Fanboi Channel

โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 6th quotes

Last posted

Total of 1000 posts

951 Nameless Fanboi Posted ID:1pd2FYamZ6

>>946 คนประเภทที่กูเกลียดมีอยู่2ประเภท
1. พวกคนเหยียดชาติ
2. คนไทย

952 Nameless Fanboi Posted ID:NiMPopgJvx

นึกหน้าแม่แล้วน้ำตาคลอทุกที เอาภาระมาให้ที่บ้านทั้งๆที่กูไม่ได้ทำ ป่านนี้มึงคงใช้เงินเสวยสุขอยู่สินะ กูไม่ยอมแน่ทำกูลำบากขนาดนี้ ครอบครัว คนเกี่ยวข้องของมึงต้องชิบหายให้หมด มึงจำคำกูไว้ไอเหี้ยกอฟ

953 Nameless Fanboi Posted ID:uia8kKKv.S

>>951 3.คนอย่างมึง

954 Nameless Fanboi Posted ID:eWGSwg6h1d

>>951 ด่าตัวเองทำไม

955 Nameless Fanboi Posted ID:uEmTn4xBc0

>>951 ไม่เจ๊กก็ลาวอ่ะครับแบบนี้

956 Nameless Fanboi Posted ID:WgpiEve0B1

ไอ้กอฟแม่งเหี้ยจริงๆ ขี้แล้วไม่ยอมราดส้วม

957 Nameless Fanboi Posted ID:Yb9kAFp6eI

อีอ้วนเมียไอยุดเป็นสายตำรวจ

958 Nameless Fanboi Posted ID:sdmU+fetIG

>>955 อาจจะพม่าก็ได้ครับ พม่ามันเกลียดเราครับ มันยึดกรุงศรีเรา มันxxxx

959 Nameless Fanboi Posted ID:B644tFAcJU

Elon, 10 July 2018: Thailand is so beautiful.

Elon, 15 July 2018: Only pedo's would move to Thailand.

#มิตรสหายคนหนึ่ง

960 Nameless Fanboi Posted ID:4n8b/tFhUT

>>955 >>953 >>954 คนที่กูเกลียดมากที่สุดมีอยู่2ประเภท 1. พวกเหยียดผิว 2.พวกนิกก้า

961 Nameless Fanboi Posted ID:7QZKNrOtSM

>>960 >>955 >>953 >>954 คนที่กูเกลียดมมีอยู่3ประเภท 1.หล่อกว่ากู 2.รวยกว่ากู 3.เก่งกว่ากู

962 Nameless Fanboi Posted ID:ut9YKxvqIL

มุกแบบนี้เลิกเล่นเถอะครับ ไม่ขำแล้วยังดูเสี่ยวอีก

963 Nameless Fanboi Posted ID:omPfJI8JSQ

>>961 แปลว่ามึงเกลียดทุกคนบนโลกสินะ โอเคๆ

964 Nameless Fanboi Posted ID:yeI7JAMlaj

ด่าคนทรงหน้าถ้ำว่างมงาย
แต่อยากให้เด็กๆ ที่ติดถ้ำไปบวชเพื่อทดแทนบุญคุณจ่าแซมอ่ะครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

965 Nameless Fanboi Posted ID:UXhc1UkNnb

โพสนี้พูดถึงการเเต่งงาน ส่งเสริมให้เเต่งงาน ผู้หญิงกับผู้ชายเป็นสิ่งถูกสร้างมาคู่กัน ผู้หญิงกับผู้ชายต้องพึ่งพิงกันเเละกันเพื่อให้ชีวิตสมบูรณ์เเบบ เเละเเนวทางที่ถูกต้องที่จะกระทำสิ่งดังกล่าวได้ก็คือการเเต่งงานตามที่ศาสนาได้บัญญัติไว้

ไม่ใช่จะบอกว่าคุณผู้หญิงไม่มีความสามารถที่จะดูเเลตัวเองได้ หรือไม่มีความสามารถหาเลี้ยงชีพได้ ซึ่งนี่เป็นอีกประเด็นหนึ่ง

เเต่ที่จะพูด คือผู้หญิงต้องเเต่งงาน เพราะธรรมชาติของผู้หญิงคือต้องเเต่งงาน

ส่วนผู้หญิงที่ไม่ประสงค์จะเเต่งงาน โดยอ้างว่าอยู่คนเดียวก็ได้ นั่นบ่งถึงความผิดปกติของจิตใจ ฝืนธรรมชาติ #เเนะนำให้ไปพบเเพทย์

เเละเมื่อเเต่งงานเเล้ว ผู้ชายก็ต้องเป็นผู้ปกครองผู้หญิงตามที่อิสลามได้ระบุไว้

ซึ่งดังกล่าวนี้ เป็นสิ่งที่สอดคล้องกับธรรมชาติเเละอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ เเละเป็นสิ่งที่กินกับสติปัญญา

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

966 Nameless Fanboi Posted ID:NrKY/oX4be

ครบรอบ 1 ปีล้าว ที่เปิดร้านญี่ปุ่นเอง .. ความสำเร็จ ก้าวแรก ยอดขายขึ้น 250% เทียบจากปีที่แล้ว เริ่ม จาก ศูนย์ จริงๆเลย ในพลาซ่าร้างๆ 5555 ... สิ่งที่ได้การ ทำ ธุรกิจ ครั้งนี้เลยคือ
1. ความอดทน
2. ความพยายาม
3. การมองเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่
4. ความไม่เคยท้อ
5. การตั้งเป้าหมายลูกค้าให้ถูก กลุ่ม กับราคา และเมนูอาหารให้ชัดเจน
6. คุณภาพอาหาร และ บริการ คือต้องจัดเต็ม และเร็ว
7. การทำให้ลูกเชื่อ ในอาหารของเรา หาจุดเด่น มันออกมา
8. สร้างทีมที่ดี
9. การเด็ดขาด
10. ทำงานเก่งไม่พอ แต่ต้องสอนพนักงานให้เก่ง ให้ได้เท่าเรา สำคัญมาก เปลี่ยนระบบ ความคิด ไม่ใช่ พฤติกรรม
11. ห้ามปล่อยผ่านแม้แต่เรื่องเดียว
12. ต้องสปอต ไม่งก ไม่ว่าจะกับลูกน้อง หรือ ลูกค้า
ข้อสุดท้าย “ไม่มีอะไรที่แม่งทำไม่ได้” และมันต้อง “สำเร็จ”

สรุปคือ ไม่ว่าจะทำอะไรที่ไหน location จะแย่ยังไง คู่แข่งมีเป็นสิบร้านในระยะ 3 ไมล์ ถ้ามีพวกนี้ ไม่ว่าจะทำไรก้อสำเร็จ จาก วัน ที่ลูกค้า แขยงร้าน เก่า ไม่กล้าเข้า โดนโจมตีหนักจากลุกค้าญี่ปุ่น คิดตั้งแต่วันแรกจะเปลี่ยนกลุ่ม ลุกค้าใหม่ให้หมด สุดท้ายมันก้อทำได้จริงๆ จน ลุกค้า แน่น ต่อไล
สิ่งที่ดีใจที่สุดคือการเห็น ยอดขายโตได้ขนาดนี้ คือวันที่แม่งโคดเหนื่อย แต่ต้องทน แต่ไม่เคยมีสักวันที่ แม่งท้อ สักนิดคิดว่าต่อไปคงไม่หยุด อยุ่แค่นี้

การก้าวขา ออกมาจากพ่อเต็มตัว จากเด็ก ที่วันๆเคยใช้แต่เงิน แต่งตัว แต่งหน้า เขียนตาดำๆ หนีบผม เป็น ชม ชอบ แกล้งเพื่อน เที่ยว ช้อปปิ้ง ไปวันๆ มีทุกอย่าง ที่อยากได้จนวันนี้ เราได้เป็น กรรมกร อย่างเตมตัว 😂😂
เด่วมาลุ้นกันต่อ ปีสอง ปีสามจะเป็นยังไง เอาจริงๆน่ะค่ะ พ่อ แอมไม่ได้ ทำเพื่อเงินเลยทุกวันนี้ พ่อกับแม่ให้แอม มาทุกอย่างแล้ว แอมแค่อยากทำให้พ่อ กับแม่ ภูมิใจในตัวแอม และมีความสุข แค่นั้นเอง แล้วเลี้ยง พ่อกับแม่ กลับคืนบ้าง สู้ๆๆ แอม ชิว ชิว~

967 Nameless Fanboi Posted ID:5exRMMTIMV

>>966 ไม่ได้ทำเพื่อเงิน >> หาเลี้ยงพ่อแม่ >> ดีใจที่สุดคือการเห็น ยอดขายโต

ไม่ได้ทำเพื่อเงินเลย 555

968 Nameless Fanboi Posted ID:filiZTOCde

>>965 *มิตรสหายมุซซี่ท่านหนึ่ง

969 Nameless Fanboi Posted ID:KrwzIIWS2C

>>967 จริงๆก็ทำเพื่อเงินแหละ ไม่งั้นไม่มีแดก แต่บอกว่าทำเพื่อเงินมันไม่คูล
#มิตรสหายท่านนั้นคิดในใจ

970 Nameless Fanboi Posted ID:3WeOqVNPhO

วันก่อนครับ หลังจากบริษัทประกาศปรับเงินเดือนอันน้อยนิด มากกว่าอัตราเงินเฟ้ออย่างเป็นทางการนิดนึง ประมาณ 1.4% หัวหน้าผมก็เดินมาบอกกับพวกผมว่า เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งที่สำคัญคืออย่างอื่นมากกว่า เช่นเพื่อนร่วมงาน บรรยากาศการทำงาน แหม่ ไอ้เรื่องพวกนั้นมันก็ใช่แหละครับ แต่เงินขึ้นมาแค่ 750 บาทต่อเดือน นี่ไม่รู้จะพูดไงจริงๆ

971 Nameless Fanboi Posted ID:xJi/+gLazQ

>>964 คนด่า กะ คนไล่ไปบวชมันคนเดียวกันไหมละ

972 Nameless Fanboi Posted ID:wcU6epga.j

>>970 ได้เยอะกว่าค่าแรงหลายคนอย่าบ่นไอ้สัส

973 Nameless Fanboi Posted ID:NrKY/oX4be

ในการทำงานจริงๆ เทคโนโลยี อะไรที่มันซับซ้อน ไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด คำตอบที่เจอบ่อยๆ และ ใช้ไม่ได้จริง คือ Docker และ Websocket เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนพึงจะกระทำได้ (หลายคนไม่ได้ใช้ VPS หรือ วาง Server เอง) ถ้าจะเปรียบ ก็เหมือนกับ Elon Musk ส่งเรื่อดำน้ำจิ๋ว มาให้นั่นแหละ ... ไม่ใช่ว่ามันไม่ดี แค่มันไม่ใช่ วิธีที่ดีที่สุด เท่านั้น ... บอกน้องๆไป จะทำให้พวกเขางงเปล่าๆ

974 Nameless Fanboi Posted ID:6c6inqSKCE

ในญี่ปุ่นมีมาแล้วนะครับ ทำงานหาเงินจนซื้อที่ดินในเขตรปปงงิ ได้มา 3แปลง เฮียแกให้เช่าที่และใช้ชีวิตเป็น neet อย่างสบายอารมณ์ วลีอมตะของเฮียแก
"ทุกๆคนอยากเป็นneetกันทั้งนั้น แต่พวก ที่ด่าว่าneetเนี่ยคือ คนที่ไม่มีศักยภาพ มากพอที่จะเป็นneetต่างหาก"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

975 Nameless Fanboi Posted ID:Gi1qE//9wU

Section 32 of the Act is headed "Handling Salmon in Suspicious Circumstances".

976 Nameless Fanboi Posted ID:yfxZ9+uxDg

>>974 อันนั้นภาษาไทยเค้าเรียกเสือนอนกิน พวกเปิดหอพักแล้วนอนเก็บค่าที่

977 Nameless Fanboi Posted ID:7VfZ0+vp/y

>>974 มีงานทำมีกิจการ จะเป็นนีทได้ไงวะ

นีทตรงตัวมันคือ "Not in Education, Employment, or Training"
มิตรสหายมึงมั่วละ

978 Nameless Fanboi Posted ID:D4CesOszQQ

>>977 ไม่เรียน ไม่รับจ้าง ไม่ฝึกงาน ก็ตรงตัวแล้วนี่มึง

979 Nameless Fanboi Posted ID:BG3dA2KDfF

>>978 เสือนอนกิน หมายถึง การได้รับผลประโยชน์ผลกำไรโดยไม่ต้องลงทุนหรือลงแรงทำงาน หรือการลงทุนลงแรงเพียงครั้งแรก หลังจากนั้นก็รอรับผลประโยชน์ เช่น

พ่อของเขาเป็นคนมองการณ์ไกล ไม่อยากให้ครอบครัวลำบากจึงได้ลงทุนสร้างอพาร์ตเม้นท์ให้เช่าเอาไว้ ตอนนี้เขาก็กลายเป็นเสือนอนกินวันๆไม่ต้องทำอะไรมีรายได้จากค่าเช่าห้องก็อยู่ได้สบายๆ

980 Nameless Fanboi Posted ID:2+su.tp1lO

เห็นข่าวหมอเตือนห้ามให้ทารกกินกล้วย แต่ดันมีชาวไทยมาด่าหมอ แล้ว ผมไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่

แม่ผมเป็นพยาบาล ผมเกิดในมหาวิทยาลัยขอนแก่น เคยได้ยินวิธีการตายแบบมาสเตอร์พีชจากความเชื่อท้องถิ่นมาเป็นสิบๆรูปแบบ

ปัญหาใหญ่คือ คนไทยเชื่อหมอผี กับเรื่องที่ใครก็ไม่รู้พูดมา มากกว่าหมอ หมอบอกไม่เชื่อ แต่เชื่อจดหมายลูกโซ่สูตรยาผีบอกที่หย่อนอยู่ในตู้จดหมายก็มี

จากบันทึก เราพบว่าความเกรียนแล้วดื้อของชาวสยาม มีมาตั้งแต่วันที่การแพทย์สมัยใหม่เข้ามาในแผ่นดินสยามแล้ว โหดสัสมาตั้งแต่เมื่อสองร้อยปีก่อน

บุคคลที่ต่อสู้กับเรื่องนี้เป็นคนแรกคือ หมอปลัดเล หรือชื่อเต็มคือ แดน บีช บรัดเลย์ (Dr.Daniel Beach Bradley)

ในยุคที่หมอบรัดเลย์เกิด กระแสฟื้นฟูศาสนาในอเมริกันกำลังเฟื่องฟู มีความคิดในเรื่องรณรงค์เลิกทาส และเรียกร้องให้ผู้ศรัทธาทำมิชชั่น โดยการเดินทางไปยังประเทศที่ยังไม่พัฒนา เพื่อเผยแพร่ศาสนา และวิทยาการต่างๆ

หมอบรัดเลย์เป็นนายแพทย์ซึ่งเดินทางมายังประเทศไทยเป็นคณะมิชชันนารีของคณะอเมริกัน เข้ามาถึงประเทศไทย ในสมัยรัชกาลที่ 3 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2378 (1835)

ตอนนั้นหมออายุ 31 ปี เป็นผู้ร่วมเริ่มต้นพันธกิจคริสเตียนสายโปรแตสแตนท์ในประเทศไทย และร่วมก่อตั้งคณะเพรสไบทีเรียนสยาม ที่ต่อมาเป็นสภาคริสตจักรไทย

คิดว่าเมื่อหมอบรัดเลย์มาถึงสยาม คนไทยในสมัยรัชกาลที่ 3 ตอบรับอย่างไร กับการแพทย์ตะวันตก?

กลายเป็นว่าคนสมัยนั้นมองว่า ศาสนา กับ วิชาต่างๆ เป็นเรื่องเดียวกัน

ประมาณว่า การรักษาโรคกับการไล่ผีเป็นสิ่งเดียวกัน ยาบำรุงธาตุกับความเชื่อเรื่องจักรวาลวิทยาของพระพุทธศาสนาเป็นสิ่งเดียวกัน อายุรเวทอินเดียถูกผนวกเข้ากับความเชื่อของศาสนาจนเป็นเนื้อเดียวกัน

ดังนั้นการแพทย์ตะวันตก จึงไม่อาจอธิบายให้คนสยามเข้าใจได้

พูดง่ายๆคือ สมมุติคนป่วยคือถูกผีเข้าก็ต้องหาว่านทีมีฤทธิ์ไล่ผีสิ ยาฆ่าเชื้อห่าอะไร

นอกจากนั้น เราก็รู้ดีว่าหมอหลวงจะมีท่าทียังไงเมื่อมีศาสตร์ใหม่ที่ได้ผลมากกว่าเข้ามาเหยียบแผ่นดิน คิดว่าหมอหลวงจะมีจิตวิญญาณไปขอเรียนเพื่อพัฒนาวิชาการแพทย์มารักษาคนงั้นเหรอ - คิดอะไรเป็นการ์ตูนหมอญี่ปุ่นแบบนั้น คุณก็รู้ว่าที่นี่สยาม

ผลคือการรักษาของหมอบรัดเลย์ไม่ได้รับการยอมรับจากชาวสยาม เวลานั้นชาวจีนตอบรับการแพทย์ตะวันตกมากกว่า รวมถึงมีชาวจีนเปิดรับศาสนาคริสต์มากกว่า หมอบรัดเลย์ จึงเริ่มต้นก่อตั้งโรงหมอบริเวณแถวๆเยาวราชในปัจจุบัน เพื่อจ่ายยา และหนังสือศาสนาให้แก่คนไข้

ผลคือทางการสยามไม่ชื่นชอบหมอบรัดเลย์นัก จึงกลั่นแกล้งไม่ให้เช่าที่ต่อ โดยอ้างว่าเกรงจะทำให้ชาวจีนก่อกบฏ

หมออยู่ได้ไม่กี่เดือนก็ต้องย้ายไปอยู่บริเวณชุมชนชาวโปรตุเกส พวกคณะมิชชันนารีช่วยกันสร้างโอสถศาลาขึ้น เปิดทำการเมื่อ 30 ตุลาคม 2378(1835)

ปี 2379(1836 ) หมอบรัดเลย์ได้สั่งแท่นพิมพ์เข้ามาเป็นเครื่องแรกในสยาม และได้พิมพ์หนังสือเล่มแรกของสยามคือ "บัญญัติ 10 ประการ" เพื่อแจกในการเผยแพร่ศาสนา

วิชาของหมอยังไม่เป็นที่ไว้วางใจของชาวสยาม จนกระทั้ง 3 มกราคม 2380(1837) มีพระสงฆ์รูปหนึ่งถูกพลุที่ใช้ในงานวัดระเบิดใส่จนแขนขาด หมอบรัดเลย์จึงทำการผ่าตัดใหญ่เป็นครั้งแรกในสยาม ชื่อเสียงของหมอก็เลยดังขึ้นมา

(ว่ากันว่ามีการผ่าตัดเอาเนื้องอกจากทาสออกก่อนหน้านั้น ซึ่งควรนับเป็นครั้งแรกมากกว่า)

นั่นทำให้ชื่อเสียงของหมอบรัดเลย์ดีขึ้น ชาวสยามยอมรับการผ่าตัดต้อกระจก และเนื้องอก แต่จุดประสงค์ทางด้านศาสนาของหมอก็ไม่คืบหน้าเท่าไหร่ ทางการสยามสนใจงานด้านการพิมพ์ของหมอมากกว่า

ทางการสยามได้ให้การสนับสนุน และจ้างให้หมอพิมพ์เอกสารเรื่องการห้ามสูบฝิ่นของรัฐบาล 9,000 ฉบับ

ในปี 2384(1841) หมอบรัดเลย์ ก็สั่งหล่อตัวอักษรไทยเพื่อใช้เรียงพิมพ์ขึ้นได้เป็นครั้งแรก จากที่ก่อนหน้านี้ใช้บล็อกพิมพ์ไม้

ปี2387(1844) หมอบรัดเลย์ก็ได้ออกหนังสือพิมพ์ฉบับแรกของสยามขึ้นในชื่อว่า หนังสือจดหมายเหตุ บางกอกรีคอร์เดอร์

และแล้วก็เกิดการระบาดของไข้ทรพิษหรือโรคฝีดาษขึ้นในสยาม

ถ้าเราอ่านประวัติศาสตร์ของภูมิภาค จะพบว่าจะมีโรคพวกนี้ระบาดทุกประมาณ 30-50 ปี เรียกรวมๆว่า "ห่าลง" ซึ่งมีโรคยอดฮิตคือ อหิวาฯ ฝีดาษ กาฬโรค เวียนๆกันไป ลงเมื่อไหร่ก็ตายห่ากันทั้งเมือง

หมอบรัดเลย์ได้เสนอวิธีการรับมือกับฝีดาษแบบสมัยใหม่คือ การปลูกฝี

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเมตตาพระราชทานเงินให้หมอซื้อเชื้อสำหรับการปลูกฝีมาจากอเมริกา หมอบรัดเลย์ได้ศึกษาต่อจนกระทั้งสามารถผลิตเชื้อที่ใช้ปลูกฝีต่อได้เอง จนสามารถปลูกฝีได้แพร่หลาย สยามจึงสามารถชนะไข้ทรพิษ ซึ่งเป็นโรคที่ฆ่าชาวสยามมาตลอดสมัยโบราณได้สำเร็จ

(ต่อเม้นล่าง)

981 Nameless Fanboi Posted ID:2+su.tp1lO

(ต่อจาก >>980 )

หมอบรัดเลย์ได้รับเงินพระราชทานเป็นรางวัลที่เอาชนะฝีดาษได้สำเร็จ หมอพยายามขยายสู่เป้าหมายต่อไปคือการเอาชนะความตายของทารกตอนคลอด หมอจึงนำเงินรางวัลนี้ไปเป็นทุนพิมพ์หนังสือคัมภีร์ครรภ์รักษา ซึ่งเป็นวิธีทำคลอดแบบสมัยใหม่

ถ้าโครงการของหมอสำเร็จเราอาจจะไม่มีแม่นาคพระโขนง แต่ผลคือล้มเหลว ชาวสยามยังคงใช้วิธีทำคลอดแบบเดิม แล้วก็ตายทั้งกลมกันเหมือนเดิม

หมอบรัดเลย์ยังไม่ท้อถอย ยังพยายามฝึกหมอหลวงด้วยวิชาแพทย์สมัยใหม่ มีการพิมพ์ตำราแพทย์กว่า 200 ปก

โรงพิมพ์ของหมอ ยังพิมพ์หนังสืออื่นๆออกมาจำนวนมาก ทั้งจินดามณีซึ่งเป็นหนังสือเรียนภาษาไทยเล่มแรก หรือแม้กระทั้งสามก๊ก

แต่ภารกิจการเผยแพร่ความคิดของหมอบรัดเลย์เป็นไปอย่างเหนื่อยยาก และไม่ค่อยประสบความสำเร็จ

เหตุผลคือ ยังมีคนสยามที่อ่านหนังสือออกน้อยมาก ความเชื่อเดิมฝังรากลึกยากจะแก้ไข

สำคัญคือ เมื่อคนสยามไม่เชื่อศาสนาของหมอตั้งแต่ต้นแล้ว ก็กลายเป็นปฏิเสธความรู้อื่นๆของฝรั่งไปด้วย

คนสยามมีนิสัยเชื่อคนตามคนที่พูดมากกว่าหลักความจริงของคำที่พูด เช่นในตอนปลูกฝี ที่ได้ผล เพราะโครงการมาจากพระเจ้าแผ่นดิน พอเป็นโครงการของหมอเอง คนสยามก็เชื่อพระ เชื่อผู้ใหญ่ในชุมชนมากกว่าหมอ

นี่ทำให้ชีวิตของหมอบรัดเลย์ที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จทั้งด้านการเผยแพร่ศาสนา การเผยแพร่ความคิด และการเผยแพร่วิชาการแพทย์

ในตอนแรกหมอยังพอเลี้ยงชีพจากธุรกิจการพิมพ์ได้ แต่หมอก็ต้องพบวิกฤติเพราะนิสัยรักความถูกต้องของตัวเอง

ด้วยความเป็นทั้งมิชชั้นนารีอเมริกัน และเจ้าของหนังสือพิมพ์ หมอบรัดเลย์คิดว่าเป็นจรรยาบรรณที่จะต้องต่อสู้กับคอรัปชั่น

แต่นายก็รู้ว่าที่นี่สยาม

หมอบรัดเลย์เขียนบทความเปิดโปงการทำสัญญาแบบลับๆระหว่างข้าราชการสยามกับกงสุลฝรั่งเศส ซึ่งคงจะไปขัดผลประโยชน์คนระดับพระคลัง

ผลคือหมอบรัดเลย์ถูกฟ้อง และแพ้คดี เพื่อนๆต้องรวมเงินกันไปจ่ายค่าปรับ ผลคือทำให้หนังสือพิมพ์ของหมอต้องปิดตัวไป

ถึงอย่างนั้น หมอก็ยังพยายามเผยแพร่ความรู้ให้กับชาวสยาม ด้วยการพิมพ์เผยแพร่หนังสือแปลจากภาษาต่างประเทศ ตำราแพทย์ และตำราเรียน มาอย่างต่อเนื่อง

หมอบรัดเลย์ทำงานอย่างหนัก จนกระทั้งเสียชีวิตในวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ.2416(1873) เป็นเวลา40กว่าปี ในภารกิจพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอีกฝั่งของโลกจากบ้านเกิดของหมอ

งานของหมอบรัดเลย์แทบจะไม่ประสบความสำเร็จเลยในยุคสมัยของหมอ มีคนน้อยมากที่รับเชื่อ มีคนน้อยมากที่เปลี่ยนพฤติกรรมด้านสาธารณสุข งานด้านสื่อก็ต้องปิดฉากลง

ที่จริงแล้ว หมอบรัดเลย์เป็นทั้งบิดาของคริสตจักรไทย บิดาแห่งการแพทย์สมัยใหม่ บิดาแห่งการพิมพ์ และบิดาแห่งสื่อไทย แต่หมอก็ไม่ได้รับเกียรติเท่าที่ควรจะเป็น

แต่ไม่ว่ามนุษย์จะยกย่องให้เกียรติหมอบรัดเลย์หรือไม่ รากฐานทางด้านศาสนา การแพทย์ และสิ่งพิมพ์ก็ถูกวางไว้แล้ว สิ่งที่หมอทำไว้ได้ค่อยๆขยาย และต่อยอดจนมาถึงปัจจุบัน
.
.
.
ผมอยากจะปิดประเด็นนี้ด้วยเรื่องของนาอามาน

นาอามานเป็นแม่ทัพชาวซีเรียก่อนสมัยคริสต์กาล ซึ่งเป็นโรคเรื้อน สาวใช้ของเขาที่เป็นเชลยชาวยิว จึงบอกให้ไปหา เอลีชา ผู้ที่จะรักษาได้

ทีนี้ เรื่องมันใหญ่มาก เพราะตอนนั้นซีเรียกับอิสราเอลเป็นศัตรูกัน แต่นาอามานก็อยากหายต้องให้พระราชาทำเรื่องขอเดินทางไปหาเอลีชา

พอเจอหน้า เอลีชา ดูอาการแล้วบอกให้ นาอามาน ไปล้างตัวในแม่น้ำจอร์แดนหน้าบ้านเอลีชา 7 ครั้ง แล้วเดี๋ยวหายกลับบ้านได้

นาอามาน โมโหมาก บอกประมาณว่า "สัส โรคเรื้อนมันจะหายง่ายๆแบบนั้นได้ยังไงวะ นี่ข้ามาจาดามัสกัสมาเจอพระยิวเพื่อโดนบอกให้ไปอาบน้ำเนี่ยนะ"

ผมคิดว่าคนไม่เชื่อหมอกัน เป็นเพราะการรักษาจริงๆ มันเรียบง่ายไม่อภินิหาร เขาอยากได้พิธีเท่ๆ มีปล่อยแสง มีคนสวด
.
.
.
สุดท้ายนี้ ผมอยากจะฝากไปถึงคริสเตียนว่า หากคิดจะทำอะไรแปลกๆ ขอให้คิดถึงหน้าหมอบรัดเลย์ และมิชชั่นของหมอทั้ง 40 ปีไว้

กลุ่มพันธกิจต่างๆของคนรุ่นก่อนๆก็พยายามกันแทบตายกว่าจะสร้างโรงพยาบาลกันได้แต่ละแห่งหวังให้พี่น้องได้ใช้ประโยชน์

ส่วนคนอื่นถ้าใครยังจะเชื่ออะไรของเขาอยู่ ก็ให้เป็นทางของใครของมันก็แล้วกัน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

982 Nameless Fanboi Posted ID:ZF/hX0GfPz

ศาสนาที่หมอเผยแพร่มันก็คือๆกันกับหมอผีนั่นแหละ คนไทยมันถึงไม่เปิดรับไง

983 Nameless Fanboi Posted ID:vcUovYZO3l

กินเมนูเดิมร้านเดิมมาอาทิตย์กว่าละ เมื่อวานกูเข้าไป คนผัดเห็นหน้าทักเลย "เหมือนเดิมนะ?"
นี่กึ่งไม่แน่ใจเลยบอก "ค่ะ กะเพราหมูกรอบ ไข่ดาวสองฟอง ไม่ใส่พริก สองกล่อง" แกบอกโหทวนขนาดนี้ไม่เชื่อใจกันหนิ
อะ วันนี้กูไป แกหันมา "เหมือนเดิม?" กูก็ค่ะ เข้าออฟฟิศเปิดกล่องมา อีห่า หมูกระเทียม

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

984 Nameless Fanboi Posted ID:lvNLdK3eQ3

"เห็นใส่เนยขนาดนั้นแล้วเครียด​เลย​ เลยออกมานอกร้านอัดบุหรี่ไปสองมวน​ เบียร์​อีกสองป๋อง​
อันตราย​จริงๆนะครับเนยเทียม​ มะเร็ง​ทั้งนั้น​"

มิตรฯ

985 Nameless Fanboi Posted ID:51Si5Sw6y0

ตำราประวัติศาสตร์ของยุโรปสมัยใหม่ จะต่างจากจีนแบบจารีตขงจืออย่างหนึ่ง คือจีนสนใจคน ยุโรปสนใจระบบ

ตำราประวัติศาสตร์จีน พิจารณาประวัติศาสตร์ยาวนาน แต่มักจะมองจากสายตาของมนุษย์

ตัวอย่างเช่น เมื่อเราอ่านสามก๊ก เรารู้ว่าโจโฉ เล่าปี่ ซุนกวนตัดสินใจอย่างไร และมันส่งผลกับตัวโจโฉ เล่าปี่ ซุนกวน หรือคนของเขาอย่างไร

เรารู้ว่าการตัดสินนั้นมีปัญญา หรือโง่ จากผลที่ตามมาต่อบุคคล

ประวัติศาสตร์จีนโฟกัสไปที่คน พูดถึงความฉลาด และการตัดสินใจของคน

เรารู้ว่ารัฐของสู่ เว่ย อู่ มีใครเป็นแม่ทัพ เป็นกุนซือบ้าง แต่เราไม่เคยรู้เลยว่าโครงสร้างรัฐของสู่ เว่ย อู่ เป็นอย่างไร

พวกเขามีที่ปรึกษากี่คน ตำแหน่งเรียกว่าอะไรบ้าง มีระบบการประชุมและตัดสินใจอย่างไร ใครสั่งใคร ระบบการเก็บภาษีเป็นอย่างไร การค้าเป็นอย่างไร อะไรเป็นสินค้าสำคัญของแคว้น เราไม่รู้ ดูเหมือนเรื่องพวกนี้จะไม่ใช่เรื่องที่นักปราชญ์ขงจือจะสนใจหยิบยกมาวิเคราะห์

หรือมักจะอธิบายสาเหตุของเหตุการณ์เป็นเพราะการตัดสินใจส่วนบุคคลเช่น "ราชวงศ์หมิงล่ม เพราะ อู๋ ซานกุ้ย เปิดประตูให้แมนจู"

ในขณะที่ การศึกษาประวัติศาสตร์ของยุโรปสมัยใหม่จะมองไปคนละอย่างกัน พวกเขาสนใจว่า เซเนทมีทั้งหมดกี่คน ที่มามาจากไหน ประชนในเมืองนั้นมีกี่ชนชั้น ทหารโรมันมีอาวุธอะไรบ้าง เมืองโรมใช้เทคโนโลยีทางสถาปัตยกรรมอย่างไร สินค้าสำคัญคืออะไร ชาวโรมสร้างฐานะจากอะไร

ถ้าถามว่าทำไมโรมล่ม คำอธิบายแบบยุโรปสมัยใหม่ก็จะอธิบายแบบเป็นโครงสร้างสังคม อธิพลทางศาสนา และสภาวะแวดล้อม

เมื่อเราศึกษาประวัติศาสตร์แบบจีนในจารีตเดิม เราจะพบว่าความรุ่งเรืองมาจากการตัดสินใจที่ดีของคน การเป็นคนเก่งคนดี การเลือกใช้คนเก่งคนดีมาทำงาน

แต่เมื่อเราศึกษาประวัติศาสตร์แบบยุโรป เราจะพบว่าความรุ่งเรืองมาจากระบบที่ดี การมีโครงสร้างการเมืองที่ดี เทคโนโลยีที่ดี มีการผลิตสินค้า และระดมทรัพยากรได้ดี

จริงๆประวัติศาสตร์แบบยุโรปมีแนวโน้มจะมองสังคมเป็นเครื่องจักร และมนุษย์เป็นฟันเฟืองหนึ่งของระบบ เหมือนมองจากสวรรค์ลงมา ในขณะที่แบบจีนมองในมุมของมนุษย์กว่า เป็นมุมมองของคนที่อยู่ในเหตุการณ์กว่า

ดังนั้นในการอ่านประวัติศาสตร์จีนเราจะรู้สึกทึ่งกับความฉลาดของปราชญ์โบราณ แต่เมื่ออ่านประวัติศาสตร์ยุโรป เราจะรู้สึกว่าเราฉลาดกว่าเสมอ เพราะเรารู้มากกว่าคนสมัยนั้นแล้ว

ผมเดาเอาว่า นักประวัติศาสตร์ยุโรปตั้งแต่ยุคกลางคงพยายามมองโลกด้วยสายตาของพระเจ้า และนักคิดที่เอามาวิเคราะห์ในสมัยใหม่พยายามดูสังคมในฐานะฟังเฟืองหนึ่ง ที่ดำเนินไปตามกฎบางอย่างซึ่งต้องอธิบาย เหตุ-ผลได้

ในขณะที่ปราชญ์ขงจือของจีนบันทีกเรื่องราวของผู้ที่ได้อาณัติสวรรค์ เพื่อให้ใช้สั่งสอนลูกหลานให้ตัดสินใจเลือกทางที่ฉลาด และถูกต้อง โดยเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ที่เคยมีมา (เช่น เจินกวนเจิ้งเย่า ที่สรุปจากประวัติศาสตร์ว่าการมีขันติยธรรมของกษัตริย์ทำให้บ้านเมืองรุ่งเรือง หรือฉางตวนจิงที่สรุปว่าคนชิบหายเพราะไม่ประยุคปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์)

คนไทยคุ้นชินกับการศึกษาแบบจีนขงจือที่ตกสมัยไปนานแล้ว แต่ไม่ค่อยศึกษาจากมุมวิเคราะห์แบบตะวันตก จึงมักจะมองว่าปัญหาต่างๆเกิดจากการตัดสินใจที่ไม่ดี หรือโง่ของบุคคล

แต่เราต้องมองประวัติศาสตร์จากทั้งสองมุมมอง ทุกวันนี้แม้แต่ประเทศจีนเองก็ศึกษา ค้นคว้า และสอนประวัติศาสตร์จากวิธีของตะวันตกสมัยใหม่ด้วยแล้ว

เมื่อเราศึกษาประวัติศาสตร์จากมุมมองของตะวันตก เราจะพบว่า หลายครั้ง มนุษย์ตัดสินใจด้วยความดี อย่างเห็นส่วนรวม สุดความสามารถ สุดปัญญาแล้ว แต่มุมมองที่จำกัดของยุคสมัยนั้นทำให้มันได้แค่นั้นจริงๆ

อย่างเมื่อเราเรียนเรื่องของพี่น้องกรักคุส กับความพยายามของมารีอุส เรารู้ว่ามันทำอะไรไม่ได้ สิ่งที่พวกเขาทำมันสุดทางจากมุมมองที่จำกัด และทรัพยากรที่พวกเขามีแล้ว

พวกเขาไม่ใช่พระเจ้า เป็นมนุษย์ จากขอบเขตที่พวกเขารับรู้ พวกเขาทำได้ดีที่สุดแค่นั้น

โครงสร้างของรัฐ ปริมาณการผลิตที่จำกัด และการขาดความรู้บีบบังคับให้ผลมันออกมาแบบนั้นจริงๆ

กลายเป็นว่าเจตนาดีนำไปสู่ผลร้าย พวกเขาฉลาดที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับว่าคนจะเลวหรือโง่เลย

ในมุมนี้ การหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่เราเรียนจากอดีตได้ จึงต้องแก้ไขด้วยการปรับโครงสร้างของรัฐ และเศรษฐกิจ

ไม่มีประโยชน์ที่จะมาด่าว่าใครโง่ หรือใครตัดสินใจพลาด

ในคำภีร์โจอี้บอกว่า "ความผิดพลาดครั้งแรกคือเยาว์ความ แต่ถ้ามีครั้งที่สอง หรือสาม คือความโง่"

มนุษยชาติเคยเยาว์ เราทำผิดมาแล้ว แต่คนที่ไม่เรียนจากความผิดพลาด ไม่ยอมเปิดมุมมองให้กว้างขึ้น ไม่ค้นคว้าจนเข้าใจที่มาของปัญหาที่แท้จริง และไม่แก้ไขรากของปัญหา นั่นแหละคือความโง่

แต่ดูเหมือนประเทศของเราจะไม่เคยเรียนประวัติศาสตร์อะไรเลย ก็เลยโง่ซ้ำๆ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

986 Nameless Fanboi Posted ID:hHEAyTypwZ

>>985 ว้ายโง่ของจีนมันมีถ้ามึงศึกษาลึกพอ ระบอบการปกครองหรือเก็บภาษี คนแม่งแม่งอ่่านแต่แค่เลียดก๊กสามก๊กก็เอามาโม้ แล้วไอ้สามก๊กเลียดก๊กมันแค่พงศาวดารไม่ใช่ตำราประวัติศาสตร์

987 Nameless Fanboi Posted ID:ThJsDY/1Y3

เค้าแค่มาสืบพันธุ์

988 Nameless Fanboi Posted ID:nyd5rXIV2/

>>987 ขยะ

989 Nameless Fanboi Posted ID:EQm0E31Vrl

ฟิสิกส์ของการหยุดเวลา

หลักความสมมูล (Equivalence Principle) ระหว่างสิ่งที่เคลื่อนไหว กับสิ่งที่หยุดนิ่ง ถ้าเราอยู่ในรถซึ่งปิดฟิล์มทึบสนิท เราจะไม่สามารถบ่งชี้ว่าเรากำลังเคลื่อนไหวหรือหยุดนิ่งถ้ารถนั้นเคลื่อนที่ไปบนทางเรียบแบบสมบูรณ์ด้วยความเร็วคงที่ เราจะไม่สามารถบ่งชี้ความแตกต่างระหว่างเราตะบึงเข้าชนรถอีกคันที่หยุดนิ่ง หรือรถอีกคันตะบึงเข้าชนเรา หลักการนี้ สามารถปรับใช้ได้กับแนวคิดการหยุดเวลา สมมุติว่า โจทาโร่ ใช้สตาร์แพลตตินั่มหยุดเวลา การที่มันจะเคลื่อนไหวในเวลาที่หยุดนิ่ง มันจะต้องบังคับให้อากาศเคลื่อนหลบโจทาโร่ ซึ่งมันก็จะไม่ต่างอะไรกับการที่อากาศซึ่งไหลด้วยความเร็วแสงกระทบตัวเรา เรารู้จากสมการสัมพัทธภาพว่า วัตถุที่มีมวลใดๆที่ความเร็วแสงจะมีพลังงานเป็นอนันต์ ดังนั้น การเคลื่อนที่ในเวลาที่หยุดนิ่ง มันก็จะต้องใช้พลังงานเป็นอนันต์ในการเคลื่อนอากาศสักอนุภาค และมันทำให้การเคลื่อนที่ในเวลาที่หยุดนิ่งเป็นไปไม่ได้

ในอีกทางหนึ่ง ถ้าเรามองว่า เวลา เป็นส่วนหนึ่งของกาลอวกาศ และความโค้งของกาลอวกาศทำให้เกิดการยืดของเวลา บางทีเวลา ไม่ได้เดินด้วยอัตราที่เท่ากันในห้วงอวกาศนี้ ในกรณีการหยุดเวลาของโจทาโร่ กาลอวกาศรอบนอกโจทาโร่จะมีความชันเป็นอนันต์ โดยรอบตัวของโจทาโร่จะเป็นจุดยอดของความโค้งของกาลอวกาศเป็นศูนย์กลาง นั่นคือ เวลารอบตัวโจทาโร่จะเดินอยู่ แต่เวลาที่ห่างออกไปจะเดินด้วยอัตราที่ช้าลงจนหยุดนิ่งที่ระยะอนันต์ ในเคสนี้ การออกแรงในการเคลื่อนไหวของโจทาโร่จะไม่ต้องใช้พลังงานเป็นอนันต์ เนื่องจากพอเดินเข้าใกล้เป้าหมาย การยืดของเวลาก็จะลดลง

ในกรณีสมมุติ - คะเคียวอิง ที่โดนดิโอ ต่อยไส้แตก ในมุมมองของดิโอ คะเคียวอิงจะเคลื่อนไหวช้าตอนอยู่ห่างและเคลื่อนไหวเร็วจนเป็นปรกติเมื่อดิโอมาถึงตัว ส่วนในมุมมองของคะเคียวอิง จะเห็นดิโอเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงและชะลอลงก่อนต่อยไส้แตก

แต่ถึงเราจะหยุดเวลาด้วยวิธีหลัง ใช้ความโค้งของกาลอวกาศ เมื่อความโค้งของกาลอวกาศ = พลังงานและมวล การสร้างความโค้งของกาลอวกาศลักษณะนี้ ข้อจำกัดพลังงานอาจน้อยกว่าเคสแรก แค่ว่าเราต้องไปหามวลและพลังงานลบ เพื่อจะสร้างปฏิความโค้งของปฏิหลุมดำที่มีเราเป็นศูนย์กลาง เป็นจุดยอดที่ความโค้งของกาลอวกาศชันเข้าหาแล้วปรับเป็นระนาบที่ราบเรียบ ก็ขืนให้ความชันของกาลอวกาศที่ตัวเราอยู่เป็นอนันต์เวลาของเราก็หยุดไปด้วยแล้วเราจะหยุดเวลาไปทำซากอะไร ซึ่งตอนนี้ มันยังไม่มีทีท่าว่ามวลลบ หรือ พลังงานลบมันจะมีอยู่จริง และมันก็มีปัญหาต่อมาเรื่องการเกิด Spaghettified เพราะกาลอวกาศที่โค้งขนาดนั้นมันก็จะเกิดผลเป็นแรงโน้มถ่วงดึงเข้าหา การจะหยุดเฉพาะเวลา ไม่ว่าจะสมมุติให้เป็นเคสเวลาหยุดทั้งหมดมีแต่เราที่เวลาเคลื่อนไหว หรือใช้ทริกความโค้งของกาลอวกาศ มันย่อมจะเจอข้อจำกัดด้วยกฎทางฟิสิกส์ทั้ง 2 ทางนั่นเอง

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

990 Nameless Fanboi Posted ID:9vPFGmVrH9

>>989 สตาร์แพลตินั่มกะเตอะเวิร์ลมันเคลื่อนเร็วจนหยุดเวลาได้เว้ย

991 Nameless Fanboi Posted ID:SMNxL9VSyD

>>989 หลวงพ่อพุซซี่ก็ใช้หลักการแรงโน้มถ่วงควบคุมเวลา เพราะตอนพี่แกเพิ่งได้ซีมูน โจทาโร่มันก็เอะใจแล้วว่าพลังหยุดเวลามันหมดเร็วขึ้น

992 Nameless Fanboi Posted ID:YLG0l0tCq4

>>989 อยากดูหลักการลบเวลาทิ้งสองวิของคิงคริมสันเลยว่ะแบบนี้

993 Nameless Fanboi Posted ID:UfNWDzyCBS

นี่มันรสเหงื่อของพวกโกหก

994 Nameless Fanboi Posted ID:kTD5z3VzXP

ไปถามไอ้เหี้ยควิกซิลเวอเลยต่อยคนแบบไม่เจ็บแขนด้วย

995 Nameless Fanboi Posted ID:JxTeBqhN6j

ข่าวการโจมตีฐานข้อมูลสุขภาพของสิงค์โปร์เมื่อวานนี้ ไม่น่าแปลกใจนะครับว่าทำไมมันถึงทำได้สำเร็จ ตามข่าวบอกว่าคนที่โจมตี (cyber attackers) ต้องการข้อมูลด้าน health ของ Prime Minister Lee Hsien Loong ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะเอาไปทำอะไรนะครับ

พวกเราเชื่อไหมครับว่าระบบ cyber security ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้ เกิดจากการลองผิดลองถูก (trials and errors) ทั้งนั้น การลองผิดลองถูกจึงขึ้นกับประสบการณ์ของผู้ดูแลระบบ หากลองแล้วทำงานได้ที่หนึ่ง ก็ไม่ได้การันตีว่ามันจะทำงานได้เหมือนกันในอีกที่นะครับ ไม่ได้มีหลักการใด ๆ ที่สนับสนุน เพราะฉะนั้น มันถึงได้อันตรายมาก ๆ นะครับ เหมือนกับลองดูแล้วมันทำงาน "ได้จริง" ก็ใช้เลย เราเรียกวิธีการแบบนี้ว่า rules of thumb หรือ best practices นะครับ เน้น practical เป็นหลัก

เมื่อหลายปีก่อน มีผู้ที่มีชื่อเสียงหลายท่านเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยทั้งหลายได้ศึกษา cyber security อย่างจริงจัง เรียกว่า the call for science of cyber security แม้กระทั่ง NSA ของสหรัฐก็ยังออกมาเรียกร้องถึงความจำเป็นที่จะต้องมี science of cyber security นะครับ เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นมันมหาศาลจริง ๆ เราต้องการความเข้าใจในศาสตร์นี้ หมายถึงหลักการที่พิสูจน์ได้ เพื่อที่จะให้ practitioners นำมาใช้ได้จริงอย่างมีประสิทธิผลนะครับ

cyber security จึงเป็นอีกสาขาหนึ่งที่ต้องการ mathematicians and theorists อย่างมาก ยังมีปัญหาวิจัยอีกมากที่รอให้คนเข้าไปทำให้กระจ่างนะครับ

ปล. ผมมีทุนปริญญาเอก คปก. ที่ศึกษา science of cyber security โดยตรง อยู่ 1 ทุน กำลังรอคนติดต่อมานะครับ

996 Nameless Fanboi Posted ID:z7QL0HBcME

เย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้ม เย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้ม

997 Nameless Fanboi Posted ID:z7QL0HBcME

เย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้ม

998 Nameless Fanboi Posted ID:z7QL0HBcME

เรารักnichaxและก็รักลุงเหลี่ยม

999 Nameless Fanboi Posted ID:z7QL0HBcME

ใกล้ปิดกะมู้แล้วววววววววววววววววววววววววววววววววว

1000 Nameless Fanboi Posted ID:z7QL0HBcME

ปิดมู้้้้้้เพื่อเย็ดรูหีแม่แอดมินsirn

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.