Last posted
Total of 1000 posts
สงกรานต์กูเบื่อญาติๆ มาหวะ
คือปรกติเค้าไม่มาบ้านกูหรอก แต่มาบ้านญาติอีกคนซะมากกว่า แล้วทีนี้ก็โบ้ยมาให้พวกกูต้องช่วยรับแขก กูก็เกรงใจญาติที่มานะอย่างน้อยเค้าก็เดินทางมาเยี่ยม
สหายโม่ง ผมมีเรื่่ิองปรึกษาหน่อย คือลุงผมจะขายบ้านต่อให้พ่อผม3ล้าน แล้วพ่อผมแกจะบอกจะเอา แล้วมันติดตรงที่พ่อผมอีก5ปีเกษียณ แล้วเค้าคิดจะเอาเงินที่เกษียณแล้วได้อ่ะ ผมไม่รู้ว่าเรียกว่าบำเน็ตหรือบำนานนะ ไปโป๊ะบ้านที่จะซื้อใหม่ แล้วพอผมถามว่าจะไม่เก็บไว้ใช้ตอนแก่หรอ เค้าบอกให้ผมเลี้ยง คือให้เลี้ยงมันก็ไม่ใช้ปัญหาหรอก และเค้าไม่คิดว่าจะมีเหตุอะไรที่ต้องใช้เงินฉุกเฉินมั้งหรอว่ะ พอผมไปพูดผมก็โดนโกรธมาอีก คือมีบ้านอยู่แล้วนะที่อยู่ปัจจุบันนี้นะ ผมแม่งไม่เข้าใจความคิดพ่อผมเลยว่ะ อะไรที่ทำให้เค้าคิดแบบนี้ว่ะ ไม่กลัวว่าผมจะตายก่อนเค้ารึไง ผมแม่งอยากให้เค้าเก็บไว้ใช้ตอนแก่มากกว่ามาซื้อบ้านแบบนี้ว่ะ ถ้าเค้าผ่อนไม่ไหวภาระมันก็ต้องตกมาที่ผม คือผมจะไม่ได้อยากจะเห็นแก่ตัวนะแต่แบบนี้แม่งเหมือนต้องเตรียมใจมีหนี้เลยว่ะ
มันขึ้นกับว่าบ้านที่ซื้อมันอยู่ไหน ทำเลดีหรือเปล่า resale value ขนาดไหน
ถ้าประเด็นพวกนี้เคลียร์ได้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องหนี้เท่าไหร่ในความคิดกูนะ
แต่เบรคพ่อหน่อยก็ดีว่าอย่าโปะหมด
เหลือเงินไว้เลี้ยงตัวเองบ้าง บ้าน-ที่ดินมันไม่ใช่สินทรัพย์หมุนเวียนนะโยม
ถ้าทำเลไม่ดี ขายต่อไม่ได้ อยู่อาศัยลำบาก มันก็ภาระดีๆนี่เอง
ภาษีที่ดินมึงก็ต้องจ่ายทุกปี ดอกเบี้ยกู้แบงค์ก็ต้องจ่ายใช่ไหมล่ะ ?
แต่ถ้าทำเลดี ขายง่าย กะเก็งกำไร ก็ซื้อไปเลย
แต่กูดูๆแล้ว พ่อมึงคงคิดจะย้ายไปอยู่เอง ไม่ก็กะซื้อไว้เป็นมรดกให้
เหมือนบ้านกุเดี๊ยแม่ก็จะให้ซื้อไว้ คงอารมณ์เหมือนอยากมีอะไรไว้ให้ลูกหลานมั๊ง
สิ่งที่ต้องทำคือต้องคุยจริงจัง คุยก่อนเลยว่าจุดประสงค์ของการซื้อคืออะไร?
- ซื้อเพื่ออยู่อาศัย
- ซื้อเพื่อเก็งกำไร
- ซื้อเพื่อช่วยลุง
ซึ่งถ้าซื้อจะจัดการยังไงเอาเงินก้อนไปลง แล้วต้องผ่อนอีกเดือนละเท่าไร? ใครจะผ่อน? ผ่อนไหวแค่ไหน?
คือถ้าไม่แจกแจงเป็นประเด็น บางทีเค้าจะหลงประเด็นแล้วกลายเป็น Emo กัน ซึ่งถ้าแจกแจงออกมาแล้วผ่อนไม่ได้เยอะแล้วมันมีทิศทางเพื่อขายต่อเก็งกำไรได้ก็ไม่เลว
แต่ถ้าต้องผ่อนเยอะก็บอกไปว่าเราก็อยากได้ แต่ผ่อนไม่ไหวจะให้ทำยังไง
ต้องคุยด้วยตัวเลข ไม่ใช่คุยด้วยความรู้สึก
สหายโม่ง กูอยากจีบผู้หญิง กูขับรถไม่เป็น กูเจอกระทู้นี้เข้าไปแล้วห่อเหี่ยว ทำไงดีวะ
http://pantip.com/topic/31754681
กูตั้งกระทู้ได้ไหมว่าผู้หญิงที่ผมกำลังคบเอะอะอะไรก็ตั้งกระทู้ถามในพันทิป คิดอะไรไม่เป็น ต่อไปเค้าจะตัดสินใจอะไรได้ด้วยตนเองบ้างไหม้
เพื่อนโม่ง กูมีปัญหาว่ะใครใช้ office 2013 บ้างวะ
พอดีกูจะแก้ค่าสถิติ Data ของชาร์ท ปกติกูแก้ใน 2007 ได้เลย แต่ใน 2013 กูแก้ไม่ได้ว่ะ กูต้องทำไงวะ
http://i.imgur.com/eRcGgKT.png
กูแก้ตันทางไม่ได้ว่ะ มันเหมือนโดนตัดขาดจากกัน แต่ไว้กูจะลองใหม่ยะเพื่อนโม่ง
>>807 กุว่าฐานะพวกแม่งคู่นั่นคงต่างจากกุมากแน่ๆเลยว่ะ กุเงินเดือนหมื่นต้นๆ ค่าผ่อนมิงไม่ต้องพูดถึงเลย ค่าน้ำมันอย่างเดียวคงไม่พอแดกแน่ๆ แล้วจากที่ทำงานและที่บ้านก็ลาดพร้าวกับท่าพระ ชิบหายเอยยยยยยยยย อยากมีรถไว้อวดสาวเหมือนกัน แต่สู้ภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหวว่ะ กุคงตุ๊ดซินะ ซินะ ซินะ
สำหรับตู ตูชอบปั่นจักรยานมากกว่าฟะ ฟินกว่าเยอะ
ถามในนี้ได้ใช่ไหมวะ
กูปวดเยี่ยวบ่อย แต่เยี่ยวทีออกนิดเดียว
แล้วระหว่างอาบน้ำกูเยี่ยวไปประมาณ5-6ที กูเป็นโรคไรเปล่าวะ
เป็นฟะ ไปตรวจซะ มีสิทธิ์เป็นหลายโรค
โรคไต ก็ใช้่ ินิ่วก็ใช่ เกาท์ยังได้เลย
>>807 กูผู้หญิง ไม่ใช่อีจขกท.นะเว้ย แต่เข้าใจความรู้สึกมันนิดหน่อย
คือมันก็ต้องมีโมเมนต์ที่อยากเป็นตุ๊กตาหน้ารถ นั่งสบายๆ มีความรู้สึกว่ามีผู้ชายมาเทคแคร์มั่งป่ะ
ถ้ากูต้องบริการขับรถไปรับไปส่งบริการแฟนกูตลอดเวลา ต่อไปมันมิให้กูออกค่าโรงแรม ค่าข้าวให้ด้วยเลยเหรอวะ
ฮุๆ พวกเมิงหนิ่ สาวๆออฟฟิสกู เค้ามีผู้ชายมารับมาส่ง
ไปไหนมาไหน ชวนไปต่างประเทศออกเงินให้ แต่ผู้หญิงบอกว่าไม่ใช่แฟนก็เยอะแยะไป 555
>> โดนหลอกแดกว่ะ
คนเป็นแฟนกัน ผู้หญิงเรียกเพื่อน ผู้ชายเรียกเด็กกู
คนเป็นผัวเมียกัน ผู้หญิงเรียกแฟน ผู้ชายเรียกแม่จ๋า
กุว่าพวกเมิงก็ตัดสินเร็วไป
ถ้าเมิงพาไปต่างประเทศแล้วได้ซั่มก็ win win ป่าววะ ถ้าสาว Profile ดีคุณหนู บ้านมีตังค์ก็ต้องลงทุน
แต่ถ้าสาวที่พาไปแนวหาได้ตามผับ เมิงก็ขาดทุนโดนหลอกแดก
แต่ทั้งนี้คำว่าต่างประเทศถ้าแค่ฮ่องกง สิงคโปร์ก็ไม่เท่าไร แลกกับได้ซั่มยาวๆก็ไม่เลวป่ะ
ที่บอกคนอื่นว่าไม่ใช่แฟน แล้วได้การ์ดงานแต่งเนี่ย บ่อยออก
คงเพราะคำว่าแฟนสมัยนี้มีความหมายว่า "เย็ดกันแล้ว" ด้วย
เลยยังไม่กล้ารับเต็มๆ ถ้าไม่ชัวร์ ยังไงค่านิยมอย่างไทยมันยังมีอยู่
ทำงานวันสุดท้าย ก่อนจะได้ลันล้าหยุดยาวแล้วเว้ย
กูดีใจด้วย
เห้ย พี่โม่ง salary man ทั้งหลาย มีเรื่องถามว่ะครับคือตอนนี้ ชีวิต ม.ปลายกูแม่งจบลง มหาลัยก็หาที่เรียนได้ละ(มก.) คืออยากถามพี่โม่งผู้มากประสบการณ์ว่า การร่วมกิจกรรมกับพวกรุ่นพี่ หรือ ว้าก sotus นี่มันจำเป็นมากปะวะ แล้วกูต้องแกร่งขนาดไหนถึงจะไม่จำเป็นต้องพึ่ง ระบบเหี้ยนี่ กุไม่ได้เป็นคนไม่ชอบสังคมน่ะเว้ยแต่ ประมาณว่าถ้าแม่ง สั่ง ทำโน่น นี่ จนเสียการเรียน นี่กูไม่ยุ่งแม่งเลยจะเป็นไรปะ เรื่องรับน้องเหนื่อยๆนี่กูไม่กลัวว่า กูว่าร่างกายกูพร้อม แต่กูเป็นพวกไม่ชอบ การกดขี่ไง แต่ถ้าออกมาแบบ เพิ่มความสามัคคีโดนไม่เว่อ เสียเวลากุก็เห็นชอบ ถ้ากุเจอแบบแรกนี่กุคง บาย ว่ะ แต่กุจะลำบากไหมวะชีวิต ใน ม เนี่ย
อันนี้มันขึ้นอยู่กับคณะที่เรียน อย่างที่เจอมาเป็นคณะสายภาษาที่ผู้หญิงเยอะก็รับเบาหน่อย มีเรียกรวมมีเข้าซ้อมเชียร์บ้างแต่ไม่หนักเป็นโซตัส ส่วนถ้าเป็นคณะผู้ชายเยอะๆนี่ไม่รู้ ไม่เคยผ่าน
กับอีกเรื่องก็ขึ้นอยู่กับความสามารถส่วนบุคคล จะว่าโม้ก็ได้แต่กูถือว่าอยู่ในระดับค่อนข้างเทพของชั้นปีเลยไม่ต้องพึ่งการอ่านหนังสือทบทวนหรืออ่านหนังสือสอบอะไรนัก เลยเอาเวลาไปทำกิจกรรมได้โดยไม่เสียการเรียน
ถ้าเอาตามความเห็นส่วนตัว เข้าไปรู้จักกับรุ่นพี่ไว้ก็ดี ถ้าสนิทกันมันจะทำให้เวลาคิดกิจกรรมหรือแผนอะไรไปปรึกษากับพวกรุ่นพี่พวกนี้ จะได้แรงเสริมไปช่วยเสนออาจารย์อีกที
ของผม วิศวะ ว่ะพี่แต่คงไม่น่ามีปัญหาเพราะดูจาก มหาลัย + หน้าตารุ่นพี่ละไม่น่าเถื่อน
>>836 รุ่นพี่มีผลกับการใช้ชีวิตมึงมั้ยล่ะ ไม่มีก็ช่างหัวมัน ระบบ Sotus สมัยมหาลัยนี่กุไม่สนใจ ไปเรียนกลับ บ้าน นอน ไปเที่ยว ไม่มีประโยชน์ห่านอันใดกับชีวิต
กุผ่านระบบ Sotus มาตั้งกะสมัยเรียนรร.ประจำ ซึ่งมันจำเป็นต่อการใช้ชีวิต เพราะคนหมู่มากมาอยู่รวมกันกับตลอด 24 ชม. จึงต้องมีกฏมีระเบียบ มี Seniority มีสิทธิที่แลกมาด้วยหน้าที่ ซึ่งกุผ่านมันมาและคิดว่าเป็นสิ่งที่ดี
แต่กับมหาลัย รุ่นพี่พวกนั้นไม่ดีมีประโยชน์มีคุณมีโทษอันใด เพราะงั้นช่างหัวแม่งอย่าได้ไปแคร์
sotus กุไม่ชอบแค่เข้าไปทำกับเพื่อนแค่นั้นแหละ คือเพื่อนกุเอากุก็เอา พอดีเพื่อนรร.กุเยอะด้วยในคณะตอนนั้น
อ้อ แต่ถ้าทุเรศมากกุก็บายนะ ของกุนี่รุ่นพี่เท่สัดๆ อ่ะเรื่องโง่ๆ ไม่เคยมี มันทำการบ้านมาดี
สงกรานต์กูได้หยุดสองวันเหมือนเดิม
กู9วัน
ปกตินอนกันวันละกี่ชั่วโมงวะ
ปกติ 7
ประมาณ 7-9 ไม่ค่อยแน่นอน
วันทำงาน 5-7 วันหยุด 10+
กูนอนวันละ 5-6 ชั่วโมงประจำ ไม่ได้ตั้งนาฬิกาปลุกอะไร น้อยไปมั้ยวะ
มันตื่นของมันเอง นอนตีสองก็ตื่นเจ็ดโมง นอนตีสามก็แปดโมง
ถ้านอนแค่นั้น เวลาตื่นไม่เหนื่อยไม่เพลียไรก็โอเค http://pantip.com/topic/31673049
อิจฉาคนนอนน้อยแล้วโอเคว่ะ ของผมนอนเท่าไหร่ก็ไม่พอ
เทอมินอลเอกมัยเปิดกี่โมงวะ
นอนเท่าไรก็ง่วงว่ะ
หยุดพรุ่งนี้ ทำต่อวันอังคาร
วันที่ต้องตื่นมาทำงานนอนเยอะแค่ไหนก็ไม่รู้สึกพอ
วันหยุดนอน 6 ชั่วโมงแต่ตื่นมาสมองแจ่มใสสัสๆ
ทำไงดีวะ ตั้งแต่ตกงานกูเป็นกึ่งนีทกึ่งฮิคคี้มาประมาณเกือบอาทิตย์ได้
อยู่บ้านกินน้ำกับมาม่าเปิดคอมดูนู่นนิดนี่หน่อยแล้วนอน วนแบบนี้มาสองสามวันแล้ว
กูมีความรู้สึกว่ากูอยากนอน นอนแบบนอนไปเลยทั้งชีวิต ไม่อยากลุกไปทำอะไร
เว้นจากตอนหิวหรือเข้าห้องน้ำ ซึ่งพอเสร็จแล้วก็หัวทิ่มเตียงต่อ คือวันๆกูไม่ทำเหี้ยไรเลยนอกจากนอน
ฟังดูน่าเบื่อแต่กูรู้สึกมีความสุขมาก อยากนอนแบบนี้ตลอดไปไม่อยากหาเงินแล้วไม่อยากทำงานแล้ว
อยากกินๆนอนๆแบบนี้ไปตลอด
คือกูรู้ว่ามันเหี้ย อายุกูก็ไม่เยอะควรมีความคิดที่ดีกว่านี้ แต่คือมันน่าเบื่ออะ มันเหนื่อยอะ ไม่อยากทำอะ
กูไม่ชอบทำเหี้ยไรเลยกูแค่อยากนอนอะ
กูทำไงดีวะ ให้ตัวกูเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนทัศนคติ มีแรงบันดาลใจ ให้กูมีแรง มีกำลัง ไม่เหนื่อยไม่เบื่อ บวกความสุขด้วย
มันคงฟังดูแปลกๆ อันที่จริงมึงอาจจะคิดว่า ในเมื่อมึงคิดได้มึงก็เลิกนอนไปหาไรทำสิวะ กูขอบอกเลยกูไม่รู้จะทำเหี้ยไรที่สุขเท่านอนวะ
>>865 มึงเป็นแค่เกือบอาทิตย์ มันเป็นเรื่องปกติมากว่ะ เดี๋ยวมึงก็เบื่อเองเชื่อกู
ตอนกูออกจากงานใหม่ๆกูแม่งมีความสุขมาก เพราะกูมีเงินเก็บเยอะ
ไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องตื่นเช้า ไม่ต้องเหนื่อยใจกับเรื่องต่างๆ ในที่ทำงาน
กูนอน เล่นเกม อ่านการ์ตูน ดูเมะ มีความสุขชิบหาย กูคิดว่ากูพอใจตัวเองแค่นี้ กูไม่ต้องการอะไรแล้ว
แต่พอผ่านไปซัก 1-2 เดือนนี่แหละกูชักเดือดร้อนละ เงินมันลดลงทุกวัน
ถึงอีกหลายปีกว่ามันจะหมดก็เถอะ แต่พอไม่มีรายรับ จะจับจ่ายอะไรก็ต้องคิดหนักละ ผลาญทิ้งขว้างแบบเมื่อก่อนไม่ได้
ประกอบกับความรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า รู้สึกผิด สมัยเราเป็นเด็กพ่อแม่เราแม่งไม่เคยนั่งๆ นอนๆ แบบนี้ ทำงานทุกวันเพื่อเลี้ยงเรา
สุดท้ายกูก็กระเสือกกระสนออกไปหางานทำและก็กลับมาทำงานตามปกติ
อาทิตย์เดียวของมึงคือช่วงพักผ่อน คือการโหยหาการนอนหลับเต็มอิ่ม การได้พักผ่อนยาวโดยไม่ต้องนับถอยหลังหมดวันหยุด
เดี๋ยวพอมึงพักจนพอมึงก็หาย หาทางดิ้นรนกลับไปทำงานเองแหละ ตอนนี้มึงพักให้เต็มที่ไปก่อนเถอะ
เพราะพอกลับมาทำงานแม่งก็จะไม่มีโอกาสแบบนั้นอีกแล้ว i_i
เอาไว้มึงเป็นหลายเดือนแล้วไม่หาย มึงยังพอใจกับชีวิตแบบนี้อยู่จริงๆ อันนั้นล่ะมึงต้องเดือดร้อนละ
แต่ถ้ามึงเป็นซักเดือนสองเดือนกูว่าปกติว่ะ คนเป็นกันเยอะ
ไม่ว่ะ กูว่ากูตอนนี้ไม่ปกติเอามากๆ เพราะนอกจากเปิดโน๊ตบุ๊คบนเตียงเข้ามาดูบอร์ด กูนอนแบบไม่ทำเหี้ยอะไรเลยจริงๆทั้งวัน
อย่างดีแค่ลุกเข้าส้วมไม่ก็หาไรแดก นอกนั้นคือนอนเลยว่ะ กูคิดว่าเออแค่สามวันแรกกูคงเบื่อแต่มันดันเกินกว่านั้นมาแล้ว
คือกูไม่รู้หรอกว่าตอนนี้มันผ่านมากี่วันแล้วกูเลยเดาว่าเออน่าจะเกือบอาทิตย์หนึ่ง แต่กูว่ามันนานเกินไปแล้วว่ะ
กูกลัวว่ามันถ้าปล่อยให้นานเกินไปกว่านี้เงินเก็บกูจะหมดก่อน เลยคิดว่ากูควรทำอะไรสักอย่างกับตัวเอง
ไม่รู้ว่าร่างกายกูมันผิดปกติด้วยรึเปล่า เพราะตอนกูนอนถ้าไม่มีอะไรน่าสนใจหรือจำเป็นจริงๆนี่กูแทบจะไม่อยากมีสติเลย
ยิ่งนอนแล้วยิ่งอยากนอนอยากนอนต่อไปเรื่อยๆ กูคงไม่ได้เป็นโรคใช่ไหมว่ะ
งั้นที่กูเคยเอื่อยเฉื่อยไม่ทำห่าเป็นเดือนไม่ยิ่งกว่าเรอะ แต่ตอนนี้กูก็กลับมาทำงานปกติแล้วนะ เกิน 2 ปีละ
ส่วนถ้าห่วงเรื่องเงินหมดยังไงมึงก็ต้องไปทำงานนั่นแหละ ไม่ต้องคิดเรื่องอยากไม่อยากหรอก ยังไงมันก็ต้องทำ
ทุกวันนี้กูก็ใช่ว่าจะอยากทำงาน แต่ทำเพราะรู้ว่าต้องทำก็แค่นั้น ถ้าถามความอยาก กูก็อยากนอนเหมือนมึงนั่นแหละ
เพียงแต่กูคิดว่าการจะพักมั่งแม่งก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร ตราบใดที่ยังมีกิน ไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น
พอพักถึงจุดที่หายอยาก หรือเงินหมด เดี๋ยวสัญชาติญาณมันก็บังคับให้มึงออกไปทำงานเอง
ยกเว้นพวกที่บ้านรวยคอยซัพพอร์ตนั่นแหละถึงจะอยู่เป็นนีทได้ คนธรรมดาอยากไม่อยาก เบื่อไม่เบื่อ ก็ต้องทำมาหาแดก
ขึ้นอยู่กับงานด้วยมั้งว่าน่าทำมั้ย คนเราถ้าได้ทำอะไรที่ชอบๆมันก็อยากทำไปเองอะ
นอนให้พอแล้วออกมาทำ ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นเว้ย
กลับถึงกรุงเทพแล้วววววววววววววววววววววววววววววว
งานรวมญาติแม่งก็สนุกดี แต่ทำไมต้องถามว่า"มีแฟนรึยัง"รำคาญจริงๆ= =a
หาคำถามอื่นก็ได้ เจอกี่คนๆก็ถามแบบเดิมๆ เบื่อตรงนี้แหละแม่ง
แล้วก็มีเมื่อไรจะหาแฟน เมื่อไรจะแต่งงานพ่วงตาม
ตอบว่าเลิกไปแล้วสิ ง่ายดี ไม่มีใครกล้าถามอะไรกูอีกเลย
ไอ้เรื่องเมื่อไหร่จะหาแฟนนี่กูโคตรเซ็งค่านิยมที่สอนสั่งกันมาชิบเป๋งเลยว่ะ
ตอนเรียนก็บอกให้ตั้งใจเรียน เรียนอย่างเดียวห้ามมีแฟน
ไอ้ตอนเรียนจบเริ่มทำงานแล้วก็หันร้อยแปดสิบองศา มาถามเมื่อไหร่จะแต่งเมีย
>>881 พูดเป็นเล่นไป ถถถถ กูเป็นแบบนั้นเลย สมัยเรียนพ่อแม่ห้ามมีแฟนเด็ดขาด กูก็เชื่อนะ ไม่ว้อนท์ด้วยแหละตอนนั้น สมัยเรียนมีอะไรให้ทำเยอะค่อนข้างติดเพื่อนติดเกม และคิดด้วยว่าเดี๋ยวเรียนจบมาทำงานก็หาได้เอง เอาไปเอามา เหยดด จบมากี่ปีแล้ววะยังหาไม่ได้เลย i_i จนตอนนี้เริ่มปลงละ เปลี่ยนมาวางแผนการเก็บเงินและเตรียมตัวตอนแก่สำหรับชีวิตโสดแทน
บ้านกูก็ไม่รวย กูไม่เห็นขี้แตก
แค่ประหยัด ไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่ต้องไปกินอาหารมื้อละสองสามร้อย ไม่ใช้สมาร์ทโฟนเครื่องละสองหมื่น ฯลฯ มึงก็เหลือเงินเก็บมากมายแล้ว
ช่วงที่กูเก็บเงินเตรียมทำธุรกิจ กูใช้เงินแค่เดือนละแค่ไม่กี่พัน เหลือเก็บเดือนละตั้งหลายหมื่น
เอาสิ
บ้านกูไม่รวยไง แล้วนี่กูกำลังพูดถึงวิธีการใข้ชีวิต
กูใช้เงินเดือนนึงไม่เคยถึงหมื่น ยกเว้นเวลามีเหตุจำเป็นเช่น เข้าโรงพยาบาล
>>889 มึงบอกรายละเอียดของมึงมาด้วยสิวะ ที่อยู่ รายได้ รายจ่ายแบ่งตามประเภท และเงินที่เหลือเก็บ
ตอนนี้เอาคร่าว ๆ ก่อน
อย่างแรกมึงต้องแยกรายจ่ายที่จำเป็นกับไม่จำเป็นออกจากกันก่อน อะไรไม่จำเป็นก็ตัดทิ้งไปเลย
คนส่วนใหญ่รู้อยู่แล้วว่าอะไรจำเป็น อะไรไม่จำเป็น แต่ไม่ยอมตัด
ถ้ามึงอยากได้มือถือเครื่องละสองหมื่น รถคันละสี่แสน ให้มึงคิดว่า เงินจำนวนนั้น ถ้าเอาไปลงทุนถูกวิธี ปีเดียวมึงก็ได้คืนกลับมาแล้ว
และอีกอย่างคือมึงควรจะทำบัญชีด้วย แล้วมึงจะรู้ว่ารายจ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ ครั้งละยี่สิบสี่สิบบาทหลาย ๆ รายการทั้งเดือน รวมกันแล้วมันเยอะขนาดไหน
แต่ก่อนตูบ้าชาเขียวมาก แดกทุกวัน จนตอนนี้แม่งคุมน้ำหนักเลย อดแดกเงินเหลือบานเลยเมิง
>>890 คือตอนนี้กูเป็นนักศึกษาอยู่ไม่มีงานพิเศษ ได้อาทิตย์ละพันห้า พยายามเก็บอาทิตย์ละ 500 แต่บางอาทิตย์ก็เก็บไม่ได้ ใจจริงนะกูอยากเก็บอาทิตย์ละพันเลยแล้วใช้แค่500 แต่ทำไงก็ใช้ไม่พออ่ะ ค่าข้าวแถวหอกู 40 บาทขึ้นไป ยังไม่รวมพวกค่าของจิปาถะอย่างอื่นนะ กูกำลังหาวิธีให้ตัวเองสามารถจัดสรรเงินให้อยู่ได้ทั้งอาทิตย์ด้วยเงิน 500 อ่ะ มันพอจะมีความเป็นไปได้มะ
มื้อละ 40 วันละสามมื้อก็ 120 ห้าวันก็ 600 แล้ว
มึงมีทางเลือกคือกินวันละสองมื้อกับทำอาหารกินเอง
ไอ้การทำอาหารกินเองมันมีปัจจัยอีกหลายอย่างเช่น แหล่งขายวัตถุดิบใกล้ที่พักมึงขายแพงแค่ไหน ใช้เตาแก๊สได้ไหม ถ้าต้อง
ใช้เตาไฟฟ้า ค่าไฟฟ้าหอมึงยูนิตละเท่าไหร่ ฯลฯ บางครั้งทำเองอาจจะแพงกว่าซื้อก็ได้
แล้วค่าใช้จ่ายจิปาถะอย่างอื่นของมึง ที่เป็นรายจ่ายประจำ ต้องจ่ายทุกสัปดาห์มีอะไรบ้าง
จะมีพวกค่ากระดาษร้อยปอนด์ที่มันแผ่นละสี่สิบกว่าบาท ค่ารถวันละ20 ค่าน้ำดื่มวันละ 14บาท แล้วก็พวกจิปาถะที่ต้องจ่ายเป็นรายเดือนก็พวก ยาสีฟัน น้ำยาขัดห้องน้ำ จริงๆมันมีมีเยอะนะแต่กูจำไม่ได้แล้วมันไม่ได้จ่ายบ่อยขนาดนั้น แล้วก็จะมีพวกฉุกเฉินอ่ะ เงินเก็บรวมของคณะที่ทุกคนต่องจ่ายอาทิตย์ละ 40 หรือบางทีจะมีจัดงานเลี้ยงส่งคนนั้น คนนี้ งานวันเกิดเพื่อนก็รวมเงินกันคนละ100-200 ค่าเครื่องแบบนักศึกษา(คืออาจานกูชอบให้ใส่เสื้อผ้าสวยๆเลอะนิดเลอะหน่อยก็ให้ซื้อใหม่ละ เซ็งแต่อันนี้นานๆทีจะซื้อ)
>>894 ไปหาตู้กรองน้ำ ลิตรละบาทอ่ะ กดใส่ขวดแช่ตู้เย็นไว้แล้วพกไปกิน จะได้ไม่ต้องซื้อ
ค่ารถวันละ20นี่มอไซหรือไรวะ ถ้ามอไซลองให้ที่บ้านส่งจักรยานมาให้ดิ ถ้ารถเมล์ไปไกลๆก็อีกเรื่อง
ค่าเลี้ยง บางทีมึงก็อ้างไม่ไปไม่ว่าง แล้วก็จ่ายเพื่อนแค่ครึ่งนึงของที่เพื่อนมึงจ่ายไป ไม่ก็บอกเลยว่าไม่มีตังจริงๆ
ค่าเสื้อ มึงเก็บเสื้อสะอาดๆตัวนึงไว้เรียนกับอาจารย์คนนั้นเลย จะได้ไม่ต้องซื้อบ่อยๆ
ข้าวแพงลองหาของกินเซเว่น 29 30 35ก็พอมี ปต่น้อยหน่อย ไม่ก็แดกมาม่าไม่ก็โจ๊กซองบ้าง อาทิตย์ละ3-4มื้อ
ปล พรุ่งนี้กูทำงานแล้วว่ะเหี้ยเอ๊ย หยุด4วันเอง
เซ็งคนจากภาคนั้นว่ะ เทศกาลทีก็ตั้งวงเปิดเพลงเสียงดัง กูจะหยุดอยู่บ้านสบายๆเงียบๆก็ไม่ได้ พวกเหี้ย
กูยังไม่อยากทำงานเลยพรุ่งนี้ แค่คิดก็เซ็งๆๆ
อยากข้ามเวลาไปวันเสาร์เลย
รถไฟหยุดหลายขบวน กูไปสายอีกสัดดดดดดดดดดดดดดด
ถนนโล่งเหี้ยๆ
กูเห็นถนนโล่งแล้วรู้สึกดีจัง อาห์
คนนั่งหลังกูแม่งถอดรองเท้า เหม็นเหี้ยเลยสัด
ดีนะกูกลับเมื่อวาน
ทำงานชิวๆ หัวหน้าไม่มา เยสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส
กระทู้จะตันแล้ว
ใจเย็น อีกตั้งเกือบร้อยเม้น
ปกติมู้นี้ก็ไม่ได้วิ่งไวมากอยู่แล้ว
อะไรที่มึงคิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตการทำงานของพวกมึงวะ
อินโนเซ้นหวังดีอยากให้งานออกมาดีแล้วกลายเป็นต้องเสียเวลา+เปลืองตัวไปเถียงกับเพื่อนร่วมงานเหี้ยๆคนนึง ที่ตรรกะและความคิดแม่งโคตรพิลึกผิดตรรกะมนุษย์ แต่เสือกนึกว่าตัวเองเก่งเทพจนคนอื่นไม่เข้าใจมัน ขนาดหัวหน้ายังเอือมแต่ไม่รู้จะช่วยยังไงเลยต้องปล่อยเลยตามเลย
คือการตัดสินใจมาทำงานแทนที่จะเป็นนีทอยู่บ้าน
เลือกที่จะแสดงความสามารถให้เห็นจนต้องเหนื่อยกว่าชาวบ้าน ในขณะคนที่สั่ง และคนที่ขอให้ช่วยนั่งเลียนายสบายใจ
อยากได้เดสตินี่แพลน กูจะได้ไม่ต้องหางานที่กูไม่ชอบทำ
ถ้ากุมีเงินเก็บเดือนละ 2-3 หมื่นนี่ กุจะหาแฟนได้สวยแค่ไหนวะ
>>916 ถ้ามึงจะใช้วิธี จีบผู้หญิงด้วยเงิน กูแนะนำให้มึงใช้เงินเดือนละสองสามหมื่นแทน
ผู้หญิงเค้าไม่ค่อยมาละลาบละล้วงหรอกว่ามึงมีเงินเก็บแค่ไหน เค้าดูฐานะจากเงินที่มึงใช้
กูกับเพื่อนร่วมงานเงินเดือนเท่ากัน เพื่อนร่วมงานเอาเงินส่วนใหญ่ไปใช้จ่ายอย่างเมามัน ส่วนกูเอาเงินส่วนใหญ่ไปลงทุนหลาย ๆ อย่าง
เวลาได้ไปพบเจอไปรู้จักคนใหม่ ๆ คนเค้าก็มองว่าเพื่อนกูรวยกว่ากูเยอะกันเป็นส่วนมากนะ
จีบผู้หญิงประเภทที่จะมาใช้เงินแทนมึงดิ แบบพวกชอบพาเที่ยวพาแดก
มีเงินแต่ใช้ชีวิตจนๆนี่เกิดมาคุ้มเหรอวะ เอาเปรียบโลกนี้บ้างก็ได้เว้ย
เอาเงินไปลงทุนแล้วแบ่งมาตีกระหรี่ไม่คุ้มกว่าหรอวะ
ช่วงนี้กูแม่งรู้สึกเหงาว่ะ มีมั้ยวะแฟนที่แบบ
ปล่อยให้กูมีโลกส่วนตัวของกู ไม่มาตัวติดกันมาก
กูรับรองเลยว่ากูจะไม่ไปมีใครแน่นอน แต่เว้นที่ให้กูมีโลกส่วนตัวบ้างไรงี้
มานั่งกินข้าวสองคน ต่างคนต่างกดมือถือ ?
เผลอแป๊บๆ ก็วันศุกร์ที่สามอีกแล้วสินะ..
เตรียมมู้ศุกร์ที่4รอเลย
9-16 ม.ไฮโซใกล้ห้างดัง แต่ส่วนใหญ่ถ้ากุเรียนแล้วเบื่อกุก็เดินออกเลยว่ะ ถ้าสอนเกินเวลากุก็เดินออกตอน 16
นี่จะจบละยังไม่รู่สึกว่าได้อะไรเท่าไหร่เลย 555
สมัยนี้คนเรียนป.โทกันเยอะจังว่ะ ขยันจัง กูกว่าจะจบตรีได้แทบตายห่าไม่อยากเรียนอะไรอีกแล้วว่ะ ชอบทำงานมากกว่า สนุกกว่า มันเหมือนเรียนไปด้วยแต่ได้ตังค์ไปด้วย เอาจริงๆกูว่ากูมาเรียนรู้อะไรจริงๆตอนทำงานนี่แหละ สี่ปีในมหาลัยนี่เหมือนเป็นแค่โรงเรียนเตรียมอนุบาลปูพื้นฐานไปเลย แต่ป.โทนี่มันเป็นไงวะอยากรู้ เรียนแล้วมีประโยชน์มากมั้ย
กุเรียนปี 5 แล้วยังไม่จบเลย อยากจบละเนี่ย
หรือจะเรียนต่อก็ยังไม่รู้ชีวิตตัวเองเลย เหนื่อยก็เหนื่อย ตังก็ไม่มีใช้
บางคนเรียนเอาไว้อัพเลเวลในที่ทำงาน บางคนเรียนเพื่อหาคอนเน็คชั่น ส่วนใหญ่พวกนี้จะเรียนสายสังคมโปรเจ็คไม่ค่อยหนักมาก แต่ก็มีพวกเนิร์ดหลายคนต่อสายวิทย์เพราะอยากหาความรู้ก็มีแต่โปรเจ็คแม่งยากสัดๆ(แล้วแต่ดวงด้วย)บางทีก็เอาผลงานไปต่อเอกเลย
แต่ส่วนใหญ่ๆเลยเรียนเพราะขี้เกียจทำงาน แต่หารู้ไม่ว่า ป.โทบางคณะแม่งนรกกว่าทำงานอีก ก๊ากกกกก
กุว่าส่วนใหญ่ที่ต่อ ป โท เพราะขี้เกียจหางาน ขี้เกียจไปแข่งกับคนเยอะๆ
เลยพยายามอัพเกรดตัวเองให้เป็นที่ต้องการของคนอื่นมากกว่าว่ะ จะได้ไม่ต้องไปแข่งกับใคร แต่มีคนมาง้อ มาแย่งตัวกันแทน
เรียนโทเพราะว่า
1. อยากรู้ลึก เลือกสาขาเฉพาะทางสุดๆ (มันไม่ได้มีประโยชน์ในวงกว้าง แต่ก็เกี่ยวกับสายงานแล้วก็ความชอบส่วนตัวมากพอสมควร)
2. อยากให้พ่อดีใจ ตอนป.ตรีสอบเข้าม.เดียวกับพ่อไม่ได้ ป.โทสอบติดแล้ว
3. ใกล้จะ 30 แล้ว อัพเลเวลรอหางานใหม่จะได้สตาร์ทสูงๆไปเลย
เรียนสบายกว่าเหรอวะ เทียบกันแล้วกูชอบตอนทำงานมากกว่าเยอะ หาเงินได้เองจับจ่ายใช้สอยสะดวกใจจะตายไป
หรืออาจเป็นเพราะงานที่กูทำอยู่มันความลับบริษัทเอาออกไม่ได้ด้วยมั้ง
เพราะงั้นกูเลยไม่เคยต้องเอางานไปทำที่บ้าน มันห้ามเอาออกเด็ดขาด
ถ้ากูอยู่ทำงานต่อกูก็ได้โอที ถ้ากูกลับบ้านก็คือว่าง ไม่มีการเอางานไปทำที่บ้าน
กูเลยรู้สึกว่าชีวิตกูสบายกว่าสมัยเรียนที่แม่งมีการบ้านมีรายงานมีธีสิสเยอะ
คำต้องห้ามเวลาคุยกับพวกเรียนป.โทคือ "วิทยานิพนท์ถึงไหนแล้ว?"
>>934 ต่อจากอันนี้นะ คือที่เรียนเพราะที่บ้านอยากให้เรียนเห็นว่างๆไม่ได้ทำอะไรให้บ้านเท่าไหร่ ทั้งๆที่มีงานแล้วแท้ๆหยุดเสาร์-อาทิตย์ ยังโดนให้เรียน ก็ตามใจผู้สนับสนุนทุนกันไป แล้วคือสงสัยนะ มันยังไงอ่ะที่หาคอนเน็คชั่น เผื่อจะได้มีไรช่วยๆกันหรอประมาณนี้ม่ะ คือเรียนโทสายวิทย์อ่ะไม่ได้สายบริหาร เลยไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
น้องๆ ตูโทหมด มีแต่ตูไม่รู้จะโทไปทำไม แบบว่าอยากทำงานมากกว่าฟะ
โดนขยั้นขยอให้ต่อเอก ไม่มีหัวข้อ ใครจะไปต่อเนี่ย ...
ก็ไปต่อสิวะ บ้านมีปัญญาส่งมึงเรียนเอกนี่มีบุญแค่ไหนแล้วห่า
สำหรับกู กูว่าถ้าบ้านมึงไม่ได้มีธุรกิจไร
ไปทำงานได้อ่ะไรเยอะกว่าเรียนต่อว่ะ
ถ้าเงินเดือน 40k up อะ ถึงไม่ต้องต่อ แต่ถ้าแค่ขั้นต่ำโท 20000 กว่านี่คือระดับแค่พอแดกนะ อัพเกรดตัวเองดีกว่า
40k นี่เยอะแล้วเหรอวะ คือ เมื่อก่อนกุก็ว่าเยอะนะ แต่ตอนนี้กุก็ได้ 40k แล้ว แค่ผ่อนคอนโดเดือนละ 10k ก็รู้สึกว่าไม่ค่อยมีเงินเก็บแล้วว่ะ นี่ขนาดโสดนะเนี่ย
ไม่มีหนี้ไม่มีอะไรต้องผ่อน ถ้าได้ 40k กูนี่เก็บได้ 30k ต่อเดือนเลยมั้ง
ทำงานมาห้าปีแล้วยังได้ไม่ถึง 20kเลยว่ะ
โดนบิลกันเดือนเท่าไหร่มั่งวะ บิลกู
ค่าไฟ 2,000
ค่าน้ำ 300
ค่าเน็ตบ้าน 700
ค่าโทรมือถือ 1,200
ทรู 1,500
CTH 900
ไม่รวมค่าน้ำมัน ค่า่กิน ก็ ตกขั้นต่ำ 6,600 ไม่มีหนี้ ส่วนรายได้ฟรีแลนซ์
เน็ต 1200
โทรศัพท์ 1200
ไฟ 3000
น้ำ 200
ค่าสมาชิกเวปนิโกะ 200
ค่าสมาชิกเวปโอสติ้ง 700
ฟรีแลนซ์ too
ค่าไฟ 2500
ค่าน้ำมันรถ 3500
ผ่อนรถ 11500
ค่าน้ำ 300
เน็ตบ้าน 650
ค่ามือถือ 500
ค่ากิน ประเมินไม่ได้
นอกนั้นก็อื่นๆ จิปาถะ
ค่าเนต 300
ค่าซักผ้า 500
ยังเรียนไม่จบเลยกุ
ค่าคอนโด 20,000
ค่าเน็ต 2 เส้น 7,000
ค่าบริการในเน็ตต่างๆ ที่ใช้อยู่ 3,000
ค่าไฟ 2,000
ค่าน้ำ 300
ค่าโทรศัพท์ 200
ไอ้สัส บ้านกูค่าไฟ8,000 ;___;
อากาศร้อนเปิดแอร์แม่งทั้งวันทั้งคืนสาสสส
ไม่ได้ใช้แอร์ประหยัดไฟเหรอวะ ของกูสองเครื่องยังแค่ 4000
เน็ต 1400
มือถือ 900+200
น้ำ ไฟ ฟรี
ประกัน 3300+3500
ผ่อนรถ 7300
คอนโด 11000 ล่ะมั้ง
แต่ที่เหลือก็ยังจ่ายเยอะอยู่ดี
พยายามไม่เปิดแอร์ เพื่อกดดันตัวเองที่ยังไม่มีงาน
ยังอยู่กับบ้านเดิม บิลน้ำไฟเน็ทเหมาจ่ายเข้าบ้านเดือนละหกพัน
ผ่อนรถหมดแล้ว อีกสองสามปีจะเริ่มผ่อนบ้าน
ประกันกูทำรายปี เป็นประกันสุขภาพ ปีละ 16k
ตั้งแต่ทำมากูไม่เคยป่วยเลย บริษัทประกันมันเล่นของแน่ๆ
ไอ้ที่หนังๆ อีกก็ประกันรถยนต์ ปีละ 60k
ดังนั้นถึงบิลจะไม่เยอะ (ประมาณเดือนละหมื่น) แต่ก็ต้องคำนวนเงินเหลือให้ดี
โถๆ วันอาทิตย์กู แค่อาบน้ำซื้อกับข้าวล้างรถก็หมดไปละครึ่งวัน
เหมือนกูเลยยยย นี่ยังเหลือต้องซักผ้าเช็ดเท้ากัยผ้าขี้ริ้วอี๊กก
กูซักผ้าทิ้งไว้แล้วหลับ ตื่นมาอีกทีผ้าแห้งกรอบอยู่ในเครื่อง สาสสสสสส
มันคงมีพวกที่หยุดยาวเกือบสิบวันแล้วบ่นว่าทำงานวันแรกอีกและ อยู่ด้วยสินะ
ไม่บ่นเรื่องทำงานวันแรกหลังหยุดยาวหรอก
แต่อยากบ่นพวกหยุดแถม21ที่ทำให้กูต้องมานั่งฟังหัวหน้าบ่นมากกว่า
(โต๊ะกูติดหัวหน้า)
http://pantip.com/topic/31946241/comment17
อ่านแล้วกุคงแดกน้ำบ๊วยไม่ลงไปอีกนาน
บางครั้งก็อยากพิมพ์เมลล์ภาษาหยาบๆด่ายูสเซอร์ขี้มั่วชิบหายเลยวะ พวกทำงานใช้แต่ปากชี้นิ้วสั่งนึ้มัน.....
ขณะนี้กูอยากพิมพ์เมล์หยาบๆ ด่าลูกค้าเหมือนกัน เหี้ยเอ๊ย สุดจะทน
กูอยากพิมพ์เมลหยาบๆ ด่าฝ่ายบัญชี ได้ทีขี่แพะไล่จริงๆ พวกเหี้ยนี่ เวลาตามงานก็หายหัว ทีงานมันละโยนพวกกูจัง แล้วมาด่วนๆ ดีออก
เหี้ยยยยย ประเด็นมึงตรงใจกูมาก กูกำลังอยู่ในฟีลนั้นเลย
กูเคยทำด้วยนะ พิมพ์ด่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คนที่กูดีลงานด้วยในเมล์แม่งให้หยาบคายสุดๆ ระบายทุกการกระทำของมันที่กูเกลียด
..............................................แล้วกูก็ลบว่ะ ;_; ไม่สามารถส่งไปจริงๆ ได้ เพราะยังไม่อยากตกงาน
แต่มึงอย่าทำให้มันเรียลมากโดยการใส่อีเมล์แอดเดรสในช่องก่อนพิมพ์เนื้อหาเมล์ล่ะ
เกิดเผลอกดส่งไม่รู้ตัวจะซวยไป คงไม่มีใครโง่ทำแบบนั้นหรอกใช่มั้ย...กูไม่เคยพิมพ์แอดเดรสตอน simulation เมล์ด่าหรอกนะ
แต่สมัยก่อนกูโง่ ชอบพิมพ์แอดเดรสก่อนพิมพ์เนื้อหาเมล์ บางทีมือไปโดนนิดเดียวเมล์แม่งไปละแบบขาดๆ เกินๆ ต้องไปส่งใหม่ ต้องไปขอโทษ
พอโง่แล้วเพิ่งคิดได้ว่าก็พิมพ์เนื้อหาให้เสร็จก่อนสิวะค่อยย้อนกลับไปพิมพ์แอดเดรส
1. แนบไฟล์ก่อน
2. เขียนหัวข้อ
3. เขียนเนื้อหา
4. กรอกเมล์
สินะ
วันนี้หลงเข้าพันทิป ควรจะเปลี่ยนชื่อเป็น โลกสวย.com ได้แล้วนะ
กูคุยงานกับลูกค้ามาก คือจะว่าไงดีวะ แม่งเป็นคนแบบ กร่างสัดดดดดด แต่กูคุยกับมันนี่กูก็แกล้งยอๆมันไปนะ แล้วเอามันมาด่าให้เพื่อนฟังแทนเป็นการแก้แค้น 55
วันก่อนวันลานี่แม่งงานเยอะจริงๆ แงแงแง
บริษัทกูจะปิดละ กูได้ค่าทำขวัญด้วยล่ะ
แต่ไม่ต้องห่วงกูหรอกนะ กูยังทำงานที่เดิม
ปิดบริษัทเก่า แล้วเปิดใหม่ เปลี่ยนกรรมการ
คือถ้าไม่มีบริษัทกู มันจะมีคนเดือดร้อนไง เค้าเลยต้องโละของเก่าที่มีปัญหาทิ้งแล้วจ้างพวกกูทำงานต่อ เพื่อไม่ให้พวกกูได้หยุดงานฟ้องบริษัทเอาค่าชดเชย
เหลืออีก 5 โพส ขอตั้งเลยละกัน
วันศุกร์ที่สี่ ของเหล่าซาลารี่แมน
https://fanboi.ch/lounge/408/
เอ้าวันศุกร์ว้อยยยยยยยย
เสาร์ทำงาน
อีก 9 ครั้งจะถึงศุกร์ที่ 13
1000
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.