เตรียมมู้ศุกร์ที่4รอเลย
Last posted
Total of 1000 posts
เตรียมมู้ศุกร์ที่4รอเลย
9-16 ม.ไฮโซใกล้ห้างดัง แต่ส่วนใหญ่ถ้ากุเรียนแล้วเบื่อกุก็เดินออกเลยว่ะ ถ้าสอนเกินเวลากุก็เดินออกตอน 16
นี่จะจบละยังไม่รู่สึกว่าได้อะไรเท่าไหร่เลย 555
สมัยนี้คนเรียนป.โทกันเยอะจังว่ะ ขยันจัง กูกว่าจะจบตรีได้แทบตายห่าไม่อยากเรียนอะไรอีกแล้วว่ะ ชอบทำงานมากกว่า สนุกกว่า มันเหมือนเรียนไปด้วยแต่ได้ตังค์ไปด้วย เอาจริงๆกูว่ากูมาเรียนรู้อะไรจริงๆตอนทำงานนี่แหละ สี่ปีในมหาลัยนี่เหมือนเป็นแค่โรงเรียนเตรียมอนุบาลปูพื้นฐานไปเลย แต่ป.โทนี่มันเป็นไงวะอยากรู้ เรียนแล้วมีประโยชน์มากมั้ย
กุเรียนปี 5 แล้วยังไม่จบเลย อยากจบละเนี่ย
หรือจะเรียนต่อก็ยังไม่รู้ชีวิตตัวเองเลย เหนื่อยก็เหนื่อย ตังก็ไม่มีใช้
บางคนเรียนเอาไว้อัพเลเวลในที่ทำงาน บางคนเรียนเพื่อหาคอนเน็คชั่น ส่วนใหญ่พวกนี้จะเรียนสายสังคมโปรเจ็คไม่ค่อยหนักมาก แต่ก็มีพวกเนิร์ดหลายคนต่อสายวิทย์เพราะอยากหาความรู้ก็มีแต่โปรเจ็คแม่งยากสัดๆ(แล้วแต่ดวงด้วย)บางทีก็เอาผลงานไปต่อเอกเลย
แต่ส่วนใหญ่ๆเลยเรียนเพราะขี้เกียจทำงาน แต่หารู้ไม่ว่า ป.โทบางคณะแม่งนรกกว่าทำงานอีก ก๊ากกกกก
กุว่าส่วนใหญ่ที่ต่อ ป โท เพราะขี้เกียจหางาน ขี้เกียจไปแข่งกับคนเยอะๆ
เลยพยายามอัพเกรดตัวเองให้เป็นที่ต้องการของคนอื่นมากกว่าว่ะ จะได้ไม่ต้องไปแข่งกับใคร แต่มีคนมาง้อ มาแย่งตัวกันแทน
เรียนโทเพราะว่า
1. อยากรู้ลึก เลือกสาขาเฉพาะทางสุดๆ (มันไม่ได้มีประโยชน์ในวงกว้าง แต่ก็เกี่ยวกับสายงานแล้วก็ความชอบส่วนตัวมากพอสมควร)
2. อยากให้พ่อดีใจ ตอนป.ตรีสอบเข้าม.เดียวกับพ่อไม่ได้ ป.โทสอบติดแล้ว
3. ใกล้จะ 30 แล้ว อัพเลเวลรอหางานใหม่จะได้สตาร์ทสูงๆไปเลย
เรียนสบายกว่าเหรอวะ เทียบกันแล้วกูชอบตอนทำงานมากกว่าเยอะ หาเงินได้เองจับจ่ายใช้สอยสะดวกใจจะตายไป
หรืออาจเป็นเพราะงานที่กูทำอยู่มันความลับบริษัทเอาออกไม่ได้ด้วยมั้ง
เพราะงั้นกูเลยไม่เคยต้องเอางานไปทำที่บ้าน มันห้ามเอาออกเด็ดขาด
ถ้ากูอยู่ทำงานต่อกูก็ได้โอที ถ้ากูกลับบ้านก็คือว่าง ไม่มีการเอางานไปทำที่บ้าน
กูเลยรู้สึกว่าชีวิตกูสบายกว่าสมัยเรียนที่แม่งมีการบ้านมีรายงานมีธีสิสเยอะ
คำต้องห้ามเวลาคุยกับพวกเรียนป.โทคือ "วิทยานิพนท์ถึงไหนแล้ว?"
>>934 ต่อจากอันนี้นะ คือที่เรียนเพราะที่บ้านอยากให้เรียนเห็นว่างๆไม่ได้ทำอะไรให้บ้านเท่าไหร่ ทั้งๆที่มีงานแล้วแท้ๆหยุดเสาร์-อาทิตย์ ยังโดนให้เรียน ก็ตามใจผู้สนับสนุนทุนกันไป แล้วคือสงสัยนะ มันยังไงอ่ะที่หาคอนเน็คชั่น เผื่อจะได้มีไรช่วยๆกันหรอประมาณนี้ม่ะ คือเรียนโทสายวิทย์อ่ะไม่ได้สายบริหาร เลยไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
น้องๆ ตูโทหมด มีแต่ตูไม่รู้จะโทไปทำไม แบบว่าอยากทำงานมากกว่าฟะ
โดนขยั้นขยอให้ต่อเอก ไม่มีหัวข้อ ใครจะไปต่อเนี่ย ...
ก็ไปต่อสิวะ บ้านมีปัญญาส่งมึงเรียนเอกนี่มีบุญแค่ไหนแล้วห่า
สำหรับกู กูว่าถ้าบ้านมึงไม่ได้มีธุรกิจไร
ไปทำงานได้อ่ะไรเยอะกว่าเรียนต่อว่ะ
ถ้าเงินเดือน 40k up อะ ถึงไม่ต้องต่อ แต่ถ้าแค่ขั้นต่ำโท 20000 กว่านี่คือระดับแค่พอแดกนะ อัพเกรดตัวเองดีกว่า
40k นี่เยอะแล้วเหรอวะ คือ เมื่อก่อนกุก็ว่าเยอะนะ แต่ตอนนี้กุก็ได้ 40k แล้ว แค่ผ่อนคอนโดเดือนละ 10k ก็รู้สึกว่าไม่ค่อยมีเงินเก็บแล้วว่ะ นี่ขนาดโสดนะเนี่ย
ไม่มีหนี้ไม่มีอะไรต้องผ่อน ถ้าได้ 40k กูนี่เก็บได้ 30k ต่อเดือนเลยมั้ง
ทำงานมาห้าปีแล้วยังได้ไม่ถึง 20kเลยว่ะ
โดนบิลกันเดือนเท่าไหร่มั่งวะ บิลกู
ค่าไฟ 2,000
ค่าน้ำ 300
ค่าเน็ตบ้าน 700
ค่าโทรมือถือ 1,200
ทรู 1,500
CTH 900
ไม่รวมค่าน้ำมัน ค่า่กิน ก็ ตกขั้นต่ำ 6,600 ไม่มีหนี้ ส่วนรายได้ฟรีแลนซ์
เน็ต 1200
โทรศัพท์ 1200
ไฟ 3000
น้ำ 200
ค่าสมาชิกเวปนิโกะ 200
ค่าสมาชิกเวปโอสติ้ง 700
ฟรีแลนซ์ too
ค่าไฟ 2500
ค่าน้ำมันรถ 3500
ผ่อนรถ 11500
ค่าน้ำ 300
เน็ตบ้าน 650
ค่ามือถือ 500
ค่ากิน ประเมินไม่ได้
นอกนั้นก็อื่นๆ จิปาถะ
ค่าเนต 300
ค่าซักผ้า 500
ยังเรียนไม่จบเลยกุ
ค่าคอนโด 20,000
ค่าเน็ต 2 เส้น 7,000
ค่าบริการในเน็ตต่างๆ ที่ใช้อยู่ 3,000
ค่าไฟ 2,000
ค่าน้ำ 300
ค่าโทรศัพท์ 200
ไอ้สัส บ้านกูค่าไฟ8,000 ;___;
อากาศร้อนเปิดแอร์แม่งทั้งวันทั้งคืนสาสสส
ไม่ได้ใช้แอร์ประหยัดไฟเหรอวะ ของกูสองเครื่องยังแค่ 4000
เน็ต 1400
มือถือ 900+200
น้ำ ไฟ ฟรี
ประกัน 3300+3500
ผ่อนรถ 7300
คอนโด 11000 ล่ะมั้ง
แต่ที่เหลือก็ยังจ่ายเยอะอยู่ดี
พยายามไม่เปิดแอร์ เพื่อกดดันตัวเองที่ยังไม่มีงาน
ยังอยู่กับบ้านเดิม บิลน้ำไฟเน็ทเหมาจ่ายเข้าบ้านเดือนละหกพัน
ผ่อนรถหมดแล้ว อีกสองสามปีจะเริ่มผ่อนบ้าน
ประกันกูทำรายปี เป็นประกันสุขภาพ ปีละ 16k
ตั้งแต่ทำมากูไม่เคยป่วยเลย บริษัทประกันมันเล่นของแน่ๆ
ไอ้ที่หนังๆ อีกก็ประกันรถยนต์ ปีละ 60k
ดังนั้นถึงบิลจะไม่เยอะ (ประมาณเดือนละหมื่น) แต่ก็ต้องคำนวนเงินเหลือให้ดี
โถๆ วันอาทิตย์กู แค่อาบน้ำซื้อกับข้าวล้างรถก็หมดไปละครึ่งวัน
เหมือนกูเลยยยย นี่ยังเหลือต้องซักผ้าเช็ดเท้ากัยผ้าขี้ริ้วอี๊กก
กูซักผ้าทิ้งไว้แล้วหลับ ตื่นมาอีกทีผ้าแห้งกรอบอยู่ในเครื่อง สาสสสสสส
มันคงมีพวกที่หยุดยาวเกือบสิบวันแล้วบ่นว่าทำงานวันแรกอีกและ อยู่ด้วยสินะ
ไม่บ่นเรื่องทำงานวันแรกหลังหยุดยาวหรอก
แต่อยากบ่นพวกหยุดแถม21ที่ทำให้กูต้องมานั่งฟังหัวหน้าบ่นมากกว่า
(โต๊ะกูติดหัวหน้า)
http://pantip.com/topic/31946241/comment17
อ่านแล้วกุคงแดกน้ำบ๊วยไม่ลงไปอีกนาน
บางครั้งก็อยากพิมพ์เมลล์ภาษาหยาบๆด่ายูสเซอร์ขี้มั่วชิบหายเลยวะ พวกทำงานใช้แต่ปากชี้นิ้วสั่งนึ้มัน.....
ขณะนี้กูอยากพิมพ์เมล์หยาบๆ ด่าลูกค้าเหมือนกัน เหี้ยเอ๊ย สุดจะทน
กูอยากพิมพ์เมลหยาบๆ ด่าฝ่ายบัญชี ได้ทีขี่แพะไล่จริงๆ พวกเหี้ยนี่ เวลาตามงานก็หายหัว ทีงานมันละโยนพวกกูจัง แล้วมาด่วนๆ ดีออก
เหี้ยยยยย ประเด็นมึงตรงใจกูมาก กูกำลังอยู่ในฟีลนั้นเลย
กูเคยทำด้วยนะ พิมพ์ด่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คนที่กูดีลงานด้วยในเมล์แม่งให้หยาบคายสุดๆ ระบายทุกการกระทำของมันที่กูเกลียด
..............................................แล้วกูก็ลบว่ะ ;_; ไม่สามารถส่งไปจริงๆ ได้ เพราะยังไม่อยากตกงาน
แต่มึงอย่าทำให้มันเรียลมากโดยการใส่อีเมล์แอดเดรสในช่องก่อนพิมพ์เนื้อหาเมล์ล่ะ
เกิดเผลอกดส่งไม่รู้ตัวจะซวยไป คงไม่มีใครโง่ทำแบบนั้นหรอกใช่มั้ย...กูไม่เคยพิมพ์แอดเดรสตอน simulation เมล์ด่าหรอกนะ
แต่สมัยก่อนกูโง่ ชอบพิมพ์แอดเดรสก่อนพิมพ์เนื้อหาเมล์ บางทีมือไปโดนนิดเดียวเมล์แม่งไปละแบบขาดๆ เกินๆ ต้องไปส่งใหม่ ต้องไปขอโทษ
พอโง่แล้วเพิ่งคิดได้ว่าก็พิมพ์เนื้อหาให้เสร็จก่อนสิวะค่อยย้อนกลับไปพิมพ์แอดเดรส
1. แนบไฟล์ก่อน
2. เขียนหัวข้อ
3. เขียนเนื้อหา
4. กรอกเมล์
สินะ
วันนี้หลงเข้าพันทิป ควรจะเปลี่ยนชื่อเป็น โลกสวย.com ได้แล้วนะ
กูคุยงานกับลูกค้ามาก คือจะว่าไงดีวะ แม่งเป็นคนแบบ กร่างสัดดดดดด แต่กูคุยกับมันนี่กูก็แกล้งยอๆมันไปนะ แล้วเอามันมาด่าให้เพื่อนฟังแทนเป็นการแก้แค้น 55
วันก่อนวันลานี่แม่งงานเยอะจริงๆ แงแงแง
บริษัทกูจะปิดละ กูได้ค่าทำขวัญด้วยล่ะ
แต่ไม่ต้องห่วงกูหรอกนะ กูยังทำงานที่เดิม
ปิดบริษัทเก่า แล้วเปิดใหม่ เปลี่ยนกรรมการ
คือถ้าไม่มีบริษัทกู มันจะมีคนเดือดร้อนไง เค้าเลยต้องโละของเก่าที่มีปัญหาทิ้งแล้วจ้างพวกกูทำงานต่อ เพื่อไม่ให้พวกกูได้หยุดงานฟ้องบริษัทเอาค่าชดเชย
เหลืออีก 5 โพส ขอตั้งเลยละกัน
วันศุกร์ที่สี่ ของเหล่าซาลารี่แมน
https://fanboi.ch/lounge/408/
เอ้าวันศุกร์ว้อยยยยยยยย
เสาร์ทำงาน
อีก 9 ครั้งจะถึงศุกร์ที่ 13
1000
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.