเสนอนิยายกูนะ แต่เดี๋ยวโม่งแตกเนี่ยสิ
เอาเป็นว่าใบ้ละกันว่าอยู่หมวดแฟนตาซี ปัจจุบันมีคนอ่านรวมราวๆ 4000 คน ในขณะที่มีตอนอยู่ประมาณ 120 ตอน อัพตอนใหม่ช่วงราวๆ 2 ทุ่มละกัน

237 Nameless Fanboi Posted ID6:rGubn99f+W

>>236 มีtags ไรบ้าง

238 Nameless Fanboi Posted ID:Hn22NUIruh

>>237 บอกแล้วจะแตกนา

239 Nameless Fanboi Posted ID:D0dTn3zSxN

ที่กุซื้ออ่านประมาณนี้ ไม่ขอมีฮาเร็ม นะ กุรำคาญพวกผู้หญิงน่าโง่ ตัวเอกเหมือนกูดี

กำลังภายใน แฟนตาซี ผจญภัย ระบบ นิยายแปลเกิดใหม่ ต่างโลก ต่อสู้ลึกลับ พระเอกฉลาด
พระเอกเจ้าแผนการ

240 Nameless Fanboi Posted ID6:vTrpwVwPjm

>>234 แต่มีเรื่องเดียวที่เนียนยากสุดคือ การปลูกฝังวัยเด็ก ถ้าอยากคิดแบบนักเขียนจีนก็ไม่ควรเอาทัศนคติของคนไทยมาใช้

241 Nameless Fanboi Posted ID6:0E12I7./88

>>239 มีโม่งนักอ่านมาเฉลยแนวที่ชอบแบบนี้นขก็ดีใจ

แต่ถามหน่อย ถ้าเป็นตัวเอกหญิงน่ารักๆแต่ก็เก่งฉลาดแบบพระเอกที่โม่งชอบ แบบนี้แทน โม่งรับกันได้ไหม

คือกูเบื่อตัวเอกผู้ชายแล้ว

242 Nameless Fanboi Posted ID:DkfmBRrSYJ

>>241 ได้ กุชอบความโมเอะ แนวที่กุชอบมันหายากด้วยดิ
ประมาณว่า ไอดอลญี่ปุ่น เจอกับอุปสรรค เรื่อยๆ แต่ก็ไม่ย่อท้อ เจอกำแพงwall ข้ามกำแพง loop เจอกำแพง ก็ข้ามไปเรื่อยๆ
เป็นตัวละครที่น่าเอาใจช่วย ที่สำคัญคือเราได้ข้อคิดอะไรจากการกระทำของตัวละคร เน้นพัฒนาความสามารถตัวเองไปเรื่อยๆนะ อย่างงี้อ่านไม่เบื่อ อ่านเป็น 1,000 ตอนได้
ตอนละ 9,000 ตัวอักษร

เหมือน achievement ไล่เก็บในเกมอะ ไม่เอาแบบ ผญ ต้องฟันคนนั้นคนนี้ไปทั่วนะ
แล้วก็ชอบตัวละคร สุดโต่ง แบบ จิตเวช แต่เก่งเฉพาะทาง อันนี้ก็น่าสน
ไม่เอาแนวแบบ ลูซเซอร์ แบบเพราะคนรอบข้างเป็นแบบนี้ กุเลยต้องเป็นแบบนี้ กุคือเหยื่อ
ไม่ก็พวกคนดีจอมปลอม พวกหื่นกาม พวกนี้กุโครตเกลียดเลย

นิยายที่กุอ่าน: คนอ่าน: 389/4680 แต่มันก็ลงfictionlog ด้วยนะ แต่กุมาอ่านdekd

243 Nameless Fanboi Posted ID6:0E12I7./88

>>242 เป็นคำตอบจากนอที่ชัดเจนมาก ทำให้รู้สึกมีความหวังหน่อยละ นึกยุคนี้ตลาดนิยายเน็ตจะมีแต่พวกพระเอกเบียวopบ้าพลัง แบบนิยายจีน
ตอนพอรู้ละว่าควรสร้างตัวละครกับเนื้อเรื่องแบบไหนดีที่น่าจะพอขายได้

หรือยังขายไม่ได้หว่า?

244 Nameless Fanboi Posted ID6:yG1ZBJ6yi1

>>242 ไปอ่านมังงะหน้ากากแก้วมาเหรอ ยังไม่เคยเห็นแนวไอดอลญี่ปุ่นเรื่องไหนเขียนเกิน 500 ตอน

245 Nameless Fanboi Posted ID6:isyGg0B9du

>>242 นิยายที่กุอ่าน: คนอ่าน: 389/4680

เรื่องไรอะ โม่ง

246 Nameless Fanboi Posted ID:KERV7mKArF

>>245 อย่ารู้เลย นิยายกากๆ ที่มันฟิตกับคนกากๆแบบกุเนี่ยละ ไม่ใช่ระดับ 10,000/100,000
แต่กุพร้อมจะซื้ออ่านต่อจนจบ 415 ตอน
ตอนละ3บาท ก็ 1245 บาท

247 Nameless Fanboi Posted ID6:I0KrNxuMV6

กูเห็นโม่งอ่านนิยายนอกกระแสแบบนี้แล้ว ทำเอากูมีกำลังใจเขียนต่อขึ้นมาหน่อยเลย

248 Nameless Fanboi Posted ID6:WayL6glyCU

>>246 แล้วมันแนวอะไรอะ เหลาให้หน่อย บอกแท็ค มาด้วยก็ดี

249 Nameless Fanboi Posted ID:vUDGs4NU17

ไปเรื้อนหลายมู้หลายห้องจนโดนเขารุมยำโดนมองเป็นตัวตลก ลงท้ายก็มาทำตัวเป็นกูรูขี้โม้อยู่ห้องนี้แทนเพราะไม่มีใครรู้วีรกรรมแทนเหรอวะไอโอคุง

250 Nameless Fanboi Posted ID6:j.MKhuq3es

ทำไมแนวโมเอะ แบบยุ่น มันขายไม่ค่อยดีในเด็กดวก เท่ากับแนวจีนหรือเกมออนไลน์

251 Nameless Fanboi Posted ID:YDnVZg6Whc

"คนที่แบ่งผู้หญิงของตัวเองให้คนอื่นได้เป็นคนที่พึ่งพาไม่ได้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว"

กุชอบนิยาย คำคม แบบนี้ กุถึงซื้อ ว่ะ
แบบอ่านแล้วจุกชห แต่ก็คือความจริง

252 Nameless Fanboi Posted ID:YDnVZg6Whc

>>250 คนสมัยนี้ ไม่ค่อยฮิตแนว ญป แล้ว
โลกมันเปลี่ยนไปเยอะ เดียวนี้ ก็เดทกับตัวละคร2D ได้แล้วอีก แบบ chatgpt

คงมีแต่คนที่โตมากับ ดิจิมอน โคนัน เซเลอมูน ขบวนการห้าสี ที่ยังอินกับ ญี่ปุ่นอยู่
ซึ่งเด็กสมัยนี้ไม่น่ารู้จักกันละ

253 Nameless Fanboi Posted ID:YDnVZg6Whc

มีประโยคหนึ่งที่ฉันเคยได้ยินจากประเทศเก่าแก่แห่งหนึ่ง การตบคือจูบ การด่าคือรัก เธอดูซะตอนนี้ฉันจูบเธอไป สองครั้งแล้ว(ต่อย)

นี่สินิยายที่คนแบบกุควรซื้ออ่าน ชอบวะนิยายแบบนี้มันสอนให้เราเข้าใจโลกมากขึ้น

254 Nameless Fanboi Posted ID:vOcBRDh3e7

>>250 ตัวละครโมเอะแบบญี่ปุ่นมันน่ารำคานน่ะ โมเอะซึนเดเระถ้าไม่ใช่พวกคุที่อ่านLNใครมันจะไปชอบนิสัยแบบนั้น

255 Nameless Fanboi Posted ID:jLhZ7XkFLl

ประชากรนักอ่านในเด็กดวกเกินครึ่งเป็นผู้หญิงนะโม่ง จากที่กูเคยแต่งนิยายมา ผู้อ่านหญิงรำคาญตัวละครสายซึนจะตายชัก บอกว่าน่ารำคาญเกิน ถ้าแต่งให้เป็นพวกสาวมาดนิ่งแต่เก่งต่อสู้แล้วทำตัวเท่ๆ หน่อย จะขายแพ็คได้ดีกว่ามากเลย

256 Nameless Fanboi Posted ID6:V5GtlEhlO9

>>250 >>252 กลับกัน ญี่ปุ่นก็ไม่นิยมเขียนนิยายจีนโบเท่าคนไทย อย่างน้อย Kusuriya no Hitorigoto คือนิยายจีนโบเรื่องเดียวที่ญี่ปุ่นทำแล้วดัง แต่เรื่องข่งเบ้งปั้นดาวคือ คนจีนโบราณเกิดใหม่ไปปั้นดาราที่ญี่ปุ่นโลกปัจจุบันต่างหาก
>>255 แล้วนักอ่านเพศชายส่วนใหญ่ล่ะ หายหัวไหน

257 Nameless Fanboi Posted ID6:VQQjWX8YTj

โม่ง แนวตัวเอกพึ่งเรียนจบออกมาหางาน เตะฝุ่น แล้วได้งานแปลกๆ เป็นจุดเริ่มพล็อต

ตัวเอกแบบนี้นักอ่านเด็กดีพอนิยมไหม หรือมีจำนวนเยอะเปล่า

หรือว่ามันต้องเป็นเด็กหนุ่มสาว โดนกดขี่แล้วมีระบบ หรือเล่นเกมออนไลน์หรือทะลุมิติ กัน แบบที่ดังๆ

258 Nameless Fanboi Posted ID6:V5GtlEhlO9

>>257
โม่ง แนวตัวเอกพึ่งเรียนจบออกมาหางาน เตะฝุ่น แล้วได้งานแปลกๆ เป็นจุดเริ่มพล็อต
= วัยรุ่นไม่อินหรอก เด็กยังเรียนไม่จบจะไปเข้าใจความรู้สึกของคนจบการศึกษาสูงๆแล้วว่างงานได้ไง

หรือว่ามันต้องเป็นเด็กหนุ่มสาว โดนกดขี่แล้วมีระบบ หรือเล่นเกมออนไลน์หรือทะลุมิติ กัน แบบที่ดังๆ
= เห็นจนเบื่อ เหมือนตัวเอกเล่น very easy mode คนจริงไม่พึ่งพาระบบตัวช่วยหรอก เกมออนไลน์เหรอ สมัยนี้คนติดมือถือกาชากัน ทะลุมิติก็อิเซไคไง

259 Nameless Fanboi Posted ID6:VQQjWX8YTj

>>258 ขอบคุณที่ตอบ

ไปแล้วความฝันตรู แต่เอาเหอะแอบคิดไว้แล้วว่าตัวเอกเเบบนี้ที่เด็กดวกหรือตลาดไทยไม่น่านิยม ขนาดมังงะ อนิเมแนวนี้ยังไม่ค่อยนิยมเลย

ถ้าจะให้นิยมตัวเอกต้องเรียนอยู่สินะ แล้วออกไปหาพาทไททำ ได้งานแปลกๆเป็นจุดเริ่มพล็อต

แบบนี้ดีกว่ารึเปล่า

260 Nameless Fanboi Posted ID6:y95EFtVv4.

เขียนๆ ไปเหอะ มีความฝันจะเขียนยังไงก็ตั้งใจเขียนไป ถ้าไม่ดังในเด็กดวกอาจจะดังที่อื่นก็ได้ ขอให้เขียนมันให้ดีๆ ก็พอ

261 Nameless Fanboi Posted ID:Z5Hq4XVpDC

>>260 อันนี้จริง +1 เลย บางเรื่องที่กูแต่งในเด็กดวกกระแสเงียบมาก แต่พอเอาไปลงอีกที่เสือกขายได้เยอะ บางครั้งก็สลับกัน ที่อื่นเงียบแล้วมาปังในเด็กดวก

262 Nameless Fanboi Posted ID:V6QnI40qtf

มันไม่เกี่ยวขอให้ตัวเอก เหมือนตัวเองได้ แบบนี่แหละฉัน! เช่น พระเอก ซ่อนงำประกาย ชีวิตไม่ต้องเด่นขอเป็นเทพในเงา

พระเอกขี้ระแวงสุดขีด พระเอกจอมบงการ สร้างกองทัพ พระเอกไม่สนใจความรักอะไรทั้งสิ้น
ฮาเร็ม อะไรเลอะเทอะ พระเอกรู้จักทดแทนบุญคุณคน พัฒนาตัวเอง

เบื้องหลังมันไม่สำคัญเลย เมิงแต่งนิยายกันเป็นปะเนี่ย เมื่อกำหนดตัวเอกได้ เดียวเนื้อเรื่องมันก็ไหลออกมาเอง

บางทีเมิงก็ต้องไปเจอประสบการณ์ ถึงเขียนได้นะของพวกนี้ เพราะ นิยายที่ผญ เขียนกุไม่อ่านหรอก เพราะไม่มีความดุดัน เหี้ยมหาญ

เช่น กุจะตามแก้แค้น ผญ คนนีง ในนิยาย เมิงก็ต้องทำในชีวิตจริงด้วย เป็น10ปีก็ต้องทำ
แบบนั้นจะทำให้เข้าใจตัวละคร รวมทัั้งการตัดสินใจต่างๆ เมิงลองไปศึกษาไอดอลดูก็ได้ อาจจะเข้าใจมากขึ้น

263 Nameless Fanboi Posted ID:L77SLE7IVl

>>262 ไอ้นี่เพ้อเจ้อเบียวมาก​
จะแต่งอะไรก็แต่งไปเถอะเอาลงทั้งแอปส้มแอปฟ้าตราบใดที่นิสัยตัวเอกไม่น่ารำคาญจนทนอ่านไม่ไหวเขียนปกแนะนำให้ดีๆคนก็จิ้มเจ้ามาแล้ว​ สำคัญเลยคือคำผิดตรวจเช็คให้ดีก่อนลงงาน​ พล้อตน่าสนใจให้ตายยังไงเปิดมาเจอตอนแรกคำผิดเต็มไปหมดก็ไม่ไหว​

264 Nameless Fanboi Posted ID:PWU3JFEx99

>>263 อ่านช่วงสุดท้ายแล้วขำ ชวนให้นึกถึงคำผิดในตำนานอย่าง พิษซ่า,อ่อนเพรีย,แร่เนื้อ ขึ้นมาเลย

265 Nameless Fanboi Posted ID:V6QnI40qtf

>>263 การแต่งนิยาย มันต้องสร้างจากความเข้าใจจริงๆ สิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ แต่กุทำได้

เมิงจะเขียนเป็นฆาตกรยังไง ถ้าเมิงไม่เคยคิดอยากควักลูกตา สดๆจากเบ้าคนมีชีวิตอยู่ แล้วมากินสดๆ นิยายพวกเมิงก็ไม่ต่างไรขยะที่มีเกลื่อนตลาดหรอก

ถ้ามีความโหดดิบเถื่อน แบบกุ กุก็ซื้ออ่านแค่นั้น คนอื่นไม่ชอบไม่เป็นไรแต่กุชอบ สงสัยกุคงต้องเขียนนิยายเองซะแล้ว เด็กสมัยนี้ ไม่เข้าใจความโหดร้ายของชีวิตบ้างเลย

266 Nameless Fanboi Posted ID6:WOTWmThzLq

>>265 มีแต่method acting แต่นี่มา method writing จัดเต็มเอาออสการ์

267 Nameless Fanboi Posted ID:bbCTvAup2V

จะทะเลาะกันเองอีกละสัส โม่งนี่มันโม่งจริงๆ

268 Nameless Fanboi Posted ID:ZLxF5ufidP

>>265 ครับพี่ชายงั้นก็รีบๆเขียนออกมานะได้เบสเซลเลอแน่ๆ​ สุดยอดนักเขียนอัจฉริยะ​

269 Nameless Fanboi Posted ID6:TcLRyQ+C9.

สันดานขี้โม้อวดฉลาดของไอ้ห่าไอโอนี่มันแก้ยังไงก็ไม่หายจริงๆ ถึงได้โดนเขารังเกียจทุกห้องที่เหยียบแบบนี้

270 Nameless Fanboi Posted ID:qdfS5OG+8K

>>265 มึงแต่งเองเลย พวกเบียวขยันเขียนเรื่องมากกว่าพวกไม่เบียว ยกเว้น มึงรับสภาพ cringe ของตัวเองไม่ได้

271 Nameless Fanboi Posted ID:FeBA2ORsfY

กุไม่กล้าสอน จระเข้ ว่ายน้ำหรอก แค่เขียนสิ่งที่เมิงชอบลงไป ทุกอย่างมันจะตามมาเอง
สิ่งที่เมิงนึกคิดในโลกรูปจิตไม่มีจริง มาทำให้มีจริง ก็คือการเขียนนิยาย เบสิค

ดังนั้นสิ่งที่กุอ่านไม่ใช่นิยาย แต่เป็นจิตใจของคนเขียนต่างหาก เช่น ไอน้กเขียนคนนี้ ขี้เมา นักเขียนคนนี้ เผยแพร่ลัทธิ yaoi คนเขียนนี้แม่งสนองนิ๊ดตัณหาของตนเอง เป็นต้น
แต่หลายคนลืมเบสิคกันหมด

กุก็แค่นักอ่านที่อ่านจิตใจคนทะลุปุโปร่งแค่นั้น เป็นแค่คนธรรมดาคนนึง เพราะแบบนี้การอ่านนิยายมันถึงสนุกไม่ใช่หรอ

272 Nameless Fanboi Posted ID:FeBA2ORsfY

กล่าวคือ นักเขียนคือการเปลือยกายต่อหน้านักอ่านนั่นละ และทุกคนจะรู้ความคิดเมิงทุกอย่าง
ประหนึ่งโดนล้วงเข้าไปในจิตใจ

ส่วนที่กุไม่อยากเป็นนักเขียน เพราะกุไม่อยากบอกให้คนอื่นรู้ว่า กุคิดยังไง รู้สึกยังไง
กุแค่อยากเป็นคนธรรมดา อากาศธาตุไม่โดดเด่น
เหมือนที่กุเป็นมาตลอด ขอเป็นตัวประกอบดีกว่า

273 Nameless Fanboi Posted ID6:/6gncOnpWq

>>272 แล้วกูจะเขียนแนว โลลิค่อน แนวฆาตกร ได้ยังไง ถ้ากุยังไม่อยากเป้นอาชญากรตอนนี้

274 Nameless Fanboi Posted ID6:AQv21/VQuW

บ่นหน่อยกูรู้สึกปลงกับนิยายกูมากเลยว่ะ ตอนนี้ลังเลแล้วว่าเขียนเล่มนี้จบจะเขียนต่อหรือดรอปดี
เมื่อก่อนเขียนห่วยๆ ยังมีคนอ่านเยอะนะ อย่างแย่ก็ยัง 200+ คนต่อตอน มาตอนนี้ได้ตอนละ 20 คนก็บุญโขละ ขนาดเรื่องนี้เขียนจำนวนตอนได้เยอะที่สุดเท่าที่เคยเขียนละนะ แต่ยอดคนอ่านยังไม่เท่ากับสมัยก่อนเลย

เข้าใจว่ากลุ่มคนอ่านในเด็กดวกมันน้อยลงแหละ แต่เทียบกับเรื่องอื่นแนวเดียวกันแล้วยอดกูน่าจะน้อยกว่า 3-5 เท่าได้เลยมั้ง ของกูยังวิ่งหลักพันในขณะเรื่องอื่นๆ ที่อัพพร้อมกันวิ่งไปหลักหมื่นละ
ไม่รู้ว่าผิดพลาดตรงไหน คนอ่านน้อยจนไม่มีคอมเม้นท์ นี่อาศัยความขยันอัพถี่ๆ พยายามดึงคนอ่านที่เหลืออยู่ต่อเท่านั้นเนี่ย

275 Nameless Fanboi Posted ID6:FToG6QaFQy

>>274 ของโม่งเรื่องอะไรละ ใบ้หน่อย เผื่อจะได้ช่วยหาสาเหตุ ของแบบมันต้องมีเงื่อนงำ

276 Nameless Fanboi Posted ID6:ZHwbp/1+7O

>>274 เรื่องปกติที่ช่วงต้นเรื่องมีคนอ่านเยอะสุด เพราะเป็นช่วงที่คนยังไม่รู้จัก พอค่อยๆรู้จักกับมันแล้ว คนที่ไม่อ่านต่อคืออ่านไม่สนุก ไม่ใช่สไตล์ของตัวเอง จึงเหลือคนติดตามอ่านจริงน้อยลงตามระยะเวลา

ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป อยากจะเขียนจำนานตอนหลักร้อยหลักพันโดยคนอ่านลดน้อยลงต่อไปเหรอ หรืออาจจะลองเขียนจำนวนตอนไม่เยอะหน่อย พวกขาจรจะได้มั่นใจว่ามึงเขียนจบแล้ว จะได้เตรียมเวลาว่างมาอ่านเรื่องของมึงซะที

277 Nameless Fanboi Posted ID6:ZHwbp/1+7O

>>276 ต่อๆ พวกพล็อตเกม RPG เนี่ยน่าจะยากสุดในการรักษาฐานจำนวนคนอ่านเชิงปริมาณแล้ว มึงชอบ RPG สไตล์ที่ชอบ แต่มีคนอ่านบางรายกลับไม่ชอบ RPG สไตล์ของมึง มันก็จะไม่อ่านเรื่องของมึง ๆอ้ที่ยากเนี่ย RPG มักขะเขียนพล็อตยาวกว่า Action Adventure หลายสิบเท่า ยกเว้นมึงอยากตักจบเอง

278 Nameless Fanboi Posted ID6:ZHwbp/1+7O

>>277 เพราะว่า แนวคิดสไตล์เกม RPG พล็อตเรื่องต้องให้ความสำคัญกับความยาวเนื้อเรื่องมากกว่าบู้ล้างผลาญ พล็อตสไตล์ Action Adventure มักจะเน้นการต่อสู้

พอดีนึกออก พล็อตแนวรักอย่างจีบสาวหรือจีบหนุ่ม มึงต้องเทความสำคัญให้กับความสัมพันธ์ของตัวละคร อยากจะให้นิยายรักยาวพอๆกับพล็อต RPG แล้วมีคนอยากอ่าน ตัวละครในเรื่องต้องดีพอที่อยากเอาใจช่วยเรื่องสมหวังความรัก เช่น แฟนเช่า นิเสะโค่ย นกเยอะเกินไป อาเรียพูดรัสเซีย พี่เทพเซียนนักจีบ สคูลรัมเบิล เป็นต้น

279 Nameless Fanboi Posted ID6:qPnXU8AQ78

เนี่ยแล้วปัญหาคือตอนนี้กูเขียนสไตล์ RPG ที่ว่าด้วย
เขียนสต๊อกเอาไว้ร่วม 300 ตอนได้ละ มาตอนนี้กูอยากตัดจบชิบหาย แต่เรื่องยังไปได้แค่ครึ่งทางเอง

ใจนึงก็อยากเลิกเขียนนะ แต่อีกใจก็ทิ้งไม่ลงว่ะ แต่จะให้เข็นต่อไปก็น่าจะหลายปีกว่าจะจบ เลยต้องมานั่งอมทุกข์ว่าจะเอายังไงดีมาหลายเดือนละ

280 Nameless Fanboi Posted ID:5SHqO24pq2

>>274 ให้เลือกกุอ่านนิยายคนไทยเขียนกับคนจีนเขียน กุอ่านนิยายคนจีนดีกว่า
มันไม่มีworld setting หรือความทะเยอทะยานตัวละครที่สุดโต่ง มากพอ จะพยายามbalance

281 Nameless Fanboi Posted ID6:jOkDRrulUG

>>280 เห็นหลายคนพูดทำนองนี้เหมือนกันคือเลือกอ่านนิยายจีนมากกว่า
ซึ่งพอเห็นงี้เยอะ กูก็ไม่รู้จะเขียนต่อไปแข่งทำไมแฮะ ในเมื่อผู้อ่านส่วนใหญ่มีธงในใจอยู่แล้วว่าอันนี้ดีกว่า

ทีนี้คือถ้าแนวนี้เขียนไม่ได้มันก็บังคับกลายๆ แล้วล่ะว่ากูต้องเขียนแนวรัก ไม่ก็เบียวสุดโต่งไปเลยเท่านั้น จะมา balance มี world setting มันไม่เวิร์ค

282 Nameless Fanboi Posted ID:5SHqO24pq2

>>279 เมิงต้องรู้ว่าอะไรคือจุดแข็งเมิงก่อน
หรือว่าถ้าแนวฮาเร็ม ก็ไม่ได้กวนใจมาก เช่น
เรื่องปูมาให้อาจารย์ สาวสวยผู้เย็นชา กับ ศิษย์ซ่อนพลัง ตั้ง
แต่ตอนแรก1-1200
ตอนจบของเรื่องพระเอกแข็งแกร่งไม่มีใครต่อต้านได้ทุกคนคือมดปลวกแค่มอง ก็สามารถฆ่าทุกคนได้ แล้วก็สามารถคืนชีพให้ทุกคนได้

อยากเยอาจารย์ สักครั้ง แต่ให้อาจารย์เอ่ยชวนก่อน แต่อาจารย์ไม่ได้มีความต้องการ ไม่ได้เอ่ยชวน พระเอก ก็ไม่ได้ตื๊อต่อ ไม่เยก็ไม่เย
สรุป คือตัวละคร ไม่พัง 1-1200 ตอน จบ แบบ มีความสุข
ไม่ใช่ทำทุกวิถีทางเพื่อเย อาจารย์ ให้ได้

นิยายมันมัข้อคิดดี

283 Nameless Fanboi Posted ID:5SHqO24pq2

ว่าไป กุก็รุกไม่เก่งด้วยดิ ชอบให้ ผญ จีบก่อนแบบพระเอกในเรื่องเลย คนไหนให้อะไรกุมากกว่า กุชอบคนนั้น

อ้อนเก่งๆ หน่อย กุอ่านนินาย ไม่เคยชอบตัวละคร ญ ไหนเลย น่าเบื่อทั้งหมด จะสู้ ไอดอล จริงๆได้ไง กุเลยสนแต่พัฒนาการของตัวเอก ที่มุ่งเป็นเส้นตรงมากกว่า

284 Nameless Fanboi Posted ID:SmWhUxLIy8

เข้ามาดูแล้วตกใจ มู้เด็กดวกวิ่งไป 10 กว่าเม้นท์ หรือว่ายุคสมัยของมู้นี้มันมาถึงอีกครั้งแล้ว

285 Nameless Fanboi Posted ID:5SHqO24pq2

>>284 555555 โทดที กุก็แค่นักอ่าน ที่โหลดแอปเด็กดี เพราะ นิยาย ที่กุซื้ออ่านมันลดราคา8เหรียญ เหลือ6 เหรียญ

ว่าแต่เมื่อไรมันจะลดอีกวะ เรื่องเดิม กุบังเอิญเห็นตอนมันลดราคาที่หน้าเว็บพอดี

286 Nameless Fanboi Posted ID:5SHqO24pq2

ส่วนfiction log แม่งแจกโบนัสยุ่งยากวุ่นวาย
เมิงแค่ลดราคานิยายง่ายๆแค่นี้ทำไม่เป็น
ยังงั้น เดียวกุลบแอปเด็กดีทิ้งไปเติมแอปเมิงเลย

287 Nameless Fanboi Posted ID6:Sd6y1ah/ym

>>282 ถ้าถามว่าจุดแข็งนิยายกูคืออะไร กูว่ามันก็คือ World build ที่โคตรแน่นนี่ล่ะ เพราะกูเขียนทุกรายละเอียด ฝ่ายไหนมีใครชื่ออะไรมีความสามารถอะไร ซึ่งกูทำเป็น Sheet เอาไว้เลยแบบโจโจ้ ทำให้กูเขียนอะไรมันจะไม่มีหลุดจากที่ตั้งเอาไว้ เนื่องกูมี Database ในมือครบ ซึ่งถ้าลองอ่านตามไปเรื่อยๆ จะพบว่าสเกลเรื่องจะขยายขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังอยู่ในโทนเดิม

แต่จุดอ่อนกูอะ กูว่าคือพระเอกนี่ล่ะ เพราะกูกำหนดให้พระเอกเป็นแค่คนธรรมดาเกินไปหน่อย ช่วงแรกค่อนไปทางกากเลยด้วยซ้ำ แถมยังเขียนออกไปแนวโลกสวยน่าขัดใจด้วย ไอ้ตอนที่ยอดคนอ่านลดฮวบก็เป็นตอนที่พระเอกเสียท่าโง่ๆ เพราะความใจดีนี่ล่ะ ซึ่งในมุมมองกูอะมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะกูกำหนดให้พระเอกมีนิสัยเป็น Neutral good แต่ในมุมมองคนอ่านกูว่าน่าจะขัดใจพอตัว

แล้วกูมีปัญหาการเขียนตัวเอกขัดใจคนอ่านมาตั้งแต่เรื่องก่อนละ จำได้เลยว่าหลายปีก่อนเขียนเรื่องเก่ากูโดนคนอ่านบ่นว่าพระเอกกากขี้แพ้ ทั้งที่กูก็ระบุเอาไว้แล้วว่าที่ฟัดด้วยนั่นคือตัว top ของเรื่อง เดาว่านี่ล่ะคือปัญหาทำให้ยอดตก

288 Nameless Fanboi Posted ID6:Sd6y1ah/ym

ว่าไปพูดถึงพระเอกแล้ว กูจินตนาการเขียนพระเอกแนวเบียวหรือเอ็ดจี้ ไม่ก็พอขี้เงี่ยนที่เป็นที่นิยมไม่ออกเลยว่ะ
ขนาดพยายามจินตนาการยังนึกภาพไม่ออกว่าต้องเขียนยังไง คงเพราะชีวิตจริงกูเลี่ยงคบหาคนแบบนี้มาตลอดด้วยมั้ง?

289 Nameless Fanboi Posted ID6:ZHwbp/1+7O

>>287 ปัญหาเหมือนแฟนเช่า พวกนางเอกทำมาซะดิบดี 4-5 คน แต่คนส่วนใหญ่รังเกียจพระเอกที่ชอบทำตัวขี้แพ้ซ้ำซาก ตั้งแต่ปัญหาการพัฒนาความสัมพันธ์จนถึงความคิด พระเอกแฟนเช่าคือตัวอย่างของ sigma male ออกมาห่วยแตก ส่วน sigma male แล้วดีแทนคือพระถังซัมจั๋ง แต่ sigma male ที่ดีและห่วยพร้อมกันคือ Virgil คือดีที่สู้ทั้งเท่และเก่ง แต่กากเรื่องเดียวคือการดูแลลูกชาย (เนโร)

290 Nameless Fanboi Posted ID:5SHqO24pq2

>>288 เมิงไม่ได้หมายถึงกุปะ

291 Nameless Fanboi Posted ID6:ZHwbp/1+7O

>>290 เปล่า แค่ยกตัวอย่าง ปัญหาของพระเอกในเรื่องของมึงคือความเป็น sigma male สูง

คุณสมบัติพื้นฐานของ sigma male
1. เสรีนิยม ลงไม้ลงมือด้วยตัวเอง ไม่พึ่งพาใคร
2. มั่นใจตัวเองสูง gu เก่ง gu เก๋า
3. เรื่องของตัวเองสำคัญกว่าสังคมและประเพณี
4. การพัฒนาตัวเอง

พูดง่ายๆ หมาป่าเดี่ยวดาย

แต่ใช่ว่าทำแล้วออกมาดี เกิดบทเรื่องไม่เอื้อกับ sigma male ตัวละครสายนี้จะดูแย่ไปหมดเลย ถ้ามึงยังคิดว่าพระเอกแบบนี้แหละดีแล้วก็ขอให้อดทนต่อไป ไม่ยังงั้นต้องแก้ที่พระเอกเลย การรีไรท์ไม่สนุกอย่างที่คิด

292 Nameless Fanboi Posted ID6:FToG6QaFQy

เห็นโม่งพูดถึงแนวเบียว ในเชิงรูปธรรมเป็นแบบไหน มีคำอธิบายหรือวิธีดูไหม

ลองเอา นิยาย หรือเมะ มังงะ ยดขึ้นมาเป็นต.ย.ให้เลยก็ได้

เราว่าลองดูว่าแนวนี้เราเขียนได้เปล่า เพื่อเปิดตลาดใหม่ ที่ไม่ต้องแข่งกับนิยายจีนแปล

293 Nameless Fanboi Posted ID6:Sd6y1ah/ym

>>292 เอาจริงๆ นิยามของเบียวในยุคนี้ หลักๆ มันคือการนิยามตัวละครแนว Sigma Male ที่เก่งเทพเหนือล้ำกว่าคนอื่นและยอมให้ใครมาอยู่เหนือกว่านั่นล่ะ แต่ทั้งนี้พฤติกรรมของคนจำพวกนี้คือไม่สนกฎของธรรมชาติหรือสังคมเลย ประมาณว่าทำตัวนอกกรอบได้เพราะกูเทพนั่นล่ะ

แล้วพอมาเป็นเรื่องในนิยาย เราสามารถแก้กฎต่างๆ ให้เข้ากับการกระทำป่วนๆ ของเหล่า Sigma male ได้อย่างอิสระเลย เอายกตัวอย่างง่ายๆ ก็หลวมฮาจิเมะ จากเรื่อง Arifureta นั่นอะ ที่ทำเหี้ยทุกอย่างประชดบรรทัดฐานสังคมเช่น กระทืบผู้กล้า ปากหมา ข้าเจ๋ง ฯลฯ แต่สุดท้ายกลับได้ผลตอบรับที่ดี มีฮาเร็มล้อมรอบ ทั้งที่ในความเป็นจริงนิสัยแบบนี้มันไม่มีใครคบไง แต่พอเป็นเรื่องในนิยายก็ใส่ได้อิสระเลยว่ามีแวมไพร์สาวร่างโลลิมาติด มีสาวสวยห้อมล้อม

หรืออย่างเรื่องดังอีกเรื่องก็ Solo Leveling พรี่ซงจินอูนี่ล่ะ ที่แม่งแห่งได้พลังมาแบบกฎทุกอย่างที่ธรรมชาติให้มา เก่งเทพอยู่คนเดียวในเรื่องแล้วทำตัวหยิ่งๆ เอ็ดจี้ ไม่น่าคบ แต่ในเรื่องกลับเขียนให้คนรอบข้างกลับเลียว่าไอ้นี่โคตรเทพ เป็นผู้กอบกู้อะไรทำนองนั้น

อันนี้กูไม่รู้หรอกนะว่ากูโลกแคบไปเอง หรือว่าโลกปัจจุบันมันบิดเบี้ยวไปแล้วกันแน่ แต่ในชีวิตจริงกูมีเพื่อนที่รู้จักกันนิสัยแบบนี้อยู่ แล้วแม่งนัดเยสาวเป็นกิจวัตร สลับรางเป็นว่าเล่น ซึ่งกูที่รู้จักกับมันมานานจึงรู้ดีว่านิสัยมันเหี้ยขนาดไหน แต่ในขณะเดียวกันมันก็ดันประสบความสำเร็จในการเป็น Sigma male ซะงั้นนี่ล่ะ (แน่นอนว่ากูมองบนทุกคนเวลาคุยกับมัน)

ส่วนพระเอกสไตล์กูเขียนค่อนไปทาง Beta male ว่ะ คือไม่ทำตัวโดดเด่น เน้นรักสงบ มีจิตใจดี อ่อนโยน ฯลฯ มีกฎอะไรก็เล่นไปตามเกม ซึ่งทุกเรื่องที่กูเขียนมาพระเอกจะเป็นแนวนี้หมด อย่างเรื่องล่าสุดก็กำหนดว่าเป็นแค่คนธรรมดาที่รายล้อมไปด้วยยอดมนุษย์ ไม่ได้มีกล้ามเนื้อพลังเวอร์ๆ ให้จัดการปัญหา แต่จะทำหน้าที่เป็นมันสมองและคอยสนับสนุนอยู่แถวกลาง/หลัง มากกว่าคอยขึ้นบวกไปข้างหน้าหรือเผชิญปัญหาเอง ซึ่งพอกูเขียนให้มันพลาดท่าเวลาเจอปัญหาเกินตัวจนแก้ด้วยตัวคนเดียวไม่ได้มันก็สมผลไง แต่ตรงนี้ล่ะที่น่าจะเป็นจุดทำให้คนอ่านขัดใจกัน

294 Nameless Fanboi Posted ID6:FToG6QaFQy

>>293 ตัวละครหลักคือนางเอกหรือโลลิ จะเบียวบ้างได้ไหม

295 Nameless Fanboi Posted ID6:MN186RkJS2

>>292 มึงดูไอ้ขี้โม้ที่พล่ามเหี้ยอะไรเม้นบนๆ นั่นอ่ะ ตัวอย่างง่ายๆ

296 Nameless Fanboi Posted ID:4mBBGb6Rw.

>>294 เบียวได้แหละ แต่ถ้าตัวละครหญิงเบียวๆ มันจะออกแนวตลกแดกมากกว่า เพราะตัวละครหญิงมันไม่เข้ากับความรุนแรงเอ็ดจี้

กลับกันถ้าเขียนมาแบบทำอะไรผิดสามัญสำนึกมันออกแนวสาวเปิ๋นเป๋ออะไรพวกนั้น ยกตัวอย่างหนูไมน์ค่าเฉลี่ย อีตู้เย็นเมเปิ้ลงี้

แต่ทั้งนี้ต้องจำกัดขอบเขตดีๆ เพราะมากเกินไปจะกลายแมรี่ซูแล้วอิหยังวะ ยกตัวอย่างก็เช่นเคสอีเมเปิ้ลตู้เย็นระบบเกมพังนี่ล่ะ

297 Nameless Fanboi Posted ID:5SHqO24pq2

>>292 เมิงแค่ต้องยอมรับก่อน ว่าเมิงต้องแข่งกับนิยายแปลจีน ถ้าเมิงไม่อยากแข่งก็แพ้ เทียบง่ายๆ แบบเห็นภาพเลยนะ ไอติมโคนวานิลา
ที่จีนทำมาราคา15บาท คนก็ต่อคิวกินกัน เพราะรสนมอัดเม็ดที่มากกว่า ผิวสัมผัสโคนที่กรอบดีกว่า แล่วทำไมต้องไปซื้อร้านฟาสฟู่ด ตะวันตก

ส่วนความเบียว คือทำสิ่งที่คนปกติไม่ทำกัน
เช่น หนูเป็นคนไม่ชอบเอาชนะหรอก แต่เรื่องอะไรหนูต้องแพ้!

กุบอกแล้วไงถ้ามันเป็นเกมกุต้องชนะ!

The world god only know เซียนเกมรักขอเป็นเทพนักจีบ

หรืออะไรก็ได้ ที่ทำให้ทุกคนหัน คมดาบ มาใส่เมิงหมด เออ กุจะโดนหาว่า เก๊กบ่อยๆ ด้วย
แล้วก็โดนคนเกลียด ประมาณว่า ทุกคนอยากฆ่าเมิง อยากทำร้ายเมิงอะ กุโดนมาหมดละ ไม้
มีด กระบอง หมัด ลูกบอล
เบียวๆ คงจะเป็นแบบที่ทุกคนจะตามฆ่าเมิงหมดโลกอะ
แต่กุไม่ได้ทำอะไรใครเลย i have no enemy
กุก็อยากใช้ชีวิตปกติสุข เหมือนคนอื่นเหมือนกัน

พล็อตชีวิตจริงกุเลยประมาณนี้ละ
เสือกโดนยัดว่า เบียว ซะงั้น

298 Nameless Fanboi Posted ID6:FToG6QaFQy

>>296 โคตรเกลียดอีเมเปิ้ล

ชอบการออกแบบตัวละครนะ น่าเอาไปใช้งานมาก(lewd) แต่เกลียดตัวละคร

299 Nameless Fanboi Posted ID6:j9hWED9zCS

10 ปีข้างหน้า นิยายแปลจีนอาจจะตกกระแสไม่มากก็น้อย น้อยคนที่จะชอบของเดิมๆตลอดชีวิต ส่วนมากเอียนคือเบื่อไปเลย

300 Nameless Fanboi Posted ID6:COJpuXjtrx

>>298 เมเปิ้ลนี่จะมองว่าเป็นความผิดอีห่านี่คนเดียวก็ไม่ได้ เพราะแทบทุกอย่างในเรื่องมันก็อิหยังวะหมดเลยเนี่ยแหละ ยิ่งถ้าเป็นคนชอบเล่นเกมมาอ่านแบบไม่ถอดสมองอีกคืออ่านไปก็ wtf กับความเป็นเกมของเกมในเรื่องไป
>>299 เทรนด์มันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทั้งไทยและเทศแหละ แม้แต่วงการอื่นแบบการ์ตูน ซีรีย์ หรือเกมก็เป็น

301 Nameless Fanboi Posted ID:g2OENoha3d

>>287 แบบนั้น นิยายของเมิงคงน่าเบื่อมากๆ
ถ้าเมิงจะเขียนให้โลกสวย ก็ต้องไปสุดทาง
การที่เมิงบอกว่าโลกสวย ตัวประกอบ ผิดทาง ต้องเปลี่ยนนะ กุว่าเมิงไม่ได้เข้าใจการสร้างตัวละครแบบjojoเลย

ไม่เข้าใจการพัฒนาตัวละคร ด้วยซ้ำ
ยกตัวอย่าง สร้างตัวละครที่เชื่อในโลกสวยสุดขีด เมิงต้องเข้าใจตัวละครที่เมิงเขียน

เช่นตัวละครนี้ โดนคนอื่นหลอกใช้ โดนเพื่อนทรยศหักหลัง หรือโดนแทงข้างหลัง นับครั้งไม่ถ้วน รวมทั้งให้ความไว้วางใจแก่คนอื่น จนเจ็บไม่จำ สุดทางของตัวละครนี้คืออะไร

ก็ให้การตัดสินใจของตัวละครนี้เป็นคนตัดสินใจเอง ไม่ใช่เมิงเป็นคนกำหนดeventของเหตุการณ์
ถ้ายังจบในแบบที่ตัวกุก็ยังเป็นกุเหมือนเดิม
นั่นละเขาถึงเรียกว่า ตัวเอก ของนิยาย
แต่ถ้าไม่ใช่คือเมิงเขียนตัวประกอบอยู่

ส่วนพวกที่ขายวิญญาณ เงิน ชื่อเสียง เกียรติยศ เพื่อออกจากวิถีหลัก ของตัวละคร แบบนั้นสิถึงเรียกตัวประกอบ

นิยายที่เมิงเขียนกุไม่อ่านแล้ว ถ้าเรื่องแค่นี้ไม่เข้าใจ เมิงไม่ได้เป็นคนกำหนดว่าใครคือตัวเอก
แต่ตัวละครต่างหากที่จะเป็นคนกำหนด

302 Nameless Fanboi Posted ID:g2OENoha3d

>>300 เมิงเล่นเกมจริงเปล่า
เทรนด์ไม่เคยเปลี่ยนหรอก ขอแค่ชนะในท้ายที่สุดก็พอ กุชอบpvpด้วยไง เล่นเกมซิงเกิลเพเยอร์ไม่เคยจบ

"In the end, winning is everything. No matter what it takes, no matter what methods you use, as long as you win, that's all that matters."

ช่วงนี้กุว่าเกม IRL สนุกกว่าสมัยก่อนอีก

303 Nameless Fanboi Posted ID:g2OENoha3d

>>299 ทำไมต้องบอกว่า ตกกระแส
กุอ่านในห้องสมุด หนังสือนิยายเก่าๆ สมัยก่อน จีนเขียนได้ดีหมด

เพราะกุไม่ได้พึ่งมาอ่าน นิยายจีนนะ กุอ่านตั้งแต่ โกวเล้ง อุนสุยอัน และเรื่องเก่ากว่านี้อีกจำชื่อไม่ได้ กลิ่นกระดาษจากนิยาย ที่ทำให้เราเหมือนเข้าไปโลดแล่น ในเรื่องนั้นจริงๆ

คือกุงง ว่าพวกเมิงเพิ่งเคยอ่านนิยายจีนกันหรอ
ส่วนกุอ่านมา20กว่าปีแล้วไม่เคยตกยุคนะ
ถึงสมัยนี้พวกweb novel จะไม่ละเอียดเท่าสมัยก่อน รายละเอียดไม่เท่า นิยายจริงๆ
มันก็คงเปลี่ยนไปตามวิถีชีวิตที่เร็วขึ้นของคนสมัยนี้

กุว่าถ้าพวกเมิงเขียนนิยายแล้วสู้นิยายจีนแปลไม่ได้ ควรพิจรณาตัวเองได้ละ ถ้าไม่คิดจะพัฒนาตัวเองอะนะ ไม่ต่างกับละครน้ำเน่าที่เนื้อหาแบบเดิมตลอด50-60ปี แล้วหวังว่าจะมีคนมาอ่าน

304 Nameless Fanboi Posted ID:SMrZ+vyNw1

กูไม่รู้ กูเขียน NC 18+ ขายง่ายดี พล็อตมีหรือไม่มีก็ไม่เป็นไร ถ้าอ่านแล้วเสวถือเป็นใช้ได้ ซี๊ดดด ท่อนของนายมาอยู่ในมดลูกตูดชั้นได้ยังไงงง อ๊ากกก

305 Nameless Fanboi Posted ID:g2OENoha3d

>>304 แล้วแต่คน กุชอบ นิยายให้แง่คิด จนเซฟภาพเก็บไว้ ว่าแต่พวกเมิงเซฟภาพนิยายในเด็กดีไงวะ กุต้องใช้มือถืออีกเครื่องถ่าย

ยกตัวอย่างในนิยายที่กุอ่านนะ
"เจ้าหนอนแมลงเอ๋ย เจ้ายั่วยุข้าแล้ว" เสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวดังมาจากความว่างเปล่า

"เจ้าโง่! ข้าคือหนอนแมลงจริงๆ! แต่ข้าใช้เวลาวินาทีเดียว ก็เปลี่ยนจากหนอนแมลงเป็นคนได้!
เราไม่เหมือนกัน! เจ้าตาย แต่ข้ารอด!" พระเอกหัวเราะ

นี่มันกูชัดๆๆ

มันจะให้ข้อคิดเราตลอดแบบนี้ กุเลยเลือกที่จะซื้ออ่านต่อ

306 Nameless Fanboi Posted ID6:6bImBoifNW

>>301 กูอยากจะเห็นด้วยนะที่มึงว่า
แต่พอลองอ่านเม้นท์อื่นๆ ของมึงแล้ว มันดูเบียวจนไม่น่าเชื่อถือเลยว่ะ ถถถถถ

307 Nameless Fanboi Posted ID:LVdrwz5kfe

>>305 เน้นขายพวกขี้เงี่ยนเฉยๆ น่ะ คนเงี่ยนแอบแฝงมีเยอะนะเว้ยทำเป็นเล่นไป หนังโป๊ เมะโป๊ มีไม่ดู มาอ่านนิยายกูในเว็บเด็กดวกซะงั้น เนื้อหานิยายกูนี่แม่งตรงกันข้ามกับชื่อเว็บเลย แต่คงเป็นเพราะคนชอบอะไรพิสดารมันมีอยู่เยอะประกอบกับมีความขี้เงี่ยนแอบซ่อนไว้ในตัว นิยายวายแนวคนกับครึ่งสัตว์ตัวผู้แต่ท้องได้เลยขายดี๊ดี โดยเฉพาะกับประเภทเงือกชายนี่ขายดีเป็นพิเศษไม่รู้ทำไม ขายใน ธวล. กับ รอร. ยังขายไม่ดีเท่าที่นี่ กูว่ากูพอก่อนดีกว่าเดี๋ยวโม่งแตก

จากสิ่งที่กูพูดมาสรุปได้ว่าสาววายในเว็บเด็กดวกมีเยอะและกำลังซื้อก็มีมากด้วย ถ้าเป็นแนวอื่นๆ ที่มึงพูดกันมาข้างบน ต้องโชคดีจริงๆ ถึงจะดังได้วะ

308 Nameless Fanboi Posted ID:g2OENoha3d

>>306 แค่เมิงพูดเรื่องแนวนิยาย ก็น่าเบื่อแล้ว
ก็ไม่แปลกที่นิยายเมิงเขียนจะเป็นนิยายดาษๆตัดจบ แล้วยังมาขี้โม้ว่า เขียนแบบjojoอีกต่างหาก

>>307 กุก็เข้าใจอยู่ กุเคยมีเพื่อนโอตาคุ2Dขี้เงี่ยนอยู่คนนึง เดาว่าในโลกนี้คนแบบนี้คงมีเยอะแยะเต็มไปหมดเลยสินะ

309 Nameless Fanboi Posted ID6:3IphEVrF5q

>>308 เบียวหลุดจากคอกว่ะ

310 Nameless Fanboi Posted ID6:Xz9v6vuop+

ถึงพยายามจะทำตัวเป็นกูรูยังไง สุดท้ายความขี้โม้หลงตัวเองของแม่งก็ปิดไม่มิดจริงๆ นะไอ้เอ๋อไอโอเนี่ย

311 Nameless Fanboi Posted ID:9f+CEBYEK4

>>310 ไอโอไหนวะ หมายถึงพวกมาจากห้องการเมืองเหรอ

312 Nameless Fanboi Posted ID6:eoslHibgyQ

>>311 หมายถึงพวกชอบด่าคนอื่นว่าเบียว แต่ไม่คิดจะส่องกระงกเงาตัวเอง เพราะ EQ (ความฉลาดด้านการควบคุมอารมณ์ตัวเองต่อสิ่งปลุกเร้า) ของตัวเองนั่นต่ำกว่าค่าเฉลี่ย

นอกจากพวกที่ชอบดูถูกว่าไอ้นี่เบียว ไอ่นั่นก็เบียว สมัยนี้เห็นตัวอย่างง่ายสุดคือพวกโว๊ก ที่จะมีอาการโมโหโทสะด่าคนเห็นต่างว่าพวกเกลียดความหลากหลาย-ความเท่าเทียมทางเพศ

313 Nameless Fanboi Posted ID6:eoslHibgyQ

กลับเข้าเรื่องเถอะ
กูชักจะถอนหายใจเลย พวกแม่งหาเมียชีวิตจริงไม่ได้รึไง ถึงอยากมีอารมณ์กับสัตว์ของโลกแฟนตาซี

https://www.dek-d.com/board/writer/4120060/
https://www.dek-d.com/board/writer/4120070/
https://www.dek-d.com/board/writer/4120082/

314 Nameless Fanboi Posted ID:/m6tElE64y

>>311 ชื่อไอโอมาจากห้องเกมเพราะมันอวยเกมขยะกากๆ เกมนึงเหมือนไอโอการเมืองตามโซเชียล ถึงสุดท้ายตัวมันก็ทนความห่วยแตกของเกมไม่ไหวจนเลิกเล่นไปก็เถอะ
มันอยู่หลายห้องแล้วก็โดนเขาไล่เหมือนหมูเหมือนหมาทุกห้องเพราะเพ้อเจ้อแบบนี้เนี่ยแหละ เพราะฉะนั้นเวลามันเบียวฝอยอะไรมาก็ไม่ต้องไปคิดจริงจังมากหรอก พวกมึงเห็นมาหลายวันน่าจะเริ่มเข้าใจแล้วใช่มั้ยล่ะว่ามันขี้โม้แค่ไหน

315 Nameless Fanboi Posted ID:9f+CEBYEK4

>>314 เออ เบียวหนักจริง ตอนแรกนึกว่าหมายถึงไอ้หมาไซเพราะเห็นไปไหนก็มีแต่คนไล่

316 Nameless Fanboi Posted ID:OkTzf/J8WA

>>312 ก็จริงตามนี้ นักเขียนที่วันๆ เอาแต่โทษนั่นโทษนี่ ก็เพราะพวกนี้ความพยายามไม่มากพอ หรือ ไม่มีความเบียวมากพอ ความมีวินัย
ทำไมไม่มีคนอ่านนิยานกุเลยละ?

เมิงไม่ต้องสนหรอก ว่ามีคนอ่านนิยายเมิงกี่คน ตลาดชอบแนวไหนอยู่ เขียนสิ่งที่เป็นนิยายตามที่มันควรจะเป็นจริงๆก็พอ

ทำไมต้องเล่นเกมฮิตนะ อ่านนิยายยอดฮิตbest seller ต้องตามที่คนส่วนใหญ่ชอบ

>>315 เคยคุยในโม่งกับมันอยู่ เมื่อเดือนนี้ละต้นๆเดือน กุว่ามันก็คุยดีนะ ถูกคอ ถ้าคนอื่นในโม่งมีแต่พวกน่าเบื่อทั้งนัั้นเลย

>>314 ไอโอ มันใช้กับเกมได้ด้วยหรอ เมิงมีหลักฐานหรอว่าเกม จ้าง มันมาโปรโมทในโม่ง
มันอาจจะคลั่งไคล้เกมhardcoreก็ได้
คนเราไม่จำเป็นต้องเล่นเกมตามกระแส
จำไว้นะ ปลาที่ทวนกระแสคือ ปลาเป็น ส่วนปลาไหลตามกระแสน้ำคือปลาตาย

317 Nameless Fanboi Posted ID:OkTzf/J8WA

>>313 เออ กุไม่เคยชอบเนื้อเรื่องสัตว์เลี้ยงเท่าไร
หรอก มันดูเบียดเนื้อเรื่องหรือตัวละครเสริมมากกว่า ก็น่ารำคาญที่ต้องมีบทพวกนี้แม้ไม่ได้สำคัญ เรื่องไหนสีสัตว์หน้าปก กุหลีกเลี่ยงเลย

เรื่องที่เห็นชัดๆ ก็ S class that i raised
แล้วพวกชอบfuryมันก็คืออาการอย่างหนี่งของ พวกlgbtเหมือนกัน

318 Nameless Fanboi Posted ID6:5uET4a4LFA

ผิดมั้ยที่กูขำไอ้ >>316 ว่ะ ความเบียวแต่ละคำที่แม่งพูดจนกูหยุดหัวเราะไม่ได้
>>313 ไอ้เคสนี้อีกที่ทำกูขำกลิ้ง ไอ้ตัวเริ่มนี่ก็ปั่นชิบหาย เห็นแล้วรู้เลยว่าแม่งมาหาเรื่อง

เข้าเรื่องๆ
ช่วงนี้กูรู้สึกว่าวิธีการเขียนแบบที่คนยุคก่อนหน้าพร่ำสอนนี่เอามาใช้กับยุคนี้ไม่ค่อยได้แล้วแฮะ เมื่อก่อนทุกคนแม้แต่ บก. เองก็ยังบอกว่าเวลาเขียนอะไรให้ศึกษามาก่อนจะได้เขียนได้สมจริง แต่พอมาตอนนี้คนอ่านบอกว่าไม่อยากอ่านอะไรเรียลๆ ซะงั้น กลับกันยิ่งหลุดโลกเท่าไรยิ่งมีแต่คนชอบ ทำเอากูนั่งคิดบ้างละว่าคราวหน้าลองเขียนอะไรที่มันเบียวหลุดโลกบ้างดีมั้ยกันเลย

319 Nameless Fanboi Posted ID6:5uET4a4LFA

>>316 เออเผื่อว่ามึงจะเข้าใจผิด อันนี้กูไม่ได้บอกนะว่ามึงผิดนะ
แต่วิธีการพิมพ์ตอนท้ายของมึง แม่งเหมือนหลุดมาจากหนังจีนกำลังภายในซักเรื่องจนกูขำเนี่ยล่ะ

320 Nameless Fanboi Posted ID6:AcCx25fvh/

>>318 คราวหน้าลองเขียนอะไรที่มันเบียวหลุดโลกบ้างดีมั้ยกันเลย

ถ้าคิดได้ง่ายแบบนี้ก็ดีสิ ยิ่งอายุเยอะยิ่งเบียวไม่ออกเว้ยยยย ร้องไห้แป็ป

321 Nameless Fanboi Posted ID6:eoslHibgyQ

>>318 >>320 ตัวอย่างนี่ไง
Konosuba
Pop team epic
Shikanoko Nokonoko Koshitantan

322 Nameless Fanboi Posted ID:Kx/GHbJ/oF

>>320 ตัวอย่างชั้นดีอยู่แถวนี้แล้วไง ลองไปร่ำเรียนวิชาจากมันดูสิ
ถ้าไม่กลัวธาตุไฟเข้าแทรกกลายเป็นบ้าไปอีกคนละก็นะ

323 Nameless Fanboi Posted ID6:AcCx25fvh/

>>322 สงสัยเล่นๆ ถ้า ธาตุอื่นเข้าแทรกบ้างจะเป็นยังไง

324 Nameless Fanboi Posted ID6:3IphEVrF5q

>>320 เรื่องเบียวไม่ออกนี่จริงจังเลย กูอายุไม่ใช่น้อยแล้วด้วย พอพยายามจะเบียวแล้วกูอายตัวเองด้วยความ cringe ชิบหาย

325 Nameless Fanboi Posted ID:jW2IEVt9Mp

เออ กุก็โดนโม่งจิ้ม บอกว่ากุเบียว
กุก็ไม่เคยแคร์พวกเมิงนะ ว่าจะหาว่า กุเป็นยังงั้น ยังงี้ เพราะ กุไม่เคยจำกัดความตัวเอง
และกุไม่เคยให้คนอื่นมากำหนดว่ากุเป็นคนยังไง

แต่กุเป็นกุคนเดิมตั้งแต่เกิดมา อดีต ปัจจุบัน หรือ อนาคต 100ปีนี้ จากนี้กุก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยแม้แต่วินาทีเดียว
เมิงพยายามได้นะ แต่เมิงเป็นแบบกุไม่ได้หรอก

เลิกหาว่าคนอื่นเบียว หรือขำหัวเราะคนอื่น บางทีเมิงอาจจะแต่งนิยายดีๆได้สักเรื่อง แต่ว่ากุดูแล้วพวกเมิงน่าจะทำไม่ได้

326 Nameless Fanboi Posted ID:jNNqz+K5tt

ไร้สาระชิบหายพิมบ้าไรกันเนี้ย​ ที่บอกแต่งนิยายได้เอาลงแพตฟอมอื่นด้วยมั้ยลองเอาลงหลายๆที่ดูก่อนได้นะเรื่องตัวเอกนี่ตราบใดที่มีพัฒนาการเดี๋ยวคนก็ชอบเอง​ มีเรื่องนึงในเด็กดีช่วง1-300ตอนแรกๆคนด่าพระเอกโง่กากไม่เจียมตัวเห็นแก่ตัวโลกแคบเต็มไปหมดแต่หลังจากนั้นคนแต่งก็ทำให้นักอ่านหันมาชอบพระเอกได้เพราะบทมันเติบโตขึ้นทุกวัน​ บทตัวร้ายคู่ปรับพระเอกวางมาให้คนเกลียดก็ทำสำเร็จคนเกลียดมันมากแต่ตอนหลังก็เขียนให้คนชอบได้อีก​ หรือถ้าคิดว่าเรื่องที่ตัวเองแต่งมันไปต่อไม่ไหวจริงๆก็ลองทำให้มันกระชับแล้วหาทางลงซะ​ไปเริ่มเรื่องใหม่​ ลองแต่งแฟนฟิคซักด้อมดูจะเกมหรือเมะหรือหนังก็ได้หาฐานแฟนไปในตัวพอได้แฟนผลงานแล้วก็หยอดๆว่า​ ผมมีผลงานออรินะครับใครสนใจไปอ่านได้นะ​ ลองเกาะกระแสอะไรสักอย่างไปก่อน​ ชญ​ ชช​ ญญ ได้หมดสตาวอ​ อวาตาร์งี้​ สู้นะคับ​ขอให้สักวันเป็นวันของคุณ​ ^×^V

327 Nameless Fanboi Posted ID6:bYz+RD04gP

>>326 เรื่องนึงในเด็กดีช่วง1-300ตอนแรกๆคนด่าพระเอกโง่กากไม่เจียมตัวเห็นแก่ตัวโลกแคบเต็มไปหมดแต่หลังจากนั้นคนแต่งก็ทำให้นักอ่านหันมาชอบพระเอกได้

เดี๋ยวนะโม่ง รี้ดของโม่งมันใจดียอมทนอ่านมา300กว่าตอนจนพระเอกเก่งได้เลยเหรอ โคตรใจดี

ยุคนี้3ตอนแรก ไม่มีแววเก่ง แทบจะเทกันหมด จึงไม่แปลกใจทำไมต้องเอาระบบมาช่วยถึงพอขายได้

328 Nameless Fanboi Posted ID:oX3wXDnsZP

>>327 เรื่องนั้นพระเอกมันเก่งอยู่แล้วเก่งในระดับนักกีฬาต่อสู้อะ​แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า​แค่มันมีคนเก่งกว่าแล้วเรื่องมันมีจุดเป้าหมายตัวละครรอบข้างพระเอกน่าสนใจคนแต่งวางเซ็ทติ้งและระดับพลังดีด้วย​ แต่นิยายสมัย10กว่าปีที่แล้วด้วยแหละสมัยเด็กดีบูมๆและไม่มีนิยายจีนทะลุมิติครองชาร์ท

329 Nameless Fanboi Posted ID:jW2IEVt9Mp

>>327 ว่าไปกุก็ไม่เคยอ่านเรื่องพระเอก กากเลยสักครั้งแหะ จะเน้นฟามเลเวล อย่างเดียว
เมีย ลูก คือ ตัวประกอบ ภาระ อะไรทำนองนั้น
ตอนจบคือพระเอกอยู่บนจุดสูงสุด

จนกุลืมไปแล้วว่ามีใครแต่งเรื่องพระเอกกาก ด้วยหรอ

330 Nameless Fanboi Posted ID:eGaLsIbx9z

>>329 แต่งได้แต่ไม่มีคนอ่าน/คนอ่านน้อย โดยเฉพาะในเด็กดวกที่มีแต่ตัวเอกแกรี่/แมรี่ เต็มไปหมด

331 Nameless Fanboi Posted ID6:SF5t6WtqbC

ตั้งแต่กูกลับมาเขียนลงเด็กดวกเกือบ 10 ปีที่แล้ว มันก็นิยมพระเอกเก่ง ด่าพระเอกกากมาตลอดละนะ

เอาจริงกูอยากลองเขียนตัวเอก sigma male แบบที่โม่งเบียวมันฝอยออกมานะ แต่พอจินตนาการตามแล้วกูขนลุกอะ ไม่ใช่สไตล์เลยจริงๆ

332 Nameless Fanboi Posted ID6:bYz+RD04gP

อยากอ่านตัวเอกที่เป็น sigma loli ไม่เคยเห็น

333 Nameless Fanboi Posted ID:.Ki92bBwIn

>>332 เดอฟัคอีสแดท

334 Nameless Fanboi Posted ID:+FxTG64Z+Y

>>331 ซิกม่าเมลอะไร ศัพท์แปลกๆอีกละ เอาจริง กุไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลย
ตอนเด็ก3ขวบ กุตกบันได หัวแตกเย็บ10เข็ม หมดสติทันที บันไดไม้นะ ดังนั้นสมอง กุยังดีอยู่ แต่กุมีแผลเป็นที่หน้าผากรอยบาก แต่เป็นสิ่งที่ถือว่าโชคดีที่สุดของกุก็ว่าได้ อย่างที่เขาว่ากันว่า วาสนามักมาในคราเคราะห์

เวลาลูบแผลเป็น ความหวาดกล้วจะเข้าท่วมตัวกุทันที มันฝังลึกในร่างกายคนเรา จิตใต้สำนึก
ทำให้กุมีนิสัยประหลาด คือ ขี้ระแวงสุดขีด ขึ้นมา
อะไรที่คนปกติไม่ระวัง กุระวังไว้ มีแผน2แผน3แผน4แผน5
ทำให้กุต้องมีความมั่นคง รอบครอบ และใจเย็น
ซึ่งกุว่าความหวาดกลัวไม่ได้แย่
ถ้ากุดีใจจนเกินไป กุจะลูบแผลเป็น เพื่อควบคุมตัวเอง การดีใจเกินไปจะนำอันตรายมาสู่ตัวเรา
ถ้ากุเสียใจจนเกินไป กุก็จะลูบแผลตัวเองให้กุได้สติไม่โดนอารมณ์ควบคุม จนตอนนี้ความหวาดกลัวก็กลายเป็นแกนหลักของตัวกุไปแล้ว
ถ้าไม่มีมัน กุคงไม่เป็นตัวกุแบบทุกวันนี้

กุเชื่อนะว่าความหวาดกลัวสามารถมอบให้ผู้อื่นได้ เหมือนที่คนอื่นเจอเหตุการณ์ต่างๆมา ก็แตะคนอื่นเป็นสีดำได้

และนอกจากนี้กุยังเอาไปใช้กับการเล่นหุ้น หมากรุก กับpokerด้วย และอื่นๆอีกมากมาย บางทีเมิงก็อาจมีพลังก็ได้ แต่เมิงแค่ไม่เคยสังเกตุกันแค่นั้น

ความมืดกับแสงสว่าง เป็นของคู่กัน
ถ้าไม่มีความมืด ก็ไม่มีแสงสว่าง พูดไปโลกนี่ก็มีคนที่เกิดจากสิ่งพวกนี้เหมือนกัน มันน่าค้นหานะว่าไหม

335 Nameless Fanboi Posted ID6:TYOCUsfGrP

ทำไม แนว แฟนตาซี แบบrpg มันถึงนิยมในระดับสากล

336 Nameless Fanboi Posted ID:Z6WuK9pH+U

>>335 ปูทางมาดีผ่านเกม RPG ญี่ปุ่น แล้วฝั่งยุโรปก็เล่น Table top RPG แนว Sword and magic มาเองก่อนแล้วด้วย

มันแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันไปมาน่ะ คนญี่ปุ่นเห็นฝรั่งเล่น DnD แล้วเห็นว่าเข้าท่า เอามาต่อยอด เพิ่ม Lore เพิ่มองค์ประกอบอื่นๆ ลายเส้นมังงะญี่ปุ่นวาดสวยออกตีตลาดต่างประเทศ พอเริ่มเป็นที่นิยมมันก็แพร่หลายไปได้เอง แต่เอาจริงๆ พอเวลาผ่านไป ความนิยมของโลกมันก็เปลี่ยนตาม เรื่องของ RPG แฟนตาซีเลยกลายเป็นแต่เซตติ้งอย่างนึง เป็นพื้นหลังของแนวต่างๆ ที่กำลังฮิตแทน (เช่นแนวเกิดใหม่ต่างโลก, แก้แค้น)

ทั้งเกม นิยาย หนัง พักหลังๆ มันก็ไม่ค่อยมีเพียวแฟนตาซีออกมาขายบ่อยแล้ว แนวเกี่ยวกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ โลกอนาคต หรือโลกหลังยุคล่มสลายจากสงครามก็มีเพิ่มขึ้นมากละ

337 Nameless Fanboi Posted ID:iEWAF9vTtT

>>335 ต้องถามกลับดีกว่าว่าทำไมมันถึงจะไม่ล่ะ?
ส่วนตัวกูมองว่าแนวแฟนตาซีคลาสสิคถ้าแต่งดีๆ มันค่อนข้างจะครบรสในตัวอยู่แล้ว ความหลากหลายของตัวละครและความสัมพันธ์เอย ความละเอียดของเซ็ตติ้งและพื้นเพของโลกเอย ความแตกต่างและวิถีชีวิตที่มึงไม่ได้เห็นในโลกประจำวันบ่อยๆ เอย เหลือแค่การเล่าเรื่องผูกเรื่องกับการแต่งให้จบเนี่ยแหละที่จะทำให้มันดีหรือไม่ดี แต่พวกที่ดีๆ มันก็จะดังในระดับสากลแบบที่มึงว่านั่นล่ะ ต่างกับพวกที่ดัดแปลงจากแนวนี้มาแบบอิเซไคหรือ rpg หน้าต่างสเตตัสที่ถึงดังมันก็ดังแบบประเดี๋ยวประด๋าว ผ่านไปไม่กี่ปีก็โดนเรื่องใหม่ๆ กลบหมดแล้ว
ติดแค่ว่าแม่งขายไม่ได้ในโซนนี้เพราะเทสคนพักหลังๆ แม่งเสพติดแต่ความฉาบฉวยเนี่ยแหละ ปูพื้นนิดหน่อยก็ว่ายิืด ตัวเอกไม่เทพซ่าไม่เฟียสกีตบคู่แค้นเก่าด้วยตัวคนเดียวในไม่กี่ตอนไม่ได้แม่งก็บอกกากกูดรอปละ

338 Nameless Fanboi Posted ID6:P5x94g/ogh

>>337 คนนิยมเยอะ คนอยากเกาะกระแสเยอะ การแข่งขันยิ่งสูง แก่งแย่งชิงผู้บริโภคไม่สนความเท่าเทียม ความกดดันรุนแรงขึ้น ความเครียมสะสมทวีคูณ ผู้แพ้ต้องถอนตัวจากการแข่งขัน ผู้ชนะต้องแบกรับความเครียดต่อไป

>>335 ตอบแบบกำปั้นทุบดิน กลุ่มคนเจน z เจน alpha เกิดมามีเกมให้เล่นตั้งแต่เด็ก เจน z เกิดทันช่วง FF7 สมัยเพลย์1 แต่ได้เล่นก็น่าจะประมาณยุค FF12 หรือ half life 2 เด็กเจน alpha ก็นึกไม่ออกว่า แฟนตาซีปราศจากระบบเกมอย่างโทลคีนกับแฮรี่พ่องตายมันถึงยิ่งใหญ่กว่านิยายระบบสมัยนี้ยังไง

คำตอบของผู้อ่านนะไม่ยากหรอก วงการเพลงก็ไม่แตกต่างกัน บูมเมอร์โตมากับเพลงลูกทุ่งลูกกรุง เอาค่านิยมส่วนตัวไปให้คนรุ่นหลังฟัง ผลตอบคือไม่อิน คนรุ่นหลังติดใจ j-pop k-pop หรือ heavy metal มากกว่า ไม่มีทางรู้ว่า เมื่อเจน alpha อายุ 50 ปีขึ้นไป ลูกหลานตังเองจะมีรสนิยมชื่นชอบเพลงตรงกับพวกเจน alpha สมัยวัยรุ่นรึเปล่าล่ะ

เพราะงั้น ถึงแม้ปัจจุบัน แนวคิด rpg ระบบตัวช่วยของแฟนตาซีจะเป็นที่นิยม ในอีก 20-40 ปีต่อมา จะยังใช้ได้กับเด็กที่เป็นลูกๆของพวกเจน alpha เหมือนเดิมอีกมั้ย

339 Nameless Fanboi Posted ID6:m1ddZRy7m1

เรารู้สึกว่า ถ้าเพิ่งเริ่มแต่งนิยายเรื่องใหม่ ถ้าแต่งแนวจีนไม่เป็น แต่งแนวrpg fantasy มีตัวเอกเก่งๆ เวลอัพไปเรื่อยๆ จะเซฟสุด

โม่งเห็นด้วยไหม

340 Nameless Fanboi Posted ID:kK4R7LEAsc

>>339 ต้องอ่านมาเยอะ ยืมจุดขายที่มึงคิดว่าอ่านแล้วสนุกมาจากเรื่องอื่น แล้วเขียนแก้เรื่องที่ขัดใจมึงเวลาอ่านเรื่องของคนอื่นในนิยายตัวเองด้วย

ถ้าทำ 3 อย่างนี้ได้ ก็พอจะมีลุ้นอยู่

341 Nameless Fanboi Posted ID:4gdd3GNyzh

>>340 ยืมจุดขายที่มึงคิดว่าอ่านแล้วสนุกมาจากเรื่องอื่น แล้วเขียนแก้เรื่องที่ขัดใจมึง

เออ ใช่ เทคนิคนี้น่าสนใจมาก แต่ต้องอ่านแนวเดียวกันมาเยอะๆด้วยแหละถึงทำได้

342 Nameless Fanboi Posted ID:/CdJ9nJqGE

>>341 กูก็เริ่มต้นมาจากจุดนี้แหล่ะ แรกๆ คือเขียนแบบตามใจตัวเองอย่างโคตรจะมือสมัครเล่นเลย ถ้าย้อนเวลากลับไปได้คงอยากตะโกนด่าตัวเองว่า "มึงเอามือพิมพ์หรือเอาปลายตีนเขี่ยจอถึงได้นิยายแบบนี้ออกมา"

แต่ด้วยความที่ชอบอ่านนิยายคนอื่นด้วย อ่านมากๆ มันก็ซึมซับ เริ่มเรียนรู้ที่จะยืมมาใช้ เวลาแต่งเองมีโดนคนอ่านทักเหมือนกันว่าฉากนี้ของกูคล้ายเรื่องนั้นเลย หรือคำพูดประโยคนี่มันมาจากตัวละครนี้ชัดๆ ซึ่งมันก็ช่วยไม่ได้เพราะฝีมือการดัดแปลงของกูตอนนั้นยังกากอยู่ พอนานๆ ไปถึงจะสามารถยืมมาใช้แล้วคนอ่านจับไม่ได้ว่าเอาแรงบันดาลใจมาจากไหน แต่อารมณ์ความประทับใจในฉากยังดีพอๆ กัน และต่อให้กูจะยังไม่เก่งแต่ก็พยายามหลีกเลี่ยงเรื่อง plagiarism เพราะการลอกคนอื่นมาทั้งดุ้นนี่มันน่าทุเรศเกิน มึงต้องเขียนจนกว่าจะจับจุดได้เองว่าควรทำยังไงถึง

ส่วนตัวกูน่ะอ่านฉากนั้นซ้ำๆ แล้ววิเคราะห์ดู ว่าเจ้าของเรื่องมันใช้วิธีเขียนแบบไหนให้เราชอบ อ่านแล้วรู้สึกว่ามันดี มันเจ๋ง ใช้อารมณ์ความคิดตัวละครหรือใช้การกระทำที่เกิดขึ้นเป็นตัวกลางในการสื่อ หรือวิธีอื่นๆ พอสรุปได้แล้วก็ลองเขียนแบบนั้นดูบ้างแล้วไปรอดูผลตอบรับจากคนอ่านเอาอีกที

สำหรับการแก้ไขความขัดใจหรือรำคาญ อันนี้ง่ายกว่าอันแรก เพราะถ้ามึงอ่านแล้วหงุดหงิดตรงไหน แค่ลองคิดว่า "ถ้ากูเป็นตัวละครนั้นแล้วโดนทำแบบนี้นะ กูจะ..." หรือ "ตัดสินใจแบบนี้ได้ไงวะ ไม่สมเหตุสมผลเลย" แล้วมึงก็แก้ต่อจากจุดนั้นในฉาก แล้วเก็บข้อมูลไว้ใช้ เผื่อบางที่ในอนาคตนิยายมึงมีเหตุการณ์แบบนี้มึงจะได้ยืมมาใช้ได้ทันที แต่มึงต้องอย่าลืมว่าการแก้นั้นควรเหมาะกับนิสัยตัวละครด้วย ถ้าการตัดสินใจทีมึงแก้ใหม่จนถูกใจตัวเองดันไปทำให้ตัวละครเกิด ooc (ขัดแย้งกับนิสัยใจคอปกติ) ก็อย่าทำเหมือนกัน เดี๋ยวจะสร้างความขัดใจอันใหม่ให้คนอ่าน

เช่นตัวเอกบาทหลวงสายบุญจิตใจเมตตา อยู่ดีๆ ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อปลดแอกคนยากจน เอาไม้กางเขนไล่ทุบหัวทหารตายเรียบ แบบนี้ก็ไม่ไหว ถึงมึงจะหงุดหงิดที่ชาวบ้านยอมให้พวกขุนนางเอาเปรียบเรื่อยๆ ก็ตาม แต่เอาตัวละครอ่อนแอที่วันๆ ทำแค่สวดมนต์มาบู้แหลกมันก็คงไม่ได้ มึงต้องหาวิธีอื่นมาใช้จัดการตัวร้ายแทนแบบที่อ่านแล้วจะไม่ทำให้คนอ่านร้องอิหยังวะในใจ ซึ่งก็วนกลับไปตรงที่มึงอ่านนิยายมาเยอะแค่ไหน เคยอ่านเจอเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้มั้ย เรื่องอื่นๆ เขาเขียนให้แก้ปัญหายังไง ละเลือกมาสักอย่างนึงเอามาเขียนให้ออกมาโอเค

ก็คือ อ่านเยอะๆ - แก้เนื้อหาที่ขัดใจ - ยืมไอเดียที่ชอบมาใช้ ถ้าทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ได้ก็จะดีขึ้นเอง

343 Nameless Fanboi Posted ID6:p.0fJAJl.U

>>341 ของกูเองก็ใช้เทคนิคนั้น สมัยยังรุ่นๆ เป็นยุคที่นิยายบนเว็ปเพิ่งตั้งไข่ก็มีคนมาเขียนลงตามบอร์ดนี่ล่ะ แล้วพออ่านก็รู้สึกว่ากูเขียนได้ดีกว่านี้ เลยลองเขียนเองซะเลย ทำไปเรื่อยๆ มันก็ซึมซับเข้าเป็นสกิลของตัวเองไปแทน

344 Nameless Fanboi Posted ID:10yeRJbsLB

มีใครแนะนำนิยายตัวเองบ้าง ขอแบบเหี้ยมหาญ ดุดันสะใจ ไม่มีฮาเร็ม ไม่มีโรแมนซ์
แนวให้ข้อคิด ขอแบบคุณภาพนิยายจีนนะ

แนวพระเอกเจอคนที่เทพกว่า ถ้าคิดหาทางไม่ได้
ก็ต้องคิดหาทางให้ได้ และก็มีสถานการณ์ ที่ต้องเร่งอัพเวลไรงี้ เจอวิกฤติแต่รอดมาได้ทุกสถานการณ์ เพราะความเตรียมตัว เช่น วางแผนไว้10ปี ก่อนเกิดเหตุการณ์นั้น สุดโต่ง

แล้วพระเอกต้องคิดแบบ ฉันคือคนดี ส่วนคนที่อยู่ตรงข้ามกับตัวเอง คือความเลว ต้องโดนกำจัดสิ้นซาก

กุขอยากไปไหม หมดหวังกับเด็กเขียนนิยายรุ่นนี้แล้ววะ ชอบทำตัวหน่อมแน๊ม

345 Nameless Fanboi Posted ID:10yeRJbsLB

แล้วพระเอกต้อง ซ่อนงำประกาย
ชีวิตไม่ต้องเด่น ขอเป็นเทพในเงา พระเอกไม่เปิดเผยพลัง แต่ก็รู้จักทดแทนบุญคุณ ไม่ชอบติดค้างใคร แล้วก็ไม่หื่นกามแบบกัด้วย

346 Nameless Fanboi Posted ID6:jeBm4/l3Ir

>>344 คุณภาพนิยายจีนมี 2 เกรด
1. เกรดแต่งโดยคนจีนสมบูรณ์
2. เกรดแต่งโดยคนไทย

347 Nameless Fanboi Posted ID6:pq8/OJAy5Q

>>346 มีนิยายจีนที่เขียนโดยฝรั่ง หรือ ยุ่นไหม?

348 Nameless Fanboi Posted ID:HplqeQd/pQ

>>347 ฝรั่งไม่รู้ แต่ญี่ปุ่นนี่เมาเมาพอได้มั้ย?

349 Nameless Fanboi Posted ID6:pq8/OJAy5Q

>>348 เออ ใช่เมาเมา ลืมไปได้ไง

350 Nameless Fanboi Posted ID:VX.EneYNZz

>>344 >>345 คุณสมบัติพระเอกของมึงนี่เป็นตัวเอกนิยายจีนยุคค่อนข้างเก่าเลย เดี๋ยวนี้หาอ่านแบบนี้ยากแล้ว เพราะมันดันแต่งแบบตรงกันข้ามกับที่มึงว่าเสียเกือบหมด ไอ้แบ่งผิด-ถูก ดำ-ขาว ขัดเจนนี่ยังพอหาได้ แต่พระเอกทำตัว Chad ไม่หลงมัวเมาในหีและเป็นคนถ่อมตัวนี่โคตรหายากเลยวะ

351 Nameless Fanboi Posted ID6:jeBm4/l3Ir

>>344 จะว่าไป ทำไมต้องรอ 10 ปี เกืดใหม่ new game plus เรอะวะ

352 Nameless Fanboi Posted ID:VX.EneYNZz

>>351 มันหมายถึงมุกหนังจีนเก่าๆ ที่ตัวเอกต้องวางแผนไว้ล่วงหน้านานมากเพื่อให้ตัวเองได้เปรียบตอนจะเข้าต่อสู้ เพราะถ้าสู้กันตรงๆ กับตัวร้ายไม่ไหวมีแต่จะโดนฆ่าตายฟรี อธิบายแบบนี้คงเข้าใจยาก เดี๋ยวกูจะให้ตัวอย่างมึงอ่านก็แล้วกัน

เรื่องมันเริ่มตรงที่ตัวร้ายเคยฆ่าพ่อแม่ตัวเอก ตัวเอกรอดตาย ถึงจะแค้นมากแค่ไหนแต่ก็ทำไรไม่ได้เพราะตอนนั้นยังกากอยู่ ระหว่างที่ตัวเอกเร่ร่อนไปตามเมืองต่างๆ แบบคนไร้บ้าน ได้อาจารย์ท่านหนึ่งเมตตาช่วยรับเลี้ยงเพราะเห็นว่ามีหน่วยก้านดีพอจะฝึกวิชาได้ ก็ฝึกวรยุทธควบคู่กับวิชาลมปรานไปตามปกติ พร้อมกับเก็บความแค้นไว้ในใจ

สาเหตุที่ตัวร้ายมาฆ่าครอบครัวตัวเอกเป็นเพราะตระกูลของตัวเอกมีสูตรยาเพิ่มพลังลมปรานอะไรสักอย่าง ตัวร้ายอยากได้ยานี้มากแต่ขอซื้อเท่าไหร่พ่อกับแม่พระเอกก็ไม่ยอมขายสูตรปรุงยาให้ สุดท้ายเลยวางแผนเข้าปล้นหนังสือสูตรยาตัวนั้นแล้วฆ่าทุกคนในบ้านเพื่อปิดปาก

ตัวเอกที่ควรจะตายไปแล้วจากคมกระบี่รอดมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ ด้วยเหตุที่เป็นทายาทสายตรงหนึ่งเดียวที่ได้รับการสืบทอดความรู้ทางยามาจากผู้เป็นพ่อ พอรู้ว่าตัวร้ายชิงสูตรยาตัวไหนไปก็เริ่มปูทางวางแผนตั้งแต่ตอนได้รับการชุบเลี้ยงทันที

ตัวเอกรู้ว่ายาเพิ่มพลังลมปรานนั้นมีผลข้างเคียงที่ไม่ได้เขียนไว้ในตำรา ว่าถ้าใช้ยาตัวนี้แล้วลมปรานจะเพิ่มพูนได้อย่างรวดเร็วก็จริงแต่ความต้านทานต่อวิชายุทธสายพลังเย็นจะลดต่ำตามไปด้วย เลยจงใจขอให้อาจารย์สอนวิชาฝ่ามือสายน้ำแข็งให้ตน ฝึกวิชากระบี่เงินอ่อนที่เน้นการกวัดแกว่งมากกว่าการทิ่มแทง แล้วทำงานเก็บเงินสะสมไว้ซื้อแร่เหล็กที่ขุดได้จากยอดเขาเก้าหิมะ เอาไว้ตีเป็นกระบี่อ่อนที่แผ่รังสีความเย็นได้เมื่อได้รับปรานจากมือผู้ใช้

ตามหลักการแล้วเมื่อเวลาผ่านไป ยิ่งอายุมากขึ้นพลังของผู้ฝึกยุทธก็จะเพิ่มขึ้นตามเวลาที่ฝึนฝน ทำให้ตัวเอกที่ตอนแรกเป็นแค่เด็กในตระกูลทำยาไม่มีทางตามทันตัวร้ายที่ฝึกพลังยุทธมาตั้งแต่แรกได้แน่ๆ แต่คนเขียนก็ทำให้คนอ่านได้พอมองเห็นว่าตัวเอกมีการพัฒนาทางวิชายุทธที่ดี และเตรียมพร้อมสำหรับการสู้ศึกสุดท้ายมาพอสมควร แต่การเตรียมตัวนั้นจะเพียงพอหรือไม่ก็ต้องตามอ่านกันดู

พอเดินเรื่องมาถึงจุดที่ 70-80% ก็เป็นฉากตัวเอกบุกไปยังสำนักที่ตัวร้ายเป็นเจ้าของอยู่เพื่อท้าดวล ประกาศตัวว่าเป็นใคร มาเพื่อแก้แค้นที่ตัวร้ายเคยฆ่าพ่อแม่ตัวเองไว้ ถ้าไม่อยากเสียชื่อต่อหน้าบรรดาลูกศิษย์ก็ให้ออกมารับคำท้าแต่โดยดี แล้วก็ตามสูตรแนวนี้คือตัวร้ายก็จะใช้ลิ่วล้ออย่างพวกลูกศิษย์ที่มีฝีมือหน่อยมาตัดกำลังตัวเอกก่อน อาจส่งมาสัก 3-4 คน จะได้ดูเชิงว่าตัวเอกต่อสู้แบบไหนพร้อมกับทำให้ตัวเอกเหนื่อยล้าไปด้วย

พวกศิษย์เอกจะสู้กับตัวเอกได้อย่างสูสีแต่ก็แพ้ไปทั้งๆ ที่ช่วยกันรุม ตัวเอกจะไว้ชีวิตคนพวกนี้เพราะไม่ได้มีความแค้นต่อกันและเข้าใจว่าทำตามคำสั่ง จากนั้นพวกศิษย์ที่กระจอกกว่านี้ก็จะเข้ามาหิ้วปีกศิษย์พี่อาการปางตายออกไปจากลานประลอง เป็นสัญญาณให้บอสใหญ่ต้องลุกขึ้นแล้วลงมาจัดการด้วยตัวเอง

353 Nameless Fanboi Posted ID:VX.EneYNZz

เปิดฉากด้วยการต่อสู้อย่างดุเดือด แต่ด้วยความที่ต้องสู้อย่างต่อเนื่องทำให้ตัวเอกค่อนข้างเสียเปรียบ สถานการณ์จะค่อยๆ เลวร้ายลงจนตัวเอกเข้าตาจนได้แผลเพิ่มขึ้นและแทบจะพลาดท่าเป็นพักๆ แต่ระหว่างนั้นตัวร้ายรู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่างที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ พอตัวเอกสังเกตเห็นก็เริ่มพูดอย่างเบียวๆ ว่า "มันเริ่มต้นขึ้นแล้วสินะ ผลกรรมที่เจ้าก่อเอาไว้"

ตัวร้ายจู่ๆ ก็สายตาพร่ามัว การมองเห็นค่อยๆ มืดลงจนแทบจะคล้ายคนตาบอด ร่างกายขยับได้ยาก การตอบสนองก็ช้าลงไปอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทั้งหมดเกิดจากสาเหตุสองประการ คือการสูดเอาไอเย็นในพื้นที่ต่อสู้เข้าไปเรื่อยๆ หลังจากพระเอกแอบปล่อยไอเย็นจากคมกระบี่ออกมา กับฤทธิ์ของยาพิษที่จะกำเริบเฉพาะในเวลาที่เหยื่อได้รับไอเย็นจากวิชายุทธเข้าสู่ร่างกายต่อเนื่องนานเกินไป

ตอนที่ตัวร้ายกำลังสั่นสะท้านเพราะพิษไอเย็น ตัวเอกก็อธิบายว่าไม่เสียแรงที่คอยแวะมาปลูกต้นไม้บางชนิดไว้รอบๆ สำนักนี้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา คงไม่มีใครนึกว่าเด็กหนุ่มหน้าตามอมแมมที่มาเก็บของป่าขาย จะเป็นลูกชายของคนปรุงยาผู้ล่วงลับ ดอกของต้นไม้ที่ว่าจะส่งกลิ่นหอมจางๆ ไปเป็นวงกว้างแต่ไม่มีผลอะไรกับผู้ดมจึงไม่สามารถตรวจพบได้ว่ามีพิษ

"ข้ารอเวลาอยู่นานหลายปีให้ต้นไม้เหล่านี้เติบโตพอจะออกดอกและใช้ประโยชน์จากมันได้ และในวันนี้ยามที่ดอกหิมะโปรยเบ่งบาน นั่นก็ถือเป็นวันตายของเจ้า!"

ว่าจบตัวเอกก็ซัดผ่ามือภูติเหมันต์เข้ากลางหน้าอกตัวร้ายจนกระอักเลือด แม้พลังยุทธจะแตกต่างกันอย่างมากแต่ผลจากการกินยาเพิ่มลมปรานติดต่อกันเป็นเวลานาส่งผลให้วิชาสายเย็นทะลุการป้องกันของกำแพงลมปราน ตัวร้ายทำอะไรไม่ได้กลายเป็นเป้านิ่งให้ให้ตัวเอกตัดหัวด้วยกระบี่เงินอ่อนอย่างง่ายดาย ปิดฉากการแก้แค้นที่ต้องใช้เวลาเตรียมการนานหลายปีลงในพริบตา

บรรดาลูกศิษย์หลายสิบคนได้แต่ยืนมองด้วยแววตาพรั่นพรึง ตอนตัวเอกถีบร่างเจ้าสำนักจนหงาย เช็ดเลือดจากคมกระบี่ด้วยเสื้อผ้าบนตัวศพ แล้วเดินจากไปพร้อมสายลมเย็นยะเยือก

ตัวเอกจงใจหายไปจากยุทธภพ เปลี่ยนชื่อแซ่ตัวเองใหม่ จ้างแพทย์ขูดกระดูกเพื่อเปลี่ยนแปลงโครงหน้า แล้วไปเข้าทำงานในสำนักคุ้มภัย ส่งตั๋วแลกเงินไปยังบ้านของอาจารย์ที่เคยสอนวิทยายุทธให้ ลูกสาวอาจารย์ตอนรับของมาก็พบตั๋วแลกเงินจำนวนมากอยู่ภายในพร้อมกับจดหมายสั้นๆ

"โปรดดูแลท่านอาจารย์แทนข้าด้วย"

จบเรื่องตามหลักการ -บุญคุณต้องทดแทน หนี้แค้นต้องชำระ- ที่ตัวเอกไม่กลับไปสำนักเดิมเพราะคิดว่าตัวเองมือเปื้อนเลือดไปแล้ว ถึงรู้ว่าลูกสาวอาจารย์มีใจให้แต่ตนคงไม่คู่ควรพอจะโอบกอดนางอีกต่อไป ก็เลยเลือกทำแบบนี้แทน

ตอนแรกว่าจะเล่าย่อๆ สุดท้ายล่อซะเก็บเต็มเรื่อง กูนิ

354 Nameless Fanboi Posted ID:VX.EneYNZz

มีข้อมูล 2 ข้อที่กูลืมบอกไปข้างบนคือคนเขียนอ้างเรื่องเซตติ้งเกี่ยวกับสถานที่ตั้งของสำนักตัวร้ายว่าอยู่ในหุบเขา ซึ่งกูเข้าใจว่าถ้าสำนักตั้งอยู่บนยอดเขาแล้วมุกใช้พิษทางอากาศด้วยการปลูกต้นไม้ล้อมสำนักไว้จะใช้ไม่ได้ เพราะมันจะดูไม่สมเหตุสมผล (ต้นไม้อยู่ต่ำกว่าพื้นที่และอากาศไหลเวียนได้ง่ายกว่าบนยอดเขา) กับเรื่องที่ว่าตัวเอกก็ดมไอเย็นจากกระบี่เหมือนกันทำไมถึงไม่โดนพิษ ตอบได้ง่ายๆ ว่าเป็นเพราะกูแดกยาต้านพิษก่อนมาบุกแล้วไงสัส

เอาจริงๆ นิยายจีนเก่าๆ ที่ดีมีเยอะนะ มุกอาจจะซ้ำไปบ้าง อย่างบังเอิญเจอคัมภีร์วิชาเทพซ่าส์ก่อนขึ้นเป็นเจ้าสำนัก หรือการแก้แค้นกันไปมาของตัวละครในเรื่อง (ซึ่งไม่ต่างอะไรกับไปต่างโลกที่ฮิตกันตอนนี้) แต่เรื่องการวางโครงเรื่องกับข้อคิดและคติสอนใจมันทำได้ดีจริงๆ ทำให้คนมองเห็นว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว และการหนีไปอยู่ชนบททำไร่ไถนาของพระเอกนางเอกตอนจบเรื่อง ทำให้ชีวิตสงบสุขมากกว่าการท่องยุทธภพเป็นไหนๆ เพราะถ้าไม่ต้องเจอผู้คน มึงก็ไม่ต้องเจอความขัดแย้ง แต่ปัจจุบันนี้มันทำได้ยากแล้ว ถ้าไม่อยู่ทำงานในเมืองใหญ่ก็มีแต่จะอดตาย ใครอยู่ในวัยทำงานแบบกูก็สู้ต่อไปนะ

355 Nameless Fanboi Posted ID:7T+sOwONyG

>>352 >>353 >>354 ถูกตามนี้ เลย
กุชอบเตรียมตัวให้พร้อม สั่งงานวันนี้เสร็จเมื่อวาน
แบบทำให้คนอื่นแปลกใจได้ตลอดอะ

กุก็แค่อ่านนิยายที่ชอบ โดยไม่สนว่าแนวไหนฮิต
หลักๆมันก็แค่นี้แหละ แต่จะได้แนวคิดใหม่จากที่อ่านไหม จนคู่แค้นเคยมาบอกกับกูละนะ
ว่า3ปี กุยังไม่ลืมความแค้นหรอ
กุจะเป็นความหวาดกลัวไร้สิ้นสุดให้เมิงเอง55555+ ไม่ว่าหน้าไหนก็ดาหน้าเข้ามาพร้อมกันเลย!

https://i.imgur.com/5JjaSDj.png
ถ้าชีวิตจริงเหมือนในนิยายกุคงเป็นตัวแบบนี้

356 Nameless Fanboi Posted ID6:pq8/OJAy5Q

>>355 เอารูปมาจากไหนละนั่น

357 Nameless Fanboi Posted ID:7T+sOwONyG

>>356 รูปจากกุเนี่ยละ นิยายในอนาคตที่กุแต่งจะใช้รูปนี้ พระเอกคือกูเนี่ยละ แต่เป็นเวอชั่นผญ

358 Nameless Fanboi Posted ID6:+jnKmaXYdG

ว่าไปคงเป็นเพราะกูไม่เคยอ่านนิยายจีนแท้ๆ ด้วยล่ะมั้งถึงไม่อินกับแนวนั้น นอกจากสามก๊ก (ฮา)

สมัยก่อนกูอ่านแต่นิยายไต้หวันที่จะมีความเป็น RPG ค่อนไปคล้ายกับฝั่งญี่ปุ่นค่อนข้างสูง จะต่างกันแค่ตัวละครและวิธีการพูดคุยจะออกไปทางจีนหน่อยๆซึ่งวิธีการดำเนินเรื่องจะต่างจากนิยายจีนที่โม่งยกตัวอย่างขึ้นมาแบบคนละด้านเลย

ส่วนที่เคลมว่านิยายจีนได้ กูเคยอ่านแค่พวกเรื่องดังๆ อย่างมังกรหยก เซียวฮือยี้ อะไรพวกนี้ ซึ่งก็นับว่าเป็นนิยายจีนไม่เต็มปากอะ มันเขียนในยุคที่ยังเป็นฮ่องกงอยู่ วัฒนธรรมแล้วความคิดตัวละครมันเลยต่างกันสุดๆ เมื่อเทียบนิยายจีนยุคนี้ ส่วนเรื่องที่กูยังอ่านจนถึงปัจจุบันเหลือแค่หงสาจอมราชันย์ละ ซึ่งโดยเทคนิคแล้ว ...มันก็การ์ตูนฮ่องกงว่ะ กูสัมผัสไม่ได้เลยถึงความเบียวสุดโต่งแบบนิยายจีนที่ยกมาเลยซักนิด ถถถถ

359 Nameless Fanboi Posted ID:7T+sOwONyG

>>358 สามก๊ก มันสอนการอ่านใจคน และมองคนทะลุปุโปร่งหลักๆมีแค่นี้
เช่นกวนอู ยึดถือความซื่อสัตย์ ไม่เคยทรยศหัวใจตัวเอง แม้จะมีจุดจบอย่างอนาถสิ้นดี

แต่ถ้าย้อนเวลาไปได้ จะทำแบบเดิมหรือเปล่า
กุจะทำแบบเดิม! บางทีจุดจบในชีวิตกุก็คงจะตกตายโง่ๆ แบบนั้นก็ได้ ชีวิตมนุษย์มันไม่ได้มีค่าขนาดนั้นหรอก แต่สิ่งที่ทำให้มนุษย์มีค่า คือหัวใจที่กล้าแกร่งต่างหาก

เปราะบางไร้ค่า ไร้ความหมาย แต่ก็เจิดจรัส อย่างที่สุดในช่วงเวลานั้นเช่นกัน
ความตายไม่น่ากลัวสักนิด

360 Nameless Fanboi Posted ID6:QbJVwJfLLa

>>350 อันที่จริงแล้ว การที่พระเอกติดกีนี่ไม่ใช่ว่าทำให้พระเอกดูมีความเป็นมนุษย์สมจริงขึ้นไม่ใช่เหรอโม่ง

ชายใด เจอญ สวยๆหน่อยตรงสเปคก็ติด simp กันทั้งนั้น นอกจากจะบรรลุแล้วนะ

361 Nameless Fanboi Posted ID:6aHO0.OSv3

>>350 >>360 กุเนี่ยละ พระเอกในนิยาย
นางเอกก็ต้องเป็นคนจีบกุเก่งๆหน่อย

362 Nameless Fanboi Posted ID:RWUajxOhXk

นิยายจีนกุซื้ออ่านล่าสุดคือเจินหวน​สนุกดีอ่านจนตาแฉะ

363 Nameless Fanboi Posted ID6:FZaPg+KUu/

>>361 สงสัยต้องเปลี่ยนชื่อเรียกจากโม่งเบียวเป็นโม่งพระเอกแล้วว่ะ ฟังดูเท่ดี 5555

ช่วงนี้กูปิดเล่มนิยายที่เขียนอยู่ไปแล้ว กำลังนั่งคิดละว่าจะขึ้นเล่มต่อหรือหนีไปลองเขียนเรื่องใหม่เลยดีหว่า แต่เขียนเรื่องใหม่ก็นึกไม่ออกอยู่ดีว่าควรเขียนแนวไหน เฮ้อออ

364 Nameless Fanboi Posted ID:.JURUgIiE6

>>363 ลองเขียนแนวทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ จนต้องอ้าปากค้างไหม เวลาคนมอบงานให้กุ กุจะทำเสร็จก่อนdeadline จนคนสั่งงานทึ่ง จริงดิ จริงหรอ กุว่ามันฟินดี สิ่งที่ให้เวลาอาทิตย์นึง แต่กุทำคืนนึงเสร็จ

ลองสร้างพระเอก ที่ซ่อนงำประกาย แล้วก็ระเบิดพลังขยี้ตัวร้ายในเสี้ยววิ จนตัวร้ายร้องว่า ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ ข้าไม่เชื่อ!

ถ้าเมิงเขียนได้ทัชใจ กุอุดหนุนแน่นอน ยันเมิงเขียนจบ แล้วก็สอดแทรกแนวคิด สัจธรรม ความจริงเข้าไปในเรื่องก็ดี พระเอกแนว บงการ ไม่เน้นต่อสู้ แต่ถ้าลงมือ ก็เด็ดขาด เผด็จการ ไร้ต้าน

จนอีกฝ่าย เยี่ยวราด คุกเข่า สั่นกลัว จนเสียสติน้ำลายไหล

365 Nameless Fanboi Posted ID6:3dr9J5y/zn

>>364 กูเบื่อพระเอกแล้ว ถ้าเอาเป็นโลลิแนวบงการ บ้าง โม่งจะเอาไหม

366 Nameless Fanboi Posted ID6:LYy3hj4+kK

>>364 พูดคอนเซ็ปมันง่ายนะ แต่ระหว่างเรื่องนี่ล่ะกูนึกไม่ออกว่าจะดำเนินเรื่องยังไงดี เพราะมันจะโคตรไม่สมเหตุสมผลเลยที่ตัวเอกจะเอาแต่หนีแค่แรกแต่สุดท้ายมาระเบิดพลังบรึ้มใส่ตัวร้ายจนขี้แตกเนี่ย

367 Nameless Fanboi Posted ID:.JURUgIiE6

>>366 36 กลยุทธ์พิชัยสงคราม ซุนวู หนี คือกลยุทธ์คือ กลยุทธ์ที่ดีที่สุด
เมิงจะต้องการสมเหตุสมผลอะไร
ผู้แข็งแกร่งไม่ใช่ผู้อยู่รอด แต่คนที่อยู่รอดต่างหากคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด

เมิงแต่งนิยายเป็นไลเนียร์ เส้นตรงหรือไง
ตราบใดที่กุชนะในท้ายที่สุดก็พอ ไม่สำคัญ กุต้องเสียสละอะไร

ถ้าในเกมที่ต้องสู้กันอย่างตรงไปตรงมา กุตุ๋ยบ้านมันให้แตกก็พอ กลยุทธ์ที่ดีกว่า รบร้อยครั้งชนะ100ครั้ง คือการที่ไม่ต้องรบเลย คือการชนะที่ดีที่สุด

พิชัยสงครามซุนวู เมิงแต่งได้เยอะเลย คิดว่ากุต้องสู้อย่างยุติธรรมหรือไง ค้านสายตาก็ช่างแม่ง

สงสัยกุต้องแต่งนิยายเองซะแล้วแบบนี้ ต้องเป็นคนที่เล่นหมากรุก pokerเป็นหน่อย ไม่ใช่เขียนแต่อะไรไร้สาระ

368 Nameless Fanboi Posted ID6:r68+PjsIV0

ขอถามตามตรง สมัยนี้ พวกคนไทยที่ชอบเขียนนิยายจีนโบ จะมีสักกี่คนอยากอ่านสามก๊ก แม้มีแปลไทยวางขายมานานแล้ว

369 Nameless Fanboi Posted ID6:LhFt7xO/Si

>>367 เขียนเรื่องหักเหลี่ยมมันไม่ง่ายหรอกนะ
มึงอาจจะวางโครงเอาไว้แล้วว่าจะให้จบยังไงได้ แต่การที่จะหาใส่ระหว่างทางนี่ล่ะมันไม่ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ หรอกนะ ไม่งั้นทุกคนคงเขียน Death Note กันหมดแล้ว

อีกอย่างถ้ามึงบอกไม่เลือกวิธีการ และจะเสกให้ตัวเอกชนะทันทีแต่หาเหตุและผลมาอ้างอิงการกระทำตัวละครไม่ได้ว่ายังไง เมื่อไรและตอนไหน สุดท้ายมันก็จะเข้าอีหรอบอภินิหาริย์ Deus Ex machina หรือ Plot armor หนาเตอะและกลายเป็นเรื่องให้คนด่านั่นล่ะ

ยกตัวอย่างเด็กยุคนี้น่าจะรู้จักกันทันจิโร่ที่จู่ๆ ใช้ปราณตะวันได้นี่ กว่าจะแถว่าใช้ได้ไงก็อธิบายยาวอยู่นะ ว่าพ่อเคยได้รับการสอนมาจากคนอื่นแล้วเอามาทำตาม แล้วทันจิโร่ก็จำมาลองทำตามดูอีกต่อ ซึ่งถ้าลองไม่มีความเป็นมาอ้างอิงดูดิ มันจะกลายเป็นเด็กเส้นเหมือนแก้งแมลงสาปโกลด์เซนต์เลย

370 Nameless Fanboi Posted ID6:LhFt7xO/Si

>>369 ผิดๆ ต้องบรอนซ์เซนต์ดิ

371 Nameless Fanboi Posted ID:2yyN9gQM+C

>>365 โลลิบงการมึงต้องทำให้ถึงแบบบท​ทาเนียนะ​ ไม่งั้นมันจะออกมาน่าต่อยแทนที่จะสะใจ

372 Nameless Fanboi Posted ID:Cib/vFZd3C

>>371 โลลิบงการ กาตูนญป กุก็ชอบดีนะ เข้าใจการเอาคนไปเป็นปุ๋ยดี กุชอบแบบนั้นมันให้ข้อคิดด้วย
แต่แบบนั้นคนไม่เกลียดหรอ

ว่าไปมีผญคนนึงที่กุชอบจะเขียน หนังสือ แต่เขียนนิยายไม่ได้ ก็ไปเขียนเริ่มจากข้อคิดแทนก็ได้ เหมือนถ้ามาจากประสบการณ์คนคนนี้เราซื้อแน่นอน

373 Nameless Fanboi Posted ID6:EDKIbjLDaB

>>372 ถ้ามือถึง ต่อให้สารเลวแค่ไหนคนมันก็ชอบก็หลงได้ทั้งนั้นอะ ทั้งรักทั้งเกลียดยังได้เลย ตัวร้ายเห้ๆหรือตัวดีเหี้ยๆมันก็มีเสน่ห์ของมันอยู่ ไม่งั้นแนวๆตบจูบโรคจิตมันไม่ขายออกมาจนถึงทุกวันนี้หรอก

374 Nameless Fanboi Posted ID:hBRV/cgvW.

>>373 ไม่เกี่ยวว่ะ กุไม่ชอบคนเลว สิ่งที่เมิงคิดมันผิด แต่คนมักจะแยกแยะคนดีกับคนเลวไม่ออก
เหมือนผู้ชาย badbad ผญ มักชอบคิดว่าผู้ชายคนนี้ดี ไม่โง่

ส่วนผู้ชายที่เป็นคนดี ก็บอกว่าไอนี่โง่ หลอกง่าย
พูดอะไรก็เชื่อ ผชแบบนี้ละที่เป็นคนเลว

อะไรคือความเลวและความดี
ฆ่าคนคือความเลวจริงไหม ถ้ามันช่วยให้คนหมู่มากรอดได้

การช่วยเหลือคนคือความดีจริงไหม ถ้ามันทำให้คนเหล่านั้นสามารถกลับมาทำความเลวได้อีก

เหมือนกับเหรียญที่มี2ด้าน และกุไม่คิดว่า ทาเนียมันเลวนะ มันเป็นคนดี

ต่อให้คนส่วนใหญ่ชอบ และกุต้องชอบตามคนส่วนใหญ่หรือไง ถึงจะเป็นคนดี
ถ้าต้องเป็นคนดีของสังคม ตัวฉันคงเหลือทางเดียวคือต้องทำลายสังคมทิ้งซะ!

375 Nameless Fanboi Posted ID6:o7VDiK6E6F

ถ้าตัวละครออกมากลวง ต่อให้เป็นคนดีหรือคนเลวก็ไม่แตกต่างกัน เป็นได้แค่ปั้นน้ำเป็นตัว

376 Nameless Fanboi Posted ID6:+NxAf4rQXB

บอร์ดเด็กดวกถามอะไรเยอะแยะ ไม่ถามโม่งบ้างเหรอวะ

377 Nameless Fanboi Posted ID:fUYMFFwxMR

>>376 ที่หนีมาเล่นโม่งก็เพราะไม่อยากตอบคำถามจำไมพวกนั้นนั่นแหล่ะ ปล่อยให้กูรู เซียนคีย์บอร์ด กับสุดยอดไลฟ์โค้ชตอบกันเอา มันมีขาประจำคอยตอบให้อยู่แล้ว จะให้คนเหี้ยๆ อย่างพวกกูไปตอบ เดี๋ยวจะเสียบรรยากาศทุ่งลาเวนเดอร์เอา พูดมากเดี๋ยวเจอหาว่าอวดฉลาดอีก เอาไว้มีคนอยากรู้อะไรจริงๆ มาพิมพ์ถามในนี้ค่อยมาตอบตอนมีเวลาว่างเอา

378 Nameless Fanboi Posted ID6:Sx3.D2NnWY

ตอนนี้นิยายเด็กดี มีแต่สายจีน

ไอ้แนวย้อนอดีต ที่กำลังดังตอนนี้ เอาจริงๆ ก็แค่แนวจีนโบราณ ไม่ก็จีนยุค90-80 ทั้งนั้น

ตอนแรกนึกว่า แนวใหม่จะทำให้เลิกฮิตจีนโบ เสียอีก กลายว่า แนวจีนโบมันแค่กลายพันธุ์ เท่านั้น

379 Nameless Fanboi Posted ID6:rNM49pyKgE

>>378 นิยายสัญชาติไทยกำลังจะตาย เพราะ soft power จีนแดงจะเปลี่ยนพวกเขาเป็นนักเขียนไทกั๋ว ความเป็นไทยกำลังจะจบแล้ว

380 Nameless Fanboi Posted ID:YXVLKCw+P.

กุจีน75% อ่านนิยายจีนผิดด้วยหรอ

381 Nameless Fanboi Posted ID6:Au2uiw1jW0

แนวจีนมันกลืนเด็กดวกมาตั้ง 5-6 ปีแล้ว แล้วความนิยมก็เหมือนจะไม่ตกด้วยมั้ง
กูก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะว่าทำไมถึงยังฮิตติดลมมานานแบบนี้

382 Nameless Fanboi Posted ID:DSFnKkQX.B

>>381 ส่วนใหญ่มาจากนิยายแปลถูกลิขสิทธิ์ตามร้านขายหนังสือ และนิยายแปลผิดลิขสิทธิ์จากเว็บ

383 Nameless Fanboi Posted ID6:eVRleyq1kE

แนวระบบนี่ยังนิยมต่อเนื่องเลยแฮะ ไม่ตกเลย แต่ระบบต้องน่าสนใจหน่อย ไม่ซ้ำซาก

384 Nameless Fanboi Posted ID6:8WZADYSbLZ

>>383 สมัยนี้คนติดเกมเยอะ แต่คนที่เล่นเกมเยอะๆจะไม่อ่านนิยายระบบกัน เพราะเล่นเกมด้วยตัวเองสนุกกว่าดูคนอื่นเล่น

385 Nameless Fanboi Posted ID6:Df1YtHGBJA

ไม่ใช่เล่นเองสนุกกว่าดูคนอื่นเล่นหรอก แต่ทนอ่านไม่ได้เพราะระบบเกมที่เขียนมาแม่งห่วยแตกเหมือนคนไม่เคยเล่นเกมมาเขียนต่างหาก
เกือบทุกเรื่องเลยคือบาลานซ์ระยำหมาชนิดว่าถ้าเกมพรรค์นี้มีอยู่จริงๆ บนโลก มึงไม่มีทางฮิตคนเล่นเป็นล้านแบบที่เขียนอวยตามเนื้อเรื่องหรอก เจ๊งบ๊งตั้งแต่ปีสองปีแรกแน่ๆ

386 Nameless Fanboi Posted ID6:LF3GhuIbKZ

>>385 ก็นั้นแหละ เพราะระบบที่นักเขียนออกแบบมันมีอยู่ 2 ประเภท
1. เขียนระบบเพราะจำมาจากมังงะหรือนิยายของคนอื่น (หรืออนิเมะ)
2. เขียนระบบจากเกมที่ตัวเองเคยเล่น

ปัญหาของข้อ 1. อย่างที่มึงบอกเลย เป็นแบบนี้ตั้งแต่ยุคนิยายเกมออนไลน์ ตัวนักเขียนไม่รู้ว่าระบบที่ลอกจากของคนอื่น เอามาจากเกมจริงๆรึเปล่า ส่วนข้อเสียของ 2. คือเกมที่นักเขียนเคยเล่นมักจะไม่ตรงกับเกมที่คนอ่านเล่น บางคนแม่งเขียนระบบยังกะ mod จนคนอ่านไม่อินแล้ว จนบางทีเล่นเกมเองยังอินกว่า

ไอ้ที่น่าเศร้าจริงๆคือ สมัยนี้มีเกม idle ระบาดชิบหาย พวกนักเขียนที่โตมากับเกมแนวนี้อย่างเดียว แม่งไม่รู้อะไรซะเลยเกี่ยวกับการ Dungeons & Dragons สาย GM เพราะคอร์หลักของเกม idle คือเก่งด้วยเก็บรับของรายวัน กดสั่งบอท และเล่นกาชา พอนักเขียนตัดกาชาออกไป แม่งกลวงโบ๋เลย กลายเป็นนิยายระบบพิกลพิการ เพราะเกม idle แม่งคือทุนนิยมเหี้ยๆ ความเก่งของผู้เล่นไม่ได้มาจากฝีมือเลย แต่ได้มาจากเปิดตู้กาชาแล้วได้ตัวเทพมามั้ย พวกด่านหลังๆแม่งออกแบบสำหรับตัวเทพชุดใหม่โดยเฉพาะ ควักเงินหมุนกาชาจนกว่าจะได้ตัวเทพ ถึงจะผ่านด่านไหว พวกสเตตัสแม่งไร้สาระชิบหาย กลายเป็นเกมที่ระบบเก๋งๆก้างๆ พอเอาระบบพวกนี้ไปใส่นิยายตัวเอง ตัวเลขแม่งเวอร์สัสแต่ไร้แก่นสาร

387 Nameless Fanboi Posted ID6:LF3GhuIbKZ

ลืมๆ ปัญหาของเกม idle มาจากคลิปหมอนี้เลย https://youtu.be/8hlXY_kPJdY?si=2x11RFd2M8V91_Dk

388 Nameless Fanboi Posted ID:urdi.TX8Zc

เล่นเกม กุก็ ใช้บั๊กเอาชนะเกมตลอเ
หรือรู้ความลับของกาชา ก็เปิดได้ตัวเทพรัวๆ
ใช้มาโคร สคริปต์ afk farming อะไรก็ได้

ถ้าโลกนี้คือเกมก็ย่อมมีช่องโหว่ เหมือนกัน
เช่น กฏฟิสิกส์ ที่ทุกคนในโลกนี้ต้องทำตาม

แต่คนไทยสมองกลวง แต่งเรื่องซับซ้อนไม่เป็นหรอก แล้วก็มาร้องมุแง้ ทำไมแนวระบบ ถีงขายได้นิยายที่กุแต่งขายไม่ได้ ก็เพราะไม่มีประสบการณ์การเล่นเกมแบบกุไง

อย่างกุก็เล่นมาราธอน 26 วัน เลเวล 100 คนแรกของเซิฟไทย ทุดคนก็ ชื่นชม กุหมด ว่าทำได้ยังไง เวลาที่กุทำสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ แล้วที่ง กับความสามารถกู แม่งฟินดีวะ ก็เอาเรื่องพวกนี้ไปแต่งนิยายได้ แต่กุทำได้ในชีวิตจริงหลายอย่าง

389 Nameless Fanboi Posted ID6:SOuTxV8M8M

>>388 อย่างกุก็เล่นมาราธอน 26 วัน เลเวล 100 คนแรกของเซิฟไทย

นี่มันคิริโตะนี่หว่า ปั้มเวลจนเทพก่อนเพื่อน

390 Nameless Fanboi Posted ID:qtldxOY9PW

>>389 พูดตรงๆ ตามประสบการณ์คนเล่นเกมออนไลน์มาเยอะนะ ไอ้โตะนี่เป็นไปไม่ได้ที่จะไปอยู่กับกลุ่มแนวหน้า เพราะต่อให้เคยเล่น CBT มาก่อน ตามนิยายความรู้ก็นำคนอื่นไปถึงแค่ชั้น 8

ความเป็นจริงกลุ่มคนที่จะเลเวลเยอะได้เร็วในช่วงแรกคือปาร์ตี้สมดุลที่แต่ละคนเล่นเก่งกันหมด อย่างไอ้โตะที่เป็นสายโซโล่ถึงเก็บเวลได้เองแต่พอถึงจุดนึงก็จะโดนข้อจำกัดบางอย่างทำให้ช้าลงเพราะเรื่องจำนวนคน

กูเองก็พอเข้าใจคนเขียนนะว่าอยากให้โตะดูเด่น (ก็แม่งเป็นพระเอกอะ) แต่พอมองตามความเป็นจริง เกมไหนกูเล่นโซโล่มันจะเวลขึ้นช้าช่วงกลางๆ เพราะมอนฯ มันเก่งขึ้นมาก บางตัวที่พลังป้องกันเยอะก็ฆ่าช้า หรือบอสเควสตามเนื้อเรื่องที่จำเป็นต้องสู้ (เควสเปลี่ยนอาชีพหรือเควสให้อุปกรณ์ดีๆ) ถ้าไปคนเดียวนี่เหนื่อยมากเพราะถ้าไปหลายคนเวลาบอสเล็งใคร คนที่เหลือก็หรอยตีฟรีได้ พอไปเองนี่ต้องระวังเพราะมันเล็งเรายังไม่พอต้องมาหาจังหวะสวนอย่างปลอดภัยอีก

รวมๆ แล้วการลากมอนเป็นกลุ่มมาลงท่าหมู่โดยที่มีพระช่วยในตี้ยังไงก็เวลง่ายกว่าลุยเดี่ยวแบบต้องแบกยาไปตีเองคนเดียว

ดังนั้นแนวคิดเรื่องหมาป่าเดียวดายจึงเป็นการขายฝันให้เด็กเบียวไม่เคยเล่นเกมได้รู้สึกดีเวลาอ่านความ OP ของตัวเอกเฉยๆ เพราะต่อให้ได้ของดรอปมาแล้วไม่ต้องหารเพื่อนแต่การต้องลงทุนทั้งซื้อยาเอง ทั้งซ่อม ชุด/อาวุธ ที่เสียหายเพราะไม่มีเพื่อนสลับกันช่วยชนมอนฯ ทำให้ซื้ออุปกรณ์สวมใส่ดีๆ ได้ช้า ไม่เหมือนปาร์ตี้ที่เน้นจำนวนแล้วหารเท่า ยิ่งฆ่าเยอะโอกาสดรอปของหายากก็มีมากขึ้น ลงทุนไม่มาก ถึงกำไรน้อยแต่มันมาเรื่อยๆ

เรื่อง EXP ก็ด้วย ระหว่างเดี่ยวๆ ตีเอง 1 ตัวได้ exp 100 กับปาร์ตี้ 4 คน ลากมอน 5 ตัวลงท่าได้เท่ากับ 500/4 = 125 ต่อมอนฯ 1 กอง บางทีก็ฆ่ามอนฯ จบไวกว่าตีเองคนเดียว ทำให้ช่องว่างมันค่อยๆ ห่างออกไปอีก สุดท้ายปาร์ตี้ที่ทุกคนเป็นงานก็นำไปทั้งเรื่องเงินและเลเวลอยู่ดีวะโม่ง

เออ กูลืมไปว่าคนอ่านมันไม่ได้เล่นเกมทุกคน งั้นก็ช่างแม่งละกัน

391 Nameless Fanboi Posted ID6:YFQEisJNtt

>>390 ตามนั้น เกมสมัยก่อนพึ่งระบบปาร์ตี้หนักมากในช่วงกลาง - ท้ายเกม
กูยกตัวอย่างง่ายๆ คือ RO ที่คนเรารู้จักกันดีเลย เอาแบบ Classic แพทเก่าเลยด้วยเอ้า
ช่วงเลเวล 1-70 นี่จะรู้สึกว่าเก็บเลเวลคนเดียวเร็วมาก เพราะมอนฯ ที่เราตีนั้นอ่อนแอ HP เราอยู่ซักราวๆ 4-6 พัน มอนตีเข้าทีละ 300-500 โอกาสโดนตีอยู่ราวๆ 30% ผู้เล่นยังพอที่จะตีมอนตายก่อนที่มันจะตีเราโดนอยู่ทำให้เก็บเลเวลเป็นไปได้ง่าย เพราะเน้นการฆ่าทีละตัวๆ

แต่พอหลังจากนั้นตัวเกมจะอัพความเก่งมอนฯ ขึ้นแบบก้าวกระโดด ตอนเลเวลซัก 80 เราต้องไปตี Raydric งี้ ซึ่งมันเป็นมอนฯ ตัวแรกๆ เลยที่ตีเรา 1000+ ในขณะที่ HP เราตอนนั้นถ้าไม่ใช่ Knight อัพ Vit เต็มก็จะอยู่ราวๆ 4-6 พันนี่ล่ะ โดนมันฟันเข้าทีก็ร้องกรี้ดละเพราะกดยาเติมเลือดก็ไม่คุ้ม ท้ายที่สุดก็ต้องไปไหนมาไหนเป็นปาร์ตี้ พ่วงพระไปด้วยเพื่อเอาบัพให้ตัวเก่งขึ้น + ประหยัดค่าใช้จ่าย และกลายเป็นที่มาของพรีสการกุศลที่เข้าร่วมปาร์ตี้โดยไม่แชร์ exp อะไรแบบนั้น

เรื่อง exp เองก็เช่นกัน เกมเก่าๆ ระบบ exp จะมีตัวคูณเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้เล่นในปาร์ตี้ จากที่เคยตีได้ตัวละ 100 พอปาร์ตี้กันคูณเพิ่มก็กลายเป็นตัวละ 180 งี้ ก่อนจะเฉลี่ยหารกันไป ยิ่งลากมากองแล้วลงเวททีเดียวหมดยิ่งได้ exp ไว ฉะนั้น Solo player แล้วเก่งแบบไอ้โตะนี่กูรู้สึกได้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยตั้งแต่เรื่องมันออกมาแรกๆ ทำให้กูขยาด SAO มาตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงทุกวันนี้

และกูเล่นเกมออนไลน์มาตลอด ก็ไม่มีเกมไหนที่ Solo แล้วได้ดีนะ ขึ้นชื่อว่า MMORPG เกมมันบังคับเก็บเลเวลเป็นปาร์ตี้อยู่ละ ยิ่งช่วงหลังๆ ก่อนยุคล่มสลายของ MMORPG นี่ยิ่งบังคับเลย เพราะมันเปลี่ยนไปเป็นระบบเก็บเลเวลในดันเจี้ยนส่วนตัว ถามว่า Solo ได้มั้ยก็บอกว่าได้ แต่มอนเก่งเท่าเดิมจึงไม่มีทางเร็วกว่าลงดันฯ 4 คนรุมกระทืบบอส แล้วทุกคนได้ reward เท่ากันแน่นอน

ถ้าเกมที่เล่น Solo แล้วเร็วกว่ากูยกให้แค่ Monster Hunter เกมเดียว เพราะไอ้เกมบ้านี่เลือดมอน Scaling ตามจำนวนผู้เล่นไม่พอ ถ้าผู้เล่นเยอะยิ่งทำให้มอนฯ กระจายการโจมตีไปยังคนอื่นๆ ทำให้ยิ่งสู้วุ่นวายขึ้น เทียบกับยืนดวล 1v1 กับมอนฯ รอหลบ/สวนกลับ แบบหลังจะเร็วกว่าเยอะ

ส่วนคนใช้บอท afk ใช้โปรฯ ใช้ explore นี่กูมองว่าเป็นสวะ ไม่นับว่าเป็นเกมเมอร์

พูดมาซะยาว สุดท้ายไม่เกี่ยวกับนิยายเลย ถถถถ

392 Nameless Fanboi Posted ID6:qcJ5krupYR

ต่อให้เกมกาชาครองตลาดมือถือ ก็ไม่มีนิยายใส่ระบบกาชาตามกระแสแล้วรุ่งโรจน์สักเรื่อง เพราะคนเขียนหมกมุ่นอยู่กับ P E R F E C T I O N I S T ของตัวเอกจนกลายเป็นจุดขาย ส่วนการเขียนบท ด้านตัวละคร วิธีการนำเสนอ เทียบเท่าเดอะสเน็ก

393 Nameless Fanboi Posted ID6:4nJwGT1+4p

พูดถึงแนวเกมออนไลน์ ในไทยมันยังพอขายได้อยู่ไหม มีเรื่องไหนดังๆแต่แหวกแนวบ้างเปล่า เช่นมีตัวเอกหญิง เป็นnpc ไรงี้

394 Nameless Fanboi Posted ID:Gt0BriF.3B

แฟนตาซีที่ไม่ใช่ระบบยังขายได้ป่ะวะ

395 Nameless Fanboi Posted ID:9ajs35JQzM

>>393 มันขายได้เรื่อยๆ อะ แค่ไม่ฮิตระเบิดเหมือนสมัยก่อน ถ้าเขียนดีก็มีคนอ่าน ตัวเอกมีหลายแบบมากแต่แปลกสุดที่เคยเจอคือไปเป็นมาสคอตในกิจกรรมเกมแล้วออกจากชุดไม่ได้เลยติดในเกมออกไม่ได้ซ้ำอีกรอบเพราะตัวละครบั๊ก ร่างกายในโลกจริงเลยต้องย้ายไปนอนโรงบาลแบบเติมสารอาหารทางสายยางกับใส่แพมเพิสแบบทำความสะอาดอัตโนมัติให้

396 Nameless Fanboi Posted ID:9ajs35JQzM

>>394 ขายได้นะ ที่จริงแม่งก็ขายได้ทุกแนวอะแหล่ะถ้าคนเขียนเก่งพอ แต่แนวนิยมมันเหมือนได้บัพพิเศษเพิ่มโอกาสที่คนจะเขัามาดูมากขึ้น แบบเดียวกับยุคนิยายเกมออนไลน์เฟื่องฟูไง เรื่องไหนๆ ชื่อก็ต้องมีคำว่าออนไลน์ต่อท้าย

ถ้าเทียบเป็นอนิเมะก็แบบเรื่องฟรีเรนหรือดันเมชิ แฟนตาซีดาบและเวทมนตร์ของแท้ ไม่มีเลขสเตตัสหรือระบบเกมในเรื่อง เรตติ้งดีจากการออกแบบโลก ตัวละคร กับการเล่าเรื่อง

397 Nameless Fanboi Posted ID6:4nJwGT1+4p

เล่าเรื่องเก่ง แต่สำนวนเขียนไม่เก่ง

กับ

สำนวนเขียนเก่ง แต่เล่าเรื่องไม่เก่ง

โม่งเป็นนักอ่านจะอ่านเรื่องไหน แบบไหนขายได้มากกว่ากันสำหรับนักเขียนมือใหม่

398 Nameless Fanboi Posted ID:rz0TK5ePlU

>>397 กูเลือกแบบแรกแฮะ

ถึงภาษาสำนวนไม่สวย คำผิดมี แต่เล่าแล้วสนุกน่าติดตามก็ยังพอไหว (เพราะเรื่องพวกนี้มันแก้ไขได้) ในทางกลับกันสำนวนสวยภาษาดีคำผิดน้อยแต่เล่าเรื่องชวนง่วง เล่าได้ไม่สนุก หรือขาดความสมเหตุสมผล อ่านไปร้องอิหยังวะไป แบบนี้กูทนไม่ได้

ส่วนปัจจัยว่าขายได้ไม่ได้ก็วนกลับไปที่เดิมคือมันสนุกหรือเปล่า ถ้าไม่สนุกก็ขายยากหน่อย บางเรื่องไอเดียสดใหม่ พล็อตแหวกแนว เล่าได้สนุกหรือเน้นตลก ช่วงแรกถึงจะทุลักทุเลหน่อย พอแต่งจบก็รีไรท์ขายทีหลังได้อยู่

ก็คือไปหามาก่อนว่าอันที่อ่านสนุกก้บกำลังเป็นกระแสมันเป็นแบบไหนแล้วก็แต่งตามเลย ง่ายดี

399 Nameless Fanboi Posted ID:AX8yLgK+jr

กุมีระบบเหมือนกัน ใช้งาน chatgpt
กับสั่งชอปปี้ จากต่างแดน

>>397 สำนวนเขียนมาก่อน เรื่องเล่าทุกเรื่องพื้นฐานมันเหมือนกัน

คือพระเอกกากไปจนจุดสูงสุด
ทุกเรื่องมันมีแค่นี้

แต่สำนวนเขียนมันคือ อธิบายให้คนเข้าใจง่าย ให้เด็ก ป.4 เข้าใจได้ ซึ่งหลายเรื่องแม่งเขียนอย่างกากใครจะอ่านต่อ อย่างในโม่ง
กุรู้สึกว่า นักเขียนหลายคน ยังคิดเยอะไป จับต้นชนปลายไม่ถูก

จำไว้แค่ว่า simple is the best

400 Nameless Fanboi Posted ID:c5OS8jbzwC

เออ และ เนื้อเรื่อง ปราบจอมมาร ไม่สำคัญ เท่าระหว่างการผจญภัย ว่าเราจะได้อะๆมาบ้าง มิตรภาพ ผูัคน รอยยิ้ม กุว่า นักเขียน ในโม่ง แม่ง
พยายามเกาผิดที่คัน

เหมือนที่กุเล่นเกมออนไลน์ ได้เจอผู้คน เจอสถานการณ์ที่บีบคั้น มันทำให้เราพัฒนาตัวเอง

เล่นไฟนอลแฟนตาซี เรือเหาะลอยฟ้า ภาค9 การผจญภัย ที่คาดเดาไม่ได้ เพราะแบบนั้นการผจญภัยที่มีทุกคน มันถึงสนุกไง

401 Nameless Fanboi Posted ID6:2NgN9Oig+Z

อืมมมม กูว่าติดปัญหาเรื่องนิสัยการเขียนของตัวเองว่ะ

คือลองสังเกตดูแล้วกูชอบให้พวกตัวเอกเผชิญปัญหาอะไรซักอย่างที่อยู่เกินมือตัวเอง ถึงจะเขียนให้พยายามแก้ไขจนถึงที่สุดแต่ก็ไม่สำเร็จแล้วสุดท้ายก็จะจัด Deus Ex machina ลงมาจัดการปัญหาทุกที ไม่ว่าทั้งในรูปแบบเหนือธรรมชาติ หรือในรูปแบบใครซักคนที่เก่งกว่ามาจัดการให้ตลอด

เรื่องเก่าๆ ที่กูเขียนมาก่อนหน้านั้นเกือบสิบปีก็ออกทำนองนั้น แล้วเรื่องปัจจุบันก็เขียนแบบนั้นอีก ซึ่งตรงนี้กูว่ากูไปเขียนขัดใจคนอ่านยุคนี้แหงเลย

ยกตัวอย่างแบบง่ายๆ นะ ตัวเอกสู้กับตัวร้ายในศึกสุดท้าย อัดอีกฝ่ายเกือบตายแต่โดนตัวร้ายระเบิดพลังสวนกลับหรือซัดทีเผลอจนร่วงงี้ และในช่วงเข้าตาจนก็จะมีตัวละครหรือเหตุการณ์อื่นเข้ามาแทรก แล้วจัดการตัวร้ายให้แทนที่จะเป็นฝึมือตัวเอกล้วนๆ ไปเลยงี้

402 Nameless Fanboi Posted ID:mB8gSChxuH

>>401 ไม่ต้องไปซีเรียสหรอกมึง เอาจริงกูว่าการจัด Deus Ex Machina สำหรับกูคือไม่มีปัญหาเท่าไหร่นะ ตราบเท่าที่ถ้าว่ามันมีเหตุผลมารองรับที่มาที่ไปของมัน อารมณ์ประมาณว่า 'ปาฏิหาริย์แม่งเกิดขึ้นได้'

กรณีแบบนั้น กูจะแก้ด้วยการแง้มเล็ก ๆ ให้ Hints กับคนอ่านก่อนในช่วง ๆ นึง ให้รู้ว่าตัวเอกอาจมี 'พลังแฝง' บางอย่างที่ไม่รู้จะโผล่มาตอนไหน ซึ่งถ้าเป็นงั้นสำหรับกูคือเป็นมุขที่แม่งว้าวสัสมากเลยนะ

สรุปคือถ้าจะแก้ปัญหาจริง ๆ กูแนะนำให้มึงอาจลองวางบทให้ตัวเอกได้วางแผนการก่อนหน้าไปอัดกับตัวร้ายดู อารมณ์ประมาณว่า แผน A ไม่ได้ผลก็ไปใช้แผน B, C, D แม่งไปตามลำดับ พอถึงจังหวะจะโคนโดนตัวร้ายจะสี้แล้ว ก็หันไปบอกว่า 'I'm two step ahead, my man'

403 Nameless Fanboi Posted ID6:2NgN9Oig+Z

>>402 เรื่องทิ้ง Hints กับมีที่มาที่ไปน่ะเขียนอยู่แหละ
แต่ที่กูกังวลคือตัวเอกทำตัวไม่สมกับเป็นตัวเอกนี่ล่ะ เพราะดันเขียนให้คนรอบข้างมาจัดการปัญหาตลอด

ถ้าให้กูยกตัวอย่างเพิ่มใกล้เคียงก็คงประมาณบักชุนใน เซนต์เซย่า อะ คือตามสเปคมันเก่งนะแต่เจอตัวร้ายเก่งกว่างี้ พอสู้ไม่ได้ก็ร้องพี่ค๊าบแล้วอัญเชิญพี่อิคคิมากระทืบตัวร้ายแทนอะไรแบบนั้น เพราะในเรื่องที่กูเขียนนี่อยู่นี่ ช่วงต้นเรื่องกูให้พระรองมาลาสคิลบอสหมดเลย ถถถถ

404 Nameless Fanboi Posted ID:pk4dza.cQ5

งงว่าทำไมพวกเมิงต้องเขียนให้พระเอก เข้าตาจน แล้วต้องสู้ให้ชนะ

ถ้ากุเขียนนิยาย เจออะไรก็ตาม สู้ไม่ได้ ก็หนี
ต่อให้ต้องสละ ทุกอย่าง ลูก เมีย เงินทอง
ตราบใดที่มีชีวิตอยู่ยังกลับมาสู้ได้
ไม่จำเป็นต้องสู้ตลอด เหมือน กลยุทธ์ของซุนวู ที่บอกว่าใน36 กลยุทธ์ ถ้าทุกกลยุทธ์ใช้ไม่ได้
กลยุทธ์หนีดีสุด ในชีวิตจริง กุก็เหมือนกัน

405 Nameless Fanboi Posted ID:WtDK5k.8mW

>>404 พวกนักอ่านมันรับไม่ได้กับพระเอกขี้ขลาด ต้องสู้ตายจนกว่าจะชนะด้วยวิธีไหนก็ได้ที่นักเขียนมันโม้มา เคยลองแต่งพระเอกโง่ พลาดท่า ถูกหลอก จะแพ้แล้วรีบหนี กูแม่งโดนด่าแล้วเลิกอ่าน เรตติ้งตกหลังตอนนั้นเป็นต้นไปแถมลงทุนรีวิวตรงหน้านิยายดาวเดียวว่าพระเอกกากใจเสาะอย่าเสียเวลาอ่าน

406 Nameless Fanboi Posted ID6:d+Ezevria5

>>405 ถามหน่อย โม่งแต่งแนวอะไร มีแท็คอะไรบ้าง เลยโดนคาดหวังขนาดนั้นให้พระเอกต้องเก่ง ห้ามกาก

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.