>>817
สมัยที่ผมยังอยู่ต่างจังหวัด แม่ก็มักพูดย้ำเสมอว่าการตื่นเช้านั้นเป็นกำไรของชีวิต
เธอมักชอบอ้างว่าตื่นขึ้นมารับอากาศแรกอันแสนบริสุทธิ์ของวันบ้างล่ะ ไหนจะอ้างว่าตื่นขึ้นมารับวิตามินดีจากแดดบ้างล่ะ
ซ้ำร้ายกว่านั้นก็คือแม่มักจะไล่ให้ผมออกไปวิ่งตอนเช้าอีกต่างหากซึ่งขอบอกเลยว่าผิดวิสัยของผมเข้าอย่างจัง
ถูกแล้ว... ผมไม่ใช่คนตื่นเช้า เรียกได้ว่าเกลียดการตื่นเช้าเข้าไส้เลยก็ไม่ผิดนัก
ถ้าเป็นไปได้ผมเองก็อยากจะคลุกตัวอยู่บนเตียงอุ่นๆ ซุกหมอนนุ่มๆ แล้วนอนต่อจนกว่าจะตาสว่างล่ะนะ
แต่ก็ดูเหมือนความปรารถนาของผมจะไม่มีทางเป็นจริงได้ เพราะว่า...
“พี่เมฆ! พี่เมฆ! ตื่นได้แล้วนะ! ถ้าไม่ยอมตื่นล่ะก็หนูต้องถีบพี่เมฆออกจากเตียงจริงๆ แล้วนะ!”
ผมเบิกตาโพล่ง หลังจากที่เสียงร้องแปดหลอดอันแสบแก้วหูดังได้ขึ้นพร้อมกับการเขย่าร่างของผมแรงๆ หลายๆ ครั้ง
พฤติกรรมดังกล่าวนั้นได้ฉุดสติให้หลุดจากภวังค์ ผมเริ่มปรับสายตาโดยการกระพริบตาปริบๆ สองสามครั้ง จ้องฝ้าเพดานที่เปื้อนราดำแสนคุ้นตา
เมื่อหันซ้ายก็พบว่า เจ้าสามสี แมวเจ้าถิ่นประจำบ้านยังคงนอนอุดตุลิ้นห้อยอยู่บนคอนโดสุดหรูริมห้อง
ซึ่งกลับกันนั้นเมื่อหันขวาไปนั้น...
"ในที่สุดก็ตื่นซะทีนะ! นี่จะเจ็ดโมงเช้าแล้ว!"
เด็กสาวในชุดนักเรียนคนหนึ่งกำลังยืนเท้าเอวมุ่ยหน้าใส่ผม เธอพ่นลมและขมวดคิ้วใส่ผมแทบจะทันทีในยามที่พวกเราสบตากัน
ใบหน้าอวบกลมตุ้ยนุ้ยดูคล้ายซาลาเปาขาว ๆ น่าหยิก ที่มาพร้อมกับเส้นผมยาวถึงกลางหลังมัดเปียอย่างเป็นระเบียบ เมื่อประกอบกับชุดนักเรียน ม.ต้น คอปกกะลาสีอันแสนคุ้นตาแล้ว ผมก็แทบไม่ต้องเดาเลยว่าเธอคนนี้ก็คือ...
"ยัยปุ๋ยเองเหรอ? ให้ตายสิ... แหกปากปลุกแต่เช้านี่มันอะไรกันล่ะเนี่ยห๊ะ?"
"ก็พี่เมฆบอกให้หนูมาปลุกแต่เช้าเพราะต้องรีบไปทำเวรไม่ใช่เหรอ? แล้วไหงยังจะมาถามอีกล่ะ?"
เออ... จะว่าไปก็ใช่แฮะ ไอ้เราเองก็ลืมไปสนิทเลยให้ยัยนี่ปลุก
"เอาล่ะ ในเมื่อตื่นแล้วก็รีบลุกไปเปลี่ยนชุดได้แล้ว ...ป๊ะป๋าบอกว่าวันนี้จะไปส่งด้วย เพราะงั้นรีบ ๆ เข้าล่ะ!"
เจ้าหล่อนว่างั้น พลันถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหันควับเดินกลับไปยังทางออกห้อง
"...แล้วถ้ายังรักชีวิตล่ะก็ ...พี่เมฆก็อย่าได้ริแอบนอนต่อเด็ดขาดล่ะ"
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะออกไป เธอก็ชายตาหันมาแล้วพูดขู่ผมด้วยน้ำเสียงแหบแห้งอันแสนน่าขนลุกซะงั้น
ซึ่งพอได้เห็นแบบนั้นผมก็พยักหน้าตอบอย่างหวาด ๆ เพราะ เข้าใจว่าถ้าหากผมลองดีแล้วผลมันจะเป็นยังไง...
วันนี้เองก็เป็นอีกวันที่อากาศดีเอาเรื่อง...
แต่บางทีผมก็รู้สึกว่าอากาศมันจะดีเกินไปหน่อยจนน่าหมันไส้ไปนิด
เพราะเมื่อชำเลืองออกไปนอกหน้าต่างแล้วก็พบว่า ท้องฟ้าวันนี้มันปลอดโปร่งเอามาก ๆ จนแทบไม่มีเมฆให้เห็นเลยซักก้อน!
แม้ว่าตอนนี้ดวงอาทิตย์ยังขึ้นไม่สูง อากาศจึงยังไม่ร้อนมากนัก แต่สำหรับคนที่เกลียดยามเช้าอย่างผมแล้ว ต่อให้ประเทศไทยเกิดพายุหิมะพัดเข้ามาผมก็ไม่รู้สึกยินดีกับการตื่นเช้าแน่...
บ้าชะมัด ...ถ้าเลือกได้ก็อยากจะตื่นสายกว่านี้ซักหน่อย
แต่ก็อย่างที่รู้ล่ะนะว่ามันเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อวันนี้ผมดันเป็นเวรประจำสัปดาห์ซะงั้น
...ถ้าขาดเวรอีกครั้ง คงโดนเรียกผู้ปกครองไปพบครูแหง ๆ
ฉะนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น วันนี้ผมจึงถึงขั้นต้องทำร้ายตัวเองโดยการให้ยัยปุ๋ยมาปลุกเช้าวันนี้กันเลยทีเดียว
ให้ตายสิ... สำหรับผมแล้วการตื่นเช้านี่มันชวนให้รู้สึกห่อเหี่ยวชะมัด
และยิ่งรู้สึกเฟลหนักเมื่อหันไปมองเจ้าสามสีที่กำลังนอนยืดตัวกรนเสียงดัง ราวกับเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่บนคอนโดสุดหรู ณ มุมห้องนั่น
"...ตูอยากจะโดนรถบรรทุกชน แล้วไปเกิดใหม่เป็นแมวชะมัด"
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนลุกขึ้น แล้วจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวออกไปต้อนรับวันใหม่ที่ไม่อยากจะให้มาถึง
ก็... ประมาณนี้ล่ะ