Fanboi Channel

โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 6th quotes

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:9QwmCpDsh

มู้เก่า
https://fanboi.ch/lounge/1161 โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง
https://fanboi.ch/lounge/2603/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 2nd quotes
https://fanboi.ch/lounge/3016/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 3rd quotes
https://fanboi.ch/lounge/3530/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 4th quotes
https://fanboi.ch/lounge/4357/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 5th quotes

2 Nameless Fanboi Posted ID:GXWVX.F+x

เห้ย ทำไมอันเก่ายังไม่ครบพัน อันใหม่มาแล้วฟะ

3 Nameless Fanboi Posted ID:6yLpdYXYz

สมกับเป็นพวกลิเบอร่านจริงๆ

4 Nameless Fanboi Posted ID:+iQ5p+wnG

ตั้งใหม่กันตอน 99x เป็นปกติอยู่แล้ว มึงเพิ่งเคยเล่นโม่งหรอ

5 Nameless Fanboi Posted ID:zdO6mWvfJ

>>4 ทีมู้จ่าแม่งครบพันไปสองสามวันแล้วเพิ่งจะมีอันใหม่อะ

6 Nameless Fanboi Posted ID:CrYqMkJwm

>>5 ห้อง nw มันตั้งเองไม่ได้เว้ย ต้องไปขอ

7 Nameless Fanboi Posted ID:.8J+IE+le

เอามาตราฐานห้อง nw มาอ้างเนี่ยนะ
kek

8 Nameless Fanboi Posted ID:RLRpoV.rf

อ้างสมเป็นลิเบอร่านจริงๆว่ะ

9 Nameless Fanboi Posted ID:UNhXP8p8a

หมายถึงถ้าไม่ซีเรียสกับหลักการมากพอ เวลาตัดสินใจอะไรลงไปก็จะดูไม่ซีเรียสในสายตาคนซีเรียส

ขอแชร์ตัวอย่างความชิบหายวายปวงที่เคยเห็นในชีวิตจริง ธุรกิจ SME แห่งนึง เจ้าของตัดสินใจขยายเวลาบริการลูกค้าเพิ่มจาก 5 โมง เพิ่มเป็น 3 ทุ่ม และจากหยุดสัปดาห์ละ 2 วัน เพิ่มวันทำการเป็นเปิดร้านทุกวัน แต่ไม่คิดซีเรียสเรื่องสวัสดิการแรงงาน พนักงานเหนื่อยล้า หรือค่าตอบแทนล่วงเวลา อ้างแต่เราต้องทุ่มเทต่องาน มีใจกับงาน ไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ไม่พูดถึงเรื่องเงิน

พนักงานรุ่นบุกเบิกมี 10 คน แต่ละคนมีประสบการณ์ตรงกับธุรกิจเฉพาะทางนี้ มาด้วยใจรัก ทีนี้ตั้งแต่มีนโยบายขยายเวลาทำการแต่ไม่คุยกันเรื่องค่าตอบแทน หาพนักงานเพิ่ม หรือเวลาพักผ่อน ทุกคนใส่หน้ากากยิ้มว้่า สู้ๆ ทุ่มเทตามเจ้าของธุรกิจ บางคนเริ่มมีปัญหาครอบครัว บางคนเริ่มเป็นภูมิแพ้จากการพักผ่อนน้อย ขณะที่เจ้าของธุรกิจ ได้กำไรมาเปลี่ยนรถ รถญี่ปุ่นเป็นรถยุโรป

มีแกะดำคนนึงเป็นคนซีเรียส เธอจบปริญญาโทจิตวิทยาสังคม เธอยืนกรานว่ายังไงเธอต้องการมีเวลาอยู่กับครอบครัว เธอไม่ยอมกลับบ้านดึกเด็ดขาดและไม่สนว่าใครจะนินทาเธออย่างไร แถมเธอไซโคเพื่อนร่วมงานด้วยความเป็นห่วงว่า ชีวิตของพวกเรากำลังจะเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลงถ้าองค์กรทำกับเราแบบนี้ ตั้งแต่ปรับนโยบาย คุณไม่ค่อยได้เห็นหน้าลูกคุณเลย คุณไม่ได้ไปวิ่งสวนสาธารณะมากี่เดือนแล้วจนเป็นภูมิแพ้ ความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวและสุขภาพของตัวเองควรมาก่อน

จากการที่เจอคนซีเรียสสะกดจิตว่าไม่แฟร์ หน้ากากยิ้มสู้ชีวิตก็ร่อนออกหมดครับ ทุกคนเห็นตรงกันว่าถูกเอาเปรียบเกินไป ระบบเริ่มล่มครับ ค่อยๆ ลาออกตามๆ กันมา ไม่มีใครอยากอยู่โรงงานนรกที่อ้างว่าอยู่กันแบบพี่น้องเป็นครอบครัว แต่ไม่ซีเรียสเรื่องความแฟร์ สุดท้ายทุกคนต่างเลือกตัวเองและครอบครัวครับ

พนักงานชุดแรกที่มีความรู้เฉพาะทางออกไปหมด คนใหม่ๆ เข้ามาก็ไม่ค่อยได้เรื่องได้ราว แถมไม่มีคนเทรนจริงจัง สุดท้าย SME รายนั้นก็ต้องปิดกิจการลงครับ

อยากให้ลูกจ้างซีเรียสกับงาน นายจ้างก็ควรซีเรียสกับความเป็นอยู่ของลูกจ้างด้วยครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

10 Nameless Fanboi Posted ID:kgPXF.4bl

>>9 โอ๊ยแทงใจ กูนี่อยากออกจากงานอยู่ บ.ต้องการให้พนักงานทุ่มเท แต่เสือกถอดสวัสดิการที่พนักงานเคยได้ออก จริงๆ เป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่ไม่มีใครซีเรียสพอจะทำเรื่องฟ้องร้องบ. ใครอยากอยู่ก็ต้องทนรับสภาพไป รับไม่ได้ก็ต้องลาออกไปหางานใหม่เอาเอง

11 Nameless Fanboi Posted ID:vedqrg..+

" The shortcut on my Desktop actually says "Shadow Shaman" and not "Dota 2" :D "
:มิตร

12 Nameless Fanboi Posted ID:Y2Q/1XTGi

>>9 แล้วพนักงานชุดแรกก็หางานใหม่ไม่ได้เพราะ hr มองว่าไร้ประสิทธิภาพทำที่เก่าเจ๊ง

รวมถึงแกะดำที่โดนทุกบริษัทขึ้นแบล็คลิสต์

#มิตรสหายโลกมืด

13 Nameless Fanboi Posted ID:JuAcR3hl7

พูดถึงเรื่องสินสอดนะ จริงๆมันก็เป็นธรรมเนียมของไทยเราแหละ เหมือนกับว่าเป็นค่าเลี้ยงดูที่แม่ได้เลี้ยงลูกสาวมา

แต่เมื่อก่อนส่วนใหญ่นะ เขาไม่เรียกสินสอดแบบแพงๆหรอก เขาเอาแค่นิดหน่อยๆ พอเป็นพิธีไป

แต่สมัยนี้นะแม่ง มันมีไอ้แม่บางตัวมันหน้าเงินไง มันมีความคิดแบบ กูเลี้ยงลูกกูมาอย่างดี ลูกกูเป็นนางฟ้านะ มึงจะแต่งกับลูกกู ก็ต้องหาสินสอดมาให้สมกับลูกกูหน่อย บลาๆๆ สุดแล้วแต่จะหาเหตุผลมาพูด ซึ่งส่วนใหญ่นะ ลูกสาวแม่งก็เออออห่อหมกตามแม่มัน ไม่กล้าขัดใจแม่มัน ไอ้ผู้ชายน่ะเหรอ แม่งหาเงินค่าสินสอดไปสิ หาไปเหอะ ยิ่งเรียกเป็นล้าน กี่ปีมึงจะหาได้วะ

ส่วนผู้ ญ น่ะเหรอ บอกกับผู้ชายว่า ถ้ามึงรักกูจริง มึงก็ต้องหาเงินมาขอกูให้ได้ ไม่งั้นแสดงว่ามึงไม่รักกูจริง

เพราะแบบนี้แหละ หลายคู่ที่กำลังจะแต่งงานกัน กลับต้องยกเลิกงานแต่ง ต้องเลิกกันไป เพราะ สินสอด ที่พวกแม่ๆพ่อๆมันเรียกร้องมาแหละ ผู้ชายบางคนแม่งถึงกับท้อ ถอดใจไปเลยทีเดียว

ก่อนที่พวกมึงจะไปโทษผู้ชายหาว่าผู้ชายไม่รักมึงจริงหรืออะไรต่างๆนานา มึงโทษตัวมึงเองกับแม่มึงเองก่อนดีกว่า
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

14 Nameless Fanboi Posted ID:i6ZozVcTx

>>12 คนเก่ามันลาออกกันก่อนแล้วบริษัทมันค่อยล่มทีหลังไม่ใช่หรอวะ
แล้วในความเป็นจริงต่อให้ออกเพราะบริษัทล่ม ถ้าไม่ใช่ผู้บริหารหรือคนที่เป็นตัวการสำคัญทำงานพลาดทำให้บริษัทล่ม
HR มันไม่เอาเรื่องแบบนี้มาเป็นตัวทำให้ตัดสินใจไม่รับคนกันหรอก มิตรสหายท่านนี้น่าจะเพลาๆเรื่องพยายามจะดาร์คเอาเท่บ้างนะ

15 Nameless Fanboi Posted ID:vcwBi+PSF

ผมไม่ได้เลือกความรุนแรง แต่ความรุนแรงเลือกผม ชีวิตนี้คนคำนวณไม่เท่าฟ้าลิขิต เฮ้ออ

16 Nameless Fanboi Posted ID:qfPROiA7n

#ช่วงพูดได้คิดได้แต่ทำไม่ได้มาอีกแล้วอ่ะครับ

น่าจะมีวง ISAN48 บ้างนะครับ ส่วน "โอตะ" ให้เปลี่ยนเป็น "บักหำ" แทน
.
พี่น้องที่มาขายแรงงานใน กทม. ก็อาจจะมีงานจกกระติ้บข้าวเหนียวแทนงานจับมือ
.
ถ้าตาชินโฟร์เอสเหลือบมาเห็นไอเดียนี้ นี่เป็นไอเดียที่จะทำให้ค่ายโฟร์เอสกลับมายิ่งใหญ่เลย

#จบไอเดียอ่ะครับ

17 Nameless Fanboi Posted ID:6+hC12J0W

"Eat some pizza for dinner. Drink a couple of beer for the night and eat some döner when it's after midnight. Perfect multiculturalism."
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

"sounds like your average american diet"
#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง

18 Nameless Fanboi Posted ID:krC7GjoUr

#คอลัมน์คนไทยนี้โยงเก่งจัง
--------------------------------------------------------------
ความเป็นไทยที่แท้ทรูอยู่ตรงไหนใน "คุกกี้เสี่ยงทาย"
--------------------------------------------------------------

สำหรับใครที่ไม่ใช่โอตะ หรือโวตะ หรือโอชิ ก็อยากให้ทราบไว้นะครับว่า BNK48 ไม่เพียงโปรโมทภาพลักษณ์ของประเทศในเชิงที่เป็นภาพจำของทัวริสต์ดาดๆ ทั่วไปเท่านั้น แต่พวกเขายังนำเสนอการดิ้นรนต่อสู้กับสภาพเศรษฐกิจและสงครามการกดขี่ทางชนชั้นของชนชั้นแรงงานอีกด้วย

ที่จริงแล้วคำว่า BNK48 ที่เป็นชื่อวงนั้นก็คือคำย่อมาจาก BANGKOK 48 ซึ่งก็คือเมือง “กรุงเทพฯ” หรือ “บางกอก” เช่นเดียวกับวงเกิร์ลกรุ๊ปต้นแบบอย่าง AKB48 ที่ย่อมาจากย่าน Akihabara นั่นเอง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การตั้งชื่อวงโดยใช้เมืองหลวงเป็นสำคัญไม่ใช่เพราะสักแต่จะตั้งตามเจ้าของแฟรนไชส์เท่านั้น แต่วง BNK48 ยังเลือกชื่อนี้อย่างจงใจเพื่อสื่อถึงสภาพเศรษฐกิจและอำนาจการปกครองแบบรวมเข้าสู่เมืองหลวง และสมาชิกวง BNK แต่ละคนก็เป็นสัญลักษณ์ของคนต่างจังหวัดที่ต้องหลั่งไหลเข้ามาใช้แรงงานตามกระแสธารเศรษฐกิจนั่นเอง
ในวง AKB48 ซึ่งถือได้ว่าเป็น ‘โปรโตไทป์’ ของ BNK48 ก็มีเพลง “คุกกี้เสี่ยงทาย” เช่นเดียวกับทุกๆ สปีชีส์ 48 แต่จะต่างกันก็ตรงที่เพลง “คุกกี้เสี่ยงทาย” ของ BNK48 นั้นได้ดัดแปลงเพลงอย่างละเอียดประณีตและแหลมคมเพื่อสะท้อนการต่อสู้ดิ้นรนของคนทำงานและการยอมรับอำนาจเบ็ดเสร็จของชนชั้นกรรมาชีพ

ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมคนต่างจังหวัดถึง “แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ แต่เธอไม่รู้บ้างเลย” นั่นก็เพราะว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรวมไปถึงเศรษฐกิจทุกภาคส่วนถูกรวมไว้ที่เมืองหลวงไว้แล้ว - แต่ “แอบส่งใจให้นิดนิดแต่ดูเธอช่างเฉยเมย” - ถึงแม้จะมีความพยายามในการปฏิรูปแต่ทางรัฐบาลก็ไม่เคยสนใจอย่างจริงจัง จึงเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาการหลั่งไหลเข้าทำงานเพื่อเสี่ยงหาอนาคตในสภาพสังคมแออัดและย่านชานเมืองที่สภาพเหมือนค่ายลี้ภัย นั่นก็เพราะโครงสร้างสังคมเช่นนี้ทำให้พวกเขา (แรงงานต่างถิ่น) คิดว่า “เอาล่ะเตรียมใจไว้หน่อยมันจะหัวก้อยต้องเสี่ยงกัน”

จึงไม่น่าแปลกใจอีกเช่นกันว่าทำไมแรงงานต่างจังหวัดถึง “รู้ทั้งรู้ว่าเค้าใช้อะไรตัดสินใจ” เพราะเราได้ผ่านปัญหานี้มาอย่างยาวนาน ทั้งๆ ที่เรารู้ว่า “ต้องน่ารักใช่มั้ยที่ใครเค้าคิดกัน” เพราะมีคนน่ารักกลุ่มหนึ่งได้ผลประโยชน์จากการรวมศูนย์เช่นนี้ไว้ แต่ในท้ายที่สุดพวกเขา (แรงงาน) ก็ต้องยอมรับสภาพสถานะของตนเองกลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างเช่นนี้ และยอมรับอำนาจอย่างสมบูรณ์ของระบบ และได้แต่ตัดพ้อว่า “ฉันขอแค่ให้เค้าลองมองที่ข้างใน คงจะดีถ้ามีใจให้กับฉัน”

ไม่น่าแปลกใจเลย ว่าทำไม “คุกกี้เสี่ยงทาย” จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของสำนึกทางชนชั้นที่วง BNK48 ต้องการจะสื่อ เพราะแรงงานต่างถิ่นในกรุงเทพซึ่งเป็นภาพแทนของประชาชนคนไทยส่วนใหญ่จะยังไม่สามารถหลุดพ้นจากชนชั้นของตัวเองได้จนกว่าจะ “เสี่ยงทาย” เข้ามาทำงานเพื่อเข้า “มาลุ้นดูสิอาจจะเจอความหวังที่ยังรออยู่” อ่ะครับ

---------------------------------
30 Jan 2018 by Aunnism
---------------------------------

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

19 Nameless Fanboi Posted ID:QjNVXcS74

>>18 อันนี้แซะ The Matter สินะ

20 Nameless Fanboi Posted ID:SYMwRP6Qc

"มองในแง่ดี การตกรอบของทีมจากไทย ก็จะทำให้นักเตะไทยไม่ได้ไปโชว์ลาวในระดับเอเชียนะครับ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

21 Nameless Fanboi Posted ID:EO1hwjRpP

"If you want to visit the Tang Dynasty, visit Japan.

If you want to visit the Ming dynasty, visit Korea.

If you wanna visit this weird amalgamation of self-hating Chinese dynasties, be Vietnamese.

If you wanna respect glorious Mao, immigrated to north Korea"

#มิตรสหายชาวเจ๊กท่านหนึ่ง

22 Nameless Fanboi Posted ID:Knq5sDbya

>>21 ไป ยุ่น ตอนนี้คงได้ไปถังแตกแทนได้ไปเยือน ราชวงศ์ถัง ฟ่ะ

23 Nameless Fanboi Posted ID:m7MEShtMA

History is overrated anyway, especially since it so often repeats itself. We'll get the stuff back in the next cycle anyway...
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

24 Nameless Fanboi Posted ID:p/iQo39Aw

>>22 ถังแตกไรหว่า THB vs JPY นี่แข็งโป๊ก

25 Nameless Fanboi Posted ID:iDUv2BpSG

“ในกฎระเบียบของ คปภ.ระบุไว้ชัดเจนว่า เมื่อมีผู้โทรเข้ามาขายประกัน ผู้รับสายมีสิทธิ์ถามกลับว่า ผู้เสนอขายประกันเอาชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของเรามาจากที่ใด

อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/582960

26 Nameless Fanboi Posted ID:1dDcusbRf

>>25 ปัญหาคือเวลาเราไปสมัครใช้บริการต่างๆ แล้วกรอกข้อมูลส่วนบุคคล เรามักต้องแลกกับการยินยอมให้ผู้ให้บริการนำข้อมูลไปใช้ได้

ลองอ่านสัญญา หลายๆ บริการน่าจะมีอยู่นะ

27 Nameless Fanboi Posted ID:nseC/KLuz

อยากเคลมว่าตัวเองเป็นลิเบอรอลอินเทลเลคช่วลที่ไม่ซ้อมเมีย

แต่ก็คิดขึ้นได้ว่าไม่ลิเบอรอล
ไม่อินเทลเลคช่วล
แล้วก็ไม่มีเมียให้เตะอะครับๆๆ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

28 Nameless Fanboi Posted ID:i8ydQU0Hk

"มีอยู่คนนึงตอน Bitcoin ตกมา $16000 ... "รอมานาน ช้อนเลยยย"

พอตกไป $14000 ... "ลงแล้ว เอ้า ช้อนนนน"

พอ $12000 "ช้อนสิ รออะไรอยู่"

$11000 "ช้อนนนนนนน"

ตอนนี้ต่ำกว่า $10000 หาตัวคนนั้นไม่เจอละจ้าาา"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

29 Nameless Fanboi Posted ID:3rld2g0JA

>>28 เริ่มตกละหรอบิทคอย คอยอยู่เลย แต่ไม่ได้คอยช้อนหรอกนะ 555

30 Nameless Fanboi Posted ID:uQbHwmr6T

>>28 กูนึกถึงกูรูใน เว็บโป๊ที่มีข่าวฟุตบอลเลยว่ะ

ก่อนโดนแบนมีการบอกด้วยนะเว้ยว่า "ผมได้มาถูกมาก ที่ลงๆมานี่ผมไม่กระเทือนนะครัช"

แกเซียนถึงขนาดว่ารู้ มูลค่าที่แท้จริงของ Bitcoin ด้วยนะเว้ย

แต่พอราคาลงฮวบๆ สติแตก จงใจเรื้อน แล้วก็หายตัวลึกลับ เฮ้อ ...

31 Nameless Fanboi Posted ID:CbFJhv/N0

>>29 รอซ้ำเติมใช่ป่ะ 555

32 Nameless Fanboi Posted ID:tTEV/fTzp

ผมว่าน่าเศร้านะ สิ่งที่พวกเค้าขอพรเท่าที่เห็น ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องความเป็นอยู่ ความวาดหวังว่าตนเองจะมีชีวืิตที่ดีขึ้น แต่ต้องไปผูกความหวังเอาไว้กับปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ให้ความหมายทางสัญลักษณ์ เหมือนบูชา god บูชาฟ้าผ่า

เราต้องช่วยกันรณรงค์ว่าสิ่งพวกนี้ ไม่ได้มาจากการขอพรกับธรรมชาติ ธรรมชาติมันไม่รู้อะไรด้วย เราต้องจัดการกับสังคมของเราเองผ่านระบบการเมือง เศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำ มีสาธารณูปโภคดีๆ มีคุณภาพชีวิตดีๆ

ทุกวันนี้หลายคนนึกว่าสิ่งเหล่านั้นต้องใช้เงินแลกมาเท่านั้นถึงได้ฝันว่าอยากรวย เอาจริงๆ คุณไม่จำเป็นต้องหวังว่าอยากรวยเลย ถ้ารู้ว่ารัฐมีนโยบายที่ทำให้คุณรู้สึกว่าดำรงชีวิตอยู่ด้วยความมั่นคงและปลอดภัย

ภาพมันควรจะออกมาเป็นเราตั้งความหวังกับรัฐ มากกว่าไป romanticize กับปรากฏการณ์ธรรมชาติอยู่อย่างนี้ เรื่องพวกนี้มีไว้ฟินในพื้นที่วรรณกรรม นิยาย ภาพยนตร์ เกมส์ อนิเมะ การ์ตูน ศาสตร์เล่าเรื่องต่างๆ พอแล้ว อย่าเอามาปะปนกับชีวิตจริง ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาหรอก

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

33 Nameless Fanboi Posted ID:8.BZdpiY4

https://pantip.com/topic/37335220/comment74

เรียกลูกว่าหมาน้อย ไม่ผิด จะเรียกกันในบ้านก็ตามใจนะครับ

แต่บางวัฒนธรรมเขาจำว่ามหามันกินขี้ตัวเอง กับพฤติกรรม ผสมพันธ์ไม่เลือก พี่น้องพ่อแม่ลูก มั่วกันหมด แล้วถ้าเขาขึ้นมาคุณมึงยังจะเคลมว่าตัวเองทำถูกก็ตามใจ

34 Nameless Fanboi Posted ID:mVfFDj+92

A : บูมจุฬานี่บูมยังไงละวะ
B : บาก้าา
โบโบ้
ปุตัง
อินาโม่

A: เดี๋ยว
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

35 Nameless Fanboi Posted ID:.ZNl1slBv

>>33 อืม เรามีแต่เรียกแมวเป็นลูก อันนี้คือกลับกันหรือไงวะ ดีนะบ้านเราไม่มีวัฒนธรรมนี้

36 Nameless Fanboi Posted ID:bi/n4ekK9

บักหำยังเรียกกันได้ กูว่าไม่แปลกหรอก แต่มันเป็นเรื่องวงในไง เราจะไปเรียกลูกบ้านอื่นว่า Hey little dick ไหมล่ะครับ

37 Nameless Fanboi Posted ID:lWZJ+6C+Z

ถึงยุค Startup จะซาลงแล้ว และยุค ICO ผุดขึ้นมาฮิตแทน แต่ถ้าเอาผลงานมาเทียบกัน ต้องบอกว่าผลงานยุค ICO นั้นกระจอกและมือสมัครเล่นกว่ากันมาก Raise เงินกันที $50mln แต่เว็บกลับโดนแฮคกันเป็นว่าเล่น

อยู่ร่วมเป็นสักขีพยานกับทั้งสองยุค เห็นผลงานยุคหลังแล้วค่อนข้างเพลียใจ เทคโนโลยี Blockchain ฟังดูดีแต่ปัญหาคือคนมันก็คนเดิม ไม่ได้เก่งขึ้นซะหน่อย ...

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

38 Nameless Fanboi Posted ID:xvUD.+8ue

#อีเจี๊ยบเสี่ยงตาย #GLN48

แอบแช่งเธออยู่นะจ๊ะแต่เธอไม่รู้บ้างเลย
แอบส่งความจัญไรนิดนิดแต่ดูเธอช่างเฉยเมย
เอาหละเตรียมใจไว้หน่อยมันจะซวยไหมต้องเสี่ยงกัน
Yeah Yeah Yeah

คนดวงดีก็เยอะนะที่เดินอยู่ทั่วๆไป
แต่พอมาเจอฉันก็ฉิบหายขึ้นทันใด
เอาหละเตรียมใจไว้ความจัญไรเรานั้นแย่แน่นอน
Yeah Yeah Yeah

ความอัปยศนั้นเปรี้ยงปร้างลอยไปกับเสียงเพลง
ธรณีกันแสงบรรเลงไม่มีวันเจือจาง
เพราะไม่รู้ว่าฉันนั้นในใจแอบคิดอะไร
เธอยังกังวลไม่แน่ใจในความบรรลัยนั้น
เพราะยังไงก็ต้องเสี่ยงซวยไม่ซวยก็ต้องเสี่ยง
กาละ กาละ กาละ กินีเบบี้
ให้อีเจี๊ยบพาซวยกัน

กาลกิณี จัญไร Cookie
มาลุ้นดูสิอาจจะเจอความซวยที่ยังรออยู่
Hey Hey Hey
ไม่รอดแน่ฉิบหายแน่ตัวกู
เสี่ยงแต่คงต้องยิ้มต้องสู้กันไป

กาลกิณี จัญไร Cookie
มาลุ้นดูสิความฉิบหายพร้อมความบรรลัย
Hey Hey Hey
Hey Hey Hey
ซวยไม่ซวย จะซวยไม่ซวย ก็ลองเสี่ยงดูอีกสักนิด
ความสิ้นหวังและดวงซวยๆแทบที่สุดในชีวิต
ฉันมั่นใจว่านี่จะเป็นดั่งฝันร้าย
รดน้ำมนต์อาจทำให้หายสักวันนึง

กำลังสาบเธอนะไม่ต้องทำเป็นนิ่งเฉยเมย
พลาดมาเจอกันแล้ว เธออาจคิดว่าไม่น่าเลย
เธอเกลียดฉันหรือเปล่าซวยขนาดนี้ฉันมั่นใจ
Yeah Yeah Yeah

อีเจี๊ยบนั้นคือตัวแทนแห่งความจัญไร
ความน่ารักนั่นเหรอหาได้ไม่มี
มองลึกๆดูดีๆมีแต่ความบรรลัย
คงจะดีถ้าเธอติดกับฉัน
เพราะยังไงก็ต้องเสี่ยง ซวยไม่ซวยก็ต้องเสี่ยง
Please Please Please oh baby
เป็นเช่นไรก็เป็นกัน

กาลกิณี จัญไร Cookie
มาลุ้นดูสิอาจจะเจอความซวยที่ยังรออยู่
Hey Hey Hey
ไม่รอดแน่ฉิบหายแน่ตัวกู
เสี่ยงแต่คงต้องยิ้มต้องสู้กันไป

กาลกิณี จัญไร Cookie
มาลุ้นดูสิจบสุดท้ายรับรองไม่ใช่แค่น้ำตา
Hey Hey Hey
Hey Hey Hey
คิดแต่เรื่องดีดีก็โลกใบนี้เต็มไปด้วยความรัก
แต่พอเจอเจี๊ยบแล้ว เรื่องดีๆก็คงต้องหยุดพัก
ลมความซวยทำถูกหวยแดกแฟนทิ้ง
อนาคตหมดสิ้นซักวันนึง

Come on Come on Come on Come on baby
ให้อีเจี๊ยบทำนายกัน

Koisuru Fortune Cookie
มาลุ้นดูสิอาจจะเจอความหวังที่ยังรออยู่
Hey Hey Hey
เผื่อจะดีลองวัดกันดู
เสี่ยงแต่คงต้องยิ้มต้องสู้กันไป

กาลกิณี จัญไร Cookie
มาลุ้นดูสิความฉิบหายพร้อมความบรรลัย
Hey Hey Hey
Hey Hey Hey
ซวยไม่ซวย จะซวยไม่ซวย ก็ลองเสี่ยงดูอีกสักนิด
ความสิ้นหวังและดวงซวยๆแทบที่สุดในชีวิต
ฉันมั่นใจว่านี่จะเป็นดั่งฝันร้าย
รดน้ำมนต์อาจทำให้หายสักวันนึง

#แหม่มสหายโพธิ์ดำท่านนึง

39 Nameless Fanboi Posted ID:ZO4Iy2i1A

>>38 แปลงมาไม่ดีเลย ร้องตามไม่สละสลวย คำไม่ลง ไม่คล้องจอง ไม่ติดหู ...อ่าวไม่ได้แปลงมาให้ร้องหรอกหรอยาวชิบหายขนาดนี้

40 Nameless Fanboi Posted ID:5f8kKCsOY

สำหรับหุ้นเราใช้ “ติดดอย” ครับ
แต่สำหรับ cryptocurrencies เราไม่ใช้ครับ
เพราะอนาคตมันยังดีและไกลใหญ่มหาศาล
เราเลยใช้ว่า “รอcoin” ครับ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

บิทคอยมีแต่ขึ้นไม่มีลง ตลาดหมีใช้กับบินคอยไม่ได้ buyเลยทุกราคาไม่มีขาดทุน ถถถ
#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง

41 Nameless Fanboi Posted ID:zMwCJ6rV+

คำถามที่ตอบไม่ได้
.
ไปเจอโจทย์นี้มาเมื่อวาน โจทย์สำหรับเด็ก ป. 5 ของจีน ถามว่า
.
"ถ้าเรือบรรทุกแกะ 26 ตัว และแพะ 10 ตัว
ถามว่ากัปตันจะมีอายุเท่าไร?"
.
คำถามนี้ทำให้เด็กๆ งงไปเลย และพอเอามาลงบนโซเชียลเนตเวิร์กก็กลายเป็นไวรัล ว่าจะไปตอบได้ยังไง ชาวเนตพยายามตอบคำถามด้วยวิธีต่างๆ เช่น
.
"กัปตันจะต้องอายุ 18 ปีเป็นอย่างน้อย เพราะต้องเป็นผู้ใหญ่จึงจะขับเรือได้"
.
"กัปตันจะอายุ 36 ปีเพราะเขาอาจจะอยากบรรทุกสัตว์ให้เท่ากับอายุ"
.
หรือคำตอบที่ดูจริงจังมากจาก Weibo "น้ำหนักของแกะและแพะรวมกันประมาณ 7,700 กิโล คำนวณจากน้ำหนักเฉลี่ยของสัตว์ทั้งสอง ในจีน หากคุณจะขับเรือที่มีน้ำหนักมากกว่า 5,000 กิโลกรัมละก็ คุณต้องมีใบอนุญาตขับเรือมามากกว่า 5 ปี ซึ่งอายุต่ำสุดที่ขอใบอนุญาตได้คือ 23 ปี ดังนั้นอายุของกัปตันอย่างน้อยจะต้องเป็น 23+5 ปี = 28 ปี" โอ้โห
.
(แต่บางคนก็บอกว่าจริงๆ แล้วน้ำหนักแกะกับแพะน่าจะเป็นครึ่งเดียวของที่คนนี้ประเมิน)
.
หรือบางคนก็ง่ายกว่านั้น, ตอบว่า "ไม่รู้" หรือ "ข้อมูลไม่พอ" ไปเลย
.
นอกจากนั้นบางคนก็ไปด่าอาจารย์ที่ตั้งคำถามข้อนี้ขึ้นมา กัดแรงๆ ก็เช่น "ถ้าโรงเรียนมีครู 26 คน 10 คนไม่รู้จักคิด แล้วผอ. จะมีอายุกี่ปี" (ฮา)
.
แต่คำถามนี้ไม่ใช่การตั้งคำถามพลาด ฝ่ายการศึกษาของ Shunqing ออกมาประกาศว่า คำถามนี้ตั้งใจถามเพื่อให้นักเรียน "มีความตระหนักถึงการคิดเชิงเหตุผล และคิดนอกกรอบเป็น [..] เพราะมีรายงานก่อนหน้าว่าเด็กประถมในประเทศของเราไม่อาจคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผลได้ โดยเฉพาะในวิชาคณิตศาสตร์"
.
ดังนั้นคำตอบที่ถูกน่าจะเป็น "ไม่รู้" "ข้อมูลไม่พอ" หรือวิธีการอื่นๆ ที่พยายามหาคำตอบอย่างเป็นเหตุเป็นผล และคำตอบที่ผิดน่าจะเป็นการตอบอย่างเช่น "กัปตันจะอายุ 36 ปีเพราะ 26+10=36" โดยไม่ได้แสดงเหตุผลการคิด
.
เรื่องนี้ทำให้คิดขึ้นมาได้ว่า บางครั้ง "ไม่รู้" ก็เป็นคำตอบที่เหมาะสม ที่ถูกต้องกับสถานการณ์ที่สุดเหมือนกัน ในขณะที่ถ้าพยายามตอบว่า "รู้" ทุกอย่าง แล้วต้องมาโกหกเพื่อปิดบังความไม่รู้ ก็อาจทำให้เกิดความเสียหายแบบย้อนกลับไม่ได้ได้
.
การรู้ว่าตัวเองไม่รู้อะไรก็เป็นเรื่องสำคัญ
.
ที่มาข่าว
http://www.bbc.com/news/world-asia-china-42857864
http://www.iflscience.com/brain/this-chinese-math-question-for-11yearolds-has-left-the-internet-stumped-/

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

42 Nameless Fanboi Posted ID:wvoUjVNvW

>>41 เปลี่ยนจาก จีน เป็น ไทย

เราก็จะได้คำด่ามากกว่า ค.ว.ย. ครับ

#มิตรสหายโอเนตท่านหนึ่ง

43 Nameless Fanboi Posted ID:gPIzlGzj4

ถ้าเป็นคำถาม ในวิชาเชาว์ หรือเปิดมาถามก่อนสอนก็ดีนะ เมื่อก่อนกูก็พยายามหาคำตอบเรื่อยเหมือนกัน บางทีตอบไม่รู้ก็ดีเหมือนกัน

44 Nameless Fanboi Posted ID:JHsyidP5G

มันเหี้ยเพราะเป็นคำถามเด็กประถม

45 Nameless Fanboi Posted ID:TmhRHaCFX

"ชีวิตก็เหมือนตลาดคริปโต ฯ แหละ มีขึ้น แล้วก็มีลง มีลง มีลง มีลง แล้วก็ลงอีก คิดว่า Bottom แล้วก็ยังจะลงได้อีก
เหมือนจะลงไม่ได้แล้วก็ยังจะลงต่ออีก"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

46 Nameless Fanboi Posted ID:fXpuUNJuu

VI ท่านหนึ่ง บอกให้ซื้อตอนราคา ต่ำกว้าพื้นฐาน เพราะนานๆไปราคามันจะกลับมาเอง

47 Nameless Fanboi Posted ID:PAp38KSno

>>46 วิเคราะห์พื้นฐานผิด รอมันกลับขึ้นไปจนหุ้นกลายเป็นกระดาษก็มีเยอะแยะ

48 Nameless Fanboi Posted ID:EyTiGU4W3

>>46 เทพวอเรนยังเลิกใช้หลักการนี้แล้วเลยหันไปซื้ออันที่ดีแต่ราคาสมเหตุสมผล​ดีกว่า เพราะเล็งแต่ของถูกเล็งผิดได้หุ้นกระดาษ​ก็เป็นไปได้สูงของดีจริงมันไม่ลงมาให้มึงซื้อถูกๆบ่อยๆหรอกนานๆมาที

49 Nameless Fanboi Posted ID:6izRv4VNw

เห็นว่าเจ็บเพราะดีล ซื้อ เทสโก้โลตัส ไปเยอะว่ะ อ่านเอกสารก่อนซื้อเห็นว่าดีพอไง พอเข้ามาดู ไอ้เยะแม่ ผู้บริหารเทสโก้แต่งบัญชีเอาโบนัสเข้าตัวหลานปีแล้ว

50 Nameless Fanboi Posted ID:FX4Uw9fKt

เท่าที่ประสบมากับลูกกะตาของตนเอง พบว่าคนที่อยู่ในระเบียบวินัยนิยมความโซตัสอยู่ในกรอบอนุรักษ์นิยม มักจะลงหลักปักฐานมีความมั่นคงในชีวิตก่อนเพื่อนอ่ะครับ พอสร้างครอบครัวมีภรรยามีลูกก็ยังเห็นขับบิ๊กไบค์ตามหาฝันต่อได้
.
ส่วนพวกต้านอำนาจนิยมตั่งต่างนี่ พบว่าอายุ 40-50 ปี ยังไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่งก็มีอ่ะครับ เอาเวลาไปเสียกับสิ่งเหล่าเนร้ค่อนชีวิต - -"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

51 Nameless Fanboi Posted ID:YnZPXfJWw

>>50 ว้อท

52 Nameless Fanboi Posted ID:pxQRZhH83

มีเหตุผลนะ เพราะอยู่กับโซตัสได้ก็ถือว่าอยู่ในสังคมเป็น และคนอยู่เป็นจะไปไวกว่าคนที่อยู่ไม่เป็นเป็นเรื่องปกติ

พวกไอดอลเดือนตุลาที่ไม่มาอยู่ขวาแต่ละคนไม่มีใครเป็นใหญ่เป็นโตเลยนะ พวกเกษียรหรือชาญวิทย์เอาจริงก็ไม่ซ้ายขนาดนั้นหรอก ก่อนหน้านี้ก็อิงขวามานาน ถึงได้เป็นใหญ่เป็นโตทุกวันนี้

53 Nameless Fanboi Posted ID:wWdssWl+d

>>52 ไม่เกี่ยวมากหรอก พวกคลั่งๆนี่ถ้าอยู่กับโซตัสแบบฉลาดๆซะมากกว่าถึงจะก้าวขึ้นไปอยู่ดีมีเงินใช้ได้ แล้วพวกงั่งๆโง่คลั่งแบบไม่ลืมหูลืมตาจนอายุสามสิบยังเกาะแม่แดกแต่ฝันอยากเป็นนักวาดการ์ตูนแบบไอสวะวุธ หรืไอห่านวย เตโชพันธ์ก็มีให้เห็นร่ำไป ระบบเอื้ออำนวยหรือไม่ต้องดูตัวเองด้วยว่าอยู่แล้วจะรุ่งหรือร่วง

54 Nameless Fanboi Posted ID:98LNuGV.0

ถ้ามึงเป็นฝ่ายต่อต้านจริง มึงก็เหลืองานไม่กี่อย่างคือ เป็นเจ้าของกิจการเอง หรือเกาะพ่อแม่แดก,คนอื่นคอยเลี้ยง

55 Nameless Fanboi Posted ID:2Q3odpgy7

commie = loser

56 Nameless Fanboi Posted ID:wHJxO3nOA

>>54
ตลกล่ะ บัวแม่งมี 4 เหล่า ไม่เกี่ยวกับระบบเลยห่า

57 Nameless Fanboi Posted ID:wHJxO3nOA

คนที่อยู่ในระบบใช้เงินสดหรือเงินผ่อนกีคน คนที่อยู่นอกระบบใช้เงินสดเงินผ่อนกี่คน ประเด็นคือ ความสำเร็จวัดกันที่ใจต่างหาก ใจสู้ก็ชนะ

58 Nameless Fanboi Posted ID:opLSO2U.L

>>56-57 คล้ายๆกับแม่มึงที่เป็นบัวใต้ตมหีแหกให้มึงออกมารกโลกแล้วตายห่าคาท่าเรือคลองแสนแสบเพราะไปเป็นกะหรี่ให้ขอทานเอาแต่โดนขอทานไล่รุมเอาเศษรกหมายัดหีที่ป้ายรถเทล์ตอน1วันก่อนคลอดป่ะ?

59 Nameless Fanboi Posted ID:wHJxO3nOA

>>58
กูว่าใช้เหตุผลพูดน่ะ ไม่ได้ด่ามึงด้วย
ตั้งสติไอ้สัส

60 Nameless Fanboi Posted ID:4Du/TYLyD

มันโทรลมึง

61 Nameless Fanboi Posted ID:6rn8t7SUO

ในภาพยนตร์ที่มีเธอเป็นนางเอก
ฉันจะไม่ขอเป็นพระเอก
ไม่ขอเป็นตัวรอง
และจะไม่ขอเป็นตัวร้าย
แต่จะขอเป็นเพียง 'สบู่' ประกอบฉาก
ตอนที่เธออาบน้ำก็เท่านั้น
อ่ะครับ . .

#มิตรสหายขาด้วนท่านหนึ่ง

62 Nameless Fanboi Posted ID:FLAQi2pO2

>>61 นึกถึงการ์ตูนเรื่องหนึ่ง
พระเอกประสบอุบัติเหตุร้ายแรง ปรากฎว่าด็อกเตอร์พาร่างไปผ่าตัดออกมาเป็นดิลโด้

รู้สึกจะ2ตอนจบ

63 Nameless Fanboi Posted ID:jjD4vd9yS

"อ่านเจอเรื่องน่าสนใจจากเพื่อนในเฟสบุค

เหตุเกิด ณ เซเว่นแห่งหนึ่งในอ.สายบุรี

ขณะกำลังต่อคิวจ่ายเงิน มีเด็กสาวคลุมฮิญาบกำลังลุ้นอะไรสักอย่าง แล้วข้าพเจ้าก็พบว่าเด็กกำลังลุ้นให้พนักงานรีบดำเนินการจองตั๋วคอนเสิร์ต ของนักร้องเกาหลีวงหนึ่ง
พอจองได้สำเร็จ เด็กสาวคนนั้นตะโกนดีใจดัง
สิ่งที่ทำให้ข้าพเจ้ายิ่งตกใจ คือ เมื่อเด็กจ่ายเงิน ในราคาหกพันบาท ซึ่งนั่นคือบัตรราคาที่แพงที่สุด แล้วพูดต่อว่าจะจองในอีกรอบของอีกวันด้วย ในราคาพันห้าร้อยบาท...

เมื่อจองเรียบร้อยเด็กสาวคนนั้นดีใจหนักมาก.... เงินเจ็ดพันห้าที่สำหรับบางคนคือเงินเดือนทั้งเดือน....
เมื่อทุนนิยมมากลืนกินวัยรุ่นในพื้นที่แบบนี้ แล้วเราจะรับมืออย่างไรกับเรื่องแบบนี้ก็น่าคิดไม่น้อย"
- มิตรสหายชาวมุสลิมท่านหนึ่ง

"ด่าทุนนิยมแต่มึงก็เข้าไปซื้อของในเซเว่น อย่า ดจร."
- มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง

64 Nameless Fanboi Posted ID:XkPpsXlp3

คนเกลียดทุนนิยมเยอะ แต่ไม่รู้จะไปไหนกันดี

65 Nameless Fanboi Posted ID:GlelMwueP

>>64 คอมมิวนิสต์โอ้เย้

66 Nameless Fanboi Posted ID:aNGh/m8QX

>>61 ปรากฏว่านางเอกมีเพื่อนเป็นกระเทยควายมาค้างและอาบน้ำที่บ้านนางเอก

67 Nameless Fanboi Posted ID:6udgYgZhH

>>64 สังคมนิยม รัฐสวัสดิการ

68 Nameless Fanboi Posted ID:7PBTIORdp

ทำไมมึงจะไม่โดนหมายจับล่ะ ก็เสือก "ตัดควย" เหยื่อทุกราย ตำรวจก็ต้องพุ่งเป้ามาที่มึงสิ เพราะเป็นคนเดียวที่มีปัญหากับควยอี 7 คนนี้
ถ้าไม่ตัดควย ตำรวจก็ยังพอคิดว่าเป็นการฆ่ากันเพราะเรื่องอื่นได้ แต่พอมึงตัดควยไปเป็นที่ระลึกเป็นองคุลีมาล ตำรวจเลยรู้เลยะว่าใครทำ แล้วจะลงทุนปลอมตัวทำไมวะ

69 Nameless Fanboi Posted ID:gqfwjMOzJ

>>64 มันมีระบบไหนหนีทุนนิยมพ้นมั่งวะ? ไอ้ระบบนี้มันอยู่กับมนุษย์เรามานานโคตรๆแล้วนะ ระบบน่ะมันไม่ได้แย่หรอกเพียงแต่ไอ้คนใช้เนี่ยไร้จรรยาบรรมากกว่า

70 Nameless Fanboi Posted ID:+HUFUvIZK

>>65 https://i.imgur.com/U0XJRUm.jpg

71 Nameless Fanboi Posted ID:IEJPOpoZu

>>68 กูก็งงกับนางเอกเรื่องนี้พอตัว ในนิยายนี่ไม่มีทรมานเหยื่อไรเลยนอกจากปลอมตัวมาฆ่าแล้วรีบๆหนี แต่ฉบับดัดแปลงล่าสุดนี่ก่อนจะฆ่าเสือกจับมาทรมานเล่นแล้วตัดควยเหมือนคนไม่มีงานมีการทำ (ใครงงว่ามธุสรทำงานอะไรนะ ในเนื้อเรื่องนิยายคือมันทำงานเป็นช่างแต่งหน้าตามที่ต่างๆ)

72 Nameless Fanboi Posted ID:6hMV.LVIF

Lenin rose up against the Tsar on Nov 7.
Trump got elected on Nov 7.

Trump is Lenin confirmed.

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

73 Nameless Fanboi Posted ID:YezIPmjQN

>>64
คนใต้ที่เป็นเถ้าแก่สวนยางตัวจริง รวยฉิบหายกูบอกให้ ปัญหาของทุนนิยมคือไอ้พวกมีน้อยไม่ประมาณตนนีแหละ เช่นทำงานกินเงินเดือนไปวันๆ แต่เสือกอยากหรู แล้วไอ้ไทยเป็นกันเยอะด้วยสิ

74 Nameless Fanboi Posted ID:zfPoNc+J.

>>69 ปกครองโดย AI. ที่ไม่มีความโลภ และกำจัดมนุษย์ออกไปให้หมด

75 Nameless Fanboi Posted ID:MKM1kSike

“ขนาดประธานบริษัทอิตาเลียนไทย ต้องออกล่าสัตว์หาอาหาร คิดดูว่าเศรษฐกิจมันแย่ขนาดไหน”
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

76 Nameless Fanboi Posted ID:X99WAX2mu

>>75 ล่าเพื่ออาหารหรือเพื่อสนองกิเลสวะคุณมึง

77 Nameless Fanboi Posted ID:Mo98FmuRn

>>76 เราล่าสิ่งมีชีวิตเพื่อกิน การกินสัตว์ที่ล่ามาได้นั้นเป็นการเคารพต่อคุณค่าของสิ่งมีชีวิตตัวนั้น ถ้าไม่กินเราก็ไม่ล่ามัน
-โทริโกะท่านหนึ่ง

78 Nameless Fanboi Posted ID:RwroW29gv

>>73 เหรอ บ้านกูนี่ญาติฝั่งพ่อทำสวนยางกันนะ ทำแบบแนวผสมเหมือนแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงเลย(พื้นที่40 ไร่) ปลูกยางด้วย มาทำทุเรียนด้วย มังคุดนี่บางทีก็เก็บๆเองบ้าง ไม่ได้รวยอย่างที่มึงคิด พอเหลือแดกเฉยๆ อยู่รอดไปเป็นช่วง แถมดูแลพืชพวกนี้นี่แม่งถ้าวอนท์กำไรแบบทุกเม็ดเลยนี่คือต้องดูทุกเรื่องอ่ะ ทั้งค่าปุ๋ย โรคระบาด ขโมย(ทั้งคนและสัตว์) ศัตรูพืช สภาพอากาศ สารอาหารที่พืชต้องการเพื่อผลที่ดี ปริมาณปุ๋ย สภาพดิน (น้ำกูไม่แคร์เพราะบนเขาติดแหล่งน้ำฟรี ต่อท่อเอา บิบิ) ต้องก่ะให้เป๊ะที่สุดเท่าที่จะทำได้อ่ะมึง มันไม่ใช่ง่ายๆกับพืชต้นใหญ่ๆอย่างพวกลองกอง ทุเรียน มังคุด หรือยางเองเลยนะ นี่ลามไปยันดูตลาดอีกว่าช่วงนี้อะไรขาดอะไรเกินแล้วอะไรที่ควรจะปลูกเยอะๆแล้วลดอีกอันเพื่อให้ขายได้ เยอะสัสๆ แล้ววิชาการเกษตรบ้านเรานี่แม่งที่ดีๆมีมันสมองออกไปเชิงวิจัยซะมากกว่าการตลาดด้วยอะดิ

79 Nameless Fanboi Posted ID:xMkiZl7Z2

>>78 พ่อมึงเท่มาก

80 Nameless Fanboi Posted ID:x6+f/UHLu

>>78 เออถามหน่อย ไอเศรษฐกิจพอเพียง 30 30 30 10 อะไรเนี่ย ถ้าแบบมีแต่ที่เปล่าๆของตัวเองไม่มีเงินเลย แล้วไม่สามารถรับความช่วยเหลือได้ (รับเมล็ดพันธ์หรือลูกปลาเงี้ย) ทฤษฎีนี้มันใช้ได้จริงมั๊ยวะ เพราะกูคิดว่าต้นไม้หรือสัตว์ที่เลี้ยงจะโตคงอดตายกันพอดี ไหนจะหนี้สิน รวมถึงสถานที่ที่ปลูกก็ไม่เหมือนกัน

81 Nameless Fanboi Posted ID:nZL/F/ZbI

>>80 ไม่เวิก มึงทำหลายอย่างใช่ว่าจะขายได้ทุกอย่าง แถมการคุมมาตราฐานก็ยากเข้าไปอีก
ใช่ว่าปลูกมาเท่าไหร่คนมันจะรับหมดโดนคัดทิ้งแน่นอน
แล้วหลายๆ หมู่บ้านทุกวันนี้ก็ไม่ได้อยู่แบบตัวใครตัวมันแล้ว มันอยู่กันเป็นกลุ่มบ้านหลายหลังติดกัน
ถึงเวลาทำงานค่อยออกไปที่นาของตัวเอง

82 Nameless Fanboi Posted ID:ztin0uCfG

"ใครจะรู้ว่าแท้จริงแล้วท่านเปรมชัยได้ต่อสู้กับขบวนการลักลอบยิงสัตว์ป่าที่มีนายสับ วาปี เป็นผู้บงการรายใหญ่ แล้วนำซากสัตว์กับอาวุธเตรียมไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ เฮ่ออ พรุ่งเนร้พี่โจวตื่นมาต้องล่าชื่อในเช้นต์ดอทโออาร์จีเพื่อแจ้งความจริงตัวเนร้ต่อชาวประเทศชาติไทยเราครับ"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

83 Nameless Fanboi Posted ID:p3H0Y6HSX

เทหมดหน้าตัก

และชนะ

ปัญหา คือ ออกจากบ่อนหรือยัง ?

84 Nameless Fanboi Posted ID:TzvDOfbVK

>>78 เถ้าแก่​สวนยางของจริงมันต้องมีสวนหลักร้อยไร่ว่ะ แล้วจ้างตัดอย่างเดียวส่วนตัวเองก็ทำตัวเป็นคนกลางรับซื้อน้ำยางไปขายต่ออีกที ถ้าต้องมาทำเองแล้วมีที่แค่นั้นเรียกว่าชาวสวนระดับมีนทั่วไป

85 Nameless Fanboi Posted ID:mTBLh4SwT

>>80 เกษตรหมุนเวียนกูว่ามันเหมาะกับเกษตรกรที่ทำมาหากินกับการปลูกนู่นนี่อยู่แล้วว่ะ โดยไอเดียแล้วกูว่ามันหมายถึงการสร้างรายได้หลายทางนั่นเอง โดยที่แต่ละอย่างก็เกื้อหนุนกัน มันประยุกต์ได้กับทุกสายอาชีพนั่นแหละ อย่างกูเป็นกราฟิก ก็รับฟรีแลนซ์ด้วย(จะเลิกรับละ) ขายสต๊อกโฟโต้ด้วย ตัดเพลงตัดต่อคลิปเป็นงานอดิเรกด้วย สกิลต่างๆ ที่ได้มันก็เอื้อกันหมด แถมมีรายได้เข้าหลายทางด้วย อะไรประมาณนั้น หรือถ้าเจ้าใหญ่ๆ มึงลองดูสิ่งที่ทรูทำอ่ะน่าจะเก็ท

86 Nameless Fanboi Posted ID:O342GFQgx

>>80 ตามที่ >>81 ว่านั่นแหละคือมีหลายคนพยายามทำจริงแต่มันไปไม่รอดว่ะ เพราะไม่มีตลาดรองรับ สมมติมึงทำนามีคนรับซื้อในท้องถิ่นถึงที่หรือไม่ไกล แต่พอมึงแบ่งนามา ทำสวนลำไย​ เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ดันไม่มีแหล่งรับซื้อ จะขายก็ต้องไปส่งเองซึ่งมึงทำเล็กๆเพราะแบ่งที่เดิมมาทำผลผลิต​ก็ไม่มากพอ จะขนไปเองก็ไม่คุ้ม สุดท้ายคนส่วนใหญ่​ก็ต้องเลิกทำ เพราะได้ไม่​คุ้ม​เสีย​ ที่ยังเหลือก็คงมีแต่แปลงสาธิต​ที่มีรายได้จากการหลอกคนดูงานนั่นแหละ ไม่งั้นมันเอาผลงานมาโชวทำ pr ไปทั่วแล้ว โฆษณา​มาเป็น10ปี แต่ไม่มี pr เชิงประจักษ์​เลยก็ควรรู้ได้แล้วว่าทำไม่ได้จริง แต่คนเมืองหลายคนก็ชอบด่าเกษตรกร​ว่าชอบงอมืองอตีนเขามาแนะเทคนิค​มากมายไม่ทำตามโดยไม่รู้เรื่องอะไร

87 Nameless Fanboi Posted ID:nZL/F/ZbI

>>85 อย่างมึงทำหลายอย่างได้เพราะต้นทุนไม่เพิ่มไง(หรือเพิ่มก็นิ๊ดเดียว)
เกษตรทำหลายอย่าง ต้นทุนเพิ่มทั้งนั้น

88 Nameless Fanboi Posted ID:BiDL/Vxj4

จากที่เคยคุยๆกับคนอายุ 50 - 70 พบว่าหลายคนหลงใหลนิยาย "เพชรพระอุมา" และหนังอย่าง "ทอง" "อินเดียน่าโจน" "ขุมทรัพย์โซโลมอน" และฝันอยากถือปืนเข้าป่าไปสู้กับสัตว์ป่าแบบพระเอกในเรื่องนั้นๆ โดยมองว่ามันเป็นความเท่ในแบบลูกผู้ชาย
(ไม่ต้องดูอื่นไกล ผู้กำกับที่ชอบทำละครแนวบุกป่าล่าสัตว์ หรือ ผู้กำกับที่พยายามขายโปรเจ็คหนังแนวเข้าป่าสู้สัตว์ ก็เห็นมีแต่แก่ๆ 50 - 80 ทั้งนั้น)

89 Nameless Fanboi Posted ID:NWY5c+gJ+

>>88 สำหรับคนอายุ20อย่างกู แค่ยุงบ้านกูก็จะตายแล้ว คงไปลุยกับยุงป่าไม่ไหว

90 Nameless Fanboi Posted ID:Wi.AqeERt

>>88 กูโม่งยุค90นะ กูดูหนังท่องป่าแบบอินดี้,romanicing the stones,out of africa กุยังมีฟีลแบบอยากลองปืนไรเฟิลนั่งห้างล่าสัตว์เลย แต่กูก็โตมาในยุคงี้กูก็สงสารสัตว์อะ กูเลี้ยงแมวอยู่บ้านแมวป่วยกูยังเป็นห่วงแทบแย่ ฆ่าคงฆ่าได้แต่ยุงอะ สรุปกูเลยคิดว่าถ้ากูอยากยิงปืนกูคงไปสนามยิงปืน ถ้ากูอยากเข้าป่าก้คงเข้าไปแบบมีแต่มีดไว้อาจจะเอาไว้ตัดนู่นนี่นั่น

91 Nameless Fanboi Posted ID:fz0s.yerN

>>88 ตามนั้นแหละ สมัยก่อนการล่าสัตว์ถือเป็นกิจกรรมยามว่างไม่ต่างจากการไปช็อปปิ้ง ไปดูหนัง ฯลฯ กระแสอนุรักษ์ธรรมชาติมาทีหลังเลยเลิกๆ กันไปเพราะคนรุ่นต่อมาไม่ยอมรับ

อย่างสวนสัตว์ในห้างบางแห่งที่เป็นดราม่ากัน นั่นก็สร้างมาก่อนที่กระแสอนุรักษ์สัตว์-กระแสสิทธิสัตว์จะบูมในบ้านเรา ฉะนั้นจะไปโทษเจ้าของห้างก็ไม่ได้เพราะเขาสร้างมาก่อน

ปอลิง : ก็เหมือนการเอาเด็กๆ นั่นแหละ กูเคยคุยกับคนแก่ๆ อายุเลขห้าเลขหก เขาบอกสมัยก่อนตอนยุคตกเขียว (ตำนานค้ามนุษย์ของแท้บ้านเรา ไปกว้านซื้อเด็ก ผญ จากภาคเหนือมาขายตัวตามซ่องใน กทม. หรือที่อื่นๆ) เด็ก 12-15 หาเอาไม่ยาก แต่ถ้าหน้าใหม่ๆ ก็แพงหน่อย แต่ต่อมากระแสต่อต้านการมี sex กับเด็กเกิดขึ้นทั่วโลก บ้านเราก็เลยเลิกๆ ไปเพราะไม่ใช่แค่ผิดกฎหมายแต่สังคมไม่ยอมรับ แต่ก็มีการแอบทำกันอย่างที่เป็นข่าวละนะ

92 Nameless Fanboi Posted ID:cFE3R0jE8

ปวดใจที่แอบรักคนมีเจ้าของ
และฉันมักจะอดคิด
พร่ำเพ้อไปไม่ได้ว่า
คนของเธอจะทิ่มแทง
ตรงส่วนไหนของเทอบ้างนะ . .

- มิตรสหายขาด้วน

93 Nameless Fanboi Posted ID:PMGWiSoDd

>>84 อ้าว เป็นแบบนั้นเหรอวะ? ถ้าที่ดินเยอะขนาดนั้นกูว่าจะรวยก็ไม่แปลกหว่ะเอาตามตรงเพราะเพื่อนๆกูทำกันแบบที่มึงว่ามาอ่แหละ นี่ขนาดที่บ้านญาติพ่อกู40ไร่ช่วงยางออกยังต้องจ้างคนมาตัดเลยนะ ล่อทั้งสวนคงไม่ไหว หอบแดกตายคาป่ายางก่อน แต่สมัยก่อนที่ราคายางภาคใต้แม่งขึ้นนี่ทำเอาลุงๆที่ช่วยดูแลสวนยางตรงนั้นมีทุนไปทำร้านนวดถึงมาเลย์เลยอ่ะ

94 Nameless Fanboi Posted ID:ne1mePdIM

>>92 ทิ่มแทงทุกส่วนที่มีรู

95 Nameless Fanboi Posted ID:0oSBmyGHo

>>94 รูขุมขน?

96 Nameless Fanboi Posted ID:NTBGNFj6q

"ช่วงอายุ 20 ปีขึ้นไป เราควรทำงานชนิดที่ไม่มีเวลาว่างไปช้อปปิ้ง นี่คือวิถีชีวิตที่ถูกต้อง และเมื่ออายุ 35 ทุกอย่างจะเหมาะสมและถูกต้องแก่การจับจ่าย แล้วเมื่อวันนั้นมาถึงคุณจะช้อปปิ้งสนุกมากที่สุด"

1. ที่บอกว่า "ช่วงอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป เราควรทำงานชนิดที่ไม่มีเวลาว่างไปช็อปปิ้ง"

นี่ถามตรงๆ มีใครสามารถทำแบบนี้ได้บ้างครับ? คือ ต่อให้คุณทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ ทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด คุณสามารถที่จะไม่ซื้ออะไรเลย ไม่ซื้อของ ไม่เดินดูของ ได้ตลอดเลยเหรอครับ ผมว่านะ ไม่มีใครทำได้หรอก อย่างน้อยคุณไปทำงาน คุณต้องกินข้าว ระหว่างเดินไปกินข้าวคุณก็ต้องเดินดูของข้างทางไปด้วยอยู่แล้ว คุณเลิกงานกลับบ้าน แวะกินข้าวที่ห้าง คุณก็ต้องเดินดูของ อาจจะเห็นอะไรที่คุณชอบ คุณก็ซื้อ

เพราะฉะนั้น มันไม่มีทางหรอกฮะที่จะมาบอกว่า ให้ทำงานชนิดไม่มีเวลาว่างช็อปปิ้ง มันหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วครับ คุณต้องกิน ต้องซื้อของ มันคือช็อปปิ้งไปในตัวอยู่แล้วครับ

2. "นี่คือวิถีชีวิตที่ถูกต้อง"

ชีวิตเรามันไม่มีวิถีตายตัวหรอกว่าวิถีไหนถูกต้อง วิถีไหนผิด มีแต่วิถีที่เรารักเราชอบหรือเราเชื่อมั่น ไม่ต้องพูดถึงวิถีทางที่ผิดกฏหมายนะ ไม่มีหรอกครับ วิถีชีวิตที่ถูกต้องที่สุด หรือ วิถีชีวิตที่ผิดที่สุด มันมีแค่ วิถีชีวิตที่เรารักเราชอบ วีถีชีวิตที่เราไม่ชอบ วิถีชีวิตที่จำเป็น เท่านั้นเองครับ

จะมาบอกว่าวีถีนี้ถูกต้องที่สุดมันไม่ได้ บางคนก็ยึดมั่นในวิถีการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ทำงานในสิ่งที่ตนเองชอบตนเองรัก ถึงแม้เงินน้อยแต่ก็มีความสุข บางคนก็ยึดมั่นในวิถีแห่งการหาเงินเพราะมองว่ามีเงินเยอะๆเท่านั้นตนเองถึงมีความสุข บางคนก็ต้องอยู่ในวิถีทางแห่งการทำงานตลอดชีวิตเพราะครอบครัวมีหนี้ไม่มีโอกาศได้ช็อปปิ้งอะไรเลย เป็นต้น

คุณจะบอกว่าวิถีของพวกเขานั้นผิด ส่วนวิถีที่ตัวเองกล่าวมานั้น "ถูกต้องที่สุด" งั้นเหรอ มันค่อนข้างจะเป็นการมองโลกแคบๆไปหน่อยรึเปล่า จะเอามุมมองความคิดหรือวิถีชีวิตของตนเองมาเป็นที่ตั้งแล้วมาบอกว่าเป็น วิถีที่ถูกต้องที่สุด นั้นมันไม่ถูกครับ

3 "และเมื่ออายุ 35 ทุกอย่างจะเหมาะสมและถูกต้องแก่การจับจ่าย"

ใครเป็นคนกำหนดครับว่าอายุ 35 ทุกอย่างจะเหมาะสม? ไม่มีอะไรตายตัวและมาเป็นตัวบอกเราหรอกครับว่าเมื่อไหร่จะถึงเวลาที่เหมาะสม

เหมาะสมที่คุณพูดถึงคืออะไร? คือมีครอบครัว? หรือมีเงินมีทอง มีบ้าน มีรถครับ? หรือแค่เหมาะสมกับการจับจ่ายใช้สอยช็อปปิ้งครับ?

มันใช้ไม่ได้กับทุกคนหรอกครับ อย่างที่บอก ชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับมุมมองว่า เหมาะสม คืออะไร คนเรามีเวลามีโอกาศหาเงินได้ทุกช่วงเวลาของชีวิต อายุขึ้นเลขสี่ไปแล้วก็หาเงินได้และชอปปิ้งได้ ไม่มีอะไรตายตัวและแน่นอนหรอกชีวิตเรา

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

97 Nameless Fanboi Posted ID:tFCFVJHy3

เถียงชนะแล้วได้อะไร?

98 Nameless Fanboi Posted ID:ukl8w7iW6

>>97 ได้ความสะใจ

99 Nameless Fanboi Posted ID:cXsWfuuP9

>>98 งั้นก็เอาไปแค่นั้น

100 Nameless Fanboi Posted ID:5TmyO8KFM

"เรื่องนายป.ที่เป็นข่าวในขณะนี้ผมไม่สงสัยเลย ถ้าเขาล่าจริงเขาล่าเพราะอะไร เพื่อนในเฟสผมที่ชอบเที่ยวป่าเหมือนกันก็คงทราบแบบที่คอเที่ยวป่าทราบกันแหละครับ ว่าเขาล่าเพราะอะไร

" ถ้าวันนี้คนที่ยิงเสือเป็นนายพรานชาวบ้าน ชัดเจนเลย ล่าเพราะ มันเป็นรายได้หลักหลายๆแสนเผลอๆอาจจะถึง ล้านบาทต่อตัว" เพราะชิ้นส่วนเสือขายได้ทุกส่วน แต่นายป.รวยขนาดนั้นไม่มานั่งล่าเสือขายแน่นอน เสือดำเป็นสัตว์หายาก แนวเดียวกับเครื่องรางของขลังเช่น เขี้ยวหมูตัน เขี้ยวเสือกลวง ช้องหมู ในเมื่อเสือดำในอุทยานเชื่องคุ้นชินคนคุ้นชินไฟที่ จนท.เคยลาดตระเวนตามคำให้การ ของ จนท.อุทยานว่า เจอเดินสวนหน้ารถมาก็ไม่แปลกว่าทำไมเหยื่อจึงเป็นเสือดำที่ถูกคมกระสุนพรานกรุง ที่ดูจากสรีระนายป.แล้วหมดสภาพในการแกะลอยแน่นอนเเค่เดินก็ลำบากงานนี้คงเดินสวนรุหรือไม่ก็ส่องไฟเจอตาก็เหนี่ยวเปรี้ยงล้มตึงไปแบบง่ายๆ แหม่ไม่สมศักดิ์ศรีเลยจริงๆถ้าจะเป็นนายพราน

สมัยผมเที่ยวป่า กาญจนบุรีเคยได้รู้จักนายพรานพื้นบ้านหลายคน เวลาต้มกาแฟกินกันยามดึกในป่าก็มักจะเสวนากันบ่อยๆ เคยถามเขาว่าเจอเสือกลัวมั้ยกล้ายิงมั้ย คำตอบคือไม่กลัว แต่ไม่กล้ายิง เพราะพรานป่าชาวบ้านมีแต่ปืนแก๊ปซึ่งอานุภาพการยิงไม่สามารถหวังผลได้ร้อย% และถึงบางคนมีปืนดีอย่างลูกซอง ถ้าใจไม่ถึงก็ไม่กล้ายิงอยู่ดี สมัยก่อนปืนลูกซิงกระสุนถือว่าแพงลูกเก้าลูกโดดราคาขายปลีกเป็นนัดนัดละหลายสิบบาท เสือจึงไม่ตกเป็นเป้าในการล่าเท่าไหร่

แต่หลังๆมานี้มีพรานกรุงถือกำเนิดขึ้นมา พรานกรุงคือคนที่มีฐานะดีไม่จำเป็นต้องมีชาติตระกูลดีแค่มีเงินมากพอจะซื้อาวุธดีดี พรานกรุงมักจะไม่ได้มีบ้านพักอาศัยติดชายเขตป่า แต่เขามีฐานะการเงินดีมีอาวุธปืนที่ดีที่ทันสมัย กระสุนอุปกรณ์อำนวยการล่าเต็มพิกัด พรานกรุงคือคนเมืองที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตในป่า ส่วนชอบล่าหรือไม่ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลไม่เหมารวมว่าพรานกรุงจะชอบยิงสัตว์ทุกคน ด้วยเหตุที่พรานกรุงมีทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมครบเสร็จสรรพ พรานป่าเลยชอบคบหากับพรานกรุง เพราะเที่ยวป่ากับพรานกรุงไม่ต้องกังวลเรื่องอาวุธในการล่า สมัยก่อนค้องขัดห้างดักยิงสัตว์ เยี่ยวยังต้องระวังต้องปลดทุกข์ใส่กระบอกปิดฝา กันกลิ่นลอยไปกระทบสัตว์ที่จะล่า สมัยนี้มีเปลพร้อมผูกได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ต้องมานั่งตัดลูกห้างขึ้นไปผูกเป็นวันครึ่งวัน

(ต่อเม้นล่าง)

101 Nameless Fanboi Posted ID:5TmyO8KFM

(ต่อจาก >>100 )

เเละเมื่อพรานไพรมาเจอพรานกรุง มันจึงเกิดอำนาจการทำลายล้างชาติพันธุ์สัตว์ทุกชนิดที่พบเจอ ขาดความคิดไตร่ตรองแบบพรานไพรที่ล่าเพื่อความอยู่รอดเท่านั้น คณะนายเปรมชัยมีความพร้อมในการล่า 100% ผมบอกเลยตรงนี้ ล่าได้แม้แต่สัตว์ในน้ำเช่นปูปลา ยันนกที่อยู่บนฟ้า เพราะเขามี เบ็ด มีอุปกรณ์การล่าครบทุกมิติดังนี้

เบ็ด- ใช้จับสัตว์น้ำและตุ่นที่อยู่ในรูใต้ดินได้
ปืนไรเฟิล*1 - สมเสร็จยัน-ช้าง
ปืนลูกซองเบอร์20*2 - สัตว์ปีกทุกชนิด กระด่าย นิ่ม หมู เก้ง
ปืนลูกกรด .22LR*3 -(ผมเรียกปืนเเม่ครัว) ล่าได้ครอบคลุมในการหากับข้าวตั้งแต่ ปลาในน้ำ ลิง ค่าง หมู เก้ง กว้าง ค่าง ลิงบนยอดไม้

*1 - ปืนไรเฟิลที่นิยมใช้ล่าสัตว์กันมากคือ 30.06 นี่แหละอานุภาพกระสุนรุนแรงพอดีพอดีไม่ใหญ่เกินไป แถมในคลิปข่าวใช้กระสุนหัวตะกั่วแบบนิ่ม บอกเลยว่าใช้เพื่อการล่าสัตว์โดยเฉพาะ ปืน30.06นี้เป็นที่รู้กันครับว่าใช้คว่ำเสือกันมากที่สุด แต่สำหรับผมถ้าคิดจะล่ามากิน แค่ปืนลูกซอง 9เม็ดก็ยิงเสือคว่ำแล้วง่ายกว่าหมีที่หนากว่าเสือหลายเท่า เสือเป็นสัตว์หนังบาง แต่ถ้าใช้ลูกซองหนังจะไม่สวยเท่านั้นเอง เขาจึงใช้ไรเฟิลไงรูเดียวหนังไม่เสียหายมีราคาและสมบูรณ์

*2-ปืนลูกซิงทั่วไปที่หาง่ายตามตลาดมักจะเป็นเบอร์12 ที่มีลูกขนาดใหญ่กว่า เบอร์20 และที่สำคัญราคากระสุนเบอร์12 ถูกกว่าเบอร์20ด้วย แต่คณะนี้เปนคนมีฐานะจึงมีแฝดค่ายดังอย่า อาย่าไว้ใช้งาน และปืนขนาด20 นี้แรงรีคอลย์ต่ำกว่าเบอร์12 เสียงเบากว่า เหมาะกับป่าประเทศไทยในปัจจุบัน

*3 -ปืน .22LR ค่าย CZ ถือเป็นปืนไรเฟิลขนาดเล็ก มีใช้กันเกือบทุกบ้านทุกสวนในประเทศไทย ลูกราคาถูก ยิงเเล้วเสียงเบาไม่ดังเปรี้ยงปร้างให้ป่าแตก อานุภาพการยิงไม่แรงมากแต่ถ้าเข้าจุดสำคัญเช่นหัว กระทิงก็ล้มได้เช่นกันเพราะหัวกระสุนเล็กมีความคมมาก คนที่เคยใช้จึงเรียกว่าปืนแม่ครัวเพราะใช้ยิงได้ทุกสิ่งอย่างจริงๆ ปลา ในน้ำยันนกบนฟ้าครบทุกมิติ เบา เร็ว แม่นหวังผลได้มาก มีลูกกรดเข้าป่าไม่อดตายครับ

สรุป คณะนี้ล่าสนอง Need ไม่ใช่เพื่อปากท้อง ไม่ใช่เพราะหลงป่า ไม่ใช่เพราะความไม่รู็ใดๆทั้งสิ้น กลุ่มนี้เตรียมการมาอย่างดี ในเรื่องการเข้าออก พักแรม ประกอบอาหาร ปืนที่ใช้ล่า การถนอมอาหาร ครบวงจรจริงๆ เหมือนประเทศไทยไม่มีกฎหมายคุ้มครองเลย ไม่มีความเกรงกลัวใดๆทั้งสิ้นจึงทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ ไม่ควรลดโทษแม้แต่นิดเดียวครับ

อ่านแล้วชอบใจก็แชร์ได้ นี่วิเคราะห์จากประสบการจริงในอดีตที่เคยเป็นพรานกรุงเที่ยวป่ากับพรานไพรเช่นกัน แต่ถึงจะเคยเป็นพรานกรุงแต่ผมก็ไม่เคยคิดจะล่าสัตว์ใหญ่หายากที่เป็นมรดกของผืนป่าเมืองไทย ทั้งๆที่สมัยที่เที่ยวเคยพบสัตว์หายากอยู่หลายครั้ง"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

102 Nameless Fanboi Posted ID:vWytsGtkm

กรมป่าไม้นี่เขาตั้งขึ้นมาเพื่อไว้ตัดไม้นะครับ

ไปจ้างมือ 1 นักล่าอาณานิคมด้านการสูบทรัพยากรชาวอังกฤษจากอินเดียมาบริหารเลยครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

103 Nameless Fanboi Posted ID:SRtLDc97l

ส่วนตัวไม่มีปัญหากับซีรี่ส์วาย แต่ไม่ชอบใจที่เกย์หลายคนเสือกเอาซีรี่ส์วายเป็นต้นแบบในการดำรงชีวิต (การมีคู่) คือ มันเป็นนิยายเพ้อฝันที่ถูกแต่งโดย "คนที่ไม่ใช่เกย์" แล้วพวกมึงยังจะเอามาเป็นต้นแบบชีวิตพยายามจะทำชีวิตตัวเองให้เป็นแบบในซีรี่ส์อีกเหรอ
เปรียบให้เห็นภาพ "เหมือนฝรั่งทำหนังเกี่ยวกับชีวิตคนไทย ซึ่งผิดเพี้ยน ไม่ตรงตามความจริง" แต่เสือกมีคนไทยหลงใหล แล้วอยากเปลี่ยนชีวิตตัวเองให้เป็นไปตามหนังฝรั่งเรื่องนั้น

104 Nameless Fanboi Posted ID:+sqGbhaWj

>>103 ค. ลัทธิลักเพศนิยม (Homosexuality) คือการเสพย์เมถุนระหว่างชายกับชาย และหญิงกับหญิงซึ่งเป็นเพศเดียวกัน ลัทธิเสพย์เมถุนระหว่างหญิงกับหญิงนั้นยังมีชื่ออีกอย่างว่า "เลสเบียนิสม์ " (Lesbianism) "ลักเพศนิยม" ถือว่าเสรีภาพของบุคคลที่จะกระทำการใดตามความพอใจในการเสพย์สุขนั้นมีค่าสูงสุด บุคคลจึงต้องหาความสุขสำราญให้เต็มที่ โดยไม่ต้องคำนึงศีลธรรมอันดีของปวงชน เพราะการเสพย์เมถุนระหว่างคนเพศเดียวกัน ลัทธินี้ถือเอาความเสพย์สุขทางเมถุนเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าชาติพันธ์ของมนุษยชาติ โดยไม่คำนึงถึงว่ามนุษยชาติมีเพศชายและเพศหญิง ซึ่งได้แพร่พันธุ์สืบต่อ ๆ มา ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ มิฉะนั้นมนุษยชาติก็สูญสิ้นชาติพันธุ์ไปพ้นจากโลกนี้ช้านานมาแล้ว ผู้ประพฤติลักเพศและเผยแพร่ลักเพศในชาติใด ผู้นั้นก็ทำลายชาติพันธุ์แห่งชาติของตนเอง อันเป็นอาชญากรรมอย่างมหันต์

มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง

105 Nameless Fanboi Posted ID:SGF9HcsEs

พวกลักเพศจะต้องตกนรกหมกไหม้

106 Nameless Fanboi Posted ID:m/lDaJVX+

ร้อยเอ็ดเป็นพื้นที่สีแดง ของโรคพิษสุนัขบ้า อ.เสลภูมิ ฆ่าหมาทิ้งเป็นร้อยศพ ไม่มีการฉีดวัคซีน ขอดูอาการ อุ้มหายเหมือนทหารอุ้มนักกิจกรรม อ.เมืองมีรถแห่ ขอให้หมาตัวไหนไม่ฉีด จนท มา ก็พามาฉีด ตัวไหนฉีดสวมสร้อยคอที่คลีนิคให้
#โครต2มาตราฐาน
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

107 Nameless Fanboi Posted ID:biBIMktJ6

สนับสนุนการแก้ปัญหาสุนัขจรจัดอย่างยั่งยืนด้วยการจัดปาร์ตี้ลูกชิ้นหมาทุกเดือน ปีเดียวรู้เรื่อง

108 Nameless Fanboi Posted ID:r1h4sPsBV

>>104 "กูเกลียดตุ๊ดและไม่ได้เป็นลิเบอรัล"
-มิตรสหายท่านนั้นไม่ได้กล่าว แต่คาดว่าคงคิดงี้

109 Nameless Fanboi Posted ID:3ATwuA7RR

บางงานแม่งก็ไม่ควรมีพวกโฮโมเซกช่วล มาปนนะ
เพราะสมัยมีเอดส์ใหม่ๆ ระบบป้องกันก็ไม่ดี สถิติมันก็ออกมาว่าเกย์มันมีอัตราเป็นเอดส์มากกว่ากลุ่มอื่นตั้งหลายเท่าตัวเพราะพฤติกรรมแตกในไม่ใส่ถุง
แล้วถ้าเอาไปเข้ากลุ่ม ที่มีความเสี่ยงต้องไปเจออุบัติเหตุให้เสียเลือด หรือเป็นงานที่ต้องมีแผลที่เลี่ยงไม่ได้บ่อยๆ เราจะเอากลุ่มเสี่ยงไปปนให้คนรอบข้างไม่ไว้ใจทำหอยอะไร

110 Nameless Fanboi Posted ID:j8v+ur+Cx

นัดเจอกับผู้หญิงทีไร ก็โดนมองในทางไม่ดีบ้าง จะทำอะไรเธอบ้าง เราเลยบอก ถ้าเจอเราแล้ว อย่าโดนตัวเรานะ
แม่งได้ผลว่ะ ผญ อยากโดนตัวเราแทนอ่ะ พอโดนเราก็แบบ โอ้ยอย่าโดน โดนแล้วมันรู้สึก >< 555

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

111 Nameless Fanboi Posted ID:V7jFNW.dU

>>109 กูไม่ซีเรียสเรื่องเกย์กระเทยทำงานนั้นงานนี้นะ แต่ซีเรียสเรื่องบริจาคเลือด คือขนาด ช-ญ ปกติเขายังรณรงค์กันอยู่เลยว่าถ้ามีพฤติกรรมเสี่ยงก็อย่ามาบริจาคเลย เพราะเมื่อก่อนมันมีเคสมาบริจาคเพราะอยากตรวจว่าเป็นเอดส์ไหม แต่ดันมาช่วงที่ยังตรวจไม่พบ ถึงหลังๆ เทคโนโลยีการตรวจจะแม่นขึ้นและตรวจได้เร็วขึ้น แต่เขาก็ไม่อยากให้กลุ่มเสี่ยงมาบริจาค คือเลือดที่ให้คนไข้มันควรปลอดภัย 100% ไง

แต่เรื่องนี้อย่าไปพูดเชียว โดนด่าเหยียดเพศที่ 3 ได้ง่ายๆ กูโดนมาแล้วทั้งๆ ที่มันเป็นความจริงที่ว่าเกย์กระเทยมีความเสี่ยงเอดส์มากที่สุด (ถุงยางไม่ช่วยเท่าไรนะ ต่อให้ใช้เจลหล่อลื่น โอกาสรั่วหรือแตกก็ง่ายกว่า ช-ญ เอากันอะ เพราะรูก้นมันไม่ได้สร้างมาเพื่อมี sex)

112 Nameless Fanboi Posted ID:YZd704Vi0

#มีเรื่องตลกร้ายเรื่องนึงจะเล่าให้ฟัง คือเจอมาในช่องแชท สดๆร้อนๆในวันนี้แล้วมันก็อดเก็บไว้คนเดียวไม่ได้ เรื่องมีอยู่ว่าวันนี้เปิดอ่านข้อความในแชท ซึ่งมีตกค้างอยู่5-6ข้อความ 1ในนั้นเป็นของน้องผู้หญิงคนนึง สมมุติว่า ชื่อน้องเสตลล่า น้องเขาเข้ามาปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับ พรบ.คอม ซึ่งเธอได้แจ้งความไว้ เธออยากรู้ว่ามีวิธีมั้ย ที่จะทำให้คดีนี้ตัดสินช้า เพราะเธออยากให้จำเลยเรียนจบก่อนค่อยตัดสิน.... แน่ะ ใจดีจัง

" ทำไมถึงอยากให้เขาเรียนจบก่อนร่ะคับ จบก่อนจบหลัง มันก็มีประวัติติดตัวอยู่ดี "

ผมถามเชิงสงสัยในเรื่องที่ยังไม่กระจ่างนัก .... น้องบอกว่า จริงๆแล้ว คนๆนี้คือแฟนเก่าน้องเอง เขาเอาคลิปลับเฉพาะ ไปปล่อยในกลุ่มไลน์ จนมันกระจายในโลกออนไลน์ เพื่อนเธอไปเห็นเข้าจึงแคปมาให้ดู

" เชรดดดดดเข้ !! แล้วจะช่วยเขาทำไม เขาทำร้ายเรานะ "

" หนูสับสนค่ะพี่.... "

เธอตอบเพียงสั้นๆ แต่ผมก็พอรับรู้ความรู้สึกได้ จึงได้แต่ปล่อยให้เธอครุ่นคิดคำตอบ (หรือจริงๆนอนเล่นเกมอยู่ก็ไม่รู้ถึงตอบช้า) จริงๆ เสตลล่ากับแฟนพึ่งเลิกกัน คลิปเนี่ยมันถูกปล่อยไปก่อนจะเลิกอีก... สาเหตุเป็นเพราะเรื่องเรียน เรื่องกิจกรรม ทำให้เราเริ่มห่างๆกัน แล้วเขาก็ปล่อยคลิปออกไป

" หนูคิดว่า... มันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบอ่ะค่ะ "

เธอตอบอย่างมั่นใจ.... แต่ผมก็ไม่ล้มเลิกที่จะยุแยง

" แต่เขาทำร้ายเรานะ คิดดีๆ "........

ระหว่างรอคำตอบจากเธอ ผมใช้เวลานั้นเลื่อนดูแชทอื่นๆไปพลางๆ อันไหนตอบได้ก็ตอบเลย อันไหนตอบไม่ได้ก็ทิ้งไว้ก่อน เหมือนจะหยิ่ง แต่ที่จริงผมโง่

" หนูว่า ด้านดีของเขา มีมากกว่าด้านไม่ดีค่ะ.."

อืมมมมมม คำๆนี้ ทำเอาผมต้องกลับมาย้อนดูเรื่องราวต่างๆมากมายในเพจ คนมากมายติดคุก เสียอนาคตเพียงเพราะด้านไม่ดีเพียงด้านเดียว โดยไม่มีใครสนว่าคนๆนี้จะมีด้านดีบ้างหรือไม่ แฟนเก่าของเธอก็เช่นกัน เพียงอารมณ์ชั่ววูบที่ทำเรื่องไม่ดีไปมันแทบจะทำลายอนาคตเขาได้เลย ในทางกลับกัน หากเสตลล่ายอมที่จะให้เรื่องเสียหายเหล่านั้น เป็นเพียงอดีต ที่มันจะย้อนมาทำร้ายเธออีกเมื่อไรไม่รู้... แลกกับการกู้คืนอนาคตคนๆนึง ผมว่าเธอเป็นเด็กที่มีความคิดที่ดีมากๆคนนึง

" โชคดีของเขานะ ที่ยังมีแสงสว่างส่องถึงด้านดีของเขา ถ้าเรื่องมันยังไม่ถึงชั้นศาล เราก็ลองไปขอร้องตำรวจดูว่าถอนแจ้งความได้มั้ย เราแค่ทะเลาะกับแฟน "

" ขังมันซักอาทิตย์ สองอาทิตย์ไม่ได้หรอพี่ มันจะได้เกรงกลัว "

" ไม่ได้คับ มันเป็นคดีอาญานะ ถ้าเข้าสู่ชั้นศาลมันจะยุ่งยาก เกิดตัดสินติดคุกขึ้นมาทำไง พี่ไม่แน่ใจเรื่องคดีแบบนี้ด้วย พูดยาก เอาแค่จะถอนแจ้งความเนี่ย ตำรวจจะถอนให้มั้ยยังไม่รุ้เลย "

ระหว่างสนทนา แนะนำเสตลล่าเรื่องถอนแจ้งความ สลับกับการเลื่อนดุแชทตกค้างอื่นๆ ผมสะดุดตาเข้ากับแชทหนึ่ง....... #สมมุติว่าชื่อโดมินิค

" พี่คับ พรบ.คอม มาตรา140 พอจะมีทางยกฟ้องหรือหลุดคดีมั้ยคับ คือผมผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ "

ผมไม่ทันได้ตอบอะไรไป แต่สังเกตุจากช่วงเวลาที่เขาส่งแชทมามันไล่เรี่ยกับเสตลล่าเหลือเกิน

" นี่ เสตลล่า แฟนเก่าแกที่ว่า ชื่อโดมินิกใช่มั้ย เขาก้เข้ามาปรึกษาในเพจเหมือนกัน..... "

....... ครั้งแรกเลยนะคับ ที่ต้องให้คำแนะนำทั้งโจทย์ และจำเลย พุดไปก้ตลกดี เสตลล่ามันยังขำ แถมยังบอกอีกว่า

" สงสัยเป็นพรมลิขิตมั้งพี่ ที่ทำให้บังเอิญมาปรึกษาเพจเดียวกัน "

" ถรุยยย นี่ไม่ใช่เพจหาคู่นะเว่ย "

ผมกล่าวติดตลก แต่ดูๆแล้วเรื่องราวคงจะจบด้วยดีหากตำรวจยอมถอนแจ้งความให้ ..........

..... #เพราะในตัวคนๆนึงมันไม่ได้มีแต่ด้านไม่ดี
.....
@เหนือ

113 Nameless Fanboi Posted ID:YZd704Vi0

11.2.18 เป็นอีกวันที่เหมือนได้เห็นด้านมืดและด้านสว่างในระบบการศึกษาไปพร้อมๆกัน #clubfridayชิดซ้ายไปเลย ฟังจบแล้วอยากลุกขึ้นปรบมือ+มอบโล่ให้กับครูทุกคนที่อดทนและแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์สุดๆ 👏👏🏆🏅

Insights: เด็กๆชอบเล่นเกม #RoV มากๆ 🤭🤭🤫🤫

ร.ร.1: เด็กเล่นเกม RoV ในเวลาเรียน สอบตก ติด 0 ติด ร ก็ไม่แก้...
ครู1: จัด tournament แข่ง RoV เวลากลางวันโดยตั้งกติกาในการสมัคร 1. นักเรียนต้องไม่ติด 0 ติด ร 2. ต้องใช้มือถือตัวเองเท่านั้น (แปลว่าถ้าเล่นในเวลาเรียนแล้วโดนยึดคือโดนตัดสิทธิทันที)
ผล: เด็กไปตามแกั 0 แก้ ร กันเพียบ +ไม่เล่นมือถือในเวลาเรียนแล้วเพราะกลัวโดนยึด เดี๋ยวอดแข่ง 😂 -> ความพิเศษอีกอย่างคือสำหรับทีมที่ชนะครูพาไปกินข้าวกับ gamer อาชีพจริงๆ แล้วให้เค้าเล่าให้ฟังว่าต้องมีสกิลอะไรบ้าง ต้องรับผิดชอบกับชีวิตส่วนอื่นๆด้วยเหมือนกันนะหนู

ร.ร.2: เด็กไม่ส่งการบ้าน ติด 0 ติด ร และไม่สนใจจะแก้ (อีกแล้ว)...
ครู2: ประกาศรับสมัครเด็กมาแข่ง RoV บน fb ส่วนตัว ให้เด็กรวมทีมกันมาแข่ง ใครไม่ส่งการบ้าน ติด 0 ติด ร โดนตัดสิทธิ์ ครูเช็คจริงจัง (เพื่อนๆก็มีการเช็คกันเองด้วย 555)
ผล2: 1. ครูวิชาอื่นมาบอกว่าเด็กติดต่อขอแก้ 0 แก้ ร เพียบบอกว่าให้ครูรีบเซ็นว่าเค้าแก้เสร็จแล้วเพราะจะไปเตรียมแข่ง RoV 2. เด็กๆพยายามจัดการเวลาตัวเองมากขึ้น เพราะต้องเคลียร์ให้ว่างพร้อมๆกันทั้งตอนซ้อมและตอนแข่งจริง #จริงจังเบอร์ไหนคะลูก 3.กลายเป็นความสัมพันธ์ระหว่างพี่ๆน้องๆข้ามทีมก็ดีขึ้นเพราะต้องไปนัดแข่งกันเองให้ได้ด้วย lol

ร.ร.3: เด็กมาสาย เข้าห้องไม่ตรงเวลา
ครู3: จัดแข่ง RoV และแจกใบดำ ใบแดงเป็นโทษในเกม เช่น เข้าห้องช้า ห้ามออกจากป้อมตอน 5 วิแรก มาสายต้องรอ 20 วิแล้วค่อยเริ่มเล่น
ผล3: เด็กเข้าเรียนตรงเวลาพร้อมๆกับลากเพื่อนๆให้มาตรงเวลาด้วยเพราะกลัวแพ้ 555+

ครูบางคนถึงขนาดไปโหลดเกมมาลองทำความเข้าใจ และลองไปศึกษาวิธี live ตอนเด็กๆเล่นรอบชิงเพื่ออรรถรสสูงสุด นับถือจริงๆจากหัวใจ ไว้มาดูกันต่อว่าเราจะทำอะไรหลังจากนี้ได้อีกบ้าง เฮ่ #tedclub #staytune #thksforsharing

114 Nameless Fanboi Posted ID:F845a4CC.

"ผมไม่เคยสนใจอยู่แล้วว่า พวกเสรีนิยมจะทำใจยอมรับคำสอนของอิสลามที่คัดค้านรักร่วมเพศหรือไม่ เพราะอิสลามและชีวิตผมไม่ได้มีอยู่เพื่อคนพวกนั้นอยู่แล้ว

ยังไงเสีย พวกเสรีนิยม ก็ตั้งธงไว้แล้วว่า จะขอต่อต้านคนที่ไม่เอารักร่วมเพศอย่างพวกเขา

นั่นก็หมายวามว่า พวกเสรีนิยมก็ไม่ยอมรับนิยามของเพศสัมพันธ์ที่ "ศาสนาโลก" กำหนดไว้แต่แรกแล้ว

เมื่อไม่ยอมรับเรา แล้วเรื่องอะไรจะมาสร้างวาทกรรมว่าเราจิตใจคับแคบที่ไม่ยอมรับท่าน ? ท่านเองก็คับแคบด้วยไม่ใช่เรอะ?

ผมจะตอบสั้น ๆ อิสลามห้ามรักร่วมเพศ เพราะถ้าท่านรักร่วมเพศ พระเจ้าจะไม่ให้ท่านเข้าสวรรค์ พระเจ้าสร้างท่านมาพระองค์มีสิทธิในการกำหนดว่าอะไรคือคำว่า "เพศสัมพันธ์" ที่ถูกต้อง

เรารู้ว่าร่วมเพศกับ "น้องสาว" ตนเองไม่ได้ เพราะพระเจ้าเป็นผู้ตัดสิน

ถ้าเอามนุษย์มานิยามกันเอง ว่าร่วมเพศกับใครได้ไม่ได้ มันก็จะได้อีกหลายแนวคิด

วันดีคืนดี เกิดการนิยามสิทธิทางเพศแบบใหม่ ป้ากับหลานจะขอแต่งงานกัน พี่กับน้องของเป็นผัวเมียกัน ในวัฒนธรรมโบราณใช่ว่าจะไม่มี ถ้ามีใครจะเอานิยามความสัมพันธ์ทางเพศแบบนี้มาเสนอสังคมอีก มันก็จะมีคำพูดสวยหรูสนับสนุนได้ทุกครั้งไปแหละ และนั่นหมายความว่าเราต้องยอมรับมันด้วยใช่ไหมถึงจะเรียกว่า ศรีวิไล หัวก้าวหน้า

คำตอบว่า พระเจ้าไม่ทรงประสงค์รักร่วมเพศ หลายท่านอาจจะแย้งว่า ก็เราไม่เชื่อพระเจ้า

ก็ถ้าอย่างนั้นไม่ดีเบทที่หัวเรื่องไปเลยล่ะว่าพระเจ้ามีจริงไหม ?

บางคนอาจพูดว่า เรื่องพระเจ้าเถียงไปก็ไม่ได้ข้อสรุป ผมก็จะพูดเหมือนกันว่า เรื่องรักร่วมเพศที่เถียงบนฐานไม่มีแหล่งตัดสินจริยธรรมที่ชัดเจนก็ไม่ได้ข้อสรุปเหมือนกัน

ฉะนั้นสำหรับพวกเรามุสลิม การที่ท่านพยายามยัดเยียดให้เรายอมรับว่ารักร่วมเพศเป็นสิ่งถูกต้อง เท่ากับพยายามยัดเยียดความเชื่อที่ว่า พระเจ้าไม่มีจริง อัลกุรอานไม่ใช่ความจริง สวรรค์ไม่มีจริง

เพราะสามสิ่งนี้ไม่ยอมรับรักร่วมเพศ!

ฉะนั้นเมื่อพวกท่านไม่ยอมรับพระเจ้าของเรา แล้วเรื่องอะไรที่ผมจะต้องไปยอมรับ "ความอยาก" ของพวกท่าน

ท่านว่าเราใจแคบที่ไม่คล้อยตาม "ความอยาก" ของท่าน แต่ท่านเองก็ใจแคบที่ไม่ยอมรับอำนาจพระเจ้าของเรา!

ถ้าท่านบอกว่า พวกเรากีดกันท่าน เผด็จการกับท่าน

เราจะตอบว่า ภายใต้รัฐเสรีนิยมของพวกท่าน พวกท่านก็กีดกันสิทธิของเราด้วยไม่ต่างกัน

พวกท่านยอมไหมเล่า ให้พวกเราใช้กฎหมายชะรีอะฮฺ ในหมู่พวกเราชาวมุสลิมกันเอง ? เวลาญาติพี่น้องของเราถูกฆ่าตาย พวกท่านจะยอมให้พวกเราใช้กฎหมายชะรีอะฮฺตัดสินกันเองไหม ? ทำไมต้องบังคับเราให้ตามกฎหมายอ่อนแอของพวกท่าน?
ในรัฐเสรีนิยมของพวกท่าน กำหนดกฎหมายขั้นตำ่ของการแต่งงานแตกต่างออกไป เฉลี่ยคือ 16 จะแต่งตำ่กว่าที่กฎหมายกำหนดไม่ได้เว้นแต่ด้วยอำนาจศาสในกรณีพิเศษจริง ๆ
แต่ในศาสนาเรา เด็ก ม.ต้น หากมีความประสงค์จะแต่งงาน ก็ถือว่าแต่งได้ (บนเงื่อนไขที่เลี้ยงดูครอบครัวได้ด้วย). เพราะเราถือว่า การแต่งงานของเด็ก ไม่ใช่ความเลวแต่ความเลวคือ การมั่วกันของเด็ก ม.ต้น หรือผู้ใหญ่ก็ตาม
เมื่อท่านมีสิทธิบังคับ เราก็มีสิทธิ

พระเจ้าทรงเกรียงไกร"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

115 Nameless Fanboi Posted ID:eyULrG0dP

>>113 โรงเรียนที่ไหนวะ

116 Nameless Fanboi Posted ID:sx72RY0DC

มุกเด็ดวาเลนไทน์เอาไปใช้ได้
วันก่อนทำงานยืนบูธที่ศูนย์สิริกิติ์
ที่บูธที่บีมอยู่มันจะมีให้แสกน QR Code เพื่อทำแบบสอบถามแลกของรางวัล

มีพี่ชายคนนึง จะร่วมกิจกรรม
บีมถือป้าย QR อยู่ระดับอก
พี่ชายยกมือถือขึ้นมา

แสกนหน้าเรา !!!

"อุ้ยโทดครับแสกนผิด"

คิดได้ 2 แบบคือ
1. เราสวย
2. เราหน้าเหมือน QR Code

55555

จบ

117 Nameless Fanboi Posted ID:CotdZZv9a

“ความรักยังคงอยู่ แม้ไม่ได้ครอบครอง”
แม่ชีศันสนีย์

กูว่าเป็นแม่ชีก็ดีแล้ว ชีวิตคงผ่านอะไรมามาก ยกเว้น ควย สำหรับกูรักคือการครอบครองค่ะ รักแต่ไม่ได้ครอบครอง เรียกว่า นก ค่ะ คือมึงโดนเทยังไม่รู้ตัวอีก

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

118 Nameless Fanboi Posted ID:QTYfWvPpG

>>113 เรื่องจริงป่าว
>>117 พูดไปจะหาว่าน้ำเน่า แต่พอมึงรักไปแล้ววันหนึ่งมึงไม่ได้ครอบครองแล้วความรักก็ยังคงอยู่ กูไม่ได้หมายถึงแฟนเก่าทิ้งจากรักกลายเป็นเกลียดนะ กูหมายถึงตอนแม่ตาย

119 Nameless Fanboi Posted ID:mGrdRFKK2

บางที่เราก็ลืมไปนะว่า ค่าตัวคนที่มานั่งประชุมรวมกันหลายชั่วโมง เพื่อแก้ปัญหาเทคนิคอะไรบางอย่าง รวมๆแล้วแพงกว่า เงินที่เราจ่ายเพื่อแก้ปัญหาอีกนะ ยังไม่นับค่าเสียโอกาส ... โลกที่ยังเชื่อว่า ต้องแยก "คนคิด" กับ "คนทำ" ออกจากกัน โลกที่ "คนคิด" คิดว่าตัวเองเก่งกว่า "คนทำ" โลกที่ "คนคิด" ไม่เชื่อใจ "คนทำ"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

120 Nameless Fanboi Posted ID:RPMvQiT8F

>>114 เหมือนจะมีหลักการแต่ปัญญาอ่อนชิบหาย
ที่เค้าให้ยอมรับก็แค่ต้องการให้พวกมุซซี่คลั่งมันยอมอยู่ร่วมกันในสังคมกับเกย์ได้เท่านั้นเอง
ไม่ได้ให้ไปแก้สำสอนดักดานงมงายของพวกมุซซี่เสียหน่อย ยกมาอ้างก็คนล่ะเรื่องแล้ว
แล้วมาทำบอกให้ยอมรับกฏหมามุซซี่ เหี้ยสมองมีแต่ความรุนแรง สอนกันแค่ความคลั่ง

121 Nameless Fanboi Posted ID:f1Y0qWesC

>>120 นั่นดิ จะไม่มีใครสนหรอกว่ามุซวี่จะเกลียดพวกวิปริตลักเพศหรือไม่ ถ้าแม่งไม่มาจับเกย์ผูกคอ โยนตกตึก

122 Nameless Fanboi Posted ID:5nplQEb9r

>>114 ทำไมพระเจ้าไม่ยอมรับหมูอะครับ

123 Nameless Fanboi Posted ID:qV+oumAEF

กูเคยอ่านในเมนต์ยูทูปนะ คนมุสลิมมาตอบเองบอกว่า ท่านนบี เห็นว่า หมู กับสุนัข เป็นสัตว์สกปรกเพราะ กิน อุจจาระ ตัวเอง เลยห้ามมุสลิมกินเพราะทำให้เกิดโรค

กูว่าสัตว์กินพืชบางตัวก็กินอึเพราะมันต้องย่อยซ้ำว่ะ กระต่ายก็กินอึตัวเอง ส่วนหมานี่มุสลิมไม่นิยมเลี้ยงว่ะ แต่แถวบ้านกูดงมุสลิมก็พอมีให้เห็น คงจะเลี่ยงๆกฏ เลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน

124 Nameless Fanboi Posted ID:dpYCwJiM5

ขนาดคนยังแดกขี้เลย (เมล็ดกาแฟ)

125 Nameless Fanboi Posted ID:qV+oumAEF

ต้องดูว่าเขาเอ่ยถึงเมื่อพันปีก่อนด้วยว่ะ สมัยนั้นสุขอนามัยมันไม่ได้ดี ถ้าป่วยด้วยโรคที่ยังไม่มีทางรักษา ถึงตายได้ง่ายๆเลย

126 Nameless Fanboi Posted ID:GrNS49QoJ

ทหารไทยยุคนั้นพลีชีพต่อต้านคอมมิวนิสต์ มาถึงยุคนี้มีแต่ทำตัวเป็นเผด็จการระบอบคอมมิวนิสต์ เลียดากเจ๊กคอมจนเรี่ยม ตายไปคงมองหน้าวิญญาณบรรพบุรุษไม่ได้
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

127 Nameless Fanboi Posted ID:/bjaeSBWB

>>125 อะไรที่เคร่งคัมภีร์มากปัญหาก็ตามมาเพราะยุคสมัยเปลี่ยน พุทธก็เป็นตรงเรื่องพระห้ามครอบครองเงินตรา สมัยพุทธกาลนี่คนอยู่กันง่ายๆ วัตถุดิบทำอาหารปลูกเองหาเองได้ ระบบของแลกของยังมี สิ่งที่ต้องใช้เงินซื้อจริงๆ มักเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย แต่สมัยนี้ไม่มีอะไรที่ไม่ใช้เงินซื้อแม้แต่ปัจจัย 4 การเดินทาง และพระต้องเรียนหนังสือ สมัยพุทธกาลพระคือผู้ขาดจากโลก แต่ปัจจุบันพระถูกคาดหวังให้ต้องรู้ทั้งทางธรรมและทางโลกเพื่อจะได้มีประโยชน์ต่อสังคม แต่การเรียนมันก็ต้องใช้เงินละนะ ใช้มากด้วย ทุกวันนี้เลยเป็นเรื่องเทาๆ ที่คนเลี่ยงจะพูด คือศีลพระศีลเณรห้ามพระจับเงิน แต่ชีวิตจริงก็ต้องจับต้องใช้ (กูไม่ใช่มุสลิมนะ..บอกไว้ก่อนเดี๋ยวหาว่ากูเป็นมุสลิมอีก)

>>126 นายทุนจีนบ้านเราไม่คอมน่ะสิ ถ้าเป็นคอมจะหนีจากบ้านเกิดมาทำไม

128 Nameless Fanboi Posted ID:RPMvQiT8F

>>123 แม่งมโนเป็นตุเป็นตะ อวดว่าพระเจ้ารู้ทุกอย่าง
การทำ Coprophagia ของสัตว์เพื่อปรับสมดุลในร่างกายเสือกไม่รู้
สัวต์กินพืชส่วนใหญ่ก็แดกขี้ กระต่ายงี้

129 Nameless Fanboi Posted ID:d7i0j5DD+

>>127 เรื่องพระจับเงินนี่พูดยากว่ะ ถ้าจับเพื่อแค่พอกินพอใช้ตามสมควรก็ดีไป แต่ส่วนใหญ่พอจับไปจับมาอำนาจเงินมันก็ครอบงำ เริ่มหลงในทรัพย์สิน เริ่มสะสมทรัพย์ ไม่มีใครตรวจสอบได้ ไม่มีใครกล้าตรวจสอบ ภาษีก็ไม่จ่าย ทีนี้ก็โคตรรวยเลย รวยกว่าโยมซะงั้นทั้งๆที่เดิมทีคอนเซปท์ดั้งเดิมของพระก็คือขอทานผู้ขอข้าวขอน้ำเขากินเพื่อให้มีแรงมาศึกษาพระธรรมเพื่อให้หลุดพ้น

เพราะงั้นเรื่องกฎห้ามพระจับเงินนี่กูเห็นด้วยกับบุดด้าเต็มๆเลยว่ะ จริงๆแล้วเขาก็กำหนดให้มีโยมมาเป็นผู้ดูแลเงินค่าใช้จ่ายจำเป็นให้พระกับเณรอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าไอ้โยมคนนั้นทำหน้าที่ของมันให้ดีก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรหรอก หรือถ้ากลายเป็นว่าไอ้โยมคนนั้นมันโกงเงินพระ กูว่ามันก็น่าจะง่ายและสะดวกใจกว่าที่จะลากโยมมากระทืบแทนที่จะกระทืบตัวพระทุศีลโดยตรงจริงมะ เพราะต่อให้มันผิดจริงแต่ถ้ามันดื้อไม่ยอมสึก คนก็คงลำบากใจอยู่บ้างที่จะกระทืบคาชุดผ้าเหลือง

130 Nameless Fanboi Posted ID:sZKUiR.6+

นิยายสยองสองบาท
เรื่อง คนอิสานไม่กินปลาไหล
ผมเคยไปฝึกงานที่โรงงานแช่แข็งกุ้งแล้วถามเขาว่าจะมีโปรเจคอะไรใหม่ๆบ้าง ที่ทำส่งญี่ปุ่น ผมถามว่าทำไมไม่ลองปลาไหลล่ะ วงสนทนาก็เงียบไป แล้วพี่คนนึงก็เล่าให้ฟังว่า แถวบ้านเขาเชื่อว่าปลาไหลเป็นสัตว์กินซาก ตอนเด็กพี่เขาเคยเจอผู้ใหญ่เรียกไปดูซากหมาตายกลางท้องนา เขาพลิกซากหมาให้ดูว่าข้างล่างเจอปลาไหลหลายตัวมันซุกอยู่ใต้ซากหมา ถ้าวันไหนฝนตก แล้วมีซากสัตว์ตาย กลางทุ่ง ปลาไหลมันจะตามกลิ่นขึ้นมาถึงบนบกเพื่อกินซากศพ คนแถบอิสานจึงไม่นิยมกินปลาไหล

ผมยังเคยได้ฟังชาวบ้านริมแม่บ้านเล่าให้ฟังว่า เวลาเจอศพจมน้ำตาย ถ้าเจอช้า ในร่างศพจะเจอปลาไหลเจาะเข้าไปกินอวัยวะภายใน พวกดำน้ำจะรู้ดี

แม่ผมเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนวัดแถวบ้านมีโรงเก็บศพอยู่ริมแม่น้ำ ตรงสะพานข้ามคลอง เมื่อก่อนเป็นที่รู้กันว่า ถ้าเปิดโรงเก็บศพ จะได้ยินเสียงแซ่กๆ คือเสียงปลาไหลมันได้ยินเสียงคนเลยหนี ปลาไหลมันจะขึ้นมาดูดกินน้ำเหลืองจากศพ

ผมได้ฟังแล้วก็ไม่ค่อยอยากกินข้าวหน้าปลาไหลแล้วล่ะ

131 Nameless Fanboi Posted ID:bcyxyR3XA

>>130
>คนอีสานไม่กินปลาไหล

>เมนูต้มเปรตมาจากอีสาน

pick one

132 Nameless Fanboi Posted ID:XqtO2J/mo

>>130 จริงปะเนี่ย...

133 Nameless Fanboi Posted ID:3Fv4JHUXZ

อ่านแล้วพรุ่งนี้ไปหาข้าวหน้าปลาไหลกินดีกว่า

134 Nameless Fanboi Posted ID:vZQJySXAX

จริง ล้างป่าช้าก็จะเจอปลาไหลแอบอยู่ในดินเต็มไปหมด
แล้วปลาไหลทัยกับยุ่นก็คนล่ะสายพันธ์ ของทัยมุดตามโคลนขี้ดินกินซาก
ของยุ่นอยู่ในแหล่งน้ำสะอาด
เรื่องกินไม่กินก็อยู่ที่คน บางคนถือก็ไม่กิน บางคนก็ไม่สน

135 Nameless Fanboi Posted ID:N+qs.BIZG

จริงๆแล้วมนุษย์​เราก็สัตว์​กินซากนะ

136 Nameless Fanboi Posted ID:mUQGVQBVL

สมัยโบราณพืชผักที่กินๆ กันนี่โตมาจากปุ๋ยที่ทำโดยอุจจาระทั้งสัตว์และคนนะเออ

137 Nameless Fanboi Posted ID:0xml4/H35

แดกๆเข้าไปออแกนิคล้วนๆ

138 Nameless Fanboi Posted ID:coGe9OIhy

>>135 ไม่เป็นไร แค่เอามาทำแพ็คเกจสวยๆ แปะป้ายแบรนด์หน่อยมันก็จะดูมีความเป็นซากน้อยลง

>>136 แบบนี้สิดี วิถีธรรมชาติของแท้ ขอแค่ทำให้สะอาดก่อนกินก็โอเคแล้ว ไม่งั้นก็ต้องเลือกเอาระหว่างผักเปื้อนขี้ กับผักเปื้อนเคมี ยาฆ่าแมลง หรือถ้าดวงเฮงหน่อยก็อาจจะได้ผักเปื้อนเคมีที่บังเอิญเคยมีตัวอะไรซักอย่างแวะมาขี้ใส่

139 Nameless Fanboi Posted ID:lPq1wAA58

>>130 ปลาไหล หรือ พยาธิ

140 Nameless Fanboi Posted ID:h.7pDlpsA

https://i.imgur.com/TwqfZGV.jpg
พูดถึงขี้ ประโยคนี้ก็ลอยขึ้นมาในหัว

มิตรสหายมู้เอโรมังงะท่านหนึ่ง

141 Nameless Fanboi Posted ID:YI55FVrrX

>>136 นึกถึงการ์ตูนจีนอันนึงที่เคยอ่านเจอ
คนปลูกผักโดนเจ้าหน้าที่รัฐมาเจอตอนเอาขี้ราดใส่ผัก เลยบอกว่ามันไม่ถูกสุขลักษณะ ห้ามทำอีก
ต่อมาเจ้าหน้าที่คนเดิมมาซื้อผักไปกินปรากฏว่าผักขม เลยไปถามคนปลูกผัก คนปลูกผักก็บอกว่าเพราะไม่ได้ราดขี้ผักก็เลยขม
เจ้าหน้าที่คนนั้นก็เลยถามว่างั้นเอามาราดตอนนี้เลยได้มั้ย

142 Nameless Fanboi Posted ID:/GSY0opeX

Boy : Will you married me..?
Girl : Do you have a house..?
Boy : None but...
Girl : Do you have a BMW car..?
Boy : None but..
Girl : How much your salary..?
Boy : No salary but..
Girl : No but. You have nothing, how I can marry you? Just leave me, please!
Girl goes away..
Boy : talking to himself, I have one villa, 3 plots, 3 ferrari, 2 porche, 1 lamborghini..
Why I still need to buy cheap BMW..?
How I can get a salary when actually I'm the BOSS

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

จริงๆ ต่อให้เป็นบอสก็ต้องมีเงินเดือนนะ #กู

143 Nameless Fanboi Posted ID:YBz.ztnT4

>>142 เพราะคนคุมเงินคือแม่

144 Nameless Fanboi Posted ID:r7MeNhdMC

>>139
ถาม: ปลาไหลเข้าไปในท้องศพได้ไง?
ตอบ: ไชก้นเข้าไปแบบพยาธิ

ปลาไหลกับพนาธิคงเป็นญาติห่างๆกัน

145 Nameless Fanboi Posted ID:YI55FVrrX

“คนเราก็แค่ต้องการเพื่อน เพื่อนนอน เพื่อนกิน เพื่อนช่วยจ่าย*** เพื่อนคุย เพื่อนเล่น เพื่อนช่วยทำงาน เพื่อนช่วยคิด ฯลฯ บางคนได้หมด บางคนได้บางอย่าง บางคนต้องการอย่างแต่ได้อีกอย่าง ดีๆ ชั่วๆ ถูๆ ไถๆ กันไป เพราะเราไม่ได้มีพลังจะศึกษาใครใหม่ได้ตลอด ไม่มีเวลาจะลงทุนแบบไม่มีสิ้นสุด เราต้องการความมั่นคงเรืองนี้เพื่อเอาพลังและเวลาส่วนใหญ่ไปทำอย่างอื่นในชีวิตที่สำคัญพอๆ กันหรือยิ่งกว่า งานการ ธุรกิจ ฯลฯ อีกทั้งสังขารเวลาเข้าโซนขาลงก็ร่วงโรยเร็วอย่างน่าตกใจ หัวล้าน อ้วน เหี่ยว เหนื่อย ปวดข้อ กรดไหลย้อน ฯลฯ และเราไม่ได้สวยหล่อ เก่ง เด่นอะไรนักหนา ยิ่งแก่เราจะยิ่งพบว่าเรานี้ไม่มีอะไร แล้วทุกคนที่แหว่งวิ่นเช่นนี้ก็ต่างมาเจอกันและจับคู่กัน เรามีเวลาเลือกคู่อยู่พักหนึ่งก่อนเราจะไม่เป็นที่ต้องการของตลาด เมื่อเราโยนบ่วงก์ไปคล้องอีกคนสำเร็จ เราอาจสนุกกับการเรียนรู้กันไปซักพัก แต่ยิ่งนานเรายิ่งรู้สึกใดๆ ในโลกล้วนน่าเบื่อ เราจึงอยากมีอะไรที่เป็นของเราจริงๆ สิ่งที่ควรค่าให้เราถวายชีวิตให้ สิ่งที่ทำให้คนสองคนที่อยู่กันพักใหญ่จนโลกอาจเริ่มแยกห่างจากกันรวมเป็นหนึ่งอีกหน สิ่งที่เรารู้สึกมีพลังอำนาจจะควบคุมดัดแปลง อย่างน้อยก็สามสี่ปีแรก ลูก ไง สิ่งยึดเหนี่ยวและพลังขับดันชีวิต แล้วเราก็ไปต่อในสเต็ปต่อไป อันนี้ต้องใช้จินตนาการขั้นสูง ขอติดไว้ก่อน

ไม่มีคำว่า รัก ซักคำ ไม่รู้จะเติมลงตรงไหน เพราะความหมายไม่ชัดเจนขึ้นกับจินตนาการแต่ละคน และเป็นสภาวะที่เลื่อนไหล จับต้องยากเหมือนเวทมนต์ของพ่อมดหมอผี

แฮปปี้วาเลนไทน์เดย์”
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

"ก็บอกไปเลยว่าอิจฉาคนเย็ดกันวาเลนไทน์นี่จะพิมพ์ให้ยืดยาวทำไม"
#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง

146 Nameless Fanboi Posted ID:16wgZile.

#ช่วงฮาหน่อยได้ไหมอ่ะครับกับสายไม่ลับคังคังฉิก

A: เฮ้อ... พรุ่งนี้ก็วันจ่ายแล้ว ตรุษจีนปีนี้ไม่สดใสเลยนะครับ กรุงเทพมีค่าฝุ่นควันในอากาศสูงกว่ามาตรฐานโดยเฉลี่ยอยู่มากทีเดียว สาเหตุหลักของปัญหามลพิษก็เกิดมาจากปัญหาการจราจรซึ่งโครงสร้างขนส่งมวลชนยังไม่ตอบโจทย์ และปัญหามลพิษจากการกระจุกตัวของแหล่งอุตสาหกรรมที่นโยบายพัฒนาประเทศไม่มุ่งกระจายการพัฒนาสู่ต่างจังหวัดนี่แหละครับ

B: ฟังดูฉลาดมากๆครับ ว่าแต่นั่นคุณกำลังทำอัลไลอ่ะครับ

A: ผมกำลังเผากระดาษกงเต็กไปให้อาเหล่าม่าอ่ะครับ

B: เอิ่ม... ซี๊ปังโต้ว

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

147 Nameless Fanboi Posted ID:i4yx+UFmc

ประกวดนางงามสำหรับเลามันคือกิจกรรมฟีมินิสที่แท้จริงนะ เพราะเค้าเลือกจากรสนิยมกระเทยกับผู้หญิงล้วนๆ จนได้เพศหญิงในนิยาม"ความสวย" แบบที่ไม่น่าเยเลย จะรู้สึกน่าเยขึ้นในมุมมองผู้ชาย คือต้องไปผูกกับสัญญะความน่าเยอย่างอื่นเช่น การแต่งตัววับๆแวมๆ ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่มีออร่าความน่าสืบพันธุ์ในสายสายตาเพศตรงข้ามพุ่งออกมา มันคือความสวยในนิยามที่ตอบยาก ว่ามันสวยตรงไหนในสายตาเพศผู้สเตรทแท้ๆ เพราะรู้กันเองแค่ในกลุ่ม Lgtvhd4k กับผู้หญิงเท่านั้น
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

148 Nameless Fanboi Posted ID:Vmm6j2Q08

ถ้าให้ผู้ชายล้วนคัดผู้หญิงด้วยเกณฑ์ความน่าเย่ซ อย่างเดียว คงไม่ต้องทำเวทีประกวดอ่ะ

149 Nameless Fanboi Posted ID:tDJIxxAUP

ทำไมไม่มีนายงามจักรวาลมั่ง

150 Nameless Fanboi Posted ID:Vmm6j2Q08

พึ่งเริ่มมีผัวแห่งชาติเอง ถ้าจะให้มีถึงระดับจักรวาลต้องให้ไอ้ทรัมป์มันลงทุนก่อน

151 Nameless Fanboi Posted ID:n1J+7R.Lp

>>147 แรกเริ่มเดิมทีประกวดนางงามมันมีไว้ล่อพวกใหญ่ๆ โตๆ มาออฟเด็กไปเยรึป่าววะ เยแล้วฟินแบบมีตำแหน่งการันตีงี๊ แต่ยุคสมัยเปลี่ยน จะเยเด็กต้องแอบกินเงียบๆ ไม่ให้นักข่าวรู้ กลายเป็นงานประกวดแฝงโฆษณาแทน ขายสินค้าสวยๆ งามๆ กับผู้ชายแม่งยากก็ต้องขายกับผู้หญิงกับเพศทางเลือกนี่แหละ

152 Nameless Fanboi Posted ID:+GC+4D4U+

>>151 อาจจะส่วนนึง แต่ไม่ใช่ว่าชาติอื่นเขาทำก่อนเรอะ?

153 Nameless Fanboi Posted ID:aBwA7UGTB

คะแนน toeic ไม่เคยเกิน 650 มาเรียนกับครูเบิร์ด ยังไม่จบคอร์สได้ 720 เลย
^
นั่นก็แสดงให้เห็นว่า toeic วัดทักษะภาษาอังกฤษได้ห่วยแตกมากๆ แค่เรียนวิธีทำข้อสอบหน่อยๆก็สอบได้คะแนนสูงๆแล้ว

นายจ้างไม่ควรใช้คะแนน toeic เป็นเกณฑ์ในการรับสมัครพนักงาน เราอยู่ในแวดวงอาชีพที่ใช้ภาษาอังกฤษทำงานมาหลายสิบปี เราพบบ่อยๆว่าคนสอบ toeic ได้คะแนนเกือบๆเต็มเป็นจำนวนมาก ยังฟังพูดอ่านเขียนอังกฤษในระดับใช้ประกอบอาชีพจริงไม่ได้เลย! เพราะส่วนใหญ่พวกเขาไปเรียนทำข้อสอบมา แต่ไม่ได้เรียนเนื้อหาสาระภาษาอังกฤษและฝึกฝนซ้ำๆ (drill) มากพอที่จะใช้ประกอบอาชีพจริงได้

154 Nameless Fanboi Posted ID:2Gekbdv3U

>>153

เพื่อนกูไม่เคยทำแนวข้อสอบ toeic ใดๆทั้งสิ้น ไปสอบได้ 900 เพราะมีประสบการณ์การใช้ภาษาอังกฤษทั้งในชีวิตจริงและการทำงาน

แต่กูเข้าใจว่าเด็กจบใหม่ หรือ คนที่ไม่ได้มีประสบการณ์มาพอสมควร ก็อยากได้คะแนนเยอะๆ เพราะต้องใช้ในหน้าที่การงาน จะมีการติวเกิดขึ้นก็ไม่เห็นแปลก

อีกอย่างที่นายจ้างรับสมัครจาก toeic ทั่วไป เค้าใช้แค่คะแนน reading กับ listening ซึ่งในสายงานที่ต้องฟังกับพูดเยอะๆ เค้าก็ขอคะแนน ielts ด้วยอยู่แล้ว

ก็ต้องดูเป็นบริบทไปปะ ว่าคนทำงานที่เธอ/นาย เจอ ทำงานตำแหน่งอะไร แล้วเค้าจำเป็นต้องมีสกิลที่สูงแค่ไหน

155 Nameless Fanboi Posted ID:284omseXV

ผมทราบมาว่าที่ McGill University กับ MIT มีวิธีการสอนอย่างหนึ่งที่มีประสิทธิผลมาก คือ อาจารย์หา open problems มา แล้วเอามาคุยกับนักศึกษาในชั้นเรียนว่าจะแก้ปัญหาเหล่านี้ยังไง เพราะว่ามันเป็น open problems จึงยังไม่มีใครทราบคำตอบ รวมทั้งตัวอาจารย์เองด้วยนะครับ

นักศึกษาก็จะเสนอวิธีแก้ปัญหามา อาจารย์ก็จะฟัง แล้วพิจารณาว่ามันผิดตรงไหนไหม หากผิด ก็จะให้คำแนะนำ ให้ความคิดเห็นว่าน่าจะทำแบบนั้นแบบนี้ดีกว่านะครับ การร่วมกันคิดแบบนี้ดำเนินไปตลอดทั้งเทอม จนท้ายที่สุดก็จะได้งานวิจัยตีพิมพ์ออกมาเป็นเรื่องเป็นราว

ผมว่าวิธีสอนแบบนี้มีประสิทธิผลมากที่สุดครับ เพราะนักศึกษาได้ฝึกคิดพร้อมกับได้รับคำแนะนำแบบทันที (immediate feedback) จากอาจารย์ นอกจากนี้ ยังได้เห็นอาจารย์คิดแบบสด ๆ ให้ดูด้วย ซึ่งหลายครั้งก็จะผิดเหมือนกัน การเตรียมการสอนมาก่อนจะไม่มีอะไรแบบนี้ครับ

เทอมนี้ผมเลยลองเอาวิธีแบบนี้มาใช้สอนกับเด็กปริญญาตรี ใช้ randomized algorithms ในการแก้ปัญหา wireless sensor network เราจะคุยกันแบบสด ๆ หน้ากระดานดำ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน นักศึกษาเตรียม solution มาให้ผมดู ผมก็จะบอกว่ามันถูกมันผิด มีประสิทธิภาพน้อยมากแค่ไหน สอนแบบนี้สนุกมากครับ นักศึกษาได้เห็นวิธีการคิดของอาจารย์โดยที่ไม่มีการเตรียมตัวอะไรมาก่อน จะเห็นว่าอาจารย์ก็คิดผิดได้เหมือนกัน ที่สำคัญ เขาจะเห็นว่าถ้าคิดผิดแล้ว ควรทำอย่างไรต่อครับ เท่าที่ทำมาก็รู้สึกว่าได้ผลดีมากครับ

ผมคิดว่านักศึกษาได้เรียนรู้อะไรไปเยอะเลย เพราะเป็นการเรียนตัวต่อตัวกับผม คิดผิดคิดถูก ก็เห็นกันเดี๋ยวนั้นครับ ผลงานนี้น่าจะเอาไปตีพิมพ์ได้ในท้ายที่สุดครับ

ใครอยากลองดูก็ได้นะครับ แต่จะต้องจำกัดจำนวนนักศึกษาและเลือกนักศึกษานิดหนึ่งครับ

Cc : Woratham Kh

156 Nameless Fanboi Posted ID:viy8qZfKy

คิดว่าเจตนาจริงๆของตุ๊ดกะเทยเหล่านี้คืออะไร?
ตุ๊ดกะเทยที่เวลาไปออกงานสังคม เช่น งานพรมแดง งานแจกรางวัล งานฉายหนังรอบสื่อมวลชน งานเลี้ยง งานเปิดตัวสินค้า ฯลฯ จะต้องพาชายหนุ่มหน้าตาดี 2 - 8 คน มาด้วย ให้เดินตามหลังตัวเองเป็นขบวน เดินประกบซ้ายประกบขวา
โดยจะไม่พาผู้หญิง หรือตุ๊ดกะเทย หรือผู้ชายหน้าตาไม่ดีมา จะพามาเฉพาะหนุ่มหล่อเท่านั้น แน่นอนว่า เมื่อถามนาง นางจะตอบว่า "นี่เป็นน้องๆที่รู้จักกัน" (มึงไม่มีคนรู้จักเป็นเพศหญิงหรือผู้ชายหน้าตาไม่ดีเลยเหรอ) หรือในกรณีที่เป็นโมเดลลิ่ง ก็จะตอบว่า "นี่เป็นเด็กๆในสังกัดของชั้น" (โมเดลลิ่งมึงไม่มีเพศหญิงเลยเหรอ)

157 Nameless Fanboi Posted ID:j81A/VDgd

เพศที่ 3 บางคนมีปมนะ คือปกติเพศที่ 3 นี่หารักจริงใจยากอยู่แล้ว (เพราะคนส่วนใหญ่เขา ช-ญ กันปกติไง) บางคนที่กูเจอนี่น่าสงสารเลย คือโดน ผช หลอกเสียเงินเสียทองไปเยอะ บางคนเป็นก็ขออยู่เงียบๆ คนเดียว หาเงินกินเที่ยวสุขส่วนตัวเลี้ยงพ่อแม่ไป แต่บางคนก็ประชดด้วยการเอาเงินเปย์ ผช แบบจัดหนักจัดเต็มเลย แล้วก็อวดว่ากูมีปัญญาหา ผช ควงละกัน

158 Nameless Fanboi Posted ID:5CC8/uC+0

>>155 กูสงสัยนานแล้วแนว Open Problem ในเมื่อตัวอาจารย์ก็ยังไม่รู้คำตอบ แล้วมันจะแนะนำนักเรียนที่ตอบถูกได้ไง?

159 Nameless Fanboi Posted ID:gpPMhm7oM

มันต่างไรกับพวกนิกก้าที่ต้องมีสาวๆรุมล้อมวะยิ่งมิวสิควีดีโอนี่สรรหามาโอบล้อมหยั่งกะฮาเรมโชวชาวบ้านว่ากูเป็นยอดนักเย็ด จนประเทศบ้านนอกต้องเลียนแบบ

160 Nameless Fanboi Posted ID:+8Ij8/8UW

>>159
เป็น culture ชาวแร๊ปมั้ง แต่ของ eminem ไม่เคยเห็นน่ะ

161 Nameless Fanboi Posted ID:dbvZltkHq

"หากอยากจะประสบความสำเร็จในชีวิตไปเรื่อย ๆ สิ่งแรกที่ต้องทำให้ได้ก่อนคือการละทิ้งความสำเร็จในอดีตไปให้เหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้น
มิฉะนั้นชีวิตก็จะวนอยู่แต่กับสิ่งนั้นจนไม่อาจก้าวผ่านไปยังเรื่องราวใหม่ ๆ ได้อีก"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

162 Nameless Fanboi Posted ID:XLdPhgFHa

เห็นหลายคนตลกว่าคนที่มีอำนาจ เรียนวิทยาศาสตร์ ฉลาด มางมงายเรื่องโชคลางคุณไสยเหมือนป้าหน้าปากซอย

เอาจริงๆมันอาจจะกลับกัน ว่าเพราะพวกนี้มีอำนาจ เรียนสูง รู้ทุกเรื่อง ถึงได้รู้สึกว่าทุกอย่างควบคุมได้ ไม่ว่าจะนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวแล้ว เงินซื้อได้ทุกอย่าง ไม่ต้องกลัวแม้แต่ว่าจะโดนสั่งเก็บเพราะมีเส้นอยู่แล้ว

เหลือแต่ไสยศาสตร์ที่ไม่รู้ว่ามีจริงรึเปล่าที่น่ากลัว เป็นอันตรายได้ พวกนี้เลยหันมางมงายไสยศาสตร์

เอาจริงๆกว่านั้นคือที่ประเทศไทยเชื่อเรื่องโชคลาง อาจจะเพราะระบบการเมืองของประเทศไทยมันแข็งตัวแล้ว คนมีอำนาจก็จะมีอำนาจไปชั่วลูกชั่วหลาน คนไม่มีอำนาจก็จะอับเฉาไปชั่วลูกชั่วหลาน คนรวยมีโอกาสทุกอย่าง คนจนไม่มีโอกาสเข้าถึงเหี้ยอะไรเลย

สิ่งเดียวที่หวังพึ่งได้คือดวง คนจนก็หวังจะดวงดี ถูกหวย คนรวยก็กลัวแค่ดวงตก ถ้าดวงตกชีวิตอาจพังพินาศ โดนล้างบางทั้งตระกูล นอกจากนั้นก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว ก็เลยเชื่ออะไรก็ได้ที่จะทำให้ดวงไม่ตก
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

163 Nameless Fanboi Posted ID:j81A/VDgd

>>162 เพราะคนยังคุมชะตาตัวเองไม่ได้ 100% ไง แม้แต่ในทางวิทยาศาสตร์ก็ยังมีคำว่า Rare Case ที่หมายถึงเหตุไม่คาดคิดแบบ 1 ในพัน 1 ในล้าน อะไรแบบนี้ ดังนั้นจะรวยจะจนก็ยังหวั่นๆ อำนาจที่มองไม่เห็นอยู่

164 Nameless Fanboi Posted ID:c.b/sztcP

บางทีเราก่อยากเข้าไปเม้นต์บอกในพวกแซะรูปอาหารจานนิดหน่อยๆ ว่าเขาแดกกันเป็นเซ็ตอะครับ บางรูปมันเป็นอาหารในเซ็ต วัฒนธรรมการแดกตะวันตกอย่าไปดูอเมริกาที่แดกอะไร portion ขนาดควายๆ

เซ็ต 9-12 จาน ถ้าทำจานเดียวอิ่ม ก่แดกในเซ็ตไม่ได้ละครับ

แต่เออ ดูละปล่อยให้แดกข้าวมันไก่ ข้าวขาหมูอย่างเดียวทั้งชีวิตตลอดไป
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

165 Nameless Fanboi Posted ID:XLGWc6N.e

ถ้าบิ้กป.ช่วยเหลือป้าทุบรถ แล้วเล่นงานมาเฟียตลาดสดได้ กูจะเลิกล้อนาฬิกาแก

#มิตรสหายหลุดปากท่านหนึ่ง

166 Nameless Fanboi Posted ID:D6idNZw1Z

รุ่นพี่ที่ผมรู้จักแกเปิดร้านรับถ่ายเอกสาร ทำเลก็ไม่แย่มากแต่ไม่ใช่ย่าน ธุรกิจหรือเขตการศึกษา หน่วยงานราชการ

แต่แกกลับสามารถทำรายได้มีเงินหมุนเวียน หลักแสนถึงล้านบาทได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ผมถามพี่ทำได้ไง สรุป เปิดร้านรับแทงบอล
#มิตรสหอยท่านหนึ่ง

167 Nameless Fanboi Posted ID:2G/64iCS5

A: ผมว่าคุณนี่ไม่เคยไหลไปตามกระแสข่าวรายวันเลย น่าจะเป็นคนที่มีมุมมองระยะยาว และไม่โดนสื่อกล่อมให้สมาธิสั้นเกรี้ยวกราดรายวันแบบผู้ใช้โซเชียลมีเดียทั่วไป

B: ห๊า?

C: เขาหูตึงครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

168 Nameless Fanboi Posted ID:dpkSzCxzB

ผมว่าใส่ฉากนี้ลงไปก็ไม่เลวนะครับ

นาย J นั่งยองๆ ทำหน้าเหมือนคนปวดท้องอึอยู่ที่หน้าเวที ครุ่นคิดอนู่นานในที่สุดเค้าก็ตัดสินใจกดโทรศัพท์มือถือต่อสาย ต่อสายหานาย B

ตู๊ดดดด ตู๊ดดดดด แกร๊ก ฮัลโหลว B พูด

นาย J : ไอ้คนที่ไร้จินตนาการ !
นาย J : ไอ้ไม่เคยประดิษฐ์คิดค้นอะไรเลย
นาย J : ไอ้ตัวลอกไอเดียจากผู้อื่นอย่างหน้าไม่อาย
นาย J : ข้าเกลียดท่าน !!!
นาย J : ทั้งหมดนี่ ที่เราเคยพูดกับนายไปอ่ะ เราขอโทษนะที่ผ่านมาอ่ะ เราว่าไอ้เกมส์ที่ Apple ต้องชนะ Microsoft ต้องเจ๊งอ่ะ จริงๆ เราไม่ต้องเล่นมันก็ได้
นาย B : .... หมดตูดแล้วสินะ จะเอาเท่าไหรหล่ะ ?
นาย J : แล้วแต่นายเลยเพื่อน
นาย B : โอโห จะยืมตังทีนึง ยกระดับเป็นเพื่อนเลยนะ ด่าเราเป็นหมาอยุ่ตั้งนาน จะเอา Office ด้วยมั้ยหล่ะ ?
นาย J : กกก กะ ก็ดีนะ ได้ก็ดีอ่ะ แต่ .. ให้เราจริงเหลอเนี่ย เกรงใจอ่ะ ด่าไปตั้งเยอะ
นาย B : เอาไป $150 ล้าน แล้วกันนะ เดี๋ยวโทรไปอีกรอบ ตอนนี้กำลังนับเงินอยู่ ไม่ว่าง เข้าใจป่ะ
นาย J : B, thank you. the world's a battle place เลยอ่ะเพื่อน
นาย B กดสายทิ้งดังแกร๊ก

มีกลิ่นอาย ประวัติศาสตร์นิดๆ เผ็ดร้อนหน่อยๆ ไรงี้

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

169 Nameless Fanboi Posted ID:K5f+4.kD4

เคยไปซื้อของ ละพี่ผู้หญิงข้างหน้า แกซื้อผ้าอนามัยกับน้ำแข็ง พนักงานแม่งยังมีหน้ามาถาม ว่าใส่รวมได้มั้ยครับ พี่ผู้หญิงนิ่งไปสามวิ ก่อนบอกว่า”อย่าดีกว่าค่ะ เดี๋ยวมันเย็น”
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

170 Nameless Fanboi Posted ID:gdrXkOt+W

Black panther คือนิยายต่างโลก ของคนดำอะคับ ไม่ต้องมีทรัคซัง มีแต่ธักไลฟ์ รู้สึกตัวอีกที อ้าว กุเป็นรัชทายาทในอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่กว่าอเมริกา แม่งขายฝันให้คนดำจูนิเบียวคับ เชื่อผม
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

171 Nameless Fanboi Posted ID:wZ+IVJVyN

ปกติหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ จะติดคำพูดเหล่านี้
“อย่าทำแบบนั้นนะลูก” “ระวังนะลูก” “แบบนี้ไม่ดีเลย”
เช้านี้ผมมีเรื่องจริงมาเล่า เกี่ยวกับคำสอนของพ่อ ต่อลูกสาว
เพื่อที่จะไม่ให้โดนคนอื่นหลอก จากฤทธิ์ความมึนเมาจากแอลกอฮอล์

“คำสอนของพ่อ ต่อลูกสาว”
ตอนฉันยังเด็ก ฉันค่อนข้างเป็นเด็กซน เคยคบกับเพื่อนที่นิสัยไม่ดี
แต่ถึงกระนั้นก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร จนกระทั่งถึงวัยที่ “ดื่มได้”
ฉันคิดว่าพ่อแม่ฉันคงจะเริ่มกังวลในตัวฉัน แต่คงไม่รู้ว่าจะบอกฉันยังไงดี
อยู่ดีๆ วันนึงพ่อก็เข้ามาพูดกับฉันว่า

“นี่ เรโกะ ไว้วันไหนออกไปดื่มด้วยกันนะ
พ่อจะพาหนูไปทุกที่ที่อยากไป
และหนูเองสามารถสั่งทุกอย่างได้ตามใจชอบเลยนะ
ไว้เราไปที่ที่สนุกๆกัน มันคงจะดีมากเลยเนอะ”
.
สำหรับเด็กหนุ่มสาวอาจจะไม่ค่อยชอบที่จะต้องไปที่แบบนั้นกับพ่อแม่
แต่อีกอารมณ์นึงเรโกะรู้สึกว่า
น่าจะได้ประสบการณ์อะไรบางอย่างจึงตัดสินใจไปกับพ่อ
.
วันนั้นฉันออกไปกับพ่อสองคน เมื่อเราไปถึงในตัวเมือง
พ่อเอ่ยบอกกับฉันว่า “โอเค ดื่มได้ทุกอย่างเลยนะ
จนกว่าลูกจะดื่มไม่ไหว ไม่ต้องเป็นห่วง พ่อจะพาลูกกลับบ้านเอง
หนูจะทำตัวบ้าแค่ไหนก็ได้ เอาให้สุดๆไปเลย”
.
ตอนแรกฉันก็รู้สึกกังวลว่า แม่จะไม่พอใจถ้าเห็นฉันเมากลับบ้าน
แต่ในเมื่อพ่อเอ่ยปากจะดูแลฉันอย่างเต็มที่แล้ว
ฉันจึงตัดสินใจจะรับโอกาสครั้งนี้เอาไว้

**************************************************
- ร้านแรก : เป็นร้านปิ้งย่างร้านประจำของพ่อ -
สาวเจ้าของร้านแซวพ่อฉันว่า “นึกว่าพาแฟนที่ไหนมาซะอีก”
พ่อฉันก็ดูมีความสุขกับการพูดเล่นของสาวเจ้าของร้าน
**************************************************
- ร้านที่สอง : Nightclub ร้านประจำของพ่อ -
ฉันได้ดื่มเพิ่มไปอีกบ้าง ส่วนผู้หญิงคนที่พ่อเลือกมานั่งด้วยก็แซวพ่อว่า
“นี่ลูกสาวใช่มั้ย ฉันรู้นะ” พ่อฟังแล้วดูมีความสุขมาก
แถมยังบอกว่า “เหมือนผมล่ะสิ ดวงตาเราสองคนเหมือนกันใช่มั้ย”
**************************************************
- ร้านที่สาม: ร้านซูชิ ร้านประจำของพ่อ -
Master พูดกึ่งอิจฉากับพ่อว่า “ดีจังเลย ได้มาดื่มกับลูกสาว
นี่ความฝันของคนเป็นพ่อเลยนะ”
พ่อบอกกับฉันว่า “กินของที่ชอบเยอะๆเลยนะ
ไม่ค่อยมีโอกาสมาด้วยกันแบบนี้บ่อยๆ”
**************************************************
- ร้านที่สี่ : ร้านเหล้าร้านประจำของพ่อ -
..มาถึงตรงนี้ฉันเริ่มไม่มีสติ จำอะไรไม่ได้แล้ว..
ดื่มอะไรไปบ้าง?...คุยกันเรื่องอะไร?...
**************************************************
- ร้านที่ห้า : ร้าน Snack (ร้านเหล้าที่ให้บริการผ่านเคาน์เตอร์) -
..จำอะไรไม่ได้แล้ว...เหมือนฉันฟุบลงตรงเคาน์เตอร์ตลอด
**************************************************

พ่อเรียกแท็กซี่ และอุ้มฉันขึ้นไป
ถึงตรงนี้ฉันจำได้อยู่นิดนึงว่า ฉันพูดกับพ่อว่า
“รู้สึกดีจัง... ขอโทษนะคะพ่อ หนูเมาแล้ว”
“ไม่เป็นไร นอนเถอะลูก”

เช้าวันถัดไป ลืมตาขึ้นแล้วพบว่าฉันนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนตัวเอง
ฉันรู้สึกอายไม่มีหน้าจะไปเจอพ่อ
พอลงไปที่ห้องนั่งเล่นข้างล่างก็ไม่เจอพ่อ พ่อออกไปทำงานแล้ว
แม่ฉันยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้กับฉัน

ใจความเขียนไว้ว่า
“เรโกะ เมื่อคืนสนุกมากๆเลยเนอะ ไว้ไปด้วยกันอีกนะลูก
เมื่อคืนจำปริมาณเหล้าที่ดื่มไปก่อนที่ลูกจะล้มฟุบไปได้มั้ยลูก?

เบียร์ 2 แก้ว เหล้าอีก 5 แก้ว...นี่คือปริมาณเหล้าที่ลูกกินได้นะ

ถ้าคราวหน้าไปดื่มกับใคร ก็ให้กลับบ้านก่อนจะถึงลิมิตนี้นะ
สังคมสมัยนี้ไม่ได้มีเฉพาะคนดี อาจจะถูกหลอกพาไปไหนก็ได้
พ่อไม่สามารถปกป้องลูกได้ตลอดเวลาหรอกนะ
เลยอาศัยโอกาสนี้ในการสอนลิมิตการดื่มของลูก
สัญญากับพ่อนะว่าจะดื่มไม่เกินลิมิตนี้ พ่อเชื่อลูกนะ”

จากพ่อ

ฉันทานข้าวเช้ามื้อนั้นทั้งน้ำตา
แม่บอกฉันว่า พ่อกังวลมานานพอสมควร ว่าจะสอนกับลูกเรื่องนี้อย่างไร
จะห้ามก็ไม่ดี เพราะยิ่งห้ามก็จะยิ่งไม่ทำตาม

“ใช่แล้ว ฟังดูแล้วฉันก็เข้าใจพ่อเลย
เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่ฉันเที่ยวเล่นบ่อยมาก ไม่ฟังใคร”
“พ่อ...ขอบคุณนะ เพราะพ่อสอนฉันวันนั้น ฉันจึงไม่เคยถูกใครหลอกเลย”
“ไม่เคยผิดพลาดในชีวิต เพราะฤทธิ์ของของมึนเมาอีกเลย”
ขอบคุณนะคะ.

คนเป็นพ่อย่อมเป็นห่วงลูกสาวเป็นเรื่องธรรมดา
อีกหนึ่งวิธีสอนที่ยิ่งใหญ่สำหรับหัวอกหัวใจของคนเป็นพ่อ

"พ่อรักลูก ลูกก็รักพ่อนะ"
ใครคิดว่าเป็นคำสอนที่ดี ลองแชร์ให้กับคนเป็นพ่อได้อ่านกันนะครับ
เป็นกำลังใจให้หัวหน้าครอบครัวทุกคน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

172 Nameless Fanboi Posted ID:kLqCHase+

รุ่นพี่ขอคำปรึกษาเมื่อสักครู่ว่าทำไงดี รับไม่ได้ลูกชายจะเป็นเกย์...พี่เลยแสดงความยินดีกับเขาที่ลูกแสดงตัวจนแม่สังเกต ลูกชายไม่เก็บกด และคุยกันนานจนเขาเริ่มจะเข้าใจ...รับได้หรือไม่ต้องให้เวลา...พี่คนนั้นบอกว่าอายเวลาเจอกลุ่มเพื่อนแล้วคุยเรื่องลูกกัน...อันนั้นไม่ได้รักลูกนะคะ เขาเรียกรักตัวเอง

ตอนอยู่อังกฤษก็มีแม่คนหนึ่งมาให้พี่ช่วยบอกลูกชายของนางให้หน่อยว่าอย่าเพิ่งเป็นเกย์ เพราะอายุแค่ 17 พี่ถามกลับไปว่าเกย์ต้องเป็นตอนอายุเท่าไร แม่บอกน่าจะรอถึง 20 นะคะ ลูกถึงจะคิดได้เพราะบรรลุนิติภาวะ...อีแม่คะ เกย์นะคะ ไม่ใช่เกณฑ์ทหาร...นี่แม่ก็อายุ 50 แล้วยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยนะคะ...(อันนี้พี่ไม่ได้พูด)...แต่สุดท้ายก็คุยจนนางเริ่มเข้าใจ...และเริ่มสารภาพว่ากลัวลูกออกไปอยู่ข้างนอก พี่เลยแนะนำให้แม่อนุญาตให้ลูกพาแฟนมาบ้านสิคะ...แม่ดูตาเป็นประกายและมีรอยยิ้ม

อีกบ้านหนึ่งเร็วๆนี้ กลุ้มใจบอกว่าลูกเป็นทอม กลัวลูกสาวจะไม่มีลูก...แม่ขาต่อให้ลูกแม่ไม่เป็นทอม ถ้าไม่มีผัวก็ไม่มีลูกนะคะ และการมีลูกหรือไม่มีลูกให้ลูกสาวคุณแม่เลือกให้ชีวิตตัวเองดีกว่าเนอะ

ข้างบ้านพี่คุณพยาบาลมีลูกชายที่ตอนนี้สวยสุดในซอยและเรียนเก่งเว่อร์ แม่ค้าแถวนั้นเม้าท์ลับหลัง แต่พี่ได้ยินเพราะซื้อมะเขือยาวอยู่ พวกนางบอกว่าเสียดายเนอะ หน้าตาดี เรียนเก่ง ดี๊นเป็นตุ๊ด...อีป้าคะ เหลือบไปมองลูกชายตัวเองข้างแผงที่ไม่ช่วยไรเลย ที่ป้าต้องเลี้ยงดูตลอดแม้โตมากแล้ว ดูเมาๆ และนั่งสูบบุหรี่แบบไม่แคร์สื่อดีกว่านะคะ ...ชายแท้เชียวค่ะป้า ไม่เกี่ยวว่าจะเป็นตุ๊ดหรือเปล่า อยู่ที่ดูแลตัวเองได้หรือเปล่า

เพื่อนนักเรียนชายล้วนเคยเล่าให้ฟังว่า เดินเป็นกลุ่มหมู่คณะ มีแม่เดินจูงลูกชายอนุบาลผ่านหน้า รีบเอาลูกมากอด ปิดตาลูก และพูดว่า "อย่าไปดูนะคะลูก พวกนี้เขาเรียกตัวตุ๊ด" นั่นคนนะคะแม่...ลูกแม่ยิ่งอยากรู้อยากเห็นใหญ่เลยนะคะ โตขึ้นมาเขาเป็นยังไคุณแม่เป็นสาเหตุนะคะ

พวกนักเลงแถวบ้านชอบแซวดี้เรื่อง เย็นๆ อุ่นๆ ของอวัยวะต่างๆ...ไอ้พวกไร้มารยาท ขาดการอบรม และยังเต็มไปด้วยปมแน่นอน แถมชอบพูดลอยๆ ว่าตนเองเปลี่ยนทอมเป็นหญิงได้แน่นอน...แหม ไปขุดดินเหนียวเล่นตรงโน้นก่อนไป๊...มั่นหน้ามากลูกเอ๊ย

เอาล่ะ เขียนมาเสียยาว เพราะอ่านเรื่องเควียร์อย่างเมามันในส่วนละครชาวบ้าน ละครนอก ละครบริติชแพนโท แล้วเพื่อนปรึกษาพอดี เลยอยากบอกว่า LGBTQ เป็นความปกติของมนุษย์ เป็นเรื่องของรสนิยม เป็นความชอบและพึงใจแบบเลือกเอง และเท่าเทียมกัน ไม่ได้เป็นอาการใดๆ ทั้งสิ้น

เป็นหวัดต้องรักษา เพราะแพร่เชื้อโรค
เป็น LGBTQ=Straight คือเท่ากัน และไม่มีใครดีกว่ากัน ดังนั้นไม่ต้องรักษาให้หาย แต่ต้องรักษาเอาไว้ เพื่อหัวใจที่เห็นคุณค่าซึ่งกันและกัน

เขียนทั้งหมดด้วยความเคารพทุก gender and sexual orientation นะคะ เพราะไม่ว่าจะเป็นอะไร เราทุกคนเป็นคนค่ะ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

173 Nameless Fanboi Posted ID:2xPVPTJQ4

>>171 นึกถึงประสบการณ์ที่กูเคยเจอเลย คือตอนกู18ก้แบบ สาวห้าว อยากลองไง ทีนี้ตอนนั้นไปเที่ยวล่ะเค้ามีเบียร์ให้ เปนลีโอเตมแก้ว กูก้อยากลอง ซึ่งพ่อแม่กูไม่ว่าเว้ย กูก็ดีใจดิ ปกติแค่ไวน์ก็ไม่ให้55555 กูก็กินกับพี่(อายุ22)2คน พ่อแม่กูไม่กินเพราะไม่ชอบ(2คนนี้เจอกันตอนทำงานในบริษัทเหล้า ล่ะลาออกหลังแต่งเพราะไม่แดกเหล้าทั้งคู่) พอกูแดกเท่านั้นแหละ อิเหี้ย ขมชิบหาย จะอ้วก แต่กูก็ทำเท่ แดกไปเต็มแก้ว ล่ะแม่งจบที่กูอ้วกออกมาหมด ไม่รุ้ว่ากูแพ้หรือกูแดกรวดเดียว อายมาก แล้วกลิ่นมันยังติดตัวอีก หลังจากนั้นกูถามแม่ แม่กูก้บอกว่า แม่กูก็เคยไปงานเลี้ยงบริษัท โดนบังคับแดกจนอ้วกเหมือนกัน รู้ว่ากูเปนพวกอยากรู้อยากลองเลยให้กูรู้ซะบ้าง ไม่งั้นกูก้จะเห่ออยากลองอยุ่นั่น ส่วนพ่อกุก้บอกว่า ถ้ามันดี พ่อดื่มให้กูดูไปนานล่ะ หลังจากวันนั้นกูเป็นคนเลิกยุ่งกับแอลกอฮอล์เลยว่ะ ถึงเพื่อนจะชวนว่าให้กูกินแบบผสมๆกูก็ไม่เอา ไปไหนมาไหนกูบอกเพื่อนเลยว่ากูไม่ดื่ม เพราะกูจำสภาพที่กูหน้าแดง อ้วกกลางพื้น กลิ่นเบียร์ติดตัว รสขม ร้อนท้อง นั่นไม่ลืม

กูมีลูกคงสอนงี้อะ ช่วงมันวัยรุ่นให้มันจัดซักแก้วเด่วก้เลิก555

174 Nameless Fanboi Posted ID:3HPNumLkV

>>171 กูคิดว่าแนวincest

175 Nameless Fanboi Posted ID:3HPNumLkV

>>173 ห่ามึง วิธีให้ลองดื่มไม่ได้ผลนะ แล้วถ้าลูกมึงชอบรสเหล้าขึ้นมาหล่ะ อย่างกูเนี่ยพ่อแกล้งให้ดื่มตอนเด็กๆ แล้วกูรู้สึกว่ามันคือรสชาติที่ใช่เลย หลังจากนั้นทุกครั้งที่ไปร้าน ตอนที่พ่อกูเผลอกูก็แอบกระดกไปสองสามอึก ส่วนตัวกูชอบเหล้ามันหอมและเข้มข้นอร่อยไงไม่รู้ เบียร์ก็เช่นกัน//ชอบรสชาติเบียร์มากกว่า อาจจะเป็นเพราะไม่ได้ลองเหล้าหบายๆยี่ห้อ สุดท้ายกูก็รอให้กูอายุถูกกฎหมายที่ซื้อแอลกอฮอล์ได้ แล้วจะลองชิมดู กูว่ามันเป็นศิลปะวัฒนธรรมอย่างหนึ่งนะ ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเลย แค่ต้องควบคุมปริมาณไม่ให้ตัวเองเมาแล้วไปก่อเรื่องเท่านั้นแหละ สวยเงามมมมมม🍻🥂🍾🍺🍸🍹🍷🥃

176 Nameless Fanboi Posted ID:dx.YYQeHu

>>175 ดูแลตัวเองด้วยนะ ทั้งเรื่องการควบคุมสติไม่ให้เดือดร้อนชาวบ้าน แล้วก็ดูแลสุขภาพของตัวเองด้วย

177 Nameless Fanboi Posted ID:E8p0K5lqY

>>175 http://i.imgur.com/RNe9Vz2.jpg

178 Nameless Fanboi Posted ID:jQxk5b./Z

ทำอะไรเกินตัว เป็นเหตุแห่งทุกข์หนัก จะขอความช่วยเหลือคนอื่น ก็ต้องปิดบังสาเหตุ นานเข้าก็จะตัดสินใจผิด ฝืนธรรมชาติ เพราะไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

179 Nameless Fanboi Posted ID:Eh1idtsGy

>>175 กูคือโม่งตัวนั้นนะ ความจริงกูก็เคยผ่านประสบการณ์แดกไวน์มาก่อน รุ้สึกแดีกว่านี้มากๆอะ แดกสองสามแก้วยังโอเคตอนนั้นก้รุ้สึกว่าใช้ได้แต่กุก็ไม่ได้ติดใจรสนะ(คือกูไม่ชอบรสแอลกอฮอล์อะ555 แต่พวกกลิ่นเบียร์ กลิ่นองุ่น กูโอเค)

ถ้ามึงสนจริงๆแต่งหน้าจัดๆเข้าร้านเหล้าไปเจ้าของร้านแม่งก้ไม่สนล่ะ อันนี้เพื่อนกุบอก

180 Nameless Fanboi Posted ID:8jlwmQu9h

ลง ICO ไว้ตัวนึงตั้งแต่ปีที่แล้ว

ผ่านไปสามเดือนไม่มีอัปเดตด้าน Development เลย ทวงถามไปก็นิ่ง เขียนเป็น Mentoring Document ยาว 5 หน้าไปเลย พี่แกไม่ตอบ บอกว่าจะ Design First เรื่อง Dev ไม่สำคัญ มี Steve Jobs เป็นไอดอล (จ็อบส์ Design First แต่ก็ให้ทีมพัฒนาไปพร้อมกันโว้ยยย มั่วซั่ว)

แต่ Timeline คืออีกสามเดือน Launch โปรดักส์แล้วนะ แต่ตอนนี้ยังไม่เริ่มทำ จะ Design First สามเดือนที่ผ่านมาเขียนแต่ Document ซึ่งควรจะทำเสร็จตั้งแต่ก่อน ICO แล้ว

ทนต่อสองสัปดาห์ สุดท้ายตัดสินใจขาย Token ทิ้งหมด พร้อมทวีตบอกว่าขายหมดเพราะเชื่อว่าทีม Deliver โปรดักส์ไม่ได้

ห้อง Telegram เอาไปดราม่าด้วยทวีตจากคนธรรมดาคนนี้ทวีตเดียว

โดนคนเอาชื่อไปขุดประวัติ แล้ว Backer คนอื่นดันคล้อยตาม พร้อมรุมกันทวงถามทีมเรื่องการพัฒนาโดยถ้วนหน้า

คนเริ่มเทขายทิ้งตาม

ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ วันนี้วันเดียว Git Repo มี Commit เยอะกว่าที่สามเดือนที่ผ่านมารวมกันอีกจ้าาา

ต้องดราม่าช่ะ คน Silicon Valley สมัยนี้นี่ บ้าจริง ...

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

181 Nameless Fanboi Posted ID:yX+fGkTAt

"เห็นคริสเตียนด่าเกย์แล้วขัดใจ มึงด่าเกย์แล้วแน่จริงเลิกกินกุ้ง กินหมูดิ เรื่องเกย์ผิดอะไรทั้งหลายนี่อยู่ในพันธสัญญาเก่าทั้งนั้น ถ้าสูจะเอาพันธสัญญาเก่ามาอ้างก็เอาให้หมดสิ ไอ้สัส ไม่งั้นก็แดกหมูไปและยอมรับรักร่วมเพศซะ เอาสักทางๆ"
- มิตรสหายท่านหนึ่ง

"นึกถึงอีป้านั่นที่ไม่ยอมจดทะเบียนสมรสให้เกย์แต่ตัวเองหย่ามาสามรอบแล้ว ไอ้สัส ถ้ามึงเคร่งจริง ต้องปาหินตัวเองแล้ว"
- มิตรสหายท่านเดิมในคอมเมนท์ย่อย

182 Nameless Fanboi Posted ID:nzZ3jRv2Q

พุทธแท้ไม่มีตั้งแต่พศ.300(พุทธศตวรรษที่3)หลังพระเจ้าอโศกมหาราชเริ่มบันทึกตำราศาสนา
(ไม่เหมาะสำหรับผู้นิยมว่าเถรวาทไทยเป็นพุทธแท้)

หลักฐานทางโบราณคดีบ่งชี้ชัดว่า
1 ไม่มีเมืองกบิลพัศดุ์และไม่ปรากฎการบันทึกของอินเดีย แต่หลักฐานบ่งบอกว่า เมืองของเจ้าชายสิทธัตถะคือเมือง ติเลาราโกต ซึ่งนักโบราณคดีค้นพบเมื่อปี พศ.2442 ที่ประเทศเนปาล

2 หลักฐานที่นักโบราณคดีค้นพบคือ
เจ้าชายสิทธัตถะไม่ใช่เจ้าชายอินโดอารยันวรรณะกษัตริย์ตามคติพราหมฮินดูอย่างที่พระเจ้าอโศกบันทึก แต่เป็นชนเผ่า ทารู (มองโกลอยด์)ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยของเนปาล(ลักษณะทางกายวิภาคเหมือนคนจีนมากกว่าอินเดีย) โดยสมัยพุทธกาลถือเป็นชนเผ่านักรบที่เข้มแข็ง

3 การที่พระเจ้าอโศกมหาราช หันมานับถือศาสนาพุทธ ทำให้พราหมจำนวนมากแทรกคำสอนของตนใว้กับศาสนาพุทธ(เช่นเรื่องบุญกรรมชาติที่แล้วส่งผลต่างๆกับชีวิต)ซึ่งภายหลังเปลี่ยนให้พุทธะเป็นพระนารายอวตารตามคติฮินดูแทน(ศาสนาฮินดูเกิดขึ้นภายหลังก่อนหน้านั้นเป็นแต่พราหมสอน)

4 นักวิชาการทั่วโลกยอมรับว่า พุทธแบบทิเบตใกล้เคียงกับสมัยพุทธกาลมากกว่าพุทธทุกนิกาย

พุทธที่อินเดียรับอิทธิพลพราห์ม ฮินดู

ที่จีนรับอิทธิพล ลัทธิหยู เต๋า

ส่วนไทยนั้นมีทั้งพราห์ม ฮินดูแบบเขมร และผี

ส่วนทิเบตนั้น สภาพทางภูมิศาสตร์ทำให้ไม่ได้รับอิทธิพลจากลัทธิศาสนาอื่น ศาสนาพุทธแบบทิเบตถือว่าใกล้เคียงของเดิมมากกว่าทุกนิกาย

ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม

1 ตามพุทธประวัติของเนปาล ทิเบต ระบุว่า พระเจ้าสุทโธทนะ สั่งสร้างกำแพงวังให้สูงแล้วให้คน"กระโดดข้ามกำแพง" แสดงว่า วัง ของเจ้าชายสิทธัตถะเป็นวังสร้างจากไม้ แทนที่สร้างจากหิน หินอ่อน ศิลา ไม่ได้มีกำแพงใหญ่โตแบบวังกษัตริย์อินเดียแสดงว่าการอยู่อาศัยเป็นแบบชุมชนที่ไม่ซับซ้อน

2 จากข้อ1 การให้คน"กระโดด"ข้ามกำแพง แสดงว่าต้องมีการฝึกฝนคนให้เป็นนักรบที่แกร่งมากเพราะพื้นที่ของเมืองอยู่ท่ามกลางป่าที่มีสัตว์ร้าย และตามประวัติ ชาวเมืองถือว่ายิงธนูแม่นยำมาก

3 ทั้งการออกนอกวังพบเทวทูตทั้ง4 และการออกบวช ตามพุทธประวัติดั้งเดิมเจ้าชายสิทธัตถะและนายฉันนะต่าง นั่งม้าตัวเดียวกัน อันเป็นรูปแบบของชนเผ่านักรบ ซึ่งผิดกับคติวรรณะแบบพราหมฮินดู ที่กษัตริย์อยู่บนหลังช้างและ กษัตริย์และผู้รับใช้ไม่นั่งม้าตัวเดียวกันอันเป็นธรรมเนียม

4 พุทธเป็นแบบ อเทวะนิยม นั่นคือปฏิเสฐพระเจ้า แต่พุทธไทยนอกจากรับมาจากศรีลังกาที่พยายามแทรกเรื่องการสวามิภักดิ์กษัตริย์แล้ว ก็ยังมีการรับเอาระบบคติเทวะราชาสมมุติเทพของเขมรมาใช้และแทรกเพิ่มเติมอีก ทำให้ พุทธแบบไทยๆไม่เหมือนใครบนโลก

เกร็ดเล็กน้อย
พระพุทธเจ้าไม่เคยทำนายอายุศาสนาพุทธว่าอยู่ถึง5,000ปี
แต่เคยกล่าวตอนพระอานนท์ขอให้พระพุทธเจ้าบวชให้พระนางปชาบดีโคตมีว่า

หากไม่ให้ผู้หญิงบวช พระธรรมอันไม่ปลอมปนจะคงอยู่กว่า1,000ปี

แต่หากให้ผู้หญิงบวชพระธรรมอันไม่ปลอมปนจะคงอยู่เพียง500ปี

ซึ่งพระอานนท์คงกล่าวราวๆว่า 500หรือ1,000ปีคำสอนก็ถูกปลอมปนอยู่ดี บวชให้พระนางผู้เป็น(ดั่ง)มารดาเลี้ยงเถิด

(ต่อคอมเม้นล่าง)

183 Nameless Fanboi Posted ID:nzZ3jRv2Q

(ต่อจาก >>182 )

บางส่วนจากเวปศิลปะ-วัฒนะธรรม

พุทธประวัตินอกกระแส (ในไทย): “สิทธัตถะ” เกิดในสังคมแบบชนเผ่า ไม่ได้ปกครองด้วยระบอบกษัตริย์

ผู้เขียนอดิเทพ พันธ์ทอง
เผยแพร่วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ.2559

การเรียนในหัวข้อพุทธประวัติ (ในระดับต่ำกว่าอุดมศึกษา) ในเมืองไทย ล้วนแต่มีเรื่องราวที่สอดคล้องกันไปในทิศทางเดียวกันว่า “สิทธัตถะ โคตมะ” เป็น พระราชโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะและพระนางสิริมหามายาแห่งศากยวงศ์
อันเป็นราชสกุลวงศ์ที่ปกครองกรุงกบิลพัสดุ์มาช้านาน

ฟังแล้วย่อมทำให้เข้าใจได้ว่า กรุงกบิลพัสดุ์ ปกครองด้วย “ระบอบกษัตริย์” ที่อำนาจปกครองตัดสินและสืบทอดกันด้วยชาติกำเนิด

แต่แหล่งข้อมูลจากต่างประเทศบางส่วนกลับให้คำอธิบายที่ต่างออกไป เช่น โดนัลด์ เอส. โลเปซ (Donald S. Lopez) ศาสตราจารย์ด้านพุทธศาสนาและธิเบตศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยมิชิแกน กล่าวว่า

นักวิชาการจำนวนหนึ่งเชื่อว่า ในช่วงปลายยุคพระเวท ผู้คนในลุ่มน้ำคงคาตอนใต้ของเนปาล ซึ่งรวมถึงกรุงกบิลพัสดุ์ น่าจะรวมตัวกันในลักษณะของ"สภาชนเผ่า"
ปกครองผ่านที่ประชุมผู้อาวุโส หรือผู้นำที่มาจากการลงคะแนนเสียง
ส่วนปราสาทราชวังต่างๆที่ถูกบรรยายในคัมภีร์ทางพุทธศาสนาก็ไม่เหลือหลักฐานทางโบราณคดีมาถึงปัจจุบัน

แม้ตระกูลศากยะได้รับการเล่าขานว่าพวกเขาถูกจัดอยู่ในวรรณะกษัตริย์ แต่ก็ไม่มีหลักฐานเป็นที่แน่ชัดว่าลำดับชั้นทางสังคมของผู้คนในภูมิภาคนี้ได้หลอมรวมเข้ากับระบบวรรณะแบบอินเดียมากน้อยเพียงใด

ด้าน ริชาร์ด เอฟ. กอมบริช (Richard F. Gombrich) นักอินเดียวิทยาและนักวิชาการด้านภาษาบาลี-สันสกฤต และพุทธศึกษา ซึ่งเคยเป็นศาสตราจาย์ด้านภาษาสันสกฤต แห่งมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ก็มีความเห็นไปในทางเดียวกันกับโลเปซ เขากล่าวว่า
กบิลพัสดุ์อยู่ค่อนข้างไกลจากศูนย์กลางอารยธรรมพราหมณ์ (ฮินดู) ตำราของพราหมณ์จึงแทบมิได้กล่าวถึงสถานที่แห่งนี้
และก็น่าสงสัยว่าอิทธิพลของคัมภีร์พระเวทน่าจะยังเข้าไม่ถึงบ้านเกิดของสิทธัตถะ (ในยุคพุทธกาล) เห็นได้จากการที่ครอบครัวของสิทธัตถะเองยังมีการแต่งงานในหมู่เครือญาติ ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวถือเป็นเรื่องต้องห้ามตามสังคมพราหมณ์ และมีความเป็นไปได้ที่ภาษาแม่ของสิทธัตถะจะไม่ใช่ภาษาในตระกูลอินโด-อารยัน

ขณะเดียวกัน กรอมบริชกล่าวว่า การใช้คำว่า “ชนเผ่า” กับสังคมของกลุ่มศากยะต้องมีความระมัดระวัง
เนื่องจากคำนี้ทำให้รู้สึกว่าสังคมดังกล่าว ดูตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่มีการจัดลำดับทางสังคมที่ต่างชนชั้นกัน

แต่กลุ่มศากยะ แม้จะไม่มีระบบวรรณะแต่พวกเขาก็มีคนรับใช้
และการตัดขาดจากภายนอกก็เพียงเพื่อให้พวกเขามีอำนาจในการปกครองตนเองด้วยระบอบการเมืองที่ต่างไปจากสังคมพราหมณ์

จากคำบอกเล่าของกรอมบริช การปกครองของพวกศากยะน่าจะใช้ระบบที่ประชุมของผู้อาวุโส

ซึ่งเป็นตัวแทนจากครอบครัวต่างๆเข้ามาแสดงความเห็นเพื่อหามติร่วมกัน

ซึ่งนักประวัติศาสตร์มักเรียกว่าระบบ “คณาธิปไตย” หรือ “สาธารณรัฐ” ซึ่งมิใช่การปกครองด้วยระบบกษัตริย์แบบสังคมพราหมณ์แน่ๆ
และภายหลังเมื่อสิทธัตถะบรรลุธรรมเป็นพระพุทธเจ้า
พระองค์ก็เป็นผู้ที่นำระบบการปกครองแบบนี้ไปปรับใช้กับการปกครองในคณะสงฆ์ที่ไม่มีลำดับศักดิ์แต่ใช้ระบบอาวุโสเป็นหลัก

ด้วยเหตุนี้ กรอมบริชมองว่า การที่ตำนานบอกเล่าในยุคหลังกล่าวว่า บิดาของสิทธัตถะเป็นกษัตริย์ท้องถิ่นจึงเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ
เป็นไปได้ว่าเมื่อพระพุทธเจ้าได้พบปะกับสังคมพราหมณ์การจะอธิบายสถานะของพระองค์ให้คนกลุ่มนี้เข้าใจ
ก็ต้องอาศัยการเทียบเคียงกับระบบวรรณะของสังคมพราหมณ์
พระองค์ที่มาจากครอบครัวชนชั้นนำในสังคมเดิมจึงแทนตนเองว่ามาจากวรรณะกษัตริย์โดยอนุโลม

นี่ก็เป็นมุมมองหนึ่งของนักวิชาการต่างชาติ (อาจจะถูกหรือผิดก็ได้) ซึ่งต่างไปจากระบบความคิดของผู้ศรัทธาที่ต้องยึดถือ “คัมภีร์” (ซึ่งเขียนขึ้นหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานหลายร้อยปี) เป็นหลัก บางครั้งจึงอาจจะหลงลืมไม่ได้ให้ความสำคัญกับการศึกษาข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ไปบ้าง
เพราะถือว่ามิใช่แก่นสารของศาสนา หากเป็นการศึกษาตามจารีตในวัดวาย่อมเป็นเรียกปกติ

แต่หากเป็นการศึกษาในระบบการศึกษาสมัยใหม่ก็น่าจะให้ความรู้ในเชิงวิชาการและข้อถกเถียงทางประวัติศาสตร์เสริมเข้าไปให้มากเสียยิ่งกว่าเรื่องของหลักธรรม เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความหลากหลายของสังคมสมัยใหม่ด้วย

ที่มา
https://www.silpa-mag.com/club/art-and-culture/article_289
ผมใส่ความเห็นส่วนตัวลงไปบ้าง ไม่ว่ากันนะครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

184 Nameless Fanboi Posted ID:.wEnZguEC

>>182 >>183 ตามไปอ่านต้นทางแล้วมีแต่คนมาเม้นด่าว่าทำให้ศาสนาเสื่อมเสีย กับเอาคำสอนพุทธไทยที่ไม่เกี่ยวห่าอะไรเลยมาคอมเม้นฟลัด
เห็นแล้วเพลียชิบหาย

185 Nameless Fanboi Posted ID:ShtlhA21u

ถ้าอ่านไตรปิฎก ตรงคัมภีร์กถาวัตถุจะมีบอกว่า สมัยอโศกมีนิกายแยกย่อยมา18สำนัก พระเจ้าอโศกก็ไปศึกษาศาสนามา แล้วก็เอามาถามบรรดาหัวหน้านิกายสำนักต่างๆ คนไหนตอบไม่ตรงตามที่อโศกศึกษามาก็เอาผ้าขาวให้ใส่แล้วไล่ไปสึก

สรุปว่าที่สืบทอดมาฝั่งเถรวาทตอนนี้คือที่ถูกจริตพระเจ้าอโศกเท่านั้นล่ะ

186 Nameless Fanboi Posted ID:NkcC8DASv

>>184 ที่จี้สุดคือมีคนบอกพุธเกิดในไทย ที่อินเดียนี่เป็นของที่ฝรั่งโม้ขึ้นมาตอนล่าอาณานิคม จี้ชิบหาย

187 Nameless Fanboi Posted ID:QEfruJ7O.

>>185 กูดูซีรีส์อโศกที่เพิ่งฉายจบไป ติดภาพพระเจ้าอโศกหัวร้อนไปซะแล้ว ไม่รู้ตัวจริงเป็นแบบนี้ด้วยรึเปล่านะ แต่ในซีรีส์แม่งเวลาเจออะไรขัดใจพี่แกเอะอะจะบวกอย่างเดียว ทำกูลุ้นในใจตลอดว่าพี่คับๆใจเย็นๆก่อน snickers รองท้องหน่อยมั้ย 55555

188 Nameless Fanboi Posted ID:g0jylB6DG

อันนี้กุเคยไปดราม่าใน pantip มาแล้ว กุขอแค่หลักฐานการมีตัวตนของพระพุทธเจ้าแม่งยังหามาให้ไม่ได้นอกจาก กะลานุกรมที่เขียนตอนหลัง

189 Nameless Fanboi Posted ID:3XPdBfx8e

หลักฐานแท้ๆจะเหลือเหรอวะ มีแต่ทำสงครามตีกันไปมาตลอด เหลือแต่คำบอกเล่าปากเปล่าทั้งนั้น

190 Nameless Fanboi Posted ID:mAS9Uve+6

นั่งอ่านแล้วได้มุมมองใหม่ขึ้นเยอะเลยวุ้ย
กูเองก็คิดมาตั้งนานแล้วนะว่าไอ้เรื่องเจ้าชายสิทธัตถะนี่มันดูแหม่งๆ ตั้งแต่ระบบชนชั้นแล้ว แล้วยิ่งพอนำหลักคำสอนของแต่ละนิกายมา analyze ดู ก็ยิ่งดูขัดๆ เพราะดูออกแนวพรามห์มากกว่า โดยเฉพาะเรื่องที่มีการอ้างถึงพระนารายณ์บ่อยมาก ทั้งที่ศาสนาพุทธขึ้นชื่อว่าเป็นศาสนาที่ไม่เชื่อในพระเจ้า

ว่าง่ายๆ คือศาสนาพุทธคงโดนบิดเบือนในยุคพระเจ้าอโศกฯ ไปเยอะเลย

191 Nameless Fanboi Posted ID:K3RaG1/6W

เอาจริงๆ ทั้งพุทธ คริสต์ มุสลิม ฮินดู นิกายแก่ๆ ก็โดนบิดเบือนตามยุคสมัยมาหมดวะ

192 Nameless Fanboi Posted ID:kODUN/t7k

>>191 ฮินดูนี่เป็นพัฒนาการทางศาสนาที่เห็นเป็นขั้นเป็นตอนดีนะ เริ่มจากเป็นความเชื่อแบบชนเผ่า เน้นพิธีกรรม พัฒนาเข้ายุคอุปนิษัทที่ข้ามพิธีแปรรูปเป็นหลักปรัชญา นำไปสู่ขบวนการสมณะที่พยายามค้นหาความจริงที่แท้ แยกเป็นสายนัสติกะที่มองข้ามเทพ-พระเวทไปเลยเช่นพุทธ-เชน กับสายอัสติกะที่ยังเอาเทพ-พระเวทอยู่ แล้วในสายอัสติกะก็เกิดขบวนการภักติที่มุ่งเทกายถวายใจให้เทพเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง จนเกิดเป็นสองกระแสฮินดูใหญ่ๆตอนนี้ และก็อาจจะพัฒนาได้อีกในอนาคต เพราะตัวคัมภีร์พระเวทมันไม่ได้จำกัดอะไรขนาดนั้น

193 Nameless Fanboi Posted ID:bqiXn8rd7

>>184 กูไม่เข้าใจว่าแค่ชาติกำเนิดพระพุทธเจ้าไม่เหมือนในตำราที่เรียนมามันทำให้ศาสนาเสื่อมเสียยังไงวะ
คือไม่เหมือนในรายละเอียดเล็กๆน่อยๆเองนะ ไม่ได้ป้ายสีให้ดูแย่อะไรเลย

194 Nameless Fanboi Posted ID:DO7YVWA4H

พุทธประวัติที่เรียนๆดันนี่มาจากอรรถกถาซะมาก ซึ่งก็ลอกจากคัมภีร์พุทธจริตของฝ่ายมหายาน

195 Nameless Fanboi Posted ID:mExKq.Bdo

สมัยนึง ศาสนา -การเมืองมันแยกกันไม่ได้เลย เพราะคนมันก็เอาศรัทธานำด้วยซ้ำ บางยุคศาสนาก็เละไปแล้ว จนชนชั้นปกครองต้องรื้อกันทีนึงมาจัดระเบียบใหม่ อย่างเมืองไทยก็เคยจับพระสึกไปเยอะนี่ฟว่า

196 Nameless Fanboi Posted ID:wZMwJPxr1

“Your life will never be as valuable as of the others, because c’est la vie.
Don’t seek justice, seek strength, with strength justice will come”

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

197 Nameless Fanboi Posted ID:6fERfzOV7

>>196 โลกแห่งความจริงแม่งโหดร้ายตามนั้นแหละ กูนี่ยังคิดเลยว่าแล้วจะสอนว่าจงเป็นคนดีเพื่อ?

198 Nameless Fanboi Posted ID:tFflkts.V

ถ้าสังคมปลอดภัยพอสมควร แล้วมีคนดีเยอะๆมันก็สร้างสรรค์อะไรแปลกๆใหม่ๆได้เยอะว่ะ

199 Nameless Fanboi Posted ID:8V9GzuuZ1

ไปตอบกลับคอมเมนท์ที่บ่นว่าทำไมทหารไม่รู้จักทนคนล้อเลียนบ้าง

{ จริงๆพวกนี้มันคิดว่าตัวเองมาเพื่อปกครองไม่ใช่มาเป็นผู้นำ มันคือคนสูงกว่า ศักดิ์สิทธิ์ พวกไพร่จะมาล้อเลียนไม่ได้ แค่พวกมันให้พวกไพร่มีชีวิตรอดไม่เอาไปยิงทิ้งก็ต้องสำนึกบุญคุณแล้ว อย่าลืมจ่ายค่าคุ้มครองที่เรียกว่าภาษีด้วย

นี่แหละคือ mindset ของพวกที่เรียกว่าทหารและข้าราชการ มันไม่เคยคิดว่ามันทำงานให้ประชาชน มันคิดว่ามันปกครองประชาชนเหมือนเป็นปศุสัตว์ไง นี่แหละคือสิ่งที่พวกสัตว์นรกนกหวีดออกไปร่านไล่นักการเมืองเพื่อให้ได้มา

ความคิดมันยังเหมือนสังคมไทยสมัยก่อนว่าไพร่ทาสไม่ชอบเจ้านายก็ต้องแอบไปซุบซิบอย่ามาแสดงออก เป็นแค่ไพร่อย่าสะเออะอย่าหืออย่าอือ มีงานอะไรก็ทำไป

สังคมสมัยก่อนที่บอกสงบร่มเย็นมันไม่ได้มีความสุขเหี้ยอะไรหรอกนะ มันเป็นสังคมแบบนี้แหละ สงบทุกอย่าง }
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

200 Nameless Fanboi Posted ID:xYWp1zwvC

>>199 ก็ mindset เดียวกันกับนักการเมืองนิ?

201 Nameless Fanboi Posted ID:PSU5r5w8F

>>200 นักการเมืองมันยังต้องถูกเลือกเข้ามา

202 Nameless Fanboi Posted ID:csOjnLee4

>>199 กูต่อให้

ทำไมชนชั้นกลางถึงแฮปปี้กับระบบทหารและ คสช. เพราะชนชั้นกลางไม่เคยมีปากมีเสียง เดือดร้อนคับข้องใจอะไรสื่อไม่เคยมาทำข่าว NGO ไม่เคยมานำประท้วง ต้องอดทนเอาตัวรอดกันเอง อย่างดีก็ระบายซุบซิบนินทากับคนรู้จัก ไม่เหมือนคนจนรากหญ้า อยากได้อะไร มีปัญหาอะไร ทั้งสื่อทั้ง NGO ช่วยโหมประโคมกระแสหมด จนได้สิ่งต้องการบ้างไม่มากก็น้อย คนชั้นกลางจ่ายภาษีเต็มๆ เลี่ยงไม่ได้ แต่ประท้วงอะไรไม่ได้เลย แถมเงินภาษียังเอาไปเลี้ยงรากหญ้าที่มีคนช่วยประท้วงอีก แต่พอประท้วงปุ๊บคนชั้นกลางก็เดือดร้อนอีก เช่นม็อบปิดถนนก็เดินทางลำบาก แถมสื่อยังเล่นแต่ข่าวประท้วง เถียงกันไปมาวุ่นวาย ทุกช่องทุกสื่อเล่นเหมือนกัน เปลี่ยนหนีไม่ได้อีก ปวดหัว เครียด ดังนั้นแบบนี้ดีแล้ว สงบเงียบ ไม่ประท้วงไม่ทะเลาะ

ลองต่อให้ละนะ..เวิร์คป่าววะ

203 Nameless Fanboi Posted ID:xYWp1zwvC

>>201 >>202 สรุปคือเราเป็นได้แค่าตว์เลี้ยงของสายเขียวกับนักการเมืองขิมิเคอะ? น่าสงสารจริมๆเหล่าไพร่กะลาแลนด์ แงๆ

204 Nameless Fanboi Posted ID:HQAajLlV2

>>200 นักการเมืองยังโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ โดนไล่ได้ (แต่ทางที่ดีอย่าไล่ด้วยม็อบเลย...)

205 Nameless Fanboi Posted ID:AsVnFxao4

"ถ้านักการเมืองไทยหยุดโกงเพียง 2 ปี ถนนประเทศไทยจะปูด้วยทองคำก็ยังได้"

206 Nameless Fanboi Posted ID:xYWp1zwvC

>>204 เอาจริงๆ นอกจาก บิ๊กจิ๋ว ที่หน้าบางกว่าคนอื่นก็ไม่เคยเห็นว่าจะไล่สำเร็จเลยสักกะครั้งนะ ฮา

207 Nameless Fanboi Posted ID:csOjnLee4

>>206 ปชต. มันช้า มึงคิดดู อังกฤษ ฝรั่งเศส EU เมกา กว่า ปชต. จะเข้มแข็ง ใช้เวลาเป็นร้อยปี ผ่านยุคไม่ดีมาก็เยอะ บ้านเรายังไม่ถึงร้อยปีเลย แต่เชื่อเถอะมันดีขึ้น ถึงไล่นักการเมืองไม่ได้ในฉับพลัน แต่อย่างน้อยๆ เสียง ปชช. ก็ทำให้ต้องขยับตัวทำอะไรบางอย่างนะ

อย่างข่าวนี้ https://www.thairath.co.th/content/9462 เอาละถึงใครจะไม่ชอบตามาร์ค ไม่ชอบ ปชป. แมงสาบอะไรก็ช่าง แต่อย่างน้อยๆ รมต. มีข่าวฉาวเขาก็ให้ออกก่อนแม้ผลสอบจาก ป.ป.ช. ยังไม่ออก ผิดกับตอนนี้ ลุงใส่นาฬิกา 25 เรือนมาจากไหนไม่รู้ นอกจากไม่ออกแล้วยังตอบโต้ประชาชนที่โหวตออกทุกทางอีก

208 Nameless Fanboi Posted ID:PthiDrUu7

คนที่อยู่ด้วยภาษีปชช.ทำห่าอะไรที่น่าสงสัยแต่ไม่สามารถตรวจสอบและลงโทษได้นี่ยังไม่ชัดเจนว่าแย่อีกหรอวะ
เหี้ยกว่าคือหันกลับมาเล่นคนที่สงสัยอีก แค่นี้แม่งก็ควยละ
ยังไม่รวมอะไรที่สูงและฮาร์ดคอร์กว่าที่ไม่ใช่แค่สงสัยไม่ได้แต่ต้องหมอบกราบด้วยนะ

209 Nameless Fanboi Posted ID:xYWp1zwvC

>>207 ได้ข่าวว่าดีได้เพราะนายทุนนะคับ ไม่มีนายทุนช่วยอุ้มระบบแม่งเละกว่าโลกที่สามแถวเราอีก ณ ปัจจุบัน พวกมันถึงได้ต้องเลียตีลนายทุนแผลบๆ ยิ่งกว่า"หิ้ง"บ้านเราอีกไง

ไม่ใช่ไรนะแต่อ่านๆมานี่ดูรู้สึกว่าพวกมึงเบบี๋มากเลยอ่ะ

210 Nameless Fanboi Posted ID:JYyUuNR/L

>>209 ไม่เด็กน้อยแบบมึงคือต้องเชื่อพวกทฤษฎีสมคบคิดงี้หรอ
นายทุนประเทศโลกที่ 1 มีอิทธิพลมากจริง แต่มันก็ไม่ได้ใหญ่คับฟ้าคุมได้หมดทุกอย่างหรอก

211 Nameless Fanboi Posted ID:xYWp1zwvC

>>210 เจ้าสัวCP กับ "หิ้ง" ของเราคือ"ทฤษฏีสมคบคิด"ไหมล่ะ?

212 Nameless Fanboi Posted ID:w9b7xN8S7

เรื่องจริงนะ คนที่มีเงินมีอำนาจเยอะๆ ไม่ต้องการให้คนที่ตัวเองปกครองอยู่ได้ดีหรอก
แต่เลี้ยงไว้แต่ให้อยู่ได้ ไม่ตายแต่ก็ไม่เจริญ เพิ่อให้ทำงานให้พวกมันไปเรื่อยๆ จนตาย

ไม่เชื่อก็ช่างมึง กุเห็นมาแล้วถึงได้เอามาพูด

213 Nameless Fanboi Posted ID:p+XdaIwUl

>>190 กูจะเชื่ออะไรได้บ้างบนโลกนี้ ทุกอย่างแม่งมีความหลอกลวงปนไปหมดตั้งแต่ศาสนายันการเมือง ...

214 Nameless Fanboi Posted ID:fOHuQYqaG

>>207 นอกจาก ปชป. กูก็ไม่เคยเห็นรัฐบาลชุดไหนมันจะโชว์สปิริตลาออกสักคน

215 Nameless Fanboi Posted ID:mAIowLgGl

>>202 ชนชั้นกลางชอบ Minimum State เพราะเชื่อว่าตนเองกำหนดชีวิตตัวเองได้ +กับดิ้นรนมาทั้งชีวิต ถือคติว่าเก่ง/ขยันได้ก็รวย/ประสบความสำเร็จได้ ดังนั้นใน Mind Set ของชนชั้นกลาง สิ่งที่ต้องการที่สุดคือระเบียบ+สงบ รัฐบาลทหารในสายตาพวกนี้เลยไม่ได้แย่อะไร ขอแค่ทุกอย่างมีระเบียบ สงบเรียบร้อยก็พอ

พูดตามตรงนะ กูเองก็คิดแบบนี้ กูอยากทำงานหาเงิน ไม่อยากเจอม็อบ บาโฟเองก็มองออกว่าความต้องการของคนส่วนใหญ่ ไม่เพียงแต่ชนชั้นกลาง ตอนนี้แทบทุกคนต้องการความสงบ ไม่อยากเดินขบวนประท้วงกันแล้ว ไม่งั้นถ้าเป็นเมื่อก่อนทุกอย่างคงถูกจุดติดไปนานแล้ว ไม่เงียบเพราะแค่ทหารปราบเด็ดขาดแบบนี้หรอก

216 Nameless Fanboi Posted ID:p+XdaIwUl

>>215 กูเป็นชนชั้นกลางที่ไม่ได้ชอบรัฐบาลชุดนี้ หมดวาระแล้วก็ออกไปได้ละ ยังจะเลื่อนเลือกตั้งอีก wtf มากๆ ไอโพลที่บอกว่าชอบนายก 90 % ก็ตอแหลมากๆ และ อีกหลายเรื่อง ไม่อยากจะพูด

217 Nameless Fanboi Posted ID:Eq+NmW.Pg

>>182 ชะอ้าว พระพุทธเจ้า ตัวจริงน่าจะเป็นอาตี๋มากกว่าอาบังเหรอเนี่ย? อันนี้รู้สึกตกใจและดีใจนิดๆ 555+

218 Nameless Fanboi Posted ID:mAIowLgGl

>>216 กูก็ไม่ได้ชอบ แต่ตอนนี้ขอแค่ไม่มีม็อปก็ดีแล้ว ถ้าเป็นเลือกตั้ง กูก็ยังไม่เห็นจะมีใครดีพอจะเป็นนายกจริงๆ เลย ทั้งพท.และปชป.เละไปหมดแล้ว กูไม่เชื่อมั่นในบุคลกรของทั้ง 2 พรรคเลยวะ และพรรคอื่นก็คงครองเสียงข้างมากไม่ได้อยู่ดี ทางเลือกแม่งมืดมนจริงๆ

>>217 พูดยาก เอาแค่พระพุทธเจ้ามีผมรึเปล่ายังพูดไม่ตรงกันเลย

219 Nameless Fanboi Posted ID:vKCrb6iDW

เลือกตั้งไปก็เท่าเดิมเข้ามามันก็แดกกัน พอมีปัญหาแม่งก็ช่วยกันปิดเงียบ (มาความแตกตอนรัฐบาลทหารทั้งนั้น)

220 Nameless Fanboi Posted ID:w9b7xN8S7

ยังคงความคิดขี้ข้ากันเหมือนเดิม
ที่ให้เลือกตั้งเพราะเค้าให้หาคนมาคุมพวก ข้าราชการ ให้มันทำงาน
ไม่ให้มันทำตัวจองหองเหนือประชาชนที่ให้เงินเดือนพวกมันใช้
ที่โกงกันได้แดกกันได้ก็เพราะข้าราชการมันเหี้ย มันรู้เห็นเป็นใจ
หัดใช้สมองมองนักการเมืองว่าจริงๆ มันคืออะไร
ไม่ใช่ปัญญาอ่อนเค้าหลอกว่านักการโกงหมดๆ ก็เชื่อตามเค้า

221 Nameless Fanboi Posted ID:AsVnFxao4

"ถ้านักการเมืองไทยหยุดโกงเพียง 2 ปี ถนนประเทศไทยจะปูด้วยทองคำก็ยังได้"
มิตรสหายท่านหนึ่ง

222 Nameless Fanboi Posted ID:mjF/LnLI4

>>220 มึงจะเอาอะไรกับประเทศที่มองว่าการเลือกนักการเมืองที่ให้ผลประโยชน์ตัวเอง=ขายเสียง

แล้วถ้ามันไม่ให้ประโยชน์กูแล้วกูจะเลือกแม่งทำห่าไรวะ แม้งรู้กันบ้างมั้ยเนี่ยว่านักการเมืองมีไว้ทำไม

223 Nameless Fanboi Posted ID:9HvLfGG9E

>>220 >>222 ก็มันเห็นตำตากันอยู่ว่ามันทำตัวกันยังไง ถามว่าถ้ามันทำตัวดีๆกันสายเขียวมันจะได้ขึ้นมาเรอะ? คิดสิคับคิด ไม่ใช่มาว่าคนอื่นเขาขี้ข้าแต่ตัวเองไม่ได้ชะโงกดูความจริงมั่งเลย ความคิดแบบนี้ดักดานพอกันกับพวกหนุนสายเขียวน่ะ

224 Nameless Fanboi Posted ID:B67jUZej.

>>223 เอาจริงๆแล้วกูว่าคนในประเทศนี้ตั้งแต่หัวหงอกยันหัวดำมันไม่เคารพในกฎ กติกากันมากกว่าหว่ะ ไม่งั้นทำไมกองทัพในต่างประเทศที่พัฒนาแล้วอย่าง เมกา เกาหลีใต้ เยอรมนี แม่งไม่พยายามขึ้นมายึดอำนาจกันให้สนุกเวลานักการเมืองโกงกินกันวะ ไพร่พลก็มี กองทัพก็มี แต่แปลกนะ ยังทำตามระบบรัฐธรรมนูญไม่เหมือนแดนสารขัญแถวๆนี้

225 Nameless Fanboi Posted ID:9HvLfGG9E

>>224 นั่นก็ส่วนนึง อีกส่วนคือสองสายของเรามันชิงอำนาจกันมาตั้งแต่เอา ปชต เข้ามาในประเทศแล้วด้วย อ้อ ที่ เมกาฯ แอนด์ เดอะแกงค์ มันไม่ต้องมาเล่นเกมชิงอำนาจกันเองเพราะพวกแม่มสามัคคีกันแดกจากการทำสงครามตัวแทนทั่วโลกอยู่แล้วแดกกันแบบชิลๆและยาวๆ เลยไม่ต้องแย่งกันแดร๊กซ์คับ ถ้าสายเขียวกับสายการเมืองของเรามันสามัคคีกันแดกเมื่อไหร่ที่ซวยก็คือกูกับมึงนี่ล่ะ

226 Nameless Fanboi Posted ID:75wk7AyNV

>>220 นักการเมืองมาคุม "ให้ไม่โกง/ทำงาน" ?

มึงนี่ซื่อจริงๆ สิ่งแรกที่นักการเมืองจะทำคือคุมราชการ "ให้โกง/ทำงาน" เพื่อตัวนักการเมืองเอง

องค์กรที่เห็นชัดสุดคือตำรวจนี่ละ ไม่มีใครไม่ต้องการคุมตำรวจ ใครคุมตำรวจได้ก็มีชัย (รวย) ไปกว่าครึ่งแล้ว

แต่กูเข้าใจ>>218 นะ ตัดเรื่องโกงออกไป นักการเมืองตอนนี้ก็ไม่มีคนเก่งๆ พอเป็นจุดขายได้ว่ะ

227 Nameless Fanboi Posted ID:w9b7xN8S7

ถึงได้บอกไงว่าสันดานขี้ข้า คำว่าการตรวจสอบ การคานอำนาจ รู้จักไหม

228 Nameless Fanboi Posted ID:9HvLfGG9E

>>227 สองระบบนั้นเละไปตั้งชาติเศษแล้วคับ เจ้านาย

229 Nameless Fanboi Posted ID:mjF/LnLI4

ทุกความเลวร้ายของประเทศนี่คงมาจากนักการเมืองหมดอะ ถ้าไม่มีนักการเมืองนี่รับรองว่าพวกข้าราชการ ทหาร หรือตำรวจนี่มันจะไม่โกงเล้ย

230 Nameless Fanboi Posted ID:9HvLfGG9E

>>229 มันก็ยังโกงอยู่คับ แค่หารตัวแดกออกไปอีกตัว อีกประการคือเราไม่มีประเทศราชไว้ให้พวกนักปกครองแดร๊กซ์แบบง่ายๆแล้วคับ พวกแม่มเลยต้องมาแดกกับประชาชนโดยตรง ไม่เหมือนชาติตะวันตกที่เก็บส่วยเอากับขี้ขาตัวเองได้ชิลๆยกตัวอย่างพวกขี้ข้าเลียแผล่บๆแถวนี้ก็เช่น แดนสารขัณ แดนกิมจิ และ ไอ้ยุ่น 5555+

สรุปคือจะหันไปไหนเราก็เป็นได้แค่ขี้ข้านะคับ เจ้านาย

231 Nameless Fanboi Posted ID:yISdCXh6E

>>227 ยังไงละ มีอำนาจมากไปแบบทักษินก็ตรวจสอบไม่ได้ มีอำนาจน้อยไปแบบมาร์กก็เฮ็งซวย

>>229 ไม่ใช่สาเหตุ แต่ไม่ว่าใครเข้ามากุมอำนาจ ทุกคนก็โกงหมด ทักษินถึงมีคนชอบเยอะ เพราะบอกว่าโกงแต่ทำงาน

ตอนนี้ทั้ง 2 ขาดบุคลากรอย่างหนัก ทักษิน 1 เป็นยุคทองของนักการเมือง ไม่เพียงเพราะทักษินบริหารเก่ง แต่ยังเพราะมีลูกน้องมือดีจำนวนมาก สมคิดก็เป็นคนนึงที่เก่งที่สุดในนั้น แต่ตอนนี้ต่อให้ทักษินกลับมา ก็ไม่มีบุคลากรแบบยุคทองให้ใช้อีกแล้ว

เรื่องนี้เป็นจริงทั้ง 2 พรรค ชื่อมันเสียไปเยอะ ถึงกูอยากให้มีเลือกตั้ง แต่เมื่อดูบุคลากรของทั้ง 2 พรรค กูไม่รู้จะหวังอะไรดี ขอแค่ไม่มีนโยบายเหี้ยๆ แบบจำนำข้าวก็คงพอแล้วมั้ง

232 Nameless Fanboi Posted ID:ZKYDvDd01

อย่างน้อย รบ.นักการเมือง ชาวบ้านยังต่อรองได้นะ อย่างที่เม้นบนๆ บอกแหละ รมต. มีข่าวอื้อฉาวและมีชาวบ้านกดดันมากๆ กูมั่นใจว่ายังไงต้องมีไขก๊อก ขนาดตอนนิรโทษสุดซอย ท้ายที่สุดยิ่งลักษณ์ยังยอมยุบสภาเลย แต่ กปปส. มันไม่จบเอง เลยเสียแนวร่วมไปพอสมควร (ก่อนวันที่ 9 ธ.ค. 56 ที่ยิ่งลักษณ์ประกาศยุบสภา แดงบางสาย หรือพวกกลางๆ ก็ไปร่วมกับนกหวีดนะ เพราะไม่เห็นด้วยกับนิรโทษสุดซอยกับสภาผัวเมีย แต่พอเขายุบสภาแล้วไปเรียกร้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ไปป่วนเลือกตั้งที่ กกต. กำหนดแล้ว นั่นแหละพวกนี้ถอยออกหมด )

ส่วนเรื่องทุจริตเนี่ย ถ้ากูบอกว่าเป็น Mindset แบบไทยๆ พวกมึงจะโกรธกูไหมล่ะ คนไทยไม่ชอบอะไรที่เป็นระเบียบแบบเคร่งครัด และยังเน้นเรื่องความสัมพันธ์ส่วนบุคคล คือเราไม่ได้เป็นสังคมปัจเจกแบบฝรั่ง (บ้านเราผู้ใหญ่ต้องใจกว้างกับผู้น้อย และผู้น้อยต้องเคารพผู้ใหญ่..Mindset แบบนี้ ถ้าด้านมืดของมันก็คือระบบอุปถัมภ์นี่แหละ) อย่างชาวบ้านด่านักการเมือง ด่าข้าราชการ แต่เวลาจะเปิดเทอมก็ไปขอ สส. อบต. ฯลฯ หาที่เรียนให้ลูกหน่อย หรือถ้ามีเพื่อนมีญาติเป็นตำรวจ ขับรถโดนใบสั่งมาก็ขอให้เคลียร์หน่อย เรื่องจัดงานแต่งงานบวชแล้วขอยืมเลนซ้ายจอดรถ ชาวบ้านก็ทำนะ เจ้าหน้าที่ก็มาอำนวยความสะดวกให้ ถามว่าเมืองนอกที่เจริญแล้วทำแบบนี้ได้ไหม? ทำไม่ได้หรอก แต่บ้านเราทำได้ ถ้าตำรวจเคร่งๆ มา ชาวบ้านด่าอีกประท้วงอีก

ฉะนั้นแม้กระทั่งเรื่องทุจริต บ้านเราแม่งต้องมาคุยกันก่อนละว่าแบบไหนรับได้แบบไหนรับไม่ได้ อย่างการห้ามใช้ทรัพย์สินขององค์กรไปกับเรื่องส่วนตัว ฝรั่งเขาถือมาก แต่บ้านเราบอกเฉยๆ ใช้กันทั้งราชการและเอกชน จำตอนคำสั่งห้ามชาร์จมือถือ ห้ามจอดรถล้างรถในสถานที่ราชการได้ไหมล่ะ คนไทยด่าคนออกกฎนี้โดยพร้อมเพรียงกัน

233 Nameless Fanboi Posted ID:0E2WZdEo2

>>232 แต่เวลาจะเปิดเทอมก็ไปขอ สส. อบต. ฯลฯ หาที่เรียนให้ลูกหน่อย หรือถ้ามีเพื่อนมีญาติเป็นตำรวจ ขับรถโดนใบสั่งมาก็ขอให้เคลียร์หน่อย เรื่องจัดงานแต่งงานบวชแล้วขอยืมเลนซ้ายจอดรถ ชาวบ้านก็ทำนะ เจ้าหน้าที่ก็มาอำนวยความสะดวกให้ ถามว่าเมืองนอกที่เจริญแล้วทำแบบนี้ได้ไหม?

ได้สิ

ฝากเข้าเรียน - เป็นทุกที่ ระดับ ivy league ก็มีระบบบริจาคเงินกับจดหมายแนะนำตัว

ใบสั่ง - ยิ่งกว่าเรื่องปกติ ถ้าำม่ร้ายแรงมากส่วนใหญ่ก็หลุดหมดละ

ตำรวจอำนวยความสะดวก - อันนี้แล้วแต่เรื่อง แต่ก็มีให้เห็นนะ

234 Nameless Fanboi Posted ID:5+hsQpDIV

>>232 ไม่โกรธหรอกเพราะมันเป็น mindset คนไทยมันก็ขี้โกงอย่างที่มึงว่าจริงๆ ไม่ว่าระบบไหนเมื่อมันมาถึงมือ ไทยแลนด์ มันเลยเละหมดเพราะฐาน(สันดาน)มันไม่ดี

ตรงกับไอ้ที่เขาว่า ระบบเป็นของตายแต่คนนั้นเป็น ชั่วที่คนระบบดีแค่ไหนก็เละ

235 Nameless Fanboi Posted ID:h+xcfOig6

>>231 ทักกี้เสียลูกน้องมือดีไปเยอะจริง แต่สมคิดนี่กูว่างั้นๆอ่ะ ดีแต่สร้างภาพ

236 Nameless Fanboi Posted ID:Srqbrew5e

>>233 กูเห็นคนที่ไปอยู่ ปท. เจริญ แล้ว มีแต่บ่นๆ กับว่าต้องปรับตัว ใบสั่งคือใบสั่ง จะขอหยวนๆ แบบที่ขอกับ ตร. บ้านเราก็ไม่ได้ จอดรถไม่ดูตาม้าตาเรือก็โดนปรับแถมตัดแต้ม ยึดใบขับขี่กันจริงๆ จังๆ

ส่วนมหาลัยในเมกาแม่งกลับกันกับบ้านเรา ของเขาพวกท็อปๆ เป็นของเอกชน ต้องหารายได้เอง ก็เลยมีระบบบริจาคเงิน แต่ก็ตรงไปตรงมานี่นะ ไม่ได้หลบๆ ซ่อนๆ สีเทาๆ แบบโรงเรียนรัฐบาลบ้านเรา

237 Nameless Fanboi Posted ID:8EzGaMv09

>>236 กระเหรี่ยงไปอยู่บ้านเมืองคนอื่นก็ต้องโดนเข้มแบบนี้ละ ไม่ใช่คนบ้านมันซักหน่อย จะไปสนิทกับตำรวจยังไง ละมึงคิดว่าตำรวจไทยไม่เข้มงวดกับพม่าเหรอ

ตรงไปตรงมาเหรอ ถ้ามึงคิดว่าการบริจาคมากพอก็เข้ามหาลัยที่คนอื่นต้องสอบเข้าได้คือตรงไปตรงมา ก็โอเค มึงเป็นคนไทยแท้ๆ คนนึงเลย

238 Nameless Fanboi Posted ID:NnimtaVfR

ที่นั่นก็มี White Supremacist ไงเล่า ไอ้อภิสิทธ์ชนกับระบบอุมภัมป์เนี่ยมันมีกันทุกที่นะ บ่องตง เพียงแต่ไอ้กฏหมายหลักหลายตัวมันควรจะเข้มไม่ใช่หย่อนยานจนน่าเกลียดแบบของเรา

239 Nameless Fanboi Posted ID:7PKd5Ge6p

>>238 white supremacist อะไรของมึง มหาลัยอเมริกามีโครงการให้คะแนนช่วยคนดำ,ลาติโน่มากกว่าคนขาว/เอเชียนถ้าคะแนนเท่ากันโว้ย เรียกว่าAffirmative Action

มึงหลุดจากยุค60sรึไง ถึงคิดว่าSystematic racismยังมีอยู่ ตอนนี้พวกestablishmentsมันซ้ายจะตายห่า

240 Nameless Fanboi Posted ID:NnimtaVfR

>>239 white supremacist ไม่มีจริง...ช่างกล้าพูด หลุดคดีกันเป็นว่าเล่นซะขนาด

241 Nameless Fanboi Posted ID:5+hsQpDIV

รู้ดีกันจริงเรื่องคนอื่นเนี่ย

242 Nameless Fanboi Posted ID:xYOZW+eev

>>240 white supremacist มีจริง แต่มันเป็นfringe populationโว้ย KKKมีไม่กี่พันในทั้งสหรัฐ

ที่มึงพูดถึงในเม้น238เขาเรียกว่าInstitutional Racismโว้ย อย่างJim Crow law หรือ Segregation ที่โดนยกเลิกไปชาตินึงแล้ว ความหมายเบสิคมึงยังไม่รู้เลย แล้วที่ว่าหลุดคดีนี่มึงรู้จักOJ Simpsonsไหม ฆ่าเมียแต่ศาลตัดสินว่าไม่ผิด ถ้าwhite supremacistที่มึงว่ามาเป็นส่วนใหญ่ในเมกาจริงOJโดนโทษประหารไปแล้ว

243 Nameless Fanboi Posted ID:NnimtaVfR

หายไปตั้งนานที่แท้ก็ไปนั่งค้นศัพท์นี่เอง

เอาล่ะ อย่ามาหัวหมอพยายามเบี่ยงประเด็นด้วยศัพท์แสงเลยว่ะ เรื่องความไม่เท่าเทียมกับการเลือกปฏิบัติทางผิวสีใน เมกาฯ มันมีจริงและอาการหนัก ตัวมึงเองนั่นล่ะที่เน้นย้ำประเด็นนี้เองในเม้นท์ >>237 แล้วมันไม่โดนโทษประหารแต่มันเล่นวิสามัญกันเลยว่ะ

เอ้า เชิญไปนั่งค้นข้อมูลเพื่อมาเถียงต่อได้

244 Nameless Fanboi Posted ID:QU9sev70S

มีcuckหลุดเข้ามาในนี้ได้ไงวะ

245 Nameless Fanboi Posted ID:pJpJou9x5

>>244 ก็มีมาตั้งนานแล้วนะ

246 Nameless Fanboi Posted ID:cCX.S+l74

>>243 ก็มึงเสือกใช้ศัพท์ผิดเองนี่หว่า WS กับ Racist นี่แม้จะประเด็นคล้ายกันแต่ความรุนแรงต่างกันมากนะ

247 Nameless Fanboi Posted ID:aKU+xYSKr

>>243 ใช่ๆ มึงพูดถูกมาก อเมริกันแม่งเหยียดผิว เหยียดจนเลือกประธานาธิบดีผิวดำตั้งสองสมัยแน่ะ

wait what

มึงนี่เป็นตัวอย่างของความโง่เลยนะ พอมีคนใช้ศัพท์(ซึ่งเป็นศัพท์พื้นๆของคนที่พอจะรู้เรื่องสังคมศาสตร์)หน่อยก็ว่าเขาหัวหมอบ้าง ไปค้นมาบ้าง แถมคิดว่า >>237 กับ>>242 เป็นคนเดียวกันอีก โคตรโง่

248 Nameless Fanboi Posted ID://Mzv+SbC

>>238 >>240 >>243 ใช้ศัพท์ไม่ถูกความหมายแล้วเสือกใช้โง่ชิบหาย

249 Nameless Fanboi Posted ID:VjuK2eTxr

https://www.facebook.com/MatichonOnline/videos/10157229591547729/

250 Nameless Fanboi Posted ID:fshl/m.Lu

เถียงกันเรื่องไรว่ะเนี่ยสัส
เอาเฉพาะเรื่องที่รู้ล่ะกัน เรื่องเหยียดชาตพันธ์ในเมกา ถ้าอยู่ในกลุ่มคนหมู่มากอะไม่เป็นไร มึงจะชาติสีไร ก็เท่ากันหมดอะ
แต่ถ้ามึงไปอยู่ในชุมชนที่มึแต่พวกมันเหมือนกันทั้งชุมชนเมื่อไหร่อะ มึงหนาวแน่นอน รู้เลย
(ยกเว้นชุมชนคนทัยนะ แสนดี ใครมาก็เฟรนลี่ ส่วนนึงก็เพราะคนทัยไม่ค่อยใส่ใจเรื่องการเหยียดเท่าไหร่ด้วยแหละ)

251 Nameless Fanboi Posted ID:cpTfdTBnF

>>250 ตอนแรกมีโม่งบอกว่าเมืองนอกไม่มีคอรัปชั่นบางอันเหมือนเมืองไทย

โม่งคนอื่นเถียงว่ามีเหมือนกัน ละจู่ๆ ก็กลายเป็นเรื่อง racist ws เฉย ไม่รู้โยงกันได้ไง

252 Nameless Fanboi Posted ID:Hga8vfIOL

>>249 ไม่มีตัวเลือกที่มันดีกว่านี้แล้วเรอะ -*-

253 Nameless Fanboi Posted ID:5xD8Lf+7K

เมืองนอกโดนจับเรื่อง หนังโป้เยดเด็ก จ่ายเงินก็รอดคุกได้แล้ว

254 Nameless Fanboi Posted ID:4VQUecRt6

>>253 แนะนำให้ไปดูสารคดีเรื่อง Capturing the Friedman นะโม่ง

255 Nameless Fanboi Posted ID:GFHx3JqnT

>>253 เห็นมู้แนะนำในพันทิป กูก็งงๆ ว่ามันก็เป็นไปตามกฎหมายไม่ใช่หรอ แบบที่เขียนว่า ผู้ใด...ต้องระวางโทษจำคุก...ปี หรือปรับไม่เกิน...บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ถ้ากฎหมายเขียนแบบนี้ ศาลก็ใช้ดุลยพินิจเลือกได้ละว่าจะลงโทษยังไง

256 Nameless Fanboi Posted ID:98mbzUjug

มีใครรู้บ้างป่ะว่ะ ว่าเจียมไปอยู่ฝรั่งเศสนี่ทำงานไร

257 Nameless Fanboi Posted ID:7K3cCcORo

>>256 นายหน้านำเข้าพิซซ่า

258 Nameless Fanboi Posted ID:yo+AQC5Of

>>256 เป็นNEET

259 Nameless Fanboi Posted ID:98mbzUjug

>>258 แล้วเอาเงินจากไหนมาใช้จ่ายวะ

260 Nameless Fanboi Posted ID:fAAIjYDK1

รัฐบาลมันมีเงินเลี้ยงน่า ไม่ต้องห่วงแทนหรอก รับพวกมุซซี่อพยพไปเลี้ยงได้ตั้งเยอะ แต่เจียมลี้ภัยการเมืองตัวเดียวทำไมจะเลี้ยงไม่ได้

261 Nameless Fanboi Posted ID:UMi7WGIXT

ผลออสการ์ปีนี้ถือว่าไม่พลิกโผ

The Emoji Movie ถือว่าเป็นอนิเมชั่นเรื่องแรกที่ได้รางวัล Best Picture ของออสการ์ไป และถือว่าเป็นรางวัลใหญ่ที่สุดของงาน นำชายตกเป็นของเดน เดอฮาน จากวาเลเรี่ยน ที่เล่นบทท่อนไม้ได้อย่างสมบทบาท (จากเดิมทีสาขานี้เก็งกันไว้ว่า ไรอันกอสลิ่งจาก Blade Runner 2049 จะได้ไป แต่เสียดายที่เขาเล่นเหมือนมนุษย์ปลอมเกินไป ขาดความเป็นธรรมชาติมากๆเลยไม่ได้ชิง) สมทบชายตกเป็นของแอนโทนี่ฮ็อปกินส์จาก Transformers the Last Knight นำหญิงตกเป็นของนาโอมิวัตต์ จากบทโชว์นิ้วกลางใส่ลูกตัวเอง ใน The Book of Henry

หนังต่างประเทศยอดเยี่ยมตกเป็นของ Guardians จากรัสเซีย เฉือนชนะกัดกระชากเกรียนอย่างเฉียดฉิว

รางวัลด้านบทตกเป็นของ Transformers the Last Knight ที่อุดช่องโหว่ภาคก่อนๆได้อย่างดีเยี่ยม

และสเปเชี่ยลเอเฟคยอดเยี่ยมตกเป็นของ Justice League
ซึ่งทาง JL เดิมชิงสองรางวัลคือสเปเชี่ยลเอฟเฟคกับผู้กำกับยอดเยี่ยม แต่ทางกรรมการดูไม่ออกว่าใครกำกับกันแน่ ทำให้การเข้าชิงถือเป็นโมฆะ

แต่ถึงอย่างนั้น Justice League ก็ได้เข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพแฟนบอยแทน เพราะมันสามารถทำให้ทั้งแฟนบอยดีซีและมาร์เวล ผนึกกำลังกันรักหนังเรื่องนี้อย่างไม่มีแบ่งแยก

#มิตรสหายในจักรวาลคู่ขนานท่านหนึ่ง

262 Nameless Fanboi Posted ID:..r.FfakQ

>>261 อีโมจินี่มันสนุกเหรอวะ กูไม่เคยดู ไม่เห็นน่าดูเลยด้วย แล้วช่วงทีเซอร์ออกมาคนก็ด่าเยอะนะ แบบมึงไม่มีพล๊อดอย่างอื่นแล้วใช่มั้ยเลยใช้อีโมจิมาสร้างเป็นเรื่องเป็นราว ยังงงว่ามันได้รางวัลมาได้ไง

263 Nameless Fanboi Posted ID:iWZjc.pse

>>262 มุกโลกคู่ขนาน หมายถึงมันตรงกันข้ามกับในโลกนี้ ความคิดของมึงที่ว่าไม่น่าดูถูกต้องแล้ว

264 Nameless Fanboi Posted ID:iWZjc.pse

อ๋อใช่ แต่เหมือนอีโมจิจะได้รางวัลจริง ๆ นะ แต่เป็นรางวัลหนังห่วยน่ะ

265 Nameless Fanboi Posted ID:SgWMinm2B

อีโมจิไม่สนุก ไม่ต้องดูหรอก เสียเวลา

266 Nameless Fanboi Posted ID:XJlXTJi4k

"เคยเป็นคนรุ่นใหม่ครับ ปัจจุบันรักษาหายแล้วโดยไม่ต้องทำการผ่าตัด"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

267 Nameless Fanboi Posted ID:8Hc.PlwRW

"รู้สึกว่ากระแสทวงคืนความยุติธรรมให้กับความตายของเสือดำนี่แม่งเป็นกระแสที่แรงกว่าการทวงความยุติธรรมให้กับความตายของมนุษย์คนใดในประเทศนี้ (ไม่ได้หมายถึงความตายทางการเมืองด้วย ตายทั่วๆ ไปแม่งก็น้อยกว่านี้)

ก็เป็นการยิ่งตอกย้ำไปอีกว่า Sentiment ด้าน "สิทธิสัตว์" ในประเทศนี้แม่งแรงกว่า "สิทธิมนุษยชน""

#มืตรสหายท่านหนึ่ง

268 Nameless Fanboi Posted ID:esxr.vJAe

>>267 มันช็อคไง ปกติยุคนี้มันไม่น่าจะมีแล้วนะการล่าสัตว์เพื่อความบันเทิง ขนาดในต่างประเทศที่ให้ล่าได้ถูกกฎหมายเพื่อควบคุมประชากรสัตว์ฺบางชนิดไม่ให้มีมากเกินไป ก็ยังมีการถกเถียงกัน ส่วนคนเราโดยมากฆ่ากันถ้าไม่ใช่เพราะชิงทรัพย์ก็เพราะโกรธแค้นมีเรื่องกันมาก่อนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แถมที่คนเคืองกันมากเพราะคนทำไม่ใช่ชาวบ้านหาเช้ากินค่ำ แต่เป็นคนร่ำคนรวยที่ไม่ได้จำเป็นต้องหากินกับการล่าสัตว์ไปขายเลย

แต่บางกรณีการฆ่าคนก็เป็นเรื่องใหญ่นะ จำวัยรุ่นที่ไปรุมทำร้ายชายพิการจนตายได้ไหมล่ะ กระแสเยอะมากนะ เพจดังๆ จะยุให้เป็น 289 ฆ่าโดยไตร่ตรองให้ได้ด้วยซ้ำ สาเหตุเพราะ 1.มีผู้ต้องหาบางคนเป็นลูกหลานตำรวจ 2.คนตายเป็นคนพิการ แค่ 2 ข้อนี้ก็เรียกกระแสสังคมบ้านเราได้ละ แม้จะมีเสียงท้วงว่ามันไม่เข้า ต้อง 288 ฆ่าคนตายโดยเจตนาเฉยๆ เพราะไม่ได้วางแผนล่วงหน้าว่าจะไปฆ่าอีกฝ่าย แต่คดีนั้นสรุปตำรวจสั่งฟ้อง 288 โดยรวมก็ถือว่าพอใจในระดับหนึ่ง กระแสก็เงียบไป

269 Nameless Fanboi Posted ID:M6VHLa.PS

เห็นเสือดำตายแล้วมัคนมาดิ้นก็ดีนะครับ

ยังไงว่างๆก็ช่วยไปดิ้นแทนสัตว์ป่าที่โดนรถชนตายคาที่แถมชนแล้วหนีกันบ้างสิ หรือเพราะพวกนั้นจนกว่าครับ

270 Nameless Fanboi Posted ID:.jfzKLU/a

>>269 พวกนั้นมันโง่ขึ้นมาบนถนนเองนิหว่า

271 Nameless Fanboi Posted ID:Cyey5hGDS

เสือดำมันก็เสือกไม่วิ่งหนีเอง

272 Nameless Fanboi Posted ID:eELx2OUn.

>>271 วิ่งหนีลูกปืนอ่ะนะ?

273 Nameless Fanboi Posted ID:I8C6Ty.VM

>>267 กูว่าไม่จริง ถ้าไม่นับคดีสะเทือนขวัญใหญ่ๆอย่างก่อการร้าย หรือกราดยิงในโรงเรียน
เรื่อง Harambe ก็เป็นกระแสใหญ่กว่าคดีคนตายทั่วๆไปในอเมริกาอยู่ดี

274 Nameless Fanboi Posted ID:PfsMtWesT

#ช่วงพี่โจวน๊อครอบปัญญาชน

ถ้าเสือดำไปม๊อบสักสี คนก็จะมีเกลียดเสือดำบ้างอ่ะครับ แต่เสือดำเป็นกลางทางการเมืองจึงทำให้คนไทยทั้งประเทศลุกขึ้นมารณรงค์เรียกร้องความเป็นธรรมให้แก
.
นี่แหล่ะครับความเป็นกลางทางการเมืองย่อมได้ใจคนไทยอ่ะครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

275 Nameless Fanboi Posted ID:Mifg.aaK1

>>274 ตามนั้น อยากเป็นคนดีในนี้อย่าแสดงออกทางการเมือง

276 Nameless Fanboi Posted ID:ZR21QOhKR

>>182 ไม่ได้รู้สึก mind blown แบบนี้มานานละ เปิดวาร์ปให้หน่อย กุอยากไปอ่านต่อ

277 Nameless Fanboi Posted ID:Nuj.JAQGp

>>273 กูว่า harambe มันดังเพราะ meme มากกว่าคนเรียกร้องสิทธิสัตว์นะ

278 Nameless Fanboi Posted ID:tJq4xD89j

>>277 ดังเพราะพวกเรียกร้องสิทธิสัตว์นะเเหละ ข่าวเเม่งก็เล่นรัวๆ กลบข่าวอื่นหมด เเล้วคนเเม่งหมั่นใส้ไง เลยเกิดเป็นmeme ประชดเเม่ง ดังยิ่งกว่าเดิม 555555555

279 Nameless Fanboi Posted ID:WTnB7K4Lr

พี่ไม่รู้จะซื้ออะไรให้หนู เอาเงินไปซื้อเองนะคะ #โอ้ยยยยยยยยยยย20k😳

280 Nameless Fanboi Posted ID:lJLxwfx/R

>>279 กะหรี่

281 Nameless Fanboi Posted ID:sZ8vkIHjn

05-03-2018

การออกจากงาน ความรับผิดชอบ คอมฟอร์ทโซน และการเอาชีวิตไปโหนกับความสำเร็จ #ท่าจะหนอม

วันนี้มีเหตุให้คิดถึงเรื่องนึงที่รู้สึกผิดมากๆ ในช่วงที่ชีวิตเรากำลังไปได้ดีเมื่อหลายปีก่อน มีรายได้จากเน็ตเยอะมาก มากกว่าเพื่อนในวัยทำงานรุ่นเดียวกันที่เป็นมนุษย์เงินเดือน

ความภูมิใจในตอนนั้นถือเป็นเรื่องน่ารังเกียจเพราะเราคิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จแล้ว มีเงินไหลมาเทมา และเชื่ออย่างสุดใจว่า ถ้าใครอยากจะทำอะไรเป็นอะไรก็ทำได้ เพียงแค่มีความพยายามและความฝัน ซึ่งมันเป็นการมองโลกแค่เพียงมิติเดียว

ในตอนนั้นน้องคนหนึ่งมาปรึกษาเรื่องลาออกจากงาน เราตอบไปทันทีด้วยความมั่นใจ "ออกซิวะ รออะไรอยู่ ชีวิตมึงจะอยู่เป็นทาสเขาไปตลอดชีวิตเหรอ รีบออกไปหางานใหม่ที่ทำให้ชีวิตมึงดีกว่าไหม"

ความจริงหลังจากนั้นคือน้องเครียดจนต้องพบจิตแพทย์เมื่อพบเจอกับสังคมใหม่ในที่ทำงานใหม่ รับไม่ได้กับการเมืองในองค์กร ปรับตัวไม่ทัน จนสุดท้ายต้องลาออกจากที่ทำงานนั้นไปซะดื้อๆ โดยที่ไม่รอให้ผ่านโปร

ชีวิตน้องคนหนึ่งพังทลายพร้อมกับคำถามที่ผุดขึ้นมาในใจว่า เรามีสิทธิอะไรไปกำหนดและบอกว่าชีวิตคนอื่นต้องเป็นอย่างนั้น ทั้งๆที่มันไม่ใช่ชีวิตของเราเสียด้วยซ้ำ และที่สำคัญ เราไม่เคยถามเขาสักคำว่าเขาต้องการอะไรในชีวิต

หลังจากนั้น ถ้ามีใครมาปรึกษาเรื่องคิดจะเปลี่ยนงานหรือลาออก เราจะบอกให้เขาคิดดีๆเสมอ อย่ารีบคิดถึงสิ่งที่ได้มา แต่ให้คิดถึงสิ่งที่กำลังจะเสียไป

โอกาสใหม่ๆ ความก้าวหน้า และอนาคตที่ดีขึ้น มักจะเป็นคำตอบของการเปลี่ยนงานในยุคนี้ เงินเดือนที่ก้าวกระโดดขึ้นหลายเท่า ความก้าวหน้าของคอนเนคชั่น และความฝันทีจะยกระดับชีวิตคือสิ่งที่ผลักดันเราให้เดินไปในเส้นทางใหม่นั้นอย่างมีความสุข

แต่เราไม่เคยถามตัวเองว่าเสียอะไรไปบ้าง กับการที่ได้มา และส่วนใหญ่เราเชื่อว่าสิ่งที่ทุกคนเสียไปมากที่สุดคือ "เวลา" ในการใช้ชีวิต

นอกจากค่าตอบแทนที่ถูกแปรผันตรงกับความคาดหวัง โอกาสที่เข้ามายังต้องแลกกับเวลาที่ต้องเสียไปในด้านอื่นๆ เพราะเขาจ่ายเงินให้เราเพื่อซื้อเวลาของเขาเช่นเดียวกัน

คำถามสำคัญที่เราไม่เคยถามตัวเองเลย คือ เราต้องการอะไร โอกาสใหม่ๆที่ว่าดี เราจะมีและใช้ไปเพื่อสิ่งใด ความก้าวหน้าต้องเดินทางไป รู้ไหมว่าถึงจุดไหนมีคือความสำเร็จ และอนาคตที่ดีที่ว่ามา เราเป็นคนต้องการมันจริงๆหรือเปล่า

อย่าเอาชีวิตไปผูกกับอะไรบางอย่างที่คุณไม่รู้ว่าคุณต้องการมันหรือไม่ มันอาจจะเป็นคำพูดกระจอกๆ เมื่อเทียบกับการก้าวผ่านคอมฟอร์ทโซน แต่เชื่อเถอะว่าต่อให้คุณโหนและกระโจนไปกับความสำเร็จมากแค่ไหน คุณอาจจะเสียโอกาสอะไรบางอย่างไปเช่นเดียวกัน

สุดท้ายแล้ว เราอาจจะพบความว่างเปล่าบนจุดสูงสุดของความสำเร็จก็ได้ หรือเราอาจจะกลายเป็นผู้อยู่รอดท่ามกลางสงครามที่ทำให้นิยามชีวิตของเราไม่เหมือนเดิม

เราไม่รู้เลยว่าอีกทางเลือกหนึ่งนั้นจะดีกว่าแค่ไหน เพราะชีวิตที่เราใช้ทุกวันนี้มันเลือกได้เพียงแค่เส้นทางเดียวเท่านั้น

ได้โปรดอย่าไปฝันอะไรเยอะเลย

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

282 Nameless Fanboi Posted ID:HMytfoCRy

ยุคนี้ทำเหี้ยแค่ไหนขอแค่มีตังก็พอ ต่อให้มึงขายยาค้าหีถ้ามีเงินจ่ายส่วยก็จบสวยได้สบาย

283 Nameless Fanboi Posted ID:saB3d.pPD

ปธน.ตุรกีพูดกับเด็กหญิง 6 ขวบ: “ถ้าเธอพลีชีพเพื่อชาติ เธอจะได้รับเกียรติ”

เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา ขณะที่เรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับการระดมพลของกองทัพ เขาได้เรียกให้หญิงในชุดเครื่องแบบฝึกทหารคนหนึ่งขึ้นมาบนเวที เมื่อเด็กหญิงคนดังกล่าวเดินขึ้นมาก็เริ่มร้องไห้ เออร์โดกันจึงพยายามปลอบ จากนั้นก็พูดกับผู้เข้าร่วมประชุมว่า “ในกระเป๋าเสื้อของเธอมีธงตุรกีอยู่ ถ้าหากเธอสละชีวิตเพื่อชาติ ขอให้พระเจ้าคลุมธงผืนนี้บนร่างของเธอ” จากนั้นก็หันไปหาเด็กหญิงแล้วพูดว่า “หนูเตรียมพร้อมแล้วใช่ไหม” เด็กน้อยตอบว่า “ใช่ค่ะ” จากนั้นเขาก็ก้มลงหอมที่แก้มของเธอ แล้วให้เธอลงจากเวที

สื่อเผยว่า เด็กหญิงคนดังกล่าวมีชื่อว่า Amine Tiras อายุ 6 ปี และไม่แน่ชัดว่าเหตุใดจึงใส่ชุดทหารมาเข้าร่วมงาน ซึ่งข้อความของเขาทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง มีชาวตุรกีที่แสดงความเห็นว่านี่คือการใช้ความรุนแรงกับเด็ก ในขณะที่ส่วนหนึ่งกล่าวว่า “เด็กควรได้รับการปกป้อง ไม่ใช่ถูกทำร้าย” และมีความเห็นกล่าวว่า “น่าอับอาย แย่มากๆ เธอเป็นแค่เด็กน้อย แช่งให้เด็กไปตายได้อย่างไร”

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

284 Nameless Fanboi Posted ID:bQLSradDu

“อยากย้อนเวลาไปยุคแม่การะเกดจัง”

วาร์ปปปปปป....

โผล่ซัวเถา

มิตรสหายท่านหนึ่ง

285 Nameless Fanboi Posted ID:bQLSradDu

แต่งตัวย้อนยุคเก๋ถวิลหาอดีต โหยหวนรำพึงอยากย้อนเวลากลับไปเป็นท่านขุนสุดเท่ห์กับแม่หญิงการะเกดสุดคูล
มโนแจ่มจินตนาการ นุ่งชุดไทยผ้าไหมเหนือทอมือ
ล่องเรือพายดูวัดวาใส่บาตรทำบุญ เป็นขุนนางมีหน้าที่คุยหารือราชการงานเมือง บ้างหารือวางแผนค้าขายกับฝรั่งดั้งขอ ว่าง ๆ นั่งร้อยมาลัยถวายพระ
.
พอย้อนกลับไป....ไปโผล่เป็นวงศ์ไพร่ราบ ไพร่สม เป็นทาสสินไถ่ ทาสในเรือนเบี้ยตามโคตรเดิม ชื่ออีแดง อีดำ อีต้อย ไอ้ตู่ ไอ้เฟือง โดนเกณฑ์ไปรบ ไปขายแรงงาน โดนเฆี่ยนโดนตีโดนล่าม ชี้หัวด่าสันดานต่ำไม่สำเหนียก สะเออะเผยอหัวเงยหน้าไม่ก้มกราบ ต้องตื่นขัดเรือนกวาดลาน ปีนต้นมะพร้าว ขุดลอกคูรอบ แบกข้าวไปแลกผ้า บ้างโดนทรมานจนตายหมกร่องสวนเพราะนาที่บ้านเช่ามาล่ม ไม่มีอัฐมาไถ่ตัว นายบ่นเลี้ยงเปลืองข้าวแดงฆ่าแมร่งเพราะชังนัก
.
ดูรากดูเหง้ากันด้วยเนาะ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

286 Nameless Fanboi Posted ID:KAZZxAIKS

“พรรคหลังพี่เลิกสนใจการเมืองแล้วค่ะ”
#ตั้งชื่อพรรคให้ธนาธร

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

287 Nameless Fanboi Posted ID:UB2pSexio

>>285 ลิเบอร่านนี่ไม่แซะซักเรื่องคงอกแตกตายนะครับ เรื่องเสือดำก็แซะว่าคนอินกับเสือตายมากกว่าคนตายทั้งที่คนละประเด็น

#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง

288 Nameless Fanboi Posted ID:D6Htf+zax

เขาว่า วันมาฆบูชา เหตุอัศจรรย์เกิดขึ้น 4 อย่าง ที่เรียกว่า จาตุรงคสันนิบาต
ซึ่งพอลองพิจารณาก็ไม่เห็นว่า มันอัศจรรย์อย่างไร

1. วันนั้นตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ซึ่งพระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์
>> ก็คือวันพระจันทร์เต็มดวงธรรมดา คนสมัยก่อนดูดาวเป็น มีปฏิทินใช้

2.มีพระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
>> ในจำนวนนี้เป็นคณะของชฎิลสามพี่น้อง 1,000 รูป ซึ่งก่อนหน้านี้นับถือลัทธิบูชาไฟ พระพุทธเจ้าเดินทางไปโปรดชฎิลสามพี่น้องเลื่อมใสทำให้สาวกทั้งพันบวชตาม หลังจากพระพุทธเจ้าแสดงธรรมที่คยาสีสะทั้งหมดก็บรรลุอรหันต์

หลังจากนั้นพระพุทธเจ้าก็พาชฎิล 3 พี่น้อง และบริวารจำนวน 1,000 รูป ไปยังกรุงราชคฤห์ และโปรดพระเจ้าพิมพิสารจนเกิดความเลื่อมใสศรัทธาและถวายป่าไผ่เวฬุวรรณให้เป็นที่พำนักของพระพุทธเจ้า

ส่วนอีก 250 รูป เป็นคณะของพระสารีบุตร ซึ่งเดิมเป็นลูกน้องบริวารของอุปติสสะซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงราชคฤห์อยู่แล้ว พอมาบวชเป็นพระที่เวฬุวรรณ ทั้งหมดก็บวชตาม

พระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย แต่
พระพุทธเจ้าอยู่เวฬุวัน คณะชฎิลสามพี่น้องอยู่แถวเวฬุวรรณ คณะพระสารีบุตรเวฬุวรรณ

สาวก 1,250 รูป มารวมตัวกันโดยไม่ได้นัดหมายที่เวฬุวรรณ อย่าง "มหัศจรรย์มาก" เลยครับ แหม่

3. พระสงฆ์ทั้งหมดได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้า หรือ "เอหิภิกขุอุปสัมปทา"
>> สมัยพุทธกาลนี่ส่วนใหญ่บวชด้วย วิธีเอหิภิกขุอุปสัมปทา ส่วนวิธี ติสรณคมนูปสัมปทา ที่ภิกษุอื่นบวชใช้เฉพาะเมื่อผู้ต้องการบวชเดินทางมาไม่สะดวก หรืออยู่ไกลจากพระพุทธเจ้ามากๆ เท่านั้น
ซึ่งถ้าคนที่แม้แต่มาบวชยังเดินทางมาไม่ได้ ย่อมเดินทางมาชุมนุมฟังโอวาทไม่ได้

การที่มีเฉพาะภิกษุที่บวชด้วยวิธี "เอหิภิกขุอุปสัมปทา" มา ก็ถูกแล้ว

4. พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดล้วนแต่เป็นพระอรหันต์ ผู้ได้อภิญญา 6
>> คือในสมัยพุทธกาลนี่คนอัจฉริยะมากครับ ฟังคำพูด 2-3 ประโยค บรรลุอรหันต์กันหมด พระพุทธเจ้าคงสอนดีมาก คนที่ฟังพระพุทธเจ้าเทศแล้วไม่บรรลุมีน้อยกว่าอีก
ตั้งแต่ตรัสรู้จนถึงวันมาฆบูชา เป็นเวลา 9 เดือน มีพระอรหันต์ทั้งหมด 1,340 รูป ประมาณ 90 รูป เดินทางไปเผยแพร่ศาสนาที่อื่น ที่เหลือคือ 1,250 ที่มาชุมนุมนี่แหละ (ไม่รวมชฎิลและพระสารีบุตร)

และถ้า ภิกษุที่มามีอภิญา 6 จริง มีตา ทิพย์หูทิพย์ รู้ใจผู้อื่นได้ เหาะได้ ดำดินได้ ความมหัศจรรย์เรื่องมาชุมนุมโดย "มิได้นัดหมาย" นี่แม่งไร้สาระไปเลย เพราะทุกคนรู้ทุกอย่างอยู่แล้วนิ

-----------
สาธุชนผู้เลื่อมใส อาจจะบอกว่า แก่นแท้จริงๆ อยู่ที่ "โอวาทปาติโมกข์"
แต่เวลาโฆษณาเชิญชวนก็เห็นชู "ความมหัศจรรย์" ของจาตุรงคสันนิบาตนำทุกทีเลยนะ

ถ้าไม่มหัศจรรย์จะไม่เลื่อมใสเหรอครับ? ไหนบอกนับถือคำสอนไง?

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

289 Nameless Fanboi Posted ID:3/5vB6yXQ

>>288 โอ้ย อิสัส เลิก copy and paste

290 Nameless Fanboi Posted ID:DXYbuLOWd

>>289 >กระทู้มิตรสหาย
>ไม่ให้ copy paste

???

291 Nameless Fanboi Posted ID:3.cUS49s8

1941
Germany: you lost against Greece!? What happened to the 10 divisions I gave you!?
Italy: uhhh....
Germany: ich can't believe I'm allied with you

2018
Germany: you're bankrupt again!? What happened to the 50 million euros I gave you!?
Italy: uhhh....
Germany: ich can't believe I'm in the EU with you

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

292 Nameless Fanboi Posted ID:owBxu4kkf

>>290 กูคิดเหมือนมึงเลย แม่งเมารึป่าววะ 55555

293 Nameless Fanboi Posted ID:OlsnXCMb6

คนที่บอกว่าโกงเงินประเทศไปเถอะถ้าประเทศสงบสุข ก็ให้ดูกรณีศุลกากรบังคับแจ้ง Declare คอมพิวเตอร์และกล้องถ่ายรูปก่อนบินออกจากประเทศไว้เป็นตัวอย่างครับ ว่าสุดท้ายตอนประเทศเงินร่อยหรอ รัฐก็จะมารีดเงินประชาชนทุกวิถีทางที่เป็นไปได้จนสุดท้ายประชาชนอยู่ไม่ได้

และนี่มันแค่เริ่มต้น จากนี้จะแย่ลงเรื่อย ๆ ด้วย ก็ขอแสดงความเสียใจกับคนไทยทุกคนมา ณ ที่นี้ที่ร่วมพาประเทศมาสู่จุดนี้กัน

294 Nameless Fanboi Posted ID:ZOh6V+j5I

>>293 มันก็วลีเดียวกับ "โกงเงินประเทศไปเถอะถ้าทำงาน" ป่ะ

295 Nameless Fanboi Posted ID:Ekmv6odl4

>>294 ทำงาน=/=สงบสุขนะมึง

296 Nameless Fanboi Posted ID:lUf2Yc9xz

https://scontent.fbkk1-5.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/28661168_1896007323804561_7447785745088663191_n.jpg?_nc_fx=fbkk1-4&oh=697eaa578c6a7d4d6d36a84e1e98e96e&oe=5B0B6960

บางครั้งก็สงสัยว่า เมืองไทยเรายอมรับคู่รักเกย์ได้จริงๆเหรอ หรือจริงๆแล้ว เรายอมรับได้เฉพาะคู่รักเกย์ที่หล่อเหมือนพระเอกซีรี่ย์วายช่องone กับ LineTV เท่านั้น

297 Nameless Fanboi Posted ID:P3A/3aNxR

>>296 สุดท้ายคู่ไหนคบกันมันก็เอามานินทาลับหลังอยู่ดีว่ะ

298 Nameless Fanboi Posted ID:lUf2Yc9xz

มอยากเล่าให้ทุกคนได้อ่านนะครับ เมื่อสมัยที่ผมเป็นบรรณาธิการนิตยสารบันเทิงเล่มหนึ่ง ซึ่งติดทอปไฟว์ของเมืองไทย ผมไปทานข้าวที่สยาม แล้วก็เลยแวะไปงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่นั่นซึ่งมีนักข่าวกับช่างภาพผมไปทำข่าวอยู่ด้วย ก็เลยตั้งใจแวะไปดูเขาทำงานกันหน่อย

ปกติผมไม่ค่อยไปงานไหน ถ้าไม่สนิทสนมกันจริง หรือเขาไม่เชิญ ดาราบางคนจะไม่ค่อยรู้จักตัวผม แต่จะรู้จักชื่อผม ในวานนั้น ผมเจอน้องนักแสดงใหม่คนหนึ่ง เป็นผู้หญิง ชื่อ ป.ปลา น้องน่ารักมาก มีแววดังในอนาคต ผมชอบก็เลยขอเธอถ่ายภาพ ภาพหนึ่ง รู้มั้ยเธอย้อนถามผมว่า "ลุงจะถ่ายภาพหนูไปอะไร " สีหน้าดูถูกมาก เพราะผมอายุห้าสิบกว่า แล้วเธอก็สะบัดหน้าไปเลย ผมโกรธนะที่ถูกดูถูก แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ผมก็เลยเรียกช่างภาพกับนักข่าวของผมที่อยู่ในงานนั้นมา ถามว่า ถ่ายภาพน้องคนนี้ไว้เยอะมั้ย สัมภาษณ์ไว้หรือยัง ช่างภาพบอกว่า ถ่ายไว้เยอะครับพี่ นักข่าวบอกว่า สัมภาษณ์ไว้แล้วค่ะ ผมก็เลยบอกว่า ลบทิ้งให้หมดนะ ถ้าใครเอาภาพอีนี่ไปลงแม้แต่ภาพเดี่ยว ก๔จะไล่ออก แล้วผมก็เดินออกจากงานไป

นักข่าวผมคงไม่ถามผู้จัดการน้องเขาซึ่งเขาก็รู้จักผม แต่ตอนนั้นเขาไม่เห็นผม ถามว่าไปทำอะไรให้ผมโกรธ ผู้จัดการเขารีบวิ่งมาขอโทษผมแทนน้องคนนั้น ผมบอกผมไม่โกรธ แต่ผมไม่สนับสนุนคนที่นิสัยอย่ๆแบบนี้เข้ามาในวงการบันเทิง

"เธอเองก็เหมือนกัน จะปั้นใคร จะเอาใครมาทำอะไรก็สอนเขาหน่อย หรือดูที่นิสัยดีๆหน่อย คนแบบนี้เอาเข้ามามีแต่จะทำให้เสื่อม"

ผมบอกเขาอย่างนั้น นักข่าวฉบับอื่นก็ยืนฟังอยู่ เชื่อมั้ย หลังจากนั้นผมไม่เคยได้ยินชื่อน้องดาราคนนี้อีกเลย ทราบข่าวว่าไปเป็นตัวประกอบที่พอมีบทพูดอยู่บ้าง แต่ไม่ดัง ไม่มีคนสนับสนุนทั้งๆที่เขาหน้าตาดีมีแววมาก ตอนนี้น้องมีผัว มีลูกไปเรียบร้อยแล้ว และคงไปเป็นแม่บ้านอย่างเดียว

299 Nameless Fanboi Posted ID:WZN+wzZvj

>>298 สวัสดีค่ะ

300 Nameless Fanboi Posted ID:DXYbuLOWd

พวกที่อินฯคิดว่า "พุทธไทย เป็นพุทธแท้" นี่ผมบอกเลยว่า ต้องไปตรวจสมองแล้ว รับของต่อเขามา ห่างจากต้นกำเนิดเป็นพันๆกิโลเมตร เมื่อ 2600 ปีก่อน "เสือกคิดว่าตัวเองเป็น Original เลอะเทอะ คิดสั้น ปัญญาอ่อน หลอกตัวเอง" เอาสั้นง่ายๆ แค่เรื่องคิ้วเนี่ย กูบอกเลย พระไทยโกนคิ้ว ชาติเดียวในโลก ยังมีหน้าเสือกไปมองพระประเทศอื่นว่า"แปลก ไม่โกนคิ้ว"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

301 Nameless Fanboi Posted ID:uSh5oiMJL

พุทธแท้มันสูญพันธุ์ไปนานแล้วนะ ของเรานี่ออกแนวพราหมณ์มากกว่าพุทธด้วยซ้ำ

302 Nameless Fanboi Posted ID:wZGueVrXj

>>298 กูไม่เคยติดตามข่าวสารวงการบันเทิง แต่ผ่านมาเห็นแล้วรู้สึกว่าไอ้คนที่พิมพ์สิ่งนี้แม่งหลงตัวเองชิบหาย

303 Nameless Fanboi Posted ID:mZkMFkjT7

>>302 เออ แม่งก็บอกกันดีๆก็ได้ป่าววะ

304 Nameless Fanboi Posted ID:jn2.xIs+n

>>298 กูคงอคติ แต่อ่านแล้วนึกถึงครูวิชากพอ.โรงเรียนเก่ากูที่ชอบโวยวายเรียกร้องให้เด็กทั้งโรงเรียนต้องรู้จักและบูชาตัวเอง ทั้งที่นักเรียนสายวิทย์ไม่เคยเรียนวิชามึง ถ้าไม่แนะนำตัวจะไปรู้จักมึงได้ไงวะ
แล้วอีดาราในเรื่องแม่งผิดตรงไหน อยู่ดีๆมีลุงแปลกหน้าท่าทางไม่เหมือนช่างภาพมาถ่ายรูปเค้าก็ควรถามอยู่แล้วนี่ว่าถ่ายทำไม
แล้วที่บอกว่าเค้าทำสีหน้าดูถูกนี่แม่งมโนไปเองเหมือนครูกพอ.ของกูรึเปล่า กูยืนทำหน้าโง่ๆงงๆไม่รู้ว่ามันเป็นใคร มันเสือกไปฟ้องผอ.ว่ากูทำสีหน้าดูถูก ดีว่าผอ.มีสติไม่บ้าตามมัน

305 Nameless Fanboi Posted ID:VEUWP9+4T

บางคนก็ประหลาด .... กลัวที่จะร่วมมือกับคนตัวเล็กๆ ที่แม้แต่ resource (men-money-materials), know-how, knowledge, connection ที่จะทำอะไรของตัวเองยังไม่พอ เพราะกลัวว่าจะทำอะไรเลียนแบบ .... แต่ไม่กลัวยักษ์ใหญ่ที่มีสิ่งเหล่านั้นมหาศาลแทบไม่จำกัด จะเลียนแบบหรือแม้แต่ขโมยไอเดีย

ไม่เรียนรู้อะไรจากประวัติศาสตร์กันบ้างเสียเลย โดยเฉพาะในวงการ tech ...... ยักษ์ใหญ่ออก product เลียนแบบคนตัวเล็กๆ แล้วคนตัวเล็กๆ ก็ตายมากี่ครั้งกี่รอบแล้ว .....

แน่นอนว่ากรณีแบบย่อหน้าแรก มันก็มีแหละ ไม่ใช่ไม่มีเอาซะเลย แต่โอกาสมันน้อยกว่ามากๆ และมากๆ .....​

ย่อหน้าสอง นี่เกิดเป็นเรื่องปกติ ......

คนตัวเล็กกลัวจะร่วมมือกัน เพราะตั้งประเด็นกันแต่ว่าจะกลัวอีกฝ่ายเลียนแบบกัน แล้วจะไปพึ่งยักษ์ คิดว่ายักษ์จะดีด้วยจะต้องการตัวเอง .....

ฆ่าตัวตายแบบนี้ซะเยอะ ..... และบางคนก็ไม่ยอมเข็ดซักที

ประวัติศาสตร์ไม่เคยเรียนรู้ก็ไม่เป็นไร .... เรียนรู้จากประสบการณ์ตัวเองบ้างก็ดีเนอะ .... ไม่ใช่ให้มันเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก ... อย่าฆ่าตัวตายแบบเดิมๆ หลายรอบเลย ....​ กรอบความคิดแบบนี้ แนวคิดแบบนี้ เลิกดีกว่าเนอะ

#อันนี้ลืมไปว่าตัวผมเองจะเลิกโพสท์แบบนี้
#อันนี้ลืมไปว่าตัวผมเองจะโพสท์แต่รูป

306 Nameless Fanboi Posted ID:My4/yKUUP

พอตาสว่างปุ้บ ทักษะการเอาตัวรอดในสังคมที่ไม่เป็นประชาธิปไตยเราจะลดหายลงไปทันทีอ่ะครับ
.
สว่างระดับสปอตไลต์นี่ ก็ต้องเดินทางไปต่างประเทศไม่ก็กรมราชฑัณฑ์ทุกราย - -"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

307 Nameless Fanboi Posted ID:T/TVLlJE3

"ยืนคุยกับ Line Man และ Lalamove ที่มาต่อแถวร้านขนมปังปิ้งเจ้าดังเยาวราช เขาบอกว่าค่าบริการ 50บาทเริ่มต้นแล้วแต่ระยะทาง และชอบมีคนจ้างหน้าร้านให้ยืนต่อคิว ไม่แน่ใจว่าผิดกฎเขาไหมนะ แต่เขาบอกรายได้และส่วนแบ่งออฟฟิศมันไม่พอจริงๆ

ถ้าจ้างให้ยืนข้างหน้าแล้วคุณเดินไปกินข้าวกลับมาหรือเสร็จก่อนเขาโทรหาได้ คิด20-30 อย่างน้อยได้ค่าขนมไปร.ร.ของลูก ก็ถือว่าเป็นชีวิตที่ไม่มีทางเลือกมากนัก ท่ามกลางยุคที่คนพูดเรื่องสตาร์ทอัพ-เทคโนโลยี มันอาจมีคนที่รับค่าแรงขั้นต่ำในการรันระบบนี้อยู่ก็ได้"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

308 Nameless Fanboi Posted ID:ikS0CAhOR

ถ้าแบ่งการบรรยายตามผลลัพธ์ที่ได้คงมีอยู่สองแบบ คือแบบที่บรรยายให้คนฟังได้ความรู้ กับอีกแบบบรรยายให้คนอื่นรู้ว่าคนบรรยายเก่งจุงเบยแต่คนฟังไม่ได้เอี้ยอะไรกลับไปเลย

อย่าเป็นแบบหลัง มันเสียเวลาทุกคน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

309 Nameless Fanboi Posted ID:JjapFvmkh

"คนแบบที่เรารู้สึกว่าดีลด้วยยากมากคือพวกหัวเก่าที่แสร้งทำเป็นหัวก้าวหน้าเพราะจะมีความคิดกลับไปกลับมาเหมือนฐานความคิดเขาไม่แน่น คิดอีกแบบแต่พยายามแสดงออกอีกแบบ ซึ่งมันก็จะหลุดความเป็นอนุรักษ์นิยมออกมาหรือมีความคิดย้อนแย้งกันเอง จนเราไม่รู้ว่าเขาคิดแบบไหนหรือจะเอาไงกันแน่ อย่างพวกอนุรักษ์นิยมจ๋าเลยนี่ดูง่ายเพราะจะคิดวนๆ อยู่ไม่กี่อย่าง แต่พวกแบบที่เราพูดถึงนี่ดูเหมือนจะเปิดใจแต่จริงๆ ไม่เปิด ยึดติดมากด้วยซ้ำ บางทีเขาก็จะนิยามตัวเองว่าฉันใจกว้าง รับได้ทุกอย่าง แต่พอปฏิบัติจะเป็นอีกแบบ เหนื่อยกับคนประเภทนี้จริงๆ เพราะไม่แน่ใจว่าเราจะเผลอทำอะไรขัดใจเขาเมื่อไหร่"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

310 Nameless Fanboi Posted ID:g0inp7Q8p

>>298 นึกถึงที่่สื่อมวลชนรุ่นเก่าๆ เล่าว่าก่อนยุคอินเตอร์เน็ต นักข่าวนี่มีอำนาจไม่ต่างจากนักการเมืองและข้าราชการ ทีนี้บางคนก็เอาอำนาจตรงนี้ไปใช้แบบทุเรศๆ คือถ้าเรามีนักการเมืองและข้าราชการที่ไปรีดไถเรียกรับผลประโยชน์จากภาคธุรกิจเพื่อให้อำนวยผลประโยชน์ เราก็มีนักข่าวที่ไปรีดไถผู้ประกอบการเพื่อแลกกับการทำข่าวเชียร์บ้าง งดเว้นไม่วิพากษ์วิจารณ์บ้าง หรือวงการบันเทิงนี่ยิ่งเสื่อม เหมือนกรณีฮาร์วีย์ ไวน์สตีน ของอเมริกานั่นแหละ ดาราสาวๆ โนเนม ยังไม่ดังมาก ถ้าอยากได้ทางลัดก็ต้องเข้าหาโปรดิวเซอร์ เข้าหาผู้กำกับ หรือเข้าหาเจ้าของธุรกิจสื่อ

น้องคนนั้นโชคร้ายเองละที่เกิดมาในยุคที่การโปรโมตเป็นอำนาจผูกขาดโดยสื่อหลัก

311 Nameless Fanboi Posted ID:oE2ghBo31

"เมื่อวานไปอิซะกะยะยุ่นแห่งนึงแถวสุขุมวิท เหนคนชงเหล้ากำลังกรอก red label ใส่ขวด jack daniels ใครชอบกินไฮบอลล์ ก็ระวังยุ่นหลอกล่ะกันค่ะ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

312 Nameless Fanboi Posted ID:+sKSF10pg

"เกสซาร์ (Qaisar) ชายชาวปากีสถานอายุ 58 ปี จะทำอาหารและหอบหิ้วมาที่ ต.ม. ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ไม่มีขาดแม้แต่วันเดียว เพื่อเยี่ยมภรรยาอายุ 64 ปี ที่โดนจับมาไว้ในห้องขัง 25 เดือนแล้ว. ทุกครั้งที่ผมไปที่นั่น จะต้องเจอลุงเค้าใส่เสื้อผ้าชุดเดิมตลอด ในสภาพที่มอมแมมอย่างที่เห็นในรูป

ครอบครัวลุงเกสซาร์เป็นครอบครัวชาวคริสต์ มีลูกชาย 2 คน อายุ 26 ปี และ 28 ปี. เมื่อตอนที่อยู่ปากีสถานนั้น พวกเค้าโดนคุกคามและขู่ฆ่าจากชาวมุสลิมที่นั่น และถูกทำร้ายจนลุงได้รับบาดเจ็บที่หัวค่อนข้างรุนแรง ส่วนลูกชายสองคนของเค้าก็ถูกทำร้ายเช่นเดียวกัน

ครอบครัวของลุงดิ้นรนเฮือกสุดท้ายเพื่อเอาชีวิตรอด หนีมาตายเอาดาบหน้าที่ประเทศไทย แต่มากันได้แค่ 3 คน พ่อ,แม่,และลูกชายคนเล็กเท่านั้น ส่วนลูกชายคนโตไม่สามารถมาได้เพราะติดปัญหาเรื่องเงินและเอกสาร แต่ก็สัญญาว่าจะตามมาภายหลัง

ช่วงแรกในไทย พวกเค้าจะมีวีซ่าแค่ 3 เดือนเท่านั้น และได้ดิ้นรนทุกทางเพื่อต่อวีซ่า แต่ลุงเกสซาร์ก็เป็นเพียงคนเดียวที่ได้ ส่วนภรรยาไม่สามารถขอวีซ่าได้ จึงโดนจับในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง และลุงก็ทำอาหารหิ้วขึ้นรถเมล์จากห้วยขวางมาเยี่ยมภรรยาทุกวัน เป็นแบบนี้มา 25 เดือนแล้ว

รายได้หลักของลุงมาจากลูกชายคนเล็ก ที่ออกไปรับจ้างทำงานรายวัน วันละ 200 บาท (6พันบาท/เดือน) ซึ่งรายได้ตรงนี้ต้องเลี้ยงดูทั้งครอบครัว รวมถึงแม่ที่อยู่ในห้องขังด้วย

ลุงเกสซาร์บอกว่าเค้ารักภรรยาสุดหัวใจและไม่สามารถทิ้งให้โดดเดี่ยวอยู่ในห้องขังได้แม้แต่วันเดียว ถึงแม้วันไหนลุงจะไม่มีเงินซื้อของมาทำอาหาร แต่ลุงก็จะต้องมาเยี่ยมให้ได้ ถึงมาตัวเปล่าก็ขอแค่มาเยี่ยมและปล่อยตัวภรรยาให้ออกจากห้องขัง วันละ 1 ชั่วโมงก็ยังดี

เราถามลุงเกี่ยวกับลูกชายคนโตว่าเป็นยังไงบ้าง ลุงบอกว่าตั้งแต่มาที่ไทย ก็ติดต่อลูกชายคนนี้ไม่ได้อีกเลย ไม่มีข่าวคราว ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

313 Nameless Fanboi Posted ID:xtdtHAQwc

>>312 แจ้งเซเลปให้ช่วยประโคมข่าวดิ

314 Nameless Fanboi Posted ID:PBi0sa.AV

>>312

ทำไมลุงไม่ไปยุโรปหรือคอมมี่ฟอเนียร์ ลิเบอร่านแถวนั้นขี้คร้านจะน้ำตาไหลซาบซึ้งรับลุงกับครอบครัวเข้าไป ล่าสุดนี่นายกเทศมนตรีโอ๊กแลนด์เตือนต่างด้าวผิดกฏหมายก่อนที่ตม.จะไปจับ ไม่ต้องห่วงเรื่องวีซ่า

315 Nameless Fanboi Posted ID:06zbjr9M4

>>314 น่าจะไม่ได้ครับ ลุงบอกเหตุผลที่ลี้ภัยน่าจะโดนส่งกลับเพราะเหยียดคนมุสลิมครับ

316 Nameless Fanboi Posted ID:1s92VQBvN

ก่อนหน้านี้ แถวบ้าน มีคนเปิดร้านขายจักรยาน ร้านสอนโยคะ ร้านของตกแต่งสวน ร้านนวดสปา ตอนนี้ทุกร้านกลายเป็น ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ร้านข้าวแกง ร้านข้าวหน้าเป็ด หมดเลย แสดงให้เห็นว่า สิ่งที่มนุษย์ต้องการจริงๆคือ "การแดก"

317 Nameless Fanboi Posted ID:1s92VQBvN

อ่านแล้วเหมือนจะดี แต่จริง ๆ มันคือการกดขี่เพศหญิง ให้จิ๋มมีไว้สงวน การโดนเยสต้องมาจากความรักแท้เท่านั้น ต้องเยสกับคนที่แต่งงานด้วยถึงจะเป็นจิ๋มที่มีคุณค่า ส่วนจู๋ไม่โดนอะไร จิ๋มมาถวายจู๋ก็ต้องสนอง ไม่ใข่ความผิดจู๋ ผิดที่จิ๋มยอมแบะให้เอง บลา ๆ ๆ งี้หรอ

ทำไมต้องเสียใจกับการผ่านผู้ชายที่สุดท้ายไม่ได้แต่งงานมา ทำไมต้องเสียใจกับประสบการณ์ทางเพศที่ทำให้เรารู้เทคนิคลีลาและรู้ว่าตัวเองชอบหรือไม่ชอบอะไร

ค่าของผู้หญิงอยู่ที่จิ๋มหรอ? นี่งงใจกับความคิดแบบนี้ จะปล่อยให้ผู้ชายเอาเปรียบกดทับไปถึงเมื่อไหร่ ด่าแต่ผู้หญิงแต่ผู้ชายลอยตัว ยังไปเฮโลเห็นด้วยเป็นขุนพลอยพยัก

อยากยกย่องเชิดชูก็ยกไปนะคุณผู้หญิง มันก็จิ๋มคุณอ่ะ แล้วอย่าข่นเรื่องความไม่เท่าเทียมทางเพศ หรือทำไมผู้ชายลอยตัวจากสารพัดปัญหาละกัน

318 Nameless Fanboi Posted ID:1s92VQBvN

มีผัวตอนเรียน
ไม่เรียกว่า "ผัว "หรอก เรียกว่า "คู่นอน"
ไม่ว่ามึงจะวางแผนหลังโดนเย็ดยังไง 98 % ไม่เป็นจริง

ไอ้ที่คิดว่า
โดนรุ่นพี่เย็ดหลังกลับจากเที่ยวผับ
แล้วทึกทักว่านั่นความรัก เขารักเรา
เลยชวนเที่ยวผับ เมา แล้วอาสามาทับบนตัวมึงบนเตียงมึง ห้องที่พ่อแม่มึงจ่ายค่าเช่าให้...นั่นเรียกว่ า #เงี่ยน!!

หลายคู่
ที่ตั้งใจและวางแผนชีวิตด้วยกัน
ตอนที่ได้กันระหว่างเรียน พอเรียนจบมา
ผู้ชายไปทำงานที่นึง/ผู้หญิงไปทำงานที่นึง
ผู้ชายแม่งก็ไปเจอผู้หญิงคนใหม่ในที่ทำงาน
สวยแปลกตา/กลิ่นน้ำหอมก็ไม่เหมือนมึง
สีผมก็สวยกว่า/ทุกอย่างแปลกใหม่
ผู้ชาย ไปจากมึง!!

ส่วนผู้หญิง
ไปฝึกงาน รุ่นพี่ที่ทำงาน
เกือบทั้งแผนกแม่งรุมจีบ
เลิกงานอาสาไปส่งชวนไปเลี้ยงข้าว
บางคนเอางานมาอ้างเพื่อใกล้ชิดสนิทสนม
จากที่เคยอยู่กับแฟน บ่นหิวข้าวร้านข้าวอยูใต้หอยังไม่ลงไปซื้อให้
สุดท้าย ผู้หญิง(บางคนใจอ่อน)
บางคนโดนหลอกฟันแล้วก็ทิ้ง มึงก็ร้องไห้ไม่ต่างจากแม่โดนควายขวิดตาย

บางคนดันเพิ่งมาเจอรักแท้ๆ
เอาตอนทำงาน เพิ่งมาเจอการดูแลเอาใจใส่แบบจริงๆจัง
บางคนหนักมาก
ร้องไห้วันแต่งงาน เพราะเสียใจว่า
ที่ผ่านๆมากูนอนให้คนที่ไม่ได้รักกูจริงเย็ดอย่างไม่รู้คุณค่า เสียดายที่ไม่ได้มอบสิ่งที่มีค่าที่สุดให้คนที่รักเราที่สุด!

มีคนนอนขยับๆเอวทับบนตัวมึง
ตอนที่ยังเรียนอยู่...ไม่ได้เรียกว่าผัวนะ
เรียกว่าคู่นอนอย่าเข้าใจผิด
ก่อนจะแรด
ก่อนจะเรียกร้องหาคนดีๆมึงควรทำตัวยังไง?
และให้จำใส่หัวกระโหลกบางๆไว้ว่า

“พ่อแม่ส่งมาเรียน”
หาเงินให้เรามาเรียน
จ่ายค่าห้องให้เรานอนสบาย
ไม่ได้ขายข้าวผัดส่งอีดอกมาเป็นแรด
ไม่ได้เก็บผักขายให้อีห่าที่ไหนเอาเงินไปเช็คอินร้านเหล้า!!
ไม่ได้ รับจ้างเกือบตาย ให้อีควาย
พาผู้ชายมานอนเย็ด. ในห้องที่แม้แต่พ่อแม่ยังขึ้นไปดูไม่ได้มีแต่จ่ายเงินให้อย่างเดียว!

ทุกครั้งที่จะให้ใครเย็ดคิดถึงหน้าแม่ไว้
ทุกครั้งที่จะเช็คอินร้านเหล้า
คิดไว้พ่อมึงหาเงินลำบากมั้ย??
ทุกครั้งที่จะเหี้ย...มีคนเสียใจ
ที่ไม่ใช่กูแต่เป็นคนที่มึงเรียกเขาว่า..พ่อแม่

จงรัก "ผู้ให้ชีวิตมึง" ให้มากกว่าเหี้ยที่มึงพร่ำเพ้อว่ารักมัน...!!

319 Nameless Fanboi Posted ID:C3UF.bpfF

>>318 เห็นด้วยนะ กูเข้าใจฟีลนี้เลยเวลาที่แบบรักใครมากๆก็อยากจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเค้า ในแง่การมีเซ็กซ์​ก็คืออยากจะให้เค้าเป็นคนแรกของเรา(และอยากเป็นคนแรกของเค้าด้วย)​มันให้ความรู้สึกที่ว่าเรามีแค่เค้าคนเดียวจริงๆ เหมือนเกิดมาเพื่อคนนี้จริงๆ เค้าเป็นหนึงเดียวของเราจริงๆอ่ะ
แต่เหตุผลของ>>317 มันก็ใช่อีก เพราะถึงต่อให้การเก็บซิงไว้ให้คนที่รักมันคือความโรแมนติกหน่อยๆ แต่เราก็ไม่รู้ว่าอีคนนี้มันจะอยู่กับเราตลอดไปหรือซักวันนึงอาจต้องเลิกกัน ถ้าอยู่ตลอดไปมันก็ดีไงแต่ถ้าเลิกกันสุดท้ายก็จะเหมือนไม่เหลือความเพ้อฝัน​ตรงนี้อีกแล้วที่ว่าเราอยากให้คนที่รักได้สิ่งที่สมบูรณ์แบบ​ที่สุด เพราะชีวิตแม่งก็ไม่แน่นอนถ้าคิดแบบนี้แม่งก็จะนอนกับใครไม่ได้เลยชั่วชีวิต

เพราะงั้นกูเลยสรุปเอาเองว่าการเก็บซิงไว้ให้คนที่รักเนี่ยก็เป็นเหลวไหลเพ้อฝันไม่ต่างจากคำว่าเราจะรักกันตลอดไปหรอก คำว่าตลอดไปแม่งอุดมคติมากๆมันขัดต่อความเป็นจริง เพราะงั้นกูก็ให้มันเป็นแฟนตาซีของกูไปแต่ในความเป็นจริงแล้วความซิงไม่ใช่เรื่องต้องเอามาคิด

ปล. กูมีแฟนตาซีแบบนี้พูดตรงๆก็อยากได้ผุ้ชายซิงเหมือนกันนะ พอรู้ว่าผู้ชายเคยเย็ดมายิ่งมากเท่าไหร่ความรู้สึกมันก็ติดลบลงไปเท่านั้นแหละ ถ้ากูไม่ซิงแล้วความรู้สึกตรงนี้อาจหายไปก็ได้ เพราะกุรู้สึกว่าตัวเองสะอาดบริสุทธิ์​กูก็อยากได้คนที่เป็นเหมือนกูเช่นกัน แต่แค่ว่าถ้ากุรักใครซักคนแล้วถึงจะไม่ซิงก็ไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้กูเลิกรักได้ กูสามารถมองข้ามได้แต่ลึกๆก็หวังอยากได้ซิงเหมือนกันแหละ
เพราะงั้นเลยคิดว่าถ้าผู้ชายบริสุทธิ์​อยากได้ผู้หญิงบริสุทธิ์​ก็ไม่แปลกอะไร แต่ผู้ชายช่ำชองอยากได้ผู้หญิง​บริสุทธิ์​อันนี้เรียกเหี้ยและกดขี่ผู้หญิงของแท้ ถ้ากูเจอผู้ชายคนไหนบอกอยากได้ผู้หญิงซิงแต่มีพฤติกรรม​เอาไปทั่ว กูกาหัวทิ้งแน่นอน คนอุบาทว์​

320 Nameless Fanboi Posted ID:MFM4jbklg

บางทีก็แอบคิดนะว่า คนที่ไปเม้นอวยพี่ดี้นี่จริงๆแล้ว เค้าเกลียดมันป่าววะ
ประมาณว่า เม้นให้มันมีกำลังใจในการโชว์โง่ต่อไป

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

321 Nameless Fanboi Posted ID:rOJktPaTA

"ทุนนิยมชั่วช้า ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ!"
"มึงรู้จักAral Seaไหม?"
"..."

มิตรสหายสองท่านได้คุยกัน

322 Nameless Fanboi Posted ID:dYLbUmqEt

💠 ซอมบี้[Zombie] ชื่อ วีรชน อิสลาม ที่ถูกลวงโลก ว่าเป็น ชื่อ ผีดิบ 💠

❇ ประวัติความเป็นมาของ Zombie ซอมบี้ ที่คนทั้งโลกถูกหลอกว่าเป็นผีดิบ ❇

▶ เมื่อพูดถึงซอมบี้.. สิ่งที่เกิดขึ้นในความคิดของเราก็คือ ศพที่เดินได้หรือผีดิบที่เที่ยวทำร้ายกัดกินมนุษย์ และทำให้คนอื่นเป็นผีดิบตามไปด้วย และสิ่งนี้ทั้งหมดล้วนเป็นแผนการของตะวันตกที่ต้องการล้างสมองของคนทั้งโลกให้เข้าใจว่า ซอมบี้คือผีดิบ
ตะวันตกได้ใช้ความพยายามที่จะสร้างความเข้าใจผิดในคำว่า “zombie” เพื่อให้ชาวโลกได้เข้าใจว่าคือ ผีดิบ ที่ไม่มีความคิดจิตใจ ด้วยวิธีการสร้างบทละคร, เรื่องเล่า จนถึงภาพยนตร์ เพื่อให้เห็นว่าซอมบี้ ไม่ได้ดีความดีงามและประโยชน์ใดๆเลย

แต่อย่างไรก็ตาม.. ซอมบี้คือผีดิบตามที่ตะวันตกได้สร้างเรื่องราวหลอกลวงชาวโลกจริงหรือไม่?

ซอมบี้ที่แท้จริงคือ วีรบุรุษอิสลามของประเทศบราซิล

เมื่อประมาณปี ค.ศ.1550 อิสลามได้เริ่มแผ่ขยายเข้าสู่ประเทศบราซิล ในเวลานั้น ชาวโปรตุเกสได้นำเด็กๆ ชาวอาฟริกาจำนวนมากมายเข้ามาทำงานเป็นกรรมกรในไร่อ้อย และเด็กๆเยาวชนชาวอาฟริกาส่วนใหญ่นี้ต่างล้วนนับถือศาสนาอิสลาม และจากการที่มีกรรมกรชาวอาฟริกาจำนวนมากที่เป็นมุสลิม จึงทำให้อิสลามในบราซิลเริ่มขยายมีคนเข้ารับอิสลามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

นับแต่นั้นมาในแต่ละปี จำนวนประชากรมุสลิมในบราซิลก็เริ่มเพิ่มจำนวนมากขึ้น มิใช่เฉพาะชาวกรรมกรในไร่อ้อย แต่อิสลามได้แผ่ขยายและได้รับการยอมรับของชาวเมืองและจึงทำให้กองกำลังซาลิบิซเกิดความไม่สบายใจ และพยายามที่จะสกัดกั้นพร้อมทั้งทำลายการเติบโตของอิสลามในบราซิลจนถึงรากถึงโคน และในที่สุดกองกำลังซาลิบิซก็ได้รับความสำเร็จภาระกิจของเขาที่ได้ทำลายและหยุดยั้งการเติบโตของอิสลามในบราซิล

ในปี ค.ศ.1643 ได้เกิดวีรบุรุษมุสลิม ด้วยความเข้มแข็งและกล้าหาญ ที่ต้องการสร้างประเทศอิสลามให้เกิดขึ้นมาในบราซิล ด้วยการที่เขาได้เผยแพร่อิสลามตามพื้นที่ชนบท นอกเมือง จนถึงการเรียกร้องบรรดาผู้มีตำแหน่งในสังคมสู่อิสลาม และผู้ที่เป็นวีรบุรุษที่สร้างความเข้มแข็งให้กับอิสลามในบราซิลนี้เองที่มีชื่อว่า “ซอมบี้”

กองกำลังซาลิบิซเข้าใจว่าอิสลามในบราซิลได้สูญสลายตายไปหมดแล้ว แต่ความจริงแล้ว อิสลามยังไม่ตาย ซอมบี้ได้ฟื้นฟูอิสลามให้เข้มแข็งขึ้นมาอีกครั้งบนแผ่นดินบราซิล และด้วยเหตุนี้เองที่ กองกำลังซาลิบิซได้พุ่งเป้าหมายการทำลายล้างไปที่ซอมบี้ และถือว่าซอมบี้คือศัตรูตัวฉกาจที่ต้องกำลังและทำลายล้างให้หมดสิ้นแม้แต่ชื่อ ซอมบี้ ก็ตาม

อ้างอิงจากหนังสือ مائة من عظماء أمة اﻹسلام غيروا مجرى التاريخ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

323 Nameless Fanboi Posted ID:g9Kq+2BUL

>>322 พอเกี่ยวกับอิสลามแล้วกูไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลยว่ะ

324 Nameless Fanboi Posted ID:5srMh+m7e

>>323 😡😡😡😡😡✈️✈️✈️✈️🚚🚚🚚🚚🧟‍♂️🧟‍♀️🧟‍♂️🧟‍♀️🧟‍♂️🧟‍♀️🕋🕋🕋🕋💣💣💣💣💣💣💣💣💣💣💣💣💣💣💣💣💣💣

325 Nameless Fanboi Posted ID:Opm0Z4XyW

>>321คอมมิวนิสต์ชั่วช้า ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ!

326 Nameless Fanboi Posted ID:tBGoHaHKS

>>325 เดี๋ยวคลั่งคอมมี่โกรธนะเมิง

327 Nameless Fanboi Posted ID:n3FJaB.Ho

ลิเบอร่านกำลังจะมาดิ้นใน 1...2....3....

328 Nameless Fanboi Posted ID:F17vAzgJX

2014 ลิเบอร่านGamergate : เกมทำให้ผู้ชายเหยียดเพศ เกมชั่วร้าย!

2018 ลิเบอร่าน : ทรัมป์โคตรโง่ เกมไม่ได้ทำให้คนรุนแรง!

ลิเบอร่านเอาแน่นอนไม่ได้

329 Nameless Fanboi Posted ID:pLq+8YcaN

เมื่อวานมิตรสหายรุ่นพี่ท่านหนึ่งทวงเงินอ๋อ อาก้า สองร้อยบาทในวงเหล้า แกตบโต๊ะ ยืนขึ้นกางมือแล้วกล่าวว่า
.
"ถ้าพี่ค้นตัวผมแล้วเจอเงินสองร้อยหรือมากกว่านั้น พี่เอาไปหมดได้เลยพี่"
.
เอิ่ม - -"
.
#ชายผู้มีแต่ตัวและหัวใจ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

330 Nameless Fanboi Posted ID:RMD6ucGGA

>>329 ตอนมาแดกเหล้านี่กะแดกฟรีให้คนเลี้ยงสินะ

331 Nameless Fanboi Posted ID:JgvSDZVAu

ยามเช้า

#ผมไม่ได้เขียนเองนะครับ #คนเขียนไม่ขอเปิดเผยตัวตน #ขออนุญาตแล้ว

วาทะกรรม ประจำปีนี้ #คนที่เรามีอยู่ไม่โอเค เราพร้อมจะเปลี่ยนทั้งหมด

พอได้ยินเยอะๆ เค้า เริ่มคิดว่า สรุปที่คนที่มีอยู่ไม่โอเคเนี่ย แม่งเพราะใครฟระ

เอา HRM ที่ทุกคนกร่นด่ามาดูซิ ว่าปัญหาแม่งอยู่ตรงไหน

กระบวนการรับเข้า แม่งบอกอยากได้ Java Programmer 5 Years Exp แสรด ก็กรองกันแบบเนี้ย เมิงหา Object Oriented Real-Experienced มามั๊ย ถ้าพื้นสตรองจริงๆ ภาษาห่ารากอะไรที่เป็น OO แม่งก็ผ่านไปได้หมดแหละ ให้เวลามันหน่อย ลองหา Web-Technology Primer มั๊ยว่าแม่งเข้าใจ HTTP มากแค่ไหน ไม่ใช่ RESTful with return status 200, message {"error": true } เนี่ย Java 5 Years Exp บางคนแม่งก็ย่ำอยู่กับที่ 5 ปีนะโว้ย แค่คุณสมบัติไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเขียนโปรแกรมกันซักนิดและ กะเอามาแบบพรุ่งนี้เริ่มงานได้เลย Java ที่ไหนก็เหมือนๆ กันแหละ #เหมือนกัน...สิ

แล้วไอ้ที่บอกว่า เอาแบบเคยทำ Agile บอกเลย กุทำ software หว่ะ กุไม่ทำ Agile ถ้าอยากได้ Software Dev อยู่ใน methodology หมวด Agile สิ่งที่ต้องทำคือในสองอาทิตย์นี้ เรามี Feature ที่พยายามทำคือ ... เรียงมาให้เรียบร้อย เสร็จคือ พี่ต้องพร้อม deploy ได้นะ รายละเอียดคุยกันเต็มๆหน่อยว่ามีอะไรบ้าง Software Dev ดีๆ เค้าก็ทำได้แหละ แต่ถ้าเค้าบอกว่าไม่ทัน เพราะ บลาๆๆ ฟังมันเฟร้ย ฟัง แล้วหาทางแก้ปัญหาด้วยกัน ไม่ใช่บอกว่า ต้องเสร็จ เรา Agile #Agile...สิ สั่งกันแบบนี้ ยิ่งกว่า Waterfall แล้ว เรียกใช้แรงงานทาสกันเลย

แล้วไอ้ที่บอกว่า Feature นี้ เจาๆๆๆ พอ Dev บอก cost เยอะ ยาก หรือมีวิธีการดีกว่า ไม่ฟังหรอกเพราะนายสั่งมา นี่..​กล้าเรียกตัวเองว่า Business กันอยู่ป่าวว่ะ สติ ค่ะ สติ ตื่นค่ะ หมดยุคเดินตามหลังนายแล้วจะเจริญแล้ว เพราะดูสิ นายแม่งยังบอกเลย #คนที่เรามีอยู่ไม่โอเค มันโยนความผิดให้คนที่มีอยู่หมดแหละ น้อยอ่ะที่มันจะสำเหนียกว่าตัวเองผิด ให้โอกาส แล้วเริ่มแก้ที่ตัวเอง วิธีการ 5 ปีก่อน มันใช้ได้กับ 5 ปีนี้แน่หรอ อะไรที่เคยสำเร็จแล้ว มาใช้ซ้ำๆ กับ context ที่เปลี่ยนไป จะได้แน่หรอ ตื่นค่ะ ไม่ได้ว่าเจ้านายดีๆ boss ดีๆ manager ดีๆ ไม่มีนะ มีเว้ย เจอมาทั้งชีวิตเลย เลียแข้งเลียขานายก็เคย แต่เลียด้วยสติงัย ถามนายเลย ทำไมต้องทำอย่างงี้คะ แล้วกลับมาลองหาข้อมูลประกอบ ถ้าไม่ใช่ เดินไปถามใหม่ พอนายเห็นข้อมูลมาขึ้น นายกลับชมด้วยซ้ำ เออ ลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย ดีมากๆ กุได้คำชมซะงั้น

แล้วไอ้ที่ประเมินกันแต่ละปี หาคนที่ทำงานผิดพลาดน้อยที่สุดแล้ว Promote ซะ พอเกิดปัญหาแม่งก็ถามหาใครรับผิดชอบ ... เกลียดอีคนำนี้มาก เพราะคนจะสะดุ้งแค่คำว่า "รับผิด" ชอบแม่งจะหายไป สรุปว่าคนที่ลองอะไรใหม่ๆ แล้วพลาด แม่งโดนซ้ำเติมกันไป แทนที่จะหาวิธีแก้ไขหรือทำให้ดีขึ้นกัน ก็สร้าง culture พลาดโดนซ้ำกันไป แทนที่จะหาทางให้เค้าได้ลองเพื่อพัฒนาทั้งตัวเองและองค์กร เริ่มแม่งจากน้อยๆ ที่พลาดได้ไม่เจ็บหนัก กลายเป็นใครพลาดกดหัวซ้ำ ตั้งแต่เจ้านาย เพื่อนร่วมงาน ยันลูกน้อง แล้วจะทำให้คนศึกษาสิ่งใหม่ๆ ไปทำซากอะไร พอเวลาผ่านไปก็วนไปที่ #คนที่เรามีอยู่ไม่โอเค

แล้วพอจะหาคนใหม่มา เอาคนเก่งๆ เอาเงินฟาดเลย เด็กสมัยนี้ มีเงินพอใช้ค่ะ เงินเยอะมากอาจจะฟาดได้ แต่ถ้าเยอะมากแต่ชีวิตตรูตกต่ำ ทำงานหามรุ่งหามค่ำ เข้าไปอยู่กับของพังๆ ให้ลองวิธีการใหม่ๆ ก็กลัวหัวหดกัน แล้วมันจะอยากไปอยู่หรอ สอนให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ แต่ไม่มีโอกาสให้มันถามมันเถียงเนี่ย คุณไม่ได้มีเงินคนเดียวนะค้าบ บริษัทอื่นที่ดีๆ ก็มีเงิน

พิมพ์อะไรเยอะแยะ ได้อะไรมั๊ย? ไม่ แถมเข้าตัวอีก คนเขียน Agressive Mode

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

332 Nameless Fanboi Posted ID:g9Kq+2BUL

>>331 can you speak thai?

333 Nameless Fanboi Posted ID:AdUC4WitT

>>331 กูอ่านอะไรลงไป

334 Nameless Fanboi Posted ID:pLq+8YcaN

>>332-333 yuo cannot into programming

335 Nameless Fanboi Posted ID:DfXnv6yJY

>>334 https://imgur.com/39QqYK0

336 Nameless Fanboi Posted ID:np30fYRNf

เมื่อถึงจุดนึงในชีวิตเราจะถูกโลกทดสอบด้วยแบบทดสอบที่ยากขึ้น มันจะไม่ได้ทดสอบเราด้วยให้เราเลือกระหว่างสิ่งที่ดีและไม่ดี
มันจะทดสอบเราด้วยคำว่าโอกาส โอกาสที่ถูกใจแต่ไม่เหมาะสม โอกาสในการทำสิ่งที่เหมาะสมแต่ไม่ถูกใจ โอกาสที่ถูกใจสังคมแต่ไม่ถูกใจเรา โอกาสที่ถูกใจเราคนเดียวแต่ไม่ถูกใจสังคม และเพิ่มความยากด้วยการโยนโอกาสเหล่านี้มาพร้อมๆกัน ในเวลานี้การรู้ภายในเป็นเรื่องสำคัญ รู้ว่าเรามีความต้องการอะไร อะไรทำให้เราสุข อะไรทำให้เราทุกข์ อะไรที่เราจะทำ อะไรที่เราจะไม่ทำ

การมีสิ่งนี้ติดไว้จะเป็นเครื่องกรองให้เหลือเฉพาะโอกาสที่เหมาะกับเราในขณะนั้น ทำให้กระบวนการตัดสินใจของเรามีความแน่นอนเข้าใจได้ นอกจากจะเข้าใจตัวเองแล้ว คนอื่นก็จะเข้าใจเราได้ถึงแม้ว่าการตัดสินใจของเราจะถูกใจหรือไม่ก็ตาม

และอีกสิ่งที่จะช่วยคือ การเป็นคนตรงไปตรงมา ทำในสิ่งที่ถูกต้องแม้จะทำให้เสียโอกาสก็ตาม

สองสิ่งนี้จะทำให้เราอยู่รอดปลอดภัยในวันที่โอกาสเต็มไปหมด

ขออภัยที่เลือกไม่ได้ทุกโอกาส
ขอบคุณทุกโอกาสที่เข้ามา

337 Nameless Fanboi Posted ID:2O5XeC7dB

>>335 why so cereal >>334 is of perfect engrish

338 Nameless Fanboi Posted ID:mbCpeKr6f

>>336 ดีงาม

339 Nameless Fanboi Posted ID:OzYD9Lsuy

>>323 Islamophobia ทำไมไม่ PC เลยครับ

340 Nameless Fanboi Posted ID:qLXyxzmRK

>>322 Zumbi dos Palmares เป็นผู้นำทาสอัฟริกาจากอังโกลา ลุกฮือก่อกบฏต่อโปรตุเกสซึ่งเป็นเจ้าอาณานิคมของบราซิลช่วงปี 1675 ได้รับความนับถือว่าอยู่ยงคงกระพัน แต่เขาก็ถูกโปรตุเกสฆ่าตายในปี 1695 ตำนานการต่อสู้ของเขาสร้างแรงบันดาลใจให้เหล่าทาสในอเมริกาใต้แสวงหาความเป็นไท
ส่วนการกบฏของทาสมุสลิมในบราซิลเกิดขึ้นในปี 1835 ช่วงเดือนรอมฏอน เรียกกันว่า The Malê revolt หรือ The Great Revolt ทาสมุสลิมชนเผ่าโยรูบาลุกฮือขึ้นในเมืองซัลวาดอร์ดาบาเฮีย พวกเขาได้รับแรงบันดาลใจจากการกบฏของผิวดำในเฮติ (1791−1804) ภายใต้การนำของ Jean-Jacques Dessalines จนขับไล่ฝรั่งเศสออกไปได้ (การลุกฮือครั้งนั้นบางคนก็แขวนสร้อยคอมีรูปของ Jean-Jacques Dessalines ด้วย) แต่กบฏของมุสลิมในบาเฮียถูกโปรตุเกสปราบลงได้ ทาสจำนวนมากถูกส่งกลับอัฟริกา

#มิตรสหายท่านหนึ่งจากกลุ่ม The wild chronicles

สรุปก็โม้เย็ดแพะตามเคย

341 Nameless Fanboi Posted ID:3cQTIgAJn

ผมจะทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เป็นนีทนะครับ

จะไปหางานทำหรือ?

จะออกจากบ้านทุกวันเพื่อนบ้านจะได้ไม่คิดว่าเป็นนีท ถถถถถถถถะถถ

342 Nameless Fanboi Posted ID:JVRQcuTX8

เฮ่ออ พวกลูกหลานนักการเมืองปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมที่พ่อแม่เลี้ยงมาแบบเจ้าหญิงเจ้าชาย แล้วมาเห่อกระแสคนรุ่นใหม่ไม่เคารพผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค
.
พวกนี้ไม่รู้หรอกครับว่านักการเมืองรุ่นพ่อรุ่นแม่พวกเขาในอดีตต้องลำบากตรากตรำแบกกระสอบเงินไปซื้อเสียงในคืนหมาหอนมันเสี่ยงแค่ไหน กว่าจะลงหลักปักฐานประชาธิปไตยให้พวกคุณได้อ่ะครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

343 Nameless Fanboi Posted ID:gdmNNTQ3n

>>340 ส่งเบคอนไป

344 Nameless Fanboi Posted ID:+XS6f6TdE

ฝอยทอง : ปรากฏการณ์globalizationของโลกประวัติศาสตร์
และเรื่องราวที่มากกว่าท้าวทองกีบม้า (ตอนแรก)
_______________________________

ขนมตระกูล “ทอง” เป็นขนมที่มีส่วนผสมหลักคือไข่แดงและน้ำตาลทราย เริ่มต้นเป็นที่รู้จักของคนไทยโดยการแนะนำของท้าวทองกีบม้า หรือมารี ปินยา เดอ กีย์มาร์ ผู้มีเชื้อสายญี่ปุ่น (อาจจะมีโปรตุเกส และหรือเบงกอลด้วยแต่ไม่ได้มีหลักฐานชี้ชัด) ภรรยาของคอนสเตนติน ฟอลคอน หรือออกยาวิชาเยนทร์ พ่อค้าชาวกรีกที่เข้ามารับราชการได้ดิบได้ดีในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

มารีตกระกำลำบากเมื่อฟอลคอนหมดอำนาจและโดนประหารชีวิต แต่กลับมาตั้งตัวได้ใหม่เมื่อได้รับความไว้วางใจจากพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ผู้แต่งตั้งนางเป็นชาววิเสทประจำห้องเครื่อง มีหน้าที่ดูแลอาหารหวานและผลไม้ อีกทั้งยังดูแลพระภูษาตลอดจนฉลองพระองค์ ช่วงนี้นี่เองที่ท้าวทองกีบม้านำขนมหวานตำรับโปรตุเกสมาแนะนำให้กับทางห้องเครื่อง โดยขนมที่ว่ามีทั้งขนมตระกูลทอง เช่นฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด ตลอดจนขนมอย่างลูกชุบ กะหรี่ปั๊บและขนมหม้อแกง

ถึงแม้ว่าเราจะรู้กันว่ามารีเอาต้นแบบของขนมเหล่านี้มาจากโปรตุเกส แต่แท้จริงแล้วด้วยชาติกำเนิดของนางซึ่งมีเชื้อสายญี่ปุ่นเป็นหลัก เป็นไปได้มากที่ขนมเหล่านี้เป็นวัฒนธรรมที่ถูกส่งไม้ต่อมาจากโปรตุเกส มาที่ญี่ปุ่นอีกทีก่อนที่ท้าวทองกีบม้าจะนำมาให้ชาวไทยรู้จัก
_______________________________

หลักฐานที่น่าสนใจปรากฏให้เห็นอยู่สองข้อ

ข้อแรกตามลำดับเวลาการเดินเรือของนักสำรวจชาวโปรตุเกส โดยตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชาวโปรตุเกสมาถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี ค.ศ. 1511(พ.ศ.2054) แล้วจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปถึงญี่ปุ่นในปีค.ศ.1542 (พ.ศ.2085) ช่วงระยะเวลากว่า 30 ปีที่ชาวโปรตุเกสเริ่มเข้ามาเจริญสัมพันธ์ทางการฑูตกับอยุธยากลับไม่มีบันทึกเกี่ยวกับขนมที่ได้รับอิทธิพลจากโปรตุเกสในช่วงนั้น อีกทั้งกว่าที่จะถึงรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระซึ่งเป็นเวลาที่ท้าวทองกีบม้ารับราชการในตำแหน่งชาววิเสทก็กินเวลามาอีกถึงกว่า 160 ปี กลับไม่มีบันทึกเกี่ยวกับขนมฝรั่งเลย ดังนั้นอาจตั้งสมมุติฐานได้ว่าชาวโปรตุเกสที่เข้ามาในสยาม ไม่ได้ส่งอิทธิพลมาถึงวัฒนธรรมการกินของชาวสยามแบบเป็นรูปเป็นร่างเท่าไหร่นัก หรือถ้ามีก็ไม่ได้รับบันทึกเอาไว้

ข้อที่สองรูปแบบของขนม ซึ่งในที่นี้เรามองที่ฝอยทองเป็นตัวเอก Fios de ovos อันเป็นต้นแบบมาจากโปรตุเกสมีลักษณะเป็นไข่ที่ทำเป็นเส้นขยุ้มเข้าไว้ด้วยกัน กลับกันรูปแบบของ Keiransomen ขนมที่เกิดจากวัฒนธรรมของชาวโปรตุเกสนำไปเผยแพร่ที่ญี่ปุ่น มีลักษณะคล้ายกับฝอยทองของไทย ที่เส้นของไข่ถูกรวบเอาไว้ด้วยกันอย่างเป็นระเบียบ ข้อสังเกตข้อที่สองนี้อาจไม่ได้มีน้ำหนักเท่าข้อแรก เพราะลักษณะของขนมอาจเปลี่ยนไปได้ตามความนิยม แต่หากเราไม่สามารถค้นพบหลักฐานการบันทึกเกี่ยวกับขนมตระกูลทองและขนมฝรั่งทั้งหลายว่าเริ่มปรากฏในไทยก่อนสมัยท้าวทองกีบม้า ดังนั้นเป็นไปได้มากเลยทีเดียวที่ศาสตร์ของขนมดังกล่าวถูกถ่ายทอดให้ท้าวทองกีบม้าโดยแม่ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่น ไม่ใช่จากชาวโปรตุเกสโดยตรง

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

345 Nameless Fanboi Posted ID:+XS6f6TdE

ฝอยทอง : ปรากฏการณ์globalizationของโลกประวัติศาสตร์
และเรื่องราวที่มากกว่าท้าวทองกีบม้า (ตอนจบ)
_______________________________

แล้วกำเนิดของ Fois de ovos นั้นมาจากไหน หลายบันทึกเล่าว่าที่แห่งแรกที่มีการทำขนมชนิดนี้คือสำนักชีแห่งหนึ่งในเมืองโปร์ตู อันมีชื่อว่า Monastery of São Bento de Avé-Maria ในปีค.ศ.1518

แต่เทคนิคการนำไข่มาทำเป็นเส้น แล้วใช้น้ำตาลเป็นเครื่องชูรสชาตินั้นไม่ได้เกิดขึ้นมาจากชาวโปรตุเกสโดยตรง แต่กลับเป็นพื้นที่ราบในเอเชียกลาง อันเป็นที่ตั้งของประเทศอิหร่านและอัฟกานิสถานในปัจจุบัน อาหารดังกล่าวมีชื่อว่า Abrayshum kebab หรือ Silk kebab (Abraysham เป็นภาษาเปอร์เซีย หมายถึงสิ่งที่ได้รับจากการปั่น(ด้าย) แต่ความหมายในปัจจุบันคือไหม) ส่วนคำว่า kebab นี้อาจมาได้จากสองที่มาคือการทำให้สุกด้วยความร้อนโดยไม่ใช้น้ำ(ส่วนมากหมายถึงการย่าง) หรืออีกที่มาบอกว่า Abraysham kebab เดิมมีไว้ทานคู่กับเนื้อบดย่างชนิดหนึ่งซึ่งมีรสจัดเรียกว่า Shami kebab ซึ่งเป็นที่นิยมในประเทศฝั่งปากีสถาน อินเดียและบังคลาเทศ ซึ่งเข้าเค้ากับบางแหล่งกำเนิดที่บอกว่า Abrasham kebab มีพื้นเพมาจากแคชเมียร์ก่อนถูกส่งต่อมาให้กับชาวอัฟกานิสถาน
_______________________________

Abraysham kebab มีลักษณะเป็นฝอยไข่ที่นำมาทำให้สุกบนกระทะกับน้ำมัน โดยวิธีทำแบบดั้งเดิมจะใช้มือสะบัดไข่ให้เป็นฝอย ก่อนรวบเข้าด้วยกันแล้วพับให้เป็นแพ ราดด้วยน้ำเชื่อม ถั่วพิชตาชิโอ และผงกระวานเขียว หากมองแค่วิธีการทำ Abraysham kebab นี้ไม่ได้คล้ายฝอยทองแค่เพียงอย่างเดียว ยังมีความละม้ายคล้ายล่าเตียงอีกด้วยแต่ในจุดนี้ขอยกทดไว้ก่อนในบทความต่อๆไป
_______________________________

ทีนี้มันมาเกี่ยวข้องกับโปรตุเกสตรงที่ช่วงหลังยุคกลางประมาณปี ค.ศ.750 เป็นต้นมาเป็นยุคทองของศาสนาอิสลาม ดินแดนบริเวณแหลมไอบีเรียอันได้แก่สเปนและโปรตุเกสตกอยู่ภายใต้การปกครองกลุ่มชาติพันธุ์อาหรับซึ่งนับถือศาสนาอิสลาม อาหรับที่ว่านี้เป็นการเรียกรวมกลุ่มชนเผ่าที่อาศัยอยู่บริเวณคาบสมุทรอาราเบีย ทะเลทรายซีเรียน และดินแดนเมโซโปเตเมียเก่า(อิรัก) อาหรับปกครองโปรตุเกสตั้งแต่ช่วงปีค.ศ.750 จนหมดอำนาจในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่17 วัฒนธรรมอาหารอย่าง Abraysham kebab น่าจะแทรกซึมเข้าสู่วัฒนธรรมโปรตุเกสในช่วงนี้นี่เอง

เหตุผลหลักอย่างหนึ่งมาจากการใช้น้ำตาล อันเป็นส่วนประกอบสำคัญของอาหารชนิดนี้ ประวัติศาสตร์น้ำตาลอ้อยถึงแม้จะเริ่มต้นที่จีนและอินเดีย แต่โลกมุสลิมเป็นผู้เริ่มต้นการผลิตน้ำตาลทรายอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในแทบอันดาลูเซียซึ่งถือสเปนและเกาะซิซิลี การเริ่มมีน้ำตาลใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นทำให้น้ำตาลซึ่งแต่เดิมนิยมใช้ในยารักษาโรคกลายเป็นส่วนประกอบสำคัญในวัฒนธรรมอาหาร แต่ด้วยราคาที่สูงทำให้น้ำตาลถึงแม้จะใช้ในบ้านเรือนทั่วไป แต่ก็ยังถูกนำมาใช้เฉพาะในเวลาสำคัญ อย่าง Abraysham kebab ซึ่งเป็นเมนูที่นิยมเสิร์ฟในงานแต่งงาน ทำให้ถึงแม้การทำอาหารจากไข่จะมีอยู่ในหลายวัฒนธรรมโบราณ แต่จุดตัดของไข่และน้ำตาลน่าจะมาบรรจบกันที่ดินแดนอาหรับ ณ จุดใดจุดหนึ่งก่อกำเนิดเป็น Abraysham kebab ขึ้นมา
_______________________________

ดังนั้นฝอยทองที่เราคุ้นเคยกันกลับมีประวัติศาสตร์ที่สืบเนื่องยาวไกลกว่าท้าวทองกีบม้าหรือเหล่า Nanban อันเป็นชื่อที่ชาวญี่ปุ่นเรียกชาวโปรตุเกส แต่ย้อนกลับไปได้ถึงผู้คนที่อาศัยอยู่บนเส้นทางค้าขายที่ถักทอโลกยุโรปและเอเชียเข้าด้วยกันอย่างเส้นทางสายไหมอันเป็นเครือข่ายแรกของโลกที่ปรากฏการณ์ globalization ก่อนอินเตอร์เนตในสองพันปีถัดมา

#มิตรสหายท่านเดิม

346 Nameless Fanboi Posted ID:FupqK4FEt

ภาค 2 ครับ เหมือนเดิม #ผมไม่ได้เขียนเอง #คนเขียนไม่ประสงค์ออกนาม #ขออนุญาตแล้ว

ได้ข่าวมาว่า ดราม่าที่แล้วโดนใจมาก ถึงขนาดที่ว่ามีคนแห่มาถามว่า คนเขียนอยู่บริษัทโน้นหรอ บริษัทนี้หรอ จริงๆ ไ่ม่ได้ตั้งใจจะดราม่าเท่าไรนะ อาจจะเป็นเพราะสำนวนดิบๆ ในสัญชาตญานเวลาเขียนใน FB ส่วนตัวเลยจัดเต็มไปซะ ไม่ได้หมายถึงบริษัทไหนเป็นพิเศษด้วย เพราะฟังมาหลายที่ ไม่ได้เจอเอง ส่วน Bussiness Administration เล็กๆ ในตัวมันเริ่มทำงานสวนกลับกับส่วน Technical ที่รันอยู่เป็น Everyday life ในช่วงนี้

กลับมาเห็นว่าจุดที่เราคิดว่าสังคม Software Development ไม่น่าอยู่เลย ใน 10 ปีก่อนที่เรียนจบมาใหม่ๆ เลยพยายามไปหาทางอื่นดูว่าเค้าเป็นงัยกัน ทำอะไรกัน แล้วพอกลับมาก็มีหนทางที่มันก็น่าอยู่นะ แต่ส่วนด้านมืดก็ยังมีให้เห็นเป็นวงกว้างแหละ โปรแกรมเมอร์กากๆ ที่อาจจะกากแต่ช่วงตัวอ่อนอยู่ ก็ไม่ได้ protect ว่าไม่มีจริง แต่เราเริ่มเห็น pattern ของฝั่ง business ช่วงนี้ที่รุ่นลูกเริ่มกลับมาบริหาร หรือฝ่ายบริหารเห็นความอับแสงของฝั่ง IT เลยเปลี่ยนตัว top เข้ามา หรือหนีไป fork หน่วยงานใหม่ตั้งชื่อเท่ห์ๆ กัน แต่สุดท้ายแล้ว pattern ที่มุมมองภายนอกคือ การไม่ยอมรับความผิดพลาดของสายบริหารที่ไล่ไปจนถึงจุดสูงสุด

การมาของผู้บริหารใหม่ส่วนใหญ่ อาจจะมาจากสายที่วิชาแก่กล้า แต่เข้ามาก็ต้องส่ายหัวกับ human, culture, politics and collective power ของรากฐานที่สร้างไว้กันแต่โบราณ ซึ่งเหมือนมาเป็นตัวแทนจากฝั่งข้างบนมาบอกว่า #คนที่เรามีอยู่ไม่โอเค เพราะ Message ที่ส่งถึงเค้าคือ คุณสร้างทีมได้เต็มที่เลย อาวุธ downstream เดียวของผู้บริหารคือ Human Resource Management และอย่างแรกที่มีโดยที่ไม่ต้องงัดข้อกับฝั่งใดๆ เลยคือ ไล่ออกและรับใหม่ เพราะความกดดันจากด้านบนเช่นกันที่คิดว่า culture เสกได้ แค่เราคิดคำเท่ห์ออกมา ตั้ง motto แปะข้างฝา แค่นี้ culture ก็เปลี่ยนแล้ว เปลี่ยน...สิ (ว่าจะ soft กุไปและ)

สิ่งต่อมาเวลาที่ฝั่งบริหาร realize แล้วว่า IT เราไม่เวิร์คหว่ะ เราล้าหลัง เราสร้าง software ที่ไม่มีใครรักมันเลย แทนที่จะกลับไปหาปัญหาว่าเกิดอะไรขึ้นนะ ทำทุกอย่างให้ช้าลง คิดให้มากขึ้น แต่ช่วงสองปีที่ผ่านมากลับกลายเป็นว่าหลายๆ เจ้าตัดสินใจปั๊มฟีเจอร์แก้เขิน อุ๊ย เราทำไม่ดีอ่ะ ทำแม่งเยอะๆ เลยละกัน เขิลอ่ะ ... แล้วนึกออกป่ะ แบบของเก่ามันก็ไม่ค่อยสเถียรอยู่ละ เมิงยัง amplify มันให้มากขึ้นมากขึ้น แม่งอย่างกับระเบิดถอยหลังรอวันเอาไม่อยู่ แต่ไม่เป็นไร เราจ้างคนมาค้ำยันระบบไปเรื่อยๆ ได้ ไม่เป็นไรหรอก ... โถๆๆๆ แถมไอ้ฟีเจอร์แก้เขินเนี่ย คืองงมาก product ต่างๆ ในองค์กรต่างๆ ถูกคิดมาอย่างปรานึต ผ่านทีมงานหลายส่วนช่วยกันคิด refine improve วางโครงสร้างต้นน้ำยันปลายน้ำก่อนออกสู่ตลาด แต่ไหงพอเป็น software เหมือนใช้หัวแม่ตีนคิดกัน เอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ คิดว่าดีและไปได้ แต่ market research หายไปไหนหรอ ทั้งๆ ที่ product หลักก็ทำกันอย่างดี พอ software ทำไป ก็ราวกับว่าทุกอย่างได้มาฟรีๆ พอมีของที่ทำๆ เร่งๆ แล้วก็ทิ้งๆ วนลูปไปเรื่อยๆ กำลังใจที่จะทำให้ดีมาจากไหนค้าบ

ที่เขียนมาหมดนี่อยากได้อะไร...​แค่คิดว่า การที่ผู้บริหารลงมายอมรับความผิดที่วางรากฐานให้ฝั่ง IT แบบนี้ทั้งโดยตั้งใจ และไม่ตั้งใจ (เช่น การ Promote คนผิด, การเร่งเอาเพียงแค่ Deadline, การไม่เข้าใจ Quality of Software คืออะไรกันแน่, การที่ชี้ทิศทางของ Value ใน Software Product ที่ผิดพลาดไป) กล้าเดินออกมายอมรับกับลูกน้องหน่อยว่าผิดพลาดไปแล้ว ให้โอกาสคนที่เคยเดินตามพวก...มาตลอดหน่อย บอกเค้าให้ชัดเจนว่าอยากให้เค้าเป็นแบบไหน ให้เวลาเค้าพัฒนาตัวเองจริงจัง ไม่ใช่ให้งานเพิ่มจนหัวปั่นกว่าเดิม แต่ถ้าให้โอกาสแล้วมันไม่ไป ก็สุดแล้วแต่กรรมของมัน ฝั่งผู้บริหารเองก็ต้องเปลี่ยน mindset ไม่ต่างกัน ที่ต้องกระโจนลงมาดู Detail หน่อย ปล่อยให้ Middle Management มัน Loop วงจรอุบาทว์เป็นวงจรแม่ผัวลูกสะใภ้ แบบตอนช้านอยู่ช้านก็โดนแบบนี้ แกก็โดนไม่ต่างกัน ต้องทนให้ได้ vision ห่าเหวคิดแทบตาย market research ทุ่มทุนทำไป จ่ายค่า consult เพื่อช่วยวาง strategy กันไปกี่สิบล้าน แต่ middle management ไม่เข้าใจ และวางออกมาเป็น Execution Plan ในระดับที่ย่อยลงไปได้ แม่งก็สูญเปล่านะ เราอยากทำงานกับคนที่เก่งนะ แต่ถ้านายผิดพลาดเป็น และรับผิดชอบไปด้วยกันจะเป็นนายที่น่ารักที่สุดในสามโลก

สุดท้าย Software Developer ทุกท่านที่โอดครวญ ผมไม่ได้อยู่ในวงจรที่คุณเจอ ผมแค่เห็นมา และเห็นใจ แต่สุดท้าย จงจำไว้ว่า อัตหิ อัตโนนาโถ จงพึงเก่งไว้ตลอดเวลา อย่าให้ใครมาบอกว่าทำแค่ก็พอแล้ว

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

347 Nameless Fanboi Posted ID:.OkT2C5j7

http://www.royin.go.th/?p=18360
ถ้าจะสะกด พนมเปญ (เมืองหลวงเขมร) เป็น ภนุมปึญ
มึงก็ควรจะสะกด โตเกียว (เมืองหลวงญี่ปุ่น) เป็น โตคโย とうきょう Tokyō
โซล (เมืองหลวงเกาหลีใต้) เป็น ซออุล 서울
เปียงยาง (เมืองหลวงเกาหลีเหนือ) เป็น พยองยาง 평양 ด้วยมะ อิผลี

มาตรฐานของราชบัณเฑาะก์คืออะไร #ให้เกียรติเมฮี่โกกูด้วย
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

348 Nameless Fanboi Posted ID:RhUsqQNo6

>>347 อย่างแรกที่ควรจะเปลี่ยนคือbangkokเป็นkrungthep

349 Nameless Fanboi Posted ID:TrvmMoGum

พรุ่งนี้มีนัดปิดโปรเจคงานกับหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง
โดยใน TOR ระบุไว้ว่า
"จัดทำซีดีรอมบันทึกข้อมูลให้เป็นไฟล์ PDF จำนวน 10 แผ่น พร้อมปกและบรรจุในกล่องพลาสติก" 💿

เอาจริงๆ นะ...ไรต์แผ่นครั้งสุดท้ายคือเมื่อไหร่ยังจำไม่ได้เลย (แต่มันก็ไม่ได้นานขนาดต้องระทึกชาติ) พอมาเจอข้อกำหนดแบบนี้ ก็เลยต้องไปซื้อเครื่องไรต์แผ่นมาใช้ เพราะคอมตอนนี้ไม่มีไดร์วให้ไรต์แผ่นแล้ว (ขนาดรู USB มึงยังเขียมให้กูมารูเดียวเลย) 💢

แผ่นก็ไปซื้อมาจากฟอร์จูน เป็น Princo ขาว 10 แผ่น 50 บาท กล่องอีก 50 บาท ซองพลาสติกอีก 10 บาท รวมแล้ว 110 บาท

คือไม่ได้อะไรนะ ...แต่ก็แอบคิดในใจว่ามันตกยุคแหละ จริง ๆ มันควรทำเป็น digital archive กันได้แล้วม้างง ผู้ตรวจเช็คไฟล์จะได้สบายๆ (ฮา)

(แต่ก็เข้าใจระบบครับ ไม่ได้คิดมากอะไร เพราะเอกชนหลายเจ้าก็ยังมีนะ การต้องส่งงานกันแบบให้มี physical จับต้องได้)

และที่ไม่คิดมากอะไร เพราะระหว่างนั่งไรต์แผ่นไปก็ได้อารมณ์ถวิลหาอดีตไปด้วย จำได้สมัยหนุ่มๆ เคยตะบี้ตะบันก็อปหนังจากเพื่อน ยืมหนังเพื่อนมาหลอดนึง (ก็...หนัง...ล่ะนะ พวกหนังสารคดี หนังกำลังภายใน...อะไรเงี้ย...อืม) แล้วคือก็ต้องมานั่งไรต์นั่งก็อปแบบนี้แหละ แล้วเมื่อก่อนไรต์ทีไดร์วเรามันเก่ามาก ไรต์ได้ 4x 8x ก็รอไปดิ กว่าจะก็อปปี้กันมาได้ให้หมดหลอด

หนักสุดคือตอนต้องก็อปจากเครื่องลงแผ่นเพื่อเคลียร์ไม่ให้ฮาร์ดดิสก์ขนาด 40 Gb มันเต็ม ก็ต้องมาคำนวณพื้นที่ให้ลงล็อคความจุพอดี คือถ้าไม่ลงล็อคจะเสียดายมาก เฟลมาก ๆ รู้สึกว่าภารกิจล้มเหลว ขาดไป 30 Mb ไม่เต็มแผ่น กูยอมไม่ด้ายยย!!

เลยต้องกระทั่งมานั่งแปลงไฟล์ก่อนจาก WMV, AVI มาเป็น DIVX codec ไม่ก็ .FLV (ยุคนั้น MP4 ยังไม่ฮิต) เพื่อพยายามบีบขนาดไฟล์ให้ได้ตามช่องที่เหลือที่สุด แล้วอัดมันลงแผ่นให้แน่นที่สุดให้จงได้

🙏 ปัจจุบันกลับตัวกลับใจเข้าสู่พิธีชดใช้และถวายวิญญานกับไข่เบเฮริตไปแล้วด้วย iFlix เหมารวด 2 ปี และ Netflix 4K แบบรายเดือน🧘‍♂️

ซึ่งเรายังเคยมีแผ่นรวม MP3 ด้วยอีก 1 หลอดเต็ม แต่ไม่ใช่แผ่นแวมไพร์ เพราะเราเหี้ยกว่าคือเป็นพวกรุ่นแรกๆ ที่โหลดตามเว็บนอก เว็บใน (อัดเองก็เคย เหี้ยมั้ยล่ะ) แล้วมานั่งแปลงไฟล์เองก็มี โดยเฉพาะพวก OST หนังและอนิเมะที่หายากๆ นี่ต้องหาเอง หากันจนเหนื่อย ยากลำบากสัดๆ ได้ไฟล์มาครบทีนี่มีน้ำตาจะไหล กัดฟันโหลดทีละ part จนครบ

🙏 ปัจจุบันกลับตัวกลับใจเข้าสู่พิธีชำระล้างบาปแล้วด้วย Spotify และ Apple Music แบบรายเดือน 🧘‍♂️

คือระหว่างไรต์แผ่นอยู่...มันก็ได้โมเมนต์อะไรแบบนี้กลับมานะครับ จำได้ว่าเคยซื้อแผ่น Patch Ragnarok Online มา 150 บาทด้วย เพราะเนตสมัยนั้นช้ามาก เกมออนไลน์ออกแพชใหญ่ ๆ มา 600 Mb - 1.2 Gb มันเสียเวลาโหลดมากถ้าเทียบกับซื้อแผ่น (และเสียเงินด้วยเหอะ เพราะเนตยุคนั้นแม่งเป็นแบบจำกัดความเร็ว หรือถ้าไม่จำกัดก็ขายกันเป็น Mb ก็โหลดไปดิ แป้บเดียวหมด ขูดบัตรเนตกันนิ้วถลอกอะ)

พ่อค้าแผ่นยุคนั้นมีเนตเร็วกว่า (เอาง่ายๆ ซื้อเนตแพคแรง จ่ายแพง แต่กะมาเอาคืนกันเต็มที่) เลยโหลด patch เกมออนไลน์มาไรต์แผ่นขายกันเน้นๆ (แถมขายแพงโคตร) แต่ถ้าเทียบกับต้องมารอโหลดจนไปเก็บเลเวลไม่ทันเพื่อน หรือโหลดแล้วต้องมานั่งดูมันหลุดแล้วหลุดอีก ฟังเพลงที่หน้าล็อคอินจนหลอน หลายคนเลยใช้วิธีลงขันกันซื้อแผ่นแล้วเวียนไปลงที่บ้านอัพเดทวนไปจนกว่าจะครบคนดูจะเข้าท่ากว่า

🙏 ปัจจุบันถือศีลกินเจกันแล้วด้วยเกมที่ซื้อมาจาก Steam และ PSN เต็มไปหมด แต่ดั๊นไม่มีเวลาเล่นอีกเลย...ไอ้สาด 🧘‍♂️

...โอ้ย มีอีกเยอะแยะที่นึกถึงระหว่างที่ไรต์แผ่นส่งงานนี่ คือไม่ต้องย้อนไปถึง '90 หรอกครับ เอาแค่ยุคมิลลิเนียมไม่ใกล้ไม่ไกลนี่ก็มีเรื่องให้เหนื่อยและนึกถึงกันเยอะพอสมควรเลยล่ะ 🧙‍♂️

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

350 Nameless Fanboi Posted ID:Xo/1ABTqE

"แง่หนึ่งของคนรุ่นใหม่ก็คือคนเห่อหมอยนะครับ
เผื่อจะลืมความเป็นธรรมชาติข้อนี้ไป
อ้อ โลกนี้มียุวชนเรดการ์ดด้วยนะครับ เผื่อจะตกหล่นระหว่างความคิด"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

351 Nameless Fanboi Posted ID:R.HbfYdzT

>>349 วัยใกล้ๆ กันสินะ ทำกูคิดถึงอดีตไปด้วยเลย อืม

352 Nameless Fanboi Posted ID:aoHvST4SR

>>349 สมัยเล่นเน็ตใหม่ๆ ช่วงปี 2001-2002 ก็ประมาณนั้นละ เน็ต 56k ไม่ต้องคิดไปโหลดอะไรทั้งนั้น

353 Nameless Fanboi Posted ID:M2TdnJQ.V

A: ผมว่าคุณนี่นิ่งกว่าคนรุ่นใหม่ที่ออกมาวิจารณ์พรรคพลังอนาคต ที่เขาพึ่งเปิดตัวได้ไม่กี่ชั่วโมง ในด้านหนึ่งมันแสดงถึงความอดกลั้นต่อการรอคอยอัลไลบางอย่างที่สะท้อนถึงความเป็นคนรุ่นก่อนหน้านี้เมื่อเทียบกับคนรุ่นใหม่ ๆ ในปัจจุบัน

B: ความจริงผมก็อยากวิจารณ์อ่ะครับ แต่พอดีเคยยืมเงินคนก่อตั้งพรรคเขาไป นี่ยังไม่ได้คืนเลย จะวิจารณ์ไปก็กลัวเขาทวงเงินอ่ะครับ

A: เอิ่ม - -"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

354 Nameless Fanboi Posted ID:bBeOVO+9T

อันนี้คือก็น่าสนใจและอยากเขียนถึงหน่อย

---------------------------

สิ่งนึงที่อยากให้เข้าใจ คือ สุดท้าย management ก็เป็นคนธรรมดาคนนึงที่มาบริหารงาน เขาก็ไม่ใช่เทพยดาอะไรที่จะรู้ไปหมดทุกอย่าง

คือเวลาที่อะไรออกมาไม่ดีเนี่ย management ด้วยความเป็นคน มันก็จะรู้สึกว่า “ต้องทำอะไรซักอย่าง อยู่กันแบบนี้ไม่ได้” แล้วถ้าเขาไม่เข้าใจเรื่อง technical สิ่งเดียวที่เขานึกได้ก็คือ feature ก็เลยไม่แปลกว่าทำไมมันมักจะออกมาเป็น feature factory

Incentive ของระบบมันประมาณนี้

คือจะไปบอกว่าขณะที่ผลงานทำได้ไม่ถึงเป้า บริษัทกำลังจะเจ๊ง คุณหัวหน้าผู้มีความรับผิดชอบสูง คุณจงยืนเฉยๆ นิ่งๆ อย่าคิดอย่าทำอะไรทั้งนั้น ยักไหล่ไปสิ ปล่อยพวกผมทำงานไป ผมรู้ดีว่าต้องทำอะไร

อืมมมม ถ้าเขาตายด้านกับงานแล้วก็คงทำได้แหละ

สิ่งนึงคือถ้าระบบมันถูก Setup ให้ Management สามารถ Contribute ได้โดยการแค่บอกว่า "จะสร้างอะไรดี" เขาก็จะย้ำ Contribution ไว้ที่ตรงนั้น เวลาที่เขารู้สึกว่าเขาต้องทำอะไรซักอย่าง แล้วสิ่งที่ระบบมันเปิดทางให้เขาทำมีอย่างเดียวคือ "ออกไอเดียสิว่าสร้างอะไร" มันก็ไม่แปลกใช่มั้ยที่เขาจะเลือกทำสิ่งนั้น

ก็เป็นที่มาของ Feature factory

โอเค คุณจะไปบอก management ว่าเราต้องทำอะไรซักสิ่งที่ยูไม่มีวันเข้าใจ อย่าง technical debt ทำ market research ทำ design sprint, etc. ยูไม่ต้องเข้าใจหรอกแต่ยูต้องให้พวกเราทำ

ก็อาจจะเป็นทางที่ดีกว่าพยายามปั่นงานออกไป แล้วสุดท้าย Management บางคนก็ approve ให้ได้นะ ถึงแม้ไม่เข้าใจเต็มร้อย

แต่ซักพักพอแรงกดดันลงมา ถามย้ำว่า “ทำไมเราต้องทำ technical debt” ตลอด ถ้าเขา approve ให้ด้วยความเข้าใจเต็มร้อยความเชื่อมั่นเต็มร้อย เขาก็จะบอกได้ว่าทำไม ถามอีกกี่ครั้งก็บอกได้

แต่ตรงข้าม ถ้าเขา approve ไปโดยไม่เข้าใจ เขาก็จะเอ๋อต่อหน้าคำถามนั้น เวลาลูกค้า/ระดับสูงถามลงมา แล้วก็จะกลับมาสงสัยเรื่อยๆ ว่าทำไปทำไมนะ ทำไปทำไมนะ ทำไปทำไมนะ จนถึงจุดนึงก็แบบ โอเค ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไปทำไม เลิกทำดีกว่า เลิกๆๆๆ ปั่นฟีเจอร์ต่อ

ถึงบอกว่าบางครั้ง ความเข้าใจสำคัญกว่าผลลัพธ์อีกในระยะยาว

ถามว่าจะบรรเทายังไงได้บ้าง

- พยายามทำความเข้าใจกันมากๆ คุยกันเยอะๆ ซึ่ง บอกเลยว่า เหนื่อย...... มากๆ มากเสียจนหลายคนเลือกที่ว่า ไม่คุยแล้วดีกว่า ซึ่งบางครั้งก็เสียเวลาคุยไม่ได้แล้วจริงๆ บางครั้งก็คุยกันได้แต่เหนื่อยพอเหอะ สิ่งสำคัญคือ อยากให้มีสติว่า เวลาเลือกที่จะไม่ทำความเข้าใจแต่ลงมือ เรา Trade-off อะไรออกไปบ้าง อย่ามองแค่ว่าเห้ยไม่ต้องเข้าใจก็ได้ แต่อนุญาตก็พอ อย่างน้อยถ้าจะเลือกไปทางนี้ ไปด้วยความมีสติ ไม่ใช่ไปด้วยอารมณ์ที่มองไม่เห็นเลยว่าเราเสียอะไรไปจากการไม่ทำความเข้าใจกัน

- อย่าปกป้องพื้นที่ของตัวเองมากไป เปิดโอกาสให้ Management เขาได้ Contribute อะไรบ้าง หาพื้นที่ให้เขาอยู่ในทีม อย่ากันเขาออกจากทีม เพราะอย่างที่บอกคือ ถ้าเราไปสร้างระบบ ไม่ว่าโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แต่สุดท้ายกลายเป็นอารมณ์ว่า "ผู้บริหารเอ๋ย สิ่งเดียวที่คุณยุ่งกับทีมได้คือบอกว่าสร้างอะไร ที่เหลืออย่ายุ่งนี่คือความชำนาญของฉัน" เขาก็จะทำแบบนั้นเสมอ คอยหาว่าต้องสร้างอะไรใหม่ มากขึ้นเรื่อยๆ เสมอ ทุกครั้งที่ที่สถานการณ์ไม่เสถียร

ถ้าใครอยู่เฉยๆ ได้คือต้องนิ่งมาก หรือไม่ก็ไม่แคร์งานอีกต่อไปเท่านั้นแหละ ผมถึงได้บอกว่ามันเป็น Human element มันไม่ใช่ Logical เพราะมันง่ายที่จะบอกในเชิงตรรกะว่า "จังหวะนี้ที่ทุกอย่างถล่มทลาย ผมพิจารณาทุกทางเลือกแล้วพบว่านิ่งไว้ไม่ทำอะไรดีที่สุด ปล่อยให้ทุกอย่างมันรันไปเองเดี๋ยวดีเอง"

โอเค อาจจะถูกต้องในทางตรรกะก็เป็นได้ ในหลายสถานการณ์

แต่ในความเป็นจริง หัวใจคนที่แคร์งานมากๆ เขาจะทำแบบนั้นได้ลงคอเหรอ ยากมากเลยนะ

------------------------------

<ต่อเม้นล่าง>

355 Nameless Fanboi Posted ID:bBeOVO+9T

<ต่อจากเม้นบน>

ส่วนสำหรับ management ผมเห็นด้วยกับข้อความที่แชร์ในแง่ที่ว่าบางทีคุณก็ต้องดูดีเทลบ้าง

คือ เวลาลูกน้องบอกว่าอยากให้ลงมาดูดีเทล เขาไม่ได้อยากให้ลงมาแบบรับผิดชอบทุกอย่างหรอก บางทีมันอาจจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่เขาจะบอกแค่ว่า “ช่วยเข้าใจรับฟังกูหน่อย ก่อนตัดสินใจอะไร” ก็ได้นะ

ซึ่งบางครั้งเขาก็พูดหลายครั้งแต่ Management ไม่ได้ฟังหรือฟังแล้วตีความไปคนละทิศละทาง บางครั้งเขาก็ไม่มีโอกาสแม้แต่จะพูด ก็ไม่ต่างอะไรกับบางครั้งที่พวกคุณๆ รู้สึกว่า "บอกหลายทีแล้ว ลูกน้องไม่ฟังเลย" นั้นแหละ ความรู้สึกเดียวกัน

ถ้าเราปกป้องตัวแล้วคุยกันด้วยหน้าที่มากกว่าหัวใจ ลูกน้องคุณก็จะเรียกร้องให้คุณทำหน้าที่และไม่แคร์หัวใจคุณเหมือนกันนะ

คุณเดินไปบอกลูกน้องว่า ยูต้องรับผิดชอบ ยูทำพังยูก็ทำโอทีไปซ่อมไปสิ นี่มันหน้าที่คุณนะ ได้ คุณทำแบบนั้นได้นะ แต่วันหน้า เวลาหัวหน้าเหนื่อย ทำโอ หรือตัดสินใจเชิง Strategy ผิดพลาด เขาก็กลับมาพูดอย่างเดียวกันใส่หน้าคุณเหมือนกันแหละว่า นี่มันหน้าที่คุณนะคุณผู้บริหาร ไม่ใช่หน้าที่ผม

ศาสตร์ของการเป็นหัวหน้าคือผสานสมดุลระหว่างหน้าที่รับผิดชอบกับหัวใจคนให้ลงตัว อย่าลงด้านใดด้านหนึ่งเยอะจนพัง

คุณใช้หัวใจเยอะไม่สนหน้าที่ ระบบงานก็ไปไม่ได้ เดินหน้าลำบาก

ใช้หน้าที่อย่างเดียวไม่สนใจหัวใจคน คุณก็จะจบลงที่คุณระบบแผนผังองค์กรเขียนลงเอกสาร แปะข้างฝาผนังออฟฟิศเปล่าๆ ที่ไม่มีคนจริงๆ ทำงานอยู่เลย

ยอมรับความผิดพลาดของตัวเองและคนอื่นบ้าง ยอมรับความเป็นมนุษย์ของทุกคน อยู่กับมัน คุณต้องการทั้งระบบหลักการ และทั้งมนุษย์จริงๆ ตัวเป็นๆ อยู่ร่วมกัน มันถึงจะเป็นทีมที่เดินไปต่อได้ จะเอาแต่ระบบกับหลักการก็ไม่ได้ เอาแต่มนุษย์ก็ไม่ได้ จะถ่วงสมดุลยังไงก็เป็นโจทย์ตลอดชีวิตของคนเป็นผู้นำ

---------------------------------

ที่เขียนทั้งหมดนี่ผมไม่คิดว่าตัวเองทำได้ดีนะ คือ ก็ยังรู้สึกตลอดว่าตัวเองห่วยแหละ การพูดคอนเซปต์มันง่าย การทำจริงมันยากกว่าหลายเท่า แต่ก็ยังอยากพูดอยู่ดี คือ อันนี้บอกตรงๆ ว่า ลงท้ายไว้ป้องกันตัวเฉยๆ แหละ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

356 Nameless Fanboi Posted ID:Lj2BqOUu+

ยังคงไม่ชัดเจนว่าที่ Theranos กลายเป็นเคสลวงโลกครั้งใหญ่ของโลกที่มูลค่า $700M นี้เป็นเพราะตัว Holmes เองที่โกหกหลอกลวง หรือเพราะนักวิทยาศาสตร์ในบริษัทโกหก Holmes ว่ามันทำได้กันแน่ แต่สุดท้าย ผู้หญิงที่เคยติด Top-100 Forbes ในฐานะ Self-Made Billionaire และเคยมี Net Worth อยู่ที่ $4.5B ตอนนี้ก็ร่วงลงเหลือ $0 เป็นที่เรียบร้อย แถมต้องจ่ายค่าปรับ $635,000 หรือราว 20 ล้านบาทอีกด้วย (แต่คงไม่เดือดร้อนมาก เพราะ Holmes มาจากครอบครัวที่ร่ำรวยมาก)

หนังของตัวเองที่ Jennifer Lawrence เซ็นว่าจะเล่นเป็น Holmes ก็ยกเลิกแล้ว ซึ่งไม่แน่ ถ้าทำต่ออาจจะกลายเป็นหนังอีกพล็อตนึงก็เป็นได้

อย่างไรก็ตาม หากสืบประวัติที่ผ่านมาจะพบว่า Theranos โกหก Investor "แบบตั้งใจ"​ ไว้เยอะมาก เช่น เอาผลแล็บคนอื่นมาเฟคว่าเป็นของตัวเอง และก็มีประวัติไม่ดีเช่น นักวิทยาศาสตร์ฆ่าตัวตายเพราะไม่มีอะไรใช้งานได้ตามที่บริษัทอ้างมาเลยจน Holmes จะไล่ออกเลยตัดสินใจปลิดชีพตัวเองทิ้งด้วยความเครียด แต่บริษัทก็เลือกจะปกปิดการตายจนเรื่องแดงขึ้นเอง

ยังมีอีกหลายเรื่องที่น่าสนใจ ลองหาอ่านดูจะสนุกเหมือนอ่านนิยายขายดีที่มีพล็อตลวงโลกเป็นการดำเนินเรื่องหลักเลยหละ

เคสนี้มีอะไรให้เรียนรู้เยอะ อย่างแรกเลย ...​ "อย่าโกหก" ... เพราะต่อให้ระหว่างทางสวยแค่ไหน ตอนจบก็ไม่เคยสวย

อย่างที่สอง บริษัทที่(อ้าง)ว่าทำโปรดักส์ใหญ่ระดับพลิกโลกได้ขนาดนี้และ(อ้าง)ว่ามีสิ่งที่ใช้งานได้จริงแล้ว ตอนนั้น Raise Fund อยู่ที่ $700M (เลขคุ้น ๆ เนอะ) และเคยมีมูลค่าบริษัทสูงสุดอยู่ที่ $9B

เอาไว้เทียบกับตลาด ICO เล่นดู

จบ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

357 Nameless Fanboi Posted ID:8fc7LdOis

อีกสาเหตุหนึ่ง ที่พยายามลดน้ำหนักอย่างหนักในช่วงนี้ ก็คือ นั่งดูคลิปโป๊ต่างๆที่ถ่ายตอนตัวเองมีเซ็กส์กับคนอื่นๆ แล้วรู้สึกว่า "เหี้ย รูปร่างน่าเกลียดชิบหาย"

คือ ตอนก่อนถ่าย คาดหวังว่าภาพจะออกมาเหมือนหนังค่าย Men Lucas SeanCody อะไรแบบนี้ แต่พอถ่ายเสร็จ เย็ดแม่! คลิปพวกตาลุงจากทางบ้านในเว็บ xtube Pornhub ดีๆนี่เอง

358 Nameless Fanboi Posted ID:8fc7LdOis

“สั่งข้าวแล้วรอ ลุงคนนึงเข้ามาสั่ง โวยวายขอก่อนได้มั้ย ทำให้ผมก่อน ผมให้เพิ่ม 100 นึง ปัญหาคือ มีกูและอีกโต๊ะนึงมาก่อน ทำหน้าเกร็งกัน ในหัวคิด ปัญหาติดสินบนมีกันทุกหย่อมหญ้า ถ้าร้านยอมทำ เราคงเสียศรัทธาน่าดู

ที่ร้านบอกลุงว่า ถามคนที่มาก่อนว่ายอมมั้ย กูกำลังจะตอบไม่ยอม แต่ลูกค้าอีกคนพูดมาก่อน “หนูยอม ถ้าลุงจ่าย 100 นึงให้หนู” ลุงเลยควักแบงค์ 100 วางลงโต๊ะเขา และโต๊ะเราด้วย โอเคครับ แซงได้เลยลุง

สอนให้รู้ว่า เราอย่าติดสินบนให้เจ้าหน้าที่ ควรติดสินบนให้คนที่เสียประโยชน์ครับ”

มิตรสหายท่านหนึ่ง

359 Nameless Fanboi Posted ID:ULP73SYpZ

>>358 เรื่องแต่งไม่เนียน...

360 Nameless Fanboi Posted ID:tiahMlXTn

You will never be happy if you continue to search for what happiness consists of. You will never live if you are looking for the meaning of life.
Read more at: https://www.brainyquote.com/quotes/albert_camus_105605

361 Nameless Fanboi Posted ID:XMIUYk5j3

>>358 หิวจัดสั่ง "กระเพาไก่ก่อนเพื่อน" ก็ได้แล้วสัส
เมนูสิ้นคิด ที่ทำพร้อมๆ กันได้ มึงก็ได้แดกเร็ว อยากเรื่องมากดีเทลเยอะก็รอไปตามคิวแค่นั้นเอง

362 Nameless Fanboi Posted ID:TdOp/PbPB

เห็นแว่บๆคนทำโควทว่าทำไมแม่หญิงการะเกดไม่เอา ปชต. ไปเผยแพร่แทนเครื่องกรองน้ำ

แบบเนี้ยพวกมึงถึงคุยกะชาวบ้านร้านตลาดไม่รู้เรื่องคุยได้แต่ในกลุ่มของพวกเดียวกัน คือมึงต้องโยงทุกสิ่งใดๆในโลกเข้ากับรัฐศาสตร์การเมืองการปกครองหมด อะไรที่ไม่มีพูดถึงประเด็นเชิงโครงสร้าง=โง่ ไม่ควรค่าจะเอ่ยถึง

คราวก่อนก็มีเคส นสพ.ทำข่าวปลัดสาวหน้าอ่อน ก็ไปว่าว่าทำไมทำข่าวตื้นเขิน ไม่ทำข่สวเนื่องความเหลื่อมล้ำทางเพศในวงการราชการ

คือชีวิตมันก็มีมิติคอเมดี้ด้วยนะ ไม่ได้มีแต่มิติตำราอย่างเดียว
มิตรฯ

363 Nameless Fanboi Posted ID:hO.c0hOV+

มันมีประเด็นหนึ่งที่พรรคใหม่ พูดเรื่องรัฐไม่ควรจะอุดหนุนศาสนาใดศาสนาหนึ่ง เพราะมันมีความรู้สึกของการเป็นชนกลุ่มน้อยเกิดขึ้น

ดูจากคอมเมนท์แล้วคนไทยหลายคนไม่เข้าใจ คือทุกคนรู้สึกว่ามันไม่มีความไม่เท่าเทียมสักหน่อย ไทยนี้เปิดกว้างให้ทุกศาสนา ไม่มีความเป็นพลเมืองชั้นสอง

ผมอยากพูดประเด็นนี้ว่า คนไทยไม่ได้รู้สึกว่ามันมีความไม่เท่าเทียมทางศาสนาอยู่ แต่จริงๆแล้วมันมี

ซึ่งเราไม่รู้สึกตัว จริงๆผมก็ไม่รู้สึก จนกลายเป็นคริสเตียน

ผมเคยเป็นเอธิส (พวกไม่นับถือศาสนา) เรามักจะเจอดราม่าบ่อยๆเกี่ยวกับการที่คนด่าเอธิส ตอนเป็นเอธิสเราอาจจะคิดว่ามันหนักแล้ว

แต่เมื่อคุณนับถือศาสนาอื่นที่ไม่ใช่พุทธ มันหนักกว่า

ผมคิดว่าเป็นเพราะตอนเป็นเอธิสมันเลื่อนไหล ผมอยากจะยกมือไหว้หรือไม่ยกก็ได้แล้วแต่อารมณ์ แล้วก็ไม่ต้องไปแสดงตัวว่าผมเป็นเอธิส

พวกพิธีกรรมก็ทำๆไป เหมือนเป็นการละเล่นอย่างหนึ่ง

อย่างมากก็อาจจะมีปัญหากับครอบครัวในทัศนคติเรื่องการบวช

แต่ก็จะไม่ค่อยมีใครมีปัญหากับคุณมาก เขาจะคิดว่าคุณก็แค่อาร์ทๆ ไปเป็นพักๆ แต่ยังอยู่ในกลุ่มของเขาอยู่

แต่เมื่อไหร่ที่คุณทำพิธีเพื่อเข้าสู่ศาสนาอื่น และแสดงตัวว่านับถือศาสนาอื่นไปแล้ว มันจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

คนจะมองคุณว่าคุณออกจากกลุ่มก้อนของเขาทันที

และคุณจะโดนเล่นงานจากทั้งชาวไทยผู้นับถือศาสนา และจากเพื่อนเอธิสของคุณด้วย 555+

เราไม่รู้สึกตัว แต่สังคมไทยอิงอยู่กับความคิดของพุทธมาเยอะมาก

สมมุติว่าเพื่อนรถล้ม เราไปเยื่ยมแล้วพูดว่า "เป็นบุญมาก ที่มึงรอดมาได้" หรือ "ดวงดีสัส ที่สิบล้อไม่เหยียบมึงซ้ำ" ทุกคนคิดว่าเป็นคำปรกติ

"ขอบคุณพระเจ้า ที่มึงรอดมาได้" หรือ "ขอบคุณพระเจ้า ที่สิบล้อไม่เหยียบมึงซ้ำ" จะกลายเป็นประเด็นทันที คนจะถามว่า เอ้าทำไมมึงต้องของคุณพระเจ้าไม่ขอบคุณหมอ...

เดี๋ยวมึง... ไม่ใช่ว่ากูขอบคุณพระเจ้าแล้วจะไม่ขอบคุณหมอ...

อีกหนึ่งความเครียดคือการเจอพระสงฆ์ในสังคมไทย

ไม่ใช่ว่าผมเข้าวัดไม่ได้นะ แต่คือคนไทยจะนั่งต่ำกว่าพระสงฆ์ แล้วบางทีก็ยกมือไหว้ตอนคุย

แต่คุณคิดดูว่าผมนั่งคุยกับบาทหลวงก็นั่งเก้าอี้ (ผมเป็นโปรแตสแตนท์ แองลิกัน ซึ่งมันมี ศบ. คล้ายๆบาทหลวง) มันประหลาดป่ะที่จะนั่งต่ำกว่า พระเจ้าสร้างคนมาเท่ากันจริงมั้ย? แต่ถ้าไม่ทำเขาก็มองว่าพวกคริสเตียนเป็นพวกหัวแข็งไม่มีมารยาทอีก ต้องทำยังไงไง?

เคยมีวันหนึ่งต้องไปเรียนวิชาที่ไม่ใช่ศาสนากับพระสงฆ์

แล้วทุกคนนั่งพับเพียบกันพื้น พนมมือหมด แต่ผมไม่ทำนี้ประหลาดสัสๆ

ผมควรทำยังไง สุดท้ายตัดสินใจว่าไม่ไปเลยดีกว่า โดดเลย ตัดปัญหา

อันที่จริงแล้ว ในไบเบิล อ.เปาโล เขียนแนะนำว่าไม่ได้ห้ามร่วมโต๊ะอาหารในวิหารของคนต่างศาสนา ทำได้ ในบริบทเพื่อแสดงว่าเรารักเขา (ประมาณไปงานบวช งานแต่ง บุญขึ้นบ้านใหม่ งานศพ โกนจุก ฯลฯ) - แต่เพราะจะเจอเรื่องความไม่สะดวกใจหลายอย่าง ผมคิดว่าคงเป็นเหตุผลให้หลายคนหลีกเลี่ยงไม่ไป จะได้ไม่รู้สึกประหลาด ไม่ถูกถามว่าทำไมไม่ทำล่ะ ไม่ไปแต่แรกจะได้จบ อ้างไปเลยว่าเข้าวัดไม่ได้ง่ายกว่า

(มันเคยมีเพื่อนผมเป็นอาจารย์ เขาเชิญเป็นแขกผู้มีเกียรติในงานศพ ปรากฎไปถึง เจ้าภาพเชิญอาจารย์เป็นตัวแทนจุดเทียนบูชาพระรัตนไตย จากนั้นเพื่อนผมก็เลยไม่รับเชิญเป็นแขกแบบนี้อีกเลย)
.
.
.

<ต่อเม้นล่าง>

364 Nameless Fanboi Posted ID:QGdCZP0Mw

<ต่อจากเม้นบน>

อันนี้แค่เรื่องความไม่สะดวกทั่วไป แต่ในการใช้ชีวิตมีปัญหาแน่นอน

เป็นเรื่องปรกติที่คริสเตียนจะมาแชร์เรื่องการถูกข่มเหงกันในคริสตจักร

มีพี่บางคน พอเป็นคริสเตียนแล้ว ทั้งบ้านไม่คุยด้วยอยู่ 17 ปี แกเป็นผู้หญิงที่เป็นแม่บ้าน แต่พ่อ แม่ พี่สาว ของสามีไม่คุยกับแกเลยสักคำ

บางคนเป็นลูกคนจีน ไปไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษไม่ได้ ถึงกับบ้านแตก

บางคนบวชไม่ได้ พ่อแม่ร้องห่มร้องไห้ ว่าจะไม่ได้ไปสวรรค์ ไม่ได้เกาะชายผ้าเหลืองลูก

บางคนเป็นข้าราชการ หน่วยเหนือออกโครงการให้ไปค่ายปฏิบัติธรรม ก็ไปไม่ได้ โดนเจ้านายเขม่น เจ้านายกดดันว่า ถ้าไปครบทุกคนจะประเมินบางอย่างให้กับทั้งหน่วยเป็นพิเศษ - สุดท้ายพี่คนนี้ต้องลาออกจากงาน เพราะทนที่ทำงานไม่ไหว

บางคนเขียนประถมมัธยม เขายกมือสวดมนตร์กัน ก็ทำไม่ได้ กลายเป็นแปลกแยก ถูกเพื่อนล้อ

โดนว่าไม่รักชาติ ของไทยบรรพบุรุษเรามีอยู่แล้ว ทำไมต้องไปตามฝรั่ง ก็มี

คือเรื่องอะไรที่เราคิดว่า เฮ้ย ไม่จริงหรอก มันเป็นละครป่ะ มันมีจริงๆเว้ย ผมเองก็อึ้งเหมือนกัน

ผมคิดว่าเรื่องนี้ทำให้คอมมูนิตี้คริสเตียนแข็งมาก

ยอมรับว่าตอนมีดราม่าเรื่อง อร BNK ไม่เข้าวัด ผมเดือดเหมือนกัน เพราะผมเคยโดนไง 555+

ขนาดผมไม่ได้ โอชิ อร แต่เวลามีคนมาดราม่าอร ผมก็เดือดอยู่เหมือนกัน
.
.
.
ทีนี้ ที่บ่นมา ไม่ได้ จะเรียกร้องความเท่าเทียมอะไรขนาดนั้นหรอกครับ

ผมคิดว่าเรื่องพวกนี้มันเป็นสิ่งที่เราเลือกเอง พูดตรงๆ ว่าถ้าไม่บัพติสมา เราอยู่เหมือนเดิมก็ไม่มีอะไร

อันที่จริงในไบเบิลก็บอกไว้แล้วว่าเราจะโดน ในสมัยโรมันทุกคนก็โดน หนักกว่านี้ ก็รอดมาได้... เออ ไม่สิ ตายนี่หว่า... ตายต่อโลกนี้ แต่ยังมีความหวังนิรันดร์ น่ะนะ

ดังนั้น ในเมื่อคนเมื่อก่อนทนมามากกว่านี้ เรื่องความไม่สะดวกเล็กน้อยแค่นี้พวกผมทนได้

ไม่มีสิ่งใดดีในชีวิตของคริสเตียนเท่ากับการที่พระผู้เป็นเจ้าอยู่กับเรา ต่อให้คุณต้องทนทุกข์มากกว่านี้ ก็ยังไม่เท่ากับความยินดีนี้

แค่อยากจะสื่อสารว่า ความเป็นพลเมืองชั้นสองทางศาสนา และแรงกดดันจากรัฐและสังคม มันมีอยู่จริง เท่านั้นเองครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

365 Nameless Fanboi Posted ID:ezTjWENjS

ใครว่าเด็กแว๊นไม่มีทางได้ดีครับ เนี้ยผมยังเห็นงานมันอยู่ในพิพิธภัณธ์ระดับโลกอยู่เลย ชื่อแว๊นโกะไรนี้แหระ
- มิตรสหายท่านหนึ่ง

366 Nameless Fanboi Posted ID:dHIHWM7em

>>363-364 กูเห็นด้วยกับเรื่องsecular stateนะ แต่มิตรสหอยท่านนี้ยกเอาประสบการณ์ส่วนตัวคนต่างๆมานี่มันเกี่ยวอะไรวะ ถึงในรธน.จะเอาเรื่องศาสนาออก คิดว่าคนใจแคบด้านศาสนาจะหันมาใจกว้างทันควันรึไง

เรื่องประสบการณ์ส่วนตัวกูก็มี ตอนม.ปลายเรียนโรงเรียนคริสต์ แล้วอีผอ.เป็นคริสต์ไงเลยจัดการบังคับให้นักเรียนพุทธต้องร้องเพลงกับมันด้วย มีคาบว่างทุกวันพุธ(irony)ที่เชิญบาทหลวงมาบ่นให้เด็กพุทธทั้งห้องฟัง แต่พวกกูตอนนั้นม.ปลายไง กะโหลกหนาไม่เปลี่ยนศาสนาหรอก ขี้เกียจ ที่เหี้ยคือไปล้างสมองเด็กอนุบาลเว้ย บังคับเด็กอนุบาลเหมือนกันฝังหัวว่าพระเจ้างั้นพระเจ้างี้ ถ้ามิตรสหอยท่านนี้เอาเรื่องส่วนตัวคนต่างๆมาเพื่อจะไซโคว่าคริสต์โดนกดขี่ แล้วที่พวกกูเจอนี่ไม่เป็นการเบียดเบียนสิทธิที่จะนับถือศาสนาเลยเรอะ(เพราะโดนบังคับให้ทำพิธีศาสนาอื่น)

ปล. รร.กูไม่บังคับเด็กมุสลิม สงสัยกลัว 555555

367 Nameless Fanboi Posted ID:XMIUYk5j3

ศาสนาก็เหมือนควยนั่นแหละ ไม่ควรเอาไปยัดเดียดใส่เด็ก
อยากให้มีกฏหมาย จะนับถือศาสนาหรือสอนได้ต้องอายุ 18 ขึ้นไปเท่านั้นจริงๆ

368 Nameless Fanboi Posted ID:cFtNySZ.t

>>367 มึงกล้าบอกกับมุสซี่ไหมครับ

369 Nameless Fanboi Posted ID:bhqZHWhLj

>>366 กูเรียน2ภาษา ทุกเช้าจะมีสวดพุธแล้วก็ฟังเพลงสวดคริสต่อ เพราะดันมีเอกลักษณ์ไปว่าเป็นรร."คริส" กูก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าแม่งจะทำไปทำเหี้ยไร ทั้งรร.แม่งมีคริสไปถึง20คน แถมครูต่างชาติก็ไม่เห็นแม่งจะสนใจไรเลยด้วย

370 Nameless Fanboi Posted ID:bhqZHWhLj

>>368 มุซซ๊่ให้เอาควยยัดเด็กได้=เอาศาสนายัดเด็กได้

371 Nameless Fanboi Posted ID:HtkkfbTUb

>>367 ไอเดียนี้กูว่าในทางปฏิบัติมันแก้อะไรได้ไม่มากหรอ เพราะอิทธิพลการปลูกฝังเรื่องศาสนาในเด็กมันมาจากครอบครัวซะมาก
แถมการบังคับที่เข้มเกินไปแบบนั้นเดี๋ยวก็ไม่พ้นคนแอบทำกันไม่ไหวอยู่ดี กลัวจะยิ่งเกิดกระสีตีกลับจนให้ผลตรงกันข้ามแบบตอนแบนเหล้าในอเมริกาเอา

372 Nameless Fanboi Posted ID:euJubcWgw

>>370 ศาสดาก็ชอบเย็ดผู้เยาว์ การเย็ดเด็กเลยไม่ผิดครับ กม. child porn เลยไม่มีผลกับมุซซี่

373 Nameless Fanboi Posted ID:z8Ft+UEZV

>>372
https://wikiislam.net/wiki/Islam_and_Pedophilia
สุดยอด

374 Nameless Fanboi Posted ID:cloAQU+3M

>>372-373 แต่ถ้าแม่งPedophile หนักๆเข้าแบบไปเย็ดลูกหมาลูกแมวหรือเด็ก ผช. นี่เจอก้อนหีรุมปาใส่นะครับ มันก็มีข้อจำกัดแค่โลลิเท่านั้นแหละ

375 Nameless Fanboi Posted ID:.MLyOMfLL

>>374 แต่เย็ดแพะได้นะ

376 Nameless Fanboi Posted ID:kMThAnv.6

>>375 https://imgur.com/hPsvpt0
มุซซี่เย็ดได้ทั้งแพะ ทั้งแกะ ถูกต้องตามหลักศาสนา

377 Nameless Fanboi Posted ID:4k0yH0OfC

การเป็นเฟมินิสต์ของมงซิเออร์ฉุยฉายนั้นสามารถอธิบายได้ด้วยทฤษฎี Schordinger's Dick (หำของโชรดิงเกอร์) ที่กล่าวไว้ว่าการมีอยู่ของหมู่มวลสสารที่เรียกว่าหำนั้นมีสองสถานะ ซึ่งเมื่อเราไม่ทราบถึงสถานะของหำ ขณะนั้นเขาอาจจะมีหำอยู่จริง หรือไม่มีอยู่จริงก็เป็นได้
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

การมีอยู่ของหรรมคือทฤษฎี ส่วนการเป็นตุ๊ดของนายศรัณย์คือข้อเท็จจริง
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

378 Nameless Fanboi Posted ID:2pXnMSmQg

Customer: “Go to hell; I hope you and your business are hit by a meteor today!” Employee: “I’m sorry to hear that, but have you considered it might be your fault?” Customer: “You’re right, I was wrong all along!”

379 Nameless Fanboi Posted ID:pF3rNg2a1

>>378 ไม่เก็ตว่ะ

380 Nameless Fanboi Posted ID:tk3y89LSG

ถ้ากู 50 แล้วยังไม่มีเมียกูจะเปลี่ยนไปนับถืออิสลาม

381 Nameless Fanboi Posted ID:KvGzdGjy.

>>380 มึงอยากเย็ดแพะโลลิ?

382 Nameless Fanboi Posted ID:vCGRBBzWS

>>379 มันขำตรงที่มันไม่มีทางเกิดขึ้นจริง

383 Nameless Fanboi Posted ID:nuH6ovN0Z

ข่าวพรรคคอมมิวนิสต์ขอตั้งพรรคการเมือง ในโพสต์ต้นทางมีเด็กคนนึง ยังเรียนมหาลัยปกป้องคอมมูนิสต์สุดดากเลยลองเข้าไปดูในโปรไฟล์ โพสต์อยู่สองเรื่องคือคอมมูนิสต์และไอดอล

อยากจะบอกไอ้หนูนี่จัง ว่าในสังคมคอมมี่ในฝันเปียกของมึงเนี่ย ไอดอลไม่ได้เกิดหรอกหนู โดยเฉพาะพอลพตที่มึงชอบเนี่ย(มีโพสต์ยกย่องพอลพต)สั่งฆ่าคนใส่แว่นเพราะจะให้ทั้งประเทศมีแต่ชาวนา คิดว่าไอดอลมึงจะรอดรึไง

เห็นไอ้หนูนี่แล้วนึกถึงสมัยไปเรียนอเมริกาแล้วในม.จะมีพวกคอมมูนิสต์ที่ชอบแดกสตาร์บักกับใช้แอปเปิล แต่นี่โง่กว่าเพราะถึงขั้นยกย่องพอลพต

-มิตรสหายท่านนึงในเฟสบุค เอามาโพสต์ในนี้เพราะเห็นว่าไอ้หนูคนนี้เล่นโม่งมู้ไอดอลด้วย เพื่อจะผ่านมาอ่าน 555

384 Nameless Fanboi Posted ID:5lSR/MVlf

>>383 เคยเจอพวกคลั่งคอมมี่อยู่ตัวนึงนะ ดีที่แม่งสายมาร์กกับเลนิน. ไม่บ้าแบบทุกสัดส่วนแบบไอที่มิตรสหายตัวนี้เอามาลง

385 Nameless Fanboi Posted ID:wH6EpyYd0

"วงการสงฆ์ร้อน 'หลวงปู่พุทธะอิสระ' สวด 'ท่านว.วชิรเมธี' โลกสวยเอะอะอะไรก็เมตตา!"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

"ตุ๊ดสายกิจกรรม กับ กุ๊ยเด็กหลังห้อง"
#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง

386 Nameless Fanboi Posted ID:Xje64+Fyah

ในมุมมองของผม มันเป็นไปได้ยากมาก ที่สังคมมุสลิมไทยจะสามารถผลิตนักวิทย์เก่งๆหรือเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในระดับโลกได้
เพราะแรงบันดาลใจมันไม่มี ปรัชญาของเราในการใช้ชีวิตมันตรงข้ามกับยิวทุกอย่าง บางทีมุสลิมอาจจะไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเทคโนโลยีก็ได้

ในขณะที่สมองยิวเขาสนใจเรื่องการสร้างระบบโดรนให้บินเองได้ สมองมุสลิมเราสนใจถกเถียงกันเรื่องศาสนาและพอใจแล้วที่ได้คำตอบในเรื่องนั้น ส่วนนอกจากนั้นคือการอยู่ทำมาหากินไปวันๆ รอตาย

ซึ่งจะพูดว่าคิดแบบนั้นแล้วผิด ก็คงไม่ได้ เพราะอิสลามสอนแบบนั้นจริงๆ คือดุนยาคือการละเล่น ไม่จีรัง ไม่จริง มันเป็นโลกทัศน์นึงที่ทำให้มุสลิมต้องคิดแบบนี้ การสร้างเทคโนโลยี การเก่งนั่นนี่ การเป็นเลิศ การแข่งขัน ความก้าวหน้าของสังคมมนุษย์ ทั้งหมดนี้มันอาจไร้สาระก็ได้ และคนที่รอดพ้น อาจเป็นคนที่ละทิ้งสิ่งต่างๆเหล่านี้ก็ได้ ซึ่งตรงนี้มีจุดร่วมกับหลายศาสนาที่เน้นละทิ้งทางโลก เข้าสู่ทางธรรม

เพราะฉะนั้นยังไงมันก็ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ ที่ประชาชาติที่คนส่วนใหญ่หมกมุ่นกับการถกเถียงเรื่องศาสนา จะสร้างนวัตกรรมได้ เพราะนวัตกรรม มันก็ต้องใช้ปัจจัยทางกำลังคน กำลังทรัพย์ กำลังสมอง และเวลาเยอะเหมือนกัน

จริงๆประสบการณ์ที่ได้รับรู้ บรรดาผู้รู้ศาสนาใหญ่ๆในไทย ที่มีอาณาจักรต่างๆเป็นของตนเอง พอมีใครนำเสนอให้พัฒนาหลักสูตรวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่เป็นเลิศ พวกเขาก็จะเฉย ไม่สนับสนุนอยู่แล้ว เพราะเขาก็คิดแบบนี้แหละ อิสลามคือเรื่องอาคีเราะฮ ดุนยาแค่ทางผ่าน อย่าไปลงทุนวิจัยเพื่อความเป็นเลิศต่างๆ เสียเวลาเสียพลังงาน เสี่ยงนำแนวคิดที่ไม่บริสุทธิ์เขามาในสังคมมุสลิมอีก

ใครจะไปรู้ เทคโนโลยีทั้งหลายที่มนุษย์สร้างมา ต่อไปมันอาจทำลายมนุษย์เอง จนเป็นข้อพิสูจน์ว่า ความบ้าเทคโนโลยีของมนุษย์ คือความโง่เขลาก็ได้

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

387 Nameless Fanboi Posted ID:XEdB0aUt4U

>>386 มิตรสหายโคตรมั่่ว ขาดความรู้ทางประวัติศาลตร์ สมัยยุคกลางนี่โลกอิสลามคือขีดสุดของวิทยาศาสตร์เลยสัส คณิต เคมี ฟิสิกส์เจ๋งหมด

388 Nameless Fanboi Posted ID:GZWbTnDrqh

>>387 กูก็เคยเห็นมีมล้ออยู่ว่า ยุคกลางอิสลามบ้าวิทย์ฯ คริสต์บ้าศาสนา ยุคปัจจุบัน สลับกัน

389 Nameless Fanboi Posted ID:SCSfJUNK4e

คือมึงจะหยุดแค่ศาสนาของมึงก็ได้แต่ มึงตอบโจทย์บางอย่างไม่ได้ถ้ามีคนคิดจะรังแกมึงนะ

คนมันมากขึ้นยังไงก็ต้องพัฒนาเรื่อง เพาะปลูก, ต้องมียาใหม่ๆ เทคโนปลูกสร้างที่อยู่ใหม่ๆ มารองรับอยู่ดี
หรือมึงจะคิดแค่ขุดน้ำมันเอาไปขายเป็นเงินแล้วเอาเงินไปแลกทุกอย่างอ่ะ ถ้าฝ่ายปกครองไม่เข้มแข็งจริงโดนฝรั่งมันยุให้เกิดสงครามกลางเมืองแบบทุกวันนี้มันไหวไหมล่ะ

390 Nameless Fanboi Posted ID:w.D4qhHK5P

>>389

-ฝรั่งยุให้เกิดสงครามกลางเมือง ❎
-ตีกันเองเพราะเกลียดมุสซี่ต่างนิกาย ✅

391 Nameless Fanboi Posted ID:ABWOUt0DKE

>>387 quote มันพูดถึงมุมมองคนยุคปัจจุบัน มันเกี่ยวอะไรกับยุคกลางวะ

392 Nameless Fanboi Posted ID:1OYUNpWZXZ

>>391 ก็มันบอกว่า

ปรัชญาของเราในการใช้ชีวิตมันตรงข้ามกับยิวทุกอย่าง บางทีมุสลิมอาจจะไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเทคโนโลยีก็ได้

แต่สมัยก่อนมุซซี่คือผู้นำโลกด้านวิทยาศาสตร์คู่กับจีน และยิวสมัยนั้นยังไม่ได้ทำไรซักอย่างนะสิ ถึง Weber จะเชื่อมั่นใน Protestant Ethic แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะใช้ได้กับทุกอย่างนะ

393 Nameless Fanboi Posted ID:gGtb3CRlOM

กูว่าทุกสังคมมันก็มีคนปนๆกันว่ะ แต่เราเอาวิสัยทัศน์เราไปใส่ให้คน ศาสนา,ประเทศนั้นเองป่าววะ

สมมุติ ว่าเรามองว่ามุสลิมอาหรับ มันก็ไม่ได้เคร่ง คลั่ง คำสอนอะไรขนาดนั้นกันทุกคนหรอก เพียงแต่ไอ้คนที่มาพูดหน้าทีวีมันบอกอย่างนั้น

หรืออย่าง เกาหลีเหนือ ดูมันล้าหลังอย่างนั้นมันก็มีคนแอบดูหนังเมืองนอก อ่านหนังสือเมืองนอก

394 Nameless Fanboi Posted ID:02SjH8YG5T

Paganism > Monotheism

395 Nameless Fanboi Posted ID:1OYUNpWZXZ

>>393 แต่เมื่อก่อนมันมีส่วนช่วยจริง ศาสนาอิสลามกำหนดไว้เลยว่าทุกคน (อย่างน้อยก็ผู้ชาย) ควรอ่านอัลกุรอ่านได้ เรื่องนี้ทำให้อัตราการรู้หนังสือสูงขึ้นมากในสังคมอิสลาม จนเป็นสังคมก่อนสมัยใหม่ที่มีอัตรารู้หนังสือมากที่สุด และอัตรารู้หนังสือก็ส่งผลดีหลายอย่างต่อสังคม

อีกอย่าง ศาสนาในสมัยนั้นก็ไม่ได้ปิดกันวิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์หลายคนในสมัยนั้นก็เคร่งศาสนาอย่างมาก และเชื่อว่าวิทยาศาสตร์คือการอธิบายความงามของจักรวาลที่พระเจ้าสร้าง วิทยาศาสตร์จึงล้ำหน้าในสมัยนั้น

396 Nameless Fanboi Posted ID:yml7O6+AAm

อย่าเสียเวลาตามหา Programmer ที่เขียนภาษา X มาแล้ว Y ปี เราจะหาไม่เจอและจะบ่นว่าอย่าใช้เลยภาษา X หาคนยาก ผมว่าปัญหานี้จะเกิดจากคนที่ไม่เคยเขียนโปรแกรมนะ

ส่วนตัวคิดว่าให้ตามหา Programmer ที่มีความอยากที่จะเรียนรู้ ผมเชื่อว่าให้เวลาเขา 1 เดือนเขาจะเขียนภาษา X ได้ดี เพราะจริงๆแล้ว Programmer ไม่ควรระบุว่าเป็น Programmer ภาษาอะไร

ถ้าเรารอจนกระทั่งเราหา Programmer ที่เขียนภาษา X ไม่ได้ แสดงว่าปัญหามันลึกกว่าการหาคนแล้วหล่ะ ไปหาต้นตอของปัญหาดีๆ

อีกอย่างถ้าเราเจอ Programmer ที่บอกว่าเป็น Programmer ภาษา X เขียนอย่างอื่นไม่เป็น งองแง ให้เรียกเขามาใกล้ๆ แล้ว "ดีดหูสักที แล้วกระซิบว่า ตื่นเหอะ"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

397 Nameless Fanboi Posted ID:SDgiflUZGx

ผมต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงกับพ่อที่ธนาคาร เพียงเพราะแกต้องการมาโอนเงิน ผมทนไม่ไหวแล้ว เลยถามออกไปว่า

"พ่อ...ทำไมเราไม่ทำธุรกรรมผ่าน e-banking ล่ะครับ?"

พ่อตอบ "ทำไมถึงต้องทำยังงั้นล่ะ"

ผมตอบไปว่า เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเป็นชั่วโมง เพียงเพื่อการโอนเงิน

พ่อยังสามารถซื้อของออนไลน์ได้ด้วย....ทุกอย่างมันจะง่ายไปหมด

ผมกระตือรือร้นที่จะโน้มน้าวให้พ่อเข้าสู่โลกของ e-banking

พ่อกลับถามว่า "งั้นพ่อก็ไม่ต้องก้าวเท้าออกจากตัวบ้านเลยสิ?"

ใช่ๆ...ผมบอกพ่อว่าเดี๋ยวนี้ของใช้ต่างๆ อาทิ ของชำยังส่งมาถึงประตูบ้านได้แล้วเลย อเมซอนจัดส่งทุกอย่างเลย

แต่คำตอบของพ่อทำเอาผมอึ้งไปเลย (ทำเอาลิ้นผมแข็งไปเลย)

พ่อพูดว่า "ตั้งแต่พ่อย่างเข้ามาในธนาคารวันนี้ พ่อได้พบเพื่อนตั้ง 4 คน...ได้พูดคุยกับพนักงานธนาคารซึ่งคุ้นเคยกับพ่อเป็นอย่างดี"

"ลูกก็รู้ว่าพ่ออยู่คนเดียว นี่เป็นการมีสัมพันธ์กับผู้คนที่พ่อต้องการ พ่อชอบที่จะทำตัวเองให้พร้อมมาที่ธนาคาร จะได้มีเวลามากพอ...มันเป็นการสัมพันธ์กันทางกายสัมผัสที่พ่อสรรค์สร้างขึ้นมา"

"เมื่อ 2 ปีก่อนที่พ่อล้มป่วย...พ่อค้าผลไม้ที่พ่อซื้อเค้าประจำมาเยี่ยม และนั่งข้างๆเตียง แล้วก็ร้องไห้"

"ตอนแม่แกหกล้มเมื่อ 2-3 วันก่อน ในขณะที่ออกไปเดินเล่นตอนเช้า พ่อค้าร้านขายของชำเจอเข้า เลยรีบพาแม่แกขึ้นรถมาส่งที่บ้าน เพราะเค้ารู้ว่าพ่อพักอยู่ที่ไหน"

"พ่อจะมีสัมพันธ์กับผู้คนทางกายสัมผัสแบบนี้มั้ย ถ้าทุกอย่างเป็นออนไลน์ไปหมด"

"ทำไมพ่อถึงต้องให้ของทุกอย่างจัดส่งมาให้ และยังบังคับให้พูดคุยกับเจ้าคอมพิวเตอร์เท่านั้น"

"พ่อชอบที่จะรู้จักผู้คนที่พ่อติดต่อด้วย ไม่ใช่เพียงแค่ในฐานะเซลล์แมน....แต่มันได้ก่อเกิดความผูกพันและสัมพันธภาพ"

"เจ้าอเมซอนที่ลูกว่า มันสามารถจัดส่ง 2 สิ่งนี้ได้ด้วยมั้ย?... ความผูกพัน กับ สัมพันธภาพ น่ะ"

เทคโนโลยีไม่ใช่ชีวิต ใช้เวลากับผู้คนบ้างนะครับ...อย่าให้โทรศัพท์มือถือใช้เวลาของเราทั้งหมด

จริงอยู่.. คุณอาจจะอ่านบทความนี้จากมือถือ แต่คุณตระหนักแล้วนะว่า มันไม่อาจให้ชีวิตชีวา และรสสัมผัสได้ หันไปหาคนใกล้ตัวคุณตอนนี้เลยครับ

398 Nameless Fanboi Posted ID:e9bZTgtROw

>>397 โลกสวยพอๆกับโฆษณารถกระบะในโรงหนังอ่ะครับ
แหม่ โลกนี้ช่างงดงาม เพื่อนร่วมโลกจิตใจดีมีเมตตาโอบอ้อมอารี จนไม่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีอะไรให้วุ่นวาย

มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง

399 Nameless Fanboi Posted ID:qqDAoAlmq9

>>397 กูยกเลิก e-banking ทุกอย่างเพราะแม่งทำเงินรั่วออกจากกระเป๋าง่ายนี่แหละ แต่ก็แอบขี้เกียจรอคิวเวลาไปแบ๊งค์ว่ะ

400 Nameless Fanboi Posted ID:2inHY8alKF

>>397 อีลูกนี่อ่อนต่อโลกไปหน่อยนะ e-banking ถ้าใช้ๆไปวันดีคืนดีโดนแฮกเงินไปหรือธนาคารเอาเงินไปซะเองมันจะมาสนใจมั้ยหล่ะ ความปลอดภัยของเรื่องเงินนี่ถ้าใช้เพื่อจัับจ่ายใช้สอยเบาๆ ซื้ออะไรที่ไม่หนักมาก ไม่ต้องใช้ความไว้ใจสูงมันพอใช้ๆกันได้อยู่ มันก็พยายามชักชวนให้รู้ว่าเครื่องจักรแม่งไม่ทำให้เราพอใจได้ทุกสรรพสิ่งหรอก แต่บทพ่อนี่เสือกโลกลาเวนเดอร์ดราม่ามาเต็มเป็นกูกูก็เอียน

401 Nameless Fanboi Posted ID:ZVd78VnosU

>>397 แล้วแต่นะ ไปธนาคารกูเจอแต่คนแปลกหน้า เอาเวลาไปอยู่กับคนที่เราให้ความสำคัญดีกว่า /ปล. กูใช้ E-Banking มาเป็นสิบปีแล้วไม่เคยโดนแฮก เช็คสเตทเม้นท์ตัวเองตลอดว่าเงินเข้าออกทางไหนบ้าง กูไม่ใช่คนขยันอัพเดทบุ๊คแบ้งค์

402 Nameless Fanboi Posted ID:Ob06Hm.GyZ

เวลาพนักงานแบ้งค์(โดนสั่ง) มาบอกให้กูลงแอพ e-banking อะไรพวกเนี้ย

พวกนั้นจะรุ้กันไหมว่า
เขาจะลดสาขาแบ้งค์ ประมาณหาเริ่องตกงานทางอ้อม

403 Nameless Fanboi Posted ID:IA2XX6eEU0

เมื่อวานคุยเรื่อง AI Face recognition ที่ใช้จำหน้าคน แล้วพูดถึงระบบกล้องตรวจจับหน้าของจีน ซึ่งใช้แยกคนไปจนถึงระบบ social credit

เพื่อนก็พูดว่า จีนมันพัฒนายังไง เห็น iPhone X ยังถูกหน้าคนจีนหลอกเอาได้

ไปค้นต่อ เลยเจอว่า

1. พวก AI ตรวจหน้าที่พัฒนาโดยฝรั่ง จะมี Bias การตรวจจับหน้าคนเชื้อชาติอื่น เพราะความละเอียดและฐานข้อมูลวิเคราะห์ไม่พอ

2. จีนมีศาสตร์โหงวเฮ้งมาสองพันปี เรื่องดูหน้าดูตา ปาก จมูก นี่ เอามาประยุกต์ใช้ได้เลย พวก AI ของอาลีบาบาหรือเทนเซนต์นี่ใช้โหงวเฮ้งประกอบด้วย
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

เจอพวกนักกีฬาซูเปอร์สตาร์คนดำเข้าไป กูแทบอยากเผาตำราทิ้ง โหงวเฮ้งมันไม่น่ารวยสักคน

ซินแสคนหนึ่งเคยบอก
#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง

404 Nameless Fanboi Posted ID:IugMjEp21R

Cats don't become fish if they are born in an aquarium or if they "self identify" as fish.
FACTS are what make people who they are, not feelings or place of birth.

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

405 Nameless Fanboi Posted ID:Ob06Hm.GyZ

>>403 มึงดูไม่เป็นเอง
นิกก้าดำๆรวยๆส่วนใหญ่หัวเกรียนหน้าผากกว้างสูง = ทรัพย์เยอะ อยู่สบาย

406 Nameless Fanboi Posted ID:UKy54dKLV4

>>403 จีนมันเรสิท ชิงชองแชงแย่จริงๆ

407 Nameless Fanboi Posted ID:1dc0IaLEjL

>>403 "จีนจะเป็นเผด็จการเบ็ดเสร็จนิยมที่ประสบความสำเร็จชาติแรกของโลก"

ปกติเผด็จการที่ (พอ) อยู่ได้คือเผด็จการอำนาจนิยม คือห้ามประชาชนยุ่งกับการเมือง นอกนั้นอยากทำอะไรก็ทำไปผู้มีอำนาจจะไม่ไปวุ่นวายด้วย ต่างจากเผด็จการเบ็ดเสร็จนิยมที่รัฐจะยุ่งกับพฤติกรรมประชาชนทุกเรื่อง การกิน อยู่ เรียน ทำงาน เลือกคู่สมรส ฯลฯ แต่ระบบหลังนี้ประชาชนจะรำคาญ สุดท้ายนำไปสู่การโค่นอำนาจผู้ปกครอง

ทว่าจีนอาจทำระบบเผด็จการเบ็ดเสร็จนิยมสำเร็จเป็นแห่งแรกของโลก เพราะ 1.จีนคุมโลกออนไลน์ไว้อยู่หมัด เป็นประเทศเดียวที่มี Single Gateway แล้วเน็ตไม่ล่ม รัฐบาลจีนจึงคัดกรองข้อมูลข่าวสารที่อยากหรือไม่อยากให้ประชาชนรู้ได้เกือบ 100% กับ 2.ระบบ Social Credit ทุกคนจะมีคะแนนความประพฤติ ใครคะแนนต่ำการเข้าถึงสิทธิต่างๆ ในฐานะพลเมืองก็จะถูกตัดถูกลด โดยนอกจากระบบกล้องตรวจจับใบหน้าบวกสแกนฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์แล้ว ยังให้แต่ละคนโหวตให้กันและกันอีกต่างหาก

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

408 Nameless Fanboi Posted ID:NQJq.GLJyM

>>407 ตอนนี้เผด็จการจีนมันยังอยู่ได้เพราะมันยังเอาเงิน เอาสิ่งของให้พลเมืองได้อยู่ คนจีนเลยปิดหูปิดตาหยวนๆไป

แต่รอให้ไม่มีเงินพอยัดคนทั้งประเทศเมื่อไหร่ล่ะก็ได้มีปฎิวัติแน่

409 Nameless Fanboi Posted ID:WWwPpcEBPc

>>408 คงอีกนาน ยกเว้นจะเกิดฟองสบู่ในเร็วๆ นี้ เพราะเงินสำรองจีนมากมายมหาศาล แถมยังกล้าฝืนตลาดจนโซรอสเจ็บหนักมาแล้ว

410 Nameless Fanboi Posted ID:bosclDzIoP

>>403 ไอ้ข้อโหวงเฮ้งนี่มันมั่วป่าววะ เหมือนจะแค่อยากอวยจีนเฉยๆไม่ได้เกี่ยวเหี้ยไรกะการเขียนAI

411 Nameless Fanboi Posted ID:RNiSrViLBH

>>410 มันแค่มุขเปล่า ไอ>>403

412 Nameless Fanboi Posted ID:rL.SO/WWrz

ผมมักจะพูดว่าคนญี่ปุ่นนั้นอัพเกรดความคิดและการกระทำไปอีกระดับ และเป็นแบบนี้มานานแล้ว

คนขับรถเมล์ที่เมืองโอคายามาประท้วงโดยไม่ใช่วิธีหยุดงานเหมือนกับที่อื่น แต่ใช้วิธีเอาผ้าขาวมาคลุมเครื่องเก็บเงินแล้วขับรถให้ผู้โดยสารนั่งฟรี โดยให้เหตุผลว่าการประท้วงด้วยการหยุดงานนั้นจะทำให้ประชาชนเดือดร้อน แต่การไม่เก็บค่าโดยสารนั้นกระทบเพียงผู้บริหารและบริษัท แต่ไม่เดือดร้อนต่อประชาชน

นี่ไงที่ผมบอกว่าคนญี่ปุ่นนั้นอัพเกรดความคิดและการกระทำไปอีกระดับ ไม่เหมือนกับฝรั่งเศสประท้วงที่ไรก็เผารถยนต์ที่จอดข้างถนนไปตลอดทาง เมื่อวันที่ 1 ที่ผ่านมาก็เผารถยนต์ไปทั้งถนนที่ขบวนผู้ใช้แรงงานเดินผ่านในวันแรงงาน ในยุโรปผมเคยรอเครื่องบินไปสองวันเพราะเจ้าหน้าที่หอควบคุมการบินประท้วง จะเปลี่ยนไปบินสายไหนก็ไม่รอดเพราะสนามบินปิดทั้งประเทศ ที่ลอนดอนผมเคยเดินกลับบ้านสิบกว่ากิโลเมตรเพราะรถไฟประท้วงทั้งเมืองไล่ผู้โดยสารลงสถานีกลางทาง ฯลฯ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่กับญี่ปุ่นหรือเกิดกับญี่ปุ่น

เรื่องนี้เกิดขึ้นมาเพราะมีบริษัท เมกูริน ที่เป็นบริษัทรถคู่แข่งได้มาเดินรถทับเส้นทางของบริษัทเรียวบิ ที่เดินรถมาก่อนหน้านั้นนานแล้ว โดยใช่รถดีกว่า ค่าโดยสารถูกกว่า ซึ่งผู้บริหารของบริษัทเรียวบิ ไร้น้ำยาที่จะทำธุรกิจต่ิสู้กับคู่แข่งที่มาใหม่ คนขับรถเมล์ก็รู้สึกกว่าตัวเองขาดความมั่นคงในงานของตัวเองที่ทำอยู่เพราะความไร้น้ำยาของผู้บริหารที่ไม่ต่อสู้ในเรื่องนี้ ดังนั้นเพื่อบีบไข่สร้างแรงกดดันให้ผู้บริหารออกไปสู้กับปัญหาที่คู่แข่งมาวิ่งทับเส้นทาง พนักงานขับรถทั้งหมดจึงขับรถแบบไม่เก็บเงินค่าโดยสาร เพื่อให้ผู้บริหารเดือดร้อนแต่ประชาชนไม่มีผลกระทบ

มีคนวิจารณ์ว่าการประท้วงแบบนี้อาจจะไม่ถึงผู้บริหารสภาเมืองและบริษัทใหญ่ของตัวเอง เพราะบริษัทเรียวบินั้นธุรกิจใหญ่โตมาก บริษัทเดินรถเมล์ของเมืองนั้นถือว่าเป็นเศษเสี้ยวของธุรกิจทั้งหมดก็ว่าได้ โดยให้เหตุผลว่าเรื่องการประท้วงที่พนักงานทำในครั้งนี้ไม่รุนแรงพอ แต่คนวิจารณ์กลุ่มนี้กลับคิดผิด เพราะว่าข่าวนี้ออกไปทั่วโลกคนจากทั่วโลกต่างชื่นชมถึงการตัดสินใจประท้วงแบบไม่กระทบต่อประชาชนแบบนี้

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

413 Nameless Fanboi Posted ID:CUNU9WMgaH

>>412 ค่าโดยสารถูกหรือจะสู้นั่งฟรี

414 Nameless Fanboi Posted ID:eHcntpY0Uo

>>412 หล่อเลย

415 Nameless Fanboi Posted ID:WP4xTEeYv5

>>412 รถที่ซิดนีย์กับบริสเบนก็เคยทำแบบนี้ไปไม่นานก่อนหน้านี้ ไม่ดัง ยุ่นทำดังเลย

พลังวีอะบู้นี่น่ากลัวจริงๆ

416 Nameless Fanboi Posted ID:RKPK3mfvId

>>415 อย่าเอ็ดไป ความดีงามทุกอย่างในโลกนี้เริ่มที่นิปปอนเสมอ ไกจินอย่างมึงทำได้แค่เลียนแบบนั่นละ

417 Nameless Fanboi Posted ID:WJfo8Ejhj+

>>412 นึกถึงข่าว fukushima เลย 555

418 Nameless Fanboi Posted ID:2XVnby6cAC

>>416 ใช่ๆ พวกเลียตูดฝรั่งพยายามสร้างข่าวบิดเบือนเข้าไป คนเอเชียต้องเชิดชูคนหัวดำด้วยกันเว้ย อะอู้

419 Nameless Fanboi Posted ID:szTBKpT1Od

>>418 แต่ได้ข่าวว่าคนยุ่นเค้าไม่นับตัวเองเป็นคนเอเชียนะครับ

420 Nameless Fanboi Posted ID:2XVnby6cAC

>>419 เป็นข่าวใส่ร้ายป้ายสีของพวกฝรั่งทั้งสิ้นเพื่อจะยุให้คนอารยันหัวดำนั้นแตกสามัคคีกัน

421 Nameless Fanboi Posted ID:srRj/gsx./

>>420
>อารยัน
>หัวดำ

???

422 Nameless Fanboi Posted ID:WJfo8Ejhj+

>>421 อินเดียทางเหนือไงสัด

423 Nameless Fanboi Posted ID:pT8W6Q8sqK

>>421 คนอารยันแท้ๆ ไม่ได้ผมทองตาสีฟ้าซักหน่อย

424 Nameless Fanboi Posted ID:yqoBxXIB9N

ถึงจะดียังไง ส่วนตัวขอแบนครับ ยี่ห้อนี้ คุณกลั่นทุกวัน มีแผนขยายโรงบ่ม โรงบ่มคุณมีเหล้ามหาศาล แต่คุณหยุดผลิต เพราะ คุณขายของที่คุณภาพต่ำกว่าก็ยังได้ราคาดีกำไรดี , คุณสามารถเก็งกำไรจากของที่คุณหยุดผลิตได้ ทั้งที่คุณยังสามารถผลิตต่อ

ความเดิมนั้น วิสกี้เกรด Premium ของ Suntory มีอยู่ 3 ยี่ห้อ ได้แก่ Hibiki ที่เป็น Blended Japanese Whisky และ อีกยี่ห้อ 2 คือ Yamazaki กับ Hakushu ที่เป็น Malt Whisky

แต่ไม่ใช่ ว่า ขึ้นชื่อ Hibiki หนึ่ง Yamazaki หนึ่ง Hakushu หนึ่ง แล้วจะเป็นวิสกี้ญี่ปุ่นที่เลิศรส ... เสมอไป ... ไม่ใช่เลย

ค่อยๆ อ่านนะครับ สหายที่หลงกับเหล้าญี่ปุ่นอยู่

3-4 ปีให้หลังมานี้ Suntory 3 ยี่ห้อนี้อยู่ในภาวะขาดตลาด เนื่องจาก วิสกี้ที่ทำไว้แต่ก่อน ทำไว้โคตรดี ดีมากๆ ผนวกกับกระแสการดื่ม Single Malt ที่เติบโตขึ้น และเมื่อญี่ปุ่นเปิดประเทศรับการท่องเที่ยวมากขึ้น ทำให้วิสกี้เหล่านั้นกลายเป็นที่ต้องการจนขาดตลาด

เมื่อขาดตลาด แม้จะขยับราคาขึ้นไป 2-3 เท่าจากเดิม แทนที่ความต้องการในตลาด (Demand) จะลดลง กลับยิ่งเพิ่มกระแสขึ้นไปอีก ทั้งนักดื่มมอลต์หน้าใหม่ ทั้งนักตุนสาย TV ด้วยเหตุนี้ก็ยิ่งขาดตลาดหนักเลย

Suntory เลยหันมาทำวิสกี้ที่ฝรั่งเรียกว่า No Age Statement คือ ไม่แสดงอายุบ่มที่ฉลาก คือ “อาโน่ กูบ่มไม่ทันแระ 12 ปี 18 ปี กูออกรุ่นใหม่ บ่มแม่ง 3 ปีพอ 4 ปีพอ แล้วกัน” แล้วมาปรุงผสมกับเหล้าที่อายุบ่มแก่กว่า พอได้วิสกี้ที่สัดส่วนต้นทุนกำไรที่ต้องต้องการ รสไม่ได้แย่มากมาย พอขายได้ แต่แฮงค์ชิบหาย ก็เอาออกมาขายแม่ง โดยใช้กระแส นิยมจากของเหล้ารุ่นเก่าๆ

ลองคิดดูว่า เหล้าบ่ม 12 - 17 ปี “โสหุ้ย” ต้นทุนการผลิตและจัดการ เท่าไร? ลดไป 2-3 ปี ก็กำไรบานแล่ว ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ถ้าลดปีบ่มแม่งเยอะๆ หล่ะ ... รวย! รวย! รวย! อะดิ โซเดสสุเน่!!!

ถ้าเพื่อนๆ จะหาวิสกี้ญี่ปุ่น 3 ยี่ห้อนี้ ผมแนะนำให้หา อะไรก็ได้ที่ระบุปีบ่มในฉลาก
- Hibiki 12 ปี
- Hibiki 17 ปี
- Hibiki 21 ปี
- Yamazaki 12 ปี
- Yamazaki 18 ปี
- Hakushu 12 ปี

ถ้าหาไม่ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องไปกินหรอก!!!สกอต ดีๆ ยังมีอีกเยอะ ในราคาที่จับต้องได้

แต่ ไม่ใช่ ไม่ใช่ และ ไม่ใช่
- Hakushu (ไม่ระบุปี)
- Yamazaki (ไม่ระบุปี)
- Hibiki Japanese Harmony
ที่มาขายแพงๆ .... ไม่ใช่เลย

ไรว่ะ ซื้อในไทย 2 ขวดหมื่น ซื้อคันไซขวดละพันกว่า ยังเสียดายตังหว่ะ ... นี่เตรียมจะหยุดผลิตอีก ไอ้ญี่ปุ่นขี้หลอกเอ้ย!!! olo

กลับมาที่ สก๊อต แอดฯ ถามว่าคุณดื่มครบ Regions หรือยัง? ยี่ห้อโปรดของคุณยี่ห้ออะไร แล้วคุณลอง Vertical Test หรือยัง? Independent Bottlers รู้จักไหม? สก๊อตมีขวดดีๆ พอให้ค้นหาอีกมากมาย ครับ

เรื่องเหล้าไว้ใจเฮียนะ ... ไปแระ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

425 Nameless Fanboi Posted ID:G+gAKK630U

ว่าแต่ค่าน้ำมันใครจ่าย

426 Nameless Fanboi Posted ID:cyyToZSVEt

เช้านี้รถติดมากเพราะผู้ปกครองมายืนเฝ้าลูกหน้า รร ไม่ยอมกลับบ้านเต็มเลย 55555

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

427 Nameless Fanboi Posted ID:bM.MuWJI6V

>>415 เพราะสื่อล้วนๆ กูอธิบายตรงๆไม่ได้แต่ไอเดียมันมาจากคำว่า wacky สรุปง่ายๆคือเรื่องแปลกๆ หรือที่ทำข่าวได้เกียวกับญปจะเพิ่มยอดเข้าชมได้

http://www.abc.net.au/news/2017-06-01/free-buses-in-sydney-as-drivers-turn-off-opal-card-machines/8579032

>>419 จริงๆอยากรู้นะว่าไอเดียนี้มาจากใครมีใครค้นคว้าทำ paper ไว้หรือเปล่า แต่เวลาไปหาคำตอบบน quora ก็ได้คำตอบที่ต่างจากคำตอบในไทย

https://www.quora.com/Why-do-the-Japanese-call-themselves-Asians-while-Japan-is-an-island-just-like-Australia

428 Nameless Fanboi Posted ID:I0/fORqUz7

>>427 ต่างกันยังไง คนไทยก็บอกนิว่าคนญี่ปุ่นไม่คิดว่าตัวเองเป็นเอเชียเหมือนกัน

429 Nameless Fanboi Posted ID:bM.MuWJI6V

>>428 https://www.quora.com/Why-do-the-Japanese-call-themselves-Asians-while-Japan-is-an-island-just-like-Australia/answer/Nell-Zhang

Still I’ve never heard any Chinese folks introduce themselves as ‘an Asian’. In fact I’ve never heard any ‘Asians’ who were born and live in Asia call themselves ‘Asians’.

I feel it perfectly understandable. After all, when’s the last time you actually heard a ‘westerner’ call him/herself ‘a westerner’? They are Brits, Americans, Aussies. Or, more likely, Tim, Emily and Steve.

430 Nameless Fanboi Posted ID:I0/fORqUz7

>>429 คนละประเด็นกัน ละมึงตัดมาแค่ส่วนหนึ่ง ลงอ่านพารากราฟบนสุดดูก็พอ

No no no.

The Japanese don’t call themselves Asians. They even don’t really consider Japan as an ‘Asian country’, despite of the general geographic definition, which confused my Chinese coworkers a lot.

มึงต้องแยกระหว่าง call themselves กับ consider themselves ให้ออกนะ

431 Nameless Fanboi Posted ID:bM.MuWJI6V

>>430 https://www.quora.com/Why-do-the-Japanese-call-themselves-Asians-while-Japan-is-an-island-just-like-Australia/answer/Youji-Hajime

อันนี้น่าจะเคลียร์สุดแล้วหละ

We call ourselves Toyo-jin ( 東洋人), the closest translation being Orientals. It matches geographical area and cultural identity.

Asia is a Western concept imported to Japan, which is based on bizzare Eurocentric idea that Europe is a continent. Even Westerners don't seem to have clear idea what Asian means so Japanese can't possibly answer.

432 Nameless Fanboi Posted ID:I0/fORqUz7

>>431 ไม่เคลียร์วะ กูไม่เข้าใจ

bizzare Eurocentric idea that Europe is a continent

ยุโรปมันเป็นทวีปจริงๆ นิ มันแยกให้เห็นภาพรวมเฉยๆ อย่างนี้คนอุบลบอกว่าไม่ใช่คนไทยก็ได้ เพราะประเทศไทยไม่มีจริงงั้นเหรอ ตลก

433 Nameless Fanboi Posted ID:zmSzkCVypk

>>432 ยุโรปไม่ใช่ทวีป เอเชียก็ไม่ใช่ทวีป จริงๆ ทวีปชื่อยูเรเซีย

สังเกตดีๆ การแบ่งทวีประหว่างยุโรปและเอเชียไม่ได้ทำตามหลักภูมิศาสตร์ แต่แบ่งเอาว่า ตะวันออกของกรุงคอนสแตนติโนเปิล (ปัจจุบันคืออิสตันบูล) คือไม่ใช่เขตของยุโรปแล้ว

434 Nameless Fanboi Posted ID:QH6jU9KTV8

จริงๆคนญี่ปุ่นก็คือ คนแผ่นดินใหญ่ ข้ามไปนั่นแหละ จะเรียกเอเซี่ยน ก็ถือว่าไม่ผิดนะ คนอังกฤษเราก็เรียกยังว่าคนยุโรปก็ได้

แต่จริงๆการใช้คำว่า Asian มันมาจากฝรั่งมากกว่า คือเห็นหน้าแบบนี้ก็เรียกรวมๆไปเลยว่า Asian

แบ่งตามรูปลักษณ์ มากกว่าภูมิศาสตร์

435 Nameless Fanboi Posted ID:mtSWH7YtNp

เมกา Asian รวมหมดเลย
อังกฤษหมายถึงแขก ถ้าพวก chink ต้องเป็น East Asian

436 Nameless Fanboi Posted ID:hmJ0BXdnXd

>>434 แนนี้ก็เหมือนยุ่น ชาวเกาะอังกฤษบางทีก็ไม่ถือว่าตัวเองเป็นยุโรป สายวิชาการมีแบ่งระหว่างโลกถาษาอังกฤษ เมกา+อังกฤษ กับสายภาคพื้นทวีป ยุโรปทั้งหมดด้วย

437 Nameless Fanboi Posted ID:Zro6V4alg4

>>435 คำว่า chink ดั้งเดิมมันสำหรับคนจีนเทียบในภาษาไทยได้ว่าเจ็ก แต่ประเทศอื่นก็มีคำเหยียดเหมือนกันเช่น Korean = Gook/ Japanese = Jap/ Filipino = Flip

438 Nameless Fanboi Posted ID:I0/fORqUz7

>>433 แต่คนยุโรปถือว่าตนเองเป็น European นะ คนเอเชียที่อื่นก็ถือว่าเป็นเอเชีย=มองโกลลอยด์ แต่ญี่ปุ่นไม่ค่อยคิดแบบนั้นจริงๆ ในนั้นหลายคนก็บอกแบบนี้

439 Nameless Fanboi Posted ID:0vM4aD8Sdz

>>436
อย่าเอาแบบโมเดิร์นมาดิ เราหมายถึงลักษณะ รูปลักษณ์ วัฒนธรรม กันไม่ใช่เหรอ ถ้าเห็นผ่านๆ เราก็เรียกคนๆนี้ว่า White guy ไม่ก็ European เพราะเค้าใบหน้าแบบยุโรป
อังกฤษ ก็คือ คนเยอรมันนิค ที่ข้ามไปเกาะ ตอนโรมันออกจากเกาะบริเตน
คนCelt ก็คือ คนแผ่นดินใหญ่ข้ามไปตั้งแต่ยุคโบราณ
ตัวอักษรที่ใช้ก็ของโรมัน การที่มองว่าตัวเองไม่ใช่ European ก็ดูตลกอยู่นะ

440 Nameless Fanboi Posted ID:J9rbsU1Bz2

อิรานก็ไม่เรียกตัวเองว่าอาหรับเพราะถือว่าพื้นเพของตัวเองคืออาณาจักรเปอร์เซีย และในอดีตเปอร์เซียก็รบกับอาหรับบ่อยจนเห็นอาหรับเป็นศัตรู

441 Nameless Fanboi Posted ID:Zro6V4alg4

>>440 แล้วพวกในตะวันออกกลาง อิหราน ประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของโซเวียตมองตัวเองว่าเป็นเอเชียตามแผนที่หรือเปล่า

442 Nameless Fanboi Posted ID:ro4c/q92qy

>>440 แต่ก็เรียกรวมๆกว้างๆได้ว่า middle eastern เพราะลักษณะหน้าตาคล้ายๆกันด้วย

443 Nameless Fanboi Posted ID:I0/fORqUz7

>>439 คนอังกฤษก็ถือว่าตัวเองแปลกแยกจากยุโรปมานานแล้วนะ คนยุโรปสมัยก่อนก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน

>>440 มันคนละเผ่ากันจริงๆ อาหรับคือพวกเซมิติค ส่วนอิหร่านเป็นอารยัน

444 Nameless Fanboi Posted ID:8cMYoX9oJK

การแบ่งแยกยุโรป/เอเชียเป็นคนละทวีปมันมาตั้งแต่ยุคกรีกแล้วนะ ซึ่งกูว่ามันเป็นเพราะความเข้าใจเรื่องทางภูมิศาสตร์ยุคนั้นยังไม่ดีมากกว่าประเด็น racist

445 Nameless Fanboi Posted ID:I0/fORqUz7

ดูข่าวสายการบินเสฉวนเกิดอุบัติเหตุกลางอากาศ กระจกห้องนักบินหลุดกระเด็นที่ระดับความสูง 32,000 ฟุต ผู้ช่วยนักบินถูกดูดออกไปครึ่งตัว กัปตันต้องขับเครื่องบินต่อไปอีก 20 นาที กลางอากาศหนาว -40c แต่ท้ายที่สุดก็นำเครื่องลงจอดที่สนามบินเฉิงตูอย่างปลอดภัย

รู้สึกชื่นชมนักบินกับลูกเรือ และดีใจกับผู้โดยสารทุกคน

เฉิงตู คือ แหล่งผลิตเครื่องบินรบไฮเทคทั้งหลายของจีน รวมทั้ง J-10, J-20 ที่โด่งดัง และยังเป็นฐานทัพอากาศที่ใหญ่ที่สุดของจีนอีกด้วย ดังนั้น นักบินสายการบินเสฉวนก็มักมาจากกองทัพอากาศจีน

ขณะเดียวกัน ก็นึกถึงอดีตเมื่อหลายปีก่อน

ครั้งหนึ่ง ผมนั่งเครื่องบินจากปักกิ่งไปเฉิงตูโดยสายการบินเสฉวน

ซื้อตั๋ว First Class นั่งอยู่คนเดียว รู้สึกเท่สุด ๆ และดีใจที่ไม่มีใครอื่นมาร่วมแบ่งความเท่ ถัดออกไปหลังผ้าม่านก็เป็นชั้น Business Class และ Economy Class เหมือนสายการบินทั่วไป

ขณะที่เครื่องกำลังจะ take off เราก็กำลังเต๊ะท่าสบาย ๆ อยู่ดี ๆ กัปตันก็ประกาศว่า เที่ยวบินต้องเลื่อนเวลาเล็กน้อยกระทันหันเพราะต้องรอผู้โดยสารเพิ่มเติม เราก็คิดในใจว่า ใครหนอ ช่างไม่รู้เวลา เครื่องจะออกอยู่แล้วก็ต้องมานั่งรอ

สักพัก กลุ่มคนในชุดจงชาน (ชุดยอดนิยมของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์) ก็ขึ้นมา 7-8 คน พร้อมทหารจีนในเครื่องแบบตามขึ้นมาส่งถึงที่นั่งกันพึบพับ

แอร์โฮสเตสก็มาบอกเราว่า

"คุณนั่งผิดที่นั่ง คุณต้องไปนั่งด้านหลัง"

"อ้าว เป็นไปได้ยังไง คุณดู boading pass สิ ก็เขียนเลขที่นั่งไว้ชัด ๆ ผมก็นั่งถูกต้อง และมันก็เขียนไว้ว่า First Class อีกด้วย"

"แต่ที่นี่ไม่ใช่ First Class และหมายเลขที่นั่งก็คงพิมพ์ผิด"

ผมงงเป็นไก่ตาแตก มีงี้ด้วย ก็นี่ตรงหัวสุดของเครื่องบิน ที่นั่งก็แทบจะเป็นเตียงนอน มีคอกกั้นส่วนตัว ยังไม่ใช่ First Class อีก แล้วยังพิมพ์หมายเลขที่นั่งบนตั๋วผิดด้วยเนี่ยนะ

"ถ้าที่นี่ไม่ใช่ First Class แล้วมัน class อะไร"

"Super First Class"

"ตอนซื้อตั๋วไม่เห็นมีเลย มีแต่ First Class"

"เราเพิ่งประกาศใหม่เดี๋ยวนี้ล่ะ"

แอร์โอสเตสตอบพร้อมกับทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ขอร้อง ได้โปรดเถิด

โห มีงี้ด้วย อยู่ดี ๆ downgrade ที่นั่ง เปลี่ยน class ทั้งลำ ขณะเครื่องกำลังจะ take off

แต่ผมก็ไม่ดื้อนะ ยอมเดินตามแอร์โฮสเตส ย้ายไปนั่งด้านหลังบนเก้าอี้ว่าง ๆ โดยดี แจกยิ้มให้ผู้โดยสารกลุ่มใหญ่ที่กำลังมองผมเป็นตาเดียว ทำนองอยากจะบอกว่า "ผมเปล่านะ ผมไม่ได้เฟอะฟะนั่งผิด class"

กัดฟันไว้ ในใจก็คิดทบทวนว่า ใครหนอเคยพูดว่า สังคมนิยมคนเท่ากัน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

446 Nameless Fanboi Posted ID:tYqUiNWFPE

>>445 https://i.imgur.com/kHu47hZ.jpg

447 Nameless Fanboi Posted ID:K6M85mVvtk

>>439 คนอังกฤษนี่แยกตัวเองออกจากชาวยุโรปบ่อยนะ เรียกพวกแผ่นดินใหญ่ว่าcontinental หาเจอตามlitทั่วไป

448 Nameless Fanboi Posted ID:HXtxESaNe1

ชาวนาคืออาชีพเผด็จการ

ลองถามควายสิครับ ว่าควายอยากไถ่นาไหม รู้ทั้งรู้ว่ามันถูกบังคับกดขี่ไงล่ะ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

449 Nameless Fanboi Posted ID:I5o3ZhPsEz

>>448 เด็กอ่างคงเป็นอาชีพเผด็จการแน่เลย กูไปทีไรโดนทั้งกดทั้งขี่ เด็กอ่างนี่แย่จริมๆ

450 Nameless Fanboi Posted ID:YYq1he3lt1

>>449 มึงผิดเองที่ไม่สู้ ไม่ยอมกดยอมขี่เค้าบ้าง

451 Nameless Fanboi Posted ID:QxeaS75uz3

"Data Scientist คือ Programmer ไม่ว่าจะพยายามยังไงพวกคุณก็คือ Programmer อย่าละเลย Practices เพราะเราใช้ Practices เดียวกัน" ... William Kennedy กล่าว อีกหนึ่งใน Key Take Away จาก Ultimate Go Workshop

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

452 Nameless Fanboi Posted ID:xcFP92ZM+M

A large group of Russian soldiers in the border area in 1939 are moving down a road when they hear a voice call from behind a small hill: "One Finnish soldier is better than ten Russian".

The Russian commander quickly orders 10 of his best men over the hill where Upon a gun-battle breaks out and continues for a few minutes, then silence.

The voice once again calls out: "One Finn is better than one hundred Russian."

Furious, the Russian commander sends his next best 100 troops over the hill and instantly a huge gun fight commences.

After 10 minutes of battle, again Silence.

The calm Finnish voice calls out again:

"One Finn is better than one thousand Russians"

The enraged Russian commander musters 1000 fighters and sends them to the other side of the hill. Rifle fire, machine guns, grenades,rockets and cannon fire ring out as a terrible battle is fought.... Then Silence.

Eventually one badly wounded Russian fighter crawls back over the hill and with his dying words tells his commander, "Don't send any more men......it's a trap. There's two of them."

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

453 Nameless Fanboi Posted ID:FlVfthffRv

>>449 ระวังผบทบ.มาเจอทำรัฐประหารนะมึง

454 Nameless Fanboi Posted ID:1/VvYzmoz0

แอบบ มอองเทออยู่น้าจ๊าาาา. แต่เทอม่ายรู้บั้างเลยยย

455 Nameless Fanboi Posted ID:qz.7GUFvit

แอบโส่งจายห้ายนี้ดนี้ด แต่โดเธอช่างเฉยเมยยย
อาวละเตรียมจายว้ายหน่อยมานจาหัวก้อยต้องเสี่ยงกานนนน
เย้้้้อีเย้้้้้อีเยยยยยยย

#มิตรสหายแถวๆลาดพร้าวท่านนึง

456 Nameless Fanboi Posted ID:7LCKp9wCss

บางครั้งพี่โจวว่า สื่อหรือปัญญาชน (ที่จัดวางตนเองว่าเป็นความก้าวหน้าหรือเป็นความสมัยใหม่) ก็พยายามมาป้อนคำให้ผู้หญิงที่ "แต่งตัวโป๊ดูฉลาด" หาถ้อยคำวิชาการมารองรับว่านี่คือ "สิ่งฉลาดและคนอื่นล่วงละเมิดไม่ได้นะ"
.
อันนี้พี่โจวว่าผู้หญิงแต่งตัวโป๊อาจจะดู "บลอนด์ๆ โง่ๆ" ก็ได้ หรืออาจจะดู "บลอนด์ๆ ฉลาด" ก็ได้ หรืออาจจะดู "นุ่งน้อยห่มน้อยเฉยๆ ไม่ต้องมีความโง่ความฉลาดรองรับ" ก็ได้ แต่กระนั้นคนที่จะไปล่วงละเมิดพวกเธอ พวกคุณก็ต้องรับผิดชอบทางกฎหมายทางกฎเกณฑ์ทางสังคมที่จะลงโทษคนหื่นแบบพวกคุณนะ
.
โป๊ไม่โป๊สวยไม่สวยโง่ไม่โง่หรือโป๊เฉยๆ ไม่มีอัลไลรองรับ ก็ปล่อยมันเป็นไปตามบุญตามกรรม อย่าประณามหรือยกยอปอปั้นกันให้มันโอเวอร์เกินจริงเลย มองมันเป็นความเฉย ๆ เถอะอ่ะครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

457 Nameless Fanboi Posted ID:v6QfLlq9Q7

>>452 cyka blyat

458 Nameless Fanboi Posted ID:9.pOYZ905.

>>456 โจวโฉ?

459 Nameless Fanboi Posted ID:2fQUybyWcu

"พวกฝรั่งมีความชำนาญในการใช้อาวุธปืนอย่างร้ายกาจ พวกเขามาถึงแผ่นดินของเราแล้ว คนพวกนี้ไม่เหมือนกับพวกอนารยชนอื่นๆที่เราเคยพบพาน หากคิดจะรักษาแผ่นดินของเราเอาไว้ให้รอดพ้นจากการรุกรานของพวกเขา เกรงว่าจะใช้วิธีการแบบที่เคยเป็นมามิได้แล้ว ครั้นจะอาศัยพวกขุนนางบัณฑิตหัวเก่าที่ร่ำเรียนแต่คัมภีร์ปราชญ์โบราณกันมากระนั้นหรือ พวกเขาเองก็ยังไม่สามารถคิดหาวิธีการหยุดยั้งเรือกลไฟของพวกฝรั่งได้ด้วยซ้ำ"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

460 Nameless Fanboi Posted ID:ShtC+Gw.dV

สังคมสามจังหวัดกำลังใกล้จะล่มสลายทางอัตลักษณ์ศาสนา : ว่าด้วยเรื่องฮิญาบ

ในฐานะที่ผมเป็นคนที่เติบโตมาในสามจังหวัดและมีโอกาสเดินทางไปหลายพื้นที่ของประเทศไทยเพื่อสอนศาสนา

ผมค่อนข้างมีความเห็นว่า สามจังหวัดเป็นที่เดียวที่เรื่องฮิญาบกลายเป็น สัญญะของความเป็นมุสลิมที่ใช้เป็นเกณฑ์แบ่งแยกว่าใครคือมุสลิมและต่างศาสนิก

สักสิบกว่าปีก่อนหรือยี่สิบปีก่อน พื้นที่ในเขตชนบทนอกเมือง "ในหลายพื้นที่" แทบไม่มีคนพุทธปรากฏอยู่เลย บางตำบลนี่มุสลิมเกือบจะ 100% หรือถ้ามีก็แค่ครัวเรือนไม่กี่หลัง (่ส่วนใหญ่ชาวพุทธจะมีเยอะในตัวเมืองหรือในบางเขตของย่านชนบทเป็นเขต ๆ ไป)

ความเป็นสัญญะของการเป็นมุสลิมในฮิญาบตามพื้นที่ชนบทนั้นจึงมีสูงมาก

ชนิดที่ว่าหากเห็นสตรีไม่ใส่ฮิญาบเดินอยู่แถวนอกเมือง คุณจะรู้สึกแปลกตาและแทบจะคิดไปเลยว่าสตรีคนนั้นเป็นต่างศาสนิก

นั่นหมายความว่า ในพื้นที่สามจังหวัดฮิญาบแทบจะเป็นมาตรการในสังคมซึ่งสตรีจำนวนมากเลยไม่กล้าฝ่าฝืนหลักปฏิบัตินี้ แม้ในทางความจริงก็มีการสวมใส่ฮิญาบผิดรูปแบบศาสนาให้เห็นอยู่ตลอด

นักวิจัยเรื่องกฎหมายอิสลามในอาเจะห์จากมหาวิทยาลัยออสเตรเลียท่านหนึ่งเคยบอกผมว่า ขนาดว่าอาเจะของอินโดนีเซียประกาศใช้กฎหมายอิสลามแล้ว ทว่าความเคร่งครัดของคนในหลายเรื่องโดยเฉพาะเรื่องฮิญาบกลับเบากว่าคนสามจังหวัดภาคใต้

ความจริงแล้ว ตัวตนและสถานะของฮิญาบในสามจังหวัดกำลังค่อย ๆ เปลี่ยนไปในทิศทางที่ออกจากหลักการศาสนามากขึ้น

ในเขตตัวเมืองของปัตตานีและยะลา ผมพบว่าแนวโน้มของการ "เฉย ๆ" กับการไม่ใส่ฮิญาบเริ่มมีมากขึ้น สตรีจำนวนมากเริ่มกล้าถอดฮิญาบใส่ขาสั้นไปวิ่งออกกำลังกายตามสวนสาธารณะและดินเนอร์ตามร้านค้า

ขณะที่ในด้านหนึ่งก็มีคนอีกกลุ่มที่แปลงฮิญาบเป็นแฟชั่น ถึงขนาดมีเดินประกวดโชว์อะไรสารพัด

ผมมองว่า อีกสิบปีข้างหน้า การทิ้งฮิญาบในเขตตัวเมืองอาจจะเพิ่มมากกว่านี้หากไม่มีกระบวนการอะไรเลย และเมื่อนั้นการชาชินกับการไม่สวมฮิญาบก็จะขยายตัวออกไปตามชนบทจนน่าจะไม่เกินคนรุ่นเดียว สามจังหวัดคงจะล่มสลายทางอัตลักษณ์อิสลามและเป็นเหมือนสังคมภาคส่วนอื่น ๆ ของประเทศที่การไม่ใส่ฮิญาบเป็นเรื่องปกติที่เห็นกันถมเถ หรืออาจจะมาถึงวันที่เราสามารถเห็นสตรีไม่ใส่ฮิญาบเดินป้วนเปี้ยนอยู่หน้ามัสยิดแบบที่เห็นกันได้ตาม กทม.

ที่ผมเป็นห่วงที่สุด คือ คนมลายูมุสลิมในพื้นที่ที่ไปรับการศึกษาในโลกยุคใหม่และขนเอาเรื่อง แนวคิดสิทธิเสรีภาพและอิสระในการไม่ใส่ฮิญาบมาเสนอในท้องที่มากขึ้น ๆ กระแสหนึ่งที่ผมเห็นว่ามาควบคู่กับเรื่องรักร่วมเพศคือ การเรียกร้องให้สังคมสามจังหวัดลดกติกาทางสังคมที่กดดันสตรีเรื่องฮิญาบ คนพวกนี้พยายามรณรงค์ให้สตรีมีสิทธิจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ ไม่ต้องการให้ฮิญาบเป็นระเบียบทางสังคมด้วยสโลแกนสวยหรูว่า "สตรีมีสิทธิเหนือร่างกายนาง" เป็นต้น

(มีต่อ)

461 Nameless Fanboi Posted ID:ShtC+Gw.dV

เอาเถอะผมเกริ่นมาเยอะแล้ว ผมมีเรื่องจะถาม

คำถาม : ทำไมถึงมองว่าการบังคับสตรีให้ใส่ฮิญาบจึงเป็นการกดขี่ ?

ถ้าตอบว่า มันเป็นการกดขี่เพราะสตรีไม่สามารถใส่อะไรตามที่นางต้องการได้ พวกนางถูกตัดสิทธิ์ในการเลือกเหนือร่างกายของพวกนาง

คำถาม : มีประเทศใดในโลกบ้างที่อนุญาตให้สตรีสวมใส่แบบไหนก็ได้ตามที่พวกนางต้องการแบบไม่มีข้อจำกัดเลย ?

ถ้าตอบว่า มีสิ ประเทศตะวันตกไง

คำถาม : ในประเทศตะวันตกนั้น สตรีสามารถเดินออกนอกบ้านหรือปรากฏในที่สาธารณะด้วยการแก้ผ้าล่อนจ้อนเปิดอวัยวะพึงสงวนได้ไหม ?

ถ้าตอบว่าไม่ อันนี้มันเกินไป

คำถาม : การที่เราบังคับสตรีไม่ให้พวกนางมีสิทธิแก้ผ้าล่อนจ้อนในที่สาธารณะ แบบนี้ถือเป็นการกดขี่สตรีไหม ตามนิยามของคุณ กรณีนี้จะถือว่าประเทศเหล่านี้ตัดสิทธิในการเลือกของสตรีออกไปไหมในนิยามของคุณ ?

ถ้าตอบว่า ไม่เลย เพราะการแก้ผ้าชนิดที่เปิดเผยอวัยวะพึงสงวนนั้นมันไปขัดกับรากฐานของความมีอารยะและความดีงาม ซึ่งมันเป็นคนละกรณีกับการเปิดเผยเส้นผมของสตรีที่ไม่ใส่ฮิญาบ

คำถาม ใครมีสิทธิไปตัดสินว่า ส่วนนี้ของร่างกายสตรีถ้าเปิดเผยไปแล้วขัดกับรากฐานของความมีอารยะ (เช่น อวัยวะพึงสงวน) แต่่ถ้าเปิดเผยอีกส่วนหนึ่งของร่ายกายสตรี (เช่น ผมและหน้าอก) ถือว่าเป็นความทันสมัยและยอมรับได้อย่างสมบูรณ์แบบ ?

ถ้าตอบว่า โอ๊ย นั่นมันเป็นพื้นฐานที่ใครก็ยอมรับกัน

คำถาม ใครตัดสินว่านั่นเป็นพื้นฐานที่ยอมรับกัน ? อะไรคือฐานที่ทำให้สิ่งนั้นถูกยอมรับ ? ความคิดแบบนี้ไปเอารากฐานที่ไหนมาสร้างความชอบธรรม

ถ้าตอบว่า นี่คนทั้งโลกหรือมาตรฐานสากลเขานิยามกันแล้วว่า เปิดอวัยวะเพศนะมันอนาจาร แต่ถ้าเปิดผมนะมันไม่อนาจาร

คำถาม ตกลงเอาคนส่วนใหญ่ตัดสิน งั้นหากคนส่วนใหญ่ของโลกไม่ยอมรับเกย์ เกย์ก็ผิดใช่ไหม ? คุณรู้หรือไม่ว่า วัฒนธรรมทั่วโลกมีเป็นร้อยพันวัฒนธรรม นับจากอดีตถึงปัจจุบันพวกเขามีเกณฑ์การตัดสินว่าอะไรคือความโป๊เปลือยที่ผิดสามัญสำนึกแตกต่างกันไปคนละทิศละทางตามแต่ละวัฒนธรรม

คุณรู้หรือไม่ว่าในยุคก่อนโลกจะเข้าสู่ความเป็นสมัยใหม่ ประชากรของโลกส่วนใหญ่ซึ่งนับถือศาสนายิว, คริสต์และอิสลามเห็นพ้องกันถึงการปกปิดเส้นผมว่าเป็นความสุภาพดีงาม นั่นแปลว่าในยุคนั้นสิ่งนั้นไม่ใช่การกดขี่ในนิยามของคุณใช่ไหม ?

ถ้าตอบว่า ไม่รู้แหละ นี่คุยกันของยุคนี้ ยุคที่ยุโรปเป็นชาติที่พัฒนาแล้ว

คำถาม : คุณใช้รากฐานหรือเหตุผลอะไรในการสนับสนุนว่ามาตรฐานความโป๊หรือเรียบร้อยตามแบบตะวันตกควรจะถูกกำหนดใช้เป็นมาตรฐานสากลทั่วโลก รวมถึงใช้กับสามจังหวัด ???

...................................................

สำหรับมุสลิมแล้ว อะไรคือมาตรฐานในการกำหนดว่าชายหรือหญิงมีสิทธิแค่ไหนที่จะเปิดเผยอวัยวะของตนเองในที่สาธารณะคือ พระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่องค์กรสากลที่รวมตัวกันด้วยคนไม่เอาศาสนามากำหนดว่าอะไรได้หรือไม่ได้ อะไรกดขี่ไม่กดขี่

อำนาจของพระเจ้ายิ่งใหญ่ไม่มีใครทัดเทียมได้ หนึ่งในอำนาจของพระองค์คือ การบัญญัติกำหนดว่าอะไรดีชั่ว อะไรได้ไม่ได้ ไม่ใช่มนุษย์บัญญัติ
นี่คือรากเหง้าที่สำคัญซึ่งมุสลิมต้องคำนึงให้มาก เพราะมันคือเตาฮีดประการหนึ่งของมุสลิมที่จะต้องให้แก่พระเจ้า นั่นคือสิทธิในการกำหนดอะไรดีชั่ว

มองโลกด้วยเตาฮีด มองโลกให้เป็น จะเห็นว่าปัญหาสังคมสมัยใหม่ล้วนย้อนกลับไปที่เตาฮีดเกือบหมด!!

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

462 Nameless Fanboi Posted ID:pZNeWIaONE

>>461
Moral relativism ก็มาว่ะ

เคยเห็นข่าวที่ว่าในซาอุปี2002 มีไฟไหม้ในโรงเรียนเด็กผู้หญิงที่เมกกะ แล้วพอนักเรียนจะหนีไฟออกมา ตำรวจศาสนาก็กั้นไว้ไม่ให้ออกเพราะไม่ได้ใส่ฮิญาบจนตายไปสิบห้าคน

463 Nameless Fanboi Posted ID:V8u76XiuR3

พูดเหมือนลอจิกดี แต่จริงๆคือmoving the foal postไปเรื่อยๆ

464 Nameless Fanboi Posted ID:V8u76XiuR3

>>463 *goal

465 Nameless Fanboi Posted ID:+iZmFWPnAT

บุดดา บอกว่าทำอะไรก็เอาแต่พอดีอย่าตึงเกิน
ประสบการณ์กูบอกว่าใครปรับตัวไม่เป็นแม่งอยู่ยาก

466 Nameless Fanboi Posted ID:nPTmt+Byu+

>>465 เราไม่นับถือบุดด้า เพราะบุดด้าไม่ห้ามกินหมู

467 Nameless Fanboi Posted ID:UkRECZbwpR

เจ้าชายแฮร์รีสมรสกับสามัญชนแค่นี้ก็มาออกข่าวโม้ ราชาวากันด้า.....ได้กับสายลับยังไม่โม้เลยโด่

468 Nameless Fanboi Posted ID:hO7SK5IQ9B

>>467 ตอนไหนวะ

469 Nameless Fanboi Posted ID:0R.wcXofsO

>>460 แดกหมูมั้ยสัส

470 Nameless Fanboi Posted ID:Bu2SiwIbOD

>>468 ตอนองค์ชายบินไปหาสาวที่เพิ่งตบไอซัส

471 Nameless Fanboi Posted ID:wmh71YOVoH

If you assume racism everywhere the only one you are showing might be your own...
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

472 Nameless Fanboi Posted ID:FvBUTA4/fS

แยกกันให้ออกนะ ระหว่างความเป็นเพื่อน กับการทำงานด้วยกัน

ทำงานด้วยกันไม่ได้ ก็เป็นเพื่อนกันได้ และเป็นเพื่อนกัน ก็ไม่ได้แปลว่าทำงานด้วยกันได้

บางที โอกาสที่สองอย่างนี้มันจะมาด้วยกัน มันน้อยกว่าที่มันจะไม่มาด้วยกัน ด้วยซ้ำไป

บางคนเป็นเพื่อนกันได้เพราะงาน และการที่จะเป็นเพื่อนกันต่อไป ก็ต้องเลิกทำงานด้วยกัน เลิกยุ่งกันเรื่องงาน เพราะ ณ จุดหนึ่ง ถ้าแยกความเป็นเพื่อนกับการทำงานด้วยกันออกจากกันไม่ได้ ..... ความเป็นเพื่อนมันจะล้ำเส้นเรื่องการงาน จะให้คิดเรื่องงานจากฐานของความเป็นเพื่อน เอาความเป็นเพื่อนมาตัดสินความถูกต้องในเรื่องงาน

ไม่ใช่เรื่องแปลก จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องปกติด้วยซ้ำไป

แต่ถ้าคิดว่าการที่จะเลิกทำงานด้วยกัน แปลว่าต้องเลิกเป็นเพื่อนกันด้วย ก็ so be it นะ ไม่มีปัญหาอะไรเช่นกัน และเจอแบบนี้มาเยอะมากพอในชีวิตเช่นกัน

473 Nameless Fanboi Posted ID:kbJLehPk7y

ที่ประเทศแม่ แผ่นดินใหญ่ ไทยไม่ใช่ประเทศ แต่เป็นมณฑลหนึ่ง
-มิดหายทั่นหนึ่ง

474 Nameless Fanboi Posted ID:AcCi+Ew3w9

>>473 เจ๊กแลนด์สินะ

475 Nameless Fanboi Posted ID:AwxmMI28Po

BORIS: How do I get my capitalist friend to believe communism isn't bad?
IVAN: Our capitalist friend
BORIS: Sorry, My bad
IVAN: Our bad

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

476 Nameless Fanboi Posted ID:qsCclL9SpT

>>475 😂😂😂สัส

477 Nameless Fanboi Posted ID:bz2K3aZs9j

ในขณะที่เด็กอีกหลายคนกำลังเล่นเกมส์ กินขนม หรือดูทีวี
#เป่าเปากำลังออกไปทำงาน
ประทังชีวิตของครอบครัว
หลายคนอาจคิดว่าเป็น #เวรกรรม หรือ #ชะตากรรม หรือ #คุณความดี ฯลฯ
.
เราอดไม่ได้ที่จะถามว่า #เหนื่อยไหม หรือ #ถูกบังคับไหม หรือ...???
.
*คำเตือน ระวังน้ำใสๆจะซึมจากตาเหมือนน้องนะคะ
.
#Big c
ขอขอบคุณพ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอาที่เอื้อเฟื้อเป่าเปาและครอบครัว ตลอดจนทีมงานในการถ่ายทำสารคดีชีวิตเล็กๆ ที่น่ายกย่องของน้องเป่าเปา
#ความลำบากมันสอนเรา
.
#แชร์ได้เลยไม่ต้องขออนุญาติครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

478 Nameless Fanboi Posted ID:egevEXMf7H

I sexually Identify as an Attack Helicopter. Ever since I was a boy I dreamed of soaring over the oilfields dropping hot sticky loads on disgusting foreigners. People say to me that a person being a helicopter is Impossible and I'm fucking retarded but I don't care, I'm beautiful. I'm having a plastic surgeon install rotary blades, 30 mm cannons and AMG-114 Hellfire missiles on my body. From now on I want you guys to call me "Apache" and respect my right to kill from above and kill needlessly. If you can't accept me you're a heliphobe and need to check your vehicle privilege. Thank you for being so understanding.

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

479 Nameless Fanboi Posted ID:2YSmM4NhpI

Minorities play the race card. Women play the gender card. Homosexuals play the gay card.
What's left for straight white men?

The Trump card.

480 Nameless Fanboi Posted ID:TX4smceYQN

ตอนกูเล็กๆประมาณ 7 ขวบกำลังนั่งเล่นของเล่น จู่ๆมีคนวิ่งมากระซิบบอกว่ากูจะต้องไปเข้าพิธีสุนัตหรือการขลิบหนังปลายฆวย (Circumcision) ตอนนั้นกูตกใจ ร้องไห้ รีบวิ่งไปหาที่ซ่อนตัว สุดท้ายมีคนมาเจอกู แล้วมัดตัวกูไปที่คลินิกทำสุนัตที่มาประจำทุกปีแถวหมู่บ้าน

มึงคิดว่ากูจะยอมง่ายๆหรอ ด้วยกำลังของเด็กอายุ7 ขวบ ไร้เดียงสา กูพยายามที่สุดที่จะปกป้องหนังปลายฆวยของตัวเอง กูจำได้ว่ากูกรีดร้องลั่น กูสบถคำหยาบใส่อัลเลาะห์.. ทำไมทุกคนถึงแคร์แต่ความรู้สึกอัลเลาะห์ แต่ทำไมไม่แคร์ความรู้สึกกูเลย.. กูจำได้ว่าก่อนจะขึ้นเขียง กูพูดเกรี้ยวกราดกับทุกคน ตรงนั้นว่าถ้ากูโดนขลิบ ชีวิตนี้ไม่ต้องเอาคำว่าอัลเลาะห์มาพูดให้กูฟังอีก

คนรอบข้างกูในวันนั้น ไม่เคยรู้หรอกว่ามันเป็นสิ่งที่ฝังใจ ไม่รู้หรอกว่าช่วงเวลาแบบนั้นมันเปราะบางมากที่จะเกิดพฤติกรรมฝังใจ (Phobia) รวมไปถึงพฤติกรรมก้าวร้าว เอาแต่ใจ ไม่ฟังใคร คล้ายๆกับอาการ ADHA ของกู

หลังจากนั้นกูเริ่มต่อต้านความเป็นอิสลามมากขึ้น ยิ่งโตก็ยิ่งมากขึ้นโดยที่กูเองก็ไม่รู้ตัว เริ่มต้นจากการที่กูไม่ชอบที่ตัวเองถูกเรียกว่าอิสลาม ไม่ชอบการแต่งตัวแบบอิสลาม อยากเลี้ยงหมา อยากกินซาลาเปาใส้หมู mimic, sarcastic, taunt ใส่ศาสนาตัวเอง

พอโตขึ้นเรียนรู้อะไรมากขึ้นก็เริ่มต้องอยู่ให้เป็น ก็พยายามไม่เอาตัวเองไปอยู่ในบรรยากาศที่กูไม่ชอบ กูเริ่มชอบอยู่ห่างจากบ้าน กูเริ่มไม่ชอบกลับบ้าน กูเริ่มติดเพื่อน

หลายครั้งมากที่ตัวกูเองอยากทำอะไรหลายๆอย่าง แต่ถูกเบรคว่า ไม่ได้นะ! เพราะกูเป็นมุสลิม! ซึ่งบางครั้งมันเป็นคำตอบ ซึ่งกูหวังว่าจะได้ยินอะไรที่สมเหตุสมผลกว่านั้น การที่เด็กคนนึง เริ่ม Criticize สิ่งต่างๆแล้วคนรอบข้างกลับบอกว่า มันคือพระประสงค์ของพระเจ้า มันคือสิ่งที่พระเจ้ากำหนดไว้ มันคือสิ่งที่มุสลิมไม่ควรทำ ล้วนแล้วแต่ทำให้กูหมดศรัทธาในตัวศาสนา

ในชีวิตที่กูเกิดมา ศาสนาที่กูเองไม่ได้แม้กระทั่งเลือกด้วยตัวเอง ความกดดันจากคนรอบข้าง เวลาที่กูทำอะไรดีๆแม่งไม่เห็นมีอิเหี้ยหน้าไหนมาชมกูเลย แต่เวลาที่กูแค่ไม่ปฏิบัติตามหลักการของอัลเลาะห์ทำไมมีแต่คนมารุมโจมตีกู ไม่พูดกับกู ปฏิบัติเหมือนกูไปฆ่าใครตาย ทำเหมือนกูไม่มีคุณค่า กับอิแค่กูไม่ละหมาด กูไม่ถือศีลอด รวมไปถึงเพศสภาพของกู กูรู้สึกถูกคุกคามตลอด เรียกตัวเองว่ามุสลิม

ทำไมกูถึงไม่เชื่อในอัลเลาะห์? ก็เพราะเวลาที่กูอยู่ในจุดต่ำสุดของชีวิต ก็เห็นมีแต่กูคนเดียวที่ดิ้นรน ก็กูนี่แหละเป็นคนพูดกับตัวเองว่ากูต้องสู้ กูต้องรอด กูต้องทำให้ได้ กูต้องผ่านมันให้ได้ กูทั้งนั้น! แล้วจะให้กูเชื่อพระเจ้ามากกว่าเชื่อตัวกูเองได้ไงว่ะ!

พอกันที กูอดทนเปิดใจให้ศาสนามามากพอแล้ว กูเองลึกๆไม่โทษตัวศาสนาหรือตัวอัลเลาะห์ กูว่าถ้าเค้าเป็นคนจริงๆมาก่อนต้องเป็นคนที่Cool คนนึง ไม่งั้นคนไม่ยกให้เขาเป็นRole model เเต่ศาสนาอิสลามไม่เคยมีประวัติสังคายนา อำนาจของศาสนาเลยไปตกอยู่ที่คนที่เอาคำสอนมาสั่งสอนคนอื่น เอามาบิดเบือน มโนสร้างกฏเกณฑ์บ้าๆบอๆ เอามาสร้างความมั่งคั่งให้ตัวเอง แล้วโยนขี้ไปกับอัลเลาะห์ กูเลยไม่โทษอัลเลาะห์ กูว่า Reputation แกเองก็คงพังเพราะพวกลูกศิษท์ลูกหา เหมือนที่หลวงพ่อคูณโดน

ถ้าสุดท้ายแล้วศาสนาไม่ได้เป็นที่พึ่งทางใจหรือทำให้เรารู้สึกดี? ศาสนาลดทอนความเป็นตัวของตัวเอง? แล้วจะมีศาสนาไว้เพื่ออะไร? สรุปแล้วคนมีศาสนาไว้เพื่อยึดเหนี่ยว หรือเป็นเครื่องช่วยให้รู้สึกอยู่ในcomfort zone จากการตัดสินของคนอื่น

คนที่เป็นมุสลิมจริงๆ เป็นเพราะศรัทธาในตัวศาสนา หรือเป็นเพราะให้เป็นที่ยอมรับของคนในครอบครัวหรือกลุ่มสังคมกันแน่

ศาสนาอิสลามที่กูโตมาคำสอนส่วนใหญ่มีแต่บังคับ ไม่เคย offer choices คุณต้องละหมาดวันละ5เวลา คุณต้องถือศีลอด ไม่ประพฤติตามคือบาป บาปแล้วไม่ได้บาปแค่คุณคนเดียว แต่บาปทั้งครอบครัว ซึ่งสำหรับกูมันคือ Religious propaganda มันเป็นอำนาจของการแสวงหาผลประโยชน์บนความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของคนอื่น.. เดือนรอมฎอน ถ้าคุณอยู่ไทย คุณอดอาหาร 12ชั่วโมง แต่ถ้าคุณอยู่นอร์เวย์คุณอดอาหาร20ชั่วโมง.. แล้วมาตรฐานมันอยู่ตรงไหน? ตราบใดที่ศาสนาอิสลามไม่สังคายนา บอกได้เลยว่าไม่ใช่ไสตล์กู กูไม่เคยไปชี้หน้าด่าใครว่าหยุดเป็นอิสลามนะ! หยุดละหมาดนะ! เพราะฉนั้นเค้าก็ต้องเคารพสิทธิส่วนตัวกูด้วย

การที่เราดีดตัวออกมาศาสนาเพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนตัวของเราเอง มันผิดหรอ?

กูเชื่อว่าถ้าอัลเลาะห์ได้มาHang out กับกู ท่านต้องชอบกู เพราะกูคิดว่ากูอาจจะดีกว่าหลายคนที่ต่อหน้าจงรักภักดีต่อท่านแบบสุดโต่ง

#Iammyself

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

481 Nameless Fanboi Posted ID:I0bMej7mmA

>>480 coolดิ ไม่งั้นจีบแพะไม่ติดหรอก

482 Nameless Fanboi Posted ID:D3UVPAxe9d

กูรู้จัก มุสลิมหลายคนที่ไม่เคร่งนะ
ส่วนใหญ่ถ้ามีcommon sense ก็จะเห็นความไม่สมเหตุสมผลหลายอย่างเกี่ยวกับ คำสอน
คนที่เคร่ง มักจะเป็นพวก insecure ต้องการการซัพพอร์ตจาก ผู้หลักผู้ใหญ่ อารมณ์ประมาณ "เราต้องเป็นเด็กดีของพ่อแม่ เดี๋ยวพ่อแม่ไม่ซื้อของเล่นให้"

483 Nameless Fanboi Posted ID:RjImQEVm+P

>>478 😡

484 Nameless Fanboi Posted ID:rJtB2KHiT0

เพราะแค่วิ่งเร็วไม่ได้รับประกันความสำเร็จในโลก 4.0

วันก่อนคุณทรูแมนนักธุรกิจITดาวรุ่งได้แชร์ความลับในการประสบความสำเร็จให้กับผม

เขาบอกว่าในโลก 4.0 การทำธุรกิจออนไลน์กำลังเป็นเทรนใหม่ที่ต้องจับตามอง คุณทรูแมนวิเคราะห์ว่าการบริการลูกค้าแบบออนไลน์อาจจะมาแทนที่การเข้าหาลูกค้าแบบไดเร็คสตีลดั้งเดิมเลยทีเดียว

ในปีที่แล้วคุณทรูแมนทำเงินได้มากกว่า 10ล้านดอลลาร์เพียงแค่นั่งอยู่ที่หน้าจอเท่านั้น

เคล็ดลับของเขาคือการเข้าถึงข้อมูลลูกค้า ซึ่งเราได้ข้อมูลมาจากการวิเคราะห์ Big data

"ข้อมูลคือทุกอย่างของยุคนี้ ถ้าคุณเข้าถึงข้อมูล Big data ของลูกค้าได้ คุณจะรู้ชื่อของเขา รู้เลขบัตรประชาชน เลขผู้เสียภาษี รู้ชื่อพ่อ แม่ เมีย ลูก หลาน ญาติพี่น้อง รู้เบอร์โทรศัพท์ รู้ที่อยู่ รู้ E-mail รายได้ต่อปี ดีไม่ดีคุณจะรู้แม้กระทั่งเลขบัตรเครดิต" คุณทรูแมนบอก

คุณทรูแมนทำเงินได้จากทั้งลูกค้ารวย ชนชั้นกลาง และรากหญ้า

"สมมุตินะ ว่าคุณมีข้อมูลของลูกค้า สมมุติว่าชื่อป้าแมรี่ อายุ 60 ปี ค่อนข้างรวย แกอยู่คนเดียวในโคโรราโด เรามีข้อมูลว่าหลานรักของป้าชื่อจิม อยู่กับลูกชายของป้าในฟินิกส์
เราก็ทำเงินง่ายๆ ด้วยการโทรไปหาป้าแมรี่ บอกว่า "ป้าครับ ผมจิมเอง รถผมยางแตกกลางทะเลทรายโซนอรัน พ่อผมต้องฆ่าผมแน่ๆ ผมต้องโทรเรียกรถมาลาก แต่ไม่มีเงินเลย ป้าพอจะมีให้ผมก่อนสักพันมั้ยครับ... ช่วยโอนมาที่บัญชี XXX" บิงโก เท่านี้เงินก็เข้าบัญชี" คุณทรูแมนแชร์เคล็ดลับ

สำหรับลูกค้ารากหญ้า คุณทรูแมนแนะนำว่าให้ใช้วิธีโทรไปบอกว่าถูกรางวัลในการชิงโชคมูลค่า 1 ล้าน แต่หากอยากได้รางวัลจะต้องโอนเงินค่าทำเนียมเล็กๆ แค่ 100 ดอลมาก่อน

คุณทรูแมนบอกว่าอีกวิธีหนึ่งคือ โทรเข้าไปทวนถามชื่อ เลขบัตรประชาชน และบ้านเลขที่ บอกว่าโทรมาจากที่ว่าการรัฐ ลูกค้าจะไว้ใจเพราะเรามีข้อมูลที่ควรจะมีแต่รัฐที่มี จากนั้นอาจจะบอกว่าลูกค้าถูกค่าปรับ หรือทำผิดกฎหมายเล็กๆน้อยๆ แต่ยุ่งยากในการจัดการ ซึ่งจะง่ายกว่าหากโอนค่าทำเนียม 100 ดอลให้เราจัดการให้ทันที

คุณทรูแมนบอกว่า วิธีนี้ใช้หารายได้กินขนมขำๆ "คุณคิดว่าเสียเวลาแค่ 2 นาทีต่อสาย สักสิบคนจะมีคนเป็นลูกค้าเราสักคน 20 นาที ได้ 100 ดอล ก็เป็นการฆ่าเวลาที่ไม่เลว"

ส่วนลูกค้ารายใหญ่รายได้เยอะ คุณทรูแมนบอกว่าใช้ทำเงินได้ทีละมากๆ แต่ต้องทำงานกันเป็นทีม ซึ่งคุณทรูแมนขออุบเป็นความลับไว้ก่อน

(แต่ถ้าใครอยากทราบรอซื้อคอร์สอบรมกับผมได้เลยครับ อย่าลืมกดไลค์เพจนี้ และตั้งค่าเป็น เห็นก่อน เพื่อรอรับข่าวสาร)

มาถึงตรงนี้ ทุกคนคงอยากทราบเรื่องสำคัญที่สุดว่าคุณทรูแมนเข้าถึงข้อมูล Big data ของลูกค้าได้อย่างไร

คุณทรูแมนบอกว่าเรื่องนี้ต้องใช้เทคนิคการแฮ็คและโปรแกรมในการเข้าถึงข้อมูลชั้นสูง ไปดึงข้อมูล Big data มาจาก Amazon S3

ความจริงนี่ไม่ใช่ของที่จะบอกกันง่ายๆ แต่เพราะเห็นแก่ปรัชญาอูบุนตูว่าคนดำทุกคนต้องพึ่งพาความสดของกันและกัน คุณทรูแมนจึงฝากโปรแกรมขั้นสูงที่ใช้เจ้าเข้าไปเอาข้อมูลจาก Amazon S3 มาให้ทุกคนเอาไปใช้ฟรีๆ

โหลดได้ใน link นี้เลยครับ >>https://support.microsoft.com/th-th/help/17621/internet-explorer-downloads

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

485 Nameless Fanboi Posted ID:K6JimvzbWw

*เมื่อผมโดนคนขับตุ๊กๆห้ามถ่ายรูปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

เมื่อวานได้มีโอกาสพาเพื่อนชาวมาเลเซียไปเดินเที่ยวในกรุงเทพครับ
ตั้งต้นจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน
ขณะที่ถ่ายรูปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยอยู่นั้น ผมก็โดนคนขับตุ๊กๆที่จอดรถอยู่บริเวณนั้นเข้ามาห้ามถ่ายรูป

คขตต: “ยูๆ แคนน๊อตเทคโฟโต้”
ผม: (คิดในใจว่าทำไมถ่ายไม่ได้วะ ใครออกกฎหมายห้าม แล้วทำไมมาพูดภาษาอังกฤษใส่กรู แวบ
แรกคิดออกเลยว่ามันคงไม่นึกว่าผมเป็นคนไทย เพราะผมหน้าตี๋ เพื่อนก็เป็นคนจีนมาเล หน้าตาเลยคล้ายๆกัน)
“วายไอแคนน๊อตเทคโฟโต้” (ลองแกล้งโง่ถามกลับไปเป็นอังกฤษ อยากรู้ว่ามันจะทำไงต่อ)
คขตต: “โนๆ แคนน๊อตเทคโฟโต้”
ผม: “วาย ?” (รุ้แล้วว่าห้ามถ่าย กรูอยากเหตุผลว่าทำไมถึงห้ามโหวย)
คขตต : “ยูแคนน๊อตเทคโฟโต้ อีฟยูว๊อน ยูแฮฟทูบายโปรแกรมทัวร์”

ชัดเลย พวกหลอกขายทัวร์นี่เอง นี่ถ้าเพื่อนผมมาเองคงโดนมันหลอกแน่นอน
ด้วยความที่ผมรุ้ธาตุแท้ของมันแล้ว ผมก็เปิดเผยธาตุแท้ของผมบ้าง

ผม: ทำไมต้องห้ามถ่ายรูปครับ? แล้วทำไมต้องซื้อโปรแกรมทัวร์ครับ? (ตอบกลับไปเป็นภาษาไทย)

เท่านั้นล่ะ คนขับตุ๊กๆถึงกับเหวอแกล้งเล่นละคนเนียนๆเดินหนีไปเลย
เล่าให้เพื่อนฟังก็ตลกกันใหญ่ บอกว่าถ้ามาโดนเองคงตลกไม่ออก

ใครไปเที่ยวสนามหลวงวัดพระแก้วหรือละแวกนั้นก็ระวังตัวกันด้วยนะครับ
เคยดูแต่ข่าว แต่นี่มาเจอกับตัว ผมเห็นว่าชาวต่างชาติเยอะมาก คงจะโดนพวกนี้หลอกไปได้บ้าง

#มิตรสหายpantipท่านหนึ่ง

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.