Last posted
Total of 122 posts
>>97 กูอยากมีชีวิตแบบนั้นจริงๆนะโม่ง ขอให้แค่ว่าไม่ปิดกั้นการแสดงความเห็นสุดโต่ง จะด่านักการเมืองคนไหน ด่าทหารเหี้ยๆ แต่งตัวเซ็กซี่ได้ ก็ไม่มีใครว่า ไม่ต้องกลัวว่ากลับบ้านดึกจะเจอโจรชุกชุม ขนส่งสาธารณะก็ไม่ต้องรอแบบไร้ความหวังเหมือนกะลาแลนด์แดนจัญไร มีโอกาสทำธุรกิจเพื่อพัฒนาตัวเองได้แบบไม่ต้องกลัวพวกเจ้าถิ่นเถื่อนเหมือนพวกบราซิล เม็กซิโก หางานพิเศษทำแบบไม่อายคนอื่น สู้ชีวิตก็ไม่ต้องเจอคนเหยียดหยามเหมือนประเทศโลกที่สาม ประชากรส่วนมากรู้จักเคารพสิทธิ หน้าที่ของคนอื่นดีพอๆกัน แค่นี้กูก็พอใจแล้วนะ
กูไม่รู้นะว่ามึงร่ำรวยขนาดไหนถึงได้บอกว่าไปจนเบื่อ แต่ที่แน่ๆถ้ากูไปอยู่ได้ก็อยากได้สัญชาติ1ใน3นี่มาจริงๆหว่ะ ไม่ฟินแลนด์ก็สวิสฯอย่างที่มึงบอกมาอ่ะ รู้สึกสิ้นหวังก่ะประเทศสารขัญอัปรีย์ที่นี่มากๆหว่ะ
แค่มึงเป็นคนรวยในประเทศนี้มึงจะสบายในหลายๆเรื่องแล้วว่ะ. อย่าไปฝันว่าจับไปประเทศในวันดับสังขะสุขสบายขึ้น. อยู่ที่เดิมแล้วให้มึงเปลี่ยนที่จะเป็นส่วนบนๆของสังคมก็พอ
>>99 กูก็ว่างั้น >>98 มึงรู้มั้ยถึงกูจะไปอยู่ 3 ประเทศอื่นมา 4-5 ปีแล้ว แต่ก็ยังอยากกลับมาไทยตลอด คือไม่ได้อยากกลับมาเพราะคิดถึงบ้านเกิดอะไรหรอก แต่อะไรหลายๆอย่างในไทยกูคิดว่ามันสะดวกดี เมืองไทยมันเป็นวัฒนธรรมแบบง่ายๆเหี้ยอะไรก็ได้ต่างจากสังคมฝรั่งที่เน้นระเบียบสังคม เสรีภาพน่ะมีจริงแต่สังคมมันกดดันในทุกๆเรื่อง อย่างแรกที่ต้องมีในหัวคือเคารพสิทธิชาวบ้าน ซึ่งการเคารพสิทธิชาวบ้านมันดันทำให้สังคมเขาเข้าหายาก พูดง่ายๆก็หาเพื่อนยากมากๆแถมร้านสะดวกซื้อก็ไม่ค่อยจะมีเท่าไหร่ แต่ไทยนี่อยากกินข้าวตอนดึกๆยังมีร้านเปิดขายเลย เรื่องเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น กูพูดเลยกูเลิกสนใจไปนานแล้ว คือมันทำอะไรไม่ได้(บางอย่างพูดถึงตาย)แล้วจะไปแสดงออกให้ชีวิตมีปัญหาทำไม คิดซะว่าเช่าอยู่ไปก็พอ วันไหนเริ่มกอบโกยตั้งตัวได้ค่อยย้ายไปแสดงความคิดเห็นของเราในสถานที่อื่นที่เปิดรับ เรื่องคนเหยียดหยามนี่มีทุกที่นะ แค่ในประเทศโลกที่ 1 มันแสดงออกได้น้อยกว่าเพราะต้องเคารพสิทธิคนอื่น แต่กูพูดตามตรงในไทยมันเหยียดหยามกันเยอะกว่าจริงๆนั่นแหละ
เอ้อ ส่วนเรื่องฐานะกูไม่ได้รวยนะ รวยสำหรับกูคือต้องมีเงินเหลือใช้แบบโคตรฟุ่มเฟือยได้ทุกเดือน คนอยู่ตปท.จริงๆก็ไม่ได้สบายนะ เพราะต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ยิ่งเริ่มต้นแรกๆไม่มีเพื่อนไม่มีใครคอยให้คำปรึกษาทั้งนั้นโคตรลำบาก ถ้าไม่รู้ภาษาแม่เขาไปไม่ถูกแน่นอน แต่ที่เหมือนว่ารวยเพราะค่าเงินมันแพงไงเวลากลับมาไทยที กูก็อยากพักผ่อนอ่ะเนอะ 1 ยูโรงี้เกือบ 40 บาท กูพกมาที 5-6 พันไม่รวยก็แปลกแล้ว ทั้งที่จริงๆเงินแค่นี้ซื้อได้แค่รถมือสองเท่านั้นเอง อารมณ์เหมือนฝรั่งเปลี่ยนไปใช้เงินบาท 5-6 พันยูโร คงจะกลายเป็น 3-4 หมื่นบ้านเขา ทำนองนั้นแหละ
ถ้าอยากมาอยู่อาศัยจริงๆแต่ไม่มีเงินกูแนะนำ หาแฟนแล้วแต่งงานมาเลย ถ้ามึงเป็นผู้ชายก็ไม่ต้องไปคิดว่าสาวฝรั่งเขาจะเอาลิงเหลืองอย่างมึงเหรอ เอาเว้ย เพื่อนกูหน้าโคตรปักใต้ ได้แฟนสาวหัวทองย้ายมาอยู่มีลูกแล้วเนี่ย แต่ของกูนี่หลังเรียนจบมีบ.จ้างงานเลยได้วีซ่าต่อ
>>100 สู้ๆนะมึง ทำงานเก็บตังเยอะๆ ตอนแก่มาอยู่ไทยนี่แหละ สบายชิบหายเลย
กูก็เป็นคนหนึ่งที่อยากไปอยู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว เพราะ 1.คมนาคมของเขา กูว่าคมนาคมนี้แหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของการพัฒนาประเทศ แล้วมองมาดูที่ไทยดิ... ที่รถติดทุกวันนี้ที่กทม.ก็เพราะขนส่งแม่งห่วยไง 2.กฎหมายเข้ม ปรับทีนึง ไอห่า เป๋าตังแฟ่บ กูเคยขี่จักรยานผ่านตรงที่เขาห้ามผ่าน โดนปรับไป 30ยูโร /เล่าด้วยความแค้นเจ็บใจ แล้วแม่งเคร่งครัดจริง ไม่เหมือนที่ไทย ขับรถชนคนตาย เอาเงินยัดเรื่องก็เงียบ จบทุกอย่าง 3.อากาศ กูไม่ชอบอากาศร้อน ถึงจะอยู่บ้านเปิดแอร์ก็เถอะ ยังไงก็ต้องได้ออกบ้านซักที ประเทศหนาวก็อยู่บ้านเปิดฮีตเตอร์เอา ออกนอกบ้านก็ใส่เสื้ออุ่นๆ แปะHot pack เอา มีอีกหลายเรื่องที่จะบ่นวะ แต่พอละแม่งเหนื่อย คิดละเศร้า
สู้ๆนะพวกมึง ขอแค่มีเงินทุกอย่างมันก็ดีแล้ว
...เออ เอาจริงๆนะ อยู่ ไทยแลนด์ เนี่ยมันสบายกว่าหลายๆประเทศที่พวกมึงอยากไปปักถิ่นฐานมากนะ ที่พวกมึงว่ามาเนี่ยมันดูชื่นมื่นเฉพาะตอนไปเยือนเท่านั้นแหล่ะพอไปเป็รคนของเขาจริงๆมันไม่ได้หอมหวานอย่างที่วาดฝันไว้
ส่วนไอ้คอนเนคชั่นดีมีชัยไปกว่าครึ่งนี่มันเป็นกันทุกที่ไม่ใช่เฉพาะไทยแลนด์
จริงๆแล้วใครๆก็ต้องการประเทศดีดีรัฐดีดี ซึ่งรัฐก็ทำท่าและหน้าที่ว่าอยากให้มันเป็นแบบที่พวกมึงต้องการอยู่แล้ว แต่ที่ทำไม่ได้ก็เพราะว่าไม่อยากให้มันดียังไงเล่ามันไม่จำเป็นสำหรับพวกมัน เพราะยังไงในท้ายที่สุดพวกเราก็ต้องทำงานงกๆจนต้องมานั่งท้อนั่งด่ามันกันในนี้เพื่อปลดปล่อย รู้สึกดีและก็กลับไปรับชะตากรรมแบบเดิมอยู่ดี เพราะคิดและหวังว่าท้ายที่สุดแล้วการมีเงินและใช้ชีวิตอย่างสบายในภายภาคหน้าตอนแก่มันคงจะดีกว่านี้ แต่ที่พวกเรารู้สึกแย่กันจริงๆ เพราะตอนนี้มันดีไม่ได้ต่างหาก และคิดว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้ ซึ่งกูก็คิด แต่กูคิดว่าพวกเราวนลูปในเรื่องนี้กันมานานไม่พอหรอว้ะ ซึ่งไอ่ลูปแบบเนี้ยมันทำให้สิ้นหวังและไม่หวังเว่ย กูถามจริงๆ การมองได้แค่ว่าประเทศเรามันเหี้ยและประเทศอื่นมันดีเพราะว่ารัฐและความรู้พื้นฐานจากรัฐไม่ใช่หรอว้ะที่กำหนดว่า ชีวิตที่ดีมันควรจะเป็นยังไง มันนิยามอยู่ได้ไม่กี่อย่าง และพวกเราไม่เคยได้ในสิ่งที่ถึงขั้นว่าดีแลย แค่พอใช้ด้วยซ้ำ ถ้ามึงสามารถนิยามชีวิตที่ดีของมึงโดยไม่จำเป็นต้องแคร์ความหมายเดิมๆได้ ที่แท้จริงแล้วโลกนี้ก็ไม่เคยพูดไว้ว่ามึงควรใช้ชีวิตยังไงด้วยซ้ำ (กูไม่ได้บอกให้มึงยอมรับความเหี้ยอะไร และเลิกบ่น กูแค่บอกให้ว่าทำไมเราต้องเป็นแบบนี้) กูว่าปัญหามันเกิดมาตั้งแต่จุดเริ่มต้น คนเราอยู่ได้โดยความกลัวไม่ได้ตลอดไปหรอกว่ะ ชีวิตกูเองก็จะค่อยๆปลดล็อคไปที่ละอย่าง
กูก็อยากมีเมียญี่ปุ่นไปอยู่ฮอกไกโด แล้วบริหารบ่อน้ำพุร้อนนะ. ได้อยู่เมืองอากาศหนาว แต่ได้อาบน้ำอุ่นทุกวันก็ว่าสุดจะฟิน. แถมเพราะไม่ใช่ถิ่นที่มีอุตสาหกรรมเยอะ อากาศก็น่าจะดีด้วย. เสียดายที่กาวหมดก่อน ไปเติมแป้บ
นี่เราอยู่ในยุคที่คะแนนเสียงส่วนน้อยมีผลมากกว่าส่วนมากแล้วหรอวะ ตั้งแต่ลงชื่อสามแสน ลามมาถึงการเลือกปธ.นร.แล้ว เจอคะแนนโนโหวตมากกว่าคะแนนคนที่ได้รับเลือก ถึงกับมึนไปเลย นี่มันอะไรกัน /ถูกทู้ปะ
คนไทยตอนนี้ ความคิดล้าหลังแล้วยังขี้เกียจอีก ความรู้ก็ตามหลังชาวบ้าน สรุปคือส่วนใหญ่แม่งกระจอก มีเพียง 1% เท่านั้น ที่ความคิดล้ำหน้านำประเทศไปสู่ความเจริญ อีก 90% ใช้ชีวิตหาเงินเสี่ยงโชคกินขี้ปี้นอนไปวันๆ ที่เหลือคือถ่วงความเจริญ ชั่วร้ายและโงเง่า ไม่ต้องถามว่ากูเอามาจากไหน จะเชื่อหรือไม่ก็เรื่องของพวกมึง แค่อ่านคำกูแล้วลองไปคิดดูเอาเองว่าจริงมั้ย
กูว่างั้นแหละ ถ้าประเทศไทยไม่มีคนไทย(เหี้ยๆ)จะเป็นเหี้ยอะไรที่น่าอยู่มากๆ ถ้ากฎหมายมันศักดิ์สิทธิ์ ถ้ามีการรณงค์ปลูกต้นไม้เยอะๆ วางผังเมืองดีๆ พัฒนาการศึกษาให้ดีๆ เอาแค่นี้นะ ประเทศไทยแม่งจะเป็นเหี้ยอะไรที่น่าอยู่มากอ่ะ แผ่นดินไหวก็ไม่มี เหี้ยสุดคือน้ำท่วม พายุอะไรมาก็กลายเป็นฝนหมด อาหารก็อร่อย พืชผักก็เยอะ อากาศก็ดี(ถ้าปลูกต้นไม้เยอะกว่านี้) เป็นเมืองในฝันชิบหายเลย เฮ้อ
ทำไมมู้นี้โดนปลดละวะ? ก่อนหน้านี้ยังโดนล๊อคอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?
ดัน กูอยากอ่านต่อ
มู้ที่รวมพวกขยะจนๆของชาติไทยไว้แบบนี้นี่มีแต่ความน่าขยะแขยงไอสัส วันๆพ่นแต่เรื่องราวของพวกชีวิตไม่มีจะแดกและความคิดของพวกงอมืองอตีนไม่ทำหัวควยหมาอะไรสัส
วงจรอุบาทที่กูสัมผัสได้
สมัยก่อนโน้นน
เด็ก/วัยรุ่น ชอบด่าผู้ใหญ่ โง่ตามไม่ทันยุค ทำให้พวกกูต้องลำบาก
สมัยก่อนนู้นน
เด็ก/วัยรุ่น ชอบด่าผู้ใหญ่ โง่ตามไม่ทันยุค ทำให้พวกกูต้องลำบาก
สมัยก่อนนั้น
เด็ก/วัยรุ่น ชอบด่าผู้ใหญ่ โง่ตามไม่ทันยุค ทำให้พวกกูต้องลำบาก
สมัยก่อน
เด็ก/วัยรุ่น ชอบด่าผู้ใหญ่ โง่ตามไม่ทันยุค ทำให้พวกกูต้องลำบาก
สมัยนี้
เด็ก/วัยรุ่น ชอบด่าผู้ใหญ่ โง่ตามไม่ทันยุค ทำให้พวกกูต้องลำบาก
อนาคต
เด็ก/วัยรุ่น ชอบด่าผู้ใหญ่ โง่ตามไม่ทันยุค ทำให้พวกกูต้องลำบาก
ต่างฝ่ายต่างก็เอายุคสมัยที่ตัวเองรุ่งโรจน์มาเป็นตัวตั้งแล้วด่าคนที่มีค่านิยมแนวคิดของยุคอื่น มันน่าจะเป็นอะไรแบบนี้แหละ
กูไม่รู้กูเริ่มแก่แล้ว. แต่ตอนเรียนประถมครูบอกว่าที่สอนให้เด็กๆมีระเบียบเพราะว่าเราจะสร้างสังคมที่น่าอยู่กว่า ยุคสมัยเก่า คนแก่แล้วมันจะทำแบบเดิมๆก็ชั่ง แต่คนรุ่นใหม่ต้องมีระเบียบกว่าเดิม เบียดเบียนน้อยกว่าเดิม คอร์รัปชั่นน้อยกว่าเดิม โลกจะได้น่าอยู่ขึ้น
ไอ้ที่บอกว่าเมือ่ก่อนเด็กอยู่ในกรอบอันดี เพราะว่าครูตีเด็กได้ พ่อแม่ตีเด็กได้ นี่มันดีกว่าจริงๆหรอวะ? ให้เด็กอยู่ในกรอบในแบบด้วยความกลัว ไม่กล้าที่จะทำอะไร ไม่กล้าที่จะทำนู่นทำนี่เพราะกลัว
ตีเพื่อสั่งสอนเวลาทำผิดหรือมีแนวโน้มทำผิด กับตีเพื่อระบายตัณหาอารมณ์มันไม่เหมือนกัน
แต่อย่างว่าแหละ อย่างหลังชอบอ้างแบบแรก
เหมือนเวลาเห็นเด็กที่มี พฤติกรรมชอบรังแกทำร้ายคนอื่น หรือ ถึงขั้นทั้งห้องรุมแกล้งคนเดียวหรือส่วนน้อย
มึงว่า แค่บอกตักเตือนนิ่มๆ ลงโทษเบาๆเด็กพวกนี้มันจะฟังไหม
ทำไมโรงเรียนต่างประเทศถึงมักมีปัญหา Bully ในโรงเรียน (ซึ่งโรงเรียนพวกนี้ครูก็ไม่ตีเด็กแล้ว ?)
บทลงโทษจึงมีหลายแบบ อย่างชดใช้ค่าเสียหายเจอ ข้ออ้างบ้านจนไม่มีใช้ให้ พักการเรียน(เด็กชอบได้โดดเรียน) ไล่ออก/ซ้ำชั้น(โรงเรียนโดนพิจารณาคุณภาพ)
ยุคนี้เลยมีเด็กลูกเทวดาเพิ่มมากกว่าเมื่อก่อน แถมรู้มากขนาดรู้ว่าทำผิด ระดับ ปล้น ข่มขืน ฆ่า กูก็ยังรอด
ซึ่งต่อไปคงเถียงกันไม่จบวะ
Topic has been locked by moderator.
No more posts could be made at this time.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.