หมายถึงถ้าไม่ซีเรียสกับหลักการมากพอ เวลาตัดสินใจอะไรลงไปก็จะดูไม่ซีเรียสในสายตาคนซีเรียส
ขอแชร์ตัวอย่างความชิบหายวายปวงที่เคยเห็นในชีวิตจริง ธุรกิจ SME แห่งนึง เจ้าของตัดสินใจขยายเวลาบริการลูกค้าเพิ่มจาก 5 โมง เพิ่มเป็น 3 ทุ่ม และจากหยุดสัปดาห์ละ 2 วัน เพิ่มวันทำการเป็นเปิดร้านทุกวัน แต่ไม่คิดซีเรียสเรื่องสวัสดิการแรงงาน พนักงานเหนื่อยล้า หรือค่าตอบแทนล่วงเวลา อ้างแต่เราต้องทุ่มเทต่องาน มีใจกับงาน ไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ไม่พูดถึงเรื่องเงิน
พนักงานรุ่นบุกเบิกมี 10 คน แต่ละคนมีประสบการณ์ตรงกับธุรกิจเฉพาะทางนี้ มาด้วยใจรัก ทีนี้ตั้งแต่มีนโยบายขยายเวลาทำการแต่ไม่คุยกันเรื่องค่าตอบแทน หาพนักงานเพิ่ม หรือเวลาพักผ่อน ทุกคนใส่หน้ากากยิ้มว้่า สู้ๆ ทุ่มเทตามเจ้าของธุรกิจ บางคนเริ่มมีปัญหาครอบครัว บางคนเริ่มเป็นภูมิแพ้จากการพักผ่อนน้อย ขณะที่เจ้าของธุรกิจ ได้กำไรมาเปลี่ยนรถ รถญี่ปุ่นเป็นรถยุโรป
มีแกะดำคนนึงเป็นคนซีเรียส เธอจบปริญญาโทจิตวิทยาสังคม เธอยืนกรานว่ายังไงเธอต้องการมีเวลาอยู่กับครอบครัว เธอไม่ยอมกลับบ้านดึกเด็ดขาดและไม่สนว่าใครจะนินทาเธออย่างไร แถมเธอไซโคเพื่อนร่วมงานด้วยความเป็นห่วงว่า ชีวิตของพวกเรากำลังจะเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลงถ้าองค์กรทำกับเราแบบนี้ ตั้งแต่ปรับนโยบาย คุณไม่ค่อยได้เห็นหน้าลูกคุณเลย คุณไม่ได้ไปวิ่งสวนสาธารณะมากี่เดือนแล้วจนเป็นภูมิแพ้ ความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวและสุขภาพของตัวเองควรมาก่อน
จากการที่เจอคนซีเรียสสะกดจิตว่าไม่แฟร์ หน้ากากยิ้มสู้ชีวิตก็ร่อนออกหมดครับ ทุกคนเห็นตรงกันว่าถูกเอาเปรียบเกินไป ระบบเริ่มล่มครับ ค่อยๆ ลาออกตามๆ กันมา ไม่มีใครอยากอยู่โรงงานนรกที่อ้างว่าอยู่กันแบบพี่น้องเป็นครอบครัว แต่ไม่ซีเรียสเรื่องความแฟร์ สุดท้ายทุกคนต่างเลือกตัวเองและครอบครัวครับ
พนักงานชุดแรกที่มีความรู้เฉพาะทางออกไปหมด คนใหม่ๆ เข้ามาก็ไม่ค่อยได้เรื่องได้ราว แถมไม่มีคนเทรนจริงจัง สุดท้าย SME รายนั้นก็ต้องปิดกิจการลงครับ
อยากให้ลูกจ้างซีเรียสกับงาน นายจ้างก็ควรซีเรียสกับความเป็นอยู่ของลูกจ้างด้วยครับ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง