มู้เก่า
https://fanboi.ch/lounge/1161 โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง
Last posted
Total of 1000 posts
มู้เก่า
https://fanboi.ch/lounge/1161 โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง
"ปัญหาของคนจำนวนมากคือมันจะคิดว่า Fact เดียวกันจะนำไปสู่ Conclusion เดียวกันเสมอ และคิดว่าคนที่ไม่ได้ Conclusion เดียวกันเป็นคนไม่มีเหตุผลโดยไม่ได้ฟังคำอธิบายของเขาเลย
การคิดว่าระบบเหตุผลของตัวเองนี่ถูกและดีเสมอนี่เป็นภัยต่อพัฒนาการทางความคิดเหี้ยๆ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
มึง กูสงสัยว่าเราจะมีวิธีไหนในการควบคุมคุณภาพของคนไทยให้มีจิตสำนึกต่อส่วนรวมและมีวิจารณญาณในการเสพสื่อต่างๆได้บ้างไหมวะ
https://youtu.be/gKVtpCByEy4
ภาษาไทยยากสึด
"มึงอยากอยู่ยุค 90s ก่อนอื่นมึงปิดเราเตอร์มึงก่อน
ไอ้เหี้ย เกิดไม่ทันละมโนซะโรแมนติก
อินเตอร์เน็ตที่ลุ้นโหลดภาพหีทีละเส้นๆ เหมือนมีคนมานั่งทอผ้าอยู่หน้าจอ โหลดเสร็จข้างล่างเป็นควยเฉย เป็นการดักควายที่เจ็บใจค่าเน็ตสัสๆ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ทุกวันนี้ผมเงียบมาตลอด ตั้งใจที่จะไม่ออกความคิดเห็นในเรื่องใดๆ และอยากให้ทุกฝ่ายตั้งใจแก้ไขปัญหาให้ประชาชน แต่อยู่ดีๆ ผมกลับถูกพาดพิงอย่างรุนแรง จนต้องเสียความตั้งใจ เลยต้องขอพูดสักครั้ง
การแก้ปัญหาของประเทศ ภายใต้รัฐบาลทหารของไทยในขณะนี้ มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นก็โทษคนอื่น โดยตนเองไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย ไม่เคยทำอะไรผิด ตัวเองดีทุกอย่าง เช่นน้ำแล้งก็บอกว่า เป็นเพราะรัฐบาลก่อน ราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ ขายไม่ออกอย่างยางพารา ก็บอกให้ไปขายดาวอังคาร บริหารประเทศแบบนี้ใครๆ ก็เป็นได้ครับ นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย
รัฐบาลนี้ได้อำนาจมาจากการรัฐประหาร ได้เข้ามาปกครองประเทศแล้วร่วม 2 ปี ได้ทำประโยชน์อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ให้ชาวโลกเขาได้เห็นบ้าง ภาพลักษณ์ที่เผยแพร่ออกไป มีแต่การใช้อำนาจในการละเมิดสิทธิประชาชน และกฎหมายสากลอย่างไม่เคยเกิดในประเทศไทยมาก่อน เมื่อนานาอารยประเทศ และองค์กรสากลต่างๆ เขาเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเขาก็ออกมาเตือน เป็นเรื่องปกติทั่วไป ที่เกิดขึ้นในประเทศที่ผู้นำฯ ใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกต้อง
เมื่อผู้นำของประเทศเราไม่สนใจคำเตือน ประเทศอื่นเขาย่อมใช้มาตรการที่รุนแรงขึ้นครับ ไม่ว่าจะเป็นการระงับการค้าการลงทุน มาตรการปิดกั้นและกีดกันต่างๆ รวมถึงการย้ายถิ่นฐานการผลิตไปยังประเทศที่ 3 กระบวนการเหล่านี้ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรง และโมเมนตัมนี้จะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปอีกนานหลายปี..
แต่..แทนที่ผู้นำเราจะยอมรับความผิด แก้ไขปัญหาเหล่านั้น และทำให้มันถูกต้องเสีย กลับออกมาโทษว่า เป็นเพราะผมไปจ้างล็อบบี้ยิสต์ เพื่อล็อบบี้ประเทศต่างๆ ให้แอนตี้ บอยคอตประเทศไทย โถ..ช่างคิดไปได้
อยากจะบอกว่า ผมไม่จำเป็นต้องไปจ้างใคร ให้เสียเงินเสียทอง เพื่อประจานนายกฯ ไทย ให้เสียภาพลักษณ์ประเทศหรอกครับ ประวัติศาสตร์มีให้เห็นอยู่เสมอว่า เผด็จการฯที่ลุแก่อำนาจ ด่ากราดคนที่พูดจาไม่ถูกใจ ดูถูกคนยากจนว่าโง่ ใช้อำนาจเกินขอบเขต และปกครองประเทศโดยไม่เห็นหัวประชาชนนั้น ล้วนแล้วแต่แพ้ภัยตัวเองทั้งนั้น
อยากจะเป็นผู้นำประเทศ ถ้าอารมณ์ของตัวเองยังควบคุมไม่ได้ ใช้อารมณ์ด่ากราดผู้คนเพื่อเอาชนะ ตะคอกใส่นักข่าวให้เขาสงบปากสงบคำ และเขียนข่าวให้ถูกใจตน ทำแบบนี้บอกเลย อย่าหวังว่าจะทำให้คนส่วนใหญ่ของประเทศคล้อยตาม
ถ้าอยากรู้ว่าตัวเองแย่แค่ไหน ลองเอาเทปที่คุณพูดทุกวันมาฟังย้อนหลังดูซิครับ แล้วคุณจะรู้ว่า
"ไม่มีล็อบบี้ยิสต์ในโลกคนไหนที่จะมีความสามารถทำลายคุณได้ เท่ากับคุณทำลายตัวคุณเอง"
เพราะฉะนั้น เมื่อคุณมั่นใจว่าเป็นคนดี ก็จงก้มหน้าก้มตาเป็นคนชอบแก้ไขไปเถอะ อย่าทำตัวเหมือนที่ผ่านมาเลย
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ที่สิงคโปร์มีการรณรงค์เตือนสติให้ผู้คนหันมายั้งคิดก่อนที่จะถ่ายรูปหรือคลิปไปประจานคนอื่นในโซเชียลเน็ตเวิร์ก และแทนที่จะรีบถ่ายคลิปทำตัวเป็นตำรวจศีลธรรม เขาแนะให้เราถามใจตัวเองก่อนว่าควรจะทำสิ่งที่เหมาะกว่าหรือไม่
ตอนนี้เท่าที่เห็นมีการแชร์ภาพโปสเตอร์แคมเปญของ Singapore Kindness Movement (ขบวนการสิงคโปร์เอื้อเฟื้อ) ภาพแรกเป็นผู้ชายกำลังงีบบนเก้าอี้สำรองโดยมีผู้หญิงที่กำลังท้องป่องกำลังยืนประจันหน้าอยู่ พร้อมกับคำโปรยว่า "จะแชะภาพ หรือแตะไหล่ปลุก - อยู่ที่ตัวคุณว่าจะเอื้อเฟื้ออย่างไร" หมายความว่า แทนที่จะรีบถ่ายรูปประจานชายคนนี้ เราควรปลุกเขาจะดีกว่าไหม? เพราะอาจมีเหตุผลอื่นนอกจากจะแย่งที่นั่งคนท้องก็เป็นได้
อีกโปสเตอร์เป็นรูปพนักงานเสิร์ฟกับลูกค้ากำลังแสดงอาการฉุนเฉียวที่อีกฝ่ายทำน้ำหกใส่ พร้อมคำถามว่า "คุณจะทำอย่างไร" ระหว่าง 1. ไม่ทำอะไร 2. เข้าไปยุ่ง 3. โหลดภาพโชว์ชาวเน็ต - สำหรับผมประเด็นของภาพไม่ได้อยู่ที่เราควรทำอะไร แต่อยู่ที่เราไม่ควรทำอะไรมากกว่า นั่นคือ การถ่ายภาพไปโชว์คนอื่นในสถานการณ์ที่ไม่ควรทำ
แน่นอนว่า การถ่ายรูปถ่ายคลิปมีส่วนช่วยให้เราทันกับสถานการณ์มากขึ้น และช่วยเก็บหลักฐานในกรณีที่มีการทำร้ายกัน แต่หลายกรณีคลิปเหล่านี้ละเมิดความเป็นส่วนตัว เป็นการสร้างความอับอายต่อธารกำนัล (Public Shaming) และเป็นการประจานกันในโลกออนไลน์อย่างซึ่งๆ หน้า (Online shaming) เช่นเดียวกับกรณีตามหาคนผิดในฟอรั่มหรือโซเชียลเน็ตเวิร์ก หลายครั้งที่ชาวเน็ตช่วยกันเป็นนักสืบจนพบเบาะแส แต่หลายครั้งก็มันมือจนกลายเป็นการละเมิดอย่างรุนแรงเช่นกัน
บทความในเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์สเตรทไทม์ส ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรงคือ Don't shame online, right the wrong instead บอกว่าตอนนี้มีเหตุเกิดขึ้นในสังคมโซเชียลของสิงคโปร์ เมื่อเจ้าสาวคนหนึ่งไม่พอใจผลงานช่างภาพที่รับหน้าที่ในวันวิวาห์เพราะผลงานออกมาห่วยแตก เลยโพสต์ภาพแล้วบ่นในเฟซบุ๊คปรากฎว่ามีคนแชร์กันเป็นหมื่น ตอนแรกเจ้าสาวไม่ได้เอ่ยชื่อช่างภาพกับสตูดิโอ แต่ชาวเน็ตรู้สึกอยากมีส่วนร่วม (และคงจะเห็นใจนิดๆ ด้วย) เลยไปสืบกันเองจนรู้ตัว ต่อมาช่างภาพออกมาขอโทษทำให้กระแสต่อว่าเขาเบาลง แต่แล้วแทนที่เรื่องจะจบตัวเจ้าสาวกลับถูกชาวเน็ตสับแหลกด้วยว่าจัดการเรื่องนี้ได้แย่ทำให้เรื่องบานปลาย
จะเห็นได้ว่าชาวเน็ตเป็นสิ่งมีชีวิตที่อารมณ์วูบไหวรุนแรงเอาใจได้ยากมา ผมคิดว่าส่วนหนึ่งเราไม่รู้สึกว่าต้องรับผิดชอบกับความเห็นที่เราแสดงไป ตัวตนเราคนอื่นก็ไม่รู้ ที่อยู่ก็ไม่ทราบ ดังนั้นเราจึงรู้สึกลำพองที่จะพูดจาต่อว่าหรือประจานคนอื่นโดยไม่รู้ร้อนรู้หนาว เมื่อวิจารณ์หรือแชร์เรื่องเสียหายกันหลายๆ คนเข้าก็กลายเป็น Mob rule โดยไม่รู้ตัว ผมเห็นด้วยกับผู้เขียนบทความคือ Daryl Chin ที่บอกว่าบางทีเรื่องนี้ (และอีกหลายๆ เรื่อง) จะไม่วุ่นวายกันไปใหญ่ถ้าทุกฝ่ายมีใจเอื้อเฟื้อกันสักนิด
ส่วนตัวผมชอบชื่อบทความนี้มากเพราะบอกทุกอย่างที่เราควรทำในฐานะสมาชิกโลกโซเชียลนั่นคือ "อย่าประจานออกสื่อออนไลน์ ควรทำในสิ่งที่ถูกต้องจะดีกว่า"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
กุไม่ให้ค่า คนที่เคยพูดว่า"โจรกระจอก"หรอกว่ะ
แต่ยอมรับหัวคิดก้าวหน้า แต่นิสัยไม่ได้ต่างจากผู้นำครปัจจุบันเลย
แม้วก็เคยโทษคนอื่นนะ ถถถถ+
>>16 ตามสภาพแวดล้อมปัจจัยภายนอก ยุคแม้วได้เปรียบกว่ายุคปชป.ในหลายๆทาง ทั้งปัจจัยการเมือง+ศก.ประเทศอื่นๆกำลังมีปัญหา
เงินที่ปชป.ชวน2หามาตอนช่วง ดอลลาห์ละ50-60บาท(คนด่ายุคชวนกันชิบหายทำให้ซื้อของนอกแพง ทั้งที่ไทยส่งออกได้ประโยชน์เยอะ)
พอมายุคแม้วก็บาทแข็งแถวๆ38(ประมาณนะ กูไม่ได้ตามทุกสเตป)คนชมแม้วแทน(แต่พ่อค้าส่งออกแอบบ่น) เลยได้ประโยชน์บาทแข็งมาใช้หนี้ได้เร็ว ม็อบที่เคยเย้วๆด่าปชป.ก็ไม่กล้ามา?
ด้านการศึกษา แม่งเปลี่ยนให้เด็กเป็นศูนย์กลาง(child center)ซะกูยกให้เหี้ยกว่ายุค ชวน1+บรรหาร+จิ๋ว ทุกวันนี้ทำโทษตีเด็กไม่ได้ ซ้ำชั้นไม่ได้ เป็นลูกเทวดาไปแล้ว 555555+
นโยบายส่งเสริมคนเป็นหนี้อีกสารพัด อะไรอีกหลายๆอย่างกูก็ไม่เห็นว่ามันจะดีขึ้นนอกจากเอาเงินในอนาคตมาถลุงใช้ก่อนวะ แบงค์ชาติก็เคยออกมาบ่นๆแม่งจะถังแตกแล้วนะโว้ย
พอถึงเวลาจ่ายเงินในยุคถัดมามันถึงขัดสนกันไปหมด
ตอนใครอยากเข้าสังกัดพรรคมีเรียกขั้นต่ำ10ล้านอันนี้รู้สึกจะระดับตำบล,กำนัน
ตอนสึนามิถล่มไทย(น่าจะช่วง10-11โมง กูเห็นคนโพสขอความช่วยเหลือในpantipช่วงเวลานั้น) หาตัวนายกไม่เจอเห็นลือว่ายังไปตีกอล์ฟอยู่เลย มาโผล่อีกทีตอนเย็น แถมมีทำหน้าใหญ่บอกต่างชาติไม่ต้องมาช่วยพวกกู กูสตรองคุมเองได้ แม่งถามคนในพื้นที่ ที่เดือนร้อนกันหรือยัง
ตอนลงสามจังหวัดก็สร้างภาพไม่ลงพื้นที่จริงไม่ไปอยู่นานๆ ไหนจะมานั่งสั่งข้าราชการไปพับนกกระดาษมาโปรยเป็นขยะ 3จังหวัดชายแดนใต้เงี้ยะ
ตอนไข้หวัดนกบอกไม่มี ไม่ติด พอติดแม่งมานั่งกินไก่โชว์
จริงๆมีอีกสารพัดกูขี้เกียจจะพิมพ์เพราะใช้เวลาเยอะ
สรุป สั้นๆดีกว่า ผลงานแม้วดีเพราะมันมีทีมบริหารครม.ในยุคแรกดีจริง ทั้งเนวิน สุวัตน์ บรรหาร สมคิด ฯลฯ (ดูเนวินบริหารทีมฟุตบอลไทยทำอะไรๆให้บุรีรัมย์ดู ตอนสมัยแกอยู่กับบรรหาร บรรหารยังชมฝีมือเนวินเลย)
ตัวแม้วไม่ได้ทำอะไรวันๆจ้อ ออกสื่อไปเที่ยวนอกไปตีกอล์ฟ เคยลือกันว่ามีกิ๊กด้วย แถมดังแล้วทำตัวเหลิง
***พอถึงเวลาจ่ายเงินในยุคถัดมามันถึงขัดสนกันไปหมด
กูยกตัวอย่างแถมให้เห็นภาพหน่อยๆก็มอง
สมาคมฟุตบอลไทย
ยุคบังยี(กรรมการพรรค คุณก็รู้ว่าใคร) บอลไทยจะไปบอลโลกล่ะกัน งบประมาณได้มาเพียบแต่บัญชีอะไรกูไม่แจงนะจ้ะ
พอมายุคสมยศ มาตรวจบัญชีเงินแม่งหายไปไหนหมด ภาษีก็ไม่จ่าย หนี้แม่งโผล่มาแทน 5555
กูมีญาติเสื้อเหลืองที่เคยทำงานกะแม้ว ยังบอกว่าทำงานกะแม้วดีกว่า ให้ความเคารพ หัวไว เสนออะไรอนุมัติได้ทันใจ อยู่กะปชป.แม่งยืดยาดไปเรื่อย
แม้วโกงทนไม่ได้ แต่ทหารโกงข้าราชการโกงกลับรับได้ แถมบอกว่าสงบดี เออตลก
**แพทย์
>>29
มึงและควายอ่านไม่แตก การเมืองขึ้นสมองไม่คิดวิเคราะแยกแยะ กุพูดถึง30บาทในแง่ราคาที่จะซื้อได้เพียงยาพารา ไม่ได้หมายถึงการรักษา เพราะที่กุอธิบายไปแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาโปะ ค่ารักษาที่มันมากกว่า30บาท ขนาดร.พศิริราชยังมาบ่นเลยรับภาระไม่ไหว แสดงว่ารัฐไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือเลย จะบอกว่าเป็นรัฐสวัสดิการอย่างหนึ่งไม่ได้ว่ะ เพราะฐานรายได้เราห่างชั้นมากจนโครงการนี้มันยังเร็วไปที่จะทำ ไม่ใช่ไม่เีแต่เร็วเกินไป
30บาทก็เหมือนอะไรสักอย่างที่ทำให้กูนึกถึงสหภาพการรถไฟไทย ถูกแต่บริหารยังไงก็ขาดทุนต้องเอางบมาโปะไปเรื่อยๆ
ว่างๆกูยังอยากถามไอ้จ่าเลย รับคนไข้30บาทมากี่ราย รพ.มันได้ซัพเพียงพอไหม ขนาดไอ้จ่ามันยังด่ารพ.มันบริหารห่วย? จนมันต้องลาออกเพราะงานหนักเกิน
เอาจริงๆนะ พวกชาวบ้านจนๆน่ะรักษายังไงก็ไม่คุ้ม จะปล่อยให้ตายก็ผิดจรรยาบรรณ จ่ายร่วมน่ะดีแล้ว
การเอาเงินมารักษาคนจนมันไม่คุ้มว่ะ เพราะคนพวกนี้ไม่ได้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอะไรให้สังคมเลย
แล้วก็พวกที่เรียกร้องให้เรียนฟรี 12 ปี
พอตอนรัฐจ่ายก็บอกว่าใช้งบเยอะ การเรียนการสอนไม่ดีอีก
เมืองนอกเขาจัดระบบสวัสดิการดีๆได้ เพราะประชาชนเขามีคุณภาพและ productive รัฐเก็บภาษีได้เยอะ
คนไทยมีแต่จะเอาอย่างเดียว
เรียนฟรีแล้วไง คนส่วนใหญ่แม่งไม่สนใจเรียนกัน ขนาดมหาลัยที่เสียเงินเรียน ยังแค่ไปหาผัวหาเมีย เด็กจบมาด้อยคุณภาพสุดๆ
คนไทยอยากได้แบบประเทศเจริญแล้ว แต่พฤติกรรมตัวเองยังดักดารอยู่แต่ชนชั้น3
แล้วมันจะเจริญได้เยี่ยงไร
เพราะคนไทยคิดแค่ว่าเจริญคือมีของดีราคาแพง แต่ไม่เคยคิดว่าคำว่าเจริญคือการทำตัวเจริญแล้วไงละ
>>38 +1 สำหรับวงการแพทย์ พวกหอคอยงาช้างที่วันๆเอาแต่นั่งประชุมไม่รู้ห่าเหวอะไรเสือกจะให้ระบบสาธารณสุขไทยเป็นแบบต่างประเทศ แต่มึงดูนิสัยคนไทยก่อนนนนน ความรู้สุขภาพเบื้องต้นก็ไม่มี คนที่เดือนร้อนจริงๆกูบอกเลยว่าไม่ไช่หมอ ถ้าทำจริงๆแพทย์จะสบายไปสิบเท่าแต่คนไข้ละสิมึงเอ้ยยย บันเทิงเลยทีนี้ เดี๋ยวหมอผียาลูกกลอนก็จะกลับมาบูมใหม่เพราะเร็วกว่าไปรพ.
>>32 รพ.เป็นหนี้ แพทย์บางทีต้องเอาเงินมาโปะเอง ยิ่งจบปุ๊บเป็นผอ.ปั๊บนี่โคตรซวย
“ผมจะบอกทุกวงที่เข้ามาเล่นที่ร้านว่า เพลงตลาดไม่ต้องเล่น แต่ถ้าลูกค้าขอ… ค่อยเล่น”
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
Pure genius! Must Read!
One of the richest and most powerful men in Brazil, Thane Chiquinho Scarpa, made waves when he announced plans to bury his million-dollar Bentley, so he could drive around his afterlife in style. He received lots of media attention, mostly negative and was severely criticized for the extravagant gesture and wasting of a precious commodity. Why wouldn’t he donate the car to charity? How out of touch with reality is this guy? He still went ahead with the ceremony.
But, there’s a twist. (Of course there is. Why else would this story be covered ?)
Moments before lowering the car in the ground prepared for the burial of his Bentley,he declared that he wouldn't bury his car and then revealed his genuine motive for the drama: Just to create awareness for organ donation.
“People condemn me because I wanted to bury a million dollar Bentley, in fact most people bury something a lot more valuable than my car,” Scarpa said during a speech at the ceremony. “They bury hearts, livers, lungs, eyes, kidneys. This is absurd. So many people waiting for a transplant and you bury your healthy organs that could save so many lives!”
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ก็เหี้ยยิ่งกว่ากูอีก ถถถ
"โรคซึมเศร้าไม่ใช่โรคจิต"
ความเข้าใจผิดอย่างนึงของโรคซึมเศร้าคือมีคนจำนวนมากคิดว่าซึมเศร้าเป็นโรคจิต ซึ่งภาพพจน์ของโรคจิตคือพวกขโมยกางเกงใน ฆ่าหั่นศพ ฯลฯ ทำให้คนไม่ค่อยยอมรับว่าตัวเองเป็นกัน กลัวตัวเอง กลัวคนรอบข้างรู้สึกไม่ดีหรือจะอะไรก็ตาม ซึ่งความเข้าใจตรงนี้ต้องบอกว่า "ผิดถนัด" ไม่ใช่เลย "ซึมเศร้าไม่ใช่โรคจิต(เฟร้ย)"
ความจริงแล้วเป็นความยากในการใช้คำในภาษาไทยหละจนทำให้คนเข้าใจผิดกันหมด ความจริงแล้วกลุ่มอาการผู้มีปัญหาทางจิตใจเราเรียกว่า "จิตเวช (Psychiatry)"
ซึ่งจิตเวชนี้มีอาการอยู่หลากหลายมาก ที่รู้จักกันเยอะพอสมควรแล้วทุกวันนี้คือ "ซึมเศร้า (Depression)" และ "โรคอารมณ์สองขั้ว (Bipolar Disorder)" อย่างแรกที่ควรรู้คือสองอย่างนี้ไม่เหมือนกัน แต่ไม่ลงรายละเอียดละกัน
และกลุ่มอาการจิตเวชก็มีอีกหลายโรค อันนึงมีชื่อว่า จิตเภท (Schizophrenia) อันนี้แหละที่เรียกว่า "โรคจิต" ดมกางเกงใน ประสาทหลอน ฯลฯ มีประชากรโลกเป็นอาการนี้อยู่ประมาณ 1% เป็นมากเป็นน้อยก็แล้วแต่คนไป
ซึ่งคำมันก็ช่างคล้ายกันเหลือเกิน จิตเวช จิตเภทและก็โรคจิต ไม่แปลกใจที่สับสนกัน แต่ถึงเวลาที่ควรต้องทำความเข้าใจแล้น
ดังนั้น "ซึมเศร้าไม่ใช่โรคจิตนะ" แต่เป็น "โรคจิตเวช" มันอยู่ในคนละวงกลมกัน จากนี้เรียกให้ถูก คนจะได้ไม่กลัวมัน ทุกคนมีโอกาสเป็นได้หมดและก็หายได้ดั๊วะ ป่วยก็ไปหาหมออออ :)
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
"ตะกี้เจอความจังไรของช่องไบรท์ทีวีด้วยการทดสอบแรงลมบนสะพานขณะรถวิ่ง ด้วยการถือกระดาษออกไปนอกตัวรถขณะรถวิ่ง พลันลมก็พัดกระดาษไป
"ขณะรถวิ่งแรงลมจะเพิ่มเท่าทวีคูณ" คนทำสกู๊ปกล่าวทำนองนี้
ไอ้สัส ไม่มีการวัดค่าอะไรทั้งสิ้น แถมมึงทิ้งขยะบนถนนแบบนี้ด้วย ควยจริงๆ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
1
ผมอ่าน ลับลวงพราง เป็นครั้งแรกเมื่ออายุ 25 เพราะผมได้ยินลุงคนนึงพูดว่า "เกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา จะรู้เรื่องประชาธิปไตยได้ยังไง"
หยิ่งผยอง ผมเสียหน้า
ผมอยากคุยกับแกสักสองสามประโยค แต่ลูกน้องแกกันออกมา ผมหันไปถามเพื่อน "ลุงคนนั้นใครว่ะ ดุฉิบหาย" ดนตรีขอเวลาอีกไม่นานกระหึ่มเป็นฉากหลัง
เพื่อนบอกไม่รู้เหมือนกัน แต่ดูท่าจะเป็นคนใหญ่คนโต ลุงสวมเสื้ออย่าให้คนโกงมีที่ยืนในสังคม ส่วนลูกน้องแกที่มีข่าวโกงเงินทำสวนแล้วเอาไปบริจาค นั่งอยู่ข้างๆ ย้อนแย้งสิ้นดี ผมมองหน้า เสี้ยววินาทีนั้นเหมือนลุงสังเกตได้ว่าผมกำลังมองแก แกชี้นิ้วมาทางผมด้วยท่าทีฉุนเฉียวตามสไตล์ อุทานเสียงดังลั่นห้อง ปัดโธ่!!
2
ผมพบลุงแกอีกครั้งในรายการทีวี คืนวันสุขหรืออะไรสุขๆสักอย่างประมาณนั้น ผมจำไม่ได้เพราะไม่ได้ใส่ใจ ลุงแกบ่นด้วยอาการน้อยใจว่าคนสนใจแกน้อยกว่าเด็กแวนซ์ ผมคิดในใจว่าเป็นความผิดของพวกเรารึเปล่าน่ะที่ไม่ได้สนใจแก หรือความผิดของแกที่ทำให้เราสนใจไม่ได้ทั้งที่ใช้งบประชาสัมพันธ์อย่างมหาศาล
3
ผมเจอลุงแกอีกครั้งนึงที่งานอะไรสักอย่าง ทั้งที่ไม่รู้ว่าไปทำไม ผมยอมรับว่าลืมลุงแกไปแล้ว แต่แกดันยืนอยู่ที่นั่น
ผมเริ่มประโยคแรก "ผมอ่านหนังสือการปกครองประเทศจีนตามที่ลุงเคยแนะนำให้อ่านแล้ว"
ลุงบอก "ผมเคยแนะนำไปตอนไหนเหรอ"
เหมือนโดนทุ่มด้วยโพเดี้ยม ผมหลบไม่ทัน อะไรว่ะ ลุงคนนี้
"ลุงทำงานอะไร" ผมอยากรู้จริงๆ "เป็นยาม เป็นกุ๊ย หรือ เป็นนักเลงหัวไม้"
ลุงตอบ "ผมไม่ได้เป็นสักอย่าง"
ผมควรจะตัดบทแล้วไปคุยกับคนอื่นใช่ไหม แต่ไม่ว่ะ ไม่ใช่กับครั้งนี้ ผมคิดหัวข้อสนทนาใหม่ในทันที "ตอนนี้หน้าร้อนแล้ว มะนาวแพงมาก ผมควรปลูกมะนาวกินเองใช่ไหม"
ได้ผล ตาลุงแกเป็นประกาย "ฉันชอบวิธีแก้ปัญหาของคุณ"
4
ผมได้เป็นเพื่อนลุงในที่สุด อันที่จริงลุงแกมาขอเป็นเพื่อนผมเอง เพราะอยากเชิญเข้ากลุ่ม คณะปะติดรูป อะไรสักอย่าง ชื่อมันดูเหมือนเป็นงานศิลปะ ผมเลยเข้ากลุ่มไปเพราะนึกว่าทำงานศิลปะ จากนั้นทุกอย่างก็ดูไม่ปกติ
อาจเป็นเพราะผมควบคุมลุงแกไม่ได้ และลุงแกก็ไม่คิดที่จะควบคุมตัวเอง
เหมือนเราทำให้ทุกอย่างอยู่ในภาวะสุญญากาศร่วมกัน
มีบางครั้งที่เราเหมือนจะทำให้ทุกอย่างคืบหน้า แต่ผ่านมาสองปีแล้ว ก็พบว่าไม่มีอะไรคืบหน้าเลยสักอย่างเดียว
5
ผมเริ่มถามตัวเองว่า ทำไมเราต้องทนลุงคนนี้ เรากำลังทำอะไรอยู่ เรามากันถูกทางไหม ผมเริ่มเฟดตัวเองออกห่าง มีเพียงสายสัมพันธ์บางๆที่เชื่อมเราไว้
6
กลางดึกคืนหนึ่ง ลุงแกโทรมาหาผมเล่าให้ฟังว่าพึ่งฝากหลานเข้าโรงเรียนประถมไป
ผมถาม "ฝากโดยไม่ต้องสอบ ทำแบบนั้นได้ไง"
ลุงเงียบสักพักก่อนตอบ "นี่อำนาจผม ใครๆก็ทำกัน" แล้ววางหูไป
7
คิดดูแล้ว
นักบินอวกาศเป็นแบบนี้ใช่ไหม
หลังจากกลับจากภารกิจในอวกาศ
เค้าก็มักไม่ได้อยู่ในโลกเดียวกะเราอีกต่อไป
จาก สหายคิม ณ เปียงยาง
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.