>>181 อารมณ์เดียวกับกูเลย ตอนปี4กูเอฟวิชาภาคแล้วเรียนไม่จบ เทอมแรกกูว่างก็ออกไปหางานทำ คือความรู้สึกตอนนั้นเพื่อนจบหมดเหลือแต่ตัวเองคนเดียวในรุ่น แถมอยู่หอในด้วยไง ไม่ได้รู้จักกันแค่เพื่อนห้อง แต่รู้จักกันทั้งตึก ทีนี้กูก็เกิดอายรุ่นน้องขึ้นมา เวลาที่น้องมันเลิกเรียนแล้วกลับมาเจอกูที่ห้อง กูก็ออกไปหางานทำ แล้วก็ทำอยู่พักหนึ่ง เรื่องเงินเดือนไม่เท่าไร แต่สิ่งที่กูคิดว่าได้กลับมาเยอะคือ ความมั่นใจ ถึงกูจะจบไม่ทันเพื่อนแต่ก็เอาไปพูดได้ล่ะว่ากูหางานทำระหว่างเรียนได้ ดีกว่านั่งเล่นเกมส์อยู่ในห้องแล้วรุ่นน้องมันกลับมาเจอ
แรกๆกูก็ติดกับดักตัวเองนะ เข้าใจว่าพวกNEET ที่มันไม่ยอมออกไปหางานทำก็รู้สึกแบบนี้ คือ....ขี้เกียจว่ะ อยากนอน อยากเล่นเน็ตเล่นเกมส์อยู่เฉยๆ ยิ่งพวกที่บ้านรวยไม่มีความจำเป็นต้องทำงานก็ยิ่งไปกันใหญ่ แรกๆกูก็เป็น กว่าจะลุกออกไปหางาน กว่าจะลุกออกไปสัมภาษณ์แต่ละที่ แรกๆกูขี้เกียจมาก กลัวด้วยล่ะ คิดไปเองว่าถ้าสัมภาษณ์ไม่ผ่านแล้วจะเป็นยังไง จะหมดกำลังใจมั้ย แต่สุดท้ายพอเปิดเทอมรุ่นน้องเริ่มแต่งตัวออกไปเรียนที่คณะ กูก็กัดฟันออกไปหางานทำในที่สุด อย่างที่บอก กูอายเวลารุ่นน้องมาเห็นสภาพตัวเองที่เป็นรุ่นพี่ปีเปอร์นั่งๆนอนๆอยู่ในห้อง
การมีงานทำมันมีค่ามากกว่าเงินว่ะกูพูดเลย ตอนกูเรียนจบใหม่ๆแล้วต้องออกไปอยู่ต่างจังหวัดกับพ่อ กูรู้สึกเหงาเบื่อ และสิ้นหวังมาก แบบว่าจังหวัดบ้านนอกไม่มี 7-11อ่ะมึง 1ทุ่มแม่งก็ร้าง ด้วยความคุ้นเคยที่อยู่ กทม ตี1ตี2 ลงมาข้างล่างหอมี7-11 เปิด มีของกินให้ซื้อตลอด กูก็ทนไม่ได้ว่ะ อยู่ได้ไม่ถึงอาทิตย์ต้องออกมาหางานทำในเมือง โชคดีที่ได้งาน ผ่านไป1ปี เข้าสู่ช่วงหยุดงานของบริษัทกู กูกลับไปอยู่กับพ่อที่ต่างจังหวัดเหมือนปีที่แล้ว สิ่งที่ต่างออกไปคือกูไม่รู้สึกสิ้นหวังเหมือนปีที่แล้ว การมีงานทำกับการใช้ชีวิตไปวันๆโดยพึ่งพาแต่พ่อแม่นี่มันต่างกันมากจริงๆ ที่เขียนมายาวๆนี่เผื่อ จขกท. หรือ NEET คนอื่นมาอ่าน ก็อยากจะบอกว่า ลุกขึ้นแล้วออกมาหางานทำเถอะครับ ต่อให้บ้านมึงรวยแต่วันหนึ่งที่พ่อแม่มึงไม่อยู่ มึงก็ต้องพึ่งตัวเองอยู่ดี