>>218 กุล่ะเบื่อตรรกะที่ว่าถ้าไม่ได้ไปเป็นเขาไม่รู้หรอกว่ามันรู้สึกยังไง
มีอะไรเชื่อถือได้บ้างว่าคนที่วิจารณ์งานมันจะเป็นแค่คนอ่านอย่างเดียวไม่ใช่คนเขียนนิยายเหมือนกันน่ะ
ถ้าไม่เคยออกหนังสือมาก่อนก็วิจารณ์งานเขียนที่ใช้เงินตัวเองซื้อมาไม่ได้หรอ
ต้องเป็นมืออาชีพมาวิจารณ์เหรอถึงจะเปิดใจมากพอยอมรับได้
ไม่ใช่แค่นักเขียนหรอกนะที่โดนวิจารณ์หรือด่า
คนอ่านที่ด่าแบบไร้เหตุผลหรือบางคนด่าแบบมีเหตุผลก็โดนลากไปรุมด่า (พวกมากลากไปรุม)
แล้วส่วนมากนี่เด็กๆ ทั้งนั้น โดนเข้าไปก็ปิดเฟสหนีไปเลย เห็นบ่อยละพวกปิดเฟสเนี่ย
นักเขียนวางตัวดีแต่ระบายความท้อลงโซเชียลมันก็มี ถ้าท้อแล้วมาเล่าว่าไปเจอไรแย่ๆ มากุก็พร้อมให้กำลังใจ แบบนี้กุเห็นเยอะ
เล่าแบบไม่ต้องไปพาดพิงหรือระบุตัวตนใครชัดเจน บอกแค่ว่าเสียใจเพราะอะไรก็เพียงพอ
แต่ไอ้ประเภทโดนวิจารณ์แค่คนเดียวแล้วดิ้นจนต้องแคปเอามาด่ากลับ หาเพื่อนช่วยกันรุมด่า หรือด่าลอยๆ ไร้หลักฐานแต่คนอ่านรู้ว่าหมายถึงใครนี่กุโคตรไม่ชอบเลย
ส่วนเรื่องกดดันหนักจนเป็นโรคซึมเศร้านี่ นักเขียนไทยก็มีเยอะนะ ที่ไปพบจิตแพทย์เพื่อขอยาและปรับความรู้สึกตัวเอง
เพียงแต่ส่วนมากไม่ค่อยออกมาบอกหรอกว่าไปหาจิตแพทย์มา เพราะบางคนคิดว่าถ้าประกาศออกไป เดี๋ยวจะมีคนเอาไปพูดอีกว่าสำออย เรียกร้องความเห็นใจ
สุดท้ายจิตแพทย์ก็แนะนำไม่ต่างจากกุมากเท่าไรคือ ให้หยุดเล่นโซเชียล เลิกสนใจความคิดแย่ๆ ของคนอื่น แล้วไปพักผ่อนให้สบายใจ มีคนอื่นอยู่เป็นเพื่อนเผื่อเศร้ามากจนอยากฆ่าตัวตาย