กูก็ไม่อะไรนะแต่อยากเล่าเรื่องมุสลิมภาคใต้ให้ฟังจากประสบการณ์คือ. พี่กูไปทำงานภาคใต้หลายปีแล้วเขาเล่าให้ฟังว่า พวกมุสลิมในพื้นที่ห่างไกล มันชอบปิดตัวเองแบบ รัฐให้ไปเรียนรวมกันก็ไม่ไป ส่งเรียนศาสนาแถวบ้าน โอกาสทำงายดีดีก็ไม่มี โอกาสเรียนรู้กับคนต่างศาสนาก็ไม่มี แล้วพฤติกรรมแบบไม่สนใจชาวโลกจะเยอะมาก แบบเข้าไปในห้างนั่งแช่เช้า-เย็น เอากับข้าว ลำไยไปแดก แล้วทิ้งเปลือกไว้เป็นกองๆ เดินไปถุยน้ำลายข้างทาง เข้าห้องน้ำไม่กดน้ำ แกงเขียวหวาน กรีดยางตื่นเช้าตีสี่ หกโมงเช้าแม่งนอนแล้ว งานอื่นให้ผู้หญิงทำ. แล้วถ้าเสียโอกาสอะไรในชีวิตก็มีประโยคเด็ด “รัฐไม่ช่วยอะไรมัน“ ซึ่งคนเมืองแบบพี่กูที่เดินทาง400กม.ทุกเดือน ตื่นตีห้าเลิกห้าโมงทุกวัน บอกว่า ไม่ใช่รัฐไม่ช่วยหรอก พวกมึงเองนั่นแหล่ะไม่พัฒนา.
ตอนนี้พวกมึงก็ดูเอาแล้วกันว่าถ้าเทคโนโลยีใหม่เกิด ปลูกหญ้าใช้แทนยางพาราใช้ได้เมื่อไหร่พวกเหี้ยกรีดยางมันจะบ่นไหมว่ารัฐไม่ช่วยมัน. คือพวกแม่งเองนั่นแหล่ะอยู่ในกะลามาตั้งนาน