>>463 ต่อ
การบรรยาย : ห่วย เหี้ยๆ อะไรที่เคยโดนสอนว่าอย่าทำในการแต่งนิยาย มาครบทุกอย่างเท่าที่นึกออก หลายประโยคไม่จำเป็นต้องมีในเรื่อง เขียนอธิบายยาวยืดในสิ่งที่ไม่จำเป็นต่อคนอ่าน เช่น เธอบ่นถึงไพรวรรณแม่บ้านซึ่งมีหน้าที่มาทำความความสะอาดและดูแลความเรียบร้อยวันหนึ่งไม่เกินสี่ชั่วโมง เนี่ย... ไอ้ที่ยาวๆ นี่ ตัดส่วนที่อยู่หลังคำว่าแม่บ้านออกไปเลยก็ได้ ข้อมูลไม่เป็นประโยชน์เหี้ยไรกับเนื้อเรื่อง งานของแม่บ้านคือทำความสะอาดอยู่แล้วใครๆ ก็รู้ถ้าไม่โง่จริงๆ แล้วชั่วโมงทำงานคือยังไง? พี่ไพรเป็นตัวละครลับที่ส่งผลอย่างหนักหน่วงต่อเนื้อเรื่องในภายภาคหน้าเหรอ ย้ำขยายจังเลย เนี่ยๆๆ ดูไว้พวกเด็กใหม่หัดเขียน หนึ่งในคำแนะนำคลาสสิคของรุ่นพี่คือ ถ้าเขียนแล้วประโยคออกมาเป็นเนื้อติดมัน งานของเราไม่ใช่แค่เอามันออก แต่ต้องเลาะแม่งให้หมดจนเหลือแต่กระดูก ถ้าขูดผิวกระดูกออกได้ก็ขูดด้วยเลย ทำยังไงก็ได้ให้มันสั้นที่สุดแต่ยังคงความหมายเดิมไว้ ถ้าตัดอะไรออกแล้วคนอ่านยังเข้าใจ ตัดทิ้งแม่งไปเลย การหลากคำก็ทำได้แย่ 1 ย่อหน้ามีคำว่า ที่, ซึ่ง ซ้ำอยู่อย่างน้อย 4 ครั้ง คำซ้ำแบบอื่นๆ ก็มีหลายจุดจนอยากกางหนังสือคลังคำให้อ่าน อ่านจบ 1 หน้าก็เอาสันเคาะกบาลไป 1 ที จนกว่าจะจบเล่ม เผื่ออาการจะดีขึ้นบ้าง ในฐานะคนอ่านแล้วบอกเลยว่าผิดหวัง นิยายกากสัสหมาสุดตีน อ่านสะดุดจนเหมือนโดนบังคับให้ใส่รองเท้าผ้าใบที่ผูกเชือกรองเท้าแต่ละข้างไว้ด้วยกัน คือเดินต่อเนื่องไม่ได้ เร่งความเร่งนิดเดียวอาจหกล้มหัวฟาดพื้นตายห่า
ตัวละคร : ย้ำๆๆ จนจำนางเอกได้แบบรำคาญ สวยเลิศเลอปานเจ้าหญิงดิสนี่ อ่านแค่ตอนเดียวก็ได้ฉายาทันทีคือ น้องเกศ 4 ส. (สวยงาม สดใส สุนทรีย์ สว่างไสว) นิสัยชัดเจนว่าเป็นคุณหนู กุลสตรี (ที่ไม่แปรงฟัน) ส่วนพี่ไพรก็จำได้เพราะการอธิบายจนสงสัยว่าเป็นตัวละครลับปลอมตัวมาหรือเปล่า
เนื้อเรื่อง : ยังเดาอนาคตไม่ออก เพราะมีแค่ตอนเดียว คาดว่าน่าจะเป็นนิยายรักดาษๆ ทั่วไป โทนเรื่องหม่นหมองหน่อย เพราะลงไว้ในหมวดรักดราม่า ไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีการฟาดฟันระหว่างนางเอกกับนางร้ายตามที่นิยมกันหรือไม่ แล้วน้องเกศร้องไห้เพราะเสียใจที่รู้ตัวช้าว่ารักพระเอก หรือเสียดายความรวยเว่อร์วังที่เขียนอธิบายบนหนังสือพิมพ์กันแน่ กูก็ไม่รู้เพราะไม่มีตอนต่อให้อ่าน (ถึงมีกูก็ไม่อ่าน ตอนเดียวก็เกินพอ สัส)
สิ่งที่ชอบ : ทำให้ซาบซึ้งว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า ในโคลนตมยังมีบัวใต้ตมตัดสายครอบไว้ด้วยกะลาโบกปูนหุ้มไว้อีกชั้น เกิดความฟินว่านิยายของกู (รวมไปถึงของคนอื่นๆ ในกระทู้นี้) มีคุณภาพดีอย่างน่าพอใจ เมื่อเทียบกับผลงานของเจ๊ดอกขาว บรรลุสัจธรรมและให้อภัยต่อนิยายที่พอมีจุดด้อยให้เห็นก่อนหน้านี้ทั้งหมด กลายเป็นคนคิดบวกและมองนักเขียนหน้าใหม่อย่างเอาใจช่วย (ว่าอย่าเข้าสู่ด้านมืดแห่งพลังเหมือนเจ๊ดอก) พังpornและเล่าโปก ได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระจากคำครหา
สิ่งที่เกลียด : คำผิดเยอะ คำซ้ำเพียบ ทั้งคำนามและคำเชื่อม ตรรกะวิบัติหลายข้อ ส่วนขยายไม่จำเป็นที่พบเห็นได้ทั่วไป เดินเรื่องช้าของโคตรช้า 1 ตอนยังไม่มีอะไรคืบหน้านอกจาก นางเอกตื่นมาทำอะไรก๊อกแก๊กแล้วก็ดราม่าปิดท้าย ทำให้กูเสียเวลาอันมีค่าไปอย่างเปล่าประโยชน์
คะแนน : 85 คาเงโร่ (หน่วยวัดในตำนานยิ่งเยอะ = ยิ่งห่วย, ถ้าอยากรู้คะแนนปกติ ให้เอา คาเงโร่พ๊อยต์หาร 10 แล่วเอาไปลบ 10 ส่วนต่างคือคะแนนที่ได้จริงในหน่วย X/10 คะแนน)
465Nameless FanboiPosted Dec 27, 2019 at 17:03:58ID:gtDiH7shWZ
>>464 ต่อ
ความเห็นส่วนตัว : ไม่เคยเจอการใช้คำว่าเรือนร่างกับการบรรยายรูปร่างของผู้ชาย อนึ่ง เรื่องนี้ทำให้ถนน(แยม)ขาวของดอกปอบ มีโอกาสชนะเลิศรางวัลซีไรต์เพิ่มขึ้น ภาคผนวกการบ่นเชิญอ่านด้านล่าง [ ยาวสัสๆ ทำใจก่อนอ่าน ]
กูจะลิสต์อันที่อยากบ่นยังไงดีวะ เยอะเหี้ยๆ เอาคำผิดก่อนละกัน
ระโหง - ระหง (คำว่าโหงเขาใช้ในทางอัปมงคลนะอีผี), ฤดูสปริง - ฤดูใบ้ไม้ผลิ (ทับศัพท์มาจนกูสตั้นไป 5 วิ ตอนอ่าน), มาเลย์เซีย - มาเลเซีย, เซรามิค - เซรามิก, รูปลักษ์ - รูปลักษณ์, ขนตางอนเป็นแพร - เป็นแพ (มองบน), เบญจเพศ - เบญจเพส (มีจิ๋ม 5 อันหรือไงห๊ะ), เอ่อระเหย - เอ้อระเหย (อย่าสูดสารระเหยระหว่างแต่งสิ), อันตธาน - อันตรธาน, เสื้อเชิ๊ต - เสื้อเชิ้ต, เท่ห์ - เท่, ใข่มุก - ไข่มุก (แล้วฟันที่ใสดังไข่มุกคือยังไง ใครก็ได้บอกกูที), แก้ววาย+เชมเปญ - แก้วไวน์+แชมเปญ (เรื่องทับศัพท์ผิดๆ นี่เก่งนัก), แขกรื่อ - แขกเหรื่อ, ฟ่าฟาง - ฝ้าฟาง, หยดติง - หยดติ๋ง, อิสระภาพ - อิสรภาพ