กูจากกทม.มานานมากละ เดี๋ยวนี้เลนเฉพาะสำหรับรถประจำทางยังมีอยู่มั้ย
คิดว่าระบบนี้มันจะมีทางทำให้ประสบความสำเร็จกับกทม.ได้มั้ย ถ้าไม่ เป็นเพราะอะไร
ถ้าเมืองใหญ่ในต่างจังหวัดจะนำไปใช้โดยที่เมืองยังไม่ยุ่งเหยิงมากเท่าจะมีโอกาสสำเร็จมั้ย
Last posted
Total of 195 posts
กูจากกทม.มานานมากละ เดี๋ยวนี้เลนเฉพาะสำหรับรถประจำทางยังมีอยู่มั้ย
คิดว่าระบบนี้มันจะมีทางทำให้ประสบความสำเร็จกับกทม.ได้มั้ย ถ้าไม่ เป็นเพราะอะไร
ถ้าเมืองใหญ่ในต่างจังหวัดจะนำไปใช้โดยที่เมืองยังไม่ยุ่งเหยิงมากเท่าจะมีโอกาสสำเร็จมั้ย
แทนที่จะลดราคารถไฟฟ้าเป็นเป็น 20 บาทตลอดสาย กูอยากให้เพิ่มจำนวนรถมากกว่าว่ะ มาถี่ๆไม่ต้องรอนาน
>>1 เลนสำหรับรถเมล์
เหมือนจะได้ข้อสรุปแล้วว่าไม่ช่วยแก้ปัญหารถติด
เพราะวิ่งไปถนนเส้นอื่นก็ไม่มีเลนรถเมล์ล่ะก็กลับมาช้าอยู่ดี
เอาแค่หน้าสยาม-พารากอน,สุขุมวิทบางช่วง ก็ได้ เคยเป็นเลนรถเมล์ตอนนี้มีแต่รถจะเข้าห้างเข้าโรงแรมเลยขอไช้ด้วย
ปัญหารถติด 80-90% มาจากวินัยจราจรประชากรไทยเข้าขั้นตรรกะวิบัติ อย่างหน้าห้างดังหรือเขตประชากรเยอะๆ ต้องมีรถ Taxi จอดแดกเลนไปฟรีๆ จนถนนเกิดคอขวดแล้วรถก็ติดยาว
ขับเปลี่ยนเลน แทรกแซงไปมา จนการจราจรลื่นไหลของรถสะดุดเพราะต้องคอยเบรกระวังชนทุกระยะ ทำให้ข้างหลังเบรกจนรถติดสะสมยาวๆ
จราจรทำหน้าที่แบบขอไปที พอจะทำก็เหมือนมาไถ่เงิน ไฟแดงที่เปิดปิดไม่ดูบริบทสภาพการจราจรและไม่มีการสื่อสารกับแยกเส้นข้างเคียง
ฯลฯ
>>6 มันผิดตั้งแต่การเข้าถึงและใช้รถง่ายแล้ว ใบขับขี่สอบง่าย รถก็ส่งเสริมการผ่อนไปสิ ฟรีดาวน์ ดาวน์ต่ำ มีกระทั่งติดบูโรก็ผ่อนได้ แถมผังเมืองยังไม่มี ที่ไหนๆ เขาก็เน้น compact city กัน ไม่ใช่ปล่อยชุมชนขยายเป็นเส้นเลือดฝอยมั่วๆ ตามใจฉัน แบบนี้ขนส่งมวลชนที่ไหนก็ไม่พอ ผลคือคนก็ต้องซื้อรถกัน มาดูการตั้งร้านค้า ก็ไม่เคยบังคับจริงจังว่าต้องมีที่จอด ซื้อรถก็ไม่ต้องมีที่จอด เลนซ้ายก็เลยกลายเป็นที่จอดรถไปเลยไงล่ะ ประเทศนี้เกินเยียวยาแล้ว ทำใจอย่างเดียว
>>8
ทหารถ้าเข้ามาแบบไม่กะสืบทอดอำนาจมันก็ย่อมทำอะไรเด็ดขาดไม่ต้องสนคะแนนเสียงได้
แต่ในเมื่อมันเข้ามาแบบกะสืบทอดอำนาจแต่แรกมึงก็ฝันไปเถอะ ต่อให้ได้เป็นอีกสิบสมัยมันก็ไม่ทำ
กูเคยผูดไว้ที่อื่นแล้วว่ามาแบบทหารบ้านเรามันรวมข้อเสียของทั้งประชาธิปไตยและเผด็จการไว้ด้วยกัน แต่ไร้ซึ่งข้อดีของทั้งสองอย่าง
อวยยศเพื่อหวังลาภ หรือเป็นใหญ่เพื่อทำคุณ
ใครเชื่อว่าทหารไทยคืออย่างหลังนี่คงกู่ไม่กลับแล้ว
ขับรถใน กทม ยิ่งหน้าด้านเท่าไหร่ ยิ่งไปได้เร็ว
ว่าแต่รถเมล์เดี่ยวนี้เป็นไงบ้างวะ รถเก่าๆนี่ถูกแทนที่ด้วยรถเมล์ไฟฟ้าไปแล้วสักกี่%
>>14 ไม่รู้กี่ % แต่กูแว้นมอไซค์ใน กทม. เจอรถเมล์ใหม่มากขึ้นนะ ทั้ง EV ทั้ง NGV รถควันดำแม่งเหลือแต่รถแดง ขสมก.แค่นั้นละ แต่ปัญหาคือ ตอนนี้มีกลุ่มจะไปฟ้องศาลปกครอง บอกนโยบายปฏิรูปรถเมล์รังแกคนจนเพราะไปกำหนดว่าไม่ให้มีรถร้อน ต้องยอมรับว่ะว่ารถแอร์นั่งสบายจริง ตัวรถก็ใหม่ แต่ราคาก็แพงขึ้น หลายๆ คนก็เลยยังอยากได้รถร้อนกัน ว่าแต่รถร้อนทำ EV หรือ NGV แบบใหม่ๆ ได้ปะวะ
>>6
เลนรถเมล์ ถ้าทำได้สำเร็จมันก็จะไปไหนมาไหนได้เร็วเหมือนมีรถไฟฟ้าเลยนะ โดยไม่ต้องก่อสร้างอะไรที่แพงและยุ่งยาก ใช้แค่ถนนธรรมดา
แต่จากผังเมืองและนิสัยคนไทยมันคงเป็นไปไม่ได้สินะ
ว่าไปกูก็งงกับตรรกะนักเลือกตั้งไทยเหมือนกัน ไม่เคยกล้างัดกับคนส่วนน้อยอย่าง taxi หรือขายของทางเท้า แม่ค้าตลาดเถื่อน ฯลฯ
ทั้งที่ทำแล้วอาจจะได้เสียงคนส่วนใหญ่
>>16 คนพวกนี้คือคนส่วนใหญ่นะมึง รายงานสำนักงานสถิติออกทุกปี คนไทยที่ทำงานอยู่มีประมาณ 38-39 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นแรงงานนอกระบบแล้ว 20-21 ล้านคน ในระบบ 18-19 ล้านคน พวกนอกระบบนี่เยอะสุดคือเกษตรกร (กดไปแล้ว 10 ล้านคน) รองลงมาก็ค้าขาย แต่พวกแท็กซี่-วิน พวกนี้ก็นอกระบบเหมือนกัน แล้วเอาจริงๆ พวกนอกระบบแม่งก็เชื่อมในระบบอีก อย่างเกษตรกรนี่คือกลับไปบ้านแค่ช่วงปลูกกับช่วงเก็บ นอกนั้นมา กทม. ขายของบ้าง ขับแท็กซี่บ้าง
นักการเมืองรู้ข้อนี้ ถึงได้มีแต่นโยบายอุ้มพวกนี้ไง ป่าเสื่อมโทรมแทนที่จะฟื้นฟู (ไม่..เราเอามาจัดเป็นที่ดินทำเกษตร) ทางเท้าแทนที่จะห้ามขายของ (ไม่..จุดไหนที่พอแบ่งกันได้ก็ออกกฎหมายเปิดจุดผ่อนผันเลย) ภาคเกษตร GDP ต่ำ แทนที่จะลดจำนวนคนลง (ไม่..เรามีนโยบายอุุดหนุนราคาสินค้า ไม่ประกันก็จำนำ) แล้ว 20 ล้านคนนี้แทบไม่มีใครเข้าระบบ ภงด. เลย แค่ทำตัวเซอร์ๆ หน่อยก็ถูกเหมารวมเป็นคนจน ได้อานิสงส์รัฐอุ้มกันหมด ทั้งที่บางคนรายได้ดีกว่า พนง.ออฟฟิศที่ถูกหัก ภงด. แบบเลี่ยงไม่ได้สักบาทอีก
>>17
ที่ช้ำใจสุดคือสปก.ว่ะ มันเคยมีที่ได้กลับคืนเป็นพื้นที่ป่าพื้นที่สงวนมั้ย
หรือที่ออกสปก.มานี่คือเป็นถนนทางเดียวไปสู่การเป็นที่ดินเอกชน
เท่านี้ยังภัยธรรมชาติน้ำท่วมฝนแล้งบ่อยไม่พอเหรอวะ
อีกไม่กี่ปีจำนวนประชากรไทยก็จะเริ่มลดแล้ว มันไม่มีความจำเป็นต้องเอาป่ามาทำเป็นที่ทำกินเพิ่มแล้ว
>>19 สปก. ออกแล้วก็ไม่เคยกลับเป็นพื้นที่ป่านะ อย่างที่กูตอบใน >>17 คือเอามาทำเกษตร และขายไม่ได้ ถ้าถูกจี้ตรวจเจอก็โดนยึดคืน ใช้ผิดประเภทยังไม่ได้เลย ตอนตู่ รปห. ถึงมีดราม่าภูทับเบิกไง ตู่สั่งรื้อรีสอร์ทหมด ต่อให้ไม่ได้รุกที่เพิ่ม และคนถือสิทธิ์ใช้ที่เองไม่ได้ขายให้ใคร เพราะถือว่าใช้ผิดประเภท เขาให้ทำเกษตรพวกเอาไปทำรีสอร์ท-โฮมสเตย์ พอมายุคเลือกตั้ง ธรรมนัสสายป้อมตอนเป็นรัฐมนตรีช่วยเกษตร ถึงอยากดันแก้ กม. ให้ใช้ที่ดิน สปก. ทำอย่างอื่นนอกเหนือเกษตรได้ ก็จะเอาใจนี่แหละ
>>21
ที่พัฒนาเนื้อๆคือสมัยไทยรักไทยต่างหาก ก่อนทหารจะเข้ามายุ่งแล้วทำทุกอย่างเละยาวมายี่สิบปี
แม้แต่ย้อนกลับไปสมัยชาติชายที่ถูกว่าโกงกันมากเป็นบุปเฟ่ต์คาบิเน็ต กาลเวลาก็พิสูจน์แล้วว่าทำเจริญและเติบโตกว่าทหารที่มายึดอำนาจไป
ยังไม่ต้องนับว่าแค่มีรัฐประหารเกิดขึ้นที ความเสียหายก็เกิดขึ้นเป็นหลักล้านล้านบาทแล้วจากตัวการรัฐประหารอย่างเดียว
ไม่อ่ะ ไทยรักไทยมันก็เอาปชป.มารับช่วงแล้วเคลมเป็นของตัวเอง
ไอ้ที่เละๆแบบ หมู่บ้านละล้าน โอทอป(มีไปเช่าที่ นิวยอร์กแล้วเจ๊งอีก) บัตรอีลิทใบละล้าน ควายเซ็นเตอร์ ฯลฯ
ถ้าพูดถึงกระทู้ สมัยเป็นคมนาคม ก็ขี้โม้
หกเดือกแก้ปัญหาจราจร ไม่ได้จะลาออก แล้วก็ได้ป้ายวลีเฉิ่มๆมาตั้งข้างถนนอยู่ช่วง
แถมนั่งแช่จนบรรหารยุบสภาเอง
ก่อนยุคโทนี่ : การพัฒนาเน้น Infra แล้วปล่อยให้คนดิ้นรนกันเอง สนับสนุนทุนใหญ่ทั้งในและต่างชาติขยายตัวด้วยเชื่อว่าจะทำให้คนมีงานทำ
การมาของโทนี่ : เน้นการอัดงบลงไปช่วยคนฐานราก ตั้งแต่ 30 บาท , กองทุนหมู่บ้าน , OTOP
โทนี่จึงเป็นศาสดา เป็นเทพของชาวรากหญ้า และเป็นการเปิดยุคสมัยที่ทุกพรรคการเมืองต้องเอาใจคนจน (แต่ก่อนหน้าโทนี่ นักการเมืองที่เป็นเชฟด้วยอย่างสมัคร สุนทรเวช ตอนเป็นผู้ว่าฯ กทม. ก็หาเสียงจะเอาแผงลอยขึ้นมาบนดิน นั่นทำให้สมัคร คือคนคนแรกที่ได้เกิน 1 ล้านเสียง)
>>24 โทนี่ ไม่ได้พัฒนา infra เหี้ยอะไรเลยคับ ไอ้ที่เห็นก่อนที่ ตู่ จะมาคือเกาะบุญเก่ายุค สลิด เปรม น้าชาติ นู่นเลย ชวน มาทำต่ออีกนิดหน่อย ไอ้เหี้ยแม้ว กับนักเสดสัตว์สายปั่นแม่งมาทำการตลาดกับเคลมผลงานคนอื่นอย่างเดียว มีแอบเนียนเอา คอมมี่ มาหวังกะจะเปลี่ยนแปลงการปกครองด้วย ไอ้นโยบายประชานอยมคอมมี่ซ้ายจ๋าของแม่งนี่ไงที่ทำให้ทุกคนปวดหัวยันทุกนี้ นี่ล่ะผลงานจริงๆของมัน ไอ้พรรคแดงมันก็แค่คอมมิวนิสแอ๊บแบ๊ว ถุ๊ย
เจอ เทศล่า auto แช่ขวา 8-90 แล้วหงุดหงิดสาส
>>30 บ้านเรานี่การขับรถโคตรแปลก
- ขับชิลๆ เลนกลางยันเลนขวา พอใครทำท่าจะแซงหรือกดไฟขอทางเปลี่ยนเลนเพื่อเลี้ยว-กลับรถ พวกเร่งมาปิดทางทันที
- เลนซ้าย ปกติตามหลักต้องระวังรถออกจากซอยถึงจะบอกว่าทางตรงเป็นทางเอก แต่จะมีพวกขับเร็วไม่สนโลก ใครชะลอมีบีบแตรไล่อีก ส่วนพวกในซอยจะออกมา ก็มีพวกชอบพรวดออกมาแบบวัดใจ มึงกล้าชนกูปะละไรแบบนี้
ตอนแรกว่าจะด่ากับจะทึบ
พอซูมดูดีๆ ไอ้มอเตอร์ไซต์มันชักอะไรมาถือมือซ้ายวะ
กระบะทึบมองกระจกข้าง คงเห็นเลยหักพวงมาลัยตบแม่งเลยดีกว่าโดนยิงตาย
https://fb.watch/nP2WMjQkLn/?mibextid=NnVzG8&startTimeMs=1818
>>33 อาชญากรรมใน SEA โดยรวมถือว่าน้อยสำหรับประเทศโลกที่ 3 ลองเทียบกับยุโรปโลกที่ 1 ที่เถื่อนกว่าเรา เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน โปรตุเกส พวกนี้แม่งเล็งนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย ระดับที่แม้แต่มึงขับรถก็ยังไม่ปลอดภัยอะ
ส่วนเรื่องท้องถนนนี่แล้วแต่ประเทศ อย่างเกาหลีใต้ก็จัดว่าโหดสำหรับประเทศโลกที่ 1
>>34 ในสายตาคนไทยไปเที่ยว SEA บอกไทยเนี่ยปลอดภัยสุดๆ ละ ถึงจะรำคาญแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร แต่โอกาสเจอปล้น จี้ วิ่งราว น้อยมากเมื่อเทียบกับปินส์หรืออินโดฯ หรือพวกล้วงกระเป๋าจะน้อยกว่าเขมร-เวียด ส่วนลาวนี่มันมีปมอะไรวะ พอรู้ว่าเป็นคนไทยจะหาทางดูดเงินแบบฟันหัวแบะให้ได้มากที่สุด
>>35 เขมร ลาว = เมืองขึ้นเวียดนาม ตระกูลฮุน = คนเวียดนาม พรรคลัดลาว = ลุกครึ่งลาวแกว ทั้งสองค่ายคือคนที่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามส่งไปปกครองดินแดนที่ตัวเองยึดได้ ประวัติศาสตร์ของลาว-เขมรหลังจากโดนคอมมิวนิสต์ตีแตก = ประวัติศาสตร์ปลอมทั้งดุ้นที่เขียนโดยเวียดนามโดยมีแม่แบบคือประวัติเฟคๆที่ฝรั่งเศสมันเขียนตอนที่ยึดลาวกับเขมรได้เป็นการเขียนปวศแบบจงใจปั่นให้ ลาว-เขมร มีปัญหาขัดแย้งกับ ไทย เพื่อที่จะได้ยึด ไทย ให้เป็นคอมฯ
สายสีชมพู สีแดงเสร็จเมื่อไร กุจะไปดูคอนอิมแพค
ลาวแม่งกากสัส ข้าวไข่เจียวขายแพงชิบหาย ฟันเงินเยอะ
ข้าวไข่เจียวแม่งแบบ กุทอดเองยังอร่อยกว่าอะ
ประเทศเชี่ยนี่ ล่มไปได้ละ จะดูดเงินอย่างเดียว
>>33 ที่แน่ๆ เวียดนามส่วนใหญ่ขับกันช้ากว่าไทยเยอะ ถึงมันจะดูวุ่นวายไร้จะเบียบก็เถอะ
แล้วไทยนี่หลายคนแม่งสวมวิญญาณนักซิ่ง แบบอยากให้ถนนทุกสายเป็นออโต้บาน หรือไม่ก็คิดว่าว่าต้องยกเลิกจำกัดความเร็วเพื่อแก้ปัญหารถติด แต่เสือกบอกว่ารถซุปเปอร์คาร์-รถไฟฟ้าแรงๆเป็นอันตราย
https://eeco.or.th/th/smart-city
https://www.eeco.or.th/web-upload/filecenter/eec-new-city/eec-new-city-004.pdf
เออเมืองไทยผังเมืองมันกากไม่เป็นระเบียบอุบัติเหตุเลยเยอะ
รอเมืองใหม่ EEC นี่คือสิ่งที่ประเทศไทยรอคอยมานานในที่สุดประเทศไทยก็จะมีเมืองที่มีผังเมืองที่เป็นระเบียบสักที นักปั่นจักรยานจะได้ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เตรียมพร้อมยกระดับประเทศไทยสู่สากล
>>42 แม้แต่เผด็จการไทยก็รู้เรื่องนี้นะ คนไทยถ้าอัดประชานิยม ทำให้อยู่สบายๆ ชิลๆ ก็ไม่ต่อต้าน อย่างทศวรรษ 2500 เผด็จการลากยาว 10 ปี แล้ววากันว่า 14 ตุลา มันตรงกับปี 1973 ปีที่โลกเจอวิกฤติราคาน้ำมันพอดี ก็เป็นคราวซวยของทหารไป อย่าง รปห.49 คนทั่วไปที่ไม่ใช่ติ่งแดงก็เฉยๆ เพราะไม่ได้ยุ่งกับการทำมาหากินของชาวบ้านเหมือน รปห.57 รากหญ้าถึงเกลียดตู่ชิบหายจากการจัดระเบียบสารพัดอย่าง สุดท้ายก็ไม่กล้าดันห้ามนั่งกระบะ เพราะตอนนั้นแม้แต่ชนชั้นกลางก็เดือดกับเขาด้วย คนไทยส่วนใหญ่ใช้กระบะมากกว่าเก๋งน่ะมึง มีแต่ กทม. ม้้งที่ยอดจนทะเบียนรถเก๋งเยอะกว่า ส่วน ปชต. น่ะหรอ นักการเมืองไม่กล้าเข้มงวดหรอก มันเสียคะแนนเสียง
>>43 นอกจากเมืองใหม่แบบนี้ ก็จะมีพวก จว. เล็กๆ ที่ยังไม่บูมน่ะที่ควรทำ เพราะเมืองที่โตไปแล้วมันทำอะไรไม่ได้แล้ว ยิ่ง กทม. เกินเยียวยา ต้องลง Nuke อย่างเดียว (อินโดฯ ยังไปตั้งเมืองใหม่เลย จาการ์ต้ามันก็เละเกินแล้ว)
สนามบินเสียมเรียบอังกอร์นี่ ของเก่ามันเต็มความจุแล้วเหรอวะถึงต้องสร้างอันใหม่ขึ้นมา ไกลก็ไกล
รึว่าเห็นช้างขี้ๆตามช้างเฉยๆ
แบบสถานีรถไฟความเร็วสูงสายอีสาน มันคือวัดชัดๆ แล้วแมร่งครอบรางไปด้วยห่วยแตกสัส ใครออกแบบวะกูว่าแกล้งปะวะดูยังไงก็ทุเรศมาก ที่แปลกคือไม่มีคนไทยประท้วงเลย
การใช้ ev กับการใช้ biofuel อย่างไหนถนอมสิ่งแวดล้อมมากกว่ากันวะ
แล้วจะเกิดอะไรกับอุตสาหกรรม biofuel ในอนาคต จะถูก ev ฆ่าตายสนิทเลยมั้ย
ขยะอิเล็กทรอนิกส์กับประเทศที่กฎหมายสิ่งแวดล้อมเข้มๆ มันจะรีไซเคิลไม่ได้เลยเพราะต้นทุนสูงมาก ต้องส่งไปประเทศโลกที่สามอย่างเดียว เพราะประเทศพวกนี้มันสามารถเทกรด/สารเคมีที่ใช้ในกระบวนการรีไซเคิลทิ้งลงท่อน้ำได้เลย ไม่ต้องมีต้นทุนในการกำจัดสารพวกนี้อีกต่อ
https://www.youtube.com/watch?v=XXzAvP86TxY
https://www.youtube.com/watch?v=jkAJUk1eeg0
Centennial Engery Thailand ใครรู้จักบริษัทนี้บ้าง
กูเข้าใจมาตลอดว่าการเอาชนะความเคยชินเป็นเรื่องยาก ค่ายรถเลยไม่สนที่จะผลิดรถที่ใช้ biofuel 100%
หรือแม้แต่รถ ngv ก็มาช้าและรู้สึกจะทำแต่รถใหญ่
แต่พอเป็น ev ทำใมคนยอมรับกันง่ายจังวะ
>>55
แบตเตอรีนี่ตัวทำลายสิ่งแวดล้อมเลย แล้วไฟที่จะมาชาร์จรถ ev ก็มาจากเชื้อเพลิงฟอสซิลซะเยอะ
มันแค่เปลี่ยนที่ปล่อยมลภาวะจากท่อไอเสียไปเป็นที่โรงไฟฟ้า
จริงๆกูจะไม่อะไรเลยถ้าไม่มีพวกบ้าบอขนาดจะดันให้แบนรถสันดาบ
ยุโรปนี่ครั้งที่แล้วก็โง่ลดพลังงานนิวเคลียร์และถ่านหินจนเกิดสงครามยูเครนไปละ มาวันนี้จะแบนรถสันดาบอีก โง่ซ้ำซ้อน
แต่ถ้าไทยเราบ้าจี้แบนรถสันดาบตามเขาไปด้วยนี่จะโง่หนักกว่า เพราะเรามีผลิตผลทางการเกษตรที่เอาไปทำ biofuel เพื่อความมั่นคงด้านพลังของตัวเองได้
>>56 พวกอวย ev มันไม่สนหรอก ขอแค่มลภาวะไม่ได้มาปล่อยที่มันก็แค่นั้น
แต่ยุโรปนี่เอ๋อจริง อย่างพวกบอกเมืองนั้นเมืองนี้แบนรถสันดาป แต่เอาเข้าจริงเขาแบนเฉพาะแถวย่านเมืองเก่าที่ถนนแคบๆกับย่านการค้าหรือสวนสาธารณะที่คนเดินหรือปั่นจักรยานกันเยอะๆ แล้วเขาแบนรวมไปถึง ev ด้วย แต่พวกรักษ์โลกเอามาเคลมเฉย
เรื่องที่คนยังไม่ค่อยรู้กันคือราคาแบตฯ นี่แหละ เปลี่ยนกันทีราคาครึ่งต่อครึ่งของรถใหม่ เทียบกับรถน้ำมัน ซื้อรถเก่ามาลงเครื่องใหม่ยังเหลือเงินไปทำสีเลย
ส่วน eu คือ ego ของมันเอง ตอนสร้างประชาคมก็ประกาศแต่แรรกว่าเน้น human rights และมุ่งรักษ์โลก เพื่อให้ตัวเองดีกว่าเผด็จการคอมมี่ และดีกว่า ปชต. ทุนนิยมที่เหลื่อมล้ำสูงแบบเมกา ดูการแบนสินค้าก็ได้นะ เมกาแบนแค่เรื่องค้ามนุษย์-แรงงานทาส แต่ eu แบนไปยันสิ่งแวดล้อม-สิทธิสัตว์
แนวคิดรักษ์โลกบางลัทธิใน EU แม่งก็แปลกๆด้วย มันมีแบบที่ว่ามึงต้องปล่อยสวนในบ้านตัวเองให้รก ห้ามตัดหญ้า ห้ามกวาดใบไม้ จะได้เป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าอะ
ปั่นจักรยานไปทำงานดีกว่า
>>61
>>62
ส่วนตัวกูไม่อยากให้เหมารวมนะ ซ้าย-โวค-รักษ์โลก-วีแกน-blm-ฯลฯ มันไม่จำเป็นต้องมาเป็นแพ็คเกจ คนเรามีความหลากหลาย
เช่นเดียวกับ ขวา-ต่อต้านวิทยาศาสตร์/วัคซีน/หน้ากาก/ทำแท้ง-คลั่งศาสนา-เกลียดเกย์-ฯลฯ ก็ไม่จำเป็นต้องมาด้วยกัน
อย่างในหงสาจอมราชันย์ก็ว่าไว้ว่า "ผู้คนทั้งแผ่นดินย่อมคิดอ่านต่างกัน" บรรยากาศแบบ "us against them" มันมักเป็นการแบ่งแยกแล้วปกครองของชนชั้นอำนาจ
แล้วพฤติกรรมของกลุ่มสุดโต่ง ไม่ว่าฝ่ายไหน ก็มักไม่ใช่ตัวแทนที่แท้จริงของกลุ่มนั้น แค่มันเป็นข่าวเป็นจุดสนใจบ่อยกว่า
อย่างเรื่องวีแกน ประเทศที่มีคนกินวีแกนมากที่สุดก็ไม่ใช่ฝรั่งชาติไหนเลย แต่เป็นอินเดีย
>>64 จะไม่ให้ถ่มถุยให้แนวคิดหัวกะโปกอย่าง สังคังนิยม ได้ไงวะ? เอาง่ายๆแม้แต่ คอมมิวนิสต์ กับ นาซี ที่นักวิชาการน้ำว่าวทั่วโลกบอกว่าเป็นคนละขั้วจริงๆแล้วมันเป็น สังคมนิยม เหมือนกันแค่เอามาใช้ในต่างสังคมต่างชนเผ่าผลที่ได้เลยต่างกันแต่ล้างผลาญพอๆกัน พวกบ้านี่ถึงต้องพยายามแอ๊บแบ๊วบอกว่าตัวเองเป็น เสรีนิยม"ใหม่" อยู่นี่ไงเพราะของเดิมมันชื่อเน่าไปแล้ว แต่ต่อให้มาอีกกี่มุกก็เน่าอยู่ดีเพราะแก่นกลางมันยังคงเดิม
>>65 การกินเนื้อทำให้สมองหลั่งสารสื่อประสาทกลุ่ม anandamide ที่ทำให้รู้สึกสบายใจ คล้ายๆเวลาสูบกัญชา คนที่กินเนื้อเป็นประจำปริมาณค่อนข้างมากจะเสพติดสารสื่อประสาทกลุ่มนี้หน่อยๆ ถ้าหยุดกินเนื้อแบบหักดิบเกิน2สัปดาห์ จะออกอาการคล้ายๆลงแดง
กูก็เคยเป็น ตอนก่อนเข้าค่ายธรรมะดูสารคดีไอซ์แลนด์เห็นเมนูนกพัฟฟินแล้วสงสารนก ไปเข้าค่าย2สัปดาห์โดนบังคับกินเจ ออกมาโคตรอยากกินนกพัฟฟิน
ว่าไปการกินวีแกนแบบอินเดียที่เน้นการใช้เครื่องเทศนี่กูว่ามันดีกว่าแบบฝรั่งที่ใส่สารพัดสารเคมีเพื่อให้โปรตีนถั่วรสชาติออกมาคล้ายเนื้อจริงเยอะนะ
ไทยเราน่าจะไปศึกษาแล้วรับมาประยุกต์ทำขายในประเทศเรา เพราะกูว่าอาหารวีแกนในไทยมันยังค่อนข้างจำกัดอยู่
ถ้าไม่ใช่แบบช่วงเทศกาลกินเจหรือไปกินของชุมชนอโศกอะไรทำนองนั้น น่าจะถูกใจนักท่องเที่ยวทั้งฝรั่งและเอเชียใต้
ปั่นจักรยาน
มีแต่แนวคิดรักษ์โลกแบบยุโรปอะ ที่แบนรถยนต์ทุกชนิด (รวมถึง ev) เพื่อให้คนเดิน+ปั่นจักรยานสบายๆ แต่เอามาเคลมว่ารักษ์โลก แบนรถน้ำมัน
>>72 โซนเมืองเก่าที่ถนนแคบๆ หรือย่านการค้า แลนมาร์ก สวนสาธารณะที่คนเดินกับปั่นจักรยานเยอะๆ เขาก็ไม่ให้รถยนต์ทุกชนิดเข้าอยู่แล้ว ev ก็เข้าไม่ได้ แล้วเขาแบนแค่บางโซน ไม่ใช่ทั้งเมือง แต่พวกรักษ์โลกเอาไปบิดเบือนพูดแค่ว่าเมืองนี้แบนรถน้ำมัน รถน้ำมันเข้าไม่ได้
ส่วนฝั่งญี่ปุ่น ดูท่าทีแล้วเหมือนมันจะข้ามไปไฮโดรเจนเลย ตอนนี้มันก็เลยต้องยอมใช้รถสันดาปไปก่อน แต่เรื่องเครื่องไฮโดรเจนมันก็พัฒนาจริงจังมากนะ แต่ข่าวที่ไทยมันไม่เอามาเล่า แล้วบอกว่าเขาไม่พัฒนา ไม่ปรับตัว
ตามนั้น ให้เดิน ให้ปั่นจักรยาน มันก็รักษ์โลกนะ ดีต่อร่างกายด้วย แล้วห้ามรถยนต์ทุกชนิดเข้าเพื่อลดอุบัติเหตุ หรือเข้ามาจอดเกะกะ
แต่เสือกเอาไปพูดว่าแบนรถน้ำมัน อวย ev ทั้งๆที่ ev ก็เข้าไม่ได้
>>74
ไฮโดรเจนกูเข้าใจว่ามันค่อนข้างอันตรายนะ อาจระเบิดได้ง่ายๆ
การขนส่งไฮโดรเจนความสะดวกก็ไม่มีทางเท่าการส่งไฟฟ้าทางสายไฟ จึงสู้ ev ลำบาก
กับการผลิดไฮโดรเจนแทบทั้งหมดในปัจจุบันยังมาจากการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิลอยู่
ส่วนตัวกูแอบชอบ fuel cell นะ เพราะสะอาดจริง แต่คงต้องพัฒนาอีกเยอะถึงจะแข่งกับอย่างอื่นได้
ว่าด้วย ev
https://www.youtube.com/watch?v=zlRC4SsOr_s
Jeep CEO Shocking WARNING To All EV Car Makers!
>>76 fuel cell มันก็ไฮโดรเจนนี่แหละ แล้วชาเลนจ์ของมันคือเรื่องการผลิต เพราะถ้าจะผลิตให้คุ้มและถูกมันต้องเอาไปพ่วงกับโรงไฟฟ้า ดีไม่ดีเราอาจต้องหันกลับไปหานิวเคลียร์ ทั้งๆที่บางชาติเอ่ยปากจะแบน
แต่ในมุมมองผู้บริโภคคือมันไม่ต้องมีแบตลูกใหญ่ๆให้เป็นภาระเวลามันพัง แถมถังมันก็ไม่ได้ใหญ่เท่าพวกรถติดแก๊ส จะเสียเปรียบ ev อยู่อย่างเดียวคือต้องไปเติมที่ปั๊ม ในขณะที่ ev จอดชาร์จที่บ้านได้
>>77 EV มันมีปัญหาเรื่องแบตด้วยอ่ะ คำถามกูนะ แร่พวกนี้แม่งรีไซเคิลได้ไหมวะ? คือ เห็นยิ่งยอดขายเยอะ พวกRare earthนี่โดนขุุดกันมันส์ตามดีมานด์เลย สมมติว่าถ้าเกิดว่ามีการหาตัวเก็บประจุแบต เก็บเซลล์แบตที่ประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น หาสังเคราะห์ได้ง่ายกว่าเดิมเหมือนชิปซิลิคอนที่มาแทนพวกทรานซฺสเตอร์ได้ไรงี้เนี่ย มันเป็นไปได้ในระยะสิบปีนี้สำหรับรถEVได้ไหมวะ? หรือไม่งั้นก็แร่พวกนี้แหละแต่หาเทคมาบีบอัดให้เก็บได้มากกว่ารุ่นเก่าๆ เจ้าไหนพัฒนาตรงนี้เป็นพิเศษกว่านอกจากก้อปๆกันมามันมีป่ะวะ?
ส่วนรถไฮโดรเจนนะ เอาจริงๆเลยเวลาขนส่งนี่ปัญหาเยอะกว่าพวกแก๊สLPGอีกเลยเหรอวะ? อีกอันที่กูว่าเป็นปัจจัยที่เดี๋ยวก็ท้าทายรถพลังงานสายนี้อีกคือเวลาผลิตสารไฮโดรเจนอ่ะ มันสังเคราะห์ยังไงวะ? แล้วสารตั้งต้นที่เอามาทำให้ไฮโดรเจนใช้กับรถได้นี่แม่งก็หามาสังเคราะห์ยากด้วยไหมวะ? แล้วตั้งเชื้อเพลิงหาง่ายแต่ไม่เสถียรหว่ะ ละอีกเรื่องที่ทุกคนมองกันว่าน่ากลัวกว่ารถน้ำมันคือ รถไฮโดรเจนมันแบกเชื้อเพลิงที่เหมือนแบกระเบิดอยู่ข้างในด้วย
>>79
วิธีได้มาซึ่งไฮโดรเจน วิธีที่สะอาดคือการแยกน้ำด้วยไฟฟ้า จะได้ไฮโดรเจนกับออกซิเจนออกมา
ซึ่งสิ่งที่ fuel cell ใช้ก็คือไฮโดรเจนกับออกซิเจนนี่ล่ะ เอามารวมกันก็จะได้น้ำและพลังงานออกมา ไม่มีมลพิษ ไม่มีการสันดาบ
สรุปคือขอแค่มีน้ำกับไฟฟ้าก็ผลิตไฮโดรเจน(กับออกซิเจน)ได้ละ แต่ยังเสียเปรียบ ev ที่ใช้ไฟฟ้าได้เลย
ส่วนวิธีการอื่นๆก็ตามนี้
https://en.wikipedia.org/wiki/Hydrogen_production
electrolysis มันไม่คุ้มหรอก เอาไฟฟ้ามาผลิตไฮโดรเจน แล้วก็เอาไฮโดรเจนแปลงเป็นไฟฟ้ามาขับมอเตอร์อีกที
วิธีที่เขากำลังคิดอยู่ตอนนี้คือการผลิตโดยใช้ปฎิกิริยา sulfur-iodine ที่มันเป็นระบบปิด สารทำปฏิกิริยารีไซเคิลตัวเองในระบบได้ ไม่ต้องเติม ไม่ต้องเอากากไปทิ้ง ใส่น้ำเข้าไป แล้วก็ได้ไฮโดรเจนกับออกซิเจนออกมา แต่การผลิตอบบนี้จำเป็นต้องมีแหล่งความร้อนที่สูงมากๆ อย่างเช่นนิวเคลียร์หรือแหล่งอื่นที่คิดว่าสร้างความร้อนได้มากกว่า 850 องศา
แล้วไฮโดรเจนก็ไม่ได้ระเบิดกันง่ายๆ ถังที่จะเอามาใช้กับรถมันก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมาก พวกที่เอามาพูดเป่าหูว่าอันตราย มันจะระเบิดมันก็จำมาจากรถติดแก๊ส(ที่แม่งก็ไม่ได้ระเบิดกันทุกวัน) หรือลองไปดูอย่างพวกยานอวกาศที่ใช้ไฮโดรเจนมันก็ไม่ได้อยู่ๆจะระเบิดตูมตามเองได้นะ
ลองกลับมาเรื่อง EV ที่มันก็มีแบตไหม้ ระเบิดเหมือนกัน แต่ไม่มีใครกลัว หรือรถสันดาปที่ไปชนแล้วน้ำมันรั่ว ไฟคลอกตายก็ไม่เห็นมีติ่ง EV เอามาโจมตีด้วยนะ
ประเทศไทยเจริญแน่ขนาดในโม่งยังมีผู้เชี่ยวชาญเป็นสิบ
การจะเชื่อมรถไฟความเร็วสูงกับเขมรและผ่านไปถึงเวียดนามนี่ควรทำมั้ยวะ
เข้าใจว่าหลายคนไม่ชอบเขมรและบางคนก็ไม่ชอบเวียตนาม แต่ถ้าตัดตรงนี้ออกไปแล้วดูแต่ผลประโยชน์ได้เสียนี่ควรจะทำมั้ย
เชื่อมแล้วนักท่องเที่ยวจะแบ่งเวลาไปเขมรกับเวียตนามหรือเปล่า? ถ้าไม่เชื่อมสินค้าเวียตนามจะได้เปรียบในการตีตลาดเขมรแทนสินค้าไทยหรือเปล่า?
สินค้าเวียตนามและเขมรจะมาตีตลาดไทยมั้ย? คนไทยจะไปเที่ยวเขมรและเวียตนามเพิ่มมากมั้ยเมื่อเทียบกับคนเวียตนามและเขมรที่จะมาเที่ยวไทย?
เรื่องแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองจะเป็นอย่างไร? ฯลฯ
>>83 ไม่ควร เชื่อมกับเวียดนามหมายถึงการเจอของราคาถูกมาตัดราคาของในบ้านหมายความว่าเราจะโดนรุมทางศกจากทั้ง จีนและเวียดนาม บวกด้วยการป่วนจาก ลาวกับเขมร เป็นของแถมและไอ้งั่งในประเทศก็จะเอาเงินไปให้ เขมรกับเวียดนาม ถึงที่มากขึ้น ถ้าทางกองทัพไม่มีโปรเจ็คต์จะยึดเขมรกับเวียดนามใต้ไม่ควรทำด้วยประการทั้งปวง เอาจริงๆแค่ทำรถไฟเชื่อม จีน นี่ก็ทำให้ศกในประเทศกระอักแล้วแต่มันยังมีข้อดีของมันมาทดแทนแต่ทำรถไฟเชื่อม เขมรไปจรดเวียดนาม นี่คือควายแท้ๆเลย
ตอนรถไฟลาวมันมีพวกโง่บอกสร้างแล้วเราจะเอาของไปขายจีนง่ายขึ้น แต่สุดท้ายโดนจีนโถมซะเอง
>>86
มันก็เป็นผลดีต่อการส่งออกทุเรียนจริงนะ
ส่วนตัวกูว่าแนวคิดแบบ protectionism นี่มันควรทำแค่พอประมาณ ให้ผู้ผลิตในประเทศที่มีประสิทธิภาพสามารถแข่งขันได้
แต่ไม่ใช่จะทำทุกอย่างขนาดตัดการเชื่อมต่อกับโลกภายนอก ตั้งกำแพงภาษี อุ้มผู้ผลิตที่ไม่มีประสิทธิภาพปล่อยผู้บริโภคในประเทศใช้ของราคาแพงเกินจริงมาก มันก็ไม่ไหว
แล้วสุดท้ายก็จะพ่ายแพ้อยู่ดีเพราะไม่เคยต้องพัฒนาให้แข่งขันกับคนอื่นได้
>>88 หลักๆคือไม่ควรอุ้ม เรื่องตั้งกำแพงภาษีสมควรดูเป็นเคสๆไป แต่การทำเส้นทางขนส่งเชื่อมกับประเทศที่ได้เปรียบเรานี่คือไม่ควรทำ อย่าง จีนกับเวียดฯ เนี่ยเขาได้เปรียบเราทั้งคู่จะทำไปทำไม? นี่นังไม่นับว่า พรรคเพื่อขแมร์ กับ พรรคส้ม ที่จะมาถล่มเราเรื่องค่าแรงกับสวัสดิการบ้าๆเพื่อช่วย จีน/เวียดฯ มาถล่มเราให้ชหหนักกว่าเดิมด้วยนะ
>>88 >>89 เรื่องอุ้มเนี่ย ต้องเลิกเลยนะ เพราะแม่งไปสร้างไมน์เซ็ทให้พวกผู้ผลิตกับเกษตรกรให้ไม่คิดจะพัฒนา ผลิตได้แค่นี้ คุณภาพเท่านี้ รัฐก็อุ้มให้ราคาเท่านี้ แล้วคิดว่าการเพิ่มการผลิตให้มีประสิทธิภาพ = เพิ่มต้นทุน ไม่คุ้ม ผลผลิตออกมามากขึ้นจะทำให้ล้นตลาดราคาตก
ทั้งๆที่แนวคิดการพัฒนาเทคโนโลยีเกษตรหลักๆคือใช้แรงน้อยลงหรือเท่าเดิม ต้นทุนอาจเพิ่มนิดหน่อย แต่ได้ผลผลิตต่อพื้นที่เพิ่มขึ้น = กำไร ถ้ากลัวล้นตลาดราคาตก ก็คำนวณให้ผลิตออกมาในจำนวนที่ต้องการ แล้วเอาพื้นที่ๆเหลือไปทำอย่างอื่น
อย่างเวียดนามเนี่ยถ้าดินไม่ดีมันก็ไปดูดตะกอนปากแม่น้ำมาถมที่ กลายเป็นดินดีกว่าเดิม ผลผลิตเพิ่มขึ้น แต่ถ้าเป็นคนไทย แม่งจะบอกว่าเสียเวลา เสียค่าน้ำมัน กูไม่เอาหรอก
หรืออย่างเกษตรออแกนิก แม่งก็ยึดติดแต่กับการที่ต้องให้มันมีรอยหนอน รอยแมลง ผลไม่สวย เพื่อให้ดูออกว่าไม่ใช้สารเคมี ในขณะที่ญี่ปุ่นก็มีปลูกแบบออแกนิกเหมือนกัน แต่ลงทุนเอาพลาสติกหรือกระดาษมาห่อผล แค่นี้ก็ไม่มีแมลงมายุ่งละ ผลก็สวย ต้นทุนเพิ่มแค่ผลละบาทสองบาท บางรายปลูกในกรีนเฮ้าส์ด้วยซ้ำ ยาฆ่าแมลงไม่ต้องใช้เลย โรคก็คุมง่าย
>>90
อุ้มเกษตรกรนี่พอเข้าใจได้ในระดับหนึ่ง เพราะผลผลิตส่วนหนึ่งก็ขึ้นกับฝนฟ้า เกิดฝนฟ้าไม่ดีสักปีสองปีแล้วทำเอาเกษตรกรเจ๊งไปทั้งชีวิต สุดท้ายเราก็จะได้โจรเต็มประเทศแทน
แต่ยังไงๆมันก็เป็นวิธีที่ไม่ยั่งยืนล่ะนะ ระยะยาวเราต้องพัฒนาเกษตรกรเราให้มีภูมิคุ้มกัน รู้จักออมเงินเผื่อปีที่มีปัญหา สร้างกลไกประกันภัยธรรมชาติ
ประกันผลผลิตหรือราคาตกต่ำโดยเอกชน ไม่ใช่เอาแต่ภาษีไปถมทุกครั้ง
แต่นั่นล่ะกูว่าอีกร้อยปีก็ไม่รู้จะทำได้มั้ย กับประเทศที่แค่ประกันภัยรถก็ยังไม่ยอมจ่ายกัน
>>90 ไอ้เรื่องอินทรีย์ จริงๆ ญป ที่อวยๆ กัน ใช้สารเคมีหนักกว่าไทยอีก แต่แม่งคุมปริมาณสารตกค้างได้จริงว่ะ (มาตรฐาน GAP อะนะ) แต่เรื่องนี้คนไทยไม่กล้าพูดกันตรงๆ ไม่ว่ารัฐบาลไหน เพราะพวกอินทรีย์เสียงดังกว่า ทั้งที่ในโลกนี้ไม่มีประเทศไหนเลยที่ทำอินทรีย์แบบ Mass Product ได้ มีแต่ตลาด Niche ทั้งนั้น ถ้าลองรัฐบาลไหนบอกจะส่งเสริมเคมีเท่าอินทรีย์มึงเจอทัวร์ลงแน่ ทุกวันนี้เลยออกแนวปากว่าตาขยิบน่ะ
>>91 เขาหวังแบบเดียวกับเรื่องนายพลหรือ ขรก.แก่ๆ นั่นละ อุ้มไปจนตาย แล้วไปหวังกับคนรุ่นใหม่ที่หัวก้าวหน้ากว่าเอา บ้านเราใจดีกว่าหลายๆ ปท. ไม่ยอมให้คนแก่ลำบากหรอก ถึงไม่เคยเลย์ออฟ ขรก. เลยไง แต่ไปทำให้จำนวน ขรก. ใหม่ๆ ลดลง เน้นพนักงานราชการเอา (สวัสดิการไม่เยอะเหมือน ขรก.)
กลับมาเรื่องรถไฟเชื่อมเขมร
กูว่าสุดท้ายยังไงมันก็ต้องได้เชื่อมอยู่ดีว่ะ ถ้าฮุนเซ็นสั่งมามีหรือเพื่อไทยจะไม่สนอง ดีไม่ดีรัฐบาลไทยจะออกเงินกู้ช่วยเขมรสร้างด้วย
เวียดนาม ริมแม่น้ำเป็นสวนสาธารณะทางเดิน เวนคืนสลัมสร้างทางเดินสร้างลงไปในน้ำยังมีแต่ไม่มีNGOมาคัด ของไทยรู้ๆกันอยู่ทุเรศจัด ต้องรอเมืองใหม่อย่างเดียว
มันไม่เกี่ยวว่าจะประชาธิปไตยหรืออะไร ถ้าจะทำจริงๆมันทำได้อยู่แล้ว แต่ปัญหาที่เราเจอเนี่ย คือไอ้พวกที่ค้าน ต้านกัน ก็เพราะไม่ใช่รัฐบาลที่มันชอบ หรือไม่ก็โดนจ้างให้มาค้าน
อย่างถนนสายนึงแถวบ้านกูเนี่ย ยุคแม้วทำไม่เสร็จ ไม่เคยเปิดใช้งาน เพราะไอ้พวกต้านถนนขัดขวางและชาวบ้านไม่ขายที่ให้ แต่พอลุงมา แม่งเสร็จเฉย ไอ้พวกพวกต้านตอนแรกหายหมด ถนนจากที่ตอนแรกสร้างเกือบเสร็จ ถูกปล่อยร้างจนพังต้องสร้างใหม่ทั้งสาย แต่ไม่มีใครออกมาบ่นให้ตรวจสอบด้วย
>>100 มึงเตรียมใจหน่อยก็ดีนะยิ่งเทคโนโลยีไปไกลเท่าไหร่ภาครัฐฯยิ่งต้องการคุมมากเพราะข้อมูลมันไหลไวเกิน อีกหน่อยอาจจะไม่มีระบบเลือกตั้งแล้ว อันนี้ไม่ได้พูดถึงประเทศเรานะพูดถึงในระดับสากลเพราะหลายที่มันเริ่มแพลมๆมาแล้วว่าระบบเลือกสร้างปัญหามากกว่าจะแก้ปัญหาในสภาวะปัจจุบันก็คือเริ่มมีการอยากกระชับอำนาจแล้วน่ะแหล่ะ
>>103 ปชต.ไทยส่วนใหญ่เป็นสายอำนาจนิยมนะ แต่ชอบแอ๊บว่าเป็นเสรีนิยม มันมองว่าระเบียบวินัยต้องมาจากกฎหมายที่เข้มงวดและเด็ดขาดเท่านั้น และจะต้องใช้วิธีการใดๆ ในการกำจัดคนทำผิดออกจากสังคม เอาง่ายๆ แค่มึงทิ้งขยะลงพื้น พวกนี้ก็จ้องจะลากมึงเข้าคุกละ
กลับกัน พวกนี้ก็ไม่ได้ต้องการอยู่ในกฎระเบียบที่ตัวเองผลักดันให้มันเกิดขึ้น ถ้าให้เงื่อนไขว่าพวกนี้ทิ้งขยะลงพื้นซะเอง มันจะโทษว่าเป็นความผิดรัฐที่ไม่กวดขัน ไม่รีบมาเก็บ กรูจะทิ้งตรงไหนก็ได้ กรูจ่ายภาษีแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของรัฐที่ต้องตามมาเก็บเอง หรือเป็นความผิดของตำรวจที่ไม่มายืนคุมทุกมุมถนน ทำให้มีคนกล้าที่จะทำผิด หรือไม่ก็อ้างว่าถังขยะน้อย กรูก็มีสิทธิ์ทิ้งมั่วสิ (แต่แม่งอวยวินัยคนญี่ปุ่นที่ไม่มีถังขยะก็เก็บไว้กับตัวไปก่อนจนกว่าจะเจอนะ)
>>104
มึงอคติบังตาไปหน่อยนะ ที่มึงยกมาฝ่ายอนุรักษ์นิยมเป็นกัน และเผลอๆเป็นหนักกว่าด้วย
ให้ยกตัวอย่างก็เช่นการที่บีบบังคับเรื่องทรงผมและเครื่องแบบนักเรียน ซึ่งถ้าไม่ใช่ ้hypocrite แล้วเห็นว่ามันดีจริงก็ต้องหนุนให้ใช้บังคับกับคนทุกเพศทุกวัยไม่ใช่เฉพาะกับเด็กนักเรียนเพราะตัวเองจะได้ไม่โดนด้วย
การพยายามโยงอะไรที่ไม่ได้สัมพันธ์กันอย่างชัดเจนมาเหมาว่ามันเป็นเป็นพวกนั้นพวกนี้เท่านั้นนี่กูเจอบ่อยเกินละ
เช่นคราวก่อนก็มีคนว่าคนพยายามจะบิดเบือนว่าคนบ่นเวลาโดนตำรวจปรับต้องเป็นฝ่ายประชาธิปไตยเท่านั้น ซึ่งกูอ่านแล้วก็มองบน
มนุษย์ลุงมนุษย์ป้าอนุรักษณ์นิยมก็บ่นกันเยอะแยะ เผลอๆจะบ่นมากกว่าด้วย
นี่ก็เหมือนกัน จริงๆมึงไม่มีหลักฐานใดๆเลยว่าคนนิยมประชาธิปไตยทิ้งขยะเรี่ยราดมากกว่าคนอนุรักษ์นิยม มึงเอาอคติมาสรุปไปเองทั้งนั้น
ส่วนสองบรรทัดแรกของมึงขอแยกตอบดังนี้
1.ไม่ได้มีความสัมพันธ์อย่างชัดเจนของการนิยมประชาธิปไตยกับการนิยมบทลงโทษที่หนัก ส่วนการรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายมันก็เรื่องปกติของอารยะชนป่ะ ยกเว้นกฎหมายที่อยุติธรรมและไม่เป็นประชาธิปไตยหนักจริงๆเช่น 112
ตรงข้ามกูกลับเห็นพวกที่อยากลงโทษคนผิด 112 ให้หนัก
2.การรักษาความศักดิ์สิทธิของกฎหมายที่บังคับใช้กับทุกคนอย่างเท่าเทียมกันไม่ใช่อำนาจนิยม อำนาจนิยมคือการที่ยอมให้คนมีอำนาจอยู่เหนือกฎหมาย
กูจะพอแค่นี้ จะไม่ตอบกลับพวกพยายามยัดเยียดการเมืองใส่กระทู้ที่ไม่เกี่ยวกับการเมืองละ
>>104 พวกกลุ่มปชต.เล็กๆในเฟสนี่ชัดเลยนะ บางกลุ่มมันพยายามสร้างกฎ สร้างมาตรฐานให้พูดคุยกันได้แบบอารยชน แต่สุดท้ายก็เอากฎที่ตัวเองตั้งไปปิดปากคนเห็นต่างหรือพูดไม่ถูกใจตัวเอง แล้วจับแขวน ไม่ให้เขาตอบโต้ ในขณะที่พวกตัวเองอยู่เหนือกฎที่ตัวเองตั้ง จะโพสอะไรบ้งๆก็ได้ อนุมัติโพสโคตรไว
ทุกวันนี้กูต้องกลับไปอยู่กลุ่มใหญ่เหมือนเดิม วุ่นวายหน่อย แต่มันก็เป็นสิ่งที่ควรจะเป็นแหละ จะเกรียนจะปั่นยังไงก็ได้ ด่ามาด่ากลับให้ตายห่าไปข้างนึง อย่างมันส์
>>104 >>105 >>106 >>107 หลังๆ กูถึงไม่อะไรกับโซเชียลละ เห็นอะไรไม่ดีก็โพสต์ด่า แต่เชื่อเหอะส่วนใหญ่พอออกจากหน้าจอแม่งก็หันไปเอาสะดวกเข้าว่า
- โพสต์ด่าไรเดอร์ทำผิดกฎจราจร ขี่มอไซค์วิ่งขึ้นทางเท้า ย้อนศร ฝ่าไฟแดง ฯลฯ แต่ก็ยังชอบสั่งอาหารแบบขอเร็วไว้ก่อน
- โพสต์ด่าหาบเร่แผงลอยกีดขวางทางเท้า แต่เห็นตรงไหนตั้งแผงตั้งรถเข็นคนแน่นทุกที
- โพสต์ด่าคนเมาแล้วขับ ขับรถเร็ว ทำผิดกฎจราจรรต่างๆ แต่พอตัวเองโดนจับ ถ้าไม่โวยวายตำรวจก็หาเส้นสายคอนเน็คชั่นมาเคลียร์ (ไม่ต้องรวยหรือตำแหน่งใหญ่ก็ทำได้นะ การเคลียร์ใบสั่ง ถ้ามีเพื่อนฝูงเป็นตำรวจอะนะ)
- โพสต์ด่าพวกจ่ายแป๊ะเจี้ยะ พวกฝากลูกเข้า ร.ร. แต่พอมีลูกเองมึงก็ทำ
- อยากให้อาชีพต่างๆ มีมาตรการกำกับให้รักษาจรรยาบรรณอย่างเข้มงวด แต่พอตรงกับอาชีพตัวเองก็ออกมาโวยวายบอกหัดมองโลกความจริงมั่ง
ฯลฯ
กูไม่รู้สังคมอื่นเป็นแบบนี้หรือเปล่านะ แต่สังคมไทยแม่งแบบนี้จริงๆ แหละ
กูอยากลบผังเมืองแล้วทำใหม่ ถนนหนทางวกไปเวียนมาใครอยากทำอะไรก็ทำเละเทะไปหมด
ถนนผ่านกลางตัวเมืองต่างจังหวัด ก็แห่กันสร้างตึกติดถนนวุ่นวาย ทำให้รถติด สุดท้ายต้องทำเลี่ยงเมืองวงแหวน แทนที่จะวิ่งตรงๆ จาก กทม ไป เชียงใหม่ กลายเป็นว่าพอถึงจังหวัดใหญ่ต้องวิ่งตีโค้งอ้อมไปทางเลี้ยงเมืองอยุธยา นครสวรรค ไปซะได้
>>109 ที่่นี่ประเทศไทยอะ ถนนก่อสร้างง่าย อบต. ก็ยังทำได้ ผลคือใครๆ ก็อยากให้ถนนมาหาที่ตัวเอง จะได้มีมูลค่าเพิ่มไม่ว่าขาย ปล่อยเช่า หรือลงทุนทำกิจการต่างๆ แล้วบ้านเราก็ไม่เคยแบ่งโซนด้วย ใครอยากอยู่ตรงไหนก็อยู่ได้ ต่อให้เป็น Highway ถนนใหญ่ๆ โล่งๆ มึงก็เสี่ยงชนคนตายอยู่ดี เพราะมันจะต้องเจอพวกมีบ้านแถวนั้นแหละพยายามวิ่งข้าม ตรงกลางกั้นแบริเออร์ก็ปีนข้าม ใครบังคับย้ายที่อยู่ก็ว่าละเมิดสิทธิ์ แต่ก็บ่นว่าขนส่งมวลชนไม่สะดวกและโรงเรียนครูขาด
>>111 ทำได้ในพื้นที่ตัวเอง ทำกันมาตั้งเยอะแยะ ถนนบ้านเราถึงมั่วๆ กันนี่ไง อย่าง กทม. นี่ ถนนมีทั้งของท้องถิ่น (กทม.) กับชองทางหลวง ถ้าต่างจังหวัดนี่หนักกว่า มีทั้งถนนท้องถิ่น (อบต. อบจ. เทศบาล) ทางหลวง ทางหลวงชนบท เห็นขาวเวลาชาวบ้ายประท้วงปะ บอกถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ หรือตามแยกต่างๆ อยากได้ไฟจราจรจะได้ไม่ต้องเป็นแยกวัดใจ-แยกร้อยศพ แต่หน่วยงานก็จะเกี่ยงกัน บอกถนนนี้ไม่ใช่ของหน่วยงานเรา อะไรแบบนี้แหละ
ลองหาในอากู็ดู พิมพ์คำว่า อบต. ก่อสร้างถนน มีตั้งแต่ข่าวยันเอกสารประกวดราคาแหละ
https://www.youtube.com/watch?v=X3EyJ-3_51Y
รถเมล์ร้อน ev มาละ
ต้นทุนทั้งการสร้างและการดำเนินการสูงกว่ารถแอร์ แต่ก็ต้องทำออกมาเพราะกฎหมายกำหนดไว้
คนขับ EV นี่คนเต็มขั้นจริงๆ ค่าน้ำมันไม่ต้องจ่าย แล้วยังพยายามไม่จ่ายค่าไฟอีก
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.