++++ "คนขับรถบรรทุก...กับ “กล่อง” ใบที่เปลี่ยนโลก" ++++
เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนขับรถสิบล้อครับ
แต่เป็นคนขับรถสิบล้อในประเทศ สหรัฐ อเมริกา ที่ชื่อว่า “มัลคอม แมคเคลน” Malcom McLean
มัลคอม แมคเคลน เกิดในปี 1914 ที่ นอร์ธ คาโรไลน่า
พ่อแม่ของมัลคอมเป็นชาวนา
ประกอบกับช่วงที่เขาเติบโตขึ้นมานั้นเป็นช่วง Great Depression
นั่นทำให้เขาไม่สามารถเรียนจบมัธยมปลายได้
เพราะต้องออกมาทำงานเป็นเด็กปั้มหาเลี้ยงชีพซะก่อน
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขายอมจำนนต่อชะตาชีวิตที่โหดร้ายแต่อย่างใด
เพราะเมื่อ มัลคอม ทำงานที่ปั้มน้ำมันนั้นไปได้ซักพัก
เขาก็พบว่า
เจ้าของปั้มน้ำมันที่เขาทำงานอยู่นั้น
จ้างรถขนน้ำมันจากท่าเรือมาที่ปั๊มด้วยค่าจ้างอาทิตย์ละ 150 บาท
ซึ่งมันเป็นค่าจ้างที่มากกว่าที่เขาได้รับอยู่มาก
มัลคอมเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ
และก้มหน้าทำงานของเขาต่อไป
จนกระทั่งวันหนึ่งในปี 1934
เมื่อเขาเก็บเงินจากการทำงาน
และรวบรวมเงินลงทุนจากพี่น้องของเขาได้มากพอ
มัลคอมในวัย 20 ปีก็เดินเข้าไปบอกกับเจ้าของปั๊มว่า
เขาอยากรับหน้าที่ส่งน้ำมันให้เจ้าของปั้มเอง
“ให้ผมทำเถอะ”!!!
ไม่ว่าจะด้วยผลงานที่ผ่านมาของเขา...ความใจดีของเจ้าของปั้ม...หรือ เจ้าของปั๊มไม่ชอบขี้หน้าคนส่งน้ำมันเจ้าเก่าอยู่แล้ว
เจ้าของปั๊มก็ตกลงยกหน้าที่นี้ให้ มัลคอม
เขาจึงใช้เงิน 3,600 บาทที่เขารวบรวมได้
ซื้อรถบรรทุกมือสองพุๆคันนึงมาซ่อม
และเริ่มกิจการของตัวเอง
ปรากฏว่าเมื่อผ่านไปหนึ่งปี
มัลคอม กลายเป็นเจ้าของรถบรรทุก 2 คัน
และมีลูกจ้าง
แต่
เขาก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น
มัลคอมยังพยายามพัฒนาสิ่งที่เขาทำอยู่...ให้ดีขึ้นไปอีก
เขาเป็นคนแรกที่เริ่มคิดว่าจะวางแผนยังไงให้รถบรรทุกทุกคันทำเงินได้มากที่สุด
เป็นคนแรกที่ออกแบบเส้นทางขนส่งให้มีประสิทธิภาพ
เพื่อลดความสิ้นเปลืองให้มากที่สุด
และด้วยคุณสมบัติเหล่านี้
ทำให้เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองเริ่มต้นขึ้นนั้น
เขามีรถบรรทุกถึง 172 คัน
และเมื่อเข้าสู่ช่วงทศวรรษที่ 1950
เขาเป็นเจ้าของรถบรรทุกมากกว่า 1700 คัน
เป็น “บริษัทรถบรรทุกที่ใหญ่ที่สุดหนึ่งในสาม”
ของอเมริกาในขณะนั้น
จากเด็กปั๊ม ที่เรียนไม่จบ ม.6
มัลคอม..เดินมาไกลมาก!!
แต่เขาก็ไม่เคยคิดที่จะหยุดเส้นทางของเขาอยู่แค่การเป็น “เจ๊เกียว”
มีบางอย่างที่เขาอยากพัฒนาให้ดีขึ้น
เขายังกระหายที่จะก้าวต่อไปอีก
และก็เป็นก้าวต่อไปของมัลคอมนี่แหล่ะ
ที่เปลี่ยนโลกใบนี้ไปตลอดกาล
จริงๆแล้ว...ก้าวสำคัญก้าวนี้ของมัลคอมเริ่มต้นขึ้นอย่างเงียบๆ และ หงุดหงิดตั้งแต่ปี 1937
4 ปีหลังจากที่เขาซื้อรถบรรทุกมือสองคันแรก
เช้าวันหนึ่งในปี 1937
มัลคอมในวัย 23 ปี ซึ่งยังขับรถบรรทุกด้วยตัวเองอยู่
ขับรถบรรทุกที่เต็มไปด้วยสินค้าเข้าไปยังท่าเรือที่นิวยอร์ก
ตั้งแต่เช้า...จรดเย็น
เขานั่งอยู่ในรถบรรทุก
รอให้พนักงานท่าเรือ (longshoreman) ในขณะนั้น
ค่อยๆหยิบสินค้าทีละชิ้นลงจากรถ
เพื่อจะค่อยๆเอาไปเก็บในโกดัง
ก่อนที่จะหยิบสินค้าทีละชิ้นจากโกดัง
ขึ้นไปเรียงบนเรือลำที่ต้องการ
ซึ่งนั่นคือวิธีการโหลดสินค้าของท่าเรือในขณะนั้น
ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับที่ใช้กันมาเป็นพันปีก่อนหน้านี้
!!!
อ่านถึงตรงนี้คงพอเดาได้ไม่ยากใช้มั้ยครับว่า
คนที่ชอบทำอะไรให้มีประสิทธิภาพที่สุดอย่างมัลคอม
คนที่พยายามหาเส้นทางที่สั้นที่สุด
เพื่อใช้เวลาให้น้อยที่สุด
เพื่อให้รถทุกคันหาเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
คงไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่...กับวิธีโหลดของแบบนั้น
มันก็เป็นอย่างที่คุณเดาได้นั่นแหล่ะ
จริงๆแล้ว มัลคอมไม่ใช่แค่ไม่พอใจ
แต่ เขาหงุดหงิด และโกรธมาก กับสิ่งที่เกิดขึ้น
เป็นไปได้อย่างไรที่การขนส่งสินค้าจาก นิวยอร์ก ไป ลอนดอน
ใช้เวลาที่ท่าเรือทั้งสอง พอๆกับ เวลาที่เรือแล่นข้ามมหาสมุทร
เป็นไปได้อย่างไรที่ 50% ของค่าใช้จ่ายในการขนส่งทั้งหมด
ถูกใช้ไปกับการยกของขึ้น และ ลงจาก รถ และ เรือ
มันถูกต้องแล้วเหรอที่เสียต้องเวลาขนของนานขนาดนี้
ทำให้ทั้งเรือ และ รถบรรทุก ต้องจอดนิ่งอยู่ที่ท่าเรือเป็นเวลานานมากๆ
ทั้งที่ทั้ง เรือ และ รถ จะทำเงินได้ก็ต่อเมื่อมันวิ่งเท่านั้น
“ทำไมไม่ทำมันให้ดีกว่านี้"
"มันต้องมีวิธีที่ดีกว่านี้"
"มันเป็นเรื่องที่ต้องซีเรียสใช่ป่ะ”
!?!?!?!
นั่นเป็นสิ่งที่มัลคอมบอกกับตัวเองตอนนั้น
แต่ในวัย 23 ปีกับการเป็นเจ้าของบริษัทรถบรรทุกเล็กๆ
ทำให้เขาต้องดึงสติไว้นิดส์นึงก่อน
เขายังไม่มีพาวเวอร์มากพอที่จะเปลี่ยนสิ่งที่มีมาเป็นพันปีได้
และนั่นก็เป็นอีกครั้งที่เขาต้องเก็บบางเรื่องไว้ในใจ
(ต่อเม้นล่าง)