"1. #การคัดหลีดคณะ
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เก็ตว่าทำไมต้องเรียกน้องทั้งคณะมาให้รุ่นพี่จิ้มเลือก ...
สำหรับเรา มันคือโมเม้นต์ที่ awkward ที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต ที่คนหน้าตาดีอาจจะนึกไม่ออก คือมันจะมีตอนที่รุ่นพี่ถามว่า น้องคนไหนที่ไม่สะดวกอยากเป็นหลีดขอให้ยกมือขึ้นครับ
แล้วเราก็โพล่งยกมือคนแรกๆไง เพื่อแสดงเจตจำนงใช่ปะ แต่ทันทีที่ยกมือเสร็จ ก็นึกขึ้นได้ว่า คนอื่นจะมองว่ามึงออกตัวแรงไปป๊าว ช่วยดูหนังหน้าตัวเองก่อนยกมือมะ ถึงไม่ยก เขาก็ไม่เอามึงอยู่แล้วปะ...
งืดอีกดอกคือ พอยกมือ ก็คิดว่าจะได้ออกจากตรงนั้น แต่ไม่! นิสิตชายปี 1 ยังต้องอยู่เพื่อให้พี่ๆ เขาจิ้มว่าเอา/ไม่เอาใคร (กูนึกว่าเดอะเฟซ)
ความเหวออีกดอกที่จำได้คือ มันแน่นอนที่เราไม่ได้ถูกเลือก ก็เดินออกมาจากตรงนั้น ซะที กระทั่งเดินผ่านเพื่อนนิสิตหญิงคนนึงตรงลานใบหยก มันก็บอกว่า "แกไม่ต้องเสียใจเว่ย พี่เขาคัดคนเอาไว้อยู่แล้ว"
อีสัส หน้าตากูดูเฟลมาก??!?!?!??
2. #เพลงคืนอันเป็นนิรันดร์
ในรุ่นๆประมาณ 35-40 เพลงประกอบละครเวทีนี้เป็นเหมือนเพลงธีมอันทรงคุณค่า มักใช้เปิดเวลาต้องการบิ๊วด์อีโมในคนหมู่มาก เช่น ก่อนละครเวทีรอบสุดท้าย ทุกคนก็จะยืนล้อมรอบที่นั่งในหอประชุมจุฬาฯแล้วก็มองทอดไปที่เวที ก็เป็นโมเม้นต์ที่ขนลุกสำหรับเด็กใหม่อย่างเรานะ
เราและเพื่อนชอบเพลงนี้ มักจะร้องฮัมกันเล่นๆ จนมีครั้งนึง ในห้องคอมพิวเตอร์คณะ ไอ้เรากับเพื่อนก็ร้องฮัม "เหตุใดคืนที่ยาวนาน ไม่ผ่านไปเสียที ..." ก็มีเพื่อนนิสิตหญิงเดินมาบอกว่า "แกๆ เพลงนี้เขาไม่ให้ร้องเล่นนะ มันศักดิ์สิทธิ์!!!!"
อีพวกเราก็หยุด อย่าเรียกหยุดเลย เรียกว่าสตั๊นจะเหมาะกว่า
3. #การกิน_นอนใต้ถุน
literally กิน-นอน อะ แบบไม่กลับบ้านกลับช่อง นอนที่ห้องกนท. ตื่นเช้ามาก็ไปอาบน้ำที่ศูนย์กีฬาในร่ม ทำกันแบบนี้ทั้งสัปดาห์ ...จนตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าพวกกูทำไปเพื่ออะไร !
แต่รู้ว่า ถ้าจะมีใครidentifyคำว่า"เด็กใต้ถุน" พวกข้าพเจ้าต้องติดอยู่ทอป3 !"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"มึงไม่ต้องห่วง เนติวิทย์กำลังไปช่วยมึงแล้ว"
#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง