มู้เก่า
https://fanboi.ch/lounge/1161 โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง
https://fanboi.ch/lounge/2603/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 2nd quotes
Last posted
Total of 1000 posts
มู้เก่า
https://fanboi.ch/lounge/1161 โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง
https://fanboi.ch/lounge/2603/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 2nd quotes
ตรัสแบบนิรนาม
เอาทศกัณฑ์มาทำคลิป ✖
เอาทศกัณฑ์มาทำเกมโชว ✔
WTF
มิตรสหายท่านหนึ่ง
คนโวยมันป้าแก่ๆ เสือกดิ้นเป็น viral กันไปเอง
ยังกะโฆษณาให้เลย กูว่าคอนเซปต์น่ารักดีแต่รู้สึกว่ายังไม่สุด
พอโดนแบบนี้กลายเป็นเลอค่าขึ้นมาเลย
พี่ที่อยู่บริษัทเดียวกันมาบ่นให้ฟังบ่อยๆ ว่าภรรยาทำอาหารไม่อร่อย แต่บ่นต่อหน้าไม่ได้ สอนวิธีให้ทำก็ไม่ได้ งอน ทำมาทีก็เหลือบานเบอะ ลูก ผัว ไม่ค่อยเจริญอาหาร หลังๆ มาบอกว่าถ้าเห็นเมียเตรียมเข้าครัว ถ้าแกไม่เหนื่อย ไม่งานยุ่ง แกจะรีบมาแย่งทำอาหารเอง วันนั้น ลูกๆ จะชอบใจ
กินได้ก็กิน กินไม่ได้ก็เขี่ยทิ้งไป
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"รบ เถิดอรชุน ฆ่าปู่ ฆ่าญาติ พี่น้องไม่บาปเลย เราเเค่เร่งเวลาให้เร็วขึ้น ให้เขาไปเกิดใหม่ ในภพภูมิทึ่ดี เเล้วเราจักชนะ ผู้ชนะเป็นผู้กำหนดความชอบธรรม"
ร่วมเผยแพร่ศาสนาอิสลามกันครับ
.
ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลฮุอะลัยฮิวะซัลลัม(นบีมูฮัมหมัด)
กล่าวว่า "สตรีใดที่ใส่ของหอม แล้วเดินผ่านผู้คนกลุ่มหนึ่ง เพื่อให้พวกเขาได้กลิ่นหอมของนาง แน่นอนว่าเธอคนนั้นคือโสเภณี"
.
ส่วนข้อห้ามทั้งหมดมี 13 ข้อครับ
1 ห้ามสตรีออกจากบ้านโดยใส่ของหอม
2 ห้ามภรรยาปฏิเสธการร่วมหลับนอนกับสามี เมื่อเขาร้องขอ
3 ห้ามสตรีพรรณนาหญิงอื่นให้สามีของนางรับฟัง
4 ห้ามสตรีทำการถือศีลอดสุนัต โดยที่สามีอยู่ นอกจาก ได้รับการอนุญาตจากเขา
5 ห้ามสตรีอวดความสวยงามต่อหน้าบรรดาบุรุษ
6 ห้ามขอดุอาอ์ให้ประสบความวิบัติแก่บุตรหลาน
7 ห้ามเปิดเผยความลับการร่วมสุขระหว่างสามีภรรยา
8 ห้ามสตรีทำการใช้จ่ายทรัพย์สินของสามีนอกจากได้รับการอนุญาตเสียก่อน
9 ห้ามสตรีทำการ สัก ถอนขนที่ใบหน้า และถ่างฟัน
10 ห้ามสตรีฝ่าฝืนสามีของนาง โดนนบีมูฮัมหมัดได้กล่าวว่า "หากฉันจะใช้คนหนึ่งทำการสุยูด(กราบ)ให้กับบุคคลหนึ่ง แน่นอนฉันจะใช้ภรรยาทำการสุยูด(กราบ)ต่อสามีของนาง"
11 ห้ามสตรีปฏิเสธตัดพ้อต่อสามีผู้ร่วมชีวิต
12 ห้ามบรรดาสตรีของหย่ากับสามีโดยไร้เหตุผล
13 ห้ามสตรีอยู่ตามลำพังกับชายอื่น
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"ทศกัณฑ์นี่ผิดโจทย์มากๆครับ....ถ้ากูเป็นคนอนุมัตินี่ไม่มีทางเซ็นผ่านไปออนแอร์
เวลาคุยกับเพื่อนๆทึ่มันเป็นเมกัน....ทั้งที่เคยไปเที่ยวเมืองไทยมา.... และตั้งใจว่าจะไปเที่ยว....ไม่มีใครสนใจอยากไปดูโขนทศกัณฑ์ขี้หีอะไรนั่นหรอก(พิมพ์ยากชิบหาย จะ upper case เหี้ยอะไรแม่งทุกตัวอักษร...ควย!!)
จุดขายเมืองไทย ?
อาหาร....อาหารข้างทางอร่อยสัส ราคาถูก.... แมงสาบแม่งไต่ขึ้นขาก็ไม่เป็นไร สะบัดๆออก...เหยียบแป๊บบบ แดกต่อ.... ซึ่งคนที่กูคุยด้วยนี่ก็เป็นคนเดียวกับที่งอแงเรื่องการแดกที่บ้านเกิดมาก มีเส้นผมเส้นนึงในอาหารนี่แม่ง เรียกผู้จัดการมาด่า ปฏิเสธการจ่ายเงิน แม่งเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ...แต่พอไปเที่ยวเมืองไทย....มีขาแมงสาบในจานแม่งยังชิวๆ เขี่ยออก....แดกต่อ
ธรรมชาติ...ทัศนียภาพทางธรรมชาติเมืองไทยไม่ได้สวยกว่าที่อื่นของโลก ...แม่งงงั้นๆ...แต่มนุษย์สามารถมีกิจกรรมอยู่กับธรรมชาติได้นานกว่า,หลากหลายกว่า....ทะเลไทยแม่งก็ไม่ได้สวยกว่าถึงขนาดที่ว่าก่อนตายต้องมาเห็น....แต่มึงเล่นน้ำได้เป็นชั่วโมงๆโดยไม่ต้องพึ่งชุดรักษาอุณหภูมิ....หน้าร้อนทะเลเมกาแดดเผากบาลเปรี้ยงๆ พอมึงลงน้ำได้ 20 นาทีตะคริวแม่งจะแดกน่อง...แม่ง ไอ่สัส เย็น...น้ำแม่งเย็นจัด
กิจกรรมทางเพศ....เพื่อนกูเป็นดีเจรายการวิทยุประมาณพี่อ้อยพี่ฉอด....ความถ่อยของรายการแม่งอยู่ในระดับ 20 ตีนถีบ...(เกมทายปัญหาชิงรางวัลในรายการมันคือ ให้ผู้ฟังทางบ้านโทรเข้าไปอธิบายว่าหีของเทย์เลอ สวิฟท์ ควรจะมีหน้าตาแบบไหนเพื่อชิงรางวัลตั๋วคอนเสืร์ทเทย์เลอ....ไอ่สัส...5555) ใครอกหักรักคุดโทรมาในรายการมันนี่มันแนะนำตลอดว่าให้พักร้อนไปเที่ยวเมืองไทย...แล้วรับรองว่ามึงจะลืมแฟนเก่าได้ภายใน 2 อาทิตย์.........แม่งดิสนีย์แลนด์ที่มีรูหีและรูตูดเป็นธีมดีๆนี่เอง มึงจะเอายังไงพิศดารขนาดไหนจากที่มึงเห็นมาจากหนัง......ได้หมด !!!...ขอแต่เงินมึงถึง (40-50usd ซึ่งราคานี้ตีกะหรี่ไทย 3 รอบถึงจะได้กะหรี่เมกันรอบเดียวไม่รวมทิป)
ที่สำคัญกะหรี่ไทยทำงานด้วยจิตบริการ.... $50 แม่งดูแลเหมือนแฟน หอมแก้ม นวด อาบน้ำ ทำกับข้าว เทียบกับจ่าย 150 ที่บ้านเกิดแล้วแม่งถ่างขาให้เอาอย่างเดียว น้ำแตก แม่งก็เอากางเกงโยนใส่หน้ามึงแล้วไล่ลงห้อง.....
........ดังนั้น ....เห็นด้วยกับคุณลัดดาครับ...เอาทศกัณฑ์เหี้ยไรนี่ออกเหอะ....เอากะหรี่สเตอริโอไทป์มาชวนเที่ยวไทยแทน...เพิ่มกระเทย กับ เด็กผู้ชายอายุ(18+) แต่หน้าเด็กๆตัวผอมๆ ด้วยก็ดีครับ....
รีบครับ.... เรากำลังจะเสียแชมป์ซ่องของโลกให้ฟิลิปปินส์นะครับถ้ามัวชักช้า"
มิตรสหายท่านหนึ่ง
>> "10 ห้ามเปิดเผยความลับการร่วมสุขระหว่างสามีภรรยา"
ผัวเย็ดไม่มันส์ ลีลากาก ก็ห้ามบ่น
"หนุมานต้นฉบับเป็นเทพลิงถือพรหมจรรย์
เข้าไทยกลายเป็นลิงเจ้าชู้เอาไปทั่วตั้งแต่นางมณโฑ นางเบญกาย นางมัจฉา
ทศกัณฐ์นี่ก็เป็นราชายักษ์มีสัจจะ
เข้าไทยนี่กลายเป็นเอาไม่เลือกหน้าจนกระทั่งช้างม้าวัวควาย
อิเหนาในตำนานชวาก็เป็นเจ้าชายจอมโจร
เข้ามาไทยเป็นหนุ่มสำอางเจ้าชู้
นิทานไทยต้นฉบับอย่างขุนช้างขุนแผนกับพระอภัยไม่ต้องพูดถึง
"ประเวณีมีทั่วทุกตัวสัตว์ ไม่ติดขัดห้ามปรามตามวิสัย
ถึงมนุษย์ครุฑาสุราลัย สุดแต่ใจปรองดองจะครองกัน"
อืมมมเราน่าจะได้เอกลักษณ์ไทยแท้แล้วนะครับว่าคืออะไร
ควรโปรโมทให้รัชดาภิเษก พัฒน์พงษ์และพัทยา เป็นแหล่งท่องเที่ยวสืบสานภูมิปัญญาไทยโดยแท้จริง"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"-_- ดูวิดีโอแล้วผมก็รู้สึกว่าทำได้แย่ว่ะ ผมไม่มีปัญหานะที่จะโปรโมตการท่องเที่ยวในไทย แต่ทำไมต้องมา "ยกตนข่มท่าน" หรือแซะการไปเที่ยวประเทศอื่นด้วยวะ (ไอ้ท่อนที่บอกว่า ยุโรปญี่ปุ่นไปทำไม เที่ยวเมืองไทยดีกว่า เอ่อ ก็ประเทศมึงมีอย่างที่เค้ามีมั้ยล่ะ)
เรื่องนี้นี่มันเข้าข่ายคำว่า dumb and dumber จริงๆ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"เคยเฉียดไปเรียนด้านภาษาและวัฒนธรรมอยู่เทอมนึงก่อนจะเดินจากมาหน้าเฉยตาเฉย แต่ก็ได้เรียนทฤษฎีว่าด้วย “ความห่างไกล” (อันนี้สรุปๆ ทฤษฎีรวบๆ เอาเอง นี่เขียนแบบเขียนสเตตัสนะ มันคือการเขียนลวกๆ ออกตัวไว้ก่อน)
ทฤษฎีนี้บอกว่า ในแง่ของภาษา จะพบว่า ภาษาที่ต้นกำเนิดของภาษานั้นจะมีพลวัตร มีความเปลี่ยนแปลงมากกว่าภาษาเดียวกันนั้นในที่ห่างไกลออกไป ทฤษฎีนี้อธิบายสภาพของภาษาวัฒนธรรมที่อยู่ห่างจากต้นกำเนิด มีแนวโน้มที่จะถูกอนุรักษ์ไว้และไม่ขยับเปลี่ยนแปลงมากนัก หลายคำในภาษาจากดินแดนที่เรียกว่ากวางสี เมื่อมันเข้ามาอยู่ในดินแดนไทย มันจะถูกอนุรักษ์ไว้ เช่นคำว่า ข้าว คนไทยยังเรียกมันด้วยเสียงหนักตามคำเดิมแต่โบราณกาล แต่คำนี้ในดินแดนต้นกำเนิดของคำนั้นเสียงหนักๆ ของ ข. กร่อนเบาลงแล้ว เป็นต้น (ทฤษฎีเขาว่ามา ไม่เคยฟังเองเหมือนกัน)
เรื่องนี้เราพบด้วยประสบการณ์เหมือนกัน ว่าคนไทยที่อยู่เมืองนอกนานๆ (ก็คือห่างไกลต้นทางภาษา) บางทีก็ไม่รู้ว่าภาษาไทยมันมีพลวัตรไปยังไง คำไหนนิยมใช้ คำไหนไม่นิยม คำภาษาต่างประเทศบางคำ คนไทยใช้แบบทับศัพท์หรือต้องแปลออกมาเป็นภาษาไทย---นี่คิดจะเสนองานวิจัยทำนองนี้ดีไหม ว่าคนไทยในต่างแดนนั้นอาจจะอนุรักษ์ภาษาไทยแบบแผนมากกว่าคนไทยในประเทศไทย
คิดต่อแบบชวนโดนรุมสหบาทา ก็คือ ในส่วนของความเป็นไทยในประเทศไทยที่มีความพยายามอนุรักษ์โน่นนี่นั่น ในด้านหนึ่งมันก็สะท้อนความเป็นชายขอบที่อยู่ห่างไกลต้นกำเนิดภาษาและวัฒนธรรมอยู่เหมือนกัน"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ผมไม่เปรียบเทียบนะ
แต่ สำหรับผมที่มีส่วนร่วมในการพิจารณารับเด็กใหม่ของบริษัทบ่อยๆ
ป.ตรี จบใหม่ ไม่ใช่เฉพาะทาง ไม่มีประสบการณ์ อยากได้ 15-20K ผมไม่คุยเลย ลองพิจารณาที่อื่นแล้วกัน
เพราะถ้าคิดในมุมองค์กร อะไรพิสูจน์ได้บ้างว่า เงินที่จ่ายคุณไป คุณจะตอบแทนกลับมาได้
15K ต่อเดือน เท่ากับบริษัทมีค่าใช้จ่ายมากขึ้น 180Kต่อปี ไม่รวมสวัสดิการ อุปกรณ์สำนักงาน ค่าไฟ ค่าน้ำ อื่นๆที่ต้องเสียให้
แล้วเด็กจบใหม่นี่ไม่ต้องห่วง 3-6 เดือนแรกแทบทำอะไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ต้องศึกษางานกันตลอด
อยากได้ benefit สูง คุณต้องพิสูจน์ตัวเองว่าสมควรจะได้ ไม่ใช่เอาข้อ excuse มาอ้างว่าไม่พอกินไม่พอใช้ คนละเรื่อง
เด็กจบใหม่สมัยนี้ติดค่านิยมผิดๆจากสังคม โดยไม่ได้พิจารณาตัวเองเลยด้วยซ้ำ
เพื่อนบอกว่าได้ 20K 25K ในเนทบอกเงินเดือน 50K 100K ฉันจะเอาบ้าง
บริษัท หรือองค์กรที่พร้อมจะจ้างระดับนั้นมันก็มี แต่มีเยอะแค่ไหน แล้วเด็กจบต่อปีเยอะแค่ไหน
มันถึงมีประทู้บ่น หางานไม่ได้ ตกงาน ให้เห็นเรื่อยๆ ก็เพราะแบบนี้
เอาแค่ประสบการณ์ส่วนตัว ปีนี้ผมรับเด็กจบใหม่มาแล้ว 8 คน คงเหลือ 2 คน
บางคนมาทำงานเดือนเดียวหาย บางคนสองเดือนหาย
หนักสุด มาทำงาน 3 วันยังเทรนนิ่งไม่จบ บอกเบื่อหาย หายนี่คือหายไปเลยไม่มาเลย ไม่ใช่ลาออกด้วย
บางคนมานั่งทำงาน เช้านั่งกินกาแฟ เที่ยงแฟนมารับไปกินข้าวกลับมาบ่ายสาม แล้วนั่งเล่นเนทจนเลิกงาน
ถ้าลองคิดในมุมผู้ประกอบการ ถ้าเงินเดือนเริ่มต้น 25-30K แล้วมีความเสีย่งในการจ้างคนแบบนี้มาทำงาน ปีๆนึงบริษัทจะเสียเท่าไหร่
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"การมีพวกที่หัวเก่ายิ่งกว่า conservative นี่ ทำให้คนโง่จำนวนมากคิดว่าตัวเองฉลาดหรือก้าวหน้ากว่าความเป็นจริงเนอะ"
#มิตรสหายท่านหนึง
Roses are red,
Violets are blue,
Harambe the gorilla,
Chilling at the zoo,
Until someday a child,
Was able to get through,
The mother surprised,
Harambe to the rescue,
His keeper came,
With a gun on queue,
Harambe saw him,
He knew he was screwed,
His killer walked away,
Ever so free,
Harambe dead,
In our hearts he’ll forever be.
#มิตรสหายท่านหนึง
"ทุกครั้งที่มีลูกค้าที่เน้นเรื่องสุขภาพสั่งก๋วยเตี๋ยวแล้วบอกว่าไม่ใส่ผงชูรส อยากจะกระซิบบอกเขาและเธอเหลือเกินว่ามันอยู่ในทุกอณูของน้ำซุปในหม้อก๋วยเตี๋ยวอยู่แล้วอ่ะครับ - -""
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
เมื่อวันรับปริญญา กลายเป็นวันขาดละหมาดสำหรับบางคน
ยอมขาดละหมาด เพื่อดุนยา
ยอมขาดละหมาดเพื่อรักษาหน้าสวยๆ
ยอมขาดละหมาดเพื่อได้รูปถ่ายสวยๆ
"แค่วันนี้วันเดียวเอง ไม่เป็นไรหรอก"
"จะให้ทำยังไงล่ะ จะให้ฉันไปล้างหน้าที่เพิ่งแต่งเมื่อกี้นี่นะ"
"ปกติแล้วกูก็ไม่ละหมาดครบอยู่แล้ว "
"ทำเป็นเคร่งนะแก "
"ค่อยชดก็ได้ อย่าคิดมากนะ"
"แกจะให้ฉันเดินออกจากแถว เพื่อไปละหมาดงั้นหรอ?"
"ไม่เห็นใครไปละหมาดที แกนิเวอร์ไปไหม?"
"ก็ฉันกลัวอาจารย์โกรธนี่นา "
"กูไม่กล้ายืนขึ้นออกไปอ่ะ กลัวเขามองว่ากูแปลก จะเดินออกไปไหน"
"จะละหมาดที่ไหน มัสยิดก็อยู่ไกล ไปละหมาดกลับไม่ทันแน่"
หยุดอ้างเหตุผลเหล่านี้
เพราะคำตอบเหล่านี้ไม่สามารถตอบในวันแห่งการสอบสวนได้
อิสลามไม่ได้ปฎิเสธการรับปริญญา
อิสลามไม่ได้ปฎิเสธความสวยงาม
แต่อิสลามปฎิเสธการขาดละหมาด
งานรับปริญญาหลายที่ เปิดโอกาสให้มุสลิมไปละหมาด
แต่บางคนกลับไม่ยอมไปละหมาด เพียงเพราะกลัวหน้าเลอะ
หรือไม่รู้ว่าจะละหมาดตรงไหน
ยาอัลลอฮ
ละหมาดเถอะก่อนที่คุณจะถูกละหมาด
เราสามารถละหมาดได้ทุกสถานที่ ไม่จำเป็นต้องเป็นมัสยิด
อย่ากลัวอาย เพราะต้องละหมาดท่ามกลางสายตาคนอื่น
แต่จงอาย เพราะขาดละหมาด
อย่าให้เรื่องง่ายๆเป็นเรื่องยาก
คนต่างศาสนิกจะมองว่าแค่วันเดียวเองที่ขาดละหมาด
แต่คนมุสลิมเราจะมองว่าแค่วันเดียวเองที่ทำให้เราตกศาสนา
จงรักษาศาสนาของเราให้ดี
ถามตัวเอง ว่า
รับปริญญาด้วยและละหมาดด้วย ทำไม่ได้หรอออ?
การละหมาดครบไม่ใช่หน้าที่ของคนเคร่ง แต่เป็นหน้าที่ของทุกคน
ส่วนตัวแอดมินรับปริญญาครับ และก็ไม่ลืมละหมาด เพราะมหาลัยเกือบทุกแห่งจะเปิดช่วงเวลาให้บัณฑิตมุสลิมไปละหมาด และถ้าไม่มี เราก็สามารถจะขออนุญาตอาจารย์หรือผู้ดูแลเพื่อไปละหมาด ซึ่งทุกมหาลัยเข้าใจในจุดนี้
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
Pokémon go ตอนนี้กลายเป็น Pokémon gone แล้ว
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
1. หญิงใดมีหนวดเครา และมีขนหน้าแข้งเหมือนผู้ชาย เป็นหญิงอัปลักษณ์ ชอบทำลายทรัพย์สมบัติของผัว หญิงเช่นนี้ไม่ควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
2. หญิงใดมีสะโพกเอียง หรือเวลาเดินไปข้างใดข้างหนึ่ง เป็นหญิงอัปลักษณ์ หาผัวยาก หญิงเช่นนี้ไม่ควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
3. หญิงใดที่แก้มมีลักยิ้มบุ๋มทั้งสองข้าง เป็นหญิงหลายใจ รักง่ายหน่ายเร็ว หญิงเช่นนี้ไม่ควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
4. หญิงใดชอบนอนคว่ำนอนหงายเป็นประจำ เป็นหญิงที่ชอบนอกใจผัวไม่น่าไว้วางใจ หญิงเช่นนี้ไม่ควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
5. หญิงใดมีหลังมือหลังเท้านูนเหมือนหลังเต่า และมีนิ้วมือชิดสนิทกัน เป็นหญิงเจ้าทรัพย์ ใครได้เป็นเมียจะมีแต่ความสุขความเจริญ หญิงเช่นนี้ควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
6. หญิงใดมีปานดำที่ฝ่ามือ หน้าอก และในที่ลับ หรือปานแดง ไฝแดง ที่ฝ่ามือฝ่าเท้า เป็นหญิงที่มั่งมีด้วยทรัพย์สมบัติ หญิงเช่นนี้สมควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
7. หญิงใดมีไฝที่ของลับหรือในที่ลับ เป็นหญิงมีชื่อเสียง มียศฐาบรรดาศักดิ์ หญิงเช่นนี้สมควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
8. หญิงใดมีไฝที่ใต้นม เป็นหญิงมีเสน่ห์มีคนรักใคร่ มีโชคลาภเป็นประจำ หญิงเช่นนี้สมควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
9. หญิงใดมีไฝที่หูข้างขวา เป็นหญิงที่มีจิตใจอารี เป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไป หญิงเช่นนี้สมควรที่ชายจะเอาไปเป็นเมีย
10. หญิงใดมีไฝที่ขมับข้างขวาเป็นหญิงที่มีใจรวนเร ชอบนอกใจผัวหญิงเช่นนี้ไม่ควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
11. หญิงใดมีไฝที่ลูกกระเดือกเป็นหญิงที่มีใจอำมหิตโหดร้าย หญิงเช่นนี้ไม่ควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
12. หญิงใดมีไฝที่ริมฝีปากล่างเป็นหญิงอาภัพ พึ่งพาอาศัยใครไม่ได้ต้องช่วยตัวของตัวเอง หญิงเช่นนี้ไม่ควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
13. หญิงใดมีไฝที่ริมฝีปากบนเป็นหญิงที่ชอบเล่นชู้ มีผัวบ่อยๆ หญิงเช่นนี้ไม่ควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
14. หญิงใดมีไฝที่ดั้งจมูกเป็นหญิงที่หงุดหงิดง่าย โกรธ่าย เอาแต่ใจตัวเอง หญิงเช่นนี้ไม่ควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
15. หญิงใดมีไฝที่หน้าผาก หรือระหว่างคิ้ว เป็นหญิงอาภัพ ลูกและผัวมักจะตายจากกัน หญิงเช่นนี้ไม่ควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"Science builds airplanes and skyscrapers, and faith brings them together."
วิธีเลิกท่อมง่ายมากทีเดียวหายขาดเลยครับวัตถุดิบก็หาง่าย ขั้นตอนแรกนำใบขี้ไก่มาตำรวมกับใบทำมังแล้วใส่น้ำส้มสายชู1ช้อนชาน่ะครับจากนั้นใส่ยาทัมใจไป2ห่อแล้วตามด้วยน้ำใบบัวบกจากนั้นคลให้เข้ากันตำจนละเอียด แล้วอมไว้กินแต่น้ำห้ามกลืนน่ะครับพอรสชาติจืดแล้วค่อยคาย อาการแรกจะอ้วกครับอาการมี่สองมึนนิดๆคับจากนั้นพออาการดีขึ้นความยากท่อมหายครับ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
มีผญคนนึงโพสต์ว่าไม่ชอบพวกLGBTบนFB หลังจากนั้นผญคนนั้นก็โดนเเคปไปรุมด่ากันเมามันว่าไม่PCเบย ไม่Liberalเบย
เเค่เเสดงความเห็นว่าไม่ชอบก็โดนด่า ในอนาคตถ้ากูประกาศว่าไม่ชอบบร็อคโคลี่ จะโดนกลุ่มBroccoli Enthusiastเเคปไปด่าไหม
ความรู้สึกเหมือนกับประกาศว่าไม่ชอบพรรคนาซีในเยอรมันยุคฮิตเลอร์ หรือประกาศว่าไม่ชอบคอมมี่ในจีนยุคประธานเหมา
เเต่เปลี่ยนจากนาซีกับคอมมูนิสต์ไปเป็นความPolitical Correct
-มิตรสหอยนายหนึ่ง
ขณะนั่งรถเวียนในโรงแรมแห่งหนึ่งริมหาดป่าตอง จู่ๆก็มีฝรั่งคนนึงชี้ไปที่ต้นไม้สูงๆแล้วบอกเพื่อนว่า "ดูนั่นสิ ใครก็ไม่รู้ปีนต้นไม้เล่น ไปทำอะไรบนนั้นเนี่ย"
เราก็มองตามไป ...
ไหนวะ ...
เลยก้มหน้าก้มตาจับโปเกมอนต่อไปเงียบๆ ...
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"มีน้องถามว่าอะไรคือเคมีตรงกัน?
เออหวะ ตอบไม่ได้
มันเป็นฟิลลิ่ง เข้าใจช่ะ ฟิลลิ่ง"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"เคมี ... ตรงกัน
เค
มี ... อันนี้ไม่ตรงกัน"
#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง
บางทีกูก็อยากให้มีสงครามครูเสดอีกรอบ
เพราะการกำจัดอิสลามคือทางออกของโลก
-มิตรสหายท่านหนึ่ง
จีนรัสเซียเมกายังอยู่ ปัญหาไม่หมดไปหรอก
-มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง
"Success is born out of luck. It's awareness of mind that takes advantage of that opportunity. You will all be confronted with opportunity. You must take advantage of it, 'cause if you don't take advantage of your opportunity, you'll never realize your dreams. Whether you want them or not it's an irrelevance; you don't know that until you achieve it."
#มิตรสหายเชฟท่านหนึ่ง
ถ้าฟังเพลงต่างประเทศจะเห็นว่า แนวเพลงโครตหลากหลายเลย ไม่งั้น กลาสตันบิวรี่ หรือ โคชเชลล่า คงไม่มีคนรอคอยทุกปีหรอก
คนไทยต้องมีกระแสอะไรสักอย่างถึงไปฟังเพลงฝรั่งเป็นเพลงๆไป เช่น กระแสมหาหิงกับทูดอร์ ก็ไปฟัง What You Know เพลงเดียว
กระแส Im Your จากเดี่ยวอุดม ก็ไปฟังเพลงเดียว แต่คิดไปฟังเอง เหอะ ไม่ฟังหรอก
ถ้าฟังก็เพลงเก๊าเก่า เช่น Zombie หรือ When You Say Nothing At All เพลงพวกนี้ตั้งแต่ผมยังตัดหัวเกรียนเดินลานน้ำพุสยามอยู่เลยนะ
และ ยิ่งแนวแปลกๆจากต่างประเทศ คงไม่เปิดใจรับเลย
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
555+
แต่ผมเห็นมาเยอะนะ
คนที่บอกว่า "ฉันฟังได้ทุกแนว"
แต่พอเปิด เมทัล บอก หนวกหูว่ะ ปิดๆเปลี่ยนๆๆๆ
พอเปิดอินดี้ เพลงอะไรฟังไม่รู้เรื่อง เปลี่ยนๆๆๆ
ปล.ไม่ได้ว่าใคร แค่เจอคนที่พูดแบบนี้เป็นสิบคนและ
#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง
ดูจากสภาพสังคมแล้ว มหาลัยแถวอำเภอหนองหาน จังหวัดเชียงใหม่อาจจะเป็นแหล่งซ่องสุมกบฎที่ใหญ่ที่สุดในไทยก็เป็นได้ ฝึกตั้งแต่การหลบระเบิด ฟังคำสั่งรุ่นพี่ราวกับทหารรับใช้ และมีรุ่นพี่เก่าๆมีอำนาจมากพอที่จะกุมบังเหียนที่แห่งนี้ไม่ให้เกิดการต่อต้านจากเด็กใหม่ได้ ราวกับพวกเขาเป็นอำนาจมืดที่มองไม่เห็น
"Hahahahahahahaha How The Fuck Is Cyber Bullying Real Hahahaha Nigga Just Walk Away From The Screen Like Nigga Close Your Eyes Haha"
-มิตรสหายคนดำบนทวิตเตอร์ท่านนึง
bonus : https://www.youtube.com/watch?v=qyXIjAkEmWs&ab_channel=thememe
"ความหวังนั้นอาจมีหรือไม่มีอยู่แล้วตั้งแต่แรก เหมือนกับถนนบนพื้นนั้น แรกเริ่มเดิมทีก็ไม่มีถนน จนเมื่อคนพากันเดินมากเข้า มันจึงกลายเป็นถนนขึ้นมา"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
I have a colt. I have a brother. bang!!!
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
Dead brother!
#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง
"I was being judged by people who had less knowledge than me, so what was it truly worth? I gave Michelin inspectors too much respect, and I belittled myself. I had three options: I could be a prisoner of my world and continue to work six days a week, I could live a lie and charge high prices and not be behind the stove or I could give my stars back, spend time with my children and re-invent myself."
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"นี่ๆ มันเป็นเรื่องประหลาดใจเรามาก เด็กมหาลัยสมัยนี้มาขายตรงกันหมด รุ่นพ่อรุ่นแม่ก็กลัวไปดิ กลัวคนจะมาชวน ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน เฮ้ออออ แล้วที่สำคัญ ต้องขึ้นสเตตัส แบบบิ้วๆ "ไอ้สัส ใครจะว่าไงกูไม่สน กูทำ กูสู้ บลาๆๆๆ" แล้วของที่ขายคือคอลลาเจน พีคมากกๆๆ แล้วตัวแม่คือคนอายุประมาณสามสิบกว่า แต่งตัวเซ็กส์ๆ โพสต์รูปรถสปอร์ต รูปบ้าน พิมพ์สเตตัสกูมึงแบบห้าวหาญ บิ้วเด็กเห่อหมออ้อย น่ากลัวมาก พ่อแม่ก็ทำงานหาเงินงกๆ ส่วนลูกเอาเงินมาลงกะขายตรง สงสารประเทศชาติมาก... เราว่ามันคือความเศร้ามากๆ มีเด็กบางคนออกจากเรียน แล้วโพสต์แบงค์พันเรียงๆๆ บอกว่า "ได้แล้วอาทิตย์เดียว ยังต้องเรียนอีกหรอออ" โอ๊ยย ที่เรารู้เพราะมีเด็กที่เราเคยรู้จักสมัยมันอยู่ม.5 มันมาชวนเราทำด้วย เซอร์มาก"
(มิตรของมิตรท่านหนึ่ง)
"ด้วยความที่ โปเกมอนโกมันพัฒนามาจากอินเกรส ที่มีการปักหมุดสถานที่ต่างๆ จนกลายเป็นโปเกสตอปเมื่อสัก3-4ปีก่อน สิ่งที่น่าสนใจก็คือ การเปลี่ยนแปลงของบริเวณๆ นั้น
เช่นโปเกสตอปจุดนึงของเซนทรัลลาดพร้าวที่เป็นนิทรรศการจรวดนาซ่าเมื่อหลายปีก่อน หรือหน้าสยามดิสคัฟเวอรีมีโปเกสตอปนกเพนกวินพาเหรดซึ่งทำให้อนุมานได้ว่าน่าจะปักช่วงที่เป็นเฟสติวัลหน้าหนาว
แต่จุดที่มีความเปลี่ยนไปไม่เหลือร่องรอยเดิมก็คือบริเวณแถวซอยจุฬา ตลาดสวนหลวง และตลาดสามย่าน พบว่านอกจากตลาดสามย่าน แอมพาร์ก และส.น. ปทุมวัน จุดอื่นๆ ล้วนหายไปหมดแล้ว
ในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมาทรัพย์สินจุฬาฯไล่รื้อชุมชนออกไปจำนวนมากเรียกได้โล่งเตียนเลย ทั้งนำไปพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และเตรียมทำอุทยานจุฬาฯ เราเลยเห็นร่องรอยสิ่งที่มีอยู่ได้ผ่านจุดโปเกสตอปต่างๆ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
>>52-53 ชีวิตลุงแกโดนใครทำร้ายมาวะ เป็นเซเล็บที่กูว่าโคตรบ้าเลย
เวลาพูดให้สัมภาษณ์แต่ละทีดูเป็นพวกสิ้นหวังกับชีวิตและการงานอาชีพตัวเองมากๆ แต่ยังไม่ได้อยากตายก็หาเงินใช้แบบทำไปงั้นๆ
เวลาทำอะไรเชี่ยๆก็แบบประมาณว่า เออแล้วไง แบบว่าลุงแกไม่สนใจห่าอะไรกับชีวิตนี้แล้ว แต่คนชอบแกก็เยอะนะ
ส่วนคนเกลียดแกก็เยอะพอกัน ส่วนมากก็เพราะไอ้เรื่องคนอร์นี่แหละ 555
ก่อนหน้านี้สักพักหนึ่ง ได้ไปเถียงกับ anti-liberal คนหนึ่ง (ที่ประมาณว่า เกลียด political correctness, เรียกนโยบายช่วยเหลือ minority ว่าเป็นการ"โอ๋" เป็นต้น) ในประเด็นเรื่องนาฬิกาของอาเหม็ด มูฮัมหมัด พอเถียงไปสักพัก มันก็แช่งผมให้โดนระเบิดมุสลิมตาย บางคนมีการไล่ให้ไปอยู่ตะวันออกกลางจะได้รู้ว่ามุสลิมเป็นยังไง
ประเด็นคือ ตอนเรียน ป. ตรี ผมสนิทกับอาจารย์ด้าน cryptography คนหนึ่งที่มาจากอิหร่าน อาจารย์แกให้คำปรึกษาเรื่องงานวิจัยตลอด แล้วก็ยังเป็นแรงบันดานใจให้ทำงานด้าน cryptography ทุกวันนี้ด้วย
และช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ผมไปฝึกงานที่ USCD ได้ทำงานกับเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งที่เป็น immigrant ย้ายจากซีเรียมาอยู่ที่นิวเจอร์ซีเมื่อเจ็ดปีก่อน แล้วเป็นมุสลิมด้วย ใส่ฮิญาบมาทำงาน ถ้าจะให้พูดถึงเพื่อนร่วมงานคนนี้หนึ่งประโยค คงต้องบอกว่า "เค้าเป็นคนที่นิสัยดีและเป็นมิตรที่สุดคนหนึ่งที่เคยรู้จัก"
ที่เล่าให้ฟังไม่ได้จะบอกว่า คนที่มาจะตะวันออกกลางต้องเป็นคนดีทุกคน--กรณีเดียวกับคนดำ คนจีน และคนอินเดีย การเอาคนส่วนน้อยมาสรุปเป็นส่วนใหญ่มันเป็นปัญหาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะด้านดีหรือร้าย แต่การที่ได้อยู่ในสังคมที่มีความหลากหลายมันทำให้เราได้มีโอกาสได้ใช้ชีวิตกับคนที่มาจากเชื้อชาติที่ต่างจากเรา และได้เห็นด้านดีของคนเหล่านั้นจริงๆ ไม่ได้ฟังผ่านมุมมองของคนอื่น ซึ่งมันทำให้เราคิดซ้ำตลอดเวลาที่เราจะพูดจาเหมารวมว่า คนชาตินั้นแย่อย่างนี้ คนผิวสีนั้นเลวอย่างนี้ หรือดูถูกประสบการณ์ของคนอื่นว่า คนเชื้อชาตินี้ผิวสีนี้ไม่ได้โดนเหยียดหรอก หรือไม่ได้ประสบปัญหาจากการถูกเหยียดหรอก เพราะความจริงที่เราเห็นมันค้านคำพูดเหล่านั้น
ต่างจากหลายคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมไทยที่ไม่ค่อยมีความหลากหลายทั้งชีวิต แต่รู้หมดเลยว่าคนดำ คนจีน คนมุสลิมเป็นยังไง ผ่านการอ่านจากอินเตอร์เน็ตหรือดูหนังดูละคร ซึ่งแนวโน้มแบบนี้มันอันตรายมากในพื้นที่ทางการเมืองสำหรับ minority ในประเทศอย่างสหรัฐฯ
เพราะเหตุนี้ การพูดถึงความหลากหลายและการให้ minority ได้ถูก represented จึงเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ได้สำคัญเพราะมันคือ political correctness แต่สำคัญเพราะมันช่วยเปิดหูเปิดตาให้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในกะลาทั้งชีวิตได้รู้ว่าคนอื่นก็มีหลากหลายด้านเหมือนกับตัวเอง
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
เพื่อนกูเป็นคนตรวจคนเข้าเมืองมันบอกเลย ว่าคนดำจากบางประเทศ มันจับตรวจละเอียดหมดแหล่ะ เจอคนจากประเทศแม่งขนยาเสพติดบ่อยสัดหมา
จะว่าคนดำดีดีมันก็มึบ้างแต่. สุดท้ายคนก็เลือกปฏิบัติในระดับหนึ่งอยู่ดี เหตุผลก็ความปลอดภัยไง. มึงจะยอมให้คนใส่ฮิญาปแบบปิดทั้งตัวเดินทั่วกรุงเทพไหมถ้า มีข่าววางระเบิดบ่อยๆ?
>>57 "เพราะเหตุนี้ การพูดถึงความหลากหลายและการให้ minority ได้ถูก represented จึงเป็นเรื่องสำคัญ"
ทำไมเวลาในหนังฝรั่งไม่มีAsian/Latino หรือ Native American กูไม่เห็นสามเผ่าพันธ์นี้ออกมาดิ้นเลยวะ
เเต่พอหนังไม่มีคนดำ ต้องมีlibcuckออกมาดิ้นตะเเหง่วๆ จนหนังฝรั่งมันต้องหาบทมาใส่ให้คนดำ เป็นToken Black Guy ไป กันโดนด่า
" ไม่ได้สำคัญเพราะมันคือ political correctness แต่สำคัญเพราะมันช่วยเปิดหูเปิดตาให้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในกะลาทั้งชีวิตได้รู้ว่าคนอื่นก็มีหลากหลายด้านเหมือนกับตัวเอง"
เเต่การเเสดงออกทางสื่อของคนดำมันช่วยย้ำStereotypeนะ ไอ้พวกRAPPA GANSTA NIGGAZ ที่เเรฟว่ากูเเม่งเทพที่ขายยา ตีกะหรี่ ยิงคน
ทำไมไม่มีลิเบอรัลคนไหนไปสั่งสอนหน่อยล่ะครับ ว่าทำเเบบนั้นมันจะช่วยทำให้เกิดnegative stereotype
top kek
"ใจไม่สะอาด อย่าริอาจกินเจ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"จากเรื่องราวเกี่ยวกับหนังไทยก่อนหน้านี้ สะกิดต่อมให้มีบทเขียนนี้ติดตามมา วันนี้ขอเขียนเรื่องของ Fusion นิดนึงนะครับ
Fusion เป็นคำเรียกอาหารที่เราได้ยินกันมาซัก 20-30 ปีนี้เอง เคยฮิตเป็นแฟชั่นกันอยู่พักนึง แต่จริงๆแล้วผมไม่คิดว่า คนทานอาหารเมืองไทย แยกแยะได้ถูกต้องนักว่าแบบไหนคือฟิวชั่น บางอันแค่ปรับแต่งส่วนประกอบ แล้วก็เรียกมันว่าฟิวชั่น แบบเชื่อจริงๆว่าของตัวเองเป็นฟิวชั่นก็มี
บางคนเห็นหน้าตาอาหารปุ๊บ ถ้ามันออกแนวโมเดิร์นหน่อย หรือใช้โปรตีนไม่ตรงตามจารีตนิยม ก็พลอยจะเรียกมันเป็นฟิวชั่นแล้ว ทั้งๆที่บางทีมันไม่เกี่ยวกันเลย Plating เป็นเรื่องของการจัด Display ให้มันน่าสนใจ และบางที หากใช้แนวทางการทำอาหารในหลายๆแนวทางก้าวหน้า เช่น deconstruct หรือใช้ Molecular Gastronomy ก็ทำให้ได้อาหารหน้าตาแปลกๆ แต่พอใส่ปากแล้วรถชาติคงเดิม รู้ทันทีว่ามันคืออะไร ... สำหรับผม ผมจึงพอใจจะเรียกอาหารว่าฟิวชั่นก็ต่อเมื่อ มันมีตัว Principle หรือ Fundamental ที่แตกต่างกัน มาใช้ร่วมกันในอาหารจานนั้นๆครับ
Fusion มีตั้งแต่ฟิวชั่นแบบอ่อนๆ ฟิวชั่นเต็มเหนี่ยว ฟิวชั่นที่ประสบความสำเร็จ ทำแล้วอร่อย กับฟิวชั่นล้มเหลวเกินเลยจนเละเทะ ไม่รู้อะไรเป็นอะไร ขายกันจนร้านเจ๊ง เชฟดังๆระดับเซเลปเราก็เคยทำ และฟิวชั่นพวกนี้ในอาหารไทย เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เหล่าอนุรักษ์นิยมออกมาตีโพยตีพาย แอนตี้ฟิวชั่นทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร บางทีมันแค่เชฟห่วยๆคนเดียวเท่านั้นเอง ...
อันที่จริงแล้ว การที่อนุรักษ์นิยม ปฎิเสธฟิวชั่น และมองมันเป็นภัยคุกคามและมาทำลายความเป็น Classical หรือ Authentic ่นั้น สำหรับอาหารไทย ผมกับมองว่านั่นเป็นการไม่เข้าใจอาหารไทยอย่างถึงที่สุด และเป็นการทำลายอาหารไทยอย่างแท้จริง ...ลองเปลี่ยนมุมคิดซักนิด ผมกลับมองว่า ทำไมไม่ประกาศอย่างภูมิใจไปเลยว่า อาหารไทยนี่แหละคือ Super Fusion เป็น Classical Fusion ที่ประสบความสำเร็จที่สุด อาหารทั้งหมดของเราเป็นฟิวชั่น แต่เป็นฟิวชั่นที่ได้รับการทดลอง ขัดเกลา ทดสอบ แก้ไข เปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการมาตลอดนับหลายร้อยปี กับคนทานอาหารเป็นล้านๆๆๆๆคน
ผมไม่เข้าใจว่า มันมีอะไรน่าอาย ในเมื่อมันเห็นกันชัดๆว่าพื้นที่อุษาคเนย์ตรงนี้ เราเป็นไข่แดง อยู่ระหว่าง 2 อารยธรรมใหญ่คืออินเดียและจีน และด้านที่ติดทะเลเป็นเมืองท่าการค้าขนาดใหญ่ที่พาอารยธรรมตะวันตกหลั่งไหลเข้ามามากมาย ไล่กลับไปดีๆก็จะเห็นว่าอะไรมาจากไหน ขนมจีนมาจากไหน ขนมอบมาจากไหน แกงกะทิมาจากไหน Stir Fried มาจากไหน ที่สำคัญไม่ใช่เฉพาะ Method แต่ Ingredientsเอง พริกมาจากไหน นมเนยมาจากไหน พืชอีกร้อยพันอย่างมาจากไหน ค้นคว้าดูให้แน่อีกนิด ก่อนจะตู่เอาเองว่านี่ของไทย เพราะหลายๆอย่างก็เพิ่งมีมายังไม่ร้อยปีเลยกระมัง ...
... ใจร่มๆแล้ว สติกลับมาแล้ว มาอร่อยกับอาหารที่เรามีแบบที่ฝรั่งเค้าก็แสนจะชอบใจ อาหารไทยที่ดังที่สุดในโลก ไม่ใช่ Authentic เพราะมีฝรั่งเคยกินไม่เยอะอย่างที่เราคิดหรอก แต่ที่ดังมากๆ คือ Street Food เรานี่แหละ ... เอาง่ายๆ เราบอกว่าอาหารเราดีที่สุด แต่เรามีร้านอาหารญี่ปุ่นในเมืองไทย มากกว่ามีร้านอาหารไทยในญี่ปุ่นก็แล้วกัน มากกว่ามากด้วย ... ดังนั้นเลิกมโน เพราะมันไม่ได้ช่วยในการรักษาเอกลักษณ์อะไร นอกจากช่วยในการเอามันห่อตราสังข์แล้วเอามันลงหลุมไปพร้อมๆกับเรา ... ว่ากระนั้นแล้วก็ปล่อยให้มันได้พัฒนาและวิวัฒน์ต่อไปอย่างที่มันได้วิวัฒน์มาถึงเรา .... เราคือต้นแบบของฟิวชั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกและเราจะเป็นต่อไป .. นั่นอาจจะเป็นการรักษาแนวทางเดิมที่คนรุ่นก่อนๆได้ทำไว้ ... เป็นอนุรักษ์นิยมที่แท้ และมีประโยชน์ : )"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
>>56 กูว่าลุงMPWเเกเจอMental Breakdown อะไรซักอย่างมั้ง เพราะตอนหนุ่มๆได้ยินว่าเคยทำกอร์ดอนร้องไห้ด้วย ดูวิดิโอคนอร์ของลุงเเกเเล้ว เเกชอบพูดบ่อยๆว่า"อาหารไม่มีสูตรหรอก ชิมเองเเล้วปรุงตามชอบ" "สำหรับผมเเล้ว ผมชอบ.... " (https://www.youtube.com/watch?v=oGAu_PHxPQc&ab_channel=KnorrRecipes) ลุงเเกโคตรSubjectiveเกี่ยวกับอาหาร เเต่พอไปดูวิดิโอของกอร์ดอนเเล้วจะเป็นเเบบObjectiveจะมีการบอกให้ทำตามสูตร/ขั้นตอนเป๊ะ ขัดๆกันดีสำหรับอาจารย์-ศิษย์
เเต่ใครบอกว่าลุงเเกไปทำวิดิโอคนอร์เพราะมือตก กูจะเอาวิดิโอนี้ให้ดู ฝีมือมีดตอนเเล่ปลาเเม่งอย่างเทพ ไม่มีเนื้อติดกระดูกเลย
https://www.youtube.com/watch?v=FKQ05KlWd8Q&ab_channel=KnorrRecipes
พอโดนด่าเรื่องKnorr Sell-out ลุงเเกตอบกลับมาว่า "by working with companies like Knorr it allows me to stand onto a bigger stage and enrich people's lives... Michelin stars, they're my past."
เท่สัส
เป็นเพศที่สาม อย่าเสร่อมีหัวอนุรักษ์นิยม
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
>>65
งี่เง่าว่ะ ทำไมต้องเอาเรื่องเพศมากำหนดว่าต้องมีแนวคิดยังไงด้วย
แบบนี้ผู้หญิงต้องเป็นเฟมินิสต์ทุกคนไหม
ถ้ามึงจะบอกว่า สมัยก่อนเขาเอาเกย์ไปฆ่า
มันไม่เกี่ยวกันเลย เพศที่สาม มันมีมาก่อนศาสนาคริสต์อิสลามอีก
ว่างๆก็ไปหาอ่านเกี่ยวกรีกโบราณบ้าง
ต่างประเทศเขามีเกย์อนุรักษ์นิยมเยอะแยะ
มึงจะโหนกระแส ม้า อรนภาเหรอ
กูว่าแม่งตลก พ่ออุ้มลูก ไม่ได้มีอารมณ์ทางเพศห่าเหวอะไรเลย แต่อีม้าก็เสือกจะทำเป็นประเด็นเป็นข่าวเลยพูดประโยคไร้สมองแบบนั้นออกมาหนิ่
The worst part about Trump isn't that he's a racist, sexist, ignorant bigot. It's that his supporters know that and don't care.
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
>>64 Mental Breakdown นี่เหมือนลุงแกรู้สึกว่าพวกกรรมการให้ดาวมิชลินไม่ได้รู้มากเท่า แถมไม่ได้มีความเข้าใจในงานของแก
คนอื่นที่ชื่นชมก็แค่เห่อตามคนอื่นกับชื่อเสียงที่ดังอยู่แล้ว สุดท้ายรางวัลหรือเสียงชื่นชมพวกนั้นเลยไม่มีค่าล่ะมั้ง
ตาม quote ดังของแกนั่นแหละ
พวกคลิปสอนอาหารลุงแกนี่กูชอบตรงที่จะบอกเกือบตลอดว่าที่ใส่ๆลงไปใส่ทำไม ถ้าอยากปรับส่วนผสมอะไรใส่น้อยใส่เยอะแล้วจะต่างกันยังไง
ต่อให้ไม่อยากใช้คนอร์ดูคลิปแกสอนทำอาหารไปก็ยังได้พวกเคล็ดเล็กๆน้อยๆ ซึ่งเอาไปใช้ประยุกต์กับอาหารอื่นๆได้เยอะมาก
ส่วนตอนทำของตัวเองก็ไม่ต้องใส่คนอร์ถ้าไม่ชอบ :P เอาจริงๆพยายามหาเรื่องใช้คนอร์กับทุกสิ่งทุกอย่างมันก็แอบดูล้นๆไปนิด
เรื่อง Sell-out นี่รู้สึกเหมือนแกทำเพราะประชด+หาอะไรทำที่ได้เงินเยอะแต่มีเวลาอยู่กับครอบครัวไปพร้อมๆกันล่ะมั้ง
แต่ดูรวมๆแล้วมีเสนียดเหลือเกินน ไม่ต้องมาเขินฉันพูดจริงๆ
เธอมีเสนียดมากมาย จะหน้าหมาไปไหน อยากจะไล่อย่างนี้
ยิ่งดูยิ่งมีเสนียดดดด....
#มิตรสหายท่านนึง
ค่าเครื่องบิน ราวๆ 15ล้าน เพราะบินตรง สรุปคือดร่าม่าเพราะไม่รู้ห่*อะไรกันสินะ
#มิตรสหายท่านนึง
racist : Hillary said that she admired Margaret Sanger, the owner of the quote "Colored people are like human weeds and need to be exterminated"
sexist : ""I think a marriage is as a marriage has always been, between a man and a woman." - Hillary,2000
she has been anti-gay for decades but change side in 2013 for muh votes.
ignorant : Benghazi? Email-leak?
The worst part about Hillary isn't that she's a racist, sexist, ignorant liar. It's that her supporters know that and don't care.
>inb4 WAAAAHHHHGGG YOU ARE OPPRESSING ME CAN WE JUST HATE TRUMP WAAAAAAAHHHHGGGG
"เห็นรูปเด็กถูกตีขาลายเพราะไม่ยอมละหมาด แปลกใจอะไรครับ นี่ก็คำสอนในศาสนาเขา เหมือนตีเมีย ฆ่ายิว ฆ่าเกย์นั่นแหละ ถ้าคุณยอมรับศาสนาอิสลามแบบไม่วิพากษ์วิจารณ์ คุณก็ต้องรับมาทั้งแพ็คเกจนี่แหละ แล้วก็โทษว่าเพราะมนุษย์เลว ทำให้ศาสนาเสื่อมเสียต่อไป"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ขนาดเด็กไม่ทำการบ้านมึงยังตีได้ การตีเด็กไม่ละหมาดมันแปลกตรงไหนวะ อย่ามากระแดะหน่อยเลย
โจชัว หว่องถูกกักตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิตามคำขอของรัฐบาลจีน
">What did we ever do to you?
I'll tell you what you did you diarrhea-colored Dravidian nigger. You invaded my state and turned it into Little Mumbai. My town has been carpet bombed with you curry coons.
You're fucking disgusting. Your houses smell like three-day old curry or whatever the fuck you use in your fecal discharge-inducing cuisine. You walk around in smelly saris and turbans and with weird gaudy nigger jewelry in your noses and stupid red dots on your head, although I do appreciate the bullseye for DOTR, because I'm skipping the nig nogs and going for you disgusting mutants. I have more of a bone to pick with you elephant-humping bastards than ANYONE else.
You people are arrogant as fuck. You're constantly bragging about how smart you are but it's just selection bias that makes your irritating diaspora appear intelligent. If you were really smart, you'd fix your god-forsaken shithole of a homeland and stop fucking up mine. The fact that you hover your unwiped anuses over the streets you walk in and spew half-digested fried monkey meat all over the pavement is absolutely revolting. You behave like underdeveloped proto-hominids, because that's exactly what you fuckers are.
The mere fact that Indians actually live within the borders of the nation my forefathers spilled their blood for disgusts me to my core. The fact that even one of you street shitting goblins is living here is a slap in the face to my forebears. I cannot believe that the nation that my ancestors stood before lines of British infantry to create has permitted you filthy, abominable cretins to exist within its sacred boundaries.
I fucking loathe India and Indians. Your country is the fucking worst place on earth, worse than nigholes in Africa. There are over a billion of you scum-sucking maggots and you insist on dumping your excreable people in my beautiful homeland.
Lastly, your retarded accents annoy the living shit out of me. "
ผู้หญิงบางคนนี่ยังไง เห็นผู้ชายสนิทกันก็ไปล้อ ว้ายเป็นคู่กันเหรอแก มีไรกันป้ะ
พอเจอคนเป็นเกย์จริงๆ ก็ไปว่าเค้าว้ายเป็นตุ๊ดเหรอ ประสาทป้ะ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
เพื่อนชะนีลองกินยาปลุกเซ็ก กะว่าจะใช้กับผัว นางกินแล้วก็รอยาออกฤทธิ์ สักพักก็ร้อน ร้อนมากจนหงุดหงิด ผัวมาสะกิดนางเลยตวาดผัว แล้วก็ทะเลาะกัน
#มิตรสหายท่านนึง
"ผมโคตรขยะแขยงวิธีการปลอบแนวศาสนาพุทธที่โยนสิ่งเลวร้ายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตว่าเป็นเรื่องของ "กรรม" เลย
อีนั่นโดนข่มขืน อ๋อ มันเป็นกรรม ชาติก่อนมันไปข่มขืนคนอื่น
ไอ้นั่นโดนฆ่าปิดปาก อ๋อ มันเป็นกรรม ชาติก่อนมันไปฆ่าคน
ลูกบ้านนั้นติดยา อ๋อ มันเป็นกรรม พ่อแม่มันไปขายยาให้ลูกคนอื่น
มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขี้นเลย นอกจากความรู้สึกของคนพูดเอง เป็นวิธีการแสดง empathy ต่อเพื่อนมนุษย์ที่สิ้นคิดสุดๆ
เหยื่อที่ประสบสิ่งเลวร้ายหนักหนาเสียใจมามากพอแล้ว กลับถูกซ้ำเติมด้วยความคิด "Blame the victim" ที่ว่า "ก็มึงหรือญาติมึงทำเลวมาก่อนอะไรสักอย่างนั่นแหละ มึงถึงโดนแบบนี้ สมควรแล้ว อีดอก" เหมือนกับชี้หน้าด่าผู้หญิงโดนข่มขืนเพราะแต่งตัวโป๊นั่นแหละ
คนที่พูดคำพูดพวกนี้ก็มักเป็นคนในครอบครัวหรือญาติใกล้ชิดเหยื่อ คนที่เหยื่อหวังจะได้คำปลอบใจคำปรึกษามากที่สุด แทนที่จะได้วิเคราะห์ปัญหาและหาทางแก้ไขหรือบรรเทาผลร่วมกัน กลับผลักเหยื่อและคนรอบข้างทั้งหมดไปสู่ความมืดของกรรมเวร
ไม่แฟร์เลยครับ แม้คนพูดจะหวังดี ไม่ได้จงใจทำร้ายใครก็ตาม
ผมอยากเห็นงานวิจัยว่ามีเหยื่อคดีต่างๆ ฆ่าตัวตายหรือซึมเศร้าเพราะคำพูดพวกนี้มากเท่าไรแล้ว
ศาสนาเป็นการหลอกลวงที่อันตรายเสมอครับ แม้แต่ mild religious ที่ดูไม่มีอะไรก็ยังมีอันตรายแฝงเร้น"
#มิตรสหายท่านนึง
เอาเก้าอี้ไหมครับ
-มิตรสหายท่านหนึ่ง
เก้าอี้ในมือกูสั่นไปหมด
คุณศึกษาศาสนาพุทธแค่ไหนครับถึงมาพูดแบบนี้
วิจารณ์ศาสนาด้วยความไม่รู้เป็นบาปหนักนะครับ
how can we measure 'sin' in scientific way?
and which 'sin' is the right one when different religions has different sin?
if you said buddhist sin is right then what about Musilm sin or Christian sin or Jewish sin? how do you confirmed that buddhist sin is the right one?
what will happen if Christian sin turn out to be the right one and you are buddhist? you would unknowingly committed sin of not believing in God.
or what will happen if you are christian and muslim sin turn out to be true? then you would unknowingly committed sin of eating pork.
//Tip fedora m'lady
"พวกคุณมันไม่เข้าใจ ที่ทุกวันนี้ไทยเป็นลูกไล่พรรคคอมมิวนิสต์จีน มันเป็นผลจากบาปกรรมที่คนไทยฆ่าคอมมิวนิสต์ไปเยอะตังแต่ช่วง 6 ตุลา ตอนนี้เลยต้องมาใช้กรรมกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
มันก็คงจะยากจริงๆ น่ะแหละครับ .... กับการที่ประเทศหนึ่ง ซึ่งคนได้ดี มีอำนาจ มีเงิน ส่วนมาก มาจากการยึดอำนาจ (ใช้กำลัง) การสัมปทาน (ใช้ระบบเส้นสายพรรคพวก นอนกิน อยู่ยาว คนไม่มีทางเลือก) การซื้อมาขายไป (ซื้อถูกขายแพง อยู่กับส่วนต่าง) การโฆษณาสร้างภาพ (สร้างภาพสวยหรู ขายภาพ ไม่ต้องพูดอะไรมากกว่านั้น) .... จะเข้าใจหรือสนใจงานสร้างนวัตกรรมจริงจัง
มันใช้พื้นฐานต่างกันคนละเรื่องเลย .... มันใช้ความละเอียดลึกซึ้งในเรื่องที่พวกเราไม่ค่อยสนใจกันเลย เช่นวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ .... มันต้องใช้เวลาโฟกัสกับเรื่องพื้นฐานพวกนี้จริงจัง .... ทำเรื่องเดิมๆ ต่อเนื่องยาวนานอย่างละเอียดที่แก่น ....
ส่วนใหญ่ก็ยังคิดถึงการเล่นพรรคเล่นพวก (ยึดอำนาจ) หาทางการสัมปทานแบบอยู่ยาว ซื้อมาขายไปทำกำไรระยะสั้น ใข้เงินซื้อ ใช้คำพูดสวยๆ สร้างภาพวาดฝันหรู ฯลฯ แบบเดิมๆ
อย่างที่เคยบอกล่ะครับ ... เราคิดทุกอย่างแบบนักการตลาด ไม่ใช่นักนวัตกรรม ... ทุกยุคเราเลยเจ๊งมาเกือบหมด ไม่ว่าจะเป็น 1.0, 2.0 .... X.0 .... ที่นวัตกรรมของเราในแต่ละยุคมันน้อยลงเรื่อยๆ มีแต่ซื้อเขามาขายคนในมากขึ้นเรื่อยๆ ... ไม่ก็ทำแบบห่วยๆ แล้วอาศัยโฆษณาอัดพีอาร์มากๆ เรื่อยๆ ... ผูกขาดให้คนไม่มีทางเลือก ....
แล้วเราก็ยังแบบเดิมครับ พูดถึง 4.0 แบบนักโฆษณา นักการตลาด ทำกันแบบนักการเมือง อยู่กับโครงสร้างฐานอำนาจ .... มากกว่าแบบนักนวัตกรรม
คณิตศาสตร์เป็นภาษาเดียวที่ใช้อธิบายปรากฏการณ์ที่ซับซ้อนต่าง ๆ ในฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา วิศวกรรมศาสตร์ คอมพิวเตอร์ ไปจนถึงเศรษฐศาสตร์ การเงิน ตลาดหุ้น และอื่นๆ หากความสามารถในการใช้ภาษานี้ไม่ดี มันก็เหมือนเราพยายามอธิบายให้คนมองโกเลียฟัง แต่ไม่รู้ภาษามองโกเลียนั่นเองครับ
จากประสบการณ์ของผม นักศึกษามหาวิทยาลัยไทยทุกระดับส่วนใหญ่ยังไม่มีความสามารถในการใช้ภาษานี้นะครับ
ประเทศไทย 4.0 จะก้าวข้ามปัญหาพื้นฐานนี้ไปได้อย่างไร
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
เห็นด้วยมากๆ ครับ
น่าเสียดาย ที่หลายคนคิดว่าเรื่องนวัตกรรม เรื่อง 4.0 เรื่อง creative economy, digital economy, new economy, tech industry, ฯลฯ .... มันไม่ใช่เรื่องของ "วิทยาศาสตร์"
เอาจริงๆ แล้วหลายคนที่อยู่ในระดับการขับเคลื่อนเรื่องพวกนี้ ไม่สนใจความจริงหรือข้อโต้แย้งอะไรจากหลักการทางวิทยาศาสตร์หรือการใช้เหตุผลแบบคณิตศาสตร์ด้วยซ้ำไป
ไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องระดับพื้นฐานเหมือนที่มิตรสหายท่านหนึ่ง พูดก็ได้ครับ .....
#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง
เราสามารถยกเลิกวัฒนธรรมการเหมารวมได้ด้วยการเสียบมันเป็นคนๆ ให้รู้ว่าใครเป็นใครบ้าง
มิตรฯ
พวกงมงายวิทยาศาสตร์ในไทยคือพวกที่เคยอ่านแค่หนังสือ pop science ไม่เคยอ่านเปเปอร์จริงๆ
"Everyone is a liberal until they start paying taxes"
ทุกครั้งที่เราพาเด็กๆของเราเข้าไปในร้านขนม หรือ ร้านสะดวกซื้อ หลายๆคนต้องพยายามกันเด็กๆไว้ให้พ้นจากมุมขนมขบเคี้ยว หรือไม่ก็ต้องหาวิธีต่อรองแกมปฎิเสธเพราะไม่อยากให้พวกเขาทานขนมกรุบกรอบที่เราเห็นว่ามันไม่มีประโยชน์ เพราะมันมีแต่แป้ง น้ำตาล เกลือ ผงชูรส และอื่นๆตามแต่ใครจะมี Awareness กับอะไรบ้าง ... แล้วโดยอัตโนมัติ ... หากว่าเด็กๆของเรา หันหัวออกจากชั้นขนมขบเคี้ยวและเปลี่ยนใจคว้าขนมเค้กซักชื้น เราจะรู้สึกดีใจ ชื่นชมและรีบซื้อให้ทันที !!!
ผมเคยถาม หลายๆคนก็ได้คำตอบตรงกันว่า : ก็ยังดี อย่างน้อยก็ไม่กินขนมขบเคี้ยว ขนมกรอบ กินเค้กก็ยังดี ยังเป็นของมีประโยชน์
ก็เลยถามต่อว่า แล้วมันมีประโยชน์อย่างไร ???
คำตอบก็จะเหมือนๆกันหมดว่า : อย่างน้อยก็ยังมีนมมีเนย
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
มันเป็นเช่นนั้นจริงหรือ ?????????
ผ่านร้านสะดวกซื้ออีกครั้งวันไหน หยิบมาอ่านข้างฉลากซักนิด
อ้อ อย่าลืมเตรียมแว่นสายตาพร้อมแว่นขยายไปด้วย
เพราะมันเล็กมว๊วากกกกกกอ่ะ ...
แล้วก็ไม่ต้องประหลาดใจถ้าได้รับรู้ว่า Perception ที่เรามีต่อของพวกนี้ มันเป็นสิ่งที่ผู้ผลิตเค้ารู้และเอามาทำใช้จู่โจมจุดอ่อนของเรา
เวลาที่เราอายุมากขึ้น ตัวสิ่งที่เราคิดว่ามันเป็น มันก็ชราไปตามอายุด้วยครับ
ด้วยเทคโนโลยี่การผลิตอาหารอันก้าวหน้าของศตวรรษนี้
คุณอยากได้อะไร หน้าตาเหมือนกับอะไร
รสสัมผัสแบบไหน กลิ่นยังไง รสยังไง
มันทำได้หมดแหละครับ !!!
ในเค็กก้อนนึง ครีม เนื้อเค้ก แยม ... แต่ละ element ของมัน
แทบจะทำจากสิ่งเดียวกันหมด แต่ใช้วิธีและเครื่องจักรคนละตัว
และที่สำคัญ ทั้งหมดนั่น ไม่มีอะไรมากไปกว่า
แป้ง น้ำตาล ไขมันปาล์ม เจลลาติน กลิ่นและสีสังเคราะห์
ไม่มีไข่ !!!!! และไม่มีนม(วัว > <) !!!!!!!
OMG !!! ไอ้เค้กก้อนนั้น กับ ขนมขบเคี้ยวถุงนั้น
มันเป็นสิ่งเดียวกัน ที่มาในรูปแบบต่างกัน โดยสมบูรณ์
... ของดีๆแบบที่เราเคยรู้จัก มันมีครับ มีอยู่ แต่ถ้าจะซื้อของที่ผลิตในระบบโรงงาน ก็ควรจะต้องสังวรณ์ไว้บ้างถึงพลานุภาพของเทคโนโลยี่ ... จะให้ดี .......... เริ่มอ่านฉลากกันบ้างได้รึยังครับ ???
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
""Anatomy+Perspective ยังผิดบานเลย การเล่าเรื่องก็แปลกๆ ไปฝึกอีกถ้าคิดมาด้านนี้
พูดตามตรงนะ คุณคิดถูกแล้วที่ว่าเข้าข้างตัวเองมากไป เพราะเป็นงั้นจริงๆ ไม่ใช่แค่พื้นฐานพอได้ แต่นี่พื้นฐานยังไม่ได้ ขืนทำตามที่ว่าน่ารอดยากถ้าไม่ขยันฝึกจริง ถ้าออกจากมหาลัยเพื่อมาแบบนี้นี่เสียดายค่าเทอมก่อนหน้าที่เคยจ่ายไปแทนจริงๆ อย่างน้อยเรียนให้จบก่อนอย่างน้อยถ้าวาดการ์ตูนไม่รอดยังรู้ว่าทำอะไรหากินได้ดีกว่ามั้ย
ด้านฝีมือมองแล้วไม่ถึงขั้นสิ้นหวังหรอกนะถ้าได้เรียนพื้นฐานอย่างเป็นเรื่องเป็นราวอาจพัฒนาไปดีได้ แต่บอกตามตรงเลยคุณพร้อมจะเริ่มทุกอย่างใหม่จาก 0 หรือเปล่า เพราะดูแล้วคุณไม่มีพื้นฐานเลยจริงๆแล้วดันพยายามทำงานที่มันขั้นบนๆไปแล้วทั้งๆที่ฐานรากก็ไม่มี แล้วถ้าไปจริงจังนี่จะมาอ้างแค่ใจรักไม่ได้ มันต้องมีฐานที่ดีล่มไปไม่อดตาย ลูกถึกที่ล้มกี่ครั้งก็ต้องลุกแล้วพัฒนาฝีมือตัวเอง กล้าจับผิดงานตัวเองที่ตรงนี้จขกท.ขาดสุดๆ และอาจต้องใช้พรสวรรค์ด้วย บางคนอาจว่าแค่ฝึกก็พอความจริงแล้วไม่ใช่ ส่วนตัวเรียนด้านใกล้เคียงกันพอดีถึงไม่ใช่วาดการ์ตูนก็เหอะ เห็นเพื่อนร่วมรุ่นหลายคนเรียนมาพร้อมกันแต่ฝีมือคนละชั้นกันเลย อ้อความขยันในการศึกษาเรื่องต่างๆด้วยนะ แค่ฝีมือการวาดอย่างเดียวน่ะไม่พอหรอกนะเว้นหน้าที่แค่วาดเฉยๆออกแบบแต่งเรื่องมีคนอื่นทำให้ อย่างส่วนตัวอยากไปสายDesign+Concept Art นี่หนังสือกองเต็มบ้านสำหรับทำ Referenceล้วนๆ ถ้าแต่งเรื่องด้วยนี่ยิ่งไปกันใหญ่นั่งอ่านวรรณกรรมดูหนังศึกษาตำนานอีก คำว่าหาข้อมูลของนักเขียนการ์ตูนจริงๆมันมีความหมายอย่างนี้แหละเก็บResource ไว้เป็นแรงบัดาลใจ
แต่จากที่ดู จขกท.น่ะ ถ้ายอมเลือกเสี่ยงเดินทางใหม่ตั้งแต่ต้นก็ อาจ จะพอไปได้ แต่นั่นไม่ใช่เส้นทางที่สามารถฝึกเองได้โดยง่าย ถ้าให้ดีควรมีคนสอน คิดดูดีๆล่ะ ถ้าใจรักจริงๆก็ต้องเปิดใจรับการปูพื้นใหม่ให้ได้ ปัญหาของจขกท.เป็นปัญหาเดียวกับคนที่มีใจรักหลายๆคนคือ ชอบกระโดดไปฝึกขั้น Advance ทั้งๆที่ Basic ยังไม่ได้ที่คนแบบนี้เจอมาเยอะมาก เพราะงี้แหละเลยบอกว่าถ้าอยากไปจริงต้องไปเรียนเลยไม่ใช้ฝึกเอง เพราะมีผู้สอนมาคอยวัดประเมิณให้ได้ว่าพื้นฐานได้หรือยัง และที่สำคัญที่สุดคือมีคนติ เราไม่อาจหวังให้คนบนอินเตอร์เน็ตมาทำหน้าที่นี้ได้เพราะมักเต็มไปด้วยการอวยและอคติ ซึ่งตรงนี้ผู้สอนไม่ว่าจะเป็นเรียนในระบบหรือกับเรียนพิเศษอย่างน้อยเขาก็เป็นคนที่มีประสพการณ์จริงในด้านนั้นๆ ก็จะให้คำติที่เป็นประโยชน์กว่าได้ แต่ทั้งนั้นผู้เรียนก็ต้องมีความมั่นใจในงานตัวเองพอที่จะ Defense งานตัวเองในระดับหนึ่ง (กับเรื่องที่เหมาะๆนะอย่างสไตล์อะไรงี้ หรือเมื่อถึงขึ้นติสต์แตกโดยสมบูรณ์ที่บางทีคนด้านนี้เป็นกัน ซึ่งส่วนตัวว่าอาการติสต์แตกนี้เกิดเมื่อเอกลัษณ์งานตัวเองแข็งแกร่งพอจะ F*ck the ทฤษฏีได้ และเมื่อถึงจุดนั้นคุณจะวาดยังไงก็เรื่องของคุณ เพราะพื้นฐานคุณได้แล้วแต่คุณเลือกฉีกกรอบออกไปเอง) แต่ไม่อีโกจัดจนไม่รับฟังคำแนะนำ รวมถึงกล้าคิดสร้างสรรค์วิธีการใหม่ๆเพื่อ Limit Break ตัวเองเมื่อถึงทางตันช"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
>>113 มึงแปะ http://pantip.com/topic/35676218 ง่ายกว่าไหมอยู่ คห.1
ส่วน จขกท. มันจะเลิกเรียนมาเขียนการ์ตูนกูฟันธงว่าไปไม่รอด
เห็นข่าวคนไทยไปเป็นแรงงานเถื่อน ทำตัวเหี้ยๆ ไปเป็นโจรปล้น จะไปข่มขืนคนเกาหลี
จนเกาหลีใต้แบนนักท่องเที่ยวไทยมั่วซั่วไปหมด ยังไม่ทันผ่านตม.ก็กักตัวส่งกลับเหมือนนักโทษไปแล้ว
ส่วนแรงงานไทย ก็อ้างวอนเห็นใจคนจนหน่อยเด้อ ข้อยมันคนจน
#มิตรสหารท่านหนึ่ง
ต้องหาคนสอนว่ะ แน่นอนว่าให้คนบนเน็ทวิจาร์ณมึงตายอย่างเดียว บนนี้ไม่มีคนสนใจความฝันมึงหรอก ต้องจ่ายตังเรียนให้รู้ว่าอะไรควรไม่ควรทำ
"ระหว่างขึ้นรถไฟที่โคเป็นเอเย่นต์
เพื่อนชาวเดนส์เปิดดูข่าวจาก Press Gazette
ไล่อ่านมีแต่ข่าวหนังสือพิมพ์ทะยอยปิดตัว ไม่ก็ลดจำนวนพนักงาน
อ่านเสร็จมันก็ขำ เรียนนิเทศมา แต่วงการสื่อแม่งซบเซาชิบหาย
แต่มันขำแบบมีความสุข
เลยถามมันว่าแล้วมึงไม่เครียดบ้างหรอ
มันก็บอกว่าไม่เป็นไร ระหว่างนี้ไปลงเรียนโทอีกใบก็ได้
เรียนฟรี แถมรัฐบาลให้เงินเดือน เดือนละ 500 ยูโร
ถ้าจบรอบนี้ ก็จะเริ่มหางานทำแล้ว
แต่ถ้ายังหางานไม่ได้ก็ไม่เป็นไร รัฐบาลมีเงินชดเชยการตกงานให้ไปอีกระยะ
เล่าเสร็จมันบอกว่า อิจฉานายนะ ได้ฝึกงานที่ดีๆ หรือถ้ากลับไทยก็คงมีงานทำ
เราบอกมันไปว่า
ไอ้สัส มึงไม่ต้องอิจฉากู กูมีแค่งาน
แต่อย่างอื่นแย่กว่าในทุกบริบทสังคม
ส่วนมึงขาดแค่งาน แต่ทั้งชีวิตมึงได้รับการดูแล
แบบไม่ต้องมีอุโมงค์ระบายน้ำใดใด
หมายเหตุ:
- รัฐบาลเดนมาร์กมีเงินสนับสนุนให้ระหว่างเรียน เพราะเชื่อว่าการลงทุนกับมนุษย์ทางด้านการศึกษา ถือว่าคุ้มค่า
- รัฐบาลเดนมาร์กมีเงินชดเชยระหว่างตกงาน เพื่อเปิดโอกาสให้หางานที่ทำแล้วมีความสุขที่สุด เหมาะกับตัวเองที่สุด ด้วยความเชื่อว่าคนจะทำงานได้ออกมามีคุณภาพที่สุด
- นี่ก็ยังไม่นับเรื่องประกันสังคม สุขภาพ ถนน หนทาง และอื่นๆ อีกมากมาย
- ก็ได้เข้าใจแล้ว ประเทศโลกที่หนึ่ง กับ ประเทศโลกที่สาม ต่างกันเยี่ยงไร"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ต้องเข้าใจนะครับว่า ข่าวลือในโลกอิเล็กทรอนิกส์นั้น มันมีชีวิตของมันเอง โตเอง แปลงร่างเอง และตายเอง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้ให้กำเนิด ไปขจัดผู้ให้กำเนิดจึงไม่มีประโยชน์อะไรเลย กลับเติมพลังให้แก่ข่าวลือขึ้นไปอีกด้วยซ้ำ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
บอกให้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ... แล้วตัวเองก็ย้ายไปใช้หุ่นยนต์แทน ...
แหม ดีจัง :P
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
{ จริง ๆ น่าจะเป็นความคุ้นชินของคนไทยที่อยู่ในระบอบเผด็จการทหารมานานนับจากสฤษดิ์
จะเห็นได้ว่า ชนชั้นกลางในเมืองจะให้้ความสำคัญกับการจัดระเบียบสังคม และการแก้ไขคอรัปชั่นมาก ส่วนนึงเป็นเพราะชนชั้นกลางได้เปรียบเชิงโครงสร้างอยู่แล้ว เรื่องคอรัปชั่น ชนชั้นกลางก็ใช้ระบบอุปถ้มภ์กันอยู่แล้ว แต่รับไม่ได้กับการคอรัปชั่นของนักเลือกตั้ง โดยเฉพาะพวกมาเฟียภูธรทั้งหลาย
ชนชั้นกลางไม่เคยตั้งคำถามกับระบบราชการ เพราะแม่งฝากลูกหลาน ใช้คอนเน็คชั่นกับเรื่องใบสั่ง หรือกรณีอื่น ๆ กับราชการอยู่ตลอด
ส่วนกรณีกองทัพ ชนชั้นกลางไม่เคยสนใจ เพราะกลัวและอยู่นอกวงโคจรชีวิต
มาตรฐานแบบบิ๊กตู่เหมาะกับสังคมไทยแน่นอน เพราะไม่ต้องการสมอง แต่ต้องการการใช้อำนาจเพื่อสยบความวุ่นวายของชนชั้นล่าง }
มิตรสหายท่านหนึ่ง
ดาร์กไซด์ ของคำว่า “คนดี”
วันนี้ หลังจากเสร็จงาน 6 ตุลา ที่ธรรมศาสตร์ ผมก็พากระติ๊บกับแดนไปทานข้าวที่ร้านไดอะล็อค แล้วกระติ๊บก็ถามขึ้นว่า
“คุณครูสังคม ถามก่อนปิดเทอมว่า ระหว่าง “คนดีที่บริหารประเทศประเทศไม่ค่อยเป็น” กับ “คนโกงที่มีผลงาน” เราจะเลือกใคร?”
ผมจึงตอบว่า “เอายังงี้ พ่อรู้ว่า เราไม่เลือกคนโกงแน่ แต่ก่อนจะตอบข้อนี้ เราลองมาดูดาร์กไซด์ของคำว่า “คนดี” กันบ้าง”
ก่อนอื่น ติ๊บและแดนจำไว้นะลูก พ่ออยากลูกทำสิ่งที่ดี อยากให้ลูกทำความดี แต่พ่อขอให้ลูก “อย่าคิดว่าตนเองเป็นคนดี” หรืออยากจะเป็นคนดี โดยเด็ดขาด นะลูก
ทำไม? คำถามจากเด็กทั้งสองคน
เพราะคำว่า “คนดี” มีอันตรายอย่างยิ่ง 2 ประการ ทั้งสำหรับตัวเราเอง และคนอื่น
ประการแรก เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเผลอคิดว่า “เราเป็นคนดี” เรามักจะมีอคติลำเอียงเข้าข้างความคิดของตัวเราเอง เราจะคิดว่า ความคิดของเรานั่นดี นั่นถูก แล้วเราจะฟังคนอื่นน้อยลง
เพราะแทนที่เราจะคิดว่า นั่นเป็นความคิดของเรา เฉยๆ เรากลับเผลอคิดว่านั่นเป็นความคิดของ “คนดี” มันจึงน่าจะถูกต้องกว่าความคิดของคนทั่วๆ ไป
ประการที่สอง คำว่า “คนดี” มักนำไปสู่การมี “อภิสิทธิ์” เหนือคนอื่นๆ
“ยังไงอ่ะ พ่อ?” ติ๊บงง
เอาง่ายๆ หนูลองตัดคำว่า “คนดี” ออกจากประโยคที่ว่า “คนดีที่บริหารประเทศประเทศไม่ค่อยเป็น” ดูซิ มันจะเหลือแค่คำว่า “คนที่บริหารประเทศประเทศไม่ค่อยเป็น” เฉยๆ แล้วเป็นไงอ่ะลูก?
“อืมม์ มันดูแย่ ไม่แพ้ คนโกงเลย” ติ๊บตอบ
“ใช่แล้วลูก ตรงประเด็นเลย มันแย่ไม่แพ้กัน แต่มันดูดีขึ้นเลยเมื่อเติมคำว่า “คนดี” เข้ามา 5555” ผมตอบ
“อืมม์ แล้วจริงๆ มันดีหรือแย่กันแน่? อ่ะพ่อ” ติ๊บถามต่อ
“แล้วคนดี “จริงๆ” ที่พบว่าตัวเขาเองบริหารประเทศไม่เป็น เขาควรทำอย่างไรล่ะลูก?” ผมถามบ้าง
“ถ้าเขาเป็นคนดีจริง เขาควรลาออก แล้วให้คนอื่นบริหารประเทศแทน” ติ๊บตอบ
“ถูกต้องแล้วลูก คำว่า “คนดีที่บริหารประเทศไม่เป็น” ไม่มีอยู่จริง หรอกลูก เพราะถ้าเขาดีจริง เขาจะไม่อยู่สร้างภาระให้กับประเทศหรอกจ๊ะ” ผมตอบ
“เข้าใจแล้วค่ะ/ครับ” เด็กๆ ตอบรับ
เพราะฉะนั้น พ่อขอเตือนลูกๆ ว่า ขอให้ลูกๆ ตั้งใจทำสิ่งที่ดี “แต่ลูกอย่าได้เผลอคิดว่าตนเองเป็นคนดีหรืออยากเป็นคนดีเป็นอันขาด”
เพราะคุณประโยชน์อันแท้จริงอยู่ที่คำว่า “ความดี” ไม่ใช่ “คนดี”
ปล. โพสต์นี้เป็นโพสต์ที่สะท้อนความคิดของครอบครัวเราเท่านั้น ไม่กล่าวล่วงหรือพาดพิงผู้อื่นที่คิดว่าตนเป็น “คนดี” เพราะเขาอาจมีเหตุผลอื่นที่แตกต่างไปจากเรา
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"ถ้าอยากหาเงินนี่การคิด "ทำงาน" นี่ผิดเลย ไม่ตรงประเด็น อยากหาเงินก็ควร "ทำเงิน" ในความหมายที่ว่ามึงไม่ต้องสร้างสินค้าและบริการเหี้ยอะไรกับโลกก็ได้ แต่ไปยุ่งกับเงิน ย้ายไปมา มูลค่าเพิ่ม เงินแม่งเกิดแล้วโดยไม่มี "งาน" เหี้ยอะไรเกิดในเซนส์แบบ Real Sector
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมคนใน Financial Sector แม่งถึงรวยเอาๆ ทั้งๆ ที่แม่งก็ไม่ได้สร้างเหี้ยอะไรเลย
ประเด็นพวกนี้สำคัญ เพราะคนทั่วๆ ไปมันจะคิดถึงการ "ทำงานในแบบที่ตัวเองชอบ" ว่าเป็นอุดมคติการดำรงชีพ ทั้งที่จริงๆ ในบริบททุนนิยมโจทย์ที่ถูกกว่าคือการ "ทำเงินในแบบที่ตัวเองชอบ" มากกว่า ซึ่งติดยังไม่นับว่าคนคิดแบบแรกแม่ง End Up กับการทำงานที่ตัวเองไม่ชอบแล้วแม่งก็ยังไม่ค่อยได้เงินอีกมากมาย
ซึ่งคุณก็ต้องเข้าใจอีกว่าถ้าคุณไปอยู่ในส่วน "ทำเงิน" รายได้ทั้งหมดแม่งมาตรงนั้น ส่วนอื่นๆ ของระบบแม่งแค่รอเอาส่วนแบ่งเท่านั้น และด้วยหลักทั่วไป ฝ่ายเหี้ยอะไรใกล้เงินสุด แม่งก็จะได้เงินเยอะสุด"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
โพสนี้ถือว่า เป็นการ "เปิดใจ" กับแฟนเพจเลยละกัน
จริง ๆ อยากเขียนมานานแล้วล่ะครับ
แต่มันติดที่ผมกลัวว่า ฟีดแบคอาจไม่ดี
แต่คิดอีกที พูดเลยดีกว่า ผมเองก็ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว 555
เพราะคำถามที่โดนถามเยอะเหมือนกัน
ว่าตกลงผมทำเพจอะไรกันแน่วะ 555+ เป็นเพจแรครึเปล่า หรือเป็นวาไรตี้คนเล่นเกม
เพราะแรคเยอะเหลือเกิน แต่ละมุกก็ชยี้แล้วขยี้อีก เปิดมา 3 ปีก็ยังวาไรตี้อยู่แค่กับแรค ไม่เห็นไปไหนเลย
แล้วคำถามนี้ มันจี้ใจผมมากเลยนะ
“ใจคอพี่จะอยู่กับแรคไปตลอดชีวิตเลยเหรอ?”
คือถ้าเอาตามหลักการ....ในความเป็นเพจเกม เพจผมนี่คือผิดหลักมาก ๆ เลยนะ เพราะไม่ได้ครอบคลุมวงการเกมเลย โลกหมุนไปไหนต่อไหนแล้ว ที่ถูกต้องคือ เราควรจะตามยุคตลอด ไม่ใช่พูดแต่เกมเก่า ๆ จนลุคกลายเป็นตัวดักแก่แบบนี้
แต่ถ้าตอบจากใจจริง แบบไม่กลัวเสียลุค เป็นคำตอบที่ออกมาจากข้างในจริง ๆ แบบไม่โกหก
“คิดว่าใช่อ่ะ ผมก็ว่าจะอยู่กับแรคไปตลอดชีวิต”
จริง ๆ ผมก็เล่นเกมอื่นด้วยนะ แต่ความรู้สึกอยากพูดถึง อยากเอามาเล่น มันไม่ค่อยมี
แล้วก็ ผมไม่อยากโกหกตัวเองด้วยแหละ ว่าช่วงเวลาที่ได้เล่นแรคในยุคแรก ๆ มันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก ดีจนอยากจะเล่าซ้ำไปซ้ำมาเรื่อย ๆ
มันไม่ใช่การจมอยู่กับอดีตนะ แต่ผมรู้สึกว่ามันเป็นช่วงเวลาเล่นเกมที่ดีที่สุดของผมละ
แล้วผมว่ามันมีครั้งเดียวนะ และมันจะไม่มีอีกแล้วด้วย
มันเป็นความสุขที่ได้มาง่าย ๆ แค่เราได้คิดถึง ได้พูดถึงมันเท่านั้นเอง ผมถึงชอบอยู่กับมัน
จะบอกว่าเป็นนิสัยคนแก่แล้ว ก็คงใช่ 555+ ชอบย้อนอดีต
ผมไม่ได้จะบอกว่าปัจจุบันไม่ดีนะ แต่จริตผมอาจจะชอบฟีลลิ่งการเล่นเกมแบบเมื่อก่อน ที่ผมโตมากับมันมากกว่า
แบบที่ยังไม่มีโซเชียล ไม่มีสมาร์ทโฟน เวลาจะเล่นเกมทีก็ต้องไปต่อคิว จองเครื่อง สิงตามร้านเกม อะไรแบบนั้น
เพจนี้ เนื้อหา คอนเทนท์ เอาแต่ใจนะครับ สารภาพตรง ๆ
แอดมินชอบอะไร เพจก็ไปทางนั้นเลย
แต่แนวทางนึงที่ชัดเจน และผมซีเรียสมาก ๆ ก็คือ ผมจะไม่ทำเพจให้มีดราม่า ไม่ต้องการให้มีคนทะเลาะกัน
อยากให้มันเป็นพื้นที่ดี ๆ มาสนุกสนานเฮฮากันมากกว่า
เหมือนเพจนี้เป็นร้านเกมสมัยก่อนร้านนึง
คิดซะว่าเป็นร้านป้าก็ได้ แต่ผมเป็นลุงนะ
.
.
.
.
.
ก็แค่นี้แหละครับ ที่ผมอยากบอก และก็ต้องขออภัยด้วย ถ้าผมทำอะไรไม่ถูกใจใคร
ยังไงก็ขอบคุณแฟนเพจทุกคน ที่ติดตามมาถึงตอนนี้นะครับ
หากมีอะไรที่เห็นด้วย หรืออยากติชม ผมยินดีรับฟังครับผม
คอมเม้นท์ได้เลย
ขอบคุณครับ ^ ^
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
อย่าพลาด !!! ...
เป็น Documentary ที่ผมก็จะไม่ยอมพลาดเช่นกัน
ตลอดสิบกว่าปีที่เดินเข้าออกตลาดนี้มาหลายต่อหลายรอบ
รับรู้ถึงพลังของตลาด พลังของความตั้งใจ มุ่งมั่น
จนเคยฝันอยากจะทำตลาดเล็กๆในมาตรฐานนี้ที่เมืองไทย
เสียแต่ว่า สถานการณ์บ้านเมื่องไม่เคยเป็นใจเลยตลอดห้วงที่ผ่านมา
ประโยคที่ผมชอบ และเชื่อ และพูดในสิ่งเดียวกันกับคนทำงานมาตลอด
คือ ถ้าคุณยอม หยวน กับของที่ต่ำกว่ามาตรฐาน มาตรฐานก็จะไม่มี มันจะต่ำลงเรื่องๆ และยังเชื่อด้วยว่า มันสะท้อนแนวคิดในการดำรงชีวิตของคนๆนั้น ว่าเส้นมาตรฐานเค้าอยู่ตรงไหน ถ้าเป็นคนแบบที่เชื่อว่า "เอาน่า มันใช้ได้แล้ว มันคงดีที่สุดแล้วได้แค่นี้ มันก็ประมาณนึงแหละ" ทุกอย่างในชีวิตเค้า มันก็ .... "ประมาณนึง" นั่นแหละ .... หลายคนถามว่า "ถ้าวางมาตรฐานทุกอย่างไว้สูง แล้วมันไม่ได้ล่ะ ???" ผมกลับเชื่อว่า ถ้าคุณวางมาตรฐานไว้สูง แม้ว่าคุณอาจจะไม่ได้ทุกอย่างในชีวิต แต่ในชีวิตคุณจะไม่มีของห่วยๆ หรือคนห่วยๆเข้ามาวนเวียนให้เป็นปัญหา
ผมยังเชื่อว่า นี่คือทางรอดและทางออกของคนไทย
คือเราต้องเลิกความคิดแบบ ทำของให้ถูก แล้วขายเยอะๆ
เปลี่ยนมา ทำของให้ดีให้เลิศ แล้วขายในราคาที่คู่ควร
แล้วเราก็จะไม่ทำลายทรัพยากรมากเกินไป
เราจะไม่มีปัญหาที่จะให้แรงงานมีค่าแรงสูงๆ
เราจะมีทิศทางที่ถูกต้องสำหรับวันข้างหน้า
ไม่ใช่จ้องแต่จะแข่งกับประเทศที่เริ่มทีหลังและมีค่าแรงถูก
ที่สำคัญ เราจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
และมีสิ่งที่เราจะภูมิใจได้ โดยไม่ต้องมานั่งกอดแต่สิ่งที่บรรพบุรุษสร้างไว้
อย่าลืมไปดูครับ เชียร์ให้ไป แม้ว่าคุณจะไม่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับธุรกิจอาหาร
แต่พลังของมัน คอนเซ็ปท์ของมัน มองข้ามผลิตภัณฑ์
มันคือมาตรฐานของชนชาติและเผ่าพันธุ์
- มิตรสหายท่านหนึ่งกล่าวถึงสารคดี "Tsukiji Wonderland : อัศจรรย์ตลาดปลาสึคิจิ"
เห็นข่าว Samsung Note7 ระเบิดแล้วผมคิดว่า Michael Bay แกน่าจะสนใจเอาไปใช้ประกอบในหนังของแกนะครับ
#มิตรสหายหนังแนวระเบิดตูมตามท่านหนึ่ง
คนญี่ปุ่นพึ่งมาสูงใหญ่เจี้ยวโต หลังยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 โภชนาการมีผล
ดังนั้นถ้าอยากเจี๊ยวใหญ่ ให้กินครบ 5 หมู่ แดกแต่ของดีมีประโยชน์ และใช้กระบอกสุญญากาศ
เมื่อก่อนคนญี่ปุ่นมันกินพืชผัก มากกว่าโปรตีนว่ะ คือชัดเจนเลยว่าสัดส่วนกินพืชผัก:เนื้อ 7:3
ที่โตใหญ่กันเพราะความรู้เรื่องโภชนาการล้วนๆเฟ้ย
"แม่ชีเทเรซ่านี่อาจเรียกได้ว่าเป็น"คำสาปจากนรก" เพราะใช้ความเจ็บปวดทรมานของคนอื่นเรียกรับเงินบริจาคมากมายแต่ไม่ได้สร้างสถานพยาบาลให้เหมาะสมตามทุนที่ได้รับ ปล่อยให้คนเจ็บทุกข์ทนทรมานเพราะเชื่อว่าความเจ็บปวดเป็นสิ่งที่สวยงามและทำให้เราแข็งแกร่ง เหมือนกับที่พระเยซูถูกทรมาน
มีคนเขียนเรื่องแม่ชีเป็นภาษาไทยที่นี่
http://friday12thb.blogspot.com/2015/06/holier-than-thou.html
ส่วนภาษาอังกฤษหาในกุเกิ้ล มีเยอะแยะ"
"มหาลัยมอนเทรียลยืนยันมาแล้วว่าเทเรซ่า"เป็นอะไรก็ได้ ยกเว้นนักบุญ"
http://nouvelles.umontreal.ca/en/article/2013/03/01/mother-teresa-anything-but-a-saint/ "
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"นึกถึงมีม "มีแต่เด็กยุคเก้าศูนย์เท่านั้นที่จำได้" แล้วรู้สึกว่าสิ่งที่มันดีจริงของยุค 1990's ที่คนจำไม่ได้แม่งคืออัตราดอกเบี้ย นี่คือสิ่งที่พวก Millennial (พวกโตเป็นผู้ใหญ่ช่วงปี 2000) เกิดทันแน่ๆ แต่จำไม่ได้
Millennial เป็นคนยุคแรกๆ ที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีการสื่อสารเน้นๆ ก็จริง แต่ในทางการเงิน แม่งเป็นคนรุ่นที่ Fucked Up เหี้ยๆ คือคุณอยู่ในยุคที่พรมแดนการบริโภคแม่งเปิดมหาศาล แต่ศักยภาพในการหาเงินแม่งหดลง และความสามารถในการสะสมทุนแบบทวีคูณแม่งแทบจะถูก Deactivate โดยสิ้นเชิง"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
วิธีวัดประเทศเจริญแล้ว กับ ไม่เจริญ แบบหยาบๆ(ยกเว้นประเทศเอาศาสนาเป็นกฎหมาย)ให้ดูที่ ชนชั้น
ประเทศที่มีชนชั้นล่างเยอะ มักเป็นประเทศไม่เจริญสักทีเพราะ คนชั้นล่างเยอะยิ่งส่งเสริมชนชั้นบนให้สูงขึ้น เพราะงั้นบรรดาผู้มีอำนาจจึงชอบเยินยอเอาใจเหล่าชนชั้นล่าง แต่กดไว้แค่ตรงนั้น
ประเทศใดมีชนชั้นกลางเยอะ มักจะเป็นประเทศเจริญแล้ว เพราะจะมีกำลังการซื้อระดับบนและล่างกระจายมากที่สุด ทำให้เศรษฐกิจในประเทศเดินหน้าได้ แต่บางครั้งเหล่าผู้มีอำนาจอาจไม่ชอบเพราะกลัวเติบโตมาเป็นคู่แข่งเหมือนตนที่ไต่เต้าขึ้นมา
จึงมักคอยเป่าหูเอาชนชั้นล่างมาคอยฉุดชนชั้นกลางให้ทะเลาะกันกดไม่ให้โตทั้งคู่
#มิตรสหายโม่งขี้มโนแถวนี้
มิตรสหายทั้งหลาย หลังๆมาเริ่มการเมืองเยอะแล้วน่ะเพลาๆกันหน่อย
"ผมเห็นผู้หญิงคนนึงที่ ชอบพูดว่าตัวเองเป็นนักวิทยาศาสตร์บ่อยๆเพราะจบสายวิทย์ เเต่วันนึงพูดว่าตอนพ่อไม่สบาย จะสวดมนต์ตลอดเพราะบทสวดมนต์ช่วยรักษาคนให้หายได้ ผมนี่งงเลย สวดมนต์เกี่ยวอะไรกับหายจากอาการป่วย จะอ้างPlacebo Effectงั้นหรือไง ถ้าจะสวดเพื่อเป็นที่พึ่งก็ว่าไปอย่าง เเต่นี่พูดอย่างมั่นใจว่ามีประสิทธิภาพประหนึ่งยาก็เกินไป"
-มิตรสหอยท่านนึง
"ครอบครัวไม่ควรต้องแตกแยกกันเพราะเรื่องเงิน .... มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าเกินไป .... ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไร ครอบครัวควรเป็นผู้เยียวยา ไม่ใช่ทำให้เกิดปัญหาซะเอง มันน่าเจ็บปวด ... #อิน #มาก #จริงๆ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"คงมีข่าวเร็วๆนี้"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"แสบๆ มันๆ กับ “คัมปะนีแมน” (อีกครั้ง)
ขอเล่าเรื่องสนุกๆสมัยที่ผมต้องไปทำงานกับ “คัมปะนีแมน” หรือ “ผู้จัดการแท่นเจาะ” เมื่อ 30 ปีก่อนนะครับ ตอนนั้นเพิ่งเริ่มทำงาน ต้องไปฝึกและช่วยคัมปะนีแมนบนแท่น 2 อาทิตย์ สลับกับเข้าทำงานที่กรุงเทพ 2 อาทิตย์ ถ้าเจอคัมปะนีแมนที่เป็นวิศวกรก็สบายใจคุยกันรู้เรื่อง แต่ถ้าเป็นคัมปะนีแมนที่เติบโตมาจากสายช่าง ก็มีเรื่องแสบๆ เล็กน้อยที่ยังจำได้ถึงวันนี้ คือพวกฝรั่งที่เป็นช่างเขาชอบเข่นวิศวกรเด็กๆอยู่แล้วครับ
ครั้งแรกที่ผมเดินทางไปแท่นเจาะที่อ่าวไทย ต้องนั่งเฮลิคอปเตอร์ (ฮ.) ออกไปจากสนามบินกองทัพเรือที่สงขลา กำลังจะขึ้นเครื่องก็เจอคัมปะนีแมนที่เป็นช่าง ตัวใหญ่มากๆ สไตล์จิ๊กโก๋เต็มตัว ชื่อ เคน เซวินสกี้ (Ken Sevinski) เขาคงรู้ว่าเราเป็นวิศวกรป้ายแดง เลยเริ่ม 'รับน้อง' ผมทันทีด้วยน้ำเสียงจริงจัง ”ที่นั่งของยูน่ะ อยู่โน่น ในช่องเก็บสัมภาระ” ผมตกใจไม่ทันตั้งตัว แต่ก็ยิ้มไว้ก่อนตามนิสัยคนไทย (ที่ตัวเล็กกว่า) ขึ้นไปนั่งหลังเครื่องอย่างสงบเสงี่ยม โชคดีว่า ฮ. ไปส่งที่คนละแท่น และผมก็ไม่ต้องไปฝึกกับเขาเลยในช่วง 3-4 เดือนแรก
จนครั้งหนึ่งที่ผมต้องออกไปแท่นเจาะ คัมปะนีแมนที่ผมจะไปช่วยมีธุระต้องกลับไปบ้านที่อเมริกากะทันหัน ผู้จัดการฝ่ายเจาะจึงถามผมว่าไปคุมแท่นเจาะเองเลยได้ไหม ผมก็รับปากทันทีเพราะสมัยนั้นโอกาสที่คนไทยจะได้คุมการเจาะหลุมเองมีไม่บ่อยนัก จึงได้ออกไปเป็น 'คัมปะนีแมน' คุมแท่น เริ่มเจาะหลุม (รู้สึกจะชื่อ K-12) ตั้งแต่หลุมชั้นต้นจนเสร็จถึงหลุมชั้นกลางตามโปรแกรมอย่างเรียบร้อย กำลังจะเข้าสู่หลุมชั้นล่างก็ถึงกำหนดกลับ ผมกำลังสนุกเพราะงานราบรื่นมาก เลยขออยู่ต่อเพื่อช่วยเจาะหลุมนี้ให้เสร็จ ทีนี้การเจาะหลุมชั้นล่างนั้นอันตราย ผู้จัดการฝ่ายเจาะจึงส่งคัมปะนีแมนที่ประสบการณ์สูงมาคุม แต่ให้ผมอยู่ช่วยได้ ปรากฎว่าคนที่ส่งมาคือ เจ้าเคน คนที่กัดผมให้ไปนั่งในช่องเก็บสัมภาระนั่นเองครับ
เคนลงจาก ฮ. มาที่แท่น เจอผม ตอนแรกก็ทำหน้าไม่เชื่อว่าหลุมนี้ผมเจาะเอง ผมบอกว่ายินดีอยู่ช่วยต่อเพราะอยากจบหลุมนี้ เราทำงานด้วยกันได้ดีจนเจาะหลุมเสร็จ โดยผมรู้สึกได้ว่าเขายอมรับในฝีมือและความมุ่งมั่นของเรา ปรากฎว่าเป็นหลุมที่เจาะได้เร็วที่สุดในอ่าวไทยขณะนั้น บริษัทให้โล่รางวัลทั้งเคนและผม เลยทำให้เรากลายมาเป็นเพื่อนซี้กันตั้งแต่นั้นมา
ชีวิตต้องผ่านการทดสอบนะครับ ถ้าวันนั้นผมหงุดหงิด ขี้โมโห เอาแต่ใจ มีอีโก้เยอะเกินไป ไม่อยากร่วมงานกับเขา ความสำเร็จและการเรียนรู้ก็ไม่เกิด บางครั้งคนพวกนี้เขาก็ต้องการทดสอบจิตใจเราว่าเข้มแข็งแค่ไหน ซึ่งเมื่อเราได้พิสูจน์ให้เห็นว่ามีความมุ่งมั่นและเป็นมืออาชีพ เขาก็เปิดใจ ยอมรับ และกลายมาเป็นเพื่อนกันได้
หลายปีหลังจากนั้น ผมมาเป็นผู้บริหารที่ ปตท.สผ. ได้ไปเยี่ยมโครงการที่เราร่วมลงทุนในประเทศเมียนมาร์ เจอเคนเป็นคัมปะนีแมนเจาะหลุมให้เราที่นั่น ยังคุยกันสนุกสนานถึงเรื่องที่เขาไล่ผมไปนั่งที่ช่องเก็บสัมภาระของ ฮ. ซึ่งเขาก็ทำเป็นจำไม่ได้ครับ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"บางทีก็ไม่เข้าใจเวลาคนแขวะศาลไทยว่า "คุกมีไว้ขังคนจน" นี่มันคิดว่าคนรวยๆ ในประเทศเจริญแล้วนี่มันติดคุกกันเป็นปกติหรือไง"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"หากคุณกำลังมองหาอนุสรณ์ของเขา จงมองไปที่รอบตัวคุณ"
"ใครจะคัดค้านหรือสนับสนุนนายศรันย์ก็ทำไป แต่ขอร้องแค่อย่าเอารูปมาประกอบ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"สูตรทำ La Tortilla de Patatas (ไข่เจียวมันฝรั่งสเปน)
-ผัดมันฝรั่งหั่นเเว่นเเละหอมใหญ่ซอยในน้ำมันให้สุก เเล้วตักขึ้น
-ตีไข่เเละปรุงรส เทมันฝรั่งเเละหอมใหญ่ที่ผัดลงไปในไข่ เเล้วเอาลงทอดในน้ำมัน
-กลับข้างให้เป็นสีน้ำตาลทองทั้งสองด้าน ระวังอย่าให้ไหม้ เเละด้านในควรจะเป็นครีมนุ่มๆ"
-มิตรสหายเชฟท่านนึง
อย่ามาอวดฉลาด ตอนนี้มึงต้องอยู่ด้วยความรู้สึก ไม่ใช่สมอง
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
วันนี้ไปสังเกตการณ์งานแห่วัดแขกสีลม หรือวิชัยทศมี วันสิ้นสุดเทศกาลนวราตรี ซึ่งไปมาหลายปีแล้วมีข้อสังเกตประมาณนี้
.
คนเยอะมาก น่าจะถึงหลักหมื่นคน ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว เพศที่สามเยอะมากถึงมากที่สุด การแต่งกายโดยมาก ใส่ขาว แดง นิยมเสื้อยืดแบบเป็นทีม มีหลายทีมมาก แทบจะเต็มบีทีเอส ผสมกับผ้าแบบอินเดีย แต่งแบบอินเดียก็มี ทั้งสาหรีและชุดแบบอื่นๆ แต่คนอินเดียมีน้อยมากและมักไม่ค่อยเป็นเจ้าของซุ้มต่างๆ แต่เป็นคนเดินซะมากกว่า แต่งกายจากที่ทำงานก็มี แต่งวับแวมโดยเฉพาะสาวๆทั้งจริงทั้งแปลงก็มีมาก คนสวยๆนมโตๆเยอะมาก
.
รูปแบบงานของวัดคงเดิม แต่ซุ้มดูเหมือนมีมากขึ้น ที่ต่างจากที่เคยเห็นคือ บางซุ้มเป็นเวทีคอนเสิร์ตไปด้วย เหมือนได้ยินว่ามีจากค่ายอาร์สยาม และที่เปลี่ยนไปคือหลายซุ้มเล่นเพลงที่ไม่เป็นอินเดียและเกี่ยวกับเทพ คือเพลงสมัยนิยม และแดนซ์กันในงานเลย
.
ซุ้มที่มาจัด เข้าใจว่า มีสามสี่ลักษณะ มากที่สุดคือตำหนักทรงต่างๆ หลังขบวนผ่านไป เจ้าของตำหนักจะแสดงปาฏิหาริย์ เรียกแขก หาลูกค้า และประชาสัมพันธ์ตำหนักตัวเอง ในขณะเดียวกันคนไปงานเองก็เหมือนได้ไป "ชอปปิ้ง"ดูงานออกร้านของซุ้มต่างๆ ชอบอันไหนก็เข้าไป ทำพิธีนั่นนี่และติดต่อกันต่อไปอีก
.
นอกนั้นก็มีซุ้มของห้างร้านซึ่งมักอยู่ในแถวนั้น กับซุ้มของกลุ่มมิตรสหายที่รวมตัวกัน โดยมากเป็นผู้ศรัทธา
.
ซุ้มมักแข่งความอลังการใหญ่โต และขนเทวรูปของตนออกมา ค่าตกแต่งบางซุ้มน่าจะหลักแสน รวมทั้งเครื่องเสียงและวงดนตรี ที่จริงขบวนแห่ของวัดก็มีทั้งแตรวง กลองยาว ดุริยางค์ และนาทสวรัมแบบอินเดีย ผสมผสานไปหมด ผมเข้าใจว่านี่เป็นงานทางศาสนาที่ "เสียงดัง" ที่สุดในกทม ในพื้นที่สาธารณะ
.
โดยไม่ได้เข้าไปสัมภาษณ์ ผมเข้าใจว่าคนมางานมาจากภูมิหลังและความรู้ทางศาสนาที่แตกต่างกันมากพอสมควร แต่อาศัยการเรียนรู้เชิงรูปแบบ จึงทำออกมาคล้ายๆกัน และเข้ามางานด้วยวัตถุประสงค์ต่างกัน
.
เหตุใดคนจึงมาเยอะขึ้นเรื่อยๆและมีเพศที่สามมาก ผมคิดว่าด้วยเหตุผลอย่างแรกคือ งานเทศกาลของฮินดูนั้นมีสีสันดึงดูด และเต็มไปด้วยชีวิตชีวาผิดกับงานทางศาสนาอื่นๆ แต่นอกนั้นผมว่า เพราะงานวัดแขก มี "พื้นที่" ทางศาสนามากพอสำหรับผู้หญิงและเพศที่สาม ที่จะแสดงบทบาทและความสำคัญของตนโดยไม่ต้องปกปิดอัตลักษณ์ทางเพศ เพราะอัตลักษณ์ทางเพศกลับไม่เป็นอุปสรรคต่อประสบการณ์ทางศาสนาของตน และเป็นพื้นที่ที่มากพอโดยไม่มีคนอื่นหรืออำนาจเข้าไปยุ่ง(วัดไม่ได้ห้ามเข้าทรงหรือ ทำพิธีภายในซุ้มของแต่ละกลุ่ม)หรือกะเกณฑ์ว่าจะต้องทำอย่างไร
.
อีกทั้ง เทศกาลนี้เป็นเทศกาลที่มีลักษณะ "โลกิยะ" หมายความว่า ไม่จำเป็นต้องมีลักษณะศักดิ์สิทธิ์และสูงส่งทางศาสนาเพียงอย่างเดียว หรือโลกุตตระ แต่เกี่ยวพันกับการเฉลิมฉลอง(เต้นและเพลงบันเทิง) ความสุขทางโลก(คุณจะขอพรอะไรก็ได้) และไม่กีดกันคนออกไปโดยมิติทางศีลธรรม (เพศไหน คนทำงานกลางคืนแบบไหน คนอาชีพไหนก็เข้ามาร่วมได้หมด) ซึ่งสิ่งนี้เป็นมิติที่พิธีกรรมของพุทธสมัยใหม่ขาดหายไป(แต่เดิมภารกิจทางโลกเป็นของศาสนาผี)
.
อีกปัจจัยคือ ความไม่มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสังคมการเมือง ซึ่งทำให้คนแสวงหาที่พึ่งมากขึ้น และเป็นที่พึ่งซึ่งดูฟังชั่นมากกว่าของเดิม คืออำนวยผลในทางโลกอย่างเร็ว
.
อีกทั้งงานนี้ มีลักษณะของการ"โชว์" ความสามารถและสมบัติส่วนตนในที่สาธารณะ ขณะเดียวกันก็เกิดโอกาสที่จะรวมกลุ่มทำกิจกรรมร่วมกันในเครือข่ายของตน และยังมีโอกาสสร้างเครือข่ายทางความเชื่อกับเครือข่ายอื่นๆ
.
งานวัดแขกสีลมจึงเป็นงานทางศาสนาในพื้นที่สาธารณะงานเดียวในสังคมไทยที่เป็นการรวมตัวจากเอกชนมากที่สุด โดยมิได้เกิดจากองค์กรหรือหน่วยงานเดียว
.
ในทางหนึ่ง สิ่งที่น่าสนใจคือระบบเศรษฐกิจซึ่งยังไม่มีผู้ศึกษาว่า วัดแขกเองใช้งบประมาณ + อาสาสมัคร มากแค่ไหนในการจัดการงานมโหฬารนี้ และมีเม็ดเงินทั้งยอดบริจาคและเงินที่สะพัดในงานนี้มากเท่าใด
.
ในมุมทางศาสนา น่าสนใจว่า ความเข้าใจเกี่ยวกับศาสนาฮินดูและการระบุอัตลักษณ์ตนเองของผู้ร่วมงานในทางศาสนาเป็นเช่นไรมีมากน้อยแค่ไหน อีกทั้งปรากฏการณ์อื่นๆ เช่นความขัดแย้งระหว่างซุ้ม การทะเลาะวิวาท ขยะและการจัดการ มิติด้านวัตถุนิยมทางศาสนาอันมหาศาล การตลาดความเชื่อ และภาพรวมของความเชื่อในสังคมไทยผ่านการเข้าใจงานนี้เป็นอย่างไร คงต้องทำงานกันต่ออีก
.
น่าสนใจมากๆครับ น่าไปดูกัน ไว้ปีหน้าผมจะลองชวนกันไปดูอีกสักครั้ง
.
ปอลิง. ผมเขียนบทความเรื่องงานวัดแขกในมติชนสุดสัปดาห์ศุกร์นี้ครับ โปรดติดตามในคอลัมน์ ผีพราหมณ์พุทธครับ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
คำว่าล่าแม่มดดู aggressive อะ ขอให้ใช้คำว่า กฎบัตรขจัดสาวน้อยเวทมนตร์
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"การตามฆ่า นายศรัณย์ ฉุยฉาย นี่ไม่สามารถเรียกว่า "การล่าแม่มด" ได้นะครับ ต้องเรียกว่า "การล่าพ่อมดสาว""
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ขาดแคลนกว่าเสื้อดำตอนนี้ ก็สติคนไทยนี่แหละครับ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
บ้านเมืองตอนนี้ สาวน้อยเวทย์มนต์ชุดดำไล่ล่าสาวน้อยเวทย์มนต์ชุดปกติฟรุ้งฟริ้ง ....... เหี้ยเดจาวูนิยาย
#กูเอง
"สดๆ ร้อนๆ จนต้องจอดรถโพสต์ มอเตอร์ไซค์ติดไฟแดงตรงราชดำเนิน คันข้างน่าจะเป็นแมสเซนเจอร์ใส่แจ็กเกตเขียวสะท้อนแสงสกรีนตราบริษัท สักพักรถกระบะเปิดกระจกลงมา
"ทำไมมึงใส่เสื้อแบบนี้ไม่ให้เกียรติท่านรึ" เสียงตะโกนจากกระบะ ผมหันไปที่พี่คันข้างๆ เขาทำหน้างง "ยังอีกๆ" รถกระบะพูดต่อ พี่เขารู้ตัวหันไป รูดซิปเปิดเสื้อโปโลข้างในสีดำให้เห็น คือถ้าใครรู้จักแมสเซนเจอร์จะรู้ว่าเขาเอาซองเอกสารใส่ในแจ็กเกต
รถกระบะพยักหน้าอืมๆ แล้วปิดกระจกไป โดยไม่ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำไปสักครู่...."
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ยิ่งเห็นใส่สีแดงนะเมิงเอ้ยย อัตราความคลั่งยิ่งทวีเพิ่มเข้าไปอีก ทิ้งสมองไว้แล้วไล่ขวิดอย่างเดียวเลย
นี่มัน Civil War
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
เจอจะๆเลยครับเมื่อเช้า แม่งตะโกนด่ากันข้ามถนนเลย ไอพวกเนรคุณไม่รักพ่อ ใส่สีส้มกันมาเชียวนะพวกมึง ซักพักอีกฟากตะโกนกลับมา ใจเย็นๆโยม จีวรดำมันหายาก
ทำไมมันตรงกันข้ามกับที่กูเจอวะ กูใส่เสื้อสีดำแม่งกระซิบไล่หลังกู "วันที่3แล้วยังใส่อยู่อีก น่าจะเป็นพวกคลั่ง" ปล.กูอยู่เชียงใหม่
คิดอีกทีเปลี่ยนใจไม่กล่าวดีกว่า
"มองซิเออร์ฉุยฉายนี่ถ้าจะด่าพ่อล่อแม่ ขู่ฆ่า ขู่เอาชีวิต ขู่ว่าจะทำร้ายพ่อแม่ญาติพี่น้องนี่เฉยๆ อะครับ แต่ถ้าเรียกมองซิเออร์ฉุยฉายว่านายศรันย์เมื่อไหร่ จะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที"
มิตรฯ
"สภาวะที่หลายคนแสดงออกด้วยอารมณ์รุนแรงในยามนี้คือผลลัพท์ของฝ่ายขวา-อนุรักษ์นิยมไทยกระทำมาหลายสิบปีติดๆกัน คือ การส่งเสริมลัทธิตัวบุคคลชนิดสุดขั้วนั่นเอง
เมื่อการทำ institutionalization เท่ากับ personalization มาโดยตลอด สิ่งที่ได้รับในบั้นปลายคือ "ความไม่มั่นคง, ความหวาดกลัวต่ออนาคต, ความรู้สึกเหมือนโลกล่มสลายลงไปต่อหน้า" เมื่อตัวบุคคลไม่อยู่...
และท้ายสุดมันแสดงออกด้วยความโกรธเกรี้ยวชิงชังคนไปทั้งโลก ฟาดงวงฟาดงาไปหมด เพราะรู้สึกว่าตนสูญเสียสิ่งที่รักที่สุดไปและต้องมีใครซักคนรับผิดชอบมัน"
มิตรสหายเตะเมียท่านหนึ่ง
"การเตะเมียคือผลลัพธ์ของอะไรครับ"
"การเตะเมียเป็นการแสดงเสรีภาพเชิงสัญลักษณ์ไหมครับ"
"แล้วสภาวะนี้จะลงท้ายด้วยการเตะเมียไหมครับ"
#มิตรสหายอีกหลายๆท่านหนึ่ง
ผมไม่เล็กนะครับ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"เมื่อไหร่เราจะพอกันสักทีกับปริญญาโท แผน ข ที่แจกน้ำเปล่าวันละขวดที่มาเรียน แถมเลือกโปรแกรมได้ด้วยว่าจะไปดูงานที่ไหน ดูในไทยรวมทั้งหมด 140,000 ไปญี่ปุ่น 170,000 ไปอังกฤษ 200,000 ไม่ต้องทำวิทยานิพนธ์ รับรุ่นละ 100 คนขึ้นไป จบกันสลอนเต็มบ้านเต็มเมืองแบบนี้"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
พ่อกุชื่ออานั.............ลาเล่
มีพาดหัวข่าวนึงว่าจะพังตึกที่ฮิตเลอร์เคยเกิดเพราะกลัวเป็นแหล่งมั่วสุมของนาซี
Alternative ideas rather than pulling down a perfectly good structure: A home for refugees, a shelter for battered women, a Jewish culture museum, a gay night club.
แทนที่จะมีแนวคิดไปพังตึกโครงสร้างดีๆแบบนี้ลง ทำเป็นบ้านแก่ผู้ลี้ภัย ทำที่หลบภัยให้ผู้หญิงที่ถูกกระทำชำเรา พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมของชาวยิว ผับเกย์ใจกลางเมือง...
#มิตรสหายฝรั่งท่านนึง
i don't good english, i don't know what you mean, oh shit why you use this language, why you don't use thai i can't understand this post, i born in thai my country not use this language, okay i will try and i hope you use thai language in next post, thank you.
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
คนที่รักชอบญี่ปุ่นมีอยู่มาก แต่เชื่อเถอะ คนไทยที่อยู่ในญี่ปุ่นนานหน่อยจะเริ่มมองเห็นอุปนิสัยบางอย่างของคนญี่ปุ่นที่ทำให้รักชอบน้อยลงจากเดิม
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"Google สามารถ บอกสีที่เหมาะกับตัวคุณได้!
#เป็นเรื่องที่อัศจรรย์มากๆ
ง่ายๆ เพียงแค่คุณ พิมพ์ %23DDMMYY ต่อท้าย URL การค้นหาของ Google
โดย
DD คือ วันเกิดของคุณ เช่น เกิด วันที่ 1 ให้ใส่ 01
MM คือ เดือนที่คุณเกิด เช่น เมษายน ให้ใส่ 04
YY คือ ปีที่คุณเกิด โดยใช้ปี คริสตศักราช เช่น 1999 ให้ใส่ 99
ตัวอย่างของคนที่เกิด วันที่ 1 เมษายน 1999 ให้ใส่ %23010499
โดยตัว %23 นี้เป็นโค้ดลับ ที่ส่งเข้าไปยัง DeepMind ซึ่ง Google ไม่ได้บอกให้คนทั่วๆไปรู้ จะรู้กันแค่วงจำกัดเท่านั้น
พิมพ์ 99 สาธุ แล้วแชร์ต่อจะโชคดี
https://www.google.co.th/#q=#010499 "
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"กูไม่ค่อยขำว่ะ ธงชันวินิจเคยพูดจนกูจำได้ว่า สิ่งหนึ่งที่ทำให้ระบบนิติรัฐของไทยไม่ไปถึงไหน เพราะการทำให้เรื่องที่ไม่ถูกต้อง กลบเกลื่อนด้วยการหยวนๆ เลิกแล้วต่อกัน เกี๊ยเซี๊ยะ อ้างเรื่องความเห็นใจ หรือทำให้เป็นเรื่องตลก พวกนี้นำไปสู่วัฒนธรรม impunity หรือทำอะไรตามใจแต่สุดท้ายไม่มีต้องรับโทษ อย่างหลายๆ เรื่องที่เราเห็นทุกวันนี้นั่นแล
มันสะท้อนเรื่องวุฒิภาวะของคนในสังคมเหมือนกัน ที่ทำงานกูก็มี ทำผิดวินัย ผิดจรรยาบรรณ แต่กลบให้เป็นเรื่องตลกปัญญาอ่อนไปเสีย ถ้ากูค้านขึ้นมาว่าต้องมีการรับผิดชอบเกิดขึ้น กูคงเป็นแกะดำไม่ต่างจากไอ้บอสฮอร์โมนส์"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
แผนเสี้ยมเรื่องเสื้อดำไว้อาลัยมันก็เป็นสิ่งแน่ชัดว่าต้องมีใครที่หวังร้ายต่อบ้านเมืองคอยหนุนหลังเพื่อทำให้ประเทศไทยกลับไปเป็นแบบตอน6ตุลาอีกครั้งแล้วพอเกิดเรื่องก็ใส่ร้ายรัฐบาลปัจจุบันว่าคนที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายเป็นรัฐบาลนี้ทั้งที่พวกห่านั่นมันเสี้ยมแต่ต้น
"เราทำดีเป็นครั้งคราว เราเลยเหวี่ยง ... ถ้าเรารู้จักการทำดีเล็ก ๆ น้อย ๆ มาเรื่อย ๆ นานนับปีก็จะรู้จักการพิจารณาตัวเอง ไม่พิจารณาคนอื่น, รู้จักการชื่นชมสิ่งที่คนอื่นทำมากกว่ายกยอการกระทำเล็ก ๆ ของเราเอง และถ้าทำมานานพอเราจะมีภูมิต้านทานในการทำสิ่งดีที่สังคมส่วนใหญ่นั้นไม่เคยมองเห็น ... คนที่ทำดีมานานจะไม่กระเหี้ยนกระหือรือในการแสดงออกว่าฉันทำดี"
มิตรสหายท่านหนึ่ง
“เด็กชายคนนั้นดูหงอยเหงา ในมือของเขามีทินเดอร์
เด็กหญิงคนนั้นดูซึมเซา ทั้งเธอและเขามีทินเดอร์“
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
เด็กชายคนนั้นดูหงอยเหงาในมือของเขามีcolt11mm
fw ปรับตัวริมแม่น้ำ กับ ซื้อกาแฟเข่าทรุด นี่จริงเรื่องแต่งวะ กุเห็นระบาดตอนม๊อบปี49 ตอนนี้มาอีกละ เสริมด้วยหมาเลียหน้า
ไม่รู้สึกอะไรกับชื่อเสียง นาทีนี้ต้องการเพียงคนรักกับการพักผ่อนเท่านั้น
... เงินด้วย
...
... #ซึ่งไม่มีเลยสักอย่าง #หลบเข้ามุมมืดเอาสปอตไลท์ส่องร้องไห้กระซิกๆ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
สิ่งที่ทำให้ผมเกร็งได้คือดาราเอวีครับ ส่วนที่ทำให้ผมเครียดคือ ดาราไม่ตรงกับปกครับ กว่าจะหามาได้แต่ละบาทแต่ละสตางค์ เหนื่อยสายตัวแทบขาด... หลายครั้งที่ผมจำเป็นต้องกล้ำกลืนฝืนทนเล่นว่าวเคล้าน้ำตาไปพร้อมๆกัน พูดแล้วมันเศร้าน่ะ....เห้อ! น่ามสานผมนะครับอาจารย์
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
หากคอมพิวเตอร์คุณติดไวรัสมันจะช้า เมื่อเอาไวรัสออกไปคอมคุณจะเร็วขึ้น ชีวิตก็เช่นกัน เมื่อเอาสิ่งไม่ดีออกไป ชีวิตจะไปได้ไกลและเร็วกว่าเดิม
#มิตrสะหายท่านหนึ่ง
ห้ามถาม(โว้ย)
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
กุนึกว่าไอ้ระบอบรถถังยึดอำนาจเสียอีก ฉีกกฏหมายสูงสุดง่ายๆ ตั้งคนฝ่ายตัวเองมาตัดสินฝ่ายตรงข้ามโดยมีชี้ธงชี้นำไว้ก่อนแล้วค่อยบิดข้อกฏหมาย พอฝั่งตัวเองโดนจับได้ว่าทุจริตชัดๆก็เงียบกริบ
สำหรับคนที่ไม่รู้
Propaganda =โพธิ์พระกานดา
โพธิ์ , ร่มโพธิ์ปกป้องผสกนิกร
พระ , นักบวช
กานดา , คนที่เป็นที่รัก
โพธิ์พระกานดา = ผู้ที่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร แก่นักบวช และเป็นที่รักของผสกนิกรทั่วไป
>>201 มันก็ต้องมีการปฏิวัติอยู่แล้ว ไม่ใช่ทุกประเทศนะที่ผู้ปกครองจะบอกว่า อ่ะ กูเห็นว่ากูมันไม่ดีพอ ขอยกอำนาจให้พวกมึงแล้วกัน แหม่
สนับสนุนการยึดอำนาจเพื่อเปลี่ยนประเทศให้เข้าใกล้ความเป็น ปชต. มากขึ้นโว้ย ไอ้ที่ยึดกันแล้วเตี้ยลงสาละวันเตี้ยลงมีแต่พวกประสาทแดกเท่านั้นล่ะที่จะเห็นดีเห็นงามด้วย
>>205 กูเห็นด้วยนะว่าไทยแม่งยังไม่เหมาะกับ ปชต. ในสมัยนั้น พอได้มาแบบเบี้ยวๆเลยเน่ามาจนถึงทุกวันนี้ น่าจะใช้ระบอบเดิมให้คนโซ๊ยคนเดียวเหมือนเดิม มันจะได้ไม่ต้องมีการมาแย่งอำนาจด้วยการฆ่าประชาชนกัน ระบอบเดิมถ้าจะแย่งมันก็ฆ่ากันเองอยู่แต่พวกข้างบนนั่นแหละ เต็มที่เอาเอาทหารแต่ละฝ่ายมาฆ่ากันเอง
"กำลังงงว่า เวลาเสนอเรื่องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเพื่อชีวิตแรงงานได้ดีขึ้น ไอ้น้ำใจแบบที่ท่วมถมสังคมอยู่ตอนนี้มันหายไปไหนหมด"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"ถ้าคุณยื่นโอกาสยกระดับคุณภาพชีวิตให้คนจน คุณจะมีรากหญ้าให้เวทนาเมตตาแสดงน้ำใจได้เพียงชั่วคราว
แต่ถ้าคุณขัดขวางเปิดทางระบายน้ำท่วมจากนาข้าว จำนำข้าว ค่าแรงขั้นต่ำ สวัสดิการรักษาพยาบาล [เซ็นเซอร์] คุณจะมีรากหญ้าให้เวทนาเมตตาแสดงน้ำใจอย่างยั่งยืน"
#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง
>>205 ประโยคที่ว่าไทยเป็นประชาธิปไตยเร็วเกินไป มันเป็นวาทกรรมที่เอาไว้หลอกคน
กูแนะนำสำหรับคนที่สนใจประวัติศาสตร์การเมืองไทย ไปอ่านบทความเรื่อง จดหมาย ร.7 ของสมศักดิ์เจียม
กับหนังสือ "ขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ ขบวนการปฎิปักษ์ปฎิวัติสยาม" ของ สนพ.ฟ้าเดียวกัน
สรุปสั้นๆว่า ตอน 2475 ฝ่ายเจ้าไม่พอใจคณะราษฎรมากๆ และหาทางยึดอำนาจกลับไปที่ฝ่ายเจ้า
ร.7 พูดกับทูตญี่ปุ่นว่า ถ้าถามว่าคนไทยพร้อมกับประชาธิปไตยหรือยัง ในความเห็นข้าพเจ้าๆก็ตอบว่าไม่
ส่วนรัฐธรรมนูญที่เอามาโฆษณาว่า ร.7 เตรียมจะให้คนไทย มีนักวิชาการเจอเอกสารต้นฉบับแบบ
พอเอามาอ่านแต่ล่ะมาตราแม่งไม่ใช่ประชาธิปไตยเลยว่ะ คือเป็น รธน.ที่ให้อำนาจกษัตริย์มากจนเรียกว่าเป็นระบอบสมบูรฯที่มี รธน.เป็นเอกสารรองรับ
จดหมาย ร.7 ที่เอามาโฆษณาว่าร.7 รักประชาธิปไตยนั้นก็ตัดทอนมาเฉพาะส่วนที่ฟังดูดี แต่ถ้าอ่านเอกสารแวดล้อมตอนนั้น
ร.7 ต่อรองกับคณะราษฎรหลายอย่าง ทั้งประเด็นสำนักงานทรัพย์สนส่วนพระมหากษัตริย์ การอภัยโทษในประมวลกฎหมายวิ.อาญา บลาๆๆๆ
แต่การต่อรองไม่เป็นผลจน ร.7 ขู่สละราชฯ คณะราษฎรก็ไม่ยอมอ่อนให้จน ร.7 ต้องสละราช จริงๆ
Irony สัสๆเลยครับ กฏหมายหมิ่นเจ้าเบาในยุคสมบูรณ์ฯ แต่ดันหนักสุดในยุคปชต.
"การล้างสมองนั้นจะเกิดขึ้นได้ อย่างแรกต้องมีสมองให้ล้างก่อนครับ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
เมืองไทยแดดเร่าร้อน สุดสุด
อุณหภูมิก็ไม่หยุด พุ่งปี๊ด
กลางวันนี่ แทบผุด ลงดิน
แดดที่ส่อง แสบซี๊ด วิ่งกรี๊ด ลงคลอง
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"กูงงสัส ทำไมพวกศาสนาสายพระเจ้านี่มันใจดีกับสัตว์จัง แต่มนุษย์นี่ฆ่าทิ้งทั้งโลก อิสลามมีฮาลาล ให้ฆ่าสัตว์โดยปราณี แต่มนุษย์ด้วยกันให้ปาหินตายอย่างทรมาน คือเหี้ยอัลไล?"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
คึกฤทธิ์ ปราโมช : "คนอ่านส่วนมากก็เป็นคนระดับแม่พลอยเท่านั้น (หัวเราะ) โง่ยิ้มเลยจะบอกให้ สี่แผ่นดิน ถึงได้ดัง (หัวเราะ)"
"แม่พลอยเป็นคนที่ไม่มีสิทธิของผู้หญิงเลย ไม่เคยเรียกไม่เคยร้อง แล้วแม่พลอยนี่เป็นคนเชยที่สุด คุณจะว่านางเอกก็นางเอก แต่เป็น
คนที่เชยที่สุด แม่พลอยถ้าแกอยู่มาจนถึงทุกวันนี้แกก็ลูกเสือชาวบ้าน แกจะไปรำละครบ้าๆ บอๆ ถึงขนาดนั้น
พลอยเป็นคนเชยมากนะครับ เป็นคนที่อยู่ในกรอบ ใจดี ถูกจับคลุมถุงชนแต่งงานก็รักคุณเปรมได้ ตามคติโบราณนั้นไม่เป็นไรหรอก
แต่งไปก่อนแล้วรักกันเองทีหลัง แม่พลอยก็เป็นอย่างนั้นทุกอย่าง ทีนี้คนอ่านคนไทยปลื้มอกปลื้มใจเห็นแม่พลอยเป็นคนประเสริฐ
- เลิศลอย ก็เพราะคนไทยก็เป็นคนแบบนั้น ยังไม่ได้ไปถึงไหนเลย คนอ่านส่วนมากก็เป็นคนระดับแม่พลอยเท่านั้น (หัวเราะ)
โง่ยิ้มเลยจะบอกให้ สี่แผ่นดิน ถึงได้ดัง (หัวเราะ)"
[โดยดู บทสัมภาษณ์ "คึกฤทธิ์คิดลึก ทศกัณฐ์วรรณกรรม" ใน ถนนหนังสือ ๓, ๑ กรกฎาคม ๒๕๒๘, หน้า ๑๙.]
"คนไทยนั้นหลอกง่าย เขียนหนังสือหลอกง่าย อยากมีชื่อมีเสียงง่ายที่สุด คนไทยนี่ ขอให้ไทยดี ไทยเก่ง รักชาติไทย พอแล้ว
อะไรๆ เป็นชาติไทยหมด ชกมวยก็เป็นชาติไทย"
[โดยดู บทสัมภาษณ์ "คึกฤทธิ์คิดลึก ทศกัณฐ์วรรณกรรม" ใน ถนนหนังสือ ๓, ๑ กรกฎาคม ๒๕๒๘, หน้า ๑๘.]
________________________
แหล่งที่มา : สายชล สัตยานุรักษ์. "คึกฤทธิ์กับประดิษฐกรรม "ความเป็นไทย" เล่ม ๑". กรุงเทพ : มติชน, ๒๕๕๐. หน้า ๑๙๘ - ๑๙๙.
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
>>223 "คนไทยนั้นหลอกง่าย เขียนหนังสือหลอกง่าย อยากมีชื่อมีเสียงง่ายที่สุด คนไทยนี่ ขอให้ไทยดี ไทยเก่ง รักชาติไทย พอแล้ว
อะไรๆ เป็นชาติไทยหมด ชกมวยก็เป็นชาติไทย"
555555555555555555555555555555555555555555555555
ปล. หนังสือคึกฤทธิ์ลอกฝรั่งมากี่เรื่องวะ กูชอบอ่านเเค่ตอนเเกเขียนเรื่องหมากับเรื่องอาหาร
“ถ้าผมอายุสัก 20 และอยู่ในวงทุกวันนี้ แล้วมีไอ้บ้าที่ไหนบังอาจควักไอโฟนมายื่นใส่หน้าผม ผมก็จะคว้ามันมายัดรูตูดไอ้เวรนั่น-หรือไม่ก็รูตูดผมเอง-เป็นการตอบแทน ผมไม่เข้าใจว่าวงหนุ่มๆ สาวๆ จะมัวทำตัวเป็นผู้ใหญ่อะไรกันนักหนา โอเคถ้าโตจนมีลูกมีเต้าแล้ว ก็สมควรอยู่ที่จะต้องตั้งสติ แต่รู้รึเปล่าว่าตัวผมทุกวันนี้ยังป่วนในบ้านตัวเองมากยิ่งกว่าที่พวกมันทำตลอดทั้งทัวร์ซะด้วยซ้ำ”
#มิตรสหายร็อคสตาร์ท่านหนึ่ง
"นักร้องก๊อปเพลงเมืองนอกมากี่เพลงๆ มึงจับได้หมด
หนังพล็อตซ้ำๆ มึงรังเกียจด่าว่าเป็นหนังน้ำเน่า
การเมือง แม่งไม่เคยเปลี่ยนมุก มึงทำเหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้น อัลไซเมอร์แดกกันซะอย่างนั้น"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"ก่อนจะด่าคณะราษฎร์ก็ศึกษาให้ดีก่อนเถอะเพราะคณะราษฎร์ก็มีหลายชนิด คณะราษฎร์น้ำมันหอย หรือคณะราษฎร์ข้าวหมูกรอบ"
มิตรสหายท่านหนึ่ง
คณะราดหน้า มีเกลื่อนเลยเมิง เป็น เอมไพร์ ด้วยนา
ถึงว่าชอบเละเป็นข้าวต้ม แดกด้วยกันแล้วอร่อยดี
จากเครียดๆมา อร่อยเลย
"ไม่ท้าทายสมอง"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ทุกวันนี้เขาไม่รบกันด้วยอาวุธแล้วครับ เขารบกันด้วยเศรษฐกิจ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
...ฟ้าเดียวกัน
"เด็กรามฯ: พรุ่งนี้เราไปสนามหลวง แวะไปทุบรูปปั้นปรีดีกันโว้ยยย
เด็ก มธ.: หรอๆ กี่โมงอะไปด้วยดิ จัดๆ
เด็กรามฯ: ..........."
มิตรสหายท่านหนึ่ง
อารมณ์เดียวกันกะพวกโปรฯ"ฝั่งนั้น"มันขัดขากันเองอ่ะ ความน่าเชื่อถือมันไม่มี
"เนื่องด้วยปรากฏว่า รัฐบาลอันมีจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ได้บริหารราชการแผ่นดินไม่เป็นที่ไว้วางใจของประชาชน ทั้งไม่สามารถรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองได้ คณะทหารซึ่งมีจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นหัวหน้า ได้เข้ายึดอำนาจการปกครองไว้ได้ และทำหน้าที่เป็นผู้รักษาพระนครฝ่ายทหาร ข้าพเจ้าจึงขอแต่งตั้งจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นผู้รักษาพระนครฝ่ายทหาร ขอให้ประชาชนทั้งหลายจงอยู่ในความสงบ และให้ข้าราชการทุกฝ่ายฟังคำสั่งจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"อยากไปทุบรูปปั้นปรีดีทิ้งเพราะมันเกลียดตุ๊ดอะค่ะ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"ad hominem (โจมตีตัวบุคคล) = คำเรียกตรรกะวิบัติชนิดที่มุ่งโจมตีตัวบุคคล แทนที่จะพิจารณาเนื้อหาข้อถกเถียงของเขา"
"คันหี"
เขียนงานวิชาการมันจะกล้าพลาดได้เหรอวะ วงการนี้แม่งโหดชิบหาย พลาดแค่บางคำ พลาดนิดพลาดหน่อยก็โดนนักวิชาการคนอื่นสับตายห่าแล้ว ยกเว้นเขียนบอร์ดหรือเขียนเฟสบุ๊คที่เงิบก็พอยอมรับได้
" ยุ่นมันชอบโกหก ขนาดหน้าปกยังไม่ตรงกับในแผ่นเลย พูดแล้วกูขึ้น ไอ้ยุ่นออกไปๆๆๆๆ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"เรื่องพวกนี้ เขารู้กันทั่วจักรวาลแล้ว ....ยกเว้นคนไทยที่ยังไม่รู้"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
หากความสงสารเป็นบ่อเกิดแห่งความรัก ความเงี่ยนก็คงเป็นบ่อเกิดแห่งความสามัคคีเช่นนี้แล
#มิตรสหายสายหื่นได้กล่าวไว้
"ถ้าใครพยายามทุบรูปปั้นใคร ก็น่าปล่อยๆไปนะครับ ไม่น่าต้องพยายามขัดขวาง
พอเขาทุบเสร็จ เขาจะได้เรียนรู้ว่าทุบแล้วประเทศไม่ได้ดีขึ้น อะไรต่างๆที่เลวร้ายอยู่นั้นไม่ได้เกี่ยวกับการมีหรือไม่มีรูปปั้นใคร อยู่ที่คนมีชีวิตที่จะทำหรือไม่ทำอะไร
ถ้าไม่ให้เขาทุบ เขาก็เพียรโทษรูปปั้นอยู่นั่นแหละ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"รูปปั้นหายไป pokestop ยังอยู่ยั้งยืนยง..."
#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง
มีคนสรุปมาให้ครับ สำหรับเคสน้องที่ยิงตัวตายผ่านไลฟ์วันนี้
ประวัติการพนันเฉพาะเดือนตุลาคม
วันที่ 2 : แพ้แมนยู เสียเงินหลายหมื่น
วันที่ 5 : แพ้บอลเวียดนาม เสีย 10000 บาท
วันที่ 10 : แพ้บอลทีมชาติไทย เสียทองหนึ่งเส้น และแหวนทอง
วันที่ 11 : แพ้บอลเบลเยียม เสียทองไปหนึ่งเส้น
วันที่ 13 : แพ้พนัน Tennis เสียเงินหลายหมื่น
วันที่ 14 : แพ้บอล เสีย 3 หมื่น , สร้อยทอง , samsung S7
วันที่ 16 : ไปขอตังแม่ 2 หมื่นแม่ร้องไห้ ตอนนี้ติดหนี้หลายแสน บอกกับตัวเองว่าเลิกขาดการพนัน
วันที่ 17 : แพ้บอลอินโด เสียไป 5000 บาท บอกกับเพื่อนว่ารอบนี้เลิกจริงๆแล้ว
วันที่ 17 ผ่านไปแปปนึง : แพ้บอลแมนยู เสียหลายหมื่น
วันที่ 20 เช้า : แพ้พนันบาส ใกล้หมดตัว
วันที่ 20 ค่ำ : แพ้บอลแมนู เสียไป 40000 บาท
วันที่ 22 : แพ้บอลบาซ่า เสียรถ vigo 1 คัน
วันที่ 23 : แพ้บอลแมนซิตี้ เสียหลายหมื่น
วันที่ 23 ผ่านไปสองชม. : แพ้บอลแมนยู เสียหลายหมื่น
เป็นไข้ เก็บตัว เครียด
วันนี้ ฆ่าตัวตาย
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ไอ้เหี้ย มึงพนันขนาดนี้ กูเป็นแม่ก็ก็คงยิงตัวตายตามอะ
#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง
ความเหมือนและความต่างระหว่างฮิตเลอร์และศาสดามูฮัมหมัด
ความเหมือน
-เกลียดและฆ่าคนยิว
-อ้างว่ามีภารกิจจากสวรรค์
-เขียนหนังสือจากเรื่องที่ตัวเองมโน
-สร้างระบบที่กดขี่คนอื่น
-มีสาวกตาบอดจำนวนมาก
ความต่าง
-มีเมียคนเดียว/หลายคน
-รักหมา/สั่งฆ่าหมา
-ถูกสาปแช่งจนทุกวันนี้/มีคนรักและบูชาจนทุวันนี้
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"ถ้าจะดูว่าคนไหนงมงาย ให้ดูเวลาความเชื่อของเขาถูกตั้งคำถาม คนที่งมงายมักจะหงุดหงิดโมโหและพาลทำลายทุกสิ่งที่ต่อต้านความเชื่อของเขา ส่วนคนที่มีสติจะคิดถึงเหตุผลและถกเถียงกันเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง"
by มิตรสหายท่านหนึ่ง
คนจำพวกนึงนี่ก็น่าสงสารนะครับ พวกเขาไม่เคยเห็นของจริง แต่ดันชอบฟังนิทานหลอกเด็กที่ไม่มีมูลแล้วมามโนต่อ
มิหนำซ้ำยังคิดว่านั่นเป็นความจริงแท้แน่นอนเสียอีก
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
อยากมโนก็ไปมโนเงียบๆคนเดียวไป ไม่ต้องประจานความโง่ของตัวเองให้โลกรู้
#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง
"ย้อนแย้งเข้าตัวเองหมดเลยว่ะ"
by มิตรสหายท่านหนึ่ง
ตัวหนักแผ่นดินโผล่กระทู้ไหน กระทู้นั้นเละทุกที
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ถ้ามีอันนึง positive กับอันนึง negative คนเราก็มักจะชอบอ่าน negative เพราะมันสนุก สะใจ ไม่สนว่าจริงๆ แล้วเรื่องมันจะเป็นยังไงหรอก
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
บางอันถ้าไม่ได้ quote มามึงไม่ต้องอ้าง มิตรฯก็ได้นะ
แล้วมึงคิดว่ามัน quote กันมาจริงๆกี่ % กันล่ะ
ยิ่งในเพจที่เป็นประเด็นการเมืองส่วนใหญ่นี่พิมพ์เองซะมากกว่า ใส่คำว่ามิตรสหายท่านหนึ่งไปงั้นแหละ
หวังว่าพวกเขาเหล่านักหมิ่นคงจะสำนึกตัวได้ก่อนวันที่จะต้องไปชดใช้กรรมในนรกนะครับ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ช่วงนี้ในทวิตมีรีกันเรื่องรายการวาไรตี้ญี่ปุ่นมาทำการสำรวจสัมภาษณ์คนญี่ปุ่นในไทย มียาดม หมาหน้าเซเว่น บลาๆ แต่กูเยื่อเม้นท์ในยูทูบบางอัน มึงเข้าใจใช่ไหม ตามประสาคนไทยน่ะ... ก็นะ /กรอกตามองบน
สรุปว่าพวกที่ไปสนามหลวงคือไปไว้อาลัยท่านหรือมาเที่ยวและกินข้าวฟรี
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
อิ่มจังตังค์อยู่ครบ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ถ้าประเทศมีแต่พวกสร้างภาพทำอะไรกับแผ่นดินแล้วเอามาเป็นเครดิตตัวเอง ประเทศแม่งคงวุ่นวายชิบหาย เพราะทำแต่หวังให้ตัวเองเด่นกว่าชาวบ้าน
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ให้จ้างคนไปตะโกนในโรงหนังว่า "ปรีดีเกลียดตุ๊ด ปรีดีเกลียดตุ๊ด"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"จริง ๆ เรื่องนี้แม่งต้องเป็นจิตสำนึกเลยป่าววะ ประเทศนี้แม่งเรียกหาน้ำใจแต่ไม่เคยมอบให้คนอื่น เหี้ย
ล่าสุดเห็นฝรั่งมันขับรถมอไซค์ย้อนศรบนฟุทบาท และเห็นพวกคนยี่ปุ่นแซงคิวบนรถไฟฟ้า bts ก็พบมาแล้ว
ประเทศเฮงซวยนี้มันเอื้อหนุน และเพาะเลี้ยงให้คนไร้ระเบียบ ต่อให้เอาคนญี่ปุ่นหรือเยอรมันที่ว่ากันว่ามีวินัยสูง ๆ มาอาศัยที่ประเทศไทยสักห้าปี มันผู้นั้นก็จะกลายเป็นคนญี่ปุ่นหรือฝรั่งเยอรมันที่นิสัยเลวไปได้ แถวนี้แม่งเถื่อนไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้
อ่อ อย่าหาว่ากูด่าประเทศตัวเองแล้วเท่นะ กูพยายามทำตัวเองให้ดี กูขัรถ 80km/Hr มาสามปีแล้ว หยุดให้คนข้ามเมื่อพบ ชะลอรถตรงยูเทริ์นจนโดนคนข้างหลังบีบแตรไล่ก็บ่อย กูเริ่มจากตัวกูเองแล้ว แต่กูไม่เคยได้อะไรกลับเลย
ดังนั้นกูฟันธงได้ว่า คนขับรถประเทศนี้แม่งระยำเกินทนรับไหวจริง ๆ ไอ้การไปสอบใบขับขี่ข้ามภพข้ามชาติก็ไม่ช่วยอะไรหรอก มันต้องแก้ไขที่ปลายเหตุ ขับรถชน รมแก๊สแม่ง"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ปรีดีเป็นซาตาน
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ปรีดีเป็นซานต้า
#กูเอง
ปรีดีเป็นคนปราบเซลล์
#_โทริยาม่า
ปรี "ดี" พนมยงค์ อ.โอดะ
"สมัยเด็ก กุว่ากูฉลาดน่ะ พอกุไปเถียงกะเพื่อนเรื่องบทเรียน(สมัยปอหนึ่ง) เพื่อนเถียงสู้ไม่ได้ครูมาช่วย พาเพื่อนทั้งห้องมาลุมเถียงกะกู กูสู้ไม่ได้ กูแพ้
อีกเรื่อง ครูเล่นไพ่ เพื่อนเล่าให้ฟัง กูบอก แบบนี้ผิดกฏหมาย ต้องโดนตำรวจจับ อิคนเล่สไปฟ้องครู ครูเอามาพูดว่ากูในห้อง ว่ากูไม่รักครู กูอยากให้ครูโดนตำรวจจับ
แต่เวลาสอนบอกอย่าไปยุ่งกับการพนัน อบายมุข ฯลฯ บลาๆๆๆๆ
กูเลยเริ่มโง่ เพรากูต้องว่ายไปตามกระแสของคนส่วนใหญ่ กูคิดต่างกูจะกลาบเป็นเด็กมีปัญหา กูไม่อยากให้พ่อแม่เสียใจ #เศร้า"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
พระแม่งก็ไม่ได้ต่างอะไรกับขอทานแค่มีคนมาเคารพกราบไหว้ให้ตังค์แค่นั้น
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ไม่มีมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดจะเป็นไรไป?
ในขณะที่คุณซื้อไอโฟน4 คนอื่นซื้อเครื่องซักผ้า
ในขณะที่คุณซื้อไอโฟน4s คนอื่นซื้อตู้เย็น
ในขณะที่คุณซื้อไอโฟน5 คนอื่นซื้อแอร์
ในขณะที่คุณซื้อไอโฟน5s คนอื่นซื้อคอมพิวเตอร์
ในขณะที่คุณซื้อไอโฟน6 คนอื่นซื้อทีวี
ในขณะที่คุณซื้อไอโฟน6s คนอื่นซื้อโซฟาชุดใหญ่เข้าบ้าน
ในขณะที่คุณซื้อไอโฟน7 คนอื่นซื้อเตียงนอน
...
ผ่านไปหลายปี มือถือที่คุณซื้อตกรุ่นไปเครื่องเล้วเครื่องเล่า
แต่คนที่ไม่ได้ซื้อมือถือเช่นคุณ เขามีเฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมในบ้าน
ความจำเป็นกับความต้องการ หารให้ลงตัว
ในขณะที่คุณเสือกเรื่องการใช้เงินของชาวบ้าน...
#มิตรสหายอีกท่านนึง
ไม่มีเฟอนิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าล่าสุดจะเป็นไรไป?
ในขณะที่คุณซื้อเครื่องซักผ้า คนอื่นซื้อทอง
ในขณะที่คุณซื้อตู้เย็น คนอื่นซื้อทอง
ในขณะที่คุณซื้อแอร์ คนอื่นซื้อทอง
ในขณะที่คุณซื้อคอมพิวเตอร์ คนอื่นซื้อทอง
ในขณะที่คุณซื้อทีวี คนอื่นซื้อทอง
ในขณะที่คุณซื้อโซฟา คนอื่นซื้อทอง
ในขณะที่คุณซื้อเตียงนอน คนอื่นซื้อทอง
...
ผ่านไปหลายปี เครื่องใช้ไฟฟ้าที่คุณซื้อตกรุ่นไปเครื่องเล้วเครื่องเล่า
แต่คนที่ไม่ได้ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเช่นคุณ เขามีทองหลายบาท
ความจำเป็นกับความต้องการ หารให้ลงตัว
#มิตรสหายอีกท่านนึง
ไม่มีมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดจะเป็นไรไป?
ในขณะที่คุณซื้อไอโฟน4 แต่ผม ให้เมีย
ในขณะที่คุณซื้อไอโฟน4s ผมก็ให้เมีย
ในขณะที่คุณซื้อไอโฟน5 ผมก็ฝากเมีย
ในขณะที่คุณซื้อไอโฟน5s ผมก็ให้เมีย
ในขณะที่คุณซื้อไอโฟน6 ผมก็ให้เมียอีก
ในขณะที่คุณซื้อไอโฟน6s ก็ยังให้เมีย
ในขณะที่คุณซื้อไอโฟน7 ก็ยังให้เมีย
...
ผ่านไปหลายปี มือถือที่คุณซื้อตกรุ่นไปเครื่องเล้วเครื่องเล่า
แต่คนที่ให้เมียเช่นผมเฟอร์นิเจอร์ครบ ทั้งหน้า คางเอย นมเอย ปากเอย จมูกเอย ตา 2 ชั้นเอย. ทุกวันนี้อะหรอ เหมือนได้เมียใหม่ทุกปี ฟิน.
ความจำเป็นกับความต้องการ หารให้ลงตัว
#มิตรสหายอีกท่านนึง
เรามาทำความเข้าใจเรื่อง "ราคาข้าว" กันหน่อยดีไหมครับ
"ข้าว" เป็นสินค้าส่งออกหลักของคนไทยมาช้านาน ชาวนาเป็นอาชีพหลักของเกษตรกรไทยมาตั้งแต่ในยุคอดีต ปัญหาที่เกิดเรื่องของราคาข้าวตกต่ำมันเริ่มมีมานานแล้ว จนกระทั่งรัฐบาลก่อนๆ พยายามหาแนวทางแทรกแซงราคาตลาด ด้วยการเข้าไปประกันราคาข้าวบ้าง จำนำข้าวบ้าง ปัญหาคือรัฐบาลต้องรับภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมาก แต่ราคาข้าวกลับไม่เคยสูงขึ้นเลย
เรื่องราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ไม่ว่าจะเป็นข้าว ยางพารา ข้าวโพด มันเป็นกลไกราคาของตลาดโลกครับ เราต้องอย่าลืมว่าสินค้าเกษตรเหล่านี้เป็น commodity ที่มีการซื้อขายกันทั่วโลก มีตลาดป้องกันความเสี่ยง มีกลไกราคาที่เชื่อมโยงถึงกัน ถ้าไทยขายข้าวแพง คนซื้อก็ไปซื้อจากประเทศอื่นที่ราคาถูกกว่า กลไกเหล่านี้ทำให้ราคาข้าวทั่วโลกมีแนวโน้มไปในทางเดียวกันทั้งหมด
เราไม่ใช่โอเปค ที่จะมีความสามารถที่จะตรึงราคาน้ำมันด้วยการบริหาร demand/supply ได้ (ขนาดโอเปคช่วงหลังยังแทบตาย เมื่อสหรัฐผลิตน้ำมันดิบได้มากขึ้น การคุมราคาแทบจะเป็นไปไม่ได้เพราะสัดส่วนน้ำมันของโอเปคในตลาดลดน้อยลง)
ดังนั้น ผมจึงไม่เห็นด้วยกับกลุ่มใดๆ ที่โจมตีรัฐบาลในขณะนั้นว่าทำราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ รัฐบาลช่วยอะไรไม่ได้ครับ ช่วยได้แค่แก้ปัญหาระยะสั้น
นักการเมืองคนไหนที่ออกมาบอกว่า ราคาข้าวยุคของผมสูงที่สุด ราคายางยุคของผมสูงที่สุด ส่วนรัฐบาลนี้รัฐบาลนั้นห่วย เข้ามาบริหารแล้วทำราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ฯลฯ
คนพวกนี้สมควรถูกประนาม เพราะคุณแม่งแค่ฟลุ้ค เข้ามาอยู่ในตำแหน่งตอนที่ราคาตลาดโลกมันดีเท่านั้น อย่าเอาดีใส่ตัว หลอกเกษตรที่ไม่มีความรู้ไปวันๆ แบบนี้
คำถามคือ รัฐบาลช่วยอะไรไม่ได้จริงหรือ..?
จริงๆ แล้วมันพอมีทางออกครับ
1. สอนให้เกษตรกรเข้าใจกลไกราคาตลาดโลก ยกตัวอย่างเรื่องข้าว ผมอ่านเจอในฟีด Facebook เมื่อไม่นานมานี้ ขออภัยที่จำแหล่งข้อมูลไม่ได้ว่า ตอนนี้ megatrend ของโลกเปลี่ยนไป มนุษย์บริโภคข้าวน้อยลงเยอะเพราะเป็นอาหารให้พลังงานสูง สวนทางกับ aging society ซึ่งคนแก่ลงบริโภคข้าวน้อยลง อย่างญี่ปุ่นเคยนำเข้าข้าวไทย ตอนนี้ไม่นำเข้าแล้ว แถมส่งออกข้าวมาแข่งกับเราด้วย ส่วนกลุ่มที่ยังมีประชากรเติบโตอย่างแอฟริกาพวกนี้ก็ยังรายได้ต่ำ บริโภคข้าว ซึ่งเป็นโภคภัณฑ์ที่ค่อนข้างแพงไม่ไหว จึงหันไปเลือกบริโภคอาหารให้พลังงานอย่างอื่นแทน
การปรับตัวของธุรกิจเป็นเรื่องสำคัญครับ ถ้าคุณรู้ว่าคนจะไปอ่านข่าวฟรีจากอินเทอร์เนต แล้วคุณยังผลิตนิตยสารแบบเดิมๆ โดยไม่ปรับตัว ซักวันคุณก็ต้องปิดบริษัท เช่นเดียวกัน ถ้าเรารู้ว่าคนบนโลกจะกินข้าวน้อยลงไปเรื่อยๆ เราจะดึงดันปลูกข้าวไปทั้งประเทศอีกหรือ..?
2. สอนให้สร้างความแตกต่าง สินค้า commodity มันไม่ได้มีการแบ่งเกรดครับ Rough Rice ในตลาด CBOT มันเป็นแค่ราคาอ้างอิง ดังนั้นถ้าคุณอยากจะปลูกข้าว คุณจำเป็นจะต้องสร้างความแตกต่างในแง่คุณภาพและการตลาด เหมือนอย่างที่เกษตรกรญี่ปุ่นทำให้กับสินค้าเกษตรของตัวเอง (ลอง search ข้าวเทพเจ้า ความพยายามของคนสู้ ใน youtube ดูครับ)
3. ต้องสร้างกลไกที่เป็นธรรม อันนี้คนพูดเยอะแล้ว ผมคงไม่พูดเรื่องโรงสี พ่อค้าคนกลาง ฯลฯ และผมเชื่อว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันเราสามารถสร้าง ecosystem ที่จะให้ผู้บริโภคในประเทศ (อาจจะรวมถึงต่างประเทศด้วย) สามารถสั่งซื้อข้าวโดยตรงจากชาวนาได้ และนำมาส่งให้ถึงบ้านได้เลย เงินส่งตรงให้กับชาวนา ผมเชื่อว่าสิ่งนี้เป็นไปได้แน่ๆ แต่ต้องควบคู่ไปกับข้อ 2 ที่ต้องมี
4. รัฐ "เลิก" เชียร์ผิดๆ ให้เกษตรกรปลูกนั่นปลูกนี่ ถ้าคุณไม่รู้จริง ปลูกมะนาวมั่งละ ปลูกหมามุ่ยมั่งล่ะ เกษตรกรเจ๊งหมดตัวมาเท่าไหร่ กับคำพูดมั่วๆ ของผู้นำประเทศ ปล่อยให้คนรู้จริง เข้าใจกลไกตลาด และมอง megatrend ออก มาสอนเกษตรกรเถอะครับ ท่านนายกมันไม่ใช่หน้าที่คุณที่จะมาบอกว่าเกษตรกรควรปลูกอะไร ควรเลี้ยงอะไร
5. อันนี้สำคัญที่สุดที่ผมบ่นมาหลายปีแล้ว เกษตรกรไทยไม่มีความรู้เรื่องการประกันความเสี่ยงเลย อย่างน้อยคุณควรรู้ "กำไรก่อนไถหว่าน" คำถามคือ สินค้าเกษตรราคาเปลี่ยนแปลงตลอด คุณจะทำยังไง เรามีตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้านะครับ แต่มันไม่มีประสิทธิภาพโดยสิ้นเชิง ไม่มีทางที่จะมาชาวนาไทยมาประเมินต้นทุนกับราคาขายในปัจจุบัน แล้วเลือก short ข้าว ก่อนจะเริ่มดำนา ผมเข้าใจว่ามันเป็นไปไม่ได้
แต่สิ่งที่รัฐบาลทำได้คือการจัดตั้งหน่วยงานป้องกันความเสี่ยงและทำหน้าที่นี้แทนชาวนา แทนที่คุณจะรับประกันราคาข้าวตันละ 15,000 บาทแบบงี่เง่าๆ ที่ไม่รู้ราคาตลาดโลกจะขึ้นมาถึงตรงนี้ได้ต้องใช้เวลาอีกกี่ชาติ คุณน่าจะใช้วิธีการให้ผู้เชียวชาญด้านการประกันความเสี่ยง (ซึ่งรัฐคงหาคนมาทำตรงนี้ไม่ยากหรอกครับ) จัดการระบบลงทะเบียนประกันราคาข้าวโดยอ้างอิงจากราคาตลาด รัฐแทนที่จะเอาเงินไปจ่ายชาวนาซื้อข้าวมาเก็บให้มันเน่าเสีย โดนด่า คุณควรเอาเงินตรงนี้ไป long put ข้าวในตลาดโลกมากกว่า และถ้าเมื่อไหร่ราคาข้าวตกลง คุณก็เอาเงินกำไรจากตรงนี้ชดเชยให้ชาวนาไป แต่ถ้าราคาข้าวสูงขึ้น คุณก็จ่ายค่าพรีเมียมเป็นเหมือนค่าประกันราคาข้าว หรือจริงๆ วิธีการป้องกันความเสี่ยงมันคงมีอีกเยอะที่รัฐบาลน่าจะรู้ดีกว่าผมอยู่แล้ว แต่ไม่เคยมีการทำอย่างจริงจัง
ดูจากกราฟราคา Rough Rice ยังไม่มีโอกาสกลับตัวเป็นขาขึ้น และเผลอๆ อาจจะลงหนักกว่านี้อีกก็ได้ในปีหน้า ดอลล่าห์แข็งขึ้น เงินฝืด ราคา commodity จะร่วงลงไปอีก และเมื่อชาวนาเป็นสัดส่วนอาชีพที่สูงที่สุดในประเทศนี้ ผมว่าตอนนี้รัฐอยู่เฉยไม่ได้อีกแล้วนะครับ
ผมบอกได้เลยว่าสินค้าเกษตรบนโลกนี้กำลังจะถูก disrupt จากเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตัดต่อพันธุกรรม, พืช organic, ระบบ automation & robot, ระบบเซนเซอร์ตรวจวัดคุณภาพ, vertical farming ฯลฯ ต้นทุนการผลิตจะลดลงเรื่อยๆ การนำเข้าจากประเทศพัฒนาแล้วจะลดลง (เพราะเค้าปลูกเองได้โดยใช้เทคโนโลยี) ตอนนี้ microsoft, google, panasonic, samsung เริ่มวิจัย argiculturaltech แล้วนะครับ คำถามคือเกษตรกรไทยจะสู้กับยักษ์ใหญ่เหล่านี้ได้ยังไงในอนาคต
ชาวนากำลังจะตาย เหมือนกับที่ผู้ผลิตนิตยสาร, โรงงานฮาร์ดดิสก์, กล้องฟิล์ม, โทรศัพท์บ้าน, ร้านเช่าการ์ตูน ฯลฯ กำลังจะตาย ราคาตกต่ำมันเป็นปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้นเอง
ระบบข้าวขายตรงจากชาวนา มีอุปสรรคในตัวชาวนาเองนอกจากพ่อค้า โรงสี ตลาด คนขายยาและปุ๋ย ที่เป็นคนเขี่ยบอล เอาชาวนาเป็นตัวประกัน บีบให้สังคมเห็นใจ จนนำไปสู่การนำภาษีมาประกันราคาข้าว ซึ่งเงินส่วนมากไม่ได้ตกไปที่ชาวนา ส่วนมากภาษีเพื่อประกันราคาจะตกไปที่พวกเจ้าของโรงสี คนขายปุ๋ยและยา
ส่วนตัว
เคยสั่งข้าวจากนา แรกๆก็ดี หลังๆเจอหินกับทรายมากขึ้น ครั้งสองครั้งก็คิดว่าเผลอติดมา เกินสามครั้งเลยเลิกขาดกลับไปซื้อข้าวสารตามห้าง
ไม่รู้เพราะเจตนาหรือ QC แต่มันจะไปไม่รอดเพราะอะไรแบบนี้เหมือนกัน
หลายคนแนะนำให้ขายข้าวออนไลน์มันไม่ง่ายครับ เพราะสั่งข้าว 1 ถุง 5 กิโล ค่าส่งไปรณีแพงกว่าราคาข้าว สองเท่า ถ้ามีปริมาณน้อยค่าขนส่งเยอะ เหตุนี้เลยต้องมีพ่อค้าคนกลาง
Why the fuck do people have to ship everyone as gay nowadays, it's like no one can be friends.
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"ถ้า มีกลุ่ม พ่อค้าแม่ค้าดอกไม้ธูปเทียน เครื่องเซ่นไหว้ หรือพวกละครรำสำหรับแก้บนรูปปั้น อยู่แถวๆนั้น อย่าไปทุบนะครับ เคยมีคนถึงแก่ความตายทันทีมาแล้ว"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"เอาจริงๆ ผมเข้าใจว่าพวกนักเศรษฐศาสตร์แม่งก็เกลียดพวก Financial Sector นะ เพราะก็อย่างที่ มิตรสหายท่านหนึ่งบอกว่าพวกนี้ "ไม่ผลิตเหี้ยอะไร นอกจากวิกฤติเศรษฐกิจ"
แต่ที่เหี้ยสุดคือพวกนี้แม่งคือพวกที่ได้ประโยชน์สุดจากทุนนิยมนี่แหละ แม่งคือ Omega ของทุนนิยม ที่ทุกอย่างเจ๊ง แม่งก็จะไม่เจ๊ง แม่งเป็นเหมือนวิญญาณ ที่ย้ายที่สิงสู่ไปเรือ่ยๆ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"เวลาน้ำท่วม. ก็ให้ที่นารับน้ำแทนเมือง. เวลาน้ำน้อยก็ห้ามชาวนาสูบน้ำ. เวลาข้าวราคาตกบอกช่วยชาวนาเปลืองเงินภาษี. เอาที่สบายใจเลยครับ "
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
เกลียด tabloid แต่แชร์ข่าวภาษาต่างประเทศจาก fringe media และ เว็บ conspiracy ของอเล็กโจนส
Tabloid เป็นสื่อหลักนาจา การเต้าข่าวของ tabloid มีจริง แต่จะใช้วิธี "แหล่งข่าวบอกว่า..." ซึ่งแหล่งข่าวอาจเป็นเด็กส่งพิซซ่าอัลลัยเทือกนี้ก็ได้ ส่วน fringe แม่งสร้างความจริงจาก 0 นาจา
Teletubbies คือชุมชนของกลุ่มรักร่วมเพศที่ใช้ชีวิตบนเนินหญ้าสีเขียว และบูชาดวงอาทิตย์
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
คณะร่านคืออะไร
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"กำพืดตัวเองเป็นชนชั้น "ขี้ข้า" ทั้งนั้น อีกพวกที่อยากให้กลับไปก่อน 2475 อ่ะ คิดว่าจะกลับไปอยู่ในสถานะแม่พลอยเหรอ พวกมึงมันชนชั้นอีปริก กูขอเหยียดน้ำหน้าแม่มเลย ชั้นต่ำ 5555+"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"ไม่กี่วันก่อนมีข่าวลุงคนนึงมาจากตจว. ไม่มีรองเท้าดีๆใส่เข้างาน จนท.ก็เลยห้ามเข้า คอมเม้นท์ก็น้ำหูน้ำตาไหลด้วยความสงสาร วันนี้ นันยางมีโครงการจะช่วยให้ยืมรองเท้าหุ้มส้นพันกว่าคู่ คอมเม้นท์ก็จิกกัดว่าอย่าเอากลับบ้านไปล่ะ อย่าขโมยนะ บลาๆๆ #วิถีคนดี"
มิตรวหายท่านหนึ่ง
"ลูกค้าหลายคนแม่งก็เหมือนผู้หญิงที่บ่นอยากลดความอ้วนนั่นแหละ
แม่งแค่อยากได้แต่ไม่ได้ต้องการ ความอยากได้คือความฝันของมันแต่พอเอาเข้าจริงๆสมองมันก็จะปฏิเสธสิ่งที่มันไม่คุ้นเคย ดังนั้นมึงก็ซื้อเค๊ก ขาหมู พิซซ่า ให้มันแดกต่อไป แล้วก็ฟังมันบ่น"อ้วนแล้วเนี่ยๆๆๆ"วนไป"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"1. รู้สึกเอียนคนชอบญี่ปุ่นอย่างนั้นอย่างนี้จนมองว่ามันดีไปหมด (ที่สำคัญคือ มึงไม่เคยไปอยู่) แต่รู้สึกเอียนกว่าตอนที่กูวิจารณ์ญี่ปุ่นแล้วจะมีพวกตีอกพกลมมาปกป้องญี่ปุ่น (แน่นอนเป็นกลุ่มคนเดียวกันคือมึงไม่เคยอยู่และมึงไม่เคยรู้จักคนญี่ปุ่นจริงๆ) แล้วมึงก็ไล่กูออกจากญี่ปุ่นทำนองว่าถ้าไม่ชอบก็ไปหาที่ที่ดีกว่ามั้ยคะ #โทษนะคะ #ญี่ปุ่นเป็นพ่อมึงหรอคะ
2. ด้วยทัศนคติแบบนี้ อันเกิดจากความพังพินาศเมื่อครั้งไปอยู่ญี่ปุ่นมารอบล่าสุด ทำให้รู้สึกว่าชีวิตอันตรายแน่ๆ ถ้าต้องหากินกับญี่ปุ่นตลอดชีวิต (ที่บอกว่าอันตรายคือจิตใต้สำนึกนี่สาปแช่งให้เกาะนั้นโดนซอมบี้ถล่มทุกวันวันละสามเวลา) ดังนั้น ต้องหาสกิลเสริมเป็นการด่วน ไม่งั้นต้องโดนหาว่ากินบนเรือนขี้รดบนหลังคาอีกแน่ๆ แต่จริงๆ ก็แฮปปี้กับบริษัทญี่ปุ่นที่ทำงานอยู่นะ เป็นญี่ปุ่นในอุดมคติมากๆ แต่กลัวคนเอาไปแหกในที่ทำงาน กูต้องตายแน่ๆ"
มิตรฯ
ชาตินิยม เป็นเครื่องมือสำหรับพัฒนาชาติครับ ทำให้ผู้คนสามัคคี จริงๆแล้วแม้แต่งานวิชาการคลาสสิกร่วมสมัยที่วิเคราะห์ตีแผ่ชาตินิยมอย่างถึงกึ๋นและเป็นงานที่นิยมใช้อ้างอิงในเชิงทฤษฏีทางรัฐศาสตร์ในวงวิชาการโลก อย่างเช่น Imagine Communities ของ เบเนดิกส์ แอนเดอร์สัน ซึ่งเจ้าตัวมีบทที่วิพากษ์ชาตินิยมไว้เยอะมาก แต่เขาก็ยังยอมรับเลยว่า จริงๆแล้วชาตินิยมมันเป็นแนวคิดในเชิงบวกครับ ทำให้คนสามัคคี ร่วมใจกันลงมือทำ ฝ่าฟันอุปสรรค เสียสละเพื่อส่วนรวม ทำให้ชาติเจริญได้
ถ้าเอามาใช้ให้ถูกทาง เอาบทเรียนความผิดพลาดในอดีตมาเตือนใจด้วย แนวคิดชาตินิยมก็จะทำให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้า สังคมน่าอยู่และมีวินัยได้ครับ อเมริกา อังกฤษ เยอรมัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ คือตัวอย่างที่ชัดเจนมากของการเอาด้านบวกของชาตินิยมมาใช้ แล้วเลี่ยงๆหรือลดทอนส่วนเสียของมันไป ไม่ให้เหมือนตอนพรรคนาซีหรือจักรวรรดิญี่ปุ่นในอดีต
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"คนที่ทำ social enterprise ทุกคนจะรู้ดีว่า ความเห็นอกเห็นใจ บ่อนทำลายกิจการเพื่อสังคม
เพราะคนซื้อจะซื้อ "ครั้งเดียว" เนื่องจากสินค้าไม่ได้ตอบสนองความต้องการที่แท้จริง คนที่ผลิตก็จะวางแผนการผลิตไม่ได้ มโนไปว่าผลิตเยอะๆ อีก คนซื้อกันหนิหว่า แถมยังปรับปรุงสินค้าให้ดีขึ้นไม่ได้ เพราะ demand ไม่สะท้อน value ของ product"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
กูตาลาลา ซือตาลาลา~
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
เที่ยวบินแอร์เอเชีย XJ 708 ออกจากดอนเมือง 8โมงเช้า ถึงอินชอน 4โมงเย็นวันนี้ ติด ตม. เกือบทั้งลำค่ะ ตม.มันบอกผู้หญิงไทยชอบมาขายตัวและก็หัวเราะสนุกสนาน มันพูดไทยด้วยนะคะ น้องเราเลยด่ามันไป ฟัคยู!!! เมื่อเช้าเห็นเห็นผู้ชายชุดดำ ใส่ชุดเหมือน กรมแรงงานหรือ ตม. ยืนสังเกตุการณ์ที่เคาเตอร์เชคอินคะ กะแล้วไม่มีผิดค่ะ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"เผด็จการทหารไทย รบก็กาก บริหารประเทศก็กาก IO ก็กาก สร้างภาพก็กาก อาหารพลทหารก็กาก ยุทโธปกรณ์พลทหารก็กาก แต่นายพล นายทหารแด๊กเก่ง ส่วนต่างมาก
สงสารประเทศไทย กับทหารชั้นผู้น้อยที่รักประเทศชาติจริงๆ ที่ต้องออกไปรบเจ็บจริงตายจริง"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
""มึงจะป่วนกันไปถึงใหนว่ะไอ้สั....มึงจะทำอะไรมึงนึกถึงบรรพบุรุษบ้างที่ท่านได้ปกปักรักษาผืนแผ่นดินให้มึงมี่ที่อยู่ที่อาศัยกูบอกตรงๆมึงพวกมึงไม่น่าเกิดมาอยู่ในแผ่นดินไทยเลยไปตายซะ"
คอมเมนต์หนึ่งในข่าวระเบิดใต้ ... ก็ขอให้เจริญๆ นะพ่อนะ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ทำไมคนเกลียด รบ ทหารมากครับ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"ไม่ศรัทธากับประโยคที่ว่า "ผมทำได้ คุณก็ทำได้"
ปัจจัยชีวิตคนเรามันต่างกันเกินไปสำหรับเรื่องราวแบบนั้น มันเป็นคำโกหก มันไม่จริง ..."
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
มึงกราบรถกู!
#มิตรสหายควายท่านหนึ่ง
ภายใน 5 ปีนี้ สิ่งที่ถ้าไม่ปรับตัวอาจจะถึงขั้นล่มสลายไปได้เลยคือ "มหาวิทยาลัย" ความต้องการทางตลาดไม่เหมือน 100 ปีที่ผ่านมาแล้ว หลายๆอย่างเปลี่ยนไปเยอะมาก ต้องวิเคราะห์ครั้งใหญ่ว่าโลกกำลังต้องการอะไรทั้งตอนนี้และในอีก 10-20 ปีข้างหน้า และอาจจะต้องยอมเปลี่ยนแปลงแบบคนละเรื่องไปเลย ไม่งั้นไม่รอด
ขอย้ำว่าเรื่องนี้ซีเรียสจริงจัง โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยในเมืองไทยครับ
EdTech ก็เป็นเรื่องนึงที่เราสนใจ พยายามผลักดันอะไรหลายๆอย่างมาตลอดสองปีที่ผ่านมา ตอนนี้ก็เริ่มเห็นผลละ เชื่อว่าใครจับ EdTech ได้ดี(โดยเฉพาะในไทย) รายได้หลักร้อยล้านบาทต่อปีนี่เป็นเรื่องจิ๊บๆ และการ Exit ด้วยเงินหลักพันล้านบาทก็เป็นไปได้ไม่ยากเช่นกัน
ส่วนธนาคารนี่ก็ต้องเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิด ระบบคงไม่ล่มสลายเพราะคนยังต้องการใช้เงินอยู่ และธนาคารคือที่พึ่ง แต่ที่น่ากลัวตอนนี้คือวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่รอการระเบิดมากกว่าอะไรที่จะมา Disrupt ธุรกิจ แต่ตรงนั้นควบคุมอะไรไม่ได้ ก็ต้องแก้ไขกันไป ยังไงถ้าใครจะทำด้านการเงินการธนาคาร นาทีนี้ Blockchain สำคัญมาก และน่าจะสำคัญไปอีกเป็นสิบปี ใครทำได้ตั้งแต่ตอนนี้ รวยและเก็บเงินยาวๆไป
อย่างไรก็ตาม แต่ถ้าถามว่าตอนนี้เราสนใจอะไรเป็นพิเศษ ... "Agriculture" และ "Food" จ่ะ
จริงๆบอกคนอื่นมาสองปีเห็นจะได้แล้วว่าสนใจงานด้านการเกษตรและอาหาร ด้วยเหตุผลที่ว่า ส่วนตัวเชื่อว่าประชากรโลกจะเยอะขึ้นเรื่อยๆ ไม่สามารถควบคุมได้ และปัจจัยพื้นฐานอย่างอาหารจะต้องพลิกโฉมเพื่อให้ทุกอย่างมันง่ายขึ้นและดีต่อสุขภาพยิ่งขึ้น มีการประเมินไว้ว่าภายในปี 2050 โลกจะต้องการอาหารมากกว่าตอนนี้ 2 เท่า ก็คิดดูว่าตอนนี้ธุรกิจอาหารสเกลใหญ่แค่ไหน แต่อีก 30 ปีจะใหญ่ขึ้นสองเท่า ...
ทางออกของ Agri หลักๆก็คงเป็น AgriTech ที่จะทำให้การทำการเกษตรสเกลได้ แต่สุดท้ายก็จะโดนนายทุนบางกลุ่มเหมาหมดเพราะต้นทุนสูงมาก ถ้าสเกลเล็กลงมาหน่อย การเกษตรงาน Craft ก็น่าจะน่าสนใจพอสมควร แต่คงไม่รวยเท่าสายสเกล(ก็เค้ามีทุนหนิ)
อีกอย่างที่แอบเล่นอยู่ก็ AI ศาสตร์นี้มาแน่นอนและจะเปลี่ยนโลกแน่นอน มันถึงจุดที่ก้าวกระโดดไปแบบ Expo จนเติบโตไม่หยุดแล้ว เหลือแค่ความรู้สึกเท่านั้นแหละมั้งที่ AI ยังทำไม่ได้ แต่การเปลี่ยนแปลงโลกจาก AI นี้จะเป็นสิ่งที่ดีหรือสิ่งทีร้ายก็แล้วแต่จะมอง
คนเตรียมตกงานระนาวแน่นอน (อาจจะเกินครึ่งโลก) อันนี้ขอฟันธง มั่นใจละว่าไม่ผิดไปจากนี้ และระบบทุนนิยมจะเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบ Basic Income รัฐบาลจะต้องเอาเงินภาษีไปจ่ายเงินเดือนประชาชนที่ไม่มีงานทำ และนโยบายของประเทศต่างๆก็จะมีเรื่อง Basic Income นี้เข้ามาเป็นเรื่องใหญ่ด้วยแน่นอน
ส่วนการที่เครื่องจักรคิดจะฆ่าคนก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ กฎสามข้อของหุ่นยนต์ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าเป็นเช่นนั้น เอาจริงๆตอนนี้ที่น่ากลัวคือ AI มันก้าวกระโดดไปเรื่อยๆจนบางทีมันอาจจะเกินกว่าที่มนุษย์จะเข้าใจในเร็ววัน ซึ่งถึงวันนั้นคงมีลุ้นอะไรกันหละ ...
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"The hoard never misses an opportunity to finger pointing and moral masturbation."
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
มีปาไข่ร้านที่เค้าเปนหุ้นส่วนด้วยหรอ ว่าเค้าศาลเตี้ย มึงก้อศาลเตี้ย
#มิตรสหายท่านนึง
Pattern ของดราม่าโลกออนไลน์ระดับขึ้นเป็นตำนาน (ทั้งหมดมักเกิดขึ้นภายใน 48 ชม.)
1. เรื่องดราม่าเรื่องนั้นจะต้องมีหลักฐานชัดเจนเช่น รูปแคปมา วีดีโอ คนในเหตุการณ์โพสต์อะไรบางอย่าง
2. เรื่องที่เผ็ดร้อนมักจะเกี่ยวข้องกับ ดารา ไฮโซ คนรวย ชนชั้น ความเชื่อ การเหยียดเพศ เชื้อชาติ ชู้สาว ศีลธรรม การโกง การทำร้ายร่างกาย และ อภิสิทธิ์ชนต่างๆ
3. เรื่องดังกล่าวต้องมี Quote ทีเด็ด หรือ # ประจำดราม่า ยิ่งมีคนจะยิ่งสามารถเข้าไปเผือกจาก # ได้ดีขึ้น และกลายเป็นวลีฮิตที่จะติดอยู่ในความทรงจำทุกครั้งที่เอ่ยถึง
4. เรื่องจะถูกกระจายไปทาง Social ก่อนเป็นอันดับแรก เพจดังๆ ทั้งหลาย (โดยเฉพาะเพจดราม่า จะเริ่มแชร์ จากนั้นเมื่อเพจดังเริ่มแชร์กัน นักข่าวจากสำนักข่าวทั้งใหญ่เล็ก และ Clickbait จะเริ่มกระจายข่าวไป ข่าวหลักหรือคลิปหลักจะเริ่มถูกดูดไปแชร์ต่อเพื่อเรียก Traffic เข้าเพจ ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่มีคนเห็นเยอะที่สุด
5. Content ที่เกี่ยวข้อง Phase 2 ในเชิงลึกจะตามมา มักจะเป็นเรื่องราวเช่น การอัพเดทคู่กรณี ขุดประวัติต่างๆ ขึ้นมาแฉ การลงลึกจากผู้เห็นเหตุการณ์
6. Content Parody จะเริ่มมา จากเพจดังๆ ที่ทำกราฟฟิคเป็น เช่น Contrast, 8bit, เฮ้ยภาพนี้มันตัดต่อชัดๆ เพื่อบิดประเด็นให้เกิดความฮา ปนกัดสังคม ถ้ามีวลีเด็ดก็จะมีคนเอาไปทำเพลง REMIX แบบตื้ดๆ
7. คนดังในวงการเริ่มให้ความเห็นและถูกเว็ป Clickbait เอาไปทำข่าว
8. จะมีการขยี้ดราม่าจากผู้ไม่ประสงค์ดีด้วยการสร้างเพจปลอมเป็นคนโดนดราม่ามา เพื่ออัพเดทสเตตัสล่อเป้า และมีเว็ป Clickbait เอาไปทำข่าว และมักจะมีคนเข้าใจผิดเยอะ
9. สำนักข่าวหลักจะรวบรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเป็นข่าวสรุปสถานการณ์ประจำวัน หรือเอาขึ้นสื่อโทรทัศน์เป็นรายการสดสัมภาษณ์คู่กรณีหรือข่าวร้อนโซเชียล
10. เจ้าตัวจะเก็บเงียบปิดช่องทางการติดต่อเกือบทุกช่องทาง และจะถอยห่างออกจากโซเชียล เพื่อรอแถลงข่าวอย่างเดียว หรือรอเรื่องเงียบ ซึ่งระหว่างนั้นก็คงยับเยินไปแล้ว
11. เพจแบรนด์ต่างๆ เริ่มเล่น Content (Brand Manager เพิ่ง Approve Content)
12. หากเป็นคนดังมักจะมีการแถลงข่าว ซึ่งส่วนใหญ่จะออกมาไม่พ้น รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขาดสติ บันดาลโทสะ อ้างอาการป่วย อ้างเหตุผลความจำเป็น
13. ถ้าไม่มีดาบสอง เหตุการณ์จะเงียบไปภายใน 3-4 วัน และเหตุการณ์จะมันส์ยิ่งขึ้นถ้าดาบสอง เป็นข่าวคดีพลิก โอละพ่อ
ทั้งนี้ ถ้าคุณเป็นคนโดนดราม่านี่คือข้อแนะนำ
1. ไม่ต้องรอแถลงข่าว หาช่องทางที่คุณสามารถกระจายคำชี้แจงเพื่อตอบโต้ทันที ก่อนที่คุณจะโดนแฉ หรือ ปลุกปั่นไปมากกว่านี้
2. ถ้าผิดจริง ให้ขอโทษไปก่อนเลย อธิบายด้วยอารมณ์ให้สังคมรู้สึกว่าคุณรู้สึกผิดจริงๆ อย่าใช้เหตุผลมากตอนนี้ไม่มีใครอยากฟังเหตุผลที่ฟังขึ้น ต้องรอคนในเหตุการณ์หรือบุคคลที่ 3 มาแก้ต่างให้คุณแทน หรือ ถ้าคุณไม่ผิด และมีหลักฐานที่ดีกว่า ให้เขียนคำชี้แจงไปเลย โอกาสที่กระแสตีกลับจะมี แต่ต้องทำภายในไม่เกิน 6 ชม. หลังดราม่า ยิ่งเร็วยิ่งดี
3. ระวังเพจปลอมให้ดี เตรียมดักคอคนเน็ตด้วยการบอกว่า คุณมี Social Media กี่ช่องทาง ที่เหลือของปลอม
4. ถอยห่างจากโซเชียลได้แต่ต้องหาคนคอยตามอ่านและรายงานเพื่ออ่านกระแสชาวเน็ตว่ายังถล่มอยู่หรือตีกลับแล้ว เพื่อตอนแถลงจะได้พูดเข้าหู
5. เมื่อแถลงการณ์แก้ข่าวหรือใดๆ ก็ตามแล้ว ต้องมีการเยียวยาสถานการณ์เพื่อทำให้ชื่อเสียงกลับมา เช็ค keyword เรื่องตัวคุณใน google ดีๆ เพราะเรื่องนี้จะติดเป็น digital footprint ของคุณไปตลอดกาล
6. มีสติ และมีความยับยั้งช่างใจ ควรจะอยู่ใกล้ชิดเพื่อนสนิทหรือคนที่ไว้ใจเป็นดีที่สุด
#มิตรสหายท่านนึง
คลิปขับรถแล้วทำร้ายร่างกายมันมีทุกวันอยู่แล้ว แต่ถ้าเกิดเป็นดารามันจะดังขึ้น100เท่า
ตัวอย่างวันเดียวกันมีคลิปรปภ.โดนคนขับรถกระบะกระทืบจนสลบ แต่ไม่มีกลับใครสนใจ
ถ้าการกราบนั้นใช้เป็นการลงโทษได้ในสังคมไทย ก็แปลว่าการกราบในตัวมันเองมีอำนาจบางอย่างในการลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งความหมายในลักษณะนี้มันไม่ได้หายไปไหนตอนที่เราใช้การกราบในการแสดงความเคารพ นอกเหนือไปจากความ"สวยงาม" มันยังเป็นการแสดงออกถึงอำนาจบางอย่างของผู้ที่ถูกกราบต่อผู้ที่กราบ แม้ว่าเราจะมองว่านี่คือการกดขี่หรือไม่ก็ตาม
กรณีนี้คล้ายๆกันกับวาทะกรรม(discourse)เรื่องการข่มขืน ที่คนมักมองว่าการข่มขืนคือการไร้การควบคุมในอารมณ์ทางเพศ จึงเสนอทางแก้ด้วยการสนับสนุนการค้าประเวณีถูกกฏหมายหรือหนังโป๊ถูกกฏหมายเพื่อเป็นช่องทางในการปลดปล่อย แต่ความจริงที่ว่ามันมีการขู่ข่มขืนเกิดขึ้นอยู่ ก็หมายความว่าการข่มขืนในตัวมันเองยังหมายถึงการลงโทษอีกด้วย และด้วยเหตุผลเดียวกันมันก็เป็นการแสดงถึงอำนาจบางอย่างในการลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งไม่ใช่อำนาจแบบสมมาตร เพราะอำนาจของเพศหญิงต่อเพศชาย มันไม่เท่าอำนาจของเพศชายต่อเพศหญิง
เพราะเหตุนี้ การสนับสนุนการค้าประเวณีถูกกฏหมายหรือหนังโป๊ถูกกฏหมายอาจจะไม่ได้แก้ปัญหาการข่มขืม ซ้ำร้ายคืออาจจะทำให้แย่ลง เพราะการค้าประเวณีก็คือการแสดงอำนาจโดยใช้เงิน หรือการดูหนังโป๊ก็คือการใช้อำนาจในการเปลี่ยนนักแสดงให้เป็นวัตถุทางเพศ
#มิตรสหายท่านนึง
"พวกฝรั่งน่ะเจริญแต่วัตถุ ไม่เจริญทางจิตใจหรอก สู้ไทยไม่ได้ที่มีความเจริญทางจิตใจที่ครบถ้วน ทั้ง
- ละโมภ โลภ ขี้ขโมย รถล้มทีของหายหมด
- บุกล้อมบ้านลากคนแสดงความคิดเห็นต่างด้ายความเชื่อออกมาประจานรุมทรมาน
- หน้าเงินสุดขั้ว ขณะที่ปากโจมตีทุนนิยม แต่กลับไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอโชคลาภ ขูดเลขขอหวย ขูดรีดสินสอดราคาโอเวอร์จากฝ่ายชาย
- เปี่ยมสติปัญญาด้วยการเชื่อข่าวลือ ข่าวแชร์ตามโซเชียลแบบไม่ยั้งคิด เป็นบอทสาธุถ้วนหน้า
- ลอกงาน ลอกเพลงต่างชาติกันอย่างมันมือแถมไม่มีเครดิต ขโมยผลงานกันเอง ใช้แผ่นเถื่อนอวดตัวเองว่าเท่สัสใช้ของเถื่อน
- ใจบุญสุนทาน กดค่าแรงคนงานจนต่ำแทบอยู่ไม่ได้
- แต่งตัวโป๊รับไม่ได้ แต่ชื้อมาลัยไทยรัฐ ไปตีกระหรี่เป็นประจำ
Savage สัสๆ"
#มิตรฯ
ประเทศแห่งความย้อนแย้ง 555
น็อตผิดจนถูกสังคมลงโทษก็เรื่องหนึ่ง
แต่การไปรังควาญคนรอบๆไอ้น็อตที่ไม่เกี่ยวไรด้วย
พวกมึงก็เหี้ยไม่ต่างอะไรกับสิ่งที่พวกมึงด่า
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"เดือนก่อน "ไปๆๆๆ ไปล้อมบ้านมัน เอามันให้ไม่มีที่อยู่ไอ้พวกหมิ่นฯ" "มึงกราบเลยๆ" แถมยังมีป้าที่โดนตบปากกลางถนนอีก
เดือนนี้ "ทำไมป่าเถื่อนจัง" "กฏหมายก็มี ทำไมต้องใช้กำลังด้วย"
ที่น็อต มันได้รางวัล คนไทยตัวอย่าง ก็สมควรแล้ว (แต่เห็นว่าโดนถอดแล้ว)"
มิตรสหายท่านหนึ่ง
ด่าน็อตว่าศาลเตี้ยและทำตัวผิดกฎหมายจากการแอบถ่ายซึ่งผิดกฎหมายและลงโทษไอน็อตด้วยการล่าแม่มดในอินเตอเน็ตและตามรังขวาญคนรู้จักแม่งอย่างผิดกฎหมาย
ผิดกฎหมายceptionมั้ยละมึง
เพราะมีมวลชนโง่ๆ บ้าๆ แบบนีแหละ ถ้าปลุกให้เข้ากับกระแส มันก็จะกลายเป็นเบี้ยบนกระดานให้เดินหมากไปสู่เป้าหมายได้
ใครใช้คนพวกนี้เป็นนี่สบายเลย
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
เหตุการณ์นี้ทำให้กูเริ่มเข้าใจแล้วล่ะทำไมประเทศไทยมันไม่สงบสักที เวลามีคนมาบอกว่ามึงก็ใช้ความรุนแรงเหมือนกัน หรือออกมาบอกว่าเบาๆหน่อย ก็บอกว่าโลกสวย เออครับสัสไม่รุนแรงเลยที่มึงทำนี่.... ส่วนมากที่พิมพ์งี้ทำไมรูปโปรไฟล์แม่งเป็นคนมีอายุกันอีก อืม คงเกินเยียวยาแล้วล่ะประเทศนี้
ห้ดใจนิ่งๆซะบ้าง ถ้ามึงโมโห สิบแต้มแต่ออกอาการแค่ห้าแต้มก็พอแล้ว แต่นี่เรื่องทำให้โมโห สิบ ออกอาการไปยี่สิบสามสอบแต้ม เพราะทำรุนแรงเกินกว่าเหตุมันถึงสงบกันไม่ได้ซักที
ชาวนาที่บ่นมากนักเรื่องราคาข้าวทนไม่ได้ก็ไปแขวนคอตายไปไอ้เหี้ย คิดว่าคนอื่นที่เค้าไม่ใช่ชาวน่าเค้าอยู่สบายทุกคนเรอะไง
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ประเทศไทยต้องการสติมากที่สุดในตอนนี้ ซึ่งหาไม่ได้เลย
#มิตรสหายหลายท่าน
ที่ตั้งสติกันไม่ได้เพราะ พวกมึงเล่นโทมัสไชยัม จนไม่มีใครสินให้รู้จักเพ่งสมาธิไปที่ลูกแก้วน่ะสิ
#มิตรสหายธรรมกวย
ตลกปนสมเพชดีกับสังคมขาดสติ
คนหนึ่งผิดมากแต่อีกคนผิดน้อยกว่า
มันก็ไม่ได้น่าชื่นชมอะไรเลย
นี่ถึงขนาดตั้งกระทู้ชื่นชมว่า"แมน"
ชนแล้วหนีแต่เปลี่ยนใจเพราะรู้ว่าหนีไม่รอด
"แมนโคตร" 555+
น๊อตผิดครับ น่าตำหนิมากๆ โดนแบนก็ดึแล้ว
แต่นายบอยก็แย่มากๆ
นี่คือความจริง
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
น๊อตต่อยคนเพราะรักรถ = โดนด่า โดนลงโทษ
ป้าตบยายสติไม่ดีเพราะรักพ่อ = โดนชม รอดบทลงโทษ
top kek
ตอนต่อยเพราะรักรถเนี่ยอาจจะบอกได้ว่าโมโหขาดสติ แต่ตอนมาแถออกสื่อเนี่ยสันดานล้วน ๆ ครับ...
"เห็นแมวบ้านมีความสงบสุขสันโดษ จนอยากจะสอนให้มันเล่นเฟซบุ๊ก..."
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"-- ข้าวไทย (ไม่มีทางแพง) --
ในทาง #เศรษฐศาสตร์ เราก็เห็นผู้รู้ให้ข้อมูลกันไปมากมายแล้ว ปัญหาพื้นฐานสุดๆคือ #ไทยผลิตข้าวเยอะมากเกินกว่าที่เราบริโภคกันเอง เราจึงต้องส่งออก
แต่ตลาดข้าวในระดับโลกมันไม่ได้ใหญ่มาก ไม่ใช่ทุกคนที่กินข้าว แถมข้าวไม่ใช่น้ำมัน ไม่ใช่ทองคำ ที่ทุกคนต้องใช้ คนกินไม่กี่ประเทศ เก็บรักษาก็ยาก สุดท้าย เราเองก็ไม่ได้ครองตลาดโลกในระดับที่ตั้งราคาได้เองตามใจชอบ
ผลคือก็เหมือนสินค้า commodity อื่นๆที่ไทยต้องเป็น price taker รับการขึ้นลงของราคาตลาดโลกอีกที เอาเข้าจริงๆในยุคโลกาภิวัฒน์แบบทุกวันนี้ มีอะไรบ้างที่ประเทศขนาดเล็กอย่างเราตั้งราคาได้ตามใจชอบ? เราผลิตฮาร์ดดิสก์ กล้อง รถยนต์ เสื้อผ้า แต่สุดท้ายก็ซื้อขายกันด้วยราคาตลาดโลกอยู่ดีน่ะแหละ (อันนี้ econ 101 เลย)
เรื่อง oversupply นี่คือประเด็นพื้นฐานที่ต่อให้ใช้โคตรโครงการจำนำข้าว หรือโคตร ม.44 ก็ไปสั่งให้กลไกตลาดมันหยุดทำงานไม่ได้
ทีนี้ทางออกมันก็มีแค่ 2 ทางคือ เพิ่ม demand หรือ ลด supply ซึ่งสุดท้ายก็หนีไม่พ้นการให้คนเลิกเป็นชาวนา หรือไม่ก็ต้องเอาข้าวมาแปรรูปกันขนานใหญ่ (เช่น ทำสาโท) แต่คิดว่าทายาทบริษัทน้ำเมาคงไม่แฮปปี้ถ้าจะมีคู่แข่งเพิ่ม
ไม่ว่านโยบายไหน ถ้าไม่มุ่งเพิ่ม demand หรือลด supply ก็ไม่มีทางทำให้ราคาข้าวมันแพงขึ้นได้หรอก
ตัวอย่างนโยบายลด supply >> https://www.facebook.com/terasphere/posts/10153837449171809
ที่สนุกกว่านั้นคือในทาง #การเมือง
ข้าว เป็นสินค้าการเมืองแน่ๆ แถมเป็นมาตั้งโคตรนานแล้ว ซึ่งด้วยโครงสร้างสังคม-การเมืองในปัจจุบันนี้ ข้าวไทย ไม่มีทางแพงได้แน่ๆ ด้วยเหตุผลเดียวกับค่าแท็กซี่ และก๊าซหุงต้ม ที่ไม่มีทางแพง
เหตุผลง่ายๆคือถ้าข้าวแพง มันจะสั่นสะเทือนโครงสร้างมากเกินไป ข้าว คืออาหารพลังงานสูงในราคาที่แสนถูก การกดปัจจัยพื้นฐานให้ถูกไว้ก่อน มันช่วยอุ้มชูความเหลื่อมล้ำในสังคมได้ง่ายกว่า
ถ้าข้าวแพง คนระดับล่าง กลาง ไปจนถึงกลางค่อนไปทางสูง นี่เดือดร้อนแน่ๆ เพราะทุกอย่างมันจะแพงตามไปหมดในพริบตา แล้วประเทศนี้ก็ไม่ได้สร้างช่องทางหากินให้คนมันสามารถรวยขึ้นได้ง่ายๆขนาดนั้น (ในทำนองเดียวกับที่เราไม่มีบริการ mass transit ที่ดี ดังนั้นถ้าค่าแท็กซี่แพง นี่ก็บรรลัยกันหมดพอดี)
ทางออกที่ง่ายต่อการ "ปกครอง" มากกว่าการไปมุ่งพัฒนาให้คนมันรวยขึ้น เก่งขึ้น มีทักษะมากขึ้น อยู่ดีกินดีมากขึ้น GDP ต่อหัวสูงขึ้น ก็คือการอุ้มปัจจัยพื้นฐาน (พลังงาน อาหาร ฯลฯ) พวกนี้ต่อไป
ซึ่งพอปัจจัยมันถูก ค่าแรงมันก็ถูก มันก็จะจ้างงานได้จำนวนเยอะ (นึกถึงจำนวนคนขับแท็กซี่ หรือจำนวนชาวนา) อัตราว่างงานต่ำ ปกครองง่าย แล้วระหว่างนั้น ... คนรวยๆก็ค่อยหาช่องทางทำพอร์ตตัวเองให้โต 20% ทุกๆปีนะ
ปีไหนพอร์ตโตเยอะ ก็ค่อยบินไปกินข้าวญี่ปุ่นปีละ 3-4 หน ชีวิตก็พอเพียงแฮปปี้ดีแล้วน่ะ
#เราก็อยู่ๆกันไปแบบนี้นั่นแหละจ้า"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
VOTE FOR TRUMP!
#MAGA
วิธีนับคะแนนของประเทศเขาไม่ได้ใช้ชอล์กขีดๆบนกระดานเหรอ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"
>The establishment didn't want it
>Leaders of the RNC didn't want it
>Most of the mainstream media pundits didn't want it
>Literally 100% of the media didn't want it
>Literally 100% of people polled didn't want it
>Obama didn't want it
>Comey didn't want it
>Le epic liberal celebrities like John Oliver, Stephen Colbert, and John Stewart didn't want it
>Goldman Sachs didn't want it
>JP Morgan didn't want it
>George Soros didn't want it
>A shitload of other SJW apologists and globalist muslim importers didn't want it
>People who label everything racist and offensive didn't want it
>The overwhelming majority of elitist out of touch faggots colluding with the media didn't want it
But the postman delivering your mail wanted it
Your barber down the street wanted it
Your local plumber fixing your pipes wanted it
The hardworking coalminer who worked 20 hours a day to put his 2 kids through college wanted it
The man driving you on the bus wanted it
The people wanted it, burgers
And the people won. "
-anon
"Instead of trying to win over people to their side they just made fun of people who supported him, lumping them all together calling them all kinds of nasty things. Makes people want to say fuck you so they showed up to vote and did just that."
สติคือสิ่งที่คนบางคนไม่มี
ในนี้ก็หลายคน
เก่งจังครับที่รู้จักถาม ผมว่าคนไทยหลายคนก็คงไม่ทราบและงงงวยไปเหมือนกันแม้กระทั่งนักวิเคราะหทวิจารณ์เก่งๆในเมืองไทยก็ไม่รู้ ได้แต่เดาสุ่มสี่สุ่มห้ากันไปเป็นที่น่าเวทนายิ่งนักเวลาผมฟังเขามั่วออกทีวีน่ะ
ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวว่าผมเป็นพลเมืองอเมริกัน อยู่อเมริกามานานแล้ว เลือกปธด.มาหลายสมัยแล้วและอายุก็เยอะพอสมควรแล้วครับ ที่สำคัญการเลือกตั้งครั้งนี้ ผมสนับสนุนทรัมพ์เพราะเขาเป็นตัวแทนพรรครีพลับริกันของผม อยากสรุปคร่าวๆให้คนไทยเข้าใจว่าทำไมทรัมพ์ถึงได้รับความนิยมอย่างสูงมากและก็ไม่แน่นะ..มีสิทธิชนะฮิลารี่ได้เหมือนกัน
๑.ก่อนอื่น..ต้องปูพื้นให้เข้าใจความรู้สึกของคนทางฝั่งรีพลับริกันเสียก่อนว่า....ตลอด7-8 ปีที่ผ่านมา...โอบามาทำหลายอย่างที่พลเมืองอเมริกันรู้สึกโกรธและเสียใจอย่างมากเช่น การเห็นอกเห็นใจกลุ่มมุสลิมก่อการร้ายจนเกินขนาดจนถึงขั้นปิดคุกและปล่อยนักโทษกลุ่มระดับหัวหน้าของพวก isis ออกไปหมด ซึ่งหลายคนก็กลับมาร่วมขบวนการก่อการร้ายต่ออเมริกาอีก หรือการสนับสนุนพวกหลบเข้าเมืองผิดกฏหมาย...illegal immigrants ให้ไม่ต้องถูกจับหรือส่งตัวกลับประเทศ ซึ่งคนพวกนี้ไม่มีข้อมูลประวัติอยู่ในสาระบบของสหรัฐเลย ไม่มีใครรู้ว่าเป็นใครมาจากไหนอยู่ที่ไหน..และเมื่อทำความผิดก็ไม่สามารถตามจับได้ง่าย..หรือการสร้างหนี้สาธารณะของประเทศเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าเท่าตัว(จาก 9 ล้านๆเหรียญเมื่อเจ็ดปีก่อนมาเป็นเกือบ 21 ล้านๆเหรียญในปัจจุบัน) การออกโครงการโอบามาแคร์ซึ่งทำให้คนชั้นกลางชั้นล่างทั่วไปต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันเพิ่มสูงขึ้นครอบครัวละ สองพันถึงห้าพันเหรียญต่อปี บริษัทห้างร้านธุรกิจ sme ที่ต้องช่วยเรื่องการประกันของพนักงานต้องมีภาระต้นทุนที่สูงขึ้นมาก..และการบริหารที่เน้นแต่การช่วยเหลือแทนการสร้างงานจนส่งผลให้ตัวเลขทางเศรษฐกิจตกต่ำลงมาก...เช่น มีจำนวนคนจนสูงมากขึ้น มีคนต้องเข้ารับสวัสดิการอาหารของรัฐสูงขึ้น ประชาชนมีเงินเหลือเก็บต่อปีน้อยลง จำนวนคนที่เป็นเจ้าของบ้านของตัวเองน้อยลงและอื่นๆอีกมากมาย อารมณ์คนชั้นกลางโดยเฉพาะคนขาวที่เป็นฐานเสียงของรีพลับริกันนั้นอยูู่่ในอารมณ์โมโหและถึงขั้นเกลียดโอบามาและการบริหารประเทศของเดมโมแครต...การเสนอตัวของฮิลารี่นั้นเป็นที่มองกันว่าก็คงเหมือนๆเดิมกับโอบามานั่นเองไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือจะพูดว่าเป็นโอบามาสมัยที่ 3 ก็คงไม่ผิด
พอมีผู้สมัครอย่างทรัมพ์ที่ไม่ได้เป็นนักการเมืองเข้ามาเสนอตัว และที่ี่สำคัญ..ทรัมพ์รับรู้ความรู้สึกโกรธเหล่านี้และพูดหาเสียงได้เหมือนกับที่คนอเมริกันฝั่งนี้รู้สึกเลย..ถึงกับหลายๆคนพูดว่า... he is my voice....และยิ่งมีลักษณะดุดันเป็นแนว fighter แล้วยิ่งถูกใจว่าเขาจะเอาจริงเอาจังต่อสิ่งสาระเลวทั้งหลายที่รบ.โอบามาทำมาตลอดระยะเวลาเจ็ดแปดปี...ปรากฏการณ์ครั้งนี้จึงส่งผลให้ทรัมพ์ได้รับคะแนนนิยมอย่างล้นหลามไม่เฉพาะแต่กลุ่มที่สนใจการเมืองแต่เขายังทำให้ผู้ที่ไม่ชอบออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้ออกมาลงคะแนนสนับสนุนเขาอย่างมืดฟ้ามัวดินเลยทีเดียว...
2. คนอเมริกันส่วนใหญ่ไม่ชอบ/เกลียด นางฮิลารี่ คลินตัน....ผมโพลทุกครั้งทุกสำนักหากถามว่าคุณเชื่อถือฮิลารี่ได้มากแค่ไหน...จะมีจำนวนประมาณ 60%ที่ไม่เชื่อถือและไม่ชอบเลย..เพราะนางคนนี้ชอบโกหกเป็นนิสัย...มีคนเขาเคยเก็บรวบรวมอะไรบ้างที่นางโกหกต่อปชช....โอ้โหเยอะมาก...เช่นเคยให้สัมภาษณ์ทางทีวีว่าตอนบินไปประชุมที่ซีเรีย(ไม่แน่ใจ)..พอลงจากเครื่องบินต้องวิ่งก้มหัวหลบห่ากระสุนของพวกก่อการร้ายทั้งที่ี่ภายหลังคนเอาคลิปมาเปิดปรากฏว่าลงมาเดินยิ้มช้าๆทักทายคนนั้นคนี้ตลอดทาง...หรือโกหกเรื่องสาเหตุการถูกโจมตีของสถานทูตสหรัฐในเบนกาซี่ ลิเบีย..จนทำให้เอกอัครราชทูตและจนท.ตายและบาดเจ็บหลายนาย..หรือเรื่องมูลนิธิคลินตันที่วางตัวเป็นลอบบี้ยิสต์เรียกรับเงินบริจาคจากคนที่ต้องการเข้ามาพบกับคลินตันตอนนางเป็นรมต.ต่างประเทศ..ทำให้มูลนิธิมีรายได้จากการเรียกเงินเหล่านี้หลายร้อยล้านเหรียญ..และล่าสุดก็โกหกเรื่องการใช้เสิร์ฟเวอร์ส่วนตัวรับส่งอีเมลล์อันเป็นเอกสารลับของทางกระทรวงตปท.และอีกหลายเรื่องที่นางตะแบงไปอย่างหน้าด้านๆแม้แต่คนของพรรคเดมโมแครตเองก็ยอมรับว่าคลินตันเป็นอย่างนั้นจริง...
หลายคนที่เลือกทรัมพ์ทั้งที่ไม่ค่อยชอบบุคลิกลักษณะดุดันของเขาก็เพียงเพราะไม่อยากเลือกนางฮิลารี่จอมโกหกเท่านั้นเอง...
ยังมีรายละเอียดที่อยากเล่าอีกหลายแต่เหนื่อยแล้ว...ไว้มีอะไรอยากรู้ก็ถามมาได้ครับแต่อย่าเชื่อข่าวของcnn,abc,nbc,msnbc หรือcbsมากนักนะครับเพราะเขารวมหัวกันถล่มทรัมพ์..หาดูfox news channel จะดีกว่า
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
วิเคราะห์การเมืองสหรัฐอย่างออกรส แต่ประเทศตัวเองโดนรัฐประหาร
#มิตรสหายประเทศกูเอง
fox news นี่เป็นยังไงเรอะ?
Fox ช่วง primary ก็ด่า Trump หนักเหมือนกันนะ
มีเรื่องกับ Megyn Kelly อยู่พักใหญ่ๆ
Humanity is OK, but 99% of people are boring idiots.
Slavoj Žižek
มิตร 1: ทำไมผลมันสวนโพลวะ?
มิตร 2: เร้ดเน็คไม่เล่นเน็ต
มิตร 3:คนดำไม่ออกมาเลือกตั้ง
มิตร 4:และต่างด้าวเม็กซิกันก็ไม่มีสิทธิ์เลือกตั้ง
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"มานั่งดูนโยบายที่ทรัมป์ใช้หาเสียงแล้วก็สรุปได้ว่า ถ้ามาลงเลือกตั้งที่ไทยคือชนะแน่นอน
- ต่อต้านการทำแท้ง
- ส่งแรงงานเถื่อนกลับประเทศ
- ทำให้ประเทศยิ่งใหญ่อีกครั้ง"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"คนไทยด่าทรัมป์racist เเล้วเบ็น คาร์สันที่ยืนหัวโด่อยู่ข้างๆนั่นไม่ดำเหรอครับ
อ่อลืมไป คนไทยส่วนใหญ่มันไม่ได้ตามจริงๆ เขาว่ามายังไงก็ตามนั้น"
-มิตรสหอยทั่นนึง
ทักษิณคิด โดนัลด์ทรัมป์
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
อเมริกาชอบว่าคนอื่น บ้านตัวเองก็ไม่ต่างจากเค้า
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ระบอบทุกระบอบมันก็มีปัญหาทั้งนั้นแหละ ถึงจะแซะระบอบประชาธิปไตยให้ตายยังไงประเทศนับร้อยทั่วโลกก็ไม่มีใครเขาคิดจะเปลี่ยนเป็นเผด็จการทหารหรอก
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
จริงเล่น civ ทีไร ลองเลือกระบบ ปชต.
แล้วแม่งกากชิบหาย
"3 แสนเสียงในนิวยอร์ค มีค่ามากกว่า 1ล้านเสียงจากโอไฮโอ้
พวกทำไร่ข้าวโพดมันจะไปรู้อะไร?"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
Trump ติดเอดส์นะคับ
#มิตรดูหนัง The Brothers Grimsby ท่านหนึ่ง
ทำไมแคมเปญไม่เลือกเราเขามาแน่ถึงไม่ได้ผลในอเมริกาครับ
เพจอีแอบเหี้ยๆชื่อนี้แม่งเอารูปแม้วกับหุ่นขี้ผึ้งทรัมป์มาเล่นกันใหญ่เลยว่ะ
สงสัยจะไม่รู้ตัวว่าหน้าแหกแล้ว
กูดักให้ล่ะ :P
อีจ่าหน้าแหกเรียบร้อย
วันนี้จะว่าด้วยเรื่อง เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น
ตอนทรั้มป์หาเสียงก็เหยียดหาว่าเหมือนลุงยุทธ
แล้วอวยฮิลลารี่ว่าจะเหมือนนายกหญิงของไทย เห็นไหมจับมือกันด้วย
พอทรั้มป์ชนะก็ไปอวยเอารูปแม้วยืนคู่ไปอวดกัน
แล้วก็ไปว่าอีกฝั่งเป็นสลิ่ม
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"ยังยืนยันว่าเราพูดว่าคนเลือกทรัมป์แม่งบ้า+โง่ คนเลือก<เซ็นเซอร์>แม่งงี่เง่า คนเลือก<เซ็นเซอร์>แม่งไม่มีวิสัยทัศน์ ได้ ถ้าไม่ชอบ ไม่เห็นด้วยก็ด่ากลับมา ดีเฟนท์มาว่าคนเลือกทรัมป์มันไม่โง่ยังไง(ซึ่งเถียงได้เยอะมาก บทความเป็นร้อยที่พยามอธิบาย) แต่ที่พูดไม่ได้จริงๆ คือพูดว่าคนเลือกทรัมป์แม่งไม่มีสิทธิหรือควรมีสิทธิน้อยกว่าคนอื่น อันนั้นไม่ได้
การยอมรับผลการเลือกตั้งสำหรับเราคือการยอมรับ "ผล" คือแม่ง ไอ้สัส มึงก็ทำงานไป แต่ไม่ใช่ว่าจะต้องยอมรับว่าผลมันดี เสียงส่วนใหญ่แม่งคือความถูกต้อง ไม่ใช่อ่ะ ถ้าเราคิดว่าคนส่วนใหญ่แม่งผิดก็พูดได้เลย ไม่ต้องรอดูด้วยว่ามันจะจริงไม่จริง มันมีสิทธิพูดไง ไอ้การต้องพยามโน้มน้าวว่าพวกมึงแม่งผิดมันเริ่มได้เลย จะเงิบจะอะไรก็รับกันไปเอง
อย่างกรณีทรัมป์นี่ยิ่งต้องส่งเสียง เพราะถ้าทุกคนเงียบหมด มันแปลว่าแอดติจูดแบบที่ทรัมป์ใช้หาเสียง(ซึ่งจะเป็นการแสดงหรือไม่แม่งไม่เกี่ยว เพราะแม่งค่อไอเดียที่ทำให้มันได้รับเลือก)มันได้รับการยอมรับ ซึ่งไอเดียเรื่องการเหยียดไมนอริตี้ เหยียดเพศ เหยียดอิสลาม พวกนี้มันไม่ใช่เรื่องที่จะตัดสินด้วยเสียงข้างมาก มันคือไอเดียที่เราต้องหวังให้ทุกกลุ่มในสังคมยอมรับว่ามันผิด คนมันต้องส่งเสียงว่าการเลือกทรัมป์เพราะมันคิดแบบนี้มันเป็นเรื่องผิด เรื่องที่คิดน้อยไป มันแย่ในระยะยาว คนมันต้องปกป้องไอเดียตรงนี้ ไม่งั้นพวกขวาๆมันก็จะยิ่งได้ใจไปใหญ่
สำหรับเรา นี่หงุดหงิดมากเวลาคนเอาคนด่าคนที่เลือกทรัมป์มาเทียบกับวาทกรรมเสียงไม่มีคุณภาพ อันนั้นมันนำไปสู่ข้อเสนอเรื่องการริบสิทธิของคน แต่ไอ้ที่เป็นอยู่ในอเมริกามันอาจจะดูเคออส(ซึ่งมันไม่ได้วุ่นขนาดนั้นหรอก เพื่อนที่นั่นก็บอกว่าคนมันหงุดหงิด มันต้องการระบายเฉยๆ) แต่มันจะนำไปสู่ข้อถกเถียง การเคลื่อนไหวรณรงค์ การพัฒนาและขายไอเดีย เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง(หรืออย่างน้อยไม่ให้มันแย่ลง)ในคุณค่าของสังคมที่นั่นตาอไป(หวังว่านะ)
ไม่ได้โปรอเมริกาเลย คิดว่าคนมันก็ไม่ได้ฉลาดและออกจะคล้ายไทยมากอยู่ แต่ไม่คิดว่ามันจะตกต่ำขนาดเอามาเทียบกันกับไทยได้แบบที่หลายๆคนพยามเทียบขนาดนั้น"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ถ้าเราเป็น ชนชาว อเมริกัน เราฟังคำปราศัย ของ ท่านประธานาธิบดี ทรัมพ์ ตอนหาเสียง ไม่ว่าคำปราศัยนี้ ท่านจะเขียนขึ้นมาเอง หรือ ทีมงานหาเสียงของท่าน เขียนให้ ... อุ๊แม่เจ้า ... มันช่างโดนใจ ค่ะ เราคงจะเลือกท่าน เป็น ประธานาธิบดีแห่ง อเมริกา ด้วยคนค่ะ ...ท่าน.ทรัมพ์ได้กล่าวไว้ว่า....
" สหรัฐอเมริกา รณรงค์ประชาธิปไตยมา 20 ปีทั่วโลก เราได้อะไร เราอ้างความเป็นตำรวจโลกและประชาธิปไตยข้างเดียว ทุ่มเทกับการยัดเยียดประชาธิปไตย
พวกเราอเมริกาถือปืนและยูเอสดอลล่าร์ ไปล้มล้างซัดดัมของอิรัก กัดดาฟีของลิเบีย ซีเรีย อียิปต์ ยูเครน ตุรกี กรีซ ขอถามหน่อยว่าเราได้อะไร พ่อค้าของเราไม่กล้าไปตะวันออกกลาง อาฟริกา
ตอนแข่งกิฬาโอลิมปิคที่บราซิล ไม่กล้าชักธงอเมริกา
อยู่ตะวันออกกลางดินแดนผลิตน้ำมัน แค่บอกว่าเป็นชาวอเมริกัน ความตายก็มาถามหา
เราลบหลู่ ปูติน ลบหลู่ EU ลบหลู่จีน
เราถือครองเทคโนโลยี่ขั้นสูงสุด แต่ทางการค้าสู้จีนไม่ได้ จึงต้องสละ WTO ไปเริ่ม TPP
ดูจีนซิ 20 ปีที่ผ่านมานี้ซิ พวกเขาไม่เพียงแต่ช่วงชิงตำแหน่งอันดับ 1 ทางการค้าโลกจากเราไป แต่ได้ซื้อเหล็กกล้าร้อยละ 80 น้ำมันและแก๊สร้อยละ 40 ถั่วเหลือง ร้อยละ 70 ทองคำและทองแดงร้อยละ 80 จากทั่วโลก
ซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินจาก ยูเครน จรวดนำวิถีจากอิสราเอล เครื่องกลึงจากเยอรมัน เหล้าไวน์จากฝรั่งเศส แม่ง!..
พวกเขาล้วนใช้เงินยูเอสดอลล่าร์ซื้อ พวกเขาซื้ออาหารจากเรา ขายพริกและกระดานบันทึกให้เรา ซื้อเหล็กกล้าของเรา ขายของเด็กเล่นให้เรา นี่ยังไม่สำคัญ จีนเริ่มใช้เงินเหรินหมินปี้แทนที่ยูเอสดอลล่าร์ในตลาดโลก ถึงแม้ว่าค่าเงินจะไม่มีค่ามากนัก แต่สามารถเปลี่ยนเป็นยูเอสดอลล่าร์ได้ทันที ซึ่งพวกเขามีมากมายมหาศาล มากกว่าพวกเราเสียอีก แม่ง!...
อาฟริกาถูกเขาแย่งไปหมด
นี่คือสภาพของเรา ผมจะไม่สนับสนุน TPP ของโอบาม่า ผมจะทำให้โอบาม่าและฮิลลารีของดีโมแครตเป็นไอ้ตัวบัดซบของประวัติศาสตร์อเมริกา ผมก็คือประธานาธิบดีคนต่อไปของท่าน สนับสนุนผมเถอะ เราจะต้องอิสระแบบมีศักดิ์ศรี ใครมีเงินเราก็ค้าขายด้วยเราจะต้องอยู่อย่างมีความสุข
20 ปีทีผ่านมา ชนบทจีนอัตราการฆ่าตัวตายลดต่ำลงถึง 90% การอ่านไม่ออกลดลงเหลือไม่ถึง 10% อายุยืนมากขึ้น 10 ปี รถยนต์ส่วนตัวจากศูนย์กลายเป็นรถติดทั่วประเทศ รถไฟความเร็วสูงมีมากถึง 70% ทั่วโลก เมืองที่มีพลเมืองเพียง 5 แสนคนก็มีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยง ทางด่วนจากศูนย์เปลี่ยนเป็นเชื่องโยง 2 พันกว่าอำเภอ สะพานที่ยาวที่สุด สูงที่สุดและยากที่สุด คนจีนถือเป็นเรื่องง่าย ๆ
สภาพความร่ำรวยของคนจีน ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้น อสังหาริมทรัพย์ราคาไล่นิวยอร์คของเราติด ๆ
คนจีนไม่ไปเที่ยวประเทศไหน ประเทศนั้นเดือดร้อน คนจีนไม่ซื้อ ราคาเหล็กโลก น้ำมันตกทันที
ที่น่าโมโหก็คือ การก่อการร้ายไม่กล้าไปที่จีน
อเมริกามีชีวิตอยู่บนฟองสบู่ขนาดใหญ่ของยูเอสดอลล่าร์ เป็นประเทศที่ไม่มีทางรักษาแล้ว หย่อนบัตรให้ผมซิ มีผมเท่านั้นที่แก้ไขอเมริกาที่ยับเยินนี้ได้... "
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"จริงๆ เลยนะ ปัญหาของ "ฝ่ายซ้าย PC" นี่ผมว่ามัน "ดูเบา" ปัญหาทางเศรษฐกิจไง ซึ่งมันจะทำให้คุณไม่เข้าใจเลยว่าทำไมฝ่ายขวามันขึ้นมาได้ขนาดนี้
เวลาคุณเคลมความเข้าใจมนุษย์ คุณเคลมมาจาก "ที่ปลอดภัย" ตลอด เพราะทั่วๆ ไป คุณจะ PC ได้ คุณต้อง "ไม่อดอยาก" ระดับหนึ่งอยู่แล้ว
คือคุณไม่เก็ตภาวะที่คนไม่มีข้าวจะแดก งานไม่มีทำ ไม่มีใครช่วย "ทั้งๆ ที่คุณเป็นคนส่วนใหญ่ของสังคม"
นี่แม่งคือรากฐานของฝ่ายขวาในศตวรรษที่ 20 ตั้งแต่นาซีเลย เพราะสุดท้ายเทคนิคแม่งเดิมๆ คือแม่งสร้างอุดมการณ์เกลียดต่างชาติบอกว่าแม่งทำให้คนในชาติต้องอดอยาก แล้วก็สัญญาว่าจะ "กำจัด"
แน่นอนว่าคุณลองกินอิ่ม นอนหลับ มีเงินใช้ (หรือแค่มีการงานมั่นคงก็ได้) คุณจะรู้สึกว่านี่แม่งไม่เมคเซนส์เลย
แต่ลองไม่มีจะแดกจริงๆ ไม่มีที่พึ่งดูสิครับ ลองไม่ได้มองจากที่ปลอดภัยดู
ก็นั่นแหละครับ แล้วซ้าย PC พวกนี้ก็เคลมความเจ้าใจและเห็นใจมนุษย์ แต่ก็โอเค เรื่องของเขา
ปัญหาคือ พอมาเป็นแบบนี้คุณก็จะไม่เก็ทเหี้ยๆ เลยว่าทำไมฝ่ายขวาแม่งขยายตัวเอาๆ
เพราะคุณมองว่า "รากฐาน" ของทุกสิ่งในทางการเมืองมันคือ "ความคิด" ไง ฝ่ายขวาแม่งกลับไปเล่นเรื่องปากท้อง ในขณะที่ซ้ายทุกวันนี้แม่งไปเล่นแต่เรื่องอุดมการณ์ความคิดซะเยอะ โดยเฉพาะพวกซ้ายในมหาวิทยาลัย
เวลาพูดถึงการกดขี่ กดทับ การเหยีดทางสัญลักษณ์ห่าเหวมันดูฉลาดไง พูดประเด็นเชยๆ อย่างการกระจายรายได้ การลดช่องว่างทางรายได้หรือกระทั่งการแก้ปัญหาความยากจน หรือจะเรื่องสหภาพแรงงานมันไม่เท่ห์
พอตรงนี้ขาดไปในฝ่ายซ้าย เวลาคุณไปสนใจว่าพูดอะไรจะไปกระทบจิตใจใครมั้ยมากกว่าที่จะสนว่าคนระดับล่างสุดของสังคมแม่งจะมีข้าวแดกมั้ย ฝ่ายซ้ายแม่งก็ไม่ใช่ที่พึ่งของคนระดับล่างสุดอีก แม่งก็เปิดช่องให้ฝ่ายขวาแม่งเล่นเกมของมันได้สบาย
เพราะสุดท้าย ถ้าคุณปล่อยให้ "การแก้ปัญหาแบบปกติ" แม่งล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนคนแม่งไม่มีจะแดกชิบหายแล้ว คนแม่งก็ไม่เชื่อแล้ว แล้วมีไอ้บ้าสักตัวสัญญาว่าจะทำอะไรที่คนคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ แต่มันจะทำด้วยวิธีที่ "ไม่ปกติ" เหี้ยๆ ถ้าคนแม่งสุดทางจริงๆ คนแม่งก็รู้สึกว่าแบบหลังแม่งดีกว่า
เพราะอย่างในเคสอเมริกานี่ ก็ต้องไม่ลืมว่าสุดท้ายแนวทางแบบโอบาม่าแม่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจมา 8 ปีแล้ว ยังไม่ไปไหน ฮิลลารี่แม่งเสือกบอกว่าจะทำแบบเดิมต่อ
คือมองในแง่หนึ่งคนก็บอกว่าต่อเนื่องดี แต่มองอีกแง่ สัส นี่แม่งคือการ "ขอเวลาอีกไม่นาน" หลังจากแม่งทำมา 8 ปีแล้ว มีทางเลือกอื่น ใครมันจะรอวะ
ผมว่าฝ่ายซ้ายในโลก ถ้าแม่งไม่เล่นอะไรที่เป็น Reform ทางเศรษฐกิจโหดๆ แบบโหดจริงๆ แม่งไม่ได้แดกหรอก ขวาแม่งแดกหมด"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
This is really so easy. This could have ALL been avoided if the left didn't abandon the values of classic liberalism (freedom of speech, thought, association...etc) to take on this new cancerous neo-progressive identity politics. How to stop Trump:
STOP, for the LOVE of GOD, STOP peddling identity politics. Trump voters – working class people – despise it. They know what you’re doing – it’s obvious.
STOP treating ethnicity, gender, sexuality and religion as a proxy for class warfare; you are trying to displace them by creating a new under-class and stoking ethnocentrism, gynocentrism and tribalism for the purpose of manufacturing a new electorate and a globalist governance that NO-ONE wants.
STOP speaking about groups, start speaking about individuals (you know, actual liberalism).
Stop polarising ALL debate. Just because you aren’t rabidly pro-feminism, it doesn’t make you a misogynist. Just because you aren’t rabidly in favour of the EU, it doesn’t make you a fascist. Just because you don’t support black lives matter, it doesn’t make you a white supremacist. Just because you don’t support SSM, it doesn’t make you a homophobe.
Stop pushing mass third world immigration for the purposes of creating a new electorate that will vote for you in the future. They know what you’re doing. Every group in US is opposed to mass third world immigration that further depresses wages down and decreases social cohesion. Even Hispanics are opposed to mass immigration, and are more conservative – on a policy basis – and religious than white males.
Stop preaching cultural relativism; if you oppose something for one identity, oppose it for ALL identities. Murder doesn’t suddenly become more acceptable because the perpetrator is Islamic; sexism doesn’t become more acceptable because the perpetrator is female; racism doesn’t become more acceptable because the hatred is being spewed at white men.
Get it? Until all of this STOPS, until we start to assign rights and responsibilities at the level of the individual and not the group, until all of the incessant shaming, self-loathing and guilt-tripping subsides, this will get infinitely worse.
>>393 เเหม่ ใช้ทับศัพท์อิ๊งเเบบพร่ำเพรื่อเพื่อจะให้ตัวเองดูฉลาดซะด้วย(ดีเฟนท์,ไมนอริตี้,เคออส) เเต่จริงๆเเล้วโง่ชิบหาย
เห็นมิตรสหายท่านนี้เเล้ว นึกถึงมิตรสหายLibtardไทยในเมกาหลายคนจากเพจจ่า พอมีคนมาด่าฮิลลารี่ เเม่งพ่นอังกฤษมาเป็นพรืดทั้งๆที่เป็นเเถบคอมเมนต์ไทย จะยกตัวเองว่ากูรู้อิ๊ง กูเก่งกว่ามึง อย่าเถียงว่างั้น 555555
ไม่รู้ป่านนี้น้ำลายฟูมปากในSafe Spaceรึยัง
"พูดเหมือน Hillary ชนะได้จะเป็น ประชาธิปไตย?
สันดานเหมือนสลิ่มเลยอะครับ
เมกาเขาเลือกตั้งแบบนี้มากี่ปีแล้ว
Loser ชิบหายอะมรึงอะ เป็น citizen เปล่า? ก็ไม่ใช่ เสือกมาคิดแทนคนประเทศเขา ตลกชิบหาย
ว่าแต่คนอื่นเขาอยู่ในกะลา แต่ตัวเองอยุ่ในกะลาคอลเลจทาวน์
อยู่ใน safe space ของมรึงต่อไปเหอครับ เพราะจะดูฉลาดก็แค่ในนั้น ออกมามรึงก็เป็นได้แค่ตัวตลก"
#มิตรสหายท่านหนึ่งกล่าวถึงพระบิดาแห่งPC ณ คอลเลจทาวน์
คอมเมนต์ส่วนหนึ่งในเพจดราม่ากับอีเจี๊ยบ อ่านแล้วละเหี่ยใจ บางทีการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ ใช้เฟซบุคเป็น ก็ไม่ได้เปลี่ยน wisdom prognosis
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"Real diversity requires a diversity of ideas, Not simply a bunch of like-minded activists who resemble the bar scene from Star Wars."
ขอพูดนิสหนึ่ง.....คือบ.A เหมาสินค้าของบ.K ไปแล้วดันขายไม่ได้ (ขาดทุนในชุดนี้ พูดภาษาบ้านๆ) ก็ไปบอกบ.Kให้ช่วย แล้วบ.AกับK ก็ได้ข้อสรุปว่า เอาprแถมให้ ให้ร้านรายย่อยซื้อ(พลักภาระให้ร้ายย่อย...มึงเอาของไปดองกันมั้ง) แล้วให้โปรโมชั่น ซื้อกล่องละ xx.-(ถูกกว่าราคาการ์ดในท้องตลาด ตอนนี่ตีว่าใบ 40-60.-) โดยการตลาดบอกร้านย่อยว่า รับไปซักลัง แยกการ์ดขายเอาก็ได้ โดยกึ่งมัดมือชกร้านย่อยว่า จะซื้อcpต้องพ่วงไอ้นี้ไปด้วยนะ เด่วbtใหม่มาก็ต้องพ่วงไอ้นี้ไปด้วย
สรุปสั้นๆ...การลงทุนมีความเสี่ยง แต่กูไม่ยอมขาดทุนเจ้าเดียวร้านย่อยมึงต้องรับหางเร่ไปด้วย มึงไม่พอใจกูก็ไม่ส่งของให้ เพราะกูถือสิทธ์ของบ.K เจ้าเดียว....และหวังว่ามันก็จะเป็นแบบนี่ตลอดไป...
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ประชาธิปไตยอเมริกาก็มิต่างจากไทย
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
Liberals are acting like Trump is going to kill all the gays, make slavery legal again, and take away women's rights....
Like he's a Muslim or something.
คนอย่างทรัมป์ชนะได้ยังไง...
หากมองในเบื้องต้น สิ่งที่ทรัมป์เป็น และนโยบายต่างๆ ก็สะท้อนแนวคิดปกติของฝั่ง Republican เก็บภาษีน้อยๆ เน้นธุรกิจขนาดใหญ่ ลดรัฐสวัสดิการ ฯลฯ
แต่ในมิติที่กว้างกว่านั้น ทรัมป์เป็นตัวแทนพรรค Republican คนแรกที่จับเอาประเด็นเรื่องสีผิวและการแบ่งแยกมาใช้เป็นจุดขายอย่างชัดเจน และไม่มีความเขินอายใดๆ
หากเรามองเผินๆ อาจดูเหมือนว่าสื่อต่างๆที่ออกมาจาก Hollywood และอเมริกา ชวนให้เราคิดกันไปว่าเรื่องเหยียดสีผิวได้กลายเป็นเรื่องในอดีต และเป็นสิ่งที่คนอเมริการับไม่ได้อีกต่อไป
แต่ในความเป็นจริงมันไม่เคยหายไปไหน
หากใครเคยไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่อเมริกาเหมือนกับที่ผมเคยเป็น ก็มักจะเจอคำถามเดียวกันเสมอ คือไทยแลนด์คือไต้หวันใช่ไหม เธอขี่ช้างไปโรงเรียนรึเปล่า ที่นั่นคนเป็นกังฟู หรือต่อยมวยไทยกันหมดใช่ไหม และที่โหดที่สุดและโดนถามแน่นนอนก็คือเรื่องหญิงบริการไทย (ผมเคยให้แบ๊งค์ 50 บาทกับเพื่อน มันถามกลับมาว่าอันนี้ซื้อหญิงไทยได้กี่คน)
นั่นก็เพราะความรับรู้เกี่ยวกับโลกของคนอเมริกาส่วนหนึ่งต่ำมาก ส่วนใหญ่คือคนอเมริกาที่อยู่นอกเมืองใหญ่ และที่ที่นักเรียนแลกเปลี่ยนส่วนใหญ่ได้ไปก็มักจะเป็นบ้านนอกอเมริกา ที่ที่มีแต่คนขาวอยู่กัน ในเมืองที่ผมไปมีคนดำ 1 คน เกย์ 1 คน และคนเอเชีย 3 คน ที่เหลือเป็นคนขาวล้วน (ซึ่งผมจำได้ติดตาว่าเคยเห็นเกย์คนนั้นโดนเอารองเท้าปาหัวในโรงอาหาร )
คนเหล่านี้ไม่เคยได้เห็นเลยว่าอารยธรรมต่างๆ มีความซับซ้อนและลึกซึ้งขนาดไหน ไม่เคยได้เห็นว่าคนอื่นๆในโลกเขาไปถึงไหนกันแล้ว
ชีวิตของพวกเขา ส่วนใหญ่จะวนเวียนอยู่ในเมืองเล็กๆ ที่มีห้างสองสามห้าง ร้าน fast food พร้อมกับภาพในหัวว่านั่นคือที่สุดของโลกใบนี้แล้ว นี่แหล่ะคือ "ความเป็นอเมริกา" และนั่นคือสิ่งที่ทั้งโลกควรเป็น เพราะทั้งชีวิตเขาได้ยินมาเช่นนั้น
แน่นนอนว่านั่นไม่ใช่คนอเมริกาทั้งหมดที่เป็นแบบนั้น เราได้เห็นงานศิลปะ และนวัตกรรมเจ๋งๆออกมาจากประเทศนี้มากมาย จนอดสงสัยไม่ได้ว่าไอคนที่ฉลาดพอจะสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา ทำไมถึงได้ฉลาดไม่พอที่จะเลือกประธานาธิบดีคนอื่นแทน
แต่นั่นคืออเมริกาเพียงครึ่งเดียว ที่เราชาวโลกมีโอกาสได้เห็นผ่านสื่อต่างๆ อเมริกาที่เป็นผู้นำด้านวัฒนธรรมโลก อเมริกาที่เดินทางไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก อเมริกาผู้คิดค้นประดิษฐ์เทคโนโลยีเปลี่ยนโลกมามากมาย
ส่วนอีกครึ่งหนึ่งของอเมริกาที่ผมพูดถึงก่อนหน้า แม้มีอยู่จริง แต่ชาวโลกไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็น เพราะเป็นอเมริกาส่วนที่ไม่ได้ออกมาเชื่อมโยงกับชาวบ้านมากนัก และคงไม่ได้สัมผัสหากไม่เคยไปอยู่ที่นั่นจริงๆ
การที่ทรัมป์ได้รับเลือกตั้งจริงๆแล้วไม่ใช่เรื่องเกินคาดเลย เพราะที่คือสิ่งที่สะท้อนความเป็นอเมริกาได้อย่างชัดเจนและตรงไปตรงมาที่สุด และมันเป็นสิ่งที่อยู่ในใจคนเสมอมา เพียงแค่อาจจะถูกรักษาสมดุลย์ไว้ด้วยด้านที่ดีกว่าของอเมริกา ความเกลียดชังเหล่านี้จึงไม่กล้าออกมาโลดแล่นในที่แจ้งมากนัก
แต่ความน่ากลัวมันจะเริ่มหลังจากนี้ เมื่อการเหยียดสีผิวและการแบ่งเชื้อชาติ ได้รับการรับรองจากอำนาจสูงสุดในแผ่นดิน
link นี้แสดงให้เห็นถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น เพียงแค่ 1 วันหลังจากที่ทรัมป์ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี
https://twitter.com/i/moments/796417517157830656
ผมได้ดูแล้วก็นึกถึงหลายๆสิ่งที่ตัวเองเคยเจอตอนอยู่ที่โรงเรียนมัธยมในอเมริกา ซึ่งเป็นที่ที่ไม่ต่างอะไรกับในหนัง ที่ที่คนตัวเล็กโดนรังแก ที่ที่คนที่แตกต่างถูกแกล้งและล้อเลียน
และหลังจากนี้ไป ดูเหมือนว่าทั้งประเทศกำลังจะกลายเป็นโรงเรียนมัธยมขนาดใหญ่ ที่ครูใหญ่อนุญาตแล้วว่าการแกล้งเพื่อนไม่ใช่เรื่องผิด
น่ากลัวเหลือเกิน
และรอยร้าวกำลังแสดงตัวอย่างชัดเจน
บางทีนี่อาจจะเป็นจุดเสื่อมถอยของประเทศนี้อย่างแท้จริงก็ได้...
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
>>409 รูปในทวิตกูทำเองเอาก็ได้สัส ปรินท์ออกมาเเล้วเเปะถ่ายลงทวิต เเล้วก็รอรับการเลียไข่จากผองเพื่อนlibtard
เเต่กูเเปลกใจนะ พอพวกเหี้ย Black Live Matter ออกมาเผาเมือง ปล้นสะดมร้านค้า ตะโกน Killz da whitey, kill da po-liz. ทำร้ายคนขาว ไม่เห็นมีLibtardตัวไหนหาว่าเป็นการเหยียด/เป็นพฤติกรรมรุนเเรงซักคน เลือกปฎิบัติชิบหาย
ตอนนี้ไม่รู้อะไรน่ารำคาญกว่ากัน
1. ทีมอวย your name แบบไม่ลืมหูลืมตาทะลุจักรวาล
2. ทีมวิเคราะห์ your name แบบออกทะเลทะลุจักรวาลข้ามมิติ
3. ทีมพีอาร์ your name ที่เล่นแต่เรื่องโสดๆเหงาๆ หีแตดอะไรไม่รู้ (แต่ได้ผล...อาห์)
#มิตรฯ
อาวุธลับของทรัมป์: Project Alamo
มันเป็นไปได้อย่างไร? ในเมื่อฮิลลารีมี "อาวุธ" ครบมือทุกอย่าง มีทีมงานกลยุทธ์การเมืองที่แข็งแกร่งที่สุด ทีมงานทำโพลที่ดีที่สุด รู้ว่าคนที่จะไปโหวตชอบอะไร ต้องให้ฮิลลารีไปหาเสียงที่เมืองไหน ต้องพูดอะไร ต้องเน้นระดมคนกลุ่มไหนในเมืองไหนไปโหวต ต้องซื้อโฆษณาทีวี และนสพ. เพิ่มที่เมืองไหน ฯลฯ
แต่สุดท้ายกลับแพ้ให้กับทรัมป์ ซึ่งมีแต่ "ปากหมา" เป็นอาวุธ (แถมน่าจะเป็นอาวุธทำลายตัวเองมากกว่า) ใครๆ มองว่า พี่แกอยากพูดอะไรก็พูด ไม่สนใจข้อมูล ไม่สนใจโพล ไม่มีทีมงาน แต่กลับเฉือนชนะชนิดพลิกทุกโพลทุกข้อมูลทุกตัวเลขที่มี !!
จนหลายคนมองว่า ความสำเร็จของทรัมป์ เป็นความพินาศของการทำโพล และเป็นความล้มเหลวของ data science ทั้งวงการพังยับเยิน
แต่ #ความจริงตรงกันข้าม ครับ ส่วนหนึ่งของความสำเร็จของทรัมป์ คือ ความสำเร็จของการทำโพล และความสำเร็จของ data science ที่ทันสมัยครับ
นิตยสาร Bloomberg Businessweek (ฉบับ 31 ตค.) รายงานว่า Jared Kushner ลูกเขยของทรัมป์ นักธุรกิจหนุ่มดีกรีฮาร์วาร์ดที่ใครๆ ก็จับตามอง ได้ตั้งทีมงานภายใต้ชื่อ Project Alamo โดยจ้างบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลในอังกฤษชื่อ Cambridge Analytica พร้อมกับจ้างทีมงานกลุ่มเล็กๆ จาก Silicon Valley มาร่วมกันวางแผนการใหญ่
(ต่อเม้นล่าง)
(ต่อจาก >>417 )
แผนการที่จะทำให้ทรัมป์ชนะ และ "ถึงแม้ว่าจะแพ้ ก็ยังชนะอยู่ดี" แผนการเป็นอย่างนี้ครับ
- เริ่มจากการสร้าง database ซึ่งรวมข้อมูลและ contacts ของผู้สนับสนุนทรัมป์ ข้อมูลมาจาก 1) ฐาน email list ของพรรครีพับริกัน (ประมาณ 7 ล้านคน) 2) เวลาที่ทรัมป์จัดหาเสียงที่ไหน จะเปิดให้คนลงทะเบียนผ่านเว็บ โดยในการลงทะเบียนจะต้องคอนเฟิร์มหนึ่งวันก่อนหน้าผ่านมือถือ (ได้ข้อมูลชื่อ และเบอร์มือถือของผู้สนับสนุน) และ 3) เวลาคนบริจาคเงินให้ทรัมป์ผ่านเว็บไซต์ (ได้ข้อมูลชื่อ ที่อยู่ บัตรเครดิต ฯลฯ)
- มีการทำโพลทุกสัปดาห์ นำโพลมาวิเคราะห์ผ่านโมเดลวิเคราะห์ผลการเลือกตั้ง, ผลโพลและการวิเคราะห์ทำให้รู้และระบุได้ว่ามีคนอยู่ราว 13.5 ล้านคน ใน 16 รัฐสำคัญ ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจเด็ดขาด และมีความเป็นไปได้ที่อาจจะโหวตให้กับทรัมป์
- ผลโพลช่วยให้รู้ว่าคนพวกนี้อยู่ในพื้นที่ไหน ทรัมป์ต้องไปจัดหาเสียงที่ไหน และต้องโฆษณาให้คนแถวไหนและคนกลุ่มไหน โดยทีมงานเน้นใช้ระบบโฆษณาใน facebook เป็นหลัก โดยมีโปรแกรมลิงค์ชื่อในฐานข้อมูลเข้ากับชื่อ profile ของคนใน facebook ทำให้ได้กลุ่มเป้าหมาย (รวมทั้งใช้ฐานของ facebook ในการขยายฐานถึงคนที่มีลักษณะใกล้เคียงกันที่อาจเลือกทรัมป์ เช่น คนขาว การศึกษามัธยม ทำงานโรงงาน ฯลฯ) จากนั้นทุ่มเงินซื้อโฆษณา ให้คนพวกนี้เห็นโฆษณาทรัมป์ในหน้า feed ของ facebook
- มีการทดสอบตัวอย่างโฆษณาที่ใช้ใน facebook กว่า 100,000 รูปแบบ ดูว่าแบบไหนคนคลิกเข้าไปดูมากกว่ากัน แบบไหนได้ยอดบริจาคมากกว่ากัน แบบไหนเข้าถึงคนกลุ่มไหน ฯลฯ ด้วยโปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูล
- ใช้กลยุทธ์ทำลายคู่แข่ง โดยพยายามทำโฆษณาอีกแบบให้เข้าถึงคน 3 กลุ่มที่สนับสนุนฮิลลารี กลุ่มแรกคือ คนอเมริกันหัวก้าวหน้า (ทำให้คนกลุ่มนี้ใน facebook เห็นข้อมูลใน WikiLeaks ที่เกี่ยวกับฮิลลารี่ และข้อมูลว่าทรัมป์ต่อต้าน TPP เหมือนกับแซนเดอร์) กลุ่มที่สองคือ ผู้หญิงคนขาว (ทำให้คนกลุ่มนี้เห็นข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องชู้สาวของบิล คลินตัน และการที่ฮิลลารี่ข่มขู่ผู้หญิงที่มีเรื่องชู้สาวกับสามีเธอ) และกลุ่มที่สาม คือ กลุ่มคนดำ (ให้เห็นที่ฮิลลารี่เคยพูดว่าคนดำ), คน 3 กลุ่มนี้ ไม่จำเป็นต้องเลือกทรัมป์ ขอแค่เบื่อฮิลลารี่จนนอนหลับอยู่บ้านในวันเลือกตั้งก็พอ
แล้วถ้าสุดท้ายทรัมป์แพ้ ... ฐานข้อมูลและระบบที่สร้างนี้ สามารถใช้เป็นฐานในการโปรโมตธุรกิจของทรัมป์ รวมทั้งอาจจะเป็นฐานในการสร้างสื่อ Trump TV, แถมยังสามารถขายข้อมูลให้กับนักการเมืองที่ทรัมป์สนับสนุน หรือใช้สำหรับตัวทรัมป์เองหากยังเล่นการเมืองต่อ, ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถขายฐานข้อมูลนี้ให้กลุ่มธุรกิจอื่นๆ ด้วย (ราคาของ digital contact lists ในตลาด marketing ของสหรัฐฯ อยู่ที่ 3- 8 ดอลล่าร์ ต่ออีเมลล์ ดังนั้น ฐานข้อมูลผู้สนับสนุนทรัมป์น่าจะมีมูลค่าประมาณ 36 - 112 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว)
นี่แหละครับ ที่เขาเรียกว่า ข้อมูลคืออำนาจ รวมทั้งที่ใครๆ ก็พูดถึงพลังของ Big Data
ฮิลลารี ใช้เงินทุ่มซื้อโฆษณาทีวีและนสพ. แต่ทีมงานทรัมป์เชื่อว่า คนยุคใหม่รับข่าวจาก social media มากกว่า
ฮิลลารี จ้างทีมนักกลยุทธ์การเมืองที่ดีที่สุด แต่ทีมงานทรัมป์มองว่าการเมือง ไม่มีอะไรต่างจาก marketing ในภาคธุรกิจ และมองตัวทรัมป์เป็น "สินค้า" (แม้จะเป็นสินค้าชำรุดแค่ไหนก็ตาม)
ฮิลลารี มีทีมงานสื่อสารการเมืองขนาดใหญ่โตมโหฬาร ขณะที่ทรัมป์ใช้คนไม่กี่คนนั่งคลิกซื้อโฆษณาใน facebook จากโต๊ะทำงานที่บ้าน
น่าคิดนะครับ ทุกวันนี้ที่เรารับสารจาก social media และสื่อทั้งหลายนั้น เราได้ใช้วิจารณญาณแค่ไหน ว่าเราเป็นเป้าหมายของการ marketing แค่ไหน และเรารับสารจากด้านเดียวหรือเปล่า?
Project Alamo ประสบความสำเร็จ โดยที่ไม่ต้องใช้แผนสำรองที่เตรียมไว้ถ้าทรัมป์แพ้ เพราะวันนี้ทรัมป์ได้กลายเป็น ปธน. คนใหม่ของสหรัฐฯ เรียบร้อยแล้ว
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
>>417 >>418 ไม่ใช่ว่าคนโหวตทรัมป์เพราะอยากตบหน้าLibtardเหรอวะ
พวกสนับสนุนฮิลลารี่ เเทนที่จะพูดคุยกันด้วยข้อมูลดีๆเผื่อจะโยกคนมาอยู่ฝ่ายเดียวกัน เสือกใช้เเต่คำว่า Racist,Sexist,Bigot etc. ใส่ฝั่งตรงข้าม เเบบนี้นอกจากจะโยกเสียงมาไม่ได้เเล้ว ยังจะทำให้bystandersที่ไม่คิดจะโหวตทรัมป์รำคาญ หันไปโหวตทรัมป์เพราะอยากดื่มน้ำตาลิเบอรัล
ทำตัวเองเเท้ๆ 5555555555555555
"หมูอยู่ในกระเพาะ อัลเลาะห์อยู่ในใจ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ฮิลารี่อยู่เบื้องหลังม็อบหรือเปล่า
Mike "If Your Ass Is Loose, You Get The Noose" Pence
Mike "Pop a chub at your bud, join the high-voltage club" Pence
Mike "Keeping the fags on the defense" Pence
Mike "Sucked the post ? Prepare to roast" Pence
Mike "If you put it where he poops, your necks ready for the loop" Pence
Mike "The only power we're giving queers is Volts time Amperes" Pence
Mike "If men make you jerk it then we complete the circuit" Pence
Mike "Alternating current for alternative lifestyles" Pence
Mike "Crave the cock, get a shock" Pence
Mike "LGBBQ" Pence
Mike "Boipussy? Die wussy" Pence
Mike "Suck cock get shocked" Pence
Mike "Guy love? Fry bruv" Pence
Mike "Fags get toe tags" Pence
Mike "Swing for the wrong team hang from the ceiling beam" Pence
Mike "Vegetables out of fruits" Pence
Mike "Out of the closet, into the chair" Pence
Mike "EMP the LGBT" Pence
Mike "Electro-magnetic pulse nightclub" Pence
Mike 'Pepper spray away the gays' Pence
Mike "Swing the other way? Here comes Enola Gay" Pence
Mike "Set the phasers to straight" Pence
Mike "Same-sex pairs get the chair" Pence
Mike "Touch a Wiener, Things Get Meaner" Pence
Mike "The electric stool for the homosexual fool" Pence
Mike "AC/DC for LGBT" Pence
Mike "Believing in evolution explains your sexual confusion" Pence
Mike "Bulge Gazers get the tasers" Pence
Mike "Two dicks collide, a chair i'll provide" Pence
Mike "Love a trap, get a zap" Pence
Mike "Back door ain't tight, out of my sight" Pence
Mike "Date a man, into the van" Pence
Mike "Act like a sissy bitch, be prepared when I hit the switch" Pence
Mike "Fight the gay with gamma rays" Pence
Mike "Vice President-Elect(ric)" Pence
Mike "Putting Faradays in gays" Pence
Mike "Feelin' Bi? Time to electrify" Pence
Mike "Anal destructors get hooked up to the conductor" Pence
Mike "S.W.A.T Raid on the Pride Parade" Pence
Mike "Fender bender the transgender" Pence
Mike "Put the amp in straight camp" Pence
#certain anonymous image board
ประวัติ รมต คลังของทรัมพ์
=======================
เคยทำงานกับโกลด์แมน แซคช์ และโซรอส ทำงานฟื้นฟูบริษัทล้มละลาย ปลดหนี้ แปลงหนี้
เคยลงทุนผลิตหนัง Avatar, Mad Max, American Sniper ,
รสนิยมการทำหนังพล็อตเรื่องแนวนี้ ย่อมสร้างนโยบายที่น่าตื่นเต้น หักมุม คาดไม่ถืง เกินจินตนาการ ล้ำลืก
หลุดโลกแน่นอน
น่าสนใจมาก สนุกมาก
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"วันนี้เป็นวันรณรงค์อนุรักษ์แม่น้ำเจ้าพระยาและต่อต้านขยะประจำปีของลิเบอรัลไทยหนิครับ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
แต่ทรัมป์มันก็ไม่ได้แบ่งแยก เชื้อชาติ ขนาดนั้นนี่หว่า แกบอกจะจัดการเรื่องอพยพผิดกฏหมาย ให้เข้มงวดกว่านี้ และ สนับสนุนให้โรงงานที่ไปนอกประเทศกลับมาสร้างงานในประเทศ แต่กูโครตชอบที่ทรัมป์พูดเลย ทหารที่เป้ฯวีรบุรุษคือไปทำภารกิจสำเร็จแล้วกลับมา ไม่ใช่ ทำภารกิจล้มเหลวแล้วโดนจับ คือเราต้องช่วย แต่ เชิดชูไปทำไม ก็ถูกของมันนะ
กูชักชอบทรัมป์มากกว่าฮิลนารี่เฮะ สายนางออกจะ อ๊าเบิร์ดรักทุกคนเลย ห่าเมิงคนประเทศมึงจะตายหมดแล้ว มึงยังจะไปรักทุกคนอีกเรอะ
"ถ้าทุกครั้งที่ผมเห็นหรือได้ยินคนเล่นมุกหรือถามทำนองว่า Ghost in the Shell แปลว่าผีในหอยใช่มั้ย แล้วได้เงินครั้งละ 1 บาท ผมคงมีงบให้ค่ายหนังทำหนังคนแสดงเรื่องนี้ได้ตั้งแต่สิบปีที่แล้ว"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ผมนี้ก็ ทำงานไปไม่ได้หวังอะไรหรอกนั่งมอง นมลูกสาวเจ้านายก็สดชื่นแล้ว
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
คือหลับตาฝันถึง...วันที่มหาลัยไทยจะถอนพวกวิชา GE ไร้สาระไปให้หมด อีพวกพลเมืองดี คุณภาพชีวิต พละศึกษา ไม่ควรจะเป็นวิชาบังคับ เลือกอิสระก็พอ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
วิทย์เรียนไว้เผื่อหลุดไปต่างโลก
#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง
สนใจวิชาสู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นไหม
#มิตรเสพย์กัญชาท่านหนึ่ง
เคยเห็นคุไทยดิ้นตอนเว็บเเฟนซับอนิเมะปิดไปแล้ว ทีนี้มาดูติ่งเกาหลีดิ้นบ้างครับ เเหม่ มาเเนวเดียวกันเลย "พากษ์ไทยกาก ของถูกลิขสิทธิ์มาช้า ไม่อยากจ่าย รู้ไหมเเฟนซับทำให้ดังมากเเค่ไหน etc." ตรรกะควายๆเเบบเดียวกันเป๊ะ
ปล. ไอ้จ่าไม่ออกตัวเเรง ทำท่าสะใจตอนเเฟนซับเกาหลีโดนปิดเหมือนตอนเเฟนซับเมะโดนปิดเหรอวะ เห็นตอนมีดราม่าค่ายเเฟนซับของถูกลิขสิทธิ์นี่ทำตัวเป็นเเม่ทัพเเห่งความยุติธรรม นำพากองทัพสู้กับเหล่าปลิง
อ้อลืมไป ติ่งเกาหลีไลค์เพจมันเยอะอยู่ เดี๋ยวจะโดนอันไลค์ อุดมการณ์เอาไว้ก่อน คริคริ
-มิตรสหอยทั่นนึง
"รถเบนซ์จอดกลางถนน แถมกั๊กเลนซ้ายสุด ลุงแท๊กซี่คนที่ขับกล้ามาก
เดินลงไปบอกกึ่งต่อว่าให้คนรวยคนนั้นเลื่อนรถ
น่าดีใจนะครับ
บนถนนยังมีคนกล้าไม่กลัวพวกคนเห็นแก่ตัว
ตอนลงรถ ค่ารถ 60
นี่ครับลุง ยื่นแบงค์ร้อยไป
"ลุงไม่มีทอนนะ"
"......""
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"กลัวทรัมป์เหรอ มึงก็เลิกเป็นตุ๊ดสิ - ความรู้สึกเช้านี้เวลาเลื่อนอ่านเจอตุ๊ดไทยตระหนกกันมากมาย บ้านมึงอยู่บางใหญ่ อีดอก ไม่ใช่โอไฮโอ้"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"วันนี้ทั้งวันเห็นบนฟีดส์บ้าง ตามคอมเมนต์บ้างคอมเมนต์ด่าคนที่เสียเว็บซีรียส์โดนปิดว่าดูฟรี ไม่จ่าย แล้วมาโวยวาย
เออ เข้าใจคนที่เสียดายเรื่องเว็บซีรียส์ดังโดนปิดนะคือหลายคนก่พร้อมจ่ายแต่มันไม่มีให้กูดูเว้ย
เขาเคยมีรายงานมาละครับว่าส่วนใหญ่ที่มีการ piracy เป็นเรื่องการเข้าถึง ยิ่งการเข้าถึง content ไกลเท่าไรยิ่งมี piracy สูง
หลายคนบอกมี netflix iflix hollywood hd
ห่ากู subscribe รายปีทั้งสามเว็บ ก่ไม่มีละครเกาหลีให้ดู มีแต่ iflix ที่ต้องรอเป็นปี
อย่าง Game of Throne , TWD เนี่ย พวกแม่งดูแผ่นแท้กี่คนวะ กูละอยากให้ HBO ประกาศแบบนี้บ้าง
เรื่องเกมก่เหมือนกัน มันเป็นเรื่องการเข้าถึง
คือมันมีพวกไม่อยากก่มีนะใช่ แต่มึงจะเหมารวมไม่ได้ กูเรียกพวกแบบนี้ว่าลัทธิไอ้จ่า
ใครว่ากูสนับสนุน piracy นี่มานับจำนวนเกมใน steam แข่งได้นะครับ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
>>445 บ่นทำเหี้ยไร ไม่ได้เล่น ไม่ได้ดูเเล้วจะตายเหรอสัส สิ่งบันเทิงไม่ใช่ปัจจัยสี่
ซีรีย์หรือข้าววะ ไม่ได้เสพเเล้วจะขาดใจตาย 55555555
ปล. ลัทธิไอ้จ่าควรเอาไว้เรียกพวกด่าคนอื่นเรื่องเกมเถื่อนเเต่ตัวเองอ่านเจ็ดบาปสแกนว่ะ
หรือพวกด่าเเฟนซับอนิเมะ เเต่ตัวเองดูดLegal Highเถื่อนมาดู
คริคริ
"ในการทำกราฟิคของโปสเตอร์หนังนั้นจะมีการหาเรฟเฟอเรนซ์ทางกราฟิคจากโปสเตอร์หนังเรื่องอื่นๆ เป็นจำนวนเกือบร้อยใบ ซึ่งโปสเตอร์ซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่องดังกล่าวก็เป็นหนึ่งในนั้น ในระหว่างการทำเรามีการปรับแก้กันไปมาหลายรอบ จนสุดท้ายมาลงตัวที่การจัดวางคน และองค์ประกอบของภาพแบบนี้ ซึ่งผมยอมรับว่าประมาทเลินเล่อเอง ที่ไม่ได้ตรวจเช็คผลลัพธ์ภาพสุดท้ายที่ออกมาว่ามีความใกล้เคียงกับโปสเตอร์ที่เคยมีมาก่อน"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
we're machines enduring life's stress test. You, specifically, are an old beatdown car careening down the highway. The oscillations are increasing, one of the wheels is about to break out, the coolant ran out long ago.
Point is, you have issues. And there are people around your age that are well maintained lamborghinis. They were born with better genetics and to a family with higher social status. They dont have mental health issues and are graduating from Yale, they are travelling in Europe and going to surf in Malaysia.
Life isn't going to slow down. You're not going to get any more time, and your half-hearted attempts at duct taping the loose parts is not going to save you, and definitely not going to let you overtake the luxury cars. No, most likely you're going to end up in a ditch on the side of the road. And this is going to be the end, no replay from the last checkpoint, no award ceremony. GG.
There is a solution though. You power through. Even though you're getting half the acceleration, even though they've already pulled impossibly ahead, the only possible solution is to just push forward on an empty tank and pray to whoever will listen.
And like, we can give you more or less useful tips. "Go to the gym". "Learn a language". "Quit video games". We can tell you about real and perceived life short cuts. "Go into IT". "Lie on your resume". "Don't masturbate". There is enough of this drivel elsewhere on the internet.
The truth is, this kind of advice is useless. The world is wide and complicated, and humans are even more complicated. We don't really understand the chaos and randomness and attribute our success to tangentially related events, and then proudly and confidently present this advice to a person in a completely different situation. Fuck that. You have to figure it out, and nobody can tell you what and how and when and who. Any advice that is so accurate that its always useful is so general that it isn't.
"มาประจำจุดตรวจรักษาความปลอดภัยที่สนามหลวงได้สองวัน พบว่าอาสาสมัครที่มาสนามหลวงนี่กว่าครึ่งเป็นอาสามาอู้อ่ะครับ ไม่ได้ช่วยงานอะไรได้เลย อยู่ไม่ถึง 20 นาทีถ่ายรูป หายทั้งวัน"
มิตรสหายท่านหนึ่ง
ตัวขบวนนี้สั่งมานานแล้วครับ
แต่ถ้าเป็นผลงานรัฐบาลนี้จริงๆ น่าจะเป็นพวกรางคู่มากว่า
มาดูกันว่าปัญหาสำคัญของรถไฟไทยคืออะไร
ปัญหาสำคัญมีสองส่วน
1.ปัญหาจากนักการเมือง
2.ปัญหาจากภายในองค์กรเอง
การที่รถไฟถูกทิ้งมากว่าสามสิบปี โดยที่ไม่มีใครเข้าไปทำอะไร
เพราะโครงการที่เกี่ยวกับรถไฟ ไม่สามารถสร้างคะแนนเสียงใด้
นักการเมืองทุกยุคสมัย เลยไม่สนใจที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยว
อย่างเช่น ถ้าคุณมีงบห้าหมื่นล้าน ระหว่างเอาไปสร้างรถไฟทางคู่ กับเอาไปอุ้มผลผลิตทางการเกษตร
ถ้าคุณเป็นนักการเมือง คุณย่อมเลือกเอาเงินไปลงที่โครงการที่สร้างฐานเสียงให้ตัวเองย่อมดีกว่า
แน่นอนว่าไม่ใช่สิ่งที่ผิด เพราะนักการเมืองประเทศใหนก็ทำกัน เพียแต่ไทยทำมากไปหน่อยชนิดทิ้งรถไฟไปเลย
อีกข้อคือสเถียรภาพ การเมืองไทยมันไม่เคยนิ่งมาสามสิบปี เวลามีคนจะทำจริงๆ
พอตั้งโครงการ ส่ง EIA ต้องรอเวลา สามถึงสี่ปี ถามว่ามีรัฐบาลใหนของไทยอยู่ยาวขนาดนั้นใหม
พอ EIA เสร็จคนที่จะทำก็ไม่อยู่แล้ว นักการเมืองที่มาสานต่อของไทย ก็มักจะไม่ทำโครงการต่อ
ถ้าไม่ล้มโครงการไปเลย ก็มักส่งกลับ ให้ไปแก้แบบบ้าง แก้แบบที ก็ทำ EIA ใหม่ แล้วก็วนลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆ
สุดท้ายก็ไม่ได้สร้างอะไรซักที มีน้อยโครงการมากๆที่จะสานต่อกันเป็นทอดๆแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล
อีกข้อคือปัญหาภายในของการรถไฟเอง ที่มีตัวพ่อหลายตัวทำตัวเป็นเสือนอนกิน
ชั้นจะทำงานแบบเช้าชามเย็นชามแบบนี้แหละ ทำงานสบายๆรับเงินเดือน ทำไมต้องสนเรื่องพัฒนา
ทรัพย์สมบัติของรถไฟมีมากมายมหาศาล ก็แสวงหาประโยชน์จากมันซะเลย
ปัญหาพวกนี้มีมานาน แต่กำลังถูกล้างบาง ปัจจุบัน ภายในรถไฟ ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก
แต่ถามว่าพวกไม่ดีหมดไปรึยัง คำตอบคือยังมี แค่เราไม่รู้ว่ามันหลบอยู่ตรงใหนบ้าง
นอกจากนี้ระบบบริหารภายในที่ยังล้าหลัง กฎหมาย กฎระเบียบ หลายอย่างก็ล้าหลังอย่างมาก
การที่ไม่มีใครเข้าไปแก้อย่างจริงจังกว่าสามสิบปี การมาแก้ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
ตอนนี้หลายๆฝ่ายก็พยายามแก้อยู่ แต่ก็เป็นไปแบบค่อยๆคืบหน้า
เรื่องหลายอย่างจำเป็น ต้องให้ศาล หรือหน่วยงานรัฐอื่น เข้ามาตีความ มันเลยช้า แต่ก็ถือว่าเริ่มทำอะไรซักอย่างแล้ว
ถามว่าทำไมรัฐบาลนี้ทำได้เร็ว คือรัฐบาลนี้มีช่องทางพิเศษเยอะ
อย่างทำรถไฟรางคู่เจ็ดเส้นแรก ถ้าเป็นรัฐบาลปรกติ จะไม่สามารถทำได้เลยในเวลาขนาดนี้
เนื่องจากปรกติเสนอโครงการ ออกแบบ ก็กินเวลาอย่างน้อยหนึ่งปีแล้ว (หรืออาจะมากว่านั้น)
ทำ EIA อีกอย่างน้อยสองปี ถ้ามีการแก้แบบ ก็ยิ่งนานไปอีก
รัฐบาลปรกติเอาแบบเร่งสปีดเร็วกว่านรก อย่างน้อย สี่หรือห้าปีกว่าจะได้ลงเข็มแน่ๆ
รัฐบาลนี้เข้ามาคิดว่าแค่สร้างทำไมจะสร้างไม่ได้ พอมาลุยเองเจอตอเพียบ
ตอนรัฐบาลเจอตอเรื่อง EIA ที่ต้องรอสองปี รัฐบาลก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน
เลยใช้ ม.44 ฟันฉับ ลัดขั้นตอน EIA ให้ทำพร้อมไปกับขั้นตอนอื่น มันลดเวลามาได้เยอะ
สุดท้ายสองปีที่ผ่านมาเลยลงไปได้เจ็ดเส้น
แน่นอนพอใช้ ม.44 ตอต่อมา คือสื่อก็จัดหนัก ว่าเร่งโครงการเพื่อเอกชน เอนจีโอก็ออกมาโวย
แต่รัฐบาลนี้ ใครเตะตัดขายากเพราะอำนาจเต็มมือ ถ้าเป็นรัฐบาลปรกติไม่ว่ามาจากพรรคใหน
รอดยากครับ เอนจีโอ ม๊อบ ต่างๆคงออกมาแล้ว
ปีหน้าจะเป็นปีที่วงการรถไฟ น่าตื่นตะลึงสุดในรอบห้าสิบปี
เพราะหลายโครงการจะถูกทำอย่างจริงจัง และได้ลงแน่นอน
เพราะดูจากปีที่ผ่านมา ดูเมกะโปรเจครถไฟ ไม่มีใครมาหยุดได้แล้ว ลงกันแบบฉับๆๆเลยทีเดียว
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"เห็นกะหรี่ไทยโดนดักที่ตม.เกาหลีเเล้ว กูรู้เลยว่าทำไมตอนเลือกตั้งเมกามีพวกด่าทรัมป์ในเพจไอ้จ่าเยอะเหลือเกิน โรบินฮู้ดเถื่อนทั้งนั้น
ขอให้โรบินฮู้ดไทยโดนดีพอร์ตจากเมกาเร็วๆนะครับ"
-มิตรสหายท่านนึง
นั่งดูโปร Lazada 21.11 แล้วลดเยอะดี เลื่อนเพลินๆ เลื่อนดูเรื่อยๆ
เอ๊ะ เจอสินค้าที่เรารู้ราคาอยู่แล้ว เอ๊ะ ทำไมราคาลดแล้วมันแพงกว่าราคาที่วันก่อนจะไปซื้อที่หน้าร้านฟระ
ดูราคาเต็ม เอ๊ะ ทำไมราคาเต็มมันแพงขนาดนั้นฟระ ไม่เคยเห็นเลขนี้มาก่อน -*-
สรุป ขึ้นราคาเต็มแพงกว่าข้างนอก 30% แล้วลดราคาลงมา 30% ให้ราคาลงมาเท่ากับซื้อที่อื่นตอนยังไม่ลด
พัง ปิดแอป บัยยยย
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
อยากดูความล้มเหลวของคนไทยให้ไปดูที่ comment เพจดราม่า ใต้เตียงดารา และในเว็บตูนครับ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"นักพูด
ประเด็นเรื่องนักพูดตอนนี้ไม่เคยฟัง (และไม่สนใจจะฟัง) คงไม่อะไรนัก แต่ประเด็นหนึ่งคือนักพูดบ้านเราอยู่ได้จำนวนมาก เพราะหน่วยงานราชการนิยม
คิดอะไรไม่ออก จะจัดอะไรสักอย่างให้เป็น "การอบรม" (แต่ไม่รู้จะอบรมอะไร) ก็จ้างนักพูด ฟังมันเข้าไป ให้ดูว่าได้ประโยชน์ สักว่าได้อบรม เพื่อทำ KPI หน่วยงานให้ครบ
เคยโดนไป (หลาย) ที งานยุ่งฉิบหาย ต้องไปนั่ง "อบรม" มารยาทไทย
นี่คือกระบวนการ "เลวโดยไม่ต้องโกง" ทุกอย่างโปร่งใส จ่ายเงินถูกต้องตามเอกสาร ตามระเบียบทุกประการ แต่คนทำงานไม่ได้ทำ อบรมไม่ได้ประโยชน์ เงินสาธารณะต้องจ่าย เวลาของลูกจ้าง (เงินสาธารณะอีกเช่นกัน) ต้องเสียไป งานไม่เดิน อยู่ๆ คนหายไปเป็นร้อย ไปนั่งอบๆ ตากลำโพงให้ KPI ครบ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"ประชากรเพจนี้ และแอดมินชอบพล่ามแต่สิ่งที่ตัวเองเสียเปรียบ ทั้งๆ ที่โง่เอง ไม่แปลกใจทำไมถึงเป็นได้แค่คนจนๆ ขี้แพ้ รู้ทุกเรื่อง แต่ไม่รู้ว่าจะทำไงไม่ให้ตัวเองโดนเอาเปรียบ เป็นมนุษย์ไร้ซึ่งเป้าหมาย โหยหาแต่ความเท่าเทียมที่ไม่มีอยู่จริง ไม่เคยเปิดใจรับสิ่งใหม่ คุณมีความฝันหรือไม่ ทำไมคุณไม่ลองออกมาจาก Comfort Zone คุณจะเป็นมนุษย์เงินเดือน เหนื่อยเพื่อให้คนอื่นรวยขึ้นและมาเอาเปรียบเราทำไม คุณคิดว่าคุณมั่นคงแต่คุณก็มีเงินเดือน 15000 เท่าเดิม เทียบผมไม่ได้เลยที่ไม่มั่นคง แต่ได้ 70000 บ้าง 90000 บ้าง เปิดใจให้กว้างๆ ตัวผมก็เคยเป็นแบบพวกคุณ แต่ชีวิตผมเปลี่ยนไปแล้ว ทุกวันนี้การขโมยไอโฟนแค่ 6-7 เครื่องก็สามารถอยู่ได้ทั้งเดือนแล้ว"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"เหตุการณ์จินตนาการนี้ไม่ใช่เรื่องจริง แต่เกิดขึ้นที่ประเทศแห่งหนึ่งที่หน่วยงานของรัฐกำลังประชุมกันอย่างคร่ำเครียด วางแผนเข้าสู่ยุค 4.0 และ Digital Economy บนโต๊ะเต็มไปด้วยเอกสารมากมาย ผู้คนมาจากตัวแทนหน่วยงานต่างๆที่ส่งจดหมายเชิญ ส่ง Fax อย่างกระทันหันทำให้หลายคนเข้าประชุมไม่ได้ ที่ประชุมกำลังจินตนาการถึงโลกยุคใหม่ นึกถึงคำว่า Digital Transform แต่ผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่
-ไม่เคยใช้ Internet Banking, Mobile Bank; PayPal แต่กำลังมาถกอนาคตของระบบการเงิน และกังวลเรืองความปลอดภัย
-ไม่เคยซื้อของออนไลน์ ไม่เคยใช้ EBay, Amazon, Aliexpress หรือเจ้าอื่นๆ แต่กำลังถกนโยบาย E-Commerce
-ไม่เคยจองตั๋วเดินทาง ที่พักออนไลน์ ไม่เคยใช้ Uber, GrabTaxi แต่กำลังมาพิจารณาด้วยความกังวลกับธุรกิจใหม่แบบนี้
-ไม่เคยใช้ Google Calendar, Collaboration Tools, Skype , LinkedIn เน้นแต่เล่น Facebook และส่ง Line Group สวัสดีเพื่อนยามเช้า แต่กำลังถกนโยบายการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ
-ไม่เคยอ่านเอกสารออนไลน์ ไม่ใช้ eBook ไม่เข้าใจ PDF แต่กำลังคิดถึงนโยบายลดเอกสาร
ยังมีอีกหลายอย่างที่ไม่กล่าวถึง แต่ลองจินตนาการเองต่อแล้วกันว่า งานที่ว่าจะเป็น Digital Economy จะไปต่อได้ไง ถ้าคนทำงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนไม่เล่นไม่ใช้ ไม่มี Digital Mindset"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"When all other browsers fail, IE is always there.
Never forget."
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ช่วงนึงผมเคยเป็นทหารเกณฑ์ครับ
.
.
แน่นอนสาเหตุไม่ต้องสืบมาก สมัยเรียนติดเกมจนไม่เรียน รด. พอเรียนจบก็เลยต้องมาลุ้นจับทหารไง จะอะไรล่ะ
.
.
แล้วสงสัยช่วงนั้นเล่นเคาท์เตอร์บ่อยด้วยมั้ง ดวงจับปืนเลยแรง โดนแดงเต็ม ๆ ผมนี่น้ำตาคลอเลย ผลัดแรกซะด้วย ผมก็ไม่รู้จะทำไง นอกจากนัดเพื่อนไปหมูกระทะทิ้งทวนทุกวัน ก่อนโดนเข้ากรม
.
.
เรื่องของเรื่องก็คือ พอดีเมื่อวานเพิ่งได้อ่านข่าวเรื่องคลิปทหารถูกทำโทษครับ และก็ได้แชทคุยกับเพื่อนทหารผลัดเดียวกัน ถึงเรื่องโดนซ่อมทหารนี่แหละ
.
.
มันจำได้ว่า ช่วงนึง ผมโดนหมู่คนนึงซ่อมเดี่ยวหลังอาหาร 5 วันติด ข้อหาเรียนจบปริญญาตรี ฮ่า ๆ (ข้อหาอะไรวะเนี่ย) หรือพูดง่าย ๆ ก็หมั่นไส้น่ะแหละ เพราะหมู่เขาเรียนไม่จบ เลยเป็นปมนิโหน่ย ให้อยากแกล้งคนจบตรีไม่มีเหตุผล
.
.
เพื่อนบอกว่า ถ้าตอนนั้นมีเฟซบุคนะ มันจะถ่ายคลิปตอนผมโดนซ่อมลงเฟซ พร้อมแคปชั่นปลุกระดมให้คนรุมด่าจนหมดอนาคตเลย มึงคิดว่าไงวะ เอาคืนแบบนี้สะใจมั้ย
.
.
ผมนิ่งไปแป๊บ คือที่นิ่งไปเพราะว่า มันพูดเรื่องนี้ แต่ผมลืมเรื่องนี้ไปแล้วไง 555+ เฮ้ย พอนึกออกผมนั่งขำเลย มันกลับตาลปัตรรึเปล่าเนี่ย คนโดนไม่จำ คนจำคือคนไม่โดน
.
.
ครับ ให้ทายว่า ผมตอบมันว่าไง ให้มันถ่ายคลิปมั้ย
.
.
ไม่ครับ เหตุผลง่าย ๆ คือไม่ว่าจะตอนนี้ หรือตอนนั้น ผมไม่อยากจำ แล้วผมก็ไม่อยากให้ใครมาตัดสินทั้งตัวผม และหมู่ที่ทำโทษผม จากเหตุการณ์เดียวด้วย
.
.
แน่นอนว่าคนไม่รู้จักคนในคลิป เขาก็จะตีความไป 2 แบบ ไม่ผมทำผิด ก็หมู่บ้าอำนาจ
.
.
แต่มีเรื่องนึง ที่เพื่อนผมไม่รู้
.
.
ก่อนปลดประจำการ หมู่แกพาผมไปเลี้ยงเหล้าขอโทษ ก็เพิ่งรู้ว่าแกก็รู้สึกผิดเหมือนกัน แน่นอนเพื่อนผมไม่ได้ไปด้วย และผมก็ไม่ได้มาเล่าให้มันฟังเหมือนกัน มันก็เลยเพิ่งรู้เมื่อวานนี้เอง
.
.
สุดท้ายหมู่แกก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร เพียงแต่เลวแค่ตอนนั้น
เท่านั้นเอง อย่างน้อยแกก็ยังรู้ตัวทีหลังว่าที่ทำมันเกินไป
.
.
.
ผมว่าเหรียญมันมี 2 ด้านเสมอจริง ๆ นะ แต่การที่เราจะเห็นครบ 2 ด้านหรือเปล่า มันก็อยู่ที่เราน่ะแหละ ว่าลงมือตัดสินใครไปหรือยัง ถ้าเราตัดสินใครสักคนในด้านหนึ่งไปแล้ว มันแทบจะปิดโอกาสที่เราจะได้เห็นเขาอีกด้านไปเลย
.
.
ผมเชื่อว่าสื่อโซเชียลจากนี้ จะมีคลิปเรื่องแบบนี้อีกเยอะครับ เรื่องในแง่ลบ ๆ
.
.
คลิปล่าสุดนี่ผมก็ขอไม่แสดงความเห็นอะไรละกัน เพราะผมก็แค่อ่านมา คนในเหตุการณ์ก็ไม่ใช่
.
.
ผมบอกตัวเองเท่านั้นว่า ดูมันให้เป็นแค่เหตุการณ์นึง อย่าตัดสินอะไรเด็ดขาด ดูแล้วก็ให้ผ่านไป
.
.
เพราะเราอยู่ไกลกับเหตุการณ์นี้ เกินกว่าจะเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง
.
.
สุดท้ายเพื่อนผมโวยใส่เลย เขาขอโทษมึงแล้วก็ไม่บอก แถมหมู่เลี้ยงเหล้าแล้วไม่ชวนกูด้วย
.
.
รู้สึกมันจะโวยอย่างหลังมากกว่า
.
.
ผมถามมันกลับ แล้วตอนนั้นทำไมยืนดูเฉย ๆ ไม่เข้ามาขอโดนซ่อมเป็นเพื่อนด้วยกันวะ เพื่อนกันจริงป่ะเนี่ย
.
.
มันตอบ "เพื่อนเอ๋ย.... มึงรู้มั้ยตอนกูยืนดูมึงถูกซ่อม น้ำตากูไหลไม่หยุด มึงเจ็บตัวแต่กูเจ็บใจ !!!
.
.
อืม ผมได้แค่ยิ้มอ่อน กับอุทานไอ้สัสเบา ๆ เท่านั้นเอง
#ว่าแต่ประโยคมันคุ้นๆนะ
- มิตรสหายไนท์หนุ่ม
บางทีเป็นพิวดี้ แม่งก็โคตรเหนื่อยอะนะ [ชอบเม้นนี้ชิบ]
PewDiePie Hi PewDiePie ... I hope you will read this here. My name is SAEED and I come from Germany. I understand your situation. I know that you as the largest Youtuber a great responsibility and everything would be for us that we are satisfied. But I do not think you're the problem, but we as a community. Many are too young to understand that all this is not as simple and funny as it seems. I'm sure there is a lot of hard work behind it. But we as Bro community failed. Many of us have too many requirements for you and do not understand all this is not so easy. You are also just a human being. And many do not understand that. I can imagine what you have to take care of everything. You should not be forced to do something you do not want to do. You also need time for yourself. And I know you rarely had. You always give everything for us. But we want more and more. What I want to tell you, is that you should not be forced to do what. Have fun as always with your videos. Heads up. If you do not want to make Vlogs then you do not make Vlogs. Where is the problem. Stay as you are. Do not let yourself be stressed. Do not sit under pressure. As I said, many people simply do not understand it. That it is hard work. I hope you are doing well and see you soon again: D
Greeting from Germany
SAEED
"ตอนนี้ได้ข่าวมาว่า มีพวกมิจฉาชีพฉุดขึ้นรถพาไปข่มขืน ระวังนะพวกเดินริมถนนเชียงรากคนเดียว พวกนี้จะทำทีมาถามทางไปหอนั้นหอนี้ ให้กด GPS ให้ แล้วฉุดขึ้นรถเลย !
.
มีน้องคนหนึ่งโดน ฉุดตรงถนนเชียงราก หน้า ร้านโคตะระ พาเข้าป่าสักที่ แล้วน้องหนีมาได้ ตอนนี้สภาพจิตใจแย่มากๆ แจ้งความแล้วยังไม่ได้เรื่องเลย รอกูเรียบเรียงได้ก่อน กูจะฟ้องเพจ คอยดู!!
.
จริงๆ เราเคยโดนเหมือนกันไม่นานมานี้เอง น่าจะสัปดาห์ที่แล้ว ตอนดึกๆ ชอบออกไปหาไรกินแถวหอ Tudio แล้วคือมีรถยนต์ ขับมาทำท่าเหมือนจะจอด เหมือนชะลอๆ แล้วก็มาหยุดตรงเราแต่เยื้องๆ ไปหน่อย อีนี่ก็ใจดี หันไปถามว่ามีไรปะคะ คนขับก็เลยทำทีถามทางไป หอ เจ ปาร์ค อีนี่ก็บอกทางตามปรกติ ด้วยความชำนานเส้นทางเชียงราก ก็บอกแบบเคลียร์สุด โดยไม่มีการต้องเปิด GPS แต่อย่างใด และก็คิดว่าคงไม่มีไร บวกกับ แฟนก็ยืนอยู่ห่างๆ คอยดูอยู่ แต่ตอนนั้นรู้สึกได้เลยว่าแปลกๆ แปลกมากๆ ด้วยความเซ้นแรง มองหน้าคนในรถแล้วรู้สึกไม่ค่อยโอเค แววตาดูฉ่ำๆ จริงๆวันนั้นยังพูดกับแฟนเลยว่ารู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่าง เขาเหมือนรู้ทางอยู่แล้ว แต่มาแกล้งๆ ถามเฉยๆ ซึ่งเราก็ไม่รู้จุดประสงค์เขาอยู่ดี ก็เลยปล่อยๆ ไป วันนั้นเราไม่โดนก็ทำไรนะ เพราะอยู่กับแฟน ไม่งั้นอาจไม่รอด แต่ปรกติ แฟนเราจะไม่ปล่อยให้เราเดินไปคนเดียวอยู่แล้ว
.
มาถึงวันนี้ มีคนรู้จักโดนจร้าาาา คือเอาเข้าจริง เด็กธรรมศาสตร์เราว่า 99.9998% เป็นคนดีนะ ส่วนใหญ่ที่ทำข่าว ที่เห็นข่าว หรือที่ได้ยินข่าว จะเป็นคนนนอก มธ ที่เข้ามาทำเรื่องไม่ดีแบบนี้ ทั้งฉุดข่มขืน ขโมย และ อื่นๆ อีกมากมาย
.
เตือนนะ อย่าไว้ใจใคร ข้าวของอย่าวางทิ้ง อย่าเดินคนเดียวในที่เปลี่ยวๆ ยิ่งดึกๆ มิจฉาชีพแถวนี่แม่งเยอะมากๆ พลีสสสส
ปล. ถนนเชียงราก ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต นะคะ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"วิถีคดในการทำธุรกิจแบบคนดำ เราจะไม่ยุ่งกับสินค้าไฮเทคที่ฉาบฉวย เนื่องจากมันเก็บไว้ไม่ได้นานต้องรีบปล่อย แต่เราจะยึดถือสินค้าที่เรียบง่าย สามารถเก็บไว้เพื่อเป็นของสะสมเช่น จักรยานคลาสสิกดีๆสักรุ่นหนึ่ง ที่เราตั้งใจถอดอย่างบรรจงชนิดไม่มีรอยข่วนโดยใช้เวลา 6 นาที 32 วินาทีเป็นมาตรฐาน เราจะเก็บมันไว้อย่างดีจนกว่าจะเจอลูกค้าที่พึงใจแล้วค่อยฟันราคาจนหัวแบะ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"ฉันเกิดในสมัย PC ที่คนเล่นละครเวทีเป็นจอร์จ วอชิงตัน อาจเป็นผู้หญิงมุสลิมใส่อิญาบ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ปกติเวลามีกระทู้แนวโดนคนรอบข้างหาว่าการ์ตูนไร้สาระเนี่ย เราเห็นพวกคนการ์ตูนนี่แหละ ที่ออกไปลุยดูถูกงานอดิเรกคนอื่นก่อนเพื่อน ดีกว่าละครไทยบ้างล่ะ ดีกว่าไปทำโน่นทำนี่บ้างล่ะ การ์ตูนดีทุกเรื่อง ถูกทุกเรื่อง จริงๆการโต้ตอบแบบนี้ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย ถ้าไม่อยากให้คนอื่นเค้าดูแคลนว่า งานอดิเรกเราไม่ได้เรื่อง ผมว่าเราต้องเริ่มต้นที่ตัวเราอ่ะครับ พยายามหาแง่มุมที่เป็นประโยชน์จากสิ่งที่เราชอบมาพัฒนาตัวเองให้เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ อย่าลืมครับว่า คุณทำตัวยังไง รอบข้างเค้าก็ตัดสินงานอดิเรกของคุณจากคุณภาพของตัวคุณเองนั่นแหละ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
เป็นลิเบอร่านนี่เหนื่อยจังเลยครับ ต้องปกป้องสิทธิตัวเองแล้ว ยังต้องปกป้องสิทธิคนอื่นด้วย
แม้ว่าคนอื่นเหล่านั้นจะสะใจเวลาเราโดนกดหมายเล่นงาน และพร้อมจะสาปแช่งให้เราตาย ไม่มีที่อยู่
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"มีเศรษฐีจีนมาจ้างอ.เฉลิมชัย2000ลให้สร้างแบบวัดร่องขุ่นที่จีน อ.บอก กูสร้างให้ประเทศกูเท่านั้น
ไอห่าเงิน2000ล กระจอก อย่ามายุ่งกะกู กูรวย5555"
"เวลาถามว่าอองซานซูจีรู้สึกอย่างในเวลานี้ ก็ขอให้เข้าใจอะไรง่าย ๆ ก่อน บางข้อ:
1. เธอเป็นคนพุทธแบบพม่าทั่วไป สวดมนต์ ไหว้พระหนักมาก
2. เธอเป็นคน "บะหม่า" เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศที่ไล่ฆ่าโรฮิงญาอยู่ทุกวันนี้
3. เธอเติบโตมาในครอบครัวนักชาตินิยม ที่ต่อต้านบทบาททางเศรษฐกิจของชาวต่างชาติในพม่า โดยเฉพาะชาวอินเดีย
4. หากคิดว่าคนไทย dramaticize และ politicize ทุกอย่างเก่งแล้ว ก็ขอบอกว่าพม่าเก่งกว่า NLD หลีกเลี่ยงประเด็นนี้เพราะละเอียดอ่อน
5. คนพม่าจำนวนมากในสังคม ย้ำว่าจำนวนมาก สนับสนุนให้มีการกวาดล้างคนโรฮิงญา
6. อองซานซูจีคือคน เขาเป็นนักการเมือง เขาไม่ใช่เทพธิดา ถ้าการเมืองในประเทศใดเริ่มจากการบูชาเทพบุตร-เทพธิดา คุณจบตั้งแต่แรก เพราะคนอวยยอมรับอำนาจแบบ fascism ตั้งแต่แรก ผู้นำทำอะไรไม่ผิด แตะต้องไม่ได้
7. โนเบลพีซไม่ต้องไปยึดเขาหรอก ให้แล้วให้เลย แต่ในอนาคตก็อย่าไปอวยรางวัลนี้อีกก็แล้วกัน ดูป๋าบ๊อบ ดีแลนสิ แกยังไม่แคร์เลย
มีประเด็นยิบย่อยอีกมาก แค่นี้ก่อนนะ บาย"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"เวลาคนพูดประชดว่า
มึงไม่ได้ต่อต้านทุนนิยมหรอกมึงแค่จน
สำหรับผมมันก็พอกับประชดว่า
มึงไม่ได้เห็นด้วยกับทุนนิยมหรอกมึงแค่เห็นแก่ตัว น่ะครับ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"บทสนทนาระหว่างติ่ง Fate series
P: พี่ดูดิ เลเยอร์คนนี้เป็นมุสลิมอ่ะ ใช้ฮิญาบแทนวิก
PS: เออว่ะ แต่เดี๋ยวนะ นี่มันคอสโจนส์ ออฟ อาร์คไม่ใช่เหรอวะ
"จับมันไปฝังดินแล้วรุมปาหิน สัส"
ความพีคออฟเดอะเดย์"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"ฆ่าอิสลามไม่บาป"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"ส่วนฝั่งอิสลามนี่ก็น่าจะพูดว่าฆ่าคนศาสนาอื่นได้ไม่บาปได้ปกติน่ะครั่บ เป็นความต่างทางวัฒนธรรม"
#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง
"ตอนสมัยเรียนราม รับน้องก็ไปกับเด็กใต้ ซึ่งเป็นมุสลิมเยอะเหมือนกัน เราก็ไปถูกใจสาวมุสลิมคนนึง ขาว สวย คม ตาโต ระหว่างเป็นเพื่อนก็กึ่งๆจีบไปบ้าง เรียนรู้ศาสนาอิสลามมาบางส่วน เธอเช่าแชร์ห้องอยู่กับเพื่อนไทยพุทธนี่แหละ แล้ววันนึงเราก็ไปหา ไอ้เพื่อนมันก็ขอตัวออกไปดูหนังกับแฟน ก็เลยอยู่กันสองคน แต่ด้วยความหื่น เราก็เข้าไปกอด เธอก็ไม่ได้มีท่าทีขัดขืนอะไร เสร็จแล้วก็ได้กัน ซะงั้น ได้คบกันแบบลับๆ อยู่ ปีนึง แล้วก็เลิกกัน เพราะมันอาจเป็นประสงค์ของอัลเลาะห์ ก็เป็นได้
ฆ่าอิสลามบาปมั้ย ไม่แน่ใจ ?
แต่เย็ดอิสลาม ได้ขึ้นสวรรค์แน่นอน"
"เพิ่มเติม
ชีวิตจริงช่วงนั้น ลำบากมาก สังคมมุสลิมค่อนข้างปิด แม่งรู้จักกันหมด กว่าจะได้แอบเย็ดกัน บางทีก็ต้องนั่งรถเมลล์ ไปเปิดโรงแรมถึง บางกะปิ ดีนะรอดมาได้ ถ้าโดนจับได้ โดนขลิบหัวบานแน่เบย
*เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
มุสลิมห้ามสัมผัสหมา แต่ใช้ท่าหมามาเพิ่มสัมผัสได้นะ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
หมาคือเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ FU มุซซี่
หมาคือสิ่งมีชีวิตหน้าโง่ที่ชอบแสดงความเป็นเจ้าของและไม่รู้จักคำว่า "สาธารณะ" ขยะพอๆกับพวกที่บุกรุกป่าสงวนไปปลูกบ้านทำไร่ พอโดนไล่ก็โวยวายว่ากูมาอยู่ก่อน
เลิกงานแวะหาข้าวเย็นกิน ไปนั่งกินราดหน้ามาสองชาม กลับมาบ้านแม่ทำราดหน้าให้กิน WTF
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
หน้าร้อนปีหน้ากูแคนเซิล แผนไปเที่ยวอเมริกาแล้ว ไม่ใช่เพราะกูกลัวทรัมป์ แต่กลัวlibcuck ที่ปากบอกให้ยอมรับoutside,Minority,LGBT ,แต่ไม่ยอมรับว่าคนในเกือบครึ่งประเทศ อยากให้Outsider อยู่ห่าง ขนาดพวกมึงประเทศเดียวกันยังเกลียด แล้วกระเหรี่ยงแบบกูจะรอดเหรอ?
"ไม่รู้จัก ไม่ได้ติดตาม #เทอดศักดิ์ แต่ไม่เห็นด้วยกับการเอาผิดทางอาญากับใครที่พูดถึงสิ่งที่ตัวเอง “เชื่อ” แม้ว่าคนอื่นจะมองว่าเป็น “ความเท็จ” หรือ “บิดเบือน” ก็ตาม ในประเทศประชาธิปไตยที่มั่นคง ทุกคนควรมีสิทธิพูดสิ่งที่ตัวเองเชื่อ ส่วนจะสร้างความเสียหายให้ใคร ก็ไปฟ้องร้องเอาทางแพ่งเอง ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐที่จะต้องเข้ามาเป็น “ผู้ตัดสิน” ชี้ขาดความจริง และกำหนดบทลงโทษ ส่วนคนอื่นย่อมมีสิทธิชี้ให้เห็นว่าสิ่งที่เขาพูดมัน “เท็จ” อย่างไร หรือจะประณามก็ว่ากันไป"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ในทวิตเตอร์ล้วนบอกว่าไม่โอเคกับการจัดฉาก สังคมในเฟสบุ๊คกลับบอกว่าฝรั่งทำถูกแล้วเด็กไทยโง่จริงทำไมไม่ยอมรับ ผิดประเด็นมั้ยคะ🙄 #mymatenate
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
คนในทวิตแม่งอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์อยู่เลย 55555
#มิตรสหายในโลกคู่ขนาน
เบื่อพวกพิมพ์คำภาษาอังกฤษแล้วไม่เว้นวรรควะ เหมือนพวกอยากฉลาดแต่ไม่รู้จักการใช้ภาษาให้มันถูกต้อง
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"ยังไม่ได้ดูโดยละเอียด แต่เท่าที่เปิดดูคร่าวๆ ไอ้ร่างแก้ไข พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ ฉบับใหม่ล่าสุด นี่ "สอดไส้" ความชั่วร้าย ความเป็นคุณพ่อคุณแม่รู้ดี ความเผือกชีวิตส่วนตัวและความรู้สึกนึกคิดของประชาชน ความนิยาย 1984 ของ Orwell เข้ามาเยอะเลยนะฮะ ...
ถึงขนาดว่า ประชาชนจะเก็บภาพ เก็บครอบครองข้อความบางอย่างไว้ในเครื่องแบบไม่ได้เอาไปเผยแพร่ที่ไหน ก็แค่จะไว้ดูเอง หรือไว้เม้ามอยกันภายในกลุ่ม รัฐก็จะเข้ามาจับ (มาตรา 16/2) แถมเจ้าหน้าที่มาเปรียบเทียบปรับได้ทันทีอีก (มาตรา 17/1) ทำอย่างกับเป็นยาเสพติด ห้ามมีไว้ในครอบครอง แถมมีหน้ามาอ้างเรื่อง right to be forgotten ฉบับมั่วซั่ว ... ชนิดที่ว่า ถ้าบ้าจี้ใช้ตรรกเดียวกันนี้ คณะผู้ร่างก็ต้องไปเขียนสั่งศาลด้วยนะ ว่าให้เก็บคำพิพากษาฎีกาไปให้หมด ห้ามเผยแพร่ เพราะมันมีรายละเอียดของพฤติการณ์แห่งความผิด
ไอ้มาตรา 14(1) ที่มีปัญหามากๆ ว่าดันไปใช้ฟ้องหมิ่นประมาทกัน พี่ก็แก้ไขมาแบบเสียไม่ได้ ประหยัดถ้อยคำซะจนแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิม พนันได้เลยว่า แก้แล้วก็ไม่ได้ช่วยทำให้อะไรมันดีขึ้น มาตราไหนถ้อยคำไหนที่เค้าแย้งกันว่ากว้างเป็นทะเล พี่ก็แก้เพิ่มให้กว้างเป็นมหาสมุทร ไอ้ที่เค้าโต้ว่าขอบเขตการปิดกั้นมันกว้างไป พี่แก้ซะเลยว่างั้นต่อไปนี้ไม่ต้องถึงขั้น "ผิดกฎหมาย" ละแค่โพสต์อะไรที่ "ไม่เหมาะสม" ก็ถูกสั่งปิดได้ด้วย (มาตรา 20)
ให้วิพากษ์ตรงๆ ก็ต้องบอกว่า คณะผู้แก้ไขกฎหมายฉบับนี้ไม่เคยแสดงความจริงใจเลยฮะ ข้อที่เขาประท้วงๆกันไว้ ยื่นหนังสือกันไปจนมือจะหงิก พี่ไม่เคยนำพา ไม่แม้แต่จะประนีประนอม มีแต่ธงที่ชักขึ้นเสาไว้หมดแล้ว คือ แก้ยังไงก็ได้ให้รัฐมีอำนาจมากขึ้น แก้ยังไงก็ได้ให้มัน "ไม่โปรประชาธิปไตย" เกินไป ขนาดจะจัดงานรับฟังความคิดเห็นยังไม่กล้าเปิดสุดๆ ต้องจู้จี้จุกจิกให้ลงทะเบียนล่วงหน้า (จะแฉด้วยว่า มีส่งหนังสือเชิญหัวหน้าภาคอาญา นิติ มธ.มา ก็บอกว่ามีผู้ติดตามได้คนเดียวด้วยแหนะ)
คอยดูไปฮะว่าเดี๋ยวก็จบ เหตุที่จะทำให้ไม่จบก็คือ [เซ็นเซอร์] หรือ[เซ็นเซอร์] บอกว่า รัฐยังมีอำนาจน้อยไป #รธนประชาธิปไตยแบบไทยๆก็มีแล้วทำไมธรรมนูญของการใช้อินเทอร์เนตแบบไทยๆจะมีไม่ได้"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
แต่ยังไงผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนไทยต้องไปคิดมากกับความเห็นฝรั่งที่ไม่ใช่ครู
เค้าเป็นแค่YouTuberแกล้งคน เค้าเชี่ยวชาญเรื่องภาษาตั้งแต่เมื่อไหร่
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
>>499 เนทเขาหวังดี เเต่มีพ่วงเเอดโรงเรียนสอนภาษามาซะด้วยนะครับ เเหม่
ปล. ได้ยินว่าประเทศมึง โดนยุโรปเหยียดเรื่องระบบการศึกษาชิบหายนี่หว่า คนในประเทศ77%เชื่อว่าAngelมีจริง 25%เชื่อว่าดวงอาทิตย์หมุนรอบโลก มีเเค่60%ที่เชื่อในทฤษฏีวิวัฒนาการ 56%เชื่อว่าวัคซีนทำให้เด็กเป็นออทิสติค
55555
"เกลียดคำว่า "พระพุทธเจ้าค้นพบมันเมื่อ 2,500 ปีที่แล้ว" มากเลย บาปไหม -_-
เล่ายาวๆ อะ คือเขียนบทความเรื่อง Hygge (ความสุขง่าย; simple pleasure) แล้วก็บอกว่าเนี่ย กำลังมาในอังกฤษ สหราชอาณาจักร เดนมาร์ก ไรงิ แล้วก็มีคนแชร์ไปบอกว่า โห ใหม่มากเลย พระพุทธเจ้าค้นพบนานแล้ว (คนเม้นต์แบบนี้ก็มี) ซึ่งไม่เข้าใจ เซนส์ของคำมันก็ไม่เหมือนกัน อะไรก็ไม่ได้เหมือนกัน แต่คนก็ยัง compelled ที่จะพูดว่าพระพุทธเจ้าค้นพบนานแล้ว ซึ่งไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไรที่พูดคำนี้ นอกจากเพื่อเอาผลงานของพระพุทธเจ้า (allegedly) มายกยอตัวเอง ว่า ฉันเป็นคนในร่มพระโพธิสมภาร และฉันอะ "รู้" ความจริงมากกว่าพวกแก (ฝรั่ง หรืออะไรก็แล้วแต่) ซึ่งทั้งหมดนี้ มันยิ่งทำให้ตัวเองห่างจาก "สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ" หรือเปล่า
สรุปว่ายิ่งบอกว่า "พระพุทธเจ้าค้นพบนานแล้ว" เราก็ยิ่งรู้สึกว่าคนพูดจะไม่ค้นพบมากเท่านั้นอะ
ถ้าสิ่งที่คุณยึดเหนี่ยวคือ 'ความรู้สึกที่ศาสนาตัวเองเหนือกว่า' อาจจะต้องถามตัวเองแหละว่าคุณยึดเหนี่ยวอะไรกันแน่
ซึ่งทุกคนก็มีสิทธิจะเม้นต์อะไรต่างๆ นะ แต่ในระดับส่วนตัวแล้ว ไม่ชอบ ไม่เข้าใจ"
มิตรสหายท่านหนึ่ง
"คนฉลาดมันเรียนรู้ มันเปิดกว้าง ไม่เหมือนพวกที่ทุกวันเอาเเต่คิดว่าตัวเองรู้ เเละมองว่าคนอืนงมงาย"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ไปยุให้เค้าลากคู่กรณีไปฆ่าหมกไร่อ้อยบ้างล่ะ ฝังใต้ต้นมะม่วงบ้างล่ะ ลูกเค้าเกือบตายเค้ายังไม่ออกมากร่างเท่าพวกมึงเลยนะซิส ไทยนี้รักสงบมาก
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"วันก่อนในงานเสวนาวิชาการที่ม.พะเยา หลวงแม่ธํมมนันทาเล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ที่ภิกษุณีจากวัดทรงธรรมฯ เดินทางไปเข้าเฝ้าถวายบังคมพระบรมศพ แล้วถูกเจ้าหน้าที่ห้ามไม่ให้เข้า โดยกล่าวหาว่าแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ หากจะเข้าถวายบังคมต้องไปเปลี่ยนจีวรเป็นสวมชุดดำแทน...
ฟังแล้วสะเทือนใจมากๆ ครับ
ส่วนตัวผมคิดว่า คำถามเรื่องบวชภิกษุณีได้หรือไม่ได้ ถูกต้องหรือไม่ถูกต้องตามพระวินัยนั้น เป็นคำถามที่ปัญญาอ่อนมากๆ และไม่น่าเชื่อว่าชาวพุทธยังต้องมาถกเถียงเรื่องนี้ในศตวรรษที่ ๒๑
ทว่าในความปัญญาอ่อนนั้น เมื่อมาถึงสถานการณ์ที่กฏเกณฑ์อันคับแคบถูกนำมาปฏิบัติต่อคนจริงๆ ก็เป็นอย่างที่เห็น ภิกษุณีถูกปฏิบัติอย่างดูถูกดูแคลน...ซึ่งมันน่าเศร้ามาก ที่เห็นการปฏิบัติต่อนักบวชหญิงในระดับรัฐเช่นนี้
ในเรื่องการตีความพระธรรมวินัย หลวงแม่บอกว่า คณะสงฆ์ชายเป็นใหญ่ของไทยสนใจแต่ "วินัย" แต่ไม่สนใจ "ธรรม" การตีความธรรมวินัยแบบนี้จึงไม่สอดคล้องกับธรรมและไม่เป็นธรรมต่อภิกษุณีบริษัท ด้วยข้ออ้างของการรักษาวินัยให้บริสุทธิ์?ถูกต้อง?
และผมชอบที่อ.นิธิ เคยกล่าวว่า การตีความธรรมวินัยนั้น สามารถตีความได้หลายทาง หากเจตนาคือเพื่อการมีอยู่ของพุทธบริษัท4 และเพื่อการเปิดโอกาสทางสังคมให้แก่นักบวชหญิง การตีความธรรมวินัยในทิศทางของการสนับสนุนภิกษุณีย่อมสามารถทำได้ และทำได้อย่างถูกต้องด้วย ...แต่สิ่งที่คณะสงฆ์ไทยเลือกที่จะทำมาโดยตลอด คือ ใช้การตีความทุกวิถีทางเพื่อทำให้การรื้อฟื้นภิกษุณีสงฆ์นั้นเป็นไปไม่ได้ และปิดทุกช่องทางที่เป็นไปได้
ที่น่าเศร้ายิ่งกว่าคือ... นักบวชหญิงเหล่านี้ แสดงตนชัดเจนว่าเป็นผู้ปรารถนาจะปฏิบัติตนตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ทว่าตลอดมา คณะสงฆ์ไทยกลับไม่เคยมีท่าทีของความเป็น "กัลยาณมิตร" ต่อพวกเธอเลย กลับมีแต่ท่าทีดูแคลนราวกับพวกเธอเป็น "ศัตรู" ต่อพระศาสนา
พุทธศาสนาแบบไหนกันครับ ที่มีแต่การ discriminate และ exclude ผู้คนเช่นนี้ ...อุดมคติอันเปิดกว้างของคำสอนและวิถีปฏิบัติอันเปี่ยมกรุณาที่พร้อมจะ include เพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ สูญหายไปไหน"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ลูกทหารทำผิด = กฎหมายลงโทษไม่ได้ สองมาตรฐาน
ลูกทหารกลายเป็นฝ่ายถูกทำร้าย = เอายศพ่อจัดการแม่งเลย มึงเล่นผิดคนแล้ว
เห็นอะไรไหม ติ๊กต่อก
ลูกทหารคุกคามคนอื่น กฎหมายลงโทษไม่ได้ อันนี้บอกสองมาตรฐานยังพอเข้าใจ ลูกทหารถูกทำร้าย มึงบอกให้พ่อใช้อำนาจนายพลจัดการ แหม คนไทยดัดจริตจริงๆ
ในอีกด้านหนึ่งมันทำให้เราเห็นว่ากฎหมายไม่มีอำนาจบังคับใช้ได้กับทุกคน ทำให้คนในสังคมรู้สึกเฉยๆกับบทลงโทษของกฎหมาย
และยิ่งทำให้เราเข้าใจว่าทำไมคนไทยถึงชอบรัฐประหารและมองว่าทหารเป็นคนดี เพราะอำนาจทหารดูศักดิ์สิทธิ์และบังคับใช้ได้จริงจังกว่าอำนาจกฎหมาย
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ช่วงนึงพอเริ่มอายุมาก ผมยอมรับครับว่า ผม เริ่มมีปัญหากับการคุยกับเด็กวัยรุ่นละ
.
.
.
ถ้าเป็นสมัยเขียนซอกหลืบใหม่ ๆ ตอนนั้นไม่มีปัญหาอะไรครับ เพราะอายุก็ไม่ห่างกันมาก แต่พอเป็นตอนนี้ มันรู้สึกหงุดหงิดกับทรงวัยรุ่น (บางคน) อย่างบอกไม่ถูก เชื่อว่ารุ่นผมอาจจะเคยเจอบ้างครับ ทรงคุยมันจะประมาณนี้
ดี...
ว่าไง....
มันจะห้วน ๆ มาก่อน แล้วก็ถ้าเราไปคุยด้วย มันก็คุยปีนเกลียวเลย
ผมก็เจอประมาณนี้ครับ เยอะด้วย ส่วนใหญ่มาเพื่อระบายฝัน หรือมีคำถามอะไรบางอย่าง เช่นอยากเป็นนักเขียนทำไง อยากทำเพจทำไง อยากแคสเกมยังไง (อันนี้ถามกูทำไม ไม่เป็นโว้ย) ไอ้เราก็แนะนำดี ๆ ไป สักพักหายไปละ ไม่อยากทำ อีกวันมาโม้เรื่องอื่นต่อ แล้วอีกวันมันก็กลับไปคุยเรื่องเดิมอีก
.
.
.
บางวันทักมา พอเราคุยด้วย หาย.... ข้อความไม่อ่านไป 3 วัน กลับมาคุยใหม่ พอเราตอบข้อความ แม่งก็หายไปอีก 2 วัน แล้วกลับมาคุยใหม่
.
.
.
ทรงมันจะแบบ.... รับมือลำบากอ่ะ ถ้าเป็นวิชาต่อสู้ก็คงเป็นพวกไร้รูปแบบ จับทางไม่ได้ อะไรประมาณนี้
.
.
.
สารภาพว่า บางวันผมเหนื่อย ๆ เจอแบบนี้ อยากแคปมาประจานด้วยซ้ำ แต่ดีที่ผมยั้งตัวเองไว้ ไม่ได้ทำ
.
.
.
จนผมเอาเรื่องนี้ไปบ่นกับรุ่นพี่คนนึง ที่สนิทกันสมัยทำงานที่เดียวกันอยู่ ชื่อพี่หน่อง
.
.
.
พี่หน่องแกหัวเราะใส่ผมเลย ดังมาก พร้อมบอกว่า “สะใจว่ะ สมน้ำหน้า กรรมตามสนองแล้ว”
.
.
.
ผมงงเลย แอบเคืองด้วย ยังไงวะพี่ ไม่เข้าใจ แทนที่พี่จะเข้าใจ กลับสมน้ำหน้าซะงั้น
.
.
.
“ไนท์มึงจำไม่ได้เหรอ ตอนที่เอ็งเข้ามาคุยกับพี่แรก ๆ เอ็งก็เข้ามากวนตีนแบบนี้แหละ”
.
.
.
ผมนึกย้อนกลับไป เออจริง แถมทำบ่อยด้วย เพราะพี่หน่องแกเป็นคนยิ้มง่ายไง สนุกสนาน เราก็เลยไม่ได้ระวังคำพูดอะไร คิดว่าแกต้องเป็นกันเองโคตร ๆ กับเราแน่ ๆ
.
.
.
พอคิดมาถึงตรงนี้ เฮ้ย เดี๋ยว หรือว่าเด็กพวกนี้มันก็คิดเหมือนเราตอนนั้นวะ
.
.
.
พี่หน่องบอก “จริง ๆ ไนท์ควรดีใจนะ ที่มีคนเข้ามาคุยด้วย ถึงจะมาแบบไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่
.
.
.
แต่ถ้าดูเจตนาดี ๆ เด็กมันก็ไม่ได้คิดร้ายอะไรนี่ ถ้าเกิดคิดไม่ดี เข้ามาด่าเรา หรือจะหลอกเอาบัตรทรู ก็ว่าไปอย่าง”
.
.
.
“ถ้ายังจับเจตนาร้ายไม่ได้ ก็คุยกับเขา ในแบบที่เราเป็นนี่แหละ แล้ววันนึงมันจะคุยกันได้ที่ครึ่งทางเอง”
.
.
.
ฟังแล้วแบบ เออจริง เพราะบางทีเรามัวแต่หงุดหงิด จนลืมมองตัวเองไปเลย
.
.
.
ตั้งแต่วันนั้น ผมก็คิดเล็กคิดน้อยอะไรน้อยลงครับ ทุกครั้งที่มีเด็กเข้ามาคุย ผมจะดูเจตนาก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าไม่ได้มาร้ายจริง ๆ ผมก็จะคุยให้เข้าใจเขามากที่สุด เท่าที่ทำได้
.
.
.
จนถึงตอนนี้ ผมก็ไม่มีปัญหานี้แล้วครับ มันมีครึ่งทางจริง ๆ แต่บางทีเราอาจต้องเดินไปรอน้องเขาก่อน เราเป็นผู้ใหญ่กว่า เราต้องรับฟังเขาก่อน เข้าใจเขาก่อน
.
.
.
เพราะถ้าให้ผมมองตัวเองตอนนี้ ถ้าผมอยากเข้าไปคุยกับผู้ใหญ่สักคนนึง ผมก็คาดหวังว่าเขาจะฟังผมเหมือนกัน
.
.
.
ถึงตรงนี้ถ้าใครสงสัย วัยรุ่นเข้ามาคุยด้วยเนี่ย หญิงหรือป่าวววว....ววพี่ 555+ ถ้าสมัยซอกหลืบน่ะเยอะครับ
.
.
.
แต่เดี๋ยวนี้น่ะเหรอ หญิงไม่มีเลย หัวเกรียนล้วน ๆ !!!
.
.
.
สุดท้ายนี้ ใครเคยเจอเคสคล้าย ๆ ผม มาแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้ครับ
.
.
.
อยากฟังมุมมองจากแฟนเพจเหมือนกันครับ
#ยาวอีกแล้ว #ขอบคุณที่อ่านเกินโควต้านะครับ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
แอดมิน วันที่ไอ้เหี้ยพวกการ์ดนั้นโดนจับเข้าคุกอะ กูไปขอเข้าห้องน้ำที่ สภ.ช้างเผือกอะ กูดันเดินไปผิดทางตรงห้องขังกูเลยมองดูเผื่อเจอเพื่อนเพราะวันนั้นมีตรวจแอลกอฮอล์กูได้ยินหม๊ดดดดดดดดดคะ!!กูสาบานกล้องไม่ได้เสียจิงๆ มันมีคนบอกไอ้พวกการ์ดว่า ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องกล้อง จัดการแล้วกูก็แอบเมาเนาะ ไม่ค่อยได้ตั้งใจฟัง เพราะไม่รู้ว่าเกิดไรขึ้น ตอนนั้นคิดแต่เรื่องหาที่เยี่ยว แต่ก็ได้ยินอยู่นะ เรื่องกล้อง เรื่องที่ไอ้บอลตะโกนว่า ที่นี่ร้านกู เมียกูเป็นดารา เรื่องจริง เรื่องที่อีพวกดารานั่งดูเฉยๆก็จิงหมด เพื่อนดันเจอตรวจด่านรอประกันมันบอกนะว่าก่อนหน้าที่เราจะมามีคนมาเยี่ยมกาดพวกนั้นละเตี้ยมกันว่าให้พูดแบบนั้นพูดแบบนี้ ละประมานตี4กูก็ไปหาเพื่อน ละก็มีทหารมาหาพวกการ์ดสอบถามว่าเกิดไรขึ้นแบบนี้ ละไอ้เหี้ยการ์ดก็พูดตามที่เตี้ยมกันไว้กูเมาคะแอด กูก็มองๆฟังบ้างไม่ฟังบ้าง งงๆ เกิดไรขึ้น55 อีกวันมากูเพิ่งรู้ว่าอ้าว นี่มันเรื่องที่ร้านนี่หว่า...!!!!
#มิตรกระเทียมท่านหนึ่ง
"ลูกนายพลถูกกระทืบโวยวายใหญ่โต พลทหารถูกกระทืบตายคนโวยวายถูกฟ้อง"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"ค่าของคน อยู่ที่ไปกระทืบคนของใคร"
#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ผมลองเข้าไปดูในเฟซ/เพจที่ขายข้าวชาวนาหลายเพจ เริ่มเห็นหลายท่านโพสต์บ่นเรื่องชาวนาขายตัดราคากันเอง บางเพจก็ขู่ลบโพสต์ที่เข้าข่ายขายตัดราคาแบบนั้นด้วย
นี่ก็ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมายนะครับ เพราะไม่ว่าใครเป็นคนขายข้าว ในที่สุดก็จะมีสถานการณ์ที่ผู้ขายจำนวนหนึ่งไม่สามารถขายข้าวในจำนวนที่ตั้งเป้าในราคาที่ตัวเองกำหนด และถ้าอยากขายให้หมดหรือเร็วขึ้น ก็หนีไม่พ้นที่จะต้องตั้งราคาที่ต่ำลงหรือต่ำกว่าคู่แข่ง
ที่ผ่านมามักมีข้อกล่าวหากันว่าผู้ส่งออกไปขายตัดราคาแล้วมากดราคาข้าวในประเทศบ้าง หยง/พ่อค้าคนกลางตัดราคากันแล้วมากดราคาข้าวจากโรงสี/ชาวนาบ้าง แต่ในที่สุดแล้วไม่ว่าใครจะขายข้าว ตลาดข้าวในแทบทุกระดับใหญ่ (และมีผู้เล่นมาก) เกินกว่าที่จะมา "ฮั้ว" กันได้ง่ายๆ
#ข้าวชาวนาก็เช่นกัน ถึงแม้ว่าในงาน/สถานที่/เพจหนึ่งคุณอาจจะกะเกณฑ์ให้ชาวนา/ผู้ขายตั้งราคาอย่างที่คุณต้องการได้ แต่ในภาพรวมแล้ว จำนวนคู่แข่งจะมากจนการฮั้วราคาไม่ใช่วิธีทีสามารถทำได้ง่ายๆ ในทางปฏิบัติ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"หลายเรื่องที่ผมเห็นด้วยกับอ.สมศักดิ์ ในจุดยืนที่ไม่เคยเปลี่ยนไปของแก แต่เหตุการณ์เมื่อวานนี้ทำให้เห็นว่าแกเสียจุดยืนไปและผมจะไม่ทนกับเรื่องแบบนี้ นั่นคือ สมัยก่อนแกเป็นคนรักหมาเหมือนกับผม แม้ตอนลี้ภัยแกยังห่วงหมาข้างบ้านของแก แล้วจู่ๆแกเอา "เจ้าตัวเล็ก" แมวฝรั่งเศสออกมาเรียกยอดวิว ทำแบบนี้มันเป็นการละทิ้งจุดยืน ผมรับในสิ่งนี้ไม่ได้ หมาผิดอะไร มันน่ารักน้อยกว่าแมวตรงไหน ทำไมอาจารย์ถึงทิ้งอุดมการณ์คนรักหมาไปเป็นทาสแมวแบบนี้ แมวมันสะกดจิตอาจารย์และคิดจะครองโลกใช่ไหม #ไอพวกแมวลัทธิแก้"
มิตรสหายท่านหนึ่ง
ถ้าพวกเลือดสาดได้ฉายบ้างก็ดี เด็กมันไม่ได้ติดฉากรุนแรงจากเมะหรอก เพราะหนังหรือละครเด็กได้เสพเยอะกว่าเมะอีก หากมองโดยรวม #มิตรสหายท่านหนึ่ง
"พวกเรามายืมนะครับ ไม่ได้มาขอ
พวกผมสัญญาว่าจะพยายามหาเงินมาใช้ให้คุณตันให้ได้
แต่วันนี้ขอให้คุณตัน ช่วยพวกผมด้วยครับ"
มิตรสหายท่านหนึ่ง เมื่อ 985 วันก่อน
https://www.youtube.com/watch?v=gnqG9XAoseU
โมฮาเหม็ดเป็นชาวอัฟกานิสถานอายุ 21 ปี เขาได้ลี้ภัยไปสวีเดนในปี 2010 สถานะลี้ภัยของเขาถูกปฏิเสธ แต่เขาก็ตัดสินใจลักลอบอยู่ในสวีเดนต่ออย่างผิดกฎหมาย
ปี 2013 โมฮาเหม็ดไปก่อคดีข่มขืนเด็กอายุ 14 ในลานจอดรถ ศาลตัดสินให้จำคุก 2 ปี และให้ทำการส่งกลับหลังจากพ้นโทษ
ในคุกนั้นเองโมฮาเหม็ดได้ทำการเปลี่ยนศาสนาจากอิสลามเป็นคริสต์และตัดสินใจยื่นขอสถานะลี้ภัยอีกรอบ
ศาลสวีเดนตอบรับให้สถานะผู้พำนักถาวรแก่โมฮาเหม็ดในทันที ด้วยเหตุผลที่ว่าเปลี่ยนศาสนาแล้วกลับไปยังอัฟกานิสถานจะโดนปาหินตายก่อน
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ทายร้อยครั้ง ถูกครั้งเดียว ดัง
ทอล์คทะลุดาว | หมอลักษณ์ฟันธง “อุ้ม-บอล” ดวงมรณะ !! | 01-12-59
https://www.youtube.com/watch?v=nhGJlB7N0sg
>>515 so progressive, so tolerant!
ถ้าไวกิ้งมาเห็นลูกหลานตัวเองเป็นcuckจะทำไง
ถ้าCarolus Rex(กษัตริย์สวีเดนที่โคตรBadass ขึ้นครองราชตอนอายุ15 สามารถตบเกรียนรัสเซียได้หลายครั้ง)มาเห็นลูกหลานตัวเองเปิดบ้านให้ใครที่ไหนไม่รู้มาข่มขืนเเละอยู่อาศัยฟรีจะทำไง
ว่าไปก็เเปลก ประเทศที่feministโคตรคลั่งเรื่องข่มขืน(มีเฟมินิสต์สวีเดนบอกว่าการที่ผู้ชายนั่งโดยอ้าขาบนรถบัสนับเป็นข่มขืน) เสือกทำเป็นไม่เห็นตัวเลขที่บ่งบอกว่าผู้อพยพข่มขืนเยอะ เเละสนับสนุนให้เอาเข้ามาอีก
สวีเดนกับเยอรมันกอดคอกันตาย 5555
"รถไฟฟ้า การตรวจกระเป๋าและการดูถูกคุณค่าชีวิตของคนกรุง"
การตรวจกระเป๋าตรงทางเข้ารถไฟฟ้าและใต้ดินเป็นที่พูดถึงมาแสนนานถึงความไร้ประสิทธิภาพ ตรวจแบบขอไปทีด้วยพนักงานที่มีพลังจิตแรงกล้ากว่ามนุษย์ทั่วไป
ทุกวันนี้ผู้นำด้านพลังจิตอย่างยามรถไฟใต้ดินไม่ตรวจละ คนก็ Flow ดีขึ้น แต่บีทีเอสก็ยังขยันตรวจเอา ๆ อยู่
"ถ้าคนจะเอาระเบิดเข้าไปก็เอาเข้าไปได้ ไม่ต้องซ่อนด้วยซ้ำ"
ประโยคที่ทุกคนคงพูดคุยกันเป็นปกติจากการเห็นวิธีตรวจกระเป๋าของพนักงาน แบกเป้เข้าไปสี่ใบก็ตรวจกระเป๋าหน้าช่องเดียว
ผ่านมาเป็นปีก็น่าจะสามารถสรุปได้แล้วว่า "การตรวจกระเป๋าทางเข้ารถไฟฟ้าเป็นการกระทำที่ไร้ค่าโดยสมบูรณ์" ไม่สามารถหวังผลใด ๆ ได้ทั้งสิ้น สิ่งเดียวที่หวังได้คือ "เวลาที่เสียไปอย่างไร้ค่าในการตรวจและต่อแถว"
อย่างที่พูดเน้นย้ำอยู่ตลอดเวลาว่า "ทุกวินาทีที่ผ่านไปคือการนับถอยหลังสู่วินาทีสุดท้ายของชีวิต" หากใครบีบบังคับเอาเวลาชีวิตของเราไปใช้อย่างไร้ค่า นั่นก็ไม่ต่างอะไรกับการ "ดูถูกคุณค่าของชีวิต" อย่างรุนแรงและไม่น่าให้อภัย
และสิ่งที่บีทีเอสทำกับผู้โดยสารก็คือสิ่งนี้ ดูถูกชีวิตของคนกรุงเต็ม ๆ และส่วนตัวถือเป็นสิ่งที่น่าเศร้าใจเป็นอย่างยิ่ง
การตรวจกระเป๋าที่สนามบินเป็นอะไรที่ใช้เวลามากและวุ่นวาย แต่นั่นไม่ทำให้รู้สึกว่าเป็นการดูถูกคุณค่าชีวิตเลย ตรงกันข้าม มันคือการเห็นคุณค่าของชีวิตเลยต้องตรวจเยอะ
แต่กับบีทีเอส ประเด็นเรื่องการกระทำเพื่อความปลอดภัยขอให้ตัดทิ้งไป รู้กันอยู่แก่ใจว่าไม่มีประโยชน์อันใด หากมันมีประสิทธิภาพโพสต์นี้คงเขียนไปในทางตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
หากทำงานให้มีประสิทธิภาพและก่อเกิดผลลัพธ์ไม่ได้ก็ไม่ควรทำเลย เพราะมันเสียเวลาชีวิต คนตรวจยังได้เงินเดือน แต่ผู้โดยสารจ่ายตังค์นะ ... แพงด้วย
และถ้าบอกยามแค่ทำตามหน้าที่ มันก็ไม่ใช่ประเด็นของโพสต์นี้ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่คนตรวจ ปัญหามันอยู่ที่ผู้บริหารที่วางหน้าที่ให้พนักงานของตัวเองดูถูกเวลาของผู้โดยสารประหนึ่งมันไม่มีค่าอะไร
เป้ย่ามก็น่ารำคาญแล้ว แต่นี่เห็นบ่อยครั้งมากที่นักท่องเที่ยวลากกระเป๋าใหญ่ๆแล้วต้องมาเปิดตรวจ ชั้นนงชั้นในตกต้องมานั่งแพคใหม่ มันสมควรมั้ยกับบังคับให้เปิดดูของส่วนตัวแบบนี้ เวลคัมทูไทยแลนด์มั้ยหละ
ก็คงได้แค่บ่นไป เราคงจะหวังกับขนส่งที่ยังต้องให้ผู้โดยสารเดินไปแลกเหรียญแล้วค่อยเอาเหรียญมาหยอดตู้มากว่าสิบปีมากไม่ได้นักหรอก
ซึ่งนั่นก็คือการดูถูกชีวิตคนอีกทางหนึ่งเช่นกัน
อย่าสงสัยว่าทำไมประเทศไม่พัฒนา เพราะขนาดแกนกลางอย่างขนส่งมวลชนผ่านมากี่สิบปีก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้นเลย ส่วนอื่นก็ต้องดิ้นกันไปเองแล
จบ
เพราะเป็น ตูน บอดี้สแลม ขวัญใจชาวสลิ่ม เลยไม่มีเสียงกร่นด่า ดราม่า
ถ้าเป็น ธรรมกายบิณฑบาตร ป่านนี้ ทั้งด่า ทั้งแชร์ กันกระหน่ำ แล้วค้าบบบบ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"เวลาเพื่อนแกล้งตั้งสเตตัสให้กัน หลายคนอาจมองเป็นเรื่องตลก แต่สำหรับเรามันสะท้อนความหละหลวมในการรักษาความปลอดภัย account ของเจ้าตัว
อย่างคนที่โดนแกล้งเรื่อยๆ เราจะเริ่มรู้สึกละ ว่ากับคนนี้เราไม่ควรไปพูดคุยเรื่องส่วนตัวหรือประเด็นอ่อนไหวด้วย ต่อให้เป็นเพื่อนที่รู้จักกันดี แต่ถ้ามึงปล่อยให้ใครก็ไม่รู้มาปู้ยี่ปู้ยำ account มึงได้ขนาดนี้ มันก็มั่นใจไม่ได้แล้ว ว่าคุยกะไอ้นี่จะปลอดภัย ทั้งเรื่ิอง identity ของคนที่เรากำลังคุยด้วย รวมถึง chat log ที่เคยบันทึกไว้ด้วย แย่อะ สังคมเสื่อมทราม"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
โอ้โห ชีวิตเซเลบนี่ดีจัง แค่ถ่ายตีนลงโซเชียลก็มีคนกดไลค์กดแชร์...
เราเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ ถ้าเรายังมีความพยายามเหลืออยู่
#ผัวในมโนกูคนนึง
ประทับใจเอซร่าที่สุดตอนที่เขาเจอคำถาม "ถ้าคุณมีเวทมนตร์เปลี่ยนอะไรในโลกได้หนึ่งอย่าง คุณจะทำอะไร" แล้วเขาตอบว่าเขาจะทำลาย Patriarchy -หรือค่านิยมที่ชายเป็นใหญ่ในสังคม เขามองว่าค่านิยมนี้ฝังรากลึกในสังคมมนุษย์มากนาน และเป็นบ่อเกิดของอคติและปัญหาต่างๆ ที่มีต่อการเหยียดเพศ เหมือนใช้คำพูดผิดไปหน่อย จริงๆ เขาว่า Patriarchy นี่แหละที่ทำให้เกิดการเหยียดเพศขึ้นมา และยังไม่หมดไปสักทีในสังคม
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"เห็นหน้าน็อคติสหลับบนเก้าอี้มาเกือบสิบปี รอจน FF15 ออก แต่เล่นไม่ถึง15ชั่วโมงก็จบ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
>>525 นายAวิ่งเเข่งกับนางB นายAวิ่งเร็วกว่าเเละวิ่งเข้าเป็นที่หนึ่งทุกครั้ง นางBมองไปที่recordเเละเห็นว่าตนไม่เคยชนะเลย จึงคิดไปว่าที่นายAชนะเป็นเพราะนายAสร้างระบบขึ้นมาเพื่อกดนางBไว้กับที่ นางBจึงไปร้องงอเเงกับผู้อื่นให้ล้มล้าง"ระบบ"ของนายA
Allegory
นายA = ผู้ชาย
นางB = ผู้หญิง
"ระบบ" = Patriarchy
>>531 การละเมอเรื่องระบบที่ว่าถูกเซตขึ้นมาจากฝ่ายเดียวเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ ความจริงก็คือค่านิยมที่ว่ามาจากเรื่องธรรมชาติอย่างปลาใหญ่กินปลาเล็กมาจากธรรมชาติทางกายภาพทางเพศและค่านิยมพวกนั้นก็เกิดขึ้นมาล้อตามกันเพราะได้รับการยอมรับทั้งสองฝ่าน เพราะฝ่ายนึงอ่อนแอกว่าอีกฝ่าย นั่นแล
ส่วนเรื่องมุซซี่ทำไมมันแรงก็บอกได้แค่ว่า มันทั้งเหี้ยและโง่ สังคมมุซซี่ยอมรับการกดขี่ทั้งชายหญิงเองด้วยซ้ำเพราะค่านิยมว่าคนคิดเองไม่เป็นทุกอย่างก๊อดคิดและกำหนดมาแล้ว ดังนั้นอะไรที่มันเคยมีมามันก็จะเป็นแบบเดิมต่อไปไม่พัฒนา
นายAรู้สึกระบบมันเอื้อกับตัวเองและกลัวเสียมันไปเลยบอกว่าไม่มีระบบ นางBงอแงไปเอง
อยากให้ระบบเท่าเทียมก็ให้เกณทหารทั้งชายหญิงเลยสิ
>>532 มันถูกเซ็ตมาจริงนะ อย่างของไทยผู้หญิงใหญ่กว่าผู้ชาย ถึงระบบราชสำนักจะให้ผู้ชายเป็นใหญ่ แต่ในระดับชาวบ้านผู้หญิงเป็นใหญ่ ผู้ชายเป็นไพร่ ไม่เกี่ยวกับความแข็งแรงทางร่ายกายอะไรหรอก
หรืออย่างมองโกลเองที่ดูเหมือนชายเป็นใหญ่ แต่นั่นแค่นอกกระโจม เรื่อในกระโจมทั้งหมดผู้หญิงเป็นคนดูแล เจงกิสข่านก็ให้เมียดูแลปกครองทรัพย์สินทั้งหมดของตน ต่อมาก็ให้ลูกสาวดูแล แต่พอเจงกิสข่านสิ้นลูกชายยึดอำนาจจากลูกสาวมาหมดเลย
"คำแนะนำที่ว่าหากไม่อยากให้เพือนร่วมทางชวนสนาทนาให้หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน ดูท่าว่าจะใช้ไม่ได้ผลในครั้งนี้
เมื่อป้าข้างๆ เริ่มชวนคุย
“กลับบ้านเหรอหนู"
“ค่ะ"
"เรียนอยู่กรุงเทพฯเหรอหนู"
"ค่ะ"
"ฉันนะมีลูก เรียนอยู่ที่ #$%@#%...."
"ค่ะ"
"นั่นถุงอะไรเหรอหนูใบเบ้อเร่อ"
"ยาบ้าค่ะ"
แล้วการเดินทางอันแสนสงบก็เริ่มต้น"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
>>536 หญิงเป็นใหญ่ในชนบท... มึงเอาอะไรคิด ในครอบครัวชนบทยุคเก่าเพราะเพศสภาพนั่นแหละ ทำให้ในครอบครัว ญ ต้องดูแลเมเนจบ้านคุมทุกอย่างในบ้าน งานสมัยนั้นชาวบ้านในบ้านนอกนอกจากใช้แรงงานจะมีอะไร ตัวผู้เลยต้องเป็นคนทำงานเป็นหลัก ยุคโบราณทุกคนต้องใช้แรงงานกันหมดแหละทั้งชายหญิง แต่เพราะลักษณะทางกายภาพ ตัวผู้มันก็เลยต้องไปทำงานเป็นหลักเพราะประสิทธิภาพดีกว่า ค่านิยมไอ้ที่พวกมึงว่ากันมาเนี่ยกูยืนยันเหมือนเดิมว่ามันเกิดขึ้นตามธรรมชาติและลักษณะทางกายภาพ คนทำงานดีกว่าย่อมได้รับการยอมรับกว่า และทั้งสองเพศนั่นแหละยอมรับและกำเนิดค่านิยมที่ว่าขึ้นมาเอง ตัวเมียในเมื่อด้อยประสิทธิภาพกว่ามันก็ยอมด้อยสถานภาพกว่าแต่ก็แลกมาด้วยการที่สามารถโยนภาระแรงงานไปหาตัวผู้ได้ตัวผู้ก็ต้องรับภาระใช้แรงงานแต่ก็ได้สถานภาพที่เหนือกว่าแทน ปัจจุบันอาจไม่ชัดเพราะงานมันไม่ต้องใช้แรงอย่างเดียวแล้วความแตกต่างจากประสิทธิภาพของงานกับเพศเลยน้อยลง คนที่ไม่เห็นด้วยกับค่านิยมเดิมๆมันเลยเริ่มมีก็แค่นั้น แต่ก็เป็นเรื่องลักลั่นย้อนแย้งว่า พวกแฟมินิสเหล่านั้นจำนวนมากที่เรียกร้องความเท่าเทียมก็ยังอยากคงความเหนือกว่าในค่านิยมทางเพศสภาพไว้อยู่ดี เช่นตัวผู้ต้องเสียสละนะ ต้องสุภาพบุรษนะ เลดี้เฟิสนะ แปลกปะละ
>>539 มีบันทึกเยอะแยะว่ะ จดหมายเหตุฝรั่ง ผู้หญิงสยามไล่ผัวออกจากเรือนเพราะมีชู้ ผู้ชายก็ออกไปทำงานกับนายฝรั่ง ฝ่ายเมียแต่งงานใหม่
สังคมยุคศักดินาผู้ชายเข้าหลวงปีละ 6 เดือน ผู้หญิงคุมเรือนหมด ที่นาค้าขายก็ผู้หญิงทำ (อาชีพแม่ค้าในตลาดฝั่งเจ้าพระยามีแต่ผู้หญิง และปากคอเราะร้ายที่สุดในสุวรรณภูมิ) ทรัพย์สินสืบทอดกันทางฝ่ายหญิง เพราะจะเป็นคนอยู่บ้านดูแลพ่อแม่
บ้านผู้ชายใหญ่คือพวกขุนนางมีลูกน้องทำงาน(ก็ผัวๆ ที่เข้าหลวงนั่นแหละ) กับบ้านจีน มีเงินจ่ายหลวงไม่ต้องเข้าไพร่ แล้วก็เอาวัฒนธรรมจีนเข้ามา
ผู้ชายพลิกกลับมาหลังเลิกไพร่เลิกทาส รับวัฒนธรรมตะวันตก ความเสียเปรียบทางเพศภาพเลยมีผลมาก
"ที่ญี่ปุ่นมันมีโครงการชื่อประมาณว่า skill training อะไรสักอย่างของรัฐบาล โดยมันจะเที่ยวไปหลอกคนในประเทศกำลังพัฒนาว่าจะเอามาแรงงานมาฝึกทักษะ แต่พอมาจริงๆ วันๆ เอาแต่นั่งแคะหอย หรือทำอะไรที่มันไม่มีทักษะ กลับประเทศไปก็ไม่ได้ทำให้ได้เงินเดือนมากขึ้นได้ แล้วก็มีแรงงานบางคนโดนนายจ้างญี่ปุ่นล่วงละเมิดทางเพศ (แน่นอนว่าเป็นลุงแก่ๆ ตามสไตล์) แต่แรงงานกลับบ้านไม่ได้เพราะสัญญายังไม่ครบ หนีก็ไม่ได้ไม่มีเงินเพราะเงินค่าจ้างมันน้อยมาก เงินส่วนที่ถูกนายจ้างหักไว้ก็ต้องเสียไปเลยเพราะกลับก่อนหมดสัญญา แถวกลับไปก็ไม่พอใช้หนี้ที่ยืมเขามาตอนเข้าโครงการอีก ส่วนตำรวจก็ไม่สนใจดำเนินคดีอะไรเพราะเห็นว่าเป็นแรงงานต่างชาติอ่ะนะ ไม่ใช่คนญี่ปุ่น แต่คนญี่ปุ่นด้วยกันเผลอๆ ก็จะไม่สนใจอยู่ดี สนใจแต่จักรยานหาย"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"กูงงพวกอยู่ต่างประเทศอย่างปวินหรือสมศักดิ์ ทำไมชอบด่าพวกในประเทศอย่างเสื้อแดงหรือพวกสำนักข่าวว่ากำลังหลอกตัวเองไรงี้ว่ะ ไม่เข้าใจอะไรเลย เขาเรียกว่ากระทำความอู๋ม๋งต๊ะต่างหากอ่ะครับ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"การแชร์เรื่องสุ่มเสี่ยงในเฟซบุกที่เปิด public ถือว่า เป็นยุทธศาสตร์ที่ไร้เดียงสามั้ย? เป็นการทำตัวเองให้สุ่มเสี่ยงต่อการโดนจับและปราบปรามมั้ย? คำตอบคือถ้าเราเชื่อในหลักเรื่องบาปกรรมและกรรมเก่าก็จะช่วยให้เราสงบจิตใจได้มากขึ้นอะคับพี่โจวฝากบอกมา"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"ถ้าทักษิณเลือกเก็บตัวเงียบ ไม่แสดงตัวเลยตั้งแต่ตอนหนีออกนอกประเทศครั้งแรก ตอนนี้คงได้กลับเข้าประเทศแล้ว แถมลงเล่นการเมืองได้อีกรอบ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"ด่วน! กระทรวงวัฒนธรรมสั่งแบนพระไตรปิฎก ชี้พระวินัยปิฎกมีเนื้อหาแรง ไม่เหมาะสม"
สำนักคัลท์ไทย - กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) สั่งห้ามเผยแพร่พระไตรปิฎก หมวดพระวินัยปิฎกแล้ว เหตุมีการนำเสนอเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับพระสงฆ์ อาจเป็นการทำลายศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพระพุทธศาสนาได้ หากจะเผยแพร่ได้ต้องกลับไปแก้ไขเนื้อหามาใหม่
หลังจากที่กลุ่มเครือข่าย "ชาวพุทธผู้มีศรัทธาอันอ่อนไหว" ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังกระทรวงวัฒนธรรมว่า เนื้อหาในพระไตรปิฎกมีความไม่เหมาะสม มีการนำเสนอในแง่มุมของพระสงฆ์ที่ประพฤติผิดพระธรรมวินัย เช่น ในพระไตรปิฎก เล่มที่ 1 พระวินัยปิฎก เล่มที่ 1 มหาวิภังค์ ภาค 1 ปาราชิกกัณฑ์ มีการกล่าวถึงภิกษุรูปหนึ่งเอาเหยื่อล่อลิงตัวเมียในป่ามหาวัน เขตพระนครเวสาลี แล้วเสพเมถุนธรรมในลิงตัวเมียอยู่เสมอ ในเตรสกัณฑ์ ก็มีการกล่าวถึงพระเสยยสกะใช้มือปล่อยสุกกะ (อสุจิ) วิธีการปล่อยสุกกะในแบบต่างๆ อย่างโจ่งครึ่ม พระอุทายีล่วงเกินจับอวัยวะน้อยใหญ่ของพราหมณี เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระสงฆ์อีกหลายอย่างต่อสาธารณชน ซึ่งเรื่องดังกล่าวอาจเป็นการทำลายศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพระพุทธศาสนาได้
วันนี้ (14 ต.ค.) เวลาประมาณ 25.67 น. คณะกรรมการของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ได้พิจารณาคำร้องเรียนดังกล่าวและมีมติสั่งห้ามเผยแพร่พระไตรปิฎก หมวดพระวินัยปิฎก เนื่องจากพระไตรปิฎกมีเสนอในแง่มุมพระสงฆ์ที่ประพฤติผิดพระธรรมวินัยหลายข้อ มีการแสดงให้เห็นการประพฤติในทางชู้สาวที่ผิดพระธรรมวินัย และไม่กล่าวถึงการเคารพพระพุทธรูป ซึ่งเนื้อหาเช่นนี้ถือว่ามีความรุนแรงกระทบต่อความรู้สึกของชาวพุทธ และอาจทำลายศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพระพุทธศาสนาได้ จึงต้องระงับการเผยแพร่ แต่ทั้งนี้หากมีการแก้ไขเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมเรียบร้อยแล้วก็สามารถขออนุญาตเพื่อเผยแพร่อีกครั้งได้
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
เอาจริงๆนะ ระยะนับตั้งแต่ 2012 เป็นต้นมาจนถึงตอนนี้ ในตลาดมีจำนวน "Player" มากขึ้น ถ้านับจากตัวเลขบัญชีเล่นหุ้น ผมจำตัวเลขตอนนั้นไม่ได้แต่น่าจะไม่กี่แสน ส่วนตอนนี้น่าจะ "เกือบล้าน" หรือล้านนิดๆ (ไม่รู้ตัวเลข แต่เคยอ่านแว้บๆ)
หรือถ้าให้เดา ปริมาณ Player หน้าใหม่น่าจะมากกว่า Player หน้าเดิมราวๆ 2-3 เท่าตัว และอภินิหารตลาดหุ้นระยะหลังที่เป็นขาขึ้นมาตลอด ก็ทำให้ใครหลายคนมีความหวังกับตลาดหุ้นมากขึ้น
ตลาดขาลงก็เป็นตัวหนึ่งที่จะพิสูจน์ได้ว่าใครแกร่งและอยู่รอดมาได้ แต่เหนือสิ่งอื่นได้คือการอยู่รอดได้ในระยะยาวนั้นเป็นเรื่องสำคัญกว่า เพราะยิ่งคุณเจอวิกฤตมากเท่าไหร่ การ Compound ของ Portfolio ย่อมเติบโตเป็นเท่าตัวหรือหลายเท่าตัว
นอกจากนี้ในช่วงตลาดหุ้นวิกฤตเป็นช่วงตลาดหุ้นมีแต่หุ้นราคาถูกๆ การใช้มาร์จิ้นในช่วงตลาดแบบนั้นย่อมได้เปรียบมากกว่าในภาวะตลาดในปัจจุบัน เพราะโอกาสที่จะสร้างผลกำไรนั้นย่อมมีมาก และวงเงินมาร์จิ้นที่ได้รับก็จะสูงขึ้น เพราะมูลค่าหลักประกันสูงขึ้น (ขี้เกียจอธิบาย อยากรู้ไป Google เอาเอง)
อย่างที่ว่าไป ตลาดลงเยอะๆ หุ้นดีราคาถูก ผมอัดมาร์จิ้นแน่ ที่ผ่านมาก็อัดมาร์จิ้นตลอด นั่นคือสิ่งที่ทำให้มีทุกวันนี้ เพราะมาร์จิ้นเป็นตัวสำคัญในการสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้นในจำนวนเงินที่น้อยลง (Leverage)
แต่การใช้ Leverage ก็ต้องมาพร้อม Risk Management, Portfolio Management และ Money Management ด้วย ไม่ใช่อยากใช้ก็ใช้ สุ่มสี่สุ่มห้าเล่นมั่วๆซั่วๆ พังครับบอกเลย จาก Leverage จะช่วยเราสร้างผลตอบแทน แม่งจะกลายเป็นหายนะทันที
แต่หากถามว่า Key สำคัญที่สุดของการอยู่ในตลาดหุ้น ส่วนตัวมองว่าอย่างแรกสำคัญที่สุดคือ Timing หุ้นดีในภาวะตลาดแย่ แม่งก็แย่ตามตลาด หรือต่อให้หุ้นแย่ในภาวะตลาดคึกคัก แม่งก็สร้างกำไรได้ เข้าทำนองว่าในวันฟ้าใส ไก่บ้านยังบินได้
และอย่างที่สองคือ Logic of Thinking ที่เราจะ "รู้" หรือ "เดา" ว่าอะไรน่าจะเป็นตัวสร้างกำไรได้ อะไรน่าจะเป็นเทรนด์ และการรู้เทรนด์จากนั้นลุยเข้าไปใน Sector ที่คาดว่าจะสร้างผลตอบแทนได้ดีนั้น จะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาด ซึ่งส่วนนี้เป็นส่วนที่ยาก ต่อให้คนที่เป็นเซียนหุ้นทั้งหลาย ก็มักจะซุ่มเงียบๆ เก็บหุ้นกัน พอมันบินแล้ว เขาถึงบอกว่ามีอะไร แล้วก็ค่อยใช้ "มือเม่า" ไล่ราคา
แน่นอนมันไม่ใช่การปั่นหุ้น แต่มันคือการที่เขา "คิดได้ก่อน" หรือ มองเห็นก่อน เขาก็ย่อมที่จะได้ต้นทุนที่ดีกว่า อย่าลืมว่าเขาเก็บหุ้นได้ 10 บาท คุณเก็บหุ้นได้ 20 บาทต่อหุ้น หุ้นวิ่งไป 30 บาท คุณได้กำไรแค่ 50% แต่อีกคนหนึ่งได้กำไร "สองเท่าตัว" นะครับ
ภาวะตลาดปัจจุบันถึงได้บอกว่าอะไรก็ไม่ค่อยน่าสนใจ แต่ถ้าตลาดลงเยอะๆ อะไรก็น่าสนใจทั้งนั้น เพราะมันมีแต่ของถูกๆให้ชอปปิ้ง
และต่อให้คุณเป็นคนเงินเดือนน้อย ก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นเศรษฐีไม่ได้ หรือคุณอาจจะไม่ได้เหมาะกับตลาดหุ้นก็ได้ คุณอาจจะเหมาะกับการไปทำกิจการแล้วเอาเข้าตลาดหุ้น จากนั้นก็รวยเละก็ได้
อย่าไปจำกัดแค่ว่าต้องเล่นหุ้น ชีวิตคนเรามีโอกาสอีกตั้งเยอะแยะ จะคว้ามันมาได้รึเปล่า บางคนตลาดหุ้นช่วงวิกฤตมาจนถึงวันนี้ยังไม่รวยเลยก็มี บางคนเริ่มทำกิจการถูกที่ถูกเวลา รวยเละซะก็มี
มองโอกาสให้มันกว้างๆเข้าไว้
จากข่าวที่เห็นบ่อยๆว่า คนที่เคยรวย กลายเป็นคนจนในเวลาแค่ไม่กี่ปี แปลกใจที่พวกละครหรือสื่อต่างๆมักนำเสนอว่า สาเหตุเกิดจากเอาเงินไปกินเที่ยว ทั้งๆที่ความจริง 90% ของสาเหตุมาจาก การถูกคนชวนให้เอาเงินไปลงทุนต่อยอดทำธุรกิจ แล้วธุรกิจเจ๊ง แต่สื่อไม่เคยให้อุทาหรณ์เรื่องนี้เลย
"อีเพจนี้ชื่นชมทั้งร้านเจ๊ไฝ ทั้งผัดไทยทิพย์สมัย ไม่อยากด่ารสนิยมในการแดกมันจริงๆ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
Universal Basic Income (UBI) คืออะไร..?
Elon Musk ให้ความเห็นกับสื่อว่า มีความเป็นไปได้สูงว่าโลกของเราจะเข้าสู่ยุค Universal Basic Income
UBI คือสวัสดิการรูปแบบใหม่ที่รัฐจะแจกเงินขั้นต่ำให้กับประชาชน สาเหตุหลักก็คือ ในอนาคตระบบ automation จะมาทดแทนแรงงานมนุษย์ในตำแหน่งงานจำนวนมาก (ว่ากันว่าอีก 20 ปี ตำแหน่งงานของมนุษย์อาจจะถูกระบบ automation ทดแทนไปถึง 80%) เช่น คนขับรถ, พนักงานเสิร์ฟ, เกษตรกร, พนักงานโรงงาน, ประชาสัมพันธ์, พนักงานขายตั๋ว, แคชเชียร์ (เห็นคลิป Amazon Go กันไหมครับ), นักวิเคราะห์หุ้น, มาร์เก็ตติ้งหุ้น ฯลฯ
เมื่อคนถูกแย่งงาน ก็จะเกิดปัญหาการตกงานอย่างรุนแรงทั้งๆ ที่ต้นทุนการผลิตของโลกจะลดลงอย่างมหาศาล แต่ประชาชนก็จะไม่มีกำลังซื้อ เกิดภาวะเงินฝืดเรื้อรัง (ปัญหาคล้ายกับ the great depression)
ในช่วง the great depression ใช้วิธีการแก้ปัญหาด้วยหลักเศรษฐศาสตร์แบบเคนเชียน นั่นก็คือให้รัฐบาลอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน สร้างงาน เมื่อคนมีงาน มีเงินเดือน ก็จะเริ่มมีการหมุนเวียนการใช้จ่าย ทำให้เศรษฐกิจฟื้นได้ในที่สุด
แต่ในอนาคตอันใกล้ การแก้ไขในรูปแบบเคนเชียนอาจจะไม่สามารถทำได้ เพราะ "งาน" ในอนาคตไม่จำเป็นต้องใช้คน ดังนั้นการเพิ่ม "งาน" โดยรัฐ จึงอาจจะไม่ใช่ทางออก
นักวิทยาศาสตร์ด้านปัญญาประดิษฐ์หลายคน รวมถึง Elon Musk, Andrew Ng ให้ความเห็นว่า วิธีการแก้ไขปัญหาเงินฝืดขั้นรุนแรงที่จะเกิดจากการ disrupt แรงงานมนุษย์โดยระบบอัตโนมัติ ก็คือ "แจกเงินให้ประชาชนซะ"..!!
นี่แหละครับ คือ UBI
แน่นอนว่ามีคำถามตามมาจำนวนมาก ว่าการแจกสวัสดิการแบบนี้ให้ประชาชนจะสามารถแก้ไขปัญหาเงินฝืดและการตกงานจากการเข้ามาของหุ่นยนต์ได้จริงๆ หรือ..? รัฐบาลจะเอาเงินจากไหนมาแจกประชาชนทั้งประเทศทุกๆ เดือน..? แล้ววินัยการคลังจะเป็นยังไง ถ้ารัฐบาลมีแต่รายจ่าย แต่กลับไม่มีรายรับเพราะคนไม่มีงาน ก็ไม่ส่งภาษี..?
ผมเองเชื่อในแนวคิด UBI นะครับ เรื่องนี้มันส์มาก และแหกสามัญสำนึกของมนุษย์ในยุคนี้ไปเยอะเลย
ไว้มีเวลาผมจะมาเล่าให้ฟังว่า UBI จะเป็นจริงอย่างยั่งยืนได้อย่างไร รัฐบาลจะรอดได้ด้วยวิธีไหน เกริ่นคร่าวๆ ณ โพสนี้ก็คือ
"ในระยะยาวระบบ automation จะทำให้ต้นทุนปัจจัย 4 ลดลงจนเข้าใกล้ 0"
นั่นก็คือ ด้วยต้นทุนที่ต่ำมากๆ ประชาชนจะสามารถมีชีวิตอยู่ด้วยสวัสดิการ UBI ขั้นต่ำได้ โดยรัฐบาลไม่ล้มละลาย
ทีนี้ ต้นทุนปัจจัย 4 (อาหาร เครื่องนุ่มห่ม ที่อยู่อาศัย และ ยารักษาโรค) ในอนาคตจะเข้าใกล้ 0 ได้ยังไง ไว้ผมจะมาโพสเล่าให้ฟัง
"http://news.voicetv.co.th/world/436854.html
"นักศึกษาชาวอินโดนีเซียในเมืองอาเจะห์ ถูกเฆี่ยนด้วยหวาย 100 ที ฐานมีเซ็กส์ก่อนแต่งงาน พร้อมเฆี่ยนชาย-หญิงอีก 3 คน ฐานใกล้ชิดกันนอกสมรส"
เมื่อเราเอาศาสนา มาเป็นกฎหมาย ก็ประมาณนี้ล่ะครับ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
รัฐบาลไทย จัดงาน Startup Thailand อย่างยิ่งใหญ่ .... แต่ action จริงจังที่สัมผัสได้เป็นอย่างแรก ก็คือ "การฆ่า Startup เมืองไทย" ด้วยการจับมือกับ "ยักษ์ใหญ่" จากต่างประเทศ
มันเป็นแบบนี้มาทุกยุคทุกสมัย ... แทบทุกวงการ แทบทุกอุตสาหกรรม .... และสุดท้ายของๆ เรามันก็หายไป ตายไปหมด ... เพียงแต่ วงการ Startup กำลังเจอกับสิ่งที่วงการอื่น อุตสาหกรรมอื่น เจอกันมานานแล้ว และเจอกันมาตลอด ...
บ้านเรามันก็ยังคงถนัดกับการคิดแบบ "นักขาย นักการตลาด นักซื้อมาขายไป" อยู่วันยังค่ำ ... พูดทุกอย่างคิดทุกอย่างทำทุกอย่างแบบนั้น ไม่ใช่แบบนักคิดนักสร้างนักนวัตกรรม ...
ปากก็บอกว่า "เราต้องสร้างนวัตกรรม" แต่แท้จริงแล้วก็เพียงแค่ "โหยหานวัตกรรมมาขาย" ไม่ว่าจะเป็นวัตกรรมใครก็ได้ เอามาขาย แค่นั้น จบไป
เวลาคิดจะสร้างอะไร ก็คิดสร้างแบบนักขาย นักการตลาด ... ทำ customer acquisition ทีละ site ทีละตัว ทีละอย่าง ให้มันยั่งยืนไม่ค่อยเป็นกัน จะเอาแบบ "ทีเดียว ทั้งหมด ทั้งประเทศ ทั้งภูมิภาค" เสมอ ตลอด ... ก็แน่นอน ชินกับพวกที่ "ของมันเสร็จแล้ว แค่เอามาขาย"
ส่วนอะไรที่เรามี solution อยู่บ้าง ก็เจอ mindset เฮงซวยของบ้านเรา ที่จะ "ทำเอง ทำแข่ง ทุกคนจะใช้ของเรา เพราะเราเป็นถึง (ชื่อหน่วยงาน) เลยนะ" มาฆ่าหมด หลายครั้ง (บ่อยครั้ง) ก็ทำสิ่งที่มันแย่กว่าออกมา ... เพราะคนที่ทำ ทำจากการรับคำสั่ง ทำจากการที่อยากปิดงานให้มันจบๆ ไป (แล้วเบิกงบ) คนที่ต้องลงมือจริง เห็นว่าเป็นงานเพิ่มไม่ใช่หน้าที่ ฯลฯ .... แทนที่จะเลือกใช้ solution เล็กๆ น้อยๆ ที่พอจะเกิดจาก passion จริงๆ จังๆ อยู่บ้าง ... แล้วมันก็ตายกันหมด
นี่แหละหนอ อยากเป็นนักนวัตกรรม อยากเป็น innovator ... แต่ mindset ยังคงไม่ขยับไปจาก "ซื้อมา ขายไป" "เอาของต่างชาติ เข้ามาทำตลาด" .... "สนใจแต่หน้า เอาหน้า ได้หน้า จัดแต่งานแถลงข่าว"
Self-Destruction แท้ๆ ....
"คนไทยแม่งเวลาอ่านอะไรแล้วไม่เข้าใจจะด่าว่าคนเขียนเขียนอ่านไม่รู้เรื่อง จะใช้ไทยคำอังกฤษคำทำไม ไปจนถึงเขียนอะไรเพ้อเจ้อ แทนที่จะตรวจสอบก่อนว่า บางทีที่มึงอ่านไม่รู้เรื่องน่ะเพราะมึงโง่เอง
ซึ่งอะไรแบบนี้ทำให้หมดโอกาสในการพัฒนาขอบเขตความรู้ความเข้าใจไปเลย นานๆเข้าก็จะกลายเป็นดักดานไป"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ไม่ได้เสียใจอะไรมากมาย เมื่อรู้ว่ามีโครงการนำเอาภาษีไปช่วยผลักดัน e-Commerce แต่ไม่ได้เข้าผู้ประกอบการไทย
ค่าช่วยเทรน SME, ค่าช่วยทำโฆษณาขายของ, ค่าช่วยอบรมให้มีทักษะ, ค่าช่วยส่งเสริมระบบไปรษณีย์ให้เข้าใจ partial delivery & tracking ....
hashtag #ทำเพื่อ
คร๊าบเบียร์ เหมาะกับ ผช แมนๆ
ถ้า ผญ แนะนำ ค่าาาาเบียร์
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ตอนนี้มีเพื่อนใน Facebook ตั้ง 2,275 คน แต่มีคนที่เคยมีเซ็กส์ด้วยแค่ 15 คนเอง เฮ้อ...
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ตอนนี้มีเพื่อนใน Facebook ตั้ง 15 คน แต่มีคนที่เคยมีเซ็กส์ด้วยแค่ 2,275 คนเอง เฮ้อ...
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"อ่านในกรุ๊ป LGBT คือแม่งเพ้อเจ้อมาก มันมีสติกเกอร์ทีมชาติไทยช้างศึก เป็นรูปซิโก้ กับแคปชัน "เหลืองแน่นอน" ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่ามันหมายถึงใบเหลือง
มีคนไปตั้งกระทู้เป็นดราม่าหาว่าล้อ "สายเหลือง" (หมายถึงชายรักชาย) คือ บางทีการบ้าคลั่ง PC ที่รู้สึกตัวเองเป็นเหยื่อตลอดเวลา กับการปัญญาอ่อน นี่แยกกันไม่ออกเลยนะ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ช่วงนี้ เห็นดารากับไฮโซโพสรูปเที่ยวมัลดีฟกันใหญ่ มัลดีฟแม่งก็เจ๋งนะ มีแต่ทะเลกับกระท่อมกลางทะเลแค่นั้น ไม่มีเหี้ยไรเลย แต่ดารากับคนรวยก็แห่เอาเงินไปจ่ายกัน เพื่อถ่ายรูปมาอวด
(ขณะที่ประเทศอื่นแม่งทุ่มจัดอีเว้นจัดกิจกรรมล่อหลอกให้นักท่องเที่ยวมาเยือนกันสุดชีวิต)
1) จงยกตัวอย่างคนที่ร่ำรวยจากการทำ Startup โดยเริ่มต้นมาจาก Founder ที่มีหนี้ท่วมตัวมา 3 คน
2) จงยกตัวอย่างคนที่ร่ำรวยจากการทำ Startup โดยเริ่มต้นมาจาก Founder ที่ไม่มีหนี้แต่ไม่มีทรัพย์สินมา 3 คน
3) จงยกตัวอย่างคนที่ร่ำรวยจากการทำ Startup โดยเริ่มต้นมาจาก Founder ที่มีฐานะร่ำรวยอยู่แล้วมา 3 คน
Best of the best
******************
ปี 2016 จะจบลงในสองอาทิตย์ข้างหน้า ผมขอแนะนำหนังสือที่ผมได้มีโอกาสอ่านในปีนี้ และมันยอดเยี่ยมจนต้องนำมาบอกต่อ
1. Joy of Cooking Meth แต่งโดย Vincent Aboubakar เป็นเล่มที่ผมชอบมาก เพราะทัศนคติเดียวกัน นั่นคือ จงสนุกกับงานที่ทำแล้วงานจะออกมาดีเอง
2. เฒ่าผจญทะเล แต่งโดย Bakamenga เล่าถึงโจรสลัดสายตาสั้น ที่ดันไปปล้นเรือรบรัสเซีย ก่อนจะหนีเอาตัวรอดไปค้างเติ่งอยู่กลางทะเลห่างจากชายฝั่งโซมาเลีย 40 ไมล์ อยู่แรมเดือน
3. สูญสิ้นความเป็นคนดำ แต่งโดย Osama คือบันทึกเรื่องราวชีวิตของชายที่ชือ Thompson ตั้งแต่วัยเด็ก วัยรุ่น ก่อนจะพบจุดหักเหสำคัญในชีวิตจนต้องมาผันตัวเป็นสายสันติบาล และนำไปสู่การบุกจับคนรักทั้งน้ำตา
4. How to watch soccer แต่งโดย Adebayo เขาเป็นผู้เล่นระดับโลกทีมชาติโตโก ที่เคยผ่านการถูกถล่มรถด้วยอาวุธสงครามมาแล้ว หนังสือเล่มนี้พูดถึงเบื้องหลังว่าทำไมวิ่งดีใจถึงวิ่งไวกว่าเตะบอล
5. กระท่อมน้อยของลุงทอม แต่งโดย Ndip Tambe เล่าประวัติของหนุ่มแอฟริกันที่ออกมาเผชิญโลกเพียงลำพัง เรื่องราวต่างๆถาโถมเข้ามา จนท้ายที่สุดก็ได้เป็นเจ้าของไร่กระท่อมที่ใหญ่ที่สุดในอุษาคเนย์
6. เราชะนะแล้ว จามาล แต่งโดย Diouf อดีตลูกหม้อบริษัทคนดำทำธุรกิจ เป็นหนังสือเกี่ยวกับกลอน ทั้งประเภทขวาง โซ่ รูด ฯลฯ และวิธีสะเดาะ
7. ขายเนื้อออนไลน์ ไม่ยาก แต่งโดย Kevin เจ้าของร้าน 420shop เป็นหนังสือสอนวิธีลงทุนขายเนื้อออนไลน์ใน Deep Web และชำระเงินผ่าน Bitcoin ด้วยภาพและการ์ตูนที่เข้าใจง่ายแต่ครบถ้วน
8. 100 ปีแห่งการขังเดี่ยว แต่งโดย Mcgee เป็นวรรณกรรมเกี่ยวคนดำที่จับสันติบาลมาขังเดี่ยวในห้องใต้ดินอย่างยาวนาน
อ่านให้มาก จับประเด็นให้เก่ง แล้วชีวิตจะเปลี่ยนไป
#มิตรสหายคนดำท่านหนึ่ง
""พรุ่งนี้ฝนจะตก" ถ้ากรมอุตุนิยมวิทยาทำนายไม่ถูก จะถือว่าเป็น "ข้อมูลเท็จ" ตาม #พรบคอม หรือไม่? ตอนกรมอุตุฯทำนายทางกรมเองก็เชื่อเช่นนั้นจริงๆ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ไม่ได้ทำผิด จะกลัวSinglegatewayไปทำไม ไอ้พวกที่ออกมาค้านก็มีแต่คนไม่ดีทั้งนั้นแหละ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"ไม่เคยเห็นเว็บไซต์Change.org มันจะChangeเหี้ยอะไรได้ซักอย่าง"
-มิตรสหายท่านนึง
"มีคนสงสัย พ.ร.บ.คอมฯ ตัวใหม่ เป็นยังไง
หลายข้อมีดี ดีบวกขึ้น อันนี้โอเคไม่มีปัญหา แต่ไอ้ที่มีปัญหาหลายอัน เช่น
1. คณะกรรมการ 5 คนที่มีอำนาจยื่นเรื่องบล็อก/ไม่บล็อกเว็บเนี่ย ใครวะ? เชื่อถือได้ไหม?
จากประสบการณ์ที่ผ่านมาคือ แม่งไม่ค่อยโอเคซักราย เคยเจอไหม แม่งมีมิตรสหายท่านนึงไปฟ้องกระทรวงวัฒนธรรมอันดีแห่งมาตุภูมิ ส่งตร.มาจะปิดเว็บ จะปิดโน่นนี่นั่น คุยกับตร. เค้าก็ว่า เอ้ยมันไม่ได้โป๊อะไรขนาดนี้ (และ ตร.ก็ว่า ไอ้อันที่แม่งโป๊กว่านี้ก็เยอะ ไม่เห็นว่าอะไร - เพราะ url ที่โป๊แม่งมีตัวชงไง)
จากนั้น ตร. ก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก คุยกันประนีประนอมให้ สรุป ลบเฉพาะ url นั้น ให้ทั่นๆ เค้าสบายใจ - จบ (หลังจากนั้นผมไม่ได้รู้สึกไว้ใจคำว่า "วัฒนธรรมอันดี" หรือคณะกรรมการพวกนี้อีกเลย)
2. รัฐไม่ได้ทำ Single Gateway แล้ว แต่ดันเสือกจะ "ขอความร่วมมือ" ให้ ISP เปิดช่องให้เข้าถึงได้
เทียบง่ายๆ คือ ของเดิม แม่งสร้างประตูเดียว ใครเข้า-ออกผ่านประตูนี้ เพื่อให้ตรวจ-กรอง-ดัก ของใหม่คือ แม่งประตูใครก็ได้ กี่ประตูช่างมัน "แต่ต้องมีทางลัดให้เข้าตรวจ-กรอก-ปิด-ดัก" ได้ สำหรับผมจึงต่างกันแค่จำนวนประตู เท่านั้น
ยังไม่รวมนิยามคำว่า "ขอความร่วมมือ" ของ รบ. ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมา "ไม่ร่วม" เนี่ยชีวิตอยู่ยากล่ะ เพราะเคยเจอไหม โทรมาแจ้งลบข้อมูล หมิ่นหน่วยงาน, หัวหน้าหน่วยงาน โดยบอกว่า "ผมไม่บอกนะว่า ผมตำแหน่งอะไร ทำอะไร ไม่อยากใช้มัน ไม่ได้อยากเบ่งนะ ผมเลยโทรมาแจ้งและขอความร่วมมือในฐานะประชาชนธรรมดา" (แม่งข้อความคุยมานี่ ปชช.ธรรมดาโคตรๆ)
สรุปคือ "ขอความร่วมมือ" ที่ปฏิเสธไม่ได้ หลายครั้งไม่มีจดหมาย ไม่มีเอกสาร ไม่มีอีเมลแจ้ง ทำช้า แม่งชวนไปนั่งกินข้าวด้วยซะงั้น
(และมีทุก รบ. นะ หึหึ เลือกตั้ง-ลากตั้ง แม่งมีหมด)
ดังนั้น คิดว่าไงล่ะ มันโอเคป่ะ? กับ พ.ร.บ.คอมฯ ไม่ผิดไม่ต้องกลัวอะไร แต่ไม่ได้ทำอะไรให้น่าไว้วางใจเล๊ยยยย"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
อิข่าว single gateway จริงมั้ย
>>578 มันไม่ทำแล้ว แต่จะเอาคนไปเค้นคอ ISP แทน สรุปเหมือนกัน
กูไม่ชอบตรง"ขัดศีลธรรมอันดี" เอาเหี้ยอะไรมากำหนดเกณฑ์วะ ตามใจไดโนเสาร์กระทรวงวัฒนธรรมเหรอ เหี้ยมาก AV กราเวีย พวก cup-e ห้องkarma 801 ปลิวง่ายๆเลย หรือพวกหนังอาร์ต ตีแผ่พระ นับวันยิ่งอยู่ยาก คราวนี้คงไม่มีให้ดู
"ด้านนายโกวิทย์ อุดมสันต์ อดีตศึกษานิเทศก์ สปพ.อำนาจเจริญ แสดงความเห็นว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่จะใช้ภาษาไทยเขียนลงบนถนน เพราะเป็นมรดกสมบัติล้ำค่าของชาติไทย กรมทางหลวงน่าใช้สัญลักษณ์อื่นแทน"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"เจอขนไดโนเสาร์ในอำพันทำเป็นฮือฮากันทั้งโลก มึงมาดูประเทศกูนี่ของจริงไอสัสทั้งตัวยังหายใจอยู่ด้วย"
#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง
ช่วงเดือนที่ผ่านมานี้เห็นมีการถกเถียงมากมายเรื่องคราฟต์เบียร์ไทย เพราะเป็นช่วงที่มีคราฟต์เบียร์ไทยที่ได้ออกไปต้มถึงต่างประเทศ และนำเข้ามาขายในไทยหลายต่อหลายค่าย
.
.
.
แต่ในที่นี้จะขอกล่าวถึงคราฟต์เบียร์ไทยโดยรวมทั้งใต้ดินและบนดินไปพร้อมๆกัน
.
.
แม้จะดีใจที่ได้เห็นว่าคราฟต์เบียร์ไทยมันเดินทางมาไกลมากๆจากจุดเริ่มต้นที่มีคนทำไม่กี่ราย จนตอนนี้มีคนทำเหยียบร้อยราย
.
.
แต่ในความดีใจนั้น มันก็มาพร้อมคำถาม ว่าเราควรจะยินดีปรีดา ช่วยกันเชียร์ เพียงเพราะมันเป็นเบียร์"สัญชาติไทย" แค่นั้นใช่มั้ย?
.
.
.
.
เราควรจะสนับสนุนคราฟต์เบียร์ไทย เพราะมันเป็น"ของไทย" หรือเพราะมันเป็น "ของดี" อันนี้เป็นคำถามที่อยากให้ทุกท่านคิดกัน
.
.
.
ผมไม่อยากให้อวย ไม่อยากให้หลับหูหลับตาเชียร์ เพียงเพราะมันเป็นเบียร์ไทย ในทางกลับกัน เราควรต้องเข้มงวดกับมัน ควรจะวิพากษ์มันตรงๆ อะไรที่เหี้ยคือเหี้ย อะไรที่ไม่ดีคือไม่ดี
.
.
.
บอกตรงๆตอนนี้ผมเห็นว่ามันมีแต่คน "อยากขายเบียร์" มากกว่า "คนอยากทำเบียร์ดีๆ" เต็มไปหมด เพราะมันขายได้ไง ตลาดบ้านเรากำลังอยู่ในช่วงเห่ออยู่ และคนต้มบางคนหลับหูหลับตาต้มเบียร์เป็นไม่กี่แบทซ์ ก็บรรจุลงขวดเอาออกมาขายแล้ว ทั้งๆที่รสชาติอย่างเหี้ย เพราะเขาเห็นว่ามันขายได้
.
.
.
brewer ที่ดีๆ ผมก็รู้จักเยอะแยะ ที่เขาดิ้นรนอยากทำเบียร์ดีๆ พยายามเคี่ยวเข็ญตัวเองทุกวี่วันเพื่อพัฒนาตัวเอง เพื่อทำเบียร์ดีๆออกมาให้คนได้ดื่ม พวกนี้ผมโคตรนับถือจากใจ
.
.
ผมจะยกตัวอย่างให้ฟัง มี brewer บางคนแม่งโคตรแคร์คนดื่ม พอรู้ว่าเบียร์ที่ทำแม่งดร็อป แม่งไปขอถอดถังทิ้งเลย ไม่ขอขายต่อ ไม่อยากปล่อยเบียร์แย่ๆออกมาสู่ตลาด บางคนได้ฟีดแบคว่าเบียร์บางขวดที่ทำมีปัญหา เขารีบไปเปลี่ยนให้โดยไม่มีข้อแม้เลย พวก brewer น้ำดีที่แคร์ความรู้สึกคนดื่มแบบนี้ ผมขอสนับสนุน พวกเขาต้องการ "คำติ" เพื่อนำไปพัฒนาตัวเอง
.
.
.
.
แต่มันก็มีอีกบางคนที่เป็น brewer ขาชุ่ย ทำเบียร์เฮงซวยออกมาทุกวี่วัน หลอกขายนักดื่มที่รู้ไม่ทัน ที่ยังแยกไม่ออกว่าเบียร์ดี-เบียร์แย่ เขาแยกกันยังไง ยังมีคนต้มเบียร์ที่คอยฉกฉวยโอกาสจากตลาดจากผู้บริโภคตลอดเวลา พวกนี้ก็มีเช่นกัน
.
.
.
.
คนจำพวกนี้ทำเบียร์แย่ๆออกมา ไม่แคร์ความรู้สึกคนดื่ม เบียร์มันห่วยก็ถูลู่ถูกังขายอยู่นั่นแหละ เบียร์มันแฟลต เบียร์มันแย่ บาลานซ์อย่างห่วย แต่กูจะขาย ใครจะทำไมกู เบียร์มีปัญหาโดนโวยขึ้นมาก็ไม่รับฟังใคร แต่เห็นว่าลงสื่อเยอะ หลอกขายของได้สบายๆ พวกนี้มันคือกาฝากวงการ
.
.
พวกนี้อาศัยความไม่รู้ของผู้บริโภค ทำเบียร์ชุ่ยๆออกมา รสชาติหมาเยี่ยว รสชาติเฮงซวย แต่เน้นลงสื่อเยอะแยะ หลอกขายคนที่รู้ไม่ทัน ได้ชื่อเสียงจากการถูก hype ขายน้ำลายมากกว่าขายเบียร์ ทำร้านขยายร้านออกมาเยอะแยะ แต่เบียร์ก็ยังเฮงซวยเหมือนเดิม ไม่คิดจะพัฒนาฝีมืออะไร
.
.
.
คนแบบนี้มันดูถูกผู้บริโภค เห็นคนดื่มไม่รู้ก็ทำๆอะไรชุ่ยๆไป ขายไปวันๆ
การรู้เท่าทันจึงเป็นเรื่องสำคัญ อย่าให้คนทำเบียร์ชุ่ยๆมาหลอกขายของห่วยๆให้เรา เราต้องแยกแยะให้ได้ว่าอะไรคือเบียร์ที่ดี อะไรคือเบียร์ที่แย่ แล้วเลือกเสพแต่ของดีมีคุณภาพ
.
.
brewer คนไหนที่พยายามทำเบียร์ดีๆออกมา ผมขอสนับสนุนแม่งทุกลมหายใจ จะคอยติเตียน หาจุดด้อยจุดอ่อน เพื่อให้เก็บเอาไปพัฒนาเรื่อยๆ
.
.
.
แต่ brewer คนไหน แม่งสักแต่ทำเบียร์ห่วยๆ กากเดนออกมา คิดจะคอยเอาแต่เงินจากผู้บริโภคโดยไม่สนใจอะไร ผมก็จะใช้พื้นที่เล็กๆในเพจนี้ บอกกับทุกคนว่าอย่าไปสนับสนุนของเฮงซวย อย่าไปให้ราคากับคนที่ดูถูกคนดื่มแบบนี้ จะคอยย้ำแม่งทุกวันเลยว่าเบียร์มึงมันห่วย อย่าทำอะไรชุ่ยๆออกมาแบบนี้อีก
.
.
.
ขอให้นักดื่มทุกท่านมีความสุขกับการดื่มของดีๆ ช่วยกันสร้าง drinking culture ขึ้นมาพร้อมๆกัน มันอาจต้องใช้เวลา แต่ผมเชื่อว่าพวกเราทำได้
#ลงหนังสือเยอะไม่ได้แปลว่าเบียร์มันจะดี #เลิกดูถูกผู้บริโภคได้แล้ว #สนับสนุนเบียร์ดีรังเกียจเบียร์ห่วยกาก
"เด็กเก่ง"
มีความเชื่อผิดๆ อย่างหนึ่งที่ไม่รู้จะแก้อย่างไรในบ้านเรา คือ ความคิดที่ว่า "เด็กเก่ง ต้องทำได้แบบผู้ใหญ่หรือเด็กที่โตกว่า"
เราจะชอบเร่งเด็กให้โตเร็วกว่าวัย ให้ทำอะไรได้มากกว่าวัย ด้วยการ "ยัดความเป็นผู้ใหญ่เกินวัย" มากกว่าการส่งเสริมพัฒนาการตามวัยของเด็ก
ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกต่างๆ เด็กเก่ง คือเด็กที่จะต้องมีจริตจะก้านแบบผู้ใหญ่ ร้องเพลงอกหักแบบผู้ใหญ่ เต้นแบบผู้ใหญ่ แต่งตัวแต่งหน้าแบบผู้ใหญ่ ... (ซึ่งพอหมด "ความน่ารักแบบเด็ก" เข้าสู่วัยรุ่น ก็กลายเป็นแบบ "เน็ตไอดอลเต้นโชว์" .... แล้วสังคมส่วนหนึ่ง ผู้ใหญ่ส่วนหนึ่งก็ไปด่าเขา ทั้งๆ ที่เคยชมเคยชอบเคยเอ็นดูตอนเด็ก .... เด็กไม่ผิดครับ เราทำให้เขาเป็นแบบนั้นเอง)
เด็กที่เรียนเก่งคือเด็กที่ทำข้อสอบเด็กที่โตกว่าได้ เช่น ให้เด็กประถม ทำข้อสอบวัดความรู้ฟิสิกส์ระดับมัธยม ... และให้เด็กตอบตามหลักทฤษฎีที่ออกแบบไว้สำหรับให้เด็กโตกว่าเรียน แทนที่จะให้ตอบตามความเข้าใจที่เหมาะสมตามวัย
เราไม่เข้าใจระหว่าง "พัฒนาการเร็วกว่าวัย" และ "การยัดเยียดเกินวัย" ..... ระหว่าง "ความคิดอ่านวุฒิภาวะสูงกว่าวัย" และ "พูด/แสดงออกเหมือนอย่างที่ผู้ใหญ่สอนให้ทำ"
ผมเคยถูกเชิญไปเป็นกรรมการวิพากษ์/วิจารณ์หลักสูตรเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารระดับประถม (น่าจะของ สพฐ. นะ จำไม่ได้ล่ะ ... แต่เป็นหลักสูตรทั่วไป ใช้ทั้งประเทศ ไม่ใช่เฉพาะโรงเรียน) ... ผมโดนเชิญทั้งในฐานะที่เป็น "อาจารย์มหาวิทยาลัย" และ "ภาคอุตสาหกรรม/เอกชน"
พบว่าไม่มีอะไรเลยที่ควรจะเป็นไปตามวัยเด็ก ... เช่น ป.2 จะให้เด็ก "สืบค้นข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น เว็บไซต์ของทางราชการ" .. ป.1 จะให้เด็ก "ฝึกใช้โปรแกรมวาดรูป เช่น Paint และโปรแกรมนำเสนอ" หรือการที่จะสอนให้เด็กใช้ e-mail ตั้งแต่ ป. 3-4 ... โดยใช้ gmail ด้วยนะ ... (อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ ตาม EULA ของ Google เลยนะ จะบอกให้)
ผมแย้งว่า ผมเข้าใจวัตถุประสงค์นะ conceptual มันอาจจะ ok แต่ implementation ท่านผิด .... ป.1 นี่หัดให้เล่านิทานเถอะครับ มันเป็นพื้นฐานของการนำเสนอสารสนเทศ ... ไม่ใช่เน้นไปที่ "เด็กใช้โปรแกรมเพื่อการนำเสนอ" เป็นต้น (เช่นเดียวกับ "สืบค้นข้อมูลจากเว็บไซต์ราชการ" ... เด็ก ป.2 จะอยากรู้อะไรจากราชการเหรอครับ?)
พอผมจี้ไปที่ประเด็นนี้ บรรดาครูอาจารย์ที่ร่างมา ก็จะดีเฟนด์กันตัวโก่ง "แต่เราลองแล้ว เราก็สอนได้นะ เด็กก็ทำได้"
พอถึงจุดนี้ผมเลยเข้าใจครับ ท่านแค่ตอบสนองอีโก้ของตัวเองเท่านั้น ไม่ใช่ทำอะไรเพื่อเด็กเลย
ท่านครับ ... ท่าน "ยัดได้" และเด็ก "ทำข้อสอบได้" มันไม่ได้แปลว่า "เด็กเรียนรู้ได้" หรือ "เด็กสมควรจะเรียนรู้สิ่งนั้นในตอนนั้น" เลยนะครับ
ยกตัวอย่างเปรียบเทียบแบบทุเรศหน่อย ท่านข่มขืนเด็ก 8-9 ขวบ ท่านก็ทำได้ครับ ... ท่าน "ยัด" ได้แน่นอน ... แต่เด็กมันถึงวัยอันควรที่จะมีเซ็กส์หรือเปล่าครับ? เด็กสนุกกับมันมั้ย หรือจะมีแค่ความเจ็บปวด จนชิน แล้วก็แค่จำยอมไปเรื่อยๆ?
แล้วท่านก็ยัดเยียดท่าพิสดารให้เด็กไปเรื่อยๆ .... แล้วท่านก็มาภูมิใจ ว่า "เด็กทำท่ายากได้เยอะ" หรือ "ท่านสอนดี สอนเก่ง"
ท่านก็แค่ "ข่มขืนเด็กต่อเนื่องมาตลอดชีวิตการศึกษาของเขา" เท่านั้น ... อย่างที่ผมเคยสรุปว่า "ไปโรงเรียน = ไปโดนข่มขืน" น่ะแหละครับ
[หมายเหตุ:
โพสท์นี้จริงๆ เป็นประเด็นต่อเนื่องมาจากโพสท์เมื่อวาน หลายคนแย้งว่ามันเป็นการหาเด็กอัจฉริยะ ของ สสวท. เลยนะ ... ผมเข้าใจครับ ผมอ่านหัวกระดาษนั่นหลายรอบครับ .... อ่านละเอียดอีกนิด จะเห็นว่า นั่นแค่สอบ "รอบแรก" นะครับ .... และนั่นแหละยิ่งทำให้ผมไม่เห็นด้วย ... เพราะมันกลายเป็นสร้างบรรทัดฐานว่า "ทำนี่ได้ คือเด็กเก่ง เด็กอัจฉริยะ ... ตามมาด้วยการกวดวิชาอีกเยอะที่จะเร่งยัดไป พ่อแม่อีกมากมายที่จะอยากให้ลูกเก่ง ลูกอัจฉริยะ ก็จะเร่งยัด .... เราต้องคิดกว้างกว่าแค่ตัวข้อสอบครับ คิดถึงสิ่งที่ตามมาด้วย ...
ป.3 ก็คือ ป.3 นะครับ ..... มีวิธีวัดความเก่งตามวัย ความถนัดตามวัย อีกเยอะมากมายครับ ที่ดูได้ชัดเจนกว่าการท่องทฤษฎีแบบนี้ ... ให้เด็กวาด trajectory ของ angry bird ก็ได้ครับ ... ข้อสอบแบบนี้ ท่านติว ท่านยัดไป เด็กมันก็จำได้ ทำข้อสอบได้แหละครับ .... แต่ไม่ได้แปลว่าเขาเก่งเรื่องนี้ ถนัดเรื่องนี้แต่อย่างใด]
- มิตรสหายท่านหนึ่ง
"ปากก็บอกคนไม่รู้จักอิสลามไม่ควรวิจารณ์อิสลาม แต่พวกมึงไม่เคยออกจากะลามาดูโลก เสือกเที่ยววิจารณ์คนอื่นเค้าไปทั่ว"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
พอดูเรื่องแย่ ๆ ของคนอิสลามแล้วก็นึกถึงสารคดีที่เคยบอกราว ๆ ว่าคนอิสลามสตรองเพราะศาสนาสอนให้ปรับอยู่อยู่กับสภาพแวดล้อมอันโหดร้าย
พอนึกแล้วก็ตลกดีที่คนอิสลามเดี๋ยวนี้มีปัญหากับสังคมปัจจุบัน
บางทีก็คิดนะ ว่าคนที่สามารถมีเซ็กส์กับแฟนตัวเองแค่คนเดียวได้ตลอด 30 - 50 ปีจนวันตาย โดยไม่มีวันเบื่อ และไม่แอบไปเอากับคนอื่นเลยสักครั้งเนี่ย เป็นคนดีมีศีลธรรมสูงและซื่อสัตย์มาก หรือจริงๆแล้ว แค่เป็นคนที่มีความต้องการทางเพศน้อยมากๆเท่านั้นเอง
https://www.youtube.com/watch?v=P4YRV9evA6k
นักข่าวญี่ปุ่นจาก Nippon TV และ นสพ.โยมิอุริชิมบุน ไปขอสัมภาษณ์ปูติน เมื่อวันที่ 12 ที่ผ่านมา แต่กลับเจอสุนัขพันธุ์อากิตะที่ปูตินเลี้ยงไว้เห่าใส่รัวๆ (อากิตะเพศเมียชื่อ 'ยูเมะ' ที่รบ.ญี่ปุ่นให้เป็นของขวัญปูตินเมื่อปี 2012)
แถมเห่าแบบเห่าไม่หยุด จนนักข่าวได้แต่ยืนยิ้มตัวสั่น ปูตินบอกว่าสาเหตุเพราะยูเมะต้องคอยระแวงระวังภัยให้ปูติน ชาวเนตญี่ปุ่นเลยถึงกับแซวขำๆ ว่า นี่ขนาดเป็นหมาญี่ปุ่นแท้ๆ ยังถึงกับแปรพักตร์เมื่อได้ไปอยู่กับปูติน (ฮา)
ทั้งนี้หลังจากนั้นไม่กี่วัน ปูตินก็ได้พบกับอาเบะ เพื่อหารือความมั่นคง-ร่วมมือเศรษฐกิจ และจะเคลียร์กันเรื่องข้อพิพาทหมู่เกาะ ซึ่งระหว่างนั้น รบ.ญี่ปุ่นเสนอจะมอบอากิตะตัวผู้ให้ไปเลี้ยงอีกตัว แต่ปูตินได้ปฎิเสธไป เพราะมีแค่ยูเมะก็เพียงพอแล้ว
จริงๆ ข่าวนี้ไม่มีดีเทลอะไร ปูตินแค่โชว์ว่าเขาเลี้ยงหมาที่ญี่ปุ่นให้มาดี สั่งให้นั่งได้ยืนได้ โชว์ป้อนข้าวก็ง่าย น่ารักใช่มั้ยล่ะ
แต่ถ้าเป็นคนคิดมากเรื่องนัยยะทางการเมือง
...เคสนี้ปูตินแม่งแสบเหี้ยๆ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"ในเส้นเรื่องว่าด้วย "การแก้ปัญหาความยากจน" นั้น มีผู้ที่เขียนบทให้ตนเองเป็นอัศวินขี่ม้าขาว และเขียนบทให้คนยากจนเป็นฝ่ายเฝ้ารอรับน้ำใจจากผู้เหนือกว่าเสมอ แต่ในความเป็นจริง กระบวนการ "ช่วยเหลือ" เหล่านี้ ให้ผลดีงามตามที่เราเชื่อว่ามันเป็นหรือเปล่า?
หนังสารคดี "Poverty, Inc. บริษัทนี้มีความจนมาขาย" บอกเล่าเรื่องราว "อุตสาหกรรมทำมาหากินกับความจน" ที่รวบรวมข้อมูล กรณีศึกษา และความคิดเห็นจากบทสัมภาษณ์กว่า 150 ผู้คน และจากการถ่ายทำยาวนานกว่า 4 ปีใน 20 ประเทศ เพื่อนำพาเราไปสำรวจอีกด้านของการบริจาค-การพัฒนา และค้นหาคำตอบว่า มันคือการพัฒนาอันยั่งยืน หรือเรากำลังเป็นเพียงส่วนหนึ่งของระบบที่ปล่อยให้ "คนจนถูกทิ้งให้ยิ่งจนต่อไป ส่วนคนรวยยิ่งโชว์น้ำใจก็ยิ่งรวยยิ่งเก๋" กันแน่?"
"หนังชำแหละนโยบาย "ช่วยประเทศยากจน" ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ส่งข้าวจำนวนมหาศาลไปยังประเทศเฮติ ซึ่งดูผิวเผินเหมือนแสนดี แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหลังคือการล็อบบี้ของเกษตรกรรายใหญ่ในสหรัฐ, นักอนุรักษ์ธรรมชาติที่กระโดดร่วมวงอย่างไม่ดูตาม้าตาเรือ และรัฐบาลท้องถิ่นที่เด้งตัวรับนโยบายพัฒนาด้วยผลประโยชน์ซ่อนเร้น ผลคือชาวนาเฮติต้องถูกข้าวราคาถูกกระหน่ำจนอาชีพปลูกข้าวของตนเองหมดทางทำมาหากิน ถูกรัฐบาลผลักดันให้หลุดจากที่นาแล้วมุ่งหน้าเข้ามาขายมาแรงงานเมือง กลายสภาพจากประชาชนที่เลี้ยงตนเองได้สู่วงจรแห่งความยากจนที่ตนเองไม่ได้สร้าง แล้วลงท้ายก็ถูกประทับตราเป็น "คนจนที่รัฐต้องช่วยเหลือ" หล่นอยู่ในวัฏจักรจนซ้ำซากตลอดไป
นี่คือเรื่องราวที่เราจะได้ดูกันใน "Poverty, Inc. บริษัทนี้มีความจนมาขาย" หนังสารคดีชำแหละ "อุตสาหกรรมค้าความจน" เสาร์ที่ 24 นี้ ตามรายละเอียดในเพจอีเวนท์นี้ค่ะ ....และที่เล่ามานี่ เพิ่ง 15 นาทีแรกของหนังเท่านั้น"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
>>587
นึกถึงอันนี้เลยว่ะ 555555555555555555
[img]http://i.imgur.com/86XV5CW.png[/img]
"ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ตอนก่อนพ.ร.บ.ภาพยนตร์และวิดีทัศน์ 2551 เราเคยเข้าไปร่วมพิจารณากับคณะกรรมการกฤษฎีกา และได้แสดงความเห็นคัดค้านในหลายประเด็น กรรมการท่านนึงถามเราว่า คุณมาจากบริษัทไหน เป็นตัวแทนของใคร เราก็บอกว่าเป็นตัวแทนของคนดูหนังธรรมดานี่แหละ และกฎหมายที่คุณกำลังจะออกมันริดรอนสิทธิของคนดูทั่วไปที่มีวุฒิภาวะพอที่จะตัดสินว่า เราจะดูอะไรหรือไม่ดูอะไร
เขามองว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต้องมาจากบริษัทเท่านั้น แต่ประชาชนอีกจำนวนมากกลับไม่นับเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
" http://www.independent.co.uk/news/world/middle-east/women-in-lebanon-protest-law-forcing-them-to-marry-their-rapists-a7460371.html
ต่อไปเป็นข่าวต่างประเทศ
มีการชุมนุมประท้วงกฎหมายแห่งศาสนาแห่งสากลโลก ศาสนาแห่งอิสลาม ศาสนาแห่งสันติ
ที่ระบุว่าเมื่อผู้ชายเข้าไปข่มขืนผู้หญิงแล้ว สามารถพ้นความผิดได้ เพียงแค่ชายผู้นั้นแต่งงานกับเหยื่อที่ตนเองข่มขืน"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"พูดกันอย่างแฟร์ ๆ ไม่เข้าข้างใครนะฮะ....ปฏิกิริยาของรัฐจากการโดนแครก โดนแฮคฯ ที่เกิดขึ้นนี้ มันสะท้อานได้ อย่างน้อยสองสิ่ง
1) เอาเข้าจริง รัฐมีศักยภาพน้อยมาก หรือแทบไม่มีศักยภาพเลยในการรักษาความปลอดภัยระบบ/ข้อมูลของตนเอง เช่นนี้ ประชาชนจะไปหวังอะไรในเรื่องนี้ได้ สงครามไซเบอร์เกิดเมื่อไหร่ ถ้าคนทำเป็น "ผู้ก่อการร้าย" หรือเป็น "ศัตรูจริงๆ" กับประเทศไทย ไฟดับ เน็ทล่ม เครื่องบินตก รถไฟชน คนไทยก็เตรียมตายห่านกันอย่างเดียว (นั่งรอ ให้รัฐบาลไปคุกเข่าขอให้ผู้ก่อการร้ายหยุด นี่ขนาดรัฐบาลทหารนะเนี่ย) กับ
2) ว่ากันจริง ๆ การเจาะระบบ การทำลายข้อมูล ที่เกิดขึ้น (โดยกลุ่มใครก็ตาม รวมทั้งกลุ่มผู้ประท้วงด้วย) เป็นความผิดตามพรบ.คอมฯ นะฮะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความผิดในส่วนแรก คือ "ความผิดที่กระทำต่อระบบ และ/หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์" (มาตรา 5 - 13)
แต่รัฐกลับไม่มีปัญญาทำอะไรได้ หรือกระทั่งจะบอกว่า จะ "ติดตามผู้กระทำมาดำเนินคดี" (แทนที่จะออกมาเว้าวอน ขอร้องว่า อย่าทำ หรือทำให้ประเทศชาติเสียหาย แบบนี้)
ซึ่งก่อนหน้านี้ ฝ่ายผู้ร่างกฎหมายแก้ไข ต่างก็ออกมา "โป้ปด" กับประชาชนตลอดว่า กฎหมายฉบับนี้ / ร่างแก้ฉบับนี้ มุ่งเน้นปราบปรามความผิดที่กระทบต่อ "ระบบ/ข้อมูล" ไม่ใช่ ความผิดที่เกี่ยวกับ "การเผยแพร่เนื้อหา" (มาตรา 14 - 15) กฎหมายนี้ไม่กระทบกระเทือน หรือไม่ได้มุ่งปิดกั้นทำลาย "เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น" ของประชาชนอย่างแน่นอน บลาๆๆ
แต่สิ่งที่สะท้อนออกมา ในข้อ 2 นี้ มันตรงกันข้ามกับที่รัฐพ่นพูด คือ รัฐมีปัญญาป้องกันและทั้งปราบปราม "ความผิดที่กระทำต่อระบบ/ข้อมูล" น้อยมาก แต่กับความผิดที่ว่าด้วยการ "เผยแพร่เนื้อหา" ความผิดที่ "กระทบกับเสรีภาพแสดงความเห็น" นี่ "เน้น" กันจัง "แก้ไขเพิ่มเติม" กันจัง "จับ" ทุกเดือน "ขู่ฟ่อๆ" ทุกวัน
จึงสรุปรวบยอดได้ว่า พระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์แบบไทย ๆ มันไม่ได้ ออกมาเพื่อป้องกันและปราบปรามแฮคเกอร์ แครกเกอร์ หรือฟิชช่ง ฟิชชิ่ง อย่างนานาอารยะประเทศเขาหรอกฮะ ..ลึกๆ แล้วมันตั้งใจจะเอามา "ปิดปาก" ประชาชน คนเห็นต่าง วิพากษ์วิจารณ์สถาบันฯ ทั้งหลาย ที่ห้ามแตะต้องเท่านั้นแหละ สถิติคดีที่ออกมาตั้งแต่ใช้พรบ.มา (2550) หลัก ๆ ก็ใช้ฟ้องกันแต่เรื่องพวกนี้ จับหรือดำเนินคดีกับแฮคเกอร์ได้ซักกี่คนกัน (ไปค้นดู) ดังนั้น รัฐควรเลิกตอแหลม เสียที
ปล. Liberal ที่ไหนอย่ามาดราม่า หรือเที่ยวหาว่าเรา ปรักปำกลุ่มแฮคว่ามีความผิด หรือยุยงให้รัฐดำเนินคดีกลุ่มแฮคนะฮะ เรื่องนี้ว่ากันตาม "หลักกฎหมาย" ล้วน ๆ ก็ถ้าคุณชอบนิติรัฐ เมื่อ ผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ถูกก็ต้องว่าไปตามถูก ฮะ....ส่วนมูลเหตุจูงใจของผู้กระทำเป็นอย่างไร เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย นั่นก็อีกเรื่อง"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
แล้วมันก็จะบอกว่าที่โดนแฮคเพราะยังไม่มีซิงเกิลเกตเวย์
"ล่าสุดไปลบเว็บสถานีตำรวจพิษณุโลก ทำไปทำไมครับ ใครได้ประโยชน์อะไรจากสิ่งนี้บ้าง อีกหน่อยคงไปแฮ็กเว็บสำนักงาน อบต. หนองหญ้าปล้องแล้วเอารายชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร เลขบัญชีคนแก่ที่ได้เงินเดือน 700 บาท มาโพสต์"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
on the 3rd day of Christmas, my islam gave to me,
Berlin market carnage,
Mass zurich shootings,
And assassination of Tur-key ^^
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ตอนนี้ผมเชื่อว่าทุกแอพ จะต้องเตรียมตัวรับมือกับคู่แข่งที่น่ากลัวมากๆ ไม่กี่ตัวหรอก .... นั่นคือ Facebook และ Ali (รวมถึงตัวอื่นๆ ที่เล็กกว่านี้ แต่มี strategic คล้ายๆ กัน)
ได้เปรียบที่ฐานผู้ใช้อยู่แล้ว มีแพลทฟอร์มที่รองรับเรื่องพื้นฐาน (เช่น การจ่ายเงิน โครงสร้างสังคม ความปลอดภัย) คนเชื่อใจอยู่แล้วระดับหนึ่ง มีเงินที่จะลงกับการตลาด .....
และที่สำคัญ ... พวกนี้ไม่ทำของห่วยๆ ออกมาแน่นอน
ถึงเวลาที่พวกเราทุกคนต้องยกมาตรฐานตัวเองอย่างชัดเจนล่ะครับ ไม่งั้นคราวนี้จะเป็นการ mark จุดที่ชัดเจน ถึงการ "เสียเอกราชเชิงอุตสาหกรรม 4.0" เหมือนที่เป็นมาแล้วทุกครั้ง ... ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
ลองย้อนกลับไปดูครับ ทุกยุคสมัย ..... ที่เราไปปักหมุดย้อนหลังว่า 1.0, 2.0 อะไรนั่น ... สุดท้ายมันกลายเป็นอะไร มันกลายเป็นว่าเราของๆ เรา นวัตกรรมของเราเองในยุคนั้นมันน้อยลงไปเรื่อยๆ ... เราต้องรับของเค้าเข้ามาเพียงเพื่อทำการตลาดในบ้านเราและขายของเค้าให้มากขึ้นไปเรื่อยๆ ... นี่คือสิ่งที่เราถนัดที่สุด ....ไม่ก็เป็นฐานรับจ้างผลิตเท่านั้น
ไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหน ถ้านวัตกรรมในยุคนั้นๆ ของเราไม่ดีพอ เราก็จะถูกแทนที่ด้วยนวัตกรรมนั้นๆ จากชาติอื่นที่ทำเป็น ทำดี กว่าเรา ... และเราก็ทำแบบเดียวกับทุกยุค นั้นคือทำแบบนักการตลาด ทำแบบนักขาย ซื้อของเค้ามาทำตลาดภายใน ซื้อมาขายไป เน้นโฆษณาและภาพ .. ไม่ก็หาทางเป็นผู้แทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวแล้วก็เอามาปล่อยต่อ กินช่วงไป เป็นเสือนอนกินไป
เพียงแต่ความนี้ งวดนี้ โลกมันแบนครับ ... เค้าทำของเค้าเองในประเทศเราบ้านเราได้ตรงๆ ไม่ต้องอะไรมากกับการหา distributor หรือ reseller ในบ้านเราให้มาเป็นเสือนอนกินกับ product เค้า .....
ประวัติศาสตร์มันสอนเราอย่างหนึ่งครับ ว่าเราไม่เคยเรียนรู้อะไรจากมันเลย
เอ๊ะ ... หรือว่านี่เป็นสิ่งที่เราต้องการอยู่แล้วก็ไม่ทราบ
"โดยทั่วไปคนจะไม่ละเอียดพอที่จะแยกมันออกจากกันไง ความเศร้ากับตลกมันเกิดในเรื่องเดียวกันได้ อยู่ที่เราละเอียดพอไหม ถ้าเราละเอียด เรามองได้ทุกมุมของเรื่อง มุมตลกก็ได้ มุมเศร้าก็ได้ มันมีได้ในเรื่องเดยีวกันนั่นแหละ แต่พอเราขำออกในเรื่องน่าเศร้า คนก็มักหาว่าเราใจหยาบ ทั้งที่จริงๆ เราแยกมันออกจากกันได้ และการตลกที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ทำให้เราเห็นคุณค่าความเป็นมนุษย์ของคนที่ตายน้อยลง และส่วนที่เราเสียใจก็ยังคงอยู่ ไม่ได้หายไปไหน
นี่คือปัญหาที่หลายๆ คนทำไม่ได้ แล้วมาโวยวายคนอื่นว่าไม่มีหัวใจ ทั้งที่จริงๆ มันคือจะใช้หัวใจอย่างละเอียดแค่ไหน
เมือ่ก่อนก็เคยรู้สึกว่าการเอาเรื่องพวกนี้มาทำตลกนี่แม่งเลวร้ายสุดๆ แต่พออยู่ไปเรื่อยๆ เจอคนที่แบบ เขาขำกับเรื่องพวกนี้ โดยที่จิตใจมันก๋ยังดีงามกับโลกใบนี้เสียยิ่งกว่าคนที่ไม่สามารถขำกะับเรื่องพวกนี้ได้ เราก็เลยเริ่มเข้าใจว่ามันไม่จำเป็นต้องมีการแสดงออกแค่แบบเดียว และการแสดงออกแบบอื่น เช่น ฮา ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่รู้สึกเสียใจ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"คุณอย่าคิดอะไรมาก ประเทศนี้ไม่ใช่ของคุณ อยู่ๆไปเถอะ คิดซะว่าเช่าเค้า
ทำงานหาเงิน ใช้ชีวิตให้มันมีความสุขไป สิ้นเดือนรับตังค์ แดกข้าว
อยากไปเที่ยวไหนก็ไป ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก อยู่ๆไปเหอะ"
#มิตรสหายธเนศ
วันนี้ผมไปซื้อไมโครเวฟมาครับ
ป้าผมก็จ้างพี่ยาม 20 บาทช่วยยกโมโครเวฟขึ้นมาที่คอนโดชั้น 25 (ตอนแรกผมจะยกขึ้นเอง =.= แต่ป้าบอกให้ 20 บาท เค้าเอาอยู่แล้ว)
พี่ยามพอขึ้นมาก็ขอดูวิวจากชั้น 25 หน่อยบอกว่าไม่เคยขึ้นมาตึกสูงแบบนี้
ผมฟังแล้วอึ้ง ผมไม่เคยเข้าใจประโยคที่ว่า "ต้นทุนชีวิตเราไม่เท่ากัน" มากเท่านี้มาก่อน
ในขนาดที่วันนี้มีคนในตลาดทุนมากมาย ขาดทุนสามพัน หนึ่งหนึง ไม่เสียดาย เงินยี่สิบบาทในตลาดทุนนี้เศษของเศษของเศษเงิน กินข้าวบนดาดฟ้าจนชิน เงิน 20 บาท วิวจากตึก 25 ชั้นก็มีค่าสำหรับคนบาวคน
ถ้าเป็นศัพท์เทคนิคเฉพาะนี่กูไม่ว่า เพราะทุกวงการมีหมด เเต่คำว่า strategic,Mark,Distributor,Reseller เเละProduct นี่คือศัพท์เทคนิคของวงการนี้เเล้วเหรอวะ พอกูเห็นคำที่เเปลเป็นไทยได้ง่ายๆก็สงสัยว่ามันจะใช้ศัพท์อังกฤษทำไม
>>619
คือเข้าใจป่าววะ ว่าในวงมันใช้คำพวกนี้จนชินแล้วพูดคล่องปากกว่านั่งนึกคำแปลไทยอีก ทั้งทักษะทั้งภาษาสำคัญหมดไม่ต้องเถียงกัน แต่เรื่องภาษานี่ใช้ถูกบริบทก็ไม่มีปัญหาใช่ป่ะล่ะ เออ ตอนแรกกูก็เดาว่าพูดให้คนในวงการฟัง ไม่ได้พูดให้คนนอกฟัง จะใช้อังกฤษสลับไทยบางทีน่าจะรู้เรื่องกันเร็วกว่า แต่ถ้าบริบทกลายเป็นว่าพูดให้คนทั่วไปฟัง จะโดนด่าเรื่องใช้คำพวกนี้ก็ไม่แปลก
"ตอนเด็กๆ มีสองเหตุการณ์ที่ทำให้รู้ว่าครูชาวไทย (บางคน) ก็เป็นแบบที่เขาว่ากันนั่นแหละ
1. ตอนประถม : ระบายสีท้องฟ้าเป็นสีแดง เพราะอยากวาดภาพท้องฟ้าตอนเย็น ครูเรียกไปด่าว่าไม่ได้เอาสีมาใช่ไหม ยืมสีเพื่อนล่ะสิ ถึงได้ไม่มีสีฟ้า
2. ตอนมัธยม : ครูให้แต่ละคนออกไปเขียนหน้ากระดานดำเป็นประโยค never + กริยา (คือจะเป็นอย่างไรก็ได้ จะเป็น have never หรือ never เฉยๆก็ได้) ข้าพเจ้านึกถึงเพลง It never rains in Southern California ขึ้นมา (เป็นเพลงขึ้นชาร์ตบิลบอร์ดสมัยก่อนโน้นๆๆๆ) เลยออกไปเขียนประโยคนี้ พลางคิดแบบคนหลงตัวเองว่าครูต้องชอบแน่ๆ เพราะเพลงดังมาก และเป็นการล้อโจทย์ครูอีกชั้นด้วยการไม่ตอบตรงๆแต่ไป 'ลอก' สิ่งที่ถูกต้องในทาง grammar ของคนอื่นมา-ผ่านการฟังเพลง (มีอารมณ์ขันจะตาย!) ปรากฏว่าครูเห็นประโยคแล้วทำหน้าปูเลี่ยนๆ แล้วบอกว่า เธอเขียนก็ถูกอยู่นะ แต่ควรพิจารณาความถูกต้องในความเป็นจริงด้วย ฝนมันจะไม่ตกเลยเหรอ มันเป็นไปไม่ด้ายยยย
3. ทั้งสองเหตุการณ์ไม่ได้ตอบอะไรครูเลยแม้แต่คำเดียว แต่เดินกลับมานั่งเงียบๆ ถ้าใช้ศัพท์ปัจจุบัน-คงต้องบอกว่าทำได้แค่ยิ้มอ่อนมองบน ไม่ได้สงสารตัวเอง แต่สงสารเพื่อนๆ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
วงการที่กูอยู่ใครพูดคำแปล=กระแดะ
"โฆษณาเงินติดล้อ สั่งสอนคนจนให้ทำมาหากินนี่ บอกว่าไม่อยากให้ลูกค้ากลับมาหาอีก มันแสดงให้เลยว่า ผกก. โฆษณาแม่งเป็นสลิ่มที่ดูถูกคนจนอย่างมาก แล้วดัดจริตยังจะมาเทศนาสั่งสอนคนจนอีกต่าง นี่มันแสดงให้เลยนะว่า ชนชั้นกลางในสังคมไทยนี่แม่งมีอคติกับคนจนแบบไหน และยังติดสันดานชอบมาสั่งสอนคนอื่นโดยไม่รู้จักสำเนียกตัวเอง
แล้วที่สำคัญคนทำโฆษณานี้ไม่ได้ดูความจริงว่า สังคมไทยมันมีการกดขี่ทางชนชั้น ไม่เคยมีความเท่าเทียมกันในการแข่งขันในเรื่องธุรกิจ และมีการแบ่งแยกคนไม่ให้ชนชั้นล่างเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำได้ ตรงข้ามกับคนรวยกู้เงินเป็นร้อยล้าน เอาทรัพย์สินห่วยๆ ไปค้ำประกัน อาศัยสร้างภาพอวดรวย + เส้นสายนายแบงค์ก็ได้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำมาหมุน ถึงเวลาโดนฟ้องร้องก็ปล่อยให้ยึดทรัพย์สินเน่าๆ แล้วล้มบนฟูกไป ตรงข้ามกับคนจนโดนพวกเจ้าหนี้นอกระบบ และพวกบริษัทเงินกู้ดอกเบี้ยโหด แบบในโฆษณานี่แหละ รีดไถ่จนถูกยึดรถ ยึดบ้าน ใช้หนี้กันหัวโตไปหลายคน และสิ่งเหล่านี้คือความจริงที่ทำให้ช่องว่างระหว่างชนชั้น คนรวยและจนมันยิ่งห่างกันมากขึ้นในขณะที่สังคมอื่นๆ ที่เค้าเจริญแล้วเค้าจะพยายามอุ้มคนจนให้ด้วยสวัสดิการรัฐ และเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้คนเหล่านี้ตั้งตัวได้ แต่ประเทศไทยกลับมีแต่สวัสดิการให้เฉพาะข้าราชการ นายทุน และพวกคนรวย ส่วนคนจนกลับไม่มีอะไรให้ แถมขนาดให้เงินกู้ไปยังมองว่าเป็นการสงเคราะห์ช่วยเหลืออีก ทั้งที่คิดดอกเบี้ยอย่างโหด กดหัวคนจนเพิ่มความเหลื่อมล้ำให้มากขึ้น
โฆษณาชิ้นนี้ ผมเห็นมาเป็นเดือนละ หลายคนอวยคนทำโฆษณากันฉิบหาย แต่ผมไม่อวยหรอก เพราะแค่รู้ชื่อผกก. ก็อยากจะถีบแล้ว แถมเนื้อหาออกมานี่ก็ไม่เห็นน่าอวยตรงไหน ดัดจริตมาทำเป็นสอนคนอื่น ถ้าคนจนมีทางเลือก เค้าก็ไม่กู้บริษัทเงินกู้เหี้ยๆ ที่คิดดอกแพงแบบนี้หรอก แล้วบริษัทพวกนี้มันต้องมาเสียเงินทำโฆษณาด้วยเหรอวะ เพราะถ้ามีดีจริงกู้ง่าย ดอกเบี้ยไม่แพง คนคงไปกู้กันเยอะไม่ต้องมาโฆษณาหรอก เอาจริงๆ บริษัทพวกนี้แม่งก็ไม่ค่อยมีคนอยากจะไปกู้เท่าไรหรือเปล่า เพราะแถมภาพลักษณ์ก็เหี้ย คิดดอกเบี้ยโหดจนขึ้นชื่อ มันต้องต้องมาจ้างสลิ่มปัญญาอ่อน ดูถูกคน เลยต้องทำโฆษณาฟอกตัวเองให้ดูดีตามสันดานสลิ่มที่ชอบสร้างภาพความตัวเองดีทั้งที่จริงตัวเองโคตรเหี้ยทำนาบนหลังคนจนอยู่
ปล. ถ้าทักษิณยังอยู่ และโครงการกองทุนหมู่บ้าน พัฒนากลายเป็นธนาคารชุมชนได้ ไอ้บริษัทปล่อยเงินกู้แบบนี้ในโฆษณานี้ไม่มีวันได้เกิดหรอก เพราะบริษัทพวกนี้แม่งเกิดมาได้ เพราะประเทศไทยแม่งไม่เคยมีแหล่งเงินกู้ให้กับคนในชุมชน มีแต่เฉพาะนายทุนคนรวยมีตังค์เท่านั้น"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.