ยิยายพวกมึงเคยพล็อตเปลี่ยนกันมั้ย
ของกุจากคอเมดี้ตอนนี้เป้นเหี้ยไรไปแล้วไม่รุ้ ไม่รู้จะกลับมาไงเี
Last posted
Total of 1000 posts
ยิยายพวกมึงเคยพล็อตเปลี่ยนกันมั้ย
ของกุจากคอเมดี้ตอนนี้เป้นเหี้ยไรไปแล้วไม่รุ้ ไม่รู้จะกลับมาไงเี
>>973 เท่าที่ดูตอนนี้ตัดพล็อตไม่ได้ แต่ถ้ากูเขียน จะได้ไม่ถึง 150 หน้าด้วยซ้ำ เพราะกูจะไม่เล่าไปทีละขั้นตอน แต่จะเริ่มจากฉากที่พระเอกโดนสืบสวนแล้วแฟลชแบ๊กกลับไปเล่าความเป็นมาคร่าวๆ จากนั้นก็เชื่อมไปหาเรื่องปีศาจ มาบอกว่าที่มีเวทมนตร์เพราะบลาบลา แล้วพระเอกก็พยายามปกปิดเรื่องนี้ระหว่างที่โดนสืบสวน (ไทม์ไลน์จะเปลี่ยนจากของมึงนิดนึง) ดังนั้นกูว่าที่มันยาวไม่ใช่เพราะพล็อตนะ แต่เป็นที่การเรียบเรียงกับการลำดับเหตุการณ์เรื่องมากกว่า ฉากที่ไม่จำเป็นต้องเล่าละเอียดแบบ Sshow ก็ใช้ tell พอแล้ว อย่างช่วงชีวิตก่อนพระเอกโดนสืบสวนอะมึง
>>975 บ่อย 55555
>>976 ก็จริงอะที่กุเล่าไปตามลำดับขั้นเกินไป แถมยังใช้ show ซะเยอะด้วย Orz
แนะแนวทางได้ดีนะ แต่น่าเสียดายเพราะที่จริง... ไอ้ที่เล่ามานี่คือ flash back ของพระเอกทั้งหมดเลยอะสิ
ที่กุเขียนน่ะ บทนำคือตอนท้ายของเรื่อง แล้วพระเอกมัน flash back เล่าย้อนตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง ไล่ไปจนถึงช่วงบทนำเลย
แต่ในเมื่อแนะมาแบบนี้ กุขอรับไปลองวิเคราะห์ดูแล้วกัน
บางทีอาจต้องเขียนใหม่ทั้งหมด แต่ถ้าให้มันสั้นกระชับกว่านี้ได้ก็คงดี
เห็นยอดเฟบลดแอบใจหาย กุเขียนไรผิดไป
นักอ่าน กุขอโทดกุไม่ว่างแต่งทุกวันนนน ทักต้องมานั่งแก้ก่อนเผยแพร่อีก
คืองี้กุคิดว่ายอดเฟบลดเพราะกุลงช้า กุลงช้าเพราะกุอ่านทวน เชคอีกรอบ แก้คำผิด แก้สำนวน มันคงไม่ทันใจแบบพวกนิยายพิมพ์ผิดแต่ลงไว ฮือ
>>982 มึงอยากได้คนอ่านที่ไม่สนสี่สนแปด เอาแต่ความเร็วเข้าว่าหรือเปล่าล่ะ ถ้ามึงชอบแบบนั้น มึงอยากสนองให้พวกที่อ่านนิยายเอาแค่เนื้อเรื่องสะใจตัว ไม่สนใจความละเอียดหรือความดีงามอะไร มึงก็ลงเร็วๆตามคนอื่นไป ถ้ามึงพอใจยอดวิว เผื่อว่ามึงจะเอาไปขายได้ หรือมึงภูมิใจในยอดมากกว่าในผลงานที่มึงตั้งใจำ มึงก็เอาเร็วเข้าว่า
เพื่อนโม่งปรึกษาเรื่องนิยายหน่อยสิ กูมือใหม่เพิ่งแต่งเรื่อง 2
แนวสงคราม เซ็ตติ้ง ยุคกลางสไตล์จักรวรรดิรัสเซีย แฟนตาซี
อยากรู้ว่าถ้ารีบเดินเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละคร เร่งเข้าช่วงสงครามเลยจะโอเคมั้ยวะ ทั้งหมดนี้ใน 10 ตอน แต่เป็นนิยายเรื่องยาวนะ
เรื่องย่อ พระเอกเป็นเด็กบ้านนอกในหมู่บ้านเกษตรกรรมที่กำลังจัดงานเทศกาลต้อนรับฤดูร้อนอยู่ ส่วนนางเอกเป็นเอลฟ์นักล่าสัตว์ บาดเจ็บโดนก๊อปลินทำร้าย แล้วหลงมาหมู่บ้านพระเอก เดิมทีมนุษย์กับเอลฟ์แทบไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกันเลยเพราะพวกเอลฟ์อยู่ในป่าลึก อันตราย กอปรกับปัญหาการเมืองภายในที่ฝ่ายปกครองแตกเป็นสองฝ่ายคือฝ่ายจักรวรรดินิยมนี่ยังนิยมให้ซาร์คุมอำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ กับ ฝ่ายสหภาพแรงงานที่ต้องการให้อุตสาหกรรมต่างๆเป็นเจ้าของโดยชนชั้นแรงงานด้วยกัน อิงระบบ Syndicalism ทำให้เสียเสถียรภาพทางการเมือง ทีนี้พระเอกที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการเมืองเลย เพราะอยู่ในบ้านนอกตะเข็บชายแดนก็บังเอิญไปเจอนางเอกสภาพร่อมร่อใกล้ตายอยู่ แต่พาคนมาช่วยไล่ก๊อปลินได้ทัน พอนางเอกฟื้น ก็รู้สึกปลื้มและเปลี่ยนมุมมองต่อมนุษย์ นางก็เรียนวิธีทำอาหาร เล่นดนตรีจากหมู่บ้านมนุษย์ไปเผยแพร่ในหมู่บ้านเอลฟ์ ทำให้สองหมู่บ้านที่ไม่เคยติดต่อกันมาก่อนเป็นร้อยๆปี เริ่มสานสายสัมพันธ์ขึ้น
ทีนี้ฝ่่ายจักรวรรดินิยมรู้เรื่องขึ้นมา ก็เลยส่งทูตไปติดต่อกับเอลฟ์ มีบรรณาการมากมายไปให้ เอลฟ์ที่เพิ่งเริ่มเปลี่ยนมุมมองกับมนุษย์ก็ยิ่งรู้สึกปลื้มเข้าไปใหญ่ แต่หารู้ไม่ว่ากำลังจะโดนหลอกรวบดินแดนให้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้ฝ่ายจักรวรรดินิยม แต่ด้วยวัฒนธรรมของมนุษย์ที่ยังไม่เข้ากับวิถีชีวิตของพวกเอลฟ์เท่าไหร่ ทำให้พวกเอลฟ์ปฏิเสธ แผนการรวบดินแดนจึงล้มเหลว ซาร์รู้สึกเสียหน้าที่คนป่าเผ่าเล็กๆอย่างเอลฟ์ไม่ยอมรับข้อเสนอ เลยคิดจะใช้กำลังยึดครอง โดนอ้างเหตุผลว่าปกป้องเอลฟ์จากก๊อปลิน เมื่อกองทหารของซาร์ยกพลไปยังชายแดน ฝ่ายสหภาพแรงงานเห็นกำลังพลลดลงจึงถือโอกาสปลุกระดมประชาชนให้มาเข้ากับพวกของตน เป็นชนวนที่จะทำให้เกิดสงครามกลางเมือง ที่พระเอกจะโดนดึงเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยในภายหลัง ทำให้ต้องแยกจากนางเอก
เล่นเรื่องการเมือง แนวคิดทั้ง 2 ขั้วอิงจากปฏิวัติรัสเซีย 1917 แล้วก็เล่าเรื่องเหยื่อของสงครามอย่างพระเอกกับนางเอกที่เป็นแค่คนธรรมดาที่โดนดึงเข้ามาด้วย แล้วถูกบังคับให้เลือกข้างตัวเอกโดนหลอกใช้ อาจจะเพิ่มประเด็นเหยียดเพศ เหยียดเผ่าขึ้นมาด้วย แล้วก็ปัญหาจากภายนอกคือเรื่องก๊อปลินกับออร์คที่จะยกทัพลงมาบุกตอนที่สองฝ่ายกำลังตีกัน อิงจาก 1937 ญี่ปุ่นบุกจีน
กุแต่งจีนโบราณ แต่ในหัวกุมีแต่ศัพท์สมัยใหม่ทั้งน้าน เง้ออออ บางอันมาแม่งเป็นตัวอังกฤษ มีวิธีทำให้สมองโบราณมะ ๕๕๕
kyนะ ขอปรึกษาเรื่องการแต่งนิยายหลายฉากหน่อยนะ
ฉากแรก พระนางมีโมเม้นต์กุ๊กกิ๊กน่ารักแล้วจะจูบกันจนท้าย แต่ฉากมันออกมาจืดๆ ไม่ฟินอย่างที่อยากให้เป็น เหมือนตอนแต่งเราไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วม พอมีคำแนะนำไหมว่าแก้ไขยังไงได้บ้าง
ฉากสอง ต่อเนื่องจากฉากแรกที่พระจูบนาง พระเอกนึกถึงอดีตตัวเองที่เคยมีปัญหาเรื่องผู้หญิงมาเยอะจนกระทั่งกลับตัวเป็นคนดีศรีสังคมแบบปัจจุบัน ช่วงย้อนอดีตจะเล่ายังไงให้น่าสนใจ รู้สึกเหมือนพระเอกมายืนรายงานหน้าชั้นเรียนน่ะ
ถามหน่อย คือกุเรียนมหาลัยอินเตอร์ในไทยที่มีนศ.ต่างชาติเยอะมาก ทั้งเยอรมัน ฝรั่งเศส ออสเตรีย อินเดีย
อิหร่าน อังกฤษ สวิส เมกา บราซิล กินี ไนจีเรีย เดนมาร์ก ยันเพื่อนบ้าน ฯลฯ อาจารย์ส่วนใหญ่ก็มาจากยุโรป แล้วกุจะเขียนนิยายโดยอ้างอิงเซตติ้งจากม.กูเนี่ยแหละ อ่านแล้วจะรุ้สึกอินมั้ยวะ คือไม่ใช่อะไรหรอกลำพังแค่กูเล่าให้ญาติฟังว่าม.กูอย่างงั้นๆ เขาก็นึกภาพไม่ออก ไม่ชื่อว่าในไทยมีม.แบบนี้อยู่ด้วยแล้ว เขาจะติดภาพแบบว่าภาคอินเตอร์คงมีหัวทองสักสามคนในห้าร้อย ต่างชาติที่เหลือเป็นเพื่อนบ้าน 70เปอเซ็นต์เป็นไทยหมดอะไรงี้ จริงๆ จะเปลี่ยนเป็นม.คนไทยทั้งหมดก็ได้แหละ แต่กูแค่ไม่อยากจะเขียนอะไรที่กูไม่รู้
มู้ 3 >>>/literature/4775/
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.