""Anatomy+Perspective ยังผิดบานเลย การเล่าเรื่องก็แปลกๆ ไปฝึกอีกถ้าคิดมาด้านนี้
พูดตามตรงนะ คุณคิดถูกแล้วที่ว่าเข้าข้างตัวเองมากไป เพราะเป็นงั้นจริงๆ ไม่ใช่แค่พื้นฐานพอได้ แต่นี่พื้นฐานยังไม่ได้ ขืนทำตามที่ว่าน่ารอดยากถ้าไม่ขยันฝึกจริง ถ้าออกจากมหาลัยเพื่อมาแบบนี้นี่เสียดายค่าเทอมก่อนหน้าที่เคยจ่ายไปแทนจริงๆ อย่างน้อยเรียนให้จบก่อนอย่างน้อยถ้าวาดการ์ตูนไม่รอดยังรู้ว่าทำอะไรหากินได้ดีกว่ามั้ย
ด้านฝีมือมองแล้วไม่ถึงขั้นสิ้นหวังหรอกนะถ้าได้เรียนพื้นฐานอย่างเป็นเรื่องเป็นราวอาจพัฒนาไปดีได้ แต่บอกตามตรงเลยคุณพร้อมจะเริ่มทุกอย่างใหม่จาก 0 หรือเปล่า เพราะดูแล้วคุณไม่มีพื้นฐานเลยจริงๆแล้วดันพยายามทำงานที่มันขั้นบนๆไปแล้วทั้งๆที่ฐานรากก็ไม่มี แล้วถ้าไปจริงจังนี่จะมาอ้างแค่ใจรักไม่ได้ มันต้องมีฐานที่ดีล่มไปไม่อดตาย ลูกถึกที่ล้มกี่ครั้งก็ต้องลุกแล้วพัฒนาฝีมือตัวเอง กล้าจับผิดงานตัวเองที่ตรงนี้จขกท.ขาดสุดๆ และอาจต้องใช้พรสวรรค์ด้วย บางคนอาจว่าแค่ฝึกก็พอความจริงแล้วไม่ใช่ ส่วนตัวเรียนด้านใกล้เคียงกันพอดีถึงไม่ใช่วาดการ์ตูนก็เหอะ เห็นเพื่อนร่วมรุ่นหลายคนเรียนมาพร้อมกันแต่ฝีมือคนละชั้นกันเลย อ้อความขยันในการศึกษาเรื่องต่างๆด้วยนะ แค่ฝีมือการวาดอย่างเดียวน่ะไม่พอหรอกนะเว้นหน้าที่แค่วาดเฉยๆออกแบบแต่งเรื่องมีคนอื่นทำให้ อย่างส่วนตัวอยากไปสายDesign+Concept Art นี่หนังสือกองเต็มบ้านสำหรับทำ Referenceล้วนๆ ถ้าแต่งเรื่องด้วยนี่ยิ่งไปกันใหญ่นั่งอ่านวรรณกรรมดูหนังศึกษาตำนานอีก คำว่าหาข้อมูลของนักเขียนการ์ตูนจริงๆมันมีความหมายอย่างนี้แหละเก็บResource ไว้เป็นแรงบัดาลใจ
แต่จากที่ดู จขกท.น่ะ ถ้ายอมเลือกเสี่ยงเดินทางใหม่ตั้งแต่ต้นก็ อาจ จะพอไปได้ แต่นั่นไม่ใช่เส้นทางที่สามารถฝึกเองได้โดยง่าย ถ้าให้ดีควรมีคนสอน คิดดูดีๆล่ะ ถ้าใจรักจริงๆก็ต้องเปิดใจรับการปูพื้นใหม่ให้ได้ ปัญหาของจขกท.เป็นปัญหาเดียวกับคนที่มีใจรักหลายๆคนคือ ชอบกระโดดไปฝึกขั้น Advance ทั้งๆที่ Basic ยังไม่ได้ที่คนแบบนี้เจอมาเยอะมาก เพราะงี้แหละเลยบอกว่าถ้าอยากไปจริงต้องไปเรียนเลยไม่ใช้ฝึกเอง เพราะมีผู้สอนมาคอยวัดประเมิณให้ได้ว่าพื้นฐานได้หรือยัง และที่สำคัญที่สุดคือมีคนติ เราไม่อาจหวังให้คนบนอินเตอร์เน็ตมาทำหน้าที่นี้ได้เพราะมักเต็มไปด้วยการอวยและอคติ ซึ่งตรงนี้ผู้สอนไม่ว่าจะเป็นเรียนในระบบหรือกับเรียนพิเศษอย่างน้อยเขาก็เป็นคนที่มีประสพการณ์จริงในด้านนั้นๆ ก็จะให้คำติที่เป็นประโยชน์กว่าได้ แต่ทั้งนั้นผู้เรียนก็ต้องมีความมั่นใจในงานตัวเองพอที่จะ Defense งานตัวเองในระดับหนึ่ง (กับเรื่องที่เหมาะๆนะอย่างสไตล์อะไรงี้ หรือเมื่อถึงขึ้นติสต์แตกโดยสมบูรณ์ที่บางทีคนด้านนี้เป็นกัน ซึ่งส่วนตัวว่าอาการติสต์แตกนี้เกิดเมื่อเอกลัษณ์งานตัวเองแข็งแกร่งพอจะ F*ck the ทฤษฏีได้ และเมื่อถึงจุดนั้นคุณจะวาดยังไงก็เรื่องของคุณ เพราะพื้นฐานคุณได้แล้วแต่คุณเลือกฉีกกรอบออกไปเอง) แต่ไม่อีโกจัดจนไม่รับฟังคำแนะนำ รวมถึงกล้าคิดสร้างสรรค์วิธีการใหม่ๆเพื่อ Limit Break ตัวเองเมื่อถึงทางตันช"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง