Last posted
Total of 185 posts
กูเข้ามาขำอย่างเดียว มู้นี้ไม่ใช่แค่ออกทะเลละ ออกไปแม่งนอกโลกเลยไง
กันรวย กันฉีกแบ๊งค์เล่น ใช้แบ๊งค์พันจุดไฟดูดแทนซิกาแร๊ต
สวัสดีคับ ผมอายุ 25 เป็นนักคณิตศาสตร์ประกันภัยเงินเดือน 150k
แต่ผมไม่มีความสุขในชีวิตเลยครับ ผมไม่มีงานอดิเรกเลย
ผมควรหาความสุขยังไงดีครับ
มีใครเป็นฮิกกี้บ้างวะ
กูเบื่อ กูเป็น LOSER ยิ่งอยู่บนโลกกูยิ่งรู้สึกว่ากูโง่ กูรำคาญตัวเองมาก
>>128 พวกเล่นหุ้นแบบ Day-trade แล้วได้กำไรขนาดเดือนละเป็นหมื่น กูว่ามันก็แค่โชคดีที่มีมรดกจากพ่อแม่แค่นั้นล่ะ คนธรรมดาอายุไม่ถึง 30 จะมีเงินลงทุนเป็นร้อยล้านจนสามารถหากินกับหุ้นรายวันได้ แสดงว่ามันต้องมีมรดกหรือไม่ก็เงินถุงเงินถังจากพ่อแม่มันมาใช้ มนุษย์เงินเดือนที่เริ่มจากคนธรรมดาบ้านไม่ได้รวยอะไร ต่อให้เงินเดือนเป็นครึ่งแสน มันคงไม่เอาเงินเดือนมาเสี่ยงลงหุ้นรายวัน
>>130 นึกถึงตัวเองช่วงเรียนไม่จบเลยว่ะ ตอนนั้นกูสอบไม่ผ่านวิชาภาคตัวหนึ่ง เลยต้องเรียนอีก1ปี ติดแค่ตัวเดียวแถมเป็นเทอมสองอีกตั้งหาก เทอมแรกกูว่างก็เอาเวลาไปหางานทำ ความคิดของกูในตอนนั้นคือให้อยู่ที่ห้องเฉยๆมันอายเพื่อนอายน้องว่ะ ไม่ได้อยากได้เงินหรอก กูอยู่หอในของ ม.รัฐแห่งหนึ่ง แม่ส่งเงินให้เดือนละ 5000 ก็อยู่ได้ทั้งเดือน ทำงานครั้งแรกกูก็เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ทำได้เดือนเดียวก็ลาออก จริงๆกูก็ไม่ค่อยชอบลักษณะงานด้วยล่ะ มันบังคับให้กูต้องเอาเปรียบลูกค้าเพื่อทำยอด แล้วก็มาคิดได้ว่าตัวเองไม่เหมาะกับงานเน้นยอดเดือนต่อเดือน
แต่ก็ดีที่กูได้งานนี้ มันทำให้กูโตขึ้น เลิกนิสัยที่วันๆเอาแต่นอน เล่นเกมส์เล่นเน็ตโหลดหนังโป๊ จนดึกดื่นนอนตี4ตี5 หรือบางทีถึงเช้าแล้วตื่นตอนกลางคืน มาเป็นมีวินัยมากขึ้น เรื่องเงินไม่สำคัญเท่ากับการเรียนรู้ว่าชีวิตมนุษย์เงินเดือนที่หาเงินได้เองมันเป็นยังไง
มีหลักแสนก็เล่นได้แต่กำไรคงไม่พอแดก 1percent ของ 100000 ก็ 1000 กำไรวันละ 1per 365วัน 365per มันเป็นไปไม่ได้ว่ะ ขนาดบัพเฟตยังทำกำไรเฉลี่ยปีละ 30per แค่นั้นเอง ไหนจะมีความเสี่ยงที่จะขาดทุนอีก
กูเนี่ยแหละเล่นหลักแสน เดย์เทรดให้พอแดกไม่ได้หรอกมึง ได้ขำๆ พอได้เงินกินหนมแค่นั้น อย่าลืมว่าเดย์เทรดมีได้มีเสีย ต้องเข้าไวออกให้ทัน ไม่ใช่ว่าได้อย่างเดียว ต้องหักลบเวลาขาดทุนด้วย
แต่กูอยากได้วิธีการเล่นแบบระยะยาวมากกว่าว่ะ ได้ซักปีละ 10-15% ก็พอใจแล้ว ตอนนี้รู้สึกยังจับทางไม่ถูก ซื้อแต่หุ้นพื้นฐานที่คิดว่ามั่นคงและปันผลดี แต่มีปัญหาว่าหาจังหวะเข้าไม่ถูกว่ะ เงิบบ่อยมาก
เท่าที่ศึกษามาส่วนมากเขาจะบอกว่าให้ซื้อขาขึ้น อย่าซื้อขาลง ซื้อขาลงถ้ามันยังลงไม่สุดก็ขาดทุนไปเรื่อยๆ แต่ซื้อขาขึ้นอย่างมากก็ขาดทุนกำไร
แต่กูเนี่ยสิ อุตส่าห์รอมันลงจนสุดแล้วพอหักหัวขึ้นค่อยซื้อ แม่งเสือกหักหัวลงอีกรอบแล้วดิ่งกว่าเดิมซะงั้น i_i
ด้วยความเคารพ
ตั้งมู้ โม่งเม่าปล่อยหมูติดดอย เถอะว่ะ
กูอยากเห็นโม่งอินไซด์เดอร์ปล่อยข่าวล่อเม่าโม่งไปตายห่ายกฝูง
กูขอคำปรึกษาหน่อยโม่ง กูมีน้องชายอายุห่างกันแค่11เดือน ตอนนี้มันกำลังจะกลายเป็นนีทว่ะ มันสอบติดมหาลัยแต่ไม่ไปเรียน อ้างว่าไม่ชอบพวกพี่ว้าก ไม่ชอบอาจารย์ ไม่ได้ชอบคณะที่เรียน แต่จริงๆกูว่ามันขี้เกียจ เพราะกูเห็นคณะมันมีงานทุกวัน ทุกวันนี้วันๆมันนั่งเล่นแต่คอม ครอบครัวกูมีแต่ผู้หญิง พยายามพูดให้มันกลับไปเรียน แต่พูดไปมันก็ทำโมโหละไม่ฟัง แม่กูก็คงเข็นให้มันเรียนแหละโดยการเข้าเอกชน แต่ทุกวันนี้แม่กูก็แย่แล้ว แม่กูอายุ60 ทำงานทุกอย่างเพราะพ่อแยกทาง มีพี่สาวคนนึงแต่ทำงานกับแม่(แม่กูทำธุรกิจส่วนตัว) อีกอย่างช่วงนี้ยายกูก็ป่วย กูก็ช่วยดูแลไม่บ่อยนักเพราะอยู่หอ กูต้องทำไงดีวะ ตอนนี้เครียดมากจริงๆ แม่กูก็หวังกับมันมากเพราะมันเป็นลูกชายคนเดียว
>>172 อายุ 60 ลูกเพิ่งเข้ามหาลัยนี่โคดหนักเลยนะ น้องมึงนี่นิสัยลูกชายคนเล็กว่ะ เอาแต่ใจ อยากได้อะไรต้องได้ แก้ยากว่ะแบบนี้ ยิ่งถ้าที่บ้านรายได้ดี เคยให้เงินใช้เดือนนึงเยอะๆนี่มึงเอ๊ยยยย เห็นตัวอย่างมาโคตรเยอะ โตเป็นผู้เป็นคนนับหัวได้ นอกนั้นก็อยู่เน่าๆไปเรื่อย
วิธีแก้ก็...
แม่โอ๋น้องป่าวล่ะ ถ้าโอ๋มึงต้องไปคุยกับแม่ก่อนเลย ไม่งั้นอุดเท่าไรก็รั่ว มึงคนเดียวไม่พอ เอาป้าเอาน้าเอายายเอาทุกคนที่รู้จักไปข่วยกันกรอกหูด้วย ถ้ามีญาติคนอื่นโอ๋ก็ไปคุยด้วย แก้นิสัยคนโอ๋เนี่ยสำคัญกว่าแก้เจ้าตัวอีก
ส่วนทางน้อง ถ้าเคยให้เงินเยอะก็ตัดแม่ม ห้ามให้หยิบเงินใช้เอง ห้ามให้เรื่อยๆแบบไม่นับ ให้เป็นรายเดือนจะได้รู้จักบริหารเงินบ้าง หาคนที่น้องเคารพไปคุยกับมัน ห้ามให้คนที่มันรำคาญไปคุย เดี๋ยวจะเป็นยิ่งห้ามยิ่งยุ คุยเรื่องที่บ้านหาเงินลำบาก เรื่องเส้นทางชีวิตมัน ให้มันรู้ว่าโลกนี้เลวร้ายแค่ไหน
กูอยากเป็นรับราชการนักพัฒนาชุมชนในต่างจังหวัดวะขอคำแนะนำหน่อยว่าสอบบรรจุยากมั้ย
เอาจริงๆ ถ้าน้องมึงไม่ไปเรียนเลยมันก็ไม่มีสังคมเหมือนกันแหละ ลองบอกน้องว่าถ้าไม่อยากเรียนก็มาทำงานเลย ตัดเงินเดือนให้หมดให้ทำงานแลกเงิน ให้แค่ปัจจัย 4 มีชีวิตอยู่ได้พอ
กูอายุ 27 จะ 28 ล่ะ กูตกงานจาก กทม มา 3 ปีนี้ กูทำงานห้าง วันละ 188,250 บาท เข้าๆ ออกๆ ส่วนใหญ่อยู่เฉย แบมือขอเงินตลอด ช่วยงานที่บ้านบ้าง กูเพิ่งกลับมาทำงานห้างได้จะเดือนนึงล่ะ 300 กว่าบาทต่อวัน แต่งานนรกมาก ย้ายของเข้าห้างใหม่กับพวกต่างด้าว ตากฝน มอมแมมทุกวัน กูท้อนะ แต่กูมันไม่มี ขรก ค้ำประกันงาน ขนาด 711 ยังทำไม่ได้เลย กูเลยต้องลำบาก วุฒิ ป ตรี ไม่มีความหมายเลยว่ะ กูตั้งใจฆ่าตัวตายหลายรอบล่ะ แต่สุดท้ายกูก็ไปตัดผม ถ่ายรูป หาสมัครงานทุกที กูอยากบอกมึงว่า เวลามึงเข้าตาจน วุฒิการศึกษาใช้ไม่ได้ มีแต่แรงเท่านั้นว่ะ ที่ทำให้มีข้าวใส่ท้อง มึงอาจสบายกว่ากู แต่มึงคงไม่สบายใจพอๆ กับกู กูแนะนำอะไรไม่ได้มากว่ะ โทษที
>>177 สู้ๆนะพี่ เพิ่งรู้ว่างาน 7-11 ต้องใช้ข้าราชการค้ำ อันที่จริงถ้าลูกพี่อยากได้งานสบายๆหน่อย ลองปลอมเอกสารมั้ยล่ะ 555
ของผมที่ได้งานอยู่ทุกวันนี้ก็ปลอมลายเซ็นแม่ผมอ่ะ(แต่เอกสารราชการนี่ของจริง) ตอนมาทำงานที่บริษัทนี้ก็บอกไปว่าเป็นสำนักงานกฎหมาย
ถ้าพูดความจริงพ่อกับแม่คงไม่ยอมให้ทำงานเพราะมันไม่ตรงสายที่เรียนมา เลยโม้ไป พอได้เอกสารจากแม่มาก็ปลอมลายเซ็น ทุกวันนี้HRยังจับไม่ได้ เพราะไม่คิดจะตรวจสอบด้วยล่ะ
178 ดีแล้วล่ะที่มีงานทำ
ชีวิตคนเราต้นทุนทางสังคมมันไม่เท่ากันอ่ะพี่ เคยมีกระทู้แนะนำของพันทิป เป็นเรื่องคนอายุ30กว่าต้องทิ้งลูกเมียจากลพบุรีมาหางานทำใน กทม เดือนนั้นเค้าเหลือแค่ 800 แล้วต้องอยู่ให้ได้ถึงสิ้นเดือน ดังมากจนเอามาทำเป็นซีรี่ย์ http://drama.kapook.com/view94832.html คุณพี่(และมนุษย์เงินเดือนโม่งทั้งหลาย) ลองดูนะครับ มันให้อะไรได้เยอะเลย
อ่อ สำหรับพวก NEET บ้านรวยเป็นข้อยกเว้นไปล่ะกัน คนกลุ่มนี้อยู่เฉยๆแม่งก็ไม่อดตาย เพราะกองมรดกของพ่อแม่มัน ความกระหายในการเอาตัวรอดมันต่างกัน
180 ละครชุดนี้ก็ดี กุเองก็ลุกจากที่นอน กองหนังสือการ์ตูน และโน๊ตบุคออกไปหน้าด้านหางานทำ เพราะกุดู อ่าน อะไรแบบนี้เหมือนกัน ส่วนตัว ทุกครั้งที่กุคิดว่าตอนนี้กุไม่มีเงินเก็บ ถ้าพ่อแม่กุเกิดจากไปกะทันหัน กุมักจะจิตตกทุกที ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ตามมามันต้องบีบให้กุแทงคอตายอีกแน่ๆ พอกุมีงานทำกุก็รู้สึกว่าชีวิตกุมีค่ามากขึ้น มองพ่อแม่กุดีขึ้น จิตใจกุเปิดกว้างมากขึ้น จากแต่ก่อนที่กุเกาะพ่อแม่กินไม่ทำมาหาแดก กุมองทุกคนด้วยความอิจฉา และอยากตายตลอดเวลา เวลาคนถามว่า ใช้จ่ายทุกวัน ทำงานอะไรเหรอ กุนี่โมโหทุกที
>>181 อารมณ์เดียวกับกูเลย ตอนปี4กูเอฟวิชาภาคแล้วเรียนไม่จบ เทอมแรกกูว่างก็ออกไปหางานทำ คือความรู้สึกตอนนั้นเพื่อนจบหมดเหลือแต่ตัวเองคนเดียวในรุ่น แถมอยู่หอในด้วยไง ไม่ได้รู้จักกันแค่เพื่อนห้อง แต่รู้จักกันทั้งตึก ทีนี้กูก็เกิดอายรุ่นน้องขึ้นมา เวลาที่น้องมันเลิกเรียนแล้วกลับมาเจอกูที่ห้อง กูก็ออกไปหางานทำ แล้วก็ทำอยู่พักหนึ่ง เรื่องเงินเดือนไม่เท่าไร แต่สิ่งที่กูคิดว่าได้กลับมาเยอะคือ ความมั่นใจ ถึงกูจะจบไม่ทันเพื่อนแต่ก็เอาไปพูดได้ล่ะว่ากูหางานทำระหว่างเรียนได้ ดีกว่านั่งเล่นเกมส์อยู่ในห้องแล้วรุ่นน้องมันกลับมาเจอ
แรกๆกูก็ติดกับดักตัวเองนะ เข้าใจว่าพวกNEET ที่มันไม่ยอมออกไปหางานทำก็รู้สึกแบบนี้ คือ....ขี้เกียจว่ะ อยากนอน อยากเล่นเน็ตเล่นเกมส์อยู่เฉยๆ ยิ่งพวกที่บ้านรวยไม่มีความจำเป็นต้องทำงานก็ยิ่งไปกันใหญ่ แรกๆกูก็เป็น กว่าจะลุกออกไปหางาน กว่าจะลุกออกไปสัมภาษณ์แต่ละที่ แรกๆกูขี้เกียจมาก กลัวด้วยล่ะ คิดไปเองว่าถ้าสัมภาษณ์ไม่ผ่านแล้วจะเป็นยังไง จะหมดกำลังใจมั้ย แต่สุดท้ายพอเปิดเทอมรุ่นน้องเริ่มแต่งตัวออกไปเรียนที่คณะ กูก็กัดฟันออกไปหางานทำในที่สุด อย่างที่บอก กูอายเวลารุ่นน้องมาเห็นสภาพตัวเองที่เป็นรุ่นพี่ปีเปอร์นั่งๆนอนๆอยู่ในห้อง
การมีงานทำมันมีค่ามากกว่าเงินว่ะกูพูดเลย ตอนกูเรียนจบใหม่ๆแล้วต้องออกไปอยู่ต่างจังหวัดกับพ่อ กูรู้สึกเหงาเบื่อ และสิ้นหวังมาก แบบว่าจังหวัดบ้านนอกไม่มี 7-11อ่ะมึง 1ทุ่มแม่งก็ร้าง ด้วยความคุ้นเคยที่อยู่ กทม ตี1ตี2 ลงมาข้างล่างหอมี7-11 เปิด มีของกินให้ซื้อตลอด กูก็ทนไม่ได้ว่ะ อยู่ได้ไม่ถึงอาทิตย์ต้องออกมาหางานทำในเมือง โชคดีที่ได้งาน ผ่านไป1ปี เข้าสู่ช่วงหยุดงานของบริษัทกู กูกลับไปอยู่กับพ่อที่ต่างจังหวัดเหมือนปีที่แล้ว สิ่งที่ต่างออกไปคือกูไม่รู้สึกสิ้นหวังเหมือนปีที่แล้ว การมีงานทำกับการใช้ชีวิตไปวันๆโดยพึ่งพาแต่พ่อแม่นี่มันต่างกันมากจริงๆ ที่เขียนมายาวๆนี่เผื่อ จขกท. หรือ NEET คนอื่นมาอ่าน ก็อยากจะบอกว่า ลุกขึ้นแล้วออกมาหางานทำเถอะครับ ต่อให้บ้านมึงรวยแต่วันหนึ่งที่พ่อแม่มึงไม่อยู่ มึงก็ต้องพึ่งตัวเองอยู่ดี
ช้ควยแทนสมอง
ใช้ควยแทนสมอง แล้วมึงจะพบทางสว่าง
Topic has been locked by moderator.
No more posts could be made at this time.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.