.
พอย้อนกลับไปคิดผมเชื่อว่าหลายคนก็ฉุกคิดนั่นแหละ ว่าการที่เราฝากเงินแล้วได้ผลตอบแทน 19% ต่อปีนั้นมันจะเกิดขึ้นได้อย่างไรที่เป็นการจ่ายผลตอบแทนแบบระยะยาว เอาตรงๆว่าตั้งแต่ผมเริ่มเข้ามาใน DeFi วันแรกจนถึงปัจจุบันผมไม่เคยได้คำตอบเลยจริงๆนะ (คือผมอธิบายได้ทั้งหมดว่าผลกำไรจากระบบไหน มาจากไหน แต่ผลตอบแทนที่สูงเกินความปกติแบบไม่สมเหตุสมผลต่างหาก ที่จะอธิบายไม่ได้ ว่ามันจะยั่งยืนได้ยังไง เช่น stable coin farm 50%++ APR อะไรแบบนี้) แต่สิ่งที่ผมตระหนักมาตลอดตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบันก็คือ ผมมีหน้าที่หากำไรจากสิ่งนี้ โดยที่เราต้องมีความเสี่ยงให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แค่นั้น ฟังดูใจร้าย แต่ว่าเกมมันเป็นอย่างนั้น ถ้าเราจะเล่นเกม เราก็ต้องอ่านเกมให้ออกด้วย ไม่งั้นเราจะแพ้ ถ้าจะเข้ามาเล่นเกมเพื่อแพ้ นอนเฉยๆดีกว่ามั้ยครับ เกมเล่นแล้วไม่ได้เงิน แพ้แล้วยังหัวเสียเลย นี่แพ้แล้วเสียเงินจริงด้วย จะเล่นทำไม
.
ความคิดของผมที่ต้องมีอยู่ตลอดเวลาก็คือเวลาเราได้ เราได้วันละ 0.01% - 3% ต่อวัน (APR 3% - 1000%++) แต่เวลาเราเสีย เราเสีย 20 - 99% ในเพียงเวลาเสี้ยววินาทีหรือเพียงในวันเดียว (UST นี่ใจดีแล้วนะ ให้เวลามาตั้งแต่วันที่ 7 แล้ว) ดังนั้นหน้าที่ของเราก็คือจะทำอย่างไรที่ลดความเสี่ยงในการสูญเสียระดับนั้นลงมาให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยที่มันยังคุ้มกับสิ่งที่เราจะได้รับวันละ 0.01%-3%ต่อวัน
.
หลักของเกม มันอยู่ตรงนี้ต่างหาก และคนที่เค้าไม่เคยลงทุน แต่ด่าๆกัน ก็ด่าเพราะ math มันไม่หลอกเราไงครับ ใครจะโง่ ลงทุนที่ได้ 0.01% - 3% ต่อวัน แต่เสีย 20 - 99% นี่คือไม่โง่ ก็บ้าแล้ว ถ้าไม่เข้าใจ ก็คือนักพนันเต็มตัวครับ ยอมรับแต่โดยดีเสียเถอะ แต่ถ้าเราจะไม่โง่หรือบ้า และเราไม่ใช่นักพนัน แต่เราเป็น player ที่จะไป turn pro player ให้ได้ เราก็ต้อง เข้าใจมันทั้งหมดทั้งเกม ว่าอะไรยังไง ซึ่งเรื่องนี้เป็นรายละเอียดไปแล้วนะ มันจะยาวววจริงๆ ข้ามไปก่อน (ยกตัวอย่างสั้นๆ เวลาลงทุน DeFi คำถามแรกคือ อ่านโค้ดออกมั้ย? ถ้าอ่านออกเข้าใจหมด คุณเป็น player ได้ละ แต่มันยังมีมากกว่านั้นอีกเยอะ)
.
แต่หลายคนกลับมองข้ามสิ่งนี้ รวมทั้งมองข้ามความเป็นไปได้ที่จะสูญเสียเงินทั้งก้อน อันเนื่องมาจากความไม่สมเหตุสมผลของมันตั้งแต่ต้น เพียงแค่เพราะ “ความเชื่อ”
.
การลงทุนมีผิดพลาดและสำเร็จบ้าง แต่ผมพูดเสมอว่าถ้าผิดแล้วเราต้องเรียนรู้ ครั้งนี้มีหลายเรื่องให้ได้เรียนรู้ซึ่งผมเชื่อว่าคนที่เคยผ่านประสบการณ์มาหลายๆรอบ หลายๆเรื่อง หลายๆครั้ง จากหลายโปรเจคก็จะรู้กันดีอยู่แล้ว ว่าความเชื่อนั้นมันไม่ได้ช่วยลดความเสี่ยงอะไรเลย กลับกันความเชื่อนี่แหละที่จะสร้างความเสี่ยงขึ้นอีกต่างหาก (ซึ่งมันก็สร้าง Exposure ที่แอบเนียนมาในอีกชื่อว่า โอกาส) รวมทั้งการบริหารจัดการเงินลงทุนบนหน้าตัก ก็เป็นเรื่องที่สำคัญและไม่ควรหลีกเลี่ยง จากเคสตัวอย่างนี่ ถ้าเค้าบริหาร port สักนิดนึง เช่นลงทุน 20% ของ port เขาก็จะเสียหายไม่เกิน 20% ของเงินทั้งหมดเท่านั้น ถึงแม้ว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นจริงๆ ตามที่เราได้เห็นกันแล้วก็ตาม