>>555 ไม่เสมอไปว่ะ 2.แบบนั้นมันก็อาจจะไม่ใช่2ที่ต้องการจริงๆ แล้ว2.บางอย่างมันไม่ใช่ว่าจะทำเป็นเวลาว่างได้ ตัวอย่างเช่น อยากเป็นนักบินอวกาศ อยากเป็นหมอ หรือที่เด็กๆชอบพูดก็เช่นอยากเป็นนักเขียนการ์ตูน
บางคนมันอยากได้ทุ่มเท ได้ใส่เต็มกับความฝัน ความชอบจริงๆ เป็นอาชีพหลัก เป็นมืออาชีพที่ประสบความสำเร็จจากการทำ2.เลย
ไอ้2.ที่ทำเป็นงานอดิเรกนี่มันก็ทำเพราะว่าตัวเองทำ2.เป็นอาชีพหลักไม่ไหว ก็เลยต้องพยายามหาอะไรที่ใกล้เคียงมาเยียวยาความผิดหวังของตัวเอง กูเชื่อว่าหลายคนตอนเด็กอาจจะเคยอยากเป็นนักเขียนการ์ตูนนะ แล้วมีหลายคนที่ไปทางนั้นไม่ได้(ไม่ว่าจะเหตุผลทางบ้านต้องกลับไปช่วยกิจการ มือไม่ถึง ต้องบลาๆๆ) ก็เลยมาทำเป็นงานเสริมแทน เช่นวาดโดลงเน็ต รับจ้างวาดการ์ตูนตามโอกาส แต่กูเชื่อว่าต้องรู้สึกเสียดายกันมั่งแหละที่ไม่ได้ทำ2.แบบเต็มแรง ไม่มีโอกาสได้ทุ่มเทกับ2.อย่างสุดความสามารถ พอมองคนที่ได้ทำ2.อย่างสุดความสามารถ แม้มันจะไม่รวยเท่ามึง แต่มันได้ทำานที่มึงใฝ่ฝันมาตลอด มึงต้องอิจฉาแหละ
บางคนมันก็ให้ความสำคัญกับ2.มากกว่า1. แค่มันได้2.กับ1.หน่อยๆมันก็มีความสุขแล้ว กูเองค่อนข้างจะเชื่อว่าควรจะไปในทางที่ตัวเองเลือก ถ้ามึงมีความสามารถพอ แต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันนะ ว่าสุดท้ายมึงจะล้มเหลวเละเทะรึเปล่า
เลือก1.กับ3.ไปมันก็ดีกับชีวิตมึงนะ มีหลักประกัน ปลอดภัย และอาจจะมีเวลาว่างไปทำสิ่งที่ชอบได้แบบที่ข้างบนบอก แต่กูว่าการที่มึงมองไปเห็นคนอื่นได้ทำสิ่งที่มึงฝันแต่มึงไม่ได้ทำเองเพราะไปเลือกอย่างอื่น ทั้งๆที่มึงเชื่อว่ามึงทำได้ดีกว่าไอ้พวกนั้น มัเป็นอะไรที่น่าเสียดายมากเลยว่ะ เพราะชีวิตมึงเกิดมาเป็นมึงคาชาตินี้ ไม่มีโอกาสหน้าให้ลองแล้ว