Last posted
Total of 1000 posts
>>284 สถาดูแกไล่ปิดไลน์แฟนตาซีชอบกล ส่วนนักเขียนก็หนีตาย แต่มึงงงง 5 เล่มอะมึง 5 เล่มมมม ถ้าแกตัดสักเล่มสองเล่มกูยังทำใจได้เว้ย แต่แกเล่น 5 เล่ม ถึงบอกจะมีเล่มเสริมแต่อารมณ์เรื่องที่เสียเพราะเร่งไงก็เอาคืนมาไม่ได้เว้ย ยิ่งกูชอบเรื่องนี้ตรงจุดมีสลับประเด็นจอมมารกับประเด็นปมเพื่อนๆด้วย มางี้ประเด็นปมเพื่อนไม่ได้ออกแน่ ; _ ;
มึง ใครเคยอ่านชุดหมาป่าของมิรินบ้างวะ กุอ่านเจอฉากที่มีเพลงไทย.
กะเล่นคำแบบไทยๆแล้วรู้สึกทะแม่งๆชิบหายเลยเว้ย. เรื่องมันธีมยุโรปป่ะวะ
หรือแม่งยุโรปกะอาเซียนร่วมใจผสมๆกัน~
ป.ล. ชุดอินเดียแดงต้องรอดนี่มีคนได้อ่านบ้างไหม ช่วยรีวิวหน่อย
ไม่ชอบการบรรยายแบบจันทราในเรือนเร้นเท่าไหร่ กุงงๆ หรือกุโง่
แต่กุชอบแม่ทัพมากนะ อวี้จิ่นน่ารักดี กุชอบผญแนวรุกๆ อ่า
https://m.facebook.com/?_rdr#!/1168group/photos/a.126779634016410.17579.121680067859700/1147413245286372/?type=3&source=48
ปล. นี่ก็รับจัง กูส่งไปหลายรอบจนเซ็งแล้วนะเฮ้ย มึงก็ไม่เคยตอบกูเลย
อืมมม สงสังจะเข้าสู่ยุคนิยายแปลแล้วสินะ เหลือสนพ.ไหนบ้างวะที่ยังไม่มีนิยายแปล /เมื่อก่อนก็เน้นจิ้นวาย อืม...
ยุคนิยายจีนแปลด้วยเมิง
....แถมตอนนี้หลายคนก็หันมาเขียนนางเอกหลงยุค เคลมฮ่องเต้แล้ว
ขนาดบางคนเขียนแนวอื่นยังเปรยๆจะมาจับแนวจีนเลย. กูขอละถ้าไม่เก็บข้อมูลเหี้ยไรมาอย่าเขียนเลยสัส
//หมดยุคของชีค8คาบสมุทรทะเลทรายแล้วสินะ...
ไส้เดือนตาบอดใช้คำเวิ่นเว้อจังวะ กูอ่านแล้วรำคาญมากกว่ารู้สึกว่าภาษาสวย
ทำไมกุอ่านthe great gatsbyฉบับคุณโตมรแล้วกูไม่เข้าใจวะ เหมือนพยายามใช้คำให้มันมีชั้นเชิงทางภาษา
ดันกลับกลายเป็นว่าแม่งอ่านไม่รู้เรื่องเลยไอ่สัส
ตัวละครแค่3บทก่โผล่มายุบยับเต็มไปหมด ไม่มีการอธิบายอะไรนอกจากบทสนทนาผ่านๆให้กูมาจิ้นเอง
อยู่ๆก่พากูไปรู้จักใครก่ไม่รู้ แล้วก็เดินออกมา แล้วก่ย้ายไปอีกกลุ่มนึง โดยมีgatsbyเป็นคนเชื่อม ตามไม่ทันเลยสัส
กูไม่เคยอ่านฉบับแปลไทยนะ แต่ตอนอ่านอังกฤษรู้สึกน่าเบื่อมาก
มันเกี่ยวกับอะไรวะ กูรู้แต่พี่ลีโอนาร์โดเล่นหนังเรื่องนี้ แต่ไม่เคยดู
>>302 บ่นกันตั้งแต่กระทู้เก่า >>>/subculture/2071/181-186 >>>/subculture/2071/196-207
ส่วนตัวกูคิดว่านี่ไม่ใช่นิยายที่ดีว่ะ ยิ่งอ่านบทสัมภาษณ์ที่นักเขียนบอกว่าเขียนเพื่อระบายอารมณ์แล้วกูรู้สึกเสียดายเงินที่ซื้อมาอ่าน
ไทยพับลิก้า: แต่ป้ายที่สังคมติดให้คุณวีรพร “นักเขียนมือรางวัลซีไรต์” ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงภายนอกอย่างไร คิดว่าทำให้สิ่งที่ตัวเองอยากเสนอมีพลังขึ้นหรือไม่
ไม่เคยคิดว่านักเขียนมีหน้าที่ต้องสร้างความเปลี่ยนแปลง ไม่ได้คิดว่าการเขียนหนังสือหนึ่งเล่มจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ แม้กระทั่งจะได้รางวัลโนเบลก็เถอะ เพราะส่วนตัวเขียนด้วยความรู้สึกคับข้องขุ่นข้องหมองใจ จึงต้องเขียนเพื่อบำบัดใจตัวเอง มันเหมือนมีคำถามออกไปมากกว่า ส่วนคำถามนี้จะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงไหม ไม่ทราบ มันไม่ใช่เรื่องที่นักเขียนจะคาดหวังได้
>>312 ชื่ออาหารกับชื่อต้นไม้กูเฉยๆนะ แต่ตอนบรรยายพวกดนตรีคลาสสิคเหมือนโชว์พาวคนเขียนว่ากูรู้เยอะ หนังสือเล่มนี้กูว่าเหมือนหนังอาร์ตเข้าใจยากเขียนเหมือนคนเมายา ซึ่งส่วนตัวกูว่างานของ ดร.ป็อบมีคุณค่าทางวรรณกรรมมากกว่าอีกนะ อย่างน้อยThe white road ก็ยังอ่านสนุกกว่า
อีไส้เดือนตาบอดอ่ะ พอเป็นนิยายอ่านเข่าใจยากแล้วยิ่งมาได้รางวัลซีไรต์
คำพูดของนักวิจารณ์จะออกมาเป็น "บรรยายได้เห็นภาพงดงามลึกล้ำจับจิต เข้าถึงทุกห้วงอารมณ์แห่งความโดดเดี่ยวอ้างว้างสับสน
สันดาปอยู่ในใจไม่รู้ลืม" ที่กูอ่านคำวิจารณ์แล้วกูว่างงพอกับตัวนิยายอ่ะแหละ 5555555555555555
แต่ถ้าเรื่องนี้เป็นของนักเขียนทั่วไปที่ไม่ได้เป็นกระแสแบบนี้ คำวิจารณ์จะออกมาคือ "เขียนห่าอะไรไม่รู้เรื่อง
ตอนเรียนภาษาไทยเขียนเรียงความส่งอาจารย์ไม่ด่าเหรอ?"
สรุปคือกูไม่อ่านซีไรต์เรื่องนี้แน่นอน กูไปเปิดๆและอ่านไม่รอด กูยอม กูต้องเมายาตอนอ่านอ่ะถึงจะเข้าใจ
กูว่ามันมีคนเข้าใจอะไรผิดๆป่ะว่าต้องเขียนให้ดูไม่รู้เรื่องถึงจะได้รางวัล กูอ่านหนังสือรางวัลต่างประเทศไม่เห็นเขาจะเขียนไม่รู้เรื่องแบบนี้เลย
บางเรื่องเป็นก็มีแต่ส่วนใหญ่เขาจะเขียนประเด็นลึกซึ้งเอาไป discuss ต่อยอดกันได้ แบบมนุษยธรรม ความเป็นมนุษย์
ของไทยนี่กูเห็นแต่แนวการเมืองๆ ไม่ก็อะไรไม่รู้ บางเรื่องน่าสนใจ แต่บางทีกูว่าน่าเบื่อชิบหาย
คนเขียนมันก็เขียนเป็นภาษาอังกฤษ ยังเสือกจะไปอ่านฉบับแปล โง่ชิบหาย
ต่อให้มันแปลดีแค่ไหนก็เหมือนมึงดูหนังฝรั่งพากย์ไทยนั่นแหละ
>>314 กูว่าซีไรต์สมัยหลังๆเอางานที่เขียนแล้วอ่านเข้าใจยากมาให้รางวัลทั้งนั้นเลย สมัยก่อนนิยายที่ได้รางวัลอ่านง่ายมาก
อย่างพวก ตลิ่งสูงซุงหนักนี่ภาษาบ้านๆชิบหาย ซอยเดียวกัน ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน ก่อกองทราย ก็อ่านง่าย
งานซีไรต์หลังๆมากูว่าอ่านไม่รู้เรื่องว่ะ คนแคระ ไส้เดือนตาบอด แดดยามเช้าร้อนเกินกว่าจะจิบกาแฟ ไม่มีหญิงสาวในบทกวี ลับแลแก่งคอย
>>317 ถ้าให้พูดตรงๆมันก็พออ่านจับใจความได้ถ้าใช้ความพยายาม แต่ประเด็นคือความเว้นเวิ้อของภาษา คือดูบทสัมภาษณ์กูไม่อยากโทษคนเขียน เพราะเค้าบอกเองว่าเขียนระบายความเก็บกด แต่ที่พลาดคือกรรมการซีไรต์ไม่ควรให้รางวัลเรื่องนี้(อันที่จริงไม่ควรมีชื่อเข้าชิงด้วยซ้ำ)
เนื้อเรื่องมีบรรทัดเดียวแม่งขยายออกมาสองสามหน้ากระดาษ บทบรรยายหาสาระไม่ได้ ผิดหลักการเขียนที่ไม่ควรใช้คำบรรยายมากเกินไป พยายามโชว์พาวศิลปะ เพลง อาหาร หนัง แต่อ่านไม่สนุก
>>323 ก็แล้วแต่คน อ.เท็ตสึกะเขียนเจ้าหนูอะตอมเพื่อหาเงินล้วนๆ หลูซวิ่นเขียนอาQเพื่อเปลี่ยนสังคม ปิรันเดโล่เขียนตัวละครทั้งหกเพื่อสะท้อนความเชื่อของตน ต่างคนต่างเป้าหมายไม่มีผิดถูก แต่โดยพื้นฐานคนมักจะคิดว่านิยาย/คนแต่งที่ดีคือการสร้างบางอย่างให้สังคม
หลูซวิ่นลาออกจากนักเรียนแพทย์มาเขียนนิยายเพราะเชื่อว่าวรรณกรรมที่ดีนั้นเปลี่ยนแปลง/รักษาสังคมได้อย่างถึงรากกว่าหมอที่รักษาร่างกายของคนเพียงไม่กี่คน ความคิดนี้ไม่ผิด วรรณกรรมที่ดีเปลี่ยนสังคมได้จริงๆ การต่อสู้ของข้าพเจ้าที่ฮิตเลอร์เขียนเปลี่ยนสังคมหนึ่งได้อย่างไม่น่าเชื่อ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้มันทำอะไรมากกว่า
>>323 นิยายดี = อ่านแล้วสนุกมีสาระ
ซึ่งไส้เดือนแม่งอ่านไม่รู้เรื่อง จะว่ามีสาระก็หาไม่เจอ เขียนเหมือนคนเมายา สมมุตว่าไม่ได้ซีไรต์คนแม่งด่าไปไม่ขายดีขนาดตีพิมพ์เล่มสองหรอก
กูว่ากรรมการแม่งเลือกมาเพราะใช้ภาษาเว้นเว้อดี อ่านเข้าใจยาก ให้รางวัลแม่งเลยให้รางวัลแต่นิยายอ่านง่ายเดี๋ยวจะโดนมองว่าไม่มีคลาส
บก.มติชนคงคิดแบบนี้อยู่ตอนให้ต้นฉบับได้ตีพิมพ์ คือไม่หวังกำไรในการขายแต่หวังฟลุคชนะรางวัลใหญ่ๆ
>>323 นักเขียนนิยายในไทยมันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้หรอก อันที่จริงกูมองว่านิยายทั้งโลกต่อให้เป็นระดับโนเบลสาขาวรรณกรรมมันก็ไม่ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงอะไรอย่างเป็นรูปธรรม แต่มันทำหน้าที่สะท้อนมุมมองของโลกในตอนนั้นออกมาแล้วกระตุ้นให้คนอ่านคิดตาม
อย่างเหยื่ออธรรม แม่ สงครามและสันติภาพ นักเขียนไทยที่พอทำได้ในระดับนี้ก็พวก เสนีย์ เสาวพงศ์ กับวินทร์
แต่ส่วนตัวกูคิดว่าไส้เดือนตาบอดเป็นนิยายที่ไร้ค่ายิ่งกว่านิยายของพวก ฮิเดโกะ สแตมป์เบอรี่ ดร.ป็อป เพราะแม่งอ่านไม่สนุกและหาสาระไม่ได้
The white road มันเป็นขยะวรรณกรรมก็จริงแต่อย่างน้อยก็พอจะหาความสนุกในการอ่านได้(ถ้าคนอ่าเป็นเด็กที่ยังไม่เคยอ่านนิยายดีๆ)
ไส้เดือนแม่งชนะรางวัลเพราะกรรมการคิดว่าเอ่อแม่งอ่านยากดีว่ะ ให้รางวัลแม่งเลยจะได้ดูมีชั้นเชิงหน่อย สัสเอ้ย
>>326 วินทร์..
หนังสือที่เอาไว้หลอกขายฮิปเตอร์โง่ๆ เวลาคุยกับคนอ่านหนังสือถ้ามันพูดชื่อวินทร์มาก่อนจะรู้ได้เลยว่าไอ้นี่กลวง
ประชาธิปไตยนี่เรียกว่าขยะวรรณกรรมดีไหมวะ พยายามเน้นความครีเอท แต่เสือกลืมไปว่าครีเอทมากบางทีได้ขยะออกมาแทน
วินทร์มีดีอยู่อย่างเดียวคือบูทงานหนังสือแม่งคนขายสาวๆน่าเย็ดมากๆ แต่ในบูทเสือกชอบมีพนักงานชายควยโด่ยืนม่ออยู่ตลอดเวลา
วินทร์ไม่ได้แย่อะไรมากหรอก มันเป็นงานสายpopที่ขาดแก่นสารไปหน่อยแค่นั้นละ ตัวมันเองก็ไม่ใช่นักคิดที่ยิ่งใหญ่อะไรอยู่แล้ว จะนำเสนอแนวคิดที่ทรงพลังในตัวเองคงจะยากหน่อย
บอกแล้วห้องนี้แม่งเหลือแต่เศษเดนเศษขยะมาคุยกัน เพราะมึงเสือกไล่โม่งดาวพลูโตอันสูงส่งออกไปไง
สุดท้ายก็เหลือแต่ขยะจากเว็บเด็กดีที่โตเป็นควายยังเข้าเว็บเด็กดีอยู่ ขยะที่โง่อังกฤษจนต้องอ่านนิยายแปลแต่ยังเสือกบ่น
ขยะที่มีไม่มีสมองอ่านหนังสือจากสนพ.แบบแจ่มใส พูนิก้า ขยะขี้มั่วที่ชอบยกชื่อนักเขียนดังๆมาแต่ดันเสือกอ่านชื่อผิด
เนื้อหาวนไปวนมาแต่นักเขียนนักแปลสวะๆ สวะลวิตร สวะวินทร์ สวะเจ๊หลิน สวะป๊อป สวะนพดล
โม่งชั้นสูงรุ่นแรกแบบกูก็นานๆผ่านมาก็เลยแวะถุยน้ำลายใส่พวกมึงทีแบบนี้แหละ รู้สึกถึงความไร้ค่าของตัวเองหรือยัง
งานวินทร์กูชอบผู้ชายคนที่ตามรักเธอทุกชาติ เรื่องนี้แม่งน่าได้ซีไรต์มากกว่าประชาธิปไตยอีก ไอ้เรื่องนั้นกูตาลายกับข้อมูลชิบหาย จับยัดมารวดเดียวไม่น่าอ่าน หรือกรรมการมันเห็นตัวหนังสือเยอะๆ ใครอ่านแล้วจะดูฉลาด เลยให้ซีไรต์วะ
วินทร์กูชอบเสี่ยวนักสืบนะ โดยเฉพาะสามเล่มแรก เป็นนิยายแนวรหัสคดีที่โอเคเลย (ส่วนเล่มหลังๆ เริ่มเป็นโคนัน) แต่หลายปีมานี้แกยัดเยียดความคิดทางการเมืองมาในงานเขียนเยอะจนน่าเกลียดขึ้นเรื่อยๆ กูเริ่มอ่านตอนสมัยเขาได้รางวัลจากสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน สมัยนั้นก็คิดว่าเป็นคนหาวิธีการเขียนแปลกๆ มาใช้เยอะดี แต่พอผ่านมาสิบกว่าปีมันก็เป็นอะไรที่ไม่ใหม่อีกต่อไปแล้ว
>>337 กูไม่รังเกียจการยัดเยียดแนวคิดทางการเมืองนะ ถ้ามันใส่มาอย่างมีชั้นเชิง อย่างAnimal Farmนี่กัดจิกคอมด้วยหลักเสรีนิยมจ๋าเลย แต่มันก็จิกกัดได้ตรงประเด็นดี ที่กูว่าใส่ประเด็นได้กากคือเรื่อง300
กรีกสมัยนั้นมีระบบทาสแบ่งแยกชัดเจน สปาร์ต้าก็ไม่ได้สู้เพื่อเสรีภาพอะไร แต่เพื่อชิงความเป็นผู้นำรัฐกรีก ถึงสุดท้ายจะโดนเอเธนส์ชิงความชอบทุกอย่างไปหมดก็เถอะ และไอ้ตัวเลข300นั่นก็แค่propaganda หมายถึงนายทหารสปาร์ต้าเท่านั้น ไม่นับทาสกับเชลยที่ถูกต้อนมารบด้วย
>>339 กูก็ไม่รังเกียจนะ บางเรื่องก็จัดว่าคลาสสิคแบบเวลาผ่านไปแนวคิดพวกนี้ก็ไม่เก่าหรือสังคมยังคงเหมือนเดิม หรือกำลังซ้ำรอยเป็นต้น
แต่กรณีวินทร์กูอ่านแล้วมันเหมือนแกแค่หลอกด่าฝั่งที่ตัวเองไม่ชอบ ไม่มีสะท้อนอะไรเลย แถมบางทีกลายเป็นสั่งสอนด้วยเลยว่าน่ารำคาญเวลาอ่าน
>>336 กูว่ามันเป็นนิยายเรื่องแรกที่เอาตัวละครในประวัติศาสตร์มาใช้เลยน่าตื่นตาตื่นใจในยุคนั้น
และเขียนออกมาได้POP อ่านสนุก(ถ้าไม่มึนกับข้อมูลไปซะก่อน)
กูชอบนะในแง่ของความบันเทิง ถึงเสือย้อยแม่งแมรี่ซูพอๆกับพระเอกถนนขาวเลย ชักปืนไว วางแผนเก่ง
ยิงแม่นระดับยิงปลดปืนที่มีคนกำลังดึงจากซอง??
>>337 เสี่ยวนักสืบกูก็ชอบ แต่ตอนยาวนี่เหมือนดูหนังอยู่ เดินเรื่องตามสูตรเลย สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคนนี่กูว่าเป็นจุดพีคของเค้าแล้วล่ะ
หลอกด่า ไม่สะท้อนอะไร กลายเป็นสั่งสอน 55555555
เรื่องเล่าของหมาตัวหนึ่งมีครบสามอย่างเลยว่ะ แต่หนังสือสวะแบบนี้เสือกทำยอดขายถล่มทลาย
แถมมีคนไทยเพียบที่อยากเป็นหมากันถ้วนหน้าเลยนะ แหม่ๆๆๆ เป็นหนังสือทรงคุณค่าจริงๆ
ซาบซึ้งซิครับรออะไร
กูไม่ค่อยอ่านงานวินแต่ไม่ชอบเท่าไร เคยอ่านที่เป็นนิยายไซไฟชื่อสวยๆ กับเรื่องสั้นไม่กี่เรื่อง(หนังสือบังคับอ่านสอบ) กูรู้สึกมันยัดเยียดอะมึง เขามีโลกของเขาแนวคิดเขาแล้วก็ยัดมาในนิยาย กูอ่านจบเหมือนโดนสั่งสอนตลอดการอ่าน อ่านเสร็จกูรู้สึกแย่
ปล.กูอิจฉาที่ปีก่อนกูเรียนเอาเจ้าหงิญมาอ่าน
ถ้าตามที่กูเข้าใจ ห้องนี้มีโทรลเข้ามาป่วนเฉยๆใช่มั้ยมึง ไม่ใช่คนในนิสัยเปลี่ยนใช่มั้ย//จากโม่งที่ตามเสพมู้นี้มานาน
>>345 ตามนี้ >>>/meta/1834/434
ไม่ได้เกี่ยวไรกับหนังสือหรอก แต่กูรู้สึกว่าหลังๆมามีคุยนิยายจีนค่อนข้างเยอะ สมควรจะขยายสาขามั้ย
เดี๋ยวนี้ไม่มีใครเมาท์วรรณกรรมยุโรปแล้วเหรอ กูเข้ามากี่ทีๆก็เจอแต่ถนนสีขาวเนี่ย
นิยายออนไลน์ช่วงนี้มีอะไรน่าอ่านบ้างวะ//กูเปิดเจอแต่ละเรื่องละแม่งเอือม
โม่งวรรณกรรมยุโรป ไม่มีเรื่องไรจะคุยหรอกแต่กูแค่อยากลองอ่านดู มึงมีแนะนำเรื่องอะไรสำหรับคนเริ่มต้นมั้ย
ปล.กูอยากลองอ่านนาร์ซิสซัสกับโกลด์มุล ด์ไม่ใช้อะไรกูแค่เป็นพวกเห็นนิยายในนิยายแล้วแล้วอยากลองอ่านเรื่องนั้นดู
>>359 เอาวรรณกรรมอเมริกาไปมั้ย กูแนะ The catcher in the rye มีแปลไทยแต่เก่าละ หายากนิดหน่อย พระเอกเป็นกบฎต่อสังคมและขวางโลก
อีกอันกูแนะการผจญภัยของฮักเบอรี่-มาร์ค ทเวน เกี่ยวกับเด็กไปผจญภัยนอกบ้านที่ไปเจอคดีฆาตกรรมมั่ง เจอขุมสมบัติมั่ง เสียดสีสังคมเมกาได้สุดติ่ง
ตัวละครทั้งหกตามหานักประพันธ์ของปิรันเดลโล่ ถือเป็นหนังสือavant-garde(ล้ำยุค)อย่างแท้จริง จุดเริ่มต้นแนวmetatheater(ละครในละคร) นิยายอิตาลี่ของสนพ.อ่านอิตาลี่ อาจจะหายากหน่อยนะ
กูไม่เห็นเข้าใจเลย ทำไมต้องมีโม่งที่อ้างตัวเองว่ากูมาตั้งกะมู้แรกเลยนะสัส กูใหญ่มาก
รสนิยมของพวกมึงนี่อ่านอะไรกันชิทเทสสิ้นดี พวกวรรณกรรมแปลก็มีแต่พวกโง่อ่าน คนจริงเขาอ่านแบบภาษาแม่กัน
กูว่าน่าจะอยู่ในสังคมยากนะ
พวกมึงว่าวรรณกรรมไทยเก่าๆเรื่องไหนพอจะเรียกได้ว่าเป็นตำนานบ้างวะ
>>359 วรรณกรรมเมกา-ยุโรป ที่อ่านง่ายๆหน่อยน่าจะเป็นพวกที่ถูกจัดเข้าหมวดคลาสสิคแล้ว หลายๆเล่มมีเวอร์ชั่น simplify ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่
ถ้าเอาแบบเล่มบางๆ ก็เช่น of mice and men หรือพวกรวมเรื่องสั้นของโปก็ได้ เรื่องนึงมีไม่กี่หน้า นิทานของออสการ์ไวลด์ก็ดี ขอบคุณเพื่อนโม่งวรรณกรรมที่แนะนำมาก่อนหน้านี้
ถ้าอยากอ่านเบาๆ เยาวชนๆ ก็มีพวกโรอัลด์ดาห์ล ที่เบสิคสุดเลยก็ BFG กับ the witches โตแล้วก็ยังอ่านได้ จอยๆ
วรรณกรรมภาษาอื่นที่เคยผ่านตามาก็มีของเยอรมัน เกอท่งเกอเท่ (eng: the sorrow of young werther) ชิลเล่อ (eng: the robbers) อะไรก็ว่าไป แต่แวร์เธ่อน่ารำคาญมาก เป็นยุคร้องไห้ฟูมฟายบรรยายธรรมชาติ เป็นหนังสือที่ออกแนวอ่านให้รู้มากกว่าอ่านให้เอ็นจอย วรรณกรรมคลาสสิคพวกนี้หลายเล่มแปลเป็นอังกฤษ/e-bookแล้ว หาอ่านได้ทั่วไป หรือถ้ารู้ภาษาก็อ่านเป็นภาษาเยอรมันไป ไม่ยากเท่าไหร่
ย้อนไปอีกหน่อย วรรณกรรมสมัยC13ก็มี nibelungenlied อันนี้รู้สึกจะเป็นไอเดียให้ LotR ด้วย มีคนแปลอังกฤษลงเน็ตแล้วเหมือนกัน
หวัดดีโม่งเยอรมัน กูนึกว่ามึงไม่อยู่แล้ว
วรรณกรรมเยอรมันกูเคยอ่านคือ"ผมกลับมาแล้วครับ"ที่เป็นนิยายตลกสมมุติว่าฮิตเลอร์กลับมาอยู่ในยุคปัจจุบัน จะว่าสนุกก็สนุกนะ แต่กูเข้าไม่ถึงมุกเยอรมันยังไงไม่รู้วะ คนแปลน่าจะแปลได้ตรงรูปประโยคเดิมในภาษาเยอรมันแล้ว แต่มันมีแก๊บระหว่างโลกภาษาอังกฤษกับเยอรมันอยู่ กูเลยไม่ฮาจุดที่ควรจะฮาหรือไม่ค่อยเข้าใจความหมายแฝงบางประโยควะ สุดท้ายอ่านได้ครึ่งเล่มก็เลิกแล้ว
กูกลับมาแล้วจ้ะสหายโม่ง
เล่มนี้ยังไม่เคยอ่านเลย วันๆจมอยู่กับหนังสือที่อาจารย์ให้อ่าน กูจะล้อง เดี๋ยวจะลองหามาอ่านดู แต่ลองเสิร์ชเล่มแปลไทยดูแล้วไม่เจอว่าแปลจากฉบับอังกฤษหรือแปลจากฉบับเยอรมัน คงต้องลองหาแบบเยอรมันมาลองดู เพราะแปลข้ามภาษาไปมาความหมายหลายอย่างมันก็ตกไปจริงๆ แกรมม่งแกรมม่าหรือมุกของวัฒนธรรมนั้นๆ อะไรงี้
ยิ่งหนังสือแปลไทยบางเล่มไม่ได้แปลจากภาษาต้นฉบับความหมายเลยพังไปมาก จนตอนนี้เลยไม่กล้าซื้อหนังสือแปลไทยเท่าไหร่ถ้าปกไม่ได้เขียนว่าแปลจากภาษาเยอรมัน หรือเสิร์ชแล้วไม่เจอข้อมูลว่าผู้แปลรู้ภาษานั้น เลยต้องซื้อแบบเล่มอังกฤษแทน คิดเอาเองว่าเอออย่างน้อยก็แปลมาจากภาษาต้นทางแค่ทีเดียววะ
ล่าสุดไปซื้อ brief an den vater กับ se una notte d'inverno un viaggiatore แบบแปลไทยมาจากไลต์เฮาส์ แต่ยังอ่านไม่จบ และแน่นอน โนเวเชนโต้ก็ยังอ่านไม่จบ..
ใครที่ชอบอ่านคาฟก้า หา brief an den vater (จดหมายถึงพ่อ/ อ.ถนอมนวล แปลจากภาษาเยอรมัน) มาอ่านก็น่าจะเวิร์คอยู่ เล่มนี้จะช่วยให้เข้าใจงานหลายๆ อย่างของคาฟก้า เช่นว่าทำไมตัวเอกนิยายเล่มนั้นเล่มนี้ถึงดูอ่อนระแน้แบบนี้ ทำไมถึงพยายามหลีกหนี บลาๆ
>>369 งานคาฟกาแทบทุกงาน เหมือนเอาตัวเองใส่ลงไปในนิยายว่ะ ที่คาฟกาขัดแย้งกับพ่อ มันสะท้อนออกมาในงานเขียน Metamorphosis ว่าอยู่ๆตัวเองก็กลายเป็นอะไรที่ทุกคนรังเกียจขยะแขยง จากที่ทำงานเลี้ยงดูครอบครัวได้ ก็เป็นภาระ อ่านแล้วมันทึมๆ หดหู่ โลกเป็นสีเทาหม่นๆยังไงไม่รู้ดิ
จะว่าไป งานคาฟคางานแรกที่กูอ่านคือคดีความ อ่านตอนซักประถมปลายหรือม.ต้นนี่แหละ อ่านจบแล้วติดสตั๊นมาก
>>370 งานคาฟกามีความงอแงสูงมาก.. แต่ไม่ใช่งอแงแบบฟูมฟาย มันงอแงเหมือนแวร์เธอที่ไม่ร้องไห้แต่ลุกขึ้นมาเขียนหนังสือระบายความอึดอัดอัดอั้นตันใจแทน กูอัดอั้น กูก็จะทำให้คนที่อ่านงานกูอัดอั้นไปด้วย /ปาหนังสือใส่กำแพงบ้าน
คัดมาจากหนังสือ เรื่องสั้นเยอรมันสำหรับนักศึกษา ของ อ.อำภา: "ฟรันซ์ คัฟค่า เป็นผู้ที่มีปัญหาในทางส่วนตัวมาตั้งแต่เด็ก สาเหตุสำคัญเป็นเพราะมีสุขภาพไม่สมบูรณ์ และเพราะมีชาติกำเนิดมาจากครอบครัวยิว ซึ่งมีภาษา ความเป็นอยู่ และขนบธรรมเนียมประเพณีผิดแผกไปจากพวกเยอรมัน ทำให้เกิดปมด้อย เก็บตัว เข้ากับคนอื่นลำบาก มีความรู้สึกว่าตนเป็นคนนอกตลอดเวลา เกิดสงสัยในชีวิตและฐานันดรภาพแห่งตน คำถามเกี่ยวกับชีวิตและความโดดเดี่ยวของตนในสังคม สถานภาพและความเป็นอิสระแห่งเอกบุคคลที่ถูกควบคุมด้วยบทบัญญัติต่างๆ ทั้งทางกฎหมาย ทางศาสนาและทางสังคมเหล่านี้ คือปัญหาในหนังสือของคัฟค่าที่ผู้อ่านจะต้องขบคิด"
นอกจากนี้ก็คงเรื่องครอบครัวเรื่องอะไรรุมเข้ามาอีก งานเลยออกมาแบบ .. พอ กูไม่อ่านแล่วววว /ปาอีกรอบ แต่เรื่อง จดหมายถึงพ่อ คนก็ยังฟันธงกันไม่ได้อะนะว่าเป็นนิยายทั้งหมด/มีความจริงปนอยู่มากน้อยแค่ไหน แต่ก็เข้าใจกันว่าคาฟก้ามีปัญหากับพ่อจริงๆนั่นแหละ
บายเดอะเวย์ หนังสือ เรื่องสั้นเยอรมันสำหรับนักศึกษา นี่ก็อ่านสนุกดีนะ รวมเรื่องสั้นของนักเขียนคนสำคัญในเยอรมันหลายๆคน กึนเธอร์กราส ไฮน์ริชเบิลอะไรงี้ก็มี แปลตรงจากภาษาเยอรมัน ที่ศูนย์หนังสือจุฬาน่าจะยังพอมีอยู่
>>368 มีฉบับไทยอยู่แต่ไม่แน่ใจว่าแปลจากภาษาอะไร ถ้ามีจดหมายถึงผู้อ่านชาวไทยจากคนเขียนอยู่ด้วยกูจะเหมาเอาว่าสนพ.ติดต่อกับสนพ.ฉบับเยอรมันแล้วแปลจากเยอรมันมาได้ไหม คือกูไม่รู้เยอรมันเลยจับกลิ่นภาษาเยอรมันไม่ได้
เออ พอกูไปพิจารณาหน้าแรกเลยเพิ่งเห็นว่าคนแปลรั้งตำแหน่งบรรณาธิการด้วย แต่มีบรรณาธิการเล่มอีกคนนะ
>>371 กูอ่านตอนอยู่มหาลัยก็ติดสตั๊นพร้อมคำถามว่ากูอ่านเชี่ยไรไปวะ
>>377-378 สี่แผ่นดินมันเป็นสารคดีนะ อ่านคำนำเล่มหนึ่งคนเขียนพูดเองเลยว่าตัวละครสร้างขึ้นมาแต่ฉากในเนื้อเรื่องเป็นของจริงทั้งหมด แล้วแกบอกเองด้วยว่าเขียนเพื่อให้คนรุ่นหลังรู้เรื่องราวสมัยก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง คือไม่ได้กะเขียนมาให้เป็นนิยายอ่านเล่นแต่เหมือนเป็นไดอารี่เล่มหนึ่งมากกว่า
เรื่องตัวละครกูอ่านแล้วก็ขัดใจแม่พลอยว่ะหลายๆการกระทำแม่งงี่เง่ามาก แต่ก็ถ้าคิดดีๆก็ไม่แปลก
แม่พลอยเกิดในยุค ร.5 ชีวิตได้ดีเพราะระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช ระบบความคิดของแม่พลอยเลยดูล้าหลังมากในสายตาคนอ่านที่เกิดในยุคเปลี่ยนแปลงการปกครอง แม่พลอยเป็นตัวแทนของพวกอนุรักษ์นิยมจัดมากๆ บางทีกูอ่านแล้วก็รู้สึกว่าคนเขียนหลอกด่าพวกConservative อ้อมๆรึเปล่าฮ่าๆๆ ประมาณว่าเขียนตัวละครแนวConserให้ออกมาดูโง่ๆตามโลกไม่ทัน ทั้งชีวิตต้องอิงกับเจ้า พอเจ้านายตายก็ไม่มีใครคุมกะลาหัว
conservative ตัวพ่อ และแม่พลอยเป็นตัวละครที่น่าเบื่อมาก เรื่องความนิยมนี่คำผกาเคยออกมาวิจารณ์ครั้งหนึ่งว่าเป็นเพราะนิยายมันขายความเป็นชาติ ขายความใกล้ชิดกับสถาบัน ตัวละครหลักที่ใกล้ชิดกับเจ้านายในวังมันถูกจริตนักอ่านไทย
แต่ในเรื่องต้นฉบับแม่พลอยไม่เคยด่าปรีดีนะมึง ละคอนเวทีของบอยแม่งเขียนบทให้สินจัยแขวะคณะราษฎร์ซะงั้น
.......แต่คงถูกใจคนดูล่ะมั้ง
จริงๆแม่พลอยกูอ่านเอาขนบกับวิถีชีวิตในสมัยนั้นนะ ถ้าเป็นตัวบุคคลอย่างแม่พลอยกับคุณเปรมและลูกๆ มันน่าเบื่อชิบหาย คุณเปรมนี่แบบอย่างผู้ชายงี่เง่ายุคโบราณเลย
"ที่นี่คนอ่านคนไทย ปลื้มอกปลื้มใจ เห็นแม่พลอยเป็นคนประเสริฐเลิศลอย ก็เพราะคนไทยก็เป็นคนแบบนั้น ยังไม่ได้ไปถึงไหนเลย คนอ่านส่วนมากก็เป็นระดับแม่พลอย โง่ฉิบหายเลย..จะบอกให้..สี่แผ่นดินถึงได้ดัง"
คึกฤทธิ์ได้กล่าวไว้
พูดึงละคอนเวทีกูว่าบอยแกเปลี่ยนเนื้อหาสนองนี้ดตัวเองว่ะ สี่แผ่นดินที่สินจัยเล่น แม่พลอยดูมีความคิดมากกว่าฉบับนิยายอีก แถมด่าคณะราษฎร์ คือบอยแกจะเป็นพวกนกหวีดกูไม่มีปัญหานะ แต่การเอาความคิดของตัวเองมาเปลี่ยนต้นฉบับแล้วยัดเยียดให้คนดูกูว่าไม่โอเคมาก เหมือนคนทำงานแล้วอาอารมณ์ความอยากตัวเองเป็นใหญ่ ข้างหลังภาพแม่งก็โดนเปลี่ยน เอาแหม่มฝรั่งเป็นนางเอกแล้วดันลูกรักให้เล่นทั้งที่ฝีมือไม่ถึง ผลคือโดนนักวิจารณ์ด่าเละเทะ
>>385 แม่พลอยที่กูไปดูละครเวทีมา....กูรู้สึกว่าแม่พลอยแกฉลาดเกินกว่าหนังสือว่ะ ดูมีความรู้และมั่นอกมั่นใจในตัวเอง แต่ในหนังสือเป็นผู้หญิงโง่ๆเชื่องๆคนหนึ่งที่คิดเองไม่เป็น ใครจูงไปไหนไปหมด เป็นไปตามอุดมคติที่ควรจะเป็นของผู้หญิงทุกอย่าง อ่อนหวาน อยู่ในกรอบ เชื่อฟังแต่ผู้ใหญ่ ไม่มีปากมีเสียง เลี้ยงลูกไปอย่างเดียวก็พอ แต่แม่พลอยแกยังดีกว่าแม่วาดในร่มฉัตรนะ อันนี้ conservative ยิ่งกว่าสี่แผ่นดินอีก แม่พลอยแกเป็นผู้หญิงซื่อๆ ไม่รู้เรื่องโลกภายนอก ไม่มีความรู้ แต่ไม่ชอบประชาธิปไตยเพราะมันทำชีวิตครอบครัวแกเจ๊ง เวลาของแม่พลอยหยุดอยู่แค่ในวังที่หมอบคลานไปเข้าเฝ้าเสด็จ แต่แม่วาด....ใช้คำว่าคลั่งชาติจะเหมาะสมที่สุด กูอ่านไปกูก็ไม่ชอบนะ มันเป็นนิยายที่อวยมากจนเกินพอดี ประเทศเรานี้ช่างเลิศลอย ในน้ำมีปลาในนามีข้าว ทุกคนเป็นคนดี ไม่มีข้อเสียเลยซักนิด
ไรวะ โม่งเยอรมันอุตส่าห์นำยุคทองกลับมา
เสือกมีสวะมาพากลับสู่ความต่ำตมอีกละ
>>385 การเปลี่ยนบทหรือการตีความเข้ากับความชอบของผกก.หรือคนเขียนบทเป็นเรื่องปกติของทางฝรั่งนะ swan lakeยังเอาผู้ชายทั้งแท่งเต้นบัลเล่ในชุดผู้หญิงได้เลย ขึ้นอยู่กับว่าจะทำได้ดีจนคนชมรึป่าว
>>386 นิยายโลกสวยแบบนี้กูจะมองที่ตลค.มากกว่าวะ อย่างเรื่องรุกสยามในนามพระเจ้าหรือฟอลคอนแห่งอยุธยาก็มีอวยฝรั่งสุดขีดเหมือนกัน แต่มันโลกทัศน์ของยุคนั้น ถ้าเขียนให้คนยุคกรุงศรีมีความคิดปชต.หรือneo-functionalismคงดูพิลึก
>>388 ถ้านิยายที่ผู้หญิงอยู่ในวังแล้วต้องออกจากวังมาแต่งงานนี่ กูชอบนางเอกเรื่องผ้าทองของแก้วเก้าว่ะ นางไม่ได้เป็นคนดีไปซะหมดทุกอย่างแบบแม่วาดแม่พลอย เพื่อจุดหมายที่ต้องการก็ยอมทำเรื่องสกปรกด้วยตัวเอง อาจจะอ่อนต่อโลกไม่ทันคนในช่วงแรกๆ แต่พอเห็นอะไรหลายๆอย่างก็นิ่งขึ้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากจนถึงขั้นโหดเหี้ยมด้วย แต่ก็นะ....นิยายมันเขียนขึ้นมาด้วยจุดประสงค์ต่างกันนี่นะ อันนี้พูดถึงแง่ของคาแรคเตอร์ที่อุมาน่าสนใจกว่าแม่พลอยว่ะ แต่บางทีกูก็อยากตบกระโหลกอุมาเหมือนกันนะ คาแรคเตอร์ศิลปินจัดๆ เพื่องานศิลป์ตัวเอง จะทิ้งผัวทิ้งครอบครัวก็ไม่เป็นไร
>>388 แม่พลอยโง่ไม่แปลกหรอกวะ ถ้ามองพื้นฐานตัวละครมันก็สมเหตุสมผลแล้วที่เป็นแบบนั้น เพราะถูกเลี้ยงมาแบบผู้ดี พอแม่หย่ากับผัวก็พาเข้าวังอยู่ในวังมาตลอด แต่งงานกับคุณเปรมที่เป็นคนใกล้ชิด ร.6 สรุปว่าทั้งชีวิตได้ดีเพราะใกล้ชิดเจ้านาย ความคิดจะเป็นแบบอนุรักษ์นิยมก็ไม่แปลก
แต่ฉบับนิยายกูว่าเขียนไว้กลางๆดีนะ ตอน2475 แม่พลอยไม่ได้ต่อต้านลูกคนรองที่ไปเข้ากับพวกปฎิวัติแค่ห้ามไม่ให้เข้า พอทำไปแล้วเปลี่ยนอะไรไม่ได้ก็ไม่ได้แค้นอะไรกับลูก แต่ลูกสองคนมาหักกันเองเพราะการเมือง ซึ่งฉบับละคอนเวทีของบอยกูว่าดัดจริตมากที่เอาตัวละครมายัดเยียดความคิดทางการเมืองตัวเอง
ว่าด้วยอาชีพนางสนมนี่แปลแบบใหม่มันแย่มากเลยเหรอวะ กูเห็นมีแต่คนแหกกองบก.กระจาย กูพึ่งอ่านไปได้หน่อยนึง สำหรับกูนี่สำนวนอ่านลื่นกว่าเวอร์ชั่นเก่าอีกว่ะ ของเก่าดูตะกุกตะกักไปนิดนึง แต่ที่ดูๆ มาคือด่ากันเรื่องแปลแม่งดะหมดสินะ ... ส่วนตัวกูไม่มีปัญหาเรื่องแปลตำแหน่งนะ จะเป็นไทยหรือจีนกูก็ต้องตั้งสติก่อนสตาร์ท เรียงลำดับอยู่ดีว่ะ มันเป็นประเด็นสำคัญมากขนาดนั้นหรือส่วนใหญ่เค้าติดสำนวน ติดความเป็นจีนวะ ? ถ้ากูจำไม่ผิดแปลติดกลิ่นนมเนยแบบนี้ถ้าเป็นอังกฤษนี่เรียกว่าไม่โอเคโคตรๆ เลยเปล่าวะ ทำไมเป็นจีนถึงชอบกัน กูว่าบางส่วนเก็บไว้เป็นเอกลักษณ์มันก็ดี แต่ไม่จำเป็นจะต้องเก็บไว้หมดทุกสิ่งรึเปล่า อันไหนเลือกคำได้ แปลได้ก็แปลไปเถอะ
ก็เหมือนที่กูเคยบอก คนไทยชอบนิยายแปลจีนในไทยแบบออกงิ้วรัชดาลัยเทียเตอร์ ผิดจากนี้ถือว่าผิดผี
บทสัมภาษณ์คนเขียนเรื่องไส้เดือน อ่านแล้วชวนมึนเหมือนในหนังสือกันไหมวะ
>>393 คือเราพบว่าในการอ่านหนังสือ หลายคนมักจะทำอย่างอื่น เช่น เล่นเฟซบุ๊ก ดูทีวี ฟังวิทยุไปด้วย แต่ในไส้เดือนตาบอดฯ ด้วยความเยอะและการเรียงประโยคแบบนั้น ทำให้คุณไม่สามารถทำอย่างอื่นไปด้วยได้ คุณต้องอ่านเพียวๆ อยู่กับฉันคนเดียว นี่คือเรื่องของเรา ซึ่งก็พบว่าเป็นการทดลองที่น่าสนใจเหมือนกัน
สรุป กูเขียนให้งงๆเพื่อให้คนอ่านต้องจดจ่ออยู่กับนิยาย...............ควยเถอะครับ
>>395 สารภาพว่าบางทีเวลาอ่านนิยายก็ดูทีวี ฟังเพลงไปด้วย ผลก็คืออ่านไม่รู้เรื่องว่ะ ถ้านิยายเรื่องนั้นไม่น่าสนใจพอก็จะดูทีวีให้เสร็จค่อยไปอ่านต่อ แต่ถ้ามันน่าสนใจจริงๆ ก็ปิดทีวี คือมันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะทำให้คนอ่านจมลงไปในตัวอักษรของคุณได้มากแค่ไหนไม่ใช่เรอะ ถ้ามันมากขนาดที่ทีวีที่มีภาพ เสียงมาให้แบบไม่ต้องมานั่งจินตนาการต่อยังมาดึงความสนใจไปไม่ได้ นั่นแสดงว่าคนอ่านพอใจในงานคุณ และคุณมีฝีมือจริง แต่การทีเขียน 'เยอะและเรียงประโยคแบบนั้น' เพื่อบังคับให้คนอ่านต้องจดจ่ออยู่กับตัวอักษร คิดว่ามันไม่ใช่นะ
ลองไปอ่านบทสัมภาษณ์แรก ตกลงเจ้แกเขียนเพราะเครียดเรื่องการเมืองใช่ปะ ถามไปตอบมาชักจะไม่เกี่ยวกับหนังสือละ
http://thaipublica.org/2015/12/veeraporn-seawrite-1/
โง่ซื้อมาอ่านเองเสือกไปด่างานเค้า
เห็นป้ายซีไรต์ก็เห่อหมอยละ กระจอกว่ะ
>>398 อันที่จริงก็ไม่อยากโทษแกนะ เพราะถ้าเจตนาตั้งแต่แรกคือเขียนระบายความเครียดมันก็ไม่ผิดหรอกที่จะเขียนะไรยาวๆเข้าใจยากเพื่อให้คนอ่านจดจ่อ กูว่าน่าจะโทษกรรมการซีไรต์มากกว่าที่เสือกให้รางวัลหนังสือเล่มนี้ อันที่จริงแค่เข้าชิงก็ไม่ควรด้วยซ้ำ ถ้ามันไม่ได้รางวัลไม่มีคนสนใจโม่งคงไม่ด่าเท่านี้หรอกว่ะ
ปล.กูสังเกตนะ นิยายที่มีฉากการเมืองเข้ามาเกี่ยวด้วยส่วนมากจะได้ซีไรต์เมื่อเทียบกับคู่ชิงที่ไม่มีฉากการเมืองว่ะ ไม่รู้ว่าเรื่องนี้มีส่วนรึเปล่าเพราะในเรื่องมีพูดถึงตอนยิงเสื้อแดง90กว่าศพนิดหน่อย
แต่กูเป็นพวกที่ทำหลายแย่างแล้วมีสมาธิวะ ถ้าเดินอ่านหนังสือหรือฟังเพลงอ่านหนังสือจะอ่านรู้เรื่องกว่า ถ้าเปิดเพลงเข้ากับเนื้อเรื่องก็จะยิ่งจำง่าย
Daemon bakery สนุกมั้ยโม่ง เห็นพูดถึงกันบ่อยคือกูชอบเเฟนตาซีเเทรกโรเเมนติก เอ้อ เเล้วก็ My wicked wizard ของคุณวีมีใครอ่านมั่ง กูเคยอยากตามเเต่เห็นมีหลายภาค ถ้าเทียบกับจอมมารเรื่องไหนสนุกกว่ากันวะ
>>403 Daemon bakery กูถือว่ากูชอบนะแต่ให้กูพูดจะออกแนวอวยเกินแนะนำไป ส่วนเรื่องมันแนวแฟนตาซีก็จริงแต่กูว่ามันไม่โรแมนติกเท่าไร อารมณ์เวลาอ่านก็เรื่อยๆและก็มีปัญหาเข้ามาเรื่อยๆอนึ่งแล้วกูชอบตาลุงของเรื่องนี้ ส่วนของคุณวีกูอ่านแค่จอมมารและตอนนี้กูยังเสียใจกับการตัดเล่มจอมมารไม่หาย
เดมอนเบเกอรี่ สนุกได้มาตรฐานเมพลวิตร์ แต่ขึ้น้หนืองานเก่าไปไม่ได้ สำหรับกูนะ
>>401 กูฟังเพลงไปด้วยอ่านไปด้วยเฉพาะหนังสือสอบว่ะ เปิดคลอๆ ไม่ก็ฟังพวกเสียงคลื่นเสียงธรรมชาติไรวี้ แม่งช่วยได้จริง แต่ถ้าอ่านนิยายแล้วมันสนุกเนี่ย รอบข้างจะเป็นเสียงอะไรยังไงกูก็ไม่รู้ตัวทั้งนั้นว่ะ เรียกได้ว่าเข้าห้วง
>>403 เดมอนกูอ่านไปแค่เล่มแรก เรื่อยๆ มึง สนุกดีแต่ไม่โดดเด่น ไม่อ่านต่อก็ได้ ส่วนคุณวี กูอ่านแต่จอมมารกะเมอร์เมดแฮะ วิคเคดนี่เปิดเรื่องมาไม่ค่อน่าสนใจเท่าไหร่สำหรับกู อาจจะเพราะนางเอกดูขี้เหวี่ยง ถ้าอ่านๆ ไปแล้วนางไม่ได้เหวี่ยงช่วยบอกกูด้วยนะ เผื่อไปอ่านต่อ อ่อ ส่วนจอมมารกูว่าน่ารักดีมึง ตัวละครเยอะหน่อยแต่ละคนแม่งก็จะได้ซีนเด่นๆ อยู่ กลัวอยู่เนี่ยว่าถ้าตัดเล่มแล้วอีพวกที่เหลือที่ยังไม่มีฉากของตัวเองจะเอาไงวะ ตัวหนังสือเล่มต้นๆคำผิดเยอะ อ่านแล้วกูด่ากองพิสูจน์อักษรรัวๆ นี่พวกมึงเช็คกันมั่งมั้ยเนี่ยยยย นอยเหี้ยๆ ถ้ามึงเกลียดการอ่านเจอคำผิดในหนังสือมึงอาจจะรำคาญเหมือนกู
>>403 เรื่อง My wicked wizard กูซื้อมาอ่านแค่ 2 เล่มแรก เพราะ 2 เล่มแรกมันจบคู่ของพระเอกนางเอกเรียบร้อย
กูเลยถือว่ามันจบแค่นั้นและไม่ซื้อเล่ม 3 ต่อ กูอ่านแค่สองเล่มนี้ก็ว่าสนุกดีนะตัวเอกมันถูกใจกู ส่วนถ้าจะให้เทียบกับจอมมารกูว่า
มันขึ้นอยู่กับรสนิยมแฮะ ถ้าคู่พระนางกูชอบ My wicked wizard แต่ถ้าเนื้อเรื่องกูชอบของจอมมารนะอาจเพราะมันมีตัวละครเด่น
อีกหลายตัวด้วยมั้งเลยทำให้มันดูน่าติดตาม แต่จากข่าวที่เขาบอกจะลดเหลือ 5 เล่มนี่กูชักหวั่นๆ งี้คู่ที่กูอวยๆแม่งจะถูกลดลบ
มั้ยวะ กูอุตส่าห์อวยเดรียอาดกับหิมะ แล้วก็คู่แวมไพร์ยิ่งกว่าคู่หลักอีกนะ
>>410 กูรอประเด็นดราม่าของหนุ่มๆ ในเรื่องนะ ทั้งเฟรย์ เรนฟอร์ด กับรอให้บทสาวๆ เด่นซะที ไอรีนเงี้ย เทลก้าเงี้ย ดูไม่เด่นเท่าไหร่ อุตส่าห์รออ่านซีนเด่นของพวกนาง สถาาา ช่างทำกับคนอ่านคนเขียนได้นะ! ถ้าต่อไปนักเขียนประจำพากันออกนิยายทำมือเองไม่ผ่านสำนักพิมพ์จะทำยังไง ; ;
>>409 เหมือนจะเฉพาะเล่มนี้หวะ แต่กูก็อ่านไปซักพักละ จำไม่ได้ว่าผิดประมาณไหนมั่ง ถ้าว่างเดี๋ยวกูไปขุดๆ มา
>>412 กูรอเรนฟอร์ดดดดด เอาจริงขนาดเล่มหมาป่ามาขนาดนั้นแล้วกูก็ยังรู้สึกว่าปมอดีตประธานยังไม่เคลียร์เท่าไหร่ ถ้าสถาไม่เอาแล้วจริงๆ กูก็เชียร์ให้คุณวีทำเล่มต่อๆ เองว่ะ มาขนาดนี้แล้วก็อยากได้เนื้อเรื่องแบบครบๆ ตามแพลนเค้า
สภาพรกำลังวางแนวของ บก. คนใหม่อยู่มั้ง
หลายเรื่องที่เคยอยู่กับ บก. เก่า คงให้ปิดโปรเจ็ก
เพราะจะได้บอกได้ว่าเป็นผลงานยุค บก. ใหม่
แต่หวังว่าให้โอกาสนักเขียนไทยมากหน่อย ดีกว่าไปมุ่งเน้นแนวแปล
อ่อ กูนึกออกแล้ว ที่ผิดบ่อยแบบ บ่อยชิบหายยยย คือชื่อเว่ย ตกลงเจ๊แม่มดนี่นามสกุลอะไรกูก็ไม่รู้แล้ว เดี๋ยวก็คาทีน่า คารีน่า คันทีน่า เหี้ยไรไม่รู้มั่วไปหมด กูเพลียใจมาก ตอนเขียนคุณวีอาจจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาด้วย แต่กองควรจะเช็คก่อนทำเป็นเล่มมั้ยละมึง
>>416 ฮือออออออออออออออ /ลุ้นในเล่มทำมือละกัน สัส ตามแล้วต้องเอาให้จบ
ทำไมกูรู้สึกแปลกๆ กับเพจออลเวย์วะ โพสอะไรไม่ได้สมเป็นสนพ.เลย โดยเฉพาะถุงกาวนั่น ยิ่งทำให้กูติดลบกับสนพ.นี้ ทั้งที่แต่ก่อนแค่เฉยๆ
กูนึกว่าจ้างคนมาทำเพจ ที่แท้เป็นเจ้าของสนพ. จากสิ่งที่เขาโพสลงเพจ กูยิ่งติดลบสนพ.นี้เลย คำตอบเขาเหมือนจะดีนะ แต่ในฐานะสนพ.กูว่าไม่โอว่ะ
กูก็ดันแนะนำเพื่อนให้ไปลองส่งงานกะสนพ.นี้
กูไปเจอหนังสือมอนสเตอร์โซลยกชุด 700 แล้วปวดใจจัง ปลอบกุที กูซื้อราคาเต็ม TvT
แพนเจียกับราชันย์ศาสตราก็ตกเล่มละ 50 เหมือนกัน แพนเจียช่างแม่งเถอะ แต่ราชันย์ศาสตรานี่สนุกมั้ยวะ ซื้อราคานี้กูจะเสียใจทีหลังมั้ย แม่งหลายเล่มอยู่
ราชันศาสตรา กูว่าเริ่มเรื่องไม่ค่อยดีจืดมาก แต่จะไปสนุกเอาตอนกลางๆเรื่องไปว่ะ
มาแนวๆเดียวกับเรื่องราชาแห่งราชัน ที่พระเอกเข้าเกมแล้วฟลุ๊กได้อะไรเทพๆแต่แรกนั่นแหละ ต่างกันตรงชีวิตจริงพระเอกเป็นคนมีอำนาจมากอยู่แล้ว เรียกได้ว่าเทพทั้งในจอและนอกจอ
ขอ KY หน่อย มีใครเคยอ่าน ยุโทเปีย ฉบับแปลของสนพ.สมมติมั้ย?
คือกูอยากอ่านยูโทเปียแต่เจอฉบับแปล 2 แบบคือของ สมมติ กับของ สนพ แอร์โร่คลาสสิค
คือกูเคยเปิดแต่ของแอร์โร่สำนวนโอเคติดกลิ่นนมเนยก็ไม่ว่าอะไรถ้ามันแปลถูก แต่อีกของสนพ.ไม่เคยอ่าน
เห็นแผนการตลาดของสยามแล้ว
กูว่าเขาไม่เน้นนิยายแฟนตาซีคนไทยเท่าไร ไม่เหมือนนิยายหลักของเขาคือนิยายจีนกำลังภายใน
สนพ. เองไม่ได้ปิดเนื้อหาที่นักเขียนเขียนลงไว้ในเว็บ
กูบอกตรงๆ ว่ามันหวังยอดขายได้ยากมากๆ
คนอ่านอาจจะชื่นชมยินดี
แต่ในด้านรายได้แล้ว กูว่านักเขียนเองน่าจะรู้ซึ้งด้วยตัวเองว่ายอดตีพิมพ์ขายได้มันเท่าไรกัน
ปล. นี่แหละเหรียญมันมีสองด้าน นักเขียนได้รับคำชมจากแฟนคลับ แต่ยอดขายจริงๆ อาจไม่เดิน
>>435 มึงเคยอ่านการ์ตูนเรื่องหงสามาก่อนรึเปล่า ถ้าไม่เคยอ่านกูไม่แนะนำ เพราะฉบับนิยายใช้ตัวละครจากการ์ตูน ถ้าเคยอ่านการ์ตูนมาก่อนจะเห็นภาพได้ง่ายบรรยายมาแล้วนึกออกเลยว่าใครเป็นใคร ถ้าไม่อ่านการ์ตูนมาก่อนอาจจะต้องใช้จินตนาการมากกว่าปรกติ
เล่มที่กูอ่านได้มาฟรี มีพี่คนหนึ่งเป็นแฟนหงสาฯแล้วแกอยากหาเพื่อนคุยเลยให้กูอ่านฟรี เล่มซากทัพ(จูล่ง)
อ่านแล้วรู้สึกว่าใช้ภาษาบรรยายดีนะกูชอบ ได้บรรยากาศเหมือนดูหนังจีน
พล็อตแม่งก็หนังจีน ลูกล้างแค้นให้พ่อที่ถูกฆ่า มีตัวละครใหม่เพิ่มเข้ามาชื่อลกซวงหน้าตาเหมือนจูล่ง
ตัวนิยายเหมือนเป็นส่วนเสริมของการ์ตูน ฉากเดียวกันแต่บรรยายในส่วนที่การ์ตูนไม่ได้พูดถึง
ถ้ามึงไม่ค่อยมีเวลากูแนะนำอ่านแค่ตอนแรกๆแล้วเปิดไปอ่านหน้าหลังๆได้เลย เพราะพล็อตมันมีแค่ลูกล้างแค้นแทนพ่อตามที่กูบอกนั้นแหละ
ระหว่างทางเป็นแค่รายละเอียดของตัวละครเฉยๆ
เล่มห้ากำลังแปลอยู่ไม่ใช่เหรอมึง เป็นเล่มของเสี่ยวม่าน
เหมือนเค้าจะแปลหมดทั้ง9เล่มนะ แต่ก็ทยอยๆแปลอยู่
กูดีใจที่นิยายคนแปลก็เป็นม.ประภานะ หงสานี่ต้องเป็นสำนวนเขาจริงๆ
พูดถึงม.ประภา แล้วนึกถึงเจ๊ขาใหญ่ ตี๋ขาลุย ที่เค้าแปลไว้อะ ออกแค่เล่ม1 เล่มอื่นหายเงียบเลย กูเสียใจ ออกจะสนุก
>>431 สภาพเหมือนมือหนึ่งว่ะ (กูถึงร้องไห้อยู่เนี่ย) แต่อาจมือสองสภาพดีก็ได้ กูไม่รู้ ขายที่จามจุรี เป็นบูธแอบอยู่ข้างบันไดเลื่อน
มอนสเตอร์โซลเพื่อนกูยกไปแล้ว ไม่รู้มีอีกชุดมั้ย แต่ถ้ามึงผ่านไปลองไปดูก็ได้ บูธแม่งจับฉ่ายมาก เหมือนเอาพวกหนังสือค้างสต็อกมากองขาย
กูได้ sss ของมีดีย์ยกแพคมาในราคา 120 อร่าาา ตกเล่มละ 30 ฟินยิ่งกว่าช้อนซื้อสนพ.กล้วยในงานหนังสือ ราคานี้ถ้าห่วยกูก็ปาทิ้งได้สบายใจดี
มึง กูอยากรู้ว่านิยายไต้หวันเรื่อง คู่ป่วนสืบคดีพิศวง มันมีภาคต่อปะ ในเล่มจบมันเหมือนมีเนื้อหาเกี่ยวกับพระเอกที่ยังไม่จบ ในคำนำสำนักพิมพ์ก็บอกว่าเหมือนมีภาคต่อ แต่พอลองก็อบชื่อจีนเสิร์ชในอะเมซอนเจอแต่ภาคแรก (ประเด็นคือสนพ.ปิดตัวไปแล้วไงเลยอดอ่านต่อ)
ใครหาภาคสองเจอมั่ง เล่มพิเศษก็ได้ กูอยากสั่งซื้อเก็บไว้เป็นกำลังใจกระตุ้นให้ฝึกภาษาจีน
>>444 แต้งกิ้ว แต่มันไม่มีภาคต่อจริงๆเหรอวะ
ประเด็นพระเอกกับพ่อมัน เรื่องที่แม่พระเอกเคยพูดว่าทำผิดต่อพระเอกและพ่อพระเอก คำใบ้ตอนท้ายที่น่าจะเหมือนรุ่นพ่อแม่ตรงที่ไปสัญญากับเพื่อนสนิทว่าถ้าชีพลาดไปป่องกับแฟนแล้วโดนทิ้งพระเอกจะรับผิดชอบเอง หรือเรื่องเด็กผุ้หญิงที่กระซิบบอกพระเอกว่าพี่หนีไม่พ้นหรอก
มันยังไม่จบบบ เรื่องมันยังไม่จบนี่นา ภาคสองงงงง
/เพื่งอ่านจบเลยกำลังอิน ; ;
คู่ป่วนสืบคดีพิศวงภาค 2 อะมี ล่าสุดที่รู้ชัวร์ๆเลยคือออกมา 7 เล่ม แต่ไม่รู้ว่าจบยังนะ แต่คิดว่าน่าจะจบแล้ว แต่ไม่รู้จำนวนเล่มที่แน่นอน ลองเอา 因與聿案簿錄第二部 ไปหารูปดูก็เห็นปกหลายๆ เล่มอยู่นะ แต่ประเด็นคือมันไม่มีคนเอาเข้ามาแปลน่ะซี้ โคตรเสียดายอะ ตอนอ่านเรื่องนี้ชอบมาก ตอนนี้ก็ลุ้นอยู่ว่าเอ็นเทอร์หรือสยามจะเอามาแปลมั้ย เพราะดูเข้าแนวอยู่
เห็น 1168 ขายเข็มกลัดสามอัน 150 บาท ราคาพอๆ กับหนังสือหนึ่งเล่มเลยนะนั่น ตกลงสนพ.นี้เน้นขายเป็นหลักนิยายเป็นรองใช่ปะ? เหมือนเอานิยายมาโปรโมตเพื่อใช้เปิดทางขายของยังไงไม่รู้ว่ะ นิยายเรื่องเดียวมีของขายตั้งแต่เข็มกลัดยันกระเป๋าผ้า
กูมีใครเคยอ่าน ก๊วนป่วนแดนพิศวง ไหม อาซีน่ารักสัตว์ ๆ
แต่พอมึงพูดถึงก๊วนป่วน กูคิดถึงคู่ป่วนเลย ซันบีม กูจะจำจนวันตาย
>>455 หลินจือผิงมีนิสัยประหลาดชอบเก็บของมาจากสุสานครั้งนี้ก็เช่นกัน เก็บได้เด็กคนหนึ่งจากสุสาน โดยที่ที่บ้านเองก็มีลูกชายคนโต(ที่เก็บได้จากสุสาน too) และความวิบัติฉิบหายก็มาเยือนเมื่อลูกชายคนโตมีพลังมืดมาก คนใหม่ที่เก็บได้ก็เสือกมีพลังสว่างเยอะบอกตัวเองเป็นนักพรตจะบำเพ็ญเพียรในโลกยุคปัจจุบัน แต่เพิ่มสกิลทำคนรอบข้างซวย คนโตก็มักพบเจอเหตุซวยซ้ำซวยซ้อนตลอดเวลา
กูไม่กล้าเรียกนางเอกอ่ะ จริง ๆ เป็นตัวเอกเหมาะกว่า 55555. ของ Kirin ออกครบตั้งกะปีที่แล้ว
พูดถึงซันบีม ชาตินี้กูจะมีบุญได้อ่านว้าบๆ เล่ม8-10ไหม ฮืออออออออออ
เผื่อเพื่อนโม่งสนใจ
กิจกรรมแจกหนังสือของ สนพ. เมจิคบุ๊ค
http://www.dek-d.com/writer/39527/
>>443 เผื่อว่ามันจะช่วยกระตุ้นกำลังใจมึงได้
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1023767944328120&id=126813490690241
กรุขอ KY หน่อย ใครพออธิบายได้บ้างว่า ไลน์โนเวล เนี่ย มันเขียนลักษณะไหน คือกรุรู้แค่ว่าของญี่ปุ่นมันใช้คำง่ายๆ ไม่เน้นคันจิเยอะเท่านั้น แค่พอมาเป็นไทยมันจะยังไง เพราะภาษาบ้านเราก็ไม่ได้เหมือนเขา หรือว่าเป็นแบบไม่ได้บรรยายยาวๆ จนเหมือนพวกนิยายทั่วไปหรือเปล่า
>>465 จริงๆไปถามที่กระทู้ ln ดีกว่า แต่ให้กูเทียบก็คงแนวๆนิยายวัยรุ่นไทยแหละมั่ง ใช้ภาษาง่ายๆนึกภาพง่ายๆ(อาจด้วยรูปประกอบ)อะไรเทือกๆนี้
ส่วนตัวกูว่านิยายไทยจะแนวไหนคงเรียกเป็นไลท์โนเวลแบบเต็มตัวไม่ได้แฮะ
ถามหน่อย เพื่อนโม่งมีวิธีจัดการหนังสือเยอะๆในห้องมั้ย คือกูมีสองปัญหาหลักๆ อันแรกคือเนื้อที่ห้องกูใกล้เต็มแต่กูยังอยากซื้อหนังสือมาอีกแล้วมันก็เริ่มสูงขึ้นทุกที อย่างที่สองคือกูชอบหยิบหนังสือบนชั้นมาอ่านตรงโต๊ะ แล้วคืออ่านไปเล่นไปหรืออื่นๆไป แล้วกูก็วางมันแหมะที่ข้างโต๊ะไม่ยอมคืนชั้นจนมันชักสูงขึ้นๆ แต่พอจะเอาไปเก็บ ไอ้ชั้นแม่งก็เต็ม จะจัดการแม่งก็ยาวกูควรมีวิธีอะไรจัดการให้มันยั่งยืนบ้างวะ
จะว่าไป unique legend ที่พระเอกเป็นเด็กที่โคตรซวย จะไปโรงเรียนต้องโดดชนรถไฟเนี่ย ห้าเล่มเเรกออกไวมาก แต่ทำไมตอนนี้เล่มหกไม่ออกอะ? ยอดไม่ดี หรือต้นฉบับไม่เสร็จ รอแปลอยู่เฉย ๆ หรือรอจังหวะปล่อยรวดก๊อกสองอยู่?
เอ้อ ว่าแต่ ตอนนี้มีนิยายแนวออกไปทางแฟนซีแนะนำไหม หาเรื่องใหม่ ๆ (ที่ออก/เขียนปีก่อน+ปีนี้) ไม่ได้เลย
เปิดใจ บ.ก. "play" จุดสิ้นสุดของนิตยสารเกม!
http://manager.co.th/Game/ViewNews.aspx?NewsID=9580000140968
>>465 ของญี่ปุ่นก็คือใช้สำนวนกระชับเข้าใจง่ายไม่เวิ่น รูปเล่มกะทัดรัดพกพาสะดวก อาจมีภาพประกอบแทรกมาบทละภาพ แต่ของไทยเหมือนจะตีความไปอีกแบบว่ะ กลายเป็นนิยายเนื้อหาน้อยเล่มเล็กที่มีภาพประกอบ สำนวนกระชับขาดๆ เกินๆ เน้นบรรยายด้วยรูปเป็นหลัก แต่รู้สึกว่ารุ่นหลังๆ รูปเล่มมันจะใหญ่เท่าหนังสือปกติละ
มึง โทษทีนะิกูรบกวนถามหน่อย มีใครพอจะรู้แหล่งซื้อหนังสือเรื่องรถไฟสายทางช้างเผือกของมิยาซาวะ เคนจิมั้ย หรือกูต้องทำใจได้แล้วว่าไปสอยแบบแปลอังกฤษเอา 55
>>474 อย่างนี้นี่เอง เพราะเมื่อคืนกรุคุยกับเพื่อนประเด็นนี้อยู่ ตามที่กรุกับเพื่อนเข้าใจคือ บรรยายกระชับแต่ยังเห็นภาพแบบว่า
นิยายทั่วไป : เด็กหนุ่มผมสีดำที่กำลังง่วนอยู่กับการตากเสื้อผ้า ในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง
LN : เด็กหนุ่ม/ชื่อตัวละครกำลังตากฟ้าในวันที่ฟ้าปลอดโปร่ง
อะไรงี้
ライトノベルとその他の小説の境界は曖昧であり、そもそもはっきりとした定義を持たないことから、「ライトノベルの定義」についてさまざまな説がある。
- ライトノベルは出版側のマーケティングにより創られた「ジャンル」であるため、出版社がその旨宣言した作品
- マンガ・萌え絵のイラストレーション、挿絵を多用し、登場人物のキャラクターイメージや世界観設定を予め固定化している。
- キャラクターを中心として作られている
- 青少年(あるいは中高生)を読者層に想定して執筆されている
จุดแบ่งระหว่างไลท์โนเวลและนิยายประเภทอื่นนั้น ค่อนข้างที่จะคลุมเคลือ ไม่มีกฏเกณฑ์ตัดสินตายตัวใดๆ
จึงมีทฤษฎีเกี่ยวกับ "การจำกัดความของไลท์โนเวล" กำเนิดขึ้นมาหลากหลาย เป็นต้นว่า
- ไลท์โนเวลเป็น "หมวดย่อย" ที่ทางสำนักพิมพ์สร้างขึ้นเพื่อการมาร์เก็ตติ้ง ดังนั้นจะใช่หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับทางสำนักพิมพ์กำหนด
- มักใช้ภาพอิลลัสต์แนวมังกะโมเอะมาประกอบ เพื่อให้เห็นอิมเมจของตัวละครในเรื่อง และเซ็ตติ้งของโลกได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
- เรื่องราวดำเนินเน้นไปที่ตัวละครเป็นหลัก
- เขียนเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้อ่านเยาวชน (หรือกลุ่มนักเรียนม.ต้น)
巨大匿名掲示板『2ちゃんねる』内の「ライトノベル板」における定義「あなたがライトノベルと思うものがライトノベルです。ただし、他人の賛同を得られるとは限りません。」である。
ใน "บอร์ดไลท์โนเวล" ของเว็บบอร์ดขาใหญ่อย่าง "2chan" ได้ให้คำจำกัดความเอาไว้ว่า
"เรื่องที่คุณคิดว่าเป็นไลท์โนเวล มันก็คือไลท์โนเวล แต่ไม่จำเป็นว่าทุกคนจะต้องเห็นด้วยเสมอไป
credit - Genocide Fang @pantip
เพิ่งเห็นปกดุจตะวันกับซาตานของกิ่งน้า ไม่รู้ทำไมรู้สึกประหลาดกับปกมาก มันเหมือนภาพอาร์ท มันไม่ควรเป็นปกหนังสือ
มีใครอ่านเรื่องแปลของสนพ.กำมะหยี่มั่ง ไปนี้ไปมองๆอ่านหลังปก แปลกๆแนวๆ น่าอ่านหลายเล่มดี
มีเรื่องไหนแนะนำมั่ง (ที่ไม่ใช่ของมูราคามิ)
ตอนนี้อยากอ่าน "อย่าไปไหน" ของ Margaret Mazzantini มีบก.วิจารณ์ว่าดีอ่านแล้วติด
http://www.books.com.tw/activity/2015/12/2015_top100/author03.html#author01
คนเขียนUnique Legendเป็นนักเขียนขายดีอันดับ 1 ของไต้หวันปีนี้แฮะ แต่บ้านเราขายไม่ค่อยดีเลยวะ
จากเฟสบุ๊ค คุณภาคินัย กสิรักษ์...
วันนี้ได้คุยกับพี่ๆนักเขียน
เศรษฐกิจช่วงนี้แย่ สำนักพิมพ์ต่างค่อยๆปิดตัวลงไป
ทางสำนักพิมพ์ลดยอดเหลือ1000-2000 เล่ม(จากปกติ3000+)
บางที่ลดจำนวนเล่มลง คัดกรองงานมากขึ้น ไม่รับนักขียนใหม่
นักเขียนที่ทำเป็นอาชีพหลัก ต่างต้องดิ้นรนหาทางของตัวเอง เช่น ทำมือขายหรือขายทางอีบุ๊คหากทางสำนักพิมพ์ไม่รับหรือจำนวนเงินที่ได้น้อยกว่าที่รายได้จะพอยาไส้
เฮ้อ...คิดแล้วก็น่ากลัว
ถ้าสักวันไม่มีคนอยากอ่านงานเราแล้ว เราจะทำยังไงดี?
......................................................................................
ปล.ท่าทางจะเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับนักเขียน สนพ. ค่อนข้างมาก
เห็นบ่นกันมาเป็นสิบปีละ
งานหนังสือ กูก็เห็นคนจะเหยียบหัวกันตาย แม่งเยอะสัส คนแน่นแทบจะทุกที่ทุกบูธ กูก็ยังงงนะว่าเขาขายได้น้อยกันสุดๆเลยเหรอ
>>500 งานหนังสือก็เหมือนอีเว้นหนึ่งนะ
คนที่ตั้งใจซื้อก็ส่วนหนึ่งคนที่ตั้งใจเดินเล่นก็ส่วนหนึ่ง
นิยายเรื่องดังๆ เรื่องหนึ่งจะหวังขายได้ 2000-3000 นี่ยากโครตๆ
พิมพ์ครั้งล่ะ 2000 เล่ม บางที 3 ปี กว่าจะหมด
แล้วจะหวังได้เงินเพิ่มจากการพิมพ์ครั้งที่ 2+ ยิ่งยากไปใหญ่
ปีท่าทาง นักเขียนหน้าใหม่ยิ่งมีน้อยลงไปอีกที่ได้รับการตีพิมพ์
ส่วนนักเขียนที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วคงไปได้เรื่อยๆ
แต่ปีนี้กูเห็นวรรณกรรมดีๆแปลออกมาเยอะมากเลยว่ะ
แต่ชื่อคนแปลนี่ไม่รู้จักสักคน
>>504 คนเป็นเคยทำเรื่องเหี้ยๆ ไว้>ถูกผีตามล้างแค้น
พล็อตภาคินัยแม่งวนเวียนอยู่อย่างงี้แหละมึง แนวถนัดของเขาล่ะมั้ง ถึงเนื้อเรื่อง ฉาก ปม จะต่างกันไป แต่ก็สรุปเป็นสมการพล็อตพาคินัยได้ว่า คนเคยทำไม่ดี=ผีตามมาเอาคืน มองในแง่ดีมันก็เป็นเอกลักษณ์นักเขียน มองในแง่ร้ายนักเขียนสมองตัน นึกอะไรไม่ออกก็ให้คนเป็นทำเหี้ยแล้วผีตามล้างแค้นแม่งเลย แต่ก่อนจะเฉลยก็หยอดมุกผูกปมให้คนอ่านหลงไปก่อน
จะว่าไปนักเขียนไทยมีเจ้าอื่นอีกไหมวะที่เขียนนิยายมีพล็อตตายตัวจนกลายเป็นเอกลักษณ์แบบภาคินัย ที่กูนึกออกอีกก็เจ้แตม นางเอกซื่อจนโง่หรือร้ายแบบหลงตัวเองโคตรๆ แล้วก็พวกนักเขียนแจ่มใสหน้าเก่าทั้งหลายที่อุดมอีโม
>>505 กูไม่ได้อ่านงานของเค้าช่วงหลังๆนะ คือวิธีการเขียนแบบนี้มันจะถอยหลังลงคลอง อ่านเล่มแรกๆจะสนุกจริง แต่อ่านเกิน5เล่มเมื่อไรจะน่าเบื่อ
เพราะเดาพล็อตได้ เหมือนดูหนังเรื่องเดิมแต่เปลี่ยนตัวละคร ไม่รู้ว่างานหลังๆมันดีขึ้นมั้ยเพราะกูไม่ได้ซื้ออ่าน
อีกอย่างหนังสือของสำนักพิมพ์โซฟามาแพงไป งานของภาคินัยเล่มละเกือบ300 ราคานี้กูซื้อนิยายสยองขวัญของนักเขียนญี่ปุ่นคุ้มกว่าเยอะ
กูเดาว่าค่ายโซฟามันเน้นขายติ่ง ขายเด็กมัธยมที่ยังไม่ค่อยมีโอกาสได้อ่านงานแนวสยองขวัญดีๆอย่างเดอะริง พอโตขึ้นหรือได้อ่านเยอะขึ้นก็เลิกซื้อนะกูว่า
ลวิตร์นี่เรื่องไรสนุกบ้างอะ เห็นโม่งพูดถึงมานานแล้วเพิ่งคิดจะมาอ่าน
>>508 นิทานจักรวาล,ไมรอน
จริงๆในฐานะติ่งก็อยากแนะนำทุกเรื่อง(ด้วยแรงอวยและติ่ง)แต่ดูจะเป็นการน่าหมั่นไส้+ไม่ได้มาตรฐานคนอ่านทั่วไปก็เอาเท่านี้ละกันมึง เป็นเรื่องที่คนไม่ติ่งก็ดูชอบ(อิงจากที่โม่งเคยพูด)
อนึ่งความประทับใจส่วนตัวคือพันธนาการสองเผ่าพันธ์...กูชอบเรื่องนี้สุดในของเขา
ปล.ไมรอนอาจหายยากแล้ว
ถ้าอายุเกิน 17 ไม่ควรซื้อสักเล่ม
ไมรอนหาโคตรยากอะ เว็ปสถากุยังไม่เคยลองดูเลย จริงๆDragon Delivery แอบรอให้พิมพ์ใหม่ แต่คงไม่มีหวัง - -
เห็นคุณเบียร์บอกว่าตัวเองแปลงานใหม่ของกิดเดน แต่ตั้งแต่กูอ่านกังฟูมา กูไม่กล้าซื้องานของคนนี้อีกเลยวะ
เล่นประเด็นจบหักมุมมันฮือฮาดีนะ แต่ถ้าหักมุมเหี้ยแบบเรื่องนี้ก็ไม่ไหววะ
>>512 ต้องดูความชอบมึง
นิทานจักรวาล - การเมืองระหว่างดวงดาวกับอุคมคติ เรื่องโคตรเฟลลงเรื่อยๆ จนตอนจบค่อยมีลุ้นให้พระเอกแฮปปี้ (มั้ง)
ไมรอน - แฟนตาซียุคกลาง อ้างอิงพ่อมดเมอร์ลินของอังกฤษ ถ้ามึงรู้ตำนานเมอร์ลิน คิงอาเธอร์ วิเวียน มึงจะชอบการตีประเด็นใหม่ของคนเขียน ถ้ามึงไม่รู้มึงจะงงว่าพูดเรื่องอะไรวะ
ผู้เสกทราย - ถ้ามึงไม่สำลักวัฒนธรรม,ภาษา,จิตวิทยาอปกติตายก่อน มึงจะเริ่มอ่านสนุกหลังพระเอกเริ่มอ่านหนังสือได้
ดราก้อน - ดูเบาสุดเมื่อเทียบกับ 3 เรื่องแรก แต่มันยัดการค้าขายใส่หัวมึงด้วย
พวกมึง กูเห็นรุ่นน้องโพสเม้นท์บอกว่าอ่านไส้เดือนแล้วรู้สึกเจ็บปวดนักหนา กูยังไม่เตฝคยอ่านหรอกแต่เห็นในโม่งสับแหลก 555 คือมันแค่เขียนเรื่อยเปื่อยให้ยาวๆ วกไปวนมาจะได้ดูอินดี้ไรงี้ป่าววะ กูเลยรู้สึกแปลกๆว่ะที่เห็นน้องแกเม้นท์แบบนั้น...
คนชอบเรื่องนี้ก็มี โม่งก็แค่คนกลุ่มนึง คนที่ดูถูกรสนิยมคนอื่นเพราะแค่ตัวเองไม่ชอบนี่กูว่าดัดจริตกว่าอีก
อืม ก็อย่างที่บอก กูก็ไม่เคยอ่านอะนะ แค่เห็นในโม่งพูดถึงกันเฉยๆ เลยสงสัย 555
Dragon Delivery กับไมรอนมีขายที่เว็บสถาพรนะเพื่อนโม่ง เผื่อใครอยากหามาอ่าน
จากใจคนที่ซื้อดราก้อนกับเว็บสถาเมื่อครึ่งปีมานี้ คุณภาพเล่มกูว่าไม่ค่อยดีเท่าไรของกูพลาสติกตรงปกมันจะลอกแล้วอะมึง แบบเอามือไปโดนตรงขอบนิดหน่อยมันก็เผยอออกมา(แถมมีหน้าซ้ำด้วย) เอาเป็นว่าถ้าทำใจรอใหม่กับ enter ได้กูว่ารอไปเถอะมึง
ปล.กูทำใจกับภาพปกไม่ได้จริงๆ ไอ้เส้นนี้มันเส้นร่างชัดๆเลยนะเว้ย แถมบางจุดลงสีเกินขอบอีก
เพื่อนโม่ง เก็บหนังสือใส่ถุงซิปล็อกนี่ราจะขึ้นปะวะ
ปีใหม่แล้วมีใครอยากแลกหนังสือกับกูบ้าง
เดี๋ยวกูมาลิสแลกกับพวกมึงบ้าง กูยังรอโม่งใจดีเอานิยายจูออนให้กูอยู่นะ
กูจะแลกอะไรดีวะ มีแต่นิยายป้าทมยันตีอะ ใครสนใจมั้ย
มีวาทยกรเลือด ของคามินากะ มานาบุ
อยากเก็บคอนดักเตอร์ วาทยกรเลือดไว้ แต่ถ้าพวกมึงสนใจก่ให้ได้
อ่าวมึน แก้เป็น ยามาเนโกะนะ จอมโจรรัตติกาลนะ
กุอยากเก็บวาทยกรเลือด
ช่วงปีใหม่กูว่างนั่งคุ้ยดูหนังสือนิยายเก่าๆสมัยเป็นเด็กเห่อหมอยที่ซื้อไว้
ก็มาคิดได้ว่า...หลายๆเรื่องนี่นักแต่งมันจะกลับมาเขียนไหมวะ
หรือมันกลับมาเขียนแต่กูไม่ได้ตามต่อ ไม่ก็ไปแอบออกกับสำนักพิมพ์ใหม่/จัดทำขายเอง
อย่าง KA-SHEN เอย
Princess or Prince
ลำนาแห่งห้วงธารา คีตาเริ่มบรรเลง
อะไรจำพวกนี้...
จอมขมังเวทของหลินโหม่วก็...ลืมไปหมดละ
แทบไม่มีเวลาอ่านของเก่าอีกรอบด้วยดิ lol
ไหนๆลองสุ่มค้นมั่ง แม่งเจอเรื่องเซลาเฟียว่ะ เออ เรื่องนี้กูสงสัยมานานละว่าตีพิมพ์ได้ไงวะ ที่น่าสงสัยกว่าคือกูซื้อมาได้ไง 555
กูอยากได้เรื่อง absolute zero สืบสยองเล่ม 1 คือ่านในเน็นแล้วมันค้าง ก็สนุกดีแต่ไม่ได้พีคถึงขั้นอยากซื้อ กูแค่อยากอ่านต่อให้จบเล่ม ใครมีสนใจให้กูมั้ย 5555555 เดี๋ยวกูไปหาก่อนมีไรแลกบ้าง
>>547 http://www.happybanana-online.com/v3/bookstore.php
อ้อ พอจำได้ละว่าซื้อมาได้ไง เห็นเป็นรุ่นน้องที่ร.ร.เขียนถึงช่วยซื้อหรอกนะ เหอะๆ ไม่งั้นคงไม่แม้จะชายตาแลหรอก 555
>>547 ตอนแรกนางเขียนเล่นๆเล่มเดียวจบแนวเจ้าหญิงเจ้าชายออกผจญภัยด้วยกัน จบด้วยการแยกย้าย แค่มีความรู้สึกดีๆกันก็พอทำนองนี้ แต่ไม่รู้ทำไมไหงงอกเพิ่ม ยืดเป็นแนวร.ร.เวทไปได้ กูล่ะสงสัยมาตลอดว่าที่พิมพ์นี่มีใช้เส้นสายป่ะวะ แบบรู้จักกับนักเขียน รู้จักกับบก.ไรงี้ เห็นมีท่าทางคุยๆสนิทๆกันอยู่บ้างหลายคน สมัยนั้นช่วงนิยายเด็กไทยเขียนเพิ่งบูมด้วย สงสัยเลยจับๆคนใกล้ตัวนั่นแหละมาพิมพ์แหง
>>552 น่าจะเป็นเพราะกว่าจะออกคงห่างกันไปหน่อย คนวาดคนเดิมนะ แต่เสือกออกช้าเอง เส้นเขาก็เปลี่ยนไปถึงไหนแล้ว 555 เล่มแรกน่าจะปี49-50มั้งไม่แน่ใจ ก็นานอยู่แหละ ปัจจุบันยังไม่จบ เล่มสุดท้ายแม่งไม่ออกซะที
>>553 ถูก แต่เรื่องนี้กลิ่นบารามอสหึ่งเลยมึง โดยเฉพาะเล่มแรกที่เจ้าตัวบอกเขียนเล่นแต่เสือกได้พิมพ์นี่แหละ เคยเห็นคนแอนตี้อยู่เหมือนกัน
ส่วนตัวว่าเรื่องงั้นๆ ยิ่งเล่มแรกนะ ไม่รู้มีอะไรให้น่าเลือกมาพิมพ์เลยบอกตรงๆ กูเลยอดแอบอคติว่าใช้เส้นความสนิทสนม มีรู้จักคนในอย่างที่ว่าไม่ได้ว่ะ เหอๆ
>>556 ก็นะ แต่กูเห็นน้องแกบอกตอนแรกแค่เขียนเล่นๆภาคเดียวจบ แค่เดินทางไปทำภารกิจแล้วก็กลับบ้านใครบ้านมัน(เล่มแรก)ไง แต่เสือกได้ยืดมีเล่มต่อให้เข้าเรียนร.ร.เวทมนตร์ซะงั้นน่ะ เขียนครั้งแรกตอนอายุสิบสี่ แถมได้รับแรงบันดาลใจจากบารามอสแบบ"เต็มๆ" สุดท้ายก็ไม่ต่างอะไรกับนิยายแนวเจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชาเวอร์ชั่นแฟนตาซีตามสมัยนิยมนั่นแหละน้าและใช่ ออกไม่จบซะที 555
จำได้ประมาณว่าตอนแรกมีการบ้านเขียนบทละครส่งครู น้องแกคลั่งบารามอสเลยเอาเป็นแรงบันดาลใจมาแต่งแต่โครงการก็ถูกพับเก็บไป ต่อมาเห็นแล้วนึกเสียดายเลยเอามาแต่งต่อ ที่กูเกลียดอย่างนึงในนิยายเค้าคือรสนิยมการตั้งชื่อ คือเป็นอะไรกับสระเอและสอเสือมากมั้ย ชื่อหลายชื่ออ่านแล้วออกเสียงคล้ายกันมากๆ หรือชวนลิ้นพันกันชิบหาย บางชื่อก็โทษนะ จืดชืดธรรมดาสุดๆ ไม่เหมาะกับสิ่งที่ตั้งชื่อให้เลย 555
>>559 ไม่น่าใช่นะ นี่ของฟิสิกส์ ต้องบก.เกรทเว้ย น้องแกเขียนขอบคุณพี่เกรทไว้ที่หน้าคำนำเลยนะเว้ย 555 กูไม่รู้นะว่าใช่เรื่องเดียวกันมั้ย แต่ถ้าจะให้บอกก็คงเป็นฟิคแค่เล่มแรกๆว่ะ โดยเฉพาะเล่มหนึ่ง น่าจะเป็นช่วงเฟรินออกเดินทางไปซ่อมแหวนหรือดาบอะไรซักอย่สงที่ร้าวช่วงบารามอสเล่มสองมั้งน้องก็แต่งให้นางเกเดินทางไปซ่อมคริสตัลร้าวแทน แต่กลิ่นคือชัดสุดๆ เล่มหลังๆถึงค่อยฉีกไปแนวของตัวเองหน่อย แต่กูเจอเลียนแบบตะงแต่แรกก็หมดศรัทธาว่ะ ถึงจะบอกว่าแรงบันดาลใจก็เหอะ
ลงหนังสือกูมั่ง
ซีรีย์ Write to kill สนพ.โซฟา
เล่มที่1 The Script อาถรรพ์ต้นฉบับผี.
เล่มที่ 2 The Writer อักษรสีเลือด
เล่มที่ 3 The Pen ปากกาคนตาย
สนพ.นานา
เรือนสาบสาง
ไทรสังหาร
The school โรงเรียนหลอกหลอน
สนพ.Freefrom
จดหมายจากเกียวโต
สนพ.ต้นไม้
อาทิมิสฟาวส์ ภาค1
สนพ.Spring
เท็ดดี้หมีขี้เหร่ท่องโลก
สนพ.สารคดี
เรียงความของ13นักโทษประหาร
สนพ.เนชั่น
วิธีของเนลสัน เมเลนดา
สนพ.มติชน
ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต
สนพ.Humingpost
กุหลาบเลือด
สนพ.ENTER
คู่ฆ่าล่าลวง
โรงเรียนแห่งความมืดเล่ม 1-2
สนพ.Ernest
ปาปริก้า
ใครสนใจเมล์มา prang_blackberry@Hotmail.com
เพื่อนโม่งมีใครเคยอ่าน Lost เสียงเรียกของทองคำ บ้างไหม พอดีกูสนใจแต่อยากเช็คหน่อยว่ามันสนุกน่าสนใจไหม
>>561 แค้นดิ 555
อุตส่าห์ชื่นชมว่าเด็กกว่าแต่เขียนนิยายได้ มารู้ทีหลังว่าลอกมา ถึงจะแรงบันดาลใจแต่ยังไงความรู้สึกมันเสียไปแล้วอ่ะ แถมที่ทุกวันนี้ได้ดีมีแฟนคลับก็เพราะลอกบารามอสมาแท้ๆ เหอะ ได้ข่าวว่าเป็นสมาชิกกลุ่มกนังสือทำมือดรีมเมกเกอร์ที่ชื่อดังๆในเด็กดีด้วย (เห็นบทสัมภาษณ์ล่าสุดปี57 ปัจจุบันเลยคิดว่ายังทำอยู่) แหม่ ที่เข้ากลุ่มนักเขียนทำแบบนี้ได้ก็เพราะบารามอสไม่ใช่รึไง เอาความเชื่อใจชั้นคืนมานะ!!! ผ่านไปกี่ปีก็แค้นไม่หาย ฮ่าๆ
เรื่อง Plot ก๊อปนี่สำหรับกูเรื่องเล็กมาก...
มันอยู่ที่การนำเสนอและการสร้างมิติของตัวละครภายในเรื่องมากกว่า
รวมไปถึงการพรรณนาและบรรยายว่าสนุกและมีเอกลักษณ์พอหรือเปล่า
ขอแค่ในส่วนนี้ไม่ได้ลอกชาวบ้านมาก็ถือว่าโอเค
ต้องมีนักฆ่ามาโรงเรียนด้วยสิวะ 555
จริงๆ กูก็ข้องใจนะว่าเด็กอายุ 15 ทุกคนดูมีอาชีพกันแล้ว เกือบทุกคนจะมาแนว พ่อค้าแห่งเวเนซูเอล่า นักฆ่าแห่งโพนี่แลนด์
แถมโปรในวิชาชีพตัวเองอยู่แล้วด้วย แล้วพวกมึงยังมาเรียนกันทำไมวะ? ค่าเรียนก็ไม่ถูก เรียนๆไปก็ไม่เห็นจะตรงกับวิชาชีพ ต่อสู้ ประวัติศาสตร์ สมุนไพร เวทมนตร์งี้ ถึงมันจะได้ใช้บ้างก็เถอะ
แต่ถ้ามันหวังมาเรียนเอาเส้นสายกูเห็นด้วยนะ แค่มึงสุ่มหาเรื่องใครสักคนในโรงเรียน มีโอกาสเกินครึ่งที่จะไปโดนเจ้าหญิงเจ้าชายสักประเทศ
>>566 จริงดิ ขอบคุณมากมึงงง กูไม่ค่อยสนเรื่องสภาพหนังสือเท่าไหร่อะ(ขอโทษ55) ขอแค่เนื้อหายังอยู่ครบกูก็โอเคละ
เออ นิยายที่กูมีนะ สนใจก็ติดต่อมาทาง sadahara22@gmail.com
-โดมิโนแสงดาว(นานมีAdult)
-ตะคริว ณ นิ่วใจ(a book)
-โลกจิต(a book)
-นิทานมืด(ทาเล้นต์1)
-บ้านวิเศษของพ่อมดนอร์แลนด์(มติชน)
-ปราสาทกลางเวหา(มติชน)
-Pines เมืองลวง คนเลือน((MAXX Publishing)
กูไม่โอเคเรื่องก๊อปพล็อตนะ มันเป็นส่วนหลักของการสร้างจักรวาล
>>569 เออ ลืม 555 กูก็ว่าเห็นอายุสิบห้าแต่ทำนิสัยไม่สมอาชีพมาหลายคนหลายเรื่องละแถมจะมาเรียนเพื่อ แค่หาเส้นสายมันคุ้มจริงเหรอวะ หรือเค้ามีทุน กูเคยคิดเล่นๆนะ แบบพล็อตตัวเอกเป็นลูกชาวบ้าน ไม่ได้อยากเรียนร.ร.เวทห่าอะไรเลย แพงก็แพงแต่พ่ออยากให้เข้าจะได้มีเส้นสายกับเค้าบ้าง แล้วเค้าจะมีให้ทุนเรียนดีแต่ต้องสอบเอา ตัวเอกก็นะ ต้องฉลาดแหละ เลยไปสอบแล้วติด เวลามีเรื่องอะไรก็ต้องไปช่วยเขาทำภารกิจต่างๆ อารมณ์นักเรียนทุนอะ ต้องมีทำงานทดแทนคืนให้ด้วยไรงี้เลยเป็นเหตุให้ต้องผจญภัย ไม่ใช่ไปป่วนๆ หาเรื่องใส่ตัวเอง 555
>>572 กูอยากอ่านพลอตแนวนี้บ้างว่ะ แต่งมาเลย กูจะรอ น่าสนใจดี
เบื่อแนวตัวเอกเหมือนเป็นคนธรรมดาแต่จริงๆเป็นเจ้าหญิงมีเหตุต้องถูกพาไปเลี้ยงนอกวัง เข้าร.ร. มาก็เก่งชิบหาย อีกแบบก็เป็นไม่เก่ง แต่แก่นแก้ว สร้างความปวดหัวให้พระเอกตลอด ถ้ามาแนวปลอมตัวเป็นชายต้องได้อยู่ห้องนอนเดียวกับพระเอก
ส่วนพระเอก ต้องมีนิสัยเย็นชา ถ้าไม่ใช้เวทแนวน้ำแข็งก็ต้องเป็นความมืด ชอบอยู่เงียบๆ พูดน้อย แต่แพ้ทางนางเอกตลอด มักเป็นเจ้าชายและเก่งยิ่งกว่าอ.
และทั้ง2 คนก็มักจะได้อยู่กลุ่มเดียวกัน ไปผจญภัยกับเพื่อนร่วมก๊วน หาเรื่องใส่ตัว แหกกฎร.ร. ไปยุ่งกับของวิเศษในตำนานแล้วก็กู้โลกจนได้ดี
ว่าแต่มีแฟนตาซีแนวร.ร. ที่นิสัยพระเอกนางเอกกลับกันบ้างมะ
เอานางเอกเย็นชา ไม่ค่อยพูด กับพระเอกสดใสราวกับดวงตะวัน(แต่ไม่ซื่อบื้อ)อ่ะ
กูจะลองๆดูละกันแต่ไม่รับประกันนะว่าจะสำเร็จมั้ย 555
แฟนตาซีช่วงนี้ต้องแนวเกิดใหม่ ดีกว่าไหม
ลองแต่งให้เกิดมาเป็นเจ้าหญิงยกยากดูสิ...น่ารุ่งกว่า
แนวโรงเรียนมันดร็อปลงเยอะวะ
มึงลองแต่งแบบนางเป็นสาวยุคใหม่ มั่นใจตัวเองสุดๆ
แต่ตายแล้วไปเกิดอีกโลกที่เป็นแฟนตาซี
ใช้ความรู้ในโลกเก่า ไปซ่าในโลกใหม่
แนวนี้น่าจะเกิดกว่าวะ
เออ ทำไมต้องเป็นร.ร.เวทวะ คือร.ร.มันสอนหลายอย่างไม่ใช่เหรอ งั้นถ้าไม่ชื่อนี้จะชื่ออะไรดีล่ะ
กูเคยอ่านเจอแนวโรงเรียนเวทมนตร์ที่ไม่เชิงว่าเวทมนตร์เท่าไหร่ แค่ทุกคนมีพลังเวทย์แต่มานั่งเรียนเลข วิทยาศาสตร์ มาปวดหัวกับเรื่องสอบแล้วก็แบ่งสายการเรียนอะไรงี้ แต่คนเขียนดอง กูช้ำใจ
>>584 บอกตรงๆ เดี๋ยวโม่งกูแตก ใบ้ให้ว่านางเอกความจำเสื่อม แนวแฟนตาซีโรงเรียนเวทมนตร์ เนื้อเรื่องเข้าสู่ภาคสาม
ปล.สองเจ้าชายนี่เป็นตัวเอกไม่ใช่พระเอกนะ และถึงจะแนวโรงเรียนเวทแต่ก็ไม่มีการสอบเข้าที่ต้องบู๊กัน จะพาโรดี้ตั้งแต่การสอบเข้ายันตัวละครอะมึง (ความจริงกูขี้เกียจคิด) นางเอกขี้เหวี่ยงและซื้อบื้อ พระเอกเย็นชา ตัวเอกเก่ง เทพ เกรียน แมรี่ซู ไอ้พวกนี้กูจับสนองนี้ดแต่งให้คาร์มันขัดกันและมีเบื้องหลังรั่วๆ หมั่นไส้เรื่องคนอื่นมานานเลยจัดการยำนิยายตัวเองให้หลุดโลกไปเลย พิมพ์แล้วชักไม่อยากให้พวกมึงหานิยายกูเจอว่ะ...
>>586 จริงๆกูอยากเห็นเรื่องตามขนบที่มองด้วยสายตาคนนอกเหมือนกันนะ
แบบไอ้พวกตัวเอกก็กู้โลกกันไป แต่คนเล่าเรื่องเป็นคนวงนอก ไม่ได้ แมรี่ แกรี่ ซูเหมือนพวกนั้น เพราะงั้นก็มองโลกตามความจริงไป แอบเสียดสีหรือด่าตัวเอกในใจ เพราะไอ้พวกตัวเอกแม่งเหมือนจะดีแต่จริงๆก็แหกกฎ ก่อเรื่อง แต่เพราะก่อเรื่องจนได้ดีคนถึงชม แต่ปัญหาบางส่วนก็ทิ้งไว้ให้ทางร.ร.จัดการ และหนึ่งในคนที่ต้องตามเช็ดก็คือนายนักเรียนทุนนี่แหละ
โทษที เมื่อกี้ว่าจะคุยอีกเรื่องแต่ลืม มานึกได้ตอนกดโพสไปแล้ว
>>578 แนวเกิดใหม่ในโลกแฟนตาซีก็น่าสนใจดีว่ะ แต่กูขอพูดตามตรงนะ สมมติว่าตัวกูเองไปเกิดใหม่ในต่างโลก จะจีนย้อนยุครึแฟนตาซีจ๋า กูมั่นใจว่า กูก็ง่อยเหมือนเดิมว่ะ 55 แบบว่า ไอ้ที่เรียนๆมานี่ใช้ในชีวิตจริงได้สักกี่อย่างวะ
ทำได้แค่คำนวณแบบง่ายๆนี่แหละ สังคมประวัติศาสตร์เรียนแล้วและลืมแล้ว วิทยาศาสตร์เรอะ ให้กูไปผลิตยาแบบหมอทะลุมิติ รึผลิตดินปืนระเบิด กูก็ทำไม่เป็นวะ
>>588
ตัวละครสมมุตินะเพื่อนโม่ง เพราะมันคือนิยาย
อยากได้หญิงแกร่ง มึงก็ลองสมมุติให้เป็นสาวสวยนางงาม เรียนมวยไทย คาราเต้สายดำ ไปสิ
อยากได้หญิงฉลาด มึงก็ลองสมมุติให้เป็นนักธรุกิจใหญ่ที่เป็นลูกสาวเจ้าของบริษัทยักษ์คุมลูกน้องนับพันคนมาก่อน
อยากได้หญิงที่พูดเก่ง มึงก็ลองสมมุติให้เป็นนักการทูตสาว
ไม่เห็นยากเลย พร็อตเรื่องไปง่ายและมีเหตุผลกว่า
>>589 อือ คงต้องเป็นงั้นจริงๆนั่นแหละ แต่กูอยากเห็นคนธรรมดา (เช่นพนักงานกินเงินเดือนทั่วไป รึนักศึกษาฝึกงานหง่าวๆ) ที่หลุดเข้าโลกแฟนตาซี แล้วมีไหวพริบแบบพื้นๆ เอาตัวรอดแบบมึนๆ มีคนรอบข้างช่วย แต่บางทีก็นึกอะไรแปลกๆที่คนโลกนั้นเขาไม่คิดกันจนฝ่าวิกฤตร่วมกันได้ ไม่ใช่เก่งกาจเวอร์อะ แต่กูแต่งเองไม่เป็น และคนแบบนั้นมันจะเป็นตัวเอกไม่ได้ซะด้วยสิ...
ที่กูเคยเห็นพระเอกที่ค่อนข้างเป็นคนธรรมดา(ใช้คำว่าค่อนข้างเพราะแม่งก็มีความพิลึกอยู่ดี) คือ ท่านเจ้าของร้าน หรือไอ้หน้าจืด โซลโท จากเรื่อง dragon delivery อะ
>>590 ใช่มะ กูอยากอ่าน ใครก็ได้แต่งมาที
แนวไปต่างโลกนี่เบื่อของพี่ยุ่นกับพี่ไทยแล้ว
ไปอ่านพยัคฆราชซ่อนเล็บนี่อย่างมัน
เฮ้ โม่งที่ขอแลกทวิภพกู เกรงว่าจะให้ไม่ได้แล้วว่ะ กูรื้อตู้หนังสือดู แม่กูเอาไปทิ้งเพราะปลวกแดกไปแล้ว เอาเรื่องอื่นไปแทนมั้ย
ระหว่าง ผลาญ กับ ปฐพีไร้พ่าย กูควรซื้อเรื่องไหนดีวะ พอดีงบน้อยตั้งใจจะซื้อเรื่องเดียว
เห็นคุยเรื่องพล็อตเกี่ยวกะตัวประกอบที่เป็นตัวดำเนินเรื่อง นึกถึงการ์ตูนเรื่องนึงที่เคยอ่าน แนวแก๊กซีเรียส เหมือนจะเป็นโดจินล้อเกมอะไรสักอย่าง
ตัวเอกเป็นชาวบ้านเฝ้ากองไฟ วันนึงเจอผู้กล้ามาป่วนแถวนั้นเลยอยู่ไม่ได้ต้องหนีไปอยู่ที่อื่น
อีท่าไหนไม่รู้(ลืม)มาเจอดาบในตำนาน แต่หยิบมาใช่ไม่ได้ เพราะผู้กล้าเท่านั้นที่จะหยิบมาใช้ได้
(ในเรื่องตัวเอกก็จะบ่นพวกผู้กล้าไปเรื่อย ว่าทำความวุ่นวายไรไปมั้ง)
นึกแล้วอยากอ่านต่อว่ะ แต่กุจำชื่อเรื่อง จำรายละเอียดอื่นๆไม่ได้เลย จำได้แต่ว่าลายเส้นกากมาก มีใครคุ้นบ้างมั้ยวะ
>>604 จริงๆก็นอกกระทู้หนังสือนะแต่ขอตอบหน่อย มันล้อเกมดราก้อนเควส 4 หรือ 5 นี้แหละ
http://www.nekopost.net/manga/2623
กูขอระบายหน่อย คือไม่รู้จะคุยกับใครได้
เอาจริงกูไม่กลัวโม่งแตกนะ คนที่เคยรู้จักกูมาอ่านคงจำได้ แต่กูไม่แคร์อะไรล่ะ
กูอยากเขียนนิยายมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่เขียนไม่ค่อยจบ พอขึ้นมหาลัยก็เลวร้ายลงเรื่อยๆ
กูเลือกสายวารสาร เพราะจะได้เขียนเต็มที่ เทอมที่แล้วแม่งก็ได้เขียนเต็มที่จริง ๆ สารคดี ข่าว สารคดีเชิงข่าว บทความวิเคราะห์ไม่รู้กี่บทความ
แต่พอมาตอนนี้กูเขียนนิยายไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ทั้งที่กูอยากเขียนมาก กูไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงจะเขียนอะไร
จะสานต่อนิยายเก่าก็ไม่รู้จะเขียนอะไรต่อ คิดว่าจะเริ่มเขียนอะไรง่าย ๆ ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากอะไร
จากที่เคยมีพล็อตเป็นสิบ ตอนนี้คือแบลงค์มาก เหมือนกูไม่มีแรงบันดาลใจในการเขียน ไม่มีกำลังใจในการเขียน เขียนไปก็ไม่มีคนอ่าน
ผิดกับตอนทำข่าว (ขอเรียกได้ข้างต้นโดยรวมว่าข่าว) ที่กูมีไฟมาก ถ้ามีข้อมูลครบ คืนเดียวกูเขียนสารคดีได้เลย 2500 คำ
หรือไม่ก็ใช้เวลาทำ ใช้เวลาหาข้อมูลแค่ไม่นาน ไม่เกิน 3 สัปดาห์ได้งานแน่ ๆ
แต่มันผิดกับที่กูฝันไว้หมดเลย... กูอยากกลับไปเขียนนิยาย แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ใครมีคำแนะนำบ้างมั้ย
หรือกูควรจะกลับไปอ่านนิยายเยอะ ๆ ? เพราะช่วงที่ผ่านมาก็อ่านแต่ทฤษฎีวิชาการ ห่าเหวอะไรก็ได้ที่จะเอาไปเขียนข่าวได้
ตอนนี้กูรู้สึกตันมาก อับจนหนทางมาก ๆ มันจะเป็นไปได้หรือวะที่คนเราย้ายสายการเขียนแล้วกลับไปเขียนนิยายแบบใช้จินตนาการไม่ได้เลย
>>609 มึงก็จิ้นอะไรใกล้ตัวก่อนก็ได้ หนุ่มนักข่าว สาวบก.ไรงี้ ใส่ความรู้ทางวิชาชีพเฉพาะที่มึงเรียนเข้าไปว่ามันมีขั้นตอนการทำงานยังไงที่คนทั่วไปยังไม่รู้ สองคนนี้ทำงานด้วยกัน ชื่นชมความสามารถกันจนกลายเป็นรักไรงี้ หรือเขียนบ้าเขียนบออะไรก็ได้ที่อยากเขียน ไม่ต่อเนื่อง ไม่ประติดประต่อก็ได้ กูใช้วิธีนี้ล่ะเวลาตันๆอะ
>>609 มึงเสพติดผู้ติดตามไง เขียนข่าวสารคดีมึงรู้ว่ามีคนอ่าน และที่มึงว่ามามันคือเรื่องที่เป็นข้อเท็จจริงอยู่แล้ว มึงแค่เสริมเข้าไป มันต่างกับเขียนงานตัวเอง กูว่าถ้ามึงอยากกลับมาเขียนจริงๆ มึงก็ต้องรับความจริงนะ มึงต้องเริ่มเขียนเลย มึงโตแล้ว เก่งขึ้้นแล้ว จะกลับไปหาพล๊อตง่ายๆ ทำไม มึงเขียนยากๆได้แล้ว แต่สิ่งที่มึงได้รับบางทีมันก็เป็นความเงียบ ไม่มีการตอบรับจากนักอ่าน มึงทำใจได้ไหม มึงเขียนไปอาจไม่ดัง ไม่มีใครพูดถึง มึงรับได้รึเปล่า ถ้ามึงรับได้มึงก็กลับมาเริ่มเขียนเลย แต่กูแนะนำว่ามึงต้องเริ่มจากเขียนสิ่งที่มึงรู้ละเอียดมากๆนะ มึงทำงานเกี่ยวกับข้อเท็จจริงมา มันจะเพ้อไม่ค่อยออก มึงควรใช้แกนทีมีความเรียลมาเกี่ยว แล้วมึงจะไปได้ แต่ถ้ามึงไปไม่ได้ มันก็มาจากใจมึงน่ะนะ ใจมึงเริ่มรับไม่ได้กับการที่จะทำงานออกมาแล้วไม่มีคนแล
>>611 ขอบคุณมึงมาก ๆ สิ่งที่มึงพิมพ์มาคือยาแรงที่กูต้องการจริง ๆ
กูหลงละเมอเพ้อพกไปสมัยตอนยังเด็กที่เขียนอะไรก็มีคนอ่าน มีแฟนคลับติดตาม มีคนอวย คนรออ่านตลอด
แต่กูหายไปนานมาก ไม่แปลกเลยที่คนจะจำไม่ได้และไม่แปลกที่จะไม่มีใครกลับมาอ่านงานกูแล้ว
มันคงจริงอย่างที่มึงพูดว่ากูเสพติดผู้ติดตาม เสพติดการที่มีคนชมว่างานกูออกมาดี เพราะมันหมายถึงว่ากูมีศักยภาพ
ซึ่งไอ้ตรงนี้มันเป็นตัวขับเคลื่อนกูมาโดยตลอด เหมือนเป็นปมชีวิต ตอนเขียนนิยายสมัยม.ปลายกูก็เขียนต่อไปได้ด้วยคนอ่าน
แล้วตอนนี้การทำงานสายข่าวของกูมันไปในทิศทางที่น่าพอใจ จนกูรู้สึกภาคภูมิใจกับการเขียนข่าวมาก ๆ แต่มันก็โหวง ๆ ที่ทิ้งนิยายไปเลย
กูเขียนแฟนตาซีไม่ได้เลยสักนิด โดยเฉพาะแนวโลกต่างมิติ จนกูคิดว่ากูควรจะเขียนอะไรที่มันเรียลมาก ๆ ถึงจะไปรอด
เรื่องประกวดที่ >>612 แนะ กูเคยประกวดมาแล้ว ได้รางวัลมาแล้ว แต่ไม่เป็นผล กูเฟลกว่าเดิมอีก เฟลมาก ๆ เพราะกูไม่สานต่อให้จบ
กูรู้สึกเหมือนเคยขึ้นจุดสูง แล้วตอนนี้ตกลงมาจุดต่ำสุด แต่กูไม่อยากจบแค่จุดต่ำสุดตรงนี้ กูเชื่อว่ากูกลับไปได้สูงมากกว่าเดิม
ขอบคุณโม่งที่ตอบกูมาก ๆ นะ กูจะกลับไปเริ่มใหม่ จริง ๆ มันไม่ได้มีอะไรเลย มันก็แค่เริ่มต้นใหม่เหมือนเริ่มจาก 0
กูในตอนนี้เก่งกว่ากูในตอน 16 ด้วยซ้ำ ถ้าวันไหนเฟล ๆ กูจะกลับมาอ่านที่โม่งตอบกู
ใครจะด่า ทับถม สมน้ำหน้ากูก็ได้ กูจะไม่ยอมแพ้หรอก
>>614 มีแต่งานสมัยละอ่อนซึ่งมันก็ได้แค่สเกลเด็กม.ปลายเขียนอ่ะมึง พอขึ้นมหาลัยมาไม่มีอะไรที่เขียนเป็นชิ้นเป็นอัน แถมงานเก่า ๆ ก็ไก่กาแบบเด็กเขียน จูนิเบียวจนอายที่จะอวด
ที่พอเป็นจะให้อ่านได้ เป็นวายแบบจักร ๆ วงศ์ ๆ แต่ภาษาฟุ่มเฟือยมาก พร่ำพรรณนามาก เขียนสนองนี้ดตัวเองกับเพื่อนล้วน ๆ เลยส่งให้อ่านกันในวงเพื่อน เคยลงบอร์ดเล็ก ๆ แต่โดนบอกว่าอ่านไม่รู้เรื่อง ก็เลยยังไม่ลงที่ไหนเพิ่ม คิดว่าเขียนดองไว้เยอะ ๆ แล้วค่อยลงดีกว่า กูเขียนเรื่องนี้ช้าด้วยแหละ ลองเอาไปดูแล้วกัน ;-;
>>616 กูจะไม่วิจารฯ์งานมึงนะ แต่กูมีเรื่องเล่าให้ฟัง
มีนักเขียนคนนึงบอกว่า เวลาเขียนงานสมัยใหม่ศัพท์ทีต้องสังเคราะห์อีกรอบแล้วเอามารวมเป็นประโยค มันอาจทำให้นักอ่านที่เกิดในยุคดิจิตอลรู้สึกไม่ใช่สิ่งที่เขาหา ที่ยุคสมัยก่อนศัพท์แสงเยอะได้เพราะคนไม่เร่งรีบเหมือนปัจจุบัน การอ่านศัพท์สูงคนที่อ่านได้และรื่นรมย์กับมันน่ะมี แต่คนกลุ่มนี้ตือส่วนน้อย ระดับอาจารย์หรือเอกภาษา ซึ่งต้องดูว่าคนกลุ่มนี้คือคนที่มึงต้องการจะสื่อสารหาเขาไหม ถ้าไม่ใช่ มึงต้องลองคิดใหม่ เขาว่ากันว่า คนเรามักอยากอ่านงานของคนที่มีอายุมากกว่าเสียส่วนใหญ่ ตีว่ามึงอายุ 30 คนที่จะเสพงานมึงควรอายุต่ำกว่านั้น นอกเสียจากว่าประสบการณืชีวิตมึงหนักหนาสาหัสแบบน้อยคนนักจะได้ได้เจอ อายุประสบการณ์มึงจะสูงกว่าตัวเลยปี และเมื่อมองไปที่อายุผู้รัยสารของมึง มึงคิดว่าภาษาที่ต้องสังเคราะห์หลายชั้น กับคำธรรมดาสามัญ อะไรจะจับใตได้มากกว่ากัน
อันนี้เผื่ออยากอ่านเล่น ๆ สกู๊ปเขียนไว้ตอนฝึกงาน มันเป็นออนไลน์พอดีบวกกับมันไม่ลงชื่อคนเขียนเลยพอจะให้อ่านได้ มีอีกหลายชิ้น แต่ขี้เกียจขุดแล้ว...
http://www.thairath.co.th/content/505497
http://www.thairath.co.th/content/510754
http://www.thairath.co.th/content/518027
>>617 เข้าใจที่สื่อนะ รู้ตัวเหมือนกันว่าที่แปะลิ้งค์ไว้มันอ่านยาก ภาษาประดิษฐ์มาก ๆ แต่ขอดีเฟนด์ตัวเอง เรื่องนี้เขียนตามใจตัวเองจริง ๆ ตอนนั้นมันมีฟีลเขียนเพราะอยากให้คนอ่านมาตลอด พอถึงจุดหนึ่งกูเขวอ่ะ เลยอยากเขียนแบบสนองนี้ด
เข้าใจความเป็นยุคโลกาวิวัฒน์ที่คนอ่านน้อยลง คนเสพอะไรที่เน้นความเร็วกระชับฉับไวมาก ๆ พฤติกรรมคนมันเปลี่ยนตามเทคโนโลยี กูเองก็อยากจะเขียนอะไรที่คนเจนนี้อ่านสนุกเหมือนกัน พยายามอยู่
ขอบคุณที่ชมเรื่องข่าวนะ 5555
>>609 กูรู้สึกคล้ายๆกันว่ะ ตอนเด็กๆรู้สึกสมองไบรท์มาก เขียนอะไรก็ลื่น ไม่ต้องสนอะไร พอเริ่มโตก็เรียนด้านเขียนๆนี่แหละ แต่พอจบมาแม่งเสือกความคิดหดเขียนอะไรไม่ออกว่ะ รู้สึกว่ากังวลไปหมด นี่จะอ่านรู้เรื่องมั้ย จะมีเหตุผลพอรึเปล่า มันหลุดโลกไปมั้ย บลาๆ ประมาณกูไม่สามารถปล่อยจินตนาการให้ไหลได้เหมือนเดิมแล้วว่ะ ก็พยายามไม่คิดมากนะ แบบอยากเขียนอะไรก็เขียน ทำให้เสร็จก่อนแล้วค่อยมาแก้ก็ได้แต่ก็ไม่สำเร็จซะที ปัจจุบันเลยไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน รู้สึกห่างหายจากการเขียนเหลือเกิน...
นิยายถ้ายึดหลักเหตุผลมากไปก็หมดสนุกวะ
เพราะคนอ่านชอบอะไรที่มันเพ้อฝันหน่อยๆ หลุดจากกรอบชีวิตประจำวันบ้าง
แต่ถ้าเวอร์มากไปก็ไม่สนุกเหมือนกัน ภาษาเขียนถ้าอ่านยากมากมันก็ไม่สนุกอีก
กูเคยเขียนสารคดีไว้ แต่มันตีพิมพ์ในวงแคบแบบว่าหนังสือพิมพ์คณะ
อยากเผยแพร่วงกว้าง เคยติดต่อกับอิศราไว้ แต่มันจะไม่ออกมาเป็นสารคดีแบบนี้ เขาอยากได้เข้ม ๆ สไตล์อิศรา (ซึ่งกูยังรีไรท์ไม่เสร็จ T_T)
กูเลยเอาสารคดีที่เคยเขียนมาแปะในโม่งแล้วกัน
มันไม่ได้วางเลย์เอ้าท์ เป็นแค่บทความในหน้าเวิร์ด อันนี้กูคิดว่าตัวเองทำงานออกมาได้ดี
https://docs.google.com/document/d/16vH0KsjcJOFu1SOpfelGeSrpK_LwiN3Uzn8xpdZErE0/edit
แค่เสนอนะ อย่าด่า
คือ ตั้งกระทู้ใหม่เกี่ยวกะนักเขียนไปเลยดีมั้ย
มันชักไม่ใช่กระทู้หนังสือแล้วปะ
กูว่ากระทู้เมดสนุกกว่านะ นายท่านมาเซตินี่ขวัญใจกูเลย
เห็นมึงเขียนแล้วกูก็นึกถึงตัวเองอยู่55 เมื่อก่อนกูเขียนแบบลื่นมากก ฟิตมาจากไหนไม่รู้เขียนหนังสือเล่มนึงจบภายในวันที่คิดพล็อตเลย แต่กูเขียนไปเขียนมากูก็เริ่มกลัวอะ เพราะกูเขียนโดยสัญชาตญาณล้วนๆ เป็นแค่เซ้นส์เลยว่าน่าจะจบตรงนี้ อะไรตรงนี้ ถ้าจะมีอะไรเพิ่มเติมก็แบบวางโครงเรื่องคร่าวๆ เขียนรายละเอียดโลกที่คิดไว้ อะไรทำนองนี้ แต่กูกลัวว่าซักวันสัญชาตญาณ เซ้นส์ตรงนั้นมันจะหายไปอะ เพราะงั้นกูเลยอยากแก้ไอ้เวลาเขียนตามใจตัวเองอะ กูกลัวว่าซักวันกูจะเขียนอะไรอีกไม่ได้..
รีวิวนิยายดอกปอปโดยพี่เว็บ โม่งคนไหนอยากตัดสินใจก่อนซื้อไปลองอ่านดูสิ กูเพิ่งเห็นในซีเอ็ดบ้านกู มีลดราคา 10% แต่กูขอผ่าน แพงไปสำหรับที่รองขาโต๊ะว่ะ
http://www.dek-d.com/writer/39607/
ว่าแต่ชื่อตัวละครเพกาซัสแม่งแปลกทั้งชื่อและนามสกุลเลยว่ะ มีแต่ชื่อกลางที่ปกติสุด
>>632 >>634 ไม่ใช่กูไม่อยากทำ เคยทำแล้วด้วยซ้ำ แต่กูในตอนนี้ยังเข้าไม่ถึงแหล่งข้อมูลจนทำให้เรื่องมันสมบูรณ์
ข้อมูลในโม่งไม่พอ ไม่มีน้ำหนัก ส่วนพวกนายท่านพอเวลาสัมภาษณ์จริง ๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะยอมให้สัมภาษณ์ แล้วพวกที่ยอมก็ตอบแบบเซฟตัวเอง
ร้านเมดยิ่งไปกันใหญ่ ไม่ตอบ คนที่ให้มาตอบก็ไม่ใช่พระราชา เมดก็ไม่ให้สัมภาษณ์ถ้าไม่อยู่ภายใต้การดูแลของร้าน
ติดต่อเองนี่หมดสิทธิ์ ทั้งคนที่ลาออกแล้วทั้งคนที่ยังทำงานอยู่ ทั้งที่บอกว่าจะปิดบังตัวตนให้ ไม่มีใครอยากคุยด้วยทั้งนั้น
แถมถ้ายอมคุยก็ตอบแบบเซฟมาก ๆ เพราะว่าไม่อยากมีปัญหากับทางร้าน กูมีข้อมูลบางอย่างแต่เปิดเผยมากกว่านี้โม่งแตกแบบเดินเข้าร้านไม่ได้แน่ ๆ
จะเก็บร้านเมดไว้ เผื่อว่าสักวันหนึ่งจะทำสกู๊ปเจาะลึก รอทำงานองค์กรที่มีอิทธิพลหรือว่าอุดมการณ์สูง ๆ ก่อน
เคยเสนอตอนทำไทยรัฐแม่งก็ไม่สน เพราะว่าไทยรัฐเคยโปรโมทให้ร้านเมดด้วยมั้ง
กูอยากอ่านนิยายที่เล่นกับ 4th Wall ว่ะ
มีเรื่องที่น่าอ่านไหมวะ ของไทยยิ่งดี
นึกถึงมังงะของอะดาจิ ตัวละครมีเล่นบ้าง แต่หลักๆตัวนักเขียนนี่แหละ ไปโผล่ในเรื่อง
มีเรื่องอะไรที่มันคล้ายๆหลายชีวิตของคึกฤทธิ์มั่งมะ แบบ...ฉายให้เห็นปูมหลัง วิถีชีวิตของแต่ละคนก่อนจะมาอยู่ในที่เดียวกันอะไรแบบนี้อะ
อยากอ่านอะไรเกี่ยวกับatheistอ่ะครับ
ใครพอมีแนะนำบ้าง ไทยก็ได้นอกก็ได้
SE-EDแถวบ้านกูเอาหนังสือสตีฟจอบมาลดราคา 60% ว่ะ แปลกใจเหมือนกันที่มันขายไม่ออกขนาดนี้เลยเหรอวะ
มมล. คือใครวะ โม่งรู้จักปะ เห็นในมู้พันทิป
>>659 เป็นนักเขียนนิยายวายคนนึง ที่เปิดจองหนังสือเป็นบ็อคเซ็ต ราคาไม่ใช่น้อยๆ 1500-3000 นี่ล่ะกูไม่แน่ใจ ก็มีคนไปจองนิยายนางเกือบพัน ยอดรวมก็หลายแสนน่าจะถึงล้าน คนถามว่าจะพิมพ์จะจัดส่งเมื่อไหร่นางก็บอกว่าทำอยู่ แล้วก็หายต๋อมไป ต้องขู่ว่าจะไปแจ้งความ นางถึงจะโผล่ออกจากรูมาเป็นระยะ บอกว่าทำอยู่นะตะเอง แต่มันยังไม่เสร็จ ระยะเวลาน่าจะผ่านมาปีกว่าได้ นิยายนางก็ยังไม่เสร็จและไม่มีวี่แววว่าจะได้พิมพ์นะจ๊ะ
ลองไปหาในอากู๋ เจอเพจด้วยว่ะ พอเรื่องถึงพันทิปรีบออกมาแถ-ลงเลย เจอแฟนคลับสาปส่งกันระนาว แสดงว่าพันทิปน่ากลัวกว่าบันทึกประจำวันสินะ...
กระทู้ไหนอะ อยากเสือกด้วย
เฮ้อ.. ทีนิยายจีนเปิดจองก่อน โอนเงินก่อน รอตั้ง 3-4 ปีรอได้
แต่นี่แค่ครึ่งปี
อย่างว่า.. บารมีไม่ถึง
ถามหน่อยนะ มันมีหนังสือเกี่ยวกับภาษาดอกไม้บ้างมั้ย
>>679 กูก็อยากแจ้งเรื่องให้สรรพากรตรวจสอบเหมือนกัน กูเกลียดนักเขียนอยู่คนมันคุยว่ารายได้เกินล้านทุกปีแต่ไม่เคยเสียภาษี ใครรู้ว่าแจ้งยังไงบอกที กูเคยไปถามสรรพากรเขตบ้านกู เจ้าหน้าที่บอกแค่ล้านเดียวไม่มีใครตามเรื่องมันไม่เยอะแบบดาราหรือนักธุรกิจใหญ่ ตามเรื่องเสียเวลาเปล่าได้ค่าปรับเข้าหลวงน้อย
เงินได้พึงประเมินประเภทที่ 8 (10) การทำวรรณกรรม หักค่าใช้จ่าย ร้อยละ 75
งานขายได้1ล้าน หักค่าใช้จ่าย 75 เหลือ 250000 อยู่ในฐานภาษี 5% ว่ะ
Ky นิยายแฟนตาซีไทยมีเรื่องไหนได้แปลขายต่างประเทศบ้างวะ เห็นของนอกทั้งอังกฤษ ญี่ปุ่น ไต้หวันแปลเข้าไทยหลายเรื่องแล้ว หรือไม่มีเลยสักเรื่อง (คนไทยแต่งตั้งหลายเรื่องมันก็น่าจะมีหลุดไปบ้างนะ)
ว่าไปไอ้เรื่องเมอร์เมดนี่เป็นไงมีใครได้อ่านบ้าง กูจำได้เห็นเมื่อก่อนมีคนอวยมากกก แต่เหมือนเห็นเม้นในโม่งจากมู้นึงบอกว่าห่วย ตกลงเป็นไงวะ
มีใครอ่าน got เล่มหกยัง น้องซานช่าเขาทำตัวเป็นผู้เป็นคนขึ้นบ้างมั้ย มีความฉลาดอะไรเพิ่มรึเปล่า
เพจไรวะ มมล
ไอ้ฟิกวายนั่นยังไม่จบอีกเหรอ เพื่อนกรุมันเล่าๆอยู่ นึกว่าแถลงการณ์แล้วปัญหาจบ แต่อย่าแต่คนซื้อเลย เพราะรู้สึกว่าเบี้ยวเงินคนวาด มี 2 คน อีกคนเพื่อนกรุบอกว่าวาดเสร็จแล้วไม่ยอมกลับตอบ แถมบอกในเพจว่าวาดไม่สวยเลยเปลี่ยนคน พอเปลี่ยนคนยังมาบอกลูกเพจว่าคนนี้จ้างแพง บลาๆ แถวอ้างว่าที่งานช้าเพราะบรูฟนิยายเอง จนคนที่รับจ้างบรูฟนิยายออกมาบอกว่ารองานอีกครึ่งนึงอยู่ไม่ยอมส่ง
รอบแรกโยนขี้ให้คนว่ดคนแรกเอาเป็นจ้ออ้างหนังสือยังไม่เสร็จด้วยเหอะ เอาคนวาดมาให้ลูกหาบในตอนนั้นทึ้งอีก
ตอนปีใหม่กูซื้อหนังสือมาสองเล่ม พออ่านจบแล้วรู้สึกว่าสำนักพิมพ์บ้านเราไม่ค่อยทำการตลาดเลยว่ะ
เล่มแรกปาปริก้า กูซื้อเพราะเคยได้ยินชื่ออนิเมะเรื่องปาปริก้ากับชอบหนังเรื่อง Inception
ประเด็นคือในเล่มไม่มีส่วนไหนพูดถึงอนิเมะหรือหนังของโนแลนเลย แทนที่จะดึงจุดขายว่านิยายแปลเล่มนี้เป็นต้นฉบับให้กับหนังดังมาก่อน
จั่วหัวหน้าปกซักหน่อยว่า นิยายชื่อก้องที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับหนัง Inception
หรือนิยายต้นฉบับของอนิเมชั่นชื่อดัง "Paprika" แต่นี่ไม่พูดถึงเลย เข้าไปดูในเพจสำนักพิมพ์ก็ไม่เห็นมีการโปรโมทอะไรมากมาย
เล่มที่สองก็แบบเดียวกัน คดีฆาตกรรมเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ กูซื้อเพราะเห็นราคามันถูกดี เล่มละไม่ถึง200แล้วกูก็ชอบนิยายญี่ปุ่นอยู่แล้ว
มาอ่านเสร็จก็พบว่ามันนำเสนอได้น่าสนใจดี แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกเป็นนิยายเขียนด้วยมุมมองบุคคลที่สอง จำลองตัวคนอ่านเป็นนักข่าวคนหนึ่งไปสัมภาษณ์ตัวละคร ตั้งแต่เพื่อนร่วมงาน เพื่อนสมัยเรียน ส่วนที่สองจะเป็นข่าวที่ได้ตีพิมพ์ เนื้อหาในข่าวได้มาจากการสัมภาษณ์ในส่วนแรก และมีข้อมูลประกอบอย่างเว็บบอร์ดที่ตัวละครใช่คุยกัน แล้วมีบล็อคของฆาตกรมาเสริมเป็นส่วนสุดท้าย
แต่ถึงการนำเสนอออกจะล้ำแต่ทั้งคำโปรยในปกหลัง คำนำสำนักพิมพ์ไม่มีพูดถึงเลยว่ะถ้ากูไม่เปิดอ่านก็นึกว่านิยายสืบสวนธรรมดา เดินเรื่องแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่งหรือบุคคลที่สาม
http://www.dek-d.com/writer/37879/
กูลองไปหาข้อมูลของสโนไวท์ดู ส่วนใหญ่ออกจะชมนะ มีในนี้นี่แหละที่บอกไม่ค่อยชอบ กูเลยสงสัยว่าที่เขาเขียนนี่จริงปะวะ อย่างความเกรียนของนักเลงคีย์บอร์ดน่ะ คือมันเป็นสังคมญี่ปุ่น แล้วในนั้นก็ไม่ใช่เด็กๆนี่นา จะเถียงกันด้วยเหตุผลอย่างดูมีการศึกษามันก็ไม่น่าแปลกป่ะวะ อยากรู้ว่าบทวิจารณ์อันนี่เชื่อถือได้มั้ยวะ คือกูเห็นเป็นเว็บเด็กดีที่ส่วนใหญ่มีแต่เด็กเลยคิดว่าคนวิจารณ์เขียนแบบใช้มุมมองเด็กๆไรงี้อ่ะ
>>703 กูไม่เชื่อถือมันเท่าไหร่วะ ไอ้นี่เล่นเส้นสายเยอะจะตาย นิยายกากๆ แต่รู้จักกันก็โปรโมตซะดิบดี
แต่มันพูดถูกเรื่องความดิบเถื่อนที่ขาดไป ถ้ามึงว่าโม่งเถื่อน ที่โน่นก็เป็นโลกberserkเลยละ
มีคดีกลั่นแกล้งในเน็ตที่ทำคนตายมาเยอะแล้ว แต่มันไม่ใช่เรื่องที่คนญี่ปุ่นเอามาพูดเท่าไไหร่
>>682 เกมร้อยวิญญาณ แปลไต้หวัน https://goo.gl/iuInmk
>>699 ปาปริก้า นี่แปลดีปะ ได้ยินนานละ ไม่เคยซื้อ สนพ.นี้ // สโนว์ไวท์ นี่คนเขียนคนเดียวกะคำสารภาพอะ เขียนเรื่องดี
>>707 ไปหาดูอีกทีหาไม่เจอแล้วว่ะ สงสัยหายตอนย้ายห้อง
>>709 ก็แปลโอเคอยู่นะ กูอ่านแล้วไม่ติดขัดอะไรมาก แต่กูไม่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นนะ คนเก่งจริงอาจจะจับผิดได้
ที่ขัดใจมีอย่างเดียวคือฉากที่นางเอกรำพึงกับตัวเอง น่าจะใช้คำว่าโสเภณีไปตรงๆ แทนคำว่าหมอนวด นอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรขัดใจและ
>>702 http://readery.co/9786167691251 เล่มนี้เอาโปสเตอร์หนังมาขึ้นปกเลย แต่เข้าใจว่าหนังมันจะเข้าโรงเลยเอาปกมาเล่นกับกระแสหนังโรง ส่วนปาปริก้าฉบับอนิเมะมันเก่าแล้วคนรู้จักน้อย จะเอาInceptionมาทำปกก็ไม่ได้อีกติดลิขสิทธิ์
>>703 กูว่าอตินจับประเด็นผิด คือคำโปรยปกหลังที่บอกว่านิยายเรื่องนี้สะท้อนด้านมืดของมนุษย์ในยุคโซเชียล
กูว่าไม่ได้โฆษณาเกินจริงนะ ถ้าอ่านดีๆ เรื่องที่จะสื่อคือตัวละครในเรื่องที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนแรกไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยัน แต่เพราะฆาตกรตัวจริงอยากใส่ความเลยพยายามให้การแบบชี้นำ แถมพอเรื่องหลุดออกไปในอินเตอร์เน็ตกับนิตยสารรายสัปดาห์ ผู้คนก็เริ่มเชื่อว่าเค้าทำจริงๆ
จุดนี้กูว่าเสียดสีสังคมยุคโซเชียลอ่ะ มีอะไรแชร์มาก็เชื่อก่อน ด่าตามน้ำพอความจริงปรากฎก็เงิบกัน
แต่อตินมันคิดว่าด้านมืดในคำโปรยปกหลังคือพวกเกรียนคีย์บอร์ดที่ด่าคนอื่นจนไม่มีที่ยืน
มันมีเว็บไหนขายนิยายภาษาอังกฤษ หรือหนังสืออาร์ตบุ๊คมือสองบ้างมะ
http://www.komchadluek.net/mobile/detail/20140803/189318.html
>>720 กูเจออันนี้ว่ะ 555
แหม่ เขียนให้ได้ตีพิมพ์ในไทยว่ายากแล้วนะ นี่ยังได้เลือกให้แปลไปขายที่ต่างประเทศอีก อิจฉาเว้ย 5555
https://m.facebook.com/CandyflakeWriter/photos/a.731558673553811.1073741826.248325831877100/731558133553865/
อ่ะ เจอปกแล้ว คือฟ้อนท์จืดไปมั้ยวะ 555 ก็แทบไม่เปลี่ยนอะไรเลยอะนะ
>>724 ที่กูรู้สึกขัดตากว่าคือนี่เว้ย รูปประกอบหัวชื่อตอนน่ะ คือทำไมต้องปราสาทหินกับซูมมือถือดาบวะ ในเรื่องมันโลกสมมติป่ะวะ (กูไม่เคยอ่านเรื่องนี้) เซตติ้งก็ฝรั่งไม่ใช่เรอะ ใส่รูปแบบนี้เพื่อ หรือเห็นว่าคนเขียนเป็นคนไทยแค่นั้นวะ 555 ใช้รูปอื่นที่มันดูแฟนตาซีกว่านี้ไม่ได้เหรอไง
เห็นมีคนกรีดร้องได้ผลาญของห้องสมุดแล้ว กูอรพวกมึงสับนะว่าโอเคมั้ย
แม่งแมรี่ซูกันยันเล่มสามหรือเปล่า กูจะได้ตัดสินใจถูกว่าจะซื้อไม่ซื้อ
กลัวแม่งอ่านๆไปแล้วรำคาญถ้าไปๆมาๆมีแต่อะไรซูๆเบียวๆ ตั้ง 5 เล่มจบ
มีนิยายจีนเรื่องไหนเบียวกว่าชายาสะท้านแผ่นดินอีกเหรอวะ
โปรโมทว่าดีมาก อ่านแล้วโคตรเฟล โคตรออกทะเล
ชายาสะท้านแผ่นดินกูอ่านแล้วรำคาญมาก นางเอกสวย นางเอกรวย นางเอกเก่งสุดในยุทธภพ ไม่มีใครเกินหน้านาง แหม่ อะไรจะดีเว่อร์ๆขนาดนั้นแม่คุณ เป็นคนเพอร์เฟคเลิศลอยไร้ข้อเสีย แถมเป็นลูกรักคนเขียนอีก อะไรๆก็ต้องนาง ทุกอย่างเกิดขึ้นรอบตัวนาง เดี๋ยวฉันแก้ปัญหาให้ทุกอย่างก็โอเคซิกกะแร็ต เหมาะสำหรับวัยรุ่นจูนิเบียวอ่านมากกว่าให้ผู้ใหญ่อ่าน
>>731 รอว่าด้วยอาชีพเหมือนกัน นี่ตามอ่านที่แจ่มอัพทุกพุธ ตอนแรกก็มึนกับขั้นสนมยาวๆทั้งไทยทั้งจีน แต่ไปๆมาๆก็ชักชินล่ะ กูว่ามันก็แปลโอเคดีนะ (งงว่าทำไมถึงดราม่าขนาดนั้น)
>>733 กูอ่านเล่มแรก ชอบมาก พอตามอ่านไปถึงเล่ม 3 เริ่มเอียนความเก่งเวอร์ สเกลพลังอัพขึ้นเรื่อยๆ เลยไม่ซื้อต่อแต่เช่าเอา สุดท้ายอ่านถึงเล่ม 7 แล้วก็ไม่ได้ไปเช่าต่อ สุดท้ายพระนางมันคงเก่งเวอร์ๆแล้วครองโลกละมั้ง
คือกุเสียดายเงินมาก กับเรื่องชายาสะท้านแผ่นดิน ซู เบียว
มาครบ แรงชัด จัดเต็ม
อยากอ่านแนวตำนานรักเหนือภพอีกจัง ช่วงนี้อิน พึ่งทำใจดูซีรี่ย์จบ555
กูเห็นในมู้นินทาเด็กดี คนเขียนทีมผมไม่วุ่นวายนี่ ที่ทำเล่มพิเศษเองเพราะมีฉากเรทเนื่องจากไปอ่านนิยายวายมาเลยเกิดเเรงบันดาลใจนี่จริงใช่มั้ยวะ คือแบบ...เบะปากเล็กๆว่ะ
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=449702811906177&substory_index=0&id=149668678576260
แล้วที่วิจารณ์เรื่องนี้ กูสงสัยว่ามันเป็นอย่างที่เค้าบอกมั้ยวะ โดยเฉพาะไอ้ตรงShow,don't tellน่ะ ปล.แต่แม่งเน้นจังว่าเคะว่าวาย ไม่แปลกใจเลยที่เล่มพิเศษจะออกมาแบบนั้น
https://fanboi.ch/subculture/1863/429-439/
โอเค ไปค้นมู้เก่า นางก็รีวิวยังงี้มาตลอดสินะ เหอะฟ
กูเกือบไปซื้อ อีบุ๊คเรื่องผลาญละ กะว่าจะถามหน่อยว่าดีไหม เห็นสรุปเป็นงี้ก็....เข้าใจละ
ชายาสะท้านแผ่นดินกุทนอ่านได้ถึงเล่ม 6 ซื้อไม่ไหวเสียดายเงิน แม่งเนิบ...
กุอยากได้แนวหญิงแมนๆ แบบแม่ทัพอยู่ข้างบนอ่ะ จะแนวไทย จีน ฝรั่ง แขก ก็ได้ มีแนะนำไหม
>>749 วิมานมะพร้าว นางเอกแมนสุดๆ คนเห็นแล้วนึกว่าผู้ชายหน้าหวาน เรียนจบวิศวะเครื่องกล ไม่ค่อยมีวี้ดว้ายคิดหยุมหยิมแบบผู้หญิงๆ เนื้อเรื่องตลกเฮฮา มีเครียดบ้างนิดนึงแต่ไม่มาก ย้ำว่านิดเดียวจริงๆ
คิวบิค เรื่องนี้ออกแนวการ์ตูนและไม่ค่อยสมจริงเท่าไหร่ ข้อมูลกับพล็อตยังอ่อนอยู่ แต่นางเอกแมนๆใจๆดี
จินตปาตี นางเอกเป็นนักข่าวที่ต้องทำงานแบบสมบุกสมบันไม่ห่วงสวยแล้วก็ไม่ค่อยมีเวลาจะสวย นิยายค่อนข้างเครียดเพราะนางเอกเป็นนักข่าวสายการเมือง เจอข่าวผู้มีอิทธิพลขัดผลประโยชน์อะไรกันแบบนี้บ่อยๆ พระเอกเป็นเลขานักการเมือง
น้ำใสใจจริง นางเอกแมนมากจนชาวบ้านเขาคิดว่าเป็นทอมกันหมดเลยไม่มีใครมาจีบ นิยายตลกคลายเครียดเบาสมอง ฉากหลังเป็นมหาลัยศิลปากรทับแก้วที่เพิ่งสร้างเสร็จแล้วกลุ่มตัวเอกคือนักศึกษาไปบุกเบิกพื้นที่
สูตรเสน่หา นางเอกที่เหมือนนางร้าย แต่บางการกระทำนางแมนกว่าผู้ชายอีก นี่ก็เรื่องตลกเฮฮาอีกเช่นกัน
>>747 นางรีวิวแต่ละเรื่องวายหมดแหละมึง ถึงจะบอกว่าไม่วายแต่จิ้นได้หรือแค่มิตรภาพแน่นแฟ้น แต่มองปกก็รู้ว่าวายแท้ๆ ไม่มีเจือปน
>>746 เรื่องนี้สงสัยคนเขียนได้เจ้เลดี้นี่เป็นไอดอล โปรยเหมือนกันเลยว่าไม่วายแต่จิ้นได้ และแน่นอนว่าฉากวายๆ ผุดมาเพียบ แต่ก็ใส่ข้อมูลได้แน่นดี ถึงจะมีตรรกะวิบัติแปลกๆ ในช่วงท้ายๆ ใกล้จะจบก็เถอะ
กุอยากรู้ว่า Series Go Princess Go มีเป็นหนังสือมั้ย อยากอ่านแบบหนังสือมากกว่า
(เรื่องที่นางเอก ...หรือนายเอกวะ เอาเป็นว่าเป็นหนุ่มเจ้าชู้ตกน้ำแล้ววิญญาณมาเข้าร่างพระชายาอะ)
โม่งในมู้ที่บอกจะแปลว้าบ ว้าบฯ นี่ยังอยู่มั้ย กูยังรอมึงอยู่นา...
ลับแลแก่งคอยนี่สนุกปะ
เรื่องGo Princess Go กูยังคุยกับเพื่อนแบบขำๆอยู่เลยว่านี่จัดเป็นนิยายวายได้ไหม เพราะข้างในมันเป็นวิญญาณผู้ชาย อยากจะบ่นเรื่องตัวนาง(นาย)เอกทำใจง่ายไปเรื่องเข้าร่างผู้หญิงแต่ก็เลิกคิดตั้งแต่เจอหมวกชาแนลและไอ้เสาบ้าบอนั่น ฮาสัส
http://pubat.or.th/index/pages/News Feed/86ad364071545d6641a5b5703a2683d2
กุสงสัยเกี่ยวกับบริษัทและงานนี้มานานละ ทำไมต้องมีตัวแทน?? เราก็เรียนๆกันมาตั้งแต่เด็กๆว่า "พ่อค้าคนกลาง" มันเป็นอาชีพที่นอนแดกกำไรจากคนทำงานฟรีๆ แล้วทำไมวงการธุรกิจถึงยังยอมรับให้มีงานแบบนี้อยู่?
>>767 มันก็มีพ่อค้าคนกลาง นายหน้า ตัวแทนอะไรหลายแบบ
พวกที่นอนแดกฟรีก็มี ปลิงก็เยอะ แต่ด้วยงานบางอย่างมันก็ต้องมีตัวแทน สมมุติเช่นมึงเป็นนักเขียน มึงจะมีเวลาวิ่งหาร้านขายหนังสือทีละร้านมั้ย
มึงจะมีเวลาไปออกงานทุกอีเวนต์ โปรโมท วางขายหนังสือมึงให้เป็นที่แพร่หลายมั้ย
หรือมึงมีของอยากขาย แต่มึงไม่รู้จะขายใคร อีกคนเค้ารู้จักคนที่อยากได้ของมึง มึงก็ต้องพึ่งเค้าให้เค้าหาคนมาซื้อ มึงก็ต้องตกลงยอมรับว่าคนกลางเค้าเสียเวลามาทำงานให้มึง มีใครจะอยากทำงานฟรีมั้ย ทุกอย่างมีค่าใช้จ่าย
กลไกลตลาด ธรรมชาติโลก
สรุปคือ นายหน้าบางคนก็เหี้ย นายหน้าบางคนก็ทำงาน อำนวยความสะดวกให้มึงได้จริงๆ และทำให้เรื่องมันง่ายขึ้นเหมือนกัน
ถ้าไม่อยากจ่ายค่าคอม มึงก็ไม่ต้องจ้างนายหน้าก็ได้นี่หว่า ถ้าคนมีช่องทางซื้อขายเองมันก็ไม่ต้องมีพ่อค้าคนกลางหรอก
ไม่กี่ปีมานี้สนพ.เจ๊งกันไปเยอะเนอะ
ทั้งบลิส เพิร์ล ซันบีม
แล้วอะไรอีกวะ
>>771 กูเสียดายบลิสว่ะ เสียดายนิยายแปลญี่ปุ่นดีๆ ทาเล้น1ก็ขายซะแพง
ที่จริงกูอยากให้บลิสเอาตัวรอดโดยการไปขายหน้าเว็บมากกว่านะ เพราะSE-ED แม่งแดกปกไป40% ขายหน้าเว็บให้ส่วนลดคนซื้อซัก10-15% ที่เหลือเป็นค่าส่งสินค้า กำไรยังไงก็ได้มากกว่าฝากSE-ED ขาย ส่วนตัวSE-EDเองพักหลังๆกำไรก็ลดไปเยอะ ราคาหุ้นจาก10กว่าบาทก็เหลือ 5บาทกว่าๆ
กูก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าอินเตอร์เน็ตบูม เฟสบุคบูม ทำไมไม่ใช้ให้เป็นประโยชน์มาทำเพจเฟสบุคใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คไปหน้าร้านแล้วขายแบบส่งตรงไปที่นักอ่านเลย
การจัดจำหน่าย ทำโปรโมชั่นเอง มันยุ่งยากกว่าที่คิดนะ แค่แพ็คของก็เสียเวลาชิ้นละไม่ใช่น้อยแล้ว ไปไปรษณีย์อีกครึ่งค่อนวัน
ทำเป็นครั้งคราวแบบออกงานหนังสือหรืออีเว้นท์น่ะมันง่าย แต่ถ้าจะจัดจำหน่ายเองนี่มีค่าใช้เพิ่มนะ เบื้องต้นก็ค่าพัฒนาระบบ ระยะยาวก็ค่าจ้างพนักงานดูแล order พนักงานแพ็คของ ของส่งไปรษณีย์ทำเน่าจะทำไงต่อ บลาๆ ประเมินแล้วมันจะคุ้มรึเปล่า
มี http://readery.co กับ http://bookmoby.com แต่หนังสือยังไม่เยอะเท่าไร
>>776 แจ่มใสยอดขายหลักล้านนะ เคยมีโม่งเอางบการเงินมาแปะ แสดงว่านิยายรักมันขายได้เรื่อยๆ ทำกำไรเรื่อยๆ
แค่คนอ่านไม่มารีวิวในเน็ต เทียบกับกระแสหนังโรงหรือซีรี่ย์ดังๆอย่างฮอร์โมน นิยายรักมันเลยดูเงียบๆ
ส่วนสนพ.ใหญ่ๆ อย่างมติชน โพสบุค แพรว กูก็เห็นหนังสือแนววิชาการหรือนิยายดีๆออกมาตลอด
อยากอ่านนิยายแนวแฟนตาซี ช่วงนี้มีเรื่องไรแนะนำมั่ง?
มึงคนแต่ง Hestia ที่เคยมีปัญหาเรื่องโดนสถาพรเปลี่ยนเนื้อในกลับมาแต่งต่อ+รีไรท์หมดแล้วนะคะ มึง (._.)
เรื่องอะไรวะ ชื่อคุ้นๆแต่นึกไม่ออก 55
พูดถึงสถาช่วงนี้ดูหนักๆว่ะ จะปิดสายนิยายไทยรึเปล่า แต่แปลที่เขาเอามากูว่ามันไม่ค่อยโอเลยว่ะ
>>787 กูอ่านแล้ว บรรยายนี่กูไม่รู้ว่าเป็นที่คนเขียนหรือคนแปลแต่อ่านแล้วแม่งดูขัด ๆ เหมือนไม่ได้ผ่านการเกลามาก พระเอกชื่อเหี้ยไรซักอย่าง จำไม่ได้ เข้าโรงเรียนเสือกจำวันเข้าหอพักผิดมาสายเลยต้องไปนอนที่อื่น ลงท้ายไปเจอคฤหาสน์เก่าเลยแอบดอดเข้าไปนอน ปรากฏว่าไปปลุกปีศาจที่อยู่ใต้อาณัติของเจ้าชายลำดับที่ 12(หรือ13) ออกมาได้ ซึ่งปัจจุบันเจ้าชายหายตัวไปแล้ว ทีนี้ก็เข้าช่วงแนะนำตัวละครเว้ย ซึ่งกูรู้สึกว่ากูมีปัญหากับเรื่องชื่อมาก แม่ง 6. ตัวชื่อเควตซัส มอร์ริส ตงย่า ฉิงหลง ไซเฟอร์(ตัวนี้กูจำไม่ชัด) ไป๋เหลียว คือกูไม่เข้าใจทำไมชื่อมันดูกระจายกันเหลือเกิน เนื้อเรื่องเล่มแรกเป็นพวกปีศาจถูกปลุก พยายามตามหาเจ้าชาย แต่พลังไม่มีเพราะไม่มีคนทำสัญญาด้วย เลยอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ แถมช่วงท้ายจะเจอปีศาจของเจ้าชายคนอื่น
http://www.satapornbooks.co.th/SPBecommerce/product_details/3325/Residence-of-Monsters-ก๊วนปีศาจอลเวง-เล่ม-1
แปะไว้เป็นข้อมูลละกัน เผื่อใครไม่รู้จัก
กูอ่านผลาญจบสามเล่มแล้ว ก็สนุกดีนะ แต่ไม่สนุกเท่าตอนอ่านในเว็บ สำนวนมีเปลี่ยนๆไปบ้าง
แต่พระเอกเหมือนเปลี่ยนบุคลิกยังไงไม่รู้ ในตัวอย่างที่ให้อ่าน พระเอกออกทะเล้นๆ แต่พอรวมเล่ม อ่านไปเรื่อยๆ ดูพระเอกขรึมๆแฮะ
(ไม่รู้นะคิดไปเองป่าว) แต่โดยรวมก็พอใช้ได้ (ถ้าชอบแนวแมรี่ซู+โชคช่วย)
>>792 กูเพิ่งอ่านจบเล่ม 2
ชิงไหวชิงพริบมั้ย กูว่าไม่ว่ะ คือนางเอกมันมีความจำชาติที่แล้วช่วย แล้วก็คาดการณ์แก้เผ็ดคนที่เคยเลวกับนางได้หมด อันไหนที่ไม่ได้เป็นตามเหตุเดิม ก็ยังแก้สถานการณ์ได้อยู่ดี เพราะนางเก่ง และมีพระเอกเมพโพดๆคอยช่วย กูเลยไม่รู้สึกถึงการชิงไหวพริบอ่ะ
กูว่าเหมาะกับคนเบื่อแนวเดิมๆ อยากเห็นนางเอกที่เคยโดนกดขี่ลุกมาปฏิวัติตัวเอง กลายเป็นนางมารปีศาจ นางกลับมาชาตินี้เพื่อชนะและทำให้ทุกคนล่มจม
อ่านเล่มแรกรู้สึกสะใจที่นางเอาคืนได้ เพราะที่นางเอกโดนมันแย่จริง พอจบเล่ม 2 ก็ชักเบื่อๆเพราะมันก็มาแนวเดิมเลยยังไม่ได้เริ่มเล่ม 3 แต่ในเล่ม2นางเอกต้องใช้ความพยายามและเปลืองตัวมากกว่าเดิมหน่อยอะนะ
กูว่ามันสนุกตรงที่ได้แก้แค้น นางเอกเก่ง ส่วนพระเอกก็เก่ง แล้วยิ่งมันโปรโมทว่ามีฉากกับพระเอกอีก นั้นแหละ
ตอนโปรโมทเขาบอกว่ามันเรทมาก ฉากโหดร้ายรุนแรงเยอะไรงี้ (ไม่ใช่แค่เลิฟซีนนะ) กูอ่านแล้วก็ไม่เห็นมันจะรุนแรงอะไรมากมาย แถมนางเอกอยากแก้แค้นใครก็ทำได้หมด มีพระเอกคอยซัพพอร์ตตลอด ญาติฝั่งแม่ก็ช่วยบางครั้ง อ่านแล้วเรื่อยๆว่ะ ยังไม่มีจุดพีค แล้วก็ไม่เข้าใจว่าจะแบ่งภาคทำไมในเมื่อเนื้อเรื่องมันก็ดูต่อเนื่องกันอยู่แล้ว
ทำไมกุมีความรู้สึกว่าทุกเรื่องของห้องสมุดมันโปรโมทจนเวอร์อะ แต่กุรู้สึกมันอยู่ในระดับธรรมดา ยังไม่ได้อ่านผลาญนะ ยังกังวลว่าควรจะซื้อดีไหม มันโอเคพอจะซื้อเก็บไหม ปกติซื้อหนังสือมาแล้วกุไม่ค่อยเอาออกขายชอบสะสม
สรุปเพื่อนโม่งให้คะแนนผลาญเท่าไหร่วะ มีค่าควรแก่การเก็บไหม
>>800 กูให้ 3.5/5 เก็บก็ได้ไม่เก็บก็ไม่เป็นไร ตอนแรกๆก็ว่ามันสนุกดี แก้แค้นสะใจ แต่อ่านเล่ม 3 จบเริ่มเบื่อ+เดาทางได้ เข้าใจว่านางเอกมีความทรงจำของชาติก่อน แต่เล่นรอดตัวเรื่อยๆแบบนี้ชักน่าเบื่อ แบ็คก็เยอะแถมดีสัสๆ
ถ้าภาค 2 ยังไม่มีอะไรพีคๆมาดึงความสนใจ กูจะลดคะแนนเหลือแค่ 3
ปล.กูอ่านของพี่ ไม่ได้ซื้อเก็บแต่อย่างใด แต่ถ้าภาค 2 ดีงามก็อาจจะซื้อเก็บ
เล่ม 1 คือสนุกสุดแล้ว เล่ม2,3 เหมือนเอาพล็อตเล่ม1มา แค่เปลี่ยนสถานการณ์กับตัวละคร แต่เรื่องนี้เหตุผลอ่อนมาก อ่านแล้วบางทีไม่อินกับตัวละครว่ะ
ปล.มีประเด็นอีกอันที่ทำให้เสียความรู้สึกคือ มีคนมาโวยเล็กๆว่าหนังสือบุบ อยากให้รับผิดชอบ แต่ในนั้นกลับบอกว่าเป็นที่ไปรษณีย์ คือกูเงิบไปเล็กๆ ทีสนพ.อื่นแม่งเสือกบอกว่าห่อไม่ดี
เอาแค่3เล่มกูว่าสนุกกว่าชุดเพชร อย่างน้อยนางเอกซูกูยังไม่รู้สึกว่าเว่อร์จนหมั่นไส้แบบนางเอกชุดเพชรบางคน
แต่รวมๆกูให้3.5คะแนน รอดูภาค2จะพีคขึ้นมั้งรึเปล่านะ
งั้นกุรอมันออกครบละรอฟี้ดอบ๊คจากพวกมึงดีกว่า ผิดหวังจากห้องสมุดมาเยอะละ=_=
>>806 จับมือมึง คือบางทีคนชอบไล่ให้ไปอ่านตัวอย่างบอกไม่ชอบก็ไม่ต้องซื้อ กูนี่โดนตัวอย่างหลอกมาหลายรอบและ บางทีตัวอย่างสนุกน่าติดตามน่าเสียเงินให้พอซื้อมาอ่านจบแล้วเสียดายเงินสัสๆ บางเรื่องแม่งดูไม่น่าสนุกเอาเข้าจริงสนุกมากๆก็มี รอดูฟีดแบคละกัน ที่จริงกูชอบพระเอกเอกนางเอกอยู่หรอกแต่ถ้าไม่มีอะไรกูเก็บไปซื้อเรื่องอื่นดีกว่า แบบปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือที่โฆษณาว่าเป็นแนวค้าขายแล้วก็ไม่ใช่แนวย้อนอดีตก็น่าสนใจ อสุราก็น่าจะใสๆน่าสนุก ทระนงนี่อ่านตัวอย่างแล้วจัดว่าเด็ดมาก แต่โดยรวมๆก็กลัวโดนหลอกอยู่ดี 5555
นิยายของห้องสมุดจะสนุกแค่เล่มแรกว่ะ. หลังจากนั้นก็....เหอๆ
ความจริงเรื่องแปลของสำนักพิมพ์นี้มันก็ไม่ได้ดีนะภาษาก็แปลกๆ ทำไมติ่งชอบอวยสุดลิ่มทิ่มประตูแถม
ไประรานสนพอื่นจังวะไม่เข้าใจ
ป.ล เบื่อแนวนางเอกแรงๆ ร้ายๆ
กูเห็นด้วยกับ >>805 ซีรีเพชรกุเห็นคนอวยกันมาก อ่านแล้วแบบ นางเอกซูชิบหายโดยเฉพาะเล่ม 2 - -
เล่ม 3 กุเลยไม่อ่านเลย ผลาญนี่กุก็ว่าจะข้าม
ห้องสมุดมันเซลฟ์ ภาพประกอบซีรีเพชรช่วงเล่มแรกที่มีคนออกมาด่ามันยังไม่แคร์เลยจ้า กุจะออก กุจะวาดภาพลงไป ไม่สวยไม่พอใจมึงก็ไม่ต้องอ่าน ชะละล่า
กูว่าห้องสมุดยังแปลไม่โอเคว่ะ กูเจอเสนาบดีโหลในผลาญเล่ม 3 ไปนี่สตั๊นท์เลย สัส จีนกลางบ้านไหนมีคำว่าโหล นอกจากชื่อที่ยังแปลไม่ดีแล้ว(เสียง + พินอินตัว y ที่บางทีก็ใช้ ย บางทีก็ใช้ อ) สำนวนก็ยังไม่ค่อยลื่นไหล ใช้คำแปลกๆไม่เหมาะสมกับบริบทบ้าง กูเห็นอะไรพวกนี้ทีไรแม่งขัดใจมาก เปิดไปดูชื่อบก.+พิสูน์อักษร+อื่นๆ ที่มีหลายคนมากกกก แล้วอยากจะรู้ว่านี่ตรวจแล้วจริงเหรอ ส่วนคะแนนตอนนี้กูให้ 3.5 เหมือนโม่งบนๆ
เขาอวยชิบหายว่าแปลดี งานดีเรื่องดี ห้ามขัดนะเว้ยยโดนแบน
>>803 ได้ๆ ไว้อ่านจบแล้วกูจะมาบอกอีกรอบนึง มึงก็อย่าลืมมาอ่านนะ 55555555 จริงๆกูอ่านจบหลายวันแล้วเพราะอ่านในเมพ
กูว่าผลาญแปลแปลกจริงๆ กูเจอ > โดดเดี่ยวนาง อ่านปุ๊ปกูงงมากเลย อะไรวะ โดดเดี่ยวนาง? งง อีเสนาบดีโหลก็พอกัน โหลมากมั้ยละมึง /เบ้ปาก
อีซีรีย์โฉมงามบรรนาการไรนั่นกูก็รำคาญกู้อวิ๋น โคตรพ่อโคตรแม่ซู ละแม่งมีแต่คนอวยเรื่องนี้ คือนางเอกแม่งเก่งเกินหน้าเกินตาแม่ทัพทั้งหลายแหล่กับฮ่องเต้มะ อ่านแล้วกลอกตารัวๆเลย สำหรับกูในเซ็ตนี้กูชอบเรื่องแรกมากที่สุดละ ดูเป็นคนมากที่สุด
พวกตัวพินอินนี่มันอ่านยังไง มีเว็บไหนสอนมั้ย อ่านนิยายถอดเสียงไม่เคยจะออกเลย
เรื่องสถาพร กรุว่านิยายไทยน่าจะยังอยู่แหละ เพราะจะให้ลืมกำพืดตัวเองก็กะไรอยู่ ถ้าปิดนิยายไทยสายแฟนตาซีเท่ากับว่าคนที่ได้ตลาดนี้ก็คือคนที่บก. เก่าที่ไปเปิดสนพ.เอง (กรุขอตัดเอนเตอร์กับกล้วยนะ) กรุคิดว่าถ้าแง่พวกบริหารคงให้อยู่รอด
อยากให้นิยายโรแมนซ์ฝรั่งอย่างของพวกแก้วกานต์ ที่ปกอีโรติคนิดๆทำเป้น E-Bookให้หมดเลยว่ะ
กุอยากอ่าน แต่ไม่อยากซื้อเป็นเล่มเก็บไว้บนชั้นหนังสืออะ - - เห็นใจกุเถอะ
816 เห็นด้วย อยากอ่านแต่ไม่กล้าวางบนชั้นหนังสือ เมื่อก่อนเช่ามาอ่าน แต่หลังๆร้านเช่าไม่ค่อยเอามาลง บอกว่าคนไม่นิยมล่ะ
>>814 https://www.youtube.com/watch?v=0UfhlkL_LMo
เรียนจากยูทูปง่ายกว่า อ่านหนังสือบางทีก็นึกเสียงไม่ออกหรอก
อ่านนี่ควบคู่กันไปก็ดี
https://th.wikipedia.org/wiki/พินอิน
http://happychinese-miaodi.weebly.com/361436363609362936363609.html
ถ้ามีตัวอักษร เอาลงในกูเกิ้ลแปลภาษาก็ช่วยได้นะ หรือแยกเป็นตัวๆ แล้วเติมคำว่าpronunciationเข้าไปแล้งฟังยูทูปเอา แต่บางตัวเวลามาอยู่ติดกันจะเปลี่ยนเสียงไปด้วย ต้องระวังในการเอามาอ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็เอามาเทียบได้ละ
ky พวกมึงมีเคยอ่านหนังสือของมูบ้างไหม
กูอยากรู้ว่า 1Q84 กับ Norwigian Wood นี่มันอารมณ์ประมาณไหนวะ กูอยากลอง 2 เรื่องนี้อ่ะ
ป.ล.เคยอ่าน After the Quake แล้วไม่รอด (หลายปีมาแล้วล่ะ)
>>819 คิดว่าพวกรวมเรื่องสั้นไม่เหมาะสำหรับคนเริ่มอ่านงานของมุราคามินะ ดังนั้น After the quake ไม่รอดก็ไม่น่าแปลก
คนส่วนใหญ่ที่กูคุยด้วย ส่วนมากจะบอกว่าเริ่มจากคาฟก้าหรือ 1Q84 น่าจะดีกว่า ถ้าชอบค่อยขยับไปนอร์วีเจี้ยนหรือสปุตนิค
ส่วนตัวทางนี้เองเริ่มจากสปุตนิคแล้วก็ชุดเนซุมิ 4 เล่ม (วินด์ซิง พินบอล ไวลด์ชีพ แดนซ์) กว่าจะรู้สึกคลิกกับงานของมุราคามิก็ตอนอ่านพินบอลนี่แหละ
Norwigian Wood กูอยากปล่อยต่อ มันไม่โดนสำหรับกู
กูไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า แต่นอร์วิเจี้ยนมันดูเห่อหมอยมากๆ
กูชอบซีรี่ยส์พวกเริงระบำ สนุกดี แต่ลืมไปหมดละ
ขัดแปป
อยากรู้ว่าในโม่งมีมู้คุยพวกซีรี่ย์จีนปะ ช่วงนี้กุติดทั้งนิยายจีน ซีรี่ย์จีน หาคนเม้ายาก
นักแปลยุ่นเก่งๆก็มีเยอะ อ่านคินดะแล้วก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมคนระดับอาจารย์มหาลัยไม่แปลงานมุราคามิซักหน่อย นักเขียนก็ออกจะดัง
ห่า กูเข้ามาในนี้แล้วกลัวคุณป. ชิบหายเลยค่ะ ตกลงที่กูอ่านๆ มาแม่งแปลถูกมั้ยล่ะวะเนี่ย หรือกูควรพยายามคิดว่าเนื้อหาน่ะ ถูก แต่อาจจะถอดเสียงไม่ตรงเพราะสำเนียงเขาเป็นงี้ ? ส่วนเรื่องสำนวน กูก็ว่าไม่ลื่นว่ะ ชอบแนวคุณฟ. กับเจ๊หลินมากกว่า
ละนี่กูยังไม่ได้อ่านผลาญเลย ถ้าแม่งดรอปจริงกูคงเซ็ง หลังจากนี้รอแม่งออกครบเซ็ตค่อยตามเก็บก็ได้วะ ห้องสมุดแม่งสไตล์นี้บ่อยนะ เล่มแรกเปิดตัวมาปังมาก พอหลังๆ ก็ดรอป ตัวละครแม่งก็ซู ชุดเพชรนี่กูเซ็งภาคสองสุดละ จะซูไปไหน มึงซูในเล่มตัวเองไม่พอ ต้องไปเปิดตัวเล่มอื่นด้วยงี้ ? ภาคสามแม่งก็มางงๆ ไปงงๆ อ่านแล้วปล่อยเบลอชิบหาย ส่วนตัวกูชอบภาคแรกสุด และจะชอบกว่านี้ถ้าตัดบทสารวัตรออก
จะเข้าหานักแปลระดับอาจารย์เป็นเรื่องยาก ยิ่งอัญเชิญมาแปลยิ่งเรื่องใหญ่เพราะอาจารย์ต้องดูแลชื่อเสียงตัวเองด้วย บางเรื่องของมุราคามิก็ฉากเซ็กส์ยาวเฟื้อย อาจารย์อาจจะไม่อยากแปลให้กลิ่นคาวระคายเคือง
>>829 นิยายห้องสมุดส่วนใหญ่ท่าดีทีเหลวน่ะ เปิดตัวมาอย่างอลังการ ไปๆมาๆหน่อมแน้มแมรี่ซู เรื่องผลาญอ่านเอาสะใจพอ ส่วนชุดเพชรกูให้เล่มฮ่องเต้ดีสุด เพราะกูรำคาญอีอวิ๋น เป็นเล่มที่อวิ๋นออกน้อยสุด แต่ก็ยังเสือกมาซูในเล่มอีก ตัวร้ายไม่เห็นฮ่องเต้อยู่ในสายตา แต่ดันมองอวิ๋นเป็นคู่ปรับทั้งๆที่เจอกันไม่กี่ครั้ง แหม่ นางเอกนี่มันนางเอกจริงๆ
ผลาญตอนที่ห้องสมุดเอามาโปรโมทตั้งแต่แรกๆ เข้าไปอ่านตัวอย่างแล้วก็อย่างงั้นๆ ยังงงอยู่เลยว่าทำไมคนอวยกันเยอะมาก จนถึงขั้นแซงคิวเล่มก่อนๆ มาออกเลย อ่านไปก็รำคาญอีพวกตัวร้ายทั้งปวงไป คือสรรหาแผนร้ายมา อีนางเอกมันก็รู้อนาคตอยู่เกือบหมดอยู่แล้ว มันก็ตีตกไปเรื่อยๆวนลูปไปอย่างนั้น เหมือนแค่อ่านเอาความสะใจที่นางเอกกลับมาแก้แค้นคืนเท่านั้นเอง ตอนลงเรื่องนี้กับช่างร้ายเหลือ ที่แนวนางเอกพระเอกร้ายๆ เหมือนกัน ยังรู้สึกเรื่องนั้นน่าสนใจกว่า
เรื่องเพชร รำคาญกู้อวิ๋นสุดละ เล่มยอดขุนพลที่คนอวยกันเยอะๆ ว่าสนุกอย่างนั้นอย่างนี้ กูอ่านจบแล้ววางเลย รับความซูนางไม่ได้ ตอนที่โผล่ไปแดกซีนในเล่มคนอื่นๆ ก็เปิดอ่านข้ามๆ เอา
เห็นด้วย กูงงมากว่าเพชรยอดขุนพลนี่เอาไรมาอวยวะ
นางเอกเบียวสัส นิสัยแม่งก็ไม่ได้ - - เขียนนี่ก็ไม่ได้ดูสรีระตัวละครเลย
คือไม่มีอะไรให้อินเลย เพราะไม่เชื่อในตัวละครที่มันเบียว
สรุปคือ กูนับถือตัวเองสุดๆที่ทนอ่านมันจนจบได้ รู้สึกเสียเวลาชีวิต
นี่กูยังคิดอยู่ว่าเพชรยอดบัลลังก์นี่ กุจะเสี่ยงอีกดีมั้ย อีเพชรสองเม็ดแรกนี่กูเอาตีนก่ายหน้าผากไปอ่านไปเลย
เหี้ย มีคนเกลียดเพชรเหมือนกูเลยย เห็นแม่งอวยกันเวอร์วังมาก(แต่มีคนกระซิบบอกกูว่าสนพ.นี้มันชอบไปเนียนๆอวยตัวเองตามเว็ปต่างๆไม่รู้จริงไหม)
ไม่นับสำนวนแปลที่โคตรลิเก โคตรเฝือ พรรณาโวหารน้ำท่วมทุ่งนะ แปลผิดมั่งเปล่าก็ไม่รู้
ตัวละครแม่งโคตรแมรี่ซู เนื้อเรื่องหาเหตุผลไรไม่ได้
>>835 กูว่าบัลลังก์เหี้ยกว่าสองเพชรแรกอีกว่ะ อ่านจบนนี่กูภูมิใจในตัวเองมาก
แบบกูหวังกับเล่มนี้ด้วย เพราะชอบอ่านแนวๆวังหลังไง อ่านไปแม่งไม่มีเหี้ยไรเลย
อีนางเอกมันไม่ต้องย้อนเวลาก็แมรี่ซูได้ด้วยตัวมันเอง บรรยายซะเก่งนู่นนี่นั่นเทพทุกอย่าง แต่อ่านแล้วนอกจากจะไม่รู้สุึกว่ามันเก่งแล้วยังดูโง้ๆอีก
เนื้อเรื่องก็กลวงเบาโหวง จะอ่านเอาเรื่องในวีงหลัง เสือกตัวละครน้อยเหี้ยๆ นอกจากนางเอก กับฮองเฮาละ มีสนมอื่นอีกแค่คนเดียว 555
ชีวิตนางเอกแม่งบทจะง่ายก็ง่ายเหลือเกิน อ่านแนวนี้เรื่องอื่น(เจินหวน) กว่าแม่งจะเลื่อนขั้น ชิงไหวพริบกับสนมอื่นๆอย่างมันส์
เรื่องนี้ แค่ลอบฆ่าอีฮ่องเต้หน่อยเดียว เลื่อนขั้นเฉย ฮาเหี้ยๆ พวกมึงเป็นมาโซกันรึไง
จะอ่านเอาเรื่องรักๆ แม่งก็รักกันง่ายชิบหาย ฝั่งนึงเกลียดจนอยากฆ่า อีกฝั่งข่มขืน อยู่ๆแม่งรักกันเฉยเลย 5555 ยิ่งกว่าละครไทย
แถมที่เหี้ยสุดคือ มันจะตัดสลับกับคดีในสองชุดแรก(คือกูอ่านมาสองเล่มก็เบื่อจะตายห่าอยู่แล้ว) เล่มนี้แม่งก็ใส่มาตรึม
ทั้งๆที่อีนางเอกแม่งไม่ได้เกี่ยวข้องไรเลย อีฮ่องเต้ก็ไม่ได้มีหน้าที่สิบคดี แค่มาสั่งๆ คือมึงจะใส่มาเพื่อ แถมตอนท้ายๆสองแมรี่ซูยังมาแย่งซีนอีก
ตัวละครทุกตัวคือสองมิติ พระเอกนางเอกก็แกรี่แมรี่ชิบหาย ตัวร้ายก็ร้ายยแบบไม่ต้องมีที่มาที่ไปไม่คต้องมีเหตุผล 555
มีใครอ่านรุ่นลูกของเพชรฯที่สนพ.เอามาลงบ้าง อยากรู้ว่าเป็นไง ไม่อยากอ่านเองถ้าเรื่องยังเป็นแบบขุนพล
สำหรับเพชร ไม่มีใครซูเท่าอีนางเอกเล่ม2อีกแล้ว ซูจนกู เอิ่มอ่ะจ่ะ คนอื่นๆกูไม่ชังนะเพราะมันซูแต่ไม่ได้มีบทอวยจากคนรอบข้างชนิดที่ว่า
โอยเทพสัส อลังสัสๆ กูโครตสงสารพระเอกเล่มนั้นเลย ถ้าไม่มีใครบอกกูว่าตัวละครนี้เป็นแม่ทัพนะ กูนึกว่าแม่งจับฉลากได้มา ดูง่อยสุดๆอยู่ใต้
ตีนนางเอก แถมอยู่ๆบทจะรักก็รักกันขึ้นมาซะอย่างงั้นไร้เหตุผลสุดๆ นี้รุ่นลูกนักเขียนมีฝีมือแล้วกุหวังว่าจะลดความเหี้ยอวยซูลงได้นะ
ขอบ่นเรื่องแปลหสม.อีกนิด มันแปล เอ๋อร์ที่ต่อท้ายชื่อ ว่าเอ๋อ คือแบบ เฟิงเอ๋อ โม่เอ๋อ คือมึงจะมี ร์ หน่อยไม่ได้รึไงวะ อ่านไปนึกว่าคนเอ๋อสัสส!
เรื่องป.อีก กูว่ามันดำน้ำเป็นหลัก เทียบจากตอนมันแปลวายเรื่องนึงแล้วโดนจับโป๊ะแตกว่าแปลมั่วชิบหาย
แถมยิ่งพอเล่มออกมาแล้ว แปลมั่วมากจนกูสงสัยว่ามันมีบก.จริงๆหรอวะ หลังจากนั้นไม่ไว้ใจไม่กล้าซื้อไรจากสนพ.นี้อีกเลย เข็ดจากเนื้อเรื่องด้วย
>>809 เรื่องภาพประกอบกูก็จำได้ เหี้ยยิ่งเล่มขุนพลนะตอนที่มันปล่อยตัวอย่างมา ภาพน่ากลัวโคตรรรร เปิดอ่านกลางคืนมีร้องอะ ดีว่าแม่งยอมตัดออกสัสส เซนส์ทางศิลปะแม่งไม่มีเลยหรอวะ 5555555555555
แต่ลูกหาบป้า ป ก็ชอบไปแซะ สนพ จส เรื่องแปล ชอบเทียบว่า ป้า ป แปลดีกว่า ทั้งๆที่ลูกหาบทั้งหลายแม่งก็อ่านจีนไม่ออก แถมไม่รู้ว่าป้า ป ดำน้ำบุ๋งๆมาให้อ่าน
+++++
ภาพประกอบเรื่องเพชรแม่งคือความเหี้ย นิยายสยองขวัญสัสๆ
แต่ภาพประกอบในเรื่องบุปผาล่มเมืองแม่งเลวร้ายกว่าเหมือนเอาเด็กอนุบาลมาเขี่ยๆ
>>840 กูอยากรู้ว่าถ้าเเม่งดำน้ำเป็นหลักนี่ติดต่อซื้อลิขสิทธิ์กับจีนยังไงวะ? แถมยังโม้ว่าไปจีนมีเพื่อนเป็นบก.คนจีน บลาๆอีก หรือจริงๆแม่งมีล่ามแหงๆ แต่แปลนี่ขอโชว์สกิลดำน้ำเทพ 5555555555555
กูอยากให้ใครมาจับผิดการแปลคุณเปรมแกชัดๆให้เห็นสักช็อตว่ะ คือตอนวายนั่นเขาบอกไม่ได้แปลเองบอกน้องๆทีมงานแปลเล่นๆ(...จ้ะ) ส่วนเล่มจริงมันมีต้นฉบับเป็นแบบภาษาอังกฤษด้วยเลยจับผิดกันได้บาน แต่จีนนี่ไม่มีความรู้เลยว่ะ
>>842 กูก็อยากเห็นเหมือนกันว่ะ อยากให้มีคนรู้จีนลองเทียบให้ดูจริงๆ
แต่ความรู้สึกกูคิดว่าแม่งต้องดำน้ำแน่ๆ ยิ่งดูจากสปีดการออกหนังสือที่ไวเหี้ย ถึงมันจะใช้คนแปลหลายคนต่อเล่มก็เหอะ เทพๆอย่างนักแปลสยามยังออกไวไม่เท่าเลย งานจะละเอียดแค่ไหนกันเชียววะ
ยิ่งเรื่อง heavy sweetnessฯ กูไปอ่านเว็ปนอกเห็นคนก็อวยๆกันว่าสนุก แต่อ่านของหสม.คือ ห่วยมาก สนุกตรงไหน???
แถมอ่านกี่เล่มๆก็สนพ.นี้ก็ยังไม่สนุก จนแอบคิดว่ามันเป็นที่การแปลรึเปล่าวะเนี่ย มันอาจจะดำน้ำจนส่วนสำคัญๆเหตุผลไรหายหมดไรงี้
>>844 ตอนไปจีนเธอโม้ว่าเธออ่านหนังสือจีนหนาๆที่เพื่อนบ.ก.จีนแนะนำจบไปหลายสิบเล่มเลยนะเว้ยยย สปีดระดับเทพขนาดนี้จะออกเร็วก็ไม่แปลก เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เอาจริงๆกูเจอคนเก่งภาษาอ่านเร็วๆมาเยอะนะแต่จะออกมาได้เล่มนึงใช้เวลาว่ะ ออกเร็วขนาดนี้ไม่ต้องดำนงดำน้ำอ่ะเอาที่เห็นๆคืองานลวกและหยาบ เดี๋ยวคำผิดคำตกบลาๆ
วายที่แปลผิดใช่ไอ้เรื่องที่แปลจากเก็บมีดเข้าซองที่เอวเป็นมีดเปลี่ยนกลายเป็นไรหนวดป่ะวะ
กูยังยืนยันคำเดิมว่า พวกที่บอกซีรีเพชรซูๆนี่
มึงต้องอ่านชายาสะท้านแผ่นดินก่อน
อ่าห์ กระแสอวยแรงจริงจนกูเกือบสอยผลาญละ แต่ยังฝังใจกะอิเพชรเรื่อง 3
กุจำได้เลยว่าอ่านตัวอย่างในเว็บ ลงเกือบเล่มนึงอะ แล้วกัชอบเลยซื้อ พอซื้อเท่านั้นแหละ อีกสองเล่มกลวงโบ๋ นึดว่าจะชิงไหวพริบ
เออขอกูทำมู้รกอีกสักเม้น กูสงสัยมากเลยอ่ะว่าโลโก้สนพ.นี่เขาแก้ให้มันชัดๆไม่ได้เหรอวะ
กูไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเบลอ คือออกเล่มแรกๆกูยังเข้าใจได้นะว่าแบบอาจจะทำความละเอียดพลาด แต่กี่เล่มๆก็เหมือนเดิม
แม่งเห็นแล้วไม่ขัดใจกันมั่งเหรอวะ งง มันยากเหรอวะทำโลโก้ให้ชัดอ่ะ
>>845 จริงดิ แต่กูว่าสกิลโม้เจ๊ป.แกเทพสุดละ พูดไรกูหารสิบ 555 ยังขำไม่หาย ชอบโม้ไรแปลกๆ แบบนักอ่านโทรมาหาตอนตีสามตีสี่มั่ง นักอ่านpm มาหาเป็นร้อยๆพันๆคนมั่ง แบบนะ... *กรอกตาเบ้ปากมองบน*
>>849 เอออ อันนี้ข้องใจเหมืนอกันว่ะ แล้วมีพิมพ์ตัวหนังสือยังเบลอแตกเป็นพิกเซลด้วยอะ มันปล่อยผ่านมาได้ไงวะ
>>847 กูอ่านชายาไปสามสี่เล่มนะ กูว่าความซูแม่งกินกันไม่ลงว่ะ 55555555555 แต่ความเบียวสามเพชรชนะเลิศ
อีกอย่างชายาแปลดีกว่า อ่านแล้วไม่ลิเกเท่าสามเพชร ยังสยอง คิ้วกระบี่ เจ้าร่างน้อย นางสิงห์น้อยทุกๆพารากราฟไม่หาย
เนื้อเรื่องก็ยังพอไปข้างหน้ามั่ง ไม่เหมือนสามเพชรเนือ้เรื่องกลวงมากจับพลอทไรแทบไม่ได้วนอยู่ในอ่างแค่นั้น
เออใช่ อีตรง เค้าเรียกไรนะ แนะนำตัวละครของอีเล่มผลาญอ่ะ ที่เป็นโยงไปโยงมา
แม่งงงง แตกชิบหาย แตกวายป่วง แตกแบบกูคิดว่าต่อให้เป็นหนังสือทำมือก็ไม่มีงานแตกเหี้ยๆแบบนี้ออกมา
กูอ่านไปขัดใจไปชิบเป้ง
กูรู้สึกดีนะเนี้ย ที่ไม่ได้จองเพชนรุ่นลูก กูอ่านตัวอย่างแล้วก็เฉยๆ ลูกเหมือนแม่มันไม่มีผิด
เพจเสียดายคนจ่ายไม่ได้อ่าน'ก่อนซื้อ'แม่งรีวิวผลาญแล้วนะ เพจนี้ให้ 6.5 คะแนน ใครยังไม่ได้ซื้อลองไปอ่านรีวิวก่อนได้นะเว้ย กูเห็นด้วยหลายส่วนเลย หลายจุดก็เหมือนที่โม่งเคยพูดกัน
ผลาญ ถ้าเอามันส์กูให้ 8/10 นะ เหมือนดูหนังบู๊ล้างผลาญไล่แก้แค้นแบบ kill billหรือmad max แอบขัดใจตรงที่นางชนะตลอดไม่เพลี่ยงพล้ำเลย กูอยากได้ตัวร้ายที่มันฉลาดมากๆสมน้ำสมเนื้อกันอะ ไม่งั้นน่าเบื่อสัสๆ แต่ถ้าแนวๆคุณค่าหรือความสมเหตุสมผล เอาไป 5/10 พอ
เรื่องการแปล,การใช้คำ,การวรรคตอนและการใช้เครื่องหมายวรรคตอน,รูปเล่ม กูให้ 4.5/10
มีลูกหาบไปถล่มเพจรีวิวเรื่องผลาญแล้วว่ะ น่ากลัวชิบหาย
แม่งไมสนุกจะให้รีวิวว่าไงวะ
กลัวติ่งสนพ.นี้จังเลย - -;
มันก็ควรจะต้องสมเหตุสมผลบ้างเปล่าว้าาา
สั่งหนังสือต่างประเทศจากร้านไหนดี หรือไม่ต่างกัน ที่ค้นๆ เจอมีคิโนะ (เคยสั่งหนังสือญี่ปุ่นไป) กับเอเชียบุคส์ที่เป็นร้านใหญ่ๆ แล้วก็มี herothailand กับ bookdepository ที่เป็นเว็บรับสั่งหนังสือ แต่ถ้าไม่ต่างกันคงเอาร้านที่ถูกสุด
เหี้ยย ตามไปอ่านมาละ ลูกหาบสนพ.นี้แม่งสะพรึงชิบหายยยย 55555555555 นี่ขนาดรีวิวแบบซอฟๆ ถ้าเจอสับหนักๆจะขนาดไหน
>>855 เอ้ย มีคนสะดุดเรื่องเครื่องหมายวรรคตอนเหมือนกันเลยว่ะ ไม่ได้อ่านผลาญนะ เล่มนี้แย่แค่ไหนวะ
แต่อ่านเล่มอื่นๆของสนพ.นี้ ใช้เครื่องหมายได้เลอะเทอะมากอะ สง!--สัย!--เป็น-เอก--ลักษณ์!!! ของ...ที่นี่... ป..ไป--แล้ว-สินะ!!!
กูรู้ซึ้งถึงพลังของลูกหาบแล้วแม่ง น่ากลัวเหี้ยๆ รีวิวนิมันแล้วแต่เขาป่าวว่ะ ก็มันมีที่ติจะให้แม่งอวยว่าดีเวอร์วังตลอดรึไง?
แล้วลูกหาบเพจนี้ดูจะอคติกับสำนักพิมพ์อื่นนะโดยเฉพาะแจ่มใสแม่งว่านู่นนี่แปลไม่ดีลิเกมีโยงไปเรื่องปกอีก โถ ของหสมแม่งก็พอๆกันล่ะวะ
คือเรื่องผลาญแม่งก็ไม่ได้แย่มากนะ แต่มันก็ไม่น่าสนุกสุดขีดไร้ที่ติ จรต้องอวยเวอร์ๆสถานเดียวนี่หว่า
>>836 แม่ง เพื่อนมึงคิดเหมือนกูเลยว่ะ กูเบื่อเรื่องแรก ให้ฟีลมกร.มากๆ
เรื่อง 2 กูชอบเล่มแรกมาก อ่านตอนฝึกทหาร สนุกดี พอดีว่ามีแมรี่ซูสุดๆ กูก็รับได้หมดล่ะ อ่านเอามันส์ แต่ขัดใจที่อยู่ดีๆก็รักกันซะงั้น กูเชียร์เอ้าเทียนมากกว่า
เรื่องสุดท้าย เกลียดนิสัยพระเอก แต่ก็หมั่นไส้นาวเอกด้วน เพราะงั้นเลยยิ่งไม่ชอบ
มาว่าต่อเรื่องความน่ากลัวของติ่ง
นอกจากอันที่แชร์และถูกลบไปแล้ว (เห็นซี้คุณ ป และ คุณ ป ยังคุยกันว่า กินของหวานมานานก็ต้องยอมรับของขมบ้าง เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ กูก็ขอให้พัฒนาจริงๆเห้อ) กูยังเห็นอีกโพสที่ลูกหาบมาบอกว่า ขอบ่นถึงความไม่ดีของหสมหน่อย แต่ก็เป็นการอวยแทนน่ะนะ แล้วก็มีคนอื่นผสมโรง ทั้ง แย่มาก ออกมารัวๆจนผลิตเงินไม่ทัน สนุกเกินไปอ่านแล้วลงแดงรอภาค2 บลาๆ
สรุปว่าทุกเรื่องของสนพ.นี้แตะไม่ได้เลยชิมิ
กุขอแทรกดราม่าห้องสมุดหน่อย
สงสัยมานานแล้วว่าตกลงนิยายที่เอามาแปลขายพิมพ์กันในไทยนี่ไม่จำเป็นต้องแปลจากภาษาต้นฉบับหรือวะ
กุเคยซื้อหนังสือนิยายคลาสิกเล่มหนึ่งแปลจากภาษาฝรั่งเศส เขาใช้คำว่าถอดความว่ะ พร้อมกับบรรยายตรงคำนำว่าแปลตรงเปะๆ
คือปกติการแปลมันไม่ใช่ถอดความความหมายให้ตรงตามต้นฉบับมากที่สุดหรอวะ แถมนิยายบางเล่มคนแปลพูดอย่างกะว่ามันอ่านทั้งหน้าแล้วสรุปคร่าวๆให้อย่างงั้นแหละ
>>869 ตามความเข้าใจกูนะ ก็มีบางเรื่องที่ไม่ได้แปลจากภาษาต้นฉบับ อย่างเช่น ไต้หวัน>อังกฤษ>ไทย แบบนี้ถึงจะแปลง่ายแต่ก็ต้องมีอะไรบางอย่างเพี้ยนๆ ไม่ตรงกับต้นฉบับอะมึง เพราะคำหนึ่งคำมันก็ตีความหมายได้หลายอย่าง ในหนึ่งภาษาก็ใช้คำหนึ่งคำได้หลายความหมาย พอมาแปลซ้อนกันหลายภาษามึงก็ลองคิดดูว่าจะเพี้ยนขนาดไหน
ส่วนอีกแบบ ก็แปลจากภาษาต้นฉบับโดยตรง อย่าง ไต้หวัน>ไทย การแปลแบบนี้ส่วนมากที่กูเจอก็พวกหนังสือเล่มเดียวจบ แบบนี้จะแปลได้ตรงกว่าเพี้ยนไม่เยอะ บางจุดที่เพี้ยนๆ มันก็ขึ้นอยู่กับคนแปลด้วยว่าเขาตีความยังไง เช่นต้นฉบับ 'กระแสลมพัดโหมกระหน่ำดั่งวันสิ้นโลก" แปลตามที่คนแปลเข้าใจหรืออยากรวบรัด 'พายุรุนแรงราวกับวันสิ้นโลก' เลเวลอัพจากคลื่นลมกลายเป็นพายุในบันดล
เรื่องแปลญี่ปุ่นกว่าจะมาแปลตรงจากภาษาต้นฉบับก็นานอยู่นะ เมื่อก่อนแปลจากภาษาอังกฤษทั้งนั้น อย่างเรื่องของบานาน่า โยชิโมโตะที่เพลงดาบแม่น้ำร้อยสายแปลก็แปลจากอังกฤษ
กูคือ >>869 ใจพวกมึงมากที่พวกมึงแจ้งแถลงไขกุ ุนึกว่าจะโดนประเด็นหสม.กลบไปซะอีก
>>870-872 สรุปว่านิยายแปลที่พิมพ์ขายบ้านเราร้อยละส่วนใหญ่แปลจากอิ้ง มีแค่บางเล่มจากภาษาต้นฉบับโดยที่กุไม่มีทางรู้เลย แล้วก็ไม่มีใครหน้าไหนทำอะไร
อย่างงี้มันไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ2เด้งหรอวะ ทั้งค่าลิขสิทธิแปลอิ้งกับลิขสิทธิหนังสือ
กุไม่ค่อยชอบใจหว่ะ เหมือนมึงคุยผ่านล่าม2คนกว่ามาถึงกุ ทั้งๆที่จริงๆมึงจ้างล่ามที่แปลได้ทีเดียวก็จบ เข้าใจนะโว้ยว่าหาคนแปลเก่งๆยาก แต่มันต้นทุนถูกกว่าถึงขั้นยอมเสีย2เด้งเลย?
แปลอังกฤษ มันจ่ายค่าต้นฉบับอยู่แล้ว
แต่ค่าแปลต้นฉบับเป็นอังกฤษมันไม่จ่ายกัน เครดิตบางทียังไม่ให้เลย
สนพ ไทยมันก็โจรทั้งนั้นแหละ
สถาพรมีโปรลด 35% อะ เรื่องไหนสนุกบ้างแนะนำหน่อย หรือมันไม่คุ้มไปซื้องานหนังสือดีกว่า
ตอนนี้ในเพจมากกว่ารักมีถามแล้วนะว่าต่อไปจะให้เรียกยศแบบไทยหรือให้แปลทับศัพท์ไปเลย พวกมึงลองไปให้คำแนะนำดู
งานนี้กูว่าแจ่มโอเคดีนะ เหมือนแจ่มก็พยายามปรับปรุงแก้ไขงาน รับฟังเสียงคนอ่านอยู่
กุมาบอกข่าวว่า Go princess Go มีคนแปลนิยายเป็นไทยแล้ว กำลังหาสนพ.ลง (เพราะเค้าเคยไปเสนอห้องสมุดมา2-3ปีแล้วโดนปฏิเสธ)
อยากอ่านว่ะ เป็นเจ้าเดียวกับที่แปลซีรีย์ด้วย แปลดีแต่แปลช้าชิบหาย
อีกเจ้าแปลไว วันต่อวัน แต่แปลแล้วอ่านไม่รู้เรื่องเลยเหมือนกัน แม่ง แต่กุก็ดูนะ กุติด
คือแบบนิยายจบแฮปปี้ว่ะ ไม่เหมือนละครนะมึง ละครแม่งดัดแปลงอีกที
กุไม่ควรใจร้อนรีบดูเลย
ติดเหี้ยๆ รอไม่ไหวโว้ย
นิยายจบไงวะ สปอยที
กุคือ>>873 ต่อๆว่าด้วยเรื่องหนังสือแปล
>>874-876
งี้อีกหน่อยเวลากุซื้อหนังสือแปลกุต้องคัดว่าเล่มไหนแปลภาษามือ2เล่มไหนภาษามือ3ซินะ พวกมึงมีวิธีการดูว่าเล่มไหนมันแปลมือ2มือ3บ้างวะ สำนักพิมพ์ใหญ่ๆลดสัดส่วนหลอกลวงพวกนี้ได้ป่าววะ
สำหรับกุปกติกุชอบอ่านพวกคำนำกับท้ายเล่ม บางทีเขาเขียนประวัติคนแปลไว้ข้างหลัง อ่านว่าประวัติเคยทำงานเกี่ยวกับภาษานั้นๆป่าว
>>880 กุว่านักแปลญี่ปุ่นยังพอเห็นบ้าง เท่าที่กุเห็นนิยายสมัยค่ายบลิสยังไม่ล่มแปลญี่ปุ่นแปลได้ดีเลย(รวมถึงอื่นๆนอกจากไลท์โนเวล)
ส่วนพวกแปลตามเน็ทแม่งเห็นแต่เด็กๆเอากูเกิ้ลขากสเลตมาให้อ่าน ไม่งั้นก็แปลจากอิ้งที่เขาแปลกูเกิ้ลมาให้ พวกนี้เน้นสปีตอ่านรู้เรื่องแค่60%
>>890 มีความรู้สึกว่าสมัยนี้คนแปลทอดที่สามเริ่มไม่ได้รับการยอมรับจากนักอ่านสมัยใหม่นะ นักแปล-บก.ที่รู้ภาษาอื่นนอกจากอังกฤษก็มีมากขึ้น
อีกหน่อยการแปลทอดที่สามมันคงหมดไป ทางนี้เองก็อาศัยเช็คประวัติเอาว่าเคยทำงานอะไรมาบ้างเหมือนกัน แต่บอกตรงๆนะ ถ้าเห็นโปรไฟล์นพดลแบบไม่รู้อะไรมาก่อนเลย ก็คงเขวเหมือนกัน
ส่วนที่ไม่ได้เมนชั่นบลิสขึ้นมา ก็เพราะงานบางเล่มยังแปลจากอังกฤษอยู่ ทั้งๆที่มีนักแปลภาษาญี่ปุ่นในสังกัดแถมมีระดับอาจารย์ด้วย เลยรู้สึกว่าไม่อยากไปชื่นชมเขาในแง่นี้เท่าไหร่ ส่วนพวกแปลตามเน็ทก็รู้ๆ กันล่ะนะ พวกฝรั่งที่แปลตามเว็บก็ไม่ได้แปลมาดีเด่อะไรอยู่แล้ว พอแปลต่อเป็นไทยด้วยความรู้ภาษาอังกฤษเท่าหางอึ่งของพวกเด็กโอตะคุขี่เห่อก็บรรลัยกันไปหมดนั่นแล
สำหรับกูถ้าภาษาต้นมันโซนตะวันตกแต่ไม่ได้รับความนิยมมากแบบภาษารัสเซีย อิตาลี ฯลฯ จะแปลจากอิงแทนต้นฉบับกูรู้สึกรับได้นะแบบโลลิต้างี้ สำหรับกูภาษาดูจะคล้ายเลยเปลี่ยนไม่มาก แต่ถ้าโซนภาษาตะวันออกแบบญี่ปุ่นงี้แปลจากอิงงี้กูรับไม่ได้แฮะ
>>893 กูว่าตรงจุดนี้มันอยู่กับความสามารถของนักแปลด้วยว่ะ แปลสองต่อแบบนี้กูว่านักแปลปลายทางต้องมีความสามารถทั้งด้านภาษา ข้อมูล การตีความแล้วก็จินตนาการอะมึง อย่างสมมติเป็นเรื่องชนชั้น ต่อให้ในภาษาอังกฤษมันจะ I You กันหมดเค้าก็ควรจะรู้ว่ามันต้องต่างกัน ต้องมีระดับงี้ ถ้าเค้าทำได้ กูก็รับได้ในระดับนึงนะ แต่มันก็เสี่ยงไปลุ้นอีกว่าแล้วคนแปลต่อที่หนึ่งแม่งแปลมาครบความมั้ยอีก
เพื่อนโม่งใครอ่านสามชาติสามภพ ทั้งสองภาคแล้วบ้างรีวิวทีว่าควรซื้อไหมเพราะราคาแรงมาก
>>896 กุอ่านแล้ว ถามว่าสนุกมั้ยตอบว่าสนุก ถ้ามีทุนทรัพย์พอก็ซื้อเก็บไว้อ่านเรื่อยๆได้
แต่อาจจะเพราะกุคาดหวังสูงกับลิขิตเหนือเขนยด้วยมั้ง พออ่านเอาเข้าจริงแล้วมันงั้นๆอะ ไม่อินว่ะ ตงหัวบทไม่ได้เยอะ
สรุปคือกุรู้สึกว่าเสียดายเงิน
มันสนุกและแปลดีกว่านิยายแจ่มใสทั่วๆไปเล่มละร้อย แต่ไม่สมราคาชุดละ 3,000
ความดราม่า : ปานกลาง ไม่ได้จี๊ด ไม่ได้สะเทือนใจอะไรตามมาก กุว่าป่าท้อดราม่ากว่าเหนือเขนยนิดนึง
ความหนา : หนาดี อ่านเพลินๆเรื่อยๆ ไม่แบบเร่งๆรีบๆจบ แต่เอาจริงๆที่หนาพอๆกับตัวนิยายคือเชิงอรรถ
ราคา : ไม่คุ้ม
การแปล : ดี แต่พี่สาวกุอ่านแล้วหลับไปเลย บอกว่าบรรยายเยอะบ ไม่กระชับ
การขนส่ง : ดีมากๆ แพคมาห้าหกชั้น กุแกะจนเหนื่อย
ปก : ก็โอเค ไม่น่าเกลียดแต่เสียดายงานของอิบุกิที่กลายเป็นภาพแถมท้ายเล่มแทน ทำไมวะ
เพิ่มเติม เอาตามรสนิยมกุ เทียบในเรื่องที่ธีมใกล้กัน เรียงความสนุกตามนี้
อันดับ 1 ลำนำรักเทพสวรรค์ สยามอินเตอร์ สนุกสุด ดราม่า เศร้า หวาน ครบทุกทาง ราคาหยิบแบบไม่ลังเล
อันดับ 2 ตำนานรักเหนือภพ แจ่มใส ซือฝุดีดีดีดี กุว่าคาร์แรคเตอร์ให้ความรู้สึกแบบว่าเค้าเป็นเซียน แตะไม่ได้ แต่โดนลากมาแปดเปื้อนจริงๆ รำคาญนางเอกเอาไปบอยู่อันดับ 2 พอ ราคาก็ยังหยิบได้เยอะ
อันดับ 3 ซีรีสามชาติ ทั้งๆที่มันควรจะอยู่ที่ 1 แต่กุอ่านสามเรื่องในเวลาไล่เรี่ยกัน อันนี้สู้อีกสองอันไม่ได้จริงๆว่ะ อ่านแล้วรู้สึกว่า ตงหัวไม่ค่อยได้โชว์เมพเลย ส่วนเยี่ยหัวก็ทำอาหารง้อเมียหมดไปซะส่วนใหญ่ มีดราม่าบ้างแต่ก็คลี่คลายได้ ราคาแพงชิบหาย แพง แพงเหี้ยๆ แต่ถ้าจะซื้อจริงๆ กุก็แนะนำป่าท้ออะ
>>896 ถ้าชอบงานแปลป้าหลินก็ควรค่าแก่การเก็บนะ แปลดี
เนื้อเรื่องก็แนวเทพเซียน เดินเรื่องแบบแบ่งเป็นarcๆ ความเข้มข้นระดับนึง คาแรคเตอร์น่าสนใจ มีมุกตลกแทรกพอให้ได้ขำๆ
ป่าท้อเส้นเรื่องดีกว่า แต่กูชอบคาแรคเตอร์ของลิขิตฯมากกว่า
ข้อเสียลิขิตฯคือเนื้อเรื่องแต่ละarc มันแยกกันเกินไป อ่านแยกสนุก แต่พอมารวมแล้วมันไม่ค่อยสมูทยังไงไม่รู้
สามชาติมันไม่ได้เน้นดราม่าอยู่แล้วด้วย ถ้าอยากดราม่าไปซื้อของสยามดีกว่า(ลำนำเทพสวรรค์/เจินหวน) ได้ดราม่าจนอิ่มอ่านจบตาบวมเลย
เชิงอรรถนี่กูชอบด้วย เพราะชอบศึกษาไรจีนๆอยู่แล้วบางทีไปสงสัยจากเรื่องอื่นเสิชหาข้อมูลก็ยากมาได้ข้อมูลจากเชิงอรรถป้าหลินเนี่ยแหละ
สรุปสำหรับกูถ้างานสนุกแพงแค่ไหนก็คุ้มนะ ถึงถูกกว่าแต่เนื้อเรื่องห่วยแตก(แบบสามเพชร)อันนี้จะเสียดายเงินมากกว่า
ไปๆมาๆ ป่าท้อนี่เป็นหนังสือจีนที่อ่านซ้ำบ่อยสุดเลย (คงเพราะมันไม่หนามากสองเล่ม+ไม่ดราม่ามากจนอ่านซ้ำไม่ไหว)
>>898 จัดอันดับคล้ายๆกูเลยว่ะ
โคตรรักลำนำรักเทพสวรรค์ อ่านจบตาบวมปูด ดราม่ามากกก ไม่เคยอินอะไรเท่าเรื่องนี้เลยอ่านจบแล้วแบบคับแค้นใจมาก (ยังไม่กล้าอ่านซ้ำเลย)
แต่ที่2 กูให้เจินหวน เป็นฮาเร็มโพลิติกที่มันส์มากก ทุกตัวชิงไหวชิงพริบกันสุดๆ
ที่3สามชาติ(ชอบลิขิตมากกว่าตรงarc อาหลานเร่อ กับบทที่เฟิงจิ่วเป็นจิ้งจอกแดง)+ชอบสไตล์แปลป้าหลิน
ที่4ตำนานรักเหนือภพ กูเกลียดซือฝู 555555555555555
กูเคยอ่านแค่สามชาติกับตำนานรักว่ะ ส่วนตัวแล้วกูให้สามชาติชนะแหละ ตำนานรักกูรำคาญนางเอก อยากพุ่งเข้าไปตบหัวให้มีสติขึ้นมาหน่อย ส่วนเล่มสามกูเกลียดซือฝุ ข่นใจร้ายยย แต่กูก็เข้าใจแนวคิดแบบซือฝุว่ะ แม่งเป็นงี้มาตลอดชีวิตอะ จะให้มาเปลี่ยนในเวลาไม่กี่ปีก็ยากอยู่ แต่ที่ไม่ชอบมากๆ คือกูรู้สึกว่ามันไม่เป็นเหตุเป็นผลเลยว่ะ ยิ่งตัวร้ายนี่ยิ่งไร้ตรรกะโคตรๆ ที่ดีคือตอนจบเล่มสาม กูว่าแม่งโคตรสมบูรณ์ ภาคพิเศษมันทำให้จุดพีคก่อนตายเสี่ยวกู่หายไปเลยเหอะ ไหนว่าจะไม่รักแล้วไง
ส่วนสามชาติเป็นเรื่องที่กูอ่านได้เรื่อยๆ นะ จบแผ่วไปหน่อย แต่เท่าที่สังเกตมานิยายจีนเป็นงี้ทั้งนั้นเลยว่ะ ไม่รู้ว่าตอนเปิดเรื่องคิดปมกันเยอะไปหรืออะไร แผ่วปลาย จบรวบรัดเยอะมาก เอ้อ นั่นแหละ เนื้อเรื่องก็ชิวๆ มีมุขให้ขำเป็นระยะ กูชอบสำนวนแปลเจ๊เขาว่ะ แต่เชิงอรรถนี่ถ้าตัดๆ ออกกูว่าหนังสือเขาจะถูกลงอีกเยอะเลย
หักคะแนนสามชาติเพราะก๊อปงานคนอื่น แม่ง
มีเรื่องไหนดีๆที่เกี่ยวกับสาวๆในวังหลัง นอกจากว่าด้วยฯ เจินหวน เพชรยอดฯ อีกบ้างปะวะ กูอยากอ่านสาวๆไฝว์กัน
ทำไม ติ่ง หสม ต้องชอบไฟต์กะสีส้มวะ หรือว่าเพราะเรื่องนางสนม? // กุรู้สึกว่าเวลาเจ๊ปอ มาบีบน้ำตาว่าโดนแย่งซื้อ ลิขสิทธ์ไป ลูกหาบแม่งก็จ้องแต่จะแดกหัวสีส้ม ป.ล เหมือน สนพ แพรวจะโดดมาร่วมวงไพบูลย์แนวจีนแปลอีกเจ้าแล้วว่ะ เห็นว่าซื้อจักรพรรดินีไร้คุณธรรมไปมั้ง
>>896 กูอ่านอ่านป่าท้อ ชอบมาก ถ้าเทียบกับตำนานรักเหนือภพ กูชอบป่าท้อมากกว่า หยิบมาอ่านบ่อยกว่าด้วย ตำนานนั่นกูอ่านได้แค่รอบเดียว (แต่ก็จะเก็บต่อนะ เพราะก็ยังชอบอยู่) ตอนแรกสงสารนางเอก หลังๆเริ่มรำคาญว่าเอ็งจะยึดติดกับซือฝุไปถึงไหนฟระ นางควรจะหันไปรักตงฟางได้แล้ว(ไม่งั้นเอาพี่สาวซาก็ได้) จบ3เล่มยังให้กูมโนได้ เจอเล่มพิเศษเข้าไป... รู้สึกว่าจบที่เล่ม3 มันงดงามกว่านะ
ส่วนตงหัว กูอ่านถึงจบเล่ม 2 ยังไม่ได้ต่อซักที คือชอบเฟิงจิ่วนะ แต่นาวแพ้ทางตงหัวตลอดอะ กูชอบแนวนางเอกปั่นหัวพระเอก(ทั้งทางตรงและอ้อม)ได้มากกว่า อย่างป่าท้ออ่ะ นางเอกมึนๆ ซื่อๆและทำร้ายจิตใจพระเอกแบบไม่ได้ตั้งใจไปหลายรอบ
สรุปสามชาติที่คู่ควรเก็บกูเชียร์ป่าท้อ และประมาณพันนึงยังพอรับได้
ลำนำกับเจินหวนยังไม่เคยอ่านเลย แต่จดลงลิสไว้ รอลดเยอะๆแล้วจะไปซื้อ ต้องถนอมกระเป๋าตังค์หน่อย
>>894 ที่แปลดีคือเจ้านี้ รวมถึงแปลแบบนิยายด้วย
แต่กุไม่รู้ว่าเค้ายังแปลซีนีต่อป่าวนะ เพราะลงตอนห้าแล้วหายไปเลย แต่อันนี้คือแปลดีจริงๆ
ปล. กดเข้าไปแล้วมึงต้องระวัง เพราะในเพจมีภาพสปอยหนังถึงตอนจบ มึงหรี่ๆตาเลือกดูเอา
https://www.facebook.com/เสื่อมนะ-บอกเลย-1389078314743510
จากที่แจ่มโพสถามความเห็นเรื่องคำแปลจีน
บางคห (ซึ่งดูๆแล้วก็คนกลุ่มนั้นแหละ) จะให้ทับยัน หนูปี้ ไน่ไน่ สารพัด มากไปแล้วสำหรับกุ
แต่เชื่อว่าแจ่มไม่ปรับเยอะ นอกจากไทเฮา ฮ่องเต้ตามที่เขาถามอะแหละ
>>914 ที่จริงกูว่ปรับแค่ตำแหน่ง/ชื่อเฉพาะบางอย่างอะไรพวกนี้ก็พอแล้วนะ พวกสรรพนามให้ทับนี่กูว่าเยอะไป ถ้าเป็นสรรพนามแปลกๆหน่ออย่างที่แทนตัวเองว่าบิดา กูชอบให้แปลเป็นไทยแบบนั้นแหละแต่ดอกจันแล้วอธิบายข้างล่างไรงี้เพื่อความเข้าใจว่า อ้อ เซนส์ที่แทนตัวเองว่าบิดามันแบบนี้นี่เอง แต่ทับไปเลยแล้วอธิบายความหมายกูไม่ค่อยชอบเหมือนนักแปลแม่งขี้เกียจหาคำ คือกูเข้าใจว่าเซนส์คำดั้งเดิมบางทีมันแปลไม่ได้แปลยาก อันนี้ก็ต้องเป็นหน้าที่นักแปลแล้วว่าจะทำยังไงได้บ้าง
>>914 >>915 ลองมาเจอหนูนา แล้วจะไปไม่เป็น อะไรที่มันเยอะเกินสำหรับกูไม่ได้หมายความว่ามึงจะคงกลิ่นอายจีนตะพึดตะพือ แต่มันไร้ศิลปะสิ้นดี นั่นหมายความว่าคนแปลไม่สามารถโชว์สกิลทางภาษาให้กูเห็นความแตกต่างของหนูปี้ หนูนา หนูไฉ เจิ้น อันเจีย เปิ่นหวาง แล้วพวกตำแหน่งเครือญาติ ขอร้องเหอะ ไม่ต้องแปลตามจีนหรอก ถอดมาเลยอาหญิง อาเขย อาสะใภ้ พี่ชายป้า ย่าแม่สามี มาทับศัพท์แบบป้าหลินกูรำคาญ
กูเพิ่มเรื่องสามชาติอีกเรื่อง
ป่าท้อภาคแรก 2 เล่มจบ เรื่องกระชับ พระเอกบุคลิกพิมพ์นิยม แต่นางเอกเป็นตัวละครที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก ทำให้เรื่องไม่ดูแบนมันไปได้เพราะนางเอก คำแปลสละสลวย อ่านง่าย (สำหรับกูรอบเดียวก็เข้าใจ)
ลิขิตเหนือเขนยภาค 2 4 เล่มจบ ยืด ย้วย น้ำ ทั้งเรื่องมีแต่บังเอิญ ๆๆ บังเอิญนางเอกนึกอยากจะถอดเสื้ออาบน้ำ บังเอิญพระเอกมาเห็น บังเอิญหุบเขาเสียงธรรมเปิด บังเอิญ.... ตงหัวเค้าบอกกันว่าปังๆๆๆ แต่กูอ่านแล้วแบบแม่งปังได้แค่นี้หรอ มหาเทพอันดับหนึ่งครองสวรรค์ด้วยฝีมือตัวเอง กูอ่านแล้วนึกว่าเด็กปัญญาอ่อนที่ไหน บรรยายว่าเก่งฉิบหายไม่ได้มันนี่ล่มสลายทั้งภพภูมิ แต่ต้องให้เยี่ยหัวเด็กรุ่นหลานมาช่วย แป๊กตอนจบชัดๆ นางเอกก็ขอโทษเถอะเหมือนเด็กเอ๋อ มึงว่าที่ราชินีชิงชิวนะเว้ย ทำไมทำอะไรเหมือนเด็กปัญญาอ่อนได้ขนาดนั้นวะ ส่วนเรื่องแปล กูว่าดรอปจากภาค 1 อย่างเห็นได้ชัด วกวน อ่านยาก และเราโคตรรำคาญไอ้คำแทนตัวที่คนแปลอยากโชว์สกิลกระหน่ำใส่เข้ามา ซึ่งกูรำคาญมาก สรุปภาคนี้ 2400 ไม่คุ้ม
ต่อๆๆ
กูเคยคิดว่าถ้าสามชาติภาคแรกได้แรงบันดาลใจเข้มข้นมาจากหนี้ดอกท้อ ลองอ่านในแถลงการณ์ที่ป้าหลินเอามาแปลของทั้ง 2 ฝั่งดู มันสามชาติ 2 ภาคชัดๆ ของต้าเฟิงคนเขียนหนี้ดอกท้อ ได้สำนวนจิกกัด ทรงภูมิแบบป๋ายเฉี่ยน แต่พอมาอ่านของถังชี เธอเหมือนเด็กตีโพยตีพายอ้างตัวละครลับ ม้วนสามตลบยังหาบทจบไม่เจอ มีแต่น้ำเหมือนกับลิขิตเหนือเขนยนี่แหละ
bookloverclub คือติ่งห้องสมุด เหมือนกับถ้าใครเห็นดีเห็นงามกับคำแปลของแจ่มใสเค้าจะเรียกติ่งแจ่มใส ตอนนี้กูลาขาดถาวร จากเวบแนะนำหนังสือ รีวิวนิยาย กลายเป็นเวบอวยนิยายแปล และส่อเสียดแจ่มใส พวกรุ่นเก่าๆ ซัก 3-4 ปีที่แล้วกูไม่เห็นมารีวิวอะไรนานแล้วล่ะ เหลือแค่แก๊งค์ห้องสมุดดีเลิศเลือกนิยายสนุกที่สุดนั่นแหละ
ตอนนี้เล็งเรื่องสวรรค์ลิขิตรัก ไว้อยู่ด้วยเปิดพรีเซลล์ที่1200ก็โอเคมั้ง อ่านเรื่องบ่อละดูเรียบๆ เผอิญช่วงนี้กำลังอินแนวเทพเซียนเลยอยากเก็บๆ ส่วนลิขิตเหนือเขนยคงไม่ซื้อละ บรัย แพงด้วยสรัส
กุเคยเข้าbooklove นะ แม่งเหมือน ห้องปล่องของสาขา๒ ติ่งหสมวิ่งพล่านพุ่งชน ทั้งๆที่อ่านจีนไม่ออก แปลอิงค์ก็ไม่ได้ แม่งรู้ได้ไงว่าใครแปลถูกแปลผิดวะ แล้วเรื่องทับศัพท์ อย่าเอามาเยอะ อ่านยากชิบหาย ขี้เกียจเปิดดูแบบนิยายป้าหลินด้วย อิป้าแม่งก็ชอบยัดเยียดใส่ในเล่มให้แม่งหนาๆเท่าพจนานุกรม มีภาพสีประกอบอีก เอามาทำไม
เชี่ยกุขอบ่นหน่อย พึ่งซื้อสามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่มาพึ่งแกะ ตอนแรกกุก็งง ภาพสีท้ายเล่มที่พวกมึงบ่นๆกันนี่กุนึกว่าพวกภาพอิสลัส ภาพประกอบนิยาย ที่ไหนได้ ภาพเชิงอรรถ ไอ้สัสกุจะพ่นไฟตายห่า ไม่ทราบว่าป้าแกจะใส่เข้ามาทำไมวะนั่นยังกับหนังสือสารานุกรมความรู้รอบตัวเด็ก ร้องไห้หนักมากกกกก
ไอ้เหี้ย กูเกือบจะซื้อลิขิตเหนือเขนยแล้วววว แม่งแย่ขนาดนั้นเลยเหรอวะ อุตส่าห์คาดหวังกับตงหัว ;___;
กุคิดว่าทำเชิงอรรถแยกไปอีกเล่มเลยดีกว่ามั้ยวะ เผื่อคนที่สนใจจริงๆเค้าก็จะได้ซื้อได้
จะได้ไม่ต้องมาทนฟังคนไม่สนด่าเอาด้วย
ใส่เล่มเดียวไม่ว่า ใส่เหมือนกันสามเล่มด้วยยยย
ถามหน่อยมันมีคนไปแจ้งเขารึเปล่าว่าพวกเชิงอรรถนี้มันเกินไป
เรื่องเชิงอรรถนี่เป็นที่ถกเถียงกันมานานล่ะ เจ๊หลินแกไม่สนใจหรอก แกเคยบอกไว้แล้วว่าต่อให้เชิงอรรถซ้ำกันก็ต้องมีทุกเล่มเว้ย นักอ่านจะได้ไม่ต้องไปเปิดไปเปิดมา แต่ราคาแพงไม่ยักว่าไง
จริงงงงงงงงงงง อันนี้กูเซ็งสุดแล้วค่า จะใส่กูก็ไม่ว่าอะ ใส่มาเหมือนกันหมดเพื่อ ? ถ้ามันเป็นคำทับศัพท์ที่เค้าใส่มาแล้วจะแปะความหมายไว้ข้างล่างก็โอเค แต่ไอ้ข้างหลังเนี่ย ... กูไม่รู้ก็ไม่เป็นไรรึเปล่าล่ะ
ถ้ามันไม่มากก็โอเคอยู่นะ แต่ป้าแกดูจะใส่ใจกับเชิงอรรถมากกว่าตัวนิยายอีก
กูอาจจะนิสัยเสีย คนที่จะซื้อสามชาติทั้ง 2 ภาค ลองไปหาบิทอ่านดูก่อนกูเห็นบางเว็บมีปล่อยแล้ว ถ้ามึงโอเคก็ค่อยสั่งไป ส่วนกูมีตัวเล่มทั้ง 2 ภาคแต่ยกให้คนอื่นต่อไปแล้ว เมื่อก่อนกูชอบงานแกแต่หลังจากแกมาทำหนังสือเองงานแกเทพไม่เท่าตอนที่แกรับจ้างแปลให้สำนักพิมพ์ นอกจากสำนวนยืด ยัดเชิงอรรถไม่จำเป็นเยอะ ขยายขนาดตัวหนังสือใหญ่ ช่องไฟกว้าง ช่องบรรทัดกว้างแล้ว แกก็อ้างว่านักอ่านเรียกร้องมาให้แกทำแบบนี้หมด คนจะอ่านงานแกต้องยอมรอยอมจ่ายให้แกหมด กูคงไม่ซื้องานแกแล้วถึงจะยอมรับว่าในกลุ่มนักแปลจีนแกเก่งมากก็เถอะ กูอ่านนิยาย กูไม่ได้อ่านเชิงอรรถ
ถ้าว่าเฉพาะเนื้อเรื่อง สามชาติ 2 ภาค , ม่านม่านฯ กูอ่านก็งั้นๆ ตอนจบไม่สนุกอย่างที่คิดทั้ง 3 เรื่อง เรื่องมันสนุกแต่ตอนเปิดกับที่แกย่อ / แปลตัวอย่างเรื่องไว้แค่นั้น หลังจากนั้นยืดเหมือนกันโดยเฉพาะม่านกับลิขิต เล่มหลังๆ กูจำใจอ่านมากกว่าอยากอ่านแล้ว
แหวกม่านไม้ไผ่แป๊บ
ใครอ่าน Dragon Kin serie ขอว G.A. Aiken บ้าง
เวอร์ชั่นแปลไทยคือ แพไปแล้วใช่ไหม ออกมา2เล่มหายไปเลย กุไปดูของเมืองนอกแม่งออกมาตั้งหลายเล่ม ตะเตือนไต //โม่งน้อยผู้ง่าวEng
>>939 กูอ่านที่บนๆว่า สามชาติสามภพหนึ่งแปลได้กำลังดี แต่ลิขิตเหนือเขนยพังกว่า กูนี้อะหือออ นี้ดีแล้วเหรอว่ะ
ถ้าภาคสองพังกว่าภาคแรก นี้ป้าไม่แกะมาเหลือแต่พินอินแล้วคงไว้แต่คำกริยาเลยล่ะวะ???
ยอมรับว่าโชคดีมาก ที่ยืมภาคแรกของเพื่อนอ่าน เพราะกูว่าไม่ได้สนุกห่าอะไรเลย จะซึ้งก็ไม่สุด จะตลกก็ไม่ลงตัว
อ่านๆไปนี้ ก็คิิดภาคเป็นหนังจีนยุค80ที่แสดงอิทธิฤทธิเทพด้วยเอฟเฟคกากๆ แล้วชอบตัดฉากแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
ถ้าต้องจ่ายเงินขนาดนั้น กูอ่านไปคงร้องไห้ตาย
>>943 กูเห็นด้วย กูอ่านป่าท้อ ไม่ชินสำนวนตอนแรก อ่านยาก แต่พอสักพักเริ่มชินก็เริ่มง่วง คือมันแบนๆเนิบๆนาบๆเท่ากันหมดทั้งเรื่อง
มุกตลกก็หน้าตาย แบบ...อ๋อเหรอ... นี่ตลกแล้วเหรอ?
ซึ้ง? ก็ไม่ซึ้งนะ เฉยๆ แบบเฉลยออกมาแล้วก็อีหรอบนี้ พระเอกแม่งต้องรักนางเอกอยู่แล้ว
แล้วควักลูกตานี่รักแล้วเหรอ ถึงจะเป็นโทษเบาสุดก็เถอะ
ถ้าแม่งกล้าทำเยอะกว่านี้กูจะส่งมันไปอยู่กะซือฝุของฮวาเชียนกู่ -"-
ฉากจบก็ห้วนมาก
สรุปกูอ่านจบก็จบเลย ไม่ประทับใจ ไม่คิดจะอ่านซ้ำ และไม่คิดจะอ่านลิขิตฯต่อด้วย
>>944 ควักลูกตา ในสายตากูเป็นจุดที่พยายามปั้นเนื้อหาให้ซึ้งที่โคตรห่วยมาก เพราะสุดท้ายแล้วนางเอกก็ไม่ได้ตาบอด บอกไปติ่งจะโกรธมั้ยว่ะ กูว่าไอ้มุขที่สละตัวเองเวอร์ๆเนี้ย ที่นางเอกทำเพื่อพระเอกหรืออาจารย์เนี้ย ถ้าเขียนดีๆจะซึ้งมาก แต่ถ้าออกมาไม่ดีแบบนี้มันจะเหมือนนิยายจูนิเบียว
ตอนอ่านนี้เฟลโคตรๆ ว่านี้คือสนุกมาก??? ขนาดที่ต้องยอมทนรอสามชาติสามภพ แล้วจ่ายเงินแพงๆขนาดนั้นเลยเหรอ?
กูว่าสามชาติอ่านเอาเพลินๆ มันก็โอเคนะ อย่างที่บอกว่ามีดีที่คาแรคเตอร์นางเอก แต่พล็อตงั้นๆจริงแหละ และอารมณ์เรื่องปุปปับมาก กูรู้สึกเหมือนเอื่อยๆ มาเรื่อยๆ แล้วก็ดึงเข้าจุด(พยายาม)พีค นางเอกตกอยู่ในอันตรายแบบอีท่าไหนไม่รู้ ดูโง่ๆ แล้วพระเอกก็ต้องมาช่วยโดยเสี่ยงชีวิต พล็อตสองภาคเหมือนกันเป๊ะ กูก็ไม่รู้จะปูเรื่องยศฐา เรื่องอำนาจ เรื่องชั้นเซียน เรื่องพลังพระนางมาทำไม ในเมื่อถึงเวลาแล้วเหมือนใช้เหี้ยอะไรไม่เป็นสักอย่าง
พิมพ์แล้วรู้สึกคุ้นๆ สมัยอ่านจบใหม่ๆ กูเคยมาบ่นในโม่งแล้วนี่หว่า
สรุป ถามว่าสนุกมั้ย ก็สนุก แต่ไม่คุ้มเหี้ยๆ แพงสัด จนเด็กดีผู้อุดหนุนลิขสิทธิ์ตลอดชีวิตอย่างกูต้องยอมวางศีลธรรม ติดต่อเพื่อนเหี้ยให้แม่งสอนโหลดบิตมาอ่าน
โหลดบิทยังไงสอนที *0*
เริ่มจากโหลดโปรแกรมบิทมา หาเว็บบิทของไทย(ส่วนใหญ่มันก็มีนิยายเหมือนๆกันเกือบทุกที่) หานิยาย กดโหลด
จบจ้ะ...
อาจเป็นความคิดส่วนตัวกู แต่ว่าอย่าแนะนำอะไรผิด lc จะดีกว่านา
พูดถึงคุณหลิน ชาตินี้จะได้อ่าน หย่งเยี่ย มั้ยนะ
=___= แกยังจะแปลอยู่อีกเรอะ
กูขอนอกเรื่องหน่อย ไอ้พวกบอกโหลดบิทๆนี่ กูว่ามึงไม่ควรเอามาคุยด้วยความภูมิใจว่ามึงโหลดนะเว้ย เพราะมันผิด
คือถ้ามันผิด กูคงไม่กล้าพูดน่ะ แบบมันละอายใจชอบกล ไม่ใช่เพราะกูโหลดแล้วเงียบเลยดูสูงส่งมีระดับกว่าพวกโหลดแล้วมาพูดให้คนอื่นรู้อ่ะนะ
kyแป้บนะ จู่ๆก็นึกสงสัย เคยได้ยินว่าสมัยก่อนตอนนิยายเด็กไทยเพิ่งบูมใหม่ๆ สนพ.หลายที่ที่เลือกนิยายมาพิมพ์แม่งเขียนผิดเยอะชิบหาย ต้องมาคอยแก้ให้ เนื้อเรื่องก็งั้นๆ ลอกๆเค้ามาก็ได้แล้วบอกแรงบันดาบใจเฉยๆ หนูไม่ผิดนะ ตลค.ก็ซูสตูตามประสาวัยเบียว บลาๆ โด่ ถ้าเป็นจริง รู้งี้กูเขียนสั่วๆส่งไปก็มีโอกาสได้พิมพ์ง่ายๆอ่ะดิ เทียบกับสมัยนี้ คงยากขึ้นมาตรฐานเริ่มสูงขึ้นละ (มั้ง) 555
กูเพิ่งยืมไส้เดือนตาบอดจากเพื่อนมาอ่าน เห็นมีคุยกันตั้งแต่ความเห็นแรกๆ เออแม่งห่วยจริง สัตว์กะหมามาก เรื่องอื่นที่แม่งเข้ารอบสุดท้ายด้วยกันแม่งดีกว่าเยอะ กูให้ไวท์โรดดีกว่าด้วยเอ้า 5555
ว่าไปช่วงนั้นหนังสือแนวเยาวชนพวกนี้มันบูมเพราะแฮรี่ด้วยรึเปล่าวะ(ถึงของไทยมันจะอิงบารามอสซะส่วนใหญ่ก็เถอะ) แต่หลังจากนั้นก็รู้สึกไม่มีเรื่องไหนที่มันบูมดึงกระแสคนไปอ่านหนังสือเลย
>>966 >>967 กรุเคยเห็นที่ร้านหนังสือ เรื่องลาสแฟนตาซีภาคแรกเลย โดนแกะห่อ กรุที่เป็นพวกโรคจิตชอบอ่านหนังสือที่โดนแกะก็อ่าน ไดพบกับอารยธรรมการแก้ด้วยดินสอ ทั้งคำผิด การเว้นวรรค บลาๆ เต็ม เปิดๆ มีทุกหน้าที่โดนจนถึงหน้าล่าสุดที่เขาอ่าถึง จำลางๆว่าครึ่งเล่มได้ กับอีกเรื่องที่ทำให้กรุสับสนว่า สตอว์เบอร์รี่ หรือ สตอเบอร์รี่กันแน่ เพราะกรุทำงานด้านนี้ แต่ไม่ได้เป็นพวกฝ่ายพิสูจน์อักษรนะ โดนแก้คำจาก สตอเบอร์รี่ เป็น สตอว์เบอร์รี่
คำผิดใดเล่าของสถาพรจะสู้ยุทธภพออนไลน์ ผู้หญิงพูดผมทั้งเรื่อง
พูดถึงซาเทียร่าแล้วกูก็นึกถึงลาเซนตราเล่มจบ อีกเล่มเดียวแท้ๆสถาพรแม่งลอยแพเฉย แล้วจะให้กูทำยังไงกับสองเล่มที่ซื้อมาแล้ววะ
>>976
คนเขียนไม่น่าจะหายนะมึง แต่ สนพ. คงไม่อยากลงทุนต่อมั้ง
พึ่งเห็นห้องเด็กดวก มาคุยกันน่าสนุกดี
ทั้งเรื่องนักเขียนของเมจิคคนหนึ่งแยกไปทำมือเอง
ทั้งเห็นนักเขียนเรื่อง soso บอก สนพ.ไออุ่น ดองไม่ออกเล่มสี่ต่อแล้ว
ทั้งเห็นเรื่องนักเขียนเรื่องมนตรากระดังงา (อาทิตา) ของ สนพ.ดอกหญ้า
ต้องขอสัญญามาออก ebook เอง หลังจาก สนพ.เลื่อนออกหนังสือมานานปีกว่า
สนพ. ช่วงนี้กูว่าคงเซฟตัวกันน่าดูเหมือนกัน
อีกสักพักกูว่านิยายจจำพวกนี้คงได้พิมพ์เองขายเองกันหมดแหง คงมีจำนวนน้อยจริงๆที่ผ่านสนพ.
เออพวกมึง กูพึ่งยืมหัวขโมยแห่งบารามอสมาอ่านเล่มแรก (อ่านถึงบท 2) ตกลงเฟรินนี่ผู้ชายเหรอวะ บอกหน่อย
ถ้าวายกูจะได้เลิกอ่าน (ไม่ใช่รับไม่ได้แต่ไม่ใช่แนว)
สปอยล์เพิ่มเติมได้นะ บิบิ
เพื่อนโม่ง แนะนำนิยายสืบสวนสนุกๆ ให้กูที คือกูรู้สึกว่ามันหาอ่านยากเหลือเกิน
เอาแบบที่ไม่มีเรื่องเหนือธรรมชาติเวทมนตร์มาเกี่ยวข้องน่ะ แล้วก็ไม่เอาคินดะอิจิ กูเคยอ่านแล้ว
>>984 แต่ปัญหาอีกอย่างคือนักเขียนอาจจะรู้ยอดที่ทาง สนพ. บอกลอยๆ เอาไว้ให้ด้วย
ทำให้นักเขียนอาจมีนอยนิดๆ ว่าทำไมเหล่าแฟนคลับมันซื้อน้อยกันจังวะ
บางทีคิดว่าทำมือเองอาจไม่คุ้มค่าเหนื่อยอีก คงมีอีกวิธีคือออก ebook นั่นแหละ
พอจะไม่ต้องลงทุนสูง
แค่เสียค่าออกแบบปกหรือค่าจัดรูปเล่มเองอีก (แต่ถ้าต้องการปกสวยๆ ก็ต้องลงทุนเหยียบหมื่นอีก)
เกี่ยวกับเรื่องดองไม่ออกหนังสือต่อ...ลองอ่านดูเล่นๆ นะเพื่อนโม่ง...
คือไม่รู้จะโทษความผิดของใคร
1.สนพ.(ลงทุนไปแล้วไม่คุ้ม)
2.นักเขียน(หายตัวหรือดองทั้งๆที่อาจเขียนจนจบแล้วแต่ติดลิขสิทธิ์)
3.แฟนคลับแบบสำหรับคนที่ซื้อเล่มแรกๆไปแล้ว...
4.แฟนคลับแบบที่ไม่ตั้งใจซื้อตั้งแต่แรกรอคอยอ่านจากเว็บอย่างเดียว...
หัวข้อตัวอย่าง...
คิดยังไงกับสนพ.ที่ลอยแพนิยายด้วยเหตุผลที่ว่า....
http://www.enter-books.com/forum/index.php?topic=9701.0
เอ่อ กูถามห้องนี้ถูกป่ะวะ คือกูต้องการแบกหนังสือหลายเล่มเวลาไปไหนมาไหนกูเลยคิดจะแสกนหนังสือตัวเองทำเป็นไฟล์ pdf ไว้อ่าน
ทีนี้กูเลยเล็งๆพวก e-reader ุ6 นิ้วเพราะพกง่ายดี มีใครเคยใช้บ้างมั้ย? มันอ่านได้ไม่มีปัญหาใช่ป่าว
หรือขึ้นอยู่กับไฟล์ที่แสกน ถ้าตั้งค่าแสกนใหญ่ๆชัดๆจะอ่านเห็นไม่มีปัญหามั้ย? หรือไม่เกี่ยว
คือกูถามคนใกล้ตัวมีแต่คนเชียร์แทบเล็ตอันใหญ่ๆ ไม่ก็ e reader อันใหญ่ซึ่งมันหนักและพกลำบากมากกกก
คือพอจะรู้ว่าถ้าอ่านแนวนอนก็ไม่มีปัญหาแน่นอน แต่อารมณ์ว่าอยากให้อ่านแนวตั้งด้วยได้ ถามไว้เผื่อมีใครมีประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟัง
>>>/subculture/2280/
ตั้งใหม่ละนะ
วิ่ง บิบิ
วิ่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง เอ้าออกมาวิ่ง
แค่วิ่งผ่านทางมา
>>989 เดินทางบ่อยๆ เดี๋ยวนี้ใช้มือถือไม่ก็แท็ปเล็ตเถอะ 6 นิ้วนี่ขนาดพอๆกับเลย
เรื่องการสแกนมันเหมื่อนกับรูปภาพแหละ ถ้ามึงต้องการภาพความละเอียดมากให้มึงตั้งค่าdpiสูงๆ แต่ความละเอียดสูงๆจะเปิดหน้าช้า พูดภาษาบ้านๆคือภาพชัดไม่เกี่ยวกับตัวหนังสือใหญ่เต็มจอ ขึ้นอยู่โปรแกรมเปิดและอัตราส่วนภาพ
>>989
แบบ 8 นิ้วอ่านสบายตามากกว่าวะ
https://www.hytexts.com/buy_i86.php
ส่วนหนังสือจะไปสแกนให้เหนื่อยทำไม เสียเวลามาก (ในกรณีที่มึงสแกนเองนะ)
ช่วยอุดหนุนนักเขียนเขาหน่อยสิ ถ้าในอนาคตมึงยังอยากอ่านเรื่องใหม่ๆ อยู่
ทั้งใน meb หรือเว็ปอีบุ๊คอื่นๆ
วิ่งงงงงงงงงงง
ปิด
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.