Fanboi Channel

วันศุกร์ที่สาม ของเหล่าซาลารี่แมน

Last posted

Total of 1000 posts

769 Nameless Fanboi Posted ID:UA/9mj84w

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว นายAซึ่งเป็นชาวต่างชาติและนายB ได้ตกลงจะก่อตั้งบริษัทขึ้นมาบริษัทหนึ่ง ชื่อว่าบริษัทF ซึ่งเป็นเอเยนต์ขนส่งสินค้าข้ามชาติ

นายBนั้น เดิมทีก็เป็นเจ้าของบริษัทใหญ่โตมีพนักงานหลายร้อยคนในธุรกิจเดียวกัน จึงได้วางให้บริษัทFใช้บริการอำนวยความสะดวกทั้งหมดของบริษัทตัวเองและหักค่าใช้จ่ายเข้าบริษัทตัวเองไปเป็นรายเดือน
ส่วนนายAนั้น ถึงจะฉลาดหลักแหลม แต่ก็ไม่ค่อยมีระเบียบในการชำระหนี้สักเท่าไหร่ แถมยังสร้างปัญหาอยู่เนืองๆ เช่นหาเรื่องทะเลาะกับศุลกากรที่เก็บภาษีของที่ตัวเองนำเข้าแพงเกินไป จึงดำเนินการฟ้องศุลกากรในstationที่ตัวเองเอาของไปลง เพื่อให้ศุลกากรชดใช้ค่าเสียหายที่เก็บเงินเกิน ทำทุกวิถีทางกระทั่งปลอมหลักฐานจากประเทศต้นทางไปอ้างในศาลประเทศตัวเอง หมดค่าทนายค่าดำเนินการไปมากมาย ก็ไม่ชนะสักที แถมโดนเพ่งเล็งจนต้องเปลี่ยนชื่อบริษัทปลายทางหนีไปสองสามรอบ

บริษัทขนส่งนั้น นอกจากจะมีเงินแล้ว ยังจำเป็นต้องมีคอนเนคชั่นและเครดิตที่น่าเชื่อถือเพื่อใช้ในการต่อรองทำสัญญากับsupplierผู้ผลิตและจัดหาสินค้า
บริษัทF ก่อตั้งมาหลายปี สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้ทั้งนายAและนายB
เวลาผ่านไปนานเข้า ความไร้วินัยของนายA ก็เริ่มแสดงให้เห็นชัด ยอดหนี้ที่เคยชำระคืนsupplierเป็นเที่ยวต่อเที่ยวก็เริ่มกลายเป็น สามเที่ยว สี่เที่ยว ห้าเที่ยว จนนายBเริ่มทนไม่ไหว ต้องออกมาตรการใหม่มาเพื่อบังคับให้นายAจ่ายเงินให้ตรงเวลา
ด้วยการกำหนดเพดานหนี้ และให้นายAโอนเงินเที่ยวต่อเที่ยวก่อนจะส่งของ
นายAเริ่มไม่พอใจเล็กน้อย ว่าทำธุรกิจด้วยกันมาหลายปีแท้ๆ ทำไมถึงไม่ไว้ใจกันแบบนี้ แต่ก็ยอมรับฟังและทำตามแต่โดยดี

และในระหว่างนั้น นายB ก็ตั้งบริษัทแห่งใหม่ขึ้นมาอีกแห่ง โดยมีกรรมการบริษัทเป็นคนชาติเดียวกับนายA ดำเนินธุรกิจแบบเดียวกันกับบริษัทF แถมยังใช้บริการจากบริษัทของนายBเหมือนกันอีก ที่ต่างกันก็มีแค่รายชื่อของsupplier

นายA ไม่เคยคิดจะใช้หนี้ก้อนโตที่ค้างsupplierไว้ที่บริษัทFอยู่แล้ว ที่รับคำนายBไปก็เหมือนต่อเวลาให้ตัวเองเดินธุรกิจไปได้แบบไม่ขาดตอน ก็เท่านั้นเอง ดังนั้น พอนายAเห็นบริษัทใหม่ของนายB ก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
นายA เริ่มออกไปหาสินค้ามาส่งเองโดยไม่ผ่านsupplierเพื่อจะได้ไม่ต้องหักservice charge เข้าบริษัทFที่ตัวเองถือหุ้นอยู่ จนฝ่ายบัญชีของบริษัทFยื่นคำขาดว่า ถ้าทำแบบนี้จะไม่ยอมให้ส่งของออก
แล้ววันนั้นเอง นายA ก็ขนของไปส่งโดยใช้บริการจากบริษัทใหม่ของนายB ปล่อยให้บริษัทFและเหล่าsupplierที่ร่วมธุรกิจกันมาทำหน้างง

นายBเอง ไม่ค่อยมีเวลาให้ธุรกิจของตัวเองสักเท่าไหร่นัก พอทราบเรื่องก็เชิญผู้เกี่ยวข้องและsupplierที่ดีลงานกับบริษัทFมาร่วมรับประทานอาหารเย็น เพื่อแจ้งว่านายAนั้น ได้ย้ายไปส่งให้บริษัทอื่นที่ไม่ใช่บริษัทF และปฏิเสธที่จะจ่ายหนี้ทั้งหมดแล้ว

นายK หนึ่งในsupplierคู่ค้าของบริษัทF ถามนายBไปคำหนึ่ง ว่านายA ย้ายไปส่งที่ไหน
และนายBก็ตอบว่า "บริษัทลูกกูเอง"
นายK ก็ไม่พอใจ เพราะนายAยังไม่ได้สะสางหนี้เก่าที่ค้างไว้ แถมยังย้ายไปส่งกับบริษัทใหม่ ภายใต้เอเยนต์ใหม่คนเดิมอย่างนายBที่ลอยตัวอยู่เหนือปัญหา จึงตัดสินใจว่าจะไม่ส่งสินค้าให้นายAอีก
ส่วนนายA ก็ได้แต่พูดเรียบๆว่า บริษัทที่ติดหนี้พวกยู มันเจ๊งไปตั้งนานแล้วไม่ใช่รึ (เป็นผลจากการเปลี่ยนชื่อบริษัทปลายทางที่อ้างว่าทำเพื่อลดแรงเสียดทานจากศุลกากร)

เรื่องมีเท่านี้ กูมาระบายเฉยๆ ใครจะเอาไปเขียนนิยายต่อก็เชิญตามสบาย

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.