วันนี้โชคดีมากได้ Hangouts คุยกับคุณ Refael Zikavashvili (Co-Founder ของเว็บ Pramp.com ที่ใช้ฝึก mock up interview) มีหลายอย่างน่าสนใจเลยมาเล่าให้ฟังกัน
สาเหตุที่อยู่ดีๆได้คุยคือเราไม่ได้ใช้เว็บเค้ามา 1 สัปดาห์ แล้วเราทำคะแนนต่างๆได้ดี (โดยเฉพาะการเป็น interviewer ซ้อมให้คนอื่น) เค้าเลยเมลมาถามว่าทำไมถึงไม่ใช้ต่อล่ะ เลยบอกเค้าว่าเพิ่งตกสัมภาษณ์ Google ไป แล้วยังไม่มีบริษัทอื่นเรียกสัมภาษณ์เลย เลยพักเบรกจากการซ้อมสัมภาษณ์ก่อน เค้าเลยบอกว่างั้นขอ hangouts กันหน่อย เพราะ business model เค้าคือได้รายได้จากการทำ head hunter โดยใช้ platform เค้าประเมินคนที่มีศักยภาพทั้งฝีมือ การสื่อสารและความน่าทำงานร่วมด้วย เดี๋ยวเค้าช่วยลองหา recuirter partner ที่สนใจให้ แต่ไม่รับรองว่าจะได้รึเปล่า
เค้าบอกว่าตอนนี้บริษัทเค้าผ่านเข้า YCombinator ด้วย (โดยมีพนักงานแค่ 2 คน คือ Co-founder ทั้งสอง) เลยได้มีโอกาสถามว่าภายใน YC เป็นยังไงบ้าง เค้าก็เล่าให้ฟังสนุกดี ไม่น่าเชื่อว่าจะมีโอกาสได้คุยกับ Co-founder บริษัทเพิ่งเกิดแล้วเข้า YC ด้วย
เค้าแพนวิดีโอออฟฟิสเค้าให้ดู อยู่ตึกตรงข้าม Mozilla กับ Google SF เลย เห็นวิวสะพาน San Francisco-Oakland Bay กับทะเลสาบสวยงาม ออฟฟิสยังโล่งมาก (น่าจะอยู่ใกล้ๆ Thanik Bhongbhibhat)
ตัว platform ของ Pramp เองใช้ Node.js ก็เลยได้คุยกับเรื่อง Node.js และเรื่อง Angular กับเค้าและโยงไปถึง React/Redux เล็กน้อย
ถามเค้าว่า resume เราควรปรับปรุงอะไรมั้ย ทำไมไม่มีใครเรียกสัมภาษณ์เลย เค้าบอกว่า resume เราดีมากแล้ว ติดปัญหาแค่เรื่อง VISA เพราะถ้าไม่มี VISA นี่ถูกคัดตกตั้งแต่ recruiter ไม่มีโอกาสที่ Engineering Manager จะได้เห็นความสามารถที่เขียนใน resume เลย และแนะนำว่าให้สมัครบริษัทใหญ่ๆทั้งหมด พวกบริษัท startup นี่หวังยากมาก เพราะนอกจาก cost เรื่อง VISA ที่ต้อง sponsor จ่ายให้เราแล้ว ยังต้องทำเอกสารยุ่งยากอีกเยอะ และกว่าจะได้ทำงานจริงก็ใช้เวลานานไม่ทันกิน เพราะ startup ต้องรีบสร้างผลงาน ดังนั้นให้สมัครบริษัทใหญ่ทั้งหมด และให้ดูด้วยว่าเป็นบริษัทใหญ่ที่ VISA friendly มั้ย
เค้าเอ่ยชื่อหลายบริษัท และหนึ่งในนั้นคือ Microsoft เราหัวเราะขำๆแล้วบอกว่าไม่อยากทำงาน Microsoft เท่าไหร่ อยากทำบริษัทที่เน้น Opensource Technology มากกว่า เค้าก็หัวเราะบอกว่าตอนนี้ MS ยุค Satya นี่ดีขึ้นเยอะเลยนะ ยังไงแนะนำว่าควรยื่นไปดู (สงสัยจะได้ขายวิญญาณก็คราวนี้ 55)
ถามเค้าว่าเป็นคนอิสราเอลแล้วเริ่มทำงานที่ US ด้วยท่าไหน เค้าบอกว่าเค้าใช้การเรียนต่อ ด้วยเรียนที่ Harvard Business School แล้วค่อยทำงาน และคนชอบถามเค้าว่าได้เรียนรู้อะไรบ้างที่ HBS เค้าบอกว่า "learn nothing" สิ่งที่เค้าได้คือ 1. Connection กับได้รู้จัก super smart guys จำนวนมาก 2. ตราประทับว่าจบจาก Harvard และด้วยสาเหตุเดียวกันที่เค้าเข้า YCombinator เพราะอยากได้ตราประทับว่าผ่าน YC เค้าบอกว่าใน YC ก็ไม่ได้ช่วยอะไรในการทำ business จริงๆมากเท่าไหร่ แต่ก็ได้เข้าถึงแหล่ง funding จำนวนมาก
เรื่องภาษาอังกฤษเค้าบอกว่าเราดีมาก การสื่อสารไม่เป็นอุปสรรค แต่จะติดเรื่องสำเนียง (pronunciation) บางครั้งพูดเร็วจะฟังยาก ให้ฝึกพูดช้าๆและอ้าปากกว้างๆ ตอนแรกๆจะไม่ค่อยชินแต่จะช่วยให้ดีขึ้นมาก เพราะเค้าบอกว่าเรื่องสำเนียงนี่สำคัญเหมือนกัน เพราะหลายที่ก็ bias เรื่องสำเนียงภาษา (เค้าเป็นคนอิสราเอล ซึ่งเคยพูดไม่ชัดมาก่อนเหมือนกัน) และทิ้งท้ายแนะนำว่าให้หาทางฝึกกับ native speaker เยอะๆเลย เพราะการที่สำเนียงชัดจะช่วยเปิดโอกาสให้ได้เยอะมาก
สุดท้ายช่วยเค้าขายเว็บล่ะกัน ใครอยากฝึก mock interview ลองเล่นได้ที่ pramp.com ผมว่าเป็น product ที่ทำมาดี ได้ฝึกทำโจทย์และได้ฝึกคุยกับต่างชาติไปในตัวโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลย
Update: เรื่องสำเนียงภาษา เพื่อนที่อเมริกาบอกว่าถ้าเป็นที่ San Francisco เรื่องสำเนียงไม่ค่อยมีคน bias เท่าไหร่ เพราะว่าเมืองเต็มไปด้วยต่างชาติอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นแถบ mid-west หรือบริษัทที่อเมริกันจ๋าก็จะมี bias อยู่
#มิตรสหายท่านหนึ่ง