Last posted
Total of 1000 posts
““📌สรุปเรื่อง "Elon Musk vs. ท่านผู้ว่าฯ" จริงๆ เรื่องนี้ดิฉันคิดว่าไม่ใช่ดราม่าไร้สาระแบบที่หลายคนมาคอมเมนต์นะคะ ขึ้นอยู่กับว่าผู้อ่านต้องการเสพดราม่าผิวเผิน หรือต้องการดูลึกไปถึงทัศนคติของแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องมากกว่า
🐸เริ่มแรกคือ ท่านผู้ว่ากล่าวแถลงปิดซึ่งรวมไปถึงการขอบคุณ Elon Musk โดยบอกว่า "ก็รับความอุปการคุณจากเขา และดูแลอุปกรณ์ของเขานะครับ แต่ก็ยืนยันว่าอุปกรณ์ที่เขานำมาช่วยเหลือเราเนี่ยยังไม่ Practical (ใช้จริงไม่ได้) กับภารกิจของเรานะครับ ยืนยันตรงนี้ แต่เราก็รับความดูแลนะครับ"
ซึ่งนับว่าเป็นการขอบคุณในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการ ที่มีมารยาทและสุภาพทั่วไป นับว่าเป็นผู้บริหารที่ดี
🐸ต่อมา BBC และบรรดาสำนักข่าวต่างประเทศเนี่ย ไม่ชื่นชอบ Elon Musk อยู่แล้ว เพราะเค้ามองแต่แรกว่าการปรากฏตัวของ Musk เป็นเพียงการประชาสัมพันธ์ publicity stunt มีการเขียนลงทวิต สร้าง high hope ให้คนไทยอวยเว่อร์เกินไปตลอดเวลา ซึ่งถ้าคุณมองจากมุมนี้แต่ต้น จะเห็นเลยว่าเป็นอุปกรณ์ที่ยังไงก็จะไม่ได้เอามาใช้ เนื่องจากข้อจำกัดด้านเวลา ไม่เคยมีการทดสอบ ทางนักดำน้ำก็ไม่เคยฝีกซ้อมกับอุปกรณ์นี้ การจะเอาไปใช้งานเลยมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
ดังนั้น BBC ก็เลยยกเอาคำพูดของท่านผู้ว่าฯ เอามาแขวะ Musk ว่า "not practical" นะ
🐸ฝั่ง Musk เห็นคำว่า "not practical" แล้วบอกแหล่งอ้างอิงมาจาก "Governor" (ท่านผู้ว่าฯ) ก็ดูเหมือนจะเดือด เลยตอบกลับว่า Governor คนนี้คนเอาไปเรียกกันผิดๆ ว่าเป็นหัวหน้าขบวนการกู้ภัย ซึ่งจริงๆ เค้าไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญที่จะมาบอกว่าของของผม practical หรือไม่ คนที่จะบอกได้คือนาย Richard ชาวอังกฤษต่างหาก พร้อมกับส่งอีเมล์ให้ดูว่า Richard ก็ไม่ปฏิเสธอุปกรณ์ของ Musk เสียทีเดียว แต่คิดว่ายังไม่มีความจำเป็นต้องใช้มากกว่า (ทำนองว่าขอเก็บไว้เป็น Plan B ละกัน)
ซึ่งประโยคของ Musk นี่คือตั้งใจตอบประเด็นของ BBC และกระทบใส่ผู้ว่า ("inaccurately described as rescue chief" : "คำบรรยายที่ว่าเขาเป็นหัวหน้าโครงการนั้นไม่แม่นยำเอาเสียเลย") Musk ไม่มีความจำเป็นต้องใส่ประโยคนี้มาด้วยซ้ำ จริงๆ เขียนแค่ว่า Richard เป็น lead rescuer และได้คุยกับ Richard แล้วก็พอ
ในมุมนี้จะเห็นว่า Musk มองว่าคนที่สมควรได้รับเครดิตมากที่สุดคือ Richard เป็น "rescue chief" ตัวจริง ส่วนฝ่ายติดต่อประสานงานผู้ดูแลโครงการโดยรวมคือท่านผู้ว่าฯ นั้น Musk มองว่าไม่ใช่คนที่สำคัญที่สุดของขบวนการ
🐸น่าสนใจอีกอันคือ ฝั่ง Drama-Addict นี่ก็มีวาระโจมตีสื่อมวลชนอยู่ และประกอบกับที่คุณวิเองก็อวยทั้งผู้ว่าฯ และ Elon Musk มาตลอด ก็เลยหาทางลงให้ทุกฝ่ายโดยการโยนความผิดไปให้ BBC กลายเป็นสื่อจอมปั่นไปฝ่ายเดียว สรุปไปว่า Musk ด่า BBC
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง BBC รวมถึงนักวิชาการต่างประเทศมีเหตุผลที่ฟังขึ้นในการอยากจะแซะ Musk และ Musk ก็ keep cool ด้วยการตอบ BBC (ไม่ได้ "จวก" BBC อย่างที่คุณวิว่าไว้)
Musk เป็นผู้ประกอบการเอกชนที่ต่างประเทศพยายามสื่อให้เห็นถึงข้อคำนึงทางการตลาด
Musk ไม่ใช่ Iron Man หรือฮีโร่ที่จะกอบกู้ได้ทุกสถานการณ์แบบที่สื่อไทย (รวมถึงคุณวิ) ปั่นมาตลอด ในการมาไทยครั้งนี้ก็ไม่ทราบว่ามีจุดประสงค์อะไร"เป็นหลัก" (หลายคนจะบอกว่า "มาช่วยก็ดีแล้ว" ซึ่งดิฉันคิดว่าเป็นการมองที่แคบมาก เพราะนักข่าวต้องรายงานให้ครบทุกด้านว่าคนเราสีเทาๆ มีอะไรแอบแฝงหรือไม่? ทำไมเค้าตัดสินใจเดินทางมาด้วยตัวเองแม้ว่าค่อนข้างเป็นที่แน่นอนแล้วว่าอุปกรณ์ของเค้าจะไม่ได้ถูกนำมาใช้? ทวิตแรงและเริดตลอดเวลา อิมเมจทั่วฟ้าเมืองไทยคือเป็นพระเอกขี่ม้าขาว)
📌สรุปสุดท้าย คืองานนี้ท่านผู้ว่าฯ ซวยในซวย เพราะตัวเองทำถูกทุกอย่าง มีมารยาท สุภาพ แม้แต่การบอกว่าอุปกรณ์ของ Musk นั้น not practical ก็เป็นการบรรยายที่ถูกต้องเมื่อคำนึงถึงข้อจำกัดด้านการเวลา การฝีกซ้อม ฯลฯ
ถ้าใครอยากเสพดราม่าอย่างเดียว แล้วมาหาว่าดิฉันกลายเป็นเพจปั่น ไร้สาระ ก็ตามใจ
แต่ถ้ามองว่าดราม่านี้ #ไม่ไร้สาระ จะทำให้สะท้อนชวนคิดไปเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ เช่น
- ที่ผ่านมา สื่อปั่นและสร้างภาพให้ความสำคัญกับ Elon Musk มากไปหรือเปล่า?
- คุณวิ มีวาระแฝงและการบิดเบือนเป็นกิจวัตรขนาดไหน?
- เราให้ความสำคัญกับคุณ Richard และทีมงานมากพอหรือยัง?
ฯลฯ”
มิตรสหายท่านหนึ่ง
#รู้ยังทีมหมูป่า13 คนไม่ใช่ครั้งแรกในไทยที่มีคนติดอยู่ในถ้ำ เคยมีเคสที่โหดร้ายและทารุณกว่านี้แต่ท้ายที่สุดทุกคนก็รอดครับ
ถ้ายังจำกันได้ก่อนหน้านี้หลายร้อยปี เคยมีหญิงสาวเป็นพี่น้องกันจำนวน12คนติดอยู่ในถ้าเหมือนกันน่าสงสารมาก ไม่มีทีมกู้ภัยหรือหน่วยงานใดๆจากภาครัฐเข้ามาช่วยเลย ทั้งตาบอดและตั้งครรภ์ ทั้ง12คน ต้องติดอยู่ในถ้าอย่างยากลำบากเป็นเวลาหลายปี ทั้งที่ตอนนั้นก็ไม่ได้มีหน่วยซีล หรือทีมนักประดาน้ำโลกเข้ามาช่วยเลยด้วยซ้ำ ความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการหรือ หน่วยบรรเทาสาธารณะภัยใดๆก็ไม่มี แต่ท้ายที่สุดทั้ง12 คน ก็รอดมาได้ ทั้ง12คนซึ่งก่อนหน้านี้ทั้ง12คนได้เป็นภรรยาของเจ้าเมืองแต่ที่ตาบอดหมดเพราะบาปกรรมในวัยเด็กที่เคยไปควักดวงตาของปลาพอโตเป็นสาวเลยถูกนางยักควักลูกตาใส่โหลแก้ว เก็บไว้ในวัง ซึ่งตอนติดอยู่ในถ้ำก็อาศัยจับกบจับเขียดในถ้ามากินประทังชีวิต เวลาผ่านไปลูกในครรภ์ของ11คนที่คลอดออกมาก็ตายหมด เหลือแต่น้องสาวคนสุดท้องที่ชื่อเภานั้น คลอดออกมาแล้วเด็กรอด จึงตั้งชื่อว่ารถเสน เมื่อโตขึ้นเป็นเด็กเก่งฉลาด มีพลังวิเศษสามารถออกจากถ้าได้ และได้พระฤๅษี คอยชุบเลี้ยงฝึกวิชาให้จนเก่งกล้า สามารถเข้าเมืองไปสู้กับนางยักษ์ชิงเอาโหลดวงตาของแม่และป้าทั้ง11คนมา และคืนดวงตาใส่ให้กับแม่และป้าทุกคนจนมองเห็นและออกจากถ้าได้
#สรุป จากเคสของนาง12ที่ชะตากรรมโหดร้ายกว่าหมูป่า13คน ทำให้เห็นว่ายังไงก็รอดครับ ไม่ต้องห่วงหมูป่านะยังไงก็รอดมีทีมระดับโลกมาช่วยขนาดนี้ทุกคนสบายใจได้ คืนนี้ดึกแล้วนอนหลับฝันดี แอดเองก็ต้องไปกินยาก่อนนอนตามหมอสั่งครับ เดี๋ยวถ้าขาดยาอาการจะกำเริบควบคุมตัวเองไม่ได้ครับ...555 นอนหลับฝันดีครับแฟนเพจทุกท่าน
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
นั่งทำงานอยู่ Starbucks อยู่ๆมือถือขึ้นว่ามี 2 connections ใน personal hotspot เครื่องแรกคอมเรา ก็เดินวนๆหารอบๆร้านนึกว่าเพื่อนมากะจะไปจ๊ะเอ๋
สรุปเจอแฟนเก่าทัก “แหะๆ” ใส่ แซวๆ
อิหมา ไม่รักกูแล้ว อย่า free wifi กู
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
แนวคิดโลกวิสัย (secularism) ไม่ได้ปฏิเสธหรือแอนตี้ศาสนา ไม่ได้ชวนคนให้เลิกนับถือศาสนา คนที่สนับสนุนแนวคิดโลกวิสัยและการแยกศาสนาจากรัฐ อาจมีทั้งคนที่นับถือและไม่นับถือศาสนา มีทั้งนักบวช ผู้นำศาสนา และฆราวาส
พวกเขาเพียงแต่ปฏิเสธ "การทำให้ศาสนามีอำนาจบังคับคน" เช่นการใช้ศาสนาเป็นหลักการปกครอง การบัญญัติกฎหมาย ปฏิเสธการบังคับเรียนศาสนาในโรงเรียนของรัฐ การที่องค์กรศาสนาต่างๆ เอาอำนาจรัฐและงบประมาณไปใช้สนับสนุนความเชื่อส่วนตัว ปฏิเสธการเลือกปฏิบัติเพราะเหตุแห่งการนับถือและไม่นับถือศาสนา พวกเขายืนยันให้รัฐเป็นกลางทางศาสนา ไม่ต้องระบุ "การนับถือศาสนา" ในเอกสารใดๆ ของทางราชการ ยืนยันเสรีภาพทางศาสนา เรียกร้องให้ทุกศาสนาอยู่ภายใต้กติกาที่ฟรีและแฟร์ ยืนยันสิทธิที่แต่ละคนจะเลือกนับถือและไม่นับถือศาสนา
จะว่าไปแล้วแนวคิดโลกวิสัยได้ช่วยปลดปล่อยศาสนาจากการตกเป็นเครื่องมือของรัฐในการครอบงำประชาชน ช่วยให้องค์กรศาสนามีอิสรภาพในการปกครองตัวเอง พร้อมๆ กับยืนยันสิทธิในการปกครองตัวเองทางศีลธรรมของปัจเจกบุคคล เมื่อศาสนาอยู่ห่างจากอำนาจรัฐ ศาสนาจึงจะสามารถเคารพเสรีภาพและมีความหมายทางจิตใจได้อย่างแท้จริง
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
https://petapixel.com/2018/07/09/turkish-photographer-beats-up-client-over-child-bride/
ตากล้องชาวตุรกีได้รับการว่าจ้างไปถ่ายรูปงานแต่งงาน พอถึงงานถึงรู้ว่าเจ้าสาวอายุแค่ 15 (ผิดกฏหมาย) เลยไม่ถ่ายแม่ง และพยายามจะอออกจากงานแต่งงาน เจ้าบ่าวไม่พอใจเดินมาชก เลยต่อยเจ้าบ่าวจมูกหักแม่ม
มิตรสหายท่านหนึ่ง
1. git clone
2. npm i
3. build ... พัง
4. copy node_module มาจากเครื่องเพื่อน
5. build พัง
6. ไป copy folder platform มาจากเครื่องอีกคนนึง
7. build ios ผ่าน
8. build android พัง
9. ไป copy platform/android มาจากเพื่อนคนที่ 3...
เปิดโลกใหม่ผมเลย coordination + collaboration สูงมาก
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ตั้งแต่ตามข่าวมาก็ไม่เคยคิดว่า Elon Musk จะมาช่วยอะไรได้ การส่งอุปกรณ์ที่ไม่เคยใช้งานจริงกับสภาพแวดล้อมในถ้ำ (ทดสอบในสระน้ำใสแจ๋ว) มาให้เรามันก็ดูรู้ๆกันอยู่แล้วว่าแค่โฆษณาตัวเอง เห็นใจท่านผู้ว่าจริงๆ คนไทยเก่งขนาดนี้ Musk มาจากไหนถึงจะไม่ให้เครดิต?????
อัปเดทข่าวเรื่อง ชายมาเลเซียวัย 41 ลูก 6 คนที่มาแต่งงานกับเด็กหญิงไทยวัย 11 ขวบเป็นภรรยาคนที่ 3 ที่นราธิวาส แล้วพากลับไปมาเลเซีย ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าคนมาเลเซียค้านกันมาก และมีกฎหมายให้บังคับหย่าเพราะฝ่ายหญิงอายุน้อยเกินไป
ข่าวล่าสุดคือ กฎหมายมาเลเซียบังคับให้หย่าไม่ได้ เนื่องจากฝ่ายชายเป็นคนรัฐกลันตัน ซึ่งรัฐดังกล่าวให้กฎหมายอิสลามมีอำนาจเหนือกฎหมายปกติ และกฎหมายอิสลามถือว่าชายมีสิทธิ์แต่งงานกับเด็กหญิงอายุ 11 ได้
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ถ้าอยากทำงานที่มีจำนวน Transaction เยอะๆ มีงานสอง domain ให้เราเลือกทำคือ หนังโป๊ออนไลน์ หรือ บ่อนออนไลน์
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
โอ๊ยยย!!!! หงุดหงิดแต่เช้าค่ะ 😡 (ขออนุญาตหลุดด่าเป็นระยะๆ นะคะ)
คือเมื่อเช้า ตื่นมาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ กำลังจะแต่งตัวไปทำงาน รายการข่าวเช้า スッキリ ที่เจ๊ดูทุกวันก็พูดถึงกรณีถ้ำหลวง .. อารามว่าก็คนไทยเนาะ เจ๊ก็หยุดนั่งดูนิดนึง ..
ข่าวก็พูดถึงการที่จะมีคนเอาเรื่องนี้ไปทำภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเอย จะมีการทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวโปรโมทให้คนสนใจเอย .. ซึ่งมันจะไม่หงุดหงิดเลยถ้าแขกรับเชิญในรายการ ซึ่งก็คือ Matsuda Takeshi (松田丈志) อดีตนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติไม่ออกมาวิจารณ์ในทำนองที่ว่า “ไทยควรที่จะรู้สึกผิดและละอาย ที่ทำให้หลายประเทศต้องวุ่นวายที่มาช่วย ไม่ใช่มาคิดที่จะเอาถ้ำมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว”
เดี๋ยวนะ .. คือที่จะมาโปรโมททำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวนั้น ก็นิดนึง คือก็โหนกระแสหน่อยนั่นแหละ แต่การที่มาบอกว่าไทยต้องรู้สึกผิดและละอายที่ต้องทำให้ทั่วโลกนั้นเดือดร้อนนั้น คืออะไรเหรอคะ!?
เอาจริงๆ ทุกคนมาร่วมมือกันช่วยเหลือ ทุกคนมาช่วยพวกเรานะคะ .. คือเดิมมันเป็นเรื่องในประเทศค่ะ แล้วพวกชั้นก็ไม่ได้ไปร้องแร่แห่กระเฌอให้ใครมาสร้างหนังให้ด้วย!!!! เค้าจะสร้างกันเอง!!!! ไทยไม่ได้ประกาศร้องขอความช่วยเหลืออะไรเลยด้วยซ้ำ!!!
ที่ร้ายกว่านั้นคือ .. พอหาอ่านในทวิตเตอร์ คนญี่ปุ่นในทวิตหลายๆ คนก็ดันเห็นด้วยกับอิตานี้ด้วย บอกว่า ไทยกำลัง 美談化 (สร้างเรื่องให้ดูดี สวยงาม make a beautiful story) บ้างหละ ไทยกำลัง 迷惑 (สร้างความวุ่นวาย) ให้ชาวโลกบ้างหละ!!!!
อ้าว!!! อีผี!!!! ตอนน้ำท่วม ตอนแผ่นดินไหว เวลาเดือดร้อนคนก็แห่กันมาช่วย เงินก็ช่วยกันบริจาค มีน้ำใจกันไปทั่วโลก .. แล้วนี่อะไร อย่าให้คนไทยทวงบุญคุณบ้างนะคะ!!!
เข้าใจว่าเป็นความเห็นส่วนบุคคล แต่การวิจารณ์ออกทีวีสาธารณะแบบนี้ มันดูไม่มีหัวคิด ไม่คิดบ้างว่าสิ่งที่ตัวเองโพล่งออกมาจะสร้างภาพพจน์ที่ไม่ดีแก่ประเทศตัวเองยังไง เสียดายที่เคยเป็นนักกีฬาทีมชาติ การมีโอกาสออกมาดูโลกกว้างไม่ได้เปิดกะลาอะไรเลยจริงๆ
ไทยควรจะรู้สึกผิด ควรจะละอาย ... บอกเลยว่า ตอนได้ยินคำนี้ ในหัวเจ๊คือ ...
“ไม่เผือกสิคะ”
... จบค่ะ ลิงค์ข่าวน้ำท่วมเอย ลิงค์บริจาคเงินช่วยเหลือเอย พอเลยค่ะ เลิก!!!
#นอยด์มาก
ป.ล.
- ขอไม่ลงรูปอิตานักกีฬาคนนี้นะคะ รู้สึกไม่เป็นมงคลต่อเพจเจ๊
- คนที่ไม่เห็นด้วยกับความคิดนางก็มีนะคะ ฉะนั้น เราจะไม่วิจารณ์คนญี่ปุ่นในภาพกว้างเนาะ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ไทยไม่ได้ประกาศร้องขอความช่วยเหลืออะไรเลยด้วยซ้ำ!!!
พ่องดิ มีคนเรียกต่างชาติเขามาช่วยบอกไม่เรียกร้อง
พวกชาวเกาะแม่งก็เป็นงี้แหละ แนะนำมาบางอย่างก็โอเคแต่ส่วนใหญ่ปากดีไปหน่อย รายนี้น่าโดนตบกะโหลกอยู่ ปากดีไม่เข้าเรื่อง เด็กมันติดในทำมันจงใจทำหรอไง เหมือนประเทศมันโดนน้ำท่วมกับแผ่นดินไหว เด็กมันก็แค่เข้าไปเที่ยวแล้วฝนเสือกตกท่วมถ้ำนั่นแหละ
เอาเรื่องแย่ๆมาทำให้สวยงามอันนี้ก็โอเค แต่มันไม่ใช่นักวิจารณ์ที่จะมาวิจารณ์อะไรแบบไม่ดูบริบทของคนไทยไง พูดไปตามที่มันรู้นั่นแหละ ให้มันอยู่ในเกาะไปนั่นแหละwwww ประเทศพัฒนาบางทีชอบทำตัวแบบนี้นี่แหละ ถึงได้เกลียดนักนะ
>>931 กูว่ามันเป็นปกติของสังคมญี่ปุ่นนะ ตอนระหว่างยังช่วยไม่ได้ กูอ่านทวีตฝั่งญี่ปุ่น มีคนเรียกร้องให้หา 責任者 (ผู้รับผิดชอบ) และลงโทษให้เหมาะสมบ้างแหละ มีคนด่าว่าคนไทยยังไม่ฉลาดพอที่จะคิดถึงว่าเงินที่เอาไปช่วยเป็นภาษีพวกมึงเอง จะไปช่วยทำไม เปลืองงบ อะไรแบบนี้ด้วย ซึ่งกูไม่เห็นด้วย แต่ก็เข้าใจว่าสังคมบ้านเขามันเป็นสังคมวัตถุนิยมทางเศรษฐกิจ (物質主義) แบบฝังลึกไปแล้ว
พจอานนท์บอกไม่ทำหนังป้อดว่ะ
ถ้าจะพูดถึงเรื่องจิตใจยังไม่พัฒนากูว่าบ้านเราก็พอๆกันว่ะ ทุกประเทศมันก็มีคนปกติกะคนทำตัวงี่เง่าปะปนกันไปทั้งนั้น ด่าเขาไปก็เข้าตัวเองเปล่าๆ
“ปู่จ๋าน ลองไมค์” หรือ พิษณุ บุญยืน แร๊ปเปอร์ที่กำลังมาแรงที่สุด ใน พ.ศ. นี้ แต่กว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ของ “ปู่จ๋าน” เริ่มต้นมาจากความดราม่า เพราะในอดีตเขาคือเด็กบ้านนอกที่เรียนไม่จบ เป็นแค่ช่างซ่อมแอร์ ช่างติดจานดาวเทียม แต่ด้วยความหลงไหลในเสียงเพลงและความพยายามที่สร้างโอกาสให้ตัวเอง วันนี้เขากลายเป็นแร็ปเปอร์ชื่อดัง มีสไตล์การร้องที่โดดเด่น กับเพลงแจ้งเกิด อย่าง “ตราบธุลีดิน”
ผ่านไประยะหนึ่ง กระแสการฟังเพลงผ่านยูทูปก็แผลงฤทธิ์ยอดวิวเพลง “ตราบธุลีดิน” ถล่มทลายกว่า 100 ล้านวิว เนรมิตให้ “ปู่จ๋าน” เติบโตเป็นที่รู้จักในวงการเพลง ล่าสุดผุดเพลงใหม่ “แลรักนิรันดร์กาล” อีกหนึ่งเพลงที่มียอดวิวพุ่งกระฉูด ซึ่งเป็นเพลงที่ “สายป่าน อภิญญา” โทรมาขอให้แต่งเพลงประกอบเอ็มวี โปรเจคจบอีกด้วย “ปู่จ๋าน ลองไมค์” หรือ พิษณุ บุญยืน แร๊ปเปอร์ที่กำลังมาแรงที่สุด ใน พ.ศ. นี้ แต่กว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ของ “ปู่จ๋าน” เริ่มต้นมาจากความดราม่า เพราะในอดีตเขาคือเด็กบ้านนอกที่เรียนไม่จบ เป็นแค่ช่างซ่อมแอร์ ช่างติดจานดาวเทียม แต่ด้วยความหลงไหลในเสียงเพลงและความพยายามที่สร้างโอกาสให้ตัวเอง วันนี้เขากลายเป็นแร็ปเปอร์ชื่อดัง มีสไตล์การร้องที่โดดเด่น กับเพลงแจ้งเกิด อย่าง “ตราบธุลีดิน”
ผ่านไประยะหนึ่ง กระแสการฟังเพลงผ่านยูทูปก็แผลงฤทธิ์ยอดวิวเพลง “ตราบธุลีดิน” ถล่มทลายกว่า 100 ล้านวิว เนรมิตให้ “ปู่จ๋าน” เติบโตเป็นที่รู้จักในวงการเพลง ล่าสุดผุดเพลงใหม่ “แลรักนิรันดร์กาล” อีกหนึ่งเพลงที่มียอดวิวพุ่งกระฉูด ซึ่งเป็นเพลงที่ “สายป่าน อภิญญา” โทรมาขอให้แต่งเพลงประกอบเอ็มวี โปรเจคจบอีกด้วย
กสทช. บังคับลงทะเบียนมาหลายปี, เพิ่มค่าใช้จ่าย เพิ่มภาระ เพิ่มความเสี่ยงให้ประชาชน
พอมีปัญหาก็ไม่สามารถจัดการอะไรได้
แต่ก็จะทำ และพยายามจะทำให้มากขึ้นเรื่อยๆ
โง่ แต่ขยัน
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
การดึงข้อมูลจากฐานข้อมูล MySQL ให้เร็วขึ้น 50 เท่า เทคนิคดีๆ ที่สาย Node.JS ต้องไม่พลาด
clip 1
https://youtu.be/fQh_i57rZt8
clip 2
https://youtu.be/XG_up6bNP5k
clip 3
https://youtu.be/YrZ1H0iUZ8Q
เทคนิคง่ายๆ และเด็ดมากครับ ขอขอบคุณ ก. เกม (Viriyah Langkaviket) ที่มาจุดไอเดียให้อาตมาแกะโค้ดจาก PHP แปลงเป็น Node.JS พบว่าเร็วขึ้นอย่างมากครับ
จริงๆ ถ้าหากทำ Array Optimization ก็จะไวขึ้นอีกมาก เดี๋ยวได้แนวทางดีๆ จะมาบอกต่อเน้อ
นึกหน้าแม่แล้วน้ำตาคลอทุกที เอาภาระมาให้ที่บ้านทั้งๆที่กูไม่ได้ทำ ป่านนี้มึงคงใช้เงินเสวยสุขอยู่สินะ กูไม่ยอมแน่ทำกูลำบากขนาดนี้ ครอบครัว คนเกี่ยวข้องของมึงต้องชิบหายให้หมด มึงจำคำกูไว้ไอเหี้ยกอฟ
ไอ้กอฟแม่งเหี้ยจริงๆ ขี้แล้วไม่ยอมราดส้วม
อีอ้วนเมียไอยุดเป็นสายตำรวจ
Elon, 10 July 2018: Thailand is so beautiful.
Elon, 15 July 2018: Only pedo's would move to Thailand.
#มิตรสหายคนหนึ่ง
มุกแบบนี้เลิกเล่นเถอะครับ ไม่ขำแล้วยังดูเสี่ยวอีก
ด่าคนทรงหน้าถ้ำว่างมงาย
แต่อยากให้เด็กๆ ที่ติดถ้ำไปบวชเพื่อทดแทนบุญคุณจ่าแซมอ่ะครับ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
โพสนี้พูดถึงการเเต่งงาน ส่งเสริมให้เเต่งงาน ผู้หญิงกับผู้ชายเป็นสิ่งถูกสร้างมาคู่กัน ผู้หญิงกับผู้ชายต้องพึ่งพิงกันเเละกันเพื่อให้ชีวิตสมบูรณ์เเบบ เเละเเนวทางที่ถูกต้องที่จะกระทำสิ่งดังกล่าวได้ก็คือการเเต่งงานตามที่ศาสนาได้บัญญัติไว้
ไม่ใช่จะบอกว่าคุณผู้หญิงไม่มีความสามารถที่จะดูเเลตัวเองได้ หรือไม่มีความสามารถหาเลี้ยงชีพได้ ซึ่งนี่เป็นอีกประเด็นหนึ่ง
เเต่ที่จะพูด คือผู้หญิงต้องเเต่งงาน เพราะธรรมชาติของผู้หญิงคือต้องเเต่งงาน
ส่วนผู้หญิงที่ไม่ประสงค์จะเเต่งงาน โดยอ้างว่าอยู่คนเดียวก็ได้ นั่นบ่งถึงความผิดปกติของจิตใจ ฝืนธรรมชาติ #เเนะนำให้ไปพบเเพทย์
เเละเมื่อเเต่งงานเเล้ว ผู้ชายก็ต้องเป็นผู้ปกครองผู้หญิงตามที่อิสลามได้ระบุไว้
ซึ่งดังกล่าวนี้ เป็นสิ่งที่สอดคล้องกับธรรมชาติเเละอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ เเละเป็นสิ่งที่กินกับสติปัญญา
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ครบรอบ 1 ปีล้าว ที่เปิดร้านญี่ปุ่นเอง .. ความสำเร็จ ก้าวแรก ยอดขายขึ้น 250% เทียบจากปีที่แล้ว เริ่ม จาก ศูนย์ จริงๆเลย ในพลาซ่าร้างๆ 5555 ... สิ่งที่ได้การ ทำ ธุรกิจ ครั้งนี้เลยคือ
1. ความอดทน
2. ความพยายาม
3. การมองเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่
4. ความไม่เคยท้อ
5. การตั้งเป้าหมายลูกค้าให้ถูก กลุ่ม กับราคา และเมนูอาหารให้ชัดเจน
6. คุณภาพอาหาร และ บริการ คือต้องจัดเต็ม และเร็ว
7. การทำให้ลูกเชื่อ ในอาหารของเรา หาจุดเด่น มันออกมา
8. สร้างทีมที่ดี
9. การเด็ดขาด
10. ทำงานเก่งไม่พอ แต่ต้องสอนพนักงานให้เก่ง ให้ได้เท่าเรา สำคัญมาก เปลี่ยนระบบ ความคิด ไม่ใช่ พฤติกรรม
11. ห้ามปล่อยผ่านแม้แต่เรื่องเดียว
12. ต้องสปอต ไม่งก ไม่ว่าจะกับลูกน้อง หรือ ลูกค้า
ข้อสุดท้าย “ไม่มีอะไรที่แม่งทำไม่ได้” และมันต้อง “สำเร็จ”
สรุปคือ ไม่ว่าจะทำอะไรที่ไหน location จะแย่ยังไง คู่แข่งมีเป็นสิบร้านในระยะ 3 ไมล์ ถ้ามีพวกนี้ ไม่ว่าจะทำไรก้อสำเร็จ จาก วัน ที่ลูกค้า แขยงร้าน เก่า ไม่กล้าเข้า โดนโจมตีหนักจากลุกค้าญี่ปุ่น คิดตั้งแต่วันแรกจะเปลี่ยนกลุ่ม ลุกค้าใหม่ให้หมด สุดท้ายมันก้อทำได้จริงๆ จน ลุกค้า แน่น ต่อไล
สิ่งที่ดีใจที่สุดคือการเห็น ยอดขายโตได้ขนาดนี้ คือวันที่แม่งโคดเหนื่อย แต่ต้องทน แต่ไม่เคยมีสักวันที่ แม่งท้อ สักนิดคิดว่าต่อไปคงไม่หยุด อยุ่แค่นี้
การก้าวขา ออกมาจากพ่อเต็มตัว จากเด็ก ที่วันๆเคยใช้แต่เงิน แต่งตัว แต่งหน้า เขียนตาดำๆ หนีบผม เป็น ชม ชอบ แกล้งเพื่อน เที่ยว ช้อปปิ้ง ไปวันๆ มีทุกอย่าง ที่อยากได้จนวันนี้ เราได้เป็น กรรมกร อย่างเตมตัว 😂😂
เด่วมาลุ้นกันต่อ ปีสอง ปีสามจะเป็นยังไง เอาจริงๆน่ะค่ะ พ่อ แอมไม่ได้ ทำเพื่อเงินเลยทุกวันนี้ พ่อกับแม่ให้แอม มาทุกอย่างแล้ว แอมแค่อยากทำให้พ่อ กับแม่ ภูมิใจในตัวแอม และมีความสุข แค่นั้นเอง แล้วเลี้ยง พ่อกับแม่ กลับคืนบ้าง สู้ๆๆ แอม ชิว ชิว~
วันก่อนครับ หลังจากบริษัทประกาศปรับเงินเดือนอันน้อยนิด มากกว่าอัตราเงินเฟ้ออย่างเป็นทางการนิดนึง ประมาณ 1.4% หัวหน้าผมก็เดินมาบอกกับพวกผมว่า เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งที่สำคัญคืออย่างอื่นมากกว่า เช่นเพื่อนร่วมงาน บรรยากาศการทำงาน แหม่ ไอ้เรื่องพวกนั้นมันก็ใช่แหละครับ แต่เงินขึ้นมาแค่ 750 บาทต่อเดือน นี่ไม่รู้จะพูดไงจริงๆ
ในการทำงานจริงๆ เทคโนโลยี อะไรที่มันซับซ้อน ไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด คำตอบที่เจอบ่อยๆ และ ใช้ไม่ได้จริง คือ Docker และ Websocket เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนพึงจะกระทำได้ (หลายคนไม่ได้ใช้ VPS หรือ วาง Server เอง) ถ้าจะเปรียบ ก็เหมือนกับ Elon Musk ส่งเรื่อดำน้ำจิ๋ว มาให้นั่นแหละ ... ไม่ใช่ว่ามันไม่ดี แค่มันไม่ใช่ วิธีที่ดีที่สุด เท่านั้น ... บอกน้องๆไป จะทำให้พวกเขางงเปล่าๆ
ในญี่ปุ่นมีมาแล้วนะครับ ทำงานหาเงินจนซื้อที่ดินในเขตรปปงงิ ได้มา 3แปลง เฮียแกให้เช่าที่และใช้ชีวิตเป็น neet อย่างสบายอารมณ์ วลีอมตะของเฮียแก
"ทุกๆคนอยากเป็นneetกันทั้งนั้น แต่พวก ที่ด่าว่าneetเนี่ยคือ คนที่ไม่มีศักยภาพ มากพอที่จะเป็นneetต่างหาก"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
Section 32 of the Act is headed "Handling Salmon in Suspicious Circumstances".
>>978 เสือนอนกิน หมายถึง การได้รับผลประโยชน์ผลกำไรโดยไม่ต้องลงทุนหรือลงแรงทำงาน หรือการลงทุนลงแรงเพียงครั้งแรก หลังจากนั้นก็รอรับผลประโยชน์ เช่น
พ่อของเขาเป็นคนมองการณ์ไกล ไม่อยากให้ครอบครัวลำบากจึงได้ลงทุนสร้างอพาร์ตเม้นท์ให้เช่าเอาไว้ ตอนนี้เขาก็กลายเป็นเสือนอนกินวันๆไม่ต้องทำอะไรมีรายได้จากค่าเช่าห้องก็อยู่ได้สบายๆ
เห็นข่าวหมอเตือนห้ามให้ทารกกินกล้วย แต่ดันมีชาวไทยมาด่าหมอ แล้ว ผมไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่
แม่ผมเป็นพยาบาล ผมเกิดในมหาวิทยาลัยขอนแก่น เคยได้ยินวิธีการตายแบบมาสเตอร์พีชจากความเชื่อท้องถิ่นมาเป็นสิบๆรูปแบบ
ปัญหาใหญ่คือ คนไทยเชื่อหมอผี กับเรื่องที่ใครก็ไม่รู้พูดมา มากกว่าหมอ หมอบอกไม่เชื่อ แต่เชื่อจดหมายลูกโซ่สูตรยาผีบอกที่หย่อนอยู่ในตู้จดหมายก็มี
จากบันทึก เราพบว่าความเกรียนแล้วดื้อของชาวสยาม มีมาตั้งแต่วันที่การแพทย์สมัยใหม่เข้ามาในแผ่นดินสยามแล้ว โหดสัสมาตั้งแต่เมื่อสองร้อยปีก่อน
บุคคลที่ต่อสู้กับเรื่องนี้เป็นคนแรกคือ หมอปลัดเล หรือชื่อเต็มคือ แดน บีช บรัดเลย์ (Dr.Daniel Beach Bradley)
ในยุคที่หมอบรัดเลย์เกิด กระแสฟื้นฟูศาสนาในอเมริกันกำลังเฟื่องฟู มีความคิดในเรื่องรณรงค์เลิกทาส และเรียกร้องให้ผู้ศรัทธาทำมิชชั่น โดยการเดินทางไปยังประเทศที่ยังไม่พัฒนา เพื่อเผยแพร่ศาสนา และวิทยาการต่างๆ
หมอบรัดเลย์เป็นนายแพทย์ซึ่งเดินทางมายังประเทศไทยเป็นคณะมิชชันนารีของคณะอเมริกัน เข้ามาถึงประเทศไทย ในสมัยรัชกาลที่ 3 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2378 (1835)
ตอนนั้นหมออายุ 31 ปี เป็นผู้ร่วมเริ่มต้นพันธกิจคริสเตียนสายโปรแตสแตนท์ในประเทศไทย และร่วมก่อตั้งคณะเพรสไบทีเรียนสยาม ที่ต่อมาเป็นสภาคริสตจักรไทย
คิดว่าเมื่อหมอบรัดเลย์มาถึงสยาม คนไทยในสมัยรัชกาลที่ 3 ตอบรับอย่างไร กับการแพทย์ตะวันตก?
กลายเป็นว่าคนสมัยนั้นมองว่า ศาสนา กับ วิชาต่างๆ เป็นเรื่องเดียวกัน
ประมาณว่า การรักษาโรคกับการไล่ผีเป็นสิ่งเดียวกัน ยาบำรุงธาตุกับความเชื่อเรื่องจักรวาลวิทยาของพระพุทธศาสนาเป็นสิ่งเดียวกัน อายุรเวทอินเดียถูกผนวกเข้ากับความเชื่อของศาสนาจนเป็นเนื้อเดียวกัน
ดังนั้นการแพทย์ตะวันตก จึงไม่อาจอธิบายให้คนสยามเข้าใจได้
พูดง่ายๆคือ สมมุติคนป่วยคือถูกผีเข้าก็ต้องหาว่านทีมีฤทธิ์ไล่ผีสิ ยาฆ่าเชื้อห่าอะไร
นอกจากนั้น เราก็รู้ดีว่าหมอหลวงจะมีท่าทียังไงเมื่อมีศาสตร์ใหม่ที่ได้ผลมากกว่าเข้ามาเหยียบแผ่นดิน คิดว่าหมอหลวงจะมีจิตวิญญาณไปขอเรียนเพื่อพัฒนาวิชาการแพทย์มารักษาคนงั้นเหรอ - คิดอะไรเป็นการ์ตูนหมอญี่ปุ่นแบบนั้น คุณก็รู้ว่าที่นี่สยาม
ผลคือการรักษาของหมอบรัดเลย์ไม่ได้รับการยอมรับจากชาวสยาม เวลานั้นชาวจีนตอบรับการแพทย์ตะวันตกมากกว่า รวมถึงมีชาวจีนเปิดรับศาสนาคริสต์มากกว่า หมอบรัดเลย์ จึงเริ่มต้นก่อตั้งโรงหมอบริเวณแถวๆเยาวราชในปัจจุบัน เพื่อจ่ายยา และหนังสือศาสนาให้แก่คนไข้
ผลคือทางการสยามไม่ชื่นชอบหมอบรัดเลย์นัก จึงกลั่นแกล้งไม่ให้เช่าที่ต่อ โดยอ้างว่าเกรงจะทำให้ชาวจีนก่อกบฏ
หมออยู่ได้ไม่กี่เดือนก็ต้องย้ายไปอยู่บริเวณชุมชนชาวโปรตุเกส พวกคณะมิชชันนารีช่วยกันสร้างโอสถศาลาขึ้น เปิดทำการเมื่อ 30 ตุลาคม 2378(1835)
ปี 2379(1836 ) หมอบรัดเลย์ได้สั่งแท่นพิมพ์เข้ามาเป็นเครื่องแรกในสยาม และได้พิมพ์หนังสือเล่มแรกของสยามคือ "บัญญัติ 10 ประการ" เพื่อแจกในการเผยแพร่ศาสนา
วิชาของหมอยังไม่เป็นที่ไว้วางใจของชาวสยาม จนกระทั้ง 3 มกราคม 2380(1837) มีพระสงฆ์รูปหนึ่งถูกพลุที่ใช้ในงานวัดระเบิดใส่จนแขนขาด หมอบรัดเลย์จึงทำการผ่าตัดใหญ่เป็นครั้งแรกในสยาม ชื่อเสียงของหมอก็เลยดังขึ้นมา
(ว่ากันว่ามีการผ่าตัดเอาเนื้องอกจากทาสออกก่อนหน้านั้น ซึ่งควรนับเป็นครั้งแรกมากกว่า)
นั่นทำให้ชื่อเสียงของหมอบรัดเลย์ดีขึ้น ชาวสยามยอมรับการผ่าตัดต้อกระจก และเนื้องอก แต่จุดประสงค์ทางด้านศาสนาของหมอก็ไม่คืบหน้าเท่าไหร่ ทางการสยามสนใจงานด้านการพิมพ์ของหมอมากกว่า
ทางการสยามได้ให้การสนับสนุน และจ้างให้หมอพิมพ์เอกสารเรื่องการห้ามสูบฝิ่นของรัฐบาล 9,000 ฉบับ
ในปี 2384(1841) หมอบรัดเลย์ ก็สั่งหล่อตัวอักษรไทยเพื่อใช้เรียงพิมพ์ขึ้นได้เป็นครั้งแรก จากที่ก่อนหน้านี้ใช้บล็อกพิมพ์ไม้
ปี2387(1844) หมอบรัดเลย์ก็ได้ออกหนังสือพิมพ์ฉบับแรกของสยามขึ้นในชื่อว่า หนังสือจดหมายเหตุ บางกอกรีคอร์เดอร์
และแล้วก็เกิดการระบาดของไข้ทรพิษหรือโรคฝีดาษขึ้นในสยาม
ถ้าเราอ่านประวัติศาสตร์ของภูมิภาค จะพบว่าจะมีโรคพวกนี้ระบาดทุกประมาณ 30-50 ปี เรียกรวมๆว่า "ห่าลง" ซึ่งมีโรคยอดฮิตคือ อหิวาฯ ฝีดาษ กาฬโรค เวียนๆกันไป ลงเมื่อไหร่ก็ตายห่ากันทั้งเมือง
หมอบรัดเลย์ได้เสนอวิธีการรับมือกับฝีดาษแบบสมัยใหม่คือ การปลูกฝี
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเมตตาพระราชทานเงินให้หมอซื้อเชื้อสำหรับการปลูกฝีมาจากอเมริกา หมอบรัดเลย์ได้ศึกษาต่อจนกระทั้งสามารถผลิตเชื้อที่ใช้ปลูกฝีต่อได้เอง จนสามารถปลูกฝีได้แพร่หลาย สยามจึงสามารถชนะไข้ทรพิษ ซึ่งเป็นโรคที่ฆ่าชาวสยามมาตลอดสมัยโบราณได้สำเร็จ
(ต่อเม้นล่าง)
(ต่อจาก >>980 )
หมอบรัดเลย์ได้รับเงินพระราชทานเป็นรางวัลที่เอาชนะฝีดาษได้สำเร็จ หมอพยายามขยายสู่เป้าหมายต่อไปคือการเอาชนะความตายของทารกตอนคลอด หมอจึงนำเงินรางวัลนี้ไปเป็นทุนพิมพ์หนังสือคัมภีร์ครรภ์รักษา ซึ่งเป็นวิธีทำคลอดแบบสมัยใหม่
ถ้าโครงการของหมอสำเร็จเราอาจจะไม่มีแม่นาคพระโขนง แต่ผลคือล้มเหลว ชาวสยามยังคงใช้วิธีทำคลอดแบบเดิม แล้วก็ตายทั้งกลมกันเหมือนเดิม
หมอบรัดเลย์ยังไม่ท้อถอย ยังพยายามฝึกหมอหลวงด้วยวิชาแพทย์สมัยใหม่ มีการพิมพ์ตำราแพทย์กว่า 200 ปก
โรงพิมพ์ของหมอ ยังพิมพ์หนังสืออื่นๆออกมาจำนวนมาก ทั้งจินดามณีซึ่งเป็นหนังสือเรียนภาษาไทยเล่มแรก หรือแม้กระทั้งสามก๊ก
แต่ภารกิจการเผยแพร่ความคิดของหมอบรัดเลย์เป็นไปอย่างเหนื่อยยาก และไม่ค่อยประสบความสำเร็จ
เหตุผลคือ ยังมีคนสยามที่อ่านหนังสือออกน้อยมาก ความเชื่อเดิมฝังรากลึกยากจะแก้ไข
สำคัญคือ เมื่อคนสยามไม่เชื่อศาสนาของหมอตั้งแต่ต้นแล้ว ก็กลายเป็นปฏิเสธความรู้อื่นๆของฝรั่งไปด้วย
คนสยามมีนิสัยเชื่อคนตามคนที่พูดมากกว่าหลักความจริงของคำที่พูด เช่นในตอนปลูกฝี ที่ได้ผล เพราะโครงการมาจากพระเจ้าแผ่นดิน พอเป็นโครงการของหมอเอง คนสยามก็เชื่อพระ เชื่อผู้ใหญ่ในชุมชนมากกว่าหมอ
นี่ทำให้ชีวิตของหมอบรัดเลย์ที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จทั้งด้านการเผยแพร่ศาสนา การเผยแพร่ความคิด และการเผยแพร่วิชาการแพทย์
ในตอนแรกหมอยังพอเลี้ยงชีพจากธุรกิจการพิมพ์ได้ แต่หมอก็ต้องพบวิกฤติเพราะนิสัยรักความถูกต้องของตัวเอง
ด้วยความเป็นทั้งมิชชั้นนารีอเมริกัน และเจ้าของหนังสือพิมพ์ หมอบรัดเลย์คิดว่าเป็นจรรยาบรรณที่จะต้องต่อสู้กับคอรัปชั่น
แต่นายก็รู้ว่าที่นี่สยาม
หมอบรัดเลย์เขียนบทความเปิดโปงการทำสัญญาแบบลับๆระหว่างข้าราชการสยามกับกงสุลฝรั่งเศส ซึ่งคงจะไปขัดผลประโยชน์คนระดับพระคลัง
ผลคือหมอบรัดเลย์ถูกฟ้อง และแพ้คดี เพื่อนๆต้องรวมเงินกันไปจ่ายค่าปรับ ผลคือทำให้หนังสือพิมพ์ของหมอต้องปิดตัวไป
ถึงอย่างนั้น หมอก็ยังพยายามเผยแพร่ความรู้ให้กับชาวสยาม ด้วยการพิมพ์เผยแพร่หนังสือแปลจากภาษาต่างประเทศ ตำราแพทย์ และตำราเรียน มาอย่างต่อเนื่อง
หมอบรัดเลย์ทำงานอย่างหนัก จนกระทั้งเสียชีวิตในวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ.2416(1873) เป็นเวลา40กว่าปี ในภารกิจพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอีกฝั่งของโลกจากบ้านเกิดของหมอ
งานของหมอบรัดเลย์แทบจะไม่ประสบความสำเร็จเลยในยุคสมัยของหมอ มีคนน้อยมากที่รับเชื่อ มีคนน้อยมากที่เปลี่ยนพฤติกรรมด้านสาธารณสุข งานด้านสื่อก็ต้องปิดฉากลง
ที่จริงแล้ว หมอบรัดเลย์เป็นทั้งบิดาของคริสตจักรไทย บิดาแห่งการแพทย์สมัยใหม่ บิดาแห่งการพิมพ์ และบิดาแห่งสื่อไทย แต่หมอก็ไม่ได้รับเกียรติเท่าที่ควรจะเป็น
แต่ไม่ว่ามนุษย์จะยกย่องให้เกียรติหมอบรัดเลย์หรือไม่ รากฐานทางด้านศาสนา การแพทย์ และสิ่งพิมพ์ก็ถูกวางไว้แล้ว สิ่งที่หมอทำไว้ได้ค่อยๆขยาย และต่อยอดจนมาถึงปัจจุบัน
.
.
.
ผมอยากจะปิดประเด็นนี้ด้วยเรื่องของนาอามาน
นาอามานเป็นแม่ทัพชาวซีเรียก่อนสมัยคริสต์กาล ซึ่งเป็นโรคเรื้อน สาวใช้ของเขาที่เป็นเชลยชาวยิว จึงบอกให้ไปหา เอลีชา ผู้ที่จะรักษาได้
ทีนี้ เรื่องมันใหญ่มาก เพราะตอนนั้นซีเรียกับอิสราเอลเป็นศัตรูกัน แต่นาอามานก็อยากหายต้องให้พระราชาทำเรื่องขอเดินทางไปหาเอลีชา
พอเจอหน้า เอลีชา ดูอาการแล้วบอกให้ นาอามาน ไปล้างตัวในแม่น้ำจอร์แดนหน้าบ้านเอลีชา 7 ครั้ง แล้วเดี๋ยวหายกลับบ้านได้
นาอามาน โมโหมาก บอกประมาณว่า "สัส โรคเรื้อนมันจะหายง่ายๆแบบนั้นได้ยังไงวะ นี่ข้ามาจาดามัสกัสมาเจอพระยิวเพื่อโดนบอกให้ไปอาบน้ำเนี่ยนะ"
ผมคิดว่าคนไม่เชื่อหมอกัน เป็นเพราะการรักษาจริงๆ มันเรียบง่ายไม่อภินิหาร เขาอยากได้พิธีเท่ๆ มีปล่อยแสง มีคนสวด
.
.
.
สุดท้ายนี้ ผมอยากจะฝากไปถึงคริสเตียนว่า หากคิดจะทำอะไรแปลกๆ ขอให้คิดถึงหน้าหมอบรัดเลย์ และมิชชั่นของหมอทั้ง 40 ปีไว้
กลุ่มพันธกิจต่างๆของคนรุ่นก่อนๆก็พยายามกันแทบตายกว่าจะสร้างโรงพยาบาลกันได้แต่ละแห่งหวังให้พี่น้องได้ใช้ประโยชน์
ส่วนคนอื่นถ้าใครยังจะเชื่ออะไรของเขาอยู่ ก็ให้เป็นทางของใครของมันก็แล้วกัน
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ศาสนาที่หมอเผยแพร่มันก็คือๆกันกับหมอผีนั่นแหละ คนไทยมันถึงไม่เปิดรับไง
กินเมนูเดิมร้านเดิมมาอาทิตย์กว่าละ เมื่อวานกูเข้าไป คนผัดเห็นหน้าทักเลย "เหมือนเดิมนะ?"
นี่กึ่งไม่แน่ใจเลยบอก "ค่ะ กะเพราหมูกรอบ ไข่ดาวสองฟอง ไม่ใส่พริก สองกล่อง" แกบอกโหทวนขนาดนี้ไม่เชื่อใจกันหนิ
อะ วันนี้กูไป แกหันมา "เหมือนเดิม?" กูก็ค่ะ เข้าออฟฟิศเปิดกล่องมา อีห่า หมูกระเทียม
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"เห็นใส่เนยขนาดนั้นแล้วเครียดเลย เลยออกมานอกร้านอัดบุหรี่ไปสองมวน เบียร์อีกสองป๋อง
อันตรายจริงๆนะครับเนยเทียม มะเร็งทั้งนั้น"
มิตรฯ
ตำราประวัติศาสตร์ของยุโรปสมัยใหม่ จะต่างจากจีนแบบจารีตขงจืออย่างหนึ่ง คือจีนสนใจคน ยุโรปสนใจระบบ
ตำราประวัติศาสตร์จีน พิจารณาประวัติศาสตร์ยาวนาน แต่มักจะมองจากสายตาของมนุษย์
ตัวอย่างเช่น เมื่อเราอ่านสามก๊ก เรารู้ว่าโจโฉ เล่าปี่ ซุนกวนตัดสินใจอย่างไร และมันส่งผลกับตัวโจโฉ เล่าปี่ ซุนกวน หรือคนของเขาอย่างไร
เรารู้ว่าการตัดสินนั้นมีปัญญา หรือโง่ จากผลที่ตามมาต่อบุคคล
ประวัติศาสตร์จีนโฟกัสไปที่คน พูดถึงความฉลาด และการตัดสินใจของคน
เรารู้ว่ารัฐของสู่ เว่ย อู่ มีใครเป็นแม่ทัพ เป็นกุนซือบ้าง แต่เราไม่เคยรู้เลยว่าโครงสร้างรัฐของสู่ เว่ย อู่ เป็นอย่างไร
พวกเขามีที่ปรึกษากี่คน ตำแหน่งเรียกว่าอะไรบ้าง มีระบบการประชุมและตัดสินใจอย่างไร ใครสั่งใคร ระบบการเก็บภาษีเป็นอย่างไร การค้าเป็นอย่างไร อะไรเป็นสินค้าสำคัญของแคว้น เราไม่รู้ ดูเหมือนเรื่องพวกนี้จะไม่ใช่เรื่องที่นักปราชญ์ขงจือจะสนใจหยิบยกมาวิเคราะห์
หรือมักจะอธิบายสาเหตุของเหตุการณ์เป็นเพราะการตัดสินใจส่วนบุคคลเช่น "ราชวงศ์หมิงล่ม เพราะ อู๋ ซานกุ้ย เปิดประตูให้แมนจู"
ในขณะที่ การศึกษาประวัติศาสตร์ของยุโรปสมัยใหม่จะมองไปคนละอย่างกัน พวกเขาสนใจว่า เซเนทมีทั้งหมดกี่คน ที่มามาจากไหน ประชนในเมืองนั้นมีกี่ชนชั้น ทหารโรมันมีอาวุธอะไรบ้าง เมืองโรมใช้เทคโนโลยีทางสถาปัตยกรรมอย่างไร สินค้าสำคัญคืออะไร ชาวโรมสร้างฐานะจากอะไร
ถ้าถามว่าทำไมโรมล่ม คำอธิบายแบบยุโรปสมัยใหม่ก็จะอธิบายแบบเป็นโครงสร้างสังคม อธิพลทางศาสนา และสภาวะแวดล้อม
เมื่อเราศึกษาประวัติศาสตร์แบบจีนในจารีตเดิม เราจะพบว่าความรุ่งเรืองมาจากการตัดสินใจที่ดีของคน การเป็นคนเก่งคนดี การเลือกใช้คนเก่งคนดีมาทำงาน
แต่เมื่อเราศึกษาประวัติศาสตร์แบบยุโรป เราจะพบว่าความรุ่งเรืองมาจากระบบที่ดี การมีโครงสร้างการเมืองที่ดี เทคโนโลยีที่ดี มีการผลิตสินค้า และระดมทรัพยากรได้ดี
จริงๆประวัติศาสตร์แบบยุโรปมีแนวโน้มจะมองสังคมเป็นเครื่องจักร และมนุษย์เป็นฟันเฟืองหนึ่งของระบบ เหมือนมองจากสวรรค์ลงมา ในขณะที่แบบจีนมองในมุมของมนุษย์กว่า เป็นมุมมองของคนที่อยู่ในเหตุการณ์กว่า
ดังนั้นในการอ่านประวัติศาสตร์จีนเราจะรู้สึกทึ่งกับความฉลาดของปราชญ์โบราณ แต่เมื่ออ่านประวัติศาสตร์ยุโรป เราจะรู้สึกว่าเราฉลาดกว่าเสมอ เพราะเรารู้มากกว่าคนสมัยนั้นแล้ว
ผมเดาเอาว่า นักประวัติศาสตร์ยุโรปตั้งแต่ยุคกลางคงพยายามมองโลกด้วยสายตาของพระเจ้า และนักคิดที่เอามาวิเคราะห์ในสมัยใหม่พยายามดูสังคมในฐานะฟังเฟืองหนึ่ง ที่ดำเนินไปตามกฎบางอย่างซึ่งต้องอธิบาย เหตุ-ผลได้
ในขณะที่ปราชญ์ขงจือของจีนบันทีกเรื่องราวของผู้ที่ได้อาณัติสวรรค์ เพื่อให้ใช้สั่งสอนลูกหลานให้ตัดสินใจเลือกทางที่ฉลาด และถูกต้อง โดยเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ที่เคยมีมา (เช่น เจินกวนเจิ้งเย่า ที่สรุปจากประวัติศาสตร์ว่าการมีขันติยธรรมของกษัตริย์ทำให้บ้านเมืองรุ่งเรือง หรือฉางตวนจิงที่สรุปว่าคนชิบหายเพราะไม่ประยุคปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์)
คนไทยคุ้นชินกับการศึกษาแบบจีนขงจือที่ตกสมัยไปนานแล้ว แต่ไม่ค่อยศึกษาจากมุมวิเคราะห์แบบตะวันตก จึงมักจะมองว่าปัญหาต่างๆเกิดจากการตัดสินใจที่ไม่ดี หรือโง่ของบุคคล
แต่เราต้องมองประวัติศาสตร์จากทั้งสองมุมมอง ทุกวันนี้แม้แต่ประเทศจีนเองก็ศึกษา ค้นคว้า และสอนประวัติศาสตร์จากวิธีของตะวันตกสมัยใหม่ด้วยแล้ว
เมื่อเราศึกษาประวัติศาสตร์จากมุมมองของตะวันตก เราจะพบว่า หลายครั้ง มนุษย์ตัดสินใจด้วยความดี อย่างเห็นส่วนรวม สุดความสามารถ สุดปัญญาแล้ว แต่มุมมองที่จำกัดของยุคสมัยนั้นทำให้มันได้แค่นั้นจริงๆ
อย่างเมื่อเราเรียนเรื่องของพี่น้องกรักคุส กับความพยายามของมารีอุส เรารู้ว่ามันทำอะไรไม่ได้ สิ่งที่พวกเขาทำมันสุดทางจากมุมมองที่จำกัด และทรัพยากรที่พวกเขามีแล้ว
พวกเขาไม่ใช่พระเจ้า เป็นมนุษย์ จากขอบเขตที่พวกเขารับรู้ พวกเขาทำได้ดีที่สุดแค่นั้น
โครงสร้างของรัฐ ปริมาณการผลิตที่จำกัด และการขาดความรู้บีบบังคับให้ผลมันออกมาแบบนั้นจริงๆ
กลายเป็นว่าเจตนาดีนำไปสู่ผลร้าย พวกเขาฉลาดที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับว่าคนจะเลวหรือโง่เลย
ในมุมนี้ การหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่เราเรียนจากอดีตได้ จึงต้องแก้ไขด้วยการปรับโครงสร้างของรัฐ และเศรษฐกิจ
ไม่มีประโยชน์ที่จะมาด่าว่าใครโง่ หรือใครตัดสินใจพลาด
ในคำภีร์โจอี้บอกว่า "ความผิดพลาดครั้งแรกคือเยาว์ความ แต่ถ้ามีครั้งที่สอง หรือสาม คือความโง่"
มนุษยชาติเคยเยาว์ เราทำผิดมาแล้ว แต่คนที่ไม่เรียนจากความผิดพลาด ไม่ยอมเปิดมุมมองให้กว้างขึ้น ไม่ค้นคว้าจนเข้าใจที่มาของปัญหาที่แท้จริง และไม่แก้ไขรากของปัญหา นั่นแหละคือความโง่
แต่ดูเหมือนประเทศของเราจะไม่เคยเรียนประวัติศาสตร์อะไรเลย ก็เลยโง่ซ้ำๆ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
เค้าแค่มาสืบพันธุ์
ฟิสิกส์ของการหยุดเวลา
หลักความสมมูล (Equivalence Principle) ระหว่างสิ่งที่เคลื่อนไหว กับสิ่งที่หยุดนิ่ง ถ้าเราอยู่ในรถซึ่งปิดฟิล์มทึบสนิท เราจะไม่สามารถบ่งชี้ว่าเรากำลังเคลื่อนไหวหรือหยุดนิ่งถ้ารถนั้นเคลื่อนที่ไปบนทางเรียบแบบสมบูรณ์ด้วยความเร็วคงที่ เราจะไม่สามารถบ่งชี้ความแตกต่างระหว่างเราตะบึงเข้าชนรถอีกคันที่หยุดนิ่ง หรือรถอีกคันตะบึงเข้าชนเรา หลักการนี้ สามารถปรับใช้ได้กับแนวคิดการหยุดเวลา สมมุติว่า โจทาโร่ ใช้สตาร์แพลตตินั่มหยุดเวลา การที่มันจะเคลื่อนไหวในเวลาที่หยุดนิ่ง มันจะต้องบังคับให้อากาศเคลื่อนหลบโจทาโร่ ซึ่งมันก็จะไม่ต่างอะไรกับการที่อากาศซึ่งไหลด้วยความเร็วแสงกระทบตัวเรา เรารู้จากสมการสัมพัทธภาพว่า วัตถุที่มีมวลใดๆที่ความเร็วแสงจะมีพลังงานเป็นอนันต์ ดังนั้น การเคลื่อนที่ในเวลาที่หยุดนิ่ง มันก็จะต้องใช้พลังงานเป็นอนันต์ในการเคลื่อนอากาศสักอนุภาค และมันทำให้การเคลื่อนที่ในเวลาที่หยุดนิ่งเป็นไปไม่ได้
ในอีกทางหนึ่ง ถ้าเรามองว่า เวลา เป็นส่วนหนึ่งของกาลอวกาศ และความโค้งของกาลอวกาศทำให้เกิดการยืดของเวลา บางทีเวลา ไม่ได้เดินด้วยอัตราที่เท่ากันในห้วงอวกาศนี้ ในกรณีการหยุดเวลาของโจทาโร่ กาลอวกาศรอบนอกโจทาโร่จะมีความชันเป็นอนันต์ โดยรอบตัวของโจทาโร่จะเป็นจุดยอดของความโค้งของกาลอวกาศเป็นศูนย์กลาง นั่นคือ เวลารอบตัวโจทาโร่จะเดินอยู่ แต่เวลาที่ห่างออกไปจะเดินด้วยอัตราที่ช้าลงจนหยุดนิ่งที่ระยะอนันต์ ในเคสนี้ การออกแรงในการเคลื่อนไหวของโจทาโร่จะไม่ต้องใช้พลังงานเป็นอนันต์ เนื่องจากพอเดินเข้าใกล้เป้าหมาย การยืดของเวลาก็จะลดลง
ในกรณีสมมุติ - คะเคียวอิง ที่โดนดิโอ ต่อยไส้แตก ในมุมมองของดิโอ คะเคียวอิงจะเคลื่อนไหวช้าตอนอยู่ห่างและเคลื่อนไหวเร็วจนเป็นปรกติเมื่อดิโอมาถึงตัว ส่วนในมุมมองของคะเคียวอิง จะเห็นดิโอเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงและชะลอลงก่อนต่อยไส้แตก
แต่ถึงเราจะหยุดเวลาด้วยวิธีหลัง ใช้ความโค้งของกาลอวกาศ เมื่อความโค้งของกาลอวกาศ = พลังงานและมวล การสร้างความโค้งของกาลอวกาศลักษณะนี้ ข้อจำกัดพลังงานอาจน้อยกว่าเคสแรก แค่ว่าเราต้องไปหามวลและพลังงานลบ เพื่อจะสร้างปฏิความโค้งของปฏิหลุมดำที่มีเราเป็นศูนย์กลาง เป็นจุดยอดที่ความโค้งของกาลอวกาศชันเข้าหาแล้วปรับเป็นระนาบที่ราบเรียบ ก็ขืนให้ความชันของกาลอวกาศที่ตัวเราอยู่เป็นอนันต์เวลาของเราก็หยุดไปด้วยแล้วเราจะหยุดเวลาไปทำซากอะไร ซึ่งตอนนี้ มันยังไม่มีทีท่าว่ามวลลบ หรือ พลังงานลบมันจะมีอยู่จริง และมันก็มีปัญหาต่อมาเรื่องการเกิด Spaghettified เพราะกาลอวกาศที่โค้งขนาดนั้นมันก็จะเกิดผลเป็นแรงโน้มถ่วงดึงเข้าหา การจะหยุดเฉพาะเวลา ไม่ว่าจะสมมุติให้เป็นเคสเวลาหยุดทั้งหมดมีแต่เราที่เวลาเคลื่อนไหว หรือใช้ทริกความโค้งของกาลอวกาศ มันย่อมจะเจอข้อจำกัดด้วยกฎทางฟิสิกส์ทั้ง 2 ทางนั่นเอง
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
นี่มันรสเหงื่อของพวกโกหก
ไปถามไอ้เหี้ยควิกซิลเวอเลยต่อยคนแบบไม่เจ็บแขนด้วย
ข่าวการโจมตีฐานข้อมูลสุขภาพของสิงค์โปร์เมื่อวานนี้ ไม่น่าแปลกใจนะครับว่าทำไมมันถึงทำได้สำเร็จ ตามข่าวบอกว่าคนที่โจมตี (cyber attackers) ต้องการข้อมูลด้าน health ของ Prime Minister Lee Hsien Loong ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะเอาไปทำอะไรนะครับ
พวกเราเชื่อไหมครับว่าระบบ cyber security ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้ เกิดจากการลองผิดลองถูก (trials and errors) ทั้งนั้น การลองผิดลองถูกจึงขึ้นกับประสบการณ์ของผู้ดูแลระบบ หากลองแล้วทำงานได้ที่หนึ่ง ก็ไม่ได้การันตีว่ามันจะทำงานได้เหมือนกันในอีกที่นะครับ ไม่ได้มีหลักการใด ๆ ที่สนับสนุน เพราะฉะนั้น มันถึงได้อันตรายมาก ๆ นะครับ เหมือนกับลองดูแล้วมันทำงาน "ได้จริง" ก็ใช้เลย เราเรียกวิธีการแบบนี้ว่า rules of thumb หรือ best practices นะครับ เน้น practical เป็นหลัก
เมื่อหลายปีก่อน มีผู้ที่มีชื่อเสียงหลายท่านเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยทั้งหลายได้ศึกษา cyber security อย่างจริงจัง เรียกว่า the call for science of cyber security แม้กระทั่ง NSA ของสหรัฐก็ยังออกมาเรียกร้องถึงความจำเป็นที่จะต้องมี science of cyber security นะครับ เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นมันมหาศาลจริง ๆ เราต้องการความเข้าใจในศาสตร์นี้ หมายถึงหลักการที่พิสูจน์ได้ เพื่อที่จะให้ practitioners นำมาใช้ได้จริงอย่างมีประสิทธิผลนะครับ
cyber security จึงเป็นอีกสาขาหนึ่งที่ต้องการ mathematicians and theorists อย่างมาก ยังมีปัญหาวิจัยอีกมากที่รอให้คนเข้าไปทำให้กระจ่างนะครับ
ปล. ผมมีทุนปริญญาเอก คปก. ที่ศึกษา science of cyber security โดยตรง อยู่ 1 ทุน กำลังรอคนติดต่อมานะครับ
เย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้ม เย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้ม
เย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้มเย็ดยะเย็ดอัลเลาะห์ เย็ดอัลเลาะห์เย็ดกะเทยหีแตดตะแตดอัลเลาะห์ยะเย็ดอัลลออัลเลออออออ บึ้มบึ้ม
เรารักnichaxและก็รักลุงเหลี่ยม
ใกล้ปิดกะมู้แล้วววววววววววววววววววววววววววววววววว
ปิดมู้้้้้้เพื่อเย็ดรูหีแม่แอดมินsirn
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.