>>>/subculture/648/ แม่บ้านโม่งสายหนังสือ วงการนิยายไทยมีเหี้ยไรให้นินทามั้ย
>>>/subculture/890/มหกรรมแม่บ้านสายหนังสือแห่งเว็บโม่งครั้งที่ 2
Last posted
Total of 1000 posts
>>>/subculture/648/ แม่บ้านโม่งสายหนังสือ วงการนิยายไทยมีเหี้ยไรให้นินทามั้ย
>>>/subculture/890/มหกรรมแม่บ้านสายหนังสือแห่งเว็บโม่งครั้งที่ 2
สารบัญเกี่ยวไรวะเฮ้ย
ดีแล้ว กระทู้ชื่อแม่ย้านมันฝือ
ไหนๆ แล้วก็รวบรวมนิยายขวัญใจโม่งจากกระทู้ด่อนกันหน่อย
เพื่อนโม่งมีใครอ่าน don Quijote บ้างวะ
มึงงงงกูอยากถามว่าพวกนิยายกริมม์แบบฉบับดั้งเดิมที่เนื้อหาแม่งกุโระหน่อย ๆ นี่มีใครพอรู้จักไหม เอาแบบอิ๊งก็ได้ กูไปเดินดูมาที่คิโนะแม่งเยอะจนกูแยกไม่ถูกว่าอันไหนเป็นอันไหน
หนังสือเยอะพอกัน บ้านกูไม่มีคนอื่นอ่านด้วยกูไม่อยู่บ้านยังดีมีแม่ช่วยไปปัดฝุ่นชั้นหนังสือให้บ้าง กะว่าสักวันคงทำใจเอาไปบริจาคต่อ ขายต่อหรือไรก็ตามแต่ พวกหนังสือดีมีสาระยังพอ แต่โดวายนี่กูต้องเผาทิ้งก่อนตายไหมวะเนี่ย
ของกู 30000 เล่ม อ่านแล้วจำใส่หัวแล้วจะไปไหนก็ไป (ส่วนใหญ่ไปบ้านญาติ บ้านแม่บ้าน) เก็บแต่เฉพาะที่ชอบจริงๆ
ตอนนี้ก็สะสม e book อยู่นะ สบายใจดีถ้าไม่โดนแฮคเอา account ไป
การ์ตูน นิยาย นิตยสาร ส่วนใหญ่การ์ตูน
มันตกมาตั้งแต่รุ่นตายาย รุ่นแม่ รุ่นพ่อละ แล้วพอคบกับแฟนก็กลายเป็นสองบ้านรวมเป็นหนึ่ง
ปัจจุบันที่อยู่กับตัวยังหลายพัน ขนาดทยอยเลิกซื้อแล้วนะ
จริงๆอยากสะสมหนังสือเพิ่มแบบบ้านโน๊สอุดมนะ หนังสือที่มีภาพสวยๆ หนังสือรวมศิลปิน แต่สู้ราคาไม่ไหว
รู้สึกสิ้นหวังกะห้องสมุดโรงเรียนวะ พวกวรรณกรรมอะไรที่พวกโม่งๆว่ามาไม่มีเลย สามก๊กก็หาย เหลือ2เล่มจาก4 พวกอารยธรรมกรีกก็มีแค่เล่มเดียว รู้สึกอนาถจัง
ห้องสมุดโรงเรียนกูมีฮันนิบาลซุกเหงาๆอยู่มุมตู้หนังสือ สะอาดเอี่ยมมากไม่มีรอยจับหรือการยืม กูอยากจิ๊กกลับบ้านจัง
ปล.กูเคยยืมหนังสือขุนช้างขุนแผนแบบกลอนเล่มหนาๆกลับบ้าน ดูในบัตรยืมแล้ว มีกูยืมอยู่คนเดียว กูรู้สึกเศร้าแปลกๆ หรือในโรงเรียนนี้กูจะรักการอ่านอยู่คนเดียววะ
มหาลัยกูมีเพชรพระอุมายกชุด เฮสเสเกือบทุกเรื่อง แล้วก็นิยายของพวกบ้านวรรณกรรมแบบคู่กรรม ทวิภพ มีของว.วินิจฉัยกุลหลุดมาประปราย มหาลัยกูไม่มีคณะพวกสังคมหรืออักษรมีให้อ่านเท่านี้ก็ดีถมเถแล้ว
มหาลัยกูมีแต่เท็กซ์บุ้ค เศร้าแปร๊บ
กูเลิกเข้าห้องสมุดโรงเรียนตั้งแต่ชั้้นวรรณกรรมเยาวชนโดนแจ่มใสปกลูกกวาดเบียดบัง
ยังดีที่ห้องสมุดมหาลัยยังมีหนังสือแบบที่กูชอบให้เสพย์
เพื่อนโม่งช่วยนิยาม+ยกตัวอย่างหนังสือที่เข้าข่ายขยะวรรณกรรมให้กูฟังหน่อยดิ อยากอ่านความเห็นว่ะ
พี่ครับ ผมมาจากต่างจังหวัดกำลังจะไปงานหนังสือ
อยากทราบว่าพอขึ้นที่สถานีสิริกิตแล้วต้องนั่งรถต่อไปอีกไหมครับ
ตอนนี้อยู่บนรถทัวร์กำลังจะถึงหมอชิต
กูไม่ตบมุกมึงนะ
LNเกือบทุกเรื่องในไทยก็เข้าข่าย ยิ่งของfuckpimนี่ยิ่งใช่
>>23 http://writer.dek-d.com/say-u/story/view.php?id=1211829
เอาอันนี้ไปอ่านแล้วจะร้องสัตว์ออกมา
พอเถอะนะโม่งจ๊ะ มาคุยเรื่องนิยายดีๆดีกว่านะ
เออเปิดประเด็นที่มันเข้าท่าใหม่ดิ...
ไอ้เรื่องประเด็นด่าๆนี่บ่อยไปก็ท้อ
เพราะด่าจนใจตัวเองขุ่นมัว
ช่วงนี้นิยายมาใหม่ไรที่น่าสนใจบ้าง ไม่ก็นักเขียนรุ่นใหม่ๆที่สำนวนเข้าท่าอ่ะ แนะนำหน่อยสหายโม่ง
ทำไมคนชอบมาถามหาอะไรใหม่ๆวะ เก่าๆมึงอ่านกันหมดแล้วหรอไง
วัฒนธรรมหนังสือมันเลยจุดสูงสุดมาครึ่งศตวรรษแล้ว มาตามหาหนังสือใหม่ๆมึงก็ได้แต่ขยะนั่นแหละ
>>36 มึงจะให้กูจมกับอะไรเก่าๆหรือ ถึงกูจะอ่านมันยังไม่หมดก็เถอะ
ถึงนิยายเก่าๆมันจะดีมันจะเป็นยุคทองแต่อะไรเก่าๆก็ไม่มีบรรยากาศแบบสมัยใหม่ ไม่มีอารมณ์แบบที่เจอตอนอ่านสมัยใหม่ และก็เพราะส่วนใหญ่มันมักเขียนห่วยเนี้ยแหละ คนถึงต้องถามว่า แบบใหม่ๆมีอันไหนดีบ้างจะได้หามาอ่าน
>>36 การอ่านของกูมีสองแบบคือ อ่านเอาเรื่อง กับอ่านเอาภาษาว่ะ และกูไม่เคยนับว่าสิ่งพิมพ์เป็นขยะ เมื่อก่อนกูก็เคยด่าเหมือนกันเรื่องขยะวรรณกรรมนี่ แต่ผ่านไปซักพักกูคิดว่าการอ่านมันอยู่ที่รสนิยมว่ะ คนเราไม่สามารถชอบอะไรเหมือนกันได้ งานเขียนที่บอกมาว่าขยะๆแต่เสือกขายได้คือแม่งตรงกับรสนิยมที่คนๆนั้นอ่านเว้ย บางคนชอบแนวตบจูบ บางคนชอบเรื่องลึกลับ งานกากงานดีก็แล้วแต่คนนั้นจะมองวะ
การที่กูชอบอะไรใหม่ๆ คือกูอยากเปิดรับมุมมองใหม่ๆ บ้าง ไม่ใช่ตีกรอบกันตัวเองให้อยู่ในคอก ท่องให้ขึ้นใจว่าสิ่งที่กูอยู่คือสิ่งที่ดีงาม ข้างนอกแม่งสวะ
การอ่านมันคือรสนิยม อย่าเอาคอกมากกั้นกู
//ถอนสายบัว
มีใครเคยอ่านงานของ วิวัฒน์ เลิศวิวัฒน์วงศา ไหมเพื่อนโม่ง
กูอ่านแต่กิ่งฉัตรกับอ.วินิดา แม่มไม่ค่อยรู้เรื่องหนังสืออะไรเล้ย
ไปดูในโม่งคอมมูตอนนี้สิ ถ้ามึงบอกว่าแบบนั้นไม่ใช่ขยะวรรณกรรม(คอมมู) กูก็นับถือมึงเลย แต่งเรื่องได้แบบไม่หาข้แมูล จะเอาแต่พลังมโนของตัวเองอย่างเดียว แถมเขียนขัดกันเองอีก แม่งขยะชัดๆ
ไม่รู้สินะ สำหรับกูคือ นิยายมันควรจะนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ว่ะ ไม่ใช่มีแต่พล็อตแนวเดิมรูปแบบเดิมซ้ำซากอะมึง เหมือนละครเนี่ย พล็อตเดิมตบจูบน้ำเน่า วนลูปสัส
แต่นำเสนอสิ่งใหม่นี่ ต้องดีด้วยนะมึง ไม่ใช่อะไรห่วยๆ ออกมา คือของพวกนี้มันเหมือนเป็นสื่ออย่างนึงปะวะ มันมีอิทธิพลกับคนอ่านว่ะ
หนังสือบนโลกมีเป็นล้านๆเล่ม
ถ้าเอาแค่นิยาย Plot มันจะซ้ำกันก็ไม่แปลก
แต่มันมีความต่างอยู่ที่การนำเสนอ การบรรยาย การพรรณนา
การคิด Character และเสน่ห์ของการดำเนินเรื่องปลีกย่อยอีกร้อยแปดทำให้เกิดเป็นเอกลักษณ์
ถ้าเอาแค่แฟนตาซีไทย
กรูก็เห็นตั้งแต่ยุคบารามอสเฟื่องฟูแล้วนะ (เรียกว่าแนวโรงเรียนแล้วกัน)
การบรรยายงี้มาในแนวทางเดียวกันหมดเลยหวะ...แต่ไม่เข้าท่าสักเรื่อง
ไอ้เรื่องได้รับอิทธิพลจากงานเขียนนู่นนี่นั่นก็เข้าใจ
แต่ถ้ากระทั่งเอกลักษณ์ยังแสวงหามาไม่ได้มันก็ขายคนอ่านที่ผ่านตางานเขียนแบบนี้มาเยอะๆไม่ได้หรอก
อารมณ์ประมาณแบบ...ผ่าน plot แบบนี้มาแล้ว มุกนี้แม่งดาษดื่น
บรรยายก็คล้ายๆกัน พรรณนาก็แนวทางเดียวกัน....
gen 2 ก็คงเป็นแนวออนไลน์
ซึ่งกรูก็ไม่เข้าใจว่า 80% เป็นเหี้ยไรมากกับ Plot สัตว์อัญเชิญเพศหญิง
เหมือนสร้างฮาเร็มกลายๆ
แต่ถ้าถามว่านักเขียนแฟนตาซีไทยคนไหนยำ Plot ได้เก่งสุด
กรูคงตอบแสงจันทร์แบบไม่ลังเล...
พล็อตแนวออนไลน์กูว่ามันมาในช่วงกระแสบุฮี้ฮาเร็มด้วยวะมันก็เลยเข้าทำนอง เข้าเกม โชว์เทพ ตกหญิง เซอร์วิส
เอาจริงกูว่าตั้งแต่แรกเลยนิยายไทยส่วนใหญ่แม่งก็ลอกมาหมด ขนาดรุ่นใหญ่ๆแม่งยังลอกเลยแบบคึกฤทธิ์(ยอมรับเลยว่ากูเสียความรู้สึกสัส)
แล้วลอกนะไม่เท่าไร ลอกแล้วยังเสือกทำให้เป็นแบบฉบับตัวเองไม่เป็น ก็ได้แต่วนเวียนอยู่กะพล็อตขายฝัน การบรรยายห่วยแตกนั้นละ
แต่ก็เสือกขายดีเพราะคนอ่านส่วนใหญ่แม่งเป็นเด็กที่ไม่ได้อ่านเยอะพอจะเทียบไรได้
กูเคยอ่านเจอว่าพล็อตเรื่องบนโลกมีซ้ำกันอยู่ 25 แบบ อยู่ที่วิธีนำเสนอออกมาว่าแตกต่างยังไง อย่างแฮร์รีก็เป็นพล็อตซ้ำชนิดหนึ่ง เช่นพระเอกมีพลังพิเศษ เป็นคนในคำทำนายว่าจะปราบตัวร้าย มีความกล้าหาญและเสียสละ แต่มันก็ยังสนุกเพราะขายความแตกต่าง โรงเรียนเวทย์มนต์ แฟนตาซี หาข้อปกปิดและสร้างโลกได้เจ๋งมากจนมีคนหลายล้านคนอยากเป็นส่วนหนึ่งในโลกแฮร์รี่ (กูด้วย) บรรยายก็สนุก มุกตลกแบบอังกฤษก็ไม่ได้ทำให้คนไม่สนุกเลย
อีพล็อตออนไลน์นี่มันดังเพราะอะไรวะ มันเป็นกระแสแทนโรงเรียนเวทมนต์ไปตอนไหนเนี่ย
ไม่อ่านเอาเนื้อเรื่องก็อ่านเอาภาษาบางเรื่องแม่งไม่มีดีสักอย่างแต่ยังเสือกได้ตีพิมพ์ นี่กูควรทำยังไงกับมันดีวะ
ตอนกูซื้อกูก็คาดหวังสักอย่างเหมือนกัน ไม่ต้องครบ แม่งมีสักอย่างก็พอ .....แต่เสือกไม่มี.... กูควรเรียกว่าอะไรดีวะ
พล็อตของแฮรี่มันแทบทำตามขนบในheroes with a thousand faceเลยนะ มึงลองอ่านดูจะรู้เลยว่าฮีโร่แต่ละคนมีแนวทางที่เป็นแบบแผนมาเป็นพันๆปีแล้ว เป็นหนังสือที่ดีมากๆะล่มหนึ่งเลย
งานใหม่ๆ กูอ่านแต่ของลวิตร์... แต่ถ้ามึงจะเอานิยายแปลด้วยก็ได้หลายเล่มนะ ถ้าเอาแบบหนาปึ้กๆ ร่วงใส่หน้าแล้วตายห่าก็ต้อง World without end ของ Ken Follet มีแปลไทยแล้ว ตอนกูอ่านหนุกมากๆ วางไม่ลง
กูอ่านนิยาย LN บางเล่มแล้วก็อิจฉาในความเปิดกว้างของตลาดสิ่งพิมพ์ญี่ปุ่นนะ บางเรื่องกากหมาสัดๆ มีแต่ตลกฝืดกับตัวละครหญิงไว้บุฮี้ก็ขายออกแล้ว ได้แปลขายตปท.ด้วย กูริษยา
กูชอบคำว่า "การอ่านมันคือรสนิยม อย่าเอาคอกมากกั้นกู" นะ แต่มึงก็ต้องเข้าใจด้วยของเหี้ยก็คือของเหี้ย ถึงคนชอบมันก็เหี้ย บางครั้งเราจะแดกของเหี้ยๆบ้างมันก็ไม่แปลก แต่ถ้าแดกเยอะๆไป หรือเห็นเหี้ยกลายเป็นดีมันก็ไม่ไหว
มาทีกูซื้อlnกากสัสหมามาเพื่เสพสมภาพกับอวยตัวละคร
เออ นอกเรื่องนิด ใครเป็นนักเขียนบอกกูทีว่าเนื้อหาของเรื่องสั้น (?) ในกระทู้นี้แม่งเป็นความจริงอ่ะป่าว http://pantip.com/topic/32778679
ถ้าจริงกูก็ไม่แปลกใจที่ทำไมนิยายไทยพล็อตมันซ้ำซากเยี่ยงนี้ เกิดจากการคัดสรรของบก.เองนี่หว่า...
คือการอ้างคำว่ารสนิยมนี่ มันหมายความว่า ถ้ามีคนชอบกินขี้ บอกว่าขี้คืออาหารชั้นยอด คือสิ่งดี แล้วมาพูดใส่หูคนอื่นว่ากินขี้กันเหอะ ดีนะ
กูต้องยอมรับหรอวะ
กูว่าถ้ามีคนชอบกินขี้ แล้วมันพร่ำพรรณาของมันอยู่คนเดียวว่าขี้แม่งดี ประเสริฐงั้นงี้ ไม่เอามายัดเยียดใส่หน้ากู กูก็รับได้นะ เพราะเป็นเรื่องของมัน
แต่ถ้าเอามาชักชวน กูตบใส่แม่ง
>>63 ก็นิยายที่ขายดีที่สุดเป็นนิยายเยิ้บนี่หว่า พวกป้าๆนี่กำลังซื้อเยอะ กูเคยเห็นป้าคนนึงเข็นรถเข็นผ่านหน้าไปในนั้นแม่งมีแต่นิยายเยิ้บ พอกูไปยืนหน้าบูธที่ป้าเขาซื้อ คนขายรีบแนะนำเรื่องนี้ขายดีมากค่ะ ฉากเรททุกฉากทุกตอนจุใจ เป็นเรื่องของนางเอกถูกขายเป็นโสเภณีเพื่อใช้หนี้ให้ครอบครัว อีกเรื่องก็พระเอกแค้นครอบครัวนางเอกเลยหลอกนางเอกมาเย็ด.......นี่มันอาชญากรรมชัดๆ
มันแยกระหว่างความชอบกับประโยชน์ได้นะ อย่างฟาสฟู้ดนี่กูว่าอร่อย แต่ถ้าบอกว่สมันมีประโยชน์เท่ากับสลัดนี่กูว่าไม่ใช่
วรรณกรรมก็เหมือนกัน มันแยกองค์ประกอบได้ว่าส่วนใหนดีไม่ดี เช่น ภาษา พล็อตเรื่อง ข้อมูล/ความสมจริง การผูกเรื่อง/ปริศนา-การเฉลย มิติตัวละคร หรือจรรยาบรรณ เช่น การลอกงานคนอื่น การโขมยงาน นีกเขียนผี ฯลฯ
ควาสชอบมันก็ส่วนหนึ่ง อย่างกูเองก็อ่านนิยายเด็กดีฆ่าเวลา แต่กูก็ไม่ปฏิเสธว่ามันนิยายขยะ แกรี่สนองนีดคนแต่ง มีส่วนน้อยที่กูคิดว่าพอไปวัดไปวาได้ แต่ก็เทียบกับนิยายขึ้นหิ้งไม่ได้อยู่ดี
>>69 นักเขียนชื่อทรรศิกาของแจ่มใส ลอกงานแบบเอาภาษาบรรยายเรื่องตามรักคืนใจของกิ่งฉัตรมาใส่ในงานตัวเอง แล้วหลังจากนั้นก็มาเกรียนจับผิดว่านิยายเรื่องสูตรสเน่หาของกิ่งฉัตร ลอกซีรี่ยส์เกาหลีเรื่อง Witch Yoo hee แต่จริงๆสูตรสเน่หาตีพิมพ์ก่อนตั้ง 3 ปี
อันนี้ตลกจริง ก๊อปรุ่นใหญ่แล้วมาหาเรื่องเขาต่อ ตัวเองไม่เจ๋งจริง ข้อมูลก็ไม่แน่น
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.