Fanboi Channel

กูสงสัยว่าที่เค้าโปรกันด้า กันว่าเขียนครั้งแรกก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า คนที่ไม่มีผลงานหรือแฟนคลับมาก่อน จะทำได้จริงหรือ?

>>952 จริง เรื่องแรกของกูเขียนกาก อ่านแล้วต้องแปลไทยเป็นไทย พลอตแทบไม่วาง เขียนสด มามาหายๆ ยังได้เงินเป็นแสน แค่ต้องอาศัยโชค ถ้าเกิดขึ้นแนะนำแล้วติด top ได้ลงบ่อย ก็ปังแบบงงๆ

>>952 มีจริงแต่ไม่ได้มีบ่อย ทางเว็บถึงต้องพยายามทำบทความขายฝันให้มีคนมาลองเยอะๆ เผื่อฟลุ้คขายดีเพิ่มสักเดือนละคนสองคนก็ยังดี (เพราะได้ทั้งค่าหัวคิวหักตรง และค่าโฆษณาบนหน้านิยาย)

>>951 ไม่ได้เป็น sister ทุกที่หรอกเป็นแค่บางส่วนที่มีบริบทพูดถึงอีไก่กับพี่ชายมัน แต่ชื่อเล่นชื่อไก่เนี่ยแม่ง cock จริงจังทุกที่เลย ลำบากกูต้องมา Edit all ให้มันเป็น Kai แก้เสร็จหงุดหงิดใจว่าจากไก่กลายเป็นไข่อีกรอบ

>>954 อ้อ คล้ายพวกไหว้เจ้าปะ คนไหว้เป็นร้อยดวงเฮงสักคน 99 คนที่แห้วแดกก็จะมีหวังไปอีกว่ากูจะมีวันเป็นคนนที่ดวงดี ส่วนคนได้จริงๆคือพวกตั้งแผงขายของไหว้แถวนั้นอะแหละ

>>956 เปรียบเทียบได้ดี

หนทางของจีนเสิ่นเจิ้นยังอีกยาวไกล https://www.dek-d.com/board/writer/4053341/

บารามอสนี่ลอกเรื่องไหนมาบ้างนะ ไอ้ยำ “แรงบันดาลใจ” อะ

>>959 เยอะเหี้ยๆ แทบจำไม่ได้

>>958 เอาแค่สู้จีนแปลในประเทศตัวเองให้ได้ก่อนเถอะ

มึงว่าถ้ากูอัพ 5 วันแรก 3 ตอน แล้วอัพหลังจากนั้นวันละตอน พอครบเดือนค่อยทิ้งช่วงเป็น 2 วันครั้ง แบบนี้เป็นกลยุทธที่ดีเปล่าวะ

>>962 ก็ทำได้ถ้ามึงมีตอนสะสมไว้มากพอ จำนวนขั้นต่ำเฉลี่ยให้มึงรอดได้ 2 เดือนแบบไม่ต้องปั่นตามจนไฟลุก คือมีอยู่กับตัว 35+ ตอน ถ้าน้อยกว่านั้นก็ไปเขียนให้มีพอก่อน

ระหว่างที่มึงกำลังลงช่วงแรก มึงจะมีทั้งกำลังใจจากการได้ยอดคนอ่าน และแรงกดดันว่า เชี่ย นิยายที่มีกำลังลดลงเรื่อยๆ สองอย่างนี้จะบังคับให้มึงแต่งต่อไปเอง ถ้ามีเหลือเยอะก็ค่อยๆ แต่งเนิบๆ 3 วัน 1 ตอนยังได้ แต่ถ้ามีแค่เท่ากับขั้นต่ำ ก็ต้องปั่นเพิ่มเพื่อหนีจากเส้นตายรายวันที่มึงกำหนดไว้ แต่ถ้ามึงวางแผนว่าท้ายๆ จะอัพนิยายน้อยลงก็อาจพอไหวอยู่

https://www.dek-d.com/member/profile/heejin/writer อยากลองอ่านนิยายพี่เว็บดูมั้ย อตินมาเองเลยนะ

>>964 สวัสดีครับพี่

>>965 นึกว่าจะไม่มีคนช่วยตบมุกแล้ว

วันนี้ไม่มีดราม่ามันส์ๆเบย

>>964 ชั่วดียังไงเขาก็เป็นนักเขียนตีพิมเลยนาาา

ใครยังตามมู้สับลูเสียอยู่บ้าง รอบนี้มันยังสับอยู่เลยว่ะ ประหลาดแท้

>>969 ปล่อยแกไปเหอะ สับฟรีเพื่อเด็กรุ่นใหม่ การกุศลแบบนี้มีไม่บ่อย แถมยังต้องทนกับความเรื้อนของพวกเด็กๆ ด้วย

>>964 เหมือนที่ดูเทคนิคพี่แก จะเอาตอนนึงมาแบ่งเป็นสาม แล้วลงวันละตอน กูว่าวิธีนี้ก็ดีนะสมัยนี้นิยายตอนยาวไป คนอ่านขี้เกียจอ่านกันแล้ว มันต้อง เร็ว สั้น ขยันซอย

อยากเห็นโม่งมี Critical Thinking ว่ะ

>>972 เริ่มจาก critical ตีนกุก่อนเลยไหม?

https://readhaus.com/

>>973 จัดมาเลยเพื่อนโม่ง

>>974 อันนี้คือ?

>>976 เหมือนจะเป็นเว็บลงนิยาย ไม่แน่ใจว่าถูกลิขสิทธิ์รึเปล่า

>>977 ถูกนะ #ReadHaus เห็นแท็กนี้พวกนักเขียนเล่นกันอยู่

กราบ1 กราบ2 กราบ3

สวัสดีครับ ท่านโม่งผู้เจริญซึ่งมากไปด้วยปัญหา ช่วงนี้ข้าน้อยอยากเห็นการสับแบบกระตุกจิต กระชากใจจัง

>>979 มีเรื่องน่าสับไหมล่ะ

>>979 กลัวจะออกมาเป็นแบบนี้ดิ https://www.youtube.com/watch?v=Yfu6G3f8Xxc

>>980 อยากได้แนวไหนล่ะ นี่มีเก็บในสต็อกไว้อยู่

https://www.dek-d.com/board/view/4053990/
เนี่ย มีกระทู้มาพอดีเลย

ช่วงนี้รู้สึกว่าเขียนนิยายไม่สนุกเลยว่ะ เปิดมาตอนแรกนี่กูว่าดีมากนะ แต่พอผ่านมาบทที่สามสี่ห้ามันดูเนือยๆ เหมือนไม่ค่อยไปไหน คงเพราะกูต้องปูเรื่องเยอะด้วยมั้ง กลัวนักอ่านเบื่อจัง

>>984 ไปเขียนนิยายสั้นแทนดีมั้ย

>>984 ถ้าคนอ่านยังไม่บ่น อย่าเพิ่งไปคิดแทน เดี๋ยวจะเครียดเอาเปล่าๆ

เออ กูสงสัยอย่างนึงนิยายใหม่มาแรง เค้ามีเงื่อนไขยังไงวะถึงไปโผล่หน้านั้น

>>987 เปิดเรื่องได้ไม่นานแต่คนอ่านเยอะงั้นรึเปล่า

คนอ่านเท่าเดิม แต่คนเม้นประจำหายว่ะ เศร้า กู 0 คอมเม้นมา 5 ตอนติดละ...

>>989 เสาเน็ตหน้าหมู่บ้านอาจจะล้ม เค้าเลยไม่ได้มาเม้นต์ ช่วงนี้ฝนตกลมแรงรักษาตัวด้วยนะโม่งทั้งหลาย

สรุปนี่มีชื่อมู้ใหม่ยังเนี่ย

อภิมหาเด้า

นิทานเด็กดีบทที่ 39 (DDN XXXIX) ภาคปิดเทอมทั้งทีทำไมยังเงียบจังวะ สงครามหมีขาว-ดอกทานตะวันจะเป็นยังไงก็ไม่สำคัญ สำหรับโลกของเด็กดีคือสงครามตัวเองกับนิยาย THIS NOVEL OF MINE

ไม่สิ เอางี้ดีกว่า เปลี่ยนชื่อ

นิทานเด็กดีบทที่ 39 (DDN XXXIX) ภาคสงครามหมีขาว-ดอกทานตะวันเป็นเหตุคนแห่ย้ายถิ่นฐาน แต่นักเขียนแห่ย้ายไปเว็บอื่นๆ เพราะการตลาดของเด็กดีติดกับดัก Baby Boomers ไปแล้ว(ว่ะ)

ถมดิครับรออะไร

>>994 +1

เด็กดีล่มค่ะ

>>997 +1 อันนี้สั้นกระชับดี

>>993 ชอบอันนี้กว่า

ปิดมู้ให้นักเขียน dek-d ทั้งหลายนะคะ