เรื่องป่าท้อ กูจำได้วาป้าหลินออกมาปกป้องนักเขียนชิบหาย ประมาณว่ามันไม่มีหลักฐานชัดเจนซะหน่อย ถามนักเขียนแล้วเค้าบอกแรงบันดาลใจ(ให้ลอก) มันไม่มีจุดเคลียร์ชัดเจนว่าลอกหรือไม่ลอก นางเลยไม่สน ก็ชั้นชอบเรื่องนี้เลยเอามาแปลให้อ่านกัน
เอาง่ายๆแค่ว่า แม่งสนิทกับนักเขียนถึงขั้นท้วงติงได้ว่าตรงนี้ไม่ใช่ ตรงนี้ไม่สมเหตุสมผล แก้ซะงี้ได้ด้วย
ส่วนตัวกูไม่ได้อ่านหนี้ดอกื้อระ กูขี้เกียจอ่านงานวายแล้ว แต่สำหรับกูที่อ่านป่าท้อของป้าหลินมา กูไม่ค่อยประืับใจเรท่องว่ะ บางทีกูว่าเรื่องมันเวิ่นเว้อ อยากมาโทนดราม่าแต่แม่งก็ไม่สุดมันดูครึ่งๆกลางๆยังไงก็ไม่รู้ว่ะ ทันเลยทำให้หูไม่มีอารมณ์อ่านลิขิตต่อเลย ดองเอาไส้ยาวๆ ยิ่งเจอคนบอกว่ามันยืดชิบ เนือยโคตรกูยิ่งซุกไว้ในหลืบเลยว่ะ คิดว่าซักวันคงต้องหยิบมาอ่านแหละเพราะหรังสือป้าแพงชิบหาย
บางทีกูอยากรู้เหมือนกันนะว่าืำไมหนังสือป้าแพงงี้วะ เพราะตีพิมพ์มาจำนสนน้อยด้วยเปล่า แต่สิ่งที่กูไม่ปีะทับของป้าคือฟุตโน้ตอันยาวยืดกับเชิงอรรถที่โคตรหนา ส่วนตัวกูมองว่ามีได้ ทีแล้วดีด้วยซ้ำ แต่ควรพอเหมาะพอดีหน่อย ไม่ใช่ฟุตโน้ตล่อมาครึ่งหน้า เชิงอรรถเรื่องเดียวกันเหมือนกันทุกเบ่มคือกูมองว่าใส่เบ่มใดเล่มหนึ่งก็พอ แล้วของ1อย่างไม่ต้องใส่มา1-2หน้า แค่ภาพาองภาพพอเป็นพอธีก็พอละ ต้นทุนมันน่าจะลดลงไปได้อีก
ไหนจะเรื่องการจัดหน้าของป้าหลินที่กูว่ามันกินพื้นที่ไปอ่ะ ฟ้อนต์ใหญ่มาก line space ก็กว้าง ป้าบอกแต่ว่าคนรุ่นนางอ่านกันเยอะเลยอำนวยความสะดวกให้คนสว.อ่านกันง่ายๆ แต่กูเปิดมาตกใจว่ะตัวเท่าหม้อแกง
กูคิดว่ากูอาจตะเสียตังให้ป้าหลินก็หย่งเยี่นเป็นเรื่องสุดท้าย แต่ป่านนี้กูยังไม่มีอารมณ์พรีเลย พรีชาตินี้อ่านชาติหน้า ความ perfectionistของป้านี่ช่างไม่เข้ากับเวลาการทำงานเลยที่เลทตลอด มันไม่สามารถทำให้กูไว้วางใจได้ว่ะ