เมื่อก่อนการบรรยายกลภน มีสำนวนยอกย้อนแฝงคม ที่มีภาษาสละสลวย เหล่าชาวยุทธเหมือนจะผลิตวลีงามๆกระชับได้ใจความ ฉับไวเหมือนกระบี่ มากกว่าการครำ่ครวญเป็นกวียาวๆแบบบัญฑิต
มันก็เป็นเสน่ห์อย่างนึงที่กูชอบอ่านสำนวนแปลทำนองนั้น
มายุคนี้คนเขียนยังก้าวไปในโลกยุทธจักรแฟนตาซีโบราณ แต่อิทธิพลสำนวนเก่าเซตติ้งเดิมก็เริ่มถูกเปลี่ยนไป กูสังเกตว่ามีการใช้สำนวนอุปมาของจีนดั้งเดิมมากกว่าสร้างอุปมาขึ้นตามภาวะอารมณ์และสิ่งแวดล้อม
แล้วก็มีการอ้างถึงบทกวีโบราณมากขึ้น
กูเดาเอาว่าเป็นสิ่งที่เขารีเสริชกันมา
ความคิดย้อนอดีต ก็เพราะอยากจะเข้าไปในยุคที่จีนเป็นใหญ่รุ่มรวยอารยะธรรม ตัวละครก็เอาข้อสรุปใหม่ๆเข้าไปสู่โลกเดิม
เนื้อหาเขาก็สนใจการเมืองและราชสำนักมากขึ้นด้วย ถ้า กลภนยุคก่อนๆ ยุทธภพมันคือวงการนักเลง มีกฏของมันปฎิเสธการมีอยู่ของราชสำนักฮ่องเต้นี่ไม่เทียบเท่าประมุขแห่งยุทธภพเลย55
(ซึ่งกูคิดไปไกลอีกว่าสมัยนั้นคล้ายๆปฎิเสธรัฐบาลฮ่องกงไปในตัว)
กูว่าสำนวนที่เขาใช้มันคงโบราณอยู่แต่สำนวนและกระบวนการนำเสนอน่าจะต่างจากยุคกระบี่เดียวดาย ตัวละครประหลาดแปลกแยก ธรรมมะชนะอธรรม ยึดมั่นในตรรกะบางอย่างยิ่งกว่าชีวิต เช่นการแก้แค้น การยึดมั่นในสัจจะ พล๊อตมันก็ซ้ำนะแต่รายละเอียดตัวละครที่สร้างและวิถีชาวยุทธยุคนั้น มันสะท้อนยุคสมัยจริงผ่านจินตนาการแบบยุทธภพ ไอเดียบางตัวยังเอามาจากนิยายฝรั่งเลย จำได้ว่าพวกแฮมมิ่งเวย์ สไตน์แบค นี่โกวเล้งชอบอ่าน
กูเลยว่า แนวกำลังภายในในยุคนี้มันเปลี่ยนไปทั้งเนื้อหาและสำบัดสำนวน
มั่งนี้กูก็อ่านภาษาจีนไม่ออกสักตัวนะ แต่ตั้งข้อสังเกตเอาจากการอ่านดาบมังกรหยกมาตั้งแต่เด็กๆ5555