"ผมโคตรขยะแขยงวิธีการปลอบแนวศาสนาพุทธที่โยนสิ่งเลวร้ายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตว่าเป็นเรื่องของ "กรรม" เลย
อีนั่นโดนข่มขืน อ๋อ มันเป็นกรรม ชาติก่อนมันไปข่มขืนคนอื่น
ไอ้นั่นโดนฆ่าปิดปาก อ๋อ มันเป็นกรรม ชาติก่อนมันไปฆ่าคน
ลูกบ้านนั้นติดยา อ๋อ มันเป็นกรรม พ่อแม่มันไปขายยาให้ลูกคนอื่น
มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขี้นเลย นอกจากความรู้สึกของคนพูดเอง เป็นวิธีการแสดง empathy ต่อเพื่อนมนุษย์ที่สิ้นคิดสุดๆ
เหยื่อที่ประสบสิ่งเลวร้ายหนักหนาเสียใจมามากพอแล้ว กลับถูกซ้ำเติมด้วยความคิด "Blame the victim" ที่ว่า "ก็มึงหรือญาติมึงทำเลวมาก่อนอะไรสักอย่างนั่นแหละ มึงถึงโดนแบบนี้ สมควรแล้ว อีดอก" เหมือนกับชี้หน้าด่าผู้หญิงโดนข่มขืนเพราะแต่งตัวโป๊นั่นแหละ
คนที่พูดคำพูดพวกนี้ก็มักเป็นคนในครอบครัวหรือญาติใกล้ชิดเหยื่อ คนที่เหยื่อหวังจะได้คำปลอบใจคำปรึกษามากที่สุด แทนที่จะได้วิเคราะห์ปัญหาและหาทางแก้ไขหรือบรรเทาผลร่วมกัน กลับผลักเหยื่อและคนรอบข้างทั้งหมดไปสู่ความมืดของกรรมเวร
ไม่แฟร์เลยครับ แม้คนพูดจะหวังดี ไม่ได้จงใจทำร้ายใครก็ตาม
ผมอยากเห็นงานวิจัยว่ามีเหยื่อคดีต่างๆ ฆ่าตัวตายหรือซึมเศร้าเพราะคำพูดพวกนี้มากเท่าไรแล้ว
ศาสนาเป็นการหลอกลวงที่อันตรายเสมอครับ แม้แต่ mild religious ที่ดูไม่มีอะไรก็ยังมีอันตรายแฝงเร้น"
#มิตรสหายท่านนึง