5-8000 เรื่องดังที่ตีพิมพ์ซ้ำ 3000 ก็รองลงมาก
แต่ช่วงเวลานี้ เพื่อนโม่งสังเกตุให้ดีว่ามีเรื่องไหนพิมพ์ซ้ำได้มั่ง แถมนักเขียนยังมาออกทำมือเองอีกหลายคน ในยุคนี้
Last posted
Total of 1000 posts
5-8000 เรื่องดังที่ตีพิมพ์ซ้ำ 3000 ก็รองลงมาก
แต่ช่วงเวลานี้ เพื่อนโม่งสังเกตุให้ดีว่ามีเรื่องไหนพิมพ์ซ้ำได้มั่ง แถมนักเขียนยังมาออกทำมือเองอีกหลายคน ในยุคนี้
>>911 กูไม่ได้พูดถึงอดีตกูพูดปัจจุบันนี้แหละ มึงอาจจะคิดว่ามันคงน้อยหมดทุกที่ทุกคนแต่จริงๆไม่ใช่แบบนั้นหรอก ยังมีคนขายระดับยอดเยอะยังมีคนรีปริ้นอยู่ส่วนที่กูพูด 5000 ไรนั่นกูพูดน้อยแล้วนะ มันมีคนได้มากกว่านั้น ถ้ามึงจะเท้าความไปสมัยแฟนตาซีรุ่งเรืองนั่นระดับ 15000 เล่ม+ก็มี อย่าดูถูกพลังแมสไปนัก แต่พวกโดนลดเหลือ 1000-2000 ก็มีแต่ไม่ใช่จะยอดน้อยนิดแบบนั้นหมดส่วนจะเชื่อไหมนั่นแล้วแต่มึงนะ
>>912 ทำมือเงินเยอะกว่ากับไม่ต้องรอคิวออกไงมึง เพราะอย่างที่มึงว่าแหละว่าช่วงนี้มันดรอปไปสนพประคองตัวก็จำกัดเรื่องจำกัดจำนวนเล่มต่อปี พวกมั่นใจฐานแฟนก็ทำมือเองเยอะ มึงไม่ต้องดูใครหรอก ชื่อดังๆของสถาอย่างกัลทำมือรัวๆส่งสนพแค่เรื่องสองเรื่องที่เหลือพิมพ์ขายเองหมด
อืมกูขอพูดหน่อย วงการหนังสือ(ไม่ใช่แค่นิยายด้วยนะ เพราะมันใช้ได้กับทุกหมวดเลย) บางคนอาจคิดว่านักอ่านมี 100 คนนักเขียนแต่ละคนแบ่งๆนักอ่านกันไปมากบ้างน้อยบ้างแต่ก็พอเฉลี่ยกันได้ แต่จริงๆมันไม่ใช่แบบนั้นหรอก วงการนี้มันเป็นอย่างที่ปราบดา หยุ่นบอกนั่นละที่ว่านักอ่าน 80% อ่านงานของนักเขียนแค่ 20% (หมายถึงอ่านงานของนักเขียนแค่ 20 คนจากนักเขียน 100 คน) ส่วนนักอ่านที่เหลืออยู่ 20% ที่ไม่สังกัดหรือไม่ได้ตามผลงานใครเป็นพิเศษคือนักอ่านที่ให้โอกาส นักเขียนที่เหลืออีก 80% ก็ต้องไปแย่งนักอ่านกลุ่มนี้กันเอามันทำให้พวกมีฐานแฟนอยู่แล้วไม่สะเทือนนักในช่วงขาลง(แต่ก็มีผลบ้าง)แต่พวกที่หนักคือนักเขียน 80% ที่ต้องมาแย่งลูกค้า 20% ต่างหาก การตัดจบก็เกิดกับนักเขียนส่วนใหญ่ที่แย่งตลาดไม่ได้ ส่วนคนที่งานขายได้ก็ได้ออกงานบ่อยขึ้นอีก จริงๆช่วงเศรษฐกิจแย่น่ะเป็นเวลาทองของพวกมีฐานแฟนเลยละเพระจะมีนักเขียนล้มหายตายจากไปเยอะเชียวละและพอถึงยุคที่มันกลับมาบูมก็เหลือคนที่ยืนได้ไม่กี่คน ก็วนลูปกินต่อไป ฐานแฟนน่ะสำคัญกับนักเขียนมาก มากกว่านักวิจารณ์ มากกว่ารางวัลดีเด่นอะไรต่างๆนานาเสียอีก (มึงเชื่อไหม หนังสือที่ได้ซีไรท์น่ะขายได้ราวๆ แสนเล่มทั่วประเทศ แต่หนังสือที่ได้ที่เข้ารอบสุดท้ายซีไรท์ขาย 3000 เล่มยังแทบไม่หมดเลย)
จริงๆลองเทียบจากตัวเองดูก็รู้นะว่าเดี๋ยวนี้ซื้องานนักเขียนหน้าใหม่มากน้อยแค่ไหน ยิ่งในช่วงเศรฐกิจแย่ๆอย่างนี้ด้วยแล้ว กล้าเสี่ยงซื้อหน้าใหม่สักกี่เล่มน่ะ
>>918 ซีไรท แสนเล่ม เพราะระบบห้องสมุดที่ต้องมีผลงานแบบนี้เป็นเล่มที่ต้องซื้อ อันนั้นกูเข้าใจนะ
ส่วนยอดขาย กูเดาจากที่เห็นว่าสายไหนมันซบเซากว่าสายอื่นๆ แล้วทะยอยปิดไม่เปิดเรื่องใหม่ หลักเบสิกง่ายๆ ซึ่งสายแฟนเป็นอะไรที่เป้นแบบนั้น
คือทั้งที่ยอดขายรวมในร้านค้าใหญ่ๆก็ลดลงบ้าง หมายถึงไม่เติบโต ไม่ได้มากนัก
สายรัก สายจีน สายวาย ยังคึกคักเช่นเดิม
ยกตัวอย่างถ้าช่วงเศรษฐกิจดี มีเงินไปงานหนังสือ 2000 บาท แต่หนังสือที่นักเขียนที่เราชอบมากๆออกต้องซื้อแน่ 800 บาท ที่เหลือ 1200 บาทก็ไปโปรยกันตามหน้าปกและคำโปรยที่ดูน่าอ่านรวมไปถึงคนขายเชียร์ดี
แล้วพอเศรษฐกิจไม่ดี เงินที่จะไปงานหนังสือเหลือสัก 1400 บาท นักเขียนที่ต้องซื้อแน่ๆเพราะติดตามก็ออกงานเท่าครั้งเดิมอีก แน่นอนว่า 800 บาทก็ต้องกันไว้ให้นักเขียนขวัญใจ ส่วนเงินที่เหลือก็ยังไปโปรยต่อ แต่เงินที่จะโปรยน่ะมันลดลง จากที่เคยโปรยได้ 1200 เหลือแค่ 600 บาท ก็ทำให้พวกหน้าใหม่หรือนักเขียนชื่อไม่ดังที่ออกงานช่วงนั้นยอดซื้อหาย เพราะปกติเขาอาจจะซื้ออันดับ 1-10 ในใจเพราะเงินพอ แต่คราวนี้เงินไม่พอก็ต้องซื้อได้แค่อันดับ 1-6 พวกไม่ติด top 6 ในใจนักอ่านก็ตายเลยไง
>>922 สายงานเขียนมันไม่ได้มีแค่สนพกับนักเขียน มันมีตัวจักรตัวอื่นด้วย บก. หน้าร้าน สายส่ง ร้านปลีก พวกนี้อยู่ในกลไกด้วย อย่างสนพ XXXXX นี่ยกยวงกวาดบก.ทิ้งแทบหมดเลยนะ เพราะงานหลังๆที่ออกมีงานที่ไม่ควรได้ออกเยอะมีข้อกังขาว่าเล่นเส้นสายพรรคพวกมีนอกมีในอันนี้กูอ่านเอาจากที่เพื่อนโม่งเคยมาวิจารณ์กันนะเรื่องสนพ XXX เนี่ย อีกเคสก็ไม่ลงรอยกันจะกับสนพหรือกับบก.ก็ทำให้นักเขียนออกนะ แต่ถ้าเพื่อโม่งอยากรู้ว่าคนไหนขายดีดูง่ายๆ พวกที่ทำมือหลายๆเล่มแต่สำนักพิมพ์ยังออกงานให้เรื่อยๆพวกนั้นแหละขายดีตัวจริง แต่สิ่งที่ต้องทำลืมไปคืออย่าเอาใจเราไปวัดว่าเรื่องนั้นคนนั้นควรขายได้เยอะได้น้อยกากไม่กาก เพราะคนชอบแนวคนในโม่งเป็นคนส่วนน้อยของตลาดอันนี้พวกเราต้องยอมรับว่ะ
>>923 พอจะเข้าใจนะ ที่เพื่อนโม่งพูดอยู่
แบบกูชอบสังเกตในวดด ด้วย แล้วเห็นสายแฟนมีคนอ่านอยู่เยอะพอควร แต่ว่าปีหนึ่งๆ กลับมีเรื่องใหม่ที่ได้ตีพิมพ์นับนิ้วในมือเดียวได้เลย แบบมันแปลกใจมากๆ
ยังไม่รวมที่นักเขียนไปออกทำมือเองมากด้วย
ซึ่งมันผิดกับสายรัก สายจีน ที่ได้ตีพิมพ์บ่อยที่สุด และมักเห็นเรื่องที่ได้ตีพิมพ์ก็มีการรีปรินบ่อยๆ
สายแฟนนี่คงรออะไรมาเปลี่ยนแปลงใหม่ ครั้งใหญ่ ถึงจะกลับมาได้สินะ ช่วงนี้คงแปลจีนที่ไปได้ดีในตลาดบ้านเรา
>>927 แนวมันเริ่มซ้ำ กี่เรื่องๆก็ย้อนอดีตข้ามเวลา ต้องมีเรื่องแปลกๆเปรี้ยงโผล่มาถึงจะยืดเวลาเสื่อมได้
เท่าที่กูดูกลอรี่ก็น่าจะไหวนะมึง ถ้าอนิเมไม่ได้ฉายที่จีนแต่เป็นอนิเมยุ่นคงเปรี้ยงได้มากกว่านี้เยอะ ขนาดเป็นเมะจีนคนยังชมกันเยอะเลย (กูหมายถึงตลาดเมะจีนในไทยมันน้อยกว่าตลาดเมะยุ่นน่ะ)
แต่คิดไปคิดมา นิยายรักนี่แหละฮิตได้ง่ายสุด ต่อให้ไม่ฮิตก็ยังไปได้เรื่อยๆ ถ้ามีนิยายรักแนวใหม่เกิดขึ้นก็คงเล่นกับกระแสไปได้อีกพักใหญ่
ซีรี่ย์ที่คนวาดแมวบินวาดปกนี่สนุกมั้ย เหมือนจะออกแนว Fantasy horror
กูไม่รู้จะไปถามตรงไหนดี เลยขอมาถามตรงนี้ละกันผิดที่ก็บอกนะ จะคุยเกี่ยวกับนิยายเกมออฟโทรนได้ที่ไหนบ้างอ่ะ
ใครเคยอ่าน ยูลิสซิส มัวร์ มั่ง สนุกมั้ย
งานใหม่เจ๊กัลฐิดา มาแล้วละ พวกมึง
แนะนำ (สงสัยกูมาช้าไป ห้องดูร้างไปแล้ว)
riyria revelations แนวผจญภัย มีสามเล่ม (6ตอน)
the vagrant ตัวละครหลักเเม่งคือพระเอก(ที่พูดไม่ได้) แพะ กับ เด็กทารก เป็นแนวผจญภัยเดินทางไปเรื่อยๆ โลกเหมือน falloutผสมdragon age
elantris แฟนตาซีเล่มเดียวจบ เนื้อหาแปลกดี
the first law trilogy หนึงในตัวละครหลักเเม่งเป็นคนพิการ แต่เท่ห์เหี้ยๆ นิยายเเม่งหักมุมได้ดี เหมือนเอาแฟนตาซีดั้งเดิมมาล้อเลียนนิดๆ
>>944
riyria ภาคหลัง(revelation)สนุกกว่าภาคต้น(chronicle) ภาคrevelationมันแนวsword and sorceryจบไปเป็นตอนๆก็จริง แต่แฝงไว้ด้วยเนื้อเรื่องหลังที่มีความเป็นมหากาพย์นิดๆ
the first law เลือดสาด เห็นมีหลายคนว่าโหดร้ายไปหน่อย แต่โดยส่วนตัวเเล้วคิดว่ามันลงตัวมากๆ ตอนจบก็ทำได้ดี เห็นว่าคนเขียนกำลังเขียนภาคต่ออยู่ (ไม่นับพวกstandaloneที่อยู่ในจักรวาลเดียวกันอย่าง best served cold, the heroes)
mistborn เห็นคนอวยเยอะมาก อวยจนยังไม่กล้าอ่าน ซื้อมาดองไว้นานล่ะ เนื้อเรื่องมันดูมหากาพย์ แถมสามเล่มจบ เลยรอมีอารมณ์อ่านอยู่ เพื่อนโม่งอ่านยัง? มีความเห็นไงบ้าง?
ลืมบอกไป อีกเรื่องที่โคตรจะมันส์เลยก็คือ bloodsong ของ anthony ryan ซึ่งมันเป็นเล่ม1จากนิยาย3เล่มจบ แนะนำให้อ่านเเค่เล่มแรกพอ เล่มสองกับสามน่าผิดหวังมาก นิยายมันจะเป็นแนวๆแฟนตาซียุคกลาง มีเวทมนตร์แต่ไม่เยอะ
เออ ช่วงนี้อยากอ่านแบบแฟนตาซีที่มันเล่มเดียวหรือสองเล่มจบ เอาแบบไม่ยาวมาก จะจีน ฝรั่ง หรือ ไทยก็ได้ ขอคำแนะนำหน่อย ใครก็ได้
กูซื้อ the first law มาดองไว้แล้ว riyria revelations กับ blood song ก็เล็งไว้อยู่ mistborn กูอ่านเรื่องย่อแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่แนวเหมือนจะมีผู้หญิงเล่าเรื่องเลยไม่ชอบ กูชอบ male-pov มากกว่า กำลังจะอ่าน broken empire ปิดเทอมพอดีมีเวลา
>>945
Riyria เราเริ่มอ่านภาค chronicle มั้ง แต่แบบ ยังไม่รู้สึกว่าจูงใจให้อ่านต่อ จะพยายามกระดึบไปนะ 5555
ถ้าอ่าน elantris ได้น่าจะmistborn นะ เหมือนจะเป็นมหากาพย์ก็จริงแต่เดินเรื่องค่อนข้างเร็ว คนเขียนวางแผนวางเนื้อเรื่องมาดีอ่ะ สร้างโลกดี ไม่มีปมที่ปิดไม่ลง เล่มแรกเหมือน ๆ จบในตัวด้วย ถ้าชอบแนวอ่านเอาเนื้อเรื่องเอาพล็อตแนะนำมาก ๆ
>>948 mistborn คนเขียนเป็นผู้ชาย ผู้หญิงเป็นตัวเดินเรื่องจริง แต่เขียนมุมมองบุคคลที่ 3 ไม่ได้อ่านแล้วให้อารมณ์ผู้หญิงเล่าหรอกนะ
มีใครอ่าน Jonathan Strange and Mr. Norrell บ้างมั้ย อยากหาเพื่อนเม้าท์
>>948
กูว่าภาคแยกของbroken empire (the red queen's war) แม่งสนุกกว่าพอสมควร ตัวหลักในbroken empire แม่งเก่งกับอำมหิตไปหน่อย เออ ดูจากหนังสือที่มึงเล็งเเละดองไว้เเล้ว กูว่ามึงน่าจะชอบ greatcoats กับ powder mage นะ greatcoatsเเม่งอารมณ์ประมาณสามทหารเสือ ส่วนpowder mageสู้กันมันส์ดี
>>949
เราเริ่มจาก revelation ก่อน เพราะตอนนั้นchronicleมันยังไม่ได้พิมพ์ออกมา อารมณ์คนเขียนมันประมาณว่า พอrevelationเริ่มดังเเล้วเลยเอาprequelมาขายล่ะมั้ง Jonathan Strange and Mr. Norrell นี่เล็งมานานล่ะ ไม่ได้ซื้อซักที 555 ตอนนี้อยากได้ thick as thieves ของ เมแกน วาเลน เทินเนอร์ ที่พึ่งออกมาเดือนนี้
เรื่องนี้คนไทยอ่านไม่จบเยอะเพราะคิดว่ามันน่าเบื่อ กูชอบที่เล่าเรื่องโคตรต่างไปจากเรื่องไหนเลย รู้ยังว่าเรื่องมีฉบับ series ด้วยกับเล่มเสริมที่เล่าเรื่องจากเชิงอรรถเพิ่มเติม The Ladies of Grace Adieu
ซี่รี่ย์ยังสู้หนังสือไม่ได้อยู่ แต่เอาไปแนะนำให้คนอ่านหนังสือไม่รอด มาดูง่ายกว่า เผื่อเรียกคนให้มาอ่านหนังสือได้ แต่ซีรีย์เสริมเรื่องของเซอร์โพล์กับเลดี้โพล์ได้ดีเลยนะ นักแสดงก็เหมาะสมกับบททุกคนเลยยกเว้นกษัตริย์กาดำ นี้ผิดหวังบอกเลย
เสียดายคนเขียนอยากจะเขียนภาคต่อแต่บอกตั้งนานแล้วจนป่านนี้ยังไม่มีข่าวออกมาเลย
มีนิยายแฟนตาซีตลกๆแนะนำมั้ย แบบขำๆอ่านคลายเครียดแต่อาจจะมีมุมเครียดบ้างเล็กน้อยไรงี้
เออ กัลออกงานใหม่อีกละ ยังอยู่จักรวาลเซวีน่ารึเปล่าวะ
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1545844652124216&id=425699017472124
เหมือนจักรวาลเดียวกับเดรกเกอร์ป่ะนะ
>>965 สมัยม.ต้นกูชอบเซนส์การตั้งชื่อเขานะ แต่พอกูโตขึ้นและรู้ที่มาของคำปุ๊บ กูก็ไม่โอเคอีกเลย 5555555 เล่นง่ายชิบหาย หยวนๆ ให้ได้แค่ตระกูลคาเลนดาร์เท่านั้นพอ
>>972 กูอ่านไป ... กี่เล่มวะ น่าจะสาม เท่าที่อ่านมายังไม่เห็นว่าจะเชื่อมโยงนะ
แต่ก็ไม่แน่มั้ยวะ อีตระกูลนักเดินทางนี่บทจะโผล่ที่ไหนก็ไปได้หมด เอาจริงกูก็ไม่มีปัญหากับการรวมจักรวาลหรอก อย่างน้อยก็ดีกว่าวนหากินกับตระกูลญาติๆ ในเซวีน่าอย่างเดียวว่ะ เล่มลินค์ยังพอไหว แต่บาเรียนี่กูว่าไม่โอเค นิสัยตัวละครแกว่งชิบหาย ยิ่งตอนจบยิ่งแบบ ... นี่มันเชี่ยอะไรวะเนี่ย
>>973 เรามีปัญหากับเซนส์การตั้งชื่อของเค้ามาตั้งแต่เซวีนาเล่มแรกแล้วล่ะ นักเขียนไทยที่เซนส์การตั้งชื่อดีหน่อยส่วนใหญ่รีเสิร์ชชื่อมาจากภาษาอื่นทั้งนั้น
เราก็ไม่อะไรกับการรวมจักรวาลนะ ตราบใดที่อ่านแยกเรื่องกันได้ แต่งเรื่องรุ่นลูกมาเราก็ไม่ว่านะ ตราบใดที่ดูมีเรื่องให้เล่า หรือมีปมที่ต้องสานต่อไป Gen ใหม่ (ที่ชอบมากคือลำนำรักเทพสวรรค์ที่เป็นนิยายจีน ที่รุ่นลูกเกิดมาเพื่อปิดปมรุ่นพ่อแม่จริง ๆ) แต่เซวีนามันดูจบตั้งแต่รุ่นแรกแล้วอ่ะ รู้สึกว่าไม่น่าไปต่อแล้ว
เออ เห็นด้วยเรื่องของบาเรียนะ รู้สึกว่าเนื้อเรื่องช่วง 3/4 หลังนี่พันกันยุ่งไปหมด แถมยังหักดิบแปลก ๆ ด้วย
>>972 ในlost พระเอกกับนางเอกก็อยู่คนละมิติกันนะ แล้วด้วยเหตุบางอย่างที่กูจำไม่ได้ มันทำให้พระเอกนางเอกข้ามมิติได้
ตอนจบก็มีทั้งข้ามมิติข้ามเวลา แต่กูจำไม่ได้แฮะว่ามีดีดาเรนตัวโกงทุกสถาบันโผล่มารึเปล่า เหมือนจะมีอะไรซักอย่างที่คล้ายๆเทพเจ้าหรือพระเจ้าโผล่มานี่แหละ
เรื่องใหม่ของกัลนี่จักรวาลเดียวกับเดรกเกอร์จริงดิ? กูอ่านบทนำแล้วแปลกๆ เลยไม่ได้อ่านต่อ
คือกูชอบเดรกเกอร์น่ะ เป็นเรื่องเดียวของกัลที่กูอ่านแล้วชอบ เซวีน่านี่เฉยๆ ชิบหาย
จอมโจรยูเจนิดิส เล่มห้ามาแล้วเว้ย (ใครยังจำได้บ้าง) ชื่อ Thick as Thieves
ใครอ่าน ex demon king ตอนล่าสุดแล้วบ้าง โคตรพีคคคค
หนึ่งในค่ายที่ทำตามกระแสแล้วไปไม่รอด (เลยต้องทำแนวถนัดของตัวเองไปยาว ๆ)
นอกจากกัล เรื่องนี้จะมีภาคต่อเหมือนกัน ไม่รู้ว่าภาคนี้้เอาอะไรมาลอกอีก
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1304540&chapter=228
ช่วงนี้กูอยากอ่านนิยายเนื้อเรื่องคล้ายๆ Ocean Eleven แบบกลุ่มโจรวางแผนฉลาดมากขโมยของไรงี้ แนะนำหน่อย
>>984 >>985 ลองดู 2 เรื่องนี้ อาจจะชอบ
H.I.V.E. ของ Mark Walden เพิร์ลเคยเอามาแปลได้ 3 เล่ม ชื่อ H.I.V.E. โรงเรียนเหล่าวายร้าย
เป็นเรื่องเกี่ยวกับ ออตโตเด็กชายที่ถูกจับตัวมาที่โรงเรียนที่ตั้งใจสอนเด็กให้เป็นวายร้ายระดับโลก โดยจำเรื่องก่อนถูกลักพาตัวมาไม่ได้ พวกตัวเอกก็เลยตั้งใจจะวางแผนหนีออกจากโรงเรียนนี้
เรื่องนี้สำหรับกู กูเฉยๆ อ่านเรื่อยๆ ก็โอเค กูว่ามันออกแนวโรงเรียนเยอะไปหน่อย แต่อาจจะเป็นเพราะเล่มแรกๆ ต้องปูเรื่อง แต่พอไม่มีแปลกูก็ไม่ได้ตามต่อ
CHERUB เชอรับ องค์กรลับยอดนักสืบ ของเพิร์ลเหมือนกัน แปลไทยได้ 9 เล่มมั้ง
เรื่องขององค์กรลับที่เอาเด็กกำพร้าที่ดูมีแววมาฝึก ให้เป็นสายลับเด็กของอังกฤษ เพื่อที่จะให้เด็กเข้าไปแทรกซึมในพวกวายร้าย เพราะเชื่อว่าจะไม่มีใครสงสัยเด็ก เวลาเด็กเข้าไปแทรกซึม ก็ต้องทำตัวให้กลมกลืนไปกับพวกวายร้าย มีทั้งขายยา ขโยมรถ ทำร้ายคน ทำลายข้าวของ ช่วยโจรแหกคุก แต่ก็ต้องคอยระวังให้ไม่ทำเกินกว่าเหตุ
ส่วนตัวกูชอบเรื่องนี้มากกว่า จังหวะเรื่องดี เนื้อหาสนุก รายละเอียดดี แต่ละเล่มก็จบไปเป็นคดีๆ ไม่ค้าง อ่านแยกกันได้ เรื่องนี้กูอยากให้ซัก สนพ เอามาทำต่อมาก แต่คงยาก จำนวนเล่มมันเยอะ
วายม้ะ55
จู่ๆกูก็นึกถึงเรื่อง another history ไม่รู้ว่ามีใครเคยอ่านบ้างเปล่า จู่ๆกูก็นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา อยากอ่านต่อให้จบ เวลาเปิดตู้หนังสือมาแล้วอยากหยิบมาอ่านใหม่ แต่พอคิดแค่ว่า เอ้อมันยังไม่จบนะ ก็หมดอารมณ์แล้ว ไม่รู้ว่าตกลงนักเขียนจะเขียนต่อจนจบมั๊ย กูเสียดายว่ะ บางคนอาจจะบอกว่าเรื่องนี้มันดูเบียว ดูติดจะเป็นพลอตการ์ตูน แต่กูชอบตัวละครเรื่องนี้อยู่
>>994 ผู้ใช้ต้องไม่โพสข้อความหรือลิงค์ไปยังเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ อ่านบ้าง https://fanboi.ch/pages/policy/
กูว่าพล็อตมันเป็นแบบซ้ำง่ายมากกว่า เกิดใหม่ต่างโลก สกิลโคตรเทพ แปลงเป็นหญิง เจอสาวสวยฯลฯ โคตรเทมเพลต
>>994 ไม่รู้เหมือนกัน กูไม่ได้เคยอ่านบีกินอะเกนแต่ลองไปอ่านดูคร่าวๆมาละ กูว่าพล็อตแนวไปเกิดใหม่ต่างโลกนี้ซ้ำกันบ่อยนะ เหมือนพวกสูตรสำเร็จพิมพ์นิยมที่คนชอบแต่งกันอะ แถมดันมีเยอะเป็นกระบุงมันก็มีคล้ายกันไปคล้ายกันมาบ่อย ขนาดฝั่งญี่ปุ่นยังคล้ายๆกันเองเป็นสิบเรื่อง แล้วสองเรื่องนี้เหมือนแค่ไปเกิดใหม่ต่างโลกเป็นผู้หญิง (ไม่ขอนับอื่นๆที่เป็นสูตรสำเร็จนิยายต่างโลกละกัน) ซึ่งเรื่องอื่นที่มีแบบนี้ก็ไม่ใช่แค่สองเรื่องนี้แต่มีอีกเยอะ ส่วนรายละเอียดอื่นๆกูว่าไม่คล้ายขนาดนั้นนะ
มีเพื่อนโม่งเคยอ่านเซ็ต house of secret บ้างมั๊ยพอดีกูไปเดินร้านหนังสือมา อ่านปกหลังกับคำนำข้างในแล้วดูน่าสนใจดี แต่กลัวจะเป็นท่าดีทีเหลวไรงี้ เลยอยากมาหารีวิวก่อน
ไปมู้นู้น https://fanboi.ch/literature/4046/
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.