เสริมอีกนิ้ด เชื่อว่าเดี๋ยวก็มีถามหากันสักคนสองคนแน่
1.แล้วทำไมถึงเลือกแค่ AZ ไม่เลือกแบรนด์อื่นบ้าง ขอตอบแบบกำปั้นทุบดินเลยคือ คิวเต็ม คนแย่งเยอะ ตะวันตกเตะตัดขาเอเชีย ถ้าไม่ใหญ่จริงยากมากที่จะเอื้อมถึง กว่าจะได้ต้องรอซีคโลกนู้นฉีดกันเสร็จก่อนซึ่งใครจะไปยอมเสียเวลา เขาเลยต้องไปเล่นตัวอื่นที่ยังพอมีโควต้าเหลือนั่นคือ AZ และ Sinovac จะเห็นได้ว่าเราเอาสองตัวนี้เข้ามาเป็นสองตัวแรกเพราะมันเข้าถึงง่ายที่สุด
2.แล้วปัญหาเรื่องการกระจายความเสี่ยงจากผลวัคซีนล่ะทำไงในเมื่อเอาแต่เจ้าเดียว ซึ่งถ้าดูจากปัจจัยด้านต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นก็คงผนวกได้ว่าปัญหามันเกิดจากอะไรและเหตุที่ตัวเลือกเหลือน้อยเพราะอะไร จะว่าเป็นเกมการเมืองวัคซีนก็ได้ แต่ใช่ว่าจะไม่มีหวัง เพราะเราก็เตรียมนำเข้าตัวอื่นมาเพิ่มเติมในอนาคตเหมือนกัน อย่าง J&J และ ไฟเซอร์ เพราะฉะนั้นเรื่องกระจายความเสี่ยงเรามีอยู่แล้ว อาจจะช้าหน่อยแต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องฝากความหวังไว้ที่ AZ ตัวเดียว
3.แล้ว Sinovac ที่จีนออกมายอมรับว่าประสิทธิภาพต่ำล่ะ คืออันนี้บอกตรงๆ ว่า ตอนแรกไม่นึกจะซื้อหรอก เพราะไม่ได้ใจอยู่แล้ว ตอนแรกจะเอาแต่ AZ แต่อย่างว่าเราไม่เอาเดี๋ยวโดนเพ่งเล็งจากจีนอีกแล้วจะมีปัญหาในอนาคต เราจึงต้องอุดหนุนบ้างเพราะพี่แกตอนนั้นฉุนเหมือนกันที่ไม่มีใครติดต่อมาขอซื้อวัคซีนแกเลย อารมณ์แบบคนตั้งแผงลอยขายลูกชิ้นแล้วขายไม่ออก คนอยู่บ้านใกล้เรือนเคียงอย่างเราก็ต้องอุดหนุนเพื่อรักษาหน้าเขาบ้าง ไม่งั้นพอเลิกงานกลับบ้านจะมองหน้ากันไม่ติด แล้วตอนนั้นโดนจี้เรื่องกระจายความเสี่ยงด้วยเลยซื้อมาแก้ขัดเป็นไม้กันหมาไว้ ซึ่งถ้าเทียบกับอัตรานำเข้าระหว่าง Sinovac กับ AZ ถือว่าต่างกันลิบลับ คือ 2 ต่อ 60 จะเห็นได้ชัดว่าไม่ได้คิดจะเอาวัคซีนจีนแต่แรกเลยด้วยซ้ำ
4.แล้ววัคซีนที่ผลิตในบริษัทเอกชนไทยล่ะเมื่อไหร่จะได้ ก็ต้องย้อนดูว่าเรามีขีดจำกัดในการผลิตสู้อินเดีย เกาหลีใต้ได้ไหม เราเพิ่งนำเข้าเทคโนโลยีใหม่และกำลังทำการเรียนรู้แน่นอนว่าใช้เวลาเยอะเพราะเลเวลการผลิตเรายังไม่โดดเด่นเท่าไหร่ เป็นปกติสำหรับประเทศที่เก่งวิจัยแต่ไม่มีกำลังผลิตประเทศอื่นก็เป็น แต่ถามว่าเป็นประเทศผู้ผลิตดีไหม ก็ดี เพราะลดทั้งต้นทุนและการขนส่งได้เยอะและไม่ต้องไปต่อคิวซื้อ แต่ควรทำใจล่วงหน้าด้วยว่าไม่ได้ในเร็วๆ นี้หรอก คือมีผลดีในระยะยาวแน่แต่อย่าหวังว่าจะได้ภายในทันที