ถ้าคนแม่งบอกรายได้เดือนละหลักแสน ต้องพึ่งโฆษณา 400,000,000 วิว แม่เจ้าโว้ย
รบกวนสอบถามครับ ถ้าผมเอารูปจากเวป google มาใส่ในนิยาย แล้วให้เครดิตว่า รูปจากอินเตอร์เน็ต/จาก google แบบนี้ผิดลิขสิทธิ์ไหมครับ กำลังรวมเล่ม กลัวโดนฟ้อง
ถ้าจำไม่ผิดก็ตามนั้นล่ะ นิยายจีนมันขายตามจำนวนคนคลิ๊กเข้าดูเลยต้องซอยตอนยิกๆ และวนลูปไปเรื่อยเพื่อให้มีรายได้สม่ำเสมอ
https://www.dek-d.com/board/writer/4047468/
แต่งนิยายแนวกระแสไม่ง่ายนะคะ
กลับมาสับต่อจากเทศกาลสับข้ามปี เรื่องนี้เป็นเรื่องที่กูเก็บลิงก์ไว้เพราะมีช่วงนึงพวกมึงชอบข้องใจว่า ตัวเรื่องมันโดนเลือกมาเป็นนิยายแนะนำตรงหน้าเพจเพราะอะไร จุดแข็งของนิยายพวกนี้เป็นแบบไหน มันดียังไงนักเขียนถึงได้รับเชิญมาให้สัมภาษณ์กับทีมงานเด็กดวก พูดตามตรงกูก็ไม่รู้เหมือนกันวะ ข้อมูลคร่าวๆ ที่จำได้มีแค่ ตอนนั้นยอดวิวมันมีอยู่ 510k ปัจจุบันเพิ่มมาอีก 120 เป็น 630k ภายในระยะเวลาประมาณ 2 ปีนับจากช่วงที่ได้ขึ้นเพจ มองให้เป็นกราฟแล้วแนวโน้มคือยอดมันค่อยๆ ลดลงในช่วงท้าย แต่ไม่ได้ร่วงลงมากจนดูแย่ นิยายเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ 2 ในชุด "สับนิยายแนะนำโดยเพจนักเขียนเด็กดวก" ต่อจากเรื่อง Dangerous Mage ของจักรพรรดิไร้สี อีกอย่างที่จำกันได้แม่นคือไม่รู้ว่าเป็นอะไร ช่วงนั้นเว็บมันโหมโปรโมตนิยายเรื่องนี้บ่อยมาก บ่อยจนเกือบจะเท่านิยายเรื่องนายคะอย่ามาอ่อยของราชินีเก่าค่ายแจ่มใส มาดูกันดีกว่าว่า 5 ตอนแรกของนิยายโดยหนุ่มแว่นหน้าใสนามจิ้งจกทิวาจะเบ็ดนักอ่านด้วยวิธีการใด
ฟีร์มัว! นางร้ายวีลแชร์!?
https://writer.dek-d.com/suppakorn1944/writer/view.php?id=1722886
ใช้สัญลักษณ์ในชื่อเรื่องได้แปลกดี แต่อาจเป็นเพราะเรื่องนี้ด้วยส่วนหนึ่งคนถึงได้เข้ามาอ่าน คำโปรยแม่งโคตรขายตรงต่อพวกนักอ่านสายเกิดใหม่ในโอโตเมะเกม กูว่าทำได้ดีพอๆ กับเรื่องพี่วิลยอดนักหิวหีเลย (เรื่องเกิดใหม่เป็นตัวร้ายใน H-Game) คำโปรยกับชื่อเรื่องเกี่ยวข้องกันโดยตรงด้วยการพูดถึงตัวเอกที่เป็นนางร้าย มันไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร เพราะตัวพล็อตคล้าย LN ที่เป็นต้นแบบอย่างพวกบากะรีน่าและอื่นๆ ในฌองเดียวกัน มันขายของได้ตรงประเด็นแหล่ะ ดูไว้เป็นแนวทางเขียนคำโปรยก็ได้
ตรงปกรองเป็นรูปนางเอกกับบทบรรยายแบบไม่อ้อมค้อมเกี่ยวกับความเดิมตอนที่แล้วช่วงก่อนนางเอกจะพบกับความตกต่ำ อ่านคำอธิบายแล้วกูงงนิดๆ แต่น่าจะหมายความประมาณว่าจุดจบในเกมของนางเอกคือโดนผลักตกบันไดแล้วพิการจบเกมไปแบบ Bad end แล้วทีนี้พอได้โอกาสย้อนไปช่วงแรกเหมือนเป็น New game+ นางเอกเลยคิดจะแก้ไขเรื่องราวทั้งหมดใหม่ มีการดักทางไว้ด้วยว่าเนื้อหามีการใช้คำหยาบคายรุนแรง กับเซตติ้งวัฒนธรรมอาจไม่ได้เป๊ะไปเสียทั้งหมดเพราะแต่งแบบผสมผสาน เอาจริงๆ จะด่าแบบไอ้เงินบวกก็ได้ แต่เดี๋ยวจะหาว่ากูเรื่องเยอะ แทนที่จะบ่นเกี่ยวกับความผิวเผินของเซตติ้งที่ถูกมั่ว เรามาดูกันดีกว่าว่าไอ้การผสมวัฒนธรรม, การปกครองในเรื่องมันจะออกมาเป็นยังไง
ช่วงท้ายสุดมีการหยอกเย้าและเล่นหูเล่นตากับนักอ่านเล็กน้อย ทำเอากูไขว้เขวเลยว่าจิ้งจอกทิวานี่มันเป็นผู้ชายจริงรึเปล่า เพราะใช้คำได้สาวน้อยซะเหลือเกิน อย่างกับหลุดมาจากอดีตครั้งที่สำนักพิมพ์แจ่มใสยังครองเว็บส้มนี่อยู่
ตอนที่ 1 : ฟีร์มัวกับร่วงหล่น
ถึงชื่อตอนจะแปลกๆ ไปบ้าง แต่นักเขียนเปิดการเล่าแบบเข้าสู่ประเด็นทันที ด้วยการขายฉากเหตุการณ์สำคัญในงานเต้นรำของเจ้าชายกับนางเอกตัวจริงตามเนื้อเรื่อง ฟีร์มัวบุกเข้าไปในงานง้างจะตบเมย์รินสามัญชนสาวที่กำลังเต้นอยู่กับเจ้าชาย แต่โดนเจ้าชายกันไว้แถมสวนด้วยหลังมือเข้าหน้าติด Critical ไปหนึ่งดอก พร้อมกับบอกว่ามึงนี่มันไม่ไหวแล้ว ออกไปจากงานเต้นรำของกูเดี๋ยวนี้ ฟีร์มัวที่รู้ข่าวมาจากสายสืบว่าคืนนี้เจ้าชายจะสารภาพรักกับเมย์รินพยายามขัดขืนทุกวิถีทางแต่สู้แรงไม่ไหว โดนเจ้าชายเหวี่ยงออกจากประตูทางเข้าจนหงายหลังล้มตกบันไดสูงเกือบ 3 เมตร (ข้อมูลนี้กูไม่ได้เล่นมุกเพราะนักเขียนมันระบุไว้อย่างนั้นจริงๆ)
ตอนที่ 2 : ฟีร์มัวกับความทรงจำ
นางเอกของเราตื่นขึ้นมาแบบงงๆ ในความมืด ตอนแรกคิดว่าตัวเองตายแล้วแต่ความจริงคือติดอยู่ในมิติประหลาด ในพื้นที่ที่ว่ามีดวงไฟหลายดวงล่องลอยอยู่ เพื่อให้นิยายเดินเรื่องต่อได้ฟีร์มัวเลยตรงรี่เข้าไปแตะดวงไฟพวกนั้น ดวงไฟแต่ละดวงพอแตะแล้วก็จะมองเห็นความทรงจำของใครไม่รู้ผุดขึ้นในความคิด มีปืน มีสนามรบ กับทหารหงิญสุดโหดหนึ่งคน อธิบายความเก่งกาจเว่อร์วังแล้วก็ตัดไปที่ฉากสาวน้อยกำพร้าในสลัมกำลังนั่งอยู่ข้างศพไอ้พวกขี้เมา เด็กคนนี้คือทหารหงิญคนเมื่อกี้ในวัยเด็ก ฉายแววเทพีตั้งแต่เด็กเพราะสามารถรอดพ้นจากการข่มขืนของขี้เมาสองตัวมาได้ด้วยการปาดคอ เออ เอาที่สบายใจเลย เด็กสาวผอมแห้งสู้ผู้ใหญ่ชายไหวแถมทีละสองคนด้วย แต่มันก็ต้องเว่อร์ๆ แบบนี้ล่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวขายไม่ได้
สักพักนายทหารยศสูงก็โผล่มาเจอน้องแห้งสุดเทพ เลยเก็บน้องไปเลี้ยงแล้วฝึกให้เป็นทหารหงิญในกองกำลังของตัวเอง น้องทหารหงิญสุดยอดมากๆ เลื่อนยศด้วยการเชือดฝ่ายศัตรูล้วนๆ มานับครั้งไม่ถ้วน มีคนรักกับเขาหนึ่งคนเป็นทหารชายคนสนิทในหน่วยเดียวกัน วันดีคืนดีเดินทางกลับบ้านมาเจอผัวกำลังนอนกกสาวอื่นในห้องเลยเม้งแตก ไม่น่าเชื่อว่าขณะที่น้องเทพกำลังไล่เตะหญิงชู้ตัวเองดันพลาดโดนผลักออกไปกลางถนน จนถูกรถบรรทุกชนตายห่าคาที่ เดจาวูชัดๆ เหมือนที่เจ้าชายผลักกูตกบันไดเลย แล้วก็ระลึกได้ว่านี่มันกูชาติที่แล้วนี่หว่า พระเจ้าแม่งเหี้ย ชอบแกล้งให้กูต้องเจอเรื่องแบบนี้อยู่เรื่อย หลังโดนรถชนตายยังให้กูมาเกิดเป็นตัวร้ายในเกมจีบหนุ่มอีก ถ้ากูรอดไปได้คราวนี้นะ กูจะไม่ยอมตกเป็นเหยื่ออีกต่อไปแล้ว
ตอนที่ 3 : ฟีร์มัวกับเปลี่ยนแปลง?
นางเอกตื่นขึ้นมาในห้องที่เจ้าชาย ราชา กับพ่อตัวเองที่เป็นดยุคกำลังด่ากันอยู่ มันก็จะแปลกๆ หน่อยที่ดยุคต่อยเจ้าชายแล้วยังด่าราชาต่ออีก แต่นักเขียนมันดักไว้แล้วว่าวัฒนธรรมผสม (ผสมก็ผสมวะ) คือดยุคกับคิงเนี่ยส่วนใหญ่มันต้องวางท่าให้เหมาะสมไม่ให้เกิดผลกระทบกับความสัมพันธ์ แต่ในเรื่องคือพยายามแสดงให้เห็นความโกรธของพ่อที่ลูกสาวถูกทำให้พิการ นักเขียนทำการบ้านมาพอสมควรเรื่องที่ถ้าดยุคยกเลิกการสนับสนุนแล้วฝั่งคิงแม่งจะซวยเอง ไม่รู้วะ... นักเขียนอ้างว่าสองคนนี้เป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อนเลยอาจเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก็ได้ ซึ่งกูเลือกจะมองข้าม พ่อนางเอกเดือดจัดๆ ถามว่าเจ้าชายจะรับผิดชอบยังไง ราชาเลยบอกว่าจะให้ลูกชายแต่งกับนางเอก แต่นางเอกบอกปฏิเสธแล้วสวมบทโหดหลังความทรงจำหลอมรวมเข้ากับชาติก่อนที่เป็นทหารหญิงแล้ว ด้วยการหลอกด่าเจ้าชายก่อนจะพูดถึงเมย์ริน สาวน้อยชาวบ้านซึ่งเป็นสาเหตุให้เจ้าชายโมโหจนผลักตัวเองตกบันได เจ้าชายถึงกับหน้าซีดเพราะคนรักของตัวเองคงถึงคราวซวยซะแล้ว
ตอนที่ 4 : ฟีร์มัวกับวีลแชร์
สิ่งที่นางเอกต้องการคือขอให้ตัดนิ้วนางข้างซ้ายของเมย์รินมาให้ จริงอยู่ว่าเรื่องขอให้ลงโทษเจ้าชายอาจไม่ง่าย แต่กับสามัญชนนี่มันเป็นคนละเรื่อง เจ้าชายพยายามขอให้พ่อคิดดูใหม่เพราะถ้าตัดนิ้วนั้นแล้วเมย์รินจะทำสัญญาเวทมนตร์เพื่อแต่งงานไม่ได้ตาม Lore ของเกม นิ้วสาวชาวบ้านนิ้วเดียวแลกกับความพอใจของดยุคและบุตรีดูยังไงแม่งก็คุ้ม สุดท้ายราชาเลยรับปากว่าจะส่งนิ้วมาให้ภายหลัง ทำเอาเจ้าชายคอตกหมดความสง่าเพราะตัวเองกับคนรักคงทำได้แค่อยู่กินกันไปแบบไร้พิธีการ นางเอกเห็นท่าทางเจ้าชายก็โคตรจะสะใจเพราะเนื้อเรื่องเกมเปลี่ยนไปเรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้คือการขึ้นสู่ความเป็นใหญ่กับเนื้อเรื่องใหม่ของเธอเอง หลายวันต่อมาพระราชาส่งของขวัญมาให้นางเอกเป็นวีลแชร์เวทมนตร์ที่โคตรเจ๋ง ออพชั่นจัดเต็มยิ่งกว่ารถในโชว์รูมไหนๆ เพราะเคลื่อนที่เองได้ตามสั่ง มีบาเรียอมตะ มีมิติเก็บของบนที่วางแขน มีเวทมนตร์เสกสิ่งของอะไรก็ได้ขึ้นมาชั่วคราว มีตัวเร่งปฏิกิริยาเวทมนตร์สำหรับยิงเวทแบบ build-in มาพร้อมสรรพ ไอ้ที่เดินไม่ได้ก็ใช้เวลารักษาแค่ 3 ปี เหลือแค่ระหว่างนั้นจะทำอะไรรอเฉยๆ
ตอนที่ 5 : ฟีร์มัวกับมาดนางพญา
ฟีร์มัวไปโรงเรียนหลังจากพักฟื้นมา 1 เดือนเต็ม ดยุคเป็นห่วงกลัวลูกสาวจะคิดมากแต่ฟีร์มัวดูนิ่งๆ ไม่เป็นอะไร ซึ่งค่อนข้างผิดปกติเพราะถ้าเป็นเมื่อก่อนนางคงจะเสียความมั่นใจจนไม่กล้าไปโรงเรียน คนเป็นพ่อโคตรมั่นใจว่าลูกสาวตัวเองไม่เหมือนเดิม เพราะจิตใจดูแกร่งขึ้นมากจนบางทีไม่รู้ว่าตัวเองควรจะดีใจหรือกังวลใจกันแน่ ที่โรงเรียนมีพระรอง 2 ใน 5 คนตามเนื้อเรื่องโผล่มาด่าฟีร์มัวว่ามึงมันโหดร้าย ด้วยความที่เป็นพระรองด้วยกันทั้งคู่ก็เลยมีใจให้เมย์ริน พอรู้ข่าวว่านางเอกของเรื่องโดนตัดนิ้วเลยของขึ้น แต่ก็ทำอะไรฟีร์มัวไม่ได้เพราะโดนสวนด้วยเวทมนตร์ของรถเข็น ท่าทีของฟีร์มัวตอนนี้คือเหมือนกับบักวิลล์จากเรื่องเกิดใหม่ตัวร้าย H-Game เป๊ะๆ ไม่ว่าคนอื่นจะมองตัวเองว่าเลวร้ายยังไง ก็ไม่ได้คิดจะแก้ตัวหรือทำดีเพื่อเอาชนะใจคนอื่นในเกม
ในทางกลับกันตัวเอกเลือกจะ abuse ตัวละครรองด้วยอำนาจที่ได้มาหลังเกิดเรื่อง เรื่องบักวิลล์คือเดินสายตระเวนเยดสาวๆ ชาวบ้านที่ตัวเองหมายตา พร้อมกับแก้ไขปัญหาให้ตัวละครนางรองแต่ละคนทางอ้อมไว้รอเยดในอนาคต ส่วนเรื่องนี้ฟีร์มัวเริ่มขู่พระรองทั้ง 2 คนว่าพวกมึงมันก็แค่ทายาทของตระกูลพ่อค้ากับลูกชายไวส์เคาน์กระจอกที่อยู่ใต้อำนาจพ่อกู ถ้าคิดมีเรื่องระวังจะเจอของแข็ง ต่อให้พวกมึงโกรธแค้นแค่ไหนนิ้วของเมย์รินก็ไม่กลับคืนมา เพราะกูบดผสมกับเศษรำทำเป็นอาหารหมูไปเรียบร้อยแล้วว่ะ
โอเคมาถึงช่วงพูดคุยด้านต่างๆ ของตัวเรื่อง ภาษาสำนวนถือว่าดีแต่มันติดตรงมีความพยายามจะเหนือจนบางทีบทบรรยายมันล้นไปนิด เรื่องนี้อาจไม่ได้ประดิษฐ์หนักเท่ากับแฟนตาซีเก่าๆ ก็จริงทว่าปัญหาหนึ่งซึ่งพบได้ตลอดเวลาคือคำฟุ่มเฟือยกับความซ้ำซ้อนของประโยค ตัวอย่างประโยคก็เช่น
กระโจนเข้าปาดฟาดฟันศัตรูอย่างสุดแสนอำมหิตจนน่าหวาดกลัว
ถ้าลองอ่านแล้วคงดูออกว่ามันตัดประโยคให้สั้นลงได้อีก คำบางคำก็ตัดส่วนขยายได้ การบรรยายอ่านลื่นแต่ความล้นพวกนี้ก็ยังมีอยู่ตลอด ซึ่งมันถูกมองข้ามด้วยความกระชับของการเดินเรื่อง ทุกตอนที่อ่านตั้งแต่ 1 ถึง 5 มีความพีคในตัวมันเอง ใช้ tell เยอะแต่ยังอยู่ในประเด็นจนไม่รู้สึกว่าควรข้าม จุดแข็งอีกอย่างของนิยายเรื่องนี้คือตัวละคร การเปลี่ยนแปลงของนิสัยถึงแม้จะกระทันหันแต่ก็มีเหตุผลรองรับ ช่วงแรกที่ขี้วีนเอาแต่ใจก็สร้างเรื่องให้รู้สึกว่าตัวเอกเป็นงั้นจริงๆ พอกลับมาหลังจำชาติก่อนได้ ความนิ่งและวิธีคิดรวมไปถึงการแสดงออกก็เหมาะสมอยู่
เนื้อหาหลักๆ ช่วงแรกคือการแก้แค้นเจ้าชายที่ทำให้ตัวเองพิการ เสน่ห์ของตัวละครฟีร์มัวคือความร้ายกาจที่ได้มาหลังรวมบุคลิกเข้ากับตัวเองในชาติก่อน พอไม่มีความนิสัยเสียแบบตัวตนเก่า ตัวตนใหม่ที่คิดอย่างรอบคอบและฉลาดเลยดูดีขึ้นตามไปด้วย นักเขียนก็คงคิดจะใช้สิ่งนี้เป็นจุดขายหลักต่อไป จากที่อ่านคอมเมนต์ดูความเห็นค่อนข้างเป็นไปในทางบวก เทียบกันระหว่างเรื่องนี้กับ Dangerous Mage กูให้เรื่องนี้คะแนนดีกว่า
อีกข้อได้เปรียบหนึ่งของนิยายแนวแต่งตามเนื้อเรื่องเกมคือการมี ref ตัวอย่างเนื้อเรื่องให้ศึกษาอยู่ก่อนแล้ว วิธีการหลีกเลี่ยงไม่ให้ดูเหมือนลอกพล็อตก็ทำได้ไม่ยาก คาร์แร็คเตอร์และนิสัยของตัวละครในเกมสามารถเอามาดัดแปลงเป็นตัวละครในนิยายได้สบาย งานของคนแต่งเหลือแค่จะเปลี่ยนรูทต่างๆ ที่เคยแย่ให้ดีขึ้นได้ยังไง จะอำนวยความสะดวกให้ตัวเอกแบบไหน ทั้งเรื่องนี้และเรื่องบักวิลล์มีความเหมือนกันตรงที่ตัวละครที่เป็นตัวร้ายมันมีทั้งอำนาจและเงินตราในมืออยู่ก่อนแล้ว ทุกอย่างเลยทำได้ไม่ยากนัก บักวิลล์ที่เคยเอาแต่ฉุดคร่าเปลี่ยนมาเป็นหาทางให้สาวๆ เต็มใจโดนเยด ส่วนฟีร์มัวในเรื่องนี้ที่เคยทำตัวนางร้ายโวยวายปัญญาอ่อนเปลี่ยนมาเล่นงานคนอื่นด้วยเล่ห์เหลี่ยมกับไล่ power abuse จนสาแก่ใจ เลยไม่แปลกนักถ้าเรื่องนี้จะตกนักอ่านสายแก้แค้นได้อยู่หมัด
นักเขียนใช้ Talk ท้ายตอนได้ดี มีการแปะวิธีโดเนทไว้ด้วย
ถ้าไม่ติดว่ามันบรรยายล้นไปหน่อย เรื่องนี้ก็ถือว่าทำได้ดี
ถ้าใครสนใจเรื่องแนวนี้แต่ตัวเอกไม่ได้มีทั้งอำนาจหรือเงินทองแต่แรกให้ลอง search "โลกเกมจีบหนุ่มแม่ง เป็นโลกที่ไม่ปราณีตัวประกอบซักนิด" ดู ที่แนะนำเพราะการเปลี่ยนแปลงในเนื้อเรื่องของตัวเกมน่าสนใจ ถือเป็น hard mode สำหรับนิยายแนวเกิดใหม่ในเกมตั่งต่าง
Ref ผิด โทด ๆ กูจะหมายถึงอันนี้ https://www.dek-d.com/board/writer/4047436/
แม่งกูไถผ่าน ๆ นางมุกหรือโง่จริงวะไม่รู้ว่า OP คืออะไร นี่แม่งมีชีวิตอยู่ในดงนิยายมาถึงปานนี้ทำอะไรอยู่วะ
>>716 เตรียมพร้อมรับแรงกระแทกทางสมองไว้ด้วยนะ
>>>/webnovel/8477/368-465/ มีหน่วยกล้าตายเวียนกันสับอยู่ 4 เรื่อง ไล่อ่านดูก็แล้วกัน
เด็กดีตอนนี้แต่งหน้านิยายไม่ได้แล้วใช่มั้ย?
พักเขียนนิยายไปปีกว่า วันนี้กูลองมาขุดพวกนิยายใหม่/เว็บตูนดู กูอยากรู้ว่าเดี๋ยวนี้ที่วัยรุ่นอ่านๆกันเดินเรื่องกันเร็วแค่ไหน อห... เร็วชิบหาย แปปๆเข้าใจความหลัก แปปๆเปิดเผยความลับ แล้วสนุกดีด้วย
ทีนี้กูลองมาทบทวนตัวเองดู คือพวกนิยายที่มันเดินเรื่องเร็วๆได้นี่ เพราะคนอ่านมันรู้อยู่แล้วว่ากำลังอ่านแนวไหน คนอ่านกับคนเขียนเหมือนรู้กันเลยสามารถอินไปกับเรื่องได้ทันที แต่พวกที่เขียนวิธีเดิมแล้วโดนด่าว่าช้า คือบรรยายแบบเผื่อคนอ่านแนวนี้เป็นครั้งแรก มันเลยไม่ทันใจคนอ่านงี้เปล่าวะ
ช่วงหลังในยูทูป มีคอนเทนต์สปอยซีรี่ส์ สปอยหนัง ย่อมาเล่าแค่ฉากสำคัญ ไม่ต้องนั่งดูเอง แถมยอดวิวช่องพวกนี้มหาศาล เห็นได้ชัดถึงพฤติกรรมการเสพสื่อของคนยุคนี้ ล่าสุดกูส่องนิยายเด็กดวก นิยายเรื่องไหนบรรยายเยอะ คนอ่านด่าเลยล่ะมึง โวยคนเขียนว่าต้องเลื่อนนิ้วตั้งนานกว่าจะพ้นบทบรรยายมาเจอบทสนทนา กูอยากจะร้องไห้ แต่กูก็เป็นแบบนี้ สื่อโซเชียลทำให้กูคุ้นเคยกับอะไรเร็วๆๆ เจอสิ่งน่าเบื่อเลื่อนผ่านทันที แม่งเอ้ย
https://www.dek-d.com/board/writer/4047679/
อีบ้า VS เด็กเบียว
https://www.dek-d.com/writer/58482/ ทีแรกคิดว่าจะเป็นแต่งนิยายเพราะได้เพื่อนที่ สุดท้ายกลายเป็นอวยสถาบันสอนแต่ง LN ของกาดอกาว่าว
กูอยากหานิยายเกมออนไลน์อ่าน แต่เท่าที่ส่องแทก #เกมออนไลน์ แล้วแต่ละเจ้าเขียนเหมือนไม่เคยเล่นเกม กูเลยไปส่องแทก #e-sport แทนหวังว่าจะเจออะไรดีๆมีโลจิกในฐานะคนเล่นเกมบ้าง เจอนิยายจีนแปลเลยลองอ่านดู
สถานการณ์ในเรื่องคือนักศึกษา 5 คนรวมตัวที่ร้านเกมแล้วแข่ง MOBA กับทีมของมหาลัยอื่น แล้วในเกมกำลังจะแพ้ สมาชิกตายไป 4 สถานการณ์จึงกลายเป็น 1 vs 5 ไอ้คนสุดท้ายแม่งเลยไปขอร้องพระเอกให้มาเล่นแทนให้
พอถึงตรงนี้กูก็รู้ว่าเดี๋ยวแม่งต้องโชว์เทพตบตายยกทีมแน่นอน แต่ด้วยปณิธานปีใหม่ กูตั้งใจว่าจะเปิดใจให้โอกาสคนมากขึ้น จะไม่ด่วนตัดสินเร็วเกินไป เอาวะ... อย่างน้อยนี่มันก็ MOBA E-SPORT คงจะมีเหตุผลรองรับดับความครินจ์ให้กูได้บ้าง แล้วกูก็อ่านต่อ...
____
ภาพในจอกำลังแสดงให้เห็นว่าเขาพุ่งเข้าหาพวกทีม USTC พร้อมกับโชว์ถึงความเหนือชั้น!
ฟาดฟัน หลบหลีก และร่ายรำไปรอบๆ ศัตรูนี่แหละ คือสิ่งสำคัญของออเรเลีย(ชื่อฮีโร่) ทุกคนได้แต่นิ่งไปด้วยความประหลาดใจ เพราะออเรเลียจัดการศัตรูทุกคนได้อย่างงดงาม จากนั้นก็วาร์ปไปทำลายฐานของทีม USTC แล้วก็ชนะไปได้อย่างง่ายดาย!!!
_____
แม่มึงตัวเย็น! พ่อมึง HP หมด! ขนาดกูไม่ใช่แฟนเกม MOBA กูยังหาเหตุผลมารองรับสถานการณ์ 1vs5 ได้เลยไอ้สัส สเต็ปเทพมุดป่า สกิลหมู่ ลากให้โรชานตบเหี้ยอะไรก็อ้างไป ฟาดฟันหลบหลีกหีแม่มึงสิ ถุ้ย! กูก็นึกว่าแปลจีนแล้วจะมีน้ำยา ไอ้เหี้ยยยย!
>>730 ในเรื่องมันใช้ศัพท์พวก มิดเลน จังเกิ้ล ดับเบิลคิล ทริปเปิ้ลคิล เพนต้าคิล วาร์ป มีการพูดถึงกดสกิล สิ่งที่กูคาดหวังต่ำสุดคือให้คนเขียนบอกกูสักนิดนึงก็พอแล้วว่าเพราะอะไรมึงถึงเทพ แต่เหี้ยนี่คือมา หลบหลีกฟาดฟันจนชนะ? MOBA หีแม่มึง! ที่มันไม่ลงรายละเอียดเยอะเพราะว่าเป็นช่วงเริ่มเรื่อง เหมือนจะให้คนอ่ารู้ว่าพระเอกมันเทพเฉยๆ ก่อนจะลากเข้าไปในเกมโลกเสมือนจริง
แล้วคนเขียนแม่งใช้วิธีใส่ออร่าให้พระเอกเพื่อบอกคนดูว่ามันเทพด้วย
- ให้ไอ้หัวหน้าทีมที่พาทีมตายห่าไป 4 ตัวดูถูกพระเอก "ตัวละครนี้เล่นยากที่สุดในเกมเลยนะ แน่ใจนะว่ารู้วิธีเล่น?"
- นิ้วของเซียวเฟิงที่กดอยู่บนคีย์บอร์ดนั้นแผ่วเบา ดูเหมือนไม่เหมือนการกดสกิลสักเท่าไหร่ ออกจะคล้ายกับการเล่นเปียโนเสียมากกว่า
- แต่พอเซียวเฟิงเริ่มเคลื่อนไหว พวกเขาต่างก็ต้องนิ่งอึ้งพูดไม่ออกกันถ้วนหน้า และถ้าจะให้พูดชัดๆกว่านี้ก็คงต้องบอกว่าออลเรเลียกำลังขยับอยู่ต่างหาก (แค่บังคับตัวละตรได้พวกมึงอึ้งเหี้ยอะไรครัฟ!) ในมือของเซียวเฟิง ราวกับออลเรเลียมีชีวิตและจิตวิญญาณจริงๆ
กูโกดสัสๆ มึงแค่เทพเพราะเป็นพระเอกแม่ย้อย!
>>732 ถ้ากูจำไม่ผิดเกมที่พี่เยี่ยเล่น เมาส์มันเทียบเท่ากับมือที่ถืออาวุธอยู่ ยิ่งคุมเมาส์ได้พริ้วเท่าไหร่การออกท่าโจมตีในเกมก็เทพตาม แต่พูดตามตรงกูได้กลิ่น แ-ร-ง-บั-น-ด-า-ล-ใ-จ พี่เยี่ยจากเรื่องเหี้ยนี่มาก พระเอกอยู่ในร้านเกม(ไม่รู้ลูกจ้างหรือเจ้าของ) เคยเป็นแชมป์ โชว์เทพเสร็จก็แวบไปดูดบุหรี่นอกร้าน
>>731 ในบรรดาโมบ้า ที่ใช้ Skill play เป็นหลักก็น่าจะแอล แล้วถามว่าในแอล 1 V 5 ชนะได้มั้ย ก็ได้นะ...แต่มึงต้องแต้มนำเขาแบบโคตรยับ เสมิฟอย่างหนักชนิดที่เป็นชาเลนลงมาตบบรอน ดราฟทีมอีกฝั่งโคตรเละเทะมั่วซั่ว แล้วเล่นพวกตัวแบก(ถึงมึงเกิด แต่ถ้ามันเป็นตัวเบิสเดี่ยวก็เก็บไม่ได้อยู่ดี) ติดคือถ้าทีมมึงโดนยำซะยับขนาดนั้นมึงจะเอาเชี่ยไรไป 1v5 ทีมไฟท์ให้รอดก่อนเถอะพ่อคุณ ต่อให้มึงเทพแค่ไหนโดน Chain CC ยัดหน้าแล้วอัดดาเมจก็จบแล้วป้ะ (เว้นก็อย่างที่บอกแหละ อีกฝ่ายดราฟโง่เกิน)
ส่วนถ้าเป็นแนววางแผนเป็นหลักแบบ DOTA ก็ฝันไปเถอะมึง
https://fictionlog.co/b/619f0d7ca2ed2f001c42fcfc
เอาไปตำดูแล้วกัน กูอ่านแค่ 1.5 ตอนพอ กูหาเรื่องนี้เจอด้วยตัวกรองว่าเป็น #Esport ที่ยอดนิยมใน 7 วัน
เจ๊ดโด้ โฆษณาใหม่ของ fictionlog ในเฟสแม่งเอาคำแนะนำของโม่งเห็บหมาไปทำเช็คลิสโปรโมทนิยายเลยว่ะ
ฮีลเลอร์สายบู๊เหรอ งั้นๆนะ ผู้กล้าฮีลยังแปลกกว่าทั้งที่กูไม่ม้า เพราะเกมที่กูเล่นไม่มีระบบเย้
นิยาย moba ลองอ่านช่วงเวลาแห่งราชาไหม
อยากจะโฆษณาหรืออยากระบายอารมณ์ก็เลือกสักอย่างสิวะ https://www.dek-d.com/board/writer/4047887/
>>743 นี่คือนิยายที่เกิดจากการศึกษาตลาดแล้วค่ะ! ครบทุกองค์ประกอบ นิยายรัก ชื่อเรื่องยาวคล้ายไลท์โนเวล เจ้าหญิง เจ้าชาย นายทหาร ราชา ราชินี การต่อสู้ ความเร่าร้อนของวัยรุ่นและอุดมการณ์ของคนหนุ่มสาว! เราขอประกาศ!!! ชื่อเรื่อง - Love & War สงครามปฏิวัติบัลลังก์ชิงอำนาจหัวใจ️ของยัยเจ้าหญิงเผด็จการตัวร้ายและสหายผู้นำหัวใจเย็นชา
กตล. โลกไหนวะ...
>>744 นั่นดิ555 การตลาดแบบผสมผสานแน่เลย มึงพลาดตั้งแต่ตั้งชื่อนิยายแต่เอาคล้ายไลท์โนเวลแล้ว อีสองตัวนี้มันคนละอันว้อย ไลท์โนเวลนี่ชื่อยาวจนเหมือนเป็นกิมมิกไปละว่าต้องยาวจนรู้พล็อตในหนึ่งประโยค เพราะเนื้อหาคือเน้นใช้ภาษาง่ายๆความยาวต่อเล่มไม่เยอะมาก แต่นิยายคือชื่อสั้นกระชับจำง่ายว่ามันเป็นแก่นเรื่องหรือตัวเอกเดินเรื่องก็พอ ดนื้อหาจะละเอียดละออภาษาจะซับซ้อนกว่า เนื้อหาต่อเล่มจะมากกว่า
สรุปอีนี่มันศึกษามาแบบไม่สนฮีสนแทด จับนแพะชนแกะได้การตลาดลูกผสมมางี้ ตลาดไลท์โนเวลเขาก็อ่านแต่ไลท์สิวะไม่อ่านนิยายว้อย ตลาดนิยายก็อ่านนิยายไม่เอาไลท์ว้อย ถ้ามึงคิดจะจับสองกลุ่มนี้ด้วยการตลาดผสมงี้ผลคือไม่สุดสักทางอะ จะนิยายหรือไลท์โนเวลก็สักอย่างดิ เหมือนไซไฟกับแฟนตาซีอะ เรื่องเหนือจริงทั้งคู่แต่คนละธีมไหมล่ะ แฮรี่พอร์ตเตอร์กับจักรวาลมาเวลอะสัส ลูกค้าคนละกลุ่มเลย
แต่ก็มีหลายคนยังสับสนแยกแยกระหว่างนิยายกับไลท์โนเวลไม่ออก
ไลท์โนเวล มันก็นิยายป่าววะ?
https://i.imgur.com/JhtC5n8.jpg
เล่มไหน ไลทโนเวล อันไหนแนววัยรุ่น อันไหนแนวลึกลับวะ
>>748 ก็ใช่แต่มันแยกมาอีกประเภทหนึ่งอะ ฟีลเดียวกับฟิสิกส์เคมี สองวิชานี้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เหมือนกันแต่ยังแยกออกมาต่างหากเพราะมันเฉพาะทางไปอีกงี้ ไลท์โนเวลคือนิยายเล่มเบากว่าตามชื่อ เพราะเน้นใช้ภาษาง่ายๆ ลดการบรรยายทำให้เนื้อหาต่อเล่มน้อยกว่านิยายปกติ ถ้าอิงจากต้นกำเนิดคือญี่ปุ่นปะวะ คือนิยายที่เขียนด้วยภาษาง่ายๆใช้ตัวอักษรที่ไม่ใช่คันจิล้วนเพื่อให้พวกวัยรุ่นที่คลังคันจิไม่พอได้อ่านกัน พอใช้อักษรพวกนี้การเล่าเรื่องมันก็ซับซ้อนน้อยลงไม่ต้องตีความมาก และเน้นการกระชับเนื้อหาเอางี้ พอกลายเป็นภาษาอื่นเช่นไทยก็ใช้บริบทเดียวกันคือใช้ภาษาง่ายๆและไม่เน้นบรรยายมากอะ
>>751 เออว่ะ เพราะฐานคนอ่านคือนิยายรักปะเลยทำหมวดรักพิถีพิถันดีจังมีแยกตามความแซ่บไปอีก รักๆใสไม่เยส รักต้องเยสไม่มีท่ายาก รักไม่เกี่ยวเยสดุอย่างเดียวงี้ ธวล.ยังชิดซ้ายเลย5555 แม่งแยกย้อยของย่อยไปอีกเพื่อ
เรื่องไลท์โนเวลมันก็พูดกันไปหลายทีแล้ว เดี๋ยวกูจะเสริมของ >>752 ให้เพิ่มละกันว่าเส้นแบ่งคร่าวๆ ของโนเวลกับไลท์โนเวลมันเกี่ยวกลุ่มผู้อ่านที่ตั้งเป้าหมายไว้
ไลท์โนเวลแรกเริ่มเดิมทีสำนักพิมพ์มันไม่ได้คิดจะสร้าง Genre ใหม่อะไรหรอก แต่เป้าหมายมันคือการเน้นขายนิยายให้กับนักอ่านอายุน้อยหรือคนที่ยังไม่ได้เข้าสู่รั้วมหาลัย, วัยทำงาน เรื่องใช้ภาษาง่ายๆ หรือลดบทบรรยายเพื่อให้อ่านง่ายก็ตามนั้นเลย แต่องค์ประกอบเพิ่มเติมก็จะมีพวกภาพประกอบที่อาจโผล่มาได้ทั้งแบบทุกครั้งที่เริ่มตอนใหม่ หรือมีคั่นในฉากสำคัญที่บรรยายแล้วอาจจะยาวจำพวกฉากต่อสู้หรือบรรยากาศของพื้นที่
ากที่กูอ่านพวกไลท์โนเวลยุคแรก เอาแบบมักง่ายมากๆ ก็คือหนึ่งขี้เกียจบรรยายลักษณะตัวละคร สองจงใจใช้รูปสไตล์มังงะขายไวฟุของเรื่อง ซึ่งไม่รู้เป็นเหี้ยอะไรถึงชอบวาดฉากโป๊วับๆ แวมๆ ของตัวละครสาวๆ กันเป็นส่วนใหญ่ นอกจากภาษากับรูปแล้วยังมีเรื่องของขนาดรูปเล่มด้วย
ซึ่งขนาดเล่มปัจจุบันนี้เหมือนจะไม่ได้ทำเล่มให้เล็กลงเหมือนช่วงแรกๆ เหตุผลนึงของการทำให้เล็กก็คือช่วยลดต้นทุนเพื่อปรับราคาลงได้ ขนาดเล่มพอดีมือนั่งอ่านบนรถไฟระหว่าง ไป-กลับ โรงเรียนได้สบายๆ กลายเป็นจุดเด่นนึงของไลท์โนเวลยุคแรกๆ ไป
แรกๆ เนื้อหาก็เน้นไปทางเทพซ่าส์จูนิเบียวต่างโลกแฟนตาซีลามกอะไรหนักหน่อยเพราะเน้นขายวัยรุ่นชายเป็นหลัก ปัจจุบันก็เปลี่ยนไปจนมีหลากหลายแนวทำให้อ่านได้ทุกเพศทุกวัย
แต่จากที่กูพูดมาทั้งหมดเนี่ยขอให้โละทิ้งจากสมองไปทั้งหมดเลยก็ได้ เพราะคนต้นคิดที่สร้างไลท์โนเวลขึ้นมาเขาพูดเองว่า ต่อให้มีงานเขียนที่ทำตามธรรมเนียมของไลท์โนเวลหลายๆ ข้อข้างบนจนครบ นิยายเรื่องนั้นก็อาจไม่ใช่ไลท์โนเวล เพราะองค์ประกอบของไลท์โนเวลมันสามารถแยกย่อยไปกระจายอยู่ตามงานเขียนอื่นๆ อย่างอิสระ เช่นนิยายที่ไม่ใช้ไลท์โนเวลก็อาจมีภาพประกอบแทรกระหว่างเล่ม หรือนิยายที่ใช้ภาษาง่ายๆ แต่เน้นการเล่าที่ค่อนข้างหนักหรือไม่ใช่งานสุขนิยมก็เช่นเดียวกัน เขาอธิบายแบบกว้างๆ ไว้แค่ "นิยายที่เราคิดว่าเป็นไลท์โนเวลในสายตาคนอื่นแล้วอาจเป็นแค่นิยายธรรมดา เช่นเดียวกันกับที่เรามองนิยายเรื่องนึงเป็นนิยายทั่วไปแต่อาจมีคนมองเรื่องนั้นเป็นไลท์โนเวลก็ได้" ขอบเขตการตัดสินว่าเรื่องไหนเป็นหรือไม่เป็นไลท์โนเวลเลยตัดสินได้ยากแล้ว เพราะคุณภาพของ Webnovel กับ Lightnovel มันไม่ค่อยต่างกัน ส่วนนิยายทั่วไปที่มี บก. คอยตรวจสอบความเรียบร้อยให้มันก็จะแยกไปอยู่ที่หมวดหนึ่งไปเลย
มีโม่งคนไหนมีแนวแฟนตาซีมุมมอง pov3 สำนวนเข้าเกณฑ์ดีๆ แนะนำมั้ย จะเวบไหนหรือขายอีบุ๊คไปแล้วก็ได้ อยากศึกษาเป็นความรู้
>>755 แถม ๆ อ่านฟรีไปเล่มแล้วกัน
โจรกรรมอมตะ ตอนชิงตัวจอมพราน (เล่มแรก)
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=890&page_no=1
ละเอียดมั้ย ไม่รู้ แต่ที่คนบ่นกันเพราะเจอ tell, don’t show อะไรที่ปิดกั้นจินตนาการคนอ่านก็ยิ่งอ่านไม่ลง
>>770 อยากจินตนาการนักมึงแต่งนิยายเองไหม การบรรยายมึงจะคิดว่าเยอะหรือน้อยมันความเห็นของตัวมึงคนเดียว มึงว่าเยอะคนอื่นอาจเฉย ๆ ก็ได้ อย่ามาร้องว่านักเขียนเขียนห่วยเพราะบรรยายจำนวนคำไม่ถูกใจมึงดิ
ถ้ามึงบอกว่ามึงไม่ชอบเพราะบรรยายเยอะไปกูจะไม่อะไรเลย แต่การที่มึงบอกว่านิยายห่วยเพราะบรรยายเยอะไปนี่มันคนละเรื่องกันเลยนะ
อีกอย่างเป็นอะไรกับศัพท์ show กับ tell นี่มากไหม กูไม่รู้ว่ามึงเป็นคนเดียวที่มาร้องเรื่องนี้เรื่อย ๆ หรือว่ามันมีหลายคน แต่ว่า การบรรยายแต่ละแบบมันมีที่ทางของมัน ไม่ได้จำเป็นว่าต้อง show รัว ๆ ห้าม tell สักหน่อย
เออ ถามนิดนึง สืบเนื่องจากกระทู้หนึ่งในเด็กดี สรุปว่าไวท์โร้ดนี่มันดีหรือเหี้ยกันแน่วะ คนอวยก็อ๊วยอวย คนด่าก็สาปส่งลงนรกเหมือนไปเผาบ้านกันมา
>>772 สำหรับกูคือแย่ เอาฉากจากหลายๆเกมมาเขียนทั้งดุ้นเลยไม่อแดป จริงๆฉากไปพบนางเอกยืนรอให้มาขอเต้นท่ามกลางแสงดาวมันเป็นซีนโรแมนติคที่คลาสสิคและคลิเช่มากๆนะ แต่เสือกเอาฉากจาก ff8 มาเขียนเลยซะงั้น อ่านปุ๊บเห็นภาพแรงบันดาลใจออกเลยว่ามาจากฉากไหนในเกม
อีกอย่างกูว่าพระเอกแม่งเทพซ่าหนักมาก อยู่โลกเก่าเป็นไอ้กุ้งแห้งหยองกรอดอ่อนแอ โดนวาร์ปมาโลกถนนขาวเป็นหนุ่มป๊อบสุดหล่อ มีสาวๆวิ่งเข้าหา มีเงินใช้ไม่อั้น เล่นเกมออนไลน์ครั้งแรกมีแค่ปืนกากๆติดตั้งแบบโนวิชแต่ดันลาสต์ช็อตบอสจนได้ไอเท็มสุดเทพมาครอง ไปงานเต้นรำโรงเรียนก็ถูกจับสลากให้ได้คู่กับสาวสวยที่เป็นดาราดังระดับจักรวาล ซึ่งอีนี่เป็นแค่พิธีกรที่มาในงานไม่ใช่นักเรียนในโรงเรียน มันไปมีรายชื่อให้จับคู่ด้วยได้ไง ผองเพื่อนในรุ่นล้วนแต่เป็นลูกหลานคนใหญ่คนโตเป็นแบ็ค มีเป็นหัวกะทิอัจฉริยะ เป็นคนเด่นดังในโรงเรียนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ฉากสู้กับการบรรยายก็ห่วย เขียนแบบ....ตู้ม เปรี้ยง ย้ากกกกกกก ไฟสเลเยอร์บลาๆ แถมตอนหลังเรื่องมันขยายสเกลใหญ่แบบที่ไม่น่าเอาใจช่วยเลย พระเอกก็ยังเป็นศูนย์กลางในการปราบบอส โดยที่ตัวละครอื่นๆโดนลดบทบาทความสำคัญไปหมดไม่เว้นกระทั่งผองเพื่อนสุดซูของมัน ให้พระเอกเก่งคนเดียวจนน่าเบื่อเลยล่ะ
บ่นอะไรกัน ถ้าเป็นเว็บโนเวลก็ใต้ตีน solo leveling หมดอะค้าบ กำลังจะเป็นเมะแล้วด้วย (ไม่มีอะไร กูเพื่อนบ้านแวะมาเรื้อนเฉยๆ)
ถ้าบรรยายเยอะเพื่อขยายความสร้างบรรยากาศที่มีผลต่อเนื้อเรื่องกูก็ไม่อะไรหรอก บางเรื่องบทพูดทื่อแต่บรรยายดีกูก็โอเคแหละพ ทนอ่านได้ แต่ถ้าแบบเจ้ดอกขาวก็ไม่ได้ว้อย555 บรรยายเยิ่นเย้อไม่พอบทพูดก็ทื่อไปอีก
แต่ยุคนี้อย่างที่ >>773 ว่าอะ เน้นของแดกด่วน สมาธิสั้นขึ้น อย่าว่าแต่บรรยายเยอะเลย แค่ตอนนึงมีเกินสิบหน้าก็ไม่อ่านกันแล้วงี้ ถ้ามึงเขียนเพื่อเน้นหาแดกได้ตังไว ก็ต้องลดการบรรยายลงให้กระชับขึ้นเพื่อดึงคนอ่านให้สนใจอ่านตามยาวๆ แต่ถ้ามึงเขียนชิลๆ เงินไม่ใช่เป้าหมายหลักคนอ่านไม่เยอะก็ด้นแคร์ มึงจะบรรยายยืดไปเท่าไหร่ก็ทำเถอะ เพราะมีคนอ่านเหมือนกันแต่น้อยกว่าแค่นั้นเอง
>>777 พอเลยมึง กูแค่พูดถึงวิธีบริโภคของลูกค้า ดูถูกคนอ่านบ้าบออะไร กูเอาใจใส่ซะอีกถึงได้ปรับตัว ที่จริงแม่งเข้าทางกูด้วยซ้ำ จะได้ไม่ต้องลำบากคิดท่ายากสะสมคลังคำ แค่เล่าในสิ่งที่กูอยากเล่า คนอ่านก็ได้อ่านที่เขาสนใจ แล้วนิยายในร้านกูจะต้องไปหาอ่านเพิ่มทำไมในเมื่อกูมาเขียนนิยายเพราะเรื่องที่กูอยากอ่านไม่มีใครเขียน
>>772 มีคนอวยถนนขาวด้วยเหรอวะ 555
สำหรับกูห่วยไร้คำบรรยาย คือเป็นนิยายเรื่องแรกที่กู dnf อะ แล้วจากวันนั้นถึงวันนี้นิยายเล่มที่กู dnf มีอยู่แค่ 2 เรื่องถ้วน (ไม่นับพวกอ่านสแกนตัวอย่างนะ แล้วก็ไม่นับพวกรอเล่มต่อจนลืมว่ารออยู่ด้วย.....) หนึ่งคือถนนขาว อีกหนึ่งคือนิยายฝรั่ง ท่ามกลางนิยายเป็นพันที่กูผ่านตามาแล้ว มึงคิดดูแล้วกันว่ามันเหี้ยเบอร์ไหน
หลัก ๆ ประเด็นกูไม่ได้อยู่ที่การลอกพล็อต เพราะต้องยอมรับ ว่าสมัยนั้นยังไม่ซีเรียสเรื่องนี้เท่าตอนนี้ แล้วนิยายแฟนตาซีไทยสมัยนั้นเรื่องไหน ๆ ก็กลิ่นอายโชยหึ่งทั้งนั้น แต่เป็นความเหี้ยของเนื้อเรื่อง ความ self-insert โคตร ๆ อย่างเห็นได้ชัดของคนเขียน พระเอกแม่งหล่อสุดเก่งสุดเทพสุดสาว ๆ รุมตอมสุด โดนตัวร้ายกี้กี้หมั่นไส้สุด ฯลฯ ผู้หญิงในเรื่องได้แต่ตื่นตะลึงในความหล่อเทพของไอ้พอลแล้วเดินตามควยต้อย ๆ
ภาคแรกกูยังถูไถจบไปได้ แต่ภาคสองอ่านเล่มแรกแล้วเทจริงจังว่ะ เท่าที่กูจำได้คือพล็อตแม่งเน่าเละไปหมดแล้ว ใส่เหี้ยไรไม่รู้มาโครม ๆ แล้วไม่ขมวดเป็นเส้นเรื่องที่มันไปด้วยกันน่ะ
นอกจากนั้นคือ เอฟเฟค โครม! ตึง! เพล้ง! เยอะมาก ทำกูงงเต๊ะเลย เป็นนิยายเรื่องแรกที่กูเห็นการบรรยายอย่างนี้ show don't tell ไหมล่ะสัส
แล้วก็คำผิด เขียน เหรอ เป็น หรอ ทั้งเรื่องจนกูอยากถามไอ้คนเขียนว่ามึงฟันหลอหรือไงสัส proofread แม่งตาบอดใช่ไหมถึงผ่านมาได้
นอกนั้นคือการเขียนผิดเรื่อยเปื่อยที่กูอ่านแล้วเอ๊ะ ๆ ที่จำได้แม่นคือ
เพิ่งเข้าโรงเรียนมา อีพอลเดินไปห้อง ผอ. ผ่านรูป อดีต ผอ. สามสิบกว่าคน และได้รู้ว่า ผอ. คนนี้เป็นคนที่สามสิบ ..... มึงตกเลขเหรอวะ คนนี้คนที่สามสิบ อดีตต้องมี 29 คนไหม มึงเอาอดีต ผอ. สามสิบกว่าคนมาจากไหน
นางเอกเล่นเปียโนเสียงแผ่วเบาและกึกก้อง getsunova ชิบหายเลย
>>780 เรื่องคนอวยนี่ ถ้าไม่ใช่พวกอ่านหนังสือมาน้อย ก็เป็นเด็กโปกวัยเบียวที่ไม่เคยเล่นไฟนอลแฟนตาซีมาก่อน (ว่าแล้วก็นึกถึงไอ้ปากกาแดงดำอีกตัว สาวกไฟนอลอย่างกูนี่กำหมัดเลย) เวลาจะอวยนี่ก็อวยซะมิดยันโคนไม่สนสีแปดใดๆ
แต่กรณีที่ฮาสุดกูว่าไม่พ้นเรื่องที่ดอกปอบแกแยกร่างเข้ามาตั้งมู้อวยตัวเองในบอร์ดรัวๆ บ่อยจนโดนจับได้ เข้าไอดีผิดๆ ถูกๆ พูดผิดสลับครับ-ค่ะ จนคนเขาเอือมกันทั้งบาง พอมีคนตั้งกระทู้ถามก็ไม่ยอมรับจนโดนพี่โน๊ตโชว์เลขไอพีหลังบ้านให้ดู หลังจากนั้นก็ไม่มีที่ยืนในบอร์ดอีกเลย
>>782 กูสนใจดราม่านี้จังเลยว่ะ สนใจมากกว่าถนนขาวอีก 55 ในสมัยนั้น กูก็อ่านนะ ซื้อยันเด็กหญิงกับตุ๊กตา ตอนเด็กๆกูชอบอ่านนิยายไง บวกกับไม่เคยเล่นเกมมันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่อ่านได้ประมาณนึงสำหรับภาค1นะ แต่ภาคสองสามนี่ไม่ไหวจะเคลียร์ ยิ่งเด็กกับตุ๊กตานี่อ่านไม่รู้เรื่องเลย อีกเรื่องที่คล้ายๆกันคือ แฟนตาซีครั้งสุดท้ายที่ ทั้งฉากเปิดเรื่อง+เจอสาวคนแรก+เข้าเรียน เหมือนก๊อบมาเปลี่ยนชื่อวาง
เออ ละเห็นผ่านๆมีคนมาอวย solo กูจะบอกให้ว่าถ้าไม่ใช่เพราะมังฮวาทำไว้ดีเวอร์ เรื่องนี้ก็ไม่เกิดหรอกว่ะ
สวัสดีครับโม่งผู้อาวุโสทั้งหลาย
>>788 เออ เรื่องยุทธภพนั่นกูสงสัยอย่าง ถ้าคนเขียนมันเขียนผิดมาขนาดนั้น สนพ มันไม่แก้ให้ก่อนพิมพ์เหรอวะ จำได้ว่าข่วงแรกๆที่พิมพ์คือคำผิดยังเยอะอยู่เลย จนคนด่าทั้งสนพ.กับคนเขียนอะแหละค่อยจะแก้กัน
แต่ยอมใจคนเขียน อ้างว่าความรู้ภาษาไทยจบแค่ป.สี่(มั้งนะ นานแล้วลืม)เลยเขียนผิดเยอะไปหน่อยก็ปล่อยๆไปเถอะอ่านเอาสนุกก็พอ สัส มีคนแก้ให้ตั้งเยอะแต่ไม่จำมาแก้เองนี่หว่า แถสัสๆ
สภาพกูตอนนี้คือไอ้มีมผู้ชายถือพิซซ่าเข้าห้องมาเจอไฟไหม้ฉิบหาย เพราะกูเป็นคนถามหานิยายเอง แต่ขอบใจมากที่แนะนำ 55555
แค่เห็นมู้นี้ กูละเพลียจริงๆ เหมือนกูเป็นเอเลี่ยน https://www.dek-d.com/board/writer/4048351/
>>796 ขำที่มีคนบอกไวท์โร้ดได้รางวัล มันได้จริงเหรอวะ กูไม่เห็นเคยได้ยินเลย ขนาดเรื่องล่าสุด fate diarrhea ไรนั่นยังขายได้น้อยกว่าบอยแอ่นกระดออีก แต่เสือกพิมพ์ Best seller ไว้บนหนังสือทั้งๆ ที่ยังไม่ได้วางขาย (ชื่อคนแต่งแม่งก็ใหญ่กว่าชื่อเรื่องด้วย) พอโดนคนถามมากๆ พี่แกแถมาว่าเป็นการแก้เคล็ดเพื่อให้นิยายมียอดขายที่ดีในอนาคต (คือถ้าขายดีแล้วจะได้ไม่ต้องแก้ปกทีหลังว่างั้นเหอะ) แม่ง หลอกลวงผู้บริโภคชัดๆ
ห๊ะ บารามอสระดับโลก โลกไหนของมันวะ!! มีอีดุจตะวันคู่แค้นกูอีก อี๊
หมดนี่ก็ให้ผ่านแค่ MSO
กับเซวีน่าที่พออ่านได้ขำ ๆ
>>799 Mix fanfic ระดับโลกล่ะสิไม่ว่า ยืมฉากหลังแฮร์รี่กับตัวละครในการ์ตูนดังๆ มาใช้ละเสือกดัง หลังๆ เลยต้องด้นเพิ่มเองก็ไปต่อได้แบบเก้ๆ กังๆ
ดุจตะวันนี่ไม่ต้องพูดมากถึงความมั่นหน้ามั่นโหนกของนักเขียน สำนวนใช่ว่าจะดี เนื้อเรื่องอ่านแล้วร้องห๊ะเป็นพักๆ กูนึกว่าอ่านการ์ตูนตาหวานอยู่ แต่งนิยายเพื่อขาย goods เอากำไรจากแฟนคลับเดนตายชัดๆ
MSO ถ้าเป็นสายนิยายออนไลน์ที่ฉากหลังเป็นกำลังภายในถือว่าดีทั้งสำนวนและเนื้อเรื่อง เสียดายหลังจากเว้นไปนานเพราะเรียนต่อกลับมาเหมือนหลายๆ อย่างจะแผ่วปลาย (แต่กูก็ยังอ่านต่ออยู่ดี)
ส่วนเซวีน่า... อดีตกูเคยติ่งเพราะกูชอบนางเอกแมรี่ซู ปัจจุบันเยดกันตั้งแต่รุ่นลูกยันรุ่นเหลน กลายเป็นนิยายโรมานซ์แฟนต้าไปเรียบร้อย แต่ด้วยพลังของแฟนๆ แต่งออกมากี่ภาคก็ยังมีคนตามอ่าน บุญเก่าแม่งแรงจริงๆ
ดูก็รู้ว่ามิกซ์แฟนฟิค แต่พวกเด็กดวกเสือกดูไม่ออกว่าเป็นแฟนฟิค หรือคนพวกนี้เกิดไม่ทันยุค ps1 ละว่ะ
พูดแล้วก็นึกถึงช่วงที่มี สนพ. ใหม่มากวาดนิยายท็อปไปออกเล่มช่วงนิยายเกิดใหม่บูมๆ นั่นก็ไม่ได้อ่าน LN แนวนี้ของญี่ปุ่นแหงๆ ถึงมองไม่ออกว่าพวกนี้ก็ของก็อบตามกระแสทั้งนั้น เออ อีกอันก็ Squid Game กระแสแรงมาก แต่ถ้าเป็นคนที่อ่านแนวเดธเกมของญี่ปุ่นมาก่อนจะรู้เลยว่าแม่งก็อบเกรด B เกรด C เลยด้วยซ้ำ เกมที่เอามาใช้ในเรื่องเนี่ย แต่คนไม่เคยดูก็โอ้วว้าวกันไป
>>802 จริงมากโม่ง กูถึงขั้นงืดว่าทำไมมัน Hype กันจัง กูดูแล้วก็เฉยๆ มากกับ Squid Game ปรากฏการณ์แบบนี้ก็คล้ายตอนเรื่องถนนขาวของดอกปอบมันดังนั่นแหล่ะ นักอ่านที่ไม่เคยเสพเนื้อเรื่องแน่นๆ ของเกมต้นแบบ พอมาอ่านไอ้พอลแกรี่ก็หลงคิดไปว่าเรื่องนี้แม่งสุดยอด นักเขียนแม่งคิดได้ยังไง แล้วที่มาเขียนคำนิยมให้นี่ก็แก่ๆ ทั้งนั้น รู้แค่ว่ามียอดวิวในเว็บไซต์หลักล้านก็คิดว่าคงจะสุดยอด สงสัยโลกของพวกเราที่ได้รู้ได้เห็นอะไรมาเยอะคงต่างกับผู้ชมที่เพิ่งจะเจออะไรแนวนี้ ว่าแล้วก็อยากเอา Alice in borderland ขว้างใส่หน้า จะได้เริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้างว่าเรื่องที่ทำได้ดีกว่ายังมีอยู่อีกเยอะ
คนส่วนใหญ่ชอบ Squid Game แปลกตรงไหน มันเน้นที่คน ไม่ได้เน้นที่เกม พวกมึงไปหวังให้มันเน้นเกม จะเอาเหี้ยอะไรมาชอบล่ะ
เอาจริงๆ กูก็เบื่อไอ้พวกที่ดูมาก่อนแล้วชอบขิงนะ มันก็ดีไม่ใช่หรอที่แนวมึงชอบมันดังเปรี้ยงขึ้นมา คนทำเขาจะได้มีกำลังใจ ผลิตงานได้เรื่อย ๆ หรือมึงอยากให้มันเงียบเหงาอยู่แบบนั้น สังคมเล็กๆ อบอุ่นดี?????
พูดถึงเกาหลีนี่ ชอบเน้นไปที่ความสัมพันธ์ครอบครัวกับความผูกพันธ์แม่-ลูก มีหลายเรื่องเลย อย่าง Along with the gods ไรงี้
มีคนอยู่ 3 ประเภทเขียนเรื่องเกี่ยวกับเกมแล้วชอบเข้าใจผิด
1. ไม่เคยเล่นเกมมาก่อน แต่เสือกลงมือเขียนเรื่องทำเป็นว่า กู เ ล่ น เ ย อ ะ ก ว่ า พ ว ก มึ ง ทุ ก ตั ว ซึ่งพบบ่อยตามหมวดนิยายเกมออนไลน์ทั่วไป จำมาจากยูทูปหรือนิยายมา ไม่ได้เล่นเอง
2. ให้ความสนใจกับเกมมากเกินไปจนลืมไปว่า ตัวเองกำลังเขียนนิยายเกม ไม่ได้จะมาเล่นเกม เลยเขียนให้เกมดูดี แต่การพัฒนาของตัวละครที่เข้ามาเล่นเกมมายังกะ paper character ที่ตัดมาจากสมุดการบ้าน เหมือนคนเก่งกับ AI แต่ไม่เคยเล่นกับคนตัวเป็นๆ
3. ข้อนี้แล้วแต่คนจะคิดว่ะ บางคนรู้ว่าเขียนบรรยายไม่เก่ง โดยเฉพาะความสามารถต่างๆ จึงใส่ "ระบบ" เข้าไปแทนบรรยาย แต่ถ้าบรรยายเก่งก็จะรู้วิธีเล่าเรื่องไม่ให้เป็นเกมมากเกินไป ลองนึกสภาพสิ สุนทรภู่นึกอยากจะเขียนด้วยระบบ กูว่าไม่ต้องเรียนกลอนสุภาพแล้วล่ะ
ตีมอนแล้วบรรยาย (-123)
จะว่าไปที่หนึ่งหมวดเกมติดท๊อปได้ไงวะในเมื่อเป็นเรื่องแปล แปลอิ๊งแถมเถื่อนไม่เห็นได้รับอนุญาตจากคนเขียน
เป็นไง รีพอตไปยัง
โคตรเงียบเลย ล้มเหลวสินะที่รีพอร์ตไป
มึงก็รู้ ที่นี่เวปอะไร ถ้าไม่เป็นเรื่องดราม่าใหญ่โตขึ้นมาทีมงานก็ไม่กระดิกหรอก ลองไปตั้งกระทู้ก่อดราม่าดูดิ ไม่เกินสัปดาห์หรอก
ไปเจอนิยายเรื่องนึว เห็นคนอ่านเยอะมากคาดว่าฐานแฟนน่าจะเยอะพอตัว เหลือบไปเห็นรีวิวแง่ลบแจงเป็นข้อๆ แต่มีข้อนึงมันบอกว่า "ฉากต่อสู้แทบไม่มีเสียงเอฟเฟ็คเลย" ขอย้ำว่าอันนี้คือข้อเสียนะ 55555555555555
>>823 งานของ C. Zanché ในฟชล. https://fictionlog.co/b/5f1519318e8216001b93ff57 เห็นแล้วแอบสงสัย อย่างนี้คือใจรักหรืออะไรวะ เขียนไป 350 กว่าตอนไม่เก็บตังเลยสักบาท (ความยาวแต่ละตอนพอๆกับนิยายแปล)
>>826 นักเขียนคนนี้กูรู้จักมาตั้งแต่สมัยแกแต่งเรื่อง Unchoosen one ด้วยเหตุผลบางอย่างกูเรียกพี่แกว่าเฮียไซตามะ มีเพจเฟซบุ๊กชื่อเดียวกับนามปากกา ชีวิตพี่แกก็ไม่ได้ลำบากอะไรแหล่ะ การงานฐานะอะไรก็ดี มีแฟนสวยแถมช่วยพิสูจน์อักษรกับเกลาให้ด้วย ผลงานล่าสุดที่ออกมาหลายๆ ภาคนี่ก็เพราะชอบหนังมาเวล
เรื่องนึงที่กูโคตรแน่ใจคือพี่แกทุนหนาพอตัว จ้างคอมมิชชั่นวาดตัวละครมาจะครบ 200 แล้วมั้ง ล่าสุดเอาเรื่องตัวเองไปจ้างแปลขึ้นแพลตฟอร์มต่างประเทศ (เหมือนจะคิดคำละบาทมั้งนะ) ก็มีอีเมลล์ตอบกลับมาว่าตรวจเนื้อหาผ่านแล้ว รอ approve ก่อนลงเนื้อหาจริง
ข่าวล่าสุดคือแกเปิดเพจชื่อประมาณว่า กลุ่มที่แกล้งว่าตัวเองไม่ใช่นักเขียน คอนเทนต์เปิดกว้างให้อวยนิยายตัวเองเต็มที่ โดยการทำตัวหน้าม้าบอกว่าไปเจอนิยายเรื่องนี้มา สนุกดีพร้อมช่วยรีวิว
นิยายปลูกผักสนุกจริงเหรอ เทียบกับนิยายยอดฮิตยุคเดียวกัน
https://www.dek-d.com/board/writer/4049111/
https://www.dek-d.com/board/writer/4049269/
กระทู้เด็กดวกเป็นไรวะ บึ้มเหรอ?
https://www.gamingdose.com/news/netmarble-เปิดตัว-solo-leveling-เกมแอคชัน-rpg/
กระแสจะฟูขึ้นมาอีกรอบไหมนะ 55555
คิดถึงโม่งเพลง อิย๊า
>>842 กูก็ไม่รู้เหมือนกันวะ บางทีพี่แกอาจจะมีด้านแย่ๆ ในชีวิตอยู่เหมือนกันแต่ไม่ได้ลงข้อมูลไว้ในเน็ต เช่นป่วยเป็นโรคนั่นนี่ มีปัญหาด้านสุขภาพจิต เป็นซึมเศร้า ไม่ก็อาจมีหนี้หรือคดีความอยู่ ฉากจะหน้าเราจะทำให้สวยหรูยังไงก็ได้แหล่ะ ส่วนเบื้องหลังมันขึ้นอยู่กับว่าเก็บซ่อนไว้ได้มิดชิดแค่ไหน
แต่จะยังไงก็ตามที กูว่าเค้าคงไม่ได้สนใจรายได้จากนิยายเป็นหลักแต่แรก เพราะการจ้างวาดขนาดนั้น จ้างฝ่าย Art มาออกแบบกับวางตัวอักษรบนปกให้ แล้วเรื่องแปลไปลงเว็บต่างประเทศอีก ถ้าเงินไม่เหลือจริงๆ คงทำไม่ไหววะ เคสแบบนี้คือใจรัก+เงินถึงด้วยเลยออกมาเป็นงี้ได้น่ะ
กูกำลังคิดจะกลับมาเขียนนิยายหาเงิน แต่ไม่รู้แล้วว่ะว่ายุคนี้เขาหารายได้กันยังไงมั่ง
ยุคกูนี่คือตีพิมพ์อย่างเดียว มีทั้งส่ง สนพ. มีทั้งพิมพ์ขายเอง แต่ปัจจุบันน่าจะกว้างกว่านี้ แต่พวกแนวขายออนไลน์หรือติดเหรียญนี่กูยังไม่ค่อนเข้าใจว่ะ มีโม่งคนไหนพอจะช่วยแนะนำได้บ้างมั้ย
>>845 มีหลายทางเลือก
ถ้าในเด็กดวกก็จะมี
1. เปิดให้อ่านตอนล่วงหน้า - พอครบเวลาคนที่รอไหวก็อ่านฟรี
2. มัดแพ็คขายทีละหลายๆ ตอน - ทำได้ต่อเมื่อแต่งจบเรื่องหรือจบภาคไปแล้ว หนึ่งเรื่องอาจมีหลายแพ็คก็ได้
ส่วนเว็บอื่นก็แล้วแต่ระบบในนั้น เช่น ติดเหรียญทอง ติดกุญแจ โดเนทตรง
ถ้าจะขาย E-book ก็เอาไฟล์นิยายไปแปลงเป็น .pdf หรือ epub ก่อนละตั้งขายตามเว็บต่างๆ พวก meb ไรงี้
https://writer.dek-d.com/meowzoms/writer/view.php?id=2216256
เรื่องนี้ยังอยู่อีกเหรอเนี่ย เกือบ 300 ตอนได้วิวมา 4 พัน ยอดวิวเท่ากับกูลงนิยายตอนเดียว เป็นกูนี่คงจะเลิกแต่งแล้ว มันเกิดอะไรขึ้นกับ Hi-fantasy ในเว็บกันแน่วะ มีใครลองไปอ่านดูรึยัง มันเขียนไม่ดีหรืออะไรกันแน่
เอาจริงๆ สำหรับกูนิยายแฟนตาซีเรื่องไหนเริ่มเรื่องด้วยสภาพอากาศนี่ก็ OUT เรียบร้อยแล้ว
เห็นที่พวกมึงบอก กูเริ่มจะเข้าใจขึ้นมาบ้างละ ท่าทางจะห่วยจริงๆ
>>849 เอ้ากูขุดมาให้เลย
https://fanboi.ch/webnovel/12989/523-
จะว่าไปโม่งก็สับนิยายไปหลายเรื่องละนนะแต่ลิสต์ไม่อัปเดตเฉยๆ ต้องรอโม่งสร้างลิสต์มาอัปเดตเองปะ
https://www.dek-d.com/board/writer/4049809/ ลูเธอร์ของโม่งจบแล้วนะจ๊ะ 270 ตอน ยอดวิว 3600
คนแห่ให้กำลังใจโคตรเยอะ เพิ่งเห็นว่าปิดตอนขายช่วง 30% สุดท้ายด้วย
>>856 คือเขียนนิยายจบเรื่องนึงโดยไม่ดองไว้นานแถมยาวเป็นร้อยๆตอน&ลงทุกวัน แม่งยากกว่าเขียนตามแนวตลาดแล้วทำให้แมสอีกนะ555 คนเลยให้กำลังเยอะเป็นพิเศษ ขนาดโม่งเอามาพูดบ่อยๆแต่ก็แอบเอ็นดูอยู่ละวะ หรือบางส่วนพอเข้าไปอ่านแล้วเห็นยอดวิวและอื่นๆแม่งไม่สัมพันธ์กับจำนวนตอน ก็คงมีเวทนาบ้างแหละขยันอัปขนาดนี้ได้ยอดเท่าแก่นแตด
กูเองก็นับถือในความขยันของมันอยู่นะที่แม่งเห็นยอดน้ิยขนาดนั้นยังไม่เอามาบ่นพร่ำเพรื่อเหมือนนักเขียนในกลุ่มใหญ่ แต่ขยันผิดที่สิบปีก็ไม่รวยอะ เลยได้คนอ่านแค่นั้นแหละเพราะเนื้อหาไม่เด็ดดวงพอ ปกก็มีส่วนแต่กูเคยเจอดรื่องที่ปกเหี้ยกว่านี้อีก(แม่งมีแต่ภาพพื้นหลังโล่งๆกับชื่อเรื่อง) แต่เขาเขียนสนุกกว่าเยอะจนดึงให้อ่านยันจบได้ เพราะงั้นฝีมือการเขียนนี่สำคัญเลยต่อให้ปกเทพกว่านี้แต่เขียนได้แค่นี้มันก็ได้แค่รั้นแหละ
ช่วงนี้แนวแฟนตาซีไม่มีกระแสให้ตามเลยวะ ดูแผ่วๆทุกแนวเลย
>>847 เข้าไปอ่านมาสองตอน แล้วข้ามไปตอนจบแล้วคิดตรงข้ามกับมึงเลย นี่ไม่ใช่ขยันละ งานแทบขะไม่ได้ขัดเกลาเลย ทั้งบท ทั้งการบรรยาย ..ทุกอย่าง อาจเป็ยเพราะกูไม่ค่อยได้อ่าน Web Novel ด้วยมั้ง สาวนใหญ่อ่านเล่ม แต่แบบกูไม่นึกว่าจะมีนิยายที่ดูซุ่มซ่ามขนาดนี้มาก่อน จนกูคิดว่าโม่งที่เอามาแปะ มันคือคนเขียนแอบเอามาโปรโมทป่าววะ
เว็บ ด มีบทความสอนเขียนนิยาย แต่ไม่เห็นจะช่วยให้นักเขียนแถวนั้นเก่งขึ้นเลย
>>863 ค่อเอาจริงบทความมันตรงกันข้ามกับงานขายได้ที่เว็บมันชอบเอามาแนะนำอีกทีอะ555 บางเรื่องที่เอามาอวยว่าติดท็อปทุกวันยอดเปย์ถล่มทลาย ไม่มีสิ่งใดที่บทความแนะนำมันบอกเลยว่าทำงี้แล้วจะรุ่ง มีแต่สิ่งที่บทความไม่ได้บอก กูหมดความเชื่อใจเว็บมาสตั้งแต่เขียนบทความเมื่อถูกลอกแล้วแนะนำให้ทำใจนั่นแล้ว คือรู้เลยไม่ได้เอาคนมีความรู้เฉพาะทางมาทำจริง ๆ บางอย่างแม่งโม่งพูดเองยังตรงกว่าอีก555
แต่เมื่อก่อนก็็มีเว็บมาสที่เจ๋งจริงสถิตย์อยู่นะเขียนบทความแนะนำที่ใช้ได้จริงอะ แต่คงออกไปหมดแล้วมั้ง จำได้ว่ามีอยู่2-3คนนี่แหละ แต่กูจำได้แค่พี่น้อง ซึ่งเป็นคนที่ทำให้กูเขียนนิยายเป็นเพราะบทความของแกเลย จากที่เขียนแบบเรัยงความทื่อๆเหมือนส่งครูอะ ก็รู้จักใส่การเล่นสำนวนแทรกข้อมูลแล้วตบๆจนเป็นนิยายได้เรื่องนึงเนี่ย
>>866 เด็กใหม่มองไปที่ยอดวิวบางทีมันก็ไม่ใช่เรื่องเงิน มันคืออยากได้การยอมรับ อยากภูมิใจตัวเอง ว่าเออ กูประสบความสำเร็จนะ มีคนสนใจผลงานของกูนะไรพวกนี้ ดูกระทู้นี้ก็ได้ https://www.dek-d.com/board/writer/4049956/ ถ้ามันอยากเขียนนิยายตามที่ใจต้องการจริงๆ มันจะมาถามคนอื่นทำไม
นอกเรื่องนิด แหม่ เปิดนิยายมา 7 เรื่องไม่จบสักเรื่อง แล้วพิมพ์บอกในกระทู้ว่าไม่เทแน่นอน เชื่อไหมล่ะมึง
>>870 กูพอจะเข้าใจความรู้สึกของคนกลุ่มนี้นะ รู้สึกอยากสำเร็จ อยากได้อยู่บนยอดภูเขาน้ำแข็งหรือยืนบนปลายพีระมิด ถึงเวลาพอรู้ตัวว่าไม่ได้เก่งหรือเจ๋งไปกว่าคนอื่นดันรู้สึกทุกข์ใจมากกว่าคนที่เขาไม่ได้คาดหวังอะ วงการนี้ในบ้านเรามันมีคนแบบนี้อยู่เยอะ เจอกับความจริงอันโหดร้ายเข้าให้ถ้าใจไม่แข็งพอก็ล้มหายตายจากออกไปกันเอง
>>870 ทุกวันนี้กูนึกย้อนถามตัวเองอยู่เหมือนกันนะ
ก่อนกูจะเลิกเขียนไปนี่คือตอนนึงที่ลงตอนใหม่ปุ๊บจะมีคนอ่านแน่ๆ คือประมาณ 200 คน ซึ่งทุกวันนี้กูยังไม่รู้ว่ามันเยอะหรือว่าน้อยว่ะ
แต่ในตอนนั้นกูมองว่าน้อยมาก เพราะดันไปเทียบกับพวก top หมวดตลอด จนคิดว่าเขียนต่อไปก็ไม่คุ้มกับเวลา
>>873 ของงี้กูว่าคนเขียนมันต้องใจรักจริงๆถึงจะอยู่ได้ว่ะ อย่าง 200 คนที่ติดตามฝีมือมึงเนี่ย เต็มที่กูให้ 5 ปี เขาจะตามมึงอยู่ แล้วมึงก็ต้องสร้างผลงานใหม่ออกมาเรื่อยๆ ให้ 200 คนเขาช่วยกระจายปากต่อปากไปเรื่อย ใหม่มาเก่าหาย เหมือนกับดาราหรืออะไรซักอย่างที่มึงเคยชอบ ส่วนพวก top หมวดส่วนหนึ่งมันเขียนตามกระแสเป็นหลัก ถ้าไปเขียนเรื่องไอเดียตัวเองล้วนๆไม่อิงการตลาดคนมันก็หายได้ มันก็ต้องกรีดเลือดตัวเองเขียนจนกว่าจะ brun out ไปเอง
มึงก่อนหน้านี้เว็บมันเป็นไรป่าววะ กูเข้าไม่ได้เลย นึกว่าโม่งจะโดนปิดไปซะแล้ว
กูแค่อยากมาบอกเล่าว่า หลังจากพยายามรายงานนิยายแปลเถื่อนติดท๊อปไปหลายรอบ สุดท้ายนิยายพวกนั้นก็ถูกถอดออกจนได้ว่ะ ทั้งเรื่องติดอันดับ2หมวดแฟนต้า อันดับหนึ่งหมวดออนไลน์ ถึงมันจะช้าจนพวกนั้นได้ลูกค้าไปเยอะละก็ตามเหอะ ทีมงานเด็กดวกขยับตัวช้ามาก เรื่องท๊อป2หมวดแฟนนี่กูรายงานมาเป็นเดือนๆ รายงานไม่ต่ำกว่าสิบรอบ รอบสุดท้ายที่โดนปลด กูตัดสินใจถามไปตรงๆว่า มีเหตุผลอะไรถึงไม่ปลดเรื่องนี้ลง เรื่องนี้ไม่ผิดกฏตรงไหนถึงมีสิทธิ์ติดท๊อป (ชื่อ โคตรพยัคย์ไรสักอย่าง) สุดท้ายทีมงานก็เลยยอมปลดออกให้ในที่สุด กูไม่อยากจะคิดนะว่าเพราะกูพูดแบบนี้ทีมเลยยอมปลดลง แต่มันก็อดคิดไม่ได้จริงๆว่ะ เหอๆ
ทีมงานเด็กดีชุดนี้สนใจแต่เงิน แต่กฎหมายช่างพ่อช่างแม่ ไม่ใช่เรื่องของกู(ทีมงานเด็กดี)
จะว่ายังไงดี สมัยนี้ยังไงผลประโยชน์มันก็ต้องมาก่อน ทุกอย่างมีต้นทุนของมัน เว็บนี่ก็ไม่ได้เป็นองค์กรการกุศล มีค่าเช่าเซิฟ ค่าไฟ ค่านั่น ค่านี่ แต่ไอ้การปล่อยให้มีเรื่องแบบนี้ในเว็บได้ก็ยังดูน่าเกลียดอยู่ดี เหมือนจงใจปิดตาข้างนึงทำเป็นไม่เห็น ถ้าไม่มีใครมาฟ้องก็ไม่คิดจะออกตรวจสอบเอง
https://www.dek-d.com/board/writer/4050352/
ทีมงานเหี้ย คำถามเด็กใหม่ก็ปัญญาอ่อนลงทุกวัน ท้อจังโว้ย
>>884 นึกว่าเป็นมู้ไอ้นี่ https://www.dek-d.com/board/writer/4050359/
เด็กดีร้างจัง
>>886 ลองอ่านมู้นี่สิ ไก่แตกตื่นแล้ว
https://www.dek-d.com/board/writer/4050796/
เดี๋ยวนี้วาย=ยาโอยอย่างเดียวแล้วเหรอวะ กูมีสองนามปากกาอันนึงไว้นอมอลอันนึงไว้วาย ทีนี้กูแต่งทั้งยาโอยกับยูริ เจอนักอ่านจากเรื่องยาโอยมาบ่นในยูริว่านึกว่าแนววาย(yaoi)เลยมาอ่านแต่เป็นยูริเฉย เซ็ง เหมือนโดนหลอก กูนี่อิหยังวะมาก ตั้งเรื่องไว้คนละหมวดแล้วไม่ดูหน่อเรอะ กูควรดีใจไหมเนี่ยที่มีนักอ่านตามงานเพราะนามปากกาเลยตามอ่านขนาดนี้ หรือกูควรแยกนามปากกาอีกอันไปเลยดี
เรื่องจริงป่าววะ หรือแม่งอวยเกินเหตุ https://www.dek-d.com/board/writer/4051857/
คิดถึงพี่ปล่อยอึ่งวะ นิยาย 18+ ของพี่แกไปถึงไหนละ 555
Ky ถ้าเราตั้งชื่อนิยายเป็น pov1 แล้วการเดินเรื่องต้องเป็น pov1 อย่างเดียวหรือ pov3 ได้ปะ เช่น ชื่อเรื่อง-ผมเกิดใหม่เป็นลิง แต่การเดินเรื่องคือใช้ชื่อแทนตัวบรรยายด้วยมุมมองพระเจ้าไปงี้
หวัดดีครับผมโม่งหน้าใหม่ ยังเหลือผู้รอดชีวิตอยู่ไหม
งงเหมือนกัน บางคนเป็นมือใหม่เขียนเล่าเรื่องปกตินักอ่านยังไม่รู้เรื่องแล้วจะสลับมุมมอมตัวนั้นตัวนี้ทำไม
>>903 กูแยกอยู่แล้ว ปนกันก็งงตายห่าดิ555
>>904 กูกะว่าจะใช้ไปทั้งเรื่องเลยไง แต่อาจมีสลับกลับแค่ตอนคั่นงี้ เข่นตอนปกติเดินเรื่องทั่วไปใช้มุม3 ตอนคั่นคือเนื้อเรื่องในมุม1ของตลค.นึงที่โผล่มาเป็นบอสอีเว้นเฉยๆหรือตลค.ผู้ข่วยงี้
>>905 ตามแบบไลท์โนเวลพวกยุ่นปะ แบบพล็อตนี้มันกำลังมาแรงก็เลยนอกจากลอกพล็อตก็บอกวิธีเขียนมาด้วยเลย บากะริน่ากับแมงมุมงี้สลับไปมาแต่ไม่ค่อยงงนะ กูเข้าใจชัดเลย
>>908 กะ กูเขียนมาห้าเรื่องจบแล้ว เรื่องละ 20 ตอนกว่า ๆ เก่าพอยังวะ เจอมึงว่างี้กูชักหนาว555 เขียนๆหยุดๆมาเกือบห้าปีแล้ว
>>911 จัดการให้มันออกมาเป็นระเบียบหน่อยก็ดี อย่าสลับบ่อยหรือสลับกลางตอน เอาให้มันจบในตอนคนอ่านจะได้ตามทันไม่งง
อย่าให้เหมือนเรื่องไอ้แดดเลีย สลับ pov ในตอนบ่อยแล้วพอขึ้นตอนใหม่เสือกเขียนถึงฉากฝัน แถมเป็นฝันในอดีตด้วย
มึนเหี้ยๆ เพราะมีทั้งแทรก flashback และย้ายจากมุมมองตัวเอกไปเป็นการอธิบายภาพที่ตัวประกอบมองเห็นตอนตัวเอกกำลังฝันถึงเรื่องสมัยเด็กอยู่
>>913 กดอันนี้
https://docs.google.com/document/d/1ouFhwS9WeoBzEgYHVNYWkeUAbhQ2YkCg4ozpTpx1-94/edit
แล้วดูเรื่องที่ 221 (ลองใช้ชื่อเรื่องค้นในเว็บดูเองถ้าจะอ่าน)
ky แม่งเอ๊ยยยยยยยยยยยย คิดพล็อตนิยายเกมออนไลน์แม่งยากจังวะ แค่ส่วนออกแบบเกมนี่กูก็ปวดหัวชิบ
>>920 เอาไป 3 ข้อง่ายๆ
1.พระเอกเทพซ่า ดวงดี ได้สกิลหรืออาวุธเทพๆ ที่คนอื่นไม่มี
2.หีล้อมหน้าล้อมหลัง มีพลังดึงดูดหี ตัวเมียทุกตัวหลงพระเอกอย่างไม่มีเหตุผล
3.เกมจะต้องไม่เหมือนเกมจริงๆ ต้องไร้สมดุล สเตตัสต้องไม่มีการจำกัด ถ้าไม่ชัดก็ลองไปหาอ่านโล่สายแทงค์แกร่งเกินร้อย เกมระบบพังเหี้ยๆ เล่นสายชนแต่มีสกิลแดกเอาความสามารถ
>>921 ของกูนี่ผิดหลักสูตรสัสๆเลยสิเนี่ย
1. พระเอกเทพมั้ยก็เทพอยู่ ปกติเวลากูออกแบบตัวเอกจะต้องให้มีสกิลเทพ(ที่ไม่ใช่สกิลในเกม)ติดดัวไว้บ้างเพื่อให้มีจุดโดดเด่น ส่วนเรื่องดวง...กูมีกิมมิกส่วนตัวที่ก็ต้องพึ่งดวงในการแต่งว่ะ เพราะงั้นดวงดีดวงซวยของตัวเอกก็ผูกไว้กับดวงกูนี่แหละ
2. ปัดทิ้งไปเลย เพราะเกมในเรื่องกูคือตัวละครในเกมไม่มีเพศ ตัวละครรองอื่นๆก็ยังไม่ทันได้คิดไว้เลย เรื่องความสัมพันธ์ตัวละครก็เลยมีแต่ความไม่แน่นอน
3. สมดุลเกมยังไม่กล้าการันตีเพราะยังติดด้านการออกแบบส่วนนี้อยู่ แต่โครงหลักก็มีขอบเขตบางอย่างชัดเจน ไม่มีสกิลลับ เควสลับ อาวุธเทพที่ซ่อนไว้ลับๆ npc เกมกูยังไม่มีเลย มีแต่เพลย์เยอร์กับมอน คือเป็นเกมแบบไต่หอคอยตะลุยด่านไปเรื่อยๆอะ
>>925 ที่ให้เป็นเกมเพราะระบบสกิลกูสร้างข้อจำกัดเอาไว้น่ะ อย่างที่บอกไว้ว่าเป็นเกมไต่หอคอย ที่ทุกครั้งที่ผ่าน 1 ชั้นก็จะได้แต้มสกิล 1 แต้มมาอัพ ไม่มีระบบเลเวลแต่มีแรงค์ ความหลากหลายจะไปอยู่ที่อาวุธแทนโดยให้วิธีการใช้สกิลเป็นการเคลื่อนไหวให้ตรงกับมูฟเซ็ทที่ตั้งค่าได้เอง
พวกมึงคิดไงกับเรื่องเน้ https://www.readawrite.com/a/Z1sgd4-Sorcerer--Spy?r=cat_newentry
https://www.dek-d.com/board/writer/4052694/3/4
กระทู้แนวนี้มาถี่จังวะ
กูขอถามหน่อยว่ะ ช่วงนี้กระแสนิยายจีนโบราณยังเป็นกระแสอีกไหมวะ แล้วถ้าเขียนนางเอกนำมีพระเอกหลายคน นักอ่านแนวนี้เค้ารับได้ไหม
>>938 กระแสจีนยังไม่ตก, เขียนได้แต่คนอ่านแนวนี้อาจไม่เยอะ ถ้าอยากแต่ง reverse harem จริงๆ มึงไปแต่งแฟนตาซียุโรปเกมจีบหนุ่มยังจะขายดีกว่า แนวจีนถ้าแต่งนางเอกเป็นตัวเอกส่วนใหญ่มักจะผัวเดียวแต่ผัวเป็นคนใหญ่คนโต (ฮ่องเต้ อ๋อง แม่ทัพ) แล้วก็ต้องแมรี่ซู เก่งทุกทาง เป็นยอดหญิงที่นานๆ จะโผล่มาเกิดสักที หรือเป็นสตรีงามล่มเมือง เจ้าแคว้นรุมจีบ รบกันจนบ้านเมืองชิบหายค่อนประเทศ อยากได้นางจนกวยสั่น (แต่ก็มีพระเอกได้คนเดียวอยู่ดี) ไม่แนะนำให้หนึ่งหญิงหลายชายว่ะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่ลองดูละมันไม่เวิร์ค
จะว่าไป โม่งเพลงกับโม่งเกรี้ยวกราดหายไปไหนวะโม่ง หรือแม่งติดโควิดตายไปแล้ว
เสนอชื่อมู้ใหม่กันได้แล้วพวกสูเจ้า กระทู้นี้แม่งรอดโควิทจนขึ้นมู้ใหม่ได้ยังไงฟะ
นิทานเด็กดีบทที่ 39 (DDN XXXIX) ภาค.......................... อะไรดีวะ
Cant's touch this
You can't touch this
You can't touch this
You can't touch this
You can't touch this
My, my, my my music hits me so hard
Makes me say, "Oh my Lord"
Thank you for blessin' me
With a mind to rhyme and two hype feet
It feels good, when you know you're down
A super dope homeboy from the Oaktown
And I'm known as such
And this is a beat, uh, you can't touch
I told you homeboy (You can't touch this)
Yeah, that's how we livin' and ya know (You can't touch this)
Look in my eyes, man (You can't touch this)
Yo, let me bust the funky lyrics (You can't touch this)
Fresh new kicks, and pants
You gotta like that, now you know you wanna dance
So move outta yo seat
And get a fly girl and catch this beat
While it's rollin', hold on!
Pump a little bit and let 'em know it's goin' on
Like that, like that
Cold on a mission, so fall on back
Let 'em know, that you're too much
And this is a beat, uh, they can't touch
Yo, I told you (you can't touch this)
Why you standin' there, man? (You can't touch this)
Yo, sound the bell, school's in, sucka (You can't touch this)
Give me a song, or rhythm
Makin' 'em sweat, that's what I'm givin' 'em
Now, they know
You talkin' 'bout the Hammer, you're talkin' 'bout a show
That's hyped, and tight
Singers are sweatin', so pass them a wipe
Or a tape, to learn
What's it gonna take in the 90's to burn
The charts? Legit
Either work hard or you might as well quit
That's word because you know (You can't touch this)
(You can't touch this)
Break it down!
Stop, Hammer time!
Go with the flow, it is said
That if you can't groove to this then you probably are dead
So wave yo hands in the air
Bust a few moves, run your fingers through your hair
This is it, for a winner
Dance to this and you're gonna get thinner
Move, slide your rump
Just for a minute let's all do the bump
(Bump, bump, bump)
Yeah (You can't touch this)
Look, man (You can't touch this)
You better get hype, boy, 'cause you know you can't (You can't touch this)
Ring the bell, school's back in
Break it down!
Stop, Hammer time!
You can't touch this
You can't touch this
You can't touch this
Break it down!
Stop, Hammer time!
Every time you see me, the Hammer's just so hyped
I'm dope on the floor and I'm magic on the mic
Now why would I ever stop doin' this?
With others makin' records that just don't hit
I've toured around the world, from London to the Bay
It's "Hammer, go Hammer, MC Hammer, yo Hammer"
And the rest can go and play
You can't touch this
You can't touch this
You can't touch this
Yeah (You can't touch this)
I told you (Can't touch this)
Too hot (Can't touch this)
Yo, we outta here (Can't touch this)
ทันmtv ไหมละพวกมึง
ไหนๆกระทู้ก็เงียบแล้ว กูขอถามหน่อยว่าเวลาในการอัพของแต่ละหมวด ช่วงไหนดีที่สุดวะ ไม่ต้องเอาเป็นค่าสถิติก็ได้เอาแค่ที่เคยเจอมากับตัว
>>946 ลงช่วง Prime time (หัวค่ำ) โอกาสที่คนจะเห็นมีเยอะแต่คนอัพก็เยอะ เจอทับตกไปหน้าท้ายๆ เร็ว
ลงช่วงดึกๆ หรือเช้าๆ ตกจากหน้าแรกช้าลงแต่คนไม่ค่อยมี โอกาสเจอนักอ่านที่โตแล้วมีมากขึ้น (เพราะเด็กไปนอนกันหมด)
เอาที่กูลองมา 1 ตอนกูหั่น 3 ส่วน ลงตามโควต้ากระดึ่งรอบวัน มีลง 10 โมง, 4 โมงเย็น กับ 5 ทุ่ม กระจายความเสี่ยง
สำคัญคือมึงต้องเขียนไว้เยอะๆ แล้วทะยอยลงทุกวันอย่างน้อย 1 เดือนแรก (30 วัน) หลังจากได้คนอ่านมาพอสมควรก็ลดความถี่ได้ จะวันเว้นวันหรือ 3 วันมาทีก็ได้ เพราะจำนวนตอน+วิวจะเยอะพอจนล่อคนอ่านใหม่ๆ ได้เองแล้ว
ถ้าขยันมึงไปลงเว็บอื่นด้วย แต่อัพเต็มตอน 1 ครั้งเลือกเวลาทีมึงต้องการ
10 โมง วัยทำงานอู้งานอ่านนิยาย
4 โมงเกรียนเลิกเรียน
5 ทุ่มละครจบหรือพนักงานกะดึกเริ่มหาอะไรดู
ถ้าไม่คิดมาก และหน้าหนาหน่อย หรือพอมีสกิลภาษาพอเกลาได้ กูเกิ้ลทรานส์หรือ DeepL นิยายมึงไปแปะตามเว็บนิยายต่างประเทศก็ไม่เลว
>>948 กูทำอยู่เหมือนกัน จงใจใช้กูทรานกับนิยายตัวเอง แล้วค่อยไล่แก้ภาษาผีให้มันกลับมาเป็นภาษาคน สกิลก็พอมีติดตัวอยู่บ้าง บางอย่างอ่านแล้วพิลึกเหี้ยๆ ปรับนิดหน่อยก็โอเคขึ้น คนอ่านที่เป็นฝรั่งเขาก็เข้าใจอยู่นะเวลากู note ไว้ว่าไม่ใช่ภาษาหลักที่ใช้ นิยายกูจากที่ใช้คำยากๆ สละสลวยเลยดูตลาดล่างหรือคล้ายไลทโนเวลไปเลยในเวอร์ชั่นอังกฤษ แต่กูไม่คิดมากนะ ขอแค่เขาอ่านแล้วเข้าใจว่ากูจะเล่าอะไรก็พอใจแล้ว
>>948 เออ เสริมให้อีกหน่อย อย่าทะลึ่งก๊อปไปแปลทีละประโยคนะมึง เสียเวลาชีวิตตายห่า
ให้มึงลองเอาเนื้อหาที่อยากแปลไปลงไว้ในเว็บส่วนตัวละกดแปลทั้งหน้าเอา ในเด็กดวดกูไม่รู้ว่ายังทำได้มั้ย คือมึงต้องหาจังหวะเปลี่ยนตัวเลือกอนุญาตให้คลิ๊กขวาได้ (คิดว่าน่าจะเป็นอันที่เขียนว่ายอมให้ Copy) เปิดนิยายใน Chrome ละกดแปลหน้า แปลเสร็จก็ลอกไปไว้ใน Word ก่อนละค่อยมาแต่งคำแก้แกรมม่า
อย่างนึงที่มึงต้องเจอคือคำว่า ของเขา กับ ของเธอ นี่นะ มันจะแปลเป็น his หมดเลย อะไรที่บอทมันไม่แน่ใจมันจะแปลเป็นผู้ชายไว้ก่อน ละชื่อตัวละครก็ด้วย ชื่อเล่นแม่งแปลเป็นเหี้ยอะไรไม่รู้ ชื่อจริงนี่ยิ่งหนัก ไอ่เหี้ยแปลแปลน้องไก่กูเป็น sister cock หมดกันที่กูทำมา cock มันตั้งแต่ต้นเรื่องยันตอนจบ
กูสงสัยว่าที่เค้าโปรกันด้า กันว่าเขียนครั้งแรกก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า คนที่ไม่มีผลงานหรือแฟนคลับมาก่อน จะทำได้จริงหรือ?
หนทางของจีนเสิ่นเจิ้นยังอีกยาวไกล https://www.dek-d.com/board/writer/4053341/
บารามอสนี่ลอกเรื่องไหนมาบ้างนะ ไอ้ยำ “แรงบันดาลใจ” อะ
มึงว่าถ้ากูอัพ 5 วันแรก 3 ตอน แล้วอัพหลังจากนั้นวันละตอน พอครบเดือนค่อยทิ้งช่วงเป็น 2 วันครั้ง แบบนี้เป็นกลยุทธที่ดีเปล่าวะ
>>962 ก็ทำได้ถ้ามึงมีตอนสะสมไว้มากพอ จำนวนขั้นต่ำเฉลี่ยให้มึงรอดได้ 2 เดือนแบบไม่ต้องปั่นตามจนไฟลุก คือมีอยู่กับตัว 35+ ตอน ถ้าน้อยกว่านั้นก็ไปเขียนให้มีพอก่อน
ระหว่างที่มึงกำลังลงช่วงแรก มึงจะมีทั้งกำลังใจจากการได้ยอดคนอ่าน และแรงกดดันว่า เชี่ย นิยายที่มีกำลังลดลงเรื่อยๆ สองอย่างนี้จะบังคับให้มึงแต่งต่อไปเอง ถ้ามีเหลือเยอะก็ค่อยๆ แต่งเนิบๆ 3 วัน 1 ตอนยังได้ แต่ถ้ามีแค่เท่ากับขั้นต่ำ ก็ต้องปั่นเพิ่มเพื่อหนีจากเส้นตายรายวันที่มึงกำหนดไว้ แต่ถ้ามึงวางแผนว่าท้ายๆ จะอัพนิยายน้อยลงก็อาจพอไหวอยู่
https://www.dek-d.com/member/profile/heejin/writer อยากลองอ่านนิยายพี่เว็บดูมั้ย อตินมาเองเลยนะ
วันนี้ไม่มีดราม่ามันส์ๆเบย
ใครยังตามมู้สับลูเสียอยู่บ้าง รอบนี้มันยังสับอยู่เลยว่ะ ประหลาดแท้
อยากเห็นโม่งมี Critical Thinking ว่ะ
กราบ1 กราบ2 กราบ3
สวัสดีครับ ท่านโม่งผู้เจริญซึ่งมากไปด้วยปัญหา ช่วงนี้ข้าน้อยอยากเห็นการสับแบบกระตุกจิต กระชากใจจัง
>>979 กลัวจะออกมาเป็นแบบนี้ดิ https://www.youtube.com/watch?v=Yfu6G3f8Xxc
https://www.dek-d.com/board/view/4053990/
เนี่ย มีกระทู้มาพอดีเลย
ช่วงนี้รู้สึกว่าเขียนนิยายไม่สนุกเลยว่ะ เปิดมาตอนแรกนี่กูว่าดีมากนะ แต่พอผ่านมาบทที่สามสี่ห้ามันดูเนือยๆ เหมือนไม่ค่อยไปไหน คงเพราะกูต้องปูเรื่องเยอะด้วยมั้ง กลัวนักอ่านเบื่อจัง
เออ กูสงสัยอย่างนึงนิยายใหม่มาแรง เค้ามีเงื่อนไขยังไงวะถึงไปโผล่หน้านั้น
คนอ่านเท่าเดิม แต่คนเม้นประจำหายว่ะ เศร้า กู 0 คอมเม้นมา 5 ตอนติดละ...
สรุปนี่มีชื่อมู้ใหม่ยังเนี่ย
อภิมหาเด้า
นิทานเด็กดีบทที่ 39 (DDN XXXIX) ภาคปิดเทอมทั้งทีทำไมยังเงียบจังวะ สงครามหมีขาว-ดอกทานตะวันจะเป็นยังไงก็ไม่สำคัญ สำหรับโลกของเด็กดีคือสงครามตัวเองกับนิยาย THIS NOVEL OF MINE
ไม่สิ เอางี้ดีกว่า เปลี่ยนชื่อ
นิทานเด็กดีบทที่ 39 (DDN XXXIX) ภาคสงครามหมีขาว-ดอกทานตะวันเป็นเหตุคนแห่ย้ายถิ่นฐาน แต่นักเขียนแห่ย้ายไปเว็บอื่นๆ เพราะการตลาดของเด็กดีติดกับดัก Baby Boomers ไปแล้ว(ว่ะ)
ถมดิครับรออะไร
เด็กดีล่มค่ะ
ปิดมู้ให้นักเขียน dek-d ทั้งหลายนะคะ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.