Last posted
Total of 897 posts
>>876 นี่สามกีบอีกตัว https://www.facebook.com/share/vUQFiQ65P6mE7ERg/
มหาอำนาจ สร้างจากความคุ้มค่า ในการครองพันธมิตรทางทะเล เพราะเมื่อได้ล้อมกรอบ จะรวยไม่รู้เรื่อง วิชาเศรษฐศาสตร์ สุดท้ายมันย้อนกลับไปที่ 4 หมวดในบทแรก
.
คือ Land Labor Capital Entrepreneur ผมใช้เวลาอีกสิบกว่าปีในการตอกย้ำทั้ง 4 ปัจจัยในบทแรก จนผมได้ข้อสรุปที่เป็นรูปร่าง โดยถอดออกมาเป็นโจทย์เชิงรูปธรรม
.
1. การชนะ Land = สมุททานุภาพ และมหาพันธมิตร
.
2. การชนะ Labor = การศึกษาที่ใช้ทุนและการชักนำโดยบริษัทเอกชน และสร้างความฝันถึงโอกาสในชีวิต
.
3. การชนะ Capital = ตลาดทุนที่โตต่อเนื่อง และไม่ถูกถอดทิ้ง ทั้งจากผู้มีอำนาจและปัจเจกชนในสังคม
.
4. การชนะ Entrepreneur = ลดภาษี เพิ่มสิทธิพิเศษการลงทุน เปิดรับยอดคน จากทุกวัฒนธรรมและเชื้อชาติ และรักษาศักยภาพของข้อ 2-3 ให้มั่น
.
บทนี้เน้นสั้นๆ แต่สิ่งที่คนไม่เข้าใจคือคำว่า Land
.
Land ไม่ได้แปลว่าแผ่นดิน แต่แปลว่าทรัพย์แห่งดินแดน -- ในที่นี้รวมทั้งผืนน้ำและท้องนภา โดยการมีอำนาจเหนือมหาสมุทร จะทำให้มีอำนาจเหนือการเข้า-ออก คัดเลือกของ คัดเลือกคน ในทุกๆดินแดน
.
แต่เขาไม่ได้ต้องการทุกดินแดน เขาต้องการแค่ 'หน้าเค้ก' แห่งดินแดนเท่านั้น เพราะถ้าครองดินแดนมากไป ในที่สุดมันจะดูดทุนเราจมไปด้วย และเราจะเสีย มากกว่าได้
.
มันจึงมีแค่บางประเทศ ที่ได้รับพลังโฟกัสนี้ คือพวก 'ขอบทวีป' เช่น ญี่ปุ่น สิงค์โปร์ พวกช่องแคบฮอร์มุซ และแหลมยุโรป รวมทั้งกองหลังโลกอย่างออสเตรเลีย
.
ข้อ 1 เป็นหน้าที่หลักของรัฐบาล -- ส่วน 2 3 4 หน้าที่หลักอยู่ที่เอกชน-ประชาชน
.
บทขยายความ จะอยู่ใน คม. ย่อย
ให้เห็นภาพ ถ้าประเทศไทยถูก Boycott เงินสดของเราก็ไม่มีค่า เพราะเอาไปซื้อน้ำมัน สินแร่ ฯลฯ ไม่ค่อยจะได้ (นึกถึงประเทศลาว)
.
ระบบเงินในภาพใหญ่ของโลก จึงโยงไปที่ 'ผู้สร้างเงิน' เสมอ ... แล้วผู้สร้างเงินคือใคร ?
.
มันต้องถามต่อ ... เงินอะไร ?
.
ถ้าเงินที่ยอมรับในโลกมากที่สุด คือ
'เงินดอลลาร์สหรัฐฯ' เพราะเอาไปซื้อน้ำมัน โลหะ แร่ ธัญพืชได้ทั่วโลก ถัดมาก็ยูโร หยวน(เหรินมินปี้)
.
เงินดอลลาร์ เป็นหนี้สินของ FED
แล้วในงบดุล (ฺbalance sheet หรือทางการเรียกว่า งบแสดงฐานะการเงิน) มันต้องมีสินทรัพย์ถ่วงอีกด้าน ... มันคืออะไร ?
.
มันก็เช่น พันธบัตรของรัฐบาล -- เป็นกระดาษที่รัฐบาลสัญญาค่าของเงินไว้ อันนี้คือส่วนใหญ่ๆ นอกนั้นก็มี ทองคำ ใบค้ำประกันอสังหาฯ เงินของต่างประเทศ (นึกถึง ร.3 ที่มีเหรียญเม็กซิโก)
.
แต่กระดาษนั้น ไม่ต่างจากทะเบียนสมรส มันเป็นเชิงคำสัญญา -- ที่ต้องมีภาคปฏิบัติ เงินสดเหมือนทะเบียนสมรส ผูกมัดโดยกฎหมายไม่ต่างหนี้สิน ดังนั้นถามต่อว่า แล้ว Asset อะไรที่จะทำให้ทะเบียนสมรส ไม่ล่ม ? ... นี่สิ สำคัญ
.
+
.
ถ้าถามว่า อะไรจริงๆคือ Asset ? มันจะเป็น
คำที่ผมพูดบ่อยๆ คือ 'การควบรวมปัจจัยการผลิต' แปลว่าอะไรวะ ? ...หมายถึงอำนาจแห่ง
1 ดินแดน 2 แรงงาน 3 ทุน และ 4 นายทุน
.
ทั้งหมดมี 4 หมวด ที่เข้าใจยากที่สุด คือคำว่า 'ทุน' (capital) ตัดบทเลย ทุนจริงๆ รวมตั้งแต่ ความรู้ การศึกษา กฎหมายที่ชัดเจน ทำได้จริง จับจริง เป็นธรรม ไม่ซอกแซก มั่นใจได้ ฯลฯ
.
ทุนยังรวมถึง อาวุธ อำนาจครอบครอง อำนาจการขนส่ง อำนาจเหนือพันธมิตรและทะเล เมื่อคุณมีทั้ง 4 อย่างเหนือกว่าชาติอื่น คุณจะสร้างเงินได้ไม่อั้น และทั้งโลกจะยอมรับ เพราะเขาไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าคุณ
.
สังเกตมั้ย สหรัฐฯ จะต้องครอง 4 สิ่งนี้ให้
มากที่สุด -- เขาครองดินแดนด้วยการทำ Nato สานต่อพันธมิตรญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ครองอำนาจเหนือ 2 มหาสมุทรหลัก เป็นอย่างน้อย ก็เท่ากับได้ใช้ที่ดินไปครึ่งโลก มาสร้างผลผลิตที่กำไรสูงที่สุด
.
แรงงานที่เก่งที่สุด ก็อยากมาสหรัฐฯ ทุน ไม่ต้องพูดถึง ทั้งอาวุธ ทั้งเทค ทั้งกฎหมาย การทูต การปกครอง
.
และนายทุน ก็คือเศรษฐี นักคิด นักประดิษฐ์ที่หลากหลาย จะมาจากชาติไหนก็มาเถอะ เป็นต้น
.
+
.
ดังนั้น หนี้สินที่ชื่อ ดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่ได้มาลอยๆ มันมีอำนาจของจริงเป็น Asset ที่ Back อยู่เพียบ
.
บรรทัดนี้คิดแบบ 'ตัดอคติ' ลบคำว่าฝรั่ง แขก แขกออกไป -- โดยหลักการ ไม่ว่าแต่งงาน ไม่ว่าคบเป็นเพื่อน หรือหุ้นส่วน เราล้วนต้องปรับ Software ให้เข้ากันได้
.
การพูดว่า เราจะไม่แทรกแซงคนอื่น
เราเคารพธรรมชาติของคุณ ฯลฯ
.
มันฟังดูดี แต่มันคือ One Night Stand
.
แค่เอากันเสร็จๆ ก็ไป เพราะเมื่อไม่ได้คิดจะเป็นผัว-เมีย มีลูกกัน ก็ไม่ต้องปรับปรุงอะไรทั้งนั้น ใช่มั้ย ? แล้วในทางเศรษฐกิจ 'มันกากมาก' --
.
+
.
บรรทัดนี้ เทียบฝรั่ง-จีน
.
สุดท้ายนะ มันต้องปรับ เพราะปัจจัยการผลิตคนที่ชนะจะต้องควบรวมสี่สิ่งนี้ จากการโฟลว์ไปทั่วโลก
.
แล้วคำว่า 'ทุน' มันไม่ใช่แค่เครื่องจักรโรงงาน
ไม่ใช่แค่พลังงาน น้ำมัน แก็ส แต่รวมถึง Software อันได้แก่ ระบบปกครอง การศึกษา ระบบธุรกิจ กฎหมายที่ไว้ใจได้ นิติธรรม วัฒนธรรม ค่านิยม มายเซ็ท
.
ถ้าคุณจะพัฒนาหุ้นส่วนร่วมกัน
มันต้อง ปรับมายเซ็ทระหว่างกัน
.
คุณจะคิดว่า กูจะเป็นชาวนา จะเป็นไทยๆ แล้วเดี่ยวพี่จีนจะมาช่วย ... ปัดโธ่!
.
ต่อ ...เรื่องรัสเซีย พี่แกก็จะออกทะเลเหมือนกัน
>>876 สรุปไฟไหม้เพราะแก๊สรั่ว ต้องยกเลิกทัศนศึกษาหรือยกเลิก NGV
https://www.fm91bkk.com/newsarticle/37964
ทำไมรัสเซีย ทำสงครามยูเครน ? ผมตอบว่า มันคล้าย เสี่ย 2 ตระกูล แย่งที่ดิน
แยกปทุมวัน ใครชนะ คนนั้นได้ทำเลเด็ด แล้วผลักผู้แพ้ออกไป จากนั้นเขาจะได้อีกหลายเด้ง
.
การได้แยกปทุมวัน ไม่เพียงแต่จะสร้างพารากอน แต่ยังรวมถึง อำนาจเหนือซัพพลายเออร์อื่นๆ ผมกำลังพูดถึง หน้าเค้กทะเลดำ มันเป็นสงครามนาวิกศาสตร์ สงครามแห่งการครองทะเล
.
ไม่ใช่แค่ยึดยูเครน แต่ต้องผลักตะวันตก ออกจากทะเลดำ เมื่อชนะฝ่ายรัสเซียก็คุมทวีป
.
สงครามยูเครน ปูตินรู้มั้ย ว่าต้องเสียบอลติก
เพื่อแลกกับทะเลดำ ?
.
บอลติกคือทะเลส่วนบน เป็นทางส่งแก็ส และผลิตภัณฑ์ไปยุโรป โดยรายได้ของรัสเซียมาจากเส้นทางนี้มากที่สุด
.
ทำไมจึงมุ่งหมายทะเลดำ ที่เป็นรายได้อันดับ 2 ของรัสเซีย
คำตอบที่คุ้มราคา คือ 'การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ'
.
+
.
ธุรกิจ ต้องทำที่หน้าเค้ก จึงได้กำไรสูงสุด
ถ้ายุโรปยังคุมพื้นที่ หรือยูเครนเป็นฝ่าย EU ส่งผ่านได้ มูลค่าเพิ่มสูงสุดจะยังอยู่กับฝ่ายยุโรป (ปาดหน้าทำกำไรก่อน) การประกอบการเพิ่มมูลค่าจะเป็นของ EU
.
ส่วนรัสเซีย จะได้บทรอง ตามซัพพลายเชน คือเป็นวัตถุดิบให้เท่านั้น เปรียบง่ายๆ ยุโรปคือเจ้าของพารากอน ส่วนรัสเซียจะป้อนวัตถุดิบ
.
อารมณ์เดียวกับ ถ้าชายฝั่ง East > เป็นของเวียดนาม ไทยก็จะสร้างโรงงานที่ดีกว่าไม่ได้ ?
.
คำตอบคือ ก็ในเมื่อเวียดนามคุมพื้นที่ประกอบการ กำไรเขาก็ย่อมเอาส่วนดีที่สุดไป (ทำของกำไรสูง) ส่วนที่เหลือลดหลั่นให้ไทย ให้อีสานทำ ปูตินรู้ตั้งแต่ต้นไง ว่าไม่มีใครใน Nato คิด
จะบุกรัสเซีย เพราะไม่มีประโยชน์ ถ้าสหรัฐฯ จะทำลายรัสเซีย เขาจะปิดทะเล โดยไม่ต้องส่งกำลังไปบุก ... ถามหน่อย บุกไปแล้วได้อะไร ?
.
มีการพูดว่า ปูตินเชื่อใน 'ยูเรเชีย' มานานแล้ว
คือแผนที่จะทำให้ผืนทวีปเอเชีย-ยุโรปเป็นหนึ่ง และดินแดนรัสเซียจะเป็นเจ้า
.
อย่างไรก็ตาม ทะเลดำตลอด 30 ปี เป็นทางขนส่งที่ทำรายได้ 'รอง' จากบอลติก -- เพราะบอลติกขายคนรวย คือยุโรปตอนเหนือ
.
แต่ปูตินเชื่อว่า เศรษฐกิจใหม่ในรอบร้อยปี จะอยู่ในโซนใต้ อันนี้นักเศรษฐศาสตร์แทบทั้งโลกพูด เพราะประชากรเอย อะไรเอย มันเห็นได้ชัด
.
++
.
ปูตินจึงต้องครองทะเลดำแบบเบ็ดเสร็จ โดยที่ต้อง กันอำนาจยุโรปไม่ให้ครอบงำชายฝั่งนี้ผ่านยูเครน สรุปก็คือ ปูตินครองทะเลดำส่วนเหนือแต่ฝ่ายเดียว
.
โซนที่รบกัน ก็คือริมทะเลนี้แหละ มันก็เรื่องเดียวกับที่สหรัฐฯ อังกฤษ มาครองเมืองท่าต่างๆ
.
ถ้าจะได้มูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์ ต้องผูกขาดทางส่งได้ครับ จึงทำคลัสเตอร์ของตัวเอง คิดค่าต่งคู่แข่ง ควบคุมราคาสินค้าได้ และมีอิทธิพลไปยังประเทศอื่นๆที่เหลือ
.
การควบคุมทะเลดำ ทำให้รัสเซียใช้
อิทธิพลทางการเมืองรอบทะเลดำ เช่น ตุรกี บัลแกเรีย โรมาเนีย จอร์เจีย และยูเครน แล้วสามารถนำไปสู่ข้อตกลงการค้าที่เป็นประโยชน์ต่อรัสเซีย เพื่อเพิ่มผลกำไรของธุรกิจของเขา
.
การมีอำนาจเหนือเส้นทางส่ง ผมพูดแบบบ้านๆ คือ 'เสี่ย' ประจำถิ่นนั่นเอง เหมือนที่สหรัฐฯมีต่อ แปซิฟิค แอตแลนติก ... เงินดอลลาร์จึงไม่ล้มไงครับ เพราะของทั้งหมดอยู่ในการคุ้มกันของสหรัฐฯ ทั้งการค้ำประกัน ความปลอดภัย ฯลฯ
.
แต่คิดว่าแองโกล อังกฤษ สหรัฐฯ จะไม่รู้ ? อะโด่ เจ้าทะเลจะไม่รู้ได้ยังไง ตะวันตกจะไม่ทางยอม
"นี้ครบรอบ 1 ปีที่ผู้ก่อการร้ายฮามาสบุกเข้าไปในอิสราเอลสังหารชาวบ้านไปนับพันคนรวมทั้งแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ที่นั่นรวมทั้งจับตัวประกันไปนับร้อยราย ขณะนี้ยังมีตัวประกันชาวไทยอยู่ในกาซาอีกเกือบ 10 ราย ฮามาสรู้ทั้งรู้ว่าคนงานไทยไม่ใช่ชาวยิว แต่ก็ยังตั้งใจฆ่าทิ้งเพราะถือว่าเป็นคนนอกศาสนาที่เป็นศัตรู
แต่จนถึงวันนี้ ยังไม่เห็นพรรคส้มประนามการก่อการร้ายครั้งนี้เลย ไม่มีใครไปเยี่ยมญาติผู้เสียชีวิตและญาติตัวประกัน แถมมี สส.บางคนยังโพสโซเชียลสนับสนุนกลุ่มฮามาสในการรบกับอิสราเอลอยู่เลย คุณคิดว่าญาติของแรงงานไทยที่เสียชีวิตและที่ยังถูกจับเป็นตัวประกันเขาจะคิดยังไง??
บอกตามตรงว่าเรื่องนี้ผมและโหวตเตอร์พรรคส้มจำนวนมากไม่เข้าใจวิธีคิดของพวกคุณนะ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"ผมจะบอกให้ว่าการเกิดขึ้นของกระแส anti-woke และ anti-fem ทั้งในไทยและในตะวันตก มันไม่ได้เกิดขึ้นจากฝั่งตรงข้ามเลย มันเกิดขึ้นจากความสุดโต่งอย่างโง่ๆของกลุ่ม woke\กลุ่ม feminist เองนั่นแหล่ะ ที่ทำให้เกิดกระแสตีกลับจากคนกลางๆที่เขาเอือมระอากับกิจกรรมและความเชื่อสุดโต่งของคนพวกนี้
ในฝั่งนึง คนกลางๆ เขารับไม่ได้กับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงที่คลั่งลัทธิทางศาสนา เขาต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิให้สตรีและ LGBT ในประเทศมุสลิมเหล่านั้นมาโดยตลอด
แต่ในอีกฝั่งหนึ่ง เขามองเห็นความสุดโต่งอย่างไร้ตรรกะอีกขั้วของเฟม\woke ที่เหมือนคนโรคจิตที่มีปัญหาทางบ้าน และเป็นความสุดโต่งที่ตรงข้ามกับมุสลิมคลั่งศาสนาที่อยู่อีกฝั่ง ซึ่งมันก็หนักหนาอยู่แล้ว
ทีนี้ในช่วงปีที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ประหลาดทั่วโลกที่กลุ่มสุดโต่งสองกลุ่มนี้มาผสมกันกลายเป็นตัวประหลาดที่สร้างความรำคาญให้แก่คนทั่วโลกตามเมืองใหญ่ต่างๆ อย่างที่เราเห็นกันหลังวันที่ 7 ตุลา
คนกลางๆที่เขาต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี เพื่อคนที่ถูกรังแก เพื่อ LGBT เขาเห็นตัวประหลาดที่โง่บัดซบเหล่านี้แล้วเขาทนดูไม่ไหว เขาเกิดความรู้สึกว่ากูจะทำไปเพื่อพวกมึงทำไมวะ ในเมื่อพวกมึงแยกแยะมิตรกับศัตรูไม่ออก จึงทำให้เกิดกระแส anti-woke และ anti-feminist ขึ้นอย่างเงียบๆทั่วโลก และกระแสนี้จะส่งผลต่อการเลือกตั้งในหลายๆประเทศแน่นอน"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ความสดใส ที่มาน้อยนิดน่ะ มันบ่งบอกถึง ความล้ำค่า ของความน่ารักยังไงละ ถ้าโผล่มาเยอะ ความสดใสนั้น มันจะลดความล้ำค่า บนจอไปนะ
#มิตรสหายโอตาคุ
"รักชาติแบบเกลียดฝรั่ง แต่อวยจีน แบกจีน เวลคัมจีนให้มาถลุงทรัพยากรไทย นี่ก็ไม่รู้รักชาติแบบใด"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"น่าเสียดาย คนไทยจำนวนมาก เข้าใจว่าอเมริกาเป็น "ประชาธิปไตย"
ถ้าเอาการเลือกตั้งแบบอเมริกาไปให้ประเทศยุโรปจำนวนมากใช้ รับรองว่าประชาชนเขาไม่เอา"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ชนะให้ได้นะโดนารุโดะคุง
https://i.imgur.com/y2bXSbT.jpeg
"How can someone support the liberal party in Thailand and also back Trump? Or support Thai conservatives and still root for Kamala?"
Well, today you learned, politics is a spectrum, it’s about agendas and benefits, and people’s minds are deeper and more sophisticated than a dumbass like you can handle."
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"“พระ” ถ้ามีมากเกินไปก็ไม่ดี เพราะเป็น “ส่วนเกิน” ในระบบเศรษฐกิจ ดูดซับเงินจากสังคมไป แต่คืนกลับมาใช้ประโยชน์ได้ต่ำ ถ้าเม็ดเงินก้อนเดียวกันไหลไปสู่มูลนิธิการศึกษา หรือมูลนิธิของโรงพยาบาล สังคมจะได้ประโยชน์มากกว่า ไม่นับว่าแรงงานที่หายไป สร้างประโยชน์ได้มากกว่าไปบวช"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
เลอะเทอะ เหยียดเพศแล้วมันเกี่ยวกับ lgbtq ยังไง ตรงนั้นมันคือมารยาท และการเคารพสิทธิ
สิ่งที่คุณกำลังบอกคือ การเป็น lgbtq มันวิเศษวิโสมากจนต้องตั้งหลักสูตรมาเพื่อแจ้งแก่สังคมงั้นเหรอ เลอะเทอะ ถ้าแค่เรื่องกลัวโดนเหยียดไปปลูกฝังเรื่องการเคารพสิทธิของแต่ละบุคคลจะตรงจุดกว่า
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.